“สหรัฐ–ญี่ปุ่นจับมือสลายอิทธิพลจีนในตลาดแร่หายาก พร้อมเร่งพลังงานนิวเคลียร์รับยุค AI”

ในวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านแร่หายากและพลังงานนิวเคลียร์ ณ กรุงโตเกียว โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการลดการพึ่งพาจีน ซึ่งครองตลาดการกลั่นและผลิตแม่เหล็กจากแร่หายากกว่า 85% ของโลก แม้จีนจะมีเพียงครึ่งหนึ่งของปริมาณแร่หายากดิบทั่วโลก แต่กลับควบคุมกระบวนการผลิตที่สำคัญเกือบทั้งหมด

ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นก่อนการพบกันระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งสะท้อนถึงการเคลื่อนไหวเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐในการสร้างเส้นทางใหม่ด้านทรัพยากรและพลังงาน โดยเฉพาะแร่ neodymium และ praseodymium ที่จำเป็นต่อการผลิตแม่เหล็กถาวรในมอเตอร์ EV และฮาร์ดไดรฟ์

นอกจากแร่หายากแล้ว ข้อตกลงยังรวมถึงความร่วมมือในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) โดยเฉพาะแบบ BWRX-300 ที่พัฒนาโดย GE Vernova และ Hitachi ซึ่งได้รับอนุมัติให้สร้างในอเมริกาเหนือแล้ว และกำลังเป็นที่สนใจของบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Google, Amazon และ Microsoft ที่ต้องการพลังงานมหาศาลเพื่อรองรับการประมวลผล AI

ข้อมูลสำคัญจากข่าว
สหรัฐและญี่ปุ่นลงนามข้อตกลงด้านแร่หายากและพลังงานนิวเคลียร์
เป้าหมายคือลดการพึ่งพาจีนที่ครองตลาดการกลั่นแร่หายากกว่า 85%
เน้นแร่ neodymium และ praseodymium สำหรับแม่เหล็กถาวร
ข้อตกลงเกิดก่อนการประชุมระหว่างทรัมป์และสี จิ้นผิง

ความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์
เน้นการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR)
แบบ BWRX-300 ได้รับอนุมัติแล้วในอเมริกาเหนือ
บริษัทเทคโนโลยีใหญ่กำลังลงทุนในพลังงานนิวเคลียร์เพื่อรองรับ AI

ความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
OpenAI, xAI และ TSMC Arizona ต้องการพลังงานเฉพาะสำหรับศูนย์ข้อมูล
พลังงานนิวเคลียร์กลายเป็น “ปัจจัยด้านฮาร์ดแวร์” สำหรับการสร้าง GPU และเซิร์ฟเวอร์ AI

https://www.tomshardware.com/tech-industry/us-and-japan-move-to-pry-rare-earths-from-chinas-grip
🌏 “สหรัฐ–ญี่ปุ่นจับมือสลายอิทธิพลจีนในตลาดแร่หายาก พร้อมเร่งพลังงานนิวเคลียร์รับยุค AI” ในวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านแร่หายากและพลังงานนิวเคลียร์ ณ กรุงโตเกียว โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการลดการพึ่งพาจีน ซึ่งครองตลาดการกลั่นและผลิตแม่เหล็กจากแร่หายากกว่า 85% ของโลก แม้จีนจะมีเพียงครึ่งหนึ่งของปริมาณแร่หายากดิบทั่วโลก แต่กลับควบคุมกระบวนการผลิตที่สำคัญเกือบทั้งหมด ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นก่อนการพบกันระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งสะท้อนถึงการเคลื่อนไหวเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐในการสร้างเส้นทางใหม่ด้านทรัพยากรและพลังงาน โดยเฉพาะแร่ neodymium และ praseodymium ที่จำเป็นต่อการผลิตแม่เหล็กถาวรในมอเตอร์ EV และฮาร์ดไดรฟ์ นอกจากแร่หายากแล้ว ข้อตกลงยังรวมถึงความร่วมมือในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) โดยเฉพาะแบบ BWRX-300 ที่พัฒนาโดย GE Vernova และ Hitachi ซึ่งได้รับอนุมัติให้สร้างในอเมริกาเหนือแล้ว และกำลังเป็นที่สนใจของบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Google, Amazon และ Microsoft ที่ต้องการพลังงานมหาศาลเพื่อรองรับการประมวลผล AI ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ สหรัฐและญี่ปุ่นลงนามข้อตกลงด้านแร่หายากและพลังงานนิวเคลียร์ ➡️ เป้าหมายคือลดการพึ่งพาจีนที่ครองตลาดการกลั่นแร่หายากกว่า 85% ➡️ เน้นแร่ neodymium และ praseodymium สำหรับแม่เหล็กถาวร ➡️ ข้อตกลงเกิดก่อนการประชุมระหว่างทรัมป์และสี จิ้นผิง ✅ ความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์ ➡️ เน้นการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) ➡️ แบบ BWRX-300 ได้รับอนุมัติแล้วในอเมริกาเหนือ ➡️ บริษัทเทคโนโลยีใหญ่กำลังลงทุนในพลังงานนิวเคลียร์เพื่อรองรับ AI ✅ ความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ➡️ OpenAI, xAI และ TSMC Arizona ต้องการพลังงานเฉพาะสำหรับศูนย์ข้อมูล ➡️ พลังงานนิวเคลียร์กลายเป็น “ปัจจัยด้านฮาร์ดแวร์” สำหรับการสร้าง GPU และเซิร์ฟเวอร์ AI https://www.tomshardware.com/tech-industry/us-and-japan-move-to-pry-rare-earths-from-chinas-grip
WWW.TOMSHARDWARE.COM
US and Japan move to loosen China’s rare earths grip — nations partner to build alternative pathways to power, resource independence
Tokyo pact pairs magnet supply chain resilience with new nuclear cooperation, days before Trump meets Xi.
0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews