• #เอาแผ่นดินไทยคืนมา #เกาะกง #พระตะบอง #ศรีโสภณ #เสียมราฐ #รัชกาลที่5 #อนุสัญญาโตเกียว1941 #UN #France #Japan ต้องคืนดินแดนที่ยึดมาให้เจ้าของเดิม ไม่ใช่ปล้น ขโมยเอาไปให้ประเทศอื่น #ฝรั่งเศส ตัวตั้งต้นปัญหา #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปะทะไทยกัมพูชา
    https://www.youtube.com/live/WxNZ-Wp_hdE
    #เอาแผ่นดินไทยคืนมา #เกาะกง #พระตะบอง #ศรีโสภณ #เสียมราฐ #รัชกาลที่5 #อนุสัญญาโตเกียว1941 #UN #France #Japan ต้องคืนดินแดนที่ยึดมาให้เจ้าของเดิม ไม่ใช่ปล้น ขโมยเอาไปให้ประเทศอื่น #ฝรั่งเศส ตัวตั้งต้นปัญหา #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปะทะไทยกัมพูชา https://www.youtube.com/live/WxNZ-Wp_hdE
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครเป็นเจ้าของสตาร์บัคส์ กัมพูชา เครื่องดื่มแก้วโปรดของฮุน เซน

    นับตั้งแต่การปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา เฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา พบว่ามักจะโพสต์ภาพคู่กับกาแฟแก้วโปรดยี่ห้อสตาร์บัคส์ (Starbucks) ซึ่งเป็นแบรนด์กาแฟสัญชาติอเมริกันอยู่ข้างกาย พร้อมบอกเล่าประสบการณ์ที่ตนเองพยายามลดปริมาณความหวานของน้ำตาลจาก 100% ก่อนลดลงมาเหลือ 0% เพื่อสุขภาพ

    แม้แบรนด์กาแฟสัญชาติอเมริกัน อาจไม่เกี่ยวข้องกับการส่งสัญญาณสนับสนุนสหรัฐอเมริกาของกัมพูชา หลังเข้ามามีบทบาทให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิง และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอชื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ แต่ก็คงมีคนสงสัยว่า ร้านสตาร์บัคส์ในกัมพูชาเป็นของใคร?

    ร้านสตาร์บัคส์ กัมพูชาบริหารงานโดย คอฟฟี่ คอนเซ็ปต์ (แคมโบเดีย) บริษัทในเครือฮ่องกง แม็กซิมส์ กรุ๊ป (Hong Kong Maxim's Group) เปิดสาขาแรกในกัมพูชาเมื่อปี 2558 ภายในท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญ ปัจจุบันมี 47 สาขา ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญและปริมณฑล นอกนั้นจะมีจังหวัดพระสีหนุ เสียมราฐ บันเตียเมียนเจย (ปอยเปต) พระตะบอง และกัมปอต

    ในภูมิภาคอาเซียน กลุ่มฮ่องกง แม็กซิมส์ กรุ๊ป บริหารร้านสตาร์บัคส์ในเวียดนาม กัมพูชา ไทย ลาว และสิงคโปร์ โดยร้านสตาร์บัคส์ ประเทศไทย บริหารงานโดย บริษัท คอฟฟี่ คอนเซ็ปต์ รีเทล จำกัด ร่วมทุนระหว่างกลุ่มฮ่องกง แม็กซิมส์ กรุ๊ป กับกลุ่มไทยเบฟ รับสิทธิการบริหารธุรกิจค้าปลีกของร้านสตาร์บัคส์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน

    ร้านสตาร์บัคส์ มาเลเซีย และร้านสตาร์บัคส์ บรูไน บริหารงานโดย เบอร์จายา คอร์ปอเรชัน (Berjaya Corporation) ประกอบธุรกิจค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ โรงแรมและการบริการ (Hospitality) ใน 8 ประเทศ ผู้ครองสิทธิ์แฟรนไชส์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในมาเลเซีย ร้านคริสปี้ครีม และธุรกิจลอตเตอรี่ Sports Toto

    ร้านสตาร์บัคส์ อินโดนีเซีย บริหารงานโดยกลุ่มมิตรา อาดิเพอร์คาซา ทีบีเค (Mitra Adiperkasa Tbk.) ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าเครื่องกีฬา แฟชั่น บริหารงานห้างสรรพสินค้าโซโก้ในอินโดนีเซีย และบริหารแบรนด์ร้านอาหารชั้นนำอย่างร้านเบอร์เกอร์คิง ร้านคริสปี้ครีม ร้านซับเวย์ เป็นต้น

    ร้านสตาร์บัคส์ ฟิลิปปินส์ บริหารงานโดย รัสตัน คอฟฟี่ คอร์ปอเรชั่น (Rustan Coffee Corporation) ในเครือรัสตัน ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้า ร้านบูติกระดับไฮเอนด์ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ต่างประเทศกว่า 2,000 แบรนด์ และเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟชั้นนำทางตอนใต้ของมะนิลา

    #Newskit

    (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ลงใน Facebook และ Instagram วันพุธที่ 13 ส.ค. 2568)
    ใครเป็นเจ้าของสตาร์บัคส์ กัมพูชา เครื่องดื่มแก้วโปรดของฮุน เซน นับตั้งแต่การปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา เฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา พบว่ามักจะโพสต์ภาพคู่กับกาแฟแก้วโปรดยี่ห้อสตาร์บัคส์ (Starbucks) ซึ่งเป็นแบรนด์กาแฟสัญชาติอเมริกันอยู่ข้างกาย พร้อมบอกเล่าประสบการณ์ที่ตนเองพยายามลดปริมาณความหวานของน้ำตาลจาก 100% ก่อนลดลงมาเหลือ 0% เพื่อสุขภาพ แม้แบรนด์กาแฟสัญชาติอเมริกัน อาจไม่เกี่ยวข้องกับการส่งสัญญาณสนับสนุนสหรัฐอเมริกาของกัมพูชา หลังเข้ามามีบทบาทให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิง และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอชื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ แต่ก็คงมีคนสงสัยว่า ร้านสตาร์บัคส์ในกัมพูชาเป็นของใคร? ร้านสตาร์บัคส์ กัมพูชาบริหารงานโดย คอฟฟี่ คอนเซ็ปต์ (แคมโบเดีย) บริษัทในเครือฮ่องกง แม็กซิมส์ กรุ๊ป (Hong Kong Maxim's Group) เปิดสาขาแรกในกัมพูชาเมื่อปี 2558 ภายในท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญ ปัจจุบันมี 47 สาขา ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญและปริมณฑล นอกนั้นจะมีจังหวัดพระสีหนุ เสียมราฐ บันเตียเมียนเจย (ปอยเปต) พระตะบอง และกัมปอต ในภูมิภาคอาเซียน กลุ่มฮ่องกง แม็กซิมส์ กรุ๊ป บริหารร้านสตาร์บัคส์ในเวียดนาม กัมพูชา ไทย ลาว และสิงคโปร์ โดยร้านสตาร์บัคส์ ประเทศไทย บริหารงานโดย บริษัท คอฟฟี่ คอนเซ็ปต์ รีเทล จำกัด ร่วมทุนระหว่างกลุ่มฮ่องกง แม็กซิมส์ กรุ๊ป กับกลุ่มไทยเบฟ รับสิทธิการบริหารธุรกิจค้าปลีกของร้านสตาร์บัคส์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน ร้านสตาร์บัคส์ มาเลเซีย และร้านสตาร์บัคส์ บรูไน บริหารงานโดย เบอร์จายา คอร์ปอเรชัน (Berjaya Corporation) ประกอบธุรกิจค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ โรงแรมและการบริการ (Hospitality) ใน 8 ประเทศ ผู้ครองสิทธิ์แฟรนไชส์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในมาเลเซีย ร้านคริสปี้ครีม และธุรกิจลอตเตอรี่ Sports Toto ร้านสตาร์บัคส์ อินโดนีเซีย บริหารงานโดยกลุ่มมิตรา อาดิเพอร์คาซา ทีบีเค (Mitra Adiperkasa Tbk.) ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าเครื่องกีฬา แฟชั่น บริหารงานห้างสรรพสินค้าโซโก้ในอินโดนีเซีย และบริหารแบรนด์ร้านอาหารชั้นนำอย่างร้านเบอร์เกอร์คิง ร้านคริสปี้ครีม ร้านซับเวย์ เป็นต้น ร้านสตาร์บัคส์ ฟิลิปปินส์ บริหารงานโดย รัสตัน คอฟฟี่ คอร์ปอเรชั่น (Rustan Coffee Corporation) ในเครือรัสตัน ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้า ร้านบูติกระดับไฮเอนด์ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ต่างประเทศกว่า 2,000 แบรนด์ และเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟชั้นนำทางตอนใต้ของมะนิลา #Newskit (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ลงใน Facebook และ Instagram วันพุธที่ 13 ส.ค. 2568)
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทือกเขาเหล่ากอเดียวกันแน่นอน คุณชายพระตะบอง กับตระกูลสมเด็จฮวยเซง เหมือนเป๊ะทั้งยุทธวิธีการสร้างภาพ ปลุกปั่น ใช้เฟคนิวส์ ไปจนถึงความขี้โม้โอหังอวดดี
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คุณชายพระตะบอง
    #พิธานายกว่าว
    เทือกเขาเหล่ากอเดียวกันแน่นอน คุณชายพระตะบอง กับตระกูลสมเด็จฮวยเซง เหมือนเป๊ะทั้งยุทธวิธีการสร้างภาพ ปลุกปั่น ใช้เฟคนิวส์ ไปจนถึงความขี้โม้โอหังอวดดี #คิงส์โพธิ์แดง #คุณชายพระตะบอง #พิธานายกว่าว
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พระยาละแวก” นักตีท้ายครัวในประวัติศาสตร์! ถูกชำระแค้นจนเมืองละแวกหายไปทั้งเมือง!!

    “พระยาละแวก” เป็นคำที่พงศาวดารไทยเรียกกษัตริย์เขมรที่ครองราชย์เมืองละแวก ส่วนใหญ่แล้วเขมรจะตั้งเมืองหลวงอยู่ที่พนมเปญและอุดงมีชัย ในปี ๒๐๔๖ สมเด็จพระศรีสุคนธบท ครองราชย์อยู่เมืองพนมเปญ ถูกกบฏปลงพระชนม์ แต่ นักองค์จัน ผู้เป็นอนุชา หนีมาพึ่งกรุงศรีอยุธยาและได้กองทัพไทยไปช่วยปราบปรามจนได้ราชสมบัติคืนใน พ.ศ.๒๐๕๙ สถาปนานักองค์จันขึ้นครองราชย์ เป็น พระบรมราชาที่ ๓ และได้ย้ายเมืองหลวงมาอยู่เมืองละแวก เหนือกรุงพนมเปญขึ้นไป

    ใน พ.ศ.๒๑๐๙ นักพระสัตถา พระราชโอรส ขึ้นครองราชย์ต่อ เป็น พระบรมราชา ที่ ๔ ใน พ.ศ.๒๑๑๙ ทรงสถาปนา พระราชโองการ พระราชโอรสขึ้นเป็นพระบรมราชาที่ ๕

    จนถึง พ.ศ.๒๑๓๖ หลังจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงจัดการกับพม่าเรียบร้อยแล้ว ก็หันมาชำระแค้นกับพระยาละแวกที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวมาตลอด เผาเมืองละแวกจนย่อยยับ กลายเป็นแค่อำเภอหนึ่งในจังหวัดกำปงชนังของกัมพูชาขณะนี้

    แม้ไทยจะช่วยกษัตริย์เขมรมาตลอด แต่ความไม่ไว้วางใจและความแค้นฝังใจที่ขอมเคยเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในย่านนี้มาก่อน แต่ถูกกรุงศรีอยุธยาทำลายจนย่อยยับมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าสามพระยา ซึ่งเขมรก็ไม่อาจแก้แค้นได้เพราะความเข้มแข็งต่างกันมาก จนเมื่อใดที่ไทยอ่อนแอลง เขมรจึงถือเป็นโอกาส อย่างสมัยที่เสียกรุงครั้งที่ ๑ ถูกพม่ายึดอาวุธไปหมด ผู้คนส่วนใหญ่หนีไปหลบซ่อนอยู่ในป่า ยังไม่ทันกลับเข้าเมือง จึงเป็นโอกาสดีของเขมร ในปี ๒๑๑๓ พระบรมราชาที่ ๔ ได้นำกำลัง ๓๐,๐๐๐ คนมุ่งมาตีกรุงศรีอยุธยา ฝ่ายไทยเห็นว่าไม่มีกำลังจะสู้เขมรได้ คิดจะถอยขึ้นไปเมืองพิษณุโลก แต่มาทราบว่าเจ้าเมืองเพชรบูรณ์คนเก่าตั้งกองโจรดักปล้นอยู่กลางทาง จึงต้องตัดสินใจปักหลักสู้พระยาละแวกที่กรุงศรีอยุธยา แต่พอสู้กันจริงๆ กองทัพพระยาละแวกก็แหยงฝีมือไทย ถอยกลับไปโดยกวาดต้อนผู้คนรายทางกลับไปมาก

    ต่อมาอีก ๕ ปี พระบรมราชที่ ๔ เจ้าเก่า ได้ข่าวว่าสมเด็จพระมหาธรรมราชายกกองทัพไปช่วยพระเจ้ากรุงหงสาวดีตีกรุงศรีสัตนาคนหุต จึงยกกองทัพเรือเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยาถึงวัดพนัญเชิง แต่เผอิญสมเด็จพระนเรศวรซึ่งติดตามพระราชบิดาไปทัพด้วย เกิดเป็นไข้ทรพิษกลางทาง พระเจ้าบุเรงนองเลยให้กองทัพไทยกลับมาก่อน มาเจอเอากองทัพของพระยาละแวกแอบเข้ามาตีท้ายครัวเข้าพอดี เลยตีเสียกระเจิง แต่ตอนถอยออกไปพระยาละแวกก็ถือโอกาสขนเอาเทวรูปสัมฤทธิ์ ๒ องค์ที่เมืองพระประแดงและกวาดต้อนราษฎรไทยตามหัวเมืองชายทะเลกลับไปอีก

    รุ่งขึ้นอีกปี ใน พ.ศ.๒๑๑๔ พระบรมราชาธิราชที่ ๕ ขึ้นครองราชย์เมืองละแวก ได้ยกกองทัพเรือมีกำลังถึง ๗๐,๐๐๐ คนข้ามทะเลมาตีเมืองเพชรบุรี ล้อมถึง ๓ วันก็ไม่สามารถเข้าเมืองได้ เสียทหารไปเป็นจำนวนมาก พระยาละแวกต้องถอยไปตั้งหลักใหม่ และตัดสินใจเข้าตีอีกครั้ง หากไม่สำเร็จก็จะกลับ แต่การตั้งรับศึกครั้งใหม่แม่ทัพไทยเกิดแตกคอกัน ต่างคนต่างตั้งรับด้านของตัวไม่ยอมประสานกัน พระยาละแวกเลยเข้าเมืองได้ ๓ แม่ทัพไทยที่แตกคอกันเองตายในที่รบ พระยาละแวกกวาดต้อนผู้คนไปอีกมาก

    ต่อมาอีก ๒ ปี เขมรก็เอาอีก เพราะช่วงนั้นไทยยังไม่พ้นความอ่อนแอ พระยาละแวกก็ส่งกองทัพม้าทัพช้าง ๕,๐๐๐ คนมาลาดตระเวนด้านตะวันออกของไทย สมเด็จพระนเรศวรทราบข่าวขณะประทับอยู่เมืองพิษณุโลก รับสั่งให้กองทัพเมืองชัยบุรีและเมืองถมอรัตน์ (เพชรบูรณ์) ป้องกันด้านในด่านไว้ ส่วนพระองค์นำทหาร ๓,๐๐๐ คนเข้าขับไล่กองทัพพระยาละแวกจนถอยกลับไป
    หลังการประกาศอิสรภาพ สมเด็จพระนเรศวรทรงปรับปรุงกองทัพไทยให้เข้มแข็ง เมื่อพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงกรีฑาทัพมาปราบ ก็ต้องแตกพ่ายไป ในปี พ.ศ.๒๑๒๘ พระบรมราชาที่ ๕ ที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวเป็นประจำ กลัวว่าจะถูกคิดบัญชีแค้น จึงแต่งราชทูตและถือศุภอักษรเข้ามาขอเป็นไมตรี สมเด็จพระนเรศวรทรงเห็นว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับพม่า หากสงบศึกกับเขมรได้ ก็ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง จึงทรงรับเป็นไมตรี

    เมื่อไทยเกิดศึกกับกรุงหงสาวดีครั้งที่ ๒ พระบรมราชาที่ ๕ ได้ส่งพระศรีสุพรรณมาธิราช พระอนุชา คุมกำลังเข้ามาช่วย แต่พระศรีสุพรรณมาธิราชกลับแสดงกิริยากระด้างกระเดื่อง ตอนพระนเรศวรทรงเรือพระที่นั่งกลับมาจากชนะศึกที่เชียงใหม่ ขณะที่ผ่านกองเรือเขมร พระศรีสุพรรณฯก็นั่งอยู่ในเรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ยอมแสดงความเคารพ ทำให้พระองค์ดำทรงพิโรธ รับสั่งให้ตัดศีรษะเชลยศึกที่จับมาไปเสียบไว้ที่กราบเรือพระศรีสุพรรณฯ

    ในปี พ.ศ.๒๑๓๐ ขณะพระเจ้ากรุงหงสาวดีส่งกำลังมาล้อมกรุงศรีอยุธยาอีก พระบรมราชาที่ ๕ ซึ่งเคยส่งกำลังมาช่วย ได้ส่งฟ้าทะละหะนำกำลังเข้ามาตีเมืองปราจีน สมเด็จพระนเรศวรทรงส่งพระยาศรีไสยณรงค์กับพระยาสีหราชเดโชชัยยกกองทัพไปป้องกัน พอถึงเมืองนครนายกก็ปะทะกับกองทัพเขมร จึงเข้าตีจนแตกพ่าย และตามตีจนพ้นเขตแดนไทย

    เมื่อสมเด็จพระนเรศวรขึ้นครองราชย์แล้ว ศึกทางพม่าว่างเว้น ทรงเห็นว่าจะต้องกำราบเขมรที่คอยตีท้ายครัวให้เข็ดหลาบเสียที ทรงร่วมกับสมเด็จพระเอกาทศรถยกกองทัพไป ให้พระราชมนูเป็นกองทัพหน้า พระยาละแวกยกมาสกัดที่เมืองโพธิสัตว์และพระตะบอง พระราชมนูถลำเข้าไปไม่รู้ตัว เลยถูกตีถอยมาถึงทัพหลวง สมเด็จพระนเรศวรทรงพิโรธจะให้ประหารชีวิตแม่ทัพเสีย แต่สมเด็จพระเอกาทศรถทูลขอชีวิตให้โอกาสแก้ตัว พระราชมนูจึงกลับไปตีเมืองโพธิสัตว์และพระตะบองได้ กองทัพหลวงเข้าล้อมเมืองละแวก แต่ก็ขาดเสบียงอาหาร จึงต้องยกกลับ

    ในปี พ.ศ.๒๑๓๖ สมเด็จพระนเรศวรทรงนำกองทัพไปตีเมืองละแวกเป็นครั้งที่ ๒ จับพระยาละแวกได้ แล้วทำพิธีกรรมให้ประหารชีวิตเอาโลหิตล้างพระบาท

    แต่มีบันทึกของบาทหลวงฝรั่งเศสกล่าวว่า พระบรมราชาที่ ๕ ไม่ได้ถูกสมเด็จพระนเรศวรประหาร แต่ได้หนีข้ามแดนไปอยู่ที่เมืองเชียงแตงในลาวพร้อมกับพระราชบุตร ๒ องค์ กองทัพไทยได้เผาเมืองละแวกวอดและกวาดต้อนผู้คนมา ต่อมาพระบรมราชาที่ ๕ พร้อมพระราชบุตรทั้ง ๒ ได้สิ้นพระชนม์ที่เมืองเชียงแตง

    การทำพิธีกรรมเอาโลหิตล้างพระบาท จึงอาจคลาดเคลื่อนมาจากพิธีกรรมอย่างอื่นก็เป็นได้ หรือเป็นรสชาติของประวัติศาสตร์ตามเจตนาของคนบันทึก

    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000124260
    “พระยาละแวก” นักตีท้ายครัวในประวัติศาสตร์! ถูกชำระแค้นจนเมืองละแวกหายไปทั้งเมือง!! “พระยาละแวก” เป็นคำที่พงศาวดารไทยเรียกกษัตริย์เขมรที่ครองราชย์เมืองละแวก ส่วนใหญ่แล้วเขมรจะตั้งเมืองหลวงอยู่ที่พนมเปญและอุดงมีชัย ในปี ๒๐๔๖ สมเด็จพระศรีสุคนธบท ครองราชย์อยู่เมืองพนมเปญ ถูกกบฏปลงพระชนม์ แต่ นักองค์จัน ผู้เป็นอนุชา หนีมาพึ่งกรุงศรีอยุธยาและได้กองทัพไทยไปช่วยปราบปรามจนได้ราชสมบัติคืนใน พ.ศ.๒๐๕๙ สถาปนานักองค์จันขึ้นครองราชย์ เป็น พระบรมราชาที่ ๓ และได้ย้ายเมืองหลวงมาอยู่เมืองละแวก เหนือกรุงพนมเปญขึ้นไป ใน พ.ศ.๒๑๐๙ นักพระสัตถา พระราชโอรส ขึ้นครองราชย์ต่อ เป็น พระบรมราชา ที่ ๔ ใน พ.ศ.๒๑๑๙ ทรงสถาปนา พระราชโองการ พระราชโอรสขึ้นเป็นพระบรมราชาที่ ๕ จนถึง พ.ศ.๒๑๓๖ หลังจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงจัดการกับพม่าเรียบร้อยแล้ว ก็หันมาชำระแค้นกับพระยาละแวกที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวมาตลอด เผาเมืองละแวกจนย่อยยับ กลายเป็นแค่อำเภอหนึ่งในจังหวัดกำปงชนังของกัมพูชาขณะนี้ แม้ไทยจะช่วยกษัตริย์เขมรมาตลอด แต่ความไม่ไว้วางใจและความแค้นฝังใจที่ขอมเคยเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในย่านนี้มาก่อน แต่ถูกกรุงศรีอยุธยาทำลายจนย่อยยับมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าสามพระยา ซึ่งเขมรก็ไม่อาจแก้แค้นได้เพราะความเข้มแข็งต่างกันมาก จนเมื่อใดที่ไทยอ่อนแอลง เขมรจึงถือเป็นโอกาส อย่างสมัยที่เสียกรุงครั้งที่ ๑ ถูกพม่ายึดอาวุธไปหมด ผู้คนส่วนใหญ่หนีไปหลบซ่อนอยู่ในป่า ยังไม่ทันกลับเข้าเมือง จึงเป็นโอกาสดีของเขมร ในปี ๒๑๑๓ พระบรมราชาที่ ๔ ได้นำกำลัง ๓๐,๐๐๐ คนมุ่งมาตีกรุงศรีอยุธยา ฝ่ายไทยเห็นว่าไม่มีกำลังจะสู้เขมรได้ คิดจะถอยขึ้นไปเมืองพิษณุโลก แต่มาทราบว่าเจ้าเมืองเพชรบูรณ์คนเก่าตั้งกองโจรดักปล้นอยู่กลางทาง จึงต้องตัดสินใจปักหลักสู้พระยาละแวกที่กรุงศรีอยุธยา แต่พอสู้กันจริงๆ กองทัพพระยาละแวกก็แหยงฝีมือไทย ถอยกลับไปโดยกวาดต้อนผู้คนรายทางกลับไปมาก ต่อมาอีก ๕ ปี พระบรมราชที่ ๔ เจ้าเก่า ได้ข่าวว่าสมเด็จพระมหาธรรมราชายกกองทัพไปช่วยพระเจ้ากรุงหงสาวดีตีกรุงศรีสัตนาคนหุต จึงยกกองทัพเรือเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยาถึงวัดพนัญเชิง แต่เผอิญสมเด็จพระนเรศวรซึ่งติดตามพระราชบิดาไปทัพด้วย เกิดเป็นไข้ทรพิษกลางทาง พระเจ้าบุเรงนองเลยให้กองทัพไทยกลับมาก่อน มาเจอเอากองทัพของพระยาละแวกแอบเข้ามาตีท้ายครัวเข้าพอดี เลยตีเสียกระเจิง แต่ตอนถอยออกไปพระยาละแวกก็ถือโอกาสขนเอาเทวรูปสัมฤทธิ์ ๒ องค์ที่เมืองพระประแดงและกวาดต้อนราษฎรไทยตามหัวเมืองชายทะเลกลับไปอีก รุ่งขึ้นอีกปี ใน พ.ศ.๒๑๑๔ พระบรมราชาธิราชที่ ๕ ขึ้นครองราชย์เมืองละแวก ได้ยกกองทัพเรือมีกำลังถึง ๗๐,๐๐๐ คนข้ามทะเลมาตีเมืองเพชรบุรี ล้อมถึง ๓ วันก็ไม่สามารถเข้าเมืองได้ เสียทหารไปเป็นจำนวนมาก พระยาละแวกต้องถอยไปตั้งหลักใหม่ และตัดสินใจเข้าตีอีกครั้ง หากไม่สำเร็จก็จะกลับ แต่การตั้งรับศึกครั้งใหม่แม่ทัพไทยเกิดแตกคอกัน ต่างคนต่างตั้งรับด้านของตัวไม่ยอมประสานกัน พระยาละแวกเลยเข้าเมืองได้ ๓ แม่ทัพไทยที่แตกคอกันเองตายในที่รบ พระยาละแวกกวาดต้อนผู้คนไปอีกมาก ต่อมาอีก ๒ ปี เขมรก็เอาอีก เพราะช่วงนั้นไทยยังไม่พ้นความอ่อนแอ พระยาละแวกก็ส่งกองทัพม้าทัพช้าง ๕,๐๐๐ คนมาลาดตระเวนด้านตะวันออกของไทย สมเด็จพระนเรศวรทราบข่าวขณะประทับอยู่เมืองพิษณุโลก รับสั่งให้กองทัพเมืองชัยบุรีและเมืองถมอรัตน์ (เพชรบูรณ์) ป้องกันด้านในด่านไว้ ส่วนพระองค์นำทหาร ๓,๐๐๐ คนเข้าขับไล่กองทัพพระยาละแวกจนถอยกลับไป หลังการประกาศอิสรภาพ สมเด็จพระนเรศวรทรงปรับปรุงกองทัพไทยให้เข้มแข็ง เมื่อพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงกรีฑาทัพมาปราบ ก็ต้องแตกพ่ายไป ในปี พ.ศ.๒๑๒๘ พระบรมราชาที่ ๕ ที่แอบเข้ามาตีท้ายครัวเป็นประจำ กลัวว่าจะถูกคิดบัญชีแค้น จึงแต่งราชทูตและถือศุภอักษรเข้ามาขอเป็นไมตรี สมเด็จพระนเรศวรทรงเห็นว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับพม่า หากสงบศึกกับเขมรได้ ก็ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง จึงทรงรับเป็นไมตรี เมื่อไทยเกิดศึกกับกรุงหงสาวดีครั้งที่ ๒ พระบรมราชาที่ ๕ ได้ส่งพระศรีสุพรรณมาธิราช พระอนุชา คุมกำลังเข้ามาช่วย แต่พระศรีสุพรรณมาธิราชกลับแสดงกิริยากระด้างกระเดื่อง ตอนพระนเรศวรทรงเรือพระที่นั่งกลับมาจากชนะศึกที่เชียงใหม่ ขณะที่ผ่านกองเรือเขมร พระศรีสุพรรณฯก็นั่งอยู่ในเรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ยอมแสดงความเคารพ ทำให้พระองค์ดำทรงพิโรธ รับสั่งให้ตัดศีรษะเชลยศึกที่จับมาไปเสียบไว้ที่กราบเรือพระศรีสุพรรณฯ ในปี พ.ศ.๒๑๓๐ ขณะพระเจ้ากรุงหงสาวดีส่งกำลังมาล้อมกรุงศรีอยุธยาอีก พระบรมราชาที่ ๕ ซึ่งเคยส่งกำลังมาช่วย ได้ส่งฟ้าทะละหะนำกำลังเข้ามาตีเมืองปราจีน สมเด็จพระนเรศวรทรงส่งพระยาศรีไสยณรงค์กับพระยาสีหราชเดโชชัยยกกองทัพไปป้องกัน พอถึงเมืองนครนายกก็ปะทะกับกองทัพเขมร จึงเข้าตีจนแตกพ่าย และตามตีจนพ้นเขตแดนไทย เมื่อสมเด็จพระนเรศวรขึ้นครองราชย์แล้ว ศึกทางพม่าว่างเว้น ทรงเห็นว่าจะต้องกำราบเขมรที่คอยตีท้ายครัวให้เข็ดหลาบเสียที ทรงร่วมกับสมเด็จพระเอกาทศรถยกกองทัพไป ให้พระราชมนูเป็นกองทัพหน้า พระยาละแวกยกมาสกัดที่เมืองโพธิสัตว์และพระตะบอง พระราชมนูถลำเข้าไปไม่รู้ตัว เลยถูกตีถอยมาถึงทัพหลวง สมเด็จพระนเรศวรทรงพิโรธจะให้ประหารชีวิตแม่ทัพเสีย แต่สมเด็จพระเอกาทศรถทูลขอชีวิตให้โอกาสแก้ตัว พระราชมนูจึงกลับไปตีเมืองโพธิสัตว์และพระตะบองได้ กองทัพหลวงเข้าล้อมเมืองละแวก แต่ก็ขาดเสบียงอาหาร จึงต้องยกกลับ ในปี พ.ศ.๒๑๓๖ สมเด็จพระนเรศวรทรงนำกองทัพไปตีเมืองละแวกเป็นครั้งที่ ๒ จับพระยาละแวกได้ แล้วทำพิธีกรรมให้ประหารชีวิตเอาโลหิตล้างพระบาท แต่มีบันทึกของบาทหลวงฝรั่งเศสกล่าวว่า พระบรมราชาที่ ๕ ไม่ได้ถูกสมเด็จพระนเรศวรประหาร แต่ได้หนีข้ามแดนไปอยู่ที่เมืองเชียงแตงในลาวพร้อมกับพระราชบุตร ๒ องค์ กองทัพไทยได้เผาเมืองละแวกวอดและกวาดต้อนผู้คนมา ต่อมาพระบรมราชาที่ ๕ พร้อมพระราชบุตรทั้ง ๒ ได้สิ้นพระชนม์ที่เมืองเชียงแตง การทำพิธีกรรมเอาโลหิตล้างพระบาท จึงอาจคลาดเคลื่อนมาจากพิธีกรรมอย่างอื่นก็เป็นได้ หรือเป็นรสชาติของประวัติศาสตร์ตามเจตนาของคนบันทึก https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000124260
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 488 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตามที่เกิดเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงบริเวณแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) มีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้าให้กับราชอาณาจักรกัมพูชาจำนวน 8 จุดซื้อขายไฟฟ้านั้น สถานะปัจจุบัน (26 มิถุนายน 2568 เวลา 20.00 น.) PEA ยังมิได้ดำเนินการงดจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ราชอาณาจักรกัมพูชาแต่อย่างใด ทั้งนี้จากข้อมูล
    การตรวจสอบการใช้ไฟฟ้าตามจุดซื้อขายทั้ง 8 จุด นั้น ราชอาณาจักรกัมพูชา มิได้มีการใช้พลังงานไฟฟ้าจาก PEA โดยมีหน่วยการใช้ไฟฟ้าเป็น 0 ทั้ง 8 จุดซื้อขายไฟฟ้า ดังนี้

    1.เทศบาลบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว → อำเภอปอยเปตจังหวัดบันเตียเมียนเจย วงจรที่ 1 และ วงจรที่ 2
    2. อำเภอกาบเชิง (ช่องจอม) จังหวัดสุรินทร์ → บ้านโอเสม็ด จังหวัดอุดรมีชัย
    3. บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด → บ้านหาดทรายยาว จังหวัดเกาะกง
    4. บ้านซับตารี อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี → อำเภอพนมปรึก จังหวัดพระตะบอง
    5. บ้านสวนส้ม อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี → บ้านโอลั๊ว อำเภอกร็อมเรียง จังหวัดพระตะบอง
    6. บ้านเขาดิน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว → อำเภอสำเภาลูน จังหวัดพระตะบอง
    7. บ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี → อำเภอกร็อมเรียง จังหวัดพระตะบอง
    8. บ้านหนองปรือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว → อำเภอมาลัย จังหวัดบันเตียเมียนเจย

    สำหรับเงื่อนไขการงดจำหน่ายไฟฟ้าและยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้า PEA สามารถดำเนินการได้ดังนี้
    1. คู่สัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือตัวแทนรัฐ (สถานทูตกัมพูชา รัฐกัมพูชา) ทำหนังสือขอยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและงดจำหน่ายไฟฟ้า
    2. สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีหนังสือแจ้ง PEAให้ดำเนินการงดจำหน่ายไฟฟ้าและยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
    3. ไม่ดำเนินการตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า เช่น ไม่ชำระค่าไฟฟ้าภายในเวลาที่กำหนด หรือ หลักประกันการใช้ไฟฟ้าไม่ครบถ้วน เป็นต้น
    ตามที่เกิดเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงบริเวณแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) มีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้าให้กับราชอาณาจักรกัมพูชาจำนวน 8 จุดซื้อขายไฟฟ้านั้น สถานะปัจจุบัน (26 มิถุนายน 2568 เวลา 20.00 น.) PEA ยังมิได้ดำเนินการงดจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ราชอาณาจักรกัมพูชาแต่อย่างใด ทั้งนี้จากข้อมูล การตรวจสอบการใช้ไฟฟ้าตามจุดซื้อขายทั้ง 8 จุด นั้น ราชอาณาจักรกัมพูชา มิได้มีการใช้พลังงานไฟฟ้าจาก PEA โดยมีหน่วยการใช้ไฟฟ้าเป็น 0 ทั้ง 8 จุดซื้อขายไฟฟ้า ดังนี้ 1.เทศบาลบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว → อำเภอปอยเปตจังหวัดบันเตียเมียนเจย วงจรที่ 1 และ วงจรที่ 2 2. อำเภอกาบเชิง (ช่องจอม) จังหวัดสุรินทร์ → บ้านโอเสม็ด จังหวัดอุดรมีชัย 3. บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด → บ้านหาดทรายยาว จังหวัดเกาะกง 4. บ้านซับตารี อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี → อำเภอพนมปรึก จังหวัดพระตะบอง 5. บ้านสวนส้ม อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี → บ้านโอลั๊ว อำเภอกร็อมเรียง จังหวัดพระตะบอง 6. บ้านเขาดิน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว → อำเภอสำเภาลูน จังหวัดพระตะบอง 7. บ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี → อำเภอกร็อมเรียง จังหวัดพระตะบอง 8. บ้านหนองปรือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว → อำเภอมาลัย จังหวัดบันเตียเมียนเจย สำหรับเงื่อนไขการงดจำหน่ายไฟฟ้าและยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้า PEA สามารถดำเนินการได้ดังนี้ 1. คู่สัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือตัวแทนรัฐ (สถานทูตกัมพูชา รัฐกัมพูชา) ทำหนังสือขอยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและงดจำหน่ายไฟฟ้า 2. สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีหนังสือแจ้ง PEAให้ดำเนินการงดจำหน่ายไฟฟ้าและยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 3. ไม่ดำเนินการตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า เช่น ไม่ชำระค่าไฟฟ้าภายในเวลาที่กำหนด หรือ หลักประกันการใช้ไฟฟ้าไม่ครบถ้วน เป็นต้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 459 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ว่าฯจันทบุรี ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าพระตะบอง ปฏิเสธไทยใช้ โดรนบินเข้ากัมพูชา และประท้วงกรณีโดรนกัมพูชาบินล้ำแดนไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/19749/
    ผู้ว่าฯจันทบุรี ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าพระตะบอง ปฏิเสธไทยใช้ โดรนบินเข้ากัมพูชา และประท้วงกรณีโดรนกัมพูชาบินล้ำแดนไทย https://www.thai-tai.tv/news/19749/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • พล.ต.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย โพสต์ข้อความระบุ การประกาศตัดไฟเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา ของ กัมพูชามาดูว่าปัจจุบันสถานการณ์การจ่ายไฟฟ้าเป็นยังไงบ้าง โดยก่อนประกาศตัดไฟ ไทยจ่ายไฟให้ เขมร 9 จุด คือ 1.สุรินทร์(ช่องจอม) ไป บ.โอสะเม็ด จ.อุดรมีชัย 2.สระแก้ว บ.หนอกปรือ ไป อ.มาลัย จ.บันเตียเมียเจย 3.สระแก้ว บ.คลองลึก ไป อ.ปอยเปต จ.บันเตียเมียเจย 4.เหมือนข้อ 3 เป็นวงจร 2 5.สระแก้ว บ.เขาดินไป อ.สำเภาลูน จ.พระตะบอง 6.จันทบุรี บ.ซับตารี ไป อ.พนมปรึก จ.พระตะบอง 7.จันทบุรี บ.สวนส้ม ไป อ.โอสั๊ว จ.พระตะบอง 8.จันทบุรี บ.บ้านแหลมไป อ.ก๊อมเรียง จ.พระตะบอง และ 9.ตราด บ.หาดเล็ก ไป บ.หาดทราบยาว จ.เกาะกง ปัจจุบัน เขมรตัดไฟไปแค่ 3 จุด เท่านั้น คือ ข้อ 3,4,9 ยังคงจ่ายไฟอยู่ 6 จุด

    -ทหารชายแดนเตรียมพร้อม
    -ชวนติด#28มิถุนามาแน่
    -หนุนรถกระบะเก่าแลกใหม่
    -พร้อมตอบโต้อิหร่านแม้หยุดยิง
    พล.ต.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย โพสต์ข้อความระบุ การประกาศตัดไฟเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา ของ กัมพูชามาดูว่าปัจจุบันสถานการณ์การจ่ายไฟฟ้าเป็นยังไงบ้าง โดยก่อนประกาศตัดไฟ ไทยจ่ายไฟให้ เขมร 9 จุด คือ 1.สุรินทร์(ช่องจอม) ไป บ.โอสะเม็ด จ.อุดรมีชัย 2.สระแก้ว บ.หนอกปรือ ไป อ.มาลัย จ.บันเตียเมียเจย 3.สระแก้ว บ.คลองลึก ไป อ.ปอยเปต จ.บันเตียเมียเจย 4.เหมือนข้อ 3 เป็นวงจร 2 5.สระแก้ว บ.เขาดินไป อ.สำเภาลูน จ.พระตะบอง 6.จันทบุรี บ.ซับตารี ไป อ.พนมปรึก จ.พระตะบอง 7.จันทบุรี บ.สวนส้ม ไป อ.โอสั๊ว จ.พระตะบอง 8.จันทบุรี บ.บ้านแหลมไป อ.ก๊อมเรียง จ.พระตะบอง และ 9.ตราด บ.หาดเล็ก ไป บ.หาดทราบยาว จ.เกาะกง ปัจจุบัน เขมรตัดไฟไปแค่ 3 จุด เท่านั้น คือ ข้อ 3,4,9 ยังคงจ่ายไฟอยู่ 6 จุด -ทหารชายแดนเตรียมพร้อม -ชวนติด#28มิถุนามาแน่ -หนุนรถกระบะเก่าแลกใหม่ -พร้อมตอบโต้อิหร่านแม้หยุดยิง
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 689 มุมมอง 30 0 รีวิว
  • เผยแล้วจดหมายลับ ผู้ว่าฯพระตะบอง ส่งหนังสือถึง ผู้ว่าฯจันทบุรีตรวจสอบโดรนไม่ทราบฝ่าย
    https://www.thai-tai.tv/news/19618/
    เผยแล้วจดหมายลับ ผู้ว่าฯพระตะบอง ส่งหนังสือถึง ผู้ว่าฯจันทบุรีตรวจสอบโดรนไม่ทราบฝ่าย https://www.thai-tai.tv/news/19618/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ว่าฯพระตะบอง กัมพูชา ส่งเอกสารลับ 2 ฉบับ ถึง ผู้ว่าฯจันทบุรี
    https://www.thai-tai.tv/news/19617/
    ผู้ว่าฯพระตะบอง กัมพูชา ส่งเอกสารลับ 2 ฉบับ ถึง ผู้ว่าฯจันทบุรี https://www.thai-tai.tv/news/19617/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักข่าว Al Jazeera แฉคลิปเสียงหลุด!ฮุนเซน สั่ง “นายฮวด” ไล่ล่าคนเห็นต่างในไทย — ไม่สนว่าจับได้จะ “เป็นหรือตาย”!นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาภายในกัมพูชา —แต่คือคำสั่งจากผู้นำต่างชาติ ที่ล้ำเส้นเข้ามายัง “แผ่นดินไทย”!ในคลิปเสียงดังกล่าว ฮุนเซนได้สั่งตรงถึง “นายเคลียง ฮวด”ให้ดำเนินการ “ตามล่าคนที่วิพากษ์วิจารณ์ตน แม้จะอยู่ในประเทศไทย”พร้อมกำชับชัดเจนว่า“ไม่ต้องสนใจว่าจับมาได้จะ ‘เป็นหรือตาย’”การลอบสังหารนักการเมืองระดับสูงในกัมพูชา ในปี 2016 นายเขม ไลย์ นักวิจารณ์การเมืองซึ่งเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์ฮุน เซน ชื่อดัง ถูกยิงเสียชีวิตในกรุงพนมเปญ และในปี 2012 นายจุ๊ต วุตติ นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมก็ถูกสังหารด้วยเช่นกันล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ กรณีสังหารนายลิม กิมยา อดีตสมาชิกรัฐสภาวัย 73 ปี ของพรรคแกนนำฝ่ายค้านของกัมพูชาที่ชื่อว่าพรรคกู้ชาติกัมพูชา หรือ ซีเอ็นอาร์พี (Cambodia National Rescue Party - CNRP) ซึ่งพรรคนี้ถูกแบนไปเมื่อปี 2017 จากรายงานของตำรวจไทย เขาถูกยิงด้วยกระสุน 2 นัดบริเวณหน้าอก ทั้งที่เพิ่งเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ด้วยรถบัสจากกัมพูชา พร้อมกับภรรยาที่บริเวณหน้าวัดบวรนิเวศ บางลำพู เขตพระนคร กรุงเทพนายเอกลักษณ์ แพน้อย ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงนายลิม กิมยา อดีต สส. ฝ่ายค้านกัมพูชา ถูกจับตัวได้ที่ จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา หลังหลบหนีออกจากไทย และถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทยแล้วเมื่อวันที่ 11 ม.ค.2568ที่ผ่านมาแล้วเรื่องก็เงียบhttps://youtu.be/FR39vs42N9I
    สำนักข่าว Al Jazeera แฉคลิปเสียงหลุด!ฮุนเซน สั่ง “นายฮวด” ไล่ล่าคนเห็นต่างในไทย — ไม่สนว่าจับได้จะ “เป็นหรือตาย”!นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาภายในกัมพูชา —แต่คือคำสั่งจากผู้นำต่างชาติ ที่ล้ำเส้นเข้ามายัง “แผ่นดินไทย”!ในคลิปเสียงดังกล่าว ฮุนเซนได้สั่งตรงถึง “นายเคลียง ฮวด”ให้ดำเนินการ “ตามล่าคนที่วิพากษ์วิจารณ์ตน แม้จะอยู่ในประเทศไทย”พร้อมกำชับชัดเจนว่า“ไม่ต้องสนใจว่าจับมาได้จะ ‘เป็นหรือตาย’”การลอบสังหารนักการเมืองระดับสูงในกัมพูชา ในปี 2016 นายเขม ไลย์ นักวิจารณ์การเมืองซึ่งเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์ฮุน เซน ชื่อดัง ถูกยิงเสียชีวิตในกรุงพนมเปญ และในปี 2012 นายจุ๊ต วุตติ นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมก็ถูกสังหารด้วยเช่นกันล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ กรณีสังหารนายลิม กิมยา อดีตสมาชิกรัฐสภาวัย 73 ปี ของพรรคแกนนำฝ่ายค้านของกัมพูชาที่ชื่อว่าพรรคกู้ชาติกัมพูชา หรือ ซีเอ็นอาร์พี (Cambodia National Rescue Party - CNRP) ซึ่งพรรคนี้ถูกแบนไปเมื่อปี 2017 จากรายงานของตำรวจไทย เขาถูกยิงด้วยกระสุน 2 นัดบริเวณหน้าอก ทั้งที่เพิ่งเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ด้วยรถบัสจากกัมพูชา พร้อมกับภรรยาที่บริเวณหน้าวัดบวรนิเวศ บางลำพู เขตพระนคร กรุงเทพนายเอกลักษณ์ แพน้อย ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงนายลิม กิมยา อดีต สส. ฝ่ายค้านกัมพูชา ถูกจับตัวได้ที่ จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา หลังหลบหนีออกจากไทย และถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทยแล้วเมื่อวันที่ 11 ม.ค.2568ที่ผ่านมาแล้วเรื่องก็เงียบhttps://youtu.be/FR39vs42N9I
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 516 มุมมอง 0 รีวิว
  • นั่นก็อาจจะจริงครับ เพราะคุณคงซื้อไฟฟ้าจากลาวได้...
    .
    แต่...
    .
    พลังงานไม่ได้แปลว่า ไฟฟ้าอย่างเดียวนะครับ...
    .
    ได้ข่าวว่า เขมร นำเข้า น้ำมันไทย คิดเป็น 50% จากการนำเข้าทั้งหมด...
    .
    ถ้า ไทย เลิกขายน้ำมันให้ เขมร....
    .
    ก็ปล่อยให้มันไปซื้อแพงจากเวียดนาม ที่ซื้อน้ำมันต่อจากประเทศไทยไปอีกทอดนึง...
    .
    จากนั้น เอาเรือรบไปปิดปากอ่าว...
    .
    ดูสิ แม่งจะเอาน้ำมันที่ไหนมาใช้ รบกับประเทศไทย...
    .
    เรายกเลิก MOU43 และ MOU44 + JC44 บีบให้แม่ง ยอมรับแผนที่ 1:50,000 แล้วจัดทำแผนที่ให้สมบูรณ์ ตามหลักสากลที่ใช้ สันปันน้ำ โดยแผนที่ดาวเทียมที่มีความละเอียด ภายใน 1 เดือน...
    .
    ไม่งั้น เราจะเรียกร้องเอาพื้นที่ทั้งหมด ที่ฝรั่งเศสปล้นไปจากประเทศไทยคืนมาทั้งหมด...!!!
    .
    ทั้ง พระตะบอง ศรีโสภณ เสียมราฐ ประจันตคีรีเขต เกาะกง ปราสาทพระวิหาร นครวัด...
    ...
    ...
    ดูซิ เขมรชั่ว สองพ่อลูก มันจะทำยังไง...???
    นั่นก็อาจจะจริงครับ เพราะคุณคงซื้อไฟฟ้าจากลาวได้... . แต่... . พลังงานไม่ได้แปลว่า ไฟฟ้าอย่างเดียวนะครับ... . ได้ข่าวว่า เขมร นำเข้า น้ำมันไทย คิดเป็น 50% จากการนำเข้าทั้งหมด... . ถ้า ไทย เลิกขายน้ำมันให้ เขมร.... . ก็ปล่อยให้มันไปซื้อแพงจากเวียดนาม ที่ซื้อน้ำมันต่อจากประเทศไทยไปอีกทอดนึง... . จากนั้น เอาเรือรบไปปิดปากอ่าว... . ดูสิ แม่งจะเอาน้ำมันที่ไหนมาใช้ รบกับประเทศไทย... . เรายกเลิก MOU43 และ MOU44 + JC44 บีบให้แม่ง ยอมรับแผนที่ 1:50,000 แล้วจัดทำแผนที่ให้สมบูรณ์ ตามหลักสากลที่ใช้ สันปันน้ำ โดยแผนที่ดาวเทียมที่มีความละเอียด ภายใน 1 เดือน... . ไม่งั้น เราจะเรียกร้องเอาพื้นที่ทั้งหมด ที่ฝรั่งเศสปล้นไปจากประเทศไทยคืนมาทั้งหมด...!!! . ทั้ง พระตะบอง ศรีโสภณ เสียมราฐ ประจันตคีรีเขต เกาะกง ปราสาทพระวิหาร นครวัด... ... ... ดูซิ เขมรชั่ว สองพ่อลูก มันจะทำยังไง...???
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคลมมา เคลมกลับ ไทยทวงคืน พระตะบอง-เสียมราฐ-ศรีโสภณ : คนเคาะข่าว 09-06-86
    : ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองระหว่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์
    เคลมมา เคลมกลับ ไทยทวงคืน พระตะบอง-เสียมราฐ-ศรีโสภณ : คนเคาะข่าว 09-06-86 : ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองระหว่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • เดี๋ยวจะมีภาคย่อย ของจักรวาลไอ้ Almost Prime Minister นายกฯว่าว ตลอดชีพ

    - Almost RIP (จำผิดพลาดงานศพพ่อง)
    - Almost Dual Degree (แหกตา ปริญญาสองใบ)
    - Almost Billionaire (อายุน้อยหนี้ร้อยล้าน)
    - Almost Prince of Battambang (เจ้าชายทิพย์พระตะบอง)
    - Almost Free Cannabis (เราเลิกเป็นเพื่อนกัญ)
    - Almost Family (เผด็จการบ้านแตก)
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #พิธา
    #นายกว่าว
    #จักรวาลคนเกือบได้เป็น
    เดี๋ยวจะมีภาคย่อย ของจักรวาลไอ้ Almost Prime Minister นายกฯว่าว ตลอดชีพ - Almost RIP (จำผิดพลาดงานศพพ่อง) - Almost Dual Degree (แหกตา ปริญญาสองใบ) - Almost Billionaire (อายุน้อยหนี้ร้อยล้าน) - Almost Prince of Battambang (เจ้าชายทิพย์พระตะบอง) - Almost Free Cannabis (เราเลิกเป็นเพื่อนกัญ) - Almost Family (เผด็จการบ้านแตก) #คิงส์โพธิ์แดง #พิธา #นายกว่าว #จักรวาลคนเกือบได้เป็น
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 455 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระปิดตา #หลวงปู่เฮี้ยง วัดป่าฯจังหวัดชลบุรี ปีพุทธศักราชสองพันห้าร้อยสอง เนื้อชินตะกั่ว
    หลังจารอักขระขอม และหลังยันต์​นะกินไม่รู้สิ้น หลวงปู่เฮี้ยงท่านเป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์เชื้อสายจีนที่ชาวชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียงรักและศรัทธาเป็นอย่างมาก ท่านนอกจากเป็นพระปฎิบัติดีปฎิชอบแล้วยังสนใจศึกษาวิชาอาคมโดยฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อแดง วัดใหญ่อินทราราม หรือ วัดหลวง ยอดพระเกจิอาจารย์ชาวพระตะบอง พระปิดตาของท่านรุ่นนี้ นอกจากมีพุทธศิลป์สวยงาม ด้านมวลสารมีโลหะธาตุของพระกรุเก่าอยุธยานำมาหลอมผสมรวมอยู่ด้วย พุทธคุณจึงมีความเด่นด้านเมตตา มหานิยม โชคลาภ ทำมาค้าขาย ตลอดจนแคล้วคลาดปลอดภัยยิ่ง
    🙏✨พระปิดตา #หลวงปู่เฮี้ยง วัดป่าฯจังหวัดชลบุรี ปีพุทธศักราชสองพันห้าร้อยสอง เนื้อชินตะกั่ว หลังจารอักขระขอม และหลังยันต์​นะกินไม่รู้สิ้น หลวงปู่เฮี้ยงท่านเป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์เชื้อสายจีนที่ชาวชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียงรักและศรัทธาเป็นอย่างมาก ท่านนอกจากเป็นพระปฎิบัติดีปฎิชอบแล้วยังสนใจศึกษาวิชาอาคมโดยฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อแดง วัดใหญ่อินทราราม หรือ วัดหลวง ยอดพระเกจิอาจารย์ชาวพระตะบอง พระปิดตาของท่านรุ่นนี้ นอกจากมีพุทธศิลป์สวยงาม ด้านมวลสารมีโลหะธาตุของพระกรุเก่าอยุธยานำมาหลอมผสมรวมอยู่ด้วย พุทธคุณจึงมีความเด่นด้านเมตตา มหานิยม โชคลาภ ทำมาค้าขาย ตลอดจนแคล้วคลาดปลอดภัยยิ่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 485 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อบุญจันทร์ วัดกุญชรวนาราม จ.พิษณุโลก ปี2535
    เหรียญหลวงพ่อบุญจันทร์ ( ตอกโค๊ต ) วัดกุญชรวนาราม (ในห้วย) ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ปี2535 // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดและมีโชคลาภ ค้าขายดี ป้องกันอาเพศ คุณไสยและสิ่งอัปมงคลทั้งหลาย ไม่ให้เข้ามากล้ำกราย อำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่งทรัพย์สินเงินทอง อุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล” >>

    ** หลวงปู่บุญจันทร์ "คะเบนรัมย์" ชินบุตโต วัดถ้ำทราย-วัดกุญชรวนาราม(ในห้วย) ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เนื้อทองแดง อายุ ๘๗ ปี ตอกโค๊ต อุ ปี 2535 เกิด ปี 2466 ณ บ้านโพธิ์ศรีสุข จ.บุรีรัมย์ บวชเณร และศึกษาธรรมชั้นต้นกับพระอาจารย์เสน วัดโพธิ์ศรีสุข จนอายุได้ 20 ปี จึงอุปสมบท ศึกษาสอบได้นักธรรมชั้นตรี โท และเอก ที่สำนักวัดธาตุทอง จนเกิดสงครามโลกครั้งที่2 ท่านจึงธุดงค์ไปอยู่ที่ พระตะบอง และได้ศึกษาวิชาอาคมจากครูบาอาจารย์ในเขมรหลายองค์ เมื่อสงครามสงบจึงธุดงค์กลับประเทศไทย ได้ศึกษาวิชากับหลวงพ่อสอน วัดเสิงสาง นครราชสีมา ,หลวงปู่เคน ถ้ำเขาอีโต้ นครนายก จนสำเร็จ จึงออกแสวงหาความสงบ จนมาถึง หมู่บ้านถ้ำทราย มรณภาพ วันที่ 27 มีนาคม 2537 สิริอายุ 81 ปี 51 พรรษา (สังขารไม่เน่า) >>


    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อบุญจันทร์ วัดกุญชรวนาราม จ.พิษณุโลก ปี2535 เหรียญหลวงพ่อบุญจันทร์ ( ตอกโค๊ต ) วัดกุญชรวนาราม (ในห้วย) ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ปี2535 // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดและมีโชคลาภ ค้าขายดี ป้องกันอาเพศ คุณไสยและสิ่งอัปมงคลทั้งหลาย ไม่ให้เข้ามากล้ำกราย อำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่งทรัพย์สินเงินทอง อุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล” >> ** หลวงปู่บุญจันทร์ "คะเบนรัมย์" ชินบุตโต วัดถ้ำทราย-วัดกุญชรวนาราม(ในห้วย) ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เนื้อทองแดง อายุ ๘๗ ปี ตอกโค๊ต อุ ปี 2535 เกิด ปี 2466 ณ บ้านโพธิ์ศรีสุข จ.บุรีรัมย์ บวชเณร และศึกษาธรรมชั้นต้นกับพระอาจารย์เสน วัดโพธิ์ศรีสุข จนอายุได้ 20 ปี จึงอุปสมบท ศึกษาสอบได้นักธรรมชั้นตรี โท และเอก ที่สำนักวัดธาตุทอง จนเกิดสงครามโลกครั้งที่2 ท่านจึงธุดงค์ไปอยู่ที่ พระตะบอง และได้ศึกษาวิชาอาคมจากครูบาอาจารย์ในเขมรหลายองค์ เมื่อสงครามสงบจึงธุดงค์กลับประเทศไทย ได้ศึกษาวิชากับหลวงพ่อสอน วัดเสิงสาง นครราชสีมา ,หลวงปู่เคน ถ้ำเขาอีโต้ นครนายก จนสำเร็จ จึงออกแสวงหาความสงบ จนมาถึง หมู่บ้านถ้ำทราย มรณภาพ วันที่ 27 มีนาคม 2537 สิริอายุ 81 ปี 51 พรรษา (สังขารไม่เน่า) >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 749 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## มายา ภาพลวง โลกเสรี และ ประชาธิปไตย ที่ท่องกันเป็นนกแก้วนกขุนทอง ##
    ..
    ..
    แรกๆผมพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ ว่า "ความช่วยเหลือ" ที่ว่านี้ "ไม่ฟรี"...!!!
    .
    วันนี้ Black Rock ได้ แร่หายาก และ แผ่นดิน ยูเครน ไปมหาศาลแล้วใช่มั้ย...???
    .
    อเมริกา ได้อะไรไปบ้าง ราวกับสัมปทาน ชั่วกัลปาวสาน...!!!
    .
    และ ตอนนี้ พวกคนดี ประเทศเสรีประชาธิปไตย ที่เคยบอกว่าจะช่วย ยูเครน รบกับ รัสเซีย จนทหารยูเครนคนสุดท้าย...!!!
    .
    เริ่มขอส่วนแบ่งเค้ก รุมทึ้งแผ่นดิน ยูเครน แล้ว...!!!
    .
    ใครซ้ายจัด เทิดทูน อเมริกา และ ยุโรป เป็นพ่อ เป็นพระเอก เป็นตำรวจโลก คอยเลียก้นให้เขา ไม่รู้วันนี้ กะลาแตก รึยัง...???
    .
    อ่อ ไอ้พวก พรรคการเมืองเสร่อๆนั่นก็ด้วย หรือ ท่านชายพระตะบอง นั่นก็ใช่...!!!
    .
    เอ้อ ศาสดานักวิทยาศาสตร์ ผู้รู้ทุกเรื่อง ที่ทุกวันนี่ยังเชิดชู เซเลนสกี้ ว่าเป็น ฮีโร่ ของ ยูเครน อยู่เลยนั่นผมก็ไม่ลืมนะ...!!!
    .
    ฮีโร่ ประสาอะไร ครับ...???
    .
    บริหารจนประเทศพังพินาศ หมดสภาพความเป็นประเทศไปแล้ว
    .
    ทหารตายไปราว 2 ล้านคน (รวมทหาร NATO ด้วย)
    .
    ประชาชน ต้องอพยพลี้ภัยออกจากประเทศพลัดที่นาคาที่อยู่มากกว่า 10 ล้านคน...
    .
    ถูกคนที่เรียกว่าเพื่อนรุมทึ้งแผ่นดิน
    .
    นั่นแหล่ะ ผลของการที่ มีผู้นำโง่
    .
    และ สิ่งนี้ เกิดขึ้น ในระบอบที่อ้างว่า คือ ประชาธิปไตย...
    .
    ลองถามตัวเองดู คุณเสพข่าวจากแหล่งไหน ฟังอินฟูลคนไหน ถึงได้หลงทาง คาดการณ์ผิดไปไกลขนาดนั้น...???
    .
    เคยคิดบ้างรึเปล่าครับว่า...
    .
    ตัวเอง ถูกล้างสมองด้วย Propaganda (โฆษณาชวนเชื่อ) ไม่ว่าจะด้วย อินฟลูที่ตาม ข่าวที่ฟัง และ หนังฮอลลีวูดที่ดู...???
    .
    https://mgronline.com/around/detail/9680000018785?fbclid=IwY2xjawIt18lleHRuA2FlbQIxMQABHZL_RXNexVthVi27siJ4lA7LywLYfTLah4N5pQw0fjTvUXWndQ2nBUu7zQ_aem_Kq4d9cd5tT_7R1gGhAJPlw
    ## มายา ภาพลวง โลกเสรี และ ประชาธิปไตย ที่ท่องกันเป็นนกแก้วนกขุนทอง ## .. .. แรกๆผมพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ ว่า "ความช่วยเหลือ" ที่ว่านี้ "ไม่ฟรี"...!!! . วันนี้ Black Rock ได้ แร่หายาก และ แผ่นดิน ยูเครน ไปมหาศาลแล้วใช่มั้ย...??? . อเมริกา ได้อะไรไปบ้าง ราวกับสัมปทาน ชั่วกัลปาวสาน...!!! . และ ตอนนี้ พวกคนดี ประเทศเสรีประชาธิปไตย ที่เคยบอกว่าจะช่วย ยูเครน รบกับ รัสเซีย จนทหารยูเครนคนสุดท้าย...!!! . เริ่มขอส่วนแบ่งเค้ก รุมทึ้งแผ่นดิน ยูเครน แล้ว...!!! . ใครซ้ายจัด เทิดทูน อเมริกา และ ยุโรป เป็นพ่อ เป็นพระเอก เป็นตำรวจโลก คอยเลียก้นให้เขา ไม่รู้วันนี้ กะลาแตก รึยัง...??? . อ่อ ไอ้พวก พรรคการเมืองเสร่อๆนั่นก็ด้วย หรือ ท่านชายพระตะบอง นั่นก็ใช่...!!! . เอ้อ ศาสดานักวิทยาศาสตร์ ผู้รู้ทุกเรื่อง ที่ทุกวันนี่ยังเชิดชู เซเลนสกี้ ว่าเป็น ฮีโร่ ของ ยูเครน อยู่เลยนั่นผมก็ไม่ลืมนะ...!!! . ฮีโร่ ประสาอะไร ครับ...??? . บริหารจนประเทศพังพินาศ หมดสภาพความเป็นประเทศไปแล้ว . ทหารตายไปราว 2 ล้านคน (รวมทหาร NATO ด้วย) . ประชาชน ต้องอพยพลี้ภัยออกจากประเทศพลัดที่นาคาที่อยู่มากกว่า 10 ล้านคน... . ถูกคนที่เรียกว่าเพื่อนรุมทึ้งแผ่นดิน . นั่นแหล่ะ ผลของการที่ มีผู้นำโง่ . และ สิ่งนี้ เกิดขึ้น ในระบอบที่อ้างว่า คือ ประชาธิปไตย... . ลองถามตัวเองดู คุณเสพข่าวจากแหล่งไหน ฟังอินฟูลคนไหน ถึงได้หลงทาง คาดการณ์ผิดไปไกลขนาดนั้น...??? . เคยคิดบ้างรึเปล่าครับว่า... . ตัวเอง ถูกล้างสมองด้วย Propaganda (โฆษณาชวนเชื่อ) ไม่ว่าจะด้วย อินฟลูที่ตาม ข่าวที่ฟัง และ หนังฮอลลีวูดที่ดู...??? . https://mgronline.com/around/detail/9680000018785?fbclid=IwY2xjawIt18lleHRuA2FlbQIxMQABHZL_RXNexVthVi27siJ4lA7LywLYfTLah4N5pQw0fjTvUXWndQ2nBUu7zQ_aem_Kq4d9cd5tT_7R1gGhAJPlw
    MGRONLINE.COM
    ส่อสิ้นเนื้อประดาตัว! เจ้าหนี้รายอื่นเอาบ้าง เรียกร้องยูเครนใช้คืนเงินช่วยเหลือระหว่างทำศึกกับรัสเซีย
    สโลวาเกีย มีสิทธิ์เรียกร้องให้ยูเครนชำระคืน เงินช่วยเหลือที่พวกเขามอบให้เคียฟในระหว่างทำศึกสงครามกับมอสโก หากว่าบรรดาชาติตะวันตกอย่าง สหรัฐฯ เยอรมนีและฝรั่งเศส ดำเนินการแบบเดียวกัน สมาชิกรัฐสภาระดับอาวุโสรายหนึ่งของสโลวาเกีย เน้นย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 666 มุมมอง 0 รีวิว
  • 122 ปี ปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา-เมืองหลวงพระบาง: ฝ่าอิทธิพลจักรวรรดินิยม รักษาเอกราช ทวงคืนอธิปไตยจันทบุรี

    ย้อนกลับไปเมื่อ 122 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 (ค.ศ. 1903) ถือเป็นหมุดหมายสำคัญ ในประวัติศาสตร์ไทย เมื่อไทยและฝรั่งเศส ลงนามในสัญญาปักปันเขตแดน ระหว่างไทย-กัมพูชา และเมืองหลวงพระบาง ซึ่งเป็นดินแดน ที่อยู่ภายใต้การปกครอง ของฝรั่งเศสในขณะนั้น

    ภายใต้ข้อตกลงนี้ ไทยต้องยกดินแดน ฝั่งขวาของแม่น้ำโขง ที่อยู่ตรงข้ามเมืองหลวงพระบาง ให้แก่ฝรั่งเศส เพื่อแลกกับการถอนทหารฝรั่งเศส ออกจากจังหวัดจันทบุรี ซึ่งถูกยึดครองมา ตั้งแต่เหตุการณ์ วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 หรือสงครามฝรั่งเศส-สยาม (พ.ศ. 2436)

    อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแรงกดดัน จากจักรวรรดินิยมฝรั่งเศส ไทยต้องเผชิญกับ การบีบบังคับทางการเมืองเพิ่มเติม จนต้องยอมเสียเมืองตราด และหมู่เกาะใกล้เคียง เพื่อแลกกับการได้จันทบุรีคืน

    กระแสล่าอาณานิคมของฝรั่งเศส ในอินโดจีน
    ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จักรวรรดิฝรั่งเศส ได้ขยายอิทธิพลอย่างรวดเร็ว ในภูมิภาคอินโดจีน โดยสามารถยึดครองเวียดนาม ลาว และกัมพูชา ได้สำเร็จ ทำให้ไทยกลายเป็นรัฐกันชน ที่ต้องเผชิญแรงกดดันจากฝรั่งเศส ทางด้านตะวันออก

    ฝรั่งเศสต้องการควบคุมดินแดน แถบลุ่มแม่น้ำโขงทั้งหมด เพื่อสร้างเส้นทางการค้าจากจีน ลงมาสู่อินโดจีนของตน ในขณะที่ไทย ต้องพยายามรักษาเอกราช และดินแดนของตนไว้

    ไทยภายใต้รัชกาลที่ 5 พยายามรักษาเอกราช
    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงตระหนักถึงภัยคุกคาม จากจักรวรรดินิยม และพยายามใช้นโยบายการทูตเชิงรุก เพื่อรักษาความเป็นอิสระของไทย ทรงดำเนินแผนการ ปรับปรุงประเทศให้ทันสมัย เพื่อลดข้ออ้างของมหาอำนาจตะวันตก ในการเข้ามาแทรกแซง

    อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสใช้ข้ออ้างเรื่องอธิปไตย เหนือดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง เป็นเหตุผลในการเรียกร้องดินแดนเพิ่มเติมจากไทย

    วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 จุดเริ่มต้นของการเสียเปรียบทางดินแดน
    วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) เป็นเหตุการณ์ที่ฝรั่งเศส ใช้กำลังทหารเรือ บุกรุกปากแม่น้ำเจ้าพระยา และปะทะกับทหารไทย จนเป็นเหตุให้รัฐบาลไทย ต้องยอมลงนามในสนธิสัญญา ที่เสียเปรียบ

    ข้อกำหนดสำคัญของสนธิสัญญา ร.ศ. 112
    ✔ ไทยต้องยกดินแดน ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงทั้งหมด รวมถึงลาว ให้แก่ฝรั่งเศส
    ✔ ฝรั่งเศสเข้ายึดจังหวัดจันทบุรี เป็นหลักประกันบังคับให้ไทย ปฏิบัติตามสัญญา
    ✔ ไทยต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมหาศาล ให้ฝรั่งเศส

    นี่เป็นครั้งแรกที่ไทย ต้องเสียดินแดนจำนวนมาก ให้แก่จักรวรรดินิยมฝรั่งเศส และทำให้สถานการณ์ของไทยในภูมิภาคนี้ ล่อแหลมยิ่งขึ้น

    สนธิสัญญา พ.ศ. 2446 การทวงคืนจันทบุรี แต่ต้องแลกด้วยดินแดนเพิ่ม
    หลังจากไทย ถูกฝรั่งเศสยึดครองจันทบุรี ไว้นานถึง 10 ปี รัฐบาลไทยพยายามเจรจา ขอคืนจันทบุรี แต่ต้องแลกด้วย การยอมมอบดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง ที่ตรงข้ามกับเมืองหลวงพระบาง ให้แก่ฝรั่งเศส

    สนธิสัญญานี้ ลงนามเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 ทำให้ไทยได้รับจันทบุรีคืน แต่ฝรั่งเศสกลับยื่นเงื่อนไข ให้ไทยต้องยกเมืองตราด และหมู่เกาะอื่นๆ แทน

    ผลลัพธ์ของสนธิสัญญานี้
    ไทยได้จันทบุรีคืนจากฝรั่งเศส
    ไทยเสียเมืองตราด และหมู่เกาะให้ฝรั่งเศส
    ไทยยังสามารถรักษาเอกราชไว้ได้ แต่ต้องจำยอมต่ออำนาจ ของมหาอำนาจตะวันตก

    ไทยทวงคืนเมืองตราดสำเร็จในปี พ.ศ. 2450
    4 ปี ต่อมา ในปี พ.ศ. 2450 (ค.ศ. 1907) ไทยสามารถทวงคืนเมืองตราด กลับมาได้สำเร็จ โดยแลกกับดินแดนพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ ที่อยู่ทางฝั่งกัมพูชา ให้ฝรั่งเศสแทน

    นี่เป็นอีกหนึ่งครั้ง ที่ไทยต้องเสียสละดินแดน เพื่อให้สามารถปกป้อง เอกราชของตนเองเอาไว้

    จากเหตุการณ์ ปักปันเขตแดนในปี พ.ศ. 2446 ไทยได้เรียนรู้ว่า
    ✔ อำนาจทางการทูต มีความสำคัญอย่างยิ่ง ไทยสามารถใช้การเจรจา เพื่อลดความเสียหายได้ แม้ว่าจะต้องยอมเสียดินแดนบางส่วน
    ✔ จักรวรรดินิยมฝรั่งเศส ไม่เคยหยุดกดดันไทย ต้องอาศัยนโยบายเชิงรุก เพื่อรักษาเอกราช
    ✔ ไทยต้องพัฒนาประเทศให้ทันสมัย เพื่อป้องกันการถูกรุกรานในอนาคต

    แม้ว่าไทยจะต้องยอม สูญเสียดินแดนบางส่วน แต่ก็สามารถรักษา ความเป็นเอกราชเอาไว้ได้ ซึ่งแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ตกเป็นอาณานิคม ของจักรวรรดินิยมในช่วงเวลานั้น

    122 ปี แห่งความเปลี่ยนแปลงทางดินแดน และอธิปไตยของไทย
    ผ่านไป 122 ปี นับตั้งแต่สนธิสัญญา ปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา-เมืองหลวงพระบาง เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นบทเรียนสำคัญ ทางประวัติศาสตร์ของไทย

    ถึงแม้ไทยจะเสียดินแดนไปบางส่วน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไทยยังคงรักษาเอกราชไว้ได้ ไม่ต้องตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก เหมือนประเทศเพื่อนบ้าน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 131208 ก.พ. 2568

    #ประวัติศาสตร์ไทย #ไทยฝรั่งเศส #อธิปไตย #วิกฤติการณ์รศ112 #เอกราชไทย
    122 ปี ปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา-เมืองหลวงพระบาง: ฝ่าอิทธิพลจักรวรรดินิยม รักษาเอกราช ทวงคืนอธิปไตยจันทบุรี 📅 ย้อนกลับไปเมื่อ 122 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 (ค.ศ. 1903) ถือเป็นหมุดหมายสำคัญ ในประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭 เมื่อไทยและฝรั่งเศส 🇫🇷 ลงนามในสัญญาปักปันเขตแดน ระหว่างไทย-กัมพูชา และเมืองหลวงพระบาง ซึ่งเป็นดินแดน ที่อยู่ภายใต้การปกครอง ของฝรั่งเศสในขณะนั้น ภายใต้ข้อตกลงนี้ ไทยต้องยกดินแดน ฝั่งขวาของแม่น้ำโขง ที่อยู่ตรงข้ามเมืองหลวงพระบาง ให้แก่ฝรั่งเศส เพื่อแลกกับการถอนทหารฝรั่งเศส ออกจากจังหวัดจันทบุรี ซึ่งถูกยึดครองมา ตั้งแต่เหตุการณ์ วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 หรือสงครามฝรั่งเศส-สยาม (พ.ศ. 2436) อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแรงกดดัน จากจักรวรรดินิยมฝรั่งเศส ไทยต้องเผชิญกับ การบีบบังคับทางการเมืองเพิ่มเติม จนต้องยอมเสียเมืองตราด และหมู่เกาะใกล้เคียง เพื่อแลกกับการได้จันทบุรีคืน 📌 🌍 กระแสล่าอาณานิคมของฝรั่งเศส ในอินโดจีน 🔹 ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จักรวรรดิฝรั่งเศส ได้ขยายอิทธิพลอย่างรวดเร็ว ในภูมิภาคอินโดจีน โดยสามารถยึดครองเวียดนาม ลาว และกัมพูชา ได้สำเร็จ ทำให้ไทยกลายเป็นรัฐกันชน ที่ต้องเผชิญแรงกดดันจากฝรั่งเศส ทางด้านตะวันออก 💡 ฝรั่งเศสต้องการควบคุมดินแดน แถบลุ่มแม่น้ำโขงทั้งหมด เพื่อสร้างเส้นทางการค้าจากจีน ลงมาสู่อินโดจีนของตน ในขณะที่ไทย ต้องพยายามรักษาเอกราช และดินแดนของตนไว้ 🇹🇭 ไทยภายใต้รัชกาลที่ 5 พยายามรักษาเอกราช พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงตระหนักถึงภัยคุกคาม จากจักรวรรดินิยม และพยายามใช้นโยบายการทูตเชิงรุก เพื่อรักษาความเป็นอิสระของไทย ทรงดำเนินแผนการ ปรับปรุงประเทศให้ทันสมัย เพื่อลดข้ออ้างของมหาอำนาจตะวันตก ในการเข้ามาแทรกแซง อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสใช้ข้ออ้างเรื่องอธิปไตย เหนือดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง เป็นเหตุผลในการเรียกร้องดินแดนเพิ่มเติมจากไทย 🔹 วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 จุดเริ่มต้นของการเสียเปรียบทางดินแดน 📍 วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) เป็นเหตุการณ์ที่ฝรั่งเศส ใช้กำลังทหารเรือ บุกรุกปากแม่น้ำเจ้าพระยา และปะทะกับทหารไทย จนเป็นเหตุให้รัฐบาลไทย ต้องยอมลงนามในสนธิสัญญา ที่เสียเปรียบ 📜 ข้อกำหนดสำคัญของสนธิสัญญา ร.ศ. 112 ✔ ไทยต้องยกดินแดน ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงทั้งหมด รวมถึงลาว ให้แก่ฝรั่งเศส ✔ ฝรั่งเศสเข้ายึดจังหวัดจันทบุรี เป็นหลักประกันบังคับให้ไทย ปฏิบัติตามสัญญา ✔ ไทยต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมหาศาล ให้ฝรั่งเศส 🛑 นี่เป็นครั้งแรกที่ไทย ต้องเสียดินแดนจำนวนมาก ให้แก่จักรวรรดินิยมฝรั่งเศส และทำให้สถานการณ์ของไทยในภูมิภาคนี้ ล่อแหลมยิ่งขึ้น 🔹 สนธิสัญญา พ.ศ. 2446 การทวงคืนจันทบุรี แต่ต้องแลกด้วยดินแดนเพิ่ม หลังจากไทย ถูกฝรั่งเศสยึดครองจันทบุรี ไว้นานถึง 10 ปี รัฐบาลไทยพยายามเจรจา ขอคืนจันทบุรี แต่ต้องแลกด้วย การยอมมอบดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง ที่ตรงข้ามกับเมืองหลวงพระบาง ให้แก่ฝรั่งเศส 📌 สนธิสัญญานี้ ลงนามเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 ทำให้ไทยได้รับจันทบุรีคืน แต่ฝรั่งเศสกลับยื่นเงื่อนไข ให้ไทยต้องยกเมืองตราด และหมู่เกาะอื่นๆ แทน 🌏 ผลลัพธ์ของสนธิสัญญานี้ ✅ ไทยได้จันทบุรีคืนจากฝรั่งเศส ❌ ไทยเสียเมืองตราด และหมู่เกาะให้ฝรั่งเศส ✅ ไทยยังสามารถรักษาเอกราชไว้ได้ แต่ต้องจำยอมต่ออำนาจ ของมหาอำนาจตะวันตก 🔹 ไทยทวงคืนเมืองตราดสำเร็จในปี พ.ศ. 2450 4 ปี ต่อมา ในปี พ.ศ. 2450 (ค.ศ. 1907) ไทยสามารถทวงคืนเมืองตราด กลับมาได้สำเร็จ โดยแลกกับดินแดนพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ ที่อยู่ทางฝั่งกัมพูชา ให้ฝรั่งเศสแทน นี่เป็นอีกหนึ่งครั้ง ที่ไทยต้องเสียสละดินแดน เพื่อให้สามารถปกป้อง เอกราชของตนเองเอาไว้ 🧐 จากเหตุการณ์ ปักปันเขตแดนในปี พ.ศ. 2446 ไทยได้เรียนรู้ว่า ✔ อำนาจทางการทูต มีความสำคัญอย่างยิ่ง ไทยสามารถใช้การเจรจา เพื่อลดความเสียหายได้ แม้ว่าจะต้องยอมเสียดินแดนบางส่วน ✔ จักรวรรดินิยมฝรั่งเศส ไม่เคยหยุดกดดันไทย ต้องอาศัยนโยบายเชิงรุก เพื่อรักษาเอกราช ✔ ไทยต้องพัฒนาประเทศให้ทันสมัย เพื่อป้องกันการถูกรุกรานในอนาคต 🎯 แม้ว่าไทยจะต้องยอม สูญเสียดินแดนบางส่วน แต่ก็สามารถรักษา ความเป็นเอกราชเอาไว้ได้ ซึ่งแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ตกเป็นอาณานิคม ของจักรวรรดินิยมในช่วงเวลานั้น 🔹 122 ปี แห่งความเปลี่ยนแปลงทางดินแดน และอธิปไตยของไทย 🌏 ผ่านไป 122 ปี นับตั้งแต่สนธิสัญญา ปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา-เมืองหลวงพระบาง เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นบทเรียนสำคัญ ทางประวัติศาสตร์ของไทย 🇹🇭 📌 ถึงแม้ไทยจะเสียดินแดนไปบางส่วน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไทยยังคงรักษาเอกราชไว้ได้ ไม่ต้องตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก เหมือนประเทศเพื่อนบ้าน 💬 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 131208 ก.พ. 2568 #ประวัติศาสตร์ไทย #ไทยฝรั่งเศส #อธิปไตย #วิกฤติการณ์รศ112 #เอกราชไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1115 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอนุมัติหมายจับ“สมหวัง” 3 ข้อหา ผู้ต้องหาจ้างวาน “แ” สังหาร “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา

    จากกรณีนายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือจ่าเอ็ม กองเรือ อายุ 41 ปีก่อเหตุยิงนายลิม กิมยา อายุ 73 ปี อดีตสส.ฝ่ายค้านของกัมพูชาดับบริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศ เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยจ่าเอ็ม ได้หลบหนีตำรวจข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชาผ่านช่องทางธรรมชาติ ก่อนที่เจ้าหน้าที่กัมพูชาจะสามารถจับกุมขณะที่จ่แวะพักทานอาหารใน ต.ปเรยสวย อ.โมงรึไทร จ.พระตะบอง เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา และ ส่งตัว จ่าเอ็ม มาดำเนินคดีในไทย พร้อมสารภาพรับงานจ้างผู้มีพระคุณนั้น

    ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (15 ม.ค.) มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ชนะสงคราม ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับ นายลี รัตนรัศมี หรือชื่อไทย นายสมหวัง บำรุงกิจ อายุ 43 ปี ชาวกัมพูชา ใน 3 ข้อหา เป็นผู้ใช้จ้างวานให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดซึ่งใช่เหตุในเมือง ซึ่งศาลอนุมัติหมายจับแล้ว

    #MGROnline #จ่าเอ็ม
    ศาลอนุมัติหมายจับ“สมหวัง” 3 ข้อหา ผู้ต้องหาจ้างวาน “แ” สังหาร “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา • จากกรณีนายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือจ่าเอ็ม กองเรือ อายุ 41 ปีก่อเหตุยิงนายลิม กิมยา อายุ 73 ปี อดีตสส.ฝ่ายค้านของกัมพูชาดับบริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศ เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยจ่าเอ็ม ได้หลบหนีตำรวจข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชาผ่านช่องทางธรรมชาติ ก่อนที่เจ้าหน้าที่กัมพูชาจะสามารถจับกุมขณะที่จ่แวะพักทานอาหารใน ต.ปเรยสวย อ.โมงรึไทร จ.พระตะบอง เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา และ ส่งตัว จ่าเอ็ม มาดำเนินคดีในไทย พร้อมสารภาพรับงานจ้างผู้มีพระคุณนั้น • ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (15 ม.ค.) มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ชนะสงคราม ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับ นายลี รัตนรัศมี หรือชื่อไทย นายสมหวัง บำรุงกิจ อายุ 43 ปี ชาวกัมพูชา ใน 3 ข้อหา เป็นผู้ใช้จ้างวานให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดซึ่งใช่เหตุในเมือง ซึ่งศาลอนุมัติหมายจับแล้ว • #MGROnline #จ่าเอ็ม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 517 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เกาะกูด” CONSPIRACY MOU44 ชนวนสังหารโหด “ลิม กึมยา”!?
    .
    การสังหารโหด “ลิม กึมยา” อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชาและนักเคลื่อนไหวคนสำคัญ ระหว่างเดินทางมาประเทศไทยกับภรรยาชาวฝรั่งเศส ที่บริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่สะท้านสะเทือนไปทั้งโลก
    .
    เนื่องเพราะเป็น “คำสั่งฆ่า” และเปิด “ปฏิบัติการข้ามชาติ” อย่างอุกอาจชนิดที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายเลยแม้แต่น้อย
    .
    แน่นอน ในส่วนของ “มือปืน” ชัดเจนแล้วว่าเป็นอดีตนาวิกโยธิน ซึ่งปัจจุบันประกอบอาชีพขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างในซอยสุขุมวิท 22 ที่ชื่อ “จ่าเอ็ม” หรือ “เอกลักษณ์ แพน้อย”
    .
    หลังปฏิบัติการเสร็จ “จ่าเอ็ม” มือปืนหลังสังหารโหดมีรถมารับหลบหนีออกนอกประเทศ ก่อนที่จะจับกุมตัวได้ที่จังหวัดพระตะบอง
    .
    ส่วน “คนชี้เป้า” จากหลักฐานกล้องวงจรปิด พบชายคนดังกล่าวเป็นชาวกัมพูชา เดินทางมากับรถบัสท่องเที่ยวข้ามประเทศคันเดียวกับ “ลิม กึมยา” จากด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เดินทางออกนอกประเทศ โดยสายการบินสกายอังกอร์ ปลายทางที่กรุงพนมเปญทันที
    .
    คนชี้เป้ารายนี้ ได้รับการเปิดเผยจากทางการไทยว่าคือ “นายคิมริน พิช”
    .
    ปฏิบัติการสังหารโหดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า มีการวางแผนล่วงหน้าอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ขณะที่ “คนสั่งการ” ถือว่า “ไม่ธรรมดา” เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถมีเส้นสายติดต่อ “มือปืนระดับพระกาฬ” ในประเทศไทยให้เป็นผู้ลงมือได้
    .
    คำถามมีเพียงประการเดียวคือ ทำไม “ลิม กึมยา” ถึงต้องตาย?
    .
    ที่มา https://news1live.com/detail/9680000003016
    “เกาะกูด” CONSPIRACY MOU44 ชนวนสังหารโหด “ลิม กึมยา”!? . การสังหารโหด “ลิม กึมยา” อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชาและนักเคลื่อนไหวคนสำคัญ ระหว่างเดินทางมาประเทศไทยกับภรรยาชาวฝรั่งเศส ที่บริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่สะท้านสะเทือนไปทั้งโลก . เนื่องเพราะเป็น “คำสั่งฆ่า” และเปิด “ปฏิบัติการข้ามชาติ” อย่างอุกอาจชนิดที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายเลยแม้แต่น้อย . แน่นอน ในส่วนของ “มือปืน” ชัดเจนแล้วว่าเป็นอดีตนาวิกโยธิน ซึ่งปัจจุบันประกอบอาชีพขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างในซอยสุขุมวิท 22 ที่ชื่อ “จ่าเอ็ม” หรือ “เอกลักษณ์ แพน้อย” . หลังปฏิบัติการเสร็จ “จ่าเอ็ม” มือปืนหลังสังหารโหดมีรถมารับหลบหนีออกนอกประเทศ ก่อนที่จะจับกุมตัวได้ที่จังหวัดพระตะบอง . ส่วน “คนชี้เป้า” จากหลักฐานกล้องวงจรปิด พบชายคนดังกล่าวเป็นชาวกัมพูชา เดินทางมากับรถบัสท่องเที่ยวข้ามประเทศคันเดียวกับ “ลิม กึมยา” จากด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เดินทางออกนอกประเทศ โดยสายการบินสกายอังกอร์ ปลายทางที่กรุงพนมเปญทันที . คนชี้เป้ารายนี้ ได้รับการเปิดเผยจากทางการไทยว่าคือ “นายคิมริน พิช” . ปฏิบัติการสังหารโหดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า มีการวางแผนล่วงหน้าอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ขณะที่ “คนสั่งการ” ถือว่า “ไม่ธรรมดา” เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถมีเส้นสายติดต่อ “มือปืนระดับพระกาฬ” ในประเทศไทยให้เป็นผู้ลงมือได้ . คำถามมีเพียงประการเดียวคือ ทำไม “ลิม กึมยา” ถึงต้องตาย? . ที่มา https://news1live.com/detail/9680000003016
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1317 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11 มกราคม 2568-รายงานพิเศษของเว็บไซต์ The Structure เกี่ยวกับประเด็นเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย โดยรศ. ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ได้สะท้อนภาพจากเหตุการณ์ลอบสังหาร “ลิม กิมยา”กลางกรุงเทพมหานครว่า เกิดอะไรขึ้น กับประเทศไทย? ‘รศ.ดร.ปณิธาน’ สะท้อนภาพที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ ลอบสังหาร ‘ลิม กินยา’ กลางกรุงเทพมหานคร
    On 2025-01-10
    สืบเนื่องจากกรณีการลอบสังหาร ลิม กิมยา อดีต สส. พรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party) และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ถูกลอบยิงที่บริเวณเกาะกลางถนน วงเวียนสิบสามห้าง ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร ในช่วงค่ำของวันที่ 7 ม.ค. 2568

    ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย สามารถระบุตัวคนร้ายจนพบว่าเป็นจ่าเอ็ม-เอกลักษณ์ แพน้อย อดีตทหารนาวิกโยธินของไทย ซึ่งถูกให้ออกจากราชการไปตั้งแต่ปี 2566 แล้ว และสามารถตามจับตัวจ่าเอ็มได้ที่จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ในช่วงค่ำวันที่ 8 ม.ค. 2568

    และในเวลานี้ จ่าเอ็มยังอยู่ในระหว่างการควบคุมตัวเพื่อสอบสวนของทางการกัมพูชา เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาจะมีการดำเนินคดีกับจ่าเอ็มในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก่อน

    รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง ได้กล่าวว่ากรณีนี้นั้น สะท้อนให้เห็นว่าได้เกิดช่องว่าง หรืออุปสรรค์ในการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายความมั่นคงของไทย ทั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ตำรวจสันติบาล, ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ, สำนักข่าวกรอง หรือแม้แต่สภาความมั่นคงเอง

    ที่อาจจะต้องทำงานให้สอดประสานกันเพื่อการกำหนดแนวทางการคุ้มกันบุคคลสำคัญ ซึ่งจริง ๆ แล้วมีการกำหนดหลักปฎิบัติ หรือระเบียบปฎิบัติประจำ (รปจ.) อยู่แล้ว

    แต่สำหรับกรณีนี้ ถึงแม้ว่าตัวผู้ถูกลอบสังหารจะไม่ได้ทำการร้องขอการคุ้มกันจากฝ่ายไทย จึงทำให้การจัดชุดรักษาความปลอดภัยนั้นอาจจะทำได้ไม่เต็มที่ แต่ในเมื่อพิจารณาดูแล้วว่า ลิม กินยานั้นเป็นเป้าหมายสำคัญที่อาจจะถูกคุกคาม จนมีความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทย

    หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจส่งชุดรักษาความปลอดภัยไปดูแลลิม กินยา ตั้งแต่เข้าเมือง หรืออาจจะปฎิเสธการให้เข้าเมืองตั้งแต่แรกเลยก็ทำได้ ถ้าพิจารณาแล้วว่าอาจจะคุ้มครองเขาไม่ได้ ซึ่งกรณีนี้จะต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น

    ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทางการไทยนั้นมีประสบการณ์ในการให้ความคุ้มครองบุคคลสำคัญจากประเทศเพื่อนบ้านมามากพอสมควร ไม่ว่าจะจากลาว, กัมพูชา, มาเลเซีย และเมียนมา ไทยก็เคยให้การดูแลคุ้มกันมาแล้ว

    ทางการไทยจะต้องมีการดำเนินการเพื่อการป้องกันเหตุการณ์ที่จะสร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทย ว่าเป็นพื้นที่สังหารบุคคลสำคัญ, ไม่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว หรือมีการซ่องสุมกองกำลังติดอาวุธต่าง ๆ โดยมีการใช้คนไทยเข้ามาเป็นเครือข่ายในการปฏิบัติการหลายอย่าง ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญที่จะต้องดูแลกันให้ดี

    สำหรับแนวทางในการนำตัวจ่าเอ็ม ผู้ก่อเหตุกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้น มีอยู่ 2 แนวทาง ได้แก่

    1 การดำเนินการตามช่องทางปกติ โดยจะต้องมีการดำเนินคดีในฝั่งกัมพูชาก่อนสักระยะหนึ่ง ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร โดยจะมีการพิจารณาลงโทษ-ลดโทษ-อภัยโทษ แล้วส่งคืนมายังไทยตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน

    ทั้งนี้ได้มีการตั้งข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายแล้ว แต่อาจจะมีการกล่าวโทษในคดีอื่นเพิ่มเช่น พกพาอาวุธ และความมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามแดน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลานานและสร้างความคลุมเครือ

    2 การดำเนินการในช่องทางพิเศษ ด้วยวิธีต่างตอบแทน โดยการแลกตัว หรือร้องขอให้ทางกัมพูชาส่งตัวผู้ก่อเหตุให้มาถูกดำเนินคดีในไทยได้อย่างรวดเร็ว แต่กรณีนี้จะต้องระมัดระวังว่าจะกระทบต่อสิทธิมนุษยชน และต้องพิจารณาความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาด้วย เพราะว่าเรื่องนี้นั้นจะเป็นการสะท้อนถึงระดับความสัมพันธ์ หรือเรื่องราวมีความซับซ้อนมากน้อยเพียงใด

    แต่ทั้งนี้นั้น ควรจะต้องมีการดำเนินการผ่านกลไกของอาเซียน และตำรวจสากล ที่มีข้อตกลงที่ค่อนข้างชัดเจน และเป็นทางการ แทนการใช้ระบบต่างตอบแทน เพื่อป้องกันข้อครหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดหรือห่างเหินระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศในบางสมัย ซึ่งจะต้องมีการเปิดเผยข้อเท็จจริงในเรื่องเหล่านี้ผ่านทางอาเซียน

    สำหรับคำถามที่ว่า ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการคุ้มครองผู้เห็นต่างทางการเมืองจากประเทศอื่นที่เข้ามาลี้ภัยในประเทศไทยหรือไม่ รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่า ในบางช่วงประเทศไทยก็มีขีดความสามารถในการดำเนินการในเรื่องนี้ได้ดี

    ไทยเคยสามารถจับกุมตัวผู้ก่อการร้ายระหว่างประเทศได้หลายครั้ง อย่างกรณี “ฮัม บาลี” ผู้ก่อเหตุวางระเบิดในอินโดนีเซีย หรือกรณีของ วิกเตอร์ บุช ผู้ค้าอาวุธสงครามชาวรัสเซีย และมีการส่งตัวกลับไปยังประเทศต้นทางได้ และได้รับความชื่นชมจากนานาชาติเป็นอย่างมาก

    อีกทั้งยังเคยสามารถสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มบุคคลต้องสงสัยเข้าประเทศ อย่างเช่นกลุ่มจากประเทศเกาหลีเหนือ และกลุ่มอื่น ๆ ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อกว่า 30 กลุ่ม ซึ่งบางครั้งเราก็ทำได้ดี แต่บางครั้งเราก็มีปัญหา ซึ่งในภาพรวมแล้วเราควรจะปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก และกรณีนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก

    สำหรับกรณีที่พรรคฝ่ายค้านของกัมพูชากล่าวหาฮุน เซน อดีตนายกฯ กัมพูชาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่าเรื่องนี้นั้นถือเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน ที่จะต้องมีการพิสูจน์ทราบกันให้ชัดเจน ก่อนที่จะมีการกระทบในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

    แต่ทั้งนี้การที่ฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้านกล่าวหาพุ่งเป้าใส่กัน โดยมีการดึงประเทศไทยเข้าไปเกี่ยวข้องนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่เลย อีกทั้งตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ทางการกัมพูชาได้ทำเรื่องร้องขอให้มีการส่งตัวนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา เช่น สม รังสี อดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้านกัมพูชากลับ ซึ่งก็มีทั้งกรณีที่ทางการไทยส่งตัวกลับ และไม่ส่งตัวกลับ

    ดังนั้นเรื่องนี้นั้น ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ และหน่วยงานราชการไทย และฝ่ายความมั่นคงนั้นมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี

    แต่ทั้งนี้ไทยต้องดำเนินการป้องกันให้มากกว่านี้ เพื่อการป้องกันไม่ให้ไทยถูกดึงเข้าไปอยู่ในวงความขัดแย้ง ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้มีเฉพาะกับกัมพูชาเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับลาว, เมียนมา และมาเลเซียด้วย

    นอกจากนี้ ทางการไทยเองก็มีการดำเนินการขอตัวแกนนำสั่งการต่าง ๆ ที่อยู่ในมาเลเซีย มาดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางกรณีมีการเสียชีวิตในระหว่างทาง ซึ่งเรื่องนี้มีความจำเป็นที่จะต้องมีการจัดระเบียบกันอย่างจริงจัง ก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับประเทศไทยไปมากกว่านี้

    สำหรับการสืบสาวหาต้นตอ/ขบวนการ/ผู้จ้างวาน ให้มีการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยากนัก เพราะทราบมาว่าฝ่ายนั้นมีการดำเนินการสื่อสารผ่านระบบสมัยใหม่ ซึ่งทางเราสามารถดักจับ และบันทึกอยู่ในฐานข้อมูลของเรา

    ดังนั้นการดำเนินการสืบค้นเพื่อเอาหลักฐานเหล่านั้นมาพิสูจน์ในทางนิติวิทยาศาสตร์นั้นก็คงไม่ยากเท่าไรนัก แต่ทั้งนี้จะต้องได้รับความร่วมมือจากทางกัมพูชาด้วย

    อย่างไรก็ดี การที่ลิม กินยานั้น เป็นผู้ถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วยนั้น ทำให้ฝรั่งเศส, สหภาพยุโรป และนานาชาติต่างก็จับตาดูกรณีนี้เป็นพิเศษ และก็คงจะมีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภรรยาของลิม กินยา ซึ่งถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วย และอาจจะเข้ามาร่วมประสานงานกับประเทศไทย ซึ่งจะทำให้เรื่องราวมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น

    (ทางการฝรั่งเศสได้ประกาศว่าจะมีการติดตามการสืบสวนของฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด เมื่อวานนี้)

    ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงต่างประเทศจะต้องมีการตั้งชุดทำงานขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบมากไปกว่านี้ และในขณะนี้เกิดความแปรปรวนขึ้นพอสมควร เนื่องจากเกิดความเชื่อหลายอย่างขึ้นในโลกออนไลน์ ซึ่งก็อาจจะไม่ใช่ข้อเท็จจริง
    11 มกราคม 2568-รายงานพิเศษของเว็บไซต์ The Structure เกี่ยวกับประเด็นเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย โดยรศ. ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ได้สะท้อนภาพจากเหตุการณ์ลอบสังหาร “ลิม กิมยา”กลางกรุงเทพมหานครว่า เกิดอะไรขึ้น กับประเทศไทย? ‘รศ.ดร.ปณิธาน’ สะท้อนภาพที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ ลอบสังหาร ‘ลิม กินยา’ กลางกรุงเทพมหานคร On 2025-01-10 สืบเนื่องจากกรณีการลอบสังหาร ลิม กิมยา อดีต สส. พรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party) และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ถูกลอบยิงที่บริเวณเกาะกลางถนน วงเวียนสิบสามห้าง ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร ในช่วงค่ำของวันที่ 7 ม.ค. 2568 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย สามารถระบุตัวคนร้ายจนพบว่าเป็นจ่าเอ็ม-เอกลักษณ์ แพน้อย อดีตทหารนาวิกโยธินของไทย ซึ่งถูกให้ออกจากราชการไปตั้งแต่ปี 2566 แล้ว และสามารถตามจับตัวจ่าเอ็มได้ที่จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ในช่วงค่ำวันที่ 8 ม.ค. 2568 และในเวลานี้ จ่าเอ็มยังอยู่ในระหว่างการควบคุมตัวเพื่อสอบสวนของทางการกัมพูชา เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาจะมีการดำเนินคดีกับจ่าเอ็มในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก่อน รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง ได้กล่าวว่ากรณีนี้นั้น สะท้อนให้เห็นว่าได้เกิดช่องว่าง หรืออุปสรรค์ในการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายความมั่นคงของไทย ทั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ตำรวจสันติบาล, ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ, สำนักข่าวกรอง หรือแม้แต่สภาความมั่นคงเอง ที่อาจจะต้องทำงานให้สอดประสานกันเพื่อการกำหนดแนวทางการคุ้มกันบุคคลสำคัญ ซึ่งจริง ๆ แล้วมีการกำหนดหลักปฎิบัติ หรือระเบียบปฎิบัติประจำ (รปจ.) อยู่แล้ว แต่สำหรับกรณีนี้ ถึงแม้ว่าตัวผู้ถูกลอบสังหารจะไม่ได้ทำการร้องขอการคุ้มกันจากฝ่ายไทย จึงทำให้การจัดชุดรักษาความปลอดภัยนั้นอาจจะทำได้ไม่เต็มที่ แต่ในเมื่อพิจารณาดูแล้วว่า ลิม กินยานั้นเป็นเป้าหมายสำคัญที่อาจจะถูกคุกคาม จนมีความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจส่งชุดรักษาความปลอดภัยไปดูแลลิม กินยา ตั้งแต่เข้าเมือง หรืออาจจะปฎิเสธการให้เข้าเมืองตั้งแต่แรกเลยก็ทำได้ ถ้าพิจารณาแล้วว่าอาจจะคุ้มครองเขาไม่ได้ ซึ่งกรณีนี้จะต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทางการไทยนั้นมีประสบการณ์ในการให้ความคุ้มครองบุคคลสำคัญจากประเทศเพื่อนบ้านมามากพอสมควร ไม่ว่าจะจากลาว, กัมพูชา, มาเลเซีย และเมียนมา ไทยก็เคยให้การดูแลคุ้มกันมาแล้ว ทางการไทยจะต้องมีการดำเนินการเพื่อการป้องกันเหตุการณ์ที่จะสร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทย ว่าเป็นพื้นที่สังหารบุคคลสำคัญ, ไม่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว หรือมีการซ่องสุมกองกำลังติดอาวุธต่าง ๆ โดยมีการใช้คนไทยเข้ามาเป็นเครือข่ายในการปฏิบัติการหลายอย่าง ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญที่จะต้องดูแลกันให้ดี สำหรับแนวทางในการนำตัวจ่าเอ็ม ผู้ก่อเหตุกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้น มีอยู่ 2 แนวทาง ได้แก่ 1 การดำเนินการตามช่องทางปกติ โดยจะต้องมีการดำเนินคดีในฝั่งกัมพูชาก่อนสักระยะหนึ่ง ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร โดยจะมีการพิจารณาลงโทษ-ลดโทษ-อภัยโทษ แล้วส่งคืนมายังไทยตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ทั้งนี้ได้มีการตั้งข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายแล้ว แต่อาจจะมีการกล่าวโทษในคดีอื่นเพิ่มเช่น พกพาอาวุธ และความมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามแดน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลานานและสร้างความคลุมเครือ 2 การดำเนินการในช่องทางพิเศษ ด้วยวิธีต่างตอบแทน โดยการแลกตัว หรือร้องขอให้ทางกัมพูชาส่งตัวผู้ก่อเหตุให้มาถูกดำเนินคดีในไทยได้อย่างรวดเร็ว แต่กรณีนี้จะต้องระมัดระวังว่าจะกระทบต่อสิทธิมนุษยชน และต้องพิจารณาความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาด้วย เพราะว่าเรื่องนี้นั้นจะเป็นการสะท้อนถึงระดับความสัมพันธ์ หรือเรื่องราวมีความซับซ้อนมากน้อยเพียงใด แต่ทั้งนี้นั้น ควรจะต้องมีการดำเนินการผ่านกลไกของอาเซียน และตำรวจสากล ที่มีข้อตกลงที่ค่อนข้างชัดเจน และเป็นทางการ แทนการใช้ระบบต่างตอบแทน เพื่อป้องกันข้อครหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดหรือห่างเหินระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศในบางสมัย ซึ่งจะต้องมีการเปิดเผยข้อเท็จจริงในเรื่องเหล่านี้ผ่านทางอาเซียน สำหรับคำถามที่ว่า ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการคุ้มครองผู้เห็นต่างทางการเมืองจากประเทศอื่นที่เข้ามาลี้ภัยในประเทศไทยหรือไม่ รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่า ในบางช่วงประเทศไทยก็มีขีดความสามารถในการดำเนินการในเรื่องนี้ได้ดี ไทยเคยสามารถจับกุมตัวผู้ก่อการร้ายระหว่างประเทศได้หลายครั้ง อย่างกรณี “ฮัม บาลี” ผู้ก่อเหตุวางระเบิดในอินโดนีเซีย หรือกรณีของ วิกเตอร์ บุช ผู้ค้าอาวุธสงครามชาวรัสเซีย และมีการส่งตัวกลับไปยังประเทศต้นทางได้ และได้รับความชื่นชมจากนานาชาติเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเคยสามารถสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มบุคคลต้องสงสัยเข้าประเทศ อย่างเช่นกลุ่มจากประเทศเกาหลีเหนือ และกลุ่มอื่น ๆ ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อกว่า 30 กลุ่ม ซึ่งบางครั้งเราก็ทำได้ดี แต่บางครั้งเราก็มีปัญหา ซึ่งในภาพรวมแล้วเราควรจะปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก และกรณีนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก สำหรับกรณีที่พรรคฝ่ายค้านของกัมพูชากล่าวหาฮุน เซน อดีตนายกฯ กัมพูชาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่าเรื่องนี้นั้นถือเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน ที่จะต้องมีการพิสูจน์ทราบกันให้ชัดเจน ก่อนที่จะมีการกระทบในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ทั้งนี้การที่ฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้านกล่าวหาพุ่งเป้าใส่กัน โดยมีการดึงประเทศไทยเข้าไปเกี่ยวข้องนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่เลย อีกทั้งตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ทางการกัมพูชาได้ทำเรื่องร้องขอให้มีการส่งตัวนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา เช่น สม รังสี อดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้านกัมพูชากลับ ซึ่งก็มีทั้งกรณีที่ทางการไทยส่งตัวกลับ และไม่ส่งตัวกลับ ดังนั้นเรื่องนี้นั้น ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ และหน่วยงานราชการไทย และฝ่ายความมั่นคงนั้นมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ไทยต้องดำเนินการป้องกันให้มากกว่านี้ เพื่อการป้องกันไม่ให้ไทยถูกดึงเข้าไปอยู่ในวงความขัดแย้ง ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้มีเฉพาะกับกัมพูชาเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับลาว, เมียนมา และมาเลเซียด้วย นอกจากนี้ ทางการไทยเองก็มีการดำเนินการขอตัวแกนนำสั่งการต่าง ๆ ที่อยู่ในมาเลเซีย มาดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางกรณีมีการเสียชีวิตในระหว่างทาง ซึ่งเรื่องนี้มีความจำเป็นที่จะต้องมีการจัดระเบียบกันอย่างจริงจัง ก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับประเทศไทยไปมากกว่านี้ สำหรับการสืบสาวหาต้นตอ/ขบวนการ/ผู้จ้างวาน ให้มีการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยากนัก เพราะทราบมาว่าฝ่ายนั้นมีการดำเนินการสื่อสารผ่านระบบสมัยใหม่ ซึ่งทางเราสามารถดักจับ และบันทึกอยู่ในฐานข้อมูลของเรา ดังนั้นการดำเนินการสืบค้นเพื่อเอาหลักฐานเหล่านั้นมาพิสูจน์ในทางนิติวิทยาศาสตร์นั้นก็คงไม่ยากเท่าไรนัก แต่ทั้งนี้จะต้องได้รับความร่วมมือจากทางกัมพูชาด้วย อย่างไรก็ดี การที่ลิม กินยานั้น เป็นผู้ถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วยนั้น ทำให้ฝรั่งเศส, สหภาพยุโรป และนานาชาติต่างก็จับตาดูกรณีนี้เป็นพิเศษ และก็คงจะมีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภรรยาของลิม กินยา ซึ่งถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วย และอาจจะเข้ามาร่วมประสานงานกับประเทศไทย ซึ่งจะทำให้เรื่องราวมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น (ทางการฝรั่งเศสได้ประกาศว่าจะมีการติดตามการสืบสวนของฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด เมื่อวานนี้) ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงต่างประเทศจะต้องมีการตั้งชุดทำงานขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบมากไปกว่านี้ และในขณะนี้เกิดความแปรปรวนขึ้นพอสมควร เนื่องจากเกิดความเชื่อหลายอย่างขึ้นในโลกออนไลน์ ซึ่งก็อาจจะไม่ใช่ข้อเท็จจริง
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1347 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวบแล้ว! "จ่าเอ็ม" มือสังหาร "ลิม กิมยา" อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา จนมุมที่พระตะบอง สว.แจ๊ะ นำทีมรับตัว ล่าสุดทางการกัมพูชาดำเนินคดีฐานหลบหนีเข้าเมือง ก่อนส่งตัวให้ตำรวจไทย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000002272

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รวบแล้ว! "จ่าเอ็ม" มือสังหาร "ลิม กิมยา" อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา จนมุมที่พระตะบอง สว.แจ๊ะ นำทีมรับตัว ล่าสุดทางการกัมพูชาดำเนินคดีฐานหลบหนีเข้าเมือง ก่อนส่งตัวให้ตำรวจไทย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000002272 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1804 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7/11/67

    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0wtGwGxxx2yADXfGPcg1g2ssRuANArQV8YknfinwEfUuXxb7caxLMttmeKn9Pn3pjl&id=100050478820109

    เห็นหน้านายกแถลงจริงจัง เรื่องเกาะกูดเป็นของไทย MOU 44 เลิกไม่ได้ หากเลิกจะถูกฟ้องและ ต้องเดินหน้าเจรจาต่อ แล้วรู้สึกแปลก ๆ ว่าเธอจบรัฐศาสตร์จุฬาจริงหรือ ใครสอนวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือเธอไม่ตั้งใจเรียน

    1. เกาะกูดน่ะ อย่างไรก็เป็นของไทย ตามสนธิสัญญาระหว่างไทยกับฝรั่งเศสเมื่อปี 2450 ที่ไทยยอมแลก พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ เพื่อเอาจันทบุรี และตราดคืนมา โดยแบ่งพื้นที่ว่า เกาะกูดนั้นอยู่ในเขตแดนไทย ส่วนเกาะกง หรือเมืองประจันต์คีรีเขต ที่เป็นเมืองหน้าด่านทางทะเลทางตะวันออก คู่กับ ประจวบคีรีขันธ์ทางทิศตะวันตก นั้นเป็นของฝรั่งเศส

    2. MOU ก็แค่ Memorandum Of Understanding บันทึกความเข้าใจต่อกัน ไม่ใช่สนธิสัญญา (Treaty) ที่มีผลบังคับที่มีข้อผูกพันตามกฎหมาย สนธิสัญญานั้น หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเมิด อีกฝ่ายสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีในศาลระหว่างประเทศได้ แต่ MOU นั้นเป็นแค่บันทึกความเข้าใจ นำไปฟ้องร้องใด ๆ ไม่ได้ และหากอยากจะยกเลิก ก็ยกเลิกฝ่ายเดียวได้ คือ ผ่าน ครม. และผ่านสภา จากนั้นก็แจ้งฝ่ายตรงข้ามว่า ฉันขอยกเลิกบันทึกความเข้าใจฉบับนี้เท่านั้น

    3. รัฐบาลจะเดินหน้าเจรจาต่อตาม MOU อันนี้ไม่ผิดอะไร แต่คุณเธอไม่พูดให้ชัดสักคำว่า การเดินหน้าเจรจาจะต้องเจรจาเรื่องเขตแดนให้ชัดเจนควบคู่ไปกับการเจรจาแบ่งปันประโยชน์ ไม่ใช่แบบอีตาอ้วนที่บอกว่า ขอเจรจาเรื่องผลประโยชน์ก่อน เขตแดนคุยไปก็ไม่จบ เสียเวลาคุย ราวกับหากช้าเดี๋ยวของที่อยู่ใต้ทะเลจะเน่าเสีย

    4. วันนึงเพื่อนบ้านคุณ ขีดเส้นมาผ่ากลางบ้านคุณ แล้วบอกว่า เป็นแค่เส้นสมมติ อย่าไปใส่ใจ เรามาขุดหาสมบัติใต้พื้นดินตรงนั้นกันดีกว่า ขุดได้แล้วหารสองแบ่งกันคนละครึ่ง หากคุณยอม ไม่โง่ ก็บ้า ครับ
    7/11/67 https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0wtGwGxxx2yADXfGPcg1g2ssRuANArQV8YknfinwEfUuXxb7caxLMttmeKn9Pn3pjl&id=100050478820109 เห็นหน้านายกแถลงจริงจัง เรื่องเกาะกูดเป็นของไทย MOU 44 เลิกไม่ได้ หากเลิกจะถูกฟ้องและ ต้องเดินหน้าเจรจาต่อ แล้วรู้สึกแปลก ๆ ว่าเธอจบรัฐศาสตร์จุฬาจริงหรือ ใครสอนวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือเธอไม่ตั้งใจเรียน 1. เกาะกูดน่ะ อย่างไรก็เป็นของไทย ตามสนธิสัญญาระหว่างไทยกับฝรั่งเศสเมื่อปี 2450 ที่ไทยยอมแลก พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ เพื่อเอาจันทบุรี และตราดคืนมา โดยแบ่งพื้นที่ว่า เกาะกูดนั้นอยู่ในเขตแดนไทย ส่วนเกาะกง หรือเมืองประจันต์คีรีเขต ที่เป็นเมืองหน้าด่านทางทะเลทางตะวันออก คู่กับ ประจวบคีรีขันธ์ทางทิศตะวันตก นั้นเป็นของฝรั่งเศส 2. MOU ก็แค่ Memorandum Of Understanding บันทึกความเข้าใจต่อกัน ไม่ใช่สนธิสัญญา (Treaty) ที่มีผลบังคับที่มีข้อผูกพันตามกฎหมาย สนธิสัญญานั้น หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเมิด อีกฝ่ายสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีในศาลระหว่างประเทศได้ แต่ MOU นั้นเป็นแค่บันทึกความเข้าใจ นำไปฟ้องร้องใด ๆ ไม่ได้ และหากอยากจะยกเลิก ก็ยกเลิกฝ่ายเดียวได้ คือ ผ่าน ครม. และผ่านสภา จากนั้นก็แจ้งฝ่ายตรงข้ามว่า ฉันขอยกเลิกบันทึกความเข้าใจฉบับนี้เท่านั้น 3. รัฐบาลจะเดินหน้าเจรจาต่อตาม MOU อันนี้ไม่ผิดอะไร แต่คุณเธอไม่พูดให้ชัดสักคำว่า การเดินหน้าเจรจาจะต้องเจรจาเรื่องเขตแดนให้ชัดเจนควบคู่ไปกับการเจรจาแบ่งปันประโยชน์ ไม่ใช่แบบอีตาอ้วนที่บอกว่า ขอเจรจาเรื่องผลประโยชน์ก่อน เขตแดนคุยไปก็ไม่จบ เสียเวลาคุย ราวกับหากช้าเดี๋ยวของที่อยู่ใต้ทะเลจะเน่าเสีย 4. วันนึงเพื่อนบ้านคุณ ขีดเส้นมาผ่ากลางบ้านคุณ แล้วบอกว่า เป็นแค่เส้นสมมติ อย่าไปใส่ใจ เรามาขุดหาสมบัติใต้พื้นดินตรงนั้นกันดีกว่า ขุดได้แล้วหารสองแบ่งกันคนละครึ่ง หากคุณยอม ไม่โง่ ก็บ้า ครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1054 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลักฐานสำคัญ ที่แสดงว่า "เกาะกูด" เป็นของไทย

    สมัยร.๕ ในยุคล่าอาณานิคมฝรั่งเศสบุกยึดเวียตนาม รบกันหลายครั้ง สยามยอมแพ้ จึงทำสนธิสัญญาต่อกัน บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม คศ.1907 มีใจความสำคัญว่า

    1. รัฐบาลสยามยอมยกดินแดนเมืองพระตะบอง เสียมราฐ และ​ศรีโสภณ ให้ ฝรั่งเศส ตามกำหนดปักปันเขตแดนที่แนบท้ายสัญญาข้อที่ 1
    2. ฝรั่งเศสยอมยกเมืองด่านซ้าย และเมืองตราดกับเกาะทั้งหลายซึ่งอยู่ภายใต้แหลมสิงลงไปถึงเกาะกูดให่แก่กรุงสยาม ตามกำหนดปักปันเขตแดนที่แนบท้ายสัญญาข้อที่ 2

    ลงนามโดย
    V.Collin de Plancy และ
    สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเทววงศ์วโรปการ


    อ้างอิง : https://www.persee.fr/doc/geo_0003-4010_1907_num_16_87_6973
    .
    .
    พัชรี ว่องไววิทย์
    October23, 2024
    Sausalito, California

    หลักฐานสำคัญ ที่แสดงว่า "เกาะกูด" เป็นของไทย สมัยร.๕ ในยุคล่าอาณานิคมฝรั่งเศสบุกยึดเวียตนาม รบกันหลายครั้ง สยามยอมแพ้ จึงทำสนธิสัญญาต่อกัน บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม คศ.1907 มีใจความสำคัญว่า 1. รัฐบาลสยามยอมยกดินแดนเมืองพระตะบอง เสียมราฐ และ​ศรีโสภณ ให้ ฝรั่งเศส ตามกำหนดปักปันเขตแดนที่แนบท้ายสัญญาข้อที่ 1 2. ฝรั่งเศสยอมยกเมืองด่านซ้าย และเมืองตราดกับเกาะทั้งหลายซึ่งอยู่ภายใต้แหลมสิงลงไปถึงเกาะกูดให่แก่กรุงสยาม ตามกำหนดปักปันเขตแดนที่แนบท้ายสัญญาข้อที่ 2 ลงนามโดย V.Collin de Plancy และ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเทววงศ์วโรปการ อ้างอิง : https://www.persee.fr/doc/geo_0003-4010_1907_num_16_87_6973 . . พัชรี ว่องไววิทย์ October23, 2024 Sausalito, California
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 540 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ พิธาคิโอ้ คนกลับกลอก ร้องหาสัจจะ จากยกเลิกเป็นแก้ไข112 ลวงโลกถูกกักตัวมางานศพพ่อไม่ทันแถมถูกอายัดบัญชี จากสนับสนุนกัญชาเป็นจไม่เอากัญชา คุณชายพระตะบอง รุ่นน้องผู้บริหารไฟเซอร์-โมเดอร์นา ไม่รู้จักตะวันแต่เห็นลูกสาวตัวเองในแววตาตะวัน ฯลฯ
    #7ดอกจิก
    ♣ พิธาคิโอ้ คนกลับกลอก ร้องหาสัจจะ จากยกเลิกเป็นแก้ไข112 ลวงโลกถูกกักตัวมางานศพพ่อไม่ทันแถมถูกอายัดบัญชี จากสนับสนุนกัญชาเป็นจไม่เอากัญชา คุณชายพระตะบอง รุ่นน้องผู้บริหารไฟเซอร์-โมเดอร์นา ไม่รู้จักตะวันแต่เห็นลูกสาวตัวเองในแววตาตะวัน ฯลฯ #7ดอกจิก
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 770 มุมมอง 0 รีวิว