• เรื่อง ยากูซ่า…ยังซ่าอยู่
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยากูซ่า…ยังซ่าอยู่”
    ตอน 1
    เพิ่งเล่าไปหมาดๆ ในนิทานเรื่องไม่ตกสะเก็ดว่า ยากูซ่าเป็นหมอตำแยทำคลอดพรรค LPD ของญี่ปุ่น ในคุกซุกาโมช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกใหม่ๆ หลังจากทำคลอด ยากูซ่าสาระพัดลาย ยังทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงนางนม ช่วยกันป้อนข้าว ป้อนน้ำอุ้มชูดูแล จนพรรค LDP โตไว กล้ามใหญ่ หน้าไหนจะกล้าขัดใจขวางทางเจ้าพ่อยากูซ่า ด้วยเหตุนี้ พรรค LDP จึงคุมการเมืองญี่ปุ่นอยู่มือ อยู่หมัด มาตลอด ตั้งแต่คลอด จนถึงเดี๋ยวนี้ 
    คณะหมอตำแย ประกอบด้วย นายโคดามะ เจ้าพ่อใหญ่ของยากูซ่า หัวหน้าสมาคมมังกรดำ นายซาซากาวา หัวหน้ายากูซ่าอีกกลุ่มที่ ที่มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันเป็นมือสำคัญ มือหนึ่ง ที่อยู่ข้างหลังประเทศญี่ปุ่น และอีกหนึ่ง ที่เป็นคนประสานงานระหว่าง ฝ่ายยากูซ่า นักการเมืองญี่ปุ่นกับฝ่ายอเมริกา คือ นายคิชิ โนบูซุเกะ Kishi Nobusuke ตาของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนปัจจุบัน นายชินโซะ อาเบะ นั่นเอง ทีนี่ก็รู้กันแล้วว่า คุณอาเบะ นี่เป็นเด็กเลี้ยงของยากูซ่า อย่าไปขัดใจแกมากนัก
    น่าทึ่งนะครับ นึกถึงญี่ปุ่น อย่านึกถึงแต่ปลาดิบกับกิโมโน เดี๋ยวจะเข้าใจหลายอย่างเกี่ยวกับญี่ปุ่น…ผิดเพี้ยน...
    เมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้ว สื่อฝรั่งต่างพากันลงข่าวว่า ยามากูชิ – กูมิ Yamagushi – gumi ยากูซ่า แก๊งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นขณะนี้ กำลังจะฉลองครบรอบ 100 ปี ของแก๊ง ด้วยการแตกคอกัน และอาจมีการยกพวกตีกันรุนแรง เป็นข่าวหลุดมาจากการประชุมใหญ่ของแก๊ง ที่สำนักงานใหญ่เมืองโกเบ เมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาคม เขาว่ามันเป็นการเรียกประชุมด่วน บรรดาชายในชุดสูทดำ นิ้วก้อยสั้นทั้งหลาย ต่างทำหน้าเครียด รีบมาเข้าประชุมกันพร้อมหน้า ทั้งหมดเดินทางมาด้วยรถส่วนตัวสีดำ กระจกติดฟิลม์ดำมืด รถยนต์มีแต่ยี่ห้อเมอร์ซิเดซเบนซ์ หรือโตโยต้าเล็กซัสเท่านั้น ยี่ห้ออื่นสงสัยจะไม่เข้ากับ สูทดำและนิ้วก้อยสั้น
    รายงานข่าวว่า ยามากูชิ-กูมิ กำลังร้าวจัดใกล้แตก พวกหนึ่ง ยังคงสน้บสนุนหัวหน้าใหญ่คนปัจจุบัน หนุ่มใหญ่วัย 73 นายชิโนดะ Kenichi Shinoda หรือที่รู้จักกันในนาม Shinobu Tsukasa ส่วนอีกพวก สนับสนุนคู่แข่งที่อยู่ทางตะวันตกของญี่ปุ่น ข่าวไม่บอกว่าเป็นใคร
    สาเหตุที่แตกคอ มีเรื่องอ้างสาระพัด แต่เรื่องใหญ่เขาว่า น่าจะเป็นเรื่องการค้ายาเสพติด ที่เจ้าพ่อวัย 73 บอก ตามประเพณี ตั้งแต่ตั้งแก๊งมา เราไม่ค้ายา แต่ลูกแก๊งบอก ถ้าไม่ค้ายา เรารวยไม่พอนะ ค้าคน ค้าเงิน ค้าบ่อน ค้าของเมา ค้ากำลัง ฯลฯ มันไม่พอรวย เอ ค้ากำลังอาวุธ นี่ น่าจะพอนะ หรือ ส่วนแบ่งไม่ลงตัว อันนี้ผม ไม่กล้าเดา
    บางข่าว ยังมีเพิ่มเติมว่า หรือจะเป็นการเตรียมตัวกลับมา ของหัวหน้ายากูซ่าใหญ่อีกคนชื่อ นาย โกโตะ Goto Tadamasa ซึ่งเคยใหญ่มาก แต่ตอนหลังถูกขับออกจากแก๊ง ในปี ค.ศ.2008 หลังมีข่าวว่า กระด้างกระเดื่องแยะ และไปมีข้อตกลงกับ FBI ของอเมริกา เอาความในของพวกไปบอก เพื่อแลกกับการผ่าตัดเปลี่ยนตับของเขา หลังจากหายดี นายโกโตะไม่กลับญี่ปุ่น แต่ไปปักหลัก ฝั่งตัวอยู่ ในกัมพูชา
    เรื่องยามากูชิ-กูมิ กำลังร้าวจัด จวนแตกนี่ ทำให้ตำรวจญี่ปุ่น อยู่ในภาวะเตรียมพร้อม ไม่กล้าง่วงไม่กล้าซึม เขาว่า เมื่อยากูซ่า แตกคอใหญ่ในปี ค.ศ.1984 พวกเขาตีกันไม่เลิกถึง 5 ปี มีการปาระเบิดกลางเมือง ยิงกราดกลางถนนเหมือนในหนัง ขับรถบรรทุกพุ่งใส่บ้านพังเป็นแถบๆ (บ้านเล็กน่าเอ็นดูของญี่ปุ่น ท่าทางพังง่ายอยู่แล้ว) คนตายไปหลายสิบ สมัยนั้นส่วนใหญ่ใช้ ปืนกล กับปาระเบิดใส่กันจะๆ เป้าเจาะจง ไม่ใช่เป้าหว่าน แบบวางระเบิดใกล้สี่แยกเหมือนสมัยนี้ เป้ก็ยังไม่ใช้ วิกก็ไม่ใส่กัน ตำรวจญี่ปุ่นบอก ถ้าตีกันงวดนี้ จากพัฒนาการใช้อาวุธอุปกรณ์กันครบครัน ตำรวจก็ไม่กล้าคาดเดาว่า ญี่ปุ่นจะเละขนาดไหน
    ยากูซ่าในญี่ปุ่นมีประมาณ 24 แก๊งใหญ่ จำนวนยากูซ่าทั้งหมดประมาณ 6 หมื่นกว่าคน ทั้งหมดมีรายได้รวมกันต่อปี อย่างน้อย 45 พันล้านเหรียญ คิดเป็นเงินไทยออกไหมครับ จำนวนมหึมามาก แก๊งใหญ่อันดับแรกคือ ยามากูชิ-กูมิ ซึ่งไม่ใช่แค่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เขาเป็นกลุ่มอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใหญ่กว่ามาเฟียอิตาลี และอเมริกันอีกนะครับ
    ยามากูชิ-กูมิ มีสมาชิกทางการประมาณ 2 หมื่นกว่าคน แต่ตำรวจญี่ปุ่น บอก ตัวเลขจริงน่าจะใกล้ 4 หมื่นกว่าคน มีสาขาเกือบร้อยสาขา ทั้งในญี่ปุ่น เกาหลี และอเมริกา ไทยมีหรือเปล่า ไม่แน่ใจ เอาว่าไม่มี ดีกว่านะ แก๊งเจ้าพ่อรายนี้ มีบริษัทหน้าฉาก หลายร้อยบริษัท มีบริษัทตรวจสอบบัญชีนับไม่ถ้วนอยู่ในมือ และมีพนักงานทำงานบริหารเป็นพันๆคน เจ้าพ่อเก็บข้อมูลบริษัทธุรกิจ ไว้ใช้ในการ “ทำธุรกิจ” มากมาย และมีข้อมูลส่วนบุคคล ประมาณ 3.2 ล้านคน เอาไว้ทำอะไร คงพอนึกกันออก นอกจากนี้ ยังมีบริษัทนักสืบส่วนบุคคล ไว้ติดตามบุคคล ที่น่าตาม หรือ ต้องตามอีกแยะ
    
###############
ตอน 2
     
    เรื่องยากูซ่าแตกคอกัน นี่น่าสนใจไหม ผมให้ความสนใจ แต่ ไม่ใช่เรื่องเขาจะแตกคอกันผมสนใจเรื่อง “เวลา” ของการเป็นข่าว สนใจคนเขียนข่าว และสนใจเนื้อข่าว บางตอน
     
    “เวลา” ของการเป็นข่าว น่าสนใจเพราะ นายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลานตาเพื่อนรักยากูซ่า กำลังจะบีบให้สภาสูงของญี่ปุ่นผ่านกฏหมาย เพื่อให้ญี่ปุ่นสามารถนำกองกำลังของตัวเอง ร่อนไปทั่ว
    เพื่อช่วยแบกถาดบริการให้ไอ้นักล่าใบตองแห้ง คอยดักตีห้วเพื่อนบ้าน แถบเอเซียแปซิฟิกได้คล่องตัว ในขณะเดียวกัน ก็มีชาวญี่ปุ่น
    โดยเฉพาะพวกคุณแม่กำลังไม่ยอม ไม่อยากให้ลูกไปทำสงคราม ไม่อยากให้ลูกต้องมีสภาพอย่างสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงไม่ต้องการให้สภาผ่านกฏหมายนี้
    และออกมาประท้วงกันแล้ว และอาจจะออกมาประท้วงกันอีก แต่ถ้ายากูซ่ายกพวกตีกัน กลางเมือง พวกคุณแม่คุณลูก ก็คงไม่ค่อยอยากจะเสี่ยงออกมาชุมนุม
    เผลอๆ อาจถูกลากไปอยู่ข้างไหนของยากูซ่าแบบไม่สมัครใจ หรือไม่ก็เอาข่าวยากูซ่าตีกัน มากลบข่าวเอากฏหมายแบกถาดเข้าสภา เรื่องสร้างข่าวหนึ่ง มากลบอีกข่าวหนึ่งนี่ ถนัดกันนัก
    ช่างเลือกเวลาให้ยากูซ่าทะเลาะกันจริงนะ หลานตา
    เรื่องคนเขียนข่าวนี่ก็แปลก สื่อฝรั่งระดับใหญ่อย่าง the Independent, Guardian, Telegraph, Washington Post ลงข่าวกันหมด แต่ดูไปลึกๆ ข่าวมาจากตอ ต้นเดียวกันทั้งนั้น เพราะเป็นข่าวที่เริ่มมาจาก นาย Jake Adelstien
    นายเจค Jake Adelstien นี่ก็แปลกเอาเรื่องอยู่ และก็มีคนสนใจความแปลกของเขา ขนาดจะเอาเรื่องเขาไปทำหนังแล้ว หนังชื่ออะไรไม่รู้ ผมเห็นข่าวแวบๆ จำได้แต่ว่าจะให้ เจ้าหนู ที่เล่นเป็น แฮรี่ พอตเตอร์ เล่นเป็นตัวนายนักข่าวคนนี้
    นาย เจค เป็นยิวอเมริกัน จากมิสซูรี เดินทางมาญี่ปุ่น เมื่อประมาณเกือบยี่สิบปีก่อน ตอนนั้นเขาเพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ปี 2 หลงไหลเรื่องญี่ปุ่น เลยขอย้ายมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโตเกียว ระหว่างเรียนก็ทำงานหาเงินเป็นค่าเรียน ค่าอยู่ ค่ากิน งานหนึ่ง ที่เขาเล่าว่า เขาทำก็คือ รับจ้างนวดคุณนายญี่ปุ่นที่ร่ำรวยแต่ขี้เหงา เออ ช่างหางานจริงไอ้หนู ระหว่างนั้น ก็มั่วสุมอยู่กับพวกยากูซ่า จนเกิดความสนใจ ศึกษาติดตามชีวิตยากูซ่า เมื่อเรียนจบ พูดเขียนญี่ปุ่นได้คล่อง เนียนไปกับคนญี่ปุ่นแล้ว ก็ไปสมัครงานเป็นผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ ยอดจำหน่ายสุงสุดของญี่ปุ่น
    นายเจค ทำข่าวเกี่ยวกับชีวิตชาวญี่ปุ่นในอีกโลกหนี่ง เป็นชีวิตสีดำของคนกลางคืน ส่วนใหญ่เป็นข่าวอาชญากรรม วันหนึ่ง ตำรวจญี่ปุ่นคุยให้เขาฟังว่า ยากูซ่าสมัยนี้ เปลี่ยนไปแล้ว ไม่เหมือนยากูซ่าสมัยก่อน ที่เป็นสุภาพบุรุษ แม้จะสักลายพร้อยไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ยุ่ง ไม่ทำร้ายคนนอกยากูซ่า นอกจากมีแบล๊กเมล์ หรือทรมานบ้าง แต่ไม่ทำร้ายตำรวจ มาตอนหลัง เกิดยากูซ่าสายพันธ์ใหม่ เช่น พันธุ์ประเภท นายโกโตะ Goto Tadamasa นี่แหละ ยากูซ่าก็ เริ่มเหี้ยมโหด รุนแรงขึ้น เล่นนอกเส้นไปถึงชาวบ้าน จนเดือดร้อนกันไปหมด นายเจคฟังแล้วก็สนใจ คิดจะทำรายงานข่าวพิเศษ เกี่ยวกับนาย โกโตะ เขาว่างั้น
    ก่อนการสนทนานี่ไม่กี่วัน ลูกน้องนายโกโตะที่เข้าใจว่า แปรพักตร์หักหลังเขา ถูกยิงตายที่เมืองไทยของเรานี่เอง หมอนี่ หนีเจ้าพ่อโกโตะอยู่หลายปี แต่ในที่สุดก็หนีไม่พ้น
    เรื่องการถูกยิงตายของยากูซ่าในเมืองไทยนี่เป็นข่าวอยู่ใน นสพ. เนชั่น เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ.2011 ว่าไกด์ไทยสารภาพว่า ยิงนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตาย 1 บาดเจ็บสาหัส อีก 1 ระหว่างพาไปปืนเขาท่องเที่ยว อยู่แถวทางเหนือของเมืองไทย จริงๆ ญี่ปุ่นทั้ง 2 คนเป็นยากูซ่า หนีตายจากการรู้เห็นการเก็บกวาด ของยากูซ่าในญี่ปุ่น แต่หนีไม่พ้น ไกด์ไทยเลยงานเข้า เป็นข่าวที่เห็นถึงความไม่เข้าท่า หลายอย่างเหลือเกิน
    
###############
ตอน 3
    เมื่อ นายเจคได้กลิ่นเรื่อง เจ้าพ่อกาโตะ เขาตามติด แล้วนำมาเขียนรายงานข่าวว่า จริงๆเรื่องมันเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นายกาโตะกำลังดำเนินการอยู่ นาย ก ดันเข้ามาขวางทาง นายกาโตะ จึงสั่งลูกน้องหมายเลข 1 ให้ จัดการนาย ก ผลปรากฏว่า นาย ก ถูกแทงตายกลางถนนแห่งหนึ่งแถว Aoyama เมื่อปี ค.ศ.2006 ตำรวจโตเกียว ใช้เวลาอยู่ 4 ปี ในปี ค.ศ.2009 จึงจับลูกน้องหมายเลข 1 ได้ แล้วออกหมายจับลูกน้องหมายเลข 2 ด้วย หมายเลข 1 ถูกพิพากษาติดคุก 13 ปี ส่วนหมายเลข 2 หนีหาย แต่ในที่สุดปรากฏมาถูกยิงตายอยู่ที่เมืองไทยในปี ค.ศ.2011 นั่นเอง
    นายเจค คุ้ยต่อ ได้เรื่องว่า นายกาโตะ เคยได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนตับ ที่ รพ UCLA Medical Center ในอเมริกา พร้อมลูกน้องอีก 2 คน ภายใต้การจัดการออก วีซ่า และอำนวยความสดวกของ FBI แถมลัดคิวไม่ต้องคอย ตัดหน้าคนที่ลงชื่อขอเปลี่ยนตับไปร้อยกว่าคน FBI บอก เราไม่ได้อะไรมากมายจากนายกาโตะหรอก อ้าว แล้วใจดีจัดการพา ยากูซ่ามาผ่าตัดเปลี่ยนตับ ตัดหน้าคนป่วยอเมริกันร้อยกว่าคนทำไม
    จากการคุ้ยแคะเรื่องนายกาโตะ นายเจคอ้างว่า ทำให้เขาโดนขู่ และโดนทำร้าย ลูกและเมียชาวญี่ปุ่นก็โดนขู่ด้วย แต่นายเจค ก็ยังคงอยู่ในญี่ปุ่นต่อไป ต่อมาเขาลาออกจากหนังสือพิมพ์ Yomiuri มาเป็นสื่ออิสระ แต่ก็ยังตามติดเรื่องยากูซ่า การค้ามนุษย์ และการฟอกเงิน ซึ่งเป็นธุรกิจของยากูซ่าต่อ ตัวเขาเองก็ใส่สูทดำ เหมือนพวกยากูซ่าส่วนใหญ่ แถมนั่งรถเมอร์ซิเดซเบนซ์ สีดำ มีคนขับเป็นอดีตยากูซ่านิ่วก้อยซ้ายสั้นหายไป 1 ข้อ เห็นชัด มีคนบอกว่า นายเจคเอง ก็น่าจะเป็น ซีไอเอ ไม่งั้นไม่รอดมาหรอก นายเจคไม่ตอบรับ หรือ ปฏิเสธ เขายังคลุกคลีอยู่กับยากูซ่า ตอนหลังเขาแยกทางกับเมีย ตัวเขายังอยู่ญี่ปุ่นจนทุกวันนี้ ส่วนลูกเมียไปอยู่อเมริกา และมีตำรวจคอยคุ้มกัน
    แต่ นายเจค ยังไม่เลิกเล่น เขาเขียนเรื่องของนายโกโตะ กับ FBI ไปลงใน นสพ. Washington Post และ Los Angeles Times เขารายงานว่า หลังจากผ่าตัดเปลี่ยนตับเรียบร้อย นายโกโตะ ก็กลับมาญี่ปุ่น บริหารกิจการยากูซ่าต่อ และในปี ค.ศ.2008 ก็ถูกขับออกจากแก๊งยากูซ่า จากนั้น นายกาโตะก็หนีไปอยู่ที่กัมพูชาพร้อมพรรคพวก ตัวนายกาโตะ บวชเป็นพระนุ่งเหลืองห่มเหลืองในพุทธศาสนา
    นายเจคเขียนหนังสือ เกี่ยวกับชีวิตด้านมืดของโตเกียวชื่อ “Tokyo Vice” ที่น่าจะเป็นต้นเรื่องของข่าว ที่ว่าจะมีการสร้างหนัง ส่วนนายกาโตะ ก็มาแบบยากูซ่า เขาบอกว่า แม้จะเขาจะบวชเป็นพระแล้ว ก็ใช่ว่า นายเจค จะได้อยู่สบาย หลังจากนั้น มีข่าวว่า ทนายที่นายเจค จ้างเอาไว้ดูแลคดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเขากับนายกาโตะ ไปพักผ่อนที่ฟิลิปปินส์ เช้าขึ้นมาพบว่านอนตายสนิทอยู่ในห้องพักของโรงแรม มีขวดยานอนหลับกับแก้วไวน์อยู่หัวเตียง ที่ข้อมือมีรอยเชือดยาว แต่ไม่ลึก มีกล่องใส่คัตเตอร์ขนาดต่างๆ วางอยู่ที่หัวเตียงด้วย ตำรวจฟิลิปปินส์ สรุปสำนวนว่า เป็นการฆ่าตัวตาย วิธีการ การสรุปสำนวนไม่ต่างกับตำรวจไทย
    เล่าเรื่องยากูซ่าแตกคอให้ฟังแล้ว ดูเผินๆ เหมือนเรื่องไม่น่าเป็นเรื่อง มาออกข่าวกันทำไม แถมเรื่องก็ไม่เห็นมีอะไร ลุงนิทานเอามาเขียนทำไม
    เรื่องแบบนี้แหละ ที่คนช่างสงสัยอย่างผม อดคิดมากไม่ได้ ผมไม่เชื่อเรื่องบังเอิญ!
    นายเจค สาระพัดจะทำตัวคลุกกับยากูซ่า ตีข่าวเสียน่าสนใจ ว่ายากูซ่าจะแตกกัน ตีกัน แต่ตอนเขียนถึงสาเหตุ กลับแสนเบา ไม่มีน้ำหนัก ส่วนเรื่องนายกาโตะ ก็เช่นเดียวกัน ตีข่าวเรื่องเปลี่ยนตับ กับข้อตกลงกับ FBI เหมือนเร้าใจ แต่พอถูกไล่จากแก๊ง ดันไม่เจาะลึก ว่ามาจากสาเหตุอะไร และที่แปลก จนผมต้องเขียนถึงคือ เรื่องยากูซ่า ดันหนี ไปบวชเป็นพระอยู่ในเขมร ! มีที่ให้ไปตั้งแยะ เลือกไปอยู่เขมร มันไม่สงสัยไม่ได้ แถมช่วงเวลา ที่ ยากูซ่าไปอยู่เขมร ก็น่าสนใจสำหรับผม
    ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนญี่ปุ่นจะยกพลขึ้นบก ผ่านมาทางใต้ของไทย ญี่ปุ่น ก็มาบวชเป็นพระอยู่ทางใต้ของเราอยู่นานหลายคน โดยเฉพาะตัว นายพล Tsuji Masanobu ผู้ที่จะมาบัญชาการรบในไทยก็บวช
    ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง การยึดราชประสงค์ และการซุ่มยิงทหารที่สี่แยกคอกวัว การบุกสถานที่ราชการและโรงพยาบาล ในปี พ.ศ.2553 (ค.ศ.2010) ที่มีชายชุดดำ ซุ่มยิงทหาร วางระเบิด เผากรุงเทพฯ เสียวินาศสันตะโร ชายชุดดำมาจากไหนกัน ใครฝึก พฤติกรรมของชายชุดดำเป็นอย่างไร น่ารังเกียจ เหี้ยมโหดขนาดไหน ไม่ใช่พื้นฝอยหาตะเข็บ แต่เป็นเรื่องเจ็บแล้วต้องจำ และไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก
    ทำให้ผมนึก ไปได้อีกหลายเรื่องครับ เรื่องบังเอิญไม่มี เขมรกับไทย อยู่ไม่ไกลกัน เข้าง่ายออกง่าย มารถ มาเรือ มารถไฟได้ทั้งนั้น และญี่ปุ่นในไทยก็มากขึ้นทุกวัน ตอนนี้ก็เร่งฝึกแบกถาดให้ไอ้นักล่าใบตองแห้งอยู่ ระวังกันบ้างก็แล้วกัน ไอ้ใบตองแห้งมันวางแผนเก่ง เรื่องล่อให้หลงทางนี่ กระจอกสำหรับมัน
    
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
7 ก.ย. 2558
    เรื่อง ยากูซ่า…ยังซ่าอยู่ นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยากูซ่า…ยังซ่าอยู่” ตอน 1 เพิ่งเล่าไปหมาดๆ ในนิทานเรื่องไม่ตกสะเก็ดว่า ยากูซ่าเป็นหมอตำแยทำคลอดพรรค LPD ของญี่ปุ่น ในคุกซุกาโมช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกใหม่ๆ หลังจากทำคลอด ยากูซ่าสาระพัดลาย ยังทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงนางนม ช่วยกันป้อนข้าว ป้อนน้ำอุ้มชูดูแล จนพรรค LDP โตไว กล้ามใหญ่ หน้าไหนจะกล้าขัดใจขวางทางเจ้าพ่อยากูซ่า ด้วยเหตุนี้ พรรค LDP จึงคุมการเมืองญี่ปุ่นอยู่มือ อยู่หมัด มาตลอด ตั้งแต่คลอด จนถึงเดี๋ยวนี้  คณะหมอตำแย ประกอบด้วย นายโคดามะ เจ้าพ่อใหญ่ของยากูซ่า หัวหน้าสมาคมมังกรดำ นายซาซากาวา หัวหน้ายากูซ่าอีกกลุ่มที่ ที่มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันเป็นมือสำคัญ มือหนึ่ง ที่อยู่ข้างหลังประเทศญี่ปุ่น และอีกหนึ่ง ที่เป็นคนประสานงานระหว่าง ฝ่ายยากูซ่า นักการเมืองญี่ปุ่นกับฝ่ายอเมริกา คือ นายคิชิ โนบูซุเกะ Kishi Nobusuke ตาของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนปัจจุบัน นายชินโซะ อาเบะ นั่นเอง ทีนี่ก็รู้กันแล้วว่า คุณอาเบะ นี่เป็นเด็กเลี้ยงของยากูซ่า อย่าไปขัดใจแกมากนัก น่าทึ่งนะครับ นึกถึงญี่ปุ่น อย่านึกถึงแต่ปลาดิบกับกิโมโน เดี๋ยวจะเข้าใจหลายอย่างเกี่ยวกับญี่ปุ่น…ผิดเพี้ยน... เมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้ว สื่อฝรั่งต่างพากันลงข่าวว่า ยามากูชิ – กูมิ Yamagushi – gumi ยากูซ่า แก๊งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นขณะนี้ กำลังจะฉลองครบรอบ 100 ปี ของแก๊ง ด้วยการแตกคอกัน และอาจมีการยกพวกตีกันรุนแรง เป็นข่าวหลุดมาจากการประชุมใหญ่ของแก๊ง ที่สำนักงานใหญ่เมืองโกเบ เมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาคม เขาว่ามันเป็นการเรียกประชุมด่วน บรรดาชายในชุดสูทดำ นิ้วก้อยสั้นทั้งหลาย ต่างทำหน้าเครียด รีบมาเข้าประชุมกันพร้อมหน้า ทั้งหมดเดินทางมาด้วยรถส่วนตัวสีดำ กระจกติดฟิลม์ดำมืด รถยนต์มีแต่ยี่ห้อเมอร์ซิเดซเบนซ์ หรือโตโยต้าเล็กซัสเท่านั้น ยี่ห้ออื่นสงสัยจะไม่เข้ากับ สูทดำและนิ้วก้อยสั้น รายงานข่าวว่า ยามากูชิ-กูมิ กำลังร้าวจัดใกล้แตก พวกหนึ่ง ยังคงสน้บสนุนหัวหน้าใหญ่คนปัจจุบัน หนุ่มใหญ่วัย 73 นายชิโนดะ Kenichi Shinoda หรือที่รู้จักกันในนาม Shinobu Tsukasa ส่วนอีกพวก สนับสนุนคู่แข่งที่อยู่ทางตะวันตกของญี่ปุ่น ข่าวไม่บอกว่าเป็นใคร สาเหตุที่แตกคอ มีเรื่องอ้างสาระพัด แต่เรื่องใหญ่เขาว่า น่าจะเป็นเรื่องการค้ายาเสพติด ที่เจ้าพ่อวัย 73 บอก ตามประเพณี ตั้งแต่ตั้งแก๊งมา เราไม่ค้ายา แต่ลูกแก๊งบอก ถ้าไม่ค้ายา เรารวยไม่พอนะ ค้าคน ค้าเงิน ค้าบ่อน ค้าของเมา ค้ากำลัง ฯลฯ มันไม่พอรวย เอ ค้ากำลังอาวุธ นี่ น่าจะพอนะ หรือ ส่วนแบ่งไม่ลงตัว อันนี้ผม ไม่กล้าเดา บางข่าว ยังมีเพิ่มเติมว่า หรือจะเป็นการเตรียมตัวกลับมา ของหัวหน้ายากูซ่าใหญ่อีกคนชื่อ นาย โกโตะ Goto Tadamasa ซึ่งเคยใหญ่มาก แต่ตอนหลังถูกขับออกจากแก๊ง ในปี ค.ศ.2008 หลังมีข่าวว่า กระด้างกระเดื่องแยะ และไปมีข้อตกลงกับ FBI ของอเมริกา เอาความในของพวกไปบอก เพื่อแลกกับการผ่าตัดเปลี่ยนตับของเขา หลังจากหายดี นายโกโตะไม่กลับญี่ปุ่น แต่ไปปักหลัก ฝั่งตัวอยู่ ในกัมพูชา เรื่องยามากูชิ-กูมิ กำลังร้าวจัด จวนแตกนี่ ทำให้ตำรวจญี่ปุ่น อยู่ในภาวะเตรียมพร้อม ไม่กล้าง่วงไม่กล้าซึม เขาว่า เมื่อยากูซ่า แตกคอใหญ่ในปี ค.ศ.1984 พวกเขาตีกันไม่เลิกถึง 5 ปี มีการปาระเบิดกลางเมือง ยิงกราดกลางถนนเหมือนในหนัง ขับรถบรรทุกพุ่งใส่บ้านพังเป็นแถบๆ (บ้านเล็กน่าเอ็นดูของญี่ปุ่น ท่าทางพังง่ายอยู่แล้ว) คนตายไปหลายสิบ สมัยนั้นส่วนใหญ่ใช้ ปืนกล กับปาระเบิดใส่กันจะๆ เป้าเจาะจง ไม่ใช่เป้าหว่าน แบบวางระเบิดใกล้สี่แยกเหมือนสมัยนี้ เป้ก็ยังไม่ใช้ วิกก็ไม่ใส่กัน ตำรวจญี่ปุ่นบอก ถ้าตีกันงวดนี้ จากพัฒนาการใช้อาวุธอุปกรณ์กันครบครัน ตำรวจก็ไม่กล้าคาดเดาว่า ญี่ปุ่นจะเละขนาดไหน ยากูซ่าในญี่ปุ่นมีประมาณ 24 แก๊งใหญ่ จำนวนยากูซ่าทั้งหมดประมาณ 6 หมื่นกว่าคน ทั้งหมดมีรายได้รวมกันต่อปี อย่างน้อย 45 พันล้านเหรียญ คิดเป็นเงินไทยออกไหมครับ จำนวนมหึมามาก แก๊งใหญ่อันดับแรกคือ ยามากูชิ-กูมิ ซึ่งไม่ใช่แค่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เขาเป็นกลุ่มอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใหญ่กว่ามาเฟียอิตาลี และอเมริกันอีกนะครับ ยามากูชิ-กูมิ มีสมาชิกทางการประมาณ 2 หมื่นกว่าคน แต่ตำรวจญี่ปุ่น บอก ตัวเลขจริงน่าจะใกล้ 4 หมื่นกว่าคน มีสาขาเกือบร้อยสาขา ทั้งในญี่ปุ่น เกาหลี และอเมริกา ไทยมีหรือเปล่า ไม่แน่ใจ เอาว่าไม่มี ดีกว่านะ แก๊งเจ้าพ่อรายนี้ มีบริษัทหน้าฉาก หลายร้อยบริษัท มีบริษัทตรวจสอบบัญชีนับไม่ถ้วนอยู่ในมือ และมีพนักงานทำงานบริหารเป็นพันๆคน เจ้าพ่อเก็บข้อมูลบริษัทธุรกิจ ไว้ใช้ในการ “ทำธุรกิจ” มากมาย และมีข้อมูลส่วนบุคคล ประมาณ 3.2 ล้านคน เอาไว้ทำอะไร คงพอนึกกันออก นอกจากนี้ ยังมีบริษัทนักสืบส่วนบุคคล ไว้ติดตามบุคคล ที่น่าตาม หรือ ต้องตามอีกแยะ 
###############
ตอน 2   เรื่องยากูซ่าแตกคอกัน นี่น่าสนใจไหม ผมให้ความสนใจ แต่ ไม่ใช่เรื่องเขาจะแตกคอกันผมสนใจเรื่อง “เวลา” ของการเป็นข่าว สนใจคนเขียนข่าว และสนใจเนื้อข่าว บางตอน   “เวลา” ของการเป็นข่าว น่าสนใจเพราะ นายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลานตาเพื่อนรักยากูซ่า กำลังจะบีบให้สภาสูงของญี่ปุ่นผ่านกฏหมาย เพื่อให้ญี่ปุ่นสามารถนำกองกำลังของตัวเอง ร่อนไปทั่ว เพื่อช่วยแบกถาดบริการให้ไอ้นักล่าใบตองแห้ง คอยดักตีห้วเพื่อนบ้าน แถบเอเซียแปซิฟิกได้คล่องตัว ในขณะเดียวกัน ก็มีชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะพวกคุณแม่กำลังไม่ยอม ไม่อยากให้ลูกไปทำสงคราม ไม่อยากให้ลูกต้องมีสภาพอย่างสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงไม่ต้องการให้สภาผ่านกฏหมายนี้ และออกมาประท้วงกันแล้ว และอาจจะออกมาประท้วงกันอีก แต่ถ้ายากูซ่ายกพวกตีกัน กลางเมือง พวกคุณแม่คุณลูก ก็คงไม่ค่อยอยากจะเสี่ยงออกมาชุมนุม เผลอๆ อาจถูกลากไปอยู่ข้างไหนของยากูซ่าแบบไม่สมัครใจ หรือไม่ก็เอาข่าวยากูซ่าตีกัน มากลบข่าวเอากฏหมายแบกถาดเข้าสภา เรื่องสร้างข่าวหนึ่ง มากลบอีกข่าวหนึ่งนี่ ถนัดกันนัก ช่างเลือกเวลาให้ยากูซ่าทะเลาะกันจริงนะ หลานตา เรื่องคนเขียนข่าวนี่ก็แปลก สื่อฝรั่งระดับใหญ่อย่าง the Independent, Guardian, Telegraph, Washington Post ลงข่าวกันหมด แต่ดูไปลึกๆ ข่าวมาจากตอ ต้นเดียวกันทั้งนั้น เพราะเป็นข่าวที่เริ่มมาจาก นาย Jake Adelstien นายเจค Jake Adelstien นี่ก็แปลกเอาเรื่องอยู่ และก็มีคนสนใจความแปลกของเขา ขนาดจะเอาเรื่องเขาไปทำหนังแล้ว หนังชื่ออะไรไม่รู้ ผมเห็นข่าวแวบๆ จำได้แต่ว่าจะให้ เจ้าหนู ที่เล่นเป็น แฮรี่ พอตเตอร์ เล่นเป็นตัวนายนักข่าวคนนี้ นาย เจค เป็นยิวอเมริกัน จากมิสซูรี เดินทางมาญี่ปุ่น เมื่อประมาณเกือบยี่สิบปีก่อน ตอนนั้นเขาเพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ปี 2 หลงไหลเรื่องญี่ปุ่น เลยขอย้ายมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโตเกียว ระหว่างเรียนก็ทำงานหาเงินเป็นค่าเรียน ค่าอยู่ ค่ากิน งานหนึ่ง ที่เขาเล่าว่า เขาทำก็คือ รับจ้างนวดคุณนายญี่ปุ่นที่ร่ำรวยแต่ขี้เหงา เออ ช่างหางานจริงไอ้หนู ระหว่างนั้น ก็มั่วสุมอยู่กับพวกยากูซ่า จนเกิดความสนใจ ศึกษาติดตามชีวิตยากูซ่า เมื่อเรียนจบ พูดเขียนญี่ปุ่นได้คล่อง เนียนไปกับคนญี่ปุ่นแล้ว ก็ไปสมัครงานเป็นผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ ยอดจำหน่ายสุงสุดของญี่ปุ่น นายเจค ทำข่าวเกี่ยวกับชีวิตชาวญี่ปุ่นในอีกโลกหนี่ง เป็นชีวิตสีดำของคนกลางคืน ส่วนใหญ่เป็นข่าวอาชญากรรม วันหนึ่ง ตำรวจญี่ปุ่นคุยให้เขาฟังว่า ยากูซ่าสมัยนี้ เปลี่ยนไปแล้ว ไม่เหมือนยากูซ่าสมัยก่อน ที่เป็นสุภาพบุรุษ แม้จะสักลายพร้อยไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ยุ่ง ไม่ทำร้ายคนนอกยากูซ่า นอกจากมีแบล๊กเมล์ หรือทรมานบ้าง แต่ไม่ทำร้ายตำรวจ มาตอนหลัง เกิดยากูซ่าสายพันธ์ใหม่ เช่น พันธุ์ประเภท นายโกโตะ Goto Tadamasa นี่แหละ ยากูซ่าก็ เริ่มเหี้ยมโหด รุนแรงขึ้น เล่นนอกเส้นไปถึงชาวบ้าน จนเดือดร้อนกันไปหมด นายเจคฟังแล้วก็สนใจ คิดจะทำรายงานข่าวพิเศษ เกี่ยวกับนาย โกโตะ เขาว่างั้น ก่อนการสนทนานี่ไม่กี่วัน ลูกน้องนายโกโตะที่เข้าใจว่า แปรพักตร์หักหลังเขา ถูกยิงตายที่เมืองไทยของเรานี่เอง หมอนี่ หนีเจ้าพ่อโกโตะอยู่หลายปี แต่ในที่สุดก็หนีไม่พ้น เรื่องการถูกยิงตายของยากูซ่าในเมืองไทยนี่เป็นข่าวอยู่ใน นสพ. เนชั่น เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ.2011 ว่าไกด์ไทยสารภาพว่า ยิงนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตาย 1 บาดเจ็บสาหัส อีก 1 ระหว่างพาไปปืนเขาท่องเที่ยว อยู่แถวทางเหนือของเมืองไทย จริงๆ ญี่ปุ่นทั้ง 2 คนเป็นยากูซ่า หนีตายจากการรู้เห็นการเก็บกวาด ของยากูซ่าในญี่ปุ่น แต่หนีไม่พ้น ไกด์ไทยเลยงานเข้า เป็นข่าวที่เห็นถึงความไม่เข้าท่า หลายอย่างเหลือเกิน 
###############
ตอน 3 เมื่อ นายเจคได้กลิ่นเรื่อง เจ้าพ่อกาโตะ เขาตามติด แล้วนำมาเขียนรายงานข่าวว่า จริงๆเรื่องมันเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นายกาโตะกำลังดำเนินการอยู่ นาย ก ดันเข้ามาขวางทาง นายกาโตะ จึงสั่งลูกน้องหมายเลข 1 ให้ จัดการนาย ก ผลปรากฏว่า นาย ก ถูกแทงตายกลางถนนแห่งหนึ่งแถว Aoyama เมื่อปี ค.ศ.2006 ตำรวจโตเกียว ใช้เวลาอยู่ 4 ปี ในปี ค.ศ.2009 จึงจับลูกน้องหมายเลข 1 ได้ แล้วออกหมายจับลูกน้องหมายเลข 2 ด้วย หมายเลข 1 ถูกพิพากษาติดคุก 13 ปี ส่วนหมายเลข 2 หนีหาย แต่ในที่สุดปรากฏมาถูกยิงตายอยู่ที่เมืองไทยในปี ค.ศ.2011 นั่นเอง นายเจค คุ้ยต่อ ได้เรื่องว่า นายกาโตะ เคยได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนตับ ที่ รพ UCLA Medical Center ในอเมริกา พร้อมลูกน้องอีก 2 คน ภายใต้การจัดการออก วีซ่า และอำนวยความสดวกของ FBI แถมลัดคิวไม่ต้องคอย ตัดหน้าคนที่ลงชื่อขอเปลี่ยนตับไปร้อยกว่าคน FBI บอก เราไม่ได้อะไรมากมายจากนายกาโตะหรอก อ้าว แล้วใจดีจัดการพา ยากูซ่ามาผ่าตัดเปลี่ยนตับ ตัดหน้าคนป่วยอเมริกันร้อยกว่าคนทำไม จากการคุ้ยแคะเรื่องนายกาโตะ นายเจคอ้างว่า ทำให้เขาโดนขู่ และโดนทำร้าย ลูกและเมียชาวญี่ปุ่นก็โดนขู่ด้วย แต่นายเจค ก็ยังคงอยู่ในญี่ปุ่นต่อไป ต่อมาเขาลาออกจากหนังสือพิมพ์ Yomiuri มาเป็นสื่ออิสระ แต่ก็ยังตามติดเรื่องยากูซ่า การค้ามนุษย์ และการฟอกเงิน ซึ่งเป็นธุรกิจของยากูซ่าต่อ ตัวเขาเองก็ใส่สูทดำ เหมือนพวกยากูซ่าส่วนใหญ่ แถมนั่งรถเมอร์ซิเดซเบนซ์ สีดำ มีคนขับเป็นอดีตยากูซ่านิ่วก้อยซ้ายสั้นหายไป 1 ข้อ เห็นชัด มีคนบอกว่า นายเจคเอง ก็น่าจะเป็น ซีไอเอ ไม่งั้นไม่รอดมาหรอก นายเจคไม่ตอบรับ หรือ ปฏิเสธ เขายังคลุกคลีอยู่กับยากูซ่า ตอนหลังเขาแยกทางกับเมีย ตัวเขายังอยู่ญี่ปุ่นจนทุกวันนี้ ส่วนลูกเมียไปอยู่อเมริกา และมีตำรวจคอยคุ้มกัน แต่ นายเจค ยังไม่เลิกเล่น เขาเขียนเรื่องของนายโกโตะ กับ FBI ไปลงใน นสพ. Washington Post และ Los Angeles Times เขารายงานว่า หลังจากผ่าตัดเปลี่ยนตับเรียบร้อย นายโกโตะ ก็กลับมาญี่ปุ่น บริหารกิจการยากูซ่าต่อ และในปี ค.ศ.2008 ก็ถูกขับออกจากแก๊งยากูซ่า จากนั้น นายกาโตะก็หนีไปอยู่ที่กัมพูชาพร้อมพรรคพวก ตัวนายกาโตะ บวชเป็นพระนุ่งเหลืองห่มเหลืองในพุทธศาสนา นายเจคเขียนหนังสือ เกี่ยวกับชีวิตด้านมืดของโตเกียวชื่อ “Tokyo Vice” ที่น่าจะเป็นต้นเรื่องของข่าว ที่ว่าจะมีการสร้างหนัง ส่วนนายกาโตะ ก็มาแบบยากูซ่า เขาบอกว่า แม้จะเขาจะบวชเป็นพระแล้ว ก็ใช่ว่า นายเจค จะได้อยู่สบาย หลังจากนั้น มีข่าวว่า ทนายที่นายเจค จ้างเอาไว้ดูแลคดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเขากับนายกาโตะ ไปพักผ่อนที่ฟิลิปปินส์ เช้าขึ้นมาพบว่านอนตายสนิทอยู่ในห้องพักของโรงแรม มีขวดยานอนหลับกับแก้วไวน์อยู่หัวเตียง ที่ข้อมือมีรอยเชือดยาว แต่ไม่ลึก มีกล่องใส่คัตเตอร์ขนาดต่างๆ วางอยู่ที่หัวเตียงด้วย ตำรวจฟิลิปปินส์ สรุปสำนวนว่า เป็นการฆ่าตัวตาย วิธีการ การสรุปสำนวนไม่ต่างกับตำรวจไทย เล่าเรื่องยากูซ่าแตกคอให้ฟังแล้ว ดูเผินๆ เหมือนเรื่องไม่น่าเป็นเรื่อง มาออกข่าวกันทำไม แถมเรื่องก็ไม่เห็นมีอะไร ลุงนิทานเอามาเขียนทำไม เรื่องแบบนี้แหละ ที่คนช่างสงสัยอย่างผม อดคิดมากไม่ได้ ผมไม่เชื่อเรื่องบังเอิญ! นายเจค สาระพัดจะทำตัวคลุกกับยากูซ่า ตีข่าวเสียน่าสนใจ ว่ายากูซ่าจะแตกกัน ตีกัน แต่ตอนเขียนถึงสาเหตุ กลับแสนเบา ไม่มีน้ำหนัก ส่วนเรื่องนายกาโตะ ก็เช่นเดียวกัน ตีข่าวเรื่องเปลี่ยนตับ กับข้อตกลงกับ FBI เหมือนเร้าใจ แต่พอถูกไล่จากแก๊ง ดันไม่เจาะลึก ว่ามาจากสาเหตุอะไร และที่แปลก จนผมต้องเขียนถึงคือ เรื่องยากูซ่า ดันหนี ไปบวชเป็นพระอยู่ในเขมร ! มีที่ให้ไปตั้งแยะ เลือกไปอยู่เขมร มันไม่สงสัยไม่ได้ แถมช่วงเวลา ที่ ยากูซ่าไปอยู่เขมร ก็น่าสนใจสำหรับผม ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนญี่ปุ่นจะยกพลขึ้นบก ผ่านมาทางใต้ของไทย ญี่ปุ่น ก็มาบวชเป็นพระอยู่ทางใต้ของเราอยู่นานหลายคน โดยเฉพาะตัว นายพล Tsuji Masanobu ผู้ที่จะมาบัญชาการรบในไทยก็บวช ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง การยึดราชประสงค์ และการซุ่มยิงทหารที่สี่แยกคอกวัว การบุกสถานที่ราชการและโรงพยาบาล ในปี พ.ศ.2553 (ค.ศ.2010) ที่มีชายชุดดำ ซุ่มยิงทหาร วางระเบิด เผากรุงเทพฯ เสียวินาศสันตะโร ชายชุดดำมาจากไหนกัน ใครฝึก พฤติกรรมของชายชุดดำเป็นอย่างไร น่ารังเกียจ เหี้ยมโหดขนาดไหน ไม่ใช่พื้นฝอยหาตะเข็บ แต่เป็นเรื่องเจ็บแล้วต้องจำ และไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก ทำให้ผมนึก ไปได้อีกหลายเรื่องครับ เรื่องบังเอิญไม่มี เขมรกับไทย อยู่ไม่ไกลกัน เข้าง่ายออกง่าย มารถ มาเรือ มารถไฟได้ทั้งนั้น และญี่ปุ่นในไทยก็มากขึ้นทุกวัน ตอนนี้ก็เร่งฝึกแบกถาดให้ไอ้นักล่าใบตองแห้งอยู่ ระวังกันบ้างก็แล้วกัน ไอ้ใบตองแห้งมันวางแผนเก่ง เรื่องล่อให้หลงทางนี่ กระจอกสำหรับมัน 
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
7 ก.ย. 2558
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 720 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ตกสะเก็ด บทส่งท้าย ตอนที่ 1-4
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” 
    บทส่งท้าย

ตอน 1
    ตกลง ดูๆไป เหมือนญี่ปุ่นลอยตัวอยู่เหนือสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงไม่เป็นผู้ชนะ แต่ก็เหมือนไม่ได้เป็นผู้แพ้ มีชาวญี่ปุ่น ตายแยะ บ้านเมืองฉิบหายเยอะก็จริงอยู่ แต่ที่ญี่ปุ่นไปรุกรานย่ำยีเขา เขาก็แหลกราญ ยับเยินไม่น้อยกว่า หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนญี่ปุ่นไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย เมื่อเทียบกับการกระทำของญี่ปุ่น
    ตั้งแต่อเมริกาเข้าไปใช้อำนาจปกครองญี่ปุ่นโดย SCAP ฝ่ายญี่ปุ่น ที่น่าจะมีผู้รับผิดชอบ ในการนำหรือส่งเสริมให้ญี่ปุ่นทำสงคราม ก็แทบจะหาผู้รับผิดชอบอย่างแท้จริงไม่เจอ เห็นแต่เงารางๆ กับคำขอโทษที่ยังกำกวม และไม่ช่วยทำให้ผู้ที่ถูกญี่ปุ่นย่ำยี นอนตาหลับ
    การชดใช้ค่าเสียหายของญี่ปุ่นกับเยอรมัน ในฐานะผู้ทำแพ้สงคราม ต่างกันสื้นเชิง
    เยอรมันถูกฝ่ายอังกฤษและยุโรปตอกหมุด ดิ้นไม่ออก จ่ายค่าเสียหายไปประมาณ 3 หมื่นล้านเหรียญ และค่าชดเชยรายเดือน อยู่อีกหลายสิบปี
    ส่วนญี่ปุ่น อเมริกาบอกว่า ญี่ปุ่นล้มละลาย ทั้งด้านทรัพย์สิน และด้านจิตใจ หลังจากกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป เพราะฉะนั้น จ่ายค่าเสียหายเพียง 2 พันล้านเหรียญ ที่เหลือ SCAP บอกว่า รอรับเป็นอาวุธ (เหลือสงคราม) และเครื่องจักรเก่า หรือเครื่องจักรใหม่ ที่ผลิต จากทรัพยากร ที่ไปขโมยเขามาได้ไหม หรือจะเอาเป็นเครื่องจักรใหม่เอี่ยม ที่อเมริกาจะให้ผลิต แต่ไม่ได้ให้ฟรีนะ ให้แบบลดราคา ส่วนต่างจ่ายเป็นอาหาร โอ้ย เงื่อนไขแยะ สรุปว่า แทบไม่มีใครได้อะไรจากญี่ปุ่น นอกจากอเมริกา
    ฝ่ายอังกฤษและยุโรปบอก แล้วพวกทหารของฝ่ายเรา ที่ญี่ปุ่นจับไปขังให้กินขี้ กินโคลน อยู่ค่ายกักกันที่สิงคโปร์ ประมาณ 5 หมื่นกว่าคน กว่าจะหลุดออกมาหลังสงครามโลก ตายไป เกือบครึ่ง ลืมไปแล้วหรือ นี่ยังไม่ได้นับการสร้างสพานข้ามแม่น้ำแควอันโด่งดังว่า พวกทหารฝรั่งถูกทารุณกันขนาดไหน จะชดเชย จะขอโทษอย่างไร
    ในที่สุด ไม่รู้อเมริกาตกลงอะไรกับอังกฤษ ตอนหลัง เสียงบ่นของชาวเกาะใหญ่ เงียบเช่นเป่าสาก
    ฝ่ายเอเซียเองบอกว่า เราก็ไม่ลืม เรื่องนานกิง เรื่องเมียหมอนข้าง ที่ญี่ปุ่นกวาดต้อนเอา ไปใช้สอยในช่วงสงครามอย่างทารุณ ข่มขืนทั้งร่างกายและจิตใจ มีประมาณกว่าแสนคน ส่วนใหญ่ อายุ 14 ถึง 18 และไม่ลืมเรื่องการปล้นบ้านเมืองของเราอย่างตะกระทารุณและเหี้ยมโหด แต่ไม่มีใครมาตกลงกับจีน ไม่มีคำขอโทษ โลกแทบไม่รู้เรื่อง เพราะฮอลลีวู้ดมัวแต่ทำหนังเรื่องยิว สำหรับเกาหลี ญี่ปุ่นบอกเสียใจ แต่ไม่เคยขอโทษ เพิ่งมาพูดปีนี้ แต่ก็บอกว่า ชนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่น ไม่ต้องรับผิดชอบ เรื่องผ่านไปแล้ว (เดี๋ยวจะสับสนกับเรื่องใหม่ ที่กำลังจะต้องทำ ?!)
    สำหรับเยอรมัน ฝ่ายใช้อำนาจปกครอง คุ้ยแคะทอง เพชร แม้กระทั่งฝันทองในปากชาวยิว ฮอลลีวู้ด ยังทำเอาไปทำหนัง งัดฟันทองยิวให้ดู จนคนด่าเช็ดเยอรมันทั้งโรงหนัง ด้านเยอรมัน ถูกแจงทุกรายการ เพราะมียิวคอยจ้อง คอยฟ้อง และเพราะคนคอยแบ่ง มีหลายพวก จ้องกันทั้งตาทั้งปากมันแผลบ ส่วนการดำเนินคดีกับพวกนาซีที่ฆ่าโหดชาวยิว ถูกจับมาดำเนินคดีไปแล้วหลายคน ผ่านไป 70 ปี คดียังไม่จบก็มี ยังต้องพยุงกันมาศาล เมื่อ 2,3 ก็ยังมีข่าวอยู่ ส่วนพวกที่หนีรอด ก็เผ่นไปกบดาน เปลี่ยนชื่ออยู่แถวบราซิล อเมริกาใต้ จนแถวนั้น มีแต่ผิวน้ำตาล แต่ผมทอง ตาสีฟ้า กลายเป็นนางแบบ ค่าตัวแพง
    แต่สำหรับญี่ปุ่น ดูเหมือนเรื่องจะหายเงียบแทบไม่มีอะไรโผล่ ( เหมือนนิทานเรื่องจริง ที่ถูกบีบท่อ ไม่ให้นิทานโผล่ ผมไปตกลงแพ้สงครามกับมึงตั้งแต่เมื่อไหร่ หือ !) จะมีก็แต่ นายพลโตโจผู้บัญชาการรบ และนายทหารคนสนิทไม่กี่คน ที่แอ่นอก (นี่ถ้าอดีตนายกฯ คนหนึ่งมาอ่าน หล่อนจะอ่านออกไหม เดี๋ยวจะงงว่า แอ่ นอก คืออะไร อ๋อ ไม่อ่านหรือครับ ไม่ชอบอ่านหนังสือ… มิน่า..) ยอมรับกรรม (แทนคนอื่นๆอีกหลายคน) เมื่อมีคนมากล่อมเขา ให้บอกว่า เขาเป็นคนสั่งให้กองทัพญี่ปุ่นทำสงคราม และเคลื่อนพล ลงมาทางแปซืฟิกใต้ โตโจ บอกไม่มีปัญหา เขารู้หน้าที่ ไม่กี่วันหลังจากนั้น เขาก็ยิงขมับตัวเองฆ่าตัวตาย แต่ไม่ตาย ไปนอนโรงพยาบาลอยู่ในคุกซุกาโมแทน พอหาย ก็ไปรับโทษ ถูกแขวนคอ พร้อมกับลูกน้อง ไม่กี่คน
###############
ตอน 2
    หลังจาก นาย Atcheson เครื่องบินตกตาย มีคนแคลงใจ เรื่องที่ SCAP บอก ญี่ปุ่นล้มละลาย เสนอให้ประธานาธิบดีทรูแมน ส่งคนมาตรวจสอบ ทรูแมน ส่ง นาย Edwin S Pauley เศรษฐี น้ำมัน จากพรรค Democrat มาประเมินเศรษฐกิจ ของญีปุ่น ว่า เจ๊งจริงหรือเปล่า จะมีปัญญาใช้หนี้ชาวบ้าน เขาบ้างไหม ไหนว่าปล้นทรัพย์เขามาแยะ นาย Pauley บินมาตรวจสอบที่ญี่ปุ่น เขาตามเจอ บัญชีลับต่างๆ ที่อยู่นอกประเทศ เช่นที่ สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ และอาร์เจนตินา เขา รายงานว่า บัญชีพวกนั้น เป็น ทรัพย์สินส่วนตัว ของ พวกนักธุรกิจใหญ่ zaibatsu ที่ไม่เกี่ยวกับการทำสงครามเลยนะ อ้าว
    แต่ ในช่วงไม่กี่เดือน ก่อนสงครามจะจบ ทหารพรานอเมริกัน ลูกครึ่ง อเมริกัน-ฟิลิปปิโน นาย Servino Garcia Santa Romana สังกัดหน่วย โอเอสเอส (หน่วยข่าวกรองของอเมริกา ก่อน เปลี่ยนชื่อ เป็น ซีไอเอ) ที่ปฏิบัติหน้าที่ อยู่แถวภูเขาที่เกาะลูซอน ฟิลิปปีนส์ แอบเห็นกองทัพญี่ปุ่น ใช้รถบรรทุก เป็นขบวน ขนหีบ ท่าทางหนักอึ้ง เข้าไปในถ้ำ หลายรอบจนนับไม่ถ้วน เลย แอบตามไปล็อคคอทหารญี่ปุ่นมาสอบถาม ได้ความว่า เป็นหีบบรรจุทองแท่งทั้งนั้น ส้มหล่นใส่อย่างไม่นึกฝัน ฝ่ายทหารอเมริกันจึงสั่งปิดตายถ้ำ วางกับระเบิดกันไว้ พร้อมจัดยามเฝ้า
    หลังสงครามเลิก นายพลแมค กลับมาลูซอน พร้อมนายพล Charles Willoughby ลูกน้องคนสนิท และพวกหน่วยข่าวกรองอีกหลายโหล ช่วยกันเปิดถ้ำ ขนทองออกไป หลังจากนั้น ก็ปิดตายถ้ำอีกรอบ
    เขาว่า ทองที่ขนกันไป ทอง Santa Romana พวกเขาเรียกกันอย่างนั้น นอกจาก 2 นายพลใหญ่ จะรู้แล้ว หัวหน้าใหญ่ OSS นายพล Donovan ก็รู้ และ แน่นอน Herbert Hoover ก็รู้ ทอง Santa Romana ไม่ได้ส่งคืนเจ้าของ แต่ ฝ่ายอเมริกัน ขนขึ้นเรือรบ นำไปฝาก ใน ธนาคาร 42 ประเทศ แยกเป็น 176 บัญชี ตัวเลขที่เปิดเผย คือ ทอง จำนวน 20,000 ตัน ตันนะครับ ไม่ใช่กิโล ไม่ใช่บาท
    บางส่วนของทอง แบ่งเอาไปใช้ในกิจการ นอกระบบ ของ ซีไอเอ เหมือน รายได้จากพวกฝิ่น เฮโรอีน แถวฉาน พม่า ลาว สามเหลี่ยมทองคำ นั่นแหละ ไม่ต้องกวนภาษีประชาชนคนอเมริกัน และไม่ต้องขออนุญาตรัฐสภา เวลาจะปฏิบัติการ ไม่ต้องแจงรายละเอียด ส่วนที่เหลือไปไหนบ้าง หนังสือที่อ่านไม่บอก ผมรู้แต่ว่า คนเขียนหนังสือ ที่เล่าข้อมูลฝ่ายญี่ปุ่น เขียนเสร็จ พอหนังสือออกขาย เขาต้องย้ายบ้าน ย้ายประเทศ
###############
ตอน 3
    หลังครามโลก พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP ที่คลอดในคุกซุกาโม มียากูซ่า เป็นหมอตำแย ก็เป็นผู้ใช้อำนาจบริหารญี่ปุ่น มาจนถึงทุกวันนี้
    หลังสงครามโลก กลุ่มอเมริกัน มอร์แกน เสียตำแหน่งเจ้าพ่อใหญ่ ที่คุมทุกปีกในอเมริกา ให้แก่ กลุ่มอเมริกัน ร้อกกี้เฟลเลอร์ เขาว่า เพราะมอร์แกน แทงม้าผิดตัว ทุ่มผิดที่ นึกว่า ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ จะเคี้ยวเหยื่อ เหมือนตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่ มันไม่มีอะไรแน่นอนตลอดเวลาหรอก พวกเอ็งควรศึกษาศาสนาพุทธ ให้เข้าใจ ถึงเรื่องการเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเสียบ้าง จะได้ไม่ตะกระตะกรามขนาดนี้ ส่วนร้อกกี้ อาศัยเทคนิคใหม่ ล่าเหยื่อ โดยไม่ต้องใช้เงินถม ไม่ต้องใช้กองทัพคนมากมาย อย่างชาวเกาะใหญ่ แค่ใช้กองทัพลมปาก กับตั้งโรงงานฟอกย้อมความคิดให้มากหน่อย ลงทุนครั้งเดียว ผ่านมา 70 ปี สีย้อมยังติดทนดีอยู่เลย เฮ้ย เหนื่อยใจ
    หลังสงครามโลก John McCloy เป็นผู้อำนวยการ สถาบัน CFR ตั้งแต่ ปี คศ 1953 ถึง 1970
    MacCloy เป็นใคร สำคัญอย่างไร 
    MacCloy เดิมเป็นทนาย (ทนายอีกแล้ว!) อยู่ในกลุ่มวอลสตรีทกับพวกมอร์แกน ต่อมาแปรพักตร์ ย้ายมาอยู่กลุ่มร้อกกี้ เขาคงมองเห็นอะไร แวบ ๆ พวกทนายพันธุ์นี้ มักจมูกดี ได้กลิ่นเน่าไว เลยย้าย มาอยู่ สนง กฏหมาย Milbank Tweed ซึ่งทำงานให้ตระกูลร้อกกี้ the great กับ เป็นที่ปรึกษากฏหมายใหญ่ ให้ ธนาคาร Chase หลังจากนั้นได้เลื่อนชั้น เป็นประธานกรรมการ ธนาคาร Chase อย่างไม่ต้องรอคิว
    หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ ร้อกกี้ ปราบดา เขี่ยมอร์แกน ไปจนพ้นทาง จึงส่ง MacCloy มาเป็น ประธาน CFR ซึ่งก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 พวกมอร์แกนยึดเก้าอี้ CFR ไว้แน่น นาย MacCloy นี้ เป็นคนไปค้นพบ Henry A Kissinger พวกพันธุ์พิเศษอีกเหมือนกันและเอามามอบตัว ถวายหัวรับใช้ ร้อกกี้ the great เขาเป็นคนกำกับ ควบคุม นโยบายต่างประเทศ ที่ทรงอืทธิพลที่สุด คนหนึ่งของอเมริกา โดยเฉพาะ เกี่ยวกับ เรื่องโซเวียต จีน เวียตนาม อืหร่าน อเมริกาใต้ ใน ช่วงปี 1969 ถึง 1977
    และ เพื่อให้ Grand Area ส่วนที่เป็นเอเซียแปซิฟิก เป็นไปตามแผน ของ War and Peace Studies โดยเฉพาะในเรื่องการใช้ญี่ปุ่น เป็น ฐานสำคัญ ด้านอุตสาหกรรมและ “อื่นๆ” ให้อเมริกา ในปี คศ 1973 ร้อกกี้ MacCloy และ Kissinger ก็จัดตั้ง Trilateral Commission ขึ้นมา เป็น สาขาลูกของ CFR ภายใต้การสนับสนุนด้านเงินทุน และ “อื่นๆ” จากมูลนิธิร้อกกี้เฟลเลอร์ เพื่อรับนโยบาย การดำเนืนงาน และประสานงาน ในภูมิภาคนี้ ให้สอดคล้องกับนโยบายของ CFR ในด้านเศรษฐกิจและการเมือง ให้เหมือนกันทั้งโลก ตามที่อเมริกา หรือ CFR ต้องการ สรุปสั้นๆ ตามภาษาแถวบ้านผม แปลว่า “พวกมึงต้องทำตามที่กูบอก” ทำนองนั้นนะครับ
    สมาชิกส่วนใหญ่ ของ Trilateral เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ นักธุรกิจใหญ่ นักการเมืองใหญ่ ใหญ่ๆทั้งนั้น และ ส่วนใหญ่ มาจากอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี มีส่วนน้อยจากอินโดนีเซีย และชาติอื่นๆ ในเอเซีย และอเมริกาใต้
    แล้วมีคนไทยเป็นสมาชิก Trilatteral นี้ไหม มีครับ เปลี่ยนมาหลายรุ่น และผมก็เคยใส่ชื่อ ไปแล้วหลายรอบ เพจพังเกือบทุกรอบ ถ้าใส่อีกรอบ กลัวจะพังมากกว่าเพจ ลองไปค้นหาอ่านกันดู กดดูจากกูเกิลได้ เด็ดๆ ทั้งนั้น หาไม่เจอบอกมาครับ จะเอามาลงให้ ดูซิ มันจะพังอีกรอบไหม ไหนๆ โดยรวนรายวันอยู่แล้ว
##############
ตอน 4
ร้อกกี้ the great น่าจะใช้วิธี “กำกับ ” รัฐบาลอเมริกัน ผ่าน 4 หน่วยงานหลัก คือ กระทรวงต่างประเทศ, สภาความมั่นคง National Security Council (NSC) , ซีไอเอ และ CFR
    CFR ทำหน้าที่เป็นมันสมอง และ เป็นผู้ “กำกับ” รัฐบาล อีกต่อหนึ่ง
    อิทธิพล ของ CFR มากมายอย่างที่เรานึกไม่ถึง เอาว่า ประธานาธิบดี เกือบทุกคน ไม่ว่าจะสังกัดพรรคไหน ก็สังกัด CFR ทั้งสิ้น และ เขาว่า ถ้า CFR ไม่เห็นชอบคนไหน คนนั้นก็อย่าเสียเวลา ไปสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เสียเงินเปล่าๆ
    นอกจากนี้ CFR เป็นผู้ส่งสมาชิกของตัว ไปเป็นหัวหน้า และระดับ ผู้บริหาร สำคัญ ในหน่วยงานข้างต้น ทั้ง 3 หน่วย ด้วย รายชื่อสมาชิก ของ CFR มีทั้ง นักการเมือง นักธุรกิจ
    นักการเงิน นักกฏหมาย นักวิชาการ สื่อ รวมถึง ดารา ทั้งหมด ต้องเป็น รุ่นใหญ่ ระดับ class A ใครสนใจในรายละเอียด ในกูเกิลมีเช่นเดียวกัน
    สำหรับญี่ปุ่น เด็กสร้าง ตัวสำคัญ ของอเมริกา (หรือ ร้อกกี้ ) ในการกินเอเซียแปซิฟิก ที่มีพรรค LDP เป็นผู้บริหารประเทศญี่ปุ่นมาเกือบตลอดเวลา ตั้งแต่หลังสงครามโลก ทำหน้าที่ เป็น ฐานอุตสาหกรรมต้นทุนต่ำ ทำกำไรให้อเมริกามากมาย เศรษฐกิจญี่ปุ่น จะขึ้น จะลง ดี เลว ขึ้นอยู่กับความเมตตาของอเมริกาทั้งสิ้น การเมือง การศึกษา สังคม วัฒนธรรมของญี่ปุ่น เปลี่ยนไปตามแม่พิมพ์ ที่อเมริกาจัดส่งให้ อเมริกาต้องการอะไร ฐานทัพหรือ ได้ จัดให้ และ ตอนนี้ ญี่ปุ่น ก็กำลังมีภาระกิจใหญ่ ต้องเป็นซามูไรแบกถาดรับใช้อเมริกา อีกแล้ว ไม่มีปัญหา แบกถาดรับใช้มาตลอดอยู่แล้ว แต่โลกไม่รู้ เพิ่มถาดใหญ่ อีกถาดเป็นไรไป
    และ จีน ก็ยังอยู่ ยังยั่วน้ำลาย น่ากิน เหมือนร้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่จะเคี้ยวทีไร มีอันเป็นไปทุกที
    ร้อยปีก่อน อังกฤษ ปั่นหัวญี่ปุ่น ให้ตีรวนจีน ให้จีนน่วม ก่อนที่อังกฤษ จะไปกิน แต่แล้วอังกฤษ ก็งับลม อเมริกาวางแผนจะกิน จีนพลิกตัว ปิดประตูเมือง เป็นคอมมิวนิสต์ ดีกว่าเป็นอาณานิคมขี้ข้าฝรั่ง
    มาถึงปีนี้ คศ 2015 ผ่านมาร้อยกว่าปี ยังมีคนไม่สิ้นความอยาก และความพยายาม
    CFR ออกรายงาน Revising U.S Grand Strategy Toward China เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา พอสรุปได้ว่า อเมริกา เห็นจีน เป็นคู่แข็งที่สำคัญที่สุดของอเมริกา ในขณะนี้ และต่อไปอีก หลายๆสิบปี … จีนกำลังดำเนินยุทธศาสตร์ ที่มีเป้าหมายจะเข้าไปแทนที่อเมริกา ที่มีสถานะเป็นผู้มีอำนาจที่สุดในเอเซีย ….อเมริกา จึงจำเป็นต้องถ่วงดุลยอำนาจจีน …. และการทำให้รากฐานของจีนล่มสลาย (fundamental collapse) จึงเป็นทางเดียว ที่จะทำให้อเมริกา พ้น “ภาระ” การถ่วงดุลยกับจีน …
    อ่านแล้วงง เอาภาษาแถวบ้านผมดีกว่า อเมริกา กำลังบอกจีน ว่า ” …มึงโตไป กูปล่อยให้มึงโตแบบนี้ไม่ได้ กูต้องทำลายมึงให้สิ้นซาก...”
    อเมริกา คงไม่ปล่อยให้จีน ยืนตัวโตค้ำหัวอเมริกา อีกต่อไป อเมริกา ต้อง “ทำอะไร” แล้ว และ Grand Strategy แนะนำ (สั่ง) ให้อเมริกา มอบหมายให้ญี่ปุ่น เป็นหัวหน้า เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ในการ “ทำอะไร” ดังนั้น สิ่งที่ อเมริกา และญี่ปุ่นกำลังจับมือกัน ทำเป็นการด่วน คือ ปลดโซ่ล่ามกองทัพญี่ปุ่น ที่ท่านนายพลแมค ล่ามด้วยรัฐธรรมนูญของญึ่ปุ่น มาตรา 9 ที่ห้ามไม่ให้ญี่ปุ่น มีกองกำลัง เว้นแต่เพื่อป้องกันตัวเอง
    วันนี้อเมริกา ต้องการให้ญี่ปุ่น ผู้ชำนาญการป่วนจีน กลับไปใช้ความชำนาญเดิมอีกรอบหนึ่ง เรื่องนี้ รัฐสภาของอเมริกาให้การสนับสนุน ญี่ปุ่นท่วมท้น ให้ญี่ปุ่น มีกองกำลังร่อนไปทั่ว ( และจริงๆ เขาว่า ก็ร่อนออกมาแล้วด้วย ) เรื่อง สงครามโลก การรบกัน การกินดอกเห็ดจนตายเกลื่อน ลืมกันหมดแล้ว ส่วนที่ญี่ปุ่นเอง สภาล่าง ที่ตาหลาน หลานตา คุมอยู่หมัด ผ่านมตินี้แล้วเมื่อเดือนก่อน (กรกฏาคม) เหลือแต่สภาสูง ที่คาดว่าจะลงมติผ่านในเดือนกันยายน ก่อนที่สภาสูงจะปิดในสิ้นเดือนกันยา เพราะตาหลาน หลานตา ก็คุมอยู่เช่นกัน
    แต่ก็น่าสนใจ ล่าสุด ชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่ ไม่อยากให้สภาผ่านกฏหมายนี้ ไม่อยากเข้าทำสงคราม ไม่อยากแบกถาดอีก กำลังเริ่มออกมาประท้วงหลานตา มากขึ้น ตั้งแต่เดือนที่แล้ว และเมื่อวันที่ 30 สิงหา นี้เอง ชาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งแสนสองหมื่นคน ออกมาชุมนุมใหญ่ คัดค้านการออกกฏหมายแบกถาด และเรียกร้องให้หลานตาลาออก ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวเรื่องยากูซ่าเเก๊งใหญ่ที่สุดในญี่ปั่น แตกคอกันเอง ทางการญี่ปุ่น อ้างอาจมีการซัดกันกลางเมือง
    เรื่องบังเอิญอีกแล้วหรือ ก็ต้องดูว่า ใบสั่ง หรือ พลังของประชาชนญี่ปุ่นจะชนะ
    ผมเล่าประวัติศาสตร์ เพื่อให้เข้าใจปัจจุบัน ว่าตอนนี้ เขากำลังทำอะไรกัน เพราะเหตุใด และเมื่อมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น มันน่าจะมาจากเรื่องไหน และน่าจะพอให้เรามองออกว่า แล้วมันจะไปต่อทางไหน ถ้าจะให้ดี สำหรับท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ช่วยกลับไปอ่านนิทาน เรื่อง แผนสอยมังกร กับ เรื่อง ซามูไรแบกถาด ประกอบกับนิทานเรื่องนี้ จะเข้าใจขี้น ว่า การระเบิดต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่า ในจีน หรือที่ไหน ร่วมทั้งเรื่อง รัสเซีย อิหร่าน ตุรกี เลบานอน และ ล่าสุด มาเลเซีย มันเกี่ยวพันกันหรือไม่ และจะกระทบบ้านเรา หรือไม่อย่างไร
    แล้วก็โปรดอย่าลืม สูตรสำเร็จ ของนักล่า ไม่ว่ารุ่นไหน ยุคไหน กินคำเดียวไม่ไหว ก็ทุบให้น่วมก่อนเคี้ยว แล้วตอนนี้ มันจะทุบที่ไหนบ้าง
    ส่วน เรื่องจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ อเมริกา เมื่อ 100 ปีก่อน มาจนถึงตอนนี้ คงสรุปกันได้แล้ว ว่า ตกลง ใครต้ม ใครซ้อน ใครเจ็บ ใครช้ำ ใครซ่อน ใครรวย ใครโหด ใครเหี้ยม
    แบบนี้ แผล มันก็คงจะตกสะเก็ดยาก….
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
1 ก.ย. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด บทส่งท้าย ตอนที่ 1-4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”  บทส่งท้าย

ตอน 1 ตกลง ดูๆไป เหมือนญี่ปุ่นลอยตัวอยู่เหนือสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงไม่เป็นผู้ชนะ แต่ก็เหมือนไม่ได้เป็นผู้แพ้ มีชาวญี่ปุ่น ตายแยะ บ้านเมืองฉิบหายเยอะก็จริงอยู่ แต่ที่ญี่ปุ่นไปรุกรานย่ำยีเขา เขาก็แหลกราญ ยับเยินไม่น้อยกว่า หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนญี่ปุ่นไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย เมื่อเทียบกับการกระทำของญี่ปุ่น ตั้งแต่อเมริกาเข้าไปใช้อำนาจปกครองญี่ปุ่นโดย SCAP ฝ่ายญี่ปุ่น ที่น่าจะมีผู้รับผิดชอบ ในการนำหรือส่งเสริมให้ญี่ปุ่นทำสงคราม ก็แทบจะหาผู้รับผิดชอบอย่างแท้จริงไม่เจอ เห็นแต่เงารางๆ กับคำขอโทษที่ยังกำกวม และไม่ช่วยทำให้ผู้ที่ถูกญี่ปุ่นย่ำยี นอนตาหลับ การชดใช้ค่าเสียหายของญี่ปุ่นกับเยอรมัน ในฐานะผู้ทำแพ้สงคราม ต่างกันสื้นเชิง เยอรมันถูกฝ่ายอังกฤษและยุโรปตอกหมุด ดิ้นไม่ออก จ่ายค่าเสียหายไปประมาณ 3 หมื่นล้านเหรียญ และค่าชดเชยรายเดือน อยู่อีกหลายสิบปี ส่วนญี่ปุ่น อเมริกาบอกว่า ญี่ปุ่นล้มละลาย ทั้งด้านทรัพย์สิน และด้านจิตใจ หลังจากกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป เพราะฉะนั้น จ่ายค่าเสียหายเพียง 2 พันล้านเหรียญ ที่เหลือ SCAP บอกว่า รอรับเป็นอาวุธ (เหลือสงคราม) และเครื่องจักรเก่า หรือเครื่องจักรใหม่ ที่ผลิต จากทรัพยากร ที่ไปขโมยเขามาได้ไหม หรือจะเอาเป็นเครื่องจักรใหม่เอี่ยม ที่อเมริกาจะให้ผลิต แต่ไม่ได้ให้ฟรีนะ ให้แบบลดราคา ส่วนต่างจ่ายเป็นอาหาร โอ้ย เงื่อนไขแยะ สรุปว่า แทบไม่มีใครได้อะไรจากญี่ปุ่น นอกจากอเมริกา ฝ่ายอังกฤษและยุโรปบอก แล้วพวกทหารของฝ่ายเรา ที่ญี่ปุ่นจับไปขังให้กินขี้ กินโคลน อยู่ค่ายกักกันที่สิงคโปร์ ประมาณ 5 หมื่นกว่าคน กว่าจะหลุดออกมาหลังสงครามโลก ตายไป เกือบครึ่ง ลืมไปแล้วหรือ นี่ยังไม่ได้นับการสร้างสพานข้ามแม่น้ำแควอันโด่งดังว่า พวกทหารฝรั่งถูกทารุณกันขนาดไหน จะชดเชย จะขอโทษอย่างไร ในที่สุด ไม่รู้อเมริกาตกลงอะไรกับอังกฤษ ตอนหลัง เสียงบ่นของชาวเกาะใหญ่ เงียบเช่นเป่าสาก ฝ่ายเอเซียเองบอกว่า เราก็ไม่ลืม เรื่องนานกิง เรื่องเมียหมอนข้าง ที่ญี่ปุ่นกวาดต้อนเอา ไปใช้สอยในช่วงสงครามอย่างทารุณ ข่มขืนทั้งร่างกายและจิตใจ มีประมาณกว่าแสนคน ส่วนใหญ่ อายุ 14 ถึง 18 และไม่ลืมเรื่องการปล้นบ้านเมืองของเราอย่างตะกระทารุณและเหี้ยมโหด แต่ไม่มีใครมาตกลงกับจีน ไม่มีคำขอโทษ โลกแทบไม่รู้เรื่อง เพราะฮอลลีวู้ดมัวแต่ทำหนังเรื่องยิว สำหรับเกาหลี ญี่ปุ่นบอกเสียใจ แต่ไม่เคยขอโทษ เพิ่งมาพูดปีนี้ แต่ก็บอกว่า ชนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่น ไม่ต้องรับผิดชอบ เรื่องผ่านไปแล้ว (เดี๋ยวจะสับสนกับเรื่องใหม่ ที่กำลังจะต้องทำ ?!) สำหรับเยอรมัน ฝ่ายใช้อำนาจปกครอง คุ้ยแคะทอง เพชร แม้กระทั่งฝันทองในปากชาวยิว ฮอลลีวู้ด ยังทำเอาไปทำหนัง งัดฟันทองยิวให้ดู จนคนด่าเช็ดเยอรมันทั้งโรงหนัง ด้านเยอรมัน ถูกแจงทุกรายการ เพราะมียิวคอยจ้อง คอยฟ้อง และเพราะคนคอยแบ่ง มีหลายพวก จ้องกันทั้งตาทั้งปากมันแผลบ ส่วนการดำเนินคดีกับพวกนาซีที่ฆ่าโหดชาวยิว ถูกจับมาดำเนินคดีไปแล้วหลายคน ผ่านไป 70 ปี คดียังไม่จบก็มี ยังต้องพยุงกันมาศาล เมื่อ 2,3 ก็ยังมีข่าวอยู่ ส่วนพวกที่หนีรอด ก็เผ่นไปกบดาน เปลี่ยนชื่ออยู่แถวบราซิล อเมริกาใต้ จนแถวนั้น มีแต่ผิวน้ำตาล แต่ผมทอง ตาสีฟ้า กลายเป็นนางแบบ ค่าตัวแพง แต่สำหรับญี่ปุ่น ดูเหมือนเรื่องจะหายเงียบแทบไม่มีอะไรโผล่ ( เหมือนนิทานเรื่องจริง ที่ถูกบีบท่อ ไม่ให้นิทานโผล่ ผมไปตกลงแพ้สงครามกับมึงตั้งแต่เมื่อไหร่ หือ !) จะมีก็แต่ นายพลโตโจผู้บัญชาการรบ และนายทหารคนสนิทไม่กี่คน ที่แอ่นอก (นี่ถ้าอดีตนายกฯ คนหนึ่งมาอ่าน หล่อนจะอ่านออกไหม เดี๋ยวจะงงว่า แอ่ นอก คืออะไร อ๋อ ไม่อ่านหรือครับ ไม่ชอบอ่านหนังสือ… มิน่า..) ยอมรับกรรม (แทนคนอื่นๆอีกหลายคน) เมื่อมีคนมากล่อมเขา ให้บอกว่า เขาเป็นคนสั่งให้กองทัพญี่ปุ่นทำสงคราม และเคลื่อนพล ลงมาทางแปซืฟิกใต้ โตโจ บอกไม่มีปัญหา เขารู้หน้าที่ ไม่กี่วันหลังจากนั้น เขาก็ยิงขมับตัวเองฆ่าตัวตาย แต่ไม่ตาย ไปนอนโรงพยาบาลอยู่ในคุกซุกาโมแทน พอหาย ก็ไปรับโทษ ถูกแขวนคอ พร้อมกับลูกน้อง ไม่กี่คน
###############
ตอน 2 หลังจาก นาย Atcheson เครื่องบินตกตาย มีคนแคลงใจ เรื่องที่ SCAP บอก ญี่ปุ่นล้มละลาย เสนอให้ประธานาธิบดีทรูแมน ส่งคนมาตรวจสอบ ทรูแมน ส่ง นาย Edwin S Pauley เศรษฐี น้ำมัน จากพรรค Democrat มาประเมินเศรษฐกิจ ของญีปุ่น ว่า เจ๊งจริงหรือเปล่า จะมีปัญญาใช้หนี้ชาวบ้าน เขาบ้างไหม ไหนว่าปล้นทรัพย์เขามาแยะ นาย Pauley บินมาตรวจสอบที่ญี่ปุ่น เขาตามเจอ บัญชีลับต่างๆ ที่อยู่นอกประเทศ เช่นที่ สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ และอาร์เจนตินา เขา รายงานว่า บัญชีพวกนั้น เป็น ทรัพย์สินส่วนตัว ของ พวกนักธุรกิจใหญ่ zaibatsu ที่ไม่เกี่ยวกับการทำสงครามเลยนะ อ้าว แต่ ในช่วงไม่กี่เดือน ก่อนสงครามจะจบ ทหารพรานอเมริกัน ลูกครึ่ง อเมริกัน-ฟิลิปปิโน นาย Servino Garcia Santa Romana สังกัดหน่วย โอเอสเอส (หน่วยข่าวกรองของอเมริกา ก่อน เปลี่ยนชื่อ เป็น ซีไอเอ) ที่ปฏิบัติหน้าที่ อยู่แถวภูเขาที่เกาะลูซอน ฟิลิปปีนส์ แอบเห็นกองทัพญี่ปุ่น ใช้รถบรรทุก เป็นขบวน ขนหีบ ท่าทางหนักอึ้ง เข้าไปในถ้ำ หลายรอบจนนับไม่ถ้วน เลย แอบตามไปล็อคคอทหารญี่ปุ่นมาสอบถาม ได้ความว่า เป็นหีบบรรจุทองแท่งทั้งนั้น ส้มหล่นใส่อย่างไม่นึกฝัน ฝ่ายทหารอเมริกันจึงสั่งปิดตายถ้ำ วางกับระเบิดกันไว้ พร้อมจัดยามเฝ้า หลังสงครามเลิก นายพลแมค กลับมาลูซอน พร้อมนายพล Charles Willoughby ลูกน้องคนสนิท และพวกหน่วยข่าวกรองอีกหลายโหล ช่วยกันเปิดถ้ำ ขนทองออกไป หลังจากนั้น ก็ปิดตายถ้ำอีกรอบ เขาว่า ทองที่ขนกันไป ทอง Santa Romana พวกเขาเรียกกันอย่างนั้น นอกจาก 2 นายพลใหญ่ จะรู้แล้ว หัวหน้าใหญ่ OSS นายพล Donovan ก็รู้ และ แน่นอน Herbert Hoover ก็รู้ ทอง Santa Romana ไม่ได้ส่งคืนเจ้าของ แต่ ฝ่ายอเมริกัน ขนขึ้นเรือรบ นำไปฝาก ใน ธนาคาร 42 ประเทศ แยกเป็น 176 บัญชี ตัวเลขที่เปิดเผย คือ ทอง จำนวน 20,000 ตัน ตันนะครับ ไม่ใช่กิโล ไม่ใช่บาท บางส่วนของทอง แบ่งเอาไปใช้ในกิจการ นอกระบบ ของ ซีไอเอ เหมือน รายได้จากพวกฝิ่น เฮโรอีน แถวฉาน พม่า ลาว สามเหลี่ยมทองคำ นั่นแหละ ไม่ต้องกวนภาษีประชาชนคนอเมริกัน และไม่ต้องขออนุญาตรัฐสภา เวลาจะปฏิบัติการ ไม่ต้องแจงรายละเอียด ส่วนที่เหลือไปไหนบ้าง หนังสือที่อ่านไม่บอก ผมรู้แต่ว่า คนเขียนหนังสือ ที่เล่าข้อมูลฝ่ายญี่ปุ่น เขียนเสร็จ พอหนังสือออกขาย เขาต้องย้ายบ้าน ย้ายประเทศ
###############
ตอน 3 หลังครามโลก พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP ที่คลอดในคุกซุกาโม มียากูซ่า เป็นหมอตำแย ก็เป็นผู้ใช้อำนาจบริหารญี่ปุ่น มาจนถึงทุกวันนี้ หลังสงครามโลก กลุ่มอเมริกัน มอร์แกน เสียตำแหน่งเจ้าพ่อใหญ่ ที่คุมทุกปีกในอเมริกา ให้แก่ กลุ่มอเมริกัน ร้อกกี้เฟลเลอร์ เขาว่า เพราะมอร์แกน แทงม้าผิดตัว ทุ่มผิดที่ นึกว่า ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ จะเคี้ยวเหยื่อ เหมือนตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่ มันไม่มีอะไรแน่นอนตลอดเวลาหรอก พวกเอ็งควรศึกษาศาสนาพุทธ ให้เข้าใจ ถึงเรื่องการเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปเสียบ้าง จะได้ไม่ตะกระตะกรามขนาดนี้ ส่วนร้อกกี้ อาศัยเทคนิคใหม่ ล่าเหยื่อ โดยไม่ต้องใช้เงินถม ไม่ต้องใช้กองทัพคนมากมาย อย่างชาวเกาะใหญ่ แค่ใช้กองทัพลมปาก กับตั้งโรงงานฟอกย้อมความคิดให้มากหน่อย ลงทุนครั้งเดียว ผ่านมา 70 ปี สีย้อมยังติดทนดีอยู่เลย เฮ้ย เหนื่อยใจ หลังสงครามโลก John McCloy เป็นผู้อำนวยการ สถาบัน CFR ตั้งแต่ ปี คศ 1953 ถึง 1970 MacCloy เป็นใคร สำคัญอย่างไร  MacCloy เดิมเป็นทนาย (ทนายอีกแล้ว!) อยู่ในกลุ่มวอลสตรีทกับพวกมอร์แกน ต่อมาแปรพักตร์ ย้ายมาอยู่กลุ่มร้อกกี้ เขาคงมองเห็นอะไร แวบ ๆ พวกทนายพันธุ์นี้ มักจมูกดี ได้กลิ่นเน่าไว เลยย้าย มาอยู่ สนง กฏหมาย Milbank Tweed ซึ่งทำงานให้ตระกูลร้อกกี้ the great กับ เป็นที่ปรึกษากฏหมายใหญ่ ให้ ธนาคาร Chase หลังจากนั้นได้เลื่อนชั้น เป็นประธานกรรมการ ธนาคาร Chase อย่างไม่ต้องรอคิว หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ ร้อกกี้ ปราบดา เขี่ยมอร์แกน ไปจนพ้นทาง จึงส่ง MacCloy มาเป็น ประธาน CFR ซึ่งก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 พวกมอร์แกนยึดเก้าอี้ CFR ไว้แน่น นาย MacCloy นี้ เป็นคนไปค้นพบ Henry A Kissinger พวกพันธุ์พิเศษอีกเหมือนกันและเอามามอบตัว ถวายหัวรับใช้ ร้อกกี้ the great เขาเป็นคนกำกับ ควบคุม นโยบายต่างประเทศ ที่ทรงอืทธิพลที่สุด คนหนึ่งของอเมริกา โดยเฉพาะ เกี่ยวกับ เรื่องโซเวียต จีน เวียตนาม อืหร่าน อเมริกาใต้ ใน ช่วงปี 1969 ถึง 1977 และ เพื่อให้ Grand Area ส่วนที่เป็นเอเซียแปซิฟิก เป็นไปตามแผน ของ War and Peace Studies โดยเฉพาะในเรื่องการใช้ญี่ปุ่น เป็น ฐานสำคัญ ด้านอุตสาหกรรมและ “อื่นๆ” ให้อเมริกา ในปี คศ 1973 ร้อกกี้ MacCloy และ Kissinger ก็จัดตั้ง Trilateral Commission ขึ้นมา เป็น สาขาลูกของ CFR ภายใต้การสนับสนุนด้านเงินทุน และ “อื่นๆ” จากมูลนิธิร้อกกี้เฟลเลอร์ เพื่อรับนโยบาย การดำเนืนงาน และประสานงาน ในภูมิภาคนี้ ให้สอดคล้องกับนโยบายของ CFR ในด้านเศรษฐกิจและการเมือง ให้เหมือนกันทั้งโลก ตามที่อเมริกา หรือ CFR ต้องการ สรุปสั้นๆ ตามภาษาแถวบ้านผม แปลว่า “พวกมึงต้องทำตามที่กูบอก” ทำนองนั้นนะครับ สมาชิกส่วนใหญ่ ของ Trilateral เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ นักธุรกิจใหญ่ นักการเมืองใหญ่ ใหญ่ๆทั้งนั้น และ ส่วนใหญ่ มาจากอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี มีส่วนน้อยจากอินโดนีเซีย และชาติอื่นๆ ในเอเซีย และอเมริกาใต้ แล้วมีคนไทยเป็นสมาชิก Trilatteral นี้ไหม มีครับ เปลี่ยนมาหลายรุ่น และผมก็เคยใส่ชื่อ ไปแล้วหลายรอบ เพจพังเกือบทุกรอบ ถ้าใส่อีกรอบ กลัวจะพังมากกว่าเพจ ลองไปค้นหาอ่านกันดู กดดูจากกูเกิลได้ เด็ดๆ ทั้งนั้น หาไม่เจอบอกมาครับ จะเอามาลงให้ ดูซิ มันจะพังอีกรอบไหม ไหนๆ โดยรวนรายวันอยู่แล้ว
##############
ตอน 4
ร้อกกี้ the great น่าจะใช้วิธี “กำกับ ” รัฐบาลอเมริกัน ผ่าน 4 หน่วยงานหลัก คือ กระทรวงต่างประเทศ, สภาความมั่นคง National Security Council (NSC) , ซีไอเอ และ CFR CFR ทำหน้าที่เป็นมันสมอง และ เป็นผู้ “กำกับ” รัฐบาล อีกต่อหนึ่ง อิทธิพล ของ CFR มากมายอย่างที่เรานึกไม่ถึง เอาว่า ประธานาธิบดี เกือบทุกคน ไม่ว่าจะสังกัดพรรคไหน ก็สังกัด CFR ทั้งสิ้น และ เขาว่า ถ้า CFR ไม่เห็นชอบคนไหน คนนั้นก็อย่าเสียเวลา ไปสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เสียเงินเปล่าๆ นอกจากนี้ CFR เป็นผู้ส่งสมาชิกของตัว ไปเป็นหัวหน้า และระดับ ผู้บริหาร สำคัญ ในหน่วยงานข้างต้น ทั้ง 3 หน่วย ด้วย รายชื่อสมาชิก ของ CFR มีทั้ง นักการเมือง นักธุรกิจ นักการเงิน นักกฏหมาย นักวิชาการ สื่อ รวมถึง ดารา ทั้งหมด ต้องเป็น รุ่นใหญ่ ระดับ class A ใครสนใจในรายละเอียด ในกูเกิลมีเช่นเดียวกัน สำหรับญี่ปุ่น เด็กสร้าง ตัวสำคัญ ของอเมริกา (หรือ ร้อกกี้ ) ในการกินเอเซียแปซิฟิก ที่มีพรรค LDP เป็นผู้บริหารประเทศญี่ปุ่นมาเกือบตลอดเวลา ตั้งแต่หลังสงครามโลก ทำหน้าที่ เป็น ฐานอุตสาหกรรมต้นทุนต่ำ ทำกำไรให้อเมริกามากมาย เศรษฐกิจญี่ปุ่น จะขึ้น จะลง ดี เลว ขึ้นอยู่กับความเมตตาของอเมริกาทั้งสิ้น การเมือง การศึกษา สังคม วัฒนธรรมของญี่ปุ่น เปลี่ยนไปตามแม่พิมพ์ ที่อเมริกาจัดส่งให้ อเมริกาต้องการอะไร ฐานทัพหรือ ได้ จัดให้ และ ตอนนี้ ญี่ปุ่น ก็กำลังมีภาระกิจใหญ่ ต้องเป็นซามูไรแบกถาดรับใช้อเมริกา อีกแล้ว ไม่มีปัญหา แบกถาดรับใช้มาตลอดอยู่แล้ว แต่โลกไม่รู้ เพิ่มถาดใหญ่ อีกถาดเป็นไรไป และ จีน ก็ยังอยู่ ยังยั่วน้ำลาย น่ากิน เหมือนร้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่จะเคี้ยวทีไร มีอันเป็นไปทุกที ร้อยปีก่อน อังกฤษ ปั่นหัวญี่ปุ่น ให้ตีรวนจีน ให้จีนน่วม ก่อนที่อังกฤษ จะไปกิน แต่แล้วอังกฤษ ก็งับลม อเมริกาวางแผนจะกิน จีนพลิกตัว ปิดประตูเมือง เป็นคอมมิวนิสต์ ดีกว่าเป็นอาณานิคมขี้ข้าฝรั่ง มาถึงปีนี้ คศ 2015 ผ่านมาร้อยกว่าปี ยังมีคนไม่สิ้นความอยาก และความพยายาม CFR ออกรายงาน Revising U.S Grand Strategy Toward China เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา พอสรุปได้ว่า อเมริกา เห็นจีน เป็นคู่แข็งที่สำคัญที่สุดของอเมริกา ในขณะนี้ และต่อไปอีก หลายๆสิบปี … จีนกำลังดำเนินยุทธศาสตร์ ที่มีเป้าหมายจะเข้าไปแทนที่อเมริกา ที่มีสถานะเป็นผู้มีอำนาจที่สุดในเอเซีย ….อเมริกา จึงจำเป็นต้องถ่วงดุลยอำนาจจีน …. และการทำให้รากฐานของจีนล่มสลาย (fundamental collapse) จึงเป็นทางเดียว ที่จะทำให้อเมริกา พ้น “ภาระ” การถ่วงดุลยกับจีน … อ่านแล้วงง เอาภาษาแถวบ้านผมดีกว่า อเมริกา กำลังบอกจีน ว่า ” …มึงโตไป กูปล่อยให้มึงโตแบบนี้ไม่ได้ กูต้องทำลายมึงให้สิ้นซาก...” อเมริกา คงไม่ปล่อยให้จีน ยืนตัวโตค้ำหัวอเมริกา อีกต่อไป อเมริกา ต้อง “ทำอะไร” แล้ว และ Grand Strategy แนะนำ (สั่ง) ให้อเมริกา มอบหมายให้ญี่ปุ่น เป็นหัวหน้า เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ในการ “ทำอะไร” ดังนั้น สิ่งที่ อเมริกา และญี่ปุ่นกำลังจับมือกัน ทำเป็นการด่วน คือ ปลดโซ่ล่ามกองทัพญี่ปุ่น ที่ท่านนายพลแมค ล่ามด้วยรัฐธรรมนูญของญึ่ปุ่น มาตรา 9 ที่ห้ามไม่ให้ญี่ปุ่น มีกองกำลัง เว้นแต่เพื่อป้องกันตัวเอง วันนี้อเมริกา ต้องการให้ญี่ปุ่น ผู้ชำนาญการป่วนจีน กลับไปใช้ความชำนาญเดิมอีกรอบหนึ่ง เรื่องนี้ รัฐสภาของอเมริกาให้การสนับสนุน ญี่ปุ่นท่วมท้น ให้ญี่ปุ่น มีกองกำลังร่อนไปทั่ว ( และจริงๆ เขาว่า ก็ร่อนออกมาแล้วด้วย ) เรื่อง สงครามโลก การรบกัน การกินดอกเห็ดจนตายเกลื่อน ลืมกันหมดแล้ว ส่วนที่ญี่ปุ่นเอง สภาล่าง ที่ตาหลาน หลานตา คุมอยู่หมัด ผ่านมตินี้แล้วเมื่อเดือนก่อน (กรกฏาคม) เหลือแต่สภาสูง ที่คาดว่าจะลงมติผ่านในเดือนกันยายน ก่อนที่สภาสูงจะปิดในสิ้นเดือนกันยา เพราะตาหลาน หลานตา ก็คุมอยู่เช่นกัน แต่ก็น่าสนใจ ล่าสุด ชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่ ไม่อยากให้สภาผ่านกฏหมายนี้ ไม่อยากเข้าทำสงคราม ไม่อยากแบกถาดอีก กำลังเริ่มออกมาประท้วงหลานตา มากขึ้น ตั้งแต่เดือนที่แล้ว และเมื่อวันที่ 30 สิงหา นี้เอง ชาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่งแสนสองหมื่นคน ออกมาชุมนุมใหญ่ คัดค้านการออกกฏหมายแบกถาด และเรียกร้องให้หลานตาลาออก ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวเรื่องยากูซ่าเเก๊งใหญ่ที่สุดในญี่ปั่น แตกคอกันเอง ทางการญี่ปุ่น อ้างอาจมีการซัดกันกลางเมือง เรื่องบังเอิญอีกแล้วหรือ ก็ต้องดูว่า ใบสั่ง หรือ พลังของประชาชนญี่ปุ่นจะชนะ ผมเล่าประวัติศาสตร์ เพื่อให้เข้าใจปัจจุบัน ว่าตอนนี้ เขากำลังทำอะไรกัน เพราะเหตุใด และเมื่อมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น มันน่าจะมาจากเรื่องไหน และน่าจะพอให้เรามองออกว่า แล้วมันจะไปต่อทางไหน ถ้าจะให้ดี สำหรับท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ช่วยกลับไปอ่านนิทาน เรื่อง แผนสอยมังกร กับ เรื่อง ซามูไรแบกถาด ประกอบกับนิทานเรื่องนี้ จะเข้าใจขี้น ว่า การระเบิดต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่า ในจีน หรือที่ไหน ร่วมทั้งเรื่อง รัสเซีย อิหร่าน ตุรกี เลบานอน และ ล่าสุด มาเลเซีย มันเกี่ยวพันกันหรือไม่ และจะกระทบบ้านเรา หรือไม่อย่างไร แล้วก็โปรดอย่าลืม สูตรสำเร็จ ของนักล่า ไม่ว่ารุ่นไหน ยุคไหน กินคำเดียวไม่ไหว ก็ทุบให้น่วมก่อนเคี้ยว แล้วตอนนี้ มันจะทุบที่ไหนบ้าง ส่วน เรื่องจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ อเมริกา เมื่อ 100 ปีก่อน มาจนถึงตอนนี้ คงสรุปกันได้แล้ว ว่า ตกลง ใครต้ม ใครซ้อน ใครเจ็บ ใครช้ำ ใครซ่อน ใครรวย ใครโหด ใครเหี้ยม แบบนี้ แผล มันก็คงจะตกสะเก็ดยาก….
สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
1 ก.ย. 2558
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 889 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 20

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 20 (จบ)
    เรื่องญี่ปุ่น ตั้งแต่การปฏิรูปประเทศ การเข้าสู่สงคราม การแพ้สงคราม เหมือนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ของประเทศที่ถูกรุกราน ก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิรูป ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเขา การเข้าไปทำสงคราม ก็เหมือนเป็นไปโดยธรรมชาติอีกนั่นแหละ ก็เมื่อใหญ่โตขึ้นมา จะให้อยู่เฉยไงไหว พลเมืองก็เพิ่ม ทรัพยากรก็ขาด ก็ต้องไปบุก ไปรบ ไปปล้นหาเอามาจากบ้านเมืองอื่น ใครๆก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้น ทำไมญี่ปุ่นจะทำมั่งไม่ได้ ถ้าเรามองแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องวิเคราะห์ วิตกวิจารณ์ โลกก็คงยังสวยเหมือนเดิม ไม่ต้องเขียนนืทานกันให้เมื่อยมือ จริงๆ เมื่อยทั้งตัวเลยครับ
    แต่มันเป็นไปโดยธรรมชาติ อย่างนั้นจริงหรือ หรือมันเป็น “ธรรมชาติ” ที่ถูกจัดสร้าง ให้เหมือนจริงจนดูไม่ออกว่าเป็นการสร้าง เหมือนเกือบหลายๆเรื่อง ที่ดำเนินอยู่ในโลกใบนี้เป็นเวลานาน ไม่น้อยกว่าร้อยปีมานี้
    บางเรื่อง ถ้าเราดู ณ จุดใดจุดหนึ่ง หรือเหตุการณ์ใด เหตุการณ์หนึ่ง มันอาจจะมองไม่เห็น หรือเห็นไม่ชัด อาจจะต้องดูทางตรงบ้าง ทางขวางบ้าง มองหลายเหตุการณ์ เอามาประกอบการพิจารณา ดูย้อนขึ้นบ้าง ดูย้อนลงมาบ้าง จึงอาจจะพอทำให้เห็น และเข้าใจมากขึ้น
    เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม ภาพญี่ปุ่น ที่(ถูกทำให้) เห็นคือ ญี่ปุ่น ฉิบหายยับเยินจากสงคราม ทั้งด้านชีวิตผู้คน ที่โดนกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป และเศรษฐกิจของประเทศ จริงอยู่การทำสงครามก็ทำให้ทั้งทรัพยากร และ กระเป๋าญี่ปุ่นแห้งลงไป แต่ปรากฏว่า นักธุรกิจใหญ่ นายธนาคารของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ยังมีขนหน้าแข้งเต็ม กระเป๋าตุงกันทั้งนั้น แต่แอบซุกซ่อนกันอย่างมิดชิด เพราะพวกเขาร่วมเป็นนายทุน และร่วมปล้น ประเทศที่ญี่ปุ่นเข้าไปบุกทั้งนั้น
    ประมาณว่า แค่รายได้จากการค้าเฮโรอีนอย่างเดียว ภายใต้การอำนวยการผลิตของกองทัพที่แมนจูเรีย และการตลาดโดยนักธุรกิจใหญ่เหล่านั้น ก็มีมูลค่าเกินกว่า 3 พันล้านเหรียญ (ในสมัยนั้น) แล้ว นี่เป็นรายได้เฉพาะที่ขายกันเอเซีย ที่อื่นยังไม่ได้รวมบัญชี หักบัญชีกัน
    ก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยอมแพ้ไม่กี่วัน บรรดาบริษัทการค้าธุรกิจ ธนาคาร ต่างๆเหล่านั้น ก็พากันเผาเอกสาร ทำลายหลักฐาน ตัดเชือก ตัดใย ที่จะโยงพวกเขากับกองทัพอย่างเร่งรีบ ทางการเองก็ให้ความร่วมมืออย่างดี รัฐมนตรีคลัง รีบสั่งจ่ายเงินให้กับใบเรียกเก็บเงินที่เร่งออก เพื่อให้รีบจ่ายกันก่อนอเมริกันมาถึง ร่วมมือกันน่ารักดีมาก
    แต่คนที่รวยมหาศาลที่สุดจากสงครามญี่ปุ่น เขาว่า คือ เจ้าพ่อยากูซ่า โคดามะ Kodama Yoshio ซึ่งตลอดเวลาที่ญี่ปุ่นเข้ายึด เข้าตี ที่ไหน เจ้าพ่อจะเป็นคนไปสำรวจเส้นทาง วางแผน ไม่ต่างกับเป็นผู้บัญชาการรบคนหนึ่ง ในที่สุดเจ้าพ่อ ก็ได้รับตำแหน่งจริงๆ โดยแม่ทัพเรือ Admiral Yonai ตั้งเจ้าพ่อให้เป็นนายพลเรือ เพื่อให้เจ้าพ่อใช้เรือรบญี่ปุ่นเดินทางไปมา ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา ขนของที่ยึดมาได้ ใส่เรือรบจนเพียบกลับญี่ปุ่น เขาว่า นอกเหนือจากทอง และเพชรแล้ว เจ้าพ่อได้แร่ทองคำขาวไปแยะ และแยกเก็บไว้เป็นส่วนของตัว
    ส่วนนายพลแมค เมื่อเข้ามาทำหน้าที่ SCAP ในปี ค.ศ.1945 และได้รับใบสั่ง ให้จับหัวกะทินักธุรกิจ ที่วุ่นกับการทำสงคราม ใบสั่งบอก ให้เอามาตั้งแต่ชุดที่ไปบุกจีน ค.ศ.1937 นั่นเลยนะ เพราะมันควรจะเป็นของเรา เขาว่า ครั้งแรกเลย จับปลาใหญ่มาได้ 3 ตัว ตัวแรกคือ องค์ชาย Nashimoto อาของจักรพรรดิ แต่ดูเหมือน เป็นการ จับผิดตัว อามีหลายคน องค์ชายมีหลายคน ชื่อก็ กิกะอะไรไม่รู้ จำยากจะตาย ปลาตัวแรก เลยถูกจับฟรี หรือเป็นการขู่ ไม่แน่ใจ แต่อีก 2 ตัวที่จับได้ คนหนึ่งเป็นประธาน มิตซุบิชิ ซึ่งผลิตอาวุธให้กองทัพ อีกคนเป็นผู้จัดการใหญ่ของมิตซุย ที่ไม่ใช่ธรรมดา รากเหง้ายาวพอๆกับเกาะญี่ปุ่นเอง
    หลังจากการนั้นก็มีการคายความออกมา ว่า มีทองแท่งมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญ (ในขณะนั้น) อยู่ในเรือ ที่ตั้งใจจมไว้ที่อ่าวหน้าเมืองโตเกียว เป็นทองที่ขนมาจากเกาหลีโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศญี่ปุ่น ภายใต้การบัญชาการของผู้ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ บรรจุไว้ในหีบทองแดง และทิ้งไว้ก้นทะเล เมื่อรู้ว่ารบไม่ชนะ
    ฝ่ายประสานงานของ SCAP บอกว่า จะขอกู้เอาทองขึ้นเอามาเก็บไว้ที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่น เพื่อเอาไว้ช่วยพัฒนาประเทศญี่ปุ่น นายพลแมคบอกไม่มีปัญหา เป็นความตั้งใจของเขาอยู่แล้ว ที่จะดูแลชาวญี่ปุ่น พูดได้หล่อ …. เมื่อนายพลแมคแจ้งไปทางวอชืงตัน มีฝรั่งออกงิ้วว่า ควรส่งทองมาเก็บไว้ที่วอชิงตัน เพื่อเป็นประกันหนี้ให้กลุ่มมอร์แกน ซึ่งญี่ปุ่นยังใช้หนี้ให้ ไม่หมดมากกว่า แต่นายพลแมคไม่เปลี่ยนใจ สรุปว่า จริงๆแล้ว ทองแท่งมีทั้งหมดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ และในที่สุดเก็บไว้ที่ไหนบ้างก็ไม่รู้ แต่น่าจะมีคนอมยิ้มพอใจ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
    ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีการปล่อยตัวท่านอา ประธานมิตซุบิชิ และผู้จัดการใหญ่มิตซุย ออกจากคุก พ้นข้อหาทั้งปวง
    แค่ จับปลา 3 ตัว ยังได้ผลขนาดนี้ คำสั่ง FEC-230 ก็ต้องรีบออกมาบีบจนหน้าเขียว ตามแผน
    แล้วเดือนธันวาคม ค.ศ.1948 SCAP ก็สั่งปล่อย นักโทษ A Class (โทษสูงสุด) 17 คน ใน 17 คน มี นาย คิชิ Kishi Nobusuke คงยังจำกัน ไอ้คนหัวแหลม ช่างคิดวิธีให้กองทัพญี่ปุ่น ที่แมนจูเรียหากินร่ำรวย และต่อมา เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี ของญี่ปุ่น คนต่อมาคือ โคดามะ Kodama Yoshio เจ้าพ่อยากูซ่า และซาซากาวา Sasagawa Ryochi เจ้าพ่อ ยากูซ่าอีกราย
    ทั้ง 3 คนนี้ ต่อมา ร่วมกันตั้งพรรค รวมพรรค ซื้อนักการเมืองจากคอกอื่น มารวมอยู่ในพรรคที่พวกเขาร่วมกันสร้างคือ พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP และทั้ง 3 คนนี้ ก็เป็นมือที่ชักใย LDP ถึง 50 ปี หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน เกือบทุกคน (90%) คือผู้ที่กลุ่ม 3 คนนี้ หรือผู้ที่สืบทอดอำนาจเขา เป็นผู้เลือก หรือ ให้ความเห็นชอบทั้งนั้น และคงไม่เกินไป ที่จะบอกว่า ด้วยวิธีการนี้ อเมริกาก็คือผู้ปกครองญี่ปุ่น ตั้งแต่วันปล่อยผีขึ้นมาจากนรกนั่นแหละ
    และคงพอจะทำให้เราเข้าใจว่า ทำไม นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คนปัจจุบัน นาย ชินโซะ อาเบะ Shinzo Abe ถึงพร้อมใจรับหน้าที่แบกถาด ถ้ารู้ว่าเขาเป็นหลานตาแท้ๆ ของ นาย คิชิ คนเปิดประตูเมืองญี่ปุ่นให้อเมริกาเข้า และเขาไม่ใช่หลานธรรมดา แต่เป็นหลานรัก ที่ตาเลี้ยงอย่างใกล้ชิด และตั้งใจให้สืบทอดมรดก…
    ยังมีอีก 3 ใน 17 คนที่ออกมาด้วย คือ Sankichi Takahashi, Shumi Okawa และ Yoshihisa Kuzu
    Kuzu เป็นอดีตหัวหน้าใหญ่ของสมาคมมังกรดำ Black Dragon Society รุ่นใหญ่กว่าโคดามะ
    สมาคมมังกรดำ เป็นสมาคมขวาจัด ทำหน้าที่พิทักษ์จักรพรรดิ ที่มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น เน้นสร้างคนรุ่นหนุ่ม ให้มีความรักชาติและ จงรักภักดีต่อจักรพรรดิ เลือดลูกพระอาทิตย์เข้มข้น นาย Toyama Mitsuru ที่ลึกลับ และเป็นคนสนิทของราชวงศ์ และมีเครือข่ายสายลับทั่วญี่ปุ่น เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมมังกรดำนี้ขึ้น เมื่อปี ค.ศ.1901 โตยาม่า เป็นหนึ่งในคนธรรมดาไม่กี่คน ที่เป็น แขกรับเชิญที่มีแต่พระราชวงศ์ และบุคคลชั้นสูง ในวันแต่งงานของจักรพรรดิฮิโฮิโตกับจักรพรรดินีนากาโน
    นายพล Takahashi ก็เป็นนายทหารใหญ่ ที่สังกัดมังกรดำ
    ส่วนนาย Shumi Okawa นั้น เป็นหัวหน้าสายลับ ที่ข่าวว่า สังกัดราชวงศ์เช่นกัน
    นายโคดามะ ภายหลัง ทำงานให้กับ CIA ของอเมริกา อย่างใกล้ชิด ผลงาน เข้าตา เมื่ออเมริกาคิดทำสงครามเกาหลี นายโคโดมะ เป็นผู้จัดกองกำลังพิเศษ ให้นายพลแมคไปรบที่เกาหลี แถมไปคุมกองกำลังด้วยตัวเอง ในฐานะผู้ชำนาญพื้นที่
    หลังจากความดีความชอบเรื่องสงครามเกาหลี CIA เปลี่ยนเป็นใช้บริการของโคดามะ แบบพนักงานประจำ ไม่ใช่พนักงานชั่วคราว ในเรื่องของการปราบปรามคอมมิวนิสต์ รวมถึงในปี ค.ศ.1949 CIA ให้เขานำกำลังไปช่วย นายพลเจียง ไคเช็ค ปราบชาวฟอร์โมซา ที่เกาะไต้หวัน จนตายเกลื่อน เมื่อออกมาประท้วงการยึดเกาะของกองทัพนายพลเจียง เขาว่า การปราบคราวนั้น มันก็โหดร้ายทารุณ ไม่แพ้เหตุการณ์ที่นานกิง แต่ CIA เก็บหลักฐานจนเกลี้ยงเกลา
    ส่วนในการไปรบเกาหลี ในปี ค.ศ.1950 นายพลแมค หอบเอา นาย Shiro Ishii อดีตหัวหน้าหน่วย 731 อันลือชื่อ พร้อมด้วยคณะทำงานไปเกาหลีด้วย ในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งจนถึงขณะนี้ สงครามยังไม่จบ แค่สงบศึกกันชั่วคราว นายพลแมค ให้ทดลองปล่อย แมงมุม ตัวหมัด แมลงสาระพัด ซึ่ง ใส่เชื้อโรคไว้ ส่งให้พลเมืองฝ่ายเกาหลีเหนือ ผลปรากฎว่า เกิดโรคระบาด ไข้เหลือง ไทฟอยด์ อหิวาต์ มีชาวบ้านเจ็บป่วยล้มตายเป็นอันมาก ทำให้หลายฝ่ายชื่นชมในผลงานในที่สุด นายชิโร นี่ นอกจากไม่ถูกลงโทษ เขาว่ายังได้เงินรางวัล แลกกับสูตรลับที่อเมริกา หรือร้อกกี้ the great เอาไปเล่นต่อ
    ส่วนนายซาซากาวา ได้บทใหม่เป็นเจ้าพ่อ ที่ด้านหนึ่ง คุมบ่อนการพนันทั้งเกาะญี่ปุ่น รวมทั้งการแข่งเรือยนตร์ ที่ทำรายได้มหาศาลให้เขา อีกด้าน เขาเดินงานของ MRA ต่อให้กับ CIA เกี่ยวกับเกาหลีใต้ และทำไปจนถึงเรื่อง ตะวันออกกลาง และกลายเป็นเพื่อนรักของอดีตประธานาธิบดี Jimmy Carter และตัวแสบ Henry Kissinger อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา ซึ่งเป็นคนรับใช้ตัวจริงถาวรของร้อกกี้ the great
    Dean Atchson ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศ ที่พรรค Republican ส่งมาดูการทำงานของ SCAP ตั้งแต่ต้น เห็นการทำงานของ SCAP และการ กลับตาลปัตร ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เขารวบรวมเอกสารหลายลัง และตัดสินใจเดินทางกลับวอชิงตัน เพื่อรายงานรัฐบาลด้วยตนเอง เขาเดินทางพร้อมกับคณะทำงาน ด้วยเครื่องบินที่รัฐบาลอเมริกันจัดมาให้ เครื่องบิน เติมน้ำมันไว้เต็มถัง แต่ขณะที่เครื่องบิน บินอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างทางไปฮอนโนลูลู ผ่านเกาะ Johnston เครื่องบินเกิดน้ำมันหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างที่เครื่องบินดิ่งหัวลงทะเล คณะทำงานคนหนึ่งที่รอดตาย เห็น Atcheson ส่ายหน้า แล้วบอกว่า… มันคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว….
    (ยังมีบทส่งท้าย นะครับ รออ่านหน่อย กำลังเร่งเครื่องเขียนอยู่ พบกัน พรุ่งนี้ 8 โมงเช้าเหมือนเดิม)

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    31 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 20 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 20 (จบ) เรื่องญี่ปุ่น ตั้งแต่การปฏิรูปประเทศ การเข้าสู่สงคราม การแพ้สงคราม เหมือนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ของประเทศที่ถูกรุกราน ก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิรูป ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเขา การเข้าไปทำสงคราม ก็เหมือนเป็นไปโดยธรรมชาติอีกนั่นแหละ ก็เมื่อใหญ่โตขึ้นมา จะให้อยู่เฉยไงไหว พลเมืองก็เพิ่ม ทรัพยากรก็ขาด ก็ต้องไปบุก ไปรบ ไปปล้นหาเอามาจากบ้านเมืองอื่น ใครๆก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้น ทำไมญี่ปุ่นจะทำมั่งไม่ได้ ถ้าเรามองแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องวิเคราะห์ วิตกวิจารณ์ โลกก็คงยังสวยเหมือนเดิม ไม่ต้องเขียนนืทานกันให้เมื่อยมือ จริงๆ เมื่อยทั้งตัวเลยครับ แต่มันเป็นไปโดยธรรมชาติ อย่างนั้นจริงหรือ หรือมันเป็น “ธรรมชาติ” ที่ถูกจัดสร้าง ให้เหมือนจริงจนดูไม่ออกว่าเป็นการสร้าง เหมือนเกือบหลายๆเรื่อง ที่ดำเนินอยู่ในโลกใบนี้เป็นเวลานาน ไม่น้อยกว่าร้อยปีมานี้ บางเรื่อง ถ้าเราดู ณ จุดใดจุดหนึ่ง หรือเหตุการณ์ใด เหตุการณ์หนึ่ง มันอาจจะมองไม่เห็น หรือเห็นไม่ชัด อาจจะต้องดูทางตรงบ้าง ทางขวางบ้าง มองหลายเหตุการณ์ เอามาประกอบการพิจารณา ดูย้อนขึ้นบ้าง ดูย้อนลงมาบ้าง จึงอาจจะพอทำให้เห็น และเข้าใจมากขึ้น เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม ภาพญี่ปุ่น ที่(ถูกทำให้) เห็นคือ ญี่ปุ่น ฉิบหายยับเยินจากสงคราม ทั้งด้านชีวิตผู้คน ที่โดนกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป และเศรษฐกิจของประเทศ จริงอยู่การทำสงครามก็ทำให้ทั้งทรัพยากร และ กระเป๋าญี่ปุ่นแห้งลงไป แต่ปรากฏว่า นักธุรกิจใหญ่ นายธนาคารของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ยังมีขนหน้าแข้งเต็ม กระเป๋าตุงกันทั้งนั้น แต่แอบซุกซ่อนกันอย่างมิดชิด เพราะพวกเขาร่วมเป็นนายทุน และร่วมปล้น ประเทศที่ญี่ปุ่นเข้าไปบุกทั้งนั้น ประมาณว่า แค่รายได้จากการค้าเฮโรอีนอย่างเดียว ภายใต้การอำนวยการผลิตของกองทัพที่แมนจูเรีย และการตลาดโดยนักธุรกิจใหญ่เหล่านั้น ก็มีมูลค่าเกินกว่า 3 พันล้านเหรียญ (ในสมัยนั้น) แล้ว นี่เป็นรายได้เฉพาะที่ขายกันเอเซีย ที่อื่นยังไม่ได้รวมบัญชี หักบัญชีกัน ก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยอมแพ้ไม่กี่วัน บรรดาบริษัทการค้าธุรกิจ ธนาคาร ต่างๆเหล่านั้น ก็พากันเผาเอกสาร ทำลายหลักฐาน ตัดเชือก ตัดใย ที่จะโยงพวกเขากับกองทัพอย่างเร่งรีบ ทางการเองก็ให้ความร่วมมืออย่างดี รัฐมนตรีคลัง รีบสั่งจ่ายเงินให้กับใบเรียกเก็บเงินที่เร่งออก เพื่อให้รีบจ่ายกันก่อนอเมริกันมาถึง ร่วมมือกันน่ารักดีมาก แต่คนที่รวยมหาศาลที่สุดจากสงครามญี่ปุ่น เขาว่า คือ เจ้าพ่อยากูซ่า โคดามะ Kodama Yoshio ซึ่งตลอดเวลาที่ญี่ปุ่นเข้ายึด เข้าตี ที่ไหน เจ้าพ่อจะเป็นคนไปสำรวจเส้นทาง วางแผน ไม่ต่างกับเป็นผู้บัญชาการรบคนหนึ่ง ในที่สุดเจ้าพ่อ ก็ได้รับตำแหน่งจริงๆ โดยแม่ทัพเรือ Admiral Yonai ตั้งเจ้าพ่อให้เป็นนายพลเรือ เพื่อให้เจ้าพ่อใช้เรือรบญี่ปุ่นเดินทางไปมา ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา ขนของที่ยึดมาได้ ใส่เรือรบจนเพียบกลับญี่ปุ่น เขาว่า นอกเหนือจากทอง และเพชรแล้ว เจ้าพ่อได้แร่ทองคำขาวไปแยะ และแยกเก็บไว้เป็นส่วนของตัว ส่วนนายพลแมค เมื่อเข้ามาทำหน้าที่ SCAP ในปี ค.ศ.1945 และได้รับใบสั่ง ให้จับหัวกะทินักธุรกิจ ที่วุ่นกับการทำสงคราม ใบสั่งบอก ให้เอามาตั้งแต่ชุดที่ไปบุกจีน ค.ศ.1937 นั่นเลยนะ เพราะมันควรจะเป็นของเรา เขาว่า ครั้งแรกเลย จับปลาใหญ่มาได้ 3 ตัว ตัวแรกคือ องค์ชาย Nashimoto อาของจักรพรรดิ แต่ดูเหมือน เป็นการ จับผิดตัว อามีหลายคน องค์ชายมีหลายคน ชื่อก็ กิกะอะไรไม่รู้ จำยากจะตาย ปลาตัวแรก เลยถูกจับฟรี หรือเป็นการขู่ ไม่แน่ใจ แต่อีก 2 ตัวที่จับได้ คนหนึ่งเป็นประธาน มิตซุบิชิ ซึ่งผลิตอาวุธให้กองทัพ อีกคนเป็นผู้จัดการใหญ่ของมิตซุย ที่ไม่ใช่ธรรมดา รากเหง้ายาวพอๆกับเกาะญี่ปุ่นเอง หลังจากการนั้นก็มีการคายความออกมา ว่า มีทองแท่งมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญ (ในขณะนั้น) อยู่ในเรือ ที่ตั้งใจจมไว้ที่อ่าวหน้าเมืองโตเกียว เป็นทองที่ขนมาจากเกาหลีโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศญี่ปุ่น ภายใต้การบัญชาการของผู้ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ บรรจุไว้ในหีบทองแดง และทิ้งไว้ก้นทะเล เมื่อรู้ว่ารบไม่ชนะ ฝ่ายประสานงานของ SCAP บอกว่า จะขอกู้เอาทองขึ้นเอามาเก็บไว้ที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่น เพื่อเอาไว้ช่วยพัฒนาประเทศญี่ปุ่น นายพลแมคบอกไม่มีปัญหา เป็นความตั้งใจของเขาอยู่แล้ว ที่จะดูแลชาวญี่ปุ่น พูดได้หล่อ …. เมื่อนายพลแมคแจ้งไปทางวอชืงตัน มีฝรั่งออกงิ้วว่า ควรส่งทองมาเก็บไว้ที่วอชิงตัน เพื่อเป็นประกันหนี้ให้กลุ่มมอร์แกน ซึ่งญี่ปุ่นยังใช้หนี้ให้ ไม่หมดมากกว่า แต่นายพลแมคไม่เปลี่ยนใจ สรุปว่า จริงๆแล้ว ทองแท่งมีทั้งหมดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ และในที่สุดเก็บไว้ที่ไหนบ้างก็ไม่รู้ แต่น่าจะมีคนอมยิ้มพอใจ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีการปล่อยตัวท่านอา ประธานมิตซุบิชิ และผู้จัดการใหญ่มิตซุย ออกจากคุก พ้นข้อหาทั้งปวง แค่ จับปลา 3 ตัว ยังได้ผลขนาดนี้ คำสั่ง FEC-230 ก็ต้องรีบออกมาบีบจนหน้าเขียว ตามแผน แล้วเดือนธันวาคม ค.ศ.1948 SCAP ก็สั่งปล่อย นักโทษ A Class (โทษสูงสุด) 17 คน ใน 17 คน มี นาย คิชิ Kishi Nobusuke คงยังจำกัน ไอ้คนหัวแหลม ช่างคิดวิธีให้กองทัพญี่ปุ่น ที่แมนจูเรียหากินร่ำรวย และต่อมา เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี ของญี่ปุ่น คนต่อมาคือ โคดามะ Kodama Yoshio เจ้าพ่อยากูซ่า และซาซากาวา Sasagawa Ryochi เจ้าพ่อ ยากูซ่าอีกราย ทั้ง 3 คนนี้ ต่อมา ร่วมกันตั้งพรรค รวมพรรค ซื้อนักการเมืองจากคอกอื่น มารวมอยู่ในพรรคที่พวกเขาร่วมกันสร้างคือ พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP และทั้ง 3 คนนี้ ก็เป็นมือที่ชักใย LDP ถึง 50 ปี หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน เกือบทุกคน (90%) คือผู้ที่กลุ่ม 3 คนนี้ หรือผู้ที่สืบทอดอำนาจเขา เป็นผู้เลือก หรือ ให้ความเห็นชอบทั้งนั้น และคงไม่เกินไป ที่จะบอกว่า ด้วยวิธีการนี้ อเมริกาก็คือผู้ปกครองญี่ปุ่น ตั้งแต่วันปล่อยผีขึ้นมาจากนรกนั่นแหละ และคงพอจะทำให้เราเข้าใจว่า ทำไม นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คนปัจจุบัน นาย ชินโซะ อาเบะ Shinzo Abe ถึงพร้อมใจรับหน้าที่แบกถาด ถ้ารู้ว่าเขาเป็นหลานตาแท้ๆ ของ นาย คิชิ คนเปิดประตูเมืองญี่ปุ่นให้อเมริกาเข้า และเขาไม่ใช่หลานธรรมดา แต่เป็นหลานรัก ที่ตาเลี้ยงอย่างใกล้ชิด และตั้งใจให้สืบทอดมรดก… ยังมีอีก 3 ใน 17 คนที่ออกมาด้วย คือ Sankichi Takahashi, Shumi Okawa และ Yoshihisa Kuzu Kuzu เป็นอดีตหัวหน้าใหญ่ของสมาคมมังกรดำ Black Dragon Society รุ่นใหญ่กว่าโคดามะ สมาคมมังกรดำ เป็นสมาคมขวาจัด ทำหน้าที่พิทักษ์จักรพรรดิ ที่มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น เน้นสร้างคนรุ่นหนุ่ม ให้มีความรักชาติและ จงรักภักดีต่อจักรพรรดิ เลือดลูกพระอาทิตย์เข้มข้น นาย Toyama Mitsuru ที่ลึกลับ และเป็นคนสนิทของราชวงศ์ และมีเครือข่ายสายลับทั่วญี่ปุ่น เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมมังกรดำนี้ขึ้น เมื่อปี ค.ศ.1901 โตยาม่า เป็นหนึ่งในคนธรรมดาไม่กี่คน ที่เป็น แขกรับเชิญที่มีแต่พระราชวงศ์ และบุคคลชั้นสูง ในวันแต่งงานของจักรพรรดิฮิโฮิโตกับจักรพรรดินีนากาโน นายพล Takahashi ก็เป็นนายทหารใหญ่ ที่สังกัดมังกรดำ ส่วนนาย Shumi Okawa นั้น เป็นหัวหน้าสายลับ ที่ข่าวว่า สังกัดราชวงศ์เช่นกัน นายโคดามะ ภายหลัง ทำงานให้กับ CIA ของอเมริกา อย่างใกล้ชิด ผลงาน เข้าตา เมื่ออเมริกาคิดทำสงครามเกาหลี นายโคโดมะ เป็นผู้จัดกองกำลังพิเศษ ให้นายพลแมคไปรบที่เกาหลี แถมไปคุมกองกำลังด้วยตัวเอง ในฐานะผู้ชำนาญพื้นที่ หลังจากความดีความชอบเรื่องสงครามเกาหลี CIA เปลี่ยนเป็นใช้บริการของโคดามะ แบบพนักงานประจำ ไม่ใช่พนักงานชั่วคราว ในเรื่องของการปราบปรามคอมมิวนิสต์ รวมถึงในปี ค.ศ.1949 CIA ให้เขานำกำลังไปช่วย นายพลเจียง ไคเช็ค ปราบชาวฟอร์โมซา ที่เกาะไต้หวัน จนตายเกลื่อน เมื่อออกมาประท้วงการยึดเกาะของกองทัพนายพลเจียง เขาว่า การปราบคราวนั้น มันก็โหดร้ายทารุณ ไม่แพ้เหตุการณ์ที่นานกิง แต่ CIA เก็บหลักฐานจนเกลี้ยงเกลา ส่วนในการไปรบเกาหลี ในปี ค.ศ.1950 นายพลแมค หอบเอา นาย Shiro Ishii อดีตหัวหน้าหน่วย 731 อันลือชื่อ พร้อมด้วยคณะทำงานไปเกาหลีด้วย ในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งจนถึงขณะนี้ สงครามยังไม่จบ แค่สงบศึกกันชั่วคราว นายพลแมค ให้ทดลองปล่อย แมงมุม ตัวหมัด แมลงสาระพัด ซึ่ง ใส่เชื้อโรคไว้ ส่งให้พลเมืองฝ่ายเกาหลีเหนือ ผลปรากฎว่า เกิดโรคระบาด ไข้เหลือง ไทฟอยด์ อหิวาต์ มีชาวบ้านเจ็บป่วยล้มตายเป็นอันมาก ทำให้หลายฝ่ายชื่นชมในผลงานในที่สุด นายชิโร นี่ นอกจากไม่ถูกลงโทษ เขาว่ายังได้เงินรางวัล แลกกับสูตรลับที่อเมริกา หรือร้อกกี้ the great เอาไปเล่นต่อ ส่วนนายซาซากาวา ได้บทใหม่เป็นเจ้าพ่อ ที่ด้านหนึ่ง คุมบ่อนการพนันทั้งเกาะญี่ปุ่น รวมทั้งการแข่งเรือยนตร์ ที่ทำรายได้มหาศาลให้เขา อีกด้าน เขาเดินงานของ MRA ต่อให้กับ CIA เกี่ยวกับเกาหลีใต้ และทำไปจนถึงเรื่อง ตะวันออกกลาง และกลายเป็นเพื่อนรักของอดีตประธานาธิบดี Jimmy Carter และตัวแสบ Henry Kissinger อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา ซึ่งเป็นคนรับใช้ตัวจริงถาวรของร้อกกี้ the great Dean Atchson ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศ ที่พรรค Republican ส่งมาดูการทำงานของ SCAP ตั้งแต่ต้น เห็นการทำงานของ SCAP และการ กลับตาลปัตร ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เขารวบรวมเอกสารหลายลัง และตัดสินใจเดินทางกลับวอชิงตัน เพื่อรายงานรัฐบาลด้วยตนเอง เขาเดินทางพร้อมกับคณะทำงาน ด้วยเครื่องบินที่รัฐบาลอเมริกันจัดมาให้ เครื่องบิน เติมน้ำมันไว้เต็มถัง แต่ขณะที่เครื่องบิน บินอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างทางไปฮอนโนลูลู ผ่านเกาะ Johnston เครื่องบินเกิดน้ำมันหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างที่เครื่องบินดิ่งหัวลงทะเล คณะทำงานคนหนึ่งที่รอดตาย เห็น Atcheson ส่ายหน้า แล้วบอกว่า… มันคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว…. (ยังมีบทส่งท้าย นะครับ รออ่านหน่อย กำลังเร่งเครื่องเขียนอยู่ พบกัน พรุ่งนี้ 8 โมงเช้าเหมือนเดิม) สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 31 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 757 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตาทำ-หลานขาย
    #หลานตาหาทำ #ข้าวใหม่100 #ข้าวหอมมะลิ100 #ไร่นาสวนผสม #นุ่ม #หอม #อร่อย
    ตาทำ-หลานขาย 🌲🌳🌾🌿 #หลานตาหาทำ #ข้าวใหม่100 #ข้าวหอมมะลิ100 #ไร่นาสวนผสม #นุ่ม #หอม #อร่อย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 355 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ขอบคุณรีวิวและออเดอร์จากคุณลูกค้านะคะ หลานตา เป็นข้าวใหม่จริงๆค่ะ ขอบคุณนะคะ 🙏🏻______________________________ ปลอดสาร ไม่มีสารกันมอด ไม่มีสารกันแมลง ข้าวใหม่ 100% ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน‘ตาทำ หลานขาย’ — หลานตา#หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    ขอบคุณรีวิวและออเดอร์จากคุณลูกค้านะคะ 💗 หลานตา เป็นข้าวใหม่จริงๆค่ะ 🥰 ขอบคุณนะคะ 🙏🏻🌲🌳🌿🌾______________________________✅ ปลอดสาร ✅ ไม่มีสารกันมอด✅ ไม่มีสารกันแมลง✅ ข้าวใหม่ 100%✅ ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน‘ตาทำ หลานขาย’ — หลานตา#หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 635 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอบคุณรีวิวจากคุณลูกค้านะคะ หลานตา เป็นข้าวใหม่จริงๆค่ะ ขอบคุณนะคะ 🙏🏻______________________________ ปลอดสาร ไม่มีสารกันมอด ไม่มีสารกันแมลง ข้าวใหม่ 100% ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน ตาทำ หลานขาย หลานตา#หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    ขอบคุณรีวิวจากคุณลูกค้านะคะ 💗 หลานตา เป็นข้าวใหม่จริงๆค่ะ 🥰 ขอบคุณนะคะ 🙏🏻🌲🌳🌿🌾______________________________✅ ปลอดสาร ✅ ไม่มีสารกันมอด✅ ไม่มีสารกันแมลง✅ ข้าวใหม่ 100%✅ ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน ตาทำ หลานขาย หลานตา#หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 612 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้หลานตาขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อความอบอุ่น นำข้าวสารพรีเมียมไปมอบให้ผู้สูงอายุ เพื่อเติมเต็มมื้ออาหารที่ดี และส่งพลังใจให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง พร้อมรอยยิ้มที่อบอุ่นเสมอ

    หลานตาหาทำ_ไร่นาสวนผสม

    ตาทำ-หลานขาย
    วันนี้หลานตาขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อความอบอุ่น นำข้าวสารพรีเมียมไปมอบให้ผู้สูงอายุ เพื่อเติมเต็มมื้ออาหารที่ดี และส่งพลังใจให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง พร้อมรอยยิ้มที่อบอุ่นเสมอ☺️ หลานตาหาทำ_ไร่นาสวนผสม 🌳🌲🌿🌾 ตาทำ-หลานขาย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 532 มุมมอง 0 รีวิว
  • มองหาข้าวใหม่ 100% นุ่ม หอม อร่อย สั่งซื้อได้เลยค่ะ

    (5 กก.) ข้าวหอมมะลิ 105 % 369บาท รวมส่ง
    (5 กก.) ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 % 409 บาท รวมส่ง
    (5 กก.) ข้าวไรซ์เบอร์รี 459บาท รวมส่ง

    ปลอดสาร
    ไม่มีสารกันมอด
    ไม่มีสารกันแมลง
    ไม่ขัดสี
    ข้าวใหม่ 100%
    ส่งตรงจากไร่นา

    ⭕️ นุ่ม หอม อร่อย
    ⭕️ ปลอดภัย
    ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน

    ตาทำ-หลานขาย หลานตา

    พื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะ

    ติดต่อ inbox เพจโทร. 098-2322965

    #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์#นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    มองหาข้าวใหม่ 100% นุ่ม หอม อร่อย สั่งซื้อได้เลยค่ะ (5 กก.) ข้าวหอมมะลิ 105 💯% 369บาท รวมส่ง 📦 (5 กก.) ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 💯% 409 บาท รวมส่ง 📦 (5 กก.) ข้าวไรซ์เบอร์รี 459บาท รวมส่ง 📦 ✅ ปลอดสาร ✅ ไม่มีสารกันมอด ✅ ไม่มีสารกันแมลง ✅ ไม่ขัดสี ✅ ข้าวใหม่ 100% ✅ ส่งตรงจากไร่นา ⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน 🌲🌳🌿🌾 ตาทำ-หลานขาย หลานตา ‼️พื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะ🌲🌳🌿🌾 ติดต่อ inbox เพจโทร. 098-2322965 #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์#นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 665 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้าวหอมมะลิ 105 % รวมส่ง
    ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 % รวมส่ง
    ข้าวไรซ์เบอร์รี่ รวมส่ง

    ปลอดสาร
    ไม่มีสารกันมอด
    ไม่มีสารกันแมลง
    ไม่ขัดสี
    ข้าวใหม่ 100%
    ส่งตรงจากไร่นา

    ⭕️ นุ่ม หอม อร่อย
    ⭕️ ปลอดภัย
    ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน

    ‘ตาทำ หลานขาย’ — หลานตา

    พื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะ


    ติดต่อ inbox เพจ
    โทร. 098-2322965

    #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์

    #นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    ข้าวหอมมะลิ 105 💯% รวมส่ง 📦 ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 💯% รวมส่ง 📦 ข้าวไรซ์เบอร์รี่ รวมส่ง 📦 ✅ ปลอดสาร ✅ ไม่มีสารกันมอด ✅ ไม่มีสารกันแมลง ✅ ไม่ขัดสี ✅ ข้าวใหม่ 100% ✅ ส่งตรงจากไร่นา ⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน 🌲🌳🌿🌾 ‘ตาทำ หลานขาย’ — หลานตา ‼️พื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะ 🌲🌳🌿🌾 ติดต่อ inbox เพจ โทร. 098-2322965 #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์ #นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 885 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • มองหาข้าวใหม่ 100% นุ่ม หอม อร่อย สั่งซื้อได้เลยค่ะ อุดหนุนกันเยอะนะค่า (5 กก.) ข้าวหอมมะลิ 105 % 369บาท รวมส่ง (5 กก.) ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 % 409 บาท รวมส่ง (5 กก.) ข้าวไรซ์เบอร์รี 459บาท รวมส่ง ปลอดสาร ไม่มีสารกันมอด ไม่มีสารกันแมลง ไม่ขัดสี ข้าวใหม่ 100% ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน ตาทำ-หลานขาย หลานตาพื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะติดต่อ inbox เพจโทร. 098-2322965 #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์#นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    มองหาข้าวใหม่ 100% นุ่ม หอม อร่อย สั่งซื้อได้เลยค่ะ อุดหนุนกันเยอะนะค่า (5 กก.) ข้าวหอมมะลิ 105 💯% 369บาท รวมส่ง 📦 (5 กก.) ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 💯% 409 บาท รวมส่ง 📦 (5 กก.) ข้าวไรซ์เบอร์รี 459บาท รวมส่ง 📦 ✅ ปลอดสาร ✅ ไม่มีสารกันมอด✅ ไม่มีสารกันแมลง✅ ไม่ขัดสี✅ ข้าวใหม่ 100%✅ ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน 🌲🌳🌿🌾ตาทำ-หลานขาย หลานตา‼️พื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะ🌲🌳🌿🌾ติดต่อ inbox เพจโทร. 098-2322965 #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์#นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 820 มุมมอง 0 รีวิว
  • มองหาข้าวใหม่ 100% นุ่ม หอม อร่อย สั่งซื้อได้เลยค่ะ อุดหนุนกันเยอะนะค่า (5 กก.) ข้าวหอมมะลิ 105 % 369บาท รวมส่ง (5 กก.) ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 % 409 บาท รวมส่ง (5 กก.) ข้าวไรซ์เบอร์รี 459บาท รวมส่ง ปลอดสาร ไม่มีสารกันมอด ไม่มีสารกันแมลง ไม่ขัดสี ข้าวใหม่ 100% ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน ตาทำ-หลานขาย หลานตาพื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะติดต่อ inbox เพจโทร. 098-2322965 #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์#นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    มองหาข้าวใหม่ 100% นุ่ม หอม อร่อย สั่งซื้อได้เลยค่ะ อุดหนุนกันเยอะนะค่า (5 กก.) ข้าวหอมมะลิ 105 💯% 369บาท รวมส่ง 📦 (5 กก.) ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 💯% 409 บาท รวมส่ง 📦 (5 กก.) ข้าวไรซ์เบอร์รี 459บาท รวมส่ง 📦 ✅ ปลอดสาร ✅ ไม่มีสารกันมอด✅ ไม่มีสารกันแมลง✅ ไม่ขัดสี✅ ข้าวใหม่ 100%✅ ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน 🌲🌳🌿🌾ตาทำ-หลานขาย หลานตา‼️พื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะ🌲🌳🌿🌾ติดต่อ inbox เพจโทร. 098-2322965 #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์#นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 960 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • มองหาข้าวใหม่ 100% นุ่ม หอม อร่อย สั่งซื้อได้เลยค่ะ อุดหนุนกันเยอะนะค่า (5 กก.) ข้าวหอมมะลิ 105 % 369บาท รวมส่ง (5 กก.) ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 % 409 บาท รวมส่ง (5 กก.) ข้าวไรซ์เบอร์รี 459บาท รวมส่ง ปลอดสาร ไม่มีสารกันมอด ไม่มีสารกันแมลง ไม่ขัดสี ข้าวใหม่ 100% ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน ตาทำ-หลานขาย หลานตาพื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะติดต่อ inbox เพจโทร. 098-2322965 #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์#นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    มองหาข้าวใหม่ 100% นุ่ม หอม อร่อย สั่งซื้อได้เลยค่ะ อุดหนุนกันเยอะนะค่า (5 กก.) ข้าวหอมมะลิ 105 💯% 369บาท รวมส่ง 📦 (5 กก.) ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 💯% 409 บาท รวมส่ง 📦 (5 กก.) ข้าวไรซ์เบอร์รี 459บาท รวมส่ง 📦 ✅ ปลอดสาร ✅ ไม่มีสารกันมอด✅ ไม่มีสารกันแมลง✅ ไม่ขัดสี✅ ข้าวใหม่ 100%✅ ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน 🌲🌳🌿🌾ตาทำ-หลานขาย หลานตา‼️พื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะ🌲🌳🌿🌾ติดต่อ inbox เพจโทร. 098-2322965 #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์#นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 962 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอบคุณรีวิวจากคุณลูกค้านะคะ เสียงตอบรับดีจากคุณลูกค้า แถมรังสรรค์เมนูออกมาได้สวยงาม ชอบมากค่ะ ขอบคุณนะคะ 🙏🏻______________________________ข้าว 3 สี (อย่างละ 1 กก.)- ข้าวหอมมะลิ 105 %- ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 %- ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ปลอดสาร ไม่มีสารกันมอด ไม่มีสารกันแมลง ข้าวใหม่ 100% ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน ตาทำ-หลานขาย หลานตา#หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    ขอบคุณรีวิวจากคุณลูกค้านะคะ 💗 เสียงตอบรับดีจากคุณลูกค้า แถมรังสรรค์เมนูออกมาได้สวยงาม ชอบมากค่ะ ขอบคุณนะคะ 🙏🏻🌲🌳🌿🌾______________________________ข้าว 3 สี (อย่างละ 1 กก.)- ข้าวหอมมะลิ 105 💯%- ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 💯%- ข้าวไรซ์เบอร์รี่✅ ปลอดสาร ✅ ไม่มีสารกันมอด✅ ไม่มีสารกันแมลง✅ ข้าวใหม่ 100%✅ ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน ตาทำ-หลานขาย หลานตา#หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 896 มุมมอง 0 รีวิว
  • สามารถ inbox สั่งซื้อได้เลยนะคะ ตาทำ-หลานขาย ปลอดสาร ไม่มีสารกันมอด ไม่มีสารกันแมลง ไม่ขัดสี ข้าวใหม่ 100% ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน ตาทำ หลานขาย-หลานตาพื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะติดต่อ inbox เพจโทร. 098-2322965 #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์#นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    สามารถ inbox สั่งซื้อได้เลยนะคะ ตาทำ-หลานขาย ✅ ปลอดสาร ✅ ไม่มีสารกันมอด✅ ไม่มีสารกันแมลง✅ ไม่ขัดสี✅ ข้าวใหม่ 100%✅ ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน 🌲🌳🌿🌾ตาทำ หลานขาย-หลานตา‼️พื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะ🌲🌳🌿🌾ติดต่อ inbox เพจโทร. 098-2322965 #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์#นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1022 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ปลอดสาร ไม่มีสารกันมอด ไม่มีสารกันแมลง ไม่ขัดสี ข้าวใหม่ 100% ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน ตาทำ หลานขาย-หลานตาพื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะติดต่อ inbox เพจโทร. 098-2322965 #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์#นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    ✅ ปลอดสาร ✅ ไม่มีสารกันมอด✅ ไม่มีสารกันแมลง✅ ไม่ขัดสี✅ ข้าวใหม่ 100%✅ ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน 🌲🌳🌿🌾ตาทำ หลานขาย-หลานตา‼️พื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะ🌲🌳🌿🌾ติดต่อ inbox เพจโทร. 098-2322965 #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์#นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 948 มุมมอง 0 รีวิว
  • ออเดอร์ 100 กิโล เราก็ส่งให้ ขอบคุณคุณลูกค้าของเรา -ข้าวหอมมะลิ 105 % ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 % ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ปลอดสาร ไม่มีสารกันมอด ไม่มีสารกันแมลง ข้าวใหม่ 100% ส่งตรงจากไร่นา ⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน ตาทำ-หลานขาย หลานตา #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    ออเดอร์ 100 กิโล เราก็ส่งให้ ขอบคุณคุณลูกค้าของเรา 🌲🌳🌿🌾-ข้าวหอมมะลิ 105 💯% ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 💯% ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ✅ ปลอดสาร ✅ ไม่มีสารกันมอด ✅ ไม่มีสารกันแมลง ✅ ข้าวใหม่ 100% ✅ ส่งตรงจากไร่นา ⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน ตาทำ-หลานขาย หลานตา #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 899 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ปลอดสาร ไม่มีสารกันมอด ไม่มีสารกันแมลง ไม่ขัดสี ข้าวใหม่ 100% ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน ตาทำ หลานขาย-หลานตาพื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะติดต่อ inbox เพจโทร. 098-2322965 #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์#นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    ✅ ปลอดสาร ✅ ไม่มีสารกันมอด✅ ไม่มีสารกันแมลง✅ ไม่ขัดสี✅ ข้าวใหม่ 100%✅ ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน 🌲🌳🌿🌾ตาทำ หลานขาย-หลานตา‼️พื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะ🌲🌳🌿🌾ติดต่อ inbox เพจโทร. 098-2322965 #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์#นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 913 มุมมอง 0 รีวิว
  • (1 กก.) ข้าวหอมมะลิ 105 % 105บาท รวมส่ง (1 กก.) ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 % 115บาท รวมส่ง (1 กก.) ข้าวไรซ์เบอรี่ 125บาท รวมส่ง ปลอดสาร ไม่มีสารกันมอด ไม่มีสารกันแมลง ไม่ขัดสี ข้าวใหม่ 100% ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน ตาทำ-หลานขาย หลานตาพื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะติดต่อ inbox เพจโทร. 098-2322965 #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์#นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    (1 กก.) ข้าวหอมมะลิ 105 💯% 105บาท รวมส่ง 📦(1 กก.) ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 💯% 115บาท รวมส่ง 📦(1 กก.) ข้าวไรซ์เบอรี่ 125บาท รวมส่ง 📦 ✅ปลอดสาร ✅ ไม่มีสารกันมอด✅ ไม่มีสารกันแมลง✅ ไม่ขัดสี✅ ข้าวใหม่ 100%✅ ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน 🌲🌳🌿🌾ตาทำ-หลานขาย หลานตา‼️พื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะ🌲🌳🌿🌾ติดต่อ inbox เพจโทร. 098-2322965 #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์#นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1090 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • (5 กก.) ข้าวหอมมะลิ 105 % 369บาท รวมส่ง (5 กก.) ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 % 409บาท รวมส่ง (5 กก.) ข้าวไรซ์เบอรี่459บาท รวมส่ง ปลอดสาร ไม่มีสารกันมอด ไม่มีสารกันแมลง ไม่ขัดสี ข้าวใหม่ 100% ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน ตาทำ-หลานขาย หลานตาพื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะติดต่อ inbox เพจโทร. 098-2322965 #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์#นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    (5 กก.) ข้าวหอมมะลิ 105 💯% 369บาท รวมส่ง 📦(5 กก.) ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 💯% 409บาท รวมส่ง 📦(5 กก.) ข้าวไรซ์เบอรี่459บาท รวมส่ง 📦 ✅ปลอดสาร ✅ ไม่มีสารกันมอด✅ ไม่มีสารกันแมลง✅ ไม่ขัดสี✅ ข้าวใหม่ 100%✅ ส่งตรงจากไร่นา⭕️ นุ่ม หอม อร่อย ⭕️ ปลอดภัย ⭕️ สีใหม่ๆ ใส่ใจทุกขั้นตอน 🌲🌳🌿🌾ตาทำ-หลานขาย หลานตา‼️พื้นที่พิเศษและห่างไกลมีบวกเพิ่มค่ะ🌲🌳🌿🌾ติดต่อ inbox เพจโทร. 098-2322965 #หลานตา #หลานตาหาทำ #ข้าวปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์#นุ่ม #หอม #อร่อย #ปลอดสาร #จากไร่นาโดยตรง #หลานตา #หลานตาหาทำ #ไร่นาสวนผสม #ข้าวหอมมะลิ100% #ข้าวใหม่100% #แพ็คออเดอร์ต่อออเดอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 971 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • บันทึกโบราณ
    เป็นบันทึกโบราณที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนา เป็นความเข้าใจของผู้เขียน

    นานมาแล้ว...ก่อนจะมีความทรงจำเกี่ยวกับอดีต มีเผ่าพันธุ์หนึ่งอยู่ร่วมกับอีกหลายเผ่าพันธุ์ เป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ ในทุกๆด้าน รวมทั้งจิตและวิญญาน เป็นแผ่นดินที่อยู่กันกับธรรมชาติ และปัญญาที่ดีงาม เป็นสังคมที่เป็นสังคมในอุดมคติ ที่แผ่นดินอื่นไม่มี แต่เหมือนจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีชะตากรรมที่ติดตัวมาหลายพันหลายหมื่นปีเป็นชะตากรรมหมู่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น คำว่า มีเกิดมีดับ เป็นแบบนี้วนไป

    ประเทศไทย คนไทย และคนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ก็เป็นเช่นเดียวกัน เกิดและดับมาหลายครั้ง เกิดและดับ มีความพยายามที่จะรู้ให้ได้ว่าบรรพบุรุษของตัวเองเป็นใคร มาจากไหน เหมือนจะหาหลักฐานมาแสดงให้ทุกคนเห็นช่างยากเย็นเหลือเกิน

    หลักฐานที่จะรู้ให้ได้ว่าบรรพบุรุษของตัวเองเป็นใคร มาจากไหนมีหรือไม่ มีและมีมาก แต่รอยต่อประวัติศาสตร์ และการแยกเพื่อปกครองทำให้มีขบวนการที่ทำไห้หลักฐานที่มีอยู่ไม่ได้ถูกเปิดเผยอย่างถูกต้อง บางอย่างถูกบิดเบือน โดยการชี้แนะจากการศึกษาที่บิดเบือน หรือไม่รู้ไม่เข้าใจจริงจริง

    เผ่าพันธุ์โบราณที่อยู่บนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้นี้ ได้ทำหลักฐาน ว่าตัวเองและญาติพื่น้องได้จากมา จากแผ่นดินเดิมอย่างไร และผู้ที่ตกค้างอยู่แผ่นดินเดิมที่จากมามีสภาพอย่างไร

    คนโบราณไม่ได้มีความคิดเช่นคนปัจจุบัน คนบนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และคนไทยในปัจจุบันพยายามตามหาว่าเผ่าพันธ์ตัวเองมาจากแผ่นดินไหน แผ่นดินอยู่ที่ใด โดยไม่รู้เลยว่าแผ่นดินของบรรพบุรุษโดนทำลายด้วยน้ำ ทิ้งวัตถุโบราณที่เสมือนบันทึกไว้มากมายบนแผ่นดินที่เรียกว่าเอเซียตะวันออกเฉียงใต้

    แผ่นดินโบราณเมื่อถูกน้ำเข้าทำลาย คนที่มีสิทธิ์หนีตายไม่ใช่ผู้มีอำนาจมากสุด แต่ผู้ที่จะเสียสละทุกอย่างคือผู้มีอำนาจ

    ผู้ที่รอดคือเด็ก ผู้ปกครองที่มีความรู้ ที่จะถ่ายทอดทุกอย่างให้ลูกหลาน มีชีวิตรอดและมีความรู้ที่จะสืบทอด และถ่ายทอดเรื่องราวในอดีต ให้เด็กๆที่เมื่อโตขึ้น จะได้ทำบันทึกไว้ให้ผู้ที่ไม่รู้ รู้ว่าพวกเขามีชะตากรรมอย่างไร

    โพสต์นี้มีนำหลักฐานหลายอย่างนำมาลงให้ดู แต่มีหลักฐารแบบหนึ่งที่ถูกเรียกว่า ธรรมจักร ธรรมจักรถูกเรียกจากนักวิชาการ ด้านโบราณคดี ผิดไหม ไม่ผิดที่เรียกแบบนั้น แต่เมื่อมีการตรวจสอบกันในเวลาต่อมามีสิ่งที่อยากจะเขียนให้เห็นให้เข้าใจ

    ภายในรูปธรรมจักร ถูกทำโดยชาวทวารวดี ไม่เคยมีใครสงสัยว่ารูปคนที่อยู่บนธรรมจักรเป็นใคร ในรูปมีอัปกิริยาที่ถูกทำมาอย่างเคารพเทิดทูนบูชา ภาพที่เห็นเป็นคนมีอำนาจที่พร้อมที่จะตายบนแผ่นดินที่เป็นอาณาจักรของตัวเองอย่าสงบ ภายใต้ความสงบก็ยังมีความห่วงใยลูกหลาน และคนที่ตัวเองไว้ใจ มือวางอย่างเป็นห่วง และส่งพลังให้คนที่ไว้ใจนำลูกหลานไปสร้างอาณาจักรใหม่ให้ได้ ถึงตัวเองจะต้องตายพร้อมกับน้ำที่ทำลายแผ่นดินนั้นอีกไม่กีนาทีก็ตาม

    วัตถุโบราณที่ถูกเรียกธรรมจักร (ผังเมือง) โบราณและกลองมโหระทึกโบราณ(ผังเมือง)
    คือ...ผังเมืองโบราณที่ลูกหลานตามหากันนั้นเอง ธรรมจักรและกลองมโหระทึกโบราณมีแต่ลายน้ำที่ใช้อธิบายที่ไม่ใช่ตัวหนังสืออธิบาย

    บทความและหลักฐานโบราณ
    โดยคุณทราวิฑะ นอกกรอบ
    Fb ทราวิฑะ นอกกรอบ
    บันทึกโบราณ เป็นบันทึกโบราณที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนา เป็นความเข้าใจของผู้เขียน นานมาแล้ว...ก่อนจะมีความทรงจำเกี่ยวกับอดีต มีเผ่าพันธุ์หนึ่งอยู่ร่วมกับอีกหลายเผ่าพันธุ์ เป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ ในทุกๆด้าน รวมทั้งจิตและวิญญาน เป็นแผ่นดินที่อยู่กันกับธรรมชาติ และปัญญาที่ดีงาม เป็นสังคมที่เป็นสังคมในอุดมคติ ที่แผ่นดินอื่นไม่มี แต่เหมือนจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีชะตากรรมที่ติดตัวมาหลายพันหลายหมื่นปีเป็นชะตากรรมหมู่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น คำว่า มีเกิดมีดับ เป็นแบบนี้วนไป ประเทศไทย คนไทย และคนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ก็เป็นเช่นเดียวกัน เกิดและดับมาหลายครั้ง เกิดและดับ มีความพยายามที่จะรู้ให้ได้ว่าบรรพบุรุษของตัวเองเป็นใคร มาจากไหน เหมือนจะหาหลักฐานมาแสดงให้ทุกคนเห็นช่างยากเย็นเหลือเกิน หลักฐานที่จะรู้ให้ได้ว่าบรรพบุรุษของตัวเองเป็นใคร มาจากไหนมีหรือไม่ มีและมีมาก แต่รอยต่อประวัติศาสตร์ และการแยกเพื่อปกครองทำให้มีขบวนการที่ทำไห้หลักฐานที่มีอยู่ไม่ได้ถูกเปิดเผยอย่างถูกต้อง บางอย่างถูกบิดเบือน โดยการชี้แนะจากการศึกษาที่บิดเบือน หรือไม่รู้ไม่เข้าใจจริงจริง เผ่าพันธุ์โบราณที่อยู่บนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้นี้ ได้ทำหลักฐาน ว่าตัวเองและญาติพื่น้องได้จากมา จากแผ่นดินเดิมอย่างไร และผู้ที่ตกค้างอยู่แผ่นดินเดิมที่จากมามีสภาพอย่างไร คนโบราณไม่ได้มีความคิดเช่นคนปัจจุบัน คนบนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และคนไทยในปัจจุบันพยายามตามหาว่าเผ่าพันธ์ตัวเองมาจากแผ่นดินไหน แผ่นดินอยู่ที่ใด โดยไม่รู้เลยว่าแผ่นดินของบรรพบุรุษโดนทำลายด้วยน้ำ ทิ้งวัตถุโบราณที่เสมือนบันทึกไว้มากมายบนแผ่นดินที่เรียกว่าเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ แผ่นดินโบราณเมื่อถูกน้ำเข้าทำลาย คนที่มีสิทธิ์หนีตายไม่ใช่ผู้มีอำนาจมากสุด แต่ผู้ที่จะเสียสละทุกอย่างคือผู้มีอำนาจ ผู้ที่รอดคือเด็ก ผู้ปกครองที่มีความรู้ ที่จะถ่ายทอดทุกอย่างให้ลูกหลาน มีชีวิตรอดและมีความรู้ที่จะสืบทอด และถ่ายทอดเรื่องราวในอดีต ให้เด็กๆที่เมื่อโตขึ้น จะได้ทำบันทึกไว้ให้ผู้ที่ไม่รู้ รู้ว่าพวกเขามีชะตากรรมอย่างไร โพสต์นี้มีนำหลักฐานหลายอย่างนำมาลงให้ดู แต่มีหลักฐารแบบหนึ่งที่ถูกเรียกว่า ธรรมจักร ธรรมจักรถูกเรียกจากนักวิชาการ ด้านโบราณคดี ผิดไหม ไม่ผิดที่เรียกแบบนั้น แต่เมื่อมีการตรวจสอบกันในเวลาต่อมามีสิ่งที่อยากจะเขียนให้เห็นให้เข้าใจ ภายในรูปธรรมจักร ถูกทำโดยชาวทวารวดี ไม่เคยมีใครสงสัยว่ารูปคนที่อยู่บนธรรมจักรเป็นใคร ในรูปมีอัปกิริยาที่ถูกทำมาอย่างเคารพเทิดทูนบูชา ภาพที่เห็นเป็นคนมีอำนาจที่พร้อมที่จะตายบนแผ่นดินที่เป็นอาณาจักรของตัวเองอย่าสงบ ภายใต้ความสงบก็ยังมีความห่วงใยลูกหลาน และคนที่ตัวเองไว้ใจ มือวางอย่างเป็นห่วง และส่งพลังให้คนที่ไว้ใจนำลูกหลานไปสร้างอาณาจักรใหม่ให้ได้ ถึงตัวเองจะต้องตายพร้อมกับน้ำที่ทำลายแผ่นดินนั้นอีกไม่กีนาทีก็ตาม วัตถุโบราณที่ถูกเรียกธรรมจักร (ผังเมือง) โบราณและกลองมโหระทึกโบราณ(ผังเมือง) คือ...ผังเมืองโบราณที่ลูกหลานตามหากันนั้นเอง ธรรมจักรและกลองมโหระทึกโบราณมีแต่ลายน้ำที่ใช้อธิบายที่ไม่ใช่ตัวหนังสืออธิบาย บทความและหลักฐานโบราณ โดยคุณทราวิฑะ นอกกรอบ Fb ทราวิฑะ นอกกรอบ
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 541 มุมมอง 0 รีวิว