• เที่ยว #จอร์แดน นครเพตรา 😍
    เริ่ม 45,888 🔥

    🗓 จำนวนวัน 6วัน 4คืน
    ✈ G9-แอร์อาระเบีย
    🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ & ⭐⭐⭐⭐

    📍 นครเพตรา
    📍 นั่งรถ 4WD ทะเลทรายวาดิรัม
    📍 เมืองโบราณเจราช
    📍 ซุ้มประตูกษัตริย์เฮเดรียน
    📍 ยอดเขาเมาท์เนโบ
    📍 ทะเลเดดซี
    📍 ป้อมปราการอัมมาน

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์จอร์แดน #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #จอร์แดน นครเพตรา 😍 เริ่ม 45,888 🔥 🗓 จำนวนวัน 6วัน 4คืน ✈ G9-แอร์อาระเบีย 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ & ⭐⭐⭐⭐ 📍 นครเพตรา 📍 นั่งรถ 4WD ทะเลทรายวาดิรัม 📍 เมืองโบราณเจราช 📍 ซุ้มประตูกษัตริย์เฮเดรียน 📍 ยอดเขาเมาท์เนโบ 📍 ทะเลเดดซี 📍 ป้อมปราการอัมมาน รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จอร์แดน #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • ✨รีวิวเที่ยว #อียิปต์ #จอร์แดน 8วัน 5คืน
    เดินทาง 10 - 17 เม.ย. 68
    ขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจ etravelway.com นะคะ 🥰❤️

    ดูทัวร์อียิปต์ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/cfda4b

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์อียิปต์ #ทัวร์อียิปต์ #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์โปรไฟไหม้ #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ที่หลุด #ท่องเที่ยว #เที่ยว #ทัวร์ทั่วโลก #linetoday #linetimeline #linevoom #line #etravelway #ทัวร์ยุโรป #ทัวร์พรีเมี่ยม #ทัวร์ลดราคา
    #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ถูก #ทัวร์คุณภาพ #ทัวร์สุดคุ้ม #แพคเกจทัวร์ต่างประเทศ #กรุ๊ปเหมา
    ✨รีวิวเที่ยว #อียิปต์ #จอร์แดน 8วัน 5คืน เดินทาง 10 - 17 เม.ย. 68 ขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจ etravelway.com นะคะ 🥰❤️ ดูทัวร์อียิปต์ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/cfda4b LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์อียิปต์ #ทัวร์อียิปต์ #ทัวร์ต่างประเทศ #ทัวร์โปรไฟไหม้ #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ที่หลุด #ท่องเที่ยว #เที่ยว #ทัวร์ทั่วโลก #linetoday #linetimeline #linevoom #line #etravelway #ทัวร์ยุโรป #ทัวร์พรีเมี่ยม #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #ทัวร์ถูก #ทัวร์คุณภาพ #ทัวร์สุดคุ้ม #แพคเกจทัวร์ต่างประเทศ #กรุ๊ปเหมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 478 มุมมอง 6 0 รีวิว
  • ยิวและปาเลสไตน์
    ==========
    .
    การศึกษาที่ตีพิมพ์โดย National Academy of Sciences พบว่า "กลุ่มยีนของชุมชนชาวยิวจากยุโรป แอฟริกาเหนือ และตะวันออกกลาง.. สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษ 'ตะวันออกกลาง' ร่วมกัน" และแนะนำว่า "ชุมชนชาวยิวส่วนใหญ่ยังคงแยกตัวจากชุมชนที่ไม่ใช่ชาวยิวในละแวกใกล้เคียงค่อนข้างมาก ทั้งในช่วงอพยพและหลังการอพยพของชาวยิว"
    .
    นักพันธุศาสตร์ Doron Behar และเพื่อนร่วมงาน (2010) ระบุว่า "ข้อมูลนี้สอดคล้องกับการกำหนดทางประวัติศาสตร์ว่า ชาวยิวสืบเชื้อสายมาจากชาวอิสราเอลโบราณ" ประมาณ 35% ถึง 43% ของชายชาวยิวอยู่ในสายเลือดของบิดาที่เรียกว่ากลุ่มยีน Hg "J" และกลุ่มยีนย่อย. กลุ่มยีนนี้พบโดยเฉพาะในตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ แอฟริกาตะวันออก คอเคซัส และยุโรปตอนใต้ราว 15% ถึง 30% อยู่ในกลุ่มยีน Hg "E1b1b" (หรือ E-M35)
    [ Hg = Haplogroup ]
    .
    การศึกษาโดยใช้ดีเอ็นเอโครโมโซม Y ของชาวยิวชาย โดยพยายามสืบหาสายเลือดของนักบวชชาวยิว (โคฮานิม) จากบิดา ผลการศึกษาเผยให้เห็นแฮพโลไทป์โครโมโซม Y บรรพบุรุษร่วมกันเมื่อประมาณ 2,650 ปีก่อน ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของการทำลายวิหารแรกของเยรูซาเล็มในปี 586 ก่อนคริสตกาล และการกระจายตัวของนักบวช การศึกษาดีเอ็นเอไมโตคอนเดรียของประชากรชาวยิวเป็นการศึกษาที่ค่อนข้างใหม่ เป็นที่ถกเถียง และมีความหลากหลายมากกว่า
    .
    ส่วนชาวปาเลสไตน์ บันทึกทางประวัติศาสตร์และการศึกษาด้านพันธุกรรมในเวลาต่อมาบ่งชี้ว่าชาวปาเลสไตน์สืบเชื้อสายมาจากเลแวนไทน์โบราณเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งย้อนกลับไปถึงชาวเลแวนไทน์ในยุคสำริด การศึกษาในปี 2015 โดย Verónica Fernandes และคนอื่นๆ สรุปว่าชาวปาเลสไตน์มี "ต้นกำเนิดเป็นชนพื้นเมืองเป็นหลัก"
    .
    การศึกษาในปี 2020 เกี่ยวกับซากศพมนุษย์จากกลุ่มคนคานาอันในยุคสำริดกลาง (2100–1550 ปีก่อนคริสตกาล) ชี้ให้เห็นถึงความต่อเนื่องทางพันธุกรรมในระดับที่สำคัญในกลุ่มคนที่พูดภาษาอาหรับในเลวานไทน์ (เช่น ชาวปาเลสไตน์ ชาวดรูซ ชาวเลบานอน ชาวจอร์แดน ชาวเบดูอิน และชาวซีเรีย) พบว่าชาวปาเลสไตน์และกลุ่มคนเลวานไทน์อื่นๆ มีบรรพบุรุษ 81–87% มาจากเลวานไทน์ในยุคสำริด ซึ่งเกี่ยวข้องกับชาวคานาอันและอิทธิพลของวัฒนธรรมคูรา–อารักเซสตั้งแต่ก่อน 2400 ปีก่อนคริสตกาล (4400 ปีก่อนปัจจุบัน) 8–12% มาจากแหล่งแอฟริกาตะวันออก และ 5–10% มาจากชาวยุโรปในยุคสำริด
    .
    การศึกษาดีเอ็นเอครั้งหนึ่งโดย Nebel พบว่ามีการทับซ้อนกันทางพันธุกรรมอย่างมากในหมู่ชาวอาหรับอิสราเอล ปาเลสไตน์และชาวยิว เนเบลเสนอว่า "บางส่วนหรือบางทีอาจเป็นส่วนใหญ่" ของชาวปาเลสไตน์ที่เป็นมุสลิม สืบเชื้อสายมาจาก "ชาวพื้นเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคริสเตียนและยิวที่เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามหลังจากอิสลามพิชิตในคริสตศตวรรษที่ 7"
    .
    ในการศึกษาทางพันธุกรรมของ STR ที่มีโครโมโซม Y ในประชากรสองกลุ่มจากอิสราเอลและพื้นที่ปกครองปาเลสไตน์ พบว่าชาวปาเลสไตน์ที่เป็นคริสเตียนและมุสลิมแสดงความแตกต่างทางพันธุกรรมเล็กน้อย คริสเตียนปาเลสไตน์ส่วนใหญ่ (31.82%) เป็นกลุ่มย่อยของ Hg"E1b1b" รองลงมาคือ Hg"G2a" (11.36%) และ Hg"J1" (9.09%) ชาวมุสลิมปาเลสไตน์ส่วนใหญ่มียีนเป็นกลุ่มย่อยของ Hg"J1" (37.82%) รองลงมาคือ Hg"E1b1b" (19.33%) และ Hg"T" (5.88%)
    .
    ในปี 2004 ทีมนักพันธุศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กับมหาวิทยาลัยฮิบรูแห่งเยรูซาเล็ม มหาวิทยาลัยทาร์ทู (เอสโตเนีย) ศูนย์การแพทย์บาร์ซิไล (อัชเคลอน อิสราเอล) และศูนย์การแพทย์อัสซาฟ ฮาโรเฟห์ (เซริฟิน อิสราเอล) ทำการศึกษาชุมชนชาติพันธุ์ซามาริตันสมัยใหม่ที่อาศัยอยู่ในอิสราเอลโดยเปรียบเทียบกับประชากรอิสราเอลสมัยใหม่เพื่อสำรวจประวัติศาสตร์ทางพันธุกรรมโบราณของกลุ่มคนเหล่านี้ ผลการค้นพบของพวกเขารายงานถึงวงศ์ตระกูลสี่วงศ์ในหมู่ชาวซามาริตัน ได้แก่ ตระกูล Tsdaka, Joshua-Marhiv, Danfi และครอบครัว Cohen ครอบครัวชาวซามาริตันทั้งหมดพบในกลุ่มยีน Hg"J1" และ Hg"J2" ยกเว้นครอบครัว Cohen ซึ่งพบในกลุ่มยีน Hg"E3b1a-M78" ข้อมูลนี้มีเนื้อหาก่อนกลุ่มย่อย "E3b1a" โดยอิงตามการวิจัยของ Cruciani et al. (2006)
    .
    Mekel-Bobrov et al. (2005) ศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบยีน ASPM พบว่าชาว"ดรูซ"อิสราเอลในภูมิภาคคาร์เมล มีอัตราการเกิดกลุ่มยีน ASPM Hg D ที่เพิ่งวิวัฒนาการใหม่สูงที่สุด โดยมีการเกิดขึ้นของอัลลีลที่มีอายุประมาณ 6,000 ปีถึง 52.2% แม้ว่าจะยังไม่ทราบแน่ชัดว่ารูปแบบยีนนี้ให้ข้อได้เปรียบในการคัดเลือกอย่างไร แต่เชื่อกันว่าอัลลีลกลุ่มยีน Hg D ได้รับการคัดเลือกในเชิงบวกในประชากร และมอบข้อได้เปรียบที่สำคัญบางประการที่ทำให้ความถี่ของอัลลีลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว.. ตามการทดสอบ DNA ชาวดรูซโดดเด่นในเรื่องความถี่สูง (35%) ของผู้ชายที่มีกลุ่มยีน Y-chromosomal "L" ซึ่งไม่ธรรมดาในตะวันออกกลาง กลุ่มยีนนี้มีต้นกำเนิดมาจากเอเชียใต้ในยุคก่อนประวัติศาสตร์และแพร่กระจายจากปากีสถานไปยังอิหร่านตอนใต้
    [ * อัลลีล (allele) คือรูปแบบหนึ่ง จากหลายๆ รูปแบบของยีนหนึ่ง บางครั้งอัลลีลที่แตกต่างกันอาจทำให้เกิดลักษณะที่แสดงออก เช่น สีตา สีผม ที่แตกต่างกันได้ บางครั้งอัลลีลที่แตกต่างกันอาจไม่ได้ทำให้มีลักษณะแสดงออกที่แตกต่างกันก็ได้ ]
    .
    มายาอคติที่ก่อให้เกิดขึ้นโดยพวกไซออนิสท์ที่ครอบงำชาวยิวในอิสราเอลทำให้พวกเขามืดบอด ทั้งที่ในทางวิทยาศาสตร์ ชาวยิวและชาวอาหรับมียีนร่วมกันมากกว่าใครในโลกนี้จะมี ผลจากอาชญากรรมอันรุนแรงที่อิสราเอลก่อ ทำให้เกิดความเกลียดชังชาวยิวพุ่งขึ้น ชาวยิวมากมายที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ในภูมิภาคอื่นที่ไม่ใช่อิสราเอล เริ่มเดือดร้อนและต่อต้าน พวกไซออนิสท์กลับนำคำคำหนึ่งมานิยามตราหน้าใครก็ตามที่เกลียดยิวว่า "Anti Semitism" ซึ่งยิ่งทำให้โลกทัศน์บิดเบี้ยวมากขึ้น จนในบัดนี้มีคนยิวในประเทศอื่นที่ทนไม่ได้กับบาปที่พวกเขาไม่ได้ก่อเริ่มออกมาต่อต้านกันมากขึ้นทุกทีและโต้แย้งว่าสิ่งที่พวกไซออนทำไม่ควรทำให้เกิด "Anti Semitism แต่เป็น Anti Zionism ต่างหาก"
    .
    คำว่า Anti Semitism ในที่นี้ หมายถึงอะไร? อิสราเอลตั้งใจจะให้หมายถึงการต่อต้านพวกที่พูดภาษา Semitic นั่นแหละ ปัญหาคือเซมิติคไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ภาษาฮิบรูของยิวเท่านั้น แต่พวกที่พูดภาษาสกุลเซมิติคยังหมายถึงภาษาอาราบิค อัมฮาริค ทิกรินยา อารามาอิค... ซึ่งพูดกันอยู่ในประชากรโลกมากกว่า 330 ล้านคน ทั้งยิวและปาเลสไตน์ต่างก็พูดภาษาในสกุลเซมิติคทั้งคู่ ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากดีเอ็นเอ ไม่เพียงพวกเขาก็เป็นพี่น้องกันแล้ว (Hg J / E) เมื่อพิจารณาจากทางภาษา พวกเขาก็เป็นพี่น้องกันอีก
    .
    คำว่า Semitic มาจากคำว่า Sem (Shem) ปรากฏในคัมภีร์ไบเบิ้ลบทปฐมกาล คือชื่อของบุตรชายคนหนึ่งของโนอาห์. พูดง่ายๆ พวกที่พูดภาษาสกุลเซมก็คือลูกหลานของโนอาห์นั่นแหละ
    คุณคิดว่ามันน่าเศร้าไหม ที่ลูกหลานโนอาห์เข่นฆ่ากันเอง
    หรือว่าที่จริงแล้วพวกอิสราเอลเป็นลูกหลานของคาอิน ไม่ใช่โนอาห์
    อีกครั้งที่ผมจะพูด
    ความแบ่งแยกคือความคิดของปีศาจ
    มันคือมูลเหตุของ Genocide ทั้งที่รวันดาและกาซ่าในตอนนี้
    .
    ยิวและปาเลสไตน์ ========== . การศึกษาที่ตีพิมพ์โดย National Academy of Sciences พบว่า "กลุ่มยีนของชุมชนชาวยิวจากยุโรป แอฟริกาเหนือ และตะวันออกกลาง.. สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษ 'ตะวันออกกลาง' ร่วมกัน" และแนะนำว่า "ชุมชนชาวยิวส่วนใหญ่ยังคงแยกตัวจากชุมชนที่ไม่ใช่ชาวยิวในละแวกใกล้เคียงค่อนข้างมาก ทั้งในช่วงอพยพและหลังการอพยพของชาวยิว" . นักพันธุศาสตร์ Doron Behar และเพื่อนร่วมงาน (2010) ระบุว่า "ข้อมูลนี้สอดคล้องกับการกำหนดทางประวัติศาสตร์ว่า ชาวยิวสืบเชื้อสายมาจากชาวอิสราเอลโบราณ" ประมาณ 35% ถึง 43% ของชายชาวยิวอยู่ในสายเลือดของบิดาที่เรียกว่ากลุ่มยีน Hg "J" และกลุ่มยีนย่อย. กลุ่มยีนนี้พบโดยเฉพาะในตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ แอฟริกาตะวันออก คอเคซัส และยุโรปตอนใต้ราว 15% ถึง 30% อยู่ในกลุ่มยีน Hg "E1b1b" (หรือ E-M35) [ Hg = Haplogroup ] . การศึกษาโดยใช้ดีเอ็นเอโครโมโซม Y ของชาวยิวชาย โดยพยายามสืบหาสายเลือดของนักบวชชาวยิว (โคฮานิม) จากบิดา ผลการศึกษาเผยให้เห็นแฮพโลไทป์โครโมโซม Y บรรพบุรุษร่วมกันเมื่อประมาณ 2,650 ปีก่อน ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของการทำลายวิหารแรกของเยรูซาเล็มในปี 586 ก่อนคริสตกาล และการกระจายตัวของนักบวช การศึกษาดีเอ็นเอไมโตคอนเดรียของประชากรชาวยิวเป็นการศึกษาที่ค่อนข้างใหม่ เป็นที่ถกเถียง และมีความหลากหลายมากกว่า . ส่วนชาวปาเลสไตน์ บันทึกทางประวัติศาสตร์และการศึกษาด้านพันธุกรรมในเวลาต่อมาบ่งชี้ว่าชาวปาเลสไตน์สืบเชื้อสายมาจากเลแวนไทน์โบราณเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งย้อนกลับไปถึงชาวเลแวนไทน์ในยุคสำริด การศึกษาในปี 2015 โดย Verónica Fernandes และคนอื่นๆ สรุปว่าชาวปาเลสไตน์มี "ต้นกำเนิดเป็นชนพื้นเมืองเป็นหลัก" . การศึกษาในปี 2020 เกี่ยวกับซากศพมนุษย์จากกลุ่มคนคานาอันในยุคสำริดกลาง (2100–1550 ปีก่อนคริสตกาล) ชี้ให้เห็นถึงความต่อเนื่องทางพันธุกรรมในระดับที่สำคัญในกลุ่มคนที่พูดภาษาอาหรับในเลวานไทน์ (เช่น ชาวปาเลสไตน์ ชาวดรูซ ชาวเลบานอน ชาวจอร์แดน ชาวเบดูอิน และชาวซีเรีย) พบว่าชาวปาเลสไตน์และกลุ่มคนเลวานไทน์อื่นๆ มีบรรพบุรุษ 81–87% มาจากเลวานไทน์ในยุคสำริด ซึ่งเกี่ยวข้องกับชาวคานาอันและอิทธิพลของวัฒนธรรมคูรา–อารักเซสตั้งแต่ก่อน 2400 ปีก่อนคริสตกาล (4400 ปีก่อนปัจจุบัน) 8–12% มาจากแหล่งแอฟริกาตะวันออก และ 5–10% มาจากชาวยุโรปในยุคสำริด . การศึกษาดีเอ็นเอครั้งหนึ่งโดย Nebel พบว่ามีการทับซ้อนกันทางพันธุกรรมอย่างมากในหมู่ชาวอาหรับอิสราเอล ปาเลสไตน์และชาวยิว เนเบลเสนอว่า "บางส่วนหรือบางทีอาจเป็นส่วนใหญ่" ของชาวปาเลสไตน์ที่เป็นมุสลิม สืบเชื้อสายมาจาก "ชาวพื้นเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคริสเตียนและยิวที่เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามหลังจากอิสลามพิชิตในคริสตศตวรรษที่ 7" . ในการศึกษาทางพันธุกรรมของ STR ที่มีโครโมโซม Y ในประชากรสองกลุ่มจากอิสราเอลและพื้นที่ปกครองปาเลสไตน์ พบว่าชาวปาเลสไตน์ที่เป็นคริสเตียนและมุสลิมแสดงความแตกต่างทางพันธุกรรมเล็กน้อย คริสเตียนปาเลสไตน์ส่วนใหญ่ (31.82%) เป็นกลุ่มย่อยของ Hg"E1b1b" รองลงมาคือ Hg"G2a" (11.36%) และ Hg"J1" (9.09%) ชาวมุสลิมปาเลสไตน์ส่วนใหญ่มียีนเป็นกลุ่มย่อยของ Hg"J1" (37.82%) รองลงมาคือ Hg"E1b1b" (19.33%) และ Hg"T" (5.88%) . ในปี 2004 ทีมนักพันธุศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กับมหาวิทยาลัยฮิบรูแห่งเยรูซาเล็ม มหาวิทยาลัยทาร์ทู (เอสโตเนีย) ศูนย์การแพทย์บาร์ซิไล (อัชเคลอน อิสราเอล) และศูนย์การแพทย์อัสซาฟ ฮาโรเฟห์ (เซริฟิน อิสราเอล) ทำการศึกษาชุมชนชาติพันธุ์ซามาริตันสมัยใหม่ที่อาศัยอยู่ในอิสราเอลโดยเปรียบเทียบกับประชากรอิสราเอลสมัยใหม่เพื่อสำรวจประวัติศาสตร์ทางพันธุกรรมโบราณของกลุ่มคนเหล่านี้ ผลการค้นพบของพวกเขารายงานถึงวงศ์ตระกูลสี่วงศ์ในหมู่ชาวซามาริตัน ได้แก่ ตระกูล Tsdaka, Joshua-Marhiv, Danfi และครอบครัว Cohen ครอบครัวชาวซามาริตันทั้งหมดพบในกลุ่มยีน Hg"J1" และ Hg"J2" ยกเว้นครอบครัว Cohen ซึ่งพบในกลุ่มยีน Hg"E3b1a-M78" ข้อมูลนี้มีเนื้อหาก่อนกลุ่มย่อย "E3b1a" โดยอิงตามการวิจัยของ Cruciani et al. (2006) . Mekel-Bobrov et al. (2005) ศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบยีน ASPM พบว่าชาว"ดรูซ"อิสราเอลในภูมิภาคคาร์เมล มีอัตราการเกิดกลุ่มยีน ASPM Hg D ที่เพิ่งวิวัฒนาการใหม่สูงที่สุด โดยมีการเกิดขึ้นของอัลลีลที่มีอายุประมาณ 6,000 ปีถึง 52.2% แม้ว่าจะยังไม่ทราบแน่ชัดว่ารูปแบบยีนนี้ให้ข้อได้เปรียบในการคัดเลือกอย่างไร แต่เชื่อกันว่าอัลลีลกลุ่มยีน Hg D ได้รับการคัดเลือกในเชิงบวกในประชากร และมอบข้อได้เปรียบที่สำคัญบางประการที่ทำให้ความถี่ของอัลลีลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว.. ตามการทดสอบ DNA ชาวดรูซโดดเด่นในเรื่องความถี่สูง (35%) ของผู้ชายที่มีกลุ่มยีน Y-chromosomal "L" ซึ่งไม่ธรรมดาในตะวันออกกลาง กลุ่มยีนนี้มีต้นกำเนิดมาจากเอเชียใต้ในยุคก่อนประวัติศาสตร์และแพร่กระจายจากปากีสถานไปยังอิหร่านตอนใต้ [ * อัลลีล (allele) คือรูปแบบหนึ่ง จากหลายๆ รูปแบบของยีนหนึ่ง บางครั้งอัลลีลที่แตกต่างกันอาจทำให้เกิดลักษณะที่แสดงออก เช่น สีตา สีผม ที่แตกต่างกันได้ บางครั้งอัลลีลที่แตกต่างกันอาจไม่ได้ทำให้มีลักษณะแสดงออกที่แตกต่างกันก็ได้ ] . มายาอคติที่ก่อให้เกิดขึ้นโดยพวกไซออนิสท์ที่ครอบงำชาวยิวในอิสราเอลทำให้พวกเขามืดบอด ทั้งที่ในทางวิทยาศาสตร์ ชาวยิวและชาวอาหรับมียีนร่วมกันมากกว่าใครในโลกนี้จะมี ผลจากอาชญากรรมอันรุนแรงที่อิสราเอลก่อ ทำให้เกิดความเกลียดชังชาวยิวพุ่งขึ้น ชาวยิวมากมายที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ในภูมิภาคอื่นที่ไม่ใช่อิสราเอล เริ่มเดือดร้อนและต่อต้าน พวกไซออนิสท์กลับนำคำคำหนึ่งมานิยามตราหน้าใครก็ตามที่เกลียดยิวว่า "Anti Semitism" ซึ่งยิ่งทำให้โลกทัศน์บิดเบี้ยวมากขึ้น จนในบัดนี้มีคนยิวในประเทศอื่นที่ทนไม่ได้กับบาปที่พวกเขาไม่ได้ก่อเริ่มออกมาต่อต้านกันมากขึ้นทุกทีและโต้แย้งว่าสิ่งที่พวกไซออนทำไม่ควรทำให้เกิด "Anti Semitism แต่เป็น Anti Zionism ต่างหาก" . คำว่า Anti Semitism ในที่นี้ หมายถึงอะไร? อิสราเอลตั้งใจจะให้หมายถึงการต่อต้านพวกที่พูดภาษา Semitic นั่นแหละ ปัญหาคือเซมิติคไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ภาษาฮิบรูของยิวเท่านั้น แต่พวกที่พูดภาษาสกุลเซมิติคยังหมายถึงภาษาอาราบิค อัมฮาริค ทิกรินยา อารามาอิค... ซึ่งพูดกันอยู่ในประชากรโลกมากกว่า 330 ล้านคน ทั้งยิวและปาเลสไตน์ต่างก็พูดภาษาในสกุลเซมิติคทั้งคู่ ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากดีเอ็นเอ ไม่เพียงพวกเขาก็เป็นพี่น้องกันแล้ว (Hg J / E) เมื่อพิจารณาจากทางภาษา พวกเขาก็เป็นพี่น้องกันอีก . คำว่า Semitic มาจากคำว่า Sem (Shem) ปรากฏในคัมภีร์ไบเบิ้ลบทปฐมกาล คือชื่อของบุตรชายคนหนึ่งของโนอาห์. พูดง่ายๆ พวกที่พูดภาษาสกุลเซมก็คือลูกหลานของโนอาห์นั่นแหละ คุณคิดว่ามันน่าเศร้าไหม ที่ลูกหลานโนอาห์เข่นฆ่ากันเอง หรือว่าที่จริงแล้วพวกอิสราเอลเป็นลูกหลานของคาอิน ไม่ใช่โนอาห์ อีกครั้งที่ผมจะพูด ความแบ่งแยกคือความคิดของปีศาจ มันคือมูลเหตุของ Genocide ทั้งที่รวันดาและกาซ่าในตอนนี้ .
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 522 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระสันตปาปาฟรานซิสสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2558 ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ! วันที่ 20 เมษายนเป็นวันเกิดของฮิตเลอร์ และพวกนาซีใช้เลข 88 เป็นสัญลักษณ์ของไฮล์ฮิตเลอร์ (H = ตัวอักษรตัวที่แปดของตัวอักษร)

    และวาติกันก็มีประวัติการสนับสนุนพวกนาซี

    ยังเป็นเรื่องบังเอิญที่พระสันตปาปาฟรานซิสสิ้นพระชนม์ในช่วงอีสเตอร์ ซึ่งเป็นช่วงที่คริสเตียนจำนวนมากเฉลิมฉลองความเชื่อในการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู และมีทฤษฎีต่างๆ ที่อธิบายถึงอิทธิพลของซาตานที่รายล้อมนครวาติกันมาอย่างยาวนาน

    การตายของฟรานซิสโกเป็นเรื่องแปลกประหลาด

    cr.จอร์แดน ซาเธอร์
    พระสันตปาปาฟรานซิสสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2558 ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ! วันที่ 20 เมษายนเป็นวันเกิดของฮิตเลอร์ และพวกนาซีใช้เลข 88 เป็นสัญลักษณ์ของไฮล์ฮิตเลอร์ (H = ตัวอักษรตัวที่แปดของตัวอักษร) และวาติกันก็มีประวัติการสนับสนุนพวกนาซี ยังเป็นเรื่องบังเอิญที่พระสันตปาปาฟรานซิสสิ้นพระชนม์ในช่วงอีสเตอร์ ซึ่งเป็นช่วงที่คริสเตียนจำนวนมากเฉลิมฉลองความเชื่อในการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู และมีทฤษฎีต่างๆ ที่อธิบายถึงอิทธิพลของซาตานที่รายล้อมนครวาติกันมาอย่างยาวนาน การตายของฟรานซิสโกเป็นเรื่องแปลกประหลาด cr.จอร์แดน ซาเธอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • 08-04-68/03 : หมี CNN / ตอแหลไม่เลิกน่ะมรึง? อ้างไม่ส่งอาวุธปืนให้อียิว เพราะกลัวหากอียิวหัวรุนแรงจะนำเอาไปใช้ก่อเหตุ จุดไฟสงครามไม่เลิก อ๋อ..เหรอ? ดูดี มีสถุนน่ะมรึงเนี่ย? ทุกวันนี้ในอิสราเอล เหลือทหารยิวแท้ๆ กี่ตัวกันจ๊ะ? ส่วนใหญ่ ตุยกันไปเยอะ ล่อกันเป็นกองพัน ไอ้ที่มรึงเห็นวันนี้ ทหารรับจ้างทั้งนั้น พวกรับจ็อบมาตายห่าฟรี 6 เดือนแรก แห่กันมาขนดอลล่าร์ พอผ่านไปแค่ 2 เดือน ห่อถุงดำกลับบ้านเพี๊ยบ เงินไม่ได้แตะซะงั้น เพราะ 3 ฮอ ล่อลูกยาวทั้งวัน ทั้งคืน ไหนจะซีเรีย อิรัก เลบานอน เยเมน ดาหน้าถล่มขีปนาวุธร่อน โดรนพิฆาต เข้าพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางทหารสำคัญหมดเกลี้ยง แม้แต่ที่ราบสูงโกลานก็ไม่รอดสายตา อยู่สูงกว่านิดหน่อย คิดว่าระเบิดไปไม่ถึงเหรอจ๊ะ? อย่าเพิ่งอ๊วก หากมรึงได้อ่านบทความข่าวแปลนี้ แล้วสะอิดสะเอียน พูดเอาดีเข้าตัว เอาเหี้ยใส่คนอื่น ถามจริง? ไอ้ที่ทหารมะกันไปตายโหง ตายห่าในตะวันออกกลางเนี่ย มรึงคิดว่าชาวโลกเค้าสงสารมรึงรึไง? ภาพปล้นทองคำในอิรัก ยึดทรัพย์สินซัดดัม นี่ไง เป้าหมายแท้จริงที่เข้ามาขุดทองในโลกอาหรับ แหล่งบ่อน้ำมันทั่วอิรัก อาวุธอะไรก็ตามที่ส่งเข้ามาช่วยอียิว มันไร้ประโยชน์ เพราะกว่า3 ฮอ และพันธมิตรจะเข้าไปเคลียร์พื้นที่ได้นั้น แปลว่าพวกมรึงได้ตายห่ากันไปหมดแล้วนั่นเอง ลูกยาว โดรน ทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศมรึงยับเยิน ล่าสุด อียิว กำลังถูกล้อมหน้า ล้อมหลัง หลังเปิดพื้นที่ฉนวนกาซ่า ให้การช่วยเหลือเข้าถึง หลังเปิดโต๊ะเจรจาหยุดยิง แลกตัวประกัน ยังไม่ถึงสัปดาห์ แม่งล่อกันเละเทะต่อ ภาพส่วนใหญ่ในสื่อหลักเหี้ยโลก จะไม่พูดถึงความเสียหายหนักของอิสราเอล แต่มรึงจะเห็นแต่ภาพชาวปาเลสไตน์ถูกยิวไล่ฆ่า เพราะนั่นคือศิลปะของการโฆษณาชวนเชื่อ บริษัทค้าอาวุธยิวจะขายออกเหรอ หากโลกรู้ความจริงว่า แพ้เค้ายับ แค่กองโจรกระจอกที่พวกมรึงเคยเรียก แต่มรึงตายห่าเรียบวุธน่ะจ๊ะ อียิวอาวุธเกลี้ยงแล้ว เพราะถูกโจมตีหนัก ทำลายคลังแสง สนามบิน กองบัญชาการ กองหนุน และฝ่ายซ่อมบำรุง ล้วนถูกไฮเปอร์โซนิคอิหร่าน แจกจ่ายไปทั่ว ยิงไม่ต้องเยอะ เน้นๆ เนื้อๆ เข้าเป้าหมายทุกดอก แม่นยำสุดขีด ที่มาว่ายอดขายอาวุธอิหร่าน รัสเซีย จีน โสมแดง พุ่งทะลุมิติไปแล้ว ขณะนี้ ยานยนต์ บินรบ รถถัง โดรน ราคาแพงและโคตรห่วยของฝั่งตะวันตก ขายไม่ออก เพราะทั้งเงื่อนไขเยอะเกิน ราคาแพงเกินจริงไปเยอะ แถมประสิทธิภาพโคตรกระจอก ถูกนำอาวุธที่ถูกนักรบค่ายอาหรับถล่มมาหมาดๆ ออกมาประจานออกเต็มโซเชี่ยลโลก จากประเทศผลิตอาวุธสงครามส่งออก กลายมาเป็นรับบริจาคซะงั้น? คำตอบว่า ใครกันแน่ ที่ชนะสงครามครูเสดครั้งสุดท้ายตัวจริง แค่อาวุธไม่สามารถชนะศึกได้ กึ๋นของผู้วางแผน การเตรียมพร้อม และความตั้งใจจริง มันต่างกันเยอะ ผู้รุกรานเค้า กับผู้ปกป้องแผ่นดินเกิด ใจมันผิดกันเยอะ ชัยชนะของโลกอาหรับมีชัวร์ แต่จะชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดหรือไม่ อยู่ที่ขั้วใหม่ ว่ายังจะเดินเกมส์ต่อแค่ไหน ทั้งเส้นทางท่อแก็ส โลจิสติค สินค้าผ่านมืออาหรับเข้าสู่แอฟริกา ลาติน จุดเปลี่ยนโมเมตั่มโลกคือตรงนี้ ดังนั้น สัญญานจากอีฟาโรห์ อีจอร์แดน มันคือการย้ายขั้วใหม่ที่เตรียมการรอไว้นานแล้ว แทงหลังอียิว มันไม่ปล่อยมรึงไว้แน่ เพราะอียิวมันคือสัดเดรัจฉานผู้เครียดแค้นไม่เลิก เหมือนที่ครั้งนึง ลุงหนวดจิ๋มเคยไล่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวมาก่อน มันถึงรอวันเอาคืน หลังอีป้าแมร์เคิลหมดวาระไป อีโอลาฟโง่ก็เข้ามาตามใบสั่ง แล้วมรึงก็ได้รู้เช่นเห็นชาติทันที 10 ปี อีป้าสร้าง แค่ปีเดียว อีโง่ทำลายเกลี้ยง ที่สำคัญ เสือกจะไปท้ารบรัสเซีย นั่นคือถึงขั้นสิ้นชาติน่ะจ๊ะ?

    U.S. sending Israel more than 20,000 assault rifles that Biden had delayed แหล่งข่าวระบุว่า สหรัฐจะส่งปืนยาวมากกว่า 20,000 กระบอกที่ล่าช้าจากสมัยอดีตประธานาธิบดีไบเดน

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : แหล่งข่าวระบุว่า สหรัฐจะส่งปืนยาวมากกว่า 20,000 กระบอกที่ล่าช้าจากสมัยอดีตประธานาธิบดีไบเดน

    รัฐบาลสหรัฐสนับสนุนการขายปืนยาว 20,000 กระบอกให้อิสราเอลเมื่อเดือนที่แล้วตามเอกสารจากสำนักข่าวรอยเตอร์สและแหล่งข่าวเรื่องอาวุธซึ่งระบุว่า การขายอาวุธที่อดีตรัฐบาลนายไบเดนชะลอการขายจากความกังวลว่า กลุ่มหัวรุนแรงอิสราเอลอาจนำไปใช้

    กระทรวงต่างประเทศส่งคำเตือนให้สภาคองเกรส เมื่อวันที่ 6 มีนาคมเรื่องการขายอาวุธปืนยาว Colt Carbine ขนาด 5.56 มม. เป็นเงิน 24 ล้านดอลลาร์ซึ่งผู้ที่ใช้อาจเป็นตำรวจอิสราเอล

    การขายอาวุธดังกล่าวเป็นการจ่ายเงินจำนวนน้อยหลังการผลิตอาวุธหลายพันล้านของสหรัฐให้อิสราเอล

    ก่อนหน้านี้ รัฐบาลนายไบเดนกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลและบริษัทที่อ้างว่าปฏิบัติการอย่างรุนแรงในเขตเวสต์แบ๊งค์ซึ่งทำให้เกิดการโจมตีเพิ่มขึ้นต่อชาวปาเลสไตน์

    คำเตือนเมื่อวันที่ 6 มีนาคมระบุว่า รัฐบาลสหรัฐให้ความสำคัญต่อ “การเมือง กองทัพ เศรษฐกิจ สิทธิมนุษยชน และการควบคุมอาวุธ”

    กระทรวงต่างประเทศไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับที่รัฐบาลต้องการความมั่นใจจากอิสราเอลในเรื่องการใช้อาวุธ

    ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างนาย เนทันยาฮูและนายทรัมป์

    ตั้งแต่สงครามระหว่างอาหรับและอิสราเอลในปี 1967 อิสราเอลยึดครองเขตเวสต์แบ๊งค์และสร้างชุมชนที่หลายประเทศมองว่าผิดกฎหมาย อิสราเอลโต้แย้งซึ่งอ้างถึงความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์และคัมภีร์ไบเบิลต่อบริเวณดังกล่าว

    ความรุนแรงจากผู้ที่มาตั้งถิ่นฐานเพิ่มขึ้นก่อนที่สงครามกาซ่าจะเกิดขึ้นและแย่ลงตั้งแต่ที่สงครามเริ่มขึ้นในปีที่แล้ว

    นายทรัมป์พยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮูซึ่งให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนอิสราเอลในสงครามกาซ่า รัฐบาลขายอาวุธให้อิสราเอลแม้จะมีคำร้องจากสมาชิกสภานิติบัญญัติพรรค เดโมแครตทว่า ให้หยุดการขายจนกว่าจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติม

    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สภาสูงสหรัฐปฏิเสธการประมูลเพื่อขัดขวางการขายอาวุธ 8.8 พันล้านดอลลาร์ให้อิสราเอลจากความกังวลด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งมีการลงคะแนนเสียง 82 ต่อ 15 และ 83-15 ที่ไม่ยอมรับ 2 มติเรื่องการไม่อนุมัติการขายระเบิดขนาดใหญ่แลถเครื่องมือป้องกันภัยทางทหาร

    มีการชะลอการขายปืนยาวหลังสมาชิกสภานิติบัญญัติพรรคเดโมแครตคัดค้านและพบข้อมูลแผนการใช้อาวุธของอิสราเอล คณะกรรมาธิการสภาคองเกรสตัดสินใจขายอาวุธแต่รัฐบาลนายไบเดนไม่อนุมัติ

    Itamar Ben-Gvir รัฐมนตรีด้านความมั่นคงของอิสราเอลดูแลกองทัพของตำรวจอิสราเอล หนังสือพิมพ์ The Times of Israel รายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2023 ว่า กระทรวงความมั่นคงแห่งอิสราเอล “ให้ความสำคัญอย่างมากต่อการติดอาวุธให้กองกำลังความมั่นคงของประชาชน” จากควันหลงของการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม

    https://www.cbc.ca/news/world/trump-administration-assault-rifles-sale-israel-1.7501926

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    08-04-68/03 : หมี CNN / ตอแหลไม่เลิกน่ะมรึง? อ้างไม่ส่งอาวุธปืนให้อียิว เพราะกลัวหากอียิวหัวรุนแรงจะนำเอาไปใช้ก่อเหตุ จุดไฟสงครามไม่เลิก อ๋อ..เหรอ? ดูดี มีสถุนน่ะมรึงเนี่ย? ทุกวันนี้ในอิสราเอล เหลือทหารยิวแท้ๆ กี่ตัวกันจ๊ะ? ส่วนใหญ่ ตุยกันไปเยอะ ล่อกันเป็นกองพัน ไอ้ที่มรึงเห็นวันนี้ ทหารรับจ้างทั้งนั้น พวกรับจ็อบมาตายห่าฟรี 6 เดือนแรก แห่กันมาขนดอลล่าร์ พอผ่านไปแค่ 2 เดือน ห่อถุงดำกลับบ้านเพี๊ยบ เงินไม่ได้แตะซะงั้น เพราะ 3 ฮอ ล่อลูกยาวทั้งวัน ทั้งคืน ไหนจะซีเรีย อิรัก เลบานอน เยเมน ดาหน้าถล่มขีปนาวุธร่อน โดรนพิฆาต เข้าพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางทหารสำคัญหมดเกลี้ยง แม้แต่ที่ราบสูงโกลานก็ไม่รอดสายตา อยู่สูงกว่านิดหน่อย คิดว่าระเบิดไปไม่ถึงเหรอจ๊ะ? อย่าเพิ่งอ๊วก หากมรึงได้อ่านบทความข่าวแปลนี้ แล้วสะอิดสะเอียน พูดเอาดีเข้าตัว เอาเหี้ยใส่คนอื่น ถามจริง? ไอ้ที่ทหารมะกันไปตายโหง ตายห่าในตะวันออกกลางเนี่ย มรึงคิดว่าชาวโลกเค้าสงสารมรึงรึไง? ภาพปล้นทองคำในอิรัก ยึดทรัพย์สินซัดดัม นี่ไง เป้าหมายแท้จริงที่เข้ามาขุดทองในโลกอาหรับ แหล่งบ่อน้ำมันทั่วอิรัก อาวุธอะไรก็ตามที่ส่งเข้ามาช่วยอียิว มันไร้ประโยชน์ เพราะกว่า3 ฮอ และพันธมิตรจะเข้าไปเคลียร์พื้นที่ได้นั้น แปลว่าพวกมรึงได้ตายห่ากันไปหมดแล้วนั่นเอง ลูกยาว โดรน ทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศมรึงยับเยิน ล่าสุด อียิว กำลังถูกล้อมหน้า ล้อมหลัง หลังเปิดพื้นที่ฉนวนกาซ่า ให้การช่วยเหลือเข้าถึง หลังเปิดโต๊ะเจรจาหยุดยิง แลกตัวประกัน ยังไม่ถึงสัปดาห์ แม่งล่อกันเละเทะต่อ ภาพส่วนใหญ่ในสื่อหลักเหี้ยโลก จะไม่พูดถึงความเสียหายหนักของอิสราเอล แต่มรึงจะเห็นแต่ภาพชาวปาเลสไตน์ถูกยิวไล่ฆ่า เพราะนั่นคือศิลปะของการโฆษณาชวนเชื่อ บริษัทค้าอาวุธยิวจะขายออกเหรอ หากโลกรู้ความจริงว่า แพ้เค้ายับ แค่กองโจรกระจอกที่พวกมรึงเคยเรียก แต่มรึงตายห่าเรียบวุธน่ะจ๊ะ อียิวอาวุธเกลี้ยงแล้ว เพราะถูกโจมตีหนัก ทำลายคลังแสง สนามบิน กองบัญชาการ กองหนุน และฝ่ายซ่อมบำรุง ล้วนถูกไฮเปอร์โซนิคอิหร่าน แจกจ่ายไปทั่ว ยิงไม่ต้องเยอะ เน้นๆ เนื้อๆ เข้าเป้าหมายทุกดอก แม่นยำสุดขีด ที่มาว่ายอดขายอาวุธอิหร่าน รัสเซีย จีน โสมแดง พุ่งทะลุมิติไปแล้ว ขณะนี้ ยานยนต์ บินรบ รถถัง โดรน ราคาแพงและโคตรห่วยของฝั่งตะวันตก ขายไม่ออก เพราะทั้งเงื่อนไขเยอะเกิน ราคาแพงเกินจริงไปเยอะ แถมประสิทธิภาพโคตรกระจอก ถูกนำอาวุธที่ถูกนักรบค่ายอาหรับถล่มมาหมาดๆ ออกมาประจานออกเต็มโซเชี่ยลโลก จากประเทศผลิตอาวุธสงครามส่งออก กลายมาเป็นรับบริจาคซะงั้น? คำตอบว่า ใครกันแน่ ที่ชนะสงครามครูเสดครั้งสุดท้ายตัวจริง แค่อาวุธไม่สามารถชนะศึกได้ กึ๋นของผู้วางแผน การเตรียมพร้อม และความตั้งใจจริง มันต่างกันเยอะ ผู้รุกรานเค้า กับผู้ปกป้องแผ่นดินเกิด ใจมันผิดกันเยอะ ชัยชนะของโลกอาหรับมีชัวร์ แต่จะชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดหรือไม่ อยู่ที่ขั้วใหม่ ว่ายังจะเดินเกมส์ต่อแค่ไหน ทั้งเส้นทางท่อแก็ส โลจิสติค สินค้าผ่านมืออาหรับเข้าสู่แอฟริกา ลาติน จุดเปลี่ยนโมเมตั่มโลกคือตรงนี้ ดังนั้น สัญญานจากอีฟาโรห์ อีจอร์แดน มันคือการย้ายขั้วใหม่ที่เตรียมการรอไว้นานแล้ว แทงหลังอียิว มันไม่ปล่อยมรึงไว้แน่ เพราะอียิวมันคือสัดเดรัจฉานผู้เครียดแค้นไม่เลิก เหมือนที่ครั้งนึง ลุงหนวดจิ๋มเคยไล่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวมาก่อน มันถึงรอวันเอาคืน หลังอีป้าแมร์เคิลหมดวาระไป อีโอลาฟโง่ก็เข้ามาตามใบสั่ง แล้วมรึงก็ได้รู้เช่นเห็นชาติทันที 10 ปี อีป้าสร้าง แค่ปีเดียว อีโง่ทำลายเกลี้ยง ที่สำคัญ เสือกจะไปท้ารบรัสเซีย นั่นคือถึงขั้นสิ้นชาติน่ะจ๊ะ? U.S. sending Israel more than 20,000 assault rifles that Biden had delayed แหล่งข่าวระบุว่า สหรัฐจะส่งปืนยาวมากกว่า 20,000 กระบอกที่ล่าช้าจากสมัยอดีตประธานาธิบดีไบเดน ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : แหล่งข่าวระบุว่า สหรัฐจะส่งปืนยาวมากกว่า 20,000 กระบอกที่ล่าช้าจากสมัยอดีตประธานาธิบดีไบเดน รัฐบาลสหรัฐสนับสนุนการขายปืนยาว 20,000 กระบอกให้อิสราเอลเมื่อเดือนที่แล้วตามเอกสารจากสำนักข่าวรอยเตอร์สและแหล่งข่าวเรื่องอาวุธซึ่งระบุว่า การขายอาวุธที่อดีตรัฐบาลนายไบเดนชะลอการขายจากความกังวลว่า กลุ่มหัวรุนแรงอิสราเอลอาจนำไปใช้ กระทรวงต่างประเทศส่งคำเตือนให้สภาคองเกรส เมื่อวันที่ 6 มีนาคมเรื่องการขายอาวุธปืนยาว Colt Carbine ขนาด 5.56 มม. เป็นเงิน 24 ล้านดอลลาร์ซึ่งผู้ที่ใช้อาจเป็นตำรวจอิสราเอล การขายอาวุธดังกล่าวเป็นการจ่ายเงินจำนวนน้อยหลังการผลิตอาวุธหลายพันล้านของสหรัฐให้อิสราเอล ก่อนหน้านี้ รัฐบาลนายไบเดนกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลและบริษัทที่อ้างว่าปฏิบัติการอย่างรุนแรงในเขตเวสต์แบ๊งค์ซึ่งทำให้เกิดการโจมตีเพิ่มขึ้นต่อชาวปาเลสไตน์ คำเตือนเมื่อวันที่ 6 มีนาคมระบุว่า รัฐบาลสหรัฐให้ความสำคัญต่อ “การเมือง กองทัพ เศรษฐกิจ สิทธิมนุษยชน และการควบคุมอาวุธ” กระทรวงต่างประเทศไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับที่รัฐบาลต้องการความมั่นใจจากอิสราเอลในเรื่องการใช้อาวุธ ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างนาย เนทันยาฮูและนายทรัมป์ ตั้งแต่สงครามระหว่างอาหรับและอิสราเอลในปี 1967 อิสราเอลยึดครองเขตเวสต์แบ๊งค์และสร้างชุมชนที่หลายประเทศมองว่าผิดกฎหมาย อิสราเอลโต้แย้งซึ่งอ้างถึงความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์และคัมภีร์ไบเบิลต่อบริเวณดังกล่าว ความรุนแรงจากผู้ที่มาตั้งถิ่นฐานเพิ่มขึ้นก่อนที่สงครามกาซ่าจะเกิดขึ้นและแย่ลงตั้งแต่ที่สงครามเริ่มขึ้นในปีที่แล้ว นายทรัมป์พยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮูซึ่งให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนอิสราเอลในสงครามกาซ่า รัฐบาลขายอาวุธให้อิสราเอลแม้จะมีคำร้องจากสมาชิกสภานิติบัญญัติพรรค เดโมแครตทว่า ให้หยุดการขายจนกว่าจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สภาสูงสหรัฐปฏิเสธการประมูลเพื่อขัดขวางการขายอาวุธ 8.8 พันล้านดอลลาร์ให้อิสราเอลจากความกังวลด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งมีการลงคะแนนเสียง 82 ต่อ 15 และ 83-15 ที่ไม่ยอมรับ 2 มติเรื่องการไม่อนุมัติการขายระเบิดขนาดใหญ่แลถเครื่องมือป้องกันภัยทางทหาร มีการชะลอการขายปืนยาวหลังสมาชิกสภานิติบัญญัติพรรคเดโมแครตคัดค้านและพบข้อมูลแผนการใช้อาวุธของอิสราเอล คณะกรรมาธิการสภาคองเกรสตัดสินใจขายอาวุธแต่รัฐบาลนายไบเดนไม่อนุมัติ Itamar Ben-Gvir รัฐมนตรีด้านความมั่นคงของอิสราเอลดูแลกองทัพของตำรวจอิสราเอล หนังสือพิมพ์ The Times of Israel รายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2023 ว่า กระทรวงความมั่นคงแห่งอิสราเอล “ให้ความสำคัญอย่างมากต่อการติดอาวุธให้กองกำลังความมั่นคงของประชาชน” จากควันหลงของการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม https://www.cbc.ca/news/world/trump-administration-assault-rifles-sale-israel-1.7501926 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    WWW.CBC.CA
    U.S. sending Israel more than 20,000 assault rifles that Biden had delayed: sources | CBC News
    The Trump administration moved ahead with the sale of more than 20,000 U.S.-made assault rifles to Israel last month — a sale the administration of former president Joe Biden had delayed over concerns they could be used by extremist Israeli settlers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 868 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความตื่นตระหนกในตะวันออกกลาง

    ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต จอร์แดน และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคได้โทรศัพท์ไปหาประธานาธิบดีอิหร่านเพื่อยืนยันว่าพวกเขาจะไม่ยอมให้สหรัฐฯ ใช้ดินแดนของตนโจมตีอิหร่าน
    ความตื่นตระหนกในตะวันออกกลาง ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต จอร์แดน และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคได้โทรศัพท์ไปหาประธานาธิบดีอิหร่านเพื่อยืนยันว่าพวกเขาจะไม่ยอมให้สหรัฐฯ ใช้ดินแดนของตนโจมตีอิหร่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองกำลัง HTS ของรัฐบาลซีเรีย โจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน

    ภาพกองกำลัง HTS ของรัฐบาลใหม่ซีเรียขณะโจมตีหมู่บ้านเบกา (Bekaa Valley) เมืองชายแดนของเลบานอน "ในเวลาเดียวกับที่อิสราเอลก็โจมตีเลบานอนเช่นกัน"

    จรวดมากกว่า 50 ลูกและปืนใหญ่หลายสิบนัดเพิ่งถูกถล่มใส่ฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์

    กองกำลังซีเรียกำลังยิงเข้าไปในเลบานอนอย่างหนัก และคนในพื้นที่กำลังหลบหนี มีรายงานเบื้องต้นเด็กอย่างน้อยหนึ่งคนเสียชีวิต และอีกสี่คนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของกองกำลัง HTS

    หลายฝ่ายกำลังจับตามองท่าทีของรัฐบาลซีเรีย ที่นับวันยิ่งเปิดเผยตัวตนว่าสนับสนุนอิสราเอลเข้าไปทุกที หากเป็นเช่นนั้นจริง นั่นเท่ากับว่าซีเรียได้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของอิสราเอลไปแล้ว ทำให้เข้าใกล้ "GREATER ISRAEL" เข้าไปทุกที

    มาดูกันว่าอิทธิพลของอิสราเอลที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐเต็มรูปแบบ จะต้องครอบคลุมพื้นที่เท่าไหร่ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย "GREATER ISRAEL" :

    ปาเลสไตน์ 100%
    จอร์แดน 100%
    เลบานอน 100%
    คูเวต 100%
    ซีเรีย 75%
    อิรัก 45%
    ซาอุดีอาระเบีย 40%
    กองกำลัง HTS ของรัฐบาลซีเรีย โจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ภาพกองกำลัง HTS ของรัฐบาลใหม่ซีเรียขณะโจมตีหมู่บ้านเบกา (Bekaa Valley) เมืองชายแดนของเลบานอน "ในเวลาเดียวกับที่อิสราเอลก็โจมตีเลบานอนเช่นกัน" จรวดมากกว่า 50 ลูกและปืนใหญ่หลายสิบนัดเพิ่งถูกถล่มใส่ฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กองกำลังซีเรียกำลังยิงเข้าไปในเลบานอนอย่างหนัก และคนในพื้นที่กำลังหลบหนี มีรายงานเบื้องต้นเด็กอย่างน้อยหนึ่งคนเสียชีวิต และอีกสี่คนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของกองกำลัง HTS หลายฝ่ายกำลังจับตามองท่าทีของรัฐบาลซีเรีย ที่นับวันยิ่งเปิดเผยตัวตนว่าสนับสนุนอิสราเอลเข้าไปทุกที หากเป็นเช่นนั้นจริง นั่นเท่ากับว่าซีเรียได้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของอิสราเอลไปแล้ว ทำให้เข้าใกล้ "GREATER ISRAEL" เข้าไปทุกที มาดูกันว่าอิทธิพลของอิสราเอลที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐเต็มรูปแบบ จะต้องครอบคลุมพื้นที่เท่าไหร่ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย "GREATER ISRAEL" : ปาเลสไตน์ 100% จอร์แดน 100% เลบานอน 100% คูเวต 100% ซีเรีย 75% อิรัก 45% ซาอุดีอาระเบีย 40%
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 423 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐอเมริกาและอิสราเอลกำลังซุ่มหารือถึงแนวทางเรื่องการบังคับย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาไปยังแอฟริกาตะวันออก

    หลังจากการปฏิเวธอย่างแข็งขันจากรัฐบาลอียิปต์และจอร์แดน ทำให้สหรัฐอเมริกาและอิสราเอล ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่จากประเทศต่างๆ ในแอฟริกาตะวันออกอย่างน้อย 3 ประเทศเกี่ยวกับการให้การต้อนรับชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซา

    ยังไม่มีการยืนยันข้อตกลงใดๆ แต่การหารือดังกล่าวเป็นสัญญาณของคงามพยายามที่เพิ่มมากขึ้นของเป้าหมายการย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ที่พลัดถิ่นออกไปนอกภูมิภาค
    สหรัฐอเมริกาและอิสราเอลกำลังซุ่มหารือถึงแนวทางเรื่องการบังคับย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาไปยังแอฟริกาตะวันออก หลังจากการปฏิเวธอย่างแข็งขันจากรัฐบาลอียิปต์และจอร์แดน ทำให้สหรัฐอเมริกาและอิสราเอล ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่จากประเทศต่างๆ ในแอฟริกาตะวันออกอย่างน้อย 3 ประเทศเกี่ยวกับการให้การต้อนรับชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซา ยังไม่มีการยืนยันข้อตกลงใดๆ แต่การหารือดังกล่าวเป็นสัญญาณของคงามพยายามที่เพิ่มมากขึ้นของเป้าหมายการย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ที่พลัดถิ่นออกไปนอกภูมิภาค
    Sad
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 408 มุมมอง 0 รีวิว
  • บรรดาผู้นำอาหรับให้การรับรองแผนการที่ฟื้นฟูบูรณะดินแดนฉนวนกาซาขึ้นมาใหม่ โดยที่จะอยู่ใต้การบริหารปกครองของคณะรัฐบาลในอนาคตขององค์การบริหารปาเลสไตน์ (Palestinian Authority หรือ PA) เป็นการเสนอหนทางเลือกอีกทางหนึ่งขึ้นมาประชันกับข้อเสนอซึ่งถูกประณามอย่างกว้างขวางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ประกาศจะเข้าครอบครองดินแดนแห่งนี้ และโยกย้ายประชาชนที่นั่นออกไปอยู่ที่อื่น
    .
    อย่างไรก็ดี ลู่ทางความเป็นไปได้ที่ PA จะได้เข้าปกครองกาซายังคงห่างไกลจากความแน่นอน จากการที่อิสราเอลซึ่งเป็นผู้ทำลายล้างผลาญและยังคงมีกำลังทหารยึดครองดินแดนแห่งนี้อยู่ ยังคงปฏิเสธไม่ยอมให้องค์การบริหารปาเลสไตน์มีบทบาทใดๆ ในอนาคต ขณะเดียวกันก็ยากที่จะได้รับความเห็นชอบจากสหรัฐฯ เนื่องจากทรัมป์ก็คือผู้ที่สั่งปิดสำนักงานติดต่อขององค์การปลดแอกปาเลสไตน์ (PLO) ในกรุงวอชิงตัน ระหว่างสมัยแรกแห่งการเป็นประธานาธิบดีของเขา ขณะเดียวกับที่ยกระดับเพิ่มการสนับสนุนอิสราเอล
    .
    ทรัมป์จุดชนวนให้เกิดความโกรธเกรี้ยวกันทั่วโลก จากการเสนอแนะว่าสหรัฐฯ จะเข้าเทกโอเวอร์ฉนวนกาซา และเปลี่ยนให้กลายเป็น “หาดริเวียร่าของตะวันออกกลาง” เวลาเดียวกันนั้นก็จะบังคับให้ประชากรชาวปาเลสไตน์ที่นั่นต้องอพยพไปตั้งถิ่นฐานที่อียิปต์ หรือจอร์แดน
    .
    ที่ประชุมซัมมิตในกรุงไคโรของสันนิบาตอาหรับ เมื่อวันอังคาร (4) – หรือ 1 วันหลังจากนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล แถลงย้ำว่าเขายังคงสนับสนุนข้อเสนอของทรัมป์ — เสนอทางเลือกอีกทางหนึ่ง ด้วยการลงมติรับรอง “แผนการของอาหรับที่มีเนื้อหาครอบคลุมรอบด้าน”
    .
    ตามแผนการดังกล่าว กำหนดให้จัดตั้งกองทุนทรัสต์ฟันด์ขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายการฟื้นฟูบูรณะฉนวนกาซา โดยเรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติสนับสนุน
    .
    “ความพยายามทั้งหมดเหล่านี้จะเดินหน้าอย่างคู่ขนานไปกับการเปิดเส้นทางในทางการเมือง” ซึ่งมุ่งไปสู่การจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ แผนการนี้ระบุ โดยที่เรื่องหลังนี้เป็นสิ่งที่พวกผู้นำอิสราเอลคัดค้านหัวชนฝา
    .
    คำแถลงของที่ประชุมซัมมิตสันนิบาตอาหรับ ยังแสดงความยินดีต้อนรับ “การตัดสินใจของชาวปาเลสไตน์ที่จะจัดตั้งคณะกรรมการบริหารกาซาขึ้นมา ซึ่งจะอยู่ภายใต้ร่มธงของรัฐบาลปาเลสไตน์”
    .
    ที่ประชุมยังเรียกร้องให้ยอมรับว่า ฐานะความเป็นตัวแทนของชาวปาเลสไตน์จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้ PLO ซึ่งในตัวมันเองก็เป็นองค์การที่ประกอบด้วยชาวปาเลสไตน์หลายๆ กลุ่ม และเป็นกลุ่มพลังทางการเมืองสำคัญซึ่งมีฐานะครอบงำอยู่ภายใน PA ทว่าไม่ได้รวมกลุ่มฮามาสเข้ามาด้วย
    .
    ในอดีต PA เคยเป็นผู้บริหารปกครองกาซา ก่อนสูญเสียอำนาจไปให้แก่กลุ่มฮามาสเมื่อปี 2007
    .
    ทางด้านฮามาส แถลงว่ายินดีต้อนรับแผนการของที่ประชุมซัมมิตไคโรครั้งนี้ และกล่าวว่าการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารกาซาชั่วคราวตามที่มีการเสนอกัน จะทำหน้าที่เป็น “ผู้กำกับตรวจสอบความพยายามในการบรรเทาทุกข์ การฟื้นฟูบูรณะ และการบริหารการปกครอง”
    .
    อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ากลุ่มฮามาสมีความเต็มใจแค่ไหนที่จะสละอำนาจในการควบคุมกาซาเอาไว้
    .
    ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างฮามาสกับอิสราเอลกำลังถึงทางตัน
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง ข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางระหว่างกลุ่มฮามาสกับอิสราเอล ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม และทำให้มีความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมไหลทะลักเข้าสู่กาซานั้น กำลังทำท่าจะไปไม่รอดอีกแล้ว เมื่ออิสราเอลประเกาศในวันอาทิตย์ (2) ว่าตนเองกำลังเข้าสกัดกั้นขัดขวางการจัดส่งความช่วยเหลือ และจะยอมเปิดทางให้ใหม่ต่อเมื่อกลุ่มฮามาสยอมรับเงื่อนไขต่างๆ ของฝ่ายอิสราเอลในการขยายระยะเวลาบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงเฟส 1 ต่อไปอีก
    .
    เฟสแรกของข้อตกลงดังกล่าวนี้สิ้นสุดลงแล้วในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากก่อให้เกิดระยะเวลาที่ค่อนข้างเงียบสงบเป็นเวลา 6 สัปดาห์ และมีการแลกเปลี่ยนตัวประกันชาวอิสราเอลกับพวกนักโทษชาวปาเลสไตน์อยู่หลายระลอก
    .
    ทว่ามาถึงเวลานี้ อิสราเอลระบุว่าต้องการให้ขยายเวลาบังคับใช้เฟส 1 ออกไปอึกจนกระทั่งถึงกลางเดือนเมษายน ขณะที่ฮามาสยืนกรานให้เปลี่ยนไปสู่การบังคับใช้เฟส 2 ซึ่งมีการระบุถึงการเดินหน้าสู่การยุติสงครามคราวนี้อย่างถาวร
    .
    ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าการประชุมซัมมิตของสันนิบาตอาหรับเปิดขึ้นในวันอังคาร รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล กีเดียน ซาร์ ออกมาแถลงเรียกร้องต้องการให้ “กาซากลายเป็นพื้นที่ปราศจากกำลังทหารอย่างสิ้นเชิง” รวมทั้งเอากลุ่มฮามาสออกไปด้วย ก่อนที่จะเดินหน้าสู่เฟส 2 ของข้อตกลงหยุดยิง
    .
    ด้าน ซามี อะบู ซูฮรี ผู้นำฮามาส ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021622
    ..............
    Sondhi X
    บรรดาผู้นำอาหรับให้การรับรองแผนการที่ฟื้นฟูบูรณะดินแดนฉนวนกาซาขึ้นมาใหม่ โดยที่จะอยู่ใต้การบริหารปกครองของคณะรัฐบาลในอนาคตขององค์การบริหารปาเลสไตน์ (Palestinian Authority หรือ PA) เป็นการเสนอหนทางเลือกอีกทางหนึ่งขึ้นมาประชันกับข้อเสนอซึ่งถูกประณามอย่างกว้างขวางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ประกาศจะเข้าครอบครองดินแดนแห่งนี้ และโยกย้ายประชาชนที่นั่นออกไปอยู่ที่อื่น . อย่างไรก็ดี ลู่ทางความเป็นไปได้ที่ PA จะได้เข้าปกครองกาซายังคงห่างไกลจากความแน่นอน จากการที่อิสราเอลซึ่งเป็นผู้ทำลายล้างผลาญและยังคงมีกำลังทหารยึดครองดินแดนแห่งนี้อยู่ ยังคงปฏิเสธไม่ยอมให้องค์การบริหารปาเลสไตน์มีบทบาทใดๆ ในอนาคต ขณะเดียวกันก็ยากที่จะได้รับความเห็นชอบจากสหรัฐฯ เนื่องจากทรัมป์ก็คือผู้ที่สั่งปิดสำนักงานติดต่อขององค์การปลดแอกปาเลสไตน์ (PLO) ในกรุงวอชิงตัน ระหว่างสมัยแรกแห่งการเป็นประธานาธิบดีของเขา ขณะเดียวกับที่ยกระดับเพิ่มการสนับสนุนอิสราเอล . ทรัมป์จุดชนวนให้เกิดความโกรธเกรี้ยวกันทั่วโลก จากการเสนอแนะว่าสหรัฐฯ จะเข้าเทกโอเวอร์ฉนวนกาซา และเปลี่ยนให้กลายเป็น “หาดริเวียร่าของตะวันออกกลาง” เวลาเดียวกันนั้นก็จะบังคับให้ประชากรชาวปาเลสไตน์ที่นั่นต้องอพยพไปตั้งถิ่นฐานที่อียิปต์ หรือจอร์แดน . ที่ประชุมซัมมิตในกรุงไคโรของสันนิบาตอาหรับ เมื่อวันอังคาร (4) – หรือ 1 วันหลังจากนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล แถลงย้ำว่าเขายังคงสนับสนุนข้อเสนอของทรัมป์ — เสนอทางเลือกอีกทางหนึ่ง ด้วยการลงมติรับรอง “แผนการของอาหรับที่มีเนื้อหาครอบคลุมรอบด้าน” . ตามแผนการดังกล่าว กำหนดให้จัดตั้งกองทุนทรัสต์ฟันด์ขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายการฟื้นฟูบูรณะฉนวนกาซา โดยเรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติสนับสนุน . “ความพยายามทั้งหมดเหล่านี้จะเดินหน้าอย่างคู่ขนานไปกับการเปิดเส้นทางในทางการเมือง” ซึ่งมุ่งไปสู่การจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ แผนการนี้ระบุ โดยที่เรื่องหลังนี้เป็นสิ่งที่พวกผู้นำอิสราเอลคัดค้านหัวชนฝา . คำแถลงของที่ประชุมซัมมิตสันนิบาตอาหรับ ยังแสดงความยินดีต้อนรับ “การตัดสินใจของชาวปาเลสไตน์ที่จะจัดตั้งคณะกรรมการบริหารกาซาขึ้นมา ซึ่งจะอยู่ภายใต้ร่มธงของรัฐบาลปาเลสไตน์” . ที่ประชุมยังเรียกร้องให้ยอมรับว่า ฐานะความเป็นตัวแทนของชาวปาเลสไตน์จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้ PLO ซึ่งในตัวมันเองก็เป็นองค์การที่ประกอบด้วยชาวปาเลสไตน์หลายๆ กลุ่ม และเป็นกลุ่มพลังทางการเมืองสำคัญซึ่งมีฐานะครอบงำอยู่ภายใน PA ทว่าไม่ได้รวมกลุ่มฮามาสเข้ามาด้วย . ในอดีต PA เคยเป็นผู้บริหารปกครองกาซา ก่อนสูญเสียอำนาจไปให้แก่กลุ่มฮามาสเมื่อปี 2007 . ทางด้านฮามาส แถลงว่ายินดีต้อนรับแผนการของที่ประชุมซัมมิตไคโรครั้งนี้ และกล่าวว่าการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารกาซาชั่วคราวตามที่มีการเสนอกัน จะทำหน้าที่เป็น “ผู้กำกับตรวจสอบความพยายามในการบรรเทาทุกข์ การฟื้นฟูบูรณะ และการบริหารการปกครอง” . อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ากลุ่มฮามาสมีความเต็มใจแค่ไหนที่จะสละอำนาจในการควบคุมกาซาเอาไว้ . ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างฮามาสกับอิสราเอลกำลังถึงทางตัน . ในอีกด้านหนึ่ง ข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางระหว่างกลุ่มฮามาสกับอิสราเอล ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม และทำให้มีความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมไหลทะลักเข้าสู่กาซานั้น กำลังทำท่าจะไปไม่รอดอีกแล้ว เมื่ออิสราเอลประเกาศในวันอาทิตย์ (2) ว่าตนเองกำลังเข้าสกัดกั้นขัดขวางการจัดส่งความช่วยเหลือ และจะยอมเปิดทางให้ใหม่ต่อเมื่อกลุ่มฮามาสยอมรับเงื่อนไขต่างๆ ของฝ่ายอิสราเอลในการขยายระยะเวลาบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงเฟส 1 ต่อไปอีก . เฟสแรกของข้อตกลงดังกล่าวนี้สิ้นสุดลงแล้วในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากก่อให้เกิดระยะเวลาที่ค่อนข้างเงียบสงบเป็นเวลา 6 สัปดาห์ และมีการแลกเปลี่ยนตัวประกันชาวอิสราเอลกับพวกนักโทษชาวปาเลสไตน์อยู่หลายระลอก . ทว่ามาถึงเวลานี้ อิสราเอลระบุว่าต้องการให้ขยายเวลาบังคับใช้เฟส 1 ออกไปอึกจนกระทั่งถึงกลางเดือนเมษายน ขณะที่ฮามาสยืนกรานให้เปลี่ยนไปสู่การบังคับใช้เฟส 2 ซึ่งมีการระบุถึงการเดินหน้าสู่การยุติสงครามคราวนี้อย่างถาวร . ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าการประชุมซัมมิตของสันนิบาตอาหรับเปิดขึ้นในวันอังคาร รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล กีเดียน ซาร์ ออกมาแถลงเรียกร้องต้องการให้ “กาซากลายเป็นพื้นที่ปราศจากกำลังทหารอย่างสิ้นเชิง” รวมทั้งเอากลุ่มฮามาสออกไปด้วย ก่อนที่จะเดินหน้าสู่เฟส 2 ของข้อตกลงหยุดยิง . ด้าน ซามี อะบู ซูฮรี ผู้นำฮามาส ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021622 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    13
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2599 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนที่.1 #USAID #ทุ่มเงินหลายล้านเพื่อซื้อนักข่าวและกลุ่มสื่ออย่างไร

    จากการเปิดเผยที่น่าตกตะลึง USAID ถูกพบว่าได้ให้เงินทุนสนับสนุนองค์กรสื่อหลายร้อยแห่งและนักข่าวหลายพันคนทั่วโลกเพื่อขยายเรื่องราวที่อวยสนับสนุนไอ้กุ้ยโลก

    เมื่อต้นเดือนนี้ WikiLeaks ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกตะลึงว่า สำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) ได้สนับสนุนเงินทุนให้กับองค์กรสื่อหลายร้อยแห่งทั่วโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับสื่อที่เสรีและเป็นอิสระ

    WikiLeaks แฉว่า USAID ได้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้สื่อข่าวมากกว่า 6,200 รายในสื่อ 707 สำนัก รวมทั้งองค์กรพัฒนาเอกชนด้าน "สื่อ" จำนวน 279 แห่ง

    การเปิดเผยข้อมูลอันสะเทือนโลกครั้งนี้ได้จุดชนวนให้เกิดการถกเถียงกันทันทีว่าความเกี่ยวข้องทางการเงินดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความซื่อสัตย์สุจริตของการสื่อสารมวลชนและความน่าเชื่อถือของสำนักข่าวที่ได้รับเงินทุนหรือไม่ (จริงๆไม่สื่อพวกนี้ไม่น่าเชื่อถือเลย ทั้งสื่อตะวันตก สื่อตะวันออกกลางบางสื่อ ยิ่งสื่อในประเทศสารขัณฑ์นี่แทบทุกสื่อ)

    การเปิดเผยดังกล่าวเกิดขึ้นไม่กี่วันภายหลังที่ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อปลายเดือนมกราคมเกี่ยวกับการระงับการช่วยเหลือต่างประเทศผ่านคำสั่งฝ่ายบริหารที่มีชื่อว่า "การประเมินใหม่และการจัดแนวความช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐฯ ใหม่"

    คำสั่งดังกล่าวแช่แข็งการให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาต่างประเทศของสหรัฐฯ ทั้งหมดเป็นเวลา 90 วัน ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์สามารถประเมินประสิทธิผลและแนวทางของแผนงานเหล่านี้ให้สอดคล้องกับวาระ "อเมริกาต้องมาก่อน" อีกครั้ง ซึ่งเป็นประเด็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวาง

    ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่ลาสเวกัสเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2025 ทรัมป์ได้อธิบายว่าเป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อเปลี่ยนเส้นทางทรัพยากรไปที่ประเด็นสำคัญในประเทศ
    คำสั่งฝ่ายบริหารซึ่งอ้างว่าโครงการช่วยเหลือต่างประเทศบางส่วนไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของอเมริกาและในบางกรณีขัดต่อค่านิยมของอเมริกาได้รับการมองในมุมมองใหม่หลังจากการเปิดเผยของ WikiLeaks เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์

    นักวิเคราะห์สื่อระบุว่าเงินทุนของ USAID อาจใช้เป็นเครื่องมือในการบิดเบือนสื่อในองค์กรข่าวที่ได้รับเงินทุนจากสหรัฐฯ มานานหลายปีหรือหลายทศวรรษได้อย่างง่ายดาย
    ตามรายงานของ WikiLeaks องค์กร USAID ได้ให้การสนับสนุนสื่อมวลชนในมากกว่า 30 ประเทศ

    เอกสารข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่ถูกลบไปแล้วเผยให้เห็นว่าตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา USAID ได้จัดสรรเงินทุนสำหรับการฝึกอบรมและทรัพยากรให้กับนักข่าวประมาณ 6,200 คน สนับสนุนองค์กรข่าวที่ไม่ใช่ของรัฐ 707 แห่ง และสนับสนุนกลุ่มประชาสังคม 279 กลุ่ม ซึ่งเผยให้เห็นถึงอิทธิพลโดยตรงอันกว้างขวางของสหรัฐฯ ในระบบสื่อทั่วโลกในช่วง2 ทศวรรษที่ผ่านมา

    ขนาดของการมีส่วนร่วมนี้สะท้อนให้เห็นเพิ่มเติมในงบประมาณความช่วยเหลือต่างประเทศปี 2025 ซึ่งรวมถึงการจัดสรร 268.4 ล้านดอลลาร์จากรัฐสภาสหรัฐฯ โดยเฉพาะสำหรับแผนริเริ่มที่มุ่งส่งเสริมสิ่งที่เรียกว่า "สื่ออิสระและการไหลเวียนของข้อมูลอย่างเสรี"

    การเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งจากรายงานของแพลตฟอร์ม Exposé เกี่ยวข้องกับองค์กรไม่แสวงหากำไร Internews Network (IN) ที่ได้รับเงินทุนจากสหรัฐฯ ซึ่งมีรายงานว่าได้จัดสรรเงินเกือบ 500 ล้านดอลลาร์ให้กับ "โครงการสื่อ" ทั่วโลก สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญขึ้นมาว่า ความเป็นอิสระของสื่อสามารถเกิดขึ้นได้จริงในระดับใด เมื่อเส้นชีวิตทางการเงินผูกติดอยู่กับรัฐบาลต่างประเทศที่มีวาระอันชั่วร้ายของตนเอง?

    เอกสารที่รั่วไหลยังระบุเพิ่มเติมว่า Internews ร่วมมือกับสื่อ 4,291 แห่ง ผลิตรายการ 4,799 ชั่วโมงในหนึ่งปีและเข้าถึงผู้ชมประมาณ 778 ล้านคน
    ในขณะที่ Internews อ้างว่าภารกิจของตนคือการสนับสนุน "การสื่อสารมวลชนอิสระและขยายการเข้าถึงข้อมูล

    USAID ได้จัดสรรเงิน 472.6 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับ Internews ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าองค์กรจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากผู้บริจาคเอกชน เช่น มูลนิธิ AOL-Time Warner มูลนิธิ Bill & Melinda Gates และอื่นๆ
    เงินช่วยเหลือเฉพาะเจาะจงเน้นย้ำถึงขอบเขตของความคิดริเริ่มเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น USAID มอบเงิน 10.7 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับ Internews เพื่อสนับสนุน “การสื่อสารมวลชนที่มีคุณภาพสูงและมีความรับผิดชอบ” ในไลบีเรีย และอีก 11 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับโครงการที่เรียกว่า “สื่อที่ส่งเสริมประชาธิปไตย” ในมอลโดวา

    กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังได้สนับสนุนเงิน 1.48 ล้านดอลลาร์เพื่อจัดตั้ง “บริการข้อมูลที่ปลอดภัย เข้าถึงได้ และช่วยชีวิต” ในซูดานใต้ ตามเอกสารที่เปิดเผย ในประเทศจอร์แดน USAID ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 19.5 ล้านดอลลาร์ให้แก่ Internews เพื่อช่วยวางตำแหน่งสังคมจอร์แดนให้สามารถสนับสนุนผลประโยชน์ที่ขับเคลื่อนโดยพลเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    Internews ก่อตั้งขึ้นในปี 1982 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในแคลิฟอร์เนียและดำเนินการในกว่า 30 ประเทศ มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ลอนดอน และปารีส รวมถึงมีศูนย์กลางระดับภูมิภาคในเคียฟ กรุงเทพมหานคร และไนโรบี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Internews ได้ขยายขอบข่ายการเข้าถึงไปทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ โดยวางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้เล่นหลักในการพัฒนาสื่อระดับโลก อย่างไรก็ตามองค์กรนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงเกี่ยวกับบทบาทของตนในการเซ็นเซอร์โซเชียลมีเดีย

    Internews นำโดย Jeanne Bourgault ซึ่งรายงานระบุว่าเธอได้รับเงินเดือนประจำปี 451,000 ดอลลาร์ ก่อนหน้านี้เธอเคยทำงานที่สถานทูตสหรัฐฯ ในมอสโกในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ซึ่งเธอบริหารจัดการงบประมาณ 250 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง

    อ่านต่อตอนที่.2
    https://www.facebook.com/share/p/15xvCUsuuQ/

    ตอนที่.3
    https://www.facebook.com/share/p/1B7tKhDFKa/
    ตอนที่.1 #USAID #ทุ่มเงินหลายล้านเพื่อซื้อนักข่าวและกลุ่มสื่ออย่างไร จากการเปิดเผยที่น่าตกตะลึง USAID ถูกพบว่าได้ให้เงินทุนสนับสนุนองค์กรสื่อหลายร้อยแห่งและนักข่าวหลายพันคนทั่วโลกเพื่อขยายเรื่องราวที่อวยสนับสนุนไอ้กุ้ยโลก เมื่อต้นเดือนนี้ WikiLeaks ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกตะลึงว่า สำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) ได้สนับสนุนเงินทุนให้กับองค์กรสื่อหลายร้อยแห่งทั่วโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับสื่อที่เสรีและเป็นอิสระ WikiLeaks แฉว่า USAID ได้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้สื่อข่าวมากกว่า 6,200 รายในสื่อ 707 สำนัก รวมทั้งองค์กรพัฒนาเอกชนด้าน "สื่อ" จำนวน 279 แห่ง การเปิดเผยข้อมูลอันสะเทือนโลกครั้งนี้ได้จุดชนวนให้เกิดการถกเถียงกันทันทีว่าความเกี่ยวข้องทางการเงินดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความซื่อสัตย์สุจริตของการสื่อสารมวลชนและความน่าเชื่อถือของสำนักข่าวที่ได้รับเงินทุนหรือไม่ (จริงๆไม่สื่อพวกนี้ไม่น่าเชื่อถือเลย ทั้งสื่อตะวันตก สื่อตะวันออกกลางบางสื่อ ยิ่งสื่อในประเทศสารขัณฑ์นี่แทบทุกสื่อ) การเปิดเผยดังกล่าวเกิดขึ้นไม่กี่วันภายหลังที่ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อปลายเดือนมกราคมเกี่ยวกับการระงับการช่วยเหลือต่างประเทศผ่านคำสั่งฝ่ายบริหารที่มีชื่อว่า "การประเมินใหม่และการจัดแนวความช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐฯ ใหม่" คำสั่งดังกล่าวแช่แข็งการให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาต่างประเทศของสหรัฐฯ ทั้งหมดเป็นเวลา 90 วัน ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์สามารถประเมินประสิทธิผลและแนวทางของแผนงานเหล่านี้ให้สอดคล้องกับวาระ "อเมริกาต้องมาก่อน" อีกครั้ง ซึ่งเป็นประเด็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวาง ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่ลาสเวกัสเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2025 ทรัมป์ได้อธิบายว่าเป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อเปลี่ยนเส้นทางทรัพยากรไปที่ประเด็นสำคัญในประเทศ คำสั่งฝ่ายบริหารซึ่งอ้างว่าโครงการช่วยเหลือต่างประเทศบางส่วนไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของอเมริกาและในบางกรณีขัดต่อค่านิยมของอเมริกาได้รับการมองในมุมมองใหม่หลังจากการเปิดเผยของ WikiLeaks เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ นักวิเคราะห์สื่อระบุว่าเงินทุนของ USAID อาจใช้เป็นเครื่องมือในการบิดเบือนสื่อในองค์กรข่าวที่ได้รับเงินทุนจากสหรัฐฯ มานานหลายปีหรือหลายทศวรรษได้อย่างง่ายดาย ตามรายงานของ WikiLeaks องค์กร USAID ได้ให้การสนับสนุนสื่อมวลชนในมากกว่า 30 ประเทศ เอกสารข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่ถูกลบไปแล้วเผยให้เห็นว่าตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา USAID ได้จัดสรรเงินทุนสำหรับการฝึกอบรมและทรัพยากรให้กับนักข่าวประมาณ 6,200 คน สนับสนุนองค์กรข่าวที่ไม่ใช่ของรัฐ 707 แห่ง และสนับสนุนกลุ่มประชาสังคม 279 กลุ่ม ซึ่งเผยให้เห็นถึงอิทธิพลโดยตรงอันกว้างขวางของสหรัฐฯ ในระบบสื่อทั่วโลกในช่วง2 ทศวรรษที่ผ่านมา ขนาดของการมีส่วนร่วมนี้สะท้อนให้เห็นเพิ่มเติมในงบประมาณความช่วยเหลือต่างประเทศปี 2025 ซึ่งรวมถึงการจัดสรร 268.4 ล้านดอลลาร์จากรัฐสภาสหรัฐฯ โดยเฉพาะสำหรับแผนริเริ่มที่มุ่งส่งเสริมสิ่งที่เรียกว่า "สื่ออิสระและการไหลเวียนของข้อมูลอย่างเสรี" การเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งจากรายงานของแพลตฟอร์ม Exposé เกี่ยวข้องกับองค์กรไม่แสวงหากำไร Internews Network (IN) ที่ได้รับเงินทุนจากสหรัฐฯ ซึ่งมีรายงานว่าได้จัดสรรเงินเกือบ 500 ล้านดอลลาร์ให้กับ "โครงการสื่อ" ทั่วโลก สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญขึ้นมาว่า ความเป็นอิสระของสื่อสามารถเกิดขึ้นได้จริงในระดับใด เมื่อเส้นชีวิตทางการเงินผูกติดอยู่กับรัฐบาลต่างประเทศที่มีวาระอันชั่วร้ายของตนเอง? เอกสารที่รั่วไหลยังระบุเพิ่มเติมว่า Internews ร่วมมือกับสื่อ 4,291 แห่ง ผลิตรายการ 4,799 ชั่วโมงในหนึ่งปีและเข้าถึงผู้ชมประมาณ 778 ล้านคน ในขณะที่ Internews อ้างว่าภารกิจของตนคือการสนับสนุน "การสื่อสารมวลชนอิสระและขยายการเข้าถึงข้อมูล USAID ได้จัดสรรเงิน 472.6 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับ Internews ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าองค์กรจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากผู้บริจาคเอกชน เช่น มูลนิธิ AOL-Time Warner มูลนิธิ Bill & Melinda Gates และอื่นๆ เงินช่วยเหลือเฉพาะเจาะจงเน้นย้ำถึงขอบเขตของความคิดริเริ่มเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น USAID มอบเงิน 10.7 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับ Internews เพื่อสนับสนุน “การสื่อสารมวลชนที่มีคุณภาพสูงและมีความรับผิดชอบ” ในไลบีเรีย และอีก 11 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับโครงการที่เรียกว่า “สื่อที่ส่งเสริมประชาธิปไตย” ในมอลโดวา กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังได้สนับสนุนเงิน 1.48 ล้านดอลลาร์เพื่อจัดตั้ง “บริการข้อมูลที่ปลอดภัย เข้าถึงได้ และช่วยชีวิต” ในซูดานใต้ ตามเอกสารที่เปิดเผย ในประเทศจอร์แดน USAID ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 19.5 ล้านดอลลาร์ให้แก่ Internews เพื่อช่วยวางตำแหน่งสังคมจอร์แดนให้สามารถสนับสนุนผลประโยชน์ที่ขับเคลื่อนโดยพลเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ Internews ก่อตั้งขึ้นในปี 1982 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในแคลิฟอร์เนียและดำเนินการในกว่า 30 ประเทศ มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ลอนดอน และปารีส รวมถึงมีศูนย์กลางระดับภูมิภาคในเคียฟ กรุงเทพมหานคร และไนโรบี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Internews ได้ขยายขอบข่ายการเข้าถึงไปทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ โดยวางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้เล่นหลักในการพัฒนาสื่อระดับโลก อย่างไรก็ตามองค์กรนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงเกี่ยวกับบทบาทของตนในการเซ็นเซอร์โซเชียลมีเดีย Internews นำโดย Jeanne Bourgault ซึ่งรายงานระบุว่าเธอได้รับเงินเดือนประจำปี 451,000 ดอลลาร์ ก่อนหน้านี้เธอเคยทำงานที่สถานทูตสหรัฐฯ ในมอสโกในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ซึ่งเธอบริหารจัดการงบประมาณ 250 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง อ่านต่อตอนที่.2 https://www.facebook.com/share/p/15xvCUsuuQ/ ตอนที่.3 https://www.facebook.com/share/p/1B7tKhDFKa/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 908 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาเหม็ด อัล-ชาอะรา ประธานาธิบดีซีเรีย ที่มาจากการสถาปนาตนเอง เดินทางถึงจอร์แดนและได้รับการต้อนรับจากกษัตริย์ จอร์แดน "สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2" อย่างอบอุ่น

    มีใครแจ้งข้อมูลกับผู้นำซีเรียบ้างหรือยังว่า อิสราเอลต้องการดินแดนทางใต้ของซีเรีย และทางตะวันตกแถบชายฝั่งทะเลกำลังพยายามประกาศแยกตัวเพื่อปกครองตนเอง
    อาเหม็ด อัล-ชาอะรา ประธานาธิบดีซีเรีย ที่มาจากการสถาปนาตนเอง เดินทางถึงจอร์แดนและได้รับการต้อนรับจากกษัตริย์ จอร์แดน "สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2" อย่างอบอุ่น มีใครแจ้งข้อมูลกับผู้นำซีเรียบ้างหรือยังว่า อิสราเอลต้องการดินแดนทางใต้ของซีเรีย และทางตะวันตกแถบชายฝั่งทะเลกำลังพยายามประกาศแยกตัวเพื่อปกครองตนเอง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลขู่เปิดการถล่มโจมตีขึ้นใหม่ในกาซา หากไม่มีการปล่อยตัวประกันภายในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ขณะที่ฮามาสยันยังยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง และโทษรัฐยิวเป็นฝ่ายบ่อนทำลายข้อตกลง ขณะในอีกด้านหนึ่ง ทรัมป์ยังคงยืนกรานอ้างลอยๆ ว่า อเมริกามีอำนาจและจะเข้ายึดครองฉนวนกาซา รวมทั้งย้ายชาวปาเลสไตน์ออกไปเป็นการถาวร แม้ล่าสุดถูกคัดค้านจากกษัตริย์จอร์แดนซึ่งเดินทางไปเยือนทำเนียบขาว ส่วนอียิปต์เตรียมเสนอแผนระดมพันธมิตรในตะวันออกกลางฟื้นฟูกาซาร่วมกับวอชิงตัน โดยที่ไม่มีการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์หนีไปไหน
    .
    ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงล่าสุดที่ดำเนินมาหลายอาทิตย์แล้ว ตัวประกันอิสราเอลจะได้รับการปล่อยตัวทุกสัปดาห์ แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ โดยนับจากวันที่ 19 ม.ค. มีการปล่อยตัวประกันแล้ว 16 คน จาก 33 คนตามข้อตกลงหยุดยิงเฟสแรกที่กินเวลา 42 วัน และอิสราเอลปล่อยนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยคนเป็นการแลกเปลี่ยน ทว่า ข้อตกลงนี้กำลังสั่นคลอนอย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
    .
    เมื่อวันอังคาร (11) นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ยื่นคำขาดว่า ถ้าฮามาสไม่ปล่อยตัวประกันภายในเที่ยงวันเสาร์ จะถือว่าข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุดลง และกองทัพอิสราเอลจะกลับไปโจมตีกาซาอย่างหนักหน่วงจนกว่าฮามาสแพ้ราบคาบ
    .
    เนทันยาฮูเสริมว่า สั่งการให้กองทัพระดมทหารเตรียมพร้อมทั้งภายในและรอบๆ กาซาแล้ว และหลังจากนั้นไม่นานกองทัพอิสราเอลแถลงว่า ได้ส่งกำลังไปเพิ่มทางใต้ของประเทศ ซึ่งรวมถึงการเรียกทหารกองหนุนเข้าประจำการ ขณะที่ครอบครัวตัวประกันพากันชุมนุมหน้าสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง
    .
    ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์ (10) กองกำลัง เอซเซดีน อัล-กัสซัม ซึ่งเป็นส่วนกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาส ประกาศจะเลื่อนการปล่อยตัวประกันชุดต่อไปที่เดิมกำหนดไว้ในวันเสาร์นี้ โดยกล่าวหาอิสราเอลละเมิดข้อตกลงทั้งในส่วนความช่วยเหลือ และการเสียชีวิตของชาวกาซา 3 คนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่สำทับว่า พร้อมปล่อยตัวประกันตามกำหนด หากอิสราเอลปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิง
    .
    ทว่า อิสราเอลยืนยันว่า ไม่ได้ขัดขวางการให้ความช่วยเหลือ และที่ต้องยิงชาวกาซาทั้งสามคน เนื่องจากคนเหล่านั้นละเมิดคำเตือนไม่ให้เข้าใกล้กองทหารอิสราเอล
    .
    ด้าน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้ฮามาสปล่อยตัวประกันตามแผน และหลีกเลี่ยงการฟื้นการสู้รบในกาซา
    .
    ทว่า กบฏฮูตีที่เป็นพันธมิตรของฮามาส และโจมตีอิสราเอลหลายครั้งเพื่อแสดงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์นั้น ประกาศว่า พร้อมเข้าแทรกแซงทางทหารทุกเมื่อหากกาซาถูกโจมตีอีก
    .
    ขณะเดียวกัน แม้เนทันยาฮูไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ฮามาสต้องปล่อยตัวประกันทั้งหมด 76 คนที่ยังถูกคุมขังอยู่ในกาซา หรือแค่ 3 คนภายใต้ข้อตกลงเดิม แต่เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังสายเหยี่ยว เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี “เปิดขุมนรก” ถ้าตัวประกันอิสราเอลทั้งหมดไม่ได้รับอิสรภาพภายในวันเสาร์ รวมทั้งให้อิสราเอลเข้ายึดครองฉนวนกาซาเบ็ดเสร็จ และยุติการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งหมด
    .
    ภายหลังการยื่นคำขาดของเนทันยาฮู ทางฮามาสได้ออกคำแถลงยืนยันว่า ยังคงยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิง และกล่าวหาอิสราเอลเป็นฝ่ายบ่อนทำลายข้อตกลง
    .
    การขู่ยุติการหยุดยิงของเนทันยาฮู เป็นการตอกย้ำคำแถลงก่อนหน้านี้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ให้ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอลทั้งหมดภายในเที่ยงวันเสาร์ ไม่เช่นนั้นจะประกาศให้ยุติข้อตกลงหยุดยิง และฮามาสจะต้องเผชิญ “นรก” ที่เลวร้ายกว่าที่เคยเป็นมา
    .
    ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำคำขู่นี้อีก ระหว่างให้การต้อนรับกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดนเมื่อวันอังคาร รวมทั้งอ้างอีกครั้งหนึ่งว่า อเมริกามีอำนาจและจะเข้าครอบครองและฟื้นฟูฉนวนกาซา และอพยพชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคนออกจากดินแดนดังกล่าวเป็นการถาวร พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า จะมีดินแดนบางส่วนในจอร์แดน อียิปต์ และประเทศอื่นๆ ที่พร้อมให้ชาวปาเลสไตน์เหล่านั้นย้ายไปตั้งถิ่นฐาน
    .
    ทว่า กษัตริย์อับดุลเลาะห์ย้ำจุดยืนของจอร์แดนและชาติอาหรับทั้งหมดในการคัดค้านการบังคับย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ และเสริมว่า อียิปต์กำลังร่างแผนการที่ประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลางจะร่วมฟื้นฟูกาซากับอเมริกา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอียิปต์แถลงในเวลาต่อมาว่า ไคโรจะเสนอวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมสำหรับการฟื้นฟูกาซาโดยที่รับประกันว่า ชาวปาเลสไตน์จะได้อยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000014305
    ..............
    Sondhi X
    อิสราเอลขู่เปิดการถล่มโจมตีขึ้นใหม่ในกาซา หากไม่มีการปล่อยตัวประกันภายในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ขณะที่ฮามาสยันยังยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง และโทษรัฐยิวเป็นฝ่ายบ่อนทำลายข้อตกลง ขณะในอีกด้านหนึ่ง ทรัมป์ยังคงยืนกรานอ้างลอยๆ ว่า อเมริกามีอำนาจและจะเข้ายึดครองฉนวนกาซา รวมทั้งย้ายชาวปาเลสไตน์ออกไปเป็นการถาวร แม้ล่าสุดถูกคัดค้านจากกษัตริย์จอร์แดนซึ่งเดินทางไปเยือนทำเนียบขาว ส่วนอียิปต์เตรียมเสนอแผนระดมพันธมิตรในตะวันออกกลางฟื้นฟูกาซาร่วมกับวอชิงตัน โดยที่ไม่มีการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์หนีไปไหน . ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงล่าสุดที่ดำเนินมาหลายอาทิตย์แล้ว ตัวประกันอิสราเอลจะได้รับการปล่อยตัวทุกสัปดาห์ แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ โดยนับจากวันที่ 19 ม.ค. มีการปล่อยตัวประกันแล้ว 16 คน จาก 33 คนตามข้อตกลงหยุดยิงเฟสแรกที่กินเวลา 42 วัน และอิสราเอลปล่อยนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยคนเป็นการแลกเปลี่ยน ทว่า ข้อตกลงนี้กำลังสั่นคลอนอย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา . เมื่อวันอังคาร (11) นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ยื่นคำขาดว่า ถ้าฮามาสไม่ปล่อยตัวประกันภายในเที่ยงวันเสาร์ จะถือว่าข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุดลง และกองทัพอิสราเอลจะกลับไปโจมตีกาซาอย่างหนักหน่วงจนกว่าฮามาสแพ้ราบคาบ . เนทันยาฮูเสริมว่า สั่งการให้กองทัพระดมทหารเตรียมพร้อมทั้งภายในและรอบๆ กาซาแล้ว และหลังจากนั้นไม่นานกองทัพอิสราเอลแถลงว่า ได้ส่งกำลังไปเพิ่มทางใต้ของประเทศ ซึ่งรวมถึงการเรียกทหารกองหนุนเข้าประจำการ ขณะที่ครอบครัวตัวประกันพากันชุมนุมหน้าสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง . ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์ (10) กองกำลัง เอซเซดีน อัล-กัสซัม ซึ่งเป็นส่วนกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาส ประกาศจะเลื่อนการปล่อยตัวประกันชุดต่อไปที่เดิมกำหนดไว้ในวันเสาร์นี้ โดยกล่าวหาอิสราเอลละเมิดข้อตกลงทั้งในส่วนความช่วยเหลือ และการเสียชีวิตของชาวกาซา 3 คนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่สำทับว่า พร้อมปล่อยตัวประกันตามกำหนด หากอิสราเอลปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิง . ทว่า อิสราเอลยืนยันว่า ไม่ได้ขัดขวางการให้ความช่วยเหลือ และที่ต้องยิงชาวกาซาทั้งสามคน เนื่องจากคนเหล่านั้นละเมิดคำเตือนไม่ให้เข้าใกล้กองทหารอิสราเอล . ด้าน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้ฮามาสปล่อยตัวประกันตามแผน และหลีกเลี่ยงการฟื้นการสู้รบในกาซา . ทว่า กบฏฮูตีที่เป็นพันธมิตรของฮามาส และโจมตีอิสราเอลหลายครั้งเพื่อแสดงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์นั้น ประกาศว่า พร้อมเข้าแทรกแซงทางทหารทุกเมื่อหากกาซาถูกโจมตีอีก . ขณะเดียวกัน แม้เนทันยาฮูไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ฮามาสต้องปล่อยตัวประกันทั้งหมด 76 คนที่ยังถูกคุมขังอยู่ในกาซา หรือแค่ 3 คนภายใต้ข้อตกลงเดิม แต่เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังสายเหยี่ยว เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี “เปิดขุมนรก” ถ้าตัวประกันอิสราเอลทั้งหมดไม่ได้รับอิสรภาพภายในวันเสาร์ รวมทั้งให้อิสราเอลเข้ายึดครองฉนวนกาซาเบ็ดเสร็จ และยุติการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งหมด . ภายหลังการยื่นคำขาดของเนทันยาฮู ทางฮามาสได้ออกคำแถลงยืนยันว่า ยังคงยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิง และกล่าวหาอิสราเอลเป็นฝ่ายบ่อนทำลายข้อตกลง . การขู่ยุติการหยุดยิงของเนทันยาฮู เป็นการตอกย้ำคำแถลงก่อนหน้านี้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ให้ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอลทั้งหมดภายในเที่ยงวันเสาร์ ไม่เช่นนั้นจะประกาศให้ยุติข้อตกลงหยุดยิง และฮามาสจะต้องเผชิญ “นรก” ที่เลวร้ายกว่าที่เคยเป็นมา . ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำคำขู่นี้อีก ระหว่างให้การต้อนรับกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดนเมื่อวันอังคาร รวมทั้งอ้างอีกครั้งหนึ่งว่า อเมริกามีอำนาจและจะเข้าครอบครองและฟื้นฟูฉนวนกาซา และอพยพชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคนออกจากดินแดนดังกล่าวเป็นการถาวร พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า จะมีดินแดนบางส่วนในจอร์แดน อียิปต์ และประเทศอื่นๆ ที่พร้อมให้ชาวปาเลสไตน์เหล่านั้นย้ายไปตั้งถิ่นฐาน . ทว่า กษัตริย์อับดุลเลาะห์ย้ำจุดยืนของจอร์แดนและชาติอาหรับทั้งหมดในการคัดค้านการบังคับย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ และเสริมว่า อียิปต์กำลังร่างแผนการที่ประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลางจะร่วมฟื้นฟูกาซากับอเมริกา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอียิปต์แถลงในเวลาต่อมาว่า ไคโรจะเสนอวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมสำหรับการฟื้นฟูกาซาโดยที่รับประกันว่า ชาวปาเลสไตน์จะได้อยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนต่อไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000014305 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    Love
    Haha
    Yay
    Sad
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2629 มุมมอง 0 รีวิว
  • สีหน้าและลักษณะที่แสดงออกมาของกษัตริย์จอร์แดน ขณะอยู่ต่อหน้าทรัมป์และกำลังคุยกันถึงเรื่องย้ายชาวปาเลสไตน์เกือบสองล้านคนออกจากกาซา เพราะสหรัฐต้องการดินแดนแห่งนี้

    ชัดเจนว่าเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากและอึดอัด โดยไม่รู้ว่าทุกสายตาจับจ้องมาที่เขา เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปฏิบัติตามคำสั่ง จอร์แดนไม่เคยปฏิเสธอะไรสหรัฐมาก่อน และครั้งนีั้ก็เช่นกัน พระองค์เพียงแค่ต้องการเวลาในการยอมจำนน!
    สีหน้าและลักษณะที่แสดงออกมาของกษัตริย์จอร์แดน ขณะอยู่ต่อหน้าทรัมป์และกำลังคุยกันถึงเรื่องย้ายชาวปาเลสไตน์เกือบสองล้านคนออกจากกาซา เพราะสหรัฐต้องการดินแดนแห่งนี้ ชัดเจนว่าเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากและอึดอัด โดยไม่รู้ว่าทุกสายตาจับจ้องมาที่เขา เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปฏิบัติตามคำสั่ง จอร์แดนไม่เคยปฏิเสธอะไรสหรัฐมาก่อน และครั้งนีั้ก็เช่นกัน พระองค์เพียงแค่ต้องการเวลาในการยอมจำนน!
    Like
    Yay
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • WE’RE TAKING GAZA—NO NEED TO BUY IT!!

    ทรัมป์ประกาศต่อหน้ากษัตริย์จอร์แดน ในการเยือนสหรัฐเพื่อพูดคุยปัญหาในกาซา ขณะที่ทรัมป์ยังยืนยันคำเดิม ต้องการยึดดินแดนกาซามาเป็นของอเมริกา เขาไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินให้กับดินแดนแห่งนี้ เพราะมันไม่มีอะไรที่ต้องใช้เงินซื้อ มันเป็นดินแดนที่ถูกสงครามทำลายอย่างย่อยยับเท่านั้น!

    ด้านกษัตริย์จอร์แดน ยืนยันชัดเจนเช่นกันว่าชาวกาซาจะต้องอยู่ในดินแดนของตนเอง และทุกฝ่ายที่นำโดยสหรัฐควรเป็นผู้นำในการฟื้นฟูกาซาขึ้นมาใหม่

    ขณะเดียวกัน รัฐบาลอียิปต์ได้อออกแถลงการณ์สนับสนุนท่าทีของกษัตริย์จอร์แดน โดยระบุว่า
    ”อียิปต์แสดงเจตนารมณ์ที่จะนำเสนอวิสัยทัศน์การฟื้นฟูฉนวนกาซาเพื่อให้ชาวปาเลสไตน์ยังคงอยู่ในบ้านเกิดของตน

    อียิปต์แสดงความปรารถนาที่จะร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ นำโดยประธานาธิบดีทรัมป์ เพื่อบรรลุสันติภาพที่ครอบคลุมและยุติธรรมในภูมิภาคโดยบรรลุข้อตกลงที่ยุติธรรมสำหรับชาวปาเลสไตน์ที่ยึดมั่นในสิทธิของประชาชนในภูมิภาค

    ในบริบทนี้ อียิปต์ยืนยันความตั้งใจที่จะนำเสนอวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมสำหรับการก่อสร้างฉนวนกาซาขึ้นใหม่ในลักษณะที่จะรับรองว่าชาวปาเลสไตน์ยังคงอยู่ในบ้านเกิดของตน และสอดคล้องกับสิทธิอันชอบธรรมและถูกต้องตามกฎหมายของพวกเขา

    อียิปต์เน้นย้ำว่าวิสัยทัศน์ใดๆ ที่ต้องการแก้ไขปัญหาปาเลสไตน์ จะต้องคำนึงถึงความจำเป็นในการหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดอันตรายต่อสันติภาพในภูมิภาค ขณะเดียวกันก็ต้องแก้ไขที่สาเหตุหลักของความขัดแย้งด้วยการยุติการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ของอิสราเอลและดำเนินการตามแนวทางสองรัฐซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่เสถียรภาพและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างประชาชนในภูมิภาค“
    WE’RE TAKING GAZA—NO NEED TO BUY IT!! ทรัมป์ประกาศต่อหน้ากษัตริย์จอร์แดน ในการเยือนสหรัฐเพื่อพูดคุยปัญหาในกาซา ขณะที่ทรัมป์ยังยืนยันคำเดิม ต้องการยึดดินแดนกาซามาเป็นของอเมริกา เขาไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินให้กับดินแดนแห่งนี้ เพราะมันไม่มีอะไรที่ต้องใช้เงินซื้อ มันเป็นดินแดนที่ถูกสงครามทำลายอย่างย่อยยับเท่านั้น! ด้านกษัตริย์จอร์แดน ยืนยันชัดเจนเช่นกันว่าชาวกาซาจะต้องอยู่ในดินแดนของตนเอง และทุกฝ่ายที่นำโดยสหรัฐควรเป็นผู้นำในการฟื้นฟูกาซาขึ้นมาใหม่ ขณะเดียวกัน รัฐบาลอียิปต์ได้อออกแถลงการณ์สนับสนุนท่าทีของกษัตริย์จอร์แดน โดยระบุว่า ”อียิปต์แสดงเจตนารมณ์ที่จะนำเสนอวิสัยทัศน์การฟื้นฟูฉนวนกาซาเพื่อให้ชาวปาเลสไตน์ยังคงอยู่ในบ้านเกิดของตน อียิปต์แสดงความปรารถนาที่จะร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ นำโดยประธานาธิบดีทรัมป์ เพื่อบรรลุสันติภาพที่ครอบคลุมและยุติธรรมในภูมิภาคโดยบรรลุข้อตกลงที่ยุติธรรมสำหรับชาวปาเลสไตน์ที่ยึดมั่นในสิทธิของประชาชนในภูมิภาค ในบริบทนี้ อียิปต์ยืนยันความตั้งใจที่จะนำเสนอวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมสำหรับการก่อสร้างฉนวนกาซาขึ้นใหม่ในลักษณะที่จะรับรองว่าชาวปาเลสไตน์ยังคงอยู่ในบ้านเกิดของตน และสอดคล้องกับสิทธิอันชอบธรรมและถูกต้องตามกฎหมายของพวกเขา อียิปต์เน้นย้ำว่าวิสัยทัศน์ใดๆ ที่ต้องการแก้ไขปัญหาปาเลสไตน์ จะต้องคำนึงถึงความจำเป็นในการหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดอันตรายต่อสันติภาพในภูมิภาค ขณะเดียวกันก็ต้องแก้ไขที่สาเหตุหลักของความขัดแย้งด้วยการยุติการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ของอิสราเอลและดำเนินการตามแนวทางสองรัฐซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่เสถียรภาพและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างประชาชนในภูมิภาค“
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 395 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ประกาศจะกดดันอียิปต์และจอร์แดน โดยหยุดให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุน ถ้าพวกเขาไม่รับผู้ลี้ภัยจากกาซา 1.9 ล้านคน
    ทรัมป์ประกาศจะกดดันอียิปต์และจอร์แดน โดยหยุดให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุน ถ้าพวกเขาไม่รับผู้ลี้ภัยจากกาซา 1.9 ล้านคน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุชาวปาเลสไตน์จะไม่ได้รับสิทธิ์กลับสู่ฉนวนกาซา ภายใต้ข้อเสนอของเขาเกี่ยวกับแผนพัฒนาฉนวนแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ สวนทางกลับพวกเจ้าหน้าที่ของเขาเอง ที่เคยออกมากลบกระแสความกังวล ด้วยการบอกว่าชาวกาซาจะถูกโยกย้ายถิ่นฐานเป็นการชั่วคราวเท่านั้น
    .
    ในบทตอนหนึ่งระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่วฟ็อกซ์นิวส์ ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์(10ก.พ.) ทรัมป์ระบุด้วยว่า เขาเชื่อว่าจะสามารถทำข้อตกลงกับจอร์แดนและอียิปต์ ในการอ้าแขนรับชาวปาเลสไตน์ผู้พลัดถิ่น โดยสหรัฐฯจะมอบเงินแก่ทั้ง 2 ประเทศ หลายหมื่นหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี
    .
    เมื่อถามว่าชาวปาเลสไตน์จะได้รับสิทธิ์ในการกลับสู่กาซาหรือไม่ ทรัมป์บอกกับฟ็อกซ์นิวส์ว่า "ไม่ พวกเขาไม่ได้รับ เพราะพวกเขาจะมีบ้านที่ดีกว่านั้นมาก" เขากล่าว "ผมกำลังพูดถึงการสร้างสถานที่ถาวรแก่พวกเขา" และมันอาจต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าที่กาซาจะกลับมาเป็นถิ่นฐานที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อีกครั้ง
    .
    ในถ้อยแถลงสุดช็อคเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ตามหลังพบปะกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ในวอชิงตัน ประธานธิบดีทรัมป์เสนอโยกย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ 2.2 ล้านคนของกาซา และบอกว่าสหรัฐฯจะเข้าควบคุมฉนวนริมทะเลแห่งนี้ แล้วฟื้นฟูพัฒนามันให้เป็น "ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง"
    .
    พวกชาวบ้านกาซาปฏิเสธอย่างกว้างขวางต่อคำชี้แนะใดๆให้ออกจากฉนวนแห่งนี้ เช่นเดียวกับองค์การปาเลสไตน์และกลุ่มนักรบฮามาสที่ควบคุมกาซา
    .
    ซามี อาบู ซูฮรี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส บอกว่าถ้อยแถลงของทรัมป์ ที่บอกว่าชาวปาเลสไตน์จะไม่อาจกลับสู่ฉนวนกาซานั้น เป็นสิ่งที่ไร้ความรับผิดชอบ "เราเน้นย้ำว่าแผนลักษณะดังกล่าวอาจโหมกระพือเปลวไฟในภูมิภาค" เขาบอกกับรอยเตอร์ในวันจันทร์(10ก.พ.)
    .
    ในส่วนของ เนทันยาฮู ซึ่งชื่นชมข้อเสนอของทรัมป์ แสดงท่าทีต่างออกไปจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าชาวปาเลสไตน์จะได้รับอนุญาตให้กลับสู่กาซา "พวกเขาสามารถเดินทางออกไป แล้วจากนั้นก็กลับเข้ามา พวกเขาสามารถโยกย้ายและกลับเข้ามา แต่คุณจำเป็นต้องฟื้นฟูสร้างกาซาขึ้นมาใหม่" เขากล่าว
    .
    มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ผู้ซึ่งจะออกเดินทางในสัปดาห์นี้ สำหรับการเยือนตะวันออกกลางเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ระบุในวันพฤหัสบดี(6ก.พ.) ว่าชาวปาเลสไตน์จะจำเป็นต้องพักอาศัยอยู่ที่ไหนสักแห่งเป็นการชั่วคราว ระหว่างการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ แต่เขาไม่ตัดความเป็นไปได้โดยสิ้นเชิงต่อการโยกย้านถิ่นฐานอย่างถาวร
    .
    ความเห็นของทรัมป์ มีขึ้นในขณะที่ข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางที่ทางอิสราเอลกับฮามาสเห็นพ้องกันเมื่อเดือนที่แล้ว กำลังเสี่ยงพังครืนลง หลังจากฮามาสแถลงในวันจันทร์(10ก.พ.) ว่าพวกเขาจะหยุดปล่อยตัวประกันอิสราเอล โดยกล่าวหาฝ่ายอิสราเอลละเมิดข้อตกลง
    .
    บรรดาประเทศเพื่อนบ้านอาหรับของอิสราเอล ในนั้นรวมถึงอียิปต์และจอร์แดน ระบุว่าแผนการใดๆในการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากแผ่นดินของตนเองจะบ่อนทำลายเสถียรภาพ ในขณะที่พวกวิพากษ์วิจารณ์หลายคนเรียกคำชี้แนะของทรัมป์ เทียบเท่ากับเป็นการกวาดล้างเผ่าพันธุ์
    .
    รูบิโอ ได้พบปะกับ บาดร์ อับเดลัตตี รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ในกรุงวอชิงตัน ในวันจันทร์(10ก.พ.) ซึ่งทางกระทรวงต่างประเทศอียิปต์ เผยว่าทาง อับเดลัตตี ได้บอกกับ รูบิโอ ไปว่า บรรดาชาติอาหรับสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ กรณีที่ปฏิเสธแผนของทรัมป์ ในขณะที่ไคโรยังแสดงความกังวลด้วยว่าชาวปาเลสไตน์อาจถูกบีบให้ข้ามชายแดนอียิปต์ที่ติดกับฉนวนกาซา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013546
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุชาวปาเลสไตน์จะไม่ได้รับสิทธิ์กลับสู่ฉนวนกาซา ภายใต้ข้อเสนอของเขาเกี่ยวกับแผนพัฒนาฉนวนแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ สวนทางกลับพวกเจ้าหน้าที่ของเขาเอง ที่เคยออกมากลบกระแสความกังวล ด้วยการบอกว่าชาวกาซาจะถูกโยกย้ายถิ่นฐานเป็นการชั่วคราวเท่านั้น . ในบทตอนหนึ่งระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่วฟ็อกซ์นิวส์ ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์(10ก.พ.) ทรัมป์ระบุด้วยว่า เขาเชื่อว่าจะสามารถทำข้อตกลงกับจอร์แดนและอียิปต์ ในการอ้าแขนรับชาวปาเลสไตน์ผู้พลัดถิ่น โดยสหรัฐฯจะมอบเงินแก่ทั้ง 2 ประเทศ หลายหมื่นหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี . เมื่อถามว่าชาวปาเลสไตน์จะได้รับสิทธิ์ในการกลับสู่กาซาหรือไม่ ทรัมป์บอกกับฟ็อกซ์นิวส์ว่า "ไม่ พวกเขาไม่ได้รับ เพราะพวกเขาจะมีบ้านที่ดีกว่านั้นมาก" เขากล่าว "ผมกำลังพูดถึงการสร้างสถานที่ถาวรแก่พวกเขา" และมันอาจต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าที่กาซาจะกลับมาเป็นถิ่นฐานที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อีกครั้ง . ในถ้อยแถลงสุดช็อคเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ตามหลังพบปะกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ในวอชิงตัน ประธานธิบดีทรัมป์เสนอโยกย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ 2.2 ล้านคนของกาซา และบอกว่าสหรัฐฯจะเข้าควบคุมฉนวนริมทะเลแห่งนี้ แล้วฟื้นฟูพัฒนามันให้เป็น "ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง" . พวกชาวบ้านกาซาปฏิเสธอย่างกว้างขวางต่อคำชี้แนะใดๆให้ออกจากฉนวนแห่งนี้ เช่นเดียวกับองค์การปาเลสไตน์และกลุ่มนักรบฮามาสที่ควบคุมกาซา . ซามี อาบู ซูฮรี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส บอกว่าถ้อยแถลงของทรัมป์ ที่บอกว่าชาวปาเลสไตน์จะไม่อาจกลับสู่ฉนวนกาซานั้น เป็นสิ่งที่ไร้ความรับผิดชอบ "เราเน้นย้ำว่าแผนลักษณะดังกล่าวอาจโหมกระพือเปลวไฟในภูมิภาค" เขาบอกกับรอยเตอร์ในวันจันทร์(10ก.พ.) . ในส่วนของ เนทันยาฮู ซึ่งชื่นชมข้อเสนอของทรัมป์ แสดงท่าทีต่างออกไปจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าชาวปาเลสไตน์จะได้รับอนุญาตให้กลับสู่กาซา "พวกเขาสามารถเดินทางออกไป แล้วจากนั้นก็กลับเข้ามา พวกเขาสามารถโยกย้ายและกลับเข้ามา แต่คุณจำเป็นต้องฟื้นฟูสร้างกาซาขึ้นมาใหม่" เขากล่าว . มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ผู้ซึ่งจะออกเดินทางในสัปดาห์นี้ สำหรับการเยือนตะวันออกกลางเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ระบุในวันพฤหัสบดี(6ก.พ.) ว่าชาวปาเลสไตน์จะจำเป็นต้องพักอาศัยอยู่ที่ไหนสักแห่งเป็นการชั่วคราว ระหว่างการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ แต่เขาไม่ตัดความเป็นไปได้โดยสิ้นเชิงต่อการโยกย้านถิ่นฐานอย่างถาวร . ความเห็นของทรัมป์ มีขึ้นในขณะที่ข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางที่ทางอิสราเอลกับฮามาสเห็นพ้องกันเมื่อเดือนที่แล้ว กำลังเสี่ยงพังครืนลง หลังจากฮามาสแถลงในวันจันทร์(10ก.พ.) ว่าพวกเขาจะหยุดปล่อยตัวประกันอิสราเอล โดยกล่าวหาฝ่ายอิสราเอลละเมิดข้อตกลง . บรรดาประเทศเพื่อนบ้านอาหรับของอิสราเอล ในนั้นรวมถึงอียิปต์และจอร์แดน ระบุว่าแผนการใดๆในการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากแผ่นดินของตนเองจะบ่อนทำลายเสถียรภาพ ในขณะที่พวกวิพากษ์วิจารณ์หลายคนเรียกคำชี้แนะของทรัมป์ เทียบเท่ากับเป็นการกวาดล้างเผ่าพันธุ์ . รูบิโอ ได้พบปะกับ บาดร์ อับเดลัตตี รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ในกรุงวอชิงตัน ในวันจันทร์(10ก.พ.) ซึ่งทางกระทรวงต่างประเทศอียิปต์ เผยว่าทาง อับเดลัตตี ได้บอกกับ รูบิโอ ไปว่า บรรดาชาติอาหรับสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ กรณีที่ปฏิเสธแผนของทรัมป์ ในขณะที่ไคโรยังแสดงความกังวลด้วยว่าชาวปาเลสไตน์อาจถูกบีบให้ข้ามชายแดนอียิปต์ที่ติดกับฉนวนกาซา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013546 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    Sad
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1995 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ประกาศยังมุ่งมั่นที่จะซื้อดินแดนกาซามาครอบครอง ถึงแม้เจอเสียงประณามคัดค้านตั้งแต่ชาวปาเลสไตน์ ไปถึงชาติอาหรับ โลกมุสลิม และกระทั่งพวกประเทศตะวันตก เพียงแต่อาจปรับเปลี่ยนแผนไปบ้าง โดยอาจแบ่งสรรพื้นที่บางส่วนให้ประเทศในตะวันออกกลางเข้าไปเป็นผู้ฟื้นฟูบูรณะ รวมถึงอาจรับชาวปาเลสไตน์ลี้ภัยในอเมริกาแต่ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป ขณะที่ทางด้านเนทันยาฮู ก็ถูกจวกแหลก หลังปล่อยมุกเสนอไอเดียให้จัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ขึ้นในซาอุดีอาระเบีย
    .
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ (9 ก.พ.) ขณะอยู่บนเครื่องบินประจำตำแหน่ง “แอร์ ฟอร์ซ วัน” มุ่งหน้าไปชมการแข่งขันชิงแชมป์ซูเปอร์โบลในเทิอวนิวออร์ลีนส์ โดยย้ำว่าตัวเขายังคงมีความมุ่งมั่นเข้าซื้อและครอบครองฉนวนกาซา เพื่อให้มั่นใจว่าพวกนักรบฮามาสจะไม่ย้อนกลับไปอีก แต่อาจจะเปิดโอกาสให้ประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลางเข้าร่วมการบูรณะฟื้นฟูดินแดนแห่งนี้ที่ถูกทำลายยับเยินในสงคราม
    .
    ก่อนหน้านี้ ระหว่างแถลงไอเดียเรื่องนี้ครั้งแรกสุดในสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์บรรยายแผนการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาเป็นการถาวร โดยให้ไปตั้งรกรากในประเทศอาหรับอื่นๆ อย่างอียิปต์และจอร์แดน เพื่อที่อเมริกาจะเข้าไปครอบครองดินแดนชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้ เพื่อสร้างให้เป็น “ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง” ทว่าในวันอาทิตย์ เขาบอกว่า อาจอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์บางส่วนเดินทางไปตั้งรกรากในอเมริกา แต่สำทับว่า จะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป
    .
    การเสนอไอเดียทั้งหมดของทรัมป์ ยังไม่ได้ให้รายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของชาวปาเลสไตน์ที่ต้องเผชิญการถล่มโจมตีทิ้งระเบิดจากอิสราเอลมานานกว่า 15 เดือน นับจากวันที่ 7 ต.ค. 2023 ที่นักรบฮามาสแอบข้ามแดนเข้าไปโจมตีอิสราเอลและเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกาซาที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 48,181 คน
    .
    นอกจากนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า อเมริกาจะอ้างสิทธิ์อะไรในการเข้าไปยึดกาซา
    .
    เอซซาต เอล ราชก์ สมาชิกสายการเมืองของกลุ่มฮามาส ประณามแผนการของทรัมป์โดยระบุว่า กาซาไม่ใช่โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีไว้ซื้อขาย แต่เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง และปาเลสไตน์จะทำลายแผนการบังคับย้ายถิ่นฐานของผู้นำสหรัฐฯ
    .
    ขณะที่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็นบิ๊กรายหนึ่งในโลกอาหรับและตะวันออกกลาง รวมทั้งบรรดาผู้นำทั่วโลกก็คัดค้านแผนการของทรัมป์ กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่สองแห่งจอร์แดน เตรียมเตือนทรัมป์ระหว่างเยือนวอชิงตันในวันอังคาร (11) ว่า แผนการเช่นนี้จะปลุกเร้าให้ลัทธิหัวรุนแรงแพร่ขยายไปทั่วตะวันออกกลาง และสั่นคลอนสันติภาพระหว่างจอร์แดนกับอิสราเอล
    .
    ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอันของตุรกี และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์แห่งเยอรมนี เป็นผู้นำโลกสองคนล่าสุดที่ประณามแผนการของทรัมป์เมื่อวันอาทิตย์ (9) ที่ผ่านมา โดยแอร์โดอันบอกว่า ไม่มีใครมีอำนาจย้ายประชาชนในกาซาออกจากบ้านเกิดเมืองนอน และเสริมว่า กาซา เวสต์แบงก์ และเยรูซาเลมตะวันออกเป็นของชาวปาเลสไตน์
    .
    ด้านชอลซ์โจมตีแผนการของทรัมป์ว่าเป็น “กรณีสุดอื้อฉาว” และสำทับว่า การบังคับประชาชนย้ายถิ่นฐานเป็นสิ่งที่รับไม่ได้และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
    .
    ขณะที่ตะวันออกกลางเดือดเป็นฟื้นเป็นไฟกับข้อเสนอของทรัมป์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ดูจะเป็นผู้นำระดับชาติเพียงคนเดียวที่เชิดชูแผนการของประมุขทำเนียบขาวในการซื้อกาซาและย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนดังกล่าวว่า เป็นแนวทางที่สร้างสรรค์ และเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ที่แตกต่างออกไปจากกรอบเดิมอย่างชัดเจนและเป็นสิ่งที่ดีขึ้นสำหรับอิสราเอล
    .
    นอกจากนั้นเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เขายังอยู่ในกรุงวอชิงตัน เนทันยาฮูได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีโปรอิสราเอลในสหรัฐฯ โดยที่ผู้สื่อข่าวได้พูดผิด เรียกเป็น "รัฐซาอุดีอาระเบีย" แทนที่จะเป็น "รัฐปาเลสไตน์" เนทันยาฮูก็แก้ไขให้โดยบอกว่า "รัฐปาเลสไตน์" จากนั้นเขาก็กล่าวต่อเป็นเชิงปล่อยมุกตลกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า "เว้นแต่เสียว่าคุณต้องการให้รัฐปาเลสไตน์อยู่ในซาอุดีอาระเบีย พวกเขามีดินแดนมากมาย"
    .
    ปรากฏว่าเรื่องนี้ บรรดาชาติอาหรับและโลกมุสลิมไม่ได้ขำด้วย โดยที่อียิปต์และจอร์แดนออกมาประณามคำพูดเช่นนี้ของเนทันยาฮู ไคโรนั้นถึงขั้นมองความคิดนี้ว่าเป็นการ "ละเมิดอธิปไตยของซาอุดีอาระเบียโดยตรง" ทีเดียว
    .
    ด้านซาอุดีอาระเบียเอง บอกว่าพวกเขารู้สึกนับถือเป็นอย่างยิ่งต่อรัฐพี่น้องทั้ง 2 ที่รุดออกมาปฏิเสธความคิดเห็นของเนทันยาฮู และกล่าวต่อไปว่า "แนวคิดหัวรุนแรงซึ่งมุ่งที่การยึดครองนี้ ไม่ได้ตระหนักและเข้าถึงว่าดินแดนปาเลสไตน์มีความหมายกับประชาชนพี่น้องปาเลสไตน์มากแค่ไหน เช่นเดียวกับความเกี่ยวข้องกันทั้งในแง่มโนธรรม ประวัติศาสตร์และทางกฎหมาย กับดินแดนแห่งนี้" ถ้อยแถลงระบุ
    .
    ขณะที่อาเหม็ด อาบูล เกอิต ผู้นำกลุ่มสันนิบาตอาหรับ วิจารณ์ว่า ไอเดียของผู้นำยิวเป็นแค่ความเพ้อฝันหรือภาพลวงตาเท่านั้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013540
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์ประกาศยังมุ่งมั่นที่จะซื้อดินแดนกาซามาครอบครอง ถึงแม้เจอเสียงประณามคัดค้านตั้งแต่ชาวปาเลสไตน์ ไปถึงชาติอาหรับ โลกมุสลิม และกระทั่งพวกประเทศตะวันตก เพียงแต่อาจปรับเปลี่ยนแผนไปบ้าง โดยอาจแบ่งสรรพื้นที่บางส่วนให้ประเทศในตะวันออกกลางเข้าไปเป็นผู้ฟื้นฟูบูรณะ รวมถึงอาจรับชาวปาเลสไตน์ลี้ภัยในอเมริกาแต่ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป ขณะที่ทางด้านเนทันยาฮู ก็ถูกจวกแหลก หลังปล่อยมุกเสนอไอเดียให้จัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ขึ้นในซาอุดีอาระเบีย . ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ (9 ก.พ.) ขณะอยู่บนเครื่องบินประจำตำแหน่ง “แอร์ ฟอร์ซ วัน” มุ่งหน้าไปชมการแข่งขันชิงแชมป์ซูเปอร์โบลในเทิอวนิวออร์ลีนส์ โดยย้ำว่าตัวเขายังคงมีความมุ่งมั่นเข้าซื้อและครอบครองฉนวนกาซา เพื่อให้มั่นใจว่าพวกนักรบฮามาสจะไม่ย้อนกลับไปอีก แต่อาจจะเปิดโอกาสให้ประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลางเข้าร่วมการบูรณะฟื้นฟูดินแดนแห่งนี้ที่ถูกทำลายยับเยินในสงคราม . ก่อนหน้านี้ ระหว่างแถลงไอเดียเรื่องนี้ครั้งแรกสุดในสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์บรรยายแผนการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาเป็นการถาวร โดยให้ไปตั้งรกรากในประเทศอาหรับอื่นๆ อย่างอียิปต์และจอร์แดน เพื่อที่อเมริกาจะเข้าไปครอบครองดินแดนชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้ เพื่อสร้างให้เป็น “ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง” ทว่าในวันอาทิตย์ เขาบอกว่า อาจอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์บางส่วนเดินทางไปตั้งรกรากในอเมริกา แต่สำทับว่า จะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป . การเสนอไอเดียทั้งหมดของทรัมป์ ยังไม่ได้ให้รายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของชาวปาเลสไตน์ที่ต้องเผชิญการถล่มโจมตีทิ้งระเบิดจากอิสราเอลมานานกว่า 15 เดือน นับจากวันที่ 7 ต.ค. 2023 ที่นักรบฮามาสแอบข้ามแดนเข้าไปโจมตีอิสราเอลและเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกาซาที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 48,181 คน . นอกจากนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า อเมริกาจะอ้างสิทธิ์อะไรในการเข้าไปยึดกาซา . เอซซาต เอล ราชก์ สมาชิกสายการเมืองของกลุ่มฮามาส ประณามแผนการของทรัมป์โดยระบุว่า กาซาไม่ใช่โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีไว้ซื้อขาย แต่เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง และปาเลสไตน์จะทำลายแผนการบังคับย้ายถิ่นฐานของผู้นำสหรัฐฯ . ขณะที่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็นบิ๊กรายหนึ่งในโลกอาหรับและตะวันออกกลาง รวมทั้งบรรดาผู้นำทั่วโลกก็คัดค้านแผนการของทรัมป์ กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่สองแห่งจอร์แดน เตรียมเตือนทรัมป์ระหว่างเยือนวอชิงตันในวันอังคาร (11) ว่า แผนการเช่นนี้จะปลุกเร้าให้ลัทธิหัวรุนแรงแพร่ขยายไปทั่วตะวันออกกลาง และสั่นคลอนสันติภาพระหว่างจอร์แดนกับอิสราเอล . ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอันของตุรกี และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์แห่งเยอรมนี เป็นผู้นำโลกสองคนล่าสุดที่ประณามแผนการของทรัมป์เมื่อวันอาทิตย์ (9) ที่ผ่านมา โดยแอร์โดอันบอกว่า ไม่มีใครมีอำนาจย้ายประชาชนในกาซาออกจากบ้านเกิดเมืองนอน และเสริมว่า กาซา เวสต์แบงก์ และเยรูซาเลมตะวันออกเป็นของชาวปาเลสไตน์ . ด้านชอลซ์โจมตีแผนการของทรัมป์ว่าเป็น “กรณีสุดอื้อฉาว” และสำทับว่า การบังคับประชาชนย้ายถิ่นฐานเป็นสิ่งที่รับไม่ได้และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ . ขณะที่ตะวันออกกลางเดือดเป็นฟื้นเป็นไฟกับข้อเสนอของทรัมป์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ดูจะเป็นผู้นำระดับชาติเพียงคนเดียวที่เชิดชูแผนการของประมุขทำเนียบขาวในการซื้อกาซาและย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนดังกล่าวว่า เป็นแนวทางที่สร้างสรรค์ และเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ที่แตกต่างออกไปจากกรอบเดิมอย่างชัดเจนและเป็นสิ่งที่ดีขึ้นสำหรับอิสราเอล . นอกจากนั้นเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เขายังอยู่ในกรุงวอชิงตัน เนทันยาฮูได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีโปรอิสราเอลในสหรัฐฯ โดยที่ผู้สื่อข่าวได้พูดผิด เรียกเป็น "รัฐซาอุดีอาระเบีย" แทนที่จะเป็น "รัฐปาเลสไตน์" เนทันยาฮูก็แก้ไขให้โดยบอกว่า "รัฐปาเลสไตน์" จากนั้นเขาก็กล่าวต่อเป็นเชิงปล่อยมุกตลกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า "เว้นแต่เสียว่าคุณต้องการให้รัฐปาเลสไตน์อยู่ในซาอุดีอาระเบีย พวกเขามีดินแดนมากมาย" . ปรากฏว่าเรื่องนี้ บรรดาชาติอาหรับและโลกมุสลิมไม่ได้ขำด้วย โดยที่อียิปต์และจอร์แดนออกมาประณามคำพูดเช่นนี้ของเนทันยาฮู ไคโรนั้นถึงขั้นมองความคิดนี้ว่าเป็นการ "ละเมิดอธิปไตยของซาอุดีอาระเบียโดยตรง" ทีเดียว . ด้านซาอุดีอาระเบียเอง บอกว่าพวกเขารู้สึกนับถือเป็นอย่างยิ่งต่อรัฐพี่น้องทั้ง 2 ที่รุดออกมาปฏิเสธความคิดเห็นของเนทันยาฮู และกล่าวต่อไปว่า "แนวคิดหัวรุนแรงซึ่งมุ่งที่การยึดครองนี้ ไม่ได้ตระหนักและเข้าถึงว่าดินแดนปาเลสไตน์มีความหมายกับประชาชนพี่น้องปาเลสไตน์มากแค่ไหน เช่นเดียวกับความเกี่ยวข้องกันทั้งในแง่มโนธรรม ประวัติศาสตร์และทางกฎหมาย กับดินแดนแห่งนี้" ถ้อยแถลงระบุ . ขณะที่อาเหม็ด อาบูล เกอิต ผู้นำกลุ่มสันนิบาตอาหรับ วิจารณ์ว่า ไอเดียของผู้นำยิวเป็นแค่ความเพ้อฝันหรือภาพลวงตาเท่านั้น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013540 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2128 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซาอุดีอาระเบีย ยืนยันปฏิเสธโดยสิ้นเชิงต่อความคิดเห็นของ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซา แล้วให้สถาปนาความเป็นรัฐในดินแดนของซาอุดีอาระเบีย กระทรวงการต่างประเทศริยาด ตอบโต้ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่
    .
    พวกเจ้าหน้าที่อิสราเอลพากันออกมาบ่งชี้เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ในดินแดนของซาอุดีอาระเบีย ในขณะที่ เนทันยาฮู ดูเหมือนพูดติดตลกในลักษณะเดียวกัน ระหว่างตอบคำถามของผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 14 ซึ่งเป็นสำนักข่าวโปรเนทันยาอู ที่เรียกผิดเป็น "รัฐซาอุดีฯ" แทน "รัฐปาเลสไตน์" ก่อนพูดแก้ไขด้วยตนเองในทันที
    .
    "รัฐปาเลสไตน์" เนทันยาฮู แก้ไขคำพูดของผู้สัมภาษณ์ แต่บอกต่อว่า "เว้นแต่เสียว่าคุณต้องการให้รัฐปาเลสไตน์อยู่ในซาอุดีอาระเบีย พวกเขามีดินแดนมากมาย" นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวไปยิ้มไป ระหว่างการให้สัมภาษณ์ในวอชิงตัน
    .
    ในส่วนถ้อยแถลงตอบโต้ของซาอุดีอาระเบีย ได้พาดพิงชื่อเนทันยาฮู แต่ไม่ได้กล่าวอ้างตรงๆถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสถาปนาความเป็นรับปาเลสไตน์ในดินแดนซาอุดีอาระเบีย
    .
    ความเคลื่อนไหวของซาอุดีอาระเบีย มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง อียิปต์และจอร์แดนก็ออกมาประณามคำชี้แนะของอิสราเอลเช่นกัน โดยที่ไคโรถึงขั้นมองความคิดนี้ว่าเป็นการ "ละเมิดอธิปไตยของซาอุดีอาระเบียโดยตรง"
    .
    ซาอุดีอาระเบีย บอกว่าพวกเขารู้สึกนับถือเป็นอย่างยิ่งต่อรัฐพี่น้องทั้ง 2 ที่รุดออกมาปฏิเสธความคิดเห็นของเนทันยาฮู "แนวคิดหัวรุนแรงแห่งการยึดครองนี้ ไม่ได้ตระหนักและเข้าถึงว่าดินแดนปาเลสไตน์มีความหมายกับประชาชนพี่น้องปาเลสไตน์มากแค่ไหน เช่นดียวกับความเกี่ยวข้องกันทั้งในแง่มโนธรรม ประวัติศาสตร์และทางกฎหมาย กับดินแดนแห่งนี้" ถ้อยแถลงระบุ
    .
    ประเด็นโต้เถียงเกี่ยวกับชะตากรรมของชาวปาเลสไตน์ในกาซา ถูกโหมกระพือขึ้นจากข้อเสนอสุดช็อคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร(4ก.พ.) ที่บอกว่าอเมริกา "จะควบคุมฉนวนกาซา" ผ่านการส่งมอบโดยอิสราเอล และจะสร้างดินแดนแห่งนี้ให้เห็น "ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง" หลังจากโยกย้ายชาวปาเลสไตน์ไปที่ไหนสักแห่ง
    .
    ข้อเสนอดังกล่าวของทรัมป์ เรียกเสียงประณามในวงกว้างจากบรรดชาติอาหรับ ในขณะที่ความคิดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกิดจึ้นระหว่างข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางในสงครามกาซา ดินแดนที่อิสราเอลสู้รบกับพวกนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ที่ควบคุมฉนวนแคบๆแห่งนี้
    .
    ทรัมป์ อ้างว่าซาอุดีอาระเบียไม่ได้เรียกร้องให้สถาปนารัฐปาเลสไตน์ เป็นเงื่อนไขในการคืนสัมพันธ์อันเป็นปกติกับอิสราเอล แต่ริยาดรุดออกมาตอบโต้คำกล่าวอ้างของเขา พร้อมยืนยันว่าพวกเขาจะไม่สถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอล หากปราศจากการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์
    .
    พวกเจ้าหน้าที่กาซาระบุว่าสงครามได้สังหารชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 47,000 นาย จากประชากรทั้งหมดเกือบ 2 ล้านคนในกาซา โดยอิสราเอลเปิดฉากรุกรานดินแดนแห่งนี้ หลังจากกลุ่มมือปืนที่นำโดยฮามาส บุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลแบบสายฟ้าแลบ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 สังหารผู้คนไปราวๆ 1,200 ราย และจับตัวประกันไปมากกว่า 250 คน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013147
    ..............
    Sondhi X
    ซาอุดีอาระเบีย ยืนยันปฏิเสธโดยสิ้นเชิงต่อความคิดเห็นของ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซา แล้วให้สถาปนาความเป็นรัฐในดินแดนของซาอุดีอาระเบีย กระทรวงการต่างประเทศริยาด ตอบโต้ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ . พวกเจ้าหน้าที่อิสราเอลพากันออกมาบ่งชี้เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ในดินแดนของซาอุดีอาระเบีย ในขณะที่ เนทันยาฮู ดูเหมือนพูดติดตลกในลักษณะเดียวกัน ระหว่างตอบคำถามของผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 14 ซึ่งเป็นสำนักข่าวโปรเนทันยาอู ที่เรียกผิดเป็น "รัฐซาอุดีฯ" แทน "รัฐปาเลสไตน์" ก่อนพูดแก้ไขด้วยตนเองในทันที . "รัฐปาเลสไตน์" เนทันยาฮู แก้ไขคำพูดของผู้สัมภาษณ์ แต่บอกต่อว่า "เว้นแต่เสียว่าคุณต้องการให้รัฐปาเลสไตน์อยู่ในซาอุดีอาระเบีย พวกเขามีดินแดนมากมาย" นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวไปยิ้มไป ระหว่างการให้สัมภาษณ์ในวอชิงตัน . ในส่วนถ้อยแถลงตอบโต้ของซาอุดีอาระเบีย ได้พาดพิงชื่อเนทันยาฮู แต่ไม่ได้กล่าวอ้างตรงๆถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสถาปนาความเป็นรับปาเลสไตน์ในดินแดนซาอุดีอาระเบีย . ความเคลื่อนไหวของซาอุดีอาระเบีย มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง อียิปต์และจอร์แดนก็ออกมาประณามคำชี้แนะของอิสราเอลเช่นกัน โดยที่ไคโรถึงขั้นมองความคิดนี้ว่าเป็นการ "ละเมิดอธิปไตยของซาอุดีอาระเบียโดยตรง" . ซาอุดีอาระเบีย บอกว่าพวกเขารู้สึกนับถือเป็นอย่างยิ่งต่อรัฐพี่น้องทั้ง 2 ที่รุดออกมาปฏิเสธความคิดเห็นของเนทันยาฮู "แนวคิดหัวรุนแรงแห่งการยึดครองนี้ ไม่ได้ตระหนักและเข้าถึงว่าดินแดนปาเลสไตน์มีความหมายกับประชาชนพี่น้องปาเลสไตน์มากแค่ไหน เช่นดียวกับความเกี่ยวข้องกันทั้งในแง่มโนธรรม ประวัติศาสตร์และทางกฎหมาย กับดินแดนแห่งนี้" ถ้อยแถลงระบุ . ประเด็นโต้เถียงเกี่ยวกับชะตากรรมของชาวปาเลสไตน์ในกาซา ถูกโหมกระพือขึ้นจากข้อเสนอสุดช็อคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร(4ก.พ.) ที่บอกว่าอเมริกา "จะควบคุมฉนวนกาซา" ผ่านการส่งมอบโดยอิสราเอล และจะสร้างดินแดนแห่งนี้ให้เห็น "ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง" หลังจากโยกย้ายชาวปาเลสไตน์ไปที่ไหนสักแห่ง . ข้อเสนอดังกล่าวของทรัมป์ เรียกเสียงประณามในวงกว้างจากบรรดชาติอาหรับ ในขณะที่ความคิดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกิดจึ้นระหว่างข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางในสงครามกาซา ดินแดนที่อิสราเอลสู้รบกับพวกนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ที่ควบคุมฉนวนแคบๆแห่งนี้ . ทรัมป์ อ้างว่าซาอุดีอาระเบียไม่ได้เรียกร้องให้สถาปนารัฐปาเลสไตน์ เป็นเงื่อนไขในการคืนสัมพันธ์อันเป็นปกติกับอิสราเอล แต่ริยาดรุดออกมาตอบโต้คำกล่าวอ้างของเขา พร้อมยืนยันว่าพวกเขาจะไม่สถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอล หากปราศจากการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ . พวกเจ้าหน้าที่กาซาระบุว่าสงครามได้สังหารชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 47,000 นาย จากประชากรทั้งหมดเกือบ 2 ล้านคนในกาซา โดยอิสราเอลเปิดฉากรุกรานดินแดนแห่งนี้ หลังจากกลุ่มมือปืนที่นำโดยฮามาส บุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลแบบสายฟ้าแลบ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 สังหารผู้คนไปราวๆ 1,200 ราย และจับตัวประกันไปมากกว่า 250 คน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013147 .............. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1698 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่อกลับลำข้อเสนอของเขาเกี่ยวกับการเข้ายึดฉนวนกาซา หลังมันโหมกระพือเสียงโวยวายจากทั่วโลก ในนั้นรวมถึงเลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติที่เตือนเกี่ยวกับการ "ล้างเผ่าพันธุ์" ในฉนวนปาเลสไตน์
    .
    หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นชุดๆ จากทั้งชาวปาเลสไตน์ บรรดารัฐบาลอาหรับและพวกผู้นำโลก ทาง มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่าการย้ายชาวกาซาใดๆ จะเป็นเพียงชั่วคราว ในขณะที่ทำเนียบขาวยืนยันว่ายังไม่มีการรับปากว่าจะส่งทหารอเมริกาเข้าไปยังฉนวนแห่งนี้
    .
    อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ยืนยันว่า "ทุกคนชอบแผนนี้" ซึ่งเขาเปิดเผยในเรื่องดังกล่าวระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว ร่วมกับผู้มาเยือนอย่าง เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมตรีอิสราเอล
    .
    ในถ้อยแถลงดังกล่าว ทรัมป์ ให้รายละเอียดเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับแนวทางที่สหรัฐฯ จะโยกย้ายชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคนออกจากฉนวนกาซาหรือแนวทางเข้าควบคุมดินแดนที่ถูกสงครามฉีกเป็นชิ้นๆ แห่งนี้ โดยเขาเพียงประกาศในวันอังคาร (4 ก.พ.) ว่า "สหรัฐฯ จะยึดฉนวนกาซาและเราจะทำอะไรบางอย่างกับมันด้วย เราจะเป็นเจ้าของมัน"
    .
    รูบิโอ ชี้แจงว่าความคิดดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาเป็นปรปักษ์ ให้คำจำกัดความว่ามันเป็นความเคลื่อนไหวใจกว้าง เสนอมอบการฟื้นฟูและรับหน้าที่ของการฟื้นฟู
    .
    ในเวลาต่อมา คาโรไลน์ เลวิตต์ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาว แถลงว่าวอชิงตันจะไม่ออกทุนฟื้นฟูกาซา ตามหลังดินแดนแห่งนี้ต้องเผชิญกับสงครามระหว่างอิสราเอล พันธมิตรของสหรัฐฯ และกลุ่มนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ที่ลากยาวมานานกว่า 15 เดือน "ความเกี่ยวข้องของอเมริกาไม่ได้หมายถึงการส่งกองกำลังไปยังภาคพื้นหรือใช้เงินผู้เสียภาษีสหรัฐฯ เป็นทุนสำหรับความพยายามดังกล่าว"
    .
    คำชี้แจงของทำเนียบขาวมีขึ้นหลังจาก อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ชี้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นต้องหลีกเลี่ยง "รูปแบบของการล้างเผ่าพันธุ์ใดๆ" ส่วนสเตฟาน ดูจาร์ริช โฆษก อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเห็นของเลขาธิการใหญ่รายนี้ ในเวลาต่อมาในวันพุธ (5 ก.พ.) บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า "การบีบบังคับผู้คนโยกย้ายถิ่นฐาน เทียบเท่ากับเป็นการกวาดล้างเผ่าพันธุ์"
    .
    ในเวลาต่อมา เลวิตต์ บอกว่า ทรัมป์ เพียงต้องการให้ชาวปาเลสไตน์แค่ย้ายออกจากกาซาเป็นการชั่วคราว "เวลานี้มันกลายเป็นสถานที่ที่ถูกทำลายล้าง มันไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย"
    .
    เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ พวกผู้นำโลกอาหรับและกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลายออกมาประณามความคิดเห็นของทรัมป์อย่างรวดเร็ว ส่วน ฮามาส ที่ยึดครองควบคุมกาซาในปี 2007 ปฏิเสธข้อเสนอนี้ ตราหน้ามันว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติ รุกรานและซ้ำเติมสถานการณ์
    .
    สงครามที่โหมกระพือขึ้นจากการที่พวกฮามาสบุกโจมตีเล่นงานอิสราเอลแบบสายฟ้าแลบเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ทำลายล้างพื้นที่ส่วนใหญ่ของฉนวนกาซา ในขณะที่ ทรัมป์ อ้างกล่าวความดีความชอบซ้ำๆ สำหรับการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนที่แล้ว
    .
    เนทันยาฮู ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนวอชิงตัน สำหรับพูดคุยเกี่ยวกับขั้นที่ 2 ของข้อตกลงหยุดยิง ขานรับด้วยความยินดีต่อความคิดของทรัมป์ บอกว่ามันจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์และควรค่าได้รับความสนใจ
    .
    ทรัมป์ ซึ่งบ่งชี้ด้วยว่าเขาอาจเดินทางเยือนกาซา ดูเหมือนจะพูดเป็นนัยว่าการฟื้นฟูฉนวนแห่งนี้ จะไม่ใช่สำหรับชาวปาเลสไตน์ แต่ทาง เลวิตต์ ชี้แจงว่า "ประธานาธิบดีมีความชัดเจนมากๆ ต่อกรณีคาดหมายว่าบรรดาพันธมิตรของเราในภูมิภาค โดยเฉพาะอียิปต์และจอร์แดน จะอ้าแขนรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์เป็นการชั่วคราว เพื่อเราจะสามารถบูรณะฟื้นฟูบ้านของพวกเขา"
    .
    อย่างไรก็ตาม มาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ ปฏิเสธข้อเสนอนี้ เรียกมันว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และยืนกรานว่าสิทธิที่ชอบธรรมตามกฎหมายของชาวปาเลสไตน์ไม่อาจต่อรองได้
    .
    ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ทรัมป์ ชี้แนะให้ชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา โดยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาได้กล่าวอ้างถึงอียิปต์และจอร์แดน ในฐานะดินแดนจุดหมายปลายทางที่เป็นไปได้ แต่ประชาชนชาวปาเลสไตน์ ประกาศกร้าวว่าพวกเขาจะไม่ออกจากฉนวนกาซา
    .
    ขณะเดียวกัน อียิปต์ และ จอร์แดน ก็ปฏิเสธอนุญาตให้มีการตั้งรกรากใดๆ ของชาวกาซา โดย บาดร์ อับเดลลัตตี รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ เรียกร้องฟื้นฟูฉนวนแห่งนี้อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกมา ส่วนกษัตริย์อับดุลลาห์ที่สองแห่งจอร์แดน ตรัสหลังจากพบปะกับอับบาส ปฏิเสธความพยายามใดๆ ในการควบคุมดินแดนของปาเลสไตน์และโยกย้านถิ่นฐานผู้คน
    .
    ในวอชิงตัน เนทันยาฮู ยกย่อง ทรัมป์ ว่าเป็นพันธมิตรยอดเยี่ยมที่สุดของอิสราเอล และยกย่องผู้นำสหรัฐฯ เกี่ยวกับการคิดนอกกรอบ นอกจากนี้ เขายังแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับซาอุดีอาระเบีย ในการคืนความสัมพันธ์กันเป็นปกติระหว่างกัน
    .
    อย่างไรก็ตาม ริยาด บอกว่าพวกเขาจะไม่มีความสัมพันธ์อันเป็นปกติกับอิสราเอล หากปราศจากความเป็นรัฐของปาเลสไตน์ และปฏิเสธความพยายามใดๆ ที่จะโยกย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากแผ่นดินของพวกเขา
    .
    สหภาพยุโรปเน้นย้ำว่ากาซาเป็นส่วนสำคัญสำหรับรัฐปาเลสไตน์หนึ่งๆ ในอนาคต ในขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ปฏิเสธความพยายามโยกย้ายถิ่นฐานใดๆ โดยบอกว่าเสถียรภาพในภูมิภาคจะบรรลุได้ผ่านทางออก 2 รัฐคู่ขนานเท่านั้น ส่วนโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน บอกว่า "เราคัดค้านการบีบบังคับโยกย้ายพลเมืองของกาซา" ขณะที่สันนิบาตอาหรับ เรียกข้อเสนอของทรัมป์ว่าเป็น "สูตรแห่งความไร้เสถียรภาพ"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011933
    ..............
    Sondhi X
    รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่อกลับลำข้อเสนอของเขาเกี่ยวกับการเข้ายึดฉนวนกาซา หลังมันโหมกระพือเสียงโวยวายจากทั่วโลก ในนั้นรวมถึงเลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติที่เตือนเกี่ยวกับการ "ล้างเผ่าพันธุ์" ในฉนวนปาเลสไตน์ . หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นชุดๆ จากทั้งชาวปาเลสไตน์ บรรดารัฐบาลอาหรับและพวกผู้นำโลก ทาง มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่าการย้ายชาวกาซาใดๆ จะเป็นเพียงชั่วคราว ในขณะที่ทำเนียบขาวยืนยันว่ายังไม่มีการรับปากว่าจะส่งทหารอเมริกาเข้าไปยังฉนวนแห่งนี้ . อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ยืนยันว่า "ทุกคนชอบแผนนี้" ซึ่งเขาเปิดเผยในเรื่องดังกล่าวระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว ร่วมกับผู้มาเยือนอย่าง เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมตรีอิสราเอล . ในถ้อยแถลงดังกล่าว ทรัมป์ ให้รายละเอียดเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับแนวทางที่สหรัฐฯ จะโยกย้ายชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคนออกจากฉนวนกาซาหรือแนวทางเข้าควบคุมดินแดนที่ถูกสงครามฉีกเป็นชิ้นๆ แห่งนี้ โดยเขาเพียงประกาศในวันอังคาร (4 ก.พ.) ว่า "สหรัฐฯ จะยึดฉนวนกาซาและเราจะทำอะไรบางอย่างกับมันด้วย เราจะเป็นเจ้าของมัน" . รูบิโอ ชี้แจงว่าความคิดดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาเป็นปรปักษ์ ให้คำจำกัดความว่ามันเป็นความเคลื่อนไหวใจกว้าง เสนอมอบการฟื้นฟูและรับหน้าที่ของการฟื้นฟู . ในเวลาต่อมา คาโรไลน์ เลวิตต์ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาว แถลงว่าวอชิงตันจะไม่ออกทุนฟื้นฟูกาซา ตามหลังดินแดนแห่งนี้ต้องเผชิญกับสงครามระหว่างอิสราเอล พันธมิตรของสหรัฐฯ และกลุ่มนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ที่ลากยาวมานานกว่า 15 เดือน "ความเกี่ยวข้องของอเมริกาไม่ได้หมายถึงการส่งกองกำลังไปยังภาคพื้นหรือใช้เงินผู้เสียภาษีสหรัฐฯ เป็นทุนสำหรับความพยายามดังกล่าว" . คำชี้แจงของทำเนียบขาวมีขึ้นหลังจาก อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ชี้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นต้องหลีกเลี่ยง "รูปแบบของการล้างเผ่าพันธุ์ใดๆ" ส่วนสเตฟาน ดูจาร์ริช โฆษก อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเห็นของเลขาธิการใหญ่รายนี้ ในเวลาต่อมาในวันพุธ (5 ก.พ.) บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า "การบีบบังคับผู้คนโยกย้ายถิ่นฐาน เทียบเท่ากับเป็นการกวาดล้างเผ่าพันธุ์" . ในเวลาต่อมา เลวิตต์ บอกว่า ทรัมป์ เพียงต้องการให้ชาวปาเลสไตน์แค่ย้ายออกจากกาซาเป็นการชั่วคราว "เวลานี้มันกลายเป็นสถานที่ที่ถูกทำลายล้าง มันไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย" . เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ พวกผู้นำโลกอาหรับและกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลายออกมาประณามความคิดเห็นของทรัมป์อย่างรวดเร็ว ส่วน ฮามาส ที่ยึดครองควบคุมกาซาในปี 2007 ปฏิเสธข้อเสนอนี้ ตราหน้ามันว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติ รุกรานและซ้ำเติมสถานการณ์ . สงครามที่โหมกระพือขึ้นจากการที่พวกฮามาสบุกโจมตีเล่นงานอิสราเอลแบบสายฟ้าแลบเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ทำลายล้างพื้นที่ส่วนใหญ่ของฉนวนกาซา ในขณะที่ ทรัมป์ อ้างกล่าวความดีความชอบซ้ำๆ สำหรับการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนที่แล้ว . เนทันยาฮู ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนวอชิงตัน สำหรับพูดคุยเกี่ยวกับขั้นที่ 2 ของข้อตกลงหยุดยิง ขานรับด้วยความยินดีต่อความคิดของทรัมป์ บอกว่ามันจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์และควรค่าได้รับความสนใจ . ทรัมป์ ซึ่งบ่งชี้ด้วยว่าเขาอาจเดินทางเยือนกาซา ดูเหมือนจะพูดเป็นนัยว่าการฟื้นฟูฉนวนแห่งนี้ จะไม่ใช่สำหรับชาวปาเลสไตน์ แต่ทาง เลวิตต์ ชี้แจงว่า "ประธานาธิบดีมีความชัดเจนมากๆ ต่อกรณีคาดหมายว่าบรรดาพันธมิตรของเราในภูมิภาค โดยเฉพาะอียิปต์และจอร์แดน จะอ้าแขนรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์เป็นการชั่วคราว เพื่อเราจะสามารถบูรณะฟื้นฟูบ้านของพวกเขา" . อย่างไรก็ตาม มาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ ปฏิเสธข้อเสนอนี้ เรียกมันว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และยืนกรานว่าสิทธิที่ชอบธรรมตามกฎหมายของชาวปาเลสไตน์ไม่อาจต่อรองได้ . ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ทรัมป์ ชี้แนะให้ชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา โดยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาได้กล่าวอ้างถึงอียิปต์และจอร์แดน ในฐานะดินแดนจุดหมายปลายทางที่เป็นไปได้ แต่ประชาชนชาวปาเลสไตน์ ประกาศกร้าวว่าพวกเขาจะไม่ออกจากฉนวนกาซา . ขณะเดียวกัน อียิปต์ และ จอร์แดน ก็ปฏิเสธอนุญาตให้มีการตั้งรกรากใดๆ ของชาวกาซา โดย บาดร์ อับเดลลัตตี รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ เรียกร้องฟื้นฟูฉนวนแห่งนี้อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกมา ส่วนกษัตริย์อับดุลลาห์ที่สองแห่งจอร์แดน ตรัสหลังจากพบปะกับอับบาส ปฏิเสธความพยายามใดๆ ในการควบคุมดินแดนของปาเลสไตน์และโยกย้านถิ่นฐานผู้คน . ในวอชิงตัน เนทันยาฮู ยกย่อง ทรัมป์ ว่าเป็นพันธมิตรยอดเยี่ยมที่สุดของอิสราเอล และยกย่องผู้นำสหรัฐฯ เกี่ยวกับการคิดนอกกรอบ นอกจากนี้ เขายังแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับซาอุดีอาระเบีย ในการคืนความสัมพันธ์กันเป็นปกติระหว่างกัน . อย่างไรก็ตาม ริยาด บอกว่าพวกเขาจะไม่มีความสัมพันธ์อันเป็นปกติกับอิสราเอล หากปราศจากความเป็นรัฐของปาเลสไตน์ และปฏิเสธความพยายามใดๆ ที่จะโยกย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากแผ่นดินของพวกเขา . สหภาพยุโรปเน้นย้ำว่ากาซาเป็นส่วนสำคัญสำหรับรัฐปาเลสไตน์หนึ่งๆ ในอนาคต ในขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ปฏิเสธความพยายามโยกย้ายถิ่นฐานใดๆ โดยบอกว่าเสถียรภาพในภูมิภาคจะบรรลุได้ผ่านทางออก 2 รัฐคู่ขนานเท่านั้น ส่วนโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน บอกว่า "เราคัดค้านการบีบบังคับโยกย้ายพลเมืองของกาซา" ขณะที่สันนิบาตอาหรับ เรียกข้อเสนอของทรัมป์ว่าเป็น "สูตรแห่งความไร้เสถียรภาพ" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011933 .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    Sad
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2490 มุมมอง 0 รีวิว
  • กษัตริย์จอร์แดนยังคงยืนกรานไม่เห็นด้วยกับการผนวกดินแดนและการขับไล่ชาวปาเลสไตน์

    คำแถลงของพระองค์มีขึ้นหลังจากที่ทรัมป์เสนอให้พัฒนาฉนวนกาซาใหม่ โดยให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกไป ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวได้จุดชนวนให้เกิดการประณามจากทั่วโลก
    กษัตริย์จอร์แดนยังคงยืนกรานไม่เห็นด้วยกับการผนวกดินแดนและการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ คำแถลงของพระองค์มีขึ้นหลังจากที่ทรัมป์เสนอให้พัฒนาฉนวนกาซาใหม่ โดยให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกไป ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวได้จุดชนวนให้เกิดการประณามจากทั่วโลก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ สร้างความตกตะลึงอีกครั้งด้วยการประกาศว่าต้องการ “เทกโอเวอร์” ดินแดนกาซาเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ หลังจากส่งชาวปาเลสไตน์ “ออกไปอยู่อื่น” ในความเคลื่อนไหวซึ่งจะถือเป็นการทำลายจุดยืนที่สหรัฐฯ มีต่อปัญหายิว-ปาเลสไตน์มานานหลายสิบปี
    .
    ทรัมป์ แถลงแผนการสุดเซอร์ไพรส์นี้ระหว่างเปิดแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวร่วมกับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล โดยยังไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะดำเนินการอย่างไร
    .
    ก่อนหน้านั้นไม่นาน ทรัมป์ ได้เสนอให้ย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาไปตั้งถิ่นฐานใหม่แบบถาวรในประเทศข้างเคียง โดยระบุว่าดินแดนกาซาในปัจจุบันมีสภาพไม่ต่างจากพื้นที่ทุบทำลาย (demolition site)
    .
    “สหรัฐฯ จะเทกโอเวอร์ฉนวนกาซา และเราจะทำอะไรบางอย่างกับมันด้วย” ทรัมป์ บอกกับผู้สื่อข่าว “เราจะเป็นเจ้าของมัน และจะรับผิดชอบเรื่องการทำลายระเบิดที่ยังไม่ทำงาน และอาวุธต่างๆ ที่อยู่ในนั้น”
    .
    “หากมีความจำเป็น เราก็จะทำ เราจะเทกโอเวอร์ดินแดนตรงนั้น เราจะเข้าไปพัฒนามัน สร้างงานหลายพันหลายหมื่นตำแหน่ง และมันจะเป็นสิ่งที่ตะวันออกกลางทั้งภูมิภาคและทั่วโลกต้องภูมิใจ” ทรัมป์ กล่าว
    .
    เมื่อถามว่าแล้วใครจะเข้าไปอาศัยอยู่ในดินแดนตรงนั้น ทรัมป์ ตอบแบบกว้างๆ ว่ามันจะเป็น “บ้านสำหรับชาวโลก”
    .
    ด้าน เนทันยาฮู ก็กล่าวรับลูกทันควันว่า ทรัมป์ เป็นคนที่ “กล้าคิดนอกกรอบด้วยไอเดียใหม่ๆ” และ “แสดงความตั้งใจจริงที่จะแทงทะลุกรอบความคิดเดิมๆ”
    .
    อย่างไรก็ดี ทรัมป์ ไม่ได้ชี้แจงข้อซักถามของสื่อมวลชนที่ว่า สหรัฐฯ จะเอาอำนาจอะไรไปเทกโอเวอร์ดินแดนกาซา และยึดครองมันในระยะยาว
    .
    ทรัมป์ ยังย้ำข้อเรียกร้องให้จอร์แดน อียิปต์ และรัฐอาหรับอื่นๆ รับชาวกาซาไปอยู่อาศัย โดยชี้ว่าชาวปาเลสไตน์ "ไม่มีทางเลือกอื่น" นอกจากละทิ้งดินแดนผืนแคบๆ ที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้ไปเสีย เนื่องจากกาซาจำเป็นต้องได้รับการบูรณะฟื้นฟูขนานใหญ่หลังเสียหายย่อยยับจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา
    .
    อย่างไรก็ดี ครั้งนี้ ทรัมป์ ประกาศชัดว่าเขาสนับสนุนการย้ายชาวกาซาแบบ "ถาวร" ซึ่งเป็นเรื่องหนักหน่วงเสียยิ่งกว่าข้อเสนอเดิมซึ่งบรรดารัฐอาหรับก็ไม่เอาด้วยอยู่แล้ว
    .
    เพียง 2 สัปดาห์หลังเข้ารับตำแหน่งเทอมสอง ทรัมป์ ได้เปิดทำเนียบขาวต้อนรับผู้นำยิวเพื่อหารือข้อตกลงหยุดยิงที่เปราะบางในกาซา ยุทธศาสตร์ต่อต้านอิหร่าน รวมไปถึงความหวังที่จะรื้อฟื้นแผนผลักดันการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระดับปกติระหว่างอิสราเอลกับซาอุดีอาระเบีย
    .
    "มันเป็นพื้นที่ทุบทำลายชัดๆ" ทรัมป์ เอ่ยถึงกาซาก่อนที่จะพบ เนทันยาฮู ไม่นานนัก
    .
    "ถ้าเราสามารถหาที่ดินสักผืนที่ใช่ หรืออาจจะหลายๆ ผืน และสร้างสถานที่ที่ดีและมีเม็ดเงินมหาศาลให้พวกเขา แน่นอน... ผมคิดว่ามันจะดีกว่าการกลับเข้าไปอยู่ในกาซา" ทรัมป์ กล่าว
    .
    "ผมไม่รู้จริงๆ ว่าทำไม (ชาวปาเลสไตน์) ถึงยังอยากอยู่ที่นั่น" ทรัมป์ให้คำตอบ หลังถูกถามถึงปฏิกิริยาของบรรดาผู้นำชาติอาหรับเกี่ยวกับข้อเสนอของเขา
    .
    ระหว่างพบ เนทันยาฮู ที่ห้องทำงานรูปไข่ ทรัมป์ ได้ย้ำข้อเสนอเดิม โดยคราวนี้บอกว่าชาวปาเลสไตน์ควรย้ายออกจากกาซาไปเลยแบบถาวร "ไปอยู่ในบ้านใหม่ที่ดี ที่ซึ่งพวกเขาจะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ต้องถูกยิง ไม่ต้องถูกสังหาร"
    .
    "พวกเขาจะไม่อยากกลับไปอยู่กาซาอีก"
    .
    ทรัมป์ ไม่ได้ให้รายละเอียดว่ากระบวนการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์จะกระทำอย่างไร แต่ข้อเสนอนี้เรียกได้ว่าเติมเต็มความปรารถนาของกลุ่มขวาจัดในอิสราเอล และขัดแย้งสิ้นเชิงกับจุดยืนของอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ที่ให้คำมั่นว่าจะไม่มีการบังคับเคลื่อนย้ายชาวปาเลสไตน์จากกาซา
    .
    นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนบางคนออกมาวิจารณ์ข้อเสนอ ทรัมป์ ว่าไม่ต่างอะไรกับการล้างชาติพันธุ์ (ethnic cleansing) ซึ่งเข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะเผชิญกระแสต่อต้านรุนแรงไม่เพียงแต่ในตะวันออกกลาง แต่รวมถึงจากบรรดาพันธมิตรตะวันตกของสหรัฐฯ เองด้วย
    .
    ซามี อบู ซูห์รี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส ออกมาประณามแผนของ ทรัมป์ ว่าเป็นการ "ขับไล่ชาวกาซาออกจากดินแดนของพวกเขาเอง"
    .
    "เรามองว่านี่คือสูตรสำเร็จที่จะสร้างความวุ่นวายและความตึงเครียดขึ้นในภูมิภาค เพราะชาวกาซาจะไม่มีวันยอมให้แผนการเช่นนี้เกิดขึ้น" เขากล่าว
    .
    การที่ ทรัมป์ เลือกให้ เนทันยาฮู เป็นผู้นำต่างชาติรายแรกที่ได้มาพบเขาที่ทำเนียบขาวหลังสาบานตนเป็นผู้นำสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ถูกมองว่าเป็นความพยายามโชว์ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างตนกับผู้นำยิว ตามหลังช่วงเวลาอันระหองระแหงระหว่าง เนทันยาฮู กับ ไบเดน สืบเนื่องจากสงครามในกาซา
    .
    อย่างไรก็ตาม เนทันยาฮู ก็อาจจะเป็นฝ่ายถูก ทรัมป์ กดดันเข้าบ้างในอนาคต เนื่องจากเป้าหมายเชิงนโยบายตะวันออกกลางในภาพรวมของผู้นำอเมริกันที่คาดเดาได้ยากรายนี้บางครั้งก็ไม่ได้ตรงกับผลประโยชน์ภายในประเทศและผลประโยชน์ด้านภูมิรัฐศาสตร์สำหรับ เนทันยาฮู เสมอไป
    .
    ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งสมัยแรก ทรัมป์ เคยหยิบยื่นชัยชนะให้แก่ เนทันยาฮู หลายครั้ง ตั้งแต่การย้ายสถานทูตอเมริกันจากกรุงเทลอาวีฟไปยังนครเยรูซาเลม เรื่อยไปจนถึงการทำข้อตกลงอบราฮัมที่ช่วยให้รัฐอาหรับหลายชาติยอมสถาปนาความสัมพันธ์การทูตกับอิสราเอล
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011557
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ สร้างความตกตะลึงอีกครั้งด้วยการประกาศว่าต้องการ “เทกโอเวอร์” ดินแดนกาซาเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ หลังจากส่งชาวปาเลสไตน์ “ออกไปอยู่อื่น” ในความเคลื่อนไหวซึ่งจะถือเป็นการทำลายจุดยืนที่สหรัฐฯ มีต่อปัญหายิว-ปาเลสไตน์มานานหลายสิบปี . ทรัมป์ แถลงแผนการสุดเซอร์ไพรส์นี้ระหว่างเปิดแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวร่วมกับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล โดยยังไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะดำเนินการอย่างไร . ก่อนหน้านั้นไม่นาน ทรัมป์ ได้เสนอให้ย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาไปตั้งถิ่นฐานใหม่แบบถาวรในประเทศข้างเคียง โดยระบุว่าดินแดนกาซาในปัจจุบันมีสภาพไม่ต่างจากพื้นที่ทุบทำลาย (demolition site) . “สหรัฐฯ จะเทกโอเวอร์ฉนวนกาซา และเราจะทำอะไรบางอย่างกับมันด้วย” ทรัมป์ บอกกับผู้สื่อข่าว “เราจะเป็นเจ้าของมัน และจะรับผิดชอบเรื่องการทำลายระเบิดที่ยังไม่ทำงาน และอาวุธต่างๆ ที่อยู่ในนั้น” . “หากมีความจำเป็น เราก็จะทำ เราจะเทกโอเวอร์ดินแดนตรงนั้น เราจะเข้าไปพัฒนามัน สร้างงานหลายพันหลายหมื่นตำแหน่ง และมันจะเป็นสิ่งที่ตะวันออกกลางทั้งภูมิภาคและทั่วโลกต้องภูมิใจ” ทรัมป์ กล่าว . เมื่อถามว่าแล้วใครจะเข้าไปอาศัยอยู่ในดินแดนตรงนั้น ทรัมป์ ตอบแบบกว้างๆ ว่ามันจะเป็น “บ้านสำหรับชาวโลก” . ด้าน เนทันยาฮู ก็กล่าวรับลูกทันควันว่า ทรัมป์ เป็นคนที่ “กล้าคิดนอกกรอบด้วยไอเดียใหม่ๆ” และ “แสดงความตั้งใจจริงที่จะแทงทะลุกรอบความคิดเดิมๆ” . อย่างไรก็ดี ทรัมป์ ไม่ได้ชี้แจงข้อซักถามของสื่อมวลชนที่ว่า สหรัฐฯ จะเอาอำนาจอะไรไปเทกโอเวอร์ดินแดนกาซา และยึดครองมันในระยะยาว . ทรัมป์ ยังย้ำข้อเรียกร้องให้จอร์แดน อียิปต์ และรัฐอาหรับอื่นๆ รับชาวกาซาไปอยู่อาศัย โดยชี้ว่าชาวปาเลสไตน์ "ไม่มีทางเลือกอื่น" นอกจากละทิ้งดินแดนผืนแคบๆ ที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้ไปเสีย เนื่องจากกาซาจำเป็นต้องได้รับการบูรณะฟื้นฟูขนานใหญ่หลังเสียหายย่อยยับจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา . อย่างไรก็ดี ครั้งนี้ ทรัมป์ ประกาศชัดว่าเขาสนับสนุนการย้ายชาวกาซาแบบ "ถาวร" ซึ่งเป็นเรื่องหนักหน่วงเสียยิ่งกว่าข้อเสนอเดิมซึ่งบรรดารัฐอาหรับก็ไม่เอาด้วยอยู่แล้ว . เพียง 2 สัปดาห์หลังเข้ารับตำแหน่งเทอมสอง ทรัมป์ ได้เปิดทำเนียบขาวต้อนรับผู้นำยิวเพื่อหารือข้อตกลงหยุดยิงที่เปราะบางในกาซา ยุทธศาสตร์ต่อต้านอิหร่าน รวมไปถึงความหวังที่จะรื้อฟื้นแผนผลักดันการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระดับปกติระหว่างอิสราเอลกับซาอุดีอาระเบีย . "มันเป็นพื้นที่ทุบทำลายชัดๆ" ทรัมป์ เอ่ยถึงกาซาก่อนที่จะพบ เนทันยาฮู ไม่นานนัก . "ถ้าเราสามารถหาที่ดินสักผืนที่ใช่ หรืออาจจะหลายๆ ผืน และสร้างสถานที่ที่ดีและมีเม็ดเงินมหาศาลให้พวกเขา แน่นอน... ผมคิดว่ามันจะดีกว่าการกลับเข้าไปอยู่ในกาซา" ทรัมป์ กล่าว . "ผมไม่รู้จริงๆ ว่าทำไม (ชาวปาเลสไตน์) ถึงยังอยากอยู่ที่นั่น" ทรัมป์ให้คำตอบ หลังถูกถามถึงปฏิกิริยาของบรรดาผู้นำชาติอาหรับเกี่ยวกับข้อเสนอของเขา . ระหว่างพบ เนทันยาฮู ที่ห้องทำงานรูปไข่ ทรัมป์ ได้ย้ำข้อเสนอเดิม โดยคราวนี้บอกว่าชาวปาเลสไตน์ควรย้ายออกจากกาซาไปเลยแบบถาวร "ไปอยู่ในบ้านใหม่ที่ดี ที่ซึ่งพวกเขาจะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ต้องถูกยิง ไม่ต้องถูกสังหาร" . "พวกเขาจะไม่อยากกลับไปอยู่กาซาอีก" . ทรัมป์ ไม่ได้ให้รายละเอียดว่ากระบวนการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์จะกระทำอย่างไร แต่ข้อเสนอนี้เรียกได้ว่าเติมเต็มความปรารถนาของกลุ่มขวาจัดในอิสราเอล และขัดแย้งสิ้นเชิงกับจุดยืนของอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ที่ให้คำมั่นว่าจะไม่มีการบังคับเคลื่อนย้ายชาวปาเลสไตน์จากกาซา . นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนบางคนออกมาวิจารณ์ข้อเสนอ ทรัมป์ ว่าไม่ต่างอะไรกับการล้างชาติพันธุ์ (ethnic cleansing) ซึ่งเข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะเผชิญกระแสต่อต้านรุนแรงไม่เพียงแต่ในตะวันออกกลาง แต่รวมถึงจากบรรดาพันธมิตรตะวันตกของสหรัฐฯ เองด้วย . ซามี อบู ซูห์รี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส ออกมาประณามแผนของ ทรัมป์ ว่าเป็นการ "ขับไล่ชาวกาซาออกจากดินแดนของพวกเขาเอง" . "เรามองว่านี่คือสูตรสำเร็จที่จะสร้างความวุ่นวายและความตึงเครียดขึ้นในภูมิภาค เพราะชาวกาซาจะไม่มีวันยอมให้แผนการเช่นนี้เกิดขึ้น" เขากล่าว . การที่ ทรัมป์ เลือกให้ เนทันยาฮู เป็นผู้นำต่างชาติรายแรกที่ได้มาพบเขาที่ทำเนียบขาวหลังสาบานตนเป็นผู้นำสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ถูกมองว่าเป็นความพยายามโชว์ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างตนกับผู้นำยิว ตามหลังช่วงเวลาอันระหองระแหงระหว่าง เนทันยาฮู กับ ไบเดน สืบเนื่องจากสงครามในกาซา . อย่างไรก็ตาม เนทันยาฮู ก็อาจจะเป็นฝ่ายถูก ทรัมป์ กดดันเข้าบ้างในอนาคต เนื่องจากเป้าหมายเชิงนโยบายตะวันออกกลางในภาพรวมของผู้นำอเมริกันที่คาดเดาได้ยากรายนี้บางครั้งก็ไม่ได้ตรงกับผลประโยชน์ภายในประเทศและผลประโยชน์ด้านภูมิรัฐศาสตร์สำหรับ เนทันยาฮู เสมอไป . ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งสมัยแรก ทรัมป์ เคยหยิบยื่นชัยชนะให้แก่ เนทันยาฮู หลายครั้ง ตั้งแต่การย้ายสถานทูตอเมริกันจากกรุงเทลอาวีฟไปยังนครเยรูซาเลม เรื่อยไปจนถึงการทำข้อตกลงอบราฮัมที่ช่วยให้รัฐอาหรับหลายชาติยอมสถาปนาความสัมพันธ์การทูตกับอิสราเอล . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011557 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    Sad
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2337 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์กำลังเขย่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางครั้งใหญ่ เมื่อประกาศการตัดสินใจต่อหน้าเนทันยาฮู ในการยกดินแดนกาซาให้อิสราเอล

    นักข่าวถามทรัมป์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าอียิปต์และจอร์แดนปฏิเสธข้อเสนอของคุณที่จะย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา

    โดนัลด์ ทรัมป์: “พวกเขาจะไม่ปฏิเสธผม ผมต้องการย้ายชาวกาซาทั้งหมดออกไป” “มันจะต้องเกิดขึ้น” [Jerusalem Post]

    ทรัมป์พูดถึงการอพยพของชาวปาเลสไตน์: “ผมหวังว่าเราจะทำอะไรบางอย่างได้เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่อยากกลับมา” [Israeli Radio]

    รูปภาพ1 - รูปประกอบแนวทางอนาคตของชาวปาเลสไตน์ในกาซา ดินแดนกาซาจะหายไป และกลายเป็นของอิสราเอล ชาวกาซาจะถูกผลักดันออกไปอยู่แนวเขตอียิปต์ ซึ่งเป็นทะเลทรายไซนาย (Sinai) เป็นเขตปกครอไซนายเหนือ (North Sinai Governorate) ของอียิปต์

    ถ้าหากอิสราเอลผนวกดินแดนกาซา โดยการสนับสนุนของสหรัฐ:
    - จีนจะอ้างสิทธิผนวกไต้หวัน
    - รัสเซียจะอ้างสิทธิผนวกยูเครน
    - แล้วโคโซโวล่ะ?
    ทรัมป์กำลังเขย่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางครั้งใหญ่ เมื่อประกาศการตัดสินใจต่อหน้าเนทันยาฮู ในการยกดินแดนกาซาให้อิสราเอล นักข่าวถามทรัมป์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าอียิปต์และจอร์แดนปฏิเสธข้อเสนอของคุณที่จะย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา โดนัลด์ ทรัมป์: “พวกเขาจะไม่ปฏิเสธผม ผมต้องการย้ายชาวกาซาทั้งหมดออกไป” “มันจะต้องเกิดขึ้น” [Jerusalem Post] ทรัมป์พูดถึงการอพยพของชาวปาเลสไตน์: “ผมหวังว่าเราจะทำอะไรบางอย่างได้เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่อยากกลับมา” [Israeli Radio] รูปภาพ1 - รูปประกอบแนวทางอนาคตของชาวปาเลสไตน์ในกาซา ดินแดนกาซาจะหายไป และกลายเป็นของอิสราเอล ชาวกาซาจะถูกผลักดันออกไปอยู่แนวเขตอียิปต์ ซึ่งเป็นทะเลทรายไซนาย (Sinai) เป็นเขตปกครอไซนายเหนือ (North Sinai Governorate) ของอียิปต์ ถ้าหากอิสราเอลผนวกดินแดนกาซา โดยการสนับสนุนของสหรัฐ: - จีนจะอ้างสิทธิผนวกไต้หวัน - รัสเซียจะอ้างสิทธิผนวกยูเครน - แล้วโคโซโวล่ะ?
    Like
    Love
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 359 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์เรียกร้องชาวปาเลสไตน์ให้อพยพออกจากกาซา เพื่อไปยังประเทศอาหรับอื่นๆ อย่างถาวร
    พร้อมขู่ว่าจะดำเนินการกับจอร์แดนและอียิปต์ หากพวกเขาไม่ยอมรับข้อเสนอรับชาวปาเลสไตน์
    ทรัมป์พูดเรื่องนี้ขณะเนทันยาฮูแห่งอิสราเอลมาเยือนทำเนียบขาวเมื่อวานนี้
    ทรัมป์เรียกร้องชาวปาเลสไตน์ให้อพยพออกจากกาซา เพื่อไปยังประเทศอาหรับอื่นๆ อย่างถาวร พร้อมขู่ว่าจะดำเนินการกับจอร์แดนและอียิปต์ หากพวกเขาไม่ยอมรับข้อเสนอรับชาวปาเลสไตน์ ทรัมป์พูดเรื่องนี้ขณะเนทันยาฮูแห่งอิสราเอลมาเยือนทำเนียบขาวเมื่อวานนี้
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้นำอาหรับ ร่วมลงนามเพื่อส่งข้อความถึงรูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ "ไม่เห็นด้วยในการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา"

    รัฐมนตรีต่างประเทศจากซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ อียิปต์ จอร์แดน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงชาวปาเลสไตน์ ลงนามในจดหมายร่วมกัน เพื่อส่งถึงมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เพื่อแสดงการไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับแผนการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา
    ผู้นำอาหรับ ร่วมลงนามเพื่อส่งข้อความถึงรูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ "ไม่เห็นด้วยในการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา" รัฐมนตรีต่างประเทศจากซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ อียิปต์ จอร์แดน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงชาวปาเลสไตน์ ลงนามในจดหมายร่วมกัน เพื่อส่งถึงมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เพื่อแสดงการไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับแผนการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • "พวกเขาจะทำ... เราทำเพื่อพวกเขาหลายอย่าง และพวกเขาจะทำ!"

    ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังกล่าวถึงอียิปต์และจอร์แดนว่า ในที่สุดจะต้องยอมรับชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซา
    "พวกเขาจะทำ... เราทำเพื่อพวกเขาหลายอย่าง และพวกเขาจะทำ!" ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังกล่าวถึงอียิปต์และจอร์แดนว่า ในที่สุดจะต้องยอมรับชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซา
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 19 0 รีวิว
Pages Boosts