• The fierce battle in your palm
    #AiImage #IamAmatureAiCreator
    The fierce battle in your palm #AiImage #IamAmatureAiCreator
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุยกันเรื่องวังหลังของเฉียนหลงฮ่องเต้มาหลายสัปดาห์ วันนี้ยังคุยกันเรื่องนี้ แต่เปลี่ยนเป็นละครเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> เป็นเรื่องที่เพื่อนเพจท่านหนึ่งถามถึงเกี่ยวกับเรื่องราวของภาพวาดที่พูดถึงในละคร

    ท่านใดที่ได้เคยดูละครหรืออ่านนิยายเรื่องนี้จะทราบว่า เฉียนหลงฮ่องเต้ทรงพระราชทานรูปภาพทั้งหมดสิบสองภาพให้แก่เหล่าพระมเหสี โดยในเรื่องมีการเล่าถึงความหมายของบางรูปภาพและมีการตีความกันไปต่างๆ นาๆ ว่าองค์เฉียนหลงทรงหมายถึงอะไร ในเรื่องนั้นองค์เฉียนหลงทรงต้องการให้พวกนางไปใช้เวลาไปตีความหมายกันเองจะได้ไม่มีเรื่องราวมากวนพระทัย แต่แน่นอนว่าภาพวาดเหล่านี้ล้วนมีเรื่องราวของมัน คงต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าเราจะคุยจบทั้ง 12 ภาพวาด อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ

    ภาพทั้งสิบสองภาพนี้ถูกเรียกรวมว่า ‘กงซวิ่นถู’ (宫训图 แปลตรงตัวว่า พระราชวัง+คำสอน+ภาพ) ได้รับการวาดขึ้นคู่กับบทกวีสิบสองบทที่เรียกว่า ‘กงซวิ่นซือ’ (宫训诗 แปลตรงตัวว่า พระราชวัง+คำสอน+บทกวี) ที่ทรงให้เหล่าขุนนางเป็นผู้แต่งและจัดทำเป็นป้ายสี่อักษรที่สื่อถึงบทกวีเต็ม และได้ทรงกำหนดไว้ว่า ในทุกวันที่ 26 เดือน 12 ตามปฏิทินจีน (คือห้าวันก่อนตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงเวลาจัดเตรียมการฉลองวันตรุษ) ทั้งสิบสองตำหนักต้องเอาภาพและป้ายอักษรดังกล่าวออกมาแขวน โดยภาพวาดให้แขวนไว้บนผนังทิศตะวันตก ส่วนป้ายอักษรให้แขวนไว้บนผนังทิศตะวันออก รอจนวันที่ 2 เดือน 2 จึงจะปลดลงได้

    ภาพแรกที่จะคุยกันวันนี้เป็นภาพที่องค์เฉียนหลงพระราชทานให้ฮองเฮา เซี่ยวเสียนฉุนหวงโฮ่วแห่งพระตำหนักฉางชุนกง มีชื่อว่าภาพวาด ‘ไท่ซึฮุ่ยจื่อ’ (太姒诲子/ไท่ซึสอนบุตร)

    ‘ไท่ซึ’ คือใคร? ไท่ซึเป็นชายาเอกในองค์โจวเหวินหวาง อ๋องผู้ปกครองแคว้นโจวในสมัยปลายราชวงศ์ซางระหว่างปี 1110-1050 ก่อนคริสตกาลและเป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์โจว (หมายเหตุ คือองค์โจวเหวินหวางผู้ทรงกำหนดเพิ่มสายพิณเส้นที่หกที่มีชื่อว่า เซ่ากง บนพิณโบราณกู่ฉินเพื่อเป็นการระลึกถึงโอรสที่วายชนม์ ซึ่ง Storyฯ เคยเล่าถึงตอนคุยเรื่องชื่อของสายพิณจากละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/569581261836837 )

    จากบันทึกโบราณและบทกวีต่างๆ ที่กล่าวถึง ว่ากันว่า ไท่ซึมีรูปโฉมและจริยวัตรงดงามและมีเมตตา เป็นผู้ที่ถูกยกย่องว่าเป็นคู่ครองที่เหมาะสมกับโจวเหวินหวางและเป็นมารดาที่ดีแห่งแคว้น (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์) นางมีบุตรชายสิบคนให้กับโจวเหวินหวาง ซึ่งเป็นที่กล่าวขานว่านางสั่งสอนบุตรอย่างเข้มงวดจนเป็นคนดีมีความกตัญญูทุกคน

    มีเรื่องราวต่อมาอีกว่า โอรสคนโตของนางและโจวเหวินหวาง นามว่า ป๋ออี้เข่า นั้น ในตำนานว่ากันว่าเป็นบุรุษรูปงาม เชี่ยวชาญด้านพิณ และขึ้นชื่อว่าเป็นบุตรที่กตัญญูมาก ในสมัยนั้นโจ้วหวางผู้เป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซางเพ่งเล็งและระแวงในแคว้นโจว และเพื่อเป็นการปกป้องโจวเหวินหวางและแคว้น ป๋ออี้เข่ายอมจากบ้านเกิดมาเป็นตัวประกันที่ราชสำนักซาง

    โจ้วหวางมีมเหสีที่รักมากชื่อว่าต๋าจี่ ผู้มีความงามอย่างที่หาใครเปรียบได้ยาก ตามตำนานเล่าว่า ต๋าจี่หลงรักป๋ออี้เข่าตั้งแต่แรกพบ เลยใช้ข้ออ้างขอเรียนพิณเพื่อเข้าใกล้ป๋ออี้เข่า แต่เขาไม่มีใจให้นาง นางโกรธแค้นเขามาก จึงสร้างเรื่องว่าถูกเขาลวนลาม ทำให้โจ้วหวางโกรธจนสังหารป๋ออี้เข่าทิ้ง ไม่แน่ใจว่าเพื่อนเพจเริ่มคุ้นหูคุ้นตากันบ้างไหมกับชื่อ ‘ต๋าจี่’ นี้ แต่นี่คือเรื่องเล่าในตำนานสงครามเทพ <เฟิงเสิน> และต๋าจี่คือนางงามที่เป็นปีศาจจิ้งจอกจำแลงนั่นเอง

    โจ้วหวางถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นทรราชเพราะมีพฤติกรรมโหดเหี้ยมอำมหิตมากมาย ต๋าจี่กลายเป็นตำนานนางจิ้งจอก เป็นตัวแทนของหญิงงามล่มเมือง และเรื่องราวของป๋ออี้เข่าเป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดต่อครอบครัวของโจวเหวินหวางและไท่ซึ และเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้โจวเหวินหวางลุกขึ้นเป็นปฏิปักษ์ต่อราชวงศ์ซางและสถาปนาตนขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์โจว ต่อมาบุตรชายคนรองคือโจวอู่หวางก็โค่นล้มราชวงศ์ซางได้สำเร็จ (และในเรื่องชื่อของสายพิณที่ Storyฯ เคยเล่าถึงไปแล้วนั้น โจวอู่หวางคือผู้ที่เสริมสายพิณเส้นที่เจ็ดเข้าไปในพิณโบราณกู่ฉินและตั้งชื่อสายพิณเส้นนั้นว่า เซ่าซาง เพื่อเป็นการรำลึกถึงการล้มราชวงศ์ซางได้สำเร็จ)

    ดูจะเชื่อมโยงตัวละครจากหลากหลายบทความที่ Storyฯ เคยเขียนถึง ลองย้อนกลับไปอ่านบทความเก่าๆ กันนะคะ จะได้ไม่งง

    สรุปว่า ภาพวาด ‘ไท่ซึฮุ่ยจื่อ’ นี้แฝงไว้ซึ่งเรื่องราวความกตัญญูและโศกนาฏกรรมของป๋ออี้เข่า อารมณ์แฝงอาจสอดคล้องกับอารมณ์ที่โศกเศร้าของฮองเฮาเซี่ยวเสียนฉุนที่ต้องสูญเสียพระโอรสไปก่อนเวลาอันควร แต่ยังสะท้อนถึงจริยวัตรของการเป็นมารดาที่สั่งสอนบุตรอย่างดีอีกด้วย ส่วนป้ายอักษรที่มาคู่กับภาพนี้คือ ‘จิ้งซิวเน่ยเจ๋อ’ (敬休内则) มีความหมายประมาณว่า วางตนอย่างสงบและบริหารงานภายในครอบครัวให้เรียบร้อย

    จึงเป็นที่มาของการตีความโดยตัวละครต่างๆ ในเรื่องนี้ว่า ความหมายของรูปภาพนี้คืออยากให้ฮองเฮาเซี่ยวเสียนฉุนเลิกโศกเศร้าแล้วลุกขึ้นมาดูแลวังหลังในฐานะมารดาแห่งแผ่นดิน การตีความแบบนี้ถูกหรือไม่ Storyฯ ก็ไม่แน่ใจ แต่เห็นว่าเรื่องราวจากภาพนี้ก็อ่านเพลินดี เพื่อนเพจเห็นด้วยไหม

    สัปดาห์หน้ามาคุยกันต่อกับภาพต่อไปค่ะ

    หมายเหตุ อัพเดทเพิ่มเติมวันที่ 22/8/2566 นะคะว่า ภาพวาดที่ Storyฯ แปะมาให้ดูนี้ เป็นผลงานในสมัยองค์คังซีของช่างวาดหลวงเจียวปิ่งเจินเกี่ยวกับไท่ซึค่ะ ภาพจริงของ ‘ไท่ซึฮุ่ยจื่อ’ ซึ่งเป็น 1 ใน 12 กงซวิ่นถูนั้นสูญหายไปแล้ว หน้าตาเป็นอย่างไรก็ไม่ทราบได้

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://autos.yahoo.com.tw/被催生氣炸-富察皇后吐單身心聲-094507428.html
    https://zh.m.wikipedia.org/zh-my/太姒
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://www.takungpao.com/culture/237140/2019/1207/387125.html
    http://lethe921.blogspot.com/2013/05/blog-post.html
    http://www.chinakongzi.org/baike/RENWU/xianqin/201707/t20170720_139258.htm
    https://zh.m.wikipedia.org/zh-my/妲己
    https://zh.m.wikipedia.org/zh-my/伯邑考
    https://zh.m.wikipedia.org/zh-my/太姒

    #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #ภาพวาดเฉียนหลง #ไท่ซึฮุ่ยจื่อ #ไท่ซึ #โจวเหวินหวาง #โจวอู่หวาง #โจ้วหวาง #ต๋าจี่ #นางจิ้งจอก #เฟิงเสิน
    คุยกันเรื่องวังหลังของเฉียนหลงฮ่องเต้มาหลายสัปดาห์ วันนี้ยังคุยกันเรื่องนี้ แต่เปลี่ยนเป็นละครเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> เป็นเรื่องที่เพื่อนเพจท่านหนึ่งถามถึงเกี่ยวกับเรื่องราวของภาพวาดที่พูดถึงในละคร ท่านใดที่ได้เคยดูละครหรืออ่านนิยายเรื่องนี้จะทราบว่า เฉียนหลงฮ่องเต้ทรงพระราชทานรูปภาพทั้งหมดสิบสองภาพให้แก่เหล่าพระมเหสี โดยในเรื่องมีการเล่าถึงความหมายของบางรูปภาพและมีการตีความกันไปต่างๆ นาๆ ว่าองค์เฉียนหลงทรงหมายถึงอะไร ในเรื่องนั้นองค์เฉียนหลงทรงต้องการให้พวกนางไปใช้เวลาไปตีความหมายกันเองจะได้ไม่มีเรื่องราวมากวนพระทัย แต่แน่นอนว่าภาพวาดเหล่านี้ล้วนมีเรื่องราวของมัน คงต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าเราจะคุยจบทั้ง 12 ภาพวาด อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ ภาพทั้งสิบสองภาพนี้ถูกเรียกรวมว่า ‘กงซวิ่นถู’ (宫训图 แปลตรงตัวว่า พระราชวัง+คำสอน+ภาพ) ได้รับการวาดขึ้นคู่กับบทกวีสิบสองบทที่เรียกว่า ‘กงซวิ่นซือ’ (宫训诗 แปลตรงตัวว่า พระราชวัง+คำสอน+บทกวี) ที่ทรงให้เหล่าขุนนางเป็นผู้แต่งและจัดทำเป็นป้ายสี่อักษรที่สื่อถึงบทกวีเต็ม และได้ทรงกำหนดไว้ว่า ในทุกวันที่ 26 เดือน 12 ตามปฏิทินจีน (คือห้าวันก่อนตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงเวลาจัดเตรียมการฉลองวันตรุษ) ทั้งสิบสองตำหนักต้องเอาภาพและป้ายอักษรดังกล่าวออกมาแขวน โดยภาพวาดให้แขวนไว้บนผนังทิศตะวันตก ส่วนป้ายอักษรให้แขวนไว้บนผนังทิศตะวันออก รอจนวันที่ 2 เดือน 2 จึงจะปลดลงได้ ภาพแรกที่จะคุยกันวันนี้เป็นภาพที่องค์เฉียนหลงพระราชทานให้ฮองเฮา เซี่ยวเสียนฉุนหวงโฮ่วแห่งพระตำหนักฉางชุนกง มีชื่อว่าภาพวาด ‘ไท่ซึฮุ่ยจื่อ’ (太姒诲子/ไท่ซึสอนบุตร) ‘ไท่ซึ’ คือใคร? ไท่ซึเป็นชายาเอกในองค์โจวเหวินหวาง อ๋องผู้ปกครองแคว้นโจวในสมัยปลายราชวงศ์ซางระหว่างปี 1110-1050 ก่อนคริสตกาลและเป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์โจว (หมายเหตุ คือองค์โจวเหวินหวางผู้ทรงกำหนดเพิ่มสายพิณเส้นที่หกที่มีชื่อว่า เซ่ากง บนพิณโบราณกู่ฉินเพื่อเป็นการระลึกถึงโอรสที่วายชนม์ ซึ่ง Storyฯ เคยเล่าถึงตอนคุยเรื่องชื่อของสายพิณจากละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/569581261836837 ) จากบันทึกโบราณและบทกวีต่างๆ ที่กล่าวถึง ว่ากันว่า ไท่ซึมีรูปโฉมและจริยวัตรงดงามและมีเมตตา เป็นผู้ที่ถูกยกย่องว่าเป็นคู่ครองที่เหมาะสมกับโจวเหวินหวางและเป็นมารดาที่ดีแห่งแคว้น (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์) นางมีบุตรชายสิบคนให้กับโจวเหวินหวาง ซึ่งเป็นที่กล่าวขานว่านางสั่งสอนบุตรอย่างเข้มงวดจนเป็นคนดีมีความกตัญญูทุกคน มีเรื่องราวต่อมาอีกว่า โอรสคนโตของนางและโจวเหวินหวาง นามว่า ป๋ออี้เข่า นั้น ในตำนานว่ากันว่าเป็นบุรุษรูปงาม เชี่ยวชาญด้านพิณ และขึ้นชื่อว่าเป็นบุตรที่กตัญญูมาก ในสมัยนั้นโจ้วหวางผู้เป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซางเพ่งเล็งและระแวงในแคว้นโจว และเพื่อเป็นการปกป้องโจวเหวินหวางและแคว้น ป๋ออี้เข่ายอมจากบ้านเกิดมาเป็นตัวประกันที่ราชสำนักซาง โจ้วหวางมีมเหสีที่รักมากชื่อว่าต๋าจี่ ผู้มีความงามอย่างที่หาใครเปรียบได้ยาก ตามตำนานเล่าว่า ต๋าจี่หลงรักป๋ออี้เข่าตั้งแต่แรกพบ เลยใช้ข้ออ้างขอเรียนพิณเพื่อเข้าใกล้ป๋ออี้เข่า แต่เขาไม่มีใจให้นาง นางโกรธแค้นเขามาก จึงสร้างเรื่องว่าถูกเขาลวนลาม ทำให้โจ้วหวางโกรธจนสังหารป๋ออี้เข่าทิ้ง ไม่แน่ใจว่าเพื่อนเพจเริ่มคุ้นหูคุ้นตากันบ้างไหมกับชื่อ ‘ต๋าจี่’ นี้ แต่นี่คือเรื่องเล่าในตำนานสงครามเทพ <เฟิงเสิน> และต๋าจี่คือนางงามที่เป็นปีศาจจิ้งจอกจำแลงนั่นเอง โจ้วหวางถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นทรราชเพราะมีพฤติกรรมโหดเหี้ยมอำมหิตมากมาย ต๋าจี่กลายเป็นตำนานนางจิ้งจอก เป็นตัวแทนของหญิงงามล่มเมือง และเรื่องราวของป๋ออี้เข่าเป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดต่อครอบครัวของโจวเหวินหวางและไท่ซึ และเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้โจวเหวินหวางลุกขึ้นเป็นปฏิปักษ์ต่อราชวงศ์ซางและสถาปนาตนขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์โจว ต่อมาบุตรชายคนรองคือโจวอู่หวางก็โค่นล้มราชวงศ์ซางได้สำเร็จ (และในเรื่องชื่อของสายพิณที่ Storyฯ เคยเล่าถึงไปแล้วนั้น โจวอู่หวางคือผู้ที่เสริมสายพิณเส้นที่เจ็ดเข้าไปในพิณโบราณกู่ฉินและตั้งชื่อสายพิณเส้นนั้นว่า เซ่าซาง เพื่อเป็นการรำลึกถึงการล้มราชวงศ์ซางได้สำเร็จ) ดูจะเชื่อมโยงตัวละครจากหลากหลายบทความที่ Storyฯ เคยเขียนถึง ลองย้อนกลับไปอ่านบทความเก่าๆ กันนะคะ จะได้ไม่งง สรุปว่า ภาพวาด ‘ไท่ซึฮุ่ยจื่อ’ นี้แฝงไว้ซึ่งเรื่องราวความกตัญญูและโศกนาฏกรรมของป๋ออี้เข่า อารมณ์แฝงอาจสอดคล้องกับอารมณ์ที่โศกเศร้าของฮองเฮาเซี่ยวเสียนฉุนที่ต้องสูญเสียพระโอรสไปก่อนเวลาอันควร แต่ยังสะท้อนถึงจริยวัตรของการเป็นมารดาที่สั่งสอนบุตรอย่างดีอีกด้วย ส่วนป้ายอักษรที่มาคู่กับภาพนี้คือ ‘จิ้งซิวเน่ยเจ๋อ’ (敬休内则) มีความหมายประมาณว่า วางตนอย่างสงบและบริหารงานภายในครอบครัวให้เรียบร้อย จึงเป็นที่มาของการตีความโดยตัวละครต่างๆ ในเรื่องนี้ว่า ความหมายของรูปภาพนี้คืออยากให้ฮองเฮาเซี่ยวเสียนฉุนเลิกโศกเศร้าแล้วลุกขึ้นมาดูแลวังหลังในฐานะมารดาแห่งแผ่นดิน การตีความแบบนี้ถูกหรือไม่ Storyฯ ก็ไม่แน่ใจ แต่เห็นว่าเรื่องราวจากภาพนี้ก็อ่านเพลินดี เพื่อนเพจเห็นด้วยไหม สัปดาห์หน้ามาคุยกันต่อกับภาพต่อไปค่ะ หมายเหตุ อัพเดทเพิ่มเติมวันที่ 22/8/2566 นะคะว่า ภาพวาดที่ Storyฯ แปะมาให้ดูนี้ เป็นผลงานในสมัยองค์คังซีของช่างวาดหลวงเจียวปิ่งเจินเกี่ยวกับไท่ซึค่ะ ภาพจริงของ ‘ไท่ซึฮุ่ยจื่อ’ ซึ่งเป็น 1 ใน 12 กงซวิ่นถูนั้นสูญหายไปแล้ว หน้าตาเป็นอย่างไรก็ไม่ทราบได้ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://autos.yahoo.com.tw/被催生氣炸-富察皇后吐單身心聲-094507428.html https://zh.m.wikipedia.org/zh-my/太姒 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://www.takungpao.com/culture/237140/2019/1207/387125.html http://lethe921.blogspot.com/2013/05/blog-post.html http://www.chinakongzi.org/baike/RENWU/xianqin/201707/t20170720_139258.htm https://zh.m.wikipedia.org/zh-my/妲己 https://zh.m.wikipedia.org/zh-my/伯邑考 https://zh.m.wikipedia.org/zh-my/太姒 #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #ภาพวาดเฉียนหลง #ไท่ซึฮุ่ยจื่อ #ไท่ซึ #โจวเหวินหวาง #โจวอู่หวาง #โจ้วหวาง #ต๋าจี่ #นางจิ้งจอก #เฟิงเสิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และ ประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐ ตอบรับคำเชิญของประธานาธิบดีปูติน แห่งรัสเซีย เข้าร่วมงาน "วันแห่งชัยชนะ" (Victory day) ในวันที่ 9 พฤษภาคมปีนี้ ที่กรุงมอสโก ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองชัยชนะของรัสเซียเหนือนาซีเยอรมัน

    หากทุกอย่างเป็นไปตามกำหนด จะเป็นการพบของ 3 ผู้นำของโลกในขณะนี้ และอาจทำให้ผู้นำสหภาพยุโรปเกิดอาการคลุ้มคลั่งได้!

    นอกจากนี้ วูซิช(เซอร์เบีย) ฟิโก(สโลวาเกีย) และลูลา(บราซิล) ก็แสดงความต้องการจะเข้าร่วมงานนี้ด้วยเช่นกัน
    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และ ประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐ ตอบรับคำเชิญของประธานาธิบดีปูติน แห่งรัสเซีย เข้าร่วมงาน "วันแห่งชัยชนะ" (Victory day) ในวันที่ 9 พฤษภาคมปีนี้ ที่กรุงมอสโก ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองชัยชนะของรัสเซียเหนือนาซีเยอรมัน หากทุกอย่างเป็นไปตามกำหนด จะเป็นการพบของ 3 ผู้นำของโลกในขณะนี้ และอาจทำให้ผู้นำสหภาพยุโรปเกิดอาการคลุ้มคลั่งได้! นอกจากนี้ วูซิช(เซอร์เบีย) ฟิโก(สโลวาเกีย) และลูลา(บราซิล) ก็แสดงความต้องการจะเข้าร่วมงานนี้ด้วยเช่นกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • จุดจบ NATO? ทรัมป์ทิ้งยูเครน! : Sondhitalk EP281 VDO
    "ทรัมป์" ผนึก "ปูติน"
    จุดเริ่มต้นของจุดจบ NATO?
    #จุดจบNATO #ทรัมป์ทิ้งยูเครน #สหรัฐทิ้งยุโรป #NATO #ยูเครน #เซเลนสกี้ #ปูติน #รัสเซีย #โดนัลด์ทรัมป์ #สหรัฐอเมริกัน #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    จุดจบ NATO? ทรัมป์ทิ้งยูเครน! : Sondhitalk EP281 VDO "ทรัมป์" ผนึก "ปูติน" จุดเริ่มต้นของจุดจบ NATO? #จุดจบNATO #ทรัมป์ทิ้งยูเครน #สหรัฐทิ้งยุโรป #NATO #ยูเครน #เซเลนสกี้ #ปูติน #รัสเซีย #โดนัลด์ทรัมป์ #สหรัฐอเมริกัน #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 4 1 รีวิว
  • "เราจะเพิ่มแรงกดดันให้ชาวอเมริกันตระหนักว่าพวกเขาจะต้องสูญเสียมากมายหากพวกเขาหยุดสนับสนุนประชาธิปไตยเสรีนิยมของยุโรป"

    แอนนาเลน่า แบร์บ็อค รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ขู่สหรัฐท่ามกลางความเห็นของทรัมป์เกี่ยวกับเซเลนสกีและยูเครน
    "เราจะเพิ่มแรงกดดันให้ชาวอเมริกันตระหนักว่าพวกเขาจะต้องสูญเสียมากมายหากพวกเขาหยุดสนับสนุนประชาธิปไตยเสรีนิยมของยุโรป" แอนนาเลน่า แบร์บ็อค รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ขู่สหรัฐท่ามกลางความเห็นของทรัมป์เกี่ยวกับเซเลนสกีและยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI (Artificial Intelligence) มีบทบาทสำคัญในการพยากรณ์อากาศของโลก โดยช่วยเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลสภาพอากาศ ซึ่งมีกระบวนการหลักๆ ดังนี้:

    ### 1. **การเก็บข้อมูล**
    AI ใช้ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น:
    - **ดาวเทียม**: ให้ข้อมูลภาพถ่ายและข้อมูลสภาพอากาศจากอวกาศ
    - **สถานีตรวจอากาศ**: วัดอุณหภูมิ, ความชื้น, ความกดอากาศ, และลม
    - **เรดาร์**: ติดตามฝนและพายุ
    - **เซ็นเซอร์อื่นๆ**: เช่น เครื่องบิน, เรือ, และอุปกรณ์ IoT

    ### 2. **การประมวลผลข้อมูล**
    AI ประมวลผลข้อมูลจำนวนมากอย่างรวดเร็วด้วยเทคนิคเช่น:
    - **Machine Learning (ML)**: วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาความสัมพันธ์และแนวโน้ม
    - **Deep Learning (DL)**: ใช้ Neural Networks ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน เช่น ภาพจากดาวเทียม

    ### 3. **การสร้างแบบจำลอง**
    AI ช่วยสร้างและปรับปรุงแบบจำลองสภาพอากาศโดย:
    - **การพยากรณ์ระยะสั้น**: คาดการณ์สภาพอากาศในชั่วโมงหรือวันถัดไป
    - **การพยากรณ์ระยะยาว**: คาดการณ์สภาพอากาศในสัปดาห์หรือเดือนถัดไป
    - **การคาดการณ์สภาพอากาศรุนแรง**: เช่น พายุ, น้ำท่วม, และคลื่นความร้อน

    ### 4. **การปรับปรุงความแม่นยำ**
    AI ช่วยปรับปรุงความแม่นยำโดย:
    - **การเรียนรู้จากข้อมูลในอดีต**: เพื่อปรับปรุงการคาดการณ์
    - **การปรับแบบจำลองแบบเรียลไทม์**: ด้วยข้อมูลล่าสุด

    ### 5. **การใช้งานจริง**
    AI ถูกใช้ในหลายด้าน เช่น:
    - **การเตือนภัยล่วงหน้า**: เตือนภัยธรรมชาติล่วงหน้า
    - **การเกษตร**: ช่วยเกษตรกรวางแผนการเพาะปลูก
    - **การขนส่ง**: ช่วยการบินและการเดินเรือ
    - **การจัดการทรัพยากรน้ำ**: จัดการน้ำในเขื่อนและแม่น้ำ

    ### 6. **ตัวอย่างการใช้ AI ในพยากรณ์อากาศ**
    - **IBM's GRAF**: ใช้ AI เพื่อพยากรณ์อากาศทั่วโลกทุกชั่วโมง
    - **Google's MetNet**: ใช้ Deep Learning เพื่อพยากรณ์ฝนในระยะสั้น
    - **The Weather Company**: ใช้ AI เพื่อปรับปรุงการพยากรณ์อากาศ

    ### 7. **ความท้าทาย**
    - **ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์**: ข้อมูลอาจขาดหายหรือไม่ถูกต้อง
    - **ความซับซ้อนของสภาพอากาศ**: สภาพอากาศมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงเร็ว
    - **การคำนวณที่ต้องการทรัพยากรสูง**: ต้องการพลังการคำนวณมาก

    ### สรุป
    AI ช่วยเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการพยากรณ์อากาศ โดยใช้ข้อมูลจากหลายแหล่งและเทคนิคต่างๆ เพื่อคาดการณ์สภาพอากาศได้ดีขึ้น ซึ่งมีประโยชน์ต่อหลายภาคส่วน เช่น การเกษตร, การขนส่ง, และการจัดการภัยพิบัติ
    AI (Artificial Intelligence) มีบทบาทสำคัญในการพยากรณ์อากาศของโลก โดยช่วยเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลสภาพอากาศ ซึ่งมีกระบวนการหลักๆ ดังนี้: ### 1. **การเก็บข้อมูล** AI ใช้ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น: - **ดาวเทียม**: ให้ข้อมูลภาพถ่ายและข้อมูลสภาพอากาศจากอวกาศ - **สถานีตรวจอากาศ**: วัดอุณหภูมิ, ความชื้น, ความกดอากาศ, และลม - **เรดาร์**: ติดตามฝนและพายุ - **เซ็นเซอร์อื่นๆ**: เช่น เครื่องบิน, เรือ, และอุปกรณ์ IoT ### 2. **การประมวลผลข้อมูล** AI ประมวลผลข้อมูลจำนวนมากอย่างรวดเร็วด้วยเทคนิคเช่น: - **Machine Learning (ML)**: วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาความสัมพันธ์และแนวโน้ม - **Deep Learning (DL)**: ใช้ Neural Networks ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน เช่น ภาพจากดาวเทียม ### 3. **การสร้างแบบจำลอง** AI ช่วยสร้างและปรับปรุงแบบจำลองสภาพอากาศโดย: - **การพยากรณ์ระยะสั้น**: คาดการณ์สภาพอากาศในชั่วโมงหรือวันถัดไป - **การพยากรณ์ระยะยาว**: คาดการณ์สภาพอากาศในสัปดาห์หรือเดือนถัดไป - **การคาดการณ์สภาพอากาศรุนแรง**: เช่น พายุ, น้ำท่วม, และคลื่นความร้อน ### 4. **การปรับปรุงความแม่นยำ** AI ช่วยปรับปรุงความแม่นยำโดย: - **การเรียนรู้จากข้อมูลในอดีต**: เพื่อปรับปรุงการคาดการณ์ - **การปรับแบบจำลองแบบเรียลไทม์**: ด้วยข้อมูลล่าสุด ### 5. **การใช้งานจริง** AI ถูกใช้ในหลายด้าน เช่น: - **การเตือนภัยล่วงหน้า**: เตือนภัยธรรมชาติล่วงหน้า - **การเกษตร**: ช่วยเกษตรกรวางแผนการเพาะปลูก - **การขนส่ง**: ช่วยการบินและการเดินเรือ - **การจัดการทรัพยากรน้ำ**: จัดการน้ำในเขื่อนและแม่น้ำ ### 6. **ตัวอย่างการใช้ AI ในพยากรณ์อากาศ** - **IBM's GRAF**: ใช้ AI เพื่อพยากรณ์อากาศทั่วโลกทุกชั่วโมง - **Google's MetNet**: ใช้ Deep Learning เพื่อพยากรณ์ฝนในระยะสั้น - **The Weather Company**: ใช้ AI เพื่อปรับปรุงการพยากรณ์อากาศ ### 7. **ความท้าทาย** - **ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์**: ข้อมูลอาจขาดหายหรือไม่ถูกต้อง - **ความซับซ้อนของสภาพอากาศ**: สภาพอากาศมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงเร็ว - **การคำนวณที่ต้องการทรัพยากรสูง**: ต้องการพลังการคำนวณมาก ### สรุป AI ช่วยเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการพยากรณ์อากาศ โดยใช้ข้อมูลจากหลายแหล่งและเทคนิคต่างๆ เพื่อคาดการณ์สภาพอากาศได้ดีขึ้น ซึ่งมีประโยชน์ต่อหลายภาคส่วน เช่น การเกษตร, การขนส่ง, และการจัดการภัยพิบัติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปูเบนโตะ
    ปูอัด สินค้าขายดีอันดับ 1 มีส่วนผสมของเนื้อปลาสูง ทำให้มีลักษณะเนื้อเหนียว นุ่ม เด้ง หอมกลิ่นปู

    ขนาดบรรจุ:
    500 G. /package
    No. of Pieces : 40 pcs / pack

    Categories: ซูชิ, ปิ้งย่าง, ปูอัด, ผัด, พิซซ่า, ยำ, สุกี้
    ส่วนผสม
    ปลา กลิ่นปู

    การนำไปประกอบอาหาร
    บริโภคได้ทันทีหลังนำไปทำให้ละลาย เหมาะสำหรับนำใช้เป็นหน้าข้าวปั้นทำซูซิ, สอดไส้ขนมปัง, โรยหน้าสลัด, พิซซ่า หรือผสมในไข่เจียวไข่ตุ๋น

    FDA no.
    74-1-01029-2-0224



    ปูเบนโตะ ปูอัด สินค้าขายดีอันดับ 1 มีส่วนผสมของเนื้อปลาสูง ทำให้มีลักษณะเนื้อเหนียว นุ่ม เด้ง หอมกลิ่นปู ขนาดบรรจุ: 500 G. /package No. of Pieces : 40 pcs / pack Categories: ซูชิ, ปิ้งย่าง, ปูอัด, ผัด, พิซซ่า, ยำ, สุกี้ ส่วนผสม ปลา กลิ่นปู การนำไปประกอบอาหาร บริโภคได้ทันทีหลังนำไปทำให้ละลาย เหมาะสำหรับนำใช้เป็นหน้าข้าวปั้นทำซูซิ, สอดไส้ขนมปัง, โรยหน้าสลัด, พิซซ่า หรือผสมในไข่เจียวไข่ตุ๋น FDA no. 74-1-01029-2-0224
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://vt.tiktok.com/ZSMkPtCGw/
    https://vt.tiktok.com/ZSMkPtCGw/
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านประดิษฐโภชนา ยาวนานกว่า90ปี #ฉะเชิงเทรา #อร่อยบอกต่อ #ร้านอร่อย #ร้านดีบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #ชวนชิม #พาชิม #กินเก่ง #หิว #food #thaifood #thailand #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    ร้านประดิษฐโภชนา ยาวนานกว่า90ปี #ฉะเชิงเทรา #อร่อยบอกต่อ #ร้านอร่อย #ร้านดีบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #ชวนชิม #พาชิม #กินเก่ง #หิว #food #thaifood #thailand #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • หลิว จงอี้ ล้างบางจีนเทา! : Sondhitalk EP281 VDO
    “หลิว จงอี้” เดินสุดซอย ล้างบาง “แม่สอด-เมียวดี”
    #sondhi #sondhitalk #สนธิ #สนธิทอล์ค #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #sondhiX #สนธิเล่าเรื่อง
    หลิว จงอี้ ล้างบางจีนเทา! : Sondhitalk EP281 VDO “หลิว จงอี้” เดินสุดซอย ล้างบาง “แม่สอด-เมียวดี” #sondhi #sondhitalk #สนธิ #สนธิทอล์ค #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #sondhiX #สนธิเล่าเรื่อง�
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 9 1 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.109 : Little Thailand ยูนนาน เทียบชั้นท่องเที่ยวไทยได้ไหม?

    https://www.youtube.com/watch?v=lsVMJUb90zg
    บูรพาไม่แพ้ Ep.109 : Little Thailand ยูนนาน เทียบชั้นท่องเที่ยวไทยได้ไหม? https://www.youtube.com/watch?v=lsVMJUb90zg
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยิว ยึด ปาย : Sondhitalk EP281 VDO
    ยิวเปลี่ยนปาย? เสียงสะท้อนของคนในพื้นที่
    #sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #ยิวปาย #ปาย
    ยิว ยึด ปาย : Sondhitalk EP281 VDO ยิวเปลี่ยนปาย? เสียงสะท้อนของคนในพื้นที่ #sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #ยิวปาย #ปาย
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • การแสดงแสง สี เสียง ในงานประเพณี “นบพระ - เล่นเพลง” และงานกาชาดจังหวัดกำแพงเพชร ประจำปี พ.ศ. 2568
    https://youtu.be/eOWlvtCSC60
    การแสดงแสง สี เสียง ในงานประเพณี “นบพระ - เล่นเพลง” และงานกาชาดจังหวัดกำแพงเพชร ประจำปี พ.ศ. 2568 https://youtu.be/eOWlvtCSC60
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใคร ได้/เสีย ‘Tariff ทรัมป์ 2.0’ : [Biz Talk]

    การกลับมาอีกครั้ง ของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ทำให้สงครามการค้า เริ่มระอุ! ‘ทรัมป์ 2.0’ ยังคงใช้ภาษีนำเข้า เป็นเครื่องมือเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสหรัฐฯ ตามนโยบาย America First /ประเทศไทย คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากการที่ไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ เป็นอันดับที่ 10 ของโลก
    ใคร ได้/เสีย ‘Tariff ทรัมป์ 2.0’ : [Biz Talk] การกลับมาอีกครั้ง ของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ทำให้สงครามการค้า เริ่มระอุ! ‘ทรัมป์ 2.0’ ยังคงใช้ภาษีนำเข้า เป็นเครื่องมือเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสหรัฐฯ ตามนโยบาย America First /ประเทศไทย คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากการที่ไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ เป็นอันดับที่ 10 ของโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ เตรียมเข้าควบคุมสิทธิของแหล่งแร่หายากบนดินแดนยูเครน

    หลังจากการเจรจาที่ตึงเครียดมาหลายสัปดาห์ เซเลนสกีเตรียมลงนามข้อตกลงที่ให้สหรัฐฯ เข้าถึงแหล่งสำรองแร่ธาตุสำคัญของยูเครน

    ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง เพียงไม่กี่วันหลังจากที่เขาปฏิเสธไปก่อนหน้า ซึ่งในครั้งแรก เซเลนสกีอ้างเหตุที่ไม่ยอมลงนามว่า "ไม่อยากขายประเทศ"

    หลังจากนั้น มีรายงานว่า ทรัมป์ข่มขู่เซเลนสกีมาตลอดว่าจะตัดเงินทุนสหรัฐทั้งหมด จนในที่สุด เซเลนสกีไม่อาจทนได้อีกต่อไป และกำลังสรุปข้อตกลงดังกล่าวโดยเร็วที่สุด

    รายงานช่าวข้างต้น สอดคล้องกับสิ่งที่ทรัมป์เพิ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อไม่กี่ชั่โมงนี้ว่า "ยูเครนต้องลงนามข้อตกลง ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะมีปัญหาใหญ่ตามมา"

    “เรากำลังลงนามข้อตกลง ซึ่งหวังว่าจะเกิดขึ้นภายในระยะเวลาอันสั้นนี้ และจะทำให้มั่นใจได้ว่าเราจะได้เงิน 400,000 หรือ 500,000 ล้านดอลลาร์ กลับคืนมา
    สหรัฐฯ เตรียมเข้าควบคุมสิทธิของแหล่งแร่หายากบนดินแดนยูเครน หลังจากการเจรจาที่ตึงเครียดมาหลายสัปดาห์ เซเลนสกีเตรียมลงนามข้อตกลงที่ให้สหรัฐฯ เข้าถึงแหล่งสำรองแร่ธาตุสำคัญของยูเครน ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง เพียงไม่กี่วันหลังจากที่เขาปฏิเสธไปก่อนหน้า ซึ่งในครั้งแรก เซเลนสกีอ้างเหตุที่ไม่ยอมลงนามว่า "ไม่อยากขายประเทศ" หลังจากนั้น มีรายงานว่า ทรัมป์ข่มขู่เซเลนสกีมาตลอดว่าจะตัดเงินทุนสหรัฐทั้งหมด จนในที่สุด เซเลนสกีไม่อาจทนได้อีกต่อไป และกำลังสรุปข้อตกลงดังกล่าวโดยเร็วที่สุด รายงานช่าวข้างต้น สอดคล้องกับสิ่งที่ทรัมป์เพิ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อไม่กี่ชั่โมงนี้ว่า "ยูเครนต้องลงนามข้อตกลง ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะมีปัญหาใหญ่ตามมา" “เรากำลังลงนามข้อตกลง ซึ่งหวังว่าจะเกิดขึ้นภายในระยะเวลาอันสั้นนี้ และจะทำให้มั่นใจได้ว่าเราจะได้เงิน 400,000 หรือ 500,000 ล้านดอลลาร์ กลับคืนมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • 54 ปี ลอบสังหาร “ครูโกมล คีมทอง” คอมมิวนิสต์เข้าใจผิด! คิดว่าเป็น… สายลับรัฐบาลไทย

    ย้อนรอยโศกนาฏกรรม ครูหนุ่มผู้มุ่งมั่นเพื่อการศึกษาในชนบท แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า ท่ามกลางความเข้าใจผิด ในยุคสมัย ที่ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ ร้อนระอุ

    📌 เหตุการณ์สะเทือนขวัญ ที่ยังเป็นปริศนา ย้อนไปเมื่อ 54 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514 เสียงปืนดังขึ้นที่บ้านเหนือคลอง หมู่ที่ 4 ตำบลสินเจริญ กิ่งอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำให้ครูหนุ่มวัยเพียง 24 ปี ต้องจบชีวิตลงอย่างโหดร้าย

    "โกมล คีมทอง ครูหนุ่มที่มีอุดมการณ์แรงกล้า มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเยาวชน ในพื้นที่ห่างไกล ผ่านระบบการศึกษา ที่เหมาะสมกับชุมชน ทว่า… ด้วยความเข้าใจผิด ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ทำให้ถูกตราหน้าว่า เป็นสายลับของรัฐบาลไทย และนำไปสู่การสังหารอันน่าเศร้า

    เรื่องราวของครูโกมล เต็มไปด้วยความซับซ้อน เป็นเหยื่อของสงครามอุดมการณ์ ที่ทั้งฝ่ายรัฐ และฝ่ายคอมมิวนิสต์ ต่างก็เพ่งเล็งและไม่ไว้ใจ จนกระทั่งความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ ได้คร่าชีวิตพร้อมเพื่อนร่วมอุดมการณ์ อีกสองคน

    📖 ครูโกมล คีมทอง จากเด็กหนุ่มหัวใจนักสู้ สู่ครูผู้เสียสละ
    👦🏻 "ครูโกมล คีมทอง" เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2489 ที่ จังหวัดสุโขทัย เติบโตขึ้นมาในครอบครัว ที่ให้ความสำคัญ กับการศึกษา

    จบชั้นประถมศึกษา จากโรงเรียนบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยม จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กรุงเทพฯ และเข้าศึกษาต่อ ที่คณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นครู

    🎓 เส้นทางสู่อาชีพครู และอุดมการณ์ที่แรงกล้า
    ระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย โกมลเป็นนิสิตที่กระตือรือร้น เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา และค่ายพัฒนาชนบทเป็นประจำ ทำให้เห็นถึงความลำบากของเด็ก ในพื้นที่ห่างไกล และตัดสินใจแน่วแน่ว่า "ชีวิตนี้จะอุทิศให้กับการศึกษาในชนบท"

    ในปีสุดท้ายของการเรียน ครูโกมลได้รับโอกาสเข้าร่วม “ค่ายพัฒนากำลังคน เหมืองห้วยในเขา” ซึ่งจัดขึ้นที่เหมืองแร่แห่งหนึ่ง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่นี่เอง ที่โกมลได้เห็นปัญหาการศึกษาของเด็กๆ ในพื้นที่ห่างไกล และตัดสินใจที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ "สร้างโรงเรียนชุมชน"

    🏫 โรงเรียนชุมชนที่เหมืองห้วยในเขา อุดมการณ์ที่เป็นภัย
    🎯 จุดมุ่งหมายของครูโกมล โรงเรียนที่ครูโกมลตั้งใจสร้าง ไม่ใช่แค่สถานศึกษาแบบทั่วไป แต่เป็นโรงเรียนที่ออกแบบมา ให้เหมาะกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน

    ✔️ หลักสูตรพิเศษ เน้นวิชาที่สอดคล้องกับการดำรงชีวิต เช่น การเกษตร ปศุสัตว์ และงานช่าง
    ✔️ วัฒนธรรมท้องถิ่น ส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรม เช่น หนังตะลุง มโนราห์ และนิทานพื้นบ้าน
    ✔️ ชุมชนเป็นศูนย์กลาง โรงเรียนได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้าน ไม่ใช่รัฐ

    แนวคิดเช่นนี้ ทำให้ทั้งรัฐบาล และพรรคคอมมิวนิสต์จับตามอง ด้วยความสงสัยว่า "แท้จริงแล้ว ครูโกมลทำงานให้ฝ่ายใด?"

    🔥 สงครามอุดมการณ์ จุดเริ่มต้นของความหวาดระแวง
    🏴 ฝ่ายรัฐบาลมองว่า ครูโกมลเป็น "แนวร่วมคอมมิวนิสต์"
    รัฐบาลไทยในขณะนั้น มีนโยบายต่อต้านคอมมิวนิสต์ อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่รัฐบางคนเห็นว่า แนวคิดของครูโกมล อาจสนับสนุนอุดมการณ์ ของพรรคคอมมิวนิสต์ โรงเรียนของครูโกมล ไม่ได้ใช้หลักสูตร จากกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า อาจเป็นศูนย์กลาง ของขบวนการล้มล้างอำนาจรัฐ

    🚩 ฝ่ายคอมมิวนิสต์มองว่า "สายลับรัฐบาล"
    ขณะนั้น พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) กำลังทำสงครามกองโจร กับรัฐบาลไทย การที่ครูโกมล เดินทางไปพบปะชาวบ้าน ถ่ายภาพ และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรม ทำให้พคท.เข้าใจว่ากำลังสอดแนม อีกทั้งการที่ครูโกมล ได้รับเงินสนับสนุนจาก "มูลนิธิเอเชีย" ซึ่งเป็นองค์กรต่างชาติ ยิ่งทำให้พคท.เชื่อว่า กำลังทำงานให้รัฐบาลไทย สุดท้าย... ความเข้าใจผิดนี้ นำไปสู่โศกนาฏกรรม ที่ไม่มีวันย้อนคืน

    ☠️ โศกนาฏกรรม คืนสังหารที่ไม่มีวันลืม
    22 กุมภาพันธ์ 2514 📍 บ้านเหนือคลอง อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
    ครูโกมล คีมทอง, รัตนา สกุลไทย บัณฑิตอักษรศาสตร์ จุฬาฯ และเสรี ปรีชา หมอเร่ขายยา ถูกกลุ่มกองกำลัง พรรคคอมมิวนิสต จับตัวไป และถูกยิงเสียชีวิตในที่สุด

    หลังจากเหตุการณ์นี้ รัฐบาลไทยได้โปรยใบปลิวปฏิเสธว่า "ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหาร" ขณะที่ พคท. ออกมายอมรับในเวลาต่อมาว่า "เป็นผู้ลงมือสังหาร เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่า ครูโกมลเป็นสายลับรัฐบาลไทย"

    🏛️ แม้ว่า "ครูโกมล คีมทอง" จะจากไป แต่สิ่งที่ได้ทำไว้ ยังคงเป็นที่จดจำ
    ✔️ การเสียสละทำให้เกิด “มูลนิธิโกมล คีมทอง” ในปี พ.ศ. 2514
    ✔️ สร้างแรงบันดาลใจ ให้คนรุ่นหลังอุทิศตน เพื่อพัฒนาสังคม
    ✔️ หลักสูตรการศึกษา ที่เน้นชุมชนเป็นศูนย์กลาง ยังคงเป็นแนวคิด ที่นำมาใช้ในการศึกษายุคใหม่

    🎭 ครูโกมลถูกฆ่าโดยใคร?
    👉 ฝ่ายรัฐบาล หรือ พรรคคอมมิวนิสต์?
    👉 เป็นเพียงครูธรรมดา หรือมีบทบาทที่ลึกซึ้งกว่านั้น?
    👉 ถ้าไม่มีการสังหารในวันนั้น ครูโกมลจะสามารถเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทย ได้มากแค่ไหน?

    แม้ข้อเท็จจริง จะได้รับการเปิดเผยไปแล้ว แต่คำถามเหล่านี้ ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันมา จนถึงทุกวันนี้...

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 221245 ก.พ. 2568

    #️⃣ #ครูโกมลคีมทอง #54ปีลอบสังหาร #โกมลคีมทอง #ประวัติศาสตร์ไทย #คอมมิวนิสต์ไทย #การศึกษาชนบท #ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ #มูลนิธิโกมลคีมทอง #ครูผู้เสียสละ #ประวัติศาสตร์ต้องรู้
    54 ปี ลอบสังหาร “ครูโกมล คีมทอง” คอมมิวนิสต์เข้าใจผิด! คิดว่าเป็น… สายลับรัฐบาลไทย ย้อนรอยโศกนาฏกรรม ครูหนุ่มผู้มุ่งมั่นเพื่อการศึกษาในชนบท แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า ท่ามกลางความเข้าใจผิด ในยุคสมัย ที่ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ ร้อนระอุ 📌 เหตุการณ์สะเทือนขวัญ ที่ยังเป็นปริศนา ย้อนไปเมื่อ 54 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514 เสียงปืนดังขึ้นที่บ้านเหนือคลอง หมู่ที่ 4 ตำบลสินเจริญ กิ่งอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำให้ครูหนุ่มวัยเพียง 24 ปี ต้องจบชีวิตลงอย่างโหดร้าย "โกมล คีมทอง ครูหนุ่มที่มีอุดมการณ์แรงกล้า มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเยาวชน ในพื้นที่ห่างไกล ผ่านระบบการศึกษา ที่เหมาะสมกับชุมชน ทว่า… ด้วยความเข้าใจผิด ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ทำให้ถูกตราหน้าว่า เป็นสายลับของรัฐบาลไทย และนำไปสู่การสังหารอันน่าเศร้า เรื่องราวของครูโกมล เต็มไปด้วยความซับซ้อน เป็นเหยื่อของสงครามอุดมการณ์ ที่ทั้งฝ่ายรัฐ และฝ่ายคอมมิวนิสต์ ต่างก็เพ่งเล็งและไม่ไว้ใจ จนกระทั่งความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ ได้คร่าชีวิตพร้อมเพื่อนร่วมอุดมการณ์ อีกสองคน 📖 ครูโกมล คีมทอง จากเด็กหนุ่มหัวใจนักสู้ สู่ครูผู้เสียสละ 👦🏻 "ครูโกมล คีมทอง" เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2489 ที่ จังหวัดสุโขทัย เติบโตขึ้นมาในครอบครัว ที่ให้ความสำคัญ กับการศึกษา จบชั้นประถมศึกษา จากโรงเรียนบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยม จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กรุงเทพฯ และเข้าศึกษาต่อ ที่คณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นครู 🎓 เส้นทางสู่อาชีพครู และอุดมการณ์ที่แรงกล้า ระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย โกมลเป็นนิสิตที่กระตือรือร้น เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา และค่ายพัฒนาชนบทเป็นประจำ ทำให้เห็นถึงความลำบากของเด็ก ในพื้นที่ห่างไกล และตัดสินใจแน่วแน่ว่า "ชีวิตนี้จะอุทิศให้กับการศึกษาในชนบท" ในปีสุดท้ายของการเรียน ครูโกมลได้รับโอกาสเข้าร่วม “ค่ายพัฒนากำลังคน เหมืองห้วยในเขา” ซึ่งจัดขึ้นที่เหมืองแร่แห่งหนึ่ง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่นี่เอง ที่โกมลได้เห็นปัญหาการศึกษาของเด็กๆ ในพื้นที่ห่างไกล และตัดสินใจที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ "สร้างโรงเรียนชุมชน" 🏫 โรงเรียนชุมชนที่เหมืองห้วยในเขา อุดมการณ์ที่เป็นภัย 🎯 จุดมุ่งหมายของครูโกมล โรงเรียนที่ครูโกมลตั้งใจสร้าง ไม่ใช่แค่สถานศึกษาแบบทั่วไป แต่เป็นโรงเรียนที่ออกแบบมา ให้เหมาะกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน ✔️ หลักสูตรพิเศษ เน้นวิชาที่สอดคล้องกับการดำรงชีวิต เช่น การเกษตร ปศุสัตว์ และงานช่าง ✔️ วัฒนธรรมท้องถิ่น ส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรม เช่น หนังตะลุง มโนราห์ และนิทานพื้นบ้าน ✔️ ชุมชนเป็นศูนย์กลาง โรงเรียนได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้าน ไม่ใช่รัฐ แนวคิดเช่นนี้ ทำให้ทั้งรัฐบาล และพรรคคอมมิวนิสต์จับตามอง ด้วยความสงสัยว่า "แท้จริงแล้ว ครูโกมลทำงานให้ฝ่ายใด?" 🔥 สงครามอุดมการณ์ จุดเริ่มต้นของความหวาดระแวง 🏴 ฝ่ายรัฐบาลมองว่า ครูโกมลเป็น "แนวร่วมคอมมิวนิสต์" รัฐบาลไทยในขณะนั้น มีนโยบายต่อต้านคอมมิวนิสต์ อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่รัฐบางคนเห็นว่า แนวคิดของครูโกมล อาจสนับสนุนอุดมการณ์ ของพรรคคอมมิวนิสต์ โรงเรียนของครูโกมล ไม่ได้ใช้หลักสูตร จากกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า อาจเป็นศูนย์กลาง ของขบวนการล้มล้างอำนาจรัฐ 🚩 ฝ่ายคอมมิวนิสต์มองว่า "สายลับรัฐบาล" ขณะนั้น พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) กำลังทำสงครามกองโจร กับรัฐบาลไทย การที่ครูโกมล เดินทางไปพบปะชาวบ้าน ถ่ายภาพ และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรม ทำให้พคท.เข้าใจว่ากำลังสอดแนม อีกทั้งการที่ครูโกมล ได้รับเงินสนับสนุนจาก "มูลนิธิเอเชีย" ซึ่งเป็นองค์กรต่างชาติ ยิ่งทำให้พคท.เชื่อว่า กำลังทำงานให้รัฐบาลไทย สุดท้าย... ความเข้าใจผิดนี้ นำไปสู่โศกนาฏกรรม ที่ไม่มีวันย้อนคืน ☠️ โศกนาฏกรรม คืนสังหารที่ไม่มีวันลืม 22 กุมภาพันธ์ 2514 📍 บ้านเหนือคลอง อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครูโกมล คีมทอง, รัตนา สกุลไทย บัณฑิตอักษรศาสตร์ จุฬาฯ และเสรี ปรีชา หมอเร่ขายยา ถูกกลุ่มกองกำลัง พรรคคอมมิวนิสต จับตัวไป และถูกยิงเสียชีวิตในที่สุด หลังจากเหตุการณ์นี้ รัฐบาลไทยได้โปรยใบปลิวปฏิเสธว่า "ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหาร" ขณะที่ พคท. ออกมายอมรับในเวลาต่อมาว่า "เป็นผู้ลงมือสังหาร เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่า ครูโกมลเป็นสายลับรัฐบาลไทย" 🏛️ แม้ว่า "ครูโกมล คีมทอง" จะจากไป แต่สิ่งที่ได้ทำไว้ ยังคงเป็นที่จดจำ ✔️ การเสียสละทำให้เกิด “มูลนิธิโกมล คีมทอง” ในปี พ.ศ. 2514 ✔️ สร้างแรงบันดาลใจ ให้คนรุ่นหลังอุทิศตน เพื่อพัฒนาสังคม ✔️ หลักสูตรการศึกษา ที่เน้นชุมชนเป็นศูนย์กลาง ยังคงเป็นแนวคิด ที่นำมาใช้ในการศึกษายุคใหม่ 🎭 ครูโกมลถูกฆ่าโดยใคร? 👉 ฝ่ายรัฐบาล หรือ พรรคคอมมิวนิสต์? 👉 เป็นเพียงครูธรรมดา หรือมีบทบาทที่ลึกซึ้งกว่านั้น? 👉 ถ้าไม่มีการสังหารในวันนั้น ครูโกมลจะสามารถเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทย ได้มากแค่ไหน? แม้ข้อเท็จจริง จะได้รับการเปิดเผยไปแล้ว แต่คำถามเหล่านี้ ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันมา จนถึงทุกวันนี้... ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 221245 ก.พ. 2568 #️⃣ #ครูโกมลคีมทอง #54ปีลอบสังหาร #โกมลคีมทอง #ประวัติศาสตร์ไทย #คอมมิวนิสต์ไทย #การศึกษาชนบท #ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ #มูลนิธิโกมลคีมทอง #ครูผู้เสียสละ #ประวัติศาสตร์ต้องรู้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • บ่อยครั้งที่เห็นเพื่อนสมาชิกโพสต์ตามหาหนังสือ ที่ช่วยบรรเทาความรู้สึกหลังสูญเสียสัตว์เลี้ยงที่รักมาใหม่ ๆ ให้ไม่เศร้าจนเกินไป ผมคิดว่าพบเล่มที่ทุกคนหาแล้วล่ะ

    ปกติไม่ค่อยอ่านแนวนี้ แต่พอดีระหว่างรอคิวอ่านเล่มที่สนใจ เห็นปกเล่มนี้เข้าซึ่งภาพวาดน่ารักดี สีพาสเทลที่สบายตา ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย เลยอยากรู้ว่าเนื้อหาข้างในจะเป็นอย่างไร อีกทั้งไม่มีคนยืมด้วยก็เลยกดยืมและเข้าไปอ่านแบบอีบุ๊กดูครับ

    🐈‍⬛🐕🐈🐠

    #โอบกอดหัวใจในวันที่น้องกลับดาว
    สนพ. บลูม พับลิชชิ่ง เครือนานมีบุ๊กส์ พิมพ์ครั้งแรก มี.ค2567 (ต้นฉบับพิมพ์ปี 2565)
    สัตวแพทย์ ชิมยงฮี เขียน
    กนกพร เรืองสา แปล
    ออกแบบปกและภาพประกอบ little night
    295 บาท 217 หน้า

    ......

    เป็นหนังสืออ่านง่าย เนื้อหาในแต่ละหน้ามีการจัดวางที่ทำให้รู้สึกสบายตา ไม่หนาแน่นจนเกินไป สีพื้นหลังสวย ๆ ที่มาโทนอ่อนไม่เข้มบาดตา บวกกับภาพประกอบน่ารักสดใส เชื่อว่าจะช่วยเยียวยาจิตใจใครที่กำลังเกิดอาการเหงา เศร้า หดหู่ อันเนื่องมาจากการเพิ่งสูญเสียและจากลาสัตว์ที่ตนรักไปได้พอสมควรครับ

    🐕

    ถึงแม้จะไม่ใช่การรักษาที่ต้นตอของปัญหา ซึ่งนั่นต้องอาศัยการเรียนรู้ความจริงกับหลักธรรมในศาสนาพุทธ มาปรับใช้กับตนเอง แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่อยากจะสนใจธรรมะในตอนนี้ และเลือกจะหาวิธีในรูปแบบอื่นก่อน ดังนั้นจากที่ได้อ่านจบแล้ว จึงขอแนะนำว่าเล่มนี้น่าจะช่วยได้

    🐈

    ผู้เขียนเป็นสัตวแพทย์ ที่เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างหมาตัวหนึ่ง ซึ่งเขารักมากและได้ตายจากไปเช่นกัน จึงมีประสบการณ์ความรู้สึกผูกพันและเจ็บปวด นอกจากนี้ในฐานะที่ทำงานในรพ.สัตว์อยู่นานถึง 11 ปี จึงมีเคสมากมายที่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องรักษาสัตว์ป่วยและบาดเจ็บ พบเห็นความสูญเสียและการพลัดพรากอันน่าเศร้า ระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงจำนวนนับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่คือหมาและแมว เขาจบปริญญาโทมาทางให้คำปรึกษาด้านการมรณะโดยเฉพาะด้วย จึงสนทนากับเหล่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย บันทึกข้อมูล แล้วนำมาเขียนเป็นหนังสือเล่มนี้ โดยสอดแทรกแนวความรู้ที่ตนมีอยู่ในการช่วยปรับสภาพจิตใจให้กับเจ้าของสัตว์ที่กำลังป่วยทางใจได้อย่างดี ด้วยสำนวนภาษาที่ทำให้คนอ่านรู้สึกเป็นกันเอง ผ่อนคลาย เหมือนได้เพื่อนคุยที่เข้าใจหัวอกคนกลุ่มเดียวกัน

    🐕

    เนื้อหามีทั้งส่วนที่เป็นแบบทดสอบเพื่อวัดระดับ ประเมินความเศร้า แบบทดสอบอื่น ๆ ภาควิเคราะห์ และภาคที่เยียวยาในเชิงให้คำปรึกษาแนะนำ ฟื้นฟูและโอบอุ้มด้วยคำพูดที่เลือกมาแล้วอย่างคนเข้าใจปัญหา ไม่ต่อว่าไม่กดดันให้รู้สึกผิด แต่ให้กำลังใจ ให้ความหวัง ให้วิตามินเสริมเพื่อเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าให้กลับคืนมาสู่เจ้าของสัตว์ทั้งหลาย ให้สามารถกลับมาเป็นคนสดใสดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างปกติสุข

    🐈

    ช่วงหลังจะเป็นเคสตัวอย่างของผู้ที่เคยสูญเสียหลายกรณี มีทั้งหมา แมวคละกัน บอกเล่าเรื่องราวของแต่ละครอบครัวในวันที่ได้พบกันครั้งแรกจนวันที่ต้องจากลา ด้วยวิธีเล่าแบบเขียนในมุมมองของสัตว์ ที่เผยความในใจที่มีต่อเจ้าของ ขอให้นึกถึงแนวอย่างนวนิยายเรื่อง นิกกับพิม นั่นแหละคล้ายกัน

    🐕

    ระหว่างทางของการรักษาเยียวยาใจให้ผู้ที่กำลังอ่านนั้น ก็มีคั่นด้วยความในใจของเหล่าสัตว์ ที่เป็นกรอบเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ปรากฏเป็นช่วง ๆ เพื่อปลอบประโลมดวงใจของมนุษย์ที่ยังอยู่ และต้องแบกรับกับความเจ็บปวดและรู้สึกผิด ความในใจเหล่านั้นคงจะอ่อนโยนราวกับผ้าเช็ดหน้าจากผ้าชั้นดีผืนบาง ที่ช่วยซึมซับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่รู้จักหยุดของเจ้าของ ให้เหือดแห้งลงได้ในอนาคตอันใกล้

    🐈

    และถ้าเป็นไปได้ ที่ผมอยากเสนอความเห็นเป็นทางเลือกไว้ให้ลองพิจารณา หลังจากคุณเข้มแข็งขึ้นแล้วคือ การไม่เลี้ยงสัตว์ตัวใหม่เพิ่มอีก น่าจะดีที่สุดที่จะหยุดปัญหาที่จะตามมาในอนาคตครับ

    #รีวิวหนังสือ
    #หนังสือน่าอ่าน
    #เรื่องแปล
    #จิตวิทยา
    #การสูญเสีย
    #สัตว์เลี้ยง
    #thaitimes
    #สัตวแพทย์
    #รพ.สัตว์
    #นานมีบุ๊กส์
    บ่อยครั้งที่เห็นเพื่อนสมาชิกโพสต์ตามหาหนังสือ ที่ช่วยบรรเทาความรู้สึกหลังสูญเสียสัตว์เลี้ยงที่รักมาใหม่ ๆ ให้ไม่เศร้าจนเกินไป ผมคิดว่าพบเล่มที่ทุกคนหาแล้วล่ะ ปกติไม่ค่อยอ่านแนวนี้ แต่พอดีระหว่างรอคิวอ่านเล่มที่สนใจ เห็นปกเล่มนี้เข้าซึ่งภาพวาดน่ารักดี สีพาสเทลที่สบายตา ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย เลยอยากรู้ว่าเนื้อหาข้างในจะเป็นอย่างไร อีกทั้งไม่มีคนยืมด้วยก็เลยกดยืมและเข้าไปอ่านแบบอีบุ๊กดูครับ 🐈‍⬛🐕🐈🐠 #โอบกอดหัวใจในวันที่น้องกลับดาว สนพ. บลูม พับลิชชิ่ง เครือนานมีบุ๊กส์ พิมพ์ครั้งแรก มี.ค2567 (ต้นฉบับพิมพ์ปี 2565) สัตวแพทย์ ชิมยงฮี เขียน กนกพร เรืองสา แปล ออกแบบปกและภาพประกอบ little night 295 บาท 217 หน้า ...... เป็นหนังสืออ่านง่าย เนื้อหาในแต่ละหน้ามีการจัดวางที่ทำให้รู้สึกสบายตา ไม่หนาแน่นจนเกินไป สีพื้นหลังสวย ๆ ที่มาโทนอ่อนไม่เข้มบาดตา บวกกับภาพประกอบน่ารักสดใส เชื่อว่าจะช่วยเยียวยาจิตใจใครที่กำลังเกิดอาการเหงา เศร้า หดหู่ อันเนื่องมาจากการเพิ่งสูญเสียและจากลาสัตว์ที่ตนรักไปได้พอสมควรครับ 🐕 ถึงแม้จะไม่ใช่การรักษาที่ต้นตอของปัญหา ซึ่งนั่นต้องอาศัยการเรียนรู้ความจริงกับหลักธรรมในศาสนาพุทธ มาปรับใช้กับตนเอง แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่อยากจะสนใจธรรมะในตอนนี้ และเลือกจะหาวิธีในรูปแบบอื่นก่อน ดังนั้นจากที่ได้อ่านจบแล้ว จึงขอแนะนำว่าเล่มนี้น่าจะช่วยได้ 🐈 ผู้เขียนเป็นสัตวแพทย์ ที่เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างหมาตัวหนึ่ง ซึ่งเขารักมากและได้ตายจากไปเช่นกัน จึงมีประสบการณ์ความรู้สึกผูกพันและเจ็บปวด นอกจากนี้ในฐานะที่ทำงานในรพ.สัตว์อยู่นานถึง 11 ปี จึงมีเคสมากมายที่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องรักษาสัตว์ป่วยและบาดเจ็บ พบเห็นความสูญเสียและการพลัดพรากอันน่าเศร้า ระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงจำนวนนับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่คือหมาและแมว เขาจบปริญญาโทมาทางให้คำปรึกษาด้านการมรณะโดยเฉพาะด้วย จึงสนทนากับเหล่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย บันทึกข้อมูล แล้วนำมาเขียนเป็นหนังสือเล่มนี้ โดยสอดแทรกแนวความรู้ที่ตนมีอยู่ในการช่วยปรับสภาพจิตใจให้กับเจ้าของสัตว์ที่กำลังป่วยทางใจได้อย่างดี ด้วยสำนวนภาษาที่ทำให้คนอ่านรู้สึกเป็นกันเอง ผ่อนคลาย เหมือนได้เพื่อนคุยที่เข้าใจหัวอกคนกลุ่มเดียวกัน 🐕 เนื้อหามีทั้งส่วนที่เป็นแบบทดสอบเพื่อวัดระดับ ประเมินความเศร้า แบบทดสอบอื่น ๆ ภาควิเคราะห์ และภาคที่เยียวยาในเชิงให้คำปรึกษาแนะนำ ฟื้นฟูและโอบอุ้มด้วยคำพูดที่เลือกมาแล้วอย่างคนเข้าใจปัญหา ไม่ต่อว่าไม่กดดันให้รู้สึกผิด แต่ให้กำลังใจ ให้ความหวัง ให้วิตามินเสริมเพื่อเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าให้กลับคืนมาสู่เจ้าของสัตว์ทั้งหลาย ให้สามารถกลับมาเป็นคนสดใสดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างปกติสุข 🐈 ช่วงหลังจะเป็นเคสตัวอย่างของผู้ที่เคยสูญเสียหลายกรณี มีทั้งหมา แมวคละกัน บอกเล่าเรื่องราวของแต่ละครอบครัวในวันที่ได้พบกันครั้งแรกจนวันที่ต้องจากลา ด้วยวิธีเล่าแบบเขียนในมุมมองของสัตว์ ที่เผยความในใจที่มีต่อเจ้าของ ขอให้นึกถึงแนวอย่างนวนิยายเรื่อง นิกกับพิม นั่นแหละคล้ายกัน 🐕 ระหว่างทางของการรักษาเยียวยาใจให้ผู้ที่กำลังอ่านนั้น ก็มีคั่นด้วยความในใจของเหล่าสัตว์ ที่เป็นกรอบเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ปรากฏเป็นช่วง ๆ เพื่อปลอบประโลมดวงใจของมนุษย์ที่ยังอยู่ และต้องแบกรับกับความเจ็บปวดและรู้สึกผิด ความในใจเหล่านั้นคงจะอ่อนโยนราวกับผ้าเช็ดหน้าจากผ้าชั้นดีผืนบาง ที่ช่วยซึมซับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่รู้จักหยุดของเจ้าของ ให้เหือดแห้งลงได้ในอนาคตอันใกล้ 🐈 และถ้าเป็นไปได้ ที่ผมอยากเสนอความเห็นเป็นทางเลือกไว้ให้ลองพิจารณา หลังจากคุณเข้มแข็งขึ้นแล้วคือ การไม่เลี้ยงสัตว์ตัวใหม่เพิ่มอีก น่าจะดีที่สุดที่จะหยุดปัญหาที่จะตามมาในอนาคตครับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #เรื่องแปล #จิตวิทยา #การสูญเสีย #สัตว์เลี้ยง #thaitimes #สัตวแพทย์ #รพ.สัตว์ #นานมีบุ๊กส์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • Take a break ⛱️😴
    #AiImage #IamAmatureAiCreator
    Take a break ⛱️😴 #AiImage #IamAmatureAiCreator
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขย่าเพนตากอน!

    ทรัมป์มีคำสั่งปลด พลอากาศเอกซีคิว บราวน์ (General CQ Brown) ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นตำแหน่งระดับบัญชาการทหารสูงที่สุดของกองทัพสหรัฐฯ

    คำสั่งดังกล่าวประกาศออกมาในช่วงค่ำวันศุกร์ตามเวลาในสหรัฐฯ

    พลอากาศเอกบราวน์ คือนายทหารผิวดำคนที่สองในประวัติศาสตร์ที่ได้นั่งในตำแหน่งประธานผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วม โดยเขาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนี้เมื่อ 16 เดือนก่อนในสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน หลังจากการเกษียณอายุราชการของพลเอกไมค์ ไมลีย์

    นอกจากนี้ทรัมป์ยังแต่งตั้งพลโท แดน "เรซิน" แคน (Lieutenant General Dan “Razin” Caine) ซึ่งเกษียณอายุราชการไปแล้วให้กลับมานั่งเก้าอี้ประธานคณะเสนาธิการร่วมแทน บราวน์ อีกด้วย

    สำหรับ พล.ท. แคน นั้นเป็นอดีตนักบินเครื่องบินขับไล่ F-16 และเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการทหารของสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA)

    ทรัมป์ ไม่ได้ระบุถึงสาเหตุการเปลี่ยนตัว บราวน์ และไม่ได้พูดถึงการอนุญาตให้เขาอยู่ในตำแหน่งต่อจนกว่าประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมคนใหม่จะผ่านการรับรองโดยวุฒิสภาหรือไม่

    นอกจากนี้ กลาโหมสหรัฐโดย พีท เฮกเซธ ยังประกาศปลดพลเรือเอกหญิง ลิซา ฟร็องเช็ตติ (Chief Adm. Lisa Franchetti) ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐฯ รวมถึงพลอากาศเอกจิม สไลฟ์ (Jim Slife) รองหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการกองทัพอากาศออกด้วย



    เขย่าเพนตากอน! ทรัมป์มีคำสั่งปลด พลอากาศเอกซีคิว บราวน์ (General CQ Brown) ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นตำแหน่งระดับบัญชาการทหารสูงที่สุดของกองทัพสหรัฐฯ คำสั่งดังกล่าวประกาศออกมาในช่วงค่ำวันศุกร์ตามเวลาในสหรัฐฯ พลอากาศเอกบราวน์ คือนายทหารผิวดำคนที่สองในประวัติศาสตร์ที่ได้นั่งในตำแหน่งประธานผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วม โดยเขาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนี้เมื่อ 16 เดือนก่อนในสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน หลังจากการเกษียณอายุราชการของพลเอกไมค์ ไมลีย์ นอกจากนี้ทรัมป์ยังแต่งตั้งพลโท แดน "เรซิน" แคน (Lieutenant General Dan “Razin” Caine) ซึ่งเกษียณอายุราชการไปแล้วให้กลับมานั่งเก้าอี้ประธานคณะเสนาธิการร่วมแทน บราวน์ อีกด้วย สำหรับ พล.ท. แคน นั้นเป็นอดีตนักบินเครื่องบินขับไล่ F-16 และเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการทหารของสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA) ทรัมป์ ไม่ได้ระบุถึงสาเหตุการเปลี่ยนตัว บราวน์ และไม่ได้พูดถึงการอนุญาตให้เขาอยู่ในตำแหน่งต่อจนกว่าประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมคนใหม่จะผ่านการรับรองโดยวุฒิสภาหรือไม่ นอกจากนี้ กลาโหมสหรัฐโดย พีท เฮกเซธ ยังประกาศปลดพลเรือเอกหญิง ลิซา ฟร็องเช็ตติ (Chief Adm. Lisa Franchetti) ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐฯ รวมถึงพลอากาศเอกจิม สไลฟ์ (Jim Slife) รองหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการกองทัพอากาศออกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • ครั้งหนึ่งในสยาม EP4 ตอน อำแดงเหมือน ฝืนรักหักจารีต
    เธอยอมถูกจองจำ เพราะรักแท้ และรักนั้น ผลักดันเธอให้ทำในสิ่งที่เหนือคาดหมาย เรื่องราวความรักที่ต้องฝ่าฟันขวากหนามของอำแดงเหมือนและนายริด ที่นำมาสู่จุดเปลี่ยนสถานะของหญิงไทยได้ในสารคดี ครั้งหนึ่งในสยาม ตอน อำแดงเหมือน ฝืนรักหักจารีต

    #ครั้งหนึ่งในสยาม #thaitimes
    ครั้งหนึ่งในสยาม EP4 ตอน อำแดงเหมือน ฝืนรักหักจารีต เธอยอมถูกจองจำ เพราะรักแท้ และรักนั้น ผลักดันเธอให้ทำในสิ่งที่เหนือคาดหมาย เรื่องราวความรักที่ต้องฝ่าฟันขวากหนามของอำแดงเหมือนและนายริด ที่นำมาสู่จุดเปลี่ยนสถานะของหญิงไทยได้ในสารคดี ครั้งหนึ่งในสยาม ตอน อำแดงเหมือน ฝืนรักหักจารีต #ครั้งหนึ่งในสยาม #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • The lady in veil.
    #AiImage #IamAmetureAiCreator
    The lady in veil. #AiImage #IamAmetureAiCreator
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • -รายงานข่าว 21 กุมภาพันธ์ 2568-พอวันพฤหัสบดีได้รับโหวตจากสภาเซเนทด้วยมติชนะ 51:49 ศุกร์วันนี้ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 นายแคช ปาเทล (Kash Patel) ก็เดินทางไปสาบาลตนเข้ารับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเอฟบีไอ คนที่ 9 ทันที โดยมีหัวหน้าใหญ่คือคุณ แพม บอนดิ อัยการสูงสุดของรัฐบาลกลางเทียบเท่ารัฐมนตรีของกระทรวงยุติธรรม เจ้านายเขา เป็นผู้นำกล่าวคำสาบานตนให้กับเขา แคช ปาเทล อายุ 45 ปี เป็นหัวหน้าสำนักงานเอฟบีไอคนแรกที่มีเชื้อสายเป็นคนอินเดีย อีกทั้งยังเป็นหัวหน้าใหญ่เอฟบีไอคนแรกที่เป็นคนชาติพันธุ์เอเซียอีกด้วย พ่อแม่เขาเป็นคนอินเดียย้ายไปทำมาหากินที่ประเทศอูกานด้า แล้วหนีภ้ยฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากอีดี้ อามิน ผู้นำเผด็จการไปแคนาดาก่อน แล้วอพยพเข้ามาอเมริกาอาศัยอยู่ที่เมืองการ์เด้น ซิตี้ เขตลองไอแลนด์รัฐนิวยอร์ค เขาเกิดและเติบโตที่นิวยอร์ค จบการศึกษาปริญญาตรีด้านกฏหมายที่มหาวิทยาลัยริชมอนด์รัฐเวอร์จิเนีย ไปต่อด้านกฏหมายอีกที่อังกฤษ แล้วมาต่อปริญญาโทด้านกฏหมายที่ Pace University งานแรกทำงานเป็นทนายช่วยคนจน Public Defend Lawyer ให้กับศาลไมอามีรัฐฟลอริด้า แล้วย้ายมาว่าความให้กับหน่วยงานรัฐบาลกลางที่วอชิงตัน ดี.ซี.ช่วงทรัมป์ 1.0 เทอมแรกปี 2016 เขาช่วยทำงานด้านต่อต้านผู้ก่อการร้ายให้กับทรัมป์ในหน่วยงานสภาความมั่นคง ต่อมาได้ตำแหน่งเป็น Chief of Staff กับรัฐมนตรีกลาโหม เขาช่วยเหลือทรัมป์อย่างเด็ดเดี่ยวในช่วงวิกฤติ Jan6 ปี 2021 มาตลอด อยู่เคียงข้างทรัมป์เสมอมา พอสมัยทรัมป์ 2.0 เขาได้รับเสนอชื่อให้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนกลางหรือเอฟบีไอ มีอำนาจสืบสวนและสอบสวนทั่วประเทศ ทำงานร่วมกับกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติตอนช่วง Senate Confirmation Hearing มีการพิจารณาไต่สวนอย่างดุเดือดเผ็ดร้อนจากวุฒิสมาชิกสายพรรคเดโมแครตฝ่ายตรงข้าม เขาโต้ตอบคำถามอย่างตาต่อตาฟันต่อฟัน และยังบอกอีกว่ารายชื่อ Enemy List 60 คน ที่อยู่ในหนังสือที่เขาเขียน Government Gangster เขาจะตามล่าให้ถึงที่สุด ตรงนี้นี่เองที่ทำให้พวก Deep State สายเดโมแครตถึงกับโกรธควันออกหูหลังจบการไต่สวนของวุฒิสมาชิกสมาชิก เขาเอ่ยวลีเป็นภาฮินดีว่า...Jai Shri Krishna ขออวยชัยให้กับพระองค์กฤษณะด้วยเทอญ
    -รายงานข่าว 21 กุมภาพันธ์ 2568-พอวันพฤหัสบดีได้รับโหวตจากสภาเซเนทด้วยมติชนะ 51:49 ศุกร์วันนี้ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 นายแคช ปาเทล (Kash Patel) ก็เดินทางไปสาบาลตนเข้ารับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเอฟบีไอ คนที่ 9 ทันที โดยมีหัวหน้าใหญ่คือคุณ แพม บอนดิ อัยการสูงสุดของรัฐบาลกลางเทียบเท่ารัฐมนตรีของกระทรวงยุติธรรม เจ้านายเขา เป็นผู้นำกล่าวคำสาบานตนให้กับเขา แคช ปาเทล อายุ 45 ปี เป็นหัวหน้าสำนักงานเอฟบีไอคนแรกที่มีเชื้อสายเป็นคนอินเดีย อีกทั้งยังเป็นหัวหน้าใหญ่เอฟบีไอคนแรกที่เป็นคนชาติพันธุ์เอเซียอีกด้วย พ่อแม่เขาเป็นคนอินเดียย้ายไปทำมาหากินที่ประเทศอูกานด้า แล้วหนีภ้ยฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากอีดี้ อามิน ผู้นำเผด็จการไปแคนาดาก่อน แล้วอพยพเข้ามาอเมริกาอาศัยอยู่ที่เมืองการ์เด้น ซิตี้ เขตลองไอแลนด์รัฐนิวยอร์ค เขาเกิดและเติบโตที่นิวยอร์ค จบการศึกษาปริญญาตรีด้านกฏหมายที่มหาวิทยาลัยริชมอนด์รัฐเวอร์จิเนีย ไปต่อด้านกฏหมายอีกที่อังกฤษ แล้วมาต่อปริญญาโทด้านกฏหมายที่ Pace University งานแรกทำงานเป็นทนายช่วยคนจน Public Defend Lawyer ให้กับศาลไมอามีรัฐฟลอริด้า แล้วย้ายมาว่าความให้กับหน่วยงานรัฐบาลกลางที่วอชิงตัน ดี.ซี.ช่วงทรัมป์ 1.0 เทอมแรกปี 2016 เขาช่วยทำงานด้านต่อต้านผู้ก่อการร้ายให้กับทรัมป์ในหน่วยงานสภาความมั่นคง ต่อมาได้ตำแหน่งเป็น Chief of Staff กับรัฐมนตรีกลาโหม เขาช่วยเหลือทรัมป์อย่างเด็ดเดี่ยวในช่วงวิกฤติ Jan6 ปี 2021 มาตลอด อยู่เคียงข้างทรัมป์เสมอมา พอสมัยทรัมป์ 2.0 เขาได้รับเสนอชื่อให้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนกลางหรือเอฟบีไอ มีอำนาจสืบสวนและสอบสวนทั่วประเทศ ทำงานร่วมกับกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติตอนช่วง Senate Confirmation Hearing มีการพิจารณาไต่สวนอย่างดุเดือดเผ็ดร้อนจากวุฒิสมาชิกสายพรรคเดโมแครตฝ่ายตรงข้าม เขาโต้ตอบคำถามอย่างตาต่อตาฟันต่อฟัน และยังบอกอีกว่ารายชื่อ Enemy List 60 คน ที่อยู่ในหนังสือที่เขาเขียน Government Gangster เขาจะตามล่าให้ถึงที่สุด ตรงนี้นี่เองที่ทำให้พวก Deep State สายเดโมแครตถึงกับโกรธควันออกหูหลังจบการไต่สวนของวุฒิสมาชิกสมาชิก เขาเอ่ยวลีเป็นภาฮินดีว่า...Jai Shri Krishna ขออวยชัยให้กับพระองค์กฤษณะด้วยเทอญ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • ท่องเที่ยวTikTok@offthemap_official #นอกพื้นที่ #ไทย #ท่องเที่ยว #ว่างว่างก็แวะมา
    ท่องเที่ยวTikTok@offthemap_official #นอกพื้นที่ #ไทย #ท่องเที่ยว #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 1 รีวิว
  • Apple ได้ประกาศเปิดตัว iPhone 16e รุ่นใหม่ที่เน้นความคุ้มค่า โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $599 ซึ่งมาพร้อมกับชิป A18 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ และโมเด็ม C1 ที่เป็นชิ้นส่วน 5G ที่พัฒนาโดย Apple เอง ต่างจาก iPhone รุ่นก่อนหน้าที่ใช้โมเด็ม 5G ของ Qualcomm

    สำหรับการผลิตชิป A18 และ C1 นั้น Apple ได้ทำสัญญากับ TSMC ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ในไต้หวัน ชิป A18 ผลิตด้วยกระบวนการ 3 nm (TSMC N3E) ส่วนการออกแบบฐานของโมเด็ม C1 ใช้กระบวนการ 4 nm และตัวรับสัญญาณใช้กระบวนการ 7 nm

    จากรายงานของ Commercial Times Taiwan คาดว่า TSMC จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการทำสัญญานี้กับ Apple โดยนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมประเมินว่ายอดส่งมอบประจำปีของ iPhone 16e จะอยู่ที่ประมาณ 22 ล้านเครื่องต่อปี นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงว่าโมเด็ม C1 อาจจะถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์อื่น ๆ ของ Apple เช่น Apple Watch และ iPad ในอนาคต และยังมีการอัปเกรดไปยังผลิตภัณฑ์ Mac อีกด้วย

    นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับโปรเจกต์ "Ganymede" ที่มีการออกแบบโมเด็ม 5G รุ่น "C2" ที่อาจใช้กระบวนการ 3 nm ของ TSMC และโปรเจกต์ "Prometheus" ที่อาจเป็นรุ่นโมเด็ม "C3" ในอนาคต

    สิ่งที่น่าสนใจคือ การทำสัญญานี้ไม่เพียงแต่เพิ่มยอดขายของ TSMC แต่ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งในตลาด 5G และการผลิตชิปที่ทันสมัย ซึ่งอาจทำให้ TSMC ได้รับความสนใจมากขึ้นจากลูกค้ารายใหม่ ๆ ในอนาคต

    https://www.techpowerup.com/332924/tsmc-set-to-benefit-from-estimated-22-million-apple-iphone-16e-unit-sales
    Apple ได้ประกาศเปิดตัว iPhone 16e รุ่นใหม่ที่เน้นความคุ้มค่า โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $599 ซึ่งมาพร้อมกับชิป A18 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ และโมเด็ม C1 ที่เป็นชิ้นส่วน 5G ที่พัฒนาโดย Apple เอง ต่างจาก iPhone รุ่นก่อนหน้าที่ใช้โมเด็ม 5G ของ Qualcomm สำหรับการผลิตชิป A18 และ C1 นั้น Apple ได้ทำสัญญากับ TSMC ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ในไต้หวัน ชิป A18 ผลิตด้วยกระบวนการ 3 nm (TSMC N3E) ส่วนการออกแบบฐานของโมเด็ม C1 ใช้กระบวนการ 4 nm และตัวรับสัญญาณใช้กระบวนการ 7 nm จากรายงานของ Commercial Times Taiwan คาดว่า TSMC จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการทำสัญญานี้กับ Apple โดยนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมประเมินว่ายอดส่งมอบประจำปีของ iPhone 16e จะอยู่ที่ประมาณ 22 ล้านเครื่องต่อปี นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงว่าโมเด็ม C1 อาจจะถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์อื่น ๆ ของ Apple เช่น Apple Watch และ iPad ในอนาคต และยังมีการอัปเกรดไปยังผลิตภัณฑ์ Mac อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับโปรเจกต์ "Ganymede" ที่มีการออกแบบโมเด็ม 5G รุ่น "C2" ที่อาจใช้กระบวนการ 3 nm ของ TSMC และโปรเจกต์ "Prometheus" ที่อาจเป็นรุ่นโมเด็ม "C3" ในอนาคต สิ่งที่น่าสนใจคือ การทำสัญญานี้ไม่เพียงแต่เพิ่มยอดขายของ TSMC แต่ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งในตลาด 5G และการผลิตชิปที่ทันสมัย ซึ่งอาจทำให้ TSMC ได้รับความสนใจมากขึ้นจากลูกค้ารายใหม่ ๆ ในอนาคต https://www.techpowerup.com/332924/tsmc-set-to-benefit-from-estimated-22-million-apple-iphone-16e-unit-sales
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    TSMC Set to Benefit from Estimated 22 Million Apple iPhone 16e Unit Sales
    On Wednesday (February 19), Apple announced the upcoming launch of its "budget-friendly" iPhone 16e smartphone model. The Cupertino, California-based company has refreshed its entry level product tier—starting at $599—with modernized internals. Apple's new design houses an A18 chipset, as well as th...
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • iPhone 16e ของ Apple ได้ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพครั้งแรก และเผยให้เห็นว่า A18 ชิปที่ใช้ใน iPhone 16e นั้นมีประสิทธิภาพต่ำกว่าชิปใน iPhone 16 และ iPhone 16 Plus ประมาณ 15% สาเหตุเกิดจากการที่ Apple ใช้วิธีการที่เรียกว่า chip-binning เพื่อผลิตชิป A18 ซึ่งทำให้ชิปนี้มี GPU 4-core แทนที่จะเป็น 5-core ที่ใช้ในรุ่นอื่น ๆ

    แม้ว่า iPhone 16e จะมีราคาถูกกว่า ($599) แต่ยังคงมี RAM 8GB ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับฟีเจอร์ AI ที่ทำงานบนอุปกรณ์ได้ ผลการทดสอบใน Geekbench 6 Metal แสดงให้เห็นว่า iPhone 16e ได้คะแนน 24,188 คะแนน ซึ่งต่ำกว่ารุ่นอื่น ๆ เนื่องจากมี GPU core น้อยกว่า

    การใช้ chip-binning นั้นอาจเป็นการลดต้นทุนการผลิตหรือเป็นการสร้างความแตกต่างระหว่างรุ่นต่าง ๆ ของ iPhone 16 แต่สิ่งที่แน่ชัดคือ การลดจำนวน GPU core ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานด้านกราฟิก อย่างไรก็ตาม Apple ไม่ได้ลดจำนวน CPU core ของ A18 ซึ่งยังคงมีจำนวนเท่าเดิมกับรุ่นอื่น ๆ

    สำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพกราฟิกที่ดีกว่า อาจต้องพิจารณาซื้อรุ่น iPhone 16 หรือ iPhone 16 Plus ซึ่งจะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า

    https://wccftech.com/iphone-16e-a18-gpu-benchmark-15-percent-slower-than-than-non-binned-version/
    iPhone 16e ของ Apple ได้ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพครั้งแรก และเผยให้เห็นว่า A18 ชิปที่ใช้ใน iPhone 16e นั้นมีประสิทธิภาพต่ำกว่าชิปใน iPhone 16 และ iPhone 16 Plus ประมาณ 15% สาเหตุเกิดจากการที่ Apple ใช้วิธีการที่เรียกว่า chip-binning เพื่อผลิตชิป A18 ซึ่งทำให้ชิปนี้มี GPU 4-core แทนที่จะเป็น 5-core ที่ใช้ในรุ่นอื่น ๆ แม้ว่า iPhone 16e จะมีราคาถูกกว่า ($599) แต่ยังคงมี RAM 8GB ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับฟีเจอร์ AI ที่ทำงานบนอุปกรณ์ได้ ผลการทดสอบใน Geekbench 6 Metal แสดงให้เห็นว่า iPhone 16e ได้คะแนน 24,188 คะแนน ซึ่งต่ำกว่ารุ่นอื่น ๆ เนื่องจากมี GPU core น้อยกว่า การใช้ chip-binning นั้นอาจเป็นการลดต้นทุนการผลิตหรือเป็นการสร้างความแตกต่างระหว่างรุ่นต่าง ๆ ของ iPhone 16 แต่สิ่งที่แน่ชัดคือ การลดจำนวน GPU core ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานด้านกราฟิก อย่างไรก็ตาม Apple ไม่ได้ลดจำนวน CPU core ของ A18 ซึ่งยังคงมีจำนวนเท่าเดิมกับรุ่นอื่น ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพกราฟิกที่ดีกว่า อาจต้องพิจารณาซื้อรุ่น iPhone 16 หรือ iPhone 16 Plus ซึ่งจะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า https://wccftech.com/iphone-16e-a18-gpu-benchmark-15-percent-slower-than-than-non-binned-version/
    WCCFTECH.COM
    The iPhone 16e Goes Through Its First Benchmark Run, With The Binned A18’s GPU Obtaining A 15 Percent Lower Score Than The 5-Core Version Running In The Other Models
    Apple’s newest iPhone entrant, the iPhone 16e, was spotted in the latest benchmark, with the A18 GPU posting a lower score than the other version
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts