• OpenAI กำลังพัฒนา แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตัวเอง ซึ่งอาจเป็นคู่แข่งของ X (เดิมคือ Twitter) โดยแพลตฟอร์มนี้จะเน้นการใช้ ChatGPT ในการสร้างภาพและเนื้อหา และอาจรวมเข้ากับ ChatGPT หรือเปิดตัวเป็นแอปใหม่

    ✅ OpenAI กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
    - แพลตฟอร์มนี้อยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา และยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นแอปใหม่หรือรวมเข้ากับ ChatGPT
    - มีการใช้ ChatGPT ในการสร้างภาพและเนื้อหา พร้อมฟีดแบบโซเชียล

    ✅ ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่าง Sam Altman และ Elon Musk
    - Musk เคยเสนอซื้อ OpenAI ในราคา 97.4 พันล้านดอลลาร์ แต่ถูก Altman ปฏิเสธ
    - OpenAI และ Musk ต่างก็มีคดีความต่อกันเกี่ยวกับการควบคุมเทคโนโลยี AI

    ✅ เป้าหมายของ OpenAI ในการสร้างแพลตฟอร์มนี้
    - OpenAI ต้องการ ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อฝึก AI แทนการพึ่งพาข้อมูลจากแพลตฟอร์มอื่น
    - แพลตฟอร์มนี้อาจช่วยให้ OpenAI มี แหล่งข้อมูลของตัวเอง เหมือนกับที่ Musk ใช้ X ในการฝึก Grok

    ✅ แนวโน้มของตลาดโซเชียลมีเดียที่ใช้ AI
    - Meta กำลังใช้ Llama models ในการฝึก AI ด้วยข้อมูลจาก Facebook และ Instagram
    - OpenAI อาจต้องแข่งขันกับแพลตฟอร์มที่มีฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่

    ℹ️ ความท้าทายในการเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่
    - OpenAI กำลังเผชิญกับหลายประเด็น เช่น การพัฒนาโมเดลใหม่, คดีความ และการขยายธุรกิจ
    - ต้องติดตามว่าแพลตฟอร์มนี้จะสามารถดึงดูดผู้ใช้ได้หรือไม่

    ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด AI
    - หาก OpenAI มีแพลตฟอร์มของตัวเอง อาจส่งผลต่อ การเข้าถึงข้อมูลของ AI คู่แข่ง
    - อาจมีการเปลี่ยนแปลงในแนวทางการพัฒนา AI ของบริษัทอื่น

    ℹ️ แนวโน้มของการใช้ AI ในโซเชียลมีเดีย
    - AI อาจมีบทบาทมากขึ้นในการสร้างเนื้อหาและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้
    - อาจมีการพัฒนา AI ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ในรูปแบบที่ซับซ้อนขึ้น

    https://www.neowin.net/news/openai-is-reportedly-working-on-its-own-social-media-platform-to-rival-the-likes-of-x/
    OpenAI กำลังพัฒนา แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตัวเอง ซึ่งอาจเป็นคู่แข่งของ X (เดิมคือ Twitter) โดยแพลตฟอร์มนี้จะเน้นการใช้ ChatGPT ในการสร้างภาพและเนื้อหา และอาจรวมเข้ากับ ChatGPT หรือเปิดตัวเป็นแอปใหม่ ✅ OpenAI กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย - แพลตฟอร์มนี้อยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา และยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นแอปใหม่หรือรวมเข้ากับ ChatGPT - มีการใช้ ChatGPT ในการสร้างภาพและเนื้อหา พร้อมฟีดแบบโซเชียล ✅ ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่าง Sam Altman และ Elon Musk - Musk เคยเสนอซื้อ OpenAI ในราคา 97.4 พันล้านดอลลาร์ แต่ถูก Altman ปฏิเสธ - OpenAI และ Musk ต่างก็มีคดีความต่อกันเกี่ยวกับการควบคุมเทคโนโลยี AI ✅ เป้าหมายของ OpenAI ในการสร้างแพลตฟอร์มนี้ - OpenAI ต้องการ ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อฝึก AI แทนการพึ่งพาข้อมูลจากแพลตฟอร์มอื่น - แพลตฟอร์มนี้อาจช่วยให้ OpenAI มี แหล่งข้อมูลของตัวเอง เหมือนกับที่ Musk ใช้ X ในการฝึก Grok ✅ แนวโน้มของตลาดโซเชียลมีเดียที่ใช้ AI - Meta กำลังใช้ Llama models ในการฝึก AI ด้วยข้อมูลจาก Facebook และ Instagram - OpenAI อาจต้องแข่งขันกับแพลตฟอร์มที่มีฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ ℹ️ ความท้าทายในการเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ - OpenAI กำลังเผชิญกับหลายประเด็น เช่น การพัฒนาโมเดลใหม่, คดีความ และการขยายธุรกิจ - ต้องติดตามว่าแพลตฟอร์มนี้จะสามารถดึงดูดผู้ใช้ได้หรือไม่ ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด AI - หาก OpenAI มีแพลตฟอร์มของตัวเอง อาจส่งผลต่อ การเข้าถึงข้อมูลของ AI คู่แข่ง - อาจมีการเปลี่ยนแปลงในแนวทางการพัฒนา AI ของบริษัทอื่น ℹ️ แนวโน้มของการใช้ AI ในโซเชียลมีเดีย - AI อาจมีบทบาทมากขึ้นในการสร้างเนื้อหาและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ - อาจมีการพัฒนา AI ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ในรูปแบบที่ซับซ้อนขึ้น https://www.neowin.net/news/openai-is-reportedly-working-on-its-own-social-media-platform-to-rival-the-likes-of-x/
    WWW.NEOWIN.NET
    OpenAI is reportedly working on its own social media platform to rival the likes of X
    OpenAI doesn't seem to be catching a break. A new report claims the company is quietly building a social media platform that could go head-to-head with X.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุงนึกว่ามีแค่หน่วยราชการไทยที่ยังใช้ ActiveX อยู่นะเนี่ยะ

    Microsoft ได้ปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยใน Office apps โดยทำให้การเปิดใช้งาน ActiveX controls ยากขึ้น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ช่วยลดความเสี่ยงจากมัลแวร์และการโจมตีทางไซเบอร์

    ✅ ActiveX ถูกบล็อกโดยค่าเริ่มต้นใน Office apps
    - ก่อนหน้านี้ Office apps อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดใช้งาน ActiveX ได้ง่ายผ่าน prompt
    - Microsoft พบว่าพฤติกรรมนี้เปิดช่องให้ มัลแวร์และโค้ดที่ไม่ได้รับอนุญาต สามารถรันบนระบบได้

    ✅ การเปลี่ยนแปลงในเวอร์ชันล่าสุด
    - ตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 เป็นต้นไป Word, Excel, PowerPoint และ Visio จะบล็อก ActiveX โดยอัตโนมัติ
    - เมื่อเปิดไฟล์ที่มี ActiveX ผู้ใช้จะเห็นข้อความ "BLOCKED CONTENT: The ActiveX content in this file is blocked."

    ✅ การเปิดใช้งาน ActiveX ใน Trust Center
    - หากต้องการเปิดใช้งาน ActiveX ผู้ใช้ต้องไปที่ File > Options > Trust Center
    - จากนั้นเลือก ActiveX Settings > Prompt me before enabling all controls with minimal restrictions

    ✅ การเปิดตัวใน Microsoft 365
    - ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานแล้วสำหรับ Microsoft 365 Insiders ใน Beta Channel
    - กำลังทยอยเปิดตัวใน Current Channel เวอร์ชัน 2504 (build 18730.20030 หรือใหม่กว่า)

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ที่ต้องใช้ ActiveX
    - ผู้ใช้ที่ต้องพึ่งพา ActiveX อาจต้องปรับการตั้งค่าใน Trust Center
    - อาจมีผลกระทบต่อ ไฟล์เก่าที่ใช้ ActiveX ซึ่งอาจไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ

    ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของ ActiveX
    - ActiveX เป็นเทคโนโลยีที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยสูง และมักถูกใช้ในการโจมตีแบบ social engineering
    - Microsoft แนะนำให้ใช้ เทคโนโลยีอื่นแทน ActiveX เช่น JavaScript หรือ HTML5

    ℹ️ แนวโน้มของการรักษาความปลอดภัยใน Office apps
    - Microsoft อาจเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมในอนาคต
    - อาจมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับ VBA macros และ Add-ins เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์

    https://www.neowin.net/news/microsoft-makes-it-harder-to-enable-activex-in-office-apps-to-improve-security/
    ลุงนึกว่ามีแค่หน่วยราชการไทยที่ยังใช้ ActiveX อยู่นะเนี่ยะ Microsoft ได้ปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยใน Office apps โดยทำให้การเปิดใช้งาน ActiveX controls ยากขึ้น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ช่วยลดความเสี่ยงจากมัลแวร์และการโจมตีทางไซเบอร์ ✅ ActiveX ถูกบล็อกโดยค่าเริ่มต้นใน Office apps - ก่อนหน้านี้ Office apps อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดใช้งาน ActiveX ได้ง่ายผ่าน prompt - Microsoft พบว่าพฤติกรรมนี้เปิดช่องให้ มัลแวร์และโค้ดที่ไม่ได้รับอนุญาต สามารถรันบนระบบได้ ✅ การเปลี่ยนแปลงในเวอร์ชันล่าสุด - ตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 เป็นต้นไป Word, Excel, PowerPoint และ Visio จะบล็อก ActiveX โดยอัตโนมัติ - เมื่อเปิดไฟล์ที่มี ActiveX ผู้ใช้จะเห็นข้อความ "BLOCKED CONTENT: The ActiveX content in this file is blocked." ✅ การเปิดใช้งาน ActiveX ใน Trust Center - หากต้องการเปิดใช้งาน ActiveX ผู้ใช้ต้องไปที่ File > Options > Trust Center - จากนั้นเลือก ActiveX Settings > Prompt me before enabling all controls with minimal restrictions ✅ การเปิดตัวใน Microsoft 365 - ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานแล้วสำหรับ Microsoft 365 Insiders ใน Beta Channel - กำลังทยอยเปิดตัวใน Current Channel เวอร์ชัน 2504 (build 18730.20030 หรือใหม่กว่า) ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ที่ต้องใช้ ActiveX - ผู้ใช้ที่ต้องพึ่งพา ActiveX อาจต้องปรับการตั้งค่าใน Trust Center - อาจมีผลกระทบต่อ ไฟล์เก่าที่ใช้ ActiveX ซึ่งอาจไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของ ActiveX - ActiveX เป็นเทคโนโลยีที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยสูง และมักถูกใช้ในการโจมตีแบบ social engineering - Microsoft แนะนำให้ใช้ เทคโนโลยีอื่นแทน ActiveX เช่น JavaScript หรือ HTML5 ℹ️ แนวโน้มของการรักษาความปลอดภัยใน Office apps - Microsoft อาจเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมในอนาคต - อาจมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับ VBA macros และ Add-ins เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ https://www.neowin.net/news/microsoft-makes-it-harder-to-enable-activex-in-office-apps-to-improve-security/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft makes it harder to enable ActiveX in Office apps to improve security
    ActiveX is a powerful technology for Office apps, but its inherent risks pose serious security threats. To combat this, Microsoft is making it harder to enable ActiveX.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันเกิดปีนี้ เชื่อว่าเกินครึ่งชีวิตแล้ว เห็นคำอวยพรมากมายจาก social net work ซึ่งก็ทำให้ประทับเสมอ ขอให้ทุกคนที่อวยพรก็ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงยิ่ง ๆ ขึ้นไปเช่นกัน แค่ส่งข้อความหากันเล็กน้อย ก็ทำให้รู้ว่ายังจำกันได้ เมื่อถึงจุดหนึ่งการที่อยู่ในความทรงจำของใครสักคน มันก็เพียงพอแล้ว

    ปล.ขอโทษ ที่รีช้า เมื่อคืนไฟดับทั้งคืน แบตหมดเลย 555

    ขอบคุณภาพจาก coco

    This birthday aniversary. I believe it passed half of my life already. I saw many people give me blessing in many platform of social network, it's always make me touch. Thank you for you all blessing, I wish all you guy more and more happy and healthy. This short massage revealed that we still remember each orther. At one point to realized that someone remember you is enough.

    PS1. Sorry for delayed response last night power down. I cannot even charge my phone. HA HA HA.
    PS2 . Sorry about wrong grammar. I will not check with AI. Because I would like you guy remember the way I speak wrong english. HA HA HA

    Thank you picture of mama Coco
    วันเกิดปีนี้ เชื่อว่าเกินครึ่งชีวิตแล้ว เห็นคำอวยพรมากมายจาก social net work ซึ่งก็ทำให้ประทับเสมอ ขอให้ทุกคนที่อวยพรก็ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงยิ่ง ๆ ขึ้นไปเช่นกัน แค่ส่งข้อความหากันเล็กน้อย ก็ทำให้รู้ว่ายังจำกันได้ เมื่อถึงจุดหนึ่งการที่อยู่ในความทรงจำของใครสักคน มันก็เพียงพอแล้ว ปล.ขอโทษ ที่รีช้า เมื่อคืนไฟดับทั้งคืน แบตหมดเลย 555 ขอบคุณภาพจาก coco This birthday aniversary. I believe it passed half of my life already. I saw many people give me blessing in many platform of social network, it's always make me touch. Thank you for you all blessing, I wish all you guy more and more happy and healthy. This short massage revealed that we still remember each orther. At one point to realized that someone remember you is enough. PS1. Sorry for delayed response last night power down. I cannot even charge my phone. HA HA HA. PS2 . Sorry about wrong grammar. I will not check with AI. Because I would like you guy remember the way I speak wrong english. HA HA HA Thank you picture of mama Coco
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้นำสมาร์ทซิตี้ (Smart City Leader) หมายถึง บุคคลหรือทีมที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเมือง และสร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ

    ### คุณลักษณะสำคัญของผู้นำสมาร์ทซิตี้:
    1. **วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์**
    - กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น ลดการปล่อยคาร์บอน เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด หรือพัฒนาระบบขนส่งอัจฉริยะ
    - สร้างแผนงานที่สอดคล้องกับบริบทของเมือง เช่น การแก้ปัญหาจราจร หรือการจัดการขยะ

    2. **การใช้เทคโนโลยีและข้อมูล**
    - นำเทคโนโลยี IoT (Internet of Things), Big Data, AI, และระบบคลาวด์มาใช้ในการเก็บ-วิเคราะห์ข้อมูลเมือง
    - ตัวอย่าง: ระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ ระบบจราจรอัจฉริยะ

    3. **การมีส่วนร่วมของประชาชน**
    - สร้างแพลตฟอร์มให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ (เช่น แอปพลิเคชันรายงานปัญหาสาธารณะ)
    - ส่งเสริมการรับรู้ข้อมูลแบบเปิด (Open Data)

    4. **ความร่วมมือระหว่างภาคส่วน**
    - ร่วมมือกับภาคเอกชน มหาวิทยาลัย และชุมชน ในการพัฒนาโซลูชัน เช่น การสร้างเครือข่าย Wi-Fi ฟรี หรือโครงการพลังงานทดแทน

    5. **ความยั่งยืน**
    - มุ่งเน้นการพัฒนาเมืองด้วยหลัก ESG (Environmental, Social, Governance) เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน หรือการออกแบบพื้นที่สีเขียว

    ### ตัวอย่างเมืองอัจฉริยะระดับโลก:
    - **สิงคโปร์**: ใช้เทคโนโลยีจัดการจราจรและระบบสุขภาพดิจิทัล
    - **บาร์เซโลนา**: นำ IoT มาใช้ในการจัดการน้ำและพลังงาน
    - **โตเกียว**: พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับสังคมสูงวัยด้วยหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ

    ### ความท้าทายของผู้นำสมาร์ทซิตี้:
    - **ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล**: การจัดการข้อมูลประชาชนต้องมีความปลอดภัย
    - **ความเหลื่อมล้ำดิจิทัล**: ต้องให้ทุกกลุ่มเข้าถึงเทคโนโลยีได้เท่าเทียม
    - **การลงทุน**: ต้องสมดุลระหว่างค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ระยะยาว

    ผู้นำสมาร์ทซิตี้จึงไม่เพียงต้องมีความรู้ด้านเทคโนโลยี แต่ต้องมีทักษะการสื่อสาร การบริหารโครงการขนาดใหญ่ และความเข้าใจในความต้องการของประชาชนอย่างลึกซึ้ง เพื่อสร้างเมืองที่ "อัจฉริยะ" อย่างแท้จริง
    ผู้นำสมาร์ทซิตี้ (Smart City Leader) หมายถึง บุคคลหรือทีมที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเมือง และสร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ ### คุณลักษณะสำคัญของผู้นำสมาร์ทซิตี้: 1. **วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์** - กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น ลดการปล่อยคาร์บอน เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด หรือพัฒนาระบบขนส่งอัจฉริยะ - สร้างแผนงานที่สอดคล้องกับบริบทของเมือง เช่น การแก้ปัญหาจราจร หรือการจัดการขยะ 2. **การใช้เทคโนโลยีและข้อมูล** - นำเทคโนโลยี IoT (Internet of Things), Big Data, AI, และระบบคลาวด์มาใช้ในการเก็บ-วิเคราะห์ข้อมูลเมือง - ตัวอย่าง: ระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ ระบบจราจรอัจฉริยะ 3. **การมีส่วนร่วมของประชาชน** - สร้างแพลตฟอร์มให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ (เช่น แอปพลิเคชันรายงานปัญหาสาธารณะ) - ส่งเสริมการรับรู้ข้อมูลแบบเปิด (Open Data) 4. **ความร่วมมือระหว่างภาคส่วน** - ร่วมมือกับภาคเอกชน มหาวิทยาลัย และชุมชน ในการพัฒนาโซลูชัน เช่น การสร้างเครือข่าย Wi-Fi ฟรี หรือโครงการพลังงานทดแทน 5. **ความยั่งยืน** - มุ่งเน้นการพัฒนาเมืองด้วยหลัก ESG (Environmental, Social, Governance) เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน หรือการออกแบบพื้นที่สีเขียว ### ตัวอย่างเมืองอัจฉริยะระดับโลก: - **สิงคโปร์**: ใช้เทคโนโลยีจัดการจราจรและระบบสุขภาพดิจิทัล - **บาร์เซโลนา**: นำ IoT มาใช้ในการจัดการน้ำและพลังงาน - **โตเกียว**: พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับสังคมสูงวัยด้วยหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ### ความท้าทายของผู้นำสมาร์ทซิตี้: - **ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล**: การจัดการข้อมูลประชาชนต้องมีความปลอดภัย - **ความเหลื่อมล้ำดิจิทัล**: ต้องให้ทุกกลุ่มเข้าถึงเทคโนโลยีได้เท่าเทียม - **การลงทุน**: ต้องสมดุลระหว่างค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ระยะยาว ผู้นำสมาร์ทซิตี้จึงไม่เพียงต้องมีความรู้ด้านเทคโนโลยี แต่ต้องมีทักษะการสื่อสาร การบริหารโครงการขนาดใหญ่ และความเข้าใจในความต้องการของประชาชนอย่างลึกซึ้ง เพื่อสร้างเมืองที่ "อัจฉริยะ" อย่างแท้จริง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในงาน Kyiv International Cyber Resilience Forum 2025 ที่จัดขึ้นในยูเครน มีการพูดถึงบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความยืดหยุ่นในโลกไซเบอร์ โดยเฉพาะในบริบทของสงครามไซเบอร์ที่ยูเครนต้องเผชิญจากการโจมตีของรัสเซีย

    ✅ ความร่วมมือระหว่างประเทศ:
    - ยูเครนสามารถป้องกันการโจมตีไซเบอร์จากรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความช่วยเหลือจากองค์กรเอกชนในสหรัฐฯ และยุโรป
    - การโจมตีของรัสเซียไม่ได้มาจากหน่วยงานรัฐอย่าง GRU, SVR และ FSB เท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการโจมตี

    ✅ กลยุทธ์ของรัสเซีย:
    - รัสเซียมีความเชี่ยวชาญในด้าน Social Engineering โดยใช้ QR Code เพื่อหลอกลวงเป้าหมายให้ติดตั้งมัลแวร์ผ่านแอปพลิเคชัน Signal
    - Google Threat Intelligence Group ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับวิธีการโจมตีนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025

    ✅ ความยืดหยุ่นในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง:
    - ยูเครนต้องเผชิญกับความท้าทายเมื่อพันธมิตรบางราย เช่น Signal หยุดให้ความร่วมมือ
    - การมีแผนสำรองและทางเลือกที่หลากหลาย เช่น การใช้ระบบสื่อสารหรือภาพถ่ายดาวเทียมจากแหล่งอื่น เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความยืดหยุ่น

    บทเรียนที่องค์กรสามารถนำไปปรับใช้:
    💡 อย่าพึ่งพาแหล่งเดียว:
    - การมีแผนสำรองสำหรับกรณีที่บริการหรือพันธมิตรหยุดให้ความร่วมมือเป็นสิ่งสำคัญ

    💡 การเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด:
    - การวางแผนรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การโจมตีไซเบอร์หรือภัยพิบัติ ช่วยให้องค์กรสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

    💡 การสร้างความร่วมมือในระดับนานาชาติ:
    - การทำงานร่วมกับพันธมิตรในระดับโลกช่วยเพิ่มศักยภาพในการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์

    https://www.csoonline.com/article/3950749/some-lessons-learned-about-resilience-in-cybersecurity-from-a-visit-to-ukraine.html
    ในงาน Kyiv International Cyber Resilience Forum 2025 ที่จัดขึ้นในยูเครน มีการพูดถึงบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความยืดหยุ่นในโลกไซเบอร์ โดยเฉพาะในบริบทของสงครามไซเบอร์ที่ยูเครนต้องเผชิญจากการโจมตีของรัสเซีย ✅ ความร่วมมือระหว่างประเทศ: - ยูเครนสามารถป้องกันการโจมตีไซเบอร์จากรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความช่วยเหลือจากองค์กรเอกชนในสหรัฐฯ และยุโรป - การโจมตีของรัสเซียไม่ได้มาจากหน่วยงานรัฐอย่าง GRU, SVR และ FSB เท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการโจมตี ✅ กลยุทธ์ของรัสเซีย: - รัสเซียมีความเชี่ยวชาญในด้าน Social Engineering โดยใช้ QR Code เพื่อหลอกลวงเป้าหมายให้ติดตั้งมัลแวร์ผ่านแอปพลิเคชัน Signal - Google Threat Intelligence Group ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับวิธีการโจมตีนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ✅ ความยืดหยุ่นในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง: - ยูเครนต้องเผชิญกับความท้าทายเมื่อพันธมิตรบางราย เช่น Signal หยุดให้ความร่วมมือ - การมีแผนสำรองและทางเลือกที่หลากหลาย เช่น การใช้ระบบสื่อสารหรือภาพถ่ายดาวเทียมจากแหล่งอื่น เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความยืดหยุ่น บทเรียนที่องค์กรสามารถนำไปปรับใช้: 💡 อย่าพึ่งพาแหล่งเดียว: - การมีแผนสำรองสำหรับกรณีที่บริการหรือพันธมิตรหยุดให้ความร่วมมือเป็นสิ่งสำคัญ 💡 การเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด: - การวางแผนรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การโจมตีไซเบอร์หรือภัยพิบัติ ช่วยให้องค์กรสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว 💡 การสร้างความร่วมมือในระดับนานาชาติ: - การทำงานร่วมกับพันธมิตรในระดับโลกช่วยเพิ่มศักยภาพในการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ https://www.csoonline.com/article/3950749/some-lessons-learned-about-resilience-in-cybersecurity-from-a-visit-to-ukraine.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Lessons learned about cyber resilience from a visit to Ukraine
    When systems fail, it’s important to have a plan to replace lost resources however and from wherever you can source them, as the embattled country has learned over more than a decade of conflict.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในยุคที่ภัยคุกคามไซเบอร์พัฒนาอย่างรวดเร็ว การฝึกอบรมพนักงานให้รับมือกับการโจมตี เช่น Phishing, Social Engineering และ Deepfake เป็นสิ่งสำคัญ แต่การมอบหมายให้ HR เป็นผู้ดูแลการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์โดยลำพัง อาจทำให้องค์กรตกอยู่ในความเสี่ยง

    == ข้อจำกัดของ HR ในการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ==
    ✅ ขาดความรู้เฉพาะทาง:
    - HR อาจไม่มีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เช่น เทคนิคใหม่ ๆ ที่แฮ็กเกอร์ใช้โจมตี

    ✅ การฝึกอบรมที่ไม่ตรงจุด:
    - การฝึกอบรมที่จัดโดย HR อาจเน้นไปที่การปฏิบัติตามข้อกำหนดทั่วไป แต่ขาดการเน้นย้ำถึงภัยคุกคามเฉพาะที่องค์กรเผชิญ

    ✅ ความไม่สอดคล้องกับความต้องการขององค์กร:
    - HR อาจไม่สามารถปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรม เช่น ในภาคการเงินที่ต้องเน้นการป้องกันข้อมูลบัตรเครดิต

    == ความสำคัญของความร่วมมือระหว่าง HR และทีมความปลอดภัย ==
    💡 การสร้างเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพ:
    - ทีมความปลอดภัยสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภัยคุกคามที่องค์กรเผชิญ และช่วยออกแบบการฝึกอบรมที่ตรงจุด

    💡 การแปลข้อมูลเทคนิคให้เข้าใจง่าย:
    - HR สามารถช่วยแปลข้อมูลเชิงเทคนิคให้เป็นภาษาที่พนักงานทั่วไปเข้าใจได้ง่าย

    💡 การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย:
    - การฝึกอบรมที่มีความร่วมมือระหว่าง HR และทีมความปลอดภัยช่วยสร้างความตระหนักรู้และวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร

    https://www.csoonline.com/article/3856404/is-hr-running-your-employee-security-training-heres-why-thats-not-always-the-best-idea.html
    ในยุคที่ภัยคุกคามไซเบอร์พัฒนาอย่างรวดเร็ว การฝึกอบรมพนักงานให้รับมือกับการโจมตี เช่น Phishing, Social Engineering และ Deepfake เป็นสิ่งสำคัญ แต่การมอบหมายให้ HR เป็นผู้ดูแลการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์โดยลำพัง อาจทำให้องค์กรตกอยู่ในความเสี่ยง == ข้อจำกัดของ HR ในการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์ == ✅ ขาดความรู้เฉพาะทาง: - HR อาจไม่มีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เช่น เทคนิคใหม่ ๆ ที่แฮ็กเกอร์ใช้โจมตี ✅ การฝึกอบรมที่ไม่ตรงจุด: - การฝึกอบรมที่จัดโดย HR อาจเน้นไปที่การปฏิบัติตามข้อกำหนดทั่วไป แต่ขาดการเน้นย้ำถึงภัยคุกคามเฉพาะที่องค์กรเผชิญ ✅ ความไม่สอดคล้องกับความต้องการขององค์กร: - HR อาจไม่สามารถปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรม เช่น ในภาคการเงินที่ต้องเน้นการป้องกันข้อมูลบัตรเครดิต == ความสำคัญของความร่วมมือระหว่าง HR และทีมความปลอดภัย == 💡 การสร้างเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพ: - ทีมความปลอดภัยสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภัยคุกคามที่องค์กรเผชิญ และช่วยออกแบบการฝึกอบรมที่ตรงจุด 💡 การแปลข้อมูลเทคนิคให้เข้าใจง่าย: - HR สามารถช่วยแปลข้อมูลเชิงเทคนิคให้เป็นภาษาที่พนักงานทั่วไปเข้าใจได้ง่าย 💡 การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย: - การฝึกอบรมที่มีความร่วมมือระหว่าง HR และทีมความปลอดภัยช่วยสร้างความตระหนักรู้และวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร https://www.csoonline.com/article/3856404/is-hr-running-your-employee-security-training-heres-why-thats-not-always-the-best-idea.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Is HR running your employee security training? Here’s why that’s not always the best idea
    Training employees to resist the lure of phishing, scams, and deepfakes is central to a good cybersecurity posture, but to be effective it needs to be handled with plenty of input and guidance from the security team.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลตุรกีกำลังผลักดันการแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มอำนาจให้แก่หน่วยงาน Information and Communication Technologies Authority (BTK) ในการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแอปส่งข้อความ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการศาล โดยอ้างเหตุผลด้าน “ความมั่นคงแห่งชาติ”

    ✅ สิทธิใหม่ของหน่วยงาน BTK:
    - BTK จะได้รับอำนาจในการบล็อกการเข้าถึงโซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันส่งข้อความได้โดยตรง หากเกี่ยวข้องกับความมั่นคงสาธารณะ สุขภาพ หรือผลประโยชน์ของรัฐ
    - สามารถลดแบนด์วิดท์ได้ถึง 90% เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ระหว่างสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งทำให้เว็บไซต์และแอปเป้าหมายแทบไม่สามารถใช้งานได้เลย

    ✅ ข้อกำหนดสำหรับบริษัท:
    - แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเกินกว่า 1 ล้านคน ในตุรกี เช่น Instagram, YouTube, WhatsApp ต้องตั้งบริษัทในประเทศและปฏิบัติตามข้อบังคับที่เข้มงวด

    ✅ การควบคุม VPN:
    - ตุรกียังเพิ่มการบีบคั้นบริการ VPN ซึ่งผู้ใช้นิยมใช้ในการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต

    ✅ ผลกระทบและความกังวล:
    - การบังคับใช้กฎหมายใหม่นี้อาจเพิ่มความเข้มงวดในระดับเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นการขยายผลกระทบจากการปิดกั้นโซเชียลมีเดียในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เช่น การประท้วงทางการเมืองและเหตุฉุกเฉินอย่างแผ่นดินไหวปี 2023
    - ผู้สื่อข่าวและกลุ่มสิทธิดิจิทัลได้แสดงความกังวลว่าอำนาจที่เพิ่มขึ้นอาจถูกนำไปใช้เพื่อปิดปากการรายงานข่าวอิสระ และลดทอนเสรีภาพในการแสดงออกในโลกออนไลน์

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/turkey-wants-to-make-it-easier-for-authorities-to-block-social-media-and-messaging-apps
    รัฐบาลตุรกีกำลังผลักดันการแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มอำนาจให้แก่หน่วยงาน Information and Communication Technologies Authority (BTK) ในการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแอปส่งข้อความ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการศาล โดยอ้างเหตุผลด้าน “ความมั่นคงแห่งชาติ” ✅ สิทธิใหม่ของหน่วยงาน BTK: - BTK จะได้รับอำนาจในการบล็อกการเข้าถึงโซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันส่งข้อความได้โดยตรง หากเกี่ยวข้องกับความมั่นคงสาธารณะ สุขภาพ หรือผลประโยชน์ของรัฐ - สามารถลดแบนด์วิดท์ได้ถึง 90% เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ระหว่างสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งทำให้เว็บไซต์และแอปเป้าหมายแทบไม่สามารถใช้งานได้เลย ✅ ข้อกำหนดสำหรับบริษัท: - แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเกินกว่า 1 ล้านคน ในตุรกี เช่น Instagram, YouTube, WhatsApp ต้องตั้งบริษัทในประเทศและปฏิบัติตามข้อบังคับที่เข้มงวด ✅ การควบคุม VPN: - ตุรกียังเพิ่มการบีบคั้นบริการ VPN ซึ่งผู้ใช้นิยมใช้ในการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ✅ ผลกระทบและความกังวล: - การบังคับใช้กฎหมายใหม่นี้อาจเพิ่มความเข้มงวดในระดับเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นการขยายผลกระทบจากการปิดกั้นโซเชียลมีเดียในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เช่น การประท้วงทางการเมืองและเหตุฉุกเฉินอย่างแผ่นดินไหวปี 2023 - ผู้สื่อข่าวและกลุ่มสิทธิดิจิทัลได้แสดงความกังวลว่าอำนาจที่เพิ่มขึ้นอาจถูกนำไปใช้เพื่อปิดปากการรายงานข่าวอิสระ และลดทอนเสรีภาพในการแสดงออกในโลกออนไลน์ https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/turkey-wants-to-make-it-easier-for-authorities-to-block-social-media-and-messaging-apps
    WWW.TECHRADAR.COM
    Turkey wants to make it easier for authorities to block social media and messaging apps
    The draft amendment would also require establishing a company in the country
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • X หรือที่เคยรู้จักในชื่อ Twitter (ก่อนการเปลี่ยนแปลงโดย Elon Musk) ประกาศมาตรการใหม่ที่มุ่งเน้นการจัดการบัญชีประเภท ล้อเลียน (Parody), ความคิดเห็น (Commentary) และ แฟนคลับ (Fan Account) เพื่อเสริมสร้างความชัดเจนและป้องกันความสับสนสำหรับผู้ใช้งาน

    ✅ การระบุลักษณะของบัญชี:
    - บัญชีประเภท Parody, Commentary และ Fan (PCF) ต้องเพิ่มคำที่บ่งบอกลักษณะของบัญชีไว้ที่ หน้าชื่อบัญชี เช่น “ล้อเลียน” หรือ “แฟน” เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจธรรมชาติของบัญชีเหล่านั้นได้ชัดเจน
    - บัญชี PCF ยังถูกห้ามใช้รูปโปรไฟล์ที่เหมือนกันกับบัญชีต้นฉบับที่พยายามล้อเลียน

    ✅ เป้าหมายของการเปลี่ยนแปลงนี้:
    - มาตรการนี้ตั้งเป้าเพื่อลดปัญหาการแอบอ้างและการสับสนในกลุ่มผู้ใช้งาน โดยเน้นการปรับปรุง ความโปร่งใสและความเชื่อถือได้

    ✅ ข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตามก่อนวันที่ 10 เมษายน:
    - บัญชี PCF จะต้องอัปเดตโปรไฟล์ให้สอดคล้องกับนโยบายใหม่ มิฉะนั้นอาจเสี่ยงต่อการถูกแบน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/09/social-media-site-x-tightens-rules-on-parody-impersonation-fan-accounts
    X หรือที่เคยรู้จักในชื่อ Twitter (ก่อนการเปลี่ยนแปลงโดย Elon Musk) ประกาศมาตรการใหม่ที่มุ่งเน้นการจัดการบัญชีประเภท ล้อเลียน (Parody), ความคิดเห็น (Commentary) และ แฟนคลับ (Fan Account) เพื่อเสริมสร้างความชัดเจนและป้องกันความสับสนสำหรับผู้ใช้งาน ✅ การระบุลักษณะของบัญชี: - บัญชีประเภท Parody, Commentary และ Fan (PCF) ต้องเพิ่มคำที่บ่งบอกลักษณะของบัญชีไว้ที่ หน้าชื่อบัญชี เช่น “ล้อเลียน” หรือ “แฟน” เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจธรรมชาติของบัญชีเหล่านั้นได้ชัดเจน - บัญชี PCF ยังถูกห้ามใช้รูปโปรไฟล์ที่เหมือนกันกับบัญชีต้นฉบับที่พยายามล้อเลียน ✅ เป้าหมายของการเปลี่ยนแปลงนี้: - มาตรการนี้ตั้งเป้าเพื่อลดปัญหาการแอบอ้างและการสับสนในกลุ่มผู้ใช้งาน โดยเน้นการปรับปรุง ความโปร่งใสและความเชื่อถือได้ ✅ ข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตามก่อนวันที่ 10 เมษายน: - บัญชี PCF จะต้องอัปเดตโปรไฟล์ให้สอดคล้องกับนโยบายใหม่ มิฉะนั้นอาจเสี่ยงต่อการถูกแบน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/09/social-media-site-x-tightens-rules-on-parody-impersonation-fan-accounts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องนี้เราสามารถมาประยุกต์เป็นข้อคิดและป้องกันสำหรับคนไทยได้ครับ

    Microsoft เตือนว่าแคมเปญหลอกลวงช่วงวันภาษีในสหรัฐฯ เป็นอันตรายที่มุ่งหวังข้อมูลส่วนบุคคลและการเงินของเหยื่อ ผู้โจมตีใช้เทคนิคเชิงจิตวิทยาเพื่อสร้างความเร่งด่วนและส่งมัลแวร์ผ่านฟิชชิ่งอีเมล การเรียนรู้วิธีรับมือและปฏิเสธการคลิกไฟล์แนบหรือลิงก์ที่น่าสงสัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในยุคที่ภัยไซเบอร์ขยายวงกว้าง

    == ภัยคุกคามที่ต้องระวัง==
    ✅ การใช้เทคนิคโซเชียลวิศวกรรม (Social Engineering)
    - ผู้โจมตีใช้ QR Codes, URL Shorteners และไฟล์แนบที่เป็นอันตราย เพื่อส่งมัลแวร์ เช่น Latrodectus, BruteRatel C4 (BRc4), AHKBot และ Remote Access Trojans (RATs)
    - ฟิชชิ่งอีเมลมักมาพร้อมหัวข้อเช่น “Important Action Required: IRS Audit” หรือ “Notice: IRS Has Flagged Issues with Your Tax Filing” เพื่อสร้างความเร่งด่วน

    ✅ เทคนิคหลอกลวงที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
    - ผู้โจมตีบางกลุ่มใช้ อีเมลสร้างความไว้ใจ ก่อนส่งอีเมลรอบสองที่มาพร้อมไฟล์ PDF อันตราย ซึ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือและอัตราการหลงเชื่อ

    ✅ มัลแวร์ที่ถูกใช้ในแคมเปญโจมตี
    - ตัวอย่างมัลแวร์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ GuLoader ซึ่งเป็น malware downloader แบบหลบหลีกสูง ใช้เทคนิค Process Injection และ Cloud-based Hosting ในการปล่อยมัลแวร์

    ✅ ผลกระทบที่ตามมา
    - เหยื่อต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการถูกเปิดบัญชีเครดิตใหม่ในชื่อของตนเอง รวมถึงการสูญเสียเงินในบัญชี

    == คำแนะนำเพื่อการป้องกัน ==
    ✅ การเรียนรู้และการมีสติเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุด
    - Microsoft แนะนำให้ผู้ใช้มีความรู้เกี่ยวกับ ลักษณะของฟิชชิ่งอีเมล และตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อความก่อนดำเนินการใด ๆ
    - หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์หรือดาวน์โหลดไฟล์แนบที่ไม่คุ้นเคย

    ✅ เลือกใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันภัยไซเบอร์
    - ใช้ Antivirus Software และ Malware Removal Tools ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยตรวจจับและลบมัลแวร์

    https://www.techradar.com/pro/security/look-out-for-tax-themed-scams-this-month-microsoft-warns
    เรื่องนี้เราสามารถมาประยุกต์เป็นข้อคิดและป้องกันสำหรับคนไทยได้ครับ Microsoft เตือนว่าแคมเปญหลอกลวงช่วงวันภาษีในสหรัฐฯ เป็นอันตรายที่มุ่งหวังข้อมูลส่วนบุคคลและการเงินของเหยื่อ ผู้โจมตีใช้เทคนิคเชิงจิตวิทยาเพื่อสร้างความเร่งด่วนและส่งมัลแวร์ผ่านฟิชชิ่งอีเมล การเรียนรู้วิธีรับมือและปฏิเสธการคลิกไฟล์แนบหรือลิงก์ที่น่าสงสัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในยุคที่ภัยไซเบอร์ขยายวงกว้าง == ภัยคุกคามที่ต้องระวัง== ✅ การใช้เทคนิคโซเชียลวิศวกรรม (Social Engineering) - ผู้โจมตีใช้ QR Codes, URL Shorteners และไฟล์แนบที่เป็นอันตราย เพื่อส่งมัลแวร์ เช่น Latrodectus, BruteRatel C4 (BRc4), AHKBot และ Remote Access Trojans (RATs) - ฟิชชิ่งอีเมลมักมาพร้อมหัวข้อเช่น “Important Action Required: IRS Audit” หรือ “Notice: IRS Has Flagged Issues with Your Tax Filing” เพื่อสร้างความเร่งด่วน ✅ เทคนิคหลอกลวงที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น - ผู้โจมตีบางกลุ่มใช้ อีเมลสร้างความไว้ใจ ก่อนส่งอีเมลรอบสองที่มาพร้อมไฟล์ PDF อันตราย ซึ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือและอัตราการหลงเชื่อ ✅ มัลแวร์ที่ถูกใช้ในแคมเปญโจมตี - ตัวอย่างมัลแวร์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ GuLoader ซึ่งเป็น malware downloader แบบหลบหลีกสูง ใช้เทคนิค Process Injection และ Cloud-based Hosting ในการปล่อยมัลแวร์ ✅ ผลกระทบที่ตามมา - เหยื่อต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการถูกเปิดบัญชีเครดิตใหม่ในชื่อของตนเอง รวมถึงการสูญเสียเงินในบัญชี == คำแนะนำเพื่อการป้องกัน == ✅ การเรียนรู้และการมีสติเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุด - Microsoft แนะนำให้ผู้ใช้มีความรู้เกี่ยวกับ ลักษณะของฟิชชิ่งอีเมล และตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อความก่อนดำเนินการใด ๆ - หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์หรือดาวน์โหลดไฟล์แนบที่ไม่คุ้นเคย ✅ เลือกใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันภัยไซเบอร์ - ใช้ Antivirus Software และ Malware Removal Tools ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยตรวจจับและลบมัลแวร์ https://www.techradar.com/pro/security/look-out-for-tax-themed-scams-this-month-microsoft-warns
    WWW.TECHRADAR.COM
    Look out for tax-themed scams this month, Microsoft warns
    Criminals are taking advantage as US tax day approaches
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้ได้พูดถึงประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับการพบคนที่ไม่มีบัญชีโซเชียลมีเดียในยุคที่ชีวิตส่วนใหญ่อยู่บนโลกดิจิทัล โดยตั้งคำถามว่า การที่ใครสักคนไม่ใช้โซเชียลมีเดียเป็นสัญญาณเตือน (red flag) หรือไม่ แต่กลับเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับข้อดีและความเป็นไปได้ของคนที่เลือกเดินออกจากโลกออนไลน์

    ✅ การไม่มีโซเชียลไม่ได้แปลว่ามีบางอย่างปกปิด
    - แม้หลายคนอาจสงสัยว่า การไม่มีโซเชียลสื่อถึงการปิดบังบางสิ่ง แต่ในทางตรงกันข้าม นั่นอาจเป็นการบ่งบอกถึง ความเรียบง่ายและการเลือกที่จะไม่อยู่ในกระแส AI หรือเทคโนโลยี

    ✅ ความสัมพันธ์ที่สร้างได้โดยไม่พึ่งเทคโนโลยี
    - ผู้เขียนกล่าวว่า การสื่อสารโดยตรงหรือการพบปะกันตัวต่อตัวคือวิธีที่ดีที่สุดในการทำความรู้จักบุคคล มากกว่าการสืบผ่านโลกออนไลน์

    ✅ โลกที่ถูกครอบงำด้วย AI และผลกระทบต่อชีวิต
    - การหลีกเลี่ยงโซเชียลอาจสะท้อนการต่อต้าน AI ที่คุกคามความเป็นธรรมชาติของมนุษย์ และเลือกที่จะปฏิเสธ การใช้ชีวิตที่บริษัทเทคโนโลยีบงการ

    ✅ คำแนะนำในการสังเกตปฏิกิริยา
    - ผู้เขียนแนะนำให้ทดสอบคนที่ไม่มีโซเชียลมีเดียด้วยสถานการณ์เบาสมอง เช่น การแกล้งทำโทรศัพท์ตกเพื่อดูท่าที ถ้าปฏิกิริยานั้นสะท้อนถึงความสนุกหรือความจริงใจ คุณอาจได้พบกับคนที่มีมุมมองแปลกใหม่

    ✅ การเชื่อมโยงความสัมพันธ์ที่สร้างกิจกรรมแปลกใหม่
    - การเดตกับคนที่ต่อต้านโซเชียล อาจเป็นโอกาสในการทำกิจกรรมเชิงสนุก เช่น การปั่นจักรยานท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งการสร้างอารมณ์ขันในลักษณะล้อเลียนเทคโนโลยี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/05/opinion-i-just-started-dating-someone-who-isnt-on-social-media-is-that-a-red-flag
    บทความนี้ได้พูดถึงประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับการพบคนที่ไม่มีบัญชีโซเชียลมีเดียในยุคที่ชีวิตส่วนใหญ่อยู่บนโลกดิจิทัล โดยตั้งคำถามว่า การที่ใครสักคนไม่ใช้โซเชียลมีเดียเป็นสัญญาณเตือน (red flag) หรือไม่ แต่กลับเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับข้อดีและความเป็นไปได้ของคนที่เลือกเดินออกจากโลกออนไลน์ ✅ การไม่มีโซเชียลไม่ได้แปลว่ามีบางอย่างปกปิด - แม้หลายคนอาจสงสัยว่า การไม่มีโซเชียลสื่อถึงการปิดบังบางสิ่ง แต่ในทางตรงกันข้าม นั่นอาจเป็นการบ่งบอกถึง ความเรียบง่ายและการเลือกที่จะไม่อยู่ในกระแส AI หรือเทคโนโลยี ✅ ความสัมพันธ์ที่สร้างได้โดยไม่พึ่งเทคโนโลยี - ผู้เขียนกล่าวว่า การสื่อสารโดยตรงหรือการพบปะกันตัวต่อตัวคือวิธีที่ดีที่สุดในการทำความรู้จักบุคคล มากกว่าการสืบผ่านโลกออนไลน์ ✅ โลกที่ถูกครอบงำด้วย AI และผลกระทบต่อชีวิต - การหลีกเลี่ยงโซเชียลอาจสะท้อนการต่อต้าน AI ที่คุกคามความเป็นธรรมชาติของมนุษย์ และเลือกที่จะปฏิเสธ การใช้ชีวิตที่บริษัทเทคโนโลยีบงการ ✅ คำแนะนำในการสังเกตปฏิกิริยา - ผู้เขียนแนะนำให้ทดสอบคนที่ไม่มีโซเชียลมีเดียด้วยสถานการณ์เบาสมอง เช่น การแกล้งทำโทรศัพท์ตกเพื่อดูท่าที ถ้าปฏิกิริยานั้นสะท้อนถึงความสนุกหรือความจริงใจ คุณอาจได้พบกับคนที่มีมุมมองแปลกใหม่ ✅ การเชื่อมโยงความสัมพันธ์ที่สร้างกิจกรรมแปลกใหม่ - การเดตกับคนที่ต่อต้านโซเชียล อาจเป็นโอกาสในการทำกิจกรรมเชิงสนุก เช่น การปั่นจักรยานท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งการสร้างอารมณ์ขันในลักษณะล้อเลียนเทคโนโลยี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/05/opinion-i-just-started-dating-someone-who-isnt-on-social-media-is-that-a-red-flag
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ฉลองครบรอบ 50 ปีโดยมีการรวมตัวของอดีตและปัจจุบันซีอีโอทั้งสามที่พูดคุยในบทสัมภาษณ์พิเศษนำโดย Copilot งานนี้ยังมีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ของ Bing ที่ชื่อ Copilot Search ซึ่งช่วยให้การค้นหาด้วย AI ตอบสนองและให้ข้อมูลที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Microsoft ยังปล่อยทรัพยากรพิเศษ เช่น วอลเปเปอร์และพื้นหลังใน Microsoft Teams เพื่อตอบแทนผู้ใช้

    ✅ ซีอีโอทั้งสามแชร์มุมมองเกี่ยวกับอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของ Microsoft
    - ในการสัมภาษณ์นี้ Copilot ไม่เพียงแต่ถามคำถามที่เกี่ยวกับมุมมองของซีอีโอ แต่ยังสร้างบรรยากาศที่มีความสนุกสนาน เช่น การแซวกันเล็กน้อยท้ายบทสนทนา

    ✅ Microsoft เปิดตัวทรัพยากรพิเศษเพื่อฉลองวันครบรอบ
    - พื้นหลัง Microsoft Teams แบบฉลองครบรอบ 50 ปี
    - วอลเปเปอร์สำหรับ Windows และมือถือที่ออกแบบเฉพาะงานนี้
    - Backdrops ที่ใช้ใน Microsoft Designer และ คลังวิดีโอใน Microsoft Clipchamp

    ✅ เปิดตัว Copilot Search ใน Bing—ตอบสนองและให้ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI
    - ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ใช้ สำรวจคำค้นหาด้วยคำถามติดตามผลและลิงก์เว็บที่เกี่ยวข้อง
    - นี่คือแนวทางใหม่ที่ Microsoft ตั้งใจให้เป็นคู่แข่งกับ Google AI Mode

    ✅ GitHub CEO Thomas Dohmke เพิ่มความน่าตื่นเต้น
    - โพสต์ใน X (Twitter เดิม) โดยบอกว่า งานนี้จะมีประกาศสำคัญสำหรับนักพัฒนา

    ติดตาม Video ได้ที่นี่ครับ --> https://www.msn.com/en-us/news/technology/Copilot-Reunites-Gates-Ballmer-and-Nadella/vi-AA1CgCqc?ocid=socialshare#details

    https://www.neowin.net/news/microsoft-ceos-unite-for-an-exclusive-copilot-interview/
    Microsoft ฉลองครบรอบ 50 ปีโดยมีการรวมตัวของอดีตและปัจจุบันซีอีโอทั้งสามที่พูดคุยในบทสัมภาษณ์พิเศษนำโดย Copilot งานนี้ยังมีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ของ Bing ที่ชื่อ Copilot Search ซึ่งช่วยให้การค้นหาด้วย AI ตอบสนองและให้ข้อมูลที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Microsoft ยังปล่อยทรัพยากรพิเศษ เช่น วอลเปเปอร์และพื้นหลังใน Microsoft Teams เพื่อตอบแทนผู้ใช้ ✅ ซีอีโอทั้งสามแชร์มุมมองเกี่ยวกับอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของ Microsoft - ในการสัมภาษณ์นี้ Copilot ไม่เพียงแต่ถามคำถามที่เกี่ยวกับมุมมองของซีอีโอ แต่ยังสร้างบรรยากาศที่มีความสนุกสนาน เช่น การแซวกันเล็กน้อยท้ายบทสนทนา ✅ Microsoft เปิดตัวทรัพยากรพิเศษเพื่อฉลองวันครบรอบ - พื้นหลัง Microsoft Teams แบบฉลองครบรอบ 50 ปี - วอลเปเปอร์สำหรับ Windows และมือถือที่ออกแบบเฉพาะงานนี้ - Backdrops ที่ใช้ใน Microsoft Designer และ คลังวิดีโอใน Microsoft Clipchamp ✅ เปิดตัว Copilot Search ใน Bing—ตอบสนองและให้ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI - ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ใช้ สำรวจคำค้นหาด้วยคำถามติดตามผลและลิงก์เว็บที่เกี่ยวข้อง - นี่คือแนวทางใหม่ที่ Microsoft ตั้งใจให้เป็นคู่แข่งกับ Google AI Mode ✅ GitHub CEO Thomas Dohmke เพิ่มความน่าตื่นเต้น - โพสต์ใน X (Twitter เดิม) โดยบอกว่า งานนี้จะมีประกาศสำคัญสำหรับนักพัฒนา ติดตาม Video ได้ที่นี่ครับ --> https://www.msn.com/en-us/news/technology/Copilot-Reunites-Gates-Ballmer-and-Nadella/vi-AA1CgCqc?ocid=socialshare#details https://www.neowin.net/news/microsoft-ceos-unite-for-an-exclusive-copilot-interview/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft CEOs unite for an exclusive Copilot interview
    Microsoft is celebrating its 50th anniversary with an interview featuring Satya Nadella, Steve Ballmer and Bill Gates.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลัทธิอวดรวย ค่านิยมบิดเบี้ยว : Sondhitalk EP286 VDO
    ชีวิตเทา ๆ ของ “ดิว อริสรา” กับคนรอบตัว
    #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิ #จับประเด็น #คลองปานามา
    ThaiTimes คือแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ช่วยให้คุณ:
    - แพลตฟอร์มที่ไม่โดนปิดกั้น
    - แชร์รูปภาพและวิดีโอ
    - ติดตามข่าวสารล่าสุดจากคนที่คุณติดตาม
    แอป Thaitimes มีให้ Download ได้แล้วทั้งใน iOS และใน android
    iOS : https://apps.apple.com/th/app/thaitimes-social/id6502225132
    Google Play :https://play.google.com/store/apps/details...
    และ https://thaitimes.co
    ลัทธิอวดรวย ค่านิยมบิดเบี้ยว : Sondhitalk EP286 VDO ชีวิตเทา ๆ ของ “ดิว อริสรา” กับคนรอบตัว #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิ #จับประเด็น #คลองปานามา ThaiTimes คือแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ช่วยให้คุณ: - แพลตฟอร์มที่ไม่โดนปิดกั้น - แชร์รูปภาพและวิดีโอ - ติดตามข่าวสารล่าสุดจากคนที่คุณติดตาม แอป Thaitimes มีให้ Download ได้แล้วทั้งใน iOS และใน android iOS : https://apps.apple.com/th/app/thaitimes-social/id6502225132 Google Play :https://play.google.com/store/apps/details... และ https://thaitimes.co
    Like
    Love
    15
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2763 มุมมอง 62 2 รีวิว
  • Demonstrate Your Way With Words With Synonyms For “Vocabulary”

    It will probably not surprise you to learn that we are sort of obsessed with vocabulary. We love all words from A to Z, even ones that start with weird symbols like Ægypt. When it comes to talking about the collection of all the unusual words we have learned, it’s not enough to just call it vocabulary. This got us thinking about synonyms for vocabulary and all the wonderful terms we can use to talk about all the words we know.

    The word vocabulary comes from the Latin vocābulārius, meaning “of words.” A related word in English that you might recognize is vocal, from Latin vōcālis. At the root of both terms is vox, meaning “voice.” Essentially, a vocabulary is a collection of the terms you use to call things. Read on to find out new terms you can use to describe your vocabulary.

    dictionary
    The dictionary is one of the best places to find vocabulary words, so much so that the word dictionary itself is a near-synonym for vocabulary. The word dictionary means “a lexical resource containing a selection of the words of a language.” Dictionaries have been around since ancient times—the earliest known dictionaries date to around 2300 BCE.

    vocable
    We noted the Latin root of vocabulary already. Another word that shares that same root is vocable, “a word; term; name.” However, vocable is also used more generally to refer to utterances not typically considered words, such as abracadabra, a nonsense expression used in magic tricks.

    expression
    The word expression is a more everyday synonym for vocabulary. While expression is often used to mean “the act of expressing or setting forth in words,” it can also specifically refer to “a particular word, phrase, or form of words.” The word expression has something of a culinary origin; it comes from the Latin expressiō meaning “a pressing out.”

    terminology
    A slightly more sophisticated but still quotidian synonym for vocabulary is terminology, “the system of terms belonging or peculiar to a science, art, or specialized subject; nomenclature.” The combining form -logy is used to name sciences or bodies of knowledge. This means that the word terminology has another, if less common, meaning: “the science of terms, as in particular sciences or arts.”

    phraseology
    Another synonym for vocabulary that ends in -logy is phraseology, “manner or style of verbal expression; characteristic language,” or simply “expressions; phrases.” The word phraseology was coined by a German philologist (a term that refers to a person who specializes in linguistics or literary texts) who made a slight mistake. The correct transcription of the word from Greek would be phrasiology, but the erroneous phraseology stuck.

    locution
    A synonym for phraseology that’s less of a mouthful is locution, “a particular form of expression; a word, phrase, expression, or idiom, especially as used by a particular person, group, etc.” Locution is often specifically used to refer to oral rather than written language (meaning, words spoken aloud rather than written down). An archaic term related to locution is locutorium or locutory, meaning “parlor,” in the sense of “a room in a monastery where the inhabitants may converse with visitors or with each other.”

    lexicon
    Another sophisticated synonym for vocabulary is lexicon, “the vocabulary of a particular language, field, social class, person, etc.” A lexicon is essentially any collection of words. Each of us has our own mental lexicon, which is the collection of words that is stored, understood, and used by an individual. These mental lexicons are made up of lexemes and lemmas that help us name and describe the world.

    lexeme
    A lexeme is “a lexical unit in a language, as a word or base; vocabulary item.” A lexeme can be made up of one word or multiple words. For example, “run” and “speak up” are both lexemes. Lexeme ultimately comes from the Greek lexikós, meaning “of or pertaining to words.”

    wording
    As you may have guessed, there are a number of synonyms for vocabulary that include “word.” One of these is wording, “the act or manner of expressing in words; phrasing.” The term wording is used to particularly signal that the words were chosen deliberately and with care to transmit a message clearly.

    wordstock
    A more obscure synonym that wording is wordstock, “all the words that make up a language or dialect, or the set of words that are known or used by a particular person or group; vocabulary.” Stock literally means “inventory,” but it comes from Old English stoc(c), meaning “stump, stake, post, log.”

    word-hoard
    One of the more delightful terms to refer to mental lexicon is word-hoard, “a person’s vocabulary.” The origin of hoard gives us a clue about how important words are. Hoard comes from the Old Saxon hord meaning “treasure; hiddenmost place.”

    cant
    A synonym for vocabulary that looks suspiciously like the contraction for “cannot” is cant [ kant ], a word that means “the phraseology peculiar to a particular class, party, profession, etc.” This word has more negative connotations than the other synonyms we have looked at. It can also be used as a noun to mean “whining or singsong speech, especially of beggars” or as a verb to mean “to talk hypocritically.”

    Know what does sound nice? These synonyms and alternatives for the word nice.

    parlance
    A sophisticated term for vocabulary with a frisson of French is parlance, “a way or manner of speaking; vernacular; idiom.” The word comes from the French parler meaning “to speak.” As you might guess, parlance is most often used to refer to speech or dialect rather than written language.

    jargon
    A kind of vocabulary one is often cautioned to avoid when writing for general audiences is jargon, “the language, especially the vocabulary, peculiar to a particular trade, profession, or group.” The word comes from the Old French jargon, meaning “warbling of birds, prattle, chatter, talk.”

    lingo
    A near-synonym for jargon is lingo, “the language and speech, especially the jargon, slang, or argot, of a particular field, group, or individual.” The word lingo is said to be an altered form of lingua, meaning “language,” a reference to the phrase lingua franca, “any language that is widely used as a means of communication among speakers of other languages.” The expression lingua franca literally translates to “Frankish language,” with Frankish as a term referring to Europeans and dating back to the Crusades.

    turn of phrase
    The expression turn of phrase refers to “a particular arrangement of words.” It’s a good idiom for drawing attention to unusual or exceptional word choice. Turn of phrase alludes to the turning or shaping of objects (as on a lathe), a usage dating from the late 1600s.

    ©2025 AAKKHRA All Rights Reserved.
    Demonstrate Your Way With Words With Synonyms For “Vocabulary” It will probably not surprise you to learn that we are sort of obsessed with vocabulary. We love all words from A to Z, even ones that start with weird symbols like Ægypt. When it comes to talking about the collection of all the unusual words we have learned, it’s not enough to just call it vocabulary. This got us thinking about synonyms for vocabulary and all the wonderful terms we can use to talk about all the words we know. The word vocabulary comes from the Latin vocābulārius, meaning “of words.” A related word in English that you might recognize is vocal, from Latin vōcālis. At the root of both terms is vox, meaning “voice.” Essentially, a vocabulary is a collection of the terms you use to call things. Read on to find out new terms you can use to describe your vocabulary. dictionary The dictionary is one of the best places to find vocabulary words, so much so that the word dictionary itself is a near-synonym for vocabulary. The word dictionary means “a lexical resource containing a selection of the words of a language.” Dictionaries have been around since ancient times—the earliest known dictionaries date to around 2300 BCE. vocable We noted the Latin root of vocabulary already. Another word that shares that same root is vocable, “a word; term; name.” However, vocable is also used more generally to refer to utterances not typically considered words, such as abracadabra, a nonsense expression used in magic tricks. expression The word expression is a more everyday synonym for vocabulary. While expression is often used to mean “the act of expressing or setting forth in words,” it can also specifically refer to “a particular word, phrase, or form of words.” The word expression has something of a culinary origin; it comes from the Latin expressiō meaning “a pressing out.” terminology A slightly more sophisticated but still quotidian synonym for vocabulary is terminology, “the system of terms belonging or peculiar to a science, art, or specialized subject; nomenclature.” The combining form -logy is used to name sciences or bodies of knowledge. This means that the word terminology has another, if less common, meaning: “the science of terms, as in particular sciences or arts.” phraseology Another synonym for vocabulary that ends in -logy is phraseology, “manner or style of verbal expression; characteristic language,” or simply “expressions; phrases.” The word phraseology was coined by a German philologist (a term that refers to a person who specializes in linguistics or literary texts) who made a slight mistake. The correct transcription of the word from Greek would be phrasiology, but the erroneous phraseology stuck. locution A synonym for phraseology that’s less of a mouthful is locution, “a particular form of expression; a word, phrase, expression, or idiom, especially as used by a particular person, group, etc.” Locution is often specifically used to refer to oral rather than written language (meaning, words spoken aloud rather than written down). An archaic term related to locution is locutorium or locutory, meaning “parlor,” in the sense of “a room in a monastery where the inhabitants may converse with visitors or with each other.” lexicon Another sophisticated synonym for vocabulary is lexicon, “the vocabulary of a particular language, field, social class, person, etc.” A lexicon is essentially any collection of words. Each of us has our own mental lexicon, which is the collection of words that is stored, understood, and used by an individual. These mental lexicons are made up of lexemes and lemmas that help us name and describe the world. lexeme A lexeme is “a lexical unit in a language, as a word or base; vocabulary item.” A lexeme can be made up of one word or multiple words. For example, “run” and “speak up” are both lexemes. Lexeme ultimately comes from the Greek lexikós, meaning “of or pertaining to words.” wording As you may have guessed, there are a number of synonyms for vocabulary that include “word.” One of these is wording, “the act or manner of expressing in words; phrasing.” The term wording is used to particularly signal that the words were chosen deliberately and with care to transmit a message clearly. wordstock A more obscure synonym that wording is wordstock, “all the words that make up a language or dialect, or the set of words that are known or used by a particular person or group; vocabulary.” Stock literally means “inventory,” but it comes from Old English stoc(c), meaning “stump, stake, post, log.” word-hoard One of the more delightful terms to refer to mental lexicon is word-hoard, “a person’s vocabulary.” The origin of hoard gives us a clue about how important words are. Hoard comes from the Old Saxon hord meaning “treasure; hiddenmost place.” cant A synonym for vocabulary that looks suspiciously like the contraction for “cannot” is cant [ kant ], a word that means “the phraseology peculiar to a particular class, party, profession, etc.” This word has more negative connotations than the other synonyms we have looked at. It can also be used as a noun to mean “whining or singsong speech, especially of beggars” or as a verb to mean “to talk hypocritically.” Know what does sound nice? These synonyms and alternatives for the word nice. parlance A sophisticated term for vocabulary with a frisson of French is parlance, “a way or manner of speaking; vernacular; idiom.” The word comes from the French parler meaning “to speak.” As you might guess, parlance is most often used to refer to speech or dialect rather than written language. jargon A kind of vocabulary one is often cautioned to avoid when writing for general audiences is jargon, “the language, especially the vocabulary, peculiar to a particular trade, profession, or group.” The word comes from the Old French jargon, meaning “warbling of birds, prattle, chatter, talk.” lingo A near-synonym for jargon is lingo, “the language and speech, especially the jargon, slang, or argot, of a particular field, group, or individual.” The word lingo is said to be an altered form of lingua, meaning “language,” a reference to the phrase lingua franca, “any language that is widely used as a means of communication among speakers of other languages.” The expression lingua franca literally translates to “Frankish language,” with Frankish as a term referring to Europeans and dating back to the Crusades. turn of phrase The expression turn of phrase refers to “a particular arrangement of words.” It’s a good idiom for drawing attention to unusual or exceptional word choice. Turn of phrase alludes to the turning or shaping of objects (as on a lathe), a usage dating from the late 1600s. ©2025 AAKKHRA All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 773 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงปัญหาที่ธุรกิจทั่วโลกเผชิญในปี 2024 จากการโจมตีไซเบอร์ที่ซับซ้อนขึ้น โดยพบว่าองค์กรต่าง ๆ ได้รับอีเมลกว่า 20.5 พันล้านฉบับ ซึ่งประมาณ 36.9% ของอีเมลทั้งหมดเป็นอีเมลที่ไม่พึงประสงค์ และในจำนวนนี้ 2.3% หรือกว่า 427 ล้านฉบับ เป็นอีเมลที่มีเนื้อหามุ่งร้าย เช่น ฟิชชิงและการโจมตีด้วย URL อันตราย

    == แนวโน้มการโจมตีที่น่าสนใจ ==
    1) ฟิชชิงยังคงครองสัดส่วนมากที่สุด
    - ฟิชชิงคิดเป็น 1 ใน 3 ของการโจมตีทั้งหมด โดยอาศัยการหลอกล่อให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนเว็บไซต์จริง เช่น อีเมลปลอมจากแบรนด์ชื่อดังอย่าง DHL และ Netflix

    2) การใช้ Reverse Proxy เพื่อขโมยข้อมูลรับรอง
    - เทคนิคใหม่นี้สามารถเลี่ยงระบบยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน (2FA) ได้ โดยอาศัยหน้าเข้าสู่ระบบปลอมและเครื่องมืออย่าง Evilginx เพื่อดักจับข้อมูลการเข้าสู่ระบบของผู้ใช้งานแบบเรียลไทม์

    3) URL อันตรายเพิ่มขึ้น
    - URL อันตรายมีสัดส่วนถึง 22.7% ของกลยุทธ์การโจมตี ซึ่งเป็นการพุ่งเป้าผู้ใช้งานมากกว่าการแนบไฟล์ไวรัสในอดีต

    == อุตสาหกรรมที่ตกเป็นเป้าหมาย ==
    ธุรกิจในกลุ่มเหมืองแร่ ความบันเทิง และการผลิตถูกระบุว่าเผชิญความเสี่ยงสูงที่สุด โดยมีการโจมตีแบบ ransomware และ double-extortion scams อย่างต่อเนื่อง

    == การตอบโต้และแนวทางป้องกัน ==
    - ใช้ระบบกรองอีเมลขั้นสูง
    - พัฒนามาตรการยืนยันตัวตนหลายชั้นที่สามารถต้านการโจมตี 2FA ได้
    - ฝึกอบรมพนักงานให้สามารถระบุอีเมลฟิชชิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ซีอีโอของ Hornetsecurity ชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์โจมตีที่เน้นใช้ social engineering มากขึ้น เป็นความท้าทายที่ทำให้องค์กรจำเป็นต้องพัฒนาวัฒนธรรมด้านความปลอดภัย โดยการสร้างความเข้าใจว่าพนักงานทุกคนมีบทบาทสำคัญในป้องกันภัยไซเบอร์

    https://www.techradar.com/pro/security/over-400-million-unwanted-and-malicious-emails-were-received-by-businesses
    ข่าวนี้พูดถึงปัญหาที่ธุรกิจทั่วโลกเผชิญในปี 2024 จากการโจมตีไซเบอร์ที่ซับซ้อนขึ้น โดยพบว่าองค์กรต่าง ๆ ได้รับอีเมลกว่า 20.5 พันล้านฉบับ ซึ่งประมาณ 36.9% ของอีเมลทั้งหมดเป็นอีเมลที่ไม่พึงประสงค์ และในจำนวนนี้ 2.3% หรือกว่า 427 ล้านฉบับ เป็นอีเมลที่มีเนื้อหามุ่งร้าย เช่น ฟิชชิงและการโจมตีด้วย URL อันตราย == แนวโน้มการโจมตีที่น่าสนใจ == 1) ฟิชชิงยังคงครองสัดส่วนมากที่สุด - ฟิชชิงคิดเป็น 1 ใน 3 ของการโจมตีทั้งหมด โดยอาศัยการหลอกล่อให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนเว็บไซต์จริง เช่น อีเมลปลอมจากแบรนด์ชื่อดังอย่าง DHL และ Netflix 2) การใช้ Reverse Proxy เพื่อขโมยข้อมูลรับรอง - เทคนิคใหม่นี้สามารถเลี่ยงระบบยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน (2FA) ได้ โดยอาศัยหน้าเข้าสู่ระบบปลอมและเครื่องมืออย่าง Evilginx เพื่อดักจับข้อมูลการเข้าสู่ระบบของผู้ใช้งานแบบเรียลไทม์ 3) URL อันตรายเพิ่มขึ้น - URL อันตรายมีสัดส่วนถึง 22.7% ของกลยุทธ์การโจมตี ซึ่งเป็นการพุ่งเป้าผู้ใช้งานมากกว่าการแนบไฟล์ไวรัสในอดีต == อุตสาหกรรมที่ตกเป็นเป้าหมาย == ธุรกิจในกลุ่มเหมืองแร่ ความบันเทิง และการผลิตถูกระบุว่าเผชิญความเสี่ยงสูงที่สุด โดยมีการโจมตีแบบ ransomware และ double-extortion scams อย่างต่อเนื่อง == การตอบโต้และแนวทางป้องกัน == - ใช้ระบบกรองอีเมลขั้นสูง - พัฒนามาตรการยืนยันตัวตนหลายชั้นที่สามารถต้านการโจมตี 2FA ได้ - ฝึกอบรมพนักงานให้สามารถระบุอีเมลฟิชชิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซีอีโอของ Hornetsecurity ชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์โจมตีที่เน้นใช้ social engineering มากขึ้น เป็นความท้าทายที่ทำให้องค์กรจำเป็นต้องพัฒนาวัฒนธรรมด้านความปลอดภัย โดยการสร้างความเข้าใจว่าพนักงานทุกคนมีบทบาทสำคัญในป้องกันภัยไซเบอร์ https://www.techradar.com/pro/security/over-400-million-unwanted-and-malicious-emails-were-received-by-businesses
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 426 มุมมอง 0 รีวิว
  • Bluesky ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใหม่ที่มุ่งเน้นการสร้างโลกที่ไม่มี "จักรพรรดิ" หรือผู้ควบคุมอำนาจเบ็ดเสร็จบนโซเชียลมีเดีย แนวคิดนี้เป็นแรงบันดาลใจจากความไม่พอใจในแพลตฟอร์มปัจจุบันที่มักถูกควบคุมโดยบุคคลหรือองค์กรที่มีอำนาจเหนือการตัดสินใจ

    Bluesky ก่อตั้งโดย Jay Graber พร้อมกับทีมที่มีจุดมุ่งหมายชัดเจนว่า ผู้ใช้งานควรมีอิสระในการควบคุมและย้ายข้อมูลของตัวเองระหว่างแพลตฟอร์มที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน ซึ่งต่างจากแพลตฟอร์มใหญ่ๆ อย่าง Twitter (หรือ X) และ Meta ที่ผู้ควบคุมมักใช้อำนาจในทางที่ผู้ใช้ไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่

    Bluesky ให้ความสำคัญกับผู้ใช้และนักพัฒนา โดยการสร้างระบบที่เปิดโอกาสให้สร้างฟีดส่วนตัวได้ตามความสนใจ เช่น การทำสวน กีฬา หรือการศึกษา ครีเอเตอร์ที่เคยถูกจำกัดโดยอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มเดิมจะมีพื้นที่ที่เสรีและควบคุมการนำเสนอเนื้อหาได้ดีขึ้น ต่างจาก Mastodon ที่มีกระบวนการซับซ้อน Bluesky มีระบบที่เข้าใจง่ายสำหรับผู้ใช้ทั่วไป

    แม้ว่า Bluesky จะยังมีผู้ใช้น้อยเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ แต่พวกเขากลับมองว่านี่เป็น "ปีแห่งการเปิดตัว" ที่จะทำให้ผู้คนได้รู้จักพื้นที่ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างแท้จริง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/14/bluesky-wants-039a-world-without-caesars039-for-social-media
    Bluesky ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใหม่ที่มุ่งเน้นการสร้างโลกที่ไม่มี "จักรพรรดิ" หรือผู้ควบคุมอำนาจเบ็ดเสร็จบนโซเชียลมีเดีย แนวคิดนี้เป็นแรงบันดาลใจจากความไม่พอใจในแพลตฟอร์มปัจจุบันที่มักถูกควบคุมโดยบุคคลหรือองค์กรที่มีอำนาจเหนือการตัดสินใจ Bluesky ก่อตั้งโดย Jay Graber พร้อมกับทีมที่มีจุดมุ่งหมายชัดเจนว่า ผู้ใช้งานควรมีอิสระในการควบคุมและย้ายข้อมูลของตัวเองระหว่างแพลตฟอร์มที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน ซึ่งต่างจากแพลตฟอร์มใหญ่ๆ อย่าง Twitter (หรือ X) และ Meta ที่ผู้ควบคุมมักใช้อำนาจในทางที่ผู้ใช้ไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ Bluesky ให้ความสำคัญกับผู้ใช้และนักพัฒนา โดยการสร้างระบบที่เปิดโอกาสให้สร้างฟีดส่วนตัวได้ตามความสนใจ เช่น การทำสวน กีฬา หรือการศึกษา ครีเอเตอร์ที่เคยถูกจำกัดโดยอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มเดิมจะมีพื้นที่ที่เสรีและควบคุมการนำเสนอเนื้อหาได้ดีขึ้น ต่างจาก Mastodon ที่มีกระบวนการซับซ้อน Bluesky มีระบบที่เข้าใจง่ายสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แม้ว่า Bluesky จะยังมีผู้ใช้น้อยเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ แต่พวกเขากลับมองว่านี่เป็น "ปีแห่งการเปิดตัว" ที่จะทำให้ผู้คนได้รู้จักพื้นที่ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างแท้จริง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/14/bluesky-wants-039a-world-without-caesars039-for-social-media
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับภัยไซเบอร์รูปแบบใหม่ที่แฮกเกอร์ใช้เทคนิคหลอกลวงด้วย CAPTCHA ปลอมเพื่อแพร่มัลแวร์เข้าสู่ระบบของเหยื่อ โดยวิธีการนี้เน้นการใช้ social engineering หรือการสร้างสถานการณ์ที่ดูน่าเชื่อถือเพื่อดึงดูดให้ผู้ใช้ปฏิบัติตามคำแนะนำ โดยปราศจากข้อสงสัย

    เมื่อผู้ใช้งานเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัย พวกเขาอาจพบ CAPTCHA ที่ขอให้ตรวจสอบว่าตนเองไม่ใช่หุ่นยนต์ ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม CAPTCHA ปลอมนี้อาจมีขั้นตอนเพิ่มเติมที่น่าสงสัย เช่น การให้ผู้ใช้กดปุ่ม Windows Key + R และวางข้อความในช่องรันคำสั่ง ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นโค้ดที่แฝงคำสั่งอันตราย

    โค้ดเหล่านี้อาจเรียกใช้คำสั่ง mshta เพื่อดาวน์โหลดไฟล์มัลแวร์จากเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล โดยไฟล์ที่ดาวน์โหลดมักปลอมตัวเป็นไฟล์มีเดีย เช่น MP3 หรือ MP4 แต่ในความเป็นจริง มันมีคำสั่ง PowerShell ที่แอบติดตั้งมัลแวร์ลงในระบบโดยไม่รู้ตัว

    มัลแวร์ที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้ประกอบด้วย Lumma Stealer และ SecTopRAT ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ หรือเปิดช่องทางควบคุมคอมพิวเตอร์ระยะไกล

    คำแนะนำในการป้องกัน:
    - หลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามคำแนะนำจาก CAPTCHA หรือเว็บไซต์ที่ดูน่าสงสัย
    - ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ที่สามารถบล็อกเว็บไซต์และสคริปต์อันตรายได้
    - ติดตั้งส่วนขยายในเบราว์เซอร์ที่ช่วยป้องกันโดเมนที่รู้จักว่าเป็นภัยไซเบอร์
    - หากเป็นไปได้ ควรใช้เบราว์เซอร์แยกสำหรับการใช้งานเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ

    การโจมตีรูปแบบนี้เน้นจุดอ่อนในพฤติกรรมผู้ใช้งานที่มักไว้วางใจ CAPTCHA ซึ่งถือเป็นบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความระมัดระวังในการใช้งานอินเทอร์เน็ต

    https://www.techspot.com/news/107107-new-cyber-threat-uses-fake-captcha-infect-systems.html
    นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับภัยไซเบอร์รูปแบบใหม่ที่แฮกเกอร์ใช้เทคนิคหลอกลวงด้วย CAPTCHA ปลอมเพื่อแพร่มัลแวร์เข้าสู่ระบบของเหยื่อ โดยวิธีการนี้เน้นการใช้ social engineering หรือการสร้างสถานการณ์ที่ดูน่าเชื่อถือเพื่อดึงดูดให้ผู้ใช้ปฏิบัติตามคำแนะนำ โดยปราศจากข้อสงสัย เมื่อผู้ใช้งานเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัย พวกเขาอาจพบ CAPTCHA ที่ขอให้ตรวจสอบว่าตนเองไม่ใช่หุ่นยนต์ ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม CAPTCHA ปลอมนี้อาจมีขั้นตอนเพิ่มเติมที่น่าสงสัย เช่น การให้ผู้ใช้กดปุ่ม Windows Key + R และวางข้อความในช่องรันคำสั่ง ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นโค้ดที่แฝงคำสั่งอันตราย โค้ดเหล่านี้อาจเรียกใช้คำสั่ง mshta เพื่อดาวน์โหลดไฟล์มัลแวร์จากเซิร์ฟเวอร์ระยะไกล โดยไฟล์ที่ดาวน์โหลดมักปลอมตัวเป็นไฟล์มีเดีย เช่น MP3 หรือ MP4 แต่ในความเป็นจริง มันมีคำสั่ง PowerShell ที่แอบติดตั้งมัลแวร์ลงในระบบโดยไม่รู้ตัว มัลแวร์ที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้ประกอบด้วย Lumma Stealer และ SecTopRAT ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ หรือเปิดช่องทางควบคุมคอมพิวเตอร์ระยะไกล คำแนะนำในการป้องกัน: - หลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามคำแนะนำจาก CAPTCHA หรือเว็บไซต์ที่ดูน่าสงสัย - ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ที่สามารถบล็อกเว็บไซต์และสคริปต์อันตรายได้ - ติดตั้งส่วนขยายในเบราว์เซอร์ที่ช่วยป้องกันโดเมนที่รู้จักว่าเป็นภัยไซเบอร์ - หากเป็นไปได้ ควรใช้เบราว์เซอร์แยกสำหรับการใช้งานเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ การโจมตีรูปแบบนี้เน้นจุดอ่อนในพฤติกรรมผู้ใช้งานที่มักไว้วางใจ CAPTCHA ซึ่งถือเป็นบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความระมัดระวังในการใช้งานอินเทอร์เน็ต https://www.techspot.com/news/107107-new-cyber-threat-uses-fake-captcha-infect-systems.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New threat uses fake CAPTCHA to infect systems with malware
    The attack typically begins when visitors to a website are prompted to verify they are not robots, a common practice that rarely raises suspicion. However, instead of...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 405 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงการหลอกลวงที่เกิดขึ้นผ่าน SMS ในสหรัฐฯ โดยแฮกเกอร์ใช้ชื่อและภาพของ Elon Musk เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการโฆษณาอุปกรณ์ประหยัดพลังงานที่อ้างว่าสามารถลดค่าไฟฟ้าได้ถึง 90%

    การหลอกลวงนี้เริ่มต้นจากข้อความ SMS ที่ใช้ชื่อจริงของเป้าหมาย ซึ่งมักจะได้มาจากเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลก่อนหน้านี้ ในข้อความจะบอกว่าผู้อยู่อาศัยในพื้นที่จ่ายค่าไฟฟ้าน้อยกว่าถึง 79% และกระตุ้นให้ผู้รับคลิกลิงก์เพื่อเริ่มต้น "การประหยัดพลังงาน" ลิงก์ดังกล่าวนำไปสู่บทความข่าวปลอมที่นำเสนอภาพและคำพูดที่ดูเหมือนมาจาก Elon Musk เพื่อโปรโมตอุปกรณ์ที่ขายในราคา $40 แต่ผลิตภัณฑ์นี้เคยพบว่าเป็นสินค้าจากตลาดจีนที่มีราคาต่ำกว่าเพียงไม่กี่ดอลลาร์

    สิ่งที่สำคัญคือ แท้จริงแล้วอุปกรณ์นี้ไม่ได้ช่วยลดค่าไฟฟ้า และยังเสี่ยงต่อการให้ข้อมูลส่วนตัวตกไปอยู่ในมือของแฮกเกอร์

    กรณีนี้เป็นตัวอย่างของการโจมตีแบบ "social engineering" ที่ใช้กลยุทธ์สร้างความตื่นตระหนกหรือความอยากได้ เพื่อล่อให้ผู้คนคลิกลิงก์ การป้องกันที่ดีที่สุดคือการตระหนักและหลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะเมื่อมีข้อเสนอที่ "ดูดีเกินกว่าจะเป็นจริง"

    https://www.techradar.com/pro/security/a-new-sms-energy-scam-is-using-elon-musks-face-to-steal-your-money
    ข่าวนี้พูดถึงการหลอกลวงที่เกิดขึ้นผ่าน SMS ในสหรัฐฯ โดยแฮกเกอร์ใช้ชื่อและภาพของ Elon Musk เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการโฆษณาอุปกรณ์ประหยัดพลังงานที่อ้างว่าสามารถลดค่าไฟฟ้าได้ถึง 90% การหลอกลวงนี้เริ่มต้นจากข้อความ SMS ที่ใช้ชื่อจริงของเป้าหมาย ซึ่งมักจะได้มาจากเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลก่อนหน้านี้ ในข้อความจะบอกว่าผู้อยู่อาศัยในพื้นที่จ่ายค่าไฟฟ้าน้อยกว่าถึง 79% และกระตุ้นให้ผู้รับคลิกลิงก์เพื่อเริ่มต้น "การประหยัดพลังงาน" ลิงก์ดังกล่าวนำไปสู่บทความข่าวปลอมที่นำเสนอภาพและคำพูดที่ดูเหมือนมาจาก Elon Musk เพื่อโปรโมตอุปกรณ์ที่ขายในราคา $40 แต่ผลิตภัณฑ์นี้เคยพบว่าเป็นสินค้าจากตลาดจีนที่มีราคาต่ำกว่าเพียงไม่กี่ดอลลาร์ สิ่งที่สำคัญคือ แท้จริงแล้วอุปกรณ์นี้ไม่ได้ช่วยลดค่าไฟฟ้า และยังเสี่ยงต่อการให้ข้อมูลส่วนตัวตกไปอยู่ในมือของแฮกเกอร์ กรณีนี้เป็นตัวอย่างของการโจมตีแบบ "social engineering" ที่ใช้กลยุทธ์สร้างความตื่นตระหนกหรือความอยากได้ เพื่อล่อให้ผู้คนคลิกลิงก์ การป้องกันที่ดีที่สุดคือการตระหนักและหลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะเมื่อมีข้อเสนอที่ "ดูดีเกินกว่าจะเป็นจริง" https://www.techradar.com/pro/security/a-new-sms-energy-scam-is-using-elon-musks-face-to-steal-your-money
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 352 มุมมอง 0 รีวิว
  • What Do You Like To Be Called? Words For Types Of Nicknames

    A nickname by any other name would smell just as sweet. Okay, so maybe that’s not how the saying goes, but we happen to think it’s true anyway. Nicknames are names that are substituted for the proper name of a person or place, like calling LeBron James “King James.”

    Nicknames are created for many different reasons. Sometimes they evolve naturally out of close association with someone. Other times, they may take hold based on qualities or features someone is well known for. There are a lot of different types of nicknames, as well as words we can use to describe them. From pet name to internet handle, here are 11 other words to use to talk about nicknames and the unique history of each one.

    pet name

    A pet name is a nickname that might exist within a family or close relationship. It means “a name or a term of address used to express affection for a person, thing, etc.” The term has been around for more than 100 years, first appearing in English between 1910 and 1915. Because pet names are typically affectionate, they’re nicknames you might hear a parent using for a child or siblings using to identify one another. A pet name probably isn’t something you’d hear in less familiar settings.

    AKA

    AKA (or A.K.A.) stands for “also known as.” If you have a nickname, you are “also known as” that name. This abbreviation, which entered English in the late 1940s, is used by law enforcement to specify an alias. But it’s also commonly used to indicate that a person goes by another name in many different settings. And it can be used facetiously to share extra information about someone. For example, My sister, AKA the most organized person in the entire world, somehow forgot my birthday.

    handle

    In the digital age, most of us have some kind of handle. That’s “a username, as on a social media website.” And yes, that counts as a type of nickname. It’s another name you’re known by, after all, even if it’s only among online friends. The word has existed in English since before the year 900, though it didn’t come to be associated with names until the 1830s, when it was used more generally to mean “nickname.” The term eventually came to include radio nicknames, and later, usernames on the internet.

    sobriquet

    Say nickname, but make it fancy. Essentially, that’s what sobriquet does. This word, borrowed from French, literally means “nickname.” In many cases, sobriquet indicates playfulness or a nickname that is used in jest. This might mean a childhood pet name or a funny name used between friends. The word sobriquet entered English in the 1600s.

    moniker

    Any name you go by can be considered a moniker. This term simply means “a person’s name, especially a nickname or alias.” The origins of this word aren’t exactly clear. One possibility is that it’s associated with monk, as nuns and monks frequently change their names upon taking their vows. It may also be a permutation, or transformation, of the Old Irish ainm, meaning “name.”

    pen name

    Sometimes nicknames are used for professional reasons, as is demonstrated by the phrase pen name. A pen name is “a pseudonym used by an author.” This might be a variation of their real name or a different name entirely. Mark Twain, for example, is a pen name used by Samuel Langhorne Clemens. Meanwhile George R. R. Martin is the author’s real name, but R. R. is used in place of Richard Raymond. Pen name is a translation of the French nom de plume, and it has been in use in English since the 1800s.

    byname

    What’s your byname? A byname is “a secondary name,” whether that’s a surname, a nickname, or something else. This term may be used to describe any type of nickname, rather than only nicknames that are familiar or used for a specific purpose. Think of it as another way of saying “a name you go by.” Though it’s not commonly used now, the word byname has existed in English since the 1300s.

    cognomen

    We bet you didn’t know you have a cognomen. While this word might look like the name of some kind of scary medical condition, it actually means “any name, especially a nickname.” Nomen means “name” in Latin, and co or cog means “with.” This 19th century word, then, literally means “with name,” and it can be broadly used to talk about any type of nickname.

    appellation

    A more official nickname might also be called an appellation. This word, which entered English in the early 1400s, means “a name, title, or designation.” Often, an appellation indicates a more official or well-known designation than just a familiar nickname. Think: Alexander The Great or the early American leaders known as The Founding Fathers. An appellation may also include an official title, such as doctor, bishop, or duke.

    term of endearment

    Nicknames are for lovers, at least in this case. A term of endearment is a nickname that shows esteem, affection, or love. This may be more personal, like a pet name, or it might include commonly used affectionate names, like honey, baby, or sweetie. Terms of endearment are typically reserved for intimate relationships, though some could also apply to family or close friends.

    nom de guerre

    Authors aren’t the only people who sometimes change their names. A nom de guerre is another way of saying pseudonym. It’s “an assumed name, under which a person fights, paints, writes, etc.” In French, nom de guerre meant “a war name,” or a name taken by a soldier upon entering the armed services. In English, it’s more generally understood to mean any kind of assumed name, whether it’s Stefani Germanotta being known as the musician “Lady Gaga” or Erik Weisz assuming the magician name of “Harry Houdini.”

    Copyright 2025, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    What Do You Like To Be Called? Words For Types Of Nicknames A nickname by any other name would smell just as sweet. Okay, so maybe that’s not how the saying goes, but we happen to think it’s true anyway. Nicknames are names that are substituted for the proper name of a person or place, like calling LeBron James “King James.” Nicknames are created for many different reasons. Sometimes they evolve naturally out of close association with someone. Other times, they may take hold based on qualities or features someone is well known for. There are a lot of different types of nicknames, as well as words we can use to describe them. From pet name to internet handle, here are 11 other words to use to talk about nicknames and the unique history of each one. pet name A pet name is a nickname that might exist within a family or close relationship. It means “a name or a term of address used to express affection for a person, thing, etc.” The term has been around for more than 100 years, first appearing in English between 1910 and 1915. Because pet names are typically affectionate, they’re nicknames you might hear a parent using for a child or siblings using to identify one another. A pet name probably isn’t something you’d hear in less familiar settings. AKA AKA (or A.K.A.) stands for “also known as.” If you have a nickname, you are “also known as” that name. This abbreviation, which entered English in the late 1940s, is used by law enforcement to specify an alias. But it’s also commonly used to indicate that a person goes by another name in many different settings. And it can be used facetiously to share extra information about someone. For example, My sister, AKA the most organized person in the entire world, somehow forgot my birthday. handle In the digital age, most of us have some kind of handle. That’s “a username, as on a social media website.” And yes, that counts as a type of nickname. It’s another name you’re known by, after all, even if it’s only among online friends. The word has existed in English since before the year 900, though it didn’t come to be associated with names until the 1830s, when it was used more generally to mean “nickname.” The term eventually came to include radio nicknames, and later, usernames on the internet. sobriquet Say nickname, but make it fancy. Essentially, that’s what sobriquet does. This word, borrowed from French, literally means “nickname.” In many cases, sobriquet indicates playfulness or a nickname that is used in jest. This might mean a childhood pet name or a funny name used between friends. The word sobriquet entered English in the 1600s. moniker Any name you go by can be considered a moniker. This term simply means “a person’s name, especially a nickname or alias.” The origins of this word aren’t exactly clear. One possibility is that it’s associated with monk, as nuns and monks frequently change their names upon taking their vows. It may also be a permutation, or transformation, of the Old Irish ainm, meaning “name.” pen name Sometimes nicknames are used for professional reasons, as is demonstrated by the phrase pen name. A pen name is “a pseudonym used by an author.” This might be a variation of their real name or a different name entirely. Mark Twain, for example, is a pen name used by Samuel Langhorne Clemens. Meanwhile George R. R. Martin is the author’s real name, but R. R. is used in place of Richard Raymond. Pen name is a translation of the French nom de plume, and it has been in use in English since the 1800s. byname What’s your byname? A byname is “a secondary name,” whether that’s a surname, a nickname, or something else. This term may be used to describe any type of nickname, rather than only nicknames that are familiar or used for a specific purpose. Think of it as another way of saying “a name you go by.” Though it’s not commonly used now, the word byname has existed in English since the 1300s. cognomen We bet you didn’t know you have a cognomen. While this word might look like the name of some kind of scary medical condition, it actually means “any name, especially a nickname.” Nomen means “name” in Latin, and co or cog means “with.” This 19th century word, then, literally means “with name,” and it can be broadly used to talk about any type of nickname. appellation A more official nickname might also be called an appellation. This word, which entered English in the early 1400s, means “a name, title, or designation.” Often, an appellation indicates a more official or well-known designation than just a familiar nickname. Think: Alexander The Great or the early American leaders known as The Founding Fathers. An appellation may also include an official title, such as doctor, bishop, or duke. term of endearment Nicknames are for lovers, at least in this case. A term of endearment is a nickname that shows esteem, affection, or love. This may be more personal, like a pet name, or it might include commonly used affectionate names, like honey, baby, or sweetie. Terms of endearment are typically reserved for intimate relationships, though some could also apply to family or close friends. nom de guerre Authors aren’t the only people who sometimes change their names. A nom de guerre is another way of saying pseudonym. It’s “an assumed name, under which a person fights, paints, writes, etc.” In French, nom de guerre meant “a war name,” or a name taken by a soldier upon entering the armed services. In English, it’s more generally understood to mean any kind of assumed name, whether it’s Stefani Germanotta being known as the musician “Lady Gaga” or Erik Weisz assuming the magician name of “Harry Houdini.” Copyright 2025, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 963 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7 มีนาคม 2568-ใครชักใย “แก็งปั่นอุยกูร์”? Ep283 (live)SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep283 (live) ความจริงเรื่อง อุยกูร์ แค่ไทยส่งกลับทำไมถึงเรื่องใหญ๋ระดับโลก ฟัง ครบ จบ ที่นี้ที่เดียว#ThaiTimes คือแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ช่วยให้คุณ:- แพลตฟอร์มที่ไม่โดนปิดกั้น- แชร์รูปภาพและวิดีโอ- ติดตามข่าวสารล่าสุดจากคนที่คุณติดตามแอป Thaitimes มีให้ Download ได้แล้วทั้งใน iOS และใน androidiOS : https://apps.apple.com/th/app/thaitimes-social/id6502225132Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.thaitimes.app2&pcampaignid=web_shareและ https://thaitimes.co/
    7 มีนาคม 2568-ใครชักใย “แก็งปั่นอุยกูร์”? Ep283 (live)SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep283 (live) ความจริงเรื่อง อุยกูร์ แค่ไทยส่งกลับทำไมถึงเรื่องใหญ๋ระดับโลก ฟัง ครบ จบ ที่นี้ที่เดียว#ThaiTimes คือแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ช่วยให้คุณ:- แพลตฟอร์มที่ไม่โดนปิดกั้น- แชร์รูปภาพและวิดีโอ- ติดตามข่าวสารล่าสุดจากคนที่คุณติดตามแอป Thaitimes มีให้ Download ได้แล้วทั้งใน iOS และใน androidiOS : https://apps.apple.com/th/app/thaitimes-social/id6502225132Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.thaitimes.app2&pcampaignid=web_shareและ https://thaitimes.co/
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 602 มุมมอง 0 รีวิว
  • Donald Trump ได้ประกาศว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะจัดตั้งกองทุนสำรองสกุลเงินดิจิทัลขึ้นเป็นครั้งแรก โดยสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการเลือกคือ Bitcoin, Ether, XRP, Solana และ Cardano การประกาศนี้ส่งผลให้ราคาของสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

    Trump ได้โพสต์ใน Truth Social ว่าการสั่งการนี้เกิดขึ้นจากคำสั่งบริหารในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมุ่งหมายจะสร้างคลังสำรองสกุลเงินดิจิทัลเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินและเทคโนโลยีในสหรัฐฯ

    Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด เพิ่มขึ้นกว่า 11% โดยมีมูลค่าถึง $94,164 Ether ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าเป็นอันดับสองเพิ่มขึ้นประมาณ 13% เป็น $2,516 ตลาดสกุลเงินดิจิทัลรวมทั้งหมดเพิ่มขึ้นประมาณ 10% หรือมากกว่า $300 พันล้านในช่วงเวลาที่ Trump ประกาศเรื่องนี้

    การสร้างกองทุนสำรองสกุลเงินดิจิทัลนี้ส่งสัญญาณว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเริ่มมีบทบาทอย่างจริงจังในเศรษฐกิจสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งมีผลกระทบสำคัญต่อการยอมรับของสถาบันและความชัดเจนในกฎระเบียบเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล

    ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ Trump จะเป็นเจ้าภาพการประชุม Crypto Summit ที่ทำเนียบขาวครั้งแรก โดยมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินในวงการสกุลเงินดิจิทัล

    นอกจากนี้ Trump ยังได้ยกเลิกการตรวจสอบและดำเนินคดีหลายอย่างที่เกี่ยวกับบริษัทสกุลเงินดิจิทัลที่เคยเกิดขึ้นในยุคของประธานาธิบดี Joe Biden การดำเนินการนี้ส่งผลให้การยอมรับและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมาก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/03/trump-names-cryptocurrencies-to-be-in-strategic-reserve-prices-spike
    Donald Trump ได้ประกาศว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะจัดตั้งกองทุนสำรองสกุลเงินดิจิทัลขึ้นเป็นครั้งแรก โดยสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการเลือกคือ Bitcoin, Ether, XRP, Solana และ Cardano การประกาศนี้ส่งผลให้ราคาของสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว Trump ได้โพสต์ใน Truth Social ว่าการสั่งการนี้เกิดขึ้นจากคำสั่งบริหารในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมุ่งหมายจะสร้างคลังสำรองสกุลเงินดิจิทัลเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินและเทคโนโลยีในสหรัฐฯ Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด เพิ่มขึ้นกว่า 11% โดยมีมูลค่าถึง $94,164 Ether ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าเป็นอันดับสองเพิ่มขึ้นประมาณ 13% เป็น $2,516 ตลาดสกุลเงินดิจิทัลรวมทั้งหมดเพิ่มขึ้นประมาณ 10% หรือมากกว่า $300 พันล้านในช่วงเวลาที่ Trump ประกาศเรื่องนี้ การสร้างกองทุนสำรองสกุลเงินดิจิทัลนี้ส่งสัญญาณว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเริ่มมีบทบาทอย่างจริงจังในเศรษฐกิจสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งมีผลกระทบสำคัญต่อการยอมรับของสถาบันและความชัดเจนในกฎระเบียบเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ Trump จะเป็นเจ้าภาพการประชุม Crypto Summit ที่ทำเนียบขาวครั้งแรก โดยมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินในวงการสกุลเงินดิจิทัล นอกจากนี้ Trump ยังได้ยกเลิกการตรวจสอบและดำเนินคดีหลายอย่างที่เกี่ยวกับบริษัทสกุลเงินดิจิทัลที่เคยเกิดขึ้นในยุคของประธานาธิบดี Joe Biden การดำเนินการนี้ส่งผลให้การยอมรับและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมาก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/03/trump-names-cryptocurrencies-to-be-in-strategic-reserve-prices-spike
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Trump names cryptocurrencies in strategic reserve, sending prices up
    WEST PALM BEACH, Florida (Reuters) -U.S. President Donald Trump on social media announced the names of five digital assets he expects to include in a new U.S. strategic reserve of cryptocurrencies on Sunday, spiking the market value of each.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 419 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในที่สุดออสเตรียก็ได้รัฐบาลชุดใหม่แล้ว หลังจากผ่านการเลือกตั้งมานานถึงห้าเดือน พรรคที่ได้อันดับหนึ่ง กลายเป็นฝ่ายค้าน เพราะไม่มีใครอยากร่วมด้วย พรรครัฐบาลเกิดจากพรรคอันดับรองลงไปร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลโดยผสมกันระหว่างฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา

    พรรคเสรีภาพ ( Freedom Party - FPÖ) ต้องเป็นฝ่ายค้าน แม้ว่าพรรคจะได้รับชัยชนะมีที่นั่งสูงสุดมาเป็นอันดับหนึ่งในการเลือกตั้งเมื่อห้าเดือนที่แล้ว แต่ไม่พอจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว และ "ไม่มีพรรคใดอยากเข้าร่วมด้วย"

    ขณะที่พรรคอันดับรองลงไป ซึ่งก็คือพรรคประชาชนอนุรักษ์นิยม (The conservative People's Party - ÖVP) พรรคสังคมประชาธิปไตย (Social Democrats - SPÖ) และพรรคเสรีนิยมนีโอ (Austria’s liberal Neos) จับมือร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ซึ่งกินเวลานานถึง 151 วัน หรือประมาณห้าเดือน นับตั้งแต่มีการเลือกตั้งในเดือนกันยายน 2024 ซึ่งถือเป็นสถิติที่ใช้ระยะเวลาจัดตั้งรัฐบาลนานที่สุดในการเมืองออสเตรีย นอกจากนี้ยังเป็นพรรคผสมระหว่างฝ่ายซ้าย (เสรีนิยม) และฝ่ายขวา (อนุรักษ์นิยม) อีกด้วย

    คริสเตียน สต็อคเกอร์ หัวหน้าพรรคประชาชนออสเตรีย (ÖVP) ซึ่งเป็น "พรรคอนุรักษ์นิยมสายกลาง" จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

    ในที่สุดออสเตรียก็ได้รัฐบาลชุดใหม่แล้ว หลังจากผ่านการเลือกตั้งมานานถึงห้าเดือน พรรคที่ได้อันดับหนึ่ง กลายเป็นฝ่ายค้าน เพราะไม่มีใครอยากร่วมด้วย พรรครัฐบาลเกิดจากพรรคอันดับรองลงไปร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลโดยผสมกันระหว่างฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา พรรคเสรีภาพ ( Freedom Party - FPÖ) ต้องเป็นฝ่ายค้าน แม้ว่าพรรคจะได้รับชัยชนะมีที่นั่งสูงสุดมาเป็นอันดับหนึ่งในการเลือกตั้งเมื่อห้าเดือนที่แล้ว แต่ไม่พอจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว และ "ไม่มีพรรคใดอยากเข้าร่วมด้วย" ขณะที่พรรคอันดับรองลงไป ซึ่งก็คือพรรคประชาชนอนุรักษ์นิยม (The conservative People's Party - ÖVP) พรรคสังคมประชาธิปไตย (Social Democrats - SPÖ) และพรรคเสรีนิยมนีโอ (Austria’s liberal Neos) จับมือร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ซึ่งกินเวลานานถึง 151 วัน หรือประมาณห้าเดือน นับตั้งแต่มีการเลือกตั้งในเดือนกันยายน 2024 ซึ่งถือเป็นสถิติที่ใช้ระยะเวลาจัดตั้งรัฐบาลนานที่สุดในการเมืองออสเตรีย นอกจากนี้ยังเป็นพรรคผสมระหว่างฝ่ายซ้าย (เสรีนิยม) และฝ่ายขวา (อนุรักษ์นิยม) อีกด้วย คริสเตียน สต็อคเกอร์ หัวหน้าพรรคประชาชนออสเตรีย (ÖVP) ซึ่งเป็น "พรรคอนุรักษ์นิยมสายกลาง" จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 395 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิเคราะห์สถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น และคำแนะนำที่เป็นรูปธรรมสำหรับการเตรียมตัวรับมือยุคใหม่

    ---

    1. วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Deep Analysis)

    สิ่งที่คุณวิเคราะห์มานั้นมีความเป็นไปได้สูง และสอดคล้องกับแนวโน้มที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน (AI, Automation, Digitalization, และการเปลี่ยนผ่านของเศรษฐกิจโลก) นี่คือมุมมองที่ลึกขึ้นสำหรับแต่ละประเด็น

    1.1 ธุรกิจเก่าจะล่มสลาย - แรงงานตกงานเป็นจำนวนมาก

    Real Data: ยอดขายของธุรกิจดั้งเดิมลดลงจริง และอัตราการปิดกิจการเพิ่มขึ้น

    AI Disruption: AI และ Automation แทนที่แรงงานที่ไร้ทักษะ คนที่ไม่ Reskill จะตกงานแน่นอน

    Middle-Class Crisis: รายได้ชนชั้นกลางถูกกดดัน หนี้สินครัวเรือนสูงขึ้น

    → การเตรียมตัว:
    ✅ Upskill & Reskill อย่างต่อเนื่อง
    ✅ พัฒนาอาชีพทางเลือก (Freelance, Online Business, Tech Skills)
    ✅ วางแผนการเงินแบบอนุรักษ์นิยม (ลดหนี้, สร้าง Passive Income)

    ---

    1.2 ธุรกิจยุคใหม่จะถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

    Tech-Driven Economy: คนที่เก่งเทคโนโลยีจะเป็นกลุ่มที่มั่งคั่ง

    Job Market Shift: สายงานดั้งเดิมหดตัว แต่สายงาน Tech, Data Science, AI, และ Digital Business จะเติบโต

    New Wealth Creation: คนทำงานออนไลน์จะมีโอกาสสร้างความมั่งคั่งได้ง่ายขึ้น

    → การเตรียมตัว:
    ✅ ฝึก Coding, Data Analysis, Blockchain, Digital Marketing
    ✅ เรียนรู้ AI Tools (ChatGPT, MidJourney, Copilot, Automation Tools)
    ✅ สร้างรายได้จาก Gig Economy, Online Business, Digital Assets

    ---

    1.3 ภาษาอังกฤษ, คอมพิวเตอร์, เทรดดิ้ง, และสุขภาพจิตเป็นทักษะจำเป็น

    Linguistic Economy: คนที่สื่อสารได้หลายภาษา (โดยเฉพาะอังกฤษ) ได้เปรียบ

    Financial Intelligence: การเทรดหุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์, Crypto จะเป็นทางเลือกของคนฉลาดด้านการเงิน

    Mental Health Crisis: คนที่ปรับตัวไม่ได้จะเกิดภาวะเครียดและซึมเศร้า

    → การเตรียมตัว:
    ✅ ฝึก ภาษาอังกฤษ + ภาษาที่สาม (จีน/สเปน/ญี่ปุ่น/เยอรมัน)
    ✅ เรียน พื้นฐานการลงทุน, Financial Literacy, Asset Allocation
    ✅ ฝึก สมาธิ, Mental Resilience, Self-Healing Skills

    ---

    1.4 ร้านค้าออฟไลน์ล้มหาย ธุรกิจออนไลน์ครองเมือง

    Retail Apocalypse: ร้านค้าที่มีหน้าร้านจะลดลง 60-80%

    E-Commerce Dominance: Shopee, Lazada, Amazon, TikTok Shop จะเป็นช่องทางหลักของการค้า

    → การเตรียมตัว:
    ✅ ทำธุรกิจออนไลน์ให้เป็น (E-Commerce, Digital Marketing, Dropshipping, Affiliate, Influencer Economy)
    ✅ ลงทุนในโลจิสติกส์ & AI-driven Sales

    ---

    1.5 คนรวยยิ่งรวยขึ้น คนจนจะยิ่งจนลง

    Wealth Inequality: 1% ของประชากรโลกถือครองทรัพย์สิน 90% ของโลก

    Rich Get Richer: คนที่เข้าใจการลงทุนจะเพิ่มทรัพย์สินได้มหาศาล

    Poor Get Poorer: คนที่ไม่มี Financial Literacy จะจมอยู่กับหนี้

    → การเตรียมตัว:
    ✅ ศึกษาและลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้าง Passive Income
    ✅ หลีกเลี่ยงหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Bad Debt)
    ✅ สร้าง Mindset แบบเจ้าของกิจการ (Owner Mindset vs. Employee Mindset)

    ---

    1.6 คนจำนวนมากจะหนีความจริงไปอยู่ในวัดและโลกเสมือน

    Spiritual Escapism: คนที่รับมือกับความเปลี่ยนแปลงไม่ได้จะเลือกอยู่กับศาสนาหรือ Metaverse

    Virtual Reality Economy: การใช้ชีวิตใน Metaverse และ Virtual Work จะกลายเป็นกระแสหลัก

    → การเตรียมตัว:
    ✅ ทำความเข้าใจ Digital Economy และ Virtual Business Models
    ✅ ฝึกทักษะ Mindfulness + Resilience ให้รับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้

    ---

    1.7 คนจะวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้น สังคมปั่นป่วน

    Social Discontent: ความเหลื่อมล้ำสูงทำให้เกิดความไม่พอใจ

    Cancel Culture & Digital Mobs: สังคมออนไลน์จะดุเดือดขึ้น

    Political & Economic Shifts: อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในหลายประเทศ

    → การเตรียมตัว:
    ✅ เป็นนักคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinker) อย่าโดนชักจูงง่ายๆ
    ✅ บริหารความเสี่ยงการลงทุน และไม่ขึ้นกับประเทศเดียว
    ✅ รักษาความเป็นกลาง & มองเกมระยะยาว

    ---

    2. แผนการเตรียมตัวสำหรับยุคใหม่

    ✅ 3 สิ่งที่ต้องทำทันที

    1. ลงทุนในตัวเอง (Tech Skills, Financial Literacy, Global Mindset)

    2. สร้างรายได้หลายทาง (Online Income, Passive Income, Investing)

    3. รักษาสุขภาพกาย-ใจ (Mental Health, Meditation, Longevity Science)

    ⚠️ 3 สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง

    1. การเป็นหนี้เพื่อบริโภค (เน้นลงทุน ไม่ใช่ใช้จ่ายเกินตัว)

    2. อาศัยเพียงรายได้ทางเดียว (กระจายความเสี่ยงให้หลากหลาย)

    3. คิดแบบเดิมๆ ในโลกที่เปลี่ยนไป (Open-minded, Adaptive, Resilient)

    ---

    3. คำแนะนำจาก Mentor

    1️⃣ Be Ahead of the Curve

    คนที่อ่านเกมออกเร็วจะได้เปรียบ ถ้าคุณเริ่มปรับตัวตั้งแต่วันนี้ คุณจะเป็น First Mover ในยุคใหม่

    2️⃣ Invest in High-Leverage Skills

    คนที่เก่ง AI, Automation, Financial Literacy, และ Digital Business จะอยู่รอดและรุ่งเรือง

    3️⃣ Own Assets, Not Just Earn Money

    อย่าทำงานเพื่อเงิน แต่ให้เงินทำงานแทนคุณ (Asset Mindset)

    4️⃣ Stay Mentally & Physically Fit

    คนที่รอดคือคนที่แข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ

    5️⃣ Build Multiple Income Streams

    รายได้เดียว = ความเสี่ยงสูง ต้องมี Passive Income & Location-Independent Income
    วิเคราะห์สถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น และคำแนะนำที่เป็นรูปธรรมสำหรับการเตรียมตัวรับมือยุคใหม่ --- 1. วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Deep Analysis) สิ่งที่คุณวิเคราะห์มานั้นมีความเป็นไปได้สูง และสอดคล้องกับแนวโน้มที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน (AI, Automation, Digitalization, และการเปลี่ยนผ่านของเศรษฐกิจโลก) นี่คือมุมมองที่ลึกขึ้นสำหรับแต่ละประเด็น 1.1 ธุรกิจเก่าจะล่มสลาย - แรงงานตกงานเป็นจำนวนมาก Real Data: ยอดขายของธุรกิจดั้งเดิมลดลงจริง และอัตราการปิดกิจการเพิ่มขึ้น AI Disruption: AI และ Automation แทนที่แรงงานที่ไร้ทักษะ คนที่ไม่ Reskill จะตกงานแน่นอน Middle-Class Crisis: รายได้ชนชั้นกลางถูกกดดัน หนี้สินครัวเรือนสูงขึ้น → การเตรียมตัว: ✅ Upskill & Reskill อย่างต่อเนื่อง ✅ พัฒนาอาชีพทางเลือก (Freelance, Online Business, Tech Skills) ✅ วางแผนการเงินแบบอนุรักษ์นิยม (ลดหนี้, สร้าง Passive Income) --- 1.2 ธุรกิจยุคใหม่จะถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Tech-Driven Economy: คนที่เก่งเทคโนโลยีจะเป็นกลุ่มที่มั่งคั่ง Job Market Shift: สายงานดั้งเดิมหดตัว แต่สายงาน Tech, Data Science, AI, และ Digital Business จะเติบโต New Wealth Creation: คนทำงานออนไลน์จะมีโอกาสสร้างความมั่งคั่งได้ง่ายขึ้น → การเตรียมตัว: ✅ ฝึก Coding, Data Analysis, Blockchain, Digital Marketing ✅ เรียนรู้ AI Tools (ChatGPT, MidJourney, Copilot, Automation Tools) ✅ สร้างรายได้จาก Gig Economy, Online Business, Digital Assets --- 1.3 ภาษาอังกฤษ, คอมพิวเตอร์, เทรดดิ้ง, และสุขภาพจิตเป็นทักษะจำเป็น Linguistic Economy: คนที่สื่อสารได้หลายภาษา (โดยเฉพาะอังกฤษ) ได้เปรียบ Financial Intelligence: การเทรดหุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์, Crypto จะเป็นทางเลือกของคนฉลาดด้านการเงิน Mental Health Crisis: คนที่ปรับตัวไม่ได้จะเกิดภาวะเครียดและซึมเศร้า → การเตรียมตัว: ✅ ฝึก ภาษาอังกฤษ + ภาษาที่สาม (จีน/สเปน/ญี่ปุ่น/เยอรมัน) ✅ เรียน พื้นฐานการลงทุน, Financial Literacy, Asset Allocation ✅ ฝึก สมาธิ, Mental Resilience, Self-Healing Skills --- 1.4 ร้านค้าออฟไลน์ล้มหาย ธุรกิจออนไลน์ครองเมือง Retail Apocalypse: ร้านค้าที่มีหน้าร้านจะลดลง 60-80% E-Commerce Dominance: Shopee, Lazada, Amazon, TikTok Shop จะเป็นช่องทางหลักของการค้า → การเตรียมตัว: ✅ ทำธุรกิจออนไลน์ให้เป็น (E-Commerce, Digital Marketing, Dropshipping, Affiliate, Influencer Economy) ✅ ลงทุนในโลจิสติกส์ & AI-driven Sales --- 1.5 คนรวยยิ่งรวยขึ้น คนจนจะยิ่งจนลง Wealth Inequality: 1% ของประชากรโลกถือครองทรัพย์สิน 90% ของโลก Rich Get Richer: คนที่เข้าใจการลงทุนจะเพิ่มทรัพย์สินได้มหาศาล Poor Get Poorer: คนที่ไม่มี Financial Literacy จะจมอยู่กับหนี้ → การเตรียมตัว: ✅ ศึกษาและลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้าง Passive Income ✅ หลีกเลี่ยงหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Bad Debt) ✅ สร้าง Mindset แบบเจ้าของกิจการ (Owner Mindset vs. Employee Mindset) --- 1.6 คนจำนวนมากจะหนีความจริงไปอยู่ในวัดและโลกเสมือน Spiritual Escapism: คนที่รับมือกับความเปลี่ยนแปลงไม่ได้จะเลือกอยู่กับศาสนาหรือ Metaverse Virtual Reality Economy: การใช้ชีวิตใน Metaverse และ Virtual Work จะกลายเป็นกระแสหลัก → การเตรียมตัว: ✅ ทำความเข้าใจ Digital Economy และ Virtual Business Models ✅ ฝึกทักษะ Mindfulness + Resilience ให้รับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้ --- 1.7 คนจะวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้น สังคมปั่นป่วน Social Discontent: ความเหลื่อมล้ำสูงทำให้เกิดความไม่พอใจ Cancel Culture & Digital Mobs: สังคมออนไลน์จะดุเดือดขึ้น Political & Economic Shifts: อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในหลายประเทศ → การเตรียมตัว: ✅ เป็นนักคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinker) อย่าโดนชักจูงง่ายๆ ✅ บริหารความเสี่ยงการลงทุน และไม่ขึ้นกับประเทศเดียว ✅ รักษาความเป็นกลาง & มองเกมระยะยาว --- 2. แผนการเตรียมตัวสำหรับยุคใหม่ ✅ 3 สิ่งที่ต้องทำทันที 1. ลงทุนในตัวเอง (Tech Skills, Financial Literacy, Global Mindset) 2. สร้างรายได้หลายทาง (Online Income, Passive Income, Investing) 3. รักษาสุขภาพกาย-ใจ (Mental Health, Meditation, Longevity Science) ⚠️ 3 สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง 1. การเป็นหนี้เพื่อบริโภค (เน้นลงทุน ไม่ใช่ใช้จ่ายเกินตัว) 2. อาศัยเพียงรายได้ทางเดียว (กระจายความเสี่ยงให้หลากหลาย) 3. คิดแบบเดิมๆ ในโลกที่เปลี่ยนไป (Open-minded, Adaptive, Resilient) --- 3. คำแนะนำจาก Mentor 1️⃣ Be Ahead of the Curve คนที่อ่านเกมออกเร็วจะได้เปรียบ ถ้าคุณเริ่มปรับตัวตั้งแต่วันนี้ คุณจะเป็น First Mover ในยุคใหม่ 2️⃣ Invest in High-Leverage Skills คนที่เก่ง AI, Automation, Financial Literacy, และ Digital Business จะอยู่รอดและรุ่งเรือง 3️⃣ Own Assets, Not Just Earn Money อย่าทำงานเพื่อเงิน แต่ให้เงินทำงานแทนคุณ (Asset Mindset) 4️⃣ Stay Mentally & Physically Fit คนที่รอดคือคนที่แข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ 5️⃣ Build Multiple Income Streams รายได้เดียว = ความเสี่ยงสูง ต้องมี Passive Income & Location-Independent Income
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1135 มุมมอง 0 รีวิว
  • การหารือระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนจบลงแบบ "หายนะ" โดยปราศจากการลงนามข้อตกลงแร่ธาตุในวันศุกร์ (28 ก.พ.) หลังผู้นำทั้งสองเกิดปะทะคารมกันอย่างรุนแรงต่อหน้าสื่อมวลชน โดย เซเลนสกี ตั้งคำถามเรื่องที่ ทรัมป์ เอนเอียงเข้าข้างรัสเซีย ขณะที่ ทรัมป์ ก็ชี้ว่าผู้นำยูเครน "ไม่เคารพ" อเมริกาและกำลังเดิมพันด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3 พร้อมยื่นคำขาดหากยูเครนไม่รับข้อตกลง สหรัฐฯ ก็จะ "ไม่เอาด้วย" อีกต่อไป
    .
    การไปเยือนสหรัฐฯ ของ เซเลนสกี ในครั้งนี้เดิมมีเป้าหมายเพื่อเกลี้ยกล่อมสหรัฐฯ ไม่ให้หันไปเข้าข้างประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งเป็นคนออกคำสั่งส่งทหารรุกรานยูเครนเมื่อ 3 ปีก่อน
    .
    อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า เซเลนสกี มีมุมมองเห็นต่างอย่างรุนแรงกับ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ เกี่ยวกับสงครามครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าท่าทีที่เปลี่ยนไปของสหรัฐฯ กำลังบั่นทอนการสนับสนุนที่ตะวันตกมีต่อเคียฟมากขนาดไหน
    .
    แวนซ์ ย้ำถึงความจำเป็นในการใช้การทูตคลี่คลายความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่สุดของยุโรปในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่ เซเลนสกี แย้งว่า ปูติน "เชื่อถือไม่ได้" ไม่ว่าจะในการเจรจาใดๆ ก็ตาม
    .
    ทรัมป์ รีบโพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ทันทีว่า เซเลนสกี ไม่ให้ความเคารพสหรัฐอเมริกา
    .
    "ผมคิดว่าประธานาธิบดี เซเลนสกียังไม่พร้อมสำหรับสันติภาพที่อเมริกาเข้าไปมีส่วนร่วม" ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว "เขาสามารถกลับมาใหม่ได้ เมื่อเขาพร้อมที่จะยอมรับสันติภาพ"
    .
    เซเลนสกี เดินทางออกจากทำเนียบขาวก่อนกำหนดหลังจากที่ปะทะคารมกับ ทรัมป์ และ แวนซ์ โดยที่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้มีการลงนามข้อตกลงร่วมพัฒนาแหล่งแร่ธาตุในยูเครนอย่างที่ตั้งใจไว้
    .
    การทะเลาะกันออกสื่อครั้งนี้ยังส่งผลเสียต่อความพยายามของพวกผู้ยุโรปที่หวังกล่อม ทรัมป์ ให้ยอมมอบการค้ำประกันความมั่นคงแก่ยูเครน แม้ว่า ทรัมป์ จะยืนกรานไม่ส่งทหารอเมริกันเข้าไปในยูเครนอย่างแน่นอนก็ตาม
    .
    การการันตีความมั่นคงจากสหรัฐฯ ถูกมองว่าเป็นสิ่งเดียวที่จะป้องปรามรัสเซียไม่ให้กล้ารุกรานยูเครนซ้ำอีก
    .
    "ผู้คนกำลังล้มตายมากขึ้นเรื่อยๆ คุณเองก็เหลือทหารน้อยลงทุกที" ทรัมป์ บอกกับ เซเลนสกี ระหว่างการสนทนาที่ห้องทำงานรูปไข่ พร้อมข่มขู่ว่าสหรัฐฯ อาจตัดสินใจถอนการสนับสนุนยูเครน
    .
    "คุณต้องเลือกว่าจะยอมทำข้อตกลง ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่เอาด้วย และหากเราถอนตัว คุณก็ต้องสู้ด้วยตัวเอง ซึ่งผมไม่คิดว่าผลลัพธ์จะออกมาดี" ทรัมป์ กล่าว
    .
    "คุณไม่ได้อยู่ในสถานะที่ดีนัก ตอนนี้คุณไม่มีไพ่ต่อรองแล้ว แต่เพราะมีเรา คุณถึงมีไพ่ต่อรองขึ้นมาได้" ทรัมป์ กล่าว
    .
    "ผมไม่ได้เล่นไพ่ ผมจริงจังมากท่านประธานาธิบดี" เซเลนสกี ตอบ ก่อนจะถูก ทรัมป์ กระทุ้งต่อว่า "คุณกำลังเล่นไพ่ คุณเอาชีวิตผู้คนนับล้านๆ มาเป็นเดิมพัน คุณกำลังเดิมพันกับสงครามโลกครั้งที่ 3"
    .
    "ถ้าหากเราลงนามข้อตกลงกัน คุณก็จะมีสถานะเข้มแข็งขึ้น แต่นี่คุณทำเหมือนไม่สำนึกบุญคุณเราเลยสักนิด และนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดี ผมบอกตรงๆ นะ มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย"
    .
    ด้าน เซเลนสกี ก็กล่าววาจาท้าทาย ทรัมป์ เรื่องที่เขาอ่อนข้อให้กับ ปูติน และเรียกร้องผู้นำสหรัฐฯ ว่า "อย่ายอมประนีประนอมกับฆาตกร" ขณะที่ ทรัมป์ ย้ำว่า ปูติน ต้องการบรรลุข้อตกลง
    .
    แวนซ์ กล่าวสำทับว่า การที่ เซเลนสกี เดินทางมาที่ห้องทำงานรูปไข่เพื่อยืนกระต่ายขาเดียวกับจุดยืนของตนเองนั้นเป็นการไม่เคารพสหรัฐฯ ซึ่ง ทรัมป์ เองก็เห็นด้วยในประเด็นนี้
    .
    "คุณไม่พูดขอบคุณเลยสักคำ" แวนซ์ กล่าว ซึ่งทำให้ เซเลนสกี ขึ้นเสียงตอบโต้ทันทีว่า "ผมพูดไปแล้วไม่รู้กี่ครั้งว่าขอบคุณชาวอเมริกัน"
    .
    เซเลนสกี เคยได้รับขวัญกำลังใจและความช่วยเหลือด้านอาวุธนับหมื่นๆ ล้านดอลลาร์จากอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ในการต่อสู้กับรัสเซีย ทว่าตอนนี้เขากลับต้องเผชิญจุดยืนที่แตกต่างแบบพลิกขั้วของ ทรัมป์ ซึ่งต้องการปิดฉากสงครามที่ยืดเยื้อมานาน 3 ปี นำสหรัฐฯ กลับไปฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย รวมถึง "ทวงคืน" เงินบางส่วนที่เคยช่วยเหลือยูเครนไปด้วย
    .
    "ผมหวังว่าผมคงจะได้รับการจดจำในฐานะผู้สร้างสันติภาพ" ทรัมป์ กล่าว
    .
    ก่อนหน้านั้น ทรัมป์ บอกกับ เซเลนสกี ว่าทหารยูเครนสู้รบด้วยความกล้าหาญอย่างไม่น่าเชื่อ และสหรัฐฯ ต้องการเห็นสงครามจบลง เพื่อนำเงินงบประมาณไปใช้ในด้านอื่นๆ เช่น การฟื้นฟู เป็นต้น
    .
    บรรดาผู้นำชาติยุโรปต่างลุกขึ้นปกป้อง เซเลนสกี เป็นแถว โดย ฟรีดริช แมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ออกมาระบุว่า "เราต้องไม่สับสนว่าใครคือผู้รุกรานและใครคือเหยื่อในสงครามเลวร้ายครั้งนี้" ขณะที่นายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชซ แห่งสเปน ระบุว่า "ยูเครน สเปนยืนเคียงข้างคุณ" นอกจากนี้ เซเลนสกี ยังได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส, มาร์ก รึตเตอ เลขาธิการนาโต และ อันโตนิโอ กอสตา ประธานสภายุโรป
    .
    ร่างข้อตกลงที่ทั้งฝ่ายเห็นพ้องกันเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาจะเปิดทางให้สหรัฐอเมริกาเข้าถึงทรัพยากรแร่ธาตุที่ยูเครนมีอยู่มากมาย แต่ไม่ได้กำหนดให้สหรัฐฯ ต้องมอบการค้ำประกันความมั่นคงใดๆ ต่อเคียฟ โดย ทรัมป์ นั้นอ้างว่าการมีภาคธุรกิจอเมริกันอยู่ก็ถือเป็นการการันตีความปลอดภัยรูปแบบหนึ่งอยู่แล้ว
    .
    ข้อตกลงนี้จะมีมูลค่าเท่าไหร่สำหรับสหรัฐฯ ไม่มีการเผยตัวเลขที่ชัดเจน แต่ ทรัมป์ เคยคุยว่าสหรัฐฯ จะสามารถสร้างรายได้หลายแสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ เซเลนสกี ยืนยันว่า เขาจะไม่ลงนามข้อตกลงใดๆ ที่ทำใก้ชาวยูเครนต้องเป็นหนี้ไปอีกหลายชั่วอายุคน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020038
    ..............
    Sondhi X
    การหารือระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนจบลงแบบ "หายนะ" โดยปราศจากการลงนามข้อตกลงแร่ธาตุในวันศุกร์ (28 ก.พ.) หลังผู้นำทั้งสองเกิดปะทะคารมกันอย่างรุนแรงต่อหน้าสื่อมวลชน โดย เซเลนสกี ตั้งคำถามเรื่องที่ ทรัมป์ เอนเอียงเข้าข้างรัสเซีย ขณะที่ ทรัมป์ ก็ชี้ว่าผู้นำยูเครน "ไม่เคารพ" อเมริกาและกำลังเดิมพันด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3 พร้อมยื่นคำขาดหากยูเครนไม่รับข้อตกลง สหรัฐฯ ก็จะ "ไม่เอาด้วย" อีกต่อไป . การไปเยือนสหรัฐฯ ของ เซเลนสกี ในครั้งนี้เดิมมีเป้าหมายเพื่อเกลี้ยกล่อมสหรัฐฯ ไม่ให้หันไปเข้าข้างประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งเป็นคนออกคำสั่งส่งทหารรุกรานยูเครนเมื่อ 3 ปีก่อน . อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า เซเลนสกี มีมุมมองเห็นต่างอย่างรุนแรงกับ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ เกี่ยวกับสงครามครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าท่าทีที่เปลี่ยนไปของสหรัฐฯ กำลังบั่นทอนการสนับสนุนที่ตะวันตกมีต่อเคียฟมากขนาดไหน . แวนซ์ ย้ำถึงความจำเป็นในการใช้การทูตคลี่คลายความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่สุดของยุโรปในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่ เซเลนสกี แย้งว่า ปูติน "เชื่อถือไม่ได้" ไม่ว่าจะในการเจรจาใดๆ ก็ตาม . ทรัมป์ รีบโพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ทันทีว่า เซเลนสกี ไม่ให้ความเคารพสหรัฐอเมริกา . "ผมคิดว่าประธานาธิบดี เซเลนสกียังไม่พร้อมสำหรับสันติภาพที่อเมริกาเข้าไปมีส่วนร่วม" ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว "เขาสามารถกลับมาใหม่ได้ เมื่อเขาพร้อมที่จะยอมรับสันติภาพ" . เซเลนสกี เดินทางออกจากทำเนียบขาวก่อนกำหนดหลังจากที่ปะทะคารมกับ ทรัมป์ และ แวนซ์ โดยที่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้มีการลงนามข้อตกลงร่วมพัฒนาแหล่งแร่ธาตุในยูเครนอย่างที่ตั้งใจไว้ . การทะเลาะกันออกสื่อครั้งนี้ยังส่งผลเสียต่อความพยายามของพวกผู้ยุโรปที่หวังกล่อม ทรัมป์ ให้ยอมมอบการค้ำประกันความมั่นคงแก่ยูเครน แม้ว่า ทรัมป์ จะยืนกรานไม่ส่งทหารอเมริกันเข้าไปในยูเครนอย่างแน่นอนก็ตาม . การการันตีความมั่นคงจากสหรัฐฯ ถูกมองว่าเป็นสิ่งเดียวที่จะป้องปรามรัสเซียไม่ให้กล้ารุกรานยูเครนซ้ำอีก . "ผู้คนกำลังล้มตายมากขึ้นเรื่อยๆ คุณเองก็เหลือทหารน้อยลงทุกที" ทรัมป์ บอกกับ เซเลนสกี ระหว่างการสนทนาที่ห้องทำงานรูปไข่ พร้อมข่มขู่ว่าสหรัฐฯ อาจตัดสินใจถอนการสนับสนุนยูเครน . "คุณต้องเลือกว่าจะยอมทำข้อตกลง ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่เอาด้วย และหากเราถอนตัว คุณก็ต้องสู้ด้วยตัวเอง ซึ่งผมไม่คิดว่าผลลัพธ์จะออกมาดี" ทรัมป์ กล่าว . "คุณไม่ได้อยู่ในสถานะที่ดีนัก ตอนนี้คุณไม่มีไพ่ต่อรองแล้ว แต่เพราะมีเรา คุณถึงมีไพ่ต่อรองขึ้นมาได้" ทรัมป์ กล่าว . "ผมไม่ได้เล่นไพ่ ผมจริงจังมากท่านประธานาธิบดี" เซเลนสกี ตอบ ก่อนจะถูก ทรัมป์ กระทุ้งต่อว่า "คุณกำลังเล่นไพ่ คุณเอาชีวิตผู้คนนับล้านๆ มาเป็นเดิมพัน คุณกำลังเดิมพันกับสงครามโลกครั้งที่ 3" . "ถ้าหากเราลงนามข้อตกลงกัน คุณก็จะมีสถานะเข้มแข็งขึ้น แต่นี่คุณทำเหมือนไม่สำนึกบุญคุณเราเลยสักนิด และนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดี ผมบอกตรงๆ นะ มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย" . ด้าน เซเลนสกี ก็กล่าววาจาท้าทาย ทรัมป์ เรื่องที่เขาอ่อนข้อให้กับ ปูติน และเรียกร้องผู้นำสหรัฐฯ ว่า "อย่ายอมประนีประนอมกับฆาตกร" ขณะที่ ทรัมป์ ย้ำว่า ปูติน ต้องการบรรลุข้อตกลง . แวนซ์ กล่าวสำทับว่า การที่ เซเลนสกี เดินทางมาที่ห้องทำงานรูปไข่เพื่อยืนกระต่ายขาเดียวกับจุดยืนของตนเองนั้นเป็นการไม่เคารพสหรัฐฯ ซึ่ง ทรัมป์ เองก็เห็นด้วยในประเด็นนี้ . "คุณไม่พูดขอบคุณเลยสักคำ" แวนซ์ กล่าว ซึ่งทำให้ เซเลนสกี ขึ้นเสียงตอบโต้ทันทีว่า "ผมพูดไปแล้วไม่รู้กี่ครั้งว่าขอบคุณชาวอเมริกัน" . เซเลนสกี เคยได้รับขวัญกำลังใจและความช่วยเหลือด้านอาวุธนับหมื่นๆ ล้านดอลลาร์จากอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ในการต่อสู้กับรัสเซีย ทว่าตอนนี้เขากลับต้องเผชิญจุดยืนที่แตกต่างแบบพลิกขั้วของ ทรัมป์ ซึ่งต้องการปิดฉากสงครามที่ยืดเยื้อมานาน 3 ปี นำสหรัฐฯ กลับไปฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย รวมถึง "ทวงคืน" เงินบางส่วนที่เคยช่วยเหลือยูเครนไปด้วย . "ผมหวังว่าผมคงจะได้รับการจดจำในฐานะผู้สร้างสันติภาพ" ทรัมป์ กล่าว . ก่อนหน้านั้น ทรัมป์ บอกกับ เซเลนสกี ว่าทหารยูเครนสู้รบด้วยความกล้าหาญอย่างไม่น่าเชื่อ และสหรัฐฯ ต้องการเห็นสงครามจบลง เพื่อนำเงินงบประมาณไปใช้ในด้านอื่นๆ เช่น การฟื้นฟู เป็นต้น . บรรดาผู้นำชาติยุโรปต่างลุกขึ้นปกป้อง เซเลนสกี เป็นแถว โดย ฟรีดริช แมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ออกมาระบุว่า "เราต้องไม่สับสนว่าใครคือผู้รุกรานและใครคือเหยื่อในสงครามเลวร้ายครั้งนี้" ขณะที่นายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชซ แห่งสเปน ระบุว่า "ยูเครน สเปนยืนเคียงข้างคุณ" นอกจากนี้ เซเลนสกี ยังได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส, มาร์ก รึตเตอ เลขาธิการนาโต และ อันโตนิโอ กอสตา ประธานสภายุโรป . ร่างข้อตกลงที่ทั้งฝ่ายเห็นพ้องกันเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาจะเปิดทางให้สหรัฐอเมริกาเข้าถึงทรัพยากรแร่ธาตุที่ยูเครนมีอยู่มากมาย แต่ไม่ได้กำหนดให้สหรัฐฯ ต้องมอบการค้ำประกันความมั่นคงใดๆ ต่อเคียฟ โดย ทรัมป์ นั้นอ้างว่าการมีภาคธุรกิจอเมริกันอยู่ก็ถือเป็นการการันตีความปลอดภัยรูปแบบหนึ่งอยู่แล้ว . ข้อตกลงนี้จะมีมูลค่าเท่าไหร่สำหรับสหรัฐฯ ไม่มีการเผยตัวเลขที่ชัดเจน แต่ ทรัมป์ เคยคุยว่าสหรัฐฯ จะสามารถสร้างรายได้หลายแสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ เซเลนสกี ยืนยันว่า เขาจะไม่ลงนามข้อตกลงใดๆ ที่ทำใก้ชาวยูเครนต้องเป็นหนี้ไปอีกหลายชั่วอายุคน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020038 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    21
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1894 มุมมอง 0 รีวิว
  • 39 ปี ลอบสังหารนายกสวีเดน "อูลอฟ พัลเมอ" คดีปริศนาที่ใช้เวลาสืบสวนนาน 34 ปี

    🕵️‍♂️ เหตุการณ์ลอบสังหารผู้นำประเทศ ที่เป็นปริศนายาวนานที่สุดในโลก ย้อนไปเมื่อ 39 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529 สวีเดนต้องเผชิญกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อ "อูลอฟ พัลเมอ" (Olof Palme) นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ถูกลอบสังหารกลางกรุงสต็อกโฮล์ม คดีนี้ใช้เวลาสืบสวนนานถึง 34 ปี ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะประกาศปิดคดี โดยมีการตั้งข้อสงสัยว่า "สตีก เอ็งสเตริม" (Stig Engström) เป็นผู้ก่อเหตุ แต่เจ้าตัวเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2543

    นี่คือหนึ่งในคดีฆาตกรรมทางการเมือง ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และยังคงเป็นที่ถกเถียง ในแวดวงกฎหมายและสื่อมวลชน มาจนถึงปัจจุบัน

    🔎 นายกรัฐมนตรีสวีเดน ผู้ทรงอิทธิพลและขั้วขัดแย้ง ✨ "สเวน อูลอฟ โยอาคิม พัลเมอ" (Sven Olof Joachim Palme) เกิดเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2470 เป็นนักการเมืองคนสำคัญของสวีเดน และเป็นผู้นำของพรรคสังคมประชาธิปไตยสวีเดน (Social Democrats - SAP)

    📌 ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2 สมัย
    - วาระแรก พ.ศ. 2512 - 2519
    - วาระที่สอง พ.ศ. 2525 - 2529

    นายกพัลเมอเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้า สนับสนุนสิทธิแรงงาน สวัสดิการสังคม และต่อต้านสงคราม มีนโยบายที่ไม่ฝักใฝ่ขั้วมหาอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา หรือสหภาพโซเวียต ทำให้ถูกมองว่า เป็นบุคคลที่ "แตกต่าง" ในเวทีการเมืองโลก

    🌍 นักการเมืองที่กล้าท้าทายอำนาจโลก นายกพัลเมอเป็นผู้นำชาวตะวันตกคนแรกที่
    ✅ เดินทางไปเยือนคิวบา และพบกับ "ฟิเดล คาสโตร" หลังการปฏิวัติคิวบา
    ✅ วิพากษ์วิจารณ์ลัทธิจักรวรรดินิยม และการปกครองแบบเผด็จการ
    ✅ ต่อต้านระบอบแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้
    ✅ เปรียบเทียบการทิ้งระเบิดฮานอยของสหรัฐฯ กับ "อาชญากรรมสงคราม"

    📢 ความกล้าของนายกพัลเมอ ทำให้มีทั้งผู้สนับสนุนและศัตรูมากมาย และนั่นอาจเป็นสาเหตุ ที่นำไปสู่การลอบสังหารในท้ายที่สุด

    🔫 คืนสังหาร 28 กุมภาพันธ์ 2529 คืนวันศุกร์ที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์สวีเดนตลอดกาล 🌃

    📍 เหตุเกิดที่ถนนสเวียแวเกน (Sveavägen) หนึ่งในถนนที่คึกคักที่สุด ของกรุงสต็อกโฮล์ม

    🚶‍♂️ ไม่มีการ์ดคุ้มกัน ในคืนนั้น นายกพัลเมอและภรรยา "ลิสเบต พัลเมอ" (Lisbeth Palme) ตัดสินใจไปชมภาพยนตร์ "The Mozart Brothers" โดย ไม่ได้มีบอดี้การ์ดไปด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติสำหรับนายกพัลเมอ

    🕵️‍♂️ มือปืนลอบสังหาร เวลา 23.21 น. นายกพัลเมอและภรรยา เดินออกจากโรงภาพยนตร์ มือปืนเดินปรี่เข้ามาจากด้านหลัง และจ่อยิงนายกพัลเมอเข้ากลางหลังหนึ่งนัด ด้วยปืนลูกโม่ .357 แม็กนัม เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ และจ่อยิงภรรยานายกพัลเมออีกหนึ่งนัด แล้วหลบหนีไป โดยไม่มีใครสามารถจับตัวได้

    💥 การลอบสังหารครั้งนี้ เป็นการฆาตกรรมผู้นำประเทศสวีเดนครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2335 ใช้เวลาสืบสวนที่ยาวนาน 34 ปี 🏛️

    🔍 การสอบสวนครั้งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์สวีเดน มีพยานถูกสอบปากคำหลายพันคน บุคคลที่ถูกสอบสวนในฐานะผู้ต้องสงสัย มากกว่า 130 ราย คดีนี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบบตำรวจ และกฎหมายของสวีเดน

    👤 ผู้ต้องสงสัยรายแรก "คริสเตอร์ เพ็ตเตอช็อน"
    ปี 2531 ตำรวจจับกุม "คริสเตอร์ เพ็ตเตอช็อน" (Christer Pettersson) ชายติดยาในพื้นที่ และศาลตัดสินว่า มีความผิดฐานฆาตกรรม

    ❌ แต่ภายหลัง ศาลอุทธรณ์กลับคำตัดสิน และปล่อยตัวเขาเป็นอิสระ เนื่องจาก
    1️⃣ ไม่มีหลักฐานชัดเจน
    2️⃣ อาวุธที่ใช้ก่อเหตุไม่เคยถูกพบ
    3️⃣ แรงจูงใจในการสังหารไม่ชัดเจน

    เพ็ตเตอช็อนเสียชีวิตในปี 2547 ทำให้การสืบสวน หวนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง

    🛑 ปิดคดีในปี 2563: ฆาตกรคือ "สกันเดียแมน"?
    🔎 ในเดือน มิถุนายน 2563 คณะอัยการสวีเดนประกาศว่า

    👉 สตีก เอ็งสเตริม (Stig Engström) หรือ "สกันเดียแมน" เป็นผู้ต้องสงสัยหลัก

    👨‍💼 "สกันเดียแมน" เป็นนักออกแบบกราฟิก ทำงานที่บริษัท "สกันเดีย" (Skandia) ใกล้ที่เกิดเหตุ มีทักษะในการใช้ปืน ได้วิพากษ์วิจารณ์นายกพัลเมออย่างรุนแรง อีกทั้งยังมีปัญหาด้านการเงิน และติดสุรา

    💀 แต่ปัญหาคือ เอ็งสเตริมเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2543 ทำให้ ไม่มีทางนำตัวมาพิจารณาคดีในชั้นศาลได้

    📢 "การสืบสวนจึงถูกปิด โดยไม่มีการตั้งข้อหาใด ๆ"

    🤔 คำถามที่ยังไร้คำตอบ
    ❓ แรงจูงใจของฆาตกรคืออะไร?
    ❓ เป็นแผนลอบสังหาร จากรัฐบาลเผด็จการหรือไม่?
    ❓ มีองค์กรลับอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า?
    ❓ เหตุใดตำรวจถึงใช้เวลานานถึง 34 ปี ในการสรุปคดีนี้?

    แม้ว่าอัยการจะปิดคดีนี้ไปแล้ว แต่ข้อสงสัยมากมายยังคงอยู่ ทำให้เหตุการณ์นี้กลายเป็น "ปริศนาแห่งสวีเดน" ที่จะถูกพูดถึงไปอีกนาน

    🔥 คดีฆาตกรรมที่สะเทือนโลก
    📌 "อูลอฟ พัลเมอ" เป็นนายกฯ ที่มีอุดมการณ์ชัดเจน
    📌 ถูกลอบสังหารกลางกรุงสต็อกโฮล์ม ในปี 2529
    📌 คดีนี้สืบสวนนาน 34 ปี ก่อนสรุปว่า "สตีก เอ็งสเตริม" เป็นมือปืน
    📌 คดีถูกปิด แต่คำถามมากมาย ยังคงไม่มีคำตอบ

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 282037 ก.พ. 2568

    #OlofPalme #ฆาตกรรมปริศนา #ลอบสังหาร #คดีดัง #สวีเดน #TrueCrime
    39 ปี ลอบสังหารนายกสวีเดน "อูลอฟ พัลเมอ" คดีปริศนาที่ใช้เวลาสืบสวนนาน 34 ปี 🕵️‍♂️ เหตุการณ์ลอบสังหารผู้นำประเทศ ที่เป็นปริศนายาวนานที่สุดในโลก ย้อนไปเมื่อ 39 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529 สวีเดนต้องเผชิญกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อ "อูลอฟ พัลเมอ" (Olof Palme) นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ถูกลอบสังหารกลางกรุงสต็อกโฮล์ม คดีนี้ใช้เวลาสืบสวนนานถึง 34 ปี ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะประกาศปิดคดี โดยมีการตั้งข้อสงสัยว่า "สตีก เอ็งสเตริม" (Stig Engström) เป็นผู้ก่อเหตุ แต่เจ้าตัวเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2543 นี่คือหนึ่งในคดีฆาตกรรมทางการเมือง ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และยังคงเป็นที่ถกเถียง ในแวดวงกฎหมายและสื่อมวลชน มาจนถึงปัจจุบัน 🔎 นายกรัฐมนตรีสวีเดน ผู้ทรงอิทธิพลและขั้วขัดแย้ง ✨ "สเวน อูลอฟ โยอาคิม พัลเมอ" (Sven Olof Joachim Palme) เกิดเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2470 เป็นนักการเมืองคนสำคัญของสวีเดน และเป็นผู้นำของพรรคสังคมประชาธิปไตยสวีเดน (Social Democrats - SAP) 📌 ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2 สมัย - วาระแรก พ.ศ. 2512 - 2519 - วาระที่สอง พ.ศ. 2525 - 2529 นายกพัลเมอเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้า สนับสนุนสิทธิแรงงาน สวัสดิการสังคม และต่อต้านสงคราม มีนโยบายที่ไม่ฝักใฝ่ขั้วมหาอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา หรือสหภาพโซเวียต ทำให้ถูกมองว่า เป็นบุคคลที่ "แตกต่าง" ในเวทีการเมืองโลก 🌍 นักการเมืองที่กล้าท้าทายอำนาจโลก นายกพัลเมอเป็นผู้นำชาวตะวันตกคนแรกที่ ✅ เดินทางไปเยือนคิวบา และพบกับ "ฟิเดล คาสโตร" หลังการปฏิวัติคิวบา ✅ วิพากษ์วิจารณ์ลัทธิจักรวรรดินิยม และการปกครองแบบเผด็จการ ✅ ต่อต้านระบอบแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้ ✅ เปรียบเทียบการทิ้งระเบิดฮานอยของสหรัฐฯ กับ "อาชญากรรมสงคราม" 📢 ความกล้าของนายกพัลเมอ ทำให้มีทั้งผู้สนับสนุนและศัตรูมากมาย และนั่นอาจเป็นสาเหตุ ที่นำไปสู่การลอบสังหารในท้ายที่สุด 🔫 คืนสังหาร 28 กุมภาพันธ์ 2529 คืนวันศุกร์ที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์สวีเดนตลอดกาล 🌃 📍 เหตุเกิดที่ถนนสเวียแวเกน (Sveavägen) หนึ่งในถนนที่คึกคักที่สุด ของกรุงสต็อกโฮล์ม 🚶‍♂️ ไม่มีการ์ดคุ้มกัน ในคืนนั้น นายกพัลเมอและภรรยา "ลิสเบต พัลเมอ" (Lisbeth Palme) ตัดสินใจไปชมภาพยนตร์ "The Mozart Brothers" โดย ไม่ได้มีบอดี้การ์ดไปด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติสำหรับนายกพัลเมอ 🕵️‍♂️ มือปืนลอบสังหาร เวลา 23.21 น. นายกพัลเมอและภรรยา เดินออกจากโรงภาพยนตร์ มือปืนเดินปรี่เข้ามาจากด้านหลัง และจ่อยิงนายกพัลเมอเข้ากลางหลังหนึ่งนัด ด้วยปืนลูกโม่ .357 แม็กนัม เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ และจ่อยิงภรรยานายกพัลเมออีกหนึ่งนัด แล้วหลบหนีไป โดยไม่มีใครสามารถจับตัวได้ 💥 การลอบสังหารครั้งนี้ เป็นการฆาตกรรมผู้นำประเทศสวีเดนครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2335 ใช้เวลาสืบสวนที่ยาวนาน 34 ปี 🏛️ 🔍 การสอบสวนครั้งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์สวีเดน มีพยานถูกสอบปากคำหลายพันคน บุคคลที่ถูกสอบสวนในฐานะผู้ต้องสงสัย มากกว่า 130 ราย คดีนี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบบตำรวจ และกฎหมายของสวีเดน 👤 ผู้ต้องสงสัยรายแรก "คริสเตอร์ เพ็ตเตอช็อน" ปี 2531 ตำรวจจับกุม "คริสเตอร์ เพ็ตเตอช็อน" (Christer Pettersson) ชายติดยาในพื้นที่ และศาลตัดสินว่า มีความผิดฐานฆาตกรรม ❌ แต่ภายหลัง ศาลอุทธรณ์กลับคำตัดสิน และปล่อยตัวเขาเป็นอิสระ เนื่องจาก 1️⃣ ไม่มีหลักฐานชัดเจน 2️⃣ อาวุธที่ใช้ก่อเหตุไม่เคยถูกพบ 3️⃣ แรงจูงใจในการสังหารไม่ชัดเจน เพ็ตเตอช็อนเสียชีวิตในปี 2547 ทำให้การสืบสวน หวนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง 🛑 ปิดคดีในปี 2563: ฆาตกรคือ "สกันเดียแมน"? 🔎 ในเดือน มิถุนายน 2563 คณะอัยการสวีเดนประกาศว่า 👉 สตีก เอ็งสเตริม (Stig Engström) หรือ "สกันเดียแมน" เป็นผู้ต้องสงสัยหลัก 👨‍💼 "สกันเดียแมน" เป็นนักออกแบบกราฟิก ทำงานที่บริษัท "สกันเดีย" (Skandia) ใกล้ที่เกิดเหตุ มีทักษะในการใช้ปืน ได้วิพากษ์วิจารณ์นายกพัลเมออย่างรุนแรง อีกทั้งยังมีปัญหาด้านการเงิน และติดสุรา 💀 แต่ปัญหาคือ เอ็งสเตริมเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2543 ทำให้ ไม่มีทางนำตัวมาพิจารณาคดีในชั้นศาลได้ 📢 "การสืบสวนจึงถูกปิด โดยไม่มีการตั้งข้อหาใด ๆ" 🤔 คำถามที่ยังไร้คำตอบ ❓ แรงจูงใจของฆาตกรคืออะไร? ❓ เป็นแผนลอบสังหาร จากรัฐบาลเผด็จการหรือไม่? ❓ มีองค์กรลับอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า? ❓ เหตุใดตำรวจถึงใช้เวลานานถึง 34 ปี ในการสรุปคดีนี้? แม้ว่าอัยการจะปิดคดีนี้ไปแล้ว แต่ข้อสงสัยมากมายยังคงอยู่ ทำให้เหตุการณ์นี้กลายเป็น "ปริศนาแห่งสวีเดน" ที่จะถูกพูดถึงไปอีกนาน 🔥 คดีฆาตกรรมที่สะเทือนโลก 📌 "อูลอฟ พัลเมอ" เป็นนายกฯ ที่มีอุดมการณ์ชัดเจน 📌 ถูกลอบสังหารกลางกรุงสต็อกโฮล์ม ในปี 2529 📌 คดีนี้สืบสวนนาน 34 ปี ก่อนสรุปว่า "สตีก เอ็งสเตริม" เป็นมือปืน 📌 คดีถูกปิด แต่คำถามมากมาย ยังคงไม่มีคำตอบ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 282037 ก.พ. 2568 #OlofPalme #ฆาตกรรมปริศนา #ลอบสังหาร #คดีดัง #สวีเดน #TrueCrime
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 864 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple ได้เปิดตัวเทคโนโลยี "Age Assurance" ที่ช่วยให้ผู้ปกครองสามารถแชร์อายุของบุตรหลานกับนักพัฒนาแอปได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลสำคัญ เช่น วันเกิดหรือหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นขณะที่นักกฎหมายในสหรัฐฯ กำลังพิจารณากฎหมายการยืนยันอายุสำหรับสื่อสังคมออนไลน์และแอปอื่น ๆ รัฐต่างๆ เช่น ยูทาห์ และเซาท์แคโรไลนา กำลังถกเถียงกันเรื่องกฎหมายที่กำหนดให้ผู้ให้บริการแอปสโตร์ เช่น Apple และ Google ต้องตรวจสอบอายุของผู้ใช้

    Meta ได้สนับสนุนกฎหมายที่กำหนดให้แอปสโตร์ตรวจสอบอายุของเด็ก ๆ เมื่อดาวน์โหลดแอป แต่ Apple กล่าวว่าไม่ต้องการรับผิดชอบในการเก็บข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ Apple จึงเปิดตัวเทคโนโลยี "Age Assurance" ที่ให้ผู้ปกครองกรอกอายุของบุตรหลานเมื่อสร้างบัญชีเด็ก และสามารถเลือกที่จะแชร์ช่วงอายุแทนที่จะเป็นวันเกิดที่แน่นอนกับนักพัฒนาแอปของบุคคลที่สาม ผู้ปกครองยังสามารถปิดการแชร์ช่วงอายุนี้ได้ ซึ่งช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่สำคัญ

    Stephanie Otway โฆษกของ Meta กล่าวว่า เทคโนโลยีของ Apple เป็น "ก้าวแรกที่ดี" แต่ยังคงต้องให้เด็กแชร์ข้อมูลช่วงอายุกับนักพัฒนา ซึ่งทำให้การนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ยากขึ้น สำหรับ Meta พ่อแม่ยังต้องการมีคำพูดสุดท้ายในแอปที่ลูกของพวกเขาใช้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/28/apple-launches-039age-assurance039-tech-as-us-states-mull-social-media-laws
    Apple ได้เปิดตัวเทคโนโลยี "Age Assurance" ที่ช่วยให้ผู้ปกครองสามารถแชร์อายุของบุตรหลานกับนักพัฒนาแอปได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลสำคัญ เช่น วันเกิดหรือหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นขณะที่นักกฎหมายในสหรัฐฯ กำลังพิจารณากฎหมายการยืนยันอายุสำหรับสื่อสังคมออนไลน์และแอปอื่น ๆ รัฐต่างๆ เช่น ยูทาห์ และเซาท์แคโรไลนา กำลังถกเถียงกันเรื่องกฎหมายที่กำหนดให้ผู้ให้บริการแอปสโตร์ เช่น Apple และ Google ต้องตรวจสอบอายุของผู้ใช้ Meta ได้สนับสนุนกฎหมายที่กำหนดให้แอปสโตร์ตรวจสอบอายุของเด็ก ๆ เมื่อดาวน์โหลดแอป แต่ Apple กล่าวว่าไม่ต้องการรับผิดชอบในการเก็บข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ Apple จึงเปิดตัวเทคโนโลยี "Age Assurance" ที่ให้ผู้ปกครองกรอกอายุของบุตรหลานเมื่อสร้างบัญชีเด็ก และสามารถเลือกที่จะแชร์ช่วงอายุแทนที่จะเป็นวันเกิดที่แน่นอนกับนักพัฒนาแอปของบุคคลที่สาม ผู้ปกครองยังสามารถปิดการแชร์ช่วงอายุนี้ได้ ซึ่งช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่สำคัญ Stephanie Otway โฆษกของ Meta กล่าวว่า เทคโนโลยีของ Apple เป็น "ก้าวแรกที่ดี" แต่ยังคงต้องให้เด็กแชร์ข้อมูลช่วงอายุกับนักพัฒนา ซึ่งทำให้การนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ยากขึ้น สำหรับ Meta พ่อแม่ยังต้องการมีคำพูดสุดท้ายในแอปที่ลูกของพวกเขาใช้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/28/apple-launches-039age-assurance039-tech-as-us-states-mull-social-media-laws
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Apple launches 'age assurance' tech as US states mull social media laws
    (Reuters) -Apple on Thursday said it will introduce a way for parents to share the age of a child with app developers without revealing sensitive information such as birthdays or government identification numbers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts