• บทความกฎหมาย EP.34

    การแสดงเจตนาที่ผูกพันทางกฎหมาย: ไขความเข้าใจเรื่อง "นิติกรรม"
    นิติกรรม: หัวใจของการสร้างความสัมพันธ์ทางกฎหมายในสังคมไทย เป็นแนวคิดพื้นฐานที่นักกฎหมายและประชาชนทุกคนควรทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพราะในชีวิตประจำวันของเรา ตั้งแต่การซื้อขายของเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงการทำสัญญาทางธุรกิจมูลค่ามหาศาล ทุกกิจกรรมล้วนอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายที่ว่าด้วยการแสดงเจตนาที่มีผลผูกพันตามกฎหมายทั้งสิ้น นิติกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 149 ได้ให้คำนิยามไว้อย่างชัดเจนว่า หมายถึงการใดๆ อันทำลงด้วยใจสมัครมุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล เพื่อจะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดที่แยกนิติกรรมออกจากการกระทำอื่นๆ ของมนุษย์ คือ เจตนา ที่ต้องแสดงออกมาอย่างชัดแจ้ง และเจตนานั้นต้องมุ่งโดยตรงเพื่อก่อให้เกิดผลทางกฎหมาย ผลที่ตามมาคือความรับผิดชอบและความผูกพันที่เกิดขึ้นตามเจตนาที่แสดงออกไปนั้น ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดและเป็นที่คุ้นเคยที่สุดของนิติกรรม คือ สัญญา ไม่ว่าจะเป็นสัญญาซื้อขาย สัญญากู้ยืมเงิน สัญญาเช่า หรือสัญญาจ้างแรงงาน ทุกสัญญาคือการตกลงร่วมกันของสองฝ่ายหรือมากกว่านั้น โดยมีเจตนาที่จะผูกพันตนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญา การทำสัญญาซื้อขายบ้านหนึ่งหลัง ผู้ขายมีเจตนาโอนกรรมสิทธิ์แลกกับเงิน และผู้ซื้อมิได้มีเจตนาเพียงแค่จ่ายเงิน แต่มีเจตนาที่จะได้รับกรรมสิทธิ์ในบ้านนั้น เมื่อเจตนาทั้งสองฝ่ายบรรจบกันตามที่กฎหมายกำหนด สัญญาก็เกิดขึ้น และสิทธิหน้าที่ของแต่ละฝ่ายก็เกิดขึ้นตามมาทันที นิติกรรมจึงเป็นกลไกสำคัญที่สร้างความแน่นอน ความเชื่อถือ และความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจและสังคม เมื่อบุคคลแสดงเจตนาแล้ว ย่อมต้องรับผิดชอบต่อผลแห่งเจตนานั้น ไม่สามารถกล่าวอ้างภายหลังว่ากระทำไปโดยไม่มีเจตนาผูกพันทางกฎหมายได้ หากไม่มีหลักการของนิติกรรมและสัญญา ความสัมพันธ์ทางธุรกิจและการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมก็จะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและความขัดแย้ง เพราะไม่มีสิ่งใดมาบังคับให้บุคคลต้องปฏิบัติตามคำพูดหรือการแสดงออกของตนเอง ดังนั้น การทำความเข้าใจองค์ประกอบที่สำคัญของนิติกรรม เช่น การแสดงเจตนาที่สมบูรณ์ การปราศจากความบกพร่องของเจตนา และการที่นิติกรรมนั้นต้องไม่ขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญยิ่งในการดำเนินชีวิตและประกอบกิจการทุกประเภท

    การแสดงเจตนาในทางกฎหมายนั้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การทำเป็นหนังสือหรือการลงลายมือชื่อเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแสดงออกโดยวาจา หรือโดยกิริยาอาการที่ถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาโดยปริยาย การซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อ การยื่นเงินให้พนักงานเก็บเงินโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ ก็ถือเป็นการแสดงเจตนาเข้าทำสัญญาซื้อขายแล้วโดยปริยาย แต่ในนิติกรรมบางประเภท เช่น การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ กฎหมายได้กำหนดแบบของนิติกรรมไว้เป็นการเฉพาะเจาะจง คือต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การไม่ปฏิบัติตามแบบที่กฎหมายกำหนด ย่อมทำให้นิติกรรมนั้นตกเป็น โมฆะ คือเสียเปล่ามาแต่ต้น ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายใดๆ เลย ซึ่งเป็นบทลงโทษที่รุนแรงที่สุดเพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย นอกจากนี้ นิติกรรมอาจเป็น โมฆียะ ได้ในกรณีที่เกิดจากความบกพร่องของเจตนา เช่น การแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญของนิติกรรม หรือการที่ผู้ทำนิติกรรมเป็นผู้เยาว์และทำนิติกรรมโดยมิได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม นิติกรรมโมฆียะนั้นมีผลใช้บังคับจนกว่าจะถูกบอกล้างโดยผู้มีสิทธิบอกล้าง ซึ่งหลักการโมฆะและโมฆียะนี้เองที่เป็นกลไกในการคุ้มครองผู้ที่ถูกเอาเปรียบหรือผู้ที่ขาดความสามารถในการทำนิติกรรม โดยเน้นย้ำถึงหลักการที่ว่า เจตนาที่บริสุทธิ์และเสรีเป็นรากฐานของการผูกพันทางกฎหมายเสมอ การแยกแยะและทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างนิติกรรมฝ่ายเดียว เช่น การทำพินัยกรรม ซึ่งเกิดจากการแสดงเจตนาของบุคคลเพียงคนเดียว กับนิติกรรมสองฝ่ายหรือหลายฝ่าย เช่น สัญญาต่างๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเงื่อนไขความสมบูรณ์และผลทางกฎหมายย่อมแตกต่างกันไปตามลักษณะของนิติกรรมนั้น การทำความเข้าใจในเรื่องของเงื่อนไขและเงื่อนเวลาที่อาจนำมาเป็นข้อกำหนดในนิติกรรมก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะเป็นปัจจัยที่อาจชะลอหรือยุติการมีผลของนิติกรรมได้

    สรุปได้ว่า นิติกรรม คือเครื่องมือทางกฎหมายที่มนุษย์ใช้ในการบริหารจัดการสิทธิและหน้าที่ของตนเอง เป็นการแสดงเจตนาที่ทรงพลังและมีผลผูกพันอย่างแท้จริง การตระหนักถึงความสำคัญของการแสดงเจตนาที่ชัดเจน บริสุทธิ์ และชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะทุกการตัดสินใจและทุกการกระทำที่มุ่งก่อให้เกิดผลทางกฎหมายนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราและผู้อื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การทำความเข้าใจหลักการพื้นฐานของนิติกรรมจึงไม่เพียงแต่ช่วยให้เราสามารถสร้างและรักษาสิทธิของตนเองได้อย่างถูกต้องเท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญในการอยู่ร่วมกันในสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยกฎหมายและความยุติธรรมอย่างยั่งยืน การทำสัญญาที่รัดกุม การแสดงเจตนาที่เที่ยงตรง จึงเป็นการสร้างความมั่นคงในชีวิตและธุรกิจของเราทุกคน
    บทความกฎหมาย EP.34 การแสดงเจตนาที่ผูกพันทางกฎหมาย: ไขความเข้าใจเรื่อง "นิติกรรม" นิติกรรม: หัวใจของการสร้างความสัมพันธ์ทางกฎหมายในสังคมไทย เป็นแนวคิดพื้นฐานที่นักกฎหมายและประชาชนทุกคนควรทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพราะในชีวิตประจำวันของเรา ตั้งแต่การซื้อขายของเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงการทำสัญญาทางธุรกิจมูลค่ามหาศาล ทุกกิจกรรมล้วนอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายที่ว่าด้วยการแสดงเจตนาที่มีผลผูกพันตามกฎหมายทั้งสิ้น นิติกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 149 ได้ให้คำนิยามไว้อย่างชัดเจนว่า หมายถึงการใดๆ อันทำลงด้วยใจสมัครมุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล เพื่อจะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดที่แยกนิติกรรมออกจากการกระทำอื่นๆ ของมนุษย์ คือ เจตนา ที่ต้องแสดงออกมาอย่างชัดแจ้ง และเจตนานั้นต้องมุ่งโดยตรงเพื่อก่อให้เกิดผลทางกฎหมาย ผลที่ตามมาคือความรับผิดชอบและความผูกพันที่เกิดขึ้นตามเจตนาที่แสดงออกไปนั้น ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดและเป็นที่คุ้นเคยที่สุดของนิติกรรม คือ สัญญา ไม่ว่าจะเป็นสัญญาซื้อขาย สัญญากู้ยืมเงิน สัญญาเช่า หรือสัญญาจ้างแรงงาน ทุกสัญญาคือการตกลงร่วมกันของสองฝ่ายหรือมากกว่านั้น โดยมีเจตนาที่จะผูกพันตนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญา การทำสัญญาซื้อขายบ้านหนึ่งหลัง ผู้ขายมีเจตนาโอนกรรมสิทธิ์แลกกับเงิน และผู้ซื้อมิได้มีเจตนาเพียงแค่จ่ายเงิน แต่มีเจตนาที่จะได้รับกรรมสิทธิ์ในบ้านนั้น เมื่อเจตนาทั้งสองฝ่ายบรรจบกันตามที่กฎหมายกำหนด สัญญาก็เกิดขึ้น และสิทธิหน้าที่ของแต่ละฝ่ายก็เกิดขึ้นตามมาทันที นิติกรรมจึงเป็นกลไกสำคัญที่สร้างความแน่นอน ความเชื่อถือ และความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจและสังคม เมื่อบุคคลแสดงเจตนาแล้ว ย่อมต้องรับผิดชอบต่อผลแห่งเจตนานั้น ไม่สามารถกล่าวอ้างภายหลังว่ากระทำไปโดยไม่มีเจตนาผูกพันทางกฎหมายได้ หากไม่มีหลักการของนิติกรรมและสัญญา ความสัมพันธ์ทางธุรกิจและการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมก็จะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและความขัดแย้ง เพราะไม่มีสิ่งใดมาบังคับให้บุคคลต้องปฏิบัติตามคำพูดหรือการแสดงออกของตนเอง ดังนั้น การทำความเข้าใจองค์ประกอบที่สำคัญของนิติกรรม เช่น การแสดงเจตนาที่สมบูรณ์ การปราศจากความบกพร่องของเจตนา และการที่นิติกรรมนั้นต้องไม่ขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญยิ่งในการดำเนินชีวิตและประกอบกิจการทุกประเภท การแสดงเจตนาในทางกฎหมายนั้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การทำเป็นหนังสือหรือการลงลายมือชื่อเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแสดงออกโดยวาจา หรือโดยกิริยาอาการที่ถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาโดยปริยาย การซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อ การยื่นเงินให้พนักงานเก็บเงินโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ ก็ถือเป็นการแสดงเจตนาเข้าทำสัญญาซื้อขายแล้วโดยปริยาย แต่ในนิติกรรมบางประเภท เช่น การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ กฎหมายได้กำหนดแบบของนิติกรรมไว้เป็นการเฉพาะเจาะจง คือต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การไม่ปฏิบัติตามแบบที่กฎหมายกำหนด ย่อมทำให้นิติกรรมนั้นตกเป็น โมฆะ คือเสียเปล่ามาแต่ต้น ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายใดๆ เลย ซึ่งเป็นบทลงโทษที่รุนแรงที่สุดเพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย นอกจากนี้ นิติกรรมอาจเป็น โมฆียะ ได้ในกรณีที่เกิดจากความบกพร่องของเจตนา เช่น การแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญของนิติกรรม หรือการที่ผู้ทำนิติกรรมเป็นผู้เยาว์และทำนิติกรรมโดยมิได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม นิติกรรมโมฆียะนั้นมีผลใช้บังคับจนกว่าจะถูกบอกล้างโดยผู้มีสิทธิบอกล้าง ซึ่งหลักการโมฆะและโมฆียะนี้เองที่เป็นกลไกในการคุ้มครองผู้ที่ถูกเอาเปรียบหรือผู้ที่ขาดความสามารถในการทำนิติกรรม โดยเน้นย้ำถึงหลักการที่ว่า เจตนาที่บริสุทธิ์และเสรีเป็นรากฐานของการผูกพันทางกฎหมายเสมอ การแยกแยะและทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างนิติกรรมฝ่ายเดียว เช่น การทำพินัยกรรม ซึ่งเกิดจากการแสดงเจตนาของบุคคลเพียงคนเดียว กับนิติกรรมสองฝ่ายหรือหลายฝ่าย เช่น สัญญาต่างๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเงื่อนไขความสมบูรณ์และผลทางกฎหมายย่อมแตกต่างกันไปตามลักษณะของนิติกรรมนั้น การทำความเข้าใจในเรื่องของเงื่อนไขและเงื่อนเวลาที่อาจนำมาเป็นข้อกำหนดในนิติกรรมก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะเป็นปัจจัยที่อาจชะลอหรือยุติการมีผลของนิติกรรมได้ สรุปได้ว่า นิติกรรม คือเครื่องมือทางกฎหมายที่มนุษย์ใช้ในการบริหารจัดการสิทธิและหน้าที่ของตนเอง เป็นการแสดงเจตนาที่ทรงพลังและมีผลผูกพันอย่างแท้จริง การตระหนักถึงความสำคัญของการแสดงเจตนาที่ชัดเจน บริสุทธิ์ และชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะทุกการตัดสินใจและทุกการกระทำที่มุ่งก่อให้เกิดผลทางกฎหมายนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราและผู้อื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การทำความเข้าใจหลักการพื้นฐานของนิติกรรมจึงไม่เพียงแต่ช่วยให้เราสามารถสร้างและรักษาสิทธิของตนเองได้อย่างถูกต้องเท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญในการอยู่ร่วมกันในสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยกฎหมายและความยุติธรรมอย่างยั่งยืน การทำสัญญาที่รัดกุม การแสดงเจตนาที่เที่ยงตรง จึงเป็นการสร้างความมั่นคงในชีวิตและธุรกิจของเราทุกคน
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • สมองมนุษย์แบ่งเป็น 5 ยุคสำคัญตลอดชีวิต

    นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และพิตส์เบิร์กได้ทำการศึกษาสมองมนุษย์กว่า 3,800 คน ตั้งแต่ทารกจนถึงวัยชรา พบว่าสมองไม่ได้เป็นเครื่องจักรที่ตายตัว แต่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการเชื่อมต่อในช่วงอายุที่สำคัญ ได้แก่ 9, 32, 66 และ 83 ปี โดยแบ่งออกเป็น 5 ยุคหลัก คือ วัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ วัยชราตอนต้น และวัยชราตอนปลาย ซึ่งแต่ละช่วงสะท้อนการเติบโตและการเสื่อมถอยของสมองในรูปแบบเฉพาะ

    วัยเด็กถึงวัยรุ่น
    ในช่วงแรกตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 9 ปี สมองจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งเนื้อเทาและเนื้อขาว ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการ “ตัดแต่ง” การเชื่อมต่อที่ไม่จำเป็นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น สมองยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสื่อสารระหว่างเครือข่ายสมองที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และฮอร์โมนเพศที่หลั่งออกมามีผลต่อการจัดระเบียบสมอง

    วัยผู้ใหญ่และการเปลี่ยนแปลง
    เมื่อถึงอายุประมาณ 32 ปี สมองเข้าสู่ช่วงที่เสถียรที่สุด โครงสร้างเริ่มแบ่งแยกเป็นระบบเฉพาะด้านมากขึ้น และนี่คือจุดที่บุคลิกภาพและสติปัญญามักจะคงที่ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยใหม่ชี้ว่าสมองยังคงพัฒนาไปจนถึงวัยสามสิบต้นๆ ไม่ได้หยุดที่วัยยี่สิบอย่างที่เคยเชื่อกัน

    วัยชราและความเสื่อม
    เมื่อเข้าสู่วัย 66 ปี สมองเริ่มแสดงสัญญาณเสื่อมลง การเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายลดลงและทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และเมื่อถึงวัย 83 ปี สมองเข้าสู่ยุคสุดท้ายที่การทำงานระดับโลก (global) ลดลง ทำให้เครือข่ายเฉพาะส่วนต้องรับภาระมากขึ้น ซึ่งอาจสัมพันธ์กับภาวะสมองเสื่อมและโรคที่เกี่ยวข้องกับวัยชรา

    สรุปสาระสำคัญ
    สมองแบ่งเป็น 5 ยุคหลัก
    วัยเด็ก (0–9 ปี) : การขยายตัวและการตัดแต่งการเชื่อมต่อ
    วัยรุ่น : การจัดระเบียบสมองและการหลั่งฮอร์โมนเพศ
    วัยผู้ใหญ่ (32 ปี) : โครงสร้างสมองเสถียรและบุคลิกภาพคงที่
    วัยชราตอนต้น (66 ปี) : การเชื่อมต่อเริ่มเสื่อมลง
    วัยชราตอนปลาย (83 ปี) : ภาระการทำงานตกอยู่ที่เครือข่ายเฉพาะส่วน

    งานวิจัยชี้ว่าสมองยังพัฒนาไปจนถึงวัยสามสิบต้นๆ
    ขัดแย้งกับความเชื่อเดิมที่สมองโตเต็มที่ในวัยยี่สิบ

    การเสื่อมของสมองสัมพันธ์กับโรคในวัยชรา
    เช่น ภาวะสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์

    ความเสื่อมของสมองเริ่มตั้งแต่ช่วงวัย 66 ปี
    อาจกระทบต่อความสามารถในการคิดและการสื่อสาร

    วัยชราตอนปลายมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะสมองเสื่อม
    การลดลงของการเชื่อมต่อระดับโลกทำให้สมองทำงานหนักขึ้นในบางส่วน

    https://www.sciencealert.com/your-brain-goes-through-5-distinct-epochs-massive-study-finds
    🧠 สมองมนุษย์แบ่งเป็น 5 ยุคสำคัญตลอดชีวิต นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และพิตส์เบิร์กได้ทำการศึกษาสมองมนุษย์กว่า 3,800 คน ตั้งแต่ทารกจนถึงวัยชรา พบว่าสมองไม่ได้เป็นเครื่องจักรที่ตายตัว แต่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการเชื่อมต่อในช่วงอายุที่สำคัญ ได้แก่ 9, 32, 66 และ 83 ปี โดยแบ่งออกเป็น 5 ยุคหลัก คือ วัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ วัยชราตอนต้น และวัยชราตอนปลาย ซึ่งแต่ละช่วงสะท้อนการเติบโตและการเสื่อมถอยของสมองในรูปแบบเฉพาะ 👶 วัยเด็กถึงวัยรุ่น ในช่วงแรกตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 9 ปี สมองจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งเนื้อเทาและเนื้อขาว ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการ “ตัดแต่ง” การเชื่อมต่อที่ไม่จำเป็นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น สมองยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสื่อสารระหว่างเครือข่ายสมองที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และฮอร์โมนเพศที่หลั่งออกมามีผลต่อการจัดระเบียบสมอง 🧑 วัยผู้ใหญ่และการเปลี่ยนแปลง เมื่อถึงอายุประมาณ 32 ปี สมองเข้าสู่ช่วงที่เสถียรที่สุด โครงสร้างเริ่มแบ่งแยกเป็นระบบเฉพาะด้านมากขึ้น และนี่คือจุดที่บุคลิกภาพและสติปัญญามักจะคงที่ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยใหม่ชี้ว่าสมองยังคงพัฒนาไปจนถึงวัยสามสิบต้นๆ ไม่ได้หยุดที่วัยยี่สิบอย่างที่เคยเชื่อกัน 👵 วัยชราและความเสื่อม เมื่อเข้าสู่วัย 66 ปี สมองเริ่มแสดงสัญญาณเสื่อมลง การเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายลดลงและทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และเมื่อถึงวัย 83 ปี สมองเข้าสู่ยุคสุดท้ายที่การทำงานระดับโลก (global) ลดลง ทำให้เครือข่ายเฉพาะส่วนต้องรับภาระมากขึ้น ซึ่งอาจสัมพันธ์กับภาวะสมองเสื่อมและโรคที่เกี่ยวข้องกับวัยชรา 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ สมองแบ่งเป็น 5 ยุคหลัก ➡️ วัยเด็ก (0–9 ปี) : การขยายตัวและการตัดแต่งการเชื่อมต่อ ➡️ วัยรุ่น : การจัดระเบียบสมองและการหลั่งฮอร์โมนเพศ ➡️ วัยผู้ใหญ่ (32 ปี) : โครงสร้างสมองเสถียรและบุคลิกภาพคงที่ ➡️ วัยชราตอนต้น (66 ปี) : การเชื่อมต่อเริ่มเสื่อมลง ➡️ วัยชราตอนปลาย (83 ปี) : ภาระการทำงานตกอยู่ที่เครือข่ายเฉพาะส่วน ✅ งานวิจัยชี้ว่าสมองยังพัฒนาไปจนถึงวัยสามสิบต้นๆ ➡️ ขัดแย้งกับความเชื่อเดิมที่สมองโตเต็มที่ในวัยยี่สิบ ✅ การเสื่อมของสมองสัมพันธ์กับโรคในวัยชรา ➡️ เช่น ภาวะสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ ‼️ ความเสื่อมของสมองเริ่มตั้งแต่ช่วงวัย 66 ปี ⛔ อาจกระทบต่อความสามารถในการคิดและการสื่อสาร ‼️ วัยชราตอนปลายมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะสมองเสื่อม ⛔ การลดลงของการเชื่อมต่อระดับโลกทำให้สมองทำงานหนักขึ้นในบางส่วน https://www.sciencealert.com/your-brain-goes-through-5-distinct-epochs-massive-study-finds
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Your Brain Goes Through 5 Distinct Epochs, Massive Study Finds
    The human brain is not a hard-wired machine but a malleable organ that is regularly re-shaping itself.
    0 Comments 0 Shares 18 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251127 #TechRadar

    รวมโน้ตบุ๊กสำหรับนักเรียนปี 2025
    ถ้าเล่าให้ฟังแบบง่าย ๆ ตอนนี้ TechRadar เขาได้จัดอันดับโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับนักเรียนไว้หลายรุ่นเลย เริ่มจาก MacBook Air M3 ที่ยังคงเป็นตัวท็อปสำหรับการเรียน ใช้งานได้แรง แบตอึด และราคาก็ลดลงเพราะมีรุ่น M4 ออกมาแล้ว ต่อมาก็มี Acer Chromebook Plus 514 ที่เหมาะกับคนงบจำกัดแต่ยังได้เครื่องที่ทำงานลื่น ๆ สำหรับงานทั่วไป ส่วนใครชอบ ChromeOS รุ่น HP Chromebook Plus 15.6 ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ครบเครื่องและแบตทนดี สำหรับสายพกพา Microsoft Surface Laptop 13 น้ำหนักเบาและแบตยาวนานก็เป็นคำตอบ ส่วนสายครีเอทีฟที่ต้องใช้พลังมากขึ้น MacBook Air M4 รุ่นจอ 15 นิ้วก็ถูกยกให้เป็นเครื่องที่ตอบโจทย์งานกราฟิกและงานสร้างสรรค์ได้ดีมาก
    https://www.techradar.com/computing/laptops/best-student-laptops

    Google Messages เตรียมอัปเกรดใหม่
    ข่าวนี้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่มีประโยชน์ใน Google Messages ที่กำลังทดสอบอยู่ในโค้ดเบต้า อย่างแรกคือเวลาเซฟไฟล์รูปหรือวิดีโอจะมีปุ่ม “Open” ให้กดเปิดไฟล์ได้ทันที ต่อมาคือปุ่ม Gemini ที่จะใหญ่ขึ้นเพื่อให้คนใช้งานง่ายขึ้น และสุดท้ายคือการเปลี่ยนข้อความจาก “Location” เป็น “One-time Location” เพื่อให้ชัดเจนว่ามันแชร์ตำแหน่งแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่แชร์ต่อเนื่อง แม้ยังไม่แน่ว่าจะเปิดใช้จริง แต่ถ้าออกมาก็น่าจะช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น
    https://www.techradar.com/phones/google-messages-could-be-getting-3-useful-upgrades-soon-including-a-gemini-change

    นักพัฒนาระวัง! เว็บจัดรูปแบบโค้ดเผยข้อมูลลับ
    เรื่องนี้ค่อนข้างน่ากังวล เพราะมีการพบว่าเว็บยอดนิยมอย่าง JSONFormatter และ CodeBeautify มีฟีเจอร์ “Recent Links” ที่เปิดเผยข้อมูลที่ผู้ใช้เคยอัปโหลดไว้โดยไม่ป้องกัน ทำให้ข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่าน คีย์ API หรือข้อมูลส่วนตัวหลุดออกมาได้ง่าย นักวิจัยถึงขั้นดึงข้อมูลย้อนหลังได้หลายปี และพบว่ามีทั้งข้อมูลจากหน่วยงานรัฐไปจนถึงบริษัทใหญ่ ๆ ที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตี ซึ่งตอนนี้ก็มีผู้ไม่หวังดีเริ่มทดลองใช้ช่องโหว่นี้แล้วด้วย
    https://www.techradar.com/pro/security/top-code-formatting-sites-are-exposing-huge-amounts-of-user-data

    ธุรกิจยังติดขัดกับการทำ AI อย่างรับผิดชอบ
    รายงานจาก Experian ชี้ว่าผู้บริหารส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า “Responsible AI” จะเป็นตัวสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน แต่ปัญหาคือหลายบริษัทยังไม่พร้อมที่จะนำไปใช้จริง ทั้งเรื่องคุณภาพข้อมูล ความรู้ทางเทคนิค และการบาลานซ์ระหว่างนวัตกรรมกับการกำกับดูแล แม้จะมีหลักการชัดเจน เช่น ความน่าเชื่อถือ การปกป้องความเป็นส่วนตัว และการลดอคติ แต่มีเพียงครึ่งหนึ่งที่บอกว่าทีมงานพร้อมจริง ๆ นักวิเคราะห์จึงแนะนำให้เริ่มจากเล็ก ๆ ทดลองก่อน แล้วค่อยขยาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/businesses-are-struggling-to-implement-responsible-ai-but-it-could-make-all-the-difference

    Claude Opus 4.5 เปิดตัวแล้ว
    Anthropic ปล่อยโมเดลใหม่ Claude Opus 4.5 ที่บอกว่าดีขึ้นอย่าง “มีความหมาย” ทั้งเรื่องการทำงานทั่วไปและการเขียนโค้ด จุดเด่นคือมันจัดการงานจริงได้ดีขึ้น เช่น ทำอีเมล สไลด์ หรือเอกสารได้เนียนกว่าเดิม รวมถึงแก้โจทย์ที่ซับซ้อนและทำงานหลายขั้นตอนต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังใช้พลังคำนวณน้อยลง ทำให้ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรได้ประโยชน์มากขึ้น แม้ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่การพัฒนาเร็วขนาดนี้ก็แสดงให้เห็นว่าตลาด AI กำลังโตและแข่งขันกันเข้มข้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/claude/claude-opus-4-5-is-now-live-and-meaningfully-better-at-everyday-tasks-and-coding-challenges

    Nothing Phone 3: สมาร์ทโฟนเรือธงที่แตกต่าง
    Nothing เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ Phone 3 ที่ตั้งใจจะก้าวเข้าสู่ตลาดพรีเมียมเต็มตัว ดีไซน์ยังคงความแปลกตาแบบบล็อกเหลี่ยมที่หลายคนอาจมองว่าสวยไม่เหมือนใคร แต่บางคนก็อาจรู้สึกว่ามันเทอะทะเกินไป จุดเด่นคือกล้อง 50MP ทั้งหมด 4 ตัว รวมถึงเลนส์ periscope ที่ช่วยให้ถ่ายภาพระยะไกลได้ดี แบตเตอรี่ใหญ่กว่า iPhone และ Samsung รุ่นใกล้เคียง พร้อมชาร์จเร็วกว่า จุดที่น่าสนใจคือฟีเจอร์ Glyph Matrix ที่ใช้ไฟด้านหลังมือถือแสดงข้อมูลหรือเล่นเกมเล็ก ๆ ได้ และปุ่ม Essential Key ที่ช่วยให้แคปหน้าจอหรือบันทึกวิดีโอได้ทันที ถึงแม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ราคาที่สูงขึ้นอาจทำให้แฟน ๆ รุ่นก่อนลังเล อย่างไรก็ตาม มันคือการประกาศชัดว่า Nothing อยากเป็นผู้เล่นในตลาดเรือธงจริง ๆ
    https://www.techradar.com/phones/nothing-phones/nothing-phone-3-review

    AWS มีดาต้าเซ็นเตอร์มากกว่าที่คิด
    ข้อมูลใหม่เผยว่า Amazon Web Services (AWS) อาจมีดาต้าเซ็นเตอร์มากถึง 900 แห่งทั่วโลก ซึ่งมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้หลายเท่า การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มสูงขึ้น AWS ไม่ได้เปิดเผยจำนวนจริง แต่ยืนยันว่ามี 38 regions และ 120 availability zones พร้อมแผนลงทุนมหาศาลในหลายประเทศ เช่น อินเดียและสหรัฐฯ จุดที่น่าสนใจคือ AWS พยายามรักษาประสิทธิภาพพลังงาน โดยอ้างว่ามีค่า Power Usage Effectiveness ดีกว่าค่าเฉลี่ยโลก และโครงสร้างพื้นฐานของตนใช้พลังงานได้คุ้มค่ากว่าการทำงานแบบ on-premises หลายเท่า
    https://www.techradar.com/pro/aws-says-it-has-around-900-data-centers-twice-as-many-as-previously-thought

    Android Desktop: ก้าวใหม่ของ Google OS
    Google กำลังพัฒนาโครงการ “Aluminium OS” ที่จะรวม Android เข้ากับ ChromeOS เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อปใหม่ รองรับทั้ง PC, Laptop, Tablet และ 2-in-1 จุดเด่นคือการผสาน AI เข้ามาเป็นแกนหลัก และรองรับแอป Android แบบเนทีฟโดยไม่ต้องจำลอง ทำให้การใช้งานต่อเนื่องระหว่างมือถือและเดสก์ท็อปเป็นไปอย่างราบรื่น Aluminium จะค่อย ๆ เข้ามาแทน ChromeOS แต่ยังคงอยู่คู่กันในช่วงเปลี่ยนผ่าน เป้าหมายคือการยกระดับ Chromebook และอุปกรณ์ Android ให้แข่งขันกับ Windows และ macOS ได้ในบางตลาด โดยเฉพาะด้านการศึกษาและธุรกิจ
    https://www.techradar.com/computing/desktop-pcs/android-powered-desktop-pcs-are-coming-and-i-think-theyll-be-an-exciting-step-up-from-chromeos

    Ransomware โจมตีธุรกิจที่ถูกซื้อกิจการ
    รายงานใหม่จาก ReliaQuest เผยว่าแฮกเกอร์ที่ใช้ Akira ransomware มักเจาะเข้าธุรกิจขนาดเล็กที่ถูกซื้อกิจการ โดยใช้ช่องโหว่จากอุปกรณ์ที่ถูกละเลยหรือไม่ได้รับการแพตช์ โดยเฉพาะ SonicWall SSL VPN ที่มีบัฟเฟอร์โอเวอร์โฟลว์ร้ายแรง แม้จะมีการอัปเดตแล้ว แต่หลายองค์กรยังไม่ทันปรับปรุง ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ามาเคลื่อนไหวในระบบและเข้ารหัสข้อมูลได้ ปัญหาคือบริษัทที่ซื้อกิจการมักไม่รู้ว่ามีอุปกรณ์เสี่ยงอยู่ในเครือข่ายใหม่ ทำให้การโจมตีเกิดขึ้นง่ายและกระจายไปหลายบริษัทพร้อมกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-hackers-attack-smbs-being-acquired-to-try-and-gain-access-to-multiple-companies

    Chat Control: EU เห็นชอบการสแกนแชทแบบสมัครใจ
    หลังจากถกเถียงกันมากว่า 3 ปี สภาสหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงในกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation หรือที่ถูกเรียกว่า Chat Control โดยเปลี่ยนจากการบังคับสแกนข้อความส่วนตัวมาเป็นแบบสมัครใจ แต่ก็ยังสร้างความกังวลในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว เพราะแม้จะไม่บังคับ แต่ก็เปิดช่องให้ผู้ให้บริการแชทต้องพิจารณามาตรการป้องกันการใช้แพลตฟอร์มในทางที่ผิด และอาจถูกบังคับให้พัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับเพิ่มเติม ขณะนี้ EU เตรียมเข้าสู่การเจรจากับรัฐสภาเพื่อหาข้อสรุปสุดท้าย ซึ่งยังคงเป็นประเด็นร้อนระหว่างการปกป้องเด็กกับการรักษาสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-lawmakers-finally-agree-on-the-voluntary-scanning-of-your-private-chats

    การเชื่อมต่อ AI รุ่นใหม่: ประสิทธิภาพและการติดตั้ง
    บทความนี้พูดถึง “Next frontier” ของการเชื่อมต่อที่พร้อมสำหรับ AI โดยเน้นการทำให้โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านการติดตั้งและการใช้งานจริง แนวคิดคือการสร้างระบบที่สามารถรองรับการประมวลผล AI ได้อย่างราบรื่น ลดความซับซ้อนในการขยายเครือข่าย และทำให้การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคุ้มค่ามากขึ้น ผู้เขียนชี้ว่าอนาคตของการสื่อสารจะไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่คือการจัดการทรัพยากรอย่างชาญฉลาดเพื่อรองรับการเติบโตของ AI
    https://www.techradar.com/pro/the-next-frontier-for-ai-ready-connectivity-efficiency-in-deployment

    ดีล Samsung Galaxy Tab ลดแรง
    TechRadar แนะนำดีลพิเศษสำหรับ Samsung Galaxy Tab ที่ช่วยประหยัดเงินได้หลายร้อยดอลลาร์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบ Android มากกว่า iPadOS โดยบทความเน้นว่าตอนนี้เป็นช่วง Black Friday ที่มีโปรโมชั่นแรงที่สุดของปี ทำให้แท็บเล็ตตระกูล Galaxy Tab กลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ทั้งในด้านราคาและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย
    https://www.techradar.com/seasonal-sales/prefer-android-to-ipados-these-stellar-samsung-galaxy-tab-deals-will-save-you-hundreds-this-black-friday

    ChatGPT กับการพูดคุยเสียงที่สมจริง
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์การลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่เพิ่มการสนทนาด้วยเสียง ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนพูดคุยกับคนจริง ๆ มากขึ้น ฟีเจอร์นี้ถูกมองว่าเป็น “ชิ้นส่วนที่ขาดหายไป” ของการใช้งาน AI เพราะทำให้การโต้ตอบเป็นธรรมชาติและสะดวกกว่าเดิม แม้จะยังมีรายละเอียดที่ต้องปรับปรุง แต่โดยรวมถือว่าเป็นการพัฒนาใหญ่ที่ทำให้ AI ก้าวใกล้การใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-voice-integration-feels-like-the-missing-piece-in-ai-chat-ive-tried-it-and-its-almost-perfect

    Notepad บน Windows 11 ได้ฟีเจอร์ใหม่
    Microsoft เพิ่มความสามารถใหม่ให้กับ Notepad ใน Windows 11 โดยรองรับการสร้างตารางและเสริมพลัง AI เข้าไป ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad ไม่ใช่แค่โปรแกรมจดบันทึกธรรมดาอีกต่อไป แต่สามารถใช้ทำงานที่ซับซ้อนขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางส่วนไม่พอใจ เพราะมองว่า Notepad ควรเป็นเครื่องมือที่เรียบง่าย ไม่ควรซับซ้อนเกินไป การเปลี่ยนแปลงนี้จึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงในชุมชนผู้ใช้ Windows
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-notepad-gets-support-for-tables-and-bolstered-ai-powers-and-not-everyones-happy

    ChatGPT Voice Mode อัปเกรดครั้งใหญ่
    อีกหนึ่งบทความเกี่ยวกับ ChatGPT ที่พูดถึงการอัปเกรดโหมดเสียงครั้งใหญ่ โดยสรุปว่ามี 5 สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ควรรู้ เช่น ความเป็นธรรมชาติของเสียงที่ดีขึ้น ความเร็วในการตอบสนอง และการรองรับหลายภาษา การพัฒนานี้ทำให้การใช้งาน AI ผ่านเสียงมีความสมจริงและสะดวกมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับการโต้ตอบระหว่างมนุษย์กับ AI ให้ใกล้เคียงการสนทนาจริงมากกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-voice-mode-just-got-a-major-upgrade-here-are-5-things-you-need-to-know

    อุปกรณ์ AI ของ Sam Altman ที่เหมือนกระท่อมริมทะเลสาบ แต่จริงๆ อาจเป็นการเฝ้าสอดส่อง
    Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ออกมาเล่าว่ากำลังสร้างอุปกรณ์ AI แบบใหม่ ที่เขาเปรียบเหมือนการนั่งพักผ่อนในกระท่อมสวยๆ ริมทะเลสาบ ให้ความสงบและเรียบง่ายกว่าการใช้สมาร์ทโฟนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่เมื่อมองลึกลงไป อุปกรณ์นี้คือการเฝ้าสังเกตชีวิตผู้ใช้ตลอดเวลา ทั้งพฤติกรรม อารมณ์ และกิจวัตรประจำวัน ซึ่งอาจหมายถึงการแลกความเป็นส่วนตัวกับความสะดวกสบาย ความสงบที่ถูกขายให้เราอาจเป็นเพียงภาพลวงตา เพราะจริงๆ แล้วคือการเปิดให้ระบบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/sam-altman-wants-his-ai-device-to-feel-like-sitting-in-the-most-beautiful-cabin-by-a-lake-but-it-sounds-more-like-endless-surveillance

    Intel Granite Rapids-WS หลุดข้อมูล ชี้พลังเวิร์กสเตชันระดับมหึมา
    มีการรั่วไหลข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel ที่ชื่อ Granite Rapids-WS ซึ่งจะใช้ซ็อกเก็ต E2 ขนาดใหญ่ รองรับพลังงานสูงถึง 350 วัตต์ และสามารถใส่แรม DDR5 ได้ถึง 2 เทราไบต์ต่อซ็อกเก็ต จุดเด่นคือจำนวนคอร์มหาศาลถึง 86 คอร์ 172 เธรด พร้อมแคช L3 ขนาดใหญ่ และ PCIe lanes มากมายเพื่อรองรับ GPU และสตอเรจหลายตัว นี่คือการตอบโต้ AMD Threadripper ในตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูง ที่เน้นงานเรนเดอร์ ซิมูเลชัน และการวิเคราะห์ข้อมูลหนักๆ
    https://www.techradar.com/pro/did-intels-next-big-thing-in-workstations-just-leak-ahead-of-granite-rapids-launch-report-claims-this-is-whats-next-from-troubled-chipmaker

    จีนจำลองการใช้โดรน 1,000 ตัวเพื่อบล็อก Starlink เหนือไต้หวัน
    งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยในจีนเผยการจำลองสถานการณ์ที่ใช้โดรนติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณจำนวนมหาศาล เพื่อสร้าง “เกราะแม่เหล็กไฟฟ้า” ปิดกั้นอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink เหนือไต้หวัน การทดลองชี้ว่าหากใช้โดรนราว 935 ตัวที่ทำงานประสานกัน จะสามารถทำให้พื้นที่ทั้งหมดไม่สามารถเชื่อมต่อได้ แม้ในทางปฏิบัติจะมีความยากลำบากและค่าใช้จ่ายสูง แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่น่ากังวล
    https://www.techradar.com/tech/can-starlink-be-blocked-scary-chinese-simulation-shows-1-000-drones-can-jam-satellite-internet-over-an-island-as-large-as-taiwan

    Tuxedo ยกเลิกโน้ตบุ๊ก Linux ที่ใช้ Snapdragon X Elite หลังเจอปัญหาหนัก
    บริษัท Tuxedo ที่เชี่ยวชาญด้านเครื่อง Linux ตัดสินใจยกเลิกการพัฒนาโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite หลังจากพยายามแก้ไขปัญหามานานถึง 18 เดือน แต่ไม่สามารถทำให้ระบบทำงานได้สมบูรณ์ ปัญหามีทั้งเรื่อง BIOS, การควบคุมพัดลม, การทำงานของ KVM virtualization และการถ่ายโอนข้อมูล USB4 ที่ไม่เสถียร ผลทดสอบยังชี้ว่าแบตเตอรี่ไม่ได้ยาวนานตามที่คาดไว้ ทำให้เครื่องไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ Linux จริงๆ บริษัทจึงเลือกหยุดโครงการและรอดูรุ่นใหม่ Snapdragon X2 Elite ว่าจะเข้ากับ Linux ได้ดีกว่าหรือไม่
    https://www.techradar.com/pro/top-linux-pc-maker-drops-plan-for-snapdragonx-elite-powered-notebook-says-hardware-was-less-suitable-than-expected

    รีวิว RedMagic 11 Pro มือถือเกมมิ่งสุดแรงในราคาคุ้มค่า
    RedMagic 11 Pro ยังคงรักษาตำแหน่งมือถือเกมมิ่งที่คุ้มค่าที่สุด ด้วยชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5 ที่เร็วสุดๆ พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและพัดลมที่ออกแบบใหม่ ทำให้เล่นเกมหนักๆ ได้อย่างลื่นไหล แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,500mAh ใช้งานได้ยาวนานหลายวัน และรองรับชาร์จไว 80W แม้จะไม่มีชาร์จไร้สาย แต่ก็ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผล จุดอ่อนคือกล้องที่ยังไม่ดีนัก โดยเฉพาะการถ่ายเซลฟี่ แต่สำหรับคนที่ต้องการมือถือเล่นเกมแรงๆ ในราคาที่ไม่ถึงพันดอลลาร์ นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุด
    https://www.techradar.com/phones/redmagic-11-pro-review

    มัลแวร์ใหม่บน macOS สร้างห่วงโซ่โจมตีที่น่าปวดหัว
    มีการค้นพบมัลแวร์รูปแบบใหม่บน macOS ที่ทำงานเป็น “chain” หรือห่วงโซ่การโจมตี โดยเริ่มจากการเจาะเข้าระบบผ่านช่องโหว่เล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยายสิทธิ์การเข้าถึงไปเรื่อยๆ จนสามารถควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ จุดน่ากังวลคือมันสามารถหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ และอาจถูกใช้โจมตีองค์กรหรือผู้ใช้ทั่วไปได้อย่างรุนแรง นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้ควรอัปเดตระบบและระวังการดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-chain-could-cause-a-major-security-headache-heres-what-we-know

    กล้อง Leica ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสถูกประมูลได้ 7.5 ล้านดอลลาร์
    Leica รุ่นพิเศษที่เคยเป็นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ถูกนำออกประมูลและสร้างสถิติใหม่ด้วยราคาสูงถึง 7.5 ล้านดอลลาร์ รายได้ทั้งหมดถูกนำไปใช้เพื่อการกุศล กล้องตัวนี้มีคุณสมบัติพิเศษถึง 7 อย่างที่ไม่เหมือนใคร เช่น การออกแบบเฉพาะตัวและวัสดุที่หายาก ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในกล้องที่มีคุณค่าทางจิตใจและประวัติศาสตร์มากที่สุดในโลก
    https://www.techradar.com/cameras/this-stunning-one-off-leica-belonging-to-the-late-pope-francis-just-raised-usd7-5-million-for-charity-here-are-its-7-unique-features

    รวมกล้องคอมแพ็กที่ดีที่สุดปี 2025 พกง่าย ใช้งานสะดวก
    TechRadar จัดอันดับกล้องคอมแพ็กที่โดดเด่นที่สุดในปี 2025 สำหรับคนที่อยากได้กล้องเล็กๆ พกพาสะดวก แต่ยังให้คุณภาพภาพถ่ายที่ดีเยี่ยม รายการนี้รวมทั้งรุ่นที่เหมาะกับนักเดินทาง, คนที่ชอบถ่ายภาพสตรีท, ไปจนถึงผู้ใช้ที่ต้องการกล้องเสริมจากสมาร์ทโฟน โดยมีทั้งรุ่นราคาประหยัดและรุ่นพรีเมียมที่เน้นคุณภาพสูงสุด
    https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/the-best-compact-cameras

    บทความเตือนใจ: อย่าเดทกับ AI เพราะมันไม่มีวันรักคุณ
    บทความเชิงความคิดเห็นชี้ให้เห็นถึงกระแสที่บางคนเริ่มมีความสัมพันธ์เชิงอารมณ์กับ AI แต่ผู้เขียนเตือนว่า AI ไม่สามารถรักหรือมีความรู้สึกแท้จริงได้ การคาดหวังให้มันเป็นคู่ชีวิตอาจทำให้คนหลงทางและเสียสมดุลในชีวิตจริง ข้อความนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปในด้านอารมณ์และความสัมพันธ์
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/please-dont-date-your-ai-because-it-will-never-love-you-or-pick-up-the-check

    Poco เปิดตัวมือถือเรือธงพร้อมซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดจิ๋ว
    Poco เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมแปลกตา คือการใส่ซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดเล็กเข้าไปในเครื่อง เพื่อให้เสียงแบบ 2.1-channel audio แม้จะเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับคนรักเสียงเบส แต่ก็มีข้อกังวลว่าการใช้งานในพื้นที่สาธารณะ เช่น บนรถบัส อาจสร้างความรำคาญให้คนรอบข้างได้ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Poco ในการสร้างความแตกต่างในตลาดมือถือที่แข่งขันสูง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/phones/poco-phones/pocos-new-flagship-phone-has-a-mini-bose-subwoofer-for-2-1-channel-audio-and-i-hope-im-not-near-one-on-the-bus
    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251127 #TechRadar 💻 รวมโน้ตบุ๊กสำหรับนักเรียนปี 2025 ถ้าเล่าให้ฟังแบบง่าย ๆ ตอนนี้ TechRadar เขาได้จัดอันดับโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับนักเรียนไว้หลายรุ่นเลย เริ่มจาก MacBook Air M3 ที่ยังคงเป็นตัวท็อปสำหรับการเรียน ใช้งานได้แรง แบตอึด และราคาก็ลดลงเพราะมีรุ่น M4 ออกมาแล้ว ต่อมาก็มี Acer Chromebook Plus 514 ที่เหมาะกับคนงบจำกัดแต่ยังได้เครื่องที่ทำงานลื่น ๆ สำหรับงานทั่วไป ส่วนใครชอบ ChromeOS รุ่น HP Chromebook Plus 15.6 ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ครบเครื่องและแบตทนดี สำหรับสายพกพา Microsoft Surface Laptop 13 น้ำหนักเบาและแบตยาวนานก็เป็นคำตอบ ส่วนสายครีเอทีฟที่ต้องใช้พลังมากขึ้น MacBook Air M4 รุ่นจอ 15 นิ้วก็ถูกยกให้เป็นเครื่องที่ตอบโจทย์งานกราฟิกและงานสร้างสรรค์ได้ดีมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/laptops/best-student-laptops 📱 Google Messages เตรียมอัปเกรดใหม่ ข่าวนี้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่มีประโยชน์ใน Google Messages ที่กำลังทดสอบอยู่ในโค้ดเบต้า อย่างแรกคือเวลาเซฟไฟล์รูปหรือวิดีโอจะมีปุ่ม “Open” ให้กดเปิดไฟล์ได้ทันที ต่อมาคือปุ่ม Gemini ที่จะใหญ่ขึ้นเพื่อให้คนใช้งานง่ายขึ้น และสุดท้ายคือการเปลี่ยนข้อความจาก “Location” เป็น “One-time Location” เพื่อให้ชัดเจนว่ามันแชร์ตำแหน่งแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่แชร์ต่อเนื่อง แม้ยังไม่แน่ว่าจะเปิดใช้จริง แต่ถ้าออกมาก็น่าจะช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/phones/google-messages-could-be-getting-3-useful-upgrades-soon-including-a-gemini-change 🔐 นักพัฒนาระวัง! เว็บจัดรูปแบบโค้ดเผยข้อมูลลับ เรื่องนี้ค่อนข้างน่ากังวล เพราะมีการพบว่าเว็บยอดนิยมอย่าง JSONFormatter และ CodeBeautify มีฟีเจอร์ “Recent Links” ที่เปิดเผยข้อมูลที่ผู้ใช้เคยอัปโหลดไว้โดยไม่ป้องกัน ทำให้ข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่าน คีย์ API หรือข้อมูลส่วนตัวหลุดออกมาได้ง่าย นักวิจัยถึงขั้นดึงข้อมูลย้อนหลังได้หลายปี และพบว่ามีทั้งข้อมูลจากหน่วยงานรัฐไปจนถึงบริษัทใหญ่ ๆ ที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตี ซึ่งตอนนี้ก็มีผู้ไม่หวังดีเริ่มทดลองใช้ช่องโหว่นี้แล้วด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/top-code-formatting-sites-are-exposing-huge-amounts-of-user-data 🤖 ธุรกิจยังติดขัดกับการทำ AI อย่างรับผิดชอบ รายงานจาก Experian ชี้ว่าผู้บริหารส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า “Responsible AI” จะเป็นตัวสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน แต่ปัญหาคือหลายบริษัทยังไม่พร้อมที่จะนำไปใช้จริง ทั้งเรื่องคุณภาพข้อมูล ความรู้ทางเทคนิค และการบาลานซ์ระหว่างนวัตกรรมกับการกำกับดูแล แม้จะมีหลักการชัดเจน เช่น ความน่าเชื่อถือ การปกป้องความเป็นส่วนตัว และการลดอคติ แต่มีเพียงครึ่งหนึ่งที่บอกว่าทีมงานพร้อมจริง ๆ นักวิเคราะห์จึงแนะนำให้เริ่มจากเล็ก ๆ ทดลองก่อน แล้วค่อยขยาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/businesses-are-struggling-to-implement-responsible-ai-but-it-could-make-all-the-difference ⚡ Claude Opus 4.5 เปิดตัวแล้ว Anthropic ปล่อยโมเดลใหม่ Claude Opus 4.5 ที่บอกว่าดีขึ้นอย่าง “มีความหมาย” ทั้งเรื่องการทำงานทั่วไปและการเขียนโค้ด จุดเด่นคือมันจัดการงานจริงได้ดีขึ้น เช่น ทำอีเมล สไลด์ หรือเอกสารได้เนียนกว่าเดิม รวมถึงแก้โจทย์ที่ซับซ้อนและทำงานหลายขั้นตอนต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังใช้พลังคำนวณน้อยลง ทำให้ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรได้ประโยชน์มากขึ้น แม้ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่การพัฒนาเร็วขนาดนี้ก็แสดงให้เห็นว่าตลาด AI กำลังโตและแข่งขันกันเข้มข้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/claude/claude-opus-4-5-is-now-live-and-meaningfully-better-at-everyday-tasks-and-coding-challenges 📱 Nothing Phone 3: สมาร์ทโฟนเรือธงที่แตกต่าง Nothing เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ Phone 3 ที่ตั้งใจจะก้าวเข้าสู่ตลาดพรีเมียมเต็มตัว ดีไซน์ยังคงความแปลกตาแบบบล็อกเหลี่ยมที่หลายคนอาจมองว่าสวยไม่เหมือนใคร แต่บางคนก็อาจรู้สึกว่ามันเทอะทะเกินไป จุดเด่นคือกล้อง 50MP ทั้งหมด 4 ตัว รวมถึงเลนส์ periscope ที่ช่วยให้ถ่ายภาพระยะไกลได้ดี แบตเตอรี่ใหญ่กว่า iPhone และ Samsung รุ่นใกล้เคียง พร้อมชาร์จเร็วกว่า จุดที่น่าสนใจคือฟีเจอร์ Glyph Matrix ที่ใช้ไฟด้านหลังมือถือแสดงข้อมูลหรือเล่นเกมเล็ก ๆ ได้ และปุ่ม Essential Key ที่ช่วยให้แคปหน้าจอหรือบันทึกวิดีโอได้ทันที ถึงแม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ราคาที่สูงขึ้นอาจทำให้แฟน ๆ รุ่นก่อนลังเล อย่างไรก็ตาม มันคือการประกาศชัดว่า Nothing อยากเป็นผู้เล่นในตลาดเรือธงจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/phones/nothing-phones/nothing-phone-3-review ☁️ AWS มีดาต้าเซ็นเตอร์มากกว่าที่คิด ข้อมูลใหม่เผยว่า Amazon Web Services (AWS) อาจมีดาต้าเซ็นเตอร์มากถึง 900 แห่งทั่วโลก ซึ่งมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้หลายเท่า การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มสูงขึ้น AWS ไม่ได้เปิดเผยจำนวนจริง แต่ยืนยันว่ามี 38 regions และ 120 availability zones พร้อมแผนลงทุนมหาศาลในหลายประเทศ เช่น อินเดียและสหรัฐฯ จุดที่น่าสนใจคือ AWS พยายามรักษาประสิทธิภาพพลังงาน โดยอ้างว่ามีค่า Power Usage Effectiveness ดีกว่าค่าเฉลี่ยโลก และโครงสร้างพื้นฐานของตนใช้พลังงานได้คุ้มค่ากว่าการทำงานแบบ on-premises หลายเท่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-says-it-has-around-900-data-centers-twice-as-many-as-previously-thought 💻 Android Desktop: ก้าวใหม่ของ Google OS Google กำลังพัฒนาโครงการ “Aluminium OS” ที่จะรวม Android เข้ากับ ChromeOS เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อปใหม่ รองรับทั้ง PC, Laptop, Tablet และ 2-in-1 จุดเด่นคือการผสาน AI เข้ามาเป็นแกนหลัก และรองรับแอป Android แบบเนทีฟโดยไม่ต้องจำลอง ทำให้การใช้งานต่อเนื่องระหว่างมือถือและเดสก์ท็อปเป็นไปอย่างราบรื่น Aluminium จะค่อย ๆ เข้ามาแทน ChromeOS แต่ยังคงอยู่คู่กันในช่วงเปลี่ยนผ่าน เป้าหมายคือการยกระดับ Chromebook และอุปกรณ์ Android ให้แข่งขันกับ Windows และ macOS ได้ในบางตลาด โดยเฉพาะด้านการศึกษาและธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/computing/desktop-pcs/android-powered-desktop-pcs-are-coming-and-i-think-theyll-be-an-exciting-step-up-from-chromeos 🔒 Ransomware โจมตีธุรกิจที่ถูกซื้อกิจการ รายงานใหม่จาก ReliaQuest เผยว่าแฮกเกอร์ที่ใช้ Akira ransomware มักเจาะเข้าธุรกิจขนาดเล็กที่ถูกซื้อกิจการ โดยใช้ช่องโหว่จากอุปกรณ์ที่ถูกละเลยหรือไม่ได้รับการแพตช์ โดยเฉพาะ SonicWall SSL VPN ที่มีบัฟเฟอร์โอเวอร์โฟลว์ร้ายแรง แม้จะมีการอัปเดตแล้ว แต่หลายองค์กรยังไม่ทันปรับปรุง ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ามาเคลื่อนไหวในระบบและเข้ารหัสข้อมูลได้ ปัญหาคือบริษัทที่ซื้อกิจการมักไม่รู้ว่ามีอุปกรณ์เสี่ยงอยู่ในเครือข่ายใหม่ ทำให้การโจมตีเกิดขึ้นง่ายและกระจายไปหลายบริษัทพร้อมกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-hackers-attack-smbs-being-acquired-to-try-and-gain-access-to-multiple-companies 🇪🇺 Chat Control: EU เห็นชอบการสแกนแชทแบบสมัครใจ หลังจากถกเถียงกันมากว่า 3 ปี สภาสหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงในกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation หรือที่ถูกเรียกว่า Chat Control โดยเปลี่ยนจากการบังคับสแกนข้อความส่วนตัวมาเป็นแบบสมัครใจ แต่ก็ยังสร้างความกังวลในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว เพราะแม้จะไม่บังคับ แต่ก็เปิดช่องให้ผู้ให้บริการแชทต้องพิจารณามาตรการป้องกันการใช้แพลตฟอร์มในทางที่ผิด และอาจถูกบังคับให้พัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับเพิ่มเติม ขณะนี้ EU เตรียมเข้าสู่การเจรจากับรัฐสภาเพื่อหาข้อสรุปสุดท้าย ซึ่งยังคงเป็นประเด็นร้อนระหว่างการปกป้องเด็กกับการรักษาสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-lawmakers-finally-agree-on-the-voluntary-scanning-of-your-private-chats 🌐 การเชื่อมต่อ AI รุ่นใหม่: ประสิทธิภาพและการติดตั้ง บทความนี้พูดถึง “Next frontier” ของการเชื่อมต่อที่พร้อมสำหรับ AI โดยเน้นการทำให้โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านการติดตั้งและการใช้งานจริง แนวคิดคือการสร้างระบบที่สามารถรองรับการประมวลผล AI ได้อย่างราบรื่น ลดความซับซ้อนในการขยายเครือข่าย และทำให้การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคุ้มค่ามากขึ้น ผู้เขียนชี้ว่าอนาคตของการสื่อสารจะไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่คือการจัดการทรัพยากรอย่างชาญฉลาดเพื่อรองรับการเติบโตของ AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-next-frontier-for-ai-ready-connectivity-efficiency-in-deployment 📱 ดีล Samsung Galaxy Tab ลดแรง TechRadar แนะนำดีลพิเศษสำหรับ Samsung Galaxy Tab ที่ช่วยประหยัดเงินได้หลายร้อยดอลลาร์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบ Android มากกว่า iPadOS โดยบทความเน้นว่าตอนนี้เป็นช่วง Black Friday ที่มีโปรโมชั่นแรงที่สุดของปี ทำให้แท็บเล็ตตระกูล Galaxy Tab กลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ทั้งในด้านราคาและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย 🔗 https://www.techradar.com/seasonal-sales/prefer-android-to-ipados-these-stellar-samsung-galaxy-tab-deals-will-save-you-hundreds-this-black-friday 🎙️ ChatGPT กับการพูดคุยเสียงที่สมจริง ผู้เขียนเล่าประสบการณ์การลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่เพิ่มการสนทนาด้วยเสียง ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนพูดคุยกับคนจริง ๆ มากขึ้น ฟีเจอร์นี้ถูกมองว่าเป็น “ชิ้นส่วนที่ขาดหายไป” ของการใช้งาน AI เพราะทำให้การโต้ตอบเป็นธรรมชาติและสะดวกกว่าเดิม แม้จะยังมีรายละเอียดที่ต้องปรับปรุง แต่โดยรวมถือว่าเป็นการพัฒนาใหญ่ที่ทำให้ AI ก้าวใกล้การใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-voice-integration-feels-like-the-missing-piece-in-ai-chat-ive-tried-it-and-its-almost-perfect 📝 Notepad บน Windows 11 ได้ฟีเจอร์ใหม่ Microsoft เพิ่มความสามารถใหม่ให้กับ Notepad ใน Windows 11 โดยรองรับการสร้างตารางและเสริมพลัง AI เข้าไป ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad ไม่ใช่แค่โปรแกรมจดบันทึกธรรมดาอีกต่อไป แต่สามารถใช้ทำงานที่ซับซ้อนขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางส่วนไม่พอใจ เพราะมองว่า Notepad ควรเป็นเครื่องมือที่เรียบง่าย ไม่ควรซับซ้อนเกินไป การเปลี่ยนแปลงนี้จึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงในชุมชนผู้ใช้ Windows 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-notepad-gets-support-for-tables-and-bolstered-ai-powers-and-not-everyones-happy 🔊 ChatGPT Voice Mode อัปเกรดครั้งใหญ่ อีกหนึ่งบทความเกี่ยวกับ ChatGPT ที่พูดถึงการอัปเกรดโหมดเสียงครั้งใหญ่ โดยสรุปว่ามี 5 สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ควรรู้ เช่น ความเป็นธรรมชาติของเสียงที่ดีขึ้น ความเร็วในการตอบสนอง และการรองรับหลายภาษา การพัฒนานี้ทำให้การใช้งาน AI ผ่านเสียงมีความสมจริงและสะดวกมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับการโต้ตอบระหว่างมนุษย์กับ AI ให้ใกล้เคียงการสนทนาจริงมากกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-voice-mode-just-got-a-major-upgrade-here-are-5-things-you-need-to-know 🏞️ อุปกรณ์ AI ของ Sam Altman ที่เหมือนกระท่อมริมทะเลสาบ แต่จริงๆ อาจเป็นการเฝ้าสอดส่อง Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ออกมาเล่าว่ากำลังสร้างอุปกรณ์ AI แบบใหม่ ที่เขาเปรียบเหมือนการนั่งพักผ่อนในกระท่อมสวยๆ ริมทะเลสาบ ให้ความสงบและเรียบง่ายกว่าการใช้สมาร์ทโฟนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่เมื่อมองลึกลงไป อุปกรณ์นี้คือการเฝ้าสังเกตชีวิตผู้ใช้ตลอดเวลา ทั้งพฤติกรรม อารมณ์ และกิจวัตรประจำวัน ซึ่งอาจหมายถึงการแลกความเป็นส่วนตัวกับความสะดวกสบาย ความสงบที่ถูกขายให้เราอาจเป็นเพียงภาพลวงตา เพราะจริงๆ แล้วคือการเปิดให้ระบบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/sam-altman-wants-his-ai-device-to-feel-like-sitting-in-the-most-beautiful-cabin-by-a-lake-but-it-sounds-more-like-endless-surveillance 💻 Intel Granite Rapids-WS หลุดข้อมูล ชี้พลังเวิร์กสเตชันระดับมหึมา มีการรั่วไหลข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel ที่ชื่อ Granite Rapids-WS ซึ่งจะใช้ซ็อกเก็ต E2 ขนาดใหญ่ รองรับพลังงานสูงถึง 350 วัตต์ และสามารถใส่แรม DDR5 ได้ถึง 2 เทราไบต์ต่อซ็อกเก็ต จุดเด่นคือจำนวนคอร์มหาศาลถึง 86 คอร์ 172 เธรด พร้อมแคช L3 ขนาดใหญ่ และ PCIe lanes มากมายเพื่อรองรับ GPU และสตอเรจหลายตัว นี่คือการตอบโต้ AMD Threadripper ในตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูง ที่เน้นงานเรนเดอร์ ซิมูเลชัน และการวิเคราะห์ข้อมูลหนักๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/did-intels-next-big-thing-in-workstations-just-leak-ahead-of-granite-rapids-launch-report-claims-this-is-whats-next-from-troubled-chipmaker 🚁 จีนจำลองการใช้โดรน 1,000 ตัวเพื่อบล็อก Starlink เหนือไต้หวัน งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยในจีนเผยการจำลองสถานการณ์ที่ใช้โดรนติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณจำนวนมหาศาล เพื่อสร้าง “เกราะแม่เหล็กไฟฟ้า” ปิดกั้นอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink เหนือไต้หวัน การทดลองชี้ว่าหากใช้โดรนราว 935 ตัวที่ทำงานประสานกัน จะสามารถทำให้พื้นที่ทั้งหมดไม่สามารถเชื่อมต่อได้ แม้ในทางปฏิบัติจะมีความยากลำบากและค่าใช้จ่ายสูง แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่น่ากังวล 🔗 https://www.techradar.com/tech/can-starlink-be-blocked-scary-chinese-simulation-shows-1-000-drones-can-jam-satellite-internet-over-an-island-as-large-as-taiwan 🖥️ Tuxedo ยกเลิกโน้ตบุ๊ก Linux ที่ใช้ Snapdragon X Elite หลังเจอปัญหาหนัก บริษัท Tuxedo ที่เชี่ยวชาญด้านเครื่อง Linux ตัดสินใจยกเลิกการพัฒนาโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite หลังจากพยายามแก้ไขปัญหามานานถึง 18 เดือน แต่ไม่สามารถทำให้ระบบทำงานได้สมบูรณ์ ปัญหามีทั้งเรื่อง BIOS, การควบคุมพัดลม, การทำงานของ KVM virtualization และการถ่ายโอนข้อมูล USB4 ที่ไม่เสถียร ผลทดสอบยังชี้ว่าแบตเตอรี่ไม่ได้ยาวนานตามที่คาดไว้ ทำให้เครื่องไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ Linux จริงๆ บริษัทจึงเลือกหยุดโครงการและรอดูรุ่นใหม่ Snapdragon X2 Elite ว่าจะเข้ากับ Linux ได้ดีกว่าหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/top-linux-pc-maker-drops-plan-for-snapdragonx-elite-powered-notebook-says-hardware-was-less-suitable-than-expected 📱 รีวิว RedMagic 11 Pro มือถือเกมมิ่งสุดแรงในราคาคุ้มค่า RedMagic 11 Pro ยังคงรักษาตำแหน่งมือถือเกมมิ่งที่คุ้มค่าที่สุด ด้วยชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5 ที่เร็วสุดๆ พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและพัดลมที่ออกแบบใหม่ ทำให้เล่นเกมหนักๆ ได้อย่างลื่นไหล แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,500mAh ใช้งานได้ยาวนานหลายวัน และรองรับชาร์จไว 80W แม้จะไม่มีชาร์จไร้สาย แต่ก็ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผล จุดอ่อนคือกล้องที่ยังไม่ดีนัก โดยเฉพาะการถ่ายเซลฟี่ แต่สำหรับคนที่ต้องการมือถือเล่นเกมแรงๆ ในราคาที่ไม่ถึงพันดอลลาร์ นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุด 🔗 https://www.techradar.com/phones/redmagic-11-pro-review 🔒 มัลแวร์ใหม่บน macOS สร้างห่วงโซ่โจมตีที่น่าปวดหัว มีการค้นพบมัลแวร์รูปแบบใหม่บน macOS ที่ทำงานเป็น “chain” หรือห่วงโซ่การโจมตี โดยเริ่มจากการเจาะเข้าระบบผ่านช่องโหว่เล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยายสิทธิ์การเข้าถึงไปเรื่อยๆ จนสามารถควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ จุดน่ากังวลคือมันสามารถหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ และอาจถูกใช้โจมตีองค์กรหรือผู้ใช้ทั่วไปได้อย่างรุนแรง นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้ควรอัปเดตระบบและระวังการดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-chain-could-cause-a-major-security-headache-heres-what-we-know 📸 กล้อง Leica ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสถูกประมูลได้ 7.5 ล้านดอลลาร์ Leica รุ่นพิเศษที่เคยเป็นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ถูกนำออกประมูลและสร้างสถิติใหม่ด้วยราคาสูงถึง 7.5 ล้านดอลลาร์ รายได้ทั้งหมดถูกนำไปใช้เพื่อการกุศล กล้องตัวนี้มีคุณสมบัติพิเศษถึง 7 อย่างที่ไม่เหมือนใคร เช่น การออกแบบเฉพาะตัวและวัสดุที่หายาก ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในกล้องที่มีคุณค่าทางจิตใจและประวัติศาสตร์มากที่สุดในโลก 🔗 https://www.techradar.com/cameras/this-stunning-one-off-leica-belonging-to-the-late-pope-francis-just-raised-usd7-5-million-for-charity-here-are-its-7-unique-features 📷 รวมกล้องคอมแพ็กที่ดีที่สุดปี 2025 พกง่าย ใช้งานสะดวก TechRadar จัดอันดับกล้องคอมแพ็กที่โดดเด่นที่สุดในปี 2025 สำหรับคนที่อยากได้กล้องเล็กๆ พกพาสะดวก แต่ยังให้คุณภาพภาพถ่ายที่ดีเยี่ยม รายการนี้รวมทั้งรุ่นที่เหมาะกับนักเดินทาง, คนที่ชอบถ่ายภาพสตรีท, ไปจนถึงผู้ใช้ที่ต้องการกล้องเสริมจากสมาร์ทโฟน โดยมีทั้งรุ่นราคาประหยัดและรุ่นพรีเมียมที่เน้นคุณภาพสูงสุด 🔗 https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/the-best-compact-cameras 🤖 บทความเตือนใจ: อย่าเดทกับ AI เพราะมันไม่มีวันรักคุณ บทความเชิงความคิดเห็นชี้ให้เห็นถึงกระแสที่บางคนเริ่มมีความสัมพันธ์เชิงอารมณ์กับ AI แต่ผู้เขียนเตือนว่า AI ไม่สามารถรักหรือมีความรู้สึกแท้จริงได้ การคาดหวังให้มันเป็นคู่ชีวิตอาจทำให้คนหลงทางและเสียสมดุลในชีวิตจริง ข้อความนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปในด้านอารมณ์และความสัมพันธ์ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/please-dont-date-your-ai-because-it-will-never-love-you-or-pick-up-the-check 🔊 Poco เปิดตัวมือถือเรือธงพร้อมซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดจิ๋ว Poco เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมแปลกตา คือการใส่ซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดเล็กเข้าไปในเครื่อง เพื่อให้เสียงแบบ 2.1-channel audio แม้จะเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับคนรักเสียงเบส แต่ก็มีข้อกังวลว่าการใช้งานในพื้นที่สาธารณะ เช่น บนรถบัส อาจสร้างความรำคาญให้คนรอบข้างได้ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Poco ในการสร้างความแตกต่างในตลาดมือถือที่แข่งขันสูง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/phones/poco-phones/pocos-new-flagship-phone-has-a-mini-bose-subwoofer-for-2-1-channel-audio-and-i-hope-im-not-near-one-on-the-bus
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251127 #securityonline

    Meta ถูกกล่าวหาปกปิดข้อมูลภายในที่ชี้ว่า Facebook ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล
    เรื่องนี้เริ่มจากเอกสารในคดีฟ้องร้องแบบกลุ่มที่โรงเรียนหลายแห่งในสหรัฐฯ ยื่นต่อบริษัทโซเชียลมีเดีย โดยมีการเปิดเผยว่า Meta เคยทำการศึกษาในโครงการชื่อ Project Mercury ร่วมกับบริษัท Nielsen ตั้งแต่ปี 2020 ผลการวิจัยพบว่าการเลิกใช้ Facebook ช่วยลดความรู้สึกซึมเศร้า วิตกกังวล และความเหงา แต่ Meta กลับหยุดการศึกษาและไม่เผยแพร่ผลลัพธ์ โดยอ้างว่าเป็นข้อมูลที่มีอคติและถูกกระทบจากกระแสสื่อ ขณะเดียวกันมีเสียงจากนักวิจัยภายในที่เปรียบเทียบการกระทำนี้เหมือนกับอุตสาหกรรมบุหรี่ที่เคยปกปิดผลวิจัยเรื่องอันตรายของการสูบบุหรี่ ปัจจุบันคดีนี้กำลังเข้าสู่การพิจารณาในศาล และสะท้อนถึงความไม่ไว้วางใจที่รัฐบาลทั่วโลกมีต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี
    https://securityonline.info/meta-accused-of-hiding-internal-data-showing-facebook-causes-depression-anxiety

    Tor Project พัฒนาอัลกอริทึมเข้ารหัสใหม่ CGO แทน Tor1 ที่มีช่องโหว่
    เครือข่าย Tor ที่ใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานนั้น แม้จะมีชื่อเสียงด้านการรักษาความลับ แต่ก็ไม่ปลอดภัยเสมอไป โดยโปรโตคอลเก่า Tor1 มีช่องโหว่สำคัญ เช่น การโจมตีแบบ tagging attack ที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถติดตามเส้นทางข้อมูลได้ อีกทั้งยังมีการใช้คีย์ AES ซ้ำและตัวตรวจสอบที่อ่อนแอ เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ Tor Project จึงพัฒนาอัลกอริทึมใหม่ชื่อ Counter Galois Onion (CGO) ที่เมื่อมีการพยายามแก้ไขข้อมูล ข้อความทั้งหมดในเส้นทางนั้นจะเสียหายทันที ทำให้การโจมตีแทบเป็นไปไม่ได้ แม้จะยังไม่มีตารางเวลาชัดเจนในการนำมาใช้กับ Tor Browser แต่ทีมงานกำลังปรับปรุงให้เหมาะกับ CPU รุ่นใหม่
    https://securityonline.info/tor-project-develops-new-cgo-encryption-to-replace-vulnerable-tor1-protocol

    PoC Exploit สำหรับช่องโหว่ Windows NTLM Elevation of Privilege ถูกเผยแพร่แล้ว
    มีการเปิดเผยโค้ดตัวอย่างการโจมตี (PoC Exploit) ที่เจาะช่องโหว่ในระบบ NTLM ของ Windows ซึ่งสามารถนำไปสู่การยกระดับสิทธิ์การเข้าถึงได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ Channel Binding และ LDAPS โดยเนื้อหาละเอียดถูกจำกัดให้เฉพาะผู้สนับสนุนที่ลงทะเบียนเท่านั้น แต่การที่ PoC ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะถือเป็นสัญญาณเตือนว่าผู้โจมตีอาจนำไปใช้จริงได้
    https://securityonline.info/poc-exploit-releases-for-windows-ntlm-elevation-of-privilege-vulnerability

    NVIDIA ออกแพตช์ด่วนแก้ช่องโหว่ร้ายแรงใน DGX Spark เสี่ยงถูกยึดระบบ
    AI NVIDIA ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยสำหรับแพลตฟอร์ม DGX Spark ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ขนาดกะทัดรัดที่ใช้ในงานวิจัยและพัฒนา โดยมีช่องโหว่รวม 14 รายการ หนึ่งในนั้นคือ CVE-2025-33187 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.3 ช่องโหว่นี้อยู่ในส่วน SROOT ทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ระดับสูงสามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ปกป้องโดยชิป SoC และควบคุมระบบได้อย่างสมบูรณ์ หากไม่อัปเดตทันที ข้อมูลวิจัยและโมเดล AI อาจถูกขโมยหรือแก้ไขโดยไม่รู้ตัว NVIDIA แนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดต DGX Spark ไปยังเวอร์ชัน OTA0 โดยเร็วที่สุด
    https://securityonline.info/critical-patch-nvidia-dgx-spark-flaw-cve-2025-33187-cvss-9-3-exposes-ai-secrets-to-takeover

    WormGPT 4 และ KawaiiGPT: AI ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมืออาชญากรรมไซเบอร์
    รายงานจาก Unit 42 เปิดเผยว่าโมเดล AI ที่ควรใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ กลับถูกนำไปใช้สร้างภัยคุกคาม WormGPT 4 ถูกโฆษณาในฟอรั่มใต้ดินว่าเป็น “AI ที่ไร้ข้อจำกัด” สามารถสร้างมัลแวร์และสคริปต์เรียกค่าไถ่ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเขียนโน้ตข่มขู่ที่ทำให้เหยื่อหวาดกลัว ส่วน KawaiiGPT ถูกนำเสนอในรูปแบบ “Waifu pentesting” ที่ดูน่ารักแต่จริง ๆ แล้วสามารถสร้างอีเมลฟิชชิ่งและสคริปต์โจมตีได้ง่ายมาก ทั้งสองโมเดลนี้ทำให้การโจมตีไซเบอร์เข้าถึงได้แม้แต่ผู้ที่ไม่มีทักษะสูง สะท้อนถึงการ “ทำให้อาชญากรรมไซเบอร์เป็นประชาธิปไตย” ที่ใครก็สามารถโจมตีได้เพียงแค่พิมพ์คำสั่ง
    https://securityonline.info/silent-fast-brutal-how-wormgpt-4-and-kawaiigpt-democratize-cybercrime

    Anthropic เปิดตัว Opus 4.5: AI สำหรับองค์กรที่เชื่อม Excel และแชทได้ไม่สิ้นสุด
    Anthropic ได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ของโมเดล AI ชื่อ Opus 4.5 ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในระดับองค์กร จุดเด่นคือสามารถเชื่อมต่อกับ Excel ได้โดยตรง ทำให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างรายงานได้อย่างอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ “Infinite Chat” ที่ช่วยให้การสนทนากับ AI ต่อเนื่องได้ไม่จำกัด ไม่ต้องเริ่มใหม่ทุกครั้งที่หมด session ถือเป็นการยกระดับการใช้งาน AI ให้เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องและการจัดการข้อมูลจำนวนมาก
    https://securityonline.info/anthropic-unleashes-opus-4-5-excel-integration-infinite-chat-for-enterprise-ai

    Perplexity เปิดตัว AI Shopping พร้อม PayPal Instant Buy และค้นหาสินค้าแบบเฉพาะบุคคล
    Perplexity กำลังขยายขอบเขตการใช้งาน AI จากการค้นหาข้อมูลไปสู่การช้อปปิ้งออนไลน์ โดยเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าผ่าน PayPal ได้ทันที (Instant Buy) และยังมีระบบค้นหาสินค้าแบบ Personalized ที่ปรับตามความสนใจและพฤติกรรมของผู้ใช้ จุดนี้ทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์สะดวกขึ้นและตรงใจมากขึ้น ถือเป็นการผสมผสานระหว่าง AI และอีคอมเมิร์ซที่น่าจับตามอง
    https://securityonline.info/perplexity-launches-ai-shopping-with-paypal-instant-buy-personalized-product-search

    Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 8 Gen 5: CPU เร็วขึ้น 36% และพลัง AI เพิ่มขึ้น 46%
    Qualcomm ได้เปิดตัวชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Snapdragon 8 Gen 5 ที่มาพร้อมกับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทั้งด้านความเร็วของ CPU ที่เพิ่มขึ้น 36% และพลังการประมวลผล AI ที่มากขึ้นถึง 46% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า จุดเด่นอีกอย่างคือการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เหมาะกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่จะออกในปีหน้า ซึ่งจะรองรับการใช้งานที่หนักหน่วงทั้งเกมและงานด้าน AI ได้อย่างลื่นไหล
    https://securityonline.info/qualcomm-unveils-snapdragon-8-gen-5-36-faster-cpu-46-more-ai-power

    INE ขยายการเรียนรู้แบบ Cross-Skilling เพื่อเพิ่มทักษะหลากหลายให้ผู้เรียน
    INE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่เน้นการ Cross-Skilling หรือการเรียนรู้ทักษะข้ามสาขา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะที่หลากหลายและนำไปใช้ในงานจริงได้มากขึ้น แนวทางนี้ตอบโจทย์ตลาดแรงงานที่ต้องการคนที่มีความสามารถหลายด้าน ไม่จำกัดอยู่แค่สายงานเดียว ถือเป็นการปรับตัวของแพลตฟอร์มการศึกษาให้เข้ากับโลกการทำงานยุคใหม่
    https://securityonline.info/ine-expands-cross-skilling-innovations

    GitLab ออกแพตช์แก้ช่องโหว่ร้ายแรง ทั้ง DoS และการขโมย Credential ใน CI/CD
    GitLab ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยล่าสุดที่แก้ไขช่องโหว่หลายรายการ ทั้งการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ที่ไม่ต้องล็อกอินก็ทำได้ และช่องโหว่ที่ทำให้ผู้ใช้ระดับต่ำสามารถขโมย Credential ของผู้ใช้ระดับสูงในระบบ CI/CD ได้ นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ด้านการ bypass authentication และการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ควรเข้าถึง GitLab แนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตไปยังเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
    https://securityonline.info/gitlab-patch-fixes-ci-cd-credential-theft-unauthenticated-dos-attacks

    Hidden Theft: ส่วนขยาย Chrome “Crypto Copilot” ดูดเงินจากกระเป๋า Solana
    เรื่องนี้เริ่มจากนักเทรดคริปโตที่อยากได้ความสะดวกในการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์ม X จึงติดตั้งส่วนขยาย Chrome ที่ชื่อว่า Crypto Copilot ซึ่งโฆษณาว่าสามารถทำให้การเทรดรวดเร็วขึ้น แต่เบื้องหลังกลับเป็นกับดักที่ซ่อนการโอนเงินไปยังกระเป๋าของแฮกเกอร์โดยอัตโนมัติ ทุกครั้งที่ผู้ใช้ทำการ swap เหรียญ ระบบจะเพิ่มคำสั่งลับที่โอนเงินส่วนหนึ่งไปยังที่อยู่กระเป๋าที่ถูกควบคุมโดยผู้โจมตี โดยที่หน้าจอผู้ใช้ไม่แสดงให้เห็นเลย ทำให้หลายคนสูญเสียเงินไปโดยไม่รู้ตัว ปัจจุบันส่วนขยายนี้ยังคงอยู่บน Chrome Web Store และนักวิจัยได้ส่งคำร้องให้ Google ลบออกแล้ว
    https://securityonline.info/hidden-theft-crypto-copilot-chrome-extension-drains-solana-wallets-on-x

    Critical Ray AI Flaw: ช่องโหว่ร้ายแรงใน Ray Framework ผ่าน Safari และ Firefox
    Ray เป็นเฟรมเวิร์กโอเพ่นซอร์สที่นักพัฒนาใช้ในการทำงานด้าน Machine Learning แต่ล่าสุดพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดอันตรายบนเครื่องของนักพัฒนาได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการตรวจสอบ User-Agent ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้เทคนิค DNS Rebinding หลอกเบราว์เซอร์ Safari และ Firefox ให้ส่งคำสั่งไปยัง Ray Dashboard ที่รันอยู่ในเครื่องของเหยื่อ ผลลัพธ์คือโค้ดอันตรายสามารถถูกประมวลผลได้ทันที ทีมงาน Ray ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 2.52.0 และแนะนำให้อัปเดตโดยด่วนเพื่อป้องกันความเสี่ยง
    https://securityonline.info/critical-ray-ai-flaw-exposes-devs-via-safari-firefox-cve-2025-62593

    Water Gamayun Weaponizes “MSC EvilTwin”: กลุ่ม APT รัสเซียใช้ช่องโหว่ Windows เจาะระบบ
    กลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเชื่อมโยงกับรัสเซียชื่อ Water Gamayun ถูกเปิดโปงว่ากำลังใช้ช่องโหว่ใหม่ใน Microsoft Management Console (MMC) ที่เรียกว่า “MSC EvilTwin” เพื่อเจาะระบบองค์กรที่มีมูลค่าสูง วิธีการคือหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วเป็น payload ที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกใช้ช่องโหว่เพื่อรัน PowerShell ลับและติดตั้งมัลแวร์ต่อเนื่อง เป้าหมายของกลุ่มนี้คือการขโมยข้อมูลเชิงกลยุทธ์และสร้างช่องทางเข้าถึงระบบอย่างยาวนาน
    https://securityonline.info/water-gamayun-weaponizes-msc-eviltwin-zero-day-for-stealthy-backdoor-attacks

    Fragging Your Data: มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Crack และ Trainer ของ Battlefield 6
    การเปิดตัวเกม Battlefield 6 กลายเป็นโอกาสทองของอาชญากรไซเบอร์ พวกเขาปล่อยไฟล์ “Crack” และ “Trainer” ปลอมบนเว็บแชร์ไฟล์และฟอรั่มใต้ดิน โดยอ้างว่าเป็นผลงานของกลุ่มแคร็กชื่อดัง แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลผู้ใช้ เช่น กระเป๋าเงินคริปโต คุกกี้เบราว์เซอร์ และโทเคน Discord บางเวอร์ชันยังซ่อนตัวเก่ง ตรวจสอบสภาพแวดล้อมก่อนทำงาน และบางตัวทำหน้าที่เป็น backdoor ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยเตือนว่าผู้เล่นที่ดาวน์โหลดไฟล์เหล่านี้ควรรีบสแกนเครื่องและเปลี่ยนรหัสผ่านทันที
    https://securityonline.info/fragging-your-data-fake-battlefield-6-cracks-trainers-spread-infostealers

    Hidden Danger in 3D: ไฟล์ Blender ปลอมแพร่กระจาย StealC V2 Infostealer
    วงการนักออกแบบ 3D และเกมถูกโจมตีด้วยวิธีใหม่ แฮกเกอร์ปล่อยไฟล์โมเดล 3D ที่ดูเหมือนงานจริง เช่น โมเดลชุดอวกาศ Apollo 11 แต่ภายในฝังสคริปต์ Python อันตราย เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ใน Blender และเปิดใช้งาน Auto Run Python Scripts มัลแวร์จะทำงานทันทีโดยไม่รู้ตัว จากนั้นจะดาวน์โหลด payload ต่อเนื่องและติดตั้ง StealC V2 ซึ่งเป็น infostealer ที่สามารถดูดข้อมูลจากเบราว์เซอร์ กระเป๋าเงินคริปโต และแอปต่าง ๆ เช่น Discord หรือ Telegram จุดอันตรายคือไฟล์เหล่านี้ตรวจจับได้ยากมากในระบบป้องกันทั่วไป ทำให้ผู้ใช้ต้องระวังเป็นพิเศษ
    https://securityonline.info/hidden-danger-in-3d-malicious-blender-files-unleash-stealc-v2-infostealer

    Zero-Day Warning: ช่องโหว่ Twonky Server เปิดทางยึดระบบสื่อ
    มีการค้นพบช่องโหว่ใหม่ใน Twonky Server ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับสตรีมสื่อในบ้านและองค์กร ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมระบบได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษ เมื่อผู้ใช้เปิดใช้งานเซิร์ฟเวอร์ที่ยังไม่ได้แพตช์ แฮกเกอร์สามารถส่งคำสั่งจากระยะไกลเพื่อเข้าถึงไฟล์สื่อและแม้กระทั่งติดตั้งมัลแวร์เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลและความเป็นส่วนตัวอย่างมาก
    https://securityonline.info/zero-day-warning-unpatched-twonky-server-flaws-expose-media-to-total-takeover

    UNMASKED: การรั่วไหลครั้งใหญ่เปิดโปงหน่วยไซเบอร์ “Department 40” ของอิหร่าน
    มีการเปิดเผยข้อมูลครั้งใหญ่ที่แสดงให้เห็นการทำงานของหน่วยไซเบอร์ลับในอิหร่านที่ชื่อว่า Department 40 ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ระดับโลก เอกสารที่รั่วไหลออกมาเผยให้เห็นโครงสร้างการทำงาน วิธีการโจมตี และเป้าหมายที่พวกเขาใช้ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือที่ซับซ้อนเพื่อเจาะระบบขององค์กรและรัฐบาลต่างประเทศ การเปิดโปงครั้งนี้ทำให้หลายประเทศเริ่มตรวจสอบและเพิ่มมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/unmasked-massive-leak-exposes-irans-department-40-cyber-terror-unit

    Angular Alert: ช่องโหว่ Protocol-Relative URLs ทำให้ XSRF Tokens รั่วไหล
    นักวิจัยพบว่าการใช้ URL แบบ protocol-relative ใน Angular สามารถทำให้โทเคน XSRF รั่วไหลไปยังโดเมนที่ไม่ปลอดภัยได้ ช่องโหว่นี้อาจถูกใช้เพื่อขโมย session และเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ปัญหานี้เกิดจากการที่เฟรมเวิร์กไม่ได้ตรวจสอบเส้นทาง URL อย่างเข้มงวดพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างลิงก์ที่ดูเหมือนปลอดภัยแต่จริง ๆ แล้วส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยแฮกเกอร์
    https://securityonline.info/angular-alert-protocol-relative-urls-leak-xsrf-tokens-cve-2025-66035

    Holiday Heist: ร้านค้าออนไลน์ปลอมกว่า 200,000 แห่งโจมตี Black Friday
    ในช่วง Black Friday มีการตรวจพบร้านค้าออนไลน์ปลอมกว่า 200,000 แห่งที่เลียนแบบ Amazon และแพลตฟอร์มช้อปปิ้งชื่อดังอื่น ๆ เว็บไซต์เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อหลอกให้ผู้ซื้อกรอกข้อมูลบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว โดยใช้ดีไซน์และโลโก้ที่เหมือนจริงมาก ผู้ใช้ที่ไม่ทันระวังอาจสูญเสียเงินและข้อมูลไปโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยเตือนว่าควรตรวจสอบ URL และรีวิวร้านค้าให้ละเอียดก่อนทำการซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลลดราคา
    https://securityonline.info/holiday-heist-200000-fake-shops-amazon-clones-target-black-friday

    Security Alert: ช่องโหว่ Stored XSS ใน Apache SkyWalking
    Apache SkyWalking ซึ่งเป็นระบบ APM ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการตรวจสอบและติดตามระบบแบบ distributed พบช่องโหว่ Stored XSS ที่อันตรายมาก เพราะโค้ดอันตรายจะถูกบันทึกถาวรในเซิร์ฟเวอร์และทำงานทุกครั้งที่ผู้ดูแลเปิดหน้า dashboard ช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้เพื่อขโมย session cookies, redirect ผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อันตราย หรือแม้กระทั่งแก้ไขข้อมูลการแสดงผลเพื่อปกปิดกิจกรรมที่ผิดปกติ ทีมงาน Apache ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 10.3.0 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที
    https://securityonline.info/security-alert-apache-skywalking-stored-xss-vulnerability-cve-2025-54057

    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251127 #securityonline 📰 Meta ถูกกล่าวหาปกปิดข้อมูลภายในที่ชี้ว่า Facebook ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล เรื่องนี้เริ่มจากเอกสารในคดีฟ้องร้องแบบกลุ่มที่โรงเรียนหลายแห่งในสหรัฐฯ ยื่นต่อบริษัทโซเชียลมีเดีย โดยมีการเปิดเผยว่า Meta เคยทำการศึกษาในโครงการชื่อ Project Mercury ร่วมกับบริษัท Nielsen ตั้งแต่ปี 2020 ผลการวิจัยพบว่าการเลิกใช้ Facebook ช่วยลดความรู้สึกซึมเศร้า วิตกกังวล และความเหงา แต่ Meta กลับหยุดการศึกษาและไม่เผยแพร่ผลลัพธ์ โดยอ้างว่าเป็นข้อมูลที่มีอคติและถูกกระทบจากกระแสสื่อ ขณะเดียวกันมีเสียงจากนักวิจัยภายในที่เปรียบเทียบการกระทำนี้เหมือนกับอุตสาหกรรมบุหรี่ที่เคยปกปิดผลวิจัยเรื่องอันตรายของการสูบบุหรี่ ปัจจุบันคดีนี้กำลังเข้าสู่การพิจารณาในศาล และสะท้อนถึงความไม่ไว้วางใจที่รัฐบาลทั่วโลกมีต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี 🔗 https://securityonline.info/meta-accused-of-hiding-internal-data-showing-facebook-causes-depression-anxiety 🔐 Tor Project พัฒนาอัลกอริทึมเข้ารหัสใหม่ CGO แทน Tor1 ที่มีช่องโหว่ เครือข่าย Tor ที่ใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานนั้น แม้จะมีชื่อเสียงด้านการรักษาความลับ แต่ก็ไม่ปลอดภัยเสมอไป โดยโปรโตคอลเก่า Tor1 มีช่องโหว่สำคัญ เช่น การโจมตีแบบ tagging attack ที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถติดตามเส้นทางข้อมูลได้ อีกทั้งยังมีการใช้คีย์ AES ซ้ำและตัวตรวจสอบที่อ่อนแอ เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ Tor Project จึงพัฒนาอัลกอริทึมใหม่ชื่อ Counter Galois Onion (CGO) ที่เมื่อมีการพยายามแก้ไขข้อมูล ข้อความทั้งหมดในเส้นทางนั้นจะเสียหายทันที ทำให้การโจมตีแทบเป็นไปไม่ได้ แม้จะยังไม่มีตารางเวลาชัดเจนในการนำมาใช้กับ Tor Browser แต่ทีมงานกำลังปรับปรุงให้เหมาะกับ CPU รุ่นใหม่ 🔗 https://securityonline.info/tor-project-develops-new-cgo-encryption-to-replace-vulnerable-tor1-protocol ⚠️ PoC Exploit สำหรับช่องโหว่ Windows NTLM Elevation of Privilege ถูกเผยแพร่แล้ว มีการเปิดเผยโค้ดตัวอย่างการโจมตี (PoC Exploit) ที่เจาะช่องโหว่ในระบบ NTLM ของ Windows ซึ่งสามารถนำไปสู่การยกระดับสิทธิ์การเข้าถึงได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ Channel Binding และ LDAPS โดยเนื้อหาละเอียดถูกจำกัดให้เฉพาะผู้สนับสนุนที่ลงทะเบียนเท่านั้น แต่การที่ PoC ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะถือเป็นสัญญาณเตือนว่าผู้โจมตีอาจนำไปใช้จริงได้ 🔗 https://securityonline.info/poc-exploit-releases-for-windows-ntlm-elevation-of-privilege-vulnerability 💻 NVIDIA ออกแพตช์ด่วนแก้ช่องโหว่ร้ายแรงใน DGX Spark เสี่ยงถูกยึดระบบ AI NVIDIA ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยสำหรับแพลตฟอร์ม DGX Spark ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ขนาดกะทัดรัดที่ใช้ในงานวิจัยและพัฒนา โดยมีช่องโหว่รวม 14 รายการ หนึ่งในนั้นคือ CVE-2025-33187 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.3 ช่องโหว่นี้อยู่ในส่วน SROOT ทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ระดับสูงสามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ปกป้องโดยชิป SoC และควบคุมระบบได้อย่างสมบูรณ์ หากไม่อัปเดตทันที ข้อมูลวิจัยและโมเดล AI อาจถูกขโมยหรือแก้ไขโดยไม่รู้ตัว NVIDIA แนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดต DGX Spark ไปยังเวอร์ชัน OTA0 โดยเร็วที่สุด 🔗 https://securityonline.info/critical-patch-nvidia-dgx-spark-flaw-cve-2025-33187-cvss-9-3-exposes-ai-secrets-to-takeover 🕵️‍♂️ WormGPT 4 และ KawaiiGPT: AI ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมืออาชญากรรมไซเบอร์ รายงานจาก Unit 42 เปิดเผยว่าโมเดล AI ที่ควรใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ กลับถูกนำไปใช้สร้างภัยคุกคาม WormGPT 4 ถูกโฆษณาในฟอรั่มใต้ดินว่าเป็น “AI ที่ไร้ข้อจำกัด” สามารถสร้างมัลแวร์และสคริปต์เรียกค่าไถ่ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเขียนโน้ตข่มขู่ที่ทำให้เหยื่อหวาดกลัว ส่วน KawaiiGPT ถูกนำเสนอในรูปแบบ “Waifu pentesting” ที่ดูน่ารักแต่จริง ๆ แล้วสามารถสร้างอีเมลฟิชชิ่งและสคริปต์โจมตีได้ง่ายมาก ทั้งสองโมเดลนี้ทำให้การโจมตีไซเบอร์เข้าถึงได้แม้แต่ผู้ที่ไม่มีทักษะสูง สะท้อนถึงการ “ทำให้อาชญากรรมไซเบอร์เป็นประชาธิปไตย” ที่ใครก็สามารถโจมตีได้เพียงแค่พิมพ์คำสั่ง 🔗 https://securityonline.info/silent-fast-brutal-how-wormgpt-4-and-kawaiigpt-democratize-cybercrime 📊 Anthropic เปิดตัว Opus 4.5: AI สำหรับองค์กรที่เชื่อม Excel และแชทได้ไม่สิ้นสุด Anthropic ได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ของโมเดล AI ชื่อ Opus 4.5 ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในระดับองค์กร จุดเด่นคือสามารถเชื่อมต่อกับ Excel ได้โดยตรง ทำให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างรายงานได้อย่างอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ “Infinite Chat” ที่ช่วยให้การสนทนากับ AI ต่อเนื่องได้ไม่จำกัด ไม่ต้องเริ่มใหม่ทุกครั้งที่หมด session ถือเป็นการยกระดับการใช้งาน AI ให้เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องและการจัดการข้อมูลจำนวนมาก 🔗 https://securityonline.info/anthropic-unleashes-opus-4-5-excel-integration-infinite-chat-for-enterprise-ai 🛒 Perplexity เปิดตัว AI Shopping พร้อม PayPal Instant Buy และค้นหาสินค้าแบบเฉพาะบุคคล Perplexity กำลังขยายขอบเขตการใช้งาน AI จากการค้นหาข้อมูลไปสู่การช้อปปิ้งออนไลน์ โดยเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าผ่าน PayPal ได้ทันที (Instant Buy) และยังมีระบบค้นหาสินค้าแบบ Personalized ที่ปรับตามความสนใจและพฤติกรรมของผู้ใช้ จุดนี้ทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์สะดวกขึ้นและตรงใจมากขึ้น ถือเป็นการผสมผสานระหว่าง AI และอีคอมเมิร์ซที่น่าจับตามอง 🔗 https://securityonline.info/perplexity-launches-ai-shopping-with-paypal-instant-buy-personalized-product-search ⚡ Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 8 Gen 5: CPU เร็วขึ้น 36% และพลัง AI เพิ่มขึ้น 46% Qualcomm ได้เปิดตัวชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Snapdragon 8 Gen 5 ที่มาพร้อมกับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทั้งด้านความเร็วของ CPU ที่เพิ่มขึ้น 36% และพลังการประมวลผล AI ที่มากขึ้นถึง 46% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า จุดเด่นอีกอย่างคือการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เหมาะกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่จะออกในปีหน้า ซึ่งจะรองรับการใช้งานที่หนักหน่วงทั้งเกมและงานด้าน AI ได้อย่างลื่นไหล 🔗 https://securityonline.info/qualcomm-unveils-snapdragon-8-gen-5-36-faster-cpu-46-more-ai-power 🎓 INE ขยายการเรียนรู้แบบ Cross-Skilling เพื่อเพิ่มทักษะหลากหลายให้ผู้เรียน INE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่เน้นการ Cross-Skilling หรือการเรียนรู้ทักษะข้ามสาขา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะที่หลากหลายและนำไปใช้ในงานจริงได้มากขึ้น แนวทางนี้ตอบโจทย์ตลาดแรงงานที่ต้องการคนที่มีความสามารถหลายด้าน ไม่จำกัดอยู่แค่สายงานเดียว ถือเป็นการปรับตัวของแพลตฟอร์มการศึกษาให้เข้ากับโลกการทำงานยุคใหม่ 🔗 https://securityonline.info/ine-expands-cross-skilling-innovations 🛡️ GitLab ออกแพตช์แก้ช่องโหว่ร้ายแรง ทั้ง DoS และการขโมย Credential ใน CI/CD GitLab ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยล่าสุดที่แก้ไขช่องโหว่หลายรายการ ทั้งการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ที่ไม่ต้องล็อกอินก็ทำได้ และช่องโหว่ที่ทำให้ผู้ใช้ระดับต่ำสามารถขโมย Credential ของผู้ใช้ระดับสูงในระบบ CI/CD ได้ นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ด้านการ bypass authentication และการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ควรเข้าถึง GitLab แนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตไปยังเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น 🔗 https://securityonline.info/gitlab-patch-fixes-ci-cd-credential-theft-unauthenticated-dos-attacks 🕵️‍♂️ Hidden Theft: ส่วนขยาย Chrome “Crypto Copilot” ดูดเงินจากกระเป๋า Solana เรื่องนี้เริ่มจากนักเทรดคริปโตที่อยากได้ความสะดวกในการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์ม X จึงติดตั้งส่วนขยาย Chrome ที่ชื่อว่า Crypto Copilot ซึ่งโฆษณาว่าสามารถทำให้การเทรดรวดเร็วขึ้น แต่เบื้องหลังกลับเป็นกับดักที่ซ่อนการโอนเงินไปยังกระเป๋าของแฮกเกอร์โดยอัตโนมัติ ทุกครั้งที่ผู้ใช้ทำการ swap เหรียญ ระบบจะเพิ่มคำสั่งลับที่โอนเงินส่วนหนึ่งไปยังที่อยู่กระเป๋าที่ถูกควบคุมโดยผู้โจมตี โดยที่หน้าจอผู้ใช้ไม่แสดงให้เห็นเลย ทำให้หลายคนสูญเสียเงินไปโดยไม่รู้ตัว ปัจจุบันส่วนขยายนี้ยังคงอยู่บน Chrome Web Store และนักวิจัยได้ส่งคำร้องให้ Google ลบออกแล้ว 🔗 https://securityonline.info/hidden-theft-crypto-copilot-chrome-extension-drains-solana-wallets-on-x 💻 Critical Ray AI Flaw: ช่องโหว่ร้ายแรงใน Ray Framework ผ่าน Safari และ Firefox Ray เป็นเฟรมเวิร์กโอเพ่นซอร์สที่นักพัฒนาใช้ในการทำงานด้าน Machine Learning แต่ล่าสุดพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดอันตรายบนเครื่องของนักพัฒนาได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการตรวจสอบ User-Agent ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้เทคนิค DNS Rebinding หลอกเบราว์เซอร์ Safari และ Firefox ให้ส่งคำสั่งไปยัง Ray Dashboard ที่รันอยู่ในเครื่องของเหยื่อ ผลลัพธ์คือโค้ดอันตรายสามารถถูกประมวลผลได้ทันที ทีมงาน Ray ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 2.52.0 และแนะนำให้อัปเดตโดยด่วนเพื่อป้องกันความเสี่ยง 🔗 https://securityonline.info/critical-ray-ai-flaw-exposes-devs-via-safari-firefox-cve-2025-62593 🎯 Water Gamayun Weaponizes “MSC EvilTwin”: กลุ่ม APT รัสเซียใช้ช่องโหว่ Windows เจาะระบบ กลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเชื่อมโยงกับรัสเซียชื่อ Water Gamayun ถูกเปิดโปงว่ากำลังใช้ช่องโหว่ใหม่ใน Microsoft Management Console (MMC) ที่เรียกว่า “MSC EvilTwin” เพื่อเจาะระบบองค์กรที่มีมูลค่าสูง วิธีการคือหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วเป็น payload ที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกใช้ช่องโหว่เพื่อรัน PowerShell ลับและติดตั้งมัลแวร์ต่อเนื่อง เป้าหมายของกลุ่มนี้คือการขโมยข้อมูลเชิงกลยุทธ์และสร้างช่องทางเข้าถึงระบบอย่างยาวนาน 🔗 https://securityonline.info/water-gamayun-weaponizes-msc-eviltwin-zero-day-for-stealthy-backdoor-attacks 🎮 Fragging Your Data: มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Crack และ Trainer ของ Battlefield 6 การเปิดตัวเกม Battlefield 6 กลายเป็นโอกาสทองของอาชญากรไซเบอร์ พวกเขาปล่อยไฟล์ “Crack” และ “Trainer” ปลอมบนเว็บแชร์ไฟล์และฟอรั่มใต้ดิน โดยอ้างว่าเป็นผลงานของกลุ่มแคร็กชื่อดัง แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลผู้ใช้ เช่น กระเป๋าเงินคริปโต คุกกี้เบราว์เซอร์ และโทเคน Discord บางเวอร์ชันยังซ่อนตัวเก่ง ตรวจสอบสภาพแวดล้อมก่อนทำงาน และบางตัวทำหน้าที่เป็น backdoor ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยเตือนว่าผู้เล่นที่ดาวน์โหลดไฟล์เหล่านี้ควรรีบสแกนเครื่องและเปลี่ยนรหัสผ่านทันที 🔗 https://securityonline.info/fragging-your-data-fake-battlefield-6-cracks-trainers-spread-infostealers 🎨 Hidden Danger in 3D: ไฟล์ Blender ปลอมแพร่กระจาย StealC V2 Infostealer วงการนักออกแบบ 3D และเกมถูกโจมตีด้วยวิธีใหม่ แฮกเกอร์ปล่อยไฟล์โมเดล 3D ที่ดูเหมือนงานจริง เช่น โมเดลชุดอวกาศ Apollo 11 แต่ภายในฝังสคริปต์ Python อันตราย เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ใน Blender และเปิดใช้งาน Auto Run Python Scripts มัลแวร์จะทำงานทันทีโดยไม่รู้ตัว จากนั้นจะดาวน์โหลด payload ต่อเนื่องและติดตั้ง StealC V2 ซึ่งเป็น infostealer ที่สามารถดูดข้อมูลจากเบราว์เซอร์ กระเป๋าเงินคริปโต และแอปต่าง ๆ เช่น Discord หรือ Telegram จุดอันตรายคือไฟล์เหล่านี้ตรวจจับได้ยากมากในระบบป้องกันทั่วไป ทำให้ผู้ใช้ต้องระวังเป็นพิเศษ 🔗 https://securityonline.info/hidden-danger-in-3d-malicious-blender-files-unleash-stealc-v2-infostealer 📺 Zero-Day Warning: ช่องโหว่ Twonky Server เปิดทางยึดระบบสื่อ มีการค้นพบช่องโหว่ใหม่ใน Twonky Server ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับสตรีมสื่อในบ้านและองค์กร ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมระบบได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษ เมื่อผู้ใช้เปิดใช้งานเซิร์ฟเวอร์ที่ยังไม่ได้แพตช์ แฮกเกอร์สามารถส่งคำสั่งจากระยะไกลเพื่อเข้าถึงไฟล์สื่อและแม้กระทั่งติดตั้งมัลแวร์เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลและความเป็นส่วนตัวอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/zero-day-warning-unpatched-twonky-server-flaws-expose-media-to-total-takeover 🕶️ UNMASKED: การรั่วไหลครั้งใหญ่เปิดโปงหน่วยไซเบอร์ “Department 40” ของอิหร่าน มีการเปิดเผยข้อมูลครั้งใหญ่ที่แสดงให้เห็นการทำงานของหน่วยไซเบอร์ลับในอิหร่านที่ชื่อว่า Department 40 ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ระดับโลก เอกสารที่รั่วไหลออกมาเผยให้เห็นโครงสร้างการทำงาน วิธีการโจมตี และเป้าหมายที่พวกเขาใช้ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือที่ซับซ้อนเพื่อเจาะระบบขององค์กรและรัฐบาลต่างประเทศ การเปิดโปงครั้งนี้ทำให้หลายประเทศเริ่มตรวจสอบและเพิ่มมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/unmasked-massive-leak-exposes-irans-department-40-cyber-terror-unit ⚠️ Angular Alert: ช่องโหว่ Protocol-Relative URLs ทำให้ XSRF Tokens รั่วไหล นักวิจัยพบว่าการใช้ URL แบบ protocol-relative ใน Angular สามารถทำให้โทเคน XSRF รั่วไหลไปยังโดเมนที่ไม่ปลอดภัยได้ ช่องโหว่นี้อาจถูกใช้เพื่อขโมย session และเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ปัญหานี้เกิดจากการที่เฟรมเวิร์กไม่ได้ตรวจสอบเส้นทาง URL อย่างเข้มงวดพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างลิงก์ที่ดูเหมือนปลอดภัยแต่จริง ๆ แล้วส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยแฮกเกอร์ 🔗 https://securityonline.info/angular-alert-protocol-relative-urls-leak-xsrf-tokens-cve-2025-66035 🛍️ Holiday Heist: ร้านค้าออนไลน์ปลอมกว่า 200,000 แห่งโจมตี Black Friday ในช่วง Black Friday มีการตรวจพบร้านค้าออนไลน์ปลอมกว่า 200,000 แห่งที่เลียนแบบ Amazon และแพลตฟอร์มช้อปปิ้งชื่อดังอื่น ๆ เว็บไซต์เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อหลอกให้ผู้ซื้อกรอกข้อมูลบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว โดยใช้ดีไซน์และโลโก้ที่เหมือนจริงมาก ผู้ใช้ที่ไม่ทันระวังอาจสูญเสียเงินและข้อมูลไปโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยเตือนว่าควรตรวจสอบ URL และรีวิวร้านค้าให้ละเอียดก่อนทำการซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลลดราคา 🔗 https://securityonline.info/holiday-heist-200000-fake-shops-amazon-clones-target-black-friday 🛡️ Security Alert: ช่องโหว่ Stored XSS ใน Apache SkyWalking Apache SkyWalking ซึ่งเป็นระบบ APM ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการตรวจสอบและติดตามระบบแบบ distributed พบช่องโหว่ Stored XSS ที่อันตรายมาก เพราะโค้ดอันตรายจะถูกบันทึกถาวรในเซิร์ฟเวอร์และทำงานทุกครั้งที่ผู้ดูแลเปิดหน้า dashboard ช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้เพื่อขโมย session cookies, redirect ผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อันตราย หรือแม้กระทั่งแก้ไขข้อมูลการแสดงผลเพื่อปกปิดกิจกรรมที่ผิดปกติ ทีมงาน Apache ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 10.3.0 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/security-alert-apache-skywalking-stored-xss-vulnerability-cve-2025-54057
    0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews
  • ซื้อ พีซีหรือแล็ปท็อปแบบสำเร็จรูป (prebuilt) อาจคุ้มค่ากว่า

    บทความนี้จาก Tom’s Hardware อธิบายว่าในช่วงที่ราคาหน่วยความจำ (RAM) พุ่งสูง การซื้อ พีซีหรือแล็ปท็อปแบบสำเร็จรูป (prebuilt) อาจคุ้มค่ากว่าการประกอบเครื่องเอง เพราะผู้ผลิตรายใหญ่มีการสต็อก RAM ไว้ล่วงหน้า ทำให้ราคายังไม่สะท้อนวิกฤติที่เกิดขึ้นในตลาดชิ้นส่วน

    ราคาหน่วยความจำพุ่งสูง
    ราคาของ RAM เพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้ โดยเฉพาะชุด DDR5 ขนาดใหญ่ เช่น 64GB kit ที่แพงกว่าคอนโซล PlayStation 5 ทั้งเครื่อง ส่งผลให้การประกอบพีซีเองมีต้นทุนสูงกว่าที่เคยเป็นมา แม้ผู้ใช้จะเลือกชิ้นส่วนอื่น ๆ อย่างระมัดระวัง แต่ค่าใช้จ่ายของ RAM และ GPU กลายเป็นภาระหลัก

    ทำไม prebuilt ถึงคุ้มกว่า
    ผู้ผลิตพีซีและแล็ปท็ปรายใหญ่ เช่น Dell, HP, Lenovo และ Framework มีการสต็อก RAM ไว้ล่วงหน้า ทำให้ราคาของเครื่องสำเร็จรูปยังไม่ปรับขึ้นตามตลาดชิ้นส่วน การซื้อพีซีหรือแล็ปท็อปแบบ prebuilt จึงอาจได้ราคาที่ถูกกว่า 200–300 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับการประกอบเอง และในบางช่วงโปรโมชั่น เช่น Black Friday ราคายิ่งลดลงมาก

    ตัวอย่างการเปรียบเทียบ
    Tom’s Hardware ยกตัวอย่างเครื่อง CyberPowerPC Gamer Xtreme ที่ใช้ชิ้นส่วนมาตรฐานทั้งหมด ราคาขายอยู่ที่ 849.99 ดอลลาร์ (ลดจาก 1,099.99 ดอลลาร์) ขณะที่การประกอบเครื่องด้วยชิ้นส่วนเทียบเท่ากันมีต้นทุนกว่า 1,322.80 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่ามาก แม้จะมีบางส่วนที่สามารถลดต้นทุนได้ เช่น การใช้ Windows license เดิม แต่ก็ยังไม่สามารถแข่งขันกับราคาของ prebuilt ได้

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด
    การขึ้นราคาของ RAM เกิดจากความต้องการมหาศาลในอุตสาหกรรม AI และการผลิตชิป ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น การเลือกซื้อ prebuilt หรือแล็ปท็อปจึงเป็นทางออกที่คุ้มค่าในระยะสั้น แต่หากวิกฤติยังดำเนินต่อไป ราคาของเครื่องสำเร็จรูปก็อาจปรับขึ้นตามในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญ
    ราคาหน่วยความจำพุ่งสูง
    64GB DDR5 kit แพงกว่าคอนโซล PlayStation 5
    ทำให้การประกอบพีซีเองมีต้นทุนสูง

    ข้อได้เปรียบของ prebuilt
    ผู้ผลิตรายใหญ่มีการสต็อก RAM ไว้ล่วงหน้า
    ราคายังไม่สะท้อนวิกฤติในตลาดชิ้นส่วน

    ตัวอย่างการเปรียบเทียบ
    CyberPowerPC Gamer Xtreme ราคา 849.99 ดอลลาร์
    การประกอบเองมีต้นทุนกว่า 1,322.80 ดอลลาร์

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    การซื้อ prebuilt หรือแล็ปท็อปคุ้มค่ากว่าในระยะสั้น
    แต่ราคาสำเร็จรูปอาจปรับขึ้นหากวิกฤติ RAM ยืดเยื้อ

    คำเตือนต่อผู้ใช้
    หากรอซื้อ RAM แยก อาจเจอราคาที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ
    ตลาดอาจปรับราคาพีซีและแล็ปท็อปในอนาคตตามวิกฤติ RAM

    https://www.tomshardware.com/laptops/shopping-for-ram-you-may-want-to-get-a-prebuilt-or-a-laptop-instead
    🛒 ซื้อ พีซีหรือแล็ปท็อปแบบสำเร็จรูป (prebuilt) อาจคุ้มค่ากว่า บทความนี้จาก Tom’s Hardware อธิบายว่าในช่วงที่ราคาหน่วยความจำ (RAM) พุ่งสูง การซื้อ พีซีหรือแล็ปท็อปแบบสำเร็จรูป (prebuilt) อาจคุ้มค่ากว่าการประกอบเครื่องเอง เพราะผู้ผลิตรายใหญ่มีการสต็อก RAM ไว้ล่วงหน้า ทำให้ราคายังไม่สะท้อนวิกฤติที่เกิดขึ้นในตลาดชิ้นส่วน ⚡ ราคาหน่วยความจำพุ่งสูง ราคาของ RAM เพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้ โดยเฉพาะชุด DDR5 ขนาดใหญ่ เช่น 64GB kit ที่แพงกว่าคอนโซล PlayStation 5 ทั้งเครื่อง ส่งผลให้การประกอบพีซีเองมีต้นทุนสูงกว่าที่เคยเป็นมา แม้ผู้ใช้จะเลือกชิ้นส่วนอื่น ๆ อย่างระมัดระวัง แต่ค่าใช้จ่ายของ RAM และ GPU กลายเป็นภาระหลัก 🏭 ทำไม prebuilt ถึงคุ้มกว่า ผู้ผลิตพีซีและแล็ปท็ปรายใหญ่ เช่น Dell, HP, Lenovo และ Framework มีการสต็อก RAM ไว้ล่วงหน้า ทำให้ราคาของเครื่องสำเร็จรูปยังไม่ปรับขึ้นตามตลาดชิ้นส่วน การซื้อพีซีหรือแล็ปท็อปแบบ prebuilt จึงอาจได้ราคาที่ถูกกว่า 200–300 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับการประกอบเอง และในบางช่วงโปรโมชั่น เช่น Black Friday ราคายิ่งลดลงมาก 🌍 ตัวอย่างการเปรียบเทียบ Tom’s Hardware ยกตัวอย่างเครื่อง CyberPowerPC Gamer Xtreme ที่ใช้ชิ้นส่วนมาตรฐานทั้งหมด ราคาขายอยู่ที่ 849.99 ดอลลาร์ (ลดจาก 1,099.99 ดอลลาร์) ขณะที่การประกอบเครื่องด้วยชิ้นส่วนเทียบเท่ากันมีต้นทุนกว่า 1,322.80 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่ามาก แม้จะมีบางส่วนที่สามารถลดต้นทุนได้ เช่น การใช้ Windows license เดิม แต่ก็ยังไม่สามารถแข่งขันกับราคาของ prebuilt ได้ 🔒 ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด การขึ้นราคาของ RAM เกิดจากความต้องการมหาศาลในอุตสาหกรรม AI และการผลิตชิป ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น การเลือกซื้อ prebuilt หรือแล็ปท็อปจึงเป็นทางออกที่คุ้มค่าในระยะสั้น แต่หากวิกฤติยังดำเนินต่อไป ราคาของเครื่องสำเร็จรูปก็อาจปรับขึ้นตามในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ราคาหน่วยความจำพุ่งสูง ➡️ 64GB DDR5 kit แพงกว่าคอนโซล PlayStation 5 ➡️ ทำให้การประกอบพีซีเองมีต้นทุนสูง ✅ ข้อได้เปรียบของ prebuilt ➡️ ผู้ผลิตรายใหญ่มีการสต็อก RAM ไว้ล่วงหน้า ➡️ ราคายังไม่สะท้อนวิกฤติในตลาดชิ้นส่วน ✅ ตัวอย่างการเปรียบเทียบ ➡️ CyberPowerPC Gamer Xtreme ราคา 849.99 ดอลลาร์ ➡️ การประกอบเองมีต้นทุนกว่า 1,322.80 ดอลลาร์ ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้ ➡️ การซื้อ prebuilt หรือแล็ปท็อปคุ้มค่ากว่าในระยะสั้น ➡️ แต่ราคาสำเร็จรูปอาจปรับขึ้นหากวิกฤติ RAM ยืดเยื้อ ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ ⛔ หากรอซื้อ RAM แยก อาจเจอราคาที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ⛔ ตลาดอาจปรับราคาพีซีและแล็ปท็อปในอนาคตตามวิกฤติ RAM https://www.tomshardware.com/laptops/shopping-for-ram-you-may-want-to-get-a-prebuilt-or-a-laptop-instead
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Shopping for RAM? You may want to get a prebuilt or a laptop instead.
    While memory prices are soaring, full systems haven't been hit by increasing prices (yet!)
    0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
  • โลก AI กำลังเปลี่ยนจาก “ยุคการขยายขนาด (scaling)” ไปสู่ “ยุคการวิจัย (research)”

    บทสัมภาษณ์ Ilya Sutskever กับ Dwarkesh Patel เน้นว่าโลก AI กำลังเปลี่ยนจาก “ยุคการขยายขนาด (scaling)” ไปสู่ “ยุคการวิจัย (research)” โดยชี้ให้เห็นข้อจำกัดของการพึ่งพา pre-training และ scaling อย่างเดียว พร้อมเสนอว่าความท้าทายใหญ่คือการทำให้โมเดลทั่วไป (generalization) ได้ดีเหมือนมนุษย์.

    จากยุค Scaling สู่ยุค Research
    Ilya อธิบายว่าในช่วงปี 2012–2020 เป็นยุคของการวิจัย แต่หลังจากนั้นโลก AI เข้าสู่ยุค scaling ที่ทุกบริษัทพยายามเพิ่มขนาดโมเดลและข้อมูลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าการขยายขนาดเพียงอย่างเดียวไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพได้อีกต่อไป และตอนนี้เรากำลังกลับเข้าสู่ ยุคการวิจัยที่แท้จริง โดยมีคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่เป็นเครื่องมือ.

    ปัญหาการเรียนรู้และการทั่วไป
    เขาเน้นว่า โมเดล AI ยัง generalize ได้แย่กว่ามนุษย์อย่างชัดเจน แม้จะทำคะแนนสูงใน benchmark หรือ evals แต่กลับล้มเหลวในงานจริง เช่น การแก้บั๊กที่วนกลับไปมาระหว่างข้อผิดพลาดเดิมและใหม่ ซึ่งสะท้อนว่าการเรียนรู้ของโมเดลยังไม่ยืดหยุ่นเหมือนมนุษย์ที่สามารถเรียนรู้จากประสบการณ์น้อยๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

    Analogies และ Value Functions
    Ilya ใช้ตัวอย่างนักเรียนแข่งขันเขียนโปรแกรม: คนที่ฝึกหนัก 10,000 ชั่วโมงอาจเก่งเฉพาะการแข่งขัน แต่ไม่ generalize ไปสู่งานจริงได้ดี ขณะที่คนที่ฝึกเพียง 100 ชั่วโมงแต่มี “it factor” กลับทำงานได้ดีกว่าในระยะยาว เขาเชื่อว่ามนุษย์มี value function ที่แข็งแรงและถูกขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ ซึ่งช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ AI ยังขาดสิ่งนี้.

    ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม
    แม้โมเดลจะทำงานได้ดีในเชิงเทคนิค แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจยังไม่ตามทัน เขาเชื่อว่า AI จะค่อยๆ กระจายเข้าสู่เศรษฐกิจและสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อการเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งสำคัญคือการวิจัยเพื่อหาวิธีทำให้โมเดลเรียนรู้และทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การพัฒนา AGI เป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อมนุษย์.

    สรุปสาระสำคัญ
    ยุคใหม่ของ AI
    จากการขยายขนาด (scaling) สู่การวิจัย (research)

    ข้อจำกัดของโมเดลปัจจุบัน
    ทำคะแนนสูงใน benchmark แต่ generalize ได้แย่ในงานจริง

    บทเรียนจากมนุษย์
    มนุษย์เรียนรู้จากข้อมูลน้อยๆ ได้ดีกว่า เพราะมี value function และอารมณ์

    ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
    AI จะกระจายเข้าสู่เศรษฐกิจ แต่ต้องแก้ปัญหาการทั่วไปก่อน

    ความเสี่ยงจากการพึ่ง scaling อย่างเดียว
    ไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพได้ และอาจทำให้เข้าใจผิดว่าบรรลุ AGI แล้ว

    https://www.dwarkesh.com/p/ilya-sutskever-2
    🌐 โลก AI กำลังเปลี่ยนจาก “ยุคการขยายขนาด (scaling)” ไปสู่ “ยุคการวิจัย (research)” บทสัมภาษณ์ Ilya Sutskever กับ Dwarkesh Patel เน้นว่าโลก AI กำลังเปลี่ยนจาก “ยุคการขยายขนาด (scaling)” ไปสู่ “ยุคการวิจัย (research)” โดยชี้ให้เห็นข้อจำกัดของการพึ่งพา pre-training และ scaling อย่างเดียว พร้อมเสนอว่าความท้าทายใหญ่คือการทำให้โมเดลทั่วไป (generalization) ได้ดีเหมือนมนุษย์. 🔄 จากยุค Scaling สู่ยุค Research Ilya อธิบายว่าในช่วงปี 2012–2020 เป็นยุคของการวิจัย แต่หลังจากนั้นโลก AI เข้าสู่ยุค scaling ที่ทุกบริษัทพยายามเพิ่มขนาดโมเดลและข้อมูลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าการขยายขนาดเพียงอย่างเดียวไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพได้อีกต่อไป และตอนนี้เรากำลังกลับเข้าสู่ ยุคการวิจัยที่แท้จริง โดยมีคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่เป็นเครื่องมือ. 🧠 ปัญหาการเรียนรู้และการทั่วไป เขาเน้นว่า โมเดล AI ยัง generalize ได้แย่กว่ามนุษย์อย่างชัดเจน แม้จะทำคะแนนสูงใน benchmark หรือ evals แต่กลับล้มเหลวในงานจริง เช่น การแก้บั๊กที่วนกลับไปมาระหว่างข้อผิดพลาดเดิมและใหม่ ซึ่งสะท้อนว่าการเรียนรู้ของโมเดลยังไม่ยืดหยุ่นเหมือนมนุษย์ที่สามารถเรียนรู้จากประสบการณ์น้อยๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ. 💡 Analogies และ Value Functions Ilya ใช้ตัวอย่างนักเรียนแข่งขันเขียนโปรแกรม: คนที่ฝึกหนัก 10,000 ชั่วโมงอาจเก่งเฉพาะการแข่งขัน แต่ไม่ generalize ไปสู่งานจริงได้ดี ขณะที่คนที่ฝึกเพียง 100 ชั่วโมงแต่มี “it factor” กลับทำงานได้ดีกว่าในระยะยาว เขาเชื่อว่ามนุษย์มี value function ที่แข็งแรงและถูกขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ ซึ่งช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ AI ยังขาดสิ่งนี้. 🌍 ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม แม้โมเดลจะทำงานได้ดีในเชิงเทคนิค แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจยังไม่ตามทัน เขาเชื่อว่า AI จะค่อยๆ กระจายเข้าสู่เศรษฐกิจและสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อการเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งสำคัญคือการวิจัยเพื่อหาวิธีทำให้โมเดลเรียนรู้และทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การพัฒนา AGI เป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อมนุษย์. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ยุคใหม่ของ AI ➡️ จากการขยายขนาด (scaling) สู่การวิจัย (research) ✅ ข้อจำกัดของโมเดลปัจจุบัน ➡️ ทำคะแนนสูงใน benchmark แต่ generalize ได้แย่ในงานจริง ✅ บทเรียนจากมนุษย์ ➡️ มนุษย์เรียนรู้จากข้อมูลน้อยๆ ได้ดีกว่า เพราะมี value function และอารมณ์ ✅ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ➡️ AI จะกระจายเข้าสู่เศรษฐกิจ แต่ต้องแก้ปัญหาการทั่วไปก่อน ‼️ ความเสี่ยงจากการพึ่ง scaling อย่างเดียว ⛔ ไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพได้ และอาจทำให้เข้าใจผิดว่าบรรลุ AGI แล้ว https://www.dwarkesh.com/p/ilya-sutskever-2
    0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
  • แอปพลิเคชัน Linux ที่ฟื้นคืนชีพ

    บทความจาก It’s FOSS เล่าถึง 11 แอปพลิเคชันบน Linux ที่เคยถูกทิ้งร้าง แต่กลับมาใหม่ในรูปแบบ Next Generation (-ng) โดยมีการเขียนใหม่ ปรับปรุงประสิทธิภาพ และเพิ่มฟีเจอร์ให้ทันสมัย

    หนึ่งในเสน่ห์ของโอเพ่นซอร์สคือ เมื่อโครงการถูกทิ้งไว้ ก็ยังมีชุมชนหรือผู้พัฒนารายใหม่หยิบขึ้นมาสานต่อ ตัวอย่างเช่น iotop-c ที่เขียนใหม่ด้วยภาษา C เพื่อแก้ปัญหาความช้าในเวอร์ชัน Python และ vokoscreenNG ที่ปรับปรุงให้รองรับ Wayland พร้อมอินเทอร์เฟซใหม่ด้วย Qt

    นอกจากนี้ยังมี WoeUSB-ng ที่ช่วยสร้าง USB ติดตั้ง Windows จาก Linux แม้ปัจจุบันจะหยุดพัฒนาไปอีกครั้ง แต่ก็ยังมีผู้ใช้จำนวนมาก และ eSpeak NG ที่เป็นเครื่องมือสังเคราะห์เสียงรองรับกว่า 100 ภาษา ใช้แทน eSpeak รุ่นเดิมได้ทันที

    เครื่องมือสำหรับงานเฉพาะทาง
    บางแอปพลิเคชันถูกสร้างขึ้นใหม่เพื่อรองรับงานเฉพาะ เช่น stress-ng ที่ใช้ทดสอบความทนทานของระบบโดยสร้างโหลดหนัก ๆ (เหมาะสำหรับมืออาชีพเท่านั้น) และ aircrack-ng ที่กลายเป็นชุดเครื่องมือเต็มรูปแบบสำหรับตรวจสอบความปลอดภัยของ WiFi

    ในด้านการใช้งานทั่วไปก็มี tomboy-ng สำหรับจดบันทึกที่เขียนใหม่ด้วย Pascal แทน C# เพื่อลดภาระของ Mono และ radiotray-ng ที่ทำให้การฟังวิทยุออนไลน์จาก system tray มีความเสถียรมากขึ้น

    แอปพลิเคชันด้านข้อมูลและการวิเคราะห์
    อีกกลุ่มหนึ่งคือเครื่องมือด้านข้อมูล เช่น GoldenDict-ng ที่ปรับปรุงการทำงานของพจนานุกรมและการแปล พร้อมรองรับ Qt6 และ Dark Mode รวมถึง ntopng ที่เป็นตัววิเคราะห์ทราฟฟิกเครือข่ายแบบเรียลไทม์ มี UI ทันสมัยและรองรับการตรวจสอบเชิงลึก

    สุดท้ายคือ Shutter แอปจับภาพหน้าจอที่เคยถูกทิ้งร้าง แต่กลับมาพร้อมการรองรับ Wayland และการดูแลโดยชุมชน ทำให้ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้ Linux

    สรุปประเด็นสำคัญ
    แอปที่ถูกเขียนใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
    iotop-c (เขียนใหม่ด้วย C)
    vokoscreenNG (รองรับ Wayland, Qt interface)

    แอปสำหรับงานเฉพาะทาง
    stress-ng (ทดสอบระบบด้วยโหลดหนัก)
    aircrack-ng (ตรวจสอบความปลอดภัย WiFi)

    แอปสำหรับการใช้งานทั่วไป
    tomboy-ng (จดบันทึก, เขียนใหม่ด้วย Pascal)
    radiotray-ng (ฟังวิทยุออนไลน์เสถียรขึ้น)

    แอปด้านข้อมูลและการวิเคราะห์
    GoldenDict-ng (พจนานุกรม, รองรับ Qt6)
    ntopng (วิเคราะห์ทราฟฟิกเครือข่าย)
    Shutter (จับภาพหน้าจอ, รองรับ Wayland)

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    stress-ng ไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป อาจทำให้ระบบล่มหรือร้อนเกินไป
    WoeUSB-ng หยุดพัฒนาแล้ว อาจไม่รองรับระบบใหม่ ๆ

    https://itsfoss.com/new-gen-linux-apps/
    🖥️ แอปพลิเคชัน Linux ที่ฟื้นคืนชีพ บทความจาก It’s FOSS เล่าถึง 11 แอปพลิเคชันบน Linux ที่เคยถูกทิ้งร้าง แต่กลับมาใหม่ในรูปแบบ Next Generation (-ng) โดยมีการเขียนใหม่ ปรับปรุงประสิทธิภาพ และเพิ่มฟีเจอร์ให้ทันสมัย หนึ่งในเสน่ห์ของโอเพ่นซอร์สคือ เมื่อโครงการถูกทิ้งไว้ ก็ยังมีชุมชนหรือผู้พัฒนารายใหม่หยิบขึ้นมาสานต่อ ตัวอย่างเช่น iotop-c ที่เขียนใหม่ด้วยภาษา C เพื่อแก้ปัญหาความช้าในเวอร์ชัน Python และ vokoscreenNG ที่ปรับปรุงให้รองรับ Wayland พร้อมอินเทอร์เฟซใหม่ด้วย Qt นอกจากนี้ยังมี WoeUSB-ng ที่ช่วยสร้าง USB ติดตั้ง Windows จาก Linux แม้ปัจจุบันจะหยุดพัฒนาไปอีกครั้ง แต่ก็ยังมีผู้ใช้จำนวนมาก และ eSpeak NG ที่เป็นเครื่องมือสังเคราะห์เสียงรองรับกว่า 100 ภาษา ใช้แทน eSpeak รุ่นเดิมได้ทันที ⚡ เครื่องมือสำหรับงานเฉพาะทาง บางแอปพลิเคชันถูกสร้างขึ้นใหม่เพื่อรองรับงานเฉพาะ เช่น stress-ng ที่ใช้ทดสอบความทนทานของระบบโดยสร้างโหลดหนัก ๆ (เหมาะสำหรับมืออาชีพเท่านั้น) และ aircrack-ng ที่กลายเป็นชุดเครื่องมือเต็มรูปแบบสำหรับตรวจสอบความปลอดภัยของ WiFi ในด้านการใช้งานทั่วไปก็มี tomboy-ng สำหรับจดบันทึกที่เขียนใหม่ด้วย Pascal แทน C# เพื่อลดภาระของ Mono และ radiotray-ng ที่ทำให้การฟังวิทยุออนไลน์จาก system tray มีความเสถียรมากขึ้น 📚 แอปพลิเคชันด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ อีกกลุ่มหนึ่งคือเครื่องมือด้านข้อมูล เช่น GoldenDict-ng ที่ปรับปรุงการทำงานของพจนานุกรมและการแปล พร้อมรองรับ Qt6 และ Dark Mode รวมถึง ntopng ที่เป็นตัววิเคราะห์ทราฟฟิกเครือข่ายแบบเรียลไทม์ มี UI ทันสมัยและรองรับการตรวจสอบเชิงลึก สุดท้ายคือ Shutter แอปจับภาพหน้าจอที่เคยถูกทิ้งร้าง แต่กลับมาพร้อมการรองรับ Wayland และการดูแลโดยชุมชน ทำให้ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้ Linux 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ แอปที่ถูกเขียนใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ➡️ iotop-c (เขียนใหม่ด้วย C) ➡️ vokoscreenNG (รองรับ Wayland, Qt interface) ✅ แอปสำหรับงานเฉพาะทาง ➡️ stress-ng (ทดสอบระบบด้วยโหลดหนัก) ➡️ aircrack-ng (ตรวจสอบความปลอดภัย WiFi) ✅ แอปสำหรับการใช้งานทั่วไป ➡️ tomboy-ng (จดบันทึก, เขียนใหม่ด้วย Pascal) ➡️ radiotray-ng (ฟังวิทยุออนไลน์เสถียรขึ้น) ✅ แอปด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ ➡️ GoldenDict-ng (พจนานุกรม, รองรับ Qt6) ➡️ ntopng (วิเคราะห์ทราฟฟิกเครือข่าย) ➡️ Shutter (จับภาพหน้าจอ, รองรับ Wayland) ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ stress-ng ไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป อาจทำให้ระบบล่มหรือร้อนเกินไป ⛔ WoeUSB-ng หยุดพัฒนาแล้ว อาจไม่รองรับระบบใหม่ ๆ https://itsfoss.com/new-gen-linux-apps/
    ITSFOSS.COM
    Open Source Never Dies: 11 of My Favorite Linux Apps That Refused to Stay Dead
    These Linux apps were popular once. And then they were abandoned. And then they came back with a new generation tag.
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • งานวิจัยใหม่: ลำไส้กับโรคพาร์กินสัน

    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนาโกยา ประเทศญี่ปุ่น พบความเชื่อมโยงระหว่างจุลินทรีย์ในลำไส้กับการเกิดโรคพาร์กินสัน โดยการวิเคราะห์ตัวอย่างอุจจาระจากผู้ป่วยและคนสุขภาพดีในหลายประเทศ ผลลัพธ์ชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงของชุมชนแบคทีเรียในลำไส้ส่งผลให้ร่างกายผลิตวิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) และบี 7 (ไบโอติน) ลดลง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดโรค

    แนวทางการรักษาที่เรียบง่าย
    การขาดวิตามินบีเหล่านี้สัมพันธ์กับการลดลงของกรดไขมันสายสั้น (SCFAs) และโพลีเอมีน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างชั้นเมือกป้องกันในลำไส้ เมื่อชั้นป้องกันนี้บางลง ระบบประสาทในลำไส้จึงสัมผัสกับสารพิษมากขึ้น เช่น สารเคมีจากยาฆ่าแมลงหรือสารทำความสะอาด ซึ่งสามารถกระตุ้นการสะสมของโปรตีนผิดปกติในสมองและนำไปสู่โรคพาร์กินสันได้ นักวิจัยเสนอว่าการเสริมวิตามินบี 2 และบี 7 อาจช่วยบรรเทาอาการและชะลอการดำเนินโรค

    ความเสี่ยงและปัจจัยแวดล้อม
    แม้การเสริมวิตามินดูเป็นวิธีง่าย แต่โรคพาร์กินสันมีสาเหตุซับซ้อนและแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น สารพิษและคุณภาพการนอนหลับ ก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน ดังนั้นการรักษาอาจต้องปรับตามสภาพร่างกายและวิถีชีวิตของผู้ป่วย ไม่สามารถใช้แนวทางเดียวกับทุกคนได้

    ความหวังใหม่จากไมโครไบโอม
    การค้นพบนี้ตอกย้ำว่าลำไส้และสมองมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกว่าที่เคยคิด การดูแลสุขภาพลำไส้ เช่น การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง ลดสารพิษในสิ่งแวดล้อม และเสริมวิตามินที่จำเป็น อาจเป็นแนวทางป้องกันและรักษาโรคพาร์กินสันในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญ
    ความเชื่อมโยงลำไส้-สมอง
    การเปลี่ยนแปลงจุลินทรีย์ในลำไส้ทำให้วิตามินบี 2 และบี 7 ลดลง
    ส่งผลต่อการสร้างชั้นเมือกป้องกันในลำไส้

    แนวทางการรักษา
    การเสริมวิตามินบี 2 และบี 7 อาจช่วยบรรเทาอาการ
    ป้องกันการสะสมโปรตีนผิดปกติในสมอง

    ผลกระทบต่อสุขภาพ
    การขาดวิตามินสัมพันธ์กับการลด SCFAs และโพลีเอมีน
    เพิ่มความเสี่ยงต่อการสัมผัสสารพิษในระบบประสาท

    ข้อควรระวัง
    โรคพาร์กินสันมีสาเหตุซับซ้อน ไม่ใช่ทุกคนตอบสนองต่อการเสริมวิตามิน
    ปัจจัยสิ่งแวดล้อม เช่น สารพิษและการนอนหลับ มีผลต่อการเกิดโรค
    ต้องมีการวิเคราะห์รายบุคคลก่อนใช้แนวทางการรักษา

    https://www.sciencealert.com/parkinsons-link-to-gut-bacteria-suggests-unexpectedly-simple-treatment
    🧠 งานวิจัยใหม่: ลำไส้กับโรคพาร์กินสัน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนาโกยา ประเทศญี่ปุ่น พบความเชื่อมโยงระหว่างจุลินทรีย์ในลำไส้กับการเกิดโรคพาร์กินสัน โดยการวิเคราะห์ตัวอย่างอุจจาระจากผู้ป่วยและคนสุขภาพดีในหลายประเทศ ผลลัพธ์ชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงของชุมชนแบคทีเรียในลำไส้ส่งผลให้ร่างกายผลิตวิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) และบี 7 (ไบโอติน) ลดลง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดโรค 🌿 แนวทางการรักษาที่เรียบง่าย การขาดวิตามินบีเหล่านี้สัมพันธ์กับการลดลงของกรดไขมันสายสั้น (SCFAs) และโพลีเอมีน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างชั้นเมือกป้องกันในลำไส้ เมื่อชั้นป้องกันนี้บางลง ระบบประสาทในลำไส้จึงสัมผัสกับสารพิษมากขึ้น เช่น สารเคมีจากยาฆ่าแมลงหรือสารทำความสะอาด ซึ่งสามารถกระตุ้นการสะสมของโปรตีนผิดปกติในสมองและนำไปสู่โรคพาร์กินสันได้ นักวิจัยเสนอว่าการเสริมวิตามินบี 2 และบี 7 อาจช่วยบรรเทาอาการและชะลอการดำเนินโรค ⚠️ ความเสี่ยงและปัจจัยแวดล้อม แม้การเสริมวิตามินดูเป็นวิธีง่าย แต่โรคพาร์กินสันมีสาเหตุซับซ้อนและแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น สารพิษและคุณภาพการนอนหลับ ก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน ดังนั้นการรักษาอาจต้องปรับตามสภาพร่างกายและวิถีชีวิตของผู้ป่วย ไม่สามารถใช้แนวทางเดียวกับทุกคนได้ 🌍 ความหวังใหม่จากไมโครไบโอม การค้นพบนี้ตอกย้ำว่าลำไส้และสมองมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกว่าที่เคยคิด การดูแลสุขภาพลำไส้ เช่น การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง ลดสารพิษในสิ่งแวดล้อม และเสริมวิตามินที่จำเป็น อาจเป็นแนวทางป้องกันและรักษาโรคพาร์กินสันในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ความเชื่อมโยงลำไส้-สมอง ➡️ การเปลี่ยนแปลงจุลินทรีย์ในลำไส้ทำให้วิตามินบี 2 และบี 7 ลดลง ➡️ ส่งผลต่อการสร้างชั้นเมือกป้องกันในลำไส้ ✅ แนวทางการรักษา ➡️ การเสริมวิตามินบี 2 และบี 7 อาจช่วยบรรเทาอาการ ➡️ ป้องกันการสะสมโปรตีนผิดปกติในสมอง ✅ ผลกระทบต่อสุขภาพ ➡️ การขาดวิตามินสัมพันธ์กับการลด SCFAs และโพลีเอมีน ➡️ เพิ่มความเสี่ยงต่อการสัมผัสสารพิษในระบบประสาท ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ โรคพาร์กินสันมีสาเหตุซับซ้อน ไม่ใช่ทุกคนตอบสนองต่อการเสริมวิตามิน ⛔ ปัจจัยสิ่งแวดล้อม เช่น สารพิษและการนอนหลับ มีผลต่อการเกิดโรค ⛔ ต้องมีการวิเคราะห์รายบุคคลก่อนใช้แนวทางการรักษา https://www.sciencealert.com/parkinsons-link-to-gut-bacteria-suggests-unexpectedly-simple-treatment
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Parkinson's Link to Gut Bacteria Suggests Unexpectedly Simple Treatment
    Researchers have suspected for some time that the link between our gut and brain plays a role in the onset of Parkinson's disease.
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • การชนครั้งยิ่งใหญ่ที่สร้างโลกและดวงจันทร์

    เมื่อประมาณ 4.5 พันล้านปีก่อน ร่างดาวชื่อ Theia พุ่งชนโลกยุคแรก (Proto-Earth) จนเกิดการหลอมละลายของหินและโลหะมหาศาล เศษซากจากการชนครั้งนั้นรวมตัวกันกลายเป็นโลกและดวงจันทร์ที่เรารู้จักในปัจจุบัน เหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดของระบบสุริยะ

    เบาะแสจากไอโซโทปและอุกกาบาต
    นักวิจัยจาก Max Planck Institute และ University of Chicago ได้วิเคราะห์ไอโซโทปจากหินโลก ดวงจันทร์ และอุกกาบาต พบว่าลักษณะทางเคมีของ Theia ไม่ตรงกับโลก แต่ใกล้เคียงกับวัตถุจาก “ระบบสุริยะชั้นใน” ซึ่งเป็นบริเวณใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่า ทำให้สันนิษฐานว่า Theia และโลกอาจก่อตัวขึ้นใกล้กัน

    เพื่อนบ้านที่กลายเป็นคู่ปะทะ
    ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าโลกและ Theia อาจเป็น “เพื่อนบ้าน” ที่เกิดจากวัตถุในบริเวณเดียวกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเคลื่อนที่และแรงโน้มถ่วงทำให้เกิดการชนครั้งใหญ่ จนสร้างดวงจันทร์ขึ้นมา และทิ้งร่องรอยทางเคมีไว้ในชั้นหินของโลก

    ความหมายต่อการศึกษาระบบสุริยะ
    การค้นพบนี้ช่วยให้เข้าใจมากขึ้นว่าโลกและดวงจันทร์ไม่ได้เกิดจากการรวมตัวของวัตถุสุ่ม ๆ แต่มีความสัมพันธ์เชิงพื้นที่และเคมีตั้งแต่แรกเริ่ม การชนครั้งนั้นไม่เพียงสร้างดวงจันทร์ แต่ยังส่งผลต่อองค์ประกอบของโลก เช่น การกระจายของเหล็กและแร่ธาตุในชั้นต่าง ๆ

    สรุปสาระสำคัญ
    การชนครั้งใหญ่ (Giant Impact)
    เกิดขึ้นเมื่อ 4.5 พันล้านปีก่อน
    สร้างโลกและดวงจันทร์จากเศษซาก

    หลักฐานจากไอโซโทป
    วิเคราะห์หินโลก ดวงจันทร์ และอุกกาบาต
    พบว่า Theia มีองค์ประกอบใกล้เคียงวัตถุจากระบบสุริยะชั้นใน

    ต้นกำเนิดของ Theia
    อาจเกิดใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าโลก
    เป็น “เพื่อนบ้าน” ของโลกยุคแรก

    ข้อควรระวังในการตีความ
    ยังเป็นการศึกษาเชิงสมมติฐาน ต้องการหลักฐานเพิ่มเติม
    การชนครั้งนั้นซับซ้อน อาจมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย
    ผลการวิเคราะห์ขึ้นอยู่กับตัวอย่างอุกกาบาตที่มีจำกัด

    https://www.sciencealert.com/scientists-reveal-origins-of-giant-object-that-smashed-into-earth
    🌍 การชนครั้งยิ่งใหญ่ที่สร้างโลกและดวงจันทร์ เมื่อประมาณ 4.5 พันล้านปีก่อน ร่างดาวชื่อ Theia พุ่งชนโลกยุคแรก (Proto-Earth) จนเกิดการหลอมละลายของหินและโลหะมหาศาล เศษซากจากการชนครั้งนั้นรวมตัวกันกลายเป็นโลกและดวงจันทร์ที่เรารู้จักในปัจจุบัน เหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดของระบบสุริยะ 🔬 เบาะแสจากไอโซโทปและอุกกาบาต นักวิจัยจาก Max Planck Institute และ University of Chicago ได้วิเคราะห์ไอโซโทปจากหินโลก ดวงจันทร์ และอุกกาบาต พบว่าลักษณะทางเคมีของ Theia ไม่ตรงกับโลก แต่ใกล้เคียงกับวัตถุจาก “ระบบสุริยะชั้นใน” ซึ่งเป็นบริเวณใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่า ทำให้สันนิษฐานว่า Theia และโลกอาจก่อตัวขึ้นใกล้กัน 🪐 เพื่อนบ้านที่กลายเป็นคู่ปะทะ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าโลกและ Theia อาจเป็น “เพื่อนบ้าน” ที่เกิดจากวัตถุในบริเวณเดียวกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเคลื่อนที่และแรงโน้มถ่วงทำให้เกิดการชนครั้งใหญ่ จนสร้างดวงจันทร์ขึ้นมา และทิ้งร่องรอยทางเคมีไว้ในชั้นหินของโลก 📈 ความหมายต่อการศึกษาระบบสุริยะ การค้นพบนี้ช่วยให้เข้าใจมากขึ้นว่าโลกและดวงจันทร์ไม่ได้เกิดจากการรวมตัวของวัตถุสุ่ม ๆ แต่มีความสัมพันธ์เชิงพื้นที่และเคมีตั้งแต่แรกเริ่ม การชนครั้งนั้นไม่เพียงสร้างดวงจันทร์ แต่ยังส่งผลต่อองค์ประกอบของโลก เช่น การกระจายของเหล็กและแร่ธาตุในชั้นต่าง ๆ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การชนครั้งใหญ่ (Giant Impact) ➡️ เกิดขึ้นเมื่อ 4.5 พันล้านปีก่อน ➡️ สร้างโลกและดวงจันทร์จากเศษซาก ✅ หลักฐานจากไอโซโทป ➡️ วิเคราะห์หินโลก ดวงจันทร์ และอุกกาบาต ➡️ พบว่า Theia มีองค์ประกอบใกล้เคียงวัตถุจากระบบสุริยะชั้นใน ✅ ต้นกำเนิดของ Theia ➡️ อาจเกิดใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าโลก ➡️ เป็น “เพื่อนบ้าน” ของโลกยุคแรก ‼️ ข้อควรระวังในการตีความ ⛔ ยังเป็นการศึกษาเชิงสมมติฐาน ต้องการหลักฐานเพิ่มเติม ⛔ การชนครั้งนั้นซับซ้อน อาจมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย ⛔ ผลการวิเคราะห์ขึ้นอยู่กับตัวอย่างอุกกาบาตที่มีจำกัด https://www.sciencealert.com/scientists-reveal-origins-of-giant-object-that-smashed-into-earth
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Scientists Reveal Origins of Giant Object That Smashed Into Earth
    One fateful day about 4.5 billion years ago, a Mars-sized body called Theia collided with proto-Earth, turning both into a molten mess of rock and metal.
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • Tim Sweeney เตือน: วิกฤตราคา RAM จะกระทบเกมมิ่งหลายปี

    Tim Sweeney ซีอีโอของ Epic Games ออกมาเตือนว่าราคาหน่วยความจำ RAM ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจะเป็น “ปัญหาใหญ่สำหรับเกมมิ่งระดับสูงไปอีกหลายปี” โดยสาเหตุหลักมาจากความต้องการมหาศาลจาก ศูนย์ข้อมูล AI ที่ยอมจ่ายแพงกว่าผู้ผลิตพีซีทั่วไป ทำให้กำลังการผลิต DRAM ถูกเบี่ยงไปยังตลาด AI

    ราคาที่พุ่งทะยานจนผู้ใช้สะเทือน
    ตัวอย่างเช่น ชุด RAM Crucial Pro DDR5-6000 ที่เคยขายราว 260 ดอลลาร์ในเดือนตุลาคม กลับพุ่งขึ้นเป็น 498 ดอลลาร์ภายในเวลาเพียงเดือนเดียว แม้จะอยู่ในช่วงเทศกาลลดราคาก็ตาม สถานการณ์นี้สะท้อนว่าตลาดผู้บริโภคกำลังถูกบีบให้จ่ายแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจทำให้การอัปเกรดหรือประกอบเครื่องใหม่ต้องเลื่อนออกไป

    ผลกระทบต่อวงการเกมและผู้ผลิต
    การที่ราคาหน่วยความจำสูงขึ้นไม่เพียงกระทบผู้เล่นเกม แต่ยังส่งผลต่อผู้ผลิตพีซีและโน้ตบุ๊กที่ต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น Asus และ MSI ก็เริ่มกักตุน RAM เพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่บางร้านค้าปลีกในสหรัฐฯ ถึงขั้นเปลี่ยนไปใช้ระบบ “spot pricing” แทนการตั้งราคาคงที่

    แนวโน้มและสิ่งที่ต้องจับตา
    แม้บางนักวิเคราะห์คาดว่า “ฟองสบู่ AI” อาจแตกในอนาคต แต่ Sweeney เชื่อว่าความต้องการ RAM จากตลาด AI จะยังคงสูงต่อไปอีกหลายปี ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปต้องเตรียมรับมือกับราคาที่ไม่ลดลงง่าย ๆ และอาจต้องปรับแผนการอัปเกรดเครื่องระยะยาว

    สรุปสาระสำคัญ
    คำเตือนจาก Tim Sweeney
    ราคาหน่วยความจำ RAM จะเป็นปัญหาสำหรับเกมมิ่งหลายปี

    ราคาที่พุ่งสูง
    ชุด Crucial DDR5-6000 ขึ้นจาก 260 → 498 ดอลลาร์ในเวลาเดือนเดียว

    ผลกระทบต่อวงการ
    ผู้ผลิตพีซีและร้านค้าปลีกต้องปรับตัว เช่น กักตุนหรือใช้ spot pricing

    แนวโน้มอนาคต
    ความต้องการจาก AI จะยังคงสูง ทำให้ราคายังไม่ลดลงง่าย

    คำเตือนจากนักวิเคราะห์
    แม้บางคนคาดว่า “ฟองสบู่ AI” อาจแตก แต่ยังไม่เกิดขึ้นเร็ว

    ความเสี่ยงต่อผู้บริโภค
    ผู้ใช้ทั่วไปอาจต้องเลื่อนการอัปเกรดหรือแบกรับต้นทุนสูงขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/epic-games-ceo-tim-sweeney-says-ram-pricing-crisis-isnt-going-away-anytime-soon-fortnite-boss-says-crunch-will-be-a-real-problem-for-high-end-gaming-for-several-years
    💾 Tim Sweeney เตือน: วิกฤตราคา RAM จะกระทบเกมมิ่งหลายปี Tim Sweeney ซีอีโอของ Epic Games ออกมาเตือนว่าราคาหน่วยความจำ RAM ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจะเป็น “ปัญหาใหญ่สำหรับเกมมิ่งระดับสูงไปอีกหลายปี” โดยสาเหตุหลักมาจากความต้องการมหาศาลจาก ศูนย์ข้อมูล AI ที่ยอมจ่ายแพงกว่าผู้ผลิตพีซีทั่วไป ทำให้กำลังการผลิต DRAM ถูกเบี่ยงไปยังตลาด AI 📈 ราคาที่พุ่งทะยานจนผู้ใช้สะเทือน ตัวอย่างเช่น ชุด RAM Crucial Pro DDR5-6000 ที่เคยขายราว 260 ดอลลาร์ในเดือนตุลาคม กลับพุ่งขึ้นเป็น 498 ดอลลาร์ภายในเวลาเพียงเดือนเดียว แม้จะอยู่ในช่วงเทศกาลลดราคาก็ตาม สถานการณ์นี้สะท้อนว่าตลาดผู้บริโภคกำลังถูกบีบให้จ่ายแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจทำให้การอัปเกรดหรือประกอบเครื่องใหม่ต้องเลื่อนออกไป 🌍 ผลกระทบต่อวงการเกมและผู้ผลิต การที่ราคาหน่วยความจำสูงขึ้นไม่เพียงกระทบผู้เล่นเกม แต่ยังส่งผลต่อผู้ผลิตพีซีและโน้ตบุ๊กที่ต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น Asus และ MSI ก็เริ่มกักตุน RAM เพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่บางร้านค้าปลีกในสหรัฐฯ ถึงขั้นเปลี่ยนไปใช้ระบบ “spot pricing” แทนการตั้งราคาคงที่ 🛡️ แนวโน้มและสิ่งที่ต้องจับตา แม้บางนักวิเคราะห์คาดว่า “ฟองสบู่ AI” อาจแตกในอนาคต แต่ Sweeney เชื่อว่าความต้องการ RAM จากตลาด AI จะยังคงสูงต่อไปอีกหลายปี ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปต้องเตรียมรับมือกับราคาที่ไม่ลดลงง่าย ๆ และอาจต้องปรับแผนการอัปเกรดเครื่องระยะยาว 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ คำเตือนจาก Tim Sweeney ➡️ ราคาหน่วยความจำ RAM จะเป็นปัญหาสำหรับเกมมิ่งหลายปี ✅ ราคาที่พุ่งสูง ➡️ ชุด Crucial DDR5-6000 ขึ้นจาก 260 → 498 ดอลลาร์ในเวลาเดือนเดียว ✅ ผลกระทบต่อวงการ ➡️ ผู้ผลิตพีซีและร้านค้าปลีกต้องปรับตัว เช่น กักตุนหรือใช้ spot pricing ✅ แนวโน้มอนาคต ➡️ ความต้องการจาก AI จะยังคงสูง ทำให้ราคายังไม่ลดลงง่าย ‼️ คำเตือนจากนักวิเคราะห์ ⛔ แม้บางคนคาดว่า “ฟองสบู่ AI” อาจแตก แต่ยังไม่เกิดขึ้นเร็ว ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้บริโภค ⛔ ผู้ใช้ทั่วไปอาจต้องเลื่อนการอัปเกรดหรือแบกรับต้นทุนสูงขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/epic-games-ceo-tim-sweeney-says-ram-pricing-crisis-isnt-going-away-anytime-soon-fortnite-boss-says-crunch-will-be-a-real-problem-for-high-end-gaming-for-several-years
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.33

    ในทางกฎหมายและธุรกิจ คำว่า "นิติบุคคล" เป็นแนวคิดพื้นฐานที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่คนทั่วไปมักจะเข้าใจเพียงผิวเผิน นิติบุคคลนั้นสามารถนิยามได้อย่างกระชับและทรงพลัง นั่นคือ องค์กรที่มีสถานะทางกฎหมายเหมือนบุคคล การเปรียบเทียบนี้ไม่ได้เป็นเพียงสำนวนโวหาร แต่เป็นการมอบสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบทางกฎหมายให้กับกลุ่มบุคคลหรือทรัพย์สินที่รวมกันเป็นหน่วยงานเดียว ภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของประเทศไทย นิติบุคคลถือเป็น "บุคคล" ประเภทหนึ่งนอกเหนือจากบุคคลธรรมดา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมที่ซับซ้อนเกินกว่าขีดความสามารถของปัจเจกชน ตัวอย่างที่ชัดเจนและพบเห็นได้บ่อยที่สุดคือ "บริษัทจำกัด" ซึ่งเป็นรูปแบบทางธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากให้ข้อได้เปรียบที่สำคัญหลายประการ การเกิดขึ้นของนิติบุคคลนั้นมีรากฐานมาจากหลักการที่ว่า เพื่อให้การดำเนินงานขนาดใหญ่มีความมั่นคงและต่อเนื่อง จำเป็นต้องแยกสถานะของกิจการออกจากสถานะส่วนตัวของผู้ก่อตั้งหรือผู้ถือหุ้น นิติบุคคลจึงมีทรัพย์สินเป็นของตนเอง มีหนี้สินเป็นของตนเอง สามารถเข้าทำสัญญา ฟ้องร้อง หรือถูกฟ้องร้องในนามขององค์กรได้ ซึ่งเป็นหลักการที่เรียกว่า "การแยกทรัพย์สิน" หรือ "Separate Legal Personality" หลักการนี้ส่งผลให้ผู้ถือหุ้นในบริษัทจำกัดได้รับความคุ้มครองที่เรียกว่า "ความรับผิดจำกัด" (Limited Liability) นั่นคือความรับผิดของพวกเขาจะถูกจำกัดอยู่เพียงแค่จำนวนเงินค่าหุ้นที่ยังชำระไม่ครบเท่านั้น หากบริษัทเกิดปัญหาล้มละลายหรือมีหนี้สินมหาศาล เจ้าหนี้จะสามารถเรียกร้องได้เพียงแค่ทรัพย์สินของบริษัทเท่านั้น จะไม่สามารถลุกลามไปยึดทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ถือหุ้นได้ เว้นแต่จะมีกรณีที่ศาลพิสูจน์ได้ว่ามีการใช้สถานะนิติบุคคลไปในทางที่ทุจริตหรือมิชอบด้วยกฎหมาย นอกเหนือจากบริษัทจำกัดแล้ว นิติบุคคลยังครอบคลุมไปถึงรูปแบบองค์กรอื่นๆ อีกมากมาย เช่น มูลนิธิ สมาคม ห้างหุ้นส่วนจำกัดที่ได้จดทะเบียน ตลอดจนหน่วยงานของรัฐบางประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีกฎหมายเฉพาะที่ใช้กำกับดูแลแตกต่างกันไป แต่หลักการพื้นฐานที่ว่ามี "สถานะทางกฎหมายเหมือนบุคคล" นั้นยังคงเป็นแก่นเดียวกัน กล่าวคือ พวกเขาสามารถดำรงอยู่ได้อย่างเป็นอิสระ มีอายุยืนยาวกว่าผู้ก่อตั้ง สามารถสร้างความสัมพันธ์ทางกฎหมายกับบุคคลภายนอกได้ และที่สำคัญที่สุดคือ สามารถเป็นเจ้าของสิทธิและต้องรับผิดชอบตามกฎหมายได้อย่างสมบูรณ์

    หลักการแยกสถานะนี้เองที่ทำให้นิติบุคคลกลายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสมัยใหม่ ลองจินตนาการถึงการลงทุนขนาดใหญ่ระดับประเทศหรือระดับโลก หากไม่มีรูปแบบนิติบุคคลที่ให้ความรับผิดจำกัด ใครเล่าจะกล้าเสี่ยงนำทรัพย์สินทั้งหมดของตนเองมาลงทุนในกิจการที่มีความไม่แน่นอนสูง นิติบุคคลจึงช่วยกระจายความเสี่ยงและดึงดูดเงินทุนจำนวนมากเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรม อย่างไรก็ตาม การได้รับสถานะเป็นบุคคลตามกฎหมายนั้นมาพร้อมกับภาระหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด นิติบุคคลมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายภาษี กฎหมายแรงงาน กฎหมายสิ่งแวดล้อม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง การดำเนินงานต้องโปร่งใสและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้จดทะเบียนไว้กับหน่วยงานราชการ หากนิติบุคคลใดกระทำการนอกเหนืออำนาจหรือวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ การกระทำนั้นอาจตกเป็นโมฆะหรือมีผลผูกพันเพียงบางส่วน การบริหารจัดการนิติบุคคลจึงต้องอาศัยคณะบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นผู้แทน เช่น กรรมการบริษัท ซึ่งผู้แทนเหล่านี้ต้องกระทำการด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและรอบคอบเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของนิติบุคคลเป็นสำคัญ หากกรรมการกระทำการโดยประมาทเลินเล่อหรือทุจริตจนก่อให้เกิดความเสียหายแก่นิติบุคคลหรือบุคคลภายนอก กรรมการเหล่านั้นอาจต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่งและทางอาญาด้วยตนเอง ดังนั้น การใช้เครื่องมือทางกฎหมายที่เรียกว่านิติบุคคลนี้จึงต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงทั้งสิทธิที่ได้รับและความรับผิดชอบที่ตามมา การดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมายจะช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นคงให้กับองค์กร ขณะที่การละเลยข้อกำหนดทางกฎหมายอาจนำไปสู่ปัญหาทางคดีและการล่มสลายของกิจการได้

    โดยสรุปแล้ว นิติบุคคลไม่ใช่เพียงแค่ชื่อเรียกขององค์กร แต่เป็นโครงสร้างทางกฎหมายที่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพสูง มันคือการสร้าง "บุคคลเทียม" ขึ้นมาเพื่อรองรับการทำธุรกรรมขนาดใหญ่และลดความเสี่ยงส่วนตัวของผู้ประกอบการ นิติบุคคลมอบโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งและความยั่งยืนให้กับกิจการผ่านหลักการความรับผิดจำกัดและการมีอยู่ที่เป็นอิสระ แต่ในทางกลับกัน มันก็เรียกร้องความรับผิดชอบในระดับเดียวกับบุคคลธรรมดาในการปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ ความเข้าใจที่ถ่องแท้ในสถานะทางกฎหมายและผลที่ตามมาของการเป็นนิติบุคคล เช่น บริษัทจำกัด จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการก้าวเข้าสู่โลกธุรกิจอย่างมั่นคงและเติบโตอย่างยั่งยืน การบริหารนิติบุคคลอย่างมีธรรมาภิบาลและการยึดมั่นในกรอบกฎหมายคือกุญแจสำคัญที่ทำให้องค์กรเหล่านี้สามารถใช้สิทธิอำนาจเทียบเท่าบุคคลได้อย่างเต็มที่และเป็นธรรมในสังคม
    บทความกฎหมาย EP.33 ในทางกฎหมายและธุรกิจ คำว่า "นิติบุคคล" เป็นแนวคิดพื้นฐานที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่คนทั่วไปมักจะเข้าใจเพียงผิวเผิน นิติบุคคลนั้นสามารถนิยามได้อย่างกระชับและทรงพลัง นั่นคือ องค์กรที่มีสถานะทางกฎหมายเหมือนบุคคล การเปรียบเทียบนี้ไม่ได้เป็นเพียงสำนวนโวหาร แต่เป็นการมอบสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบทางกฎหมายให้กับกลุ่มบุคคลหรือทรัพย์สินที่รวมกันเป็นหน่วยงานเดียว ภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของประเทศไทย นิติบุคคลถือเป็น "บุคคล" ประเภทหนึ่งนอกเหนือจากบุคคลธรรมดา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมที่ซับซ้อนเกินกว่าขีดความสามารถของปัจเจกชน ตัวอย่างที่ชัดเจนและพบเห็นได้บ่อยที่สุดคือ "บริษัทจำกัด" ซึ่งเป็นรูปแบบทางธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากให้ข้อได้เปรียบที่สำคัญหลายประการ การเกิดขึ้นของนิติบุคคลนั้นมีรากฐานมาจากหลักการที่ว่า เพื่อให้การดำเนินงานขนาดใหญ่มีความมั่นคงและต่อเนื่อง จำเป็นต้องแยกสถานะของกิจการออกจากสถานะส่วนตัวของผู้ก่อตั้งหรือผู้ถือหุ้น นิติบุคคลจึงมีทรัพย์สินเป็นของตนเอง มีหนี้สินเป็นของตนเอง สามารถเข้าทำสัญญา ฟ้องร้อง หรือถูกฟ้องร้องในนามขององค์กรได้ ซึ่งเป็นหลักการที่เรียกว่า "การแยกทรัพย์สิน" หรือ "Separate Legal Personality" หลักการนี้ส่งผลให้ผู้ถือหุ้นในบริษัทจำกัดได้รับความคุ้มครองที่เรียกว่า "ความรับผิดจำกัด" (Limited Liability) นั่นคือความรับผิดของพวกเขาจะถูกจำกัดอยู่เพียงแค่จำนวนเงินค่าหุ้นที่ยังชำระไม่ครบเท่านั้น หากบริษัทเกิดปัญหาล้มละลายหรือมีหนี้สินมหาศาล เจ้าหนี้จะสามารถเรียกร้องได้เพียงแค่ทรัพย์สินของบริษัทเท่านั้น จะไม่สามารถลุกลามไปยึดทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ถือหุ้นได้ เว้นแต่จะมีกรณีที่ศาลพิสูจน์ได้ว่ามีการใช้สถานะนิติบุคคลไปในทางที่ทุจริตหรือมิชอบด้วยกฎหมาย นอกเหนือจากบริษัทจำกัดแล้ว นิติบุคคลยังครอบคลุมไปถึงรูปแบบองค์กรอื่นๆ อีกมากมาย เช่น มูลนิธิ สมาคม ห้างหุ้นส่วนจำกัดที่ได้จดทะเบียน ตลอดจนหน่วยงานของรัฐบางประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีกฎหมายเฉพาะที่ใช้กำกับดูแลแตกต่างกันไป แต่หลักการพื้นฐานที่ว่ามี "สถานะทางกฎหมายเหมือนบุคคล" นั้นยังคงเป็นแก่นเดียวกัน กล่าวคือ พวกเขาสามารถดำรงอยู่ได้อย่างเป็นอิสระ มีอายุยืนยาวกว่าผู้ก่อตั้ง สามารถสร้างความสัมพันธ์ทางกฎหมายกับบุคคลภายนอกได้ และที่สำคัญที่สุดคือ สามารถเป็นเจ้าของสิทธิและต้องรับผิดชอบตามกฎหมายได้อย่างสมบูรณ์ หลักการแยกสถานะนี้เองที่ทำให้นิติบุคคลกลายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสมัยใหม่ ลองจินตนาการถึงการลงทุนขนาดใหญ่ระดับประเทศหรือระดับโลก หากไม่มีรูปแบบนิติบุคคลที่ให้ความรับผิดจำกัด ใครเล่าจะกล้าเสี่ยงนำทรัพย์สินทั้งหมดของตนเองมาลงทุนในกิจการที่มีความไม่แน่นอนสูง นิติบุคคลจึงช่วยกระจายความเสี่ยงและดึงดูดเงินทุนจำนวนมากเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรม อย่างไรก็ตาม การได้รับสถานะเป็นบุคคลตามกฎหมายนั้นมาพร้อมกับภาระหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด นิติบุคคลมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายภาษี กฎหมายแรงงาน กฎหมายสิ่งแวดล้อม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง การดำเนินงานต้องโปร่งใสและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้จดทะเบียนไว้กับหน่วยงานราชการ หากนิติบุคคลใดกระทำการนอกเหนืออำนาจหรือวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ การกระทำนั้นอาจตกเป็นโมฆะหรือมีผลผูกพันเพียงบางส่วน การบริหารจัดการนิติบุคคลจึงต้องอาศัยคณะบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นผู้แทน เช่น กรรมการบริษัท ซึ่งผู้แทนเหล่านี้ต้องกระทำการด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและรอบคอบเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของนิติบุคคลเป็นสำคัญ หากกรรมการกระทำการโดยประมาทเลินเล่อหรือทุจริตจนก่อให้เกิดความเสียหายแก่นิติบุคคลหรือบุคคลภายนอก กรรมการเหล่านั้นอาจต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่งและทางอาญาด้วยตนเอง ดังนั้น การใช้เครื่องมือทางกฎหมายที่เรียกว่านิติบุคคลนี้จึงต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงทั้งสิทธิที่ได้รับและความรับผิดชอบที่ตามมา การดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมายจะช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นคงให้กับองค์กร ขณะที่การละเลยข้อกำหนดทางกฎหมายอาจนำไปสู่ปัญหาทางคดีและการล่มสลายของกิจการได้ โดยสรุปแล้ว นิติบุคคลไม่ใช่เพียงแค่ชื่อเรียกขององค์กร แต่เป็นโครงสร้างทางกฎหมายที่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพสูง มันคือการสร้าง "บุคคลเทียม" ขึ้นมาเพื่อรองรับการทำธุรกรรมขนาดใหญ่และลดความเสี่ยงส่วนตัวของผู้ประกอบการ นิติบุคคลมอบโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งและความยั่งยืนให้กับกิจการผ่านหลักการความรับผิดจำกัดและการมีอยู่ที่เป็นอิสระ แต่ในทางกลับกัน มันก็เรียกร้องความรับผิดชอบในระดับเดียวกับบุคคลธรรมดาในการปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ ความเข้าใจที่ถ่องแท้ในสถานะทางกฎหมายและผลที่ตามมาของการเป็นนิติบุคคล เช่น บริษัทจำกัด จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการก้าวเข้าสู่โลกธุรกิจอย่างมั่นคงและเติบโตอย่างยั่งยืน การบริหารนิติบุคคลอย่างมีธรรมาภิบาลและการยึดมั่นในกรอบกฎหมายคือกุญแจสำคัญที่ทำให้องค์กรเหล่านี้สามารถใช้สิทธิอำนาจเทียบเท่าบุคคลได้อย่างเต็มที่และเป็นธรรมในสังคม
    0 Comments 0 Shares 122 Views 0 Reviews
  • Anthropic เปิดตัวความสามารถ Advanced Tool Use บนแพลตฟอร์ม Claude

    Anthropic ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Advanced Tool Use (ATU) สำหรับนักพัฒนา Claude ซึ่งช่วยให้ AI สามารถทำงานร่วมกับเครื่องมือภายนอกได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่เพียงแต่เรียกใช้ API หรือฐานข้อมูล แต่ยังสามารถประสานงานหลายเครื่องมือพร้อมกันเพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การสร้างภาพ หรือการทำงานกับระบบซอฟต์แวร์ที่มีหลายโมดูล

    ความสามารถหลักของ ATU
    ATU ช่วยให้นักพัฒนาสามารถกำหนดเครื่องมือเฉพาะที่ Claude จะใช้ และ AI สามารถเลือกว่าจะเรียกใช้เครื่องมือใดในแต่ละขั้นตอนของงาน ตัวอย่างเช่น การสร้างรายงานที่ต้องดึงข้อมูลจากฐานข้อมูล → วิเคราะห์ด้วย Python → และแสดงผลเป็นกราฟ ซึ่ง Claude สามารถจัดการลำดับการทำงานได้เองโดยไม่ต้องให้มนุษย์สั่งทีละขั้น

    ผลกระทบต่อวงการ AI และนักพัฒนา
    การเปิดตัว ATU ถือเป็นการยกระดับจากการใช้ AI แบบ “ตอบคำถาม” ไปสู่การเป็น AI Agent ที่สามารถทำงานเชิงรุกและประสานงานกับระบบจริงได้ นักวิจัยมองว่าฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ AI ถูกนำไปใช้ในงานที่ซับซ้อน เช่น การวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ การจัดการธุรกิจ หรือการพัฒนาโปรแกรมที่ต้องใช้หลายเครื่องมือร่วมกัน ซึ่งจะช่วยลดภาระของนักพัฒนาและเพิ่มความเร็วในการทำงาน

    ความท้าทายและข้อควรระวัง
    แม้ ATU จะเปิดโอกาสใหม่ แต่ก็มีความเสี่ยงด้าน ความปลอดภัยและการควบคุม หาก AI สามารถเข้าถึงเครื่องมือที่มีสิทธิ์สูง เช่น ระบบฐานข้อมูลหรือ API ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน อาจเกิดการรั่วไหลของข้อมูลหรือการใช้ผิดวัตถุประสงค์ได้ ดังนั้น Anthropic จึงเน้นย้ำว่าต้องมีการกำกับดูแลและการตั้งค่าอย่างรอบคอบ เพื่อให้การใช้งาน ATU ปลอดภัยและสอดคล้องกับมาตรฐานจริยธรรม

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ Advanced Tool Use (ATU)
    ช่วยให้ Claude ใช้งานเครื่องมือภายนอกได้อย่างยืดหยุ่นและซับซ้อน

    ความสามารถหลัก
    เลือกและจัดการลำดับการใช้เครื่องมือ เช่น API, Python, การสร้างกราฟ

    ผลกระทบต่อวงการ
    ยกระดับ Claude จาก AI ตอบคำถามไปสู่ AI Agent ที่ทำงานเชิงรุก

    โอกาสใช้งาน
    เหมาะกับงานวิเคราะห์ข้อมูล วิทยาศาสตร์ ธุรกิจ และการพัฒนาโปรแกรม

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    หาก AI เข้าถึงเครื่องมือที่มีสิทธิ์สูง อาจเกิดการรั่วไหลข้อมูล

    ข้อควรระวังในการใช้งาน
    ต้องมีการกำกับดูแลและตั้งค่าอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันการใช้ผิดวัตถุประสงค์

    https://www.anthropic.com/engineering/advanced-tool-use
    🤖 Anthropic เปิดตัวความสามารถ Advanced Tool Use บนแพลตฟอร์ม Claude Anthropic ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Advanced Tool Use (ATU) สำหรับนักพัฒนา Claude ซึ่งช่วยให้ AI สามารถทำงานร่วมกับเครื่องมือภายนอกได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่เพียงแต่เรียกใช้ API หรือฐานข้อมูล แต่ยังสามารถประสานงานหลายเครื่องมือพร้อมกันเพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การสร้างภาพ หรือการทำงานกับระบบซอฟต์แวร์ที่มีหลายโมดูล 🛠️ ความสามารถหลักของ ATU ATU ช่วยให้นักพัฒนาสามารถกำหนดเครื่องมือเฉพาะที่ Claude จะใช้ และ AI สามารถเลือกว่าจะเรียกใช้เครื่องมือใดในแต่ละขั้นตอนของงาน ตัวอย่างเช่น การสร้างรายงานที่ต้องดึงข้อมูลจากฐานข้อมูล → วิเคราะห์ด้วย Python → และแสดงผลเป็นกราฟ ซึ่ง Claude สามารถจัดการลำดับการทำงานได้เองโดยไม่ต้องให้มนุษย์สั่งทีละขั้น 🌍 ผลกระทบต่อวงการ AI และนักพัฒนา การเปิดตัว ATU ถือเป็นการยกระดับจากการใช้ AI แบบ “ตอบคำถาม” ไปสู่การเป็น AI Agent ที่สามารถทำงานเชิงรุกและประสานงานกับระบบจริงได้ นักวิจัยมองว่าฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ AI ถูกนำไปใช้ในงานที่ซับซ้อน เช่น การวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ การจัดการธุรกิจ หรือการพัฒนาโปรแกรมที่ต้องใช้หลายเครื่องมือร่วมกัน ซึ่งจะช่วยลดภาระของนักพัฒนาและเพิ่มความเร็วในการทำงาน ⚠️ ความท้าทายและข้อควรระวัง แม้ ATU จะเปิดโอกาสใหม่ แต่ก็มีความเสี่ยงด้าน ความปลอดภัยและการควบคุม หาก AI สามารถเข้าถึงเครื่องมือที่มีสิทธิ์สูง เช่น ระบบฐานข้อมูลหรือ API ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน อาจเกิดการรั่วไหลของข้อมูลหรือการใช้ผิดวัตถุประสงค์ได้ ดังนั้น Anthropic จึงเน้นย้ำว่าต้องมีการกำกับดูแลและการตั้งค่าอย่างรอบคอบ เพื่อให้การใช้งาน ATU ปลอดภัยและสอดคล้องกับมาตรฐานจริยธรรม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ Advanced Tool Use (ATU) ➡️ ช่วยให้ Claude ใช้งานเครื่องมือภายนอกได้อย่างยืดหยุ่นและซับซ้อน ✅ ความสามารถหลัก ➡️ เลือกและจัดการลำดับการใช้เครื่องมือ เช่น API, Python, การสร้างกราฟ ✅ ผลกระทบต่อวงการ ➡️ ยกระดับ Claude จาก AI ตอบคำถามไปสู่ AI Agent ที่ทำงานเชิงรุก ✅ โอกาสใช้งาน ➡️ เหมาะกับงานวิเคราะห์ข้อมูล วิทยาศาสตร์ ธุรกิจ และการพัฒนาโปรแกรม ‼️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ⛔ หาก AI เข้าถึงเครื่องมือที่มีสิทธิ์สูง อาจเกิดการรั่วไหลข้อมูล ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน ⛔ ต้องมีการกำกับดูแลและตั้งค่าอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันการใช้ผิดวัตถุประสงค์ https://www.anthropic.com/engineering/advanced-tool-use
    WWW.ANTHROPIC.COM
    Introducing advanced tool use on the Claude Developer Platform
    Claude can now discover, learn, and execute tools dynamically to enable agents that take action in the real world. Here’s how.
    0 Comments 0 Shares 54 Views 0 Reviews
  • “AI กับความปลอดภัยไซเบอร์ – ดาบสองคมที่ต้องระวัง”

    ในยุคดิจิทัลที่การโจมตีไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นทุกวัน AI ถูกนำมาใช้เพื่อเสริมเกราะป้องกันองค์กร โดยสามารถตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติได้ภายในไม่กี่วินาที และเรียนรู้จากเหตุการณ์โจมตีที่ผ่านมาเพื่อพัฒนาการตอบสนองที่แม่นยำขึ้น ตัวอย่างเช่น หากพนักงานเผลอคลิกลิงก์อันตราย AI สามารถแยกเครื่องนั้นออกจากระบบทันที ป้องกันการแพร่กระจายของมัลแวร์และลดความเสียหายมหาศาล

    อย่างไรก็ตาม AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือของฝ่ายป้องกันเท่านั้น แฮกเกอร์เองก็ใช้ AI เพื่อสร้างอีเมลฟิชชิ่งที่สมจริงจนยากจะแยกแยะ หรือแม้แต่ใช้เทคนิค “data poisoning” ป้อนข้อมูลผิด ๆ ให้ระบบเรียนรู้จนเกิดพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจาก “agentic AI” ที่สามารถทำงานอัตโนมัติได้เอง หากถูกควบคุมโดยผู้ไม่หวังดี อาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลหรือการติดตั้งมัลแวร์โดยไม่ต้องมีมนุษย์คอยสั่งการ

    สิ่งที่น่ากังวลอีกประการคือ ความโปร่งใสในการตัดสินใจของ AI หลายครั้งแม้แต่ผู้พัฒนาก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใด AI จึงตัดสินใจเช่นนั้น ทำให้การตรวจสอบและการสร้างความเชื่อมั่นเป็นเรื่องท้าทาย หากไม่มีการกำกับดูแลที่ดี องค์กรอาจเผชิญกับการบล็อกข้อมูลที่ปลอดภัย หรือปล่อยให้ภัยคุกคามเล็ดลอดไปโดยไม่ตั้งใจ

    อนาคตของ AI ในด้านความปลอดภัยไซเบอร์จึงขึ้นอยู่กับ การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและมนุษย์ การตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง การอัปเดตระบบ และการฝึกอบรมบุคลากรให้เข้าใจการใช้ AI อย่างปลอดภัย จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างประโยชน์และความเสี่ยง

    สรุปสาระสำคัญ
    บทบาทของ AI ในการป้องกันภัยไซเบอร์
    ตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติได้รวดเร็ว
    เรียนรู้จากการโจมตีที่ผ่านมาเพื่อเพิ่มความแม่นยำ
    ลดภาระงานและค่าใช้จ่ายขององค์กร

    การใช้ AI โดยองค์กรชั้นนำ
    ระบบสามารถแยกเครื่องที่ติดไวรัสออกจากเครือข่ายทันที
    ป้องกันการแพร่กระจายของมัลแวร์และลดความเสียหาย

    ความเสี่ยงจากการใช้ AI โดยแฮกเกอร์
    อีเมลฟิชชิ่งที่สมจริงและยากต่อการตรวจจับ
    การโจมตีแบบ data poisoning ทำให้ AI เรียนรู้ผิดพลาด
    ความเสี่ยงจาก agentic AI ที่ทำงานอัตโนมัติและอาจถูกควบคุมโดยผู้ไม่หวังดี

    ข้อจำกัดและความท้าทายของ AI
    การตัดสินใจที่ไม่สามารถอธิบายได้อย่างโปร่งใส
    ความเสี่ยงในการบล็อกข้อมูลที่ปลอดภัยหรือปล่อยภัยคุกคามโดยไม่ตั้งใจ
    ต้องมีการตรวจสอบและกำกับดูแลโดยมนุษย์อย่างต่อเนื่อง

    https://hackread.com/can-we-trust-ai-with-cybersecurity-ai-security/
    🛡️ “AI กับความปลอดภัยไซเบอร์ – ดาบสองคมที่ต้องระวัง” ในยุคดิจิทัลที่การโจมตีไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นทุกวัน AI ถูกนำมาใช้เพื่อเสริมเกราะป้องกันองค์กร โดยสามารถตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติได้ภายในไม่กี่วินาที และเรียนรู้จากเหตุการณ์โจมตีที่ผ่านมาเพื่อพัฒนาการตอบสนองที่แม่นยำขึ้น ตัวอย่างเช่น หากพนักงานเผลอคลิกลิงก์อันตราย AI สามารถแยกเครื่องนั้นออกจากระบบทันที ป้องกันการแพร่กระจายของมัลแวร์และลดความเสียหายมหาศาล อย่างไรก็ตาม AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือของฝ่ายป้องกันเท่านั้น แฮกเกอร์เองก็ใช้ AI เพื่อสร้างอีเมลฟิชชิ่งที่สมจริงจนยากจะแยกแยะ หรือแม้แต่ใช้เทคนิค “data poisoning” ป้อนข้อมูลผิด ๆ ให้ระบบเรียนรู้จนเกิดพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจาก “agentic AI” ที่สามารถทำงานอัตโนมัติได้เอง หากถูกควบคุมโดยผู้ไม่หวังดี อาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลหรือการติดตั้งมัลแวร์โดยไม่ต้องมีมนุษย์คอยสั่งการ สิ่งที่น่ากังวลอีกประการคือ ความโปร่งใสในการตัดสินใจของ AI หลายครั้งแม้แต่ผู้พัฒนาก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใด AI จึงตัดสินใจเช่นนั้น ทำให้การตรวจสอบและการสร้างความเชื่อมั่นเป็นเรื่องท้าทาย หากไม่มีการกำกับดูแลที่ดี องค์กรอาจเผชิญกับการบล็อกข้อมูลที่ปลอดภัย หรือปล่อยให้ภัยคุกคามเล็ดลอดไปโดยไม่ตั้งใจ อนาคตของ AI ในด้านความปลอดภัยไซเบอร์จึงขึ้นอยู่กับ การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและมนุษย์ การตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง การอัปเดตระบบ และการฝึกอบรมบุคลากรให้เข้าใจการใช้ AI อย่างปลอดภัย จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างประโยชน์และความเสี่ยง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ บทบาทของ AI ในการป้องกันภัยไซเบอร์ ➡️ ตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติได้รวดเร็ว ➡️ เรียนรู้จากการโจมตีที่ผ่านมาเพื่อเพิ่มความแม่นยำ ➡️ ลดภาระงานและค่าใช้จ่ายขององค์กร ✅ การใช้ AI โดยองค์กรชั้นนำ ➡️ ระบบสามารถแยกเครื่องที่ติดไวรัสออกจากเครือข่ายทันที ➡️ ป้องกันการแพร่กระจายของมัลแวร์และลดความเสียหาย ‼️ ความเสี่ยงจากการใช้ AI โดยแฮกเกอร์ ⛔ อีเมลฟิชชิ่งที่สมจริงและยากต่อการตรวจจับ ⛔ การโจมตีแบบ data poisoning ทำให้ AI เรียนรู้ผิดพลาด ⛔ ความเสี่ยงจาก agentic AI ที่ทำงานอัตโนมัติและอาจถูกควบคุมโดยผู้ไม่หวังดี ‼️ ข้อจำกัดและความท้าทายของ AI ⛔ การตัดสินใจที่ไม่สามารถอธิบายได้อย่างโปร่งใส ⛔ ความเสี่ยงในการบล็อกข้อมูลที่ปลอดภัยหรือปล่อยภัยคุกคามโดยไม่ตั้งใจ ⛔ ต้องมีการตรวจสอบและกำกับดูแลโดยมนุษย์อย่างต่อเนื่อง https://hackread.com/can-we-trust-ai-with-cybersecurity-ai-security/
    HACKREAD.COM
    Can We Trust AI with Our Cybersecurity? The Growing Importance of AI Security
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • Ultramarine Linux 43 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

    Ultramarine Linux 43 เป็นดิสโทรที่สร้างบน Fedora 43 โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสบการณ์ใช้งานที่ยืดหยุ่นและทันสมัย รุ่นนี้มาพร้อมกับ Pinebook Pro support และอิมเมจสำหรับ Raspberry Pi 4 ที่ได้รับการปรับปรุง นอกจากนี้ยังรองรับ CachyOS kernel เป็นตัวเลือกเสริมสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการปรับแต่งประสิทธิภาพ

    เดสก์ท็อปและธีมใหม่
    ในเวอร์ชันนี้มีการอัปเดตเดสก์ท็อปหลัก ได้แก่ KDE Plasma 6.5, GNOME 49, Xfce 4.20 และ Budgie โดย Xfce edition มาพร้อมธีมใหม่ชื่อ Orchis ที่ช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานให้ทันสมัยและสวยงามขึ้น ขณะเดียวกันทีมพัฒนาได้ประกาศว่า Plasma Edition จะเป็นรุ่นที่แนะนำสำหรับผู้ใช้ใหม่ แทนที่ Budgie ที่เคยเป็น "Flagship" มาก่อน

    ฟีเจอร์ใหม่ Readymade Installer
    Ultramarine 43 เป็นรุ่นแรกที่นำเสนอ Readymade installer ซึ่งเป็น frontend สำหรับ systemd-repart โดยออกแบบมาเพื่อการติดตั้งเต็มดิสก์เท่านั้น ถือเป็นทางเลือกใหม่แทน Anaconda installer ที่ใช้กันมายาวนาน ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การติดตั้งระบบง่ายขึ้นและเหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความรวดเร็ว

    การกลับมาของ RPM และการปรับปรุงอื่น ๆ
    นอกจาก Flatpak แล้ว Ultramarine 43 ยังนำตัวเลือก RPM packages กลับมาอีกครั้ง เพื่อให้ผู้ใช้มีทางเลือกในการติดตั้งซอฟต์แวร์มากขึ้น รุ่นนี้ยังรองรับสถาปัตยกรรม x86_64 และ ARM64 (AArch64) ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งบนเครื่อง PC และอุปกรณ์ ARM

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Ultramarine Linux 43 เปิดตัวบน Fedora 43
    รองรับ Pinebook Pro และ Raspberry Pi 4

    อัปเดตเดสก์ท็อปหลัก
    KDE Plasma 6.5, GNOME 49, Xfce 4.20, Budgie พร้อมธีม Orchis

    Plasma Edition กลายเป็นรุ่นแนะนำ
    แทนที่ Budgie ที่เคยเป็น Flagship

    Readymade Installer เปิดตัวครั้งแรก
    ใช้ systemd-repart สำหรับการติดตั้งเต็มดิสก์

    การกลับมาของ RPM packages
    เพิ่มความยืดหยุ่นในการติดตั้งซอฟต์แวร์

    ข้อควรระวัง
    Readymade installer เหมาะสำหรับ full disk install เท่านั้น ไม่ควรใช้กับการติดตั้งแบบ dual-boot

    https://9to5linux.com/fedora-based-ultramarine-43-is-now-available-with-pinebook-pro-support
    🖥️ Ultramarine Linux 43 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ Ultramarine Linux 43 เป็นดิสโทรที่สร้างบน Fedora 43 โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสบการณ์ใช้งานที่ยืดหยุ่นและทันสมัย รุ่นนี้มาพร้อมกับ Pinebook Pro support และอิมเมจสำหรับ Raspberry Pi 4 ที่ได้รับการปรับปรุง นอกจากนี้ยังรองรับ CachyOS kernel เป็นตัวเลือกเสริมสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการปรับแต่งประสิทธิภาพ 🎨 เดสก์ท็อปและธีมใหม่ ในเวอร์ชันนี้มีการอัปเดตเดสก์ท็อปหลัก ได้แก่ KDE Plasma 6.5, GNOME 49, Xfce 4.20 และ Budgie โดย Xfce edition มาพร้อมธีมใหม่ชื่อ Orchis ที่ช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานให้ทันสมัยและสวยงามขึ้น ขณะเดียวกันทีมพัฒนาได้ประกาศว่า Plasma Edition จะเป็นรุ่นที่แนะนำสำหรับผู้ใช้ใหม่ แทนที่ Budgie ที่เคยเป็น "Flagship" มาก่อน ⚡ ฟีเจอร์ใหม่ Readymade Installer Ultramarine 43 เป็นรุ่นแรกที่นำเสนอ Readymade installer ซึ่งเป็น frontend สำหรับ systemd-repart โดยออกแบบมาเพื่อการติดตั้งเต็มดิสก์เท่านั้น ถือเป็นทางเลือกใหม่แทน Anaconda installer ที่ใช้กันมายาวนาน ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การติดตั้งระบบง่ายขึ้นและเหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความรวดเร็ว 🔧 การกลับมาของ RPM และการปรับปรุงอื่น ๆ นอกจาก Flatpak แล้ว Ultramarine 43 ยังนำตัวเลือก RPM packages กลับมาอีกครั้ง เพื่อให้ผู้ใช้มีทางเลือกในการติดตั้งซอฟต์แวร์มากขึ้น รุ่นนี้ยังรองรับสถาปัตยกรรม x86_64 และ ARM64 (AArch64) ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งบนเครื่อง PC และอุปกรณ์ ARM 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Ultramarine Linux 43 เปิดตัวบน Fedora 43 ➡️ รองรับ Pinebook Pro และ Raspberry Pi 4 ✅ อัปเดตเดสก์ท็อปหลัก ➡️ KDE Plasma 6.5, GNOME 49, Xfce 4.20, Budgie พร้อมธีม Orchis ✅ Plasma Edition กลายเป็นรุ่นแนะนำ ➡️ แทนที่ Budgie ที่เคยเป็น Flagship ✅ Readymade Installer เปิดตัวครั้งแรก ➡️ ใช้ systemd-repart สำหรับการติดตั้งเต็มดิสก์ ✅ การกลับมาของ RPM packages ➡️ เพิ่มความยืดหยุ่นในการติดตั้งซอฟต์แวร์ ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ Readymade installer เหมาะสำหรับ full disk install เท่านั้น ไม่ควรใช้กับการติดตั้งแบบ dual-boot https://9to5linux.com/fedora-based-ultramarine-43-is-now-available-with-pinebook-pro-support
    9TO5LINUX.COM
    Fedora-Based Ultramarine 43 Is Now Available with Pinebook Pro Support - 9to5Linux
    Ultramarine 43 Linux distribution is now available for download based on Fedora Linux 43 and featuring Pinebook Pro support.
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • “อาหารเสริมใยพืชราคาถูก ช่วยเพิ่มความจำในผู้สูงอายุ”

    นักวิจัยจาก King’s College London ทำการทดลองกับฝาแฝดอายุเกิน 60 ปี โดยให้หนึ่งคนรับประทานอาหารเสริมใยพืชผสมโปรตีน (inulin หรือ FOS) และอีกคนรับประทานยาหลอก ผลลัพธ์หลัง 3 เดือนพบว่า ผู้ที่ได้รับใยพืชมีคะแนนการทดสอบความจำสูงกว่า และยังมีการเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ในลำไส้ที่สัมพันธ์กับสุขภาพสมอง

    สิ่งที่โดดเด่นคือ Bifidobacterium ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์เพิ่มจำนวนขึ้นในกลุ่มที่ได้รับใยพืช โดยงานวิจัยก่อนหน้านี้ชี้ว่าแบคทีเรียชนิดนี้ช่วยลดความเสื่อมของสมองผ่านการเชื่อมโยงระหว่างลำไส้และสมอง (gut-brain axis) ทำให้แนวคิดเรื่อง “ลำไส้คือสมองที่สอง” มีหลักฐานสนับสนุนมากขึ้น

    แม้ผลการทดลองจะยังอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่ก็แสดงให้เห็นว่า อาหารเสริมที่ราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย อาจช่วยชะลอการเสื่อมของสมองในผู้สูงอายุได้จริง อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเตือนว่าจำเป็นต้องมีการศึกษาในระยะยาวและกับกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่กว่านี้เพื่อยืนยันผลลัพธ์

    นอกจากนี้ยังพบว่า แม้อาหารเสริมใยพืชจะช่วยเรื่องความจำและการประมวลผลข้อมูล แต่ไม่ได้ช่วยลดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อในผู้สูงอายุ ซึ่งหมายความว่าการดูแลสุขภาพโดยรวมยังต้องอาศัยการออกกำลังกายและโภชนาการที่สมดุลควบคู่ไปด้วย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ผลการทดลองกับฝาแฝด
    ผู้สูงอายุที่ได้รับ inulin หรือ FOS มีคะแนนความจำสูงขึ้น
    การเปลี่ยนแปลงจุลินทรีย์ในลำไส้สัมพันธ์กับสุขภาพสมอง

    บทบาทของจุลินทรีย์ Bifidobacterium
    เพิ่มจำนวนในกลุ่มที่ได้รับใยพืช
    ช่วยลดความเสื่อมของสมองผ่าน gut-brain axis

    ข้อดีของอาหารเสริมใยพืช
    ราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย
    อาจช่วยชะลอการเสื่อมของสมองในผู้สูงอายุ

    ข้อจำกัดของผลการศึกษา
    ยังไม่ช่วยลดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
    ต้องมีการศึกษาในระยะยาวและกลุ่มตัวอย่างใหญ่ขึ้น

    คำเตือนด้านการใช้
    ผลลัพธ์ยังเป็นเพียงการทดลองเบื้องต้น
    ไม่สามารถใช้แทนการออกกำลังกายหรือโภชนาการที่สมดุล
    ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ในผู้ที่มีโรคประจำตัว

    https://www.sciencealert.com/cheap-daily-supplement-appears-to-boost-brain-function-in-older-adults
    🧠 “อาหารเสริมใยพืชราคาถูก ช่วยเพิ่มความจำในผู้สูงอายุ” นักวิจัยจาก King’s College London ทำการทดลองกับฝาแฝดอายุเกิน 60 ปี โดยให้หนึ่งคนรับประทานอาหารเสริมใยพืชผสมโปรตีน (inulin หรือ FOS) และอีกคนรับประทานยาหลอก ผลลัพธ์หลัง 3 เดือนพบว่า ผู้ที่ได้รับใยพืชมีคะแนนการทดสอบความจำสูงกว่า และยังมีการเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ในลำไส้ที่สัมพันธ์กับสุขภาพสมอง สิ่งที่โดดเด่นคือ Bifidobacterium ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์เพิ่มจำนวนขึ้นในกลุ่มที่ได้รับใยพืช โดยงานวิจัยก่อนหน้านี้ชี้ว่าแบคทีเรียชนิดนี้ช่วยลดความเสื่อมของสมองผ่านการเชื่อมโยงระหว่างลำไส้และสมอง (gut-brain axis) ทำให้แนวคิดเรื่อง “ลำไส้คือสมองที่สอง” มีหลักฐานสนับสนุนมากขึ้น แม้ผลการทดลองจะยังอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่ก็แสดงให้เห็นว่า อาหารเสริมที่ราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย อาจช่วยชะลอการเสื่อมของสมองในผู้สูงอายุได้จริง อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเตือนว่าจำเป็นต้องมีการศึกษาในระยะยาวและกับกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่กว่านี้เพื่อยืนยันผลลัพธ์ นอกจากนี้ยังพบว่า แม้อาหารเสริมใยพืชจะช่วยเรื่องความจำและการประมวลผลข้อมูล แต่ไม่ได้ช่วยลดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อในผู้สูงอายุ ซึ่งหมายความว่าการดูแลสุขภาพโดยรวมยังต้องอาศัยการออกกำลังกายและโภชนาการที่สมดุลควบคู่ไปด้วย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ผลการทดลองกับฝาแฝด ➡️ ผู้สูงอายุที่ได้รับ inulin หรือ FOS มีคะแนนความจำสูงขึ้น ➡️ การเปลี่ยนแปลงจุลินทรีย์ในลำไส้สัมพันธ์กับสุขภาพสมอง ✅ บทบาทของจุลินทรีย์ Bifidobacterium ➡️ เพิ่มจำนวนในกลุ่มที่ได้รับใยพืช ➡️ ช่วยลดความเสื่อมของสมองผ่าน gut-brain axis ✅ ข้อดีของอาหารเสริมใยพืช ➡️ ราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย ➡️ อาจช่วยชะลอการเสื่อมของสมองในผู้สูงอายุ ✅ ข้อจำกัดของผลการศึกษา ➡️ ยังไม่ช่วยลดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ➡️ ต้องมีการศึกษาในระยะยาวและกลุ่มตัวอย่างใหญ่ขึ้น ‼️ คำเตือนด้านการใช้ ⛔ ผลลัพธ์ยังเป็นเพียงการทดลองเบื้องต้น ⛔ ไม่สามารถใช้แทนการออกกำลังกายหรือโภชนาการที่สมดุล ⛔ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ในผู้ที่มีโรคประจำตัว https://www.sciencealert.com/cheap-daily-supplement-appears-to-boost-brain-function-in-older-adults
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Cheap Daily Supplement Appears to Boost Brain Function in Older Adults
    What's good for your aging gut may also be good for your aging brain.
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • “Surveillance Pricing: เมื่อข้อมูลส่วนตัวถูกใช้กำหนดราคาสินค้า”

    แนวคิด surveillance pricing เกิดขึ้นจากการที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การค้นหาออนไลน์ การเคลื่อนไหวของเมาส์ หรือสินค้าที่ถูกทิ้งไว้ในตะกร้า เพื่อปรับราคาสินค้าให้เหมาะกับผู้บริโภคแต่ละคน ตัวอย่างเช่น พ่อแม่มือใหม่อาจเห็นสินค้าสำหรับเด็กที่แพงกว่าคู่รักที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หรือคนที่เพิ่งได้รับเงินเดือนอาจไม่ได้รับคูปองส่วนลดเหมือนคนอื่น

    แม้การตั้งราคาตามข้อมูลผู้บริโภคจะถูกกฎหมาย แต่ก็สร้างความรู้สึกไม่สบายใจ เพราะราคาที่จ่ายไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “อุปสงค์และอุปทาน” แบบดั้งเดิม แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่บริษัทคิดว่าผู้บริโภค “ยอมจ่าย” ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบและถูกติดตามตลอดเวลา

    ในสหรัฐฯ ประเด็นนี้ถูกหยิบยกโดย Federal Trade Commission (FTC) ที่เคยเปิดรับความคิดเห็นสาธารณะ แต่ภายหลังถูกปิดไป อย่างไรก็ตาม รัฐต่าง ๆ เช่น แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย และอิลลินอยส์ กำลังพิจารณากฎหมายเพื่อจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในการตั้งราคา ขณะที่รัฐนิวยอร์กถึงขั้นออกกฎหมายบังคับให้บริษัทต้องเปิดเผยหากใช้วิธีนี้ และอัยการสูงสุดได้ออกประกาศเตือนผู้บริโภคแล้ว

    นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวด้านผู้บริโภคมองว่า surveillance pricing เป็น “การปฏิวัติที่น่ากังวล” ในระบบเศรษฐกิจ เพราะมันใช้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น อารมณ์ ความเคลื่อนไหวสายตา หรือแม้แต่การกดแป้นพิมพ์ เพื่อกำหนดราคาสินค้าในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ผ้าอ้อมไปจนถึงขนมปัง

    สรุปเป็นหัวข้อ
    แนวคิด Surveillance Pricing
    ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การค้นหา การคลิก หรือการละทิ้งสินค้าในตะกร้า
    ตั้งราคาสินค้าแตกต่างกันตามผู้บริโภคแต่ละคน

    ตัวอย่างการใช้งานจริง
    พ่อแม่มือใหม่เห็นสินค้าสำหรับเด็กแพงกว่าคนอื่น
    คนที่เพิ่งได้รับเงินเดือนอาจไม่ได้รับคูปองส่วนลด

    สถานะทางกฎหมาย
    การตั้งราคาแบบนี้ยังถือว่าถูกกฎหมาย
    FTC เคยศึกษาเรื่องนี้ แต่ปิดช่องทางรับความคิดเห็นไปแล้ว

    การเคลื่อนไหวในระดับรัฐ
    แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย และอิลลินอยส์ กำลังพิจารณากฎหมายควบคุม
    นิวยอร์กออกกฎหมายบังคับให้บริษัทเปิดเผยการใช้วิธีนี้

    ข้อกังวลต่อผู้บริโภค
    รู้สึกถูกติดตามและถูกเอาเปรียบ
    ราคาสินค้าไม่สะท้อนอุปสงค์-อุปทาน แต่สะท้อนสิ่งที่บริษัทคิดว่าผู้บริโภคยอมจ่าย

    ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคม
    ใช้ข้อมูลละเอียดอ่อน เช่น อารมณ์และการเคลื่อนไหวสายตา
    อาจสร้างความไม่ไว้วางใจต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/why-039surveillance-pricing039-strikes-a-nerve
    🕵️ “Surveillance Pricing: เมื่อข้อมูลส่วนตัวถูกใช้กำหนดราคาสินค้า” แนวคิด surveillance pricing เกิดขึ้นจากการที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การค้นหาออนไลน์ การเคลื่อนไหวของเมาส์ หรือสินค้าที่ถูกทิ้งไว้ในตะกร้า เพื่อปรับราคาสินค้าให้เหมาะกับผู้บริโภคแต่ละคน ตัวอย่างเช่น พ่อแม่มือใหม่อาจเห็นสินค้าสำหรับเด็กที่แพงกว่าคู่รักที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หรือคนที่เพิ่งได้รับเงินเดือนอาจไม่ได้รับคูปองส่วนลดเหมือนคนอื่น แม้การตั้งราคาตามข้อมูลผู้บริโภคจะถูกกฎหมาย แต่ก็สร้างความรู้สึกไม่สบายใจ เพราะราคาที่จ่ายไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “อุปสงค์และอุปทาน” แบบดั้งเดิม แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่บริษัทคิดว่าผู้บริโภค “ยอมจ่าย” ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบและถูกติดตามตลอดเวลา ในสหรัฐฯ ประเด็นนี้ถูกหยิบยกโดย Federal Trade Commission (FTC) ที่เคยเปิดรับความคิดเห็นสาธารณะ แต่ภายหลังถูกปิดไป อย่างไรก็ตาม รัฐต่าง ๆ เช่น แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย และอิลลินอยส์ กำลังพิจารณากฎหมายเพื่อจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในการตั้งราคา ขณะที่รัฐนิวยอร์กถึงขั้นออกกฎหมายบังคับให้บริษัทต้องเปิดเผยหากใช้วิธีนี้ และอัยการสูงสุดได้ออกประกาศเตือนผู้บริโภคแล้ว นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวด้านผู้บริโภคมองว่า surveillance pricing เป็น “การปฏิวัติที่น่ากังวล” ในระบบเศรษฐกิจ เพราะมันใช้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น อารมณ์ ความเคลื่อนไหวสายตา หรือแม้แต่การกดแป้นพิมพ์ เพื่อกำหนดราคาสินค้าในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ผ้าอ้อมไปจนถึงขนมปัง 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ แนวคิด Surveillance Pricing ➡️ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การค้นหา การคลิก หรือการละทิ้งสินค้าในตะกร้า ➡️ ตั้งราคาสินค้าแตกต่างกันตามผู้บริโภคแต่ละคน ✅ ตัวอย่างการใช้งานจริง ➡️ พ่อแม่มือใหม่เห็นสินค้าสำหรับเด็กแพงกว่าคนอื่น ➡️ คนที่เพิ่งได้รับเงินเดือนอาจไม่ได้รับคูปองส่วนลด ✅ สถานะทางกฎหมาย ➡️ การตั้งราคาแบบนี้ยังถือว่าถูกกฎหมาย ➡️ FTC เคยศึกษาเรื่องนี้ แต่ปิดช่องทางรับความคิดเห็นไปแล้ว ✅ การเคลื่อนไหวในระดับรัฐ ➡️ แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย และอิลลินอยส์ กำลังพิจารณากฎหมายควบคุม ➡️ นิวยอร์กออกกฎหมายบังคับให้บริษัทเปิดเผยการใช้วิธีนี้ ‼️ ข้อกังวลต่อผู้บริโภค ⛔ รู้สึกถูกติดตามและถูกเอาเปรียบ ⛔ ราคาสินค้าไม่สะท้อนอุปสงค์-อุปทาน แต่สะท้อนสิ่งที่บริษัทคิดว่าผู้บริโภคยอมจ่าย ‼️ ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคม ⛔ ใช้ข้อมูลละเอียดอ่อน เช่น อารมณ์และการเคลื่อนไหวสายตา ⛔ อาจสร้างความไม่ไว้วางใจต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/why-039surveillance-pricing039-strikes-a-nerve
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Why 'surveillance pricing' strikes a nerve
    Surveillance pricing describes a practice in which a company sets a price for particular consumers based on what it gleans from their personal data.
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • X เปิดเผย Location ใน Account Transparency

    X (Twitter เดิม) เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในส่วน Account Transparency ที่แสดงประเทศและ region ของบัญชี ทำให้หลายคนกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว แต่ผู้ใช้สามารถเลือกให้แสดงเป็น Region หรือ Continent แทนประเทศได้ เพื่อป้องกันการเปิดเผยตำแหน่ง

    X ได้เพิ่มรายละเอียดใหม่ในโปรไฟล์ผู้ใช้ โดยจะแสดงว่า บัญชีตั้งอยู่ประเทศใด และเชื่อมโยงกับ App Store region ไหน ฟีเจอร์นี้ถูกมองว่าเป็นการเพิ่มความโปร่งใส แต่ก็สร้างความกังวลต่อผู้ใช้บางกลุ่ม เช่น นักเคลื่อนไหวหรือ whistleblowers ที่ไม่ต้องการเปิดเผยตำแหน่งที่แท้จริง

    วิธีซ่อน Location ด้วยการเปลี่ยน Region
    แม้จะไม่สามารถซ่อนตำแหน่งได้ทั้งหมด แต่ผู้ใช้สามารถเลือกให้แสดงเป็น Region หรือ Continent แทนประเทศ เช่น:
    จาก “United Kingdom” → “Europe”
    จาก “United States” → “North America”

    ขั้นตอนคือไปที่ Settings and Privacy → Privacy and Safety → Your X activity → About your account แล้วเลือกการแสดงผลเป็น Region หรือ Continent ตามต้องการ

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    X ระบุว่าฟีเจอร์นี้ช่วยลดการใช้บัญชีปลอมที่อ้างว่าอยู่ในประเทศหนึ่งแต่จริง ๆ แล้วอยู่ที่อื่น ตัวอย่างเช่น บัญชีที่อ้างว่าอยู่ในสหรัฐฯ แต่จริง ๆ แล้วดำเนินการจากไนจีเรียหรืออินเดีย ซึ่งถูกใช้เผยแพร่เนื้อหาที่ผิดกฎหมายหรือบิดเบือนข้อมูล ฟีเจอร์นี้จึงช่วยเพิ่มความโปร่งใส แต่ก็ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปต้องระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ของ X
    แสดงประเทศและ region ของบัญชีใน Account Transparency
    คล้ายกับฟีเจอร์ที่ Instagram และ Facebook เคยใช้

    วิธีซ่อน Location
    เปลี่ยนการแสดงผลจาก Country → Region หรือ Continent
    ทำได้ในเมนู Settings and Privacy

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    เพิ่มความโปร่งใส ลดการใช้บัญชีปลอม
    ช่วยให้ผู้ใช้รู้ว่าบัญชีมาจากที่ใดจริง ๆ

    คำเตือนด้านความเป็นส่วนตัว
    ไม่สามารถซ่อนตำแหน่งได้ทั้งหมด
    VPN ไม่ช่วยมาก เพราะ X ใช้ third-party ตรวจจับการใช้ VPN
    ผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงควรพิจารณาเสี่ยงก่อนใช้งาน

    https://hackread.com/how-to-hide-x-twitter-location-switch-region/
    🌍 X เปิดเผย Location ใน Account Transparency X (Twitter เดิม) เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในส่วน Account Transparency ที่แสดงประเทศและ region ของบัญชี ทำให้หลายคนกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว แต่ผู้ใช้สามารถเลือกให้แสดงเป็น Region หรือ Continent แทนประเทศได้ เพื่อป้องกันการเปิดเผยตำแหน่ง X ได้เพิ่มรายละเอียดใหม่ในโปรไฟล์ผู้ใช้ โดยจะแสดงว่า บัญชีตั้งอยู่ประเทศใด และเชื่อมโยงกับ App Store region ไหน ฟีเจอร์นี้ถูกมองว่าเป็นการเพิ่มความโปร่งใส แต่ก็สร้างความกังวลต่อผู้ใช้บางกลุ่ม เช่น นักเคลื่อนไหวหรือ whistleblowers ที่ไม่ต้องการเปิดเผยตำแหน่งที่แท้จริง 🔐 วิธีซ่อน Location ด้วยการเปลี่ยน Region แม้จะไม่สามารถซ่อนตำแหน่งได้ทั้งหมด แต่ผู้ใช้สามารถเลือกให้แสดงเป็น Region หรือ Continent แทนประเทศ เช่น: ⭐ จาก “United Kingdom” → “Europe” ⭐ จาก “United States” → “North America” ขั้นตอนคือไปที่ Settings and Privacy → Privacy and Safety → Your X activity → About your account แล้วเลือกการแสดงผลเป็น Region หรือ Continent ตามต้องการ ⚠️ ผลกระทบและข้อควรระวัง X ระบุว่าฟีเจอร์นี้ช่วยลดการใช้บัญชีปลอมที่อ้างว่าอยู่ในประเทศหนึ่งแต่จริง ๆ แล้วอยู่ที่อื่น ตัวอย่างเช่น บัญชีที่อ้างว่าอยู่ในสหรัฐฯ แต่จริง ๆ แล้วดำเนินการจากไนจีเรียหรืออินเดีย ซึ่งถูกใช้เผยแพร่เนื้อหาที่ผิดกฎหมายหรือบิดเบือนข้อมูล ฟีเจอร์นี้จึงช่วยเพิ่มความโปร่งใส แต่ก็ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปต้องระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ของ X ➡️ แสดงประเทศและ region ของบัญชีใน Account Transparency ➡️ คล้ายกับฟีเจอร์ที่ Instagram และ Facebook เคยใช้ ✅ วิธีซ่อน Location ➡️ เปลี่ยนการแสดงผลจาก Country → Region หรือ Continent ➡️ ทำได้ในเมนู Settings and Privacy ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้ ➡️ เพิ่มความโปร่งใส ลดการใช้บัญชีปลอม ➡️ ช่วยให้ผู้ใช้รู้ว่าบัญชีมาจากที่ใดจริง ๆ ‼️ คำเตือนด้านความเป็นส่วนตัว ⛔ ไม่สามารถซ่อนตำแหน่งได้ทั้งหมด ⛔ VPN ไม่ช่วยมาก เพราะ X ใช้ third-party ตรวจจับการใช้ VPN ⛔ ผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงควรพิจารณาเสี่ยงก่อนใช้งาน https://hackread.com/how-to-hide-x-twitter-location-switch-region/
    HACKREAD.COM
    How To Hide Your Country Location on X (Twitter) by Switching to Region
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • ทีมไซเบอร์ระดับสูงเปิดตัว Blast Security ด้วยทุน $10M

    Blast Security บริษัทสตาร์ทอัพด้านไซเบอร์จากอิสราเอล เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมทุนเริ่มต้นกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายพลิกโฉมการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ จากการตรวจจับและตอบสนอง ไปสู่การ ป้องกันเชิงรุก (Preemptive Cloud Defense)

    แนวคิดและเทคโนโลยีใหม่
    Blast Security พัฒนาแพลตฟอร์มที่ทำงานแบบ preventive guardrails ซึ่งจะตรวจสอบและบังคับใช้การเปลี่ยนแปลงในระบบคลาวด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าความปลอดภัยไม่ถูกละเมิดตั้งแต่ต้น จุดเด่นคือการ ลดความเสี่ยงบนคลาวด์ได้กว่า 90% และทำให้การดำเนินงานไม่สะดุดแม้มีการบังคับใช้มาตรการป้องกัน

    ทีมผู้ก่อตั้งประกอบด้วยอดีตวิศวกรจาก Solebit (บริษัทที่ถูก Mimecast ซื้อกิจการ) และสมาชิกจากหน่วยไซเบอร์ของกองทัพอิสราเอล (IDF) ซึ่งมีประสบการณ์ร่วมกันมากกว่าทศวรรษในการสร้างโซลูชันด้านความปลอดภัยที่สามารถขยายการใช้งานได้จริง

    ผลกระทบต่อองค์กรและตลาด
    องค์กรที่ใช้ระบบ multi-cloud มักเผชิญกับความซับซ้อนและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อ AI เข้ามาเร่งการพัฒนา ทำให้การตรวจจับแบบเดิมไม่ทันต่อภัยคุกคาม Blast Security จึงเสนอแนวทางใหม่ที่เน้นการ ป้องกันก่อนเกิดเหตุ แทนการวิ่งไล่ตามการแจ้งเตือน

    บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งเริ่มทดสอบการใช้งาน Blast Security เพื่อเสริมความมั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงในระบบคลาวด์จะไม่กระทบต่อการผลิตและนวัตกรรม

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปิดตัว Blast Security
    ทุนเริ่มต้น $10M จาก 10D และ MizMaa Ventures
    ทีมก่อตั้งจาก Solebit และหน่วยไซเบอร์ IDF

    เทคโนโลยี Preemptive Cloud Defense
    ใช้ preventive guardrails ตรวจสอบและบังคับใช้การเปลี่ยนแปลง
    ลดความเสี่ยงบนคลาวด์ได้กว่า 90%
    ไม่กระทบการผลิตและนวัตกรรม

    ผลกระทบต่อองค์กร
    เหมาะกับระบบ multi-cloud ที่ซับซ้อน
    ช่วยลด alert fatigue และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้และองค์กร
    หากยังใช้วิธีตรวจจับแบบเดิม อาจไม่ทันต่อภัยคุกคามยุคใหม่
    การไม่ปรับตัวสู่การป้องกันเชิงรุกอาจทำให้ระบบเสี่ยงต่อการโจมตี
    องค์กรต้องลงทุนและปรับกระบวนการเพื่อใช้ประโยชน์จากแนวทางใหม่นี้

    https://hackread.com/elite-cyber-veterans-launch-blast-security-with-10m-to-turn-cloud-detection-into-prevention/
    🛡️ ทีมไซเบอร์ระดับสูงเปิดตัว Blast Security ด้วยทุน $10M Blast Security บริษัทสตาร์ทอัพด้านไซเบอร์จากอิสราเอล เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมทุนเริ่มต้นกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายพลิกโฉมการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ จากการตรวจจับและตอบสนอง ไปสู่การ ป้องกันเชิงรุก (Preemptive Cloud Defense) ⚙️ แนวคิดและเทคโนโลยีใหม่ Blast Security พัฒนาแพลตฟอร์มที่ทำงานแบบ preventive guardrails ซึ่งจะตรวจสอบและบังคับใช้การเปลี่ยนแปลงในระบบคลาวด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าความปลอดภัยไม่ถูกละเมิดตั้งแต่ต้น จุดเด่นคือการ ลดความเสี่ยงบนคลาวด์ได้กว่า 90% และทำให้การดำเนินงานไม่สะดุดแม้มีการบังคับใช้มาตรการป้องกัน ทีมผู้ก่อตั้งประกอบด้วยอดีตวิศวกรจาก Solebit (บริษัทที่ถูก Mimecast ซื้อกิจการ) และสมาชิกจากหน่วยไซเบอร์ของกองทัพอิสราเอล (IDF) ซึ่งมีประสบการณ์ร่วมกันมากกว่าทศวรรษในการสร้างโซลูชันด้านความปลอดภัยที่สามารถขยายการใช้งานได้จริง 🌍 ผลกระทบต่อองค์กรและตลาด องค์กรที่ใช้ระบบ multi-cloud มักเผชิญกับความซับซ้อนและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อ AI เข้ามาเร่งการพัฒนา ทำให้การตรวจจับแบบเดิมไม่ทันต่อภัยคุกคาม Blast Security จึงเสนอแนวทางใหม่ที่เน้นการ ป้องกันก่อนเกิดเหตุ แทนการวิ่งไล่ตามการแจ้งเตือน บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งเริ่มทดสอบการใช้งาน Blast Security เพื่อเสริมความมั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงในระบบคลาวด์จะไม่กระทบต่อการผลิตและนวัตกรรม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปิดตัว Blast Security ➡️ ทุนเริ่มต้น $10M จาก 10D และ MizMaa Ventures ➡️ ทีมก่อตั้งจาก Solebit และหน่วยไซเบอร์ IDF ✅ เทคโนโลยี Preemptive Cloud Defense ➡️ ใช้ preventive guardrails ตรวจสอบและบังคับใช้การเปลี่ยนแปลง ➡️ ลดความเสี่ยงบนคลาวด์ได้กว่า 90% ➡️ ไม่กระทบการผลิตและนวัตกรรม ✅ ผลกระทบต่อองค์กร ➡️ เหมาะกับระบบ multi-cloud ที่ซับซ้อน ➡️ ช่วยลด alert fatigue และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้และองค์กร ⛔ หากยังใช้วิธีตรวจจับแบบเดิม อาจไม่ทันต่อภัยคุกคามยุคใหม่ ⛔ การไม่ปรับตัวสู่การป้องกันเชิงรุกอาจทำให้ระบบเสี่ยงต่อการโจมตี ⛔ องค์กรต้องลงทุนและปรับกระบวนการเพื่อใช้ประโยชน์จากแนวทางใหม่นี้ https://hackread.com/elite-cyber-veterans-launch-blast-security-with-10m-to-turn-cloud-detection-into-prevention/
    HACKREAD.COM
    Elite Cyber Veterans Launch Blast Security with $10M to Turn Cloud Detection into Prevention
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • ยุคทองของ USB และการล่มสลายของ Gadget แปลก ๆ

    บทความนี้เล่าถึง 5 อุปกรณ์ USB ยุคเก่าที่ไม่น่าจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เช่น USB MP3 Player, USB Hubs รูปทรงแปลก ๆ, USB Mug Warmer, USB Optical Drive และ USB TV Tuner Stick

    ช่วงต้นยุค 2000s ถือเป็นยุคทองของอุปกรณ์เสริม USB ที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องเล่นเพลงขนาดจิ๋วไปจนถึงอุปกรณ์เสริมที่มีรูปร่างแปลกตา แต่เมื่อเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเข้ามาแทนที่ หลายอุปกรณ์ก็กลายเป็นของตกยุคและแทบไม่ถูกพูดถึงอีกต่อไป แม้จะมีบางเทคโนโลยีที่กลับมาได้รับความนิยม เช่น แผ่นเสียงและเทปคาสเซ็ต แต่ USB gadget หลายชนิดกลับไม่สามารถสร้างกระแสรีเทิร์นได้

    USB MP3 Player และ USB Hubs รูปทรงแปลก ๆ
    หนึ่งในอุปกรณ์ที่หลายคนยังจำได้คือ USB Flash Drive MP3 Player ที่มีความจุเพียง 512MB–2GB และต้องเสียบสายหูฟังเพื่อฟังเพลงโดยตรง แต่สมาร์ทโฟนและบริการสตรีมมิ่งได้ทำให้มันหมดความจำเป็นไปอย่างสิ้นเชิง

    อีกตัวอย่างคือ USB Hubs รูปทรงแฟนซี ที่ออกแบบเป็นของเล่นหรือของตกแต่ง แต่กลับใช้งานจริงได้ไม่สะดวก ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วย USB-C Multiport Adapter ที่เล็กกว่าและรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลายกว่า

    USB Mug Warmer และ Optical Drive
    USB Mug Warmer/Chiller เคยเป็นอุปกรณ์ยอดนิยมสำหรับคนทำงานหน้าคอม แต่พลังงานจากพอร์ต USB ไม่เพียงพอที่จะทำให้เครื่องดื่มร้อนหรือเย็นได้จริง ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วยแก้วเก็บความร้อน/เย็นคุณภาพสูงอย่าง YETI หรือ Hydro Flask

    ส่วน USB Optical Drive เคยจำเป็นสำหรับการติดตั้งซอฟต์แวร์หรือเล่น DVD บนโน้ตบุ๊ก แต่การมาของ Cloud และ Streaming Services ทำให้ความต้องการใช้งานแทบหมดไป

    USB TV Tuner Stick
    ก่อนยุค Smart TV และบริการสตรีมมิ่ง ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ต้องพึ่งพา USB TV Tuner Stick เพื่อดูทีวีสด แต่ปัจจุบันการดูทีวีผ่านอินเทอร์เน็ตสะดวกกว่าและมีคุณภาพภาพที่ดีกว่า ทำให้ USB TV Tuner กลายเป็นอุปกรณ์ที่แทบไม่ถูกพูดถึงอีกต่อไป แม้ยังมีขายอยู่ แต่ก็ไม่ใช่กระแสหลักอีกแล้ว

    สรุปสาระสำคัญ
    USB MP3 Player
    เคยนิยมในยุค 2000s แต่ถูกแทนที่ด้วยสมาร์ทโฟนและสตรีมมิ่ง

    USB Hubs รูปทรงแฟนซี
    ใช้งานจริงไม่สะดวก ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วย USB-C Multiport Adapter

    USB Mug Warmer/Chiller
    พลังงาน USB ไม่เพียงพอ ปัจจุบันใช้แก้วเก็บความร้อน/เย็นแทน

    USB Optical Drive
    เคยจำเป็นสำหรับ CD/DVD แต่ถูกแทนที่ด้วย Cloud และ Streaming

    USB TV Tuner Stick
    เคยใช้ดูทีวีสดบนคอม แต่ Smart TV และบริการสตรีมมิ่งทำให้หมดความนิยม

    https://www.slashgear.com/2031895/old-school-usb-gadgets-surprised-if-made-comeback/
    💾 ยุคทองของ USB และการล่มสลายของ Gadget แปลก ๆ บทความนี้เล่าถึง 5 อุปกรณ์ USB ยุคเก่าที่ไม่น่าจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เช่น USB MP3 Player, USB Hubs รูปทรงแปลก ๆ, USB Mug Warmer, USB Optical Drive และ USB TV Tuner Stick ช่วงต้นยุค 2000s ถือเป็นยุคทองของอุปกรณ์เสริม USB ที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องเล่นเพลงขนาดจิ๋วไปจนถึงอุปกรณ์เสริมที่มีรูปร่างแปลกตา แต่เมื่อเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเข้ามาแทนที่ หลายอุปกรณ์ก็กลายเป็นของตกยุคและแทบไม่ถูกพูดถึงอีกต่อไป แม้จะมีบางเทคโนโลยีที่กลับมาได้รับความนิยม เช่น แผ่นเสียงและเทปคาสเซ็ต แต่ USB gadget หลายชนิดกลับไม่สามารถสร้างกระแสรีเทิร์นได้ 🎧 USB MP3 Player และ USB Hubs รูปทรงแปลก ๆ หนึ่งในอุปกรณ์ที่หลายคนยังจำได้คือ USB Flash Drive MP3 Player ที่มีความจุเพียง 512MB–2GB และต้องเสียบสายหูฟังเพื่อฟังเพลงโดยตรง แต่สมาร์ทโฟนและบริการสตรีมมิ่งได้ทำให้มันหมดความจำเป็นไปอย่างสิ้นเชิง อีกตัวอย่างคือ USB Hubs รูปทรงแฟนซี ที่ออกแบบเป็นของเล่นหรือของตกแต่ง แต่กลับใช้งานจริงได้ไม่สะดวก ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วย USB-C Multiport Adapter ที่เล็กกว่าและรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลายกว่า ☕ USB Mug Warmer และ Optical Drive USB Mug Warmer/Chiller เคยเป็นอุปกรณ์ยอดนิยมสำหรับคนทำงานหน้าคอม แต่พลังงานจากพอร์ต USB ไม่เพียงพอที่จะทำให้เครื่องดื่มร้อนหรือเย็นได้จริง ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วยแก้วเก็บความร้อน/เย็นคุณภาพสูงอย่าง YETI หรือ Hydro Flask ส่วน USB Optical Drive เคยจำเป็นสำหรับการติดตั้งซอฟต์แวร์หรือเล่น DVD บนโน้ตบุ๊ก แต่การมาของ Cloud และ Streaming Services ทำให้ความต้องการใช้งานแทบหมดไป 📺 USB TV Tuner Stick ก่อนยุค Smart TV และบริการสตรีมมิ่ง ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ต้องพึ่งพา USB TV Tuner Stick เพื่อดูทีวีสด แต่ปัจจุบันการดูทีวีผ่านอินเทอร์เน็ตสะดวกกว่าและมีคุณภาพภาพที่ดีกว่า ทำให้ USB TV Tuner กลายเป็นอุปกรณ์ที่แทบไม่ถูกพูดถึงอีกต่อไป แม้ยังมีขายอยู่ แต่ก็ไม่ใช่กระแสหลักอีกแล้ว 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ USB MP3 Player ➡️ เคยนิยมในยุค 2000s แต่ถูกแทนที่ด้วยสมาร์ทโฟนและสตรีมมิ่ง ✅ USB Hubs รูปทรงแฟนซี ➡️ ใช้งานจริงไม่สะดวก ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วย USB-C Multiport Adapter ✅ USB Mug Warmer/Chiller ➡️ พลังงาน USB ไม่เพียงพอ ปัจจุบันใช้แก้วเก็บความร้อน/เย็นแทน ✅ USB Optical Drive ➡️ เคยจำเป็นสำหรับ CD/DVD แต่ถูกแทนที่ด้วย Cloud และ Streaming ✅ USB TV Tuner Stick ➡️ เคยใช้ดูทีวีสดบนคอม แต่ Smart TV และบริการสตรีมมิ่งทำให้หมดความนิยม https://www.slashgear.com/2031895/old-school-usb-gadgets-surprised-if-made-comeback/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Old-School USB Gadgets That We'd Be Surprised To Ever See Make A Comeback - SlashGear
    The advent of USB technology meant computers could be expanded in new and exciting ways, but these gadgets are now as obsolete as the technology they replaced.
    0 Comments 0 Shares 84 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline
    #รวมข่าวIT #20251124 #securityonline

    PyPI ปลอมแพ็กเกจ Python แฝง RAT หลายชั้น
    นักวิจัยจาก HelixGuard พบแพ็กเกจอันตรายบน PyPI ที่ชื่อว่า spellcheckers ซึ่งพยายามเลียนแบบไลบรารีจริง “pyspellchecker” ที่มีคนใช้มากกว่า 18 ล้านครั้ง แต่ตัวปลอมนี้แอบซ่อน Remote Access Trojan (RAT) หลายชั้นไว้ภายใน นี่เป็นการโจมตี supply chain ที่อันตราย เพราะนักพัฒนาที่ติดตั้งแพ็กเกจนี้อาจถูกเจาะระบบโดยไม่รู้ตัว และมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มที่เคยใช้วิธีหลอกเป็น “Recruiter” เพื่อขโมยคริปโตมาก่อน
    url: https://securityonline.info/pypi-typosquat-delivers-multi-layer-python-rat-bypassing-scanners-with-xor-encryption

    Tsundere Botnet: Node.js + Blockchain C2
    นักวิจัยจาก Kaspersky พบ บอทเน็ตใหม่ชื่อ Tsundere ที่เติบโตเร็วมากและมีลูกเล่นแปลกใหม่ ใช้ Node.js implants และดึงที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) จาก Ethereum smart contract ทำให้แทบจะ “ฆ่าไม่ตาย” เพราะข้อมูลบนบล็อกเชนลบไม่ได้ กระจายตัวผ่าน เกมเถื่อน และการใช้ Remote Monitoring & Management (RMM) และที่น่ากลัวคือมันสามารถรันโค้ด JavaScript จากระยะไกล ทำให้แฮกเกอร์สั่งขโมยข้อมูล, ติดตั้งมัลแวร์เพิ่ม, หรือใช้เครื่องเหยื่อเป็น proxy ได้
    url: https://securityonline.info/tsundere-botnet-uncovered-node-js-malware-uses-ethereum-smart-contract-for-unkillable-c2-and-runs-cybercrime-marketplace

    ความโปร่งใสบนโลกโซเชียล แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เพิ่มเครื่องมือใหม่ชื่อว่า “About This Account” เพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบัญชีต่าง ๆ โดยจะแสดงข้อมูลเบื้องหลัง เช่น ประเทศที่สร้างบัญชี, วิธีการเข้าถึง (ผ่านเว็บหรือแอป), และจำนวนครั้งที่เปลี่ยนชื่อบัญชี ฟีเจอร์นี้ยังมีระบบตรวจจับ VPN เพื่อแจ้งเตือนว่าข้อมูลประเทศอาจไม่ถูกต้อง จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นว่าเนื้อหาที่เห็นมาจากใครจริง ๆ
    https://securityonline.info/x-launches-about-this-account-tool-to-boost-transparency-and-fight-fakes

    Apple ยังอยู่ภายใต้การนำของ Cook มีรายงานจาก Financial Times ว่า Tim Cook อาจก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Apple ในปี 2026 แต่ Mark Gurman จาก Bloomberg ออกมายืนยันว่าไม่จริง และไม่มีสัญญาณใด ๆ จากภายในบริษัท Cook ซึ่งเข้ามาเป็น CEO ตั้งแต่ปี 2011 ได้พา Apple เติบโตจากมูลค่า 350 พันล้านดอลลาร์ ไปสู่กว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ เขายังมีสิทธิ์ที่จะเลือกอนาคตของตัวเอง โดยผู้สืบทอดที่ถูกจับตามองคือ John Ternus หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์
    https://securityonline.info/tim-cook-stepping-down-next-year-rumors-firmly-dismissed-by-mark-gurman

    การต่อสู้ด้านกฎหมายครั้งใหญ่ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) และ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของคดีผูกขาดธุรกิจโฆษณาออนไลน์ ผู้พิพากษา Leonie Brinkema แสดงท่าทีว่าจะตัดสินเร็ว โดย DOJ กล่าวหาว่า Google ครองตลาดอย่างไม่เป็นธรรม ขณะที่ Google โต้ว่า การบังคับให้ขายธุรกิจโฆษณาออกไปเป็นการแก้ไขที่รุนแรงเกินไป นอกจากนี้ Google ยังถูกปรับกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ในยุโรปจากคดีคล้ายกัน ทำให้บริษัทเผชิญแรงกดดันจากหลายประเทศพร้อมกัน
    https://securityonline.info/doj-vs-google-ad-tech-antitrust-battle-enters-final-stage-with-quick-ruling-expected

    ปีแห่งการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ หลังจาก iOS 26 เปิดตัวดีไซน์ “Liquid Glass” ที่หวือหวา Apple ตัดสินใจเปลี่ยนแนวทาง โดย iOS 27 และ macOS 27 ที่จะออกในปี 2026 จะเน้นการแก้บั๊ก ปรับปรุงประสิทธิภาพ และทำให้ระบบเสถียรมากขึ้น คล้ายกับการอัปเดต Snow Leopard ในอดีต อย่างไรก็ตาม Apple ยังเตรียมเพิ่มฟีเจอร์ด้าน AI เช่น Health Agent และระบบค้นหาใหม่ รวมถึงปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ Liquid Glass ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
    https://securityonline.info/ios-27-macos-27-apple-shifts-to-stability-and-performance-over-new-features

    มัลแวร์ปลอมตัวเป็นแอปจริง หน่วยวิจัยของ Acronis พบการโจมตีครั้งใหญ่ชื่อว่า “TamperedChef” ที่ใช้โฆษณาและ SEO หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปปลอม เช่น โปรแกรมอ่านคู่มือหรือเกมง่าย ๆ แอปเหล่านี้ถูกเซ็นด้วยใบรับรองจริงที่ซื้อผ่านบริษัทเชลล์ในสหรัฐฯ ทำให้ดูน่าเชื่อถือ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง แอปจะสร้างงานตามเวลาและฝัง backdoor ที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนเพื่อควบคุมเครื่องระยะยาว เหยื่อส่วนใหญ่พบในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสุขภาพ ก่อสร้าง และการผลิต
    https://securityonline.info/tamperedchef-malvertising-uses-us-shell-companies-to-sign-trojanized-apps-with-valid-certificates-deploying-stealth-backdoor

    AI Framework เจอช่องโหว่ร้ายแรง มีการค้นพบช่องโหว่ใน vLLM ซึ่งเป็น framework สำหรับการทำงานของโมเดลภาษา ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่ง prompt embeddings ที่ถูกปรับแต่งมาเพื่อรันโค้ดอันตรายบนระบบ (Remote Code Execution) โดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษ ทำให้เสี่ยงต่อการถูกควบคุมระบบจากภายนอก นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้งานควรอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/vllm-flaw-cve-2025-62164-risks-remote-code-execution-via-malicious-prompt-embeddings

    การโจมตีไซเบอร์ข้ามพรมแดน กลุ่มแฮกเกอร์ APT24 จากจีนถูกเปิดโปงว่าใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ “BADAUDIO” แฝงตัวผ่านซัพพลายเชนของไต้หวัน ส่งผลกระทบต่อกว่า 1,000 โดเมน มัลแวร์นี้มีความสามารถในการซ่อนตัวและควบคุมระบบจากระยะไกล ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อธุรกิจที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของไต้หวันอย่างมาก
    https://securityonline.info/chinas-apt24-launches-stealth-badaudio-malware-hitting-1000-domains-via-taiwanese-supply-chain-hack

    มัลแวร์แพร่กระจายผ่านแชท มีการค้นพบ worm ที่แพร่กระจายบน WhatsApp โดยใช้ข้อความหลอกว่าเป็น “View Once” เพื่อให้ผู้ใช้เปิดดู เมื่อเหยื่อคลิก มัลแวร์จะขโมย session และติดตั้ง Astaroth Banking Trojan เพื่อเจาะข้อมูลทางการเงิน จุดเด่นคือ worm นี้สามารถส่งต่อไปยังรายชื่อผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ ทำให้แพร่กระจายได้รวดเร็ว
    https://securityonline.info/sophisticated-whatsapp-worm-uses-fake-view-once-lure-to-hijack-sessions-and-deploy-astaroth-banking-trojan

    ภัยคุกคามต่ออุปกรณ์เครือข่ายบ้านและองค์กร CERT/CC ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ command injection ในเราเตอร์ Tenda รุ่น 4G03 Pro และ N300 (CVE-2025-13207, CVE-2024-24481) ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าถึงระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผู้ใช้ถูกแนะนำให้ปิดการใช้งาน remote management และติดตามการอัปเดต firmware อย่างใกล้ชิด
    https://securityonline.info/cert-cc-warns-of-unpatched-root-level-command-injection-flaws-in-tenda-4g03-pro-and-n300-routers-cve-2025-13207-cve-2024-24481

    ภัยต่อระบบอุตสาหกรรม ABB แจ้งเตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน Edgenius Management Portal (เวอร์ชัน 3.2.0.0 และ 3.2.1.1) ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่งข้อความพิเศษเพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน สามารถติดตั้ง/ถอนการติดตั้งแอป และแก้ไขการตั้งค่าได้เต็มที่ ถือเป็นภัยใหญ่ต่อระบบ OT ในโรงงานและอุตสาหกรรม ABB ได้ออกแพตช์เวอร์ชัน 3.2.2.0 และแนะนำให้ผู้ใช้ที่ยังอัปเดตไม่ได้ปิดการใช้งาน Portal ชั่วคราว
    https://securityonline.info/critical-abb-flaw-cve-2025-10571-cvss-9-6-allows-unauthenticated-rce-and-admin-takeover-on-edgenius



    📌🔒🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔒📌 #รวมข่าวIT #20251124 #securityonline 🐍 PyPI ปลอมแพ็กเกจ Python แฝง RAT หลายชั้น นักวิจัยจาก HelixGuard พบแพ็กเกจอันตรายบน PyPI ที่ชื่อว่า spellcheckers ซึ่งพยายามเลียนแบบไลบรารีจริง “pyspellchecker” ที่มีคนใช้มากกว่า 18 ล้านครั้ง แต่ตัวปลอมนี้แอบซ่อน Remote Access Trojan (RAT) หลายชั้นไว้ภายใน นี่เป็นการโจมตี supply chain ที่อันตราย เพราะนักพัฒนาที่ติดตั้งแพ็กเกจนี้อาจถูกเจาะระบบโดยไม่รู้ตัว และมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มที่เคยใช้วิธีหลอกเป็น “Recruiter” เพื่อขโมยคริปโตมาก่อน 🔗 url: https://securityonline.info/pypi-typosquat-delivers-multi-layer-python-rat-bypassing-scanners-with-xor-encryption 💻 Tsundere Botnet: Node.js + Blockchain C2 นักวิจัยจาก Kaspersky พบ บอทเน็ตใหม่ชื่อ Tsundere ที่เติบโตเร็วมากและมีลูกเล่นแปลกใหม่ ใช้ Node.js implants และดึงที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) จาก Ethereum smart contract ทำให้แทบจะ “ฆ่าไม่ตาย” เพราะข้อมูลบนบล็อกเชนลบไม่ได้ กระจายตัวผ่าน เกมเถื่อน และการใช้ Remote Monitoring & Management (RMM) และที่น่ากลัวคือมันสามารถรันโค้ด JavaScript จากระยะไกล ทำให้แฮกเกอร์สั่งขโมยข้อมูล, ติดตั้งมัลแวร์เพิ่ม, หรือใช้เครื่องเหยื่อเป็น proxy ได้ 🔗 url: https://securityonline.info/tsundere-botnet-uncovered-node-js-malware-uses-ethereum-smart-contract-for-unkillable-c2-and-runs-cybercrime-marketplace 🛡️ ความโปร่งใสบนโลกโซเชียล แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เพิ่มเครื่องมือใหม่ชื่อว่า “About This Account” เพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบัญชีต่าง ๆ โดยจะแสดงข้อมูลเบื้องหลัง เช่น ประเทศที่สร้างบัญชี, วิธีการเข้าถึง (ผ่านเว็บหรือแอป), และจำนวนครั้งที่เปลี่ยนชื่อบัญชี ฟีเจอร์นี้ยังมีระบบตรวจจับ VPN เพื่อแจ้งเตือนว่าข้อมูลประเทศอาจไม่ถูกต้อง จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นว่าเนื้อหาที่เห็นมาจากใครจริง ๆ 🔗 https://securityonline.info/x-launches-about-this-account-tool-to-boost-transparency-and-fight-fakes 🍏 Apple ยังอยู่ภายใต้การนำของ Cook มีรายงานจาก Financial Times ว่า Tim Cook อาจก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Apple ในปี 2026 แต่ Mark Gurman จาก Bloomberg ออกมายืนยันว่าไม่จริง และไม่มีสัญญาณใด ๆ จากภายในบริษัท Cook ซึ่งเข้ามาเป็น CEO ตั้งแต่ปี 2011 ได้พา Apple เติบโตจากมูลค่า 350 พันล้านดอลลาร์ ไปสู่กว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ เขายังมีสิทธิ์ที่จะเลือกอนาคตของตัวเอง โดยผู้สืบทอดที่ถูกจับตามองคือ John Ternus หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ 🔗 https://securityonline.info/tim-cook-stepping-down-next-year-rumors-firmly-dismissed-by-mark-gurman ⚖️ การต่อสู้ด้านกฎหมายครั้งใหญ่ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) และ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของคดีผูกขาดธุรกิจโฆษณาออนไลน์ ผู้พิพากษา Leonie Brinkema แสดงท่าทีว่าจะตัดสินเร็ว โดย DOJ กล่าวหาว่า Google ครองตลาดอย่างไม่เป็นธรรม ขณะที่ Google โต้ว่า การบังคับให้ขายธุรกิจโฆษณาออกไปเป็นการแก้ไขที่รุนแรงเกินไป นอกจากนี้ Google ยังถูกปรับกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ในยุโรปจากคดีคล้ายกัน ทำให้บริษัทเผชิญแรงกดดันจากหลายประเทศพร้อมกัน 🔗 https://securityonline.info/doj-vs-google-ad-tech-antitrust-battle-enters-final-stage-with-quick-ruling-expected 📱💻 ปีแห่งการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ หลังจาก iOS 26 เปิดตัวดีไซน์ “Liquid Glass” ที่หวือหวา Apple ตัดสินใจเปลี่ยนแนวทาง โดย iOS 27 และ macOS 27 ที่จะออกในปี 2026 จะเน้นการแก้บั๊ก ปรับปรุงประสิทธิภาพ และทำให้ระบบเสถียรมากขึ้น คล้ายกับการอัปเดต Snow Leopard ในอดีต อย่างไรก็ตาม Apple ยังเตรียมเพิ่มฟีเจอร์ด้าน AI เช่น Health Agent และระบบค้นหาใหม่ รวมถึงปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ Liquid Glass ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น 🔗 https://securityonline.info/ios-27-macos-27-apple-shifts-to-stability-and-performance-over-new-features 🕵️ มัลแวร์ปลอมตัวเป็นแอปจริง หน่วยวิจัยของ Acronis พบการโจมตีครั้งใหญ่ชื่อว่า “TamperedChef” ที่ใช้โฆษณาและ SEO หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปปลอม เช่น โปรแกรมอ่านคู่มือหรือเกมง่าย ๆ แอปเหล่านี้ถูกเซ็นด้วยใบรับรองจริงที่ซื้อผ่านบริษัทเชลล์ในสหรัฐฯ ทำให้ดูน่าเชื่อถือ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง แอปจะสร้างงานตามเวลาและฝัง backdoor ที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนเพื่อควบคุมเครื่องระยะยาว เหยื่อส่วนใหญ่พบในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสุขภาพ ก่อสร้าง และการผลิต 🔗 https://securityonline.info/tamperedchef-malvertising-uses-us-shell-companies-to-sign-trojanized-apps-with-valid-certificates-deploying-stealth-backdoor ⚙️ AI Framework เจอช่องโหว่ร้ายแรง มีการค้นพบช่องโหว่ใน vLLM ซึ่งเป็น framework สำหรับการทำงานของโมเดลภาษา ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่ง prompt embeddings ที่ถูกปรับแต่งมาเพื่อรันโค้ดอันตรายบนระบบ (Remote Code Execution) โดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษ ทำให้เสี่ยงต่อการถูกควบคุมระบบจากภายนอก นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้งานควรอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/vllm-flaw-cve-2025-62164-risks-remote-code-execution-via-malicious-prompt-embeddings 🐉 การโจมตีไซเบอร์ข้ามพรมแดน กลุ่มแฮกเกอร์ APT24 จากจีนถูกเปิดโปงว่าใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ “BADAUDIO” แฝงตัวผ่านซัพพลายเชนของไต้หวัน ส่งผลกระทบต่อกว่า 1,000 โดเมน มัลแวร์นี้มีความสามารถในการซ่อนตัวและควบคุมระบบจากระยะไกล ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อธุรกิจที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของไต้หวันอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/chinas-apt24-launches-stealth-badaudio-malware-hitting-1000-domains-via-taiwanese-supply-chain-hack 📲 มัลแวร์แพร่กระจายผ่านแชท มีการค้นพบ worm ที่แพร่กระจายบน WhatsApp โดยใช้ข้อความหลอกว่าเป็น “View Once” เพื่อให้ผู้ใช้เปิดดู เมื่อเหยื่อคลิก มัลแวร์จะขโมย session และติดตั้ง Astaroth Banking Trojan เพื่อเจาะข้อมูลทางการเงิน จุดเด่นคือ worm นี้สามารถส่งต่อไปยังรายชื่อผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ ทำให้แพร่กระจายได้รวดเร็ว 🔗 https://securityonline.info/sophisticated-whatsapp-worm-uses-fake-view-once-lure-to-hijack-sessions-and-deploy-astaroth-banking-trojan 📡 ภัยคุกคามต่ออุปกรณ์เครือข่ายบ้านและองค์กร CERT/CC ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ command injection ในเราเตอร์ Tenda รุ่น 4G03 Pro และ N300 (CVE-2025-13207, CVE-2024-24481) ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าถึงระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผู้ใช้ถูกแนะนำให้ปิดการใช้งาน remote management และติดตามการอัปเดต firmware อย่างใกล้ชิด 🔗 https://securityonline.info/cert-cc-warns-of-unpatched-root-level-command-injection-flaws-in-tenda-4g03-pro-and-n300-routers-cve-2025-13207-cve-2024-24481 🏭 ภัยต่อระบบอุตสาหกรรม ABB แจ้งเตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน Edgenius Management Portal (เวอร์ชัน 3.2.0.0 และ 3.2.1.1) ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่งข้อความพิเศษเพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน สามารถติดตั้ง/ถอนการติดตั้งแอป และแก้ไขการตั้งค่าได้เต็มที่ ถือเป็นภัยใหญ่ต่อระบบ OT ในโรงงานและอุตสาหกรรม ABB ได้ออกแพตช์เวอร์ชัน 3.2.2.0 และแนะนำให้ผู้ใช้ที่ยังอัปเดตไม่ได้ปิดการใช้งาน Portal ชั่วคราว 🔗 https://securityonline.info/critical-abb-flaw-cve-2025-10571-cvss-9-6-allows-unauthenticated-rce-and-admin-takeover-on-edgenius
    0 Comments 0 Shares 372 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251124 #TechRadar

    รีวิวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายสำหรับพื้นแข็ง
    ใครที่บ้านมีพื้นแข็งเยอะ เช่นไม้หรือกระเบื้อง จะรู้ว่าการเลือกเครื่องดูดฝุ่นไม่ง่ายอย่างที่คิด ล่าสุดมีการทดสอบเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย 8 รุ่น ผลปรากฏว่า Shark PowerDetect Cordless ทำคะแนนสูงสุด ทั้งดูดฝุ่นละเอียดและเศษใหญ่ได้ดี จุดเด่นคือสามารถดูดได้ทั้งขณะดันไปข้างหน้าและดึงกลับ ทำให้ไม่เหลือเศษสะสมด้านหลังหัวดูด นอกจากนี้ยังมีระบบปรับแรงดูดอัตโนมัติและฟีเจอร์ตรวจจับขอบห้อง รุ่นอื่นที่น่าสนใจคือ Dyson Gen5detect และ Dreame R20 แต่ Shark ถือว่าครองแชมป์เรื่องประสิทธิภาพ
    https://www.techradar.com/home/vacuums/i-tested-a-load-of-cordless-vacuums-to-find-the-best-option-for-hard-floor-heres-the-vac-that-came-out-on-top

    ทำไม ICQ ถึงล้มเหลว
    ย้อนกลับไปยุค 90s ICQ คือหนึ่งในโปรแกรมแชทที่บุกเบิกวงการ มีผู้ใช้ทะลุ 100 ล้านราย และถูก AOL ซื้อไปในปี 1998 แต่เมื่อคู่แข่งใหม่ ๆ อย่าง MSN, Yahoo Messenger และต่อมาคือ WhatsApp, Telegram เข้ามา ICQ ก็เริ่มเสื่อมความนิยม แม้จะพยายามปรับตัวเข้าสู่ยุคมือถือ แต่ก็ไม่สามารถกลับมาครองตลาดได้ สุดท้ายในปี 2024 ICQ ประกาศปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการปิดฉากตำนานโปรแกรมแชทที่ครั้งหนึ่งเคยครองโลกออนไลน์
    https://www.techradar.com/pro/this-pioneering-instant-messaging-platform-tried-to-keep-up-with-the-times-it-failed

    ดราม่าเรื่องช่องโหว่ Comet Browser
    บริษัท SquareX ออกมาแฉว่า Comet Browser ของ Perplexity มี API ซ่อนที่อาจถูกใช้สั่งรันคำสั่งบนเครื่องผู้ใช้ได้ ซึ่งถือว่าอันตรายมาก แต่ทาง Perplexity รีบออกมาปฏิเสธทันที บอกว่าข้อมูลนี้ “ไม่จริง” เพราะต้องเปิดโหมดนักพัฒนาและผู้ใช้ต้องยินยอมเองถึงจะทำได้ อย่างไรก็ตาม SquareX ยืนยันว่ามีการทดสอบซ้ำจากนักวิจัยภายนอกและพบว่าช่องโหว่นี้มีจริง ก่อนที่ Comet จะอัปเดตแก้ไขแบบเงียบ ๆ เรื่องนี้สะท้อนว่าการแข่งขันด้านเบราว์เซอร์ AI กำลังร้อนแรง และความปลอดภัยยังเป็นประเด็นใหญ่ที่ต้องจับตา
    https://www.techradar.com/pro/security/perplexity-responds-to-comet-browser-vulnerability-claims-argues-fake-news

    AI พลิกโฉมการจัดการค่าใช้จ่ายธุรกิจ
    การเบิกค่าใช้จ่ายและการเดินทางของพนักงานเคยเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่ตอนนี้ AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนเกม ระบบใหม่ช่วยให้พนักงานสามารถส่งค่าใช้จ่ายได้ทันที เช่นถ่ายใบเสร็จแล้วระบบบันทึกอัตโนมัติ ลดงานเอกสารและความผิดพลาด ฝั่งฝ่ายการเงินก็ได้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ สามารถตรวจสอบความเสี่ยงและควบคุมงบประมาณได้ดีกว่าเดิม จุดสำคัญคือ AI ไม่ได้แค่ทำงานอัตโนมัติ แต่ยังเรียนรู้พฤติกรรมและช่วยคาดการณ์ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ทำให้การจัดการค่าใช้จ่ายกลายเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่แค่ภาระงานอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/pro/how-ai-is-turning-travel-and-expense-into-a-strategic-advantage

    ยุโรปเสี่ยงเสียความได้เปรียบด้าน AI
    บทความนี้พูดถึงความท้าทายของยุโรปในการรักษาความได้เปรียบด้าน AI หากไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ปัจจุบันสหรัฐฯ และจีนกำลังลงทุนมหาศาลในระบบคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ทำให้ยุโรปอาจเสียตำแหน่งผู้นำหากไม่เร่งพัฒนา การสร้างระบบที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจและรัฐบาลมั่นใจในการใช้ AI อย่างเต็มที่
    https://www.techradar.com/pro/europes-ai-advantage-at-risk-without-secure-and-private-infrastructure

    Quantum Computer กำลังจะมาเร็วเกินคาด
    มีการเตือนจาก CEO ของ Palo Alto Networks ว่า ภายในปี 2029 หรืออาจเร็วกว่านั้น รัฐที่ไม่เป็นมิตรอาจมี "Quantum Computer" ที่ทรงพลังพอจะทำลายระบบเข้ารหัสที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ได้ ซึ่งหมายความว่า firewall และอุปกรณ์ความปลอดภัยที่พึ่งพาการเข้ารหัสอาจต้องถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด บริษัทจึงเตรียมออกผลิตภัณฑ์ "Quantum-safe" เพื่อรับมือ และยังชี้ว่าการผสมผสาน AI ใน browser ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการโจมตี ทำให้อนาคตของการป้องกันภัยไซเบอร์ต้องเข้มข้นกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/pro/security/security-firm-ceo-thinks-nation-states-will-have-weaponized-quantum-computers-within-the-next-five-years

    Nvidia ปฏิเสธกระแส "AI Bubble"
    Jensen Huang CEO ของ Nvidia ออกมายืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับ AI ไม่ใช่ฟองสบู่ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานการคอมพิวเตอร์อย่างแท้จริง เขาอธิบายว่า GPU กำลังเข้ามาแทนที่ CPU ในงานที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง และยังพูดถึงการเกิดขึ้นของ "Agentic AI" ที่สามารถคิดและทำงานเองได้โดยแทบไม่ต้องมีมนุษย์สั่ง เขามองว่านี่คือการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่การเก็งกำไรชั่วคราว
    https://www.techradar.com/pro/we-see-something-very-different-nvidia-ceo-jensen-huang-dismisses-ai-bubble-talk-and-i-guess-he-should-know

    ไฟรถยนต์ยุคใหม่: Pixel, Matrix, OLED
    เทคโนโลยีไฟรถยนต์พัฒนาไปไกลมาก โดยเฉพาะใน EV ที่ต้องการประหยัดพลังงาน ตอนนี้มีทั้ง pixel grille ที่สามารถแสดงข้อความหรือ emoji, matrix headlights ที่ปรับแสงอัตโนมัติไม่ให้แยงตาคนอื่น และ OLED taillights ที่บางและออกแบบได้อิสระมากขึ้น บางรุ่นถึงขั้นใช้ไฟหน้าเป็น "โปรเจคเตอร์" ฉายภาพนำทางหรือแม้แต่หนังกลางแปลงได้เลย!
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/pixel-arrays-matrix-headlights-oled-taillights-new-lighting-tech-is-bedazzling-evs

    ChatGPT ฟรีสำหรับครู
    OpenAI เปิดตัว ChatGPT เวอร์ชันพิเศษสำหรับครู K–12 ในสหรัฐ ใช้งาน GPT-5.1 ได้ไม่จำกัด พร้อมฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์, สร้างภาพ, เชื่อมต่อกับ Google Drive และ Microsoft 365 ทั้งหมดนี้ฟรีจนถึงปี 2027 ระบบยังถูกออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมาย FERPA เพื่อปกป้องข้อมูลนักเรียน และช่วยครูวางแผนการสอน ทำงานร่วมกัน และสร้างบทเรียนได้ง่ายขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/free-chatgpt-is-coming-for-teachers-openai-looks-to-spread-influence-of-its-chatbot-into-schools

    แอป Elfster ช่วยจัด Secret Santa
    ผู้เขียนเล่าว่าการแลกของขวัญในครอบครัวเคยยุ่งยาก แต่พอใช้แอป Elfster ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก แอปนี้ช่วยสุ่มจับชื่อ, ตั้งกติกา เช่นไม่ให้คู่รักจับกันเอง, สร้าง wish list และแชร์กับเพื่อนหรือครอบครัวได้ นอกจากนี้ยังมีไกด์ของขวัญตามเทรนด์ เช่น "TikTok Finds" หรือ "Gifts Under $10" ทำให้การเลือกของขวัญสนุกและไม่เครียดอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/computing/websites-apps/elfster

    DJI เตรียมเปิดตัวโดรน 360 องศา
    มีข่าวลือว่า DJI กำลังจะเปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ที่สามารถถ่ายภาพและวิดีโอแบบ 360 องศาได้ หลังจากมีภาพหลุดออกมาอีกครั้ง ทำให้คาดการณ์ว่าอาจมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะเป็นการยกระดับการถ่ายทำทั้งงานภาพยนตร์และคอนเทนต์โซเชียล
    https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-first-360-degree-drone-leaks-again-and-an-official-launch-could-be-very-soon

    Galaxy S26 Ultra อาจได้แบตใหญ่ขึ้น
    มีข่าวลือเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S26 Ultra ว่าจะมาพร้อมการอัปเกรดแบตเตอรี่ให้มีความจุสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม ถือเป็นการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้ที่ผู้ใช้คาดหวังเรื่องความทนทานและประสิทธิภาพ ,
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-samsung-galaxy-s26-ultra-rumor-hints-at-a-battery-upgrade-for-the-premium-flagship-phone

    รัสเซียตั้งทีมชาติ AI
    รัสเซียประกาศตั้ง "National AI Taskforce" เพื่อสร้างความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี โดยตั้งเป้าหมายให้มี AI และโดรนที่พัฒนาเองภายในประเทศภายในปี 2030 นี่ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ และลดการพึ่งพาต่างชาติ
    https://www.techradar.com/pro/did-the-ai-war-just-get-one-step-closer-putin-confirms-russia-is-planning-its-own-national-ai-taskforce

    ศึก Router: TP-Link vs Netgear
    TP-Link ฟ้อง Netgear โดยกล่าวหาว่ามีการให้ข้อมูลที่ทำให้ TP-Link ดูเหมือนเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ และมีการโยงไปถึงการโจมตีไซเบอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐ ซึ่ง TP-Link มองว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงและสร้างความเข้าใจผิดในตลาด
    https://www.techradar.com/pro/the-router-wars-are-kicking-off-tp-link-says-smear-campaign-by-netgear-made-it-seem-to-be-a-us-national-security-risk

    AI ต้องบาลานซ์: นวัตกรรม vs ความเสี่ยง
    บทความนี้พูดถึงการสร้างสมดุลระหว่างการลงทุนใน AI กับต้นทุน ความเสี่ยง และผลตอบแทน (ROI) โดยชี้ว่าบริษัทต่าง ๆ ต้องหาวิธีใช้ AI อย่างชาญฉลาด ไม่ใช่แค่เพื่อความล้ำสมัย แต่ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าและความปลอดภัยด้วย
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/harmonizing-ai-innovation-with-cost-risk-and-roi
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251124 #TechRadar 🧹 รีวิวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายสำหรับพื้นแข็ง ใครที่บ้านมีพื้นแข็งเยอะ เช่นไม้หรือกระเบื้อง จะรู้ว่าการเลือกเครื่องดูดฝุ่นไม่ง่ายอย่างที่คิด ล่าสุดมีการทดสอบเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย 8 รุ่น ผลปรากฏว่า Shark PowerDetect Cordless ทำคะแนนสูงสุด ทั้งดูดฝุ่นละเอียดและเศษใหญ่ได้ดี จุดเด่นคือสามารถดูดได้ทั้งขณะดันไปข้างหน้าและดึงกลับ ทำให้ไม่เหลือเศษสะสมด้านหลังหัวดูด นอกจากนี้ยังมีระบบปรับแรงดูดอัตโนมัติและฟีเจอร์ตรวจจับขอบห้อง รุ่นอื่นที่น่าสนใจคือ Dyson Gen5detect และ Dreame R20 แต่ Shark ถือว่าครองแชมป์เรื่องประสิทธิภาพ 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/i-tested-a-load-of-cordless-vacuums-to-find-the-best-option-for-hard-floor-heres-the-vac-that-came-out-on-top 💬 ทำไม ICQ ถึงล้มเหลว ย้อนกลับไปยุค 90s ICQ คือหนึ่งในโปรแกรมแชทที่บุกเบิกวงการ มีผู้ใช้ทะลุ 100 ล้านราย และถูก AOL ซื้อไปในปี 1998 แต่เมื่อคู่แข่งใหม่ ๆ อย่าง MSN, Yahoo Messenger และต่อมาคือ WhatsApp, Telegram เข้ามา ICQ ก็เริ่มเสื่อมความนิยม แม้จะพยายามปรับตัวเข้าสู่ยุคมือถือ แต่ก็ไม่สามารถกลับมาครองตลาดได้ สุดท้ายในปี 2024 ICQ ประกาศปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการปิดฉากตำนานโปรแกรมแชทที่ครั้งหนึ่งเคยครองโลกออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-pioneering-instant-messaging-platform-tried-to-keep-up-with-the-times-it-failed 🔒 ดราม่าเรื่องช่องโหว่ Comet Browser บริษัท SquareX ออกมาแฉว่า Comet Browser ของ Perplexity มี API ซ่อนที่อาจถูกใช้สั่งรันคำสั่งบนเครื่องผู้ใช้ได้ ซึ่งถือว่าอันตรายมาก แต่ทาง Perplexity รีบออกมาปฏิเสธทันที บอกว่าข้อมูลนี้ “ไม่จริง” เพราะต้องเปิดโหมดนักพัฒนาและผู้ใช้ต้องยินยอมเองถึงจะทำได้ อย่างไรก็ตาม SquareX ยืนยันว่ามีการทดสอบซ้ำจากนักวิจัยภายนอกและพบว่าช่องโหว่นี้มีจริง ก่อนที่ Comet จะอัปเดตแก้ไขแบบเงียบ ๆ เรื่องนี้สะท้อนว่าการแข่งขันด้านเบราว์เซอร์ AI กำลังร้อนแรง และความปลอดภัยยังเป็นประเด็นใหญ่ที่ต้องจับตา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/perplexity-responds-to-comet-browser-vulnerability-claims-argues-fake-news 🧳 AI พลิกโฉมการจัดการค่าใช้จ่ายธุรกิจ การเบิกค่าใช้จ่ายและการเดินทางของพนักงานเคยเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่ตอนนี้ AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนเกม ระบบใหม่ช่วยให้พนักงานสามารถส่งค่าใช้จ่ายได้ทันที เช่นถ่ายใบเสร็จแล้วระบบบันทึกอัตโนมัติ ลดงานเอกสารและความผิดพลาด ฝั่งฝ่ายการเงินก็ได้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ สามารถตรวจสอบความเสี่ยงและควบคุมงบประมาณได้ดีกว่าเดิม จุดสำคัญคือ AI ไม่ได้แค่ทำงานอัตโนมัติ แต่ยังเรียนรู้พฤติกรรมและช่วยคาดการณ์ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ทำให้การจัดการค่าใช้จ่ายกลายเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่แค่ภาระงานอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/how-ai-is-turning-travel-and-expense-into-a-strategic-advantage 🌐 ยุโรปเสี่ยงเสียความได้เปรียบด้าน AI บทความนี้พูดถึงความท้าทายของยุโรปในการรักษาความได้เปรียบด้าน AI หากไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ปัจจุบันสหรัฐฯ และจีนกำลังลงทุนมหาศาลในระบบคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ทำให้ยุโรปอาจเสียตำแหน่งผู้นำหากไม่เร่งพัฒนา การสร้างระบบที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจและรัฐบาลมั่นใจในการใช้ AI อย่างเต็มที่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/europes-ai-advantage-at-risk-without-secure-and-private-infrastructure 🧮 Quantum Computer กำลังจะมาเร็วเกินคาด มีการเตือนจาก CEO ของ Palo Alto Networks ว่า ภายในปี 2029 หรืออาจเร็วกว่านั้น รัฐที่ไม่เป็นมิตรอาจมี "Quantum Computer" ที่ทรงพลังพอจะทำลายระบบเข้ารหัสที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ได้ ซึ่งหมายความว่า firewall และอุปกรณ์ความปลอดภัยที่พึ่งพาการเข้ารหัสอาจต้องถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด บริษัทจึงเตรียมออกผลิตภัณฑ์ "Quantum-safe" เพื่อรับมือ และยังชี้ว่าการผสมผสาน AI ใน browser ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการโจมตี ทำให้อนาคตของการป้องกันภัยไซเบอร์ต้องเข้มข้นกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/security-firm-ceo-thinks-nation-states-will-have-weaponized-quantum-computers-within-the-next-five-years 💻 Nvidia ปฏิเสธกระแส "AI Bubble" Jensen Huang CEO ของ Nvidia ออกมายืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับ AI ไม่ใช่ฟองสบู่ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานการคอมพิวเตอร์อย่างแท้จริง เขาอธิบายว่า GPU กำลังเข้ามาแทนที่ CPU ในงานที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง และยังพูดถึงการเกิดขึ้นของ "Agentic AI" ที่สามารถคิดและทำงานเองได้โดยแทบไม่ต้องมีมนุษย์สั่ง เขามองว่านี่คือการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่การเก็งกำไรชั่วคราว 🔗 https://www.techradar.com/pro/we-see-something-very-different-nvidia-ceo-jensen-huang-dismisses-ai-bubble-talk-and-i-guess-he-should-know 🚗 ไฟรถยนต์ยุคใหม่: Pixel, Matrix, OLED เทคโนโลยีไฟรถยนต์พัฒนาไปไกลมาก โดยเฉพาะใน EV ที่ต้องการประหยัดพลังงาน ตอนนี้มีทั้ง pixel grille ที่สามารถแสดงข้อความหรือ emoji, matrix headlights ที่ปรับแสงอัตโนมัติไม่ให้แยงตาคนอื่น และ OLED taillights ที่บางและออกแบบได้อิสระมากขึ้น บางรุ่นถึงขั้นใช้ไฟหน้าเป็น "โปรเจคเตอร์" ฉายภาพนำทางหรือแม้แต่หนังกลางแปลงได้เลย! 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/pixel-arrays-matrix-headlights-oled-taillights-new-lighting-tech-is-bedazzling-evs 🎓 ChatGPT ฟรีสำหรับครู OpenAI เปิดตัว ChatGPT เวอร์ชันพิเศษสำหรับครู K–12 ในสหรัฐ ใช้งาน GPT-5.1 ได้ไม่จำกัด พร้อมฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์, สร้างภาพ, เชื่อมต่อกับ Google Drive และ Microsoft 365 ทั้งหมดนี้ฟรีจนถึงปี 2027 ระบบยังถูกออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมาย FERPA เพื่อปกป้องข้อมูลนักเรียน และช่วยครูวางแผนการสอน ทำงานร่วมกัน และสร้างบทเรียนได้ง่ายขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/free-chatgpt-is-coming-for-teachers-openai-looks-to-spread-influence-of-its-chatbot-into-schools 🎁 แอป Elfster ช่วยจัด Secret Santa ผู้เขียนเล่าว่าการแลกของขวัญในครอบครัวเคยยุ่งยาก แต่พอใช้แอป Elfster ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก แอปนี้ช่วยสุ่มจับชื่อ, ตั้งกติกา เช่นไม่ให้คู่รักจับกันเอง, สร้าง wish list และแชร์กับเพื่อนหรือครอบครัวได้ นอกจากนี้ยังมีไกด์ของขวัญตามเทรนด์ เช่น "TikTok Finds" หรือ "Gifts Under $10" ทำให้การเลือกของขวัญสนุกและไม่เครียดอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/computing/websites-apps/elfster 🚁 DJI เตรียมเปิดตัวโดรน 360 องศา มีข่าวลือว่า DJI กำลังจะเปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ที่สามารถถ่ายภาพและวิดีโอแบบ 360 องศาได้ หลังจากมีภาพหลุดออกมาอีกครั้ง ทำให้คาดการณ์ว่าอาจมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะเป็นการยกระดับการถ่ายทำทั้งงานภาพยนตร์และคอนเทนต์โซเชียล 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-first-360-degree-drone-leaks-again-and-an-official-launch-could-be-very-soon 📱 Galaxy S26 Ultra อาจได้แบตใหญ่ขึ้น มีข่าวลือเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S26 Ultra ว่าจะมาพร้อมการอัปเกรดแบตเตอรี่ให้มีความจุสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม ถือเป็นการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้ที่ผู้ใช้คาดหวังเรื่องความทนทานและประสิทธิภาพ , 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-samsung-galaxy-s26-ultra-rumor-hints-at-a-battery-upgrade-for-the-premium-flagship-phone 🤖 รัสเซียตั้งทีมชาติ AI รัสเซียประกาศตั้ง "National AI Taskforce" เพื่อสร้างความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี โดยตั้งเป้าหมายให้มี AI และโดรนที่พัฒนาเองภายในประเทศภายในปี 2030 นี่ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ และลดการพึ่งพาต่างชาติ 🔗 https://www.techradar.com/pro/did-the-ai-war-just-get-one-step-closer-putin-confirms-russia-is-planning-its-own-national-ai-taskforce 📡 ศึก Router: TP-Link vs Netgear TP-Link ฟ้อง Netgear โดยกล่าวหาว่ามีการให้ข้อมูลที่ทำให้ TP-Link ดูเหมือนเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ และมีการโยงไปถึงการโจมตีไซเบอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐ ซึ่ง TP-Link มองว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงและสร้างความเข้าใจผิดในตลาด 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-router-wars-are-kicking-off-tp-link-says-smear-campaign-by-netgear-made-it-seem-to-be-a-us-national-security-risk 📊 AI ต้องบาลานซ์: นวัตกรรม vs ความเสี่ยง บทความนี้พูดถึงการสร้างสมดุลระหว่างการลงทุนใน AI กับต้นทุน ความเสี่ยง และผลตอบแทน (ROI) โดยชี้ว่าบริษัทต่าง ๆ ต้องหาวิธีใช้ AI อย่างชาญฉลาด ไม่ใช่แค่เพื่อความล้ำสมัย แต่ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าและความปลอดภัยด้วย ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/harmonizing-ai-innovation-with-cost-risk-and-roi
    0 Comments 0 Shares 416 Views 0 Reviews
  • "งานวิจัยชี้ การศึกษาต้องปรับตัวเพื่อบูรณาการ AI"

    บทความใน British Journal of Educational Technology ระบุว่า AI ไม่ควรถูกมองเพียงเป็นเครื่องมือโกงการบ้าน แต่สามารถใช้เป็น ผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้เชิงร่วมมือ หากครูและนักเรียนใช้มันอย่างถูกวิธี ตัวอย่างเช่น การเรียนเรื่องแรงโน้มถ่วง นักเรียนสามารถตั้งคำถาม “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?” แล้วใช้ AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์ เพื่อเข้าใจแนวคิดจากหลายมุมมอง

    การเรียนรู้เชิงสนทนา (Dialogic Learning)
    ผู้เขียนเสนอให้การศึกษาเปลี่ยนจากการท่องจำเป็น การสนทนาและการคิดร่วมกัน โดยครูและนักเรียนร่วมกันสำรวจปัญหาและทดสอบแนวคิด การใช้ AI ในบทสนทนาเชิงวิชาการจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักการได้ลึกซึ้งขึ้น และพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อโลกที่เผชิญวิกฤตระดับโลก เช่น วิกฤตสิ่งแวดล้อมและความท้าทายด้านประชาธิปไตย

    คำเตือน: AI อาจเป็น "พิษทางปัญญา"
    แม้ AI จะมีศักยภาพสูง แต่หากระบบการศึกษายังยึดติดกับการสอบแบบเดิมที่เน้นการเขียนเรียงความหรือการสังเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก นักเรียนอาจพึ่งพา AI จนสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงานวิชาการเอง งานวิจัยเตือนว่า หากไม่ปรับวิธีการสอนและการประเมินผล AI จะกลายเป็นตัวบั่นทอนการเรียนรู้แทนที่จะเป็นเครื่องมือพัฒนา

    มุมมองนักวิชาการ
    ศาสตราจารย์ Rupert Wegerif จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์กล่าวว่า “ทุกครั้งที่มีเทคโนโลยีใหม่ เราต้องคิดใหม่ว่าควรสอนอย่างไร” เช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ตหรือกระดานดำในอดีต ตอนนี้ AI กำลังบังคับให้เราตั้งคำถามว่า เรากำลังเตรียมนักเรียนเพื่ออะไร และควรเน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือมากกว่าการท่องจำ

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อเสนอจากงานวิจัย
    ใช้ AI เป็นผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้ร่วมมือ
    เปลี่ยนการสอนจากการท่องจำเป็นการคิดเชิงสนทนา

    ตัวอย่างการใช้งาน
    นักเรียนถามคำถาม เช่น “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?”
    AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์

    เป้าหมายการศึกษาใหม่
    พัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา
    เตรียมนักเรียนรับมือวิกฤตระดับโลก เช่น สิ่งแวดล้อมและประชาธิปไตย

    คำเตือนจากงานวิจัย
    หากยังใช้การสอบแบบเดิม AI อาจกลายเป็น “พิษทางปัญญา”
    นักเรียนอาจสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/23/education-needs-to-change-to-integrate-ai-research-paper-argues
    📰 "งานวิจัยชี้ การศึกษาต้องปรับตัวเพื่อบูรณาการ AI" บทความใน British Journal of Educational Technology ระบุว่า AI ไม่ควรถูกมองเพียงเป็นเครื่องมือโกงการบ้าน แต่สามารถใช้เป็น ผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้เชิงร่วมมือ หากครูและนักเรียนใช้มันอย่างถูกวิธี ตัวอย่างเช่น การเรียนเรื่องแรงโน้มถ่วง นักเรียนสามารถตั้งคำถาม “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?” แล้วใช้ AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์ เพื่อเข้าใจแนวคิดจากหลายมุมมอง 🧠 การเรียนรู้เชิงสนทนา (Dialogic Learning) ผู้เขียนเสนอให้การศึกษาเปลี่ยนจากการท่องจำเป็น การสนทนาและการคิดร่วมกัน โดยครูและนักเรียนร่วมกันสำรวจปัญหาและทดสอบแนวคิด การใช้ AI ในบทสนทนาเชิงวิชาการจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักการได้ลึกซึ้งขึ้น และพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อโลกที่เผชิญวิกฤตระดับโลก เช่น วิกฤตสิ่งแวดล้อมและความท้าทายด้านประชาธิปไตย ⚠️ คำเตือน: AI อาจเป็น "พิษทางปัญญา" แม้ AI จะมีศักยภาพสูง แต่หากระบบการศึกษายังยึดติดกับการสอบแบบเดิมที่เน้นการเขียนเรียงความหรือการสังเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก นักเรียนอาจพึ่งพา AI จนสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงานวิชาการเอง งานวิจัยเตือนว่า หากไม่ปรับวิธีการสอนและการประเมินผล AI จะกลายเป็นตัวบั่นทอนการเรียนรู้แทนที่จะเป็นเครื่องมือพัฒนา 🌍 มุมมองนักวิชาการ ศาสตราจารย์ Rupert Wegerif จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์กล่าวว่า “ทุกครั้งที่มีเทคโนโลยีใหม่ เราต้องคิดใหม่ว่าควรสอนอย่างไร” เช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ตหรือกระดานดำในอดีต ตอนนี้ AI กำลังบังคับให้เราตั้งคำถามว่า เรากำลังเตรียมนักเรียนเพื่ออะไร และควรเน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือมากกว่าการท่องจำ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อเสนอจากงานวิจัย ➡️ ใช้ AI เป็นผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้ร่วมมือ ➡️ เปลี่ยนการสอนจากการท่องจำเป็นการคิดเชิงสนทนา ✅ ตัวอย่างการใช้งาน ➡️ นักเรียนถามคำถาม เช่น “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?” ➡️ AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์ ✅ เป้าหมายการศึกษาใหม่ ➡️ พัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ➡️ เตรียมนักเรียนรับมือวิกฤตระดับโลก เช่น สิ่งแวดล้อมและประชาธิปไตย ‼️ คำเตือนจากงานวิจัย ⛔ หากยังใช้การสอบแบบเดิม AI อาจกลายเป็น “พิษทางปัญญา” ⛔ นักเรียนอาจสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/23/education-needs-to-change-to-integrate-ai-research-paper-argues
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • วิธีหยุดพฤติกรรม “glazing” ของแชตบอท AI

    ทความจาก SlashGear อธิบายวิธีหยุดพฤติกรรม “glazing” ของแชตบอท AI อย่าง ChatGPT ที่ชอบใส่คำพูดฟุ่มเฟือยหรือย้ำคำถาม โดยแนะนำให้ใช้ instruction prompts และการปรับแต่ง custom personality settings เพื่อให้บอทตอบตรงประเด็นและแม่นยำมากขึ้น.

    ผู้ใช้หลายคนพบว่า ChatGPT และบอท AI อื่น ๆ เช่น Gemini หรือ Grok มักจะตอบแบบ “glazing” คือการ ย้ำคำถาม, ใส่คำพูดปลอบใจ, หรือใช้ภาษาฟุ่มเฟือย ก่อนจะเข้าสู่คำตอบจริง ซึ่งทำให้เสียเวลาและบางครั้งทำให้ข้อมูลไม่ชัดเจน.

    วิธีแก้ไขด้วย Instruction Prompts
    วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้ instruction prompts เพื่อกำหนดแนวทางการตอบ เช่น ตัวอย่างที่ผู้เขียนใช้คือ:


    Do not restate my question, add filler, or soften your responses.
    Answer directly, concisely, and factually.
    Prioritize accuracy over politeness.
    If information is uncertain, say so explicitly instead of guessing.
    Focus only on the specific details I ask for.

    แปลเป็นไทยคือ

    อย่ากล่าวซ้ำคำถามของฉัน เพิ่มคำเติม หรือทำให้คำตอบของคุณไม่ตรงไปตรงมา
    ตอบตรงประเด็น กระชับ และตรงตามข้อเท็จจริง
    ให้ความสำคัญกับความถูกต้องมากกว่าความสุภาพ
    หากข้อมูลไม่ชัดเจน ให้พูดอย่างชัดเจนแทนที่จะเดา
    เน้นเฉพาะรายละเอียดเฉพาะที่ฉันถามเท่านั้น

    เมื่อใส่ prompt นี้ ChatGPT จะหยุดพฤติกรรม glazing และตอบตรงประเด็นมากขึ้น แม้บางครั้งยังมีการ “หลุด” กลับไปใช้สำนวนเดิม แต่โดยรวมถือว่าช่วยได้มาก.

    การปรับแต่ง Personality Settings
    นอกจาก instruction prompts แบบรายครั้งแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่ง custom personality ในการตั้งค่าของ ChatGPT หรือ Grok ได้ เช่น การเลือกบุคลิกที่ตรงไปตรงมา หรือใส่ custom instructions ให้บอทจดจำตลอดการสนทนา วิธีนี้ช่วยลดการต้องใส่ prompt ซ้ำ ๆ และทำให้บอทตอบตรงประเด็นในทุกการใช้งาน.

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    ปัญหาที่พบ
    ChatGPT และบอท AI มักตอบแบบ glazing (ย้ำคำถาม, ใช้คำปลอบใจ, ฟุ่มเฟือย)

    วิธีแก้ไข
    ใช้ instruction prompts เพื่อบังคับให้ตอบตรงประเด็น
    ปรับแต่ง personality settings ให้ตอบแบบ concise และ factual

    คำเตือน
    แม้ใช้ instruction prompts แล้ว บอทยังอาจ “หลุด” กลับไปใช้สำนวนเดิม
    ต้องทดสอบและปรับแต่งหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ

    https://www.slashgear.com/2030799/how-to-stop-chatgpt-and-other-ai-chatbots-from-glazing-over-your-conversations/
    🤖 วิธีหยุดพฤติกรรม “glazing” ของแชตบอท AI ทความจาก SlashGear อธิบายวิธีหยุดพฤติกรรม “glazing” ของแชตบอท AI อย่าง ChatGPT ที่ชอบใส่คำพูดฟุ่มเฟือยหรือย้ำคำถาม โดยแนะนำให้ใช้ instruction prompts และการปรับแต่ง custom personality settings เพื่อให้บอทตอบตรงประเด็นและแม่นยำมากขึ้น. ผู้ใช้หลายคนพบว่า ChatGPT และบอท AI อื่น ๆ เช่น Gemini หรือ Grok มักจะตอบแบบ “glazing” คือการ ย้ำคำถาม, ใส่คำพูดปลอบใจ, หรือใช้ภาษาฟุ่มเฟือย ก่อนจะเข้าสู่คำตอบจริง ซึ่งทำให้เสียเวลาและบางครั้งทำให้ข้อมูลไม่ชัดเจน. 🛠️ วิธีแก้ไขด้วย Instruction Prompts วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้ instruction prompts เพื่อกำหนดแนวทางการตอบ เช่น ตัวอย่างที่ผู้เขียนใช้คือ: 👉 Do not restate my question, add filler, or soften your responses. Answer directly, concisely, and factually. Prioritize accuracy over politeness. If information is uncertain, say so explicitly instead of guessing. Focus only on the specific details I ask for. แปลเป็นไทยคือ 👉 อย่ากล่าวซ้ำคำถามของฉัน เพิ่มคำเติม หรือทำให้คำตอบของคุณไม่ตรงไปตรงมา ตอบตรงประเด็น กระชับ และตรงตามข้อเท็จจริง ให้ความสำคัญกับความถูกต้องมากกว่าความสุภาพ หากข้อมูลไม่ชัดเจน ให้พูดอย่างชัดเจนแทนที่จะเดา เน้นเฉพาะรายละเอียดเฉพาะที่ฉันถามเท่านั้น เมื่อใส่ prompt นี้ ChatGPT จะหยุดพฤติกรรม glazing และตอบตรงประเด็นมากขึ้น แม้บางครั้งยังมีการ “หลุด” กลับไปใช้สำนวนเดิม แต่โดยรวมถือว่าช่วยได้มาก. ⚙️ การปรับแต่ง Personality Settings นอกจาก instruction prompts แบบรายครั้งแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่ง custom personality ในการตั้งค่าของ ChatGPT หรือ Grok ได้ เช่น การเลือกบุคลิกที่ตรงไปตรงมา หรือใส่ custom instructions ให้บอทจดจำตลอดการสนทนา วิธีนี้ช่วยลดการต้องใส่ prompt ซ้ำ ๆ และทำให้บอทตอบตรงประเด็นในทุกการใช้งาน. 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ ปัญหาที่พบ ➡️ ChatGPT และบอท AI มักตอบแบบ glazing (ย้ำคำถาม, ใช้คำปลอบใจ, ฟุ่มเฟือย) ✅ วิธีแก้ไข ➡️ ใช้ instruction prompts เพื่อบังคับให้ตอบตรงประเด็น ➡️ ปรับแต่ง personality settings ให้ตอบแบบ concise และ factual ‼️ คำเตือน ⛔ แม้ใช้ instruction prompts แล้ว บอทยังอาจ “หลุด” กลับไปใช้สำนวนเดิม ⛔ ต้องทดสอบและปรับแต่งหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ https://www.slashgear.com/2030799/how-to-stop-chatgpt-and-other-ai-chatbots-from-glazing-over-your-conversations/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    You Can Stop ChatGPT (And Other AI Chatbots) From Glazing Over Your Conversations — Here's How - SlashGear
    Stop ChatGPT glazing by using clear instruction prompts and adjusting its personality so it replies concisely and accurately without restating your questions.
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • ช่องโหว่ Markdown to PDF: RCE ผ่าน Front-Matter

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยเปิดเผยช่องโหว่ CVE-2025-65108 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10.0 ในแพ็กเกจ npm “Markdown to PDF” ซึ่งมีการใช้งานมากกว่า 47,000 ครั้งต่อสัปดาห์ ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่ไลบรารี gray-matter ซึ่งใช้ในการประมวลผล front-matter ของไฟล์ Markdown เปิดโหมดประเมินค่า JavaScript โดยอัตโนมัติหากพบตัวแบ่งพิเศษ เช่น ---js หรือ ---javascript

    วิธีการโจมตี
    ผู้โจมตีสามารถสร้างไฟล์ Markdown ที่มี front-matter ฝังโค้ด JavaScript เมื่อไฟล์ถูกนำไปแปลงเป็น PDF โดยเครื่องมือ md-to-pdf โค้ดดังกล่าวจะถูกประมวลผลและรันบนระบบทันที ตัวอย่าง PoC ที่เผยแพร่แสดงให้เห็นว่าเพียงแค่เปิดไฟล์ Markdown ที่มี payload ก็สามารถสั่งให้ระบบรันคำสั่ง OS เช่นเปิดโปรแกรม calc.exe ได้

    ผลกระทบต่อระบบ
    ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อทุกระบบที่ใช้ md-to-pdf ในการประมวลผลไฟล์ Markdown ไม่ว่าจะเป็น เซิร์ฟเวอร์, CI/CD pipeline, หรือเครื่อง desktop หากมีการนำไฟล์จากผู้ใช้ที่ไม่น่าเชื่อถือมาแปลงเป็น PDF ระบบอาจถูกยึดครองได้ทันที ถือเป็นภัยร้ายแรงต่อซัพพลายเชนซอฟต์แวร์ที่ใช้แพ็กเกจนี้

    แนวทางแก้ไข
    ผู้ใช้ควรอัปเดตแพ็กเกจ md-to-pdf เป็นเวอร์ชัน 5.2.5 หรือใหม่กว่า โดยด่วน และหลีกเลี่ยงการประมวลผลไฟล์ Markdown ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบจากแหล่งที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้องค์กรควรเพิ่มการตรวจสอบความปลอดภัยใน pipeline เพื่อป้องกันการโจมตีลักษณะนี้

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    รายละเอียดช่องโหว่
    CVE-2025-65108 ในแพ็กเกจ Markdown to PDF
    คะแนน CVSS 10.0 (สูงสุด)

    วิธีการโจมตี
    ใช้ front-matter ที่มี delimiter ---javascript
    โค้ด JS ถูกประมวลผลและรันทันที

    ผลกระทบ
    กระทบต่อเซิร์ฟเวอร์, CI/CD pipeline, desktop tools
    เสี่ยงต่อการยึดครองระบบจากไฟล์ Markdown ปลอม

    แนวทางแก้ไข
    อัปเดต md-to-pdf เป็นเวอร์ชัน 5.2.5 ขึ้นไป
    หลีกเลี่ยงการประมวลผลไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ

    คำเตือน
    การเปิดไฟล์ Markdown ที่ไม่ปลอดภัยอาจทำให้ระบบถูกยึดครอง
    ซัพพลายเชนซอฟต์แวร์ที่ใช้แพ็กเกจนี้เสี่ยงต่อการโจมตี
    ต้องเพิ่มการตรวจสอบความปลอดภัยใน pipeline

    https://securityonline.info/critical-markdown-to-pdf-flaw-cve-2025-65108-cvss-10-0-allows-rce-via-js-injection-in-markdown-front-matter/
    ⚠️ ช่องโหว่ Markdown to PDF: RCE ผ่าน Front-Matter นักวิจัยด้านความปลอดภัยเปิดเผยช่องโหว่ CVE-2025-65108 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10.0 ในแพ็กเกจ npm “Markdown to PDF” ซึ่งมีการใช้งานมากกว่า 47,000 ครั้งต่อสัปดาห์ ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่ไลบรารี gray-matter ซึ่งใช้ในการประมวลผล front-matter ของไฟล์ Markdown เปิดโหมดประเมินค่า JavaScript โดยอัตโนมัติหากพบตัวแบ่งพิเศษ เช่น ---js หรือ ---javascript 🧩 วิธีการโจมตี ผู้โจมตีสามารถสร้างไฟล์ Markdown ที่มี front-matter ฝังโค้ด JavaScript เมื่อไฟล์ถูกนำไปแปลงเป็น PDF โดยเครื่องมือ md-to-pdf โค้ดดังกล่าวจะถูกประมวลผลและรันบนระบบทันที ตัวอย่าง PoC ที่เผยแพร่แสดงให้เห็นว่าเพียงแค่เปิดไฟล์ Markdown ที่มี payload ก็สามารถสั่งให้ระบบรันคำสั่ง OS เช่นเปิดโปรแกรม calc.exe ได้ 🌐 ผลกระทบต่อระบบ ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อทุกระบบที่ใช้ md-to-pdf ในการประมวลผลไฟล์ Markdown ไม่ว่าจะเป็น เซิร์ฟเวอร์, CI/CD pipeline, หรือเครื่อง desktop หากมีการนำไฟล์จากผู้ใช้ที่ไม่น่าเชื่อถือมาแปลงเป็น PDF ระบบอาจถูกยึดครองได้ทันที ถือเป็นภัยร้ายแรงต่อซัพพลายเชนซอฟต์แวร์ที่ใช้แพ็กเกจนี้ 🔒 แนวทางแก้ไข ผู้ใช้ควรอัปเดตแพ็กเกจ md-to-pdf เป็นเวอร์ชัน 5.2.5 หรือใหม่กว่า โดยด่วน และหลีกเลี่ยงการประมวลผลไฟล์ Markdown ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบจากแหล่งที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้องค์กรควรเพิ่มการตรวจสอบความปลอดภัยใน pipeline เพื่อป้องกันการโจมตีลักษณะนี้ 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ รายละเอียดช่องโหว่ ➡️ CVE-2025-65108 ในแพ็กเกจ Markdown to PDF ➡️ คะแนน CVSS 10.0 (สูงสุด) ✅ วิธีการโจมตี ➡️ ใช้ front-matter ที่มี delimiter ---javascript ➡️ โค้ด JS ถูกประมวลผลและรันทันที ✅ ผลกระทบ ➡️ กระทบต่อเซิร์ฟเวอร์, CI/CD pipeline, desktop tools ➡️ เสี่ยงต่อการยึดครองระบบจากไฟล์ Markdown ปลอม ✅ แนวทางแก้ไข ➡️ อัปเดต md-to-pdf เป็นเวอร์ชัน 5.2.5 ขึ้นไป ➡️ หลีกเลี่ยงการประมวลผลไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ‼️ คำเตือน ⛔ การเปิดไฟล์ Markdown ที่ไม่ปลอดภัยอาจทำให้ระบบถูกยึดครอง ⛔ ซัพพลายเชนซอฟต์แวร์ที่ใช้แพ็กเกจนี้เสี่ยงต่อการโจมตี ⛔ ต้องเพิ่มการตรวจสอบความปลอดภัยใน pipeline https://securityonline.info/critical-markdown-to-pdf-flaw-cve-2025-65108-cvss-10-0-allows-rce-via-js-injection-in-markdown-front-matter/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical Markdown to PDF Flaw (CVE-2025-65108, CVSS 10.0) Allows RCE via JS Injection in Markdown Front-Matter
    A Critical (CVSS 10.0) RCE flaw (CVE-2025-65108) in md-to-pdf allows arbitrary JavaScript code execution via malicious front-matter. Over 47K weekly downloads are affected. Update to v5.2.5.
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
  • สนธิเล่าเรื่อง 24-11-68
    .
    เช้าวันจันทร์ หลังจากประชุมพร้อมรับประทานอาหารเช้ากับทีมงานบ้านพระอาทิตย์ โดยเมนูเป็นข้าวผัดปู กับ ต้มยำกุ้งน้ำใส แม้เมื่อวานนี้จะมีเวทีความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งสุดท้ายของปี 2568 แต่คุณสนธิก็ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจหลายอย่างมาเล่าให้ท่านผู้ฟังได้รับทราบในรายการ ทั้ง "แขกพิเศษ" ที่มาหาคุณสนธิที่บ้านพระอาทิตย์เมื่อวานนี้ , ประเด็นเกี่ยวกับทองคำของ "โจ๊ก" สุรเชชษฐ์ หักพาล ที่เจ้าตัวออกมาแก้ตัวแล้วว่าเป็นทองคำของภรรยา และเตรียมจะชี้แจงเพิ่มเติมในวันพุธที่ 26 พ.ย. นี้ด้วย แต่ยิ่งพูดมาก ยิ่งแก้ตัวมาก หลักฐานยิ่งมัดตัว มัดตัวอย่างไรต้องติดตาม นอกจากนี้สนธิเล่าเรื่องในวันนี้ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ... โปรดติดตามโดยพลัน
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=jIIR1WesIGc
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk
    สนธิเล่าเรื่อง 24-11-68 . เช้าวันจันทร์ หลังจากประชุมพร้อมรับประทานอาหารเช้ากับทีมงานบ้านพระอาทิตย์ โดยเมนูเป็นข้าวผัดปู กับ ต้มยำกุ้งน้ำใส แม้เมื่อวานนี้จะมีเวทีความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งสุดท้ายของปี 2568 แต่คุณสนธิก็ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจหลายอย่างมาเล่าให้ท่านผู้ฟังได้รับทราบในรายการ ทั้ง "แขกพิเศษ" ที่มาหาคุณสนธิที่บ้านพระอาทิตย์เมื่อวานนี้ , ประเด็นเกี่ยวกับทองคำของ "โจ๊ก" สุรเชชษฐ์ หักพาล ที่เจ้าตัวออกมาแก้ตัวแล้วว่าเป็นทองคำของภรรยา และเตรียมจะชี้แจงเพิ่มเติมในวันพุธที่ 26 พ.ย. นี้ด้วย แต่ยิ่งพูดมาก ยิ่งแก้ตัวมาก หลักฐานยิ่งมัดตัว มัดตัวอย่างไรต้องติดตาม นอกจากนี้สนธิเล่าเรื่องในวันนี้ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ... โปรดติดตามโดยพลัน . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=jIIR1WesIGc . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk
    0 Comments 0 Shares 169 Views 0 Reviews
More Results