• ภูมิใจไทย ขออนุญาตเพื่อไทย
    ค้านออกสื่อไว้เป็น ดิจิทัลฟุตพริ้นท์
    เดี๋ยวค่อยหนับหนุน
    #7ดอกจิก
    ♣️ ภูมิใจไทย ขออนุญาตเพื่อไทย ค้านออกสื่อไว้เป็น ดิจิทัลฟุตพริ้นท์ เดี๋ยวค่อยหนับหนุน #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ้าว รับเงินบริจาคผิดกฎ
    ผิดบัญชี มาตั้งแต่ก้าวไกลแล้ว
    ประชาชุ่ย แท้จริง
    #7ดอกจิก
    ♣️ อ้าว รับเงินบริจาคผิดกฎ ผิดบัญชี มาตั้งแต่ก้าวไกลแล้ว ประชาชุ่ย แท้จริง #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปรากฏการณ์เหลือเชื่อ ทูต18ชาติในไทย พร้อมใจลาพักร้อน จึงไม่มีการแสดงความกังวล ไม่ห่วงใยคดีนายกฯ ถูกถอดถอน
    #7ดอกจิก
    ♣️ ปรากฏการณ์เหลือเชื่อ ทูต18ชาติในไทย พร้อมใจลาพักร้อน จึงไม่มีการแสดงความกังวล ไม่ห่วงใยคดีนายกฯ ถูกถอดถอน #7ดอกจิก
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ต้องเป็นถึงนักกฎหมาย
    ไม่ต้องเป็นถึงนายกฯ
    แค่ปุถุชนทั่วไปก็คิดได้ว่าไม่ควรตั้งพิชิยถุงขนม
    #7ดอกจิก
    ♣️ ไม่ต้องเป็นถึงนักกฎหมาย ไม่ต้องเป็นถึงนายกฯ แค่ปุถุชนทั่วไปก็คิดได้ว่าไม่ควรตั้งพิชิยถุงขนม #7ดอกจิก
    Haha
    Yay
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 355 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 14-8-67
    .
    วันนี้ คุณสนธิเริ่มต้นด้วยการนำเรื่งอราวภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ชื่อ The Post (ออกฉายปี 2562) มาเล่าให้ฟัง เป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของหนังสือพิมพ์ The Washington Post นำแสดงโดย Meryl Streep, Tom Hanks กำกับโดย Steven Spielberg ซึ่งเล่าถึงเหตุการณ์โด่งดังที่เชื่อมโยงกับเรื่องอื้อฉาวในสงครามเวียดนาม ในช่วงทศวรรษที่ 1970 ซึ่งคุณสนธิได้ชมทาง Netflix เมื่อไม่นานมานี้ จึงเกิดความประทับใจ และมุมมองหลายเรื่องมาเล่าให้ฟัง
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=Lh-vy5m02YI
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ วันนี้ประกาศจะลาออกจากตำแหน่งในเดือนกันยายนนี้ โดยการดำรงตำแหน่ง 3 ปีของคิชิดะเต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาว ปัญหาเศรษฐกิจค่าครองชีพที่สูงขึ้น และงบประมาณค่าใช้จ่ายด้านความมั่นคงที่สูงมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน

    14 สิงหาคม 2567-รายงานข่าวเดอะการ์เดียนระบุว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ ประกาศจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP ในเดือนกันยายน และจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ที่กำลังครองอำนาจอยู่ในเดือนหน้า การตัดสินใจดังกล่าวจะส่งผลให้มีการแต่งตั้งผู้นำคนใหม่ของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก

    ตลอดเวลา3ปีภายใต้รัฐบาลคิชิดะเต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาวคอรัปชั่น ปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น และการใช้จ่ายด้านความมั่นคงที่สูงมากชนิดทำลายสถิติเดิมไป

    ผลกระทบจากการตัดสินใจลาออกของนายกฯคิชิดะ จะต้องมีการเลือกหัวหน้าพรรคLDPคนใหม่โดยผู้ชนะจะได้รับอนุมัติให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปผ่านรัฐสภาที่พรรค LDP ควบคุมเสียงส่วนใหญ่

    นายกฯญี่ปุ่นคนใหม่ที่สืบทอดตำแหน่งต่อจากคิชิดะ จะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในระดับนานาชาติที่เพิ่มมากขึ้น และมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ปลายปี และความกังวลที่เพิ่มขึ้นภายในประเทศเกี่ยวกับวิกฤตค่าครองชีพของญี่ปุ่น

    ที่มา : https://www.theguardian.com/world/article/2024/aug/14/japan-pm-fumio-kishida-stepping-down-september

    #Thaitimes
    นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ วันนี้ประกาศจะลาออกจากตำแหน่งในเดือนกันยายนนี้ โดยการดำรงตำแหน่ง 3 ปีของคิชิดะเต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาว ปัญหาเศรษฐกิจค่าครองชีพที่สูงขึ้น และงบประมาณค่าใช้จ่ายด้านความมั่นคงที่สูงมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน 14 สิงหาคม 2567-รายงานข่าวเดอะการ์เดียนระบุว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ ประกาศจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP ในเดือนกันยายน และจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ที่กำลังครองอำนาจอยู่ในเดือนหน้า การตัดสินใจดังกล่าวจะส่งผลให้มีการแต่งตั้งผู้นำคนใหม่ของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ตลอดเวลา3ปีภายใต้รัฐบาลคิชิดะเต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาวคอรัปชั่น ปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น และการใช้จ่ายด้านความมั่นคงที่สูงมากชนิดทำลายสถิติเดิมไป ผลกระทบจากการตัดสินใจลาออกของนายกฯคิชิดะ จะต้องมีการเลือกหัวหน้าพรรคLDPคนใหม่โดยผู้ชนะจะได้รับอนุมัติให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปผ่านรัฐสภาที่พรรค LDP ควบคุมเสียงส่วนใหญ่ นายกฯญี่ปุ่นคนใหม่ที่สืบทอดตำแหน่งต่อจากคิชิดะ จะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในระดับนานาชาติที่เพิ่มมากขึ้น และมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ปลายปี และความกังวลที่เพิ่มขึ้นภายในประเทศเกี่ยวกับวิกฤตค่าครองชีพของญี่ปุ่น ที่มา : https://www.theguardian.com/world/article/2024/aug/14/japan-pm-fumio-kishida-stepping-down-september #Thaitimes
    WWW.THEGUARDIAN.COM
    Japan PM Fumio Kishida announces he will step down in September
    Kishida’s three-year term has been marked by scandal, rising living costs and record defence spending
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 546 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯคนที่หน้าเหมือนทักษิณ

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000074720
    นายกฯคนที่หน้าเหมือนทักษิณ บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000074720
    MGRONLINE.COM
    นายกฯ คนที่หน้าเหมือนทักษิณ
    ศาลรัฐธรรมนูญมีมติด้วยเสียง 5-4 ให้เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง เพราะไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ผิดจริยธรรม ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่า พิชิต ชื่นบานนั้นมีพฤติกรรมเช่นไร ดั้งนั้น คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นตำแหน่งไ
    Haha
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 0 รีวิว
  • โครงการบ้านสวนทุเรียน...
    โครงการบ้านสวนทุเรียน...🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ท่านอน สำคัญนะ
    https://youtube.com/shorts/C1qN9Uk5uFw
    #ท่านอน สำคัญนะ https://youtube.com/shorts/C1qN9Uk5uFw
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • djdfl
    djdfl
    ฿213213 - ฿123123 / ชั่วโฒง
    สถานที่
    dasdsa
    ประเภท
    พาร์ทไทม์
    สถานะ
    Open
    wgbgthdvdv
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=1bCCVqPTlzo
    https://www.youtube.com/watch?v=1bCCVqPTlzo
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • ราชกิจจายุเบกษาประกาศบัญชีเงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการรัฐสภาสามัญฉบับใหม่ เพิ่มเงินนอกเหนือจากเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง รับค่าตอบแทนเริ่มต้นตั้งแต่ 9,000 บาท ไปจนถึง 39,000 บาท ชี้เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น บังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป

    14 สิงหาคม 2567 -ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ระเบียบ ก.ร. ว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการรัฐสภาสามัญ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2567 โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ประธานก.ร. เป็นผู้ลงนาม

    ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบ ก.ร. ว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการรัฐสภาสามัญ เพื่อปรับปรุงอัตราเงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการรัฐภาสามัญ นอกเหนือจากเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งที่ได้รับตามกฎหมายเพื่อเป็นค่าตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่ให้แก่รัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา อันเป็นองค์กรที่ใช้อำนาจนิติบัญญัติตามบทบัญญัติของรัฐธธรรมนูญให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

    อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 (3) และ (9) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 ก.ร. จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

    ข้อ 1. ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบ ก.ร. ว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการรัฐสภาสามัญ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2567”

    ข้อ 2.ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในรารกิจานุบกษาเป็นต้นไป (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป)

    ข้อ 3. ให้ยกเลิกบัญชีเงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการรัฐสภาสามัญท้ายระเบียบ ก.ร.ว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการรัฐสภาสามัญ พ.ศ. 2555 และให้ใช้บัญชีเงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการรัฐสภาสามัญ ท้ายระเบียบนี้แทน (ดูบัญชีเงินค่าตอบแทนพิเศษท้ายข่าว)

    #Thaitimes
    ราชกิจจายุเบกษาประกาศบัญชีเงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการรัฐสภาสามัญฉบับใหม่ เพิ่มเงินนอกเหนือจากเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง รับค่าตอบแทนเริ่มต้นตั้งแต่ 9,000 บาท ไปจนถึง 39,000 บาท ชี้เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น บังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป 14 สิงหาคม 2567 -ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ระเบียบ ก.ร. ว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการรัฐสภาสามัญ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2567 โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ประธานก.ร. เป็นผู้ลงนาม ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบ ก.ร. ว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการรัฐสภาสามัญ เพื่อปรับปรุงอัตราเงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการรัฐภาสามัญ นอกเหนือจากเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งที่ได้รับตามกฎหมายเพื่อเป็นค่าตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่ให้แก่รัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา อันเป็นองค์กรที่ใช้อำนาจนิติบัญญัติตามบทบัญญัติของรัฐธธรรมนูญให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 (3) และ (9) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 ก.ร. จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1. ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบ ก.ร. ว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการรัฐสภาสามัญ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2567” ข้อ 2.ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในรารกิจานุบกษาเป็นต้นไป (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป) ข้อ 3. ให้ยกเลิกบัญชีเงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการรัฐสภาสามัญท้ายระเบียบ ก.ร.ว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการรัฐสภาสามัญ พ.ศ. 2555 และให้ใช้บัญชีเงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการรัฐสภาสามัญ ท้ายระเบียบนี้แทน (ดูบัญชีเงินค่าตอบแทนพิเศษท้ายข่าว) #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 วิธีจ่ายผลตอบแทนคืนให้เจ้าของบริษัท
    3 วิธีจ่ายผลตอบแทนคืนให้เจ้าของบริษัท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • สะพัด 'ชัยเกษม' นายกรัฐมนตรีคนที่ 31

    หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ จากกรณีนําความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่นายพิชิตเคยถูกศาลฎีกาสั่งจําคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในความผิดฐานละเมิดอํานาจศาล เป็นบุคคลที่กระทําการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ

    นับเป็นการปิดฉากนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย จากนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สู่นักการเมือง หลังดำรงตำแหน่งได้เพียง 358 วัน นับตั้งแต่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา

    เมื่อพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ปล่อยให้บรรยากาศทางการเมืองตกอยู่ในภาวะสูญญากาศ การหารือระหว่างแกนนำพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 14 ส.ค. โดยมีรายงานว่า พรรคเพื่อไทย จะเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งเป็นหนึ่งในแคนดิเดต เป็นนายกรัฐมนตรี

    ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีคำสั่งให้นัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 16 ส.ค. 2567 เวลา 10.00 น. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ โดยก่อนหน้านี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร แจ้งต่อที่ประชุมเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ว่า จำนวน สส.ในสภาปัจจุบันเท่าที่มีและปฏิบัติหน้าที่ได้ มีจำนวน 493 คน องค์ประชุมกึ่งหนึ่งคือ 247 คน หลังจากพรรคก้าวไกลถูกยุบและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค

    ปัจจุบันเสียง สส.ฝ่ายรัฐบาล รวม 315 เสียง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 141 เสียง พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง พรรคพลังประชารัฐ 40 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคชาติพัฒนา 3 เสียง พรรคไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคท้องที่ไทย พรรคละ 1 เสียง หากเป็นไปในทิศทางเดียวกันย่อมได้เสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งไม่ยาก เว้นเสียแต่การเมืองไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้

    สำหรับนายชัยเกษม นิติสิริ อายุ 75 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับสอง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท กฎหมายระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา เคยเป็นอดีตประธาน ก.ล.ต. อดีตอัยการสูงสุด อดีต รมว.ยุติธรรม ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียม พรรคเพื่อไทย

    ก่อนหน้านี้นายชัยเกษมมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ป่วยกะทันหันหลังจากลงพื้นที่หาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ที่ จ.น่าน เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2566 เมื่อตรวจซีทีสแกนพบว่ามีก้อนเลือดแห้งอยู่ในสมอง เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช แต่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ระบุว่า สุขภาพกลับมาแข็งแรงแล้ว ที่ผ่านมาก็เข้ามาช่วยทำงานกับพรรคมาโดยตลอด

    #Newskit #ชัยเกษม #นายกรัฐมนตรี
    สะพัด 'ชัยเกษม' นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ จากกรณีนําความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่นายพิชิตเคยถูกศาลฎีกาสั่งจําคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในความผิดฐานละเมิดอํานาจศาล เป็นบุคคลที่กระทําการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ นับเป็นการปิดฉากนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย จากนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สู่นักการเมือง หลังดำรงตำแหน่งได้เพียง 358 วัน นับตั้งแต่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา เมื่อพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ปล่อยให้บรรยากาศทางการเมืองตกอยู่ในภาวะสูญญากาศ การหารือระหว่างแกนนำพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 14 ส.ค. โดยมีรายงานว่า พรรคเพื่อไทย จะเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งเป็นหนึ่งในแคนดิเดต เป็นนายกรัฐมนตรี ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีคำสั่งให้นัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 16 ส.ค. 2567 เวลา 10.00 น. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ โดยก่อนหน้านี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร แจ้งต่อที่ประชุมเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ว่า จำนวน สส.ในสภาปัจจุบันเท่าที่มีและปฏิบัติหน้าที่ได้ มีจำนวน 493 คน องค์ประชุมกึ่งหนึ่งคือ 247 คน หลังจากพรรคก้าวไกลถูกยุบและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค ปัจจุบันเสียง สส.ฝ่ายรัฐบาล รวม 315 เสียง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 141 เสียง พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง พรรคพลังประชารัฐ 40 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคชาติพัฒนา 3 เสียง พรรคไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคท้องที่ไทย พรรคละ 1 เสียง หากเป็นไปในทิศทางเดียวกันย่อมได้เสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งไม่ยาก เว้นเสียแต่การเมืองไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้ สำหรับนายชัยเกษม นิติสิริ อายุ 75 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับสอง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท กฎหมายระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา เคยเป็นอดีตประธาน ก.ล.ต. อดีตอัยการสูงสุด อดีต รมว.ยุติธรรม ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียม พรรคเพื่อไทย ก่อนหน้านี้นายชัยเกษมมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ป่วยกะทันหันหลังจากลงพื้นที่หาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ที่ จ.น่าน เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2566 เมื่อตรวจซีทีสแกนพบว่ามีก้อนเลือดแห้งอยู่ในสมอง เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช แต่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ระบุว่า สุขภาพกลับมาแข็งแรงแล้ว ที่ผ่านมาก็เข้ามาช่วยทำงานกับพรรคมาโดยตลอด #Newskit #ชัยเกษม #นายกรัฐมนตรี
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1814 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนไทยนับร้อยสนใจ เรียนต่อที่มาเลเซีย

    มาเลเซียเป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่นักเรียนและนักศึกษาไทย ให้ความสนใจเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา ด้วยความที่มีมหาวิทยาลัยติดอันดับโลก ค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพที่เหมาะสม ขอวีซ่าง่าย สามารถพาครอบครัวไปด้วยขณะศึกษาระดับปริญญาโทได้ และมีโอกาสในการขอทุนการศึกษา รวมทั้งเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเป็นมิตร

    ด้วยเหตุผลข้างต้น ทำให้ Education Malaysia Global Services (EMGS) หน่วยงานภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา ประเทศมาเลเซีย จึงได้จัดงานมหกรรมการศึกษาต่อประเทศมาเลเซีย หรือ Study in Malaysia Education Fair Bangkok 2024 ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา โดยมีตัวแทนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในมาเลเซีย แนะนำหลักสูตรและรับสมัครนักศึกษาระดับอุดมศึกษา ซึ่งงานนี้จัดพร้อมกันที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

    นายโนวี ทาจุดดิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EMGS ระบุว่า ที่ผ่านมามีนักศึกษาต่างชาติ ให้ความสนใจศึกษาต่อที่ประเทศมาเลเซียมากขึ้น โดยในปี 2566 ประเทศมาเลเซียมีจำนวนนักศึกษาต่างชาติมากกว่า 114,765 คน ซึ่งมีนักศึกษาไทยที่สนใจศึกษาต่อที่ประเทศมาเลเซีย ยื่นใบสมัครมากถึง 372 ใบ ขณะที่ในปีนี้นับถึงเดือน พ.ค. 2567 EMGS ได้รับใบสมัครใหม่จากประเทศไทยแล้ว 117 ใบ อยู่ในอันดับที่ 5 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    ทั้งนี้ ประเทศมาเลเซียเป็นที่โดดเด่นในเวทีวิชาการระดับโลก โดยมี 8 สาขาวิชาที่ได้รับการยอมรับในการจัดอันดับของ QS World University Rangkings และมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ 8 แห่ง โดยมีมหาวิทยาลัยของรัฐ 20 แห่ง มหาวิทยาลัยเอกชน 207 แห่ง วิทยาลัย และวิทยาเขตสาขาของมหาวิทยาลัยต่างประเทศระดับโลก 10 แห่ง ซึ่งภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในมาเลเซีย และหลักสูตรส่วนใหญ่ยังสอนเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งความสามารถทางภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในข้อกำหนดหลักสำหรับการรับเข้าเรียนของนักเรียนเพื่อสมัครเข้าสถาบันอุดมศึกษา (HEIs)

    ขณะเดียวกัน มาเลเซียมีทำเลที่ตั้งเหมาะสำหรับนักศึกษาไทย เนื่องจากอยู่ใกล้ประเทศไทย ระยะทางในการเดินทางที่สั้น ด้วยเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพฯ กับกัวลาลัมเปอร์มากกว่า 22 เที่ยวบินต่อวัน นอกจากนี้ มาเลเซียเป็นจุดหมายปลายทางการศึกษาที่ได้รับความนิยม โดยจัดการศึกษาระดับโลก ด้วยค่าเล่าเรียนที่เหมาะสม กัวลาลัมเปอร์ถูกยกให้เป็นอันดับ 1 ของเอเชียในตัวบ่งชี้ความสามารถในการซื้ออาหาร ตามการจัดอันดับเมืองนักเรียนที่ดีที่สุดของ QS ประจำปี 2023 โดยอาหารริมทางมีราคาตั้งแต่ 5 ถึง 15 ริงกิตมาเลเซีย รวมถึงอาหารมาเลเซียยอดนิยม เช่น นาซีเลอมัก โรตีจาไน ลักซา และอื่นๆ

    ภายในงานมีมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมจัดกิจกรรม ประกอบด้วย 1. Asia Pacific University of Technology & Innovation (APU) 2. Malaysian Maritime Academy (ALAM) 3. Management and Science University (MSU) 4. Universiti Utara Malaysia (UUM) 5. University Malaya (UM) 6. German-Malaysian Institute (GMI) 7. MAHSA University 8. UCSI University 9. Sunway Le Cordon Bleu และ 10. Universiti Kebangsaan Malaysia (UKM) เป็นต้น

    สำหรับ EMGS มีหน้าที่หลักคือ อำนวยความสะดวกในการขอวีซ่าสำหรับนักศึกษาต่างชาติทั้งหมด และส่งเสริมให้ประเทศมาเลเซียเป็นศูนย์กลางความรู้และความสามารถระดับโลก โดยทำหน้าที่ประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย เพื่อออกหนังสืออนุมัติการออกวีซ่า และออก Student Pass ให้นักศึกษา รวมทั้งยังจัดทำประกันสุขภาพให้นักศึกษาอีกด้วย แม้การจัดงานจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่สามารถติดตามข่าวสารการศึกษาต่อประเทศมาเลเซีย ทาง Instagram @education.Malaysia.official และเฟซบุ๊ก Education Malaysia

    #Newskit #StudyinMalaysia #EMGS
    คนไทยนับร้อยสนใจ เรียนต่อที่มาเลเซีย มาเลเซียเป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่นักเรียนและนักศึกษาไทย ให้ความสนใจเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา ด้วยความที่มีมหาวิทยาลัยติดอันดับโลก ค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพที่เหมาะสม ขอวีซ่าง่าย สามารถพาครอบครัวไปด้วยขณะศึกษาระดับปริญญาโทได้ และมีโอกาสในการขอทุนการศึกษา รวมทั้งเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเป็นมิตร ด้วยเหตุผลข้างต้น ทำให้ Education Malaysia Global Services (EMGS) หน่วยงานภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา ประเทศมาเลเซีย จึงได้จัดงานมหกรรมการศึกษาต่อประเทศมาเลเซีย หรือ Study in Malaysia Education Fair Bangkok 2024 ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา โดยมีตัวแทนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในมาเลเซีย แนะนำหลักสูตรและรับสมัครนักศึกษาระดับอุดมศึกษา ซึ่งงานนี้จัดพร้อมกันที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายโนวี ทาจุดดิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EMGS ระบุว่า ที่ผ่านมามีนักศึกษาต่างชาติ ให้ความสนใจศึกษาต่อที่ประเทศมาเลเซียมากขึ้น โดยในปี 2566 ประเทศมาเลเซียมีจำนวนนักศึกษาต่างชาติมากกว่า 114,765 คน ซึ่งมีนักศึกษาไทยที่สนใจศึกษาต่อที่ประเทศมาเลเซีย ยื่นใบสมัครมากถึง 372 ใบ ขณะที่ในปีนี้นับถึงเดือน พ.ค. 2567 EMGS ได้รับใบสมัครใหม่จากประเทศไทยแล้ว 117 ใบ อยู่ในอันดับที่ 5 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ ประเทศมาเลเซียเป็นที่โดดเด่นในเวทีวิชาการระดับโลก โดยมี 8 สาขาวิชาที่ได้รับการยอมรับในการจัดอันดับของ QS World University Rangkings และมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ 8 แห่ง โดยมีมหาวิทยาลัยของรัฐ 20 แห่ง มหาวิทยาลัยเอกชน 207 แห่ง วิทยาลัย และวิทยาเขตสาขาของมหาวิทยาลัยต่างประเทศระดับโลก 10 แห่ง ซึ่งภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในมาเลเซีย และหลักสูตรส่วนใหญ่ยังสอนเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งความสามารถทางภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในข้อกำหนดหลักสำหรับการรับเข้าเรียนของนักเรียนเพื่อสมัครเข้าสถาบันอุดมศึกษา (HEIs) ขณะเดียวกัน มาเลเซียมีทำเลที่ตั้งเหมาะสำหรับนักศึกษาไทย เนื่องจากอยู่ใกล้ประเทศไทย ระยะทางในการเดินทางที่สั้น ด้วยเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพฯ กับกัวลาลัมเปอร์มากกว่า 22 เที่ยวบินต่อวัน นอกจากนี้ มาเลเซียเป็นจุดหมายปลายทางการศึกษาที่ได้รับความนิยม โดยจัดการศึกษาระดับโลก ด้วยค่าเล่าเรียนที่เหมาะสม กัวลาลัมเปอร์ถูกยกให้เป็นอันดับ 1 ของเอเชียในตัวบ่งชี้ความสามารถในการซื้ออาหาร ตามการจัดอันดับเมืองนักเรียนที่ดีที่สุดของ QS ประจำปี 2023 โดยอาหารริมทางมีราคาตั้งแต่ 5 ถึง 15 ริงกิตมาเลเซีย รวมถึงอาหารมาเลเซียยอดนิยม เช่น นาซีเลอมัก โรตีจาไน ลักซา และอื่นๆ ภายในงานมีมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมจัดกิจกรรม ประกอบด้วย 1. Asia Pacific University of Technology & Innovation (APU) 2. Malaysian Maritime Academy (ALAM) 3. Management and Science University (MSU) 4. Universiti Utara Malaysia (UUM) 5. University Malaya (UM) 6. German-Malaysian Institute (GMI) 7. MAHSA University 8. UCSI University 9. Sunway Le Cordon Bleu และ 10. Universiti Kebangsaan Malaysia (UKM) เป็นต้น สำหรับ EMGS มีหน้าที่หลักคือ อำนวยความสะดวกในการขอวีซ่าสำหรับนักศึกษาต่างชาติทั้งหมด และส่งเสริมให้ประเทศมาเลเซียเป็นศูนย์กลางความรู้และความสามารถระดับโลก โดยทำหน้าที่ประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย เพื่อออกหนังสืออนุมัติการออกวีซ่า และออก Student Pass ให้นักศึกษา รวมทั้งยังจัดทำประกันสุขภาพให้นักศึกษาอีกด้วย แม้การจัดงานจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่สามารถติดตามข่าวสารการศึกษาต่อประเทศมาเลเซีย ทาง Instagram @education.Malaysia.official และเฟซบุ๊ก Education Malaysia #Newskit #StudyinMalaysia #EMGS
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1147 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงขับรถไฟฟ้าให้ข้าราชบริพารกับเพื่อนๆ
    #เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงขับรถไฟฟ้าให้ข้าราชบริพารกับเพื่อนๆ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 555 มุมมอง 51 0 รีวิว
  • บุญวาสนาก็เกิดจากเราสร้างบุญฯ ภาวนาเอาไว้ ไปเกิดเป็นวาสนาดีๆรอเราอยู่ ทำไปนะ
    บุญวาสนาก็เกิดจากเราสร้างบุญฯ ภาวนาเอาไว้ ไปเกิดเป็นวาสนาดีๆรอเราอยู่ ทำไปนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน โทนาฟแกล้งทำฉุนนิดถูกถอด หวังวัดบารมีเรียกพรรคร่วมเข้าพบ ถถถถ พ่อทานอส
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ด่วน โทนาฟแกล้งทำฉุนนิดถูกถอด หวังวัดบารมีเรียกพรรคร่วมเข้าพบ ถถถถ พ่อทานอส #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นเรื่อง!!
    #เข้าข่ายฉ้-อ-โ-ก-ง ประชาชน
    พี่คิงส์จะแจงให้กระจ่าง นะคับนะ
    1. พรรคที่ชื่อ พรรคประชาชน ที่สามกีบไชโยโห่ร้องดุจจุติใหม่นั้น
    สถานะปัจจุบัน ยังไม่ได้มีการรับรองตามกฏหมาย ถ้าจะให้ถูกต้อง คือต้องใช้ชื่อพรรคเดิมที่ไปเซ๊งมา นั่นคือ ถิ่นกาขาว ชาวศิวิลัย แต่เพราะกลัวพี่คิงส์โพธิ์แดงล้อ หรือยังไงไม่ทราบ รีบโปรว่า พรรคใหม่ชื่อ พรรคประชาชน เปิดตัวพร้อมโลโก้เสร็จสรรพ
    และรู้หรือไม่ กรณีพรรคเดิม โลโก้เดิม ชื่อพรรคเดิม หากกกตยังไม่รับรอง กรณีต้องการเปลี่ยนสีโลโก้ หรือ เปลี่ยนชื่อแปะอาคารที่ทำการพรรค นี่ก็ถือว่าผิดกฏหมาย และกว่าจะผ่านขั้นตอน จนถึงประกาศในราชกิจจา ต้องใช้เวลาหลักเดือน
    2. จากข้อมูลในข้อแรก จะเห็นว่า พรรคประชาชน ยังไม่มีตัวตนอยู่จริงตามกฏหมาย แต่เจี๊ยบ อมเกียร์ รวมถึงหัวๆของพรรคกางเกงในส้ม ต่างร้องแร่โพสปลุกเร้า เอาความคลั่งแค้นมาเปลี่ยนเป็นเงินบริจาค โดยชัดเจนว่า บริจาคให้กับพรรคประชาชน และใบเสร็จก็ออกในนามพรรคประชาชน แต่เมื่อตรวจสอบพบว่า จากเหตุผลข้อที่ 1 บัญชีพรรคประชาชน ไม่มีอยู่จริง ใบเสร็จที่ออกก็ถือว่าเป็นใบเสร็จ ป-ล-อ-ม
    และเมื่อมีคนทักท้วง ตัวตึงพรรคก็แถว่า ก็ฉันโอนเข้าบช.พรรคถิ่นกาขาวไง ทางออกนี้ไม่ฉลาดไปอีก ในเมื่อคุณโปรว่าให้ประชาชนมาบริจาคให้พรรคประชาชน คุณกลับนำเงินไปให้พรรคถิ่นกาขาว ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฏหมาย เพราะคนบอกประชาชนอย่างนึง แต่กลับทำอีกอย่างนึง ผิดกฏหมายทั้งขึ้นทั้งล่อง
    3. เรื่องของรูปแบบการบริจาคที่ผิดมนุษย์มนา อันนี้ อาจเป็นคดีอีกกรรม อีกวาระไปเลย โดยการรับบริจาคของพรรคที่ยังไม่มีอยู่จริงตามกฏหมายจนถึงตอนนี้นั้น ให้แสกนชำระผ่านแพลตฟอร์มชื่อ เปย์โซลูชั่น ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียนมตามระบบ ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ต่อ 1 ทรานซิชั่น
    ประเด็นของข้อที่ 3 นี้คือ พรรคที่ไม่มีอยู่จริงมีสิทธิ์อะไร ที่นำเงินบริจาคของประชาชน ไปจ่าย 3 เปอร์เซ็นต์ค่าธรรมเนียมที่เป็นของบริษัทเอกชน และกำลังสืบว่า เปย์โซลูชั่นนี้ มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจสร้างซอฟแวร์ของเท้งเต้งด้วยหรือไม่ ยังอยู่ขั้นตอนที่คิงส์กำลังสืบอยู่ แต่ประเด็นนี้ ยังไม่จบแค่การหักค่าธรรมเนียม แต่เปย์โซลูกชั่นเป็นบริษัทเอกชน หรือเป็นนิติบุคคล ที่ไม่ใช่ทั้งรัฐ และพรรคการเมือง ดังนั้น ไม่ต่างจากการห-ล-อ-ก ให้ประชาชนโอนเข้าบัญชี ม้-า ที่เป็นใครก็ไม่รู้ โดยทำให้เข้าใจผิดไปว่านั่นคือ บช.ของพรรคประชาชนที่ยังไม่มีอยู่จริง
    4. ยังไม่จบแค่นั้น มีความเป็นไปได้สูงที่พรรคประชาชน กำลังสร้างโมเดลใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจาก ปปง ในการได้มาซึ่งเงินบริจาค ที่สนับสนุนการล้มล้างการปกครองจากต่างประเทศ เพราะหากมีเงินจำนวนมา โอนผ่านช่องทางธนาคารปกติ ปปง และเจ้าหน้าที่่จะสามารถสืบเส้นทางการเงินได้ว่าสุดท้ายแล้ว มาจากอเมริกา ผ่าน ngo อย่างที่เคยจับโป๊ะได้เต็มๆ เพราะถ้าให้โมเดลใหม่นี้ เข้ามาครั้งละร้อยล้านก็ทำได้ เพียงแค่สวมชื่อผู้บริจาคโดยเอาบัตรปชชและเลขหลังบัตรที่ระบบขอคนสมัครไว้แตกแรก เอามาเฉลี่ยให้ได้จำนวนที่พอๆกับเงินที่รับเข้า เพียงแค่นี้ถือว่าผ่าน เพราะระบบเปย์โซลูชั่น ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า ใครคือผู้โอน คล้ายๆกับทรูมันนี่ นี่หละครับ ซึ่งลักษณะนี้ สามารถเข้าข่ายการฟอกเงินได้อีกคดีย์
    ดังนั้น หากมีใครซักคน บริจาคตามระบบโมเดลนี้ แล้วไปดำเนินการทางกฏหมาย จะเข้าข่าย ฉ้-อ-โ-ก-ง ประชาชนทันที โดยเฉพาะตัวที่ลุ้นทุกวัน ชวนทุกคืน เดี๋ยวสิบเดี๋ยวยี่สิบล้านทะลุแล้ว อย่างอิเจี๊ยบอมเกียร์นี่ ออกตัวดีนัก
    แคปไว้ให้หมดแล้วไปแจ้ง ค-ว-า-ม โดนหมายจับทันที ไม่ต้องรอหมายเรียก เนื้อหาในข้อกฏหมายดังนี้ ถ้าอ่านจบทุกท่านจะร้อง อ๋อ ไม่รอด
    "ฉ้-อ-โ-ก-ง-ประชาชน ด้วยการห-ล-อ-กประชาชนทั่วไป โดยแสดงข้อความเท็จหรือปกปิดความจริงเพื่อเอาทรัพย์สินคนอื่นหรือ ให้คนอื่นทำ ถอน ทำลายเอกสารสิทธิ มีโทษ จำ-คุ-กไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำ-ทั้งป-รั-บ ฉ้-อ-โ-ก-งประชาชนโดยแสดงเป็นคนอื่น มีโทษ จำ-คุ-ก 6 เดือน ถึง 7 ปี และป-รั-บ 10,000 – 140,000 บาท"
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เป็นเรื่อง!! #เข้าข่ายฉ้-อ-โ-ก-ง ประชาชน พี่คิงส์จะแจงให้กระจ่าง นะคับนะ 1. พรรคที่ชื่อ พรรคประชาชน ที่สามกีบไชโยโห่ร้องดุจจุติใหม่นั้น สถานะปัจจุบัน ยังไม่ได้มีการรับรองตามกฏหมาย ถ้าจะให้ถูกต้อง คือต้องใช้ชื่อพรรคเดิมที่ไปเซ๊งมา นั่นคือ ถิ่นกาขาว ชาวศิวิลัย แต่เพราะกลัวพี่คิงส์โพธิ์แดงล้อ หรือยังไงไม่ทราบ รีบโปรว่า พรรคใหม่ชื่อ พรรคประชาชน เปิดตัวพร้อมโลโก้เสร็จสรรพ และรู้หรือไม่ กรณีพรรคเดิม โลโก้เดิม ชื่อพรรคเดิม หากกกตยังไม่รับรอง กรณีต้องการเปลี่ยนสีโลโก้ หรือ เปลี่ยนชื่อแปะอาคารที่ทำการพรรค นี่ก็ถือว่าผิดกฏหมาย และกว่าจะผ่านขั้นตอน จนถึงประกาศในราชกิจจา ต้องใช้เวลาหลักเดือน 2. จากข้อมูลในข้อแรก จะเห็นว่า พรรคประชาชน ยังไม่มีตัวตนอยู่จริงตามกฏหมาย แต่เจี๊ยบ อมเกียร์ รวมถึงหัวๆของพรรคกางเกงในส้ม ต่างร้องแร่โพสปลุกเร้า เอาความคลั่งแค้นมาเปลี่ยนเป็นเงินบริจาค โดยชัดเจนว่า บริจาคให้กับพรรคประชาชน และใบเสร็จก็ออกในนามพรรคประชาชน แต่เมื่อตรวจสอบพบว่า จากเหตุผลข้อที่ 1 บัญชีพรรคประชาชน ไม่มีอยู่จริง ใบเสร็จที่ออกก็ถือว่าเป็นใบเสร็จ ป-ล-อ-ม และเมื่อมีคนทักท้วง ตัวตึงพรรคก็แถว่า ก็ฉันโอนเข้าบช.พรรคถิ่นกาขาวไง ทางออกนี้ไม่ฉลาดไปอีก ในเมื่อคุณโปรว่าให้ประชาชนมาบริจาคให้พรรคประชาชน คุณกลับนำเงินไปให้พรรคถิ่นกาขาว ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฏหมาย เพราะคนบอกประชาชนอย่างนึง แต่กลับทำอีกอย่างนึง ผิดกฏหมายทั้งขึ้นทั้งล่อง 3. เรื่องของรูปแบบการบริจาคที่ผิดมนุษย์มนา อันนี้ อาจเป็นคดีอีกกรรม อีกวาระไปเลย โดยการรับบริจาคของพรรคที่ยังไม่มีอยู่จริงตามกฏหมายจนถึงตอนนี้นั้น ให้แสกนชำระผ่านแพลตฟอร์มชื่อ เปย์โซลูชั่น ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียนมตามระบบ ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ต่อ 1 ทรานซิชั่น ประเด็นของข้อที่ 3 นี้คือ พรรคที่ไม่มีอยู่จริงมีสิทธิ์อะไร ที่นำเงินบริจาคของประชาชน ไปจ่าย 3 เปอร์เซ็นต์ค่าธรรมเนียมที่เป็นของบริษัทเอกชน และกำลังสืบว่า เปย์โซลูชั่นนี้ มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจสร้างซอฟแวร์ของเท้งเต้งด้วยหรือไม่ ยังอยู่ขั้นตอนที่คิงส์กำลังสืบอยู่ แต่ประเด็นนี้ ยังไม่จบแค่การหักค่าธรรมเนียม แต่เปย์โซลูกชั่นเป็นบริษัทเอกชน หรือเป็นนิติบุคคล ที่ไม่ใช่ทั้งรัฐ และพรรคการเมือง ดังนั้น ไม่ต่างจากการห-ล-อ-ก ให้ประชาชนโอนเข้าบัญชี ม้-า ที่เป็นใครก็ไม่รู้ โดยทำให้เข้าใจผิดไปว่านั่นคือ บช.ของพรรคประชาชนที่ยังไม่มีอยู่จริง 4. ยังไม่จบแค่นั้น มีความเป็นไปได้สูงที่พรรคประชาชน กำลังสร้างโมเดลใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจาก ปปง ในการได้มาซึ่งเงินบริจาค ที่สนับสนุนการล้มล้างการปกครองจากต่างประเทศ เพราะหากมีเงินจำนวนมา โอนผ่านช่องทางธนาคารปกติ ปปง และเจ้าหน้าที่่จะสามารถสืบเส้นทางการเงินได้ว่าสุดท้ายแล้ว มาจากอเมริกา ผ่าน ngo อย่างที่เคยจับโป๊ะได้เต็มๆ เพราะถ้าให้โมเดลใหม่นี้ เข้ามาครั้งละร้อยล้านก็ทำได้ เพียงแค่สวมชื่อผู้บริจาคโดยเอาบัตรปชชและเลขหลังบัตรที่ระบบขอคนสมัครไว้แตกแรก เอามาเฉลี่ยให้ได้จำนวนที่พอๆกับเงินที่รับเข้า เพียงแค่นี้ถือว่าผ่าน เพราะระบบเปย์โซลูชั่น ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า ใครคือผู้โอน คล้ายๆกับทรูมันนี่ นี่หละครับ ซึ่งลักษณะนี้ สามารถเข้าข่ายการฟอกเงินได้อีกคดีย์ ดังนั้น หากมีใครซักคน บริจาคตามระบบโมเดลนี้ แล้วไปดำเนินการทางกฏหมาย จะเข้าข่าย ฉ้-อ-โ-ก-ง ประชาชนทันที โดยเฉพาะตัวที่ลุ้นทุกวัน ชวนทุกคืน เดี๋ยวสิบเดี๋ยวยี่สิบล้านทะลุแล้ว อย่างอิเจี๊ยบอมเกียร์นี่ ออกตัวดีนัก แคปไว้ให้หมดแล้วไปแจ้ง ค-ว-า-ม โดนหมายจับทันที ไม่ต้องรอหมายเรียก เนื้อหาในข้อกฏหมายดังนี้ ถ้าอ่านจบทุกท่านจะร้อง อ๋อ ไม่รอด "ฉ้-อ-โ-ก-ง-ประชาชน ด้วยการห-ล-อ-กประชาชนทั่วไป โดยแสดงข้อความเท็จหรือปกปิดความจริงเพื่อเอาทรัพย์สินคนอื่นหรือ ให้คนอื่นทำ ถอน ทำลายเอกสารสิทธิ มีโทษ จำ-คุ-กไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำ-ทั้งป-รั-บ ฉ้-อ-โ-ก-งประชาชนโดยแสดงเป็นคนอื่น มีโทษ จำ-คุ-ก 6 เดือน ถึง 7 ปี และป-รั-บ 10,000 – 140,000 บาท" #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1078 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครไม่เชื่อพี่คิงส์เรื่องวอลเลท ตอนนี้พี่คิงส์ห่วงพวกท่านมากนะ ข้อมูลท่านอยู่ในมือเอกชนวอลเลทก็ไม่ได้ กอดๆนะ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ใครไม่เชื่อพี่คิงส์เรื่องวอลเลท ตอนนี้พี่คิงส์ห่วงพวกท่านมากนะ ข้อมูลท่านอยู่ในมือเอกชนวอลเลทก็ไม่ได้ กอดๆนะ #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถามมาเยอะมาก วอลเลท ตอบอีกรอบ ยกเลิกวอลเลท ฟันธง! เดี๋ยวพรุ่งนี้จะแจกแจงให้อ่านกัน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ถามมาเยอะมาก วอลเลท ตอบอีกรอบ ยกเลิกวอลเลท ฟันธง! เดี๋ยวพรุ่งนี้จะแจกแจงให้อ่านกัน #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว