• ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับแนวโน้มมัลแวร์ที่กำลังเพิ่มขึ้นเผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในกลยุทธ์ของอาชญากรไซเบอร์ โดยมีการใช้ AI และเทคนิคใหม่ ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและเพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตี

    มัลแวร์กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ infostealers ที่ขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น คุกกี้เบราว์เซอร์, ข้อมูล VPN, โทเค็น MFA และกระเป๋าเงินคริปโต ซึ่งถูกขายในตลาดมืดเพื่อให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบองค์กรได้ง่ายขึ้น

    นอกจากนี้ มัลแวร์ที่ใช้วิศวกรรมสังคม (social engineering) กำลังเพิ่มขึ้น โดยใช้เทคนิค ClickFix ที่หลอกให้ผู้ใช้คัดลอกและวางโค้ดที่เป็นอันตรายลงในระบบของตนเอง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - infostealers เพิ่มขึ้น 58% ในปีที่ผ่านมา และรับผิดชอบต่อ 75% ของข้อมูลที่ถูกขโมย
    - มัลแวร์ที่ฝังอยู่ในแพ็กเกจสำหรับนักพัฒนา เพิ่มขึ้น 156% โดยพบมากใน NPM, PyPI และ HuggingFace
    - แรนซัมแวร์กำลังเปลี่ยนไปใช้การโจมตีแบบเจาะจง โดยเน้นการขโมยข้อมูลก่อนเข้ารหัสไฟล์
    - มัลแวร์ที่ใช้วิศวกรรมสังคม เช่น ClickFix กำลังแพร่หลายมากขึ้น

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - องค์กรควรตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของระบบ เพื่อป้องกันการโจมตีจาก infostealers
    - นักพัฒนาควรตรวจสอบแพ็กเกจที่ใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงมัลแวร์ที่ฝังอยู่ในเครื่องมือพัฒนา
    - ผู้ใช้ควรระวังการโจมตีแบบ ClickFix ซึ่งอาจทำให้พวกเขาติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว
    - แรนซัมแวร์กำลังเปลี่ยนกลยุทธ์ จากการเข้ารหัสไฟล์ไปเป็นการขโมยข้อมูลและขู่กรรโชก

    แนวโน้มมัลแวร์ที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่องค์กรและผู้ใช้ทั่วไปต้องปรับตัวและเพิ่มมาตรการป้องกันเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนมากขึ้น

    https://www.csoonline.com/article/3997388/6-rising-malware-trends-every-security-pro-should-know.html
    ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับแนวโน้มมัลแวร์ที่กำลังเพิ่มขึ้นเผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในกลยุทธ์ของอาชญากรไซเบอร์ โดยมีการใช้ AI และเทคนิคใหม่ ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและเพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตี มัลแวร์กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ infostealers ที่ขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น คุกกี้เบราว์เซอร์, ข้อมูล VPN, โทเค็น MFA และกระเป๋าเงินคริปโต ซึ่งถูกขายในตลาดมืดเพื่อให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบองค์กรได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ มัลแวร์ที่ใช้วิศวกรรมสังคม (social engineering) กำลังเพิ่มขึ้น โดยใช้เทคนิค ClickFix ที่หลอกให้ผู้ใช้คัดลอกและวางโค้ดที่เป็นอันตรายลงในระบบของตนเอง ✅ ข้อมูลจากข่าว - infostealers เพิ่มขึ้น 58% ในปีที่ผ่านมา และรับผิดชอบต่อ 75% ของข้อมูลที่ถูกขโมย - มัลแวร์ที่ฝังอยู่ในแพ็กเกจสำหรับนักพัฒนา เพิ่มขึ้น 156% โดยพบมากใน NPM, PyPI และ HuggingFace - แรนซัมแวร์กำลังเปลี่ยนไปใช้การโจมตีแบบเจาะจง โดยเน้นการขโมยข้อมูลก่อนเข้ารหัสไฟล์ - มัลแวร์ที่ใช้วิศวกรรมสังคม เช่น ClickFix กำลังแพร่หลายมากขึ้น ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - องค์กรควรตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของระบบ เพื่อป้องกันการโจมตีจาก infostealers - นักพัฒนาควรตรวจสอบแพ็กเกจที่ใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงมัลแวร์ที่ฝังอยู่ในเครื่องมือพัฒนา - ผู้ใช้ควรระวังการโจมตีแบบ ClickFix ซึ่งอาจทำให้พวกเขาติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว - แรนซัมแวร์กำลังเปลี่ยนกลยุทธ์ จากการเข้ารหัสไฟล์ไปเป็นการขโมยข้อมูลและขู่กรรโชก แนวโน้มมัลแวร์ที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่องค์กรและผู้ใช้ทั่วไปต้องปรับตัวและเพิ่มมาตรการป้องกันเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนมากขึ้น https://www.csoonline.com/article/3997388/6-rising-malware-trends-every-security-pro-should-know.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    6 rising malware trends every security pro should know
    From infostealers commoditizing initial access to a more targeted approach to ransomware attacks, cybercriminals’ malware tools, tactics, and techniques are evolving rapidly.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • CISOs ควรเตรียมรับมือกับการโจมตีของ Scattered Spider

    Scattered Spider เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีชื่อเสียงด้านการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่ โดยล่าสุด Marks & Spencer, Harrods และ Co-op ในสหราชอาณาจักรตกเป็นเป้าหมาย ซึ่งสร้างความเสียหายทางธุรกิจมหาศาล และคาดว่า กลุ่มนี้จะขยายการโจมตีไปยังสหรัฐฯ

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Scattered Spider และแนวทางป้องกัน
    ✅ Scattered Spider เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Social Engineering
    - ใช้ เทคนิคหลอกลวงพนักงานและฝ่ายสนับสนุนลูกค้าเพื่อเข้าถึงระบบ

    ✅ กลุ่มนี้ร่วมมือกับ DragonForce ซึ่งเป็นกลุ่ม Ransomware-as-a-Service
    - DragonForce อาจมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยข่าวกรองรัสเซีย

    ✅ Scattered Spider เปลี่ยนกลยุทธ์จาก Phishing เป็น Social Engineering
    - ใช้ SIM Swapping และการปลอมตัวเป็นพนักงานเพื่อขอรีเซ็ตรหัสผ่าน

    ✅ CISOs ควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์
    - โดยเฉพาะ ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าและพนักงานที่มีสิทธิ์เข้าถึงระบบ

    ✅ ควรมีระบบตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติของผู้ใช้ในเครือข่าย
    - เช่น การเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของพนักงาน

    ✅ หากถูกโจมตี ควรใช้การกู้คืนข้อมูลจาก Backup แทนการจ่ายค่าไถ่
    - การจ่ายค่าไถ่ ไม่รับประกันว่าข้อมูลจะไม่ถูกเผยแพร่

    https://www.csoonline.com/article/3994369/how-cisos-can-defend-against-scattered-spider-ransomware-attacks.html
    CISOs ควรเตรียมรับมือกับการโจมตีของ Scattered Spider Scattered Spider เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีชื่อเสียงด้านการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่ โดยล่าสุด Marks & Spencer, Harrods และ Co-op ในสหราชอาณาจักรตกเป็นเป้าหมาย ซึ่งสร้างความเสียหายทางธุรกิจมหาศาล และคาดว่า กลุ่มนี้จะขยายการโจมตีไปยังสหรัฐฯ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Scattered Spider และแนวทางป้องกัน ✅ Scattered Spider เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Social Engineering - ใช้ เทคนิคหลอกลวงพนักงานและฝ่ายสนับสนุนลูกค้าเพื่อเข้าถึงระบบ ✅ กลุ่มนี้ร่วมมือกับ DragonForce ซึ่งเป็นกลุ่ม Ransomware-as-a-Service - DragonForce อาจมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ✅ Scattered Spider เปลี่ยนกลยุทธ์จาก Phishing เป็น Social Engineering - ใช้ SIM Swapping และการปลอมตัวเป็นพนักงานเพื่อขอรีเซ็ตรหัสผ่าน ✅ CISOs ควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ - โดยเฉพาะ ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าและพนักงานที่มีสิทธิ์เข้าถึงระบบ ✅ ควรมีระบบตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติของผู้ใช้ในเครือข่าย - เช่น การเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของพนักงาน ✅ หากถูกโจมตี ควรใช้การกู้คืนข้อมูลจาก Backup แทนการจ่ายค่าไถ่ - การจ่ายค่าไถ่ ไม่รับประกันว่าข้อมูลจะไม่ถูกเผยแพร่ https://www.csoonline.com/article/3994369/how-cisos-can-defend-against-scattered-spider-ransomware-attacks.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    How CISOs can defend against Scattered Spider ransomware attacks
    CISOs should fortify help desk and employee defenses, enhance intrusion detection and tracking capabilities, and recognize that paying ransoms is not a viable strategy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ขู่ Apple ให้ผลิต iPhone ในสหรัฐฯ มิฉะนั้นต้องจ่ายภาษี 25%

    อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้โพสต์บน Truth Social ขู่ว่า Apple ต้องผลิต iPhone ที่ขายในสหรัฐฯ ภายในประเทศ มิฉะนั้นจะต้องจ่าย ภาษีนำเข้า 25% ซึ่งส่งผลให้ หุ้นของ Apple ร่วงลง 3%

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคำขู่ของทรัมป์ต่อ Apple
    ✅ ทรัมป์ต้องการให้ Apple ผลิต iPhone ในสหรัฐฯ แทนที่จะเป็นอินเดียหรือจีน
    - Apple กำลังวางแผนสร้างโรงงานผลิต iPhone มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ในอินเดีย

    ✅ Apple อ้างว่าภาษีนำเข้ามีผลกระทบจำกัด เนื่องจากบริษัทปรับปรุงซัพพลายเชนแล้ว
    - Tim Cook พยายามลดความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับผลกระทบของภาษี

    ✅ Apple อาจขึ้นราคาของ iPhone 17 เพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
    - มีข่าวลือว่า ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจะถูกผลักไปยังการออกแบบกล้องใหม่

    ✅ ทรัมป์ขู่ยุโรปด้วยภาษีนำเข้า 50% ในโพสต์แยกต่างหาก
    - อาจส่งผลให้ Apple ต้องปรับกลยุทธ์การผลิตและการตลาดในยุโรป

    ✅ Apple ต้องประเมินกลยุทธ์ใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากภาษีนำเข้า
    - อาจต้อง ขยายการผลิตไปยังประเทศอื่น เช่น บราซิล

    https://www.neowin.net/news/president-trump-threatens-tim-cook-to-sell-made-in-america-iphones-or-face-25-tariff/
    ทรัมป์ขู่ Apple ให้ผลิต iPhone ในสหรัฐฯ มิฉะนั้นต้องจ่ายภาษี 25% อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้โพสต์บน Truth Social ขู่ว่า Apple ต้องผลิต iPhone ที่ขายในสหรัฐฯ ภายในประเทศ มิฉะนั้นจะต้องจ่าย ภาษีนำเข้า 25% ซึ่งส่งผลให้ หุ้นของ Apple ร่วงลง 3% 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคำขู่ของทรัมป์ต่อ Apple ✅ ทรัมป์ต้องการให้ Apple ผลิต iPhone ในสหรัฐฯ แทนที่จะเป็นอินเดียหรือจีน - Apple กำลังวางแผนสร้างโรงงานผลิต iPhone มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ในอินเดีย ✅ Apple อ้างว่าภาษีนำเข้ามีผลกระทบจำกัด เนื่องจากบริษัทปรับปรุงซัพพลายเชนแล้ว - Tim Cook พยายามลดความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับผลกระทบของภาษี ✅ Apple อาจขึ้นราคาของ iPhone 17 เพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น - มีข่าวลือว่า ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจะถูกผลักไปยังการออกแบบกล้องใหม่ ✅ ทรัมป์ขู่ยุโรปด้วยภาษีนำเข้า 50% ในโพสต์แยกต่างหาก - อาจส่งผลให้ Apple ต้องปรับกลยุทธ์การผลิตและการตลาดในยุโรป ✅ Apple ต้องประเมินกลยุทธ์ใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากภาษีนำเข้า - อาจต้อง ขยายการผลิตไปยังประเทศอื่น เช่น บราซิล https://www.neowin.net/news/president-trump-threatens-tim-cook-to-sell-made-in-america-iphones-or-face-25-tariff/
    WWW.NEOWIN.NET
    President Trump threatens Tim Cook to sell 'Made in America' iPhones or face 25% tariff
    Taking on his social media platform, Truth Social, President Trump has threatened Apple CEO Tim Cook with tariffs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • Pres. Trump is calling on Apple to manufacture its iPhones in the U.S. — and threatening it with a tariff of 25% if it doesn’t.

    Trump made the comments in a post on his social media platform, saying that the tech giant should not manufacture its phones in India or any other nation.

    Read more: https://abcnews.visitlink.me/ETFGPW
    Pres. Trump is calling on Apple to manufacture its iPhones in the U.S. — and threatening it with a tariff of 25% if it doesn’t. Trump made the comments in a post on his social media platform, saying that the tech giant should not manufacture its phones in India or any other nation. Read more: https://abcnews.visitlink.me/ETFGPW
    ABCNEWS.VISITLINK.ME
    Trump threatens Apple with 25% tariff
    Trump said that the European bloc has been "very difficult to deal with."
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • เท็กซัสผลักดันร่างกฎหมายห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าร่วมโซเชียลมีเดีย

    รัฐเท็กซัส กำลังผลักดันร่างกฎหมาย House Bill 186 ซึ่งจะห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีสมัครบัญชีโซเชียลมีเดีย โดยร่างกฎหมายนี้ได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคและกำลังเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่ ผู้ว่าการรัฐ Greg Abbott จะลงนามให้มีผลบังคับใช้

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับร่างกฎหมาย House Bill 186
    ✅ ร่างกฎหมายนี้จะห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีสมัครบัญชีโซเชียลมีเดีย
    - เท็กซัส ต้องการใช้มาตรการที่เข้มงวดกว่าฟลอริดา ซึ่งจำกัดอายุขั้นต่ำไว้ที่ 14 ปี

    ✅ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต้องติดป้ายเตือนเกี่ยวกับอันตรายของการใช้งาน
    - คล้ายกับ คำเตือนบนผลิตภัณฑ์บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

    ✅ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อนดาวน์โหลดแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดีย
    - เพื่อ ช่วยให้ผู้ปกครองสามารถควบคุมการเข้าถึงของเยาวชนได้ดีขึ้น

    ✅ เว็บไซต์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างและแชร์เนื้อหาจะถูกจัดเป็นโซเชียลมีเดีย
    - ซึ่งหมายความว่า YouTube อาจเข้าข่ายข้อบังคับนี้

    ✅ ร่างกฎหมายนี้ไม่ครอบคลุมถึงอีเมล, เว็บไซต์ข่าว และเว็บไซต์การพนัน
    - ทำให้ แพลตฟอร์มเหล่านี้ยังสามารถให้บริการแก่เยาวชนได้

    https://www.techspot.com/news/107985-texas-pushing-bill-block-under-18s-joining-social.html
    เท็กซัสผลักดันร่างกฎหมายห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าร่วมโซเชียลมีเดีย รัฐเท็กซัส กำลังผลักดันร่างกฎหมาย House Bill 186 ซึ่งจะห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีสมัครบัญชีโซเชียลมีเดีย โดยร่างกฎหมายนี้ได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคและกำลังเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่ ผู้ว่าการรัฐ Greg Abbott จะลงนามให้มีผลบังคับใช้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับร่างกฎหมาย House Bill 186 ✅ ร่างกฎหมายนี้จะห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีสมัครบัญชีโซเชียลมีเดีย - เท็กซัส ต้องการใช้มาตรการที่เข้มงวดกว่าฟลอริดา ซึ่งจำกัดอายุขั้นต่ำไว้ที่ 14 ปี ✅ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต้องติดป้ายเตือนเกี่ยวกับอันตรายของการใช้งาน - คล้ายกับ คำเตือนบนผลิตภัณฑ์บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ✅ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อนดาวน์โหลดแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดีย - เพื่อ ช่วยให้ผู้ปกครองสามารถควบคุมการเข้าถึงของเยาวชนได้ดีขึ้น ✅ เว็บไซต์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างและแชร์เนื้อหาจะถูกจัดเป็นโซเชียลมีเดีย - ซึ่งหมายความว่า YouTube อาจเข้าข่ายข้อบังคับนี้ ✅ ร่างกฎหมายนี้ไม่ครอบคลุมถึงอีเมล, เว็บไซต์ข่าว และเว็บไซต์การพนัน - ทำให้ แพลตฟอร์มเหล่านี้ยังสามารถให้บริการแก่เยาวชนได้ https://www.techspot.com/news/107985-texas-pushing-bill-block-under-18s-joining-social.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Texas is pushing a bill to block under-18s from joining social media platforms
    House Bill 186, which was introduced in November, is currently making its way toward becoming a law in Texas. It has already passed the Texas House with...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • โจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ วัย 82 ปี ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งลามถึงกระดูกแล้ว

    นักการเมืองทั้งฝั่งเดโมแครตและรีพับลิกัน ร่วมกันอธิษฐานขอให้กระบวนการรักษาไบเดนประสบความสำเร็จ และหวังว่าเขาจะหายดี กลับมาแข็งแรงโดยเร็วที่สุด

    ทางด้านประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวบน Truth Social แสดงความเสียใจและส่งความปรารถนาดีไปยังครอบครัวของไบเดน
    "เมลาเนียกับผมรู้สึกเศร้าใจที่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับสุขภาพของโจ ไบเดน เราขอส่งความปรารถนาดีไปยังจิลและครอบครัว และหวังว่าไบเดนจะหายโดยเร็ว"
    โจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ วัย 82 ปี ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งลามถึงกระดูกแล้ว นักการเมืองทั้งฝั่งเดโมแครตและรีพับลิกัน ร่วมกันอธิษฐานขอให้กระบวนการรักษาไบเดนประสบความสำเร็จ และหวังว่าเขาจะหายดี กลับมาแข็งแรงโดยเร็วที่สุด ทางด้านประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวบน Truth Social แสดงความเสียใจและส่งความปรารถนาดีไปยังครอบครัวของไบเดน "เมลาเนียกับผมรู้สึกเศร้าใจที่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับสุขภาพของโจ ไบเดน เราขอส่งความปรารถนาดีไปยังจิลและครอบครัว และหวังว่าไบเดนจะหายโดยเร็ว"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ จับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทมูลค่า 263 ล้านดอลลาร์

    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการจับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทที่มีมูลค่ากว่า 263 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มนี้ใช้ เทคนิควิศวกรรมสังคม (Social Engineering) เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีคริปโท และนำเงินไปฟอกผ่าน กระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงคริปโท
    ✅ กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วยชาวอเมริกันและชาวต่างชาติ
    - ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินการทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ

    ✅ ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคมเพื่อหลอกลวงเหยื่อ
    - โทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างว่าบัญชีถูกโจมตี และต้องรีบกู้คืนข้อมูล

    ✅ ฟอกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้
    - ใช้ "peel chains" และ VPN เพื่อปกปิดตัวตน

    ✅ ในไตรมาสแรกของปี 2025 มีเงินคริปโทถูกขโมยไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
    - เพิ่มขึ้น 300% จากปีที่แล้ว

    ✅ เหตุการณ์ใหญ่ที่สุดคือการแฮก Bybit ที่ทำให้สูญเสียเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
    - ถือเป็น การโจรกรรมคริปโทครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

    https://www.techradar.com/pro/security/rico-crypto-fraud-investigation-leads-to-twelve-more-arrests
    สหรัฐฯ จับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทมูลค่า 263 ล้านดอลลาร์ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการจับกุม 12 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงคริปโทที่มีมูลค่ากว่า 263 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มนี้ใช้ เทคนิควิศวกรรมสังคม (Social Engineering) เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีคริปโท และนำเงินไปฟอกผ่าน กระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงคริปโท ✅ กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วยชาวอเมริกันและชาวต่างชาติ - ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินการทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ ✅ ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคมเพื่อหลอกลวงเหยื่อ - โทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างว่าบัญชีถูกโจมตี และต้องรีบกู้คืนข้อมูล ✅ ฟอกเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยนที่ไม่สามารถติดตามได้ - ใช้ "peel chains" และ VPN เพื่อปกปิดตัวตน ✅ ในไตรมาสแรกของปี 2025 มีเงินคริปโทถูกขโมยไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ - เพิ่มขึ้น 300% จากปีที่แล้ว ✅ เหตุการณ์ใหญ่ที่สุดคือการแฮก Bybit ที่ทำให้สูญเสียเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ - ถือเป็น การโจรกรรมคริปโทครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ https://www.techradar.com/pro/security/rico-crypto-fraud-investigation-leads-to-twelve-more-arrests
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำพูดตลกของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม และ “ภรรยาคนที่สอง” ทำให้คนในประเทศเกิดปฏิกิริยาที่หลากหลาย โดยทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรู้สึกขบขัน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนอื่นๆรู้สึกไม่พอใจเพราะยังคงไว้อาลัยเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ หลังจากที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เครื่องบินตกเมื่อปี 2014 ระหว่างที่อันวาร์เยือนกรุงมอสโก

    อันวาร์อยู่ระหว่างการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ 4 วันตามคำเชิญของปูติน โดยทั้งสองฝ่ายต่างยกย่องความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในภาคส่วนต่างๆ เช่น อวกาศ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีดิจิทัล

    แต่คำพูดที่หลุดจากปากของปูตินเองต่างหากที่ดึงดูดความสนใจ

    ในการแถลงข่าวร่วมกันที่กรุงมอสโกเมื่อวันพุธที่14 พ.ค. ผู้นำรัสเซียเล่าว่าพาอันวาร์ชมห้องโถงเซนต์แอนดรูว์อันโอ่อ่าในเครมลิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบัลลังก์พิธีการ 3 บัลลังก์ที่ราชวงศ์รัสเซียเคยใช้ ผู้นำรัสเซียอธิบายว่าบัลลังก์หนึ่งเป็นของซาร์ และอีกบัลลังก์หนึ่งเป็นของภรรยา จากนั้นจึงถามผู้นำมาเลเซียว่าบัลลังก์ที่สามเป็นของใคร

    “นายกรัฐมนตรีอันวาร์กล่าวโดยไม่คิดอะไรเลยว่า ‘เพื่อภรรยาคนที่สอง’” ปูตินกล่าว ทำให้ผู้ฟังหัวเราะ “ฉันหวังว่าเขาจะไม่โกรธฉันที่พูดแบบนั้น แต่นี่คือคำตอบของมุสลิมแท้ ตัวแทนที่แท้จริงของวัฒนธรรมอิสลาม”

    อันวาร์ซึ่งหัวเราะขณะที่ปูตินเล่าเรื่องนี้ตอบกลับว่า “ผมมีภรรยาคนเดียวเท่านั้น ท่านประธานาธิบดี” และเสริมว่าภายหลังเขาเพิ่งตระหนักว่าบัลลังก์ที่สามนั้นเป็นของพระมารดาของซาร์

    ชาวมาเลเซียรีบล้อเลียนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนี้บนโซเชียลมีเดีย โดยบางคนเสนอว่าควรมีเพลง “Russia Sayang” เป็นเพลงประกอบการเยือนของอันวาร์ ซึ่งเป็นการเล่นคำกับเพลง “Rasa Sayang” ซึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านยอดนิยมของชาวมาเลย์ที่แปลว่า “ความรู้สึกรัก”

    “จากรัสเซียด้วยความรัก” ผู้ใช้รายหนึ่งชื่ออัซลัน อับดุลลาห์ เขียน พร้อมเพิ่มอีโมจิหัวเราะในความคิดเห็นบนเฟซบุ๊กของเขา

    อย่างไรก็ตาม ชาวมาเลเซียบางคนก็ไม่ได้รู้สึกขบขัน นักวิจารณ์โต้แย้งว่าความตลกโปกฮานี้ขาดความจริงจัง เนื่องจากรัสเซียมีบทบาทในเหตุโศกนาฏกรรม MH17 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 298 ราย รวมถึงชาวมาเลเซีย 43 ราย เมื่อเครื่องบินถูกขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ Buk ที่ผลิตโดยรัสเซียโจมตีเหนือยูเครนตะวันออกในเดือนกรกฎาคม 2557 ระหว่างการสู้รบระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนมอสโกวและกองกำลังยูเครน

    ผู้ใช้รายหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “เขาคิดว่าเขาไปมอสโกวเพื่อเรียกร้องคำตอบเกี่ยวกับ MH17 แต่กลับกลายเป็นว่าเขากำลังเล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับภรรยาคนที่สองกับปูตินแทน” ผู้ใช้อีกรายเขียนว่า “หัวเราะและเล่าเรื่องตลกในขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจาก MH17 ร้องไห้” ในโพสต์ที่แชร์คลิปการแถลงข่าวที่กลายเป็นไวรัล

    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ตัดสินว่ารัสเซียต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เครื่องบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ถูกยิงตก

    คำตัดสินดังกล่าวระบุว่ารัสเซียละเมิดอนุสัญญาชิคาโก ซึ่งห้ามใช้อาวุธโจมตีเครื่องบินพลเรือนขณะบิน และเปิดโอกาสให้รัฐที่ได้รับผลกระทบเรียกร้องค่าชดเชยแทนครอบครัวของผู้เสียชีวิตผ่านกลไกทางกฎหมายระหว่างประเทศ

    เครมลินปฏิเสธคำตัดสินดังกล่าวโดยระบุว่า “ลำเอียง” โดยให้เหตุผลว่ามอสโกไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวน

    ในการแถลงข่าวแยกกับสื่อมาเลเซียในกรุงมอสโก อันวาร์กล่าวว่าปูตินบอกกับเขาว่ารัสเซียเปิดกว้างที่จะให้ความร่วมมือในคดีนี้ แต่เฉพาะกับหน่วยงานสอบสวนที่ถือว่าเป็นกลางเท่านั้น

    “สิ่งที่ฉันยืนยันได้คือเขากล่าวว่าไม่เป็นความจริงที่จะบอกว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ แต่พวกเขาไม่สามารถให้ความร่วมมือกับใครก็ตามที่รัสเซียถือว่าไม่เป็นอิสระ” เขากล่าว

    มาเลเซียซึ่งสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียในช่วงยุคโซเวียตในทศวรรษ 1960 นำเข้าธัญพืช น้ำมันกลั่น และอาวุธจากรัสเซีย และล่าสุดหันไปหามอสโกเพื่อขอการสนับสนุนในการพยายามเข้าร่วมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่บริกส์

    ที่มา Putin’s ‘second wife’ joke about Anwar draws laughs and backlash in Malaysia
    https://www.scmp.com/week-asia/politics/article/3310606/putins-second-wife-joke-about-malaysias-anwar-draws-laughs-and-anger-amid-mh17-ruling?share=mYixsqD3Gx74oC2WLCVGDbUSw3YQ5trX%2FyBWyU9E0%2F%2FQDIcV%2Ba96vAUpBw3v%2BoxVR4RAImnq9JxgzHKpT4WMZjU%2BOyv%2BvSxYeWul0pVvbj0%3D&utm_campaign=social_share
    คำพูดตลกของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม และ “ภรรยาคนที่สอง” ทำให้คนในประเทศเกิดปฏิกิริยาที่หลากหลาย โดยทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรู้สึกขบขัน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนอื่นๆรู้สึกไม่พอใจเพราะยังคงไว้อาลัยเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ หลังจากที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เครื่องบินตกเมื่อปี 2014 ระหว่างที่อันวาร์เยือนกรุงมอสโก อันวาร์อยู่ระหว่างการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ 4 วันตามคำเชิญของปูติน โดยทั้งสองฝ่ายต่างยกย่องความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในภาคส่วนต่างๆ เช่น อวกาศ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีดิจิทัล แต่คำพูดที่หลุดจากปากของปูตินเองต่างหากที่ดึงดูดความสนใจ ในการแถลงข่าวร่วมกันที่กรุงมอสโกเมื่อวันพุธที่14 พ.ค. ผู้นำรัสเซียเล่าว่าพาอันวาร์ชมห้องโถงเซนต์แอนดรูว์อันโอ่อ่าในเครมลิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบัลลังก์พิธีการ 3 บัลลังก์ที่ราชวงศ์รัสเซียเคยใช้ ผู้นำรัสเซียอธิบายว่าบัลลังก์หนึ่งเป็นของซาร์ และอีกบัลลังก์หนึ่งเป็นของภรรยา จากนั้นจึงถามผู้นำมาเลเซียว่าบัลลังก์ที่สามเป็นของใคร “นายกรัฐมนตรีอันวาร์กล่าวโดยไม่คิดอะไรเลยว่า ‘เพื่อภรรยาคนที่สอง’” ปูตินกล่าว ทำให้ผู้ฟังหัวเราะ “ฉันหวังว่าเขาจะไม่โกรธฉันที่พูดแบบนั้น แต่นี่คือคำตอบของมุสลิมแท้ ตัวแทนที่แท้จริงของวัฒนธรรมอิสลาม” อันวาร์ซึ่งหัวเราะขณะที่ปูตินเล่าเรื่องนี้ตอบกลับว่า “ผมมีภรรยาคนเดียวเท่านั้น ท่านประธานาธิบดี” และเสริมว่าภายหลังเขาเพิ่งตระหนักว่าบัลลังก์ที่สามนั้นเป็นของพระมารดาของซาร์ ชาวมาเลเซียรีบล้อเลียนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนี้บนโซเชียลมีเดีย โดยบางคนเสนอว่าควรมีเพลง “Russia Sayang” เป็นเพลงประกอบการเยือนของอันวาร์ ซึ่งเป็นการเล่นคำกับเพลง “Rasa Sayang” ซึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านยอดนิยมของชาวมาเลย์ที่แปลว่า “ความรู้สึกรัก” “จากรัสเซียด้วยความรัก” ผู้ใช้รายหนึ่งชื่ออัซลัน อับดุลลาห์ เขียน พร้อมเพิ่มอีโมจิหัวเราะในความคิดเห็นบนเฟซบุ๊กของเขา อย่างไรก็ตาม ชาวมาเลเซียบางคนก็ไม่ได้รู้สึกขบขัน นักวิจารณ์โต้แย้งว่าความตลกโปกฮานี้ขาดความจริงจัง เนื่องจากรัสเซียมีบทบาทในเหตุโศกนาฏกรรม MH17 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 298 ราย รวมถึงชาวมาเลเซีย 43 ราย เมื่อเครื่องบินถูกขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ Buk ที่ผลิตโดยรัสเซียโจมตีเหนือยูเครนตะวันออกในเดือนกรกฎาคม 2557 ระหว่างการสู้รบระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนมอสโกวและกองกำลังยูเครน ผู้ใช้รายหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “เขาคิดว่าเขาไปมอสโกวเพื่อเรียกร้องคำตอบเกี่ยวกับ MH17 แต่กลับกลายเป็นว่าเขากำลังเล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับภรรยาคนที่สองกับปูตินแทน” ผู้ใช้อีกรายเขียนว่า “หัวเราะและเล่าเรื่องตลกในขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจาก MH17 ร้องไห้” ในโพสต์ที่แชร์คลิปการแถลงข่าวที่กลายเป็นไวรัล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ตัดสินว่ารัสเซียต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เครื่องบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ถูกยิงตก คำตัดสินดังกล่าวระบุว่ารัสเซียละเมิดอนุสัญญาชิคาโก ซึ่งห้ามใช้อาวุธโจมตีเครื่องบินพลเรือนขณะบิน และเปิดโอกาสให้รัฐที่ได้รับผลกระทบเรียกร้องค่าชดเชยแทนครอบครัวของผู้เสียชีวิตผ่านกลไกทางกฎหมายระหว่างประเทศ เครมลินปฏิเสธคำตัดสินดังกล่าวโดยระบุว่า “ลำเอียง” โดยให้เหตุผลว่ามอสโกไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวน ในการแถลงข่าวแยกกับสื่อมาเลเซียในกรุงมอสโก อันวาร์กล่าวว่าปูตินบอกกับเขาว่ารัสเซียเปิดกว้างที่จะให้ความร่วมมือในคดีนี้ แต่เฉพาะกับหน่วยงานสอบสวนที่ถือว่าเป็นกลางเท่านั้น “สิ่งที่ฉันยืนยันได้คือเขากล่าวว่าไม่เป็นความจริงที่จะบอกว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ แต่พวกเขาไม่สามารถให้ความร่วมมือกับใครก็ตามที่รัสเซียถือว่าไม่เป็นอิสระ” เขากล่าว มาเลเซียซึ่งสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียในช่วงยุคโซเวียตในทศวรรษ 1960 นำเข้าธัญพืช น้ำมันกลั่น และอาวุธจากรัสเซีย และล่าสุดหันไปหามอสโกเพื่อขอการสนับสนุนในการพยายามเข้าร่วมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่บริกส์ ที่มา Putin’s ‘second wife’ joke about Anwar draws laughs and backlash in Malaysia https://www.scmp.com/week-asia/politics/article/3310606/putins-second-wife-joke-about-malaysias-anwar-draws-laughs-and-anger-amid-mh17-ruling?share=mYixsqD3Gx74oC2WLCVGDbUSw3YQ5trX%2FyBWyU9E0%2F%2FQDIcV%2Ba96vAUpBw3v%2BoxVR4RAImnq9JxgzHKpT4WMZjU%2BOyv%2BvSxYeWul0pVvbj0%3D&utm_campaign=social_share
    WWW.SCMP.COM
    Putin’s ‘second wife’ joke about Anwar draws laughs and backlash in Malaysia
    While some social media users were amused by the leaders’ moment of levity, others felt it was inappropriate in light of the MH17 tragedy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 391 มุมมอง 0 รีวิว
  • การฆาตกรรมของอินฟลูเอนเซอร์ในเม็กซิโกสะท้อนด้านมืดของชื่อเสียงบนโซเชียลมีเดีย

    Valeria Marquez อินฟลูเอนเซอร์ด้านความงามชาวเม็กซิโก ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างไลฟ์สดบน TikTok ทำให้เกิดความตกตะลึงในสังคมและสะท้อนถึง ปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิงและอินฟลูเอนเซอร์ที่เพิ่มขึ้นในเม็กซิโก

    ✅ Valeria Marquez วัย 23 ปี ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างไลฟ์สดบน TikTok
    - เธอเคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับ ความเสี่ยงในการถูกลักพาตัวหรือฆาตกรรม ก่อนเกิดเหตุ

    ✅ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ Zapopan รัฐ Jalisco ประเทศเม็กซิโก
    - เป็นพื้นที่ที่มี อัตราการเกิดอาชญากรรมสูง

    ✅ การฆาตกรรมของเธอสะท้อนถึงปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิงในเม็กซิโก
    - เม็กซิโกมี อัตราการฆาตกรรมผู้หญิงสูง และปัญหานี้ยังคงเพิ่มขึ้น

    ✅ อินฟลูเอนเซอร์ในเม็กซิโกตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรรมมากขึ้น
    - หลายคน ถูกข่มขู่หรือโจมตีเนื่องจากความโด่งดังบนโซเชียลมีเดีย

    ✅ เหตุการณ์นี้กระตุ้นให้เกิดการเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มมาตรการปกป้องอินฟลูเอนเซอร์และผู้หญิง
    - มีการเรียกร้องให้ เพิ่มความปลอดภัยและมาตรการป้องกันอาชญากรรม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/16/influencer039s-murder-shows-dark-side-of-mexican-social-media-fame
    การฆาตกรรมของอินฟลูเอนเซอร์ในเม็กซิโกสะท้อนด้านมืดของชื่อเสียงบนโซเชียลมีเดีย Valeria Marquez อินฟลูเอนเซอร์ด้านความงามชาวเม็กซิโก ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างไลฟ์สดบน TikTok ทำให้เกิดความตกตะลึงในสังคมและสะท้อนถึง ปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิงและอินฟลูเอนเซอร์ที่เพิ่มขึ้นในเม็กซิโก ✅ Valeria Marquez วัย 23 ปี ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างไลฟ์สดบน TikTok - เธอเคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับ ความเสี่ยงในการถูกลักพาตัวหรือฆาตกรรม ก่อนเกิดเหตุ ✅ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ Zapopan รัฐ Jalisco ประเทศเม็กซิโก - เป็นพื้นที่ที่มี อัตราการเกิดอาชญากรรมสูง ✅ การฆาตกรรมของเธอสะท้อนถึงปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิงในเม็กซิโก - เม็กซิโกมี อัตราการฆาตกรรมผู้หญิงสูง และปัญหานี้ยังคงเพิ่มขึ้น ✅ อินฟลูเอนเซอร์ในเม็กซิโกตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรรมมากขึ้น - หลายคน ถูกข่มขู่หรือโจมตีเนื่องจากความโด่งดังบนโซเชียลมีเดีย ✅ เหตุการณ์นี้กระตุ้นให้เกิดการเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มมาตรการปกป้องอินฟลูเอนเซอร์และผู้หญิง - มีการเรียกร้องให้ เพิ่มความปลอดภัยและมาตรการป้องกันอาชญากรรม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/16/influencer039s-murder-shows-dark-side-of-mexican-social-media-fame
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Influencer's murder shows dark side of Mexican social media fame
    With her followers watching on TikTok, Mexican beauty influencer Valeria Marquez revealed her fears of being kidnapped or killed. Soon afterwards, a gunman arrived and shot her dead.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • Scattered Spider ขยายเป้าหมายโจมตีจากสหราชอาณาจักรไปยังสหรัฐฯ

    กลุ่มแรนซัมแวร์ Scattered Spider ซึ่งเคยมุ่งเป้าโจมตีบริษัทในสหราชอาณาจักร กำลังขยายการโจมตีไปยังสหรัฐฯ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจค้าปลีก ตามรายงานของ Google Threat Intelligence Group

    ✅ Scattered Spider กำลังมุ่งเป้าโจมตีบริษัทค้าปลีกในสหรัฐฯ
    - Google เตือนว่า ธุรกิจค้าปลีกควรเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย

    ✅ กลุ่มนี้กลับมาเคลื่อนไหวหลังจากหยุดไปนาน
    - มีการโจมตีหลายบริษัทในปี 2025 หลังจากหายไปช่วงหนึ่ง

    ✅ Scattered Spider ไม่ใช่กลุ่มที่มีโครงสร้างแน่นหนาเหมือน LockBit หรือ Cl0p
    - เป็นกลุ่มที่ ดำเนินการภายในชุมชนแฮกเกอร์ที่ใหญ่กว่า

    ✅ ใช้เทคนิคหลากหลาย เช่น Social Engineering และ SIM Swapping
    - นอกจากแรนซัมแวร์ ยังมีการใช้ เทคนิคอื่น ๆ ในการโจมตี

    ✅ บริษัทที่ตกเป็นเป้าหมายในปี 2025 ได้แก่ Chick-fil-A, Forbes, Instacart, Nike, Twitter/X และ T-Mobile
    - รวมถึง Marks & Spencer, Co-op และ Harrods ในสหราชอาณาจักร

    https://www.techradar.com/pro/security/scattered-spider-moves-beyond-the-uk-places-crosshairs-on-us-companies
    Scattered Spider ขยายเป้าหมายโจมตีจากสหราชอาณาจักรไปยังสหรัฐฯ กลุ่มแรนซัมแวร์ Scattered Spider ซึ่งเคยมุ่งเป้าโจมตีบริษัทในสหราชอาณาจักร กำลังขยายการโจมตีไปยังสหรัฐฯ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจค้าปลีก ตามรายงานของ Google Threat Intelligence Group ✅ Scattered Spider กำลังมุ่งเป้าโจมตีบริษัทค้าปลีกในสหรัฐฯ - Google เตือนว่า ธุรกิจค้าปลีกควรเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ✅ กลุ่มนี้กลับมาเคลื่อนไหวหลังจากหยุดไปนาน - มีการโจมตีหลายบริษัทในปี 2025 หลังจากหายไปช่วงหนึ่ง ✅ Scattered Spider ไม่ใช่กลุ่มที่มีโครงสร้างแน่นหนาเหมือน LockBit หรือ Cl0p - เป็นกลุ่มที่ ดำเนินการภายในชุมชนแฮกเกอร์ที่ใหญ่กว่า ✅ ใช้เทคนิคหลากหลาย เช่น Social Engineering และ SIM Swapping - นอกจากแรนซัมแวร์ ยังมีการใช้ เทคนิคอื่น ๆ ในการโจมตี ✅ บริษัทที่ตกเป็นเป้าหมายในปี 2025 ได้แก่ Chick-fil-A, Forbes, Instacart, Nike, Twitter/X และ T-Mobile - รวมถึง Marks & Spencer, Co-op และ Harrods ในสหราชอาณาจักร https://www.techradar.com/pro/security/scattered-spider-moves-beyond-the-uk-places-crosshairs-on-us-companies
    WWW.TECHRADAR.COM
    Scattered Spider moves beyond the UK, places crosshairs on US companies
    Google is warning that the UK is no longer the only target
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • Instagram ค้างบน iPhone: วิธีแก้ไขและป้องกันปัญหา

    ผู้ใช้ iPhone หลายคนพบว่า Instagram ค้างหรือทำงานช้าลง ซึ่งอาจเกิดจาก แอปเวอร์ชันเก่า, ปัญหา iOS, แคชที่มากเกินไป หรือพื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ คู่มือนี้จะช่วยให้คุณ แก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

    ✅ แอป Instagram เวอร์ชันเก่า
    - แอปที่ไม่ได้อัปเดต อาจไม่เข้ากันกับ iOS เวอร์ชันล่าสุด

    ✅ iOS มีบั๊กหรือข้อผิดพลาด
    - อัปเดต iOS อาจทำให้เกิดปัญหาชั่วคราวกับแอปบางตัว

    ✅ แคชของแอปมีมากเกินไป
    - ข้อมูลที่สะสมในแอป อาจทำให้การทำงานช้าลง

    ✅ พื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ
    - หาก iPhone มีพื้นที่เหลือน้อย อาจส่งผลต่อการทำงานของแอป

    ✅ แอปอื่นรบกวนการทำงานของ Instagram
    - แอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง อาจทำให้ Instagram ค้าง

    ✅ ปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    - สัญญาณ Wi-Fi หรือเครือข่ายมือถือที่ไม่เสถียร อาจทำให้แอปโหลดช้า

    https://computercity.com/internet/social-media/instagram-freezing-iphone
    Instagram ค้างบน iPhone: วิธีแก้ไขและป้องกันปัญหา ผู้ใช้ iPhone หลายคนพบว่า Instagram ค้างหรือทำงานช้าลง ซึ่งอาจเกิดจาก แอปเวอร์ชันเก่า, ปัญหา iOS, แคชที่มากเกินไป หรือพื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ คู่มือนี้จะช่วยให้คุณ แก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ✅ แอป Instagram เวอร์ชันเก่า - แอปที่ไม่ได้อัปเดต อาจไม่เข้ากันกับ iOS เวอร์ชันล่าสุด ✅ iOS มีบั๊กหรือข้อผิดพลาด - อัปเดต iOS อาจทำให้เกิดปัญหาชั่วคราวกับแอปบางตัว ✅ แคชของแอปมีมากเกินไป - ข้อมูลที่สะสมในแอป อาจทำให้การทำงานช้าลง ✅ พื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ - หาก iPhone มีพื้นที่เหลือน้อย อาจส่งผลต่อการทำงานของแอป ✅ แอปอื่นรบกวนการทำงานของ Instagram - แอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง อาจทำให้ Instagram ค้าง ✅ ปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต - สัญญาณ Wi-Fi หรือเครือข่ายมือถือที่ไม่เสถียร อาจทำให้แอปโหลดช้า https://computercity.com/internet/social-media/instagram-freezing-iphone
    COMPUTERCITY.COM
    Instagram Freezing On iPhone: Troubleshooting and Solutions
    Instagram freezing on your iPhone can be really frustrating. Not only does it interrupt your social media experience, but it can also make your phone lag. The
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • Insight Partners ถูกโจมตีทางไซเบอร์ ข้อมูลนักลงทุนรั่วไหล Insight Partners บริษัทด้านการลงทุนที่มีสินทรัพย์มากกว่า 90 พันล้านดอลลาร์ ได้ยืนยันว่า ถูกโจมตีทางไซเบอร์เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2025 โดยแฮกเกอร์ใช้ เทคนิค Social Engineering เพื่อเข้าถึงระบบของบริษัท ส่งผลให้ ข้อมูลสำคัญของนักลงทุนและพนักงานถูกขโมย

    บริษัทระบุว่า การโจมตีเกิดขึ้นเพียงวันเดียว และไม่มีหลักฐานว่ามีการบุกรุกเพิ่มเติมหลังจากวันที่ 16 มกราคม อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงข้อมูลกองทุน, ข้อมูลบริษัทจัดการ, ข้อมูลบริษัทในพอร์ตโฟลิโอ, ข้อมูลธนาคาร, ข้อมูลภาษี และข้อมูลส่วนตัวของพนักงานทั้งอดีตและปัจจุบัน

    ✅ Insight Partners ถูกโจมตีทางไซเบอร์เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2025
    - แฮกเกอร์ใช้ เทคนิค Social Engineering เพื่อเข้าถึงระบบของบริษัท

    ✅ ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงข้อมูลกองทุน, ข้อมูลบริษัทจัดการ และข้อมูลนักลงทุน
    - รวมถึง ข้อมูลธนาคาร, ข้อมูลภาษี และข้อมูลส่วนตัวของพนักงาน

    ✅ บริษัทระบุว่าการโจมตีเกิดขึ้นเพียงวันเดียว และไม่มีหลักฐานว่ามีการบุกรุกเพิ่มเติม
    - แต่ยังคง แจ้งเตือนผู้ที่ได้รับผลกระทบให้ตรวจสอบบัญชีการเงินและรายงานเครดิต

    ✅ Insight Partners แจ้งเตือนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม
    - เพื่อ ป้องกันการโจมตีในอนาคต

    ✅ บริษัทมีการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Armis, Wiz, monday.com และ Wix
    - ทำให้ การโจมตีครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อบริษัทที่อยู่ในพอร์ตโฟลิโอ

    https://www.techradar.com/pro/security/a-top-vc-firm-says-investor-details-were-stolen-in-a-data-breach
    Insight Partners ถูกโจมตีทางไซเบอร์ ข้อมูลนักลงทุนรั่วไหล Insight Partners บริษัทด้านการลงทุนที่มีสินทรัพย์มากกว่า 90 พันล้านดอลลาร์ ได้ยืนยันว่า ถูกโจมตีทางไซเบอร์เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2025 โดยแฮกเกอร์ใช้ เทคนิค Social Engineering เพื่อเข้าถึงระบบของบริษัท ส่งผลให้ ข้อมูลสำคัญของนักลงทุนและพนักงานถูกขโมย บริษัทระบุว่า การโจมตีเกิดขึ้นเพียงวันเดียว และไม่มีหลักฐานว่ามีการบุกรุกเพิ่มเติมหลังจากวันที่ 16 มกราคม อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงข้อมูลกองทุน, ข้อมูลบริษัทจัดการ, ข้อมูลบริษัทในพอร์ตโฟลิโอ, ข้อมูลธนาคาร, ข้อมูลภาษี และข้อมูลส่วนตัวของพนักงานทั้งอดีตและปัจจุบัน ✅ Insight Partners ถูกโจมตีทางไซเบอร์เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2025 - แฮกเกอร์ใช้ เทคนิค Social Engineering เพื่อเข้าถึงระบบของบริษัท ✅ ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงข้อมูลกองทุน, ข้อมูลบริษัทจัดการ และข้อมูลนักลงทุน - รวมถึง ข้อมูลธนาคาร, ข้อมูลภาษี และข้อมูลส่วนตัวของพนักงาน ✅ บริษัทระบุว่าการโจมตีเกิดขึ้นเพียงวันเดียว และไม่มีหลักฐานว่ามีการบุกรุกเพิ่มเติม - แต่ยังคง แจ้งเตือนผู้ที่ได้รับผลกระทบให้ตรวจสอบบัญชีการเงินและรายงานเครดิต ✅ Insight Partners แจ้งเตือนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม - เพื่อ ป้องกันการโจมตีในอนาคต ✅ บริษัทมีการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Armis, Wiz, monday.com และ Wix - ทำให้ การโจมตีครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อบริษัทที่อยู่ในพอร์ตโฟลิโอ https://www.techradar.com/pro/security/a-top-vc-firm-says-investor-details-were-stolen-in-a-data-breach
    WWW.TECHRADAR.COM
    A top VC firm says investor details were stolen in a data breach
    Insight Partners concludes investigation into January 2025 breach
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำเนียบขาวของทรัมป์กำลังสร้างจักรวาลสื่อของตัวเอง โดยใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างจากรัฐบาลก่อนหน้า เช่น การจัดบรีฟพิเศษสำหรับอินฟลูเอนเซอร์ และการเผยแพร่ มีมของทรัมป์ในบทบาทต่าง ๆ เช่น พระสันตะปาปาและเจไดจาก Star Wars

    ตั้งแต่ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนมกราคม 2025 ทีมของเขาได้ให้ความสำคัญกับ สื่อฝ่ายขวาและแพลตฟอร์มออนไลน์ มากขึ้น เพื่อ ลดบทบาทของสื่อดั้งเดิมและควบคุมการนำเสนอข่าว

    ✅ ทำเนียบขาวของทรัมป์ให้ความสำคัญกับสื่อฝ่ายขวาและแพลตฟอร์มออนไลน์
    - ลดบทบาทของ สื่อดั้งเดิม เช่น CNN และ The New York Times
    - ใช้ Truth Social เป็นช่องทางหลักในการเผยแพร่ข้อมูล

    ✅ มีการจัดบรีฟพิเศษสำหรับอินฟลูเอนเซอร์แทนสื่อหลัก
    - ทำให้ อินฟลูเอนเซอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลก่อนสื่อดั้งเดิม
    - ส่งเสริม การเผยแพร่ข่าวในรูปแบบที่สนับสนุนทรัมป์

    ✅ มีการเผยแพร่มีมของทรัมป์ในบทบาทต่าง ๆ เช่น พระสันตะปาปาและเจไดจาก Star Wars
    - มีมของทรัมป์ในชุดพระสันตะปาปาถูกโพสต์บน Truth Social หลังจากเขาเข้าร่วมพิธีศพของโป๊ปฟรานซิส

    ✅ กลยุทธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของสงครามสื่อที่ทรัมป์ใช้มาตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2016
    - เน้นการ ควบคุมการนำเสนอข่าวและลดอิทธิพลของสื่อที่วิจารณ์เขา

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/trump039s-white-house-creates-own-media-universe
    ทำเนียบขาวของทรัมป์กำลังสร้างจักรวาลสื่อของตัวเอง โดยใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างจากรัฐบาลก่อนหน้า เช่น การจัดบรีฟพิเศษสำหรับอินฟลูเอนเซอร์ และการเผยแพร่ มีมของทรัมป์ในบทบาทต่าง ๆ เช่น พระสันตะปาปาและเจไดจาก Star Wars ตั้งแต่ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนมกราคม 2025 ทีมของเขาได้ให้ความสำคัญกับ สื่อฝ่ายขวาและแพลตฟอร์มออนไลน์ มากขึ้น เพื่อ ลดบทบาทของสื่อดั้งเดิมและควบคุมการนำเสนอข่าว ✅ ทำเนียบขาวของทรัมป์ให้ความสำคัญกับสื่อฝ่ายขวาและแพลตฟอร์มออนไลน์ - ลดบทบาทของ สื่อดั้งเดิม เช่น CNN และ The New York Times - ใช้ Truth Social เป็นช่องทางหลักในการเผยแพร่ข้อมูล ✅ มีการจัดบรีฟพิเศษสำหรับอินฟลูเอนเซอร์แทนสื่อหลัก - ทำให้ อินฟลูเอนเซอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลก่อนสื่อดั้งเดิม - ส่งเสริม การเผยแพร่ข่าวในรูปแบบที่สนับสนุนทรัมป์ ✅ มีการเผยแพร่มีมของทรัมป์ในบทบาทต่าง ๆ เช่น พระสันตะปาปาและเจไดจาก Star Wars - มีมของทรัมป์ในชุดพระสันตะปาปาถูกโพสต์บน Truth Social หลังจากเขาเข้าร่วมพิธีศพของโป๊ปฟรานซิส ✅ กลยุทธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของสงครามสื่อที่ทรัมป์ใช้มาตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2016 - เน้นการ ควบคุมการนำเสนอข่าวและลดอิทธิพลของสื่อที่วิจารณ์เขา https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/trump039s-white-house-creates-own-media-universe
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Trump's White House creates own media universe
    Former reality TV star Trump and his team have had a strong social media game since his first presidency from 2017-2021.
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 236 มุมมอง 0 รีวิว
  • เยอรมันช็อก!! ฟรีดริช เมิร์ซ พลาดท่าในการคว้าเสียงข้างมากเพื่อขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของเยอรมนี โดยขาดไปเพียง 6 เสียง

    พรรคร่วมรัฐบาลของเขาซึ่งประกอบไปด้วยพรรค CDU และ CSU-Social Democrat มีเสียงรวมกันทั้งหมด 328 เสียง แต่มีเพียง 310 เสียงเท่านั้นที่สนับสนุนเขาให้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากการลงคะแนนลับ ซึ่งเขาต้องการทั้งหมด 316 คะแนน

    นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเยอรมันไม่ผ่านในการลงคะแนนครั้งแรก

    สมาชิกรัฐสภาต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ประกาศข่าวทางทีวีก็ทำตัวไม่ถูกเช่นกัน

    ทางด้านเมิร์ซคงต้องรีบเจรจากับสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อขอคะแนนเสียงใหม่อีกครั้ง

    กำหนดการลงคะแนนเสียงครั้งที่สอง ยังไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อไหร่ซึ่งนับว่าไม่ใช่สัญญาณที่ดีสำหรับเมิร์ซที่มีผลสำรวจคะแนนนิยมออกมาไม่ดีอยู่แล้ว
    เยอรมันช็อก!! ฟรีดริช เมิร์ซ พลาดท่าในการคว้าเสียงข้างมากเพื่อขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของเยอรมนี โดยขาดไปเพียง 6 เสียง พรรคร่วมรัฐบาลของเขาซึ่งประกอบไปด้วยพรรค CDU และ CSU-Social Democrat มีเสียงรวมกันทั้งหมด 328 เสียง แต่มีเพียง 310 เสียงเท่านั้นที่สนับสนุนเขาให้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากการลงคะแนนลับ ซึ่งเขาต้องการทั้งหมด 316 คะแนน นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเยอรมันไม่ผ่านในการลงคะแนนครั้งแรก สมาชิกรัฐสภาต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ประกาศข่าวทางทีวีก็ทำตัวไม่ถูกเช่นกัน ทางด้านเมิร์ซคงต้องรีบเจรจากับสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อขอคะแนนเสียงใหม่อีกครั้ง กำหนดการลงคะแนนเสียงครั้งที่สอง ยังไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อไหร่ซึ่งนับว่าไม่ใช่สัญญาณที่ดีสำหรับเมิร์ซที่มีผลสำรวจคะแนนนิยมออกมาไม่ดีอยู่แล้ว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากนักวิจัย AI ไทยที่ MIT ถึงบอร์ด AI เเห่งชาติ:ในฐานะที่พีพีเป็นนักวิจัย AI จากประเทศไทยที่ทำวิจัยใน frontier ของ Human-AI Interaction ที่ MIT เเละมีโอกาสร่วมมือกับบริษัทเเละสถาบัน AI ชั้นนำหลายๆที่ พีพีคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ที่จะนำประสบการณ์เเละสิ่งที่ตัวเองได้เรียนรู้เขียนออกมาเป็นไอเดียเผื่อจะเป็นประโยชน์กับบอร์ด AI เเห่งชาติ การที่รัฐบาลที่เล็งเห็นความสำคัญของ AI ในประเทศไทยเเละได้ตั้งบอร์ด AI เเห่งชาติ ซึ่งเป็นก้าวเเรกที่สำคัญมากๆ พีพีเลยอยากเเชร์มุมมองของ AI ในอนาคตจากในฝั่งงานวิจัย การศึกษา เเละชวนให้เห็นถึงคนไทยเก่งๆ ที่น่าจะช่วยกันสร้างอนาคตได้ครับ1) เราควรมอง AI อย่างไรในอนาคต?โดยส่วนตัวมองว่าพลังของ AI ไม่ใช่ตัวมันเองเเต่คือการที่ AI ไปเชื่อมกับสิ่งต่างๆ เเบบเดียวกับที่ internet หรือ social media กลายไปเป็น platform ที่อยู่ตรงกลางระหว่างมนุษย์กับ reality AI จะมีบทบาทอยู่เบื้องหลังอาหารที่เรากิน คนที่เราคบ สิ่งที่เราเสพ ความเชื่อที่เราเชื่อ ดังนั้นเราต้องตั้งคำถามว่าเราจะออกเเบบ AI ที่เป็นตัวบงการประสบการณ์ของมนุษย์เเบบไหน? เราต้องมอง AI ไม่ใช่เเค่โครงสร้างพื้นฐานอย่าง server หรือ data center เเต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประสบการณ์ความเป็นมนุษย์ การมองเเบบนี้ทำให้เราต้องตั้งคำถามกับ AI ในมิติที่มากกว่าเเค่ “Artificial Intelligence” เเต่รวมไปถึง: AI ในฐานะ "Augmented Intuition” หรือ สัญชาติญาณใหม่ของมนุษย์ ที่อาจจะทำให้มนุษย์คิดได้ไกลขึ้นหรือเเคบลงขึ้นอยู่กับการออกเเบบวิธีการที่มนุษย์สัมพันกับ AI ตัวอย่าง เช่น งานวิจัยที่พีพีทำที่ MIT ใน project “Wearable Reasoner” ซึ่งเป็น AI ที่กระตุ้น critical thinking ของคนเวลาเจอข้อมูลต่างๆ ผ่านกระบวนการ nudging Choawalit Chotwattanaphong หรือ AI ในฐานะ "Addictive Intelligence” หรือสิ่งเสพติดที่รู้จักมนุษย์คนนั้นดีกว่าตัวเค้าเอง เช่น AI companion ที่ถูกออกเเบบมาเเทนที่ความสัมพันธ์มนุษย์ เป็น romance scammer เเบบใหม่ที่อันตรายมาก [2] ซึ่งเป็นหัวข้อที่ทั่วโลกให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุด OpenAI ได้ทำวิจัยร่วมกับ MIT ในการศึกษาผลกระทบของเทคโนโลยีนี้ในวงกว้าง [3]เเละ AI ในฐานะ “Algorithmic Inequality” หรือตัวเร่งความเหลื่อมล้ำในสังคม งานวิจัยของ ดร Nattavudh Powdthavee โชว์ให้เห็นว่าในไทย AI คัดเลือกคนเข้าทำงานจากนามสกุลเเทนที่จะเป็นความสามารถซึ่งจะทำให้ช่องว่างระหว่างชนชั้นกว้างขึ้นเรื่อยๆ [4]ดังนั้นเวลาเรามอง AI เราต้องมองให้ไกลว่าเทคโนโลยี หรือ ธุรกิจเเต่มองให้เห็นผลกระทบต่อประสบการณ์ของมนุษย์ในหลายๆมิติ โดยเฉพาะมิติทางการศึกษาที่จะเป็นรากฐานของประเทศ2) เราควรออกเเบบการศึกษาในยุค AI อย่างไร?การที่หลายประเทศเข้าถึง internet ได้เเต่ไม่ได้ทำให้ทุกประเทศพัฒนาเท่ากัน ส่วนนึงเป็นเพราะผลลัพธ์ของเทคโนโลยีขึ้นกับวิธีที่คนใช้ด้วย ดังนั้น AI จะทำให้คนมีศักยภาพมากขึ้นหรือน้อยลงขึ้นกับ HI หรือ Human Intelligence ด้วย การศึกษาในยุค AI ควรมองไปไกลกว่าเเค่การใช้เป็น หรือ การสร้างคนเข้าสู่อุตสาหกรรม เพราะเครื่องมือเหล่านี้จะเปลี่ยนเร็วขึ้นเรื่อยๆ เเละอุตสาหกรรมวันนี้จะไม่ใช่อุตสาหกรรมในวันข้างหน้า Steve Jobs เคยกล่าวว่า technology is a bicycle for the mind ทุกๆเครื่องมือคือสิ่งที่สมองขับเคลื่อนไปเร็วขึ้น สิ่งที่เราต้องช่วยให้เด็กๆได้ขบคิดคือเค้าจะจะขับ AI ไปไหน เเละขับอย่างไรไม่ให้ชน การศึกษาในอนาคตในยุคที่ AI ทำให้เด็กๆเป็น “Cyborg Generation” คือคนที่ความคิดเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีตลอดเวลา เราควร focus ที่การทำให้เด็กๆมีความเป็นมนุษย์ รู้จักตัวเองมี meta-cognitive thinking คือคิดเกี่ยวกับการคิดได้ลึกซึ้งขึ้น เข้าใจว่าสิ่งภายนอกส่งผลกับความรู้สึกภายในอย่างไร เเละมีความกล้าที่จะนำความคิดนั้นออกมาเเสดงออกอย่างสร้างสรรค์ สิ่งนี้เเทบจะไม่เกี่ยวกับ AI เลยเเต่จะเป็นพื้นฐานให้เค้ารับมือกับโลกที่เปลี่ยนไปได้ เมื่อโตขึ้นเราควรส่งเสริมให้เด็กๆ มองเห็นศักยภาพตัวเองกับโจทย์ที่ท้าทาย ซึ่งโจทย์เหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น climate change, ความเหลื่อมล้ำ, ปัญหาต่างๆจะไม่เเก้ตัวเอง เเละ AI ก็จะไม่เเก้สิ่งนี้ด้วยตัวมันเอง เราไม่ควรให้เด็กมองตัวเองผ่านอาชีพเเคบๆ ว่าเป็นหมอ วิศวะ หรืออะไรก็เเล้วเเต่ เเต่มองเป็นคนที่มีศักยภาพที่สามารถจะใช้เครื่องมือขยายศักยภาพตัวเองไปเเก้ปัญหาใหญ่ๆ เเละสร้างสิ่งที่มีคุณค่าได้ สิ่งสุดท้ายเลยคือเราต้องช่วยให้เด็กๆ ไม่ติดกับดักใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเสพติด AI ที่ถูกออกเเบบมาให้มีความเสพติดมากขึ้น หรือ การรู้สึกหมดพลังเพราะเก่งไม่เท่ากับ AI เราต้องสร้าง narrative ใหม่ที่ช่วยให้เด็กรู้ทันกับความท้าทายในวันข้างหน้า3) ทิศทางของ AI ในอนาคต เเละไทย?เมื่อมองภาพใหญ่กว่านั้นว่าสิ่งที่จะเป็น next frontier ของ AI คืออะไร หลายๆคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องของ agent หรือ physical AI เเต่โดยส่วนตัวคิดว่าทั้ง agent หรือ physical AI เป็นปลายทาง สิ่งที่พื้นฐานที่สุดคือเรื่องของ mechanistic interpretability [5] หรือการพยายามเข้าใจ AI ลงไปในระดับกลไกผ่านการศึกษา cluster ของ neural networks ใน large models ซึ่งพีพีคิดว่าสิ่งนี้สำคัญเพราะไม่ใช่เเค่เราจะเข้าใจ model มากขึ้นเเต่จะทำให้เราควบคุมโมเดลได้ดีขึ้นด้วย เช่น ถ้าเรารู้ว่า cluster ทำหน้าทีอะไร เราก็จะเช็คได้ว่ามี cluster ของ neurons ไม่พึงประสงค์ทำงานรึเปล่า (อาจจะลด hallucination ได้) หรือ เราสามารถปิด neuron cluster ในส่วนที่ไม่จำเป็นออกได้จะทำให้ลดทรัพยากรณ์เเละนำมาสู่ model ขนาดเล็กที่เป็นมิตรกับสิ่งเเวดล้อมขึ้นได้ นี่คือเหตุผลว่าตอนนี้ยักใหญ่ในวงการ AI หลายๆที่เเข่งกันทำ interpretability เพราะมันจะลด lost, เพิ่ม trust, เเละ robutness ได้ อย่างที่ CEO ของ Anthropic ประกาศว่าจะต้องเปิด blackbox ของ AI ให้ได้ภายในปี 2027 [6]ในไทยการวิจัยด้านนี้อาจจะทำได้ยากเพราะต้องการ compute มหาศาล เเละโจทย์นี้เป็นโจทย์ใหญ่ของระดับโลก ดังนั้นสิ่งที่เราควรสนใจอาจจะเป็นเรื่องของ research เเละ innovation ที่ connect AI เพื่อเข้ามา enhance อุตสาหกรรมไทยให้มีมูลค่าสูงขึ้นผ่าน network ของ AI services ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยว หรือ อาหาร วัฒนธรรม เเละ creative industry โดยสิ่งที่เราต้องทำคือต้องคิดเเตกต่างเเละไม่ยึดกับ AI เเบบเดิมๆที่เป็นมาพีพีได้รับเชิญจากทั้งรัฐบาลเเละเอกชนให้ไปเเชร์งานวิจัยเกี่ยวกับ Human-AI Interaction ที่เกาหลี 3 ครั้งในปีที่ผ่านมา ซึ่งมีความตื่นตัวเรื่อง AI กับ creative industry มาก ครั้งเเรกเป็นงานของรัฐบาลที่ focus เรื่อง AI & cultural innovation เเละอีกสองครั้งเป็นงานของ Busan International Fim Festival เเละ Busan AI Fim Festival ซึ่งทำให้เห็นว่าเกาหลีมองเรื่องของ AI ในฐานะ creative medium เเบบใหม่ที่จะสร้างงานสร้างสรรค์เเบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน (ไม่ใช่เเค่การเอา AI มาเเทนที่สื่อเเบบเดิม) เช่นการสร้าง interactive cinema ที่ทำให้ character ในภาพยนต์หรือ series ออกมาอยู่ในโลกจริงร่วมกับคนดูได้ เเถมยังกลายเป็น interfaces ที่ช่วยขายสินค้าเเละวัฒนธรรมเกาหลีได้อีก นี่เป็นตัวอย่างของการมอง AI เเละ network ของ AI เป็น infrastructure ที่ connect กับวัฒนธรรมเเละ soft power ได้ครับในไทยเองก็มีโปรเจคที่พีพีเกี่ยวข้องอยู่อย่าง Cyber Subin กับพี่ Pichet Klunchun [7] ที่พยายามใช้ AI ถอดรหัสวัฒนธรรมไทยออกมาซึ่งถูกเชิญไปนำเสนอเเละโชว์ทั่วโลกในฐานะงาน AI ที่เชื่อมโยงกับการสร้างศิลปะเเละวัฒนธรรมเเบบใหม่ ดังนั้นพีพีโดยส่วนตัวค่อนข้าง optimistic ว่าไทยสามารถมีบทบาทต่อวงการ AI โลกเเละสร้างมูลค่าให้เกิดขึ้นได้ในประเทศได้ถ้าได้รับการสนับสนุนที่ถูกต้อง เพราะไทยมีคนไทยเก่งๆ อีกมากมายที่อยู่เบื้องหลังวงการ AI ระดับโลกอย่าง ดร Supasorn Aek Suwajanakorn ที่เป็น pioneer ของ generative AI คนเเรกๆของโลก มี TED talk ที่คนดูเป็นล้าน [8] หรือ วีระ บุญจริง ที่เป็นคนอยู่เบื้องหลัง Siri ที่กลายมาเป็น conversational AI ที่มีคนใช้ทั่วโลกอย่าง Apple [9] ล่าสุดพีพีไปงานประชุม Human-Computer Interaction ที่สำคัญที่สุดในสาขาเจอคนไทยเก่งๆ หลายคนที่อยู่ทั่วโลก หรือ ในภาคเอกชนก็คนเก่งๆ มากมายอย่างพี่ผลักดันวงการ AI ใน industry ของไทย ดังนั้นก็อยากฝากไปถึงบอร์ด AI เเห่งชาตินะครับว่าประเทศไทยจะมีอนาคตทางด้าน AI ได้เเน่ๆ ถ้าเรามอง AI ให้ครบทุกมิติ ออกเเบบการศึกษาในยุค AI เเบบ all of education เเละ education for all เเละรวมพลังเอาคนเก่งๆ มาช่วยกันครับ คิดว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำถ้าตั้งใจให้เกิด impact จริงๆ เชื่อว่าจะพลิกประเทศไทยได้ครับ เพราะคำว่า Th[AI]land จะขาด AI ไปไม่ได้ครับ เป็นกำลังใจให้ครับ Choawalit Chotwattanaphong https://www.media.mit.edu/projects/wearable-reasoner/overview/[2] https://mit-serc.pubpub.org/pub/iopjyxcx/release/2[3] https://openai.com/index/affective-use-study/[4] https://ui.adsabs.harvard.edu/abs/2025arXiv250119407P/abstract[5] https://www.neelnanda.io/mechanistic-interpretability/glossary[6] https://techsauce.co/news/anthropic-aims-to-unlock-ai-black-box-by-2027[7] https://cybersubin.media.mit.edu/[8] https://www.ted.com/speakers/supasorn_suwajanakorn[9] https://www.salika.co/2018/10/16/siri-artificial-intelligence-thai-owned/
    จากนักวิจัย AI ไทยที่ MIT ถึงบอร์ด AI เเห่งชาติ:ในฐานะที่พีพีเป็นนักวิจัย AI จากประเทศไทยที่ทำวิจัยใน frontier ของ Human-AI Interaction ที่ MIT เเละมีโอกาสร่วมมือกับบริษัทเเละสถาบัน AI ชั้นนำหลายๆที่ พีพีคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ที่จะนำประสบการณ์เเละสิ่งที่ตัวเองได้เรียนรู้เขียนออกมาเป็นไอเดียเผื่อจะเป็นประโยชน์กับบอร์ด AI เเห่งชาติ การที่รัฐบาลที่เล็งเห็นความสำคัญของ AI ในประเทศไทยเเละได้ตั้งบอร์ด AI เเห่งชาติ ซึ่งเป็นก้าวเเรกที่สำคัญมากๆ พีพีเลยอยากเเชร์มุมมองของ AI ในอนาคตจากในฝั่งงานวิจัย การศึกษา เเละชวนให้เห็นถึงคนไทยเก่งๆ ที่น่าจะช่วยกันสร้างอนาคตได้ครับ1) เราควรมอง AI อย่างไรในอนาคต?โดยส่วนตัวมองว่าพลังของ AI ไม่ใช่ตัวมันเองเเต่คือการที่ AI ไปเชื่อมกับสิ่งต่างๆ เเบบเดียวกับที่ internet หรือ social media กลายไปเป็น platform ที่อยู่ตรงกลางระหว่างมนุษย์กับ reality AI จะมีบทบาทอยู่เบื้องหลังอาหารที่เรากิน คนที่เราคบ สิ่งที่เราเสพ ความเชื่อที่เราเชื่อ ดังนั้นเราต้องตั้งคำถามว่าเราจะออกเเบบ AI ที่เป็นตัวบงการประสบการณ์ของมนุษย์เเบบไหน? เราต้องมอง AI ไม่ใช่เเค่โครงสร้างพื้นฐานอย่าง server หรือ data center เเต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประสบการณ์ความเป็นมนุษย์ การมองเเบบนี้ทำให้เราต้องตั้งคำถามกับ AI ในมิติที่มากกว่าเเค่ “Artificial Intelligence” เเต่รวมไปถึง: AI ในฐานะ "Augmented Intuition” หรือ สัญชาติญาณใหม่ของมนุษย์ ที่อาจจะทำให้มนุษย์คิดได้ไกลขึ้นหรือเเคบลงขึ้นอยู่กับการออกเเบบวิธีการที่มนุษย์สัมพันกับ AI ตัวอย่าง เช่น งานวิจัยที่พีพีทำที่ MIT ใน project “Wearable Reasoner” ซึ่งเป็น AI ที่กระตุ้น critical thinking ของคนเวลาเจอข้อมูลต่างๆ ผ่านกระบวนการ nudging [1] หรือ AI ในฐานะ "Addictive Intelligence” หรือสิ่งเสพติดที่รู้จักมนุษย์คนนั้นดีกว่าตัวเค้าเอง เช่น AI companion ที่ถูกออกเเบบมาเเทนที่ความสัมพันธ์มนุษย์ เป็น romance scammer เเบบใหม่ที่อันตรายมาก [2] ซึ่งเป็นหัวข้อที่ทั่วโลกให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุด OpenAI ได้ทำวิจัยร่วมกับ MIT ในการศึกษาผลกระทบของเทคโนโลยีนี้ในวงกว้าง [3]เเละ AI ในฐานะ “Algorithmic Inequality” หรือตัวเร่งความเหลื่อมล้ำในสังคม งานวิจัยของ ดร Nattavudh Powdthavee โชว์ให้เห็นว่าในไทย AI คัดเลือกคนเข้าทำงานจากนามสกุลเเทนที่จะเป็นความสามารถซึ่งจะทำให้ช่องว่างระหว่างชนชั้นกว้างขึ้นเรื่อยๆ [4]ดังนั้นเวลาเรามอง AI เราต้องมองให้ไกลว่าเทคโนโลยี หรือ ธุรกิจเเต่มองให้เห็นผลกระทบต่อประสบการณ์ของมนุษย์ในหลายๆมิติ โดยเฉพาะมิติทางการศึกษาที่จะเป็นรากฐานของประเทศ2) เราควรออกเเบบการศึกษาในยุค AI อย่างไร?การที่หลายประเทศเข้าถึง internet ได้เเต่ไม่ได้ทำให้ทุกประเทศพัฒนาเท่ากัน ส่วนนึงเป็นเพราะผลลัพธ์ของเทคโนโลยีขึ้นกับวิธีที่คนใช้ด้วย ดังนั้น AI จะทำให้คนมีศักยภาพมากขึ้นหรือน้อยลงขึ้นกับ HI หรือ Human Intelligence ด้วย การศึกษาในยุค AI ควรมองไปไกลกว่าเเค่การใช้เป็น หรือ การสร้างคนเข้าสู่อุตสาหกรรม เพราะเครื่องมือเหล่านี้จะเปลี่ยนเร็วขึ้นเรื่อยๆ เเละอุตสาหกรรมวันนี้จะไม่ใช่อุตสาหกรรมในวันข้างหน้า Steve Jobs เคยกล่าวว่า technology is a bicycle for the mind ทุกๆเครื่องมือคือสิ่งที่สมองขับเคลื่อนไปเร็วขึ้น สิ่งที่เราต้องช่วยให้เด็กๆได้ขบคิดคือเค้าจะจะขับ AI ไปไหน เเละขับอย่างไรไม่ให้ชน การศึกษาในอนาคตในยุคที่ AI ทำให้เด็กๆเป็น “Cyborg Generation” คือคนที่ความคิดเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีตลอดเวลา เราควร focus ที่การทำให้เด็กๆมีความเป็นมนุษย์ รู้จักตัวเองมี meta-cognitive thinking คือคิดเกี่ยวกับการคิดได้ลึกซึ้งขึ้น เข้าใจว่าสิ่งภายนอกส่งผลกับความรู้สึกภายในอย่างไร เเละมีความกล้าที่จะนำความคิดนั้นออกมาเเสดงออกอย่างสร้างสรรค์ สิ่งนี้เเทบจะไม่เกี่ยวกับ AI เลยเเต่จะเป็นพื้นฐานให้เค้ารับมือกับโลกที่เปลี่ยนไปได้ เมื่อโตขึ้นเราควรส่งเสริมให้เด็กๆ มองเห็นศักยภาพตัวเองกับโจทย์ที่ท้าทาย ซึ่งโจทย์เหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น climate change, ความเหลื่อมล้ำ, ปัญหาต่างๆจะไม่เเก้ตัวเอง เเละ AI ก็จะไม่เเก้สิ่งนี้ด้วยตัวมันเอง เราไม่ควรให้เด็กมองตัวเองผ่านอาชีพเเคบๆ ว่าเป็นหมอ วิศวะ หรืออะไรก็เเล้วเเต่ เเต่มองเป็นคนที่มีศักยภาพที่สามารถจะใช้เครื่องมือขยายศักยภาพตัวเองไปเเก้ปัญหาใหญ่ๆ เเละสร้างสิ่งที่มีคุณค่าได้ สิ่งสุดท้ายเลยคือเราต้องช่วยให้เด็กๆ ไม่ติดกับดักใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเสพติด AI ที่ถูกออกเเบบมาให้มีความเสพติดมากขึ้น หรือ การรู้สึกหมดพลังเพราะเก่งไม่เท่ากับ AI เราต้องสร้าง narrative ใหม่ที่ช่วยให้เด็กรู้ทันกับความท้าทายในวันข้างหน้า3) ทิศทางของ AI ในอนาคต เเละไทย?เมื่อมองภาพใหญ่กว่านั้นว่าสิ่งที่จะเป็น next frontier ของ AI คืออะไร หลายๆคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องของ agent หรือ physical AI เเต่โดยส่วนตัวคิดว่าทั้ง agent หรือ physical AI เป็นปลายทาง สิ่งที่พื้นฐานที่สุดคือเรื่องของ mechanistic interpretability [5] หรือการพยายามเข้าใจ AI ลงไปในระดับกลไกผ่านการศึกษา cluster ของ neural networks ใน large models ซึ่งพีพีคิดว่าสิ่งนี้สำคัญเพราะไม่ใช่เเค่เราจะเข้าใจ model มากขึ้นเเต่จะทำให้เราควบคุมโมเดลได้ดีขึ้นด้วย เช่น ถ้าเรารู้ว่า cluster ทำหน้าทีอะไร เราก็จะเช็คได้ว่ามี cluster ของ neurons ไม่พึงประสงค์ทำงานรึเปล่า (อาจจะลด hallucination ได้) หรือ เราสามารถปิด neuron cluster ในส่วนที่ไม่จำเป็นออกได้จะทำให้ลดทรัพยากรณ์เเละนำมาสู่ model ขนาดเล็กที่เป็นมิตรกับสิ่งเเวดล้อมขึ้นได้ นี่คือเหตุผลว่าตอนนี้ยักใหญ่ในวงการ AI หลายๆที่เเข่งกันทำ interpretability เพราะมันจะลด lost, เพิ่ม trust, เเละ robutness ได้ อย่างที่ CEO ของ Anthropic ประกาศว่าจะต้องเปิด blackbox ของ AI ให้ได้ภายในปี 2027 [6]ในไทยการวิจัยด้านนี้อาจจะทำได้ยากเพราะต้องการ compute มหาศาล เเละโจทย์นี้เป็นโจทย์ใหญ่ของระดับโลก ดังนั้นสิ่งที่เราควรสนใจอาจจะเป็นเรื่องของ research เเละ innovation ที่ connect AI เพื่อเข้ามา enhance อุตสาหกรรมไทยให้มีมูลค่าสูงขึ้นผ่าน network ของ AI services ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยว หรือ อาหาร วัฒนธรรม เเละ creative industry โดยสิ่งที่เราต้องทำคือต้องคิดเเตกต่างเเละไม่ยึดกับ AI เเบบเดิมๆที่เป็นมาพีพีได้รับเชิญจากทั้งรัฐบาลเเละเอกชนให้ไปเเชร์งานวิจัยเกี่ยวกับ Human-AI Interaction ที่เกาหลี 3 ครั้งในปีที่ผ่านมา ซึ่งมีความตื่นตัวเรื่อง AI กับ creative industry มาก ครั้งเเรกเป็นงานของรัฐบาลที่ focus เรื่อง AI & cultural innovation เเละอีกสองครั้งเป็นงานของ Busan International Fim Festival เเละ Busan AI Fim Festival ซึ่งทำให้เห็นว่าเกาหลีมองเรื่องของ AI ในฐานะ creative medium เเบบใหม่ที่จะสร้างงานสร้างสรรค์เเบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน (ไม่ใช่เเค่การเอา AI มาเเทนที่สื่อเเบบเดิม) เช่นการสร้าง interactive cinema ที่ทำให้ character ในภาพยนต์หรือ series ออกมาอยู่ในโลกจริงร่วมกับคนดูได้ เเถมยังกลายเป็น interfaces ที่ช่วยขายสินค้าเเละวัฒนธรรมเกาหลีได้อีก นี่เป็นตัวอย่างของการมอง AI เเละ network ของ AI เป็น infrastructure ที่ connect กับวัฒนธรรมเเละ soft power ได้ครับในไทยเองก็มีโปรเจคที่พีพีเกี่ยวข้องอยู่อย่าง Cyber Subin กับพี่ Pichet Klunchun [7] ที่พยายามใช้ AI ถอดรหัสวัฒนธรรมไทยออกมาซึ่งถูกเชิญไปนำเสนอเเละโชว์ทั่วโลกในฐานะงาน AI ที่เชื่อมโยงกับการสร้างศิลปะเเละวัฒนธรรมเเบบใหม่ ดังนั้นพีพีโดยส่วนตัวค่อนข้าง optimistic ว่าไทยสามารถมีบทบาทต่อวงการ AI โลกเเละสร้างมูลค่าให้เกิดขึ้นได้ในประเทศได้ถ้าได้รับการสนับสนุนที่ถูกต้อง เพราะไทยมีคนไทยเก่งๆ อีกมากมายที่อยู่เบื้องหลังวงการ AI ระดับโลกอย่าง ดร Supasorn Aek Suwajanakorn ที่เป็น pioneer ของ generative AI คนเเรกๆของโลก มี TED talk ที่คนดูเป็นล้าน [8] หรือ วีระ บุญจริง ที่เป็นคนอยู่เบื้องหลัง Siri ที่กลายมาเป็น conversational AI ที่มีคนใช้ทั่วโลกอย่าง Apple [9] ล่าสุดพีพีไปงานประชุม Human-Computer Interaction ที่สำคัญที่สุดในสาขาเจอคนไทยเก่งๆ หลายคนที่อยู่ทั่วโลก หรือ ในภาคเอกชนก็คนเก่งๆ มากมายอย่างพี่ผลักดันวงการ AI ใน industry ของไทย ดังนั้นก็อยากฝากไปถึงบอร์ด AI เเห่งชาตินะครับว่าประเทศไทยจะมีอนาคตทางด้าน AI ได้เเน่ๆ ถ้าเรามอง AI ให้ครบทุกมิติ ออกเเบบการศึกษาในยุค AI เเบบ all of education เเละ education for all เเละรวมพลังเอาคนเก่งๆ มาช่วยกันครับ คิดว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำถ้าตั้งใจให้เกิด impact จริงๆ เชื่อว่าจะพลิกประเทศไทยได้ครับ เพราะคำว่า Th[AI]land จะขาด AI ไปไม่ได้ครับ เป็นกำลังใจให้ครับ [1] https://www.media.mit.edu/projects/wearable-reasoner/overview/[2] https://mit-serc.pubpub.org/pub/iopjyxcx/release/2[3] https://openai.com/index/affective-use-study/[4] https://ui.adsabs.harvard.edu/abs/2025arXiv250119407P/abstract[5] https://www.neelnanda.io/mechanistic-interpretability/glossary[6] https://techsauce.co/news/anthropic-aims-to-unlock-ai-black-box-by-2027[7] https://cybersubin.media.mit.edu/[8] https://www.ted.com/speakers/supasorn_suwajanakorn[9] https://www.salika.co/2018/10/16/siri-artificial-intelligence-thai-owned/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 588 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากอดีตถึงปัจจุบัน พระราม 2 ผ่านมากี่นายกฯ กี่ รมว.คมนาคม

    📌อ่านต่อที่นี่ : https://www.amarintv.com/news/social/509244
    จากอดีตถึงปัจจุบัน พระราม 2 ผ่านมากี่นายกฯ กี่ รมว.คมนาคม 📌อ่านต่อที่นี่ : https://www.amarintv.com/news/social/509244
    WWW.AMARINTV.COM
    พระราม 2 ผ่านมากี่นายกฯ กี่ รมว.คมนาคม
    จากอดีตถึงปัจจุบัน พระราม 2 ผ่านมากี่นายกฯ กี่ รมว.คมนาคม
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงข้อจำกัดของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการเข้าใจปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของมนุษย์ แม้ว่า AI จะมีความสามารถในการจดจำวัตถุหรือใบหน้าในภาพนิ่งได้ดี แต่ยังคงมีข้อจำกัดในการอธิบายและตีความปฏิสัมพันธ์ในฉากที่มีการเคลื่อนไหว

    การศึกษาที่นำโดย Leyla Isik ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์การรับรู้จากมหาวิทยาลัย Johns Hopkins ได้ทำการทดลองโดยใช้โมเดล AI กว่า 350 โมเดลที่เชี่ยวชาญด้านวิดีโอ ภาพ หรือภาษา โดยให้ AI วิเคราะห์วิดีโอสั้นๆ ความยาว 3 วินาทีที่แสดงสถานการณ์ทางสังคมต่างๆ พร้อมเปรียบเทียบกับการประเมินของมนุษย์

    ✅ ความสามารถของ AI ในการจดจำ
    - AI มีความสามารถในการจดจำวัตถุและใบหน้าในภาพนิ่งได้ดี
    - ยังมีข้อจำกัดในการตีความปฏิสัมพันธ์ในฉากที่มีการเคลื่อนไหว

    ✅ การทดลองและผลลัพธ์
    - ใช้โมเดล AI กว่า 350 โมเดลในการวิเคราะห์วิดีโอสั้น
    - เปรียบเทียบการประเมินของ AI กับมนุษย์เพื่อหาความแตกต่าง

    ✅ เป้าหมายของการศึกษา
    - เพื่อระบุข้อจำกัดของ AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมทางสังคม
    - เพื่อพัฒนาอัลกอริทึมที่สามารถเข้าใจปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ได้ดีขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/28/ai-understands-many-things-except-for-human-social-interactions
    บทความนี้กล่าวถึงข้อจำกัดของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการเข้าใจปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของมนุษย์ แม้ว่า AI จะมีความสามารถในการจดจำวัตถุหรือใบหน้าในภาพนิ่งได้ดี แต่ยังคงมีข้อจำกัดในการอธิบายและตีความปฏิสัมพันธ์ในฉากที่มีการเคลื่อนไหว การศึกษาที่นำโดย Leyla Isik ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์การรับรู้จากมหาวิทยาลัย Johns Hopkins ได้ทำการทดลองโดยใช้โมเดล AI กว่า 350 โมเดลที่เชี่ยวชาญด้านวิดีโอ ภาพ หรือภาษา โดยให้ AI วิเคราะห์วิดีโอสั้นๆ ความยาว 3 วินาทีที่แสดงสถานการณ์ทางสังคมต่างๆ พร้อมเปรียบเทียบกับการประเมินของมนุษย์ ✅ ความสามารถของ AI ในการจดจำ - AI มีความสามารถในการจดจำวัตถุและใบหน้าในภาพนิ่งได้ดี - ยังมีข้อจำกัดในการตีความปฏิสัมพันธ์ในฉากที่มีการเคลื่อนไหว ✅ การทดลองและผลลัพธ์ - ใช้โมเดล AI กว่า 350 โมเดลในการวิเคราะห์วิดีโอสั้น - เปรียบเทียบการประเมินของ AI กับมนุษย์เพื่อหาความแตกต่าง ✅ เป้าหมายของการศึกษา - เพื่อระบุข้อจำกัดของ AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมทางสังคม - เพื่อพัฒนาอัลกอริทึมที่สามารถเข้าใจปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ได้ดีขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/28/ai-understands-many-things-except-for-human-social-interactions
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI understands many things... except for human social interactions
    Artificial intelligence (AI) continues to advance, yet this technology still struggles to grasp the complexity of human interactions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • IBM ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 150 พันล้านดอลลาร์ ในสหรัฐอเมริกาในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีและเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้านคอมพิวเตอร์ระดับโลก การลงทุนนี้รวมถึงการจัดสรรงบประมาณกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ สำหรับการวิจัยและพัฒนา โดยเน้นการผลิตคอมพิวเตอร์เมนเฟรมและควอนตัมในสหรัฐฯ

    IBM ยังมองว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมเป็นโอกาสสำคัญทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี โดยบริษัทมีแผนที่จะออกแบบและผลิตระบบควอนตัมในสหรัฐฯ เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันไม่สามารถจัดการได้ การลงทุนนี้ยังมุ่งเน้นการสร้างงาน เสริมความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ และเพิ่มความมั่นคงทางเทคโนโลยี

    ✅ มูลค่าการลงทุนและเป้าหมาย
    - ลงทุน 150 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ในช่วง 5 ปีข้างหน้า
    - จัดสรร 30 พันล้านดอลลาร์สำหรับการวิจัยและพัฒนา

    ✅ การผลิตในสหรัฐฯ
    - เน้นการผลิตคอมพิวเตอร์เมนเฟรมและควอนตัมในสหรัฐฯ
    - ระบบควอนตัมของ IBM ถูกมองว่าเป็นโอกาสสำคัญทางเศรษฐกิจ

    ✅ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและเทคโนโลยี
    - ช่วยสร้างงานและเสริมความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ
    - เพิ่มความมั่นคงทางเทคโนโลยี

    ✅ ความสำคัญของ IBM ในอดีตและปัจจุบัน
    - IBM เป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีสำคัญ เช่น ระบบข้อมูลสำหรับ Social Security และเทคโนโลยีที่ช่วยโครงการ Apollo

    https://www.neowin.net/news/ibm-announces-150-billion-investment-in-the-us-to-accelerate-technology-opportunity/
    IBM ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 150 พันล้านดอลลาร์ ในสหรัฐอเมริกาในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีและเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้านคอมพิวเตอร์ระดับโลก การลงทุนนี้รวมถึงการจัดสรรงบประมาณกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ สำหรับการวิจัยและพัฒนา โดยเน้นการผลิตคอมพิวเตอร์เมนเฟรมและควอนตัมในสหรัฐฯ IBM ยังมองว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมเป็นโอกาสสำคัญทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี โดยบริษัทมีแผนที่จะออกแบบและผลิตระบบควอนตัมในสหรัฐฯ เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันไม่สามารถจัดการได้ การลงทุนนี้ยังมุ่งเน้นการสร้างงาน เสริมความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ และเพิ่มความมั่นคงทางเทคโนโลยี ✅ มูลค่าการลงทุนและเป้าหมาย - ลงทุน 150 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ในช่วง 5 ปีข้างหน้า - จัดสรร 30 พันล้านดอลลาร์สำหรับการวิจัยและพัฒนา ✅ การผลิตในสหรัฐฯ - เน้นการผลิตคอมพิวเตอร์เมนเฟรมและควอนตัมในสหรัฐฯ - ระบบควอนตัมของ IBM ถูกมองว่าเป็นโอกาสสำคัญทางเศรษฐกิจ ✅ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและเทคโนโลยี - ช่วยสร้างงานและเสริมความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ - เพิ่มความมั่นคงทางเทคโนโลยี ✅ ความสำคัญของ IBM ในอดีตและปัจจุบัน - IBM เป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีสำคัญ เช่น ระบบข้อมูลสำหรับ Social Security และเทคโนโลยีที่ช่วยโครงการ Apollo https://www.neowin.net/news/ibm-announces-150-billion-investment-in-the-us-to-accelerate-technology-opportunity/
    WWW.NEOWIN.NET
    IBM announces $150 billion Investment in the US to 'accelerate technology opportunity'
    IBM has pledged a multi-billion-dollar investment in America over five years to boost the economy and lead in computing technology.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • 28-04-68/02 : หมี CNN / E-ทรัมปป์ อยู่เป็น ใครมันจะโง่เปิดศึกพร้อมกัน ทั้งรัสเซีย-จีน กันล่ะ อีทรัมปป์ชี้ทางสว่างให้อีเสี้ยนยาแล้ว ยอมเสียไคร์เมียร์กับอีก 4 แคว้นรัสเซียใหม่ไปเหอะ ดีกว่ามรึงเสียหมดทั้งแผ่นดิน เพราะเค้าสามารถยึดมรึงได้หมดอยู่แล้ว แต่ที่ไม่ทำ เพราะค่าฟื้นฟูมันคุ้มซะที่ไหนกันล่ะ เอาโปรรัสเซียขึ้นแท่นมาคุม เวลาผ่านไป ออกกฎหมายผนวกรวมรัสเซียใหม่ แค่นี้ กูก็ไม่ต้องลงทุนจ่ายซักกะบาท เพราะจะเหลือใครมีเงินมากพอจะอุ้มมรึงต่อไหว หากไม่ใช่รัสเซีย จีน ใช้โปรรัสเซียขึ้นก่อน แล้วค่อยกลืนภายหลัง หมากหลายชั้น ประหยัดทั้งเงิน ทั้งเวลา แต่ที่อีเสี้ยนยามันดิ้น มันสู้ต่อ เพราะนายใหญ่ตัวจริงสั่งให้ไม่ถอย ยอมมอบเมื่อไหร่ ทั้งยุโรปตายทันที โดมิโน่แอฟเฟค ท่อน้ำเลี้ยงจากที่เคยแดร๊กวอชิงตัน EU ต้องมาลงขันกันต่อเอง แผนลึกเชิงซ้อนเยอะ ปูตินไม่ได้แค่ยึดยูเครนสำเร็จ แต่กำลังจะทุบหม้อข้าวไอ้อีวอชิงตันและอีหน้าโง่ยุโรปไปพร้อมกันทีเดียว หมดตูดไม่พอ คลังแสงเกลี้ยง กำลังพลถดถอย เพราะตายห่าไปเยอะ ดาบเดียว แดร๊กหมดทั้งกระดาน รัสเซียอยู่เป็น เป็นงาน ก่อนที่มรึงจะอ้างอะไร ให้ไปดูสาเหตุ ต้นเหตุ ที่ศึกยุเครนเกิดขึ้นเพราะใครกันแน่? NATO จะรับรองอียูเครน นี่ก็เงื่อนไขนึง อีเสี้ยนยาไล่ฆ่าชาวรัสเซียในดอนบาส นี่ก็อีกเงื่อนไขนึง อียูเครนติดตั้งขีปนาวุธพิสัยกลาง นี่ก็อีกเงื่อนไขนึง พวกมรึงแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง เพราะคิดว่าเอารัสเซียอยู่ อ่านการ์ตูนเล่มละบาท มากไปป่ะ? ตอนนี้ ทั้ง WAGNER เชเชน ปูพรมเก็บกวาดหลายเมืองใหญ่เกลี้ยง มรึงทำได้แค่ลอบกัด ส่งมือสังหารไปลอบวางระเบิดแสวงเครื่องติดรถยนต์นายพล เสธทหาร ถึงรัสเซีย เรื่องแบบนี้ เค้ารู้กันอยู่แล้ว หน่วยข่าวกรองมี มรึงทำได้แค่นี้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนผลลัพธ์อะไรได้ ยูเครนแตกเมื่อไหร่ อีโปล+3 เสือก จะไปทันที เอาไม่อยู่ดอก แล้วเมื่อบอลติคเละเทะเป็นโจ๊ก ไม่ต้องถามกรีนแลนด์ จะตกเป็นของใคร? ปูตินยังไม่ยื่นมือเข้ามาตอนนี้ เพราะต้องการให้อเมริกาบุกกรีนแลนด์ สุดท้ายไอ้หน้าโง่ยุโรปมันจะหันไปพึ่งพาใครได้อีก หากไม่ใช่กู ต้องการทั้งพลังงาน กองทัพ อาหาร เสบียง และตรายางคุ้มครอง เสร็จเครมลินไปตามระเบียบ นี่มหาเทพปูติน วางหมากรวบแดร๊กยุโรปทั้งทวีปเลยรึเนี่ย? โหดไปป่ะ? กูบอกแล้วไง อยากปลุกหมีตื่น มรึงจะซวยกันทั้งทวีป ชอบลองของชิมิ? เอาให้สุดซอยไปเลยเพ่..

    Crimea will stay with Russia – Trump ทรัมป์ระบุว่า รัฐไครเมียจะยังอยู่กับรัสเซีย

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : ทรัมป์ระบุว่า รัฐไครเมียจะยังอยู่กับรัสเซีย

    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Time ว่า คาบสมุทรไครเมียจะยังเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียจากข้อตกลงล่าสุดในความขัดแย้งกับยูเครน

    รัฐไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเมื่อปี 2014 หลังการลงประชามติตามการปฏิบัติที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกในเมืองเคียฟ ยูเครน และประเทศที่สนับสนุนไม่ยอมรับผลจากการทำประชามติซึ่งมองว่าผิดกฎหมาย ยูเครนยังคงอ้างสิทธิในคาบสมุทรดังกล่าวซึ่งยืนยันที่จะเอาดินแดนคืนมาไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม

    จากบทสัมภาษณ์ ทรัมป์กล่าวว่า รัฐไครเมีย “เป็นของรัสเซีย” นานแล้วและเสนอว่า “ทุกคนเข้าใจ” ว่า ยูเครนจะไม่ได้รัฐไครเมียคืน

    ตั้งแต่ที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง เขากดดันทั้งรัสเซียและยูเครนให้หาทางออกต่อความขัดแย้ง ระหว่างการหาเสียง เขาระบุว่า เขาจะยุติความขัดแย้ง “ภายในเวลา 24 ชั่วโมง” หลังเข้ารับตำแหน่ง

    ไม่นานมานี้ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า เขาไม่พอใจต่อการขาดความก้าวหน้าเพื่อจะหาแนวทางการแก้ปัญหาต่อความขัดแย้งในยูเครน เขาแสดงความไม่พอใจต่อเซเลนสกี เขาคิดว่าปูตินพูดคุยง่ายกว่าเซเลนสกีตามรายงานจาก Truth Social ในสัปดาห์นี้ทรัมป์ประณามเซเลนสกีที่ปฏิเสธการพิจารณาการยอมรับดินแดน

    รัสเซียขอบคุณในความพยายามเพื่อสันติภาพของทรัม์และระบุว่า ประเทศพร้อมที่จะเจรจา

    อย่างไรก็ตาม ทางการรัสเซียย้ำว่า ข้อตกลงสันติภาพต้องเคารพความเป็นจริงทางดินแดนและพูดถึงสาเหตุหลักของความขัดแย้ง เช่น ความต้องการที่จะเข้าเป็นสมาชิกขององค์การนาโต้ ของยูเครน

    ตามบทสัมภาษณ์ ทรัมป์ยอมรับว่า ยูเครนอาจไม่สามารถเข้าร่วมกับนาโต้ เขาอ้างถึงความต้องการของยูเครนที่จะเข้าร่วมกลุ่มว่าเป็นประเด็นที่ “ทำให้เกิดสงคราม”

    www.rt.com/news/61627...

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : line.me/R/ti/p/@mh...

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    voom-studio.line.biz/account/@h... หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    www.facebook.com/profile.ph...
    28-04-68/02 : หมี CNN / E-ทรัมปป์ อยู่เป็น ใครมันจะโง่เปิดศึกพร้อมกัน ทั้งรัสเซีย-จีน กันล่ะ อีทรัมปป์ชี้ทางสว่างให้อีเสี้ยนยาแล้ว ยอมเสียไคร์เมียร์กับอีก 4 แคว้นรัสเซียใหม่ไปเหอะ ดีกว่ามรึงเสียหมดทั้งแผ่นดิน เพราะเค้าสามารถยึดมรึงได้หมดอยู่แล้ว แต่ที่ไม่ทำ เพราะค่าฟื้นฟูมันคุ้มซะที่ไหนกันล่ะ เอาโปรรัสเซียขึ้นแท่นมาคุม เวลาผ่านไป ออกกฎหมายผนวกรวมรัสเซียใหม่ แค่นี้ กูก็ไม่ต้องลงทุนจ่ายซักกะบาท เพราะจะเหลือใครมีเงินมากพอจะอุ้มมรึงต่อไหว หากไม่ใช่รัสเซีย จีน ใช้โปรรัสเซียขึ้นก่อน แล้วค่อยกลืนภายหลัง หมากหลายชั้น ประหยัดทั้งเงิน ทั้งเวลา แต่ที่อีเสี้ยนยามันดิ้น มันสู้ต่อ เพราะนายใหญ่ตัวจริงสั่งให้ไม่ถอย ยอมมอบเมื่อไหร่ ทั้งยุโรปตายทันที โดมิโน่แอฟเฟค ท่อน้ำเลี้ยงจากที่เคยแดร๊กวอชิงตัน EU ต้องมาลงขันกันต่อเอง แผนลึกเชิงซ้อนเยอะ ปูตินไม่ได้แค่ยึดยูเครนสำเร็จ แต่กำลังจะทุบหม้อข้าวไอ้อีวอชิงตันและอีหน้าโง่ยุโรปไปพร้อมกันทีเดียว หมดตูดไม่พอ คลังแสงเกลี้ยง กำลังพลถดถอย เพราะตายห่าไปเยอะ ดาบเดียว แดร๊กหมดทั้งกระดาน รัสเซียอยู่เป็น เป็นงาน ก่อนที่มรึงจะอ้างอะไร ให้ไปดูสาเหตุ ต้นเหตุ ที่ศึกยุเครนเกิดขึ้นเพราะใครกันแน่? NATO จะรับรองอียูเครน นี่ก็เงื่อนไขนึง อีเสี้ยนยาไล่ฆ่าชาวรัสเซียในดอนบาส นี่ก็อีกเงื่อนไขนึง อียูเครนติดตั้งขีปนาวุธพิสัยกลาง นี่ก็อีกเงื่อนไขนึง พวกมรึงแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง เพราะคิดว่าเอารัสเซียอยู่ อ่านการ์ตูนเล่มละบาท มากไปป่ะ? ตอนนี้ ทั้ง WAGNER เชเชน ปูพรมเก็บกวาดหลายเมืองใหญ่เกลี้ยง มรึงทำได้แค่ลอบกัด ส่งมือสังหารไปลอบวางระเบิดแสวงเครื่องติดรถยนต์นายพล เสธทหาร ถึงรัสเซีย เรื่องแบบนี้ เค้ารู้กันอยู่แล้ว หน่วยข่าวกรองมี มรึงทำได้แค่นี้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนผลลัพธ์อะไรได้ ยูเครนแตกเมื่อไหร่ อีโปล+3 เสือก จะไปทันที เอาไม่อยู่ดอก แล้วเมื่อบอลติคเละเทะเป็นโจ๊ก ไม่ต้องถามกรีนแลนด์ จะตกเป็นของใคร? ปูตินยังไม่ยื่นมือเข้ามาตอนนี้ เพราะต้องการให้อเมริกาบุกกรีนแลนด์ สุดท้ายไอ้หน้าโง่ยุโรปมันจะหันไปพึ่งพาใครได้อีก หากไม่ใช่กู ต้องการทั้งพลังงาน กองทัพ อาหาร เสบียง และตรายางคุ้มครอง เสร็จเครมลินไปตามระเบียบ นี่มหาเทพปูติน วางหมากรวบแดร๊กยุโรปทั้งทวีปเลยรึเนี่ย? โหดไปป่ะ? กูบอกแล้วไง อยากปลุกหมีตื่น มรึงจะซวยกันทั้งทวีป ชอบลองของชิมิ? เอาให้สุดซอยไปเลยเพ่.. Crimea will stay with Russia – Trump ทรัมป์ระบุว่า รัฐไครเมียจะยังอยู่กับรัสเซีย ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : ทรัมป์ระบุว่า รัฐไครเมียจะยังอยู่กับรัสเซีย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Time ว่า คาบสมุทรไครเมียจะยังเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียจากข้อตกลงล่าสุดในความขัดแย้งกับยูเครน รัฐไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเมื่อปี 2014 หลังการลงประชามติตามการปฏิบัติที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกในเมืองเคียฟ ยูเครน และประเทศที่สนับสนุนไม่ยอมรับผลจากการทำประชามติซึ่งมองว่าผิดกฎหมาย ยูเครนยังคงอ้างสิทธิในคาบสมุทรดังกล่าวซึ่งยืนยันที่จะเอาดินแดนคืนมาไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม จากบทสัมภาษณ์ ทรัมป์กล่าวว่า รัฐไครเมีย “เป็นของรัสเซีย” นานแล้วและเสนอว่า “ทุกคนเข้าใจ” ว่า ยูเครนจะไม่ได้รัฐไครเมียคืน ตั้งแต่ที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง เขากดดันทั้งรัสเซียและยูเครนให้หาทางออกต่อความขัดแย้ง ระหว่างการหาเสียง เขาระบุว่า เขาจะยุติความขัดแย้ง “ภายในเวลา 24 ชั่วโมง” หลังเข้ารับตำแหน่ง ไม่นานมานี้ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า เขาไม่พอใจต่อการขาดความก้าวหน้าเพื่อจะหาแนวทางการแก้ปัญหาต่อความขัดแย้งในยูเครน เขาแสดงความไม่พอใจต่อเซเลนสกี เขาคิดว่าปูตินพูดคุยง่ายกว่าเซเลนสกีตามรายงานจาก Truth Social ในสัปดาห์นี้ทรัมป์ประณามเซเลนสกีที่ปฏิเสธการพิจารณาการยอมรับดินแดน รัสเซียขอบคุณในความพยายามเพื่อสันติภาพของทรัม์และระบุว่า ประเทศพร้อมที่จะเจรจา อย่างไรก็ตาม ทางการรัสเซียย้ำว่า ข้อตกลงสันติภาพต้องเคารพความเป็นจริงทางดินแดนและพูดถึงสาเหตุหลักของความขัดแย้ง เช่น ความต้องการที่จะเข้าเป็นสมาชิกขององค์การนาโต้ ของยูเครน ตามบทสัมภาษณ์ ทรัมป์ยอมรับว่า ยูเครนอาจไม่สามารถเข้าร่วมกับนาโต้ เขาอ้างถึงความต้องการของยูเครนที่จะเข้าร่วมกลุ่มว่าเป็นประเด็นที่ “ทำให้เกิดสงคราม” www.rt.com/news/61627... ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : line.me/R/ti/p/@mh... หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT voom-studio.line.biz/account/@h... หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า www.facebook.com/profile.ph...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 608 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงบทบาทของโซเชียลมีเดียที่กลายเป็นแหล่งข้อมูลด้านสุขภาพจิตสำหรับวัยรุ่นในสหรัฐฯ โดยผลการศึกษาจาก Pew Research Center พบว่า 34% ของวัยรุ่นอายุ 13-17 ปี ใช้โซเชียลมีเดีย เช่น Instagram, TikTok และ YouTube เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพจิต และ 9% ใช้บ่อยหรือค่อนข้างบ่อย

    โซเชียลมีเดียไม่ได้เป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มสำหรับความบันเทิงอีกต่อไป แต่ยังกลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจสำหรับวัยรุ่น อย่างไรก็ตาม การใช้งานโซเชียลมีเดียยังมีผลกระทบด้านลบ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่รายงานว่ามีประสบการณ์เชิงลบมากกว่าผู้ชาย

    ✅ การใช้งานเพื่อสุขภาพจิต
    - 34% ของวัยรุ่นใช้โซเชียลมีเดียเพื่อค้นหาข้อมูลด้านสุขภาพจิต
    - 9% ใช้บ่อยหรือค่อนข้างบ่อย

    ✅ แพลตฟอร์มที่นิยม
    - Instagram, TikTok และ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักที่วัยรุ่นใช้

    ✅ ผลกระทบต่อวัยรุ่น
    - โซเชียลมีเดียกลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจสำหรับวัยรุ่น
    - ผู้หญิงรายงานว่ามีประสบการณ์เชิงลบมากกว่าผู้ชาย

    ✅ การเปลี่ยนแปลงบทบาทของโซเชียลมีเดีย
    - จากแพลตฟอร์มความบันเทิงสู่แหล่งข้อมูลด้านสุขภาพจิต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/27/social-media-is-a-mental-heath-resource-for-one-in-three-us-teens
    บทความนี้กล่าวถึงบทบาทของโซเชียลมีเดียที่กลายเป็นแหล่งข้อมูลด้านสุขภาพจิตสำหรับวัยรุ่นในสหรัฐฯ โดยผลการศึกษาจาก Pew Research Center พบว่า 34% ของวัยรุ่นอายุ 13-17 ปี ใช้โซเชียลมีเดีย เช่น Instagram, TikTok และ YouTube เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพจิต และ 9% ใช้บ่อยหรือค่อนข้างบ่อย โซเชียลมีเดียไม่ได้เป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มสำหรับความบันเทิงอีกต่อไป แต่ยังกลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจสำหรับวัยรุ่น อย่างไรก็ตาม การใช้งานโซเชียลมีเดียยังมีผลกระทบด้านลบ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่รายงานว่ามีประสบการณ์เชิงลบมากกว่าผู้ชาย ✅ การใช้งานเพื่อสุขภาพจิต - 34% ของวัยรุ่นใช้โซเชียลมีเดียเพื่อค้นหาข้อมูลด้านสุขภาพจิต - 9% ใช้บ่อยหรือค่อนข้างบ่อย ✅ แพลตฟอร์มที่นิยม - Instagram, TikTok และ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักที่วัยรุ่นใช้ ✅ ผลกระทบต่อวัยรุ่น - โซเชียลมีเดียกลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจสำหรับวัยรุ่น - ผู้หญิงรายงานว่ามีประสบการณ์เชิงลบมากกว่าผู้ชาย ✅ การเปลี่ยนแปลงบทบาทของโซเชียลมีเดีย - จากแพลตฟอร์มความบันเทิงสู่แหล่งข้อมูลด้านสุขภาพจิต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/27/social-media-is-a-mental-heath-resource-for-one-in-three-us-teens
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Social media is a mental heath resource for one in three US teens
    From Instagram to TikTok to YouTube, social networks are no longer just for posting selfies or dance videos. For more than a third of American teenagers, they've also become the place to find information about mental health, according to a study by the Pew Research Center.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานจากสหประชาชาติในชื่อ World Social Report 2025 ได้เปิดเผยถึงผลกระทบของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลที่ส่งผลต่อสภาพการทำงานและโครงสร้างสังคม โดยแม้แต่ในประเทศที่มีรายได้สูง การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสร้างความไม่มั่นคงในงานและเพิ่มงานแบบกิ๊ก (Gig Work) ซึ่งขาดสิทธิและความมั่นคง เช่น การลาป่วยที่ได้รับค่าจ้าง ค่าแรงขั้นต่ำ และการลาคลอด

    นอกจากนี้ การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นในสถาบันและความไว้วางใจระหว่างบุคคล โดยข้อมูลเท็จและการบิดเบือนข้อมูลที่แพร่กระจายบนโซเชียลมีเดีย เช่น WhatsApp ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจในรัฐบาลและสถาบันต่างๆ รวมถึงการสร้าง "echo chambers" ที่ผู้ใช้งานจะเห็นเฉพาะข้อมูลที่ตรงกับความเชื่อของตนเอง ซึ่งอาจนำไปสู่การสุดโต่ง

    เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ สหประชาชาติแนะนำให้รัฐบาลลงทุนในด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ ที่อยู่อาศัย และระบบสวัสดิการสังคมที่เข้มแข็ง รวมถึงการสร้างสถาบันที่มีความโปร่งใสและรับผิดชอบมากขึ้น

    ✅ ผลกระทบต่อสภาพการทำงาน
    - การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลเพิ่มงานแบบกิ๊กที่ขาดสิทธิและความมั่นคง
    - ผู้คนต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต

    ✅ ผลกระทบต่อโครงสร้างสังคม
    - ข้อมูลเท็จและการบิดเบือนข้อมูลทำลายความเชื่อมั่นในสถาบัน
    - การสร้าง echo chambers บนโซเชียลมีเดียส่งเสริมความสุดโต่ง

    ✅ ข้อเสนอแนะจากสหประชาชาติ
    - ลงทุนในด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ และที่อยู่อาศัย
    - สร้างสถาบันที่โปร่งใสและรับผิดชอบ

    ✅ ความสำคัญของการแก้ไขปัญหา
    - การแก้ไขปัญหานี้ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในสถาบันและความร่วมมือในสังคม

    https://www.neowin.net/news/digital-transition-creating-weaker-labor-conditions-and-wrecking-social-fabric-report-says/
    รายงานจากสหประชาชาติในชื่อ World Social Report 2025 ได้เปิดเผยถึงผลกระทบของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลที่ส่งผลต่อสภาพการทำงานและโครงสร้างสังคม โดยแม้แต่ในประเทศที่มีรายได้สูง การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสร้างความไม่มั่นคงในงานและเพิ่มงานแบบกิ๊ก (Gig Work) ซึ่งขาดสิทธิและความมั่นคง เช่น การลาป่วยที่ได้รับค่าจ้าง ค่าแรงขั้นต่ำ และการลาคลอด นอกจากนี้ การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นในสถาบันและความไว้วางใจระหว่างบุคคล โดยข้อมูลเท็จและการบิดเบือนข้อมูลที่แพร่กระจายบนโซเชียลมีเดีย เช่น WhatsApp ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจในรัฐบาลและสถาบันต่างๆ รวมถึงการสร้าง "echo chambers" ที่ผู้ใช้งานจะเห็นเฉพาะข้อมูลที่ตรงกับความเชื่อของตนเอง ซึ่งอาจนำไปสู่การสุดโต่ง เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ สหประชาชาติแนะนำให้รัฐบาลลงทุนในด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ ที่อยู่อาศัย และระบบสวัสดิการสังคมที่เข้มแข็ง รวมถึงการสร้างสถาบันที่มีความโปร่งใสและรับผิดชอบมากขึ้น ✅ ผลกระทบต่อสภาพการทำงาน - การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลเพิ่มงานแบบกิ๊กที่ขาดสิทธิและความมั่นคง - ผู้คนต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ✅ ผลกระทบต่อโครงสร้างสังคม - ข้อมูลเท็จและการบิดเบือนข้อมูลทำลายความเชื่อมั่นในสถาบัน - การสร้าง echo chambers บนโซเชียลมีเดียส่งเสริมความสุดโต่ง ✅ ข้อเสนอแนะจากสหประชาชาติ - ลงทุนในด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ และที่อยู่อาศัย - สร้างสถาบันที่โปร่งใสและรับผิดชอบ ✅ ความสำคัญของการแก้ไขปัญหา - การแก้ไขปัญหานี้ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในสถาบันและความร่วมมือในสังคม https://www.neowin.net/news/digital-transition-creating-weaker-labor-conditions-and-wrecking-social-fabric-report-says/
    WWW.NEOWIN.NET
    Digital transition creating weaker labor conditions and wrecking social fabric, report says
    The United Nations has published its World Social Report 2025 which lays out the damaging effects that the digital transition is having on labor rights and the fabric of society.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 313 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sophos ได้เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการโจมตีที่มุ่งเป้าไปยังอุปกรณ์เครือข่าย เช่น firewalls, VPNs และ routers ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการบุกรุกเครือข่ายองค์กร โดยการโจมตีเหล่านี้คิดเป็นเกือบ 30% ของการบุกรุกทั้งหมดในรายงานประจำปีของ Sophos และ ransomware ยังคงเป็นประเภทการโจมตีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

    ✅ อุปกรณ์เครือข่ายเป็นจุดเริ่มต้นของการบุกรุกเครือข่าย
    - การโจมตีผ่าน VPNs คิดเป็น 25% ของการบุกรุกทั้งหมด
    - การโจมตีด้วย ransomware คิดเป็น 90% ของกรณีที่เกิดขึ้นในองค์กรขนาดกลาง

    ✅ การโจมตีทางไซเบอร์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
    - ผู้โจมตีใช้เทคนิค social engineering เพื่อเก็บข้อมูล credentials
    - AI ช่วยให้การโจมตี phishing มีความซับซ้อนและรวดเร็วมากขึ้น

    ✅ อุปกรณ์ที่หมดอายุการใช้งาน (EOL) เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ
    - อุปกรณ์เหล่านี้มักไม่ได้รับการอัปเดตและกลายเป็นช่องโหว่ที่ง่ายต่อการโจมตี

    ✅ การเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์ของผู้โจมตี
    - ผู้โจมตีไม่จำเป็นต้องใช้มัลแวร์ที่ซับซ้อน แต่สามารถใช้ระบบขององค์กรเองเพื่อโจมตี

    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-are-hitting-firewalls-and-vpns-to-breach-businesses
    Sophos ได้เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการโจมตีที่มุ่งเป้าไปยังอุปกรณ์เครือข่าย เช่น firewalls, VPNs และ routers ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการบุกรุกเครือข่ายองค์กร โดยการโจมตีเหล่านี้คิดเป็นเกือบ 30% ของการบุกรุกทั้งหมดในรายงานประจำปีของ Sophos และ ransomware ยังคงเป็นประเภทการโจมตีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ✅ อุปกรณ์เครือข่ายเป็นจุดเริ่มต้นของการบุกรุกเครือข่าย - การโจมตีผ่าน VPNs คิดเป็น 25% ของการบุกรุกทั้งหมด - การโจมตีด้วย ransomware คิดเป็น 90% ของกรณีที่เกิดขึ้นในองค์กรขนาดกลาง ✅ การโจมตีทางไซเบอร์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง - ผู้โจมตีใช้เทคนิค social engineering เพื่อเก็บข้อมูล credentials - AI ช่วยให้การโจมตี phishing มีความซับซ้อนและรวดเร็วมากขึ้น ✅ อุปกรณ์ที่หมดอายุการใช้งาน (EOL) เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ - อุปกรณ์เหล่านี้มักไม่ได้รับการอัปเดตและกลายเป็นช่องโหว่ที่ง่ายต่อการโจมตี ✅ การเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์ของผู้โจมตี - ผู้โจมตีไม่จำเป็นต้องใช้มัลแวร์ที่ซับซ้อน แต่สามารถใช้ระบบขององค์กรเองเพื่อโจมตี https://www.techradar.com/pro/security/hackers-are-hitting-firewalls-and-vpns-to-breach-businesses
    WWW.TECHRADAR.COM
    Hackers are hitting firewalls and VPNs to breach businesses
    Network edge devices are a key point of entry for attackers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • 22 เมษายน 2568-รายงานบทวิเคราะห์ของ ทนง ขันทอง “ ดอลล่าร์อ่อนค่าสุดในรอบสามปี เพราะกำแพงภาษีกับความขัดแย้งระหว่างทรัมป์กับประธานเฟดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสามปีเมื่อวันจันทร์ ท่ามกลางความวิตกของตลาดเกี่ยวกับสงครามภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงกับประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เจอโรม พาวเวลล์ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ ICE – ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก – ลดลงมากกว่า 1% มาอยู่ที่ 97.923 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 ดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำใหม่เมื่อเทียบกับยูโร ปอนด์ เยน และฟรังก์สวิส รวมถึงอ่อนค่าต่อเงินรูเบิล ร่วงต่ำกว่า 80 เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2024ค่าเงินดอลลาร์เผชิญแรงกดดันต่อเนื่องนับตั้งแต่ทรัมป์เปิดตัวภาษีที่เขาเรียกว่า “วันปลดแอก” เมื่อวันที่ 2 เมษายน ซึ่งมุ่งเป้าไปยังพันธมิตรการค้าทั่วโลก ความเชื่อมั่นของตลาดยิ่งสั่นคลอนเมื่อทรัมป์ออกมาโจมตีพาวเวลล์อย่างเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี เรื่องการปรับลดดอกเบี้ยประธานาธิบดีวิจารณ์ประธานเฟดอย่างรุนแรง เรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ย และเตือนว่าอาจปลดพาวเวลล์ได้ “ถ้าผมอยากให้เขาออก เขาก็จะออกไปอย่างรวดเร็ว” ทรัมป์กล่าว โดยแถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากพาวเวลล์เตือนว่าภาษีนั้น “มีแนวโน้มสูงที่จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างน้อยในระยะสั้น” และส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ลดดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ต่อมา เควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ระบุว่ารัฐบาลกำลังศึกษาว่ามีช่องทางทางกฎหมายในการปลดพาวเวลล์ก่อนครบวาระหรือไม่โดนัลด์ เจ. ทรัมป์@realDonaldTrumpเขียนในTruth Socialเมื่อวานนี้ว่า“การเรียกร้องให้มี “การลดดอกเบี้ยล่วงหน้า” กำลังเพิ่มมากขึ้นจากหลายฝ่าย ด้วยต้นทุนพลังงานที่ลดลงอย่างมาก ราคาสินค้าอาหาร (รวมถึงหายนะไข่ของไบเดน!) ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และสิ่งของอื่น ๆ ส่วนใหญ่ที่มีแนวโน้มลดลง จึงแทบไม่มีเงินเฟ้อเลย ด้วยต้นทุนที่ลดลงอย่างราบรื่นเช่นนี้ ซึ่งผมก็ได้ทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเป็นแบบนี้ จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีเงินเฟ้อ แต่เศรษฐกิจอาจจะชะลอตัวลง หากคุณนาย “มาสายตลอด” ซึ่งเป็นผู้แพ้รายใหญ่ ไม่รีบลดอัตราดอกเบี้ยตอนนี้ ยุโรปลดไปแล้วถึงเจ็ดครั้ง พาวเวลล์มักจะ “มาช้าเสมอ” ยกเว้นช่วงเลือกตั้งที่เขาลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยโจ ไบเดนจอมง่วง (และต่อมาคามาลา) ให้ชนะการเลือกตั้ง แล้วมันได้ผลไหมล่ะ?ความขัดแย้งดังกล่าวสร้างความวิตกให้กับนักลงทุน แม้ว่าพาวเวลล์จะยืนยันว่าเขาไม่มีแผนจะลาออกก่อนกำหนด และเน้นย้ำว่าความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็น “เรื่องของกฎหมาย”ทรัมป์กลับมาโจมตีพาวเวลล์อีกครั้งในวันจันทร์ โดยโพสต์บน Truth Social เรียกเขาว่า “คุณมาสาย ผู้แพ้รายใหญ่” พร้อมเตือนว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวหากไม่ลดดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็วตลาดหุ้นสหรัฐได้รับผลกระทบอีกระลอก โดยดัชนีดาวโจนส์ แนสแด็ก และ S&P 500 ต่างร่วงลงมากกว่า 3%“นักลงทุนกำลังเผชิญกับแหล่งความกังวลทางมหภาคครั้งใหม่: การคุกคามของทรัมป์ต่อความเป็นอิสระของ Fed” อดัม คริซาฟุลลี ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจาก Vital Knowledge กล่าวกับ CNBC เมื่อวันจันทร์ความพยายามปลดพาวเวลล์อาจทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างรุนแรง คริชนา กูฮา รองประธาน Evercore ISI กล่าวกับสื่อทรัมป์แต่งตั้งพาวเวลล์เป็นประธาน Fed ในปี 2018 และเขาได้รับการแต่งตั้งอีกครั้งโดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในปี 2022 โดยวาระของเขาจะดำรงตำแหน่งจนถึงเดือนพฤษภาคม 2026ที่มา RT22/4/2025
    22 เมษายน 2568-รายงานบทวิเคราะห์ของ ทนง ขันทอง “ ดอลล่าร์อ่อนค่าสุดในรอบสามปี เพราะกำแพงภาษีกับความขัดแย้งระหว่างทรัมป์กับประธานเฟดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสามปีเมื่อวันจันทร์ ท่ามกลางความวิตกของตลาดเกี่ยวกับสงครามภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงกับประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เจอโรม พาวเวลล์ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ ICE – ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก – ลดลงมากกว่า 1% มาอยู่ที่ 97.923 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 ดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำใหม่เมื่อเทียบกับยูโร ปอนด์ เยน และฟรังก์สวิส รวมถึงอ่อนค่าต่อเงินรูเบิล ร่วงต่ำกว่า 80 เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2024ค่าเงินดอลลาร์เผชิญแรงกดดันต่อเนื่องนับตั้งแต่ทรัมป์เปิดตัวภาษีที่เขาเรียกว่า “วันปลดแอก” เมื่อวันที่ 2 เมษายน ซึ่งมุ่งเป้าไปยังพันธมิตรการค้าทั่วโลก ความเชื่อมั่นของตลาดยิ่งสั่นคลอนเมื่อทรัมป์ออกมาโจมตีพาวเวลล์อย่างเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี เรื่องการปรับลดดอกเบี้ยประธานาธิบดีวิจารณ์ประธานเฟดอย่างรุนแรง เรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ย และเตือนว่าอาจปลดพาวเวลล์ได้ “ถ้าผมอยากให้เขาออก เขาก็จะออกไปอย่างรวดเร็ว” ทรัมป์กล่าว โดยแถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากพาวเวลล์เตือนว่าภาษีนั้น “มีแนวโน้มสูงที่จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างน้อยในระยะสั้น” และส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ลดดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ต่อมา เควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ระบุว่ารัฐบาลกำลังศึกษาว่ามีช่องทางทางกฎหมายในการปลดพาวเวลล์ก่อนครบวาระหรือไม่โดนัลด์ เจ. ทรัมป์@realDonaldTrumpเขียนในTruth Socialเมื่อวานนี้ว่า“การเรียกร้องให้มี “การลดดอกเบี้ยล่วงหน้า” กำลังเพิ่มมากขึ้นจากหลายฝ่าย ด้วยต้นทุนพลังงานที่ลดลงอย่างมาก ราคาสินค้าอาหาร (รวมถึงหายนะไข่ของไบเดน!) ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และสิ่งของอื่น ๆ ส่วนใหญ่ที่มีแนวโน้มลดลง จึงแทบไม่มีเงินเฟ้อเลย ด้วยต้นทุนที่ลดลงอย่างราบรื่นเช่นนี้ ซึ่งผมก็ได้ทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเป็นแบบนี้ จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีเงินเฟ้อ แต่เศรษฐกิจอาจจะชะลอตัวลง หากคุณนาย “มาสายตลอด” ซึ่งเป็นผู้แพ้รายใหญ่ ไม่รีบลดอัตราดอกเบี้ยตอนนี้ ยุโรปลดไปแล้วถึงเจ็ดครั้ง พาวเวลล์มักจะ “มาช้าเสมอ” ยกเว้นช่วงเลือกตั้งที่เขาลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยโจ ไบเดนจอมง่วง (และต่อมาคามาลา) ให้ชนะการเลือกตั้ง แล้วมันได้ผลไหมล่ะ?ความขัดแย้งดังกล่าวสร้างความวิตกให้กับนักลงทุน แม้ว่าพาวเวลล์จะยืนยันว่าเขาไม่มีแผนจะลาออกก่อนกำหนด และเน้นย้ำว่าความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็น “เรื่องของกฎหมาย”ทรัมป์กลับมาโจมตีพาวเวลล์อีกครั้งในวันจันทร์ โดยโพสต์บน Truth Social เรียกเขาว่า “คุณมาสาย ผู้แพ้รายใหญ่” พร้อมเตือนว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวหากไม่ลดดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็วตลาดหุ้นสหรัฐได้รับผลกระทบอีกระลอก โดยดัชนีดาวโจนส์ แนสแด็ก และ S&P 500 ต่างร่วงลงมากกว่า 3%“นักลงทุนกำลังเผชิญกับแหล่งความกังวลทางมหภาคครั้งใหม่: การคุกคามของทรัมป์ต่อความเป็นอิสระของ Fed” อดัม คริซาฟุลลี ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจาก Vital Knowledge กล่าวกับ CNBC เมื่อวันจันทร์ความพยายามปลดพาวเวลล์อาจทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างรุนแรง คริชนา กูฮา รองประธาน Evercore ISI กล่าวกับสื่อทรัมป์แต่งตั้งพาวเวลล์เป็นประธาน Fed ในปี 2018 และเขาได้รับการแต่งตั้งอีกครั้งโดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในปี 2022 โดยวาระของเขาจะดำรงตำแหน่งจนถึงเดือนพฤษภาคม 2026ที่มา RT22/4/2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 488 มุมมอง 0 รีวิว
  • TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่วัยรุ่นสหรัฐฯ โดย 47% ของวัยรุ่น ที่เข้าร่วมการสำรวจระบุว่า TikTok เป็นแอปโปรดของพวกเขา ซึ่งเทียบเท่ากับสถิติของ Snapchat ในปี 2017 แม้ว่าอนาคตของ TikTok ในสหรัฐฯ จะยังไม่แน่นอน แต่แพลตฟอร์มนี้ยังคงครองใจวัยรุ่นและมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว

    ✅ TikTok เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่วัยรุ่นสหรัฐฯ
    - 47% ของวัยรุ่น ระบุว่า TikTok เป็นแอปโปรดของพวกเขา
    - อัตราความนิยมเพิ่มขึ้นจาก 39% ในการสำรวจครั้งก่อน

    ✅ TikTok แซงหน้า Snapchat และ Instagram
    - Snapchat เคยได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2017 แต่ปัจจุบันมีเพียง 14% ของวัยรุ่นที่เลือกใช้
    - Instagram ยังคงอยู่ในอันดับสาม โดยมี 28% ของวัยรุ่นที่ชื่นชอบ แต่มีแนวโน้มลดลง

    ✅ Instagram ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้มากที่สุดต่อเดือน
    - 87% ของวัยรุ่น ใช้งาน Instagram เป็นประจำทุกเดือน
    - TikTok มีอัตราการใช้งานรายเดือนอยู่ที่ 79% และ Snapchat อยู่ที่ 72%

    ✅ วัยรุ่นสหรัฐฯ ใช้เวลาใน Netflix มากกว่า YouTube
    - 31% ของวัยรุ่น ใช้เวลาใน Netflix มากกว่าบน YouTube ซึ่งมีเพียง 26%
    - แนวโน้มนี้แตกต่างจากเกาหลีใต้ ซึ่ง YouTube ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/21/in-the-us-tiktok-is-by-far-the-most-popular-social-media-platform-among-teenagers
    TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่วัยรุ่นสหรัฐฯ โดย 47% ของวัยรุ่น ที่เข้าร่วมการสำรวจระบุว่า TikTok เป็นแอปโปรดของพวกเขา ซึ่งเทียบเท่ากับสถิติของ Snapchat ในปี 2017 แม้ว่าอนาคตของ TikTok ในสหรัฐฯ จะยังไม่แน่นอน แต่แพลตฟอร์มนี้ยังคงครองใจวัยรุ่นและมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว ✅ TikTok เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่วัยรุ่นสหรัฐฯ - 47% ของวัยรุ่น ระบุว่า TikTok เป็นแอปโปรดของพวกเขา - อัตราความนิยมเพิ่มขึ้นจาก 39% ในการสำรวจครั้งก่อน ✅ TikTok แซงหน้า Snapchat และ Instagram - Snapchat เคยได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2017 แต่ปัจจุบันมีเพียง 14% ของวัยรุ่นที่เลือกใช้ - Instagram ยังคงอยู่ในอันดับสาม โดยมี 28% ของวัยรุ่นที่ชื่นชอบ แต่มีแนวโน้มลดลง ✅ Instagram ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้มากที่สุดต่อเดือน - 87% ของวัยรุ่น ใช้งาน Instagram เป็นประจำทุกเดือน - TikTok มีอัตราการใช้งานรายเดือนอยู่ที่ 79% และ Snapchat อยู่ที่ 72% ✅ วัยรุ่นสหรัฐฯ ใช้เวลาใน Netflix มากกว่า YouTube - 31% ของวัยรุ่น ใช้เวลาใน Netflix มากกว่าบน YouTube ซึ่งมีเพียง 26% - แนวโน้มนี้แตกต่างจากเกาหลีใต้ ซึ่ง YouTube ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/21/in-the-us-tiktok-is-by-far-the-most-popular-social-media-platform-among-teenagers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    In the US, TikTok is by far the most popular social media platform among teenagers
    It's a new milestone. While TikTok's future in the United States remains somewhat shaky, the Chinese platform is now the favorite social network among teenagers there.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI กำลังพัฒนา แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตัวเอง ซึ่งอาจเป็นคู่แข่งของ X (เดิมคือ Twitter) โดยแพลตฟอร์มนี้จะเน้นการใช้ ChatGPT ในการสร้างภาพและเนื้อหา และอาจรวมเข้ากับ ChatGPT หรือเปิดตัวเป็นแอปใหม่

    ✅ OpenAI กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
    - แพลตฟอร์มนี้อยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา และยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นแอปใหม่หรือรวมเข้ากับ ChatGPT
    - มีการใช้ ChatGPT ในการสร้างภาพและเนื้อหา พร้อมฟีดแบบโซเชียล

    ✅ ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่าง Sam Altman และ Elon Musk
    - Musk เคยเสนอซื้อ OpenAI ในราคา 97.4 พันล้านดอลลาร์ แต่ถูก Altman ปฏิเสธ
    - OpenAI และ Musk ต่างก็มีคดีความต่อกันเกี่ยวกับการควบคุมเทคโนโลยี AI

    ✅ เป้าหมายของ OpenAI ในการสร้างแพลตฟอร์มนี้
    - OpenAI ต้องการ ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อฝึก AI แทนการพึ่งพาข้อมูลจากแพลตฟอร์มอื่น
    - แพลตฟอร์มนี้อาจช่วยให้ OpenAI มี แหล่งข้อมูลของตัวเอง เหมือนกับที่ Musk ใช้ X ในการฝึก Grok

    ✅ แนวโน้มของตลาดโซเชียลมีเดียที่ใช้ AI
    - Meta กำลังใช้ Llama models ในการฝึก AI ด้วยข้อมูลจาก Facebook และ Instagram
    - OpenAI อาจต้องแข่งขันกับแพลตฟอร์มที่มีฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่

    ℹ️ ความท้าทายในการเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่
    - OpenAI กำลังเผชิญกับหลายประเด็น เช่น การพัฒนาโมเดลใหม่, คดีความ และการขยายธุรกิจ
    - ต้องติดตามว่าแพลตฟอร์มนี้จะสามารถดึงดูดผู้ใช้ได้หรือไม่

    ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด AI
    - หาก OpenAI มีแพลตฟอร์มของตัวเอง อาจส่งผลต่อ การเข้าถึงข้อมูลของ AI คู่แข่ง
    - อาจมีการเปลี่ยนแปลงในแนวทางการพัฒนา AI ของบริษัทอื่น

    ℹ️ แนวโน้มของการใช้ AI ในโซเชียลมีเดีย
    - AI อาจมีบทบาทมากขึ้นในการสร้างเนื้อหาและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้
    - อาจมีการพัฒนา AI ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ในรูปแบบที่ซับซ้อนขึ้น

    https://www.neowin.net/news/openai-is-reportedly-working-on-its-own-social-media-platform-to-rival-the-likes-of-x/
    OpenAI กำลังพัฒนา แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตัวเอง ซึ่งอาจเป็นคู่แข่งของ X (เดิมคือ Twitter) โดยแพลตฟอร์มนี้จะเน้นการใช้ ChatGPT ในการสร้างภาพและเนื้อหา และอาจรวมเข้ากับ ChatGPT หรือเปิดตัวเป็นแอปใหม่ ✅ OpenAI กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย - แพลตฟอร์มนี้อยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา และยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นแอปใหม่หรือรวมเข้ากับ ChatGPT - มีการใช้ ChatGPT ในการสร้างภาพและเนื้อหา พร้อมฟีดแบบโซเชียล ✅ ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่าง Sam Altman และ Elon Musk - Musk เคยเสนอซื้อ OpenAI ในราคา 97.4 พันล้านดอลลาร์ แต่ถูก Altman ปฏิเสธ - OpenAI และ Musk ต่างก็มีคดีความต่อกันเกี่ยวกับการควบคุมเทคโนโลยี AI ✅ เป้าหมายของ OpenAI ในการสร้างแพลตฟอร์มนี้ - OpenAI ต้องการ ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อฝึก AI แทนการพึ่งพาข้อมูลจากแพลตฟอร์มอื่น - แพลตฟอร์มนี้อาจช่วยให้ OpenAI มี แหล่งข้อมูลของตัวเอง เหมือนกับที่ Musk ใช้ X ในการฝึก Grok ✅ แนวโน้มของตลาดโซเชียลมีเดียที่ใช้ AI - Meta กำลังใช้ Llama models ในการฝึก AI ด้วยข้อมูลจาก Facebook และ Instagram - OpenAI อาจต้องแข่งขันกับแพลตฟอร์มที่มีฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ ℹ️ ความท้าทายในการเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ - OpenAI กำลังเผชิญกับหลายประเด็น เช่น การพัฒนาโมเดลใหม่, คดีความ และการขยายธุรกิจ - ต้องติดตามว่าแพลตฟอร์มนี้จะสามารถดึงดูดผู้ใช้ได้หรือไม่ ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด AI - หาก OpenAI มีแพลตฟอร์มของตัวเอง อาจส่งผลต่อ การเข้าถึงข้อมูลของ AI คู่แข่ง - อาจมีการเปลี่ยนแปลงในแนวทางการพัฒนา AI ของบริษัทอื่น ℹ️ แนวโน้มของการใช้ AI ในโซเชียลมีเดีย - AI อาจมีบทบาทมากขึ้นในการสร้างเนื้อหาและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ - อาจมีการพัฒนา AI ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ในรูปแบบที่ซับซ้อนขึ้น https://www.neowin.net/news/openai-is-reportedly-working-on-its-own-social-media-platform-to-rival-the-likes-of-x/
    WWW.NEOWIN.NET
    OpenAI is reportedly working on its own social media platform to rival the likes of X
    OpenAI doesn't seem to be catching a break. A new report claims the company is quietly building a social media platform that could go head-to-head with X.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts