• 0 Comments 0 Shares 84 Views 0 Reviews
  • ภายนอกเห็นไปก้อแค่นั้น งานสำคัญยามนี้ดูใจตน จักรวาลกว้างใหญ่หมู่ดาวมากโข
    ภายนอกเห็นไปก้อแค่นั้น งานสำคัญยามนี้ดูใจตน จักรวาลกว้างใหญ่หมู่ดาวมากโข
    0 Comments 0 Shares 202 Views 3 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 54 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 38 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 169 Views 2 0 Reviews
  • (ภาพถ่าย) ประตูท่าแพ พ.ศ.๒๔๕๘

    เป็นประตูของแนวกำแพงเมืองชั้นนอก ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกวัดแสนฝาง เป็นแนวเดียวกับกำแพงดิน

    ต่อมา..ทรุดโทรมมากจึงได้รื้อทิ้ง เพื่อสร้างถนนท่าแพ ถนนกำแพงดิน

    ส่วนกำแพงชั้นใน ที่เห็น และ เรียกกันในปัจจุบันว่า "ประตูท่าแพ" คือ สิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นใหม่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว แท้จริงมีชื่อเรียกว่า "ประตูเชียงเรือก" เพราะอยู่ใกล้หมู่บ้านเชียงเรือก สร้างขึ้นครั้งแรกในรัชสมัยพญามังราย เมื่อแรกตั้งเมืองเชียงใหม่ในปี พ.ศ.๑๘๓๙
    (ภาพถ่าย) ประตูท่าแพ พ.ศ.๒๔๕๘ เป็นประตูของแนวกำแพงเมืองชั้นนอก ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกวัดแสนฝาง เป็นแนวเดียวกับกำแพงดิน ต่อมา..ทรุดโทรมมากจึงได้รื้อทิ้ง เพื่อสร้างถนนท่าแพ ถนนกำแพงดิน ส่วนกำแพงชั้นใน ที่เห็น และ เรียกกันในปัจจุบันว่า "ประตูท่าแพ" คือ สิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นใหม่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว แท้จริงมีชื่อเรียกว่า "ประตูเชียงเรือก" เพราะอยู่ใกล้หมู่บ้านเชียงเรือก สร้างขึ้นครั้งแรกในรัชสมัยพญามังราย เมื่อแรกตั้งเมืองเชียงใหม่ในปี พ.ศ.๑๘๓๙
    0 Comments 0 Shares 222 Views 0 Reviews
  • เที่ยว #ญี่ปุ่น #โตเกียว #หิมะ ❄☃

    🗓 จำนวนวัน 6 วัน 4 คืน
    ✈ HB-เกรทเตอร์ เบย์ แอร์ไลน์
    พักโรงแรม

    ลานสกีฟูจิเท็น
    หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮัคไค
    วัดอาซากุสะ
    ถนนนากามิเซะ
    ตลาดปลาซึกิจิ
    โกเท็มบะ พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท
    พิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหว
    ย่านช้อปปิ้งชินจูกุ

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8
    LINE ID: @etravelway.fire
    https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์ญี่ปุ่น #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #ญี่ปุ่น #โตเกียว #หิมะ ❄☃ 🗓 จำนวนวัน 6 วัน 4 คืน ✈ HB-เกรทเตอร์ เบย์ แอร์ไลน์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 ลานสกีฟูจิเท็น 📍 หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮัคไค 📍 วัดอาซากุสะ 📍 ถนนนากามิเซะ 📍 ตลาดปลาซึกิจิ 📍 โกเท็มบะ พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท 📍 พิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหว 📍 ย่านช้อปปิ้งชินจูกุ รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์ญี่ปุ่น #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 Comments 0 Shares 912 Views 28 0 Reviews
  • “พระอาจารย์สันติ ฐานิสฺสโร” ผู้ดูแลสำนักวิปัสสนาสันติสถิตธรรม เผย คลิปท้าต่อยอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ผ่านการตัดต่อ ตนเองแค่อยากท้าดีเบตธรรมะ ระบุที่ไหนก็ได้สนามมวย หรือ วัด แต่ขอให้เป็นกลาง

    จากกรณี ก่อนหน้านี้ปรากฎคลิปวิดีโอในโลกโซเชียลเผยให้เห็น “พระอาจารย์สันติ ฐานิสฺสโร” ผู้ดูแลสำนักวิปัสสนาสันติสถิตธรรม ไม่รู้หัวร้อนมาจากไหน อัดคลิปท้า อ.เบียร์ คนตื่นธรรม ต่อยระบุได้ทุกเวทียกเว้นโหนกระแส

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000118787

    #MGROnline #อาจารย์เบียร์คนตื่นธรรม #พระอาจารย์สันติฐานิสฺสโร
    “พระอาจารย์สันติ ฐานิสฺสโร” ผู้ดูแลสำนักวิปัสสนาสันติสถิตธรรม เผย คลิปท้าต่อยอาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ผ่านการตัดต่อ ตนเองแค่อยากท้าดีเบตธรรมะ ระบุที่ไหนก็ได้สนามมวย หรือ วัด แต่ขอให้เป็นกลาง • จากกรณี ก่อนหน้านี้ปรากฎคลิปวิดีโอในโลกโซเชียลเผยให้เห็น “พระอาจารย์สันติ ฐานิสฺสโร” ผู้ดูแลสำนักวิปัสสนาสันติสถิตธรรม ไม่รู้หัวร้อนมาจากไหน อัดคลิปท้า อ.เบียร์ คนตื่นธรรม ต่อยระบุได้ทุกเวทียกเว้นโหนกระแส • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000118787 • #MGROnline #อาจารย์เบียร์คนตื่นธรรม #พระอาจารย์สันติฐานิสฺสโร
    0 Comments 0 Shares 845 Views 0 Reviews
  • ไอซ์รอดนอนkook Sanไม่ถอนปากัน
    มองโพสความเห็นไม่ผิดเงื่อนไขการปากันตัว
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ไอซ์รอดนอนkook Sanไม่ถอนปากัน มองโพสความเห็นไม่ผิดเงื่อนไขการปากันตัว #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 Comments 0 Shares 259 Views 0 Reviews
  • เชียงใหม่ – “ดอยอินทนนท์” อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิต่ำสุด 8 องศาเซลเซียส ยังต้องรอลุ้นเกิด “เหมยขาบ” แรกของปี ขณะที่นักท่องเที่ยวคึกคักต่อเนื่อง รับลมหนาวชมวิวสวย

    รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้(11 ธ.ค.67) ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศการท่องเที่ยวยังคงเป็นไปอย่างค่อนข้างคึกคัก แม้ว่าจะเป็นช่วงกลางสัปดาห์และเพิ่งผ่านพ้นช่วงวันหยุด โดยพบว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากยังคงต่างพากันท่องเที่ยวสัมผัสอากาศหนาวเย็นสบายและชื่นชมธรรมชาติกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่างประทับใจกับการได้ชมแสงแรกของพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ท่ามกลางเมฆหมอกและลมเย็นที่พัดโชยไม่ขาดสาย

    ทั้งนี้อุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้วัดได้ 8 องศาเซลเซียส ที่บริเวณยอดดอย และกิ่วแม่ปาน ทำให้ยังต้องรอลุ้นการเกิดน้ำค้างแข็ง หรือ “เหมยขาบ” ครั้งแรกของปีนี้ต่อไป ขณะที่สถิตินักท่องเที่ยวที่เข้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.67 มีจำนวนทั้งสิ้น 4,909 คน แบ่งเป็น คนไทย 3,674 คน ชาวต่างชาติ 1,235 คน และยานพาหนะ 1,307 คัน ซึ่งทางอุทยานฯ เน้นย้ำนักท่องเที่ยวที่ใช้รถยนต์ให้ใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการขับขึ้นดอยและใช้เกียร์ต่ำ เพื่อความปลอดภัย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9670000118775

    #MGROnline #เชียงใหม่ #ดอยอินทนนท์
    เชียงใหม่ – “ดอยอินทนนท์” อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิต่ำสุด 8 องศาเซลเซียส ยังต้องรอลุ้นเกิด “เหมยขาบ” แรกของปี ขณะที่นักท่องเที่ยวคึกคักต่อเนื่อง รับลมหนาวชมวิวสวย • รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้(11 ธ.ค.67) ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศการท่องเที่ยวยังคงเป็นไปอย่างค่อนข้างคึกคัก แม้ว่าจะเป็นช่วงกลางสัปดาห์และเพิ่งผ่านพ้นช่วงวันหยุด โดยพบว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากยังคงต่างพากันท่องเที่ยวสัมผัสอากาศหนาวเย็นสบายและชื่นชมธรรมชาติกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่างประทับใจกับการได้ชมแสงแรกของพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ท่ามกลางเมฆหมอกและลมเย็นที่พัดโชยไม่ขาดสาย • ทั้งนี้อุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้วัดได้ 8 องศาเซลเซียส ที่บริเวณยอดดอย และกิ่วแม่ปาน ทำให้ยังต้องรอลุ้นการเกิดน้ำค้างแข็ง หรือ “เหมยขาบ” ครั้งแรกของปีนี้ต่อไป ขณะที่สถิตินักท่องเที่ยวที่เข้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.67 มีจำนวนทั้งสิ้น 4,909 คน แบ่งเป็น คนไทย 3,674 คน ชาวต่างชาติ 1,235 คน และยานพาหนะ 1,307 คัน ซึ่งทางอุทยานฯ เน้นย้ำนักท่องเที่ยวที่ใช้รถยนต์ให้ใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการขับขึ้นดอยและใช้เกียร์ต่ำ เพื่อความปลอดภัย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9670000118775 • #MGROnline #เชียงใหม่ #ดอยอินทนนท์
    0 Comments 0 Shares 685 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/IwU6RjtJK9Q
    https://youtu.be/IwU6RjtJK9Q
    0 Comments 0 Shares 138 Views 0 Reviews
  • https://www.facebook.com/100019500998705/videos/913147554116308
    https://www.facebook.com/100019500998705/videos/913147554116308
    0 Comments 0 Shares 215 Views 0 Reviews
  • ถ้าช่วงเวลาแบบนี้ คุณเติมยังอยู่กับพวกเรานะ
    ถ้าช่วงเวลาแบบนี้ คุณเติมยังอยู่กับพวกเรานะ
    Like
    Love
    5
    0 Comments 0 Shares 271 Views 14 0 Reviews
  • ‘ภูมิธรรม’ เผยยังไม่เห็น 6 ข้อเรียกร้องของ ‘สนธิ’ ปม MOU44 แต่เป็นสิทธิของผู้เสนอ รัฐบาลจะรับฟังและดูว่าทำได้มากน้อยเพัยงใด ขอดูก่อนจัดเวทีสาธารณะได้หรือไม่ ย้ำรัฐบาลพร้อมรับฟังทุกฝ่าย ไม่โฟกัสที่คนคนเดียว โอดรัฐบาลเพิ่งทำงาน 100 วันมีม็อบจำนวนมากแล้ว

    เมื่อเวลา 09.03 น. วันที่ 11 ธ.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นข้อเรียกร้องเกี่ยวกับ MOU2544 6 ข้อต่อรัฐบาล ได้เห็นแล้วหรือยัง ว่า ตนยังไม่เห็นเงื่อนไข ซึ่งเป็นสิทธิของผู้เสนอ โดยไม่ใช่เฉพาะนายสนธิ แต่ประชาชนหรือผู้สื่อข่าวใครมีข้อคิดเห็นอย่างไรก็สามารถเสนอได้ รัฐบาลก็จะรับฟัง และมาดูว่าจะสามารถทำได้มากน้อยขนาดไหน และเห็นพ้องต้องกันหรือไม่อย่างไร

    นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่หมิ่นประมาทการจัดม็อบ เพราะถือเป็นสิทธิของประชาชน ภายใต้กฏหมายรัฐธรรมนูญ ขอเพียงอย่างเดียวคือดำเนินการให้เหมาะสม และพูดให้ตรงข้อเท็จจริง ทั้งนี้รัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายก ฯ ทำงานไม่ถึง 100 วัน ก็มีม็อบมาเป็นจำนวนมากแล้ว ซึ่งตนมองว่าหากมีเรื่องที่อึดอัดก็สามารถเสนอเรื่องได้เรายินดีรับฟัง แม้จะเป็นความเห็นที่แตกต่าง เพราะบางคนเห็นมุมที่ต่างกัน เปรียบเหมือนปี๊บ 1 ใบ ก็เห็นได้หลายด้าน และแต่ละด้านก็แตกต่างกันจึงมองได้หลายมุม แต่ว่าสิ่งที่เห็นเพียงด้านเดียวของปี๊บ ไม่ใช่การเห็นปี๊บทั้งใบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/politics/detail/9670000118796

    #MGROnline #ภูมิธรรม #สนธิ
    ‘ภูมิธรรม’ เผยยังไม่เห็น 6 ข้อเรียกร้องของ ‘สนธิ’ ปม MOU44 แต่เป็นสิทธิของผู้เสนอ รัฐบาลจะรับฟังและดูว่าทำได้มากน้อยเพัยงใด ขอดูก่อนจัดเวทีสาธารณะได้หรือไม่ ย้ำรัฐบาลพร้อมรับฟังทุกฝ่าย ไม่โฟกัสที่คนคนเดียว โอดรัฐบาลเพิ่งทำงาน 100 วันมีม็อบจำนวนมากแล้ว • เมื่อเวลา 09.03 น. วันที่ 11 ธ.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นข้อเรียกร้องเกี่ยวกับ MOU2544 6 ข้อต่อรัฐบาล ได้เห็นแล้วหรือยัง ว่า ตนยังไม่เห็นเงื่อนไข ซึ่งเป็นสิทธิของผู้เสนอ โดยไม่ใช่เฉพาะนายสนธิ แต่ประชาชนหรือผู้สื่อข่าวใครมีข้อคิดเห็นอย่างไรก็สามารถเสนอได้ รัฐบาลก็จะรับฟัง และมาดูว่าจะสามารถทำได้มากน้อยขนาดไหน และเห็นพ้องต้องกันหรือไม่อย่างไร • นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่หมิ่นประมาทการจัดม็อบ เพราะถือเป็นสิทธิของประชาชน ภายใต้กฏหมายรัฐธรรมนูญ ขอเพียงอย่างเดียวคือดำเนินการให้เหมาะสม และพูดให้ตรงข้อเท็จจริง ทั้งนี้รัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายก ฯ ทำงานไม่ถึง 100 วัน ก็มีม็อบมาเป็นจำนวนมากแล้ว ซึ่งตนมองว่าหากมีเรื่องที่อึดอัดก็สามารถเสนอเรื่องได้เรายินดีรับฟัง แม้จะเป็นความเห็นที่แตกต่าง เพราะบางคนเห็นมุมที่ต่างกัน เปรียบเหมือนปี๊บ 1 ใบ ก็เห็นได้หลายด้าน และแต่ละด้านก็แตกต่างกันจึงมองได้หลายมุม แต่ว่าสิ่งที่เห็นเพียงด้านเดียวของปี๊บ ไม่ใช่การเห็นปี๊บทั้งใบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9670000118796 • #MGROnline #ภูมิธรรม #สนธิ
    0 Comments 0 Shares 533 Views 0 Reviews
  • สัญญาณบวก คำร้องยุบ 'เพื่อไทย' เหลือ 6 เรื่องจากครึ่งร้อย
    .
    พรรคเพื่อไทยเวลานี้อาจจะไม่ได้อยู่ช่วงขาขึ้นในทางการเมืองอย่างสุดขีดแต่มุมหนึ่งก็มีแอบมีข่าวดีอยู่บ้างในเรื่องคดีความ โดยก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องกรณีถูกกล่าวหาล้มล้างการปกครอง มาจนถึงล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้ออกมาเปิดเผยว่าพรรคเพื่อไทยเหลือคำร้องยุบพรรคในระหว่างการพิจารณาของกกต. จำนวน 6 เรื่องเท่านั้น
    .
    นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีผู้ยื่นคำร้องยุบพรรคการเมืองทั้งหมด 160 คำร้อง พรรคเพื่อไทยมีคำร้องมากที่สุด จำนวน 53 คำร้อง พรรคประชาชน 3 คำร้อง โดยพรรคเพื่อไทยขณะนี้ตนได้พิจารณาจนเหลือ 6 คำร้อง ในส่วนที่เหลือ 47 คำร้อง สั่งให้ยุติการสอบสวน เพราะบางรายมีอะไรก็ยื่นร้อง บางคนก็ยื่นมาถาม อีกทั้งเรื่องของการล้มล้างการปกครอง ที่ก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องนั้น ทำให้ไม่มีผลผูกพันถึง กกต.
    .
    นายแสวง ระบุว่า คำร้องครอบงำพรรคการเมือง ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเปิดโอกาสให้ผู้ร้องและผู้ร้องได้แสดงพยานหลักฐาน. อย่างไรก็ตามคณะกรรมการสอบสวนคำร้องยุบพรรค ได้ขอขยายเวลาออกไป เนื่องด้วยมีคำร้องที่เกี่ยวโยงถึง 6 พรรคการเมือง
    .
    "ยืนยันไม่ได้มีการเข้าไปแทรกแซงในเรื่องระยะเวลาการหาพยานหลักฐาน แต่ก็กำชับให้เร่งมือ บางครั้งช้าเกินไปก็ไม่ดี โดยมั่นใจว่าในสำนวน คณะกรรมการสอบสวนจะทราบขอบเขต และโอกาสที่จะให้กับฝ่ายไหน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย" เลขากกต. ระบุ
    ..............
    Sondhi X
    สัญญาณบวก คำร้องยุบ 'เพื่อไทย' เหลือ 6 เรื่องจากครึ่งร้อย . พรรคเพื่อไทยเวลานี้อาจจะไม่ได้อยู่ช่วงขาขึ้นในทางการเมืองอย่างสุดขีดแต่มุมหนึ่งก็มีแอบมีข่าวดีอยู่บ้างในเรื่องคดีความ โดยก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องกรณีถูกกล่าวหาล้มล้างการปกครอง มาจนถึงล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้ออกมาเปิดเผยว่าพรรคเพื่อไทยเหลือคำร้องยุบพรรคในระหว่างการพิจารณาของกกต. จำนวน 6 เรื่องเท่านั้น . นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีผู้ยื่นคำร้องยุบพรรคการเมืองทั้งหมด 160 คำร้อง พรรคเพื่อไทยมีคำร้องมากที่สุด จำนวน 53 คำร้อง พรรคประชาชน 3 คำร้อง โดยพรรคเพื่อไทยขณะนี้ตนได้พิจารณาจนเหลือ 6 คำร้อง ในส่วนที่เหลือ 47 คำร้อง สั่งให้ยุติการสอบสวน เพราะบางรายมีอะไรก็ยื่นร้อง บางคนก็ยื่นมาถาม อีกทั้งเรื่องของการล้มล้างการปกครอง ที่ก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องนั้น ทำให้ไม่มีผลผูกพันถึง กกต. . นายแสวง ระบุว่า คำร้องครอบงำพรรคการเมือง ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเปิดโอกาสให้ผู้ร้องและผู้ร้องได้แสดงพยานหลักฐาน. อย่างไรก็ตามคณะกรรมการสอบสวนคำร้องยุบพรรค ได้ขอขยายเวลาออกไป เนื่องด้วยมีคำร้องที่เกี่ยวโยงถึง 6 พรรคการเมือง . "ยืนยันไม่ได้มีการเข้าไปแทรกแซงในเรื่องระยะเวลาการหาพยานหลักฐาน แต่ก็กำชับให้เร่งมือ บางครั้งช้าเกินไปก็ไม่ดี โดยมั่นใจว่าในสำนวน คณะกรรมการสอบสวนจะทราบขอบเขต และโอกาสที่จะให้กับฝ่ายไหน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย" เลขากกต. ระบุ .............. Sondhi X
    Like
    2
    1 Comments 0 Shares 1101 Views 0 Reviews
  • เปิดสมัยประชุม ดิ้นเฮือกสุดท้าย เดินหน้าแก้ รธน.
    .
    12 ธันวาคม เป็นวันแรกของการเปิดสมัยประชุมสภา แน่นอนว่าประเด็นหลักที่หลายฝ่ายพูดถึง คือ ความเป็นไปได้ในการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเป็นประตูสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
    .
    นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่ถูกบรรจุลงระเบียบวาระแล้ว 17 ฉบับ ซึ่งยังไม่มีฉบับใด ที่เป็นการแก้ไขทั้งฉบับ และหากไม่มีการเสนอแก้ไขทั้งฉบับเข้ามา ก็ต้องพิจารณาแก้ไขรายมาตราตามที่บรรจุไว้ โดยในการเปิดประชุมสภา วันที่ 12 ธ.ค.จะต้องมีการถามวิปทั้งสามฝ่ายว่า หากไม่มีการแก้ทั้งฉบับแล้ว จะมาพิจารณาว่าฉบับไหนมีความจำเป็น และเมื่อเปิดสภา และมีการประชุมร่วมเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญจะกระทำช่วงใด
    .
    "เชื่อว่าจะต้องอยู่ภายในเดือนธันวาคม เพราะมีวาระที่จะต้องพิจารณา คือพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ที่ต้องให้สภาพิจารณาให้เสร็จภายใน 60 วัน และใกล้ครบกำหนด 60 วันแล้ว ดังนั้นสภาจะต้องมีการพิจารณากฎหมายนี้ และหลังจากนั้น ก็จะตามด้วยกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้ง 17 ฉบับ ซึ่งจะพิจารณาในคราวเดียวไม่ได้ แต่จะต้องมาพิจารณาว่าจะพิจารณาฉบับไหนก่อนหลัง" ประธานรัฐสภา กล่าว
    .
    ด้าน นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในนามพรรคชาติไทยพัฒนาเห็นว่าวันนี้เป็นวันรัฐธรรมนูญ แต่โอกาสที่จะได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนนั้นยังมีอยู่ แต่ไม่สามารถจะเสนอได้ทันภายในสภาสมัยนี้แน่นอน ส่วนตัวคาดว่าจะได้เพียงแค่การตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แม้แต่ ส.ส.ร.เองก็ยังติดปัญหาอยู่เช่นกัน เพราะโอกาสที่จะทำประชามติสองครั้ง ส่วนตัวก็ไม่เชื่อว่าจะทำได้ ซึ่งต้องทำตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญคือ 3 ครั้ง เนื่องจากหากทำประชามติแค่ 2 ครั้ง สมาชิกรัฐสภาอาจจะอึดอัดกับการโหวต เพราะอาจจะไม่เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
    ..............
    Sondhi X
    เปิดสมัยประชุม ดิ้นเฮือกสุดท้าย เดินหน้าแก้ รธน. . 12 ธันวาคม เป็นวันแรกของการเปิดสมัยประชุมสภา แน่นอนว่าประเด็นหลักที่หลายฝ่ายพูดถึง คือ ความเป็นไปได้ในการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเป็นประตูสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ . นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่ถูกบรรจุลงระเบียบวาระแล้ว 17 ฉบับ ซึ่งยังไม่มีฉบับใด ที่เป็นการแก้ไขทั้งฉบับ และหากไม่มีการเสนอแก้ไขทั้งฉบับเข้ามา ก็ต้องพิจารณาแก้ไขรายมาตราตามที่บรรจุไว้ โดยในการเปิดประชุมสภา วันที่ 12 ธ.ค.จะต้องมีการถามวิปทั้งสามฝ่ายว่า หากไม่มีการแก้ทั้งฉบับแล้ว จะมาพิจารณาว่าฉบับไหนมีความจำเป็น และเมื่อเปิดสภา และมีการประชุมร่วมเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญจะกระทำช่วงใด . "เชื่อว่าจะต้องอยู่ภายในเดือนธันวาคม เพราะมีวาระที่จะต้องพิจารณา คือพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ที่ต้องให้สภาพิจารณาให้เสร็จภายใน 60 วัน และใกล้ครบกำหนด 60 วันแล้ว ดังนั้นสภาจะต้องมีการพิจารณากฎหมายนี้ และหลังจากนั้น ก็จะตามด้วยกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้ง 17 ฉบับ ซึ่งจะพิจารณาในคราวเดียวไม่ได้ แต่จะต้องมาพิจารณาว่าจะพิจารณาฉบับไหนก่อนหลัง" ประธานรัฐสภา กล่าว . ด้าน นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในนามพรรคชาติไทยพัฒนาเห็นว่าวันนี้เป็นวันรัฐธรรมนูญ แต่โอกาสที่จะได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนนั้นยังมีอยู่ แต่ไม่สามารถจะเสนอได้ทันภายในสภาสมัยนี้แน่นอน ส่วนตัวคาดว่าจะได้เพียงแค่การตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แม้แต่ ส.ส.ร.เองก็ยังติดปัญหาอยู่เช่นกัน เพราะโอกาสที่จะทำประชามติสองครั้ง ส่วนตัวก็ไม่เชื่อว่าจะทำได้ ซึ่งต้องทำตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญคือ 3 ครั้ง เนื่องจากหากทำประชามติแค่ 2 ครั้ง สมาชิกรัฐสภาอาจจะอึดอัดกับการโหวต เพราะอาจจะไม่เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    3
    0 Comments 0 Shares 1346 Views 0 Reviews
  • 1/
    โฆษณาชวนเชื่อทางโซเชียลมีเดียกับความเป็นจริงต่างกันโดยสิ้นเชิง

    อดีตทหารจากกองทัพของอัสซาดได้รับอิสรภาพและกลับบ้านได้ —> นี่คือโฆษณาชวนเชื่อที่คนส่วนมากได้เห็นว่ากลุ่มกบฏซีเรียมีความปราณีและมีมนุษยธรรม

    "ความเป็นจริงไม่ได้ดีอย่างนั้น"
    ลองดูวิดีโอถัดไป นี่คือความจริงเพียงบางส่วนเท่านั้น!!!
    0 Comments 0 Shares 141 Views 20 0 Reviews
  • ตัดต่อระดับ ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส เลยนะเนี่ย ท้าดีเบตกลายเป็นท้าต่อย ศีลข้อเดียวเอาให้ได้ก่อน อย่าเอาแต่ท้าท่องศีล
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ตัดต่อระดับ ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส เลยนะเนี่ย ท้าดีเบตกลายเป็นท้าต่อย ศีลข้อเดียวเอาให้ได้ก่อน อย่าเอาแต่ท้าท่องศีล #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    1
    1 Comments 0 Shares 305 Views 0 Reviews
  • กรูไม่รู้ แต่แอคติ้งเป็นกูรู รู้ทุกเรื่อง หยามม็อบต่อต้านmou44 แต่ลืมดูสภาพตัวเองว่าเป็นกูรูน้ำฉรี่ไม่สุด เบื้องหลังอยากเล่นการเมือง เคยตั้งพรรค "คนธรรมดาแห่งประเทศไทย" แต่ไม่มีใครให้ราคาจนยุบพรรคไปเอง แล้วหันมารับงานวิจารณ์ให้พรรคการเมืองในคราบนักวิชาเกิน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    กรูไม่รู้ แต่แอคติ้งเป็นกูรู รู้ทุกเรื่อง หยามม็อบต่อต้านmou44 แต่ลืมดูสภาพตัวเองว่าเป็นกูรูน้ำฉรี่ไม่สุด เบื้องหลังอยากเล่นการเมือง เคยตั้งพรรค "คนธรรมดาแห่งประเทศไทย" แต่ไม่มีใครให้ราคาจนยุบพรรคไปเอง แล้วหันมารับงานวิจารณ์ให้พรรคการเมืองในคราบนักวิชาเกิน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    2
    1 Comments 0 Shares 405 Views 0 Reviews
  • ♣ หรือคนไทยไร้ทางเลือก มีแค่พรรคคนเรว กับพรรคคนชัวร์ เลือกใครก็ไม่ต่างกัน
    #7ดอกจิก
    ♣ หรือคนไทยไร้ทางเลือก มีแค่พรรคคนเรว กับพรรคคนชัวร์ เลือกใครก็ไม่ต่างกัน #7ดอกจิก
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 249 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • เชียงราย – 2 เดือนเต็มไม่มีเยียวยา..แฟนสาว-ครอบครัว “ป๊อป-แชมป์กาแฟไทยปี 66” เหยื่อฟอร์จูนเนอร์ “ผอ.โรงเรียน พื้นที่เชียงแสน” พุ่งชนขณะปั่นจักรยานออกกำลัง ทุกข์สาหัส-ร้องต้นสังกัดคู่กรณี

    กรณีเกิดเหตุรถโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ พุ่งชนท้ายกลุ่มคนที่ปั่นรถจักรยานออกกำลังกายกันระหว่างสี่แยกหนองบัวแดง-ถนนพหลโยธิน ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา จนทำให้นายยศธพล ไชยเบ้า อายุ 33 ปี หรือ "ป๊อป" หนุ่มเจ้าของร้าน “ก๋างโต่งคาเฟ่ Kang tong Cafe - Coffee & roaster Chiang Rai” ตั้งอยู่หมู่ 10 ต.ท่าสุด ซึ่งเป็นแชมป์ Mighty Mix Bartender and Barista Thailand 2023 ประเภท NAN DRIP BATTLE x HARIO และแชมป์ดริปกาแฟของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปี 2564 ได้เสียชีวิตลงขณะนำส่งโรงพยาบาล

    ส่วนคนขับหลบหนีไปขณะเกิดเหตุ ก่อนเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ในวันถัดมา ซึ่งต่อมาพบว่าเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ด้วยนั้น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9670000118771

    #MGROnline #เชียงราย #แชมป์กาแฟไทย
    เชียงราย – 2 เดือนเต็มไม่มีเยียวยา..แฟนสาว-ครอบครัว “ป๊อป-แชมป์กาแฟไทยปี 66” เหยื่อฟอร์จูนเนอร์ “ผอ.โรงเรียน พื้นที่เชียงแสน” พุ่งชนขณะปั่นจักรยานออกกำลัง ทุกข์สาหัส-ร้องต้นสังกัดคู่กรณี • กรณีเกิดเหตุรถโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ พุ่งชนท้ายกลุ่มคนที่ปั่นรถจักรยานออกกำลังกายกันระหว่างสี่แยกหนองบัวแดง-ถนนพหลโยธิน ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา จนทำให้นายยศธพล ไชยเบ้า อายุ 33 ปี หรือ "ป๊อป" หนุ่มเจ้าของร้าน “ก๋างโต่งคาเฟ่ Kang tong Cafe - Coffee & roaster Chiang Rai” ตั้งอยู่หมู่ 10 ต.ท่าสุด ซึ่งเป็นแชมป์ Mighty Mix Bartender and Barista Thailand 2023 ประเภท NAN DRIP BATTLE x HARIO และแชมป์ดริปกาแฟของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปี 2564 ได้เสียชีวิตลงขณะนำส่งโรงพยาบาล • ส่วนคนขับหลบหนีไปขณะเกิดเหตุ ก่อนเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ในวันถัดมา ซึ่งต่อมาพบว่าเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ด้วยนั้น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9670000118771 • #MGROnline #เชียงราย #แชมป์กาแฟไทย
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 1033 Views 0 Reviews
  • ท่านทั้งหลายปฏิบัติธรรมมาตอนนี้เกิน ๓ วันแล้ว แต่ว่าหลายต่อหลายท่านกำลังใจยังฟุ้งซ่านเป็นปกติ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ใจไปต่อต้านแนวทางปฏิบัติที่ตนเองไม่คุ้นเคย พูดง่าย ๆ ว่าไม่สามารถที่จะปรับตัวให้เข้ากับกรรมฐานแบบใหม่ได้ และโดยเฉพาะความรู้สึกต่อต้านที่ว่า ไม่ใช่แบบที่ครูบาอาจารย์ของเราสอนมา..!ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายใฝ่รู้ใฝ่เรียนเสียอย่างเดียว ไม่ว่ากรรมฐานแนวไหนท่านก็จะรับได้ เพราะว่าไม่มีกรรมฐานสายโน้น ไม่มีกรรมฐานสายนี้ เนื่องเพราะว่ากรรมฐานทุกรูปแบบ มาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งนั้น เพียงแต่ว่าครูบาอาจารย์ท่านถนัดแบบไหน ก็เอาแบบนั้นมาสอน แล้วคนที่ชอบก็ติดตามไปปฏิบัติ จนกระทั่งกลายเป็นกรรมฐานสายโน้นสายนี้ขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงเทศน์สอนอยู่พระองค์เดียว..!หรือแม้กระทั่งบุคคลที่น่าจะเป็นรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ไปจัดการกับวัด ๆ หนึ่ง ซึ่งได้รับบริจาคร่างกายของผู้ตายมาเพื่อให้ฝึกกรรมฐาน โดยที่ผู้ใหญ่ระดับนั้นไปฟันธงว่า "การใช้ซากศพฝึกกรรมฐานไม่มีผล" ถ้าแบบนี้ควรที่จะหาคนอื่นมาดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแทน เนื่องเพราะว่าไม่ได้ศึกษาอะไรมาเลย..!อย่าลืมว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนถึงการพิจารณาซากศพ ๙ แบบด้วยกัน ถ้าสงสัยข้องใจสามารถไปดูได้ในมหาสติปัฏฐานสูตร ทีฆนิกาย พระสุตตันตปิฎก นวสีวถิกาปัพพะ ในเมื่อเราไม่เข้าใจแล้วอยู่ในฐานะผู้มีอำนาจในแผ่นดิน ไปกล่าวในลักษณะแบบนั้น บรรดาลูกน้องที่โง่กว่าหรือโง่พอกับเจ้านาย ก็อาจจะรีบสนองด้วยการไปเล่นงานพระเสียอีก..!ถ้าหากว่าลักษณะแบบนั้น จะทำให้พระพุทธศาสนาของเราโดนจำกัดแนวทางในการปฏิบัติไป ทั้ง ๆ ที่การกำหนดอสุภกรรมฐาน เป็นกรรมฐานสำคัญที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้พวกเราพิจารณาเพื่อตัดร่างกายของตนเอง และร่างกายของคนอื่น พูดง่าย ๆ ว่าเมื่อเห็นความจริงว่าร่างกายเมื่อตายลงแล้วมีสภาพน่าเกลียดน่าชังแบบนี้ ก็จะได้สติ ถอนความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายของตนเองออกมา แล้วเมื่อถอนความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายของตนเองออกไปได้ ก็สามารถถอนความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายของคนอื่นได้ส่วนบรรดาผู้เข้าอบรมพัฒนาศักยภาพของพระวิปัสสนาจารย์ ส่วนหนึ่งนอกจากจะต่อต้านการปฏิบัติ ไม่น้อมใจตามไปแล้ว ยังทำตนเหมือนกับคนมีเวลาว่างมาก แทนที่ทุกเวลาจะอยู่กับการปฏิบัติธรรม เพราะว่ามีเวลาแค่ ๑๕ วันเท่านั้น แต่กลับทำตัวตามสบาย หลายท่านกระผม/อาตมภาพบรรยายจบแล้ว ยังมาไม่ถึงห้องกรรมฐานเลย แล้วท่านทั้งหลายคิดว่าบุคคลแบบนี้ ถ้าไปเป็นพระวิปัสสนาจารย์สอนผู้อื่นต่อ จะเอาดีได้หรือไม่ ?พูดง่าย ๆ ว่าผู้บังคับบัญชา ตลอดจนกระทั่งพระสังฆาธิการ ทุ่มเทงบประมาณจำนวนมากมายลงไป โดยเฉพาะการกิน การอยู่ ค่าน้ำ ค่าไฟของคนเป็นร้อย ๆ แต่ละวันมากมายมหาศาล แต่ผลที่หวังดูท่าจะไม่ได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ นอกจากจะรู้สึกต่อต้านเพราะว่าเป็นกรรมฐานที่ไม่ตรงกับสิ่งที่ตนเองศึกษาเรียนรู้มาแล้ว หลายท่านยังยอมสารภาพตรง ๆ ว่า "โดนผู้บังคับบัญชาบังคับให้มา" เป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านละโอกาสซึ่งหาได้ยากที่สุดในโลกเนื่องเพราะว่าในส่วนของบุญกุศลที่ทุกคนก็พึงหวัง สามารถที่จะมีได้ใน ๑๐ อย่างด้วยกัน แต่เน้นหนักที่ ทาน ศีล ภาวนา บุญจากการภาวนาถือว่าสูงที่สุด ถ้าใครตั้งหน้าตั้งตาทำ สามารถเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี หรือเรียกว่า "พลิกชีวิต" ได้เลย แต่กลับไม่คิดที่จะทำกันให้เต็มที่ภายในเวลาที่จำกัด ในเมื่อเป็นเช่นนั้น โอกาสที่ญาติโยมทั้งหลายจะได้ศึกษาหาความรู้ จะได้แบบอย่างที่ดีงามไปเพื่อปฏิบัติตาม ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าแม่ปูเดินคดเสียแล้ว จะให้ลูกปูเดินตรงทางก็ย่อมเป็นไปได้ยากเราท่านทั้งหลายต้องตระหนักว่าจุดมุ่งหมายในการอุปสมบท องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากำหนดเอาไว้แล้ว พระอุปัชฌาย์อาจารย์ท่านให้เราปฏิญาณว่า "นิพพานัสสะ สัจฉิกะระณัตถายะ เอตัง กาสาวัง คะเหตวา - ข้าพเจ้าขอรับเอาผ้ากาสาวพัสตร์นี้มา เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน" แม้ว่างานคันถธุระ จะเรื่องของการศึกษาเล่าเรียน บูรณปฏิสังขรณ์ หรือว่าสาธารณสงเคราะห์อะไรจะสำคัญก็ตาม ท่านทั้งหลายต้องไม่ลืมเป้าหมายตรงนี้เป็นอันขาดสมัยเป็นพระใหม่อยู่วัดท่าซุง กระผม/อาตมภาพทำงานทุกอย่าง งานตรงหน้าหมดก็เร่หางานอื่นต่อไป ปรากฏว่าไปช่วยงานรุ่นพี่ท่านหนึ่ง พอได้เวลา ๕ โมงเย็นก็ได้เรียนท่านว่า "ขอตัวก่อนนะครับ ผมต้องไปทำวัตรเย็น" ท่านชี้งานที่อยู่ตรงหน้า บอกว่า "นี่ก็ทำวัตรเหมือนกัน" กระผม/อาตมภาพก็เลยบอกว่า "นี่มันวัตรของหลวงพี่ ไม่ใช่วัตรของผม วัตรของผมอยู่ที่ตึกธัมมวิโมกข์โน่น" แล้วก็ไปสรงน้ำ แต่งตัว เดินไปเจริญพระกรรมฐาน แล้วทำวัตรที่ตึกธัมมวิโมกข์ ซึ่งมาภายหลังเมื่อมีวิหาร ๑๐๐ เมตร ก็ไปทำวัตรเจริญพระกรรมฐานกันที่พระวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตรแทนท่านลองคิดดูว่า ขนาดอยู่กับครูบาอาจารย์ที่เคร่งครัดขนาดหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ก็ยังมีประเภท "หลุดคิวซี" อย่างนี้อยู่เป็นประจำ ท่านทั้งหลายจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า พระภิกษุสมัยนั้นอยู่กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ๔๐ - ๕๐ รูปทุกปี พระอาคันตุกะอีก ๓๐๐ - ๔๐๐ รูป แล้วทำไมถึงมีบุคคลที่ออกไปเป็นหลักให้กับลูกศิษย์สายหลวงพ่อได้แค่ไม่กี่รูปโบราณเขาบอกว่า "อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน" บุคคลถ้าหากว่าปัญญาน้อย ความเพียรต้องมาก เพื่อเอาไปชดเชยกับปัญญาของเรา พูดง่าย ๆ ว่าลองผิดลองถูกไปเรื่อย จะต้องถูกเข้าสักครั้งหนึ่ง ไม่ใช่ปัญญามากความเพียรน้อย จะได้มีโอกาสรอดไปได้ แล้วถ้าหากว่าปัญญาน้อย ความเพียรน้อย โอกาสที่จะได้ดีย่อมเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้น..เมื่อเห็นพระวิปัสสนาจารย์ในโครงการซึ่งมาถึงครึ่งทางแล้ว ยังปฏิบัติอยู่ในลักษณะถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง แถมยังรู้สึกว่าตัวเองทำดีแล้ว อุตส่าห์เสียสละมาตั้ง ๑๕ วัน กระผม/อาตมภาพรู้สึกเสียดายเวลาแทนเพราะว่าการปฏิบัติธรรมนั้นไม่ใช่ปฏิบัติ ๒ ชั่วโมง ๓ ชั่วโมงแล้วพัก แต่ต้องปฏิบัติอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก เพราะว่ากิเลสกินเราไม่มีเวลาพัก แล้วเราไปพักรอให้กิเลสมากินเรา ก็เหมือนกับบุคคลรอให้ไฟไหม้มาถึงตัวแล้วค่อยขยับหนี เผลอเมื่อไรขยับไม่ทันก็โดนไหม้ทั้งตัว..!จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องตระหนักว่า โครงการนี้จะมีอยู่ทุกปี ถ้าใครได้ไปเข้าโครงการ ขอให้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ ไม่ใช่สักแต่ว่ารอให้ครบ ๑๕ วัน พูดง่าย ๆ ว่า เรียนให้รู้ ดูให้จำ ทำให้จริง ศึกษาแล้วต้องนำมาบอกต่อสอนต่อได้ จึงถือว่าประสบความสำเร็จตามโครงการอย่างแท้จริงพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.เสียงธรรมจากวัดท่าขนุนวันเสาร์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
    ท่านทั้งหลายปฏิบัติธรรมมาตอนนี้เกิน ๓ วันแล้ว แต่ว่าหลายต่อหลายท่านกำลังใจยังฟุ้งซ่านเป็นปกติ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ใจไปต่อต้านแนวทางปฏิบัติที่ตนเองไม่คุ้นเคย พูดง่าย ๆ ว่าไม่สามารถที่จะปรับตัวให้เข้ากับกรรมฐานแบบใหม่ได้ และโดยเฉพาะความรู้สึกต่อต้านที่ว่า ไม่ใช่แบบที่ครูบาอาจารย์ของเราสอนมา..!ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายใฝ่รู้ใฝ่เรียนเสียอย่างเดียว ไม่ว่ากรรมฐานแนวไหนท่านก็จะรับได้ เพราะว่าไม่มีกรรมฐานสายโน้น ไม่มีกรรมฐานสายนี้ เนื่องเพราะว่ากรรมฐานทุกรูปแบบ มาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งนั้น เพียงแต่ว่าครูบาอาจารย์ท่านถนัดแบบไหน ก็เอาแบบนั้นมาสอน แล้วคนที่ชอบก็ติดตามไปปฏิบัติ จนกระทั่งกลายเป็นกรรมฐานสายโน้นสายนี้ขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงเทศน์สอนอยู่พระองค์เดียว..!หรือแม้กระทั่งบุคคลที่น่าจะเป็นรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ไปจัดการกับวัด ๆ หนึ่ง ซึ่งได้รับบริจาคร่างกายของผู้ตายมาเพื่อให้ฝึกกรรมฐาน โดยที่ผู้ใหญ่ระดับนั้นไปฟันธงว่า "การใช้ซากศพฝึกกรรมฐานไม่มีผล" ถ้าแบบนี้ควรที่จะหาคนอื่นมาดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแทน เนื่องเพราะว่าไม่ได้ศึกษาอะไรมาเลย..!อย่าลืมว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนถึงการพิจารณาซากศพ ๙ แบบด้วยกัน ถ้าสงสัยข้องใจสามารถไปดูได้ในมหาสติปัฏฐานสูตร ทีฆนิกาย พระสุตตันตปิฎก นวสีวถิกาปัพพะ ในเมื่อเราไม่เข้าใจแล้วอยู่ในฐานะผู้มีอำนาจในแผ่นดิน ไปกล่าวในลักษณะแบบนั้น บรรดาลูกน้องที่โง่กว่าหรือโง่พอกับเจ้านาย ก็อาจจะรีบสนองด้วยการไปเล่นงานพระเสียอีก..!ถ้าหากว่าลักษณะแบบนั้น จะทำให้พระพุทธศาสนาของเราโดนจำกัดแนวทางในการปฏิบัติไป ทั้ง ๆ ที่การกำหนดอสุภกรรมฐาน เป็นกรรมฐานสำคัญที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้พวกเราพิจารณาเพื่อตัดร่างกายของตนเอง และร่างกายของคนอื่น พูดง่าย ๆ ว่าเมื่อเห็นความจริงว่าร่างกายเมื่อตายลงแล้วมีสภาพน่าเกลียดน่าชังแบบนี้ ก็จะได้สติ ถอนความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายของตนเองออกมา แล้วเมื่อถอนความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายของตนเองออกไปได้ ก็สามารถถอนความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายของคนอื่นได้ส่วนบรรดาผู้เข้าอบรมพัฒนาศักยภาพของพระวิปัสสนาจารย์ ส่วนหนึ่งนอกจากจะต่อต้านการปฏิบัติ ไม่น้อมใจตามไปแล้ว ยังทำตนเหมือนกับคนมีเวลาว่างมาก แทนที่ทุกเวลาจะอยู่กับการปฏิบัติธรรม เพราะว่ามีเวลาแค่ ๑๕ วันเท่านั้น แต่กลับทำตัวตามสบาย หลายท่านกระผม/อาตมภาพบรรยายจบแล้ว ยังมาไม่ถึงห้องกรรมฐานเลย แล้วท่านทั้งหลายคิดว่าบุคคลแบบนี้ ถ้าไปเป็นพระวิปัสสนาจารย์สอนผู้อื่นต่อ จะเอาดีได้หรือไม่ ?พูดง่าย ๆ ว่าผู้บังคับบัญชา ตลอดจนกระทั่งพระสังฆาธิการ ทุ่มเทงบประมาณจำนวนมากมายลงไป โดยเฉพาะการกิน การอยู่ ค่าน้ำ ค่าไฟของคนเป็นร้อย ๆ แต่ละวันมากมายมหาศาล แต่ผลที่หวังดูท่าจะไม่ได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ นอกจากจะรู้สึกต่อต้านเพราะว่าเป็นกรรมฐานที่ไม่ตรงกับสิ่งที่ตนเองศึกษาเรียนรู้มาแล้ว หลายท่านยังยอมสารภาพตรง ๆ ว่า "โดนผู้บังคับบัญชาบังคับให้มา" เป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านละโอกาสซึ่งหาได้ยากที่สุดในโลกเนื่องเพราะว่าในส่วนของบุญกุศลที่ทุกคนก็พึงหวัง สามารถที่จะมีได้ใน ๑๐ อย่างด้วยกัน แต่เน้นหนักที่ ทาน ศีล ภาวนา บุญจากการภาวนาถือว่าสูงที่สุด ถ้าใครตั้งหน้าตั้งตาทำ สามารถเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี หรือเรียกว่า "พลิกชีวิต" ได้เลย แต่กลับไม่คิดที่จะทำกันให้เต็มที่ภายในเวลาที่จำกัด ในเมื่อเป็นเช่นนั้น โอกาสที่ญาติโยมทั้งหลายจะได้ศึกษาหาความรู้ จะได้แบบอย่างที่ดีงามไปเพื่อปฏิบัติตาม ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าแม่ปูเดินคดเสียแล้ว จะให้ลูกปูเดินตรงทางก็ย่อมเป็นไปได้ยากเราท่านทั้งหลายต้องตระหนักว่าจุดมุ่งหมายในการอุปสมบท องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากำหนดเอาไว้แล้ว พระอุปัชฌาย์อาจารย์ท่านให้เราปฏิญาณว่า "นิพพานัสสะ สัจฉิกะระณัตถายะ เอตัง กาสาวัง คะเหตวา - ข้าพเจ้าขอรับเอาผ้ากาสาวพัสตร์นี้มา เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน" แม้ว่างานคันถธุระ จะเรื่องของการศึกษาเล่าเรียน บูรณปฏิสังขรณ์ หรือว่าสาธารณสงเคราะห์อะไรจะสำคัญก็ตาม ท่านทั้งหลายต้องไม่ลืมเป้าหมายตรงนี้เป็นอันขาดสมัยเป็นพระใหม่อยู่วัดท่าซุง กระผม/อาตมภาพทำงานทุกอย่าง งานตรงหน้าหมดก็เร่หางานอื่นต่อไป ปรากฏว่าไปช่วยงานรุ่นพี่ท่านหนึ่ง พอได้เวลา ๕ โมงเย็นก็ได้เรียนท่านว่า "ขอตัวก่อนนะครับ ผมต้องไปทำวัตรเย็น" ท่านชี้งานที่อยู่ตรงหน้า บอกว่า "นี่ก็ทำวัตรเหมือนกัน" กระผม/อาตมภาพก็เลยบอกว่า "นี่มันวัตรของหลวงพี่ ไม่ใช่วัตรของผม วัตรของผมอยู่ที่ตึกธัมมวิโมกข์โน่น" แล้วก็ไปสรงน้ำ แต่งตัว เดินไปเจริญพระกรรมฐาน แล้วทำวัตรที่ตึกธัมมวิโมกข์ ซึ่งมาภายหลังเมื่อมีวิหาร ๑๐๐ เมตร ก็ไปทำวัตรเจริญพระกรรมฐานกันที่พระวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตรแทนท่านลองคิดดูว่า ขนาดอยู่กับครูบาอาจารย์ที่เคร่งครัดขนาดหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ก็ยังมีประเภท "หลุดคิวซี" อย่างนี้อยู่เป็นประจำ ท่านทั้งหลายจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า พระภิกษุสมัยนั้นอยู่กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ๔๐ - ๕๐ รูปทุกปี พระอาคันตุกะอีก ๓๐๐ - ๔๐๐ รูป แล้วทำไมถึงมีบุคคลที่ออกไปเป็นหลักให้กับลูกศิษย์สายหลวงพ่อได้แค่ไม่กี่รูปโบราณเขาบอกว่า "อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน" บุคคลถ้าหากว่าปัญญาน้อย ความเพียรต้องมาก เพื่อเอาไปชดเชยกับปัญญาของเรา พูดง่าย ๆ ว่าลองผิดลองถูกไปเรื่อย จะต้องถูกเข้าสักครั้งหนึ่ง ไม่ใช่ปัญญามากความเพียรน้อย จะได้มีโอกาสรอดไปได้ แล้วถ้าหากว่าปัญญาน้อย ความเพียรน้อย โอกาสที่จะได้ดีย่อมเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้น..เมื่อเห็นพระวิปัสสนาจารย์ในโครงการซึ่งมาถึงครึ่งทางแล้ว ยังปฏิบัติอยู่ในลักษณะถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง แถมยังรู้สึกว่าตัวเองทำดีแล้ว อุตส่าห์เสียสละมาตั้ง ๑๕ วัน กระผม/อาตมภาพรู้สึกเสียดายเวลาแทนเพราะว่าการปฏิบัติธรรมนั้นไม่ใช่ปฏิบัติ ๒ ชั่วโมง ๓ ชั่วโมงแล้วพัก แต่ต้องปฏิบัติอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก เพราะว่ากิเลสกินเราไม่มีเวลาพัก แล้วเราไปพักรอให้กิเลสมากินเรา ก็เหมือนกับบุคคลรอให้ไฟไหม้มาถึงตัวแล้วค่อยขยับหนี เผลอเมื่อไรขยับไม่ทันก็โดนไหม้ทั้งตัว..!จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องตระหนักว่า โครงการนี้จะมีอยู่ทุกปี ถ้าใครได้ไปเข้าโครงการ ขอให้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ ไม่ใช่สักแต่ว่ารอให้ครบ ๑๕ วัน พูดง่าย ๆ ว่า เรียนให้รู้ ดูให้จำ ทำให้จริง ศึกษาแล้วต้องนำมาบอกต่อสอนต่อได้ จึงถือว่าประสบความสำเร็จตามโครงการอย่างแท้จริงพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.เสียงธรรมจากวัดท่าขนุนวันเสาร์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
    0 Comments 1 Shares 1533 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews