เรื่องเล่าจากสนามแข่งขันโครงสร้างพื้นฐานโลก: เมื่อดีล HPE–Juniper กลายเป็นยุทธศาสตร์ชาติ
เดิมทีการควบรวมกิจการระหว่าง HPE กับ Juniper ถูกมองว่าเป็นการขยายพอร์ตโฟลิโอบริการ edge-to-cloud แต่เบื้องหลังกลับมีแรงผลักดันจากหน่วยข่าวกรองและทำเนียบขาวที่มองว่า Huawei กำลังกลายเป็นภัยคุกคามเชิงยุทธศาสตร์ในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทั่วโลก
Huawei เสนอระบบเครือข่ายครบวงจรที่รวมฮาร์ดแวร์ คลาวด์ และ AI ในราคาถูกกว่าคู่แข่งตะวันตก ทำให้หลายประเทศกำลังพึ่งพาเทคโนโลยีจีนมากขึ้น ซึ่งอาจลดอิทธิพลของสหรัฐฯ ในการควบคุมข้อมูลและความมั่นคงไซเบอร์
ด้วยเหตุนี้ HPE–Juniper จึงถูกผลักดันให้กลายเป็น “ทางเลือกของโลกเสรี” โดยผสานจุดแข็งของ Juniper ด้าน routing และ Mist AI เข้ากับ GreenLake และโครงสร้างพื้นฐานของ HPE เพื่อสร้างแพลตฟอร์มเครือข่ายที่ครบวงจรแบบเดียวกับ Huawei
แม้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) จะมีข้อกังวลด้านการแข่งขัน แต่สุดท้ายก็ต้องยอมให้ดีลผ่านหลังจากถูกกดดันจากหน่วยข่าวกรองและทำเนียบขาว โดยมีเจ้าหน้าที่ DOJ บางคนถูกปลดจากตำแหน่งระหว่างกระบวนการอนุมัติ
HPE ได้รับอนุมัติให้ควบรวมกิจการกับ Juniper Networks มูลค่า $14B
ประกาศดีลตั้งแต่ ม.ค. 2024 และปิดดีลใน ก.ค. 2025
สร้างหน่วยธุรกิจใหม่ “HPE Networking” โดยรวมแบรนด์ Aruba และ Juniper
ดีลนี้มีแรงผลักดันจากหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ และทำเนียบขาว
มองว่า Huawei เป็นภัยคุกคามเชิงยุทธศาสตร์
ต้องการสร้างทางเลือกให้พันธมิตรที่ไม่พึ่งพาเทคโนโลยีจีน
HPE–Juniper จะสร้างแพลตฟอร์มเครือข่ายครบวงจรแบบ AI-native
ผสาน Mist AI, routing, cloud และ edge infrastructure
เป้าหมายคือตลาดที่มีข้อมูลอ่อนไหว เช่น ภาครัฐและพันธมิตรสหรัฐฯ
DOJ เคยมีข้อกังวลด้านการแข่งขัน แต่สุดท้ายยอมให้ดีลผ่าน
เจ้าหน้าที่ DOJ 2 คนที่คัดค้านถูกปลดออก
แสดงให้เห็นว่าความมั่นคงชาติมีอิทธิพลเหนือกฎการแข่งขัน
HPE ต้องเปิดให้คู่แข่งเข้าถึงบางส่วนของ Mist AI ตามเงื่อนไข DOJ
เฉพาะโมเดล AI ด้านการตรวจจับและวิเคราะห์เครือข่าย
ไม่รวมระบบปฏิบัติการหรือข้อมูลลูกค้า
HPE ต้องขายธุรกิจ Aruba Instant On สำหรับ SMB ตามเงื่อนไข DOJ
เป็นธุรกิจขนาดเล็กที่แยกจาก Aruba Central
ไม่กระทบต่อธุรกิจหลักของ HPE
การควบรวมอาจลดการแข่งขันในตลาดเครือข่ายองค์กร
อาจทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกน้อยลง
ส่งผลต่อราคาหรือนวัตกรรมในระยะยาว
การแทรกแซงจากรัฐบาลอาจบั่นทอนความเป็นอิสระของหน่วยงานกำกับดูแล
เจ้าหน้าที่ DOJ ที่คัดค้านถูกปลดออกจากตำแหน่ง
สะท้อนแนวโน้มที่ “ยุทธศาสตร์ชาติ” มาก่อน “กฎตลาด”
การพึ่งพา Mist AI อาจสร้างความเสี่ยงด้านการผูกขาดข้อมูลเครือข่าย
แม้เปิดให้คู่แข่งเข้าถึงบางส่วน แต่ข้อมูลหลักยังอยู่กับ HPE
การวิเคราะห์เครือข่ายอาจถูกควบคุมโดยผู้เล่นรายเดียว
การแข่งขันกับ Huawei อาจนำไปสู่สงครามเทคโนโลยีที่ยืดเยื้อ
ประเทศกำลังพัฒนาอาจถูกบีบให้เลือกข้าง
สร้างความตึงเครียดในภูมิภาค เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
https://www.tomshardware.com/tech-industry/hpe-gets-approval-for-usd14b-acquisition-of-juniper-to-defend-ai-networking-edge-against-chinas-huawei-white-house-stepped-in-after-agencies-flagged-national-security-concerns
เดิมทีการควบรวมกิจการระหว่าง HPE กับ Juniper ถูกมองว่าเป็นการขยายพอร์ตโฟลิโอบริการ edge-to-cloud แต่เบื้องหลังกลับมีแรงผลักดันจากหน่วยข่าวกรองและทำเนียบขาวที่มองว่า Huawei กำลังกลายเป็นภัยคุกคามเชิงยุทธศาสตร์ในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทั่วโลก
Huawei เสนอระบบเครือข่ายครบวงจรที่รวมฮาร์ดแวร์ คลาวด์ และ AI ในราคาถูกกว่าคู่แข่งตะวันตก ทำให้หลายประเทศกำลังพึ่งพาเทคโนโลยีจีนมากขึ้น ซึ่งอาจลดอิทธิพลของสหรัฐฯ ในการควบคุมข้อมูลและความมั่นคงไซเบอร์
ด้วยเหตุนี้ HPE–Juniper จึงถูกผลักดันให้กลายเป็น “ทางเลือกของโลกเสรี” โดยผสานจุดแข็งของ Juniper ด้าน routing และ Mist AI เข้ากับ GreenLake และโครงสร้างพื้นฐานของ HPE เพื่อสร้างแพลตฟอร์มเครือข่ายที่ครบวงจรแบบเดียวกับ Huawei
แม้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) จะมีข้อกังวลด้านการแข่งขัน แต่สุดท้ายก็ต้องยอมให้ดีลผ่านหลังจากถูกกดดันจากหน่วยข่าวกรองและทำเนียบขาว โดยมีเจ้าหน้าที่ DOJ บางคนถูกปลดจากตำแหน่งระหว่างกระบวนการอนุมัติ
HPE ได้รับอนุมัติให้ควบรวมกิจการกับ Juniper Networks มูลค่า $14B
ประกาศดีลตั้งแต่ ม.ค. 2024 และปิดดีลใน ก.ค. 2025
สร้างหน่วยธุรกิจใหม่ “HPE Networking” โดยรวมแบรนด์ Aruba และ Juniper
ดีลนี้มีแรงผลักดันจากหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ และทำเนียบขาว
มองว่า Huawei เป็นภัยคุกคามเชิงยุทธศาสตร์
ต้องการสร้างทางเลือกให้พันธมิตรที่ไม่พึ่งพาเทคโนโลยีจีน
HPE–Juniper จะสร้างแพลตฟอร์มเครือข่ายครบวงจรแบบ AI-native
ผสาน Mist AI, routing, cloud และ edge infrastructure
เป้าหมายคือตลาดที่มีข้อมูลอ่อนไหว เช่น ภาครัฐและพันธมิตรสหรัฐฯ
DOJ เคยมีข้อกังวลด้านการแข่งขัน แต่สุดท้ายยอมให้ดีลผ่าน
เจ้าหน้าที่ DOJ 2 คนที่คัดค้านถูกปลดออก
แสดงให้เห็นว่าความมั่นคงชาติมีอิทธิพลเหนือกฎการแข่งขัน
HPE ต้องเปิดให้คู่แข่งเข้าถึงบางส่วนของ Mist AI ตามเงื่อนไข DOJ
เฉพาะโมเดล AI ด้านการตรวจจับและวิเคราะห์เครือข่าย
ไม่รวมระบบปฏิบัติการหรือข้อมูลลูกค้า
HPE ต้องขายธุรกิจ Aruba Instant On สำหรับ SMB ตามเงื่อนไข DOJ
เป็นธุรกิจขนาดเล็กที่แยกจาก Aruba Central
ไม่กระทบต่อธุรกิจหลักของ HPE
การควบรวมอาจลดการแข่งขันในตลาดเครือข่ายองค์กร
อาจทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกน้อยลง
ส่งผลต่อราคาหรือนวัตกรรมในระยะยาว
การแทรกแซงจากรัฐบาลอาจบั่นทอนความเป็นอิสระของหน่วยงานกำกับดูแล
เจ้าหน้าที่ DOJ ที่คัดค้านถูกปลดออกจากตำแหน่ง
สะท้อนแนวโน้มที่ “ยุทธศาสตร์ชาติ” มาก่อน “กฎตลาด”
การพึ่งพา Mist AI อาจสร้างความเสี่ยงด้านการผูกขาดข้อมูลเครือข่าย
แม้เปิดให้คู่แข่งเข้าถึงบางส่วน แต่ข้อมูลหลักยังอยู่กับ HPE
การวิเคราะห์เครือข่ายอาจถูกควบคุมโดยผู้เล่นรายเดียว
การแข่งขันกับ Huawei อาจนำไปสู่สงครามเทคโนโลยีที่ยืดเยื้อ
ประเทศกำลังพัฒนาอาจถูกบีบให้เลือกข้าง
สร้างความตึงเครียดในภูมิภาค เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
https://www.tomshardware.com/tech-industry/hpe-gets-approval-for-usd14b-acquisition-of-juniper-to-defend-ai-networking-edge-against-chinas-huawei-white-house-stepped-in-after-agencies-flagged-national-security-concerns
🧠 เรื่องเล่าจากสนามแข่งขันโครงสร้างพื้นฐานโลก: เมื่อดีล HPE–Juniper กลายเป็นยุทธศาสตร์ชาติ
เดิมทีการควบรวมกิจการระหว่าง HPE กับ Juniper ถูกมองว่าเป็นการขยายพอร์ตโฟลิโอบริการ edge-to-cloud แต่เบื้องหลังกลับมีแรงผลักดันจากหน่วยข่าวกรองและทำเนียบขาวที่มองว่า Huawei กำลังกลายเป็นภัยคุกคามเชิงยุทธศาสตร์ในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทั่วโลก
Huawei เสนอระบบเครือข่ายครบวงจรที่รวมฮาร์ดแวร์ คลาวด์ และ AI ในราคาถูกกว่าคู่แข่งตะวันตก ทำให้หลายประเทศกำลังพึ่งพาเทคโนโลยีจีนมากขึ้น ซึ่งอาจลดอิทธิพลของสหรัฐฯ ในการควบคุมข้อมูลและความมั่นคงไซเบอร์
ด้วยเหตุนี้ HPE–Juniper จึงถูกผลักดันให้กลายเป็น “ทางเลือกของโลกเสรี” โดยผสานจุดแข็งของ Juniper ด้าน routing และ Mist AI เข้ากับ GreenLake และโครงสร้างพื้นฐานของ HPE เพื่อสร้างแพลตฟอร์มเครือข่ายที่ครบวงจรแบบเดียวกับ Huawei
แม้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) จะมีข้อกังวลด้านการแข่งขัน แต่สุดท้ายก็ต้องยอมให้ดีลผ่านหลังจากถูกกดดันจากหน่วยข่าวกรองและทำเนียบขาว โดยมีเจ้าหน้าที่ DOJ บางคนถูกปลดจากตำแหน่งระหว่างกระบวนการอนุมัติ
✅ HPE ได้รับอนุมัติให้ควบรวมกิจการกับ Juniper Networks มูลค่า $14B
➡️ ประกาศดีลตั้งแต่ ม.ค. 2024 และปิดดีลใน ก.ค. 2025
➡️ สร้างหน่วยธุรกิจใหม่ “HPE Networking” โดยรวมแบรนด์ Aruba และ Juniper
✅ ดีลนี้มีแรงผลักดันจากหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ และทำเนียบขาว
➡️ มองว่า Huawei เป็นภัยคุกคามเชิงยุทธศาสตร์
➡️ ต้องการสร้างทางเลือกให้พันธมิตรที่ไม่พึ่งพาเทคโนโลยีจีน
✅ HPE–Juniper จะสร้างแพลตฟอร์มเครือข่ายครบวงจรแบบ AI-native
➡️ ผสาน Mist AI, routing, cloud และ edge infrastructure
➡️ เป้าหมายคือตลาดที่มีข้อมูลอ่อนไหว เช่น ภาครัฐและพันธมิตรสหรัฐฯ
✅ DOJ เคยมีข้อกังวลด้านการแข่งขัน แต่สุดท้ายยอมให้ดีลผ่าน
➡️ เจ้าหน้าที่ DOJ 2 คนที่คัดค้านถูกปลดออก
➡️ แสดงให้เห็นว่าความมั่นคงชาติมีอิทธิพลเหนือกฎการแข่งขัน
✅ HPE ต้องเปิดให้คู่แข่งเข้าถึงบางส่วนของ Mist AI ตามเงื่อนไข DOJ
➡️ เฉพาะโมเดล AI ด้านการตรวจจับและวิเคราะห์เครือข่าย
➡️ ไม่รวมระบบปฏิบัติการหรือข้อมูลลูกค้า
✅ HPE ต้องขายธุรกิจ Aruba Instant On สำหรับ SMB ตามเงื่อนไข DOJ
➡️ เป็นธุรกิจขนาดเล็กที่แยกจาก Aruba Central
➡️ ไม่กระทบต่อธุรกิจหลักของ HPE
‼️ การควบรวมอาจลดการแข่งขันในตลาดเครือข่ายองค์กร
⛔ อาจทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกน้อยลง
⛔ ส่งผลต่อราคาหรือนวัตกรรมในระยะยาว
‼️ การแทรกแซงจากรัฐบาลอาจบั่นทอนความเป็นอิสระของหน่วยงานกำกับดูแล
⛔ เจ้าหน้าที่ DOJ ที่คัดค้านถูกปลดออกจากตำแหน่ง
⛔ สะท้อนแนวโน้มที่ “ยุทธศาสตร์ชาติ” มาก่อน “กฎตลาด”
‼️ การพึ่งพา Mist AI อาจสร้างความเสี่ยงด้านการผูกขาดข้อมูลเครือข่าย
⛔ แม้เปิดให้คู่แข่งเข้าถึงบางส่วน แต่ข้อมูลหลักยังอยู่กับ HPE
⛔ การวิเคราะห์เครือข่ายอาจถูกควบคุมโดยผู้เล่นรายเดียว
‼️ การแข่งขันกับ Huawei อาจนำไปสู่สงครามเทคโนโลยีที่ยืดเยื้อ
⛔ ประเทศกำลังพัฒนาอาจถูกบีบให้เลือกข้าง
⛔ สร้างความตึงเครียดในภูมิภาค เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
https://www.tomshardware.com/tech-industry/hpe-gets-approval-for-usd14b-acquisition-of-juniper-to-defend-ai-networking-edge-against-chinas-huawei-white-house-stepped-in-after-agencies-flagged-national-security-concerns
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
69 มุมมอง
0 รีวิว