• บริษัท Samsung Electronics ประกาศเสนอชื่อผู้บริหารฝ่ายธุรกิจชิป Jun Young-hyun และ Chief Technology Officer Song Jai-hyuk เข้าร่วมคณะกรรมการบริหารของบริษัท โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ที่กำลังประสบปัญหา นอกจากนี้ยังเสนอชื่อ ศาสตราจารย์ Lee Hyuk-jae จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลเป็นกรรมการบริหารภายนอก ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชิปและเป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยเซมิคอนดักเตอร์ของมหาวิทยาลัย

    การเปลี่ยนแปลงนี้มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของ Samsung ที่พยายามกลับมาเป็นผู้นำตลาดอีกครั้ง หลังจากที่เสียตำแหน่งให้กับคู่แข่งภายในประเทศอย่าง SK Hynix ในด้านชิป HBM ที่ใช้ในหน่วยประมวลผลกราฟิก AI ของ Nvidia การเสนอชื่อผู้บริหารใหม่จะต้องผ่านการอนุมัติในที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 มีนาคม

    เรื่องที่น่าสนใจคือการที่ Samsung พยายามกลับมาเป็นผู้นำในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเซมิคอนดักเตอร์เป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีหลายๆ อย่างในยุคปัจจุบัน ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงรถยนต์อัจฉริยะ ความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจนี้จึงมีผลกระทบอย่างมากต่อทั้งบริษัทและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั้งหมด

    ในขณะนี้ Samsung กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่เข้มข้นจากคู่แข่งหลายราย ไม่ว่าจะเป็นในประเทศอย่าง SK Hynix หรือบริษัทระดับโลกอย่าง Intel และ TSMC การเสริมความแข็งแกร่งในการบริหารธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเพื่อความอยู่รอดและความสำเร็จในอนาคตของบริษัท.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/18/samsung-electronics-nominates-chip-execs-as-new-board-members
    บริษัท Samsung Electronics ประกาศเสนอชื่อผู้บริหารฝ่ายธุรกิจชิป Jun Young-hyun และ Chief Technology Officer Song Jai-hyuk เข้าร่วมคณะกรรมการบริหารของบริษัท โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ที่กำลังประสบปัญหา นอกจากนี้ยังเสนอชื่อ ศาสตราจารย์ Lee Hyuk-jae จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลเป็นกรรมการบริหารภายนอก ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชิปและเป็นหัวหน้าศูนย์วิจัยเซมิคอนดักเตอร์ของมหาวิทยาลัย การเปลี่ยนแปลงนี้มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของ Samsung ที่พยายามกลับมาเป็นผู้นำตลาดอีกครั้ง หลังจากที่เสียตำแหน่งให้กับคู่แข่งภายในประเทศอย่าง SK Hynix ในด้านชิป HBM ที่ใช้ในหน่วยประมวลผลกราฟิก AI ของ Nvidia การเสนอชื่อผู้บริหารใหม่จะต้องผ่านการอนุมัติในที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 มีนาคม เรื่องที่น่าสนใจคือการที่ Samsung พยายามกลับมาเป็นผู้นำในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเซมิคอนดักเตอร์เป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีหลายๆ อย่างในยุคปัจจุบัน ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงรถยนต์อัจฉริยะ ความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจนี้จึงมีผลกระทบอย่างมากต่อทั้งบริษัทและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั้งหมด ในขณะนี้ Samsung กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่เข้มข้นจากคู่แข่งหลายราย ไม่ว่าจะเป็นในประเทศอย่าง SK Hynix หรือบริษัทระดับโลกอย่าง Intel และ TSMC การเสริมความแข็งแกร่งในการบริหารธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเพื่อความอยู่รอดและความสำเร็จในอนาคตของบริษัท. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/18/samsung-electronics-nominates-chip-execs-as-new-board-members
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Samsung Electronics nominates chip execs as new board members
    SEOUL (Reuters) - Samsung Electronics on Tuesday nominated its chip business chief Jun Young-hyun and Chief Technology Officer Song Jai-hyuk to join its board, as the tech giant looks to boost competitiveness in its struggling semiconductor business.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว

  • ประธานาธิบดี สีจิ้นผิงจะจัดประชุมสัมมนาสุดยอดผู้นำเทคโนโลยีของจีน งานนี้เชิญแจ๊ก หม่ากลับคืนเวที ถือเป็นกลยุทธ์การระดมความรู้และความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนที่มีบทบาทนำการพัฒนาจีนเป็นผู้นำโลกยุคใหม่

    แหล่งข่าวเผยว่า สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เตรียมจัดการประชุมสัมมนาเพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นภาคเอกชนในสัปดาห์หน้า โดยมีผู้นำธุรกิจของประเทศเข้าร่วมด้วย รวมถึงแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งร่วมของบริษัทอาลีบาบา

    ที่ผ่านมา สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน แทบไม่เคยจัดการประชุมสัมมนาเกี่ยวกับภาคเอกชนเลย และงานดังกล่าวตอกย้ำความท้าทายมากมายที่บริษัทจีนต้องเผชิญ ตั้งแต่ความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นกับสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไปจนถึงการเติบโตที่ชะงักงันของเศรษฐกิจภายในประเทศ

    ผู้ประกอบการจำนวนมากจะเป็นผู้ประกอบการจากภาคเทคโนโลยี และคาดว่าสี จิ้นผิง จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ขยายธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ ท่ามกลางสงครามเทคโนโลยีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น แหล่งข่าว 2 รายระบุ

    การประชุมสัมมนาครั้งนี้มีแนวโน้มว่าจะมีขึ้นในวันจันทร์หน้า แหล่งข่าวระบุ ข่าวการประชุมดังกล่าวรายงานโดยสำนักข่าวรอยเตอร์เป็นครั้งแรก
    โพนี่ หม่า ซีอีโอของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Tencent มีกำหนดที่จะเข้าร่วม แหล่งข่าวสองรายระบุว่า เล่ย จุน ซีอีโอของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Xiaomi รวมถึงหวัง ซิงซิง ผู้ก่อตั้งบริษัทหุ่นยนต์ Yushu Technology ก็มีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมเช่นกัน แหล่งข่าวหนึ่งกล่าว

    นอกจากนี้ ผู้บริหารระดับสูงของ Huawei Technologies ยังคาดว่าจะเข้าร่วมด้วย นอกจากนี้สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เหลียง เหวินเฟิง ผู้ก่อตั้ง DeepSeek จะเข้าร่วมด้วย เพราะบริษัทสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งนี้ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับโลกเทคโนโลยีด้วยโมเดลที่บริษัทอ้างว่าพัฒนาขึ้นด้วยต้นทุนเพียงเศษเสี้ยวเดียวของคู่แข่งจากตะวันตก

    สำนักข่าวรอยเตอร์ได้ติดต่อกับบุคคลสำคัญทั้ง 5 รายที่ทราบเกี่ยวกับการประชุมดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดขอสงวนนามเนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยกับสื่อ 

    สำนักงานข้อมูลของคณะรัฐมนตรี ซึ่งทำหน้าที่ตอบคำถามสื่อในนามของผู้นำประเทศ ไม่ได้ตอบคำถามของสำนักข่าวรอยเตอร์เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวในทันที

    อาลีบาบา เทนเซนต์ เสี่ยวหมี่ หัวเว่ย ยู่ชู่ และดีพซีค ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้

    ปรากฏว่าหุ้นที่จดทะเบียนในฮ่องกงของอาลีบาบา เทนเซนต์ และเสี่ยวหมี่ พุ่งขึ้นต่อเนื่องในการซื้อขายช่วงบ่ายตามข่าว โดยเสี่ยวหมี่ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 7% นอกจากนี้ เทนเซนต์ยังปิดตลาดสูงขึ้น 7% ในขณะที่อาลีบาบาปิดตลาดที่ระดับ 6%

    ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น
    สีจิ้นผิงเป็นประธานการประชุมสัมมนาระดับสูงสำหรับภาคเอกชนเป็นครั้งแรกในช่วงปลายปี 2561 ซึ่งเป็นเวลา 6 ปีหลังจากที่เขาดำรงตำแหน่ง ในเวลานั้น เขาให้คำมั่นว่าจะลดหย่อนภาษีและสร้างสนามแข่งขันที่เท่าเทียมกัน พร้อมทั้งยืนยันว่าบริษัทเอกชนจะสามารถเข้าถึงการสนับสนุนทางการเงินได้

    การเข้าร่วมการประชุมสัมมนาที่วางแผนไว้ของแจ็ค หม่า มีแนวโน้มที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ผู้ประกอบการที่ครั้งหนึ่งเคยมีชื่อเสียงโด่งดังได้ถอนตัวออกจากชีวิตสาธารณะเป็นส่วนใหญ่ หลังจากที่ Ant บริษัทฟินเทคของเขาถูกทางการสั่งระงับการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรกในปี 2020 ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดจากคำปราศรัยของเขาในปีนั้นที่วิจารณ์ระบบการกำกับดูแลของจีน

    อาณาจักรธุรกิจของเขาและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่กว้างขึ้นก็ตกเป็นเป้าหมายของการปราบปรามทางการ โดยช่วงเวลาที่เขาอยู่ห่างจากจุดสนใจเป็นสัญลักษณ์ของการพลิกผันของโชคชะตาสำหรับภาคเอกชนของจีน

    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สีได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นของจีนในการบรรลุ "ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน" โดยกล่าวว่าบริษัทเอกชนควร "ร่ำรวยและเปี่ยมด้วยความรัก" เช่นเดียวกับ "รักชาติ" และแบ่งปันผลจากการเติบโตของตนกับพนักงานอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น

    คำพูดของเขาถูกมองว่าเป็นการขัดขวางความเกินพอดีในอุตสาหกรรมจำนวนหนึ่ง และทำหน้าที่เป็นเบรกในการลงทุนที่มีความเสี่ยง

    การเข้าร่วมของผู้ก่อตั้ง DeepSeek อย่าง Liang จะช่วยเสริมสถานะใหม่ที่เพิ่งค้นพบของบริษัทสตาร์ทอัพแห่งนี้ให้กลายเป็นผู้พลิกผันครั้งใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม AI ระดับโลก เมื่อเดือนที่แล้ว เขาได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสัมมนาแบบปิดที่จัดโดยนายกรัฐมนตรีหลี่ เชียง

    ประธานาธิบดีสีเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จีนต้องบรรลุความพอเพียงในตัวเองในด้านเซมิคอนดักเตอร์มาเป็นเวลานาน และต้องการให้ประเทศใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ

    แต่ความพยายามของจีนถูกขัดขวางโดยมาตรการควบคุมการส่งออกชิปที่บังคับใช้โดยวอชิงตัน ซึ่งกังวลว่าปักกิ่งอาจใช้เซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางทหาร

    ที่มา Xi to chair symposium attended by Jack Ma and other Chinese business leaders, sources say - https://www.reuters.com/world/china/xi-chair-symposium-attended-by-jack-ma-other-chinese-business-leaders-sources-2025-02-14/
    ประธานาธิบดี สีจิ้นผิงจะจัดประชุมสัมมนาสุดยอดผู้นำเทคโนโลยีของจีน งานนี้เชิญแจ๊ก หม่ากลับคืนเวที ถือเป็นกลยุทธ์การระดมความรู้และความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนที่มีบทบาทนำการพัฒนาจีนเป็นผู้นำโลกยุคใหม่ แหล่งข่าวเผยว่า สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เตรียมจัดการประชุมสัมมนาเพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นภาคเอกชนในสัปดาห์หน้า โดยมีผู้นำธุรกิจของประเทศเข้าร่วมด้วย รวมถึงแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งร่วมของบริษัทอาลีบาบา ที่ผ่านมา สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน แทบไม่เคยจัดการประชุมสัมมนาเกี่ยวกับภาคเอกชนเลย และงานดังกล่าวตอกย้ำความท้าทายมากมายที่บริษัทจีนต้องเผชิญ ตั้งแต่ความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นกับสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไปจนถึงการเติบโตที่ชะงักงันของเศรษฐกิจภายในประเทศ ผู้ประกอบการจำนวนมากจะเป็นผู้ประกอบการจากภาคเทคโนโลยี และคาดว่าสี จิ้นผิง จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ขยายธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ ท่ามกลางสงครามเทคโนโลยีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น แหล่งข่าว 2 รายระบุ การประชุมสัมมนาครั้งนี้มีแนวโน้มว่าจะมีขึ้นในวันจันทร์หน้า แหล่งข่าวระบุ ข่าวการประชุมดังกล่าวรายงานโดยสำนักข่าวรอยเตอร์เป็นครั้งแรก โพนี่ หม่า ซีอีโอของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Tencent มีกำหนดที่จะเข้าร่วม แหล่งข่าวสองรายระบุว่า เล่ย จุน ซีอีโอของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Xiaomi รวมถึงหวัง ซิงซิง ผู้ก่อตั้งบริษัทหุ่นยนต์ Yushu Technology ก็มีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมเช่นกัน แหล่งข่าวหนึ่งกล่าว นอกจากนี้ ผู้บริหารระดับสูงของ Huawei Technologies ยังคาดว่าจะเข้าร่วมด้วย นอกจากนี้สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เหลียง เหวินเฟิง ผู้ก่อตั้ง DeepSeek จะเข้าร่วมด้วย เพราะบริษัทสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งนี้ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับโลกเทคโนโลยีด้วยโมเดลที่บริษัทอ้างว่าพัฒนาขึ้นด้วยต้นทุนเพียงเศษเสี้ยวเดียวของคู่แข่งจากตะวันตก สำนักข่าวรอยเตอร์ได้ติดต่อกับบุคคลสำคัญทั้ง 5 รายที่ทราบเกี่ยวกับการประชุมดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดขอสงวนนามเนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยกับสื่อ  สำนักงานข้อมูลของคณะรัฐมนตรี ซึ่งทำหน้าที่ตอบคำถามสื่อในนามของผู้นำประเทศ ไม่ได้ตอบคำถามของสำนักข่าวรอยเตอร์เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวในทันที อาลีบาบา เทนเซนต์ เสี่ยวหมี่ หัวเว่ย ยู่ชู่ และดีพซีค ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ ปรากฏว่าหุ้นที่จดทะเบียนในฮ่องกงของอาลีบาบา เทนเซนต์ และเสี่ยวหมี่ พุ่งขึ้นต่อเนื่องในการซื้อขายช่วงบ่ายตามข่าว โดยเสี่ยวหมี่ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 7% นอกจากนี้ เทนเซนต์ยังปิดตลาดสูงขึ้น 7% ในขณะที่อาลีบาบาปิดตลาดที่ระดับ 6% ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น สีจิ้นผิงเป็นประธานการประชุมสัมมนาระดับสูงสำหรับภาคเอกชนเป็นครั้งแรกในช่วงปลายปี 2561 ซึ่งเป็นเวลา 6 ปีหลังจากที่เขาดำรงตำแหน่ง ในเวลานั้น เขาให้คำมั่นว่าจะลดหย่อนภาษีและสร้างสนามแข่งขันที่เท่าเทียมกัน พร้อมทั้งยืนยันว่าบริษัทเอกชนจะสามารถเข้าถึงการสนับสนุนทางการเงินได้ การเข้าร่วมการประชุมสัมมนาที่วางแผนไว้ของแจ็ค หม่า มีแนวโน้มที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ผู้ประกอบการที่ครั้งหนึ่งเคยมีชื่อเสียงโด่งดังได้ถอนตัวออกจากชีวิตสาธารณะเป็นส่วนใหญ่ หลังจากที่ Ant บริษัทฟินเทคของเขาถูกทางการสั่งระงับการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรกในปี 2020 ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดจากคำปราศรัยของเขาในปีนั้นที่วิจารณ์ระบบการกำกับดูแลของจีน อาณาจักรธุรกิจของเขาและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่กว้างขึ้นก็ตกเป็นเป้าหมายของการปราบปรามทางการ โดยช่วงเวลาที่เขาอยู่ห่างจากจุดสนใจเป็นสัญลักษณ์ของการพลิกผันของโชคชะตาสำหรับภาคเอกชนของจีน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สีได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นของจีนในการบรรลุ "ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน" โดยกล่าวว่าบริษัทเอกชนควร "ร่ำรวยและเปี่ยมด้วยความรัก" เช่นเดียวกับ "รักชาติ" และแบ่งปันผลจากการเติบโตของตนกับพนักงานอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น คำพูดของเขาถูกมองว่าเป็นการขัดขวางความเกินพอดีในอุตสาหกรรมจำนวนหนึ่ง และทำหน้าที่เป็นเบรกในการลงทุนที่มีความเสี่ยง การเข้าร่วมของผู้ก่อตั้ง DeepSeek อย่าง Liang จะช่วยเสริมสถานะใหม่ที่เพิ่งค้นพบของบริษัทสตาร์ทอัพแห่งนี้ให้กลายเป็นผู้พลิกผันครั้งใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม AI ระดับโลก เมื่อเดือนที่แล้ว เขาได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสัมมนาแบบปิดที่จัดโดยนายกรัฐมนตรีหลี่ เชียง ประธานาธิบดีสีเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จีนต้องบรรลุความพอเพียงในตัวเองในด้านเซมิคอนดักเตอร์มาเป็นเวลานาน และต้องการให้ประเทศใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ความพยายามของจีนถูกขัดขวางโดยมาตรการควบคุมการส่งออกชิปที่บังคับใช้โดยวอชิงตัน ซึ่งกังวลว่าปักกิ่งอาจใช้เซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางทหาร ที่มา Xi to chair symposium attended by Jack Ma and other Chinese business leaders, sources say - https://www.reuters.com/world/china/xi-chair-symposium-attended-by-jack-ma-other-chinese-business-leaders-sources-2025-02-14/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อเร็วๆ นี้ มีข่าวว่าหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ซื้อกิจการอยู่กำลังแข่งขันเพื่อซื้อกิจการของบริษัท Trend Micro บริษัทที่ทำงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของญี่ปุ่น ซึ่งมีมูลค่าตลาดประมาณ 1.32 ล้านล้านเยน (8.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามกล่าวว่า บริษัท Bain Capital, Advent International, EQT AB รวมถึง KKR ได้แสดงความสนใจในการเข้าซื้อกิจการนี้

    หุ้นของ Trend Micro ในตลาดโตเกียวเพิ่มขึ้นมากกว่า 12% หลังจากมีข่าวการสนใจซื้อกิจการออกมา ความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการนี้จะเป็นหนึ่งในการซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดในช่วงนี้ และส่งสัญญาณว่า การซื้อกิจการด้วยการกู้ยืมเงินอาจจะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งหลังจากที่ถูกกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

    Trend Micro ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1988 โดยสามผู้บริหารในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ได้แก่ Steve Chang, Jenny Chang และ Eva Chen บริษัทเริ่มต้นจากการทำซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส และได้ขยายกิจการมาสู่การให้บริการด้านความปลอดภัยของระบบคลาวด์ เครือข่าย และอุปกรณ์ปลายทาง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/13/exclusive-buyout-firms-vie-for-cybersecurity-firm-trend-micro-sources-say
    เมื่อเร็วๆ นี้ มีข่าวว่าหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ซื้อกิจการอยู่กำลังแข่งขันเพื่อซื้อกิจการของบริษัท Trend Micro บริษัทที่ทำงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของญี่ปุ่น ซึ่งมีมูลค่าตลาดประมาณ 1.32 ล้านล้านเยน (8.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามกล่าวว่า บริษัท Bain Capital, Advent International, EQT AB รวมถึง KKR ได้แสดงความสนใจในการเข้าซื้อกิจการนี้ หุ้นของ Trend Micro ในตลาดโตเกียวเพิ่มขึ้นมากกว่า 12% หลังจากมีข่าวการสนใจซื้อกิจการออกมา ความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการนี้จะเป็นหนึ่งในการซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดในช่วงนี้ และส่งสัญญาณว่า การซื้อกิจการด้วยการกู้ยืมเงินอาจจะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งหลังจากที่ถูกกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Trend Micro ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1988 โดยสามผู้บริหารในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ได้แก่ Steve Chang, Jenny Chang และ Eva Chen บริษัทเริ่มต้นจากการทำซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส และได้ขยายกิจการมาสู่การให้บริการด้านความปลอดภัยของระบบคลาวด์ เครือข่าย และอุปกรณ์ปลายทาง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/13/exclusive-buyout-firms-vie-for-cybersecurity-firm-trend-micro-sources-say
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Exclusive-Buyout firms vie for cybersecurity firm Trend Micro, sources say
    NEW YORK (Reuters) -Bain Capital, Advent International and EQT AB are among the private equity firms competing to acquire Japanese cybersecurity firm Trend Micro, which has a market value of 1.32 trillion yen ($8.54 billion), according to people familiar with the matter.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวของบริษัทในฝันของคนส่วนใหญ่ครับ !!

    Google ได้เสนอแผน "การออกจากงานโดยสมัครใจ" พร้อมกับเงินชดเชยให้กับพนักงานที่ทำงานในทีม Pixel และ Android ที่เพิ่งรวมกัน โดยแผนนี้มีเป้าหมายเพื่อให้พนักงานที่ไม่สอดคล้องกับภารกิจใหม่ของทีมที่รวมกันสามารถออกจากงานได้อย่างสงบสุข

    Rick Osterloh รองประธานอาวุโสของ Google ได้ประกาศในบันทึกภายในว่าแผนการแยกตัวโดยสมัครใจนี้ใช้กับพนักงานในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และมีเป้าหมายที่พนักงานที่ทำงานในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น โทรศัพท์ Pixel, Android, Chrome OS, Google Photos, อุปกรณ์สมาร์ทโฮม Nest และสายผลิตภัณฑ์ Fitbit

    การเสนอแผนการแยกตัวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Google ได้รวมกลุ่มฮาร์ดแวร์ Pixel กับทีมซอฟต์แวร์ Android เพื่อสร้างหน่วยงาน Platforms & Devices ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยพนักงานที่ไม่สอดคล้องกับภารกิจใหม่หรือมีปัญหาในการทำงานแบบไฮบริดหลังการปรับโครงสร้างสามารถขอรับเงินชดเชยและออกจากงานได้

    การลดต้นทุนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ CFO คนใหม่ของ Google, Anat Ashkenazi ซึ่งเข้ารับตำแหน่งในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยเธอได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการ "เพิ่มประสิทธิภาพ" ในการดำเนินงานของ Alphabet

    แม้ว่ายอดขายสมาร์ทโฟน Pixel จะทำสถิติสูงสุดใหม่ในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 แต่การลดต้นทุนและการปรับโครงสร้างยังคงเป็นแนวโน้มที่สำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

    https://www.techspot.com/news/106592-google-offers-voluntary-exit-plan-severance-pay-pixel.html
    ข่าวของบริษัทในฝันของคนส่วนใหญ่ครับ !! Google ได้เสนอแผน "การออกจากงานโดยสมัครใจ" พร้อมกับเงินชดเชยให้กับพนักงานที่ทำงานในทีม Pixel และ Android ที่เพิ่งรวมกัน โดยแผนนี้มีเป้าหมายเพื่อให้พนักงานที่ไม่สอดคล้องกับภารกิจใหม่ของทีมที่รวมกันสามารถออกจากงานได้อย่างสงบสุข Rick Osterloh รองประธานอาวุโสของ Google ได้ประกาศในบันทึกภายในว่าแผนการแยกตัวโดยสมัครใจนี้ใช้กับพนักงานในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และมีเป้าหมายที่พนักงานที่ทำงานในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น โทรศัพท์ Pixel, Android, Chrome OS, Google Photos, อุปกรณ์สมาร์ทโฮม Nest และสายผลิตภัณฑ์ Fitbit การเสนอแผนการแยกตัวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Google ได้รวมกลุ่มฮาร์ดแวร์ Pixel กับทีมซอฟต์แวร์ Android เพื่อสร้างหน่วยงาน Platforms & Devices ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยพนักงานที่ไม่สอดคล้องกับภารกิจใหม่หรือมีปัญหาในการทำงานแบบไฮบริดหลังการปรับโครงสร้างสามารถขอรับเงินชดเชยและออกจากงานได้ การลดต้นทุนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ CFO คนใหม่ของ Google, Anat Ashkenazi ซึ่งเข้ารับตำแหน่งในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยเธอได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการ "เพิ่มประสิทธิภาพ" ในการดำเนินงานของ Alphabet แม้ว่ายอดขายสมาร์ทโฟน Pixel จะทำสถิติสูงสุดใหม่ในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 แต่การลดต้นทุนและการปรับโครงสร้างยังคงเป็นแนวโน้มที่สำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี https://www.techspot.com/news/106592-google-offers-voluntary-exit-plan-severance-pay-pixel.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google offers "voluntary exit" plan with severance pay for Pixel and Android employees
    In an internal memo, Google SVP of Platforms & Devices Rick Osterloh announced that the voluntary separation program applies only to US-based staff. It's aimed at those...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพเรือสหรัฐฯ มีคำสั่งห้ามใช้ DeepSeek ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยและจริยธรรม

    กองทัพเรือสหรัฐฯ ออกคำเตือนถึงเจ้าหน้าที่ในกองทัพไม่ให้ใช้ DeepSeek "ในทุกกรณี" เนื่องจาก "อาจเกิดความกังวลด้านความปลอดภัยและจริยธรรม"

    คำเตือนดังกล่าวถูกส่งออกไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวเกี่ยวกับบริษัทสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ของจีนที่เริ่มได้รับความสนใจในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

    อีเมลดังกล่าวได้สั่งการให้สมาชิกในทีมทุกคนไม่ใช้ DeepSeek "สำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับงานหรือการใช้งานส่วนตัว"
    กองทัพเรือสหรัฐฯ มีคำสั่งห้ามใช้ DeepSeek ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยและจริยธรรม กองทัพเรือสหรัฐฯ ออกคำเตือนถึงเจ้าหน้าที่ในกองทัพไม่ให้ใช้ DeepSeek "ในทุกกรณี" เนื่องจาก "อาจเกิดความกังวลด้านความปลอดภัยและจริยธรรม" คำเตือนดังกล่าวถูกส่งออกไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวเกี่ยวกับบริษัทสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ของจีนที่เริ่มได้รับความสนใจในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี อีเมลดังกล่าวได้สั่งการให้สมาชิกในทีมทุกคนไม่ใช้ DeepSeek "สำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับงานหรือการใช้งานส่วนตัว"
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • Talen Energy ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ของสหรัฐฯ เพื่อพิจารณาการตัดสินใจของคณะกรรมการกำกับดูแลพลังงานแห่งชาติ (FERC) ที่ปฏิเสธข้อตกลงพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูลของ Amazon ที่ตั้งอยู่ร่วมกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของ Talen ในรัฐเพนซิลเวเนีย

    ในปีที่ผ่านมา Talen ได้ขายพื้นที่ศูนย์ข้อมูลให้กับ Amazon ซึ่งจะทำให้ศูนย์ข้อมูลได้รับพลังงานเกือบ 1 กิกะวัตต์ ซึ่งเพียงพอที่จะจ่ายพลังงานให้กับบ้านเรือนทั้งหมดในเมืองฟิลาเดลเฟีย อย่างไรก็ตาม FERC ได้ปฏิเสธคำขอของ Talen ในการแก้ไขข้อตกลงการเชื่อมต่อเพื่อเพิ่มการจ่ายพลังงานให้กับศูนย์ข้อมูล การเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลกับโรงไฟฟ้าโดยตรง (co-location) เป็นวิธีที่น่าสนใจสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในการได้รับพลังงานจำนวนมากอย่างรวดเร็ว แต่การเปลี่ยนแปลงการจ่ายพลังงานในลักษณะนี้อาจส่งผลกระทบต่อความเสถียรของระบบไฟฟ้าในภูมิภาค

    Talen จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์เพื่อขอให้พิจารณาการตัดสินใจของ FERC ซึ่งหากศาลรับคำร้องนี้ อาจส่งผลให้การตัดสินใจของ FERC ถูกยกเลิกหรือถูกส่งกลับไปให้คณะกรรมการพิจารณาใหม่

    นอกจากนี้ บทความยังกล่าวถึงแนวโน้มของการตั้งศูนย์ข้อมูลร่วมกับโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นวิธีที่น่าสนใจสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในการได้รับพลังงานจำนวนมากอย่างรวดเร็ว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/29/talen-goes-to-court-over-ferc039s-amazon-co-located-data-center-rejection
    Talen Energy ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ของสหรัฐฯ เพื่อพิจารณาการตัดสินใจของคณะกรรมการกำกับดูแลพลังงานแห่งชาติ (FERC) ที่ปฏิเสธข้อตกลงพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูลของ Amazon ที่ตั้งอยู่ร่วมกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของ Talen ในรัฐเพนซิลเวเนีย ในปีที่ผ่านมา Talen ได้ขายพื้นที่ศูนย์ข้อมูลให้กับ Amazon ซึ่งจะทำให้ศูนย์ข้อมูลได้รับพลังงานเกือบ 1 กิกะวัตต์ ซึ่งเพียงพอที่จะจ่ายพลังงานให้กับบ้านเรือนทั้งหมดในเมืองฟิลาเดลเฟีย อย่างไรก็ตาม FERC ได้ปฏิเสธคำขอของ Talen ในการแก้ไขข้อตกลงการเชื่อมต่อเพื่อเพิ่มการจ่ายพลังงานให้กับศูนย์ข้อมูล การเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลกับโรงไฟฟ้าโดยตรง (co-location) เป็นวิธีที่น่าสนใจสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในการได้รับพลังงานจำนวนมากอย่างรวดเร็ว แต่การเปลี่ยนแปลงการจ่ายพลังงานในลักษณะนี้อาจส่งผลกระทบต่อความเสถียรของระบบไฟฟ้าในภูมิภาค Talen จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์เพื่อขอให้พิจารณาการตัดสินใจของ FERC ซึ่งหากศาลรับคำร้องนี้ อาจส่งผลให้การตัดสินใจของ FERC ถูกยกเลิกหรือถูกส่งกลับไปให้คณะกรรมการพิจารณาใหม่ นอกจากนี้ บทความยังกล่าวถึงแนวโน้มของการตั้งศูนย์ข้อมูลร่วมกับโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นวิธีที่น่าสนใจสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในการได้รับพลังงานจำนวนมากอย่างรวดเร็ว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/29/talen-goes-to-court-over-ferc039s-amazon-co-located-data-center-rejection
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Talen goes to court over FERC's Amazon co-located data center rejection
    NEW YORK (Reuters) - Talen Energy is asking a U.S. appeals court to weigh in on a decision by federal regulators last year to reject a power agreement for an Amazon data center connected directly to Talen's Pennsylvania nuclear plant, according to court filings this week.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## จีน - อเมริกา บนสนามรบด้าน AI ##
    ..
    ..
    แค่ชั่วข้ามคืน ทั่วโลกได้รู้จัก DeepSeek AI จีน กันหมด...!!!
    .
    หลังถล่ม หุ้นเทคโนลียี อเมริกา ยับ ในคืนเดียว...
    .
    (เปิด Gap โดดทิ้งตัวลงมาแท่งแดงยาวเลย...!!!)
    .
    น่าหมั่นไส้ขนาดนี้ ล่าสุด DeepSeek AI จีน ก็เลยตองโดน "โจมตีทางไซเบอร์" ไปตามระเบียบ...
    .
    (ฝีมือใครกันหว่า...??? 🤣🤣🤣🤣)
    .
    ตอนนี้จำกัดการสมัคร เหลือแค่คนในประเทศจีนก่อน...
    .
    จากบริษัทสตาร์ทอัพเล็กๆ ที่มีฐานอยู่ในเมืองหางโจวและก่อตั้งขึ้นในปี 2023
    .
    วันนี้ ก้าวกระโดดมา จนเป็นรายแรกที่ได้รับการยกย่องจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของ อเมริกา...
    .
    ว่ามีประสิทธิภาพ เทียบเท่า หรือ เหนือกว่า "โมเดล" ที่ล้ำสมัยของ อเมริกา ด้วยซ้ำ...!!!
    .
    https://shorturl.asia/dyLo6
    ## จีน - อเมริกา บนสนามรบด้าน AI ## .. .. แค่ชั่วข้ามคืน ทั่วโลกได้รู้จัก DeepSeek AI จีน กันหมด...!!! . หลังถล่ม หุ้นเทคโนลียี อเมริกา ยับ ในคืนเดียว... . (เปิด Gap โดดทิ้งตัวลงมาแท่งแดงยาวเลย...!!!) . น่าหมั่นไส้ขนาดนี้ ล่าสุด DeepSeek AI จีน ก็เลยตองโดน "โจมตีทางไซเบอร์" ไปตามระเบียบ... . (ฝีมือใครกันหว่า...??? 🤣🤣🤣🤣) . ตอนนี้จำกัดการสมัคร เหลือแค่คนในประเทศจีนก่อน... . จากบริษัทสตาร์ทอัพเล็กๆ ที่มีฐานอยู่ในเมืองหางโจวและก่อตั้งขึ้นในปี 2023 . วันนี้ ก้าวกระโดดมา จนเป็นรายแรกที่ได้รับการยกย่องจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของ อเมริกา... . ว่ามีประสิทธิภาพ เทียบเท่า หรือ เหนือกว่า "โมเดล" ที่ล้ำสมัยของ อเมริกา ด้วยซ้ำ...!!! . https://shorturl.asia/dyLo6
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมิชิแกนได้ผ่านกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้โรงเรียนมัธยมทุกแห่งในรัฐต้องเปิดสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์อย่างน้อยหนึ่งวิชาเริ่มตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยีและเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนสำหรับงานในอนาคต

    กฎหมายนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เช่น Amazon และ Microsoft รวมถึงกลุ่มไม่แสวงหาผลกำไรที่พวกเขาสนับสนุน เช่น Code.org นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากสมาคมครูวิทยาการคอมพิวเตอร์และกลุ่มล็อบบี้อุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่น TechNet ซึ่งมีสมาชิกเป็นบริษัทใหญ่ๆ เช่น Apple, Google, Meta และอื่นๆ

    กฎหมายนี้กำหนดให้โรงเรียนมัธยมทุกแห่งในรัฐมิชิแกนต้องมีการสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ในรูปแบบการเรียนการสอนในห้องเรียนตามมาตรฐานที่กำหนดโดยคณะกรรมการการศึกษาของรัฐ หากไม่สามารถจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนได้ สามารถใช้ตัวเลือกการเรียนการสอนแบบเสมือนจริงได้ ยกเว้นโรงเรียนที่เป็นออนไลน์ทั้งหมด

    นอกจากนี้ รัฐมิชิแกนยังได้ผ่านกฎหมายอีกฉบับที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับศูนย์ข้อมูลที่ตั้งอยู่ในรัฐ กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดการลงทุนและสร้างงานในรัฐมิชิแกน

    การที่รัฐมิชิแกนกำหนดให้มีการสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนมัธยมแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนสำหรับงานในอนาคตและการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐ

    https://www.techspot.com/news/106514-michigan-passes-law-mandating-computer-science-classes-high.html
    รัฐมิชิแกนได้ผ่านกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้โรงเรียนมัธยมทุกแห่งในรัฐต้องเปิดสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์อย่างน้อยหนึ่งวิชาเริ่มตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยีและเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนสำหรับงานในอนาคต กฎหมายนี้ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เช่น Amazon และ Microsoft รวมถึงกลุ่มไม่แสวงหาผลกำไรที่พวกเขาสนับสนุน เช่น Code.org นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากสมาคมครูวิทยาการคอมพิวเตอร์และกลุ่มล็อบบี้อุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่น TechNet ซึ่งมีสมาชิกเป็นบริษัทใหญ่ๆ เช่น Apple, Google, Meta และอื่นๆ กฎหมายนี้กำหนดให้โรงเรียนมัธยมทุกแห่งในรัฐมิชิแกนต้องมีการสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ในรูปแบบการเรียนการสอนในห้องเรียนตามมาตรฐานที่กำหนดโดยคณะกรรมการการศึกษาของรัฐ หากไม่สามารถจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนได้ สามารถใช้ตัวเลือกการเรียนการสอนแบบเสมือนจริงได้ ยกเว้นโรงเรียนที่เป็นออนไลน์ทั้งหมด นอกจากนี้ รัฐมิชิแกนยังได้ผ่านกฎหมายอีกฉบับที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับศูนย์ข้อมูลที่ตั้งอยู่ในรัฐ กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดการลงทุนและสร้างงานในรัฐมิชิแกน การที่รัฐมิชิแกนกำหนดให้มีการสอนวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนมัธยมแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนสำหรับงานในอนาคตและการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐ https://www.techspot.com/news/106514-michigan-passes-law-mandating-computer-science-classes-high.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Michigan new law mandates Computer Science classes in high schools
    The bipartisan bill, signed into law last week by Governor Gretchen Whitmer, aims to increase technological literacy across the state. It mandates that every Michigan high school...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • การปรับปรุงเล็กๆ แต่ทรงพลังในเคอร์เนลของ Linux ที่สามารถลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูลได้ถึง 30% การปรับปรุงนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญ เนื่องจากการคำนวณในปัจจุบันคิดเป็นประมาณ 5% ของการใช้พลังงานรายวันทั่วโลก โดยศูนย์ข้อมูลเป็นผู้ใช้พลังงานหลัก

    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอเตอร์ลู นำโดยศาสตราจารย์มาร์ติน คาร์สเตน และปีเตอร์ ไค ได้ระบุถึงความไม่มีประสิทธิภาพในการประมวลผลการจราจรเครือข่ายสำหรับแอปพลิเคชันเซิร์ฟเวอร์ที่มีการสื่อสารขนาดใหญ่ การแก้ปัญหาของพวกเขาเกี่ยวข้องกับการจัดเรียงการดำเนินการภายในสแต็กเครือข่ายของ Linux ใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงทั้งในด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน

    การปรับปรุงนี้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ถึง 45% ในบางสถานการณ์โดยไม่กระทบต่อความหน่วงของการตอบสนอง ศาสตราจารย์คาร์สเตนเปรียบเทียบการปรับปรุงนี้กับการเพิ่มประสิทธิภาพของสายการผลิตในโรงงาน ซึ่งทำให้การใช้แคช CPU ของศูนย์ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    การเปลี่ยนแปลงนี้ประกอบด้วยโค้ดเพียง 30 บรรทัด แต่มีผลกระทบอย่างมากต่อการลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล ฟีเจอร์หลักของการปรับปรุงนี้คือการระงับการขอขัดจังหวะ (IRQ suspension) ซึ่งช่วยปรับสมดุลการใช้พลังงานของ CPU กับการประมวลผลข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ

    การปรับปรุงนี้ได้รับการทดสอบและรวมเข้ากับเคอร์เนล Linux เวอร์ชัน 6.13 ซึ่งเปิดโอกาสให้มีการนำไปใช้ในวงกว้างในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ศาสตราจารย์คาร์สเตนเน้นย้ำถึงผลกระทบระดับโลกของการพัฒนานี้ โดยกล่าวว่าหากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เช่น Amazon, Google และ Meta เลือกใช้วิธีนี้ในศูนย์ข้อมูลของพวกเขา จะสามารถประหยัดพลังงานได้หลายกิกะวัตต์ชั่วโมงทั่วโลก

    https://www.techspot.com/news/106501-linux-kernel-upgrade-promises-up-30-energy-savings.html
    การปรับปรุงเล็กๆ แต่ทรงพลังในเคอร์เนลของ Linux ที่สามารถลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูลได้ถึง 30% การปรับปรุงนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญ เนื่องจากการคำนวณในปัจจุบันคิดเป็นประมาณ 5% ของการใช้พลังงานรายวันทั่วโลก โดยศูนย์ข้อมูลเป็นผู้ใช้พลังงานหลัก นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอเตอร์ลู นำโดยศาสตราจารย์มาร์ติน คาร์สเตน และปีเตอร์ ไค ได้ระบุถึงความไม่มีประสิทธิภาพในการประมวลผลการจราจรเครือข่ายสำหรับแอปพลิเคชันเซิร์ฟเวอร์ที่มีการสื่อสารขนาดใหญ่ การแก้ปัญหาของพวกเขาเกี่ยวข้องกับการจัดเรียงการดำเนินการภายในสแต็กเครือข่ายของ Linux ใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงทั้งในด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน การปรับปรุงนี้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ถึง 45% ในบางสถานการณ์โดยไม่กระทบต่อความหน่วงของการตอบสนอง ศาสตราจารย์คาร์สเตนเปรียบเทียบการปรับปรุงนี้กับการเพิ่มประสิทธิภาพของสายการผลิตในโรงงาน ซึ่งทำให้การใช้แคช CPU ของศูนย์ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ประกอบด้วยโค้ดเพียง 30 บรรทัด แต่มีผลกระทบอย่างมากต่อการลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล ฟีเจอร์หลักของการปรับปรุงนี้คือการระงับการขอขัดจังหวะ (IRQ suspension) ซึ่งช่วยปรับสมดุลการใช้พลังงานของ CPU กับการประมวลผลข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ การปรับปรุงนี้ได้รับการทดสอบและรวมเข้ากับเคอร์เนล Linux เวอร์ชัน 6.13 ซึ่งเปิดโอกาสให้มีการนำไปใช้ในวงกว้างในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ศาสตราจารย์คาร์สเตนเน้นย้ำถึงผลกระทบระดับโลกของการพัฒนานี้ โดยกล่าวว่าหากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เช่น Amazon, Google และ Meta เลือกใช้วิธีนี้ในศูนย์ข้อมูลของพวกเขา จะสามารถประหยัดพลังงานได้หลายกิกะวัตต์ชั่วโมงทั่วโลก https://www.techspot.com/news/106501-linux-kernel-upgrade-promises-up-30-energy-savings.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Researchers claim Linux kernel tweak could reduce data center energy use by 30%
    Researchers at the University of Waterloo's Cheriton School of Computer Science, led by Professor Martin Karsten and including Peter Cai, identified inefficiencies in network traffic processing for...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับมาตรการต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ของอิตาลีที่ชื่อว่า "Piracy Shield" ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักตั้งแต่เปิดตัวในต้นปี 2024 ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาโดยการบล็อกโดเมนและที่อยู่ IP ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างรวดเร็ว แม้ว่าระบบนี้จะสามารถบล็อกแหล่งที่มาของการละเมิดลิขสิทธิ์ได้หลายแห่ง แต่ก็มีปัญหาการบล็อกเกินไปด้วย

    มีรายงานว่าบริการที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Google Drive และ Cloudflare ถูกบล็อกโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในอิตาลีได้รับผลกระทบ เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2024 เมื่อ Google Drive ถูกบล็อกโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ผู้ใช้ในอิตาลีไม่สามารถเข้าถึงได้เป็นเวลาสามชั่วโมง และมีผลกระทบต่อผู้ใช้บางส่วนแม้หลังจาก 12 ชั่วโมง

    อุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับระบบนี้ โดยสมาคมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร (CCIA) ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เช่น Amazon, Cloudflare และ Google ได้ส่งจดหมายถึงคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อแสดงความกังวล CCIA ระบุว่ามาตรการบล็อก DNS และ IP ของ Piracy Shield นั้นกว้างเกินไปและอาจเป็นอันตรายได้

    นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์ของอิตาลีที่เพิ่มข้อกำหนดการรายงานใหม่สำหรับผู้ให้บริการตัวกลาง ซึ่งรวมถึงบทลงโทษทางอาญาสำหรับการไม่ปฏิบัติตาม การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ถูกวิจารณ์ว่าอาจขัดแย้งกับกฎหมายของสหภาพยุโรปและสร้างผลกระทบต่อการแสดงออกทางออนไลน์และนวัตกรรม

    https://www.techspot.com/news/106483-tech-giants-urge-eu-review-italy-anti-piracy.html
    มีข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับมาตรการต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ของอิตาลีที่ชื่อว่า "Piracy Shield" ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักตั้งแต่เปิดตัวในต้นปี 2024 ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาโดยการบล็อกโดเมนและที่อยู่ IP ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างรวดเร็ว แม้ว่าระบบนี้จะสามารถบล็อกแหล่งที่มาของการละเมิดลิขสิทธิ์ได้หลายแห่ง แต่ก็มีปัญหาการบล็อกเกินไปด้วย มีรายงานว่าบริการที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Google Drive และ Cloudflare ถูกบล็อกโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในอิตาลีได้รับผลกระทบ เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2024 เมื่อ Google Drive ถูกบล็อกโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ผู้ใช้ในอิตาลีไม่สามารถเข้าถึงได้เป็นเวลาสามชั่วโมง และมีผลกระทบต่อผู้ใช้บางส่วนแม้หลังจาก 12 ชั่วโมง อุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับระบบนี้ โดยสมาคมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร (CCIA) ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เช่น Amazon, Cloudflare และ Google ได้ส่งจดหมายถึงคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อแสดงความกังวล CCIA ระบุว่ามาตรการบล็อก DNS และ IP ของ Piracy Shield นั้นกว้างเกินไปและอาจเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์ของอิตาลีที่เพิ่มข้อกำหนดการรายงานใหม่สำหรับผู้ให้บริการตัวกลาง ซึ่งรวมถึงบทลงโทษทางอาญาสำหรับการไม่ปฏิบัติตาม การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ถูกวิจารณ์ว่าอาจขัดแย้งกับกฎหมายของสหภาพยุโรปและสร้างผลกระทบต่อการแสดงออกทางออนไลน์และนวัตกรรม https://www.techspot.com/news/106483-tech-giants-urge-eu-review-italy-anti-piracy.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Tech giants urge EU to review Italy's anti-piracy measures amid overblocking concerns
    While Piracy Shield has successfully blocked numerous pirate sources, it has also been plagued by incidents of overblocking. Reports indicate that legitimate services such as Google Drive...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการค้นพบแหล่งแร่หายากขนาดใหญ่ในมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน! การค้นพบนี้ถูกประกาศโดย China Geological Survey (CGS) ซึ่งเป็นสถาบันภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของจีน เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา

    แหล่งแร่หายากนี้มีทรัพยากรที่มีศักยภาพถึง 1.15 ล้านตัน โดยมีธาตุหายากที่สำคัญ เช่น โพรซีโอดิเมียม นีโอดิเมียม ดิสโพรเซียม และเทอร์เบียม รวมกันมากกว่า 470,000 ตัน ธาตุเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสูง เช่น การผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า

    การค้นพบนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของจีน เนื่องจากธาตุหายากเป็นส่วนประกอบสำคัญในเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น สมาร์ทโฟน แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ นอกจากนี้ การค้นพบแหล่งแร่หายากในประเทศยังช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของจีน

    https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2025/01/19/large-rare-earth-deposit-discovered-in-sw-china
    มีการค้นพบแหล่งแร่หายากขนาดใหญ่ในมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน! การค้นพบนี้ถูกประกาศโดย China Geological Survey (CGS) ซึ่งเป็นสถาบันภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของจีน เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา แหล่งแร่หายากนี้มีทรัพยากรที่มีศักยภาพถึง 1.15 ล้านตัน โดยมีธาตุหายากที่สำคัญ เช่น โพรซีโอดิเมียม นีโอดิเมียม ดิสโพรเซียม และเทอร์เบียม รวมกันมากกว่า 470,000 ตัน ธาตุเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสูง เช่น การผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า การค้นพบนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของจีน เนื่องจากธาตุหายากเป็นส่วนประกอบสำคัญในเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น สมาร์ทโฟน แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ นอกจากนี้ การค้นพบแหล่งแร่หายากในประเทศยังช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของจีน https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2025/01/19/large-rare-earth-deposit-discovered-in-sw-china
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Large rare earth deposit discovered in SW China
    KUNMING: The China Geological Survey (CGS) announced on Frida (Jan 17) that it has discovered a large rare earth deposit in southwest China's Yunnan Province, with potential resources of 1.15 million tonnes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ได้คาดการณ์ว่า AI อาจเข้ามาแทนที่วิศวกรระดับกลางในปี 2025 และเปลี่ยนแปลงการเขียนโค้ดอย่างสิ้นเชิง ในการสัมภาษณ์กับ Joe Rogan Zuckerberg กล่าวถึงทิศทางของบริษัทและการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น โดยเขาได้วิจารณ์ Apple ว่าขาดนวัตกรรมและคาดการณ์ว่า AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเขียนโค้ด

    Zuckerberg กล่าวว่า AI จะสามารถทำหน้าที่เป็นวิศวกรระดับกลางที่สามารถเขียนโค้ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้วิศวกรมีเวลามากขึ้นในการทำงานที่สร้างสรรค์และเชิงกลยุทธ์ แม้ว่าในช่วงแรกการนำ AI มาใช้จะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่เมื่อเวลาผ่านไป AI จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถพัฒนาโค้ดได้มากกว่ามนุษย์

    การคาดการณ์นี้สอดคล้องกับการพัฒนาในวงการเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งอาจมีผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีโดยรวม นอกจากนี้ ซีอีโอของ Salesforce ยังได้กล่าวถึงการพิจารณาการจ้างวิศวกรซอฟต์แวร์ในปี 2025 และการใช้ AI ในการทำงานแทนมนุษย์

    การนำ AI มาใช้ในงานวิศวกรรมอาจทำให้บทบาทของวิศวกรเปลี่ยนแปลงไป และต้องใช้เวลาและความพยายามในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงนี้

    https://wccftech.com/mark-zuckerberg-predicts-ai-might-replace-mid-level-engineers-in-2025-and-completely-reshape-coding/
    Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ได้คาดการณ์ว่า AI อาจเข้ามาแทนที่วิศวกรระดับกลางในปี 2025 และเปลี่ยนแปลงการเขียนโค้ดอย่างสิ้นเชิง ในการสัมภาษณ์กับ Joe Rogan Zuckerberg กล่าวถึงทิศทางของบริษัทและการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น โดยเขาได้วิจารณ์ Apple ว่าขาดนวัตกรรมและคาดการณ์ว่า AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเขียนโค้ด Zuckerberg กล่าวว่า AI จะสามารถทำหน้าที่เป็นวิศวกรระดับกลางที่สามารถเขียนโค้ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้วิศวกรมีเวลามากขึ้นในการทำงานที่สร้างสรรค์และเชิงกลยุทธ์ แม้ว่าในช่วงแรกการนำ AI มาใช้จะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่เมื่อเวลาผ่านไป AI จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถพัฒนาโค้ดได้มากกว่ามนุษย์ การคาดการณ์นี้สอดคล้องกับการพัฒนาในวงการเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งอาจมีผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีโดยรวม นอกจากนี้ ซีอีโอของ Salesforce ยังได้กล่าวถึงการพิจารณาการจ้างวิศวกรซอฟต์แวร์ในปี 2025 และการใช้ AI ในการทำงานแทนมนุษย์ การนำ AI มาใช้ในงานวิศวกรรมอาจทำให้บทบาทของวิศวกรเปลี่ยนแปลงไป และต้องใช้เวลาและความพยายามในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงนี้ https://wccftech.com/mark-zuckerberg-predicts-ai-might-replace-mid-level-engineers-in-2025-and-completely-reshape-coding/
    WCCFTECH.COM
    Mark Zuckerberg Predicts AI Might Replace Mid-Level Engineers In 2025 And Completely Reshape Coding
    Mark Zuckerberg recently shared his views on a podcast about the role of AI and how it might replace mid level engineers in 2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • Oracle ยังคงยืนยันการถือครองเครื่องหมายการค้า JavaScript ทำให้ชุมชนผู้พัฒนา JavaScript เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ทางกฎหมาย Oracle อ้างสิทธิ์การเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้านี้ แต่บริษัทจะต้องปกป้องตำแหน่งของตนในศาล เนื่องจากชุมชนผู้พัฒนาโต้แย้งว่าเครื่องหมายการค้านี้ควรถูกยกเลิก

    Deno Land และสมาชิกชุมชน JS ที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐฯ (USPTO) เพื่อขอให้ยกเลิกเครื่องหมายการค้านี้ Oracle ต้องตอบคำร้องนี้อย่างเป็นทางการภายในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ แต่การต่อสู้ทางกฎหมายอาจดำเนินต่อไปจนถึงปี 2026 เว้นแต่ Oracle จะยอมแพ้

    Deno อ้างว่า Oracle ไม่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนา JavaScript และใช้ภาพหน้าจอของโครงการโอเพ่นซอร์ส Node.js อย่างผิดกฎหมายเพื่อพิสูจน์การเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า การต่อสู้ทางกฎหมายนี้อาจกลายเป็นการดึงเชือกที่ยุ่งยากในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่นเดียวกับการต่อสู้ระหว่าง Automattic และ WP Engine เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของ WordPress

    https://www.techspot.com/news/106351-oracle-wont-relinquish-javascript-trademark-js-community-prepares.html
    Oracle ยังคงยืนยันการถือครองเครื่องหมายการค้า JavaScript ทำให้ชุมชนผู้พัฒนา JavaScript เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ทางกฎหมาย Oracle อ้างสิทธิ์การเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้านี้ แต่บริษัทจะต้องปกป้องตำแหน่งของตนในศาล เนื่องจากชุมชนผู้พัฒนาโต้แย้งว่าเครื่องหมายการค้านี้ควรถูกยกเลิก Deno Land และสมาชิกชุมชน JS ที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐฯ (USPTO) เพื่อขอให้ยกเลิกเครื่องหมายการค้านี้ Oracle ต้องตอบคำร้องนี้อย่างเป็นทางการภายในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ แต่การต่อสู้ทางกฎหมายอาจดำเนินต่อไปจนถึงปี 2026 เว้นแต่ Oracle จะยอมแพ้ Deno อ้างว่า Oracle ไม่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนา JavaScript และใช้ภาพหน้าจอของโครงการโอเพ่นซอร์ส Node.js อย่างผิดกฎหมายเพื่อพิสูจน์การเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า การต่อสู้ทางกฎหมายนี้อาจกลายเป็นการดึงเชือกที่ยุ่งยากในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่นเดียวกับการต่อสู้ระหว่าง Automattic และ WP Engine เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของ WordPress https://www.techspot.com/news/106351-oracle-wont-relinquish-javascript-trademark-js-community-prepares.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Oracle won't relinquish JavaScript trademark, so the JS community prepares for court battle
    The initial attempt to cancel Oracle's ownership of the "JavaScript" trademark was unsuccessful. Deno Land and other prominent JS community members recently petitioned the United States Patent...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • ที่งานประชุม J.P. Morgan Healthcare Conference เมื่อวานนี้ NVIDIA ได้ประกาศความร่วมมือใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพและวิทยาศาสตร์ชีวภาพมูลค่า 10 ล้านล้านดอลลาร์ โดยการเร่งกระบวนการค้นคว้ายา การวิจัยจีโนม และการให้บริการด้านสุขภาพขั้นสูงด้วย AI ที่สามารถสร้างและดำเนินการได้เอง

    การรวมกันของ AI, การประมวลผลที่เร่งความเร็ว และข้อมูลชีวภาพกำลังเปลี่ยนแปลงการดูแลสุขภาพให้กลายเป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด ผู้นำด้านการดูแลสุขภาพ เช่น IQVIA, Illumina และ Mayo Clinic รวมถึง Arc Institute กำลังใช้เทคโนโลยีล่าสุดของ NVIDIA เพื่อพัฒนาวิธีการที่ช่วยปรับปรุงสุขภาพของมนุษย์

    โซลูชันเหล่านี้รวมถึง AI agents ที่สามารถเร่งกระบวนการทดลองทางคลินิกโดยลดภาระงานด้านการบริหาร, โมเดล AI ที่เรียนรู้จากเครื่องมือชีวภาพเพื่อพัฒนาการค้นคว้ายาและพยาธิวิทยาดิจิทัล และหุ่นยนต์ AI ที่ใช้ในการผ่าตัด การตรวจสอบผู้ป่วย และการดำเนินงาน

    Kimberly Powell รองประธานฝ่ายการดูแลสุขภาพของ NVIDIA กล่าวว่า "AI มอบโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการพัฒนาการดูแลสุขภาพและวิทยาศาสตร์ชีวภาพด้วยเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ให้บริการตรวจพบโรคได้เร็วขึ้นและค้นพบการรักษาใหม่ ๆ ได้เร็วขึ้น"

    IQVIA กำลังใช้บริการ AI Foundry ของ NVIDIA เพื่อสร้างโมเดลพื้นฐานที่กำหนดเองบนข้อมูลมากกว่า 64 เพตาไบต์ และพัฒนาโซลูชัน AI ที่สามารถเร่งการวิจัยและการพัฒนาทางคลินิก

    Illumina กำลังร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อปลดล็อกยุคใหม่ของจีโนมิกส์สำหรับการค้นคว้ายาและสุขภาพของมนุษย์ โดยใช้การประมวลผลที่เร่งความเร็วและเครื่องมือ AI ของ NVIDIA

    Mayo Clinic กำลังใช้แพลตฟอร์ม Digital Pathology ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ NVIDIA เพื่อเร่งการพัฒนารูปแบบพื้นฐานทางพยาธิวิทยา

    Arc Institute กำลังร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อพัฒนาและแบ่งปันโมเดล AI ที่ทรงพลังเพื่อพัฒนาการค้นคว้าทางชีวการแพทย์

    https://www.techpowerup.com/331102/nvidia-ai-expected-to-transform-usd-10-trillion-healthcare-life-sciences-industry
    ที่งานประชุม J.P. Morgan Healthcare Conference เมื่อวานนี้ NVIDIA ได้ประกาศความร่วมมือใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพและวิทยาศาสตร์ชีวภาพมูลค่า 10 ล้านล้านดอลลาร์ โดยการเร่งกระบวนการค้นคว้ายา การวิจัยจีโนม และการให้บริการด้านสุขภาพขั้นสูงด้วย AI ที่สามารถสร้างและดำเนินการได้เอง การรวมกันของ AI, การประมวลผลที่เร่งความเร็ว และข้อมูลชีวภาพกำลังเปลี่ยนแปลงการดูแลสุขภาพให้กลายเป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด ผู้นำด้านการดูแลสุขภาพ เช่น IQVIA, Illumina และ Mayo Clinic รวมถึง Arc Institute กำลังใช้เทคโนโลยีล่าสุดของ NVIDIA เพื่อพัฒนาวิธีการที่ช่วยปรับปรุงสุขภาพของมนุษย์ โซลูชันเหล่านี้รวมถึง AI agents ที่สามารถเร่งกระบวนการทดลองทางคลินิกโดยลดภาระงานด้านการบริหาร, โมเดล AI ที่เรียนรู้จากเครื่องมือชีวภาพเพื่อพัฒนาการค้นคว้ายาและพยาธิวิทยาดิจิทัล และหุ่นยนต์ AI ที่ใช้ในการผ่าตัด การตรวจสอบผู้ป่วย และการดำเนินงาน Kimberly Powell รองประธานฝ่ายการดูแลสุขภาพของ NVIDIA กล่าวว่า "AI มอบโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการพัฒนาการดูแลสุขภาพและวิทยาศาสตร์ชีวภาพด้วยเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ให้บริการตรวจพบโรคได้เร็วขึ้นและค้นพบการรักษาใหม่ ๆ ได้เร็วขึ้น" IQVIA กำลังใช้บริการ AI Foundry ของ NVIDIA เพื่อสร้างโมเดลพื้นฐานที่กำหนดเองบนข้อมูลมากกว่า 64 เพตาไบต์ และพัฒนาโซลูชัน AI ที่สามารถเร่งการวิจัยและการพัฒนาทางคลินิก Illumina กำลังร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อปลดล็อกยุคใหม่ของจีโนมิกส์สำหรับการค้นคว้ายาและสุขภาพของมนุษย์ โดยใช้การประมวลผลที่เร่งความเร็วและเครื่องมือ AI ของ NVIDIA Mayo Clinic กำลังใช้แพลตฟอร์ม Digital Pathology ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ NVIDIA เพื่อเร่งการพัฒนารูปแบบพื้นฐานทางพยาธิวิทยา Arc Institute กำลังร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อพัฒนาและแบ่งปันโมเดล AI ที่ทรงพลังเพื่อพัฒนาการค้นคว้าทางชีวการแพทย์ https://www.techpowerup.com/331102/nvidia-ai-expected-to-transform-usd-10-trillion-healthcare-life-sciences-industry
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    NVIDIA AI Expected to Transform $10 Trillion Healthcare & Life Sciences Industry
    At yesterday's J.P. Morgan Healthcare Conference NVIDIA announced new partnerships to transform the $10 trillion healthcare and life sciences industry by accelerating drug discovery, enhancing genomic research and pioneering advanced healthcare services with agentic and generative AI. The convergenc...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะบริหารไบเดนเสนอกรอบโครงใหม่จำกัดการส่งออกชิปเอไอ หวังสกัดจีน คู่แข่งตัวกลั่นในสงครามไฮเทค แต่กลับกลายเป็นการสร้างความกังวลในหมู่ผู้บริหารในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศ ตลอดจนถึงอียู
    .
    ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์เดียวก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พวกเจ้าหน้าที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุชัดเจนว่า กฎใหม่หล่านี้จะมีผลบังคับใช้ภายใน 120 วัน ดังนั้นจึงทำให้คณะบริหารของทรัมป์ต้องเป็นผู้ตัดสินใจว่า จะสานต่อหรือยกเลิกกรอบโครงเหล่านี้ที่จะส่งผลกระทบต่อ 120 ประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งเตือนว่า การระงับการใช้กฎนี้อาจเท่ากับเปิดโอกาสให้จีนมีเวลาสะสมมากขึ้นในการสะสมฮาร์ดแวร์ที่มาจากอเมริกา
    .
    เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวอ้างเมื่อวันจันทร์ (13 ม.ค.) ว่า เดิมพันจะสูงมาก หากจีนกลายเป็นผู้กำหนดอนาคตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)
    .
    จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ขานรับว่า สิ่งสำคัญคือการรักษาความเป็นผู้นำของอเมริกาในด้านเอไอและการพัฒนาชิปเกี่ยวกับเอไอ และเสริมว่า กรอบโครงนี้ออกแบบมาเพื่อปกป้องเทคโนโลยีเอไอขั้นสูงสุด และให้ความมั่นใจว่า เทคโนโลยีนี้จะไม่ตกอยู่ในมือศัตรูต่างชาติ แต่ขณะเดียวกันจะสามารถเผยแพร่และแบ่งปันประโยชน์กับประเทศที่เป็นหุ้นส่วนของอเมริกา
    .
    แม้คณะบริหารชุดนี้ออกมาตรการจำกัดการส่งออกกับศัตรู เช่น จีนและรัสเซียไปแล้ว แต่พวกเขาอ้างว่าบางมาตรการยังมีช่องโหว่ และกฎล่าสุดมุ่งจะตั้งข้อจำกัดกับประเทศต่างๆ ในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น
    .
    ด้าน เอ็ด มิลส์ นักวิเคราะห์ของ เรย์มอนด์ เจมส์ ชี้ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แสดงความกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับศูนย์ข้อมูลในตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากบริษัทจีนใช้ศูนย์เหล่านั้นในการสร้างโมเดลเอไอด้วยเทคโนโลยีที่ตนเองไม่สามารถนำเข้าสู่จีนได้โดยตรง
    .
    อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่แล้ว สภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของอเมริกาเตือนไรมอนโดว่า การเร่งรีบใช้กฎใหม่ของคณะบริหารเดโมแครต อาจกลายเป็นการบ่อนทำลายห่วงโซ่อุปทานโลก และทำให้บริษัทอเมริกันเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
    .
    ต่อมาในวันจันทร์ สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของอเมริกา (เอสไอเอ) แสดงความเห็นว่า ผิดหวังที่มีการเร่งรัดผลักดันนโยบายก่อนที่จะมีการเปลี่ยนผ่านคณะบริหาร
    .
    จอห์น นิวเฟอร์ ประธานและซีอีโอเอสไอเอ เตือนว่า กฎใหม่เสี่ยงทำให้เกิดความเสียหายยาวนานโดยไม่ตั้งใจกับเศรษฐกิจและขีดความสามารถแข่งขันระดับโลกของธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์และเอไอของอเมริกา เนื่องจากการทำเช่นนี้มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นการยกตลาดสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ให้แก่พวกคู่แข่ง
    .
    เอ็นวิเดีย บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ โพสต์บนบล็อก สำทับว่า แม้มีจุดประสงค์เพื่อต่อต้านจีน แต่มาตรการนี้ไม่ได้ช่วยส่งเสริมความมั่นคงของอเมริกาแต่อย่างใด
    .
    กฎใหม่นี้เนื้อหาสำคัญคือยกระดับการควบคุมการส่งออกชิป ด้วยการกำหนดให้ต้องมีการขออนุญาตสำหรับการส่งออก รวมทั้งการส่งออกต่อ และการถ่ายโอนภายในประเทศ ขณะที่ศูนย์ข้อมูลเอไอต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุมมากขึ้นหากต้องการนำเข้าชิป รวมทั้งมีการเพิ่มความเข้มงวดในการแชร์โมเดลเอไอล้ำสมัย
    .
    กฎใหม่เหล่านี้มีข้อยกเว้นหลายอย่างสำหรับพันธมิตรและหุ้นส่วนสำคัญราว 20 ชาติ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และอังกฤษ
    .
    อย่างไรก็ดี การตั้งข้อจำกัดกับบางประเทศในสหภาพยุโรป ทำให้เจ้าหน้าที่บรัสเซลส์ออกมาคัดค้านโดยระบุว่า การขายชิปเอไอขั้นสูงให้สมาชิกอียูถือเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับอเมริกา ไม่ใช่ความเสี่ยงด้านความมั่นคง
    .
    ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนโจมตีนโยบายใหม่ของไบเดนว่า ละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศ พร้อมประกาศปกป้องผลประโยชน์ของชาติเต็มที่
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004280
    ..............
    Sondhi X
    คณะบริหารไบเดนเสนอกรอบโครงใหม่จำกัดการส่งออกชิปเอไอ หวังสกัดจีน คู่แข่งตัวกลั่นในสงครามไฮเทค แต่กลับกลายเป็นการสร้างความกังวลในหมู่ผู้บริหารในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศ ตลอดจนถึงอียู . ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์เดียวก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พวกเจ้าหน้าที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุชัดเจนว่า กฎใหม่หล่านี้จะมีผลบังคับใช้ภายใน 120 วัน ดังนั้นจึงทำให้คณะบริหารของทรัมป์ต้องเป็นผู้ตัดสินใจว่า จะสานต่อหรือยกเลิกกรอบโครงเหล่านี้ที่จะส่งผลกระทบต่อ 120 ประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งเตือนว่า การระงับการใช้กฎนี้อาจเท่ากับเปิดโอกาสให้จีนมีเวลาสะสมมากขึ้นในการสะสมฮาร์ดแวร์ที่มาจากอเมริกา . เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวอ้างเมื่อวันจันทร์ (13 ม.ค.) ว่า เดิมพันจะสูงมาก หากจีนกลายเป็นผู้กำหนดอนาคตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) . จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ขานรับว่า สิ่งสำคัญคือการรักษาความเป็นผู้นำของอเมริกาในด้านเอไอและการพัฒนาชิปเกี่ยวกับเอไอ และเสริมว่า กรอบโครงนี้ออกแบบมาเพื่อปกป้องเทคโนโลยีเอไอขั้นสูงสุด และให้ความมั่นใจว่า เทคโนโลยีนี้จะไม่ตกอยู่ในมือศัตรูต่างชาติ แต่ขณะเดียวกันจะสามารถเผยแพร่และแบ่งปันประโยชน์กับประเทศที่เป็นหุ้นส่วนของอเมริกา . แม้คณะบริหารชุดนี้ออกมาตรการจำกัดการส่งออกกับศัตรู เช่น จีนและรัสเซียไปแล้ว แต่พวกเขาอ้างว่าบางมาตรการยังมีช่องโหว่ และกฎล่าสุดมุ่งจะตั้งข้อจำกัดกับประเทศต่างๆ ในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น . ด้าน เอ็ด มิลส์ นักวิเคราะห์ของ เรย์มอนด์ เจมส์ ชี้ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แสดงความกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับศูนย์ข้อมูลในตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากบริษัทจีนใช้ศูนย์เหล่านั้นในการสร้างโมเดลเอไอด้วยเทคโนโลยีที่ตนเองไม่สามารถนำเข้าสู่จีนได้โดยตรง . อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่แล้ว สภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของอเมริกาเตือนไรมอนโดว่า การเร่งรีบใช้กฎใหม่ของคณะบริหารเดโมแครต อาจกลายเป็นการบ่อนทำลายห่วงโซ่อุปทานโลก และทำให้บริษัทอเมริกันเป็นฝ่ายเสียเปรียบ . ต่อมาในวันจันทร์ สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของอเมริกา (เอสไอเอ) แสดงความเห็นว่า ผิดหวังที่มีการเร่งรัดผลักดันนโยบายก่อนที่จะมีการเปลี่ยนผ่านคณะบริหาร . จอห์น นิวเฟอร์ ประธานและซีอีโอเอสไอเอ เตือนว่า กฎใหม่เสี่ยงทำให้เกิดความเสียหายยาวนานโดยไม่ตั้งใจกับเศรษฐกิจและขีดความสามารถแข่งขันระดับโลกของธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์และเอไอของอเมริกา เนื่องจากการทำเช่นนี้มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นการยกตลาดสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ให้แก่พวกคู่แข่ง . เอ็นวิเดีย บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ โพสต์บนบล็อก สำทับว่า แม้มีจุดประสงค์เพื่อต่อต้านจีน แต่มาตรการนี้ไม่ได้ช่วยส่งเสริมความมั่นคงของอเมริกาแต่อย่างใด . กฎใหม่นี้เนื้อหาสำคัญคือยกระดับการควบคุมการส่งออกชิป ด้วยการกำหนดให้ต้องมีการขออนุญาตสำหรับการส่งออก รวมทั้งการส่งออกต่อ และการถ่ายโอนภายในประเทศ ขณะที่ศูนย์ข้อมูลเอไอต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุมมากขึ้นหากต้องการนำเข้าชิป รวมทั้งมีการเพิ่มความเข้มงวดในการแชร์โมเดลเอไอล้ำสมัย . กฎใหม่เหล่านี้มีข้อยกเว้นหลายอย่างสำหรับพันธมิตรและหุ้นส่วนสำคัญราว 20 ชาติ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และอังกฤษ . อย่างไรก็ดี การตั้งข้อจำกัดกับบางประเทศในสหภาพยุโรป ทำให้เจ้าหน้าที่บรัสเซลส์ออกมาคัดค้านโดยระบุว่า การขายชิปเอไอขั้นสูงให้สมาชิกอียูถือเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับอเมริกา ไม่ใช่ความเสี่ยงด้านความมั่นคง . ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนโจมตีนโยบายใหม่ของไบเดนว่า ละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศ พร้อมประกาศปกป้องผลประโยชน์ของชาติเต็มที่ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004280 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1598 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับการส่งออกชิปที่ประกาศโดยรัฐบาล Biden ว่าเป็นการกระทำที่ 'ผิดพลาด' และยกย่องแนวทางของอดีตประธานาธิบดี Trump ที่ไม่เข้มงวดต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี

    ข้อจำกัดใหม่ที่ประกาศในวันนี้มีผลกระทบอย่างมาก เนื่องจาก Biden จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น ข้อบังคับใหม่นี้เรียกว่า "Interim Final Rule on Artificial Intelligence Diffusion" ซึ่งเพิ่มข้อจำกัดใหม่ที่บริษัทและประเทศต่างๆ ต้องปฏิบัติตาม

    Interim Final Rule on Artificial Intelligence Diffusion นี้มีข้อปฎิบัติที่เข้มงวดมากเช่น กำหนดรายชื่อประเทศที่ได้รับอนุญาต จำกัดจำนวน GPU ที่สามารถซื้อได้ จำกัดการส่งออกชิปที่มีพลังการคำนวณสูง ต้องผ่านการรับรอง "Universal Verified End User" (UVEU) เพื่อที่จะสามารถขายของ หรือครอบครองชิปจำนวนมาก

    Nvidia ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ข้อจำกัดใหม่ โดยกล่าวว่า "รัฐบาล Biden พยายามบ่อนทำลายความเป็นผู้นำของอเมริกาด้วยข้อบังคับที่ยาวกว่า 200 หน้า ซึ่งร่างขึ้นอย่างลับๆ และไม่มีการตรวจสอบทางกฎหมายอย่างเหมาะสม"

    ข้อบังคับใหม่นี้ไม่ใช่การกำหนดรายชื่อประเทศที่ถูกห้าม แต่เป็นการกำหนดรายชื่อประเทศที่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีเพียง 18 ประเทศพันธมิตรและคู่ค้าที่สำคัญเท่านั้นที่ได้รับการยกเว้น ข้อบังคับนี้ยังมีผลกระทบต่อบริษัทต่างๆ โดยกำหนดให้บริษัทต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของสหรัฐฯ และจำกัดจำนวน GPU ที่สามารถซื้อได้

    Nvidia ยังได้ยกย่องแนวทางของอดีตประธานาธิบดี Trump ที่ไม่เข้มงวดต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยกล่าวว่า "อเมริกาชนะด้วยนวัตกรรม การแข่งขัน และการแบ่งปันเทคโนโลยีของเรากับโลก ไม่ใช่ด้วยการถอยหลังไปอยู่หลังกำแพงของการควบคุมของรัฐบาล"

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-blasts-bidens-new-ai-restrictions-as-misguided-gpu-giant-praises-trumps-hands-off-approach-to-tech-industry
    Nvidia ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับการส่งออกชิปที่ประกาศโดยรัฐบาล Biden ว่าเป็นการกระทำที่ 'ผิดพลาด' และยกย่องแนวทางของอดีตประธานาธิบดี Trump ที่ไม่เข้มงวดต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี ข้อจำกัดใหม่ที่ประกาศในวันนี้มีผลกระทบอย่างมาก เนื่องจาก Biden จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น ข้อบังคับใหม่นี้เรียกว่า "Interim Final Rule on Artificial Intelligence Diffusion" ซึ่งเพิ่มข้อจำกัดใหม่ที่บริษัทและประเทศต่างๆ ต้องปฏิบัติตาม Interim Final Rule on Artificial Intelligence Diffusion นี้มีข้อปฎิบัติที่เข้มงวดมากเช่น กำหนดรายชื่อประเทศที่ได้รับอนุญาต จำกัดจำนวน GPU ที่สามารถซื้อได้ จำกัดการส่งออกชิปที่มีพลังการคำนวณสูง ต้องผ่านการรับรอง "Universal Verified End User" (UVEU) เพื่อที่จะสามารถขายของ หรือครอบครองชิปจำนวนมาก Nvidia ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ข้อจำกัดใหม่ โดยกล่าวว่า "รัฐบาล Biden พยายามบ่อนทำลายความเป็นผู้นำของอเมริกาด้วยข้อบังคับที่ยาวกว่า 200 หน้า ซึ่งร่างขึ้นอย่างลับๆ และไม่มีการตรวจสอบทางกฎหมายอย่างเหมาะสม" ข้อบังคับใหม่นี้ไม่ใช่การกำหนดรายชื่อประเทศที่ถูกห้าม แต่เป็นการกำหนดรายชื่อประเทศที่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีเพียง 18 ประเทศพันธมิตรและคู่ค้าที่สำคัญเท่านั้นที่ได้รับการยกเว้น ข้อบังคับนี้ยังมีผลกระทบต่อบริษัทต่างๆ โดยกำหนดให้บริษัทต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของสหรัฐฯ และจำกัดจำนวน GPU ที่สามารถซื้อได้ Nvidia ยังได้ยกย่องแนวทางของอดีตประธานาธิบดี Trump ที่ไม่เข้มงวดต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยกล่าวว่า "อเมริกาชนะด้วยนวัตกรรม การแข่งขัน และการแบ่งปันเทคโนโลยีของเรากับโลก ไม่ใช่ด้วยการถอยหลังไปอยู่หลังกำแพงของการควบคุมของรัฐบาล" https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-blasts-bidens-new-ai-restrictions-as-misguided-gpu-giant-praises-trumps-hands-off-approach-to-tech-industry
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตลาดพีซีในปี 2024 มีการเติบโตเล็กน้อย โดยมีการจัดส่งพีซีจำนวน 262.7 ล้านเครื่องทั่วโลก เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับปี 2023 ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 การจัดส่งพีซีเพิ่มขึ้น 1.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2023 โดยมีการจัดส่งพีซีจำนวน 68.9 ล้านเครื่อง

    Lenovo ยังคงเป็นผู้ผลิตพีซีรายใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2024 โดยมีส่วนแบ่งตลาด 24.5% และเติบโต 4.8% เมื่อเทียบกับปี 2023. HP Inc. อยู่ในอันดับที่สองด้วยส่วนแบ่งตลาด 19.9% แต่มีการเติบโตติดลบ 1.7%. Dell, Apple และ Asus อยู่ในอันดับที่สาม สี่ และห้า ตามลำดับ

    นักวิเคราะห์ตลาดคาดการณ์ว่าปี 2025 จะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของภาษีและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ. แม้ว่าจะมีความก้าวหน้าในด้านพีซีที่มี AI ในตัว แต่ผู้ใช้ยังไม่รีบซื้อพีซีใหม่เพื่อใช้งาน AI โดยเฉพาะ

    https://www.techspot.com/news/106294-pc-market-experienced-meager-growth-last-year-2025.html
    ตลาดพีซีในปี 2024 มีการเติบโตเล็กน้อย โดยมีการจัดส่งพีซีจำนวน 262.7 ล้านเครื่องทั่วโลก เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับปี 2023 ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 การจัดส่งพีซีเพิ่มขึ้น 1.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2023 โดยมีการจัดส่งพีซีจำนวน 68.9 ล้านเครื่อง Lenovo ยังคงเป็นผู้ผลิตพีซีรายใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2024 โดยมีส่วนแบ่งตลาด 24.5% และเติบโต 4.8% เมื่อเทียบกับปี 2023. HP Inc. อยู่ในอันดับที่สองด้วยส่วนแบ่งตลาด 19.9% แต่มีการเติบโตติดลบ 1.7%. Dell, Apple และ Asus อยู่ในอันดับที่สาม สี่ และห้า ตามลำดับ นักวิเคราะห์ตลาดคาดการณ์ว่าปี 2025 จะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของภาษีและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ. แม้ว่าจะมีความก้าวหน้าในด้านพีซีที่มี AI ในตัว แต่ผู้ใช้ยังไม่รีบซื้อพีซีใหม่เพื่อใช้งาน AI โดยเฉพาะ https://www.techspot.com/news/106294-pc-market-experienced-meager-growth-last-year-2025.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    The PC market saw modest growth last year, and 2025 is looking uncertain
    The International Data Corporation said the PC market experienced modest growth in 2024, with hundreds of millions of systems shipped to distribution channels and end customers. Echoing...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไบเดนจองเวรไม่เลิก ประกาศเปิดการสอบสวนเซมิคอนดักเตอร์ “รุ่นเก่า” ของจีนในนาทีท้ายๆ ก่อนพ้นตำแหน่ง มุ่งปูทางคณะบริหารชุดใหม่ของทรัมป์รีดภาษี 60% ตามที่ขู่ไว้ ด้านปักกิ่งโต้วอชิงตันกีดกันการค้า ขณะที่องค์กรตัวแทนภาคเทคโนโลยีของอเมริกาเตือนว่า การสอบสวนล่าสุดนี้อาจทำให้เกิดผลกระทบสลับซับซ้อนและกว้างไกลต่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมเรียกร้องอเมริกา “อย่าด่วนตัดสินล่วงหน้า”
    .
    แคทเธอลีน ไท่ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) แถลงเมื่อวันจันทร์ (23 ธ.ค.) ว่า การสอบสวนล่าสุดนี้มีเป้าหมายในการปกป้องคุ้มครองผู้ผลิตชิปของอเมริกาและชาติอื่นๆ จากซัปพลายชิปจำนวนมากมายมหาศาลซึ่งผลิตในจีนภายใต้การผลักดันของปักกิ่ง
    .
    การสอบสวนที่อิงกับอำนาจตาม “มาตรา 301” ของกฎหมายการค้าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตราเดียวกับที่โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ในการขึ้นภาษีศุลกากรเอากับสินค้าจีนตอนที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกนั้น เกิดขึ้น 4 สัปดาห์ก่อนที่คณะบริหาร โจ ไบเดน จะหมดอำนาจ และทรัมป์จะได้หวนกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว ในวันที่ 20 ม.ค.2025 โดยพวกเจ้าหน้าที่ของไบเดนเผยว่า จะส่งต่อการสอบสวนนี้ให้คณะบริหารชุดใหม่ดำเนินการต่อไป เป็นการปูทางให้ทรัมป์สามารถเริ่มเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มในอัตรา 60% จากชิปนำเข้าจากจีนตามที่เขาข่มขู่ไว้ก่อนหน้านี้
    .
    ก่อนหน้านี้ คณะบริหารของไบเดนเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มจากชิปจีนที่นำเข้าสหรัฐฯในอัตรา 50% มาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปีนี้ รวมทั้งยังยกระดับมาตรการจำกัดการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์และชิปหน่วยความจำขั้นสูง ตลอดจนถึงเครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตชิปไปยังแดนมังกรอีกด้วย
    .
    ทั้งนี้ ชิปรุ่นเก่า (Legacy chip) ใช้กระบวนการผลิตที่เริ่มต้นเมื่อกว่าทศวรรษที่แล้ว และมักซับซ้อนน้อยกว่าชิปเอไอหรือชิปขั้นสูง กระนั้นก็เป็นชิปที่ยังคงมีใช้งานกันอยู่อย่างกว้างขวางทั่วไป
    .
    จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ แถลงสำทับเมื่อวันจันทร์ว่า งานวิจัยของกระทรวงพบว่า ผลิตภัณฑ์ของอเมริกา 2 ใน 3 ทีเดียวยังคงใช้ชิปรุ่นเก่าของจีน และบริษัทอเมริกันราว 50% ไม่รู้ที่มาของชิปที่ใช้ ในจำนวนนี้รวมถึงบริษัทในอุตสาหกรรมการทหาร เธอบอกว่าว่า ข้อมูลนี้น่ากังวลอย่างยิ่ง
    .
    ทางด้าน ไท่ เสริมว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ของเธอ พบหลักฐานว่า จีนกำลังพุ่งเป้ามาที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ด้วยความมุ่งหมายที่จะครอบงำโลก โดยหวังจะเปิดทางให้บริษัทจีนเพิ่มศักยภาพทางด้านนี้ได้อย่างรวดเร็ว และเสนอชิปราคาถูกเกินจริงที่อาจเป็นอันตรายหรือกำจัดการแข่งขันที่อิงกับตลาด เช่นเดียวกับที่เคยทำในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า แผงพลังงานแสงอาทิตย์ และรถอีวีมาแล้ว
    .
    ในส่วนปฏิกิริยาของทางฝ่ายจีน กระทรวงพาณิชย์แดนมังกรออกคำแถลงตอบโต้ว่า การสอบสวนเช่นนี้ของอเมริกาคือพฤติการณ์การกีดกันการค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง กระทั่งไปถึงพวกบริษัทอเมริกันเอง รวมถึงทำให้ห่วงโซ่อุปทานชิปโลกสะดุดติดขัด ทั้งนี้ ปักกิ่งจะตอบโต้ดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของประเทศ
    .
    ขณะที่ เจสัน ออกซ์แมน ประธานสภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่เป็นตัวแทนภาคเทคโนโลยีของอเมริกา ออกมาเตือนว่า การสอบสวนของวอชิงตันอาจทำให้เกิดผลกระทบที่ซับซ้อนและกว้างไกลต่อเศรษฐกิจโลกและห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมเรียกร้องให้ยูเอสทีอาร์ “อย่าด่วนมีคำตัดสินล่วงหน้า” แต่ควรดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นธรรม
    .
    ปัจจุบัน พวกเครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป เครื่องเล่นวิดีโอเกม และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคอื่นๆ ที่ไม่ใช่รุ่นล้ำยุค ยังคงใช้เซมิคอนดักเตอร์รุ่นเก่ากันอยู่มาก โดยที่สินค้าเหล่านี้ซึ่งจำหน่ายกันในอเมริกาส่วนใหญ่ก็ยังคงนำเข้าจากจีน
    .
    เจ้าหน้าที่คณะบริหารของไบเดนคนหนึ่งเปิดเผยว่า การสอบสวนล่าสุดนี้ ในเบื้องต้นจะโฟกัสที่การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งรวมถึงขอบเขตการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์การแพทย์ รถ และผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมการทหาร
    .
    ทั้งนี้ ตามหมายเกี่ยวกับการสอบสวนคราวนี้ ของสำนักงานทะเบียนสหรัฐฯ ระบุว่า คณะบริหารไบเดนจะเริ่มต้นเปิดรับความเห็นต่างๆ ของสาธารณชนเกี่ยวกับการสอบสวนนี้ในวันที่ 6 มกราคม และวางแผนจัดการไต่สวนสาธารณะขึ้นในวันที่ 11-12 มีนาคม โดยที่การสอบสวนมีกำหนดเสร็จสิ้นภายในเวลา 1 ปี
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123559
    ..............
    Sondhi X
    ไบเดนจองเวรไม่เลิก ประกาศเปิดการสอบสวนเซมิคอนดักเตอร์ “รุ่นเก่า” ของจีนในนาทีท้ายๆ ก่อนพ้นตำแหน่ง มุ่งปูทางคณะบริหารชุดใหม่ของทรัมป์รีดภาษี 60% ตามที่ขู่ไว้ ด้านปักกิ่งโต้วอชิงตันกีดกันการค้า ขณะที่องค์กรตัวแทนภาคเทคโนโลยีของอเมริกาเตือนว่า การสอบสวนล่าสุดนี้อาจทำให้เกิดผลกระทบสลับซับซ้อนและกว้างไกลต่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมเรียกร้องอเมริกา “อย่าด่วนตัดสินล่วงหน้า” . แคทเธอลีน ไท่ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) แถลงเมื่อวันจันทร์ (23 ธ.ค.) ว่า การสอบสวนล่าสุดนี้มีเป้าหมายในการปกป้องคุ้มครองผู้ผลิตชิปของอเมริกาและชาติอื่นๆ จากซัปพลายชิปจำนวนมากมายมหาศาลซึ่งผลิตในจีนภายใต้การผลักดันของปักกิ่ง . การสอบสวนที่อิงกับอำนาจตาม “มาตรา 301” ของกฎหมายการค้าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตราเดียวกับที่โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ในการขึ้นภาษีศุลกากรเอากับสินค้าจีนตอนที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกนั้น เกิดขึ้น 4 สัปดาห์ก่อนที่คณะบริหาร โจ ไบเดน จะหมดอำนาจ และทรัมป์จะได้หวนกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว ในวันที่ 20 ม.ค.2025 โดยพวกเจ้าหน้าที่ของไบเดนเผยว่า จะส่งต่อการสอบสวนนี้ให้คณะบริหารชุดใหม่ดำเนินการต่อไป เป็นการปูทางให้ทรัมป์สามารถเริ่มเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มในอัตรา 60% จากชิปนำเข้าจากจีนตามที่เขาข่มขู่ไว้ก่อนหน้านี้ . ก่อนหน้านี้ คณะบริหารของไบเดนเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มจากชิปจีนที่นำเข้าสหรัฐฯในอัตรา 50% มาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปีนี้ รวมทั้งยังยกระดับมาตรการจำกัดการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์และชิปหน่วยความจำขั้นสูง ตลอดจนถึงเครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตชิปไปยังแดนมังกรอีกด้วย . ทั้งนี้ ชิปรุ่นเก่า (Legacy chip) ใช้กระบวนการผลิตที่เริ่มต้นเมื่อกว่าทศวรรษที่แล้ว และมักซับซ้อนน้อยกว่าชิปเอไอหรือชิปขั้นสูง กระนั้นก็เป็นชิปที่ยังคงมีใช้งานกันอยู่อย่างกว้างขวางทั่วไป . จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ แถลงสำทับเมื่อวันจันทร์ว่า งานวิจัยของกระทรวงพบว่า ผลิตภัณฑ์ของอเมริกา 2 ใน 3 ทีเดียวยังคงใช้ชิปรุ่นเก่าของจีน และบริษัทอเมริกันราว 50% ไม่รู้ที่มาของชิปที่ใช้ ในจำนวนนี้รวมถึงบริษัทในอุตสาหกรรมการทหาร เธอบอกว่าว่า ข้อมูลนี้น่ากังวลอย่างยิ่ง . ทางด้าน ไท่ เสริมว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ของเธอ พบหลักฐานว่า จีนกำลังพุ่งเป้ามาที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ด้วยความมุ่งหมายที่จะครอบงำโลก โดยหวังจะเปิดทางให้บริษัทจีนเพิ่มศักยภาพทางด้านนี้ได้อย่างรวดเร็ว และเสนอชิปราคาถูกเกินจริงที่อาจเป็นอันตรายหรือกำจัดการแข่งขันที่อิงกับตลาด เช่นเดียวกับที่เคยทำในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า แผงพลังงานแสงอาทิตย์ และรถอีวีมาแล้ว . ในส่วนปฏิกิริยาของทางฝ่ายจีน กระทรวงพาณิชย์แดนมังกรออกคำแถลงตอบโต้ว่า การสอบสวนเช่นนี้ของอเมริกาคือพฤติการณ์การกีดกันการค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง กระทั่งไปถึงพวกบริษัทอเมริกันเอง รวมถึงทำให้ห่วงโซ่อุปทานชิปโลกสะดุดติดขัด ทั้งนี้ ปักกิ่งจะตอบโต้ดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของประเทศ . ขณะที่ เจสัน ออกซ์แมน ประธานสภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่เป็นตัวแทนภาคเทคโนโลยีของอเมริกา ออกมาเตือนว่า การสอบสวนของวอชิงตันอาจทำให้เกิดผลกระทบที่ซับซ้อนและกว้างไกลต่อเศรษฐกิจโลกและห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมเรียกร้องให้ยูเอสทีอาร์ “อย่าด่วนมีคำตัดสินล่วงหน้า” แต่ควรดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นธรรม . ปัจจุบัน พวกเครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป เครื่องเล่นวิดีโอเกม และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคอื่นๆ ที่ไม่ใช่รุ่นล้ำยุค ยังคงใช้เซมิคอนดักเตอร์รุ่นเก่ากันอยู่มาก โดยที่สินค้าเหล่านี้ซึ่งจำหน่ายกันในอเมริกาส่วนใหญ่ก็ยังคงนำเข้าจากจีน . เจ้าหน้าที่คณะบริหารของไบเดนคนหนึ่งเปิดเผยว่า การสอบสวนล่าสุดนี้ ในเบื้องต้นจะโฟกัสที่การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งรวมถึงขอบเขตการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์การแพทย์ รถ และผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมการทหาร . ทั้งนี้ ตามหมายเกี่ยวกับการสอบสวนคราวนี้ ของสำนักงานทะเบียนสหรัฐฯ ระบุว่า คณะบริหารไบเดนจะเริ่มต้นเปิดรับความเห็นต่างๆ ของสาธารณชนเกี่ยวกับการสอบสวนนี้ในวันที่ 6 มกราคม และวางแผนจัดการไต่สวนสาธารณะขึ้นในวันที่ 11-12 มีนาคม โดยที่การสอบสวนมีกำหนดเสร็จสิ้นภายในเวลา 1 ปี . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123559 .............. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1025 มุมมอง 0 รีวิว
  • Delta และ Cal-Comp จับมือยกระดับโรงงานอัจฉริยะ ขับเคลื่อนอนาคตอุตสาหกรรมไทย
    Delta Electronics (Thailand) (DELTA) และ Cal-Comp Electronics (Thailand) (CCET) สองยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญผ่านการลงนาม MOU เพื่อผลักดันนวัตกรรมในระบบอัตโนมัติสำหรับโรงงาน โดยมุ่งสร้างกระบวนการผลิตที่ชาญฉลาดและยั่งยืน พร้อมตั้งเป้ายกระดับวงการบริการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (EMS - Electronics Manufacturing Services) ของไทยให้ก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นคง

    นายคงสิทธิ์ โชคกิจเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของ Cal-Comp Electronics เปิดเผยว่า Delta และ Cal-Comp ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 35 ปี โดยทั้งสองบริษัทมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน การร่วมมือครั้งนี้ตั้งเป้าพัฒนาเทคโนโลยีอัตโนมัติในกระบวนการผลิตและการจัดการดิจิทัล เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และผลักดันอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทยให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น

    นายวิกเตอร์ เฉิง ซีอีโอของ Delta Thailand กล่าวถึงความร่วมมือว่า Delta จะผสานโซลูชันระบบอัตโนมัติและ AI เข้ากับกระบวนการผลิตของ Cal-Comp เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ปรับปรุงคุณภาพสินค้า และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    โครงการที่ผ่านมา เช่น การใช้หุ่นยนต์ SCARA, เทคโนโลยี DIATwin และโครงการประหยัดพลังงาน ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความคุ้มค่า ความร่วมมือนี้ยังมุ่งพัฒนาแพลตฟอร์ม CCET 4.0+ ของ Cal-Comp ควบคู่กับโซลูชัน DIAEAP-IMM ของ Delta ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแม่นยำ ลดข้อผิดพลาด และยกระดับคุณภาพการผลิต

    ความร่วมมือนี้ไม่เพียงส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมไทย แต่ยังสะท้อนถึงแนวโน้มระดับโลกในการผลิตที่ชาญฉลาดและยั่งยืน พร้อมวางรากฐานให้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทยแข็งแกร่งในตลาดโลก


    อ้างอิง
    https://www.thailand4.com/en/MojR
    Delta และ Cal-Comp จับมือยกระดับโรงงานอัจฉริยะ ขับเคลื่อนอนาคตอุตสาหกรรมไทย Delta Electronics (Thailand) (DELTA) และ Cal-Comp Electronics (Thailand) (CCET) สองยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญผ่านการลงนาม MOU เพื่อผลักดันนวัตกรรมในระบบอัตโนมัติสำหรับโรงงาน โดยมุ่งสร้างกระบวนการผลิตที่ชาญฉลาดและยั่งยืน พร้อมตั้งเป้ายกระดับวงการบริการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (EMS - Electronics Manufacturing Services) ของไทยให้ก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นคง นายคงสิทธิ์ โชคกิจเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของ Cal-Comp Electronics เปิดเผยว่า Delta และ Cal-Comp ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 35 ปี โดยทั้งสองบริษัทมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน การร่วมมือครั้งนี้ตั้งเป้าพัฒนาเทคโนโลยีอัตโนมัติในกระบวนการผลิตและการจัดการดิจิทัล เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และผลักดันอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทยให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น นายวิกเตอร์ เฉิง ซีอีโอของ Delta Thailand กล่าวถึงความร่วมมือว่า Delta จะผสานโซลูชันระบบอัตโนมัติและ AI เข้ากับกระบวนการผลิตของ Cal-Comp เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ปรับปรุงคุณภาพสินค้า และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โครงการที่ผ่านมา เช่น การใช้หุ่นยนต์ SCARA, เทคโนโลยี DIATwin และโครงการประหยัดพลังงาน ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความคุ้มค่า ความร่วมมือนี้ยังมุ่งพัฒนาแพลตฟอร์ม CCET 4.0+ ของ Cal-Comp ควบคู่กับโซลูชัน DIAEAP-IMM ของ Delta ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแม่นยำ ลดข้อผิดพลาด และยกระดับคุณภาพการผลิต ความร่วมมือนี้ไม่เพียงส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมไทย แต่ยังสะท้อนถึงแนวโน้มระดับโลกในการผลิตที่ชาญฉลาดและยั่งยืน พร้อมวางรากฐานให้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทยแข็งแกร่งในตลาดโลก อ้างอิง https://www.thailand4.com/en/MojR
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • Lisa Su แห่ง AMD "ซีอีโอแห่งปี "หญิงแกร่งที่มีมีความเก่ง!12 ธันวาคม 2567 นิตยสาร Time ยกย่อง Dr. Lisa Su #CEO ของ #AMD ให้เป็น "CEO แห่งปี 2024" ว่าเธอเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จสูงสุดใน #อุตสาหกรรมเทคโนโลยี ยุคปัจจุบัน ด้วยความสามารถในการพลิกฟื้นบริษัท AMD ให้กลับมาเป็นผู้นำ #ตลาดชิปประมวลผล และ #เซมิคอนดักเตอร์ ระดับโลก. การเปลี่ยนแปลง AMD ภายใต้การนำของ Dr. Su ตั้งแต่ปี 2014 AMD ได้เปลี่ยนจาก #บริษัทที่ประสบปัญหา ในการทำกำไรมาเป็นผู้นำตลาดที่ท้าทายคู่แข่งอย่าง #Intel และ #NVIDIA โดยมูลค่าหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นกว่า 3700% และ AMD มีมูลค่าตลาดแซง Intel ได้สำเร็จ.เธอเป็นผู้ผลักดันเทคโนโลยีตระกูล Zen processors และขยายตลาดไปสู่ธุรกิจศูนย์ข้อมูลและคลาวด์คอมพิวติ้ง รวมถึงการซื้อกิจการ Xilinx ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพของ AMD ในตลาดชิป FPGA และ #AI.เธอถูกยกย่องในด้านการบริหารที่ครอบคลุมทั้งเชิงกลยุทธ์และเทคนิค โดยเธอลงมือทำงานในทุกระดับ ตั้งแต่การบริหารจัดการไปจนถึงการพัฒนาชิปในห้องแล็บ.รางวัลนี้ตอกย้ำบทบาทสำคัญของ Lisa Su ในการพัฒนาเทคโนโลยีและการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้นำในวงการทั่วโลกในอนาคต.ลิซ่า ซู ซีอีโอ AMD ได้รับเลือกให้เป็นซีอีโอแห่งปี 2024 จากนิตยสาร TIME โดยได้รับการยกย่องในวิสัยทัศน์และความเป็นผู้นำที่สามารถพลิกฟื้น AMD จากการเกือบล้มละลายเมื่อ 10 ปีก่อน กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักในวงการเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก
    Lisa Su แห่ง AMD "ซีอีโอแห่งปี "หญิงแกร่งที่มีมีความเก่ง!12 ธันวาคม 2567 นิตยสาร Time ยกย่อง Dr. Lisa Su #CEO ของ #AMD ให้เป็น "CEO แห่งปี 2024" ว่าเธอเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จสูงสุดใน #อุตสาหกรรมเทคโนโลยี ยุคปัจจุบัน ด้วยความสามารถในการพลิกฟื้นบริษัท AMD ให้กลับมาเป็นผู้นำ #ตลาดชิปประมวลผล และ #เซมิคอนดักเตอร์ ระดับโลก. การเปลี่ยนแปลง AMD ภายใต้การนำของ Dr. Su ตั้งแต่ปี 2014 AMD ได้เปลี่ยนจาก #บริษัทที่ประสบปัญหา ในการทำกำไรมาเป็นผู้นำตลาดที่ท้าทายคู่แข่งอย่าง #Intel และ #NVIDIA โดยมูลค่าหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นกว่า 3700% และ AMD มีมูลค่าตลาดแซง Intel ได้สำเร็จ.เธอเป็นผู้ผลักดันเทคโนโลยีตระกูล Zen processors และขยายตลาดไปสู่ธุรกิจศูนย์ข้อมูลและคลาวด์คอมพิวติ้ง รวมถึงการซื้อกิจการ Xilinx ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพของ AMD ในตลาดชิป FPGA และ #AI.เธอถูกยกย่องในด้านการบริหารที่ครอบคลุมทั้งเชิงกลยุทธ์และเทคนิค โดยเธอลงมือทำงานในทุกระดับ ตั้งแต่การบริหารจัดการไปจนถึงการพัฒนาชิปในห้องแล็บ.รางวัลนี้ตอกย้ำบทบาทสำคัญของ Lisa Su ในการพัฒนาเทคโนโลยีและการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้นำในวงการทั่วโลกในอนาคต.ลิซ่า ซู ซีอีโอ AMD ได้รับเลือกให้เป็นซีอีโอแห่งปี 2024 จากนิตยสาร TIME โดยได้รับการยกย่องในวิสัยทัศน์และความเป็นผู้นำที่สามารถพลิกฟื้น AMD จากการเกือบล้มละลายเมื่อ 10 ปีก่อน กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักในวงการเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 466 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อุตสาหกรรมที่ชี้เป็นชี้ตาย" หมายถึงกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญมากต่อเศรษฐกิจของประเทศหรือโลก และหากเกิดปัญหาในอุตสาหกรรมเหล่านี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโดยรวม โดยปกติจะหมายถึงอุตสาหกรรมหลัก เช่น:1. อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ2. อุตสาหกรรมพลังงาน3. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ4. อุตสาหกรรมการเกษตรและอาหาร5. อุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์6. อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์7. อุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์8. อุตสาหกรรมการก่อสร้าง9. อุตสาหกรรมโทรคมนาคม10. อุตสาหกรรมการธนาคารและการเงิน11. อุตสาหกรรมเหมืองแร่12. อุตสาหกรรมเหล็กและโลหะ13. อุตสาหกรรมปิโตรเคมี14. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร15. อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและอาวุธ16. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์17. อุตสาหกรรมการผลิตหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ18. อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ19. อุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอ20. อุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อ21. อุตสาหกรรมการศึกษาและการฝึกอบรม22. อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน (พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม)23. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ24. อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์25. อุตสาหกรรมสื่อดิจิทัลและแพลตฟอร์มออนไลน์26. อุตสาหกรรมเกมและการพัฒนาแอปพลิเคชัน27. อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์พิเศษ28. อุตสาหกรรมการขนส่งสาธารณะและโครงสร้างพื้นฐานนี่คืออุตสาหกรรมเพิ่มเติมที่มีความสำคัญ:29. อุตสาหกรรมการรีไซเคิลและการจัดการของเสีย30. อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ31. อุตสาหกรรมการประมงและผลิตภัณฑ์จากทะเล32. อุตสาหกรรมการผลิตวัสดุก่อสร้าง33. อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์34. อุตสาหกรรมอุปกรณ์กีฬา35. อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว36. อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และการออกแบบตกแต่งภายใน37. อุตสาหกรรมการศึกษาออนไลน์และการเรียนรู้ดิจิทัล38. อุตสาหกรรมการค้าปลีก (ทั้งแบบดั้งเดิมและออนไลน์)39. อุตสาหกรรมการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ (เช่น ข้าวสาลี, ข้าวโพด, อ้อย)40. อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ41. อุตสาหกรรมการพัฒนาและขายซอฟต์แวร์42. อุตสาหกรรมดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง43. อุตสาหกรรมบริการด้านการเงิน (เช่น บริษัทประกันภัย)44. อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์45. อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และการผลิตแบตเตอรี่46. อุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์47. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพเกษตร (เช่น พืชดัดแปลงพันธุกรรม)48. อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ49. อุตสาหกรรมการพิมพ์สามมิติ (3D Printing)50. อุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (Data Centers)51. อุตสาหกรรมการออกแบบสถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง52. อุตสาหกรรมการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)53. อุตสาหกรรมการวิเคราะห์และวิจัยตลาด54. อุตสาหกรรมการทดสอบและควบคุมคุณภาพ55. อุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์56. อุตสาหกรรมอุปกรณ์การแพทย์57. อุตสาหกรรมการแพทย์ทางเลือกและการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม58. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มการจัดการโครงข่ายพลังงาน (Smart Grid)59. อุตสาหกรรมการพัฒนาเทคโนโลยีรถไร้คนขับ60. อุตสาหกรรมโลจิสติกส์อัจฉริยะและห่วงโซ่อุปทาน61. อุตสาหกรรมการออกแบบและการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรูหรา62. อุตสาหกรรมการผลิตวัคซีนและยาชีววัตถุ63. อุตสาหกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนเทคโนโลยีสีเขียว64. อุตสาหกรรมระบบการเกษตรแบบยั่งยืนและเทคโนโลยีเกษตร (AgriTech)65. อุตสาหกรรมที่พักอาศัยและการบริการ (Hospitality)66. อุตสาหกรรมสถาบันทางการเงินระหว่างประเทศ67. อุตสาหกรรมการจัดการและบำบัดน้ำ
    "อุตสาหกรรมที่ชี้เป็นชี้ตาย" หมายถึงกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญมากต่อเศรษฐกิจของประเทศหรือโลก และหากเกิดปัญหาในอุตสาหกรรมเหล่านี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโดยรวม โดยปกติจะหมายถึงอุตสาหกรรมหลัก เช่น:1. อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ2. อุตสาหกรรมพลังงาน3. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ4. อุตสาหกรรมการเกษตรและอาหาร5. อุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์6. อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์7. อุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์8. อุตสาหกรรมการก่อสร้าง9. อุตสาหกรรมโทรคมนาคม10. อุตสาหกรรมการธนาคารและการเงิน11. อุตสาหกรรมเหมืองแร่12. อุตสาหกรรมเหล็กและโลหะ13. อุตสาหกรรมปิโตรเคมี14. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร15. อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและอาวุธ16. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์17. อุตสาหกรรมการผลิตหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ18. อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ19. อุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอ20. อุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อ21. อุตสาหกรรมการศึกษาและการฝึกอบรม22. อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน (พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม)23. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ24. อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์25. อุตสาหกรรมสื่อดิจิทัลและแพลตฟอร์มออนไลน์26. อุตสาหกรรมเกมและการพัฒนาแอปพลิเคชัน27. อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์พิเศษ28. อุตสาหกรรมการขนส่งสาธารณะและโครงสร้างพื้นฐานนี่คืออุตสาหกรรมเพิ่มเติมที่มีความสำคัญ:29. อุตสาหกรรมการรีไซเคิลและการจัดการของเสีย30. อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ31. อุตสาหกรรมการประมงและผลิตภัณฑ์จากทะเล32. อุตสาหกรรมการผลิตวัสดุก่อสร้าง33. อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์34. อุตสาหกรรมอุปกรณ์กีฬา35. อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว36. อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และการออกแบบตกแต่งภายใน37. อุตสาหกรรมการศึกษาออนไลน์และการเรียนรู้ดิจิทัล38. อุตสาหกรรมการค้าปลีก (ทั้งแบบดั้งเดิมและออนไลน์)39. อุตสาหกรรมการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ (เช่น ข้าวสาลี, ข้าวโพด, อ้อย)40. อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ41. อุตสาหกรรมการพัฒนาและขายซอฟต์แวร์42. อุตสาหกรรมดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง43. อุตสาหกรรมบริการด้านการเงิน (เช่น บริษัทประกันภัย)44. อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์45. อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และการผลิตแบตเตอรี่46. อุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์47. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพเกษตร (เช่น พืชดัดแปลงพันธุกรรม)48. อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ49. อุตสาหกรรมการพิมพ์สามมิติ (3D Printing)50. อุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (Data Centers)51. อุตสาหกรรมการออกแบบสถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง52. อุตสาหกรรมการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)53. อุตสาหกรรมการวิเคราะห์และวิจัยตลาด54. อุตสาหกรรมการทดสอบและควบคุมคุณภาพ55. อุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์56. อุตสาหกรรมอุปกรณ์การแพทย์57. อุตสาหกรรมการแพทย์ทางเลือกและการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม58. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มการจัดการโครงข่ายพลังงาน (Smart Grid)59. อุตสาหกรรมการพัฒนาเทคโนโลยีรถไร้คนขับ60. อุตสาหกรรมโลจิสติกส์อัจฉริยะและห่วงโซ่อุปทาน61. อุตสาหกรรมการออกแบบและการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรูหรา62. อุตสาหกรรมการผลิตวัคซีนและยาชีววัตถุ63. อุตสาหกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนเทคโนโลยีสีเขียว64. อุตสาหกรรมระบบการเกษตรแบบยั่งยืนและเทคโนโลยีเกษตร (AgriTech)65. อุตสาหกรรมที่พักอาศัยและการบริการ (Hospitality)66. อุตสาหกรรมสถาบันทางการเงินระหว่างประเทศ67. อุตสาหกรรมการจัดการและบำบัดน้ำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 934 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทุกวันนี้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจโลก Printed Circuit Board (PCB) หรือแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ กลายเป็นหัวใจหลักที่ช่วยให้การพัฒนาเทคโนโลยีเกิดขึ้นได้ ตั้งแต่อุปกรณ์สมาร์ทโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์การแพทย์ ไปจนถึงระบบ AI และ Data Centers

    ล่าสุด ประเทศไทยได้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำที่มีศักยภาพสูงสุดในการผลิต PCB ของอาเซียน และกำลังมุ่งหน้าสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลก ด้วยการสนับสนุนจากบีโอไอ ที่มุ่งเน้นการดึงดูดการลงทุนและการสร้างรากฐานสำหรับอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง โดยตั้งเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศผู้ผลิต PCB ชั้นนำของโลกภายใน 5 ปีข้างหน้า

    🔶PCB คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ

    PCB (Printed Circuit Board) คือ ส่วนประกอบสำคัญในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น ชิปหรือเซนเซอร์ ที่พบได้ในอุปกรณ์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์การแพทย์ แผงวงจรเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญาณไฟฟ้าระหว่างชิ้นส่วนต่างๆ ทำให้ระบบทั้งหมดสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การทำงานของ PCB สามารถอธิบายได้เหมือนกับ "ทางเดิน" ที่เชื่อมต่อพลังงานไฟฟ้าให้ไหลไปยังส่วนต่างๆ ของวงจร ซึ่งลายวงจรไฟฟ้านี้จะถูกสลักลงบนแผ่นทองแดงที่ยึดอยู่บนวัสดุแข็ง เช่น ไฟเบอร์กลาส วัสดุนี้เป็นตัวรองรับแผงวงจรและทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ สามารถติดตั้งและทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพ และเป็นรากฐานที่ทำให้การพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีเป็นไปได้

    1. หัวใจของนวัตกรรมในทุกภาคส่วน : PCB มีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยี ตั้งแต่อุปกรณ์ส่วนบุคคลไปจนถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ อุปกรณ์การแพทย์ และการบิน การที่อุตสาหกรรม PCB เติบโต หมายถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สูงขึ้น

    2. ตอบโจทย์การออกแบบขนาดเล็กและประสิทธิภาพสูง : เทคโนโลยี PCB รุ่นใหม่ เช่น High-Density Interconnect (HDI) และ Flexible PCB ช่วยให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีขนาดเล็กลงและเบาขึ้น ขณะเดียวกันยังคงความสามารถในการประมวลผลและการใช้งานที่ซับซ้อน เช่น ในสมาร์ทโฟน รวมทั้งตอบโจทย์การใช้งานในอุปกรณ์สวมใส่และอุปกรณ์ทางการแพทย์

    3. ความยืดหยุ่นและความทนทานที่เพิ่มขึ้น : PCB แบบ Rigid-Flex เป็นอีกนวัตกรรมหนึ่งที่ผสมผสานความแข็งแรงและความยืดหยุ่นในแผ่นเดียวกัน ซึ่งเหมาะสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานและความสามารถในการรับแรงกระแทก เช่น อุตสาหกรรมการบินและยานยนต์

    🔶ทำไมประเทศไทยถึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของการลงทุนใน PCB

    ข้อมูลจากบีโอไอ สะท้อนว่าการลงทุนในอุตสาหกรรม PCB ของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างน่าสนใจ จากปี 2561 ถึงกลางปี 2567 มีการลงทุนรวมเกือบ 200,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในปี 2566 ที่มีการลงทุนสูงกว่า 100,000 ล้านบาท และในครึ่งปีแรกของปี 2567 การลงทุนเพิ่มอีก 39,732 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมและทิศทางของไทยที่กำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิต PCB ในระดับโลก

    1. การเติบโตอย่างรวดเร็วของการลงทุนจากต่างประเทศ : นักลงทุนจาก จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคอื่นๆ และการมองเห็นศักยภาพในความเสถียรทางเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย

    2. ข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ : ไทยมี แรงงานที่พร้อมพัฒนาทักษะ โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และ ห่วงโซ่อุปทานที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการผลิตชิ้นส่วน การเคลือบ การเจาะ การทดสอบทางไฟฟ้า รวมถึงการประกอบชิ้นส่วนขั้นสูง ทำให้สามารถรองรับการผลิตที่ต้องการความแม่นยำและเทคโนโลยีสูงได้อย่างเต็มที่

    3. การสนับสนุนจากบีโอไอ : ที่มีบทบาทสำคัญในการดึงดูดการลงทุนผ่านการมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งการยกเว้นภาษี การยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบ และการสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมทั้งยังเน้นการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะสูง ผ่านการจัดโครงการ Job matching และการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อรองรับอุตสาหกรรม PCB โดยเฉพาะ

    🔶การเติบโตสู่ระดับโลก : เป้าหมายของไทยใน 5 ปีข้างหน้า

    ประเทศไทยตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศผู้ผลิต PCB ชั้นนำของโลก ภายใน 5 ปีข้างหน้า การเป็นศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาคและการเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง

    ประเทศไทยกำลังมุ่งหน้าไปสู่การเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรม PCB ระดับโลกภายใน 5 ปี ด้วยการสนับสนุนจากบีโอไอ ที่เน้น 3 ด้านหลัก คือ การพัฒนาบุคลากร การเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) และ สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

    1. การพัฒนาบุคลากร : บีโอไอ ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและภาคเอกชนในการฝึกอบรมบุคลากรและจับคู่ธุรกิจ เพื่อสร้างแรงงานที่มีทักษะสูงสำหรับอุตสาหกรรม PCB

    2. การเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทาน : นอกจากการผลิต PCB แล้ว ไทยยังสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การเคลือบ การเจาะ การเชื่อมวงจร และการผลิตชิ้นส่วนที่สนับสนุนการเติบโตของห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศ ผ่านงานจับคู่ธุรกิจอย่าง Subcon Thailand และ Thailand Electronics Circuit Asia (THECA)

    3. การใช้พลังงานสะอาด : การผลิต PCB ใช้พลังงานและน้ำจำนวนมาก จึงมีการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดผ่านโครงการ Utility Green Tariff (UGT) และการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การผลิตมีความยั่งยืนและไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    การใช้พลังงานสะอาด : การผลิต PCB ต้องการพลังงานและน้ำในปริมาณมาก ปัจจุบันกระทรวงพลังงานกำลังดำเนินโครงการ Utility Green Tariff (UGT) ซึ่งเป็นอัตราค่าไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสะอาดจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานสีเขียวในภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจว่ามีแหล่งพลังงานสะอาดเพียงพอ รวมถึงการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้กระบวนการผลิตยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    ✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨
    #บีโอไอส่งเสริมการลงทุนทั้งคนไทยและต่างชาติทุกขนาดการลงทุน
    📱 0 2553 8111
    📧 head@boi.go.th
    🌐 www.boi.go.th
    🔰ไม่มีค่าใช้จ่ายในการติดต่อ

    #PCB #SupplyChain #ThailandTechHub #PCBInnovation #TopPCBThailand
    ทุกวันนี้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจโลก Printed Circuit Board (PCB) หรือแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ กลายเป็นหัวใจหลักที่ช่วยให้การพัฒนาเทคโนโลยีเกิดขึ้นได้ ตั้งแต่อุปกรณ์สมาร์ทโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์การแพทย์ ไปจนถึงระบบ AI และ Data Centers ล่าสุด ประเทศไทยได้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำที่มีศักยภาพสูงสุดในการผลิต PCB ของอาเซียน และกำลังมุ่งหน้าสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลก ด้วยการสนับสนุนจากบีโอไอ ที่มุ่งเน้นการดึงดูดการลงทุนและการสร้างรากฐานสำหรับอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง โดยตั้งเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศผู้ผลิต PCB ชั้นนำของโลกภายใน 5 ปีข้างหน้า 🔶PCB คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ PCB (Printed Circuit Board) คือ ส่วนประกอบสำคัญในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น ชิปหรือเซนเซอร์ ที่พบได้ในอุปกรณ์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์การแพทย์ แผงวงจรเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญาณไฟฟ้าระหว่างชิ้นส่วนต่างๆ ทำให้ระบบทั้งหมดสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานของ PCB สามารถอธิบายได้เหมือนกับ "ทางเดิน" ที่เชื่อมต่อพลังงานไฟฟ้าให้ไหลไปยังส่วนต่างๆ ของวงจร ซึ่งลายวงจรไฟฟ้านี้จะถูกสลักลงบนแผ่นทองแดงที่ยึดอยู่บนวัสดุแข็ง เช่น ไฟเบอร์กลาส วัสดุนี้เป็นตัวรองรับแผงวงจรและทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ สามารถติดตั้งและทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพ และเป็นรากฐานที่ทำให้การพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีเป็นไปได้ 1. หัวใจของนวัตกรรมในทุกภาคส่วน : PCB มีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยี ตั้งแต่อุปกรณ์ส่วนบุคคลไปจนถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ อุปกรณ์การแพทย์ และการบิน การที่อุตสาหกรรม PCB เติบโต หมายถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สูงขึ้น 2. ตอบโจทย์การออกแบบขนาดเล็กและประสิทธิภาพสูง : เทคโนโลยี PCB รุ่นใหม่ เช่น High-Density Interconnect (HDI) และ Flexible PCB ช่วยให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีขนาดเล็กลงและเบาขึ้น ขณะเดียวกันยังคงความสามารถในการประมวลผลและการใช้งานที่ซับซ้อน เช่น ในสมาร์ทโฟน รวมทั้งตอบโจทย์การใช้งานในอุปกรณ์สวมใส่และอุปกรณ์ทางการแพทย์ 3. ความยืดหยุ่นและความทนทานที่เพิ่มขึ้น : PCB แบบ Rigid-Flex เป็นอีกนวัตกรรมหนึ่งที่ผสมผสานความแข็งแรงและความยืดหยุ่นในแผ่นเดียวกัน ซึ่งเหมาะสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานและความสามารถในการรับแรงกระแทก เช่น อุตสาหกรรมการบินและยานยนต์ 🔶ทำไมประเทศไทยถึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของการลงทุนใน PCB ข้อมูลจากบีโอไอ สะท้อนว่าการลงทุนในอุตสาหกรรม PCB ของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างน่าสนใจ จากปี 2561 ถึงกลางปี 2567 มีการลงทุนรวมเกือบ 200,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในปี 2566 ที่มีการลงทุนสูงกว่า 100,000 ล้านบาท และในครึ่งปีแรกของปี 2567 การลงทุนเพิ่มอีก 39,732 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมและทิศทางของไทยที่กำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิต PCB ในระดับโลก 1. การเติบโตอย่างรวดเร็วของการลงทุนจากต่างประเทศ : นักลงทุนจาก จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคอื่นๆ และการมองเห็นศักยภาพในความเสถียรทางเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย 2. ข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ : ไทยมี แรงงานที่พร้อมพัฒนาทักษะ โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และ ห่วงโซ่อุปทานที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการผลิตชิ้นส่วน การเคลือบ การเจาะ การทดสอบทางไฟฟ้า รวมถึงการประกอบชิ้นส่วนขั้นสูง ทำให้สามารถรองรับการผลิตที่ต้องการความแม่นยำและเทคโนโลยีสูงได้อย่างเต็มที่ 3. การสนับสนุนจากบีโอไอ : ที่มีบทบาทสำคัญในการดึงดูดการลงทุนผ่านการมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งการยกเว้นภาษี การยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบ และการสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมทั้งยังเน้นการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะสูง ผ่านการจัดโครงการ Job matching และการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อรองรับอุตสาหกรรม PCB โดยเฉพาะ 🔶การเติบโตสู่ระดับโลก : เป้าหมายของไทยใน 5 ปีข้างหน้า ประเทศไทยตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศผู้ผลิต PCB ชั้นนำของโลก ภายใน 5 ปีข้างหน้า การเป็นศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาคและการเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ประเทศไทยกำลังมุ่งหน้าไปสู่การเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรม PCB ระดับโลกภายใน 5 ปี ด้วยการสนับสนุนจากบีโอไอ ที่เน้น 3 ด้านหลัก คือ การพัฒนาบุคลากร การเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) และ สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน 1. การพัฒนาบุคลากร : บีโอไอ ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและภาคเอกชนในการฝึกอบรมบุคลากรและจับคู่ธุรกิจ เพื่อสร้างแรงงานที่มีทักษะสูงสำหรับอุตสาหกรรม PCB 2. การเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทาน : นอกจากการผลิต PCB แล้ว ไทยยังสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การเคลือบ การเจาะ การเชื่อมวงจร และการผลิตชิ้นส่วนที่สนับสนุนการเติบโตของห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศ ผ่านงานจับคู่ธุรกิจอย่าง Subcon Thailand และ Thailand Electronics Circuit Asia (THECA) 3. การใช้พลังงานสะอาด : การผลิต PCB ใช้พลังงานและน้ำจำนวนมาก จึงมีการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดผ่านโครงการ Utility Green Tariff (UGT) และการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การผลิตมีความยั่งยืนและไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานสะอาด : การผลิต PCB ต้องการพลังงานและน้ำในปริมาณมาก ปัจจุบันกระทรวงพลังงานกำลังดำเนินโครงการ Utility Green Tariff (UGT) ซึ่งเป็นอัตราค่าไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสะอาดจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานสีเขียวในภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจว่ามีแหล่งพลังงานสะอาดเพียงพอ รวมถึงการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้กระบวนการผลิตยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨ #บีโอไอส่งเสริมการลงทุนทั้งคนไทยและต่างชาติทุกขนาดการลงทุน 📱 0 2553 8111 📧 head@boi.go.th 🌐 www.boi.go.th 🔰ไม่มีค่าใช้จ่ายในการติดต่อ #PCB #SupplyChain #ThailandTechHub #PCBInnovation #TopPCBThailand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 551 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส.ส.สหรัฐชื่นชม Google ที่อาจซื้อบริษัทเทคโนโลยีของเอล
    การที่ Google อาจเข้าซื้อบริษัทเทคโนโลยี Wiz ของเอล ถือเป็นการ "ชูนิ้วกลางมูลค่า 23,000 ล้านดอลลาร์" ต่อการคว่ำบาตร ถอนการลงทุน และคว่ำบาตรเอล โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ริตชี ตอร์เรส กล่าว
    ทั้งบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของเอลต่างถูกกล่าวหาว่าแสวงหากำไรจากการเฝ้าติดตามชาวปาเลสอย่างแพร่หลายของเอล
    ในเดือนเมษายน Google ได้ไล่พนักงานออกไปประมาณ 28 ราย ซึ่งเข้าร่วมการประท้วงนั่งลงเพื่อต่อต้านยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับ Project Nimbus ซึ่งเป็นการให้บริการระบบคลาวด์คอมพิวติ้งและปัญญาประดิษฐ์แก่รัฐบาลเอล
    .
    #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews
    #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง
    -------------------------------
    สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    ส.ส.สหรัฐชื่นชม Google ที่อาจซื้อบริษัทเทคโนโลยีของเอล การที่ Google อาจเข้าซื้อบริษัทเทคโนโลยี Wiz ของเอล ถือเป็นการ "ชูนิ้วกลางมูลค่า 23,000 ล้านดอลลาร์" ต่อการคว่ำบาตร ถอนการลงทุน และคว่ำบาตรเอล โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ริตชี ตอร์เรส กล่าว ทั้งบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของเอลต่างถูกกล่าวหาว่าแสวงหากำไรจากการเฝ้าติดตามชาวปาเลสอย่างแพร่หลายของเอล ในเดือนเมษายน Google ได้ไล่พนักงานออกไปประมาณ 28 ราย ซึ่งเข้าร่วมการประท้วงนั่งลงเพื่อต่อต้านยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับ Project Nimbus ซึ่งเป็นการให้บริการระบบคลาวด์คอมพิวติ้งและปัญญาประดิษฐ์แก่รัฐบาลเอล . #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง ------------------------------- สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 457 มุมมอง 0 รีวิว