• โมเมนต์สุดน่ารัก ไม่อยากลุยน้ำท่วมจึงทำแบบนี้..??? (9/10/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #น้ำท่วม
    #เหตุการณ์วันนี้
    #เทรนด์วันนี้
    #เรื่องน่ารัก
    #ข่าววันนี้
    #ข่าวtiktok
    #newsupdate
    โมเมนต์สุดน่ารัก ไม่อยากลุยน้ำท่วมจึงทำแบบนี้..??? (9/10/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #น้ำท่วม #เหตุการณ์วันนี้ #เทรนด์วันนี้ #เรื่องน่ารัก #ข่าววันนี้ #ข่าวtiktok #newsupdate
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 0 Reviews
  • สรุปเหตุการณ์วันนี้ พฤหัสบดี 24 กรกฎาคม 2568
    ตามรายงานจากกระทรวงสาธารณสุข:
    พลเรือน
    เสียชีวิต: 13 ราย
    บาดเจ็บสาหัส: 7 ราย
    บาดเจ็บปานกลาง: 13 ราย
    บาดเจ็บเล็กน้อย: 12 ราย
    รวมทั้งสิ้น: 45 ราย

    ทหาร
    เสียชีวิต: 1 นาย
    บาดเจ็บสาหัส: 6 นาย
    บาดเจ็บปานกลาง: 5 นาย
    บาดเจ็บเล็กน้อย: 3 นาย
    รวมทั้งสิ้น: 15 นาย

    โดยมีลำดับเหตุการณ์ที่สำคัญ ดังนี้:
    เวลา 07.45 น. กองกำลังสุรนารีตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินล้ำเข้ามาสำรวจในเขตพื้นที่หน้าปราสาทตาเมือนธม จากนั้นพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือเข้าประชิดแนวลวดหนาม ฝ่ายไทยพยายามใช้การเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ

    เวลา 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงด้วยอาวุธประจำหน่วยเข้าใส่ฐานปฏิบัติการของไทย ใกล้บริเวณปราสาทตาเมือน ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย

    เวลา 09.30 น. ฝ่ายกัมพูชายิงจรวด BM-21 จากพื้นที่เขาแหลม เข้าตกในพื้นที่บ้านขึ้นเหล็ก อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ทำให้พลเรือนบาดเจ็บ 1 ราย และตรวจพบหัวจรวดตกบนบ้านเรือนในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นเหตุให้พลเรือนเสียชีวิต 1 ราย

    เวลา 09.45 น. มีการยิงจรวด BM-21 เพิ่มเติมเข้าใส่ศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน บริเวณอำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์

    ช่วงเวลา 10.00–10.22 น. ตรวจพบจรวด BM-21 ตกในพื้นที่ฐานหมูป่า ฐานพดุง และเนิน 500 ในจังหวัดอุบลราชธานี
    พร้อมกระสุนปืนใหญ่ตกใส่พื้นที่ผามออีแดง จุกตา จ.ศรีสะเกษ และบริเวณฐานทัพ ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บจำนวน 7 นาย

    ช่วงเวลา 10.28–10.40 น. มีรายงานการโจมตีอย่างต่อเนื่องจากฝั่งกัมพูชา ด้วยจรวดหลายลำกล้อง BM-21 พุ่งเป้าไปยังพื้นที่ฐานมาเรีย และบ้านโพนทอง ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง

    ช่วงเวลา 10.48–11.00 น. จรวด BM-21 จำนวน 3 ลูก ตกในพื้นที่ฐานหมูป่า และในบริเวณสถานีบริการน้ำมัน ปตท. บ้านผือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้ร้านค้าเอกชนได้รับความเสียหาย มีพลเรือนเสียชีวิต 9 ราย และได้รับบาดเจ็บ 14 ราย

    ช่วงเวลา 11.02–12.21 น. ยังคงมีการปะทะและยิงถล่มด้วยอาวุธหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ชายแดนของจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และอุบลราชธานี โดยกระสุนบางส่วนตกในเขตชุมชนและบ้านเรือนของประชาชน

    จากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาในการใช้อาวุธโจมตีพื้นที่พลเรือน ถือเป็นการละเมิดหลักการของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งกำหนดให้การโจมตีทางทหารกระทำได้เฉพาะต่อ เป้าหมายทางทหาร (Military Objectives) เท่านั้น
    สรุปเหตุการณ์วันนี้ พฤหัสบดี 24 กรกฎาคม 2568 ตามรายงานจากกระทรวงสาธารณสุข: 👉พลเรือน เสียชีวิต: 13 ราย บาดเจ็บสาหัส: 7 ราย บาดเจ็บปานกลาง: 13 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย: 12 ราย รวมทั้งสิ้น: 45 ราย 👉ทหาร เสียชีวิต: 1 นาย บาดเจ็บสาหัส: 6 นาย บาดเจ็บปานกลาง: 5 นาย บาดเจ็บเล็กน้อย: 3 นาย รวมทั้งสิ้น: 15 นาย โดยมีลำดับเหตุการณ์ที่สำคัญ ดังนี้: 👉เวลา 07.45 น. กองกำลังสุรนารีตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินล้ำเข้ามาสำรวจในเขตพื้นที่หน้าปราสาทตาเมือนธม จากนั้นพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือเข้าประชิดแนวลวดหนาม ฝ่ายไทยพยายามใช้การเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ 👉เวลา 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงด้วยอาวุธประจำหน่วยเข้าใส่ฐานปฏิบัติการของไทย ใกล้บริเวณปราสาทตาเมือน ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย 👉เวลา 09.30 น. ฝ่ายกัมพูชายิงจรวด BM-21 จากพื้นที่เขาแหลม เข้าตกในพื้นที่บ้านขึ้นเหล็ก อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ทำให้พลเรือนบาดเจ็บ 1 ราย และตรวจพบหัวจรวดตกบนบ้านเรือนในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นเหตุให้พลเรือนเสียชีวิต 1 ราย 👉เวลา 09.45 น. มีการยิงจรวด BM-21 เพิ่มเติมเข้าใส่ศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน บริเวณอำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ 👉ช่วงเวลา 10.00–10.22 น. ตรวจพบจรวด BM-21 ตกในพื้นที่ฐานหมูป่า ฐานพดุง และเนิน 500 ในจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมกระสุนปืนใหญ่ตกใส่พื้นที่ผามออีแดง จุกตา จ.ศรีสะเกษ และบริเวณฐานทัพ ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บจำนวน 7 นาย 👉ช่วงเวลา 10.28–10.40 น. มีรายงานการโจมตีอย่างต่อเนื่องจากฝั่งกัมพูชา ด้วยจรวดหลายลำกล้อง BM-21 พุ่งเป้าไปยังพื้นที่ฐานมาเรีย และบ้านโพนทอง ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง 👉ช่วงเวลา 10.48–11.00 น. จรวด BM-21 จำนวน 3 ลูก ตกในพื้นที่ฐานหมูป่า และในบริเวณสถานีบริการน้ำมัน ปตท. บ้านผือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้ร้านค้าเอกชนได้รับความเสียหาย มีพลเรือนเสียชีวิต 9 ราย และได้รับบาดเจ็บ 14 ราย 👉ช่วงเวลา 11.02–12.21 น. ยังคงมีการปะทะและยิงถล่มด้วยอาวุธหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ชายแดนของจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และอุบลราชธานี โดยกระสุนบางส่วนตกในเขตชุมชนและบ้านเรือนของประชาชน 👉จากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาในการใช้อาวุธโจมตีพื้นที่พลเรือน ถือเป็นการละเมิดหลักการของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งกำหนดให้การโจมตีทางทหารกระทำได้เฉพาะต่อ เป้าหมายทางทหาร (Military Objectives) เท่านั้น
    0 Comments 0 Shares 652 Views 0 Reviews
  • "ดูเหมือนการเจรจาใดๆที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่มีผลอีกต่อไป"

    คำปราศรัยทางโทรทัศน์ครั้งที่สองของผู้นำสูงสุดอิหร่าน อาลี คาเมเนอี ต่อประชาชนอิหร่าน หลังจากที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่ออิหร่านอย่างรุนแรง โดยที่อิหร่านยังไม่มีการยั่วยุใดๆ

    18 มิถุนายน 2025
    .

    “ในนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาปรานี

    ข้าพเจ้าขอส่งคำทักทายไปยังประชาชาติอิหร่านอันยิ่งใหญ่

    หัวข้อแรกที่ข้าพเจ้าอยากจะพูดถึงคือการยกย่องประชาชนอันเป็นที่รักของเรา เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศของเราโดยศัตรูที่เพิ่งเกิดขึ้น ประชาชนอิหร่านได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีสติ กล้าหาญ และตระหนักถึงสถานการณ์ปัจจุบัน การเคลื่อนไหวที่ประชาชนของเราได้นำเสนอต่อโลกในวันอีดอัล-กาดิรนั้นเป็นสิ่งที่พิเศษมาก การรวมตัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การที่พวกเขาเข้าร่วมละหมาดวันศุกร์และการเดินขบวนหลังจากนั้น ทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานของความเป็นผู้ใหญ่ของประชาชนอิหร่าน และการผสมผสานที่หยั่งรากลึกระหว่างเหตุผลและจิตวิญญาณกับความกล้าหาญและจังหวะเวลาที่สมบูรณ์แบบในหมู่ประชาชาติอันเป็นที่รักของเรา

    ข้าพเจ้าขอขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ประทานความสามารถทางศีลธรรมและวัตถุแก่ประชาชนผู้ศรัทธาเหล่านี้ด้วยพระคุณของพระองค์ ข้าพเจ้าต้องกล่าวถึงการกระทำอันทรงพลังและเป็นสัญลักษณ์ของผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์หญิงที่ยืนหยัดมั่นคงต่อหน้าความเย่อหยิ่งของศัตรูด้วย การตักบีร (พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่) ของเธอและการแสดง ความเข้มแข็งของประชาชนต่อทั้งโลกเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และมีค่าอย่างยิ่ง

    หัวข้อที่สองคือเหตุการณ์วันนี้ การโจมตีประเทศของเราอย่างโง่เขลาและร้ายกาจโดยกลุ่มไซออนิสต์ เกิดขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกำลังเจรจาทางอ้อมผ่านคนกลางกับฝ่ายอเมริกา ไม่มีอะไรจากอิหร่านที่บ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวทางทหารที่ก้าวร้าวหรือยั่วยุ

    แน่นอนว่าตั้งแต่แรก คาดว่าสหรัฐฯ มีส่วนรู้เห็นในการกระทำอันชั่วร้ายของกลุ่มไซออนิสต์ แต่ด้วยแถลงการณ์ครั้งแรกที่ออกมา ความคาดหวังนี้ก็ยิ่งได้รับการยืนยันมากขึ้นทุกวัน

