• 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • LinkedIn ถูกฟ้องร้องในคดีการใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม แม้กระทั่งจากผู้ใช้ที่จ่ายเงินสำหรับบริการ Premium ผู้ใช้ LinkedIn Premium ได้ยื่นฟ้องร้องในศาลรัฐบาลกลางที่ซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยอ้างว่า LinkedIn ใช้ข้อมูลส่วนตัวของพวกเขาในการฝึกอบรมอัลกอริทึม AI โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

    คดีนี้เกิดขึ้นหลังจาก LinkedIn ได้ปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวในเดือนกันยายน 2024 โดยระบุว่าจะใช้ข้อมูลของผู้ใช้ในการฝึกอบรมอัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่อง ผู้ใช้กล่าวหาว่า LinkedIn ได้เริ่มใช้ข้อมูลส่วนตัว เช่น ประวัติการทำงาน รายละเอียดส่วนบุคคล และข้อความส่วนตัว ก่อนที่จะประกาศการเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้

    LinkedIn ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ โดยกล่าวว่าเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง และระบุว่าการใช้ข้อมูลที่ไม่เหมาะสมไม่ได้เกี่ยวข้องกับลูกค้าในยุโรป สหราชอาณาจักร หรือสวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ยังคงเรียกร้องค่าชดเชยและกล่าวหาว่า LinkedIn พยายามปกปิดการกระทำที่ผิดกฎหมายนี้

    น่าสนใจที่เห็นว่า LinkedIn และบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ กำลังลงทุนใน AI และการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อเพิ่มผลกำไรและโอกาสทางธุรกิจในอนาคต แต่การใช้ข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ได้รับความยินยอมอาจเป็นปัญหาที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ.

    https://www.techspot.com/news/106474-premium-users-sue-linkedin-abusing-their-data-train.html
    LinkedIn ถูกฟ้องร้องในคดีการใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม แม้กระทั่งจากผู้ใช้ที่จ่ายเงินสำหรับบริการ Premium ผู้ใช้ LinkedIn Premium ได้ยื่นฟ้องร้องในศาลรัฐบาลกลางที่ซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยอ้างว่า LinkedIn ใช้ข้อมูลส่วนตัวของพวกเขาในการฝึกอบรมอัลกอริทึม AI โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือแจ้งให้ทราบล่วงหน้า คดีนี้เกิดขึ้นหลังจาก LinkedIn ได้ปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวในเดือนกันยายน 2024 โดยระบุว่าจะใช้ข้อมูลของผู้ใช้ในการฝึกอบรมอัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่อง ผู้ใช้กล่าวหาว่า LinkedIn ได้เริ่มใช้ข้อมูลส่วนตัว เช่น ประวัติการทำงาน รายละเอียดส่วนบุคคล และข้อความส่วนตัว ก่อนที่จะประกาศการเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ LinkedIn ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ โดยกล่าวว่าเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง และระบุว่าการใช้ข้อมูลที่ไม่เหมาะสมไม่ได้เกี่ยวข้องกับลูกค้าในยุโรป สหราชอาณาจักร หรือสวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ยังคงเรียกร้องค่าชดเชยและกล่าวหาว่า LinkedIn พยายามปกปิดการกระทำที่ผิดกฎหมายนี้ น่าสนใจที่เห็นว่า LinkedIn และบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ กำลังลงทุนใน AI และการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อเพิ่มผลกำไรและโอกาสทางธุรกิจในอนาคต แต่การใช้ข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ได้รับความยินยอมอาจเป็นปัญหาที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ. https://www.techspot.com/news/106474-premium-users-sue-linkedin-abusing-their-data-train.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    LinkedIn accused of using personal data without consent, even from paid users
    Millions of LinkedIn Premium customers intend to fight the social network in court. A lawsuit filed in a San Jose, California federal court states that users are...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันๆมองจ้องจะจับนก😄
    วันๆมองจ้องจะจับนก😄
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เกี่ยวกับการที่ Google ได้เปิดตัว Chrome Web Store สำหรับองค์กร ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถสร้างรายการส่วนขยายที่ผ่านการตรวจสอบแล้วสำหรับพนักงานได้ การเปิดตัวนี้มีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงที่พนักงานจะติดตั้งส่วนขยายที่เป็นอันตรายโดยไม่ได้ตั้งใจ

    ปัญหาส่วนขยายที่เป็นอันตรายบน Chrome มีมานานแล้ว โดยมีผู้ไม่หวังดีปล่อยหรือแฮ็กส่วนขยายที่มีอยู่เพื่อใส่โค้ดที่เป็นอันตราย เมื่อเดือนที่แล้ว มีส่วนขยาย 35 รายการที่ถูกแฮ็กหลังจากนักพัฒนาถูกโจมตีด้วยฟิชชิง ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถอัปโหลดเวอร์ชันที่มีสคริปต์ขโมยข้อมูลได้

    Google ได้ประกาศเปิดตัว Chrome Web Store สำหรับองค์กรในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถสร้างรายการส่วนขยายที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว และลดความเสี่ยงที่พนักงานจะติดตั้งส่วนขยายที่เป็นอันตราย นอกจากนี้ องค์กรยังสามารถปรับแต่ง Web Store ให้แสดงโลโก้บริษัทและเน้นส่วนขยายที่จำเป็นสำหรับงานขององค์กรได

    Google ยังได้แนะนำเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถมองเห็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับส่วนขยายได้มากขึ้น โดยแสดงคะแนนความเสี่ยงที่ได้รับจาก Spin ในปลายปีนี้ Google จะเปิดตัวฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถลบส่วนขยายออกจากเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ได้จากระยะไกล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น

    น่าสนใจที่เห็นว่า Google กำลังพยายามเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ Chrome โดยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากส่วนขยายที่เป็นอันตราย การที่องค์กรสามารถสร้างรายการส่วนขยายที่ผ่านการตรวจสอบแล้วและปรับแต่ง Web Store ได้ตามต้องการ จะช่วยให้การใช้งาน Chrome ในองค์กรมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.bleepingcomputer.com/news/google/google-launches-customizable-web-store-for-enterprise-extensions/
    ข่าวนี้เกี่ยวกับการที่ Google ได้เปิดตัว Chrome Web Store สำหรับองค์กร ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถสร้างรายการส่วนขยายที่ผ่านการตรวจสอบแล้วสำหรับพนักงานได้ การเปิดตัวนี้มีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงที่พนักงานจะติดตั้งส่วนขยายที่เป็นอันตรายโดยไม่ได้ตั้งใจ ปัญหาส่วนขยายที่เป็นอันตรายบน Chrome มีมานานแล้ว โดยมีผู้ไม่หวังดีปล่อยหรือแฮ็กส่วนขยายที่มีอยู่เพื่อใส่โค้ดที่เป็นอันตราย เมื่อเดือนที่แล้ว มีส่วนขยาย 35 รายการที่ถูกแฮ็กหลังจากนักพัฒนาถูกโจมตีด้วยฟิชชิง ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถอัปโหลดเวอร์ชันที่มีสคริปต์ขโมยข้อมูลได้ Google ได้ประกาศเปิดตัว Chrome Web Store สำหรับองค์กรในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถสร้างรายการส่วนขยายที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว และลดความเสี่ยงที่พนักงานจะติดตั้งส่วนขยายที่เป็นอันตราย นอกจากนี้ องค์กรยังสามารถปรับแต่ง Web Store ให้แสดงโลโก้บริษัทและเน้นส่วนขยายที่จำเป็นสำหรับงานขององค์กรได Google ยังได้แนะนำเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถมองเห็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับส่วนขยายได้มากขึ้น โดยแสดงคะแนนความเสี่ยงที่ได้รับจาก Spin ในปลายปีนี้ Google จะเปิดตัวฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถลบส่วนขยายออกจากเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ได้จากระยะไกล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น น่าสนใจที่เห็นว่า Google กำลังพยายามเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ Chrome โดยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากส่วนขยายที่เป็นอันตราย การที่องค์กรสามารถสร้างรายการส่วนขยายที่ผ่านการตรวจสอบแล้วและปรับแต่ง Web Store ได้ตามต้องการ จะช่วยให้การใช้งาน Chrome ในองค์กรมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.bleepingcomputer.com/news/google/google-launches-customizable-web-store-for-enterprise-extensions/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Google launches customizable Web Store for Enterprise extensions
    Google has officially launched its Chrome Web Store for Enterprises, allowing organizations to create a curated list of extensions that can be installed in employees' web browsers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • อันนี้ลุงโดนเองเต็มๆ พรุ่งนี้ต้องเข้า office เพื่อ upgrade 😭😭

    SonicWall ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์ SMA1000 Appliance Management Console (AMC) และ Central Management Console (CMC) ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น CVE-2025-23006 และมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 จาก 10 ตามมาตรฐาน CVSS v3. ช่องโหว่นี้สามารถให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้รับการยืนยันตัวตนจากระยะไกลสามารถรันคำสั่ง OS ได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด

    SonicWall ได้รับรายงานว่าช่องโหว่นี้ถูกใช้ในการโจมตีแบบ zero-day ซึ่งหมายความว่าผู้โจมตีได้ใช้ช่องโหว่นี้ก่อนที่จะมีการออกแพตช์แก้ไข SonicWall แนะนำให้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ SMA1000 อัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 12.4.3-02854 (platform-hotfix) และเวอร์ชันที่ใหม่กว่าเพื่อแก้ไขปัญหานี้

    นอกจากนี้ SonicWall ยังได้ชี้แจงว่าช่องโหว่นี้ไม่ส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์ SMA 100 series ดังนั้นผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ ทีมวิจัยของ Microsoft Threat Intelligence Center เป็นผู้ค้นพบช่องโหว่นี้ และอาจมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมการโจมตีในภายหลัง

    น่าสนใจที่เห็นว่าช่องโหว่ในอุปกรณ์ SonicWall มักเป็นเป้าหมายของผู้โจมตี เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการให้บริการ VPN แก่องค์กรขนาดใหญ่ หน่วยงานรัฐบาล และผู้ให้บริการที่สำคัญ การที่ช่องโหว่เหล่านี้ไม่ได้รับการแก้ไขอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อความปลอดภัยของเครือข่ายองค์กร

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/sonicwall-warns-of-sma1000-rce-flaw-exploited-in-zero-day-attacks/
    อันนี้ลุงโดนเองเต็มๆ พรุ่งนี้ต้องเข้า office เพื่อ upgrade 😭😭 SonicWall ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์ SMA1000 Appliance Management Console (AMC) และ Central Management Console (CMC) ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น CVE-2025-23006 และมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 จาก 10 ตามมาตรฐาน CVSS v3. ช่องโหว่นี้สามารถให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้รับการยืนยันตัวตนจากระยะไกลสามารถรันคำสั่ง OS ได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด SonicWall ได้รับรายงานว่าช่องโหว่นี้ถูกใช้ในการโจมตีแบบ zero-day ซึ่งหมายความว่าผู้โจมตีได้ใช้ช่องโหว่นี้ก่อนที่จะมีการออกแพตช์แก้ไข SonicWall แนะนำให้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ SMA1000 อัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 12.4.3-02854 (platform-hotfix) และเวอร์ชันที่ใหม่กว่าเพื่อแก้ไขปัญหานี้ นอกจากนี้ SonicWall ยังได้ชี้แจงว่าช่องโหว่นี้ไม่ส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์ SMA 100 series ดังนั้นผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ ทีมวิจัยของ Microsoft Threat Intelligence Center เป็นผู้ค้นพบช่องโหว่นี้ และอาจมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมการโจมตีในภายหลัง น่าสนใจที่เห็นว่าช่องโหว่ในอุปกรณ์ SonicWall มักเป็นเป้าหมายของผู้โจมตี เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการให้บริการ VPN แก่องค์กรขนาดใหญ่ หน่วยงานรัฐบาล และผู้ให้บริการที่สำคัญ การที่ช่องโหว่เหล่านี้ไม่ได้รับการแก้ไขอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อความปลอดภัยของเครือข่ายองค์กร https://www.bleepingcomputer.com/news/security/sonicwall-warns-of-sma1000-rce-flaw-exploited-in-zero-day-attacks/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    SonicWall warns of SMA1000 RCE flaw exploited in zero-day attacks
    SonicWall is warning about a pre-authentication deserialization vulnerability in SonicWall SMA1000 Appliance Management Console (AMC) and Central Management Console (CMC), with reports that it has been exploited as a zero-day in attacks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • จิรวัฒน์ (จิ) 📲 0️⃣9️⃣0️⃣-9️⃣6️⃣4️⃣-1️⃣9️⃣9️⃣6️⃣
    ไอดีไลน์ : 0️⃣9️⃣0️⃣9️⃣6️⃣4️⃣1️⃣9️⃣9️⃣6️⃣

    Commuter 3.0 ปี 2015 ไมล์ 251,457 km
    เครื่องยนต์ดีเซล,เกียร์,ช่วงล่าง สมบูรณ์ รถขับดีมาก
    ภายในสวย ใช้ต่อได้เลย เอกสารครบพร้อมโอน

    -จัดไฟแนนซ์ได้เต็ม, ฟรีดาวน์
    -ซื้อสดไม่มี Vat7%
    -กล้องมองหลังขณะถอย
    -เครื่องดีเซล

    ขาย 479,000 บาท
    Commuter จัดไฟแนนซ์ 479,000 บาท
    4ปี 13561 บาท
    5ปี 11532 บาท
    6ปี 10739 บาท
    7ปี 9732 บาท
    จิรวัฒน์ (จิ) 📲 0️⃣9️⃣0️⃣-9️⃣6️⃣4️⃣-1️⃣9️⃣9️⃣6️⃣ ไอดีไลน์ : 0️⃣9️⃣0️⃣9️⃣6️⃣4️⃣1️⃣9️⃣9️⃣6️⃣ Commuter 3.0 ปี 2015 ไมล์ 251,457 km เครื่องยนต์ดีเซล,เกียร์,ช่วงล่าง สมบูรณ์ รถขับดีมาก ภายในสวย ใช้ต่อได้เลย เอกสารครบพร้อมโอน -จัดไฟแนนซ์ได้เต็ม, ฟรีดาวน์ -ซื้อสดไม่มี Vat7% -กล้องมองหลังขณะถอย -เครื่องดีเซล ขาย 479,000 บาท Commuter จัดไฟแนนซ์ 479,000 บาท 4ปี 13561 บาท 5ปี 11532 บาท 6ปี 10739 บาท 7ปี 9732 บาท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sony ประกาศยุติการผลิตสื่อบันทึกข้อมูล Blu-ray ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นการสิ้นสุดการผลิตที่ยาวนานเกือบสองทศวรรษ. นอกจากนี้ยังรวมถึงการยุติการผลิต MiniDiscs สำหรับการบันทึก, MD data สำหรับการบันทึก, และ MiniDV cassettes ด้วย. Sony ระบุว่าจะไม่มีรุ่นต่อจาก Blu-ray อีกต่อไป

    การยุติการผลิตนี้เกิดขึ้นเนื่องจากยอดขายสื่อบันทึกข้อมูลแบบแผ่นลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้บริโภคหันมาใช้บริการสตรีมมิ่งมากขึ้น แม้ว่า Blu-ray จะเคยเป็นที่นิยมในช่วงแรกๆ เนื่องจากความร่วมมือกับสตูดิโอภาพยนตร์และการรวมเทคโนโลยี Blu-ray ใน PlayStation 3 แต่ปัจจุบันยอดขายไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจสื่อบันทึกข้อมูลของ Sony ยังคงอยู่ได้

    น่าสนใจที่เห็นว่าการยุติการผลิต Blu-ray ของ Sony อาจทำให้การหาซื้อแผ่น Blu-ray และเครื่องเล่น Blu-ray จากร้านค้าปลีกยากขึ้น แต่ยังคงสามารถหาซื้อได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์เช่น Amazon ในขณะที่การใช้สื่อบันทึกข้อมูลแบบแผ่นลดลง ผู้ใช้หลายคนหันมาใช้การเก็บข้อมูลบนคลาวด์แทน แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายรายเดือนและปัญหาด้านความปลอดภัย

    การเก็บข้อมูลบนสื่อบันทึกข้อมูลแบบแผ่นยังคงมีข้อดี เนื่องจากสามารถเก็บข้อมูลได้นานหลายทศวรรษ หากเก็บรักษาอย่างถูกต้อง แม้ว่า Sony จะยุติการผลิต Blu-ray แต่คู่แข่งอย่าง Pioneer ยังคงพัฒนาสื่อบันทึกข้อมูล Blu-ray ที่ออกแบบมาให้มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 100 ปี และนักวิจัยบางคนกำลังทำงานกับการเก็บข้อมูลบนแก้วที่สามารถเก็บข้อมูลได้นานถึง 5,000 ปี

    การยุติการผลิต Blu-ray ของ Sony เป็นการสิ้นสุดยุคหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้ผู้สะสมภาพยนตร์ต้องหาวิธีใหม่ในการเก็บรักษาคอลเลกชันของพวกเขา การเปลี่ยนไปใช้บริการสตรีมมิ่งทำให้การเป็นเจ้าของภาพยนตร์และรายการทีวีเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน เนื่องจากอาจหายไปจากบริการสตรีมมิ่งโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/after-18-years-blu-ray-media-production-draws-to-a-close-sony-shuts-its-last-factory-in-feb
    Sony ประกาศยุติการผลิตสื่อบันทึกข้อมูล Blu-ray ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นการสิ้นสุดการผลิตที่ยาวนานเกือบสองทศวรรษ. นอกจากนี้ยังรวมถึงการยุติการผลิต MiniDiscs สำหรับการบันทึก, MD data สำหรับการบันทึก, และ MiniDV cassettes ด้วย. Sony ระบุว่าจะไม่มีรุ่นต่อจาก Blu-ray อีกต่อไป การยุติการผลิตนี้เกิดขึ้นเนื่องจากยอดขายสื่อบันทึกข้อมูลแบบแผ่นลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้บริโภคหันมาใช้บริการสตรีมมิ่งมากขึ้น แม้ว่า Blu-ray จะเคยเป็นที่นิยมในช่วงแรกๆ เนื่องจากความร่วมมือกับสตูดิโอภาพยนตร์และการรวมเทคโนโลยี Blu-ray ใน PlayStation 3 แต่ปัจจุบันยอดขายไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจสื่อบันทึกข้อมูลของ Sony ยังคงอยู่ได้ น่าสนใจที่เห็นว่าการยุติการผลิต Blu-ray ของ Sony อาจทำให้การหาซื้อแผ่น Blu-ray และเครื่องเล่น Blu-ray จากร้านค้าปลีกยากขึ้น แต่ยังคงสามารถหาซื้อได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์เช่น Amazon ในขณะที่การใช้สื่อบันทึกข้อมูลแบบแผ่นลดลง ผู้ใช้หลายคนหันมาใช้การเก็บข้อมูลบนคลาวด์แทน แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายรายเดือนและปัญหาด้านความปลอดภัย การเก็บข้อมูลบนสื่อบันทึกข้อมูลแบบแผ่นยังคงมีข้อดี เนื่องจากสามารถเก็บข้อมูลได้นานหลายทศวรรษ หากเก็บรักษาอย่างถูกต้อง แม้ว่า Sony จะยุติการผลิต Blu-ray แต่คู่แข่งอย่าง Pioneer ยังคงพัฒนาสื่อบันทึกข้อมูล Blu-ray ที่ออกแบบมาให้มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 100 ปี และนักวิจัยบางคนกำลังทำงานกับการเก็บข้อมูลบนแก้วที่สามารถเก็บข้อมูลได้นานถึง 5,000 ปี การยุติการผลิต Blu-ray ของ Sony เป็นการสิ้นสุดยุคหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้ผู้สะสมภาพยนตร์ต้องหาวิธีใหม่ในการเก็บรักษาคอลเลกชันของพวกเขา การเปลี่ยนไปใช้บริการสตรีมมิ่งทำให้การเป็นเจ้าของภาพยนตร์และรายการทีวีเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน เนื่องจากอาจหายไปจากบริการสตรีมมิ่งโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/after-18-years-blu-ray-media-production-draws-to-a-close-sony-shuts-its-last-factory-in-feb
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    After 18 years, Sony's Blu-ray media production draws to a close — shuts its last factory in Feb
    MiniDiscs for recording, MD data for recording, and MiniDV cassettes will also be abandoned.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • สทร.ทักษิณ ชินวัตร เปิดทางให้อบายมุข(เหตุแห่งความฉิมหาย)ถูกกฎหมาย เพราะความไม่รู้ธรรมของตน..

    ประไทยจะพินาศฉิบหาย หากปล่อยให้เปรตมีอำนาจบริหารบ้านเมือง
    สทร.ทักษิณ ชินวัตร เปิดทางให้อบายมุข(เหตุแห่งความฉิมหาย)ถูกกฎหมาย เพราะความไม่รู้ธรรมของตน.. ประไทยจะพินาศฉิบหาย หากปล่อยให้เปรตมีอำนาจบริหารบ้านเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฮกเกอร์ชาวจีนได้เจาะระบบ VPN ของเกาหลีใต้ชื่อ IPany โดยการแทรกโค้ดที่เป็นอันตรายเข้าไปในตัวติดตั้ง NSIS ของซอฟต์แวร์ VPN สำหรับ Windows การโจมตีนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2024 โดยนักวิจัยจากบริษัท ESET ของสโลวาเกีย แฮกเกอร์ได้แทรกโค้ดที่เรียกว่า "SlowStepper" ซึ่งเป็นมัลแวร์ที่สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ, รันคำสั่ง, และรักษาการเข้าถึงระบบที่ถูกโจมตีได้ในระยะยาว

    กลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีนี้ชื่อว่า PlushDaemon ซึ่งเป็นกลุ่ม APT (Advanced Persistent Threat) ที่มีความเชี่ยวชาญในการแฮ็กช่องทางการแจกจ่ายซอฟต์แวร์ที่ถูกต้องเพื่อส่งมัลแวร์ การโจมตีนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความเสี่ยงที่เกิดจากการโจมตีแบบ supply chain ซึ่งแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบของผู้ใช้ได้โดยการแทรกโค้ดที่เป็นอันตรายเข้าไปในซอฟต์แวร์ที่ดูเหมือนจะถูกต้อง

    น่าสนใจที่เห็นว่าการโจมตีแบบ supply chain กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในวงการแฮกเกอร์ เนื่องจากสามารถเข้าถึงระบบของผู้ใช้ได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ การโจมตีนี้เป็นการเตือนให้ผู้ใช้และองค์กรต่างๆ ต้องระมัดระวังและมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวดมากขึ้นในการใช้ซอฟต์แวร์จากแหล่งที่ไม่แน่นอน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/chinese-hackers-compromise-south-korean-vpn-malicious-code-found-inside-nsis-installer
    แฮกเกอร์ชาวจีนได้เจาะระบบ VPN ของเกาหลีใต้ชื่อ IPany โดยการแทรกโค้ดที่เป็นอันตรายเข้าไปในตัวติดตั้ง NSIS ของซอฟต์แวร์ VPN สำหรับ Windows การโจมตีนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2024 โดยนักวิจัยจากบริษัท ESET ของสโลวาเกีย แฮกเกอร์ได้แทรกโค้ดที่เรียกว่า "SlowStepper" ซึ่งเป็นมัลแวร์ที่สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ, รันคำสั่ง, และรักษาการเข้าถึงระบบที่ถูกโจมตีได้ในระยะยาว กลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีนี้ชื่อว่า PlushDaemon ซึ่งเป็นกลุ่ม APT (Advanced Persistent Threat) ที่มีความเชี่ยวชาญในการแฮ็กช่องทางการแจกจ่ายซอฟต์แวร์ที่ถูกต้องเพื่อส่งมัลแวร์ การโจมตีนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความเสี่ยงที่เกิดจากการโจมตีแบบ supply chain ซึ่งแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบของผู้ใช้ได้โดยการแทรกโค้ดที่เป็นอันตรายเข้าไปในซอฟต์แวร์ที่ดูเหมือนจะถูกต้อง น่าสนใจที่เห็นว่าการโจมตีแบบ supply chain กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในวงการแฮกเกอร์ เนื่องจากสามารถเข้าถึงระบบของผู้ใช้ได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ การโจมตีนี้เป็นการเตือนให้ผู้ใช้และองค์กรต่างๆ ต้องระมัดระวังและมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวดมากขึ้นในการใช้ซอฟต์แวร์จากแหล่งที่ไม่แน่นอน https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/chinese-hackers-compromise-south-korean-vpn-malicious-code-found-inside-nsis-installer
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Chinese hackers compromise South Korean VPN — malicious code found inside NSIS installer
    Malicious code in an NSIS installer from South Korea's IPany VPN software was discovered last May.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท Element Six (E6) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ De Beers Group ได้เปิดตัววัสดุคอมโพสิตที่ทำจากทองแดงและเพชร เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการระบายความร้อนของฮีตซิงค์ วัสดุใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในงานที่ต้องการการจัดการความร้อนสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง (HPC), และอุปกรณ์ GaN RF ที่ผลิตความร้อนมาก

    เพชรเป็นฉนวนไฟฟ้า แต่มีความสามารถในการนำความร้อนสูงกว่าทองแดงมาก ทำให้เหมาะสำหรับการใช้เป็นฮีตซิงค์ที่สามารถถ่ายเทพลังงานความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าวัสดุแบบดั้งเดิม เนื่องจากเพชรมีราคาสูง การวิจัยที่ใช้วัสดุนี้จึงมักจำกัดอยู่ในงานอุตสาหกรรมและงานที่มีมูลค่าสูง

    E6 มีความสามารถในการหาเพชรที่ต้องการสำหรับการสร้างวัสดุคอมโพสิตนี้ เนื่องจากเป็นบริษัทในเครือของ De Beers ที่เคยมีการผูกขาดการจัดหาทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีบริษัทสตาร์ทอัพชื่อ Akash Systems ที่กำลังพิจารณาใช้วัสดุเพชรในการระบายความร้อนของ GPU แต่ยังต้องการเงินทุนจำนวน 18.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐจาก CHIPS and Science Act เพื่อดำเนินการต่อ

    หากวัสดุคอมโพสิตทองแดง-เพชรนี้เข้าสู่ตลาด มันอาจถูกนำไปใช้ในศูนย์ข้อมูล AI ที่ใช้พลังงานมากในการระบายความร้อนของ GPU และโปรเซสเซอร์ วัสดุนี้อาจช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าของศูนย์ข้อมูลเหล่านี้ ซึ่งกำลังเป็นภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ นอกจากนี้ หากการผลิตในปริมาณมากทำให้ราคาลดลง วัสดุนี้อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสร้างคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กแต่มีประสิทธิภาพสูง

    น่าสนใจที่เห็นว่าเทคโนโลยีการระบายความร้อนกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และวัสดุคอมโพสิตทองแดง-เพชรนี้อาจเป็นก้าวสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพการระบายความร้อนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/heatsinks/company-develops-copper-diamond-composite-for-better-heatsink-cooling-lower-cpu-and-gpu-temps
    บริษัท Element Six (E6) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ De Beers Group ได้เปิดตัววัสดุคอมโพสิตที่ทำจากทองแดงและเพชร เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการระบายความร้อนของฮีตซิงค์ วัสดุใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในงานที่ต้องการการจัดการความร้อนสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง (HPC), และอุปกรณ์ GaN RF ที่ผลิตความร้อนมาก เพชรเป็นฉนวนไฟฟ้า แต่มีความสามารถในการนำความร้อนสูงกว่าทองแดงมาก ทำให้เหมาะสำหรับการใช้เป็นฮีตซิงค์ที่สามารถถ่ายเทพลังงานความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าวัสดุแบบดั้งเดิม เนื่องจากเพชรมีราคาสูง การวิจัยที่ใช้วัสดุนี้จึงมักจำกัดอยู่ในงานอุตสาหกรรมและงานที่มีมูลค่าสูง E6 มีความสามารถในการหาเพชรที่ต้องการสำหรับการสร้างวัสดุคอมโพสิตนี้ เนื่องจากเป็นบริษัทในเครือของ De Beers ที่เคยมีการผูกขาดการจัดหาทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีบริษัทสตาร์ทอัพชื่อ Akash Systems ที่กำลังพิจารณาใช้วัสดุเพชรในการระบายความร้อนของ GPU แต่ยังต้องการเงินทุนจำนวน 18.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐจาก CHIPS and Science Act เพื่อดำเนินการต่อ หากวัสดุคอมโพสิตทองแดง-เพชรนี้เข้าสู่ตลาด มันอาจถูกนำไปใช้ในศูนย์ข้อมูล AI ที่ใช้พลังงานมากในการระบายความร้อนของ GPU และโปรเซสเซอร์ วัสดุนี้อาจช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าของศูนย์ข้อมูลเหล่านี้ ซึ่งกำลังเป็นภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ นอกจากนี้ หากการผลิตในปริมาณมากทำให้ราคาลดลง วัสดุนี้อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสร้างคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กแต่มีประสิทธิภาพสูง น่าสนใจที่เห็นว่าเทคโนโลยีการระบายความร้อนกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และวัสดุคอมโพสิตทองแดง-เพชรนี้อาจเป็นก้าวสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพการระบายความร้อนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/heatsinks/company-develops-copper-diamond-composite-for-better-heatsink-cooling-lower-cpu-and-gpu-temps
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เกี่ยวกับการเปิดตัว HAT ใหม่สำหรับ Raspberry Pi 5 โดย Seeed Studio ที่รองรับมาตรฐาน PCIe 3.0 และมีช่อง M.2 สองช่องในราคาเพียง $45

    HAT (Hardware Attached on Top) เป็นบอร์ดเสริมที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสามารถให้กับ Raspberry Pi โดยการเชื่อมต่อกับพอร์ต GPIO (General Purpose Input/Output) ของ Raspberry Pi. HAT มีขนาดและรูปร่างที่ตรงกับ Raspberry Pi ทำให้สามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดายและมั่นคง

    HAT นี้ให้แบนด์วิดท์ PCIe 3.0 หนึ่งเลนต่อช่อง M.2 โดยมีความเร็วรวม 8 GT/s สำหรับทั้งสองช่อง นอกจากการใช้กับ SSD M.2 แล้ว HAT นี้ยังสามารถใช้กับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น AI accelerators

    อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของ SSD บางรุ่น และผู้ใช้ต้องพิมพ์เคส 3D เองเนื่องจาก HAT นี้ไม่พอดีกับเคส Raspberry Pi 5 มาตรฐาน สำหรับผู้ที่ต้องการความเร็วในการจัดเก็บข้อมูลสูงกว่า SD card ของ Raspberry Pi 5 HAT นี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

    น่าสนใจที่เห็นว่า Seeed Studio กำลังพัฒนาอุปกรณ์เสริมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Raspberry Pi 5 ให้สามารถใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น การที่ HAT นี้รองรับ PCIe 3.0 ทำให้สามารถใช้กับอุปกรณ์ที่ต้องการแบนด์วิดท์สูงได้ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการใช้งาน Raspberry Pi 5 ในโครงการต่างๆ

    https://www.tomshardware.com/raspberry-pi/raspberry-pi-hats/seeed-studio-debuts-raspberry-pi-5-pcie-3-0-hat-with-dual-m-2-slots-for-usd45
    ข่าวนี้เกี่ยวกับการเปิดตัว HAT ใหม่สำหรับ Raspberry Pi 5 โดย Seeed Studio ที่รองรับมาตรฐาน PCIe 3.0 และมีช่อง M.2 สองช่องในราคาเพียง $45 HAT (Hardware Attached on Top) เป็นบอร์ดเสริมที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสามารถให้กับ Raspberry Pi โดยการเชื่อมต่อกับพอร์ต GPIO (General Purpose Input/Output) ของ Raspberry Pi. HAT มีขนาดและรูปร่างที่ตรงกับ Raspberry Pi ทำให้สามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดายและมั่นคง HAT นี้ให้แบนด์วิดท์ PCIe 3.0 หนึ่งเลนต่อช่อง M.2 โดยมีความเร็วรวม 8 GT/s สำหรับทั้งสองช่อง นอกจากการใช้กับ SSD M.2 แล้ว HAT นี้ยังสามารถใช้กับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น AI accelerators อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของ SSD บางรุ่น และผู้ใช้ต้องพิมพ์เคส 3D เองเนื่องจาก HAT นี้ไม่พอดีกับเคส Raspberry Pi 5 มาตรฐาน สำหรับผู้ที่ต้องการความเร็วในการจัดเก็บข้อมูลสูงกว่า SD card ของ Raspberry Pi 5 HAT นี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ น่าสนใจที่เห็นว่า Seeed Studio กำลังพัฒนาอุปกรณ์เสริมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Raspberry Pi 5 ให้สามารถใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น การที่ HAT นี้รองรับ PCIe 3.0 ทำให้สามารถใช้กับอุปกรณ์ที่ต้องการแบนด์วิดท์สูงได้ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการใช้งาน Raspberry Pi 5 ในโครงการต่างๆ https://www.tomshardware.com/raspberry-pi/raspberry-pi-hats/seeed-studio-debuts-raspberry-pi-5-pcie-3-0-hat-with-dual-m-2-slots-for-usd45
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Seeed Studio debuts Raspberry Pi 5 PCIe 3.0 HAT with dual M.2 slots for $45
    Offers one lane of PCIe 3.0 bandwidth per-slot, or a total of 8 GT/s for both slots combined
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใหม่!! นวัตกรรมใหม่ของ ผ้าใบปิดกระบะ​ Autolism
    -ผ้าใบหนา เกรดมาตรฐาน เคลือบกันน้ำกันแสงแดด
    -ติดตั้งง่าย ไม่เจาะรถ​ ไม่​ทา​กาว​
    -แถบตุ๊กแกกว้าง 4 ซม. เพิ่มแรงในการยึดเกาะ
    -คลุมของสูงได้ มีตาไก่ร้อยเชือกรอบคัน เพิ่มมิติในการขนย้ายสิ่งของ
    -ม้วนครึ่งได้ มีสายรัดกลางกระบะ
    -ราคาเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน
    ราคาสินค้า
    🟢กระบะ 4 ประตู ราคา 1,790 บ.
    🟢กระบะแคป 1,990 บ.
    🟢กระบะตอนเดียว 2,690 บ.
    รับประกันสินค้า 1 ปีเต็ม
    LAZADA>>> https://s.lazada.co.th/s.nAy0n
    SHOPEE >>> https://th.shp.ee/iGfmVwQ
    ใหม่!! นวัตกรรมใหม่ของ ผ้าใบปิดกระบะ​ Autolism -ผ้าใบหนา เกรดมาตรฐาน เคลือบกันน้ำกันแสงแดด -ติดตั้งง่าย ไม่เจาะรถ​ ไม่​ทา​กาว​ -แถบตุ๊กแกกว้าง 4 ซม. เพิ่มแรงในการยึดเกาะ -คลุมของสูงได้ มีตาไก่ร้อยเชือกรอบคัน เพิ่มมิติในการขนย้ายสิ่งของ -ม้วนครึ่งได้ มีสายรัดกลางกระบะ -ราคาเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน ราคาสินค้า 🟢กระบะ 4 ประตู ราคา 1,790 บ. 🟢กระบะแคป 1,990 บ. 🟢กระบะตอนเดียว 2,690 บ. รับประกันสินค้า 1 ปีเต็ม LAZADA>>> https://s.lazada.co.th/s.nAy0n SHOPEE >>> https://th.shp.ee/iGfmVwQ
    S.LAZADA.CO.TH
    ผ้าใบปิดท้ายกระบะ Autolism | TH
    Shop online with ผ้าใบปิดท้ายกระบะ Autolism now! Visit ผ้าใบปิดท้ายกระบะ Autolism on Lazada.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung กำลังพัฒนาโครงการใหม่ชื่อว่า Project Moohan ซึ่งเป็นอุปกรณ์สวมศีรษะ XR (Extended Reality) ที่มีลักษณะคล้ายกับ Apple Vision Pro แม้ว่า Apple Vision Pro จะไม่ประสบความสำเร็จในด้านยอดขาย แต่ก็เป็นเทคโนโลยีที่น่าทึ่ง และ Samsung กำลังพยายามตามให้ทันคู่แข่งรายใหญ่ในตลาดสมาร์ทโฟนนี้

    Project Moohan จะใช้ชิปเซ็ต Snapdragon XR2+ Gen 2 ที่พัฒนาโดยความร่วมมือระหว่าง Google และ Samsung ชิปเซ็ตนี้สามารถรองรับความละเอียด 4.3K ต่อจอที่ 90FPS และสามารถถอดรหัสวิดีโอ 8K 60FPS และเข้ารหัสวิดีโอ 8K 30FPS หรือ 4K 60FPS นอกจากนี้ยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.3 ซึ่งช่วยลดความหน่วงได้อย่างมาก

    แม้ว่า Samsung จะเปิดตัว Project Moohan ในงาน Galaxy Unpacked แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสเปกของอุปกรณ์นี้ Samsung วางแผนที่จะให้ชุดหูฟังนี้แก่ผู้พัฒนาก่อน และคาดว่าจะมีการอัปเดตเกี่ยวกับการเปิดตัวในภายหลัง

    น่าสนใจที่เห็นว่า Samsung กำลังพยายามพัฒนาเทคโนโลยี XR ให้มีความสามารถและประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อแข่งขันกับ Apple Vision Pro และอุปกรณ์อื่นๆ ในตลาด

    https://wccftech.com/samsung-project-moohan-xr-headset-teased-looks-somewhat-similar-to-apple-vision-pro/
    Samsung กำลังพัฒนาโครงการใหม่ชื่อว่า Project Moohan ซึ่งเป็นอุปกรณ์สวมศีรษะ XR (Extended Reality) ที่มีลักษณะคล้ายกับ Apple Vision Pro แม้ว่า Apple Vision Pro จะไม่ประสบความสำเร็จในด้านยอดขาย แต่ก็เป็นเทคโนโลยีที่น่าทึ่ง และ Samsung กำลังพยายามตามให้ทันคู่แข่งรายใหญ่ในตลาดสมาร์ทโฟนนี้ Project Moohan จะใช้ชิปเซ็ต Snapdragon XR2+ Gen 2 ที่พัฒนาโดยความร่วมมือระหว่าง Google และ Samsung ชิปเซ็ตนี้สามารถรองรับความละเอียด 4.3K ต่อจอที่ 90FPS และสามารถถอดรหัสวิดีโอ 8K 60FPS และเข้ารหัสวิดีโอ 8K 30FPS หรือ 4K 60FPS นอกจากนี้ยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.3 ซึ่งช่วยลดความหน่วงได้อย่างมาก แม้ว่า Samsung จะเปิดตัว Project Moohan ในงาน Galaxy Unpacked แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสเปกของอุปกรณ์นี้ Samsung วางแผนที่จะให้ชุดหูฟังนี้แก่ผู้พัฒนาก่อน และคาดว่าจะมีการอัปเดตเกี่ยวกับการเปิดตัวในภายหลัง น่าสนใจที่เห็นว่า Samsung กำลังพยายามพัฒนาเทคโนโลยี XR ให้มีความสามารถและประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อแข่งขันกับ Apple Vision Pro และอุปกรณ์อื่นๆ ในตลาด https://wccftech.com/samsung-project-moohan-xr-headset-teased-looks-somewhat-similar-to-apple-vision-pro/
    WCCFTECH.COM
    Samsung’s Project Moohan Bears Some Resemblance To The Apple Vision Pro, But The XR Headset Will Not Be Powered By The Company’s Custom Hardware Or Software
    An Apple Vision Pro competitor in the form of Samsung’s Project Moohan was recently teased, but it will not feature any proprietary hardware or software
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ดีขึ้น!!

    22 ม.ค 68 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไลฟ์สด
    บอกว่า “พรุ่งนี้สถานการณ์ (ฝุ่น PM 2.5) น่าจะเริ่มดีขึ้น


    https://web.facebook.com/share/v/166mUbnSm5/
    เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ดีขึ้น!! 22 ม.ค 68 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไลฟ์สด บอกว่า “พรุ่งนี้สถานการณ์ (ฝุ่น PM 2.5) น่าจะเริ่มดีขึ้น https://web.facebook.com/share/v/166mUbnSm5/
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 466 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • Happy Friday😍😍
    Happy Friday😍😍
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔴 SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep277 (live)
    คดีแตงโม “อุบัติเหตุ หรือ ฆาตกรรม” ความหวังอยู่ที่ DSI ความจริงจะต้องปรากฏ เพราะความจริงมีหนึ่งเดียว งานนี้สุดซอย!!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว