• “โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเข้าถึงง่าย”: กระจกบานใหญ่จาก Bundestag สู่สภาไทย

    ในขณะที่การเมืองไทยยังคงติดหล่มแห่งความไม่โปร่งใส การซื้อเสียง ความไม่รับผิดชอบ และการลอยตัวของผู้มีอำนาจเหนือประชาชน ประเทศเยอรมนีกลับสร้างต้นแบบของความซื่อสัตย์สุจริตไว้ตรงกลางกรุงเบอร์ลิน

    Bundestag หรือรัฐสภาเยอรมัน ที่สะท้อนหลักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

    ตัวอาคาร Reichstag ไม่ได้มีดีแค่ความอลังการทางสถาปัตยกรรม แต่คือคำประกาศเจตนารมณ์แห่งความโปร่งใส โดมแก้วเหนือห้องประชุมคือการบอกกับประชาชนว่า “พวกคุณมีสิทธิ์รู้ เห็น และตรวจสอบได้ทุกการเคลื่อนไหวของเรา” ผู้แทนราษฎรที่นั่งอยู่ภายใต้แสงธรรมชาติจากโดมแก้วนั้น จึงไม่มีที่ให้ซ่อน ไม่มีเงามืดให้แอบแฝง

    ขณะที่เมืองไทยกลับเต็มไปด้วย "โดมทึบ" ที่ประชาชนไม่มีวันมองผ่านได้ ห้องประชุมที่ถูกใช้เป็นเวทีลิเก ผลาญงบประมาณและโต้เถียงกันเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม มากกว่าจะออกกฎหมายที่ตอบสนองต่อเสียงของประชาชน

    นักการเมืองไทยบางคนกลัวความโปร่งใสเหมือนผีเห็นแสงแดด กลัวการตรวจสอบเหมือนขโมยกลัวกล้องวงจรปิด เพราะพวกเขาไม่ได้มองว่าตัวเองเป็น "ผู้รับใช้ประชาชน" แต่เป็นเจ้าของอำนาจ

    ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประเทศไทยจะสร้าง "Reichstag ทางจิตวิญญาณ" — ที่ไม่ต้องใช้กระจกจริงมาติด แต่ใช้หลักคิดแห่งความโปร่งใส เปิดเผย และเคารพประชาชนอย่างแท้จริง

    ความโปร่งใสไม่ใช่แค่เครื่องประดับของระบอบประชาธิปไตย แต่มันคือหัวใจของมัน ถ้าไม่มีหัวใจนี้ สภาก็ไม่ต่างอะไรจากโรงละครที่แสดงละครซ้ำซากเรื่องเดียว — “อำนาจเป็นของข้า ประชาชนจงเงียบ”

    #thawornboonyawan
    #คนไทยต้องรอด
    #คนดีสำคัญกว่าทุกสิ่ง
    Credit image : Twontrot Boon

    “Transparency, Accountability, and Accessibility”: A Giant Mirror from the Bundestag to Thailand’s Parliament

    While Thai politics remains mired in a culture of opacity, vote-buying, irresponsibility, and the detachment of power from the people, Germany has built a powerful symbol of integrity in the heart of Berlin — the Bundestag, or German federal parliament, which embodies the true essence of democracy.

    The Reichstag building is more than an architectural marvel; it is a declaration of transparency. The glass dome above the parliamentary chamber sends a clear message to the public: “You have the right to see, know, and scrutinize every action we take.” Lawmakers sit beneath natural light, visible from above — there is nowhere to hide, no shadow to scheme in.

    In contrast, Thailand is shrouded in “opaque domes” through which the people can never see. Parliamentary halls have become theatrical stages — wasting public funds and bickering over special interests rather than legislating in the people's best interest.

    Some Thai politicians fear transparency like ghosts fear daylight. They fear scrutiny the way thieves fear surveillance cameras. Because deep down, they don't see themselves as public servants — but as power-holders.

    Isn’t it time for Thailand to build its own “spiritual Reichstag”? Not with physical glass, but with a mindset rooted in openness, honesty, and deep respect for the people.

    Transparency is not a decorative feature of democracy — it is its heart. Without that heart, the parliament is nothing more than a stage for a tired play, endlessly repeating the same act: “Power belongs to us; the people must stay silent.”
    “โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเข้าถึงง่าย”: กระจกบานใหญ่จาก Bundestag สู่สภาไทย ในขณะที่การเมืองไทยยังคงติดหล่มแห่งความไม่โปร่งใส การซื้อเสียง ความไม่รับผิดชอบ และการลอยตัวของผู้มีอำนาจเหนือประชาชน ประเทศเยอรมนีกลับสร้างต้นแบบของความซื่อสัตย์สุจริตไว้ตรงกลางกรุงเบอร์ลิน Bundestag หรือรัฐสภาเยอรมัน ที่สะท้อนหลักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ตัวอาคาร Reichstag ไม่ได้มีดีแค่ความอลังการทางสถาปัตยกรรม แต่คือคำประกาศเจตนารมณ์แห่งความโปร่งใส โดมแก้วเหนือห้องประชุมคือการบอกกับประชาชนว่า “พวกคุณมีสิทธิ์รู้ เห็น และตรวจสอบได้ทุกการเคลื่อนไหวของเรา” ผู้แทนราษฎรที่นั่งอยู่ภายใต้แสงธรรมชาติจากโดมแก้วนั้น จึงไม่มีที่ให้ซ่อน ไม่มีเงามืดให้แอบแฝง ขณะที่เมืองไทยกลับเต็มไปด้วย "โดมทึบ" ที่ประชาชนไม่มีวันมองผ่านได้ ห้องประชุมที่ถูกใช้เป็นเวทีลิเก ผลาญงบประมาณและโต้เถียงกันเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม มากกว่าจะออกกฎหมายที่ตอบสนองต่อเสียงของประชาชน นักการเมืองไทยบางคนกลัวความโปร่งใสเหมือนผีเห็นแสงแดด กลัวการตรวจสอบเหมือนขโมยกลัวกล้องวงจรปิด เพราะพวกเขาไม่ได้มองว่าตัวเองเป็น "ผู้รับใช้ประชาชน" แต่เป็นเจ้าของอำนาจ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประเทศไทยจะสร้าง "Reichstag ทางจิตวิญญาณ" — ที่ไม่ต้องใช้กระจกจริงมาติด แต่ใช้หลักคิดแห่งความโปร่งใส เปิดเผย และเคารพประชาชนอย่างแท้จริง ความโปร่งใสไม่ใช่แค่เครื่องประดับของระบอบประชาธิปไตย แต่มันคือหัวใจของมัน ถ้าไม่มีหัวใจนี้ สภาก็ไม่ต่างอะไรจากโรงละครที่แสดงละครซ้ำซากเรื่องเดียว — “อำนาจเป็นของข้า ประชาชนจงเงียบ” #thawornboonyawan #คนไทยต้องรอด #คนดีสำคัญกว่าทุกสิ่ง Credit image : Twontrot Boon “Transparency, Accountability, and Accessibility”: A Giant Mirror from the Bundestag to Thailand’s Parliament While Thai politics remains mired in a culture of opacity, vote-buying, irresponsibility, and the detachment of power from the people, Germany has built a powerful symbol of integrity in the heart of Berlin — the Bundestag, or German federal parliament, which embodies the true essence of democracy. The Reichstag building is more than an architectural marvel; it is a declaration of transparency. The glass dome above the parliamentary chamber sends a clear message to the public: “You have the right to see, know, and scrutinize every action we take.” Lawmakers sit beneath natural light, visible from above — there is nowhere to hide, no shadow to scheme in. In contrast, Thailand is shrouded in “opaque domes” through which the people can never see. Parliamentary halls have become theatrical stages — wasting public funds and bickering over special interests rather than legislating in the people's best interest. Some Thai politicians fear transparency like ghosts fear daylight. They fear scrutiny the way thieves fear surveillance cameras. Because deep down, they don't see themselves as public servants — but as power-holders. Isn’t it time for Thailand to build its own “spiritual Reichstag”? Not with physical glass, but with a mindset rooted in openness, honesty, and deep respect for the people. Transparency is not a decorative feature of democracy — it is its heart. Without that heart, the parliament is nothing more than a stage for a tired play, endlessly repeating the same act: “Power belongs to us; the people must stay silent.”
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • 'ดร.สามารถ' ถาม ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องมี “สมุดพกรัฐมนตรี”?
    https://www.thai-tai.tv/news/17738/
    'ดร.สามารถ' ถาม ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องมี “สมุดพกรัฐมนตรี”? https://www.thai-tai.tv/news/17738/
    0 Comments 0 Shares 99 Views 0 Reviews
  • Newsstory : ถึงเวลาฉุกคิดหรือยัง คนดังจีนยกเลิกแพลนงานที่ไทย กระทบเศรษฐกิจไทยอย่างหนัก
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #ถึงเวลาแล้วหรือยัง
    Newsstory : ถึงเวลาฉุกคิดหรือยัง คนดังจีนยกเลิกแพลนงานที่ไทย กระทบเศรษฐกิจไทยอย่างหนัก #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #ถึงเวลาแล้วหรือยัง
    Like
    Love
    7
    0 Comments 0 Shares 832 Views 16 0 Reviews
  • มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ตอบโต้ "แอนนาเลน่า แบร์บ็อค" รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ที่กดดันผู้นำซีเรียคนใหม่ให้ยุติการมีอยู่ของฐานทัพรัสเซียในซีเรีย โดยระบุว่าเบอร์ลินควรหันกลับไปดูในบ้านตัวเองเกี่ยวกับฐานทัพอเมริกาที่มีอยู่ทั่วเยอรมนีมากกว่า!

    "นี่เหรอคือความเห็นของรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศที่มีฐานทัพทหารสหรัฐฯ ตั้งอยู่ในประเทศของตนเองเต็มไปหมด แต่กลับมาบอกเรา ฉันมีคำถามที่จะถามกลับไปเหมือนกันว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เธอจะส่งแถลงการณ์ดังกล่าวไปยังวอชิงตัน?" ซาคาโรวาโพสต์ข้อความตอบโต้บนเทเลแกรมของเธอ

    เเบอร์บ็อค ซึ่งเดินทางมาถึงกรุงดามัสกัสโดยไม่มีกำหนดการแจ้งล่วงหน้ากล่าวว่าแสดงความเห็นในระหว่างเข้าพบผู้นำซีเรียคนใหม่ว่า รัสเซียควรสละฐานทัพในซีเรียเพื่อ "แสดงความเคารพต่ออำนาจอธิปไตยของประเทศในตะวันออกกลาง"

    มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ตอบโต้ "แอนนาเลน่า แบร์บ็อค" รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ที่กดดันผู้นำซีเรียคนใหม่ให้ยุติการมีอยู่ของฐานทัพรัสเซียในซีเรีย โดยระบุว่าเบอร์ลินควรหันกลับไปดูในบ้านตัวเองเกี่ยวกับฐานทัพอเมริกาที่มีอยู่ทั่วเยอรมนีมากกว่า! "นี่เหรอคือความเห็นของรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศที่มีฐานทัพทหารสหรัฐฯ ตั้งอยู่ในประเทศของตนเองเต็มไปหมด แต่กลับมาบอกเรา ฉันมีคำถามที่จะถามกลับไปเหมือนกันว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เธอจะส่งแถลงการณ์ดังกล่าวไปยังวอชิงตัน?" ซาคาโรวาโพสต์ข้อความตอบโต้บนเทเลแกรมของเธอ เเบอร์บ็อค ซึ่งเดินทางมาถึงกรุงดามัสกัสโดยไม่มีกำหนดการแจ้งล่วงหน้ากล่าวว่าแสดงความเห็นในระหว่างเข้าพบผู้นำซีเรียคนใหม่ว่า รัสเซียควรสละฐานทัพในซีเรียเพื่อ "แสดงความเคารพต่ออำนาจอธิปไตยของประเทศในตะวันออกกลาง"
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 358 Views 0 Reviews
  • ชีวิตของชูวิทย์มีค่ายิ่งกว่านักการเมืองเลวๆ
    .
    คุณชูวิทย์เขาเล่าให้ผมฟังว่า ชีวิตเขาถูกหลอกใช้มาตลอด เรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้น เขาถูกคนที่ชื่อ สุชาติ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของคีรี บอกว่าจะเอาเรื่องการคอร์รัปชันไหม เขามีข้อมูลให้พร้อม ก็เลยเอาข้อมูลมาให้ชูวิทย์ นั่นคือที่มาของการโจมตี ช.การช่าง และการคอร์รัปชัน รวมไปจนถึงการมีงานโอนเงินค่าคอมมิชันไปที่สิงคโปร์ เป็นฝีมือที่มาจากคนที่ให้ข่าวเขาทั้งสิ้น “แล้วมันก็ทิ้งผมไป หลังจากใช้ผมได้เรียบร้อยแล้ว”
    .
    เขาค่อนข้างเจ็บช้ำน้ำใจมากหลายๆเรื่อง โดนฟ้องอยู่หลายคดี สันธนะ ประยูรรัตน์ก็ฟ้องเขา และที่สำคัญคือเรื่องเขากระโดง เขาก็โดนฟ้องที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์
    .
    ผมไม่ได้อยู่ในสถานภาพที่จะพูดอะไรในเรื่องนี้ได้ แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่า คนที่อยู่ในสภาพอย่างชูวิทย์ คนที่เป็นเจ้าทุกข์ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่พวกคุณจะทำบุญทำกุศลกัน เพราะคุณชูวิทย์เขาอยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิตแล้ว
    .
    ความแค้นไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณมีความสุขหรอก ณ วันนี้ ถ้าคุณจะทำไปเพื่อล้างแค้นที่ชูวิทย์เขาว่าอะไรคุณ ก็เชิญตามสบาย คนเรามันจะแค้นอะไรกันนักกันหนา หรือทั้งคุณเนวิน และคุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ ไม่ยอมรับว่าชีวิตคุณเองก็มีการทำผิดพลาดเยอะมากพอสมควร อย่างน้อยที่สุด สิ่งที่คุณชูวิทย์พูดเรื่องเขากระโดงก็เป็นความจริง
    .
    ผมสงสารและเห็นใจเขา เขาก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรนะ ไม่ได้เรียกร้องคุณศักดิ์สยามและคุณเนวิน คุณคงอยากให้คุณชูวิทย์คลานเข้าไปแล้วกราบเท้าคุณใช่ไหม ซึ่งถ้าเขาทำผิดกฎหมายเพราะเขาไปหมิ่นประมาทคุณ อันนั้นคือกฎหมาย แต่ที่อยู่เหนือกฎหมาย คือคุณธรรม ความเห็นอกเห็นใจ คุณจะเรียกว่าความเวทนาก็ได้ ที่คุณชูวิทย์เขาเจ็บไข้ได้ป่วยหนักขนาดนี้ ที่สามารถจะตายได้ทุกเมื่อ ตรงนี้ต่างหากที่มันอยู่เหนือกฎหมาย นั่นคือความเป็นมนุษย์
    .
    คุณชูวิทย์อาจจะพูดอะไร แล้วคุณเจ็บใจแค้นใจมาก ผมเข้าใจดี รวมไปถึงคุณสันธนะด้วย ขนาดคุณชูวิทย์นั่งข้างๆ คุณ แล้วมาขอโทษคุณบนเก้าอี้รถเข็น ใจคอคุณบอกยังไม่ให้ ผมไม่รู้ว่าจิตใจพวกคุณทั้งหลายทำด้วยอะไร
    .
    สำหรับผมแล้ว ชูวิทย์เป็นคนที่มีคุณูปการต่อสังคม การทำงานของชูวิทย์นั้น จะดีจะชั่วก็ยังดีกว่านักการเมืองเลวๆ บางคนที่เอาอำนาจทางการเมืองแสวงหาผลประโยชน์ ยึดที่ดินของรัฐเข้าไปเป็นของครอบครัวตัวเอง ผมว่าชีวิตของชูวิทย์มีค่ายิ่งกว่านักการเมืองเลวๆ พวกนั้นอีก

    ที่มา คุยทุกเรื่องกับสนธิ

    #Thaitimes
    ชีวิตของชูวิทย์มีค่ายิ่งกว่านักการเมืองเลวๆ . คุณชูวิทย์เขาเล่าให้ผมฟังว่า ชีวิตเขาถูกหลอกใช้มาตลอด เรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้น เขาถูกคนที่ชื่อ สุชาติ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของคีรี บอกว่าจะเอาเรื่องการคอร์รัปชันไหม เขามีข้อมูลให้พร้อม ก็เลยเอาข้อมูลมาให้ชูวิทย์ นั่นคือที่มาของการโจมตี ช.การช่าง และการคอร์รัปชัน รวมไปจนถึงการมีงานโอนเงินค่าคอมมิชันไปที่สิงคโปร์ เป็นฝีมือที่มาจากคนที่ให้ข่าวเขาทั้งสิ้น “แล้วมันก็ทิ้งผมไป หลังจากใช้ผมได้เรียบร้อยแล้ว” . เขาค่อนข้างเจ็บช้ำน้ำใจมากหลายๆเรื่อง โดนฟ้องอยู่หลายคดี สันธนะ ประยูรรัตน์ก็ฟ้องเขา และที่สำคัญคือเรื่องเขากระโดง เขาก็โดนฟ้องที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ . ผมไม่ได้อยู่ในสถานภาพที่จะพูดอะไรในเรื่องนี้ได้ แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่า คนที่อยู่ในสภาพอย่างชูวิทย์ คนที่เป็นเจ้าทุกข์ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่พวกคุณจะทำบุญทำกุศลกัน เพราะคุณชูวิทย์เขาอยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิตแล้ว . ความแค้นไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณมีความสุขหรอก ณ วันนี้ ถ้าคุณจะทำไปเพื่อล้างแค้นที่ชูวิทย์เขาว่าอะไรคุณ ก็เชิญตามสบาย คนเรามันจะแค้นอะไรกันนักกันหนา หรือทั้งคุณเนวิน และคุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ ไม่ยอมรับว่าชีวิตคุณเองก็มีการทำผิดพลาดเยอะมากพอสมควร อย่างน้อยที่สุด สิ่งที่คุณชูวิทย์พูดเรื่องเขากระโดงก็เป็นความจริง . ผมสงสารและเห็นใจเขา เขาก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรนะ ไม่ได้เรียกร้องคุณศักดิ์สยามและคุณเนวิน คุณคงอยากให้คุณชูวิทย์คลานเข้าไปแล้วกราบเท้าคุณใช่ไหม ซึ่งถ้าเขาทำผิดกฎหมายเพราะเขาไปหมิ่นประมาทคุณ อันนั้นคือกฎหมาย แต่ที่อยู่เหนือกฎหมาย คือคุณธรรม ความเห็นอกเห็นใจ คุณจะเรียกว่าความเวทนาก็ได้ ที่คุณชูวิทย์เขาเจ็บไข้ได้ป่วยหนักขนาดนี้ ที่สามารถจะตายได้ทุกเมื่อ ตรงนี้ต่างหากที่มันอยู่เหนือกฎหมาย นั่นคือความเป็นมนุษย์ . คุณชูวิทย์อาจจะพูดอะไร แล้วคุณเจ็บใจแค้นใจมาก ผมเข้าใจดี รวมไปถึงคุณสันธนะด้วย ขนาดคุณชูวิทย์นั่งข้างๆ คุณ แล้วมาขอโทษคุณบนเก้าอี้รถเข็น ใจคอคุณบอกยังไม่ให้ ผมไม่รู้ว่าจิตใจพวกคุณทั้งหลายทำด้วยอะไร . สำหรับผมแล้ว ชูวิทย์เป็นคนที่มีคุณูปการต่อสังคม การทำงานของชูวิทย์นั้น จะดีจะชั่วก็ยังดีกว่านักการเมืองเลวๆ บางคนที่เอาอำนาจทางการเมืองแสวงหาผลประโยชน์ ยึดที่ดินของรัฐเข้าไปเป็นของครอบครัวตัวเอง ผมว่าชีวิตของชูวิทย์มีค่ายิ่งกว่านักการเมืองเลวๆ พวกนั้นอีก ที่มา คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 1127 Views 0 Reviews
  • ศาสตราจารย์ Thomas Seyfried
    ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง และงานวิจัยด้านมะเร็ง
    บอกว่ามียาดีสำหรับใช้รักษามะเร็งแต่ถูกปิดกั้น
    โดย FDA (อย.) เพราะว่ายาพวกนี้มันทำเงินไม่ได้
    เลยถูกห้ามใช้ ให้ไปใช้ยาที่ทำกำไรงามเท่านั้น
    คนไข้มะเร็งคือ เหยื่ออันโอชะของบริษัทยาเพราะ
    สามารถทำเงินให้บริษัทยาได้มากมายมหาศาล
    โดยเฉพาะเวลาผู้ป่วยมีประกันภัย โรงพยาบาล
    จะจัดยาคีโมและรังสีให้คนไข้อย่างเต็มที่แล้วไป
    เก็บเงินจากบริษัทประกัน
    เราต้องรู้ว่าอุตสาหกรรมยามันคือธุรกิจและ
    ทำกำไรได้อย่างมหาศาล
    คนไข้ = กำไรของบริษัทยาฉะนั้นอะไรก็ตาม
    ที่ช่วยให้คนไข้หายป่วย แต่ทำกำไรไม่ได้
    จะโดนโจมตีโดนปิดกั้น ถูกดิสเครดิตต่างๆ​ นานา
    เพื่อต้อนให้คนป่วยเดินเข้าหาโรงพยาบาล
    ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะตื่นรู้​ รู้เท่าทัน​เล่ห์เหลี่ยม​
    ของ​ big​ pharma​ เพื่อตัวคุณเองและคนที่คุณรัก
    สวัสดี.
    ศาสตราจารย์ Thomas Seyfried ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง และงานวิจัยด้านมะเร็ง บอกว่ามียาดีสำหรับใช้รักษามะเร็งแต่ถูกปิดกั้น โดย FDA (อย.) เพราะว่ายาพวกนี้มันทำเงินไม่ได้ เลยถูกห้ามใช้ ให้ไปใช้ยาที่ทำกำไรงามเท่านั้น คนไข้มะเร็งคือ เหยื่ออันโอชะของบริษัทยาเพราะ สามารถทำเงินให้บริษัทยาได้มากมายมหาศาล โดยเฉพาะเวลาผู้ป่วยมีประกันภัย โรงพยาบาล จะจัดยาคีโมและรังสีให้คนไข้อย่างเต็มที่แล้วไป เก็บเงินจากบริษัทประกัน เราต้องรู้ว่าอุตสาหกรรมยามันคือธุรกิจและ ทำกำไรได้อย่างมหาศาล คนไข้ = กำไรของบริษัทยาฉะนั้นอะไรก็ตาม ที่ช่วยให้คนไข้หายป่วย แต่ทำกำไรไม่ได้ จะโดนโจมตีโดนปิดกั้น ถูกดิสเครดิตต่างๆ​ นานา เพื่อต้อนให้คนป่วยเดินเข้าหาโรงพยาบาล ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะตื่นรู้​ รู้เท่าทัน​เล่ห์เหลี่ยม​ ของ​ big​ pharma​ เพื่อตัวคุณเองและคนที่คุณรัก สวัสดี.
    0 Comments 0 Shares 776 Views 367 0 Reviews