• 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะถอนประเทศของเขาออกจากความขัดแย้งยูเครน ปล่อยให้พวกผู้นำอียู อยู่ในสถานะยากลำบากและอึดอัดใจว่าจะเอาอย่างไรต่อไป จากความเห็นของวิคเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการี
    .
    "สถานการณ์ในแนวหน้านั้นชัดเจน มันคือความพ่ายแพ้ทางทหาร อเมริกาจะออกจากสงครามนี้" เขาให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุท้องถิ่น "ยุโรปไม่สามารถสนับสนุนทางการเงินสงครามนี้ได้เพียงลำพัง"
    .
    พวกผู้นำอียูบางส่วนต้องการเดินหน้าไหลบ่าเงินทุนอันไร้ประโยชน์ แต่มีจำนวนมากขึ้นเริ่มปิดปากเงียบเกี่ยวกับความเห็นดังกล่าว จากคำอ้างอิงจากเออร์บาน ขณะที่คนอื่นๆ เรียกร้องให้ทำการประเมินทบทวนโยบายในปัจจุบัน
    .
    เขากล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน มีบางประเทศที่สนับสนุนการลดสถานการณ์ความตึงเครียดและการเจรจา ในนั้นรวมถึงตัวฮังการีเอง เช่นเดียวกับสโลวะเกียและวาติกัน
    .
    ความคาดหมายของเออร์บาน ต่อการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายของสหรัฐฯ มีขึ้นตามหลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ในขณะที่ตัวแทนจากรีพับลิกันเคยกล่าวอ้างว่าเขาจะยุติความขัดแย้งยูเครนภายใน 24 ชั่วโมง
    .
    ผู้นำฮังการีคาดหมายด้วยว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ ทั่วทั้งโลก หลังจากทรัมป์ได้รับชัยชนะ ขณะที่เขาเชื่อว่าโลกนั้นกว้างใหญ่ "ที่ไม่ได้แต่มองเห็นจากดวงจันทร์ แต่ยังรวมถึงดาวอังคาร"
    .
    เออร์บานกล่าวต่อว่า พวกนักการเมืองที่เคยผลักดันให้ยูเครนได้รับชัยชนะ ตอนนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่พวกเขารู้มาเสมอว่ามีความเป็นไปได้ที่ต้องเผชิญกับผลลัพธ์เช่นนี้ ทั้งนี้เมื่อช่วงต้นปี เออร์บาน เคยดำเนินการในสิ่งที่เขาเรียกว่า "ภารกิจสันติภาพ" พบปะกับเหล่าผู้เกี่ยวข้องในความขัดแย้ง เขาเดินทางไปกรุงเคียฟ กรุงมอสโกและกรุงปักกิ่ง เช่นเดียวกับไปสหรัฐฯ ซึ่งเขาได้พูดคุยในประเด็นนี้กับทั้งประธานาธิบดีโจ ไบเดน และโดนัลด์ ทรัมป์
    .
    จากนั้น ฮังการีได้ส่งรายงานฉบับหนึ่งถึงรัฐสมาชิกอียูอื่นๆ โดยให้คำแนะนำว่าพวกเขาควรเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปในยูเครน "เพื่อที่จะไม่มีผู้นำใดๆ มาพูดในภายหลังว่า พวกเขารู้สึกประหลาดใจ"
    .
    "ปัญหาใหญ่หลวงที่สุดของยุโรปในตอนนี้คือ พวกเขาไม่ยอมพูดกับคนที่พวกเขาจำเป็นต้องพูดคุยด้วย" เออร์บานกล่าว "ความหยิ่งยโสนี้ไม่อาจปล่อยให้เกิดขึ้นได้ในทางการเมือง"
    .
    เออร์บาน เคยถูกพวกผู้นำอียูบางส่วนใส้ร้ายป้ายสีเกี่ยวกับความพยายามประสานงานทางการทูต พวกเขาอ้างว่านายกรัฐมนตรีฮังการีอยู่ข้างรัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108068
    ..............
    Sondhi X
    ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะถอนประเทศของเขาออกจากความขัดแย้งยูเครน ปล่อยให้พวกผู้นำอียู อยู่ในสถานะยากลำบากและอึดอัดใจว่าจะเอาอย่างไรต่อไป จากความเห็นของวิคเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการี . "สถานการณ์ในแนวหน้านั้นชัดเจน มันคือความพ่ายแพ้ทางทหาร อเมริกาจะออกจากสงครามนี้" เขาให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุท้องถิ่น "ยุโรปไม่สามารถสนับสนุนทางการเงินสงครามนี้ได้เพียงลำพัง" . พวกผู้นำอียูบางส่วนต้องการเดินหน้าไหลบ่าเงินทุนอันไร้ประโยชน์ แต่มีจำนวนมากขึ้นเริ่มปิดปากเงียบเกี่ยวกับความเห็นดังกล่าว จากคำอ้างอิงจากเออร์บาน ขณะที่คนอื่นๆ เรียกร้องให้ทำการประเมินทบทวนโยบายในปัจจุบัน . เขากล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน มีบางประเทศที่สนับสนุนการลดสถานการณ์ความตึงเครียดและการเจรจา ในนั้นรวมถึงตัวฮังการีเอง เช่นเดียวกับสโลวะเกียและวาติกัน . ความคาดหมายของเออร์บาน ต่อการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายของสหรัฐฯ มีขึ้นตามหลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ในขณะที่ตัวแทนจากรีพับลิกันเคยกล่าวอ้างว่าเขาจะยุติความขัดแย้งยูเครนภายใน 24 ชั่วโมง . ผู้นำฮังการีคาดหมายด้วยว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ ทั่วทั้งโลก หลังจากทรัมป์ได้รับชัยชนะ ขณะที่เขาเชื่อว่าโลกนั้นกว้างใหญ่ "ที่ไม่ได้แต่มองเห็นจากดวงจันทร์ แต่ยังรวมถึงดาวอังคาร" . เออร์บานกล่าวต่อว่า พวกนักการเมืองที่เคยผลักดันให้ยูเครนได้รับชัยชนะ ตอนนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่พวกเขารู้มาเสมอว่ามีความเป็นไปได้ที่ต้องเผชิญกับผลลัพธ์เช่นนี้ ทั้งนี้เมื่อช่วงต้นปี เออร์บาน เคยดำเนินการในสิ่งที่เขาเรียกว่า "ภารกิจสันติภาพ" พบปะกับเหล่าผู้เกี่ยวข้องในความขัดแย้ง เขาเดินทางไปกรุงเคียฟ กรุงมอสโกและกรุงปักกิ่ง เช่นเดียวกับไปสหรัฐฯ ซึ่งเขาได้พูดคุยในประเด็นนี้กับทั้งประธานาธิบดีโจ ไบเดน และโดนัลด์ ทรัมป์ . จากนั้น ฮังการีได้ส่งรายงานฉบับหนึ่งถึงรัฐสมาชิกอียูอื่นๆ โดยให้คำแนะนำว่าพวกเขาควรเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปในยูเครน "เพื่อที่จะไม่มีผู้นำใดๆ มาพูดในภายหลังว่า พวกเขารู้สึกประหลาดใจ" . "ปัญหาใหญ่หลวงที่สุดของยุโรปในตอนนี้คือ พวกเขาไม่ยอมพูดกับคนที่พวกเขาจำเป็นต้องพูดคุยด้วย" เออร์บานกล่าว "ความหยิ่งยโสนี้ไม่อาจปล่อยให้เกิดขึ้นได้ในทางการเมือง" . เออร์บาน เคยถูกพวกผู้นำอียูบางส่วนใส้ร้ายป้ายสีเกี่ยวกับความพยายามประสานงานทางการทูต พวกเขาอ้างว่านายกรัฐมนตรีฮังการีอยู่ข้างรัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108068 .............. Sondhi X
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 985 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำนาน "#ผู้หญิง" สร้างร้านสุกี้ #MK ในไทย
    ความสำเร็จของ "ผู้หญิง" ผู้สร้าง "เอ็มเคสุกี้" จากบทสัมภาษณ์ "ยุพิน ธีระโกเมน" ใน "พลอยแกมเพชร" "ยุพิน" เป็นภรรยาของ "ฤทธิ์ ธีระโกเมน"

    เอ็มเคสุกี้" เริ่มต้นมาจากร้าน "เอ็มเค" ที่สยามสแควร์ คุณแม่ทองคำ เมฆโต แม่ของ "ยุพิน" เป็นผู้บุกเบิก แต่เจ้าของร้านเอ็มเคต้นตำรับ เป็นผู้หญิงชาวฮ่องกง ชื่อว่า "มาคอง คิงยี" "มาคอง คิงยี" อยู่ กทม. บ้านติดกับคุณแม่ทองคำ เธอเป็นคนรวยมาก ส่วนคุณแม่ทองคำเป็น "แม่บ้าน" ทำอาหารเก่ง

    วันหนึ่ง "มาคอง คิงยี" อยากเปิดร้านอาหารที่สยามสแควร์ ก็เลยชวนคุณแม่ทองคำมาเป็น "แม่ครัว" ชื่อร้าน "เอ็มเค" ก็มาจากชื่อ "มาคอง " ทำอยู่พักหนึ่งก็เบื่อ เพราะลูกค้าเริ่มจู้จี้จุกจิก สุดท้ายก็เลิกทำ และยกให้คุณแม่ทองคำทำต่อไป โดยให้ทยอยผ่อนชำระไปเรื่อยๆ คุณนายมาคองย้ายไปปักหลักอยู่ที่สหรัฐอเมริกา

    ส่วนคุณแม่ทองคำก็บุกเบิกร้านเอ็มเคจนประสบความสำเร็จ "คุณแม่ถือเป็นคนเกื้อกูลและเอื้ออารีแบบคนโบราณ เราติดแม่เขา ติดเจ้าของ เจ้าของไม่คิดเล็กคิดน้อยกับลูกค้า ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ใช่คนที่เขารู้จักมาก่อน"

    จากร้านเอ็มเคที่สยามสแควร์ ขยายเป็น "กรีนเอ็มเค" ที่ "เซ็นทรัล ลาดพร้าว" และ "เอ็มเคสุกี้" ในที่สุด

    ตํานาน "เอ็มเคสุกี้" มาจาก "ผู้หญิง" 2 คนครับ

    ตอนที่ "ยุพิน" บุกเบิกร้าน "กรีนเอ็มเค" ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ร้านนี้ขายอาหารไทยเหมือนกับร้าน "เอ็มเค" ที่สยามสแควร์ "ยุพิน" เป็นคนขยันเหมือนแม่ ตีห้าจะออกจากบ้าน เข้าร้านตั้งแต่เช้าตรู่ "สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์" พักอยู่ที่ "เซ็นทรัล" เขาตื่นเช้ามาออกกำลังกายทุกวัน และเจอ "ยุพิน" เป็นประจำ

    เขาถามว่า "มาทำอะไรตั้งแต่เช้า" เธอตอบว่ามาเตรียมตัวเปิดร้าน

    "สัมฤทธิ์" คงเห็นความขยันของ "ยุพิน"

    วันหนึ่ง เขาจึงบอกว่าจะให้ทำร้านสุกี้ที่ชั้นล่างพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร

    "ยุพิน" ปฏิเสธทันที "หนูไม่มีเงินค่ะ"

    "สัมฤทธิ์" บอกว่าเธอไม่ต้องทำอะไร "เดี๋ยวฉันจะทำให้หมด"

    เงินที่ใช้ในการลงทุนตกแต่งร้าน "เอ็มเคสุกี้" สาขาแรกเป็นเงินประมาณ 20 ล้านบาท

    "สัมฤทธิ์" ควักให้

    แต่ถึงกระนั้น การทำร้านสุกี้ขนาดใหญ่ก็ต้องใช้เงินลงทุนสูง และมีความเสี่ยง

    เพราะเป็น "สินค้า" ที่ "ยุพิน" ไม่มีประสบการณ์มาก่อน

    วันที่ "ยุพิน" นำเรื่องนี้มาเล่าให้ที่บ้านฟัง คุณแม่ทองคำตัดสินใจทันที "ทำไปเลยลูก เดี๋ยวแม่จะช่วยเอง" วันนั้น "ฤทธิ์" สามีของ ยุพินไม่เห็นด้วย พ่อของ "ยุพิน" ก็ไม่เห็นด้วย น้องชายของ "ยุพิน" ก็ไม่เห็นด้วย "ผู้ชาย" ในบ้านทุกคน ไม่เห็นด้วย มีคนที่เห็นด้วยเพียง 2 คน คือ "ยุพิน" และคุณแม่ทองคำ "ผู้หญิง" ทั้งคู่

    "ผู้หญิง" ที่เป็นเสียงส่วนน้อย "เห็นด้วย"

    แต่ร้าน "เอ็มเคสุกี้" ก็กำเนิดขึ้นมา ร้านเอ็มเคสุกี้มีหลักคิดหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับคนทำร้านอาหาร คือ "เจ้าของ" ก็เป็นลูกค้าคนหนึ่ง กินอะไรที่ร้าน ต้องจ่าย "ยุพิน" เป็นคนวางกฎนี้เอง เพราะแต่ละคนก็มีน้อง มีเพื่อน มีน้องเพื่อน ลูกเพื่อน ถ้าไม่กำหนดหลักการไว้จะลำบากในการดูแล

    วันแรกที่เปิดร้าน พ่อของ "ยุพิน" พาเพื่อนไปเลี้ยง แต่ต้องจ่ายตังค์ เขาโมโหมาก เพราะเสียหน้า แต่ตอนหลังก็เข้าใจว่าทำไมต้องใช้กติกานี้ ตอนนี้ถ้าลูกสาวพาเพื่อนไปเลี้ยง คุณยุพินก็จะโอนเงินไปจ่ายที่ร้าน กลายเป็นกติกาที่รู้กันใน "เอ็มเคสุกี้"

    คำสอนของคุณแม่ทองคำตอนเริ่มต้น "เอ็มเคสุกี้" เธอสอนลูกสาวและลูกเขยว่า เมื่อได้อะไรมาก็แล้วแต่ ให้ทำให้ดีที่สุด "และถ้ามีอะไรผิดพลาด ให้ถือว่าเราไม่ได้เจตนา มันเกิดขึ้นมาด้วยความไม่ตั้งใจ" เพราะการทำงานนั้น "ใจ" ของเราสำคัญที่สุด การเริ่มต้นงานใหม่ "กำลังใจ" เป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้ามัวแต่มองความผิดพลาดและโทษตัวเอง เราจะหมดกำลังใจ

    ต้องถือหลักว่าถ้าเจตนา เขาเรียกว่า "ความผิด" แต่ถ้าทำดีที่สุดแล้ว และไม่เจตนา เขาเรียกว่า "พลาด" แค่พลาดก็แก้ไขใหม่ เท่านั้นเอง คุณแม่ทองคำเป็นคนมัธยัสถ์มาก ตอนทำเอ็มเคยุคแรกๆ จะใส่เสื้อผ้าเพียงแค่ 2 ชุด หรือช่วงเริ่มต้น "เอ็มเคสุกี้" เธอจะไปจ่ายตลาดเอง ไปรถเมล์ กลับรถตุ๊กๆ

    เธอใช้เงินเพื่อตัวเองน้อยมาก แต่ถ้าให้คนอื่นหรือบริจาคให้โรงพยาบาล โรงเรียน หรือวัด เท่าไรเท่ากัน เป็นที่รู้กันในครอบครัวว่าคุณแม่ทองคำเป็นคนใจบุญ
    และนี่คือสิ่งที่ "ฤทธิ์-ยุพิน" ทำตาม ล่าสุด ตอนที่แม่ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช เธอบอกคุณหมอว่า ถ้าที่โรงพยาบาลมีสถานที่ เธอจะเปิดร้านเอ็มเคสุกี้ให้
    กำไรเท่าไร ยกให้โรงพยาบาลทั้งหมด ตอนนี้ "เอ็มเคสุกี้" เริ่มแล้วที่โรงพยาบาลศิริราช

    กำลังจะขยายไปที่โรงพยาบาลจุฬาฯ และโรงพยาบาลรามาฯ แนวคิดเหมือนเดิม คือ กำไรเท่าไรมอบให้โรงพยาบาลทั้งหมด

    "เพิ่งคุยกับคุณฤทธิ์ว่าเราน่าจะไปโรงพยาบาลต่างจังหวัดบ้าง" พนักงานของ "เอ็มเคสุกี้" สาขาโรงพยาบาลเหล่านี้ ทำงานมีความสุขมาก เพราะสาขามีกำไรเท่าไรก็ได้ทำบุญเท่านั้น ทำงานเหมือนกับทำบุญ จะไม่มีความสุขได้อย่างไร

    จากบทสัมภาษณ์ "ยุพิน ธีระโกเมน" ใน "พลอยแกมเพชร"
    Cr: เพจเจาะเวลาหาอดีต
    ตำนาน "#ผู้หญิง" สร้างร้านสุกี้ #MK ในไทย ความสำเร็จของ "ผู้หญิง" ผู้สร้าง "เอ็มเคสุกี้" จากบทสัมภาษณ์ "ยุพิน ธีระโกเมน" ใน "พลอยแกมเพชร" "ยุพิน" เป็นภรรยาของ "ฤทธิ์ ธีระโกเมน" เอ็มเคสุกี้" เริ่มต้นมาจากร้าน "เอ็มเค" ที่สยามสแควร์ คุณแม่ทองคำ เมฆโต แม่ของ "ยุพิน" เป็นผู้บุกเบิก แต่เจ้าของร้านเอ็มเคต้นตำรับ เป็นผู้หญิงชาวฮ่องกง ชื่อว่า "มาคอง คิงยี" "มาคอง คิงยี" อยู่ กทม. บ้านติดกับคุณแม่ทองคำ เธอเป็นคนรวยมาก ส่วนคุณแม่ทองคำเป็น "แม่บ้าน" ทำอาหารเก่ง วันหนึ่ง "มาคอง คิงยี" อยากเปิดร้านอาหารที่สยามสแควร์ ก็เลยชวนคุณแม่ทองคำมาเป็น "แม่ครัว" ชื่อร้าน "เอ็มเค" ก็มาจากชื่อ "มาคอง " ทำอยู่พักหนึ่งก็เบื่อ เพราะลูกค้าเริ่มจู้จี้จุกจิก สุดท้ายก็เลิกทำ และยกให้คุณแม่ทองคำทำต่อไป โดยให้ทยอยผ่อนชำระไปเรื่อยๆ คุณนายมาคองย้ายไปปักหลักอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ส่วนคุณแม่ทองคำก็บุกเบิกร้านเอ็มเคจนประสบความสำเร็จ "คุณแม่ถือเป็นคนเกื้อกูลและเอื้ออารีแบบคนโบราณ เราติดแม่เขา ติดเจ้าของ เจ้าของไม่คิดเล็กคิดน้อยกับลูกค้า ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ใช่คนที่เขารู้จักมาก่อน" จากร้านเอ็มเคที่สยามสแควร์ ขยายเป็น "กรีนเอ็มเค" ที่ "เซ็นทรัล ลาดพร้าว" และ "เอ็มเคสุกี้" ในที่สุด ตํานาน "เอ็มเคสุกี้" มาจาก "ผู้หญิง" 2 คนครับ ตอนที่ "ยุพิน" บุกเบิกร้าน "กรีนเอ็มเค" ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ร้านนี้ขายอาหารไทยเหมือนกับร้าน "เอ็มเค" ที่สยามสแควร์ "ยุพิน" เป็นคนขยันเหมือนแม่ ตีห้าจะออกจากบ้าน เข้าร้านตั้งแต่เช้าตรู่ "สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์" พักอยู่ที่ "เซ็นทรัล" เขาตื่นเช้ามาออกกำลังกายทุกวัน และเจอ "ยุพิน" เป็นประจำ เขาถามว่า "มาทำอะไรตั้งแต่เช้า" เธอตอบว่ามาเตรียมตัวเปิดร้าน "สัมฤทธิ์" คงเห็นความขยันของ "ยุพิน" วันหนึ่ง เขาจึงบอกว่าจะให้ทำร้านสุกี้ที่ชั้นล่างพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร "ยุพิน" ปฏิเสธทันที "หนูไม่มีเงินค่ะ" "สัมฤทธิ์" บอกว่าเธอไม่ต้องทำอะไร "เดี๋ยวฉันจะทำให้หมด" เงินที่ใช้ในการลงทุนตกแต่งร้าน "เอ็มเคสุกี้" สาขาแรกเป็นเงินประมาณ 20 ล้านบาท "สัมฤทธิ์" ควักให้ แต่ถึงกระนั้น การทำร้านสุกี้ขนาดใหญ่ก็ต้องใช้เงินลงทุนสูง และมีความเสี่ยง เพราะเป็น "สินค้า" ที่ "ยุพิน" ไม่มีประสบการณ์มาก่อน วันที่ "ยุพิน" นำเรื่องนี้มาเล่าให้ที่บ้านฟัง คุณแม่ทองคำตัดสินใจทันที "ทำไปเลยลูก เดี๋ยวแม่จะช่วยเอง" วันนั้น "ฤทธิ์" สามีของ ยุพินไม่เห็นด้วย พ่อของ "ยุพิน" ก็ไม่เห็นด้วย น้องชายของ "ยุพิน" ก็ไม่เห็นด้วย "ผู้ชาย" ในบ้านทุกคน ไม่เห็นด้วย มีคนที่เห็นด้วยเพียง 2 คน คือ "ยุพิน" และคุณแม่ทองคำ "ผู้หญิง" ทั้งคู่ "ผู้หญิง" ที่เป็นเสียงส่วนน้อย "เห็นด้วย" แต่ร้าน "เอ็มเคสุกี้" ก็กำเนิดขึ้นมา ร้านเอ็มเคสุกี้มีหลักคิดหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับคนทำร้านอาหาร คือ "เจ้าของ" ก็เป็นลูกค้าคนหนึ่ง กินอะไรที่ร้าน ต้องจ่าย "ยุพิน" เป็นคนวางกฎนี้เอง เพราะแต่ละคนก็มีน้อง มีเพื่อน มีน้องเพื่อน ลูกเพื่อน ถ้าไม่กำหนดหลักการไว้จะลำบากในการดูแล วันแรกที่เปิดร้าน พ่อของ "ยุพิน" พาเพื่อนไปเลี้ยง แต่ต้องจ่ายตังค์ เขาโมโหมาก เพราะเสียหน้า แต่ตอนหลังก็เข้าใจว่าทำไมต้องใช้กติกานี้ ตอนนี้ถ้าลูกสาวพาเพื่อนไปเลี้ยง คุณยุพินก็จะโอนเงินไปจ่ายที่ร้าน กลายเป็นกติกาที่รู้กันใน "เอ็มเคสุกี้" คำสอนของคุณแม่ทองคำตอนเริ่มต้น "เอ็มเคสุกี้" เธอสอนลูกสาวและลูกเขยว่า เมื่อได้อะไรมาก็แล้วแต่ ให้ทำให้ดีที่สุด "และถ้ามีอะไรผิดพลาด ให้ถือว่าเราไม่ได้เจตนา มันเกิดขึ้นมาด้วยความไม่ตั้งใจ" เพราะการทำงานนั้น "ใจ" ของเราสำคัญที่สุด การเริ่มต้นงานใหม่ "กำลังใจ" เป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้ามัวแต่มองความผิดพลาดและโทษตัวเอง เราจะหมดกำลังใจ ต้องถือหลักว่าถ้าเจตนา เขาเรียกว่า "ความผิด" แต่ถ้าทำดีที่สุดแล้ว และไม่เจตนา เขาเรียกว่า "พลาด" แค่พลาดก็แก้ไขใหม่ เท่านั้นเอง คุณแม่ทองคำเป็นคนมัธยัสถ์มาก ตอนทำเอ็มเคยุคแรกๆ จะใส่เสื้อผ้าเพียงแค่ 2 ชุด หรือช่วงเริ่มต้น "เอ็มเคสุกี้" เธอจะไปจ่ายตลาดเอง ไปรถเมล์ กลับรถตุ๊กๆ เธอใช้เงินเพื่อตัวเองน้อยมาก แต่ถ้าให้คนอื่นหรือบริจาคให้โรงพยาบาล โรงเรียน หรือวัด เท่าไรเท่ากัน เป็นที่รู้กันในครอบครัวว่าคุณแม่ทองคำเป็นคนใจบุญ และนี่คือสิ่งที่ "ฤทธิ์-ยุพิน" ทำตาม ล่าสุด ตอนที่แม่ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช เธอบอกคุณหมอว่า ถ้าที่โรงพยาบาลมีสถานที่ เธอจะเปิดร้านเอ็มเคสุกี้ให้ กำไรเท่าไร ยกให้โรงพยาบาลทั้งหมด ตอนนี้ "เอ็มเคสุกี้" เริ่มแล้วที่โรงพยาบาลศิริราช กำลังจะขยายไปที่โรงพยาบาลจุฬาฯ และโรงพยาบาลรามาฯ แนวคิดเหมือนเดิม คือ กำไรเท่าไรมอบให้โรงพยาบาลทั้งหมด "เพิ่งคุยกับคุณฤทธิ์ว่าเราน่าจะไปโรงพยาบาลต่างจังหวัดบ้าง" พนักงานของ "เอ็มเคสุกี้" สาขาโรงพยาบาลเหล่านี้ ทำงานมีความสุขมาก เพราะสาขามีกำไรเท่าไรก็ได้ทำบุญเท่านั้น ทำงานเหมือนกับทำบุญ จะไม่มีความสุขได้อย่างไร จากบทสัมภาษณ์ "ยุพิน ธีระโกเมน" ใน "พลอยแกมเพชร" Cr: เพจเจาะเวลาหาอดีต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 773 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่
    11 (2024-2025)
    ลิเวอร์พูลชนะแอสตัน วิลล่า 2 - 0
    ส่วนแมนซิ แพ้ ทำให้ลิเวอร์พูล ยังเป็นอันดับ 1 มีคะแนนห่าง 5 คะแนน
    พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 11 (2024-2025) ลิเวอร์พูลชนะแอสตัน วิลล่า 2 - 0 ส่วนแมนซิ แพ้ ทำให้ลิเวอร์พูล ยังเป็นอันดับ 1 มีคะแนนห่าง 5 คะแนน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • #หงส์แดง #ลิเวอร์พูล เปิดรังจิก #สิงห์ผงาด แอสตัน วิลลา 2-0 โกยหนี #เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5 แต้ม

    ชัยชนะนัดนี้ทำให้ “หงส์แดง” #LFC มี 28 คะแนน นำเป็นจ่าฝูงต่อไป

    ด้าน #แมนซิตี้ แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 4 สมัยซ้อน ยังไม่ฟื้นจากวิกฤติ ล่าสุด บุกนำ #ไบรท์ตัน ก่อนพ่าย 1-2 เป็นการพ่ายแพ้นัดที่ 4 ติดต่อกันแล้ว

    นับเป็นครั้งแรกในชีวิตการเป็นโค้ชของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่คุมทีมแพ้ถึง 4 นัดติดต่อกันอีกด้วย
    #หงส์แดง #ลิเวอร์พูล เปิดรังจิก #สิงห์ผงาด แอสตัน วิลลา 2-0 โกยหนี #เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5 แต้ม ชัยชนะนัดนี้ทำให้ “หงส์แดง” #LFC มี 28 คะแนน นำเป็นจ่าฝูงต่อไป ด้าน #แมนซิตี้ แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 4 สมัยซ้อน ยังไม่ฟื้นจากวิกฤติ ล่าสุด บุกนำ #ไบรท์ตัน ก่อนพ่าย 1-2 เป็นการพ่ายแพ้นัดที่ 4 ติดต่อกันแล้ว นับเป็นครั้งแรกในชีวิตการเป็นโค้ชของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่คุมทีมแพ้ถึง 4 นัดติดต่อกันอีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 592 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าแก่แล้วมีสักคนที่เดินด้วยกันแบบนี้คงดี
    ถ้าแก่แล้วมีสักคนที่เดินด้วยกันแบบนี้คงดี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 12 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวในกรุงเคียฟ ให้สัญญาสนับสนุนยูเครนไม่เปลี่ยนแปลง ท่ามกลางข้อสงสัยเกี่ยวกับท่าทีนับแต่นี้ของสหรัฐฯ คำยืนยันซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางเยือนยูเครนเป็นครั้งแรก หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา
    .
    ชัยชนะของตัวแทนจากรีพับลิกันที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อความกังวลปกคลุมยูเครนและยุโรป ต่อกรณีที่ว่า ทรัมป์ อาจหยุดการสนับสนุนของวอชิงตันที่มอบแก่เคียฟ ในการทำศึกสงครามต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย
    .
    "จุดประสงค์ที่ชัดเจนของการเดินทางเยือนครั้งนี้ก็คือ แสดงจุดยืนของสหภาพยุโรปในการสนับสนุนยูเครน และแรงสนับสนุนนี้จะยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง" บอร์เรลกล่าว ในขณะที่เขามีกำหนดพ้นจากตำแหน่งในเดือนหน้า "แน่นอนว่าแรงสนับสนุนนี้มีความจำเป็นสำหรับพวกคุณอย่างยิ่ง ในการเดินหน้าปกป้องตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย"
    .
    ระหว่างการรณรงค์หาเสียง ทรัมป์ก่อความสงสัยต่อการคงไว้ซึ่งแรงสนับสนุนทางทหารและทางการเงินอันมหาศาลที่สหรัฐฯ มอบให้แก่ยูเครน และบอกว่าจะหาทางบรรลุข้อตกลงอย่างรวดเร็วเพื่อยุติทำสงคราม
    .
    "ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ารัฐบาลใหม่กำลังทำอะไร" บอร์เรลระบุ พร้อมชี้ว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยังเหลือเวลาอยู่ในอำนาจอีก 2 เดือน สำหรับทำการตัดสินใจต่างๆ "เราจำเป็นต้องทำให้มากกว่าเดิมและรวดเร็วขึ้น สนับสนุนทางทหารมากขึ้น เพิ่มปริมาณการฝึกฝน เพิ่มเงิน จัดหาอาวุธยุทธโปกรณ์รวดเร็วกว่าเดิม และเช่นกัน เราจำเป็นต้องอนุญาตให้โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ของศัตรูที่อยู่ในดินแดนของพวกเขา"
    .
    บอร์เรลกล่าวต่อว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย "ไม่ต้องการเจรจาและจะไม่เจรจาจนกว่าเขาจะถูกบีบให้ทำเช่นนั้น"
    .
    รวมกันแล้ว ยุโรปใช้จ่ายเงินไปแล้วราว 125,000 ล้านดอลลาร์ ในการสนับสนุนยูเครน นับตั้งแต่ถูกรัสเซียรุกรานในปี 2022 ขณะที่สหรัฐฯ เพียงชาติเดียวมอบแรงสนับสนนแก่เคียฟ ไปแล้วมากกว่า 90,000 ล้านดอลลาร์
    .
    การคงไว้ซึ่งแรงสนับสนุนของวอชิงตัน ถูกมองว่ามีความสำคัญที่สุดในการรับประกันว่าเคียฟจะสามารถเดินหน้าสู้รบกับรัสเซียได้ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้มีความไม่แน่นอนทางการเมืองในบรรดามหาอำนาจยุโรปทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเยอรมนี และฝรั่งเศส
    .
    ในสมรภูมิรบ ทหารที่เหนื่อยอ่อนของยูเครน กำลังดิ้นรนสกัดการรุกคืบของรัสเซีย ในขณะที่การสู้รบเต็มรูปแบบลากยาวใกล้เข้าครบ 3 ปีแล้ว
    .
    คำยืนยันของบอร์เรล มีขึ้นในขณะที่เหล่าประเทศสมาชิกหลายชาติ ในนั้นรวมถึงฮังการี ซึ่งคัดค้านการมอบแรงสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน มีความฮึกเหิมมากขึ้นในจุดยืนดังกล่าว ตามหลัง ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้ง ซึ่งมันยิ่งทำให้เป็นเรื่องยากที่อียูจะมีความคิดเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปในวิกฤตความขัดแย้งยูเครน
    .
    อันดรีย์ ชีบีกา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน เน้นย้ำเสียงคัดค้านของเคียฟ โดยบอกว่าพวกเขาไม่ควรถูกบีบบังคับให้ยอมอ่อนข้อแก่รัสเซีย "ทุกๆ คนจำเป็นต้องตระหนักว่าการเอาใจพวกผู้รุกรานนั้นไม่ได้ผล" เขากล่าว "เราต้องการสันติภาพที่แท้จริง ไม่ใช่การเอาใจที่จะนำมาซึ่งสงครามเพิ่มเติม"
    .
    นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน บอกว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ "มักเป็นตัวแทนแห่งความหวังและโอกาสเสมอ โอกาสที่จะเร่งเข้าสู่สันติภาพ"
    .
    เขาบอกว่าได้มีการติดต่อกับทีมงานของทรัมป์ หลังประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน โทรศัพท์แสดงความยินดีกับตัวแทนพรรครีพับลิกัน และเวลานี้อยู่ระหว่างการทำงานในความเป็นไปได้ที่จะมีการประชุมพูดคุยรอบใหม่ระหว่างผู้นำทั้ง 2
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108072
    ..............
    Sondhi X
    โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวในกรุงเคียฟ ให้สัญญาสนับสนุนยูเครนไม่เปลี่ยนแปลง ท่ามกลางข้อสงสัยเกี่ยวกับท่าทีนับแต่นี้ของสหรัฐฯ คำยืนยันซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางเยือนยูเครนเป็นครั้งแรก หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา . ชัยชนะของตัวแทนจากรีพับลิกันที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อความกังวลปกคลุมยูเครนและยุโรป ต่อกรณีที่ว่า ทรัมป์ อาจหยุดการสนับสนุนของวอชิงตันที่มอบแก่เคียฟ ในการทำศึกสงครามต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย . "จุดประสงค์ที่ชัดเจนของการเดินทางเยือนครั้งนี้ก็คือ แสดงจุดยืนของสหภาพยุโรปในการสนับสนุนยูเครน และแรงสนับสนุนนี้จะยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง" บอร์เรลกล่าว ในขณะที่เขามีกำหนดพ้นจากตำแหน่งในเดือนหน้า "แน่นอนว่าแรงสนับสนุนนี้มีความจำเป็นสำหรับพวกคุณอย่างยิ่ง ในการเดินหน้าปกป้องตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย" . ระหว่างการรณรงค์หาเสียง ทรัมป์ก่อความสงสัยต่อการคงไว้ซึ่งแรงสนับสนุนทางทหารและทางการเงินอันมหาศาลที่สหรัฐฯ มอบให้แก่ยูเครน และบอกว่าจะหาทางบรรลุข้อตกลงอย่างรวดเร็วเพื่อยุติทำสงคราม . "ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ารัฐบาลใหม่กำลังทำอะไร" บอร์เรลระบุ พร้อมชี้ว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยังเหลือเวลาอยู่ในอำนาจอีก 2 เดือน สำหรับทำการตัดสินใจต่างๆ "เราจำเป็นต้องทำให้มากกว่าเดิมและรวดเร็วขึ้น สนับสนุนทางทหารมากขึ้น เพิ่มปริมาณการฝึกฝน เพิ่มเงิน จัดหาอาวุธยุทธโปกรณ์รวดเร็วกว่าเดิม และเช่นกัน เราจำเป็นต้องอนุญาตให้โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ของศัตรูที่อยู่ในดินแดนของพวกเขา" . บอร์เรลกล่าวต่อว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย "ไม่ต้องการเจรจาและจะไม่เจรจาจนกว่าเขาจะถูกบีบให้ทำเช่นนั้น" . รวมกันแล้ว ยุโรปใช้จ่ายเงินไปแล้วราว 125,000 ล้านดอลลาร์ ในการสนับสนุนยูเครน นับตั้งแต่ถูกรัสเซียรุกรานในปี 2022 ขณะที่สหรัฐฯ เพียงชาติเดียวมอบแรงสนับสนนแก่เคียฟ ไปแล้วมากกว่า 90,000 ล้านดอลลาร์ . การคงไว้ซึ่งแรงสนับสนุนของวอชิงตัน ถูกมองว่ามีความสำคัญที่สุดในการรับประกันว่าเคียฟจะสามารถเดินหน้าสู้รบกับรัสเซียได้ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้มีความไม่แน่นอนทางการเมืองในบรรดามหาอำนาจยุโรปทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเยอรมนี และฝรั่งเศส . ในสมรภูมิรบ ทหารที่เหนื่อยอ่อนของยูเครน กำลังดิ้นรนสกัดการรุกคืบของรัสเซีย ในขณะที่การสู้รบเต็มรูปแบบลากยาวใกล้เข้าครบ 3 ปีแล้ว . คำยืนยันของบอร์เรล มีขึ้นในขณะที่เหล่าประเทศสมาชิกหลายชาติ ในนั้นรวมถึงฮังการี ซึ่งคัดค้านการมอบแรงสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน มีความฮึกเหิมมากขึ้นในจุดยืนดังกล่าว ตามหลัง ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้ง ซึ่งมันยิ่งทำให้เป็นเรื่องยากที่อียูจะมีความคิดเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปในวิกฤตความขัดแย้งยูเครน . อันดรีย์ ชีบีกา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน เน้นย้ำเสียงคัดค้านของเคียฟ โดยบอกว่าพวกเขาไม่ควรถูกบีบบังคับให้ยอมอ่อนข้อแก่รัสเซีย "ทุกๆ คนจำเป็นต้องตระหนักว่าการเอาใจพวกผู้รุกรานนั้นไม่ได้ผล" เขากล่าว "เราต้องการสันติภาพที่แท้จริง ไม่ใช่การเอาใจที่จะนำมาซึ่งสงครามเพิ่มเติม" . นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน บอกว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ "มักเป็นตัวแทนแห่งความหวังและโอกาสเสมอ โอกาสที่จะเร่งเข้าสู่สันติภาพ" . เขาบอกว่าได้มีการติดต่อกับทีมงานของทรัมป์ หลังประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน โทรศัพท์แสดงความยินดีกับตัวแทนพรรครีพับลิกัน และเวลานี้อยู่ระหว่างการทำงานในความเป็นไปได้ที่จะมีการประชุมพูดคุยรอบใหม่ระหว่างผู้นำทั้ง 2 . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108072 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1137 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขนลุก! อัยการชี้ "ทนายตั้ม" เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่โดนแจ้งข้อหานี้! (10/11/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ฟอกเงิน #ร่วมกันฟอกเงิน #หมายจับทนายตั้ม #ฉ้อโกงอันเป็นปกติธุระ
    ขนลุก! อัยการชี้ "ทนายตั้ม" เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่โดนแจ้งข้อหานี้! (10/11/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ฟอกเงิน #ร่วมกันฟอกเงิน #หมายจับทนายตั้ม #ฉ้อโกงอันเป็นปกติธุระ
    Like
    Haha
    Love
    Angry
    24
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1737 มุมมอง 782 0 รีวิว
  • สวัสดีเช้าวันหยุด.(วันอาทิตย์)
    สวัสดีเช้าวันหยุด.(วันอาทิตย์)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • อับบาส อารากชี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ปฏิเสธคำกล่าวหาของสหรัฐฯ ที่ว่าเตหะรานเกี่ยวข้องกับแผนลอบสังหารโดนัลด์ ทรัมป์ และเรียกร้อง ให้เสริมสร้างความเชื่อมั่นระหว่าง 2 ชาติปรปักษ์
    .
    "มีเรื่องราวใหม่ถูกแต่งแต้มขึ้น มือสังหารไม่มีอยู่จริง พวกเขียนสคริปต์ถูกนำพาเข้ามาเพื่อสร้างสรรค์หนังตลกระดับล่าง" อารากชีโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์
    .
    อารากชี อ้างถึงกรณีที่วอชิงตันกล่าวหาว่ากองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน ออกคำสั่งให้ลอบสังหาร ทรัมป์ ผู้ซึ่งชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (5 พ.ย.) และมีกำหนดเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม
    .
    "ประชาชนชาวอเมริกาได้ตัดสินใจเลือกแล้ว และอิหร่านเคารพสิทธิของพวกเขาในการเลือกตัวเลือกประธานาธิบดีของพวกเขา เส้นทางข้างหน้าก็สามารถเลือกได้เช่นกัน มันควรเริ่มต้นขึ้นด้วยความเคารพ" อารากชี กล่าว
    .
    "อิหร่านไม่ได้ไล่ล่าอาวุธนิวเคลียร์ นี่คือนโยบายที่อยู่บนพื้นฐานคำสอนของอิสลาม และการคำนวณด้านความมั่นคงของเรา การเสริมสร้างความเชื่อมั่นมีความจำเป็นสำหรับทั้ง 2 ฝ่าย มันไม่ใช่ถนนทางเดียว" เขากล่าว
    .
    ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน กล่าวก่อนหน้านี้ว่า คำกล่าวหาที่น่ารังเกียจโดยอิสราเอลและพวกฝ่ายค้านอิหร่านที่อยู่นอกประเทศ "ก่อปัญหาซับซ้อนแก่อเมริกาและอิหร่าน"
    .
    บรรดานักวิเคราะห์และแหล่งข่าววงในอิหร่าน ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ของสถานการณ์ที่ผ่อนคลายลงระหว่างเตหะรานกับวอชิงตัน ภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ แม้ไม่มีการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตใดๆ
    .
    "อิหร่านจะดำเนินการต่างๆ บนพื้นฐานของผลประโยชน์ของตนเอง มีความเป็นไปได้ที่การพูดคุยอย่างลับๆ ระหว่างเตหะรานกับวอชิงตันจะเกิดขึ้น ถ้าภัยคุกคามด้านความมั่นคงของอิหร่านถูกปลดออกไป ทุกอย่างก็มีความเป็นไปได้" ซาอีด เลย์ลาซ นักวิเคราะห์ในเตหะราน ให้ความเห็น
    .
    ในขณะที่กำลังเผชิญหน้ากับคู่อริอย่างอิสราเอล ทางผู้นำอิหร่านก็มีความกังวลเช่นกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของสงครามเต็มรูปแบบในภูมิภาค ดินแดนที่อิสราเอลกำลังสู้รบในความขัดแย้งกับบรรดาพันธมิตรของเตหะราน ทั้งในฉนวนกาซา และเลบานอน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108070
    ..............
    Sondhi X
    อับบาส อารากชี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ปฏิเสธคำกล่าวหาของสหรัฐฯ ที่ว่าเตหะรานเกี่ยวข้องกับแผนลอบสังหารโดนัลด์ ทรัมป์ และเรียกร้อง ให้เสริมสร้างความเชื่อมั่นระหว่าง 2 ชาติปรปักษ์ . "มีเรื่องราวใหม่ถูกแต่งแต้มขึ้น มือสังหารไม่มีอยู่จริง พวกเขียนสคริปต์ถูกนำพาเข้ามาเพื่อสร้างสรรค์หนังตลกระดับล่าง" อารากชีโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ . อารากชี อ้างถึงกรณีที่วอชิงตันกล่าวหาว่ากองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน ออกคำสั่งให้ลอบสังหาร ทรัมป์ ผู้ซึ่งชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (5 พ.ย.) และมีกำหนดเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม . "ประชาชนชาวอเมริกาได้ตัดสินใจเลือกแล้ว และอิหร่านเคารพสิทธิของพวกเขาในการเลือกตัวเลือกประธานาธิบดีของพวกเขา เส้นทางข้างหน้าก็สามารถเลือกได้เช่นกัน มันควรเริ่มต้นขึ้นด้วยความเคารพ" อารากชี กล่าว . "อิหร่านไม่ได้ไล่ล่าอาวุธนิวเคลียร์ นี่คือนโยบายที่อยู่บนพื้นฐานคำสอนของอิสลาม และการคำนวณด้านความมั่นคงของเรา การเสริมสร้างความเชื่อมั่นมีความจำเป็นสำหรับทั้ง 2 ฝ่าย มันไม่ใช่ถนนทางเดียว" เขากล่าว . ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน กล่าวก่อนหน้านี้ว่า คำกล่าวหาที่น่ารังเกียจโดยอิสราเอลและพวกฝ่ายค้านอิหร่านที่อยู่นอกประเทศ "ก่อปัญหาซับซ้อนแก่อเมริกาและอิหร่าน" . บรรดานักวิเคราะห์และแหล่งข่าววงในอิหร่าน ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ของสถานการณ์ที่ผ่อนคลายลงระหว่างเตหะรานกับวอชิงตัน ภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ แม้ไม่มีการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตใดๆ . "อิหร่านจะดำเนินการต่างๆ บนพื้นฐานของผลประโยชน์ของตนเอง มีความเป็นไปได้ที่การพูดคุยอย่างลับๆ ระหว่างเตหะรานกับวอชิงตันจะเกิดขึ้น ถ้าภัยคุกคามด้านความมั่นคงของอิหร่านถูกปลดออกไป ทุกอย่างก็มีความเป็นไปได้" ซาอีด เลย์ลาซ นักวิเคราะห์ในเตหะราน ให้ความเห็น . ในขณะที่กำลังเผชิญหน้ากับคู่อริอย่างอิสราเอล ทางผู้นำอิหร่านก็มีความกังวลเช่นกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของสงครามเต็มรูปแบบในภูมิภาค ดินแดนที่อิสราเอลกำลังสู้รบในความขัดแย้งกับบรรดาพันธมิตรของเตหะราน ทั้งในฉนวนกาซา และเลบานอน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108070 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1078 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • 66 cm.
    66 cm.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/SBLNIE5hsEg?si=T8Os0blDAonW_Tes
    ประวัติศาสตร์ชาติอเมริกา...พฤติกรรมเหมือนตั๊กแตนย้ายถิ่นฐาน กัดกินทรัพยากร และทำลายไปเรื่อยๆ
    https://youtu.be/SBLNIE5hsEg?si=T8Os0blDAonW_Tes ประวัติศาสตร์ชาติอเมริกา...พฤติกรรมเหมือนตั๊กแตนย้ายถิ่นฐาน กัดกินทรัพยากร และทำลายไปเรื่อยๆ
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว