• 33 ปี โศกนาฏกรรมตายหมู่! ทัวร์แสวงบุญเกาะสีชัง เรือบรรทุกน้ำมันชนเรือโดยสาร เสียชีวิต 119 ศพ รอดแค่ 15 คน

    ย้อนรอยเหตุการณ์สุดสลด หนึ่งในอุบัติเหตุทางน้ำ ที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในไทย

    เมื่อเส้นทางบุญกลายเป็นเส้นทางมรณะ วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2535 กลายเป็นวันที่ชาวไทยไม่มีวันลืม วันนั้นมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางไปยังเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เพื่อเข้าร่วมพิธีนมัสการเจ้าพ่อเขาใหญ่ เทศกาลสำคัญที่จัดขึ้นทุกปีโ ดยเฉพาะช่วงตรุษจีน แต่การเดินทางกลับของกรุ๊ปทัวร์แสวงบุญ กลับกลายเป็นโศกนาฏกรรมทางน้ำ ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย

    เรือโดยสาร "นาวาประทีป 111" ที่บรรทุกนักแสวงบุญกว่า 134 คน ต้องจบเส้นทางลงกลางทะเล เมื่อถูก เรือบรรทุกน้ำมัน "บีพีพี 9" พุ่งชนอย่างจัง ทำให้เรือแตกเป็นสองท่อน และจมลงสู้ก้นทะเลอย่างรวดเร็ว

    เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 119 ศพ รอดชีวิตเพียง 15 คน เท่านั้น!

    จุดเกิดเหตุบริเวณกลางอ่าวไทย ห่างจากฝั่งศรีราชา 7 กิโลเมตร

    ไทม์ไลน์ของโศกนาฏกรรม
    04.00 น. "นาวาประทีป 111" ออกเดินทางจากเกาะสีชัง มุ่งหน้าสู่ฝั่งศรีราชา
    04.15 น. "บีพีพี 9" เรือบรรทุกน้ำมันกำลังแล่นมา ใกล้เส้นทางเรือโดยสาร
    04.20 น. บีพีพี 9 เปิดหวูดเตือน แต่ "นาวาประทีป 111" ยังคงเร่งเครื่อง
    04.22 น. การชนเกิดขึ้น! เรือนาวาประทีป 111 ถูกชนตรงกลางลำจน ขาดออกเป็นสองท่อน
    04.23 น. เรือจมลงภายใน ไม่กี่นาที

    ผู้โดยสารส่วนใหญ่ติดอยู่ในห้องโดยสารชั้นล่าง และไม่สามารถหนีออกมาได้ เพราะหน้าต่างกระจกปิดแน่น

    สาเหตุที่แท้จริงของโศกนาฏกรรม
    ข้อผิดพลาดของคนขับเรือ วันนั้นกัปตันเรือตัวจริงไม่มาทำงาน นายช่างเครื่องเป็นคนขับแทน แต่ไม่มีทักษะเพียงพอ ตัดสินใจเร่งเครื่องผ่านหน้าเรือบรรทุกน้ำมัน ทำให้พุ่งชนเต็มแรง

    มาตรฐานความปลอดภัยที่ต่ำ เรือไม่มีเสื้อชูชีพเพียงพอ ไม่มีแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
    ผู้โดยสารส่วนใหญ่นอนหลับ และไม่รู้ตัวทันทีที่เกิดเหตุ

    3ขับเรือโดยประมาท + อาจเกิดหลับใน คนขับเรือเกิดอาการหลับใน หรือขาดประสบการณ์
    ไม่มีการใช้สัญญาณเตือนที่เหมาะสม ระหว่างสองเรือ

    ความผิดพลาดในการสื่อสาร แม้เรือบรรทุกน้ำมันจะเปิดหวูดเตือน แต่เรือโดยสารกลับไม่ตอบสนองทัน อีกทั้งยังไม่มีการแจ้งเตือนผู้โดยสาร ให้เตรียมพร้อมหนี

    ผู้โดยสารที่รอดชีวิต ถูกช่วยขึ้นจากทะเล โดยเรือชาวประมงและกองทัพเรือ ทีมกู้ภัยต้องใช้เวลาหลายวัน กว่าจะกู้ร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดขึ้นมาได้ สร้างความเศร้าโศกให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย และกลายเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศ

    มาตรการความปลอดภัย ที่เพิ่มขึ้นหลังเหตุการณ์
    หลังเหตุการณ์นี้ รัฐบาลไทยออกมาตรการ ควบคุมเรือโดยสารเข้มงวดขึ้น
    ต้องมีเสื้อชูชีพ เพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสาร
    กัปตันเรือต้องมีใบอนุญาตขับเรือ ที่ได้รับการรับรอง
    เพิ่มกฎควบคุมการใช้สัญญาณเตือน ระหว่างเรือขนาดใหญ่
    เพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัย ของเรือโดยสารก่อนออกเดินทาง

    บทเรียนจากโศกนาฏกรรมที่ไม่มีวันลืม
    "ความประมาท" อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
    การไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย ส่งผลต่อชีวิตของผู้โดยสาร
    เสื้อชูชีพ = ชีวิต ผู้โดยสารทุกคน ควรได้รับอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่เพียงพอ
    คนขับเรือต้องมีทักษะ และความรับผิดชอบสูง ห้ามให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตขับแทนเด็ดขาด

    แม้เวลาจะผ่านไป ความสูญเสียยังคงอยู่ แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะผ่านมาแล้วกว่า 33 ปี แต่ยังคงเป็น เครื่องเตือนใจ ให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญ ของความปลอดภัยทางน้ำ

    "เกาะสีชัง" ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม แต่ทุกคนที่เดินทาง ควรคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยเสมอ เพราะความประมาทเพียงเสี้ยววินาที อาจเปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 081450 มี.ค. 2568

    #โศกนาฏกรรมเรือโดยสาร #เรือบรรทุกน้ำมันชนเรือโดยสาร #119ศพเรือล่ม #ความปลอดภัยทางน้ำ #33ปีแห่งความสูญเสีย #เกาะสีชัง #เรืออับปาง #อุบัติเหตุทางน้ำ #อย่าประมาท #ความปลอดภัยต้องมาก่อน
    33 ปี โศกนาฏกรรมตายหมู่! ทัวร์แสวงบุญเกาะสีชัง เรือบรรทุกน้ำมันชนเรือโดยสาร เสียชีวิต 119 ศพ รอดแค่ 15 คน ⏳ ย้อนรอยเหตุการณ์สุดสลด หนึ่งในอุบัติเหตุทางน้ำ ที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในไทย 🔴 เมื่อเส้นทางบุญกลายเป็นเส้นทางมรณะ วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2535 กลายเป็นวันที่ชาวไทยไม่มีวันลืม 💔 วันนั้นมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางไปยังเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เพื่อเข้าร่วมพิธีนมัสการเจ้าพ่อเขาใหญ่ เทศกาลสำคัญที่จัดขึ้นทุกปีโ ดยเฉพาะช่วงตรุษจีน แต่การเดินทางกลับของกรุ๊ปทัวร์แสวงบุญ กลับกลายเป็นโศกนาฏกรรมทางน้ำ ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย 😢 ⛴️ เรือโดยสาร "นาวาประทีป 111" ที่บรรทุกนักแสวงบุญกว่า 134 คน ต้องจบเส้นทางลงกลางทะเล เมื่อถูก เรือบรรทุกน้ำมัน "บีพีพี 9" พุ่งชนอย่างจัง ทำให้เรือแตกเป็นสองท่อน และจมลงสู้ก้นทะเลอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 119 ศพ รอดชีวิตเพียง 15 คน เท่านั้น! 📍 จุดเกิดเหตุบริเวณกลางอ่าวไทย ห่างจากฝั่งศรีราชา 7 กิโลเมตร ⚠️ ⏳ ไทม์ไลน์ของโศกนาฏกรรม ✅ 04.00 น. "นาวาประทีป 111" ออกเดินทางจากเกาะสีชัง มุ่งหน้าสู่ฝั่งศรีราชา ✅ 04.15 น. "บีพีพี 9" เรือบรรทุกน้ำมันกำลังแล่นมา ใกล้เส้นทางเรือโดยสาร ✅ 04.20 น. บีพีพี 9 เปิดหวูดเตือน 🚨 แต่ "นาวาประทีป 111" ยังคงเร่งเครื่อง ✅ 04.22 น. การชนเกิดขึ้น! เรือนาวาประทีป 111 ถูกชนตรงกลางลำจน ขาดออกเป็นสองท่อน ✅ 04.23 น. เรือจมลงภายใน ไม่กี่นาที 💔 ผู้โดยสารส่วนใหญ่ติดอยู่ในห้องโดยสารชั้นล่าง และไม่สามารถหนีออกมาได้ เพราะหน้าต่างกระจกปิดแน่น 🛑 สาเหตุที่แท้จริงของโศกนาฏกรรม 🚢 ข้อผิดพลาดของคนขับเรือ วันนั้นกัปตันเรือตัวจริงไม่มาทำงาน 😡 นายช่างเครื่องเป็นคนขับแทน แต่ไม่มีทักษะเพียงพอ ตัดสินใจเร่งเครื่องผ่านหน้าเรือบรรทุกน้ำมัน ทำให้พุ่งชนเต็มแรง ⛑️ มาตรฐานความปลอดภัยที่ต่ำ เรือไม่มีเสื้อชูชีพเพียงพอ ❌ ไม่มีแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ผู้โดยสารส่วนใหญ่นอนหลับ และไม่รู้ตัวทันทีที่เกิดเหตุ 💤 3ขับเรือโดยประมาท + อาจเกิดหลับใน คนขับเรือเกิดอาการหลับใน หรือขาดประสบการณ์ ไม่มีการใช้สัญญาณเตือนที่เหมาะสม ระหว่างสองเรือ 🚨 ความผิดพลาดในการสื่อสาร แม้เรือบรรทุกน้ำมันจะเปิดหวูดเตือน แต่เรือโดยสารกลับไม่ตอบสนองทัน อีกทั้งยังไม่มีการแจ้งเตือนผู้โดยสาร ให้เตรียมพร้อมหนี 🆘 ผู้โดยสารที่รอดชีวิต ถูกช่วยขึ้นจากทะเล โดยเรือชาวประมงและกองทัพเรือ 🛳️ ทีมกู้ภัยต้องใช้เวลาหลายวัน กว่าจะกู้ร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดขึ้นมาได้ 💔 สร้างความเศร้าโศกให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย และกลายเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศ 🚢 มาตรการความปลอดภัย ที่เพิ่มขึ้นหลังเหตุการณ์ 🏛️ หลังเหตุการณ์นี้ รัฐบาลไทยออกมาตรการ ควบคุมเรือโดยสารเข้มงวดขึ้น ✅ ต้องมีเสื้อชูชีพ เพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสาร ✅ กัปตันเรือต้องมีใบอนุญาตขับเรือ ที่ได้รับการรับรอง ✅ เพิ่มกฎควบคุมการใช้สัญญาณเตือน ระหว่างเรือขนาดใหญ่ ✅ เพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัย ของเรือโดยสารก่อนออกเดินทาง 📌 บทเรียนจากโศกนาฏกรรมที่ไม่มีวันลืม 🔹 "ความประมาท" อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง 🔹 การไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย ส่งผลต่อชีวิตของผู้โดยสาร 🔹 เสื้อชูชีพ = ชีวิต ผู้โดยสารทุกคน ควรได้รับอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่เพียงพอ 🔹 คนขับเรือต้องมีทักษะ และความรับผิดชอบสูง ห้ามให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตขับแทนเด็ดขาด 📍 แม้เวลาจะผ่านไป ความสูญเสียยังคงอยู่ แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะผ่านมาแล้วกว่า 33 ปี แต่ยังคงเป็น เครื่องเตือนใจ ให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญ ของความปลอดภัยทางน้ำ ⛴️ 🏝️ "เกาะสีชัง" ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม แต่ทุกคนที่เดินทาง ควรคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยเสมอ เพราะความประมาทเพียงเสี้ยววินาที อาจเปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 081450 มี.ค. 2568 📢 #โศกนาฏกรรมเรือโดยสาร #เรือบรรทุกน้ำมันชนเรือโดยสาร #119ศพเรือล่ม #ความปลอดภัยทางน้ำ #33ปีแห่งความสูญเสีย #เกาะสีชัง #เรืออับปาง #อุบัติเหตุทางน้ำ #อย่าประมาท #ความปลอดภัยต้องมาก่อน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1173 มุมมอง 0 รีวิว
  • 34 ปี โศกนาฏกรรมทุ่งมะพร้าว รถบรรทุกแก๊ปไฟฟ้าคว่ำ รุมงัดตู้คอนเทนเนอร์ หวังฉกสินค้า ก่อนระเบิดคร่า 140 ชีวิต บาดเจ็บนับร้อย

    โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ที่สะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศ ย้อนกลับไปเมื่อ 34 ปี ที่ผ่านมา กับเหตุการณ์สุดสลด ที่ทุ่งมะพร้าว อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา รถบรรทุกแก๊ปไฟฟ้าคว่ำ ชาวบ้านแห่รุมเก็บของ โดยไม่รู้ถึงอันตราย และสุดท้ายเกิดระเบิดครั้งใหญ่ ที่พรากชีวิตผู้คนไปถึง 140 คน และบาดเจ็บอีกนับร้อย

    วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2534 เวลา 17.30 น. รถบรรทุกที่บรรจุ แก๊ปไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุปกรณ์จุดระเบิดสำหรับการทำเหมือง และงานก่อสร้าง ออกเดินทางจากภูเก็ต มุ่งหน้าไปสระบุรี

    แต่เมื่อขบวนรถถึง สามแยกตลาดทุ่งมะพร้าว จังหวัดพังงา รถบรรทุกสิบล้อเกิดเสียหลัก แหกโค้งพลิกคว่ำ ส่งผลให้ลังไม้ที่บรรจุแก๊ปไฟฟ้า กระจัดกระจายเกลื่อนทั่วถนน

    ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เข้าใจผิด คิดว่าเป็นของมีค่า รีบกรูกันเข้าไปเก็บ โดยไม่ฟังคำเตือนของตำรวจ ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลาย เป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่

    ต้นเหตุของโศกนาฏกรรม รถบรรทุกแก๊ปไฟฟ้าคว่ำ
    ขบวนรถบรรทุกอันตราย
    - รถบรรทุก 10 ล้อ 1 คัน
    - รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ 1 คัน
    - มีรถวิทยุตรวจเขต ตำรวจทางหลวงนำขบวน

    เมื่อถึง กม.ที่ 41-42 บริเวณทางโค้ง สามแยกตลาดทุ่งมะพร้าว อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา รถบรรทุกสิบล้อ เสียหลักแหกโค้งพลิกคว่ำ ทำให้ลังบรรจุแก๊ปไฟฟ้า หล่นกระจัดกระจาย เกลื่อนเต็มพื้นถนน

    แก๊ปไฟฟ้า คืออะไร?
    เป็นอุปกรณ์ระเบิดที่ใช้ในเหมืองแร่ จุดระเบิดง่ายจากแรงกระแทก หรือประกายไฟ ถูกบรรจุมาในลังไม้ แต่เมื่อตกกระจายออกมา ก็มีความเสี่ยงสูง

    ชุลมุนชิงของ ก่อนเปลี่ยนเป็นหายนะ
    ชาวบ้านหลั่งไหลมาเก็บแก๊ปไฟฟ้า
    เข้าใจผิด คิดว่าเป็นวัตถุมีค่า โดยไม่ฟังคำเตือนของตำรวจทางหลวง ตำรวจภูธรพยายามกันประชาชน ออกจากพื้นที่ แต่ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้

    การจราจรติดขัด
    รถบัสโดยสาร บขส. สายกรุงเทพฯ-ภูเก็ต จอดรอ รถสองแถว และจักรยานยนต์หลายสิบคัน

    จุดเปลี่ยนของโศกนาฏกรรม
    มีไทยมุงพยายามงัดตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อดูว่ามีของมีค่าหรือไม่ บางคนนำชะแลงเหล็กมางัด จนเกิดประกายไฟ หรือแรงกระแทก อาจเป็นชนวนให้เกิดระเบิด

    ระเบิดสังหาร 140 ศพ: แรงอัดกระแทกมหาศาล
    เวลา 18.30 น. เกิดระเบิดสนั่นหวั่นไหว
    เปลวเพลิงลุกท่วม แรงระเบิดแผ่ไปไกล 1 กม. อาคารโดยรอบพังยับ เช่น โรงเรียน สถานีอนามัย ศาลาอเนกประสงค์

    สภาพศพและผู้บาดเจ็บ
    เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 60 คน ถูกไฟคลอกและแรงระเบิด ทำให้ร่างแหลกเหลว ในรถบัสโดยสาร ผู้โดยสารเสียชีวิตเกือบทั้งหมด มีผู้บาดเจ็บสาหัส ที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลอีก 60 คน

    เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือ
    ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหลายจังหวัด เดินทางมาให้การช่วยเหลือ เกรงว่าอาจเกิดระเบิดซ้ำ จึงต้องทำงานอย่างระมัดระวัง

    ผลกระทบและบทเรียนจากเหตุการณ์
    สาเหตุที่แท้จริงของระเบิด
    - แก๊ปไฟฟ้าไวต่อแรงกระแทก
    - การขาดความรู้ของประชาชน
    - การละเลยคำเตือนของเจ้าหน้าที่

    บทเรียนสำคัญ
    - การขนส่งวัตถุอันตราย ควรมีมาตรการรัดกุมกว่านี้
    - ประชาชนควรมีความรู้ เกี่ยวกับอันตรายของวัตถุระเบิด
    - ควรมีมาตรการควบคุมพื้นที่ทันที เมื่อเกิดเหตุร้ายแรง

    โศกนาฏกรรมที่ไม่ควรเกิดขึ้นอีก
    โศกนาฏกรรมทุ่งมะพร้าว เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่รุนแรง และสะเทือนขวัญที่สุด ในประวัติศาสตร์ไทย การระเบิดที่เกิดจากความประมาท และความไม่รู้ ได้คร่าชีวิต 140 คน และทำให้บาดเจ็บอีกหลายร้อย

    เราเรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์นี้?
    - อย่าเข้าใกล้วัตถุอันตรายโดยไม่มีความรู้
    - ฟังคำเตือนของเจ้าหน้าที่เสมอ
    - การขนส่งวัตถุอันตราย ต้องมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด

    ขอให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 151151 ก.พ. 2568

    #โศกนาฏกรรมทุ่งมะพร้าว #34ปีที่แล้ว #รถบรรทุกคว่ำ #แก๊ปไฟฟ้า #ระเบิดครั้งใหญ่ #ไทยมุง #ภัยจากความไม่รู้ #บทเรียนครั้งใหญ่ #โศกนาฏกรรมไทย #ความปลอดภัยต้องมาก่อน
    34 ปี โศกนาฏกรรมทุ่งมะพร้าว รถบรรทุกแก๊ปไฟฟ้าคว่ำ รุมงัดตู้คอนเทนเนอร์ หวังฉกสินค้า ก่อนระเบิดคร่า 140 ชีวิต บาดเจ็บนับร้อย 😢 โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ที่สะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศ ย้อนกลับไปเมื่อ 34 ปี ที่ผ่านมา กับเหตุการณ์สุดสลด ที่ทุ่งมะพร้าว อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา รถบรรทุกแก๊ปไฟฟ้าคว่ำ ชาวบ้านแห่รุมเก็บของ โดยไม่รู้ถึงอันตราย และสุดท้ายเกิดระเบิดครั้งใหญ่ ที่พรากชีวิตผู้คนไปถึง 140 คน และบาดเจ็บอีกนับร้อย 📅 วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2534 เวลา 17.30 น. รถบรรทุกที่บรรจุ แก๊ปไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุปกรณ์จุดระเบิดสำหรับการทำเหมือง และงานก่อสร้าง ออกเดินทางจากภูเก็ต มุ่งหน้าไปสระบุรี แต่เมื่อขบวนรถถึง สามแยกตลาดทุ่งมะพร้าว จังหวัดพังงา รถบรรทุกสิบล้อเกิดเสียหลัก แหกโค้งพลิกคว่ำ ส่งผลให้ลังไม้ที่บรรจุแก๊ปไฟฟ้า กระจัดกระจายเกลื่อนทั่วถนน ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เข้าใจผิด คิดว่าเป็นของมีค่า รีบกรูกันเข้าไปเก็บ โดยไม่ฟังคำเตือนของตำรวจ ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลาย เป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ 😢 ต้นเหตุของโศกนาฏกรรม รถบรรทุกแก๊ปไฟฟ้าคว่ำ 🚛 ขบวนรถบรรทุกอันตราย - รถบรรทุก 10 ล้อ 1 คัน - รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ 1 คัน - มีรถวิทยุตรวจเขต ตำรวจทางหลวงนำขบวน เมื่อถึง กม.ที่ 41-42 บริเวณทางโค้ง สามแยกตลาดทุ่งมะพร้าว อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา รถบรรทุกสิบล้อ เสียหลักแหกโค้งพลิกคว่ำ ทำให้ลังบรรจุแก๊ปไฟฟ้า หล่นกระจัดกระจาย เกลื่อนเต็มพื้นถนน 🔴 แก๊ปไฟฟ้า คืออะไร? เป็นอุปกรณ์ระเบิดที่ใช้ในเหมืองแร่ จุดระเบิดง่ายจากแรงกระแทก หรือประกายไฟ ถูกบรรจุมาในลังไม้ แต่เมื่อตกกระจายออกมา ก็มีความเสี่ยงสูง ชุลมุนชิงของ ก่อนเปลี่ยนเป็นหายนะ 👥 ชาวบ้านหลั่งไหลมาเก็บแก๊ปไฟฟ้า เข้าใจผิด คิดว่าเป็นวัตถุมีค่า โดยไม่ฟังคำเตือนของตำรวจทางหลวง ตำรวจภูธรพยายามกันประชาชน ออกจากพื้นที่ แต่ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ 🚍 การจราจรติดขัด รถบัสโดยสาร บขส. สายกรุงเทพฯ-ภูเก็ต จอดรอ รถสองแถว และจักรยานยนต์หลายสิบคัน 📢 จุดเปลี่ยนของโศกนาฏกรรม มีไทยมุงพยายามงัดตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อดูว่ามีของมีค่าหรือไม่ บางคนนำชะแลงเหล็กมางัด จนเกิดประกายไฟ หรือแรงกระแทก อาจเป็นชนวนให้เกิดระเบิด ระเบิดสังหาร 140 ศพ: แรงอัดกระแทกมหาศาล 💥 เวลา 18.30 น. เกิดระเบิดสนั่นหวั่นไหว เปลวเพลิงลุกท่วม แรงระเบิดแผ่ไปไกล 1 กม. อาคารโดยรอบพังยับ เช่น โรงเรียน สถานีอนามัย ศาลาอเนกประสงค์ 🩸 สภาพศพและผู้บาดเจ็บ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 60 คน ถูกไฟคลอกและแรงระเบิด ทำให้ร่างแหลกเหลว ในรถบัสโดยสาร ผู้โดยสารเสียชีวิตเกือบทั้งหมด มีผู้บาดเจ็บสาหัส ที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลอีก 60 คน 🚔 เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือ ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหลายจังหวัด เดินทางมาให้การช่วยเหลือ เกรงว่าอาจเกิดระเบิดซ้ำ จึงต้องทำงานอย่างระมัดระวัง ผลกระทบและบทเรียนจากเหตุการณ์ 🔍 สาเหตุที่แท้จริงของระเบิด - แก๊ปไฟฟ้าไวต่อแรงกระแทก - การขาดความรู้ของประชาชน - การละเลยคำเตือนของเจ้าหน้าที่ 📌 บทเรียนสำคัญ - การขนส่งวัตถุอันตราย ควรมีมาตรการรัดกุมกว่านี้ - ประชาชนควรมีความรู้ เกี่ยวกับอันตรายของวัตถุระเบิด - ควรมีมาตรการควบคุมพื้นที่ทันที เมื่อเกิดเหตุร้ายแรง โศกนาฏกรรมที่ไม่ควรเกิดขึ้นอีก ⚠️ โศกนาฏกรรมทุ่งมะพร้าว เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่รุนแรง และสะเทือนขวัญที่สุด ในประวัติศาสตร์ไทย การระเบิดที่เกิดจากความประมาท และความไม่รู้ ได้คร่าชีวิต 140 คน และทำให้บาดเจ็บอีกหลายร้อย ❗ เราเรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์นี้? - อย่าเข้าใกล้วัตถุอันตรายโดยไม่มีความรู้ - ฟังคำเตือนของเจ้าหน้าที่เสมอ - การขนส่งวัตถุอันตราย ต้องมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด 🙏 ขอให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 151151 ก.พ. 2568 🔖 #โศกนาฏกรรมทุ่งมะพร้าว #34ปีที่แล้ว #รถบรรทุกคว่ำ #แก๊ปไฟฟ้า #ระเบิดครั้งใหญ่ #ไทยมุง #ภัยจากความไม่รู้ #บทเรียนครั้งใหญ่ #โศกนาฏกรรมไทย #ความปลอดภัยต้องมาก่อน 🔁 🚨
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1034 มุมมอง 0 รีวิว