    ประชาชนอิหร่านยืนหยัดต่อต้านสงครามที่ถูกบังคับ เช่นเดียวกับที่พวกเขายืนหยัดต่อต้านสันติภาพที่ถูกบังคับ ประชาชนอิหร่านไม่ยอมจำนนต่อคำสั่งของใคร ฉันคาดหวังว่าปัญญาชน นักเขียน และบุคคลสาธารณะ โดยเฉพาะผู้ที่มีผู้ชมทั่วโลก จะชี้แจงและอธิบายความจริงเหล่านี้ พวกเขาต้องไม่อนุญาตให้ศัตรูบิดเบือนข้อเท็จจริงผ่านการโฆษณาชวนเชื่อที่หลอกลวง

    ศัตรูไซออนิสต์ได้กระทำความผิดพลาดร้ายแรงและอาชญากรรมร้ายแรง และจะต้องถูกลงโทษ—และกำลังถูกลงโทษ ถูกลงโทษ การลงโทษที่ประชาชนอิหร่านและกองกำลังติดอาวุธของเราได้รับ การลงโทษที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน และการลงโทษที่เตรียมไว้สำหรับอนาคต ถือเป็นการลงโทษที่รุนแรงซึ่งทำให้อิหร่านอ่อนแอลงแล้ว แม้แต่การแทรกแซงและถ้อยแถลงของพันธมิตรอเมริกันก็เป็นสัญญาณของความอ่อนแอและไร้ความสามารถ

    ประการสุดท้ายคือ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกคำขู่ เขาขู่เรา และในเวลาเดียวกัน—อย่างน่าขันและไร้ยางอาย—เรียกร้องให้ประชาชนอิหร่านยอมจำนนต่อเขา พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้ผู้คนตกตะลึงอย่างแท้จริง

    ประการแรก คำขู่มีผลเฉพาะกับผู้ที่กลัวเท่านั้น ประชาชนอิหร่านได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่หวั่นไหวเมื่อเผชิญกับคำขู่ ดังที่พระเจ้าตรัสไว้ว่า:
    “อย่าทำให้อ่อนแอหรือเสียใจ เพราะเจ้าจะได้เปรียบหากเจ้าเป็นผู้ศรัทธา” (อัลกุรอาน 3:139)

    การคุกคามไม่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมหรือความคิดของชาวอิหร่าน

    ประการที่สอง การบอกให้ชาวอิหร่านมาและยอมจำนน นี่ไม่ใช่คำพูดที่มีเหตุผล ผู้ที่รู้จักอิหร่าน รู้จักชาวอิหร่านและประวัติศาสตร์ของอิหร่าน จะไม่มีวันพูดคำดังกล่าว ยอมจำนนต่ออะไร? ชาวอิหร่านไม่ต้องยอมจำนน เราไม่ได้โจมตีใคร และภายใต้สถานการณ์ใดๆ เราจะไม่ยอมรับการรุกรานจากใคร และเราจะไม่ยอมจำนนต่อมัน นี่คือเหตุผลและจิตวิญญาณของชาติอิหร่าน

    แน่นอนว่าชาวอเมริกันที่คุ้นเคยกับการเมืองในภูมิภาคนี้รู้ดีว่าการที่สหรัฐฯ เข้าร่วมในความขัดแย้งครั้งนี้จะส่งผลเสียต่อพวกเขาเองโดยสิ้นเชิง ความสูญเสียที่พวกเขาจะต้องเผชิญจะมากกว่าที่อิหร่านจะทนได้ หากอเมริกาเข้าสู่สนามรบนี้ด้วยกำลังทหาร พวกเขาจะต้องสูญเสียอย่างไม่สามารถแก้ไขได้

    ฉันขอให้คนที่รักของเราจำโองการอันสูงส่งนี้ไว้เสมอ:
    “ชัยชนะมาจาก “อัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ” (อัลกุรอาน 3:126)

    ขอบคุณพระเจ้า ชีวิตยังคงดำเนินไปตามปกติ อย่าให้ศัตรูรู้สึกถึงความกลัวหรือความอ่อนแอจากคุณ”
    "ดูเหมือนการเจรจาใดๆที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่มีผลอีกต่อไป" คำปราศรัยทางโทรทัศน์ครั้งที่สองของผู้นำสูงสุดอิหร่าน อาลี คาเมเนอี ต่อประชาชนอิหร่าน หลังจากที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่ออิหร่านอย่างรุนแรง โดยที่อิหร่านยังไม่มีการยั่วยุใดๆ 18 มิถุนายน 2025 . “ในนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาปรานี ข้าพเจ้าขอส่งคำทักทายไปยังประชาชาติอิหร่านอันยิ่งใหญ่ หัวข้อแรกที่ข้าพเจ้าอยากจะพูดถึงคือการยกย่องประชาชนอันเป็นที่รักของเรา เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศของเราโดยศัตรูที่เพิ่งเกิดขึ้น ประชาชนอิหร่านได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีสติ กล้าหาญ และตระหนักถึงสถานการณ์ปัจจุบัน การเคลื่อนไหวที่ประชาชนของเราได้นำเสนอต่อโลกในวันอีดอัล-กาดิรนั้นเป็นสิ่งที่พิเศษมาก การรวมตัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การที่พวกเขาเข้าร่วมละหมาดวันศุกร์และการเดินขบวนหลังจากนั้น ทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานของความเป็นผู้ใหญ่ของประชาชนอิหร่าน และการผสมผสานที่หยั่งรากลึกระหว่างเหตุผลและจิตวิญญาณกับความกล้าหาญและจังหวะเวลาที่สมบูรณ์แบบในหมู่ประชาชาติอันเป็นที่รักของเรา ข้าพเจ้าขอขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ประทานความสามารถทางศีลธรรมและวัตถุแก่ประชาชนผู้ศรัทธาเหล่านี้ด้วยพระคุณของพระองค์ ข้าพเจ้าต้องกล่าวถึงการกระทำอันทรงพลังและเป็นสัญลักษณ์ของผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์หญิงที่ยืนหยัดมั่นคงต่อหน้าความเย่อหยิ่งของศัตรูด้วย การตักบีร (พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่) ของเธอและการแสดง ความเข้มแข็งของประชาชนต่อทั้งโลกเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และมีค่าอย่างยิ่ง หัวข้อที่สองคือเหตุการณ์วันนี้ การโจมตีประเทศของเราอย่างโง่เขลาและร้ายกาจโดยกลุ่มไซออนิสต์ เกิดขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกำลังเจรจาทางอ้อมผ่านคนกลางกับฝ่ายอเมริกา ไม่มีอะไรจากอิหร่านที่บ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวทางทหารที่ก้าวร้าวหรือยั่วยุ แน่นอนว่าตั้งแต่แรก คาดว่าสหรัฐฯ มีส่วนรู้เห็นในการกระทำอันชั่วร้ายของกลุ่มไซออนิสต์ แต่ด้วยแถลงการณ์ครั้งแรกที่ออกมา ความคาดหวังนี้ก็ยิ่งได้รับการยืนยันมากขึ้นทุกวัน ประชาชนอิหร่านยืนหยัดต่อต้านสงครามที่ถูกบังคับ เช่นเดียวกับที่พวกเขายืนหยัดต่อต้านสันติภาพที่ถูกบังคับ ประชาชนอิหร่านไม่ยอมจำนนต่อคำสั่งของใคร ฉันคาดหวังว่าปัญญาชน นักเขียน และบุคคลสาธารณะ โดยเฉพาะผู้ที่มีผู้ชมทั่วโลก จะชี้แจงและอธิบายความจริงเหล่านี้ พวกเขาต้องไม่อนุญาตให้ศัตรูบิดเบือนข้อเท็จจริงผ่านการโฆษณาชวนเชื่อที่หลอกลวง ศัตรูไซออนิสต์ได้กระทำความผิดพลาดร้ายแรงและอาชญากรรมร้ายแรง และจะต้องถูกลงโทษ—และกำลังถูกลงโทษ ถูกลงโทษ การลงโทษที่ประชาชนอิหร่านและกองกำลังติดอาวุธของเราได้รับ การลงโทษที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน และการลงโทษที่เตรียมไว้สำหรับอนาคต ถือเป็นการลงโทษที่รุนแรงซึ่งทำให้อิหร่านอ่อนแอลงแล้ว แม้แต่การแทรกแซงและถ้อยแถลงของพันธมิตรอเมริกันก็เป็นสัญญาณของความอ่อนแอและไร้ความสามารถ ประการสุดท้ายคือ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกคำขู่ เขาขู่เรา และในเวลาเดียวกัน—อย่างน่าขันและไร้ยางอาย—เรียกร้องให้ประชาชนอิหร่านยอมจำนนต่อเขา พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้ผู้คนตกตะลึงอย่างแท้จริง ประการแรก คำขู่มีผลเฉพาะกับผู้ที่กลัวเท่านั้น ประชาชนอิหร่านได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่หวั่นไหวเมื่อเผชิญกับคำขู่ ดังที่พระเจ้าตรัสไว้ว่า: “อย่าทำให้อ่อนแอหรือเสียใจ เพราะเจ้าจะได้เปรียบหากเจ้าเป็นผู้ศรัทธา” (อัลกุรอาน 3:139) การคุกคามไม่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมหรือความคิดของชาวอิหร่าน ประการที่สอง การบอกให้ชาวอิหร่านมาและยอมจำนน นี่ไม่ใช่คำพูดที่มีเหตุผล ผู้ที่รู้จักอิหร่าน รู้จักชาวอิหร่านและประวัติศาสตร์ของอิหร่าน จะไม่มีวันพูดคำดังกล่าว ยอมจำนนต่ออะไร? ชาวอิหร่านไม่ต้องยอมจำนน เราไม่ได้โจมตีใคร และภายใต้สถานการณ์ใดๆ เราจะไม่ยอมรับการรุกรานจากใคร และเราจะไม่ยอมจำนนต่อมัน นี่คือเหตุผลและจิตวิญญาณของชาติอิหร่าน แน่นอนว่าชาวอเมริกันที่คุ้นเคยกับการเมืองในภูมิภาคนี้รู้ดีว่าการที่สหรัฐฯ เข้าร่วมในความขัดแย้งครั้งนี้จะส่งผลเสียต่อพวกเขาเองโดยสิ้นเชิง ความสูญเสียที่พวกเขาจะต้องเผชิญจะมากกว่าที่อิหร่านจะทนได้ หากอเมริกาเข้าสู่สนามรบนี้ด้วยกำลังทหาร พวกเขาจะต้องสูญเสียอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ ฉันขอให้คนที่รักของเราจำโองการอันสูงส่งนี้ไว้เสมอ: “ชัยชนะมาจาก “อัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ” (อัลกุรอาน 3:126) ขอบคุณพระเจ้า ชีวิตยังคงดำเนินไปตามปกติ อย่าให้ศัตรูรู้สึกถึงความกลัวหรือความอ่อนแอจากคุณ”
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 517 Views 16 0 Reviews
  • รีโพสต์จากเพจEnvironman 28 มีนาคม 2568 “ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี แผ่นดินไหว แต่เห็นได้ชัดเลยว่าประเทศไทยและรัฐบาลยังไม่ไหว.เหตุการณ์วันนี้ยิ่งสาดส่องสปอตไลท์ในสิ่งที่ชัดอยู่แล้วให้ชัดยิ่งขึ้นไปอีก ว่าเราไม่มีความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่รู้ว่าจะถอดกันอีกกี่บทเรียน กว่าที่รัฐจะมีมาตรการเตรียมพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์อะไรแบบนี้ .ใครมีความคิดเห็น มีอะไรจะเพิ่มก็เต็มที่เลยนะ แต่นี่คือสิ่งที่รับรู้ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้และนี่ไม่ใช่การถอดบทเรียนอะไรทั้งนั้น นี่คือการเล่าระบายล้วน ๆ.⚫️ 1. ประชาชนต้อง Emergency Alert กันเอง.จนถึงตอนนี้ ณ เวลาที่กำลังเขียน (19:52 น.) ข้าพเจ้ายังไม่ได้ SMS จากกระทรวงทบวงกรมใดๆ เลยขอรับ คือเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปกติที่เกิดขึ้นบ่อย แต่หลังจากท่านนายกออกมาแถลงว่าจะมีการแจ้งเตือนตั้งแต่ช่วงบ่ายสอง ตอนนี้อาฟเตอร์กันไปแล้วไม่รู้กี่ช็อค ก็ยังเงียบกริบ .อีกพาร์ทนึงก็ต้องชมคนไทยที่ใส่ใจโซเชียล ที่ช่วยกันอัพเดท แชร์ข้อมูล คอยรายงานให้ได้ติดตามกัน แต่มันคือช่วงเวลาแบบนี้ไม่ใช่หรอ ที่ประชาชนอย่างเราจะหันไปหวังพึ่งรัฐ ที่ผู้เสียภาษีอย่างเราจะหวังพึ่งคุณภาพชีวิตพื้นฐานที่ควรได้รับ กลายเป็นว่าเราต้องเช็คกันเองว่าเกิดอะไรขึ้น เอาตรงๆ คือผมเป็นคนหนึ่งที่หาแถลงการณ์จากรัฐตอนเกิดเหตุ เพราะบางทีก็กลัวว่าชาวเน็ตบางกลุ่มจะเฟคนิวส์ล่อเอ็นเกจ แต่ก็ต้องผิดหวังต่อไป.⚫️ 2. หน้ามืด นอนน้อยกันทั้งแผ่นดิน.เชื่อแล้วว่าคนไทยทำงานหนักครับ 90% พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘คิดว่าตัวเองไม่สบาย’ ไม่มีใครคิดว่ามันคือแผ่นดินไหวเลย แต่ก็เข้าใจได้ ใครจะไปคิดว่าจะมีแผ่นดินไหวในไทย โดยเฉพาะชาวกทม. คือทุกคนเทไปว่าตัวเองโหมงาน นอนน้อยกันหมด ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แอบเศร้าหน่อย ๆ นะ.ส่วนอีกเรื่องคือ 90% ของคนที่อยู่คอนโดอพาร์ตเม้นตท์ มีสัตว์เลี้ยงที่นิติไม่รู้ แต่จะมารู้ก็วันนี้แหละ ถ้าพูดให้ไม่ติดตลก ผมคิดว่าอยากให้สถานที่คำนึงถึงความเป็น Pet-Friendly ให้มากขึ้น ปัจจุบันมีคนมีสัตว์เลี้ยงเยอะมาก จะด้วยเพื่อแก้เหงาหรือเป็นยุคที่ไม่ค่อยอยากมีลูกหรืออะไรก็ว่าไป แต่ผมเห็นว่าพื้นที่ที่สามารถพาสัตว์ไปร่วมกิจกรรมกับเจ้าของนั้นมีน้อยมาก.⚫️ 3. ระบบขนส่งสาธารณะล่มสลาย.สัญชาตญาณแรกของคนหลังเกิดแผ่นดินไหวคือหาที่ปลอดภัย ซึ่งส่วนมากก็น่าจะนึกถึงบ้าน แต่ระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมดดูเหมือนจะไม่เพียงพอ ไม่มีแผนสำรอง ไม่มีโปรโตคอลฉุกเฉิน ไม่มีช่องทางพิเศษ ไม่มีอะไรเลย การจราจรติดแหง็ก ผู้คนติดแหง็ก ไร้ทางออก เกิดอะไรขึ้นก็ไม่บอก จะเดินทางไปไหนก็ไม่ได้ .ญี่ปุ่นเวลาเจอแผ่นดินไหว ประเทศเขาจะสวิตช์เป็นโหมดฉุกเฉินทันที รถไฟฟ้าก็จะมีมาตรการฉุกเฉินในการรับมือ รัฐมีการตกลงกับบริษัทขนส่งเอกชน แท็กซี่ ให้ออกมาช่วยอพยพหรือขนถ่ายคนในช่วงที่รถไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ มีการจัดการควบคุมจราจรอย่างเข้มงวดให้คนไม่ติดแหง็กอยู่อย่างนั้น อีกเรื่องคือญี่ปุ่นมีศูนย์พักพิง คือใครที่ยังกลับบ้านไม่ได้ ก็มาพักรอก่อนได้ เอาจริงศูนย์พักพิงญี่ปุ่นคือมีอาหาร มีน้ำ มีอุปกรณ์พื้นฐานให้พร้อม ไม่ปล่อยให้ใครต้องเร่ร่อนอยู่บนถนน.ผมดักไว้ก่อนเลยว่าจะมีคนอ้างว่า ญี่ปุ่นเจอกับแผ่นดินไหวบ่อยจนชิน ของเรานี่แทบจะเป็นครั้งแรกในชีวิตของใครหลายคนเลยนะ จะวิจารณ์ขนาดนั้นก็เกินไป แต่ต้องบอกว่าตอนนี้โลกเรารวนไปหมดแล้ว ปีนี้เราเห็นว่าเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงมากมายทั่วโลก อยากลองชวนคนที่แย้งเรื่องทำไมผมถึงเอาเราไปเทียบกับญี่ปุ่น มาแลกเปลี่ยนโต้แย้งเกี่ยวกับการจัดการเหตุฉุกเฉินพื้นฐานของบ้านเรามากกว่า พื้นฐานที่ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ควรรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวหรือเกิดภัยพิบัติอื่นใดก็ตาม เพราะนี่คือโครงสร้างที่เราต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เราติดท็อป 10 ของประเทศที่จะได้รับผลกระทบจาก Climate Change ซึ่งจะมาในรูปแบบใดบ้างก็ไม่รู้.⚫️ 4. ระบบสาธารณสุขยังเปราะบาง.อันนี้เรามีบทเรียนจากโควิด-19 มาแล้ว แต่เหมือนจะยังถอดบทเรียนกันไม่เสร็จ การอพยพผู้ป่วยในยามฉุกเฉิน หรือโซนที่ให้โรงพยาบาลยังสามารถดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัยในช่วงวิกฤต ตามข่าวยังเห็นโรงพยาบาลเอาคนไข้ออกมาผ่าตัดกลางแจ้งเพราะเป็นเคสด่วนอยู่เลย ซึ่งนี่คือคำถาม นี่คือโจทย์ที่เราเอามาคิดตั้งแต่ตอนนี้จนถึงอนาคตว่าเมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ เราจะรับมือและจะมีมาตรการอย่างไร .นี่ไม่ใช่การสักแต่ว่าจะด่าก็ด่านะครับ และใครจะหาว่าการเมืองก็เอาเถอะ แต่นี่เห็นได้ชัดเลยว่ารัฐบาลขาดความพร้อมอย่างมากในการรับมือ จริงอยู่ที่เราไม่ได้เจอแผ่นดินไหวเป็นประจำ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้น่ากลัวมาก ผมคิดว่ายิ่งช่วงเวลาแบบนี้ที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี่แหละ ที่จะยิ่งเป็นตัววัดว่าเราโครงสร้างพื้นฐานเราพร้อมแค่ไหน ซึ่งผมคิดว่าไม่มีใครใกล้เคียงกับพร้อมเลย ไม่รู้ทุกคนว่ายังไง.เรื่องความปลอดภัยมันมากับความเชื่อมั่นด้วยนะ วันนี้ในกรุ๊ปแชทก็คือมีเพื่อนๆ พิมพ์มาว่า ‘กูจะมั่นใจโครงสร้างตึกไทยได้มากขนาดไหน’ ซึ่งเป็นตลกร้ายมาก ๆ ที่ตอนนี้เรามีความเชื่อมั่นกับอะไรพวกนี้ต่ำมาก ทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็นตรงกันข้าม .วันนี้เป็นวันที่ทุกคนควรจะมีคำถาม เราเคยเจอน้ำท่วม เจอพายุ เจอโควิด แต่เราได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง ‘หรือเปล่า’ ? ผมเองมีคำว่าทำไมเยอะมาก ทำไมการแจ้งเตือนล่าช้ามาก ทำไมระบบขนส่งสาธารณะและสาธารณสุขถึงไม่พร้อม ทำไมคุณภาพชีวิตของเรามันเปราะบางขนาดนี้ ขออภัยที่ยาวและวนยืดเยื้อ แต่มันคือความอัดอั้นที่อยากแชร์ออกมา.สุดท้ายนี้ เราขอแสดงความเสียใจให้กับผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วยนะครับและขอให้ทุกชีวิตปลอดภัยครับ
    รีโพสต์จากเพจEnvironman 28 มีนาคม 2568 “ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี แผ่นดินไหว แต่เห็นได้ชัดเลยว่าประเทศไทยและรัฐบาลยังไม่ไหว.เหตุการณ์วันนี้ยิ่งสาดส่องสปอตไลท์ในสิ่งที่ชัดอยู่แล้วให้ชัดยิ่งขึ้นไปอีก ว่าเราไม่มีความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่รู้ว่าจะถอดกันอีกกี่บทเรียน กว่าที่รัฐจะมีมาตรการเตรียมพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์อะไรแบบนี้ .ใครมีความคิดเห็น มีอะไรจะเพิ่มก็เต็มที่เลยนะ แต่นี่คือสิ่งที่รับรู้ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้และนี่ไม่ใช่การถอดบทเรียนอะไรทั้งนั้น นี่คือการเล่าระบายล้วน ๆ.⚫️ 1. ประชาชนต้อง Emergency Alert กันเอง.จนถึงตอนนี้ ณ เวลาที่กำลังเขียน (19:52 น.) ข้าพเจ้ายังไม่ได้ SMS จากกระทรวงทบวงกรมใดๆ เลยขอรับ คือเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปกติที่เกิดขึ้นบ่อย แต่หลังจากท่านนายกออกมาแถลงว่าจะมีการแจ้งเตือนตั้งแต่ช่วงบ่ายสอง ตอนนี้อาฟเตอร์กันไปแล้วไม่รู้กี่ช็อค ก็ยังเงียบกริบ .อีกพาร์ทนึงก็ต้องชมคนไทยที่ใส่ใจโซเชียล ที่ช่วยกันอัพเดท แชร์ข้อมูล คอยรายงานให้ได้ติดตามกัน แต่มันคือช่วงเวลาแบบนี้ไม่ใช่หรอ ที่ประชาชนอย่างเราจะหันไปหวังพึ่งรัฐ ที่ผู้เสียภาษีอย่างเราจะหวังพึ่งคุณภาพชีวิตพื้นฐานที่ควรได้รับ กลายเป็นว่าเราต้องเช็คกันเองว่าเกิดอะไรขึ้น เอาตรงๆ คือผมเป็นคนหนึ่งที่หาแถลงการณ์จากรัฐตอนเกิดเหตุ เพราะบางทีก็กลัวว่าชาวเน็ตบางกลุ่มจะเฟคนิวส์ล่อเอ็นเกจ แต่ก็ต้องผิดหวังต่อไป.⚫️ 2. หน้ามืด นอนน้อยกันทั้งแผ่นดิน.เชื่อแล้วว่าคนไทยทำงานหนักครับ 90% พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘คิดว่าตัวเองไม่สบาย’ ไม่มีใครคิดว่ามันคือแผ่นดินไหวเลย แต่ก็เข้าใจได้ ใครจะไปคิดว่าจะมีแผ่นดินไหวในไทย โดยเฉพาะชาวกทม. คือทุกคนเทไปว่าตัวเองโหมงาน นอนน้อยกันหมด ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แอบเศร้าหน่อย ๆ นะ.ส่วนอีกเรื่องคือ 90% ของคนที่อยู่คอนโดอพาร์ตเม้นตท์ มีสัตว์เลี้ยงที่นิติไม่รู้ แต่จะมารู้ก็วันนี้แหละ ถ้าพูดให้ไม่ติดตลก ผมคิดว่าอยากให้สถานที่คำนึงถึงความเป็น Pet-Friendly ให้มากขึ้น ปัจจุบันมีคนมีสัตว์เลี้ยงเยอะมาก จะด้วยเพื่อแก้เหงาหรือเป็นยุคที่ไม่ค่อยอยากมีลูกหรืออะไรก็ว่าไป แต่ผมเห็นว่าพื้นที่ที่สามารถพาสัตว์ไปร่วมกิจกรรมกับเจ้าของนั้นมีน้อยมาก.⚫️ 3. ระบบขนส่งสาธารณะล่มสลาย.สัญชาตญาณแรกของคนหลังเกิดแผ่นดินไหวคือหาที่ปลอดภัย ซึ่งส่วนมากก็น่าจะนึกถึงบ้าน แต่ระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมดดูเหมือนจะไม่เพียงพอ ไม่มีแผนสำรอง ไม่มีโปรโตคอลฉุกเฉิน ไม่มีช่องทางพิเศษ ไม่มีอะไรเลย การจราจรติดแหง็ก ผู้คนติดแหง็ก ไร้ทางออก เกิดอะไรขึ้นก็ไม่บอก จะเดินทางไปไหนก็ไม่ได้ .ญี่ปุ่นเวลาเจอแผ่นดินไหว ประเทศเขาจะสวิตช์เป็นโหมดฉุกเฉินทันที รถไฟฟ้าก็จะมีมาตรการฉุกเฉินในการรับมือ รัฐมีการตกลงกับบริษัทขนส่งเอกชน แท็กซี่ ให้ออกมาช่วยอพยพหรือขนถ่ายคนในช่วงที่รถไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ มีการจัดการควบคุมจราจรอย่างเข้มงวดให้คนไม่ติดแหง็กอยู่อย่างนั้น อีกเรื่องคือญี่ปุ่นมีศูนย์พักพิง คือใครที่ยังกลับบ้านไม่ได้ ก็มาพักรอก่อนได้ เอาจริงศูนย์พักพิงญี่ปุ่นคือมีอาหาร มีน้ำ มีอุปกรณ์พื้นฐานให้พร้อม ไม่ปล่อยให้ใครต้องเร่ร่อนอยู่บนถนน.ผมดักไว้ก่อนเลยว่าจะมีคนอ้างว่า ญี่ปุ่นเจอกับแผ่นดินไหวบ่อยจนชิน ของเรานี่แทบจะเป็นครั้งแรกในชีวิตของใครหลายคนเลยนะ จะวิจารณ์ขนาดนั้นก็เกินไป แต่ต้องบอกว่าตอนนี้โลกเรารวนไปหมดแล้ว ปีนี้เราเห็นว่าเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงมากมายทั่วโลก อยากลองชวนคนที่แย้งเรื่องทำไมผมถึงเอาเราไปเทียบกับญี่ปุ่น มาแลกเปลี่ยนโต้แย้งเกี่ยวกับการจัดการเหตุฉุกเฉินพื้นฐานของบ้านเรามากกว่า พื้นฐานที่ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ควรรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวหรือเกิดภัยพิบัติอื่นใดก็ตาม เพราะนี่คือโครงสร้างที่เราต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เราติดท็อป 10 ของประเทศที่จะได้รับผลกระทบจาก Climate Change ซึ่งจะมาในรูปแบบใดบ้างก็ไม่รู้.⚫️ 4. ระบบสาธารณสุขยังเปราะบาง.อันนี้เรามีบทเรียนจากโควิด-19 มาแล้ว แต่เหมือนจะยังถอดบทเรียนกันไม่เสร็จ การอพยพผู้ป่วยในยามฉุกเฉิน หรือโซนที่ให้โรงพยาบาลยังสามารถดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัยในช่วงวิกฤต ตามข่าวยังเห็นโรงพยาบาลเอาคนไข้ออกมาผ่าตัดกลางแจ้งเพราะเป็นเคสด่วนอยู่เลย ซึ่งนี่คือคำถาม นี่คือโจทย์ที่เราเอามาคิดตั้งแต่ตอนนี้จนถึงอนาคตว่าเมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ เราจะรับมือและจะมีมาตรการอย่างไร .นี่ไม่ใช่การสักแต่ว่าจะด่าก็ด่านะครับ และใครจะหาว่าการเมืองก็เอาเถอะ แต่นี่เห็นได้ชัดเลยว่ารัฐบาลขาดความพร้อมอย่างมากในการรับมือ จริงอยู่ที่เราไม่ได้เจอแผ่นดินไหวเป็นประจำ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้น่ากลัวมาก ผมคิดว่ายิ่งช่วงเวลาแบบนี้ที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี่แหละ ที่จะยิ่งเป็นตัววัดว่าเราโครงสร้างพื้นฐานเราพร้อมแค่ไหน ซึ่งผมคิดว่าไม่มีใครใกล้เคียงกับพร้อมเลย ไม่รู้ทุกคนว่ายังไง.เรื่องความปลอดภัยมันมากับความเชื่อมั่นด้วยนะ วันนี้ในกรุ๊ปแชทก็คือมีเพื่อนๆ พิมพ์มาว่า ‘กูจะมั่นใจโครงสร้างตึกไทยได้มากขนาดไหน’ ซึ่งเป็นตลกร้ายมาก ๆ ที่ตอนนี้เรามีความเชื่อมั่นกับอะไรพวกนี้ต่ำมาก ทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็นตรงกันข้าม .วันนี้เป็นวันที่ทุกคนควรจะมีคำถาม เราเคยเจอน้ำท่วม เจอพายุ เจอโควิด แต่เราได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง ‘หรือเปล่า’ ? ผมเองมีคำว่าทำไมเยอะมาก ทำไมการแจ้งเตือนล่าช้ามาก ทำไมระบบขนส่งสาธารณะและสาธารณสุขถึงไม่พร้อม ทำไมคุณภาพชีวิตของเรามันเปราะบางขนาดนี้ ขออภัยที่ยาวและวนยืดเยื้อ แต่มันคือความอัดอั้นที่อยากแชร์ออกมา.สุดท้ายนี้ เราขอแสดงความเสียใจให้กับผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วยนะครับและขอให้ทุกชีวิตปลอดภัยครับ
    Like
    2
    1 Comments 1 Shares 1219 Views 0 Reviews
  • ก็ให้ภาพแทนคำอธิบายเหตุการณ์วันนี้แล้วกัน
    #ยังดีที่ส่งอิ๊งไม่ใช่โอ๊ค
    เอาว่า เข้าใจพรรคร่วมได้ แต่รับรองว่าละครไม่จบแค่นี้
    #นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ที่อิ๊งก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง
    แต่ถ้ามาเพื่อเอาน้าสาวกลับบ้าน
    ไม่มุ่งแก้ปัญหาบ้านเมือง
    ก็ต้องยอมนรับผลที่จะตามมา
    ทำดี มีคนเชียร์เพิ่ม ทำเหมือนคนเดิมๆ
    ก็จะได้รับผลไม่แตกต่างจากพ่อและน้าสวาวเช่นกัน
    ให้กำลังใจพรรคร่วมทุกพรรค พวกเรายังเชื่อมั่นในตัวพวกคุณ
    ฝันดี ราตรีสวัสดิ์
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ก็ให้ภาพแทนคำอธิบายเหตุการณ์วันนี้แล้วกัน #ยังดีที่ส่งอิ๊งไม่ใช่โอ๊ค เอาว่า เข้าใจพรรคร่วมได้ แต่รับรองว่าละครไม่จบแค่นี้ #นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ที่อิ๊งก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง แต่ถ้ามาเพื่อเอาน้าสาวกลับบ้าน ไม่มุ่งแก้ปัญหาบ้านเมือง ก็ต้องยอมนรับผลที่จะตามมา ทำดี มีคนเชียร์เพิ่ม ทำเหมือนคนเดิมๆ ก็จะได้รับผลไม่แตกต่างจากพ่อและน้าสวาวเช่นกัน ให้กำลังใจพรรคร่วมทุกพรรค พวกเรายังเชื่อมั่นในตัวพวกคุณ ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 415 Views 0 Reviews