• เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อดำ วัดตุยง จ.ปัตตานี ปี2516
    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อดำ วัดตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ปี2516 // พระดีพิธีใหญ่ พิธีเข้มขลัง เป็นเหรียญสายเหนียว จ.ปัตตานี // พระสถาพผิวหิ้ง หายากก พระสถาพใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณทางด้าน มหาอุดอยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เสริมสิริมงคลแก่ผู้บูชา มีประสบการณ์มากมาย>>

    ** หลวงพ่อดำ ท่านเป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย และมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ท่านยังเป็น พระกรรมวาจาจารย์ (เป็นพระคู่สวดของ อาจารย์ทิม วัดช้างให้) อีกทั้งท่านยังเป็นประธานในพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลของวัดช้างให้มาโดยตลอดอีกด้วย>>

    ** พระสถาพผิวหิ้ง หายากก พระสถาพใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อดำ วัดตุยง จ.ปัตตานี ปี2516 เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อดำ วัดตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ปี2516 // พระดีพิธีใหญ่ พิธีเข้มขลัง เป็นเหรียญสายเหนียว จ.ปัตตานี // พระสถาพผิวหิ้ง หายากก พระสถาพใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณทางด้าน มหาอุดอยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เสริมสิริมงคลแก่ผู้บูชา มีประสบการณ์มากมาย>> ** หลวงพ่อดำ ท่านเป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย และมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ท่านยังเป็น พระกรรมวาจาจารย์ (เป็นพระคู่สวดของ อาจารย์ทิม วัดช้างให้) อีกทั้งท่านยังเป็นประธานในพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลของวัดช้างให้มาโดยตลอดอีกด้วย>> ** พระสถาพผิวหิ้ง หายากก พระสถาพใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • พ่อท่านคล้ายวัดสวนขัน พิมพ์ห่มคลุม วัดวังตะวันออก ปี2502
    พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน เนื้อว่านผสมชานหมาก หลังเสมา( พิมพ์นี้หายาก ) พิมพ์ห่มคลุม พิมพ์ใหญ่(แจกวัดวังตะวันออก ปี2502 //พระดีพิธีใหญ่ พิมพ์ที่หายากที่สุด เนื้อหาจัดมากมวลสาร แก่ว่านและชานหมาก จัดเป็นโซนเนื้อที่หายากมาก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัย ทำมาค้าขึ้น โรคภัยไม่เบียดเบียน ความเจริญก้าวหน้า จะเกิดแก่ผู้ครอบครอง >>

    ** "พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์" เทวดาเมืองคอน พระสงฆ์ที่ได้ฉายาว่า "เทวดาแห่งเมืองคอน" โดยที่ท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูง ประชาชนชาวนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียงต่างเคารพนับถือศรัทธาและเชื่อถือถึงความศักดิ์สิทธิ์ พ่อท่านคล้ายได้มรณภาพไปแล้วกว่า 50 ปี แต่สรีระสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย และยังคงเก็บรักษาไว้ในองค์เจดีย์วัดธาตุน้อย >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พ่อท่านคล้ายวัดสวนขัน พิมพ์ห่มคลุม วัดวังตะวันออก ปี2502 พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน เนื้อว่านผสมชานหมาก หลังเสมา( พิมพ์นี้หายาก ) พิมพ์ห่มคลุม พิมพ์ใหญ่(แจกวัดวังตะวันออก ปี2502 //พระดีพิธีใหญ่ พิมพ์ที่หายากที่สุด เนื้อหาจัดมากมวลสาร แก่ว่านและชานหมาก จัดเป็นโซนเนื้อที่หายากมาก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัย ทำมาค้าขึ้น โรคภัยไม่เบียดเบียน ความเจริญก้าวหน้า จะเกิดแก่ผู้ครอบครอง >> ** "พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์" เทวดาเมืองคอน พระสงฆ์ที่ได้ฉายาว่า "เทวดาแห่งเมืองคอน" โดยที่ท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูง ประชาชนชาวนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียงต่างเคารพนับถือศรัทธาและเชื่อถือถึงความศักดิ์สิทธิ์ พ่อท่านคล้ายได้มรณภาพไปแล้วกว่า 50 ปี แต่สรีระสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย และยังคงเก็บรักษาไว้ในองค์เจดีย์วัดธาตุน้อย >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
  • เขย่าวงการศาสนา! วัดป่าถูกแฉเป็นเครือข่ายธุรกิจแฝง พระสงฆ์ใช้ศรัทธาชักชวนศิษย์ลงทุน ก่อนกลายเป็นขบวนการฉ้อโกงกว่า 200 ล้านบาท

    #sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #sondhix #เปิดโปงเครือข่ายวัดป่า #เครือข่ายธุรกิจวัดป่า #ศรัทธาถูกใช้บังหน้า #ธรรมะกลายเป็นธุรกิจ
    เขย่าวงการศาสนา! วัดป่าถูกแฉเป็นเครือข่ายธุรกิจแฝง พระสงฆ์ใช้ศรัทธาชักชวนศิษย์ลงทุน ก่อนกลายเป็นขบวนการฉ้อโกงกว่า 200 ล้านบาท #sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #sondhix #เปิดโปงเครือข่ายวัดป่า #เครือข่ายธุรกิจวัดป่า #ศรัทธาถูกใช้บังหน้า #ธรรมะกลายเป็นธุรกิจ
    Like
    Angry
    Love
    21
    0 Comments 0 Shares 2157 Views 46 0 Reviews
  • เหรียญเม็ดแตงหลวงพ่อบุญ วัดสารวัน จ.ปัตตานี ปี2535
    เหรียญเม็ดแตงหลวงพ่อบุญ วัดสารวัน อำเภอไม้แก่น จ.ปัตตานี ปี2535 //พระเกจิ ปลายด้ามขวาน ที่ศพแข็งเหมือนหิน พระดีมีประสบการณ์มาก //พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย หายากกครับ >> รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** หลวงพ่อบุญ ติสสโร เป็นพระภิกษุที่ประพฤติปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เป็นแบบอย่างที่ดีของพระสงฆ์ และท่านทบทวนบทสวดมนต์สม่ำเสมอ โดยใช้เวลานั่งสวดมนต์หน้าพระประธานบนกุฏิหลังใหญ่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมท่านพระครูบุณยโสภณ และสนทนาธรรม พระองค์มีความเลื่อมใส ในการปฏิบัติธรรมของ ท่านพระครูบุณยโสภณ จึงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นค่าภัตตาหารประจำทุกปีๆ ละ 10,000 บาท

    เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2536 สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จวันสารวัน และมีกระแสรับสั่งผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายพลากร สุวรรณรัฐ และท่านเจ้าคุณสุนทรราชมานิตเถระวัดในวัง อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ให้ฌาปนกิจศพท่าน พระครูบุณยโสภณ ซึ่งญาติโยมไม่กล้าทำพิธีฌาปนกิจ เพราะศพท่านมีลักษณะ แข็งเหมือนหิน ไม่เน่าเปื่อย เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ควรเก็บไว้บูชาต่อไป หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ประชุมชี้แจงชาวบ้านญาติโยมสารวัน จนเป็นที่เข้าใจตรงกันในพระมหากรุณาธิคุณ และท่านเจ้าคุณสุนทรราชมานิตเถระได้ประชุมชาวบ้านสารวันและใกล้เคียง แล้วกำหนดวัน พระราชทานเพิลงศพท่านพระครูบุณยโสภณ ตรงกับวันที่ 10 เมษายน 2537 >>


    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญเม็ดแตงหลวงพ่อบุญ วัดสารวัน จ.ปัตตานี ปี2535 เหรียญเม็ดแตงหลวงพ่อบุญ วัดสารวัน อำเภอไม้แก่น จ.ปัตตานี ปี2535 //พระเกจิ ปลายด้ามขวาน ที่ศพแข็งเหมือนหิน พระดีมีประสบการณ์มาก //พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย หายากกครับ >> รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** หลวงพ่อบุญ ติสสโร เป็นพระภิกษุที่ประพฤติปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เป็นแบบอย่างที่ดีของพระสงฆ์ และท่านทบทวนบทสวดมนต์สม่ำเสมอ โดยใช้เวลานั่งสวดมนต์หน้าพระประธานบนกุฏิหลังใหญ่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมท่านพระครูบุณยโสภณ และสนทนาธรรม พระองค์มีความเลื่อมใส ในการปฏิบัติธรรมของ ท่านพระครูบุณยโสภณ จึงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นค่าภัตตาหารประจำทุกปีๆ ละ 10,000 บาท เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2536 สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จวันสารวัน และมีกระแสรับสั่งผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายพลากร สุวรรณรัฐ และท่านเจ้าคุณสุนทรราชมานิตเถระวัดในวัง อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ให้ฌาปนกิจศพท่าน พระครูบุณยโสภณ ซึ่งญาติโยมไม่กล้าทำพิธีฌาปนกิจ เพราะศพท่านมีลักษณะ แข็งเหมือนหิน ไม่เน่าเปื่อย เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ควรเก็บไว้บูชาต่อไป หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ประชุมชี้แจงชาวบ้านญาติโยมสารวัน จนเป็นที่เข้าใจตรงกันในพระมหากรุณาธิคุณ และท่านเจ้าคุณสุนทรราชมานิตเถระได้ประชุมชาวบ้านสารวันและใกล้เคียง แล้วกำหนดวัน พระราชทานเพิลงศพท่านพระครูบุณยโสภณ ตรงกับวันที่ 10 เมษายน 2537 >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 365 Views 0 Reviews
  • เขมรไม่ยอมหยุด! ยั่วยุเยาะเย้ย “ผู้การเนี๊ยะ” จากร้องเพลงปลุกใจ ในปราสาทตาเมือนธม สู่ยกพล 3 กองร้อย ประชิดพรมแดน

    🔥 สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากประเทศไทย เริ่มปราบปราม "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" อย่างจริงจัง ซึ่งส่งผลกระทบต่อขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ที่มีเครือข่ายอยู่ในกัมพูชา 🇰🇭

    แม้ว่าทางการกัมพูชา จะออกมาสนับสนุนไทยอย่างเป็นทางการ แต่กลับมีเหตุการณ์ไม่สงบ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสุรินทร์ และอุบลราชธานี

    และล่าสุด... 💥

    เมื่อวันเสาร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2568 กองกำลังติดอาวุธทหารกัมพูชา จำนวน 3 กองร้อย รวม 528 นาย ได้เคลื่อนกำลังเข้าใกล้ชายแดน ด้านอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อ้างว่า “พากำลังทหารมากราบไหว้ สักการะปราสาทตาเมือนธม” แต่กลับไม่มีการเตรียมดอกไม้ ธูปเทียน หรือสิ่งของบูชาใด ๆ

    🔴 นี่คือการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ หรือเป็นมากกว่านั้น?

    👤 พล.ต.เนี๊ยะ วงษ์ (Neak Vong) หรือผู้การเยี๊ยะ ผู้บังคับการกองพลน้อยทหารราบที่ 42 ของกัมพูชา เป็นตัวละครสำคัญในเหตุการณ์ครั้งนี้

    📌 ย้อนรอยเหตุการณ์ที่ทำให้ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาตึงเครียด

    5 ตุลาคม 2567 ผู้การเนี๊ยะนำพระสงฆ์ และเด็กนักเรียนกัมพูชา เข้ามาในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม พร้อมร้องเพลงชาติกัมพูชา

    ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ผู้การเนี๊ยะนำคณะแม่บ้าน 25 คน มาร้องเพลงปลุกใจ ในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม สร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายไทย ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 2 กรมทหารราบที่ 23 กองทัพภาคที่ 2 ที่ประจำการรักษาอธิปไตยไทยในบริเวณนั้น ต้องกล่าวแจ้งเตือนไม่ให้ผู้การเนี้ยะ ทำกิจกรรมในเชิงสัญลักษณ์ สร้างความไม่พอใจให้ผู้การเนี๊ยะเป็นอย่างมาก ถึงขั้นโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง หลุดปากกล่าวท้าทายทหารไทย "ให้มายิงกัน!"

    บ่ายวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 15.00 น. นายเนียม จันญาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ได้นำคณะทหารกัมพูชา รวมถึงผู้การเนี๊ยะ เดินทางมาเจรจากับ พันโท จักรกฤษ ปิยะศุภฤกษ์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23 (ผบ.ร.23 พัน.4) ที่ปราสาทตาเมือนธม เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ในกองทัพภูมิภาคที่ 4 กัมพูชา เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อาจจะด้วยความเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม

    วันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2568 กองกำลังติดอาวุธ ทหารกัมพูชา 3 กองร้อย 528 นาย เคลื่อนพลมาประชิดพรมแดน ด้านอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แล้วปลดอาวุธเดินข้ามพรมแดน อ้างว่ามากราบไหว้สักการะปราสาทตาเหมือนธม โดยที่ไม่มีการเตรียมธูปเทียนดอกไม้ หรือสิ่งของเซ่นไหว้มาด้วย จนคล้ายกับเป็นการยั่วยุเยาะเย้ยทหารไทย

    🇹🇭 ฝ่ายไทยพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง โดยการเจรจาผ่านทางการทูต แต่กัมพูชากลับใช้วิธี ปลุกกระแสรักชาติในประเทศตนเอง

    🔴 แล้วอะไรคือเป้าหมายที่แท้จริงของ “ผู้การเนี้ยะ” และรัฐบาลกัมพูชา?

    📍 ปราสาทตาเมือนธม จุดยุทธศาสตร์และประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในเขต อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์

    🏛️ เป็นหนึ่งในปราสาทสำคัญ ของกลุ่มปราสาทตาเมือน ซึ่งประกอบด้วย 3 ปราสาทหลัก ได้แก่
    1️⃣ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทหลักและใหญ่ที่สุด
    2️⃣ ปราสาทตาเมือนโต๊ด เชื่อว่าเคยเป็นโรงพยาบาลโบราณ
    3️⃣ ปราสาทตาเมือน หรือบายกรีม เป็นธรรมศาลา หรือสถานที่พักของนักเดินทาง

    🔎 ปราสาทแห่งนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อเส้นทางโบราณ จากกัมพูชาสู่ภาคอีสานของไทย มีความสำคัญทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่พิพาททางพรมแดน ที่ยังไม่ได้ข้อยุติ

    👉 นี่อาจเป็นเหตุผลที่กัมพูชา พยายามเข้ามาสร้างอิทธิพล ในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม

    🎭 เบื้องหลังความขัดแย้ง การเมืองหรือศักดิ์ศรีชาติ? การเคลื่อนไหวของกัมพูชา ไม่ใช่แค่เรื่องประวัติศาสตร์หรือพรมแดน แต่นี่คือ "เกมการเมือง"

    📌 เชื่อมโยงกับปัญหาการเมืองภายในของกัมพูชา ปัจจุบันรัฐบาล "ฮุน มาเนต" ลูกชายของฮุน เซน กำลังเผชิญแรงกดดันจากฝ่ายค้าน ที่ผ่านมา "ฮุน เซน" เคยใช้ประเด็นความขัดแย้งชายแดน ปลุกกระแสรักชาติ เพื่อรักษาอำนาจของตระกูลตนเอง การกระทำของผู้การเนี๊ยะ อาจเป็นแผนสร้างแรงสนับสนุนให้รัฐบาลกัมพูชา

    📌 เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ไทย-กัมพูชา? ไทยและกัมพูชามีแผนขุดเจาะทรัพยากรน้ำมัน ในเขตทับซ้อนทางทะเล ข้อพิพาทชายแดน อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือเจรจาต่อรอง ทางเศรษฐกิจและการเมือง

    🇰🇭 หรือแท้จริงแล้ว นี่คือแผนของกัมพูชา ในการกดดันไทย?

    🔴 กัมพูชากำลังเล่นเกมอะไร? การกระทำของผู้การเนี๊ยะ และทหารกัมพูชา อาจเป็นเพียงแค่ หมากตัวหนึ่งของรัฐบาลกัมพูชา

    📌 วิเคราะห์แนวทางที่เป็นไปได้ของกัมพูชา
    - สร้างกระแสรักชาติเพื่อดึงความสนใจ จากปัญหาการเมืองภายใน
    - กดดันไทยในประเด็นพรมแดน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือเจรจาทางเศรษฐกิจ
    - ทดสอบปฏิกิริยาของรัฐบาลไทย ก่อนเดินเกมต่อไป

    🇹🇭 ทางออกของไทยควรเป็นอย่างไร?
    ✅ รักษาความสัมพันธ์ทางการทูต หลีกเลี่ยงการใช้กำลัง
    ✅ เฝ้าระวังการเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชา อย่างใกล้ชิด
    ✅ ใช้การเจรจาในระดับสูง เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลาม

    🔥 นี่คือเกมการเมือง หรือสงครามชายแดนรอบใหม่? ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด!

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 090905 มี.ค. 2568

    #เขมรไม่หยุด #ตาเมือนธม #ชายแดนไทยกัมพูชา #สงครามชายแดน #ผู้การเนี้ยะ #กัมพูชา #ข่าวด่วน #ความขัดแย้งชายแดน #ไทยกัมพูชา #ปราสาทตาเมือน
    เขมรไม่ยอมหยุด! ยั่วยุเยาะเย้ย “ผู้การเนี๊ยะ” จากร้องเพลงปลุกใจ ในปราสาทตาเมือนธม สู่ยกพล 3 กองร้อย ประชิดพรมแดน 🔥 สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากประเทศไทย เริ่มปราบปราม "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" อย่างจริงจัง ซึ่งส่งผลกระทบต่อขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ที่มีเครือข่ายอยู่ในกัมพูชา 🇰🇭 แม้ว่าทางการกัมพูชา จะออกมาสนับสนุนไทยอย่างเป็นทางการ แต่กลับมีเหตุการณ์ไม่สงบ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสุรินทร์ และอุบลราชธานี และล่าสุด... 💥 เมื่อวันเสาร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2568 กองกำลังติดอาวุธทหารกัมพูชา จำนวน 3 กองร้อย รวม 528 นาย ได้เคลื่อนกำลังเข้าใกล้ชายแดน ด้านอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อ้างว่า “พากำลังทหารมากราบไหว้ สักการะปราสาทตาเมือนธม” แต่กลับไม่มีการเตรียมดอกไม้ ธูปเทียน หรือสิ่งของบูชาใด ๆ 🔴 นี่คือการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ หรือเป็นมากกว่านั้น? 👤 พล.ต.เนี๊ยะ วงษ์ (Neak Vong) หรือผู้การเยี๊ยะ ผู้บังคับการกองพลน้อยทหารราบที่ 42 ของกัมพูชา เป็นตัวละครสำคัญในเหตุการณ์ครั้งนี้ 📌 ย้อนรอยเหตุการณ์ที่ทำให้ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาตึงเครียด 5 ตุลาคม 2567 ผู้การเนี๊ยะนำพระสงฆ์ และเด็กนักเรียนกัมพูชา เข้ามาในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม พร้อมร้องเพลงชาติกัมพูชา ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ผู้การเนี๊ยะนำคณะแม่บ้าน 25 คน มาร้องเพลงปลุกใจ ในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม สร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายไทย ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 2 กรมทหารราบที่ 23 กองทัพภาคที่ 2 ที่ประจำการรักษาอธิปไตยไทยในบริเวณนั้น ต้องกล่าวแจ้งเตือนไม่ให้ผู้การเนี้ยะ ทำกิจกรรมในเชิงสัญลักษณ์ สร้างความไม่พอใจให้ผู้การเนี๊ยะเป็นอย่างมาก ถึงขั้นโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง หลุดปากกล่าวท้าทายทหารไทย "ให้มายิงกัน!" บ่ายวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 15.00 น. นายเนียม จันญาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ได้นำคณะทหารกัมพูชา รวมถึงผู้การเนี๊ยะ เดินทางมาเจรจากับ พันโท จักรกฤษ ปิยะศุภฤกษ์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23 (ผบ.ร.23 พัน.4) ที่ปราสาทตาเมือนธม เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ในกองทัพภูมิภาคที่ 4 กัมพูชา เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อาจจะด้วยความเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม วันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2568 กองกำลังติดอาวุธ ทหารกัมพูชา 3 กองร้อย 528 นาย เคลื่อนพลมาประชิดพรมแดน ด้านอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แล้วปลดอาวุธเดินข้ามพรมแดน อ้างว่ามากราบไหว้สักการะปราสาทตาเหมือนธม โดยที่ไม่มีการเตรียมธูปเทียนดอกไม้ หรือสิ่งของเซ่นไหว้มาด้วย จนคล้ายกับเป็นการยั่วยุเยาะเย้ยทหารไทย 🇹🇭 ฝ่ายไทยพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง โดยการเจรจาผ่านทางการทูต แต่กัมพูชากลับใช้วิธี ปลุกกระแสรักชาติในประเทศตนเอง 🔴 แล้วอะไรคือเป้าหมายที่แท้จริงของ “ผู้การเนี้ยะ” และรัฐบาลกัมพูชา? 📍 ปราสาทตาเมือนธม จุดยุทธศาสตร์และประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในเขต อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ 🏛️ เป็นหนึ่งในปราสาทสำคัญ ของกลุ่มปราสาทตาเมือน ซึ่งประกอบด้วย 3 ปราสาทหลัก ได้แก่ 1️⃣ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทหลักและใหญ่ที่สุด 2️⃣ ปราสาทตาเมือนโต๊ด เชื่อว่าเคยเป็นโรงพยาบาลโบราณ 3️⃣ ปราสาทตาเมือน หรือบายกรีม เป็นธรรมศาลา หรือสถานที่พักของนักเดินทาง 🔎 ปราสาทแห่งนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อเส้นทางโบราณ จากกัมพูชาสู่ภาคอีสานของไทย มีความสำคัญทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่พิพาททางพรมแดน ที่ยังไม่ได้ข้อยุติ 👉 นี่อาจเป็นเหตุผลที่กัมพูชา พยายามเข้ามาสร้างอิทธิพล ในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม 🎭 เบื้องหลังความขัดแย้ง การเมืองหรือศักดิ์ศรีชาติ? การเคลื่อนไหวของกัมพูชา ไม่ใช่แค่เรื่องประวัติศาสตร์หรือพรมแดน แต่นี่คือ "เกมการเมือง" 📌 เชื่อมโยงกับปัญหาการเมืองภายในของกัมพูชา ปัจจุบันรัฐบาล "ฮุน มาเนต" ลูกชายของฮุน เซน กำลังเผชิญแรงกดดันจากฝ่ายค้าน ที่ผ่านมา "ฮุน เซน" เคยใช้ประเด็นความขัดแย้งชายแดน ปลุกกระแสรักชาติ เพื่อรักษาอำนาจของตระกูลตนเอง การกระทำของผู้การเนี๊ยะ อาจเป็นแผนสร้างแรงสนับสนุนให้รัฐบาลกัมพูชา 📌 เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ไทย-กัมพูชา? ไทยและกัมพูชามีแผนขุดเจาะทรัพยากรน้ำมัน ในเขตทับซ้อนทางทะเล ข้อพิพาทชายแดน อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือเจรจาต่อรอง ทางเศรษฐกิจและการเมือง 🇰🇭 หรือแท้จริงแล้ว นี่คือแผนของกัมพูชา ในการกดดันไทย? 🔴 กัมพูชากำลังเล่นเกมอะไร? การกระทำของผู้การเนี๊ยะ และทหารกัมพูชา อาจเป็นเพียงแค่ หมากตัวหนึ่งของรัฐบาลกัมพูชา 📌 วิเคราะห์แนวทางที่เป็นไปได้ของกัมพูชา - สร้างกระแสรักชาติเพื่อดึงความสนใจ จากปัญหาการเมืองภายใน - กดดันไทยในประเด็นพรมแดน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือเจรจาทางเศรษฐกิจ - ทดสอบปฏิกิริยาของรัฐบาลไทย ก่อนเดินเกมต่อไป 🇹🇭 ทางออกของไทยควรเป็นอย่างไร? ✅ รักษาความสัมพันธ์ทางการทูต หลีกเลี่ยงการใช้กำลัง ✅ เฝ้าระวังการเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชา อย่างใกล้ชิด ✅ ใช้การเจรจาในระดับสูง เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลาม 🔥 นี่คือเกมการเมือง หรือสงครามชายแดนรอบใหม่? ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด! ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 090905 มี.ค. 2568 #เขมรไม่หยุด #ตาเมือนธม #ชายแดนไทยกัมพูชา #สงครามชายแดน #ผู้การเนี้ยะ #กัมพูชา #ข่าวด่วน #ความขัดแย้งชายแดน #ไทยกัมพูชา #ปราสาทตาเมือน
    0 Comments 0 Shares 671 Views 0 Reviews
  • เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่กล้าย วัดโตนด นาปะขอ จ.พัทลุง ปี2542
    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่กล้าย วัดโตนด นาปะขอ จ.พัทลุง ปี2542 //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยเกจิสายเขาอ้อ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณทางเมตตา แคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอุด มหาอำนาจ มหาโชค มหาลาภ เมตตามหานิยม >>

    ** วัดโตนด สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓ เป็นวัดเก่าแก่ซึ่งกลายสภาพเป็นวัดร้างมาก่อน ในการบูรณะพัฒนาวัดใหม่มีพระอธิการเชน สุวฑฺฒโน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่ามะเดื่อ มาดำเนินการ และอยู่ปกครองวัดเป็นรูปแรกที่ทำให้วัดกลายสภาพเป็นวัดมีพระสงฆ์ที่มั่งคั่งขึ้นตามลำดับ ชาวบ้านมักเรียกสั้นๆว่า “วัดโหนด” เกี่ยวกับการศึกษา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๔ มีโรงเรียนประถมศึกษาเปิดสอนขึ้นในวัด ต่อมา พ.ศ. ๒๕๑๖ ได้ย้ายอาคารเรียนออกไปอยู่นอกเขตวัดทางทิศเหนือ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่กล้าย วัดโตนด นาปะขอ จ.พัทลุง ปี2542 เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่กล้าย วัดโตนด นาปะขอ จ.พัทลุง ปี2542 //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยเกจิสายเขาอ้อ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณทางเมตตา แคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอุด มหาอำนาจ มหาโชค มหาลาภ เมตตามหานิยม >> ** วัดโตนด สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓ เป็นวัดเก่าแก่ซึ่งกลายสภาพเป็นวัดร้างมาก่อน ในการบูรณะพัฒนาวัดใหม่มีพระอธิการเชน สุวฑฺฒโน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่ามะเดื่อ มาดำเนินการ และอยู่ปกครองวัดเป็นรูปแรกที่ทำให้วัดกลายสภาพเป็นวัดมีพระสงฆ์ที่มั่งคั่งขึ้นตามลำดับ ชาวบ้านมักเรียกสั้นๆว่า “วัดโหนด” เกี่ยวกับการศึกษา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๔ มีโรงเรียนประถมศึกษาเปิดสอนขึ้นในวัด ต่อมา พ.ศ. ๒๕๑๖ ได้ย้ายอาคารเรียนออกไปอยู่นอกเขตวัดทางทิศเหนือ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 242 Views 0 Reviews
  • พระแก้วสามดวงอยู่ในจิตของเรา คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    รักษาเอาไว้
    พระแก้วสามดวงอยู่ในจิตของเรา คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รักษาเอาไว้
    0 Comments 0 Shares 70 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงพ่อจีต วัดถ้ำเขาพลู จ.ชุมพร ปี2548
    เหรียญหลวงพ่อจีต ผูกพัทธสีมา วัดถ้ำเขาพลู อ.ปะทิว จ.ชุมพร ปี2548 // พระเกจิที่ชาวเมืองชุมพร ให้ความเลื่อมใสศรัทธา // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณจะป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง เสนียดจัญไร ค้าขายดีและเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง เพิ่มพูนเมตตามหานิยม เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก. >>

    ** “หลวงพ่อจีต ปุญญสโร” วัดถ้ำเขาพลู ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร พระเกจิที่ชาวเมืองชุมพร ให้ความเลื่อมใสศรัทธา และรู้จักชื่อเสียงของท่านเป็นอย่างดี ท่านได้มาศึกษาพระธรรมวินัย กับ พระอาจารย์เส่ง วัดป่าบ่อ อ.เมือง จ.สงขลา จนมีความรู้ความสามารถ ท่านจึงขออนุญาตพระอาจารย์ออกธุดงค์ เที่ยวรุกขมูลไปทางนครศรีธรรมราช ภูเก็ต กระบี่ ระนอง จนถึงชุมพร ในปี พ.ศ.2466 ก็ได้มาเจอถ้ำเขาพลู ต.ชุมโค อ.ปะทิว >>

    ** หลวงพ่อจีต เป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย รักษาศีล 227 ข้อตามพระพุทธบัญญัติมิให้มัวหมองในข้อใดๆ ท่านมีจริยวัตรอันงดงาม มีเมตตาจิต และเมตตาธรรมสูง และสมถะ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ที่ได้พบเห็น เป็นเนื้อนาบุญที่ดีงาม ไม่เห็นแก่ลาภยศ ไม่หยิบต้องเงินทอง >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อจีต วัดถ้ำเขาพลู จ.ชุมพร ปี2548 เหรียญหลวงพ่อจีต ผูกพัทธสีมา วัดถ้ำเขาพลู อ.ปะทิว จ.ชุมพร ปี2548 // พระเกจิที่ชาวเมืองชุมพร ให้ความเลื่อมใสศรัทธา // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณจะป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง เสนียดจัญไร ค้าขายดีและเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง เพิ่มพูนเมตตามหานิยม เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก. >> ** “หลวงพ่อจีต ปุญญสโร” วัดถ้ำเขาพลู ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร พระเกจิที่ชาวเมืองชุมพร ให้ความเลื่อมใสศรัทธา และรู้จักชื่อเสียงของท่านเป็นอย่างดี ท่านได้มาศึกษาพระธรรมวินัย กับ พระอาจารย์เส่ง วัดป่าบ่อ อ.เมือง จ.สงขลา จนมีความรู้ความสามารถ ท่านจึงขออนุญาตพระอาจารย์ออกธุดงค์ เที่ยวรุกขมูลไปทางนครศรีธรรมราช ภูเก็ต กระบี่ ระนอง จนถึงชุมพร ในปี พ.ศ.2466 ก็ได้มาเจอถ้ำเขาพลู ต.ชุมโค อ.ปะทิว >> ** หลวงพ่อจีต เป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย รักษาศีล 227 ข้อตามพระพุทธบัญญัติมิให้มัวหมองในข้อใดๆ ท่านมีจริยวัตรอันงดงาม มีเมตตาจิต และเมตตาธรรมสูง และสมถะ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ที่ได้พบเห็น เป็นเนื้อนาบุญที่ดีงาม ไม่เห็นแก่ลาภยศ ไม่หยิบต้องเงินทอง >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 275 Views 0 Reviews
  • ค่ำมาก็บูชาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
    สวดมนต์ม ภาวนา ปฏิบัติให้สม่ำเสมอ
    ค่ำมาก็บูชาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ สวดมนต์ม ภาวนา ปฏิบัติให้สม่ำเสมอ
    0 Comments 0 Shares 124 Views 0 Reviews
  • ระยอง -​ ชาวบ้านฮือไล่เจ้าอาวาสวัดพลา อ จ.ระยอง โชว์คลิปหวิวช่วยตัวเองกับหญิงคู่ขาในโลกออนไลน์​หลักฐานชัดทั้งภาพ-เสียงคราง เจ้าตัวยังรับทำจริงอ้างถูกหลอกรีดเงิน 2แสนบาทไม่ให้จึงถูกปล่อยประจาน ไม่พอใจ เจ้าคณะตำบลพลา สั่งแค่ให้พ้นหน้าที่ไม่จับสึกอ้างแค่ความผิด "อาบัติสังฆาทิเสส"

    วันนี้ (23 ก.พ.)​ ชาวบ้านนับร้อยคนได้พากันไปรวมตัวที่วัดพลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เพื่อขับไล่ พระครูวิธานสุพัฒน์กิจ เจ้าอาวาสวัดพลา หลังมีการเผยแพร่คลิปพฤติ​กรรมที่ไม่เหมาะสมบนโลกออนไลน์​ โดยคลิปดังกล่าวมีความยาวประมาณ 1.10 นาที เป็นภาพขณะที่พระสงฆ์สวมแว่นกำลังช่วยตัวเองและส่งเสียงครางกระเส่าเป็นระยะ และยังมีภาพผู้หญิงอีกฝั่งที่กำลังใช้แตงกวาขนาดใหญ่ช่วยตัวเอง

    โดยชาวบ้านเชื่อว่าคลิปดังกล่าวพระสงฆ์และหญิงคนนี้น่าจะถ่ายไว้ดูกันเอง ซึ่งการกระทำของพระรูปนี้ถือเป็นการกระทำที่เสื่อมทรามต่อพระพุทธศาสนาและต้องการให้ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส พร้อมให้สึกจากการเป็นพระ​ทันที

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000017853

    #MGROnline #ระยอง
    ระยอง -​ ชาวบ้านฮือไล่เจ้าอาวาสวัดพลา อ จ.ระยอง โชว์คลิปหวิวช่วยตัวเองกับหญิงคู่ขาในโลกออนไลน์​หลักฐานชัดทั้งภาพ-เสียงคราง เจ้าตัวยังรับทำจริงอ้างถูกหลอกรีดเงิน 2แสนบาทไม่ให้จึงถูกปล่อยประจาน ไม่พอใจ เจ้าคณะตำบลพลา สั่งแค่ให้พ้นหน้าที่ไม่จับสึกอ้างแค่ความผิด "อาบัติสังฆาทิเสส" • วันนี้ (23 ก.พ.)​ ชาวบ้านนับร้อยคนได้พากันไปรวมตัวที่วัดพลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เพื่อขับไล่ พระครูวิธานสุพัฒน์กิจ เจ้าอาวาสวัดพลา หลังมีการเผยแพร่คลิปพฤติ​กรรมที่ไม่เหมาะสมบนโลกออนไลน์​ โดยคลิปดังกล่าวมีความยาวประมาณ 1.10 นาที เป็นภาพขณะที่พระสงฆ์สวมแว่นกำลังช่วยตัวเองและส่งเสียงครางกระเส่าเป็นระยะ และยังมีภาพผู้หญิงอีกฝั่งที่กำลังใช้แตงกวาขนาดใหญ่ช่วยตัวเอง • โดยชาวบ้านเชื่อว่าคลิปดังกล่าวพระสงฆ์และหญิงคนนี้น่าจะถ่ายไว้ดูกันเอง ซึ่งการกระทำของพระรูปนี้ถือเป็นการกระทำที่เสื่อมทรามต่อพระพุทธศาสนาและต้องการให้ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส พร้อมให้สึกจากการเป็นพระ​ทันที • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000017853 • #MGROnline #ระยอง
    0 Comments 0 Shares 282 Views 0 Reviews
  • เมื่อวานฟัง รศ.ดร.ท่านนึงพูด..เรื่อง สงฆ์ที่ให้ทัศนะความรู้แบบ รู้จริง ถึงแก่น...โพสลงยอดกด like หลักสิบ....แต่พระสงฆ์ celebrity พูดแต่เปลือก..ยอด Like เป็นหมื่น.....ถ้าเรายึดหลักวิธีคิดแบบ โซเกรตีส..ในเคสแรก.ถิงยอดกด Like จะน้อย...มันทำให้สิ่งนั้น ลดคุณค่าลงไหม? ...เปรียบเหมือนดอกไม้สวยๆ...ถ้าไม่มีคนชมว่าสวย..มันก็ยังคงสวยอยู่......
    ...คุณค่าของทุกสิ่ง..เกิดขึ้นจากตัวมันเอง...ไม่ต้องรอใครบอก..ไม่ค้องให้ใครมามอบให้...
    #โซเกรตีสปราชญ์กรีกย้อนไป 2000 กว่าปี.
    เมื่อวานฟัง รศ.ดร.ท่านนึงพูด..เรื่อง สงฆ์ที่ให้ทัศนะความรู้แบบ รู้จริง ถึงแก่น...โพสลงยอดกด like หลักสิบ....แต่พระสงฆ์ celebrity พูดแต่เปลือก..ยอด Like เป็นหมื่น.....ถ้าเรายึดหลักวิธีคิดแบบ โซเกรตีส..ในเคสแรก.ถิงยอดกด Like จะน้อย...มันทำให้สิ่งนั้น ลดคุณค่าลงไหม? ...เปรียบเหมือนดอกไม้สวยๆ...ถ้าไม่มีคนชมว่าสวย..มันก็ยังคงสวยอยู่...... ...คุณค่าของทุกสิ่ง..เกิดขึ้นจากตัวมันเอง...ไม่ต้องรอใครบอก..ไม่ค้องให้ใครมามอบให้... #โซเกรตีสปราชญ์กรีกย้อนไป 2000 กว่าปี.
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • 86 ปี สิ้น “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” เจ้าตนบุญแห่งล้านนา คณะสงฆ์ลำพูนขยาดบารมี ยัดอธิกรณ์ 8 ข้อ ความขัดแย้งที่บานปลาย

    📌 ย้อนรอยประวัติศาสตร์ ไปสู่เรื่องราวของ “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” เจ้าตนบุญแห่งล้านนา ผู้เป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวเหนือ แม้กระทั่งเจ้าคณะสงฆ์ในยุคสมัยนั้น ยังต้องหวั่นเกรงในบารมี จนเกิดการตั้งอธิกรณ์ถึง 8 ข้อ นำไปสู่การควบคุมตัว และขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ในหมู่คณะสงฆ์ล้านนา

    🔎 86 ปี แห่งการมรณภาพ ของครูบาเจ้าศรีวิชัย
    หากย้อนเวลากลับไปเมื่อ 86 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2481 (เมื่อก่อนนับศักราชใหม่ ในวันสงกรานต์ ถ้าเทียบปัจจุบันจะเป็นต้นปี พ.ศ. 2482) นับเป็นปีที่พุทธศาสนิกชนไทย ต้องโศกเศร้าอย่างใหญ่หลวง เพราะเป็นวันมรณภาพของ "ครูบาเจ้าศรีวิชัย" พระเกจิชื่อดังแห่งล้านนา ผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้าง และบูรณะพุทธศาสนสถาน ทั่วภาคเหนือของไทย

    ครูบาเจ้าศรีวิชัยละสังขาร ที่วัดบ้านปาง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน สิริอายุได้ 60 ปี ก่อนที่ศพจะถูกตั้งไว้ ที่วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน เป็นเวลาหลายปี กระทั่งวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2489 มีการพระราชทานเพลิงศพ โดยมีประชาชนจำนวนมหาศาลเข้าร่วมพิธี และเหตุการณ์ที่น่าตกใจคือ มีผู้แย่งชิงอัฐิของครูบาเจ้าศรีวิชัย ตั้งแต่เปลวไฟยังไม่มอดสนิท

    ✨ แม้แต่ดินตรงที่ถวายพระเพลิงศพ ยังถูกขุดเอาไปบูชา แสดงให้เห็นถึงแรงศรัทธาของประชาชน ที่มีต่อครูบาเจ้าศรีวิชัย

    👶 วัยเยาว์ ชาติกำเนิดของตนบุญ
    ครูบาเจ้าศรีวิชัย เกิดเมื่อวันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2421 ปีขาล ขณะที่เกิด มีพายุฟ้าร้องรุนแรง จึงถูกตั้งชื่อว่า อินตาเฟือน หรืออ้ายฟ้าร้อง บิดาชื่อ นายควาย มีเชื้อสายกะเหรี่ยงแดง มารดาชื่อ นางอุสา บ้างว่าเป็นชาวเชียงใหม่ บ้างว่าเป็นชาวเมืองลี้

    เมื่ออายุได้ 18 ปี มีความคิดว่าความยากจนของตน เกิดจากกรรมในอดีต จึงตัดสินใจออกบวช เพื่อสร้างบุญกุศล และตอบแทนบุญคุณบิดามารดา

    📌 ครูบาศรีวิชัยบรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดบ้านปาง ก่อนอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในวัย 21 ปี ที่วัดบ้านโฮ่งหลวง จังหวัดลำพูน ได้รับฉายาทางธรรมว่า "พระศรีวิชัย"

    🏯 บทบาทของครูบาเจ้าศรีวิชัย ในการพัฒนาพุทธศาสนาในล้านนา
    ครูบาเจ้าศรีวิชัย ไม่ได้เป็นเพียงพระนักปฏิบัติธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นพระนักพัฒนา สร้างและบูรณะวัดมากมาย รวมถึงเส้นทางคมนาคมสำคัญ เช่น

    ✔️ สร้างถนนขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ
    ✔️ บูรณะวัดพระธาตุหริภุญชัย วัดจามเทวี วัดสวนดอก ฯลฯ
    ✔️ เป็นผู้นำพุทธศาสนิกชน ร่วมแรงร่วมใจ ในการก่อสร้างศาสนสถาน

    ✨ ศรัทธาของประชาชน ที่มีต่อครูบาเจ้าศรีวิชัยสูงส่ง ถึงขนาดที่ว่า ชาวบ้านเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ เพียงเพื่อจะได้พบหน้า

    ⚖️ ถูกตั้งอธิกรณ์ 8 ข้อ?
    การที่ครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้รับความศรัทธามาก ทำให้คณะสงฆ์ล้านนาบางกลุ่ม โดยเฉพาะเจ้าคณะจัวงหวัดลำพูน เริ่มไม่พอใจ และหวาดกลัวอิทธิพล

    ในที่สุด เจ้าคณะจังหวัดลำพูน ได้นำการตั้งอธิกรณ์ หรือข้อกล่าวหา ต่อครูบาเจ้าศรีวิชัยถึง 8 ข้อ โดยกล่าวหาว่า

    ❌ ทำตัวเป็น “ผีบุญ” อวดอิทธิฤทธิ์เหนือธรรมชาติ
    ❌ ซ่องสุมกำลังประชาชน เสมือนเป็นผู้นำลัทธิใหม่
    ❌ ขัดขืนอำนาจคณะสงฆ์ฝ่ายปกครอง
    ❌ ไม่ปฏิบัติตามระเบียบสงฆ์ ของสยามประเทศ
    ❌ จัดพิธีกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต
    ❌ มีพฤติกรรมเสมือนเป็นผู้นำทางการเมือง

    📌 ผลจากข้อกล่าวหาเหล่านี้ ทำให้ครูบาเจ้าศรีวิชัย ถูกควบคุมตัวส่งไปไต่สวนที่กรุงเทพฯ

    ⚔️ ความขัดแย้งระหว่างครูบาเจ้าศรีวิชัย กับคณะสงฆ์ล้านนา
    1️⃣ คณะสงฆ์ล้านนาแบ่งเป็น 3 กลุ่ม
    ✔️ กลุ่มที่ยอมรับอำนาจของกรุงเทพฯ สนับสนุนการปกครองสงฆ์แบบรวมศูนย์
    ✔️ กลุ่มประนีประนอม ไม่ต่อต้าน แต่ก็ไม่ได้ร่วมมือเต็มที่
    ✔️ กลุ่มต่อต้านกรุงเทพฯ ต้องการคงจารีตล้านนาแบบดั้งเดิม

    📌 ครูบาศรีวิชัยถูกมองว่า เป็นผู้นำของกลุ่มที่สาม ซึ่งเป็นเหตุผลหลัก ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างหนัก

    - สร้างถนนขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ ครูบาศรีวิชัยเป็นผู้ริเริ่มโครงการ โดยไม่ได้ปรึกษาคณะสงฆ์ ฝ่ายปกครอง
    - พระสงฆ์กว่า 50 วัด ลาออกจากการขึ้นตรง กับคณะสงฆ์กรุงเทพฯ
    - คณะสงฆ์ฝ่ายปกครองมองว่า เป็นการกระด้างกระเดื่องต่ออำนาจ

    ⚖️ สุดท้าย ครูบาเจ้าศรีวิชัย ถูกส่งตัวไปกรุงเทพฯ เพื่อพิจารณาคดี และได้รับโทษ ก่อนถูกปล่อยตัวกลับล้านนา

    🙏 เจ้าตนบุญแห่งล้านนา กับแรงศรัทธาที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย
    แม้ว่าจะต้องเผชิญกับข้อกล่าวหา และความขัดแย้งมากมาย แต่ศรัทธาของประชาชน ที่มีต่อครูบาเจ้าศรีวิชัย ไม่เคยเสื่อมคลาย

    “ตนบุญ” หรือ “นักบุญ” มีความหมายเชิงยกย่องว่า เป็นนักบวชที่มีคุณสมบัติพิเศษ ในดินแดนล้านนา เป็นคติความเชื่อที่ถูกนำมาใช้ตลอดในประวัติศาสตร์ล้านนา แนวคิดดังกล่าว จะถูกหยิบนำมาใช้ในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่การใช้อ้างความชอบธรรม ของสถาบันกษัตริย์ล้านนา จนกระทั่งสามัญชน ที่ใช้คำว่า “ตนบุญ” เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านยามทุกข์เข็ญ เผชิญกับสภาพความสงบของบ้านเมือง

    หลังมรณภาพ ประชาชนยังคงเดินทาง มากราบไหว้สรีระ วัดหลายแห่งยังคงยกย่อง และจัดงานรำลึกถึงครูบาเจ้าศรีวิชัย ตำนาน “เจ้าตนบุญแห่งล้านนา” ยังคงถูกกล่าวขานถึงปัจจุบัน

    🛕 ปัจจุบัน รูปปั้นและอนุสรณ์สถาน ของครูบาเจ้าศรีวิชัย มีอยู่ทั่วภาคเหนือ เช่น บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และวัดบ้านปาง

    ✨ แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 86 ปี แต่บารมีของครูบาเจ้าศรีวิชัย ยังคงยิ่งใหญ่ และจะอยู่ในหัวใจ ของชาวล้านนาตลอดไป

    ✅ ครูบาเจ้าศรีวิชัย เป็นพระนักพัฒนา ที่มีบารมีสูงสุดองค์หนึ่งในล้านนา
    ✅ ถูกตั้งอธิกรณ์ 8 ข้อ เนื่องจากความขัดแย้ง กับคณะสงฆ์ฝ่ายปกครอง
    ✅ แม้จะถูกควบคุมตัว แต่ประชาชนยังคงศรัทธา นอย่างเหนียวแน่น
    ✅ ปัจจุบัน ครูบาเจ้าศรีวิชัย ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งศรัทธา ของชาวล้านนา

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 211017 ก.พ. 2568

    🔖 #ครูบาศรีวิชัย #เจ้าตนบุญล้านนา #ประวัติศาสตร์ล้านนา #วัดบ้านปาง #ศรัทธาพระสงฆ์
    86 ปี สิ้น “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” เจ้าตนบุญแห่งล้านนา คณะสงฆ์ลำพูนขยาดบารมี ยัดอธิกรณ์ 8 ข้อ ความขัดแย้งที่บานปลาย 📌 ย้อนรอยประวัติศาสตร์ ไปสู่เรื่องราวของ “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” เจ้าตนบุญแห่งล้านนา ผู้เป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวเหนือ แม้กระทั่งเจ้าคณะสงฆ์ในยุคสมัยนั้น ยังต้องหวั่นเกรงในบารมี จนเกิดการตั้งอธิกรณ์ถึง 8 ข้อ นำไปสู่การควบคุมตัว และขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ในหมู่คณะสงฆ์ล้านนา 🔎 86 ปี แห่งการมรณภาพ ของครูบาเจ้าศรีวิชัย หากย้อนเวลากลับไปเมื่อ 86 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2481 (เมื่อก่อนนับศักราชใหม่ ในวันสงกรานต์ ถ้าเทียบปัจจุบันจะเป็นต้นปี พ.ศ. 2482) นับเป็นปีที่พุทธศาสนิกชนไทย ต้องโศกเศร้าอย่างใหญ่หลวง เพราะเป็นวันมรณภาพของ "ครูบาเจ้าศรีวิชัย" พระเกจิชื่อดังแห่งล้านนา ผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้าง และบูรณะพุทธศาสนสถาน ทั่วภาคเหนือของไทย ครูบาเจ้าศรีวิชัยละสังขาร ที่วัดบ้านปาง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน สิริอายุได้ 60 ปี ก่อนที่ศพจะถูกตั้งไว้ ที่วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน เป็นเวลาหลายปี กระทั่งวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2489 มีการพระราชทานเพลิงศพ โดยมีประชาชนจำนวนมหาศาลเข้าร่วมพิธี และเหตุการณ์ที่น่าตกใจคือ มีผู้แย่งชิงอัฐิของครูบาเจ้าศรีวิชัย ตั้งแต่เปลวไฟยังไม่มอดสนิท ✨ แม้แต่ดินตรงที่ถวายพระเพลิงศพ ยังถูกขุดเอาไปบูชา แสดงให้เห็นถึงแรงศรัทธาของประชาชน ที่มีต่อครูบาเจ้าศรีวิชัย 👶 วัยเยาว์ ชาติกำเนิดของตนบุญ ครูบาเจ้าศรีวิชัย เกิดเมื่อวันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2421 ปีขาล ขณะที่เกิด มีพายุฟ้าร้องรุนแรง จึงถูกตั้งชื่อว่า อินตาเฟือน หรืออ้ายฟ้าร้อง บิดาชื่อ นายควาย มีเชื้อสายกะเหรี่ยงแดง มารดาชื่อ นางอุสา บ้างว่าเป็นชาวเชียงใหม่ บ้างว่าเป็นชาวเมืองลี้ เมื่ออายุได้ 18 ปี มีความคิดว่าความยากจนของตน เกิดจากกรรมในอดีต จึงตัดสินใจออกบวช เพื่อสร้างบุญกุศล และตอบแทนบุญคุณบิดามารดา 📌 ครูบาศรีวิชัยบรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดบ้านปาง ก่อนอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในวัย 21 ปี ที่วัดบ้านโฮ่งหลวง จังหวัดลำพูน ได้รับฉายาทางธรรมว่า "พระศรีวิชัย" 🏯 บทบาทของครูบาเจ้าศรีวิชัย ในการพัฒนาพุทธศาสนาในล้านนา ครูบาเจ้าศรีวิชัย ไม่ได้เป็นเพียงพระนักปฏิบัติธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นพระนักพัฒนา สร้างและบูรณะวัดมากมาย รวมถึงเส้นทางคมนาคมสำคัญ เช่น ✔️ สร้างถนนขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ ✔️ บูรณะวัดพระธาตุหริภุญชัย วัดจามเทวี วัดสวนดอก ฯลฯ ✔️ เป็นผู้นำพุทธศาสนิกชน ร่วมแรงร่วมใจ ในการก่อสร้างศาสนสถาน ✨ ศรัทธาของประชาชน ที่มีต่อครูบาเจ้าศรีวิชัยสูงส่ง ถึงขนาดที่ว่า ชาวบ้านเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ เพียงเพื่อจะได้พบหน้า ⚖️ ถูกตั้งอธิกรณ์ 8 ข้อ? การที่ครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้รับความศรัทธามาก ทำให้คณะสงฆ์ล้านนาบางกลุ่ม โดยเฉพาะเจ้าคณะจัวงหวัดลำพูน เริ่มไม่พอใจ และหวาดกลัวอิทธิพล ในที่สุด เจ้าคณะจังหวัดลำพูน ได้นำการตั้งอธิกรณ์ หรือข้อกล่าวหา ต่อครูบาเจ้าศรีวิชัยถึง 8 ข้อ โดยกล่าวหาว่า ❌ ทำตัวเป็น “ผีบุญ” อวดอิทธิฤทธิ์เหนือธรรมชาติ ❌ ซ่องสุมกำลังประชาชน เสมือนเป็นผู้นำลัทธิใหม่ ❌ ขัดขืนอำนาจคณะสงฆ์ฝ่ายปกครอง ❌ ไม่ปฏิบัติตามระเบียบสงฆ์ ของสยามประเทศ ❌ จัดพิธีกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ❌ มีพฤติกรรมเสมือนเป็นผู้นำทางการเมือง 📌 ผลจากข้อกล่าวหาเหล่านี้ ทำให้ครูบาเจ้าศรีวิชัย ถูกควบคุมตัวส่งไปไต่สวนที่กรุงเทพฯ ⚔️ ความขัดแย้งระหว่างครูบาเจ้าศรีวิชัย กับคณะสงฆ์ล้านนา 1️⃣ คณะสงฆ์ล้านนาแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ✔️ กลุ่มที่ยอมรับอำนาจของกรุงเทพฯ สนับสนุนการปกครองสงฆ์แบบรวมศูนย์ ✔️ กลุ่มประนีประนอม ไม่ต่อต้าน แต่ก็ไม่ได้ร่วมมือเต็มที่ ✔️ กลุ่มต่อต้านกรุงเทพฯ ต้องการคงจารีตล้านนาแบบดั้งเดิม 📌 ครูบาศรีวิชัยถูกมองว่า เป็นผู้นำของกลุ่มที่สาม ซึ่งเป็นเหตุผลหลัก ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างหนัก - สร้างถนนขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ ครูบาศรีวิชัยเป็นผู้ริเริ่มโครงการ โดยไม่ได้ปรึกษาคณะสงฆ์ ฝ่ายปกครอง - พระสงฆ์กว่า 50 วัด ลาออกจากการขึ้นตรง กับคณะสงฆ์กรุงเทพฯ - คณะสงฆ์ฝ่ายปกครองมองว่า เป็นการกระด้างกระเดื่องต่ออำนาจ ⚖️ สุดท้าย ครูบาเจ้าศรีวิชัย ถูกส่งตัวไปกรุงเทพฯ เพื่อพิจารณาคดี และได้รับโทษ ก่อนถูกปล่อยตัวกลับล้านนา 🙏 เจ้าตนบุญแห่งล้านนา กับแรงศรัทธาที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย แม้ว่าจะต้องเผชิญกับข้อกล่าวหา และความขัดแย้งมากมาย แต่ศรัทธาของประชาชน ที่มีต่อครูบาเจ้าศรีวิชัย ไม่เคยเสื่อมคลาย “ตนบุญ” หรือ “นักบุญ” มีความหมายเชิงยกย่องว่า เป็นนักบวชที่มีคุณสมบัติพิเศษ ในดินแดนล้านนา เป็นคติความเชื่อที่ถูกนำมาใช้ตลอดในประวัติศาสตร์ล้านนา แนวคิดดังกล่าว จะถูกหยิบนำมาใช้ในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่การใช้อ้างความชอบธรรม ของสถาบันกษัตริย์ล้านนา จนกระทั่งสามัญชน ที่ใช้คำว่า “ตนบุญ” เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านยามทุกข์เข็ญ เผชิญกับสภาพความสงบของบ้านเมือง หลังมรณภาพ ประชาชนยังคงเดินทาง มากราบไหว้สรีระ วัดหลายแห่งยังคงยกย่อง และจัดงานรำลึกถึงครูบาเจ้าศรีวิชัย ตำนาน “เจ้าตนบุญแห่งล้านนา” ยังคงถูกกล่าวขานถึงปัจจุบัน 🛕 ปัจจุบัน รูปปั้นและอนุสรณ์สถาน ของครูบาเจ้าศรีวิชัย มีอยู่ทั่วภาคเหนือ เช่น บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และวัดบ้านปาง ✨ แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 86 ปี แต่บารมีของครูบาเจ้าศรีวิชัย ยังคงยิ่งใหญ่ และจะอยู่ในหัวใจ ของชาวล้านนาตลอดไป ✅ ครูบาเจ้าศรีวิชัย เป็นพระนักพัฒนา ที่มีบารมีสูงสุดองค์หนึ่งในล้านนา ✅ ถูกตั้งอธิกรณ์ 8 ข้อ เนื่องจากความขัดแย้ง กับคณะสงฆ์ฝ่ายปกครอง ✅ แม้จะถูกควบคุมตัว แต่ประชาชนยังคงศรัทธา นอย่างเหนียวแน่น ✅ ปัจจุบัน ครูบาเจ้าศรีวิชัย ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งศรัทธา ของชาวล้านนา ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 211017 ก.พ. 2568 🔖 #ครูบาศรีวิชัย #เจ้าตนบุญล้านนา #ประวัติศาสตร์ล้านนา #วัดบ้านปาง #ศรัทธาพระสงฆ์
    0 Comments 0 Shares 900 Views 0 Reviews

  • #วัดหนองป่าพง
    #อุบลราชธานี

    วัดหนองป่าพง – ย้อนรำลึกความหลัง เมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ผมได้มีโอกาสสัมผัส วัดหนองป่าพง ด้วยความไม่รู้ และไม่ลึกซึ้งถึงแวดวงพระพุทธศาสนา เลยทำให้การไปวัดหนองป่าพง ครั้งแรก ผมไม่ได้อะไรติดมือติดใจกลับมาเป็นวิทยาทานเลย จนเมื่อครั้งล่าสุดที่ไป ชีวิตมีประสบการณ์ และพอมีพื้นฐานพุทธศาสนาเพิ่มขึ้นบ้าง ครั้งนี้ เป็นการใช้เวลาอยู่ที่วัดนานขึ้น พร้อมพกพาความรู้สึก ความประทับใจที่ต่างออกไป กลับออกมาด้วยอย่างปลื้มอกปลื้มใจ ล้อมวงมาฟังกันครับ วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี (ยาวสักหน่อยนะครับ)

    คงจะไม่ถูกต้อง ถ้าจะกล่าวถึงวัดหนองป่าพง โดยไม่กล่าวถึง หลวงปู่ชา

    หลวงปู่ชา พระสำคัญผู้ก่อตั้งวัดแห่งนี้ ให้สามารถไปเผยแพร่พุทธศาสนาได้กว้างไกล ไม่เพียงแค่ในประเทศไทย หากแต่ไปไกลถึงสิบกว่าประเทศทั่วโลก หลวงปู่ชา พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ต้นแบบของพระป่าทั่วโลก ด้วยวัตรปฎิบัติที่เคร่งครัดสายวิปัสสนากรรมฐานที่มีต้นแบบจาก"พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต"

    หลวงปู่ชา หรือ พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) เกิดเมื่อ วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2461 ตรงกับ วันศุกร์ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7 ปีมะเมีย ณ บ้านจิกก่อ หมู่ที่ 9 ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี บิดาชื่อนายมา ช่วงโชติ มารดาชื่อ นางพิมพ์ ช่วงโชติ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันจำนวน 10 คน ในวัยเด็ก หลวงปู่ชาเรียนชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนบ้านก่อ ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จนจบชั้นประถม 1 จึงขอลาออกเพื่อมาบวชเรียนตามความสนใจของตนเอง โดยช่วงอายุ 13 ปี หลังจากลาออกจากโรงเรียนประถมศึกษา โยมบิดาได้นำไปฝากกับเจ้าอาวาสเพื่อเรียนรู้บุพกิจเบื้องต้นเกี่ยวกับบรรพชาวิธี จึงได้รับอนุญาตให้บรรพชาเป็น “สามเณรชา โชติช่วง” จนอยู่ปฏิบัติครูอาจารย์ เป็นเวลา 3 ปี ได้แล้วจึงได้ลาสิกขาบทมาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนา แต่ด้วยจิตใจที่ใฝ่ในทางธรรม เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงลาพ่อแม่มาบวชเป็นพระ โดยอุปสมบทเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2482 เวลา 13.55 น. ณ พัทธสีมา วัดก่อใน ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ อุบลราชธานี พระชา สุภทฺโท ได้จำพรรษาอยู่ ณ วัดก่อนอก 2 พรรษา ตั้งใจศึกษาปริยัติธรรม ทั้งจากตำรับตำราและจากครูอาจารย์ จนสอบนักธรรมชั้นตรีได้ในสำนักวัดแห่งนี้ แต่โชคร้าย ช่วงนั้น หลวงพ่อชา ได้ว่างเว้นจากการศึกษา เพื่อไปดูแลโยมบิดาที่ป่วย แม้หลวงพ่อชา ก็เกิดความลังเลใจ พะว้าพะวง ห่วงการศึกษาก็ห่วง ห่วงโยมบิดาก็ห่วง แต่ความห่วงผู้บังเกิดเกล้ามีน้ำหนักมากกว่า เพราะโยมบิดาเป็นผู้มีพระคุณอย่างเหลือล้น หลวงปู่จึงตัดสินใจกลับไปดูแลโยมพ่อทั้งที่วันสอบนักธรรมก็ใกล้เข้ามาทุกที แต่ก็เลือกที่จะเดินในเส้นทางสายกตัญญุตา โดยที่สุด มาอยู่เฝ้าดูแลอาการป่วยของโยมพ่อนับเป็นเวลา 13 วัน โยมพ่อจึงได้ถึงแก่กรรม (ปี 2483)

    หลังจากนั้น หลวงปู่ชา ก็ได้เดินทางไปศึกษาเล่าเรียนยังที่ต่างๆ เช่น ที่สำนักของหลวงพ่อเภา วัดเขาวงกฏ จ.ลพบุรี และพระอาจารย์ชาวกัมพูชาที่เป็นพระธุดงค์ซึ่งได้พบกันที่วัดเขาวงกฏ หลวงปู่กินรี อาจารย์คำดี หลวงปู่ทองรัตน์ พระอาจารย์มั่น เป็นต้น พออินทรีย์แก่กล้าแล้วก็ออกธุดงค์ปฏิบัติธรรมต่อไปเรื่อยๆ โดยยังดำรงสมณเพศเป็นพระมหานิกายอยู่ตลอดเวลา

    กิจที่หลวงปู่ฯ โปรดปราน คือการได้ธุดงค์ไปยังที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อโปรดสานุศิษย์และเผยแพร่พุทธศาสนา จนที่สุดเมื่อคณะศิษย์ และหลวงพ่อได้เดินทางมาถึงชายดงป่าพง ตรงกับวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2497 พอเช้าวันที่ 9 มีนาคม 2497 จึงได้พากันเข้าสำรวจ สถานที่พักในดงป่านี้ และได้ช่วยกันดำเนินการสร้างวัดป่าขึ้น ซึ่งเรารู้จักในปัจจุบัน คือ “วัดหนองป่าพง”

    จนภายหลังมีสานุศิษย์มากมายทั้งไทยและเทศ ขยายไปหลายสาขา ดังที่กล่าวไปข้างต้น และท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนี้มาโดยตลอด และถึงแก่มรณภาพเมื่อ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เวลา 05.20 น. ที่ วัดหนองป่าพง อย่างสงบท่ามกลางธรรมสังเวชของศิษยานุศิษย์จากทุกสารทิศทั่วโลก ด้วยความที่วัดหนองป่าพง มีพระสงฆ์ต่างชาติ เป็นจำนวนมาก เคยมีคนไปถามหลวงปู่ว่า พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แล้วจะสอนชาวต่างชาติได้อย่างไร หลวงปู่ท่านเมตตาตอบว่า น้ำร้อน ที่ฝรั่งว่ากันว่า ฮ๊อตวอเตอร์ เอามือลงไปสัมผัส ทุกชาติก็รู้ว่าร้อน ไม่เห็นต้องรู้ภาษาก่อนเลย นัยว่า ธรรมะ เรียนรู้ได้จากการสัมผัส การปฏิบัติ มิใช่การอ่านเขียนเท่านั้น

    ปัจจุบัน แม้หลวงปู่ชาฯ จะละสังขารไปแล้วกว่าสามสิบปีกว่าปี คำสอนและวัตรปฏิบัติอันดีงาม ก็ยังอยู่ในความทรงจำสานุศิษย์ทั้งหลาย เห็นได้จากการที่กลับไปสัมผัส วัดหนองป่าพง อีกครั้ง เมื่อเร็ว ๆ นี้ ความสงบ และ ความเคร่งครัด แบบพระป่า ยังคงมีให้เห็นและสัมผัสได้ มีโอกาสได้แวะเข้าไปชม พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท) โดยจะจัดแสดงเครื่องอัฐบริขารและหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่ชา สุภัทโท มีเครื่องทองเหลือง พระพุทธรูป และ เจดีย์ศรีโพธิญาณ เป็นสถานที่พระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่ชาอีกด้วย จุดเด่นที่ประทับใจ คือ ป้าย คำสอนต่าง ๆ ที่ติดไว้ตามต้นไม้ อ่านแล้วทำให้เราได้นึกทบทวนชีวิตเราไปด้วยขณะเดินชมไปเงียบ ๆ นอกจากนี้ ได้มีโอกาสเข้าไปที่ อุโบสถด้านใน ทางเข้าเขตสังฆาวาส ที่พระสงฆ์ใช้ทำวัด ทำให้พอนึกเห็นภาพบรรยากาศเมื่อสมัยก่อน ที่หลวงปู่ ลงมาเทศนาธรรม

    รวม ๆ แล้วประทับใจมาก ครับ ผมกราบเรียนเชิญ ท่านที่มีโอกาสไป อุบลราชธานี อยากให้ไปสัมผัส วัดหนองป่าพง สักครั้งครับ

    #ชีวิตนี้ต้องมี1000วัด #เที่ยวไทยไปกับส้มโจ #เที่ยววัด #วัด #ไหว้พระ #ทำบุญ #travel #thailand #amazingthailand #thaitour #temple #history #architecture #culture #thaitemple #ท่องเที่ยว #CultureTrip
    #วัดหนองป่าพง #อุบลราชธานี วัดหนองป่าพง – ย้อนรำลึกความหลัง เมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ผมได้มีโอกาสสัมผัส วัดหนองป่าพง ด้วยความไม่รู้ และไม่ลึกซึ้งถึงแวดวงพระพุทธศาสนา เลยทำให้การไปวัดหนองป่าพง ครั้งแรก ผมไม่ได้อะไรติดมือติดใจกลับมาเป็นวิทยาทานเลย จนเมื่อครั้งล่าสุดที่ไป ชีวิตมีประสบการณ์ และพอมีพื้นฐานพุทธศาสนาเพิ่มขึ้นบ้าง ครั้งนี้ เป็นการใช้เวลาอยู่ที่วัดนานขึ้น พร้อมพกพาความรู้สึก ความประทับใจที่ต่างออกไป กลับออกมาด้วยอย่างปลื้มอกปลื้มใจ ล้อมวงมาฟังกันครับ วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี (ยาวสักหน่อยนะครับ) คงจะไม่ถูกต้อง ถ้าจะกล่าวถึงวัดหนองป่าพง โดยไม่กล่าวถึง หลวงปู่ชา หลวงปู่ชา พระสำคัญผู้ก่อตั้งวัดแห่งนี้ ให้สามารถไปเผยแพร่พุทธศาสนาได้กว้างไกล ไม่เพียงแค่ในประเทศไทย หากแต่ไปไกลถึงสิบกว่าประเทศทั่วโลก หลวงปู่ชา พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ต้นแบบของพระป่าทั่วโลก ด้วยวัตรปฎิบัติที่เคร่งครัดสายวิปัสสนากรรมฐานที่มีต้นแบบจาก"พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต" หลวงปู่ชา หรือ พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) เกิดเมื่อ วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2461 ตรงกับ วันศุกร์ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7 ปีมะเมีย ณ บ้านจิกก่อ หมู่ที่ 9 ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี บิดาชื่อนายมา ช่วงโชติ มารดาชื่อ นางพิมพ์ ช่วงโชติ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันจำนวน 10 คน ในวัยเด็ก หลวงปู่ชาเรียนชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนบ้านก่อ ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จนจบชั้นประถม 1 จึงขอลาออกเพื่อมาบวชเรียนตามความสนใจของตนเอง โดยช่วงอายุ 13 ปี หลังจากลาออกจากโรงเรียนประถมศึกษา โยมบิดาได้นำไปฝากกับเจ้าอาวาสเพื่อเรียนรู้บุพกิจเบื้องต้นเกี่ยวกับบรรพชาวิธี จึงได้รับอนุญาตให้บรรพชาเป็น “สามเณรชา โชติช่วง” จนอยู่ปฏิบัติครูอาจารย์ เป็นเวลา 3 ปี ได้แล้วจึงได้ลาสิกขาบทมาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนา แต่ด้วยจิตใจที่ใฝ่ในทางธรรม เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงลาพ่อแม่มาบวชเป็นพระ โดยอุปสมบทเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2482 เวลา 13.55 น. ณ พัทธสีมา วัดก่อใน ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ อุบลราชธานี พระชา สุภทฺโท ได้จำพรรษาอยู่ ณ วัดก่อนอก 2 พรรษา ตั้งใจศึกษาปริยัติธรรม ทั้งจากตำรับตำราและจากครูอาจารย์ จนสอบนักธรรมชั้นตรีได้ในสำนักวัดแห่งนี้ แต่โชคร้าย ช่วงนั้น หลวงพ่อชา ได้ว่างเว้นจากการศึกษา เพื่อไปดูแลโยมบิดาที่ป่วย แม้หลวงพ่อชา ก็เกิดความลังเลใจ พะว้าพะวง ห่วงการศึกษาก็ห่วง ห่วงโยมบิดาก็ห่วง แต่ความห่วงผู้บังเกิดเกล้ามีน้ำหนักมากกว่า เพราะโยมบิดาเป็นผู้มีพระคุณอย่างเหลือล้น หลวงปู่จึงตัดสินใจกลับไปดูแลโยมพ่อทั้งที่วันสอบนักธรรมก็ใกล้เข้ามาทุกที แต่ก็เลือกที่จะเดินในเส้นทางสายกตัญญุตา โดยที่สุด มาอยู่เฝ้าดูแลอาการป่วยของโยมพ่อนับเป็นเวลา 13 วัน โยมพ่อจึงได้ถึงแก่กรรม (ปี 2483) หลังจากนั้น หลวงปู่ชา ก็ได้เดินทางไปศึกษาเล่าเรียนยังที่ต่างๆ เช่น ที่สำนักของหลวงพ่อเภา วัดเขาวงกฏ จ.ลพบุรี และพระอาจารย์ชาวกัมพูชาที่เป็นพระธุดงค์ซึ่งได้พบกันที่วัดเขาวงกฏ หลวงปู่กินรี อาจารย์คำดี หลวงปู่ทองรัตน์ พระอาจารย์มั่น เป็นต้น พออินทรีย์แก่กล้าแล้วก็ออกธุดงค์ปฏิบัติธรรมต่อไปเรื่อยๆ โดยยังดำรงสมณเพศเป็นพระมหานิกายอยู่ตลอดเวลา กิจที่หลวงปู่ฯ โปรดปราน คือการได้ธุดงค์ไปยังที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อโปรดสานุศิษย์และเผยแพร่พุทธศาสนา จนที่สุดเมื่อคณะศิษย์ และหลวงพ่อได้เดินทางมาถึงชายดงป่าพง ตรงกับวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2497 พอเช้าวันที่ 9 มีนาคม 2497 จึงได้พากันเข้าสำรวจ สถานที่พักในดงป่านี้ และได้ช่วยกันดำเนินการสร้างวัดป่าขึ้น ซึ่งเรารู้จักในปัจจุบัน คือ “วัดหนองป่าพง” จนภายหลังมีสานุศิษย์มากมายทั้งไทยและเทศ ขยายไปหลายสาขา ดังที่กล่าวไปข้างต้น และท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนี้มาโดยตลอด และถึงแก่มรณภาพเมื่อ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เวลา 05.20 น. ที่ วัดหนองป่าพง อย่างสงบท่ามกลางธรรมสังเวชของศิษยานุศิษย์จากทุกสารทิศทั่วโลก ด้วยความที่วัดหนองป่าพง มีพระสงฆ์ต่างชาติ เป็นจำนวนมาก เคยมีคนไปถามหลวงปู่ว่า พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แล้วจะสอนชาวต่างชาติได้อย่างไร หลวงปู่ท่านเมตตาตอบว่า น้ำร้อน ที่ฝรั่งว่ากันว่า ฮ๊อตวอเตอร์ เอามือลงไปสัมผัส ทุกชาติก็รู้ว่าร้อน ไม่เห็นต้องรู้ภาษาก่อนเลย นัยว่า ธรรมะ เรียนรู้ได้จากการสัมผัส การปฏิบัติ มิใช่การอ่านเขียนเท่านั้น ปัจจุบัน แม้หลวงปู่ชาฯ จะละสังขารไปแล้วกว่าสามสิบปีกว่าปี คำสอนและวัตรปฏิบัติอันดีงาม ก็ยังอยู่ในความทรงจำสานุศิษย์ทั้งหลาย เห็นได้จากการที่กลับไปสัมผัส วัดหนองป่าพง อีกครั้ง เมื่อเร็ว ๆ นี้ ความสงบ และ ความเคร่งครัด แบบพระป่า ยังคงมีให้เห็นและสัมผัสได้ มีโอกาสได้แวะเข้าไปชม พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท) โดยจะจัดแสดงเครื่องอัฐบริขารและหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่ชา สุภัทโท มีเครื่องทองเหลือง พระพุทธรูป และ เจดีย์ศรีโพธิญาณ เป็นสถานที่พระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่ชาอีกด้วย จุดเด่นที่ประทับใจ คือ ป้าย คำสอนต่าง ๆ ที่ติดไว้ตามต้นไม้ อ่านแล้วทำให้เราได้นึกทบทวนชีวิตเราไปด้วยขณะเดินชมไปเงียบ ๆ นอกจากนี้ ได้มีโอกาสเข้าไปที่ อุโบสถด้านใน ทางเข้าเขตสังฆาวาส ที่พระสงฆ์ใช้ทำวัด ทำให้พอนึกเห็นภาพบรรยากาศเมื่อสมัยก่อน ที่หลวงปู่ ลงมาเทศนาธรรม รวม ๆ แล้วประทับใจมาก ครับ ผมกราบเรียนเชิญ ท่านที่มีโอกาสไป อุบลราชธานี อยากให้ไปสัมผัส วัดหนองป่าพง สักครั้งครับ #ชีวิตนี้ต้องมี1000วัด #เที่ยวไทยไปกับส้มโจ #เที่ยววัด #วัด #ไหว้พระ #ทำบุญ #travel #thailand #amazingthailand #thaitour #temple #history #architecture #culture #thaitemple #ท่องเที่ยว #CultureTrip
    0 Comments 0 Shares 1174 Views 0 Reviews
  • ผู้ว่าฯอุดรมีชัย กัมพูชา นำ “พล.ต.เนี๊ยะ วงษ์” ผบ.พลน้อย.ร.42 ตัวต้นเหตุป่วน ท้าทายทหารไทยหลังถูกห้ามนำคณะแม่บ้านเขมรร้องเพลงชาติในปราสาทตาเมือนธมของไทย พร้อมคณะมาเจรจาจับมือกระชับความสัมพันธ์กับทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม คาดถูกผู้ใหญ่สั่งมา ขณะคลิปเก่าเด็กนร.พร้อมชาวบ้านพระสงฆ์เขมรบุกร้องเพลงปลุกใจในตาเมือนธมครั้งแรกปีที่แล้ว โผล่ว่อนโซเชียลเขมรพร้อมเชิดชู“พล.ต.เนียะ วงษ์” เป็นฮีโร่กล้าท้าทายทหารไทย นักเลงคีบอร์ดไทย- เขมรเปิดศึกคอมเมนต์ซัดกันดุเดือด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000016601

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผู้ว่าฯอุดรมีชัย กัมพูชา นำ “พล.ต.เนี๊ยะ วงษ์” ผบ.พลน้อย.ร.42 ตัวต้นเหตุป่วน ท้าทายทหารไทยหลังถูกห้ามนำคณะแม่บ้านเขมรร้องเพลงชาติในปราสาทตาเมือนธมของไทย พร้อมคณะมาเจรจาจับมือกระชับความสัมพันธ์กับทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม คาดถูกผู้ใหญ่สั่งมา ขณะคลิปเก่าเด็กนร.พร้อมชาวบ้านพระสงฆ์เขมรบุกร้องเพลงปลุกใจในตาเมือนธมครั้งแรกปีที่แล้ว โผล่ว่อนโซเชียลเขมรพร้อมเชิดชู“พล.ต.เนียะ วงษ์” เป็นฮีโร่กล้าท้าทายทหารไทย นักเลงคีบอร์ดไทย- เขมรเปิดศึกคอมเมนต์ซัดกันดุเดือด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000016601 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 887 Views 0 Reviews
  • แฉเขมรจ้องป่วน! นำชาวกัมพูชา พร้อมพระสงฆ์ ทหาร ตำรวจ บุกร้องเพลงชาติในปราสาทตาเมือนธม ชายแดนสุรินทร์ของไทย หวังแสดงสัญลักษณ์มา 2 ครั้งแล้ว ล่าสุดกกล.สุรนารี ต้องทำหนังสือเตือนทหารฝ่ายกัมพูชา เป็นฉบับที่ 2 หลังมีเหตุการณ์ ผบ.พลน้อย ร.42 นำคณะแม่บ้าน จำนวน 25 คน ขึ้นมาเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธม พร้อมร่วมร้องเพลงปลุกใจชาติตัวเองภายในปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดังรัก จ.สุรินทร์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000016247

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    แฉเขมรจ้องป่วน! นำชาวกัมพูชา พร้อมพระสงฆ์ ทหาร ตำรวจ บุกร้องเพลงชาติในปราสาทตาเมือนธม ชายแดนสุรินทร์ของไทย หวังแสดงสัญลักษณ์มา 2 ครั้งแล้ว ล่าสุดกกล.สุรนารี ต้องทำหนังสือเตือนทหารฝ่ายกัมพูชา เป็นฉบับที่ 2 หลังมีเหตุการณ์ ผบ.พลน้อย ร.42 นำคณะแม่บ้าน จำนวน 25 คน ขึ้นมาเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธม พร้อมร่วมร้องเพลงปลุกใจชาติตัวเองภายในปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดังรัก จ.สุรินทร์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000016247 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Angry
    6
    0 Comments 1 Shares 939 Views 0 Reviews
  • เทคโนโลยีกับพระพุทธศาสนามีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและน่าสนใจ ทั้งในด้านการเสริมสร้างการปฏิบัติธรรมและการท้าทายต่อหลักคำสอนพื้นฐาน ต่อไปนี้เป็นแนวคิดหลักที่เชื่อมโยงทั้งสองประเด็น:

    ### 1. **เทคโนโลยีสนับสนุนการปฏิบัติธรรม**
    - **แอปพลิเคชันสมาธิและธรรมะ**: แอปเช่น *Insight Timer* หรือ *Headspace* ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงการนั่งสมาธิแบบมีคำแนะนำ บทสวดมนต์ และคำสอนทางพุทธศาสนาได้ง่ายขึ้น
    - **การเรียนรู้ทางไกล**: พุทธศาสนิกชนสามารถฟังธรรมจากพระอาจารย์ทั่วโลกผ่าน YouTube, Podcasts หรือเว็บไซต์ เช่น [DharmaSeed](https://www.dharmaseed.org)
    - **วัดเสมือนจริง**: ในยุคโควิด-19 หลายวัดจัดกิจกรรมทางศาสนาออนไลน์ เช่น การถ่ายทอดสดการบวชพระ หรือการปฏิบัติธรรมร่วมกันผ่าน Zoom

    ### 2. **การเผยแผ่ธรรมะในยุคดิจิทัล**
    - **โซเชียลมีเดีย**: พระสงฆ์หลายรูปใช้ Facebook หรือ TikTok แบ่งปันคำสอนสั้นๆ ที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่
    - **ปัญญาประดิษฐ์ (AI)**: มีการพัฒนา AI ที่สามารถตอบคำถามธรรมะเบื้องต้น หรือแปลพระสูตรโบราณได้ แต่ยังเป็นที่ถกเถียงเรื่องความลึกซึ้งทางจิตวิญญาณ

    ### 3. **ความท้าทายต่อหลักพุทธธรรม**
    - **การเสพติดเทคโนโลยี**: การใช้สมาร์ทโฟนมากเกินไปขัดกับหลัก "สติ" และ "ความพอดี" ในทางพุทธ
    - **โลกเสมือนกับความจริง**: การใช้ชีวิตในโลกดิจิทัลอาจทำให้หลงลืมการอยู่กับปัจจุบัน (หลักอริยสัจ 4)
    - **จริยธรรมทางเทคโนโลยี**: การพัฒนา AI หรือชีวเทคโนโลยีตั้งคำถามเชิงพุทธเกี่ยวกับ "กรรม" และ "เจตนา"

    ### 4. **พุทธธรรมกับการออกแบบเทคโนโลยี**
    - **เทคโนโลยีเชิงเมตตา**: หลัก "กรุณา" และ "มุทิตา" อาจ inspire การออกแบบเทคโนโลยีที่ลดการแบ่งแยกหรือช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส
    - **Digital Detox**: แนวคิด "ความไม่ยึดมั่น" ส่งเสริมให้ใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติ ไม่ตกเป็นทาสของอุปกรณ์

    ### 5. **กรณีศึกษา**
    - **หุ่นยนต์สอนธรรมะ**: ในญี่ปุ่น มีการทดลองใช้หุ่นยนต์ Pepper อ่านพระสูตร แต่หลายคนเห็นว่าขาด "จิตวิญญาณแห่งการสั่งสอน"
    - **Blockchain กับวัด**: บางวัดใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อความโปร่งใสในการบริจาค

    ### 6. **ทางสายกลางในยุคดิจิทัล**
    พระพุทธศาสนาเน้น "มัชฌิมาปฏิปทา" การใช้เทคโนโลยีจึงควรอยู่บนพื้นฐาน:
    - **สติ**: รู้ตัวว่ากำลังใช้เทคโนโลยีเพื่ออะไร
    - **วัตถุประสงค์เชิงกุศล**: นำไปสู่การลดทุกข์ ไม่ใช่เพิ่มตัณหา
    - **ความสัมพันธ์มนุษย์**: ไม่ให้เทคโนโลยีทำลายการสื่อสารแบบเห็นหน้า

    ### สรุป
    เทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือ ไม่ใช่จุดหมายสุดท้าย การใช้อย่างชาญฉลาดภายใต้กรอบศีลธรรมทางพุทธศาสนาจะช่วยให้มนุษย์พัฒนาจิตใจควบคู่ไปกับความก้าวหน้าทางวัตถุ โดยไม่หลงลืมแก่นแท้แห่งการหลุดพ้นจากทุกข์ ☸️💻
    เทคโนโลยีกับพระพุทธศาสนามีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและน่าสนใจ ทั้งในด้านการเสริมสร้างการปฏิบัติธรรมและการท้าทายต่อหลักคำสอนพื้นฐาน ต่อไปนี้เป็นแนวคิดหลักที่เชื่อมโยงทั้งสองประเด็น: ### 1. **เทคโนโลยีสนับสนุนการปฏิบัติธรรม** - **แอปพลิเคชันสมาธิและธรรมะ**: แอปเช่น *Insight Timer* หรือ *Headspace* ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงการนั่งสมาธิแบบมีคำแนะนำ บทสวดมนต์ และคำสอนทางพุทธศาสนาได้ง่ายขึ้น - **การเรียนรู้ทางไกล**: พุทธศาสนิกชนสามารถฟังธรรมจากพระอาจารย์ทั่วโลกผ่าน YouTube, Podcasts หรือเว็บไซต์ เช่น [DharmaSeed](https://www.dharmaseed.org) - **วัดเสมือนจริง**: ในยุคโควิด-19 หลายวัดจัดกิจกรรมทางศาสนาออนไลน์ เช่น การถ่ายทอดสดการบวชพระ หรือการปฏิบัติธรรมร่วมกันผ่าน Zoom ### 2. **การเผยแผ่ธรรมะในยุคดิจิทัล** - **โซเชียลมีเดีย**: พระสงฆ์หลายรูปใช้ Facebook หรือ TikTok แบ่งปันคำสอนสั้นๆ ที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ - **ปัญญาประดิษฐ์ (AI)**: มีการพัฒนา AI ที่สามารถตอบคำถามธรรมะเบื้องต้น หรือแปลพระสูตรโบราณได้ แต่ยังเป็นที่ถกเถียงเรื่องความลึกซึ้งทางจิตวิญญาณ ### 3. **ความท้าทายต่อหลักพุทธธรรม** - **การเสพติดเทคโนโลยี**: การใช้สมาร์ทโฟนมากเกินไปขัดกับหลัก "สติ" และ "ความพอดี" ในทางพุทธ - **โลกเสมือนกับความจริง**: การใช้ชีวิตในโลกดิจิทัลอาจทำให้หลงลืมการอยู่กับปัจจุบัน (หลักอริยสัจ 4) - **จริยธรรมทางเทคโนโลยี**: การพัฒนา AI หรือชีวเทคโนโลยีตั้งคำถามเชิงพุทธเกี่ยวกับ "กรรม" และ "เจตนา" ### 4. **พุทธธรรมกับการออกแบบเทคโนโลยี** - **เทคโนโลยีเชิงเมตตา**: หลัก "กรุณา" และ "มุทิตา" อาจ inspire การออกแบบเทคโนโลยีที่ลดการแบ่งแยกหรือช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส - **Digital Detox**: แนวคิด "ความไม่ยึดมั่น" ส่งเสริมให้ใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติ ไม่ตกเป็นทาสของอุปกรณ์ ### 5. **กรณีศึกษา** - **หุ่นยนต์สอนธรรมะ**: ในญี่ปุ่น มีการทดลองใช้หุ่นยนต์ Pepper อ่านพระสูตร แต่หลายคนเห็นว่าขาด "จิตวิญญาณแห่งการสั่งสอน" - **Blockchain กับวัด**: บางวัดใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อความโปร่งใสในการบริจาค ### 6. **ทางสายกลางในยุคดิจิทัล** พระพุทธศาสนาเน้น "มัชฌิมาปฏิปทา" การใช้เทคโนโลยีจึงควรอยู่บนพื้นฐาน: - **สติ**: รู้ตัวว่ากำลังใช้เทคโนโลยีเพื่ออะไร - **วัตถุประสงค์เชิงกุศล**: นำไปสู่การลดทุกข์ ไม่ใช่เพิ่มตัณหา - **ความสัมพันธ์มนุษย์**: ไม่ให้เทคโนโลยีทำลายการสื่อสารแบบเห็นหน้า ### สรุป เทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือ ไม่ใช่จุดหมายสุดท้าย การใช้อย่างชาญฉลาดภายใต้กรอบศีลธรรมทางพุทธศาสนาจะช่วยให้มนุษย์พัฒนาจิตใจควบคู่ไปกับความก้าวหน้าทางวัตถุ โดยไม่หลงลืมแก่นแท้แห่งการหลุดพ้นจากทุกข์ ☸️💻
    0 Comments 0 Shares 614 Views 0 Reviews
  • แบบไทยๆ 🇹🇭
    วัดพระแก้ว พระสงฆ์บิณฑบาตตอนเช้า รถตุ๊กตุ๊ก
    #วัดพระแก้ว
    #กรุงเทพ
    #ไทยแลนด์
    #Bangkok
    #Thailand
    #TheTempleoftheEmeraldBuddha
    แบบไทยๆ 🇹🇭 วัดพระแก้ว พระสงฆ์บิณฑบาตตอนเช้า รถตุ๊กตุ๊ก #วัดพระแก้ว #กรุงเทพ #ไทยแลนด์ #Bangkok #Thailand #TheTempleoftheEmeraldBuddha
    0 Comments 1 Shares 427 Views 0 Reviews
  • พระปิดตาพ่อท่านหวาน วัดลานควาย จ.ปัตตานี

    พระปิดตาพ่อท่านหวาน วัดลานควาย จ.ปัตตานี // พระดีพิธีใหญ่ พระประสบการณ์ มวลสารผสมผงเก่าหลายชนิด รวมทั้งผงหลวงปู่ทวดปี 2497 เนื้อจัด !! //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณ ทางโชคลาภ แคล้วคลาด คงกระพัน มหาอุตน์ เมตตามหานิยม ทำมาค้าขาย ดีมาก ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ กันภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** พ่อท่านหวานหรือ พระครูสุวรรณโสภิต วัดลานควาย เป็นเกจิฯ ดังทางภาคใต้อีกรูปหนึ่ง เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกับพ่อท่านทอง วัดสำเภาเชย พ่อท่านหวานได้สร้างพระ ซึ่งผสมผงเก่าหลายชนิด รวมทั้งผงหลวงปู่ทวดปี 2497 พ่อท่านหวาน) ท่านมีความเชี่ยวชาญในวิชา “วิชาการเขียนผงนะปถมัง(นะปัดตลอด)” เมตตา แคล้วคลาด ดีที่สุด!!!! “พ่อท่านหวานเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติตนอย่างเรียบง่าย สันโดษและอ้อนน้อมถ่อมตน” สร้างวัตถุมงคล สำหรับแจกให้กับชาวบ้านไทยพุทธรอบๆวัด >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131

    พระปิดตาพ่อท่านหวาน วัดลานควาย จ.ปัตตานี พระปิดตาพ่อท่านหวาน วัดลานควาย จ.ปัตตานี // พระดีพิธีใหญ่ พระประสบการณ์ มวลสารผสมผงเก่าหลายชนิด รวมทั้งผงหลวงปู่ทวดปี 2497 เนื้อจัด !! //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณ ทางโชคลาภ แคล้วคลาด คงกระพัน มหาอุตน์ เมตตามหานิยม ทำมาค้าขาย ดีมาก ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ กันภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** พ่อท่านหวานหรือ พระครูสุวรรณโสภิต วัดลานควาย เป็นเกจิฯ ดังทางภาคใต้อีกรูปหนึ่ง เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกับพ่อท่านทอง วัดสำเภาเชย พ่อท่านหวานได้สร้างพระ ซึ่งผสมผงเก่าหลายชนิด รวมทั้งผงหลวงปู่ทวดปี 2497 พ่อท่านหวาน) ท่านมีความเชี่ยวชาญในวิชา “วิชาการเขียนผงนะปถมัง(นะปัดตลอด)” เมตตา แคล้วคลาด ดีที่สุด!!!! “พ่อท่านหวานเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติตนอย่างเรียบง่าย สันโดษและอ้อนน้อมถ่อมตน” สร้างวัตถุมงคล สำหรับแจกให้กับชาวบ้านไทยพุทธรอบๆวัด >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 277 Views 0 Reviews
  • ศูนย์ข่าวขอนแก่น-เจ้าอาวาสวัดจำปา ต.บ้านลาน อ.บ้านไผ่ขับรถยนต์หนีออกจากวัดกลางดึก หลังมีภาพหลุดแต่งตัวเป็นคนธรรมดาถ่ายรูปคู่กับสีกาสาว อ้างมีพระผู้ใหญ่แนะให้หลบไปก่อนจนกว่าจะเคลียร์กับทางคณะสงฆ์จังหวัดและสำนักพุทธได้ ค่อยกลับวัด ซ้ำแถอีกมีมือดีตัดต่อภาพทั้งพระทั้งสีกาคู่กายจะฟ้องเอาผิด

    จากกรณีเพจ Facebook ชื่อ ”อีซ้อขยี้ข่าว“ โพสต์ภาพพระสงฆ์รูปหนึ่งนั่งบนเก้าอี้และมีสีกานั่งอยู่บนพื้น พร้อมข้อความระบุว่า “เจ้าอาวาสวัดนึงใน จ.ขอนแก่น กลางวันอยู่วัด กลางคืนควงสาวเข้ารีสอร์ท“ ภายหลังโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก และทราบต่อมาว่าพระรูปดังกล่าวคือ พระครูพิศาลจันโทภาส เจ้าอาวาสวัดจำปา อ.บ้านไผ่

    ล่าสุดบ่ายวันนี้(12ก.พ.)ที่วัดจำปา ต.บ้านลาน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ได้มีผู้นำชุมชนและชาวบ้าน เกาะกลุ่มพูดคุยวิพากย์วิจารณ์กรณีภาพที่ปรากฏในสื่อโซเชียล ต่างยืนยันว่าเป็นพระครูพิศาลจันโทภาส เจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ และต่อมามีนายวรรลพ วลัยศรี ปลัดอาวุโสอำเภอบ้านไผ่ พร้อมด้วยปลัดป้องกันอำเภอบ้านไผ่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 และหมู่ 12 ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริง จากการตรวจสอบพบว่าที่กุฎิเจ้าอาวาสมีการล็อกกุญแจจากด้านนอก ปิดประตูหน้าต่างมิดชิดทุกบาน ส่วนตัวเจ้าอาวาสได้ขับรถกระบะส่วนตัวออกจากวัดไปตั้งแต่เมื่อคืนกลางดึก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000014219

    #MGROnline #วัดจำปา #ขอนแก่น
    ศูนย์ข่าวขอนแก่น-เจ้าอาวาสวัดจำปา ต.บ้านลาน อ.บ้านไผ่ขับรถยนต์หนีออกจากวัดกลางดึก หลังมีภาพหลุดแต่งตัวเป็นคนธรรมดาถ่ายรูปคู่กับสีกาสาว อ้างมีพระผู้ใหญ่แนะให้หลบไปก่อนจนกว่าจะเคลียร์กับทางคณะสงฆ์จังหวัดและสำนักพุทธได้ ค่อยกลับวัด ซ้ำแถอีกมีมือดีตัดต่อภาพทั้งพระทั้งสีกาคู่กายจะฟ้องเอาผิด • จากกรณีเพจ Facebook ชื่อ ”อีซ้อขยี้ข่าว“ โพสต์ภาพพระสงฆ์รูปหนึ่งนั่งบนเก้าอี้และมีสีกานั่งอยู่บนพื้น พร้อมข้อความระบุว่า “เจ้าอาวาสวัดนึงใน จ.ขอนแก่น กลางวันอยู่วัด กลางคืนควงสาวเข้ารีสอร์ท“ ภายหลังโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก และทราบต่อมาว่าพระรูปดังกล่าวคือ พระครูพิศาลจันโทภาส เจ้าอาวาสวัดจำปา อ.บ้านไผ่ • ล่าสุดบ่ายวันนี้(12ก.พ.)ที่วัดจำปา ต.บ้านลาน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ได้มีผู้นำชุมชนและชาวบ้าน เกาะกลุ่มพูดคุยวิพากย์วิจารณ์กรณีภาพที่ปรากฏในสื่อโซเชียล ต่างยืนยันว่าเป็นพระครูพิศาลจันโทภาส เจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ และต่อมามีนายวรรลพ วลัยศรี ปลัดอาวุโสอำเภอบ้านไผ่ พร้อมด้วยปลัดป้องกันอำเภอบ้านไผ่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 และหมู่ 12 ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริง จากการตรวจสอบพบว่าที่กุฎิเจ้าอาวาสมีการล็อกกุญแจจากด้านนอก ปิดประตูหน้าต่างมิดชิดทุกบาน ส่วนตัวเจ้าอาวาสได้ขับรถกระบะส่วนตัวออกจากวัดไปตั้งแต่เมื่อคืนกลางดึก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000014219 • #MGROnline #วัดจำปา #ขอนแก่น
    0 Comments 0 Shares 368 Views 0 Reviews
  • Credit : ชนะศึก จุลกะ

    ... 12 กุมภาพันธ์ 2568 ตรงกับ วันพุธ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 วันนี้เป็น
    #วันมาฆบูชา
    เป็นวันที่ พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์
    พระสงฆ์ 1250 รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย
    พระสงฆ์ที่มาประชุมกันเป็นพระอรหันต์ขีณาสพทั้งสิ้น
    พระอรหันต์ทั้งหมดนั้น เป็นเอหิภิกขุ คือ พระพุทธเจ้าทรงบวชให้ทั้งหมด
    ในวันนี้ พระพุทธองค์ ทรงแสดง โอวาทปาฏิโมกข์ คือ หัวใจของพระพุทธศาสนา กล่าวโดยย่อ มี 3 ประการ คือ
    ทำความดีในที่ทั้งปวง
    ละเว้นความชั่วในที่ทั้งปวง
    ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ปราศจากกิเลสมลทินเครื่องเศร้าหมอง
    เราทั้งหลายได้อยู่มาถึงกาลสมัย มาฆปุรณมี พึงสร้างบุญกุศล ด้วย ทาน ศีล ภาวนา สร้างสมบุญบารมีให้เกิดขึ้นมีขึ้นแก่ตัว จะได้มีความสุขทั้งในภพนี้ และ ในภพเบื้องหน้าต่อไป
    เวลา 20.54 น. ปุรณมี จันทร์เพ็ญเต็มที่ ในราศีกรกฏ

    ขอบพระคุณเจ้าของภาพ : คุณ โอ๋ ชัยวุฒิ
    ขอบพระคุณเจ้าของบทความ : ชนะศึก จุลกะ
    Credit : ชนะศึก จุลกะ ... 12 กุมภาพันธ์ 2568 ตรงกับ วันพุธ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 วันนี้เป็น #วันมาฆบูชา เป็นวันที่ พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ พระสงฆ์ 1250 รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย พระสงฆ์ที่มาประชุมกันเป็นพระอรหันต์ขีณาสพทั้งสิ้น พระอรหันต์ทั้งหมดนั้น เป็นเอหิภิกขุ คือ พระพุทธเจ้าทรงบวชให้ทั้งหมด ในวันนี้ พระพุทธองค์ ทรงแสดง โอวาทปาฏิโมกข์ คือ หัวใจของพระพุทธศาสนา กล่าวโดยย่อ มี 3 ประการ คือ ทำความดีในที่ทั้งปวง ละเว้นความชั่วในที่ทั้งปวง ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ปราศจากกิเลสมลทินเครื่องเศร้าหมอง เราทั้งหลายได้อยู่มาถึงกาลสมัย มาฆปุรณมี พึงสร้างบุญกุศล ด้วย ทาน ศีล ภาวนา สร้างสมบุญบารมีให้เกิดขึ้นมีขึ้นแก่ตัว จะได้มีความสุขทั้งในภพนี้ และ ในภพเบื้องหน้าต่อไป เวลา 20.54 น. ปุรณมี จันทร์เพ็ญเต็มที่ ในราศีกรกฏ ขอบพระคุณเจ้าของภาพ : คุณ โอ๋ ชัยวุฒิ ขอบพระคุณเจ้าของบทความ : ชนะศึก จุลกะ
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 442 Views 0 Reviews
  • สนธิเล่าเรื่อง 12-2-68
    .
    สวัสดีวันมาฆบูชาวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง "โอวาทปาติโมกข์" แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้ โดย หลักคำสอนนี้เป็นหลักการและวิธีการปฏิบัติต่าง ๆ หากสรุปเป็นใจความสำคัญ คือ "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" คุณสนธิ ก็มีเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งทางโลก และทางธรรม มาเล่าให้ฟัง เช่น เรื่องกรณีน้องแตงโมเสียชีวิต คนบนเรือโทรหาใครบ้างหลังเกิดเหตุ, เรื่อง "หมวดมานพ" ผู้ยิ่งใหญ๋ที่แม่สอด, ราคาทองคำ ฯลฯ
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=-EtugbXUvyg
    .
    #SondhiTalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง
    สนธิเล่าเรื่อง 12-2-68 . สวัสดีวันมาฆบูชาวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง "โอวาทปาติโมกข์" แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้ โดย หลักคำสอนนี้เป็นหลักการและวิธีการปฏิบัติต่าง ๆ หากสรุปเป็นใจความสำคัญ คือ "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" คุณสนธิ ก็มีเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งทางโลก และทางธรรม มาเล่าให้ฟัง เช่น เรื่องกรณีน้องแตงโมเสียชีวิต คนบนเรือโทรหาใครบ้างหลังเกิดเหตุ, เรื่อง "หมวดมานพ" ผู้ยิ่งใหญ๋ที่แม่สอด, ราคาทองคำ ฯลฯ . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=-EtugbXUvyg . #SondhiTalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง
    Like
    Love
    4
    1 Comments 0 Shares 467 Views 0 Reviews
  • วันมาฆบูชา
    ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓
    "มาฆะ" เป็นชื่อของเดือน ๓ มาฆบูชานั้น ย่อมาจากคำว่า"มาฆบุรณมี" แปลว่าการบูชาพระในวันเพ็ญ เดือน ๓ วันมาฆบูชาจึงตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ แต่ถ้าปีใดมีเดือน อธิกมาส คือมีเดือน ๘ สองครั้ง วันมาฆบูชาก็จะเลื่อนไปเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔
    เป็นวันสำคัญวันหนึ่ง ในวันพุทธศาสนา คือวันที่มีการประชุมสังฆสันนิบาตครั้งใหญ่ในพุทธศาสนา ที่เรียกว่า "จาตุรงคสันนิบาต" และเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงโอวาทปฎิโมกข์แก่พระสงฆ์สาวกเป็นครั้งแรก ณ เวฬุวันวิหาร กรุงราชคฤห์ เพื่อให้พระสงฆ์นำไปประพฤติปฏิบัติ เพื่อจะยังพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป
    วันมาฆบูชา ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ "มาฆะ" เป็นชื่อของเดือน ๓ มาฆบูชานั้น ย่อมาจากคำว่า"มาฆบุรณมี" แปลว่าการบูชาพระในวันเพ็ญ เดือน ๓ วันมาฆบูชาจึงตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ แต่ถ้าปีใดมีเดือน อธิกมาส คือมีเดือน ๘ สองครั้ง วันมาฆบูชาก็จะเลื่อนไปเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ เป็นวันสำคัญวันหนึ่ง ในวันพุทธศาสนา คือวันที่มีการประชุมสังฆสันนิบาตครั้งใหญ่ในพุทธศาสนา ที่เรียกว่า "จาตุรงคสันนิบาต" และเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงโอวาทปฎิโมกข์แก่พระสงฆ์สาวกเป็นครั้งแรก ณ เวฬุวันวิหาร กรุงราชคฤห์ เพื่อให้พระสงฆ์นำไปประพฤติปฏิบัติ เพื่อจะยังพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 201 Views 0 Reviews
  • สนธิเล่าเรื่อง 12-2-68

    สวัสดีวันมาฆบูชาวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง "โอวาทปาติโมกข์" แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้ โดย หลักคำสอนนี้เป็นหลักการและวิธีการปฏิบัติต่าง ๆ หากสรุปเป็นใจความสำคัญ คือ "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" คุณสนธิ ก็มีเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งทางโลก และทางธรรม
    https://www.youtube.com/watch?v=-EtugbXUvyg

    #SondhiTalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง
    สนธิเล่าเรื่อง 12-2-68 สวัสดีวันมาฆบูชาวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง "โอวาทปาติโมกข์" แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้ โดย หลักคำสอนนี้เป็นหลักการและวิธีการปฏิบัติต่าง ๆ หากสรุปเป็นใจความสำคัญ คือ "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" คุณสนธิ ก็มีเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งทางโลก และทางธรรม https://www.youtube.com/watch?v=-EtugbXUvyg #SondhiTalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง
    Like
    Love
    Haha
    Wow
    Sad
    59
    4 Comments 0 Shares 4738 Views 1 Reviews
  • วันมาฆบูชา มากจากคำว่า “มาฆบูชา” มาจากคำว่า “มาฆะ” หรือ “มาฆบุรณมี” ซึ่งเป็นชื่อย่อของเดือน 3 หมายถึง การบูชาพระในวันเพ็ญกลางเดือน 3 ตามปฏิทินของอินเดีย ซึ่งในวันนี้พระพุทธเจ้าได้แสดงธรรมโอวาทปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก โดยสรุปใจความของการแสดงธรรมครั้งนี้คือ "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์"

    วันมาฆบูชาตรงกับวันใด
    วันมาฆบูชา ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 โดยส่วนใหญ่มักจะตรงกับเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งวันมาฆบูชา 2568 นี้ตรงกับวันพุธ ที่ 12 กุมภาพันธ์
    วันมาฆบูชา มากจากคำว่า “มาฆบูชา” มาจากคำว่า “มาฆะ” หรือ “มาฆบุรณมี” ซึ่งเป็นชื่อย่อของเดือน 3 หมายถึง การบูชาพระในวันเพ็ญกลางเดือน 3 ตามปฏิทินของอินเดีย ซึ่งในวันนี้พระพุทธเจ้าได้แสดงธรรมโอวาทปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก โดยสรุปใจความของการแสดงธรรมครั้งนี้คือ "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" วันมาฆบูชาตรงกับวันใด วันมาฆบูชา ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 โดยส่วนใหญ่มักจะตรงกับเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งวันมาฆบูชา 2568 นี้ตรงกับวันพุธ ที่ 12 กุมภาพันธ์
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • สัจจะธรรม
    นำมาสอนตน
    มารพาสับสน
    ค้นหาวิจัย

    กิเลสตัณหา
    ราคะยังหมาย
    หาพ้นทุกข์ไม่
    ไม่สว่างใจ

    เพียรพาขวนขวาย
    ให้สติใช้
    สมาธิได้
    อาศัยปัญญา

    ธรรมนี้เป็นกลาง
    ทางดีนำมา
    ใจได้รักษา
    พาดับทุกข์ได้

    ความดีมีสุข
    รุกพาขวนขวาย
    ยิ่งทำยิ่งได้
    ให้เจริญธรรม

    กราบคุณพระพุทธ กราบคุณพระธรรม กราบพระสงฆ์

    ปีติบังเกิด ความสงบบังเกิด อุเบกขาบังเกิด
    สัจจะธรรม นำมาสอนตน มารพาสับสน ค้นหาวิจัย กิเลสตัณหา ราคะยังหมาย หาพ้นทุกข์ไม่ ไม่สว่างใจ เพียรพาขวนขวาย ให้สติใช้ สมาธิได้ อาศัยปัญญา ธรรมนี้เป็นกลาง ทางดีนำมา ใจได้รักษา พาดับทุกข์ได้ ความดีมีสุข รุกพาขวนขวาย ยิ่งทำยิ่งได้ ให้เจริญธรรม กราบคุณพระพุทธ กราบคุณพระธรรม กราบพระสงฆ์ ปีติบังเกิด ความสงบบังเกิด อุเบกขาบังเกิด
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
More Results