• 2 สส.รวมไทยสร้างชาติ ยันร่วมเฟรมแค่งานสังสรรค์ ไม่คิดย้ายพรรคแน่นอน
    https://www.thai-tai.tv/news/19110/
    2 สส.รวมไทยสร้างชาติ ยันร่วมเฟรมแค่งานสังสรรค์ ไม่คิดย้ายพรรคแน่นอน https://www.thai-tai.tv/news/19110/
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • AMD Radeon RX 9070 XT vs. Nvidia GeForce RTX 5070: การเปรียบเทียบที่พลิกโฉมตลาด GPU

    AMD เปิดตัว Radeon RX 9070 XT เพื่อแข่งขันโดยตรงกับ Nvidia GeForce RTX 5070 แต่ราคาจริงในตลาดกลับทำให้การแข่งขันนี้ซับซ้อนขึ้น โดย RX 9070 XT มีราคาสูงกว่าคู่แข่งถึง 41% ในสหรัฐฯ และ 34% ในแคนาดา แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพสูงกว่าประมาณ 20% ในการเล่นเกมที่ความละเอียด 1440p และ 4K

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปรียบเทียบ RX 9070 XT และ RTX 5070
    ✅ RX 9070 XT มีประสิทธิภาพสูงกว่า RTX 5070 ประมาณ 17% ที่ 1440p และ 21% ที่ 4K
    - ทำให้ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเฟรมเรตสูงขึ้น

    ✅ ราคาของ RX 9070 XT สูงกว่าคู่แข่งในหลายประเทศ
    - ในสหรัฐฯ แพงกว่า RTX 5070 ถึง 41%
    - ในแคนาดา แพงกว่า 34%
    - ในเยอรมนี แพงกว่า 26%
    - ในออสเตรเลีย แพงกว่า 18%

    ✅ RX 9070 XT มี VRAM ขนาด 16GB ซึ่งมากกว่า RTX 5070 ที่มีเพียง 12GB
    - เหมาะสำหรับ เกมที่ต้องการหน่วยความจำสูงและการใช้งาน AI

    ✅ การทดสอบ 57 เกมพบว่า RX 9070 XT มีประสิทธิภาพสูงกว่า RTX 5070 ในหลายเกม
    - เช่น Starfield (+31% ที่ 1440p, +36% ที่ 4K), Horizon Forbidden West (+34% ที่ 1440p, +40% ที่ 4K)

    ✅ RTX 5070 มีข้อได้เปรียบด้านเทคโนโลยี DLSS 4 ซึ่งมีการรองรับที่กว้างกว่าระบบ FSR 4 ของ AMD
    - ทำให้ การเล่นเกมที่ใช้การอัปสเกลภาพมีคุณภาพดีกว่า

    https://www.techspot.com/review/2991-amd-radeon-9070-xt-vs-nvidia-rtx-5070/
    AMD Radeon RX 9070 XT vs. Nvidia GeForce RTX 5070: การเปรียบเทียบที่พลิกโฉมตลาด GPU AMD เปิดตัว Radeon RX 9070 XT เพื่อแข่งขันโดยตรงกับ Nvidia GeForce RTX 5070 แต่ราคาจริงในตลาดกลับทำให้การแข่งขันนี้ซับซ้อนขึ้น โดย RX 9070 XT มีราคาสูงกว่าคู่แข่งถึง 41% ในสหรัฐฯ และ 34% ในแคนาดา แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพสูงกว่าประมาณ 20% ในการเล่นเกมที่ความละเอียด 1440p และ 4K 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปรียบเทียบ RX 9070 XT และ RTX 5070 ✅ RX 9070 XT มีประสิทธิภาพสูงกว่า RTX 5070 ประมาณ 17% ที่ 1440p และ 21% ที่ 4K - ทำให้ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเฟรมเรตสูงขึ้น ✅ ราคาของ RX 9070 XT สูงกว่าคู่แข่งในหลายประเทศ - ในสหรัฐฯ แพงกว่า RTX 5070 ถึง 41% - ในแคนาดา แพงกว่า 34% - ในเยอรมนี แพงกว่า 26% - ในออสเตรเลีย แพงกว่า 18% ✅ RX 9070 XT มี VRAM ขนาด 16GB ซึ่งมากกว่า RTX 5070 ที่มีเพียง 12GB - เหมาะสำหรับ เกมที่ต้องการหน่วยความจำสูงและการใช้งาน AI ✅ การทดสอบ 57 เกมพบว่า RX 9070 XT มีประสิทธิภาพสูงกว่า RTX 5070 ในหลายเกม - เช่น Starfield (+31% ที่ 1440p, +36% ที่ 4K), Horizon Forbidden West (+34% ที่ 1440p, +40% ที่ 4K) ✅ RTX 5070 มีข้อได้เปรียบด้านเทคโนโลยี DLSS 4 ซึ่งมีการรองรับที่กว้างกว่าระบบ FSR 4 ของ AMD - ทำให้ การเล่นเกมที่ใช้การอัปสเกลภาพมีคุณภาพดีกว่า https://www.techspot.com/review/2991-amd-radeon-9070-xt-vs-nvidia-rtx-5070/
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD Radeon RX 9070 XT vs. Nvidia GeForce RTX 5070
    We're revisiting the Radeon RX 9070 XT vs GeForce RTX 5070, now with updated drivers, pricing shifts, and a massive 57-game benchmark at 1440p and 4K to...
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • รีวิว GeForce RTX 5060: การ์ดจอราคาประหยัดที่มาพร้อม DLSS 4 และ GDDR7

    Nvidia เปิดตัว GeForce RTX 5060 ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2025 โดยเป็นการ์ดจอระดับเริ่มต้นที่ออกแบบมาสำหรับ เกมเมอร์ที่เล่นที่ความละเอียด 1080p ด้วยราคา $299 การ์ดจอรุ่นนี้มาพร้อม GDDR7, DLSS 4 และ Multi-Frame Generation (MFG) แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ GeForce RTX 5060
    ✅ RTX 5060 ใช้ชิป Blackwell พร้อม 3,840 CUDA Cores และ Boost Clock 2.5 GHz
    - ให้ ประสิทธิภาพที่ดีสำหรับเกมที่รองรับ DLSS 4

    ✅ มีหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 8GB และอินเทอร์เฟซหน่วยความจำ 128-bit
    - แม้จะเร็ว แต่ความจุ 8GB อาจไม่เพียงพอสำหรับเกมที่ใช้ทรัพยากรสูง

    ✅ รองรับพอร์ตแสดงผล DisplayPort 2.1b สามพอร์ต และ HDMI 2.1b หนึ่งพอร์ต
    - ทำให้ สามารถเชื่อมต่อหลายหน้าจอได้ง่ายขึ้น

    ✅ DLSS 4 และ Multi-Frame Generation ช่วยเพิ่มเฟรมเรตในเกมที่รองรับ
    - เช่น Doom: The Dark Ages สามารถรันที่ 200+ FPS ที่ Ultra 1080p

    ✅ การ์ดจอมีค่าใช้จ่ายพลังงานเพียง 115W และมีระบบระบายความร้อนที่ดี
    - เหมาะสำหรับ พีซีขนาดเล็กและระบบที่ใช้พลังงานต่ำ

    ℹ️ℹ️ℹ️ ลุงดู Review หลายเจ้า (เจ้าเล็กๆ) สรุปให้ง่ายๆ ขาเกม ถ้ามี RTX3060 อยู่ในมือ อย่าซื้อรุ่นนี้ รอรุ่นถัดไป หรือลงทุนไปซื้อ 5060Ti RAM 16GB แทนครับ

    https://computercity.com/hardware/video-cards/geforce-rtx-5060-review-nvidias-299-entry-level-challenger
    รีวิว GeForce RTX 5060: การ์ดจอราคาประหยัดที่มาพร้อม DLSS 4 และ GDDR7 Nvidia เปิดตัว GeForce RTX 5060 ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2025 โดยเป็นการ์ดจอระดับเริ่มต้นที่ออกแบบมาสำหรับ เกมเมอร์ที่เล่นที่ความละเอียด 1080p ด้วยราคา $299 การ์ดจอรุ่นนี้มาพร้อม GDDR7, DLSS 4 และ Multi-Frame Generation (MFG) แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ GeForce RTX 5060 ✅ RTX 5060 ใช้ชิป Blackwell พร้อม 3,840 CUDA Cores และ Boost Clock 2.5 GHz - ให้ ประสิทธิภาพที่ดีสำหรับเกมที่รองรับ DLSS 4 ✅ มีหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 8GB และอินเทอร์เฟซหน่วยความจำ 128-bit - แม้จะเร็ว แต่ความจุ 8GB อาจไม่เพียงพอสำหรับเกมที่ใช้ทรัพยากรสูง ✅ รองรับพอร์ตแสดงผล DisplayPort 2.1b สามพอร์ต และ HDMI 2.1b หนึ่งพอร์ต - ทำให้ สามารถเชื่อมต่อหลายหน้าจอได้ง่ายขึ้น ✅ DLSS 4 และ Multi-Frame Generation ช่วยเพิ่มเฟรมเรตในเกมที่รองรับ - เช่น Doom: The Dark Ages สามารถรันที่ 200+ FPS ที่ Ultra 1080p ✅ การ์ดจอมีค่าใช้จ่ายพลังงานเพียง 115W และมีระบบระบายความร้อนที่ดี - เหมาะสำหรับ พีซีขนาดเล็กและระบบที่ใช้พลังงานต่ำ ℹ️ℹ️ℹ️ ลุงดู Review หลายเจ้า (เจ้าเล็กๆ) สรุปให้ง่ายๆ ขาเกม ถ้ามี RTX3060 อยู่ในมือ อย่าซื้อรุ่นนี้ รอรุ่นถัดไป หรือลงทุนไปซื้อ 5060Ti RAM 16GB แทนครับ https://computercity.com/hardware/video-cards/geforce-rtx-5060-review-nvidias-299-entry-level-challenger
    COMPUTERCITY.COM
    GeForce RTX 5060 Review: Nvidia’s $299 Entry-Level Challenger
    Nvidia’s GeForce RTX 5060 officially launched on May 19, 2025, as part of the RTX 50 series lineup, aimed squarely at 1080p gamers on a budget. With a $299
    0 Comments 0 Shares 181 Views 0 Reviews
  • Nvidia RTX 5060: เร็วขึ้น 25% จาก RTX 4060 พร้อมการสร้างเฟรมที่ล้ำหน้า

    Nvidia เปิดตัว RTX 5060 ซึ่งเป็น GPU ระดับกลางที่ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell โดยมีการปรับปรุง ประสิทธิภาพการสร้างเฟรม (Frame Generation) ที่ช่วยให้เร็วขึ้นถึง 25% เมื่อเทียบกับ RTX 4060 อย่างไรก็ตาม การทดสอบเบื้องต้นถูกจำกัดโดย Nvidia และมีข้อกำหนดที่เข้มงวดเกี่ยวกับเกมและการตั้งค่าที่ใช้

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RTX 5060
    ✅ RTX 5060 ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell และรองรับ DLSS 4
    - มี การปรับปรุงด้านการสร้างเฟรมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม

    ✅ การทดสอบเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า RTX 5060 เร็วกว่า RTX 4060 ถึง 25%
    - โดยเฉพาะในเกม Cyberpunk 2077 และ Doom: The Dark Ages

    ✅ RTX 5060 Ti มีประสิทธิภาพสูงกว่า RTX 5060 ประมาณ 15%
    - รุ่น 16GB และ 8GB มีผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันในบางเกม

    ✅ Nvidia จำกัดการทดสอบเฉพาะบางเกมและการตั้งค่าที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
    - เช่น ต้องใช้ DLSS ในโหมดคุณภาพ และต้องรันที่ 1080p เท่านั้น

    ✅ การเปรียบเทียบกับ RTX 3060 และ RTX 2060 แสดงให้เห็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
    - RTX 5060 เร็วกว่า RTX 3060 ถึง 81% และเร็วกว่ารุ่น RTX 2060 ถึง 4 เท่า

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-5060-is-up-to-25-percent-faster-than-rtx-4060-with-frame-generation-in-new-gpu-preview
    Nvidia RTX 5060: เร็วขึ้น 25% จาก RTX 4060 พร้อมการสร้างเฟรมที่ล้ำหน้า Nvidia เปิดตัว RTX 5060 ซึ่งเป็น GPU ระดับกลางที่ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell โดยมีการปรับปรุง ประสิทธิภาพการสร้างเฟรม (Frame Generation) ที่ช่วยให้เร็วขึ้นถึง 25% เมื่อเทียบกับ RTX 4060 อย่างไรก็ตาม การทดสอบเบื้องต้นถูกจำกัดโดย Nvidia และมีข้อกำหนดที่เข้มงวดเกี่ยวกับเกมและการตั้งค่าที่ใช้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RTX 5060 ✅ RTX 5060 ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell และรองรับ DLSS 4 - มี การปรับปรุงด้านการสร้างเฟรมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม ✅ การทดสอบเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า RTX 5060 เร็วกว่า RTX 4060 ถึง 25% - โดยเฉพาะในเกม Cyberpunk 2077 และ Doom: The Dark Ages ✅ RTX 5060 Ti มีประสิทธิภาพสูงกว่า RTX 5060 ประมาณ 15% - รุ่น 16GB และ 8GB มีผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันในบางเกม ✅ Nvidia จำกัดการทดสอบเฉพาะบางเกมและการตั้งค่าที่กำหนดไว้ล่วงหน้า - เช่น ต้องใช้ DLSS ในโหมดคุณภาพ และต้องรันที่ 1080p เท่านั้น ✅ การเปรียบเทียบกับ RTX 3060 และ RTX 2060 แสดงให้เห็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด - RTX 5060 เร็วกว่า RTX 3060 ถึง 81% และเร็วกว่ารุ่น RTX 2060 ถึง 4 เท่า https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-5060-is-up-to-25-percent-faster-than-rtx-4060-with-frame-generation-in-new-gpu-preview
    0 Comments 0 Shares 142 Views 0 Reviews
  • FreeBSD 14.3 Beta 3 เปิดตัวพร้อม KDE Plasma 6 และการปรับปรุงระบบ

    FreeBSD 14.3 Beta 3 พร้อมให้ทดสอบแล้ว โดยเป็นอีกก้าวสำคัญก่อนเปิดตัว FreeBSD 14.3-RELEASE ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2025 FreeBSD เป็นระบบปฏิบัติการแบบ Unix-like ที่มีความเสถียรสูงและได้รับความนิยมในเซิร์ฟเวอร์ระดับองค์กร รวมถึงบางเครื่องเล่นเกม

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ FreeBSD 14.3 Beta 3
    ✅ เพิ่ม KDE Plasma 6 ลงใน DVD installation images
    - ทำให้ ติดตั้งเดสก์ท็อป KDE ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องดาวน์โหลดแพ็กเกจเพิ่มเติม

    ✅ แก้ไขบั๊กที่ทำให้เครื่อง powerpc64le บูตล้มเหลว
    - ปรับปรุง ความเสถียรของระบบสำหรับสถาปัตยกรรมนี้

    ✅ ปรับปรุงการตั้งค่า PATH ใน post-install shell จาก bsdinstall
    - ช่วยให้ การตั้งค่าหลังติดตั้งทำงานได้ถูกต้องมากขึ้น

    ✅ ปรับปรุงการจัดการเฟรม 802.11 AUTH เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง BSS
    - ลด ปัญหาการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่ไม่เสถียร

    ✅ สำหรับ SD card images บน ARM อุปกรณ์ยังคงใช้ชื่อผู้ใช้ "freebsd" และ "root" เป็นค่าเริ่มต้น
    - ผู้ใช้ ต้องเปลี่ยนรหัสผ่านทันทีเพื่อความปลอดภัย

    https://www.neowin.net/news/freebsd-143-beta-3-ships-with-kde-plasma-6-and-general-improvements/
    FreeBSD 14.3 Beta 3 เปิดตัวพร้อม KDE Plasma 6 และการปรับปรุงระบบ FreeBSD 14.3 Beta 3 พร้อมให้ทดสอบแล้ว โดยเป็นอีกก้าวสำคัญก่อนเปิดตัว FreeBSD 14.3-RELEASE ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2025 FreeBSD เป็นระบบปฏิบัติการแบบ Unix-like ที่มีความเสถียรสูงและได้รับความนิยมในเซิร์ฟเวอร์ระดับองค์กร รวมถึงบางเครื่องเล่นเกม 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ FreeBSD 14.3 Beta 3 ✅ เพิ่ม KDE Plasma 6 ลงใน DVD installation images - ทำให้ ติดตั้งเดสก์ท็อป KDE ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องดาวน์โหลดแพ็กเกจเพิ่มเติม ✅ แก้ไขบั๊กที่ทำให้เครื่อง powerpc64le บูตล้มเหลว - ปรับปรุง ความเสถียรของระบบสำหรับสถาปัตยกรรมนี้ ✅ ปรับปรุงการตั้งค่า PATH ใน post-install shell จาก bsdinstall - ช่วยให้ การตั้งค่าหลังติดตั้งทำงานได้ถูกต้องมากขึ้น ✅ ปรับปรุงการจัดการเฟรม 802.11 AUTH เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง BSS - ลด ปัญหาการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่ไม่เสถียร ✅ สำหรับ SD card images บน ARM อุปกรณ์ยังคงใช้ชื่อผู้ใช้ "freebsd" และ "root" เป็นค่าเริ่มต้น - ผู้ใช้ ต้องเปลี่ยนรหัสผ่านทันทีเพื่อความปลอดภัย https://www.neowin.net/news/freebsd-143-beta-3-ships-with-kde-plasma-6-and-general-improvements/
    WWW.NEOWIN.NET
    FreeBSD 14.3 Beta 3 ships with KDE Plasma 6 and general improvements
    FreeBSD 14.3 Beta 3 has just dropped, and it brings support for the KDE Plasma 6 Desktop Environment and fixes several issues.
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • Nvidia RTX Pro 6000: GPU เวิร์กสเตชันที่แรงกว่า RTX 5090 แต่ราคาสูงกว่าสามเท่า

    Nvidia ได้เปิดตัว RTX Pro 6000 Blackwell ซึ่งเป็น GPU เวิร์กสเตชันระดับสูง ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX 5090 ในการทดสอบเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม ราคาของมันสูงกว่าถึงสามเท่า ทำให้ไม่ใช่ตัวเลือกสำหรับเกมเมอร์ทั่วไป

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RTX Pro 6000
    ✅ RTX Pro 6000 ใช้ชิปเดียวกับ RTX 5090 แต่มีสเปกที่สูงกว่า
    - มี 24,064 CUDA cores มากกว่า RTX 5090 ถึง 9%
    - ใช้ VRAM GDDR7 ขนาด 96GB เทียบกับ 32GB ของ RTX 5090
    - มี TGP สูงถึง 600W มากกว่า RTX 5090 ที่ 575W

    ✅ ผลการทดสอบเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า RTX Pro 6000 มีประสิทธิภาพสูงกว่า RTX 5090
    - คะแนน Time Spy อยู่ที่ 51,776 และ Time Spy Extreme อยู่ที่ 28,009
    - เมื่อโอเวอร์คล็อก 350Hz คะแนนเพิ่มขึ้นเป็น 54,300 และ 30,019

    ✅ RTX Pro 6000 มีประสิทธิภาพสูงกว่า RTX 5090 ในบางการทดสอบ แต่ยังช้ากว่าเมื่อโอเวอร์คล็อก
    - เมื่อเปรียบเทียบกับ RTX 5090 ที่โอเวอร์คล็อก RTX Pro 6000 ยังช้ากว่า 5% ใน Time Spy

    ✅ การทดสอบ Cyberpunk 2077 พบว่า RTX Pro 6000 ทำเฟรมเรตเฉลี่ย 126 fps ที่ 4K
    - ใช้ DLSS Auto และ Ultra Ray Tracing Preset

    ✅ Nvidia วางตำแหน่ง RTX Pro 6000 เป็น GPU เวิร์กสเตชัน ไม่ใช่สำหรับเกมเมอร์
    - แม้ว่าจะใช้ชิปเดียวกับ RTX 5090 แต่ ออกแบบมาเพื่อการทำงานระดับมืออาชีพ

    ✅ ราคาของ RTX Pro 6000 อยู่ระหว่าง $8,000 ถึง $11,000
    - ทำให้ RTX 5090 ยังคงเป็นตัวเลือกหลักสำหรับเกมเมอร์

    https://www.techspot.com/news/107947-nvidia-rtx-pro-6000-quietly-beats-rtx-5090.html
    Nvidia RTX Pro 6000: GPU เวิร์กสเตชันที่แรงกว่า RTX 5090 แต่ราคาสูงกว่าสามเท่า Nvidia ได้เปิดตัว RTX Pro 6000 Blackwell ซึ่งเป็น GPU เวิร์กสเตชันระดับสูง ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX 5090 ในการทดสอบเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม ราคาของมันสูงกว่าถึงสามเท่า ทำให้ไม่ใช่ตัวเลือกสำหรับเกมเมอร์ทั่วไป 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RTX Pro 6000 ✅ RTX Pro 6000 ใช้ชิปเดียวกับ RTX 5090 แต่มีสเปกที่สูงกว่า - มี 24,064 CUDA cores มากกว่า RTX 5090 ถึง 9% - ใช้ VRAM GDDR7 ขนาด 96GB เทียบกับ 32GB ของ RTX 5090 - มี TGP สูงถึง 600W มากกว่า RTX 5090 ที่ 575W ✅ ผลการทดสอบเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า RTX Pro 6000 มีประสิทธิภาพสูงกว่า RTX 5090 - คะแนน Time Spy อยู่ที่ 51,776 และ Time Spy Extreme อยู่ที่ 28,009 - เมื่อโอเวอร์คล็อก 350Hz คะแนนเพิ่มขึ้นเป็น 54,300 และ 30,019 ✅ RTX Pro 6000 มีประสิทธิภาพสูงกว่า RTX 5090 ในบางการทดสอบ แต่ยังช้ากว่าเมื่อโอเวอร์คล็อก - เมื่อเปรียบเทียบกับ RTX 5090 ที่โอเวอร์คล็อก RTX Pro 6000 ยังช้ากว่า 5% ใน Time Spy ✅ การทดสอบ Cyberpunk 2077 พบว่า RTX Pro 6000 ทำเฟรมเรตเฉลี่ย 126 fps ที่ 4K - ใช้ DLSS Auto และ Ultra Ray Tracing Preset ✅ Nvidia วางตำแหน่ง RTX Pro 6000 เป็น GPU เวิร์กสเตชัน ไม่ใช่สำหรับเกมเมอร์ - แม้ว่าจะใช้ชิปเดียวกับ RTX 5090 แต่ ออกแบบมาเพื่อการทำงานระดับมืออาชีพ ✅ ราคาของ RTX Pro 6000 อยู่ระหว่าง $8,000 ถึง $11,000 - ทำให้ RTX 5090 ยังคงเป็นตัวเลือกหลักสำหรับเกมเมอร์ https://www.techspot.com/news/107947-nvidia-rtx-pro-6000-quietly-beats-rtx-5090.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia's RTX Pro 6000 quietly beats the RTX 5090 in early benchmarks, at triple the cost
    Redditor Privaterbok tested the RTX Pro 6000 Blackwell using several benchmarking tools, including 3DMark Time Spy, Time Spy Extreme, Steel Nomad, Port Royal, and Geekbench 6. The...
    0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • ไม่ได้ลงเสนองานฟรีแลนซ์นานละ ช่องทางนี้อีกช่องทางละกันครับ
    ผมมีความสนใจใน
    - งานพัฒนาระบบเว็บ API เพื่อร้านอาหาร/คาเฟ่/บาร์/และร้านอาหารในโรงแรม
    - งานพัฒนาระบบเว็บ API เพื่อการบริการทั่วไปและการจองต่างๆที่มีรายละเอียดมากกว่าการจองโต๊ะในร้านอาหาร
    - งานพัฒนาระบบ E-Commerce (ร้านค้าออนไลน์/เติมเงินเกมส์)
    ผมเคยมีประสบการณ์พัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่น/เว็บ API ที่สามารถเข้ากันได้ทั้งเครื่องพีซี แท็บเล็ตหรือสมาร์ตโฟนมาแล้วหลายอย่าง
    - พัฒนาระบบร้านอาหารจากโปรเจคจบ PHP + MySQL + JS และนำมาพัฒนาต่อ และมีระบบจัดเก็บวัตถุดิบ ข้อมูลอาหารพร้อมสูตรอาหารและการตัดสต็อกวัตถุดิบจากสูตรอาหาร ระบบจองโต๊ะ ระบบบัญชีรายรับ-รายจ่าย
    - พัฒนาเว็บไซต์ UBIS AUTOMATE ผ่าน Sunfix โดยพัฒนาในส่วนการทำงานของแผนก QS , CC และแผนกอื่นๆที่ผมทำการต่อเติมหรือร่วมพัฒนาส่วนการทำงานในแต่ละระบบ ด้วย PHP , TCPDF , PostgreSQL และ CodeIgnitator
    ถ้าเป็นงานที่ต้องใช้ NodeJS , React , NextJS , Laravel หรือภาษาเฟรมเวิร์คอื่นๆ ผมเคยเขียนเว็บไซต์ทุกรูปแบบมาแล้วครับ
    ฐานข้อมูล MongoDB หรือ MySQL ผมสามารถออกแบบฐานข้อมูลได้ทุกรูปแบบ ต้องการฐานข้อมูลแบบไหนทักท้วงมาได้ครับ
    ราคา และ ระยะเวลาในการทำงานจะประเมินและปรับเปลี่ยนหลังจากคุยรายละเอียดงานกับผู้ว่าจ้างครับ
    - ไม่รับงานประเภท PHP เวอร์ชั่นเก่าอย่าง 5 , 7 รับทำ PHP เฉพาะเวอร์ชั่นปัจจุบัน (8.4) เท่านั้น กรณีเสนอให้ทำ PHP/Laravel/Codeignitor
    - ไม่รับงานเฟรมเวิร์กเวอร์ชั่นเก่าทุกกรณี
    Infographics ค่อยทำ เพราะว่ายังคิดผังความคิดไม่ออกเลยครับ
    ไม่ได้ลงเสนองานฟรีแลนซ์นานละ ช่องทางนี้อีกช่องทางละกันครับ ผมมีความสนใจใน - งานพัฒนาระบบเว็บ API เพื่อร้านอาหาร/คาเฟ่/บาร์/และร้านอาหารในโรงแรม - งานพัฒนาระบบเว็บ API เพื่อการบริการทั่วไปและการจองต่างๆที่มีรายละเอียดมากกว่าการจองโต๊ะในร้านอาหาร - งานพัฒนาระบบ E-Commerce (ร้านค้าออนไลน์/เติมเงินเกมส์) ผมเคยมีประสบการณ์พัฒนาเว็บแอพพลิเคชั่น/เว็บ API ที่สามารถเข้ากันได้ทั้งเครื่องพีซี แท็บเล็ตหรือสมาร์ตโฟนมาแล้วหลายอย่าง - พัฒนาระบบร้านอาหารจากโปรเจคจบ PHP + MySQL + JS และนำมาพัฒนาต่อ และมีระบบจัดเก็บวัตถุดิบ ข้อมูลอาหารพร้อมสูตรอาหารและการตัดสต็อกวัตถุดิบจากสูตรอาหาร ระบบจองโต๊ะ ระบบบัญชีรายรับ-รายจ่าย - พัฒนาเว็บไซต์ UBIS AUTOMATE ผ่าน Sunfix โดยพัฒนาในส่วนการทำงานของแผนก QS , CC และแผนกอื่นๆที่ผมทำการต่อเติมหรือร่วมพัฒนาส่วนการทำงานในแต่ละระบบ ด้วย PHP , TCPDF , PostgreSQL และ CodeIgnitator ถ้าเป็นงานที่ต้องใช้ NodeJS , React , NextJS , Laravel หรือภาษาเฟรมเวิร์คอื่นๆ ผมเคยเขียนเว็บไซต์ทุกรูปแบบมาแล้วครับ ฐานข้อมูล MongoDB หรือ MySQL ผมสามารถออกแบบฐานข้อมูลได้ทุกรูปแบบ ต้องการฐานข้อมูลแบบไหนทักท้วงมาได้ครับ ราคา และ ระยะเวลาในการทำงานจะประเมินและปรับเปลี่ยนหลังจากคุยรายละเอียดงานกับผู้ว่าจ้างครับ - ไม่รับงานประเภท PHP เวอร์ชั่นเก่าอย่าง 5 , 7 รับทำ PHP เฉพาะเวอร์ชั่นปัจจุบัน (8.4) เท่านั้น กรณีเสนอให้ทำ PHP/Laravel/Codeignitor - ไม่รับงานเฟรมเวิร์กเวอร์ชั่นเก่าทุกกรณี Infographics ค่อยทำ เพราะว่ายังคิดผังความคิดไม่ออกเลยครับ
    0 Comments 0 Shares 180 Views 0 Reviews
  • นักพัฒนาใช้วิศวกรรมย้อนกลับเพื่อพอร์ตเกม Nintendo GameCube สู่ PC

    นักพัฒนาเกมกำลังใช้ วิศวกรรมย้อนกลับ (Reverse Engineering) เพื่อสร้างพอร์ตเกมจาก Nintendo GameCube ให้สามารถเล่นบน PC ได้โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมจำลอง (Emulator) ซึ่งช่วยให้สามารถ ปรับปรุงกราฟิก, เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ และรองรับการเล่นออนไลน์

    ✅ Mario Party 4 เป็นเกมแรกที่ได้รับการถอดรหัสโค้ดต้นฉบับ (Decompilation) อย่างสมบูรณ์
    - นักพัฒนากำลังสร้าง พอร์ต PC พร้อมโหมดเล่นออนไลน์

    ✅ เกมอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างการพอร์ต ได้แก่ Super Smash Bros. Melee, Metroid Prime และ The Legend of Zelda: Wind Waker
    - คาดว่า Metroid Prime อาจเป็นเกมถัดไปที่ได้รับการถอดรหัส

    ✅ การใช้วิศวกรรมย้อนกลับช่วยให้สามารถปรับปรุงเกมได้มากกว่าการใช้ Emulator
    - เช่น เพิ่มเฟรมเรตสูงถึง 240 FPS และปรับแต่งเกมเพลย์

    ✅ เกมจากยุค Nintendo 64 เช่น Super Mario 64 และ Ocarina of Time ได้รับพอร์ต PC แล้ว
    - มีการเพิ่ม ความละเอียดสูงและรองรับการเล่นบนฮาร์ดแวร์สมัยใหม่

    ✅ นักพัฒนากำลังทดลองเพิ่ม Ray Tracing ให้กับเกมคลาสสิก
    - คล้ายกับ เทคโนโลยี RTX Remix ของ NVIDIA

    https://www.techspot.com/news/107905-modders-use-reverse-engineering-bring-mario-party-4.html
    นักพัฒนาใช้วิศวกรรมย้อนกลับเพื่อพอร์ตเกม Nintendo GameCube สู่ PC นักพัฒนาเกมกำลังใช้ วิศวกรรมย้อนกลับ (Reverse Engineering) เพื่อสร้างพอร์ตเกมจาก Nintendo GameCube ให้สามารถเล่นบน PC ได้โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมจำลอง (Emulator) ซึ่งช่วยให้สามารถ ปรับปรุงกราฟิก, เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ และรองรับการเล่นออนไลน์ ✅ Mario Party 4 เป็นเกมแรกที่ได้รับการถอดรหัสโค้ดต้นฉบับ (Decompilation) อย่างสมบูรณ์ - นักพัฒนากำลังสร้าง พอร์ต PC พร้อมโหมดเล่นออนไลน์ ✅ เกมอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างการพอร์ต ได้แก่ Super Smash Bros. Melee, Metroid Prime และ The Legend of Zelda: Wind Waker - คาดว่า Metroid Prime อาจเป็นเกมถัดไปที่ได้รับการถอดรหัส ✅ การใช้วิศวกรรมย้อนกลับช่วยให้สามารถปรับปรุงเกมได้มากกว่าการใช้ Emulator - เช่น เพิ่มเฟรมเรตสูงถึง 240 FPS และปรับแต่งเกมเพลย์ ✅ เกมจากยุค Nintendo 64 เช่น Super Mario 64 และ Ocarina of Time ได้รับพอร์ต PC แล้ว - มีการเพิ่ม ความละเอียดสูงและรองรับการเล่นบนฮาร์ดแวร์สมัยใหม่ ✅ นักพัฒนากำลังทดลองเพิ่ม Ray Tracing ให้กับเกมคลาสสิก - คล้ายกับ เทคโนโลยี RTX Remix ของ NVIDIA https://www.techspot.com/news/107905-modders-use-reverse-engineering-bring-mario-party-4.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Modders use reverse engineering to bring Nintendo GameCube games to PC
    Mario Party 4 is set to become the first GameCube title to receive a full decompilation, paving the way for unofficial PC ports. Unlike emulation, reverse engineering...
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • PlayStation 5 Pro เตรียมอัปเกรด PSSR 2 รองรับ 4K@120FPS และ 8K@60FPS Sony กำลังพัฒนา PSSR 2 ซึ่งเป็น ระบบอัปสเกลภาพด้วย AI สำหรับ PlayStation 5 Pro โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มคุณภาพของภาพและรองรับความละเอียดที่สูงขึ้น ตามข้อมูลจาก Moore’s Law is Dead ซึ่งเคยให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับ PlayStation 5 Pro มาก่อน

    PSSR 2 จะช่วยให้ เกมที่ปัจจุบันรันได้เพียง 70-80 FPS สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้ถึง 120 FPS ที่ 4K และยังรองรับ 8K ที่ 60 FPS นอกจากนี้ Sony กำลังฝึกระบบ AI ให้ใช้เวลาประมวลผลต่อเฟรมลดลง เพื่อให้ การอัปสเกลภาพมีคุณภาพสูงขึ้น แม้จะเริ่มจากความละเอียดต่ำกว่า 864p

    ✅ PSSR 2 จะช่วยให้ PlayStation 5 Pro รองรับ 4K@120FPS และ 8K@60FPS
    - เพิ่มประสิทธิภาพ เกมที่ปัจจุบันรันได้เพียง 70-80 FPS ให้ถึง 120 FPS

    ✅ Sony กำลังฝึกระบบ AI ให้ใช้เวลาประมวลผลต่อเฟรมลดลง
    - ทำให้ การอัปสเกลภาพมีคุณภาพสูงขึ้น แม้จะเริ่มจากความละเอียดต่ำกว่า 864p

    ✅ PSSR 2 จะรองรับความละเอียดที่หลากหลายขึ้น เช่น 1440p และ 1080p ที่ 120 FPS
    - ซึ่ง เวอร์ชันปัจจุบันรองรับเฉพาะ 4K เท่านั้น

    ✅ PlayStation 5 Pro จะมีตัวเลือกใหม่สำหรับเกมที่ไม่ใช้ PSSR
    - Sony กำลังพัฒนา MFSR ซึ่งเป็นทางเลือกแทน TAA เพื่อให้ภาพคมชัดขึ้น

    ✅ PlayStation 6 อาจรองรับ PSSR 2 ด้วย
    - ทำให้ เทคโนโลยีนี้อาจกลายเป็นมาตรฐานสำหรับคอนโซลรุ่นต่อไป

    https://wccftech.com/playstation-5-pro-pssr-2-higher-quality-proper-4k-120-fps/
    PlayStation 5 Pro เตรียมอัปเกรด PSSR 2 รองรับ 4K@120FPS และ 8K@60FPS Sony กำลังพัฒนา PSSR 2 ซึ่งเป็น ระบบอัปสเกลภาพด้วย AI สำหรับ PlayStation 5 Pro โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มคุณภาพของภาพและรองรับความละเอียดที่สูงขึ้น ตามข้อมูลจาก Moore’s Law is Dead ซึ่งเคยให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับ PlayStation 5 Pro มาก่อน PSSR 2 จะช่วยให้ เกมที่ปัจจุบันรันได้เพียง 70-80 FPS สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้ถึง 120 FPS ที่ 4K และยังรองรับ 8K ที่ 60 FPS นอกจากนี้ Sony กำลังฝึกระบบ AI ให้ใช้เวลาประมวลผลต่อเฟรมลดลง เพื่อให้ การอัปสเกลภาพมีคุณภาพสูงขึ้น แม้จะเริ่มจากความละเอียดต่ำกว่า 864p ✅ PSSR 2 จะช่วยให้ PlayStation 5 Pro รองรับ 4K@120FPS และ 8K@60FPS - เพิ่มประสิทธิภาพ เกมที่ปัจจุบันรันได้เพียง 70-80 FPS ให้ถึง 120 FPS ✅ Sony กำลังฝึกระบบ AI ให้ใช้เวลาประมวลผลต่อเฟรมลดลง - ทำให้ การอัปสเกลภาพมีคุณภาพสูงขึ้น แม้จะเริ่มจากความละเอียดต่ำกว่า 864p ✅ PSSR 2 จะรองรับความละเอียดที่หลากหลายขึ้น เช่น 1440p และ 1080p ที่ 120 FPS - ซึ่ง เวอร์ชันปัจจุบันรองรับเฉพาะ 4K เท่านั้น ✅ PlayStation 5 Pro จะมีตัวเลือกใหม่สำหรับเกมที่ไม่ใช้ PSSR - Sony กำลังพัฒนา MFSR ซึ่งเป็นทางเลือกแทน TAA เพื่อให้ภาพคมชัดขึ้น ✅ PlayStation 6 อาจรองรับ PSSR 2 ด้วย - ทำให้ เทคโนโลยีนี้อาจกลายเป็นมาตรฐานสำหรับคอนโซลรุ่นต่อไป https://wccftech.com/playstation-5-pro-pssr-2-higher-quality-proper-4k-120-fps/
    WCCFTECH.COM
    PlayStation 5 Pro PSSR 2 Will Feature Higher Image Quality, Wider Resolutions Offering and Proper Support for 4K@120 FPS and 8K@60FPS - Rumor
    Sony is reportedly working on a new iteration of the PlayStation 5 Pro PSSR upscaler which will be considerbly better than the current version.
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • AMD ได้เปิดตัว สถาปัตยกรรม RDNA 4 ซึ่งมาพร้อมกับ ประสิทธิภาพที่เร็วขึ้น, AI ที่ฉลาดขึ้น และ VRAM ที่มากขึ้น เพื่อรองรับ การเล่นเกมและงานสร้างสรรค์ที่ต้องการพลังประมวลผลสูง

    RDNA 4 ใช้ กระบวนการผลิต 4nm N4P ของ TSMC ซึ่งช่วยให้ ประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีขึ้น และมี การปรับปรุง Compute Units (CUs) และ Ray Tracing รุ่นที่ 3 เพื่อให้ การเรนเดอร์ภาพมีความสมจริงมากขึ้น

    ✅ RDNA 4 ใช้กระบวนการผลิต 4nm N4P ของ TSMC
    - ช่วยให้ ประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีขึ้น
    - มี การปรับปรุง Compute Units และ Ray Tracing รุ่นที่ 3

    ✅ รองรับ AI acceleration และ FidelityFX Super Resolution 4 (FSR 4)
    - ช่วยให้ การอัปสเกลภาพมีความคมชัดและลดอาการภาพแตก
    - รองรับ การปรับความละเอียดแบบไดนามิกและการลดอาการเบลอของภาพ

    ✅ RX 9070 และ RX 9070 XT เป็นรุ่นแรกที่ใช้ RDNA 4
    - RX 9070 XT มี ประสิทธิภาพสูงกว่า RX 7900 XT ถึง 22% ในเกม AAA
    - มี VRAM ขนาด 16GB GDDR6 และบัสหน่วยความจำ 256-bit

    ✅ รองรับ PCIe 5.0, DisplayPort 2.1a และ HDMI 2.1b
    - สามารถ แสดงผล 4K ที่ 480Hz หรือ 8K ที่ 165Hz
    - รองรับ AV1 Hardware Encoding สำหรับการสตรีมและบันทึกวิดีโอคุณภาพสูง

    ✅ RX 9070 XT มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 5070 Ti ในงานเรนเดอร์ภาพ
    - มี เฟรมเรตสูงกว่า RX 7900 XT ในเกม Cyberpunk 2077 และ Starfield

    ‼️ Ray Tracing ของ RDNA 4 ยังเป็นรอง Nvidia ในบางเกม
    - แม้ว่าจะมีการปรับปรุง แต่ Nvidia ยังคงมีความได้เปรียบในด้านนี้

    ‼️ RX 9060 XT ที่จะเปิดตัวใน Computex 2025 อาจมี VRAM เพียง 12GB
    - อาจไม่เพียงพอสำหรับ เกมที่ต้องใช้ทรัพยากรสูงในอนาคต

    https://computercity.com/hardware/video-cards/inside-amds-rdna-4-revolution-faster-gpus-smarter-ai-and-more-vram
    AMD ได้เปิดตัว สถาปัตยกรรม RDNA 4 ซึ่งมาพร้อมกับ ประสิทธิภาพที่เร็วขึ้น, AI ที่ฉลาดขึ้น และ VRAM ที่มากขึ้น เพื่อรองรับ การเล่นเกมและงานสร้างสรรค์ที่ต้องการพลังประมวลผลสูง RDNA 4 ใช้ กระบวนการผลิต 4nm N4P ของ TSMC ซึ่งช่วยให้ ประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีขึ้น และมี การปรับปรุง Compute Units (CUs) และ Ray Tracing รุ่นที่ 3 เพื่อให้ การเรนเดอร์ภาพมีความสมจริงมากขึ้น ✅ RDNA 4 ใช้กระบวนการผลิต 4nm N4P ของ TSMC - ช่วยให้ ประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีขึ้น - มี การปรับปรุง Compute Units และ Ray Tracing รุ่นที่ 3 ✅ รองรับ AI acceleration และ FidelityFX Super Resolution 4 (FSR 4) - ช่วยให้ การอัปสเกลภาพมีความคมชัดและลดอาการภาพแตก - รองรับ การปรับความละเอียดแบบไดนามิกและการลดอาการเบลอของภาพ ✅ RX 9070 และ RX 9070 XT เป็นรุ่นแรกที่ใช้ RDNA 4 - RX 9070 XT มี ประสิทธิภาพสูงกว่า RX 7900 XT ถึง 22% ในเกม AAA - มี VRAM ขนาด 16GB GDDR6 และบัสหน่วยความจำ 256-bit ✅ รองรับ PCIe 5.0, DisplayPort 2.1a และ HDMI 2.1b - สามารถ แสดงผล 4K ที่ 480Hz หรือ 8K ที่ 165Hz - รองรับ AV1 Hardware Encoding สำหรับการสตรีมและบันทึกวิดีโอคุณภาพสูง ✅ RX 9070 XT มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 5070 Ti ในงานเรนเดอร์ภาพ - มี เฟรมเรตสูงกว่า RX 7900 XT ในเกม Cyberpunk 2077 และ Starfield ‼️ Ray Tracing ของ RDNA 4 ยังเป็นรอง Nvidia ในบางเกม - แม้ว่าจะมีการปรับปรุง แต่ Nvidia ยังคงมีความได้เปรียบในด้านนี้ ‼️ RX 9060 XT ที่จะเปิดตัวใน Computex 2025 อาจมี VRAM เพียง 12GB - อาจไม่เพียงพอสำหรับ เกมที่ต้องใช้ทรัพยากรสูงในอนาคต https://computercity.com/hardware/video-cards/inside-amds-rdna-4-revolution-faster-gpus-smarter-ai-and-more-vram
    COMPUTERCITY.COM
    Inside AMD’s RDNA 4 Revolution: More Speed, More AI, Expanded VRAM
    AMD’s RDNA 4 graphics cards bring faster performance, smarter AI capabilities, and more memory for smoother gaming and better productivity. These updates help
    0 Comments 0 Shares 214 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึง ประสิทธิภาพของ Nvidia RTX 5060 Ti 8GB เทียบกับ Intel Arc B580 โดยพบว่า รุ่น 8GB ของ RTX 5060 Ti มีข้อจำกัดด้าน VRAM ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเล่นเกม

    แม้ว่ารุ่น 16GB ของ RTX 5060 Ti จะทำงานได้ดีขึ้น แต่ รุ่น 8GB กลับมีปัญหาในการรันเกมที่ต้องใช้ VRAM มาก และในบางกรณี Intel Arc B580 ซึ่งมี 12GB VRAM สามารถให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า RTX 5060 Ti 8GB

    ✅ RTX 5060 Ti 8GB มีข้อจำกัดด้าน VRAM ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเล่นเกม
    - แม้ว่าจะมี ประสิทธิภาพสูงกว่า Arc B580 ในบางกรณี แต่ VRAM ที่น้อยทำให้เกิดปัญหาการแสดงผลและเฟรมเรตตก

    ✅ Intel Arc B580 มี 12GB VRAM และสามารถให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า RTX 5060 Ti 8GB ในบางเกม
    - เช่น Horizon Forbidden West และ The Last of Us Part II

    ✅ RTX 5060 Ti 16GB มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าและไม่มีปัญหาด้าน VRAM
    - แต่มีราคาสูงกว่า รุ่น 8GB ประมาณ 14%

    ✅ Intel Arc B580 มีราคาถูกกว่า RTX 5060 Ti 8GB แต่หาซื้อได้ยากในราคาต่ำกว่า MSRP
    - ราคาจริงในตลาดสูงกว่าราคาที่แนะนำ ประมาณ 32%

    ✅ RTX 5060 Ti 8GB อาจมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่ารุ่น 16GB เนื่องจากข้อจำกัดด้าน VRAM
    - อาจไม่สามารถรองรับเกมใหม่ ๆ ได้ดีในอนาคต

    https://www.techspot.com/review/2983-nvidia-rtx-5060-8gb-vs-intel-arc-b580/
    บทความนี้กล่าวถึง ประสิทธิภาพของ Nvidia RTX 5060 Ti 8GB เทียบกับ Intel Arc B580 โดยพบว่า รุ่น 8GB ของ RTX 5060 Ti มีข้อจำกัดด้าน VRAM ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเล่นเกม แม้ว่ารุ่น 16GB ของ RTX 5060 Ti จะทำงานได้ดีขึ้น แต่ รุ่น 8GB กลับมีปัญหาในการรันเกมที่ต้องใช้ VRAM มาก และในบางกรณี Intel Arc B580 ซึ่งมี 12GB VRAM สามารถให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า RTX 5060 Ti 8GB ✅ RTX 5060 Ti 8GB มีข้อจำกัดด้าน VRAM ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเล่นเกม - แม้ว่าจะมี ประสิทธิภาพสูงกว่า Arc B580 ในบางกรณี แต่ VRAM ที่น้อยทำให้เกิดปัญหาการแสดงผลและเฟรมเรตตก ✅ Intel Arc B580 มี 12GB VRAM และสามารถให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า RTX 5060 Ti 8GB ในบางเกม - เช่น Horizon Forbidden West และ The Last of Us Part II ✅ RTX 5060 Ti 16GB มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าและไม่มีปัญหาด้าน VRAM - แต่มีราคาสูงกว่า รุ่น 8GB ประมาณ 14% ✅ Intel Arc B580 มีราคาถูกกว่า RTX 5060 Ti 8GB แต่หาซื้อได้ยากในราคาต่ำกว่า MSRP - ราคาจริงในตลาดสูงกว่าราคาที่แนะนำ ประมาณ 32% ✅ RTX 5060 Ti 8GB อาจมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่ารุ่น 16GB เนื่องจากข้อจำกัดด้าน VRAM - อาจไม่สามารถรองรับเกมใหม่ ๆ ได้ดีในอนาคต https://www.techspot.com/review/2983-nvidia-rtx-5060-8gb-vs-intel-arc-b580/
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia's RTX 5060 Ti 8GB is Even Slower than the Intel Arc B580
    We test Nvidia's RTX 5060 Ti to reveal why the 8GB version struggles badly in modern games–and how it stacks up against Intel's much cheaper Arc B580...
    0 Comments 0 Shares 153 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึง การเปรียบเทียบ GPU ของ AMD ตั้งแต่ RX 7700 XT ไปจนถึง RX 9070 XT โดยเน้นถึง ประสิทธิภาพ, ราคา และความเหมาะสมสำหรับการเล่นเกม

    RX 9070 XT เป็น ตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า RX 7700 XT โดยมี ความเร็วในการประมวลผลสูงขึ้น 11% และ รองรับการเล่นเกมที่ความละเอียด 4K ได้ดีกว่า อย่างไรก็ตาม RX 7700 XT ยังคงเป็น ตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด

    ✅ RX 9070 XT มีประสิทธิภาพสูงกว่า RX 7700 XT ประมาณ 11%
    - เหมาะสำหรับ การเล่นเกมที่ความละเอียด 4K
    - มี VRAM ขนาด 16GB GDDR6

    ✅ RX 7700 XT ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด
    - มี VRAM ขนาด 12GB GDDR6
    - เหมาะสำหรับ การเล่นเกมที่ความละเอียด 1440p

    ✅ RX 9070 XT รองรับเทคโนโลยี Ray Tracing รุ่นใหม่
    - มี Ray Tracing รุ่นที่ 3 ซึ่งเร็วขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับ RDNA 3
    - รองรับ FSR 4 สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพภาพในเกม

    ✅ RX 7700 XT และ RX 7800 XT ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 3
    - RX 7800 XT มี VRAM ขนาด 16GB และรองรับ 4K ได้บางส่วน
    - RX 7700 XT เหมาะสำหรับ เกมเมอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า

    ✅ RX 9070 XT มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 4080 Super
    - เหมาะสำหรับ เกมเมอร์ที่ต้องการเฟรมเรตสูงและการตั้งค่ากราฟิกระดับ Ultra

    https://computercity.com/hardware/video-cards/from-rx-7700-xt-to-rx-9070-xt-which-amd-radeon-card-is-best-for-you-right-now
    บทความนี้กล่าวถึง การเปรียบเทียบ GPU ของ AMD ตั้งแต่ RX 7700 XT ไปจนถึง RX 9070 XT โดยเน้นถึง ประสิทธิภาพ, ราคา และความเหมาะสมสำหรับการเล่นเกม RX 9070 XT เป็น ตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า RX 7700 XT โดยมี ความเร็วในการประมวลผลสูงขึ้น 11% และ รองรับการเล่นเกมที่ความละเอียด 4K ได้ดีกว่า อย่างไรก็ตาม RX 7700 XT ยังคงเป็น ตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด ✅ RX 9070 XT มีประสิทธิภาพสูงกว่า RX 7700 XT ประมาณ 11% - เหมาะสำหรับ การเล่นเกมที่ความละเอียด 4K - มี VRAM ขนาด 16GB GDDR6 ✅ RX 7700 XT ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด - มี VRAM ขนาด 12GB GDDR6 - เหมาะสำหรับ การเล่นเกมที่ความละเอียด 1440p ✅ RX 9070 XT รองรับเทคโนโลยี Ray Tracing รุ่นใหม่ - มี Ray Tracing รุ่นที่ 3 ซึ่งเร็วขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับ RDNA 3 - รองรับ FSR 4 สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพภาพในเกม ✅ RX 7700 XT และ RX 7800 XT ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 3 - RX 7800 XT มี VRAM ขนาด 16GB และรองรับ 4K ได้บางส่วน - RX 7700 XT เหมาะสำหรับ เกมเมอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า ✅ RX 9070 XT มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 4080 Super - เหมาะสำหรับ เกมเมอร์ที่ต้องการเฟรมเรตสูงและการตั้งค่ากราฟิกระดับ Ultra https://computercity.com/hardware/video-cards/from-rx-7700-xt-to-rx-9070-xt-which-amd-radeon-card-is-best-for-you-right-now
    COMPUTERCITY.COM
    From RX 7700 XT to RX 9070 XT: Which AMD GPU Should You Buy
    Choosing between the AMD Radeon RX 7700 XT and the RX 9070 XT can feel overwhelming with new models and updated specs. For most users, the RX 9070 XT stands
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • Intel ได้เปิดตัว IPO (Intel Performance Optimizations) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมบน Core Ultra 200S (Arrow Lake) โดยผลการทดสอบจากผู้ใช้บน BiliBili พบว่า IPO ให้ประสิทธิภาพที่สูงกว่า 200S Boost ในหลายเกม

    การทดสอบใช้ Core Ultra 7 265K, หน่วยความจำ DDR5-8000, และ GeForce RTX 5090D โดยเปรียบเทียบ XMP Configuration, 200S Boost, และ IPO ในเกมต่างๆ เช่น Cyberpunk 2077, Forza Horizon 5, Counter-Strike 2 และ Watch Dogs: Legion

    IPO ปรับความเร็ว P-core และ E-core เป็น 5.4 GHz และ 4.9 GHz ตามลำดับ และเพิ่มความเร็ว Ring Bus เป็น 4 GHz ขณะที่ 200S Boost เน้นไปที่การเพิ่มความเร็ว Die-to-Die (D2D) และ Next Generation Uncore (NGU)

    ผลการทดสอบพบว่า IPO ให้เฟรมเรตสูงกว่า 200S Boost ในทุกเกม โดยเฉพาะ Counter-Strike 2 ที่มีเฟรมเรตสูงขึ้น 16% และ Cyberpunk 2077 ที่มีเฟรมเรตสูงขึ้น 3%

    ✅ IPO vs. 200S Boost ในการเล่นเกม
    - IPO ให้เฟรมเรตสูงกว่า 200S Boost ในทุกเกมที่ทดสอบ
    - Counter-Strike 2 มีเฟรมเรตสูงขึ้น 16%
    - Cyberpunk 2077 มีเฟรมเรตสูงขึ้น 3%

    ✅ การปรับแต่งของ IPO
    - เพิ่มความเร็ว P-core และ E-core เป็น 5.4 GHz และ 4.9 GHz
    - เพิ่มความเร็ว Ring Bus เป็น 4 GHz

    ✅ การปรับแต่งของ 200S Boost
    - เพิ่มความเร็ว Die-to-Die (D2D) และ Next Generation Uncore (NGU)

    ✅ การใช้งานและการเข้าถึง
    - 200S Boost สามารถใช้งานได้ผ่าน อัปเดตเฟิร์มแวร์ของเมนบอร์ด
    - IPO มีให้ใช้งานเฉพาะใน ประเทศจีน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-ipo-delivers-better-gaming-performance-than-200s-boost-in-user-benchmarks
    Intel ได้เปิดตัว IPO (Intel Performance Optimizations) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมบน Core Ultra 200S (Arrow Lake) โดยผลการทดสอบจากผู้ใช้บน BiliBili พบว่า IPO ให้ประสิทธิภาพที่สูงกว่า 200S Boost ในหลายเกม การทดสอบใช้ Core Ultra 7 265K, หน่วยความจำ DDR5-8000, และ GeForce RTX 5090D โดยเปรียบเทียบ XMP Configuration, 200S Boost, และ IPO ในเกมต่างๆ เช่น Cyberpunk 2077, Forza Horizon 5, Counter-Strike 2 และ Watch Dogs: Legion IPO ปรับความเร็ว P-core และ E-core เป็น 5.4 GHz และ 4.9 GHz ตามลำดับ และเพิ่มความเร็ว Ring Bus เป็น 4 GHz ขณะที่ 200S Boost เน้นไปที่การเพิ่มความเร็ว Die-to-Die (D2D) และ Next Generation Uncore (NGU) ผลการทดสอบพบว่า IPO ให้เฟรมเรตสูงกว่า 200S Boost ในทุกเกม โดยเฉพาะ Counter-Strike 2 ที่มีเฟรมเรตสูงขึ้น 16% และ Cyberpunk 2077 ที่มีเฟรมเรตสูงขึ้น 3% ✅ IPO vs. 200S Boost ในการเล่นเกม - IPO ให้เฟรมเรตสูงกว่า 200S Boost ในทุกเกมที่ทดสอบ - Counter-Strike 2 มีเฟรมเรตสูงขึ้น 16% - Cyberpunk 2077 มีเฟรมเรตสูงขึ้น 3% ✅ การปรับแต่งของ IPO - เพิ่มความเร็ว P-core และ E-core เป็น 5.4 GHz และ 4.9 GHz - เพิ่มความเร็ว Ring Bus เป็น 4 GHz ✅ การปรับแต่งของ 200S Boost - เพิ่มความเร็ว Die-to-Die (D2D) และ Next Generation Uncore (NGU) ✅ การใช้งานและการเข้าถึง - 200S Boost สามารถใช้งานได้ผ่าน อัปเดตเฟิร์มแวร์ของเมนบอร์ด - IPO มีให้ใช้งานเฉพาะใน ประเทศจีน https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-ipo-delivers-better-gaming-performance-than-200s-boost-in-user-benchmarks
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Intel IPO delivers better gaming performance than 200S Boost in user benchmarks
    Similar performance-enhancing technology but slightly different results
    0 Comments 0 Shares 196 Views 0 Reviews
  • NVIDIA ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับ AI Factory โดยใช้ DOCA Argus ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กที่ช่วยตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ โดยทำงานบน NVIDIA BlueField ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเครือข่ายที่ช่วยปกป้องข้อมูลและการประมวลผล AI

    DOCA Argus ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคามโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ และสามารถตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วกว่าโซลูชันทั่วไปถึง 1,000 เท่า นอกจากนี้ยังสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรของโฮสต์ ทำให้มัลแวร์ไม่สามารถตรวจจับหรือปิดการทำงานของระบบได้

    Cisco ได้ร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อพัฒนา Secure AI Factory ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถปกป้องโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้ตั้งแต่เริ่มต้น

    ✅ การเปิดตัว DOCA Argus
    - เฟรมเวิร์กสำหรับตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบเรียลไทม์
    - ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคามโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ

    ✅ การทำงานบน NVIDIA BlueField
    - ช่วยปกป้องข้อมูลและการประมวลผล AI
    - ทำงานโดยไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรของโฮสต์

    ✅ ความร่วมมือกับ Cisco
    - พัฒนา Secure AI Factory เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถปกป้องโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้ตั้งแต่เริ่มต้น

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    - ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.techpowerup.com/336079/nvidia-bringing-cybersecurity-platform-to-every-ai-factory
    NVIDIA ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับ AI Factory โดยใช้ DOCA Argus ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กที่ช่วยตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ โดยทำงานบน NVIDIA BlueField ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเครือข่ายที่ช่วยปกป้องข้อมูลและการประมวลผล AI DOCA Argus ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคามโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ และสามารถตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วกว่าโซลูชันทั่วไปถึง 1,000 เท่า นอกจากนี้ยังสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรของโฮสต์ ทำให้มัลแวร์ไม่สามารถตรวจจับหรือปิดการทำงานของระบบได้ Cisco ได้ร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อพัฒนา Secure AI Factory ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถปกป้องโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้ตั้งแต่เริ่มต้น ✅ การเปิดตัว DOCA Argus - เฟรมเวิร์กสำหรับตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ - ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคามโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ ✅ การทำงานบน NVIDIA BlueField - ช่วยปกป้องข้อมูลและการประมวลผล AI - ทำงานโดยไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรของโฮสต์ ✅ ความร่วมมือกับ Cisco - พัฒนา Secure AI Factory เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถปกป้องโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้ตั้งแต่เริ่มต้น ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI - ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.techpowerup.com/336079/nvidia-bringing-cybersecurity-platform-to-every-ai-factory
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    NVIDIA Bringing Cybersecurity Platform to Every AI Factory
    As enterprises increasingly adopt AI, securing AI factories—where complex, agentic workflows are executed—has never been more critical. NVIDIA is bringing runtime cybersecurity to every AI factory with a new NVIDIA DOCA software framework, part of the NVIDIA cybersecurity AI platform. Running on the...
    0 Comments 0 Shares 191 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงความพยายามของนักพัฒนา Jonas Eschenburg ในการพอร์ตเกม Doom ให้สามารถเล่นได้บนเครื่อง Atari ST ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่เปิดตัวในปี 1985 โดยมีประสิทธิภาพต่ำกว่าเครื่องที่เกม Doom ถูกออกแบบมาให้เล่นในปี 1993 การพัฒนานี้แสดงถึงความท้าทายและความมุ่งมั่นในการนำเกมที่มีความต้องการสูงมาสู่แพลตฟอร์มที่มีข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์

    Eschenburg ได้เริ่มต้นการพัฒนาโดยใช้การจำลอง (emulation) และสามารถทำให้เกม Doom แสดงผลในโหมดสีเทาและมีเฟรมเรตต่ำ ต่อมาเขาได้ปรับปรุงให้เกมสามารถแสดงผลในโหมดสี 16 บิต พร้อมเอฟเฟกต์หน้าจอที่แสดงความเสียหายเมื่อผู้เล่นถูกโจมตี แม้ว่าการพอร์ตเกมนี้ยังคงมีข้อจำกัด เช่น การทำงานบนฮาร์ดแวร์จริงที่ยังเป็นเรื่องท้าทาย แต่การพัฒนาแสดงถึงความก้าวหน้าและความน่าสนใจในวงการเกม

    ✅ การเริ่มต้นพัฒนา
    - ใช้การจำลองเพื่อทำให้เกม Doom สามารถแสดงผลในโหมดสีเทา
    - เฟรมเรตต่ำและไม่มีเสียงในเวอร์ชันแรก

    ✅ การปรับปรุงและความก้าวหน้า
    - เพิ่มโหมดสี 16 บิตและเอฟเฟกต์หน้าจอที่แสดงความเสียหาย
    - การพัฒนาแสดงถึงความมุ่งมั่นและความท้าทายในการพอร์ตเกม

    ✅ ข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์ Atari ST
    - Atari ST มี CPU 8 MHz และ RAM สูงสุด 512 KB
    - เกม Doom ต้องการ CPU Intel 386 และ RAM 4 MB ในเวอร์ชันดั้งเดิม

    ✅ เป้าหมายของการพัฒนา
    - นำเกม Doom มาสู่แพลตฟอร์มที่มีข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์

    https://www.techspot.com/news/107713-atari-st-eight-years-early-doom-but-not.html
    บทความนี้กล่าวถึงความพยายามของนักพัฒนา Jonas Eschenburg ในการพอร์ตเกม Doom ให้สามารถเล่นได้บนเครื่อง Atari ST ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่เปิดตัวในปี 1985 โดยมีประสิทธิภาพต่ำกว่าเครื่องที่เกม Doom ถูกออกแบบมาให้เล่นในปี 1993 การพัฒนานี้แสดงถึงความท้าทายและความมุ่งมั่นในการนำเกมที่มีความต้องการสูงมาสู่แพลตฟอร์มที่มีข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ Eschenburg ได้เริ่มต้นการพัฒนาโดยใช้การจำลอง (emulation) และสามารถทำให้เกม Doom แสดงผลในโหมดสีเทาและมีเฟรมเรตต่ำ ต่อมาเขาได้ปรับปรุงให้เกมสามารถแสดงผลในโหมดสี 16 บิต พร้อมเอฟเฟกต์หน้าจอที่แสดงความเสียหายเมื่อผู้เล่นถูกโจมตี แม้ว่าการพอร์ตเกมนี้ยังคงมีข้อจำกัด เช่น การทำงานบนฮาร์ดแวร์จริงที่ยังเป็นเรื่องท้าทาย แต่การพัฒนาแสดงถึงความก้าวหน้าและความน่าสนใจในวงการเกม ✅ การเริ่มต้นพัฒนา - ใช้การจำลองเพื่อทำให้เกม Doom สามารถแสดงผลในโหมดสีเทา - เฟรมเรตต่ำและไม่มีเสียงในเวอร์ชันแรก ✅ การปรับปรุงและความก้าวหน้า - เพิ่มโหมดสี 16 บิตและเอฟเฟกต์หน้าจอที่แสดงความเสียหาย - การพัฒนาแสดงถึงความมุ่งมั่นและความท้าทายในการพอร์ตเกม ✅ ข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์ Atari ST - Atari ST มี CPU 8 MHz และ RAM สูงสุด 512 KB - เกม Doom ต้องการ CPU Intel 386 และ RAM 4 MB ในเวอร์ชันดั้งเดิม ✅ เป้าหมายของการพัฒนา - นำเกม Doom มาสู่แพลตฟอร์มที่มีข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ https://www.techspot.com/news/107713-atari-st-eight-years-early-doom-but-not.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    The Atari ST was eight years too early for Doom, but not anymore
    Augsburg-based indie developer Jonas "indyjo" Eschenburg recently began sharing early work on a native Doom port for the Atari ST. Although early clips reveal significant compromises, continued...
    0 Comments 0 Shares 83 Views 0 Reviews
  • IBM ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 150 พันล้านดอลลาร์ ในสหรัฐอเมริกาในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีและเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้านคอมพิวเตอร์ระดับโลก การลงทุนนี้รวมถึงการจัดสรรงบประมาณกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ สำหรับการวิจัยและพัฒนา โดยเน้นการผลิตคอมพิวเตอร์เมนเฟรมและควอนตัมในสหรัฐฯ

    IBM ยังมองว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมเป็นโอกาสสำคัญทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี โดยบริษัทมีแผนที่จะออกแบบและผลิตระบบควอนตัมในสหรัฐฯ เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันไม่สามารถจัดการได้ การลงทุนนี้ยังมุ่งเน้นการสร้างงาน เสริมความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ และเพิ่มความมั่นคงทางเทคโนโลยี

    ✅ มูลค่าการลงทุนและเป้าหมาย
    - ลงทุน 150 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ในช่วง 5 ปีข้างหน้า
    - จัดสรร 30 พันล้านดอลลาร์สำหรับการวิจัยและพัฒนา

    ✅ การผลิตในสหรัฐฯ
    - เน้นการผลิตคอมพิวเตอร์เมนเฟรมและควอนตัมในสหรัฐฯ
    - ระบบควอนตัมของ IBM ถูกมองว่าเป็นโอกาสสำคัญทางเศรษฐกิจ

    ✅ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและเทคโนโลยี
    - ช่วยสร้างงานและเสริมความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ
    - เพิ่มความมั่นคงทางเทคโนโลยี

    ✅ ความสำคัญของ IBM ในอดีตและปัจจุบัน
    - IBM เป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีสำคัญ เช่น ระบบข้อมูลสำหรับ Social Security และเทคโนโลยีที่ช่วยโครงการ Apollo

    https://www.neowin.net/news/ibm-announces-150-billion-investment-in-the-us-to-accelerate-technology-opportunity/
    IBM ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 150 พันล้านดอลลาร์ ในสหรัฐอเมริกาในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีและเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้านคอมพิวเตอร์ระดับโลก การลงทุนนี้รวมถึงการจัดสรรงบประมาณกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ สำหรับการวิจัยและพัฒนา โดยเน้นการผลิตคอมพิวเตอร์เมนเฟรมและควอนตัมในสหรัฐฯ IBM ยังมองว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมเป็นโอกาสสำคัญทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี โดยบริษัทมีแผนที่จะออกแบบและผลิตระบบควอนตัมในสหรัฐฯ เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันไม่สามารถจัดการได้ การลงทุนนี้ยังมุ่งเน้นการสร้างงาน เสริมความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ และเพิ่มความมั่นคงทางเทคโนโลยี ✅ มูลค่าการลงทุนและเป้าหมาย - ลงทุน 150 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ในช่วง 5 ปีข้างหน้า - จัดสรร 30 พันล้านดอลลาร์สำหรับการวิจัยและพัฒนา ✅ การผลิตในสหรัฐฯ - เน้นการผลิตคอมพิวเตอร์เมนเฟรมและควอนตัมในสหรัฐฯ - ระบบควอนตัมของ IBM ถูกมองว่าเป็นโอกาสสำคัญทางเศรษฐกิจ ✅ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและเทคโนโลยี - ช่วยสร้างงานและเสริมความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ - เพิ่มความมั่นคงทางเทคโนโลยี ✅ ความสำคัญของ IBM ในอดีตและปัจจุบัน - IBM เป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีสำคัญ เช่น ระบบข้อมูลสำหรับ Social Security และเทคโนโลยีที่ช่วยโครงการ Apollo https://www.neowin.net/news/ibm-announces-150-billion-investment-in-the-us-to-accelerate-technology-opportunity/
    WWW.NEOWIN.NET
    IBM announces $150 billion Investment in the US to 'accelerate technology opportunity'
    IBM has pledged a multi-billion-dollar investment in America over five years to boost the economy and lead in computing technology.
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Cornell ได้พัฒนาเฟรมเวิร์ก AI ที่ชื่อว่า RHyME (Retrieval for Hybrid Imitation under Mismatched Execution) ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว โดยเฟรมเวิร์กนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการสอนหุ่นยนต์ที่เคยต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสาธิตทีละขั้นตอน

    RHyME ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน เมื่อหุ่นยนต์ดูวิดีโอการสาธิตใหม่ เช่น การวางแก้วในอ่างล้างจาน หุ่นยนต์จะค้นหาข้อมูลที่คล้ายกันในหน่วยความจำ เช่น การหยิบแก้วหรือการวางวัตถุ และนำข้อมูลเหล่านั้นมาประกอบกันเพื่อทำงานใหม่ได้สำเร็จ แม้จะไม่เคยเห็นสถานการณ์นั้นมาก่อน

    การทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่าหุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าหุ่นยนต์ที่ใช้วิธีการเรียนรู้แบบเดิมถึง 50% และใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที เทียบกับวิธีเดิมที่ต้องใช้เวลาหลายพันชั่วโมง

    ✅ การเรียนรู้ทักษะใหม่
    - หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว
    - ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน

    ✅ การทดสอบในห้องปฏิบัติการ
    - หุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าวิธีเดิมถึง 50%
    - ใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที

    ✅ การสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ
    - โครงการได้รับการสนับสนุนจาก Google, OpenAI, สำนักงานวิจัยกองทัพเรือสหรัฐฯ และมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

    ✅ การนำเสนอผลงาน
    - ทีมวิจัยจะนำเสนอผลงานในงาน IEEE International Conference on Robotics and Automation

    https://www.techspot.com/news/107694-robots-use-cornell-rhyme-ai-learn-new-skills.html
    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Cornell ได้พัฒนาเฟรมเวิร์ก AI ที่ชื่อว่า RHyME (Retrieval for Hybrid Imitation under Mismatched Execution) ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว โดยเฟรมเวิร์กนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการสอนหุ่นยนต์ที่เคยต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสาธิตทีละขั้นตอน RHyME ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน เมื่อหุ่นยนต์ดูวิดีโอการสาธิตใหม่ เช่น การวางแก้วในอ่างล้างจาน หุ่นยนต์จะค้นหาข้อมูลที่คล้ายกันในหน่วยความจำ เช่น การหยิบแก้วหรือการวางวัตถุ และนำข้อมูลเหล่านั้นมาประกอบกันเพื่อทำงานใหม่ได้สำเร็จ แม้จะไม่เคยเห็นสถานการณ์นั้นมาก่อน การทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่าหุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าหุ่นยนต์ที่ใช้วิธีการเรียนรู้แบบเดิมถึง 50% และใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที เทียบกับวิธีเดิมที่ต้องใช้เวลาหลายพันชั่วโมง ✅ การเรียนรู้ทักษะใหม่ - หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว - ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน ✅ การทดสอบในห้องปฏิบัติการ - หุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าวิธีเดิมถึง 50% - ใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที ✅ การสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ - โครงการได้รับการสนับสนุนจาก Google, OpenAI, สำนักงานวิจัยกองทัพเรือสหรัฐฯ และมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ✅ การนำเสนอผลงาน - ทีมวิจัยจะนำเสนอผลงานในงาน IEEE International Conference on Robotics and Automation https://www.techspot.com/news/107694-robots-use-cornell-rhyme-ai-learn-new-skills.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Robots use Cornell's RHyME AI to learn new skills by watching just one video
    Researchers at Cornell University are now charting a new course with RHyME, an artificial intelligence framework that dramatically streamlines robot learning. An acronym for Retrieval for Hybrid...
    0 Comments 0 Shares 236 Views 0 Reviews
  • หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการให้จับตาทริปเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ซึ่งเป็นทริป 2 ครอบครัว ระหว่าง “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” และ “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” ซึ่งเป็นทริปที่มีการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้า ก่อนที่โตโน่จะมีประเด็นนอกใจณิชาไปกิ๊กกับ “มายด์ พัชรบุษย์” และก่อนหน้านี้วงในได้เผยว่าครอบครัวณิชา ได้คืนตั๋วไปเรียบร้อยแล้ว ชาวเน็ตไม่ต้องห่วงว่าจะกินอาหารหมา

    ล่าสุดมีภาพทริปเซี่ยงไฮ้ของโตโน่กับครอบครัวออกมาแล้วจากอินสตาแกรมของ “ณัฐ ศิวาวุธ” แฟนหนุ่มของ “ต้องตา” น้องสาวของโตโน่ โดยในเฟรมมี โตโน่ น้องสาว , แฟนน้องสาว, คุณแม่น้อย และเทรนเนอร์เพื่อนสนิทของโตโน่ที่มากับครอบครัว ไร้ภาพครอบครัวของณิชา เป็นอันว่าข่าวจากวงในก็ไม่ใช่ข่าวลือ ขณะที่สังเกตสีหน้าโตโน่ ก็ไม่ได้ดูสดใสเหมือนเคย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000039218

    #MGROnline #โตโน่ภาคิน
    หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการให้จับตาทริปเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ซึ่งเป็นทริป 2 ครอบครัว ระหว่าง “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” และ “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” ซึ่งเป็นทริปที่มีการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้า ก่อนที่โตโน่จะมีประเด็นนอกใจณิชาไปกิ๊กกับ “มายด์ พัชรบุษย์” และก่อนหน้านี้วงในได้เผยว่าครอบครัวณิชา ได้คืนตั๋วไปเรียบร้อยแล้ว ชาวเน็ตไม่ต้องห่วงว่าจะกินอาหารหมา • ล่าสุดมีภาพทริปเซี่ยงไฮ้ของโตโน่กับครอบครัวออกมาแล้วจากอินสตาแกรมของ “ณัฐ ศิวาวุธ” แฟนหนุ่มของ “ต้องตา” น้องสาวของโตโน่ โดยในเฟรมมี โตโน่ น้องสาว , แฟนน้องสาว, คุณแม่น้อย และเทรนเนอร์เพื่อนสนิทของโตโน่ที่มากับครอบครัว ไร้ภาพครอบครัวของณิชา เป็นอันว่าข่าวจากวงในก็ไม่ใช่ข่าวลือ ขณะที่สังเกตสีหน้าโตโน่ ก็ไม่ได้ดูสดใสเหมือนเคย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000039218 • #MGROnline #โตโน่ภาคิน
    0 Comments 0 Shares 349 Views 0 Reviews
  • Fujifilm ได้เปิดตัวทีเซอร์สำหรับกล้องดิจิทัลแบบครึ่งเฟรม (half-frame) รุ่นใหม่ที่อาจใช้ชื่อว่า X-Half โดยกล้องนี้มีการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่ ทีเซอร์นี้มาพร้อมกับคำโปรยว่า "Half the Size, Twice the Story" ซึ่งบ่งบอกถึงความสามารถในการถ่ายภาพในรูปแบบครึ่งเฟรมที่ช่วยเพิ่มจำนวนภาพต่อม้วนฟิล์ม

    ✅ กล้องครึ่งเฟรมที่ผสมผสานความคลาสสิกและดิจิทัล
    - ใช้การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกล้องฟิล์ม 35 มม.
    - มีหน้าจอ LCD แนวตั้งที่ช่วยในการจัดองค์ประกอบภาพ

    ✅ รองรับการถ่ายภาพในรูปแบบครึ่งเฟรม
    - สามารถถ่ายภาพสองภาพในเฟรมเดียวของฟิล์ม 35 มม.
    - เหมาะสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ต้องการภาพแนวตั้งสำหรับโซเชียลมีเดีย

    ✅ การออกแบบที่เน้นความคลาสสิกและการใช้งานง่าย
    - มีปุ่มควบคุมแบบ manual และช่องมองภาพแบบ optical
    - อาจมีหน้าจอแสดงผลฟิล์มจำลอง (film simulation) ที่ด้านหลัง

    ✅ การใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้ว
    - ช่วยให้สามารถสร้างภาพแบบ diptych หรือภาพสองภาพในเฟรมเดียว

    https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/fujifilm-has-officially-teased-its-unique-half-frame-camera-and-there-could-be-a-secret-screen
    Fujifilm ได้เปิดตัวทีเซอร์สำหรับกล้องดิจิทัลแบบครึ่งเฟรม (half-frame) รุ่นใหม่ที่อาจใช้ชื่อว่า X-Half โดยกล้องนี้มีการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่ ทีเซอร์นี้มาพร้อมกับคำโปรยว่า "Half the Size, Twice the Story" ซึ่งบ่งบอกถึงความสามารถในการถ่ายภาพในรูปแบบครึ่งเฟรมที่ช่วยเพิ่มจำนวนภาพต่อม้วนฟิล์ม ✅ กล้องครึ่งเฟรมที่ผสมผสานความคลาสสิกและดิจิทัล - ใช้การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกล้องฟิล์ม 35 มม. - มีหน้าจอ LCD แนวตั้งที่ช่วยในการจัดองค์ประกอบภาพ ✅ รองรับการถ่ายภาพในรูปแบบครึ่งเฟรม - สามารถถ่ายภาพสองภาพในเฟรมเดียวของฟิล์ม 35 มม. - เหมาะสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ต้องการภาพแนวตั้งสำหรับโซเชียลมีเดีย ✅ การออกแบบที่เน้นความคลาสสิกและการใช้งานง่าย - มีปุ่มควบคุมแบบ manual และช่องมองภาพแบบ optical - อาจมีหน้าจอแสดงผลฟิล์มจำลอง (film simulation) ที่ด้านหลัง ✅ การใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้ว - ช่วยให้สามารถสร้างภาพแบบ diptych หรือภาพสองภาพในเฟรมเดียว https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/fujifilm-has-officially-teased-its-unique-half-frame-camera-and-there-could-be-a-secret-screen
    0 Comments 0 Shares 174 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงผลกระทบของ Generative AI ต่อการแก้ไขช่องโหว่ที่พบในกระบวนการทดสอบเจาะระบบ (Penetration Testing) โดยพบว่าองค์กรส่วนใหญ่ยังคงมีปัญหาในการแก้ไขช่องโหว่ที่ถูกระบุ แม้จะมีการปรับปรุงกระบวนการแก้ไขช่องโหว่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่การพัฒนาแอปพลิเคชันที่ใช้ Generative AI กลับเพิ่มความซับซ้อนในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้

    ✅ องค์กรแก้ไขช่องโหว่ที่พบใน Penetration Testing ได้เพียง 48%
    - ช่องโหว่ที่เกี่ยวข้องกับแอป Generative AI ถูกแก้ไขเพียง 21%
    - ช่องโหว่ที่มีความรุนแรงสูงหรือวิกฤตมีอัตราการแก้ไขสูงถึง 69%

    ✅ Generative AI เพิ่มความซับซ้อนในการแก้ไขช่องโหว่
    - แอป Generative AI มักถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วโดยใช้เครื่องมือและเฟรมเวิร์กใหม่ที่ยังไม่ได้รับการทดสอบอย่างเต็มที่
    - ช่องโหว่ในโมเดล AI เช่น Prompt Injection และ Data Leakage มีความยากในการแก้ไข

    ✅ องค์กรต้องเผชิญกับแรงกดดันในการให้ความสำคัญกับความเร็วมากกว่าความปลอดภัย
    - ผู้บริหารด้านความปลอดภัยกว่า 52% ระบุว่าต้องให้ความสำคัญกับความเร็วในการพัฒนาแอปมากกว่าความปลอดภัย

    ✅ การแก้ไขช่องโหว่ในโมเดล AI มีความซับซ้อนมากกว่าการแก้ไขในแอปทั่วไป
    - การปรับปรุงโมเดล AI เพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะกำจัดปัญหาได้ทั้งหมด

    https://www.csoonline.com/article/3965405/generative-ai-is-making-pen-test-vulnerability-remediation-much-worse.html
    บทความนี้กล่าวถึงผลกระทบของ Generative AI ต่อการแก้ไขช่องโหว่ที่พบในกระบวนการทดสอบเจาะระบบ (Penetration Testing) โดยพบว่าองค์กรส่วนใหญ่ยังคงมีปัญหาในการแก้ไขช่องโหว่ที่ถูกระบุ แม้จะมีการปรับปรุงกระบวนการแก้ไขช่องโหว่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่การพัฒนาแอปพลิเคชันที่ใช้ Generative AI กลับเพิ่มความซับซ้อนในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ✅ องค์กรแก้ไขช่องโหว่ที่พบใน Penetration Testing ได้เพียง 48% - ช่องโหว่ที่เกี่ยวข้องกับแอป Generative AI ถูกแก้ไขเพียง 21% - ช่องโหว่ที่มีความรุนแรงสูงหรือวิกฤตมีอัตราการแก้ไขสูงถึง 69% ✅ Generative AI เพิ่มความซับซ้อนในการแก้ไขช่องโหว่ - แอป Generative AI มักถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วโดยใช้เครื่องมือและเฟรมเวิร์กใหม่ที่ยังไม่ได้รับการทดสอบอย่างเต็มที่ - ช่องโหว่ในโมเดล AI เช่น Prompt Injection และ Data Leakage มีความยากในการแก้ไข ✅ องค์กรต้องเผชิญกับแรงกดดันในการให้ความสำคัญกับความเร็วมากกว่าความปลอดภัย - ผู้บริหารด้านความปลอดภัยกว่า 52% ระบุว่าต้องให้ความสำคัญกับความเร็วในการพัฒนาแอปมากกว่าความปลอดภัย ✅ การแก้ไขช่องโหว่ในโมเดล AI มีความซับซ้อนมากกว่าการแก้ไขในแอปทั่วไป - การปรับปรุงโมเดล AI เพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะกำจัดปัญหาได้ทั้งหมด https://www.csoonline.com/article/3965405/generative-ai-is-making-pen-test-vulnerability-remediation-much-worse.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Generative AI is making pen-test vulnerability remediation much worse
    Organizations already struggle to fix flaws discovered during penetration testing. Gen AI apps bring added complexity and the need for greater expertise.
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้เปิดตัว BitNet b1.58 2B4T ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้หน่วยความจำเพียง 400MB โดยไม่ต้องใช้ GPU โมเดลนี้ใช้เทคนิค ternary quantization ซึ่งช่วยลดขนาดของโมเดลโดยใช้เพียง -1, 0 และ +1 แทนค่าถ่วงน้ำหนักแบบดั้งเดิม ทำให้สามารถทำงานบนฮาร์ดแวร์มาตรฐาน เช่น Apple M2 chip ได้อย่างราบรื่น

    ✅ BitNet ใช้หน่วยความจำเพียง 400MB และไม่ต้องใช้ GPU
    - สามารถทำงานบน CPU มาตรฐานโดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ AI เฉพาะทาง
    - ใช้พลังงานน้อยกว่ารุ่นอื่นถึง 85-96%

    ✅ ใช้เทคนิค ternary quantization เพื่อลดขนาดโมเดล
    - แทนค่าถ่วงน้ำหนักด้วย -1, 0 และ +1 แทนที่จะใช้ตัวเลขทศนิยมแบบ 16 หรือ 32 บิต
    - ช่วยให้โมเดลมีประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยไม่สูญเสียความแม่นยำ

    ✅ BitNet มีพารามิเตอร์ 2 พันล้านตัวและถูกฝึกด้วยข้อมูล 4 ล้านล้านโทเค็น
    - เทียบเท่ากับเนื้อหาของหนังสือ 33 ล้านเล่ม
    - สามารถแข่งขันกับโมเดลชั้นนำ เช่น Llama 3.2 1B, Gemma 3 1B และ Qwen 2.5 1.5B

    ✅ สามารถทำงานบนเฟรมเวิร์ก bitnet.cpp ที่พัฒนาโดย Microsoft
    - เฟรมเวิร์กนี้ช่วยให้โมเดลทำงานได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรน้อยลง
    - รองรับเฉพาะ CPU ในปัจจุบัน แต่มีแผนที่จะเพิ่มการรองรับฮาร์ดแวร์อื่นๆ ในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/107617-microsoft-bitnet-shows-what-ai-can-do-400mb.html
    Microsoft ได้เปิดตัว BitNet b1.58 2B4T ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้หน่วยความจำเพียง 400MB โดยไม่ต้องใช้ GPU โมเดลนี้ใช้เทคนิค ternary quantization ซึ่งช่วยลดขนาดของโมเดลโดยใช้เพียง -1, 0 และ +1 แทนค่าถ่วงน้ำหนักแบบดั้งเดิม ทำให้สามารถทำงานบนฮาร์ดแวร์มาตรฐาน เช่น Apple M2 chip ได้อย่างราบรื่น ✅ BitNet ใช้หน่วยความจำเพียง 400MB และไม่ต้องใช้ GPU - สามารถทำงานบน CPU มาตรฐานโดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ AI เฉพาะทาง - ใช้พลังงานน้อยกว่ารุ่นอื่นถึง 85-96% ✅ ใช้เทคนิค ternary quantization เพื่อลดขนาดโมเดล - แทนค่าถ่วงน้ำหนักด้วย -1, 0 และ +1 แทนที่จะใช้ตัวเลขทศนิยมแบบ 16 หรือ 32 บิต - ช่วยให้โมเดลมีประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยไม่สูญเสียความแม่นยำ ✅ BitNet มีพารามิเตอร์ 2 พันล้านตัวและถูกฝึกด้วยข้อมูล 4 ล้านล้านโทเค็น - เทียบเท่ากับเนื้อหาของหนังสือ 33 ล้านเล่ม - สามารถแข่งขันกับโมเดลชั้นนำ เช่น Llama 3.2 1B, Gemma 3 1B และ Qwen 2.5 1.5B ✅ สามารถทำงานบนเฟรมเวิร์ก bitnet.cpp ที่พัฒนาโดย Microsoft - เฟรมเวิร์กนี้ช่วยให้โมเดลทำงานได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรน้อยลง - รองรับเฉพาะ CPU ในปัจจุบัน แต่มีแผนที่จะเพิ่มการรองรับฮาร์ดแวร์อื่นๆ ในอนาคต https://www.techspot.com/news/107617-microsoft-bitnet-shows-what-ai-can-do-400mb.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft's BitNet shows what AI can do with just 400MB and no GPU
    The BitNet b1.58 2B4T model was developed by Microsoft's General Artificial Intelligence group and contains two billion parameters – internal values that enable the model to understand...
    0 Comments 0 Shares 222 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึง FramePack ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมใหม่ที่ช่วยให้การสร้างวิดีโอด้วย AI สามารถทำได้บน GPU สำหรับเล่นเกมที่มีหน่วยความจำเพียง 6GB VRAM โดย FramePack ใช้เทคนิคการบีบอัดเฟรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้หน่วยความจำ GPU ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถสร้างวิดีโอ AI ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ที่มีค่าใช้จ่ายสูง

    ✅ FramePack ช่วยให้การสร้างวิดีโอ AI ทำได้บน GPU ที่มี VRAM เพียง 6GB
    - ใช้เทคนิคการบีบอัดเฟรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้หน่วยความจำ
    - รองรับ GPU รุ่น RTX 30/40/50 ที่มีการสนับสนุน FP16 และ BF16

    ✅ FramePack ใช้สถาปัตยกรรมที่ลดการใช้หน่วยความจำ GPU
    - บีบอัดเฟรมตามความสำคัญเพื่อให้ได้ความยาวคอนเท็กซ์ที่เหมาะสม
    - ลดปัญหา "drifting" ที่ทำให้คุณภาพวิดีโอลดลงเมื่อวิดีโอมีความยาวมากขึ้น

    ✅ สามารถสร้างวิดีโอคุณภาพสูงได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์
    - ช่วยลดค่าใช้จ่ายและทำให้การสร้างวิดีโอ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

    ✅ เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การสร้าง GIF และมีม
    - แม้ไม่ใช่ครีเอเตอร์มืออาชีพ ก็สามารถใช้งาน FramePack เพื่อความบันเทิงได้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/framepack-can-generate-ai-videos-locally-with-just-6gb-of-vram
    บทความนี้กล่าวถึง FramePack ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมใหม่ที่ช่วยให้การสร้างวิดีโอด้วย AI สามารถทำได้บน GPU สำหรับเล่นเกมที่มีหน่วยความจำเพียง 6GB VRAM โดย FramePack ใช้เทคนิคการบีบอัดเฟรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้หน่วยความจำ GPU ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถสร้างวิดีโอ AI ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ที่มีค่าใช้จ่ายสูง ✅ FramePack ช่วยให้การสร้างวิดีโอ AI ทำได้บน GPU ที่มี VRAM เพียง 6GB - ใช้เทคนิคการบีบอัดเฟรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้หน่วยความจำ - รองรับ GPU รุ่น RTX 30/40/50 ที่มีการสนับสนุน FP16 และ BF16 ✅ FramePack ใช้สถาปัตยกรรมที่ลดการใช้หน่วยความจำ GPU - บีบอัดเฟรมตามความสำคัญเพื่อให้ได้ความยาวคอนเท็กซ์ที่เหมาะสม - ลดปัญหา "drifting" ที่ทำให้คุณภาพวิดีโอลดลงเมื่อวิดีโอมีความยาวมากขึ้น ✅ สามารถสร้างวิดีโอคุณภาพสูงได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ - ช่วยลดค่าใช้จ่ายและทำให้การสร้างวิดีโอ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ✅ เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การสร้าง GIF และมีม - แม้ไม่ใช่ครีเอเตอร์มืออาชีพ ก็สามารถใช้งาน FramePack เพื่อความบันเทิงได้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/framepack-can-generate-ai-videos-locally-with-just-6gb-of-vram
    0 Comments 0 Shares 281 Views 0 Reviews
  • Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้าง วิดีโอ AI ผ่าน Gemini chatbot และ Whisk ซึ่งเป็นเครื่องมือทดลองที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยใช้โมเดล Veo 2 ที่พัฒนาโดย Google DeepMind

    ✅ Google เปิดตัวฟีเจอร์สร้างวิดีโอ AI ผ่าน Gemini และ Whisk
    - ใช้โมเดล Veo 2 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของ Google DeepMind
    - สามารถสร้างวิดีโอ 8 วินาที ในความละเอียด 720p (16:9 aspect ratio)

    ✅ การใช้งานผ่าน Gemini Advanced
    - ผู้ใช้สามารถเลือก Veo 2 จากเมนูโมเดลใน Gemini
    - พิมพ์คำอธิบายฉากที่ต้องการ และ AI จะสร้างวิดีโอให้

    ✅ Whisk Animate: ฟีเจอร์ใหม่สำหรับการสร้างวิดีโอจากภาพ
    - ใช้ Veo 2 ในการแปลงภาพนิ่งเป็นวิดีโอ 8 วินาที
    - เปิดให้ใช้งานสำหรับ Google One AI Premium subscribers

    ✅ การแชร์วิดีโอไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ
    - Google มีตัวเลือกให้แชร์วิดีโอไปยัง YouTube Shorts และ TikTok ได้โดยตรง

    ✅ มาตรการป้องกันการใช้ AI ในทางที่ผิด
    - วิดีโอที่สร้างด้วย Veo 2 จะมี SynthID watermark ฝังอยู่ในทุกเฟรม เพื่อระบุว่าเป็นวิดีโอที่สร้างโดย AI

    ℹ️ ข้อจำกัดในการสร้างวิดีโอ
    - Google จำกัดจำนวนวิดีโอที่สามารถสร้างได้ต่อเดือน เพื่อป้องกันการใช้ทรัพยากร GPU มากเกินไป

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมวิดีโอและครีเอเตอร์
    - เทคโนโลยีนี้อาจส่งผลต่อ ผู้ผลิตวิดีโอและนักสร้างคอนเทนต์ ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับ AI

    ℹ️ แนวโน้มของ AI ในการสร้างวิดีโอ
    - Google อาจพัฒนา Veo 3 ในอนาคตเพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างวิดีโอที่ซับซ้อนขึ้น

    https://www.neowin.net/news/you-can-now-generate-ai-videos-in-google-gemini-and-whisk/
    Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้าง วิดีโอ AI ผ่าน Gemini chatbot และ Whisk ซึ่งเป็นเครื่องมือทดลองที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยใช้โมเดล Veo 2 ที่พัฒนาโดย Google DeepMind ✅ Google เปิดตัวฟีเจอร์สร้างวิดีโอ AI ผ่าน Gemini และ Whisk - ใช้โมเดล Veo 2 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของ Google DeepMind - สามารถสร้างวิดีโอ 8 วินาที ในความละเอียด 720p (16:9 aspect ratio) ✅ การใช้งานผ่าน Gemini Advanced - ผู้ใช้สามารถเลือก Veo 2 จากเมนูโมเดลใน Gemini - พิมพ์คำอธิบายฉากที่ต้องการ และ AI จะสร้างวิดีโอให้ ✅ Whisk Animate: ฟีเจอร์ใหม่สำหรับการสร้างวิดีโอจากภาพ - ใช้ Veo 2 ในการแปลงภาพนิ่งเป็นวิดีโอ 8 วินาที - เปิดให้ใช้งานสำหรับ Google One AI Premium subscribers ✅ การแชร์วิดีโอไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ - Google มีตัวเลือกให้แชร์วิดีโอไปยัง YouTube Shorts และ TikTok ได้โดยตรง ✅ มาตรการป้องกันการใช้ AI ในทางที่ผิด - วิดีโอที่สร้างด้วย Veo 2 จะมี SynthID watermark ฝังอยู่ในทุกเฟรม เพื่อระบุว่าเป็นวิดีโอที่สร้างโดย AI ℹ️ ข้อจำกัดในการสร้างวิดีโอ - Google จำกัดจำนวนวิดีโอที่สามารถสร้างได้ต่อเดือน เพื่อป้องกันการใช้ทรัพยากร GPU มากเกินไป ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมวิดีโอและครีเอเตอร์ - เทคโนโลยีนี้อาจส่งผลต่อ ผู้ผลิตวิดีโอและนักสร้างคอนเทนต์ ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับ AI ℹ️ แนวโน้มของ AI ในการสร้างวิดีโอ - Google อาจพัฒนา Veo 3 ในอนาคตเพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างวิดีโอที่ซับซ้อนขึ้น https://www.neowin.net/news/you-can-now-generate-ai-videos-in-google-gemini-and-whisk/
    WWW.NEOWIN.NET
    You can now generate AI videos in Google Gemini and Whisk
    Google is rolling out new video generation capabilities to the Gemini chatbot and the Labs experiment Whisk.
    0 Comments 0 Shares 339 Views 0 Reviews
  • Nvidia RTX 5060 Ti ซึ่งยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ได้มีการรั่วไหลของข้อมูลการทดสอบประสิทธิภาพที่แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า RTX 4060 Ti โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีราคาถูกกว่า แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับราคาที่อาจเพิ่มขึ้นในตลาด GPU ปัจจุบัน

    ✅ การปรับปรุงประสิทธิภาพ:
    - RTX 5060 Ti มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 14% เมื่อเทียบกับ RTX 4060 Ti ในการทดสอบด้วย Vulkan API
    - GPU รุ่นใหม่นี้มีฟีเจอร์ Multi-Frame Generation ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมด้วยการสร้างเฟรมเพิ่มเติมโดยใช้ AI

    ✅ ความจุ VRAM:
    - RTX 5060 Ti มีรุ่น 16GB และ 8GB ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับ RTX 5070 ที่มี VRAM 12GB

    ✅ ความกังวลด้านราคา:
    - แม้จะมีการคาดการณ์ว่าราคาจะถูกกว่า RTX 4060 Ti แต่ตลาด GPU ปัจจุบันยังคงมีปัญหาเรื่องราคาที่สูงเกินไป

    ✅ การเปิดตัว:
    - มีการคาดการณ์ว่า RTX 5060 Ti จะเปิดตัวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

    https://www.techradar.com/computing/gpu/nvidia-rtx-5060-ti-benchmark-leak-hints-at-performance-boost-over-its-predecessor-but-it-wont-matter-if-it-doesnt-stay-at-retail-price
    Nvidia RTX 5060 Ti ซึ่งยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ได้มีการรั่วไหลของข้อมูลการทดสอบประสิทธิภาพที่แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า RTX 4060 Ti โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีราคาถูกกว่า แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับราคาที่อาจเพิ่มขึ้นในตลาด GPU ปัจจุบัน ✅ การปรับปรุงประสิทธิภาพ: - RTX 5060 Ti มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 14% เมื่อเทียบกับ RTX 4060 Ti ในการทดสอบด้วย Vulkan API - GPU รุ่นใหม่นี้มีฟีเจอร์ Multi-Frame Generation ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมด้วยการสร้างเฟรมเพิ่มเติมโดยใช้ AI ✅ ความจุ VRAM: - RTX 5060 Ti มีรุ่น 16GB และ 8GB ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับ RTX 5070 ที่มี VRAM 12GB ✅ ความกังวลด้านราคา: - แม้จะมีการคาดการณ์ว่าราคาจะถูกกว่า RTX 4060 Ti แต่ตลาด GPU ปัจจุบันยังคงมีปัญหาเรื่องราคาที่สูงเกินไป ✅ การเปิดตัว: - มีการคาดการณ์ว่า RTX 5060 Ti จะเปิดตัวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า https://www.techradar.com/computing/gpu/nvidia-rtx-5060-ti-benchmark-leak-hints-at-performance-boost-over-its-predecessor-but-it-wont-matter-if-it-doesnt-stay-at-retail-price
    0 Comments 0 Shares 211 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้เปิดตัว WHAMM (World and Human Action MaskGIT Model) ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่สามารถสร้างเฟรมของเกม Quake II แบบเรียลไทม์ โดยมีเป้าหมายเพื่อสำรวจศักยภาพของ AI ในการพัฒนาเกม อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ได้รับทั้งคำชื่นชมและคำวิจารณ์จากผู้คนในวงการ

    🌐 จุดเด่นของ WHAMM AI Quake Demo:
    🕹️ การสร้างเฟรมแบบเรียลไทม์: AI สามารถสร้างเฟรมของเกม Quake II ได้ในขณะที่เล่นผ่านเบราว์เซอร์

    💡 การสำรวจเทคโนโลยี: Microsoft ระบุว่าโครงการนี้ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อแทนที่เกมต้นฉบับ แต่เพื่อทดลองความสามารถของ AI ในการสร้างเกม

    ⚠️ คำวิจารณ์และการป้องกัน:
    🎯 ข้อกังวลจากนักพัฒนา: บางคนมองว่าเทคโนโลยีนี้อาจลดคุณค่าของงานนักพัฒนาเกม และอาจส่งผลกระทบต่ออาชีพในวงการ

    🛠️ การป้องกันจากผู้เชี่ยวชาญ: John Carmack ผู้ร่วมสร้าง Quake และ Tim Sweeney CEO ของ Epic Games ชี้ว่า AI เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับนักพัฒนา และไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อแทนที่มนุษย์

    https://www.techspot.com/news/107483-john-carmack-tim-sweeney-defend-microsoft-whamm-ai.html
    Microsoft ได้เปิดตัว WHAMM (World and Human Action MaskGIT Model) ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่สามารถสร้างเฟรมของเกม Quake II แบบเรียลไทม์ โดยมีเป้าหมายเพื่อสำรวจศักยภาพของ AI ในการพัฒนาเกม อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ได้รับทั้งคำชื่นชมและคำวิจารณ์จากผู้คนในวงการ 🌐 จุดเด่นของ WHAMM AI Quake Demo: 🕹️ การสร้างเฟรมแบบเรียลไทม์: AI สามารถสร้างเฟรมของเกม Quake II ได้ในขณะที่เล่นผ่านเบราว์เซอร์ 💡 การสำรวจเทคโนโลยี: Microsoft ระบุว่าโครงการนี้ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อแทนที่เกมต้นฉบับ แต่เพื่อทดลองความสามารถของ AI ในการสร้างเกม ⚠️ คำวิจารณ์และการป้องกัน: 🎯 ข้อกังวลจากนักพัฒนา: บางคนมองว่าเทคโนโลยีนี้อาจลดคุณค่าของงานนักพัฒนาเกม และอาจส่งผลกระทบต่ออาชีพในวงการ 🛠️ การป้องกันจากผู้เชี่ยวชาญ: John Carmack ผู้ร่วมสร้าง Quake และ Tim Sweeney CEO ของ Epic Games ชี้ว่า AI เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับนักพัฒนา และไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อแทนที่มนุษย์ https://www.techspot.com/news/107483-john-carmack-tim-sweeney-defend-microsoft-whamm-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    John Carmack and Tim Sweeney defend Microsoft's WHAMM AI Quake demo
    Last week, Microsoft released a tech demo of its WHAMM (World and Human Action MaskGIT Model) "game engine." The research project showed that the model could generate...
    0 Comments 0 Shares 216 Views 0 Reviews
More Results