• กรณีข่าวสะเทือนวงการ “คะน้า ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ” นางร้ายช่อง 7 สี เปิดหน้าแฉแฟนเก่า “ฮอท ธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล” แอบอ้างคนใหญ่คนโต อ้างเบื้องสูง อ้างเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ไปไหนต้องมีรถนำขบวนนั้น

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 เม.ย. เพจ อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ ได้แฉว่าไฮโซเก๊ร่อนจดหมาย ประกาศขอยุติความสัมพันธ์กับคะน้า ผ่านทางทนายส่วนตัว ข้อความว่า...

    “ตามที่ ดร. ได้มีการขอท่านแต่งงานเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2567 พร้อมทั้งได้มอบแหวนให้ไว้กับท่าน เพื่อเป็นการยืนยันว่ามีความประสงค์จะใช้ชีวิตคู่กับท่านและดำเนินการจัดงานแต่งงานตามธรรมเนียมประเพณีของไทยต่อไป ซึ่งต่อมาท่านและ ดร. ได้มีการปรึกษาพร้อมทั้งได้มีการกำหนดวันวิวาห์ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งรายละเอียดท่านทราบเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

    แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ได้มีการกำหนดวันที่จะทำการวิวาห์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านมีการให้สัมภาษณ์ทั้งทางสื่อโทรทัศน์ รวมทั้งได้มีการให้ข่าวกับทางสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ หลายฉบับ

    สถานะปัจจุบันของท่านจากสถานะของการเป็นเจ้าสาวได้กลับมาสู่สถานะโสดแล้ว ซึ่งจากการสัมภาษณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงเจตนาของท่านได้อย่างชัดเจนว่าท่านไม่ประสงค์ที่จะเข้าทำการวิวาห์กับ ดร. ตามวันเวลาที่ได้มีการกำหนดไว้ต่อไปแล้ว และจากการกระทำดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก

    ดังนั้นด้วยหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้าในฐานะผู้รับมอบอำนาจของ ดร. จึงขอแจ้งมายังท่านเพื่อทราบว่าขอแจ้งยกเลิกหมายกำหนดการจัดงานวิวาห์กับท่านในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 พร้อมทั้งขอยุติความสัมพันธ์ต่าง ๆ กับท่านโดยทันทีที่ท่านได้รับหนังสือฉบับและขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมายต่อไปด้วย”

    โดยเพจอีซ้อยังเผยอีกว่า แหวนหมั้นเพชรก็ยังปลอม ไอ้นี่เป็นคนตลกจริงๆ

    #MGROnline #ไฮโซเก๊ #คะน้าริญญารัตน์
    กรณีข่าวสะเทือนวงการ “คะน้า ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ” นางร้ายช่อง 7 สี เปิดหน้าแฉแฟนเก่า “ฮอท ธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล” แอบอ้างคนใหญ่คนโต อ้างเบื้องสูง อ้างเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ไปไหนต้องมีรถนำขบวนนั้น • ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 เม.ย. เพจ อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ ได้แฉว่าไฮโซเก๊ร่อนจดหมาย ประกาศขอยุติความสัมพันธ์กับคะน้า ผ่านทางทนายส่วนตัว ข้อความว่า... • “ตามที่ ดร. ได้มีการขอท่านแต่งงานเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2567 พร้อมทั้งได้มอบแหวนให้ไว้กับท่าน เพื่อเป็นการยืนยันว่ามีความประสงค์จะใช้ชีวิตคู่กับท่านและดำเนินการจัดงานแต่งงานตามธรรมเนียมประเพณีของไทยต่อไป ซึ่งต่อมาท่านและ ดร. ได้มีการปรึกษาพร้อมทั้งได้มีการกำหนดวันวิวาห์ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งรายละเอียดท่านทราบเป็นอย่างดีอยู่แล้ว • แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ได้มีการกำหนดวันที่จะทำการวิวาห์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านมีการให้สัมภาษณ์ทั้งทางสื่อโทรทัศน์ รวมทั้งได้มีการให้ข่าวกับทางสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ หลายฉบับ • สถานะปัจจุบันของท่านจากสถานะของการเป็นเจ้าสาวได้กลับมาสู่สถานะโสดแล้ว ซึ่งจากการสัมภาษณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงเจตนาของท่านได้อย่างชัดเจนว่าท่านไม่ประสงค์ที่จะเข้าทำการวิวาห์กับ ดร. ตามวันเวลาที่ได้มีการกำหนดไว้ต่อไปแล้ว และจากการกระทำดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก • ดังนั้นด้วยหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้าในฐานะผู้รับมอบอำนาจของ ดร. จึงขอแจ้งมายังท่านเพื่อทราบว่าขอแจ้งยกเลิกหมายกำหนดการจัดงานวิวาห์กับท่านในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 พร้อมทั้งขอยุติความสัมพันธ์ต่าง ๆ กับท่านโดยทันทีที่ท่านได้รับหนังสือฉบับและขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมายต่อไปด้วย” • โดยเพจอีซ้อยังเผยอีกว่า แหวนหมั้นเพชรก็ยังปลอม ไอ้นี่เป็นคนตลกจริงๆ • #MGROnline #ไฮโซเก๊ #คะน้าริญญารัตน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตลกเจ็บๆถึงตายเลยล่ะ,เดือนนีัพะนะ...เงินของคุณเป็นของปลอมอาหารของคุณเป็นของปลอมข่าวของคุณเป็นของปลอมยาของคุณคือยาพิษสงครามมีพื้นฐานมาจากคำโกหกสำหรับพวกเขา คุณคือปศุสัตว์เรากำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติผู้เล่นรายใหญ่หลายรายใช้เวลาหลายสิบปีในการเตรียมตัวสำหรับเดือนที่จะมาถึง
    ตลกเจ็บๆถึงตายเลยล่ะ,เดือนนีัพะนะ...เงินของคุณเป็นของปลอมอาหารของคุณเป็นของปลอมข่าวของคุณเป็นของปลอมยาของคุณคือยาพิษสงครามมีพื้นฐานมาจากคำโกหกสำหรับพวกเขา คุณคือปศุสัตว์เรากำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติผู้เล่นรายใหญ่หลายรายใช้เวลาหลายสิบปีในการเตรียมตัวสำหรับเดือนที่จะมาถึง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ในขณะที่คอมพิวเตอร์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบิลบอร์ดหรือจอแสดงผลในพื้นที่สาธารณะ บางครั้งมันก็เผยด้าน 'ฮา' หรือ 'เฟล' ให้เราได้เห็น เช่น BSOD บนจอโฆษณาขนาดใหญ่ หรือข้อความข้อผิดพลาดที่ไม่ตั้งใจถูกฉายให้ผู้คนเห็น การพึ่งพาเทคโนโลยีทำให้เราต้องระวังและรับมือกับข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งบางครั้งมันก็เป็นเรื่องตลกและน่าจดจำในสายตาของผู้คน

    ต่อไปนี้คือ 20 เหตุการณ์ที่สร้างเสียงหัวเราะและความแปลกใจเกี่ยวกับข้อผิดพลาดของคอมพิวเตอร์ในพื้นที่สาธารณะ:

    1) จอโฆษณา Blue Screen of Death (BSOD): ป้ายโฆษณาดิจิทัลที่แสดงภาพชายถือหน้าจอ กลับมีข้อความ BSOD ที่ไม่ตั้งใจ
    2) Linux Boot Screen โผล่กลางโชว์น้ำพุ: หน้าจอ boot ของ Linux ถูกฉายเข้าไปในน้ำพุ ดูคล้ายประตูมิติ
    3) หน้าจอ EV Charging Station เผยระบบ: หน้าจอแสดง OpenVPN ในสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนี
    4) Chrome PDF Viewer ล้มเหลวระหว่างการพิมพ์: หน้าจอแสดง “Sad Puzzle Piece” บนกระดาษเปล่า
    5) Blue Screen of Death บนเรือ USS Enterprise: ระบบ Windows ในโชว์ Star Trek ล้มเหลวแสดง BSOD
    6) Sphere of Death ที่ห้าง: จอดิจิทัลทรงกลมในห้างเปลี่ยนเป็น BSOD สร้างภาพที่เหมือนงานศิลปะ
    7) Death Star เวอร์ชัน Windows: จอดิจิทัลที่แสดง Windows shutdown ถูกเปรียบเทียบเป็น Death Star จาก Star Wars
    8) ป้ายโฆษณากับข้อความหาคู่: แอดมินป้ายดิจิทัลโพสต์ข้อความส่วนตัวเพื่อหาคู่บนจอโฆษณา
    9) Crystal Ball เต็มไปด้วยข้อผิดพลาด: ลูกแก้วเวทมนตร์ในนิทรรศการ Harry Potter แสดงหน้าจอ error ของ macOS
    10) BSOD ที่ห้องประสาทสัมผัสในโรงเรียน: จอทั้งหมดในห้องแสดง BSOD พร้อมกัน
    11) Low Disk Space บนป้ายโฆษณา: Billboard แสดงข้อความเตือนพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเต็ม
    12) โรงภาพยนตร์ขนาดเล็กแต่ผิดพลาด: ข้อความเอียงผิดทิศทางที่โรงหนังจิ๋ว
    13) Windows รีบูตกลางถ่ายทอดสด: จอแสดงข้อความ Windows Update ระหว่างรายการทีวีสด
    14) ระบบคิดเงินล้มเหลวเพราะ Windows ไม่ Activate: สถานีเก็บค่าผ่านทางแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการ activate Windows
    15) พื้นหลัง Windows 7 ในห้าง: ห้างกรุงเทพฯ แสดง Desktop Background แทนโฆษณา
    16) Error Message ที่สถานีรถไฟ: หน้าจอแสดงข้อความ error แนะนำให้รีบูต
    17) Linux เตือนเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง: ระบบบริการสถานีรถมีข้อความ Linux command
    18) เครื่องชั่งน้ำหนักล้มเหลวในซุปเปอร์มาร์เก็ต: ระบบ Linux แสดงข้อผิดพลาดที่เครื่องชั่ง
    19) หน้าจอ Ubuntu CLI ในพื้นที่สาธารณะ: จอ CLI ของ Ubuntu แทนโฆษณา
    20) QuickTime Update ขัดจังหวะแสงไฟคริสต์มาส: ระบบ QuickTime เกิด error ระหว่างโชว์ไฟคริสต์มาส

    https://www.neowin.net/news/20-times-computers-embarrassed-themselves-with-public-bsods-and-goof-ups/
    ในขณะที่คอมพิวเตอร์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบิลบอร์ดหรือจอแสดงผลในพื้นที่สาธารณะ บางครั้งมันก็เผยด้าน 'ฮา' หรือ 'เฟล' ให้เราได้เห็น เช่น BSOD บนจอโฆษณาขนาดใหญ่ หรือข้อความข้อผิดพลาดที่ไม่ตั้งใจถูกฉายให้ผู้คนเห็น การพึ่งพาเทคโนโลยีทำให้เราต้องระวังและรับมือกับข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งบางครั้งมันก็เป็นเรื่องตลกและน่าจดจำในสายตาของผู้คน ต่อไปนี้คือ 20 เหตุการณ์ที่สร้างเสียงหัวเราะและความแปลกใจเกี่ยวกับข้อผิดพลาดของคอมพิวเตอร์ในพื้นที่สาธารณะ: 1) จอโฆษณา Blue Screen of Death (BSOD): ป้ายโฆษณาดิจิทัลที่แสดงภาพชายถือหน้าจอ กลับมีข้อความ BSOD ที่ไม่ตั้งใจ 2) Linux Boot Screen โผล่กลางโชว์น้ำพุ: หน้าจอ boot ของ Linux ถูกฉายเข้าไปในน้ำพุ ดูคล้ายประตูมิติ 3) หน้าจอ EV Charging Station เผยระบบ: หน้าจอแสดง OpenVPN ในสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนี 4) Chrome PDF Viewer ล้มเหลวระหว่างการพิมพ์: หน้าจอแสดง “Sad Puzzle Piece” บนกระดาษเปล่า 5) Blue Screen of Death บนเรือ USS Enterprise: ระบบ Windows ในโชว์ Star Trek ล้มเหลวแสดง BSOD 6) Sphere of Death ที่ห้าง: จอดิจิทัลทรงกลมในห้างเปลี่ยนเป็น BSOD สร้างภาพที่เหมือนงานศิลปะ 7) Death Star เวอร์ชัน Windows: จอดิจิทัลที่แสดง Windows shutdown ถูกเปรียบเทียบเป็น Death Star จาก Star Wars 8) ป้ายโฆษณากับข้อความหาคู่: แอดมินป้ายดิจิทัลโพสต์ข้อความส่วนตัวเพื่อหาคู่บนจอโฆษณา 9) Crystal Ball เต็มไปด้วยข้อผิดพลาด: ลูกแก้วเวทมนตร์ในนิทรรศการ Harry Potter แสดงหน้าจอ error ของ macOS 10) BSOD ที่ห้องประสาทสัมผัสในโรงเรียน: จอทั้งหมดในห้องแสดง BSOD พร้อมกัน 11) Low Disk Space บนป้ายโฆษณา: Billboard แสดงข้อความเตือนพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเต็ม 12) โรงภาพยนตร์ขนาดเล็กแต่ผิดพลาด: ข้อความเอียงผิดทิศทางที่โรงหนังจิ๋ว 13) Windows รีบูตกลางถ่ายทอดสด: จอแสดงข้อความ Windows Update ระหว่างรายการทีวีสด 14) ระบบคิดเงินล้มเหลวเพราะ Windows ไม่ Activate: สถานีเก็บค่าผ่านทางแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการ activate Windows 15) พื้นหลัง Windows 7 ในห้าง: ห้างกรุงเทพฯ แสดง Desktop Background แทนโฆษณา 16) Error Message ที่สถานีรถไฟ: หน้าจอแสดงข้อความ error แนะนำให้รีบูต 17) Linux เตือนเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง: ระบบบริการสถานีรถมีข้อความ Linux command 18) เครื่องชั่งน้ำหนักล้มเหลวในซุปเปอร์มาร์เก็ต: ระบบ Linux แสดงข้อผิดพลาดที่เครื่องชั่ง 19) หน้าจอ Ubuntu CLI ในพื้นที่สาธารณะ: จอ CLI ของ Ubuntu แทนโฆษณา 20) QuickTime Update ขัดจังหวะแสงไฟคริสต์มาส: ระบบ QuickTime เกิด error ระหว่างโชว์ไฟคริสต์มาส https://www.neowin.net/news/20-times-computers-embarrassed-themselves-with-public-bsods-and-goof-ups/
    WWW.NEOWIN.NET
    20 times computers embarrassed themselves with public BSODs and goof-ups
    We have seen them time and again: BSODs, error screens, and other embarrassing stuff computers have done in public. Here are 20 of them.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • ** โฉมงามอวี๋ บุปผาวสันต์ จันทราสารทฤดู **

    สวัสดีค่ะ ก่อนอื่น Storyฯ ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมาและหวังเพื่อนเพจทั้งหลายแคล้วคลาดปลอดภัย

    สัปดาห์ที่แล้วคุยถึงสีแดงจากเรื่อง <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ> มีการกล่าวถึงบทกวีที่มีชื่อว่า ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ (虞美人) หรือ ‘โฉมงามอวี๋’ Storyฯ เคยเขียนถึงบทกวีนี้เมื่อนานมากแล้วแต่บทความถูกลบไป (อาจด้วยมีลิ้งค์ที่ต้องห้าม) วันนี้เลยแก้ไขแล้วเอามาลงใหม่ให้อ่านกัน

    ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ เป็นบทกวีเลื่องชื่อของจีน และถูกกล่าวถึงในละครเรื่อง <บุปผาวสันต์ จันทราสารทฤดู> โดยชื่อของนางเอกพระเอก ‘ชุนฮวา’ และ ‘ชิวเยวี่ย’ มาจากวลีหนึ่งในบทกวีนี้ ซึ่งก็คือ ‘ชุนฮวาชิวเยวี่ยเหอสือเหลี่ยว หว่างซื่อจือตัวส่าว?’ (春花秋月何时了,往事知多少?) แปลตรงตัวว่า ‘บุปผาวสันต์จันทราสารทฤดูสิ้นสุดไปเมื่อใด มีเรื่องราวมากน้อยเท่าไรให้รำลึกถึง?’ โดยในซีรีส์เรื่องนี้มีการกล่าวถึงวรรคแรกของวลีนี้อยู่บ่อยครั้ง

    ฟังดูเหงาๆ โรแมนติก เป็นวลีฮอตฮิตยามชมจันทร์ ละครเรื่องนี้ก็เป็นแนวรักตลก จะมีเพื่อนเพจกี่ท่านที่ทราบถึงความเจ็บปวดที่แฝงไว้อยู่ในบทกวีนี้?

    บทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ เป็นบทประพันธ์ขององค์หลี่อวี้ (ค.ศ. 937-978) ฮ่องเต้องค์สุดท้ายของราชวงศ์ถังปลายในช่วงยุคสมัยห้าราชวงศ์สิบแคว้น (คือคนเดียวกับที่สั่งให้จิตรกรไปวาดภาพงานเลี้ยงราตรีของหานซีจ่ายที่ Storyฯ เคยเล่าถึง)

    พระองค์ทรงมีชื่อเสียงในฐานะกวีที่มีผลงานน่ายกย่องหลายชิ้น แต่ก็ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่อ่อนแอที่สุดของจีน ภายหลังจากอาณาจักรถังปลายล่มสลาย องค์หลี่อวี้ถูกจับกุมเป็นเชลยศึกและกักบริเวณอยู่ที่เมืองตงจิง (เมืองหลวงของราชวงศ์ซ่ง คือเมืองไคเฟิงปัจจุบัน) โดยองค์เจ้าควงอิ้งปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซ่ง หลี่อวี้ได้รับการอวยบรรดาศักดิ์ให้ใหม่เป็นระดับโหว นามว่า ‘เหวยมิ่งโหว’ (ก็คือถูกถอดยศกษัตริย์เนื่องจากชาติล่มสลายไปแล้ว) เขาถูกกักบริเวณอยู่ด้วยกันกับมเหสีองค์ที่สองผู้ซึ่งมาจากสกุลโจวเช่นเดียวกับพระมเหสีองค์แรก นามจริงไม่ปรากฏ เรียกกันในประวัติศาสตร์ว่า ‘เสี่ยวโจวโฮ่ว’ (มเหสีสกุลโจวเล็ก) ว่ากันว่าเขารักนางมาก

    ต่อมาเข้าสู่รัชสมัยขององค์เจ้ากวงอี้ (ฮ่องเต้องค์ที่สองของราชวงศ์ซ่ง) หลี่อวี้ได้ประพันธ์บทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ นี้ขึ้น ความหมายของบทกวีแปลได้ประมาณว่า: วันเวลาที่สวยงามสิ้นสุดไปแล้วอย่างรวดเร็ว เมื่อคืนนี้ลมบูรพาโชยมาอีกครา ภายใต้ดวงจันทร์ที่ทอแสงสุกสกาว จะทำอย่างไรให้ลืมความทุกข์ของการที่บ้านเมืองล่มสลาย? สถานที่ที่งดงามคงยังอยู่ แต่คนที่อยู่ในห้วงคะนึงหาคงล้วนแก่ชรากันไปตามเวลาแล้ว หากจะถามว่าใจข้าทุกข์เพียงใด... คงเปรียบได้ดั่งคลื่นนทีที่ไหล่รินสู่ทิศบูรพา

    จะเห็นได้ว่า ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ เป็นบทกวีที่บรรยายถึงความทุกข์ขมขื่นในยามที่มองจันทร์ แต่ถูกองค์เจ้ากวงอี้ตีความหมายว่าหลี่อวี้คิดไม่ซื่อกับราชสำนักซ่ง หวังจะพลิกฟื้นราชวงศ์เดิมขึ้นใหม่ จึงพระราชทานยาพิษให้หลี่อวี้ฆ่าตัวตาย

    แต่มีเรื่องเล่าขานกันว่านี่เป็นเพียงข้ออ้าง ว่ากันว่าองค์เจ้ากวงอี้ทรงรอจังหวะหาข้ออ้างสังหารหลี่อวี้อยู่แล้วเพราะทรงหลงไหลในชายาเสี่ยวโจวของหลี่อวี้ผู้ซึ่งงามพิลาส ถึงกับทรงล่อลวงนางเข้าวังแล้วขืนใจและหน่วงเหนี่ยวกักขังไว้ในวัง จากนั้นมีการบังคับขืนใจนางอีกหลายครั้งครา มีการเล่าขานว่าทรงถึงขนาดให้จิตรกรมาวาดภาพขณะกำลังย่ำยีนางเพื่อส่งให้หลี่อวี้ดูเป็นการขยี้ใจ จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจของบทกวีนี้ขึ้น... ข้อเท็จจริงใช่อย่างนี้หรือไม่? ไม่มีใครยืนยันได้ มีการกล่าวไว้เพียงว่าบทกวีอวี๋เหม่ยเหรินนี้ทำให้หลี่อวี้ถูกพระราชทานยาพิษตาย แต่ก็มีเอกสารเรื่องเล่าเกร็ดประวัติศาสตร์ในสมัยหมิงที่กล่าวถึงภาพวาดที่องค์เจ้ากวงอี้ได้ทรงให้คนวาดขึ้นนี้

    นอกจากชื่อบทกวีแล้ว ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ ยังเป็นชื่อเรียกดอกป๊อปปี้ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่มีความหมายถึงความทุกข์และการตายจากพลัดพรากมาแต่จีนโบราณอีกด้วย

    วันนี้จบกันแบบสั้นๆ เศร้าๆ อย่างนี้แล

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://image.tmdb.org/t/p/original/enj2s0CNvp2oaf84j87H8Vsdbr0.jpg
    https://bowuguan.bucm.edu.cn/kpzl/zyyzs/57214.htm
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.lllst.com/guoxuejingdian/scmj/271349.html
    https://baike.baidu.com/item/虞美人·春花秋月何时了/10926799
    https://www.jianshu.com/p/8ff00c387fbe
    https://baike.sogou.com/v6849891.htm
    https://www.guwenxuexi.com/classical/24854.html
    https://k.sina.cn/article_1659337544_62e77b48001003bvc.html

    #บุปผาวสันต์ #จันทราสารทฤดู #ชุนฮวาชิวเยวี่ย #อวี๋เหม่ยเหริน #หลี่อวี
    ** โฉมงามอวี๋ บุปผาวสันต์ จันทราสารทฤดู ** สวัสดีค่ะ ก่อนอื่น Storyฯ ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมาและหวังเพื่อนเพจทั้งหลายแคล้วคลาดปลอดภัย สัปดาห์ที่แล้วคุยถึงสีแดงจากเรื่อง <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ> มีการกล่าวถึงบทกวีที่มีชื่อว่า ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ (虞美人) หรือ ‘โฉมงามอวี๋’ Storyฯ เคยเขียนถึงบทกวีนี้เมื่อนานมากแล้วแต่บทความถูกลบไป (อาจด้วยมีลิ้งค์ที่ต้องห้าม) วันนี้เลยแก้ไขแล้วเอามาลงใหม่ให้อ่านกัน ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ เป็นบทกวีเลื่องชื่อของจีน และถูกกล่าวถึงในละครเรื่อง <บุปผาวสันต์ จันทราสารทฤดู> โดยชื่อของนางเอกพระเอก ‘ชุนฮวา’ และ ‘ชิวเยวี่ย’ มาจากวลีหนึ่งในบทกวีนี้ ซึ่งก็คือ ‘ชุนฮวาชิวเยวี่ยเหอสือเหลี่ยว หว่างซื่อจือตัวส่าว?’ (春花秋月何时了,往事知多少?) แปลตรงตัวว่า ‘บุปผาวสันต์จันทราสารทฤดูสิ้นสุดไปเมื่อใด มีเรื่องราวมากน้อยเท่าไรให้รำลึกถึง?’ โดยในซีรีส์เรื่องนี้มีการกล่าวถึงวรรคแรกของวลีนี้อยู่บ่อยครั้ง ฟังดูเหงาๆ โรแมนติก เป็นวลีฮอตฮิตยามชมจันทร์ ละครเรื่องนี้ก็เป็นแนวรักตลก จะมีเพื่อนเพจกี่ท่านที่ทราบถึงความเจ็บปวดที่แฝงไว้อยู่ในบทกวีนี้? บทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ เป็นบทประพันธ์ขององค์หลี่อวี้ (ค.ศ. 937-978) ฮ่องเต้องค์สุดท้ายของราชวงศ์ถังปลายในช่วงยุคสมัยห้าราชวงศ์สิบแคว้น (คือคนเดียวกับที่สั่งให้จิตรกรไปวาดภาพงานเลี้ยงราตรีของหานซีจ่ายที่ Storyฯ เคยเล่าถึง) พระองค์ทรงมีชื่อเสียงในฐานะกวีที่มีผลงานน่ายกย่องหลายชิ้น แต่ก็ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่อ่อนแอที่สุดของจีน ภายหลังจากอาณาจักรถังปลายล่มสลาย องค์หลี่อวี้ถูกจับกุมเป็นเชลยศึกและกักบริเวณอยู่ที่เมืองตงจิง (เมืองหลวงของราชวงศ์ซ่ง คือเมืองไคเฟิงปัจจุบัน) โดยองค์เจ้าควงอิ้งปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซ่ง หลี่อวี้ได้รับการอวยบรรดาศักดิ์ให้ใหม่เป็นระดับโหว นามว่า ‘เหวยมิ่งโหว’ (ก็คือถูกถอดยศกษัตริย์เนื่องจากชาติล่มสลายไปแล้ว) เขาถูกกักบริเวณอยู่ด้วยกันกับมเหสีองค์ที่สองผู้ซึ่งมาจากสกุลโจวเช่นเดียวกับพระมเหสีองค์แรก นามจริงไม่ปรากฏ เรียกกันในประวัติศาสตร์ว่า ‘เสี่ยวโจวโฮ่ว’ (มเหสีสกุลโจวเล็ก) ว่ากันว่าเขารักนางมาก ต่อมาเข้าสู่รัชสมัยขององค์เจ้ากวงอี้ (ฮ่องเต้องค์ที่สองของราชวงศ์ซ่ง) หลี่อวี้ได้ประพันธ์บทกวี ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ นี้ขึ้น ความหมายของบทกวีแปลได้ประมาณว่า: วันเวลาที่สวยงามสิ้นสุดไปแล้วอย่างรวดเร็ว เมื่อคืนนี้ลมบูรพาโชยมาอีกครา ภายใต้ดวงจันทร์ที่ทอแสงสุกสกาว จะทำอย่างไรให้ลืมความทุกข์ของการที่บ้านเมืองล่มสลาย? สถานที่ที่งดงามคงยังอยู่ แต่คนที่อยู่ในห้วงคะนึงหาคงล้วนแก่ชรากันไปตามเวลาแล้ว หากจะถามว่าใจข้าทุกข์เพียงใด... คงเปรียบได้ดั่งคลื่นนทีที่ไหล่รินสู่ทิศบูรพา จะเห็นได้ว่า ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ เป็นบทกวีที่บรรยายถึงความทุกข์ขมขื่นในยามที่มองจันทร์ แต่ถูกองค์เจ้ากวงอี้ตีความหมายว่าหลี่อวี้คิดไม่ซื่อกับราชสำนักซ่ง หวังจะพลิกฟื้นราชวงศ์เดิมขึ้นใหม่ จึงพระราชทานยาพิษให้หลี่อวี้ฆ่าตัวตาย แต่มีเรื่องเล่าขานกันว่านี่เป็นเพียงข้ออ้าง ว่ากันว่าองค์เจ้ากวงอี้ทรงรอจังหวะหาข้ออ้างสังหารหลี่อวี้อยู่แล้วเพราะทรงหลงไหลในชายาเสี่ยวโจวของหลี่อวี้ผู้ซึ่งงามพิลาส ถึงกับทรงล่อลวงนางเข้าวังแล้วขืนใจและหน่วงเหนี่ยวกักขังไว้ในวัง จากนั้นมีการบังคับขืนใจนางอีกหลายครั้งครา มีการเล่าขานว่าทรงถึงขนาดให้จิตรกรมาวาดภาพขณะกำลังย่ำยีนางเพื่อส่งให้หลี่อวี้ดูเป็นการขยี้ใจ จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจของบทกวีนี้ขึ้น... ข้อเท็จจริงใช่อย่างนี้หรือไม่? ไม่มีใครยืนยันได้ มีการกล่าวไว้เพียงว่าบทกวีอวี๋เหม่ยเหรินนี้ทำให้หลี่อวี้ถูกพระราชทานยาพิษตาย แต่ก็มีเอกสารเรื่องเล่าเกร็ดประวัติศาสตร์ในสมัยหมิงที่กล่าวถึงภาพวาดที่องค์เจ้ากวงอี้ได้ทรงให้คนวาดขึ้นนี้ นอกจากชื่อบทกวีแล้ว ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ ยังเป็นชื่อเรียกดอกป๊อปปี้ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่มีความหมายถึงความทุกข์และการตายจากพลัดพรากมาแต่จีนโบราณอีกด้วย วันนี้จบกันแบบสั้นๆ เศร้าๆ อย่างนี้แล (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://image.tmdb.org/t/p/original/enj2s0CNvp2oaf84j87H8Vsdbr0.jpg https://bowuguan.bucm.edu.cn/kpzl/zyyzs/57214.htm Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.lllst.com/guoxuejingdian/scmj/271349.html https://baike.baidu.com/item/虞美人·春花秋月何时了/10926799 https://www.jianshu.com/p/8ff00c387fbe https://baike.sogou.com/v6849891.htm https://www.guwenxuexi.com/classical/24854.html https://k.sina.cn/article_1659337544_62e77b48001003bvc.html #บุปผาวสันต์ #จันทราสารทฤดู #ชุนฮวาชิวเยวี่ย #อวี๋เหม่ยเหริน #หลี่อวี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • [พากย์ไทย] ในวันแต่งงาน👰🏻 จู่ๆ รักแรกของเขาก็โผล่มา ฉันกลายเป็นเหมือนตัวตลกโดนย่ำยี💔#ละครสั้น
    [พากย์ไทย] ในวันแต่งงาน👰🏻 จู่ๆ รักแรกของเขาก็โผล่มา ฉันกลายเป็นเหมือนตัวตลกโดนย่ำยี💔#ละครสั้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • หลังจากกระแสข่าวของ “คิมแซรน” กลายเป็นที่พูดถึง พี่ชายของ “ซอลลี่” นักร้อง-ไอดอล ผู้ล่วงลับก็จุดประเด็นการฆ่าตัวตายของน้องสาวขึ้นมาอีกครั้ง โดยเชื่อว่าเป็นผลพวงจากการโดนบีบให้เล่นฉากนู้ดในภาพยนตร์เรื่อง Real ล่าสุดหลังรู้ว่า “คิมซูฮยอน” จะจัดแถลงข่าวด่วน เจ้าตัวเลยขอโพสต์ไอจีอีกครั้งเพราะแม่โดนข่มขู่

    พี่ชายของ ซอลลี่ ได้โพสต์อินสตาแกรมทันทีหลังทราบข่าวว่า คิมซูฮยอน จะจีดแถลงข่าวด่วน โดยระบุว่า

    “ตลกดีที่ติดต่อไปหาแม่แทนที่จะเข้ามาคุยกับผม ปอดแหกเหรอพ่อหนุ่ม?? หลัง 48 ชม. สิ่งที่ทำได้คือโทรหาแม่ผมบอกให้ผมหุบปากเหรอ? ทุเรศชิ**าย“

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000030401

    #MGROnline #คิมแซรน #คิมซูฮยอน #ซอลลี่
    หลังจากกระแสข่าวของ “คิมแซรน” กลายเป็นที่พูดถึง พี่ชายของ “ซอลลี่” นักร้อง-ไอดอล ผู้ล่วงลับก็จุดประเด็นการฆ่าตัวตายของน้องสาวขึ้นมาอีกครั้ง โดยเชื่อว่าเป็นผลพวงจากการโดนบีบให้เล่นฉากนู้ดในภาพยนตร์เรื่อง Real ล่าสุดหลังรู้ว่า “คิมซูฮยอน” จะจัดแถลงข่าวด่วน เจ้าตัวเลยขอโพสต์ไอจีอีกครั้งเพราะแม่โดนข่มขู่ • พี่ชายของ ซอลลี่ ได้โพสต์อินสตาแกรมทันทีหลังทราบข่าวว่า คิมซูฮยอน จะจีดแถลงข่าวด่วน โดยระบุว่า • “ตลกดีที่ติดต่อไปหาแม่แทนที่จะเข้ามาคุยกับผม ปอดแหกเหรอพ่อหนุ่ม?? หลัง 48 ชม. สิ่งที่ทำได้คือโทรหาแม่ผมบอกให้ผมหุบปากเหรอ? ทุเรศชิ**าย“ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000030401 • #MGROnline #คิมแซรน #คิมซูฮยอน #ซอลลี่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์จากเพจEnvironman 28 มีนาคม 2568 “ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี แผ่นดินไหว แต่เห็นได้ชัดเลยว่าประเทศไทยและรัฐบาลยังไม่ไหว.เหตุการณ์วันนี้ยิ่งสาดส่องสปอตไลท์ในสิ่งที่ชัดอยู่แล้วให้ชัดยิ่งขึ้นไปอีก ว่าเราไม่มีความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่รู้ว่าจะถอดกันอีกกี่บทเรียน กว่าที่รัฐจะมีมาตรการเตรียมพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์อะไรแบบนี้ .ใครมีความคิดเห็น มีอะไรจะเพิ่มก็เต็มที่เลยนะ แต่นี่คือสิ่งที่รับรู้ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้และนี่ไม่ใช่การถอดบทเรียนอะไรทั้งนั้น นี่คือการเล่าระบายล้วน ๆ.⚫️ 1. ประชาชนต้อง Emergency Alert กันเอง.จนถึงตอนนี้ ณ เวลาที่กำลังเขียน (19:52 น.) ข้าพเจ้ายังไม่ได้ SMS จากกระทรวงทบวงกรมใดๆ เลยขอรับ คือเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปกติที่เกิดขึ้นบ่อย แต่หลังจากท่านนายกออกมาแถลงว่าจะมีการแจ้งเตือนตั้งแต่ช่วงบ่ายสอง ตอนนี้อาฟเตอร์กันไปแล้วไม่รู้กี่ช็อค ก็ยังเงียบกริบ .อีกพาร์ทนึงก็ต้องชมคนไทยที่ใส่ใจโซเชียล ที่ช่วยกันอัพเดท แชร์ข้อมูล คอยรายงานให้ได้ติดตามกัน แต่มันคือช่วงเวลาแบบนี้ไม่ใช่หรอ ที่ประชาชนอย่างเราจะหันไปหวังพึ่งรัฐ ที่ผู้เสียภาษีอย่างเราจะหวังพึ่งคุณภาพชีวิตพื้นฐานที่ควรได้รับ กลายเป็นว่าเราต้องเช็คกันเองว่าเกิดอะไรขึ้น เอาตรงๆ คือผมเป็นคนหนึ่งที่หาแถลงการณ์จากรัฐตอนเกิดเหตุ เพราะบางทีก็กลัวว่าชาวเน็ตบางกลุ่มจะเฟคนิวส์ล่อเอ็นเกจ แต่ก็ต้องผิดหวังต่อไป.⚫️ 2. หน้ามืด นอนน้อยกันทั้งแผ่นดิน.เชื่อแล้วว่าคนไทยทำงานหนักครับ 90% พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘คิดว่าตัวเองไม่สบาย’ ไม่มีใครคิดว่ามันคือแผ่นดินไหวเลย แต่ก็เข้าใจได้ ใครจะไปคิดว่าจะมีแผ่นดินไหวในไทย โดยเฉพาะชาวกทม. คือทุกคนเทไปว่าตัวเองโหมงาน นอนน้อยกันหมด ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แอบเศร้าหน่อย ๆ นะ.ส่วนอีกเรื่องคือ 90% ของคนที่อยู่คอนโดอพาร์ตเม้นตท์ มีสัตว์เลี้ยงที่นิติไม่รู้ แต่จะมารู้ก็วันนี้แหละ ถ้าพูดให้ไม่ติดตลก ผมคิดว่าอยากให้สถานที่คำนึงถึงความเป็น Pet-Friendly ให้มากขึ้น ปัจจุบันมีคนมีสัตว์เลี้ยงเยอะมาก จะด้วยเพื่อแก้เหงาหรือเป็นยุคที่ไม่ค่อยอยากมีลูกหรืออะไรก็ว่าไป แต่ผมเห็นว่าพื้นที่ที่สามารถพาสัตว์ไปร่วมกิจกรรมกับเจ้าของนั้นมีน้อยมาก.⚫️ 3. ระบบขนส่งสาธารณะล่มสลาย.สัญชาตญาณแรกของคนหลังเกิดแผ่นดินไหวคือหาที่ปลอดภัย ซึ่งส่วนมากก็น่าจะนึกถึงบ้าน แต่ระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมดดูเหมือนจะไม่เพียงพอ ไม่มีแผนสำรอง ไม่มีโปรโตคอลฉุกเฉิน ไม่มีช่องทางพิเศษ ไม่มีอะไรเลย การจราจรติดแหง็ก ผู้คนติดแหง็ก ไร้ทางออก เกิดอะไรขึ้นก็ไม่บอก จะเดินทางไปไหนก็ไม่ได้ .ญี่ปุ่นเวลาเจอแผ่นดินไหว ประเทศเขาจะสวิตช์เป็นโหมดฉุกเฉินทันที รถไฟฟ้าก็จะมีมาตรการฉุกเฉินในการรับมือ รัฐมีการตกลงกับบริษัทขนส่งเอกชน แท็กซี่ ให้ออกมาช่วยอพยพหรือขนถ่ายคนในช่วงที่รถไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ มีการจัดการควบคุมจราจรอย่างเข้มงวดให้คนไม่ติดแหง็กอยู่อย่างนั้น อีกเรื่องคือญี่ปุ่นมีศูนย์พักพิง คือใครที่ยังกลับบ้านไม่ได้ ก็มาพักรอก่อนได้ เอาจริงศูนย์พักพิงญี่ปุ่นคือมีอาหาร มีน้ำ มีอุปกรณ์พื้นฐานให้พร้อม ไม่ปล่อยให้ใครต้องเร่ร่อนอยู่บนถนน.ผมดักไว้ก่อนเลยว่าจะมีคนอ้างว่า ญี่ปุ่นเจอกับแผ่นดินไหวบ่อยจนชิน ของเรานี่แทบจะเป็นครั้งแรกในชีวิตของใครหลายคนเลยนะ จะวิจารณ์ขนาดนั้นก็เกินไป แต่ต้องบอกว่าตอนนี้โลกเรารวนไปหมดแล้ว ปีนี้เราเห็นว่าเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงมากมายทั่วโลก อยากลองชวนคนที่แย้งเรื่องทำไมผมถึงเอาเราไปเทียบกับญี่ปุ่น มาแลกเปลี่ยนโต้แย้งเกี่ยวกับการจัดการเหตุฉุกเฉินพื้นฐานของบ้านเรามากกว่า พื้นฐานที่ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ควรรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวหรือเกิดภัยพิบัติอื่นใดก็ตาม เพราะนี่คือโครงสร้างที่เราต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เราติดท็อป 10 ของประเทศที่จะได้รับผลกระทบจาก Climate Change ซึ่งจะมาในรูปแบบใดบ้างก็ไม่รู้.⚫️ 4. ระบบสาธารณสุขยังเปราะบาง.อันนี้เรามีบทเรียนจากโควิด-19 มาแล้ว แต่เหมือนจะยังถอดบทเรียนกันไม่เสร็จ การอพยพผู้ป่วยในยามฉุกเฉิน หรือโซนที่ให้โรงพยาบาลยังสามารถดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัยในช่วงวิกฤต ตามข่าวยังเห็นโรงพยาบาลเอาคนไข้ออกมาผ่าตัดกลางแจ้งเพราะเป็นเคสด่วนอยู่เลย ซึ่งนี่คือคำถาม นี่คือโจทย์ที่เราเอามาคิดตั้งแต่ตอนนี้จนถึงอนาคตว่าเมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ เราจะรับมือและจะมีมาตรการอย่างไร .นี่ไม่ใช่การสักแต่ว่าจะด่าก็ด่านะครับ และใครจะหาว่าการเมืองก็เอาเถอะ แต่นี่เห็นได้ชัดเลยว่ารัฐบาลขาดความพร้อมอย่างมากในการรับมือ จริงอยู่ที่เราไม่ได้เจอแผ่นดินไหวเป็นประจำ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้น่ากลัวมาก ผมคิดว่ายิ่งช่วงเวลาแบบนี้ที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี่แหละ ที่จะยิ่งเป็นตัววัดว่าเราโครงสร้างพื้นฐานเราพร้อมแค่ไหน ซึ่งผมคิดว่าไม่มีใครใกล้เคียงกับพร้อมเลย ไม่รู้ทุกคนว่ายังไง.เรื่องความปลอดภัยมันมากับความเชื่อมั่นด้วยนะ วันนี้ในกรุ๊ปแชทก็คือมีเพื่อนๆ พิมพ์มาว่า ‘กูจะมั่นใจโครงสร้างตึกไทยได้มากขนาดไหน’ ซึ่งเป็นตลกร้ายมาก ๆ ที่ตอนนี้เรามีความเชื่อมั่นกับอะไรพวกนี้ต่ำมาก ทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็นตรงกันข้าม .วันนี้เป็นวันที่ทุกคนควรจะมีคำถาม เราเคยเจอน้ำท่วม เจอพายุ เจอโควิด แต่เราได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง ‘หรือเปล่า’ ? ผมเองมีคำว่าทำไมเยอะมาก ทำไมการแจ้งเตือนล่าช้ามาก ทำไมระบบขนส่งสาธารณะและสาธารณสุขถึงไม่พร้อม ทำไมคุณภาพชีวิตของเรามันเปราะบางขนาดนี้ ขออภัยที่ยาวและวนยืดเยื้อ แต่มันคือความอัดอั้นที่อยากแชร์ออกมา.สุดท้ายนี้ เราขอแสดงความเสียใจให้กับผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วยนะครับและขอให้ทุกชีวิตปลอดภัยครับ
    รีโพสต์จากเพจEnvironman 28 มีนาคม 2568 “ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี แผ่นดินไหว แต่เห็นได้ชัดเลยว่าประเทศไทยและรัฐบาลยังไม่ไหว.เหตุการณ์วันนี้ยิ่งสาดส่องสปอตไลท์ในสิ่งที่ชัดอยู่แล้วให้ชัดยิ่งขึ้นไปอีก ว่าเราไม่มีความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่รู้ว่าจะถอดกันอีกกี่บทเรียน กว่าที่รัฐจะมีมาตรการเตรียมพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์อะไรแบบนี้ .ใครมีความคิดเห็น มีอะไรจะเพิ่มก็เต็มที่เลยนะ แต่นี่คือสิ่งที่รับรู้ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้และนี่ไม่ใช่การถอดบทเรียนอะไรทั้งนั้น นี่คือการเล่าระบายล้วน ๆ.⚫️ 1. ประชาชนต้อง Emergency Alert กันเอง.จนถึงตอนนี้ ณ เวลาที่กำลังเขียน (19:52 น.) ข้าพเจ้ายังไม่ได้ SMS จากกระทรวงทบวงกรมใดๆ เลยขอรับ คือเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปกติที่เกิดขึ้นบ่อย แต่หลังจากท่านนายกออกมาแถลงว่าจะมีการแจ้งเตือนตั้งแต่ช่วงบ่ายสอง ตอนนี้อาฟเตอร์กันไปแล้วไม่รู้กี่ช็อค ก็ยังเงียบกริบ .อีกพาร์ทนึงก็ต้องชมคนไทยที่ใส่ใจโซเชียล ที่ช่วยกันอัพเดท แชร์ข้อมูล คอยรายงานให้ได้ติดตามกัน แต่มันคือช่วงเวลาแบบนี้ไม่ใช่หรอ ที่ประชาชนอย่างเราจะหันไปหวังพึ่งรัฐ ที่ผู้เสียภาษีอย่างเราจะหวังพึ่งคุณภาพชีวิตพื้นฐานที่ควรได้รับ กลายเป็นว่าเราต้องเช็คกันเองว่าเกิดอะไรขึ้น เอาตรงๆ คือผมเป็นคนหนึ่งที่หาแถลงการณ์จากรัฐตอนเกิดเหตุ เพราะบางทีก็กลัวว่าชาวเน็ตบางกลุ่มจะเฟคนิวส์ล่อเอ็นเกจ แต่ก็ต้องผิดหวังต่อไป.⚫️ 2. หน้ามืด นอนน้อยกันทั้งแผ่นดิน.เชื่อแล้วว่าคนไทยทำงานหนักครับ 90% พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘คิดว่าตัวเองไม่สบาย’ ไม่มีใครคิดว่ามันคือแผ่นดินไหวเลย แต่ก็เข้าใจได้ ใครจะไปคิดว่าจะมีแผ่นดินไหวในไทย โดยเฉพาะชาวกทม. คือทุกคนเทไปว่าตัวเองโหมงาน นอนน้อยกันหมด ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แอบเศร้าหน่อย ๆ นะ.ส่วนอีกเรื่องคือ 90% ของคนที่อยู่คอนโดอพาร์ตเม้นตท์ มีสัตว์เลี้ยงที่นิติไม่รู้ แต่จะมารู้ก็วันนี้แหละ ถ้าพูดให้ไม่ติดตลก ผมคิดว่าอยากให้สถานที่คำนึงถึงความเป็น Pet-Friendly ให้มากขึ้น ปัจจุบันมีคนมีสัตว์เลี้ยงเยอะมาก จะด้วยเพื่อแก้เหงาหรือเป็นยุคที่ไม่ค่อยอยากมีลูกหรืออะไรก็ว่าไป แต่ผมเห็นว่าพื้นที่ที่สามารถพาสัตว์ไปร่วมกิจกรรมกับเจ้าของนั้นมีน้อยมาก.⚫️ 3. ระบบขนส่งสาธารณะล่มสลาย.สัญชาตญาณแรกของคนหลังเกิดแผ่นดินไหวคือหาที่ปลอดภัย ซึ่งส่วนมากก็น่าจะนึกถึงบ้าน แต่ระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมดดูเหมือนจะไม่เพียงพอ ไม่มีแผนสำรอง ไม่มีโปรโตคอลฉุกเฉิน ไม่มีช่องทางพิเศษ ไม่มีอะไรเลย การจราจรติดแหง็ก ผู้คนติดแหง็ก ไร้ทางออก เกิดอะไรขึ้นก็ไม่บอก จะเดินทางไปไหนก็ไม่ได้ .ญี่ปุ่นเวลาเจอแผ่นดินไหว ประเทศเขาจะสวิตช์เป็นโหมดฉุกเฉินทันที รถไฟฟ้าก็จะมีมาตรการฉุกเฉินในการรับมือ รัฐมีการตกลงกับบริษัทขนส่งเอกชน แท็กซี่ ให้ออกมาช่วยอพยพหรือขนถ่ายคนในช่วงที่รถไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ มีการจัดการควบคุมจราจรอย่างเข้มงวดให้คนไม่ติดแหง็กอยู่อย่างนั้น อีกเรื่องคือญี่ปุ่นมีศูนย์พักพิง คือใครที่ยังกลับบ้านไม่ได้ ก็มาพักรอก่อนได้ เอาจริงศูนย์พักพิงญี่ปุ่นคือมีอาหาร มีน้ำ มีอุปกรณ์พื้นฐานให้พร้อม ไม่ปล่อยให้ใครต้องเร่ร่อนอยู่บนถนน.ผมดักไว้ก่อนเลยว่าจะมีคนอ้างว่า ญี่ปุ่นเจอกับแผ่นดินไหวบ่อยจนชิน ของเรานี่แทบจะเป็นครั้งแรกในชีวิตของใครหลายคนเลยนะ จะวิจารณ์ขนาดนั้นก็เกินไป แต่ต้องบอกว่าตอนนี้โลกเรารวนไปหมดแล้ว ปีนี้เราเห็นว่าเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงมากมายทั่วโลก อยากลองชวนคนที่แย้งเรื่องทำไมผมถึงเอาเราไปเทียบกับญี่ปุ่น มาแลกเปลี่ยนโต้แย้งเกี่ยวกับการจัดการเหตุฉุกเฉินพื้นฐานของบ้านเรามากกว่า พื้นฐานที่ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ควรรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวหรือเกิดภัยพิบัติอื่นใดก็ตาม เพราะนี่คือโครงสร้างที่เราต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เราติดท็อป 10 ของประเทศที่จะได้รับผลกระทบจาก Climate Change ซึ่งจะมาในรูปแบบใดบ้างก็ไม่รู้.⚫️ 4. ระบบสาธารณสุขยังเปราะบาง.อันนี้เรามีบทเรียนจากโควิด-19 มาแล้ว แต่เหมือนจะยังถอดบทเรียนกันไม่เสร็จ การอพยพผู้ป่วยในยามฉุกเฉิน หรือโซนที่ให้โรงพยาบาลยังสามารถดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัยในช่วงวิกฤต ตามข่าวยังเห็นโรงพยาบาลเอาคนไข้ออกมาผ่าตัดกลางแจ้งเพราะเป็นเคสด่วนอยู่เลย ซึ่งนี่คือคำถาม นี่คือโจทย์ที่เราเอามาคิดตั้งแต่ตอนนี้จนถึงอนาคตว่าเมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ เราจะรับมือและจะมีมาตรการอย่างไร .นี่ไม่ใช่การสักแต่ว่าจะด่าก็ด่านะครับ และใครจะหาว่าการเมืองก็เอาเถอะ แต่นี่เห็นได้ชัดเลยว่ารัฐบาลขาดความพร้อมอย่างมากในการรับมือ จริงอยู่ที่เราไม่ได้เจอแผ่นดินไหวเป็นประจำ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้น่ากลัวมาก ผมคิดว่ายิ่งช่วงเวลาแบบนี้ที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี่แหละ ที่จะยิ่งเป็นตัววัดว่าเราโครงสร้างพื้นฐานเราพร้อมแค่ไหน ซึ่งผมคิดว่าไม่มีใครใกล้เคียงกับพร้อมเลย ไม่รู้ทุกคนว่ายังไง.เรื่องความปลอดภัยมันมากับความเชื่อมั่นด้วยนะ วันนี้ในกรุ๊ปแชทก็คือมีเพื่อนๆ พิมพ์มาว่า ‘กูจะมั่นใจโครงสร้างตึกไทยได้มากขนาดไหน’ ซึ่งเป็นตลกร้ายมาก ๆ ที่ตอนนี้เรามีความเชื่อมั่นกับอะไรพวกนี้ต่ำมาก ทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็นตรงกันข้าม .วันนี้เป็นวันที่ทุกคนควรจะมีคำถาม เราเคยเจอน้ำท่วม เจอพายุ เจอโควิด แต่เราได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง ‘หรือเปล่า’ ? ผมเองมีคำว่าทำไมเยอะมาก ทำไมการแจ้งเตือนล่าช้ามาก ทำไมระบบขนส่งสาธารณะและสาธารณสุขถึงไม่พร้อม ทำไมคุณภาพชีวิตของเรามันเปราะบางขนาดนี้ ขออภัยที่ยาวและวนยืดเยื้อ แต่มันคือความอัดอั้นที่อยากแชร์ออกมา.สุดท้ายนี้ เราขอแสดงความเสียใจให้กับผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วยนะครับและขอให้ทุกชีวิตปลอดภัยครับ
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 607 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตลกชิบ
    ตลกชิบ
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD เปิดตัว Gaia แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สสำหรับการใช้งาน LLMs บนเครื่อง PC โดยเฉพาะ Gaia ไม่เพียงเพิ่มความเร็วและแม่นยำ แต่ยังช่วยให้ใช้งาน LLMs ได้แบบออฟไลน์ เหมาะสำหรับใครที่ต้องการความปลอดภัยและการประมวลผลข้อมูลในเครื่องส่วนตัว

    ฟีเจอร์เด่นของ Gaia:
    - Gaia มีตัวเลือกเอเจนต์ เช่น Simple Prompt Completion สำหรับการทดสอบโมเดล, Chaty ซึ่งเป็นแชตบ็อตสำหรับโต้ตอบกับผู้ใช้, Clip ที่มีฟีเจอร์ค้นหาใน YouTube, และ Joker ซึ่งเพิ่มมิติความสนุกด้วยการเล่าเรื่องตลก.
    - การทำงานรวมกับระบบ Retrieval-Augmented Generation (RAG) ช่วยให้ Gaia เพิ่มความแม่นยำและความเกี่ยวข้องของผลลัพธ์

    ประโยชน์ของการรัน LLMs แบบโลคอล:
    - ลดเวลาแฝง (latency) และเพิ่มความปลอดภัย เนื่องจากข้อมูลไม่ได้ส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอก.
    - สามารถใช้งานได้แม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีข้อจำกัดทางการเชื่อมต่อ.

    ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์อื่น ๆ:
    - Gaia มีตัวเลือกติดตั้งสองแบบคือ Mainstream Installer ซึ่งรองรับ PC ทุกรุ่น และ Hybrid Installer ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ Ryzen AI PCs เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล.

    ข้อได้เปรียบเหนือโซลูชันคลาวด์:
    - ความสามารถของ Gaia ในการประมวลผลแบบออฟไลน์และรองรับการใช้งานหลากหลาย เช่น การสรุปข้อมูลและการตอบคำถามเชิงลึก อาจดึงดูดผู้ใช้ที่กังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว.

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/amd-launches-gaia-open-source-project-for-running-llms-locally-on-any-pc
    AMD เปิดตัว Gaia แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สสำหรับการใช้งาน LLMs บนเครื่อง PC โดยเฉพาะ Gaia ไม่เพียงเพิ่มความเร็วและแม่นยำ แต่ยังช่วยให้ใช้งาน LLMs ได้แบบออฟไลน์ เหมาะสำหรับใครที่ต้องการความปลอดภัยและการประมวลผลข้อมูลในเครื่องส่วนตัว ฟีเจอร์เด่นของ Gaia: - Gaia มีตัวเลือกเอเจนต์ เช่น Simple Prompt Completion สำหรับการทดสอบโมเดล, Chaty ซึ่งเป็นแชตบ็อตสำหรับโต้ตอบกับผู้ใช้, Clip ที่มีฟีเจอร์ค้นหาใน YouTube, และ Joker ซึ่งเพิ่มมิติความสนุกด้วยการเล่าเรื่องตลก. - การทำงานรวมกับระบบ Retrieval-Augmented Generation (RAG) ช่วยให้ Gaia เพิ่มความแม่นยำและความเกี่ยวข้องของผลลัพธ์ ประโยชน์ของการรัน LLMs แบบโลคอล: - ลดเวลาแฝง (latency) และเพิ่มความปลอดภัย เนื่องจากข้อมูลไม่ได้ส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอก. - สามารถใช้งานได้แม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีข้อจำกัดทางการเชื่อมต่อ. ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์อื่น ๆ: - Gaia มีตัวเลือกติดตั้งสองแบบคือ Mainstream Installer ซึ่งรองรับ PC ทุกรุ่น และ Hybrid Installer ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ Ryzen AI PCs เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล. ข้อได้เปรียบเหนือโซลูชันคลาวด์: - ความสามารถของ Gaia ในการประมวลผลแบบออฟไลน์และรองรับการใช้งานหลากหลาย เช่น การสรุปข้อมูลและการตอบคำถามเชิงลึก อาจดึงดูดผู้ใช้ที่กังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว. https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/amd-launches-gaia-open-source-project-for-running-llms-locally-on-any-pc
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD launches Gaia open source project for running LLMs locally on any PC
    Gaia runs faster on Ryzen AI PCs, using the XDNA NPU and RDNA iGPU.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องตลกของ "นายกอิ๊ง" : [NEWS UPDATE]
    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยภาพรวมการอภิปรายไม่ไหววางใจ ก็ดีนะ
    มั่นใจการชี้แจงเคลียร์ ส่วนที่ฝ่ายค้านหวังให้นายกตอบชี้แจงยาวๆ เช่น เรื่องโรงแรมที่เขาใหญ่ ประเด็นสำคัญอยู่ที่เนื้อหาและต้องรักษาเวลา ตนเป็นคนที่พูดตรงพ้อยท์ พูดยืดยาวไม่ค่อยเป็น แต่จะพยายามพูดให้ยาวขึ้น ส่วนเรื่องชั้น 14 ตอนคุณพ่อกลับยังไม่ได้เป็นนายก เป็นผลงานรัฐบาลอื่น งงว่าทำไมมาอภิปรายที่แพทองธาร ชินวัตร สิ่งที่ตลกอีกเรื่องหนึ่งคือคุณพ่อมอนิเตอร์ตลอดเวลาและส่งข้อความมาหาเยอะมาก พ่อส่งคอมเม้นต์มาแต่ละช่วงก็ตลกดี แต่ตนไม่ได้อ่าน เพราะยุ่งมากเตรียมประเด็นอยู่


    ดีลปีศาจแลกประเทศ

    วาทกรรมจากจินตนาการ

    "กีกี้"ด้อยค่าสตรี

    "กีกี้"หมายถึงภาพยนตร์
    เรื่องตลกของ "นายกอิ๊ง" : [NEWS UPDATE] น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยภาพรวมการอภิปรายไม่ไหววางใจ ก็ดีนะ มั่นใจการชี้แจงเคลียร์ ส่วนที่ฝ่ายค้านหวังให้นายกตอบชี้แจงยาวๆ เช่น เรื่องโรงแรมที่เขาใหญ่ ประเด็นสำคัญอยู่ที่เนื้อหาและต้องรักษาเวลา ตนเป็นคนที่พูดตรงพ้อยท์ พูดยืดยาวไม่ค่อยเป็น แต่จะพยายามพูดให้ยาวขึ้น ส่วนเรื่องชั้น 14 ตอนคุณพ่อกลับยังไม่ได้เป็นนายก เป็นผลงานรัฐบาลอื่น งงว่าทำไมมาอภิปรายที่แพทองธาร ชินวัตร สิ่งที่ตลกอีกเรื่องหนึ่งคือคุณพ่อมอนิเตอร์ตลอดเวลาและส่งข้อความมาหาเยอะมาก พ่อส่งคอมเม้นต์มาแต่ละช่วงก็ตลกดี แต่ตนไม่ได้อ่าน เพราะยุ่งมากเตรียมประเด็นอยู่ ดีลปีศาจแลกประเทศ วาทกรรมจากจินตนาการ "กีกี้"ด้อยค่าสตรี "กีกี้"หมายถึงภาพยนตร์
    Like
    Haha
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 750 มุมมอง 23 2 รีวิว
  • เบียร์ใกล้จะเข้าใจเดรัจฉานวิชาถูกแล้ว ติดอีกนิดเดียว คือ ยังไม่เข้าใจ ติรฉาน กับ อันตรายิกธรรม จึงยังเข้าใจว่า เดรัจฉานวิชา (วิชาเลี้ยงชีพ) ขวางพระนิพพาน ท่านมหาหรือครูบาอาจารย์ ช่วยเขาที ช่วยอธิบายให้เขาเคลียที อีกนิดเดียว

    และชอบมากนะ กล่าวตู่พระพุทธเจ้าเนี่ย บอกว่าพระพุทธเจ้าปฏิเสธ นู่นนั่นนี่ ตรงไหนอะพระพุทธเจ้าปฏิเสธหมอดูอยู่ตรงไหน ก็บอกแล้วไง ให้มาเปิดพระไตรปิฏกดูกัน ตรงไหนที่พระพุทธเจ้าปฏิเสธหมอดู มีปมกับอาชีพหมอดูแบบเหนียวแน่นมากนะ อยู่ตรงไหนในประเทศไตรปิฎก อันนี้พูดเองคิดเองเออเอง แล้วก็สอนชาวบ้านแบบผิดๆ สงสารคนฟังเลย ได้ความรู้ผิดๆ ไปเต็มๆ นั่งฟังอย่างตั้งใจ เอาจริงๆ ไม่รู้เรื่องนะนั่น ไม่เชื่อคนที่ฟังมาขึ้นไมค์กับครูนัทได้ รับรอง มิจฉาทิฏฐิ คืออะไร แค่นี้ก็นิ่งคิดคำตอบไปหลายสิบวันแล้ว

    เบียร์ยังยืนยันว่า ผู้ที่พยากรณ์เจ้าชายสิทธัตถะใช้ฌาน เฮ้ย ไปเอามาจากไหน อันนี้คิดเองเออเออีกแล้ว ในคัมภีร์ก็บอกชัด ว่าใช้ตำรา ยังจะแถ เขาจะใช้ฌานได้ยังไง เขาไม่มีอนาคตังสญาน จะเอาให้ถูกให้ได้ ตลกมาก

    ฟังนะเบียร์ ไม่มีใครนะ ที่พูดว่าหมอดูร่างทรงพระพุทธเจ้าอนุญาตให้ทำได้ อันนี้เธอกำลังใส่ร้ายคนอื่นอีกแล้วนะ ที่เขาพูดคือ พระพุทธเจ้าไม่ยุ่งกับอาชีพของชาวบ้าน ดังนั้นชาวบ้านจะเป็นหมอดูเป็นร่างทรงเป็นอะไร พระพุทธเจ้าไม่ไปนั่งห้าม เพราะมันเป็นการเลี้ยงชีพของชาวบ้านเขา ไม่ใช่ว่าต้องรอพระพุทธเจ้าอนุญาตถึงทำได้ อันนี้ไม่ใช่แล้วนะ เธอเข้าใจผิดอย่างร้ายแรงเลย และเธอก็เข้าใจผิดแบบไม่ยอมแก้ไขด้วย ก็บอกแล้วไง ว่าจะสู้ตายก็ให้ออกมา ทำไมไม่ออกมาละ ทำไมนั่งพูดคนเดียวล่ะ โธ่เอ้ยเบียร์ น่าเวทนา

    https://youtu.be/TN8q3QlaRfM?si=UkH0YtScTcAhANfu
    เบียร์ใกล้จะเข้าใจเดรัจฉานวิชาถูกแล้ว ติดอีกนิดเดียว คือ ยังไม่เข้าใจ ติรฉาน กับ อันตรายิกธรรม จึงยังเข้าใจว่า เดรัจฉานวิชา (วิชาเลี้ยงชีพ) ขวางพระนิพพาน ท่านมหาหรือครูบาอาจารย์ ช่วยเขาที ช่วยอธิบายให้เขาเคลียที อีกนิดเดียว และชอบมากนะ กล่าวตู่พระพุทธเจ้าเนี่ย บอกว่าพระพุทธเจ้าปฏิเสธ นู่นนั่นนี่ ตรงไหนอะพระพุทธเจ้าปฏิเสธหมอดูอยู่ตรงไหน ก็บอกแล้วไง ให้มาเปิดพระไตรปิฏกดูกัน ตรงไหนที่พระพุทธเจ้าปฏิเสธหมอดู มีปมกับอาชีพหมอดูแบบเหนียวแน่นมากนะ อยู่ตรงไหนในประเทศไตรปิฎก อันนี้พูดเองคิดเองเออเอง แล้วก็สอนชาวบ้านแบบผิดๆ สงสารคนฟังเลย ได้ความรู้ผิดๆ ไปเต็มๆ นั่งฟังอย่างตั้งใจ เอาจริงๆ ไม่รู้เรื่องนะนั่น ไม่เชื่อคนที่ฟังมาขึ้นไมค์กับครูนัทได้ รับรอง มิจฉาทิฏฐิ คืออะไร แค่นี้ก็นิ่งคิดคำตอบไปหลายสิบวันแล้ว เบียร์ยังยืนยันว่า ผู้ที่พยากรณ์เจ้าชายสิทธัตถะใช้ฌาน เฮ้ย ไปเอามาจากไหน อันนี้คิดเองเออเออีกแล้ว ในคัมภีร์ก็บอกชัด ว่าใช้ตำรา ยังจะแถ เขาจะใช้ฌานได้ยังไง เขาไม่มีอนาคตังสญาน จะเอาให้ถูกให้ได้ ตลกมาก ฟังนะเบียร์ ไม่มีใครนะ ที่พูดว่าหมอดูร่างทรงพระพุทธเจ้าอนุญาตให้ทำได้ อันนี้เธอกำลังใส่ร้ายคนอื่นอีกแล้วนะ ที่เขาพูดคือ พระพุทธเจ้าไม่ยุ่งกับอาชีพของชาวบ้าน ดังนั้นชาวบ้านจะเป็นหมอดูเป็นร่างทรงเป็นอะไร พระพุทธเจ้าไม่ไปนั่งห้าม เพราะมันเป็นการเลี้ยงชีพของชาวบ้านเขา ไม่ใช่ว่าต้องรอพระพุทธเจ้าอนุญาตถึงทำได้ อันนี้ไม่ใช่แล้วนะ เธอเข้าใจผิดอย่างร้ายแรงเลย และเธอก็เข้าใจผิดแบบไม่ยอมแก้ไขด้วย ก็บอกแล้วไง ว่าจะสู้ตายก็ให้ออกมา ทำไมไม่ออกมาละ ทำไมนั่งพูดคนเดียวล่ะ โธ่เอ้ยเบียร์ น่าเวทนา https://youtu.be/TN8q3QlaRfM?si=UkH0YtScTcAhANfu
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 0 รีวิว
  • (มีคลิป) เห็นเป็นเรื่องตลก?? "นายกฯอิ๊งค์" ยกคำ "บิ๊กป้อม" โต้คืน "ที่พูดมาไม่เป็นความจริง"
    https://www.thai-tai.tv/news/17784/
    (มีคลิป) เห็นเป็นเรื่องตลก?? "นายกฯอิ๊งค์" ยกคำ "บิ๊กป้อม" โต้คืน "ที่พูดมาไม่เป็นความจริง" https://www.thai-tai.tv/news/17784/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • (มีคลิป) เห็นเป็นเรื่องตลก?? "นายกฯอิ๊งค์" ยกคำ "บิ๊กป้อม" โต้คืน "ที่พูดมาไม่เป็นความจริง"
    https://www.thai-tai.tv/news/17784/
    (มีคลิป) เห็นเป็นเรื่องตลก?? "นายกฯอิ๊งค์" ยกคำ "บิ๊กป้อม" โต้คืน "ที่พูดมาไม่เป็นความจริง" https://www.thai-tai.tv/news/17784/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนดูท่าทางของเซเลนสกีที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดียูเครน ขณะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดนอร์มังดี ในปารีส ประเทศฝรั่งเศส ธันวาคม 2019

    ท่าทางของเซเลนสกี อดีตดาวตลก ที่เพิ่งชนะเลือกตั้งเมื่อช่วงต้นปี 2019 หลายฝ่ายมองว่าไม่ให้เกียรติและกำลังดูหมิ่นประธานาธิบดีปูติน ขณะที่เขากำลังพูดถึงความสำคัญในการปฏิบัติตามข้อตกลงมินสค์ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยลดความขัดแย้งในแคว้นดอนบาสของยูเครนที่ยืดเยื้อมานานกว่า 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2014 หลังจากภูมิภาคโดเนตส์ก (Donetsk) และลูฮันส์ก (Luhansk) ทำสงครามแยกตัวเป็นเอกราชจากยูเครน ไม่นานหลังจากรัสเซียผนวกแหลมไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน

    แต่ที่เลวร้ายกว่านั้นคือ ข้อตกลงมินสค์ที่ออกมาจากการประชุมครั้งนั้น ไม่เคยมีไว้เพื่อปฏิบัติตามเลย แม้แต่นางอังเกลา แมร์เคิล อดีตนายกรัฐมนตรีเยอรมนี ก็ยอมรับในเวลาต่อมาว่าข้อตกลงนี้ถูกจัดฉากขึ้นมาเพื่อหลอกรัสเซีย และเพื่อซื้อเวลาและอาวุธให้ยูเครนได้เตรียมตัวก่อนทำสงครามจริงจัง
    ย้อนดูท่าทางของเซเลนสกีที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดียูเครน ขณะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดนอร์มังดี ในปารีส ประเทศฝรั่งเศส ธันวาคม 2019 ท่าทางของเซเลนสกี อดีตดาวตลก ที่เพิ่งชนะเลือกตั้งเมื่อช่วงต้นปี 2019 หลายฝ่ายมองว่าไม่ให้เกียรติและกำลังดูหมิ่นประธานาธิบดีปูติน ขณะที่เขากำลังพูดถึงความสำคัญในการปฏิบัติตามข้อตกลงมินสค์ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยลดความขัดแย้งในแคว้นดอนบาสของยูเครนที่ยืดเยื้อมานานกว่า 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2014 หลังจากภูมิภาคโดเนตส์ก (Donetsk) และลูฮันส์ก (Luhansk) ทำสงครามแยกตัวเป็นเอกราชจากยูเครน ไม่นานหลังจากรัสเซียผนวกแหลมไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน แต่ที่เลวร้ายกว่านั้นคือ ข้อตกลงมินสค์ที่ออกมาจากการประชุมครั้งนั้น ไม่เคยมีไว้เพื่อปฏิบัติตามเลย แม้แต่นางอังเกลา แมร์เคิล อดีตนายกรัฐมนตรีเยอรมนี ก็ยอมรับในเวลาต่อมาว่าข้อตกลงนี้ถูกจัดฉากขึ้นมาเพื่อหลอกรัสเซีย และเพื่อซื้อเวลาและอาวุธให้ยูเครนได้เตรียมตัวก่อนทำสงครามจริงจัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 372 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตลกร้ายการเมืองไทย! 'ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์' นายกฯ แบกรับ 'เกมของพ่อ'
    https://www.thai-tai.tv/news/17624/
    ตลกร้ายการเมืองไทย! 'ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์' นายกฯ แบกรับ 'เกมของพ่อ' https://www.thai-tai.tv/news/17624/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • 20 ปี สิ้น “สาวสองพันปี” เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ ✨ เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น 🟣 ผู้นำเทรนด์ม่วงหัวจรดเท้า สาวเปรี้ยวแห่งยุค

    ย้อนตำนานเจ้าแม่ตัดริบบิ้น เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ หญิงสาวผู้เปลี่ยนทุกเวที ให้กลายเป็นรันเวย์แฟชั่นสีม่วง ตลอด 69 ปีเต็มของชีวิต ตัวแทนความเปรี้ยว และกล้าฉีกกฎยุคสมัยอย่างแท้จริง

    เสน่ห์ที่ไม่มีวันลบเลือน วงสังคมไฮโซไทย 🌟 ถ้าจะกล่าวถึงผู้หญิง ที่ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองจางหาย จากความสนใจของผู้คน ชื่อของ “เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่” หรือที่เรียกขานกันว่า "เจ้าป้า" ต้องโผล่มาในใจคนรุ่นเก่าและใหม่เสมอ 🟣 เจ้าป้าคือ "สาวสองพันปี" ตำนานแฟชั่นม่วง ที่กลายเป็นไอคอนของความเปรี้ยว ความมั่นใจ และความโดดเด่นเหนือใคร ✨

    ตลอด 69 ปีของชีวิต เจ้ากอแก้วได้สร้างตำนานในหลายบท ทั้งในฐานะลูกหลานเจ้านายฝ่ายเหนือแห่งเชียงใหม่ 🏯 นักเรียนที่มีการศึกษาระดับสากล 📚 ผู้นำแฟชั่นที่ไม่กลัวคำครหา 👜 และ "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ ที่ไม่เคยปล่อยให้เวทีไหนเงียบเหงา ❤️

    👑 เชื้อสายเจ้านายฝ่ายเหนือ อดีตผู้ครองนครเชียงใหม่ เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2478 ในตระกูล "ณ เชียงใหม่" อันทรงเกียรติ เป็นธิดาคนสุดท้องของเจ้ากาวิละวงศ์ กับเจ้าศิริประกาย ณ เชียงใหม่ 🌸 เป็นหลานสาวของเจ้าแก้วนวรัฐ ผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย

    ชื่อที่มีความหมาย และเรื่องราวที่น่าจดจำ เมื่อแรกเกิด ได้รับพระราชทานชื่อ "ประกายกาวิล" จากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐกาลที่ 7 ต่อมาเมื่อหม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา ขอเป็นแม่อุปถัมภ์ ได้ไปที่เชียงใหม่ และไปเฝ้าเจ้าตาขอให้ตั้งชื่อหลานสาวว่า “กอบแก้ว” แต่ตัว บ.ใบไม้หายไป จึงกลายเป็น “กอแก้ว” 🎉

    ✈️ เจ้ากอแก้วได้รับการศึกษาระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อ ที่ประเทศอังกฤษ 🇬🇧 และฝรั่งเศส 🇫🇷

    - Raven's Croft ในอีสต์บอร์น
    - Southampton Technical College
    - เรียนพิมพ์ดีดและเลขานุการที่ Pitman College กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
    - ฝึกมารยาทและการเข้าสังคมที่ Lucy Clayton
    - เรียนภาษาและมารยาททางสังคมที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส🇫🇷

    ภายหลัง เจ้ากอแก้วสามารถใช้ภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศสได้อย่างคล่องแคล่ว ✍️

    เจ้ากอแก้ว เจ้าแม่แฟชั่นแห่งยุคที่ไม่เคยตกเทรนด์ 💄👠 สีม่วง เอกลักษณ์ที่กลายเป็นตำนาน ไม่ว่าจะผ่านมากี่ทศวรรษ สีม่วงก็ยังเป็นสีประจำตัวของเจ้าป้าคนนี้ 🔮 เจ้าป้าย้อมผมเป็นสีม่วงเข้ม ฟูฟ่องตั้งแต่รากจรดปลาย และเลือกเครื่องแต่งกายทุกชิ้น ตั้งแต่หมวก 🧢 เสื้อผ้า 👗 กระเป๋า 👜 รองเท้า 👠 ไปจนถึงต่างหู 💎 ให้เป็นสีม่วงตั้งแต่หัวจรดเท้า

    เจ้าป้าเคยกล่าวขำๆ ว่า... “ทีแรกเลย ป้าต้องการสีเปลือกมังคุด แต่ไม่รู้ว่าช่างเขาผสมยังไง ผสมไปผสมมามันก็กลายเป็นสีนี้ไปได้ พอออกมาอย่างนี้เราก็เออ สวยดีแฮะ ก็เลยเอาสีนี้ก็สีนี้แหละชอบ” 😄

    ตำนานการตัดริบบิ้นที่ไม่มีใครเทียบ เจ้าป้าได้รับฉายา "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ เพราะการปรากฏตัวที่งานเปิดตัวต่างๆ มักนำมาซึ่งโชคลาภ และความสำเร็จแก่เจ้าของกิจการ 🏢 เคยสร้างสถิติตัดริบบิ้น 8 งานในวันเดียว! เจ้าป้ามีเทคนิคเฉพาะในการ "จรดกรรไกร" ให้นักข่าวถ่ายภาพได้มุมเป๊ะทุกครั้ง 📸

    ความเปรี้ยวที่เหนือกาลเวลา 🕶 เจ้ากอแก้วเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 14 ปี 🚬 ใส่เสื้อเกาะอกตั้งแต่อายุ 20 ปี 👗 และชอบดื่มไวน์ 🍷 พร้อมแต่งหน้าเข้ม ตั้งแต่ยุคที่ผู้หญิงไทยยังนิยมเรียบร้อย เจ้าป้าไม่เคยกลัวคำวิจารณ์ แต่กลับเห็นว่าเป็นสีสันของชีวิต 🖌️

    ถ้อยคำอมตะของสาวสองพันปี "คนมอง ก็อยากมองเอง ช่วยอะไรไม่ได้ เราบังคับเขาไม่ได้ แม้ว่าเขาจะเห็นเราตลก เอาเราไปล้อเลียนก็เถอะ แต่เราถือว่าเขาให้เกียรติเรา" 🌟

    ❤️ เจ้ากอแก้วสมรสครั้งแรกกับ พลตำรวจโท ทิพย์ อัศวรักษ์ มีบุตรชาย 1 คน คือ ทินกร อัศวรักษ์ หรือกุ๊กกี้ ต่อมาหย่าขาดกัน และใช้ชีวิตคู่กับเรืออากาศเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช อีก 6 ปี ก่อนลงเอยกับเอดิลเบอร์โต้ โรเมโร ชาวฟิลิปปินส์ แม้ไม่มีบุตรร่วมกัน แต่ก็มีช่วงเวลาคู่ชีวิตที่มีค่า 💞

    ผลงานและหน้าที่การงานที่น่าประทับใจ 💼
    - บริษัท CTO. Lines
    - เลขานุการและมัคคุเทศก์ บริษัทซีต้า แทรเวล
    - ประชาสัมพันธ์โรงแรมชวลิต หรือแอมบาสซาเดอร์ในปัจจุบัน
    - ประชาสัมพันธ์ ศูนย์บริหารร่างกายโจแอนดรูว์
    - ที่ปรึกษาการตลาด บริษัทเดอะมอลล์กรุ๊ป

    💐 เจ้ากอแก้วประกายกาวิลเสียชีวิต เมื่อช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 เวลา 10.30 น. ด้วยวัย 69 ปี สิ้นสุดตำนาน "สาวสองพันปี" ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานหีบทองทึบ และรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ที่วัดธาตุทอง ✨ พิธีพระราชทานเพลิงศพ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2548

    ตำนานที่ยังคงอยู่ในใจผู้คน 🕊️ 20 ปีผ่านไป ชื่อของเจ้ากอแก้วประกายกาวิล ยังไม่จางหาย เจ้าป้าคือแรงบันดาลใจ ให้คนรุ่นใหม่ที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก และกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง 💜

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 131110 มี.ค. 2568

    #เจ้ากอแก้วประกายกาวิล #สาวสองพันปี #เจ้าแม่ตัดริบบิ้น #แฟชั่นสีม่วง #ไฮโซเชียงใหม่ #ตำนานสังคมไทย #สาวเปรี้ยวแห่งยุค #กอแก้วประกายกาวิล #ChiangMaiLegend #PurpleIcon
    20 ปี สิ้น “สาวสองพันปี” เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ ✨ เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น 🟣 ผู้นำเทรนด์ม่วงหัวจรดเท้า สาวเปรี้ยวแห่งยุค ย้อนตำนานเจ้าแม่ตัดริบบิ้น เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ หญิงสาวผู้เปลี่ยนทุกเวที ให้กลายเป็นรันเวย์แฟชั่นสีม่วง ตลอด 69 ปีเต็มของชีวิต ตัวแทนความเปรี้ยว และกล้าฉีกกฎยุคสมัยอย่างแท้จริง เสน่ห์ที่ไม่มีวันลบเลือน วงสังคมไฮโซไทย 🌟 ถ้าจะกล่าวถึงผู้หญิง ที่ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองจางหาย จากความสนใจของผู้คน ชื่อของ “เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่” หรือที่เรียกขานกันว่า "เจ้าป้า" ต้องโผล่มาในใจคนรุ่นเก่าและใหม่เสมอ 🟣 เจ้าป้าคือ "สาวสองพันปี" ตำนานแฟชั่นม่วง ที่กลายเป็นไอคอนของความเปรี้ยว ความมั่นใจ และความโดดเด่นเหนือใคร ✨ ตลอด 69 ปีของชีวิต เจ้ากอแก้วได้สร้างตำนานในหลายบท ทั้งในฐานะลูกหลานเจ้านายฝ่ายเหนือแห่งเชียงใหม่ 🏯 นักเรียนที่มีการศึกษาระดับสากล 📚 ผู้นำแฟชั่นที่ไม่กลัวคำครหา 👜 และ "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ ที่ไม่เคยปล่อยให้เวทีไหนเงียบเหงา ❤️ 👑 เชื้อสายเจ้านายฝ่ายเหนือ อดีตผู้ครองนครเชียงใหม่ เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2478 ในตระกูล "ณ เชียงใหม่" อันทรงเกียรติ เป็นธิดาคนสุดท้องของเจ้ากาวิละวงศ์ กับเจ้าศิริประกาย ณ เชียงใหม่ 🌸 เป็นหลานสาวของเจ้าแก้วนวรัฐ ผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย ชื่อที่มีความหมาย และเรื่องราวที่น่าจดจำ เมื่อแรกเกิด ได้รับพระราชทานชื่อ "ประกายกาวิล" จากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐกาลที่ 7 ต่อมาเมื่อหม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา ขอเป็นแม่อุปถัมภ์ ได้ไปที่เชียงใหม่ และไปเฝ้าเจ้าตาขอให้ตั้งชื่อหลานสาวว่า “กอบแก้ว” แต่ตัว บ.ใบไม้หายไป จึงกลายเป็น “กอแก้ว” 🎉 ✈️ เจ้ากอแก้วได้รับการศึกษาระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อ ที่ประเทศอังกฤษ 🇬🇧 และฝรั่งเศส 🇫🇷 - Raven's Croft ในอีสต์บอร์น - Southampton Technical College - เรียนพิมพ์ดีดและเลขานุการที่ Pitman College กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ - ฝึกมารยาทและการเข้าสังคมที่ Lucy Clayton - เรียนภาษาและมารยาททางสังคมที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส🇫🇷 ภายหลัง เจ้ากอแก้วสามารถใช้ภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศสได้อย่างคล่องแคล่ว ✍️ เจ้ากอแก้ว เจ้าแม่แฟชั่นแห่งยุคที่ไม่เคยตกเทรนด์ 💄👠 สีม่วง เอกลักษณ์ที่กลายเป็นตำนาน ไม่ว่าจะผ่านมากี่ทศวรรษ สีม่วงก็ยังเป็นสีประจำตัวของเจ้าป้าคนนี้ 🔮 เจ้าป้าย้อมผมเป็นสีม่วงเข้ม ฟูฟ่องตั้งแต่รากจรดปลาย และเลือกเครื่องแต่งกายทุกชิ้น ตั้งแต่หมวก 🧢 เสื้อผ้า 👗 กระเป๋า 👜 รองเท้า 👠 ไปจนถึงต่างหู 💎 ให้เป็นสีม่วงตั้งแต่หัวจรดเท้า เจ้าป้าเคยกล่าวขำๆ ว่า... “ทีแรกเลย ป้าต้องการสีเปลือกมังคุด แต่ไม่รู้ว่าช่างเขาผสมยังไง ผสมไปผสมมามันก็กลายเป็นสีนี้ไปได้ พอออกมาอย่างนี้เราก็เออ สวยดีแฮะ ก็เลยเอาสีนี้ก็สีนี้แหละชอบ” 😄 ตำนานการตัดริบบิ้นที่ไม่มีใครเทียบ เจ้าป้าได้รับฉายา "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ เพราะการปรากฏตัวที่งานเปิดตัวต่างๆ มักนำมาซึ่งโชคลาภ และความสำเร็จแก่เจ้าของกิจการ 🏢 เคยสร้างสถิติตัดริบบิ้น 8 งานในวันเดียว! เจ้าป้ามีเทคนิคเฉพาะในการ "จรดกรรไกร" ให้นักข่าวถ่ายภาพได้มุมเป๊ะทุกครั้ง 📸 ความเปรี้ยวที่เหนือกาลเวลา 🕶 เจ้ากอแก้วเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 14 ปี 🚬 ใส่เสื้อเกาะอกตั้งแต่อายุ 20 ปี 👗 และชอบดื่มไวน์ 🍷 พร้อมแต่งหน้าเข้ม ตั้งแต่ยุคที่ผู้หญิงไทยยังนิยมเรียบร้อย เจ้าป้าไม่เคยกลัวคำวิจารณ์ แต่กลับเห็นว่าเป็นสีสันของชีวิต 🖌️ ถ้อยคำอมตะของสาวสองพันปี "คนมอง ก็อยากมองเอง ช่วยอะไรไม่ได้ เราบังคับเขาไม่ได้ แม้ว่าเขาจะเห็นเราตลก เอาเราไปล้อเลียนก็เถอะ แต่เราถือว่าเขาให้เกียรติเรา" 🌟 ❤️ เจ้ากอแก้วสมรสครั้งแรกกับ พลตำรวจโท ทิพย์ อัศวรักษ์ มีบุตรชาย 1 คน คือ ทินกร อัศวรักษ์ หรือกุ๊กกี้ ต่อมาหย่าขาดกัน และใช้ชีวิตคู่กับเรืออากาศเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช อีก 6 ปี ก่อนลงเอยกับเอดิลเบอร์โต้ โรเมโร ชาวฟิลิปปินส์ แม้ไม่มีบุตรร่วมกัน แต่ก็มีช่วงเวลาคู่ชีวิตที่มีค่า 💞 ผลงานและหน้าที่การงานที่น่าประทับใจ 💼 - บริษัท CTO. Lines - เลขานุการและมัคคุเทศก์ บริษัทซีต้า แทรเวล - ประชาสัมพันธ์โรงแรมชวลิต หรือแอมบาสซาเดอร์ในปัจจุบัน - ประชาสัมพันธ์ ศูนย์บริหารร่างกายโจแอนดรูว์ - ที่ปรึกษาการตลาด บริษัทเดอะมอลล์กรุ๊ป 💐 เจ้ากอแก้วประกายกาวิลเสียชีวิต เมื่อช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 เวลา 10.30 น. ด้วยวัย 69 ปี สิ้นสุดตำนาน "สาวสองพันปี" ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานหีบทองทึบ และรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ที่วัดธาตุทอง ✨ พิธีพระราชทานเพลิงศพ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ตำนานที่ยังคงอยู่ในใจผู้คน 🕊️ 20 ปีผ่านไป ชื่อของเจ้ากอแก้วประกายกาวิล ยังไม่จางหาย เจ้าป้าคือแรงบันดาลใจ ให้คนรุ่นใหม่ที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก และกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง 💜 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 131110 มี.ค. 2568 #เจ้ากอแก้วประกายกาวิล #สาวสองพันปี #เจ้าแม่ตัดริบบิ้น #แฟชั่นสีม่วง #ไฮโซเชียงใหม่ #ตำนานสังคมไทย #สาวเปรี้ยวแห่งยุค #กอแก้วประกายกาวิล #ChiangMaiLegend #PurpleIcon
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1000 มุมมอง 0 รีวิว
  • สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ Storyฯ คุยถึงที่มาของวลีเด็ดจากซีรีส์ <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> มีเพื่อนเพจถามถึงเรื่องละครงิ้วที่หรูอี้พูดถึงบ่อยๆ ในเรื่อง ซึ่งก็คือ ‘เฉียงโถวหม่าซ่าง’ (墙头马上) ขอใช้คำแปลตรงตัวว่า ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ ซึ่งในซีรีส์เท้าความว่า การชมงิ้วเรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่หรูอี้และเฉียนหลงได้พบกัน และต่อมามีฉากที่เฉียนหลงบอกว่าจะไม่อ่อนแอเหมือนคุณชายสกุลเผย และหรูอี้บอกว่าไม่อยากต้องเจอสภาพแบบคุณหนูหลี่ที่ถูกบังคับให้ต้องทิ้งลูกไป ทำเอาผู้ชมงงไปตามๆ กันว่าเขาคุยอะไรกัน

    วันนี้เรามาคุยกันเรื่อง ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ นี้

    ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ เป็นละครงิ้วสมัยราชวงศ์หยวนมีชื่อเต็มว่า ‘เผยส้าวจวิ้น เฉียงโถวหม่าซ่าง’ (裴少俊墙头马上) ต่อมาตัดชื่อสั้นลงเหลือเพียง ‘เฉียงโถวหม่าซ่าง’ เป็นผลงานของ ‘ไป๋ผ้อ’ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ยอดผู้แต่งบทละครงิ้วในสมัยนั้นและผลงานของเขายังได้รับการสืบทอดและจัดแสดงในปัจจุบันอีกหลายเรื่อง และ ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ นี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสี่ยอดละครงิ้วแนวรักโรแมนติกสมัยหยวน

    ละครงิ้วนี้ดัดแปลงมาจากบทกวีสมัยถังของไป๋จวีอี (ค.ศ. 772-846) (หมายเหตุ คือเขาคือนักการเมืองผู้เคยสร้างผลงานบทกวีชื่นชมความงามของดอกซากุระหรืออิงฮวาที่ Storyฯ เคยเขียนถึง https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/686842736777355 )
    บทกวีที่ว่านี้มีชื่อว่า ‘งมขวดเงินจากก้นบ่อ’ (井底引银瓶) เป็นหนึ่งในผลงานที่เลื่องชื่อที่สุดของเขา ยาวถึง 34 วรรค สรุปเนื้อหาเป็นเรื่องราวความรักรันทด โดยมีอารัมภบทว่า ใช้ด้ายผูกขวดเงินดึงขึ้นเกือบจะพ้นบ่อ แต่ด้ายก็ขาดเสียก่อน เอาหยกมาเจียรด้วยหิน กำลังจะได้ปิ่นปักผมก็มาหักเสียก่อน เป็นการหวนรำลึกถึงความรักในอดีตที่ขาดสะบั้นลง อดีตที่ว่านี้ก็คือเรื่องคุณหนูนางหนึ่งที่ถูกเลี้ยงมาอย่างริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม วันๆ ถูกขังอยู่แต่ในสวนหลังบ้าน จึงชอบปีนขึ้นไปเกาะสันกำแพงมองดูโลกภายนอก อยู่มาวันหนึ่งยืนมองอยู่อย่างนี้ก็สบตาเข้ากับคุณชายท่านหนึ่งที่ขี่ม้าขาวผ่านมา เกิดเป็นรักแรกพบ ต่อมาก็หนีตามคุณชายผู้นั้นกลับไปยังบ้านของเขาที่อีกเมืองหนึ่ง แต่ด้วยเป็นการหนีตาม ไม่ได้มีตบแต่งตามพิธีการ นางจึงไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวฝ่ายชาย ถูกมองว่าเป็นเพียงอนุ ไม่ใช่ภรรยาเอก สุดท้ายถูกบีบให้ทิ้งลูกและไล่ออกไป คุณชายนั้นก็ไม่ได้ปกป้อง นางจึงต้องออกมาผจญชีวิตตามลำพังเพราะละอายเกินกว่าจะแบกหน้ากลับบ้านเกิด บทกวีจบลงด้วยการรำพันของนางว่า ความรักเพียงชั่วขณะของบุรุษ กลับเป็นความพลาดทั้งชีวิตของสตรี และเตือนเหล่าหญิงสาวไร้เดียงสาที่กำลังมีความรักให้จงสังวรไว้ว่า อย่าได้เอาชีวิตทั้งชีวิตของตนมาทุ่มเทให้กับชายใดได้โดยง่าย

    วรรคที่กล่าวถึงตอนสบตากันข้ามกำแพงและตกหลุมรักนั้น ก็คือวรรคที่หรูอี้มักเอ่ยติดปากยามที่นางและเฉียนหลงพูดถึงละครงิ้ว ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ นี้ ซึ่ง Storyฯ ขอแปลและเรียบเรียงวรรคนี้ว่า ‘เหนือกำแพงประสานตาหลังอาชา หนึ่งพานพบคนึงหาเจียนวางวาย’ (墙头马上遥相顾,一见知君即断肠 หมายเหตุ ภาษาจีนใช้คำประมาณว่า ‘รักและคิดถึงจนทำให้ไส้ขาดจนตายได้!’) เป็นคำพูดที่หรูอี้พยายามสื่อให้เฉียนหลงเข้าใจว่านางรักเขามากมาย

    นับว่าเป็นบทกวีที่แฝงไว้ด้วยความเศร้าและความผิดหวัง แต่ทำไมหรูอี้และเฉียนหลงจึงคุยกันราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่มีความหมายดี?

    นั่นเป็นเพราะว่าละครงิ้วและบทกวีมีความแตกต่าง ละครงิ้วที่นิยมในสมัยหยวนนั้น เป็นสไตล์แบบ ‘จ๋าจวี้’ (Mixed Play ที่ Storyฯ เคยพูดถึงตอนคุยเรื่อง <สามบุปผาลิขิตฝัน>) กล่าวคือมีหลากหลายอรรถรส ละครเรื่องนี้จึงถูกแต่งเติมให้มีทั้งความเศร้า ความตลกและจบแบบสุขนิยม มีการต่อเติมเรื่องราวว่า สตรีนางนี้คือคุณหนูหลี่เชียนจิน แต่นางโหยหาความรักและต่อต้านการถูกกักขัง นางหนีตามเผยส้าวจวิ้นมาถึงเรือนสกุลเผย แต่ต้องแอบอยู่ในเรือนสวนของสามีไม่ให้พ่อของสามีรู้ อยู่มาเจ็ดปีมีบุตรชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ความลับก็ถูกเปิดเผย นางถูกกล่าวหาว่าเป็นนางโลมและถูกบีบให้ต้องทิ้งลูกกลับบ้านเกิดไปโดยที่เผยส้าวจวิ้นทำอะไรไม่ได้ ต่อมาเผยส้าวจวิ้นสอบได้เป็นราชบัณฑิตเป็นขุนนางติดยศ ทางบ้านไม่กล้าขัดเขาอีก เขาก็มาง้อนาง ง้ออยู่นานจนสุดท้ายนางใจอ่อนยอมคืนดีด้วย และได้ครองรักกันอย่างมีความสุขในที่สุด เป็นเรื่องราวความรักหลากหลายอรรถรสที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดที่จะฝ่าฟันอุปสรรคให้หลุดพ้นจากกรอบสังคม จึงเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมตลอดหลายยุคหลายสมัย

    ‘เหนือกำแพงประสานตาหลังอาชา หนึ่งพานพบคนึงหาเจียนวางวาย’ ... ไม่แน่ว่าหรูอี้อาจต้องการเพียงใช้ประโยคนี้แสดงถึงความรักอย่างยิ่งยวดที่มีต่อเฉียนหลง แต่บทสรุปเรื่องราวชีวิตของนางผ่านซีรีส์เรื่องนี้กลับกลายเป็นอย่างที่บทกวีว่าไว้... ความรักเพียงชั่วขณะของบุรุษ กลับเป็นความพลาดทั้งชีวิตของสตรี

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://kknews.cc/history/xeg9gx8.html
    https://www.sgss8.net/tpdq/21724747/
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://so.gushiwen.cn/shiwenv_5487665ffe0a.aspx
    https://baike.baidu.com/item/井底引银瓶/10214172
    https://www.sohu.com/a/260464211_801417
    https://baike.baidu.com/item/裴少俊墙头马上/754408

    #หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์ #จ๋าจวี้ #งิ้วสมัยหยวน #เฉียงโถวหม่าซ่าง #สันกำแพงหลังอาชา
    สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ Storyฯ คุยถึงที่มาของวลีเด็ดจากซีรีส์ <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> มีเพื่อนเพจถามถึงเรื่องละครงิ้วที่หรูอี้พูดถึงบ่อยๆ ในเรื่อง ซึ่งก็คือ ‘เฉียงโถวหม่าซ่าง’ (墙头马上) ขอใช้คำแปลตรงตัวว่า ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ ซึ่งในซีรีส์เท้าความว่า การชมงิ้วเรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่หรูอี้และเฉียนหลงได้พบกัน และต่อมามีฉากที่เฉียนหลงบอกว่าจะไม่อ่อนแอเหมือนคุณชายสกุลเผย และหรูอี้บอกว่าไม่อยากต้องเจอสภาพแบบคุณหนูหลี่ที่ถูกบังคับให้ต้องทิ้งลูกไป ทำเอาผู้ชมงงไปตามๆ กันว่าเขาคุยอะไรกัน วันนี้เรามาคุยกันเรื่อง ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ นี้ ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ เป็นละครงิ้วสมัยราชวงศ์หยวนมีชื่อเต็มว่า ‘เผยส้าวจวิ้น เฉียงโถวหม่าซ่าง’ (裴少俊墙头马上) ต่อมาตัดชื่อสั้นลงเหลือเพียง ‘เฉียงโถวหม่าซ่าง’ เป็นผลงานของ ‘ไป๋ผ้อ’ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ยอดผู้แต่งบทละครงิ้วในสมัยนั้นและผลงานของเขายังได้รับการสืบทอดและจัดแสดงในปัจจุบันอีกหลายเรื่อง และ ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ นี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสี่ยอดละครงิ้วแนวรักโรแมนติกสมัยหยวน ละครงิ้วนี้ดัดแปลงมาจากบทกวีสมัยถังของไป๋จวีอี (ค.ศ. 772-846) (หมายเหตุ คือเขาคือนักการเมืองผู้เคยสร้างผลงานบทกวีชื่นชมความงามของดอกซากุระหรืออิงฮวาที่ Storyฯ เคยเขียนถึง https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/686842736777355 ) บทกวีที่ว่านี้มีชื่อว่า ‘งมขวดเงินจากก้นบ่อ’ (井底引银瓶) เป็นหนึ่งในผลงานที่เลื่องชื่อที่สุดของเขา ยาวถึง 34 วรรค สรุปเนื้อหาเป็นเรื่องราวความรักรันทด โดยมีอารัมภบทว่า ใช้ด้ายผูกขวดเงินดึงขึ้นเกือบจะพ้นบ่อ แต่ด้ายก็ขาดเสียก่อน เอาหยกมาเจียรด้วยหิน กำลังจะได้ปิ่นปักผมก็มาหักเสียก่อน เป็นการหวนรำลึกถึงความรักในอดีตที่ขาดสะบั้นลง อดีตที่ว่านี้ก็คือเรื่องคุณหนูนางหนึ่งที่ถูกเลี้ยงมาอย่างริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม วันๆ ถูกขังอยู่แต่ในสวนหลังบ้าน จึงชอบปีนขึ้นไปเกาะสันกำแพงมองดูโลกภายนอก อยู่มาวันหนึ่งยืนมองอยู่อย่างนี้ก็สบตาเข้ากับคุณชายท่านหนึ่งที่ขี่ม้าขาวผ่านมา เกิดเป็นรักแรกพบ ต่อมาก็หนีตามคุณชายผู้นั้นกลับไปยังบ้านของเขาที่อีกเมืองหนึ่ง แต่ด้วยเป็นการหนีตาม ไม่ได้มีตบแต่งตามพิธีการ นางจึงไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวฝ่ายชาย ถูกมองว่าเป็นเพียงอนุ ไม่ใช่ภรรยาเอก สุดท้ายถูกบีบให้ทิ้งลูกและไล่ออกไป คุณชายนั้นก็ไม่ได้ปกป้อง นางจึงต้องออกมาผจญชีวิตตามลำพังเพราะละอายเกินกว่าจะแบกหน้ากลับบ้านเกิด บทกวีจบลงด้วยการรำพันของนางว่า ความรักเพียงชั่วขณะของบุรุษ กลับเป็นความพลาดทั้งชีวิตของสตรี และเตือนเหล่าหญิงสาวไร้เดียงสาที่กำลังมีความรักให้จงสังวรไว้ว่า อย่าได้เอาชีวิตทั้งชีวิตของตนมาทุ่มเทให้กับชายใดได้โดยง่าย วรรคที่กล่าวถึงตอนสบตากันข้ามกำแพงและตกหลุมรักนั้น ก็คือวรรคที่หรูอี้มักเอ่ยติดปากยามที่นางและเฉียนหลงพูดถึงละครงิ้ว ‘สันกำแพง-หลังอาชา’ นี้ ซึ่ง Storyฯ ขอแปลและเรียบเรียงวรรคนี้ว่า ‘เหนือกำแพงประสานตาหลังอาชา หนึ่งพานพบคนึงหาเจียนวางวาย’ (墙头马上遥相顾,一见知君即断肠 หมายเหตุ ภาษาจีนใช้คำประมาณว่า ‘รักและคิดถึงจนทำให้ไส้ขาดจนตายได้!’) เป็นคำพูดที่หรูอี้พยายามสื่อให้เฉียนหลงเข้าใจว่านางรักเขามากมาย นับว่าเป็นบทกวีที่แฝงไว้ด้วยความเศร้าและความผิดหวัง แต่ทำไมหรูอี้และเฉียนหลงจึงคุยกันราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่มีความหมายดี? นั่นเป็นเพราะว่าละครงิ้วและบทกวีมีความแตกต่าง ละครงิ้วที่นิยมในสมัยหยวนนั้น เป็นสไตล์แบบ ‘จ๋าจวี้’ (Mixed Play ที่ Storyฯ เคยพูดถึงตอนคุยเรื่อง <สามบุปผาลิขิตฝัน>) กล่าวคือมีหลากหลายอรรถรส ละครเรื่องนี้จึงถูกแต่งเติมให้มีทั้งความเศร้า ความตลกและจบแบบสุขนิยม มีการต่อเติมเรื่องราวว่า สตรีนางนี้คือคุณหนูหลี่เชียนจิน แต่นางโหยหาความรักและต่อต้านการถูกกักขัง นางหนีตามเผยส้าวจวิ้นมาถึงเรือนสกุลเผย แต่ต้องแอบอยู่ในเรือนสวนของสามีไม่ให้พ่อของสามีรู้ อยู่มาเจ็ดปีมีบุตรชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ความลับก็ถูกเปิดเผย นางถูกกล่าวหาว่าเป็นนางโลมและถูกบีบให้ต้องทิ้งลูกกลับบ้านเกิดไปโดยที่เผยส้าวจวิ้นทำอะไรไม่ได้ ต่อมาเผยส้าวจวิ้นสอบได้เป็นราชบัณฑิตเป็นขุนนางติดยศ ทางบ้านไม่กล้าขัดเขาอีก เขาก็มาง้อนาง ง้ออยู่นานจนสุดท้ายนางใจอ่อนยอมคืนดีด้วย และได้ครองรักกันอย่างมีความสุขในที่สุด เป็นเรื่องราวความรักหลากหลายอรรถรสที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดที่จะฝ่าฟันอุปสรรคให้หลุดพ้นจากกรอบสังคม จึงเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมตลอดหลายยุคหลายสมัย ‘เหนือกำแพงประสานตาหลังอาชา หนึ่งพานพบคนึงหาเจียนวางวาย’ ... ไม่แน่ว่าหรูอี้อาจต้องการเพียงใช้ประโยคนี้แสดงถึงความรักอย่างยิ่งยวดที่มีต่อเฉียนหลง แต่บทสรุปเรื่องราวชีวิตของนางผ่านซีรีส์เรื่องนี้กลับกลายเป็นอย่างที่บทกวีว่าไว้... ความรักเพียงชั่วขณะของบุรุษ กลับเป็นความพลาดทั้งชีวิตของสตรี (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://kknews.cc/history/xeg9gx8.html https://www.sgss8.net/tpdq/21724747/ Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://so.gushiwen.cn/shiwenv_5487665ffe0a.aspx https://baike.baidu.com/item/井底引银瓶/10214172 https://www.sohu.com/a/260464211_801417 https://baike.baidu.com/item/裴少俊墙头马上/754408 #หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์ #จ๋าจวี้ #งิ้วสมัยหยวน #เฉียงโถวหม่าซ่าง #สันกำแพงหลังอาชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 810 มุมมอง 0 รีวิว
  • สภาลุกเป็นไฟ เพราะพรรคประชาชนพม่าเน้นเล่นเกมส์แบบแหกกฎ ชกใต้เข็มขัด มากเกินไป ต่อไปก็เอาพม่าเถื่อนมาโกหกจ้อกลางสภา ใครๆฟังก็ตลก แบบเซเลนเศษสวะกี้กี้ไง
    สภาลุกเป็นไฟ เพราะพรรคประชาชนพม่าเน้นเล่นเกมส์แบบแหกกฎ ชกใต้เข็มขัด มากเกินไป ต่อไปก็เอาพม่าเถื่อนมาโกหกจ้อกลางสภา ใครๆฟังก็ตลก แบบเซเลนเศษสวะกี้กี้ไง
    “วันนอร์” ลั่นหากฝ่ายค้าน ไม่แก้ญัตติซักฟอกตัดชื่อ ”ทักษิณ” ออก ก็ไม่บรรจุวาระ ยัน ต้องทำตามข้อบังคับ หากบรรจุไปประธานโดนฟ้องคนแรก ผู้เสนอญัตติเป็นจำเลย 1,2 คาดฝ่ายค้านอุทธรณ์ จันทร์-อังคารนี้ หรือสัปดาห์หน้า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000022556

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ไม่รู้จะทำอะไรดี แต่ก็รีแลกซ์ให้อิ่มก่อนค่อยลุยทำในสิ่งที่ตัวเองพยายามจะทำ แต่ดูยูทูบเบอร์สายตลกทำรายการ ไม่ลองไม่รู้ ดินเกษตรบ้านแพ้วของป๋าเด่นที่ล่วงลับไป ผมรู้สึกมีความสุข ฮีลใจไปเยอะเลย ผ่อนคล้าย แต่คนในครอบครัวจ้องจะพูดจาดูถูก แทงใจดำ หยามน้ำหน้ามากเท่าไหร่ ผมคงจะไม่อ่อนไหวตามคำพูดเหล่านั้น ที่ผ่านมาผมฟังคำเหล่านี้และนอยด์ ดิ่ง เครียด คิดมาก หงุดหงิดมามากพอละ แต่เสพบันเทิงที่เคยเสพอย่างหนักอย่างตลก เล่นเกมส์ ก็อิ่มสุขแล้ว ผมเองก็เคยมูจนเสียทุกอย่างที่เคยเคียงข้างเรา ไม่ว่าจะเพื่อน สังคมส่วนน้อยบางสังคม หรือแม้กระทั่วโอกาส แต่ผมไม่ขยับสร้างงานสร้างโอกาส กลับกลายเป็นว่าผมต้องสูญเสียโอกาสไป 2 ครั้งแล้วก็ตาม เซฟโซนคืออยู่คนเดียว ย้ายอยู่คนละที่ บางทีอยากย้ายไปอยู่พัทยา ไม่ก็พัทลุง เพราะชอบอาหารพัทลุงมากครับ
    วันนี้ไม่รู้จะทำอะไรดี แต่ก็รีแลกซ์ให้อิ่มก่อนค่อยลุยทำในสิ่งที่ตัวเองพยายามจะทำ แต่ดูยูทูบเบอร์สายตลกทำรายการ ไม่ลองไม่รู้ ดินเกษตรบ้านแพ้วของป๋าเด่นที่ล่วงลับไป ผมรู้สึกมีความสุข ฮีลใจไปเยอะเลย ผ่อนคล้าย แต่คนในครอบครัวจ้องจะพูดจาดูถูก แทงใจดำ หยามน้ำหน้ามากเท่าไหร่ ผมคงจะไม่อ่อนไหวตามคำพูดเหล่านั้น ที่ผ่านมาผมฟังคำเหล่านี้และนอยด์ ดิ่ง เครียด คิดมาก หงุดหงิดมามากพอละ แต่เสพบันเทิงที่เคยเสพอย่างหนักอย่างตลก เล่นเกมส์ ก็อิ่มสุขแล้ว ผมเองก็เคยมูจนเสียทุกอย่างที่เคยเคียงข้างเรา ไม่ว่าจะเพื่อน สังคมส่วนน้อยบางสังคม หรือแม้กระทั่วโอกาส แต่ผมไม่ขยับสร้างงานสร้างโอกาส กลับกลายเป็นว่าผมต้องสูญเสียโอกาสไป 2 ครั้งแล้วก็ตาม เซฟโซนคืออยู่คนเดียว ย้ายอยู่คนละที่ บางทีอยากย้ายไปอยู่พัทยา ไม่ก็พัทลุง เพราะชอบอาหารพัทลุงมากครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความเอ็ดดี้ อัษฎางค์นี้มีความหมายที่ควรค่าการอ่านเกี่ยวกับอคติของวัฒนธรรมของฝรั่งเหนือกว่าวัฒนธรรมอื่น กรณีนาย Jimmy Kimmel พิธีกรรายการดังสัมภาษณ์ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล เมื่อรายการ Jimmy Kimmel Live บอกกับลิซ่าว่า ชื่อ มุก ของเธอใน #TheWhiteLotus แปลว่า โง่งี่เง่า#อัษฎางค์ยมนาค“Ethnocentrism“แนวคิดที่มองว่าวัฒนธรรมของตนเหนือกว่าวัฒนธรรมอื่น ลิซ่า ไปออกรายการ Jimmy Kimmel Live แล้วพิธีกร Jimmy ถามถึงการสวมบทเป็น “มุก” ใน #TheWhiteLotus ว่าตัวละครที่้ที่ชื่อ “มุก” ในภาษาไทยมุก (Mook) แปลว่าอะไร?ลิซ่า ตอบว่า Pearl (ไข่มุก) แต่ Jimmy สวนกลับว่า Mook มันเป็นแสลงประมาณว่า Dumb นะ ไม่มีใครบอกเธอหรอ ลิซ่า บอกไม่มีนะ แต่มันเป็นชื่อคนไทยไง Jimmy พูดต่อว่าคงไม่มีปัญหาที่ไทย แต่ที่นี่อ่ะมีแน่ ลิซ่าตอบกลับว่า ถ้าอย่างนั้นอย่าเรียกว่ามุกที่นี่แล้วกัน ในภาษาไทย “มุก” หมายถึง ไข่มุก ซึ่งเป็นของมีค่า สวยงาม และมีความหมายดี ในขณะที่ มุก เป็นชื่อที่ดีในภาษาไทย แต่เสียงของคำนี้ไปพ้องกับคำในภาษาอังกฤษที่มีความหมายแย่ คำว่า “Mook” เป็นแสลงที่ใช้ดูถูกคน แปลประมาณว่า “คนโง่, ไร้ค่า”การที่ Jimmy Kimmel แซวชื่อว่า “Mook” แปลว่า Dumb (โง่) ในภาษาอังกฤษ อาจดูเหมือนเป็นมุกตลกของเขา แต่จริง ๆ แล้วเป็น การแสดงออกถึง Ethnocentrism (แนวคิดที่เอาวัฒนธรรมของตัวเองเป็นศูนย์กลาง) หรือไม่? Jimmy Kimmel มีสิทธิ์บอกว่า ควรเปลี่ยนชื่อไทยเพื่อให้เข้ากับภาษาอังกฤษ หรือไม่ชื่อเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ไม่ควรถูกลดค่าหรือถูกทำให้เป็นเรื่องตลก คนไทย ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อ เพียงเพราะมันไปพ้องเสียงกับคำที่ไม่ดีในภาษาอื่น จริงมั้ย?Ethnocentrism หรือ แนวคิดที่มองว่าวัฒนธรรมของตนเหนือกว่าวัฒนธรรมอื่น เป็นปัญหาที่ฝังรากลึกในสังคมตะวันตกและมักปรากฏในวงการบันเทิง สื่อมวลชน และชีวิตประจำวันของผู้คนที่ไม่ตระหนักถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมกรณีของ Jimmy Kimmel และชื่อ “มุก” (Mook) เป็นตัวอย่างที่ดีของ ethnocentric bias หรืออคติทางวัฒนธรรมที่ตะวันตกเป็นศูนย์กลาง Jimmy ตั้งคำถามถึงชื่อไทยโดยไม่ได้พยายามทำความเข้าใจวัฒนธรรมไทยก่อน เมื่อ Lisa อธิบายว่า “Mook” แปลว่า Pearl (ไข่มุก) ซึ่งเป็นชื่อที่มีความหมายดี Jimmy กลับ ตอบโต้โดยอ้างถึงความหมายในภาษาอังกฤษ เขาไม่ได้ตระหนักเลยว่าชื่อนี้เป็นเรื่องปกติในประเทศไทย และไม่มีเหตุผลที่ต้องเปลี่ยนชื่อ “มุก” เป็นชื่อที่ดีในภาษาไทย ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเพียงเพราะมันไปพ้องกับคำที่ไม่ดีในภาษาอังกฤษ และ Jimmy Kimmel ไม่ควรใช้มุกตลกที่อาจเป็นการลดค่าชื่อของคนไทย คนไทยควรภาคภูมิใจในชื่อของตัวเอง และมีสิทธิ์ใช้ชื่อตามวัฒนธรรมของตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเพื่อให้ใครพอใจทำไม Ethnocentrism เป็นปัญหา?Ethnocentrism ทำให้เกิดแนวคิดว่าคนจากวัฒนธรรมอื่นต้องปรับตัวให้เข้ากับมาตรฐานของตะวันตก แทนที่จะเคารพความแตกต่างสร้างอคติทางภาษา เช่น “ชื่อของคุณฟังดูแปลกในภาษาเรา ดังนั้นมันต้องผิด”ลดทอนคุณค่าทางวัฒนธรรม แทนที่จะเรียนรู้จากวัฒนธรรมอื่น และส่งเสริมแนวคิด “อารยธรรมของฉันสูงกว่า วัฒนธรรมของคุณต้องเปลี่ยน” ซึ่งเคยถูกใช้เป็นข้ออ้างในยุคล่าอาณานิคมสื่อมวลชนตะวันตกควรรับผิดชอบอย่างไร?Jimmy Kimmel เป็นพิธีกรระดับโลก ควรมีตระหนักถึงอิทธิพลของตนเอง คำพูดของเขามีผลกระทบต่อความคิดของผู้ชม ซึ่งควรให้เคารพความแตกต่างทางวัฒนธรรม การถามคำถามที่สะท้อนอคติทางวัฒนธรรมทำให้ผู้คนจากวัฒนธรรมอื่นรู้สึกถูกลดค่า Jimmy ควรเรียนรู้และให้เกียรติชื่อและอัตลักษณ์ของผู้อื่น ไม่ใช่ทุกอย่างต้องเข้ากับมาตรฐานของตะวันตกหาก Jimmy Kimmel เรียนรู้ที่จะเคารพวัฒนธรรมอื่นเพียงพอ เขาอาจเปลี่ยนมุกตลกที่เหยียดคนอื่นของเขานี้เป็นโอกาสอธิบายให้ผู้ชมรู้ว่า "มุก" คือไข่มุกอันทรงคุณค่าในภาษาไทย แทนที่จะลดทอนมันให้เป็นคำหยาบคาย ซึ่งนั่นคือบทบาทของสื่อที่ควรเป็นสะพานเชื่อมความเข้าใจข้ามวัฒนธรรมมากกว่าสร้างกำแพงในขณะที่ น้องลิซ่าถูกอบรมสั่งสอนมาดีทั้งจากเมืองไทยและเกาหลี ไม่งั้นเธอคงพูดสวนกับคุณว่า ชื่อ Jimmy ของคุณก็ฟังพ้องเสียงกับคำว่า “จิมิ” ซึ่งเป็นคำแสลงในภาษาไทย ซึ่งหมายถึง……จุดซ่อนเร้นของคุณผู้หญิง คุณจะรู้สึกอย่างไร? จิมิโชว์?รายการจิมิโชว์?https://youtu.be/ga7NkYeqh_A?si=C5yYwJEBKo-0Gvuh………………………………………………………………………………….“Ethnocentrism”Lisa appeared on Jimmy Kimmel Live, and the host, Jimmy, asked about her role as “Mook” in The White Lotus, specifically what the name “Mook” means in Thai.Lisa answered that it means “Pearl”, but Jimmy responded that “Mook” is slang for something like “Dumb.” “No one told you?” he asked.Lisa replied, “No, they didn’t, but it’s a Thai name.” Jimmy then said, “Maybe it’s not a problem in Thailand, but here, it definitely is.” Lisa responded, “Then don’t call me Mook here.”In Thai, “Mook” means pearl, which is valuable, beautiful, and meaningful. While “Mook” is a good name in Thai, the pronunciation of this word coincidentally resembles an English slang term with a negative meaning. In American English, “Mook” is slang used to insult someone, meaning something like “a fool” or “a worthless person.”When Jimmy Kimmel joked that “Mook” means “Dumb” in English, it might have seemed like a joke to him. But is it actually an expression of ethnocentrism—the belief that one’s own culture is the center of everything?Does Jimmy Kimmel have the right to say that a Thai name should be changed to fit the English language?A name is a part of cultural identity. It should not be devalued or turned into a joke. Thai people do not need to change their names just because they sound similar to an undesirable word in another language. Isn’t that true?Ethnocentrism, or the belief that one’s culture is superior to others, is a deeply rooted issue in Western society. It often appears in entertainment, media, and daily life among people who are unaware of cultural differences.The case of Jimmy Kimmel and the name “Mook” is a prime example of ethnocentric bias, where Western perspectives are centered, ignoring non-Western cultures.Jimmy questioned a Thai name without trying to understand Thai culture first. When Lisa explained that “Mook” means Pearl, a meaningful and positive name, Jimmy instead argued based on the English slang meaning. He did not recognize that this name is completely normal in Thailand and that there is no reason to change it.The name “Mook” is a good Thai name. There is no need to change it just because it coincidentally matches an English word with a bad meaning. And Jimmy Kimmel should not make jokes that diminish the value of Thai names.Thai people should be proud of their names and have the right to use them according to their culture without needing to change them for anyone else’s comfort.Why is Ethnocentrism a Problem?Ethnocentrism creates the belief that people from other cultures must adjust to Western standards instead of respecting diversity. • It creates linguistic bias, implying that “Your name sounds strange in our language, so it must be wrong.” • It devalues cultural identity, instead of encouraging learning from other cultures. • It promotes the idea that “My civilization is superior; your culture must change,” which was historically used as a justification for colonialism.How Should Western Media Be More Responsible?Jimmy Kimmel is a globally recognized host. He should be aware of his influence. His words impact public perception.Asking a question that reflects cultural bias makes people from other cultures feel devalued.Jimmy Kimmel should learn and respect other people’s names and identities. Not everything has to fit into Western standards.If Jimmy Kimmel had learned to respect other cultures more, he might have turned his joke into an opportunity to educate his audience that ‘Mook’ means a precious pearl in Thai, rather than reducing it to a vulgar term. That is the true role of the media—to serve as a bridge for cross-cultural understanding rather than building walls.On the other hand, Lisa has been well-raised and well-trained, both in Thailand and Korea. Otherwise, she might have responded to you by saying, ‘Your name, Jimmy, also sounds like ‘Jimi’ in Thai slang, which refers to… a woman’s private part. How would you feel? Jimi show!”"https://www.facebook.com/share/v/16CtwRaMG4/?mibextid=wwXIfr
    บทความเอ็ดดี้ อัษฎางค์นี้มีความหมายที่ควรค่าการอ่านเกี่ยวกับอคติของวัฒนธรรมของฝรั่งเหนือกว่าวัฒนธรรมอื่น กรณีนาย Jimmy Kimmel พิธีกรรายการดังสัมภาษณ์ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล เมื่อรายการ Jimmy Kimmel Live บอกกับลิซ่าว่า ชื่อ มุก ของเธอใน #TheWhiteLotus แปลว่า โง่งี่เง่า#อัษฎางค์ยมนาค“Ethnocentrism“แนวคิดที่มองว่าวัฒนธรรมของตนเหนือกว่าวัฒนธรรมอื่น ลิซ่า ไปออกรายการ Jimmy Kimmel Live แล้วพิธีกร Jimmy ถามถึงการสวมบทเป็น “มุก” ใน #TheWhiteLotus ว่าตัวละครที่้ที่ชื่อ “มุก” ในภาษาไทยมุก (Mook) แปลว่าอะไร?ลิซ่า ตอบว่า Pearl (ไข่มุก) แต่ Jimmy สวนกลับว่า Mook มันเป็นแสลงประมาณว่า Dumb นะ ไม่มีใครบอกเธอหรอ ลิซ่า บอกไม่มีนะ แต่มันเป็นชื่อคนไทยไง Jimmy พูดต่อว่าคงไม่มีปัญหาที่ไทย แต่ที่นี่อ่ะมีแน่ ลิซ่าตอบกลับว่า ถ้าอย่างนั้นอย่าเรียกว่ามุกที่นี่แล้วกัน ในภาษาไทย “มุก” หมายถึง ไข่มุก ซึ่งเป็นของมีค่า สวยงาม และมีความหมายดี ในขณะที่ มุก เป็นชื่อที่ดีในภาษาไทย แต่เสียงของคำนี้ไปพ้องกับคำในภาษาอังกฤษที่มีความหมายแย่ คำว่า “Mook” เป็นแสลงที่ใช้ดูถูกคน แปลประมาณว่า “คนโง่, ไร้ค่า”การที่ Jimmy Kimmel แซวชื่อว่า “Mook” แปลว่า Dumb (โง่) ในภาษาอังกฤษ อาจดูเหมือนเป็นมุกตลกของเขา แต่จริง ๆ แล้วเป็น การแสดงออกถึง Ethnocentrism (แนวคิดที่เอาวัฒนธรรมของตัวเองเป็นศูนย์กลาง) หรือไม่? Jimmy Kimmel มีสิทธิ์บอกว่า ควรเปลี่ยนชื่อไทยเพื่อให้เข้ากับภาษาอังกฤษ หรือไม่ชื่อเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ไม่ควรถูกลดค่าหรือถูกทำให้เป็นเรื่องตลก คนไทย ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อ เพียงเพราะมันไปพ้องเสียงกับคำที่ไม่ดีในภาษาอื่น จริงมั้ย?Ethnocentrism หรือ แนวคิดที่มองว่าวัฒนธรรมของตนเหนือกว่าวัฒนธรรมอื่น เป็นปัญหาที่ฝังรากลึกในสังคมตะวันตกและมักปรากฏในวงการบันเทิง สื่อมวลชน และชีวิตประจำวันของผู้คนที่ไม่ตระหนักถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมกรณีของ Jimmy Kimmel และชื่อ “มุก” (Mook) เป็นตัวอย่างที่ดีของ ethnocentric bias หรืออคติทางวัฒนธรรมที่ตะวันตกเป็นศูนย์กลาง Jimmy ตั้งคำถามถึงชื่อไทยโดยไม่ได้พยายามทำความเข้าใจวัฒนธรรมไทยก่อน เมื่อ Lisa อธิบายว่า “Mook” แปลว่า Pearl (ไข่มุก) ซึ่งเป็นชื่อที่มีความหมายดี Jimmy กลับ ตอบโต้โดยอ้างถึงความหมายในภาษาอังกฤษ เขาไม่ได้ตระหนักเลยว่าชื่อนี้เป็นเรื่องปกติในประเทศไทย และไม่มีเหตุผลที่ต้องเปลี่ยนชื่อ “มุก” เป็นชื่อที่ดีในภาษาไทย ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเพียงเพราะมันไปพ้องกับคำที่ไม่ดีในภาษาอังกฤษ และ Jimmy Kimmel ไม่ควรใช้มุกตลกที่อาจเป็นการลดค่าชื่อของคนไทย คนไทยควรภาคภูมิใจในชื่อของตัวเอง และมีสิทธิ์ใช้ชื่อตามวัฒนธรรมของตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเพื่อให้ใครพอใจทำไม Ethnocentrism เป็นปัญหา?Ethnocentrism ทำให้เกิดแนวคิดว่าคนจากวัฒนธรรมอื่นต้องปรับตัวให้เข้ากับมาตรฐานของตะวันตก แทนที่จะเคารพความแตกต่างสร้างอคติทางภาษา เช่น “ชื่อของคุณฟังดูแปลกในภาษาเรา ดังนั้นมันต้องผิด”ลดทอนคุณค่าทางวัฒนธรรม แทนที่จะเรียนรู้จากวัฒนธรรมอื่น และส่งเสริมแนวคิด “อารยธรรมของฉันสูงกว่า วัฒนธรรมของคุณต้องเปลี่ยน” ซึ่งเคยถูกใช้เป็นข้ออ้างในยุคล่าอาณานิคมสื่อมวลชนตะวันตกควรรับผิดชอบอย่างไร?Jimmy Kimmel เป็นพิธีกรระดับโลก ควรมีตระหนักถึงอิทธิพลของตนเอง คำพูดของเขามีผลกระทบต่อความคิดของผู้ชม ซึ่งควรให้เคารพความแตกต่างทางวัฒนธรรม การถามคำถามที่สะท้อนอคติทางวัฒนธรรมทำให้ผู้คนจากวัฒนธรรมอื่นรู้สึกถูกลดค่า Jimmy ควรเรียนรู้และให้เกียรติชื่อและอัตลักษณ์ของผู้อื่น ไม่ใช่ทุกอย่างต้องเข้ากับมาตรฐานของตะวันตกหาก Jimmy Kimmel เรียนรู้ที่จะเคารพวัฒนธรรมอื่นเพียงพอ เขาอาจเปลี่ยนมุกตลกที่เหยียดคนอื่นของเขานี้เป็นโอกาสอธิบายให้ผู้ชมรู้ว่า "มุก" คือไข่มุกอันทรงคุณค่าในภาษาไทย แทนที่จะลดทอนมันให้เป็นคำหยาบคาย ซึ่งนั่นคือบทบาทของสื่อที่ควรเป็นสะพานเชื่อมความเข้าใจข้ามวัฒนธรรมมากกว่าสร้างกำแพงในขณะที่ น้องลิซ่าถูกอบรมสั่งสอนมาดีทั้งจากเมืองไทยและเกาหลี ไม่งั้นเธอคงพูดสวนกับคุณว่า ชื่อ Jimmy ของคุณก็ฟังพ้องเสียงกับคำว่า “จิมิ” ซึ่งเป็นคำแสลงในภาษาไทย ซึ่งหมายถึง……จุดซ่อนเร้นของคุณผู้หญิง คุณจะรู้สึกอย่างไร? จิมิโชว์?รายการจิมิโชว์?https://youtu.be/ga7NkYeqh_A?si=C5yYwJEBKo-0Gvuh………………………………………………………………………………….“Ethnocentrism”Lisa appeared on Jimmy Kimmel Live, and the host, Jimmy, asked about her role as “Mook” in The White Lotus, specifically what the name “Mook” means in Thai.Lisa answered that it means “Pearl”, but Jimmy responded that “Mook” is slang for something like “Dumb.” “No one told you?” he asked.Lisa replied, “No, they didn’t, but it’s a Thai name.” Jimmy then said, “Maybe it’s not a problem in Thailand, but here, it definitely is.” Lisa responded, “Then don’t call me Mook here.”In Thai, “Mook” means pearl, which is valuable, beautiful, and meaningful. While “Mook” is a good name in Thai, the pronunciation of this word coincidentally resembles an English slang term with a negative meaning. In American English, “Mook” is slang used to insult someone, meaning something like “a fool” or “a worthless person.”When Jimmy Kimmel joked that “Mook” means “Dumb” in English, it might have seemed like a joke to him. But is it actually an expression of ethnocentrism—the belief that one’s own culture is the center of everything?Does Jimmy Kimmel have the right to say that a Thai name should be changed to fit the English language?A name is a part of cultural identity. It should not be devalued or turned into a joke. Thai people do not need to change their names just because they sound similar to an undesirable word in another language. Isn’t that true?Ethnocentrism, or the belief that one’s culture is superior to others, is a deeply rooted issue in Western society. It often appears in entertainment, media, and daily life among people who are unaware of cultural differences.The case of Jimmy Kimmel and the name “Mook” is a prime example of ethnocentric bias, where Western perspectives are centered, ignoring non-Western cultures.Jimmy questioned a Thai name without trying to understand Thai culture first. When Lisa explained that “Mook” means Pearl, a meaningful and positive name, Jimmy instead argued based on the English slang meaning. He did not recognize that this name is completely normal in Thailand and that there is no reason to change it.The name “Mook” is a good Thai name. There is no need to change it just because it coincidentally matches an English word with a bad meaning. And Jimmy Kimmel should not make jokes that diminish the value of Thai names.Thai people should be proud of their names and have the right to use them according to their culture without needing to change them for anyone else’s comfort.Why is Ethnocentrism a Problem?Ethnocentrism creates the belief that people from other cultures must adjust to Western standards instead of respecting diversity. • It creates linguistic bias, implying that “Your name sounds strange in our language, so it must be wrong.” • It devalues cultural identity, instead of encouraging learning from other cultures. • It promotes the idea that “My civilization is superior; your culture must change,” which was historically used as a justification for colonialism.How Should Western Media Be More Responsible?Jimmy Kimmel is a globally recognized host. He should be aware of his influence. His words impact public perception.Asking a question that reflects cultural bias makes people from other cultures feel devalued.Jimmy Kimmel should learn and respect other people’s names and identities. Not everything has to fit into Western standards.If Jimmy Kimmel had learned to respect other cultures more, he might have turned his joke into an opportunity to educate his audience that ‘Mook’ means a precious pearl in Thai, rather than reducing it to a vulgar term. That is the true role of the media—to serve as a bridge for cross-cultural understanding rather than building walls.On the other hand, Lisa has been well-raised and well-trained, both in Thailand and Korea. Otherwise, she might have responded to you by saying, ‘Your name, Jimmy, also sounds like ‘Jimi’ in Thai slang, which refers to… a woman’s private part. How would you feel? Jimi show!”"https://www.facebook.com/share/v/16CtwRaMG4/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1020 มุมมอง 0 รีวิว
  • อีลอน มัสก์ ถูกใจสิ่งนี้ 😂😂

    ทรัมป์ประกาศว่าเขาจะเกณฑ์ทหารภาคบังคับสำหรับชาวอเมริกันทุกคนที่ใส่ธงชาติยูเครนสีเหลืองและสีน้ำเงินเล็กๆ ไว้ในโปรไฟล์เฟซบุ๊ก

    “คนพวกนี้ต้องการต่อสู้” ทรัมป์กล่าวกับสื่อมวลชนเมื่อวันจันทร์

    “พวกเขาใส่ธงชาติเล็กๆ ไว้ในโปรไฟล์ มันทำให้ผมเข้าใจว่าพวกเขาอยากออกไปที่นั่นจริงๆ ยอมตายเพื่อยูเครน พวกเขาเป็นคนที่กล้าหาญและยอดเยี่ยมจริงๆ แต่ไม่ใช่ผม ผมไม่ใช่คนชอบธงชาติ ไม่มีธงชาติในโปรไฟล์ของผม”
    ทรัมป์ประกาศเรื่องนี้หลังจากผู้หญิงผิวขาวเสรีนิยมจำนวนมากเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กจากรูปที่พวกเธออยู่ชายหาดกับเพื่อนสนิทสองสามคนเป็นรูปธงชาติยูเครน

    ปล.
    “The Babylon Bee” เป็นเว็บไซต์เสียดสีที่เผยแพร่เรื่องตลกสไตล์ข่าวซึ่ง "เนื้อหาไม่เป็นความจริง"

    https://buff.ly/pqVimFG
    อีลอน มัสก์ ถูกใจสิ่งนี้ 😂😂 ทรัมป์ประกาศว่าเขาจะเกณฑ์ทหารภาคบังคับสำหรับชาวอเมริกันทุกคนที่ใส่ธงชาติยูเครนสีเหลืองและสีน้ำเงินเล็กๆ ไว้ในโปรไฟล์เฟซบุ๊ก “คนพวกนี้ต้องการต่อสู้” ทรัมป์กล่าวกับสื่อมวลชนเมื่อวันจันทร์ “พวกเขาใส่ธงชาติเล็กๆ ไว้ในโปรไฟล์ มันทำให้ผมเข้าใจว่าพวกเขาอยากออกไปที่นั่นจริงๆ ยอมตายเพื่อยูเครน พวกเขาเป็นคนที่กล้าหาญและยอดเยี่ยมจริงๆ แต่ไม่ใช่ผม ผมไม่ใช่คนชอบธงชาติ ไม่มีธงชาติในโปรไฟล์ของผม” ทรัมป์ประกาศเรื่องนี้หลังจากผู้หญิงผิวขาวเสรีนิยมจำนวนมากเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กจากรูปที่พวกเธออยู่ชายหาดกับเพื่อนสนิทสองสามคนเป็นรูปธงชาติยูเครน ปล. “The Babylon Bee” เป็นเว็บไซต์เสียดสีที่เผยแพร่เรื่องตลกสไตล์ข่าวซึ่ง "เนื้อหาไม่เป็นความจริง" https://buff.ly/pqVimFG
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซีย และอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย:

    กลุ่มต่อต้านทรัมป์ซึ่งต่อต้านรัสเซียด้วย กำลังรวมตัวกันในลอนดอนเพื่อสาบานตนว่าจะจงรักภักดีต่อพวกนาซีที่เคียฟ มันช่างเป็นภาพที่น่าอับอายยิ่งกว่าการเสียดสีด้วยวาจาของตัวตลกในห้องโอวัลออฟฟิศในทำเนียบขาวซะอีก พวกเขาต้องการสานต่อสงครามต่อไปจนถึงยูเครนคนสุดท้าย!
    ดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซีย และอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย: กลุ่มต่อต้านทรัมป์ซึ่งต่อต้านรัสเซียด้วย กำลังรวมตัวกันในลอนดอนเพื่อสาบานตนว่าจะจงรักภักดีต่อพวกนาซีที่เคียฟ มันช่างเป็นภาพที่น่าอับอายยิ่งกว่าการเสียดสีด้วยวาจาของตัวตลกในห้องโอวัลออฟฟิศในทำเนียบขาวซะอีก พวกเขาต้องการสานต่อสงครามต่อไปจนถึงยูเครนคนสุดท้าย!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัวตลกยูเครน พาชาติล่มจม โดนมะกันปล้นไม่พอ โดนเศษฝรั่งแจมปล้นด้วย ทีงี้ไอ้ด็อกเจษฎา เด่นดวงสุขภัณฑ์ เงียบเลย ออกมาเห่าหอนเร็วๆ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    ตัวตลกยูเครน พาชาติล่มจม โดนมะกันปล้นไม่พอ โดนเศษฝรั่งแจมปล้นด้วย ทีงี้ไอ้ด็อกเจษฎา เด่นดวงสุขภัณฑ์ เงียบเลย ออกมาเห่าหอนเร็วๆ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 288 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชะตากรรมชาวยูเครน หลังได้ตัวตลกเป็นผู้นำ ประชาชนล้มตุย ชาติแทบล่มสลาย แถมถูกมะกันปล้นทรัพยากร จับทำข้อตกลงมอบแร่หายากให้สหรัฐแบบบุฟเฟ่ต์ขุดไม่อั้น มูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยไอ้พวกนักวิชาการที่เคยสนับสนุนตัวตลก เงียบหายกันหมด มีแต่นักวิชาการในบ้านเรา ไอ้อาจารย์ผักตบชวา เจสสกี้ยังเชียร์อยู่
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    ชะตากรรมชาวยูเครน หลังได้ตัวตลกเป็นผู้นำ ประชาชนล้มตุย ชาติแทบล่มสลาย แถมถูกมะกันปล้นทรัพยากร จับทำข้อตกลงมอบแร่หายากให้สหรัฐแบบบุฟเฟ่ต์ขุดไม่อั้น มูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยไอ้พวกนักวิชาการที่เคยสนับสนุนตัวตลก เงียบหายกันหมด มีแต่นักวิชาการในบ้านเรา ไอ้อาจารย์ผักตบชวา เจสสกี้ยังเชียร์อยู่ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 505 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองนึกภาพว่าคุณเป็นทหารยูเครนที่กำลังรบอยู่แนวหน้า แต่แล้วคุณก็ทราบข่าวว่า!

    -ยูเครนแพ้สงครามแล้วแต่คุณต้องรบต่อไปจนกว่าพวกนักการเมืองจะแบ่งเค้กเสร็จ

    -อเมริกาที่อยู่เบื้องหลังหุ่นเชิดอย่างเซเลนสกี กำลังฟื้นฟูความสัมพันธ์กับ รัสเซียและวางแผนทำข้อตกลงทาง ธุรกิจครั้งใหญ่ต่อกัน และหยุดส่งอาวุธและเงินทุนให้ยูเครน ประเทศยูเครนล้มละลายหมดสิ้นแล้ว

    -ภูมิภาคดอนบาส ไม่มีทางกลับคืนมาเป็นของยูเครนอีกต่อไปแล้ว

    -ต่างชาติกำลังรุมทึ้งซากศพของพวกคุณ

    -พวกผู้นำยูเครนที่คอร์รัปชั่นกลายเป็นคน ร่ำรวยมหาศาลและมีแผนสำรองใน โมนาโก อิบิซา และไมอามี่
    -ถึงแม้ว่าพวกเราจะกลับบ้านอย่างปลอดภัย แต่มีแนวโน้มว่าจะต้องตกงาน และไม่ได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาลที่ล้มละลาย สุดท้ายก็ตายอยู่ดีและเลวร้ายที่สุด

    -เพื่อนร่วมรบของพวกเค้ากว่า 8 แสนคน ตาย เพื่อสงครามซึ่งผลลัพธ์ได้ถูกตัดสินไปตั้งแต่เริ่มแล้ว

    นี่คือผลของความโง่เขลาของคนรุ่นใหม่ที่โดนปั่นหัวจนเลือกตัวตลกมาบริหารประเทศ

    ลองนึกภาพว่าคุณเป็นทหารยูเครนที่กำลังรบอยู่แนวหน้า แต่แล้วคุณก็ทราบข่าวว่า! -ยูเครนแพ้สงครามแล้วแต่คุณต้องรบต่อไปจนกว่าพวกนักการเมืองจะแบ่งเค้กเสร็จ -อเมริกาที่อยู่เบื้องหลังหุ่นเชิดอย่างเซเลนสกี กำลังฟื้นฟูความสัมพันธ์กับ รัสเซียและวางแผนทำข้อตกลงทาง ธุรกิจครั้งใหญ่ต่อกัน และหยุดส่งอาวุธและเงินทุนให้ยูเครน ประเทศยูเครนล้มละลายหมดสิ้นแล้ว -ภูมิภาคดอนบาส ไม่มีทางกลับคืนมาเป็นของยูเครนอีกต่อไปแล้ว -ต่างชาติกำลังรุมทึ้งซากศพของพวกคุณ -พวกผู้นำยูเครนที่คอร์รัปชั่นกลายเป็นคน ร่ำรวยมหาศาลและมีแผนสำรองใน โมนาโก อิบิซา และไมอามี่ -ถึงแม้ว่าพวกเราจะกลับบ้านอย่างปลอดภัย แต่มีแนวโน้มว่าจะต้องตกงาน และไม่ได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาลที่ล้มละลาย สุดท้ายก็ตายอยู่ดีและเลวร้ายที่สุด -เพื่อนร่วมรบของพวกเค้ากว่า 8 แสนคน ตาย เพื่อสงครามซึ่งผลลัพธ์ได้ถูกตัดสินไปตั้งแต่เริ่มแล้ว นี่คือผลของความโง่เขลาของคนรุ่นใหม่ที่โดนปั่นหัวจนเลือกตัวตลกมาบริหารประเทศ
    Sad
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts