• เขียนเล่าเรื่องพันธุกรรมมนุษย์มาหลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่ความรู้นี้โลกเขารับรู้มาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว ปัจจุบันนักวิชาการไทยหลายคนก็ทำวิจัยเรื่องนี้ตีพิมพ์ออกมาพอสมควร แต่ก็ยังมีบางพวกบางกลุ่มที่ยังตะแบงติดกับดักวังวนของสำนักคิดเก่าๆ อยู่อย่างนั้น ไอ้ที่แย่กว่าคือ จำต้องยอมรับวิทยาศาสตร์นี้โดยปริยายทั้งที่ไปกันไม่ได้กับเรื่องที่ตนเขียน แต่ความที่เคยพูดเคยเขียนหนังสือขายหาเงินรับประทานมาไม่น้อยกับความรู้ผิดๆ ครึ่งๆกลางๆ งูๆปลาๆ ก็เลยยังต้องยืนยันความคิดเดิมตะแบงต่อไป ถ้าไอ้ส่วนที่ความรู้ใหม่มันไปกันได้กับที่เคยเขียนก็จะหยิบมาอ้าง แต่ส่วนที่มันฟ้องว่าเอ็งเข้าใจผิดแล้วก็จะเลี่ยงเสีย เช่นกรณีเฒ่าเจ๊กปนลาวชังชาตินั่น
    .
    ความแบ่งแยกอันเป็นความคิดของปีศาจ นำมาซึ่งชื่อสมมุติ ที่โดยมากมักอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อปฏิเสธความเกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างอัตลักษณ์ใหม่ เพื่อให้ดูแตกต่างกับผู้คนหรือบรรพบุรุษที่เคยเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเครื่องแต่งกายก็ตาม ความเชื่อ ภาษาพูดก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์องค์ประกอบของตัวมนุษย์แต่ละผู้ว่าเป็นใครหรือเผ่าพันธุ์ไหน เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าความเป็นเจ๊กปนลาวที่พูดไทยหากินกับภาษาไทยของเฒ่าผู้นั้น อาจเป็นเรื่องเลื่อนลอยไปได้ ลาวที่เขาคิดว่าเป็นพ่ออาจเป็นกัมมุ และเจ๊กที่เขาคิดว่าเป็นแม่อาจเป็นชนเผ่าฮักกา ที่ซึ่งไม่ใช่เจ๊ก แต่เป็นเยว่ ก็เป็นได้... อยากจะแน่ใจก็ไปตรวจซะ
    .
    อย่างที่ทราบ (เอ๊ะ หรือใครยังไม่ทราบ?) มนุษย์ที่เป็นชนชาติต่างๆในโลกนี้ อพยพออกมาจากแอฟริกาเมื่อแสนกว่าปีก่อน เป็นหน่อเนื้อลูกหลานของบรรพบุรุษที่อาศัยในบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่าซาฮาร่า ดังนั้นนักวิชาการเลย "นิยามชื่อ" พวกเขาว่าพวก "ซาฮารันโบราณ" ผู้ชายทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าคนออสตราอะบอริจิ้น คนเอเชีย คนตะวันออกกลาง คนยุโรป คนเมโสอเมริกา ล้วนมียีนของอาดัมทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่าวายโครโมโซม M168 นี้ทุกคน ยกเว้นพวกแอฟริกาบางเผ่าที่บรรพบุรุษไม่ได้อพยพออกมาและยังคงอยู่รอดในแอฟริกาจนถึงปัจจุบันนี้
    .
    ด้วยภาพใหญ่นี้ สาแหรกพันธุกรรมแสดงให้เห็น "DEEP ANCESTOR" โคตรเหง้าที่ลึกที่สุดของมนุษย์โลก "การที่พวกอาหรับพูดภาษาสกุลเซมิติคส่วนคนไทยอย่างเราพูดภาษาสกุลจ้วง-ไท ความแตกต่างนี้ไม่อาจลบล้างข้อเท็จจริงทางพันธุกรรมที่ทั้งคู่มี Deep Ancestor ร่วมกันไปได้". ทุกวันนี้มนุษย์ที่มียีนของ M168 เก่าแก่กว่าใครในโลกคือพวก San Bushman พวกเขาพูดภาษาสกุลกอยซานที่ในทาง Linguistic ถือว่าเป็นภาษาลูกของภาษาซาฮารันโบราณที่ยอมรับกันว่าคือ Global Early Language * หมายถึงภาษาแรกของโลก เมื่อพิจารณาจากวิทยาศาสตร์ข้อนี้ มนุษย์ทุกชนชาติที่มีชื่อสมมุติกันไปต่างๆ จะว่าไปก็ถือเป็นคนกอยซานทั้งสิ้น ดังนั้นคุณจงอย่าได้ยึดติดว่าภาษาพูดของชาติพันธ์หนึ่ง จะบ่งบอกว่าเขาคือชาติพันธ์นั้นเสมอไป... คนจีนอพยพตั้งแต่รุ่นที่สองที่อยู่ในเมืองไทยพูดภาษาไทยชัดทุกคน คนอเมริกันที่เกิดที่นี่ คนอินเดียที่เกิดที่นี่พูดไทยสำเนียงไทยชัดทุกคน และเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งเขาอาจย้ายไปอยู่ที่ภูฏานเป็นการถาวรจนลูกหลานเขาเกิดที่นั่น แล้วพูดภาษาภูฏานชัดเจน
    .
    [* ภาษากอยซาน : นักภาษาศาสตร์ลงความเห็นว่าคือภาษาที่เก่าที่สุดในโลก มีลักษณะพิเศษคือมีเสียงคลิ๊กอยู่ในคำ ซึ่งได้หายไปจากภาษาอื่นๆ ที่เกิดภายหลัง นักวิชาการเชื่อว่า เมื่อบรรพบุรุษของเราอพยพออกจากแอฟริกาเมื่อแสนปีก่อน พวกเขามีภาษาพูดแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถล่าสัตว์ใหญ่อย่างแมมมอธได้ เพราะการล่าเช่นนี้ต้องทำงานเป็นทีม ไม่มีภาษาก็ทำงานเป็นทีมไม่ได้]
    .
    เมื่อมนุษย์มาจากแอฟริกาและเรามีเชื้อสายซาฮารันมาก่อน ทำไมเราจึงพูดกันไม่รู้เรื่อง พูดกันคนละภาษา ผมเคยเขียนบทความหนึ่งชื่อ บาเบล สืบเนื่องจากคัมภีร์ปฐมกาลบทที่ชื่อบาเบล เล่าว่า “พระเจ้าทรงเห็นว่ามนุษย์สร้างหอคอยใหญ่เทียมฟ้าขึ้นมาได้ พวกเขาอยากจะทำอะไรก็จะสำเร็จได้ อย่ากระนั้นเลย เราจะบันดาลให้เขาพูดกันไม่รู้เรื่อง ผู้คนก็แยกย้ายกันไป เป็นชนชาติต่างๆ ภาษาต่างๆ” นี่...ใครสักคนป้ายสีพระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นมูลเหตุให้มนุษย์พูดกันไม่รู้เรื่อง. ใครสักคนในที่นี้มีอย่างน้อยสามคน นักภาษาศาสตร์ยุคใหม่วิเคราะห์ลักษณะการเขียน สำนวน คำศัพท์ที่ใช้ซึ่งบ่งบอกรากฐานและยุคสมัยได้ ทำการวิเคราะห์พระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับคิงเจมส์ พวกเขาลงความเห็นว่า คัมภีร์ไบเบิ้ลมีผู้เขียนราวสามคน มีลักษณะการเขียนที่แตกต่างกันสามสำนวน คละเคล้ากันไปในแต่ละบท บางบทมีการปนกันมากกว่าหนึ่งสำนวน และยังลงความเห็นว่ารูปแบบการเขียนของบทปฐมกาล (genesis) เขียนทีหลังบทอพยพ (exodus)
    .
    นอกจากนี้นักภาษาศาสตร์ยุคหลังมานี่เชื่อว่าภาษาอินโดยูโรเปี้ยนนี้ คือผลของการทุบทำลายภาษาแม่ครั้งสำคัญในโลก เมื่อคุณพิจารณาพันธุกรรม คุณจะต้องทราบว่าผู้ชายชาวยุโรปและตะวันออกกลางแชร์สาแหรกพันธุกรรมในเครือเดียวกันคือ R / J / E อย่างที่ผมเขียนเรื่องยิวและปาเลสไตน์ไปก่อนนี้.. พวกคนยุโรป เปอร์เซีย อารยัน (ที่ภายหลังไปบุกอินเดียโบราณ) ล้วนเป็นสาแหรกเดียวกัน อย่าว่าแต่ยิวซึ่งเป็น semitic speaker ฆ่าปาเลสไตน์ที่เป็นพี่น้องใกล้ชิดเลย หากคนกรีก คนโรมัน ไปฆ่าคนเปอร์เซียหรือกลับกัน ก็คือพี่น้องฆ่ากันอยู่ดีนั่นแหละ อยู่มาวันหนึ่ง ไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นเหตุ หลังสงครามเทวีที่เกิดการต่อต้านปฏิเสธความเชื่อที่นับถือแม่เป็นใหญ่ เทวรูปของเทพีมากมาย เช่น Artemis เทวีผู้มอบความอุดมสมบูรณ์ ต่างพากันถูกทุบจมูกทุบใบหน้าทิ้งให้ดูน่าเกลียด ชนชาติที่เคยเกี่ยวดองกัน พลันแยกออกจากกันเป็นชนชาติใหม่ พูดภาษาใหม่ เด็กที่เกิดใหม่นับแต่นั้นจะถูกฝึกให้พูดภาษาที่สร้างขึ้นมา จากนั้นก็ตามมาด้วยชื่อสมมุติอย่างเช่น อัสซีเรีย อัคเคเดียน ฮิตไทท์... จากนั้นก็ตามมาด้วยสงครามพี่น้องฆ่ากัน ทั้งที่ชีววิทยาพันธุกรรมบอกว่าพวกเขาคือพี่น้องคลานตามกันมาทั้งนั้น และถ้าอ้างไบเบิ้ล อย่างเช่นกรณีของบุตรหลานของ Sam ลูกหลานของโนอาห์ ก็อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว ความแบ่งแยกทำให้พวกเขาปฏิเสธสายใยที่มี
    .
    อย่างที่ชี้ให้เห็นนี่ ดีเอ็นเอบอกเราถึงความเป็นพี่น้องร่วมสาแหรก แต่พวกเขาปฏิเสธกันเองแล้วแบ่งแยก ทุบทำลายภาษาแม่ทิ้งไปพร้อมๆ กันในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ใช่เพราะฝีมือพระเจ้าหรอก มนุษย์นี่แหละ นักภาษาศาสตร์โบราณคดีทำการค้นคว้าเรื่องนี้แล้วทำการโยงภาษาในสกุลอินโดยูโรเปี้ยนทั้งหมด ย้อนกลับไปสู่ภาษาซาฮารันโบราณ ด้วยพจนานุกรมคำศัพท์ของพวก Basque (กลุ่มคนที่ isolated อยู่ในสเปนซึ่งเชื่อว่าเป็นภาษาลูกที่เหลืออยู่ของภาษาซาฮารัน).. เรื่องนี้ยาวนะ ผมเคยเล่าไว้ในบทความชื่อบาเบลที่ผมเกริ่นไปข้างบน ใครอยากลงลึกให้ไปอ่าน Linguistic Archaeology เขียนโดย Edo Nyland
    .
    เวลาเจอบทความอะไรจากเฒ่าเจ๊กปนลาวผู้นี้ รวมทั้งจากพวกสาวกกระดูกอ่อนของเขาก็เลยออกจะรำคาญ ด้วยการอ้างชื่อต่างๆ พวกเขาเชื่อมโยงยกแม่น้ำเป็นตุเป็นตะ ไอ้นั่นมาจากไหน ไอ้นี่มาจากไหน โดยไม่มีหลักฐานอะไรที่หนักแน่นพอมารองรับ… ยกตัวอย่างเช่นใช้กลองสำริดบ้าง ใช้ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณบ้าง มาอ้างอิงทั้งที่ไม่เข้าใจว่าดูอะไรอยู่
    .
    ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณแต่ละแห่งที่พบในโลกที่รังสรรค์โดยบรรพบุรุษยุคแรก ถ้าคุณทาบข้อมูลทางโบราณคดีของมันกับข้อมูลอื่น เช่น พันธุกรรมและการอพยพย้ายถิ่น ธรณีวิทยา ภาษาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มานุษยวิทยา วิทยาศาสตร์.. ก็จะรู้อะไรที่ต่างไปจากที่เคยมีคนสันนิษฐานกันออกมาก่อนหน้านี้ได้ เช่น ภูมิศาสตร์บอกว่าลักษณะภูมิประเทศแบบใดที่มนุษย์โบราณในยุคนั้นชอบใช้เป็นที่อาศัยและหลบภัย ลักษณะทางภูมิศาสตร์แบบไหนที่พบภาพเขียนสี ทำไมมันจึงถูกเลือกเป็นที่จัดทำนิทรรศการ.. ธรณีวิทยาบอกว่า พบดินแบบเดียวกันถูกใช้เป็นสีเขียนผนังถ้ำทุกแห่ง.. วิทยาศาสตร์บอกองค์ประกอบธาตุของสีที่ใช้เขียนว่าเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งแปลได้ว่าพวกเขาเรียนหนังสือมาจากที่เดียวกัน คือเรียนรู้เทคนิคในการทำแบบนี้ซ้ำต่อๆ กันมาเหมือนๆ กัน.. มานุษยวิทยาเห็นการสะท้อนธรรมเนียมนิยมทางวัฒนธรรมบรรพกาลของพวกเขา เช่น เอาสีใส่ปากพ่นผ่านมือให้เป็นรูปมือ เขียนรูปคนและสัตว์ที่มีลักษณะทาง figure ที่คล้ายคลึงกัน มีจินตนาการในการสร้างลักษณะของบุคคลที่พิเศษออกไปจากคนปกติเพื่อแสดงว่าเป็นผีสางเทวดาที่เขานับถือ... มีการวิเคราะห์คุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ของสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ศักดิ์สิทธ์ที่พวกเขาไปเขียนรูปไว้ เช่น คุณสมบัติการก้องสะท้อนเสียงของสถานที่
    .
    และเมื่อทาบพันธุกรรมลงไปดูความสอดคล้องกัน เริ่มจากพวกเผ่า San Bushman ที่มียีนของอดัมที่เก่าที่สุดในโลก พบว่าพวกเขาทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันทุกด้านดังที่ได้กล่าวไปนั่น พวกอัสเลียนโบราณก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันกับที่กล่าวไปเช่นกัน เอาภาพเขียนสีเช่นที่ถ้ำเขาจันทร์งาม สีคิ้ว ไปเปรียบกับภาพเขียนสีในแอฟริกาที่พวกกอยซานทำ ทุกองค์ประกอบที่ว่านั่นก็จะเห็นว่าเหมือนกัน... พวกปาปัว-ออสตราอะบอริจิ้น ก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกับที่กล่าวไป นี่เป็นนวัตกรรมที่เป็นมรดกโคตรยาวนานของมนุษย์ จากแอฟริกาไปสู่จุดต่างๆในโลก ในวันนี้ พวกเขาเหล่านี้พูดกันคนละภาษา มันดูไม่มีความกี่ยวข้องกันใช่ไหมล่ะ? แต่วิทยาศาสตร์ไม่ได้บอกเช่นนั้น ในพันธุกรรมมี mutation ในวัฒนธรรมมี cultural transmission ถ้าเราขยับไปดูสิ่งที่คุ้นเคยกว่านั้นอีกสักอย่าง เช่น "กลอง".. มนุษย์ทุกแห่ง ตั้งแต่พวกที่อยู่ในแอฟริกา แม้แต่พวกชนเผ่าที่ไม่ได้อพยพไปไหนเลยจนกระทั่งยุคล่าอาณานิคม กับมนุษย์ทุกชนชาติที่กระจายอยู่ในทุกมุมโลก พวกเขาต่างทำกลองเหมือนกัน วิธีการคือ ด้วยการขึงหนังสัตว์ (membrane) ลงบนปากทรงกลมของวัตถุทรงกระบอก (cylinder) ขึงให้ตึงและตีให้สั่น นี่คือนวัตกรรมที่เรียก Membranophones คนทั้งโลกไม่ได้ต่างคนต่างทำเหมือนกันโดยบังเอิญ มันคือมรดกที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่ก่อนอพยพเมื่อแสนปีที่แล้วและเก่าพอๆ กับภาษาแรก
    .
    ซากบรรพชีวินที่นักวิชาการไทยอย่างที่อาจารย์รัศมีท่านสำรวจและค้นคว้าอยู่ กรอบเวลาเท่าไหร่? โนนนกทา? บ้านเชียง? พวกนั้นเป็นใคร? โฮโมเซเปี้ยนส์แน่นอน ชีววิทยาบอกชัดว่าเซเปี้ยนส์ เราไม่ได้วิวัฒน์มาจากโฮโมอีเร็คตัส พวกนั้นสูญพันธ์ไปแล้วก็จบ ยีนพ่อไม่เคยหายไปจากมนุษย์และเราไม่มียีนของอีเร็คตัสอยู่ในตัวเรา เมื่อราวเจ็ดหมื่นปีก่อน เกิด super eruption ขึ้นที่ภูเขาโทบาในสุมาตราโบราณ [https://geographical.co.uk/.../explainer-the-toba...] ทิ้งบาดแผลไว้เป็นทะเลสาปโทบาให้ดูในทุกวันนี้ ภัยพิบัตินี้รุนแรง มันตามมาด้วยฤดูหนาวนิวเคลียร์ (นักวิชาการว่าเช่นนี้) เถ้าภูเขาไฟปกคลุมโลกนานหลายปีและลอยไปไกลถึงกรีนแลนด์ โฮโมอีเร็คตัสในเอเชียถ้ายังมีชีวิตอยู่จะต้องตายหมด ดังนั้นไม่ว่าจะมนุษย์ปักกิ่ง มนุษย์ชวาอะไร ไม่เกี่ยวกับเราทั้งนั้น กรอบเวลาของบรรพบุรุษเราที่มาถึงที่นี่คือห้าหมื่นและสามหมื่นปีมาแล้ว มากันสองระลอก และคนพื้นเมืองที่บุกเบิกดินแดนนี้ไม่ได้แปะยี่ห้ออะไรเมื่อมาถึง นอกจากเรียกตัวเองว่า กอย หมายถึง คน… (ข่า ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย.. ลาว ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย)
    .
    ในความเป็นจริง มนุษย์โบราณที่เป็นบรรพบุรุษของชายชาวเอเชียราว 75 เปอร์เซ็นต์ล้วนเป็น Y DNA Hg O คือครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขามิวเททมาจากสาแหรกของพ่อ Y DNA Hg K ซึ่งมาถึงเอเชียกลางเมื่อราวสี่หมื่นปีและกระจายออกไป ทั้งที่ข้ามโกบีและไซบีเรีย ข้ามเบริงเจียไปอเมริกา (Hg Q) กลายเป็นพวกนาวาโฮ... ทั้งที่ย้อนกลับเข้าไปในยุโรปเผชิญความทารุณของยุคน้ำแข็งกลายเป็นพวกยุโรป (Hg R)… บรรพบุรุษพวกนี้ เมื่อตั้งถิ่นฐานตรงจุดใด ก็มักอยู่ตรงนั้น ลองนึกถึงความเป็นจริงว่า การย้ายถิ่นฐานใช้เวลายาวนานหลายชั่วคน เมื่อผู้อาวุโสหรือพ่อของเขาแก่เฒ่าไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินทางบุกเบิกต่อไป บางส่วนของพวกเขาจะหยุดการเดินทางและตั้งหลักแหล่งโดยเฉพาะเมื่อพบสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์พอจะดำรงชีพ คนหนุ่มจะเดินทางผจญภัยต่อไปเพื่อหาที่ของตนที่จะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ ได้มองโลกด้วยทัศนะของพวกเขาเอง พวกเขาจะพบปัญหาใหม่ จะได้หาทางแก้ไขสถานะการณ์ที่ไม่เคยพบ ดังนั้นพวกเขาจะมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นไปเองโดยธรรมชาติ จนเมื่อพวกเขาพบว่าได้เจอสถานที่ที่พึงพอใจหรือไปต่อไม่ได้แล้ว การเดินทางก็จะหยุด
    .
    คุณคิดว่ามีมนุษย์จำนวนเท่าไหร่ เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินซุนดาเมื่อสามหมื่นปีก่อน?
    .
    บรรพบุรุษของเรา เดินทางมาตามซุปเปอร์ไฮเวย์โบราณสายเอเชียกลางที่เป็นทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ อุดมด้วยกวางแอนทีโลฟและช้างแมมมอธ ท้องอิ่ม อบอุ่น และอันตรายน้อย เมื่อมาถึงซุนดา คุณคิดว่าพวกเขาจะอยู่อาศัยกันที่ไหน? บนภูเขา ในป่า หรือที่ราบลุ่มปากแม่น้ำ? ไปคิดดูเป็นการบ้าน
    .
    หากพิจารณาดูปัจจัยต่างๆ เราจะรู้ได้ว่าชุมชนบรรพกาล มักจะตั้งอยู่บนที่ที่เหมาะสมในการผดุงชีพ อ.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ให้ความเห็นว่า เนื่องเพราะบรรพบุรุษพวกนี้ต้องเผชิญกับน้ำท่วมซุนดาถึงสามครั้ง พวกเขานิยมสร้างบ้านที่มีเสาสูงและมีไต้ถุนสูง ทำแพและมีทักษะในการเดินทางด้วยแพ ซึ่งพร้อมที่จะอพยพหนีโดยล่องด้วยแพขึ้นไปเรื่อยๆ สู่ทิศทางต้นน้ำ ไม่เดินเท้าเพราะไม่รู้ว่าน้ำจะมาทางไหน เมื่อเห็นและแน่ใจว่าน้ำหยุดท่วมแล้วก็ปักหลักตั้งถิ่นฐานใหม่ เพราะพวกเขารู้ดีว่าไม่มีจุดไหนที่มีทรัพยากรอุดมไปกว่าริมแม่น้ำ ทั้งสัตว์น้ำและดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ในป่านั้นมีโรคมากมายและสัตว์ร้าย พวกเขาจะเข้าไปต่อเมื่อต้องการล่าหรือหาของป่า
    .
    ชุมชนบรรพกาลเหล่านี้ เมื่อพบพื้นที่ที่พวกเขาพึงพอใจแล้วก็มักจะปักหลักอยู่เช่นนั้น สืบต่อกันไปหลายชั่วคน หลักฐานทางโบราณคดีก็ชี้ชัดเช่นนั้น ทำให้เกิดชุมชนโบราณขึ้นตรงนั้นตรงนี้มากมายและขยายตัวออกไป เกษตรกรรมเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เลิกเร่ร่อนแล้วหยุดตั้งหลักแหล่ง ผลที่เก็บเกี่ยวแน่นอนตามฤดูกาลทำให้ปัจจัยทางอาหารมั่นคง ดังนั้นพวกเขาจะไม่ย้ายไปไหนโดยง่ายถ้าไม่ใช่เพราะภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือสงครามจากคนกลุ่มอื่นมาบีบบังคับให้ย้ายไปที่อื่น ชุมชนบรรพกาลซึ่งประชากรมีอยู่น้อย ย่อมต้องการปริมาณแรงงานไว้เพื่อสร้างชุมชนของตนให้เติบโตรุ่งเรืองขึ้น ถ้าไม่เกิดปัญหาที่ว่านี้ พวกเขาก็จะไม่ย้ายไปไหน พวกเขาจำฤดูกาลประจำถิ่น ทิศทางลม เวลาน้ำขึ้นลง ยาอยู่ที่ไหน อะไรเป็นยา จำต้นไม้ได้ทุกต้นและรู้ว่าอะไรใช้ทำอะไรได้บ้าง สัตว์อยู่ที่ไหน หาเจอยังไง จับยังไง... ความรู้ในภูมิลำเนาพวกนี้ใช้เวลาสั่งสมยาวนาน
    .
    เราต่างได้เรียนรู้กันมามากพอสมควรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่บางครั้งนิยามหรือความสมมุติในความเป็นชนชาติบ้านเมืองต่างๆ มักพาให้ไขว้เขว บางถิ่นฐาน ผู้ปกครองเป็นผู้มีศักดิ์ฐานะ มีทรัพยากรมาก แต่เป็นคนต่างถิ่นมาจากที่อื่น ไม่ต่างกับทุกวันนี้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหัวเมืองเช่นเชียงราย อาจเป็นลูกเศรษฐีตระกูลใหญ่จากกรุงเทพ สมัยโบราณก็เช่นกัน ประชากรเป็นคนพื้นเมืองท้องถิ่น อาจอยู่ที่นั่นมาแปดชั่วคนแล้ว เขาไม่ย้ายไปที่อื่นเพียงเพราะผู้ปกครองไม่ใช่คนพื้นเมืองเหมือนตน ถ้าปกครองดี ทุกคนยังกินอิ่ม ไม่รีดภาษี ไม่ก่อกรรมทำเข็ญ ข่มเหงรังแก พวกเขาก็จะอยู่อย่างนั้นต่อไปในรุ่นลูกรุ่นหลาน จักรวรรดิจีนโบราณดินแดนกว้างใหญ่ ประชากรไม่ได้มีแต่จีนฮั่นเท่านั้น ยังมีประชากรที่เป็นชนเผ่าอื่นๆในปกครองหลายสิบเผ่า แล้วก็มีผู้ปกครองที่มาจากถิ่นอื่นมาปกครอง เคยมีกษัตริย์ที่เป็นมองโกล กษัตริย์ที่เป็นแมนจูมานั่งบัลลังก์ฮ่องเต้ ยิ่งรูปงามผิวพรรณผุดผ่องมาพร้อมโปรโมชั่นว่าเป็นเทพลงมาเกิดก็จะทำให้รู้สึกนับถืออยากพึ่งพาบารมี ดังนั้นผู้ปกครองก็อาจเป็นชาติพันธุ์หนึ่งขณะที่ประชากรในดินแดนเป็นอีกชาติพันธุ์หนึ่งได้ เช่น ผู้ปกครองมีชื่อสมมุติว่าเป็นชาติพันธุ์ลาว ผู้ใต้ปกครองอาจเป็นชาวพื้นเมืองมีชื่อสมมุติว่าชาติพันธุ์ข่า เป็นต้น.. ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่พูดนี่ เป็นคนละเรื่องกับแนวความคิดเรื่องชาติ ประเทศ รัฐ ชนชาติและสัญชาติ ซึ่งเป็นความคิดใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังตามคติของอาณานิคมตะวันตก
    .
    สำหรับผมมันเป็นเรื่องตลก ที่พูดว่าคนโคราชไม่ใช่คนอีสาน
    ความยึดมั่นของผู้พูดผูกโยงกับภูมิลำเนา ผูกกับสำเนียงภาษาที่ใช้ แล้วเอามามัดให้ประชากรนั้นเป็นเผ่าพันธ์ตามที่ตนผูกไว้
    .
    คนอีสานคือใครในทัศนะวิทยาศาสตร์ คนอีสานอาจประกอบด้วยพลเมืองจากทางเหนือที่มาไกลจากจีน มาจากหยุนหนาน หรืออาจมาจากเวียตนาม ได้มากพอกับมีพลเมืองที่มีชื่อสมมุติว่า "ลาว" ที่เฒ่างี่เง่านี้นิยามให้สาวกเชื่อว่าเป็นคนท้องถิ่นโดยแท้แล้วก็ปฏิเสธในเชิงที่รู้สึกได้ว่าพยายามจะบอกใครๆ ว่าคนโคราชเป็น "สิ่งแปลกปลอมในท่ามกลางคนอีสาน" ผมรู้สึกอย่างนั้น แล้วเขาก็โยงเรื่องโยงชื่อ ทั้งคนทั้งสถานที่ มั่วไปหมดชนแพะชนแกะชนควาย อนุมานเอาตามความเชื่อตน ทั้งที่ความเป็นจริงทุกมนุษย์ที่อ้างอิงมานั่นไม่ว่าจะด้วยคำ สยาม ทวารวดี มอญ อยุธยา สุพรรณ โคราช ศรีโคตรบูรณ์ เวียงจันทร์ ชัยวรมัน.... บลาๆๆ... ล้วนคือ Y Chromosome DNA Haplogroup O (O2 เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงสุด) ทั้งนั้น ต่อให้หมู่บ้านนึงมันดันพูดได้สามภาษา ทั้งลาวทั้งอังกฤษทั้งเกาหลีสำเนียงเป๊ะทั้งหมู่บ้านก็ตามที
    .
    เขย่าไว้ไม่ให้นอนก้น
    ข้าว่าพวกเอ็งมันนอนก้นถอยหลังไปสองร้อยปี
    ฟังวนอยู่ห้าคำสิบคำ เต็มไปด้วยคำว่า “สันนิษฐานว่า…“
    แปลเป็นไทยคือ คาดว่า เดาว่า... คือเอ็งไม่รู้ไง เชื่อเองเออเองแล้วมาชวนคนอื่นให้เชื่อตาม
    .
    นี่รู้ไหม...
    มีไม่น้อยนะที่สันนิษฐานว่ามนุษย์เซเปี้ยนส์นี่น่ะ มาจากเชื้อพันธุ์มนุษย์ต่างดาวชื่อ อนูนากิ แกเชื่อไหมเล่า?
    .
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] -
    .
    เขียนเล่าเรื่องพันธุกรรมมนุษย์มาหลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่ความรู้นี้โลกเขารับรู้มาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว ปัจจุบันนักวิชาการไทยหลายคนก็ทำวิจัยเรื่องนี้ตีพิมพ์ออกมาพอสมควร แต่ก็ยังมีบางพวกบางกลุ่มที่ยังตะแบงติดกับดักวังวนของสำนักคิดเก่าๆ อยู่อย่างนั้น ไอ้ที่แย่กว่าคือ จำต้องยอมรับวิทยาศาสตร์นี้โดยปริยายทั้งที่ไปกันไม่ได้กับเรื่องที่ตนเขียน แต่ความที่เคยพูดเคยเขียนหนังสือขายหาเงินรับประทานมาไม่น้อยกับความรู้ผิดๆ ครึ่งๆกลางๆ งูๆปลาๆ ก็เลยยังต้องยืนยันความคิดเดิมตะแบงต่อไป ถ้าไอ้ส่วนที่ความรู้ใหม่มันไปกันได้กับที่เคยเขียนก็จะหยิบมาอ้าง แต่ส่วนที่มันฟ้องว่าเอ็งเข้าใจผิดแล้วก็จะเลี่ยงเสีย เช่นกรณีเฒ่าเจ๊กปนลาวชังชาตินั่น . ความแบ่งแยกอันเป็นความคิดของปีศาจ นำมาซึ่งชื่อสมมุติ ที่โดยมากมักอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อปฏิเสธความเกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างอัตลักษณ์ใหม่ เพื่อให้ดูแตกต่างกับผู้คนหรือบรรพบุรุษที่เคยเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเครื่องแต่งกายก็ตาม ความเชื่อ ภาษาพูดก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์องค์ประกอบของตัวมนุษย์แต่ละผู้ว่าเป็นใครหรือเผ่าพันธุ์ไหน เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าความเป็นเจ๊กปนลาวที่พูดไทยหากินกับภาษาไทยของเฒ่าผู้นั้น อาจเป็นเรื่องเลื่อนลอยไปได้ ลาวที่เขาคิดว่าเป็นพ่ออาจเป็นกัมมุ และเจ๊กที่เขาคิดว่าเป็นแม่อาจเป็นชนเผ่าฮักกา ที่ซึ่งไม่ใช่เจ๊ก แต่เป็นเยว่ ก็เป็นได้... อยากจะแน่ใจก็ไปตรวจซะ . อย่างที่ทราบ (เอ๊ะ หรือใครยังไม่ทราบ?) มนุษย์ที่เป็นชนชาติต่างๆในโลกนี้ อพยพออกมาจากแอฟริกาเมื่อแสนกว่าปีก่อน เป็นหน่อเนื้อลูกหลานของบรรพบุรุษที่อาศัยในบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่าซาฮาร่า ดังนั้นนักวิชาการเลย "นิยามชื่อ" พวกเขาว่าพวก "ซาฮารันโบราณ" ผู้ชายทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าคนออสตราอะบอริจิ้น คนเอเชีย คนตะวันออกกลาง คนยุโรป คนเมโสอเมริกา ล้วนมียีนของอาดัมทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่าวายโครโมโซม M168 นี้ทุกคน ยกเว้นพวกแอฟริกาบางเผ่าที่บรรพบุรุษไม่ได้อพยพออกมาและยังคงอยู่รอดในแอฟริกาจนถึงปัจจุบันนี้ . ด้วยภาพใหญ่นี้ สาแหรกพันธุกรรมแสดงให้เห็น "DEEP ANCESTOR" โคตรเหง้าที่ลึกที่สุดของมนุษย์โลก "การที่พวกอาหรับพูดภาษาสกุลเซมิติคส่วนคนไทยอย่างเราพูดภาษาสกุลจ้วง-ไท ความแตกต่างนี้ไม่อาจลบล้างข้อเท็จจริงทางพันธุกรรมที่ทั้งคู่มี Deep Ancestor ร่วมกันไปได้". ทุกวันนี้มนุษย์ที่มียีนของ M168 เก่าแก่กว่าใครในโลกคือพวก San Bushman พวกเขาพูดภาษาสกุลกอยซานที่ในทาง Linguistic ถือว่าเป็นภาษาลูกของภาษาซาฮารันโบราณที่ยอมรับกันว่าคือ Global Early Language * หมายถึงภาษาแรกของโลก เมื่อพิจารณาจากวิทยาศาสตร์ข้อนี้ มนุษย์ทุกชนชาติที่มีชื่อสมมุติกันไปต่างๆ จะว่าไปก็ถือเป็นคนกอยซานทั้งสิ้น ดังนั้นคุณจงอย่าได้ยึดติดว่าภาษาพูดของชาติพันธ์หนึ่ง จะบ่งบอกว่าเขาคือชาติพันธ์นั้นเสมอไป... คนจีนอพยพตั้งแต่รุ่นที่สองที่อยู่ในเมืองไทยพูดภาษาไทยชัดทุกคน คนอเมริกันที่เกิดที่นี่ คนอินเดียที่เกิดที่นี่พูดไทยสำเนียงไทยชัดทุกคน และเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งเขาอาจย้ายไปอยู่ที่ภูฏานเป็นการถาวรจนลูกหลานเขาเกิดที่นั่น แล้วพูดภาษาภูฏานชัดเจน . [* ภาษากอยซาน : นักภาษาศาสตร์ลงความเห็นว่าคือภาษาที่เก่าที่สุดในโลก มีลักษณะพิเศษคือมีเสียงคลิ๊กอยู่ในคำ ซึ่งได้หายไปจากภาษาอื่นๆ ที่เกิดภายหลัง นักวิชาการเชื่อว่า เมื่อบรรพบุรุษของเราอพยพออกจากแอฟริกาเมื่อแสนปีก่อน พวกเขามีภาษาพูดแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถล่าสัตว์ใหญ่อย่างแมมมอธได้ เพราะการล่าเช่นนี้ต้องทำงานเป็นทีม ไม่มีภาษาก็ทำงานเป็นทีมไม่ได้] . เมื่อมนุษย์มาจากแอฟริกาและเรามีเชื้อสายซาฮารันมาก่อน ทำไมเราจึงพูดกันไม่รู้เรื่อง พูดกันคนละภาษา ผมเคยเขียนบทความหนึ่งชื่อ บาเบล สืบเนื่องจากคัมภีร์ปฐมกาลบทที่ชื่อบาเบล เล่าว่า “พระเจ้าทรงเห็นว่ามนุษย์สร้างหอคอยใหญ่เทียมฟ้าขึ้นมาได้ พวกเขาอยากจะทำอะไรก็จะสำเร็จได้ อย่ากระนั้นเลย เราจะบันดาลให้เขาพูดกันไม่รู้เรื่อง ผู้คนก็แยกย้ายกันไป เป็นชนชาติต่างๆ ภาษาต่างๆ” นี่...ใครสักคนป้ายสีพระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นมูลเหตุให้มนุษย์พูดกันไม่รู้เรื่อง. ใครสักคนในที่นี้มีอย่างน้อยสามคน นักภาษาศาสตร์ยุคใหม่วิเคราะห์ลักษณะการเขียน สำนวน คำศัพท์ที่ใช้ซึ่งบ่งบอกรากฐานและยุคสมัยได้ ทำการวิเคราะห์พระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับคิงเจมส์ พวกเขาลงความเห็นว่า คัมภีร์ไบเบิ้ลมีผู้เขียนราวสามคน มีลักษณะการเขียนที่แตกต่างกันสามสำนวน คละเคล้ากันไปในแต่ละบท บางบทมีการปนกันมากกว่าหนึ่งสำนวน และยังลงความเห็นว่ารูปแบบการเขียนของบทปฐมกาล (genesis) เขียนทีหลังบทอพยพ (exodus) . นอกจากนี้นักภาษาศาสตร์ยุคหลังมานี่เชื่อว่าภาษาอินโดยูโรเปี้ยนนี้ คือผลของการทุบทำลายภาษาแม่ครั้งสำคัญในโลก เมื่อคุณพิจารณาพันธุกรรม คุณจะต้องทราบว่าผู้ชายชาวยุโรปและตะวันออกกลางแชร์สาแหรกพันธุกรรมในเครือเดียวกันคือ R / J / E อย่างที่ผมเขียนเรื่องยิวและปาเลสไตน์ไปก่อนนี้.. พวกคนยุโรป เปอร์เซีย อารยัน (ที่ภายหลังไปบุกอินเดียโบราณ) ล้วนเป็นสาแหรกเดียวกัน อย่าว่าแต่ยิวซึ่งเป็น semitic speaker ฆ่าปาเลสไตน์ที่เป็นพี่น้องใกล้ชิดเลย หากคนกรีก คนโรมัน ไปฆ่าคนเปอร์เซียหรือกลับกัน ก็คือพี่น้องฆ่ากันอยู่ดีนั่นแหละ อยู่มาวันหนึ่ง ไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นเหตุ หลังสงครามเทวีที่เกิดการต่อต้านปฏิเสธความเชื่อที่นับถือแม่เป็นใหญ่ เทวรูปของเทพีมากมาย เช่น Artemis เทวีผู้มอบความอุดมสมบูรณ์ ต่างพากันถูกทุบจมูกทุบใบหน้าทิ้งให้ดูน่าเกลียด ชนชาติที่เคยเกี่ยวดองกัน พลันแยกออกจากกันเป็นชนชาติใหม่ พูดภาษาใหม่ เด็กที่เกิดใหม่นับแต่นั้นจะถูกฝึกให้พูดภาษาที่สร้างขึ้นมา จากนั้นก็ตามมาด้วยชื่อสมมุติอย่างเช่น อัสซีเรีย อัคเคเดียน ฮิตไทท์... จากนั้นก็ตามมาด้วยสงครามพี่น้องฆ่ากัน ทั้งที่ชีววิทยาพันธุกรรมบอกว่าพวกเขาคือพี่น้องคลานตามกันมาทั้งนั้น และถ้าอ้างไบเบิ้ล อย่างเช่นกรณีของบุตรหลานของ Sam ลูกหลานของโนอาห์ ก็อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว ความแบ่งแยกทำให้พวกเขาปฏิเสธสายใยที่มี . อย่างที่ชี้ให้เห็นนี่ ดีเอ็นเอบอกเราถึงความเป็นพี่น้องร่วมสาแหรก แต่พวกเขาปฏิเสธกันเองแล้วแบ่งแยก ทุบทำลายภาษาแม่ทิ้งไปพร้อมๆ กันในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ใช่เพราะฝีมือพระเจ้าหรอก มนุษย์นี่แหละ นักภาษาศาสตร์โบราณคดีทำการค้นคว้าเรื่องนี้แล้วทำการโยงภาษาในสกุลอินโดยูโรเปี้ยนทั้งหมด ย้อนกลับไปสู่ภาษาซาฮารันโบราณ ด้วยพจนานุกรมคำศัพท์ของพวก Basque (กลุ่มคนที่ isolated อยู่ในสเปนซึ่งเชื่อว่าเป็นภาษาลูกที่เหลืออยู่ของภาษาซาฮารัน).. เรื่องนี้ยาวนะ ผมเคยเล่าไว้ในบทความชื่อบาเบลที่ผมเกริ่นไปข้างบน ใครอยากลงลึกให้ไปอ่าน Linguistic Archaeology เขียนโดย Edo Nyland . เวลาเจอบทความอะไรจากเฒ่าเจ๊กปนลาวผู้นี้ รวมทั้งจากพวกสาวกกระดูกอ่อนของเขาก็เลยออกจะรำคาญ ด้วยการอ้างชื่อต่างๆ พวกเขาเชื่อมโยงยกแม่น้ำเป็นตุเป็นตะ ไอ้นั่นมาจากไหน ไอ้นี่มาจากไหน โดยไม่มีหลักฐานอะไรที่หนักแน่นพอมารองรับ… ยกตัวอย่างเช่นใช้กลองสำริดบ้าง ใช้ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณบ้าง มาอ้างอิงทั้งที่ไม่เข้าใจว่าดูอะไรอยู่ . ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณแต่ละแห่งที่พบในโลกที่รังสรรค์โดยบรรพบุรุษยุคแรก ถ้าคุณทาบข้อมูลทางโบราณคดีของมันกับข้อมูลอื่น เช่น พันธุกรรมและการอพยพย้ายถิ่น ธรณีวิทยา ภาษาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มานุษยวิทยา วิทยาศาสตร์.. ก็จะรู้อะไรที่ต่างไปจากที่เคยมีคนสันนิษฐานกันออกมาก่อนหน้านี้ได้ เช่น ภูมิศาสตร์บอกว่าลักษณะภูมิประเทศแบบใดที่มนุษย์โบราณในยุคนั้นชอบใช้เป็นที่อาศัยและหลบภัย ลักษณะทางภูมิศาสตร์แบบไหนที่พบภาพเขียนสี ทำไมมันจึงถูกเลือกเป็นที่จัดทำนิทรรศการ.. ธรณีวิทยาบอกว่า พบดินแบบเดียวกันถูกใช้เป็นสีเขียนผนังถ้ำทุกแห่ง.. วิทยาศาสตร์บอกองค์ประกอบธาตุของสีที่ใช้เขียนว่าเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งแปลได้ว่าพวกเขาเรียนหนังสือมาจากที่เดียวกัน คือเรียนรู้เทคนิคในการทำแบบนี้ซ้ำต่อๆ กันมาเหมือนๆ กัน.. มานุษยวิทยาเห็นการสะท้อนธรรมเนียมนิยมทางวัฒนธรรมบรรพกาลของพวกเขา เช่น เอาสีใส่ปากพ่นผ่านมือให้เป็นรูปมือ เขียนรูปคนและสัตว์ที่มีลักษณะทาง figure ที่คล้ายคลึงกัน มีจินตนาการในการสร้างลักษณะของบุคคลที่พิเศษออกไปจากคนปกติเพื่อแสดงว่าเป็นผีสางเทวดาที่เขานับถือ... มีการวิเคราะห์คุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ของสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ศักดิ์สิทธ์ที่พวกเขาไปเขียนรูปไว้ เช่น คุณสมบัติการก้องสะท้อนเสียงของสถานที่ . และเมื่อทาบพันธุกรรมลงไปดูความสอดคล้องกัน เริ่มจากพวกเผ่า San Bushman ที่มียีนของอดัมที่เก่าที่สุดในโลก พบว่าพวกเขาทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันทุกด้านดังที่ได้กล่าวไปนั่น พวกอัสเลียนโบราณก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันกับที่กล่าวไปเช่นกัน เอาภาพเขียนสีเช่นที่ถ้ำเขาจันทร์งาม สีคิ้ว ไปเปรียบกับภาพเขียนสีในแอฟริกาที่พวกกอยซานทำ ทุกองค์ประกอบที่ว่านั่นก็จะเห็นว่าเหมือนกัน... พวกปาปัว-ออสตราอะบอริจิ้น ก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกับที่กล่าวไป นี่เป็นนวัตกรรมที่เป็นมรดกโคตรยาวนานของมนุษย์ จากแอฟริกาไปสู่จุดต่างๆในโลก ในวันนี้ พวกเขาเหล่านี้พูดกันคนละภาษา มันดูไม่มีความกี่ยวข้องกันใช่ไหมล่ะ? แต่วิทยาศาสตร์ไม่ได้บอกเช่นนั้น ในพันธุกรรมมี mutation ในวัฒนธรรมมี cultural transmission ถ้าเราขยับไปดูสิ่งที่คุ้นเคยกว่านั้นอีกสักอย่าง เช่น "กลอง".. มนุษย์ทุกแห่ง ตั้งแต่พวกที่อยู่ในแอฟริกา แม้แต่พวกชนเผ่าที่ไม่ได้อพยพไปไหนเลยจนกระทั่งยุคล่าอาณานิคม กับมนุษย์ทุกชนชาติที่กระจายอยู่ในทุกมุมโลก พวกเขาต่างทำกลองเหมือนกัน วิธีการคือ ด้วยการขึงหนังสัตว์ (membrane) ลงบนปากทรงกลมของวัตถุทรงกระบอก (cylinder) ขึงให้ตึงและตีให้สั่น นี่คือนวัตกรรมที่เรียก Membranophones คนทั้งโลกไม่ได้ต่างคนต่างทำเหมือนกันโดยบังเอิญ มันคือมรดกที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่ก่อนอพยพเมื่อแสนปีที่แล้วและเก่าพอๆ กับภาษาแรก . ซากบรรพชีวินที่นักวิชาการไทยอย่างที่อาจารย์รัศมีท่านสำรวจและค้นคว้าอยู่ กรอบเวลาเท่าไหร่? โนนนกทา? บ้านเชียง? พวกนั้นเป็นใคร? โฮโมเซเปี้ยนส์แน่นอน ชีววิทยาบอกชัดว่าเซเปี้ยนส์ เราไม่ได้วิวัฒน์มาจากโฮโมอีเร็คตัส พวกนั้นสูญพันธ์ไปแล้วก็จบ ยีนพ่อไม่เคยหายไปจากมนุษย์และเราไม่มียีนของอีเร็คตัสอยู่ในตัวเรา เมื่อราวเจ็ดหมื่นปีก่อน เกิด super eruption ขึ้นที่ภูเขาโทบาในสุมาตราโบราณ [https://geographical.co.uk/.../explainer-the-toba...] ทิ้งบาดแผลไว้เป็นทะเลสาปโทบาให้ดูในทุกวันนี้ ภัยพิบัตินี้รุนแรง มันตามมาด้วยฤดูหนาวนิวเคลียร์ (นักวิชาการว่าเช่นนี้) เถ้าภูเขาไฟปกคลุมโลกนานหลายปีและลอยไปไกลถึงกรีนแลนด์ โฮโมอีเร็คตัสในเอเชียถ้ายังมีชีวิตอยู่จะต้องตายหมด ดังนั้นไม่ว่าจะมนุษย์ปักกิ่ง มนุษย์ชวาอะไร ไม่เกี่ยวกับเราทั้งนั้น กรอบเวลาของบรรพบุรุษเราที่มาถึงที่นี่คือห้าหมื่นและสามหมื่นปีมาแล้ว มากันสองระลอก และคนพื้นเมืองที่บุกเบิกดินแดนนี้ไม่ได้แปะยี่ห้ออะไรเมื่อมาถึง นอกจากเรียกตัวเองว่า กอย หมายถึง คน… (ข่า ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย.. ลาว ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย) . ในความเป็นจริง มนุษย์โบราณที่เป็นบรรพบุรุษของชายชาวเอเชียราว 75 เปอร์เซ็นต์ล้วนเป็น Y DNA Hg O คือครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขามิวเททมาจากสาแหรกของพ่อ Y DNA Hg K ซึ่งมาถึงเอเชียกลางเมื่อราวสี่หมื่นปีและกระจายออกไป ทั้งที่ข้ามโกบีและไซบีเรีย ข้ามเบริงเจียไปอเมริกา (Hg Q) กลายเป็นพวกนาวาโฮ... ทั้งที่ย้อนกลับเข้าไปในยุโรปเผชิญความทารุณของยุคน้ำแข็งกลายเป็นพวกยุโรป (Hg R)… บรรพบุรุษพวกนี้ เมื่อตั้งถิ่นฐานตรงจุดใด ก็มักอยู่ตรงนั้น ลองนึกถึงความเป็นจริงว่า การย้ายถิ่นฐานใช้เวลายาวนานหลายชั่วคน เมื่อผู้อาวุโสหรือพ่อของเขาแก่เฒ่าไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินทางบุกเบิกต่อไป บางส่วนของพวกเขาจะหยุดการเดินทางและตั้งหลักแหล่งโดยเฉพาะเมื่อพบสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์พอจะดำรงชีพ คนหนุ่มจะเดินทางผจญภัยต่อไปเพื่อหาที่ของตนที่จะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ ได้มองโลกด้วยทัศนะของพวกเขาเอง พวกเขาจะพบปัญหาใหม่ จะได้หาทางแก้ไขสถานะการณ์ที่ไม่เคยพบ ดังนั้นพวกเขาจะมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นไปเองโดยธรรมชาติ จนเมื่อพวกเขาพบว่าได้เจอสถานที่ที่พึงพอใจหรือไปต่อไม่ได้แล้ว การเดินทางก็จะหยุด . คุณคิดว่ามีมนุษย์จำนวนเท่าไหร่ เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินซุนดาเมื่อสามหมื่นปีก่อน? . บรรพบุรุษของเรา เดินทางมาตามซุปเปอร์ไฮเวย์โบราณสายเอเชียกลางที่เป็นทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ อุดมด้วยกวางแอนทีโลฟและช้างแมมมอธ ท้องอิ่ม อบอุ่น และอันตรายน้อย เมื่อมาถึงซุนดา คุณคิดว่าพวกเขาจะอยู่อาศัยกันที่ไหน? บนภูเขา ในป่า หรือที่ราบลุ่มปากแม่น้ำ? ไปคิดดูเป็นการบ้าน . หากพิจารณาดูปัจจัยต่างๆ เราจะรู้ได้ว่าชุมชนบรรพกาล มักจะตั้งอยู่บนที่ที่เหมาะสมในการผดุงชีพ อ.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ให้ความเห็นว่า เนื่องเพราะบรรพบุรุษพวกนี้ต้องเผชิญกับน้ำท่วมซุนดาถึงสามครั้ง พวกเขานิยมสร้างบ้านที่มีเสาสูงและมีไต้ถุนสูง ทำแพและมีทักษะในการเดินทางด้วยแพ ซึ่งพร้อมที่จะอพยพหนีโดยล่องด้วยแพขึ้นไปเรื่อยๆ สู่ทิศทางต้นน้ำ ไม่เดินเท้าเพราะไม่รู้ว่าน้ำจะมาทางไหน เมื่อเห็นและแน่ใจว่าน้ำหยุดท่วมแล้วก็ปักหลักตั้งถิ่นฐานใหม่ เพราะพวกเขารู้ดีว่าไม่มีจุดไหนที่มีทรัพยากรอุดมไปกว่าริมแม่น้ำ ทั้งสัตว์น้ำและดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ในป่านั้นมีโรคมากมายและสัตว์ร้าย พวกเขาจะเข้าไปต่อเมื่อต้องการล่าหรือหาของป่า . ชุมชนบรรพกาลเหล่านี้ เมื่อพบพื้นที่ที่พวกเขาพึงพอใจแล้วก็มักจะปักหลักอยู่เช่นนั้น สืบต่อกันไปหลายชั่วคน หลักฐานทางโบราณคดีก็ชี้ชัดเช่นนั้น ทำให้เกิดชุมชนโบราณขึ้นตรงนั้นตรงนี้มากมายและขยายตัวออกไป เกษตรกรรมเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เลิกเร่ร่อนแล้วหยุดตั้งหลักแหล่ง ผลที่เก็บเกี่ยวแน่นอนตามฤดูกาลทำให้ปัจจัยทางอาหารมั่นคง ดังนั้นพวกเขาจะไม่ย้ายไปไหนโดยง่ายถ้าไม่ใช่เพราะภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือสงครามจากคนกลุ่มอื่นมาบีบบังคับให้ย้ายไปที่อื่น ชุมชนบรรพกาลซึ่งประชากรมีอยู่น้อย ย่อมต้องการปริมาณแรงงานไว้เพื่อสร้างชุมชนของตนให้เติบโตรุ่งเรืองขึ้น ถ้าไม่เกิดปัญหาที่ว่านี้ พวกเขาก็จะไม่ย้ายไปไหน พวกเขาจำฤดูกาลประจำถิ่น ทิศทางลม เวลาน้ำขึ้นลง ยาอยู่ที่ไหน อะไรเป็นยา จำต้นไม้ได้ทุกต้นและรู้ว่าอะไรใช้ทำอะไรได้บ้าง สัตว์อยู่ที่ไหน หาเจอยังไง จับยังไง... ความรู้ในภูมิลำเนาพวกนี้ใช้เวลาสั่งสมยาวนาน . เราต่างได้เรียนรู้กันมามากพอสมควรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่บางครั้งนิยามหรือความสมมุติในความเป็นชนชาติบ้านเมืองต่างๆ มักพาให้ไขว้เขว บางถิ่นฐาน ผู้ปกครองเป็นผู้มีศักดิ์ฐานะ มีทรัพยากรมาก แต่เป็นคนต่างถิ่นมาจากที่อื่น ไม่ต่างกับทุกวันนี้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหัวเมืองเช่นเชียงราย อาจเป็นลูกเศรษฐีตระกูลใหญ่จากกรุงเทพ สมัยโบราณก็เช่นกัน ประชากรเป็นคนพื้นเมืองท้องถิ่น อาจอยู่ที่นั่นมาแปดชั่วคนแล้ว เขาไม่ย้ายไปที่อื่นเพียงเพราะผู้ปกครองไม่ใช่คนพื้นเมืองเหมือนตน ถ้าปกครองดี ทุกคนยังกินอิ่ม ไม่รีดภาษี ไม่ก่อกรรมทำเข็ญ ข่มเหงรังแก พวกเขาก็จะอยู่อย่างนั้นต่อไปในรุ่นลูกรุ่นหลาน จักรวรรดิจีนโบราณดินแดนกว้างใหญ่ ประชากรไม่ได้มีแต่จีนฮั่นเท่านั้น ยังมีประชากรที่เป็นชนเผ่าอื่นๆในปกครองหลายสิบเผ่า แล้วก็มีผู้ปกครองที่มาจากถิ่นอื่นมาปกครอง เคยมีกษัตริย์ที่เป็นมองโกล กษัตริย์ที่เป็นแมนจูมานั่งบัลลังก์ฮ่องเต้ ยิ่งรูปงามผิวพรรณผุดผ่องมาพร้อมโปรโมชั่นว่าเป็นเทพลงมาเกิดก็จะทำให้รู้สึกนับถืออยากพึ่งพาบารมี ดังนั้นผู้ปกครองก็อาจเป็นชาติพันธุ์หนึ่งขณะที่ประชากรในดินแดนเป็นอีกชาติพันธุ์หนึ่งได้ เช่น ผู้ปกครองมีชื่อสมมุติว่าเป็นชาติพันธุ์ลาว ผู้ใต้ปกครองอาจเป็นชาวพื้นเมืองมีชื่อสมมุติว่าชาติพันธุ์ข่า เป็นต้น.. ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่พูดนี่ เป็นคนละเรื่องกับแนวความคิดเรื่องชาติ ประเทศ รัฐ ชนชาติและสัญชาติ ซึ่งเป็นความคิดใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังตามคติของอาณานิคมตะวันตก . สำหรับผมมันเป็นเรื่องตลก ที่พูดว่าคนโคราชไม่ใช่คนอีสาน ความยึดมั่นของผู้พูดผูกโยงกับภูมิลำเนา ผูกกับสำเนียงภาษาที่ใช้ แล้วเอามามัดให้ประชากรนั้นเป็นเผ่าพันธ์ตามที่ตนผูกไว้ . คนอีสานคือใครในทัศนะวิทยาศาสตร์ คนอีสานอาจประกอบด้วยพลเมืองจากทางเหนือที่มาไกลจากจีน มาจากหยุนหนาน หรืออาจมาจากเวียตนาม ได้มากพอกับมีพลเมืองที่มีชื่อสมมุติว่า "ลาว" ที่เฒ่างี่เง่านี้นิยามให้สาวกเชื่อว่าเป็นคนท้องถิ่นโดยแท้แล้วก็ปฏิเสธในเชิงที่รู้สึกได้ว่าพยายามจะบอกใครๆ ว่าคนโคราชเป็น "สิ่งแปลกปลอมในท่ามกลางคนอีสาน" ผมรู้สึกอย่างนั้น แล้วเขาก็โยงเรื่องโยงชื่อ ทั้งคนทั้งสถานที่ มั่วไปหมดชนแพะชนแกะชนควาย อนุมานเอาตามความเชื่อตน ทั้งที่ความเป็นจริงทุกมนุษย์ที่อ้างอิงมานั่นไม่ว่าจะด้วยคำ สยาม ทวารวดี มอญ อยุธยา สุพรรณ โคราช ศรีโคตรบูรณ์ เวียงจันทร์ ชัยวรมัน.... บลาๆๆ... ล้วนคือ Y Chromosome DNA Haplogroup O (O2 เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงสุด) ทั้งนั้น ต่อให้หมู่บ้านนึงมันดันพูดได้สามภาษา ทั้งลาวทั้งอังกฤษทั้งเกาหลีสำเนียงเป๊ะทั้งหมู่บ้านก็ตามที . เขย่าไว้ไม่ให้นอนก้น ข้าว่าพวกเอ็งมันนอนก้นถอยหลังไปสองร้อยปี ฟังวนอยู่ห้าคำสิบคำ เต็มไปด้วยคำว่า “สันนิษฐานว่า…“ แปลเป็นไทยคือ คาดว่า เดาว่า... คือเอ็งไม่รู้ไง เชื่อเองเออเองแล้วมาชวนคนอื่นให้เชื่อตาม . นี่รู้ไหม... มีไม่น้อยนะที่สันนิษฐานว่ามนุษย์เซเปี้ยนส์นี่น่ะ มาจากเชื้อพันธุ์มนุษย์ต่างดาวชื่อ อนูนากิ แกเชื่อไหมเล่า? . - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] - .
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
  • 2/
    เชื่อไหมว่านี่คือวิดีโอที่สร้างโดย AI 100%

    ภาพการแสดงตลกแบบสแตนด์อัพ
    Prompt:
    > a man doing stand up comedy in a small venue tells a joke (include the joke in the dialogue)
    2/ เชื่อไหมว่านี่คือวิดีโอที่สร้างโดย AI 100% ภาพการแสดงตลกแบบสแตนด์อัพ Prompt: > a man doing stand up comedy in a small venue tells a joke (include the joke in the dialogue)
    0 Comments 0 Shares 153 Views 13 0 Reviews
  • ปูตินได้เยือนภูมิภาคเคิร์สก์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รัสเซียประกาศปลดปล่อยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 เมษายน

    ข้อความที่น่าสนใจบางส่วนจากคำกล่าวของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ระหว่างการเยือนภูมิภาคเคิร์สก์:

    👉 “แม้แต่ในการแข่งขันกับคนโง่ พวกเขา(ยูเครน)ก็ได้ที่สอง ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะพวกเขาโง่ไง” ปูติน กล่าวระหว่างการพบปะกับอาสาสมัครในพื้นที่ โดยมีอเล็กซานเดอร์ คินชเตน รักษาการผู้ว่าการเคิร์สก์ และเซอร์เกย์ คิริเยนโก รองหัวหน้าฝ่ายบริหารประธานาธิบดีคนแรก เข้าร่วมการประชุมด้วย ซึ่งเป็นคำพูดต่อเนื่องจากเหตุการณ์การทำลายอนุสรณ์สถานสงครามโลกครั้งที่สองโดยกองกำลังติดอาวุธยูเครน

    👉 นอกจากนี้ ปูตินยังพูดติดตลกเล่นมุข เกี่ยวกับกระแสข่าวหลังการเจรจาในตุรกี ว่ารัสเซียอาจการบุกเข้ายึดครองภูมิภาคซูมี (Sumy) ของยูเครน ว่าผู้ว่า อเล็กซานเดอร์ คินชเตน รักษาการของภูมิภาคเคิร์สก์ อาจได้บริหารอะไรที่ใหญ่กว่า(เคิร์สก์)ก็ได้เช่นกัน


    👉 มีความจำเป็นต้องเร่งส่งหน่วยกำจัดทุ่นระเบิดเพิ่มเติมเข้ามาในภูมิภาคเคิร์สก์ เพื่อประชาชนชาวรัสเซียจะได้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยอย่างรวดเร็ว

    👉 ปูตินสั่งการให้สร้างบูรณะซ่อมแซมโบสถ์ต่างๆในเคิร์สก์ เนื่องจากช่วงการบุกของยูเครน โบสถ์เกือบทั้งหมดถูกเปลี่ยนให้เป็น "ป้อมปราการ" ของฝ่ายยูเครน บางส่วนถูกทำลายโดยฝีมือกองกำลังยูเครน ทำให้เกิดความสูญเสียต่อสิ่งก่อสร้างเหล่านี้จำนวนมาก

    👉 กองกำลังของยูเครนยังคงพยายามโจมีข้ามพรมแดนเข้ามาในดินแดนของรัสเซียทุกวัน





    ปูตินได้เยือนภูมิภาคเคิร์สก์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รัสเซียประกาศปลดปล่อยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 เมษายน ข้อความที่น่าสนใจบางส่วนจากคำกล่าวของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ระหว่างการเยือนภูมิภาคเคิร์สก์: 👉 “แม้แต่ในการแข่งขันกับคนโง่ พวกเขา(ยูเครน)ก็ได้ที่สอง ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะพวกเขาโง่ไง” ปูติน กล่าวระหว่างการพบปะกับอาสาสมัครในพื้นที่ โดยมีอเล็กซานเดอร์ คินชเตน รักษาการผู้ว่าการเคิร์สก์ และเซอร์เกย์ คิริเยนโก รองหัวหน้าฝ่ายบริหารประธานาธิบดีคนแรก เข้าร่วมการประชุมด้วย ซึ่งเป็นคำพูดต่อเนื่องจากเหตุการณ์การทำลายอนุสรณ์สถานสงครามโลกครั้งที่สองโดยกองกำลังติดอาวุธยูเครน 👉 นอกจากนี้ ปูตินยังพูดติดตลกเล่นมุข เกี่ยวกับกระแสข่าวหลังการเจรจาในตุรกี ว่ารัสเซียอาจการบุกเข้ายึดครองภูมิภาคซูมี (Sumy) ของยูเครน ว่าผู้ว่า อเล็กซานเดอร์ คินชเตน รักษาการของภูมิภาคเคิร์สก์ อาจได้บริหารอะไรที่ใหญ่กว่า(เคิร์สก์)ก็ได้เช่นกัน 👉 มีความจำเป็นต้องเร่งส่งหน่วยกำจัดทุ่นระเบิดเพิ่มเติมเข้ามาในภูมิภาคเคิร์สก์ เพื่อประชาชนชาวรัสเซียจะได้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยอย่างรวดเร็ว 👉 ปูตินสั่งการให้สร้างบูรณะซ่อมแซมโบสถ์ต่างๆในเคิร์สก์ เนื่องจากช่วงการบุกของยูเครน โบสถ์เกือบทั้งหมดถูกเปลี่ยนให้เป็น "ป้อมปราการ" ของฝ่ายยูเครน บางส่วนถูกทำลายโดยฝีมือกองกำลังยูเครน ทำให้เกิดความสูญเสียต่อสิ่งก่อสร้างเหล่านี้จำนวนมาก 👉 กองกำลังของยูเครนยังคงพยายามโจมีข้ามพรมแดนเข้ามาในดินแดนของรัสเซียทุกวัน
    0 Comments 0 Shares 253 Views 20 0 Reviews
  • 20-05-68/01 : หมี CNN / หมีกุ๊กกู EP15

    ไอ้สัส! วอชิงตันขี้แตก S-500 ฉบับเตหะราน มีอะไรที่กูทำไม่ได้บ้าง อิหร่านโชว์พาวเดอร์เค็ก สุดจริง เต็มจริง อิหร่านยังมี แล้วจีนจะเหลือเหรอ? หมายังรู้ S-500 ทำลายทุกขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคบนโลกได้หมด แปลว่าอะไร? "นุ๊กมรึงตายตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มใช้ไงล่ะ" ยังไม่นับดาวเทียมพ่วงเลเซอร์ ที่พร้อมยิงถล่มดาวเทียมนำร่อง GPS มรึงทั้งอวกาศ STAR WARS ของจริง ขั้วใหม่ไปถึงแล้ว แต่มรึงยังคลำหาทางบินออกนอกโลกยังยากเลย NASA แค่ตัวตลกโลก ควายยังอาย หมายังเอือม อิหร่าน มาพร้อมเต็มสูบ ใครอยากวัดก็เข้ามา กำลังร้อนวิชา ของเค้าแรงจริง!

    อีแขกภาระตะกรี๊ด? อะไรน่ะ บราห์มอสเทพกู ยังสู้ ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคอีปากีไม่ได้ หันไปดู MADE IN CHINA นี่หว่า นี่มันน้องๆ ตงเฟิงเชียวน่ะมรึง มาได้ไงฟ่ะ? ถึงบางอ้อ..อีแขกพลาด หมากตานี้ จีนรวบทั้งกระดาน แผนรั่ว จะเปิดศึกแคช์เมียร์ ที่อีแขกเตรียมชงเปิดฉากรอ มาปลาตายน้ำตื้น หารู้ไม่ จีน-ปากี เค้ารอดักทางมรึงนานแล้ว นี่มันกับดักนี่หว่า? อีแขกเสียหมา อีเศษฝรั่งเสียมวย จีน-ปากี แจ้งเกิดเต็มเวทีโลก ขวัญกำลังใจอีปากีมาเต็ม ได้เวลาปล่อยตัวอิมราน ข่านยังล่ะ? จีนใช้อีปากี ทดสอบอาวุธจีน ในสมรภูมิจริง เพื่อเตือนสติอีแขก มรึงอย่าสำคัญตัวเองสูงส่งเกินไป หากกูเอาจริง นิวเดลี มุมไบ กูยึดได้ภายใน 48 ชั่วโมง อยากหมากว่านี้มั้ยล่ะ?

    ทรงมันมาแล้ว! กระแส "กลับคุก" คุกแน่ คุกส่องหล้า ปั่นเพื่อบีบให้มรึงจ่ายไงล่ะ จ่ายคือจบ แล้วไสหัวไปซะ หากช้า ศรีธนญชัยอาจเปลี่ยนใจ แล้วมรึงจะไม่ได้ออกไปอีกตลอดชีวิต เพราะจะกลายเป็นศพในคุกไงล่ะ คนจะฆ่ามรึงมีเป็นล้าน แค่ปล่อยให้โดนกระตืบคาคุก 10 นาทีก็ขึ้นเงินได้แล้ว อะไรที่เกิดในคุก ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีใครรับผิดชอบ คนคุก มันก็อยู่ในคุก ทำผิดอีก จะส่งมันไปไหนได้อีกล่ะ? เข้าคุก คือตายนั่นเอง อีเมียกระบังลม ดิ้นเฮือกสุดท้าย จะเอาลูกสาวร่านเผ่นออกไปให้ได้ อีตัวพ่อเหลี่ยมชาติหมา มันคือเป้าหมายหลัก หากคิดจะเอาตัวรอด อีเมีย อีลูก ต้องเผ่นได้แล้วเวลานี้ ทางที่ดีที่สุด คือยอม หมอบ มอบ แค่นั้่นคือรอดตายในแผ่นดินนี้ แต่จะไปตายห่าที่ไหนก็เชิญ

    อีลูกสาวร่านจะดันให้ได้ แต่ครม. และพรรคร่วมเบรคตัวโก่ง เงิน 10000 เฟส3 ยังไม่คลอดซักกะที เพราะ GDP ติดลบ แถมถูกสว.จ้องเชือดรายตัว รายพรรค ไหนจะภาคประชาชนยื่นฟ้องเป็นหางว่าว วิบากกรรมนี้ หนียังไงก็ไม่พ้น ลูกน้องหักหลัง คนใกล้ตัวชิ่งหนีหมดแล้ว มีเงินแต่ไม่ได้ใช้ ใครมันจะโง่อยู่? วงในศาลไคฟง ส่งสัญญาน ไม่มีประกันตัวน่ะจ๊ะ งานนี้ คดีไหนก็ตาม เชือดอย่างเดียว ยาแรงเท่านั้น ใบสั่งตรงจากเบื้องบน "หากศาลยังพึ่งพาไม่ได้" กฎหมายก็ไม่ต้องมีมันแล้ว ชั้น 14 คือตราบาป ที่จะต้องทำให้กฎหมายกลับคืนความศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง อีเหลี่ยมดิ้นยาก จ่ายอย่างเดียว หากอยากจะรอด ช่องหมาลอดยังเปิดอยู่ แค่มรึงจ่ายก็จบ

    สัญญานเข้ม ทั้งตราเมืองธม ทั้งศรีสะเกษ ไม่ต้องสั่ง กูทำเอง? หน้าที่มีอยู่แล้ว อีขะแมร์ไม่กล้าดอก หากไทยเอาจริง เพราะอีฮุนเซน มันใกล้จะเสื่อมหนักเข้าทุกวัน ทหารอีขะแมร์ก็รู้ หากเปิดแลก ขนมกรุบสิจ๊ะ ทหารหน่วยเสื้อดำ มาเพื่อฆ่าอย่างเดียว งานถนัด ฝึกมาทั้งชีวิต เพื่อมาไล่ฆ่าเหี้ยผู้รุกรานเนี่ยแหละ ทหารเค้านับ 1 แล้วน่ะ ถึง 10 เมื่อไหร่ กูยิง และกวาดไปพร้อมกันให้หมดเลย ไอ้อีใครขายชาติตัวไหน จะถูกเรียกเช็คบิลหมด อย่ามาล้อเล่นกับดินแดน เพราะพ่ออยู่หัวจะไม่ยอมให้เสียดินแดนไปมากกว่านี้อีกแล้ว ตรงกันข้าม อะไรที่พ่ออยู่หัวร.5 ทรงเสียพระทัยไป จะเรียกคืนดินแดนเก่าทั้งหมดกลับมาในไม่ช้านี้ มั่นใจ ทำได้แน่ สวรรค์เปิดทาง

    ผวาอาเพช! สวรรค์เตือนมรึงแล้วน่ะ ทั้งไอ้เหลี่ยมชาติหมา และอีฮุนเซนชาติชั่ว มรึงไม่แตกต่างจากพญาละแวกดอกน่ะ ครั้นนึงเป็นแค่ที่รองตรีนอโยธยา ตะบัดสัตย์ คิดคดทรยศ เหมือนกันทั้งคู่ เทวดาสาปส่ง ชาวอีขะแมร์ แห่ผวา แตกตื่นกันใหญ่ สัญญานผลัดใบ อีฮุนเซนกำลังจะถูกสวรรค์ลงโทษ เพราะกว่าจะได้บังลังก์ตัวนี้มา มันเที่ยวไล่ฆ่าคนมานับล้าน เฉกเช่นเดียวกับอีเหลี่ยมชั่ว ศีลเสมอกัน เหี้ยเสมอตัว อีขะแมร์ยุคไร้อีฮันเซน บ้านเมืองจะระส่ำระสาย ผู้คนแย่งชิง จะเอาตัวรอด สุดท้ายหนีไม่พ้นพึ่งใบบุญไทย เชิญบรรพกษัตริย์กลับมาเพื่อปกครอง และอยู่ภายใต้อาณัติอโยธยาศรีรามเทพนครดั่งเดิม สวรรค์เขียนบทมาเยี่ยงนี้

    ปล.กุนซือทั่วโลก ต่างมอง "เปิดเกมส์ยื้อสงครามกับจีน รัสเซีย มีแต่แพ้กับแพ้" เงินเอาจากไหน อาหารเอาจากใคร อาวุธใครผลิต ต้นทุนใครสูงกว่า โลจิสติคใครครอบครอง เสบียง กำลังพล ใครพร้อมกว่า พันธมิตร ใครมากกว่า ความชอบธรรม ใครดีกว่า เวทีโลก ใครเป็นที่ประจักษ์กว่า สงครามเกิด ทั้งโลกจะยืนอยู่ข้างผู้ชนะเท่านั้น และแน่นอนว่า เค้าได้เลือก "จีน รัสเซีย อิหร่าน ไปเรียบร้อยแล้ว" ไม่ว่า อีหน้าโง่ยุโรป จะเปิดศึกกับรัสเซียยังไง ก็รอวันแพ้ยับได้เลย อเมริกาถังแตก จะเล่นสงครามการค้าสู้ไม่ได้ ยิ่งเล่นสงครามในสมรภูมิรบยิ่งแพ้หนัก แค่เยเมน ทะเลแดงยังไม่มีปัญญาผ่าน แล้วมรึงยังจะหน้าด้านไปบุกเกาะสแปรดลี่ย์อีกเหรอ? ตงเฟงจ่อหัว ไม่มีรอดซักราย ส่งเรือรบไปกี่ลำ จมตามจำนวนหัวยิงนั่นแหละ เมื่อทรงมันมาทางเดียวกันหมด ไม่มีใครอยากรบกับรัสเซีย จีน ซึ่งหน้า คงมีแต่อียิวเสี้ยน ที่อยากจะตายคาตรีนอิหร่านขั้นสูงสุด ถึงได้พยายามยั่วยุ สุดติ่งกระดิ่งเหี้ย แต่จะพยายามอย่างไร แผนการรวบแดร๊กแหล่งแก็สนอกชายฝั่งฉนวนกาซ่าก็ไร้ผล เพราะเค้ารู้แล้วว่า มรึงต้องการอะไรแท้จริงกันแน่?

    ปล.2 ชั้นไม่ลับ ดีลผีอีโมแห้ว ดีลชั้น 14 วงแตก ดีลหนีขะแมร์ยกเลิก ดีลปิดจ็อบเงิน 10000 ไม่มา ดีลเคลียร์ DSI ไม่จบ ดีลสว.ฮั้ว ไม่เลิก ดีลยกดินแดน ไม่มีทาง ดีลกวาดล้างบางคอรัปชั่นทั่วไทย ไฟเขียว ดีลตึกสตง.ไม่ช่วย ดีลเลือกตั้งใหม่ไม่มา ดีลยุบพรรคไม่รามือ ดีลศาลไคฟง ไม่ปล่อย ดีลสร้างถนน ไม่จบ ทุกเรื่องราว มีใบสั่ง เรื่องถึงเกิด ใครสั่งขุด ใครสั่งรื้อ ใครสั่งลุย คำถามคือ "ต้องใช้เวลานานแค่ไหน กว่าทุกคดีจะมาบรรจบกันที่ คุก" ศรีธนญชัยเล่นไปทีละตา เดินไปทีละก้าว หากจีน รัสเซีย อิหร่านเปิด ทุกคดีจะเร็วฟ้าผ่าอย่างที่คาดไม่ถึง มันคือการประกาศไปในตัว ว่าอโยธยาเลือกฝ่ายแล้วไงล่ะ? อย่าลืมว่า 93 ปี เหี้ย C และขี้ข้ายิวเหี้ยฝังตัวอยู่ในไทยมานาน เส้นสาย ลูกหม้อ มีกระจายไปทั่วทุกชนชั้น ทุกหน่วยงาน การจะล้างผป่าช้าได้จริงและสำเร็จ มันต้องจัดการปัจจัยหลักให้หมดก่อน ทั้งท่อน้ำเลี้ยง หัวเหี้ยที่ตั้งขึ้นมา รวมถึงความผิดที่สะสมกันมายาวนาน ข้าราชการไทย อยู่ได้เพราะเงินส่วย ใช้จ่ายเกินตัว หนี้สินเกินกำลัง ปัญหาใหญ่แท้จริง ในการจะปราบคอรัปชั่นได้ นั่นคือ "การล้างหนี้ก่อน" จะทำให้เงินนอกระบบเป็นโมฆะให้หมด จะทำให้หนี้ท่วมหัว กลายเป็นหนี้ที่เรียกคืนได้จริง ทุกอย่างต้องชัดเจน โปร่งใส ศาลไคฟงจะนำ การคลังจะตาม การต่างประเทศถึงจะเดินหน้าต่อได้ เด็กใคร สายใคร ต่อไป จะถูก SET 0 ใหม่หมด ทั้งองค์กร กจิกาใหม่จะมาเพื่อเลี่ยงการคอรัปชั่นระยะยาวอีก ทั้งหมดมาจากการเปลี่ยนรธน.ใหม่นั่นเอง วังมา คือจบ

    หมี CNN(กระแสพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียนมาเต็ม แต่แนวโน้ม โลกยุคใหม่ พลังงานนิวเคลียร์คือคำตอบระยะสั้น ถูก แรง เร็ว และตอบสนองทันการ ทั่วโลกเริ่มโครงการโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์กันหมดแล้ว ทั้งเอเซีย อาเซียน แอฟริกา ตะวันออกกลาง ชาติลาติน แม้แต่ยุโรปฝั่งตะวันออก เพราะเพื่อลดการใช้น้ำมัน ที่ทำลาย มลพิษในอากาศ โลกร้อน แอฟเฟคที่ตามมา ไทยเราเองก็จะผลิตพลังงานสะอาดควบคู่ไป ยามเมื่อเกิดวิกฤตพลังงาน เราจะมีสแปร์สำรองไว้ก่อนเสมอ แสงแดด น้ำ คือสิ่งที่มีรอบตัวเรา น้ำท่วมบ่อยชิมิ? ใช้ประโยชน์จากแรงดันน้ำได้เลย ทุกอย่างทำได้จริง หากมรึงเลิกแดร๊กจริงจัง จะเอาเหี้ยอะไรได้หมด เชื่อกู?)
    20 พฤษภาคม 68
    12.18 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    20-05-68/01 : หมี CNN / หมีกุ๊กกู EP15 ไอ้สัส! วอชิงตันขี้แตก S-500 ฉบับเตหะราน มีอะไรที่กูทำไม่ได้บ้าง อิหร่านโชว์พาวเดอร์เค็ก สุดจริง เต็มจริง อิหร่านยังมี แล้วจีนจะเหลือเหรอ? หมายังรู้ S-500 ทำลายทุกขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคบนโลกได้หมด แปลว่าอะไร? "นุ๊กมรึงตายตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มใช้ไงล่ะ" ยังไม่นับดาวเทียมพ่วงเลเซอร์ ที่พร้อมยิงถล่มดาวเทียมนำร่อง GPS มรึงทั้งอวกาศ STAR WARS ของจริง ขั้วใหม่ไปถึงแล้ว แต่มรึงยังคลำหาทางบินออกนอกโลกยังยากเลย NASA แค่ตัวตลกโลก ควายยังอาย หมายังเอือม อิหร่าน มาพร้อมเต็มสูบ ใครอยากวัดก็เข้ามา กำลังร้อนวิชา ของเค้าแรงจริง! อีแขกภาระตะกรี๊ด? อะไรน่ะ บราห์มอสเทพกู ยังสู้ ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคอีปากีไม่ได้ หันไปดู MADE IN CHINA นี่หว่า นี่มันน้องๆ ตงเฟิงเชียวน่ะมรึง มาได้ไงฟ่ะ? ถึงบางอ้อ..อีแขกพลาด หมากตานี้ จีนรวบทั้งกระดาน แผนรั่ว จะเปิดศึกแคช์เมียร์ ที่อีแขกเตรียมชงเปิดฉากรอ มาปลาตายน้ำตื้น หารู้ไม่ จีน-ปากี เค้ารอดักทางมรึงนานแล้ว นี่มันกับดักนี่หว่า? อีแขกเสียหมา อีเศษฝรั่งเสียมวย จีน-ปากี แจ้งเกิดเต็มเวทีโลก ขวัญกำลังใจอีปากีมาเต็ม ได้เวลาปล่อยตัวอิมราน ข่านยังล่ะ? จีนใช้อีปากี ทดสอบอาวุธจีน ในสมรภูมิจริง เพื่อเตือนสติอีแขก มรึงอย่าสำคัญตัวเองสูงส่งเกินไป หากกูเอาจริง นิวเดลี มุมไบ กูยึดได้ภายใน 48 ชั่วโมง อยากหมากว่านี้มั้ยล่ะ? ทรงมันมาแล้ว! กระแส "กลับคุก" คุกแน่ คุกส่องหล้า ปั่นเพื่อบีบให้มรึงจ่ายไงล่ะ จ่ายคือจบ แล้วไสหัวไปซะ หากช้า ศรีธนญชัยอาจเปลี่ยนใจ แล้วมรึงจะไม่ได้ออกไปอีกตลอดชีวิต เพราะจะกลายเป็นศพในคุกไงล่ะ คนจะฆ่ามรึงมีเป็นล้าน แค่ปล่อยให้โดนกระตืบคาคุก 10 นาทีก็ขึ้นเงินได้แล้ว อะไรที่เกิดในคุก ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีใครรับผิดชอบ คนคุก มันก็อยู่ในคุก ทำผิดอีก จะส่งมันไปไหนได้อีกล่ะ? เข้าคุก คือตายนั่นเอง อีเมียกระบังลม ดิ้นเฮือกสุดท้าย จะเอาลูกสาวร่านเผ่นออกไปให้ได้ อีตัวพ่อเหลี่ยมชาติหมา มันคือเป้าหมายหลัก หากคิดจะเอาตัวรอด อีเมีย อีลูก ต้องเผ่นได้แล้วเวลานี้ ทางที่ดีที่สุด คือยอม หมอบ มอบ แค่นั้่นคือรอดตายในแผ่นดินนี้ แต่จะไปตายห่าที่ไหนก็เชิญ อีลูกสาวร่านจะดันให้ได้ แต่ครม. และพรรคร่วมเบรคตัวโก่ง เงิน 10000 เฟส3 ยังไม่คลอดซักกะที เพราะ GDP ติดลบ แถมถูกสว.จ้องเชือดรายตัว รายพรรค ไหนจะภาคประชาชนยื่นฟ้องเป็นหางว่าว วิบากกรรมนี้ หนียังไงก็ไม่พ้น ลูกน้องหักหลัง คนใกล้ตัวชิ่งหนีหมดแล้ว มีเงินแต่ไม่ได้ใช้ ใครมันจะโง่อยู่? วงในศาลไคฟง ส่งสัญญาน ไม่มีประกันตัวน่ะจ๊ะ งานนี้ คดีไหนก็ตาม เชือดอย่างเดียว ยาแรงเท่านั้น ใบสั่งตรงจากเบื้องบน "หากศาลยังพึ่งพาไม่ได้" กฎหมายก็ไม่ต้องมีมันแล้ว ชั้น 14 คือตราบาป ที่จะต้องทำให้กฎหมายกลับคืนความศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง อีเหลี่ยมดิ้นยาก จ่ายอย่างเดียว หากอยากจะรอด ช่องหมาลอดยังเปิดอยู่ แค่มรึงจ่ายก็จบ สัญญานเข้ม ทั้งตราเมืองธม ทั้งศรีสะเกษ ไม่ต้องสั่ง กูทำเอง? หน้าที่มีอยู่แล้ว อีขะแมร์ไม่กล้าดอก หากไทยเอาจริง เพราะอีฮุนเซน มันใกล้จะเสื่อมหนักเข้าทุกวัน ทหารอีขะแมร์ก็รู้ หากเปิดแลก ขนมกรุบสิจ๊ะ ทหารหน่วยเสื้อดำ มาเพื่อฆ่าอย่างเดียว งานถนัด ฝึกมาทั้งชีวิต เพื่อมาไล่ฆ่าเหี้ยผู้รุกรานเนี่ยแหละ ทหารเค้านับ 1 แล้วน่ะ ถึง 10 เมื่อไหร่ กูยิง และกวาดไปพร้อมกันให้หมดเลย ไอ้อีใครขายชาติตัวไหน จะถูกเรียกเช็คบิลหมด อย่ามาล้อเล่นกับดินแดน เพราะพ่ออยู่หัวจะไม่ยอมให้เสียดินแดนไปมากกว่านี้อีกแล้ว ตรงกันข้าม อะไรที่พ่ออยู่หัวร.5 ทรงเสียพระทัยไป จะเรียกคืนดินแดนเก่าทั้งหมดกลับมาในไม่ช้านี้ มั่นใจ ทำได้แน่ สวรรค์เปิดทาง ผวาอาเพช! สวรรค์เตือนมรึงแล้วน่ะ ทั้งไอ้เหลี่ยมชาติหมา และอีฮุนเซนชาติชั่ว มรึงไม่แตกต่างจากพญาละแวกดอกน่ะ ครั้นนึงเป็นแค่ที่รองตรีนอโยธยา ตะบัดสัตย์ คิดคดทรยศ เหมือนกันทั้งคู่ เทวดาสาปส่ง ชาวอีขะแมร์ แห่ผวา แตกตื่นกันใหญ่ สัญญานผลัดใบ อีฮุนเซนกำลังจะถูกสวรรค์ลงโทษ เพราะกว่าจะได้บังลังก์ตัวนี้มา มันเที่ยวไล่ฆ่าคนมานับล้าน เฉกเช่นเดียวกับอีเหลี่ยมชั่ว ศีลเสมอกัน เหี้ยเสมอตัว อีขะแมร์ยุคไร้อีฮันเซน บ้านเมืองจะระส่ำระสาย ผู้คนแย่งชิง จะเอาตัวรอด สุดท้ายหนีไม่พ้นพึ่งใบบุญไทย เชิญบรรพกษัตริย์กลับมาเพื่อปกครอง และอยู่ภายใต้อาณัติอโยธยาศรีรามเทพนครดั่งเดิม สวรรค์เขียนบทมาเยี่ยงนี้ ปล.กุนซือทั่วโลก ต่างมอง "เปิดเกมส์ยื้อสงครามกับจีน รัสเซีย มีแต่แพ้กับแพ้" เงินเอาจากไหน อาหารเอาจากใคร อาวุธใครผลิต ต้นทุนใครสูงกว่า โลจิสติคใครครอบครอง เสบียง กำลังพล ใครพร้อมกว่า พันธมิตร ใครมากกว่า ความชอบธรรม ใครดีกว่า เวทีโลก ใครเป็นที่ประจักษ์กว่า สงครามเกิด ทั้งโลกจะยืนอยู่ข้างผู้ชนะเท่านั้น และแน่นอนว่า เค้าได้เลือก "จีน รัสเซีย อิหร่าน ไปเรียบร้อยแล้ว" ไม่ว่า อีหน้าโง่ยุโรป จะเปิดศึกกับรัสเซียยังไง ก็รอวันแพ้ยับได้เลย อเมริกาถังแตก จะเล่นสงครามการค้าสู้ไม่ได้ ยิ่งเล่นสงครามในสมรภูมิรบยิ่งแพ้หนัก แค่เยเมน ทะเลแดงยังไม่มีปัญญาผ่าน แล้วมรึงยังจะหน้าด้านไปบุกเกาะสแปรดลี่ย์อีกเหรอ? ตงเฟงจ่อหัว ไม่มีรอดซักราย ส่งเรือรบไปกี่ลำ จมตามจำนวนหัวยิงนั่นแหละ เมื่อทรงมันมาทางเดียวกันหมด ไม่มีใครอยากรบกับรัสเซีย จีน ซึ่งหน้า คงมีแต่อียิวเสี้ยน ที่อยากจะตายคาตรีนอิหร่านขั้นสูงสุด ถึงได้พยายามยั่วยุ สุดติ่งกระดิ่งเหี้ย แต่จะพยายามอย่างไร แผนการรวบแดร๊กแหล่งแก็สนอกชายฝั่งฉนวนกาซ่าก็ไร้ผล เพราะเค้ารู้แล้วว่า มรึงต้องการอะไรแท้จริงกันแน่? ปล.2 ชั้นไม่ลับ ดีลผีอีโมแห้ว ดีลชั้น 14 วงแตก ดีลหนีขะแมร์ยกเลิก ดีลปิดจ็อบเงิน 10000 ไม่มา ดีลเคลียร์ DSI ไม่จบ ดีลสว.ฮั้ว ไม่เลิก ดีลยกดินแดน ไม่มีทาง ดีลกวาดล้างบางคอรัปชั่นทั่วไทย ไฟเขียว ดีลตึกสตง.ไม่ช่วย ดีลเลือกตั้งใหม่ไม่มา ดีลยุบพรรคไม่รามือ ดีลศาลไคฟง ไม่ปล่อย ดีลสร้างถนน ไม่จบ ทุกเรื่องราว มีใบสั่ง เรื่องถึงเกิด ใครสั่งขุด ใครสั่งรื้อ ใครสั่งลุย คำถามคือ "ต้องใช้เวลานานแค่ไหน กว่าทุกคดีจะมาบรรจบกันที่ คุก" ศรีธนญชัยเล่นไปทีละตา เดินไปทีละก้าว หากจีน รัสเซีย อิหร่านเปิด ทุกคดีจะเร็วฟ้าผ่าอย่างที่คาดไม่ถึง มันคือการประกาศไปในตัว ว่าอโยธยาเลือกฝ่ายแล้วไงล่ะ? อย่าลืมว่า 93 ปี เหี้ย C และขี้ข้ายิวเหี้ยฝังตัวอยู่ในไทยมานาน เส้นสาย ลูกหม้อ มีกระจายไปทั่วทุกชนชั้น ทุกหน่วยงาน การจะล้างผป่าช้าได้จริงและสำเร็จ มันต้องจัดการปัจจัยหลักให้หมดก่อน ทั้งท่อน้ำเลี้ยง หัวเหี้ยที่ตั้งขึ้นมา รวมถึงความผิดที่สะสมกันมายาวนาน ข้าราชการไทย อยู่ได้เพราะเงินส่วย ใช้จ่ายเกินตัว หนี้สินเกินกำลัง ปัญหาใหญ่แท้จริง ในการจะปราบคอรัปชั่นได้ นั่นคือ "การล้างหนี้ก่อน" จะทำให้เงินนอกระบบเป็นโมฆะให้หมด จะทำให้หนี้ท่วมหัว กลายเป็นหนี้ที่เรียกคืนได้จริง ทุกอย่างต้องชัดเจน โปร่งใส ศาลไคฟงจะนำ การคลังจะตาม การต่างประเทศถึงจะเดินหน้าต่อได้ เด็กใคร สายใคร ต่อไป จะถูก SET 0 ใหม่หมด ทั้งองค์กร กจิกาใหม่จะมาเพื่อเลี่ยงการคอรัปชั่นระยะยาวอีก ทั้งหมดมาจากการเปลี่ยนรธน.ใหม่นั่นเอง วังมา คือจบ หมี CNN(กระแสพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียนมาเต็ม แต่แนวโน้ม โลกยุคใหม่ พลังงานนิวเคลียร์คือคำตอบระยะสั้น ถูก แรง เร็ว และตอบสนองทันการ ทั่วโลกเริ่มโครงการโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์กันหมดแล้ว ทั้งเอเซีย อาเซียน แอฟริกา ตะวันออกกลาง ชาติลาติน แม้แต่ยุโรปฝั่งตะวันออก เพราะเพื่อลดการใช้น้ำมัน ที่ทำลาย มลพิษในอากาศ โลกร้อน แอฟเฟคที่ตามมา ไทยเราเองก็จะผลิตพลังงานสะอาดควบคู่ไป ยามเมื่อเกิดวิกฤตพลังงาน เราจะมีสแปร์สำรองไว้ก่อนเสมอ แสงแดด น้ำ คือสิ่งที่มีรอบตัวเรา น้ำท่วมบ่อยชิมิ? ใช้ประโยชน์จากแรงดันน้ำได้เลย ทุกอย่างทำได้จริง หากมรึงเลิกแดร๊กจริงจัง จะเอาเหี้ยอะไรได้หมด เชื่อกู?) 20 พฤษภาคม 68 12.18 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 Comments 0 Shares 352 Views 0 Reviews
  • คำพูดตลกของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม และ “ภรรยาคนที่สอง” ทำให้คนในประเทศเกิดปฏิกิริยาที่หลากหลาย โดยทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรู้สึกขบขัน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนอื่นๆรู้สึกไม่พอใจเพราะยังคงไว้อาลัยเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ หลังจากที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เครื่องบินตกเมื่อปี 2014 ระหว่างที่อันวาร์เยือนกรุงมอสโก

    อันวาร์อยู่ระหว่างการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ 4 วันตามคำเชิญของปูติน โดยทั้งสองฝ่ายต่างยกย่องความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในภาคส่วนต่างๆ เช่น อวกาศ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีดิจิทัล

    แต่คำพูดที่หลุดจากปากของปูตินเองต่างหากที่ดึงดูดความสนใจ

    ในการแถลงข่าวร่วมกันที่กรุงมอสโกเมื่อวันพุธที่14 พ.ค. ผู้นำรัสเซียเล่าว่าพาอันวาร์ชมห้องโถงเซนต์แอนดรูว์อันโอ่อ่าในเครมลิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบัลลังก์พิธีการ 3 บัลลังก์ที่ราชวงศ์รัสเซียเคยใช้ ผู้นำรัสเซียอธิบายว่าบัลลังก์หนึ่งเป็นของซาร์ และอีกบัลลังก์หนึ่งเป็นของภรรยา จากนั้นจึงถามผู้นำมาเลเซียว่าบัลลังก์ที่สามเป็นของใคร

    “นายกรัฐมนตรีอันวาร์กล่าวโดยไม่คิดอะไรเลยว่า ‘เพื่อภรรยาคนที่สอง’” ปูตินกล่าว ทำให้ผู้ฟังหัวเราะ “ฉันหวังว่าเขาจะไม่โกรธฉันที่พูดแบบนั้น แต่นี่คือคำตอบของมุสลิมแท้ ตัวแทนที่แท้จริงของวัฒนธรรมอิสลาม”

    อันวาร์ซึ่งหัวเราะขณะที่ปูตินเล่าเรื่องนี้ตอบกลับว่า “ผมมีภรรยาคนเดียวเท่านั้น ท่านประธานาธิบดี” และเสริมว่าภายหลังเขาเพิ่งตระหนักว่าบัลลังก์ที่สามนั้นเป็นของพระมารดาของซาร์

    ชาวมาเลเซียรีบล้อเลียนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนี้บนโซเชียลมีเดีย โดยบางคนเสนอว่าควรมีเพลง “Russia Sayang” เป็นเพลงประกอบการเยือนของอันวาร์ ซึ่งเป็นการเล่นคำกับเพลง “Rasa Sayang” ซึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านยอดนิยมของชาวมาเลย์ที่แปลว่า “ความรู้สึกรัก”

    “จากรัสเซียด้วยความรัก” ผู้ใช้รายหนึ่งชื่ออัซลัน อับดุลลาห์ เขียน พร้อมเพิ่มอีโมจิหัวเราะในความคิดเห็นบนเฟซบุ๊กของเขา

    อย่างไรก็ตาม ชาวมาเลเซียบางคนก็ไม่ได้รู้สึกขบขัน นักวิจารณ์โต้แย้งว่าความตลกโปกฮานี้ขาดความจริงจัง เนื่องจากรัสเซียมีบทบาทในเหตุโศกนาฏกรรม MH17 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 298 ราย รวมถึงชาวมาเลเซีย 43 ราย เมื่อเครื่องบินถูกขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ Buk ที่ผลิตโดยรัสเซียโจมตีเหนือยูเครนตะวันออกในเดือนกรกฎาคม 2557 ระหว่างการสู้รบระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนมอสโกวและกองกำลังยูเครน

    ผู้ใช้รายหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “เขาคิดว่าเขาไปมอสโกวเพื่อเรียกร้องคำตอบเกี่ยวกับ MH17 แต่กลับกลายเป็นว่าเขากำลังเล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับภรรยาคนที่สองกับปูตินแทน” ผู้ใช้อีกรายเขียนว่า “หัวเราะและเล่าเรื่องตลกในขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจาก MH17 ร้องไห้” ในโพสต์ที่แชร์คลิปการแถลงข่าวที่กลายเป็นไวรัล

    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ตัดสินว่ารัสเซียต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เครื่องบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ถูกยิงตก

    คำตัดสินดังกล่าวระบุว่ารัสเซียละเมิดอนุสัญญาชิคาโก ซึ่งห้ามใช้อาวุธโจมตีเครื่องบินพลเรือนขณะบิน และเปิดโอกาสให้รัฐที่ได้รับผลกระทบเรียกร้องค่าชดเชยแทนครอบครัวของผู้เสียชีวิตผ่านกลไกทางกฎหมายระหว่างประเทศ

    เครมลินปฏิเสธคำตัดสินดังกล่าวโดยระบุว่า “ลำเอียง” โดยให้เหตุผลว่ามอสโกไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวน

    ในการแถลงข่าวแยกกับสื่อมาเลเซียในกรุงมอสโก อันวาร์กล่าวว่าปูตินบอกกับเขาว่ารัสเซียเปิดกว้างที่จะให้ความร่วมมือในคดีนี้ แต่เฉพาะกับหน่วยงานสอบสวนที่ถือว่าเป็นกลางเท่านั้น

    “สิ่งที่ฉันยืนยันได้คือเขากล่าวว่าไม่เป็นความจริงที่จะบอกว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ แต่พวกเขาไม่สามารถให้ความร่วมมือกับใครก็ตามที่รัสเซียถือว่าไม่เป็นอิสระ” เขากล่าว

    มาเลเซียซึ่งสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียในช่วงยุคโซเวียตในทศวรรษ 1960 นำเข้าธัญพืช น้ำมันกลั่น และอาวุธจากรัสเซีย และล่าสุดหันไปหามอสโกเพื่อขอการสนับสนุนในการพยายามเข้าร่วมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่บริกส์

    ที่มา Putin’s ‘second wife’ joke about Anwar draws laughs and backlash in Malaysia
    https://www.scmp.com/week-asia/politics/article/3310606/putins-second-wife-joke-about-malaysias-anwar-draws-laughs-and-anger-amid-mh17-ruling?share=mYixsqD3Gx74oC2WLCVGDbUSw3YQ5trX%2FyBWyU9E0%2F%2FQDIcV%2Ba96vAUpBw3v%2BoxVR4RAImnq9JxgzHKpT4WMZjU%2BOyv%2BvSxYeWul0pVvbj0%3D&utm_campaign=social_share
    คำพูดตลกของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม และ “ภรรยาคนที่สอง” ทำให้คนในประเทศเกิดปฏิกิริยาที่หลากหลาย โดยทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรู้สึกขบขัน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนอื่นๆรู้สึกไม่พอใจเพราะยังคงไว้อาลัยเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ หลังจากที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เครื่องบินตกเมื่อปี 2014 ระหว่างที่อันวาร์เยือนกรุงมอสโก อันวาร์อยู่ระหว่างการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ 4 วันตามคำเชิญของปูติน โดยทั้งสองฝ่ายต่างยกย่องความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในภาคส่วนต่างๆ เช่น อวกาศ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีดิจิทัล แต่คำพูดที่หลุดจากปากของปูตินเองต่างหากที่ดึงดูดความสนใจ ในการแถลงข่าวร่วมกันที่กรุงมอสโกเมื่อวันพุธที่14 พ.ค. ผู้นำรัสเซียเล่าว่าพาอันวาร์ชมห้องโถงเซนต์แอนดรูว์อันโอ่อ่าในเครมลิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบัลลังก์พิธีการ 3 บัลลังก์ที่ราชวงศ์รัสเซียเคยใช้ ผู้นำรัสเซียอธิบายว่าบัลลังก์หนึ่งเป็นของซาร์ และอีกบัลลังก์หนึ่งเป็นของภรรยา จากนั้นจึงถามผู้นำมาเลเซียว่าบัลลังก์ที่สามเป็นของใคร “นายกรัฐมนตรีอันวาร์กล่าวโดยไม่คิดอะไรเลยว่า ‘เพื่อภรรยาคนที่สอง’” ปูตินกล่าว ทำให้ผู้ฟังหัวเราะ “ฉันหวังว่าเขาจะไม่โกรธฉันที่พูดแบบนั้น แต่นี่คือคำตอบของมุสลิมแท้ ตัวแทนที่แท้จริงของวัฒนธรรมอิสลาม” อันวาร์ซึ่งหัวเราะขณะที่ปูตินเล่าเรื่องนี้ตอบกลับว่า “ผมมีภรรยาคนเดียวเท่านั้น ท่านประธานาธิบดี” และเสริมว่าภายหลังเขาเพิ่งตระหนักว่าบัลลังก์ที่สามนั้นเป็นของพระมารดาของซาร์ ชาวมาเลเซียรีบล้อเลียนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนี้บนโซเชียลมีเดีย โดยบางคนเสนอว่าควรมีเพลง “Russia Sayang” เป็นเพลงประกอบการเยือนของอันวาร์ ซึ่งเป็นการเล่นคำกับเพลง “Rasa Sayang” ซึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านยอดนิยมของชาวมาเลย์ที่แปลว่า “ความรู้สึกรัก” “จากรัสเซียด้วยความรัก” ผู้ใช้รายหนึ่งชื่ออัซลัน อับดุลลาห์ เขียน พร้อมเพิ่มอีโมจิหัวเราะในความคิดเห็นบนเฟซบุ๊กของเขา อย่างไรก็ตาม ชาวมาเลเซียบางคนก็ไม่ได้รู้สึกขบขัน นักวิจารณ์โต้แย้งว่าความตลกโปกฮานี้ขาดความจริงจัง เนื่องจากรัสเซียมีบทบาทในเหตุโศกนาฏกรรม MH17 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 298 ราย รวมถึงชาวมาเลเซีย 43 ราย เมื่อเครื่องบินถูกขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ Buk ที่ผลิตโดยรัสเซียโจมตีเหนือยูเครนตะวันออกในเดือนกรกฎาคม 2557 ระหว่างการสู้รบระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนมอสโกวและกองกำลังยูเครน ผู้ใช้รายหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “เขาคิดว่าเขาไปมอสโกวเพื่อเรียกร้องคำตอบเกี่ยวกับ MH17 แต่กลับกลายเป็นว่าเขากำลังเล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับภรรยาคนที่สองกับปูตินแทน” ผู้ใช้อีกรายเขียนว่า “หัวเราะและเล่าเรื่องตลกในขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจาก MH17 ร้องไห้” ในโพสต์ที่แชร์คลิปการแถลงข่าวที่กลายเป็นไวรัล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ตัดสินว่ารัสเซียต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เครื่องบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ถูกยิงตก คำตัดสินดังกล่าวระบุว่ารัสเซียละเมิดอนุสัญญาชิคาโก ซึ่งห้ามใช้อาวุธโจมตีเครื่องบินพลเรือนขณะบิน และเปิดโอกาสให้รัฐที่ได้รับผลกระทบเรียกร้องค่าชดเชยแทนครอบครัวของผู้เสียชีวิตผ่านกลไกทางกฎหมายระหว่างประเทศ เครมลินปฏิเสธคำตัดสินดังกล่าวโดยระบุว่า “ลำเอียง” โดยให้เหตุผลว่ามอสโกไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวน ในการแถลงข่าวแยกกับสื่อมาเลเซียในกรุงมอสโก อันวาร์กล่าวว่าปูตินบอกกับเขาว่ารัสเซียเปิดกว้างที่จะให้ความร่วมมือในคดีนี้ แต่เฉพาะกับหน่วยงานสอบสวนที่ถือว่าเป็นกลางเท่านั้น “สิ่งที่ฉันยืนยันได้คือเขากล่าวว่าไม่เป็นความจริงที่จะบอกว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ แต่พวกเขาไม่สามารถให้ความร่วมมือกับใครก็ตามที่รัสเซียถือว่าไม่เป็นอิสระ” เขากล่าว มาเลเซียซึ่งสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียในช่วงยุคโซเวียตในทศวรรษ 1960 นำเข้าธัญพืช น้ำมันกลั่น และอาวุธจากรัสเซีย และล่าสุดหันไปหามอสโกเพื่อขอการสนับสนุนในการพยายามเข้าร่วมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่บริกส์ ที่มา Putin’s ‘second wife’ joke about Anwar draws laughs and backlash in Malaysia https://www.scmp.com/week-asia/politics/article/3310606/putins-second-wife-joke-about-malaysias-anwar-draws-laughs-and-anger-amid-mh17-ruling?share=mYixsqD3Gx74oC2WLCVGDbUSw3YQ5trX%2FyBWyU9E0%2F%2FQDIcV%2Ba96vAUpBw3v%2BoxVR4RAImnq9JxgzHKpT4WMZjU%2BOyv%2BvSxYeWul0pVvbj0%3D&utm_campaign=social_share
    WWW.SCMP.COM
    Putin’s ‘second wife’ joke about Anwar draws laughs and backlash in Malaysia
    While some social media users were amused by the leaders’ moment of levity, others felt it was inappropriate in light of the MH17 tragedy.
    0 Comments 0 Shares 311 Views 0 Reviews
  • เรื่องราวน่ารักที่ สน.คลองตัน! หลังเจ้าพนักงานโพสต์ตามหาเจ้าของแมวหลงเจอ พร้อมแจ้งข้อหาสุดน่ารัก"พยายามสวบเจ้าพนักงาน" ก่อนส่งคืนสู่อ้อมกอดเจ้าของอย่างปลอดภัย

    จากกรณี ก่อนหน้านี้ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนของตำรวจนครบาลคลองตันได้โพสต์ตามหาเจ้าของของเจ้าเหมียวที่พลัดหลังมา ซึ่งล่าสุด วันนี้ ( 14 พ.ค.) เจ้าของได้มารับตัวเจ้าแมวน้อยเป็นที่เรียงร้อย แต่เกิดเรื่องราวน่ารักขึ้นเมื่อ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้แจ้งข้อหา "พยายามสวบเจ้าพนักงาน" แก่เจ้าเหมียวตัวนี้ โดยได้ระบุข้อความว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการพิมพ์ลายนิ้วมือและทำประวัติของแมวเหมียวตัวดังกล่าวแล้ว ก็ได้อนุญาตให้ประกันตัวไป โดยผลการตรวจปัสสาวะของเจ้าเหมียวไม่พบสารเสพติดใดๆ (แม้จะเป็น "หญ้าแมว" ก็ตาม)

    ทางสถานีตำรวจได้โพสต์ข้อความติดตลกผ่านโซเชียลมีเดียว่า "ไปเจอกันที่ศาลแมวโลก!!!" พร้อมทั้งแจ้งว่าได้ให้ผู้ปกครอง (คาดว่าเป็นเจ้าของ) มารับตัวแมวเหมียวไปอบรมแล้ว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000044896

    #MGROnline #แมวหลง #พยายามสวบเจ้าพนักงาน
    เรื่องราวน่ารักที่ สน.คลองตัน! หลังเจ้าพนักงานโพสต์ตามหาเจ้าของแมวหลงเจอ พร้อมแจ้งข้อหาสุดน่ารัก"พยายามสวบเจ้าพนักงาน" ก่อนส่งคืนสู่อ้อมกอดเจ้าของอย่างปลอดภัย • จากกรณี ก่อนหน้านี้ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนของตำรวจนครบาลคลองตันได้โพสต์ตามหาเจ้าของของเจ้าเหมียวที่พลัดหลังมา ซึ่งล่าสุด วันนี้ ( 14 พ.ค.) เจ้าของได้มารับตัวเจ้าแมวน้อยเป็นที่เรียงร้อย แต่เกิดเรื่องราวน่ารักขึ้นเมื่อ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้แจ้งข้อหา "พยายามสวบเจ้าพนักงาน" แก่เจ้าเหมียวตัวนี้ โดยได้ระบุข้อความว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการพิมพ์ลายนิ้วมือและทำประวัติของแมวเหมียวตัวดังกล่าวแล้ว ก็ได้อนุญาตให้ประกันตัวไป โดยผลการตรวจปัสสาวะของเจ้าเหมียวไม่พบสารเสพติดใดๆ (แม้จะเป็น "หญ้าแมว" ก็ตาม) • ทางสถานีตำรวจได้โพสต์ข้อความติดตลกผ่านโซเชียลมีเดียว่า "ไปเจอกันที่ศาลแมวโลก!!!" พร้อมทั้งแจ้งว่าได้ให้ผู้ปกครอง (คาดว่าเป็นเจ้าของ) มารับตัวแมวเหมียวไปอบรมแล้ว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000044896 • #MGROnline #แมวหลง #พยายามสวบเจ้าพนักงาน
    0 Comments 0 Shares 172 Views 0 Reviews
  • Linus Torvalds กลับมาใช้คีย์บอร์ดกลไก พร้อมสวิตช์ Cherry MX Blue หลังทดลองใช้คีย์บอร์ดแบบเงียบแล้วไม่เวิร์ก

    Linus Torvalds ผู้สร้าง Linux และผู้ดูแลเคอร์เนล ได้กลับมาใช้ คีย์บอร์ดกลไกที่มีสวิตช์ Cherry MX Blue หลังจากทดลองใช้ คีย์บอร์ดแบบเงียบและมีโปรไฟล์ต่ำ เป็นเวลาหกเดือน แต่พบว่า ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการพิมพ์มากขึ้น

    ✅ Torvalds ใช้คีย์บอร์ดแบบเงียบเป็นเวลาหกเดือน แต่พบว่าทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการพิมพ์มากขึ้น
    - เขาต้องการ เสียงคลิกและแรงกดที่ชัดเจนเพื่อช่วยลดข้อผิดพลาด

    ✅ Cherry MX Blue เป็นสวิตช์ที่มีเสียงดังและให้สัมผัสที่ชัดเจน
    - เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้ที่ต้องการ ฟีดแบคทางเสียงและสัมผัสที่ช่วยให้พิมพ์ได้แม่นยำขึ้น

    ✅ Torvalds ไม่สามารถจำเหตุผลที่เปลี่ยนไปใช้คีย์บอร์ดแบบเงียบได้
    - เขาไม่ได้ทำงานในสำนักงานที่ต้องการความเงียบ แต่ตัดสินใจลองใช้เพื่อดูผลลัพธ์

    ✅ หลังจากทดลองใช้คีย์บอร์ดแบบเงียบ เขาตัดสินใจกลับมาใช้คีย์บอร์ดกลไกแบบเดิม
    - เขายอมรับว่า เสียงคลิกช่วยให้พิมพ์ได้แม่นยำขึ้น

    ✅ Torvalds กล่าวติดตลกว่า ตอนนี้เขาจะโทษระบบแก้ไขอัตโนมัติแทนการโทษคีย์บอร์ด
    - เป็นการแสดงออกถึงอารมณ์ขันของเขาเกี่ยวกับข้อผิดพลาดในการพิมพ์

    https://www.tomshardware.com/peripherals/mechanical-keyboards/linus-torvalds-returns-to-clackety-clack-cherry-mx-blues-the-low-profile-quiet-keyboard-lifestyle-wasnt-for-him
    Linus Torvalds กลับมาใช้คีย์บอร์ดกลไก พร้อมสวิตช์ Cherry MX Blue หลังทดลองใช้คีย์บอร์ดแบบเงียบแล้วไม่เวิร์ก Linus Torvalds ผู้สร้าง Linux และผู้ดูแลเคอร์เนล ได้กลับมาใช้ คีย์บอร์ดกลไกที่มีสวิตช์ Cherry MX Blue หลังจากทดลองใช้ คีย์บอร์ดแบบเงียบและมีโปรไฟล์ต่ำ เป็นเวลาหกเดือน แต่พบว่า ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการพิมพ์มากขึ้น ✅ Torvalds ใช้คีย์บอร์ดแบบเงียบเป็นเวลาหกเดือน แต่พบว่าทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการพิมพ์มากขึ้น - เขาต้องการ เสียงคลิกและแรงกดที่ชัดเจนเพื่อช่วยลดข้อผิดพลาด ✅ Cherry MX Blue เป็นสวิตช์ที่มีเสียงดังและให้สัมผัสที่ชัดเจน - เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้ที่ต้องการ ฟีดแบคทางเสียงและสัมผัสที่ช่วยให้พิมพ์ได้แม่นยำขึ้น ✅ Torvalds ไม่สามารถจำเหตุผลที่เปลี่ยนไปใช้คีย์บอร์ดแบบเงียบได้ - เขาไม่ได้ทำงานในสำนักงานที่ต้องการความเงียบ แต่ตัดสินใจลองใช้เพื่อดูผลลัพธ์ ✅ หลังจากทดลองใช้คีย์บอร์ดแบบเงียบ เขาตัดสินใจกลับมาใช้คีย์บอร์ดกลไกแบบเดิม - เขายอมรับว่า เสียงคลิกช่วยให้พิมพ์ได้แม่นยำขึ้น ✅ Torvalds กล่าวติดตลกว่า ตอนนี้เขาจะโทษระบบแก้ไขอัตโนมัติแทนการโทษคีย์บอร์ด - เป็นการแสดงออกถึงอารมณ์ขันของเขาเกี่ยวกับข้อผิดพลาดในการพิมพ์ https://www.tomshardware.com/peripherals/mechanical-keyboards/linus-torvalds-returns-to-clackety-clack-cherry-mx-blues-the-low-profile-quiet-keyboard-lifestyle-wasnt-for-him
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • สาเหตุที่กองทัพเรืออินเดียเงียบหายไปจากการต่อสู้ครั้งนี้ มีรายงานว่า ลูกเรือทั้งหมด "เมาเรือ" เพราะเรือของอินเดีย โดยเฉพาะเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ มักจะโคลงเคลงแม้ว่าเป็นช่วงที่ทะเลสงบ

    นี่ไม่ใช่มุขตลก เรือบรรทุกเครื่องบิน INS Vikrant ของกองทัพเรืออินเดียประสบปัญหาเรื่องการทรงตัว โดยเฉพาะในสภาพทะเลที่สงบ ส่งผลให้ลูกเรือเกิดอาการเมาเรือ

    วิดีโอจากช่อง YouTube อย่างเป็นทางการของ Modi

    .
    เรือบรรทุกเครื่องบิน INS Vikrant ซึ่งเข้าประจำการในปี 2022 เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกที่อินเดียสร้างเองภายในประเทศ แต่การออกแบบและการก่อสร้างของเรือลำนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีปัญหาด้านการทรงตัว

    ปัญหาด้านการทรงตัวมีความสำคัญมาก เนื่องจากส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติการของเรือบรรทุกเครื่องบิน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของลูกเรือในการปฏิบัติภารกิจและขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจโดยรวมของเรือบรรทุกเครื่องบิน
    สาเหตุที่กองทัพเรืออินเดียเงียบหายไปจากการต่อสู้ครั้งนี้ มีรายงานว่า ลูกเรือทั้งหมด "เมาเรือ" เพราะเรือของอินเดีย โดยเฉพาะเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ มักจะโคลงเคลงแม้ว่าเป็นช่วงที่ทะเลสงบ นี่ไม่ใช่มุขตลก เรือบรรทุกเครื่องบิน INS Vikrant ของกองทัพเรืออินเดียประสบปัญหาเรื่องการทรงตัว โดยเฉพาะในสภาพทะเลที่สงบ ส่งผลให้ลูกเรือเกิดอาการเมาเรือ วิดีโอจากช่อง YouTube อย่างเป็นทางการของ Modi . เรือบรรทุกเครื่องบิน INS Vikrant ซึ่งเข้าประจำการในปี 2022 เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกที่อินเดียสร้างเองภายในประเทศ แต่การออกแบบและการก่อสร้างของเรือลำนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีปัญหาด้านการทรงตัว ปัญหาด้านการทรงตัวมีความสำคัญมาก เนื่องจากส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติการของเรือบรรทุกเครื่องบิน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของลูกเรือในการปฏิบัติภารกิจและขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจโดยรวมของเรือบรรทุกเครื่องบิน
    0 Comments 0 Shares 205 Views 0 Reviews
  • 05-05-68/01 : หมี CNN / หมีกุ๊กกู EP14

    กูสังเกตุมาหลายเดือนแล้ว อีช่องสูงสุด หลังตั้งแต่รับอีเนรคุณแผ่นดินคิดล้มเจ้าเข้ามาออกรายการ พฤติกรรมมันส่อ หลายครั้งที่เอาข่าวโฆษณาชวนเชื่อเหี้ยมาตี อี REUTER ตีข่าวยังไง มรึงดร๊าฟเค้ามาหมดเกลี้ยง รับงานใครมารึจ๊ะ? ไม่ตรวจสอบไม่แหกตาดูก่อนเหรอ ว่ามันจริงๆ เท็จๆ งับอย่างเดียว เหมือนตั้งใจจะเป็นโทรโข่งให้เหี้ยงั้นเหรอ? ช่วงหลังเสี้ยมพรมแดนอาเซียน พม่าบุก ตีลาว อีขะแมร์ยึด มรึงต้องการจะสื่ออะไร? อย่าคิดว่าคนเค้าดูมรึงไม่ออก เหี้ยจัดฉากยังกล้าเอามาลง ของจริง ของปลอมดูไม่ยากดอกน่ะ เจตนามันฟ้อง การกระทำมันชัด? กูลดเกรดมรึงลงไปเยอะ เพราะสำหรับกูแล้ว สื่อหลักไทยแท้จริง มีเพียงช่องเดียว ที่กล้าชน กล้าเสนอความจริง มีเพียง 1 เดียว ASTV หรือ NEWS1 เท่านั้น ส่วนสื่อโซเชี่ยลก็พอมีบ้าง ที่ปกป้องสถาบันไทย นอกนั้นของปลอมหมด 99.99%

    ในที่สุด อีปินส์ชะตาขาด! เตรียมสิ้นชาติพันธุ์ได้เลยมรึง ถูกอัปเปหิออกจากอาเซียนแน่ เสือกไปร่วมเซ็นต์สัญญารบร่วมกับไต้หวัน กองทัพ ฝ่ายการเมืองอีปินส์ ขี้ข้าผู้ซื่อสัตย์วอชิงตัน อีปินส์กระจายอยู่ทั่วโลก สิ้นชาติก็คงไม่แตกต่าง ดีเลย ภูฎานรอเสียบเข้าอาเซียนชัวร์ ไทยเป็นเจ้าภาพเชิญจ๊ะ ชักศึกเข้าบ้าน แหกกฎมติอาเซียน จีนคือเจ้าภาพ เจ้ามือหลายชาติในอาเซียน มรึงคิดว่าเค้าจะปล่อยมรึงมั้ยล่ะ? ขนาดพ่อเหี้ยมรึงเอง อย่างอีวอชิงตัน ยังต้องมากราบตรีนสีจิ้นผิง จะเล่นละคร ก็ให้มันสมจริงหน่อย อย่าแผ่วน่ะมรึง แต่เกาะสแปรดลีย์ เค้าเตรียมสั่งสอนมรึงแล้ว บอกเลย อีดูเตอร์เต้ ได้กลับมาแน่ มินดาเนา จะประกาศรัฐอิสรภาพเร็วๆ นี้ แยกน้ำ แยกปลากันเรียบร้อยแล้ว มันส์แน่ โปรดติดตาม?

    เศรษฐกิจไทยเข้าขั้นวิกฤต! ตลาดดังกลางกรุงเจ๊ง ประกาศฟ้าผ่าปิดกิจการ ปชช แห่จี้ปิดสวิทช์รัฐบาลอิ๊งค์ พาดหัวตบหน้าปชต.ตอแหล 14 ล้านเสียงควาย น้ำตาตกใน ไม่มีงาน เจ๊งถ้วนหน้า 10000 นึง ช่วยมรึงได้มั้ยล่ะ? โง่ต่อไป เพราะปชต. มันมีไว้ให้เฉพาะควายเลือกเท่านั้น ส่วนพ่อปกครองลูก ส่งเฉพาะผู้มีปัญญา และซื่อสัตย์ เข้ามาดูแลประชาชน ตรรกะมันต่างกัน มรึงจ่ายเพื่อซื้อตำแหน่งเข้ามา กับรับใช้พระมหากษัตริย์ ความจริงใจ ซื่อตรง มันเทียบกันไม่ได้ เข้าพฤษภาแล้ว มรึงเตรียมตัวได้เลย อีร่านลูกสาวหน้าเหลี่ยม เก้าอี้ร้อนลุกเป็นไฟแล้ว อีพ่อเหลี่ยม กำลังจะโดนคุกของจริง หนีสิจ๊ะ มรึงหนีไปให้สุดขอบโลก ก็หนีไม่พ้นกรรมหนักที่มรึงก่อไว้ทั้งวงศ์ตระกูลดอกน่ะ ตายอนาถยกโคตรเหี้ยก็งานนี้ เจ้ากรรม นายเวรมรึง ตามมาทันแล้ว

    อะไรน่ะ BIG FAT ฉุน "กูไม่ได้ขายแผ่นดิน" แต่กูทำตาม MOU43 ขายชาติต่างหากล่ะ สั่งถอนทหาร แต่ทหารเค้านิ่งจ๊ะ มรึงเป็นใคร? รู้สึกว่า อีขะแมร์อยากจะรวมชาติกับเรามากสิน่ะ อยากยกพนมเปญให้ดูแล ก็ไม่บอก กระจอกอย่างงี้ ยังกล้าเสนอหน้าอีก 1 ต่อ 10 สบายตรีน ทหารไทยไม่ได้กล่าว เจอลูกแม่ไม้มวยไทย นายขนมต้ม มรึงรอดู เหี้ยแค่ไหน สุดท้ายก็จมกองตรีน อีฮุนเซน เริ่มสั่นคลอนแล้ว บังลังก์เลือดที่มรึงก่อไว้ ตายห่านับล้าน กำลังจะมาเผามรึงทั้งเป็น ราชวงศ์จะกลับมาใหม่ แล้วสวามิภักดิ์ต่ออโยธยาศรีรามเทพนครในที่สุด ที่มาว่า เราเคยยิ่งใหญ่แค่ไหนมาก่อน? ละครลิง โปรดอย่าให้ราคา เพราะมันปั่นกระแสได้แค่นี้แหละ ความจริง ทหารนิ่ง ไม่เคลื่อนไหว อะไรทั้งนั้น มรึงจะสั่งเหี้ยอะไรได้อีก ไม่กี่เดือน ก็ยุบสภาแล้ว ใครจะโง่?

    ทหารพรานนาวิกโยธินฮึ่ม ทหารไทยพร้อมรบ ลั่น ไม่มีทหารชาติไหนในโลก จะเอาชนะไทยในแผ่นดินไทยได้ คำพูดนี้ มันส่งสัญญานชัด ฝ่ายการเมืองสั่งกองทัพไม่ได้อีกแล้ว ฝ่ายการเมืองคือศัตรูของวังไทย ฝ่ายการเมืองคือ "ขายชาติแดร๊ก" หลักฐานมันฟ้อง ด้วยลายเซ็นต์ทั้งหมดที่มรึงสั่ง บิลใบเสร็จจะไปขึ้นตรงที่ศาล วันที่เค้าจะเชือดมรึงนั่นแหละ พ่อเหี้ยมรึงจะตายห่าก่อน แล้วขี้ข้าล่ะ ใครมันจะอยู่ เผ่นออกนอกกันหมด งานนี้ อาจมีถึงประหารชีวิต อย่าคิดว่า "เป็นเรื่องตลก" บทศาลไคฟงจะเล่นแรง เพื่อให้เกิดภาพสะท้อน มันย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ อาญาสิทธิ์แผ่นดิน ต้องเด็ดขาด ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ไฟเขียวจากวัง อะไรก็เกิดขึ้นได้หมด?

    อียิวดิ้นพล่าน! บอก "หยุดได้แล้ว" ไอ้สัส! พวกมรึงไล่ถล่มเยเมน แต่ถูกเค้าสวนกลับ หนีหางจุกตูดอย่างหมา หมดสภาพ ไม่พอ มันหันมาถล่มยับเยรูซาเล็ม กูตายคาที่ ยิ่งมรึงบุกเยเมนมากเท่าไหร่ กูโดนหนักมากเท่านั้น ดังนั้น "พอก่อน" ให้กูได้หายใจบ้าง โดนถล่มยับ 3 วันติด แบบลืมหายใจ เทลอาวีฟ เยรูซาเล็ม เละเป็นโจ๊ก ฐานทัพ คลังแสง กองบิน ท่าเรือ ไปหมด ย่อยยับ ลูกยาวพาเหรดกันดาหน้าถล่ม โดยไม่ได้นัดหมาย มาจากเลบานอน จากเยเมน จากซีเรีย จากฮามาส จากอิรัก รุมกินโต๊ะอียิวเหี้ยแบบไร้ความปราณี ฉนวนกาซ่ากลายเป็นเรื่องเล็กในบันดล

    สุดยอดคือ "จีน" หลัง CATL ผงาด! ประเดิมรายแรกของโลกที่ผ่านมาตรฐานแบตเตอรี่ “ไม่ติดไฟ ไม่ระเบิด” ใหม่ของจีน เพราะหลังจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน ให้โจทย์ใหม่มาว่า "ต้องไม่มีแบตเตอรี่ MADE IN CHINA ใดใด ระเบิด หรือติดไฟ ได้อีกต่อไป" ทำสำเร็จอีกแล้วครับท่าน อียุ่นปี่ ไบ้แดร๊ก เพราะไม่มีใครกล้าการันตี ว่าเคยมีใครทำได้มาก่อน แต่จีนคือ "เหนือมนุษย์ควายไงล่ะ" ส่งผลคือ EV จีนต่อไป การันตี แบตไม่ระเบิด ติดไฟ ปลอดภัย 100% รถ EV ยี่ห้อไหนในโลก ก็ไม่กล้าวัดจ๊ะ? เร็ว แรง ทะลุนรก ไม่มีอะไรที่จีนทำไม่ได้ นวตกรรม AI QUANTUM ไปไกลนอกโลกแล้ว เหี้ยยังงมเข็มในมหาสมุทรอยู่เลย กระจอกจริงอีตะวันตก?

    ปล.มรึงจะคุยกันเพื่อ? รู้อยู่แล้ว ว่าอีเสี้ยนยา ยอมเมื่อไหร่ หัวขาดทันที ยุติยิง คือยอมแพ้ สู้ยังไงก็ตาย แต่ยังมีอี NATO และอี EU หน้าโง่ยังคอยอุ้ม ปูตินก็รู้ มันไม่ยอมจบดอก ต้องฆ่าให้สิ้นแผ่นดินก่อนสิน่ะ อีชาวยูเครนหากมรึงโง่โดยสายพันธุ์ซะขนาดนี้ อยู่ไปก็หนักแผ่นดินโลกเค้า ตายๆ ห่า ไปเหอะ เกะกะ ขวางความสงบสุขชาวโลก สรุปคือ ไม่ฆ่าให้หมดแผ่นดิน กูไม่ยอมแพ้ ปูตินบอก ง่ายกว่านี้อีก แค่ฆ่ามรึงตัวเดียว ยูเครนก็ตกเป็นของกูทันที ระวัง คนข้างกายมรึงให้ดีดี คนรอบตัวมรึงน่ะ น่ากลัวกว่าลูกปืนซะอีก จุดอ่อนเหี้ยมีเพียงเรื่องเดียว จ่ายครบ จ่ายหนัก จ่ายจริง ฆ่าใคร ทรยศใครก็ได้ เพราะเหี้ยมันก็คือเหี้ย ไม่มีสัจจะในหมู่เหี้ยไงล่ะ? ฟังให้ดีดี ไทยไม่ต้องทำอะไรมาก แค่รักษาสมดุล และเตรียมปกป้องตัวเองพอ ที่เหลือให้ขาใหญ่โลกเค้าฟัดกันเต็มที่ก่อน เราจะยืนอยู่ข้างผู้ชนะเสมอ เมื่อเหี้ยแพ้ราบคาบหมดจรดแล้ว การล้างแผ่นดินจะง่ายดาย สบานตรีน เพราะเจ้ามือเก่าได้ตายห่าไปเรียบร้อยแล้ว ใครมันจะจ่ายต่อไหว กลับบ้านเก่ากันหมด? ไม่มีใครอยู่ได้ หากไม่มีแบ็คอัพ? ไอ้ที่กังวลอยู่ตอนนี้ จะหายวับทันตาเห็น แค่เหี้ยตายตัวเดียว รอไม่ได้ ก็ไม่ต้องรอ นิ่งไม่เป็น ก็ยิ่งเครียดหนัก ไม่มีใครรักแผ่นดินนี้ไปมากกว่ากษัตริย์ดอกน่ะ ฉะนั้น ความกังวลใจที่มี มันเทียบไม่ได้เลยในใจพ่อ พ่อดูแลหมดทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องห่วง?

    หมี CNN(วงในชี้เป้า หากมรึงยังไม่เลิก โดนทั้งตระกูล เผ่นออกหมดเกลี้ยง เหลือแต่บ้านร้าง ก็ไม่เว้นถูกยึดหมด ชี้เป้าชัด มอ 112 ทูลเท็จ กระทำการแทรกแซงการปกครอง ชี้นำพรรคการเมือง ซุกหุ้นลูก มรึงจะเอากี่คดี ว่ามา? เบื้องบนเค้าอ่านเกมส์ขาด ล่อลูกมรึง เดี๋ยวมรึงก็เผ่นเอง ไปหมดทั้งวงศ์ตระกูลเสนียดจัญไร แม้แต่แม่บ้านก็ไปด้วย เพราะอาจถูกจับมารีดความลับภายใน หมา แมวก็ไม่เหลือ ถูกจับเป็นตัวประกันอ่ะน่ะ เจ้ากรรม นายเวร เค้าแรงจริง อะไรจริง บทจะโหด สวรรค์ยังไม่เมตตา คดีเก่ารื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ หลังทูลเท็จ จะตามมาอีกระลอก วิบากกรรมหนักเกิน เผ่นเท่านั้น ถึงจะรักษาชีวิตไว้ได้ แล้วค่อยไปถูกตามสอยทีหลัง ระวังหลังให้ดีดีน่ะมรึง)
    05 พฤษภาคม 68
    12.40 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    05-05-68/01 : หมี CNN / หมีกุ๊กกู EP14 กูสังเกตุมาหลายเดือนแล้ว อีช่องสูงสุด หลังตั้งแต่รับอีเนรคุณแผ่นดินคิดล้มเจ้าเข้ามาออกรายการ พฤติกรรมมันส่อ หลายครั้งที่เอาข่าวโฆษณาชวนเชื่อเหี้ยมาตี อี REUTER ตีข่าวยังไง มรึงดร๊าฟเค้ามาหมดเกลี้ยง รับงานใครมารึจ๊ะ? ไม่ตรวจสอบไม่แหกตาดูก่อนเหรอ ว่ามันจริงๆ เท็จๆ งับอย่างเดียว เหมือนตั้งใจจะเป็นโทรโข่งให้เหี้ยงั้นเหรอ? ช่วงหลังเสี้ยมพรมแดนอาเซียน พม่าบุก ตีลาว อีขะแมร์ยึด มรึงต้องการจะสื่ออะไร? อย่าคิดว่าคนเค้าดูมรึงไม่ออก เหี้ยจัดฉากยังกล้าเอามาลง ของจริง ของปลอมดูไม่ยากดอกน่ะ เจตนามันฟ้อง การกระทำมันชัด? กูลดเกรดมรึงลงไปเยอะ เพราะสำหรับกูแล้ว สื่อหลักไทยแท้จริง มีเพียงช่องเดียว ที่กล้าชน กล้าเสนอความจริง มีเพียง 1 เดียว ASTV หรือ NEWS1 เท่านั้น ส่วนสื่อโซเชี่ยลก็พอมีบ้าง ที่ปกป้องสถาบันไทย นอกนั้นของปลอมหมด 99.99% ในที่สุด อีปินส์ชะตาขาด! เตรียมสิ้นชาติพันธุ์ได้เลยมรึง ถูกอัปเปหิออกจากอาเซียนแน่ เสือกไปร่วมเซ็นต์สัญญารบร่วมกับไต้หวัน กองทัพ ฝ่ายการเมืองอีปินส์ ขี้ข้าผู้ซื่อสัตย์วอชิงตัน อีปินส์กระจายอยู่ทั่วโลก สิ้นชาติก็คงไม่แตกต่าง ดีเลย ภูฎานรอเสียบเข้าอาเซียนชัวร์ ไทยเป็นเจ้าภาพเชิญจ๊ะ ชักศึกเข้าบ้าน แหกกฎมติอาเซียน จีนคือเจ้าภาพ เจ้ามือหลายชาติในอาเซียน มรึงคิดว่าเค้าจะปล่อยมรึงมั้ยล่ะ? ขนาดพ่อเหี้ยมรึงเอง อย่างอีวอชิงตัน ยังต้องมากราบตรีนสีจิ้นผิง จะเล่นละคร ก็ให้มันสมจริงหน่อย อย่าแผ่วน่ะมรึง แต่เกาะสแปรดลีย์ เค้าเตรียมสั่งสอนมรึงแล้ว บอกเลย อีดูเตอร์เต้ ได้กลับมาแน่ มินดาเนา จะประกาศรัฐอิสรภาพเร็วๆ นี้ แยกน้ำ แยกปลากันเรียบร้อยแล้ว มันส์แน่ โปรดติดตาม? เศรษฐกิจไทยเข้าขั้นวิกฤต! ตลาดดังกลางกรุงเจ๊ง ประกาศฟ้าผ่าปิดกิจการ ปชช แห่จี้ปิดสวิทช์รัฐบาลอิ๊งค์ พาดหัวตบหน้าปชต.ตอแหล 14 ล้านเสียงควาย น้ำตาตกใน ไม่มีงาน เจ๊งถ้วนหน้า 10000 นึง ช่วยมรึงได้มั้ยล่ะ? โง่ต่อไป เพราะปชต. มันมีไว้ให้เฉพาะควายเลือกเท่านั้น ส่วนพ่อปกครองลูก ส่งเฉพาะผู้มีปัญญา และซื่อสัตย์ เข้ามาดูแลประชาชน ตรรกะมันต่างกัน มรึงจ่ายเพื่อซื้อตำแหน่งเข้ามา กับรับใช้พระมหากษัตริย์ ความจริงใจ ซื่อตรง มันเทียบกันไม่ได้ เข้าพฤษภาแล้ว มรึงเตรียมตัวได้เลย อีร่านลูกสาวหน้าเหลี่ยม เก้าอี้ร้อนลุกเป็นไฟแล้ว อีพ่อเหลี่ยม กำลังจะโดนคุกของจริง หนีสิจ๊ะ มรึงหนีไปให้สุดขอบโลก ก็หนีไม่พ้นกรรมหนักที่มรึงก่อไว้ทั้งวงศ์ตระกูลดอกน่ะ ตายอนาถยกโคตรเหี้ยก็งานนี้ เจ้ากรรม นายเวรมรึง ตามมาทันแล้ว อะไรน่ะ BIG FAT ฉุน "กูไม่ได้ขายแผ่นดิน" แต่กูทำตาม MOU43 ขายชาติต่างหากล่ะ สั่งถอนทหาร แต่ทหารเค้านิ่งจ๊ะ มรึงเป็นใคร? รู้สึกว่า อีขะแมร์อยากจะรวมชาติกับเรามากสิน่ะ อยากยกพนมเปญให้ดูแล ก็ไม่บอก กระจอกอย่างงี้ ยังกล้าเสนอหน้าอีก 1 ต่อ 10 สบายตรีน ทหารไทยไม่ได้กล่าว เจอลูกแม่ไม้มวยไทย นายขนมต้ม มรึงรอดู เหี้ยแค่ไหน สุดท้ายก็จมกองตรีน อีฮุนเซน เริ่มสั่นคลอนแล้ว บังลังก์เลือดที่มรึงก่อไว้ ตายห่านับล้าน กำลังจะมาเผามรึงทั้งเป็น ราชวงศ์จะกลับมาใหม่ แล้วสวามิภักดิ์ต่ออโยธยาศรีรามเทพนครในที่สุด ที่มาว่า เราเคยยิ่งใหญ่แค่ไหนมาก่อน? ละครลิง โปรดอย่าให้ราคา เพราะมันปั่นกระแสได้แค่นี้แหละ ความจริง ทหารนิ่ง ไม่เคลื่อนไหว อะไรทั้งนั้น มรึงจะสั่งเหี้ยอะไรได้อีก ไม่กี่เดือน ก็ยุบสภาแล้ว ใครจะโง่? ทหารพรานนาวิกโยธินฮึ่ม ทหารไทยพร้อมรบ ลั่น ไม่มีทหารชาติไหนในโลก จะเอาชนะไทยในแผ่นดินไทยได้ คำพูดนี้ มันส่งสัญญานชัด ฝ่ายการเมืองสั่งกองทัพไม่ได้อีกแล้ว ฝ่ายการเมืองคือศัตรูของวังไทย ฝ่ายการเมืองคือ "ขายชาติแดร๊ก" หลักฐานมันฟ้อง ด้วยลายเซ็นต์ทั้งหมดที่มรึงสั่ง บิลใบเสร็จจะไปขึ้นตรงที่ศาล วันที่เค้าจะเชือดมรึงนั่นแหละ พ่อเหี้ยมรึงจะตายห่าก่อน แล้วขี้ข้าล่ะ ใครมันจะอยู่ เผ่นออกนอกกันหมด งานนี้ อาจมีถึงประหารชีวิต อย่าคิดว่า "เป็นเรื่องตลก" บทศาลไคฟงจะเล่นแรง เพื่อให้เกิดภาพสะท้อน มันย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ อาญาสิทธิ์แผ่นดิน ต้องเด็ดขาด ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ไฟเขียวจากวัง อะไรก็เกิดขึ้นได้หมด? อียิวดิ้นพล่าน! บอก "หยุดได้แล้ว" ไอ้สัส! พวกมรึงไล่ถล่มเยเมน แต่ถูกเค้าสวนกลับ หนีหางจุกตูดอย่างหมา หมดสภาพ ไม่พอ มันหันมาถล่มยับเยรูซาเล็ม กูตายคาที่ ยิ่งมรึงบุกเยเมนมากเท่าไหร่ กูโดนหนักมากเท่านั้น ดังนั้น "พอก่อน" ให้กูได้หายใจบ้าง โดนถล่มยับ 3 วันติด แบบลืมหายใจ เทลอาวีฟ เยรูซาเล็ม เละเป็นโจ๊ก ฐานทัพ คลังแสง กองบิน ท่าเรือ ไปหมด ย่อยยับ ลูกยาวพาเหรดกันดาหน้าถล่ม โดยไม่ได้นัดหมาย มาจากเลบานอน จากเยเมน จากซีเรีย จากฮามาส จากอิรัก รุมกินโต๊ะอียิวเหี้ยแบบไร้ความปราณี ฉนวนกาซ่ากลายเป็นเรื่องเล็กในบันดล สุดยอดคือ "จีน" หลัง CATL ผงาด! ประเดิมรายแรกของโลกที่ผ่านมาตรฐานแบตเตอรี่ “ไม่ติดไฟ ไม่ระเบิด” ใหม่ของจีน เพราะหลังจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน ให้โจทย์ใหม่มาว่า "ต้องไม่มีแบตเตอรี่ MADE IN CHINA ใดใด ระเบิด หรือติดไฟ ได้อีกต่อไป" ทำสำเร็จอีกแล้วครับท่าน อียุ่นปี่ ไบ้แดร๊ก เพราะไม่มีใครกล้าการันตี ว่าเคยมีใครทำได้มาก่อน แต่จีนคือ "เหนือมนุษย์ควายไงล่ะ" ส่งผลคือ EV จีนต่อไป การันตี แบตไม่ระเบิด ติดไฟ ปลอดภัย 100% รถ EV ยี่ห้อไหนในโลก ก็ไม่กล้าวัดจ๊ะ? เร็ว แรง ทะลุนรก ไม่มีอะไรที่จีนทำไม่ได้ นวตกรรม AI QUANTUM ไปไกลนอกโลกแล้ว เหี้ยยังงมเข็มในมหาสมุทรอยู่เลย กระจอกจริงอีตะวันตก? ปล.มรึงจะคุยกันเพื่อ? รู้อยู่แล้ว ว่าอีเสี้ยนยา ยอมเมื่อไหร่ หัวขาดทันที ยุติยิง คือยอมแพ้ สู้ยังไงก็ตาย แต่ยังมีอี NATO และอี EU หน้าโง่ยังคอยอุ้ม ปูตินก็รู้ มันไม่ยอมจบดอก ต้องฆ่าให้สิ้นแผ่นดินก่อนสิน่ะ อีชาวยูเครนหากมรึงโง่โดยสายพันธุ์ซะขนาดนี้ อยู่ไปก็หนักแผ่นดินโลกเค้า ตายๆ ห่า ไปเหอะ เกะกะ ขวางความสงบสุขชาวโลก สรุปคือ ไม่ฆ่าให้หมดแผ่นดิน กูไม่ยอมแพ้ ปูตินบอก ง่ายกว่านี้อีก แค่ฆ่ามรึงตัวเดียว ยูเครนก็ตกเป็นของกูทันที ระวัง คนข้างกายมรึงให้ดีดี คนรอบตัวมรึงน่ะ น่ากลัวกว่าลูกปืนซะอีก จุดอ่อนเหี้ยมีเพียงเรื่องเดียว จ่ายครบ จ่ายหนัก จ่ายจริง ฆ่าใคร ทรยศใครก็ได้ เพราะเหี้ยมันก็คือเหี้ย ไม่มีสัจจะในหมู่เหี้ยไงล่ะ? ฟังให้ดีดี ไทยไม่ต้องทำอะไรมาก แค่รักษาสมดุล และเตรียมปกป้องตัวเองพอ ที่เหลือให้ขาใหญ่โลกเค้าฟัดกันเต็มที่ก่อน เราจะยืนอยู่ข้างผู้ชนะเสมอ เมื่อเหี้ยแพ้ราบคาบหมดจรดแล้ว การล้างแผ่นดินจะง่ายดาย สบานตรีน เพราะเจ้ามือเก่าได้ตายห่าไปเรียบร้อยแล้ว ใครมันจะจ่ายต่อไหว กลับบ้านเก่ากันหมด? ไม่มีใครอยู่ได้ หากไม่มีแบ็คอัพ? ไอ้ที่กังวลอยู่ตอนนี้ จะหายวับทันตาเห็น แค่เหี้ยตายตัวเดียว รอไม่ได้ ก็ไม่ต้องรอ นิ่งไม่เป็น ก็ยิ่งเครียดหนัก ไม่มีใครรักแผ่นดินนี้ไปมากกว่ากษัตริย์ดอกน่ะ ฉะนั้น ความกังวลใจที่มี มันเทียบไม่ได้เลยในใจพ่อ พ่อดูแลหมดทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องห่วง? หมี CNN(วงในชี้เป้า หากมรึงยังไม่เลิก โดนทั้งตระกูล เผ่นออกหมดเกลี้ยง เหลือแต่บ้านร้าง ก็ไม่เว้นถูกยึดหมด ชี้เป้าชัด มอ 112 ทูลเท็จ กระทำการแทรกแซงการปกครอง ชี้นำพรรคการเมือง ซุกหุ้นลูก มรึงจะเอากี่คดี ว่ามา? เบื้องบนเค้าอ่านเกมส์ขาด ล่อลูกมรึง เดี๋ยวมรึงก็เผ่นเอง ไปหมดทั้งวงศ์ตระกูลเสนียดจัญไร แม้แต่แม่บ้านก็ไปด้วย เพราะอาจถูกจับมารีดความลับภายใน หมา แมวก็ไม่เหลือ ถูกจับเป็นตัวประกันอ่ะน่ะ เจ้ากรรม นายเวร เค้าแรงจริง อะไรจริง บทจะโหด สวรรค์ยังไม่เมตตา คดีเก่ารื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ หลังทูลเท็จ จะตามมาอีกระลอก วิบากกรรมหนักเกิน เผ่นเท่านั้น ถึงจะรักษาชีวิตไว้ได้ แล้วค่อยไปถูกตามสอยทีหลัง ระวังหลังให้ดีดีน่ะมรึง) 05 พฤษภาคม 68 12.40 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 Comments 0 Shares 598 Views 0 Reviews
  • ละครเรื่อง <สามบุปผาลิขิตฝัน> เห็นมีคนถามหาหนังสือนิยายเรื่องนี้กัน วันนี้เลยมาคุยถึงบทประพันธ์ดั้งเดิมที่มีคนเขียนถึงไปแล้วบ้าง แต่หวังว่าจะให้มุมมองได้ในอีกแง่มุม

    จริงๆ แล้วไม่มีนิยายค่ะ ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากบทละครโบราณสมัยราชวงศ์หยวน

    เรียกว่า ‘ละคร’ เพื่อนเพจอาจนึกภาพไม่ออก จริงๆ แล้วละครในสมัยนั้นคือสิ่งที่ปัจจุบันเราเรียกว่าอุปรากรจีนหรืองิ้วนั่นเอง ในสมัยราชวงศ์หยวนเรียกบทละครเหล่านี้ว่า ‘หยวนฉวี่’ (元曲 / เพลงงิ้วสมัยหยวน)

    บทงิ้วเรื่องนี้มีชื่อว่า < จ้าวพ่านเอ๋อร์เฟิงเยวี่ยจิ้วเฟิงเฉิน> (赵盼儿风月救风尘 แปลได้ประมาณว่า จ้าวพ่านเอ๋อร์ใช้มารยาสวาทช่วยหญิงคณิกา) หรือเรียกสั้นๆ ว่า <จิ้วเฟิงเฉิน> เป็นผลงานหนึ่งในกว่าหกสิบชิ้นของนักเขียนบทละครนามว่า ‘กวนฮ่านชิง’ (关汉卿 ปีค.ศ. 1222-1300) โดยปัจจุบันยังมีการแสดงอุปรากรจีนเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ (ดูรูปประกอบ)

    กวนฮ่านชิงถูกยกย่องให้เป็นที่หนึ่งของสี่ยอดนักเขียนบทอุปรากรจีนสมัยหยวน (元曲四大家) เขามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและก่อตั้งโรงเรียนและโรงละครหลายแห่ง เขาไม่ได้มีฐานะดี ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมชนชั้นล่าง บทละครของเขาจึงมีความสมจริงและมีหลากหลายอรรถรส ตีแผ่ด้านมืดของสังคม แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความหวังว่าชีวิตจะดีขึ้น กวนฮ่านชิงเก่งเรื่องร้องรำทำเพลงและมีฝีมือด้านการดนตรี ดังนั้นละครของเขาส่วนใหญ่เป็น ‘จ๋าจวี้’ (杂剧 / Mixed Play) เรื่อง ‘จิ้วเฟิงเฉิน’ นี้ก็เช่นกัน

    อะไรคือ ‘จ๋าจวี้’? มันคือการแสดงละครที่มีการเอาบทพูดและบทกลอน การร้องเพลง ดนตรี การเต้นรำ และแม้กระทั่งบทบู๊มารวมกันในละครเรื่องเดียวกัน เป็นรูปแบบที่มีขึ้นตั้งแต่สมัยปลายราชวงศ์ถัง และนิยมเป็นอย่างมากในสมัยซ่งและหยวน

    <จิ้วเฟิงเฉิน> มีทั้งหมด 4 องค์ มีฉากหลังเป็นยุคสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ เรื่องราวโดยย่อก็คือนางคณิกา ‘จ้าวพ่านเอ๋อร์’ มีเพื่อนสนิทเป็นนางคณิกานามว่า ‘ซ่งอิ่งจาง’ ซึ่งเดิมมีคนที่ตกลงปลงใจด้วยอยู่แล้วแต่มาหลงคารมชายที่ร่ำรวยแต่เจ้าชู้นามว่า ‘โจวเส่อ’ จึงแต่งงานไปกับเขา แต่ชีวิตหลังแต่งงานขมขื่นนัก ถูกโจวเส่อด่าทอทุบตีเป็นประจำจนเจียนตาย จ้าวพ่านเอ๋อร์จึงมาช่วย นางใช้เสน่ห์และมารยาหญิงหลอกล่อจนโจวเส่อลุ่มหลงยอมเซ็นใบหย่ากับซ่งอิ่งจางเพื่อมาแต่งงานกับนาง แต่เมื่อนางได้หนังสือหย่าก็ช่วยซ่งอิ่งจางหนีไป โจวเส่อไปฟ้องร้องว่าโดนหลอกเลยถูกฟ้องกลับว่าเขาเป็นคนหลอกภรรยาคนอื่นมา สุดท้ายโจวเส่อถูกศาลตัดสินลงโทษ

    ทำไมละคร <จิ้วเฟิงเฉิน> เรื่องนี้จึงเป็นที่นิยมและโด่งดังมาก? Storyฯ จับใจความได้ดังนี้
     หลากหลายอรรถรส: เพราะเป็นละครแบบ ‘จ๋าจวี้’ จึงมีหลากหลายอรรถรส มีความรันทดของชีวิตหญิงคณิกาและชนชั้นล่าง แต่ก็มีการสอดแทรกมุขตลกไปเป็นระยะ อีกทั้งยังมีมุมมองของสังคมที่สมจริงและคนส่วนใหญ่สัมผัสได้
     ชัยชนะของชนชั้นล่าง: เป็นการชิงไหวชิงพริบและอาศัยความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญของจ้าวพ่านเอ๋อร์ซึ่งเป็นตัวแทนของชนชั้นล่างและสตรีเพศที่ต่ำต้อย เอาชนะโจวเส่อซึ่งเป็นตัวแทนของชนชั้นกดขี่ เป็นเรื่องราวที่สอดแทรกความเป็นฮีโร่เข้าไปในบุคคลธรรมดา
     เป็นบทเรียนต่อชนรุ่นหลัง: ผลงานของเขาเป็นอีกหนึ่งแหล่งความรู้ให้ชนรุ่นหลังเข้าใจถึงวัฒธรรมและสภาพสังคมในสมัยซ่งและหยวนได้ดี

    เท่าที่อ่านเรื่องย่อมา <สามบุปผาลิขิตฝัน> ดัดแปลงจาก <จิ้วเฟิงเฉิน> ไปมาก เช่น นางเอกในเรื่อง <จิ้วเฟิงเฉิน> เป็นนางคณิกาขายตัวจริงๆ และไม่ปรากฏรายละเอียดเรื่องราวความรักกับพระเอกเหมือนที่ดัดแปลงออกมาเป็นซีรีส์ <สามบุปผาลิขิตฝัน> แต่เห็นว่าซีรีส์ลงรายละเอียดวิถีชีวิตสมัยซ่งได้ดี และมีคนเอาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้มาเขียนเล่ากันไม่น้อย เพื่อนเพจที่เห็นอะไรน่าสนใจมาแบ่งปันกันฟังได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    http://culture.qianlong.com/2020/1223/5179821.shtml
    http://www.518yp.com/jitexingzhang/3873.html
    http://www.xinhuanet.com/ent/20220606/a7a1df7f71fb4466a7aa39849e0c513e/c.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.52lishi.com/article/64952.html
    http://www.hwjyw.com/zhwh/ctwh/zgwx/zmzj/ydzj/200709/t20070929_8194.shtml
    https://www.hao86.com/shiren_view_9bb64f43ac9bb64f/
    https://www.toutiao.com/article/6808002291593904654/?&source=m_redirect&wid=1655353365341

    #สามบุปผาลิขิตฝัน #จ้าวพ่านเอ๋อร์ #เจ้าพานเอ๋อร์ #จิ้วเฟิงเฉิน #อุปรากรจีน #จ๋าจวี้ #ราชวงศ์หยวน #กวงฮั่นชิง #หยวนฉวี่
    ละครเรื่อง <สามบุปผาลิขิตฝัน> เห็นมีคนถามหาหนังสือนิยายเรื่องนี้กัน วันนี้เลยมาคุยถึงบทประพันธ์ดั้งเดิมที่มีคนเขียนถึงไปแล้วบ้าง แต่หวังว่าจะให้มุมมองได้ในอีกแง่มุม จริงๆ แล้วไม่มีนิยายค่ะ ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากบทละครโบราณสมัยราชวงศ์หยวน เรียกว่า ‘ละคร’ เพื่อนเพจอาจนึกภาพไม่ออก จริงๆ แล้วละครในสมัยนั้นคือสิ่งที่ปัจจุบันเราเรียกว่าอุปรากรจีนหรืองิ้วนั่นเอง ในสมัยราชวงศ์หยวนเรียกบทละครเหล่านี้ว่า ‘หยวนฉวี่’ (元曲 / เพลงงิ้วสมัยหยวน) บทงิ้วเรื่องนี้มีชื่อว่า < จ้าวพ่านเอ๋อร์เฟิงเยวี่ยจิ้วเฟิงเฉิน> (赵盼儿风月救风尘 แปลได้ประมาณว่า จ้าวพ่านเอ๋อร์ใช้มารยาสวาทช่วยหญิงคณิกา) หรือเรียกสั้นๆ ว่า <จิ้วเฟิงเฉิน> เป็นผลงานหนึ่งในกว่าหกสิบชิ้นของนักเขียนบทละครนามว่า ‘กวนฮ่านชิง’ (关汉卿 ปีค.ศ. 1222-1300) โดยปัจจุบันยังมีการแสดงอุปรากรจีนเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ (ดูรูปประกอบ) กวนฮ่านชิงถูกยกย่องให้เป็นที่หนึ่งของสี่ยอดนักเขียนบทอุปรากรจีนสมัยหยวน (元曲四大家) เขามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและก่อตั้งโรงเรียนและโรงละครหลายแห่ง เขาไม่ได้มีฐานะดี ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมชนชั้นล่าง บทละครของเขาจึงมีความสมจริงและมีหลากหลายอรรถรส ตีแผ่ด้านมืดของสังคม แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความหวังว่าชีวิตจะดีขึ้น กวนฮ่านชิงเก่งเรื่องร้องรำทำเพลงและมีฝีมือด้านการดนตรี ดังนั้นละครของเขาส่วนใหญ่เป็น ‘จ๋าจวี้’ (杂剧 / Mixed Play) เรื่อง ‘จิ้วเฟิงเฉิน’ นี้ก็เช่นกัน อะไรคือ ‘จ๋าจวี้’? มันคือการแสดงละครที่มีการเอาบทพูดและบทกลอน การร้องเพลง ดนตรี การเต้นรำ และแม้กระทั่งบทบู๊มารวมกันในละครเรื่องเดียวกัน เป็นรูปแบบที่มีขึ้นตั้งแต่สมัยปลายราชวงศ์ถัง และนิยมเป็นอย่างมากในสมัยซ่งและหยวน <จิ้วเฟิงเฉิน> มีทั้งหมด 4 องค์ มีฉากหลังเป็นยุคสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ เรื่องราวโดยย่อก็คือนางคณิกา ‘จ้าวพ่านเอ๋อร์’ มีเพื่อนสนิทเป็นนางคณิกานามว่า ‘ซ่งอิ่งจาง’ ซึ่งเดิมมีคนที่ตกลงปลงใจด้วยอยู่แล้วแต่มาหลงคารมชายที่ร่ำรวยแต่เจ้าชู้นามว่า ‘โจวเส่อ’ จึงแต่งงานไปกับเขา แต่ชีวิตหลังแต่งงานขมขื่นนัก ถูกโจวเส่อด่าทอทุบตีเป็นประจำจนเจียนตาย จ้าวพ่านเอ๋อร์จึงมาช่วย นางใช้เสน่ห์และมารยาหญิงหลอกล่อจนโจวเส่อลุ่มหลงยอมเซ็นใบหย่ากับซ่งอิ่งจางเพื่อมาแต่งงานกับนาง แต่เมื่อนางได้หนังสือหย่าก็ช่วยซ่งอิ่งจางหนีไป โจวเส่อไปฟ้องร้องว่าโดนหลอกเลยถูกฟ้องกลับว่าเขาเป็นคนหลอกภรรยาคนอื่นมา สุดท้ายโจวเส่อถูกศาลตัดสินลงโทษ ทำไมละคร <จิ้วเฟิงเฉิน> เรื่องนี้จึงเป็นที่นิยมและโด่งดังมาก? Storyฯ จับใจความได้ดังนี้  หลากหลายอรรถรส: เพราะเป็นละครแบบ ‘จ๋าจวี้’ จึงมีหลากหลายอรรถรส มีความรันทดของชีวิตหญิงคณิกาและชนชั้นล่าง แต่ก็มีการสอดแทรกมุขตลกไปเป็นระยะ อีกทั้งยังมีมุมมองของสังคมที่สมจริงและคนส่วนใหญ่สัมผัสได้  ชัยชนะของชนชั้นล่าง: เป็นการชิงไหวชิงพริบและอาศัยความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญของจ้าวพ่านเอ๋อร์ซึ่งเป็นตัวแทนของชนชั้นล่างและสตรีเพศที่ต่ำต้อย เอาชนะโจวเส่อซึ่งเป็นตัวแทนของชนชั้นกดขี่ เป็นเรื่องราวที่สอดแทรกความเป็นฮีโร่เข้าไปในบุคคลธรรมดา  เป็นบทเรียนต่อชนรุ่นหลัง: ผลงานของเขาเป็นอีกหนึ่งแหล่งความรู้ให้ชนรุ่นหลังเข้าใจถึงวัฒธรรมและสภาพสังคมในสมัยซ่งและหยวนได้ดี เท่าที่อ่านเรื่องย่อมา <สามบุปผาลิขิตฝัน> ดัดแปลงจาก <จิ้วเฟิงเฉิน> ไปมาก เช่น นางเอกในเรื่อง <จิ้วเฟิงเฉิน> เป็นนางคณิกาขายตัวจริงๆ และไม่ปรากฏรายละเอียดเรื่องราวความรักกับพระเอกเหมือนที่ดัดแปลงออกมาเป็นซีรีส์ <สามบุปผาลิขิตฝัน> แต่เห็นว่าซีรีส์ลงรายละเอียดวิถีชีวิตสมัยซ่งได้ดี และมีคนเอาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้มาเขียนเล่ากันไม่น้อย เพื่อนเพจที่เห็นอะไรน่าสนใจมาแบ่งปันกันฟังได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: http://culture.qianlong.com/2020/1223/5179821.shtml http://www.518yp.com/jitexingzhang/3873.html http://www.xinhuanet.com/ent/20220606/a7a1df7f71fb4466a7aa39849e0c513e/c.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.52lishi.com/article/64952.html http://www.hwjyw.com/zhwh/ctwh/zgwx/zmzj/ydzj/200709/t20070929_8194.shtml https://www.hao86.com/shiren_view_9bb64f43ac9bb64f/ https://www.toutiao.com/article/6808002291593904654/?&source=m_redirect&wid=1655353365341 #สามบุปผาลิขิตฝัน #จ้าวพ่านเอ๋อร์ #เจ้าพานเอ๋อร์ #จิ้วเฟิงเฉิน #อุปรากรจีน #จ๋าจวี้ #ราชวงศ์หยวน #กวงฮั่นชิง #หยวนฉวี่
    北昆《救风尘》亮相长安大戏院 且看赵盼儿“雪夜行路”-千龙网·中国首都网
    北昆《救风尘》亮相长安大戏院 且看赵盼儿“雪夜行路”
    1 Comments 0 Shares 538 Views 0 Reviews
  • Xi " เรามาแบ่งโลกแล้วกินใครกันมันเถอะ"
    Trump "อั๊วจะกินก่อนแบ่ง"
    Putin "(อืม..กูกำลังแดกยูเครนอยู่)

    Trump" ก็มันหิวนี่"
    Xi (หึหึ มึงฝันลมๆแล้งๆ)
    Putin (คริคริ..มุขเดิมๆตลกแดก)

    อ้างอิงจาก นสพ De Morgan
    Xi " เรามาแบ่งโลกแล้วกินใครกันมันเถอะ" Trump "อั๊วจะกินก่อนแบ่ง" Putin "(อืม..กูกำลังแดกยูเครนอยู่) Trump" ก็มันหิวนี่" Xi (หึหึ มึงฝันลมๆแล้งๆ) Putin (คริคริ..มุขเดิมๆตลกแดก) อ้างอิงจาก นสพ De Morgan
    0 Comments 0 Shares 136 Views 0 Reviews
  • #นกที่ตื่นเช้าคือนกที่ยังมีหนี้ .. คนไทยเป็นคนตลก

    #กาแฟยามเช้าหอมกรุ่นอยู่เสมอ
    #นกที่ตื่นเช้าคือนกที่ยังมีหนี้ .. คนไทยเป็นคนตลก #กาแฟยามเช้าหอมกรุ่นอยู่เสมอ
    0 Comments 0 Shares 169 Views 0 Reviews
  • ช่วงนี้มีกระแสดังในจีนที่มีแบรนด์ดังนานาชาติระดับโอตกูตูร์แบรนด์หนึ่งวางขายกระโปรงจีบยาวในราคาสูงลิ่วพร้อมคำบรรยายว่ากระโปรงนี้มีโครงเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ก่อเกิดเป็นกระแสต่อต้านอย่างแรงเนื่องจากมันเหมือนมากกับกระโปรงจีนโบราณ ถึงขนาดมีคนลงทุนไปซื้อมาเปรียบเทียบแจกแจงให้ฟังเพื่อพิสูจน์ว่าแบรนด์ดังฉกฉวยมรดกทางวัฒนธรรมจีนมาเป็นของตน (cultural appropriation)

    เพื่อนเพจอาจเคยผ่านตาข่าวนี้มาบ้างแล้ว กระโปรงที่ว่านี้มีชื่อเรียกทางภาษาจีนว่า ‘หม่าเมี่ยนฉวิน’ (马面裙 แปลตรงตัวว่า หน้าม้า+กระโปรง) กระโปรงนี้เคยสร้างกระแสความขัดแย้งทางชาตินิยมกันมาแล้วเมื่อครั้งซีรีส์ <คีตาแห่งวสันต์> ออนแอร์ เพราะมีคนเกาหลีท้วงติงว่าเอาชุดเกาหลีมาแอบอ้างว่าเป็นชุดของจีน

    Storyฯ ไปเห็นรูปส่วนประกอบของกระโปรงหม่าเมี่ยนเลยเอามาฝาก พร้อมรูปตัวอย่างจากในละคร (ดูรูปประกอบที่ 1)

    จะเห็นจากรูปว่า กระโปรงหม่าเมี่ยนทำจากผ้าหกชิ้น ต่อเป็นสองชิ้นใหญ่ (บางบันทึกบอกว่าเจ็ดชิ้นแบ่งเป็นสองชิ้นใหญ่เท่าๆ กัน และในช่วงปลายหมิงมีการพูดถึงผ้าต่อสิบชิ้น) แน่นอนว่าเขามีเกณฑ์ความยาวและหน้ากว้าง แต่เกณฑ์นี้เปลี่ยนแปลงไปบ้างตามยุคสมัย แต่ละชิ้นจะมีส่วนที่จับจีบและส่วนที่แบนเรียบ ส่วนที่แบนเรียบนี้เรียกว่า ‘หม่าเมี่ยน’ ตอนนำมาประกอบให้เอาหม่าเมี่ยนซ้อนกันแล้วเย็บส่วนคาดเอวเพื่อตรึงผ้าไว้ด้วยกัน สุดท้ายก็จะเป็นกระโปรงยาวที่มีรอยแยกเปิดสี่จุดคือหน้าและหลังตรงแนวติดกับส่วนจีบสองข้าง (ดูรูปประกอบที่ 1) ตามบันทึกโบราณระบุว่ารอยแยกสี่จุดนี้เป็นเอกลักษณ์ของกระโปรงหม่าเมี่ยน

    ทำไมต้องมีรอยแยกสี่จุด? คำตอบคือไว้สำหรับขี่ม้าค่ะ กระโปรงหม่าเมี่ยนมีใส่กันตั้งแต่ยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง และแท้จริงแล้วเป็นอิทธิพลที่ได้รับมาจากชนเผ่าคีตัน (ชี่ตัน) แห่งจักรวรรดิเหลียว ซึ่งนิยมสวมกระโปรงผ่าสี่แฉก เพื่อสะดวกต่อการขี่ม้า

    ต่อมาในสมัยหยวน หมิง และชิงกระโปรงนี้เป็นที่นิยมอย่างมากและกลายมาเป็นแบบกระโปรงพื้นฐานที่ใส่กันในแทบจะทุกสถานการณ์ ไม่ใช่แค่เพียงขี่ม้า ในสมัยหมิงนั้นนิยมใส่คู่กับเสื้อสาบไขว้ปิดสูงแขนยาว (ดูภาพจากในละคร) เรียกว่า ‘เสื้ออ่าว’ (袄 และปัจจุบันเรียกรวมท่อนบนและล่างแบบนี้ว่า ‘อ่าวฉวิน’) ตัวกระโปรงเน้นลายปักที่ชายกระโปรง เช่นลายเมฆ ลายเส้น ลายงูใหญ่ (หม่าง หรือที่เรามักเรียกว่าเป็นมังกรสี่เล็บ) ฯลฯ ต่อมาเมื่อถึงยุคสมัยชิงลวดลายและสีสันมีมากขึ้น

    คำว่า ‘หม่าเมี่ยน’ หากแปลตรงตัวว่า ‘ใบหน้าของม้า’ ก็จะฟังดูตลก แต่จริงๆ แล้วเป็นคำที่ใช้มาแต่โบราณเพื่อเรียกแนวกำแพงเมืองส่วนที่แบนราบ (ดูรูปประกอบ 2) ถามว่านี่คือที่มาของชื่อกระโปรงนี้หรือไม่? ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดค่ะ แต่จะเห็นว่ามีส่วนคล้ายคลึงอย่างมาก

    Storyฯ ยังไม่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ แต่ดูจากภาพตัวอย่างแล้วเสื้อผ้าและเครื่องประดับดูเนี๊ยบมาก อ่านเจอว่าใช้ช่างฝีมือระดับอาจารย์มาจากซูโจวเลยทีเดียว เพื่อนเพจท่านใดได้เคยดูแล้วมาบอกกันหน่อยว่าสวยงามละมุนตาไหม

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กดติดตามกันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://m.juqingke.com/drama/l0fgpncm
    https://sunnews.cc/entertainment/376897.html
    https://m.aihanfu.com/wen/3546/
    https://www.aihanfu.com/wen/2902/
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.52shijing.com/ctwh/87725.html
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/98833845
    https://baike.baidu.com/item/%E9%A9%AC%E9%9D%A2/2872717

    #คีตาแห่งวสันต์ #กระโปรงจีนโบราณ #ชุดราชวงศ์หมิง #หม่าเมี่ยนฉวิน #หม่าเมี่ยน #กระโปรงจีบ #อ่าวฉวิน
    ช่วงนี้มีกระแสดังในจีนที่มีแบรนด์ดังนานาชาติระดับโอตกูตูร์แบรนด์หนึ่งวางขายกระโปรงจีบยาวในราคาสูงลิ่วพร้อมคำบรรยายว่ากระโปรงนี้มีโครงเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ก่อเกิดเป็นกระแสต่อต้านอย่างแรงเนื่องจากมันเหมือนมากกับกระโปรงจีนโบราณ ถึงขนาดมีคนลงทุนไปซื้อมาเปรียบเทียบแจกแจงให้ฟังเพื่อพิสูจน์ว่าแบรนด์ดังฉกฉวยมรดกทางวัฒนธรรมจีนมาเป็นของตน (cultural appropriation) เพื่อนเพจอาจเคยผ่านตาข่าวนี้มาบ้างแล้ว กระโปรงที่ว่านี้มีชื่อเรียกทางภาษาจีนว่า ‘หม่าเมี่ยนฉวิน’ (马面裙 แปลตรงตัวว่า หน้าม้า+กระโปรง) กระโปรงนี้เคยสร้างกระแสความขัดแย้งทางชาตินิยมกันมาแล้วเมื่อครั้งซีรีส์ <คีตาแห่งวสันต์> ออนแอร์ เพราะมีคนเกาหลีท้วงติงว่าเอาชุดเกาหลีมาแอบอ้างว่าเป็นชุดของจีน Storyฯ ไปเห็นรูปส่วนประกอบของกระโปรงหม่าเมี่ยนเลยเอามาฝาก พร้อมรูปตัวอย่างจากในละคร (ดูรูปประกอบที่ 1) จะเห็นจากรูปว่า กระโปรงหม่าเมี่ยนทำจากผ้าหกชิ้น ต่อเป็นสองชิ้นใหญ่ (บางบันทึกบอกว่าเจ็ดชิ้นแบ่งเป็นสองชิ้นใหญ่เท่าๆ กัน และในช่วงปลายหมิงมีการพูดถึงผ้าต่อสิบชิ้น) แน่นอนว่าเขามีเกณฑ์ความยาวและหน้ากว้าง แต่เกณฑ์นี้เปลี่ยนแปลงไปบ้างตามยุคสมัย แต่ละชิ้นจะมีส่วนที่จับจีบและส่วนที่แบนเรียบ ส่วนที่แบนเรียบนี้เรียกว่า ‘หม่าเมี่ยน’ ตอนนำมาประกอบให้เอาหม่าเมี่ยนซ้อนกันแล้วเย็บส่วนคาดเอวเพื่อตรึงผ้าไว้ด้วยกัน สุดท้ายก็จะเป็นกระโปรงยาวที่มีรอยแยกเปิดสี่จุดคือหน้าและหลังตรงแนวติดกับส่วนจีบสองข้าง (ดูรูปประกอบที่ 1) ตามบันทึกโบราณระบุว่ารอยแยกสี่จุดนี้เป็นเอกลักษณ์ของกระโปรงหม่าเมี่ยน ทำไมต้องมีรอยแยกสี่จุด? คำตอบคือไว้สำหรับขี่ม้าค่ะ กระโปรงหม่าเมี่ยนมีใส่กันตั้งแต่ยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง และแท้จริงแล้วเป็นอิทธิพลที่ได้รับมาจากชนเผ่าคีตัน (ชี่ตัน) แห่งจักรวรรดิเหลียว ซึ่งนิยมสวมกระโปรงผ่าสี่แฉก เพื่อสะดวกต่อการขี่ม้า ต่อมาในสมัยหยวน หมิง และชิงกระโปรงนี้เป็นที่นิยมอย่างมากและกลายมาเป็นแบบกระโปรงพื้นฐานที่ใส่กันในแทบจะทุกสถานการณ์ ไม่ใช่แค่เพียงขี่ม้า ในสมัยหมิงนั้นนิยมใส่คู่กับเสื้อสาบไขว้ปิดสูงแขนยาว (ดูภาพจากในละคร) เรียกว่า ‘เสื้ออ่าว’ (袄 และปัจจุบันเรียกรวมท่อนบนและล่างแบบนี้ว่า ‘อ่าวฉวิน’) ตัวกระโปรงเน้นลายปักที่ชายกระโปรง เช่นลายเมฆ ลายเส้น ลายงูใหญ่ (หม่าง หรือที่เรามักเรียกว่าเป็นมังกรสี่เล็บ) ฯลฯ ต่อมาเมื่อถึงยุคสมัยชิงลวดลายและสีสันมีมากขึ้น คำว่า ‘หม่าเมี่ยน’ หากแปลตรงตัวว่า ‘ใบหน้าของม้า’ ก็จะฟังดูตลก แต่จริงๆ แล้วเป็นคำที่ใช้มาแต่โบราณเพื่อเรียกแนวกำแพงเมืองส่วนที่แบนราบ (ดูรูปประกอบ 2) ถามว่านี่คือที่มาของชื่อกระโปรงนี้หรือไม่? ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดค่ะ แต่จะเห็นว่ามีส่วนคล้ายคลึงอย่างมาก Storyฯ ยังไม่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ แต่ดูจากภาพตัวอย่างแล้วเสื้อผ้าและเครื่องประดับดูเนี๊ยบมาก อ่านเจอว่าใช้ช่างฝีมือระดับอาจารย์มาจากซูโจวเลยทีเดียว เพื่อนเพจท่านใดได้เคยดูแล้วมาบอกกันหน่อยว่าสวยงามละมุนตาไหม (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กดติดตามกันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://m.juqingke.com/drama/l0fgpncm https://sunnews.cc/entertainment/376897.html https://m.aihanfu.com/wen/3546/ https://www.aihanfu.com/wen/2902/ Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.52shijing.com/ctwh/87725.html https://zhuanlan.zhihu.com/p/98833845 https://baike.baidu.com/item/%E9%A9%AC%E9%9D%A2/2872717 #คีตาแห่งวสันต์ #กระโปรงจีนโบราณ #ชุดราชวงศ์หมิง #หม่าเมี่ยนฉวิน #หม่าเมี่ยน #กระโปรงจีบ #อ่าวฉวิน
    玉楼春剧情介绍(1-43全集)大结局_电视剧_剧情客
    电视剧玉楼春剧情介绍,父亲遭人陷害,家道中落流离市井的官家千金林少春(白鹿饰)与当朝首辅之子孙玉楼(王一哲饰)相爱,嫁入了钟鸣鼎食的孙家。因出身问题,林少春屡遭排挤,但她凭着自身的智慧和善良,拯救濒临危机的家族财政、帮助不睦的兄嫂们重归于好,并使各怀心思的家人团...
    2 Comments 0 Shares 452 Views 0 Reviews
  • ภาวะไร้ราคา เมื่อรู้สึกว่าไม่มีคุณค่าในสายตาใคร แม้กระทั่งความในใจ…ยังต้องใช้เงินถึงจะมีคนสนใจ 💸🧍‍♂️

    💡 เข้าใจลึกถึงภาวะ "ไร้คุณค่า" ในมุมที่หลายคนอาจเคยสัมผัส แต่ไม่กล้าพูดถึง ตั้งแต่ความเจ็บที่ซ่อนในความเงียบ ไปจนถึงพฤติกรรมที่ดูแรง แต่เต็มไปด้วยคำขอความเข้าใจ พร้อมแนวทางรับมืออย่างเข้าใจ ทั้งใจเราและใจเขา

    📝 ภาวะไร้ราคาในใจคน ความเงียบที่เจ็บปวด และวิธีรับมือด้วยความเข้าใจ ไม่จำเป็นต้องเปล่งเสียงดัง เพื่อให้ใครได้ยิน 🌐

    🔍 เสียงของความเงียบที่ไม่มีใครฟัง “แม้กระทั่งความในใจ…ยังต้องใช้เงิน ถึงจะมีคนสนใจ” ประโยคนี้อาจฟังดูประชดประชัน แต่มันสะท้อนความจริงเจ็บลึก ของคนจำนวนมาก ในยุคที่โลกออนไลน์ กลายเป็นเวทีให้คนตะโกนหา ‘ตัวตน’

    ในสังคมที่ทุกอย่างวัดค่าจากยอดไลก์ 💬 ความสนใจ 🧠 หรือจำนวนผู้ติดตาม คนที่รู้สึกว่าไม่มีใครฟัง ไม่มีใครแคร์ อาจเริ่มตั้งคำถามว่า “เรายังมีตัวตนอยู่จริงไหม?”

    ความเงียบไม่ใช่สิ่งเลวร้าย… แต่เมื่อความเงียบนั้นไม่ใช่ ‘พื้นที่พักใจ’ แต่คือ ‘กำแพงที่กั้นไม่ให้ใครเห็นเรา’ มันกลายเป็นความเจ็บที่ไม่พูดก็ไม่เข้าใจ

    🔍 "ภาวะไร้ราคา" หรือ "Worthlessness" คือความรู้สึกที่ว่า… เราไม่มีคุณค่า ไม่มีความหมาย ไม่มีใครสนใจ หรือแม้แต่สังเกตเห็นว่าเรามีตัวตน

    📌 ความรู้สึกนี้มักเกิดขึ้นจากปัจจัยทางจิตใจ สังคม หรือการเปรียบเทียบกับผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเรารู้สึกว่า "ความรู้สึกของเราไม่ถูกฟัง ไม่ถูกเห็น"

    ตัวอย่างของภาวะนี้... โพสต์อะไรแล้วไม่มีใครสนใจ 📉 พูดสิ่งที่รู้สึก แต่ไม่มีใครใส่ใจฟัง 🧏‍♀️ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีบทบาทในกลุ่ม หรือในครอบครัว

    🧠 ซึ่งภาวะนี้หากปล่อยไว้ ไม่จัดการ อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า, การแยกตัวทางสังคม หรือแม้กระทั่งความคิดอยากทำร้ายตัวเอง

    🔍 ยุคนี้มีรู้สึก "ไร้คุณค่า" มากขึ้น เพราะวัฒนธรรมเปรียบเทียบ ทุกคนโพสต์แต่สิ่งที่ดีที่สุด 📷 เราเห็นแต่ภาพ “สำเร็จ” ของคนอื่น แต่ไม่เห็นความล้มเหลว ทำให้เรารู้สึกว่า “เรายังไม่ดีพอ”

    การนิยามตัวตนจากความสนใจภายนอก หากโพสต์ไม่มีคนกดไลก์ 🖱️ หรือเรื่องที่เราพูดไม่มีใครสนใจ เราอาจรู้สึกว่า “เสียงของเราไม่มีความหมาย”

    พฤติกรรมของคนรอบข้าง เช่น คนในครอบครัว เพิกเฉยต่อสิ่งที่เราพูด เพื่อนร่วมงานไม่ฟังความเห็น หรือการถูกมองข้ามซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ความเหนื่อยล้าจากการ "สร้างภาพ" การต้อง "ดูดี" ตลอดเวลา เหมือนการใส่หน้ากาก ที่ไม่สามารถถอดได้ แม้แต่ตอนอยู่คนเดียว

    🔍 เมื่อเสียงที่ถูกเพิกเฉย กลายเป็นคำพูดที่รุนแรง คนที่ “ตะโกน” ออกมา อาจไม่ใช่คนที่อยากทำร้ายใคร แต่อาจเป็นคนที่อยากให้ “ใครบางคน” ได้ยิน

    หลายครั้งที่การด่าทอ 🗣️ การประชดชีวิต หรือการแสดงพฤติกรรมแรง ๆ ไม่ได้เกิดจาก “ความเกลียด” แต่เกิดจากความพยายาม “ส่งเสียง” ครั้งสุดท้าย

    เขาอาจพยายามพูดดี ๆ แล้ว อาจเคยแสดงออกด้วยวิธีที่นุ่มนวลกว่า แต่เมื่อไม่มีใครฟัง… ก็เลย “พูดให้ดังขึ้น” แม้มันจะมาในรูปแบบของ “คำพูดที่เจ็บ” ก็ตาม

    🪧 ยอมเสียเงินทำป้าย เพื่อให้คนสนใจ ความเจ็บที่กลายเป็นข้อความ "เมื่อโพสต์ไม่มีใครกดไลก์ เมื่อพูดแล้วไม่มีใครฟัง… บางคนเลือก ‘จ่ายเงิน’ เพื่อให้ความรู้สึกของตัวเองได้มีคนเห็น"

    การยอมลงทุนทำป้ายติดหน้าบ้าน ไม่ใช่แค่เพราะอยากประชดชีวิต แต่มันคือการพยายาม ‘ปล่อยเสียงออกมาให้ดังพอ’ ที่จะทะลุผ่านกำแพงความเงียบ ของสังคมในยุคนี้

    😢 ความเจ็บที่อยู่เบื้องหลังข้อความบนป้าย หลายคนอาจหัวเราะ เมื่อเห็นใครทำป้ายที่มีข้อความแรง ๆ ติดไว้หน้าบ้าน แต่ถ้าลองหยุดและคิดดี ๆ... คนที่เลือกวิธีนี้ อาจไม่ใช่คนที่อยากทำร้ายใคร แต่คือคนที่ “กำลังร้องไห้เงียบ ๆ อยู่ข้างใน”

    เพราะอาจเคยพูดแล้ว เคยขอความช่วยเหลือแล้ว แต่ไม่มีใครฟัง ไม่มีใครเห็น…

    สุดท้ายเลยต้อง “เปลี่ยนความรู้สึกเป็นตัวหนังสือ” แล้วแปะไว้ให้โลกรู้ แม้จะต้อง “เสียเงิน” เพื่อให้ข้อความนี้ มีพื้นที่อยู่บ้างก็ตาม

    💬 ข้อความที่คนไม่กล้าพูด แต่กล้าเขียน ข้อความเหล่านี้ มักไม่ใช่ถ้อยคำสุภาพ แต่มันคือ ความรู้สึกดิบๆ จากคนที่ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร

    บางข้อความอาจดู “แรง” บางข้อความอาจดู “ตลกร้าย” แต่เกือบทุกข้อความ…แฝง “ความเจ็บปวด” เสมอ เช่น...

    "ทำไมเงียบกันจังวะ? หรือเราตายไปแล้ว?"

    "ใครสักคน สนใจหน่อยไม่ได้เหรอ?"

    "ถึงต้องซื้อป้าย ถึงจะมีคนอ่านใจเรา"

    "ฉันรังเกียจโน่น นี่ นั่น..."

    เสียงพวกนี้ บางทีก็ไม่ได้อยากให้ทุกคนสนใจ แต่อยากให้ “ใครบางคน” เห็น…

    📌 ความจริงที่น่ากลัวกว่า "ความรุนแรง" คือ "ความเงียบ" ความรุนแรงของถ้อยคำ อาจดูน่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ความเงียบที่ทำให้คนรู้สึกว่า ‘ไม่มีตัวตน’

    ในยุคที่เราทุกคนต่างยุ่งกับหน้าจอ บางคนกำลัง “จมหาย” อยู่ข้างหลังประตูบ้าน และบางที… แค่มีใครสักคนหยุดดูป้ายนั้น ก็อาจช่วยชีวิตเขาไว้ได้

    🎯 บทเรียนจาก “ป้าย” ที่ควรเห็นใจ ไม่ใช่ตัดสิน ถ้าเห็นใครทำแบบนี้ อย่าเพิ่งรีบหัวเราะ อย่าเพิ่งรีบด่า เพราะเบื้องหลังนั้น… อาจคือคนที่ “เจ็บจนเงียบไม่ไหวแล้วจริง ๆ”

    ลองคิดในมุมกลับ… ถ้ารู้สึกแย่มาก จนต้องเสียเงินเพื่อให้คนฟัง แสดงว่ากำลังขาดการเชื่อมโยง ที่ลึกมากในชีวิต

    ❤️ เราควรฟังให้มากขึ้น โดยไม่ตัดสิน สังเกตคนรอบตัว ที่อาจกำลังส่งสัญญาณว่าเขา “หมดแรงแล้ว” เปิดใจคุย แบบจริงใจ แม้เพียงไม่กี่คำ ก็อาจช่วยเขาได้มาก สร้างพื้นที่ให้คนได้ระบาย โดยไม่จำเป็นต้องมีคำตอบ

    เพราะบางครั้ง... “ข้อความบนป้าย” ก็ไม่ได้อยากให้ทุกคนเข้าใจ แต่อยากให้ “ใครบางคนที่เขาหวัง” เข้าใจแค่นั้น 🪧💔
    และคุณ...อาจเป็น “คนนั้น” ที่เขารอให้เห็นอยู่ก็ได้ 🫂

    🔍 วิธีรับมือคนที่รู้สึกไร้คุณค่า โดยไม่ทำให้เขาเจ็บเพิ่ม ฟังอย่างจริงใจ ไม่ต้องรีบตัดสิน บางทีเขาไม่ได้ต้องการ “คำตอบ” แค่ต้องการ “พื้นที่ให้พูด”

    อย่าโต้กลับด้วยความรุนแรง ความสงบของคุณ อาจเป็นพื้นที่ปลอดภัยเดียวที่เขามีในวันนั้น เว้นระยะอย่างมีเมตตา เข้าใจ ≠ ต้องทน คุณมีสิทธิ์ดูแลตัวเอง ไม่ต้องรับพลังลบเข้าใส่ทุกวัน

    ถ้ารุนแรงมาก ให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหากพฤติกรรมของเขา อาจเป็นอันตรายต่อคนรอบข้าง

    🔍 ความลวงบนโลกโซเชียล เมื่อ "สร้างภาพว่าขายดี" กลายเป็นดาบสองคม 🧾 ปัญหาที่ตามมาคือ หลอกตัวเอง จนหลุดจากปัญหาจริง เหนื่อยกับการแสดง มากกว่าทำธุรกิจ สูญเสียความน่าเชื่อถือในระยะยาว เครียดสะสมแบบไม่รู้ตัว เสียโอกาสในการพัฒนา พังทั้งระบบ เมื่อแบกรับไม่ไหว สร้างมาตรฐานปลอมให้คนทั้งวงการ

    ✅ วิธีแก้คือ พูดความจริงอย่างมีพลัง ✨ เล่าความเปลี่ยนแปลงจากใจจริง ยอมรับว่ายังไม่ดีพอ แล้วค่อยๆ ปรับ

    🔍 ภาระของคนที่ "เคยรวย" แล้วจมไม่ลง 💼💔 ผลเสียที่ตามมาคือ ภาระหนี้เกินตัว ถูกตัดน้ำ ตัดไฟ รถต้องจอดจำนำ ความสัมพันธ์พังเพราะโกหก ความเครียดสะสมเพราะต้องแสดง ไม่ยอมพัฒนา เพราะไม่ยอมรับความจริง โอกาสหาย เพราะไม่มีใครรู้ว่ากำลังล้ม เสียเวลาไปกับ “เปลือก” แทนที่จะสร้างแก่น เปรียบเทียบตัวเองกับอดีต ไม่มีใครเข้าใจ เพราะไม่กล้าพูดความจริง

    🔍 คุณมีค่าเสมอ แม้ไม่มีใครบอก 🧡 ไม่จำเป็นต้องเสียงดัง ไม่ต้อง “ดูดี” ตลอดเวลา ไม่ต้องมีไลก์เยอะ เพื่อยืนยันการมีอยู่ของตัวเอง

    การยอมรับว่า “ฉันกำลังเจ็บ” ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือ ก้าวแรกของความเข้มแข็ง ที่แท้จริง

    หากเจอใครที่กำลังรู้สึกไร้ค่า ขอให้คุณเป็นคนหนึ่ง… ที่ “ฟัง” ก่อนจะ “ตัดสิน” เพราะความเข้าใจจากใจคนหนึ่ง อาจเปลี่ยนอีกคนทั้งชีวิต 🌱

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251519 เม.ย. 2568

    📲 #ภาวะไร้ค่า #ไม่มีใครฟัง #สังคมสร้างภาพ #ความรู้สึกที่ไม่มีใครเห็น #ฟังด้วยใจ #ความจริงสำคัญที่สุด #ฟังเถอะก่อนจะสาย #ความเจ็บจากความเงียบ #รักษาใจไม่ใช่ภาพลักษณ์ #อย่าตัดสินแค่สิ่งที่เห็น
    ภาวะไร้ราคา เมื่อรู้สึกว่าไม่มีคุณค่าในสายตาใคร แม้กระทั่งความในใจ…ยังต้องใช้เงินถึงจะมีคนสนใจ 💸🧍‍♂️ 💡 เข้าใจลึกถึงภาวะ "ไร้คุณค่า" ในมุมที่หลายคนอาจเคยสัมผัส แต่ไม่กล้าพูดถึง ตั้งแต่ความเจ็บที่ซ่อนในความเงียบ ไปจนถึงพฤติกรรมที่ดูแรง แต่เต็มไปด้วยคำขอความเข้าใจ พร้อมแนวทางรับมืออย่างเข้าใจ ทั้งใจเราและใจเขา 📝 ภาวะไร้ราคาในใจคน ความเงียบที่เจ็บปวด และวิธีรับมือด้วยความเข้าใจ ไม่จำเป็นต้องเปล่งเสียงดัง เพื่อให้ใครได้ยิน 🌐 🔍 เสียงของความเงียบที่ไม่มีใครฟัง “แม้กระทั่งความในใจ…ยังต้องใช้เงิน ถึงจะมีคนสนใจ” ประโยคนี้อาจฟังดูประชดประชัน แต่มันสะท้อนความจริงเจ็บลึก ของคนจำนวนมาก ในยุคที่โลกออนไลน์ กลายเป็นเวทีให้คนตะโกนหา ‘ตัวตน’ ในสังคมที่ทุกอย่างวัดค่าจากยอดไลก์ 💬 ความสนใจ 🧠 หรือจำนวนผู้ติดตาม คนที่รู้สึกว่าไม่มีใครฟัง ไม่มีใครแคร์ อาจเริ่มตั้งคำถามว่า “เรายังมีตัวตนอยู่จริงไหม?” ความเงียบไม่ใช่สิ่งเลวร้าย… แต่เมื่อความเงียบนั้นไม่ใช่ ‘พื้นที่พักใจ’ แต่คือ ‘กำแพงที่กั้นไม่ให้ใครเห็นเรา’ มันกลายเป็นความเจ็บที่ไม่พูดก็ไม่เข้าใจ 🔍 "ภาวะไร้ราคา" หรือ "Worthlessness" คือความรู้สึกที่ว่า… เราไม่มีคุณค่า ไม่มีความหมาย ไม่มีใครสนใจ หรือแม้แต่สังเกตเห็นว่าเรามีตัวตน 📌 ความรู้สึกนี้มักเกิดขึ้นจากปัจจัยทางจิตใจ สังคม หรือการเปรียบเทียบกับผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเรารู้สึกว่า "ความรู้สึกของเราไม่ถูกฟัง ไม่ถูกเห็น" ตัวอย่างของภาวะนี้... โพสต์อะไรแล้วไม่มีใครสนใจ 📉 พูดสิ่งที่รู้สึก แต่ไม่มีใครใส่ใจฟัง 🧏‍♀️ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีบทบาทในกลุ่ม หรือในครอบครัว 🧠 ซึ่งภาวะนี้หากปล่อยไว้ ไม่จัดการ อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า, การแยกตัวทางสังคม หรือแม้กระทั่งความคิดอยากทำร้ายตัวเอง 🔍 ยุคนี้มีรู้สึก "ไร้คุณค่า" มากขึ้น เพราะวัฒนธรรมเปรียบเทียบ ทุกคนโพสต์แต่สิ่งที่ดีที่สุด 📷 เราเห็นแต่ภาพ “สำเร็จ” ของคนอื่น แต่ไม่เห็นความล้มเหลว ทำให้เรารู้สึกว่า “เรายังไม่ดีพอ” การนิยามตัวตนจากความสนใจภายนอก หากโพสต์ไม่มีคนกดไลก์ 🖱️ หรือเรื่องที่เราพูดไม่มีใครสนใจ เราอาจรู้สึกว่า “เสียงของเราไม่มีความหมาย” พฤติกรรมของคนรอบข้าง เช่น คนในครอบครัว เพิกเฉยต่อสิ่งที่เราพูด เพื่อนร่วมงานไม่ฟังความเห็น หรือการถูกมองข้ามซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความเหนื่อยล้าจากการ "สร้างภาพ" การต้อง "ดูดี" ตลอดเวลา เหมือนการใส่หน้ากาก ที่ไม่สามารถถอดได้ แม้แต่ตอนอยู่คนเดียว 🔍 เมื่อเสียงที่ถูกเพิกเฉย กลายเป็นคำพูดที่รุนแรง คนที่ “ตะโกน” ออกมา อาจไม่ใช่คนที่อยากทำร้ายใคร แต่อาจเป็นคนที่อยากให้ “ใครบางคน” ได้ยิน หลายครั้งที่การด่าทอ 🗣️ การประชดชีวิต หรือการแสดงพฤติกรรมแรง ๆ ไม่ได้เกิดจาก “ความเกลียด” แต่เกิดจากความพยายาม “ส่งเสียง” ครั้งสุดท้าย เขาอาจพยายามพูดดี ๆ แล้ว อาจเคยแสดงออกด้วยวิธีที่นุ่มนวลกว่า แต่เมื่อไม่มีใครฟัง… ก็เลย “พูดให้ดังขึ้น” แม้มันจะมาในรูปแบบของ “คำพูดที่เจ็บ” ก็ตาม 🪧 ยอมเสียเงินทำป้าย เพื่อให้คนสนใจ ความเจ็บที่กลายเป็นข้อความ "เมื่อโพสต์ไม่มีใครกดไลก์ เมื่อพูดแล้วไม่มีใครฟัง… บางคนเลือก ‘จ่ายเงิน’ เพื่อให้ความรู้สึกของตัวเองได้มีคนเห็น" การยอมลงทุนทำป้ายติดหน้าบ้าน ไม่ใช่แค่เพราะอยากประชดชีวิต แต่มันคือการพยายาม ‘ปล่อยเสียงออกมาให้ดังพอ’ ที่จะทะลุผ่านกำแพงความเงียบ ของสังคมในยุคนี้ 😢 ความเจ็บที่อยู่เบื้องหลังข้อความบนป้าย หลายคนอาจหัวเราะ เมื่อเห็นใครทำป้ายที่มีข้อความแรง ๆ ติดไว้หน้าบ้าน แต่ถ้าลองหยุดและคิดดี ๆ... คนที่เลือกวิธีนี้ อาจไม่ใช่คนที่อยากทำร้ายใคร แต่คือคนที่ “กำลังร้องไห้เงียบ ๆ อยู่ข้างใน” เพราะอาจเคยพูดแล้ว เคยขอความช่วยเหลือแล้ว แต่ไม่มีใครฟัง ไม่มีใครเห็น… สุดท้ายเลยต้อง “เปลี่ยนความรู้สึกเป็นตัวหนังสือ” แล้วแปะไว้ให้โลกรู้ แม้จะต้อง “เสียเงิน” เพื่อให้ข้อความนี้ มีพื้นที่อยู่บ้างก็ตาม 💬 ข้อความที่คนไม่กล้าพูด แต่กล้าเขียน ข้อความเหล่านี้ มักไม่ใช่ถ้อยคำสุภาพ แต่มันคือ ความรู้สึกดิบๆ จากคนที่ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร บางข้อความอาจดู “แรง” บางข้อความอาจดู “ตลกร้าย” แต่เกือบทุกข้อความ…แฝง “ความเจ็บปวด” เสมอ เช่น... "ทำไมเงียบกันจังวะ? หรือเราตายไปแล้ว?" "ใครสักคน สนใจหน่อยไม่ได้เหรอ?" "ถึงต้องซื้อป้าย ถึงจะมีคนอ่านใจเรา" "ฉันรังเกียจโน่น นี่ นั่น..." เสียงพวกนี้ บางทีก็ไม่ได้อยากให้ทุกคนสนใจ แต่อยากให้ “ใครบางคน” เห็น… 📌 ความจริงที่น่ากลัวกว่า "ความรุนแรง" คือ "ความเงียบ" ความรุนแรงของถ้อยคำ อาจดูน่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ความเงียบที่ทำให้คนรู้สึกว่า ‘ไม่มีตัวตน’ ในยุคที่เราทุกคนต่างยุ่งกับหน้าจอ บางคนกำลัง “จมหาย” อยู่ข้างหลังประตูบ้าน และบางที… แค่มีใครสักคนหยุดดูป้ายนั้น ก็อาจช่วยชีวิตเขาไว้ได้ 🎯 บทเรียนจาก “ป้าย” ที่ควรเห็นใจ ไม่ใช่ตัดสิน ถ้าเห็นใครทำแบบนี้ อย่าเพิ่งรีบหัวเราะ อย่าเพิ่งรีบด่า เพราะเบื้องหลังนั้น… อาจคือคนที่ “เจ็บจนเงียบไม่ไหวแล้วจริง ๆ” ลองคิดในมุมกลับ… ถ้ารู้สึกแย่มาก จนต้องเสียเงินเพื่อให้คนฟัง แสดงว่ากำลังขาดการเชื่อมโยง ที่ลึกมากในชีวิต ❤️ เราควรฟังให้มากขึ้น โดยไม่ตัดสิน สังเกตคนรอบตัว ที่อาจกำลังส่งสัญญาณว่าเขา “หมดแรงแล้ว” เปิดใจคุย แบบจริงใจ แม้เพียงไม่กี่คำ ก็อาจช่วยเขาได้มาก สร้างพื้นที่ให้คนได้ระบาย โดยไม่จำเป็นต้องมีคำตอบ เพราะบางครั้ง... “ข้อความบนป้าย” ก็ไม่ได้อยากให้ทุกคนเข้าใจ แต่อยากให้ “ใครบางคนที่เขาหวัง” เข้าใจแค่นั้น 🪧💔 และคุณ...อาจเป็น “คนนั้น” ที่เขารอให้เห็นอยู่ก็ได้ 🫂 🔍 วิธีรับมือคนที่รู้สึกไร้คุณค่า โดยไม่ทำให้เขาเจ็บเพิ่ม ฟังอย่างจริงใจ ไม่ต้องรีบตัดสิน บางทีเขาไม่ได้ต้องการ “คำตอบ” แค่ต้องการ “พื้นที่ให้พูด” อย่าโต้กลับด้วยความรุนแรง ความสงบของคุณ อาจเป็นพื้นที่ปลอดภัยเดียวที่เขามีในวันนั้น เว้นระยะอย่างมีเมตตา เข้าใจ ≠ ต้องทน คุณมีสิทธิ์ดูแลตัวเอง ไม่ต้องรับพลังลบเข้าใส่ทุกวัน ถ้ารุนแรงมาก ให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหากพฤติกรรมของเขา อาจเป็นอันตรายต่อคนรอบข้าง 🔍 ความลวงบนโลกโซเชียล เมื่อ "สร้างภาพว่าขายดี" กลายเป็นดาบสองคม 🧾 ปัญหาที่ตามมาคือ หลอกตัวเอง จนหลุดจากปัญหาจริง เหนื่อยกับการแสดง มากกว่าทำธุรกิจ สูญเสียความน่าเชื่อถือในระยะยาว เครียดสะสมแบบไม่รู้ตัว เสียโอกาสในการพัฒนา พังทั้งระบบ เมื่อแบกรับไม่ไหว สร้างมาตรฐานปลอมให้คนทั้งวงการ ✅ วิธีแก้คือ พูดความจริงอย่างมีพลัง ✨ เล่าความเปลี่ยนแปลงจากใจจริง ยอมรับว่ายังไม่ดีพอ แล้วค่อยๆ ปรับ 🔍 ภาระของคนที่ "เคยรวย" แล้วจมไม่ลง 💼💔 ผลเสียที่ตามมาคือ ภาระหนี้เกินตัว ถูกตัดน้ำ ตัดไฟ รถต้องจอดจำนำ ความสัมพันธ์พังเพราะโกหก ความเครียดสะสมเพราะต้องแสดง ไม่ยอมพัฒนา เพราะไม่ยอมรับความจริง โอกาสหาย เพราะไม่มีใครรู้ว่ากำลังล้ม เสียเวลาไปกับ “เปลือก” แทนที่จะสร้างแก่น เปรียบเทียบตัวเองกับอดีต ไม่มีใครเข้าใจ เพราะไม่กล้าพูดความจริง 🔍 คุณมีค่าเสมอ แม้ไม่มีใครบอก 🧡 ไม่จำเป็นต้องเสียงดัง ไม่ต้อง “ดูดี” ตลอดเวลา ไม่ต้องมีไลก์เยอะ เพื่อยืนยันการมีอยู่ของตัวเอง การยอมรับว่า “ฉันกำลังเจ็บ” ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือ ก้าวแรกของความเข้มแข็ง ที่แท้จริง หากเจอใครที่กำลังรู้สึกไร้ค่า ขอให้คุณเป็นคนหนึ่ง… ที่ “ฟัง” ก่อนจะ “ตัดสิน” เพราะความเข้าใจจากใจคนหนึ่ง อาจเปลี่ยนอีกคนทั้งชีวิต 🌱 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251519 เม.ย. 2568 📲 #ภาวะไร้ค่า #ไม่มีใครฟัง #สังคมสร้างภาพ #ความรู้สึกที่ไม่มีใครเห็น #ฟังด้วยใจ #ความจริงสำคัญที่สุด #ฟังเถอะก่อนจะสาย #ความเจ็บจากความเงียบ #รักษาใจไม่ใช่ภาพลักษณ์ #อย่าตัดสินแค่สิ่งที่เห็น
    0 Comments 0 Shares 471 Views 0 Reviews
  • 78 ปี วิสามัญ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ จากผู้ใหญ่บ้าน สู่ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อตำรวจน่ากลัวกว่าเสือ จึงถูกหลอกซ้ำซาก ล่อติดคุก-ลวงยิงทิ้ง 🐅

    เมื่อผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่รัฐกลัวที่สุด ย้อนตำนาน “เสือฝ้าย” จอมโจรผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองสุพรรณ กับบทสรุปที่กลายเป็นปริศนา เสือจริงหรือตำรวจคือภัยร้ายกว่า?

    เรื่องราวของ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้กล้าท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม กลายเป็นตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวบ้านรัก และตำรวจหวาดกลัว 🕵️‍♂️🔥

    เมื่อความอยุติธรรม สร้างตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ หากพูดถึง "เสือ" ในตำนานไทย หลายคนอาจนึกถึง “เสือใบ”, “เสือดำ” หรือ “เสือมเหศวร” แต่มีอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ “เสือฝ้าย” 🐯 จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นโจร แต่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกระบบรังแก

    "เสือฝ้าย" หรือ "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเดิมบาง เป็นนักรบเสรีไทย และเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำดีเพื่อบ้านเกิด แต่เมื่อความดี ถูกตอบแทนด้วยความอยุติธรรม จึงเลือกหนทางของ "เสือ"

    “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!” เสือฝ้าย กล่าวไว้ หลังพ้นโทษจำคุก 8 ปี

    😇👉😈 "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2431 ที่ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นลูกของชาวนา ครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เติบโตมาอย่างเรียบง่าย กระทั่งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าใหญ่ หมู่ที่ 5”

    ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สอง เสือฝ้ายมีบทบาทสำคัญใน “ขบวนการเสรีไทย” ต่อต้านทหารญี่ปุ่น และได้รับฉายา “จอมพลฝ้าย” จากประชาชน

    แต่เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป เมื่อถูกใส่ร้ายจากหลานเขย ผู้มีสายสัมพันธ์กับตำรวจ ถูกตัดสินให้ติดคุกถึง 8 ปี ทั้งที่ไม่มีความผิด นี่คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง 🧨

    ✊ เสือฝ้ายผู้รักความยุติธรรม แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็น “โจร” แต่เสือฝ้ายไม่เหมือนโจรทั่วไป

    สิ่งที่ “ปล้น” ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยส่วนตัว เสือฝ้ายตั้งเป้าเล่นงานเฉพาะ “ผู้มีอำนาจที่ฉ้อโกง” ไม่ปล้นคนจน ไม่แตะต้องชาวบ้าน แจกจ่ายทรัพย์สินที่ปล้นมา ให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน

    🔥 ชาวบ้านจึงเปรียบเสือฝ้ายเสมือน “ฮีโร่” มากกว่า “ผู้ร้าย” ❤️

    “ชาวบ้านรักเสือฝ้าย เพราะไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่มีอำนาจ”

    🏴‍☠️ ชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เสือฝ้ายไม่ใช่โจรเดี่ยว นำกองกำลังชุมโจรที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่ไทยเคยมี สมุนไม่ต่ำกว่า 100-200 คน เทียบกับกลุ่มโจรทั่วไปในยุคนั้น ที่มีเพียง 10-20 คน

    เสือฝ้ายใช้เส้นทางป่าในเขตเดิมบางนางบวช ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าทึบ เป็นที่หลบซ่อนและตั้งฐานปฏิบัติการ

    “บางคนว่าทั้งสุพรรณบุรี คือบ้านของเสือฝ้าย เพราะทุกคนต่างพร้อมใจ ให้การช่วยเหลือ”

    🌆 เมืองสุพรรณยุคโจรครองเมือง 🧧 ย้อนกลับไปในยุคต้นรัชกาลที่ 6 เมืองสุพรรณฯ เต็มไปด้วยข่าวปล้น คนจีนอพยพมาตั้งตลาด หอดูโจรถูกสร้างไว้ทั่วเมือง

    จนมีคำพูดติดปากว่า “ใครไปรับราชการที่สุพรรณฯ ต้องเตรียมหม้อใส่กระดูกกลับบ้าน”

    สุพรรณกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในแง่ลบ แต่ก็เป็นบ้านของวีรบุรุษนอกกฎหมาย ที่ชาวบ้านศรัทธา

    📜 การลวงฆ่าเสือฝ้าย ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการ 🔫 วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก...

    ตำรวจกองปราบหลอกเสือฝ้ายว่า จะพาไปรับรางวัลที่กรุงเทพฯ แล้วนำตัวไปพักที่โรงแรมศรีธงชัย ปัจจุบันคือธนาคารกรุงศรีฯ แต่รุ่งเช้ากลับมีข่าวว่า เสือฝ้ายถูกยิงตายที่ป่าช้าบ้านบางกะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยอ้างว่า “กระโดดน้ำหนี” ❌

    แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ เพราะ “ไม่มีทางที่เสือฝ้ายจะหนี ทั้งที่เชื่อว่ากำลังจะได้รางวัล”

    😰 ปากคำชาวบ้าน ตำรวจน่ากลัวกว่าโจร

    “ตำรวจกองปราบน่ากลัวกว่าเสือเสียอีก พวกเขาอำพรางข่าว หลอกลวง และฆ่าคนบริสุทธิ์” ยายเกียด ทรัพย์จีน กล่าวไว้

    เธอเผยว่าเคยต้องปลอมตัว เอาโคลนทาทั่วตัว เพื่อส่งเสบียงให้ชุมโจรแบบลับ ๆ

    🧘‍♂️ เสือฝ้ายกับขุนพันธ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมรับสินบน ⚖️ เสือฝ้ายเคยพยายามติดสินบน “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้ปราบโจรในตำนาน แต่ขุนพันธ์ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ" และไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตำรวจ ด้วยการรับสินบนจากโจร

    🐯 เสือฝ้ายในโลกภาพยนตร์ 🎬 เสือฝ้ายยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ ภาค 2" แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด "พันโทวันชนะ สวัสดี" เพิ่มความเหนือธรรมชาติ เช่น วิชานะจังงัง, รอยสักยันต์ช้างเอราวัณ และยันต์ท้าวเวสสุวรรณ

    🔥 ความตายที่กลายเป็นตำนาน แม้เสือฝ้ายจะถูกฆ่าตาย แต่ตำนานของเขายังอยู่...

    เสือฝ้ายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถูกระบบกดขี่ แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นเสียงของผู้ไร้เสียง และเป็นเสือที่ถูกฆ่าโดย “สัตว์ที่ร้ายกว่า”

    คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓

    ใครสั่งวิสามัญเสือฝ้ายจริง ๆ?

    ตำรวจเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีเจตนาแอบแฝง?

    ทำไมข่าวถูกกลบอย่างรวดเร็ว?

    🐾 เสือที่ยังคงคำรามในประวัติศาสตร์ 📚 เรื่องราวของเสือฝ้าย ไม่ใช่เพียงเรื่องของโจร หรือเรื่องของตำรวจ
    แต่คือ “ภาพสะท้อนของสังคม” ที่ยังคงเป็นจริงแม้ผ่านไป 78 ปี

    เสือฝ้ายคือผู้ที่ระบบผลักให้กลายเป็นโจร แต่ชาวบ้านกลับยกย่องว่า “วีรบุรุษ” และตราบใดที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่ เสียงคำรามของ “เสือฝ้าย” ก็ยังดังก้องในใจของคนรุ่นหลัง ✊

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251009 เม.ย. 2568

    📢 #เสือฝ้าย #ตำนานเสือสุพรรณ #จอมโจรไทย #ประวัติศาสตร์โจร #ขุนพันธ์ #เสรีไทย #วิสามัญฆาตกรรม #สุพรรณบุรี #วีรบุรุษโจร #เสือฝ้ายผู้ยิ่งใหญ่
    78 ปี วิสามัญ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ จากผู้ใหญ่บ้าน สู่ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อตำรวจน่ากลัวกว่าเสือ จึงถูกหลอกซ้ำซาก ล่อติดคุก-ลวงยิงทิ้ง 🐅 เมื่อผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่รัฐกลัวที่สุด ย้อนตำนาน “เสือฝ้าย” จอมโจรผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองสุพรรณ กับบทสรุปที่กลายเป็นปริศนา เสือจริงหรือตำรวจคือภัยร้ายกว่า? เรื่องราวของ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้กล้าท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม กลายเป็นตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวบ้านรัก และตำรวจหวาดกลัว 🕵️‍♂️🔥 เมื่อความอยุติธรรม สร้างตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ หากพูดถึง "เสือ" ในตำนานไทย หลายคนอาจนึกถึง “เสือใบ”, “เสือดำ” หรือ “เสือมเหศวร” แต่มีอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ “เสือฝ้าย” 🐯 จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นโจร แต่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกระบบรังแก "เสือฝ้าย" หรือ "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเดิมบาง เป็นนักรบเสรีไทย และเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำดีเพื่อบ้านเกิด แต่เมื่อความดี ถูกตอบแทนด้วยความอยุติธรรม จึงเลือกหนทางของ "เสือ" “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!” เสือฝ้าย กล่าวไว้ หลังพ้นโทษจำคุก 8 ปี 😇👉😈 "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2431 ที่ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นลูกของชาวนา ครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เติบโตมาอย่างเรียบง่าย กระทั่งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าใหญ่ หมู่ที่ 5” ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สอง เสือฝ้ายมีบทบาทสำคัญใน “ขบวนการเสรีไทย” ต่อต้านทหารญี่ปุ่น และได้รับฉายา “จอมพลฝ้าย” จากประชาชน แต่เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป เมื่อถูกใส่ร้ายจากหลานเขย ผู้มีสายสัมพันธ์กับตำรวจ ถูกตัดสินให้ติดคุกถึง 8 ปี ทั้งที่ไม่มีความผิด นี่คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง 🧨 ✊ เสือฝ้ายผู้รักความยุติธรรม แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็น “โจร” แต่เสือฝ้ายไม่เหมือนโจรทั่วไป สิ่งที่ “ปล้น” ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยส่วนตัว เสือฝ้ายตั้งเป้าเล่นงานเฉพาะ “ผู้มีอำนาจที่ฉ้อโกง” ไม่ปล้นคนจน ไม่แตะต้องชาวบ้าน แจกจ่ายทรัพย์สินที่ปล้นมา ให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน 🔥 ชาวบ้านจึงเปรียบเสือฝ้ายเสมือน “ฮีโร่” มากกว่า “ผู้ร้าย” ❤️ “ชาวบ้านรักเสือฝ้าย เพราะไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่มีอำนาจ” 🏴‍☠️ ชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เสือฝ้ายไม่ใช่โจรเดี่ยว นำกองกำลังชุมโจรที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่ไทยเคยมี สมุนไม่ต่ำกว่า 100-200 คน เทียบกับกลุ่มโจรทั่วไปในยุคนั้น ที่มีเพียง 10-20 คน เสือฝ้ายใช้เส้นทางป่าในเขตเดิมบางนางบวช ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าทึบ เป็นที่หลบซ่อนและตั้งฐานปฏิบัติการ “บางคนว่าทั้งสุพรรณบุรี คือบ้านของเสือฝ้าย เพราะทุกคนต่างพร้อมใจ ให้การช่วยเหลือ” 🌆 เมืองสุพรรณยุคโจรครองเมือง 🧧 ย้อนกลับไปในยุคต้นรัชกาลที่ 6 เมืองสุพรรณฯ เต็มไปด้วยข่าวปล้น คนจีนอพยพมาตั้งตลาด หอดูโจรถูกสร้างไว้ทั่วเมือง จนมีคำพูดติดปากว่า “ใครไปรับราชการที่สุพรรณฯ ต้องเตรียมหม้อใส่กระดูกกลับบ้าน” สุพรรณกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในแง่ลบ แต่ก็เป็นบ้านของวีรบุรุษนอกกฎหมาย ที่ชาวบ้านศรัทธา 📜 การลวงฆ่าเสือฝ้าย ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการ 🔫 วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก... ตำรวจกองปราบหลอกเสือฝ้ายว่า จะพาไปรับรางวัลที่กรุงเทพฯ แล้วนำตัวไปพักที่โรงแรมศรีธงชัย ปัจจุบันคือธนาคารกรุงศรีฯ แต่รุ่งเช้ากลับมีข่าวว่า เสือฝ้ายถูกยิงตายที่ป่าช้าบ้านบางกะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยอ้างว่า “กระโดดน้ำหนี” ❌ แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ เพราะ “ไม่มีทางที่เสือฝ้ายจะหนี ทั้งที่เชื่อว่ากำลังจะได้รางวัล” 😰 ปากคำชาวบ้าน ตำรวจน่ากลัวกว่าโจร “ตำรวจกองปราบน่ากลัวกว่าเสือเสียอีก พวกเขาอำพรางข่าว หลอกลวง และฆ่าคนบริสุทธิ์” ยายเกียด ทรัพย์จีน กล่าวไว้ เธอเผยว่าเคยต้องปลอมตัว เอาโคลนทาทั่วตัว เพื่อส่งเสบียงให้ชุมโจรแบบลับ ๆ 🧘‍♂️ เสือฝ้ายกับขุนพันธ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมรับสินบน ⚖️ เสือฝ้ายเคยพยายามติดสินบน “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้ปราบโจรในตำนาน แต่ขุนพันธ์ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ" และไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตำรวจ ด้วยการรับสินบนจากโจร 🐯 เสือฝ้ายในโลกภาพยนตร์ 🎬 เสือฝ้ายยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ ภาค 2" แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด "พันโทวันชนะ สวัสดี" เพิ่มความเหนือธรรมชาติ เช่น วิชานะจังงัง, รอยสักยันต์ช้างเอราวัณ และยันต์ท้าวเวสสุวรรณ 🔥 ความตายที่กลายเป็นตำนาน แม้เสือฝ้ายจะถูกฆ่าตาย แต่ตำนานของเขายังอยู่... เสือฝ้ายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถูกระบบกดขี่ แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นเสียงของผู้ไร้เสียง และเป็นเสือที่ถูกฆ่าโดย “สัตว์ที่ร้ายกว่า” คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓ ใครสั่งวิสามัญเสือฝ้ายจริง ๆ? ตำรวจเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีเจตนาแอบแฝง? ทำไมข่าวถูกกลบอย่างรวดเร็ว? 🐾 เสือที่ยังคงคำรามในประวัติศาสตร์ 📚 เรื่องราวของเสือฝ้าย ไม่ใช่เพียงเรื่องของโจร หรือเรื่องของตำรวจ แต่คือ “ภาพสะท้อนของสังคม” ที่ยังคงเป็นจริงแม้ผ่านไป 78 ปี เสือฝ้ายคือผู้ที่ระบบผลักให้กลายเป็นโจร แต่ชาวบ้านกลับยกย่องว่า “วีรบุรุษ” และตราบใดที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่ เสียงคำรามของ “เสือฝ้าย” ก็ยังดังก้องในใจของคนรุ่นหลัง ✊ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251009 เม.ย. 2568 📢 #เสือฝ้าย #ตำนานเสือสุพรรณ #จอมโจรไทย #ประวัติศาสตร์โจร #ขุนพันธ์ #เสรีไทย #วิสามัญฆาตกรรม #สุพรรณบุรี #วีรบุรุษโจร #เสือฝ้ายผู้ยิ่งใหญ่
    0 Comments 0 Shares 703 Views 0 Reviews
  • "อมพระมาพูด" ดรามาอันวาร์ อิบราฮิม

    การมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อการเจรจาทำงาน (Working Visit) และหารือติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับความร่วมมือไทย-มาเลเซีย ระหว่างวันที่ 17-18 เม.ย. ที่ผ่านมา กลายเป็นดรามาสนั่นโซเชียลฯ เมื่อกองสื่อสารมวลชนและกลยุทธ์ สำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้เผยแพร่วีดีโอคลิป "LAWATAN KERJA KE THAILAND" (เยี่ยมชมและทำงานที่ประเทศไทย) เผยแพร่ภารกิจของนายอันวาร์และคณะในไทย แล้วปรากฎว่ามีการใช้เพลง "อมพระมาพูด" ของเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ และ เสกสรรค์ สุขพิมาย หรือ เสก โลโซ ซึ่งเป็นเพลงฮิตเมื่อปี 2547

    ด้วยเนื้อหาเพลงที่ออกแนวตอบโต้คนรักที่ไม่เชื่อใจกัน โดยเฉพาะท่อนฮุคที่ร้องว่า "อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ หน้าเนื้อใจเสืออย่างเธอ ใครเตือนไม่ฟังว่าอย่าเผลอ มีใจให้ อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ หน้าใสใจเสือเชื่อไม่ได้ ประวัติโชกโชนเชือดใจ มากี่คน เคยนับบ้างไหม" กลายเป็นที่วิจารณ์แก่ชาวเน็ตไทยว่าสื่อถึงอะไร มีนัยยะทางการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศใดๆ หรือไม่ โดยเฉพาะกับ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาประธานอาเซียน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลูกสาวนายทักษิณ ภายหลังจึงได้ลบคลิปแล้วเปลี่ยนเพลงใหม่ไปใช้เพลงพระราชนิพนธ์ "ยามเย็น" ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ แทน

    ที่ผ่านมามักจะพบเห็นเพลงไทยนำมาใช้กับสื่อประชาสัมพันธ์ของมาเลเซียนานๆ ครั้ง เช่น การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) นำเพลง "ผมรักเมืองไทย" ของ Mocca Garden มาโปรโมตขบวนรถไฟ My Sawasdee บัตเตอร์เวิร์ธ-หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 1 ม.ค. หรือย้อนกลับไปเมื่อเดือน ต.ค. 2565 เผยแพร่วิดีโอคลิป VLOG ที่ชื่อว่า "Syoknya Naik Keretapi ke Hatyai, Thailand" แนะนำการขึ้นรถไฟท่องเที่ยวที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในช่วงเทศกาลวันมาเลเซีย ก็ใช้เพลง "ชอบเธออะ" ของ แมน ภัทรพล ซึ่งเป็นเพลงฮิตในติ๊กต็อก ส่วนผู้ใช้ทั่วไปพบว่าบัญชี @khairulnikahthailand ที่รับจ้างชาวมุสลิมมาเลเซียมาแต่งงานที่สงขลา ประเทศไทย ก็เคยใช้เพลง "คุณไสย" (อะนันตะปัตชะเย) ซึ่งมีเนื้อหาโจ๊ะๆ สนุกสนาน

    แม้ Newskit จะสอบถามแหล่งข่าวจากสื่อมวลชนชาวมาเลเซีย ที่ทำงานในประเทศไทย แต่ไม่ได้รับคำตอบใดๆ กลับมาก็ตาม ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่า อาจเป็นความผิดพลาดของทางการมาเลเซียเลือกเพลงตามทำนอง (Melody) โดยมองข้ามเนื้อร้อง หรือเนื้อหาเพลง ที่คนท้องถิ่นซึ่งก็คือคนไทยอาจเข้าใจไปอีกทาง มองโลกในแง่ดีอาจเป็นเพียงแค่เรื่องตลกขบขัน ไม่ถึงขั้นกลายเป็นการเล่นการเมืองแบบสองหน้า จากปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งไม่มีทีท่าว่าสงบลง

    #Newskit
    "อมพระมาพูด" ดรามาอันวาร์ อิบราฮิม การมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อการเจรจาทำงาน (Working Visit) และหารือติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับความร่วมมือไทย-มาเลเซีย ระหว่างวันที่ 17-18 เม.ย. ที่ผ่านมา กลายเป็นดรามาสนั่นโซเชียลฯ เมื่อกองสื่อสารมวลชนและกลยุทธ์ สำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้เผยแพร่วีดีโอคลิป "LAWATAN KERJA KE THAILAND" (เยี่ยมชมและทำงานที่ประเทศไทย) เผยแพร่ภารกิจของนายอันวาร์และคณะในไทย แล้วปรากฎว่ามีการใช้เพลง "อมพระมาพูด" ของเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ และ เสกสรรค์ สุขพิมาย หรือ เสก โลโซ ซึ่งเป็นเพลงฮิตเมื่อปี 2547 ด้วยเนื้อหาเพลงที่ออกแนวตอบโต้คนรักที่ไม่เชื่อใจกัน โดยเฉพาะท่อนฮุคที่ร้องว่า "อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ หน้าเนื้อใจเสืออย่างเธอ ใครเตือนไม่ฟังว่าอย่าเผลอ มีใจให้ อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ หน้าใสใจเสือเชื่อไม่ได้ ประวัติโชกโชนเชือดใจ มากี่คน เคยนับบ้างไหม" กลายเป็นที่วิจารณ์แก่ชาวเน็ตไทยว่าสื่อถึงอะไร มีนัยยะทางการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศใดๆ หรือไม่ โดยเฉพาะกับ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาประธานอาเซียน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลูกสาวนายทักษิณ ภายหลังจึงได้ลบคลิปแล้วเปลี่ยนเพลงใหม่ไปใช้เพลงพระราชนิพนธ์ "ยามเย็น" ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ แทน ที่ผ่านมามักจะพบเห็นเพลงไทยนำมาใช้กับสื่อประชาสัมพันธ์ของมาเลเซียนานๆ ครั้ง เช่น การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) นำเพลง "ผมรักเมืองไทย" ของ Mocca Garden มาโปรโมตขบวนรถไฟ My Sawasdee บัตเตอร์เวิร์ธ-หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 1 ม.ค. หรือย้อนกลับไปเมื่อเดือน ต.ค. 2565 เผยแพร่วิดีโอคลิป VLOG ที่ชื่อว่า "Syoknya Naik Keretapi ke Hatyai, Thailand" แนะนำการขึ้นรถไฟท่องเที่ยวที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในช่วงเทศกาลวันมาเลเซีย ก็ใช้เพลง "ชอบเธออะ" ของ แมน ภัทรพล ซึ่งเป็นเพลงฮิตในติ๊กต็อก ส่วนผู้ใช้ทั่วไปพบว่าบัญชี @khairulnikahthailand ที่รับจ้างชาวมุสลิมมาเลเซียมาแต่งงานที่สงขลา ประเทศไทย ก็เคยใช้เพลง "คุณไสย" (อะนันตะปัตชะเย) ซึ่งมีเนื้อหาโจ๊ะๆ สนุกสนาน แม้ Newskit จะสอบถามแหล่งข่าวจากสื่อมวลชนชาวมาเลเซีย ที่ทำงานในประเทศไทย แต่ไม่ได้รับคำตอบใดๆ กลับมาก็ตาม ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่า อาจเป็นความผิดพลาดของทางการมาเลเซียเลือกเพลงตามทำนอง (Melody) โดยมองข้ามเนื้อร้อง หรือเนื้อหาเพลง ที่คนท้องถิ่นซึ่งก็คือคนไทยอาจเข้าใจไปอีกทาง มองโลกในแง่ดีอาจเป็นเพียงแค่เรื่องตลกขบขัน ไม่ถึงขั้นกลายเป็นการเล่นการเมืองแบบสองหน้า จากปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งไม่มีทีท่าว่าสงบลง #Newskit
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 642 Views 0 Reviews
  • ด่วน!
    ทำเนียบขาวประกาศตอบโต้จีน ด้วยการเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 245%

    อย่างไรก็ตาม จีนเคยระบุก่อนหน้านี้ว่าจะไม่สนใจการตอบโต้ของสหรัฐฯ อีกต่อไป เนื่องจากจีนมองว่าเป็นการกระทำที่ตลก

    https://thaitimes.co/posts/208453
    ด่วน! ทำเนียบขาวประกาศตอบโต้จีน ด้วยการเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 245% อย่างไรก็ตาม จีนเคยระบุก่อนหน้านี้ว่าจะไม่สนใจการตอบโต้ของสหรัฐฯ อีกต่อไป เนื่องจากจีนมองว่าเป็นการกระทำที่ตลก https://thaitimes.co/posts/208453
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 266 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เล่าถึงเหตุการณ์ที่น่าสนใจใน Silicon Valley ซึ่งมีการแฮกระบบเสียงของปุ่มข้ามถนนในพื้นที่ เช่น Redwood City, Menlo Park และ Palo Alto โดยเสียงที่ถูกเปลี่ยนเป็นข้อความเสียดสีที่เลียนแบบเสียงของ Elon Musk และ Mark Zuckerberg

    เสียงที่ถูกแฮกนี้ไม่ได้ให้คำเตือนเกี่ยวกับการจราจรตามปกติ แต่กลับเป็นข้อความเสียดสี เช่น เสียงที่เลียนแบบ Zuckerberg กล่าวถึงการนำ AI เข้ามาในชีวิตประจำวันอย่างประชดประชัน หรือเสียงที่เลียนแบบ Musk ที่พูดถึงเรื่องต่างๆ ในลักษณะตลกร้าย แม้ว่าการแฮกครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบสัญญาณไฟจราจร แต่เจ้าหน้าที่ได้ปิดการใช้งานระบบเสียงเพื่อความปลอดภัย

    เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในระบบ IoT (Internet of Things) ที่อาจถูกโจมตีได้ง่าย และยังเป็นการเตือนถึงความสำคัญของการป้องกันระบบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยสาธารณะ

    ✅ เหตุการณ์แฮกปุ่มข้ามถนนใน Silicon Valley
    - ระบบเสียงของปุ่มข้ามถนนในพื้นที่ Redwood City, Menlo Park และ Palo Alto ถูกแฮก
    - เสียงที่ถูกเปลี่ยนเป็นข้อความเสียดสีที่เลียนแบบเสียงของ Elon Musk และ Mark Zuckerberg

    ✅ ผลกระทบของการแฮก
    - ระบบสัญญาณไฟจราจรไม่ได้รับผลกระทบ
    - เจ้าหน้าที่ปิดการใช้งานระบบเสียงเพื่อความปลอดภัย

    ✅ ข้อความเสียดสีที่ถูกแฮก
    - Zuckerberg: กล่าวถึงการนำ AI เข้ามาในชีวิตประจำวันอย่างประชดประชัน
    - Musk: พูดถึงเรื่องต่างๆ ในลักษณะตลกร้าย

    ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในระบบ IoT
    - ระบบ IoT ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยสาธารณะอาจถูกโจมตีได้ง่าย
    - การแฮกอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระบบสาธารณะ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/crosswalks-in-silicon-valley-hacked-to-play-satirical-messages-from-musk-and-zuckerberg-sound-a-likes
    ข่าวนี้เล่าถึงเหตุการณ์ที่น่าสนใจใน Silicon Valley ซึ่งมีการแฮกระบบเสียงของปุ่มข้ามถนนในพื้นที่ เช่น Redwood City, Menlo Park และ Palo Alto โดยเสียงที่ถูกเปลี่ยนเป็นข้อความเสียดสีที่เลียนแบบเสียงของ Elon Musk และ Mark Zuckerberg เสียงที่ถูกแฮกนี้ไม่ได้ให้คำเตือนเกี่ยวกับการจราจรตามปกติ แต่กลับเป็นข้อความเสียดสี เช่น เสียงที่เลียนแบบ Zuckerberg กล่าวถึงการนำ AI เข้ามาในชีวิตประจำวันอย่างประชดประชัน หรือเสียงที่เลียนแบบ Musk ที่พูดถึงเรื่องต่างๆ ในลักษณะตลกร้าย แม้ว่าการแฮกครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบสัญญาณไฟจราจร แต่เจ้าหน้าที่ได้ปิดการใช้งานระบบเสียงเพื่อความปลอดภัย เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในระบบ IoT (Internet of Things) ที่อาจถูกโจมตีได้ง่าย และยังเป็นการเตือนถึงความสำคัญของการป้องกันระบบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยสาธารณะ ✅ เหตุการณ์แฮกปุ่มข้ามถนนใน Silicon Valley - ระบบเสียงของปุ่มข้ามถนนในพื้นที่ Redwood City, Menlo Park และ Palo Alto ถูกแฮก - เสียงที่ถูกเปลี่ยนเป็นข้อความเสียดสีที่เลียนแบบเสียงของ Elon Musk และ Mark Zuckerberg ✅ ผลกระทบของการแฮก - ระบบสัญญาณไฟจราจรไม่ได้รับผลกระทบ - เจ้าหน้าที่ปิดการใช้งานระบบเสียงเพื่อความปลอดภัย ✅ ข้อความเสียดสีที่ถูกแฮก - Zuckerberg: กล่าวถึงการนำ AI เข้ามาในชีวิตประจำวันอย่างประชดประชัน - Musk: พูดถึงเรื่องต่างๆ ในลักษณะตลกร้าย ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในระบบ IoT - ระบบ IoT ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยสาธารณะอาจถูกโจมตีได้ง่าย - การแฮกอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระบบสาธารณะ https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/crosswalks-in-silicon-valley-hacked-to-play-satirical-messages-from-musk-and-zuckerberg-sound-a-likes
    0 Comments 0 Shares 229 Views 0 Reviews
  • อะไรเอ่ย ?
    ปัญญาเท่าจิ๋มมด น่าอดสู ช่างดูตลก
    เป็นนายกฯแค่ในนาม มีพ่อคอยแบกหาม
    ตามสั่งการ ให้สืบสานเล่ห์กลโกง
    มุมิมุมิ.. จุฟๆ
    อะไรเอ่ย ? ปัญญาเท่าจิ๋มมด น่าอดสู ช่างดูตลก เป็นนายกฯแค่ในนาม มีพ่อคอยแบกหาม ตามสั่งการ ให้สืบสานเล่ห์กลโกง มุมิมุมิ.. จุฟๆ
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 139 Views 0 Reviews
  • “ภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเป็น 125% และนี่จะเป็นการปรับครั้งสุดท้ายของเรา ไม่ว่าสหรัฐฯ จะดำเนินการอย่างไรในอนาคต จีนจะไม่ตอบสนองอีกต่อไป เพราะการตอบโต้จากสหรัฐมันกลายเป็นเรื่องตลกไปแล้ว”


    จากคำกล่าวของจีน กลุ่มคนในวอชิงตันกำลังมองว่าจีนพยายามเข้าสู่โหมดการประนีประนอม แต่ในความเป็นจริง ปักกิ่งกำลังพยายามเดินหนีจากความก้าวร้าวครั้งสุดท้ายของวอชิงตัน


    “ต่อจากนี้ แทบเป็นไปไม่ได้ที่สินค้าของสหรัฐฯ จะได้รับการยอมรับจากตลาดในจีน”

    และนี่คือความหมายของคำว่า “เราไม่ต้องการคุณอีกต่อไป” คุณไม่จำเป็นต้องขึ้นภาษีอีกต่อไป สหรัฐถูกตัดขาดจากตลาดจีนที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับต้นของโลกไปแล้วโดยพฤตินัย
    “ภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเป็น 125% และนี่จะเป็นการปรับครั้งสุดท้ายของเรา ไม่ว่าสหรัฐฯ จะดำเนินการอย่างไรในอนาคต จีนจะไม่ตอบสนองอีกต่อไป เพราะการตอบโต้จากสหรัฐมันกลายเป็นเรื่องตลกไปแล้ว” จากคำกล่าวของจีน กลุ่มคนในวอชิงตันกำลังมองว่าจีนพยายามเข้าสู่โหมดการประนีประนอม แต่ในความเป็นจริง ปักกิ่งกำลังพยายามเดินหนีจากความก้าวร้าวครั้งสุดท้ายของวอชิงตัน “ต่อจากนี้ แทบเป็นไปไม่ได้ที่สินค้าของสหรัฐฯ จะได้รับการยอมรับจากตลาดในจีน” และนี่คือความหมายของคำว่า “เราไม่ต้องการคุณอีกต่อไป” คุณไม่จำเป็นต้องขึ้นภาษีอีกต่อไป สหรัฐถูกตัดขาดจากตลาดจีนที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับต้นของโลกไปแล้วโดยพฤตินัย
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 218 Views 0 Reviews
  • กรณีข่าวสะเทือนวงการ “คะน้า ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ” นางร้ายช่อง 7 สี เปิดหน้าแฉแฟนเก่า “ฮอท ธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล” แอบอ้างคนใหญ่คนโต อ้างเบื้องสูง อ้างเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ไปไหนต้องมีรถนำขบวนนั้น

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 เม.ย. เพจ อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ ได้แฉว่าไฮโซเก๊ร่อนจดหมาย ประกาศขอยุติความสัมพันธ์กับคะน้า ผ่านทางทนายส่วนตัว ข้อความว่า...

    “ตามที่ ดร. ได้มีการขอท่านแต่งงานเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2567 พร้อมทั้งได้มอบแหวนให้ไว้กับท่าน เพื่อเป็นการยืนยันว่ามีความประสงค์จะใช้ชีวิตคู่กับท่านและดำเนินการจัดงานแต่งงานตามธรรมเนียมประเพณีของไทยต่อไป ซึ่งต่อมาท่านและ ดร. ได้มีการปรึกษาพร้อมทั้งได้มีการกำหนดวันวิวาห์ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งรายละเอียดท่านทราบเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

    แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ได้มีการกำหนดวันที่จะทำการวิวาห์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านมีการให้สัมภาษณ์ทั้งทางสื่อโทรทัศน์ รวมทั้งได้มีการให้ข่าวกับทางสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ หลายฉบับ

    สถานะปัจจุบันของท่านจากสถานะของการเป็นเจ้าสาวได้กลับมาสู่สถานะโสดแล้ว ซึ่งจากการสัมภาษณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงเจตนาของท่านได้อย่างชัดเจนว่าท่านไม่ประสงค์ที่จะเข้าทำการวิวาห์กับ ดร. ตามวันเวลาที่ได้มีการกำหนดไว้ต่อไปแล้ว และจากการกระทำดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก

    ดังนั้นด้วยหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้าในฐานะผู้รับมอบอำนาจของ ดร. จึงขอแจ้งมายังท่านเพื่อทราบว่าขอแจ้งยกเลิกหมายกำหนดการจัดงานวิวาห์กับท่านในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 พร้อมทั้งขอยุติความสัมพันธ์ต่าง ๆ กับท่านโดยทันทีที่ท่านได้รับหนังสือฉบับและขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมายต่อไปด้วย”

    โดยเพจอีซ้อยังเผยอีกว่า แหวนหมั้นเพชรก็ยังปลอม ไอ้นี่เป็นคนตลกจริงๆ

    #MGROnline #ไฮโซเก๊ #คะน้าริญญารัตน์
    กรณีข่าวสะเทือนวงการ “คะน้า ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ” นางร้ายช่อง 7 สี เปิดหน้าแฉแฟนเก่า “ฮอท ธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล” แอบอ้างคนใหญ่คนโต อ้างเบื้องสูง อ้างเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ไปไหนต้องมีรถนำขบวนนั้น • ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 เม.ย. เพจ อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ ได้แฉว่าไฮโซเก๊ร่อนจดหมาย ประกาศขอยุติความสัมพันธ์กับคะน้า ผ่านทางทนายส่วนตัว ข้อความว่า... • “ตามที่ ดร. ได้มีการขอท่านแต่งงานเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2567 พร้อมทั้งได้มอบแหวนให้ไว้กับท่าน เพื่อเป็นการยืนยันว่ามีความประสงค์จะใช้ชีวิตคู่กับท่านและดำเนินการจัดงานแต่งงานตามธรรมเนียมประเพณีของไทยต่อไป ซึ่งต่อมาท่านและ ดร. ได้มีการปรึกษาพร้อมทั้งได้มีการกำหนดวันวิวาห์ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งรายละเอียดท่านทราบเป็นอย่างดีอยู่แล้ว • แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ได้มีการกำหนดวันที่จะทำการวิวาห์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านมีการให้สัมภาษณ์ทั้งทางสื่อโทรทัศน์ รวมทั้งได้มีการให้ข่าวกับทางสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ หลายฉบับ • สถานะปัจจุบันของท่านจากสถานะของการเป็นเจ้าสาวได้กลับมาสู่สถานะโสดแล้ว ซึ่งจากการสัมภาษณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงเจตนาของท่านได้อย่างชัดเจนว่าท่านไม่ประสงค์ที่จะเข้าทำการวิวาห์กับ ดร. ตามวันเวลาที่ได้มีการกำหนดไว้ต่อไปแล้ว และจากการกระทำดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก • ดังนั้นด้วยหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้าในฐานะผู้รับมอบอำนาจของ ดร. จึงขอแจ้งมายังท่านเพื่อทราบว่าขอแจ้งยกเลิกหมายกำหนดการจัดงานวิวาห์กับท่านในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 พร้อมทั้งขอยุติความสัมพันธ์ต่าง ๆ กับท่านโดยทันทีที่ท่านได้รับหนังสือฉบับและขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมายต่อไปด้วย” • โดยเพจอีซ้อยังเผยอีกว่า แหวนหมั้นเพชรก็ยังปลอม ไอ้นี่เป็นคนตลกจริงๆ • #MGROnline #ไฮโซเก๊ #คะน้าริญญารัตน์
    0 Comments 0 Shares 422 Views 0 Reviews
  • ตลกเจ็บๆถึงตายเลยล่ะ,เดือนนีัพะนะ...เงินของคุณเป็นของปลอมอาหารของคุณเป็นของปลอมข่าวของคุณเป็นของปลอมยาของคุณคือยาพิษสงครามมีพื้นฐานมาจากคำโกหกสำหรับพวกเขา คุณคือปศุสัตว์เรากำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติผู้เล่นรายใหญ่หลายรายใช้เวลาหลายสิบปีในการเตรียมตัวสำหรับเดือนที่จะมาถึง
    ตลกเจ็บๆถึงตายเลยล่ะ,เดือนนีัพะนะ...เงินของคุณเป็นของปลอมอาหารของคุณเป็นของปลอมข่าวของคุณเป็นของปลอมยาของคุณคือยาพิษสงครามมีพื้นฐานมาจากคำโกหกสำหรับพวกเขา คุณคือปศุสัตว์เรากำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติผู้เล่นรายใหญ่หลายรายใช้เวลาหลายสิบปีในการเตรียมตัวสำหรับเดือนที่จะมาถึง
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 0 Reviews
  • ในขณะที่คอมพิวเตอร์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบิลบอร์ดหรือจอแสดงผลในพื้นที่สาธารณะ บางครั้งมันก็เผยด้าน 'ฮา' หรือ 'เฟล' ให้เราได้เห็น เช่น BSOD บนจอโฆษณาขนาดใหญ่ หรือข้อความข้อผิดพลาดที่ไม่ตั้งใจถูกฉายให้ผู้คนเห็น การพึ่งพาเทคโนโลยีทำให้เราต้องระวังและรับมือกับข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งบางครั้งมันก็เป็นเรื่องตลกและน่าจดจำในสายตาของผู้คน

    ต่อไปนี้คือ 20 เหตุการณ์ที่สร้างเสียงหัวเราะและความแปลกใจเกี่ยวกับข้อผิดพลาดของคอมพิวเตอร์ในพื้นที่สาธารณะ:

    1) จอโฆษณา Blue Screen of Death (BSOD): ป้ายโฆษณาดิจิทัลที่แสดงภาพชายถือหน้าจอ กลับมีข้อความ BSOD ที่ไม่ตั้งใจ
    2) Linux Boot Screen โผล่กลางโชว์น้ำพุ: หน้าจอ boot ของ Linux ถูกฉายเข้าไปในน้ำพุ ดูคล้ายประตูมิติ
    3) หน้าจอ EV Charging Station เผยระบบ: หน้าจอแสดง OpenVPN ในสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนี
    4) Chrome PDF Viewer ล้มเหลวระหว่างการพิมพ์: หน้าจอแสดง “Sad Puzzle Piece” บนกระดาษเปล่า
    5) Blue Screen of Death บนเรือ USS Enterprise: ระบบ Windows ในโชว์ Star Trek ล้มเหลวแสดง BSOD
    6) Sphere of Death ที่ห้าง: จอดิจิทัลทรงกลมในห้างเปลี่ยนเป็น BSOD สร้างภาพที่เหมือนงานศิลปะ
    7) Death Star เวอร์ชัน Windows: จอดิจิทัลที่แสดง Windows shutdown ถูกเปรียบเทียบเป็น Death Star จาก Star Wars
    8) ป้ายโฆษณากับข้อความหาคู่: แอดมินป้ายดิจิทัลโพสต์ข้อความส่วนตัวเพื่อหาคู่บนจอโฆษณา
    9) Crystal Ball เต็มไปด้วยข้อผิดพลาด: ลูกแก้วเวทมนตร์ในนิทรรศการ Harry Potter แสดงหน้าจอ error ของ macOS
    10) BSOD ที่ห้องประสาทสัมผัสในโรงเรียน: จอทั้งหมดในห้องแสดง BSOD พร้อมกัน
    11) Low Disk Space บนป้ายโฆษณา: Billboard แสดงข้อความเตือนพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเต็ม
    12) โรงภาพยนตร์ขนาดเล็กแต่ผิดพลาด: ข้อความเอียงผิดทิศทางที่โรงหนังจิ๋ว
    13) Windows รีบูตกลางถ่ายทอดสด: จอแสดงข้อความ Windows Update ระหว่างรายการทีวีสด
    14) ระบบคิดเงินล้มเหลวเพราะ Windows ไม่ Activate: สถานีเก็บค่าผ่านทางแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการ activate Windows
    15) พื้นหลัง Windows 7 ในห้าง: ห้างกรุงเทพฯ แสดง Desktop Background แทนโฆษณา
    16) Error Message ที่สถานีรถไฟ: หน้าจอแสดงข้อความ error แนะนำให้รีบูต
    17) Linux เตือนเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง: ระบบบริการสถานีรถมีข้อความ Linux command
    18) เครื่องชั่งน้ำหนักล้มเหลวในซุปเปอร์มาร์เก็ต: ระบบ Linux แสดงข้อผิดพลาดที่เครื่องชั่ง
    19) หน้าจอ Ubuntu CLI ในพื้นที่สาธารณะ: จอ CLI ของ Ubuntu แทนโฆษณา
    20) QuickTime Update ขัดจังหวะแสงไฟคริสต์มาส: ระบบ QuickTime เกิด error ระหว่างโชว์ไฟคริสต์มาส

    https://www.neowin.net/news/20-times-computers-embarrassed-themselves-with-public-bsods-and-goof-ups/
    ในขณะที่คอมพิวเตอร์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบิลบอร์ดหรือจอแสดงผลในพื้นที่สาธารณะ บางครั้งมันก็เผยด้าน 'ฮา' หรือ 'เฟล' ให้เราได้เห็น เช่น BSOD บนจอโฆษณาขนาดใหญ่ หรือข้อความข้อผิดพลาดที่ไม่ตั้งใจถูกฉายให้ผู้คนเห็น การพึ่งพาเทคโนโลยีทำให้เราต้องระวังและรับมือกับข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งบางครั้งมันก็เป็นเรื่องตลกและน่าจดจำในสายตาของผู้คน ต่อไปนี้คือ 20 เหตุการณ์ที่สร้างเสียงหัวเราะและความแปลกใจเกี่ยวกับข้อผิดพลาดของคอมพิวเตอร์ในพื้นที่สาธารณะ: 1) จอโฆษณา Blue Screen of Death (BSOD): ป้ายโฆษณาดิจิทัลที่แสดงภาพชายถือหน้าจอ กลับมีข้อความ BSOD ที่ไม่ตั้งใจ 2) Linux Boot Screen โผล่กลางโชว์น้ำพุ: หน้าจอ boot ของ Linux ถูกฉายเข้าไปในน้ำพุ ดูคล้ายประตูมิติ 3) หน้าจอ EV Charging Station เผยระบบ: หน้าจอแสดง OpenVPN ในสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนี 4) Chrome PDF Viewer ล้มเหลวระหว่างการพิมพ์: หน้าจอแสดง “Sad Puzzle Piece” บนกระดาษเปล่า 5) Blue Screen of Death บนเรือ USS Enterprise: ระบบ Windows ในโชว์ Star Trek ล้มเหลวแสดง BSOD 6) Sphere of Death ที่ห้าง: จอดิจิทัลทรงกลมในห้างเปลี่ยนเป็น BSOD สร้างภาพที่เหมือนงานศิลปะ 7) Death Star เวอร์ชัน Windows: จอดิจิทัลที่แสดง Windows shutdown ถูกเปรียบเทียบเป็น Death Star จาก Star Wars 8) ป้ายโฆษณากับข้อความหาคู่: แอดมินป้ายดิจิทัลโพสต์ข้อความส่วนตัวเพื่อหาคู่บนจอโฆษณา 9) Crystal Ball เต็มไปด้วยข้อผิดพลาด: ลูกแก้วเวทมนตร์ในนิทรรศการ Harry Potter แสดงหน้าจอ error ของ macOS 10) BSOD ที่ห้องประสาทสัมผัสในโรงเรียน: จอทั้งหมดในห้องแสดง BSOD พร้อมกัน 11) Low Disk Space บนป้ายโฆษณา: Billboard แสดงข้อความเตือนพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเต็ม 12) โรงภาพยนตร์ขนาดเล็กแต่ผิดพลาด: ข้อความเอียงผิดทิศทางที่โรงหนังจิ๋ว 13) Windows รีบูตกลางถ่ายทอดสด: จอแสดงข้อความ Windows Update ระหว่างรายการทีวีสด 14) ระบบคิดเงินล้มเหลวเพราะ Windows ไม่ Activate: สถานีเก็บค่าผ่านทางแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการ activate Windows 15) พื้นหลัง Windows 7 ในห้าง: ห้างกรุงเทพฯ แสดง Desktop Background แทนโฆษณา 16) Error Message ที่สถานีรถไฟ: หน้าจอแสดงข้อความ error แนะนำให้รีบูต 17) Linux เตือนเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง: ระบบบริการสถานีรถมีข้อความ Linux command 18) เครื่องชั่งน้ำหนักล้มเหลวในซุปเปอร์มาร์เก็ต: ระบบ Linux แสดงข้อผิดพลาดที่เครื่องชั่ง 19) หน้าจอ Ubuntu CLI ในพื้นที่สาธารณะ: จอ CLI ของ Ubuntu แทนโฆษณา 20) QuickTime Update ขัดจังหวะแสงไฟคริสต์มาส: ระบบ QuickTime เกิด error ระหว่างโชว์ไฟคริสต์มาส https://www.neowin.net/news/20-times-computers-embarrassed-themselves-with-public-bsods-and-goof-ups/
    WWW.NEOWIN.NET
    20 times computers embarrassed themselves with public BSODs and goof-ups
    We have seen them time and again: BSODs, error screens, and other embarrassing stuff computers have done in public. Here are 20 of them.
    0 Comments 0 Shares 491 Views 0 Reviews
  • ** โฉมงามอวี๋ บุปผาวสันต์ จันทราสารทฤดู **

    สวัสดีค่ะ ก่อนอื่น Storyฯ ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมาและหวังเพื่อนเพจทั้งหลายแคล้วคลาดปลอดภัย

    สัปดาห์ที่แล้วคุยถึงสีแดงจากเรื่อง <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ> มีการกล่าวถึงบทกวีที่มีชื่อว่า ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ (虞美人) หรือ ‘โฉมงามอวี๋’ Storyฯ เคยเขียนถึงบทกวีนี้เมื่อนานมากแล้วแต่บทความถูกลบไป (อาจด้วยมีลิ้งค์ที่ต้องห้าม) วันนี้เลยแก้ไขแล้วเอามาลงใหม่ให้อ่านกัน

    ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ เป็นบทกวีเลื่องชื่อของจีน และถูกกล่าวถึงในละครเรื่อง <บุปผาวสันต์ จันทราสารทฤดู> โดยชื่อของนางเอกพระเอก ‘ชุนฮวา’ และ ‘ชิวเยวี่ย’ มาจากวลีหนึ่งในบทกวีนี้ ซึ่งก็คือ ‘ชุนฮวาชิวเยวี่ยเหอสือเหลี่ยว หว่างซื่อจือตัวส่าว?’ (春花秋月何时了,往事知多少?) แปลตรงตัวว่า ‘บุปผาวสันต์จันทราสารทฤดูสิ้นสุดไปเมื่อใด มีเรื่องราวมากน้อยเท่าไรให้รำลึกถึง?’ โดยในซีรีส์เรื่องนี้มีการกล่าวถึงวรรคแรกของวลีนี้อยู่บ่อยครั้ง

    ฟังดูเหงาๆ โรแมนติก เป็นวลีฮอตฮิตยามชมจันทร์ ละครเรื่องนี้ก็เป็นแนวรักตลก จะมีเพื่อนเพจกี่ท่านที่ทราบถึงความเจ็บปวดที่แฝงไว้อยู่ในบทกวีนี้?

    บทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ เป็นบทประพันธ์ขององค์หลี่อวี้ (ค.ศ. 937-978) ฮ่องเต้องค์สุดท้ายของราชวงศ์ถังปลายในช่วงยุคสมัยห้าราชวงศ์สิบแคว้น (คือคนเดียวกับที่สั่งให้จิตรกรไปวาดภาพงานเลี้ยงราตรีของหานซีจ่ายที่ Storyฯ เคยเล่าถึง)

    พระองค์ทรงมีชื่อเสียงในฐานะกวีที่มีผลงานน่ายกย่องหลายชิ้น แต่ก็ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่อ่อนแอที่สุดของจีน ภายหลังจากอาณาจักรถังปลายล่มสลาย องค์หลี่อวี้ถูกจับกุมเป็นเชลยศึกและกักบริเวณอยู่ที่เมืองตงจิง (เมืองหลวงของราชวงศ์ซ่ง คือเมืองไคเฟิงปัจจุบัน) โดยองค์เจ้าควงอิ้งปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซ่ง หลี่อวี้ได้รับการอวยบรรดาศักดิ์ให้ใหม่เป็นระดับโหว นามว่า ‘เหวยมิ่งโหว’ (ก็คือถูกถอดยศกษัตริย์เนื่องจากชาติล่มสลายไปแล้ว) เขาถูกกักบริเวณอยู่ด้วยกันกับมเหสีองค์ที่สองผู้ซึ่งมาจากสกุลโจวเช่นเดียวกับพระมเหสีองค์แรก นามจริงไม่ปรากฏ เรียกกันในประวัติศาสตร์ว่า ‘เสี่ยวโจวโฮ่ว’ (มเหสีสกุลโจวเล็ก) ว่ากันว่าเขารักนางมาก

    ต่อมาเข้าสู่รัชสมัยขององค์เจ้ากวงอี้ (ฮ่องเต้องค์ที่สองของราชวงศ์ซ่ง) หลี่อวี้ได้ประพันธ์บทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ นี้ขึ้น ความหมายของบทกวีแปลได้ประมาณว่า: วันเวลาที่สวยงามสิ้นสุดไปแล้วอย่างรวดเร็ว เมื่อคืนนี้ลมบูรพาโชยมาอีกครา ภายใต้ดวงจันทร์ที่ทอแสงสุกสกาว จะทำอย่างไรให้ลืมความทุกข์ของการที่บ้านเมืองล่มสลาย? สถานที่ที่งดงามคงยังอยู่ แต่คนที่อยู่ในห้วงคะนึงหาคงล้วนแก่ชรากันไปตามเวลาแล้ว หากจะถามว่าใจข้าทุกข์เพียงใด... คงเปรียบได้ดั่งคลื่นนทีที่ไหล่รินสู่ทิศบูรพา

    จะเห็นได้ว่า ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ เป็นบทกวีที่บรรยายถึงความทุกข์ขมขื่นในยามที่มองจันทร์ แต่ถูกองค์เจ้ากวงอี้ตีความหมายว่าหลี่อวี้คิดไม่ซื่อกับราชสำนักซ่ง หวังจะพลิกฟื้นราชวงศ์เดิมขึ้นใหม่ จึงพระราชทานยาพิษให้หลี่อวี้ฆ่าตัวตาย

    แต่มีเรื่องเล่าขานกันว่านี่เป็นเพียงข้ออ้าง ว่ากันว่าองค์เจ้ากวงอี้ทรงรอจังหวะหาข้ออ้างสังหารหลี่อวี้อยู่แล้วเพราะทรงหลงไหลในชายาเสี่ยวโจวของหลี่อวี้ผู้ซึ่งงามพิลาส ถึงกับทรงล่อลวงนางเข้าวังแล้วขืนใจและหน่วงเหนี่ยวกักขังไว้ในวัง จากนั้นมีการบังคับขืนใจนางอีกหลายครั้งครา มีการเล่าขานว่าทรงถึงขนาดให้จิตรกรมาวาดภาพขณะกำลังย่ำยีนางเพื่อส่งให้หลี่อวี้ดูเป็นการขยี้ใจ จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจของบทกวีนี้ขึ้น... ข้อเท็จจริงใช่อย่างนี้หรือไม่? ไม่มีใครยืนยันได้ มีการกล่าวไว้เพียงว่าบทกวีอวี๋เหม่ยเหรินนี้ทำให้หลี่อวี้ถูกพระราชทานยาพิษตาย แต่ก็มีเอกสารเรื่องเล่าเกร็ดประวัติศาสตร์ในสมัยหมิงที่กล่าวถึงภาพวาดที่องค์เจ้ากวงอี้ได้ทรงให้คนวาดขึ้นนี้

    นอกจากชื่อบทกวีแล้ว ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ ยังเป็นชื่อเรียกดอกป๊อปปี้ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่มีความหมายถึงความทุกข์และการตายจากพลัดพรากมาแต่จีนโบราณอีกด้วย

    วันนี้จบกันแบบสั้นๆ เศร้าๆ อย่างนี้แล

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://image.tmdb.org/t/p/original/enj2s0CNvp2oaf84j87H8Vsdbr0.jpg
    https://bowuguan.bucm.edu.cn/kpzl/zyyzs/57214.htm
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.lllst.com/guoxuejingdian/scmj/271349.html
    https://baike.baidu.com/item/虞美人·春花秋月何时了/10926799
    https://www.jianshu.com/p/8ff00c387fbe
    https://baike.sogou.com/v6849891.htm
    https://www.guwenxuexi.com/classical/24854.html
    https://k.sina.cn/article_1659337544_62e77b48001003bvc.html

    #บุปผาวสันต์ #จันทราสารทฤดู #ชุนฮวาชิวเยวี่ย #อวี๋เหม่ยเหริน #หลี่อวี
    ** โฉมงามอวี๋ บุปผาวสันต์ จันทราสารทฤดู ** สวัสดีค่ะ ก่อนอื่น Storyฯ ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมาและหวังเพื่อนเพจทั้งหลายแคล้วคลาดปลอดภัย สัปดาห์ที่แล้วคุยถึงสีแดงจากเรื่อง <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ> มีการกล่าวถึงบทกวีที่มีชื่อว่า ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ (虞美人) หรือ ‘โฉมงามอวี๋’ Storyฯ เคยเขียนถึงบทกวีนี้เมื่อนานมากแล้วแต่บทความถูกลบไป (อาจด้วยมีลิ้งค์ที่ต้องห้าม) วันนี้เลยแก้ไขแล้วเอามาลงใหม่ให้อ่านกัน ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ เป็นบทกวีเลื่องชื่อของจีน และถูกกล่าวถึงในละครเรื่อง <บุปผาวสันต์ จันทราสารทฤดู> โดยชื่อของนางเอกพระเอก ‘ชุนฮวา’ และ ‘ชิวเยวี่ย’ มาจากวลีหนึ่งในบทกวีนี้ ซึ่งก็คือ ‘ชุนฮวาชิวเยวี่ยเหอสือเหลี่ยว หว่างซื่อจือตัวส่าว?’ (春花秋月何时了,往事知多少?) แปลตรงตัวว่า ‘บุปผาวสันต์จันทราสารทฤดูสิ้นสุดไปเมื่อใด มีเรื่องราวมากน้อยเท่าไรให้รำลึกถึง?’ โดยในซีรีส์เรื่องนี้มีการกล่าวถึงวรรคแรกของวลีนี้อยู่บ่อยครั้ง ฟังดูเหงาๆ โรแมนติก เป็นวลีฮอตฮิตยามชมจันทร์ ละครเรื่องนี้ก็เป็นแนวรักตลก จะมีเพื่อนเพจกี่ท่านที่ทราบถึงความเจ็บปวดที่แฝงไว้อยู่ในบทกวีนี้? บทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ เป็นบทประพันธ์ขององค์หลี่อวี้ (ค.ศ. 937-978) ฮ่องเต้องค์สุดท้ายของราชวงศ์ถังปลายในช่วงยุคสมัยห้าราชวงศ์สิบแคว้น (คือคนเดียวกับที่สั่งให้จิตรกรไปวาดภาพงานเลี้ยงราตรีของหานซีจ่ายที่ Storyฯ เคยเล่าถึง) พระองค์ทรงมีชื่อเสียงในฐานะกวีที่มีผลงานน่ายกย่องหลายชิ้น แต่ก็ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่อ่อนแอที่สุดของจีน ภายหลังจากอาณาจักรถังปลายล่มสลาย องค์หลี่อวี้ถูกจับกุมเป็นเชลยศึกและกักบริเวณอยู่ที่เมืองตงจิง (เมืองหลวงของราชวงศ์ซ่ง คือเมืองไคเฟิงปัจจุบัน) โดยองค์เจ้าควงอิ้งปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซ่ง หลี่อวี้ได้รับการอวยบรรดาศักดิ์ให้ใหม่เป็นระดับโหว นามว่า ‘เหวยมิ่งโหว’ (ก็คือถูกถอดยศกษัตริย์เนื่องจากชาติล่มสลายไปแล้ว) เขาถูกกักบริเวณอยู่ด้วยกันกับมเหสีองค์ที่สองผู้ซึ่งมาจากสกุลโจวเช่นเดียวกับพระมเหสีองค์แรก นามจริงไม่ปรากฏ เรียกกันในประวัติศาสตร์ว่า ‘เสี่ยวโจวโฮ่ว’ (มเหสีสกุลโจวเล็ก) ว่ากันว่าเขารักนางมาก ต่อมาเข้าสู่รัชสมัยขององค์เจ้ากวงอี้ (ฮ่องเต้องค์ที่สองของราชวงศ์ซ่ง) หลี่อวี้ได้ประพันธ์บทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ นี้ขึ้น ความหมายของบทกวีแปลได้ประมาณว่า: วันเวลาที่สวยงามสิ้นสุดไปแล้วอย่างรวดเร็ว เมื่อคืนนี้ลมบูรพาโชยมาอีกครา ภายใต้ดวงจันทร์ที่ทอแสงสุกสกาว จะทำอย่างไรให้ลืมความทุกข์ของการที่บ้านเมืองล่มสลาย? สถานที่ที่งดงามคงยังอยู่ แต่คนที่อยู่ในห้วงคะนึงหาคงล้วนแก่ชรากันไปตามเวลาแล้ว หากจะถามว่าใจข้าทุกข์เพียงใด... คงเปรียบได้ดั่งคลื่นนทีที่ไหล่รินสู่ทิศบูรพา จะเห็นได้ว่า ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ เป็นบทกวีที่บรรยายถึงความทุกข์ขมขื่นในยามที่มองจันทร์ แต่ถูกองค์เจ้ากวงอี้ตีความหมายว่าหลี่อวี้คิดไม่ซื่อกับราชสำนักซ่ง หวังจะพลิกฟื้นราชวงศ์เดิมขึ้นใหม่ จึงพระราชทานยาพิษให้หลี่อวี้ฆ่าตัวตาย แต่มีเรื่องเล่าขานกันว่านี่เป็นเพียงข้ออ้าง ว่ากันว่าองค์เจ้ากวงอี้ทรงรอจังหวะหาข้ออ้างสังหารหลี่อวี้อยู่แล้วเพราะทรงหลงไหลในชายาเสี่ยวโจวของหลี่อวี้ผู้ซึ่งงามพิลาส ถึงกับทรงล่อลวงนางเข้าวังแล้วขืนใจและหน่วงเหนี่ยวกักขังไว้ในวัง จากนั้นมีการบังคับขืนใจนางอีกหลายครั้งครา มีการเล่าขานว่าทรงถึงขนาดให้จิตรกรมาวาดภาพขณะกำลังย่ำยีนางเพื่อส่งให้หลี่อวี้ดูเป็นการขยี้ใจ จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจของบทกวีนี้ขึ้น... ข้อเท็จจริงใช่อย่างนี้หรือไม่? ไม่มีใครยืนยันได้ มีการกล่าวไว้เพียงว่าบทกวีอวี๋เหม่ยเหรินนี้ทำให้หลี่อวี้ถูกพระราชทานยาพิษตาย แต่ก็มีเอกสารเรื่องเล่าเกร็ดประวัติศาสตร์ในสมัยหมิงที่กล่าวถึงภาพวาดที่องค์เจ้ากวงอี้ได้ทรงให้คนวาดขึ้นนี้ นอกจากชื่อบทกวีแล้ว ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ ยังเป็นชื่อเรียกดอกป๊อปปี้ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่มีความหมายถึงความทุกข์และการตายจากพลัดพรากมาแต่จีนโบราณอีกด้วย วันนี้จบกันแบบสั้นๆ เศร้าๆ อย่างนี้แล (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://image.tmdb.org/t/p/original/enj2s0CNvp2oaf84j87H8Vsdbr0.jpg https://bowuguan.bucm.edu.cn/kpzl/zyyzs/57214.htm Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.lllst.com/guoxuejingdian/scmj/271349.html https://baike.baidu.com/item/虞美人·春花秋月何时了/10926799 https://www.jianshu.com/p/8ff00c387fbe https://baike.sogou.com/v6849891.htm https://www.guwenxuexi.com/classical/24854.html https://k.sina.cn/article_1659337544_62e77b48001003bvc.html #บุปผาวสันต์ #จันทราสารทฤดู #ชุนฮวาชิวเยวี่ย #อวี๋เหม่ยเหริน #หลี่อวี
    0 Comments 0 Shares 781 Views 0 Reviews
  • [พากย์ไทย] ในวันแต่งงาน👰🏻 จู่ๆ รักแรกของเขาก็โผล่มา ฉันกลายเป็นเหมือนตัวตลกโดนย่ำยี💔#ละครสั้น
    [พากย์ไทย] ในวันแต่งงาน👰🏻 จู่ๆ รักแรกของเขาก็โผล่มา ฉันกลายเป็นเหมือนตัวตลกโดนย่ำยี💔#ละครสั้น
    0 Comments 0 Shares 206 Views 4 0 Reviews
More Results