• หลวงปู่ทวด วัดเกาะเพชร จ.นครศรีธรรมราช ปี2551
    หลวงปู่ทวด เนื้อมหาว่าน พิมพ์ใหญ่ วัดเกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ปี2551 //พระดีพิธีใหญ่ เกจิร่วมปลุกเสก 108 องค์ พระมีประสบการณ์.. //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณ "แคล้วคาดปลอดภัย มหาอุด" เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก.กันเสนียดจัญไร เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย >>

    พระดีพิธีใหญ่ พุทธคุณไม่แพ้รุ่นแพงๆ จัดสร้าง โดย วัดเกาะเพชร อ.หัวไทรจ.นครศรีธรรมราช เกจิร่วมปลุกเสก 108 องค์ เพื่อหาเงินสร้าง ศาลา หลวงปู่ทวด เพื่อประดิษฐฐานรูปเหมือน หลวงปู่ทวด วัดเกาะเพชร เป็นสถานที่ ที่หลวงปู่ทวดเคยจาริกผ่านตอนที่ท่านเดินธูดงค์กลับจากอยุธยาเพื่อกลับวัดพะโค๊ะ พิธีกรรม ฝ่าย ฆราวาส คือ อ.ประจวบ คงเหลือ ปลุกเสกโดย คณาจารย์สายใต้
    #พ่อท่านเอื้อม วัดบางเนียน จุดเทียนชัย #พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ปัตตานี ดับเทียนชัย

    #รายนามคณาจารย์ร่วมปลุกเสก
    #จังหวัดนครศรีธรรมราช
    1. พ่อท่านเอื้อม วัดบางเนียน 2.พ่อท่านพุ่ม สำนักสงฆ์ดอยเจดีย์ 3. อ.หรั่ง วัดห้วยเต็ง 4. อ.สมนึก วัดหรงบน 5.อ.สิทธิ สำนักสงฆ์ปอมทอง
    #จังหวัดปัตตานี
    1.พระอาจารย์จ่าง วัดศรีมหาโพธิ์ ปัตตานี 2.พระอาจารย์แดง วัดไร่ ปัตตานี
    #จังหวัดชุมพร
    1. หลวงพ่อชม นิ้วเพชร วัดปากน้ำละแม จ.ชุมพร 2. พระอาจารย์ชุม วัดทุ่งคาประชาธรรม 3.หลวงพ่อดำ วัดบางดวด
    #จังหวัดสงขลา
    1. หลวงปู่หวาน วัดสะบ้าย้อย 2. อาจารย์ภัตร วัดนาทวี 3.พระครูธรรมธรชาญชัย วัดพะโค๊ะ
    #จังหวัดสุราษฎร์ธานี
    1.พ่อท่านท้วม วัดศรีสุวรรณ 2. หลวงพ่อชูชาติ วัดท่าไทร 3. พระอาจารย์ทอง วัดสถลธรรมาราม 4.พ่อท่านจ่าง วัดวัดน้ำรอบ
    #จังหวัดพัทลุง
    1.พ่อท่านเอียด วัดโคกแย้ม 2.พ่อท่านพรหม วัดบ้านสวน 3.พ่อท่านคล้อย วัดภูเขาทอง 4.พ่อท่านเงิน วัดโพรงงู 5.อ.อุทัย วัดวิหารสูง 6.อ.รรรศิริ วัดบ้านสวน 7.อ.เถียร วัดโคกโดน 8.หลวงพ่อเหวียน วัดพิกุลทอง
    #จังหวัดตรังตรัง
    1.อ.พล วัดเขาห้วยแห้ง 2. อ.ประสูติ วัดในเตา

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงปู่ทวด วัดเกาะเพชร จ.นครศรีธรรมราช ปี2551 หลวงปู่ทวด เนื้อมหาว่าน พิมพ์ใหญ่ วัดเกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ปี2551 //พระดีพิธีใหญ่ เกจิร่วมปลุกเสก 108 องค์ พระมีประสบการณ์.. //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณ "แคล้วคาดปลอดภัย มหาอุด" เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก.กันเสนียดจัญไร เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย >> พระดีพิธีใหญ่ พุทธคุณไม่แพ้รุ่นแพงๆ จัดสร้าง โดย วัดเกาะเพชร อ.หัวไทรจ.นครศรีธรรมราช เกจิร่วมปลุกเสก 108 องค์ เพื่อหาเงินสร้าง ศาลา หลวงปู่ทวด เพื่อประดิษฐฐานรูปเหมือน หลวงปู่ทวด วัดเกาะเพชร เป็นสถานที่ ที่หลวงปู่ทวดเคยจาริกผ่านตอนที่ท่านเดินธูดงค์กลับจากอยุธยาเพื่อกลับวัดพะโค๊ะ พิธีกรรม ฝ่าย ฆราวาส คือ อ.ประจวบ คงเหลือ ปลุกเสกโดย คณาจารย์สายใต้ #พ่อท่านเอื้อม วัดบางเนียน จุดเทียนชัย #พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ปัตตานี ดับเทียนชัย #รายนามคณาจารย์ร่วมปลุกเสก #จังหวัดนครศรีธรรมราช 1. พ่อท่านเอื้อม วัดบางเนียน 2.พ่อท่านพุ่ม สำนักสงฆ์ดอยเจดีย์ 3. อ.หรั่ง วัดห้วยเต็ง 4. อ.สมนึก วัดหรงบน 5.อ.สิทธิ สำนักสงฆ์ปอมทอง #จังหวัดปัตตานี 1.พระอาจารย์จ่าง วัดศรีมหาโพธิ์ ปัตตานี 2.พระอาจารย์แดง วัดไร่ ปัตตานี #จังหวัดชุมพร 1. หลวงพ่อชม นิ้วเพชร วัดปากน้ำละแม จ.ชุมพร 2. พระอาจารย์ชุม วัดทุ่งคาประชาธรรม 3.หลวงพ่อดำ วัดบางดวด #จังหวัดสงขลา 1. หลวงปู่หวาน วัดสะบ้าย้อย 2. อาจารย์ภัตร วัดนาทวี 3.พระครูธรรมธรชาญชัย วัดพะโค๊ะ #จังหวัดสุราษฎร์ธานี 1.พ่อท่านท้วม วัดศรีสุวรรณ 2. หลวงพ่อชูชาติ วัดท่าไทร 3. พระอาจารย์ทอง วัดสถลธรรมาราม 4.พ่อท่านจ่าง วัดวัดน้ำรอบ #จังหวัดพัทลุง 1.พ่อท่านเอียด วัดโคกแย้ม 2.พ่อท่านพรหม วัดบ้านสวน 3.พ่อท่านคล้อย วัดภูเขาทอง 4.พ่อท่านเงิน วัดโพรงงู 5.อ.อุทัย วัดวิหารสูง 6.อ.รรรศิริ วัดบ้านสวน 7.อ.เถียร วัดโคกโดน 8.หลวงพ่อเหวียน วัดพิกุลทอง #จังหวัดตรังตรัง 1.อ.พล วัดเขาห้วยแห้ง 2. อ.ประสูติ วัดในเตา ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • พ่อ-ลูกครู ตชด. เหยื่อผู้ก่อความไม่สงบ

    เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เป็นผู้แทนพระองค์เชิญดินฝังศพพระราชทานวางบนหลุมฝังศพของ พ.ต.ท.สุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์ ครูใหญ่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (รร.ตชด.) บ้านบ้านตืองอช่างกลปทุมวันอนุสรณ์ 13 และ ด.ต.โดม ช่วยเทวฤทธิ์ ครู รร.ตชด.บ้านตืองอฯ บุตรชาย ที่บ้านเลขที่ 293 หมู่ 3 ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นผู้แทนพระองค์เชิญดินฝังศพพระราชทานวางบนหลุมฝังศพของครู ตชด. ทั้ง 2 นายด้วย

    พ.ต.ท.สุวิทย์ ครูใหญ่ และลูกชาย ด.ต.โดม ครูวิชาเกษตรโรงเรียนเดียวกัน ถูกคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องซุกใต้ถนนดักถล่มแล้วยิงซ้ำ เสียชีวิต 2 ราย พร้อมขโมยปืนไป 2 กระบอก เหตุเกิดบนถนนศรีสาคร-ลูโบ๊ะยือริง ช่วงบ้านไอร์กือแด หมู่ 4 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2568 สร้างความสะเทือนใจให้แก่วงการตำรวจ และแวดวงการศึกษา เนื่องจาก พ.ต.ท.สุวิทย์เป็นครูที่ทุ่มเทเสียสละสอนนักเรียนในพื้นที่เสี่ยงภัยมานานกว่า 30 ปี และถือเป็นครูต้นแบบให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอยู่ทั้งหมด 12 แห่งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้

    นางสุปรีดา ช่วยเทวฤทธิ์ ภรรยา พ.ต.ท.สุวิทย์ กล่าวว่า “พี่แกไปดีแล้ว และสมความตั้งใจในหน้าที่การงาน แกไปไม่คิดขอย้ายจากที่นี่ ทั้งมีโอกาส แกบอกแกรักคนที่นี่ แต่สุดท้าย มีไม่กี่คนที่เกลียดแก แกไปดีแล้ว” สอดคล้องกับ จ.ส.ต.หญิง ฮานีบะห์ สานิ ครูโรงเรียน ตชด.บ้านตืองอฯ ตามรายงานข่าวของศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา กล่าวว่า ทั้งโรงเรียนมีครูผู้ชายอยู่ 2 คน คือครูใหญ่สุวิทย์และครูโดม ที่เหลือเป็นครูผู้หญิง 11 คน ต้องดูแลเด็กนักเรียน 120 ชีวิต เรานั่งเรือด้วยกัน แต่คนขับเรือไม่อยู่แล้ว แล้วใครจะขับต่อ แล้วจะไปต่ออย่างไร วันข้างหน้าเราไม่รู้ว่าจะเจออะไร อุปสรรคอะไร แล้วจะไปต่อถึงฝั่งได้อย่างไร

    เฟซบุ๊กของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกลุ่มหนึ่ง กล่าวอ้างพระนามแห่งอัลเลาะห์ ระบุว่าทั้งสองคนเป็นพลรบสยามไทย นอกจากเป็นครูแล้วยังมีสถานะพลรบด้วย แม้จะเสียดายผู้มากด้วยฝีมือและประสบการณ์ แต่ไม่อาจหลีกเลี่ยงการต่อสู้และทำลายได้ ขณะที่ศาลจังหวัดนราธิวาส อนุมัติออกหมายจับนายอับดุลเลาะห์ สาเมาะ อายุ 30 ปี และนายอับดุลเลาะ บูละ อายุ 40 ปี มีหมายจับในคดีความมั่นคงหลายคดี รวม 14 หมายจับ มาจากหลักฐานดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุ

    #Newskit
    พ่อ-ลูกครู ตชด. เหยื่อผู้ก่อความไม่สงบ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เป็นผู้แทนพระองค์เชิญดินฝังศพพระราชทานวางบนหลุมฝังศพของ พ.ต.ท.สุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์ ครูใหญ่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (รร.ตชด.) บ้านบ้านตืองอช่างกลปทุมวันอนุสรณ์ 13 และ ด.ต.โดม ช่วยเทวฤทธิ์ ครู รร.ตชด.บ้านตืองอฯ บุตรชาย ที่บ้านเลขที่ 293 หมู่ 3 ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นผู้แทนพระองค์เชิญดินฝังศพพระราชทานวางบนหลุมฝังศพของครู ตชด. ทั้ง 2 นายด้วย พ.ต.ท.สุวิทย์ ครูใหญ่ และลูกชาย ด.ต.โดม ครูวิชาเกษตรโรงเรียนเดียวกัน ถูกคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องซุกใต้ถนนดักถล่มแล้วยิงซ้ำ เสียชีวิต 2 ราย พร้อมขโมยปืนไป 2 กระบอก เหตุเกิดบนถนนศรีสาคร-ลูโบ๊ะยือริง ช่วงบ้านไอร์กือแด หมู่ 4 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2568 สร้างความสะเทือนใจให้แก่วงการตำรวจ และแวดวงการศึกษา เนื่องจาก พ.ต.ท.สุวิทย์เป็นครูที่ทุ่มเทเสียสละสอนนักเรียนในพื้นที่เสี่ยงภัยมานานกว่า 30 ปี และถือเป็นครูต้นแบบให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอยู่ทั้งหมด 12 แห่งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นางสุปรีดา ช่วยเทวฤทธิ์ ภรรยา พ.ต.ท.สุวิทย์ กล่าวว่า “พี่แกไปดีแล้ว และสมความตั้งใจในหน้าที่การงาน แกไปไม่คิดขอย้ายจากที่นี่ ทั้งมีโอกาส แกบอกแกรักคนที่นี่ แต่สุดท้าย มีไม่กี่คนที่เกลียดแก แกไปดีแล้ว” สอดคล้องกับ จ.ส.ต.หญิง ฮานีบะห์ สานิ ครูโรงเรียน ตชด.บ้านตืองอฯ ตามรายงานข่าวของศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา กล่าวว่า ทั้งโรงเรียนมีครูผู้ชายอยู่ 2 คน คือครูใหญ่สุวิทย์และครูโดม ที่เหลือเป็นครูผู้หญิง 11 คน ต้องดูแลเด็กนักเรียน 120 ชีวิต เรานั่งเรือด้วยกัน แต่คนขับเรือไม่อยู่แล้ว แล้วใครจะขับต่อ แล้วจะไปต่ออย่างไร วันข้างหน้าเราไม่รู้ว่าจะเจออะไร อุปสรรคอะไร แล้วจะไปต่อถึงฝั่งได้อย่างไร เฟซบุ๊กของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกลุ่มหนึ่ง กล่าวอ้างพระนามแห่งอัลเลาะห์ ระบุว่าทั้งสองคนเป็นพลรบสยามไทย นอกจากเป็นครูแล้วยังมีสถานะพลรบด้วย แม้จะเสียดายผู้มากด้วยฝีมือและประสบการณ์ แต่ไม่อาจหลีกเลี่ยงการต่อสู้และทำลายได้ ขณะที่ศาลจังหวัดนราธิวาส อนุมัติออกหมายจับนายอับดุลเลาะห์ สาเมาะ อายุ 30 ปี และนายอับดุลเลาะ บูละ อายุ 40 ปี มีหมายจับในคดีความมั่นคงหลายคดี รวม 14 หมายจับ มาจากหลักฐานดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุ #Newskit
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 479 มุมมอง 0 รีวิว
  • คลอดโผมหาดไทย สายสิงห์ดำ-เด็กเนวิน ผงาด
    .
    โผแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยหลังเลื่อนไม่เอาเข้าครม.มาสองสัปดาห์ เพราะติดขัดปัญหาบางประการในการจัดสรรตำแหน่งให้ลงตัว รอบนี้ อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ลงมาดูโผทุกรายชื่อและมีการตรวจสอบประวัติการทำงาน ผลงาน อย่างละเอียด โดยเฉพาะในตำแหน่งอธิบดีและผู้ว่าฯจังหวัดสำคัญ ซึ่งสุดท้าย อนุทิน และนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ก็ได้ชงโผมหาดไทยเข้าครม.วันนี้ (8ต.ค.) และที่ประชุม เห็นชอบ
    .
    รายชื่อส่วนใหญ่ ก็เป็นไปตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ ที่ก็พบว่าเครือข่ายสิงห์ดำ รัฐศาสตร์ จุฬาฯ กับปลัดมหาดไทย อรรษิษฐ์ ได้เข้าสู่ตำแหน่งสำคัญกันหลายคน รวมถึงเครือข่ายสิงห์มหาดไทยสายใกล้ชิดเครือข่ายบ้านใหญ่บุรีรัมย์ ก็ได้ดิบได้ดีกันหลายคน เช่น นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ที่จะเกษียณปีหน้า ก็โยกจากอธิบดี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ไปเป็น อธิบดีกรมการปกครอง หรือนายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ จาก ผวจ.บุรีรัมย์ ฐานที่มั่นของเนวิน ชิดชอบ และพรรคภูมิใจไทย ก็ได้เป็น อธิบดี กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นต้น
    .
    โดยรายละเอียดของโผมหาดไทยมีดังนี้
    น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า  ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 8 ต.ค. 67 มีมติเห็นชอบการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง สังกัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน 25 ราย ดังนี้  
     .
    1.นายขจร ศรีชวโนทัย พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริม การปกครองท้องถิ่น และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
     .
    2.นายสันติธร ยิ้มละมัย พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดลำพูน และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
     .
    3.นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดอุบลราชธานี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
     .
    4.นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดพังงา และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
     .
    5.นายอดิเทพ กมลเวชช์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดพิจิตร และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
     .
    6.นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ พ้นจากตำแหน่งอธิบดี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมการปกครอง
     .
    7.นายภาสกร บุญญลักษม์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดปทุมธานี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
     .
    8.นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมโยธาธิการและผังเมือง
     .
    9.นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดบุรีรัมย์ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
     .
    10.นายอังกูร ศีลาเทวากูล พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดกระบี่
     .
    11.นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดนครศรีธรรมราช และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดฉะเชิงเทรา
     .
    12.นายชรินทร์ ทองสุข พันจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดยโสธร และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดเชียงราย 
     .
    13.นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดราชบุรี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดนนทบุรี
     .
    14. นายสมคิด จันทมฤก พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดปทุมธานี
     .
    15.นายวีระพันธ์ ดีอ่อน พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดปราจีนบุรี
     .
    16. นายทวี เสริมภักดีกุล พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดนครสวรรค์ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดพิษณุโลก
     .
    17.นายศรัณยู มีทองคำ พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดเพชรบูรณ์
     .
    18.นายชุติเดช มีจันทร์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดแพร่ และแต่งตั้งที่ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดลำปาง 
     .
    19.นายโชตินรินทร์ เกิดสม พ้นจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่งผู้ว่าราชการจังหวัด  จังหวัดสงขลา
     .
    20.นางนิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดพัทลุง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดสมุทรสงคราม
     .
    21.นายนริศ นิรามัยวงศ์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดระนอง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด  จังหวัดสุทรสาคร
     .
    22.นายพิริยะ ฉันทดิลก พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดอ่างทอง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดสุพรรณบุรี
     .
    23.นายชำนาญ ชื่นตา พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดสุรินทร์
     .
    24.นายราชันย์ ซุ้นหั้ว พ้นจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด  จังหวัดอุดรธานี
     .
    25.ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดอำนาจเจริญ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดอุบลราชธานี
    ..............
    Sondhi X
    คลอดโผมหาดไทย สายสิงห์ดำ-เด็กเนวิน ผงาด . โผแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยหลังเลื่อนไม่เอาเข้าครม.มาสองสัปดาห์ เพราะติดขัดปัญหาบางประการในการจัดสรรตำแหน่งให้ลงตัว รอบนี้ อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ลงมาดูโผทุกรายชื่อและมีการตรวจสอบประวัติการทำงาน ผลงาน อย่างละเอียด โดยเฉพาะในตำแหน่งอธิบดีและผู้ว่าฯจังหวัดสำคัญ ซึ่งสุดท้าย อนุทิน และนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ก็ได้ชงโผมหาดไทยเข้าครม.วันนี้ (8ต.ค.) และที่ประชุม เห็นชอบ . รายชื่อส่วนใหญ่ ก็เป็นไปตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ ที่ก็พบว่าเครือข่ายสิงห์ดำ รัฐศาสตร์ จุฬาฯ กับปลัดมหาดไทย อรรษิษฐ์ ได้เข้าสู่ตำแหน่งสำคัญกันหลายคน รวมถึงเครือข่ายสิงห์มหาดไทยสายใกล้ชิดเครือข่ายบ้านใหญ่บุรีรัมย์ ก็ได้ดิบได้ดีกันหลายคน เช่น นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ที่จะเกษียณปีหน้า ก็โยกจากอธิบดี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ไปเป็น อธิบดีกรมการปกครอง หรือนายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ จาก ผวจ.บุรีรัมย์ ฐานที่มั่นของเนวิน ชิดชอบ และพรรคภูมิใจไทย ก็ได้เป็น อธิบดี กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นต้น . โดยรายละเอียดของโผมหาดไทยมีดังนี้ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า  ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 8 ต.ค. 67 มีมติเห็นชอบการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง สังกัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน 25 ราย ดังนี้    . 1.นายขจร ศรีชวโนทัย พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริม การปกครองท้องถิ่น และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง  . 2.นายสันติธร ยิ้มละมัย พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดลำพูน และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง  . 3.นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดอุบลราชธานี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง  . 4.นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดพังงา และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง  . 5.นายอดิเทพ กมลเวชช์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดพิจิตร และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง  . 6.นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ พ้นจากตำแหน่งอธิบดี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมการปกครอง  . 7.นายภาสกร บุญญลักษม์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดปทุมธานี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  . 8.นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมโยธาธิการและผังเมือง  . 9.นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดบุรีรัมย์ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น  . 10.นายอังกูร ศีลาเทวากูล พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดกระบี่  . 11.นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดนครศรีธรรมราช และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดฉะเชิงเทรา  . 12.นายชรินทร์ ทองสุข พันจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดยโสธร และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดเชียงราย   . 13.นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดราชบุรี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดนนทบุรี  . 14. นายสมคิด จันทมฤก พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดปทุมธานี  . 15.นายวีระพันธ์ ดีอ่อน พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดปราจีนบุรี  . 16. นายทวี เสริมภักดีกุล พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดนครสวรรค์ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดพิษณุโลก  . 17.นายศรัณยู มีทองคำ พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดเพชรบูรณ์  . 18.นายชุติเดช มีจันทร์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดแพร่ และแต่งตั้งที่ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดลำปาง   . 19.นายโชตินรินทร์ เกิดสม พ้นจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่งผู้ว่าราชการจังหวัด  จังหวัดสงขลา  . 20.นางนิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดพัทลุง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดสมุทรสงคราม  . 21.นายนริศ นิรามัยวงศ์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดระนอง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด  จังหวัดสุทรสาคร  . 22.นายพิริยะ ฉันทดิลก พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดอ่างทอง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดสุพรรณบุรี  . 23.นายชำนาญ ชื่นตา พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดสุรินทร์  . 24.นายราชันย์ ซุ้นหั้ว พ้นจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด  จังหวัดอุดรธานี  . 25.ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดอำนาจเจริญ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดอุบลราชธานี .............. Sondhi X
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1508 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทะเลน้อย” หรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย หรืออุทยานนกน้ำทะเลน้อย เป็นแหล่งน้ำจืดพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีเนื้อที่เกือบแสนไร่ ตั้งอยู่ที่ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ครอบคลุมพื้นที่สามจังหวัด พัทลุง สงขลา และนครศรีธรรมราช ทะเลน้อยมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำจืดขนาดใหญ่ อยู่ตอนบนสุดของทะเลสาบสงขลา
    ☆จุดเด่นของทะเลน้อย คือ ล่องเรือชมทะเลบัวแดง
    ☆ค่าเรือ มารับ ตี5ครึ่ง ไปเช็คอิน ยกยอยามเช้า ชมวิถีชุมชน ล่องเรือชมทะเลน้อย ต่อด้วยไปชมควายน้ำ และ สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ
    ใช้เวลา 2-3 ช.ม นั่งได้ 4 ท่าน ราคา 1,200 บาท
    ■■■■■■■■■■
    #มะนาวก้าวเดิน #ทะเลน้อย #ที่เที่ยวพัทลุง #manowjourney
    #ทะเลบัวแดง #ล่องเรือชมทะเลน้อย
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    “ทะเลน้อย” หรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย หรืออุทยานนกน้ำทะเลน้อย เป็นแหล่งน้ำจืดพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีเนื้อที่เกือบแสนไร่ ตั้งอยู่ที่ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ครอบคลุมพื้นที่สามจังหวัด พัทลุง สงขลา และนครศรีธรรมราช ทะเลน้อยมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำจืดขนาดใหญ่ อยู่ตอนบนสุดของทะเลสาบสงขลา ☆จุดเด่นของทะเลน้อย คือ ล่องเรือชมทะเลบัวแดง ☆ค่าเรือ มารับ ตี5ครึ่ง ไปเช็คอิน ยกยอยามเช้า ชมวิถีชุมชน ล่องเรือชมทะเลน้อย ต่อด้วยไปชมควายน้ำ และ สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ใช้เวลา 2-3 ช.ม นั่งได้ 4 ท่าน ราคา 1,200 บาท ■■■■■■■■■■ #มะนาวก้าวเดิน #ทะเลน้อย #ที่เที่ยวพัทลุง #manowjourney #ทะเลบัวแดง #ล่องเรือชมทะเลน้อย #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1785 มุมมอง 782 1 รีวิว
  • นิด้าโพลสำรวจเสียงคนใต้เกินครึ่งไม่เห็นด้วย พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย มีผลเลือกตั้งครั้งหน้าไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์

    ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “เสียงพี่น้องชาวใต้ถึงพรรคประชาธิปัตย์ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2-3 กันยายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีสิทธิเลือกตั้งใน 14 จังหวัดภาคใต้ กระจายระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ในการเข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

    จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ในการเข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 54.19 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 14.58 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 12.98 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 11.91 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย และร้อยละ 6.34 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

    ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 41.37 ระบุว่า ไม่เลือก รองลงมา ร้อยละ 41.15 ระบุว่า ยังไม่แน่ใจ และร้อยละ 17.48 ระบุว่า เลือก

    เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างทั้งหมดมีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่ในภาคใต้ ตัวอย่าง ร้อยละ 16.87 มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ร้อยละ 15.27 จังหวัดสงขลา ร้อยละ 11.53 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร้อยละ 8.01 จังหวัดนราธิวาส ร้อยละ 7.10 จังหวัดปัตตานี ร้อยละ 6.95 จังหวัดตรัง ร้อยละ 5.80 จังหวัดพัทลุง ร้อยละ 5.57 จังหวัดชุมพร ร้อยละ 5.34 จังหวัดยะลา ร้อยละ 4.96 จังหวัดกระบี่ ร้อยละ 4.43 จังหวัดภูเก็ต ร้อยละ 3.36 จังหวัดสตูล ร้อยละ 2.90 จังหวัดพังงา และร้อยละ 1.91 จังหวัดระนอง ตัวอย่าง ร้อยละ 48.09 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.91 เป็นเพศหญิง

    ตัวอย่าง ร้อยละ 14.35 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 19.47 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 19.00 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 24.89 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 22.29 อายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่าง ร้อยละ 72.22 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 27.25 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.53 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ

    ตัวอย่าง ร้อยละ 34.73 สถานภาพโสด ร้อยละ 63.74 สมรส และร้อยละ 1.53 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ ตัวอย่าง ร้อยละ 15.65 จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ร้อยละ 36.41 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 9.47 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 33.66 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 4.81 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า

    ตัวอย่าง ร้อยละ 11.98 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 14.73 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 23.59 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 12.06 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 13.82 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 18.17 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 5.65 เป็นนักเรียน/นักศึกษา

    ตัวอย่าง ร้อยละ 18.86 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 16.72 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 32.82 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 11.22 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 5.19 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 6.56 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 8.63 ไม่ระบุรายได้

    ที่มา https://nidapoll.nida.ac.th/survey_detail?survey_id=716

    #Thaitimes
    นิด้าโพลสำรวจเสียงคนใต้เกินครึ่งไม่เห็นด้วย พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย มีผลเลือกตั้งครั้งหน้าไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “เสียงพี่น้องชาวใต้ถึงพรรคประชาธิปัตย์ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2-3 กันยายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีสิทธิเลือกตั้งใน 14 จังหวัดภาคใต้ กระจายระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ในการเข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0 จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ในการเข้าร่วมรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 54.19 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 14.58 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 12.98 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 11.91 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย และร้อยละ 6.34 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 41.37 ระบุว่า ไม่เลือก รองลงมา ร้อยละ 41.15 ระบุว่า ยังไม่แน่ใจ และร้อยละ 17.48 ระบุว่า เลือก เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างทั้งหมดมีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่ในภาคใต้ ตัวอย่าง ร้อยละ 16.87 มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ร้อยละ 15.27 จังหวัดสงขลา ร้อยละ 11.53 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร้อยละ 8.01 จังหวัดนราธิวาส ร้อยละ 7.10 จังหวัดปัตตานี ร้อยละ 6.95 จังหวัดตรัง ร้อยละ 5.80 จังหวัดพัทลุง ร้อยละ 5.57 จังหวัดชุมพร ร้อยละ 5.34 จังหวัดยะลา ร้อยละ 4.96 จังหวัดกระบี่ ร้อยละ 4.43 จังหวัดภูเก็ต ร้อยละ 3.36 จังหวัดสตูล ร้อยละ 2.90 จังหวัดพังงา และร้อยละ 1.91 จังหวัดระนอง ตัวอย่าง ร้อยละ 48.09 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.91 เป็นเพศหญิง ตัวอย่าง ร้อยละ 14.35 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 19.47 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 19.00 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 24.89 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 22.29 อายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่าง ร้อยละ 72.22 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 27.25 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.53 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ ตัวอย่าง ร้อยละ 34.73 สถานภาพโสด ร้อยละ 63.74 สมรส และร้อยละ 1.53 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ ตัวอย่าง ร้อยละ 15.65 จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ร้อยละ 36.41 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 9.47 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 33.66 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 4.81 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ตัวอย่าง ร้อยละ 11.98 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 14.73 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 23.59 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 12.06 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 13.82 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 18.17 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 5.65 เป็นนักเรียน/นักศึกษา ตัวอย่าง ร้อยละ 18.86 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 16.72 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท ร้อยละ 32.82 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 11.22 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 5.19 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 6.56 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 8.63 ไม่ระบุรายได้ ที่มา https://nidapoll.nida.ac.th/survey_detail?survey_id=716 #Thaitimes
    Like
    Haha
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1317 มุมมอง 0 รีวิว