• จุ๊กกรู้เนี่ย ถ้าเป็นนักการเมือง ก็ถือว่าเป็นการเสียเหลี่ยมคูทางการเมืองครั้งใหญ่เลยนะ เพราะตอนนี้ใครๆก็เข้ามาดูมาติดตามคุณสนธิเพิ่มขึ้นอีกเยอะมาก นั่นมันก็หมายความว่า คุณสนธิก็อธิบายในหลายๆเรื่องราวให้คนที่ยังไม่รุ้จักคุณสนธิ ก็จะรู้ และเข้าใจคุณสนธิเพิ่มขึ้นอีกมากมายเลย
    จุ๊กกรู้เนี่ย ถ้าเป็นนักการเมือง ก็ถือว่าเป็นการเสียเหลี่ยมคูทางการเมืองครั้งใหญ่เลยนะ เพราะตอนนี้ใครๆก็เข้ามาดูมาติดตามคุณสนธิเพิ่มขึ้นอีกเยอะมาก นั่นมันก็หมายความว่า คุณสนธิก็อธิบายในหลายๆเรื่องราวให้คนที่ยังไม่รุ้จักคุณสนธิ ก็จะรู้ และเข้าใจคุณสนธิเพิ่มขึ้นอีกมากมายเลย
    Like
    3
    2 Comments 0 Shares 305 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 99 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 44 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ แต่งตั้งจอห์น แรตคลิฟฟ์ อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (former Director of National Intelligence) เป็นผู้อำนวยการซีไอเอ (CIA) คนใหม่

    จอห์น แรตคลิฟฟ์ (John Ratcliffe) "สายเหยี่ยวสุดโต่งผู้ต่อต้านจีนและอิหร่าน" กลายเป็นบุคคลแรกของอเมริกาที่เป็นผู้นำหน่วยข่าวกรองชั้นนำของประเทศทั้งสองแห่ง!

    จอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้ได้รับเลือกเป็นผู้อำนวยการซีไอเอของทรัมป์ คือคนที่กล่าวหาอิหร่านอย่างตรงไปตรงมาว่า "ก่อสงคราม" ต่อสหรัฐฯ และวางแผนลอบสังหารทรัมป์ แรตคลิฟฟ์ยังกล่าวอีกว่าควรเข้าร่วมกับอิสราเอลในการโจมตีอิหร่านให้สิ้นซาก

    เขายังกล่าวโจมตีว่าจีนเป็น "ภัยคุกคามต่อประชาธิปไตยและเสรีภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง และต้องการให้ทรัมป์ใช้มาตรการที่แข็งกร้าวกับจีน โดยกำหนดภาษีสินค้าจีนในระดับสูงสุด

    นอกจากนี้ แรตคลิฟฟ์ ยังเป็นผู้สนับสนุนตัวยงให้ใช้กฎหมาย FISA หรือ Foreign Intelligence Surveillance Act ซึ่งเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับการเฝ้าติดตามข่าวกรองต่างประเทศ โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากศาล กฎหมายฉบับนี้ถูกต่อต้านจากประชาชนชาวสหรัฐ เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิพลเมืองอเมริกันจากการถูกเฝ้าติดตามโดยหน่วยงานรัฐ



    ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ แต่งตั้งจอห์น แรตคลิฟฟ์ อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (former Director of National Intelligence) เป็นผู้อำนวยการซีไอเอ (CIA) คนใหม่ จอห์น แรตคลิฟฟ์ (John Ratcliffe) "สายเหยี่ยวสุดโต่งผู้ต่อต้านจีนและอิหร่าน" กลายเป็นบุคคลแรกของอเมริกาที่เป็นผู้นำหน่วยข่าวกรองชั้นนำของประเทศทั้งสองแห่ง! จอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้ได้รับเลือกเป็นผู้อำนวยการซีไอเอของทรัมป์ คือคนที่กล่าวหาอิหร่านอย่างตรงไปตรงมาว่า "ก่อสงคราม" ต่อสหรัฐฯ และวางแผนลอบสังหารทรัมป์ แรตคลิฟฟ์ยังกล่าวอีกว่าควรเข้าร่วมกับอิสราเอลในการโจมตีอิหร่านให้สิ้นซาก เขายังกล่าวโจมตีว่าจีนเป็น "ภัยคุกคามต่อประชาธิปไตยและเสรีภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง และต้องการให้ทรัมป์ใช้มาตรการที่แข็งกร้าวกับจีน โดยกำหนดภาษีสินค้าจีนในระดับสูงสุด นอกจากนี้ แรตคลิฟฟ์ ยังเป็นผู้สนับสนุนตัวยงให้ใช้กฎหมาย FISA หรือ Foreign Intelligence Surveillance Act ซึ่งเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับการเฝ้าติดตามข่าวกรองต่างประเทศ โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากศาล กฎหมายฉบับนี้ถูกต่อต้านจากประชาชนชาวสหรัฐ เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิพลเมืองอเมริกันจากการถูกเฝ้าติดตามโดยหน่วยงานรัฐ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 497 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • ขอบพระ​คุณ​ท่านสนธิ​ ครับ
    ขอบพระ​คุณ​ท่านสนธิ​ ครับ
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 110 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 70 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 46 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • นาย ก. บอกว่านาย ข. เอาเงินนาย ก. ไป และทวงเงินคืน แต่นาย ข. บอกว่า นาย ก. ให้โดยเสน่หา

    นาย ก. บอกว่าไม่ได้ให้โดยเสน่หา ขอให้ นาย ข. คืนเงิน นาย ข. ยืนยันว่าไม่คืนเพราะนาย ก. ให้โดยเสน่หาแล้ว

    ปรากฎว่านาย ก. มีหลักฐานว่าไม่ได้ให้โดยเสน่หา จึงได้แจ้งความว่าถูก นาย ข. หลอกลวงเอาเงินไป

    นาย ข. กลับบอกว่า ไม่เป็นการให้โดยเสน่หาก็ได้ งั้นเป็นการยืมเพื่อลงทุน อย่างนี้ก็ได้เหรอ น่าเชือถือเหรอ งง?

    เอาเงินไปซื้อบ้านอยู่อาศัยเอง ไม่ได้เอาไปเพื่อประกอบกิจการหารายได้ มันจะเป็นการลงทุนเหรอ เป็นการหลอกลวงไหม

    หากฟังได้ว่าเงินที่นาย ข. เอาไปนั้นเป็นเงินยืม ภาระภาษีนาย ข. ที่มีต่อเงินที่ได้มาของนาย ข. ยังจะมีอยู่เหรอ ตรงกันข้ามผู้ให้ยืมกลับต้องรับภาระดอกเบี้ยภาษีด้วยมิใช่เหรอ

    ถ้าเป็นเช่นนั้น นาย ข. ได้เงินแล้วแถมยังทำร้ายนาย ก. ซ้ำเข้าไปอีก มิใช่เหรอ
    นาย ก. บอกว่านาย ข. เอาเงินนาย ก. ไป และทวงเงินคืน แต่นาย ข. บอกว่า นาย ก. ให้โดยเสน่หา นาย ก. บอกว่าไม่ได้ให้โดยเสน่หา ขอให้ นาย ข. คืนเงิน นาย ข. ยืนยันว่าไม่คืนเพราะนาย ก. ให้โดยเสน่หาแล้ว ปรากฎว่านาย ก. มีหลักฐานว่าไม่ได้ให้โดยเสน่หา จึงได้แจ้งความว่าถูก นาย ข. หลอกลวงเอาเงินไป นาย ข. กลับบอกว่า ไม่เป็นการให้โดยเสน่หาก็ได้ งั้นเป็นการยืมเพื่อลงทุน อย่างนี้ก็ได้เหรอ น่าเชือถือเหรอ งง? เอาเงินไปซื้อบ้านอยู่อาศัยเอง ไม่ได้เอาไปเพื่อประกอบกิจการหารายได้ มันจะเป็นการลงทุนเหรอ เป็นการหลอกลวงไหม หากฟังได้ว่าเงินที่นาย ข. เอาไปนั้นเป็นเงินยืม ภาระภาษีนาย ข. ที่มีต่อเงินที่ได้มาของนาย ข. ยังจะมีอยู่เหรอ ตรงกันข้ามผู้ให้ยืมกลับต้องรับภาระดอกเบี้ยภาษีด้วยมิใช่เหรอ ถ้าเป็นเช่นนั้น นาย ข. ได้เงินแล้วแถมยังทำร้ายนาย ก. ซ้ำเข้าไปอีก มิใช่เหรอ
    0 Comments 0 Shares 234 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 46 Views 0 Reviews
  • แอฟยังไม่สเถียรเลย รอครับ
    แอฟยังไม่สเถียรเลย รอครับ
    0 Comments 0 Shares 122 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 88 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 110 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews