• DARPA (Defense Advanced Research Projects Agency) เป็นหน่วยงานวิจัยของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา โดยมีหน้าที่ในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาใช้ในการป้องกันประเทศ กำลังเริ่มขั้นตอนสุดท้ายของโครงการ NOM4D (Novel Orbital and Moon Manufacturing, Materials, and Mass Efficient Design) โดยเปลี่ยนจากการทดสอบในห้องทดลองมาเป็นการสาธิตในวงโคจรขนาดเล็ก วัตถุประสงค์ของโครงการนี้คือการพัฒนาวัสดุและเทคนิคการประกอบใหม่ ๆ ในอวกาศ เพื่อสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคยทำได้

    หนึ่งในความท้าทายหลักในการก่อสร้างในอวกาศคือข้อจำกัดด้านขนาดและน้ำหนักของโครงสร้างที่สามารถนำขึ้นไปในจรวด โครงการ NOM4D มีแนวทางใหม่โดยการใช้วัสดุน้ำหนักเบาที่จะถูกนำขึ้นไปในจรวดเพื่อประกอบในอวกาศ ซึ่งช่วยให้สามารถสร้างโครงสร้างที่ใหญ่ขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้

    ในโครงการนี้ Caltech ได้ร่วมมือกับ Momentus เพื่อแสดงเทคโนโลยีการประกอบหุ่นยนต์อัตโนมัติบนยาน Momentus Vigoride Orbital Services Vehicle ซึ่งจะถูกส่งขึ้นไปในอวกาศโดยจรวด SpaceX Falcon 9 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 โครงสร้างที่จะสร้างขึ้นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ทำจากวัสดุคอมโพสิตไฟเบอร์น้ำหนักเบา ซึ่งจะจำลองสถาปัตยกรรมของช่องเปิดเสาอากาศ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ในอวกาศ

    ในขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์บานา-แชมเปญ ได้พัฒนากระบวนการขึ้นรูปคอมโพสิตที่มีความแม่นยำสูงในอวกาศ ร่วมกับ Voyager Space และจะสาธิตเทคโนโลยีนี้บนสถานีอวกาศนานาชาติในเดือนเมษายน 2026 กระบวนการนี้ใช้วิธี "frontal polymerization" ที่ทำให้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แข็งโดยไม่ต้องใช้เตาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการบุกเบิกที่สามารถทำให้การก่อสร้างโครงสร้างในอวกาศเป็นไปได้

    นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยฟลอริด้ายังมีการวิจัยเกี่ยวกับเทคนิคการดัดแผ่นโลหะด้วยเลเซอร์ร่วมกับ NASA's Marshall Space Flight Center ซึ่งงานนี้สามารถให้ความสามารถในการผลิตที่สำคัญสำหรับการก่อสร้างในอวกาศในอนาคต

    ความสำเร็จของการสาธิตเหล่านี้อาจมีผลกระทบที่กว้างขวางทั้งในด้านการพาณิชย์และความมั่นคงของชาติ โดยเทคโนโลยีที่พัฒนาเหล่านี้สามารถเพิ่มศักยภาพในการสร้างเสาอากาศขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 เมตร ที่จะช่วยเสริมสร้างความตระหนักรู้ในพื้นที่ใกล้ดวงจันทร์ (cislunar space) นอกจากนี้ โครงการ NOM4D ยังสามารถช่วยในการสร้างระบบนิเวศการผลิตในอวกาศ เช่น สถานีเติมเชื้อเพลิงในอวกาศ ฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ในอวกาศ และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ที่สำคัญทั้งสำหรับการพาณิชย์และความมั่นคงของชาติ

    https://www.techspot.com/news/106775-darpa-begins-testing-phase-orbit-space-construction.html
    DARPA (Defense Advanced Research Projects Agency) เป็นหน่วยงานวิจัยของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา โดยมีหน้าที่ในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาใช้ในการป้องกันประเทศ กำลังเริ่มขั้นตอนสุดท้ายของโครงการ NOM4D (Novel Orbital and Moon Manufacturing, Materials, and Mass Efficient Design) โดยเปลี่ยนจากการทดสอบในห้องทดลองมาเป็นการสาธิตในวงโคจรขนาดเล็ก วัตถุประสงค์ของโครงการนี้คือการพัฒนาวัสดุและเทคนิคการประกอบใหม่ ๆ ในอวกาศ เพื่อสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคยทำได้ หนึ่งในความท้าทายหลักในการก่อสร้างในอวกาศคือข้อจำกัดด้านขนาดและน้ำหนักของโครงสร้างที่สามารถนำขึ้นไปในจรวด โครงการ NOM4D มีแนวทางใหม่โดยการใช้วัสดุน้ำหนักเบาที่จะถูกนำขึ้นไปในจรวดเพื่อประกอบในอวกาศ ซึ่งช่วยให้สามารถสร้างโครงสร้างที่ใหญ่ขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ ในโครงการนี้ Caltech ได้ร่วมมือกับ Momentus เพื่อแสดงเทคโนโลยีการประกอบหุ่นยนต์อัตโนมัติบนยาน Momentus Vigoride Orbital Services Vehicle ซึ่งจะถูกส่งขึ้นไปในอวกาศโดยจรวด SpaceX Falcon 9 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 โครงสร้างที่จะสร้างขึ้นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ทำจากวัสดุคอมโพสิตไฟเบอร์น้ำหนักเบา ซึ่งจะจำลองสถาปัตยกรรมของช่องเปิดเสาอากาศ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ในอวกาศ ในขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์บานา-แชมเปญ ได้พัฒนากระบวนการขึ้นรูปคอมโพสิตที่มีความแม่นยำสูงในอวกาศ ร่วมกับ Voyager Space และจะสาธิตเทคโนโลยีนี้บนสถานีอวกาศนานาชาติในเดือนเมษายน 2026 กระบวนการนี้ใช้วิธี "frontal polymerization" ที่ทำให้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แข็งโดยไม่ต้องใช้เตาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการบุกเบิกที่สามารถทำให้การก่อสร้างโครงสร้างในอวกาศเป็นไปได้ นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยฟลอริด้ายังมีการวิจัยเกี่ยวกับเทคนิคการดัดแผ่นโลหะด้วยเลเซอร์ร่วมกับ NASA's Marshall Space Flight Center ซึ่งงานนี้สามารถให้ความสามารถในการผลิตที่สำคัญสำหรับการก่อสร้างในอวกาศในอนาคต ความสำเร็จของการสาธิตเหล่านี้อาจมีผลกระทบที่กว้างขวางทั้งในด้านการพาณิชย์และความมั่นคงของชาติ โดยเทคโนโลยีที่พัฒนาเหล่านี้สามารถเพิ่มศักยภาพในการสร้างเสาอากาศขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 เมตร ที่จะช่วยเสริมสร้างความตระหนักรู้ในพื้นที่ใกล้ดวงจันทร์ (cislunar space) นอกจากนี้ โครงการ NOM4D ยังสามารถช่วยในการสร้างระบบนิเวศการผลิตในอวกาศ เช่น สถานีเติมเชื้อเพลิงในอวกาศ ฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ในอวกาศ และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ที่สำคัญทั้งสำหรับการพาณิชย์และความมั่นคงของชาติ https://www.techspot.com/news/106775-darpa-begins-testing-phase-orbit-space-construction.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    DARPA begins testing phase for in-orbit space construction
    DARPA has announced a major shift in the final phase of its NOM4D program, transitioning from laboratory testing to small-scale orbital demonstrations. This move aims to evaluate...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🍎 The Heritage Apple Hunter
    🍏 คุณปู่ Tom Brown นักล่าแอปเปิลพันธุ์หายาก
    🍎 จากงานอดิเรกวัยเกษียณสู่การอนุรักษ์แอปเปิลกว่า 1,000 สายพันธุ์

    คุณปู่ Tom Brown อดีตวิศวกรเคมีวัย 80 ปี ใช้เวลา 20 ปีของชีวิตวัยเกษียณ ทำภารกิจค้นหาและรักษาพันธุ์แอปเปิลที่สูญหาย โดยเดินทางเสาะหาทั่วแอปพาเลเชีย (ภูมิภาคช่วงตะวันออกของสหรัฐอเมริกา) ทำให้คุณปู่ได้ค้นพบแอปเปิลที่หายากกว่า 1,000 สายพันธุ์ และนำมาจัดแสดงกว่า 600 รายการ ภารกิจของคุณปู่ที่เริ่มต้นจากความสนุกเพลิดเพลิน กลับกลายช่วยรักษาพันธุ์แอปเปิลเก่าแก่ในภูมิภาคแอปพาเลเชียเอาไว้ ไม่ให้สูญหายไปตามกาลเวลา

    เดิมทีคุณปู่มีสวนผลไม้อยู่ในเมืองเคลมมอนส์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา และได้รู้จักกับเจ้าของสวนแอปเปิลคนหนึ่งซึ่งแนะนำให้ปู่ทอมรู้จักกับแอปเปิลพันธุ์หายากต่าง ๆ ซึ่งคุณปู่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน นั่นคือการจุดประกายให้คุณปู่เริ่มหลงใหลและตัดสินใจว่างานอดิเรกยามเกษียณคือการตามล่าแอปเปิ้ลที่สูญหายนี่แหละ

    คุณปู่ทอมเรียนรู้ศาสตร์แห่งการระบุ โคลน การต่อกิ่งและการดูแลรักษาต้นแอปเปิล จากนั้นเริ่มรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสวนผลไม้เก่า สมาคมผู้ปลูกผลไม้ ชื่อของเจ้าของเดิมและคนงาน และข่าวเกี่ยวกับต้นไม้มรดกที่ยังเหลืออยู่ เมื่อใดก็ตามที่ได้ยินเกี่ยวกับแอปเปิลเก่าแก่หายาก คุณปู่และภรรยาจะเดินทางไปเสาะหาสวนผลไม้ที่ซ่อนอยู่ในพื้นที่นั้น เมื่อได้เห็นและชิมแอปเปิลแล้ว คุณปู่ก็จะยืนยันด้วยข้อมูลอ้างอิงที่ค้นคว้ามา เพื่อคอนเฟิร์มว่าเป็นแอปเปิลพันธุ์นั้นจริง ๆ

    ความหลงใหลผลักดันให้คุณปู่ติดต่อกับผู้คน เดินทางไปเยี่ยมบ้านคนแปลกหน้าเพื่อสอบถามข้อมูลแอปเปิ้ล ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น และอีกหลายวิธี เพื่อรวบรวมเบาะแสเพิ่มเติม ย้อนไปหาที่มาและตัวตนของแอปเปิลเหล่านั้น ด้วยความคิดที่ว่า มันคงจะเจ๋งมาก ถ้าได้ค้นพบแอปเปิ้ลที่ไม่มีใครได้ลิ้มรสในรอบ 50 ปีหรือ 100 ปีที่ผ่านมา

    งานอดิเรกที่ไม่เหมือนใครทำให้คุณปู่ทอมมีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่ชื่นชมไปทั่วโลก แถมยังได้รับฉายาว่า Apple-Hunter คุณปู่ปลูกแอปเปิลในฟาร์มของตัวเองปีละประมาณ 60 สายพันธุ์ และขายต้นไปแล้วประมาณ 1,000 ต้น

    คุณปู่บอกว่า รู้สึกสนุกกับงานอดิเรกนี้มาก มันทำให้คุณปู่ตื่นเต้นกระชุ่มกระชวยลืมแก่กันเลยทีเดียว และแน่นอนว่าจะไม่หยุดภารกิจนี้ เพราะยังมีแอปเปิลที่รอให้คุณปู่ค้นพบอีกมากมายหลายสายพันธุ์

    📸 Tom Brown
    ✍️ เรียบเรียง : สำนักข่าวดีดี

    #สำนักข่าวดีดี #เรื่องดีดีมีทุกวัน #goodstory #เรื่องราวดีดี #สุขใจวัยเกษียณ
    🍎 The Heritage Apple Hunter 🍏 คุณปู่ Tom Brown นักล่าแอปเปิลพันธุ์หายาก 🍎 จากงานอดิเรกวัยเกษียณสู่การอนุรักษ์แอปเปิลกว่า 1,000 สายพันธุ์ คุณปู่ Tom Brown อดีตวิศวกรเคมีวัย 80 ปี ใช้เวลา 20 ปีของชีวิตวัยเกษียณ ทำภารกิจค้นหาและรักษาพันธุ์แอปเปิลที่สูญหาย โดยเดินทางเสาะหาทั่วแอปพาเลเชีย (ภูมิภาคช่วงตะวันออกของสหรัฐอเมริกา) ทำให้คุณปู่ได้ค้นพบแอปเปิลที่หายากกว่า 1,000 สายพันธุ์ และนำมาจัดแสดงกว่า 600 รายการ ภารกิจของคุณปู่ที่เริ่มต้นจากความสนุกเพลิดเพลิน กลับกลายช่วยรักษาพันธุ์แอปเปิลเก่าแก่ในภูมิภาคแอปพาเลเชียเอาไว้ ไม่ให้สูญหายไปตามกาลเวลา เดิมทีคุณปู่มีสวนผลไม้อยู่ในเมืองเคลมมอนส์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา และได้รู้จักกับเจ้าของสวนแอปเปิลคนหนึ่งซึ่งแนะนำให้ปู่ทอมรู้จักกับแอปเปิลพันธุ์หายากต่าง ๆ ซึ่งคุณปู่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน นั่นคือการจุดประกายให้คุณปู่เริ่มหลงใหลและตัดสินใจว่างานอดิเรกยามเกษียณคือการตามล่าแอปเปิ้ลที่สูญหายนี่แหละ คุณปู่ทอมเรียนรู้ศาสตร์แห่งการระบุ โคลน การต่อกิ่งและการดูแลรักษาต้นแอปเปิล จากนั้นเริ่มรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสวนผลไม้เก่า สมาคมผู้ปลูกผลไม้ ชื่อของเจ้าของเดิมและคนงาน และข่าวเกี่ยวกับต้นไม้มรดกที่ยังเหลืออยู่ เมื่อใดก็ตามที่ได้ยินเกี่ยวกับแอปเปิลเก่าแก่หายาก คุณปู่และภรรยาจะเดินทางไปเสาะหาสวนผลไม้ที่ซ่อนอยู่ในพื้นที่นั้น เมื่อได้เห็นและชิมแอปเปิลแล้ว คุณปู่ก็จะยืนยันด้วยข้อมูลอ้างอิงที่ค้นคว้ามา เพื่อคอนเฟิร์มว่าเป็นแอปเปิลพันธุ์นั้นจริง ๆ ความหลงใหลผลักดันให้คุณปู่ติดต่อกับผู้คน เดินทางไปเยี่ยมบ้านคนแปลกหน้าเพื่อสอบถามข้อมูลแอปเปิ้ล ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น และอีกหลายวิธี เพื่อรวบรวมเบาะแสเพิ่มเติม ย้อนไปหาที่มาและตัวตนของแอปเปิลเหล่านั้น ด้วยความคิดที่ว่า มันคงจะเจ๋งมาก ถ้าได้ค้นพบแอปเปิ้ลที่ไม่มีใครได้ลิ้มรสในรอบ 50 ปีหรือ 100 ปีที่ผ่านมา งานอดิเรกที่ไม่เหมือนใครทำให้คุณปู่ทอมมีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่ชื่นชมไปทั่วโลก แถมยังได้รับฉายาว่า Apple-Hunter คุณปู่ปลูกแอปเปิลในฟาร์มของตัวเองปีละประมาณ 60 สายพันธุ์ และขายต้นไปแล้วประมาณ 1,000 ต้น คุณปู่บอกว่า รู้สึกสนุกกับงานอดิเรกนี้มาก มันทำให้คุณปู่ตื่นเต้นกระชุ่มกระชวยลืมแก่กันเลยทีเดียว และแน่นอนว่าจะไม่หยุดภารกิจนี้ เพราะยังมีแอปเปิลที่รอให้คุณปู่ค้นพบอีกมากมายหลายสายพันธุ์ 📸 Tom Brown ✍️ เรียบเรียง : สำนักข่าวดีดี #สำนักข่าวดีดี #เรื่องดีดีมีทุกวัน #goodstory #เรื่องราวดีดี #สุขใจวัยเกษียณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🍈 #คัดลูกแต่งใบเมล่อนเสร็จแล้ว อย่าลืมป้องกันเชื้อรา! 🌱

    หลังจากคัดลูกและแต่งใบแล้ว อย่าลืมใช้เชื้อราไตรโคบิวพลัสป้ายแผล ✨ เพื่อป้องกันเชื้อราโรคพืชเข้าทำลายทางแผล ต้นเมล่อนจะเจริญเติบโตได้อย่างแข็งแรง 💪

    🔹 ข้อควรระวัง!
    ✅ ก่อนตัดแต่งใบ ต้องจุ่มแช่มีดหรือกรรไกรในน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อลดการแพร่เชื้อระหว่างต้น
    ✅ ตัดแต่งใบในช่วงเช้า เพื่อให้แผลแห้งเร็ว ลดโอกาสการติดเชื้อ

    🛒 ลิตเติ้ลฟาร์ม จำหน่าย
    🌿 ปุ๋ย AB คุณภาพสูง
    🌿 ธาตุอาหารรอง อาหารเสริม เพิ่มความแข็งแรง
    🌿 อุปกรณ์ปลูกเมล่อน ถุงปลูก ชีวภัณฑ์ป้องกันโรคแมลง
    📌 พร้อมให้คำปรึกษาตลอดการปลูก

    📩 สนใจติดต่อ Inbox หรือโทร 093-696-2691 📞
    #ไตรโคบิวพลัส ขนาด500กรัม ราคา430บาท ขนาด50กรัม3ซอง ราคา280บาท Shopee: https://s.shopee.co.th/3fmMLR6sWD TikTok Shop: https://vt.tiktok.com/ZSjAQxMd9/
    #ลิตเติ้ลฟาร์ม #เมล่อน #ปุ๋ยABคุณภาพ #ชีวภัณฑ์ป้องกันโรค #แต่งใบเมล่อน #เมล่อนแข็งแรง
    🍈 #คัดลูกแต่งใบเมล่อนเสร็จแล้ว อย่าลืมป้องกันเชื้อรา! 🌱 หลังจากคัดลูกและแต่งใบแล้ว อย่าลืมใช้เชื้อราไตรโคบิวพลัสป้ายแผล ✨ เพื่อป้องกันเชื้อราโรคพืชเข้าทำลายทางแผล ต้นเมล่อนจะเจริญเติบโตได้อย่างแข็งแรง 💪 🔹 ข้อควรระวัง! ✅ ก่อนตัดแต่งใบ ต้องจุ่มแช่มีดหรือกรรไกรในน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อลดการแพร่เชื้อระหว่างต้น ✅ ตัดแต่งใบในช่วงเช้า เพื่อให้แผลแห้งเร็ว ลดโอกาสการติดเชื้อ 🛒 ลิตเติ้ลฟาร์ม จำหน่าย 🌿 ปุ๋ย AB คุณภาพสูง 🌿 ธาตุอาหารรอง อาหารเสริม เพิ่มความแข็งแรง 🌿 อุปกรณ์ปลูกเมล่อน ถุงปลูก ชีวภัณฑ์ป้องกันโรคแมลง 📌 พร้อมให้คำปรึกษาตลอดการปลูก 📩 สนใจติดต่อ Inbox หรือโทร 093-696-2691 📞 #ไตรโคบิวพลัส ขนาด500กรัม ราคา430บาท ขนาด50กรัม3ซอง ราคา280บาท Shopee: https://s.shopee.co.th/3fmMLR6sWD TikTok Shop: https://vt.tiktok.com/ZSjAQxMd9/ #ลิตเติ้ลฟาร์ม #เมล่อน #ปุ๋ยABคุณภาพ #ชีวภัณฑ์ป้องกันโรค #แต่งใบเมล่อน #เมล่อนแข็งแรง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • แมกนีเซียม กับเมล่อนสำคัญแค่ไหน และต้องระวังอะไร
    แมกนีเซียม เป็นธาตุอาหารรองที่มีความสำคัญมากต่อการเจริญเติบโตของเมล่อน โดยเฉพาะในกระบวนการสังเคราะห์แสง แต่ถ้าให้มากเกินไป จากการใช้ปุ๋ยที่ไม่เหมาะสม เช่น ปุ๋ย AB ที่ไม่สมดุลกับความต้องการของพืช อาจก่อให้เกิด พิษจากแมกนีเซียม ส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตของต้นเมล่อนได้
    อาการของเมล่อนที่ได้รับแมกนีเซียมมากเกินไป

    1. ใบเหลือง ใบแก่เริ่มเหลืองก่อน ขณะที่ใบอ่อนยังเขียวอยู่
    2. เนื้อใบตาย อาจเกิดจุดสีน้ำตาลหรือดำ และรุนแรงถึงขั้นใบแห้งตาย
    3. ต้นแคระแกรน การเจริญเติบโตลดลง ใบมีขนาดเล็กผิดปกติ
    4. Chlorosis ใบเหลืองจากการขาดคลอโรฟิลล์ เนื่องจากการดูดซึมธาตุเหล็กผิดปกติ
    5.ใบไหม้ ปลายและขอบใบแห้งไหม้ คล้ายอาการขาดน้ำ
    6. ใบม้วนงอ ใบบิดเบี้ยวหรือม้วนผิดปกติ
    7. การออกดอกลดลง ปริมาณและขนาดของดอกลดลง ส่งผลต่อผลผลิต
    สิ่งสำคัญ อาการเหล่านี้อาจเกิดจาก ธาตุอาหารไม่สมดุล โรค หรือสภาพแวดล้อมที่เครียด ดังนั้น ควรตรวจสอบต้นเมล่อนให้แน่ชัดก่อนปรับปริมาณธาตุอาหาร
    หากสงสัยว่าเมล่อนของคุณได้รับแมกนีเซียมมากเกินไป หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการให้ปุ๋ย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Inbox นะครับ
    ลิตเติ้ลฟาร์ม พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการปลูกเมล่อน
    แมกนีเซียม กับเมล่อนสำคัญแค่ไหน และต้องระวังอะไร แมกนีเซียม เป็นธาตุอาหารรองที่มีความสำคัญมากต่อการเจริญเติบโตของเมล่อน โดยเฉพาะในกระบวนการสังเคราะห์แสง แต่ถ้าให้มากเกินไป จากการใช้ปุ๋ยที่ไม่เหมาะสม เช่น ปุ๋ย AB ที่ไม่สมดุลกับความต้องการของพืช อาจก่อให้เกิด พิษจากแมกนีเซียม ส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตของต้นเมล่อนได้ อาการของเมล่อนที่ได้รับแมกนีเซียมมากเกินไป 1. ใบเหลือง ใบแก่เริ่มเหลืองก่อน ขณะที่ใบอ่อนยังเขียวอยู่ 2. เนื้อใบตาย อาจเกิดจุดสีน้ำตาลหรือดำ และรุนแรงถึงขั้นใบแห้งตาย 3. ต้นแคระแกรน การเจริญเติบโตลดลง ใบมีขนาดเล็กผิดปกติ 4. Chlorosis ใบเหลืองจากการขาดคลอโรฟิลล์ เนื่องจากการดูดซึมธาตุเหล็กผิดปกติ 5.ใบไหม้ ปลายและขอบใบแห้งไหม้ คล้ายอาการขาดน้ำ 6. ใบม้วนงอ ใบบิดเบี้ยวหรือม้วนผิดปกติ 7. การออกดอกลดลง ปริมาณและขนาดของดอกลดลง ส่งผลต่อผลผลิต สิ่งสำคัญ อาการเหล่านี้อาจเกิดจาก ธาตุอาหารไม่สมดุล โรค หรือสภาพแวดล้อมที่เครียด ดังนั้น ควรตรวจสอบต้นเมล่อนให้แน่ชัดก่อนปรับปริมาณธาตุอาหาร หากสงสัยว่าเมล่อนของคุณได้รับแมกนีเซียมมากเกินไป หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการให้ปุ๋ย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Inbox นะครับ ลิตเติ้ลฟาร์ม พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการปลูกเมล่อน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 🌿 #แมกนีเซียม (Mg) กับเมล่อน: สำคัญแค่ไหน และต้องระวังอะไร? 🌱
    #แมกนีเซียม เป็นธาตุอาหารรองที่มีความสำคัญมากต่อการเจริญเติบโตของเมล่อน โดยเฉพาะในกระบวนการสังเคราะห์แสง แต่ถ้าให้มากเกินไป จากการใช้ปุ๋ยที่ไม่เหมาะสม เช่น ปุ๋ย AB ที่ไม่สมดุลกับความต้องการของพืช อาจก่อให้เกิด พิษจากแมกนีเซียม ส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตของต้นเมล่อนได้

    🍈 อาการของเมล่อนที่ได้รับแมกนีเซียมมากเกินไป

    1. #ใบเหลือง 🍃 ใบแก่เริ่มเหลืองก่อน ขณะที่ใบอ่อนยังเขียวอยู่
    2. #เนื้อใบตาย ❌ อาจเกิดจุดสีน้ำตาลหรือดำ และรุนแรงถึงขั้นใบแห้งตาย
    3. #ต้นแคระแกรน 🌱 การเจริญเติบโตลดลง ใบมีขนาดเล็กผิดปกติ
    4. #Chlorosis 🟡 ใบเหลืองจากการขาดคลอโรฟิลล์ เนื่องจากการดูดซึมธาตุเหล็กผิดปกติ
    5. #ใบไหม้ 🔥 ปลายและขอบใบแห้งไหม้ คล้ายอาการขาดน้ำ
    6. #ใบม้วนงอ 🌀 ใบบิดเบี้ยวหรือม้วนผิดปกติ
    7. #การออกดอกลดลง 🌼 ปริมาณและขนาดของดอกลดลง ส่งผลต่อผลผลิต

    📌 #สิ่งสำคัญ! อาการเหล่านี้อาจเกิดจาก ธาตุอาหารไม่สมดุล โรค หรือสภาพแวดล้อมที่เครียด ดังนั้น ควรตรวจสอบต้นเมล่อนให้แน่ชัดก่อนปรับปริมาณธาตุอาหาร

    💬 หากสงสัยว่าเมล่อนของคุณได้รับแมกนีเซียมมากเกินไป หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการให้ปุ๋ย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Inbox นะครับ! 😊✌️

    #ลิตเติ้ลฟาร์ม พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการปลูกเมล่อน 🍈✨
    🌿 #แมกนีเซียม (Mg) กับเมล่อน: สำคัญแค่ไหน และต้องระวังอะไร? 🌱 #แมกนีเซียม เป็นธาตุอาหารรองที่มีความสำคัญมากต่อการเจริญเติบโตของเมล่อน โดยเฉพาะในกระบวนการสังเคราะห์แสง แต่ถ้าให้มากเกินไป จากการใช้ปุ๋ยที่ไม่เหมาะสม เช่น ปุ๋ย AB ที่ไม่สมดุลกับความต้องการของพืช อาจก่อให้เกิด พิษจากแมกนีเซียม ส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตของต้นเมล่อนได้ 🍈 อาการของเมล่อนที่ได้รับแมกนีเซียมมากเกินไป 1. #ใบเหลือง 🍃 ใบแก่เริ่มเหลืองก่อน ขณะที่ใบอ่อนยังเขียวอยู่ 2. #เนื้อใบตาย ❌ อาจเกิดจุดสีน้ำตาลหรือดำ และรุนแรงถึงขั้นใบแห้งตาย 3. #ต้นแคระแกรน 🌱 การเจริญเติบโตลดลง ใบมีขนาดเล็กผิดปกติ 4. #Chlorosis 🟡 ใบเหลืองจากการขาดคลอโรฟิลล์ เนื่องจากการดูดซึมธาตุเหล็กผิดปกติ 5. #ใบไหม้ 🔥 ปลายและขอบใบแห้งไหม้ คล้ายอาการขาดน้ำ 6. #ใบม้วนงอ 🌀 ใบบิดเบี้ยวหรือม้วนผิดปกติ 7. #การออกดอกลดลง 🌼 ปริมาณและขนาดของดอกลดลง ส่งผลต่อผลผลิต 📌 #สิ่งสำคัญ! อาการเหล่านี้อาจเกิดจาก ธาตุอาหารไม่สมดุล โรค หรือสภาพแวดล้อมที่เครียด ดังนั้น ควรตรวจสอบต้นเมล่อนให้แน่ชัดก่อนปรับปริมาณธาตุอาหาร 💬 หากสงสัยว่าเมล่อนของคุณได้รับแมกนีเซียมมากเกินไป หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการให้ปุ๋ย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Inbox นะครับ! 😊✌️ #ลิตเติ้ลฟาร์ม พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการปลูกเมล่อน 🍈✨
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในที่ทำงานส่งผลดีและไม่ดีต่อพนักงานต่างกลุ่มกัน นักวิจัยจาก Stanford University พบว่าพนักงานที่มีทักษะและความสามารถสูงมักจะทำงานได้แย่ลงเมื่อใช้ AI ในการช่วยทำงาน ขณะที่พนักงานที่มีความสามารถน้อยกว่าจะทำงานได้ดีขึ้นและเสร็จงานเร็วขึ้นเมื่อได้รับความช่วยเหลือจาก AI

    การศึกษานี้ยังพบว่าพนักงานที่ใช้ AI จะสามารถแก้ไขปัญหาได้มากขึ้นต่อชั่วโมง แต่คุณภาพของงานที่ทำโดยพนักงานที่มีทักษะสูงจะลดลง อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่ไม่พอใจหรือลูกค้าที่โมโหกลับมีโอกาสน้อยที่จะร้องเรียนเพิ่มเติมเมื่อได้รับการบริการจาก AI แทนที่จะเป็นคนจริง

    หนึ่งในความกังวลเกี่ยวกับ AI คือมันอาจถูกนำมาใช้แทนที่คนงานในหลายงาน และไม่ใช่แค่งานที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เท่านั้น ปี 2024 Morgan Stanley คาดการณ์ว่าการรวม AI กับหุ่นยนต์แบบ "มนุษย์" อาจทำให้คนงานฟาร์มและโรงงานหลายล้านคนต้องตกงานภายในกลางศตวรรษนี้

    นอกจากนี้ ทีมวิจัยจาก University of Oxford กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า AI เช่น ChatGPT อาจทำให้ความต้องการคนทำงานที่มีงานเขียนที่ซ้ำซ้อนน้อยลง แต่จะสร้างงานใหม่ที่ต้องใช้ทักษะที่เสริมกับ AI แทน

    ถึงแม้จะมีความกลัวเกี่ยวกับการสูญเสียงานจำนวนมาก แต่การศึกษานี้เสนอแนวคิดว่าผลกระทบของ AI จะสมดุลมากขึ้นในความเป็นจริง

    นักวิจัยยังกล่าวถึงปัญหาที่เรียกว่า "การหลงผิด" ของ AI ซึ่งหมายถึงการให้คำตอบที่ไม่ถูกต้องหรือไร้สาระตามคำถามที่ส่งเข้ามา แต่ผู้เสนอ AI เชื่อว่าเทคโนโลยีกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและอาจจะทำงานเก่งกว่ามนุษย์ในหลายๆ งานในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

    เป็นเรื่องน่าสนใจว่าในยุคที่ AI กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วนี้ เราควรพิจารณาถึงการปรับตัวและการพัฒนาทักษะใหม่ๆ เพื่อให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกของเรา อย่าลืมว่าการเปลี่ยนแปลงคือโอกาสที่ดีเสมอ!

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/08/ai-helps-some-workers-but-hinders-those-with-skill-know-how---study
    มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในที่ทำงานส่งผลดีและไม่ดีต่อพนักงานต่างกลุ่มกัน นักวิจัยจาก Stanford University พบว่าพนักงานที่มีทักษะและความสามารถสูงมักจะทำงานได้แย่ลงเมื่อใช้ AI ในการช่วยทำงาน ขณะที่พนักงานที่มีความสามารถน้อยกว่าจะทำงานได้ดีขึ้นและเสร็จงานเร็วขึ้นเมื่อได้รับความช่วยเหลือจาก AI การศึกษานี้ยังพบว่าพนักงานที่ใช้ AI จะสามารถแก้ไขปัญหาได้มากขึ้นต่อชั่วโมง แต่คุณภาพของงานที่ทำโดยพนักงานที่มีทักษะสูงจะลดลง อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่ไม่พอใจหรือลูกค้าที่โมโหกลับมีโอกาสน้อยที่จะร้องเรียนเพิ่มเติมเมื่อได้รับการบริการจาก AI แทนที่จะเป็นคนจริง หนึ่งในความกังวลเกี่ยวกับ AI คือมันอาจถูกนำมาใช้แทนที่คนงานในหลายงาน และไม่ใช่แค่งานที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เท่านั้น ปี 2024 Morgan Stanley คาดการณ์ว่าการรวม AI กับหุ่นยนต์แบบ "มนุษย์" อาจทำให้คนงานฟาร์มและโรงงานหลายล้านคนต้องตกงานภายในกลางศตวรรษนี้ นอกจากนี้ ทีมวิจัยจาก University of Oxford กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า AI เช่น ChatGPT อาจทำให้ความต้องการคนทำงานที่มีงานเขียนที่ซ้ำซ้อนน้อยลง แต่จะสร้างงานใหม่ที่ต้องใช้ทักษะที่เสริมกับ AI แทน ถึงแม้จะมีความกลัวเกี่ยวกับการสูญเสียงานจำนวนมาก แต่การศึกษานี้เสนอแนวคิดว่าผลกระทบของ AI จะสมดุลมากขึ้นในความเป็นจริง นักวิจัยยังกล่าวถึงปัญหาที่เรียกว่า "การหลงผิด" ของ AI ซึ่งหมายถึงการให้คำตอบที่ไม่ถูกต้องหรือไร้สาระตามคำถามที่ส่งเข้ามา แต่ผู้เสนอ AI เชื่อว่าเทคโนโลยีกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและอาจจะทำงานเก่งกว่ามนุษย์ในหลายๆ งานในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เป็นเรื่องน่าสนใจว่าในยุคที่ AI กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วนี้ เราควรพิจารณาถึงการปรับตัวและการพัฒนาทักษะใหม่ๆ เพื่อให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกของเรา อย่าลืมว่าการเปลี่ยนแปลงคือโอกาสที่ดีเสมอ! https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/08/ai-helps-some-workers-but-hinders-those-with-skill-know-how---study
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI helps some workers but hinders those with skill, know-how – study
    Experienced and productive employees who use artificial intelligence (AI) on the job often end up diminishing the quality of their work, according to researchers at Stanford University.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • มุกดาหาร- จัดมหกรรมประกวดควายไทยลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 2 ชิงถ้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์พัฒนาพันธุ์ควายไทย กระตุ้นการท่องเที่ยว ส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร เผยมีควายไทยจากทั่วประเทศเข้าร่วมงานกว่า 200 ฟาร์ม

    วันนี้(8 ก.พ.)เวลา 11.00 น. ณ ลานข้างไทวัสดุ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน มหกรรมประกวดควายไทยลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 2 พร้อมด้วย นายไกร เอี่ยมจุฬา รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิริยะ ทองผา สส.เขต 1 จังหวัดมุกดาหาร นายวีระพงษ์ ทองผา ว่าที่ นายก อบจ. มุกดาหาร นายกสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทยฯลฯ การจัดงานครั้งนี้มีเจ้าของฟาร์มควายไทย 200 ฟาร์ม และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมกว่า 500 คน

    นายยิ่งคุณ ประจันทอน ผู้อำนวยการเลี้ยงสัตว์พระราชทาน ( แมน มณีวรรณ นักร้องลูกทุ่ง ) เปิดเผยว่า กระบือหรือควาย เป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่คู่กับเกษตรกรไทยมาอย่างยาวนาน โดยใช้เป็นพาหนะ และใช้แรงงานในการทำการเกษตร แต่ในปัจจุบันการเลี้ยงกระบือได้ลดความสำคัญลง เนื่องจากเกษตรกรนิยมนำเครื่องจักรกลมาใช้ในการทำการเกษตรแทนกระบือ แต่ก็นำมาซึ่งต้นทุนในการผลิตที่สูงขึ้นจึงมีความจำเป็นต้องส่งเสริม อนุรักษ์ และพัฒนาพันธุ์ควายไทย ให้คงอยู่คู่กับสังคมการเกษตรของไทย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000012867

    #MGROnline #มหกรรมประกวดควายไทยลุ่มน้ำโขง
    มุกดาหาร- จัดมหกรรมประกวดควายไทยลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 2 ชิงถ้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์พัฒนาพันธุ์ควายไทย กระตุ้นการท่องเที่ยว ส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร เผยมีควายไทยจากทั่วประเทศเข้าร่วมงานกว่า 200 ฟาร์ม • วันนี้(8 ก.พ.)เวลา 11.00 น. ณ ลานข้างไทวัสดุ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน มหกรรมประกวดควายไทยลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 2 พร้อมด้วย นายไกร เอี่ยมจุฬา รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิริยะ ทองผา สส.เขต 1 จังหวัดมุกดาหาร นายวีระพงษ์ ทองผา ว่าที่ นายก อบจ. มุกดาหาร นายกสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทยฯลฯ การจัดงานครั้งนี้มีเจ้าของฟาร์มควายไทย 200 ฟาร์ม และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมกว่า 500 คน • นายยิ่งคุณ ประจันทอน ผู้อำนวยการเลี้ยงสัตว์พระราชทาน ( แมน มณีวรรณ นักร้องลูกทุ่ง ) เปิดเผยว่า กระบือหรือควาย เป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่คู่กับเกษตรกรไทยมาอย่างยาวนาน โดยใช้เป็นพาหนะ และใช้แรงงานในการทำการเกษตร แต่ในปัจจุบันการเลี้ยงกระบือได้ลดความสำคัญลง เนื่องจากเกษตรกรนิยมนำเครื่องจักรกลมาใช้ในการทำการเกษตรแทนกระบือ แต่ก็นำมาซึ่งต้นทุนในการผลิตที่สูงขึ้นจึงมีความจำเป็นต้องส่งเสริม อนุรักษ์ และพัฒนาพันธุ์ควายไทย ให้คงอยู่คู่กับสังคมการเกษตรของไทย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000012867 • #MGROnline #มหกรรมประกวดควายไทยลุ่มน้ำโขง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥แอฟริกาใต้💥 โจฮันเนสเบิร์ก - พริทอเรีย - Union Building - Game Drive - สวนเสือ - ห้าง Mall of Africa - ช้อปปิ้ง - ลิ้มรสบาร์บีคิวเนื้อสัตว์ - เคปทาวน์ - Table Mountain - ฟาร์มนกกระจอกเทศ - ชมไร่ไวน์กรูทคอนสแตนเทีย - วิคตอเรีย แอนด์ อัลเฟรด วอเตอร์ฟร้อนท์ - ล่องเรือชมแมวน้ำ - ถนน Chapman’s Peak - ชมฝูงนกเพนกวิน - ไซมอนทาวน์ - แหลมกู๊ดโฮป

    📍 ช่วงวันเดินทาง : 6-13 เม.ย.68 / 18-25 พ.ค.68 / 8-15 มิ.ย.68
    ⭕️ราคาเริ่มต้น : 95,900
    📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับมาตรฐาน
    📢 รหัสทัวร์ : A09881
    🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️
    ✈️ สายการบิน : SQ-สิงคโปร์แอร์ไลน์

    ✔️Travel License: 11/11450
    ✔️โอนบัญชีชื่อ บริษัท วีอาร์ เอเจนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด เท่านั้น

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/ee1ba1

    ดูทัวร์แอฟริกาใต้ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/681410

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์แอฟริกาใต้ #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์โปรไฟไหม้ #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ที่หลุด #ท่องเที่ยว #เที่ยว #ทัวร์ทั่วโลก #linetoday #linetimeline #linevoom #line #etravelway #ทัวร์ยุโรป #ทัวร์พรีเมี่ยม #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ถูก #ทัวร์คุณภาพ #ทัวร์สุดคุ้ม #แพคเกจทัวร์ต่างประเทศ #กรุ๊ปเหมา
    💥แอฟริกาใต้💥 โจฮันเนสเบิร์ก - พริทอเรีย - Union Building - Game Drive - สวนเสือ - ห้าง Mall of Africa - ช้อปปิ้ง - ลิ้มรสบาร์บีคิวเนื้อสัตว์ - เคปทาวน์ - Table Mountain - ฟาร์มนกกระจอกเทศ - ชมไร่ไวน์กรูทคอนสแตนเทีย - วิคตอเรีย แอนด์ อัลเฟรด วอเตอร์ฟร้อนท์ - ล่องเรือชมแมวน้ำ - ถนน Chapman’s Peak - ชมฝูงนกเพนกวิน - ไซมอนทาวน์ - แหลมกู๊ดโฮป 📍 ช่วงวันเดินทาง : 6-13 เม.ย.68 / 18-25 พ.ค.68 / 8-15 มิ.ย.68 ⭕️ราคาเริ่มต้น : 95,900 📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับมาตรฐาน 📢 รหัสทัวร์ : A09881 🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️ ✈️ สายการบิน : SQ-สิงคโปร์แอร์ไลน์ ✔️Travel License: 11/11450 ✔️โอนบัญชีชื่อ บริษัท วีอาร์ เอเจนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด เท่านั้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/ee1ba1 ดูทัวร์แอฟริกาใต้ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/681410 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์แอฟริกาใต้ #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์โปรไฟไหม้ #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ที่หลุด #ท่องเที่ยว #เที่ยว #ทัวร์ทั่วโลก #linetoday #linetimeline #linevoom #line #etravelway #ทัวร์ยุโรป #ทัวร์พรีเมี่ยม #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ถูก #ทัวร์คุณภาพ #ทัวร์สุดคุ้ม #แพคเกจทัวร์ต่างประเทศ #กรุ๊ปเหมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เลื่อนมาตรการรีดภาษีที่กำหนดเล่นงานเม็กซิโกออกไป 1 เดือน หลังในวันจันทร์ (3 ก.พ.) เม็กซิโก ตอบตกลงเสริมกำลังตามแนวชายแดนทางเหนือของประเทศ ด้วยสมาชิกกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ 10,000 นาย เพื่อสกัดการไหลบ่าเข้ามาของยาเสพติดผิดกฎหมาย
    .
    ข้อตกลงนี้ยังรวมไปถึงคำมั่นสัญญาของสหรัฐฯ ที่รับปากว่าจะขัดขวางการลักลอบขนอาวุธอานุภาพสูงเข้าไปยังเม็กซิโก จากการเปิดเผยของเคลาเดีย ไชน์บาว์ม ประธานาธิบดีเม็กซิโก ที่โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ หลังจากผู้นำทั้ง 2 ชาติ พูดคุยหารือกันทางโทรศัพท์ในวันจันทร์ (3 ก.พ.) ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าที่มาตรการรีดภาษีของอเมริกาที่กำหนดเล่นงานเม็กซิโก จีนและแคนาดา จะมีผลบังคับใช้ ในความเคลื่อนไหวที่พวกนักเศรษฐศาสตร์มองว่าจะก่อความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจในวงกว้าง ในนั้นรวมถึงราคาสินค้าที่เพงขึ้นสำหรับภาคธุรกิจและพวกผู้บริโภคอเมริกา
    .
    ทรัมป์ เขียนบนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง ระบุว่าสหรัฐฯ และเม็กซิโก จะใช้ช่วงเวลาแห่งการระงับ 1 เดือน ในการประสานงานเจรจาเพิ่มเติม "ผมตั้งตาคอยมีส่วนร่วมในการเจรจาเหล่านี้กับประธานาธิบดีไชน์บาว์ม ในขณะที่เราพยายามบรรลุข้อตกลงระหว่าง 2 ประเทศ" ส่วนไชน์บาว์ม กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่า "เรามีเวลาในเดือนนี้ ที่จะทำงานและโน้มน้าวกันและกัน นี่คือหนทางที่ดีที่สุดในการเดินหน้า"
    .
    ข้อตกลงนี้มีขึ้นไม่ถึง 48 ชั่วโมง หลังจาก ทรัมป์ แถลงจะรีดภาษีอย่างครอบคลุมสินค้าต่างๆ จาก 3 ชาติคู่หูทางการค้าลำดับต้นของสหรัฐฯ มีมูลค่ารวมกันกว่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี ในขณะที่ข้อตกลงช่วยคลายแรงกดดันแก่เม็กซิโกในเบื้องต้น แต่แนวโน้มการบรรเทาโทษให้แคนาดาและจีน ดูเหมือนจะเลือนราง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชาติเพื่อนบ้านทางเหนือของอเมริกา ที่ทรัมป์และคณะทำงานของเขายังคงส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่ลดละ
    .
    "เราไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีนักจากแคนาดา และเราจำเป็นต้องทำแบบนั้นเช่นกัน" ทรัมป์ กล่าวระหว่างลงนามในคำสั่งบริหารที่ทำเนียบขาว
    .
    ทรัมป์ เปิดเผยในวันจันทร์ (3 ก.พ.) ว่าได้พูดคุยกับ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาและจะมีการหารือกันอีกรอบในตอนบ่าย (ตามเวลาท้องถิ่น) อย่างไรก็ตาม มาตรการรีดภาษีเล่นงานแคนาดาและจีน ยังคงมีแนวโน้มเริ่มขึ้นตอน 00.01 น.ของวันอังคาร (ราว 12.01 น.ของวันพุธ ตามเวลาในเมืองไทย) และแคนาดา ได้แถลงมาตรการรีดภาษีตอบโต้ออกมาแล้ว
    .
    ระหว่างกล่าวในวอชิงตันเมื่อวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) ทรัมป์ บ่งชี้ว่าสหภาพยุโรป ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 27 ชาติ อาจเป็นเป้าหมายต่อไปของเขา แต่ไม่ได้บอกว่าเมื่อไหร่ "พวกเขาไม่ยอมรับรถของเรา พวกเขาไม่ยอมรับผลิตภัณฑ์ฟาร์มของเรา พวกเขาแทบไม่เปิดรับอะไรเลย ผิดกับเราที่อ้าแขนรับทุกๆ อย่างจากพวกเขา" ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว
    .
    บรรดาผู้นำยุโรป ณ ที่ประชุมซัมมิตอย่างไม่เป็นทางการในบรัสเซลส์ แสดงความเห็นในวันจันทร์ (3 ก.พ.) ว่ายุโรปจะเตรียมพร้อมสำหรับตอบโต้กลับ หากว่าสหรัฐฯ กำหนดมาตรการรีดภาษีเล่นงานพวกเขา แต่ก็เรียกร้องขอความมีเหตุมีผลและการเจรจาตกลงกัน
    .
    อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ แย้มว่าสหราชอาณาจักร ซึ่งถอนตัวออกจากอียูในปี 2020 อาจรอดพ้นจากมาตรการรีดภาษี
    .
    สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าและคู่หูด้านการลงทุนรายใหญ่ที่สุดของอียู อ้างอิงข้อมูลจากยูโรสแตท พบว่าปี 2023 สำหรัฐฯ ขาดดุลการค้าอียู 155,800 ล้านยูโร ในการค้าขายสินค้าระหว่างกัน แต่ก็ชดเชยด้วยการเกินดุลการค้า 104,000 ล้านยูโร ในด้านการบริการ
    .
    พวกนักเศรษฐศาสตร์มองว่าแผนรีดภาษีเม็กซิโกและแคนาดา 25% และจีน 10% ของทรัมป์ จะชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและผลักให้ราคาข้าวของแพงขึ้นสำหรับชาวอเมริกา
    .
    สภาหอการค้านานาชาติ ประเมินว่ามาตรการรีดภาษีจะนำให้การส่งออกของเม็กซิโกลดลง 10% และกระทบจีดีพีของประเทศแห่งนี้ราว 4% ใน 1 ปี ส่วนมาตรการรีดภาษีแคนาดา จะทำให้จีดีพีของประเทศแห่งนี้ลดลง 2.6%
    .
    ทรัมป์ ยอมรับเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ว่า การรีดภาษีอาจก่อความเจ็บปวดในระยะสั้นแก่บรรดาผู้บริโภคสหรัฐฯ แต่กระนั้นก็อ้างว่ามาตรการรีดภาษีเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อจำกัดคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย และการลักลอบขนยาเสพติด รวมถึงกระตุ้นอุตสาหกรรมภายในประเทศ
    .
    นักวิเคราะห์คนอื่นๆ มองว่ามาตรการรีดภาษีอาจผลักให้แคนาดาและเม็กซิโก เข้าสู่ภาวะถดถอยและโหมกระพือภาวะ Stagflation (สภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่เงินเฟ้อกลับพุ่ง และคนว่างงานสูงลิ่ว) ภายในประเทศ ส่วนในยุโรป พวกนักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่ามาตรการของทรัมป์ ที่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10% กับสินค้านำเข้าจากอียู จะกระทบกับจีดีพีของกลุ่มราว 0.5%
    .
    ทำเนียบขาวไม่ได้ระบุรายละเอียดอย่างเจาะจงว่าก้าวย่างใดบ้างที่จะช่วยแคนาดาและจีน รอดพ้นจากการรีดภาษี ในขณะที่ ทรัมป์ ประกาศกร้าว่าจะยังคงเดินหน้าบังคับใช้มาตรการนี้ไปจนกว่าสิ่งที่เขาเรียกว่า "สถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ" เกี่ยวกับยาเฟนทานิลและคนเข้าเมืองผิดกฎหมายที่ไหลบ่าเข้าสู่สหรัฐฯ จะยุติลง
    .
    จีน เรียกปัญหายาเฟนทานิลว่าเป็นปัญหาของอเมริกาเอง และบอกว่าจะยื่นคัดค้านมาตรการรีดภาษี ณ องค์การการค้าโลกและใช้มาตรการอื่นๆ ตอบโต้ แต่ก็เปิดกว้างสำหรับการเจรจาเช่นกัน ส่วนแคนาดาบอกว่าจะดำเนินการทางกฎหมายภายใต้องค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อคัดค้านมาตรการรีดภาษีของทรัมป์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011137
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เลื่อนมาตรการรีดภาษีที่กำหนดเล่นงานเม็กซิโกออกไป 1 เดือน หลังในวันจันทร์ (3 ก.พ.) เม็กซิโก ตอบตกลงเสริมกำลังตามแนวชายแดนทางเหนือของประเทศ ด้วยสมาชิกกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ 10,000 นาย เพื่อสกัดการไหลบ่าเข้ามาของยาเสพติดผิดกฎหมาย . ข้อตกลงนี้ยังรวมไปถึงคำมั่นสัญญาของสหรัฐฯ ที่รับปากว่าจะขัดขวางการลักลอบขนอาวุธอานุภาพสูงเข้าไปยังเม็กซิโก จากการเปิดเผยของเคลาเดีย ไชน์บาว์ม ประธานาธิบดีเม็กซิโก ที่โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ หลังจากผู้นำทั้ง 2 ชาติ พูดคุยหารือกันทางโทรศัพท์ในวันจันทร์ (3 ก.พ.) ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าที่มาตรการรีดภาษีของอเมริกาที่กำหนดเล่นงานเม็กซิโก จีนและแคนาดา จะมีผลบังคับใช้ ในความเคลื่อนไหวที่พวกนักเศรษฐศาสตร์มองว่าจะก่อความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจในวงกว้าง ในนั้นรวมถึงราคาสินค้าที่เพงขึ้นสำหรับภาคธุรกิจและพวกผู้บริโภคอเมริกา . ทรัมป์ เขียนบนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง ระบุว่าสหรัฐฯ และเม็กซิโก จะใช้ช่วงเวลาแห่งการระงับ 1 เดือน ในการประสานงานเจรจาเพิ่มเติม "ผมตั้งตาคอยมีส่วนร่วมในการเจรจาเหล่านี้กับประธานาธิบดีไชน์บาว์ม ในขณะที่เราพยายามบรรลุข้อตกลงระหว่าง 2 ประเทศ" ส่วนไชน์บาว์ม กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่า "เรามีเวลาในเดือนนี้ ที่จะทำงานและโน้มน้าวกันและกัน นี่คือหนทางที่ดีที่สุดในการเดินหน้า" . ข้อตกลงนี้มีขึ้นไม่ถึง 48 ชั่วโมง หลังจาก ทรัมป์ แถลงจะรีดภาษีอย่างครอบคลุมสินค้าต่างๆ จาก 3 ชาติคู่หูทางการค้าลำดับต้นของสหรัฐฯ มีมูลค่ารวมกันกว่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี ในขณะที่ข้อตกลงช่วยคลายแรงกดดันแก่เม็กซิโกในเบื้องต้น แต่แนวโน้มการบรรเทาโทษให้แคนาดาและจีน ดูเหมือนจะเลือนราง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชาติเพื่อนบ้านทางเหนือของอเมริกา ที่ทรัมป์และคณะทำงานของเขายังคงส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่ลดละ . "เราไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีนักจากแคนาดา และเราจำเป็นต้องทำแบบนั้นเช่นกัน" ทรัมป์ กล่าวระหว่างลงนามในคำสั่งบริหารที่ทำเนียบขาว . ทรัมป์ เปิดเผยในวันจันทร์ (3 ก.พ.) ว่าได้พูดคุยกับ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาและจะมีการหารือกันอีกรอบในตอนบ่าย (ตามเวลาท้องถิ่น) อย่างไรก็ตาม มาตรการรีดภาษีเล่นงานแคนาดาและจีน ยังคงมีแนวโน้มเริ่มขึ้นตอน 00.01 น.ของวันอังคาร (ราว 12.01 น.ของวันพุธ ตามเวลาในเมืองไทย) และแคนาดา ได้แถลงมาตรการรีดภาษีตอบโต้ออกมาแล้ว . ระหว่างกล่าวในวอชิงตันเมื่อวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) ทรัมป์ บ่งชี้ว่าสหภาพยุโรป ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 27 ชาติ อาจเป็นเป้าหมายต่อไปของเขา แต่ไม่ได้บอกว่าเมื่อไหร่ "พวกเขาไม่ยอมรับรถของเรา พวกเขาไม่ยอมรับผลิตภัณฑ์ฟาร์มของเรา พวกเขาแทบไม่เปิดรับอะไรเลย ผิดกับเราที่อ้าแขนรับทุกๆ อย่างจากพวกเขา" ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว . บรรดาผู้นำยุโรป ณ ที่ประชุมซัมมิตอย่างไม่เป็นทางการในบรัสเซลส์ แสดงความเห็นในวันจันทร์ (3 ก.พ.) ว่ายุโรปจะเตรียมพร้อมสำหรับตอบโต้กลับ หากว่าสหรัฐฯ กำหนดมาตรการรีดภาษีเล่นงานพวกเขา แต่ก็เรียกร้องขอความมีเหตุมีผลและการเจรจาตกลงกัน . อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ แย้มว่าสหราชอาณาจักร ซึ่งถอนตัวออกจากอียูในปี 2020 อาจรอดพ้นจากมาตรการรีดภาษี . สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าและคู่หูด้านการลงทุนรายใหญ่ที่สุดของอียู อ้างอิงข้อมูลจากยูโรสแตท พบว่าปี 2023 สำหรัฐฯ ขาดดุลการค้าอียู 155,800 ล้านยูโร ในการค้าขายสินค้าระหว่างกัน แต่ก็ชดเชยด้วยการเกินดุลการค้า 104,000 ล้านยูโร ในด้านการบริการ . พวกนักเศรษฐศาสตร์มองว่าแผนรีดภาษีเม็กซิโกและแคนาดา 25% และจีน 10% ของทรัมป์ จะชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและผลักให้ราคาข้าวของแพงขึ้นสำหรับชาวอเมริกา . สภาหอการค้านานาชาติ ประเมินว่ามาตรการรีดภาษีจะนำให้การส่งออกของเม็กซิโกลดลง 10% และกระทบจีดีพีของประเทศแห่งนี้ราว 4% ใน 1 ปี ส่วนมาตรการรีดภาษีแคนาดา จะทำให้จีดีพีของประเทศแห่งนี้ลดลง 2.6% . ทรัมป์ ยอมรับเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ว่า การรีดภาษีอาจก่อความเจ็บปวดในระยะสั้นแก่บรรดาผู้บริโภคสหรัฐฯ แต่กระนั้นก็อ้างว่ามาตรการรีดภาษีเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อจำกัดคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย และการลักลอบขนยาเสพติด รวมถึงกระตุ้นอุตสาหกรรมภายในประเทศ . นักวิเคราะห์คนอื่นๆ มองว่ามาตรการรีดภาษีอาจผลักให้แคนาดาและเม็กซิโก เข้าสู่ภาวะถดถอยและโหมกระพือภาวะ Stagflation (สภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่เงินเฟ้อกลับพุ่ง และคนว่างงานสูงลิ่ว) ภายในประเทศ ส่วนในยุโรป พวกนักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่ามาตรการของทรัมป์ ที่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10% กับสินค้านำเข้าจากอียู จะกระทบกับจีดีพีของกลุ่มราว 0.5% . ทำเนียบขาวไม่ได้ระบุรายละเอียดอย่างเจาะจงว่าก้าวย่างใดบ้างที่จะช่วยแคนาดาและจีน รอดพ้นจากการรีดภาษี ในขณะที่ ทรัมป์ ประกาศกร้าว่าจะยังคงเดินหน้าบังคับใช้มาตรการนี้ไปจนกว่าสิ่งที่เขาเรียกว่า "สถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ" เกี่ยวกับยาเฟนทานิลและคนเข้าเมืองผิดกฎหมายที่ไหลบ่าเข้าสู่สหรัฐฯ จะยุติลง . จีน เรียกปัญหายาเฟนทานิลว่าเป็นปัญหาของอเมริกาเอง และบอกว่าจะยื่นคัดค้านมาตรการรีดภาษี ณ องค์การการค้าโลกและใช้มาตรการอื่นๆ ตอบโต้ แต่ก็เปิดกว้างสำหรับการเจรจาเช่นกัน ส่วนแคนาดาบอกว่าจะดำเนินการทางกฎหมายภายใต้องค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อคัดค้านมาตรการรีดภาษีของทรัมป์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011137 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1267 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ปลูกเมล่อนในถุง vs #ปลูกลงดิน วิธีไหนดีกว่ากัน? 🍈🌱
    คำตอบคือ...ขึ้นอยู่กับการจัดการของคุณ!
    ไม่ว่าจะปลูกแบบไหนก็ได้ผลผลิตดีถ้า วางแผนการปลูก+ดูแลอย่างถูกต้อง✅

    🆚 เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย

    🌟 #ปลูกในถุง
    ✅ ข้อดี
    - ควบคุมวัสดุปลูก-ธาตุอาหารได้แม่นยำ
    - ระบายน้ำดี ลดปัญหารากเน่า 💧
    - จัดตำแหน่งรับแสงแดดง่าย ☀️
    - ใช้พื้นที่น้อย เหมาะกับสวนหลังบ้าน
    ❌ ข้อเสีย
    - ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง (ถุงปลูก+วัสดุเพาะ)
    - ต้องรดน้ำ-ให้ปุ๋ยบ่อยกว่า
    - ย้ายถุงลำบาก ถ้าต้องการขยับตำแหน่ง

    🌟 #ปลูกลงดิน
    ✅ ข้อดี
    - ต้นทุนต่ำ ไม่ต้องซื้อถุงปลูก
    - ดินอุ้มน้ำ-ธาตุอาหารได้นาน 🌧️
    - เหมาะกับพื้นที่กว้าง ปลูกจำนวนมาก
    ❌ ข้อเสีย
    - ควบคุมคุณภาพดินยาก
    - เสี่ยงโรคสะสม-แมลงในดิน 🐛
    - ต้องปรับสภาพดินก่อนปลูก

    🌟 #เคล็ดลับเพิ่มประสิทธิภาพการปลูก
    - ถุงปลูก 7x13 นิ้ว (สีขาวนอก-ดำใน) 👉 แช่วัสดุปลูกก่อนเจาะรูระบายน้ำทีหลัง สะดวกในการเตรียมแช่วัสดุปลูก
    - ปุ๋ยAB Fertilizer + ธาตุอาหารรอง
    👉 สูตรเฉพาะเร่งโตทุกช่วงวัย
    - ไตรโคบิวพลัส 👉 ป้องกันโรคเชื้อรา-แมลงแบบชีวภาพ

    💡 #ทำไมถุงปลูกของเราถึงปัง?
    ✅ ขนาด 7x13 นิ้วกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกิน
    ✅ สีดำด้านใน ช่วยเก็บความชื้น + กระตุ้นราก
    ✅ ราคาใบละ 5 บาทคุ้มค่าสำหรับมือใหม่-มือโปร อายุใช้งานประมาณ 1 ปีเมื่อถุงเสื่อมสภาพขาด ให้เปลี่ยนวัสดุปลูกพร้อมถุงปลูกเลย

    ---
    **#ลิตเติ้ลฟาร์ม** พร้อมสนับสนุนทุกสไตล์การปลูก!
    ✅ ถุงปลูกคุณภาพ
    ✅ ปุ๋ย AB สูตรเข้มข้น
    ✅ ไตรโคบิวพลัส ปลอดภัย 100%
    ✅ เมล็ดพันธุ์เมล่อนญี่ปุ่นแท้

    📩 ปรึกษาฟรี!
    Inbox หรือโทร **093-696-2691** (คุณศักรพี)

    #ปลูกเมล่อน #เมล่อนในถุง #เกษตรเมืองร้อน #ลิตเติ้ลฟาร์ม
    ✨ "เลือกวิธีปลูกให้เหมาะกับพื้นที่...ผลผลิตดีมีอยู่จริง!" ✨

    (ภาพประกอบ: ตัวอย่างการปลูกเมล่อนในถุง 7x13 นิ้ว ที่อ.ฉวาง และอ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช)
    #ปลูกเมล่อนในถุง vs #ปลูกลงดิน วิธีไหนดีกว่ากัน? 🍈🌱 คำตอบคือ...ขึ้นอยู่กับการจัดการของคุณ! ไม่ว่าจะปลูกแบบไหนก็ได้ผลผลิตดีถ้า วางแผนการปลูก+ดูแลอย่างถูกต้อง✅ 🆚 เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย 🌟 #ปลูกในถุง ✅ ข้อดี - ควบคุมวัสดุปลูก-ธาตุอาหารได้แม่นยำ - ระบายน้ำดี ลดปัญหารากเน่า 💧 - จัดตำแหน่งรับแสงแดดง่าย ☀️ - ใช้พื้นที่น้อย เหมาะกับสวนหลังบ้าน ❌ ข้อเสีย - ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง (ถุงปลูก+วัสดุเพาะ) - ต้องรดน้ำ-ให้ปุ๋ยบ่อยกว่า - ย้ายถุงลำบาก ถ้าต้องการขยับตำแหน่ง 🌟 #ปลูกลงดิน ✅ ข้อดี - ต้นทุนต่ำ ไม่ต้องซื้อถุงปลูก - ดินอุ้มน้ำ-ธาตุอาหารได้นาน 🌧️ - เหมาะกับพื้นที่กว้าง ปลูกจำนวนมาก ❌ ข้อเสีย - ควบคุมคุณภาพดินยาก - เสี่ยงโรคสะสม-แมลงในดิน 🐛 - ต้องปรับสภาพดินก่อนปลูก 🌟 #เคล็ดลับเพิ่มประสิทธิภาพการปลูก - ถุงปลูก 7x13 นิ้ว (สีขาวนอก-ดำใน) 👉 แช่วัสดุปลูกก่อนเจาะรูระบายน้ำทีหลัง สะดวกในการเตรียมแช่วัสดุปลูก - ปุ๋ยAB Fertilizer + ธาตุอาหารรอง 👉 สูตรเฉพาะเร่งโตทุกช่วงวัย - ไตรโคบิวพลัส 👉 ป้องกันโรคเชื้อรา-แมลงแบบชีวภาพ 💡 #ทำไมถุงปลูกของเราถึงปัง? ✅ ขนาด 7x13 นิ้วกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกิน ✅ สีดำด้านใน ช่วยเก็บความชื้น + กระตุ้นราก ✅ ราคาใบละ 5 บาทคุ้มค่าสำหรับมือใหม่-มือโปร อายุใช้งานประมาณ 1 ปีเมื่อถุงเสื่อมสภาพขาด ให้เปลี่ยนวัสดุปลูกพร้อมถุงปลูกเลย --- **#ลิตเติ้ลฟาร์ม** พร้อมสนับสนุนทุกสไตล์การปลูก! ✅ ถุงปลูกคุณภาพ ✅ ปุ๋ย AB สูตรเข้มข้น ✅ ไตรโคบิวพลัส ปลอดภัย 100% ✅ เมล็ดพันธุ์เมล่อนญี่ปุ่นแท้ 📩 ปรึกษาฟรี! Inbox หรือโทร **093-696-2691** (คุณศักรพี) #ปลูกเมล่อน #เมล่อนในถุง #เกษตรเมืองร้อน #ลิตเติ้ลฟาร์ม ✨ "เลือกวิธีปลูกให้เหมาะกับพื้นที่...ผลผลิตดีมีอยู่จริง!" ✨ (ภาพประกอบ: ตัวอย่างการปลูกเมล่อนในถุง 7x13 นิ้ว ที่อ.ฉวาง และอ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เคล็ดลับให้ปุ๋ยเมล่อนหลังย้ายกล้า ให้โตเร็ว-แข็งแรง 🌱🍈
    หลังย้ายต้นกล้าเมล่อนจากพีทมอส (ที่มีธาตุอาหารเพียง 7-10 วัน) ลงถุงปลูก ต้องรีบให้ปุ๋ย AB ทันที! พร้อมส่องเทคนิคขั้นตอนให้ปุ๋ยแบบมืออาชีพ 👇

    ### 3 ขั้นตอนให้ปุ๋ยหลังย้ายกล้า ⏳
    1️⃣ **วัน 1-3**: เริ่มด้วยปุ๋ย AB ความเข้มข้นอ่อนปรับตัวต้นกล้าไม่ช็อก
    2️⃣ **วัน 4 เป็นต้นไป**: เพิ่มความเข้มข้นปุ๋ยตามช่วงวัย
    3️⃣ **วัน 5+**: พ่น **ธาตุอาหารรอง-อาหารเสริมทางใบ** ช่วงเช้าตรู่ ☀️ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงสมบูรณ์

    ### 4 ข้อควรรู้สำหรับมือใหม่❗
    - 💧 **น้ำต้องพอดี** – อย่าให้แฉะหรือแห้งเกิน
    - ⏰ **เวลาพ่นทางใบ** – เช้าเร็วแดดอ่อน หลีกเลี่ยงแดดจัด
    - 📏 **อัตราปุ๋ย** – ใช้ตามคำแนะนำบนผลิตภัณฑ์
    - 🛡️ **ป้องกันเชื้อรา** – หลังเด็ดแขนง/ตัดใบ ต้องพ่น #ไตรโคบิวพลัส

    ### #ลิตเติ้ลฟาร์ม สนับสนุนเกษตรกรทุกรอบการปลูก 🌱
    ✅ ปุ๋ย AB สูตรเฉพาะเมล่อน (เร่งราก-ใบ-ผล)
    ✅ ธาตุอาหารรอง-อาหารเสริมทางใบ
    ✅ ไตรโคบิวพลัส ป้องกันโรค-แมลงแบบชีวภาพ
    ✅ เมล็ดพันธุ์คุณภาพสูง

    📞 **ปรึกษาปัญหาการปลูกฟรี!**
    Inbox หรือโทร **093-696-2691** (คุณศักรพี)

    #ปลูกเมล่อน #ปุ๋ยABเมล่อน #ไตรโคบิวพลัส #ลิตเติ้ลฟาร์ม
    ---
    **✨ ปลูกเมล่อนให้หวานกรอบ...ต้องเริ่มจากปุ๋ยดีและเทคนิคถูกวิธี ✨**
    #เคล็ดลับให้ปุ๋ยเมล่อนหลังย้ายกล้า ให้โตเร็ว-แข็งแรง 🌱🍈 หลังย้ายต้นกล้าเมล่อนจากพีทมอส (ที่มีธาตุอาหารเพียง 7-10 วัน) ลงถุงปลูก ต้องรีบให้ปุ๋ย AB ทันที! พร้อมส่องเทคนิคขั้นตอนให้ปุ๋ยแบบมืออาชีพ 👇 ### 3 ขั้นตอนให้ปุ๋ยหลังย้ายกล้า ⏳ 1️⃣ **วัน 1-3**: เริ่มด้วยปุ๋ย AB ความเข้มข้นอ่อนปรับตัวต้นกล้าไม่ช็อก 2️⃣ **วัน 4 เป็นต้นไป**: เพิ่มความเข้มข้นปุ๋ยตามช่วงวัย 3️⃣ **วัน 5+**: พ่น **ธาตุอาหารรอง-อาหารเสริมทางใบ** ช่วงเช้าตรู่ ☀️ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงสมบูรณ์ ### 4 ข้อควรรู้สำหรับมือใหม่❗ - 💧 **น้ำต้องพอดี** – อย่าให้แฉะหรือแห้งเกิน - ⏰ **เวลาพ่นทางใบ** – เช้าเร็วแดดอ่อน หลีกเลี่ยงแดดจัด - 📏 **อัตราปุ๋ย** – ใช้ตามคำแนะนำบนผลิตภัณฑ์ - 🛡️ **ป้องกันเชื้อรา** – หลังเด็ดแขนง/ตัดใบ ต้องพ่น #ไตรโคบิวพลัส ### #ลิตเติ้ลฟาร์ม สนับสนุนเกษตรกรทุกรอบการปลูก 🌱 ✅ ปุ๋ย AB สูตรเฉพาะเมล่อน (เร่งราก-ใบ-ผล) ✅ ธาตุอาหารรอง-อาหารเสริมทางใบ ✅ ไตรโคบิวพลัส ป้องกันโรค-แมลงแบบชีวภาพ ✅ เมล็ดพันธุ์คุณภาพสูง 📞 **ปรึกษาปัญหาการปลูกฟรี!** Inbox หรือโทร **093-696-2691** (คุณศักรพี) #ปลูกเมล่อน #ปุ๋ยABเมล่อน #ไตรโคบิวพลัส #ลิตเติ้ลฟาร์ม --- **✨ ปลูกเมล่อนให้หวานกรอบ...ต้องเริ่มจากปุ๋ยดีและเทคนิคถูกวิธี ✨**
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 8 ราย ประกอบด้วยชาวอิสราเอล 3 คน และคนไทย 5 ราย หลังถูกกักขังในกาซานานกว่า 1 ปี จากการเปิดเผยของรัฐบาลอิสราเอล ในขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังคงยึดถือข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว
    .
    เจ้าหน้าที่อิสราเอล ระบุว่าตัวประกันอิสราเอลที่จะได้รับการปล่อยตัวประกอบด้วย กาดี โมเซส วัย 80ปี, อาร์เบล เยฮุด วัย 29 ปี และอากัม เบอร์เกอร์ วัย 20 ปี ในขณะที่ฮามาสก็ยืนยันเกี่ยวกับการปล่อยตัวชาวอิสราเอลทั้ง 3 รายเช่นกัน อย่างไรก็ตามทั้งอิสราเอลและฮามาส ไม่ได้เปิดเผยชื่อพลเมืองไทย 5 คน ที่จะได้รับการปล่อยตัวออกมา
    .
    ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิง คาดหมายว่าอิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์มากกว่า 100 คน แลกกับตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) ในนั้นรวมถึงพวกที่ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต โทษฐานเกี่ยวกับกับเหตุโจมตีนองเลือดเล่นงานชาวอิสราเอล
    .
    การปล่อยตัวครั้งนี้ ถือเป็นหนที่ 3 แล้ว นับตั้งแต่อิสราเอลและฮามาสปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง 6 สัปดาห์ ส่วนหนึ่งในข้อตกลงหลายขั้นที่พวกคนกลางการเจรจาหวังว่าจะนำมาซึ่งการยุติสงครามในกาซา ในขณะที่มีผู้คนมากกว่า 45,000 นาย ที่ต้องเสียชีวิตในฉนวนแห่งนี้ ระหว่างปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลเล่นงานแก้แค้นพวกฮามาส
    .
    ระหว่างการหยุดยิงเบื้องต้น 42 วัน ฮามาส รับปากว่าจะปล่อยตัวประกันอย่างน้อย 33 คน จาก 97 คนที่เหลืออยู่ในกาซา แลกกับการที่อิสราเอลถอนกำลังบางส่วนและปล่อยชาวปาเลสไตน์กว่า 1,500 คน ที่ถูกจองจำโดยอิสราเอล ภายใต้ข้อตกลงนี้ มีการเสนอให้ปล่อยตัวนางสาวเยฮุด หนึ่งในตัวประกันหญิงคนท้ายๆที่ยังมีชีวิตอยู่ ในสัปดาห์ที่แล้ว
    .
    แต่หลังจากที่เธอไม่ได้รับการปล่อยตัวในตอนนั้น อิสราเอลตอบโต้ด้วยการเลื่อนไม่เปิดเส้นทางผ่านให้พวกชาวปาเลสไตน์ผู้ไร้ถิ่นฐานหลายแสนคนเดินทางกลับสู่มาตุภูมิทางเหนือของกาซา ตามเงื่อนไขของข้อตกลง ก่อนสุดท้ายกองทัพอิสราเอลจะยอมเปิดทาง หลังบรรดาชาติคนกลางแถลงในวันอาทิตย์(25ม.ค. )ว่าพวกเขาได้รับคำสัญญาแล้วว่านางสาวเยฮุด จะได้รับการปล่อยตัว
    .
    ตัวประกันทั้ง 8 คน ที่ได้รับคาดหมายว่าจะได้รับการปล่อยตัวเป็นกลุ่มถัดไป ทั้งหมดถูกลักพาตัวระหว่างที่พวกฮามาสปฏิบัติการจู่โจมสายฟ้าแลบเล่นงานทางใต้ของอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 อันเป็นจุดเริ่มต้นของสงคราม มีผู้เสียชีวิตราวๆ 1,200 คน ในเหตุจู่โจมดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนและอีก 250 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน
    .
    มูซา อาบู มาร์ซูค เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส ยืนยันระหว่างให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับนิวยอร์กไทม์ส ว่าแรงงานไทย 5 คนจะได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) พร้อมเผยว่าคนงานไทยเหล่านี้ถูกควบคุมตัวโดยกลุ่มญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ (Palestinian Islamic Jihad) อ้างถึงกลุ่มนักรบเล็กๆในกาซา ที่ใกล้ชิดกับฮามาส แต่มีความแตกต่างกันทั้งเชิงกลยุทธ์และอุดมการณ์
    .
    นางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ยืนยันเช่นกันว่าตัวประกันคนไทย 5 คน จากทั้งหมด 8 คน จะได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) แต่ไม่ชัดเจนว่าผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวนั้นมีใครบ้าง
    .
    รายงานของนิวยอร์กไทม์อ้างคำกล่าวของนางสาวพรรณนภา ระบุด้วยว่ายังมีตัวประกันไทยอยู่ในกาซาอีก 8 ราย แบ่งเป็นยังมีชีวิตอยู่ 6 รายและเสียชีวิตแล้ว 2 คน ทั้งหมดอายุระหว่าง 28 ปี ถึง 42 ปี โดยทั้งหมดเป็นแรงงานภาคการเกษตร ณ ฟาร์ม 4 แห่งใกล้ชายแดนกาซา และถูกลักพาตัวระหว่างการโจมตีที่นำโดยพวกฮามาสในเดือนตุลาคม 2023
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009508
    ..............
    Sondhi X
    ฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 8 ราย ประกอบด้วยชาวอิสราเอล 3 คน และคนไทย 5 ราย หลังถูกกักขังในกาซานานกว่า 1 ปี จากการเปิดเผยของรัฐบาลอิสราเอล ในขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังคงยึดถือข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว . เจ้าหน้าที่อิสราเอล ระบุว่าตัวประกันอิสราเอลที่จะได้รับการปล่อยตัวประกอบด้วย กาดี โมเซส วัย 80ปี, อาร์เบล เยฮุด วัย 29 ปี และอากัม เบอร์เกอร์ วัย 20 ปี ในขณะที่ฮามาสก็ยืนยันเกี่ยวกับการปล่อยตัวชาวอิสราเอลทั้ง 3 รายเช่นกัน อย่างไรก็ตามทั้งอิสราเอลและฮามาส ไม่ได้เปิดเผยชื่อพลเมืองไทย 5 คน ที่จะได้รับการปล่อยตัวออกมา . ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิง คาดหมายว่าอิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์มากกว่า 100 คน แลกกับตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) ในนั้นรวมถึงพวกที่ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต โทษฐานเกี่ยวกับกับเหตุโจมตีนองเลือดเล่นงานชาวอิสราเอล . การปล่อยตัวครั้งนี้ ถือเป็นหนที่ 3 แล้ว นับตั้งแต่อิสราเอลและฮามาสปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง 6 สัปดาห์ ส่วนหนึ่งในข้อตกลงหลายขั้นที่พวกคนกลางการเจรจาหวังว่าจะนำมาซึ่งการยุติสงครามในกาซา ในขณะที่มีผู้คนมากกว่า 45,000 นาย ที่ต้องเสียชีวิตในฉนวนแห่งนี้ ระหว่างปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลเล่นงานแก้แค้นพวกฮามาส . ระหว่างการหยุดยิงเบื้องต้น 42 วัน ฮามาส รับปากว่าจะปล่อยตัวประกันอย่างน้อย 33 คน จาก 97 คนที่เหลืออยู่ในกาซา แลกกับการที่อิสราเอลถอนกำลังบางส่วนและปล่อยชาวปาเลสไตน์กว่า 1,500 คน ที่ถูกจองจำโดยอิสราเอล ภายใต้ข้อตกลงนี้ มีการเสนอให้ปล่อยตัวนางสาวเยฮุด หนึ่งในตัวประกันหญิงคนท้ายๆที่ยังมีชีวิตอยู่ ในสัปดาห์ที่แล้ว . แต่หลังจากที่เธอไม่ได้รับการปล่อยตัวในตอนนั้น อิสราเอลตอบโต้ด้วยการเลื่อนไม่เปิดเส้นทางผ่านให้พวกชาวปาเลสไตน์ผู้ไร้ถิ่นฐานหลายแสนคนเดินทางกลับสู่มาตุภูมิทางเหนือของกาซา ตามเงื่อนไขของข้อตกลง ก่อนสุดท้ายกองทัพอิสราเอลจะยอมเปิดทาง หลังบรรดาชาติคนกลางแถลงในวันอาทิตย์(25ม.ค. )ว่าพวกเขาได้รับคำสัญญาแล้วว่านางสาวเยฮุด จะได้รับการปล่อยตัว . ตัวประกันทั้ง 8 คน ที่ได้รับคาดหมายว่าจะได้รับการปล่อยตัวเป็นกลุ่มถัดไป ทั้งหมดถูกลักพาตัวระหว่างที่พวกฮามาสปฏิบัติการจู่โจมสายฟ้าแลบเล่นงานทางใต้ของอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 อันเป็นจุดเริ่มต้นของสงคราม มีผู้เสียชีวิตราวๆ 1,200 คน ในเหตุจู่โจมดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนและอีก 250 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน . มูซา อาบู มาร์ซูค เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส ยืนยันระหว่างให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับนิวยอร์กไทม์ส ว่าแรงงานไทย 5 คนจะได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) พร้อมเผยว่าคนงานไทยเหล่านี้ถูกควบคุมตัวโดยกลุ่มญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ (Palestinian Islamic Jihad) อ้างถึงกลุ่มนักรบเล็กๆในกาซา ที่ใกล้ชิดกับฮามาส แต่มีความแตกต่างกันทั้งเชิงกลยุทธ์และอุดมการณ์ . นางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ยืนยันเช่นกันว่าตัวประกันคนไทย 5 คน จากทั้งหมด 8 คน จะได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) แต่ไม่ชัดเจนว่าผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวนั้นมีใครบ้าง . รายงานของนิวยอร์กไทม์อ้างคำกล่าวของนางสาวพรรณนภา ระบุด้วยว่ายังมีตัวประกันไทยอยู่ในกาซาอีก 8 ราย แบ่งเป็นยังมีชีวิตอยู่ 6 รายและเสียชีวิตแล้ว 2 คน ทั้งหมดอายุระหว่าง 28 ปี ถึง 42 ปี โดยทั้งหมดเป็นแรงงานภาคการเกษตร ณ ฟาร์ม 4 แห่งใกล้ชายแดนกาซา และถูกลักพาตัวระหว่างการโจมตีที่นำโดยพวกฮามาสในเดือนตุลาคม 2023 . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009508 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Yay
    21
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2192 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เทคนิคเด็ดแขนงเมล่อนให้ได้ผลผลิตดี 🍈🌿
    เมื่อต้นเมล่อนเริ่มตั้งเถา ต้องรีบ **#เด็ดแขนง** ออกจากข้อใบทันที! เพื่อไม่ให้แย่งอาหารต้นหลัก ช่วยให้ลำต้นเจริญเติบโตเต็มที่ 🌱

    ### ทำไมต้องเด็ดแขนง?
    - ลดการแย่งอาหารจากต้นหลัก
    - กระตุ้นการเติบโตของผลเมล่อน
    - ป้องกันโรคจากความชื้นสะสมในทรงพุ่ม

    ### วิธีเด็ดแขนงแบบมือโปร ✅
    1. **ช่วงเวลา**: เด็ดในเช้ามืดถึงเช้าตรู่ ที่มีแสงแดดอ่อน 🌞 (ต้นไม่ช้ำ แผลแห้งเร็ว)
    2. **เทคนิคเด็ด**: ใช้มือดึงเบาๆ ตรงโคนแขนงที่เพิ่งแทงยอดใหม่ (ขนาด 2-3 ซม.) จะเด็ดง่าย ไม่ทำลายลำต้น
    3. **หลังเด็ด**: พ่น **#ไตรโคบิวพลัส** ช่วงเย็น เพื่อปิดแผล+ป้องกันเชื้อรา+เร่งฟื้นตัว 🛡️

    ### ข้อควรระวัง ❗
    - ห้ามเด็ดแขนงตอนแดดจัดหรือฝนตก (เสี่ยงเชื้อราเข้าทำลาย)
    - ใช้มีดสะอาดหากแขนงใหญ่เกินไป

    #ลิตเติ้ลฟาร์ม
    เราพร้อมส่งมอบอุปกรณ์คุณภาพสำหรับเมล่อนทุกขั้นตอน!
    ✅ ปุ๋ย AB สูตรเร่งใบ-เร่งผล
    ✅ ไตรโคบิวพลัส ชีวภัณฑ์ป้องกันโรคและแมลง
    ✅ ธาตุอาหารรอง-อาหารเสริมทางใบ
    ✅ เมล็ดพันธุ์เมล่อนคุณภาพสูง

    📩 สอบถามหรือสั่งซื้อ:
    Inbox หรือโทร **093-696-2691** (คุณศักรพี)

    #เด็ดแขนงเมล่อน #ปลูกเมล่อน #ไตรโคบิวพลัส #ลิตเติ้ลฟาร์ม 🌱🍈
    #เทคนิคเด็ดแขนงเมล่อนให้ได้ผลผลิตดี 🍈🌿 เมื่อต้นเมล่อนเริ่มตั้งเถา ต้องรีบ **#เด็ดแขนง** ออกจากข้อใบทันที! เพื่อไม่ให้แย่งอาหารต้นหลัก ช่วยให้ลำต้นเจริญเติบโตเต็มที่ 🌱 ### ทำไมต้องเด็ดแขนง? - ลดการแย่งอาหารจากต้นหลัก - กระตุ้นการเติบโตของผลเมล่อน - ป้องกันโรคจากความชื้นสะสมในทรงพุ่ม ### วิธีเด็ดแขนงแบบมือโปร ✅ 1. **ช่วงเวลา**: เด็ดในเช้ามืดถึงเช้าตรู่ ที่มีแสงแดดอ่อน 🌞 (ต้นไม่ช้ำ แผลแห้งเร็ว) 2. **เทคนิคเด็ด**: ใช้มือดึงเบาๆ ตรงโคนแขนงที่เพิ่งแทงยอดใหม่ (ขนาด 2-3 ซม.) จะเด็ดง่าย ไม่ทำลายลำต้น 3. **หลังเด็ด**: พ่น **#ไตรโคบิวพลัส** ช่วงเย็น เพื่อปิดแผล+ป้องกันเชื้อรา+เร่งฟื้นตัว 🛡️ ### ข้อควรระวัง ❗ - ห้ามเด็ดแขนงตอนแดดจัดหรือฝนตก (เสี่ยงเชื้อราเข้าทำลาย) - ใช้มีดสะอาดหากแขนงใหญ่เกินไป #ลิตเติ้ลฟาร์ม เราพร้อมส่งมอบอุปกรณ์คุณภาพสำหรับเมล่อนทุกขั้นตอน! ✅ ปุ๋ย AB สูตรเร่งใบ-เร่งผล ✅ ไตรโคบิวพลัส ชีวภัณฑ์ป้องกันโรคและแมลง ✅ ธาตุอาหารรอง-อาหารเสริมทางใบ ✅ เมล็ดพันธุ์เมล่อนคุณภาพสูง 📩 สอบถามหรือสั่งซื้อ: Inbox หรือโทร **093-696-2691** (คุณศักรพี) #เด็ดแขนงเมล่อน #ปลูกเมล่อน #ไตรโคบิวพลัส #ลิตเติ้ลฟาร์ม 🌱🍈
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ทำไมห้ามเพาะกล้าเมล่อนในที่ร่ม? 🌞
    ในภาพคือกล้าเมล่อนอายุ 14 วัน ที่เพาะในที่ร่ม ต้นเมล่อนยืดตัวไปหาแสงแดด ทำให้ลำต้นยาวเกินไป ใบไม่พัฒนา และลำต้นหักง่าย ไม่สามารถนำไปปลูกได้ ❌

    ### สาเหตุหลัก
    - **ขาดแสงแดด**: เมล่อนต้องการแสงแดดเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต 🌱
    - **การยืดตัวของลำต้น (Etiolation)**: ต้นกล้าจะยืดตัวเพื่อหาแสง ทำให้ลำต้นอ่อนแอและหักง่าย
    - **ใบไม่พัฒนา**: ขาดกระบวนการสังเคราะห์แสง ทำให้ใบเล็กและไม่สมบูรณ์

    ### วิธีเพาะกล้าเมล่อนที่ถูกต้อง ✅
    1. **แสงแดด**: วางถาดเพาะในที่รับแสงแดดไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง/วัน ☀️
    2. **น้ำ**: รดน้ำสม่ำเสมอ อย่าให้วัสดุเพาะแห้ง 💧
    3. **ป้องกันโรคและแมลง**: พ่นไตรโคบิวพลัสเพื่อป้องกันโรคเชื้อราและแมลง 🐛
    4. **วางถาดเพาะให้ปลอดภัย**: ห่างจากแมลงและสัตว์ศัตรูพืช 🐌

    ### ผลดีของการเพาะกล้าในที่แสงแดดเพียงพอ
    - ต้นกล้าแข็งแรง 🌿
    - ใบและรากพัฒนาได้ดี
    - พร้อมปลูกได้เร็วขึ้น

    #ลิตเติ้ลฟาร์ม
    เราจำหน่ายปุ๋ย AB เมล่อนคุณภาพสูง 🌱 ธาตุอาหารรอง อาหารเสริมทางใบ 🍃 และชีวภัณฑ์ป้องกันโรคและแมลง เช่น ไตรโคบิวพลัส 🛡️
    📩 สอบถามเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ Inbox หรือโทร 093-6962691

    #ปลูกเมล่อน #เพาะกล้าเมล่อน #แสงแดดสำคัญ #ไตรโคบิวพลัส #ลิตเติ้ลฟาร์ม 🌱🍈
    #ทำไมห้ามเพาะกล้าเมล่อนในที่ร่ม? 🌞 ในภาพคือกล้าเมล่อนอายุ 14 วัน ที่เพาะในที่ร่ม ต้นเมล่อนยืดตัวไปหาแสงแดด ทำให้ลำต้นยาวเกินไป ใบไม่พัฒนา และลำต้นหักง่าย ไม่สามารถนำไปปลูกได้ ❌ ### สาเหตุหลัก - **ขาดแสงแดด**: เมล่อนต้องการแสงแดดเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต 🌱 - **การยืดตัวของลำต้น (Etiolation)**: ต้นกล้าจะยืดตัวเพื่อหาแสง ทำให้ลำต้นอ่อนแอและหักง่าย - **ใบไม่พัฒนา**: ขาดกระบวนการสังเคราะห์แสง ทำให้ใบเล็กและไม่สมบูรณ์ ### วิธีเพาะกล้าเมล่อนที่ถูกต้อง ✅ 1. **แสงแดด**: วางถาดเพาะในที่รับแสงแดดไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง/วัน ☀️ 2. **น้ำ**: รดน้ำสม่ำเสมอ อย่าให้วัสดุเพาะแห้ง 💧 3. **ป้องกันโรคและแมลง**: พ่นไตรโคบิวพลัสเพื่อป้องกันโรคเชื้อราและแมลง 🐛 4. **วางถาดเพาะให้ปลอดภัย**: ห่างจากแมลงและสัตว์ศัตรูพืช 🐌 ### ผลดีของการเพาะกล้าในที่แสงแดดเพียงพอ - ต้นกล้าแข็งแรง 🌿 - ใบและรากพัฒนาได้ดี - พร้อมปลูกได้เร็วขึ้น #ลิตเติ้ลฟาร์ม เราจำหน่ายปุ๋ย AB เมล่อนคุณภาพสูง 🌱 ธาตุอาหารรอง อาหารเสริมทางใบ 🍃 และชีวภัณฑ์ป้องกันโรคและแมลง เช่น ไตรโคบิวพลัส 🛡️ 📩 สอบถามเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ Inbox หรือโทร 093-6962691 #ปลูกเมล่อน #เพาะกล้าเมล่อน #แสงแดดสำคัญ #ไตรโคบิวพลัส #ลิตเติ้ลฟาร์ม 🌱🍈
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 0 รีวิว
  • Elephant in the Room
    The Crimes of the Pharmaceutical Industry
    เรื่องของบิ้กฟาร์ม่า

    Roddriver Aug 25, 2021

    อุตสาหกรรมยา เป็นการผลิตยาเพื่อผลทางการแพทย์ อุตสาหกรรมนี้เน้นการรณรงค์เรื่องของสิทธิบัตรทั่วโลกเป็นส่วนใหญ่ ...ถึงแม้ว่านักเศรษฐศาสตร์กระแสหลักจะวิจารณ์หนักมากในเรื่องของสิทธิบัตรยา ...ยาที่มีสิทธิบัตรมักจะขายได้ราคาสูงกว่ายาที่ไม่มีสิทธิบัตรนับพัน ๆ เท่า

    อุตสาหกรรมนี้แสดงให้เห็นได้ชัดเจนถึงประเด็นที่ได้โพสท์ไว้ก่อนหน้านี้ (แปลแล้ว) เกี่ยวกับอำนาจและอาชญากรรมจากสิทธิบัตรของบริษัทยักษ์ทั้งหลาย

    Researching The Wrong Problems
    วืจัยเฉพาะเรื่องที่มีกำไร

    การทำวิจัยส่วนใหญ่มักจะโฟกัสไปที่ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศที่ร่ำรวยที่มีกำลังซื้อ ...มียาเพียง 21 ตัวจาก 1,556 ตัวซึ่งออกสู่ตลาดโลกตั้งแต่ปี 1975 ถึงปี 2004 ที่เล็งเป้าไปต่อสู้กับโรคที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับชาวตะวันตกนัก ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศยากจน

    บริษัทเหล่านี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ทำการวิจัยยาที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ เช่นไวอากร้ามากกว่ายารักษาวัณโรค เพราะกำไรมันอยู่ตรงนั้น ทั้ง ๆ ที่เราสามารถจัดการกับปัญหาสุขภาพของประเทศยากจนได้โดยใช้ทุนต่ำกว่ามาก ...ตั้งแต่ปี 2006 มาแล้วที่ World Health Organization (WHO) เริ่มพูดถึงปัญหานี้ แต่การหาทุนก็ยังคงมีไม่พอ

    Social Costs, Private Profits
    เงินวิจัยจากสาธารณชน แต่กำไรเป็นของเอกชน

    ในช่วงต้น ๆ ของการวิจัยและพัฒนามักจะได้รับทุนสาธารณะ ทั้งจากมหาวิทยาลัยและรัฐบาลหลายแห่งทั่วโลก ...บริษัทยักษ์จะเข้ามาร่วมด้วยหลังจากรู้ชัดว่าการทดลองขั้นต้นแสดงให้เห็นแล้วว่า..ยาตัวนี้น่าจะต้องมีอนาคตแน่

    อย่างไรก็ตาม ถ้าบริษัทไหนได้ถือสิทธิบัตรเอาไว้ ก็จะได้กำไรส่วนใหญ่ไป เพราะเมื่อมีสิทธิบัตรอยู่ในมือ พวกเขาก็จะชาร์จราคาสูงสุดได้ตามใจ พูดอีกอย่างก็คือ ราคาที่คนร่ำรวยจะจ่ายให้ได้

    ถ้าเป็นไปตามนี้ การปล่อยให้บริษัทเอกชนเก็บกำไรทั้งหมดจากยาที่ได้รับสิทธิบัตร..ก็ไม่น่าจะถูกต้องนัก มันคืออีกช่องทางหนึ่งของระบบเศรษฐกิจที่ถูกวางแผนครอบไว้ ในการดูดเอาความมั่งคั่งเข้ากระเป๋าพวกนักบริหารและผู้ถือหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย ...แค่นั้นเอง

    Depriving Poor Countries of Medicines
    คนจนไม่มีสิทธิ์ได้ใช้ยา

    ยาที่จะทำประโยชน์ให้คนนับล้านได้ในประเทศยากจน จำเป็นต้องมีราคาที่คนจนจะจับต้องได้ แต่พวกบิ้กฟาร์ม่าที่ถือสิทธิบัตรยาเหล่านั้น..ต้องการควบคุมการเข้าถึง และชาร์จที่ราคาสูงสุดเท่าที่จะทำได้

    World Trade organization (WTO) มีการบังคับใช้สิทธิบัตรผ่านข้อตกลง ที่เรียกว่า TRIPS (Trade Related Aspects of Intellectual Property) ...แต่ TRIPS ก็ยังมีข้อดีอยู่นิดหน่อยที่อนุญาตให้ประเทศยากจนหลายประเทศสามารถก้อปปี้การผลิตยาเฉพาะตัวที่สำคัญ ๆ และมีข้อบังคับทางกฏหมายให้บางประเทศเช่นอินเดียสามารถทำได้ ...แต่ถึงอย่างนั้น บิ้กฟาร์ม่าก็ยังคงบล็อกการเข้าถึงยาได้ทั่วโลกอยู่ ประเทศยากจนส่วนใหญ่ยังคงต้องซื้อยาในราคาแพงอยู่ เพราะยังคงมีการขู่จากทั้งสหรัฐ อังกฤษ และประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ

    Nelson Mandela ผู้นำประเทศอัฟริกาใต้ เคยพยายามที่จะได้ยา HIV ราคาถูกเพื่อรักษาผู้ป่วยเอดส์ในประเทศ ...บริษัทยาตะวันตกชาร์จที่ราคา $15,000 ต่อคนต่อปี ในขณะที่บริษัทอินเดียผลิตได้แค่ $300 ต่อคนต่อปี ...แต่แมนเดล่าถูกขู่ที่จะแซงค์ชั่น..หลังจากบริษัทยายักษ์ใหญ่ล้อบบี้ฐบาลสหรัฐ ทำให้ผู้คนหลายล้านในอัฟริกาใต้ต้องตาย เพราะไม่สามารถเข้าถึงยาจากอินเดียที่ก้อปปี้จากยาราคาแพงตัวนี้ได้

    More Spent on Marketing Than on Research
    ใช้เงินไปกับการตลาดมากกว่าใช้กับการวิจัยซะอีก

    ถ้ายาได้ผลดีจริง มันก็ไม่ต้องการการตลาดเลย ถ้ามันให้ผลดีจากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์จริงแล้ว แพทย์และเครือข่ายการแพทย์ทั่วโลกย่อมจะต้องนำมาใช้อยู่แล้ว ...แต่จริง ๆ แล้ว ยาส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ผลนัก บริษัทจึงจำเป็นต้องใช้เงินมหาศาลในการ "ชักชวน" ให้แพทย์ทั้งหลายให้มาสั่งใช้ยานั้น ...ทั้งหมดนี้หมายความรวมถึง ของขวัญ การจัดท่องเที่ยววันหยุด หรือการสร้างสิ่งจูงใจ (ฟังดูไพเราะกว่า "สินบน" เยอะเลย) แพทย์จำนวนมากก็แฮ้ปปี้ที่จะร่วมเล่นด้วย ...ค่าใช้จ่ายการตลาดเหล่านี้น่ะ มันรวมอยู่ในราคายาแล้วแหละ

    Fraud and Deception are Widespread
    การฉ้อฉลมันกระจายวงไปกว้างไกลมาก

    อุตสาหกรรมยาเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการคอรัปชั่นมากที่สุด บิ้กฟาร์ม่าหลายแห่งถูกกล่าวหาว่าขายยาที่เป็นอันตราย หรืออาจถึงชีวิตได้ ...อุตสาหกรรมนี้เคยถูกสั่งปรับมาแล้วถึงมากกว่า $5 หมื่นล้านในรอบยี่สิบปีที่ผ่านมา ...เมื่อปี 2012 Glaxo Smith Kline (GSK) ก็ถูกปรับไป $3 พันล้านในสหรัฐที่ขายยาผิดประเภท และจ่ายสินบนแก่แพทย์ และปิดบังผลวิจัย นอกจากนี้ GSK ยังถูกปรับที่อินเดีย อัฟริกาใต้และอังกฤษ

    แต่บริษัทนี้ขายยาแค่รายการเดียวก็อาจเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าค่าปรับหลายเท่าตัวก็ได้สบาย ๆ

    อุตสาหกรรมยามีประวัติการโฆษณายาเกินจริง..ไม่บอกถึงผลด้อยของคุณภาพ..และปิดบังผลร้ายของยามานานแล้ว ...จากการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ แสดงให้เห็นว่า เวชภัณท์มีผลร้ายมากกว่าที่ผู้ผลิตแจ้งไว้ถึง 4 เท่าส่งผลให้มีผู้ป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลถึงสองแสนกว่าคนในอังกฤษ และอีกสองล้านคนในสหรัฐในแต่ละปี

    นอกจากนี้ยังมีกรณีเสียชีวิตอีกถึง 55,000 รายจากยาแก้ปวด แต่ข้อมูลเหล่านี้ถูกปิดบังโดย Merck ผู้ผลิตยา ....ยังมีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจ จากผลของยารักษาเบาหวาน

    ตอนนี้มีหลักฐานว่าบริษัทยาเหล่านี้มีการจัดการยักย้ายงานวิจัยของตน พวกนี้ทดสอบยาของตนเอง และออกผลทดสอบที่แสดงแต่ส่วนดีและซ่อนส่วนที่เป็นโทษ

    อุตสาหกรรมยาใช้เงินล้อบบี้รัฐบาลสหรัฐมากกว่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ ..ปี 2018 มีการใช้เงินถึง $2.8 แสนล้าน นี่แสดงให้เห็นถึงการไร้กฏระเบียบของอุตสาหกรรมนี้ ถึงแม้สหรัฐจะมี Food and Drug Administration (FDA) แต่หน่วยงานนี้ก็มีงบประมาณไม่พอ ทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน ...เจ้าหน้าที่ในสต้าฟมีสัมพันธภาพกับอุตสาหกรรมนี้ อดีตผอ. FDA ก็ออกไปทำงานกับ Pfizer ...ส่วนอดีตสมาชิกสภาคองเกรสจำนวนไม่น้อยก็ไปรับจ้อบเป็นล้อบบี้ยิสต์ให้กับอุตสาหกรรมยา

    สถานการณ์ของการรักษากฏของเรื่องนี้ในอังกฤษยิ่งร้ายหนักกว่าอีก อังกฤษไม่เคยมีการลงโทษบริษัทยาซักแห่งเลย มีการปรับเล็กน้อยรวมกันแค่ £73,300 แต่ไม่เคยมีการบังคับใช้กฏหมายอย่างจริงจังเลย

    Not Fit For Purpose

    แทบทุกประเทศที่มีหน่วยงานเกี่ยวกับอาหารและยามักจะตายใจไม่นึกว่าอุตสาหกรรมยาน่ะมันเชี่..แค่ไหน พวกสื่อเองก็เงียบไม่พูดถึงกำ ไรมหาศาลของบริษัทยาเพราะรับทรัพย์ไปเยอะ ...อุตสาหกรรมนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของอุตสาหกรรมที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อสนองจุดประสงค์แท้จริงของสาธารณชน (not fit for purpose) มันทำความล้มเหลวทั้งในประเทศร่ำรวยและยากจนถ้วนหน้า

    ถ้าอุตสาหกรรมนี้เป็นเรื่องที่ดำเนินงานไปโดยหน่วยงานของชาติ ยาทุกชนิดจะมีราคาเป็นแค่เศษเสี้ยวของราคาปัจจุบัน ไม่ต้องมีปัญหายาปลอม ไม่ต้องมีการล็อบบี้ ไม่ต้องมีการแย่งชิงสิทธิบัตร ประเทศยากจนเข้าถึงยาได้ง่าย ๆ ที่ราคาต่ำมาก ๆ จนอาจให้เปล่าได้เลย

    ถ้าเราพูดถึงการต่อสู้ความยากจนของโลกจริง ๆ แล้ว นี่เป็นเรื่องแรก ๆ ที่ต้องทำ ....แต่ความเป็นไปได้ที่อุตสาหกรรมยาควรจะเป็นเรื่องที่รัฐบาลดำเนินงานเอง เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีใครพูดถึงเลย......

    ***ผมไม่ได้แปลส่วนเชิงอรรถในบทความนะครับ แต่เพื่อน ๆ ดูได้ในบทความต้นฉบับนะครับ***

    https://medium.com/elephantsintheroom/42-the-crimes-of-the-pharmaceutical-industry-5fee08225cbb
    Elephant in the Room The Crimes of the Pharmaceutical Industry เรื่องของบิ้กฟาร์ม่า Roddriver Aug 25, 2021 อุตสาหกรรมยา เป็นการผลิตยาเพื่อผลทางการแพทย์ อุตสาหกรรมนี้เน้นการรณรงค์เรื่องของสิทธิบัตรทั่วโลกเป็นส่วนใหญ่ ...ถึงแม้ว่านักเศรษฐศาสตร์กระแสหลักจะวิจารณ์หนักมากในเรื่องของสิทธิบัตรยา ...ยาที่มีสิทธิบัตรมักจะขายได้ราคาสูงกว่ายาที่ไม่มีสิทธิบัตรนับพัน ๆ เท่า อุตสาหกรรมนี้แสดงให้เห็นได้ชัดเจนถึงประเด็นที่ได้โพสท์ไว้ก่อนหน้านี้ (แปลแล้ว) เกี่ยวกับอำนาจและอาชญากรรมจากสิทธิบัตรของบริษัทยักษ์ทั้งหลาย Researching The Wrong Problems วืจัยเฉพาะเรื่องที่มีกำไร การทำวิจัยส่วนใหญ่มักจะโฟกัสไปที่ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศที่ร่ำรวยที่มีกำลังซื้อ ...มียาเพียง 21 ตัวจาก 1,556 ตัวซึ่งออกสู่ตลาดโลกตั้งแต่ปี 1975 ถึงปี 2004 ที่เล็งเป้าไปต่อสู้กับโรคที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับชาวตะวันตกนัก ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศยากจน บริษัทเหล่านี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ทำการวิจัยยาที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ เช่นไวอากร้ามากกว่ายารักษาวัณโรค เพราะกำไรมันอยู่ตรงนั้น ทั้ง ๆ ที่เราสามารถจัดการกับปัญหาสุขภาพของประเทศยากจนได้โดยใช้ทุนต่ำกว่ามาก ...ตั้งแต่ปี 2006 มาแล้วที่ World Health Organization (WHO) เริ่มพูดถึงปัญหานี้ แต่การหาทุนก็ยังคงมีไม่พอ Social Costs, Private Profits เงินวิจัยจากสาธารณชน แต่กำไรเป็นของเอกชน ในช่วงต้น ๆ ของการวิจัยและพัฒนามักจะได้รับทุนสาธารณะ ทั้งจากมหาวิทยาลัยและรัฐบาลหลายแห่งทั่วโลก ...บริษัทยักษ์จะเข้ามาร่วมด้วยหลังจากรู้ชัดว่าการทดลองขั้นต้นแสดงให้เห็นแล้วว่า..ยาตัวนี้น่าจะต้องมีอนาคตแน่ อย่างไรก็ตาม ถ้าบริษัทไหนได้ถือสิทธิบัตรเอาไว้ ก็จะได้กำไรส่วนใหญ่ไป เพราะเมื่อมีสิทธิบัตรอยู่ในมือ พวกเขาก็จะชาร์จราคาสูงสุดได้ตามใจ พูดอีกอย่างก็คือ ราคาที่คนร่ำรวยจะจ่ายให้ได้ ถ้าเป็นไปตามนี้ การปล่อยให้บริษัทเอกชนเก็บกำไรทั้งหมดจากยาที่ได้รับสิทธิบัตร..ก็ไม่น่าจะถูกต้องนัก มันคืออีกช่องทางหนึ่งของระบบเศรษฐกิจที่ถูกวางแผนครอบไว้ ในการดูดเอาความมั่งคั่งเข้ากระเป๋าพวกนักบริหารและผู้ถือหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย ...แค่นั้นเอง Depriving Poor Countries of Medicines คนจนไม่มีสิทธิ์ได้ใช้ยา ยาที่จะทำประโยชน์ให้คนนับล้านได้ในประเทศยากจน จำเป็นต้องมีราคาที่คนจนจะจับต้องได้ แต่พวกบิ้กฟาร์ม่าที่ถือสิทธิบัตรยาเหล่านั้น..ต้องการควบคุมการเข้าถึง และชาร์จที่ราคาสูงสุดเท่าที่จะทำได้ World Trade organization (WTO) มีการบังคับใช้สิทธิบัตรผ่านข้อตกลง ที่เรียกว่า TRIPS (Trade Related Aspects of Intellectual Property) ...แต่ TRIPS ก็ยังมีข้อดีอยู่นิดหน่อยที่อนุญาตให้ประเทศยากจนหลายประเทศสามารถก้อปปี้การผลิตยาเฉพาะตัวที่สำคัญ ๆ และมีข้อบังคับทางกฏหมายให้บางประเทศเช่นอินเดียสามารถทำได้ ...แต่ถึงอย่างนั้น บิ้กฟาร์ม่าก็ยังคงบล็อกการเข้าถึงยาได้ทั่วโลกอยู่ ประเทศยากจนส่วนใหญ่ยังคงต้องซื้อยาในราคาแพงอยู่ เพราะยังคงมีการขู่จากทั้งสหรัฐ อังกฤษ และประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ Nelson Mandela ผู้นำประเทศอัฟริกาใต้ เคยพยายามที่จะได้ยา HIV ราคาถูกเพื่อรักษาผู้ป่วยเอดส์ในประเทศ ...บริษัทยาตะวันตกชาร์จที่ราคา $15,000 ต่อคนต่อปี ในขณะที่บริษัทอินเดียผลิตได้แค่ $300 ต่อคนต่อปี ...แต่แมนเดล่าถูกขู่ที่จะแซงค์ชั่น..หลังจากบริษัทยายักษ์ใหญ่ล้อบบี้ฐบาลสหรัฐ ทำให้ผู้คนหลายล้านในอัฟริกาใต้ต้องตาย เพราะไม่สามารถเข้าถึงยาจากอินเดียที่ก้อปปี้จากยาราคาแพงตัวนี้ได้ More Spent on Marketing Than on Research ใช้เงินไปกับการตลาดมากกว่าใช้กับการวิจัยซะอีก ถ้ายาได้ผลดีจริง มันก็ไม่ต้องการการตลาดเลย ถ้ามันให้ผลดีจากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์จริงแล้ว แพทย์และเครือข่ายการแพทย์ทั่วโลกย่อมจะต้องนำมาใช้อยู่แล้ว ...แต่จริง ๆ แล้ว ยาส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ผลนัก บริษัทจึงจำเป็นต้องใช้เงินมหาศาลในการ "ชักชวน" ให้แพทย์ทั้งหลายให้มาสั่งใช้ยานั้น ...ทั้งหมดนี้หมายความรวมถึง ของขวัญ การจัดท่องเที่ยววันหยุด หรือการสร้างสิ่งจูงใจ (ฟังดูไพเราะกว่า "สินบน" เยอะเลย) แพทย์จำนวนมากก็แฮ้ปปี้ที่จะร่วมเล่นด้วย ...ค่าใช้จ่ายการตลาดเหล่านี้น่ะ มันรวมอยู่ในราคายาแล้วแหละ Fraud and Deception are Widespread การฉ้อฉลมันกระจายวงไปกว้างไกลมาก อุตสาหกรรมยาเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการคอรัปชั่นมากที่สุด บิ้กฟาร์ม่าหลายแห่งถูกกล่าวหาว่าขายยาที่เป็นอันตราย หรืออาจถึงชีวิตได้ ...อุตสาหกรรมนี้เคยถูกสั่งปรับมาแล้วถึงมากกว่า $5 หมื่นล้านในรอบยี่สิบปีที่ผ่านมา ...เมื่อปี 2012 Glaxo Smith Kline (GSK) ก็ถูกปรับไป $3 พันล้านในสหรัฐที่ขายยาผิดประเภท และจ่ายสินบนแก่แพทย์ และปิดบังผลวิจัย นอกจากนี้ GSK ยังถูกปรับที่อินเดีย อัฟริกาใต้และอังกฤษ แต่บริษัทนี้ขายยาแค่รายการเดียวก็อาจเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าค่าปรับหลายเท่าตัวก็ได้สบาย ๆ อุตสาหกรรมยามีประวัติการโฆษณายาเกินจริง..ไม่บอกถึงผลด้อยของคุณภาพ..และปิดบังผลร้ายของยามานานแล้ว ...จากการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ แสดงให้เห็นว่า เวชภัณท์มีผลร้ายมากกว่าที่ผู้ผลิตแจ้งไว้ถึง 4 เท่าส่งผลให้มีผู้ป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลถึงสองแสนกว่าคนในอังกฤษ และอีกสองล้านคนในสหรัฐในแต่ละปี นอกจากนี้ยังมีกรณีเสียชีวิตอีกถึง 55,000 รายจากยาแก้ปวด แต่ข้อมูลเหล่านี้ถูกปิดบังโดย Merck ผู้ผลิตยา ....ยังมีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจ จากผลของยารักษาเบาหวาน ตอนนี้มีหลักฐานว่าบริษัทยาเหล่านี้มีการจัดการยักย้ายงานวิจัยของตน พวกนี้ทดสอบยาของตนเอง และออกผลทดสอบที่แสดงแต่ส่วนดีและซ่อนส่วนที่เป็นโทษ อุตสาหกรรมยาใช้เงินล้อบบี้รัฐบาลสหรัฐมากกว่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ ..ปี 2018 มีการใช้เงินถึง $2.8 แสนล้าน นี่แสดงให้เห็นถึงการไร้กฏระเบียบของอุตสาหกรรมนี้ ถึงแม้สหรัฐจะมี Food and Drug Administration (FDA) แต่หน่วยงานนี้ก็มีงบประมาณไม่พอ ทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน ...เจ้าหน้าที่ในสต้าฟมีสัมพันธภาพกับอุตสาหกรรมนี้ อดีตผอ. FDA ก็ออกไปทำงานกับ Pfizer ...ส่วนอดีตสมาชิกสภาคองเกรสจำนวนไม่น้อยก็ไปรับจ้อบเป็นล้อบบี้ยิสต์ให้กับอุตสาหกรรมยา สถานการณ์ของการรักษากฏของเรื่องนี้ในอังกฤษยิ่งร้ายหนักกว่าอีก อังกฤษไม่เคยมีการลงโทษบริษัทยาซักแห่งเลย มีการปรับเล็กน้อยรวมกันแค่ £73,300 แต่ไม่เคยมีการบังคับใช้กฏหมายอย่างจริงจังเลย Not Fit For Purpose แทบทุกประเทศที่มีหน่วยงานเกี่ยวกับอาหารและยามักจะตายใจไม่นึกว่าอุตสาหกรรมยาน่ะมันเชี่..แค่ไหน พวกสื่อเองก็เงียบไม่พูดถึงกำ ไรมหาศาลของบริษัทยาเพราะรับทรัพย์ไปเยอะ ...อุตสาหกรรมนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของอุตสาหกรรมที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อสนองจุดประสงค์แท้จริงของสาธารณชน (not fit for purpose) มันทำความล้มเหลวทั้งในประเทศร่ำรวยและยากจนถ้วนหน้า ถ้าอุตสาหกรรมนี้เป็นเรื่องที่ดำเนินงานไปโดยหน่วยงานของชาติ ยาทุกชนิดจะมีราคาเป็นแค่เศษเสี้ยวของราคาปัจจุบัน ไม่ต้องมีปัญหายาปลอม ไม่ต้องมีการล็อบบี้ ไม่ต้องมีการแย่งชิงสิทธิบัตร ประเทศยากจนเข้าถึงยาได้ง่าย ๆ ที่ราคาต่ำมาก ๆ จนอาจให้เปล่าได้เลย ถ้าเราพูดถึงการต่อสู้ความยากจนของโลกจริง ๆ แล้ว นี่เป็นเรื่องแรก ๆ ที่ต้องทำ ....แต่ความเป็นไปได้ที่อุตสาหกรรมยาควรจะเป็นเรื่องที่รัฐบาลดำเนินงานเอง เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีใครพูดถึงเลย...... ***ผมไม่ได้แปลส่วนเชิงอรรถในบทความนะครับ แต่เพื่อน ๆ ดูได้ในบทความต้นฉบับนะครับ*** https://medium.com/elephantsintheroom/42-the-crimes-of-the-pharmaceutical-industry-5fee08225cbb
    MEDIUM.COM
    42) The Crimes of the Pharmaceutical Industry
    “The history of medicine is littered with wonderful early results which over a period of time turn out to be not so wonderful…
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 456 มุมมอง 0 รีวิว
  • Elephant in the Room
    The Crimes of the Pharmaceutical Industry
    เรื่องของบิ้กฟาร์ม่า

    Roddriver Aug 25, 2021

    อุตสาหกรรมยา เป็นการผลิตยาเพื่อผลทางการแพทย์ อุตสาหกรรมนี้เน้นการรณรงค์เรื่องของสิทธิบัตรทั่วโลกเป็นส่วนใหญ่ ...ถึงแม้ว่านักเศรษฐศาสตร์กระแสหลักจะวิจารณ์หนักมากในเรื่องของสิทธิบัตรยา ...ยาที่มีสิทธิบัตรมักจะขายได้ราคาสูงกว่ายาที่ไม่มีสิทธิบัตรนับพัน ๆ เท่า

    อุตสาหกรรมนี้แสดงให้เห็นได้ชัดเจนถึงประเด็นที่ได้โพสท์ไว้ก่อนหน้านี้ (แปลแล้ว) เกี่ยวกับอำนาจและอาชญากรรมจากสิทธิบัตรของบริษัทยักษ์ทั้งหลาย

    Researching The Wrong Problems
    วืจัยเฉพาะเรื่องที่มีกำไร

    การทำวิจัยส่วนใหญ่มักจะโฟกัสไปที่ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศที่ร่ำรวยที่มีกำลังซื้อ ...มียาเพียง 21 ตัวจาก 1,556 ตัวซึ่งออกสู่ตลาดโลกตั้งแต่ปี 1975 ถึงปี 2004 ที่เล็งเป้าไปต่อสู้กับโรคที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับชาวตะวันตกนัก ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศยากจน

    บริษัทเหล่านี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ทำการวิจัยยาที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ เช่นไวอากร้ามากกว่ายารักษาวัณโรค เพราะกำไรมันอยู่ตรงนั้น ทั้ง ๆ ที่เราสามารถจัดการกับปัญหาสุขภาพของประเทศยากจนได้โดยใช้ทุนต่ำกว่ามาก ...ตั้งแต่ปี 2006 มาแล้วที่ World Health Organization (WHO) เริ่มพูดถึงปัญหานี้ แต่การหาทุนก็ยังคงมีไม่พอ

    Social Costs, Private Profits
    เงินวิจัยจากสาธารณชน แต่กำไรเป็นของเอกชน

    ในช่วงต้น ๆ ของการวิจัยและพัฒนามักจะได้รับทุนสาธารณะ ทั้งจากมหาวิทยาลัยและรัฐบาลหลายแห่งทั่วโลก ...บริษัทยักษ์จะเข้ามาร่วมด้วยหลังจากรู้ชัดว่าการทดลองขั้นต้นแสดงให้เห็นแล้วว่า..ยาตัวนี้น่าจะต้องมีอนาคตแน่

    อย่างไรก็ตาม ถ้าบริษัทไหนได้ถือสิทธิบัตรเอาไว้ ก็จะได้กำไรส่วนใหญ่ไป เพราะเมื่อมีสิทธิบัตรอยู่ในมือ พวกเขาก็จะชาร์จราคาสูงสุดได้ตามใจ พูดอีกอย่างก็คือ ราคาที่คนร่ำรวยจะจ่ายให้ได้

    ถ้าเป็นไปตามนี้ การปล่อยให้บริษัทเอกชนเก็บกำไรทั้งหมดจากยาที่ได้รับสิทธิบัตร..ก็ไม่น่าจะถูกต้องนัก มันคืออีกช่องทางหนึ่งของระบบเศรษฐกิจที่ถูกวางแผนครอบไว้ ในการดูดเอาความมั่งคั่งเข้ากระเป๋าพวกนักบริหารและผู้ถือหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย ...แค่นั้นเอง

    Depriving Poor Countries of Medicines
    คนจนไม่มีสิทธิ์ได้ใช้ยา

    ยาที่จะทำประโยชน์ให้คนนับล้านได้ในประเทศยากจน จำเป็นต้องมีราคาที่คนจนจะจับต้องได้ แต่พวกบิ้กฟาร์ม่าที่ถือสิทธิบัตรยาเหล่านั้น..ต้องการควบคุมการเข้าถึง และชาร์จที่ราคาสูงสุดเท่าที่จะทำได้

    World Trade organization (WTO) มีการบังคับใช้สิทธิบัตรผ่านข้อตกลง ที่เรียกว่า TRIPS (Trade Related Aspects of Intellectual Property) ...แต่ TRIPS ก็ยังมีข้อดีอยู่นิดหน่อยที่อนุญาตให้ประเทศยากจนหลายประเทศสามารถก้อปปี้การผลิตยาเฉพาะตัวที่สำคัญ ๆ และมีข้อบังคับทางกฏหมายให้บางประเทศเช่นอินเดียสามารถทำได้ ...แต่ถึงอย่างนั้น บิ้กฟาร์ม่าก็ยังคงบล็อกการเข้าถึงยาได้ทั่วโลกอยู่ ประเทศยากจนส่วนใหญ่ยังคงต้องซื้อยาในราคาแพงอยู่ เพราะยังคงมีการขู่จากทั้งสหรัฐ อังกฤษ และประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ

    Nelson Mandela ผู้นำประเทศอัฟริกาใต้ เคยพยายามที่จะได้ยา HIV ราคาถูกเพื่อรักษาผู้ป่วยเอดส์ในประเทศ ...บริษัทยาตะวันตกชาร์จที่ราคา $15,000 ต่อคนต่อปี ในขณะที่บริษัทอินเดียผลิตได้แค่ $300 ต่อคนต่อปี ...แต่แมนเดล่าถูกขู่ที่จะแซงค์ชั่น..หลังจากบริษัทยายักษ์ใหญ่ล้อบบี้ฐบาลสหรัฐ ทำให้ผู้คนหลายล้านในอัฟริกาใต้ต้องตาย เพราะไม่สามารถเข้าถึงยาจากอินเดียที่ก้อปปี้จากยาราคาแพงตัวนี้ได้

    More Spent on Marketing Than on Research
    ใช้เงินไปกับการตลาดมากกว่าใช้กับการวิจัยซะอีก

    ถ้ายาได้ผลดีจริง มันก็ไม่ต้องการการตลาดเลย ถ้ามันให้ผลดีจากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์จริงแล้ว แพทย์และเครือข่ายการแพทย์ทั่วโลกย่อมจะต้องนำมาใช้อยู่แล้ว ...แต่จริง ๆ แล้ว ยาส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ผลนัก บริษัทจึงจำเป็นต้องใช้เงินมหาศาลในการ "ชักชวน" ให้แพทย์ทั้งหลายให้มาสั่งใช้ยานั้น ...ทั้งหมดนี้หมายความรวมถึง ของขวัญ การจัดท่องเที่ยววันหยุด หรือการสร้างสิ่งจูงใจ (ฟังดูไพเราะกว่า "สินบน" เยอะเลย) แพทย์จำนวนมากก็แฮ้ปปี้ที่จะร่วมเล่นด้วย ...ค่าใช้จ่ายการตลาดเหล่านี้น่ะ มันรวมอยู่ในราคายาแล้วแหละ

    Fraud and Deception are Widespread
    การฉ้อฉลมันกระจายวงไปกว้างไกลมาก

    อุตสาหกรรมยาเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการคอรัปชั่นมากที่สุด บิ้กฟาร์ม่าหลายแห่งถูกกล่าวหาว่าขายยาที่เป็นอันตราย หรืออาจถึงชีวิตได้ ...อุตสาหกรรมนี้เคยถูกสั่งปรับมาแล้วถึงมากกว่า $5 หมื่นล้านในรอบยี่สิบปีที่ผ่านมา ...เมื่อปี 2012 Glaxo Smith Kline (GSK) ก็ถูกปรับไป $3 พันล้านในสหรัฐที่ขายยาผิดประเภท และจ่ายสินบนแก่แพทย์ และปิดบังผลวิจัย นอกจากนี้ GSK ยังถูกปรับที่อินเดีย อัฟริกาใต้และอังกฤษ

    แต่บริษัทนี้ขายยาแค่รายการเดียวก็อาจเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าค่าปรับหลายเท่าตัวก็ได้สบาย ๆ

    อุตสาหกรรมยามีประวัติการโฆษณายาเกินจริง..ไม่บอกถึงผลด้อยของคุณภาพ..และปิดบังผลร้ายของยามานานแล้ว ...จากการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ แสดงให้เห็นว่า เวชภัณท์มีผลร้ายมากกว่าที่ผู้ผลิตแจ้งไว้ถึง 4 เท่าส่งผลให้มีผู้ป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลถึงสองแสนกว่าคนในอังกฤษ และอีกสองล้านคนในสหรัฐในแต่ละปี

    นอกจากนี้ยังมีกรณีเสียชีวิตอีกถึง 55,000 รายจากยาแก้ปวด แต่ข้อมูลเหล่านี้ถูกปิดบังโดย Merck ผู้ผลิตยา ....ยังมีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจ จากผลของยารักษาเบาหวาน

    ตอนนี้มีหลักฐานว่าบริษัทยาเหล่านี้มีการจัดการยักย้ายงานวิจัยของตน พวกนี้ทดสอบยาของตนเอง และออกผลทดสอบที่แสดงแต่ส่วนดีและซ่อนส่วนที่เป็นโทษ

    อุตสาหกรรมยาใช้เงินล้อบบี้รัฐบาลสหรัฐมากกว่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ ..ปี 2018 มีการใช้เงินถึง $2.8 แสนล้าน นี่แสดงให้เห็นถึงการไร้กฏระเบียบของอุตสาหกรรมนี้ ถึงแม้สหรัฐจะมี Food and Drug Administration (FDA) แต่หน่วยงานนี้ก็มีงบประมาณไม่พอ ทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน ...เจ้าหน้าที่ในสต้าฟมีสัมพันธภาพกับอุตสาหกรรมนี้ อดีตผอ. FDA ก็ออกไปทำงานกับ Pfizer ...ส่วนอดีตสมาชิกสภาคองเกรสจำนวนไม่น้อยก็ไปรับจ้อบเป็นล้อบบี้ยิสต์ให้กับอุตสาหกรรมยา

    สถานการณ์ของการรักษากฏของเรื่องนี้ในอังกฤษยิ่งร้ายหนักกว่าอีก อังกฤษไม่เคยมีการลงโทษบริษัทยาซักแห่งเลย มีการปรับเล็กน้อยรวมกันแค่ £73,300 แต่ไม่เคยมีการบังคับใช้กฏหมายอย่างจริงจังเลย

    Not Fit For Purpose

    แทบทุกประเทศที่มีหน่วยงานเกี่ยวกับอาหารและยามักจะตายใจไม่นึกว่าอุตสาหกรรมยาน่ะมันเชี่..แค่ไหน พวกสื่อเองก็เงียบไม่พูดถึงกำ ไรมหาศาลของบริษัทยาเพราะรับทรัพย์ไปเยอะ ...อุตสาหกรรมนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของอุตสาหกรรมที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อสนองจุดประสงค์แท้จริงของสาธารณชน (not fit for purpose) มันทำความล้มเหลวทั้งในประเทศร่ำรวยและยากจนถ้วนหน้า

    ถ้าอุตสาหกรรมนี้เป็นเรื่องที่ดำเนินงานไปโดยหน่วยงานของชาติ ยาทุกชนิดจะมีราคาเป็นแค่เศษเสี้ยวของราคาปัจจุบัน ไม่ต้องมีปัญหายาปลอม ไม่ต้องมีการล็อบบี้ ไม่ต้องมีการแย่งชิงสิทธิบัตร ประเทศยากจนเข้าถึงยาได้ง่าย ๆ ที่ราคาต่ำมาก ๆ จนอาจให้เปล่าได้เลย

    ถ้าเราพูดถึงการต่อสู้ความยากจนของโลกจริง ๆ แล้ว นี่เป็นเรื่องแรก ๆ ที่ต้องทำ ....แต่ความเป็นไปได้ที่อุตสาหกรรมยาควรจะเป็นเรื่องที่รัฐบาลดำเนินงานเอง เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีใครพูดถึงเลย......

    ***ผมไม่ได้แปลส่วนเชิงอรรถในบทความนะครับ แต่เพื่อน ๆ ดูได้ในบทความต้นฉบับนะครับ***

    https://medium.com/elephantsintheroom/42-the-crimes-of-the-pharmaceutical-industry-5fee08225cbb
    Elephant in the Room The Crimes of the Pharmaceutical Industry เรื่องของบิ้กฟาร์ม่า Roddriver Aug 25, 2021 อุตสาหกรรมยา เป็นการผลิตยาเพื่อผลทางการแพทย์ อุตสาหกรรมนี้เน้นการรณรงค์เรื่องของสิทธิบัตรทั่วโลกเป็นส่วนใหญ่ ...ถึงแม้ว่านักเศรษฐศาสตร์กระแสหลักจะวิจารณ์หนักมากในเรื่องของสิทธิบัตรยา ...ยาที่มีสิทธิบัตรมักจะขายได้ราคาสูงกว่ายาที่ไม่มีสิทธิบัตรนับพัน ๆ เท่า อุตสาหกรรมนี้แสดงให้เห็นได้ชัดเจนถึงประเด็นที่ได้โพสท์ไว้ก่อนหน้านี้ (แปลแล้ว) เกี่ยวกับอำนาจและอาชญากรรมจากสิทธิบัตรของบริษัทยักษ์ทั้งหลาย Researching The Wrong Problems วืจัยเฉพาะเรื่องที่มีกำไร การทำวิจัยส่วนใหญ่มักจะโฟกัสไปที่ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศที่ร่ำรวยที่มีกำลังซื้อ ...มียาเพียง 21 ตัวจาก 1,556 ตัวซึ่งออกสู่ตลาดโลกตั้งแต่ปี 1975 ถึงปี 2004 ที่เล็งเป้าไปต่อสู้กับโรคที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับชาวตะวันตกนัก ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศยากจน บริษัทเหล่านี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ทำการวิจัยยาที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ เช่นไวอากร้ามากกว่ายารักษาวัณโรค เพราะกำไรมันอยู่ตรงนั้น ทั้ง ๆ ที่เราสามารถจัดการกับปัญหาสุขภาพของประเทศยากจนได้โดยใช้ทุนต่ำกว่ามาก ...ตั้งแต่ปี 2006 มาแล้วที่ World Health Organization (WHO) เริ่มพูดถึงปัญหานี้ แต่การหาทุนก็ยังคงมีไม่พอ Social Costs, Private Profits เงินวิจัยจากสาธารณชน แต่กำไรเป็นของเอกชน ในช่วงต้น ๆ ของการวิจัยและพัฒนามักจะได้รับทุนสาธารณะ ทั้งจากมหาวิทยาลัยและรัฐบาลหลายแห่งทั่วโลก ...บริษัทยักษ์จะเข้ามาร่วมด้วยหลังจากรู้ชัดว่าการทดลองขั้นต้นแสดงให้เห็นแล้วว่า..ยาตัวนี้น่าจะต้องมีอนาคตแน่ อย่างไรก็ตาม ถ้าบริษัทไหนได้ถือสิทธิบัตรเอาไว้ ก็จะได้กำไรส่วนใหญ่ไป เพราะเมื่อมีสิทธิบัตรอยู่ในมือ พวกเขาก็จะชาร์จราคาสูงสุดได้ตามใจ พูดอีกอย่างก็คือ ราคาที่คนร่ำรวยจะจ่ายให้ได้ ถ้าเป็นไปตามนี้ การปล่อยให้บริษัทเอกชนเก็บกำไรทั้งหมดจากยาที่ได้รับสิทธิบัตร..ก็ไม่น่าจะถูกต้องนัก มันคืออีกช่องทางหนึ่งของระบบเศรษฐกิจที่ถูกวางแผนครอบไว้ ในการดูดเอาความมั่งคั่งเข้ากระเป๋าพวกนักบริหารและผู้ถือหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย ...แค่นั้นเอง Depriving Poor Countries of Medicines คนจนไม่มีสิทธิ์ได้ใช้ยา ยาที่จะทำประโยชน์ให้คนนับล้านได้ในประเทศยากจน จำเป็นต้องมีราคาที่คนจนจะจับต้องได้ แต่พวกบิ้กฟาร์ม่าที่ถือสิทธิบัตรยาเหล่านั้น..ต้องการควบคุมการเข้าถึง และชาร์จที่ราคาสูงสุดเท่าที่จะทำได้ World Trade organization (WTO) มีการบังคับใช้สิทธิบัตรผ่านข้อตกลง ที่เรียกว่า TRIPS (Trade Related Aspects of Intellectual Property) ...แต่ TRIPS ก็ยังมีข้อดีอยู่นิดหน่อยที่อนุญาตให้ประเทศยากจนหลายประเทศสามารถก้อปปี้การผลิตยาเฉพาะตัวที่สำคัญ ๆ และมีข้อบังคับทางกฏหมายให้บางประเทศเช่นอินเดียสามารถทำได้ ...แต่ถึงอย่างนั้น บิ้กฟาร์ม่าก็ยังคงบล็อกการเข้าถึงยาได้ทั่วโลกอยู่ ประเทศยากจนส่วนใหญ่ยังคงต้องซื้อยาในราคาแพงอยู่ เพราะยังคงมีการขู่จากทั้งสหรัฐ อังกฤษ และประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ Nelson Mandela ผู้นำประเทศอัฟริกาใต้ เคยพยายามที่จะได้ยา HIV ราคาถูกเพื่อรักษาผู้ป่วยเอดส์ในประเทศ ...บริษัทยาตะวันตกชาร์จที่ราคา $15,000 ต่อคนต่อปี ในขณะที่บริษัทอินเดียผลิตได้แค่ $300 ต่อคนต่อปี ...แต่แมนเดล่าถูกขู่ที่จะแซงค์ชั่น..หลังจากบริษัทยายักษ์ใหญ่ล้อบบี้ฐบาลสหรัฐ ทำให้ผู้คนหลายล้านในอัฟริกาใต้ต้องตาย เพราะไม่สามารถเข้าถึงยาจากอินเดียที่ก้อปปี้จากยาราคาแพงตัวนี้ได้ More Spent on Marketing Than on Research ใช้เงินไปกับการตลาดมากกว่าใช้กับการวิจัยซะอีก ถ้ายาได้ผลดีจริง มันก็ไม่ต้องการการตลาดเลย ถ้ามันให้ผลดีจากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์จริงแล้ว แพทย์และเครือข่ายการแพทย์ทั่วโลกย่อมจะต้องนำมาใช้อยู่แล้ว ...แต่จริง ๆ แล้ว ยาส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ผลนัก บริษัทจึงจำเป็นต้องใช้เงินมหาศาลในการ "ชักชวน" ให้แพทย์ทั้งหลายให้มาสั่งใช้ยานั้น ...ทั้งหมดนี้หมายความรวมถึง ของขวัญ การจัดท่องเที่ยววันหยุด หรือการสร้างสิ่งจูงใจ (ฟังดูไพเราะกว่า "สินบน" เยอะเลย) แพทย์จำนวนมากก็แฮ้ปปี้ที่จะร่วมเล่นด้วย ...ค่าใช้จ่ายการตลาดเหล่านี้น่ะ มันรวมอยู่ในราคายาแล้วแหละ Fraud and Deception are Widespread การฉ้อฉลมันกระจายวงไปกว้างไกลมาก อุตสาหกรรมยาเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการคอรัปชั่นมากที่สุด บิ้กฟาร์ม่าหลายแห่งถูกกล่าวหาว่าขายยาที่เป็นอันตราย หรืออาจถึงชีวิตได้ ...อุตสาหกรรมนี้เคยถูกสั่งปรับมาแล้วถึงมากกว่า $5 หมื่นล้านในรอบยี่สิบปีที่ผ่านมา ...เมื่อปี 2012 Glaxo Smith Kline (GSK) ก็ถูกปรับไป $3 พันล้านในสหรัฐที่ขายยาผิดประเภท และจ่ายสินบนแก่แพทย์ และปิดบังผลวิจัย นอกจากนี้ GSK ยังถูกปรับที่อินเดีย อัฟริกาใต้และอังกฤษ แต่บริษัทนี้ขายยาแค่รายการเดียวก็อาจเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าค่าปรับหลายเท่าตัวก็ได้สบาย ๆ อุตสาหกรรมยามีประวัติการโฆษณายาเกินจริง..ไม่บอกถึงผลด้อยของคุณภาพ..และปิดบังผลร้ายของยามานานแล้ว ...จากการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ แสดงให้เห็นว่า เวชภัณท์มีผลร้ายมากกว่าที่ผู้ผลิตแจ้งไว้ถึง 4 เท่าส่งผลให้มีผู้ป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลถึงสองแสนกว่าคนในอังกฤษ และอีกสองล้านคนในสหรัฐในแต่ละปี นอกจากนี้ยังมีกรณีเสียชีวิตอีกถึง 55,000 รายจากยาแก้ปวด แต่ข้อมูลเหล่านี้ถูกปิดบังโดย Merck ผู้ผลิตยา ....ยังมีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจ จากผลของยารักษาเบาหวาน ตอนนี้มีหลักฐานว่าบริษัทยาเหล่านี้มีการจัดการยักย้ายงานวิจัยของตน พวกนี้ทดสอบยาของตนเอง และออกผลทดสอบที่แสดงแต่ส่วนดีและซ่อนส่วนที่เป็นโทษ อุตสาหกรรมยาใช้เงินล้อบบี้รัฐบาลสหรัฐมากกว่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ ..ปี 2018 มีการใช้เงินถึง $2.8 แสนล้าน นี่แสดงให้เห็นถึงการไร้กฏระเบียบของอุตสาหกรรมนี้ ถึงแม้สหรัฐจะมี Food and Drug Administration (FDA) แต่หน่วยงานนี้ก็มีงบประมาณไม่พอ ทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน ...เจ้าหน้าที่ในสต้าฟมีสัมพันธภาพกับอุตสาหกรรมนี้ อดีตผอ. FDA ก็ออกไปทำงานกับ Pfizer ...ส่วนอดีตสมาชิกสภาคองเกรสจำนวนไม่น้อยก็ไปรับจ้อบเป็นล้อบบี้ยิสต์ให้กับอุตสาหกรรมยา สถานการณ์ของการรักษากฏของเรื่องนี้ในอังกฤษยิ่งร้ายหนักกว่าอีก อังกฤษไม่เคยมีการลงโทษบริษัทยาซักแห่งเลย มีการปรับเล็กน้อยรวมกันแค่ £73,300 แต่ไม่เคยมีการบังคับใช้กฏหมายอย่างจริงจังเลย Not Fit For Purpose แทบทุกประเทศที่มีหน่วยงานเกี่ยวกับอาหารและยามักจะตายใจไม่นึกว่าอุตสาหกรรมยาน่ะมันเชี่..แค่ไหน พวกสื่อเองก็เงียบไม่พูดถึงกำ ไรมหาศาลของบริษัทยาเพราะรับทรัพย์ไปเยอะ ...อุตสาหกรรมนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของอุตสาหกรรมที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อสนองจุดประสงค์แท้จริงของสาธารณชน (not fit for purpose) มันทำความล้มเหลวทั้งในประเทศร่ำรวยและยากจนถ้วนหน้า ถ้าอุตสาหกรรมนี้เป็นเรื่องที่ดำเนินงานไปโดยหน่วยงานของชาติ ยาทุกชนิดจะมีราคาเป็นแค่เศษเสี้ยวของราคาปัจจุบัน ไม่ต้องมีปัญหายาปลอม ไม่ต้องมีการล็อบบี้ ไม่ต้องมีการแย่งชิงสิทธิบัตร ประเทศยากจนเข้าถึงยาได้ง่าย ๆ ที่ราคาต่ำมาก ๆ จนอาจให้เปล่าได้เลย ถ้าเราพูดถึงการต่อสู้ความยากจนของโลกจริง ๆ แล้ว นี่เป็นเรื่องแรก ๆ ที่ต้องทำ ....แต่ความเป็นไปได้ที่อุตสาหกรรมยาควรจะเป็นเรื่องที่รัฐบาลดำเนินงานเอง เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีใครพูดถึงเลย...... ***ผมไม่ได้แปลส่วนเชิงอรรถในบทความนะครับ แต่เพื่อน ๆ ดูได้ในบทความต้นฉบับนะครับ*** https://medium.com/elephantsintheroom/42-the-crimes-of-the-pharmaceutical-industry-5fee08225cbb
    MEDIUM.COM
    42) The Crimes of the Pharmaceutical Industry
    “The history of medicine is littered with wonderful early results which over a period of time turn out to be not so wonderful…
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 448 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เคล็ดลับการดูแลผลองุ่นให้โตคุณภาพดี 🍇✨
    เมื่อผลองุ่นเริ่มโตเท่าหัวเข็มหมุด เราสามารถปรับปรุงคุณภาพของผลและช่อองุ่นได้ด้วยเทคนิคดังนี้:

    🌟 #วิธีการดูแลองุ่นให้ผลสวยและคุณภาพดี
    1. #ซอยช่อองุ่น
    ตัดผลองุ่นออกประมาณ 20-30% เพื่อให้ช่อองุ่นโปร่ง 🍇
    ลดความหนาแน่นของผลเพื่อให้ผลที่เหลือเจริญเติบโตได้ดีขึ้น

    2. #พ่นจิ๊บเบอเรลลิค แอซิด (GA3) 🧪
    ใช้ในอัตราส่วน 0.5-1 ซีซีต่อน้ำ 10 ลิตรพ่นทุก 7 วัน จำนวน 3 ครั้ง เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของผล

    3. #ให้ปุ๋ยสูตรเสมอ (เช่น 15-15-15) 🌱
    ให้ทุก 7-10 วัน เพื่อเสริมการเจริญเติบโตของผลและต้น

    4. #พ่นธาตุอาหารรองและเสริมทุก 7 วัน 🧪เน้น แคลเซียมและโบรอน เพื่อป้องกันผลหลุดร่วงและแตก

    5. #การให้น้ำ 💧
    ให้ปริมาณน้ำสม่ำเสมอและเพียงพอ อย่าให้ขาดน้ำในช่วงขยายผล

    6. #การตัดยอด 🌿
    ตัดยอดองุ่นออก 50-80 เซนติเมตร เพื่อควบคุมทรงพุ่มและกระตุ้นการพัฒนาของผล

    7. #สังเกตและป้องกันศัตรูพืช 🐛
    ตรวจสอบโรคเชื้อรา เช่น โรคราน้ำค้างหรือราดำ และแมลงศัตรูพืช
    ใช้ชีวภัณฑ์หรือสารป้องกันที่เหมาะสมพ่น #ไตรโคบิวพลัส ป้องกันโรคเชื้อราและแมลงศัตรูพืชสม่ำเสมอ

    ✨ข้อดีของการจัดการช่อองุ่นที่ดี
    ผลองุ่นเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ 🍇
    ลดการหลุดร่วงและแตกของผล
    เพิ่มคุณภาพและขนาดของผล

    #ลิตเติ้ลฟาร์ม พร้อมดูแลเพื่อนเกษตรกรทุกขั้นตอนการปลูกองุ่น 🍇
    📩 สอบถามเพิ่มเติมได้ทาง Inbox หรือโทร 093-6962691
    ศักรพี 😊✌️
    #เคล็ดลับการดูแลผลองุ่นให้โตคุณภาพดี 🍇✨ เมื่อผลองุ่นเริ่มโตเท่าหัวเข็มหมุด เราสามารถปรับปรุงคุณภาพของผลและช่อองุ่นได้ด้วยเทคนิคดังนี้: 🌟 #วิธีการดูแลองุ่นให้ผลสวยและคุณภาพดี 1. #ซอยช่อองุ่น ตัดผลองุ่นออกประมาณ 20-30% เพื่อให้ช่อองุ่นโปร่ง 🍇 ลดความหนาแน่นของผลเพื่อให้ผลที่เหลือเจริญเติบโตได้ดีขึ้น 2. #พ่นจิ๊บเบอเรลลิค แอซิด (GA3) 🧪 ใช้ในอัตราส่วน 0.5-1 ซีซีต่อน้ำ 10 ลิตรพ่นทุก 7 วัน จำนวน 3 ครั้ง เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของผล 3. #ให้ปุ๋ยสูตรเสมอ (เช่น 15-15-15) 🌱 ให้ทุก 7-10 วัน เพื่อเสริมการเจริญเติบโตของผลและต้น 4. #พ่นธาตุอาหารรองและเสริมทุก 7 วัน 🧪เน้น แคลเซียมและโบรอน เพื่อป้องกันผลหลุดร่วงและแตก 5. #การให้น้ำ 💧 ให้ปริมาณน้ำสม่ำเสมอและเพียงพอ อย่าให้ขาดน้ำในช่วงขยายผล 6. #การตัดยอด 🌿 ตัดยอดองุ่นออก 50-80 เซนติเมตร เพื่อควบคุมทรงพุ่มและกระตุ้นการพัฒนาของผล 7. #สังเกตและป้องกันศัตรูพืช 🐛 ตรวจสอบโรคเชื้อรา เช่น โรคราน้ำค้างหรือราดำ และแมลงศัตรูพืช ใช้ชีวภัณฑ์หรือสารป้องกันที่เหมาะสมพ่น #ไตรโคบิวพลัส ป้องกันโรคเชื้อราและแมลงศัตรูพืชสม่ำเสมอ ✨ข้อดีของการจัดการช่อองุ่นที่ดี ผลองุ่นเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ 🍇 ลดการหลุดร่วงและแตกของผล เพิ่มคุณภาพและขนาดของผล #ลิตเติ้ลฟาร์ม พร้อมดูแลเพื่อนเกษตรกรทุกขั้นตอนการปลูกองุ่น 🍇 📩 สอบถามเพิ่มเติมได้ทาง Inbox หรือโทร 093-6962691 ศักรพี 😊✌️
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 460 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • ⭐️ทัวร์ไต้หวัน - เจี้ยอี้ - เกาสง - ไถตง - นั่งรถไฟชมอุทยานแห่งชาติ อาลีซาน 5 วัน 4 คืน⭐️
    : สถานีรถไฟใต้ดินฟอโมซ่า โบริวาล - วัดฝอกวงซาน - ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ชูลู่ - สะพานซานเซียนไถ - หมู่บ้านศิลปะสถานีรถไฟเก่าเถี่ยฮั่ว

    📍 ช่วงวันเดินทาง : 12-16 เม.ย.68
    ⭕️ราคาเริ่มต้น : 22,555
    📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับมาตรฐาน
    📢 รหัสทัวร์ : Z11908
    🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️
    ✈️ สายการบิน : SL-ไทยไลอ้อนแอร์

    ✔️Travel License: 11/11450

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e487d4

    ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/b999ee

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์ไต้หวัน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    ⭐️ทัวร์ไต้หวัน - เจี้ยอี้ - เกาสง - ไถตง - นั่งรถไฟชมอุทยานแห่งชาติ อาลีซาน 5 วัน 4 คืน⭐️ : สถานีรถไฟใต้ดินฟอโมซ่า โบริวาล - วัดฝอกวงซาน - ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ชูลู่ - สะพานซานเซียนไถ - หมู่บ้านศิลปะสถานีรถไฟเก่าเถี่ยฮั่ว 📍 ช่วงวันเดินทาง : 12-16 เม.ย.68 ⭕️ราคาเริ่มต้น : 22,555 📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับมาตรฐาน 📢 รหัสทัวร์ : Z11908 🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️ ✈️ สายการบิน : SL-ไทยไลอ้อนแอร์ ✔️Travel License: 11/11450 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e487d4 ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/b999ee LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ไต้หวัน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย น่าน ร่วมกับศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค และสำนักวิชาทรัพยากรการเกษตร จุฬาฯ จัดกิจกรรม CHULA NAN RUNNING 2025 "วิ่งเติมฝัน เพื่อวันของน้อง"

    เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2568 ช่วงเช้า สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย น่าน ร่วมกับศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค และสำนักวิชาทรัพยากรการเกษตร จุฬาฯ และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรม CHULA NAN RUNNING 2025 "วิ่งเติมฝัน เพื่อวันของน้อง" โดยมี นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และนายกสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีเปิดฯ ณ ป่า ทำ มา (PATAMMA) ตำบลเมืองจัง อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน

    เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งสนับสนุน "โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีในพื้นที่จังหวัดน่าน" และ "โครงการพัฒนากล้องจุลทรรศน์มอบให้แก่โรงเรียนมัธยมศึกษาในพื้นที่จังหวัดน่าน ของศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาฯ"

    โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก แบ่งเป็นระยะ 5 กม. (Fun Run) และระยะ 10 กม. (Minimarathon) ชาย หญิง รุ่นอายุ 5-19 ปี 20-29 ปี 30-39 ปี 40-49 ปี และ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งมีเหรียญรางวัล มอบให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม และถ้วยไม้แกะสลักอัตลักษณ์เรือแข่งน่าน มอบแก่ผู้ชนะในแต่ละรุ่นอีกด้วย

    ท่ามกลางบรรยากาศวิวที่สวยงามของป่าทำมา พร้อมอากาศหนาวเย็น และสายหมอกยามเช้า กิจกรรมภายในงานนอกจากได้ร่วมกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพแล้ว ยังมีกิจกรรมป้อนนมลูกแพะ กิจกรรมผลไม้เคลือบช็อกโกแลต บูธตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลน่าน พร้อมบริการอาหาร เครื่องดื่ม ผลไม้ฟรีตลอดงาน รับฟรีภาพถ่ายกับวิวสวย ๆ บรรยากาศ ป่า ทำ มา ตลอดเส้นทางวิ่ง และรับไอศกรีมนมแพะ นมพาสเจอร์ไรซ์ คุกกี้ บัตเตอร์เค้กจากฟาร์มศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาฯ อีกด้วย
    @@@@@@@@@@@@@

    ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น จ.น่าน
    สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย น่าน ร่วมกับศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค และสำนักวิชาทรัพยากรการเกษตร จุฬาฯ จัดกิจกรรม CHULA NAN RUNNING 2025 "วิ่งเติมฝัน เพื่อวันของน้อง" เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2568 ช่วงเช้า สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย น่าน ร่วมกับศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค และสำนักวิชาทรัพยากรการเกษตร จุฬาฯ และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรม CHULA NAN RUNNING 2025 "วิ่งเติมฝัน เพื่อวันของน้อง" โดยมี นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และนายกสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีเปิดฯ ณ ป่า ทำ มา (PATAMMA) ตำบลเมืองจัง อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งสนับสนุน "โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีในพื้นที่จังหวัดน่าน" และ "โครงการพัฒนากล้องจุลทรรศน์มอบให้แก่โรงเรียนมัธยมศึกษาในพื้นที่จังหวัดน่าน ของศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาฯ" โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก แบ่งเป็นระยะ 5 กม. (Fun Run) และระยะ 10 กม. (Minimarathon) ชาย หญิง รุ่นอายุ 5-19 ปี 20-29 ปี 30-39 ปี 40-49 ปี และ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งมีเหรียญรางวัล มอบให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม และถ้วยไม้แกะสลักอัตลักษณ์เรือแข่งน่าน มอบแก่ผู้ชนะในแต่ละรุ่นอีกด้วย ท่ามกลางบรรยากาศวิวที่สวยงามของป่าทำมา พร้อมอากาศหนาวเย็น และสายหมอกยามเช้า กิจกรรมภายในงานนอกจากได้ร่วมกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพแล้ว ยังมีกิจกรรมป้อนนมลูกแพะ กิจกรรมผลไม้เคลือบช็อกโกแลต บูธตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลน่าน พร้อมบริการอาหาร เครื่องดื่ม ผลไม้ฟรีตลอดงาน รับฟรีภาพถ่ายกับวิวสวย ๆ บรรยากาศ ป่า ทำ มา ตลอดเส้นทางวิ่ง และรับไอศกรีมนมแพะ นมพาสเจอร์ไรซ์ คุกกี้ บัตเตอร์เค้กจากฟาร์มศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาฯ อีกด้วย @@@@@@@@@@@@@ ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น จ.น่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • กล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังเผชิญกับปัญหามลพิษทางแสง! เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะมีโครงการพลังงานหมุนเวียนมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์ที่กำลังจะสร้างใกล้กับหอดูดาว European Southern Observatory's Very Large Telescope (VLT) ในชิลี โครงการนี้อาจทำให้ท้องฟ้าสว่างขึ้นถึง 10% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการสังเกตการณ์ของกล้องโทรทรรศน์ VLT อย่างมาก

    Xavier Barcons ผู้อำนวยการทั่วไปของ ESO บอกว่า การเพิ่มความสว่างของท้องฟ้าเพียง 10% อาจทำให้กล้องโทรทรรศน์ VLT สูญเสียความสามารถในการสังเกตการณ์กาแล็กซีที่จางที่สุดถึง 30% กล้องโทรทรรศน์ VLT มีความไวสูงมากและเคยทำการค้นพบที่น่าทึ่ง เช่น การถ่ายภาพตรงของดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะและการเปิดเผยโครงสร้างของจักรวาล

    โครงการพลังงานหมุนเวียนนี้ชื่อว่า INNA Renewables Park ซึ่งวางแผนโดยบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ AES โครงการนี้จะครอบคลุมพื้นที่กว่า 7,400 เอเคอร์ในทะเลทราย Atacama ของชิลี และมีฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ ฟาร์มพลังงานลม และโรงงานผลิตไฮโดรเจน แต่โครงการนี้อาจทำให้ท้องฟ้าสว่างขึ้นเหมือนกับเมืองที่มีประชากร 20,000 คน

    AES Corporation เป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1981 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย AES เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า โดยมีโรงไฟฟ้าทั่วโลกและให้บริการในกว่า 15 ประเทศ

    ESO ไม่ได้คัดค้านโครงการนี้ แต่ต้องการให้ AES สร้างโครงการนี้ให้ห่างจากหอดูดาวมากขึ้น การย้ายโครงการไปไกลออกไป 50 กิโลเมตรจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ นอกจากนี้ ESO ยังเรียกร้องให้มีการคุ้มครองทางกฎหมายที่เข้มงวดขึ้นสำหรับท้องฟ้ายามค่ำคืนของชิลี โดยเฉพาะบริเวณหอดูดาวในทะเลทราย Atacama

    https://www.techspot.com/news/106412-world-largest-telescopes-threatened-renewable-energy-project-light.html
    กล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังเผชิญกับปัญหามลพิษทางแสง! เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะมีโครงการพลังงานหมุนเวียนมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์ที่กำลังจะสร้างใกล้กับหอดูดาว European Southern Observatory's Very Large Telescope (VLT) ในชิลี โครงการนี้อาจทำให้ท้องฟ้าสว่างขึ้นถึง 10% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการสังเกตการณ์ของกล้องโทรทรรศน์ VLT อย่างมาก Xavier Barcons ผู้อำนวยการทั่วไปของ ESO บอกว่า การเพิ่มความสว่างของท้องฟ้าเพียง 10% อาจทำให้กล้องโทรทรรศน์ VLT สูญเสียความสามารถในการสังเกตการณ์กาแล็กซีที่จางที่สุดถึง 30% กล้องโทรทรรศน์ VLT มีความไวสูงมากและเคยทำการค้นพบที่น่าทึ่ง เช่น การถ่ายภาพตรงของดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะและการเปิดเผยโครงสร้างของจักรวาล โครงการพลังงานหมุนเวียนนี้ชื่อว่า INNA Renewables Park ซึ่งวางแผนโดยบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ AES โครงการนี้จะครอบคลุมพื้นที่กว่า 7,400 เอเคอร์ในทะเลทราย Atacama ของชิลี และมีฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ ฟาร์มพลังงานลม และโรงงานผลิตไฮโดรเจน แต่โครงการนี้อาจทำให้ท้องฟ้าสว่างขึ้นเหมือนกับเมืองที่มีประชากร 20,000 คน AES Corporation เป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1981 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย AES เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า โดยมีโรงไฟฟ้าทั่วโลกและให้บริการในกว่า 15 ประเทศ ESO ไม่ได้คัดค้านโครงการนี้ แต่ต้องการให้ AES สร้างโครงการนี้ให้ห่างจากหอดูดาวมากขึ้น การย้ายโครงการไปไกลออกไป 50 กิโลเมตรจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ นอกจากนี้ ESO ยังเรียกร้องให้มีการคุ้มครองทางกฎหมายที่เข้มงวดขึ้นสำหรับท้องฟ้ายามค่ำคืนของชิลี โดยเฉพาะบริเวณหอดูดาวในทะเลทราย Atacama https://www.techspot.com/news/106412-world-largest-telescopes-threatened-renewable-energy-project-light.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    World's largest telescopes threatened by light pollution
    European Southern Observatory Director General Xavier Barcons told Space.com that astronomers expect the project to brighten the sky by up to 10 percent around the observatory. Such...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทคนิคการเตรียมวัสดุปลูกเมล่อน แบบมืออาชีพ! #เมล่อนญี่ปุ่น #เม ล่อน #ปลูกเมล่อน #melon #farm #ลิตเติ้ลฟาร์ม #สรีรวิทยาพืช #การ จัดการธาตุอาหารพืช #เทคนิคการ ปลูกเมล่อนคุณภาพ #วัสดุปลูก
    เทคนิคการเตรียมวัสดุปลูกเมล่อน แบบมืออาชีพ! #เมล่อนญี่ปุ่น #เม ล่อน #ปลูกเมล่อน #melon #farm #ลิตเติ้ลฟาร์ม #สรีรวิทยาพืช #การ จัดการธาตุอาหารพืช #เทคนิคการ ปลูกเมล่อนคุณภาพ #วัสดุปลูก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚨 #อันตรายจากราแป้ง: ศัตรูร้ายทำลายความหวานเมล่อน!

    🔍 สัญญาณเตือนการระบาดของราแป้ง:
    - หมอกหนาในตอนเช้า
    - ลมพัดเบาๆ
    - อากาศเย็นชื้น

    🌿 ลักษณะอาการที่พบ:
    - คราบผงสีขาวคล้ายแป้งบนใบ
    - เส้นใยฟูสีขาวเป็นหย่อมๆ
    - ใบเริ่มเหลืองและแห้ง

    ⚠️ ผลกระทบต่อผลผลิต:
    1. เชื้อราแทงเส้นใยดูดอาหารจากใบ
    2. ต้นเมล่อนชะงักการเจริญเติบโต
    3. ความหวานของผลลดลงอย่างมาก
    4. ผลผลิตเสียหายรุนแรง

    🛡️ แนวทางการป้องกัน:
    1. ก่อนปลูก:
    - ทำความสะอาดโรงเรือนด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
    - กำจัดเศษพืชที่เป็นแหล่งสะสมโรค

    2. ระหว่างปลูก:
    - พ่น #ไตรโคบิวพลัส ทุก 5 วัน
    - ควบคุมความชื้นในโรงเรือน
    - ตรวจสอบต้นเมล่อนสม่ำเสมอ

    🏥 วิธีรักษาเมื่อพบการระบาด:
    1. ระบาดเล็กน้อย:
    - พ่น #ไตรโคบิวพลัส ทุก 3 วัน
    - ตัดใบที่เป็นโรครุนแรงทิ้ง

    2. ระบาดรุนแรง:
    - ผสมกำมะถัน 40 กรัม/น้ำ 20 ลิตร
    - พ่นทุก 3 วันจนควบคุมได้
    - กำจัดใบที่เป็นโรคเผาทำลาย

    ⚡ ข้อควรระวัง:
    - ราแป้งสามารถระบาดได้ทุกระยะการเจริญเติบโต
    - เชื้อสามารถพักตัวและกลับมาระบาดซ้ำได้
    - ต้องป้องกันอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ

    🌱 ลิตเติ้ลฟาร์ม พร้อมให้คำปรึกษา:
    - เมล็ดพันธุ์เมล่อนคุณภาพ
    - ชีวภัณฑ์ป้องกันกำจัดโรค
    - ปุ๋ย AB คุณภาพสูง
    - ธาตุอาหารเสริม

    📱 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
    - Inbox
    - โทร: 093-696-2691

    #การปลูกเมล่อน #โรคพืช #เกษตรปลอดภัย #ลิตเติ้ลฟาร์ม
    🚨 #อันตรายจากราแป้ง: ศัตรูร้ายทำลายความหวานเมล่อน! 🔍 สัญญาณเตือนการระบาดของราแป้ง: - หมอกหนาในตอนเช้า - ลมพัดเบาๆ - อากาศเย็นชื้น 🌿 ลักษณะอาการที่พบ: - คราบผงสีขาวคล้ายแป้งบนใบ - เส้นใยฟูสีขาวเป็นหย่อมๆ - ใบเริ่มเหลืองและแห้ง ⚠️ ผลกระทบต่อผลผลิต: 1. เชื้อราแทงเส้นใยดูดอาหารจากใบ 2. ต้นเมล่อนชะงักการเจริญเติบโต 3. ความหวานของผลลดลงอย่างมาก 4. ผลผลิตเสียหายรุนแรง 🛡️ แนวทางการป้องกัน: 1. ก่อนปลูก: - ทำความสะอาดโรงเรือนด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ - กำจัดเศษพืชที่เป็นแหล่งสะสมโรค 2. ระหว่างปลูก: - พ่น #ไตรโคบิวพลัส ทุก 5 วัน - ควบคุมความชื้นในโรงเรือน - ตรวจสอบต้นเมล่อนสม่ำเสมอ 🏥 วิธีรักษาเมื่อพบการระบาด: 1. ระบาดเล็กน้อย: - พ่น #ไตรโคบิวพลัส ทุก 3 วัน - ตัดใบที่เป็นโรครุนแรงทิ้ง 2. ระบาดรุนแรง: - ผสมกำมะถัน 40 กรัม/น้ำ 20 ลิตร - พ่นทุก 3 วันจนควบคุมได้ - กำจัดใบที่เป็นโรคเผาทำลาย ⚡ ข้อควรระวัง: - ราแป้งสามารถระบาดได้ทุกระยะการเจริญเติบโต - เชื้อสามารถพักตัวและกลับมาระบาดซ้ำได้ - ต้องป้องกันอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ 🌱 ลิตเติ้ลฟาร์ม พร้อมให้คำปรึกษา: - เมล็ดพันธุ์เมล่อนคุณภาพ - ชีวภัณฑ์ป้องกันกำจัดโรค - ปุ๋ย AB คุณภาพสูง - ธาตุอาหารเสริม 📱 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: - Inbox - โทร: 093-696-2691 #การปลูกเมล่อน #โรคพืช #เกษตรปลอดภัย #ลิตเติ้ลฟาร์ม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✴ เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ผมเฝ้าติดตามการเสียชีวิตโดยรวมจากทุกสาเหตุของคนไทย โดยเข้าไปที่ฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย หลังจากทบทวนข้อมูลย้อนหลังหลายปีที่ผ่านมา
    สิ่งที่ทำให้ผมข้องใจ และตั้งคำถามมาตลอดคือ เหตุใดคนไทยจึงเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่การระบาดของโควิดลดลง เพราะว่าถ้าเป็นการเสียชีวิตจากการระบาดของโควิด เมื่อการระบาดจบลงการเสียชีวิตย่อมต้องลดลงไปใกล้เคียงกับการเสียชีวิตก่อนการระบาด หรือถ้าจะโทษการปิดบ้านปิดเมืองว่าเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต
    เมื่อเปิดบ้านเปิดเมืองตามปกติ การเสียชีวิตก็ควรจะต้องลดลงมาใกล้เคียงกับก่อนปิดบ้านปิดเมือง แต่ตัวเลขสถิติที่เห็นไม่ได้เป็นเช่นนั้น
    🔸️ในปี 2562 (2019) ก่อนการระบาดของเชื้อโควิด (อย่าลืมว่าบ้านเราเริ่มระบาดปี 2563 หรือ ค.ศ. 2020) คนไทยเสียชีวิตโดยรวมทั้งปี 506,221 ราย ไม่มีเสียชีวิตจากโควิดเลย
    🔸️ในปี 2563 (2020) ปีเริ่มระบาด ปีที่ยังไม่มีวัคซีน คนไทยเสียชีวิตโดยรวม "ลดลง" เหลือ 501,438 ราย มีผู้เสียชีวิตจากโควิด 61 ราย
    🔸️ปี 2564 (2021) การระบาดรุนแรง เสียชีวิตจากโควิดรวม 21,637 ราย เป็นปีที่มีการเสียชีวิตจากโควิดมากที่สุด ปีนั้นคนไทยเสียชีวิตโดยรวม 563,650 ราย ปีนี้เป็นปีที่มีการเริ่มต้นฉีดวัคซีน โดยเริ่มจากวันที่ 28 กพ เริ่มฉีด ชิโนแวค และ แอสตร้าเซนเนก้า วันที่ 25 มิย เริ่มฉีดชิโนฟาร์ม วันที่ 30 กค เริ่มฉีดไฟเซอร์ และวันที่ 9 พย เริ่มฉีดโมเดอร์นา
    🔸️ปี 2565 (2022) ปีนั้น การระบาดเริ่มสงบลง เชื้อกลายพันธุ์ ลดความรุนแรง คนไทยเสียชีวิตจากโควิดลดลงเหลือ 11,073 ราย แต่คนไทยเสียชีวิตโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น 595,965 ราย ทั้งที่การระบาดยุติ เปิดบ้านเปิดเมืองตามปกติ และที่สำคัญคนไทยฉีดวัคซีนไปมากมาย
    🔸️ปี 2566 (2023) ปีนี้การระบาดยุติ การเสียชีวิตจากโควิดทั้งปี เหลือ 852 ราย แต่การเสียชีวิตจากทุกสาเหตุรวมกันยังคงสูงถึง 565,992 ราย
    ปีล่าสุดที่พึ่งผ่านมา
    🔸️2567 (2024) โควิดเงียบสงบมาก ทั้งปีเสียชีวิตจากโควิดเพียง 220 ราย แต่การเสียชีวิตโดยรวมจากทุกสาเหตุ สูงถึง 571,646 ราย หรือสูงกว่าปี 2562 ก่อนการระบาดของโควิด 65,425 ราย มากกว่า การเสียชีวิตจากโควิดตั้งแต่เริ่มมีการระบาดรวมกันทั้งหมด

    Figure 1จำนวนผู้เสียชีวิตรวมทุกสาเหตุรายปีตั้งแต่ปี 2558 ถึง 2567

    ❓คำถามคือ ทำไม คนไทยยังคงเสียชีวิตในอัตราที่สูงอยู่ทั้งที่การระบาดยุติลง และเป็นการเสียชีวิตในอัตราที่สูงต่อเนื่องกันสามปี ทั้งนี้มีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่เผชิญปัญหาเดียวกัน ทั้งที่ประเทศเหล่านั้นไม่มีปัญหาฝุ่น pm 2.5 ไม่มีปัญหา คลื่นความร้อนเหมือนในไทย ปัจจัยเดียวที่พบร่วมกันคือ มีการรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนโควิด เหมือนกัน และอัตราการเสียชีวิตที่ผิดปกติเพิ่มขึ้นหลังการระดมฉีดเหมือนกัน ที่น่าสนใจ คือ ประเทศเหล่านั้น รวมทั้งประเทศไทย ไม่สนใจที่จะสืบหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ผิดปกติ ไม่มีการนำเสนอข่าวสำคัญนี้ในสื่อกระแสหลัก หรือว่า เรื่องการเสียชีวิตที่ผิดปกตินี้ เป็นอีกเรื่องที่ ขัดกับ narrative ขัดกับความต้องการของบริษัทยา❗ ไม่ต่างจากการปิดบังเรื่องอื่นๆ ของโควิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ต้นกำเนิดของเชื้อโควิด จากห้องทดลอง เรื่องยาถูกดีปลอดภัยที่ใช้รักษาโควิดได้ เรื่องภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติที่ดีกว่า ภูมิคุ้มกันจากวัคซีน หรือเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนโควิด
    😰คำถาม คือ คนไทย หมอไทย จะรอดูคนใกล้ชิด ล้มตายก่อนวัยอันควร โดยไม่ทำอะไรกันเลยหรือ?ปัญหาใดๆ ก็ตาม ถ้ายอมรับและลงมือแก้ไข ย่อมมีทางแก้ปัญหาเสมอ แต่การวิ่งหนีปัญหา ไม่ยอมรับรังแต่จะทำให้ปัญหานั้นทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อรู้ตัว อาจจะสายไปแล้ว

    Figure 2 จำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโควิดตั้งแต่เริ่มการระบาด

    Figure 3 จำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโควิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565

    Figure 4 จำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโควิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566

    Figure 5 จำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโควิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567

    ไฟล์PDF
    https://drive.google.com/file/d/1mfgjiKEyCTfccFf_TcdVjDmS0jvJwzPa/view?usp=drivesdk

    https://www.facebook.com/share/p/15vyAPBgac/
    นิลฉงน นลเฉลย

    นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    ✴ เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ผมเฝ้าติดตามการเสียชีวิตโดยรวมจากทุกสาเหตุของคนไทย โดยเข้าไปที่ฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย หลังจากทบทวนข้อมูลย้อนหลังหลายปีที่ผ่านมา สิ่งที่ทำให้ผมข้องใจ และตั้งคำถามมาตลอดคือ เหตุใดคนไทยจึงเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่การระบาดของโควิดลดลง เพราะว่าถ้าเป็นการเสียชีวิตจากการระบาดของโควิด เมื่อการระบาดจบลงการเสียชีวิตย่อมต้องลดลงไปใกล้เคียงกับการเสียชีวิตก่อนการระบาด หรือถ้าจะโทษการปิดบ้านปิดเมืองว่าเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต เมื่อเปิดบ้านเปิดเมืองตามปกติ การเสียชีวิตก็ควรจะต้องลดลงมาใกล้เคียงกับก่อนปิดบ้านปิดเมือง แต่ตัวเลขสถิติที่เห็นไม่ได้เป็นเช่นนั้น 🔸️ในปี 2562 (2019) ก่อนการระบาดของเชื้อโควิด (อย่าลืมว่าบ้านเราเริ่มระบาดปี 2563 หรือ ค.ศ. 2020) คนไทยเสียชีวิตโดยรวมทั้งปี 506,221 ราย ไม่มีเสียชีวิตจากโควิดเลย 🔸️ในปี 2563 (2020) ปีเริ่มระบาด ปีที่ยังไม่มีวัคซีน คนไทยเสียชีวิตโดยรวม "ลดลง" เหลือ 501,438 ราย มีผู้เสียชีวิตจากโควิด 61 ราย 🔸️ปี 2564 (2021) การระบาดรุนแรง เสียชีวิตจากโควิดรวม 21,637 ราย เป็นปีที่มีการเสียชีวิตจากโควิดมากที่สุด ปีนั้นคนไทยเสียชีวิตโดยรวม 563,650 ราย ปีนี้เป็นปีที่มีการเริ่มต้นฉีดวัคซีน โดยเริ่มจากวันที่ 28 กพ เริ่มฉีด ชิโนแวค และ แอสตร้าเซนเนก้า วันที่ 25 มิย เริ่มฉีดชิโนฟาร์ม วันที่ 30 กค เริ่มฉีดไฟเซอร์ และวันที่ 9 พย เริ่มฉีดโมเดอร์นา 🔸️ปี 2565 (2022) ปีนั้น การระบาดเริ่มสงบลง เชื้อกลายพันธุ์ ลดความรุนแรง คนไทยเสียชีวิตจากโควิดลดลงเหลือ 11,073 ราย แต่คนไทยเสียชีวิตโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น 595,965 ราย ทั้งที่การระบาดยุติ เปิดบ้านเปิดเมืองตามปกติ และที่สำคัญคนไทยฉีดวัคซีนไปมากมาย 🔸️ปี 2566 (2023) ปีนี้การระบาดยุติ การเสียชีวิตจากโควิดทั้งปี เหลือ 852 ราย แต่การเสียชีวิตจากทุกสาเหตุรวมกันยังคงสูงถึง 565,992 ราย ปีล่าสุดที่พึ่งผ่านมา 🔸️2567 (2024) โควิดเงียบสงบมาก ทั้งปีเสียชีวิตจากโควิดเพียง 220 ราย แต่การเสียชีวิตโดยรวมจากทุกสาเหตุ สูงถึง 571,646 ราย หรือสูงกว่าปี 2562 ก่อนการระบาดของโควิด 65,425 ราย มากกว่า การเสียชีวิตจากโควิดตั้งแต่เริ่มมีการระบาดรวมกันทั้งหมด Figure 1จำนวนผู้เสียชีวิตรวมทุกสาเหตุรายปีตั้งแต่ปี 2558 ถึง 2567 ❓คำถามคือ ทำไม คนไทยยังคงเสียชีวิตในอัตราที่สูงอยู่ทั้งที่การระบาดยุติลง และเป็นการเสียชีวิตในอัตราที่สูงต่อเนื่องกันสามปี ทั้งนี้มีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่เผชิญปัญหาเดียวกัน ทั้งที่ประเทศเหล่านั้นไม่มีปัญหาฝุ่น pm 2.5 ไม่มีปัญหา คลื่นความร้อนเหมือนในไทย ปัจจัยเดียวที่พบร่วมกันคือ มีการรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนโควิด เหมือนกัน และอัตราการเสียชีวิตที่ผิดปกติเพิ่มขึ้นหลังการระดมฉีดเหมือนกัน ที่น่าสนใจ คือ ประเทศเหล่านั้น รวมทั้งประเทศไทย ไม่สนใจที่จะสืบหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ผิดปกติ ไม่มีการนำเสนอข่าวสำคัญนี้ในสื่อกระแสหลัก หรือว่า เรื่องการเสียชีวิตที่ผิดปกตินี้ เป็นอีกเรื่องที่ ขัดกับ narrative ขัดกับความต้องการของบริษัทยา❗ ไม่ต่างจากการปิดบังเรื่องอื่นๆ ของโควิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ต้นกำเนิดของเชื้อโควิด จากห้องทดลอง เรื่องยาถูกดีปลอดภัยที่ใช้รักษาโควิดได้ เรื่องภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติที่ดีกว่า ภูมิคุ้มกันจากวัคซีน หรือเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนโควิด 😰คำถาม คือ คนไทย หมอไทย จะรอดูคนใกล้ชิด ล้มตายก่อนวัยอันควร โดยไม่ทำอะไรกันเลยหรือ?ปัญหาใดๆ ก็ตาม ถ้ายอมรับและลงมือแก้ไข ย่อมมีทางแก้ปัญหาเสมอ แต่การวิ่งหนีปัญหา ไม่ยอมรับรังแต่จะทำให้ปัญหานั้นทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อรู้ตัว อาจจะสายไปแล้ว Figure 2 จำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโควิดตั้งแต่เริ่มการระบาด Figure 3 จำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโควิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 Figure 4 จำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโควิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 Figure 5 จำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตจากโควิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ไฟล์PDF https://drive.google.com/file/d/1mfgjiKEyCTfccFf_TcdVjDmS0jvJwzPa/view?usp=drivesdk https://www.facebook.com/share/p/15vyAPBgac/ นิลฉงน นลเฉลย นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 467 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลงานปฏิมากรรม ดร.ปัญญา โชติเทวัญ ผู้ก่อตั้งสหฟาร์มและบ้านสุขาวดี
    ปั้นโดย ดร.สันติ พิเชฐชัยกุล ประติมากรเอกระดับโลก
    #สหฟาร์ม
    #บ้านสุขาวดี
    ผลงานปฏิมากรรม ดร.ปัญญา โชติเทวัญ ผู้ก่อตั้งสหฟาร์มและบ้านสุขาวดี ปั้นโดย ดร.สันติ พิเชฐชัยกุล ประติมากรเอกระดับโลก #สหฟาร์ม #บ้านสุขาวดี
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 469 มุมมอง 9 0 รีวิว
  • ผลงานปฏิมากรรม ดร.ปัญญา โชติเทวัญ ผู้ก่อตั้งสหฟาร์มและบ้านสุขาวดี
    ปั้นโดย ดร.สันติ พิเชฐชัยกุล ประติมากรเอกระดับโลก
    #สหฟาร์ม
    #บ้านสุขาวดี
    ผลงานปฏิมากรรม ดร.ปัญญา โชติเทวัญ ผู้ก่อตั้งสหฟาร์มและบ้านสุขาวดี ปั้นโดย ดร.สันติ พิเชฐชัยกุล ประติมากรเอกระดับโลก #สหฟาร์ม #บ้านสุขาวดี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 427 มุมมอง 4 0 รีวิว
Pages Boosts