• YouTube ลบวิดีโอกว่า 3,000 รายการที่ปลอมเป็นสูตรโกงเกม – พบใช้แพร่กระจายมัลแวร์ Lumma และ RedLine

    YouTube ได้ลบวิดีโอกว่า 3,000 รายการที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแพร่กระจายมัลแวร์ โดยวิดีโอเหล่านี้ปลอมตัวเป็น “สูตรโกงเกม” หรือ “โปรแกรมเถื่อน” เช่น Adobe Photoshop และ FL Studio เพื่อหลอกให้ผู้ชมดาวน์โหลดไฟล์อันตราย

    แคมเปญนี้ถูกเรียกว่า “YouTube Ghost Network” โดยนักวิจัยจาก Check Point Research พบว่าเป็นการโจมตีแบบประสานงานที่ซับซ้อน ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2021 และเพิ่มจำนวนวิดีโออย่างรวดเร็วในปี 2025 โดยใช้เทคนิคสร้าง engagement ปลอม เช่น ไลก์ คอมเมนต์ และการสมัครสมาชิก เพื่อให้วิดีโอดูน่าเชื่อถือ

    มัลแวร์ที่พบในแคมเปญนี้ ได้แก่ Lumma Stealer, Rhadamanthys และ RedLine ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน คุกกี้ และข้อมูลการเข้าสู่ระบบต่าง ๆ

    รายละเอียดแคมเปญ YouTube Ghost Network
    วิดีโอปลอมเป็นสูตรโกงเกมและโปรแกรมเถื่อน
    หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์มัลแวร์
    ใช้ engagement ปลอมเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
    เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2021 และเพิ่มขึ้นในปี 2025

    มัลแวร์ที่เกี่ยวข้อง
    Lumma Stealer – ขโมยรหัสผ่านและข้อมูลเข้าสู่ระบบ
    Rhadamanthys – มัลแวร์ระดับสูงสำหรับการสอดแนม
    RedLine – ขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์และแอปต่าง ๆ

    เทคนิคการหลอกลวง
    ใช้ชื่อวิดีโอและคำอธิบายที่ดูน่าเชื่อถือ
    สร้างคอมเมนต์และไลก์ปลอมเพื่อหลอกผู้ใช้
    ใช้หลายบัญชีในการสร้างและโปรโมตวิดีโอ

    https://www.techradar.com/pro/security/thousands-of-youtube-videos-disguised-as-cheat-codes-removed-for-spreading-malware
    🎮 YouTube ลบวิดีโอกว่า 3,000 รายการที่ปลอมเป็นสูตรโกงเกม – พบใช้แพร่กระจายมัลแวร์ Lumma และ RedLine YouTube ได้ลบวิดีโอกว่า 3,000 รายการที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแพร่กระจายมัลแวร์ โดยวิดีโอเหล่านี้ปลอมตัวเป็น “สูตรโกงเกม” หรือ “โปรแกรมเถื่อน” เช่น Adobe Photoshop และ FL Studio เพื่อหลอกให้ผู้ชมดาวน์โหลดไฟล์อันตราย แคมเปญนี้ถูกเรียกว่า “YouTube Ghost Network” โดยนักวิจัยจาก Check Point Research พบว่าเป็นการโจมตีแบบประสานงานที่ซับซ้อน ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2021 และเพิ่มจำนวนวิดีโออย่างรวดเร็วในปี 2025 โดยใช้เทคนิคสร้าง engagement ปลอม เช่น ไลก์ คอมเมนต์ และการสมัครสมาชิก เพื่อให้วิดีโอดูน่าเชื่อถือ มัลแวร์ที่พบในแคมเปญนี้ ได้แก่ Lumma Stealer, Rhadamanthys และ RedLine ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน คุกกี้ และข้อมูลการเข้าสู่ระบบต่าง ๆ ✅ รายละเอียดแคมเปญ YouTube Ghost Network ➡️ วิดีโอปลอมเป็นสูตรโกงเกมและโปรแกรมเถื่อน ➡️ หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์มัลแวร์ ➡️ ใช้ engagement ปลอมเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ➡️ เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2021 และเพิ่มขึ้นในปี 2025 ✅ มัลแวร์ที่เกี่ยวข้อง ➡️ Lumma Stealer – ขโมยรหัสผ่านและข้อมูลเข้าสู่ระบบ ➡️ Rhadamanthys – มัลแวร์ระดับสูงสำหรับการสอดแนม ➡️ RedLine – ขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์และแอปต่าง ๆ ✅ เทคนิคการหลอกลวง ➡️ ใช้ชื่อวิดีโอและคำอธิบายที่ดูน่าเชื่อถือ ➡️ สร้างคอมเมนต์และไลก์ปลอมเพื่อหลอกผู้ใช้ ➡️ ใช้หลายบัญชีในการสร้างและโปรโมตวิดีโอ https://www.techradar.com/pro/security/thousands-of-youtube-videos-disguised-as-cheat-codes-removed-for-spreading-malware
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Flint เปิดตัวเว็บไซต์อัตโนมัติ—สร้างเนื้อหาและปรับแต่งตัวเองโดยไม่ต้องมีมนุษย์”

    ลองจินตนาการว่าเว็บไซต์ของคุณสามารถสร้างหน้าใหม่ ปรับแต่งดีไซน์ และเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ได้เองโดยไม่ต้องมีทีมงาน—นี่คือแนวคิดของ Flint สตาร์ทอัพที่เพิ่งเปิดตัวแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์อัตโนมัติเต็มรูปแบบ โดยใช้ AI เป็นแกนกลางในการจัดการทุกอย่าง ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการเผยแพร่

    ผู้ใช้เพียงแค่อัปโหลด content brief และลิงก์เว็บไซต์เดิม Flint จะวิเคราะห์ดีไซน์ของแบรนด์ แล้วสร้างหน้าเว็บใหม่ที่พร้อมใช้งานทันทีบนโดเมนจริง โดยไม่ต้องเขียนโค้ดหรือจัดการ CMS ใด ๆ

    Flint ได้รับเงินลงทุน $5 ล้านจาก Accel, Sheryl Sandberg’s venture fund และ Neo เพื่อขยายการพัฒนา AI และระบบออกแบบอัตโนมัติ พร้อมเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมเบต้าแล้ว

    แนวคิดของ Flint
    สร้างเว็บไซต์ที่สามารถอัปเดตและปรับแต่งตัวเองโดยอัตโนมัติ
    ใช้ AI วิเคราะห์ดีไซน์และเนื้อหาเพื่อสร้างหน้าเว็บใหม่
    ไม่ต้องเขียนโค้ดหรือใช้ CMS

    วิธีการทำงาน
    ผู้ใช้ส่ง content brief และลิงก์เว็บไซต์เดิม
    Flint สร้างหน้าเปรียบเทียบ, landing page และ SEO content
    เผยแพร่หน้าเว็บโดยตรงบนโดเมนของผู้ใช้

    เทคโนโลยีเบื้องหลัง
    ใช้ระบบ piezo haptic และ force sensing matrix สำหรับ UX
    รองรับ deep-click zones และ gesture เฉพาะแอป
    มีโปรไฟล์สำเร็จรูปสำหรับแอปยอดนิยม เช่น Photoshop, Office, Figma

    การลงทุนและการเปิดตัว
    ได้รับเงินลงทุน $5 ล้านจาก Accel และ Sheryl Sandberg
    เปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมเบต้าแล้ว
    มีแผนขยายไปยังระบบ AI-driven design engineering

    คำเตือนและข้อจำกัด
    ข้อมูล SEO และ conversion ยังมาจากการรายงานภายในของบริษัท
    ยังไม่มีการเปิดเผยว่า Google จะจัดอันดับเว็บไซต์ที่ปรับตัวเองอย่างไร
    ความโปร่งใสและการควบคุมอาจเป็นประเด็นในระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ

    https://www.techradar.com/pro/new-startup-wants-to-build-self-updating-autonomous-websites-that-generate-content-and-optimize-themselves-without-human-intervention-i-wonder-what-google-will-make-of-this
    🌐 “Flint เปิดตัวเว็บไซต์อัตโนมัติ—สร้างเนื้อหาและปรับแต่งตัวเองโดยไม่ต้องมีมนุษย์” ลองจินตนาการว่าเว็บไซต์ของคุณสามารถสร้างหน้าใหม่ ปรับแต่งดีไซน์ และเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ได้เองโดยไม่ต้องมีทีมงาน—นี่คือแนวคิดของ Flint สตาร์ทอัพที่เพิ่งเปิดตัวแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์อัตโนมัติเต็มรูปแบบ โดยใช้ AI เป็นแกนกลางในการจัดการทุกอย่าง ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการเผยแพร่ ผู้ใช้เพียงแค่อัปโหลด content brief และลิงก์เว็บไซต์เดิม Flint จะวิเคราะห์ดีไซน์ของแบรนด์ แล้วสร้างหน้าเว็บใหม่ที่พร้อมใช้งานทันทีบนโดเมนจริง โดยไม่ต้องเขียนโค้ดหรือจัดการ CMS ใด ๆ Flint ได้รับเงินลงทุน $5 ล้านจาก Accel, Sheryl Sandberg’s venture fund และ Neo เพื่อขยายการพัฒนา AI และระบบออกแบบอัตโนมัติ พร้อมเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมเบต้าแล้ว ✅ แนวคิดของ Flint ➡️ สร้างเว็บไซต์ที่สามารถอัปเดตและปรับแต่งตัวเองโดยอัตโนมัติ ➡️ ใช้ AI วิเคราะห์ดีไซน์และเนื้อหาเพื่อสร้างหน้าเว็บใหม่ ➡️ ไม่ต้องเขียนโค้ดหรือใช้ CMS ✅ วิธีการทำงาน ➡️ ผู้ใช้ส่ง content brief และลิงก์เว็บไซต์เดิม ➡️ Flint สร้างหน้าเปรียบเทียบ, landing page และ SEO content ➡️ เผยแพร่หน้าเว็บโดยตรงบนโดเมนของผู้ใช้ ✅ เทคโนโลยีเบื้องหลัง ➡️ ใช้ระบบ piezo haptic และ force sensing matrix สำหรับ UX ➡️ รองรับ deep-click zones และ gesture เฉพาะแอป ➡️ มีโปรไฟล์สำเร็จรูปสำหรับแอปยอดนิยม เช่น Photoshop, Office, Figma ✅ การลงทุนและการเปิดตัว ➡️ ได้รับเงินลงทุน $5 ล้านจาก Accel และ Sheryl Sandberg ➡️ เปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมเบต้าแล้ว ➡️ มีแผนขยายไปยังระบบ AI-driven design engineering ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ ข้อมูล SEO และ conversion ยังมาจากการรายงานภายในของบริษัท ⛔ ยังไม่มีการเปิดเผยว่า Google จะจัดอันดับเว็บไซต์ที่ปรับตัวเองอย่างไร ⛔ ความโปร่งใสและการควบคุมอาจเป็นประเด็นในระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ https://www.techradar.com/pro/new-startup-wants-to-build-self-updating-autonomous-websites-that-generate-content-and-optimize-themselves-without-human-intervention-i-wonder-what-google-will-make-of-this
    WWW.TECHRADAR.COM
    Websites that build and fix themselves may soon flood Google
    AI-driven system promises to turn websites into self-updating digital agents
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • "HyperSpace Trackpad Pro: แทร็คแพดสุดล้ำสำหรับผู้ใช้ Windows ที่อยากได้สัมผัสแบบ Apple"

    Hyper เปิดตัว HyperSpace Trackpad Pro อุปกรณ์เสริมใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกแทน Apple Magic Trackpad สำหรับผู้ใช้ Windows โดยเฉพาะ ด้วยราคาประมาณ $150 และฟีเจอร์ระดับพรีเมียมที่รวมทั้ง haptic feedback, pressure sensitivity และการรองรับ multi-touch gesture แบบเต็มรูปแบบ

    ตัวแทร็คแพดผลิตจาก CNC-aluminum พร้อมพื้นผิวกระจกขัดเรียบ มีขนาด 166.9 x 103.4 x 13 มม. และน้ำหนัก 300 กรัม ใช้ Bluetooth 5.2 เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ และมีแบตเตอรี่ 1,000mAh ที่ใช้งานได้ถึง 30 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

    จุดเด่นคือระบบ piezo haptic รุ่นที่ 3 ที่ให้ความรู้สึกคลิกทั่วทั้งพื้นผิว พร้อมการปรับความไวของแรงกด และการตั้งค่า deep-click zones ผ่านซอฟต์แวร์ Hydra Connect ซึ่งรองรับโปรไฟล์เฉพาะสำหรับแอปยอดนิยม เช่น Adobe Photoshop, Premiere Pro, Illustrator, Microsoft Office, Teams และ Figma

    คุณสมบัติหลักของ HyperSpace Trackpad Pro
    รองรับ multi-touch gesture บน Windows อย่างเต็มรูปแบบ
    มี haptic feedback และ pressure sensitivity
    ใช้ Bluetooth 5.2 เชื่อมต่อ
    แบตเตอรี่ 1,000mAh ใช้งานได้ ~30 วัน
    ผลิตจาก CNC-aluminum และพื้นผิวกระจกขัดเรียบ

    ระบบสัมผัสและการตั้งค่า
    ใช้ piezo haptic รุ่นที่ 3 ให้คลิกทั่วพื้นผิว
    ปรับความไวของแรงกดได้ตามต้องการ
    มี force sensing matrix สำหรับการตั้งค่า deep-click zones
    ใช้ซอฟต์แวร์ Hydra Connect ตั้งค่าโปรไฟล์เฉพาะแอป

    การใช้งานร่วมกับระบบอื่น
    รองรับ macOS สำหรับการคลิกและนำทางพื้นฐาน
    มีโปรไฟล์สำเร็จรูปสำหรับแอปยอดนิยม
    สามารถตั้งค่า corner shortcuts และ gesture เฉพาะแอป

    การเปิดตัวและราคา
    เปิดให้ pre-order ผ่าน Kickstarter แล้ว
    ราคาเริ่มต้นที่ $109 สำหรับ Super Early Bird
    Creator Pack ราคา $180 มาพร้อม SSD enclosure
    เริ่มจัดส่งในไตรมาสแรกของปี 2026

    https://www.tomshardware.com/peripherals/the-usd150-external-hyperspace-trackpad-pro-is-an-apple-magic-trackpad-alternative-for-windows-users-with-haptic-feedback-and-pressure-sensitivity-crowdfunded-peripheral-ships-in-q1-2026
    🖱️ "HyperSpace Trackpad Pro: แทร็คแพดสุดล้ำสำหรับผู้ใช้ Windows ที่อยากได้สัมผัสแบบ Apple" Hyper เปิดตัว HyperSpace Trackpad Pro อุปกรณ์เสริมใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกแทน Apple Magic Trackpad สำหรับผู้ใช้ Windows โดยเฉพาะ ด้วยราคาประมาณ $150 และฟีเจอร์ระดับพรีเมียมที่รวมทั้ง haptic feedback, pressure sensitivity และการรองรับ multi-touch gesture แบบเต็มรูปแบบ ตัวแทร็คแพดผลิตจาก CNC-aluminum พร้อมพื้นผิวกระจกขัดเรียบ มีขนาด 166.9 x 103.4 x 13 มม. และน้ำหนัก 300 กรัม ใช้ Bluetooth 5.2 เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ และมีแบตเตอรี่ 1,000mAh ที่ใช้งานได้ถึง 30 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง จุดเด่นคือระบบ piezo haptic รุ่นที่ 3 ที่ให้ความรู้สึกคลิกทั่วทั้งพื้นผิว พร้อมการปรับความไวของแรงกด และการตั้งค่า deep-click zones ผ่านซอฟต์แวร์ Hydra Connect ซึ่งรองรับโปรไฟล์เฉพาะสำหรับแอปยอดนิยม เช่น Adobe Photoshop, Premiere Pro, Illustrator, Microsoft Office, Teams และ Figma ✅ คุณสมบัติหลักของ HyperSpace Trackpad Pro ➡️ รองรับ multi-touch gesture บน Windows อย่างเต็มรูปแบบ ➡️ มี haptic feedback และ pressure sensitivity ➡️ ใช้ Bluetooth 5.2 เชื่อมต่อ ➡️ แบตเตอรี่ 1,000mAh ใช้งานได้ ~30 วัน ➡️ ผลิตจาก CNC-aluminum และพื้นผิวกระจกขัดเรียบ ✅ ระบบสัมผัสและการตั้งค่า ➡️ ใช้ piezo haptic รุ่นที่ 3 ให้คลิกทั่วพื้นผิว ➡️ ปรับความไวของแรงกดได้ตามต้องการ ➡️ มี force sensing matrix สำหรับการตั้งค่า deep-click zones ➡️ ใช้ซอฟต์แวร์ Hydra Connect ตั้งค่าโปรไฟล์เฉพาะแอป ✅ การใช้งานร่วมกับระบบอื่น ➡️ รองรับ macOS สำหรับการคลิกและนำทางพื้นฐาน ➡️ มีโปรไฟล์สำเร็จรูปสำหรับแอปยอดนิยม ➡️ สามารถตั้งค่า corner shortcuts และ gesture เฉพาะแอป ✅ การเปิดตัวและราคา ➡️ เปิดให้ pre-order ผ่าน Kickstarter แล้ว ➡️ ราคาเริ่มต้นที่ $109 สำหรับ Super Early Bird ➡️ Creator Pack ราคา $180 มาพร้อม SSD enclosure ➡️ เริ่มจัดส่งในไตรมาสแรกของปี 2026 https://www.tomshardware.com/peripherals/the-usd150-external-hyperspace-trackpad-pro-is-an-apple-magic-trackpad-alternative-for-windows-users-with-haptic-feedback-and-pressure-sensitivity-crowdfunded-peripheral-ships-in-q1-2026
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Paint บน Windows 11 เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ AI สร้างแอนิเมชันและแก้ไขภาพแบบ Nano Banana” — เมื่อแอปวาดภาพพื้นฐานกลายเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพ

    Microsoft กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ในแอป Paint บน Windows 11 ที่ใช้ AI ช่วยสร้างแอนิเมชันจากภาพนิ่ง และแก้ไขภาพด้วยคำสั่งข้อความแบบเดียวกับฟีเจอร์ “Generative Fill” ของ Photoshop หรือ “Nano Banana” ของ Google

    ฟีเจอร์แรกชื่อว่า “Animate” ช่วยให้ผู้ใช้สามารถคลิกเพียงครั้งเดียวเพื่อเปลี่ยนภาพนิ่งหรือสเก็ตช์ให้กลายเป็นแอนิเมชันสั้น ๆ โดยไม่ต้องใส่ prompt ใด ๆ AI จะตัดสินใจสร้างภาพเคลื่อนไหวให้เอง ซึ่งแม้ยังไม่สมบูรณ์ แต่ถือเป็นก้าวแรกของการนำ AI เข้ามาช่วยสร้างสรรค์งานศิลป์

    ฟีเจอร์ที่สองคือ “Generative Edit” ซึ่งให้ผู้ใช้พิมพ์คำสั่ง เช่น “เปลี่ยนพื้นหลังเป็นป่าผลไม้” แล้ว AI จะปรับภาพให้ตามคำสั่งทันที ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนภาพกล้วยเดี่ยวให้กลายเป็นฉาก “fruit jungle” ได้อย่างน่าทึ่ง

    ทั้งสองฟีเจอร์นี้อยู่ในโครงการ Windows AI Labs ซึ่งเปิดให้เฉพาะผู้ใช้ Windows Insider ที่ได้รับเชิญเท่านั้น โดย Microsoft ใช้โมเดล AI ที่พัฒนาขึ้นเอง ไม่ได้พึ่งเทคโนโลยีจากภายนอก

    Microsoft กำลังทดสอบฟีเจอร์ AI ใหม่ในแอป Paint บน Windows 11
    อยู่ในโครงการ Windows AI Labs สำหรับผู้ใช้ Windows Insider

    ฟีเจอร์ “Animate” สร้างแอนิเมชันจากภาพนิ่งหรือสเก็ตช์
    ไม่ต้องใส่ prompt, AI ตัดสินใจเอง

    ฟีเจอร์ “Generative Edit” แก้ไขภาพตามคำสั่งข้อความ
    ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนพื้นหลังเป็น “fruit jungle”

    ใช้โมเดล AI ที่ Microsoft พัฒนาขึ้นเอง
    ไม่พึ่งเทคโนโลยีจากบริษัทภายนอก

    Paint กำลังกลายเป็นแอปสร้างภาพที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ
    เดิมเป็นแอปวาดภาพพื้นฐานใน Windows

    ฟีเจอร์ยังอยู่ในช่วงทดสอบ และอาจยังไม่เสถียร
    ตัวอย่างแอนิเมชันที่สร้างอาจมีความผิดเพี้ยน

    ต้องเป็นสมาชิก Windows Insider และได้รับเชิญเท่านั้นจึงจะใช้งานได้
    ผู้ใช้ทั่วไปยังไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์นี้

    ไม่มีการควบคุมผลลัพธ์ของแอนิเมชันในเวอร์ชันทดสอบ
    ผู้ใช้ไม่สามารถกำหนดทิศทางหรือรูปแบบของแอนิเมชันได้

    ยังไม่มีกำหนดการเปิดตัวฟีเจอร์เหล่านี้อย่างเป็นทางการ
    อาจใช้เวลานานกว่าจะปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไป

    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-paint-app-could-soon-create-animations-for-you-with-ai-and-boast-a-nano-banana-style-generative-edit
    🎨 “Paint บน Windows 11 เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ AI สร้างแอนิเมชันและแก้ไขภาพแบบ Nano Banana” — เมื่อแอปวาดภาพพื้นฐานกลายเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพ Microsoft กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ในแอป Paint บน Windows 11 ที่ใช้ AI ช่วยสร้างแอนิเมชันจากภาพนิ่ง และแก้ไขภาพด้วยคำสั่งข้อความแบบเดียวกับฟีเจอร์ “Generative Fill” ของ Photoshop หรือ “Nano Banana” ของ Google ฟีเจอร์แรกชื่อว่า “Animate” ช่วยให้ผู้ใช้สามารถคลิกเพียงครั้งเดียวเพื่อเปลี่ยนภาพนิ่งหรือสเก็ตช์ให้กลายเป็นแอนิเมชันสั้น ๆ โดยไม่ต้องใส่ prompt ใด ๆ AI จะตัดสินใจสร้างภาพเคลื่อนไหวให้เอง ซึ่งแม้ยังไม่สมบูรณ์ แต่ถือเป็นก้าวแรกของการนำ AI เข้ามาช่วยสร้างสรรค์งานศิลป์ ฟีเจอร์ที่สองคือ “Generative Edit” ซึ่งให้ผู้ใช้พิมพ์คำสั่ง เช่น “เปลี่ยนพื้นหลังเป็นป่าผลไม้” แล้ว AI จะปรับภาพให้ตามคำสั่งทันที ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนภาพกล้วยเดี่ยวให้กลายเป็นฉาก “fruit jungle” ได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งสองฟีเจอร์นี้อยู่ในโครงการ Windows AI Labs ซึ่งเปิดให้เฉพาะผู้ใช้ Windows Insider ที่ได้รับเชิญเท่านั้น โดย Microsoft ใช้โมเดล AI ที่พัฒนาขึ้นเอง ไม่ได้พึ่งเทคโนโลยีจากภายนอก ✅ Microsoft กำลังทดสอบฟีเจอร์ AI ใหม่ในแอป Paint บน Windows 11 ➡️ อยู่ในโครงการ Windows AI Labs สำหรับผู้ใช้ Windows Insider ✅ ฟีเจอร์ “Animate” สร้างแอนิเมชันจากภาพนิ่งหรือสเก็ตช์ ➡️ ไม่ต้องใส่ prompt, AI ตัดสินใจเอง ✅ ฟีเจอร์ “Generative Edit” แก้ไขภาพตามคำสั่งข้อความ ➡️ ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนพื้นหลังเป็น “fruit jungle” ✅ ใช้โมเดล AI ที่ Microsoft พัฒนาขึ้นเอง ➡️ ไม่พึ่งเทคโนโลยีจากบริษัทภายนอก ✅ Paint กำลังกลายเป็นแอปสร้างภาพที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ ➡️ เดิมเป็นแอปวาดภาพพื้นฐานใน Windows ‼️ ฟีเจอร์ยังอยู่ในช่วงทดสอบ และอาจยังไม่เสถียร ⛔ ตัวอย่างแอนิเมชันที่สร้างอาจมีความผิดเพี้ยน ‼️ ต้องเป็นสมาชิก Windows Insider และได้รับเชิญเท่านั้นจึงจะใช้งานได้ ⛔ ผู้ใช้ทั่วไปยังไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์นี้ ‼️ ไม่มีการควบคุมผลลัพธ์ของแอนิเมชันในเวอร์ชันทดสอบ ⛔ ผู้ใช้ไม่สามารถกำหนดทิศทางหรือรูปแบบของแอนิเมชันได้ ‼️ ยังไม่มีกำหนดการเปิดตัวฟีเจอร์เหล่านี้อย่างเป็นทางการ ⛔ อาจใช้เวลานานกว่าจะปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไป https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-paint-app-could-soon-create-animations-for-you-with-ai-and-boast-a-nano-banana-style-generative-edit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI เปลี่ยนชีวิตช่างภาพ — ลูกค้าไม่รู้ว่าใช้ AI แก้ภาพ แต่ช่างภาพรู้ว่าได้ชีวิตคืน”

    ในยุคที่ความเร็วกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของงานสร้างสรรค์ รายงาน Aftershoot Photography Workflow Report ปี 2025 เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการถ่ายภาพมืออาชีพทั่วโลก โดยเฉพาะผลกระทบจากการใช้ AI ในการจัดการงานหลังกล้อง ที่ไม่เพียงช่วยลดเวลา แต่ยังเปลี่ยนวิธีคิดของช่างภาพเกี่ยวกับ “ความสร้างสรรค์” และ “ความยั่งยืน” ในอาชีพ

    จากการสำรวจช่างภาพกว่า 1,000 คนทั่วโลก พบว่า 81% ของผู้ที่ใช้ AI ใน workflow รายงานว่าคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการลดเวลาการแก้ภาพและการจัดการหลังงานถ่าย ส่วนที่น่าตกใจคือ 64% ระบุว่าลูกค้า “ไม่รู้เลย” ว่าภาพที่ได้รับผ่านการแก้ด้วย AI และมีเพียง 1% เท่านั้นที่ให้ feedback เชิงลบ

    สิ่งนี้สะท้อนว่า AI ไม่ได้ลดคุณภาพงาน แต่กลับช่วยให้ช่างภาพสามารถส่งงานได้เร็วขึ้น โดย 28% ของผู้ตอบแบบสอบถามสามารถส่งภาพครบชุดภายในหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปี 2024

    นอกจากเรื่องเวลา ช่างภาพยังใช้เวลาที่ได้คืนจาก AI ไปกับการพัฒนาทักษะใหม่ สร้างโปรเจกต์ส่วนตัว หรือแม้แต่ฟื้นฟูสุขภาพจิตและความสัมพันธ์กับลูกค้า โดย 32% ระบุว่าใช้เวลานี้เพื่อขยายธุรกิจหรือเรียนรู้เพิ่มเติม

    แม้จะยังมีข้อถกเถียงเรื่อง “AI กับความสร้างสรรค์” แต่รายงานชี้ว่าช่างภาพที่ประสบความสำเร็จคือผู้ที่ใช้ AI อย่างมีกลยุทธ์ โดยเลือกใช้ในส่วนที่ซ้ำซาก เช่น การคัดภาพหรือแก้แสง แต่ยังคงควบคุมด้านศิลปะด้วยตัวเอง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    รายงาน Aftershoot ปี 2025 สำรวจช่างภาพกว่า 1,000 คนทั่วโลก
    81% ของผู้ใช้ AI รายงานว่าคุณภาพชีวิตดีขึ้น
    64% ระบุว่าลูกค้าไม่รู้ว่าภาพผ่านการแก้ด้วย AI
    มีเพียง 1% ที่ให้ feedback เชิงลบเกี่ยวกับภาพที่ใช้ AI
    28% ส่งภาพครบชุดภายในหนึ่งสัปดาห์ เพิ่มขึ้นจากปี 2024
    32% ใช้เวลาที่ได้คืนจาก AI ไปกับโปรเจกต์สร้างสรรค์หรือพัฒนาธุรกิจ
    ช่างภาพใช้ AI เพื่อจัดการงานหลังกล้อง เช่น คัดภาพและแก้แสง
    AI ช่วยเปลี่ยนแนวคิดจาก “ทำงานหนัก” เป็น “ทำงานอย่างยั่งยืน”

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Aftershoot เป็นแพลตฟอร์ม AI ที่ช่วยคัดภาพและแก้แสงอัตโนมัติ
    Lightroom และ Photoshop ยังเป็นเครื่องมือหลักในการรีทัชภาพ
    AI video editor และ photo editor ช่วยเร่งการผลิตคอนเทนต์ในหลายอุตสาหกรรม
    RAG (Retrieval-Augmented Generation) เป็นเทคนิค AI ที่ใช้ข้อมูลภายนอกช่วยตอบคำถาม
    การใช้ AI ในงานสร้างสรรค์กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมภาพนิ่งและวิดีโอ

    https://www.techradar.com/pro/a-wake-up-call-shocking-ai-survey-finds-that-clients-of-most-photographers-dont-notice-any-difference-in-ai-edited-work-and-thats-making-these-pros-less-stressed
    📸 “AI เปลี่ยนชีวิตช่างภาพ — ลูกค้าไม่รู้ว่าใช้ AI แก้ภาพ แต่ช่างภาพรู้ว่าได้ชีวิตคืน” ในยุคที่ความเร็วกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของงานสร้างสรรค์ รายงาน Aftershoot Photography Workflow Report ปี 2025 เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการถ่ายภาพมืออาชีพทั่วโลก โดยเฉพาะผลกระทบจากการใช้ AI ในการจัดการงานหลังกล้อง ที่ไม่เพียงช่วยลดเวลา แต่ยังเปลี่ยนวิธีคิดของช่างภาพเกี่ยวกับ “ความสร้างสรรค์” และ “ความยั่งยืน” ในอาชีพ จากการสำรวจช่างภาพกว่า 1,000 คนทั่วโลก พบว่า 81% ของผู้ที่ใช้ AI ใน workflow รายงานว่าคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการลดเวลาการแก้ภาพและการจัดการหลังงานถ่าย ส่วนที่น่าตกใจคือ 64% ระบุว่าลูกค้า “ไม่รู้เลย” ว่าภาพที่ได้รับผ่านการแก้ด้วย AI และมีเพียง 1% เท่านั้นที่ให้ feedback เชิงลบ สิ่งนี้สะท้อนว่า AI ไม่ได้ลดคุณภาพงาน แต่กลับช่วยให้ช่างภาพสามารถส่งงานได้เร็วขึ้น โดย 28% ของผู้ตอบแบบสอบถามสามารถส่งภาพครบชุดภายในหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปี 2024 นอกจากเรื่องเวลา ช่างภาพยังใช้เวลาที่ได้คืนจาก AI ไปกับการพัฒนาทักษะใหม่ สร้างโปรเจกต์ส่วนตัว หรือแม้แต่ฟื้นฟูสุขภาพจิตและความสัมพันธ์กับลูกค้า โดย 32% ระบุว่าใช้เวลานี้เพื่อขยายธุรกิจหรือเรียนรู้เพิ่มเติม แม้จะยังมีข้อถกเถียงเรื่อง “AI กับความสร้างสรรค์” แต่รายงานชี้ว่าช่างภาพที่ประสบความสำเร็จคือผู้ที่ใช้ AI อย่างมีกลยุทธ์ โดยเลือกใช้ในส่วนที่ซ้ำซาก เช่น การคัดภาพหรือแก้แสง แต่ยังคงควบคุมด้านศิลปะด้วยตัวเอง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ รายงาน Aftershoot ปี 2025 สำรวจช่างภาพกว่า 1,000 คนทั่วโลก ➡️ 81% ของผู้ใช้ AI รายงานว่าคุณภาพชีวิตดีขึ้น ➡️ 64% ระบุว่าลูกค้าไม่รู้ว่าภาพผ่านการแก้ด้วย AI ➡️ มีเพียง 1% ที่ให้ feedback เชิงลบเกี่ยวกับภาพที่ใช้ AI ➡️ 28% ส่งภาพครบชุดภายในหนึ่งสัปดาห์ เพิ่มขึ้นจากปี 2024 ➡️ 32% ใช้เวลาที่ได้คืนจาก AI ไปกับโปรเจกต์สร้างสรรค์หรือพัฒนาธุรกิจ ➡️ ช่างภาพใช้ AI เพื่อจัดการงานหลังกล้อง เช่น คัดภาพและแก้แสง ➡️ AI ช่วยเปลี่ยนแนวคิดจาก “ทำงานหนัก” เป็น “ทำงานอย่างยั่งยืน” ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Aftershoot เป็นแพลตฟอร์ม AI ที่ช่วยคัดภาพและแก้แสงอัตโนมัติ ➡️ Lightroom และ Photoshop ยังเป็นเครื่องมือหลักในการรีทัชภาพ ➡️ AI video editor และ photo editor ช่วยเร่งการผลิตคอนเทนต์ในหลายอุตสาหกรรม ➡️ RAG (Retrieval-Augmented Generation) เป็นเทคนิค AI ที่ใช้ข้อมูลภายนอกช่วยตอบคำถาม ➡️ การใช้ AI ในงานสร้างสรรค์กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมภาพนิ่งและวิดีโอ https://www.techradar.com/pro/a-wake-up-call-shocking-ai-survey-finds-that-clients-of-most-photographers-dont-notice-any-difference-in-ai-edited-work-and-thats-making-these-pros-less-stressed
    WWW.TECHRADAR.COM
    AI is rewriting photography’s future
    AI-driven consistency is turning speed and reliability into new creative currencies
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Caira กล้อง AI ตัวแรกที่แก้ไขภาพได้ทันที — เปลี่ยนการถ่ายภาพให้เป็นการสร้างสรรค์แบบเรียลไทม์”

    Camera Intelligence เปิดตัว “Caira” กล้อง mirrorless ขนาดกะทัดรัดที่เชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน MagSafe โดยฝังโมเดล AI จาก Google ที่ชื่อว่า “Nano Banana” ซึ่งเป็นเวอร์ชันย่อของ Gemini 2.5 Flash Image Model ลงในตัวกล้องโดยตรง จุดเด่นคือสามารถแก้ไขภาพทันทีหลังถ่าย โดยไม่ต้องเปิดแอปหรือเชื่อมต่อคลาวด์

    Nano Banana เป็นโมเดล AI ที่มีชื่อเสียงจากการสร้างฟิกเกอร์ 3D จากภาพถ่าย และการแก้ไขภาพแบบ one-shot โดยไม่เกิด “hallucination” หรือความผิดพลาดในการตีความภาพ กล้อง Caira ใช้เลนส์แบบ Micro Four Thirds ซึ่งเป็นมาตรฐานของกล้องระดับโปร และมีเซนเซอร์ขนาดใหญ่กว่าสมาร์ตโฟนทั่วไปถึง 400% ทำให้คุณภาพภาพถ่ายสูงขึ้นก่อนจะเข้าสู่กระบวนการแก้ไขด้วย AI

    ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนแสง สี หรือแม้แต่ลบวัตถุในภาพได้ทันที เช่น เปลี่ยนไวน์เป็นน้ำ หรือปรับโทนภาพให้เหมาะกับการใช้งานเชิงพาณิชย์ โดยไม่ต้องใช้ Lightroom หรือ Photoshop อีกต่อไป

    Caira ยังมีอุปกรณ์เสริม เช่น battery grip เพื่อยืดเวลาการถ่าย และระบบ export ภาพโดยตรงจาก iPhone โดยไม่ต้องผ่านคลาวด์ ทำให้เหมาะกับผู้สร้างคอนเทนต์ที่ต้องการความเร็วและความแม่นยำ

    กล้องจะเปิดให้พรีออเดอร์ผ่าน Kickstarter ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ โดยทีมงานยืนยันว่าจะมีระบบ “AI guardrails” เพื่อป้องกันการแก้ไขภาพที่ละเมิดจริยธรรม เช่น การเปลี่ยนสีผิวหรือโครงหน้า

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Caira เป็นกล้อง mirrorless ที่ฝังโมเดล AI Nano Banana จาก Google โดยตรง
    เชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน MagSafe และใช้เลนส์ Micro Four Thirds
    Nano Banana เป็นเวอร์ชันย่อของ Gemini 2.5 Flash Image Model
    สามารถแก้ไขภาพทันทีหลังถ่าย เช่น เปลี่ยนแสง สี หรือลบวัตถุ
    ไม่ต้องเปิดแอปหรือเชื่อมต่อคลาวด์ — ทำงานแบบเรียลไทม์
    เซนเซอร์ใหญ่กว่าสมาร์ตโฟนทั่วไปถึง 400% ให้ภาพคมชัดก่อนแก้ไข
    มีอุปกรณ์เสริม เช่น battery grip และระบบ export ภาพโดยตรง
    เหมาะกับผู้สร้างคอนเทนต์ที่ต้องการความเร็วและคุณภาพ
    เปิดให้พรีออเดอร์ผ่าน Kickstarter วันที่ 30 ตุลาคม
    มีระบบ AI guardrails ป้องกันการแก้ไขภาพที่ละเมิดจริยธรรม

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Micro Four Thirds เป็นระบบเลนส์ที่นิยมในกล้อง mirrorless ระดับโปร
    Nano Banana มีความสามารถในการรักษารายละเอียดของภาพเดิมได้ดี
    Gemini 2.5 Flash Image Model มีระบบ SynthID ฝังลายน้ำดิจิทัลในภาพที่แก้ไข
    การแก้ไขภาพแบบ one-shot ลดเวลาในการทำงานลงอย่างมาก
    การฝัง AI ลงในกล้องโดยตรงเป็นแนวทางใหม่ที่ลดขั้นตอน post-processing

    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/the-nano-banana-camera-has-arrived-to-edit-reality-in-real-time
    📸 “Caira กล้อง AI ตัวแรกที่แก้ไขภาพได้ทันที — เปลี่ยนการถ่ายภาพให้เป็นการสร้างสรรค์แบบเรียลไทม์” Camera Intelligence เปิดตัว “Caira” กล้อง mirrorless ขนาดกะทัดรัดที่เชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน MagSafe โดยฝังโมเดล AI จาก Google ที่ชื่อว่า “Nano Banana” ซึ่งเป็นเวอร์ชันย่อของ Gemini 2.5 Flash Image Model ลงในตัวกล้องโดยตรง จุดเด่นคือสามารถแก้ไขภาพทันทีหลังถ่าย โดยไม่ต้องเปิดแอปหรือเชื่อมต่อคลาวด์ Nano Banana เป็นโมเดล AI ที่มีชื่อเสียงจากการสร้างฟิกเกอร์ 3D จากภาพถ่าย และการแก้ไขภาพแบบ one-shot โดยไม่เกิด “hallucination” หรือความผิดพลาดในการตีความภาพ กล้อง Caira ใช้เลนส์แบบ Micro Four Thirds ซึ่งเป็นมาตรฐานของกล้องระดับโปร และมีเซนเซอร์ขนาดใหญ่กว่าสมาร์ตโฟนทั่วไปถึง 400% ทำให้คุณภาพภาพถ่ายสูงขึ้นก่อนจะเข้าสู่กระบวนการแก้ไขด้วย AI ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนแสง สี หรือแม้แต่ลบวัตถุในภาพได้ทันที เช่น เปลี่ยนไวน์เป็นน้ำ หรือปรับโทนภาพให้เหมาะกับการใช้งานเชิงพาณิชย์ โดยไม่ต้องใช้ Lightroom หรือ Photoshop อีกต่อไป Caira ยังมีอุปกรณ์เสริม เช่น battery grip เพื่อยืดเวลาการถ่าย และระบบ export ภาพโดยตรงจาก iPhone โดยไม่ต้องผ่านคลาวด์ ทำให้เหมาะกับผู้สร้างคอนเทนต์ที่ต้องการความเร็วและความแม่นยำ กล้องจะเปิดให้พรีออเดอร์ผ่าน Kickstarter ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ โดยทีมงานยืนยันว่าจะมีระบบ “AI guardrails” เพื่อป้องกันการแก้ไขภาพที่ละเมิดจริยธรรม เช่น การเปลี่ยนสีผิวหรือโครงหน้า ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Caira เป็นกล้อง mirrorless ที่ฝังโมเดล AI Nano Banana จาก Google โดยตรง ➡️ เชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน MagSafe และใช้เลนส์ Micro Four Thirds ➡️ Nano Banana เป็นเวอร์ชันย่อของ Gemini 2.5 Flash Image Model ➡️ สามารถแก้ไขภาพทันทีหลังถ่าย เช่น เปลี่ยนแสง สี หรือลบวัตถุ ➡️ ไม่ต้องเปิดแอปหรือเชื่อมต่อคลาวด์ — ทำงานแบบเรียลไทม์ ➡️ เซนเซอร์ใหญ่กว่าสมาร์ตโฟนทั่วไปถึง 400% ให้ภาพคมชัดก่อนแก้ไข ➡️ มีอุปกรณ์เสริม เช่น battery grip และระบบ export ภาพโดยตรง ➡️ เหมาะกับผู้สร้างคอนเทนต์ที่ต้องการความเร็วและคุณภาพ ➡️ เปิดให้พรีออเดอร์ผ่าน Kickstarter วันที่ 30 ตุลาคม ➡️ มีระบบ AI guardrails ป้องกันการแก้ไขภาพที่ละเมิดจริยธรรม ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Micro Four Thirds เป็นระบบเลนส์ที่นิยมในกล้อง mirrorless ระดับโปร ➡️ Nano Banana มีความสามารถในการรักษารายละเอียดของภาพเดิมได้ดี ➡️ Gemini 2.5 Flash Image Model มีระบบ SynthID ฝังลายน้ำดิจิทัลในภาพที่แก้ไข ➡️ การแก้ไขภาพแบบ one-shot ลดเวลาในการทำงานลงอย่างมาก ➡️ การฝัง AI ลงในกล้องโดยตรงเป็นแนวทางใหม่ที่ลดขั้นตอน post-processing https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/the-nano-banana-camera-has-arrived-to-edit-reality-in-real-time
    WWW.TECHRADAR.COM
    The world’s first Nano Banana camera is here — Caira uses the AI model to edit your photos while you’re still taking them.
    Google’s new AI image model jumps from the cloud to your lens with Camera Intelligence’s new Caira device
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Photos App เวอร์ชันใหม่จาก Microsoft ใช้ AI จัดระเบียบภาพและเพิ่มความคมชัด — แต่ต้องใช้ Copilot+ PC เท่านั้น”

    Microsoft เปิดตัวอัปเดตใหม่ของแอป Photos บน Windows 11 ที่มาพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะจาก AI ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดระเบียบภาพถ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพิ่มความคมชัดให้กับภาพเก่าหรือภาพที่มีความละเอียดต่ำ โดยทั้งหมดนี้ทำงานแบบ local บนเครื่อง ไม่ต้องเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ภายนอก

    ฟีเจอร์เด่นคือระบบ “Auto-Categorization” ที่ใช้ Neural Processing Unit (NPU) บน Copilot+ PC เพื่อสแกนภาพในเครื่องและจัดหมวดหมู่อัตโนมัติ เช่น ภาพใบเสร็จ, ภาพหน้าจอ, เอกสาร, และโน้ตที่เขียนด้วยลายมือ โดยระบบสามารถจำแนกภาพได้แม้จะเป็นภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาฮังการีหรืออาหรับ

    นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ “Super Resolution” ที่ช่วยเพิ่มความละเอียดของภาพโดยใช้ AI วิเคราะห์และเติมรายละเอียดที่ขาดหายไป เช่น เปลี่ยนภาพขนาด 256x256 พิกเซลให้กลายเป็นภาพ 1012x1012 พิกเซล พร้อมแสดงภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะใช้หรือยกเลิก

    การค้นหาภาพก็ง่ายขึ้นด้วยระบบ keyword search ที่สามารถกรองภาพตามประเภทหรือเนื้อหาได้ทันที เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาพจำนวนมากและต้องการค้นหาภาพเฉพาะอย่างรวดเร็ว

    อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ทั้งหมดนี้จะใช้ได้เฉพาะบน Copilot+ PC ที่มีชิปจาก Intel, AMD หรือ Qualcomm ที่รองรับ NPU เท่านั้น ซึ่งทำให้ผู้ใช้ทั่วไปที่ยังไม่ได้อัปเกรดเครื่องอาจไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ได้

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Microsoft Photos อัปเดตใหม่ใช้ AI จัดระเบียบภาพและเพิ่มความคมชัด
    ฟีเจอร์ Auto-Categorization จัดภาพเป็นหมวดหมู่ เช่น ใบเสร็จ, เอกสาร, โน้ต
    ระบบสามารถจำแนกภาพจากภาษาต่างประเทศได้
    ฟีเจอร์ Super Resolution เพิ่มความละเอียดภาพโดยใช้ AI แบบ local
    ผู้ใช้สามารถเลือกระดับการเพิ่มความละเอียด เช่น 1x, 2x, 4x, 8x
    มีระบบ keyword search เพื่อค้นหาภาพตามเนื้อหา
    การทำงานทั้งหมดเกิดขึ้นบนเครื่อง ไม่ต้องเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์
    รองรับเฉพาะ Copilot+ PC ที่มี NPU จาก Intel, AMD หรือ Qualcomm

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    NPU คือหน่วยประมวลผลเฉพาะสำหรับงาน AI ที่ช่วยให้ทำงานเร็วและประหยัดพลังงาน
    การจัดหมวดหมู่ภาพด้วย AI ช่วยลดเวลาในการค้นหาและจัดการไฟล์
    Super Resolution เป็นเทคนิคที่ใช้ในงานภาพถ่ายระดับมืออาชีพ เช่น การพิมพ์ภาพขนาดใหญ่
    การประมวลผลแบบ local ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว
    Copilot+ PC เป็นกลุ่มอุปกรณ์ใหม่ที่ Microsoft ผลักดันให้รองรับฟีเจอร์ AI เต็มรูปแบบ

    https://www.techradar.com/pro/microsofts-new-photos-app-update-is-so-good-that-it-could-well-become-my-favorite-photo-organizing-tool-but-you-will-need-a-copilot-pc-to-experience-it
    🖼️ “Photos App เวอร์ชันใหม่จาก Microsoft ใช้ AI จัดระเบียบภาพและเพิ่มความคมชัด — แต่ต้องใช้ Copilot+ PC เท่านั้น” Microsoft เปิดตัวอัปเดตใหม่ของแอป Photos บน Windows 11 ที่มาพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะจาก AI ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดระเบียบภาพถ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพิ่มความคมชัดให้กับภาพเก่าหรือภาพที่มีความละเอียดต่ำ โดยทั้งหมดนี้ทำงานแบบ local บนเครื่อง ไม่ต้องเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ฟีเจอร์เด่นคือระบบ “Auto-Categorization” ที่ใช้ Neural Processing Unit (NPU) บน Copilot+ PC เพื่อสแกนภาพในเครื่องและจัดหมวดหมู่อัตโนมัติ เช่น ภาพใบเสร็จ, ภาพหน้าจอ, เอกสาร, และโน้ตที่เขียนด้วยลายมือ โดยระบบสามารถจำแนกภาพได้แม้จะเป็นภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาฮังการีหรืออาหรับ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ “Super Resolution” ที่ช่วยเพิ่มความละเอียดของภาพโดยใช้ AI วิเคราะห์และเติมรายละเอียดที่ขาดหายไป เช่น เปลี่ยนภาพขนาด 256x256 พิกเซลให้กลายเป็นภาพ 1012x1012 พิกเซล พร้อมแสดงภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะใช้หรือยกเลิก การค้นหาภาพก็ง่ายขึ้นด้วยระบบ keyword search ที่สามารถกรองภาพตามประเภทหรือเนื้อหาได้ทันที เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาพจำนวนมากและต้องการค้นหาภาพเฉพาะอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ทั้งหมดนี้จะใช้ได้เฉพาะบน Copilot+ PC ที่มีชิปจาก Intel, AMD หรือ Qualcomm ที่รองรับ NPU เท่านั้น ซึ่งทำให้ผู้ใช้ทั่วไปที่ยังไม่ได้อัปเกรดเครื่องอาจไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ได้ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Microsoft Photos อัปเดตใหม่ใช้ AI จัดระเบียบภาพและเพิ่มความคมชัด ➡️ ฟีเจอร์ Auto-Categorization จัดภาพเป็นหมวดหมู่ เช่น ใบเสร็จ, เอกสาร, โน้ต ➡️ ระบบสามารถจำแนกภาพจากภาษาต่างประเทศได้ ➡️ ฟีเจอร์ Super Resolution เพิ่มความละเอียดภาพโดยใช้ AI แบบ local ➡️ ผู้ใช้สามารถเลือกระดับการเพิ่มความละเอียด เช่น 1x, 2x, 4x, 8x ➡️ มีระบบ keyword search เพื่อค้นหาภาพตามเนื้อหา ➡️ การทำงานทั้งหมดเกิดขึ้นบนเครื่อง ไม่ต้องเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ ➡️ รองรับเฉพาะ Copilot+ PC ที่มี NPU จาก Intel, AMD หรือ Qualcomm ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ NPU คือหน่วยประมวลผลเฉพาะสำหรับงาน AI ที่ช่วยให้ทำงานเร็วและประหยัดพลังงาน ➡️ การจัดหมวดหมู่ภาพด้วย AI ช่วยลดเวลาในการค้นหาและจัดการไฟล์ ➡️ Super Resolution เป็นเทคนิคที่ใช้ในงานภาพถ่ายระดับมืออาชีพ เช่น การพิมพ์ภาพขนาดใหญ่ ➡️ การประมวลผลแบบ local ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว ➡️ Copilot+ PC เป็นกลุ่มอุปกรณ์ใหม่ที่ Microsoft ผลักดันให้รองรับฟีเจอร์ AI เต็มรูปแบบ https://www.techradar.com/pro/microsofts-new-photos-app-update-is-so-good-that-it-could-well-become-my-favorite-photo-organizing-tool-but-you-will-need-a-copilot-pc-to-experience-it
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • “GIMP 3.0.6 มาแล้ว! รองรับแปรง Photoshop ดีขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่เพียบสำหรับสายกราฟิก”

    GIMP 3.0.6 เวอร์ชันล่าสุดของโปรแกรมแต่งภาพโอเพ่นซอร์สชื่อดัง ได้เปิดให้ดาวน์โหลดแล้วในเดือนตุลาคม 2025 โดยมาพร้อมการปรับปรุงครั้งสำคัญ ทั้งในด้านการรองรับแปรง Photoshop (.ABR), การจัดการพาเลตสี, การส่งออก SVG และการใช้งานฟิลเตอร์แบบไม่ทำลายภาพ (non-destructive filters)

    หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่นคือการเพิ่ม toggle ในหน้าต่าง Brushes และ Fonts เพื่อให้พรีวิวของแปรงและฟอนต์สามารถปรับตามธีมสีของโปรแกรมได้ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการนำเข้าพาเลตสี เช่น รองรับค่า alpha, การนำเข้า ACB palettes แบบ CMYK และ Lab ได้ดีขึ้น รวมถึงการกรองรูปแบบไฟล์พาเลตในหน้าต่างนำเข้า

    GIMP 3.0.6 ยังปรับปรุงการใช้งานฟิลเตอร์ให้มีความไวต่อบริบทมากขึ้น เช่น ปิดการใช้งานฟิลเตอร์ที่ไม่สามารถใช้แบบ non-destructive ได้โดยอัตโนมัติ และเพิ่มความสามารถในการใช้ฟิลเตอร์กับช่องสีแบบไม่ทำลายภาพ

    ด้านการใช้งานทั่วไปก็มีการปรับปรุงหลายจุด เช่น การซูมใน grid และ list view ด้วย scroll หรือ gesture, การแสดง undo สำหรับการล็อกเนื้อหา, การปรับขนาดภาพให้ตรงกับเลเยอร์โดยไม่สนใจ selection, และการแก้ไขการสร้าง layer mask ให้มีความทึบเต็มเมื่อไม่มี alpha

    เครื่องมือ Text ก็ได้รับการปรับปรุงให้เปลี่ยนสีเฉพาะเมื่อผู้ใช้ยืนยันเท่านั้น ส่วนเครื่องมือ Transform ก็สามารถ preview แบบ multi-layer ได้แล้ว และเครื่องมือ Foreground Selection จะไม่สร้าง selection หากไม่มีการวาด stroke

    ปลั๊กอินต่าง ๆ ก็ได้รับการอัปเดต เช่น Print plug-in ที่มีหน้าต่างปรับแต่งใหม่สำหรับ Flatpak/Snap, Jigsaw plug-in ที่สามารถวาดบนเลเยอร์โปร่งใสได้, และ Sphere Designer ที่เปลี่ยนมาใช้ spin scale

    รองรับการนำเข้าไฟล์ภาพหลากหลายมากขึ้น เช่น JPEG 2000, TIFF, DDS, SVG, PSP, ICNS, DICOM, WBMP, Farbfeld, XWD และ ILBM รวมถึงการส่งออกไฟล์ FITS และ C Source/HTML แบบ non-interactive

    ในส่วนของ GUI มีการปรับปรุงการซูมพรีวิวข้อมูล, การตั้งชื่อที่สอดคล้องกันมากขึ้น, การจัดการหน้าต่าง และการปรับ CSS เพื่อให้สไตล์อินเทอร์เฟซดูดีขึ้น

    GIMP 3.0.6 พร้อมให้ดาวน์โหลดในรูปแบบ AppImage, Flatpak และ source tarball สำหรับผู้ที่ต้องการคอมไพล์เอง โดย AppImage เวอร์ชันนี้สร้างบน Debian 13 “Trixie” และ Flatpak มีการปรับปรุงระบบแคชด้วย ORAS รวมถึงมี nightly build สำหรับ AArch64 แล้ว

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    GIMP 3.0.6 เปิดให้ดาวน์โหลดแล้วในเดือนตุลาคม 2025
    รองรับแปรง Photoshop (.ABR) ได้ดีขึ้น
    เพิ่ม toggle ให้พรีวิวแปรงและฟอนต์ปรับตามธีมสี
    ปรับปรุงการนำเข้าพาเลตสี เช่น รองรับ alpha และ ACB palettes แบบ CMYK/Lab
    ฟิลเตอร์สามารถใช้แบบ non-destructive กับช่องสีได้
    ปิดการใช้งานฟิลเตอร์ที่ไม่รองรับแบบ non-destructive โดยอัตโนมัติ
    ปรับปรุงการซูมใน grid/list view ด้วย scroll และ gesture
    เครื่องมือ Text และ Transform ได้รับการปรับปรุงให้ใช้งานแม่นยำขึ้น
    ปลั๊กอิน Print, Jigsaw, Sphere Designer ได้รับการอัปเดต
    รองรับการนำเข้าไฟล์ภาพหลากหลาย เช่น JPEG 2000, TIFF, SVG, ICNS
    ส่งออกไฟล์ FITS และ HTML/C Source แบบ non-interactive ได้
    GUI ปรับปรุงการซูมพรีวิว, การตั้งชื่อ, การจัดการหน้าต่าง และ CSS
    AppImage สร้างบน Debian 13 “Trixie” และ Flatpak ปรับปรุงระบบแคชด้วย ORAS
    มี nightly build สำหรับ AArch64 พร้อมให้ใช้งาน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    GIMP เป็นโปรแกรมแต่งภาพโอเพ่นซอร์สที่ใช้แทน Photoshop ได้ในหลายกรณี
    PhotoGIMP เป็นแพตช์ที่ปรับ GIMP ให้มีอินเทอร์เฟซคล้าย Photoshop มากขึ้น
    Flatpak เป็นระบบติดตั้งแอปแบบ sandbox ที่นิยมใน Linux
    AppImage เป็นไฟล์รันตรงที่ไม่ต้องติดตั้ง เหมาะกับผู้ใช้ Linux ทุก distro
    GIMP 3.0 ใช้ GTK3 และรองรับ Wayland, HiDPI, และ multi-layer selection

    https://9to5linux.com/gimp-3-0-6-is-now-available-for-download-with-improved-photoshop-brush-support
    🖌️ “GIMP 3.0.6 มาแล้ว! รองรับแปรง Photoshop ดีขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่เพียบสำหรับสายกราฟิก” GIMP 3.0.6 เวอร์ชันล่าสุดของโปรแกรมแต่งภาพโอเพ่นซอร์สชื่อดัง ได้เปิดให้ดาวน์โหลดแล้วในเดือนตุลาคม 2025 โดยมาพร้อมการปรับปรุงครั้งสำคัญ ทั้งในด้านการรองรับแปรง Photoshop (.ABR), การจัดการพาเลตสี, การส่งออก SVG และการใช้งานฟิลเตอร์แบบไม่ทำลายภาพ (non-destructive filters) หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่นคือการเพิ่ม toggle ในหน้าต่าง Brushes และ Fonts เพื่อให้พรีวิวของแปรงและฟอนต์สามารถปรับตามธีมสีของโปรแกรมได้ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการนำเข้าพาเลตสี เช่น รองรับค่า alpha, การนำเข้า ACB palettes แบบ CMYK และ Lab ได้ดีขึ้น รวมถึงการกรองรูปแบบไฟล์พาเลตในหน้าต่างนำเข้า GIMP 3.0.6 ยังปรับปรุงการใช้งานฟิลเตอร์ให้มีความไวต่อบริบทมากขึ้น เช่น ปิดการใช้งานฟิลเตอร์ที่ไม่สามารถใช้แบบ non-destructive ได้โดยอัตโนมัติ และเพิ่มความสามารถในการใช้ฟิลเตอร์กับช่องสีแบบไม่ทำลายภาพ ด้านการใช้งานทั่วไปก็มีการปรับปรุงหลายจุด เช่น การซูมใน grid และ list view ด้วย scroll หรือ gesture, การแสดง undo สำหรับการล็อกเนื้อหา, การปรับขนาดภาพให้ตรงกับเลเยอร์โดยไม่สนใจ selection, และการแก้ไขการสร้าง layer mask ให้มีความทึบเต็มเมื่อไม่มี alpha เครื่องมือ Text ก็ได้รับการปรับปรุงให้เปลี่ยนสีเฉพาะเมื่อผู้ใช้ยืนยันเท่านั้น ส่วนเครื่องมือ Transform ก็สามารถ preview แบบ multi-layer ได้แล้ว และเครื่องมือ Foreground Selection จะไม่สร้าง selection หากไม่มีการวาด stroke ปลั๊กอินต่าง ๆ ก็ได้รับการอัปเดต เช่น Print plug-in ที่มีหน้าต่างปรับแต่งใหม่สำหรับ Flatpak/Snap, Jigsaw plug-in ที่สามารถวาดบนเลเยอร์โปร่งใสได้, และ Sphere Designer ที่เปลี่ยนมาใช้ spin scale รองรับการนำเข้าไฟล์ภาพหลากหลายมากขึ้น เช่น JPEG 2000, TIFF, DDS, SVG, PSP, ICNS, DICOM, WBMP, Farbfeld, XWD และ ILBM รวมถึงการส่งออกไฟล์ FITS และ C Source/HTML แบบ non-interactive ในส่วนของ GUI มีการปรับปรุงการซูมพรีวิวข้อมูล, การตั้งชื่อที่สอดคล้องกันมากขึ้น, การจัดการหน้าต่าง และการปรับ CSS เพื่อให้สไตล์อินเทอร์เฟซดูดีขึ้น GIMP 3.0.6 พร้อมให้ดาวน์โหลดในรูปแบบ AppImage, Flatpak และ source tarball สำหรับผู้ที่ต้องการคอมไพล์เอง โดย AppImage เวอร์ชันนี้สร้างบน Debian 13 “Trixie” และ Flatpak มีการปรับปรุงระบบแคชด้วย ORAS รวมถึงมี nightly build สำหรับ AArch64 แล้ว ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ GIMP 3.0.6 เปิดให้ดาวน์โหลดแล้วในเดือนตุลาคม 2025 ➡️ รองรับแปรง Photoshop (.ABR) ได้ดีขึ้น ➡️ เพิ่ม toggle ให้พรีวิวแปรงและฟอนต์ปรับตามธีมสี ➡️ ปรับปรุงการนำเข้าพาเลตสี เช่น รองรับ alpha และ ACB palettes แบบ CMYK/Lab ➡️ ฟิลเตอร์สามารถใช้แบบ non-destructive กับช่องสีได้ ➡️ ปิดการใช้งานฟิลเตอร์ที่ไม่รองรับแบบ non-destructive โดยอัตโนมัติ ➡️ ปรับปรุงการซูมใน grid/list view ด้วย scroll และ gesture ➡️ เครื่องมือ Text และ Transform ได้รับการปรับปรุงให้ใช้งานแม่นยำขึ้น ➡️ ปลั๊กอิน Print, Jigsaw, Sphere Designer ได้รับการอัปเดต ➡️ รองรับการนำเข้าไฟล์ภาพหลากหลาย เช่น JPEG 2000, TIFF, SVG, ICNS ➡️ ส่งออกไฟล์ FITS และ HTML/C Source แบบ non-interactive ได้ ➡️ GUI ปรับปรุงการซูมพรีวิว, การตั้งชื่อ, การจัดการหน้าต่าง และ CSS ➡️ AppImage สร้างบน Debian 13 “Trixie” และ Flatpak ปรับปรุงระบบแคชด้วย ORAS ➡️ มี nightly build สำหรับ AArch64 พร้อมให้ใช้งาน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ GIMP เป็นโปรแกรมแต่งภาพโอเพ่นซอร์สที่ใช้แทน Photoshop ได้ในหลายกรณี ➡️ PhotoGIMP เป็นแพตช์ที่ปรับ GIMP ให้มีอินเทอร์เฟซคล้าย Photoshop มากขึ้น ➡️ Flatpak เป็นระบบติดตั้งแอปแบบ sandbox ที่นิยมใน Linux ➡️ AppImage เป็นไฟล์รันตรงที่ไม่ต้องติดตั้ง เหมาะกับผู้ใช้ Linux ทุก distro ➡️ GIMP 3.0 ใช้ GTK3 และรองรับ Wayland, HiDPI, และ multi-layer selection https://9to5linux.com/gimp-3-0-6-is-now-available-for-download-with-improved-photoshop-brush-support
    9TO5LINUX.COM
    GIMP 3.0.6 Is Now Available for Download with Improved Photoshop Brush Support - 9to5Linux
    GIMP 3.0.6 open-source image editor is now available for download with improved Photoshop brush support and many other changes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • “OnePlus 15 หลุดสเปกเต็มก่อนเปิดตัว — จอ 165Hz, ชิป Snapdragon Gen 5 และแบต 7,300mAh ที่อึดที่สุดในตลาด”

    ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมนี้ OnePlus 15 ได้มีข้อมูลสเปกและภาพหลุดออกมาอย่างละเอียดจากหลายแหล่งข่าว โดยชี้ว่าเรือธงรุ่นนี้จะเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่จาก OnePlus 13 ทั้งในด้านหน้าจอ ประสิทธิภาพ และความจุแบตเตอรี่

    OnePlus 15 จะมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รองรับ Dolby Vision และ Pro XDR พร้อมรีเฟรชเรตแบบไดนามิกตั้งแต่ 1Hz ถึง 165Hz และความสว่างสูงสุดถึง 1,800 nits ซึ่งถือว่าเหนือกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน

    ขุมพลังภายในใช้ Snapdragon 8 Elite Gen 5 พร้อม RAM LPDDR5X และหน่วยความจำ UFS 4.1 โดยมีหลายรุ่นให้เลือกตั้งแต่ 12GB/256GB ไปจนถึง 16GB/1TB รองรับการใช้งานหนักแบบไม่มีสะดุด

    จุดเด่นอีกอย่างคือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 7,300mAh พร้อมระบบชาร์จไว 120W แบบสาย และ 50W แบบไร้สาย ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในแบตที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มสมาร์ตโฟนเรือธง ณ ตอนนี้

    ด้านกล้องหลังยังคงใช้เซนเซอร์ 50MP ทั้งสามตัว โดยกล้องหลักใช้ Sony LYT-700 พร้อม OIS ส่วนกล้อง Ultra-wide และ Telephoto ใช้เซนเซอร์ Samsung ISOCELL JN5 รองรับการซูมแบบออปติคอล 3.5x

    นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เสริมที่น่าสนใจ เช่น ระบบสแกนนิ้วแบบอัลตราโซนิก, ระบบระบายความร้อนรุ่นใหม่, ลำโพงคู่, NFC, IR Blaster และพอร์ต USB-C 3.1 Gen1 พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP69

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รีเฟรชเรต 1–165Hz
    รองรับ Dolby Vision, Pro XDR และความสว่างสูงสุด 1,800 nits
    ใช้ชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5 พร้อม RAM LPDDR5X และ UFS 4.1
    มีหลายรุ่นให้เลือก: 12GB/256GB ถึง 16GB/1TB
    แบตเตอรี่ขนาด 7,300mAh รองรับชาร์จไว 120W และไร้สาย 50W
    กล้องหลัง 3 ตัว: 50MP Sony LYT-700 + 50MP Ultra-wide + 50MP Telephoto
    รองรับการซูมออปติคอล 3.5x พร้อมระบบกันสั่น OIS
    มีระบบสแกนนิ้วอัลตราโซนิก, ระบบระบายความร้อนใหม่, ลำโพงคู่
    รองรับ NFC, IR Blaster และ USB-C 3.1 Gen1
    กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP69

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    OnePlus 15 จะเปิดตัวทั่วโลกในเดือนตุลาคม 2025
    หน้าจอใช้เทคโนโลยี LTPO 8T ที่ช่วยประหยัดพลังงาน
    ระบบ Wind Chi Kernel 2.0 ช่วยเพิ่มความเสถียรในการใช้งานหนัก
    OnePlus ยุติความร่วมมือกับ Hasselblad และใช้ระบบประมวลผลภาพของตนเอง
    สีที่มีให้เลือก ได้แก่ Sand Storm, Purple, Titanium และ Black

    https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/more-oneplus-15-specs-and-photos-have-leaked-ahead-of-the-flagship-phones-official-launch
    📱 “OnePlus 15 หลุดสเปกเต็มก่อนเปิดตัว — จอ 165Hz, ชิป Snapdragon Gen 5 และแบต 7,300mAh ที่อึดที่สุดในตลาด” ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมนี้ OnePlus 15 ได้มีข้อมูลสเปกและภาพหลุดออกมาอย่างละเอียดจากหลายแหล่งข่าว โดยชี้ว่าเรือธงรุ่นนี้จะเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่จาก OnePlus 13 ทั้งในด้านหน้าจอ ประสิทธิภาพ และความจุแบตเตอรี่ OnePlus 15 จะมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รองรับ Dolby Vision และ Pro XDR พร้อมรีเฟรชเรตแบบไดนามิกตั้งแต่ 1Hz ถึง 165Hz และความสว่างสูงสุดถึง 1,800 nits ซึ่งถือว่าเหนือกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน ขุมพลังภายในใช้ Snapdragon 8 Elite Gen 5 พร้อม RAM LPDDR5X และหน่วยความจำ UFS 4.1 โดยมีหลายรุ่นให้เลือกตั้งแต่ 12GB/256GB ไปจนถึง 16GB/1TB รองรับการใช้งานหนักแบบไม่มีสะดุด จุดเด่นอีกอย่างคือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 7,300mAh พร้อมระบบชาร์จไว 120W แบบสาย และ 50W แบบไร้สาย ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในแบตที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มสมาร์ตโฟนเรือธง ณ ตอนนี้ ด้านกล้องหลังยังคงใช้เซนเซอร์ 50MP ทั้งสามตัว โดยกล้องหลักใช้ Sony LYT-700 พร้อม OIS ส่วนกล้อง Ultra-wide และ Telephoto ใช้เซนเซอร์ Samsung ISOCELL JN5 รองรับการซูมแบบออปติคอล 3.5x นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เสริมที่น่าสนใจ เช่น ระบบสแกนนิ้วแบบอัลตราโซนิก, ระบบระบายความร้อนรุ่นใหม่, ลำโพงคู่, NFC, IR Blaster และพอร์ต USB-C 3.1 Gen1 พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP69 ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รีเฟรชเรต 1–165Hz ➡️ รองรับ Dolby Vision, Pro XDR และความสว่างสูงสุด 1,800 nits ➡️ ใช้ชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5 พร้อม RAM LPDDR5X และ UFS 4.1 ➡️ มีหลายรุ่นให้เลือก: 12GB/256GB ถึง 16GB/1TB ➡️ แบตเตอรี่ขนาด 7,300mAh รองรับชาร์จไว 120W และไร้สาย 50W ➡️ กล้องหลัง 3 ตัว: 50MP Sony LYT-700 + 50MP Ultra-wide + 50MP Telephoto ➡️ รองรับการซูมออปติคอล 3.5x พร้อมระบบกันสั่น OIS ➡️ มีระบบสแกนนิ้วอัลตราโซนิก, ระบบระบายความร้อนใหม่, ลำโพงคู่ ➡️ รองรับ NFC, IR Blaster และ USB-C 3.1 Gen1 ➡️ กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP69 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ OnePlus 15 จะเปิดตัวทั่วโลกในเดือนตุลาคม 2025 ➡️ หน้าจอใช้เทคโนโลยี LTPO 8T ที่ช่วยประหยัดพลังงาน ➡️ ระบบ Wind Chi Kernel 2.0 ช่วยเพิ่มความเสถียรในการใช้งานหนัก ➡️ OnePlus ยุติความร่วมมือกับ Hasselblad และใช้ระบบประมวลผลภาพของตนเอง ➡️ สีที่มีให้เลือก ได้แก่ Sand Storm, Purple, Titanium และ Black https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/more-oneplus-15-specs-and-photos-have-leaked-ahead-of-the-flagship-phones-official-launch
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • “หลุดแอป OneDrive ใหม่บน Windows 11 — สวยขึ้น ฉลาดขึ้น แต่ผู้ใช้บางส่วนตั้งคำถามว่า ‘จำเป็นแค่ไหน?’”

    Microsoft กำลังพัฒนาแอป OneDrive ใหม่สำหรับ Windows 11 ซึ่งหลุดออกมาจากเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทเอง โดยแอปนี้มีดีไซน์ใหม่ที่ดูสะอาดตา ทันสมัย และเน้นการใช้งานด้านภาพถ่ายเป็นหลัก เริ่มต้นด้วยหน้าจอแสดงภาพถ่ายแบบ “Moments” ที่รวมภาพจากอดีตในวันเดียวกัน พร้อมฟีเจอร์ Gallery, Albums และ People ที่ช่วยจัดการภาพได้ง่ายขึ้น

    แม้จะเป็นแอปแบบ web-based แต่รายงานจาก Windows Central ระบุว่าแอปนี้ทำงานลื่นไหล ไม่เหมือน Outlook เวอร์ชันใหม่ที่เป็นเว็บแอปแต่มีปัญหาด้านประสิทธิภาพ

    สิ่งที่น่าสนใจคือแอปนี้มีฟีเจอร์ใหม่ที่ยังไม่ปรากฏใน OneDrive เวอร์ชันเว็บ เช่น แถบเมนูลอยที่ปรากฏเมื่อเลือกภาพ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้แชร์ภาพ เพิ่มลงอัลบั้ม หรือจัดการได้ทันที โดยไม่ต้องเลื่อนกลับไปยังเมนูหลัก

    อย่างไรก็ตาม หลายคนตั้งคำถามว่าแอปนี้มีความจำเป็นแค่ไหน เพราะปัจจุบันผู้ใช้สามารถเข้าถึง OneDrive ผ่าน File Explorer หรือแอป Photos ได้อยู่แล้ว แม้จะไม่สวยงามเท่า แต่ก็ใช้งานได้ครบถ้วน

    คาดว่า Microsoft จะเปิดตัวแอปนี้อย่างเป็นทางการในงาน OneDrive Digital Event วันที่ 8 ตุลาคม ซึ่งมีการพูดถึง “ความก้าวหน้าด้าน AI” ของ OneDrive อย่างชัดเจน อาจหมายถึงการฝังฟีเจอร์ Copilot เพื่อช่วยสรุปเอกสารหรือจัดการไฟล์ด้วย AI โดยไม่ต้องเปิดไฟล์เลย

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Microsoft กำลังพัฒนาแอป OneDrive ใหม่สำหรับ Windows 11 โดยหลุดจากเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท
    แอปมีดีไซน์ใหม่ที่เน้นภาพถ่าย เช่น Moments, Gallery, Albums และ People
    มีแถบเมนูลอยใหม่ที่ช่วยจัดการภาพได้ทันทีเมื่อเลือก
    แอปเป็นแบบ web-based แต่ทำงานลื่นไหล ไม่เหมือน Outlook ใหม่ที่มีปัญหา
    Gallery view ใหม่มีตัวเลือก layout เช่น River, Waterfall และ Square
    คาดว่าจะเปิดตัวในงาน OneDrive Digital Event วันที่ 8 ตุลาคม
    มีการพูดถึงการฝังฟีเจอร์ AI เช่น Copilot เพื่อช่วยจัดการไฟล์และเอกสาร
    แอปนี้อาจมาในรูปแบบอัปเดตซอฟต์แวร์สำหรับผู้ใช้ Windows 11 ปัจจุบัน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Copilot เป็น AI ผู้ช่วยของ Microsoft ที่สามารถสรุปเอกสาร ตอบคำถาม และจัดการไฟล์ได้
    OneDrive ปัจจุบันสามารถเข้าถึงผ่าน File Explorer, Photos และเว็บไซต์
    Moments เป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่ในแอปมือถือของ OneDrive ซึ่งแสดงภาพจากอดีตในวันเดียวกัน
    การรวมภาพและไฟล์ไว้ในแอปเดียวช่วยลดการสลับแอปและเพิ่ม productivity
    การใช้ web app ช่วยให้ Microsoft อัปเดตฟีเจอร์ได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งระบบปฏิบัติการ

    https://www.techradar.com/computing/windows/will-microsoft-never-learn-leaked-onedrive-app-sparks-fears-of-more-pointless-bloat-in-windows-11
    🗂️ “หลุดแอป OneDrive ใหม่บน Windows 11 — สวยขึ้น ฉลาดขึ้น แต่ผู้ใช้บางส่วนตั้งคำถามว่า ‘จำเป็นแค่ไหน?’” Microsoft กำลังพัฒนาแอป OneDrive ใหม่สำหรับ Windows 11 ซึ่งหลุดออกมาจากเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทเอง โดยแอปนี้มีดีไซน์ใหม่ที่ดูสะอาดตา ทันสมัย และเน้นการใช้งานด้านภาพถ่ายเป็นหลัก เริ่มต้นด้วยหน้าจอแสดงภาพถ่ายแบบ “Moments” ที่รวมภาพจากอดีตในวันเดียวกัน พร้อมฟีเจอร์ Gallery, Albums และ People ที่ช่วยจัดการภาพได้ง่ายขึ้น แม้จะเป็นแอปแบบ web-based แต่รายงานจาก Windows Central ระบุว่าแอปนี้ทำงานลื่นไหล ไม่เหมือน Outlook เวอร์ชันใหม่ที่เป็นเว็บแอปแต่มีปัญหาด้านประสิทธิภาพ สิ่งที่น่าสนใจคือแอปนี้มีฟีเจอร์ใหม่ที่ยังไม่ปรากฏใน OneDrive เวอร์ชันเว็บ เช่น แถบเมนูลอยที่ปรากฏเมื่อเลือกภาพ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้แชร์ภาพ เพิ่มลงอัลบั้ม หรือจัดการได้ทันที โดยไม่ต้องเลื่อนกลับไปยังเมนูหลัก อย่างไรก็ตาม หลายคนตั้งคำถามว่าแอปนี้มีความจำเป็นแค่ไหน เพราะปัจจุบันผู้ใช้สามารถเข้าถึง OneDrive ผ่าน File Explorer หรือแอป Photos ได้อยู่แล้ว แม้จะไม่สวยงามเท่า แต่ก็ใช้งานได้ครบถ้วน คาดว่า Microsoft จะเปิดตัวแอปนี้อย่างเป็นทางการในงาน OneDrive Digital Event วันที่ 8 ตุลาคม ซึ่งมีการพูดถึง “ความก้าวหน้าด้าน AI” ของ OneDrive อย่างชัดเจน อาจหมายถึงการฝังฟีเจอร์ Copilot เพื่อช่วยสรุปเอกสารหรือจัดการไฟล์ด้วย AI โดยไม่ต้องเปิดไฟล์เลย ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Microsoft กำลังพัฒนาแอป OneDrive ใหม่สำหรับ Windows 11 โดยหลุดจากเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท ➡️ แอปมีดีไซน์ใหม่ที่เน้นภาพถ่าย เช่น Moments, Gallery, Albums และ People ➡️ มีแถบเมนูลอยใหม่ที่ช่วยจัดการภาพได้ทันทีเมื่อเลือก ➡️ แอปเป็นแบบ web-based แต่ทำงานลื่นไหล ไม่เหมือน Outlook ใหม่ที่มีปัญหา ➡️ Gallery view ใหม่มีตัวเลือก layout เช่น River, Waterfall และ Square ➡️ คาดว่าจะเปิดตัวในงาน OneDrive Digital Event วันที่ 8 ตุลาคม ➡️ มีการพูดถึงการฝังฟีเจอร์ AI เช่น Copilot เพื่อช่วยจัดการไฟล์และเอกสาร ➡️ แอปนี้อาจมาในรูปแบบอัปเดตซอฟต์แวร์สำหรับผู้ใช้ Windows 11 ปัจจุบัน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Copilot เป็น AI ผู้ช่วยของ Microsoft ที่สามารถสรุปเอกสาร ตอบคำถาม และจัดการไฟล์ได้ ➡️ OneDrive ปัจจุบันสามารถเข้าถึงผ่าน File Explorer, Photos และเว็บไซต์ ➡️ Moments เป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่ในแอปมือถือของ OneDrive ซึ่งแสดงภาพจากอดีตในวันเดียวกัน ➡️ การรวมภาพและไฟล์ไว้ในแอปเดียวช่วยลดการสลับแอปและเพิ่ม productivity ➡️ การใช้ web app ช่วยให้ Microsoft อัปเดตฟีเจอร์ได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งระบบปฏิบัติการ https://www.techradar.com/computing/windows/will-microsoft-never-learn-leaked-onedrive-app-sparks-fears-of-more-pointless-bloat-in-windows-11
    WWW.TECHRADAR.COM
    Microsoft's new OneDrive app is leaked - will it be a useful addition to Windows 11, or just pointless bloat?
    The new OneDrive app looks slick, sure, but there are questions about the purpose of this potential addition to the OS
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Immich v2.0.0 เปิดตัวเวอร์ชัน Stable อย่างเป็นทางการ — เสถียรขึ้น เร็วขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่และแผนบริการสำรองข้อมูลแบบเข้ารหัส”

    Immich คือซอฟต์แวร์แบบ self-hosted สำหรับจัดการรูปภาพและวิดีโอ ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลส่วนตัวของตนเองได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องพึ่งพาบริการ Cloud จากผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น Google Photos หรือ iCloud

    หลังจากใช้เวลากว่า 1,337 วันในการพัฒนา ล่าสุดทีมงาน Immich ได้ประกาศเปิดตัวเวอร์ชัน v2.0.0 อย่างเป็นทางการในฐานะ “Stable Release” ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญของโครงการนี้

    การประกาศครั้งนี้มาพร้อมกับการยืนยันว่า Immich ได้แก้ไขปัญหาทางเทคนิคจำนวนมาก และเข้าสู่สถานะที่พร้อมใช้งานในระดับองค์กร โดยจะเน้นการรักษาความเข้ากันได้ระหว่างเวอร์ชัน และลดภาระในการอัปเดตในอนาคต พร้อมทั้งนำระบบ semantic versioning มาใช้เพื่อให้การจัดการเวอร์ชันมีความชัดเจน

    เพื่อเฉลิมฉลอง ทีมงานได้เปิดตัว Immich ในรูปแบบแผ่น DVD ที่สามารถบูตระบบได้ทันที พร้อมภาพตัวอย่างจากทีมงาน และวางจำหน่ายผ่านร้าน merch ที่มีดีไซน์ย้อนยุคให้เลือกซื้อ

    ในแผนงานอนาคต Immich เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ auto-stacking, ปรับปรุงการแชร์, การจัดการกลุ่ม, และระบบ ownership รวมถึงการพัฒนาให้เว็บและแอปมือถือมีฟีเจอร์เท่าเทียมกัน นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดบริการสำรองข้อมูลแบบเข้ารหัส end-to-end ที่สามารถสำรองข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอกได้ พร้อมฟีเจอร์ “buddy backup” สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความปลอดภัยเพิ่มขึ้น

    ทีมงานยังเน้นว่าจะไม่มีการล็อกฟีเจอร์ไว้หลัง paywall แต่จะมีบริการเสริมแบบสมัครใจเพื่อสนับสนุนโครงการ และจะเก็บข้อมูลการใช้งานอย่างโปร่งใส โดยเปิดให้ชุมชนร่วมแสดงความคิดเห็นก่อนนำไปใช้จริง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Immich v2.0.0 เปิดตัวเป็นเวอร์ชัน Stable อย่างเป็นทางการ
    ใช้ระบบ semantic versioning เพื่อจัดการเวอร์ชันแบบ MAJOR.MINOR.PATCH
    รองรับการทำงานร่วมกันระหว่างแอปมือถือ v2.x.x กับเซิร์ฟเวอร์ v2.x.x ทุกเวอร์ชัน
    แก้ไขปัญหาทางเทคนิคจำนวนมาก และลบแบนเนอร์คำเตือนออกจากเว็บไซต์
    เปิดตัวแผ่น DVD ที่สามารถบูต Immich ได้ พร้อมภาพตัวอย่างจากทีมงาน
    ร้าน merch มีสินค้าดีไซน์ย้อนยุคให้เลือกซื้อ
    แผนงานอนาคตรวมถึง auto-stacking, การแชร์, การจัดการกลุ่ม และ ownership
    เตรียมเปิดบริการสำรองข้อมูลแบบเข้ารหัส end-to-end และ buddy backup
    ไม่มีการล็อกฟีเจอร์ไว้หลัง paywall แต่มีบริการเสริมแบบสมัครใจ
    จะเก็บข้อมูลการใช้งานอย่างโปร่งใส โดยเปิดให้ชุมชนร่วมแสดงความคิดเห็น

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Immich เป็นหนึ่งในโครงการ open-source ที่เติบโตเร็วที่สุดในกลุ่ม self-hosted media
    Semantic versioning ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถวางแผนการอัปเดตได้ง่ายขึ้น
    ระบบ buddy backup เป็นแนวคิดที่ใช้ในองค์กรเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล
    การใช้ DVD บูตระบบเป็นการสร้างความทรงจำแบบ retro และลดความซับซ้อนในการติดตั้ง
    การเก็บข้อมูลการใช้งานแบบโปร่งใสช่วยลดความกังวลเรื่อง privacy ในชุมชน open-source

    https://github.com/immich-app/immich/discussions/22546
    📸 “Immich v2.0.0 เปิดตัวเวอร์ชัน Stable อย่างเป็นทางการ — เสถียรขึ้น เร็วขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่และแผนบริการสำรองข้อมูลแบบเข้ารหัส” Immich คือซอฟต์แวร์แบบ self-hosted สำหรับจัดการรูปภาพและวิดีโอ ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลส่วนตัวของตนเองได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องพึ่งพาบริการ Cloud จากผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น Google Photos หรือ iCloud หลังจากใช้เวลากว่า 1,337 วันในการพัฒนา ล่าสุดทีมงาน Immich ได้ประกาศเปิดตัวเวอร์ชัน v2.0.0 อย่างเป็นทางการในฐานะ “Stable Release” ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญของโครงการนี้ การประกาศครั้งนี้มาพร้อมกับการยืนยันว่า Immich ได้แก้ไขปัญหาทางเทคนิคจำนวนมาก และเข้าสู่สถานะที่พร้อมใช้งานในระดับองค์กร โดยจะเน้นการรักษาความเข้ากันได้ระหว่างเวอร์ชัน และลดภาระในการอัปเดตในอนาคต พร้อมทั้งนำระบบ semantic versioning มาใช้เพื่อให้การจัดการเวอร์ชันมีความชัดเจน เพื่อเฉลิมฉลอง ทีมงานได้เปิดตัว Immich ในรูปแบบแผ่น DVD ที่สามารถบูตระบบได้ทันที พร้อมภาพตัวอย่างจากทีมงาน และวางจำหน่ายผ่านร้าน merch ที่มีดีไซน์ย้อนยุคให้เลือกซื้อ ในแผนงานอนาคต Immich เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ auto-stacking, ปรับปรุงการแชร์, การจัดการกลุ่ม, และระบบ ownership รวมถึงการพัฒนาให้เว็บและแอปมือถือมีฟีเจอร์เท่าเทียมกัน นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดบริการสำรองข้อมูลแบบเข้ารหัส end-to-end ที่สามารถสำรองข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอกได้ พร้อมฟีเจอร์ “buddy backup” สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ทีมงานยังเน้นว่าจะไม่มีการล็อกฟีเจอร์ไว้หลัง paywall แต่จะมีบริการเสริมแบบสมัครใจเพื่อสนับสนุนโครงการ และจะเก็บข้อมูลการใช้งานอย่างโปร่งใส โดยเปิดให้ชุมชนร่วมแสดงความคิดเห็นก่อนนำไปใช้จริง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Immich v2.0.0 เปิดตัวเป็นเวอร์ชัน Stable อย่างเป็นทางการ ➡️ ใช้ระบบ semantic versioning เพื่อจัดการเวอร์ชันแบบ MAJOR.MINOR.PATCH ➡️ รองรับการทำงานร่วมกันระหว่างแอปมือถือ v2.x.x กับเซิร์ฟเวอร์ v2.x.x ทุกเวอร์ชัน ➡️ แก้ไขปัญหาทางเทคนิคจำนวนมาก และลบแบนเนอร์คำเตือนออกจากเว็บไซต์ ➡️ เปิดตัวแผ่น DVD ที่สามารถบูต Immich ได้ พร้อมภาพตัวอย่างจากทีมงาน ➡️ ร้าน merch มีสินค้าดีไซน์ย้อนยุคให้เลือกซื้อ ➡️ แผนงานอนาคตรวมถึง auto-stacking, การแชร์, การจัดการกลุ่ม และ ownership ➡️ เตรียมเปิดบริการสำรองข้อมูลแบบเข้ารหัส end-to-end และ buddy backup ➡️ ไม่มีการล็อกฟีเจอร์ไว้หลัง paywall แต่มีบริการเสริมแบบสมัครใจ ➡️ จะเก็บข้อมูลการใช้งานอย่างโปร่งใส โดยเปิดให้ชุมชนร่วมแสดงความคิดเห็น ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Immich เป็นหนึ่งในโครงการ open-source ที่เติบโตเร็วที่สุดในกลุ่ม self-hosted media ➡️ Semantic versioning ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถวางแผนการอัปเดตได้ง่ายขึ้น ➡️ ระบบ buddy backup เป็นแนวคิดที่ใช้ในองค์กรเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล ➡️ การใช้ DVD บูตระบบเป็นการสร้างความทรงจำแบบ retro และลดความซับซ้อนในการติดตั้ง ➡️ การเก็บข้อมูลการใช้งานแบบโปร่งใสช่วยลดความกังวลเรื่อง privacy ในชุมชน open-source https://github.com/immich-app/immich/discussions/22546
    GITHUB.COM
    v2.0.0 - Stable Release of Immich · immich-app/immich · Discussion #22546
    v2.0.0 - Stable Release of Immich Watch the video Welcome Hello everyone, After: ~1,337 days, 271 releases, 78,000 stars on GitHub, 1,558 contributors, 31,500 members on Discord, 36,000 members on ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • Highlight Words In Action : September 2025

    acrimony noun: sharpness, harshness, or bitterness of nature, speech, disposition, etc.

    From the headlines: European trade ministers gathered on July 14 to discuss the new U.S. tariffs, aiming to ease the acrimony between the EU and the Trump administration. While they planned potential countermeasures against the 30 percent tariffs, which they deemed “unacceptable,” they were united in favor of pursuing a negotiated agreement with the U.S. to maintain stable trade ties.

    adamant
    adjective: utterly unyielding in attitude or opinion in spite of all appeals, urgings, etc.

    From the headlines: Mars, the maker of M&M’s, Skittles, and other popular candies, remains adamant that it will only stop using synthetic dyes in its candy if legally required. While other food companies have announced plans to phase out artificial colors in items like Lucky Charms, Jell-O, and Kool-Aid, some candy manufacturers are holding firm. They argue that natural alternatives cost more and don’t deliver the same vibrant colors.

    aerial
    adjective: existing, living, growing, or operating in the air

    From the headlines: On June 29, Russia launched its largest aerial assault of the war in Ukraine, firing more missiles than in any previous attack since the beginning of the war in 2022. The strikes hit multiple Ukrainian cities, injuring at least a dozen people and damaging key infrastructure.

    autonomous
    adjective: existing as an independent entity

    From the headlines: Robots competed in a fully autonomous soccer tournament in Beijing, with four teams of three humanoid robots each operating solely under AI control. Although the idea was innovative, the robots had trouble with basic actions like kicking and staying balanced. Tsinghua University’s THU Robotics team clinched the championship by scoring five goals in the final round.

    bioluminescent
    adjective: pertaining to the production of light by living organisms

    From the headlines: A new research project will try to interpret the meaning of fireflies’ blinking. Scientists in Colorado enlisted the help of citizen observers to record videos of the bioluminescent insects at dusk. Researchers will eventually make a 3D map of where the glowing lights flash over time. While they know firefly blinks follow a deliberate pattern and are used to attract a mate, experts believe there is more to learn.

    bodega
    noun: a small, independent or family-owned grocery store, usually located in a densely populated urban environment

    From the headlines: A recent crime spree in New York City has targeted bodega ATMs. Thefts of cash machines have increased over the past five years, and New York’s small corner stores have been hit particularly hard. Three people are suspected of stealing almost $600,000 over six months by breaking into independent convenience stores, removing their ATMs, and driving away with them in stolen cars.

    contretemps
    noun: an inopportune occurrence; an embarrassing mischance

    From the headlines: After a contretemps between the Quebec Board of the French Language and Montreal’s transit agency, new rules grudgingly allow the use of the word “go” when cheering sports teams. The Board had objected to a Montreal Canadiens ad campaign that read “Go! Canadiens Go!” Tasked with preserving the province’s French heritage, the Board had been insisting on replacing the signs with “Allez! Canadiens Allez!”

    decorum
    noun: dignified propriety of behavior, speech, dress, etc.

    From the headlines: La Scala has introduced a new dress code requiring attendees to “choose clothing in keeping with the decorum of the theatre.” The renowned Milan opera house is codifying its long-standing policy discouraging attire like flip-flops, shorts, and tank tops. Guests are now expected to dress with elegance, honoring both the opera house’s refined ambiance and its storied cultural legacy.

    driftwood
    noun: pieces of trees that are floating on a body of water or have been washed ashore

    From the headlines: In rural Alaska, residents of some villages and small towns are continuing a long tradition by using driftwood for fuel and as energy-efficient siding for their homes. The pieces of wood, worn smooth by ocean waves or currents in rivers and streams, have been used this way by Indigenous Alaskans for thousands of years. Communities save money and protect the environment by reusing old trees or boards found floating in the water instead of buying lumber and logs.

    eavesdrop
    verb: to listen secretly to a private conversation

    From the headlines: Ecologists have found that long-billed curlews and other grassland nesters routinely eavesdrop on prairie dogs to dodge predators. Sharing a habitat where hawks, eagles, foxes, and other Great Plains animals lurk, the birds capitalize on the rodents’ warning calls. After eavesdropping on these distinctive calls, the curlews and other birds crouch or camouflage themselves until the threat has passed.

    emulate
    verb: to imitate with effort to equal or surpass

    From the headlines: Inspired by Paris’s recent success, cities across the globe are preparing to emulate its efforts to restore polluted urban rivers for public use. After a hundred-year swimming ban, Parisians can now take a dip in the once-contaminated Seine, thanks to more than a billion dollars spent on upgrades like sewer improvements and rainwater storage. Cities such as Berlin, Boston, New York, and London are developing similar plans to clean their waterways and make them safe for swimming once again.

    estuary
    noun: the part of the mouth or lower course of a river in which the river’s current meets the sea’s tide

    From the headlines: Florida Governor Ron DeSantis signed a bill that will ban oil drilling on the Apalachicola River. The river’s estuary is home to many endangered plants and animals, including the world’s largest stand of tupelo trees. The inlet is also the most important site in the state’s oyster industry. Environmentalists and fishermen supported the bill and pushed DeSantis to sign it.

    Fun fact: A Latin word meaning “boiling of the sea” is the root of estuary.

    gentrification
    noun: the buying and renovation of property in urban neighborhoods in a way that often displaces low-income families and small businesses

    From the headlines: Protesters in Mexico City say they’re angry about gentrification caused by large numbers of foreigners moving there since 2020. Locals say they have seen formerly affordable housing prices skyrocket as the numbers of short-term rentals and expats increase. Airbnb listings in the city have exploded to over 20,000, and Americans have arrived in particularly large numbers to buy and renovate houses. In the process, they say these factors have driven up costs for everyone, including local residents.

    hedonism
    noun: the doctrine that pleasure or happiness is the highest good

    From the headlines: Researchers say there are six traits that make someone seem “cool” to others, including extroversion, power, and embracing hedonism. An American Psychological Association study surveyed 6,000 people in 12 countries and found a sharp division between people seen as “good” versus “cool.” Being hedonistic, for example, didn’t make someone seem “good,” but focusing on one’s own happiness and pleasure was strongly associated with appearing “cool.”

    kayak
    verb: to travel by a traditional Inuit or Yupik canoe with a skin cover on a light framework, or by a small boat resembling this

    From the headlines: Several dozen Native American teens who spent a month kayaking the length of the Klamath River reached their destination. The group paddled their long, narrow boats about 300 miles, from Oregon to California, to celebrate the removal of four dams. The waterway holds a deep significance to Native American tribes, and many of the teens learned to kayak specifically to participate in the long paddle.

    larceny
    noun: the wrongful taking of someone’s property or goods

    From the headlines: Atlanta police have identified a suspect in the theft of hard drives holding unreleased Beyoncé songs. Setlists and plans for concert footage were also stolen when the alleged thief broke into a vehicle rented by the singer’s team. The larceny occurred during a stop on her Cowboy Carter tour.

    linchpin
    noun: something that holds the various elements of a complicated structure together

    From the headlines: The Department of Defense will stop supplying meteorologists with satellite data, which experts describe as a linchpin of storm modeling. Forecasts for hurricanes rely heavily on this military satellite feed to track storm paths and determine when people should evacuate.

    matcha
    noun: finely ground tea leaf powder used to make tea or as a flavoring, or the tea made from it

    From the headlines: The worldwide demand for matcha is causing severe shortages and higher prices. The bright green, grassy-flavored, powdered tea has a long history in Japan, but its popularity in other countries has exploded in recent years. Drinks and baked goods made with matcha have become wildly popular, causing Japanese tea growers to struggle to keep up with the demand.

    meteorite
    noun: a mass of stone or metal that has reached the earth from outer space

    From the headlines: On July 16, a bidder paid $4.3 million to own a chunk of Mars. The rare Martian meteorite, which weighs about 54 pounds, is the largest meteor fragment ever found on Earth that’s known to come from the red planet. Out of approximately 77,000 confirmed meteorites, only 400 were originally part of Mars. This one, named NWA 16788, was found in the Sahara Desert after its 140-million-mile journey through space.

    monastery
    noun: a residence occupied by a community of persons, especially monks, living in seclusion under religious vows

    From the headlines: Tens of thousands of books are being removed from a medieval Hungarian monastery to save them from a beetle infestation. The Pannonhalma Archabbey contains Hungary’s oldest library and some of the country’s most ancient and valuable books and written records. The monastery was founded 1,000 years ago by Benedictines, and about fifty monks live there today, practicing religious contemplation and solitude.

    nuptials
    noun: a marriage ceremony, or a social event accompanying one

    From the headlines: Protesters took to the streets in Venice as Amazon founder Jeff Bezos and Lauren Sanchez held their nuptials on a Venetian island, complete with 200 guests and three days of extravagant celebrations. Locals expressed outrage, saying the event placed additional strain on a city already struggling with overtourism and environmental fragility.

    offering
    noun: something presented to a deity as a symbol of devotion

    From the headlines: Archaeologists discovered about 2,000 pottery offerings on the Greek island of Kythnos. Historians said the clay figures, which represent children, women, and animals, had been left by devoted worshippers over the centuries. Two ancient temples once stood on the site, as well as a pit where the objects given as gifts to the gods were eventually thrown away to make room for new offerings.

    parody
    noun: a humorous or satirical imitation of a serious piece of writing or art

    From the headlines: Weird Al Yankovic, famed for his clever musical parodies, performed to a sold-out crowd at Madison Square Garden in New York, marking his first show at the iconic 20,000-seat venue. Over his forty-year career, Yankovic has become the most recognizable figure in the parody genre, with hits such as “Like a Surgeon,” a spoof of Madonna’s “Like a Virgin,” and “I Love Rocky Road,” a playful take on “I Love Rock ‘n Roll.”

    perennial
    adjective: arising repeatedly or always existing

    From the headlines: Joey Chestnut, the perennial champion of the Nathan’s Famous Hot Dog Eating Contest, reclaimed his crown this year after missing last year’s competition. He was sidelined in 2024 due to a sponsorship deal with a vegan meat brand, but prior to that, Chestnut had claimed victory in 16 of the past 17 contests. He still holds the world record for devouring 76 hot dogs and buns in just 10 minutes in 2021.

    philanthropist
    noun: someone who makes charitable donations

    From the headlines: Warren Buffett said he would donate $6 billion to five charitable foundations. The businessman and philanthropist, whose net worth is approximately $145 billion, has previously given more than $50 billion to the aforementioned foundations. While Buffet’s children will decide how to give away the rest of his fortune after his death, he said that more than 99 percent of it will have to be used philanthropically.

    plunder
    verb: to take wrongfully, as by pillage, robbery, or fraud

    From the headlines: Experts assumed that a Stradivarius violin plundered after World War II had been lost or destroyed; now it appears to have resurfaced. The 316-year-old instrument was stolen from a Berlin bank safe during the chaos at the end of the war, and the family who owned it searched for decades before giving up. An image of the looted violin, which is valued at millions of dollars, was discovered among photos of Stradivarius instruments from a 2018 Tokyo exhibition.

    risotto
    noun: a dish of rice cooked with broth and flavored with grated cheese and other ingredients

    From the headlines: The short-grain Italian rice that’s used to make risotto is under threat from an unusual culprit: flamingos. Flocks of the birds are settling into northern Italian rice paddies instead of their usual nesting grounds. By stirring the shallow water and rooting for mollusks, the flamingos are destroying many valuable rice crops.

    skittish
    adjective: easily frightened or extremely cautious

    From the headlines: Economists report that despite a low unemployment rate, employers are increasingly skittish about hiring, leaving many recent college graduates struggling to find jobs. Numerous tech companies, consulting firms, and federal agencies are cutting back or freezing hiring, while other industries are hesitant to increase payroll expenses. Furthermore, fewer workers are quitting, limiting job openings even more.

    synthetic
    adjective: pertaining to compounds formed through a chemical process by human agency, as opposed to those of natural origin

    From the headlines: The J.M. Smucker Company has announced it will phase out synthetic dyes from its jams and other offerings. While many of its products are already made without artificial colors, some, including sugar-free jams and Hostess snacks like Twinkies and Snoballs, still rely on them. The company intends to use naturally sourced dyes by 2027.

    tandem
    adverb: one following or behind the other

    From the headlines: Researchers were surprised by video evidence of animals that are normally at odds traveling in tandem. A night-vision camera recorded an ocelot traveling peacefully behind an opossum — a surprise, since ocelots usually prey on opossums. Later footage showed the opossum trailing the ocelot as it prowled. Other researchers have since reported at least three additional examples of such behavior.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    Highlight Words In Action : September 2025 acrimony noun: sharpness, harshness, or bitterness of nature, speech, disposition, etc. From the headlines: European trade ministers gathered on July 14 to discuss the new U.S. tariffs, aiming to ease the acrimony between the EU and the Trump administration. While they planned potential countermeasures against the 30 percent tariffs, which they deemed “unacceptable,” they were united in favor of pursuing a negotiated agreement with the U.S. to maintain stable trade ties. adamant adjective: utterly unyielding in attitude or opinion in spite of all appeals, urgings, etc. From the headlines: Mars, the maker of M&M’s, Skittles, and other popular candies, remains adamant that it will only stop using synthetic dyes in its candy if legally required. While other food companies have announced plans to phase out artificial colors in items like Lucky Charms, Jell-O, and Kool-Aid, some candy manufacturers are holding firm. They argue that natural alternatives cost more and don’t deliver the same vibrant colors. aerial adjective: existing, living, growing, or operating in the air From the headlines: On June 29, Russia launched its largest aerial assault of the war in Ukraine, firing more missiles than in any previous attack since the beginning of the war in 2022. The strikes hit multiple Ukrainian cities, injuring at least a dozen people and damaging key infrastructure. autonomous adjective: existing as an independent entity From the headlines: Robots competed in a fully autonomous soccer tournament in Beijing, with four teams of three humanoid robots each operating solely under AI control. Although the idea was innovative, the robots had trouble with basic actions like kicking and staying balanced. Tsinghua University’s THU Robotics team clinched the championship by scoring five goals in the final round. bioluminescent adjective: pertaining to the production of light by living organisms From the headlines: A new research project will try to interpret the meaning of fireflies’ blinking. Scientists in Colorado enlisted the help of citizen observers to record videos of the bioluminescent insects at dusk. Researchers will eventually make a 3D map of where the glowing lights flash over time. While they know firefly blinks follow a deliberate pattern and are used to attract a mate, experts believe there is more to learn. bodega noun: a small, independent or family-owned grocery store, usually located in a densely populated urban environment From the headlines: A recent crime spree in New York City has targeted bodega ATMs. Thefts of cash machines have increased over the past five years, and New York’s small corner stores have been hit particularly hard. Three people are suspected of stealing almost $600,000 over six months by breaking into independent convenience stores, removing their ATMs, and driving away with them in stolen cars. contretemps noun: an inopportune occurrence; an embarrassing mischance From the headlines: After a contretemps between the Quebec Board of the French Language and Montreal’s transit agency, new rules grudgingly allow the use of the word “go” when cheering sports teams. The Board had objected to a Montreal Canadiens ad campaign that read “Go! Canadiens Go!” Tasked with preserving the province’s French heritage, the Board had been insisting on replacing the signs with “Allez! Canadiens Allez!” decorum noun: dignified propriety of behavior, speech, dress, etc. From the headlines: La Scala has introduced a new dress code requiring attendees to “choose clothing in keeping with the decorum of the theatre.” The renowned Milan opera house is codifying its long-standing policy discouraging attire like flip-flops, shorts, and tank tops. Guests are now expected to dress with elegance, honoring both the opera house’s refined ambiance and its storied cultural legacy. driftwood noun: pieces of trees that are floating on a body of water or have been washed ashore From the headlines: In rural Alaska, residents of some villages and small towns are continuing a long tradition by using driftwood for fuel and as energy-efficient siding for their homes. The pieces of wood, worn smooth by ocean waves or currents in rivers and streams, have been used this way by Indigenous Alaskans for thousands of years. Communities save money and protect the environment by reusing old trees or boards found floating in the water instead of buying lumber and logs. eavesdrop verb: to listen secretly to a private conversation From the headlines: Ecologists have found that long-billed curlews and other grassland nesters routinely eavesdrop on prairie dogs to dodge predators. Sharing a habitat where hawks, eagles, foxes, and other Great Plains animals lurk, the birds capitalize on the rodents’ warning calls. After eavesdropping on these distinctive calls, the curlews and other birds crouch or camouflage themselves until the threat has passed. emulate verb: to imitate with effort to equal or surpass From the headlines: Inspired by Paris’s recent success, cities across the globe are preparing to emulate its efforts to restore polluted urban rivers for public use. After a hundred-year swimming ban, Parisians can now take a dip in the once-contaminated Seine, thanks to more than a billion dollars spent on upgrades like sewer improvements and rainwater storage. Cities such as Berlin, Boston, New York, and London are developing similar plans to clean their waterways and make them safe for swimming once again. estuary noun: the part of the mouth or lower course of a river in which the river’s current meets the sea’s tide From the headlines: Florida Governor Ron DeSantis signed a bill that will ban oil drilling on the Apalachicola River. The river’s estuary is home to many endangered plants and animals, including the world’s largest stand of tupelo trees. The inlet is also the most important site in the state’s oyster industry. Environmentalists and fishermen supported the bill and pushed DeSantis to sign it. Fun fact: A Latin word meaning “boiling of the sea” is the root of estuary. gentrification noun: the buying and renovation of property in urban neighborhoods in a way that often displaces low-income families and small businesses From the headlines: Protesters in Mexico City say they’re angry about gentrification caused by large numbers of foreigners moving there since 2020. Locals say they have seen formerly affordable housing prices skyrocket as the numbers of short-term rentals and expats increase. Airbnb listings in the city have exploded to over 20,000, and Americans have arrived in particularly large numbers to buy and renovate houses. In the process, they say these factors have driven up costs for everyone, including local residents. hedonism noun: the doctrine that pleasure or happiness is the highest good From the headlines: Researchers say there are six traits that make someone seem “cool” to others, including extroversion, power, and embracing hedonism. An American Psychological Association study surveyed 6,000 people in 12 countries and found a sharp division between people seen as “good” versus “cool.” Being hedonistic, for example, didn’t make someone seem “good,” but focusing on one’s own happiness and pleasure was strongly associated with appearing “cool.” kayak verb: to travel by a traditional Inuit or Yupik canoe with a skin cover on a light framework, or by a small boat resembling this From the headlines: Several dozen Native American teens who spent a month kayaking the length of the Klamath River reached their destination. The group paddled their long, narrow boats about 300 miles, from Oregon to California, to celebrate the removal of four dams. The waterway holds a deep significance to Native American tribes, and many of the teens learned to kayak specifically to participate in the long paddle. larceny noun: the wrongful taking of someone’s property or goods From the headlines: Atlanta police have identified a suspect in the theft of hard drives holding unreleased Beyoncé songs. Setlists and plans for concert footage were also stolen when the alleged thief broke into a vehicle rented by the singer’s team. The larceny occurred during a stop on her Cowboy Carter tour. linchpin noun: something that holds the various elements of a complicated structure together From the headlines: The Department of Defense will stop supplying meteorologists with satellite data, which experts describe as a linchpin of storm modeling. Forecasts for hurricanes rely heavily on this military satellite feed to track storm paths and determine when people should evacuate. matcha noun: finely ground tea leaf powder used to make tea or as a flavoring, or the tea made from it From the headlines: The worldwide demand for matcha is causing severe shortages and higher prices. The bright green, grassy-flavored, powdered tea has a long history in Japan, but its popularity in other countries has exploded in recent years. Drinks and baked goods made with matcha have become wildly popular, causing Japanese tea growers to struggle to keep up with the demand. meteorite noun: a mass of stone or metal that has reached the earth from outer space From the headlines: On July 16, a bidder paid $4.3 million to own a chunk of Mars. The rare Martian meteorite, which weighs about 54 pounds, is the largest meteor fragment ever found on Earth that’s known to come from the red planet. Out of approximately 77,000 confirmed meteorites, only 400 were originally part of Mars. This one, named NWA 16788, was found in the Sahara Desert after its 140-million-mile journey through space. monastery noun: a residence occupied by a community of persons, especially monks, living in seclusion under religious vows From the headlines: Tens of thousands of books are being removed from a medieval Hungarian monastery to save them from a beetle infestation. The Pannonhalma Archabbey contains Hungary’s oldest library and some of the country’s most ancient and valuable books and written records. The monastery was founded 1,000 years ago by Benedictines, and about fifty monks live there today, practicing religious contemplation and solitude. nuptials noun: a marriage ceremony, or a social event accompanying one From the headlines: Protesters took to the streets in Venice as Amazon founder Jeff Bezos and Lauren Sanchez held their nuptials on a Venetian island, complete with 200 guests and three days of extravagant celebrations. Locals expressed outrage, saying the event placed additional strain on a city already struggling with overtourism and environmental fragility. offering noun: something presented to a deity as a symbol of devotion From the headlines: Archaeologists discovered about 2,000 pottery offerings on the Greek island of Kythnos. Historians said the clay figures, which represent children, women, and animals, had been left by devoted worshippers over the centuries. Two ancient temples once stood on the site, as well as a pit where the objects given as gifts to the gods were eventually thrown away to make room for new offerings. parody noun: a humorous or satirical imitation of a serious piece of writing or art From the headlines: Weird Al Yankovic, famed for his clever musical parodies, performed to a sold-out crowd at Madison Square Garden in New York, marking his first show at the iconic 20,000-seat venue. Over his forty-year career, Yankovic has become the most recognizable figure in the parody genre, with hits such as “Like a Surgeon,” a spoof of Madonna’s “Like a Virgin,” and “I Love Rocky Road,” a playful take on “I Love Rock ‘n Roll.” perennial adjective: arising repeatedly or always existing From the headlines: Joey Chestnut, the perennial champion of the Nathan’s Famous Hot Dog Eating Contest, reclaimed his crown this year after missing last year’s competition. He was sidelined in 2024 due to a sponsorship deal with a vegan meat brand, but prior to that, Chestnut had claimed victory in 16 of the past 17 contests. He still holds the world record for devouring 76 hot dogs and buns in just 10 minutes in 2021. philanthropist noun: someone who makes charitable donations From the headlines: Warren Buffett said he would donate $6 billion to five charitable foundations. The businessman and philanthropist, whose net worth is approximately $145 billion, has previously given more than $50 billion to the aforementioned foundations. While Buffet’s children will decide how to give away the rest of his fortune after his death, he said that more than 99 percent of it will have to be used philanthropically. plunder verb: to take wrongfully, as by pillage, robbery, or fraud From the headlines: Experts assumed that a Stradivarius violin plundered after World War II had been lost or destroyed; now it appears to have resurfaced. The 316-year-old instrument was stolen from a Berlin bank safe during the chaos at the end of the war, and the family who owned it searched for decades before giving up. An image of the looted violin, which is valued at millions of dollars, was discovered among photos of Stradivarius instruments from a 2018 Tokyo exhibition. risotto noun: a dish of rice cooked with broth and flavored with grated cheese and other ingredients From the headlines: The short-grain Italian rice that’s used to make risotto is under threat from an unusual culprit: flamingos. Flocks of the birds are settling into northern Italian rice paddies instead of their usual nesting grounds. By stirring the shallow water and rooting for mollusks, the flamingos are destroying many valuable rice crops. skittish adjective: easily frightened or extremely cautious From the headlines: Economists report that despite a low unemployment rate, employers are increasingly skittish about hiring, leaving many recent college graduates struggling to find jobs. Numerous tech companies, consulting firms, and federal agencies are cutting back or freezing hiring, while other industries are hesitant to increase payroll expenses. Furthermore, fewer workers are quitting, limiting job openings even more. synthetic adjective: pertaining to compounds formed through a chemical process by human agency, as opposed to those of natural origin From the headlines: The J.M. Smucker Company has announced it will phase out synthetic dyes from its jams and other offerings. While many of its products are already made without artificial colors, some, including sugar-free jams and Hostess snacks like Twinkies and Snoballs, still rely on them. The company intends to use naturally sourced dyes by 2027. tandem adverb: one following or behind the other From the headlines: Researchers were surprised by video evidence of animals that are normally at odds traveling in tandem. A night-vision camera recorded an ocelot traveling peacefully behind an opossum — a surprise, since ocelots usually prey on opossums. Later footage showed the opossum trailing the ocelot as it prowled. Other researchers have since reported at least three additional examples of such behavior. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 678 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Microsoft 365 Premium เปิดตัวแล้ว — รวมพลัง AI ระดับโปรในแพ็กเดียว พร้อมเลิกขาย Copilot Pro แยก”

    Microsoft ประกาศเปิดตัวแผนสมาชิกใหม่ “Microsoft 365 Premium” ที่รวมทุกสิ่งจาก Microsoft 365 Family และ Copilot Pro เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ AI ระดับมืออาชีพในราคาสมเหตุสมผลที่ $19.99 ต่อเดือน โดยผู้ใช้ Copilot Pro เดิมสามารถสลับมาใช้แผน Premium ได้ทันทีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

    แผนนี้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ AI ที่เหนือกว่าการใช้งานทั่วไป เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การสร้างเอกสารระดับมืออาชีพจากคำสั่งเดียว และการจัดการงานผ่าน Agent Mode ที่เปลี่ยน Copilot ให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่ทำงานแทนได้จริง

    Microsoft ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น Photos Agent สำหรับจัดการภาพ, การสร้างภาพด้วย GPT-4o, การสรุปเสียงและพอดแคสต์, และการใช้งานผ่านเสียงแบบเต็มรูปแบบ โดยทั้งหมดนี้มาพร้อมกับการป้องกันระดับองค์กร เช่น Enterprise Data Protection และระบบตรวจสอบความปลอดภัยจาก prompt injection

    นอกจากนี้ Microsoft ยังปรับไอคอนของแอป Office ใหม่ทั้งหมดให้ดูทันสมัยและสะท้อนยุค AI มากขึ้น พร้อมเปิดให้ผู้ใช้เลือกโมเดล AI ที่ต้องการใช้งาน เช่น ChatGPT หรือ Claude ผ่านระบบ Copilot

    การเปิดตัวครั้งนี้ยังมาพร้อมการเลิกขาย Copilot Pro แบบแยก โดยผู้ใช้ที่ต้องการฟีเจอร์ AI ระดับสูงจะต้องสมัคร Microsoft 365 Premium แทน ซึ่งถือเป็นการปรับโครงสร้างแผนสมาชิกให้เรียบง่ายขึ้น และเพิ่มความคุ้มค่าให้กับผู้ใช้ทั่วไป

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Microsoft เปิดตัวแผนสมาชิกใหม่ “Microsoft 365 Premium” ราคา $19.99/เดือน
    รวมฟีเจอร์จาก Microsoft 365 Family และ Copilot Pro เข้าไว้ในแผนเดียว
    ผู้ใช้ Copilot Pro เดิมสามารถสลับมาใช้ Premium ได้ทันทีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
    เพิ่มฟีเจอร์ AI ระดับโปร เช่น Researcher, Analyst, Actions และ Agent Mode
    มี Photos Agent สำหรับจัดการภาพ และ GPT-4o สำหรับสร้างภาพใน PowerPoint
    รองรับการสรุปเสียงและพอดแคสต์ พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงเต็มรูปแบบ
    มี Enterprise Data Protection สำหรับการใช้งานกับไฟล์องค์กร
    ปรับไอคอนแอป Office ใหม่ทั้งหมดให้สะท้อนยุค AI
    ผู้ใช้สามารถเลือกโมเดล AI ที่ต้องการ เช่น ChatGPT หรือ Claude
    Microsoft เลิกขาย Copilot Pro แบบแยก และแนะนำให้ใช้ Premium แทน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Microsoft 365 Premium ได้รับการออกแบบให้แข่งกับ ChatGPT Plus โดยตรง
    Premium รองรับการใช้งานกับ GPT-5 และ GPT-4o สำหรับงาน reasoning และภาพ
    ผู้ใช้ Premium จะได้สิทธิ์ทดลองฟีเจอร์ใหม่ก่อนใครผ่านโปรแกรม Frontier
    มีพื้นที่เก็บข้อมูล OneDrive สูงสุด 6TB (1TB ต่อคน สำหรับสูงสุด 6 คน)
    Microsoft ลงทุนกว่า $13 พันล้านใน OpenAI และใช้ Azure เป็นโครงสร้างพื้นฐานของ Copilot

    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/microsoft-365-premium-brings-pro-level-ai-features-to-your-subscription-but-only-if-you-upgrade
    🧠 “Microsoft 365 Premium เปิดตัวแล้ว — รวมพลัง AI ระดับโปรในแพ็กเดียว พร้อมเลิกขาย Copilot Pro แยก” Microsoft ประกาศเปิดตัวแผนสมาชิกใหม่ “Microsoft 365 Premium” ที่รวมทุกสิ่งจาก Microsoft 365 Family และ Copilot Pro เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ AI ระดับมืออาชีพในราคาสมเหตุสมผลที่ $19.99 ต่อเดือน โดยผู้ใช้ Copilot Pro เดิมสามารถสลับมาใช้แผน Premium ได้ทันทีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แผนนี้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ AI ที่เหนือกว่าการใช้งานทั่วไป เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การสร้างเอกสารระดับมืออาชีพจากคำสั่งเดียว และการจัดการงานผ่าน Agent Mode ที่เปลี่ยน Copilot ให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่ทำงานแทนได้จริง Microsoft ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น Photos Agent สำหรับจัดการภาพ, การสร้างภาพด้วย GPT-4o, การสรุปเสียงและพอดแคสต์, และการใช้งานผ่านเสียงแบบเต็มรูปแบบ โดยทั้งหมดนี้มาพร้อมกับการป้องกันระดับองค์กร เช่น Enterprise Data Protection และระบบตรวจสอบความปลอดภัยจาก prompt injection นอกจากนี้ Microsoft ยังปรับไอคอนของแอป Office ใหม่ทั้งหมดให้ดูทันสมัยและสะท้อนยุค AI มากขึ้น พร้อมเปิดให้ผู้ใช้เลือกโมเดล AI ที่ต้องการใช้งาน เช่น ChatGPT หรือ Claude ผ่านระบบ Copilot การเปิดตัวครั้งนี้ยังมาพร้อมการเลิกขาย Copilot Pro แบบแยก โดยผู้ใช้ที่ต้องการฟีเจอร์ AI ระดับสูงจะต้องสมัคร Microsoft 365 Premium แทน ซึ่งถือเป็นการปรับโครงสร้างแผนสมาชิกให้เรียบง่ายขึ้น และเพิ่มความคุ้มค่าให้กับผู้ใช้ทั่วไป ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Microsoft เปิดตัวแผนสมาชิกใหม่ “Microsoft 365 Premium” ราคา $19.99/เดือน ➡️ รวมฟีเจอร์จาก Microsoft 365 Family และ Copilot Pro เข้าไว้ในแผนเดียว ➡️ ผู้ใช้ Copilot Pro เดิมสามารถสลับมาใช้ Premium ได้ทันทีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ➡️ เพิ่มฟีเจอร์ AI ระดับโปร เช่น Researcher, Analyst, Actions และ Agent Mode ➡️ มี Photos Agent สำหรับจัดการภาพ และ GPT-4o สำหรับสร้างภาพใน PowerPoint ➡️ รองรับการสรุปเสียงและพอดแคสต์ พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงเต็มรูปแบบ ➡️ มี Enterprise Data Protection สำหรับการใช้งานกับไฟล์องค์กร ➡️ ปรับไอคอนแอป Office ใหม่ทั้งหมดให้สะท้อนยุค AI ➡️ ผู้ใช้สามารถเลือกโมเดล AI ที่ต้องการ เช่น ChatGPT หรือ Claude ➡️ Microsoft เลิกขาย Copilot Pro แบบแยก และแนะนำให้ใช้ Premium แทน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Microsoft 365 Premium ได้รับการออกแบบให้แข่งกับ ChatGPT Plus โดยตรง ➡️ Premium รองรับการใช้งานกับ GPT-5 และ GPT-4o สำหรับงาน reasoning และภาพ ➡️ ผู้ใช้ Premium จะได้สิทธิ์ทดลองฟีเจอร์ใหม่ก่อนใครผ่านโปรแกรม Frontier ➡️ มีพื้นที่เก็บข้อมูล OneDrive สูงสุด 6TB (1TB ต่อคน สำหรับสูงสุด 6 คน) ➡️ Microsoft ลงทุนกว่า $13 พันล้านใน OpenAI และใช้ Azure เป็นโครงสร้างพื้นฐานของ Copilot https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/microsoft-365-premium-brings-pro-level-ai-features-to-your-subscription-but-only-if-you-upgrade
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Welder Keyboard — คีย์บอร์ดจอสัมผัสพับได้ที่อาจแทนที่แล็ปท็อป สำหรับสายสร้างสรรค์ที่ต้องการพื้นที่ทำงานแบบไฮบริด”

    ในยุคที่การทำงานแบบมัลติทาสก์กลายเป็นเรื่องปกติ และอุปกรณ์พกพาต้องตอบโจทย์ทั้งความคล่องตัวและประสิทธิภาพ Welder Keyboard ได้เปิดตัวในฐานะ “คีย์บอร์ดกลไกพับได้พร้อมจอสัมผัส” ที่อาจกลายเป็นอุปกรณ์เสริมที่เปลี่ยนวิธีทำงานของผู้ใช้ไปโดยสิ้นเชิง

    Welder มาพร้อมแป้นพิมพ์กลไกแบบ 84 ปุ่มที่รองรับการเปลี่ยนสวิตช์ได้ (hot-swappable) และใช้ keycap แบบ PBT เพื่อความทนทานและสัมผัสที่ดีขึ้น ด้านบนของคีย์บอร์ดคือหน้าจอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 720 พิกเซล เป็น IPS panel ที่รองรับการสัมผัสแบบ 10 จุด พร้อมความสว่าง 300 cd/m² และมุมมอง 89 องศาทุกด้าน

    จุดเด่นคือการออกแบบให้พับได้ 180 องศา พร้อมโครงสร้างอลูมิเนียม CNC ที่แข็งแรงและน้ำหนักประมาณ 1.5 กก. แม้จะดูหนัก แต่เมื่อเทียบกับการได้ทั้งคีย์บอร์ดกลไก จอสัมผัส และฮับเชื่อมต่อในเครื่องเดียว ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า

    Welder รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C สองช่อง และ USB-A หนึ่งช่อง ใช้งานได้กับ Windows, macOS, Linux และ Android โดยสามารถใช้เป็นจอที่สองสำหรับโน้ตบุ๊ก หรือแปลงสมาร์ทโฟน USB-C ให้กลายเป็นเวิร์กสเตชันขนาดย่อมได้ทันที

    นอกจากนี้ยังมีโหมดไฟ RGB ถึง 108 แบบที่เปลี่ยนได้ด้วยปุ่มลัดโดยไม่ต้องลงซอฟต์แวร์เสริม เหมาะกับทั้งสายเกมเมอร์และสายงานสร้างสรรค์ที่ต้องการบรรยากาศเฉพาะตัว

    แม้จะดูเหมือน “แล็ปท็อปปลอม” แต่ Welder ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วใน Kickstarter โดยระดมทุนได้เกินเป้าหมายถึง 13 เท่าในเวลาไม่กี่วัน ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการของผู้ใช้ที่มองหาอุปกรณ์ไฮบริดที่ตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Welder Keyboard เป็นคีย์บอร์ดกลไกพับได้พร้อมจอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว
    หน้าจอ IPS ความละเอียด 1920 x 720 รองรับสัมผัส 10 จุด และมีมุมมอง 89 องศาทุกด้าน
    รองรับการเปลี่ยนสวิตช์และใช้ keycap แบบ PBT เพื่อความทนทาน
    พับได้ 180 องศา พร้อมโครงสร้างอลูมิเนียม CNC น้ำหนักประมาณ 1.5 กก.
    รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C x2 และ USB-A x1 สำหรับพลังงาน ข้อมูล และภาพเสียง
    ใช้งานได้กับ Windows, macOS, Linux และ Android
    ใช้เป็นจอที่สอง หรือแปลงสมาร์ทโฟนให้เป็นเวิร์กสเตชันได้ทันที
    มีโหมดไฟ RGB 108 แบบ เปลี่ยนได้ด้วยปุ่มลัดโดยไม่ต้องลงซอฟต์แวร์
    ระดมทุนใน Kickstarter ได้เกินเป้าหมายถึง 13 เท่า

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Welder สามารถใช้จอสัมผัสเป็นแผงควบคุม Photoshop, timeline ตัดต่อ หรือหน้าต่างแชต
    การออกแบบให้พับได้ช่วยให้พกพาเหมือนแล็ปท็อป แต่ใช้งานได้หลากหลายกว่า
    จอสัมผัสแบบ laminated glass ช่วยลดแสงสะท้อนและเพิ่มความคมชัด
    RGB lighting มีโหมดตอบสนองต่อการพิมพ์ เช่น reactive touch และ breathing effect
    ใช้ได้กับสมาร์ทโฟน USB-C ที่รองรับ DisplayPort Alt Mode เช่น Samsung Galaxy และ Pixel

    https://www.techradar.com/pro/i-think-i-found-the-perfect-fake-laptop-for-my-projects-i-only-need-to-find-a-mouse-with-a-built-in-pc
    ⌨️ “Welder Keyboard — คีย์บอร์ดจอสัมผัสพับได้ที่อาจแทนที่แล็ปท็อป สำหรับสายสร้างสรรค์ที่ต้องการพื้นที่ทำงานแบบไฮบริด” ในยุคที่การทำงานแบบมัลติทาสก์กลายเป็นเรื่องปกติ และอุปกรณ์พกพาต้องตอบโจทย์ทั้งความคล่องตัวและประสิทธิภาพ Welder Keyboard ได้เปิดตัวในฐานะ “คีย์บอร์ดกลไกพับได้พร้อมจอสัมผัส” ที่อาจกลายเป็นอุปกรณ์เสริมที่เปลี่ยนวิธีทำงานของผู้ใช้ไปโดยสิ้นเชิง Welder มาพร้อมแป้นพิมพ์กลไกแบบ 84 ปุ่มที่รองรับการเปลี่ยนสวิตช์ได้ (hot-swappable) และใช้ keycap แบบ PBT เพื่อความทนทานและสัมผัสที่ดีขึ้น ด้านบนของคีย์บอร์ดคือหน้าจอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 720 พิกเซล เป็น IPS panel ที่รองรับการสัมผัสแบบ 10 จุด พร้อมความสว่าง 300 cd/m² และมุมมอง 89 องศาทุกด้าน จุดเด่นคือการออกแบบให้พับได้ 180 องศา พร้อมโครงสร้างอลูมิเนียม CNC ที่แข็งแรงและน้ำหนักประมาณ 1.5 กก. แม้จะดูหนัก แต่เมื่อเทียบกับการได้ทั้งคีย์บอร์ดกลไก จอสัมผัส และฮับเชื่อมต่อในเครื่องเดียว ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า Welder รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C สองช่อง และ USB-A หนึ่งช่อง ใช้งานได้กับ Windows, macOS, Linux และ Android โดยสามารถใช้เป็นจอที่สองสำหรับโน้ตบุ๊ก หรือแปลงสมาร์ทโฟน USB-C ให้กลายเป็นเวิร์กสเตชันขนาดย่อมได้ทันที นอกจากนี้ยังมีโหมดไฟ RGB ถึง 108 แบบที่เปลี่ยนได้ด้วยปุ่มลัดโดยไม่ต้องลงซอฟต์แวร์เสริม เหมาะกับทั้งสายเกมเมอร์และสายงานสร้างสรรค์ที่ต้องการบรรยากาศเฉพาะตัว แม้จะดูเหมือน “แล็ปท็อปปลอม” แต่ Welder ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วใน Kickstarter โดยระดมทุนได้เกินเป้าหมายถึง 13 เท่าในเวลาไม่กี่วัน ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการของผู้ใช้ที่มองหาอุปกรณ์ไฮบริดที่ตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Welder Keyboard เป็นคีย์บอร์ดกลไกพับได้พร้อมจอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ➡️ หน้าจอ IPS ความละเอียด 1920 x 720 รองรับสัมผัส 10 จุด และมีมุมมอง 89 องศาทุกด้าน ➡️ รองรับการเปลี่ยนสวิตช์และใช้ keycap แบบ PBT เพื่อความทนทาน ➡️ พับได้ 180 องศา พร้อมโครงสร้างอลูมิเนียม CNC น้ำหนักประมาณ 1.5 กก. ➡️ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C x2 และ USB-A x1 สำหรับพลังงาน ข้อมูล และภาพเสียง ➡️ ใช้งานได้กับ Windows, macOS, Linux และ Android ➡️ ใช้เป็นจอที่สอง หรือแปลงสมาร์ทโฟนให้เป็นเวิร์กสเตชันได้ทันที ➡️ มีโหมดไฟ RGB 108 แบบ เปลี่ยนได้ด้วยปุ่มลัดโดยไม่ต้องลงซอฟต์แวร์ ➡️ ระดมทุนใน Kickstarter ได้เกินเป้าหมายถึง 13 เท่า ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Welder สามารถใช้จอสัมผัสเป็นแผงควบคุม Photoshop, timeline ตัดต่อ หรือหน้าต่างแชต ➡️ การออกแบบให้พับได้ช่วยให้พกพาเหมือนแล็ปท็อป แต่ใช้งานได้หลากหลายกว่า ➡️ จอสัมผัสแบบ laminated glass ช่วยลดแสงสะท้อนและเพิ่มความคมชัด ➡️ RGB lighting มีโหมดตอบสนองต่อการพิมพ์ เช่น reactive touch และ breathing effect ➡️ ใช้ได้กับสมาร์ทโฟน USB-C ที่รองรับ DisplayPort Alt Mode เช่น Samsung Galaxy และ Pixel https://www.techradar.com/pro/i-think-i-found-the-perfect-fake-laptop-for-my-projects-i-only-need-to-find-a-mouse-with-a-built-in-pc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Google Gemini vs ChatGPT: ศึก AI ระดับพรีเมียม ใครคุ้มค่ากว่ากันในปี 2025?”

    ในยุคที่ AI กลายเป็นผู้ช่วยประจำวันของผู้คนทั่วโลก Google Gemini และ ChatGPT คือสองแพลตฟอร์มที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด ทั้งในด้านความสามารถและราคาค่าบริการ โดยแต่ละเจ้ามีจุดแข็งที่แตกต่างกัน — ChatGPT เด่นด้านตรรกะและการให้เหตุผล ส่วน Gemini เหนือกว่าด้านการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนและการค้นหาข้อมูลแบบเรียลไทม์

    หากมองในแง่ของราคาสำหรับผู้ใช้ทั่วไป Gemini Pro เริ่มต้นที่ $19.99/เดือน ส่วน ChatGPT Plus อยู่ที่ $20/เดือน ซึ่งแทบไม่ต่างกันเลย แต่เมื่อขยับไปยังระดับสูง Gemini Ultra อยู่ที่ $249.99/เดือน ขณะที่ ChatGPT Pro อยู่ที่ $200/เดือน ทำให้ Gemini แพงกว่าถึง $49.99

    Gemini Ultra มาพร้อมฟีเจอร์พิเศษ เช่น Gemini 2.5 Deep Think สำหรับงาน reasoning ขั้นสูง และ Project Mariner ที่สามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ นอกจากนี้ยังรวม YouTube Premium และพื้นที่เก็บข้อมูล 30TB บน Google Drive, Photos และ Gmail

    ด้าน ChatGPT Pro แม้ราคาถูกกว่า แต่ก็ให้สิทธิ์เข้าถึง GPT-5 Pro ซึ่งเป็นโมเดลที่แม่นยำและลดข้อผิดพลาดได้มากกว่า GPT-5 รุ่นฟรี พร้อมใช้งานได้ไม่จำกัด และสามารถแชร์ GPTs กับทีมงานได้ ซึ่ง Plus ไม่สามารถทำได้

    สำหรับผู้ใช้เชิงธุรกิจ ChatGPT ยังมีแผน Business ($30/ผู้ใช้) และ Enterprise (ราคาตามตกลง) ที่ให้สิทธิ์ใช้งานโมเดลพิเศษ OpenAI o3 Pro และฟีเจอร์เชิงลึก เช่น deep research, voice agent และ Codex preview

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Gemini Pro ราคา $19.99/เดือน ส่วน ChatGPT Plus ราคา $20/เดือน
    Gemini Ultra ราคา $249.99/เดือน ขณะที่ ChatGPT Pro อยู่ที่ $200/เดือน
    Gemini Ultra มีฟีเจอร์พิเศษ เช่น Deep Think, Project Mariner และ YouTube Premium
    Gemini Ultra ให้พื้นที่เก็บข้อมูล 30TB ส่วน Pro ให้ 2TB
    ChatGPT Pro เข้าถึง GPT-5 Pro ได้แบบไม่จำกัด
    ChatGPT Pro สามารถแชร์ GPTs กับ workspace ได้
    ChatGPT Business และ Enterprise มีฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น deep research และ voice agent
    Gemini ใช้ AI credits สำหรับบริการเสริม เช่น Flow และ Whisk
    Gemini มีข้อจำกัดในการใช้งานใน Google Workspace บางส่วน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Gemini พัฒนาโดย Google DeepMind และมีการรีแบรนด์จาก Bard
    Gemini สามารถค้นหาข้อมูลแบบเรียลไทม์ผ่าน Google Search ได้
    ChatGPT มีระบบปลั๊กอินและ GPTs ที่สามารถปรับแต่งได้ตามผู้ใช้
    GPT-5 Pro มีความแม่นยำสูงกว่า GPT-5 รุ่นฟรี และลดข้อผิดพลาดได้ดี
    Gemini Ultra เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่และฟีเจอร์หลายด้านในระบบ Google

    https://www.slashgear.com/1980135/google-gemini-vs-chatgpt-price-difference/
    🤖 “Google Gemini vs ChatGPT: ศึก AI ระดับพรีเมียม ใครคุ้มค่ากว่ากันในปี 2025?” ในยุคที่ AI กลายเป็นผู้ช่วยประจำวันของผู้คนทั่วโลก Google Gemini และ ChatGPT คือสองแพลตฟอร์มที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด ทั้งในด้านความสามารถและราคาค่าบริการ โดยแต่ละเจ้ามีจุดแข็งที่แตกต่างกัน — ChatGPT เด่นด้านตรรกะและการให้เหตุผล ส่วน Gemini เหนือกว่าด้านการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนและการค้นหาข้อมูลแบบเรียลไทม์ หากมองในแง่ของราคาสำหรับผู้ใช้ทั่วไป Gemini Pro เริ่มต้นที่ $19.99/เดือน ส่วน ChatGPT Plus อยู่ที่ $20/เดือน ซึ่งแทบไม่ต่างกันเลย แต่เมื่อขยับไปยังระดับสูง Gemini Ultra อยู่ที่ $249.99/เดือน ขณะที่ ChatGPT Pro อยู่ที่ $200/เดือน ทำให้ Gemini แพงกว่าถึง $49.99 Gemini Ultra มาพร้อมฟีเจอร์พิเศษ เช่น Gemini 2.5 Deep Think สำหรับงาน reasoning ขั้นสูง และ Project Mariner ที่สามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ นอกจากนี้ยังรวม YouTube Premium และพื้นที่เก็บข้อมูล 30TB บน Google Drive, Photos และ Gmail ด้าน ChatGPT Pro แม้ราคาถูกกว่า แต่ก็ให้สิทธิ์เข้าถึง GPT-5 Pro ซึ่งเป็นโมเดลที่แม่นยำและลดข้อผิดพลาดได้มากกว่า GPT-5 รุ่นฟรี พร้อมใช้งานได้ไม่จำกัด และสามารถแชร์ GPTs กับทีมงานได้ ซึ่ง Plus ไม่สามารถทำได้ สำหรับผู้ใช้เชิงธุรกิจ ChatGPT ยังมีแผน Business ($30/ผู้ใช้) และ Enterprise (ราคาตามตกลง) ที่ให้สิทธิ์ใช้งานโมเดลพิเศษ OpenAI o3 Pro และฟีเจอร์เชิงลึก เช่น deep research, voice agent และ Codex preview ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Gemini Pro ราคา $19.99/เดือน ส่วน ChatGPT Plus ราคา $20/เดือน ➡️ Gemini Ultra ราคา $249.99/เดือน ขณะที่ ChatGPT Pro อยู่ที่ $200/เดือน ➡️ Gemini Ultra มีฟีเจอร์พิเศษ เช่น Deep Think, Project Mariner และ YouTube Premium ➡️ Gemini Ultra ให้พื้นที่เก็บข้อมูล 30TB ส่วน Pro ให้ 2TB ➡️ ChatGPT Pro เข้าถึง GPT-5 Pro ได้แบบไม่จำกัด ➡️ ChatGPT Pro สามารถแชร์ GPTs กับ workspace ได้ ➡️ ChatGPT Business และ Enterprise มีฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น deep research และ voice agent ➡️ Gemini ใช้ AI credits สำหรับบริการเสริม เช่น Flow และ Whisk ➡️ Gemini มีข้อจำกัดในการใช้งานใน Google Workspace บางส่วน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Gemini พัฒนาโดย Google DeepMind และมีการรีแบรนด์จาก Bard ➡️ Gemini สามารถค้นหาข้อมูลแบบเรียลไทม์ผ่าน Google Search ได้ ➡️ ChatGPT มีระบบปลั๊กอินและ GPTs ที่สามารถปรับแต่งได้ตามผู้ใช้ ➡️ GPT-5 Pro มีความแม่นยำสูงกว่า GPT-5 รุ่นฟรี และลดข้อผิดพลาดได้ดี ➡️ Gemini Ultra เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่และฟีเจอร์หลายด้านในระบบ Google https://www.slashgear.com/1980135/google-gemini-vs-chatgpt-price-difference/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Google Gemini And ChatGPT Price Differences - Here's How Much They Cost - SlashGear
    Gemini costs $19.99/month for the AI Pro plan, while ChatGPT Plus runs $20/month. There are more tiers and plans available for both depending on the usage.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Google Gemini Nano Banana — สร้างภาพเหมือนจริงด้วยคำสั่งเดียว พร้อมฟีเจอร์แก้ไขภาพที่แม่นยำที่สุดในโลก AI”

    ในยุคที่การสร้างภาพไม่ต้องใช้กล้องหรือโปรแกรมแต่งภาพอีกต่อไป Google ได้เปิดตัวโมเดล AI ใหม่ในชื่อ “Nano Banana” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Gemini 2.5 Flash ที่สามารถสร้างภาพเหมือนจริงจากคำสั่งข้อความได้ทันที และยังแก้ไขภาพที่มีอยู่ได้อย่างแม่นยำโดยไม่ทำลายรายละเอียดเดิม

    Nano Banana ใช้เทคโนโลยี Imagen 4 ซึ่งเป็นโมเดล text-to-image ล่าสุดจาก Google DeepMind โดยผสานการทำงานของ LLMs กับ diffusion model เพื่อสร้างภาพที่มีความละเอียดสูงถึง 2048x2048 พิกเซล พร้อมความสามารถในการรักษาโครงสร้างใบหน้า, แสง, มุมกล้อง และองค์ประกอบเดิมของภาพได้อย่างแม่นยำ

    ผู้ใช้สามารถเข้าถึง Nano Banana ได้ผ่านแอป Gemini ทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์ รวมถึง API สำหรับนักพัฒนา โดยสามารถสร้างภาพจาก prompt เดียว หรืออัปโหลดภาพเพื่อแก้ไข เช่น เปลี่ยนทรงผม, เพิ่มคนเข้าไปในภาพ, รวมภาพสองใบให้กลายเป็นภาพเดียว หรือแม้แต่แปลงภาพเป็นสไตล์ของสติ๊กเกอร์, ภาพย้อนยุค หรือภาพ 3D figurine

    Google ยังเพิ่มระบบความปลอดภัย เช่น SynthID watermark ที่ฝังในภาพแบบมองไม่เห็น และ Content Credentials (C2PA) เพื่อป้องกันการนำภาพไปใช้ในทางที่ผิด พร้อมเปิดให้ใช้งานฟรีสำหรับผู้มีบัญชี Google โดยมีข้อจำกัดจำนวนคำสั่งต่อวันสำหรับผู้ใช้ทั่วไป

    ฟีเจอร์เด่นของ Nano Banana
    สร้างภาพเหมือนจริงจากข้อความด้วยโมเดล Imagen 4
    รองรับความละเอียดสูงสุด 2048x2048 พิกเซล
    รักษาโครงสร้างใบหน้า, แสง, มุมกล้อง และองค์ประกอบเดิมของภาพ
    แก้ไขภาพได้แม่นยำ เช่น เปลี่ยนทรงผม, เสื้อผ้า, ฉากหลัง หรือเพิ่มคนเข้าไป
    รองรับการรวมภาพหลายใบให้กลายเป็นภาพเดียว
    มีฟีเจอร์สร้างภาพสไตล์ 3D figurine, สติ๊กเกอร์, ภาพย้อนยุค ฯลฯ
    ใช้งานได้ผ่านแอป Gemini, API, และ Google AI Studio
    มีระบบ SynthID watermark และ Content Credentials เพื่อความปลอดภัย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Nano Banana ได้รับความนิยมสูงสุดในอินเดีย โดยมีผู้ใช้กว่า 23 ล้านคนภายใน 2 สัปดาห์แรก
    สามารถใช้งานผ่าน WhatsApp ผ่านบอตของ Perplexity AI ได้แล้ว
    Prompt ที่ละเอียด เช่น “Create a photorealistic image of…” ให้ผลลัพธ์แม่นยำมากขึ้น
    สามารถใช้เพื่อสร้างภาพโฮโลกราฟิก, ภาพโฆษณา, หรือภาพโปรดักต์แบบหลายมุม
    เหมาะสำหรับทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักออกแบบมืออาชีพ

    https://www.slashgear.com/1974425/how-to-use-google-gemini-ai-to-create-realistic-photos-guide/
    🎨 “Google Gemini Nano Banana — สร้างภาพเหมือนจริงด้วยคำสั่งเดียว พร้อมฟีเจอร์แก้ไขภาพที่แม่นยำที่สุดในโลก AI” ในยุคที่การสร้างภาพไม่ต้องใช้กล้องหรือโปรแกรมแต่งภาพอีกต่อไป Google ได้เปิดตัวโมเดล AI ใหม่ในชื่อ “Nano Banana” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Gemini 2.5 Flash ที่สามารถสร้างภาพเหมือนจริงจากคำสั่งข้อความได้ทันที และยังแก้ไขภาพที่มีอยู่ได้อย่างแม่นยำโดยไม่ทำลายรายละเอียดเดิม Nano Banana ใช้เทคโนโลยี Imagen 4 ซึ่งเป็นโมเดล text-to-image ล่าสุดจาก Google DeepMind โดยผสานการทำงานของ LLMs กับ diffusion model เพื่อสร้างภาพที่มีความละเอียดสูงถึง 2048x2048 พิกเซล พร้อมความสามารถในการรักษาโครงสร้างใบหน้า, แสง, มุมกล้อง และองค์ประกอบเดิมของภาพได้อย่างแม่นยำ ผู้ใช้สามารถเข้าถึง Nano Banana ได้ผ่านแอป Gemini ทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์ รวมถึง API สำหรับนักพัฒนา โดยสามารถสร้างภาพจาก prompt เดียว หรืออัปโหลดภาพเพื่อแก้ไข เช่น เปลี่ยนทรงผม, เพิ่มคนเข้าไปในภาพ, รวมภาพสองใบให้กลายเป็นภาพเดียว หรือแม้แต่แปลงภาพเป็นสไตล์ของสติ๊กเกอร์, ภาพย้อนยุค หรือภาพ 3D figurine Google ยังเพิ่มระบบความปลอดภัย เช่น SynthID watermark ที่ฝังในภาพแบบมองไม่เห็น และ Content Credentials (C2PA) เพื่อป้องกันการนำภาพไปใช้ในทางที่ผิด พร้อมเปิดให้ใช้งานฟรีสำหรับผู้มีบัญชี Google โดยมีข้อจำกัดจำนวนคำสั่งต่อวันสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ✅ ฟีเจอร์เด่นของ Nano Banana ➡️ สร้างภาพเหมือนจริงจากข้อความด้วยโมเดล Imagen 4 ➡️ รองรับความละเอียดสูงสุด 2048x2048 พิกเซล ➡️ รักษาโครงสร้างใบหน้า, แสง, มุมกล้อง และองค์ประกอบเดิมของภาพ ➡️ แก้ไขภาพได้แม่นยำ เช่น เปลี่ยนทรงผม, เสื้อผ้า, ฉากหลัง หรือเพิ่มคนเข้าไป ➡️ รองรับการรวมภาพหลายใบให้กลายเป็นภาพเดียว ➡️ มีฟีเจอร์สร้างภาพสไตล์ 3D figurine, สติ๊กเกอร์, ภาพย้อนยุค ฯลฯ ➡️ ใช้งานได้ผ่านแอป Gemini, API, และ Google AI Studio ➡️ มีระบบ SynthID watermark และ Content Credentials เพื่อความปลอดภัย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Nano Banana ได้รับความนิยมสูงสุดในอินเดีย โดยมีผู้ใช้กว่า 23 ล้านคนภายใน 2 สัปดาห์แรก ➡️ สามารถใช้งานผ่าน WhatsApp ผ่านบอตของ Perplexity AI ได้แล้ว ➡️ Prompt ที่ละเอียด เช่น “Create a photorealistic image of…” ให้ผลลัพธ์แม่นยำมากขึ้น ➡️ สามารถใช้เพื่อสร้างภาพโฮโลกราฟิก, ภาพโฆษณา, หรือภาพโปรดักต์แบบหลายมุม ➡️ เหมาะสำหรับทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักออกแบบมืออาชีพ https://www.slashgear.com/1974425/how-to-use-google-gemini-ai-to-create-realistic-photos-guide/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    How To Use Google Gemini AI To Create Realistic Photos: A Step-By-Step Guide - SlashGear
    You can use Google's Gemini AI to do lots of things, but many have found it's good at generating realistic photos or touching up existing ones. Here's how.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Apple เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ปกป้องเด็กและวัยรุ่นออนไลน์ — ควบคุมง่ายขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น บนทุกอุปกรณ์”

    ในยุคที่โลกออนไลน์เต็มไปด้วยความเสี่ยงสำหรับเด็กและวัยรุ่น Apple ได้เปิดตัวชุดฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 26 และระบบปฏิบัติการอื่น ๆ เช่น iPadOS, macOS, watchOS, visionOS และ tvOS เพื่อช่วยให้ผู้ปกครองสามารถดูแลความปลอดภัยของลูกหลานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว

    หนึ่งในฟีเจอร์เด่นคือการตั้งค่า Child Account ที่ง่ายขึ้น ผู้ปกครองสามารถสร้างบัญชีสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีได้โดยตรง พร้อมระบบตรวจสอบวันเกิดและการตั้งค่าความปลอดภัยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีการขยายการป้องกันไปยังวัยรุ่นอายุ 13–17 ปี เช่น การกรองเนื้อหาเว็บ และฟีเจอร์ Communication Safety ที่จะเบลอภาพไม่เหมาะสมในแอป Messages, FaceTime และ Photos

    Apple ยังเปิดตัว API ใหม่ชื่อ Declared Age Range ที่ให้ผู้ปกครองเลือกแชร์ช่วงอายุของเด็กกับแอปต่าง ๆ แทนการให้วันเกิดจริง เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว ขณะเดียวกัน PermissionKit ก็ถูกปรับปรุงให้เด็กต้องขออนุญาตก่อนติดต่อกับบุคคลที่ไม่รู้จักในแอปของ Apple และแอปอื่น ๆ

    App Store ก็ได้รับการปรับปรุง โดยเพิ่มหมวดอายุใหม่ 13+, 16+, และ 18+ พร้อมการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับโฆษณาและเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างเอง เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถตั้งค่าการมองเห็นแอปตามอายุของลูกได้อย่างแม่นยำ

    แม้เทคโนโลยีจะช่วยได้มาก แต่ Apple ก็เน้นย้ำว่า “การมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง” คือหัวใจของการปกป้องเด็กออนไลน์อย่างแท้จริง — ไม่ใช่แค่การตั้งค่าบนอุปกรณ์ แต่คือการพูดคุย สร้างความไว้ใจ และสอนให้เด็กเข้าใจโลกดิจิทัลอย่างมีวิจารณญาณ

    ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 26 และระบบอื่น ๆ
    ตั้งค่า Child Account ได้ง่ายขึ้น พร้อมตรวจสอบวันเกิดและตั้งค่าความปลอดภัยอัตโนมัติ
    ขยายการป้องกันไปยังวัยรุ่น 13–17 ปี เช่น การกรองเว็บและเบลอภาพไม่เหมาะสม
    ใช้ Declared Age Range API เพื่อแชร์ช่วงอายุแทนวันเกิดจริง — รักษาความเป็นส่วนตัว
    PermissionKit บังคับให้เด็กต้องขออนุญาตก่อนติดต่อกับบุคคลที่ไม่รู้จัก

    การปรับปรุง App Store และระบบโดยรวม
    เพิ่มหมวดอายุใหม่ใน App Store: 13+, 16+, 18+ เพื่อกรองแอปตามวัย
    เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับโฆษณาและเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างเองในแอป
    ฟีเจอร์ใหม่ทำงานร่วมกับ Screen Time และ Ask to Buy ได้อย่างแม่นยำ
    รองรับทุกอุปกรณ์ Apple รวมถึง Vision Pro และ Apple TV

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Communication Safety ใช้ AI ตรวจจับภาพเปลือยและเบลออัตโนมัติ — ป้องกันการล่วงละเมิด
    การแชร์ช่วงอายุช่วยให้แอปปรับเนื้อหาได้โดยไม่ละเมิดข้อมูลส่วนตัว
    ระบบใหม่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลเด็กที่เริ่มบังคับใช้ในหลายประเทศ
    Apple ยืนยันว่าฟีเจอร์ทั้งหมดออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก

    https://www.slashgear.com/1968944/how-protect-teens-children-online-with-new-apple-features-ios-ipados-watchos-macos-tv/
    🛡️ “Apple เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ปกป้องเด็กและวัยรุ่นออนไลน์ — ควบคุมง่ายขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น บนทุกอุปกรณ์” ในยุคที่โลกออนไลน์เต็มไปด้วยความเสี่ยงสำหรับเด็กและวัยรุ่น Apple ได้เปิดตัวชุดฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 26 และระบบปฏิบัติการอื่น ๆ เช่น iPadOS, macOS, watchOS, visionOS และ tvOS เพื่อช่วยให้ผู้ปกครองสามารถดูแลความปลอดภัยของลูกหลานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว หนึ่งในฟีเจอร์เด่นคือการตั้งค่า Child Account ที่ง่ายขึ้น ผู้ปกครองสามารถสร้างบัญชีสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีได้โดยตรง พร้อมระบบตรวจสอบวันเกิดและการตั้งค่าความปลอดภัยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีการขยายการป้องกันไปยังวัยรุ่นอายุ 13–17 ปี เช่น การกรองเนื้อหาเว็บ และฟีเจอร์ Communication Safety ที่จะเบลอภาพไม่เหมาะสมในแอป Messages, FaceTime และ Photos Apple ยังเปิดตัว API ใหม่ชื่อ Declared Age Range ที่ให้ผู้ปกครองเลือกแชร์ช่วงอายุของเด็กกับแอปต่าง ๆ แทนการให้วันเกิดจริง เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว ขณะเดียวกัน PermissionKit ก็ถูกปรับปรุงให้เด็กต้องขออนุญาตก่อนติดต่อกับบุคคลที่ไม่รู้จักในแอปของ Apple และแอปอื่น ๆ App Store ก็ได้รับการปรับปรุง โดยเพิ่มหมวดอายุใหม่ 13+, 16+, และ 18+ พร้อมการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับโฆษณาและเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างเอง เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถตั้งค่าการมองเห็นแอปตามอายุของลูกได้อย่างแม่นยำ แม้เทคโนโลยีจะช่วยได้มาก แต่ Apple ก็เน้นย้ำว่า “การมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง” คือหัวใจของการปกป้องเด็กออนไลน์อย่างแท้จริง — ไม่ใช่แค่การตั้งค่าบนอุปกรณ์ แต่คือการพูดคุย สร้างความไว้ใจ และสอนให้เด็กเข้าใจโลกดิจิทัลอย่างมีวิจารณญาณ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 26 และระบบอื่น ๆ ➡️ ตั้งค่า Child Account ได้ง่ายขึ้น พร้อมตรวจสอบวันเกิดและตั้งค่าความปลอดภัยอัตโนมัติ ➡️ ขยายการป้องกันไปยังวัยรุ่น 13–17 ปี เช่น การกรองเว็บและเบลอภาพไม่เหมาะสม ➡️ ใช้ Declared Age Range API เพื่อแชร์ช่วงอายุแทนวันเกิดจริง — รักษาความเป็นส่วนตัว ➡️ PermissionKit บังคับให้เด็กต้องขออนุญาตก่อนติดต่อกับบุคคลที่ไม่รู้จัก ✅ การปรับปรุง App Store และระบบโดยรวม ➡️ เพิ่มหมวดอายุใหม่ใน App Store: 13+, 16+, 18+ เพื่อกรองแอปตามวัย ➡️ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับโฆษณาและเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างเองในแอป ➡️ ฟีเจอร์ใหม่ทำงานร่วมกับ Screen Time และ Ask to Buy ได้อย่างแม่นยำ ➡️ รองรับทุกอุปกรณ์ Apple รวมถึง Vision Pro และ Apple TV ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Communication Safety ใช้ AI ตรวจจับภาพเปลือยและเบลออัตโนมัติ — ป้องกันการล่วงละเมิด ➡️ การแชร์ช่วงอายุช่วยให้แอปปรับเนื้อหาได้โดยไม่ละเมิดข้อมูลส่วนตัว ➡️ ระบบใหม่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลเด็กที่เริ่มบังคับใช้ในหลายประเทศ ➡️ Apple ยืนยันว่าฟีเจอร์ทั้งหมดออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก https://www.slashgear.com/1968944/how-protect-teens-children-online-with-new-apple-features-ios-ipados-watchos-macos-tv/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Protecting Your Teens & Kids Online Just Got Much Easier If They Use Apple Devices - SlashGear
    Protecting kids online is something Apple takes seriously, so its newest options in the latest versions of its operating systems are a welcome change.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง หวังว่าเป็นแค่ข่าวลือ
    “หวังว่าเป็นแค่ข่าวลือ”
    ผมเป็นแฟนประจำของอาจารย์ทนงมากว่าสิบปี ตั้งแต่อาจารย์เขียนบทความในหนังสือพิมพ์ The Nation อ่านบทความอาจารย์แล้วได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งความคิด เมื่อวานนี้อาจารย์ทนงรวบรวมเอาความเสือกของฝรั่งที่ต้องการโยงหรือจุ้นจ้าน การสืบสันตติวงศ์ของไทยและตอนนี้เหมือนกำลังเร่งเครื่องมาลงให้อ่าน แถมเอาบทความของ “สิริอัญญา” เรื่อง “ซีเรีย โมเดล” มาลงให้อ่านอีกด้วย สิริอัญญานี้ เป็นมือระดับครูในการวิเคราะห์การเมืองไทย และมองอะไรแบบจอกว้างมีมิติ น่าสนใจมาก
    บังเอิญวันก่อน มีคนมาเล่าให้ผมฟัง ว่าได้ยินพวกสายข่าวระดับลึก กระซิบคุยกันว่า ตอนนี้มีพวก Blackwater มาเป็นฝูง เหมาชั้นอยู่ที่โรงแรม Four Seasons คนเล่าถามผมว่า เขาจะปฏิบัติการ ว.5 กันอีกหรือไง แล้วไอ้น้ำดำนี่มันเป็นใคร
    ผมบอกไม่ใช่น้ำดำที่ตระกูลนั้น เขารับเหมาอยู่ และ Blackwater นี้ ถ้าเป็นอย่างที่ผมเข้าใจ มันจะเป็น ว. 5 แบบสยองไม่ใช่แบบเสียว หวังว่าเรื่องนี้เป็นแค่ข่าวลือ
    เวลาจะมีปฎิบัติการสกปรก เก็บกวาดอะไรในประเทศเป้าหมาย อเมริกานักล่าสันดานชั่ว ไม่จำเป็นต้องใช้กองทัพเข้าไปบุกให้มันอึกทึก ให้คนรู้คนเห็นกันทั้งเมืองแต่นักล่าจะจ้างหน่วยงานนอกระบบให้มารับทำอีกต่อหนึ่ง ค่าจ้างแพงมาก เขาว่าเป็นพันล้านเหรียญต่อหนึ่งปฎิบัติการ (แปลว่าประโยชน์ที่จะได้จากงานทำ ต้องคุ้มกับค่าจ้าง) หน่วยงานพวกนี้ส่วนมากเกิดมาจากพวกซีไอเอเก่า ทหารเก๋า ฯลฯ ออกมาตั้งบริษัท (ตามสั่ง ?!) เหมือนสมัยอเมริกามาตั้งฐานทัพในบ้านเรา ตอนรบกับเวียตนาม ด้านหนึ่งขนทหารขึ้นเครื่องบินไปถล่มเวียตนามซะกระจุย อีกด้านหนึ่งก็ตั้ง Sea Supply, Air America ไปทะลายลาว พ่วงเอาพี่เทพตองสามของผมไปด้วย มันก็เป็นสันดานที่ทำมาตั้งแต่สมัยนู้น 60 ปี มาแล้ว เดี๋ยวนี้ก็ยังทำอยู่ บอกแล้วมันชอบใช้แผนเดิม ๆ แค่เปลี่ยนฉาก เปลี่ยนคน เปลี่ยนเครื่องมือให้สมัยใหม่เท่านั้น
    สมัยอเมริกาเริ่มไล่บี้อิรัค หน่วยงานเก็บกวาดที่ดังกระฉ่อน โลกในตอนนั้น คือ บริษัท Blackwater นี่แหละครับ ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ ค.ศ. 1997 โดยนาย Eric Prince ลูกเศรษฐีชาวเมือง Michigan แทนที่จะทำมาหากินขายรถยนต์อย่าง พ่อ ดันไปสมัครเข้าหน่วยงาน Seal ของนักล่า ติดใจเหมือนคนได้สูดยา เขาบอกว่าเขาชอบบรรยากาศ ชอบกลิ่นไอของการต่อสู้ ชอบความรู้สึกเวลาไปปฎิบัติการ มันเร้าใจเหลือทน ก็เลยขายสมบัติเอาเงินมาตั้งศูนย์ ฝึกอบรมทหาร รับจ้างฝึกไอ้เณรให้กองทัพ ต่อมา Blackwater นี้เปลี่ยนชื่อเป็น Xe Servicess ในปี 2009 และเปลี่ยนเป็น Academi ในปี ค.ศ. 2011 เปลี่ยนชื่อคนบริหาร แต่ไม่เปลี่ยนแนว คนปฎิบัติการมีตั้งแต่อดีตนักการทูต นักจารกรรม นักธุรกิจ อดีตซีไอเอ อดีตทหารจากหน่วย Seal หน่วย Swat ฯลฯ ประเภทนักบู๋ครบเครื่อง ผู้วางแผนปฎิบัติการเป็นอดีตทหารระดับนายพล (ไม่ใช่ประเภทที่ได้รองเท้ากอล์ฟคู่เดียวมานะครับ อย่าเข้าใจผิด) ที่ผ่านการรบจนได้เหรียญกล้าหาญประดับแผงเต็มหน้าอก ตั้งแต่สมัยรบที่เกาหลี จนถึงรบกับกองโจรในปัจจุบัน ลูกทีมที่ร่วมปฎิบัติการมีสาระ พัดชาติ เรียกว่า เป็นสหประชาชาติ สาขาสองได้เลย ผลงานที่โดดเด่นไล่มา ตั้งแต่ ปานามา โซมาเลีย บอสเนีย อาฟกานิสถาน อิรัค ลิเบีย และล่าสุด ซีเรีย กับยูเครน
    ที่น่าสนใจคือเหตุการณ์ที่ลิเบีย ยังเป็นเรื่องค้างคาจบไม่ลง ตอนไปปฎิบัติการยกทีมกันเป็น พัน ๆ คน (เขาว่าเอาไป 6,000 คน) เพื่อปฎิบัติการล้มระบอบกัดดา ฟี่ ฝั่งตัวอยู่ 4 ปี อยู่กับทั้งฝ่ายกบฏ และอยู่กับทั้งฝ่ายรัฐบาล เสี้ยมจนได้ที่ ให้ทั้ง 2 ฝ่าย รบกัน ในที่สุดก็ตายกันเป็นเบือทั้ง 2 ฝ่ายนั่นแหละ รัฐบาลแพ้ กัดดาฟี่ถูกเก็บ แต่ฝ่ายกบฏก็ไม่ได้อำนาจเต็มที่ แต่เรื่องที่ค้างอยู่ คือ เรื่องฑูตอเมริกาขณะนั้น นาย Chris Stevens ถูกฆ่าตายที่หน้าสถานกงสุล จนบัดนี้ยังไม่รู้ฝีมือใคร เพราะอะไร ซ้อนกันไปซ่อนกันมา เอาเป็นว่าเมื่อตอนที่สภาสูงได้ตั้งคณะกรรมการสอบหาความจริง คุณนาย Clinton ซึ่งเป็นรมต.ต่างประเทศขณะนั้น ถูกซักถูกฟอกรอบใหญ่ เล่นเอาคุณนายถึงกับเกิดอาการลมจับ ล้มตึง หัวฟาดต้องเข้าโรงหมอ ออกมาก็ปากคอสั่นของดการให้สัมภาษณ์ จืดรับประทานอยู่นาน
    ชาวลิเบียบอกว่าอเมริกาฆ่าปิดปากกันเอง อเมริกาบอก เฮ้ย ! ไอไม่ได้ส่งทหารเข้าไปลิเบียเลยนะ เออ จริง ! ไม่ได้ไปเป็นกองทัพ แต่ดันจ้าง UN สาขา 2 นักเก็บกวาดมือพระกาฬเข้าไปซะ 6,000 คน แล้วจะแก้ตัวอย่างไรถึงจะหลุด ! ?
    ตอนนี้ นาย Eric Prince ไม่ได้เป็นหัวหน้าใหญ่แล้ว เพราะรู้มากไป รัฐบาลอเมริกันใช้วิธีปิดปาก ด้วยการให้สรรพากรตามไล่สอบเรื่องภาษี เลยหนีหน้าไปอยู่แถวอาฟริกา เขาว่าคนมาแทนชื่อ นาย Jamie F Smith เป็นซีไอเอเก่า เป็นผู้นำการปฎิบัติการที่ซีเรีย และยูเครน ผลเป็นอย่างไรคงพอรู้ข่าวกัน
    ผมนึกถึงเรื่องฑูต Stevens นอนตายอยู่หน้าสถานกงสุลอเมริกัน นึกถึงการเสือกของอเมริกาและพวก นึกถึงเป้าหมายที่แท้จริงของนักล่า นึกถึงซีเรียโมเดลที่ “สิริอัญญา” เขียน นึกถึงทฤษฎีฝูงผึ้ง ปฎิบัติการของนาย Gene Sharp (ผมเขียนไว้ในนิทานเรื่องยุทธการฝูงผึ้ง ช่วยกลับไปอ่านกันอีกสักรอบนะครับ เดี๋ยวจะเอา link มาลงใหม่) นึกถึงข่าวที่ว่า Blackwater เข้ามาอยู่ในบ้านเราแล้ว ผมขอให้เป็นแค่ข่าวลือ
    คนอ่านนิทานของผม ฉลาดหัวไวเข้าใจเรื่องเร็วกันทั้งนั้น ไม่ต้องเขียนมาก อย่างที่อาจารย์ทนงบอก ต้องระวัง เตรียมรับมือกันหน่อยครับ
    สวัสดีครับ (วันนี้ ฮาไม่ออก !)
คนเล่านิทาน
4 มิย. 57
    ลิงค์ประกอบโพสนี้
    ต้องระวัง เตรียมรับมือฝรั่งต้องการโยงหรือจุ้นจ้านการสืบสันติวงศ์ในไทย
https://www.facebook.com/ThanongFanclub/photos/a.141923686004014.1073741827.141826422680407/236958279833887/?type=1&theater
    ซีเรียโมเดล
https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/photos/a.206278162804197.41238.206264556138891/600174116747931/?type=1&theater
    ยุทธการฝูงผึ้ง
https://www.dropbox.com/s/zrbj9r4g5oe0qr0/bb.pdf
    เรื่อง หวังว่าเป็นแค่ข่าวลือ “หวังว่าเป็นแค่ข่าวลือ” ผมเป็นแฟนประจำของอาจารย์ทนงมากว่าสิบปี ตั้งแต่อาจารย์เขียนบทความในหนังสือพิมพ์ The Nation อ่านบทความอาจารย์แล้วได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งความคิด เมื่อวานนี้อาจารย์ทนงรวบรวมเอาความเสือกของฝรั่งที่ต้องการโยงหรือจุ้นจ้าน การสืบสันตติวงศ์ของไทยและตอนนี้เหมือนกำลังเร่งเครื่องมาลงให้อ่าน แถมเอาบทความของ “สิริอัญญา” เรื่อง “ซีเรีย โมเดล” มาลงให้อ่านอีกด้วย สิริอัญญานี้ เป็นมือระดับครูในการวิเคราะห์การเมืองไทย และมองอะไรแบบจอกว้างมีมิติ น่าสนใจมาก บังเอิญวันก่อน มีคนมาเล่าให้ผมฟัง ว่าได้ยินพวกสายข่าวระดับลึก กระซิบคุยกันว่า ตอนนี้มีพวก Blackwater มาเป็นฝูง เหมาชั้นอยู่ที่โรงแรม Four Seasons คนเล่าถามผมว่า เขาจะปฏิบัติการ ว.5 กันอีกหรือไง แล้วไอ้น้ำดำนี่มันเป็นใคร ผมบอกไม่ใช่น้ำดำที่ตระกูลนั้น เขารับเหมาอยู่ และ Blackwater นี้ ถ้าเป็นอย่างที่ผมเข้าใจ มันจะเป็น ว. 5 แบบสยองไม่ใช่แบบเสียว หวังว่าเรื่องนี้เป็นแค่ข่าวลือ เวลาจะมีปฎิบัติการสกปรก เก็บกวาดอะไรในประเทศเป้าหมาย อเมริกานักล่าสันดานชั่ว ไม่จำเป็นต้องใช้กองทัพเข้าไปบุกให้มันอึกทึก ให้คนรู้คนเห็นกันทั้งเมืองแต่นักล่าจะจ้างหน่วยงานนอกระบบให้มารับทำอีกต่อหนึ่ง ค่าจ้างแพงมาก เขาว่าเป็นพันล้านเหรียญต่อหนึ่งปฎิบัติการ (แปลว่าประโยชน์ที่จะได้จากงานทำ ต้องคุ้มกับค่าจ้าง) หน่วยงานพวกนี้ส่วนมากเกิดมาจากพวกซีไอเอเก่า ทหารเก๋า ฯลฯ ออกมาตั้งบริษัท (ตามสั่ง ?!) เหมือนสมัยอเมริกามาตั้งฐานทัพในบ้านเรา ตอนรบกับเวียตนาม ด้านหนึ่งขนทหารขึ้นเครื่องบินไปถล่มเวียตนามซะกระจุย อีกด้านหนึ่งก็ตั้ง Sea Supply, Air America ไปทะลายลาว พ่วงเอาพี่เทพตองสามของผมไปด้วย มันก็เป็นสันดานที่ทำมาตั้งแต่สมัยนู้น 60 ปี มาแล้ว เดี๋ยวนี้ก็ยังทำอยู่ บอกแล้วมันชอบใช้แผนเดิม ๆ แค่เปลี่ยนฉาก เปลี่ยนคน เปลี่ยนเครื่องมือให้สมัยใหม่เท่านั้น สมัยอเมริกาเริ่มไล่บี้อิรัค หน่วยงานเก็บกวาดที่ดังกระฉ่อน โลกในตอนนั้น คือ บริษัท Blackwater นี่แหละครับ ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ ค.ศ. 1997 โดยนาย Eric Prince ลูกเศรษฐีชาวเมือง Michigan แทนที่จะทำมาหากินขายรถยนต์อย่าง พ่อ ดันไปสมัครเข้าหน่วยงาน Seal ของนักล่า ติดใจเหมือนคนได้สูดยา เขาบอกว่าเขาชอบบรรยากาศ ชอบกลิ่นไอของการต่อสู้ ชอบความรู้สึกเวลาไปปฎิบัติการ มันเร้าใจเหลือทน ก็เลยขายสมบัติเอาเงินมาตั้งศูนย์ ฝึกอบรมทหาร รับจ้างฝึกไอ้เณรให้กองทัพ ต่อมา Blackwater นี้เปลี่ยนชื่อเป็น Xe Servicess ในปี 2009 และเปลี่ยนเป็น Academi ในปี ค.ศ. 2011 เปลี่ยนชื่อคนบริหาร แต่ไม่เปลี่ยนแนว คนปฎิบัติการมีตั้งแต่อดีตนักการทูต นักจารกรรม นักธุรกิจ อดีตซีไอเอ อดีตทหารจากหน่วย Seal หน่วย Swat ฯลฯ ประเภทนักบู๋ครบเครื่อง ผู้วางแผนปฎิบัติการเป็นอดีตทหารระดับนายพล (ไม่ใช่ประเภทที่ได้รองเท้ากอล์ฟคู่เดียวมานะครับ อย่าเข้าใจผิด) ที่ผ่านการรบจนได้เหรียญกล้าหาญประดับแผงเต็มหน้าอก ตั้งแต่สมัยรบที่เกาหลี จนถึงรบกับกองโจรในปัจจุบัน ลูกทีมที่ร่วมปฎิบัติการมีสาระ พัดชาติ เรียกว่า เป็นสหประชาชาติ สาขาสองได้เลย ผลงานที่โดดเด่นไล่มา ตั้งแต่ ปานามา โซมาเลีย บอสเนีย อาฟกานิสถาน อิรัค ลิเบีย และล่าสุด ซีเรีย กับยูเครน ที่น่าสนใจคือเหตุการณ์ที่ลิเบีย ยังเป็นเรื่องค้างคาจบไม่ลง ตอนไปปฎิบัติการยกทีมกันเป็น พัน ๆ คน (เขาว่าเอาไป 6,000 คน) เพื่อปฎิบัติการล้มระบอบกัดดา ฟี่ ฝั่งตัวอยู่ 4 ปี อยู่กับทั้งฝ่ายกบฏ และอยู่กับทั้งฝ่ายรัฐบาล เสี้ยมจนได้ที่ ให้ทั้ง 2 ฝ่าย รบกัน ในที่สุดก็ตายกันเป็นเบือทั้ง 2 ฝ่ายนั่นแหละ รัฐบาลแพ้ กัดดาฟี่ถูกเก็บ แต่ฝ่ายกบฏก็ไม่ได้อำนาจเต็มที่ แต่เรื่องที่ค้างอยู่ คือ เรื่องฑูตอเมริกาขณะนั้น นาย Chris Stevens ถูกฆ่าตายที่หน้าสถานกงสุล จนบัดนี้ยังไม่รู้ฝีมือใคร เพราะอะไร ซ้อนกันไปซ่อนกันมา เอาเป็นว่าเมื่อตอนที่สภาสูงได้ตั้งคณะกรรมการสอบหาความจริง คุณนาย Clinton ซึ่งเป็นรมต.ต่างประเทศขณะนั้น ถูกซักถูกฟอกรอบใหญ่ เล่นเอาคุณนายถึงกับเกิดอาการลมจับ ล้มตึง หัวฟาดต้องเข้าโรงหมอ ออกมาก็ปากคอสั่นของดการให้สัมภาษณ์ จืดรับประทานอยู่นาน ชาวลิเบียบอกว่าอเมริกาฆ่าปิดปากกันเอง อเมริกาบอก เฮ้ย ! ไอไม่ได้ส่งทหารเข้าไปลิเบียเลยนะ เออ จริง ! ไม่ได้ไปเป็นกองทัพ แต่ดันจ้าง UN สาขา 2 นักเก็บกวาดมือพระกาฬเข้าไปซะ 6,000 คน แล้วจะแก้ตัวอย่างไรถึงจะหลุด ! ? ตอนนี้ นาย Eric Prince ไม่ได้เป็นหัวหน้าใหญ่แล้ว เพราะรู้มากไป รัฐบาลอเมริกันใช้วิธีปิดปาก ด้วยการให้สรรพากรตามไล่สอบเรื่องภาษี เลยหนีหน้าไปอยู่แถวอาฟริกา เขาว่าคนมาแทนชื่อ นาย Jamie F Smith เป็นซีไอเอเก่า เป็นผู้นำการปฎิบัติการที่ซีเรีย และยูเครน ผลเป็นอย่างไรคงพอรู้ข่าวกัน ผมนึกถึงเรื่องฑูต Stevens นอนตายอยู่หน้าสถานกงสุลอเมริกัน นึกถึงการเสือกของอเมริกาและพวก นึกถึงเป้าหมายที่แท้จริงของนักล่า นึกถึงซีเรียโมเดลที่ “สิริอัญญา” เขียน นึกถึงทฤษฎีฝูงผึ้ง ปฎิบัติการของนาย Gene Sharp (ผมเขียนไว้ในนิทานเรื่องยุทธการฝูงผึ้ง ช่วยกลับไปอ่านกันอีกสักรอบนะครับ เดี๋ยวจะเอา link มาลงใหม่) นึกถึงข่าวที่ว่า Blackwater เข้ามาอยู่ในบ้านเราแล้ว ผมขอให้เป็นแค่ข่าวลือ คนอ่านนิทานของผม ฉลาดหัวไวเข้าใจเรื่องเร็วกันทั้งนั้น ไม่ต้องเขียนมาก อย่างที่อาจารย์ทนงบอก ต้องระวัง เตรียมรับมือกันหน่อยครับ สวัสดีครับ (วันนี้ ฮาไม่ออก !)
คนเล่านิทาน
4 มิย. 57 ลิงค์ประกอบโพสนี้ ต้องระวัง เตรียมรับมือฝรั่งต้องการโยงหรือจุ้นจ้านการสืบสันติวงศ์ในไทย
https://www.facebook.com/ThanongFanclub/photos/a.141923686004014.1073741827.141826422680407/236958279833887/?type=1&theater ซีเรียโมเดล
https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/photos/a.206278162804197.41238.206264556138891/600174116747931/?type=1&theater ยุทธการฝูงผึ้ง
https://www.dropbox.com/s/zrbj9r4g5oe0qr0/bb.pdf
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 395 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Intel Arc Pro B50 พลิกเกมเวิร์กสเตชัน — แซงหน้า Nvidia RTX A1000 ทั้งด้าน AI และงานสร้างสรรค์ ด้วยราคาที่จับต้องได้”

    Intel สร้างความประหลาดใจให้กับวงการเวิร์กสเตชันด้วยการเปิดตัว Arc Pro B50 การ์ดจอระดับมืออาชีพรุ่นใหม่ที่แม้จะมีขนาดเล็กและราคาย่อมเยา แต่กลับสามารถเอาชนะ Nvidia RTX A1000 ได้ในหลายด้าน ทั้งงาน AI, การเรนเดอร์ Blender และแอป Adobe ที่ใช้ GPU หนัก ๆ

    Arc Pro B50 ใช้สถาปัตยกรรม Xe2 รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นพื้นฐานเดียวกับซีรีส์ Battlemage สำหรับผู้บริโภค โดยมี 16 Xe2 cores และ 128 XMX matrix engines พร้อมหน่วยความจำ GDDR6 ขนาด 16GB — มากกว่า A1000 ที่มีเพียง 8GB และให้แบนด์วิดท์สูงถึง 224GB/s

    การ์ดนี้ออกแบบมาให้มีขนาดเล็กเพียง 168 มม. ใช้พลังงานแค่ 70W ไม่ต้องต่อไฟเพิ่ม และมาพร้อมพอร์ต Mini DisplayPort 2.1 ถึง 4 ช่อง ซึ่งเหนือกว่าพอร์ต 1.4a ของ A1000 อย่างชัดเจน

    ในการทดสอบจริง Arc Pro B50 ทำคะแนนเหนือกว่า A1000 ในหลายแอป เช่น Photoshop (ดีกว่า 7%), Premiere Pro (ดีกว่า 20%) และ Blender (ดีกว่า 20%) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ Nvidia เคยครองตลาดมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังทำคะแนนสูงกว่าใน MLPerf และ Procyon AI benchmarks โดยเฉพาะด้าน computer vision และ text generation

    แม้จะมีจุดอ่อนในบางแอป เช่น Revit และ Inventor ที่ A1000 ยังทำงานได้เร็วกว่า แต่ในภาพรวม Arc Pro B50 ถือเป็นการ์ดที่ให้ความคุ้มค่าสูงมากในราคาเพียง $350 และได้รับการรับรองจากซอฟต์แวร์มืออาชีพกว่า 50 รายการ

    จุดเด่นของ Intel Arc Pro B50
    ใช้สถาปัตยกรรม Xe2 พร้อม 16 Xe2 cores และ 128 XMX engines
    หน่วยความจำ GDDR6 ขนาด 16GB — มากกว่า A1000 ถึง 2 เท่า
    แบนด์วิดท์ 224GB/s และ FP8 compute สูงถึง 170 TOPS
    ขนาดเล็ก 168 มม. ใช้พลังงานเพียง 70W ไม่ต้องต่อไฟเพิ่ม

    ประสิทธิภาพในการใช้งานจริง
    Photoshop ดีกว่า A1000 ประมาณ 7% โดยเฉพาะงาน GPU-heavy
    Premiere Pro ดีกว่าเกือบ 20% ในงานตัดต่อวิดีโอ
    Blender เรนเดอร์เร็วกว่า A1000 ถึง 20% — พลิกเกมจากเดิมที่ Nvidia ครอง
    MLPerf และ Procyon AI แสดงผลลัพธ์ดีกว่าในงาน computer vision และ text generation

    ความเหมาะสมกับงานมืออาชีพ
    ได้รับการรับรองจากซอฟต์แวร์มืออาชีพกว่า 50 รายการ เช่น Adobe, Autodesk
    มีพอร์ต Mini DisplayPort 2.1 จำนวน 4 ช่อง — รองรับจอความละเอียดสูง
    เหมาะกับงาน CAD, การตัดต่อ, โมเดล AI ขนาดเล็ก และงานสร้างสรรค์
    ราคาขายเพียง $350 — คุ้มค่ากว่าการ์ดระดับเดียวกัน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Xe2 cores รองรับ SIMD16 — ดีกว่ารุ่นก่อนที่รองรับแค่ SIMD8
    มี dual media engine รองรับการเข้ารหัส/ถอดรหัสวิดีโอ 8K 10-bit
    มีการพัฒนา containerized Linux สำหรับงาน LLM โดยเฉพาะ
    Arc Pro B50 ใช้ GPU BMG-G21 ที่ Intel ปรับแต่งให้เหมาะกับต้นทุน

    https://www.techradar.com/pro/an-impressive-little-gpu-reviewers-surprised-by-intel-arc-pro-b50-gpus-superior-display-against-nvidias-rtx-a1000
    🎨 “Intel Arc Pro B50 พลิกเกมเวิร์กสเตชัน — แซงหน้า Nvidia RTX A1000 ทั้งด้าน AI และงานสร้างสรรค์ ด้วยราคาที่จับต้องได้” Intel สร้างความประหลาดใจให้กับวงการเวิร์กสเตชันด้วยการเปิดตัว Arc Pro B50 การ์ดจอระดับมืออาชีพรุ่นใหม่ที่แม้จะมีขนาดเล็กและราคาย่อมเยา แต่กลับสามารถเอาชนะ Nvidia RTX A1000 ได้ในหลายด้าน ทั้งงาน AI, การเรนเดอร์ Blender และแอป Adobe ที่ใช้ GPU หนัก ๆ Arc Pro B50 ใช้สถาปัตยกรรม Xe2 รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นพื้นฐานเดียวกับซีรีส์ Battlemage สำหรับผู้บริโภค โดยมี 16 Xe2 cores และ 128 XMX matrix engines พร้อมหน่วยความจำ GDDR6 ขนาด 16GB — มากกว่า A1000 ที่มีเพียง 8GB และให้แบนด์วิดท์สูงถึง 224GB/s การ์ดนี้ออกแบบมาให้มีขนาดเล็กเพียง 168 มม. ใช้พลังงานแค่ 70W ไม่ต้องต่อไฟเพิ่ม และมาพร้อมพอร์ต Mini DisplayPort 2.1 ถึง 4 ช่อง ซึ่งเหนือกว่าพอร์ต 1.4a ของ A1000 อย่างชัดเจน ในการทดสอบจริง Arc Pro B50 ทำคะแนนเหนือกว่า A1000 ในหลายแอป เช่น Photoshop (ดีกว่า 7%), Premiere Pro (ดีกว่า 20%) และ Blender (ดีกว่า 20%) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ Nvidia เคยครองตลาดมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังทำคะแนนสูงกว่าใน MLPerf และ Procyon AI benchmarks โดยเฉพาะด้าน computer vision และ text generation แม้จะมีจุดอ่อนในบางแอป เช่น Revit และ Inventor ที่ A1000 ยังทำงานได้เร็วกว่า แต่ในภาพรวม Arc Pro B50 ถือเป็นการ์ดที่ให้ความคุ้มค่าสูงมากในราคาเพียง $350 และได้รับการรับรองจากซอฟต์แวร์มืออาชีพกว่า 50 รายการ ✅ จุดเด่นของ Intel Arc Pro B50 ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม Xe2 พร้อม 16 Xe2 cores และ 128 XMX engines ➡️ หน่วยความจำ GDDR6 ขนาด 16GB — มากกว่า A1000 ถึง 2 เท่า ➡️ แบนด์วิดท์ 224GB/s และ FP8 compute สูงถึง 170 TOPS ➡️ ขนาดเล็ก 168 มม. ใช้พลังงานเพียง 70W ไม่ต้องต่อไฟเพิ่ม ✅ ประสิทธิภาพในการใช้งานจริง ➡️ Photoshop ดีกว่า A1000 ประมาณ 7% โดยเฉพาะงาน GPU-heavy ➡️ Premiere Pro ดีกว่าเกือบ 20% ในงานตัดต่อวิดีโอ ➡️ Blender เรนเดอร์เร็วกว่า A1000 ถึง 20% — พลิกเกมจากเดิมที่ Nvidia ครอง ➡️ MLPerf และ Procyon AI แสดงผลลัพธ์ดีกว่าในงาน computer vision และ text generation ✅ ความเหมาะสมกับงานมืออาชีพ ➡️ ได้รับการรับรองจากซอฟต์แวร์มืออาชีพกว่า 50 รายการ เช่น Adobe, Autodesk ➡️ มีพอร์ต Mini DisplayPort 2.1 จำนวน 4 ช่อง — รองรับจอความละเอียดสูง ➡️ เหมาะกับงาน CAD, การตัดต่อ, โมเดล AI ขนาดเล็ก และงานสร้างสรรค์ ➡️ ราคาขายเพียง $350 — คุ้มค่ากว่าการ์ดระดับเดียวกัน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Xe2 cores รองรับ SIMD16 — ดีกว่ารุ่นก่อนที่รองรับแค่ SIMD8 ➡️ มี dual media engine รองรับการเข้ารหัส/ถอดรหัสวิดีโอ 8K 10-bit ➡️ มีการพัฒนา containerized Linux สำหรับงาน LLM โดยเฉพาะ ➡️ Arc Pro B50 ใช้ GPU BMG-G21 ที่ Intel ปรับแต่งให้เหมาะกับต้นทุน https://www.techradar.com/pro/an-impressive-little-gpu-reviewers-surprised-by-intel-arc-pro-b50-gpus-superior-display-against-nvidias-rtx-a1000
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI สร้างอดีตที่เราไม่เคยมี — เมื่อความคิดถึงยุค 90 กลายเป็นภาพจำปลอมที่คนรุ่นใหม่หลงรัก”

    ในยุคที่โลกจริงเต็มไปด้วยความวุ่นวายและความไม่แน่นอน ผู้คนจำนวนมากหันกลับไปหาความทรงจำในอดีตเพื่อปลอบใจตนเอง และตอนนี้ AI ได้กลายเป็นเครื่องมือหลักในการสร้าง “อดีตจำลอง” ที่ทั้งสวยงามและน่าหลงใหล แม้จะไม่เคยเกิดขึ้นจริงก็ตาม

    บน TikTok และ Instagram มีคลิปวิดีโอจำนวนมากที่จำลองบรรยากาศยุค 80 และ 90 ด้วยภาพที่ดูเหมือนหลุดมาจากเทป VHS หรือโฆษณาเก่า — แต่ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นด้วย AI เช่น Midjourney, DaVinci Resolve และ Photoshop โดยผู้สร้างเนื้อหาชื่อดังอย่าง Nostalgia Cat, Purest Nostalgia และ Maximal Nostalgia

    คลิปเหล่านี้มักมีตัวละครวัยรุ่นที่พูดประโยคชวนฝัน เช่น “ไม่มีแชต ไม่มี DM มีแต่เรื่องราวรอบกองไฟจนเช้า” ทั้งที่ยุค 2000 ก็มีมือถือแล้วก็ตาม ความย้อนแยงนี้ไม่ได้ทำให้ผู้ชมรู้สึกแปลก — กลับยิ่งเพิ่มความรู้สึก “คิดถึง” ที่ไม่ต้องอิงความจริง

    ผู้สร้างเนื้อหาอย่าง Josh Crowe และ Tavaius Dawson ยอมรับว่าไม่ได้ตั้งใจให้เนื้อหาถูกต้องทางประวัติศาสตร์ แต่เน้น “ความรู้สึกดี” และ “พื้นที่ปลอดภัย” สำหรับผู้ชม โดยมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นหลักแสนต่อเดือน และบางคลิปมียอดวิวถึง 27 ล้านครั้ง

    นักวิจารณ์วัฒนธรรมบางคน เช่น Christine Rosen เตือนว่า การจมอยู่กับภาพจำปลอมอาจทำให้เรายิ่งห่างจากความจริง และความรู้สึกคิดถึงนั้นอาจไม่ได้ช่วยเยียวยา แต่กลับทำให้รู้สึกแย่ลงเมื่อกลับสู่โลกจริง

    การสร้างเนื้อหาแนวย้อนยุคด้วย AI
    ใช้เครื่องมืออย่าง Midjourney, DaVinci Resolve และ Photoshop
    สร้างภาพจำยุค 80–90 ด้วยเทคนิค VHS, Polaroid และ 35mm film
    ตัวละครในคลิปเป็น AI ทั้งหมด รวมถึงบทพูดและฉาก
    เน้นความรู้สึก “คิดถึง” มากกว่าความถูกต้องทางประวัติศาสตร์

    ผู้สร้างเนื้อหาและกระแสตอบรับ
    Nostalgia Cat, Purest Nostalgia และ Maximal Nostalgia มีผู้ติดตามหลักแสน
    Josh Crowe ใช้ภาพจริงผสมกับ prompt engineering เพื่อสร้างฉาก
    Tavaius Dawson เขียนสคริปต์และ storyboard สำหรับแต่ละคลิป
    ผู้ชมจากทั่วโลก เช่น ยูเครนและอิสราเอล ส่งข้อความขอบคุณที่ช่วยเยียวยาจิตใจ

    ความรู้สึกคิดถึงในยุคดิจิทัล
    คนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในยุคนั้นกลับรู้สึกผูกพันกับภาพจำที่สร้างขึ้น
    นักวิจัยเช่น Clay Routledge พบว่าเยาวชนมีแนวโน้ม “คิดถึงอดีต” มากขึ้น
    AI กลายเป็นเครื่องมือสร้าง “ความทรงจำจำลอง” ที่มีพลังทางอารมณ์
    ความนิยมของเนื้อหาแนวย้อนยุคเพิ่มขึ้นในช่วงที่โลกจริงเต็มไปด้วยความเครียด

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Vanilla Ice แสดงความคิดเห็นว่า “คอมพิวเตอร์ทำลายโลก” ในคลิป AI ย้อนยุค
    นักพัฒนาเว็บอย่าง Scott Anderson พบว่าตนเองดูคลิป AI โดยไม่รู้ตัว
    Christine Rosen เตือนว่า “ความคิดถึงที่สร้างด้วย AI อาจทำให้เรารู้สึกแย่ลง”
    ความนิยมของคลิปแนวย้อนยุคสะท้อนความต้องการ “ความมั่นคงทางอารมณ์”

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/11/remember-when-things-were-better-in-the-90s-ai-does-too
    📼 “AI สร้างอดีตที่เราไม่เคยมี — เมื่อความคิดถึงยุค 90 กลายเป็นภาพจำปลอมที่คนรุ่นใหม่หลงรัก” ในยุคที่โลกจริงเต็มไปด้วยความวุ่นวายและความไม่แน่นอน ผู้คนจำนวนมากหันกลับไปหาความทรงจำในอดีตเพื่อปลอบใจตนเอง และตอนนี้ AI ได้กลายเป็นเครื่องมือหลักในการสร้าง “อดีตจำลอง” ที่ทั้งสวยงามและน่าหลงใหล แม้จะไม่เคยเกิดขึ้นจริงก็ตาม บน TikTok และ Instagram มีคลิปวิดีโอจำนวนมากที่จำลองบรรยากาศยุค 80 และ 90 ด้วยภาพที่ดูเหมือนหลุดมาจากเทป VHS หรือโฆษณาเก่า — แต่ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นด้วย AI เช่น Midjourney, DaVinci Resolve และ Photoshop โดยผู้สร้างเนื้อหาชื่อดังอย่าง Nostalgia Cat, Purest Nostalgia และ Maximal Nostalgia คลิปเหล่านี้มักมีตัวละครวัยรุ่นที่พูดประโยคชวนฝัน เช่น “ไม่มีแชต ไม่มี DM มีแต่เรื่องราวรอบกองไฟจนเช้า” ทั้งที่ยุค 2000 ก็มีมือถือแล้วก็ตาม ความย้อนแยงนี้ไม่ได้ทำให้ผู้ชมรู้สึกแปลก — กลับยิ่งเพิ่มความรู้สึก “คิดถึง” ที่ไม่ต้องอิงความจริง ผู้สร้างเนื้อหาอย่าง Josh Crowe และ Tavaius Dawson ยอมรับว่าไม่ได้ตั้งใจให้เนื้อหาถูกต้องทางประวัติศาสตร์ แต่เน้น “ความรู้สึกดี” และ “พื้นที่ปลอดภัย” สำหรับผู้ชม โดยมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นหลักแสนต่อเดือน และบางคลิปมียอดวิวถึง 27 ล้านครั้ง นักวิจารณ์วัฒนธรรมบางคน เช่น Christine Rosen เตือนว่า การจมอยู่กับภาพจำปลอมอาจทำให้เรายิ่งห่างจากความจริง และความรู้สึกคิดถึงนั้นอาจไม่ได้ช่วยเยียวยา แต่กลับทำให้รู้สึกแย่ลงเมื่อกลับสู่โลกจริง ✅ การสร้างเนื้อหาแนวย้อนยุคด้วย AI ➡️ ใช้เครื่องมืออย่าง Midjourney, DaVinci Resolve และ Photoshop ➡️ สร้างภาพจำยุค 80–90 ด้วยเทคนิค VHS, Polaroid และ 35mm film ➡️ ตัวละครในคลิปเป็น AI ทั้งหมด รวมถึงบทพูดและฉาก ➡️ เน้นความรู้สึก “คิดถึง” มากกว่าความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ ✅ ผู้สร้างเนื้อหาและกระแสตอบรับ ➡️ Nostalgia Cat, Purest Nostalgia และ Maximal Nostalgia มีผู้ติดตามหลักแสน ➡️ Josh Crowe ใช้ภาพจริงผสมกับ prompt engineering เพื่อสร้างฉาก ➡️ Tavaius Dawson เขียนสคริปต์และ storyboard สำหรับแต่ละคลิป ➡️ ผู้ชมจากทั่วโลก เช่น ยูเครนและอิสราเอล ส่งข้อความขอบคุณที่ช่วยเยียวยาจิตใจ ✅ ความรู้สึกคิดถึงในยุคดิจิทัล ➡️ คนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในยุคนั้นกลับรู้สึกผูกพันกับภาพจำที่สร้างขึ้น ➡️ นักวิจัยเช่น Clay Routledge พบว่าเยาวชนมีแนวโน้ม “คิดถึงอดีต” มากขึ้น ➡️ AI กลายเป็นเครื่องมือสร้าง “ความทรงจำจำลอง” ที่มีพลังทางอารมณ์ ➡️ ความนิยมของเนื้อหาแนวย้อนยุคเพิ่มขึ้นในช่วงที่โลกจริงเต็มไปด้วยความเครียด ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Vanilla Ice แสดงความคิดเห็นว่า “คอมพิวเตอร์ทำลายโลก” ในคลิป AI ย้อนยุค ➡️ นักพัฒนาเว็บอย่าง Scott Anderson พบว่าตนเองดูคลิป AI โดยไม่รู้ตัว ➡️ Christine Rosen เตือนว่า “ความคิดถึงที่สร้างด้วย AI อาจทำให้เรารู้สึกแย่ลง” ➡️ ความนิยมของคลิปแนวย้อนยุคสะท้อนความต้องการ “ความมั่นคงทางอารมณ์” https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/11/remember-when-things-were-better-in-the-90s-ai-does-too
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Remember when things were better in the '90s? AI does, too
    Dubious videos about the glory of bygone eras are creating nostalgia for those too young to fact check them.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • 19 Rare And Obscure Color Words Unlike Any Others

    Do you know all of your colors? No, we aren’t just talking about red and green. We mean color words like quercitron, puce, and dragon’s blood. There are so many unique and fascinating words that describe shades of color in our language. If you stop at the basics, you might just miss out on some of the most vivid and historically interesting shades that exist. Luckily, we’re here to prevent that. To celebrate all of the colors of the rainbow, and then some, we’ve put together a list of rare color words that are unlike any other. Keep reading for 19 obscure color words you may not have heard before.

    1. dragon’s blood
    This shade of red has a great name, but we’re sorry to disappoint you: it doesn’t actually come from dragons. Dragon’s blood is also sometimes called Pompeian red, and it’s a “dull, grayish red.” The color is associated with the deep-red resin that exudes from the fruit of palms, like the Malaysian palm and the dragon tree. It was first recorded in English in the 1590s.

    2. quercitron
    Quercitron might sound like a new type of robot technology, but it’s actually a shade of yellow. It’s named for the yellow dye produced by the bark of an oak tree that’s native to eastern North America. The word is a combination of the Latin quercus, or “oak,” and citron, “a grayish-green yellow color.”

    3. ultramarine
    If you’re imagining ultramarine as “a deep-blue color,” you are correct. In Medieval Latin, from which this word derives, ultramarinus literally means “beyond the sea.” This is because, historically, pigment from the mineral lapis lazuli was needed to make ultramarine dye, and this mineral had to be imported to Europe from Asia. Ultramarine has been in use in English since the late 1500s.

    4. annatto
    Annatto is a yellowish-red color, named for the dye that can be obtained from the pulp enclosing the seeds of the tree of the same name. This tree is also sometimes called the lipstick tree, and its dye is still used today to color cosmetics, butter, and cheese. The word annatto was borrowed into English from Carib.

    5. Tyrian purple
    Looking for “a vivid, purplish red”? Tyrian purple is your color. Tyrian purple was highly prized during the Byzantine empire, in part because of how difficult it was to obtain. The base to create this shade of purple had to be obtained from the secretions of a predatory sea snail. The term Tyrian purple has been in use in English since the late 1500s.

    6. Mazarine
    Mazarine is “a deep, rich blue,” most commonly associated with textiles and ceramics. The word first entered English between 1665 to 1675, but its origins aren’t fully known. The name may be an homage to a famous Italian cardinal, Cardinal Mazarin, who was culturally influential.

    7. cerulean
    Speaking of shades of blue, what about cerulean? Cerulean is best described as “deep blue; sky blue; azure.” In fact, it comes from the Latin caeruleus, meaning “dark blue.” The word has been in use in English since the mid-1600s, though the artist’s cerulean blue emerged closer to the late 1800s.

    8. greige
    What do you call “a warm beige color with gray undertones”? Greige, of course. This may sound like a trendy compound word that was invented by HGTV in the 2000s, but the color greige has actually been around for a while. Its name was first recorded in English as early as 1925, and it actually comes from the French grège, meaning “raw,” which was used to describe silk.

    9. citreous
    If the word citreous gives you visions of lemons and limes, you’re on the right track. This color is “lemon-yellow” or “greenish-yellow.” As you may have guessed, it is closely associated with citrus. In Latin, citreus means “of the citrus tree.” We’ve been using this term in English since at least 1865.

    10. ponceau
    You might see ponceau during a sunset. It means “a vivid reddish-orange color.” It may also make you think of poppies, as it likely derives from the Old French pouncel, or “poppy.” It was first recorded in English as early as 1825.

    11. sepia
    If you’ve ever used an Instagram filter, you’re probably familiar with sepia. This “brown, grayish brown, or olive brown” is often used in photography to give photos an old-fashioned vibe. The Latin sēpia, from which this word originates, means “cuttlefish” (and this is the creature that secretes the pigment used to create sepia).

    12. gamboge
    Gamboge is a “yellow or yellow-orange” color. It’s named for the yellow color of gum resin that comes from a type of tree native to Cambodia. Gamboge comes from Modern Latin cambogium, which is the Latin version of the place name Cambodia. This distinctive color name first appeared in English in the early 1600s.

    13. lovat
    Lovat doesn’t just describe one color. It means “a grayish blend of colors, especially of green, used in textiles, as for plaids.” First recorded between 1905 and 1910, lovat is likely named after Thomas Alexander Fraser, also known as Lord Lovat, who helped popularize tweeds in muted colors as attire for hunters.

    14. smaragdine
    If something is “emerald-green in color,” you can call it smaragdine. While this term is more rare, smaragd actually means “emerald” in Middle English. It’s likely that English speakers borrowed the term from the Greek smarágdinos, which was probably itself borrowed from Sanskrit marakata. The term has a long history and was first recorded in English as early as 1350.

    15. puce
    In French, puce means “flea” or “flea-colored.” In English, it’s most often used to describe “a dark or brownish purple.” Historically, it may also have been associated with the color of the scab or mark that a flea bite leaves behind. In any case, this creepy, crawly color word has existed in English since the 1780s.

    16. Viridian
    Let’s talk about green things, like Kermit the Frog, grass, or viridian. Viridian is the color of “a long-lasting bluish-green pigment.” Its name comes from the Latin viridi or viridis, which literally means “green.” Viridian entered English in the 1800s.

    17. heliotrope
    Heliotrope may sound like a chemical compound, but it’s actually a color that comes from a plant. It means “a light tint of purple; reddish lavender,” as found on the flowers of several plants belonging to the genus Heliotropium. These plants turn their leaves to the sun, hence their name, which can be traced to the Greek god Helios, or “sun.”

    18. sable
    Sable is another word for the color black. Typically it describes something “very dark or black,” that resembles the fur of an actual sable, an Old World weasel-like mammal. Sable entered English in the late 1200s or early 1300s.

    19. wheaten
    What color is wheaten? It might not surprise you to find out that this color word is pretty literal. It means “of the color of wheat, especially a pale yellow-brown color.” It’s also among the oldest words on our list, appearing in English before the year 900.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    19 Rare And Obscure Color Words Unlike Any Others Do you know all of your colors? No, we aren’t just talking about red and green. We mean color words like quercitron, puce, and dragon’s blood. There are so many unique and fascinating words that describe shades of color in our language. If you stop at the basics, you might just miss out on some of the most vivid and historically interesting shades that exist. Luckily, we’re here to prevent that. To celebrate all of the colors of the rainbow, and then some, we’ve put together a list of rare color words that are unlike any other. Keep reading for 19 obscure color words you may not have heard before. 1. dragon’s blood This shade of red has a great name, but we’re sorry to disappoint you: it doesn’t actually come from dragons. Dragon’s blood is also sometimes called Pompeian red, and it’s a “dull, grayish red.” The color is associated with the deep-red resin that exudes from the fruit of palms, like the Malaysian palm and the dragon tree. It was first recorded in English in the 1590s. 2. quercitron Quercitron might sound like a new type of robot technology, but it’s actually a shade of yellow. It’s named for the yellow dye produced by the bark of an oak tree that’s native to eastern North America. The word is a combination of the Latin quercus, or “oak,” and citron, “a grayish-green yellow color.” 3. ultramarine If you’re imagining ultramarine as “a deep-blue color,” you are correct. In Medieval Latin, from which this word derives, ultramarinus literally means “beyond the sea.” This is because, historically, pigment from the mineral lapis lazuli was needed to make ultramarine dye, and this mineral had to be imported to Europe from Asia. Ultramarine has been in use in English since the late 1500s. 4. annatto Annatto is a yellowish-red color, named for the dye that can be obtained from the pulp enclosing the seeds of the tree of the same name. This tree is also sometimes called the lipstick tree, and its dye is still used today to color cosmetics, butter, and cheese. The word annatto was borrowed into English from Carib. 5. Tyrian purple Looking for “a vivid, purplish red”? Tyrian purple is your color. Tyrian purple was highly prized during the Byzantine empire, in part because of how difficult it was to obtain. The base to create this shade of purple had to be obtained from the secretions of a predatory sea snail. The term Tyrian purple has been in use in English since the late 1500s. 6. Mazarine Mazarine is “a deep, rich blue,” most commonly associated with textiles and ceramics. The word first entered English between 1665 to 1675, but its origins aren’t fully known. The name may be an homage to a famous Italian cardinal, Cardinal Mazarin, who was culturally influential. 7. cerulean Speaking of shades of blue, what about cerulean? Cerulean is best described as “deep blue; sky blue; azure.” In fact, it comes from the Latin caeruleus, meaning “dark blue.” The word has been in use in English since the mid-1600s, though the artist’s cerulean blue emerged closer to the late 1800s. 8. greige What do you call “a warm beige color with gray undertones”? Greige, of course. This may sound like a trendy compound word that was invented by HGTV in the 2000s, but the color greige has actually been around for a while. Its name was first recorded in English as early as 1925, and it actually comes from the French grège, meaning “raw,” which was used to describe silk. 9. citreous If the word citreous gives you visions of lemons and limes, you’re on the right track. This color is “lemon-yellow” or “greenish-yellow.” As you may have guessed, it is closely associated with citrus. In Latin, citreus means “of the citrus tree.” We’ve been using this term in English since at least 1865. 10. ponceau You might see ponceau during a sunset. It means “a vivid reddish-orange color.” It may also make you think of poppies, as it likely derives from the Old French pouncel, or “poppy.” It was first recorded in English as early as 1825. 11. sepia If you’ve ever used an Instagram filter, you’re probably familiar with sepia. This “brown, grayish brown, or olive brown” is often used in photography to give photos an old-fashioned vibe. The Latin sēpia, from which this word originates, means “cuttlefish” (and this is the creature that secretes the pigment used to create sepia). 12. gamboge Gamboge is a “yellow or yellow-orange” color. It’s named for the yellow color of gum resin that comes from a type of tree native to Cambodia. Gamboge comes from Modern Latin cambogium, which is the Latin version of the place name Cambodia. This distinctive color name first appeared in English in the early 1600s. 13. lovat Lovat doesn’t just describe one color. It means “a grayish blend of colors, especially of green, used in textiles, as for plaids.” First recorded between 1905 and 1910, lovat is likely named after Thomas Alexander Fraser, also known as Lord Lovat, who helped popularize tweeds in muted colors as attire for hunters. 14. smaragdine If something is “emerald-green in color,” you can call it smaragdine. While this term is more rare, smaragd actually means “emerald” in Middle English. It’s likely that English speakers borrowed the term from the Greek smarágdinos, which was probably itself borrowed from Sanskrit marakata. The term has a long history and was first recorded in English as early as 1350. 15. puce In French, puce means “flea” or “flea-colored.” In English, it’s most often used to describe “a dark or brownish purple.” Historically, it may also have been associated with the color of the scab or mark that a flea bite leaves behind. In any case, this creepy, crawly color word has existed in English since the 1780s. 16. Viridian Let’s talk about green things, like Kermit the Frog, grass, or viridian. Viridian is the color of “a long-lasting bluish-green pigment.” Its name comes from the Latin viridi or viridis, which literally means “green.” Viridian entered English in the 1800s. 17. heliotrope Heliotrope may sound like a chemical compound, but it’s actually a color that comes from a plant. It means “a light tint of purple; reddish lavender,” as found on the flowers of several plants belonging to the genus Heliotropium. These plants turn their leaves to the sun, hence their name, which can be traced to the Greek god Helios, or “sun.” 18. sable Sable is another word for the color black. Typically it describes something “very dark or black,” that resembles the fur of an actual sable, an Old World weasel-like mammal. Sable entered English in the late 1200s or early 1300s. 19. wheaten What color is wheaten? It might not surprise you to find out that this color word is pretty literal. It means “of the color of wheat, especially a pale yellow-brown color.” It’s also among the oldest words on our list, appearing in English before the year 900. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 627 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากอนาคตวันนี้: ร้านขายหุ่นยนต์แห่งแรกของจีนเปิดตัวแล้วในปักกิ่ง

    ในวันที่ 8 สิงหาคม 2025 ก่อนงาน World Robot Conference จะเปิดฉาก จีนได้เปิดตัว “Robot Mall” ร้านขายหุ่นยนต์แบบครบวงจรแห่งแรกของประเทศ ณ เขตเศรษฐกิจเทคโนโลยีปักกิ่ง (Beijing E-Town) โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จากงานวิจัยสู่การใช้งานจริง

    ร้านนี้ถูกออกแบบให้เป็น “4S store” สำหรับหุ่นยนต์ ซึ่งหมายถึง Sales (ขาย), Service (บริการ), Spare parts (อะไหล่), และ Survey (เก็บข้อมูลผู้ใช้) โดยมีหุ่นยนต์กว่า 50 แบบจาก 40 บริษัททั่วประเทศ ตั้งแต่หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร หุ่นยนต์เล่นหมากรุก ไปจนถึงหุ่นยนต์ที่จำลองบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น ไอน์สไตน์ นิวตัน และหลี่ไป๋

    แม้จะมีการโชว์ความสามารถที่น่าทึ่ง เช่น หุ่นยนต์ชงกาแฟหรือเต้นรำ แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น หุ่นยนต์แยกขยะที่ยังต้องให้พนักงานช่วยรีเซ็ตเมื่อทำงานผิดพลาด

    การเปิดร้านนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของจีน โดยมีแผนจะอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 2.0 ในเดือนพฤศจิกายน พร้อมเพิ่มหุ่นยนต์ประเภทใหม่และสถานการณ์ใช้งานจริงที่หลากหลายยิ่งขึ้น

    จีนเปิดตัว Robot Mall ร้านขายหุ่นยนต์แบบ 4S แห่งแรกในปักกิ่ง
    ครอบคลุมการขาย บริการ อะไหล่ และเก็บข้อมูลผู้ใช้

    ตั้งอยู่ในเขต Beijing E-Town ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของจีน
    ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 40 นาที

    มีหุ่นยนต์กว่า 50 แบบจาก 40 บริษัททั่วประเทศ
    รวมถึงหุ่นยนต์ทางการแพทย์ อุตสาหกรรม และหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์

    หุ่นยนต์สามารถทำงานหลากหลาย เช่น เสิร์ฟอาหาร เล่นหมากรุก เต้นรำ และชงกาแฟ
    มีการจำลองบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์เพื่อการศึกษาและความบันเทิง

    Robot Mall เปิดตัวก่อนงาน World Robot Conference 2025
    งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8–12 สิงหาคม ณ ปักกิ่ง

    มีแผนเปิดเวอร์ชัน 2.0 ในเดือนพฤศจิกายน 2025
    จะเพิ่มสถานการณ์ใช้งานจริงและหุ่นยนต์ประเภทใหม่

    ตลาดหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ทั่วโลกคาดว่าจะทะลุ 1 ล้านล้านหยวนภายใน 3 ปี
    ขยายจากภาคอุตสาหกรรมไปสู่บริการและการใช้งานในบ้าน

    เขต Yizhuang มีบริษัทด้านหุ่นยนต์กว่า 300 แห่ง
    คิดเป็น 50% ของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในปักกิ่ง

    จีนมีแผน 5 ปีเพื่อเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมหุ่นยนต์ระดับโลกภายในปี 2025
    มุ่งเพิ่มความหนาแน่นของหุ่นยนต์ในภาคการผลิต

    งาน World Robot Conference เป็นเวทีระดับโลกด้าน AI และหุ่นยนต์
    มีผู้เข้าร่วมกว่า 1.3 ล้านคน และจัดประกวดหุ่นยนต์ระดับนานาชาติ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/08/shopping-for-a-robot-china039s-new-robot-store-in-photos
    🤖🏬 เรื่องเล่าจากอนาคตวันนี้: ร้านขายหุ่นยนต์แห่งแรกของจีนเปิดตัวแล้วในปักกิ่ง ในวันที่ 8 สิงหาคม 2025 ก่อนงาน World Robot Conference จะเปิดฉาก จีนได้เปิดตัว “Robot Mall” ร้านขายหุ่นยนต์แบบครบวงจรแห่งแรกของประเทศ ณ เขตเศรษฐกิจเทคโนโลยีปักกิ่ง (Beijing E-Town) โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จากงานวิจัยสู่การใช้งานจริง ร้านนี้ถูกออกแบบให้เป็น “4S store” สำหรับหุ่นยนต์ ซึ่งหมายถึง Sales (ขาย), Service (บริการ), Spare parts (อะไหล่), และ Survey (เก็บข้อมูลผู้ใช้) โดยมีหุ่นยนต์กว่า 50 แบบจาก 40 บริษัททั่วประเทศ ตั้งแต่หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร หุ่นยนต์เล่นหมากรุก ไปจนถึงหุ่นยนต์ที่จำลองบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น ไอน์สไตน์ นิวตัน และหลี่ไป๋ แม้จะมีการโชว์ความสามารถที่น่าทึ่ง เช่น หุ่นยนต์ชงกาแฟหรือเต้นรำ แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น หุ่นยนต์แยกขยะที่ยังต้องให้พนักงานช่วยรีเซ็ตเมื่อทำงานผิดพลาด การเปิดร้านนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของจีน โดยมีแผนจะอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 2.0 ในเดือนพฤศจิกายน พร้อมเพิ่มหุ่นยนต์ประเภทใหม่และสถานการณ์ใช้งานจริงที่หลากหลายยิ่งขึ้น ✅ จีนเปิดตัว Robot Mall ร้านขายหุ่นยนต์แบบ 4S แห่งแรกในปักกิ่ง ➡️ ครอบคลุมการขาย บริการ อะไหล่ และเก็บข้อมูลผู้ใช้ ✅ ตั้งอยู่ในเขต Beijing E-Town ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของจีน ➡️ ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 40 นาที ✅ มีหุ่นยนต์กว่า 50 แบบจาก 40 บริษัททั่วประเทศ ➡️ รวมถึงหุ่นยนต์ทางการแพทย์ อุตสาหกรรม และหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ✅ หุ่นยนต์สามารถทำงานหลากหลาย เช่น เสิร์ฟอาหาร เล่นหมากรุก เต้นรำ และชงกาแฟ ➡️ มีการจำลองบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์เพื่อการศึกษาและความบันเทิง ✅ Robot Mall เปิดตัวก่อนงาน World Robot Conference 2025 ➡️ งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8–12 สิงหาคม ณ ปักกิ่ง ✅ มีแผนเปิดเวอร์ชัน 2.0 ในเดือนพฤศจิกายน 2025 ➡️ จะเพิ่มสถานการณ์ใช้งานจริงและหุ่นยนต์ประเภทใหม่ ✅ ตลาดหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ทั่วโลกคาดว่าจะทะลุ 1 ล้านล้านหยวนภายใน 3 ปี ➡️ ขยายจากภาคอุตสาหกรรมไปสู่บริการและการใช้งานในบ้าน ✅ เขต Yizhuang มีบริษัทด้านหุ่นยนต์กว่า 300 แห่ง ➡️ คิดเป็น 50% ของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในปักกิ่ง ✅ จีนมีแผน 5 ปีเพื่อเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมหุ่นยนต์ระดับโลกภายในปี 2025 ➡️ มุ่งเพิ่มความหนาแน่นของหุ่นยนต์ในภาคการผลิต ✅ งาน World Robot Conference เป็นเวทีระดับโลกด้าน AI และหุ่นยนต์ ➡️ มีผู้เข้าร่วมกว่า 1.3 ล้านคน และจัดประกวดหุ่นยนต์ระดับนานาชาติ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/08/shopping-for-a-robot-china039s-new-robot-store-in-photos
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Shopping for a robot? China's new robot store in photos
    A high-tech district in the Chinese capital is opening an all-service robot store on Friday to push a national drive to develop humanoid robots.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 456 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนกลับไปเมื่อ 80 ปี
    6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ ใส่ประเทศญี่ปุ่น

    https://rarehistoricalphotos.com/hiroshima-atomic-bombing-1945/?fbclid=IwY2xjawMAGTpleHRuA2FlbQIxMABicmlkETFVQlgxZ3ZtVVZDZUxBUVdRAR65uBFuY8eemYjypZs2ZOdrHukZlFUScyVBe4QUfFKgkpM-Ue7CEEe0hp5tdg_aem_pZE_N51Lao_x1nLRtHYT-g
    .
    https://rarehistoricalphotos.com/the-fall-of-imperial-japan-in-pictures-1945/?fbclid=IwY2xjawMAGTdleHRuA2FlbQIxMABicmlkETFVQlgxZ3ZtVVZDZUxBUVdRAR65uBFuY8eemYjypZs2ZOdrHukZlFUScyVBe4QUfFKgkpM-Ue7CEEe0hp5tdg_aem_pZE_N51Lao_x1nLRtHYT-g
    ย้อนกลับไปเมื่อ 80 ปี 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ ใส่ประเทศญี่ปุ่น https://rarehistoricalphotos.com/hiroshima-atomic-bombing-1945/?fbclid=IwY2xjawMAGTpleHRuA2FlbQIxMABicmlkETFVQlgxZ3ZtVVZDZUxBUVdRAR65uBFuY8eemYjypZs2ZOdrHukZlFUScyVBe4QUfFKgkpM-Ue7CEEe0hp5tdg_aem_pZE_N51Lao_x1nLRtHYT-g . https://rarehistoricalphotos.com/the-fall-of-imperial-japan-in-pictures-1945/?fbclid=IwY2xjawMAGTdleHRuA2FlbQIxMABicmlkETFVQlgxZ3ZtVVZDZUxBUVdRAR65uBFuY8eemYjypZs2ZOdrHukZlFUScyVBe4QUfFKgkpM-Ue7CEEe0hp5tdg_aem_pZE_N51Lao_x1nLRtHYT-g
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 458 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: แท็บเล็ตวาดภาพที่พร้อมใช้งานทันที แต่อาจไม่เหมาะกับทุกคน

    Wacom เปิดตัว MovinkPad 11 แท็บเล็ต Android ขนาด 11.45 นิ้ว ที่มาพร้อมกับปากกา Pro Pen 3 รุ่นมืออาชีพ ซึ่งไม่ต้องใช้แบตเตอรี่หรือ Bluetooth และให้ความแม่นยำสูงด้วยเทคโนโลยี EMR (Electromagnetic Resonance)

    จุดเด่นคือฟีเจอร์ “Quick Draw” ที่ให้ผู้ใช้แตะปากกาบนหน้าจอเพื่อเปิดแอป Wacom Canvas ได้ทันที—เหมือนเปิดสมุดสเก็ตช์แบบดิจิทัล ไม่ต้องปลดล็อกเครื่องหรือรอโหลดแอป

    หน้าจอแบบด้านช่วยลดแสงสะท้อนและให้สัมผัสเหมือนวาดบนกระดาษจริง ๆ เหมาะกับการใช้งานร่วมกับแอป Clip Studio Paint Debut ที่ติดตั้งมาให้แล้ว

    แต่แม้จะมีจุดเด่นด้านการวาด MovinkPad 11 ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น ใช้ชิป MediaTek Helio G99 ซึ่งเป็นระดับกลาง และยังไม่มีแอป Adobe Photoshop หรือ Illustrator บน Android ทำให้การทำงานระดับมืออาชีพยังไม่ครบถ้วน

    Wacom MovinkPad 11 มาพร้อมปากกา Pro Pen 3 แบบไม่ต้องชาร์จ
    ใช้เทคโนโลยี EMR ให้ความแม่นยำสูง
    รองรับแรงกด 8,192 ระดับและการเอียงปากกา

    หน้าจอขนาด 11.45 นิ้ว ความละเอียด 2200 x 1440 แบบด้าน
    ลดแสงสะท้อนและรอยนิ้วมือ
    ให้สัมผัสเหมือนวาดบนกระดาษจริง

    ฟีเจอร์ Quick Draw เปิดแอป Wacom Canvas ได้ทันที
    ไม่ต้องปลดล็อกเครื่อง
    เหมาะกับการสเก็ตช์ไอเดียแบบรวดเร็ว

    แอป Clip Studio Paint Debut ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน
    เหมาะกับนักวาดมือใหม่และนักเรียน
    ใช้งานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์

    รองรับปากกา EMR จากแบรนด์อื่น เช่น LAMY และ STAEDTLER
    เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน
    ไม่จำกัดเฉพาะปากกา Wacom เท่านั้น

    แบตเตอรี่ขนาด 7,700 mAh ใช้งานได้นานหลายชั่วโมง
    น้ำหนักเบาเพียง 1.3 ปอนด์
    พกพาสะดวกและเหมาะกับการใช้งานนอกสถานที่

    https://www.techradar.com/pro/wacoms-unique-movinkpad-11-android-tablet-with-pro-pen-3-support-gets-its-first-review-and-aspiring-illustrators-will-love-it
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: แท็บเล็ตวาดภาพที่พร้อมใช้งานทันที แต่อาจไม่เหมาะกับทุกคน Wacom เปิดตัว MovinkPad 11 แท็บเล็ต Android ขนาด 11.45 นิ้ว ที่มาพร้อมกับปากกา Pro Pen 3 รุ่นมืออาชีพ ซึ่งไม่ต้องใช้แบตเตอรี่หรือ Bluetooth และให้ความแม่นยำสูงด้วยเทคโนโลยี EMR (Electromagnetic Resonance) จุดเด่นคือฟีเจอร์ “Quick Draw” ที่ให้ผู้ใช้แตะปากกาบนหน้าจอเพื่อเปิดแอป Wacom Canvas ได้ทันที—เหมือนเปิดสมุดสเก็ตช์แบบดิจิทัล ไม่ต้องปลดล็อกเครื่องหรือรอโหลดแอป หน้าจอแบบด้านช่วยลดแสงสะท้อนและให้สัมผัสเหมือนวาดบนกระดาษจริง ๆ เหมาะกับการใช้งานร่วมกับแอป Clip Studio Paint Debut ที่ติดตั้งมาให้แล้ว แต่แม้จะมีจุดเด่นด้านการวาด MovinkPad 11 ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น ใช้ชิป MediaTek Helio G99 ซึ่งเป็นระดับกลาง และยังไม่มีแอป Adobe Photoshop หรือ Illustrator บน Android ทำให้การทำงานระดับมืออาชีพยังไม่ครบถ้วน ✅ Wacom MovinkPad 11 มาพร้อมปากกา Pro Pen 3 แบบไม่ต้องชาร์จ ➡️ ใช้เทคโนโลยี EMR ให้ความแม่นยำสูง ➡️ รองรับแรงกด 8,192 ระดับและการเอียงปากกา ✅ หน้าจอขนาด 11.45 นิ้ว ความละเอียด 2200 x 1440 แบบด้าน ➡️ ลดแสงสะท้อนและรอยนิ้วมือ ➡️ ให้สัมผัสเหมือนวาดบนกระดาษจริง ✅ ฟีเจอร์ Quick Draw เปิดแอป Wacom Canvas ได้ทันที ➡️ ไม่ต้องปลดล็อกเครื่อง ➡️ เหมาะกับการสเก็ตช์ไอเดียแบบรวดเร็ว ✅ แอป Clip Studio Paint Debut ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ➡️ เหมาะกับนักวาดมือใหม่และนักเรียน ➡️ ใช้งานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ✅ รองรับปากกา EMR จากแบรนด์อื่น เช่น LAMY และ STAEDTLER ➡️ เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน ➡️ ไม่จำกัดเฉพาะปากกา Wacom เท่านั้น ✅ แบตเตอรี่ขนาด 7,700 mAh ใช้งานได้นานหลายชั่วโมง ➡️ น้ำหนักเบาเพียง 1.3 ปอนด์ ➡️ พกพาสะดวกและเหมาะกับการใช้งานนอกสถานที่ https://www.techradar.com/pro/wacoms-unique-movinkpad-11-android-tablet-with-pro-pen-3-support-gets-its-first-review-and-aspiring-illustrators-will-love-it
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อ “เงินปลอม” ถูกขายผ่าน Facebook แบบไม่ต้องหลบซ่อน

    ลองจินตนาการว่าคุณเลื่อนดู Instagram แล้วเจอโพสต์ขายธนบัตรปลอมแบบ “A1 quality” พร้อมวิดีโอโชว์กองเงินปลอม และยังมีบริการส่งถึงบ้านแบบเก็บเงินปลายทาง (COD)! นี่ไม่ใช่ฉากในหนังอาชญากรรม แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในอินเดีย

    ทีม STRIKE ของบริษัท CloudSEK ได้เปิดโปงขบวนการเงินปลอมมูลค่ากว่า ₹17.5 crore (ประมาณ 2 ล้านดอลลาร์) ที่ดำเนินการอย่างเปิดเผยผ่าน Facebook, Instagram, Telegram และ YouTube โดยใช้เทคนิค OSINT และ HUMINT เพื่อระบุตัวผู้กระทำผิด พร้อมส่งข้อมูลให้หน่วยงานรัฐเพื่อดำเนินคดี

    ขบวนการเงินปลอมมูลค่า ₹17.5 crore ถูกเปิดโปงโดย CloudSEK ในช่วง 6 เดือน
    ดำเนินการระหว่างธันวาคม 2024 ถึงมิถุนายน 2025
    ใช้แพลตฟอร์ม XVigil ตรวจจับโพสต์และบัญชีต้องสงสัย

    มีการตรวจพบโพสต์โปรโมทเงินปลอมกว่า 4,500 โพสต์ และบัญชีผู้ขายกว่า 750 บัญชี
    พบเบอร์โทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องกว่า 410 หมายเลข
    ใช้ Meta Ads และโซเชียลมีเดียเพื่อเข้าถึงผู้ซื้อโดยตรง

    ผู้ขายใช้เทคนิคสร้างความน่าเชื่อถือ เช่น วิดีโอคอลโชว์เงินปลอม และภาพเขียนมือ
    ใช้คำรหัสเช่น “A1 note” และ “second currency” เพื่อหลบการตรวจจับ
    มีการใช้ WhatsApp เพื่อเจรจาและส่งภาพหลักฐาน

    การผลิตธนบัตรปลอมใช้เครื่องมือระดับมืออาชีพ
    ใช้ Adobe Photoshop, เครื่องพิมพ์อุตสาหกรรม และกระดาษพิเศษที่มีลายน้ำ Mahatma Gandhi
    ธนบัตรปลอมสามารถหลอกเครื่องตรวจจับได้ในบางกรณี

    ผู้ต้องสงสัยถูกระบุจากภาพใบหน้า, GPS, และบัญชีโซเชียลมีเดีย
    พบการดำเนินการในหมู่บ้าน Jamade (Dhule, Maharashtra) และเมือง Pune
    ผู้ต้องสงสัยใช้ชื่อปลอม เช่น Vivek Kumar, Karan Pawar, Sachin Deeva

    CloudSEK ส่งข้อมูลให้หน่วยงานรัฐเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย
    รวมถึงภาพใบหน้า, หมายเลขโทรศัพท์, ตำแหน่ง GPS และหลักฐานดิจิทัล
    มีการแนะนำให้ Meta ตรวจสอบและลบโฆษณาที่เกี่ยวข้อง

    การขายเงินปลอมผ่านโซเชียลมีเดียเป็นภัยต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ
    อาจทำให้เกิดเงินเฟ้อและความไม่เชื่อมั่นในระบบการเงิน
    ส่งผลกระทบต่อธุรกิจรายย่อยและประชาชนทั่วไป

    แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยังมีช่องโหว่ในการตรวจจับการฉ้อโกงทางการเงิน
    โฆษณาเงินปลอมสามารถหลุดรอดการตรวจสอบได้
    การใช้แฮชแท็กและคำรหัสช่วยให้ผู้ขายหลบเลี่ยงการแบน

    การซื้อขายเงินปลอมอาจนำไปสู่การถูกหลอกหรือถูกปล้น
    มีรายงานว่าผู้ซื้อบางรายถูกโกงหรือถูกข่มขู่
    การทำธุรกรรมแบบพบตัวอาจเสี่ยงต่ออาชญากรรม

    การปลอมแปลงธนบัตรเป็นอาชญากรรมร้ายแรงตามกฎหมายอินเดีย
    เข้าข่ายผิดตาม Bharatiya Nyaya Sanhita (BNS) มาตรา 176–179
    และผิดตาม IT Act มาตรา 66D และ 69A หากเผยแพร่ผ่านอินเทอร์เน็ต

    https://hackread.com/researchers-online-fake-currency-operation-in-india/
    💰 เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อ “เงินปลอม” ถูกขายผ่าน Facebook แบบไม่ต้องหลบซ่อน ลองจินตนาการว่าคุณเลื่อนดู Instagram แล้วเจอโพสต์ขายธนบัตรปลอมแบบ “A1 quality” พร้อมวิดีโอโชว์กองเงินปลอม และยังมีบริการส่งถึงบ้านแบบเก็บเงินปลายทาง (COD)! นี่ไม่ใช่ฉากในหนังอาชญากรรม แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในอินเดีย ทีม STRIKE ของบริษัท CloudSEK ได้เปิดโปงขบวนการเงินปลอมมูลค่ากว่า ₹17.5 crore (ประมาณ 2 ล้านดอลลาร์) ที่ดำเนินการอย่างเปิดเผยผ่าน Facebook, Instagram, Telegram และ YouTube โดยใช้เทคนิค OSINT และ HUMINT เพื่อระบุตัวผู้กระทำผิด พร้อมส่งข้อมูลให้หน่วยงานรัฐเพื่อดำเนินคดี ✅ ขบวนการเงินปลอมมูลค่า ₹17.5 crore ถูกเปิดโปงโดย CloudSEK ในช่วง 6 เดือน ➡️ ดำเนินการระหว่างธันวาคม 2024 ถึงมิถุนายน 2025 ➡️ ใช้แพลตฟอร์ม XVigil ตรวจจับโพสต์และบัญชีต้องสงสัย ✅ มีการตรวจพบโพสต์โปรโมทเงินปลอมกว่า 4,500 โพสต์ และบัญชีผู้ขายกว่า 750 บัญชี ➡️ พบเบอร์โทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องกว่า 410 หมายเลข ➡️ ใช้ Meta Ads และโซเชียลมีเดียเพื่อเข้าถึงผู้ซื้อโดยตรง ✅ ผู้ขายใช้เทคนิคสร้างความน่าเชื่อถือ เช่น วิดีโอคอลโชว์เงินปลอม และภาพเขียนมือ ➡️ ใช้คำรหัสเช่น “A1 note” และ “second currency” เพื่อหลบการตรวจจับ ➡️ มีการใช้ WhatsApp เพื่อเจรจาและส่งภาพหลักฐาน ✅ การผลิตธนบัตรปลอมใช้เครื่องมือระดับมืออาชีพ ➡️ ใช้ Adobe Photoshop, เครื่องพิมพ์อุตสาหกรรม และกระดาษพิเศษที่มีลายน้ำ Mahatma Gandhi ➡️ ธนบัตรปลอมสามารถหลอกเครื่องตรวจจับได้ในบางกรณี ✅ ผู้ต้องสงสัยถูกระบุจากภาพใบหน้า, GPS, และบัญชีโซเชียลมีเดีย ➡️ พบการดำเนินการในหมู่บ้าน Jamade (Dhule, Maharashtra) และเมือง Pune ➡️ ผู้ต้องสงสัยใช้ชื่อปลอม เช่น Vivek Kumar, Karan Pawar, Sachin Deeva ✅ CloudSEK ส่งข้อมูลให้หน่วยงานรัฐเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย ➡️ รวมถึงภาพใบหน้า, หมายเลขโทรศัพท์, ตำแหน่ง GPS และหลักฐานดิจิทัล ➡️ มีการแนะนำให้ Meta ตรวจสอบและลบโฆษณาที่เกี่ยวข้อง ‼️ การขายเงินปลอมผ่านโซเชียลมีเดียเป็นภัยต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ ⛔ อาจทำให้เกิดเงินเฟ้อและความไม่เชื่อมั่นในระบบการเงิน ⛔ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจรายย่อยและประชาชนทั่วไป ‼️ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยังมีช่องโหว่ในการตรวจจับการฉ้อโกงทางการเงิน ⛔ โฆษณาเงินปลอมสามารถหลุดรอดการตรวจสอบได้ ⛔ การใช้แฮชแท็กและคำรหัสช่วยให้ผู้ขายหลบเลี่ยงการแบน ‼️ การซื้อขายเงินปลอมอาจนำไปสู่การถูกหลอกหรือถูกปล้น ⛔ มีรายงานว่าผู้ซื้อบางรายถูกโกงหรือถูกข่มขู่ ⛔ การทำธุรกรรมแบบพบตัวอาจเสี่ยงต่ออาชญากรรม ‼️ การปลอมแปลงธนบัตรเป็นอาชญากรรมร้ายแรงตามกฎหมายอินเดีย ⛔ เข้าข่ายผิดตาม Bharatiya Nyaya Sanhita (BNS) มาตรา 176–179 ⛔ และผิดตาม IT Act มาตรา 66D และ 69A หากเผยแพร่ผ่านอินเทอร์เน็ต https://hackread.com/researchers-online-fake-currency-operation-in-india/
    HACKREAD.COM
    Researchers Expose Massive Online Fake Currency Operation in India
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 522 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts