• แถลงการณ์วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    ฉบับที่ 001/2567
    เรื่อง ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง

    ​จากสถานการณ์โรคระบาดฝีดาษลิงในต่างประเทศซึ่งมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยองค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ซึ่งในเวลาต่อมาอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่าได้พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงคนแรกในประเทศไทยแล้ว โดยผู้ติดเชื้อดังกล่าวได้เดินทางมาจากประเทศแถบทวีปแอฟริกา ข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนคนไทยโดยทั่วไป เกิดความสับสนในข่าวสารและแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต จึงเห็นสมควรให้ชี้แจงกับประชาชน ให้ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง ดังต่อไปนี้

    ​​ประการแรก ตามรายงานในต่างประเทศซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Lancet ฉบับเผยแพร่เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 พบว่ามีผู้ป่วยส่วนใหญ่กักตัวที่บ้าน มีเพียงไม่เกินร้อยละ 13 ที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพราะต้องการแยกตัว หรือมีอาการรุนแรง โดยมีอัตราการตายน้อยกว่าร้อยละ 0.1 แต่สำหรับประเทศไทย ปรากฏเป็นข้อมูลที่เคยแถลงข่าวโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 รายงานว่า ประเทศไทยเคยมีผู้ป่วยฝีดาษลิงอยู่แล้วตั้งแต่กรกฏาคม 2565 ถึง 2 มิถุนายน 2567 จำนวน 794 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากฝีดาษลิง 11 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยในประเทศไทยอยู่เพียงร้อยละ 1.38 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเสียชีวิตในระดับต่ำ

    ประการที่สอง สำหรับกรณีการกลายพันธุ์เป็นชนิด เคลด วันบี (Clade Ib ) เกิดขึ้นประมาณ กันยายน 2566 ซึ่งมีอัตราการแพร่กระจายและความรุนแรงมากขึ้น ทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเท่าที่มีข้อมูลในประเทศแถบแอฟริกาพบว่า ผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้ใหญ่มีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 4 ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่ามีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงชนิด เคลด วันบี แล้ว 1 ราย ซึ่งเดินทางมาจากประเทศหนึ่งในแถบแอฟริกา ดังนั้นกรมควบคุมโรคควรมีมาตรการในการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด
    ​​
    ทั้งนี้ผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงจะมีระยะเวลาฟักตัวภายใน 21 วัน และสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่เริ่มมีอาการก่อนจะมีผื่นขึ้น กล่าวคือ มีไข้พบได้ร้อยละ 62 ปวดกล้ามเนื้อพบได้ร้อยละ 31 ปวดหัวพบได้ร้อยละ 27 ต่อมน้ำเหลืองโตพบได้ร้อยละ 56 เซื่องซึมพบได้ร้อยละ 41 หลังจากนั้นจะมีโอกาสผื่นขึ้นต่อมาร้อยละ 95 ทั้งนี้อาจเกิดตุ่มในปาก อวัยวะเพศชายและหญิง ช่องคลอด หรือรูทวารหนักได้ด้วย ผู้ป่วยจะถูกแยกกักกันนานประมาณ 21 วัน หรือจนพ้นระยะเวลาแพร่เชื้อคือ ทุกรอยโรคหายไป ตกสะเก็ดและสะเก็ดหลุดจนมีผิวหนังปกติ โดยหลังจากหายป่วยแล้วควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะใช้ถุงยางอนามัยหรือไม่ก็ตามเป็นเวลาหนึ่งเดือน
    ​​
    อย่างไรก็ตามผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงส่วนใหญ่สามารถหายเองได้โดยรักษาตามอาการ เพราะยังไม่พบยาต้านไวรัสชนิดนี้ โดยแม้แต่ยา Tecovirimat ที่องค์การอนามัยโลกประกาศใช้รักษาฝีดาษลิงชนิดเคลด วันบี ก็ยังไม่ได้ผลในการรักษาแต่ประการใด เพราะตามประกาศของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 พบรายงานการวิจัยในมนุษย์ว่ายา Tecovirimat ไม่ได้ลดระยะผื่นของฝีดาษลิงในผู้ติดเชื้อทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ประเทศคองโก รวมทั้งมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ไม่ว่าจะใช้ยา Tecovirimat หรือไม่ใช้ก็ตาม
    ​​
    ประการที่สาม กลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงหากติดเชื้อ ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี สตรีมีครรภ์ ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema) ตุ่มพุพอง ตกสะเก็ด คัน แสบ สะเก็ดเงิน โดยจากข้อมูลในทวีปแอฟริกา พบว่ากลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงมีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 10 กลุ่มเหล่านี้จะต้องมีความระมัดระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง เลือด หนอง สิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วยหรือผู้ต้องสงสัยติดเชื้อฝีดาษลิง รวมถึงควรล้างมือเป็นประจำและไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น

    ประการที่สี่ สำหรับผู้มีอาชีพหรือผู้รับบริการที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ควรต้องสอบถามผู้ที่จะมาสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ว่ามีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หรือไม่ เช่น ปวดตามร่างกายแบบลักษณะมีไข้ หรือมีไข้ ปวดหัว ต่อมน้ำเหลืองโต เซื่องซึม มีตุ่มหรือผื่นตามร่างกาย หากมีอาการดังกล่าวควรแนะนำให้ไปพบแพทย์

    ประการที่ห้า อาการที่เสี่ยงเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อแล้ว ได้แก่ มีตุ่มแผลบริเวณเยื่อบุตา ผื่นตุ่มที่แพร่กระจายทั่วตัว หรือผื่นขึ้นแบบกระจุกตัว (Cluster) มีตกเลือดในบริเวณผื่นตุ่ม อาการไข้และอาการทางร่างกายที่หนักขึ้น รวมทั้งหายใจเหนื่อย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
    ​​
    ประการที่หก ที่ผ่านมายังไม่มีวัคซีนสำหรับการป้องกันการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามวันที่ 24 กรกฏาคม 2565 สหภาพยุโรปได้อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (JYNNEOS) เพื่อประยุกต์ใช้ในการป้องกันโรคฝีดาษลิง

    ทั้งนี้ผลสำรวจงานวิจัยในวารสาร New England ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 รายงานว่าทหารอเมริกันผู้เคยได้รับวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษชนิดเดียวกันกับที่ประเทศไทยเคยใช้ในอดีต หรือวัคซีน ACAM2000 หรือวัคซีน JYNNEOS ในปัจจุบัน ในระหว่างปี 2545 ถึง 2560 จำนวน 2.6 ล้านคนพบว่ามีโอกาสติดเชื้อฝีดาษทุกชนิดลดลง
    ​​
    สำหรับประเทศไทยผู้ที่เกิดก่อนปี 2523 หรืออายุตั้งแต่ 44 ปีขึ้นไป น่าจะได้รับการปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษไข้ทรพิษ (Smallpox) โดยทั่วไปแล้ว โดยสามารถสังเกตแผลเป็นที่บริเวณหัวไหล่ของผู้ที่เคยได้รับการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ซึ่งทำให้ช่วยลดอัตราการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคฝีดาษลิงได้ และกลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนแล้ว

    สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีอายุน้อยกว่า 44 ปี หรือไม่เคยปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ยังไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนในขณะนี้ เพราะยังสามารถใช้มาตราการป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ติดเชื้อหรือผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิง

    ​​เพราะตามข้อมูลของบริษัทผู้ผลิตวัคซีน JYNNEOS รายงานว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 8 ต่อ10,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าการฉีดวัควัคซีนจริงปรากฏตามรายงานในวารสาร Vaccine ฉบับเผยแพร่ออนไลน์เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ซึ่งรายงานว่าการฉีดวัคซีน JYNNEOS อย่างน้อย 1 เข็ม มีโอกาสได้รับผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 3.1 ต่อ 1,000 โดส อีกทั้งยังไม่เคยมีการวิจัยผลข้างเคียงการฉีดวัคซีนชนิดนี้สำหรับประชากรไทยมาก่อนด้วย

    ดังนั้นผู้ที่สมควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง จึงควรเป็นกลุ่มประชากรที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น ได้แก่ ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงและบุคลากรสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมากที่สุด รวมทั้งผู้มีอาชีพที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนังกับผู้อื่น

    ประการที่เจ็ด สำหรับผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงแล้ว ให้กักตัวเองและรักษาตามอาการ ทั้งนี้ในกรรมวิธีของการแพทย์แผนไทยในการรักษาโรคระบาดที่มีผื่นหรือตุ่มตามผิวหนังนั้น มีหลักฐานปรากฏชัดเจนและได้ถูกรับรองตามกฏหมายในฐานะเป็นตำรับยาและตำรายาแผนไทยของชาติในการรับมือกับโรคระบาด ได้แก่
    ​​
    พระคัมภีร์ตักกะศิลาตามตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งสืบทอดภูมิปัญญามาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยมีขั้นตอนการรักษา 3 ขั้นตอน คือ ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการกระทุ้งพิษไข้ด้วยยาห้าราก ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการแปรไข้ภายในและรักษาผิวภายนอก และตำรับยาเพื่อขั้นตอนการครอบไข้ ซึ่งมีตำรับยาใน 3 ขั้นตอนนี้ รวม 7 ขนาน
    ​​
    นอกจากนี้ยังมีตำรับยาขาว ซึ่งเป็นยาขนานเดียวตามตำรายาของศิลาจารึกวัดเชตุพนวิมลมังคราราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่ามีสรรพคุณรักษาโรคระบาดได้หลายชนิด อีกทั้งยังมีตำรับยาหลายขนานสำหรับรักษาโรคฝีดาษโดยเฉพาะ ตามคัมภีร์แพทย์แผนไทยโบราณ เล่ม 3 ของขุนโสภิตบรรณลักษณ์ (อำพัน กิตติขจร)

    สำหรับการแพทย์แผนจีนมีหลักการรักษาโรคตามภาวะร่างกายโดยมีพื้นฐานการขับพิษ-ขับร้อน การปรับความร้อนระดับเลือด การขับความชื้น การปรับสมดุลของม้าม กระเพาะอาหาร การบำรุงเลือดและพลัง เพื่อขับพิษและเสริมพลังพื้นฐานในการต่อสู้กับโรคฝีดาษลิง
    ​​
    สำหรับงานวิจัยเภสัชสมุนไพรปรากฏในวารสาร Frontiers in cellular and infection Microbiology เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ซึ่งวิเคราะห์ด้วยกระบวนการทางโมเลกุล พบว่า ขมิ้นชันมีปฏิกริยาต่อต้านไวรัสฝีดาษลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกลไกการขัดขวางยับยั้งไวรัส ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรนำมาศึกษาและวิจัยการใช้ขมิ้นชันในผู้ป่วยโรคฝีดาษของมนุษย์ต่อไป เพราะเป็นสมุนไพรที่มีราคาถูก เข้าถึงได้ทั่วไป คนไทยสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ซึ่งมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าขมิ้นชันมีประสิทธิภาพในการยับยั้งกลไกในหลายขั้นตอนของไวรัสอีกหลายชนิด
    ​​
    นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรเดี่ยวที่มีศักยภาพในการต้านไวรัสหลายชนิด เช่น ฟ้าทะลายโจร มะขามป้อม เสลดพังพอนตัวเมีย กัญชา กัญชง ฯลฯ ซึ่งจะต้องมีการวิจัยเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงว่าจะมีศักยภาพและสามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงต่อไปได้หรือไม่
    ​​
    อย่างไรก็ตามผู้ป่วยฝีดาษลิงที่เลือกกักตัวเองอยู่ที่บ้าน สามารถขอรับคำปรึกษาและรับตำรับยากับคลินิกการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ การแพทย์แผนจีน ทั่วประเทศ รวมถึงสหคลินิการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-791-6000 ต่อ 4406 หรือ 089-770-5862 อย่างไรก็ตามจะต้องมีการเก็บข้อมูลติดตามผลและทำการศึกษาวิจัยผลการรักษาภายหลังต่อไป
    ​​
    จากข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่าประชาชนไทยต้องตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก แต่ให้มีความตระหนักในการป้องกันและระวังตัว และเตรียมความพร้อมในการวางแผนและกำหนดมาตรการอย่างรอบด้าน รวมทั้งประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้และภูมิปัญญาที่จะสามารถรับมือกับโรคฝีดาษลิงได้อย่างแน่นอน

    ด้วยความปรารถนาดี
    วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    23 สิงหาคม 2567

    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid0v8ELDqDcnAZ2MgmuoGJU9Faxw4irDyQS7guRbaDmfwTqhy4QJCrTF8j4YHLVjGexl/?
    วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    แถลงการณ์วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ฉบับที่ 001/2567 เรื่อง ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง ​จากสถานการณ์โรคระบาดฝีดาษลิงในต่างประเทศซึ่งมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยองค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ซึ่งในเวลาต่อมาอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่าได้พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงคนแรกในประเทศไทยแล้ว โดยผู้ติดเชื้อดังกล่าวได้เดินทางมาจากประเทศแถบทวีปแอฟริกา ข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนคนไทยโดยทั่วไป เกิดความสับสนในข่าวสารและแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต จึงเห็นสมควรให้ชี้แจงกับประชาชน ให้ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง ดังต่อไปนี้ ​​ประการแรก ตามรายงานในต่างประเทศซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Lancet ฉบับเผยแพร่เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 พบว่ามีผู้ป่วยส่วนใหญ่กักตัวที่บ้าน มีเพียงไม่เกินร้อยละ 13 ที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพราะต้องการแยกตัว หรือมีอาการรุนแรง โดยมีอัตราการตายน้อยกว่าร้อยละ 0.1 แต่สำหรับประเทศไทย ปรากฏเป็นข้อมูลที่เคยแถลงข่าวโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 รายงานว่า ประเทศไทยเคยมีผู้ป่วยฝีดาษลิงอยู่แล้วตั้งแต่กรกฏาคม 2565 ถึง 2 มิถุนายน 2567 จำนวน 794 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากฝีดาษลิง 11 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยในประเทศไทยอยู่เพียงร้อยละ 1.38 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเสียชีวิตในระดับต่ำ ประการที่สอง สำหรับกรณีการกลายพันธุ์เป็นชนิด เคลด วันบี (Clade Ib ) เกิดขึ้นประมาณ กันยายน 2566 ซึ่งมีอัตราการแพร่กระจายและความรุนแรงมากขึ้น ทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเท่าที่มีข้อมูลในประเทศแถบแอฟริกาพบว่า ผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้ใหญ่มีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 4 ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่ามีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงชนิด เคลด วันบี แล้ว 1 ราย ซึ่งเดินทางมาจากประเทศหนึ่งในแถบแอฟริกา ดังนั้นกรมควบคุมโรคควรมีมาตรการในการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด ​​ ทั้งนี้ผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงจะมีระยะเวลาฟักตัวภายใน 21 วัน และสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่เริ่มมีอาการก่อนจะมีผื่นขึ้น กล่าวคือ มีไข้พบได้ร้อยละ 62 ปวดกล้ามเนื้อพบได้ร้อยละ 31 ปวดหัวพบได้ร้อยละ 27 ต่อมน้ำเหลืองโตพบได้ร้อยละ 56 เซื่องซึมพบได้ร้อยละ 41 หลังจากนั้นจะมีโอกาสผื่นขึ้นต่อมาร้อยละ 95 ทั้งนี้อาจเกิดตุ่มในปาก อวัยวะเพศชายและหญิง ช่องคลอด หรือรูทวารหนักได้ด้วย ผู้ป่วยจะถูกแยกกักกันนานประมาณ 21 วัน หรือจนพ้นระยะเวลาแพร่เชื้อคือ ทุกรอยโรคหายไป ตกสะเก็ดและสะเก็ดหลุดจนมีผิวหนังปกติ โดยหลังจากหายป่วยแล้วควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะใช้ถุงยางอนามัยหรือไม่ก็ตามเป็นเวลาหนึ่งเดือน ​​ อย่างไรก็ตามผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงส่วนใหญ่สามารถหายเองได้โดยรักษาตามอาการ เพราะยังไม่พบยาต้านไวรัสชนิดนี้ โดยแม้แต่ยา Tecovirimat ที่องค์การอนามัยโลกประกาศใช้รักษาฝีดาษลิงชนิดเคลด วันบี ก็ยังไม่ได้ผลในการรักษาแต่ประการใด เพราะตามประกาศของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 พบรายงานการวิจัยในมนุษย์ว่ายา Tecovirimat ไม่ได้ลดระยะผื่นของฝีดาษลิงในผู้ติดเชื้อทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ประเทศคองโก รวมทั้งมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ไม่ว่าจะใช้ยา Tecovirimat หรือไม่ใช้ก็ตาม ​​ ประการที่สาม กลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงหากติดเชื้อ ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี สตรีมีครรภ์ ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema) ตุ่มพุพอง ตกสะเก็ด คัน แสบ สะเก็ดเงิน โดยจากข้อมูลในทวีปแอฟริกา พบว่ากลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงมีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 10 กลุ่มเหล่านี้จะต้องมีความระมัดระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง เลือด หนอง สิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วยหรือผู้ต้องสงสัยติดเชื้อฝีดาษลิง รวมถึงควรล้างมือเป็นประจำและไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น ประการที่สี่ สำหรับผู้มีอาชีพหรือผู้รับบริการที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ควรต้องสอบถามผู้ที่จะมาสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ว่ามีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หรือไม่ เช่น ปวดตามร่างกายแบบลักษณะมีไข้ หรือมีไข้ ปวดหัว ต่อมน้ำเหลืองโต เซื่องซึม มีตุ่มหรือผื่นตามร่างกาย หากมีอาการดังกล่าวควรแนะนำให้ไปพบแพทย์ ประการที่ห้า อาการที่เสี่ยงเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อแล้ว ได้แก่ มีตุ่มแผลบริเวณเยื่อบุตา ผื่นตุ่มที่แพร่กระจายทั่วตัว หรือผื่นขึ้นแบบกระจุกตัว (Cluster) มีตกเลือดในบริเวณผื่นตุ่ม อาการไข้และอาการทางร่างกายที่หนักขึ้น รวมทั้งหายใจเหนื่อย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ​​ ประการที่หก ที่ผ่านมายังไม่มีวัคซีนสำหรับการป้องกันการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามวันที่ 24 กรกฏาคม 2565 สหภาพยุโรปได้อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (JYNNEOS) เพื่อประยุกต์ใช้ในการป้องกันโรคฝีดาษลิง ทั้งนี้ผลสำรวจงานวิจัยในวารสาร New England ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 รายงานว่าทหารอเมริกันผู้เคยได้รับวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษชนิดเดียวกันกับที่ประเทศไทยเคยใช้ในอดีต หรือวัคซีน ACAM2000 หรือวัคซีน JYNNEOS ในปัจจุบัน ในระหว่างปี 2545 ถึง 2560 จำนวน 2.6 ล้านคนพบว่ามีโอกาสติดเชื้อฝีดาษทุกชนิดลดลง ​​ สำหรับประเทศไทยผู้ที่เกิดก่อนปี 2523 หรืออายุตั้งแต่ 44 ปีขึ้นไป น่าจะได้รับการปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษไข้ทรพิษ (Smallpox) โดยทั่วไปแล้ว โดยสามารถสังเกตแผลเป็นที่บริเวณหัวไหล่ของผู้ที่เคยได้รับการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ซึ่งทำให้ช่วยลดอัตราการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคฝีดาษลิงได้ และกลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนแล้ว สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีอายุน้อยกว่า 44 ปี หรือไม่เคยปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ยังไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนในขณะนี้ เพราะยังสามารถใช้มาตราการป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ติดเชื้อหรือผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิง ​​เพราะตามข้อมูลของบริษัทผู้ผลิตวัคซีน JYNNEOS รายงานว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 8 ต่อ10,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าการฉีดวัควัคซีนจริงปรากฏตามรายงานในวารสาร Vaccine ฉบับเผยแพร่ออนไลน์เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ซึ่งรายงานว่าการฉีดวัคซีน JYNNEOS อย่างน้อย 1 เข็ม มีโอกาสได้รับผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 3.1 ต่อ 1,000 โดส อีกทั้งยังไม่เคยมีการวิจัยผลข้างเคียงการฉีดวัคซีนชนิดนี้สำหรับประชากรไทยมาก่อนด้วย ดังนั้นผู้ที่สมควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง จึงควรเป็นกลุ่มประชากรที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น ได้แก่ ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงและบุคลากรสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมากที่สุด รวมทั้งผู้มีอาชีพที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนังกับผู้อื่น ประการที่เจ็ด สำหรับผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงแล้ว ให้กักตัวเองและรักษาตามอาการ ทั้งนี้ในกรรมวิธีของการแพทย์แผนไทยในการรักษาโรคระบาดที่มีผื่นหรือตุ่มตามผิวหนังนั้น มีหลักฐานปรากฏชัดเจนและได้ถูกรับรองตามกฏหมายในฐานะเป็นตำรับยาและตำรายาแผนไทยของชาติในการรับมือกับโรคระบาด ได้แก่ ​​ พระคัมภีร์ตักกะศิลาตามตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งสืบทอดภูมิปัญญามาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยมีขั้นตอนการรักษา 3 ขั้นตอน คือ ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการกระทุ้งพิษไข้ด้วยยาห้าราก ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการแปรไข้ภายในและรักษาผิวภายนอก และตำรับยาเพื่อขั้นตอนการครอบไข้ ซึ่งมีตำรับยาใน 3 ขั้นตอนนี้ รวม 7 ขนาน ​​ นอกจากนี้ยังมีตำรับยาขาว ซึ่งเป็นยาขนานเดียวตามตำรายาของศิลาจารึกวัดเชตุพนวิมลมังคราราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่ามีสรรพคุณรักษาโรคระบาดได้หลายชนิด อีกทั้งยังมีตำรับยาหลายขนานสำหรับรักษาโรคฝีดาษโดยเฉพาะ ตามคัมภีร์แพทย์แผนไทยโบราณ เล่ม 3 ของขุนโสภิตบรรณลักษณ์ (อำพัน กิตติขจร) สำหรับการแพทย์แผนจีนมีหลักการรักษาโรคตามภาวะร่างกายโดยมีพื้นฐานการขับพิษ-ขับร้อน การปรับความร้อนระดับเลือด การขับความชื้น การปรับสมดุลของม้าม กระเพาะอาหาร การบำรุงเลือดและพลัง เพื่อขับพิษและเสริมพลังพื้นฐานในการต่อสู้กับโรคฝีดาษลิง ​​ สำหรับงานวิจัยเภสัชสมุนไพรปรากฏในวารสาร Frontiers in cellular and infection Microbiology เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ซึ่งวิเคราะห์ด้วยกระบวนการทางโมเลกุล พบว่า ขมิ้นชันมีปฏิกริยาต่อต้านไวรัสฝีดาษลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกลไกการขัดขวางยับยั้งไวรัส ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรนำมาศึกษาและวิจัยการใช้ขมิ้นชันในผู้ป่วยโรคฝีดาษของมนุษย์ต่อไป เพราะเป็นสมุนไพรที่มีราคาถูก เข้าถึงได้ทั่วไป คนไทยสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ซึ่งมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าขมิ้นชันมีประสิทธิภาพในการยับยั้งกลไกในหลายขั้นตอนของไวรัสอีกหลายชนิด ​​ นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรเดี่ยวที่มีศักยภาพในการต้านไวรัสหลายชนิด เช่น ฟ้าทะลายโจร มะขามป้อม เสลดพังพอนตัวเมีย กัญชา กัญชง ฯลฯ ซึ่งจะต้องมีการวิจัยเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงว่าจะมีศักยภาพและสามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงต่อไปได้หรือไม่ ​​ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยฝีดาษลิงที่เลือกกักตัวเองอยู่ที่บ้าน สามารถขอรับคำปรึกษาและรับตำรับยากับคลินิกการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ การแพทย์แผนจีน ทั่วประเทศ รวมถึงสหคลินิการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-791-6000 ต่อ 4406 หรือ 089-770-5862 อย่างไรก็ตามจะต้องมีการเก็บข้อมูลติดตามผลและทำการศึกษาวิจัยผลการรักษาภายหลังต่อไป ​​ จากข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่าประชาชนไทยต้องตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก แต่ให้มีความตระหนักในการป้องกันและระวังตัว และเตรียมความพร้อมในการวางแผนและกำหนดมาตรการอย่างรอบด้าน รวมทั้งประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้และภูมิปัญญาที่จะสามารถรับมือกับโรคฝีดาษลิงได้อย่างแน่นอน ด้วยความปรารถนาดี วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 23 สิงหาคม 2567 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid0v8ELDqDcnAZ2MgmuoGJU9Faxw4irDyQS7guRbaDmfwTqhy4QJCrTF8j4YHLVjGexl/? วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • TikTok@mgronline #mgronlinetiktok #news1 #Thaitimes #ทาเคชิ #ว่างว่างก็แวะมา
    TikTok@mgronline #mgronlinetiktok #news1 #Thaitimes #ทาเคชิ #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 78 0 รีวิว
  • TikTok@mgronline #mgronlinetiktok #news1 #Thaitimes #ว่างว่างก็แวะมา
    TikTok@mgronline #mgronlinetiktok #news1 #Thaitimes #ว่างว่างก็แวะมา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 63 0 รีวิว
  • รรท.อธิบดีดีเอสไอ เผย ผลประชุมมีมติเอาผิด 18 บอส "ดิไอคอน" ข้อหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ ส่วนฟอกเงินอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน

    วันนี้ (4 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 115/2567 และคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณีพิจารณาแจ้งข้อหา พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2560 กับผู้ต้องหาคดี "ดิไอคอน"

    พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวเปิดเผยหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า วันนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 119/2567 ได้ประชุมร่วมกันและมีมติเอกฉันท์เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย ในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 หรือแชร์ลูกโซ่ รวมทั้งความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2560 โดยจะแจ้งข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์นี้และต่อเนื่องสัปดาห์ เพราะความพร้อมของผู้ต้องหาและทนายความแต่ละคนไม่เท่ากัน ทั้งนี้ ยังมีการพิจารณาจัดตั้งศูนย์เพื่อปฏิบัติหน้าที่และแบ่งมอบหมายงานเพิ่มประสิทธิภาพ และอาจมีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นมาร่วมสอบสวนด้วย ตาม ม.33 หรือ ตั้งที่ปรึกษาคดีพิเศษ ตาม ม.30 ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เรื่องงบดุล งบบัญชี รวมถึง แต่งตั้งอัยการเป็นที่ปรึกษาด้วย

    พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ในชั้นนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานต่อเนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งสำนวนมา รวมทั้งมีการสอบพยานเพิ่มเติมจนมีหลักฐานตามสมควร ผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย เข้าข่ายการกระทำความผิดทั้ง 2 ข้อหาดังกล่าว ส่วนรายละเอียดผู้ต้องหาแต่ละบุคคลยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยบอสดาราแม้อาจจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับโครงการสร้างธุรกิจแต่ก็มีการแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน และแต่ละคนมีจุดประสงค์เดียวกันจึงเข้าความผิดตามองค์ประกอบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000106265

    #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    รรท.อธิบดีดีเอสไอ เผย ผลประชุมมีมติเอาผิด 18 บอส "ดิไอคอน" ข้อหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ ส่วนฟอกเงินอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน • วันนี้ (4 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 115/2567 และคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณีพิจารณาแจ้งข้อหา พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2560 กับผู้ต้องหาคดี "ดิไอคอน" • พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวเปิดเผยหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า วันนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 119/2567 ได้ประชุมร่วมกันและมีมติเอกฉันท์เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย ในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 หรือแชร์ลูกโซ่ รวมทั้งความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2560 โดยจะแจ้งข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์นี้และต่อเนื่องสัปดาห์ เพราะความพร้อมของผู้ต้องหาและทนายความแต่ละคนไม่เท่ากัน ทั้งนี้ ยังมีการพิจารณาจัดตั้งศูนย์เพื่อปฏิบัติหน้าที่และแบ่งมอบหมายงานเพิ่มประสิทธิภาพ และอาจมีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นมาร่วมสอบสวนด้วย ตาม ม.33 หรือ ตั้งที่ปรึกษาคดีพิเศษ ตาม ม.30 ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เรื่องงบดุล งบบัญชี รวมถึง แต่งตั้งอัยการเป็นที่ปรึกษาด้วย • พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ในชั้นนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานต่อเนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งสำนวนมา รวมทั้งมีการสอบพยานเพิ่มเติมจนมีหลักฐานตามสมควร ผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย เข้าข่ายการกระทำความผิดทั้ง 2 ข้อหาดังกล่าว ส่วนรายละเอียดผู้ต้องหาแต่ละบุคคลยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยบอสดาราแม้อาจจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับโครงการสร้างธุรกิจแต่ก็มีการแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน และแต่ละคนมีจุดประสงค์เดียวกันจึงเข้าความผิดตามองค์ประกอบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000106265 • #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำความรู้จัก อ.ธนวันต์ จิรเจริญเวศน์ ซินแสชื่อดัง ทายาทเป็นผู้สืบทอดสายตรงศาสตร์ตี่ลี่ฮวงจุ้ย รุ่นที่ 15 มาจากบรรพบุรุษ และได้รับการฝึกฝนจากพ่อตั้งแต่อายุ 12 ปี

    “ฮวงจุ้ย” ถือเป็นอีกศาสตร์ของชาวจีน ที่ “ฮวงจุ้ย” หรือในภาษาจีนกลางคือ Feng Shui (เฟิงสุ่ย) มาจากคำสองคำคือ ‘เฟิง’ แปลว่า ‘ลม’ และ ‘สุ่ย’ แปลว่า ‘น้ำ’ ความหมายโดยรวมคือการสร้างสภาพแวดล้อมในธรรมชาติกับความเป็นอยู่ของมนุษย์ให้มีความสมดุลและนำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต

    สำหรับในไทย หมอดูฮวงจุ้ยที่มีชื่อเสียงนั้นมีหลายคนมาก หนึ่งในนั้นคือ “ตี่ลี่ ฮวงจุ้ย” หรือ อ.ธนวันต์ จิรเจริญเวศน์ ทายาทเป็นผู้สืบทอดสายตรงศาสตร์ตี่ลี่ฮวงจุ้ย รุ่นที่ 15 มาจากบรรพบุรุษ นับเป็นบุตรคนเดียวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มข้นจากอาจารย์พ่อ (อ.จิระ จิระเจริญเวศน์) ผู้เป็นบิดามาตั้งแต่ อ.ธนวันต์อายุเพียง 12 ปีเท่านั้น

    โดยคำว่า ตี่ลี่ มีความหมายว่า พื้นที่ ทำเล ภูมิศาสตร์ ซึ่งจริงๆ แล้วก็หมายถึงที่อยู่ของเรา โดยจะครอบคลุมในส่วน “ภายในทั้งหมดของตัวบ้านเรา” ซึ่งจุดนี้แหละที่อาจารย์จะต้องจัดบ้านภายในให้เหมาะสม และส่งเสริมคนในบ้าน ทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

    นอกจากนี้ “ตี่ลี่ ฮวงจุ้ย” ยังได้ให้ความรู้เรื่องฮวงจุ้ยในรายการทีวีช่องดังอีกด้วย ทั้งยังมีช่องยูทูบให้ความรู้เรื่อง “ตี่ลี่ ฮวงจุ้ย” ที่มีวิดีโอให้ความรู้มากถึง 1.8 พันคลิป และมีผู้ติดตามมากถึง 2.6 แสนคน

    #MGROnline #อาจารย์ตี่ลี่ #ตี่ลี่ฮวงจุ้ย #หมอดู #หมอดูฮวงจุ้ย #ฮวงจุ้ย #ดูดวง
    ทำความรู้จัก อ.ธนวันต์ จิรเจริญเวศน์ ซินแสชื่อดัง ทายาทเป็นผู้สืบทอดสายตรงศาสตร์ตี่ลี่ฮวงจุ้ย รุ่นที่ 15 มาจากบรรพบุรุษ และได้รับการฝึกฝนจากพ่อตั้งแต่อายุ 12 ปี • “ฮวงจุ้ย” ถือเป็นอีกศาสตร์ของชาวจีน ที่ “ฮวงจุ้ย” หรือในภาษาจีนกลางคือ Feng Shui (เฟิงสุ่ย) มาจากคำสองคำคือ ‘เฟิง’ แปลว่า ‘ลม’ และ ‘สุ่ย’ แปลว่า ‘น้ำ’ ความหมายโดยรวมคือการสร้างสภาพแวดล้อมในธรรมชาติกับความเป็นอยู่ของมนุษย์ให้มีความสมดุลและนำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต • สำหรับในไทย หมอดูฮวงจุ้ยที่มีชื่อเสียงนั้นมีหลายคนมาก หนึ่งในนั้นคือ “ตี่ลี่ ฮวงจุ้ย” หรือ อ.ธนวันต์ จิรเจริญเวศน์ ทายาทเป็นผู้สืบทอดสายตรงศาสตร์ตี่ลี่ฮวงจุ้ย รุ่นที่ 15 มาจากบรรพบุรุษ นับเป็นบุตรคนเดียวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มข้นจากอาจารย์พ่อ (อ.จิระ จิระเจริญเวศน์) ผู้เป็นบิดามาตั้งแต่ อ.ธนวันต์อายุเพียง 12 ปีเท่านั้น • โดยคำว่า ตี่ลี่ มีความหมายว่า พื้นที่ ทำเล ภูมิศาสตร์ ซึ่งจริงๆ แล้วก็หมายถึงที่อยู่ของเรา โดยจะครอบคลุมในส่วน “ภายในทั้งหมดของตัวบ้านเรา” ซึ่งจุดนี้แหละที่อาจารย์จะต้องจัดบ้านภายในให้เหมาะสม และส่งเสริมคนในบ้าน ทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด • นอกจากนี้ “ตี่ลี่ ฮวงจุ้ย” ยังได้ให้ความรู้เรื่องฮวงจุ้ยในรายการทีวีช่องดังอีกด้วย ทั้งยังมีช่องยูทูบให้ความรู้เรื่อง “ตี่ลี่ ฮวงจุ้ย” ที่มีวิดีโอให้ความรู้มากถึง 1.8 พันคลิป และมีผู้ติดตามมากถึง 2.6 แสนคน • #MGROnline #อาจารย์ตี่ลี่ #ตี่ลี่ฮวงจุ้ย #หมอดู #หมอดูฮวงจุ้ย #ฮวงจุ้ย #ดูดวง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ภูมิธรรม" ร้องโอ้โห! "กิตติรัตน์" ถูกมองแทรกแซงแบงค์ชาติ ถูกส่งมาจากฝ่ายการเมือง หลังเคยเป็นสมาชิกเพื่อไทย - มองเป็นคนมีความรู้การเงินการคลัง หากเข้าไปได้ จะเต็มเติม - ชี้ยังไม่เห็นประเด็นที่ต้องคัดค้าน

    วันนี้ (4พ.ย.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเลื่อนประชุมคัดเลือกประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ ธปท. หลังมีชื่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นหนึ่งในแคนดิเดต ว่า ตนได้ยินว่าวันนี้เขาเลื่อน ต้องไปถาม นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ุ ประธานคัดเลือกประธานกรรมการคัดเลือกและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน ธปท. ว่าทำไมถึงเลื่อน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล และไม่ใช่เรื่องของตน

    ส่วนที่มีกระแสโจมตีว่านายกิตติรัตน์ มาจากฝ่ายการเมืองนั้น ถึงแม้จะไม่ได้เป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทยแล้วนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องไปหาข้อสรุป และต้องว่ากันไปตามกระบวนการ ตัวบทกฎหมาย เมื่อนายกิตติรัตน์อยากสมัคร เมื่อมีโอกาสและเงื่อนไขอยากสมัครก็สมัคร แต่ถ้าตามกฎระเบียบ มันเป็นไปไม่ได้ ก็ต้องถูกปฏิเสธไปแต่ถ้าเป็นได้ก็ไปว่ากัน แล้วจริงๆ ตนยังไม่เห็นประเด็น ว่าทำไมต้องคัดค้านนายกิตติรัตน์

    เมื่อถามว่าเพราะมองว่านายกิตติรัตน์มาจากฝ่ายการเมืองอาจจะมีการแทรกแซง ผู้ว่า ธปท.เกิดขึ้น นายธรรม ร้อง โอ้โห ถ้าวันนี้รัฐธรรมนูญบอกว่าทุกคน เป็นสมาชิกพรรคการเมือง เสร็จแล้วก็ไปทำงานไม่ได้เลย ซึ่งตนคิดว่าการที่นายกิตติรัตน์เข้าไป ก็เป็นมืออาชีพมีความรู้เรื่องทางการเงินและการคลัง หากนายกิตติรัตน์เข้าไปก็เป็นมองว่าเป็นการเข้าไปเติมเต็มให้มีการพูดคุยกัน ในมุมมองที่กว้างขึ้น แต่ก็ต้องไปถามนายกิตติรัตน์ ตนตอบแทนไม่ได้ แต่คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเข้าสู่กระบวนการ และกระบวนการตัดสินใจ เป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น ก็อยู่ที่บอร์ดของแบงค์ชาติ ที่ตั้งคณะกรรมการสรรหาขึ้นมา ก็ต้องไปถามทางนั้น

    #MGROnline #ภูมิธรรม #กิตติรัตน์ #แบงค์ชาติ
    "ภูมิธรรม" ร้องโอ้โห! "กิตติรัตน์" ถูกมองแทรกแซงแบงค์ชาติ ถูกส่งมาจากฝ่ายการเมือง หลังเคยเป็นสมาชิกเพื่อไทย - มองเป็นคนมีความรู้การเงินการคลัง หากเข้าไปได้ จะเต็มเติม - ชี้ยังไม่เห็นประเด็นที่ต้องคัดค้าน • วันนี้ (4พ.ย.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเลื่อนประชุมคัดเลือกประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ ธปท. หลังมีชื่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นหนึ่งในแคนดิเดต ว่า ตนได้ยินว่าวันนี้เขาเลื่อน ต้องไปถาม นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ุ ประธานคัดเลือกประธานกรรมการคัดเลือกและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน ธปท. ว่าทำไมถึงเลื่อน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล และไม่ใช่เรื่องของตน • ส่วนที่มีกระแสโจมตีว่านายกิตติรัตน์ มาจากฝ่ายการเมืองนั้น ถึงแม้จะไม่ได้เป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทยแล้วนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องไปหาข้อสรุป และต้องว่ากันไปตามกระบวนการ ตัวบทกฎหมาย เมื่อนายกิตติรัตน์อยากสมัคร เมื่อมีโอกาสและเงื่อนไขอยากสมัครก็สมัคร แต่ถ้าตามกฎระเบียบ มันเป็นไปไม่ได้ ก็ต้องถูกปฏิเสธไปแต่ถ้าเป็นได้ก็ไปว่ากัน แล้วจริงๆ ตนยังไม่เห็นประเด็น ว่าทำไมต้องคัดค้านนายกิตติรัตน์ • เมื่อถามว่าเพราะมองว่านายกิตติรัตน์มาจากฝ่ายการเมืองอาจจะมีการแทรกแซง ผู้ว่า ธปท.เกิดขึ้น นายธรรม ร้อง โอ้โห ถ้าวันนี้รัฐธรรมนูญบอกว่าทุกคน เป็นสมาชิกพรรคการเมือง เสร็จแล้วก็ไปทำงานไม่ได้เลย ซึ่งตนคิดว่าการที่นายกิตติรัตน์เข้าไป ก็เป็นมืออาชีพมีความรู้เรื่องทางการเงินและการคลัง หากนายกิตติรัตน์เข้าไปก็เป็นมองว่าเป็นการเข้าไปเติมเต็มให้มีการพูดคุยกัน ในมุมมองที่กว้างขึ้น แต่ก็ต้องไปถามนายกิตติรัตน์ ตนตอบแทนไม่ได้ แต่คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเข้าสู่กระบวนการ และกระบวนการตัดสินใจ เป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น ก็อยู่ที่บอร์ดของแบงค์ชาติ ที่ตั้งคณะกรรมการสรรหาขึ้นมา ก็ต้องไปถามทางนั้น • #MGROnline #ภูมิธรรม #กิตติรัตน์ #แบงค์ชาติ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชายวัย 69 ขับเก๋งพลาดเหยียบคันเร่งแทนเบรก รถพุ่งตกจากชั้น 2 ลานจอดในคอนโด ย่านบางกอกน้อย พังยับเยิน ส่วนคนขับบาดเจ็บเล็กน้อย

    วันนี้ (4 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.ท.พรรณพงศ์ จีนโน รอง สว.(สอบสวน) สน.บางยี่ขัน รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์พลัดตกคอนโดมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณคอนโดรัตนโกสินทร์ไอซ์แลนด์​ แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.พายัพ สมบูรณ์ ผกก.สน.บางยี่ขัน

    ที่เกิดเป็นคอนโด สูง 39 ชั้น ตรวจสอบบริเวณอาคารจอดรถชั้นล่างสุด พบรถยนต์ ยี่ห้อนิสสัน รุ่นคิกซ์ สีขาว ทะเบียน ฌค 4004 กรุงเทพมหานคร สภาพพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า หลังคายุบพังยับเยินทั้งคัน ชนเข้ากับกำแพงมีรอยแตกร้าวเสียหาย ภายในรถพบนายสุเมธ ศิริคุณโชติ อายุ 69 ปี เป็นผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถามตอบรู้เรื่อง โดยรถคันดังกล่าวตกลงมาจากชั้น 2 ของอาคารจอดรถ เนื่องจากกำแพงด้านบนอาคาร มีร่องรอยเฉี่ยวชนกำแพงพังเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวนายสุเมธ ส่งรักษาตัวที่รพ.เจ้าพระยา เป็นการด่วน

    จากการสอบสวน นายสุเมธคนขับให้การว่า สาเหตุเกิดจากเพราะเหยียบคันเร่งแทนเหยียบเบรค จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น

    เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน และรอสอบปากคำผู้ขับขี่เพิ่มเติม ก่อนประสานเจ้าของอาคารมาไกล่เกลี่ยเพื่อชดใช้ค่าเสียหายดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

    #MGROnline #ย่านบางกอกน้อย #อาคารจอดรถ
    ชายวัย 69 ขับเก๋งพลาดเหยียบคันเร่งแทนเบรก รถพุ่งตกจากชั้น 2 ลานจอดในคอนโด ย่านบางกอกน้อย พังยับเยิน ส่วนคนขับบาดเจ็บเล็กน้อย • วันนี้ (4 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.ท.พรรณพงศ์ จีนโน รอง สว.(สอบสวน) สน.บางยี่ขัน รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์พลัดตกคอนโดมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณคอนโดรัตนโกสินทร์ไอซ์แลนด์​ แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.พายัพ สมบูรณ์ ผกก.สน.บางยี่ขัน • ที่เกิดเป็นคอนโด สูง 39 ชั้น ตรวจสอบบริเวณอาคารจอดรถชั้นล่างสุด พบรถยนต์ ยี่ห้อนิสสัน รุ่นคิกซ์ สีขาว ทะเบียน ฌค 4004 กรุงเทพมหานคร สภาพพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า หลังคายุบพังยับเยินทั้งคัน ชนเข้ากับกำแพงมีรอยแตกร้าวเสียหาย ภายในรถพบนายสุเมธ ศิริคุณโชติ อายุ 69 ปี เป็นผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถามตอบรู้เรื่อง โดยรถคันดังกล่าวตกลงมาจากชั้น 2 ของอาคารจอดรถ เนื่องจากกำแพงด้านบนอาคาร มีร่องรอยเฉี่ยวชนกำแพงพังเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวนายสุเมธ ส่งรักษาตัวที่รพ.เจ้าพระยา เป็นการด่วน • จากการสอบสวน นายสุเมธคนขับให้การว่า สาเหตุเกิดจากเพราะเหยียบคันเร่งแทนเหยียบเบรค จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น • เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน และรอสอบปากคำผู้ขับขี่เพิ่มเติม ก่อนประสานเจ้าของอาคารมาไกล่เกลี่ยเพื่อชดใช้ค่าเสียหายดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป • #MGROnline #ย่านบางกอกน้อย #อาคารจอดรถ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทนายบอสพอล" พาพยาน 20 ปาก "ดิไอคอน" ให้ปากคำดีเอสไอ ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ซื้อขายสินค้าจริง แจงไม่มีการจัดฉากเพราะไม่คุ้มกับอนาคต

    วันนี้ (4 พ.ย.) เวลา 12.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ “บอสพอล” ผู้ต้องหาคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป พาพยาน 20 คน ในฝั่ง "ดิไอคอน" เข้าพบ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ “กองคดีฮั้วประมูล” ดีเอสไอ เพื่อให้ปากคำยืนยันว่าดำเนินธุรกิจซื้อขายสินค้ากับบริษัทฯ จริง

    น.ส.มลญ่า (หนึ่งในพยาน) กล่าวว่า ตนและพยานจำนวนนึงเดินทางมาเป็นพยานให้กับ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป แล้วยังคงทำธุรกิจขายสินค้ากับบริษัทฯ อยู่ เพื่อแสดงเหรียญอีกนึงด้านยืนยันความบริสุทธิ์กับตัวแทนทุกคน โดยส่วนตัวเคยได้รับความดูแลเป็นอย่างดีกับทางบริษัทฯ และบริษัทมีเมตตาถ่ายทอดวิชาการทำธุรกิจแบบออนไลน์ให้กับตนเองจนสามารถต่อยอดในหลายด้าน นำไปแบ่งปันความรู้ให้กับคนได้อีกจำนวนมาก ซึ่งตนเป็นคนสายธรรมะก็อยากตอบแทนบริษัทที่เคยช่วยเหลือตนมาก่อน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000106195

    #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    "ทนายบอสพอล" พาพยาน 20 ปาก "ดิไอคอน" ให้ปากคำดีเอสไอ ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ซื้อขายสินค้าจริง แจงไม่มีการจัดฉากเพราะไม่คุ้มกับอนาคต • วันนี้ (4 พ.ย.) เวลา 12.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ “บอสพอล” ผู้ต้องหาคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป พาพยาน 20 คน ในฝั่ง "ดิไอคอน" เข้าพบ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ “กองคดีฮั้วประมูล” ดีเอสไอ เพื่อให้ปากคำยืนยันว่าดำเนินธุรกิจซื้อขายสินค้ากับบริษัทฯ จริง • น.ส.มลญ่า (หนึ่งในพยาน) กล่าวว่า ตนและพยานจำนวนนึงเดินทางมาเป็นพยานให้กับ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป แล้วยังคงทำธุรกิจขายสินค้ากับบริษัทฯ อยู่ เพื่อแสดงเหรียญอีกนึงด้านยืนยันความบริสุทธิ์กับตัวแทนทุกคน โดยส่วนตัวเคยได้รับความดูแลเป็นอย่างดีกับทางบริษัทฯ และบริษัทมีเมตตาถ่ายทอดวิชาการทำธุรกิจแบบออนไลน์ให้กับตนเองจนสามารถต่อยอดในหลายด้าน นำไปแบ่งปันความรู้ให้กับคนได้อีกจำนวนมาก ซึ่งตนเป็นคนสายธรรมะก็อยากตอบแทนบริษัทที่เคยช่วยเหลือตนมาก่อน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000106195 • #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • แจ้งจับหมอดูฮวงจุ้ย หลังยายวัย 77 ปี ถูกหมอดูฮวงจุ้ยหลอกทำพิธี สูญ 66 ล้าน ทั้งโรยผงกระดูกผี แก้คุณไสย ลั่น หลงคำพูดจา ลั่น “ทำกับคนแก่ได้อย่างไร เงินที่เอาไปหมดจนเกลี้ยงบัญชี“

    วันนี้ (4 พ.ย.) เพจ “บิ๊กเกรียน” ได้โพสต์ภาพเหตุการณ์ที่คุณยายวัย 77 ปี ท่านหนึ่ง ถูกหลอก ดูฮวงจุ้ย และ ค่าเช่าวัตถุมงคล รวมทั้งค่าทำพิธีเป็นเงินสูงถึง 66 ล้าน โดยโพสต์ระบุว่า หมอดูฮวงจุ้ยช่องดังป้ายยาคุณยายกับลูกสาวรวม66ล้านบาทเกลี้ยงบัญชี โดยคุณยายวัย 77 ปีเห็น หมอดู ฮวงจุ้ย ในทีวีดิจิทัล ช่องดัง หลงเชื่อ เลยติดต่อให้มาดูฮวงจุ้ย ที่บ้าน เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2567 แค่เรียกมาดูแต่คุณยายกับลูกสาวเหมือนถูกป้ายยา โดนค่าต่างๆ เพื่อใช้ ดูฮวงจุ้ย และ ค่า วัตถุมงคล ค่าทำพิธี ครั้งแรกรวมแล้ว 1.3 ล้านบาท

    จากนั้น จ่ายยิบจ่ายย่อย หมอดูฮวงจุ้ย อ้างเป็นค่า ค่าทำพิธี 9 แสน ค่าภาษีอากร นำเข้า 6 แสน ค่าพระผงกระดูกผี 4.4 ล้าน ค่านิมนต์ ค่าพระทำพิธี 6 หมื่น ค่าพิธีล่มศาล 2 ล้าน ค่าซื้อที่ดิน สุสาน 4 แสน ค่าสิงห์ 2 ตัว 1.2 ล้าน โดยที่แพงสุด ค่าหินแกะสลักศักดิ์ นำเข้าจากเมื่องจีน 38 ล้านบาท แต่ไม่เห็นของ ซึ่งตลอดเดือนกุมภาพันธ์ถึงตุลาคม ยอมรวม จ่ายไป 66 ล้านบาท

    โดยคุณยาย เผยว่ามาทุกครั้ง ต้องโอนเงินจ่ายทุกครั้ง อ้างต้องปรับเปลี่ยน ฮวงจุ้ย แก้ คุณไสย ทำพิธีต่างๆ พอทวงถาม ว่าพิธีจะเริ่มเมื่อไร ของเซ่นไหว้ วัตถุ มงคลที่สั่งไปจะมาวันไหน กลับสร้างความไม่พอใจ ให้หมอดูฮวงจุ้นช่องดัง เกิดอารมณ์ เกรี้ยวกราด จึงรู้ว่า โดนหลอกแล้ว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000106138

    #MGROnline #ตี่ลี่ฮวงจุ้ย #หมอดูฮวงจุ้ย
    แจ้งจับหมอดูฮวงจุ้ย หลังยายวัย 77 ปี ถูกหมอดูฮวงจุ้ยหลอกทำพิธี สูญ 66 ล้าน ทั้งโรยผงกระดูกผี แก้คุณไสย ลั่น หลงคำพูดจา ลั่น “ทำกับคนแก่ได้อย่างไร เงินที่เอาไปหมดจนเกลี้ยงบัญชี“ • วันนี้ (4 พ.ย.) เพจ “บิ๊กเกรียน” ได้โพสต์ภาพเหตุการณ์ที่คุณยายวัย 77 ปี ท่านหนึ่ง ถูกหลอก ดูฮวงจุ้ย และ ค่าเช่าวัตถุมงคล รวมทั้งค่าทำพิธีเป็นเงินสูงถึง 66 ล้าน โดยโพสต์ระบุว่า หมอดูฮวงจุ้ยช่องดังป้ายยาคุณยายกับลูกสาวรวม66ล้านบาทเกลี้ยงบัญชี โดยคุณยายวัย 77 ปีเห็น หมอดู ฮวงจุ้ย ในทีวีดิจิทัล ช่องดัง หลงเชื่อ เลยติดต่อให้มาดูฮวงจุ้ย ที่บ้าน เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2567 แค่เรียกมาดูแต่คุณยายกับลูกสาวเหมือนถูกป้ายยา โดนค่าต่างๆ เพื่อใช้ ดูฮวงจุ้ย และ ค่า วัตถุมงคล ค่าทำพิธี ครั้งแรกรวมแล้ว 1.3 ล้านบาท • จากนั้น จ่ายยิบจ่ายย่อย หมอดูฮวงจุ้ย อ้างเป็นค่า ค่าทำพิธี 9 แสน ค่าภาษีอากร นำเข้า 6 แสน ค่าพระผงกระดูกผี 4.4 ล้าน ค่านิมนต์ ค่าพระทำพิธี 6 หมื่น ค่าพิธีล่มศาล 2 ล้าน ค่าซื้อที่ดิน สุสาน 4 แสน ค่าสิงห์ 2 ตัว 1.2 ล้าน โดยที่แพงสุด ค่าหินแกะสลักศักดิ์ นำเข้าจากเมื่องจีน 38 ล้านบาท แต่ไม่เห็นของ ซึ่งตลอดเดือนกุมภาพันธ์ถึงตุลาคม ยอมรวม จ่ายไป 66 ล้านบาท • โดยคุณยาย เผยว่ามาทุกครั้ง ต้องโอนเงินจ่ายทุกครั้ง อ้างต้องปรับเปลี่ยน ฮวงจุ้ย แก้ คุณไสย ทำพิธีต่างๆ พอทวงถาม ว่าพิธีจะเริ่มเมื่อไร ของเซ่นไหว้ วัตถุ มงคลที่สั่งไปจะมาวันไหน กลับสร้างความไม่พอใจ ให้หมอดูฮวงจุ้นช่องดัง เกิดอารมณ์ เกรี้ยวกราด จึงรู้ว่า โดนหลอกแล้ว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000106138 • #MGROnline #ตี่ลี่ฮวงจุ้ย #หมอดูฮวงจุ้ย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇺🇩🇪 SMART: รัสเซียเชิญคนงาน Volkswagen ชาวเยอรมัน, เนื่องจากโรงงานในเยอรมนีปิดตัวลง!

    “รัสเซียจะเปิดโรงงาน Jetta, ซึ่งเป็นโรงงานในจีนที่เทียบได้กับ Volkswagen Audi Group, ให้กับพนักงานชาวเยอรมัน

    รัสเซียจะจัดหาตำแหน่งงานให้กับผู้เชี่ยวชาญชาวเยอรมัน ซึ่งจะสามารถขอสัญชาติรัสเซียได้หลังจากผ่านไป ๕ ปี

    เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นยักษ์ใหญ่ในเยอรมนีล้มละลาย รถยนต์ของ Volkswagen Audi Group มีคุณภาพดีที่สุดมาโดยตลอดและเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก”

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า แอนตัน อาลีคานอฟ ประกาศแผนการเปิดโรงงานผลิต Jetta แบรนด์จีน, ซึ่งผลิตรถยนต์ Volkswagen ภายใต้แบรนด์ของตนเอง, ใน ๕ เมืองของสหพันธรัฐรัสเซีย ท่ามกลางการปิดโรงงานในเยอรมนี

    “ขณะนี้มีการจัดตั้งนิติบุคคลเพื่อเปิดโรงงาน VAG ๕ แห่งในรัสเซีย

    นอกจากเมืองคาลูกาแล้ว, โรงงานผลิตยังจะตั้งอยู่ในเมืองวเซโวโลซสค์, คาลินินกราด, โนโวคูอีบีเชฟสค์ และนาเบเรจเนียเชลนี“
    — อาลีคานอฟ กล่าว
    .
    🇷🇺🇩🇪 Volkswagen ขายโรงงานประกอบรถยนต์ในรัสเซีย, รวมทั้งโรงงานประกอบรถยนต์

    โรงงานประกอบรถยนต์ Volkswagen ทางตะวันตกของรัสเซีย, เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีกำลังการผลิต ๒๒๕,๐๐๐ คันต่อปี

    Volkswagen ได้ขายโรงงานประกอบรถยนต์และโรงงานประกอบรถยนต์อื่นๆ ในรัสเซียให้กับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในประเทศ หลังจากบริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันแห่งนี้ยุติการผลิตในประเทศหลังการรุกรานยูเครน, บริษัทดังกล่าวเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

    ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว, ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลรัสเซีย, ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์แห่งหนึ่งในมอสโกว์ที่ชื่อ Avilon ได้เข้าซื้อสินทรัพย์ของ Volkswagen Group Rus, บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายนี้กล่าว ทั้งสองบริษัทไม่ได้ระบุราคาขาย, แต่สื่อของรัสเซียอ้างข้อมูลในท้องถิ่นว่า Avilon จ่ายเงินไปประมาณ ๑๒๕ ล้านยูโร (๑๓๕ ล้านดอลลาร์)
    .
    โรงงาน Volkswagen ในคาลูกาแห่งเดิมกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง, เนื่องจากภาคส่วนรถยนต์ของรัสเซียฟื้นตัวเต็มที่จนกลับมาเท่ากับระดับการผลิตก่อน-สงคราม ในเดือนกรกฎาคม
    .
    🇷🇺🇩🇪 SMART: Russia invites German Volkswagen workers, because the German factories close!

    “Russia to open Jetta factories, the Chinese analogue of Volkswagen Audi Group, for German employees.

    Russia will be providing jobs for German specialists who will be able to obtain Russian citizenship after five years.

    It is impossible to watch a giant in Germany collapse. Volkswagen Audi Group’s cars have always been of the best quality and loved all over the world.”

    Minister of Industry and Trade Anton Alikhanov announced plans to open production facilities for the Chinese brand Jetta, which produces Volkswagen cars under its own brand, in five cities in the Russian Federation against the backdrop of the closure of factories in Germany.

    “A legal entity is currently being created to open five VAG factories in Russia.

    In addition to Kaluga, production facilities will appear in Vsevolozhsk, Kaliningrad, Novokuibyshevsk and Naberezhnye Chelny.“
    — Alikhanov said

    1/
    .
    🇷🇺🇩🇪 Volkswagen Sells Its Russia Operations, Including an Assembly Plant

    Volkswagen’s assembly plant in western Russia, in December. It had capacity to turn out 225,000 vehicles a year.

    Volkswagen has sold its assembly plant and other operations in Russia to a local auto dealership, more than a year after the German carmaker ceased production in the country following the invasion of Ukraine, the company said on Friday.

    Under the deal, which required approval from the Russian government, a Moscow-based dealership called Avilon acquired the assets of Volkswagen Group Rus, the carmaker said. Neither company specified a sales price, but Russia media citing local records said Avilon paid about 125 million euros ($135 million)

    2/
    .
    The former Volkswagen plant in Kaluga is back online, as Russia's car sector makes a full recovery to pre-war production levels in July

    3/
    .
    9:54 PM · Nov 3, 2024 · 339.6K Views
    https://x.com/MyLordBebo/status/1853088468412366868
    🇷🇺🇩🇪 SMART: รัสเซียเชิญคนงาน Volkswagen ชาวเยอรมัน, เนื่องจากโรงงานในเยอรมนีปิดตัวลง! “รัสเซียจะเปิดโรงงาน Jetta, ซึ่งเป็นโรงงานในจีนที่เทียบได้กับ Volkswagen Audi Group, ให้กับพนักงานชาวเยอรมัน รัสเซียจะจัดหาตำแหน่งงานให้กับผู้เชี่ยวชาญชาวเยอรมัน ซึ่งจะสามารถขอสัญชาติรัสเซียได้หลังจากผ่านไป ๕ ปี เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเห็นยักษ์ใหญ่ในเยอรมนีล้มละลาย รถยนต์ของ Volkswagen Audi Group มีคุณภาพดีที่สุดมาโดยตลอดและเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า แอนตัน อาลีคานอฟ ประกาศแผนการเปิดโรงงานผลิต Jetta แบรนด์จีน, ซึ่งผลิตรถยนต์ Volkswagen ภายใต้แบรนด์ของตนเอง, ใน ๕ เมืองของสหพันธรัฐรัสเซีย ท่ามกลางการปิดโรงงานในเยอรมนี “ขณะนี้มีการจัดตั้งนิติบุคคลเพื่อเปิดโรงงาน VAG ๕ แห่งในรัสเซีย นอกจากเมืองคาลูกาแล้ว, โรงงานผลิตยังจะตั้งอยู่ในเมืองวเซโวโลซสค์, คาลินินกราด, โนโวคูอีบีเชฟสค์ และนาเบเรจเนียเชลนี“ — อาลีคานอฟ กล่าว . 🇷🇺🇩🇪 Volkswagen ขายโรงงานประกอบรถยนต์ในรัสเซีย, รวมทั้งโรงงานประกอบรถยนต์ โรงงานประกอบรถยนต์ Volkswagen ทางตะวันตกของรัสเซีย, เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีกำลังการผลิต ๒๒๕,๐๐๐ คันต่อปี Volkswagen ได้ขายโรงงานประกอบรถยนต์และโรงงานประกอบรถยนต์อื่นๆ ในรัสเซียให้กับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในประเทศ หลังจากบริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันแห่งนี้ยุติการผลิตในประเทศหลังการรุกรานยูเครน, บริษัทดังกล่าวเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว, ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลรัสเซีย, ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์แห่งหนึ่งในมอสโกว์ที่ชื่อ Avilon ได้เข้าซื้อสินทรัพย์ของ Volkswagen Group Rus, บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายนี้กล่าว ทั้งสองบริษัทไม่ได้ระบุราคาขาย, แต่สื่อของรัสเซียอ้างข้อมูลในท้องถิ่นว่า Avilon จ่ายเงินไปประมาณ ๑๒๕ ล้านยูโร (๑๓๕ ล้านดอลลาร์) . โรงงาน Volkswagen ในคาลูกาแห่งเดิมกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง, เนื่องจากภาคส่วนรถยนต์ของรัสเซียฟื้นตัวเต็มที่จนกลับมาเท่ากับระดับการผลิตก่อน-สงคราม ในเดือนกรกฎาคม . 🇷🇺🇩🇪 SMART: Russia invites German Volkswagen workers, because the German factories close! “Russia to open Jetta factories, the Chinese analogue of Volkswagen Audi Group, for German employees. Russia will be providing jobs for German specialists who will be able to obtain Russian citizenship after five years. It is impossible to watch a giant in Germany collapse. Volkswagen Audi Group’s cars have always been of the best quality and loved all over the world.” Minister of Industry and Trade Anton Alikhanov announced plans to open production facilities for the Chinese brand Jetta, which produces Volkswagen cars under its own brand, in five cities in the Russian Federation against the backdrop of the closure of factories in Germany. “A legal entity is currently being created to open five VAG factories in Russia. In addition to Kaluga, production facilities will appear in Vsevolozhsk, Kaliningrad, Novokuibyshevsk and Naberezhnye Chelny.“ — Alikhanov said 1/ . 🇷🇺🇩🇪 Volkswagen Sells Its Russia Operations, Including an Assembly Plant Volkswagen’s assembly plant in western Russia, in December. It had capacity to turn out 225,000 vehicles a year. Volkswagen has sold its assembly plant and other operations in Russia to a local auto dealership, more than a year after the German carmaker ceased production in the country following the invasion of Ukraine, the company said on Friday. Under the deal, which required approval from the Russian government, a Moscow-based dealership called Avilon acquired the assets of Volkswagen Group Rus, the carmaker said. Neither company specified a sales price, but Russia media citing local records said Avilon paid about 125 million euros ($135 million) 2/ . The former Volkswagen plant in Kaluga is back online, as Russia's car sector makes a full recovery to pre-war production levels in July 3/ . 9:54 PM · Nov 3, 2024 · 339.6K Views https://x.com/MyLordBebo/status/1853088468412366868
    Like
    1
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดรายงาน สตง.สอบปัญหาเงินขาดบัญชี 15 หน่วยงาน พบพฤติการณ์ทุจริตเพียบ จ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเจอชื่อคนตาย จัดเก็บค่าน้ำ-ขยะมูลฝอย มีหมุนเงินไปใช้ส่วนตัว ระบบ KTB Corporate Online เข้าไปทำรายการโอนเงินผ่านเมนูชำระค่าสินค้าเข้าบัญชีเงินฝากตนเอง ส่งเรื่อง ป.ป.ช. หน่วยงานเกี่ยวข้อง แจ้งสอบสวนลงโทษตามขั้นตอนกม.แล้ว

    https://isranews.org/article/isranews-news/133068-invesssasasassasad.html

    #Thaitimes
    เปิดรายงาน สตง.สอบปัญหาเงินขาดบัญชี 15 หน่วยงาน พบพฤติการณ์ทุจริตเพียบ จ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเจอชื่อคนตาย จัดเก็บค่าน้ำ-ขยะมูลฝอย มีหมุนเงินไปใช้ส่วนตัว ระบบ KTB Corporate Online เข้าไปทำรายการโอนเงินผ่านเมนูชำระค่าสินค้าเข้าบัญชีเงินฝากตนเอง ส่งเรื่อง ป.ป.ช. หน่วยงานเกี่ยวข้อง แจ้งสอบสวนลงโทษตามขั้นตอนกม.แล้ว https://isranews.org/article/isranews-news/133068-invesssasasassasad.html #Thaitimes
    ISRANEWS.ORG
    พบทุจริตเพียบ! สตง.สอบปัญหาเงินขาดบัญชี 15 หน่วยงาน-เจอชื่อคนตายรับเบี้ยยังชีพคนชรา
    เปิดรายงาน สตง.สอบปัญหาเงินขาดบัญชี 15 หน่วยงาน พบพฤติการณ์ทุจริตเพียบ จ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเจอชื่อคนตาย จัดเก็บค่าน้ำ-ขยะมูลฝอย มีหมุนเงินไปใช้ส่วนตัว ระบบ KTB Corporate Online เข้าไปทำรายการโอนเงินผ่านเมนูชำระค่าสินค้าเข้าบัญชีเงินฝากตนเอง ส่งเรื่อง ป.ป.ช. หน่วยงานเกี่ยวข้อง แจ้งสอบสวนลงโทษตามขั้นตอนกม.แล้ว
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • Ivermectin กับมะเร็ง และอื่นๆ
    ยาฆ่าparasite แต่ทั่วโลกกำลังตื่นเต้นในฤทธิ์ของการฆ่าไวรัสได้หลายชนิดและรวมทั้งการนำไปควบรวมรักษามะเร็งที่ดื้อยา และแม้แต่ ลองโควิดและลองวัคซีน

    * เป็นไปได้หรือไม่ที่จะได้มีการนำมาควบรวมในการใช้ในผู้ป่วยคนไทยจริงๆ
    * หลักฐานตามที่แนบมาอยู่ในวรสารการแพทย์และทางวิทยาศาสตร์ชั้นนำทั้งสิ้น
    * และยามีความปลอดภัยสูงนอกจากนั้นพิสูจน์แล้วว่าใช้เป็นเวลานานเป็นปีไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาข้างเคียงและไม่ตีกับยาอื่น

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต

    https://ashpublications.org/blood/article/116/18/3593/27970/The-antiparasitic-agent-ivermectin-induces

    https://www.mdpi.com/2072-6694/12/2/441

    https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7320149/

    https://tspace.library.utoronto.ca/bitstream/1807/24641/8/Sharmeen_Sumaiya_20106_MSc_thesis.pdf

    https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/32611256/

    https://www.tandfonline.com/doi/full/10.1080/10428194.2020.1786559

    https://www.medsci.org/v19p1567.pdf

    https://www.news-medical.net/news/20210119/Researchers-identify-new-drug-combination-that-can-treat-acute-myeloid-leukemia.aspx

    https://link.springer.com/article/10.1007/s10787-022-01129-1

    https://onlinelibrary.wiley.com/doi/pdf/10.1111/jcmm.15195

    https://www.nature.com/articles/d41586-024-01431-8?gad_source=1&gclid=CjwKCAjw_Na1BhAlEiwAM-dm7ELoFa53qxJ_GxZeoVGgKaSPEE51r9vK2bzBfazS8eg6VQD-eo6zYxoCZ2gQAvD_BwE

    https://europepmc.org/article/PMC/5835698

    https://link.springer.com/article/10.1007/s13167-020-00209-y

    https://www.zora.uzh.ch/id/eprint/198018/1/Mezzatesta_et_al.pdf

    https://pubs.acs.org/doi/10.1021/acs.jmedchem.2c00496#

    https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1043661820315152

    Nature 2021https://www.nature.com/articles/s41523-021-00229-5 
    Nature 2022https://www.nature.com/articles/s41419-022-05182-0 

    Others
    https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1043661820315152https://

    www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7505114/https://

    www.frontiersin.org/journals/pharmacology/articles/10.3389/fphar.2021.717529/fullhttps://journals.sagepub.com/doi/full/10.1177/09603271221143693https://www.mdpi.com/2079-9721/11/1/49https://www.frontiersin.org/journals/pharmacology/articles/10.3389/fphar.2022.934746/fullhttps://ar.iiarjournals.org/content/39/9/4837 


    Ivermectin converts cold tumors hot and synergizes with immune checkpoint blockade for treatment of breast cancer

    https://www.nature.com/articles/s41523-021-00229-5



    https://www.frontiersin.org/journals/molecular-neuroscience/articles/10.3389/fnmol.2023.1138798/full

    https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0166432820305039?fr=RR-2&ref=pdf_download&rr=

    IVM is increasing striatal dopamine release through enhanced cholinergic activity on dopamine terminals.

    https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC11025261/
    Ivermectin กับมะเร็ง และอื่นๆ ยาฆ่าparasite แต่ทั่วโลกกำลังตื่นเต้นในฤทธิ์ของการฆ่าไวรัสได้หลายชนิดและรวมทั้งการนำไปควบรวมรักษามะเร็งที่ดื้อยา และแม้แต่ ลองโควิดและลองวัคซีน * เป็นไปได้หรือไม่ที่จะได้มีการนำมาควบรวมในการใช้ในผู้ป่วยคนไทยจริงๆ * หลักฐานตามที่แนบมาอยู่ในวรสารการแพทย์และทางวิทยาศาสตร์ชั้นนำทั้งสิ้น * และยามีความปลอดภัยสูงนอกจากนั้นพิสูจน์แล้วว่าใช้เป็นเวลานานเป็นปีไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาข้างเคียงและไม่ตีกับยาอื่น ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต https://ashpublications.org/blood/article/116/18/3593/27970/The-antiparasitic-agent-ivermectin-induces https://www.mdpi.com/2072-6694/12/2/441 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7320149/ https://tspace.library.utoronto.ca/bitstream/1807/24641/8/Sharmeen_Sumaiya_20106_MSc_thesis.pdf https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/32611256/ https://www.tandfonline.com/doi/full/10.1080/10428194.2020.1786559 https://www.medsci.org/v19p1567.pdf https://www.news-medical.net/news/20210119/Researchers-identify-new-drug-combination-that-can-treat-acute-myeloid-leukemia.aspx https://link.springer.com/article/10.1007/s10787-022-01129-1 https://onlinelibrary.wiley.com/doi/pdf/10.1111/jcmm.15195 https://www.nature.com/articles/d41586-024-01431-8?gad_source=1&gclid=CjwKCAjw_Na1BhAlEiwAM-dm7ELoFa53qxJ_GxZeoVGgKaSPEE51r9vK2bzBfazS8eg6VQD-eo6zYxoCZ2gQAvD_BwE https://europepmc.org/article/PMC/5835698 https://link.springer.com/article/10.1007/s13167-020-00209-y https://www.zora.uzh.ch/id/eprint/198018/1/Mezzatesta_et_al.pdf https://pubs.acs.org/doi/10.1021/acs.jmedchem.2c00496# https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1043661820315152 Nature 2021https://www.nature.com/articles/s41523-021-00229-5  Nature 2022https://www.nature.com/articles/s41419-022-05182-0  Others https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1043661820315152https:// www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7505114/https:// www.frontiersin.org/journals/pharmacology/articles/10.3389/fphar.2021.717529/fullhttps://journals.sagepub.com/doi/full/10.1177/09603271221143693https://www.mdpi.com/2079-9721/11/1/49https://www.frontiersin.org/journals/pharmacology/articles/10.3389/fphar.2022.934746/fullhttps://ar.iiarjournals.org/content/39/9/4837  Ivermectin converts cold tumors hot and synergizes with immune checkpoint blockade for treatment of breast cancer https://www.nature.com/articles/s41523-021-00229-5 https://www.frontiersin.org/journals/molecular-neuroscience/articles/10.3389/fnmol.2023.1138798/full https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0166432820305039?fr=RR-2&ref=pdf_download&rr= IVM is increasing striatal dopamine release through enhanced cholinergic activity on dopamine terminals. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC11025261/
    Like
    Love
    13
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฉเอกสารชุดใหม่ HYBE แผนแคมเปญล้ม ‘ลิซ่า’ เหยียดเชื้อชาติ จ้างทำข่าวปลอม หวังทำลายชื่อเสียง แฟนคลับเรียกร้องฟ้องค่ายดัง

    การเปิดประเด็นของ ‘ฮันนิ’ แห่งวงนิวจีนส์ ออกมาเผยถึงการกดขี่ข่มเหงในวงการ K-POP จนรัฐบาลและรัฐสภารับเรื่องไปเปิดประเด็นไต่สวน นำไปสู่การเปิดเผยเอกสารที่เกี่ยวข้องของบางบริษัทหลุดออกมา ซึ่งเอกสารดังกล่าวมีจำนวน 18,000 หน้า

    โดยเนื้อหาในเอกสารดังกล่าว มีการพูดถึงศิลปินในวงการ K-POP ค่ายอื่นๆ เช่น EXO, SHINee, (G)I-DLE, Stray Kids เป็นต้น ซึ่งเนื้อหาในเอกสารก็เป็นการบูลลี่ ดูถูกศิลปินแบบเสียๆ หายๆ

    ล่าสุดมีการเปิดเผยเนื้อหาในเอกสารเพิ่มเติมอีก 1,000 หน้า มีการระบุว่าเป็นแผนงานและมีลำดับขั้นตอนชัดเจน โดยเอกสารส่วนนึงเพ่งเล็งไปที่การโจมตีหวังทำลาย ‘ลิซ่า’ เช่น จ้างสื่อให้เขียนข่าวโจมตีลิซ่า กล่าวหาว่าลิซ่ามีแฟนคลับเฉพาะแค่ในเอเชียอาคเนย์ กล่าวหาที่ได้รางวัลศิลปิน K-POP ยอดเยี่ยมเพราะโกงโหวต โจมตีเรื่องการออกเดทเป็นเหตุผลที่ไม่ยอมต่อสัญญากับค่ายเดิม ไปจนถึงการเหยียดเชื้อชาติ ว่าเพราะลิซ่าเป็นคนไทย เลยไม่แปลกที่ไปเต้นโชว์ Crazy Horse Show

    โดย HYBE กล่าวถึงการปรากฏตัวของลิซ่าที่ Crazy Horse Show ที่ปารีส ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของเธอในสายตาสาธารณชนลดลงอย่างมาก ดูเหมือนว่าสำหรับเธอ การแสดงที่มีการเปลือยอาจเป็นการท้าทายหรือแสดงถึงพลังในแบบของเธอ แต่การนำเสนอนั้นแบบนี้กลับดูไม่มีบริบทที่ชัดเจน แทนที่จะเป็นการผสมผสานเข้ากับการแสดงที่มีความหมาย กลับทำให้ดูเหมือนการแสดงแบบล้อเลียนที่ขาดความลึกซึ้ง จนถูกมองว่าไร้เดียงสาไปบ้าง

    การที่สมาชิกคนอื่นไปเข้าชมและสนับสนุนก็ทำให้ภาพลักษณ์ของทีมโดยรวมได้รับผลกระทบไปด้วย โชคดีที่กลุ่มนี้ไม่เคยนำเสนอผลงานในธีมเกี่ยวกับพลังหญิงหรือประเด็นทางเพศ ดังนั้นพวกเขาอาจฟื้นตัวได้ในระดับหนึ่ง อีกทั้ง BLACKPINK มักเน้นเรื่องราวความสัมพันธ์แบบรักต่างเพศเป็นหลัก

    ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีบทความใส่ร้ายลิซ่าเป็นจำนวนมาก และเป็นแพทเทิร์นเดียวกัน จนทำให้แฟนคลับต่างสงสัยว่าใครอยู่เบื้องหลังแผนการนี้ วันนี้ทุกอย่างกระจ่างแล้วว่าข้อสงสัยดังกล่าวนั้นทุกอย่างคือเรื่องจริง

    ที่มา https://ch3plus.com/news/entertainment/ch3onlinenews/423128?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR0_6vlqMTr2xhjpIxSWN_qnU_0600u-JLd6OQeZLyZ1z8-L3-3H_I2I6ls_aem_nSB2aucxZnNW8OmyAlYpSA

    #Thaitimes
    แฉเอกสารชุดใหม่ HYBE แผนแคมเปญล้ม ‘ลิซ่า’ เหยียดเชื้อชาติ จ้างทำข่าวปลอม หวังทำลายชื่อเสียง แฟนคลับเรียกร้องฟ้องค่ายดัง การเปิดประเด็นของ ‘ฮันนิ’ แห่งวงนิวจีนส์ ออกมาเผยถึงการกดขี่ข่มเหงในวงการ K-POP จนรัฐบาลและรัฐสภารับเรื่องไปเปิดประเด็นไต่สวน นำไปสู่การเปิดเผยเอกสารที่เกี่ยวข้องของบางบริษัทหลุดออกมา ซึ่งเอกสารดังกล่าวมีจำนวน 18,000 หน้า โดยเนื้อหาในเอกสารดังกล่าว มีการพูดถึงศิลปินในวงการ K-POP ค่ายอื่นๆ เช่น EXO, SHINee, (G)I-DLE, Stray Kids เป็นต้น ซึ่งเนื้อหาในเอกสารก็เป็นการบูลลี่ ดูถูกศิลปินแบบเสียๆ หายๆ ล่าสุดมีการเปิดเผยเนื้อหาในเอกสารเพิ่มเติมอีก 1,000 หน้า มีการระบุว่าเป็นแผนงานและมีลำดับขั้นตอนชัดเจน โดยเอกสารส่วนนึงเพ่งเล็งไปที่การโจมตีหวังทำลาย ‘ลิซ่า’ เช่น จ้างสื่อให้เขียนข่าวโจมตีลิซ่า กล่าวหาว่าลิซ่ามีแฟนคลับเฉพาะแค่ในเอเชียอาคเนย์ กล่าวหาที่ได้รางวัลศิลปิน K-POP ยอดเยี่ยมเพราะโกงโหวต โจมตีเรื่องการออกเดทเป็นเหตุผลที่ไม่ยอมต่อสัญญากับค่ายเดิม ไปจนถึงการเหยียดเชื้อชาติ ว่าเพราะลิซ่าเป็นคนไทย เลยไม่แปลกที่ไปเต้นโชว์ Crazy Horse Show โดย HYBE กล่าวถึงการปรากฏตัวของลิซ่าที่ Crazy Horse Show ที่ปารีส ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของเธอในสายตาสาธารณชนลดลงอย่างมาก ดูเหมือนว่าสำหรับเธอ การแสดงที่มีการเปลือยอาจเป็นการท้าทายหรือแสดงถึงพลังในแบบของเธอ แต่การนำเสนอนั้นแบบนี้กลับดูไม่มีบริบทที่ชัดเจน แทนที่จะเป็นการผสมผสานเข้ากับการแสดงที่มีความหมาย กลับทำให้ดูเหมือนการแสดงแบบล้อเลียนที่ขาดความลึกซึ้ง จนถูกมองว่าไร้เดียงสาไปบ้าง การที่สมาชิกคนอื่นไปเข้าชมและสนับสนุนก็ทำให้ภาพลักษณ์ของทีมโดยรวมได้รับผลกระทบไปด้วย โชคดีที่กลุ่มนี้ไม่เคยนำเสนอผลงานในธีมเกี่ยวกับพลังหญิงหรือประเด็นทางเพศ ดังนั้นพวกเขาอาจฟื้นตัวได้ในระดับหนึ่ง อีกทั้ง BLACKPINK มักเน้นเรื่องราวความสัมพันธ์แบบรักต่างเพศเป็นหลัก ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีบทความใส่ร้ายลิซ่าเป็นจำนวนมาก และเป็นแพทเทิร์นเดียวกัน จนทำให้แฟนคลับต่างสงสัยว่าใครอยู่เบื้องหลังแผนการนี้ วันนี้ทุกอย่างกระจ่างแล้วว่าข้อสงสัยดังกล่าวนั้นทุกอย่างคือเรื่องจริง ที่มา https://ch3plus.com/news/entertainment/ch3onlinenews/423128?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR0_6vlqMTr2xhjpIxSWN_qnU_0600u-JLd6OQeZLyZ1z8-L3-3H_I2I6ls_aem_nSB2aucxZnNW8OmyAlYpSA #Thaitimes
    Like
    Sad
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 346 มุมมอง 0 รีวิว
  • "…. ถ้ากฎหมายถูกบังคับใช้อย่างเด็ดขาดเหมือนในหลายประเทศ วันนี้ตู้คีบตุ๊กตาคงจะหายไปจากบรรดาร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศไปแล้ว โดยถูกขนไปเผาทุบทำลาย เพราะเป็นอบายมุขที่บ่อนทำลายเด็กและเยาวชน

    แต่ปฏิบัติการกวาดล้างปราบปรามเครื่องเล่นการพนัน ซึ่งแฝงมาในรูปตู้คีบตุ๊กตาแทบไม่มีความคืบหน้าใดๆ

    ร้านสะดวกซื้อในหลายพื้นที่ ตู้คีบตุ๊กตายังตั้งตระหง่าน ท้าทายกฎหมายอยู่ รวมทั้งเซเว่น อีเลฟเว่นที่ถูกโจมตีมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว

    อย่างไรก็ตาม การกำจัดอบายมุขให้ห่างไกลจากเด็กและเยาวชนเริ่มมีการขยับเหมือนกัน

    เพราะ CPALL เป็นบริษัทจดทะเบียน และเคยได้รับรางวัลมากมายจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมทั้งรางวัลบริษัทจดทะเบียนยอดเยี่ยมแห่งปี เมื่อนำอบายมุขมาเปิดในพื้นที่เซเว่น อีเลฟเว่น ย่อมส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กร และกระทบต่อสังคม

    …. ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำกับดูแลเฉพาะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นเท่านั้น ไม่มีอำนาจก้าวล่วงไปถึงบริษัททั่วไปที่ไร้สำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม ปล่อยให้เครื่องเล่นการพนันเข้ามาตั้งสูบเงินจากเด็กและเยาวชน

    สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่โดยตรงที่จะกวดขัน จับกุม ปราบปราบอบายมุขที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งตู้คีบไฟฟ้า แต่กลับปล่อยให้เครื่องเล่นการพนันชนิดนี้ระบาดไปทั่วประเทศ ซึ่งอาจเป็นเพราะผลประโยชน์ที่ได้รับการแบ่งปันจากเงินที่ได้จากการมอมเมาเด็กและเยาวชน

    รัฐบาลมีหน้าที่กำกับ ดูแล สอดส่อง การทำงานของตำรวจ หากละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือเลือกปฏิบัติ ปล่อยให้อบายมุขเต็มบ้านเต็มเมือง สามารถลงโทษตำรวจได้

    แต่ไม่เคยเห็นรัฐบาลชุดไหนใส่ใจต่ออบายมุข ในรูปตู้คีบตุ๊กตา ที่ทำให้เด็กและเยาวชนเสียคน รวมทั้งรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร"

    จากคอลัมน์ ชุมชนคนหุ้น ของสุนันท์​ ศรีจันทรา

    https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000105018

    #Thaitimes
    "…. ถ้ากฎหมายถูกบังคับใช้อย่างเด็ดขาดเหมือนในหลายประเทศ วันนี้ตู้คีบตุ๊กตาคงจะหายไปจากบรรดาร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศไปแล้ว โดยถูกขนไปเผาทุบทำลาย เพราะเป็นอบายมุขที่บ่อนทำลายเด็กและเยาวชน แต่ปฏิบัติการกวาดล้างปราบปรามเครื่องเล่นการพนัน ซึ่งแฝงมาในรูปตู้คีบตุ๊กตาแทบไม่มีความคืบหน้าใดๆ ร้านสะดวกซื้อในหลายพื้นที่ ตู้คีบตุ๊กตายังตั้งตระหง่าน ท้าทายกฎหมายอยู่ รวมทั้งเซเว่น อีเลฟเว่นที่ถูกโจมตีมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว อย่างไรก็ตาม การกำจัดอบายมุขให้ห่างไกลจากเด็กและเยาวชนเริ่มมีการขยับเหมือนกัน เพราะ CPALL เป็นบริษัทจดทะเบียน และเคยได้รับรางวัลมากมายจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมทั้งรางวัลบริษัทจดทะเบียนยอดเยี่ยมแห่งปี เมื่อนำอบายมุขมาเปิดในพื้นที่เซเว่น อีเลฟเว่น ย่อมส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กร และกระทบต่อสังคม …. ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำกับดูแลเฉพาะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นเท่านั้น ไม่มีอำนาจก้าวล่วงไปถึงบริษัททั่วไปที่ไร้สำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม ปล่อยให้เครื่องเล่นการพนันเข้ามาตั้งสูบเงินจากเด็กและเยาวชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่โดยตรงที่จะกวดขัน จับกุม ปราบปราบอบายมุขที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งตู้คีบไฟฟ้า แต่กลับปล่อยให้เครื่องเล่นการพนันชนิดนี้ระบาดไปทั่วประเทศ ซึ่งอาจเป็นเพราะผลประโยชน์ที่ได้รับการแบ่งปันจากเงินที่ได้จากการมอมเมาเด็กและเยาวชน รัฐบาลมีหน้าที่กำกับ ดูแล สอดส่อง การทำงานของตำรวจ หากละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือเลือกปฏิบัติ ปล่อยให้อบายมุขเต็มบ้านเต็มเมือง สามารถลงโทษตำรวจได้ แต่ไม่เคยเห็นรัฐบาลชุดไหนใส่ใจต่ออบายมุข ในรูปตู้คีบตุ๊กตา ที่ทำให้เด็กและเยาวชนเสียคน รวมทั้งรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" จากคอลัมน์ ชุมชนคนหุ้น ของสุนันท์​ ศรีจันทรา https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000105018 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    CPALL ไล่ตู้คีบตุ๊กตาพ้น 7-11 / สุนันท์ ศรีจันทรา
    อีกไม่นาน ตู้คีบตุ๊กตาที่มอมเมา หลอกกินเงินเด็กและเยาวชน จะถูกกวาดล้าง ออกจากพื้นที่ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น – อีเลฟเว่น ในทุกสาขาทั่วประเทศ หลัง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ถูกโจมตี ในความไม่รับผิดชอบต่อสังคม
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว
  • • ทอท.รายงานผู้โดยสารปีงบ 67 พุ่งกว่า 120 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20%
    • ช่วงไฮซีซั่น ปี 67 ตารางบินฤดูหนาวเต็ม ผู้โดยสารเพิ่มจากปีก่อน 23%
    • คาดการณ์ผู้โดยสารปีงบ 68 จะทะลุ 130 ล้านคน

    Tourist First, Thai People after บนพื้นที่ประเทศไทย

    https://mgronline.com/business/detail/9670000103905

    #Thaitimes
    • ทอท.รายงานผู้โดยสารปีงบ 67 พุ่งกว่า 120 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20% • ช่วงไฮซีซั่น ปี 67 ตารางบินฤดูหนาวเต็ม ผู้โดยสารเพิ่มจากปีก่อน 23% • คาดการณ์ผู้โดยสารปีงบ 68 จะทะลุ 130 ล้านคน Tourist First, Thai People after บนพื้นที่ประเทศไทย https://mgronline.com/business/detail/9670000103905 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    ทอท.โชว์ไฮซีซั่น ปี67 ผู้โดยสารเพิ่มจากปีก่อน 23% คาดปีงบ 68 ผู้โดยสารรวมทะลุ 130 ล้านคน
    ทอท.โชว์ตัวเลขผู้โดยสารปีงบ 67 พุ่งกว่า 120 ล้านคน เพิ่มขึ้น20% ช่วงไฮซีซั่น ปี67 ตารางบินฤดูหนาวเที่ยวบินแน่น ผู้โดยสารเพิ่มจากปีก่อน 23% คาดปีงบ 68 ผู้โดยสารทะลุ 130 ล้านคน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 348 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวยแล้วไง… Lamborghini Huracán EVO Spyder ของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล หลังถูกนำมาส่งมอบเพื่ออายัดไว้ทำการตรวจสอบ

    https://mgronline.com/motoring/detail/9670000102116
    #Thaitimes
    รวยแล้วไง… Lamborghini Huracán EVO Spyder ของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล หลังถูกนำมาส่งมอบเพื่ออายัดไว้ทำการตรวจสอบ https://mgronline.com/motoring/detail/9670000102116 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    ส่อง Lamborghini Huracán EVO 'บอสพอล' ราคาเบา 22 ล้านบาท
    Lamborghini Huracán EVO Spyder ของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล หลังถูกนำมาส่งมอบเพื่ออายัดไว้ทำการตรวจสอบ บอกเลยว่าคันนี้ไม่ธรรมดา เพราะมีค่าตัวสูงถึง 22 ล้านบาท
    Sad
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน เป็นต้นไป รูเบน อโมริม โค้ชหนุ่มวัย 39 ปี คุมทัพทีมสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ เซ็นสัญญายาว 3 ปี พร้อมอ็อปชั่นขยายเพิ่มอีก 1 ปี

    "ปีศาจแดง" เดินดีลโค้ชใหม่ของพวกเขาอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่แยกทางกับ เอริก เทน ฮาก เทรนเนอร์ชาวดัตช์ หลังจบเกมบุกพ่าย เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-2 เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน

    https://mgronline.com/sport/detail/9670000105485

    #Thaitimes
    ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน เป็นต้นไป รูเบน อโมริม โค้ชหนุ่มวัย 39 ปี คุมทัพทีมสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ เซ็นสัญญายาว 3 ปี พร้อมอ็อปชั่นขยายเพิ่มอีก 1 ปี "ปีศาจแดง" เดินดีลโค้ชใหม่ของพวกเขาอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่แยกทางกับ เอริก เทน ฮาก เทรนเนอร์ชาวดัตช์ หลังจบเกมบุกพ่าย เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-2 เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน https://mgronline.com/sport/detail/9670000105485 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    "แมนฯ ยู" ประกาศตั้ง "อโมริม" ทางการ เริ่มงาน 11 พ.ย.นี้ เซ็นสัญญา 3 ปี
    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศแต่งตั้ง รูเบน อโมริม โค้ชหนุ่มวัย 39 ปี คุมทัพอย่างเป็นทางการ เซ็นสัญญายาว 3 ปี พร้อมอ็อปชั่นขยายเพิ่มอีก 1 ปี เริ่มทำงานตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน เป็นต้นไป
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำเกาหลีใต้ว่างเว้นมากว่า 3 เดือนแล้ว ถือว่านานที่สุดนับตั้งแต่ชาติทั้งสองสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน

    นายซิง ไห่หมิง เอกอัครราชทูตจีนคนก่อนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม ปี 2563 และพ้นวาระเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยขณะนี้มีนายฟัง คุน อุปทูตรักษาการไปพลางๆ ก่อน

    อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งล่าช้ามิใช่เพิ่งเกิดขึ้นกับกรณีเกาหลีใต้เท่านั้น

    จีนส่งนายเซี่ย เฟิง อดีต รมช.ต่างประเทศไปเป็นเอกอัครราชทูตที่สหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว หลังจากตำแหน่งว่างมานานเกือบ 5 เดือน นานที่สุดนับตั้งแต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปี 2522

    นายไฉ รุ่น อดีตเอกอัครราชทูตประจำอิสราเอลก็เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตประจำสหภาพยุโรปคนใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากตำแหน่งร้างมาตั้งแต่เดือนมีนาคม

    นักสังเกตการณ์มองว่า ความล่าช้าในการแต่งตั้งอาจสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีมากขึ้น นายชุง แจฮุง ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาด้านจีนแห่งสถาบันเซจงในกรุงโซลระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นแข็งแกร่งขึ้น ส่วนเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ก็กลับมาเป็นศัตรูกันอีก จีนจึงต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบกว่าแต่ก่อน

    นายสือ อิ้นหง อาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยเหรินหมินในกรุงปักกิ่งชี้ว่า หากไม่นับความขัดแย้งอย่างหนักกรณีเกาหลีใต้จะนำระบบต่อต้านขีปนาวุธของสหรัฐฯ (THAAD) มาติดตั้งในประเทศ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อจีนเมื่อปี 2559 แล้ว ความสัมพันธ์จีน-เกาหลีใต้ขณะนี้ถือว่าตกต่ำสุดนับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์กันในปี 2535 จากสาเหตุสำคัญคือเกาหลีใต้กระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงกับสหรัฐฯ ส่วนจีนก็ผ่อนปรนอย่างชัดเจนเรื่องที่เกาหลีเหนือพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์

    ในความเห็นของนายจื่อฉวิน จู อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยบักเนลล์ (Bucknell University) ในสหรัฐฯ นั้น ไม่จำเป็นต้องตีความเรื่องตำแหน่งเอกอัครราชทูตว่างให้มากเกินไป เพราะเมื่อพิจารณาถึงความสำคัญของเกาหลีใต้และคาบสมุทรเกาหลีแล้ว ปักกิ่งน่าจะแต่งตั้งนักการทูตรุ่นเฮฟวีเวต ซึ่งจะได้รับการต้อนรับจากโซลในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน เขายังเห็นว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้การแต่งตั้งล่าช้า เช่น ปักกิ่งมีเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่าในกรณีสถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันและทะเลจีนใต้

    นายจู เฟิง คณบดีบริหารของโรงเรียนการศึกษานานาชาติแห่งมหาวิทยาลัยหนันจิงระบุว่า สำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคีแล้ว การที่เอกอัครราชทูตว่างชั่วคราวไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะอุปทูตปฏิบัติหน้าที่แทนชั่วคราวได้

    ตำแหน่งอาจว่างไปอีก 2-3 เดือน หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายชุง แจฮุง แห่งสถาบันเซจงในกรุงโซลคาดคะเน

    ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์

    https://mgronline.com/china/detail/9670000104850

    #Thaitimes
    ตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำเกาหลีใต้ว่างเว้นมากว่า 3 เดือนแล้ว ถือว่านานที่สุดนับตั้งแต่ชาติทั้งสองสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน นายซิง ไห่หมิง เอกอัครราชทูตจีนคนก่อนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม ปี 2563 และพ้นวาระเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยขณะนี้มีนายฟัง คุน อุปทูตรักษาการไปพลางๆ ก่อน อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งล่าช้ามิใช่เพิ่งเกิดขึ้นกับกรณีเกาหลีใต้เท่านั้น จีนส่งนายเซี่ย เฟิง อดีต รมช.ต่างประเทศไปเป็นเอกอัครราชทูตที่สหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว หลังจากตำแหน่งว่างมานานเกือบ 5 เดือน นานที่สุดนับตั้งแต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปี 2522 นายไฉ รุ่น อดีตเอกอัครราชทูตประจำอิสราเอลก็เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตประจำสหภาพยุโรปคนใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากตำแหน่งร้างมาตั้งแต่เดือนมีนาคม นักสังเกตการณ์มองว่า ความล่าช้าในการแต่งตั้งอาจสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีมากขึ้น นายชุง แจฮุง ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาด้านจีนแห่งสถาบันเซจงในกรุงโซลระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นแข็งแกร่งขึ้น ส่วนเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ก็กลับมาเป็นศัตรูกันอีก จีนจึงต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบกว่าแต่ก่อน นายสือ อิ้นหง อาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยเหรินหมินในกรุงปักกิ่งชี้ว่า หากไม่นับความขัดแย้งอย่างหนักกรณีเกาหลีใต้จะนำระบบต่อต้านขีปนาวุธของสหรัฐฯ (THAAD) มาติดตั้งในประเทศ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อจีนเมื่อปี 2559 แล้ว ความสัมพันธ์จีน-เกาหลีใต้ขณะนี้ถือว่าตกต่ำสุดนับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์กันในปี 2535 จากสาเหตุสำคัญคือเกาหลีใต้กระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงกับสหรัฐฯ ส่วนจีนก็ผ่อนปรนอย่างชัดเจนเรื่องที่เกาหลีเหนือพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์ ในความเห็นของนายจื่อฉวิน จู อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยบักเนลล์ (Bucknell University) ในสหรัฐฯ นั้น ไม่จำเป็นต้องตีความเรื่องตำแหน่งเอกอัครราชทูตว่างให้มากเกินไป เพราะเมื่อพิจารณาถึงความสำคัญของเกาหลีใต้และคาบสมุทรเกาหลีแล้ว ปักกิ่งน่าจะแต่งตั้งนักการทูตรุ่นเฮฟวีเวต ซึ่งจะได้รับการต้อนรับจากโซลในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน เขายังเห็นว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้การแต่งตั้งล่าช้า เช่น ปักกิ่งมีเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่าในกรณีสถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันและทะเลจีนใต้ นายจู เฟิง คณบดีบริหารของโรงเรียนการศึกษานานาชาติแห่งมหาวิทยาลัยหนันจิงระบุว่า สำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคีแล้ว การที่เอกอัครราชทูตว่างชั่วคราวไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะอุปทูตปฏิบัติหน้าที่แทนชั่วคราวได้ ตำแหน่งอาจว่างไปอีก 2-3 เดือน หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายชุง แจฮุง แห่งสถาบันเซจงในกรุงโซลคาดคะเน ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ https://mgronline.com/china/detail/9670000104850 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    ทำไมจีนยังไม่ส่งทูตคนใหม่มาประจำที่เกาหลีใต้?
    ตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำเกาหลีใต้ว่างเว้นมากว่า 3 เดือนแล้ว ถือว่านานที่สุดนับตั้งแต่ชาติทั้งสองสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 306 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2 พฤศจิกายน 2567-รายงานผู้จัดการออนไลน์ระบุว่า นายมาริษ​ เสงี่ยมพงษ์​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ​ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุยิงจรวดเข้าไปในเขตประเทศอิสราเอล และทำให้คนไทยเสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย โดยขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ​ ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจตั้งแต่เริ่มมีความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง กระทรวงการต่างประเทศพยายามอย่างยิ่งที่จะชะลอการเดินทางของแรงงานไทยไปยังภูมิภาคดังกล่าว และกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เข้าใจดีว่าการเข้าไปทำงานของแรงงานไทยเพราะต้องการมีโอกาสที่จะมีชีวิตที่ดีกว่า​ แต่อยากจะขอความร่วมมือทุกภาคส่วนรวมทั้งประชาชนชาวไทยว่า​ ณ​ ขณะนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางไม่ใช่สถานการณ์ธรรมดา แต่มีความขัดแย้งรุนแรง ดังนั้นขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายและประชาชนไม่เดินทางไปยังประเทศอิสราเอลและภูมิภาคตะวันออกกลาง

    https://mgronline.com/politics/detail/9670000105596#google_vignette

    #Thaitimes
    2 พฤศจิกายน 2567-รายงานผู้จัดการออนไลน์ระบุว่า นายมาริษ​ เสงี่ยมพงษ์​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ​ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุยิงจรวดเข้าไปในเขตประเทศอิสราเอล และทำให้คนไทยเสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย โดยขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ​ ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจตั้งแต่เริ่มมีความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง กระทรวงการต่างประเทศพยายามอย่างยิ่งที่จะชะลอการเดินทางของแรงงานไทยไปยังภูมิภาคดังกล่าว และกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เข้าใจดีว่าการเข้าไปทำงานของแรงงานไทยเพราะต้องการมีโอกาสที่จะมีชีวิตที่ดีกว่า​ แต่อยากจะขอความร่วมมือทุกภาคส่วนรวมทั้งประชาชนชาวไทยว่า​ ณ​ ขณะนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางไม่ใช่สถานการณ์ธรรมดา แต่มีความขัดแย้งรุนแรง ดังนั้นขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายและประชาชนไม่เดินทางไปยังประเทศอิสราเอลและภูมิภาคตะวันออกกลาง https://mgronline.com/politics/detail/9670000105596#google_vignette #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    "มาริษ" เผยไทยประท้วงอิสราเอล นำแรงงานเข้าพื้นที่เสี่ยงภัย เป็นเหตุเสียชีวิต 4 ราย
    มาริษ เผยไทยประท้วงอิสราเอล เหตุนำแรงงานเข้าพื้นที่เสี่ยงภัย เป็นเหตุให้คนไทยเสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย วอนยับยั้งชั่งใจ เตือนคนไทยเลี่ยงเดินทางอิสราเอล-ตะวันออกกลาง
    Like
    3
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • ณ บ้านพระอาทิตย์
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    การประกาศขีดเส้นเขตไหล่ทวีป และทะเลอาณาเขตของกัมพูชาในปี พ.ศ. 2515 ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายทะเลสากลนั้น ได้มีการละเมิดสิทธิและอธิปไตยทางทะเลของราชอาณาจักรไทยอย่างชัดเจน และส่งผลทำให้ราชอาณาจักรไทยได้ “ปฏิเสธ” การประกาศขีดเส้นที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายสากลของกัมพูชาไปแล้ว ด้วยการมีพระบรมราชโองการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516



    นอกจากนั้นในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มีมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการให้ยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างราชอาณาจักไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับอ้างสิทธิทับซ้อนทางทะเลในอ่าวไทย ปี พ.ศ. 2544 (MOU 2544) ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 อีกด้วย

    โดยมีรายละเอียด ดังนี้

    พระราชกฤษฎีกาของราชอาณาจักรกัมพูชาได้กำหนดแผนที่ “เส้นเขตไหล่ทวีป” ของราชอาณาจักรกัมพูชา ฉบับเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2515 ที่ลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 มาประชิดเกาะกูดด้านตะวันออก แล้วอ้อมเกาะกูดไปด้านล่างแล้ววกกลับมาเป็นรูปตัว U แล้วลากเส้นต่อเนื่องไปยังทิศตะวันตกของเกาะกูดลึกเข้าไปในอ่าวไทยก็ดี หรือพระราชกฤษฎีกาของราชอาณาจักรกัมพูชาฝ่ายเดียว ซึ่งกำหนดแผนที่แสดงการลาก “เส้นทะเลอาณาเขต” ของกัมพูชาจากหลักเขตที่ 73 ประชิดด้านทิศตะวันตกของเกาะกูด ฉบับเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2515 ก็ดี ล้วนเป็นแผนที่กำหนดเส้นเขตแดนทางทะเลที่ “ละเมิดสิทธิและละเมิดอธิปไตยของประเทศไทย“ทั้งสิ้น และยังไม่เป็นไปตามกฎหมายทะเลสากล เพราะไม่เป็นไปตามบทบัญญัติอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 อีกด้วย โดยมีผลตามมาดังนี้

    1.ละเมิด ทะเลอาณาเขต 12 ไมล์ทะเลของราชอาณาจักรไทยรอบเกาะกูด

    2.ละเมิดเขตทะเลต่อเนื่อง 24 ไมล์ทะเลของราชอาณาจักรไทยรอบเกาะกูด

    3.ละเมิดเขตเศรษฐกิจจำเพาะของราชอาณาจักรไทยที่มีการแบ่งครึ่งมุมระหว่างเกาะกูดกับเกาะกงจากหลักเขตที่ 73 จึงเป็นการละเมิดเส้นแบ่งที่ระยะทางเท่ากันระหว่างไทยและกัมพูชา (Equidistant Line)

    อย่างไรก็ตาม ราชอาณาจักรไทยได้เคย “ปฏิเสธ” การขีดเส้นทางทะเลของกัมพูชาที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายสากลไปแล้วในเวลาต่อมา

    โดยราชอาณาจักรไทยได้มีพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยของราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 ลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2516 โดยมีจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

    “พระบรมราชโองการ” ตรงกับภาษาอังกฤษคำว่า “Royal Command” ซึ่งมีความหมายว่า “คำสั่งราชการของพระมหากษัตริย์”

    พระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 เป็นพระราชอำนาจภายใต้ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2515 ที่เกี่ยวพันกับสถานภาพกำหนดเขตแดนทางทะเลของ “ราชอาณาจักรไทย” กับ “จอมทัพไทย” และองค์พระมหากษัตริย์ไทยผู้ทรงเป็นประมุขแห่งราชอาณาจักรไทยภายใต้รัฐธรรมนูญ ดังนี้

    “มาตรา 1 ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้

    พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย

    มาตรา 18 บรรดาบทกฎหมาย พระราชหัตถเลขา และพระบรมราชโองการใดๆ อันเกี่ยวกับราชการแผ่นดิน ต้องมีนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ”

    ดังนั้น พระบรมราชโองการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 เป็นพระบรมราชโองการที่เกี่ยวกับราชการแผ่นดิน จึงมีผลตามกฎหมายและต้องมีการบังคับใช้จนถึงปัจจุบัน หากมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นต้องมีการแก้ไขด้วยพระบรมราชโองการเช่นกัน ดังนั้นจะอาศัยนักการเมืองไปตกลงกันเองตามอำเภอใจโดยขัดต่อพระบรมราชโองการนั้นไม่ได้

    ความสำคัญของพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ที่ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 นอกจากจะมีความหมายถึงการ “ปฏิเสธ” เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่รุกล้ำราชอาณาเขตทะเลไทยแล้ว ยังได้ประกาศถึงเรื่อง “สิทธิอธิปไตยในการสำรวจและแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติ” อย่างชัดเจนดังปรากฏเป็นข้อความในพระบรมราชโองการความว่า



    “เพื่อความมุ่งประสงค์ในการใช้สิทธิอธิปไตยของประเทศไทยในการสำรวจและการแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย จึงกำหนดให้เขตไหล่ทวีปตามแผนที่และพิกัดภูมิศาสตร์ของแต่ละจุดที่ประกอบเป็นเขตไหล่ทวีปของไทย ซึ่งแนบท้ายประกาศนี้เป็นเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย“

    อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีพระบรมราชโองการฉบับนี้เป็นเวลา 2 ปี คือปี พ.ศ. 2514 และ พ.ศ. 2515 รัฐบาลราชอาณาจักรไทยได้ทำการให้สัมปทานปิโตรเลียมให้กับต่างชาติไปแล้วหลายแปลง โดยเฉพาะกลุ่มทุนจาก สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และญี่ปุ่น ที่ยึดถือการซื้อขายปิโตรเลียมเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ หรือที่เรียกว่า ปิโตรดอลลาร์

    ดังนั้น การที่กัมพูชาตราพระราชกฤษฎีกาของราชอาณาจักรกัมพูชาได้กำหนดแผนที่ “เส้นเขตไหล่ทวีป” ของราชอาณาจักรกัมพูชา ฉบับเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2515 ย่อมทำให้ผู้รับสัมปทานในประเทศไทยยังไม่สามารถดำเนินการให้สำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทยได้ และอาจทำให้แหล่งปิโตรเลียมของราชอาณาจักรไทยกลายเป็นของกัมพูชาได้ด้วย

    ประกอบกับในเวลานั้นประเทศไทยได้ผ่านบทเรียนราคาแพงมาเป็นเวลา 10 ปีที่ได้สูญเสียปราสาทพระวิหารไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 ที่คำตัดสินของศาลโลกให้ประเทศไทยแพ้คดีด้วยเพราะ “กฎหมายปิดปาก” โดยอ้างว่าฝ่ายไทยนิ่งเฉยไม่ปฏิเสธต่อแผนที่ฝรั่งเศส อ้างว่าฝ่ายไทยนิ่งเฉยต่อการสำแดงอธิปไตยของกัมพูชา ทั้งๆ ที่ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่บนยอดหน้าผาฝั่งราชอาณาจักรไทยซึ่งเป็นเส้นเขตแดนตามธรรมชาติที่ชัดเจน

    ดังนั้น ประเทศไทยจะดำเนินการปฏิเสธเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาฉบับปี พ.ศ. 2515 จึงต้องมีความรอบคอบ รัดกุม และคำนึงถึงการปกป้องสิทธิและอธิปไตยของชาติ ไม่ให้ถูกแย่งชิงแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมในอ่าวไทยให้ไปเป็นของกัมพูชา ไม่ให้ซ้ำรอยการสูญเสียปราสาทพระวิหารของไทยในปี พ.ศ. 2505 ด้วย

    ดังนั้น เพื่อความสมบูรณ์และชอบธรรมในการ “ปฏิเสธ” แผนที่เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ไม่กระทำการตามกฎหมายทะเลสากล พระบรมราชโองการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 จึงอยู่บน “มูลฐานของกฎหมายทะเลสากล” ดังความปรากฎในพระบรมราชโองการว่า

    “ในการกำหนดเขตไหล่ทวีปนี้ ได้ยึดถือมูลฐานแห่งสิทธิตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ อันเป็นที่ยอมรับนับถือกันทั่วไป และตามอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 และประเทศไทยได้ให้สัตยาบันไว้แล้วเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2511”

    แม้ราชอาณาจักรไทยจะมีพระบรมราชโองการประกาศเส้นเขตไหล่ทวีปที่อยู่บนมูลฐานของกฎหมายสากล แต่ก็ยังมีความตระหนักด้วยว่าอาจจะต้องมีความเสี่ยงที่จะเกิดข้อพิพาท “ในอนาคต” กับเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาอย่างแน่นอน

    ราชอาณาจักรไทยจึงได้ประกาศโดยพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 กำหนดเส้นเขตไหล่ทวีปนั้น ได้วางหลักในอนาคตว่าหากจะมีการตกลงกันในวันข้างหน้าจะต้องใช้มูลฐานของกฎหมายสากลเท่านั้น

    ซึ่งแปลว่าฝ่ายราชอาณาจักรไทยนอกจากจะประกาศ “ปฏิเสธ” เส้นเขตไหล่ทวีปที่ละเมิดสิทธิและอธิปไตย ณ วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 แล้ว ยังจะต้อง “ปฏิเสธ” เส้นเขตไหล่ทวีปที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายสากลทุกกรณีใน “อนาคต” ด้วย ดังข้อความปรากฏในพระบรมราชโองการความว่า

    “สำหรับสิทธิอธิปไตยในส่วนที่เป็นทะเลอาณาเขตซึ่งต่อเนื่องกับทะเลอาณาเขตใกล้เคียงอันจะถือเป็นจุดเริ่มของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีปนั้นจะเป็นไปตามที่จะได้ตกลงกัน โดยยึดถือมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเล อาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958“



    หมายความว่าหากราชอาณาจักรไทยมีข้อพิพาทในอาณาเขตใกล้เคียงกันแล้วก็เปิดทางให้ตกลงกันได้ แต่ต้อง “ยึดถือมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเล อาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958” เท่านั้น

    ดังเช่นกรณีพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-มาเลเซีย ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างเส้นเขตไหล่ทวีปของประเทศตัวเองให้ได้เปรียบที่สุด

    แต่เมื่อทั้ง 2 ประเทศได้ตกลงกันโดยอาศัยมูลฐานของกฎหมายทะเลสากล จึงสามารถยอมรับการอ้างสิทธิทับซ้อนเหลื่อมล้ำกันของพื้นที่ซึ่งกันและกันได้ และยังคงเป็นการดำเนินรอยตามพระบรมราชโองการสมัยรัชกาลที่ 9 ที่ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516

    ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซียในการแบ่งปันผลผลิตปิโตรเลียม โดยการจัดตั้งองค์กรร่วมเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นดินใต้ทะเลในบริเวณที่กำหนดของไหล่ทวีปของไทย-มาเลเซียในอ่าวไทย

    แต่เมื่อจะมีบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กรร่วมเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นดินใต้ทะเลในบริเวณที่กำหนดของไหล่ทวีปของประเทศทั้งสองในอ่าวไทยแล้ว ก็ยังต้องอาศัยพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศใช้บันทีกความเข้าใจฉบับดังกล่าว เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2523 และรับสนองพระบรมราชโองการโดย พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี

    แต่กรณีของเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาซึ่งไม่อยู่บนฐานของมูลฐานของกฎหมายทะเลสากล ซึ่งราชอาณาจักรไทย ได้ “ปฏิเสธ” ไปแล้วโดยมีพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ที่ได้ทรงประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยของราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 และได้ “ปฏิเสธ” การตกลงกันในอนาคตด้วย เพราะการขีดเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาดังกล่าวไม่ได้อยู่บนมูลฐานของมูลฐานแห่งบทบัญญัติของกฎหมายทะเลสากล

    ดังนั้น บันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชาเรื่องพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนทางทะเลในอ่าวไทย ปี พ.ศ. 2544 (MOU 2544) ในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ลงนามกันเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2544 ได้เปลี่ยนสถานภาพในหลักการสำคัญ จากการ “ปฏิเสธ“ เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ละเมิดสิทธิและอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย มากลายเป็น “รับรู้” และ “ไม่ปฏิเสธ” พื้นที่อ้างสิทธิเขตไหล่ทวีปของประเทศกัมพูชาที่ขีดเส้นตามอำเภอใจและไม่เป็นไปตามกฎหมายสากล

    การที่ประเทศไทย “ไม่ปฏิเสธ” การลากเส้นเขตไหล่ทวีปที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายสากลของกัมพูชา ย่อมเท่ากับประเทศไทยเข้าสู่ภาวะสุ่มเสี่ยงที่ถูกตีความได้ว่าราชอาณาจักรไทยได้ “สละสิทธิ” จุดแข็งที่สุดคือการลากเส้นไหล่ทวีปตามกฎหมายสากลเพียงอย่างเดียว ให้กลายเป็นการยอมรับการเกิดพื้นที่ไม่แน่ชัดเหลื่อมซ้อนกันระหว่างการลากเส้นตามกฎหมายสากลของราชอาณาจักรไทย กับการลากเส้นตามอำเภอใจของกัมพูชาที่ละเมิดสิทธิและอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย

    MOU 2544 จึงอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยของราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 เนื่องด้วยมีการ “รับรู้” และ “ไม่ปฏิเสธ” การอ้างสิทธิทับซ้อนโดยอาศัยการขีดเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชาซึ่งไม่อยู่บน ”มูลฐานของกฎหมายทะเลสากล“

    เรากำลังขาดสติเดินตามรอย “กฎหมายปิดปาก”เสี่ยงสูญเสียเกาะกูดในอนาคตได้เหมือนการสูญเสียปราสาทพระวิหารในอดีตหรือไม่?

    ความสุ่มเสี่ยงดังกล่าวได้เคยเป็นปัญหาที่มีการถกเถียงกันอย่างมากระหว่างรัฐบาลไทยและภาคประชาชนต่อเนื่องมาก่อนแล้วเมื่อ 16 ปีก่อน

    จนในที่สุดในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการให้ยกเลิก MOU 2544 ไปแล้ว ดังปรากฏหลักฐานของ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ได้ตอบกระทู้ของนายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2553 ความตอนหนึ่งว่า

    “ขอกราบเรียนดังนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2552 เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยและกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน ฉบับวันที่ 18 มิถุนายน 2554 แต่โดยที่เรื่องดังกล่าวต้องนำเสนอรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบ

    จึงมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาข้อกฎหมายให้รอบคอบก่อนดำเนินการต่อไป แล้วก็กระทรวงการต่างประเทศโดยกรมสนธิสัญญาและกฎหมายกำลังดำเนินการศึกษาและพิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยละเอียดก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา แล้วก็เพื่อเสนอต่อรัฐสภาต่อไป”

    โดยพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนั้นที่เห็นชอบในหลักการให้ยกเลิก MOU 2544 ประกอบไปด้วย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมชาติพัฒนา พรรคกิจสังคม และพรรคมาตุภูมิ

    จริงอยู่ที่ว่าการยกเลิก MOU 2544 จนปัจจุบันยังไม่แล้วเสร็จ แต่มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 มีผลผูกพันทางกฎหมายอย่างแน่นอน และยังมีผลจนถึงปัจจุบันหากยังไม่มีมติคณะรัฐมนตรีเป็นอย่างอื่น

    ดังนั้น การปฏิบัติหน้าที่ของทุกกระทรวงจะดำเนินการไปในหลักการอื่นโดยฝ่าฝืนต่อมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 จะทำต่อไปได้อย่างไร ยกเว้นเสียแต่ว่ามีการขอความเห็นชอบต่อคณะรัฐมนตรีเสียใหม่ จริงหรือไม่?

    ดังนั้น การเดินหน้าในการแบ่งผลประโยชน์ระหว่างไทย-กัมพูชาตาม MOU 2544 ต่อไป อาจเข้าข่ายไม่เพียงเป็นการฝ่าฝืนพระบรมราชโองการสมัยรัชกาลที่ 9 ที่ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 เท่านั้น แต่ยังฝ่าฝืนต่อมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 อีกด้วย

    สำหรับ นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แทนที่จะมากล่าวหาว่าประชาชนผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการเดินหน้า MOU 2544 ว่าเป็นพวกคลั่งชาตินั้น ก็ควรจะสำรวจรัฐบาลตัวเองด้วยว่ากำลังขายชาติอยู่หรือไม่

    ด้วยจิตคารวะ
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต

    https://mgronline.com/daily/detail/9670000105530

    #Thaitimes
    ณ บ้านพระอาทิตย์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ การประกาศขีดเส้นเขตไหล่ทวีป และทะเลอาณาเขตของกัมพูชาในปี พ.ศ. 2515 ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายทะเลสากลนั้น ได้มีการละเมิดสิทธิและอธิปไตยทางทะเลของราชอาณาจักรไทยอย่างชัดเจน และส่งผลทำให้ราชอาณาจักรไทยได้ “ปฏิเสธ” การประกาศขีดเส้นที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายสากลของกัมพูชาไปแล้ว ด้วยการมีพระบรมราชโองการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 นอกจากนั้นในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มีมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการให้ยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างราชอาณาจักไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับอ้างสิทธิทับซ้อนทางทะเลในอ่าวไทย ปี พ.ศ. 2544 (MOU 2544) ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 อีกด้วย โดยมีรายละเอียด ดังนี้ พระราชกฤษฎีกาของราชอาณาจักรกัมพูชาได้กำหนดแผนที่ “เส้นเขตไหล่ทวีป” ของราชอาณาจักรกัมพูชา ฉบับเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2515 ที่ลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 มาประชิดเกาะกูดด้านตะวันออก แล้วอ้อมเกาะกูดไปด้านล่างแล้ววกกลับมาเป็นรูปตัว U แล้วลากเส้นต่อเนื่องไปยังทิศตะวันตกของเกาะกูดลึกเข้าไปในอ่าวไทยก็ดี หรือพระราชกฤษฎีกาของราชอาณาจักรกัมพูชาฝ่ายเดียว ซึ่งกำหนดแผนที่แสดงการลาก “เส้นทะเลอาณาเขต” ของกัมพูชาจากหลักเขตที่ 73 ประชิดด้านทิศตะวันตกของเกาะกูด ฉบับเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2515 ก็ดี ล้วนเป็นแผนที่กำหนดเส้นเขตแดนทางทะเลที่ “ละเมิดสิทธิและละเมิดอธิปไตยของประเทศไทย“ทั้งสิ้น และยังไม่เป็นไปตามกฎหมายทะเลสากล เพราะไม่เป็นไปตามบทบัญญัติอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 อีกด้วย โดยมีผลตามมาดังนี้ 1.ละเมิด ทะเลอาณาเขต 12 ไมล์ทะเลของราชอาณาจักรไทยรอบเกาะกูด 2.ละเมิดเขตทะเลต่อเนื่อง 24 ไมล์ทะเลของราชอาณาจักรไทยรอบเกาะกูด 3.ละเมิดเขตเศรษฐกิจจำเพาะของราชอาณาจักรไทยที่มีการแบ่งครึ่งมุมระหว่างเกาะกูดกับเกาะกงจากหลักเขตที่ 73 จึงเป็นการละเมิดเส้นแบ่งที่ระยะทางเท่ากันระหว่างไทยและกัมพูชา (Equidistant Line) อย่างไรก็ตาม ราชอาณาจักรไทยได้เคย “ปฏิเสธ” การขีดเส้นทางทะเลของกัมพูชาที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายสากลไปแล้วในเวลาต่อมา โดยราชอาณาจักรไทยได้มีพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยของราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 ลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2516 โดยมีจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ “พระบรมราชโองการ” ตรงกับภาษาอังกฤษคำว่า “Royal Command” ซึ่งมีความหมายว่า “คำสั่งราชการของพระมหากษัตริย์” พระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 เป็นพระราชอำนาจภายใต้ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2515 ที่เกี่ยวพันกับสถานภาพกำหนดเขตแดนทางทะเลของ “ราชอาณาจักรไทย” กับ “จอมทัพไทย” และองค์พระมหากษัตริย์ไทยผู้ทรงเป็นประมุขแห่งราชอาณาจักรไทยภายใต้รัฐธรรมนูญ ดังนี้ “มาตรา 1 ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้ พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย มาตรา 18 บรรดาบทกฎหมาย พระราชหัตถเลขา และพระบรมราชโองการใดๆ อันเกี่ยวกับราชการแผ่นดิน ต้องมีนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ” ดังนั้น พระบรมราชโองการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 เป็นพระบรมราชโองการที่เกี่ยวกับราชการแผ่นดิน จึงมีผลตามกฎหมายและต้องมีการบังคับใช้จนถึงปัจจุบัน หากมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นต้องมีการแก้ไขด้วยพระบรมราชโองการเช่นกัน ดังนั้นจะอาศัยนักการเมืองไปตกลงกันเองตามอำเภอใจโดยขัดต่อพระบรมราชโองการนั้นไม่ได้ ความสำคัญของพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ที่ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 นอกจากจะมีความหมายถึงการ “ปฏิเสธ” เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่รุกล้ำราชอาณาเขตทะเลไทยแล้ว ยังได้ประกาศถึงเรื่อง “สิทธิอธิปไตยในการสำรวจและแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติ” อย่างชัดเจนดังปรากฏเป็นข้อความในพระบรมราชโองการความว่า “เพื่อความมุ่งประสงค์ในการใช้สิทธิอธิปไตยของประเทศไทยในการสำรวจและการแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย จึงกำหนดให้เขตไหล่ทวีปตามแผนที่และพิกัดภูมิศาสตร์ของแต่ละจุดที่ประกอบเป็นเขตไหล่ทวีปของไทย ซึ่งแนบท้ายประกาศนี้เป็นเขตไหล่ทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย“ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีพระบรมราชโองการฉบับนี้เป็นเวลา 2 ปี คือปี พ.ศ. 2514 และ พ.ศ. 2515 รัฐบาลราชอาณาจักรไทยได้ทำการให้สัมปทานปิโตรเลียมให้กับต่างชาติไปแล้วหลายแปลง โดยเฉพาะกลุ่มทุนจาก สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และญี่ปุ่น ที่ยึดถือการซื้อขายปิโตรเลียมเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ หรือที่เรียกว่า ปิโตรดอลลาร์ ดังนั้น การที่กัมพูชาตราพระราชกฤษฎีกาของราชอาณาจักรกัมพูชาได้กำหนดแผนที่ “เส้นเขตไหล่ทวีป” ของราชอาณาจักรกัมพูชา ฉบับเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2515 ย่อมทำให้ผู้รับสัมปทานในประเทศไทยยังไม่สามารถดำเนินการให้สำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทยได้ และอาจทำให้แหล่งปิโตรเลียมของราชอาณาจักรไทยกลายเป็นของกัมพูชาได้ด้วย ประกอบกับในเวลานั้นประเทศไทยได้ผ่านบทเรียนราคาแพงมาเป็นเวลา 10 ปีที่ได้สูญเสียปราสาทพระวิหารไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 ที่คำตัดสินของศาลโลกให้ประเทศไทยแพ้คดีด้วยเพราะ “กฎหมายปิดปาก” โดยอ้างว่าฝ่ายไทยนิ่งเฉยไม่ปฏิเสธต่อแผนที่ฝรั่งเศส อ้างว่าฝ่ายไทยนิ่งเฉยต่อการสำแดงอธิปไตยของกัมพูชา ทั้งๆ ที่ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่บนยอดหน้าผาฝั่งราชอาณาจักรไทยซึ่งเป็นเส้นเขตแดนตามธรรมชาติที่ชัดเจน ดังนั้น ประเทศไทยจะดำเนินการปฏิเสธเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาฉบับปี พ.ศ. 2515 จึงต้องมีความรอบคอบ รัดกุม และคำนึงถึงการปกป้องสิทธิและอธิปไตยของชาติ ไม่ให้ถูกแย่งชิงแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมในอ่าวไทยให้ไปเป็นของกัมพูชา ไม่ให้ซ้ำรอยการสูญเสียปราสาทพระวิหารของไทยในปี พ.ศ. 2505 ด้วย ดังนั้น เพื่อความสมบูรณ์และชอบธรรมในการ “ปฏิเสธ” แผนที่เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ไม่กระทำการตามกฎหมายทะเลสากล พระบรมราชโองการประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 จึงอยู่บน “มูลฐานของกฎหมายทะเลสากล” ดังความปรากฎในพระบรมราชโองการว่า “ในการกำหนดเขตไหล่ทวีปนี้ ได้ยึดถือมูลฐานแห่งสิทธิตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ อันเป็นที่ยอมรับนับถือกันทั่วไป และตามอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 และประเทศไทยได้ให้สัตยาบันไว้แล้วเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2511” แม้ราชอาณาจักรไทยจะมีพระบรมราชโองการประกาศเส้นเขตไหล่ทวีปที่อยู่บนมูลฐานของกฎหมายสากล แต่ก็ยังมีความตระหนักด้วยว่าอาจจะต้องมีความเสี่ยงที่จะเกิดข้อพิพาท “ในอนาคต” กับเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาอย่างแน่นอน ราชอาณาจักรไทยจึงได้ประกาศโดยพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 กำหนดเส้นเขตไหล่ทวีปนั้น ได้วางหลักในอนาคตว่าหากจะมีการตกลงกันในวันข้างหน้าจะต้องใช้มูลฐานของกฎหมายสากลเท่านั้น ซึ่งแปลว่าฝ่ายราชอาณาจักรไทยนอกจากจะประกาศ “ปฏิเสธ” เส้นเขตไหล่ทวีปที่ละเมิดสิทธิและอธิปไตย ณ วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 แล้ว ยังจะต้อง “ปฏิเสธ” เส้นเขตไหล่ทวีปที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายสากลทุกกรณีใน “อนาคต” ด้วย ดังข้อความปรากฏในพระบรมราชโองการความว่า “สำหรับสิทธิอธิปไตยในส่วนที่เป็นทะเลอาณาเขตซึ่งต่อเนื่องกับทะเลอาณาเขตใกล้เคียงอันจะถือเป็นจุดเริ่มของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีปนั้นจะเป็นไปตามที่จะได้ตกลงกัน โดยยึดถือมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเล อาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958“ หมายความว่าหากราชอาณาจักรไทยมีข้อพิพาทในอาณาเขตใกล้เคียงกันแล้วก็เปิดทางให้ตกลงกันได้ แต่ต้อง “ยึดถือมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเล อาณาเขตและเขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958” เท่านั้น ดังเช่นกรณีพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-มาเลเซีย ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างเส้นเขตไหล่ทวีปของประเทศตัวเองให้ได้เปรียบที่สุด แต่เมื่อทั้ง 2 ประเทศได้ตกลงกันโดยอาศัยมูลฐานของกฎหมายทะเลสากล จึงสามารถยอมรับการอ้างสิทธิทับซ้อนเหลื่อมล้ำกันของพื้นที่ซึ่งกันและกันได้ และยังคงเป็นการดำเนินรอยตามพระบรมราชโองการสมัยรัชกาลที่ 9 ที่ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซียในการแบ่งปันผลผลิตปิโตรเลียม โดยการจัดตั้งองค์กรร่วมเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นดินใต้ทะเลในบริเวณที่กำหนดของไหล่ทวีปของไทย-มาเลเซียในอ่าวไทย แต่เมื่อจะมีบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กรร่วมเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นดินใต้ทะเลในบริเวณที่กำหนดของไหล่ทวีปของประเทศทั้งสองในอ่าวไทยแล้ว ก็ยังต้องอาศัยพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศใช้บันทีกความเข้าใจฉบับดังกล่าว เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2523 และรับสนองพระบรมราชโองการโดย พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี แต่กรณีของเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาซึ่งไม่อยู่บนฐานของมูลฐานของกฎหมายทะเลสากล ซึ่งราชอาณาจักรไทย ได้ “ปฏิเสธ” ไปแล้วโดยมีพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ที่ได้ทรงประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยของราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 และได้ “ปฏิเสธ” การตกลงกันในอนาคตด้วย เพราะการขีดเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาดังกล่าวไม่ได้อยู่บนมูลฐานของมูลฐานแห่งบทบัญญัติของกฎหมายทะเลสากล ดังนั้น บันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชาเรื่องพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนทางทะเลในอ่าวไทย ปี พ.ศ. 2544 (MOU 2544) ในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ลงนามกันเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2544 ได้เปลี่ยนสถานภาพในหลักการสำคัญ จากการ “ปฏิเสธ“ เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ละเมิดสิทธิและอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย มากลายเป็น “รับรู้” และ “ไม่ปฏิเสธ” พื้นที่อ้างสิทธิเขตไหล่ทวีปของประเทศกัมพูชาที่ขีดเส้นตามอำเภอใจและไม่เป็นไปตามกฎหมายสากล การที่ประเทศไทย “ไม่ปฏิเสธ” การลากเส้นเขตไหล่ทวีปที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายสากลของกัมพูชา ย่อมเท่ากับประเทศไทยเข้าสู่ภาวะสุ่มเสี่ยงที่ถูกตีความได้ว่าราชอาณาจักรไทยได้ “สละสิทธิ” จุดแข็งที่สุดคือการลากเส้นไหล่ทวีปตามกฎหมายสากลเพียงอย่างเดียว ให้กลายเป็นการยอมรับการเกิดพื้นที่ไม่แน่ชัดเหลื่อมซ้อนกันระหว่างการลากเส้นตามกฎหมายสากลของราชอาณาจักรไทย กับการลากเส้นตามอำเภอใจของกัมพูชาที่ละเมิดสิทธิและอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย MOU 2544 จึงอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนพระบรมราชโองการในสมัยรัชกาลที่ 9 ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยของราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 เนื่องด้วยมีการ “รับรู้” และ “ไม่ปฏิเสธ” การอ้างสิทธิทับซ้อนโดยอาศัยการขีดเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชาซึ่งไม่อยู่บน ”มูลฐานของกฎหมายทะเลสากล“ เรากำลังขาดสติเดินตามรอย “กฎหมายปิดปาก”เสี่ยงสูญเสียเกาะกูดในอนาคตได้เหมือนการสูญเสียปราสาทพระวิหารในอดีตหรือไม่? ความสุ่มเสี่ยงดังกล่าวได้เคยเป็นปัญหาที่มีการถกเถียงกันอย่างมากระหว่างรัฐบาลไทยและภาคประชาชนต่อเนื่องมาก่อนแล้วเมื่อ 16 ปีก่อน จนในที่สุดในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการให้ยกเลิก MOU 2544 ไปแล้ว ดังปรากฏหลักฐานของ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ได้ตอบกระทู้ของนายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2553 ความตอนหนึ่งว่า “ขอกราบเรียนดังนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2552 เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยและกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน ฉบับวันที่ 18 มิถุนายน 2554 แต่โดยที่เรื่องดังกล่าวต้องนำเสนอรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบ จึงมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาข้อกฎหมายให้รอบคอบก่อนดำเนินการต่อไป แล้วก็กระทรวงการต่างประเทศโดยกรมสนธิสัญญาและกฎหมายกำลังดำเนินการศึกษาและพิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยละเอียดก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา แล้วก็เพื่อเสนอต่อรัฐสภาต่อไป” โดยพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนั้นที่เห็นชอบในหลักการให้ยกเลิก MOU 2544 ประกอบไปด้วย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมชาติพัฒนา พรรคกิจสังคม และพรรคมาตุภูมิ จริงอยู่ที่ว่าการยกเลิก MOU 2544 จนปัจจุบันยังไม่แล้วเสร็จ แต่มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 มีผลผูกพันทางกฎหมายอย่างแน่นอน และยังมีผลจนถึงปัจจุบันหากยังไม่มีมติคณะรัฐมนตรีเป็นอย่างอื่น ดังนั้น การปฏิบัติหน้าที่ของทุกกระทรวงจะดำเนินการไปในหลักการอื่นโดยฝ่าฝืนต่อมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 จะทำต่อไปได้อย่างไร ยกเว้นเสียแต่ว่ามีการขอความเห็นชอบต่อคณะรัฐมนตรีเสียใหม่ จริงหรือไม่? ดังนั้น การเดินหน้าในการแบ่งผลประโยชน์ระหว่างไทย-กัมพูชาตาม MOU 2544 ต่อไป อาจเข้าข่ายไม่เพียงเป็นการฝ่าฝืนพระบรมราชโองการสมัยรัชกาลที่ 9 ที่ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปประเทศไทยด้านอ่าวไทยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 เท่านั้น แต่ยังฝ่าฝืนต่อมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 อีกด้วย สำหรับ นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แทนที่จะมากล่าวหาว่าประชาชนผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการเดินหน้า MOU 2544 ว่าเป็นพวกคลั่งชาตินั้น ก็ควรจะสำรวจรัฐบาลตัวเองด้วยว่ากำลังขายชาติอยู่หรือไม่ ด้วยจิตคารวะ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต https://mgronline.com/daily/detail/9670000105530 #Thaitimes
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 395 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนับสนุนกันด้วยนะครับทุกคน
    SHAW SHERRY DUCK [ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก]
    Album : Come Back Again
    7 Series เพลงรักสีชมพู
    ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทาง JOOX​
    และแพลตฟอร์มอื่นๆทาง Music Online
    ขอบพระคุณครับ
    #newsingle #shawsherryduck #newsongs #JOOX #newalbum
    #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต#Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord #เพลงรัก
    สนับสนุนกันด้วยนะครับทุกคน SHAW SHERRY DUCK [ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก] Album : Come Back Again 7 Series เพลงรักสีชมพู ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทาง JOOX​ และแพลตฟอร์มอื่นๆทาง Music Online ขอบพระคุณครับ #newsingle #shawsherryduck #newsongs #JOOX #newalbum #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต​ #Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord #เพลงรัก
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • TikTok@mgronline #mgronlineTikTok #news1 #จีน #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    TikTok@mgronline #mgronlineTikTok #news1 #จีน #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 499 มุมมอง 142 0 รีวิว
  • ถาม chatGPT Search ให้สรุปเกี่ยวกับเราเอง นี่คือผลที่ได้ครับ

    วศิน ภิรมย์ เกิดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2523 สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ระดับปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในปี พ.ศ. 2545 และปริญญาโทวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2548 (MGR Online)

    ในด้านอาชีพ วศินเริ่มต้นด้วยการก่อตั้งบริษัท ไอยรา เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (ปัจจุบันคือ บริษัท อีเลิร์นนิ่ง กูรู จำกัด) ในปี พ.ศ. 2546 นอกจากนี้ เขายังมีบทบาทเป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยมีความเชี่ยวชาญด้าน E-Learning และเทคโนโลยีมีเดีย (MGR Online)

    ในปี พ.ศ. 2556 วศินได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในฐานะผู้สมัครอิสระ หมายเลข 13 โดยมีนโยบายที่เน้นการพัฒนากรุงเทพฯ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม (MGR Online)

    ปัจจุบัน วศินดำรงตำแหน่งหัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมซอฟต์แวร์และระบบสารสนเทศ ที่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน และมีบทบาทในการจัดกิจกรรมบริการวิชาการสัญจร เช่น การอบรมการสร้างสื่อประชาสัมพันธ์สมัยใหม่ให้กับโรงเรียนวัดปริยัติธรรม วัดธรรมมงคล (ปทุมธานีอินเทอร์เน็ตเทคโนโลยี)

    นอกจากนี้ วศินยังเคยปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ “ไปไหนไปกัน” เมื่ออายุ 27 ปี ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความสามารถของเขาในด้านต่างๆ (YouTube)

    สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวศิน ภิรมย์ สามารถรับชมวิดีโอด้านล่างนี้:

    วศิน ภิรมย์ ออกรายการไปไหนไปกัน ตอนอายุ 27 ปี
    ถาม chatGPT Search ให้สรุปเกี่ยวกับเราเอง นี่คือผลที่ได้ครับ วศิน ภิรมย์ เกิดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2523 สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ระดับปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในปี พ.ศ. 2545 และปริญญาโทวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2548 (MGR Online) ในด้านอาชีพ วศินเริ่มต้นด้วยการก่อตั้งบริษัท ไอยรา เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (ปัจจุบันคือ บริษัท อีเลิร์นนิ่ง กูรู จำกัด) ในปี พ.ศ. 2546 นอกจากนี้ เขายังมีบทบาทเป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยมีความเชี่ยวชาญด้าน E-Learning และเทคโนโลยีมีเดีย (MGR Online) ในปี พ.ศ. 2556 วศินได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในฐานะผู้สมัครอิสระ หมายเลข 13 โดยมีนโยบายที่เน้นการพัฒนากรุงเทพฯ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม (MGR Online) ปัจจุบัน วศินดำรงตำแหน่งหัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมซอฟต์แวร์และระบบสารสนเทศ ที่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน และมีบทบาทในการจัดกิจกรรมบริการวิชาการสัญจร เช่น การอบรมการสร้างสื่อประชาสัมพันธ์สมัยใหม่ให้กับโรงเรียนวัดปริยัติธรรม วัดธรรมมงคล (ปทุมธานีอินเทอร์เน็ตเทคโนโลยี) นอกจากนี้ วศินยังเคยปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ “ไปไหนไปกัน” เมื่ออายุ 27 ปี ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความสามารถของเขาในด้านต่างๆ (YouTube) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวศิน ภิรมย์ สามารถรับชมวิดีโอด้านล่างนี้: วศิน ภิรมย์ ออกรายการไปไหนไปกัน ตอนอายุ 27 ปี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อิลสลิก” จัดให้ ของขวัญวันฮัลโลวีนแต่งเพลงให้ทนายความชื่อดังที่กำลังเป็นประเด็นเงิน 71 ล้าน หลังเคยมีประเด็นกันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
    .
    จากกรณีก่อนหน้านี้ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง และทีมงานร้าน Subscribe พระราม 7 แถลงข่าวโต้กลับกรณีที่แร็ปเปอร์หนุ่ม Illslick (อิลสลิก) หรือทิฆัมพร เวชไทยสงค์ ยกเลิกการแสดงคอนเสิร์ต และพูดถึงร้านดังกล่าวในทางเสียหาย
    .
    ต่อมาทนายตั้มยังฟาดไม่หยุด เข้ามาคอมเมนต์ “จะเแต่งเพลงด่าผมไหม ผมสู้นะบอกก่อน" "ก่อนจะปวารณาตัวเองเป็นนักร้องอันดับหนึ่ง แต่งทำนองเพลงเองให้ได้ก่อนครับ อย่าไปยืมเพลงคนอื่นเขามาใช้เลย ร้อยล้านที่ภูมิใจ จากบีตเพลงชาวบ้าน มันไม่แหล่ม" ซึ่งยังแซะแร็ปเปอร์หนุ่มด้วยเนื้อเพลงว่า "u ma number one baby จะไม่มีใครที่มาแทนที่เธอ และไม่ว่านานแค่ไหนฉันจะรักเธอตลอดไป ..มายลูกความ" รวมถึงยังบอก" เดี๋ยวไปดิสกันหน้าบัลลังก์นะครับ จะได้รู้ว่าผมก็ตัวจี๊ด"
    .
    ล่าสุด ”ทนายตั้ม“ โดนเฟซบุ๊ก "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ Sondhitalk เผยแพร่วิดีโอคลิป นายสนธิ ลิ้มทองกุล พูดคุยกับ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เศรษฐินีเจ้าของธุรกิจที่ประเทศฝรั่งเศส ที่แจ้งความดำเนินคดีต่อนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ในข้อหาฉ้อโกงจากการชักชวนให้ลงทุนธุรกิจลอตเตอรี่ออนไลน์ จำนวน 2 ล้านยูโร หรือประมาณ 71 ล้านบาท ต่อจากเมื่อวานนี้ เป็นการเปิดใจคุณอ้อย แท้จริงเป็นอย่างไร กรณีนายษิทราออกมาประกาศว่าเงิน 71 ล้านบาทได้มาโดยเสน่หา ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
    .
    ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. อิลสลิก แร็ปเปอร์ดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความ "The boogeyman is coming เดี๋ยวผมมีของขวัญวันฮัลโลวีนให้ 👑"

    ก่อนที่เจ้าตัวจะปล่อยเพลงลงใน Reels ความยาวกว่า 1 นาที โดยมีภาพการ์ตูนหน้าคล้ายทนายความชื่อดัง ระบุ “หน้าไม่อาย ใครเขาอ้างเสน่หา”
    .
    ที่มาข่าว
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000105257
    .
    คลิป
    https://web.facebook.com/reel/3715704305408230
    .
    ข่าวตอนปี 65 😆😆😆
    https://www.facebook.com/share/p/XYNyLNrPFCxQBnnD/
    “อิลสลิก” จัดให้ ของขวัญวันฮัลโลวีนแต่งเพลงให้ทนายความชื่อดังที่กำลังเป็นประเด็นเงิน 71 ล้าน หลังเคยมีประเด็นกันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว . จากกรณีก่อนหน้านี้ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง และทีมงานร้าน Subscribe พระราม 7 แถลงข่าวโต้กลับกรณีที่แร็ปเปอร์หนุ่ม Illslick (อิลสลิก) หรือทิฆัมพร เวชไทยสงค์ ยกเลิกการแสดงคอนเสิร์ต และพูดถึงร้านดังกล่าวในทางเสียหาย . ต่อมาทนายตั้มยังฟาดไม่หยุด เข้ามาคอมเมนต์ “จะเแต่งเพลงด่าผมไหม ผมสู้นะบอกก่อน" "ก่อนจะปวารณาตัวเองเป็นนักร้องอันดับหนึ่ง แต่งทำนองเพลงเองให้ได้ก่อนครับ อย่าไปยืมเพลงคนอื่นเขามาใช้เลย ร้อยล้านที่ภูมิใจ จากบีตเพลงชาวบ้าน มันไม่แหล่ม" ซึ่งยังแซะแร็ปเปอร์หนุ่มด้วยเนื้อเพลงว่า "u ma number one baby จะไม่มีใครที่มาแทนที่เธอ และไม่ว่านานแค่ไหนฉันจะรักเธอตลอดไป ..มายลูกความ" รวมถึงยังบอก" เดี๋ยวไปดิสกันหน้าบัลลังก์นะครับ จะได้รู้ว่าผมก็ตัวจี๊ด" . ล่าสุด ”ทนายตั้ม“ โดนเฟซบุ๊ก "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" หรือ Sondhitalk เผยแพร่วิดีโอคลิป นายสนธิ ลิ้มทองกุล พูดคุยกับ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เศรษฐินีเจ้าของธุรกิจที่ประเทศฝรั่งเศส ที่แจ้งความดำเนินคดีต่อนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ในข้อหาฉ้อโกงจากการชักชวนให้ลงทุนธุรกิจลอตเตอรี่ออนไลน์ จำนวน 2 ล้านยูโร หรือประมาณ 71 ล้านบาท ต่อจากเมื่อวานนี้ เป็นการเปิดใจคุณอ้อย แท้จริงเป็นอย่างไร กรณีนายษิทราออกมาประกาศว่าเงิน 71 ล้านบาทได้มาโดยเสน่หา ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น . ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. อิลสลิก แร็ปเปอร์ดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความ "The boogeyman is coming เดี๋ยวผมมีของขวัญวันฮัลโลวีนให้ 👑" ก่อนที่เจ้าตัวจะปล่อยเพลงลงใน Reels ความยาวกว่า 1 นาที โดยมีภาพการ์ตูนหน้าคล้ายทนายความชื่อดัง ระบุ “หน้าไม่อาย ใครเขาอ้างเสน่หา” . ที่มาข่าว https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000105257 . คลิป https://web.facebook.com/reel/3715704305408230 . ข่าวตอนปี 65 😆😆😆 https://www.facebook.com/share/p/XYNyLNrPFCxQBnnD/
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1157 มุมมอง 421 0 รีวิว
  • ความรู้สติปัญญาความสามารถ กับทางเร่งจุดจบรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000105229
    ความรู้สติปัญญาความสามารถ กับทางเร่งจุดจบรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000105229
    MGRONLINE.COM
    ความรู้สติปัญญาความสามารถ กับทางเร่งจุดจบรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์
    หนึ่งความคิดสุรวิชช์ วีรวรรณจากคดีความที่รุมเร้า ทักษิณผู้พ่อ ทั้งคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. กกต. แม้ว่าแต่ละคดีนั้นเรารับรู้ได้โดยพฤตินัยว่า ข้อกล่าวหาต่างๆ ล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น แต่จะหาหลักฐานมาเอาผิดได้หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนับสนุนกันด้วยนะครับทุกคน
    SHAW SHERRY DUCK [ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก]
    ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทาง
    itune Apple Music, JOOX, Spotify
    และแพลตฟอร์มอื่นๆทาง Music Online
    ขอบพระคุณครับ
    #newsingle #shawsherryduck #newsongs #itune #JOOX #Spotify #newalbum
    #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต#Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord #เพลงรัก
    สนับสนุนกันด้วยนะครับทุกคน SHAW SHERRY DUCK [ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก] ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทาง itune Apple Music, JOOX, Spotify และแพลตฟอร์มอื่นๆทาง Music Online ขอบพระคุณครับ #newsingle #shawsherryduck #newsongs #itune #JOOX #Spotify #newalbum #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต​ #Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord #เพลงรัก
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 53 0 รีวิว
  • อัตวินิบาตของรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก >> https://mgronline.com/daily/detail/9670000104809
    อัตวินิบาตของรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก >> https://mgronline.com/daily/detail/9670000104809
    MGRONLINE.COM
    อัตวินิบาตของรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์
    ในขณะที่มีคำถามว่ารัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์-แพทองธารจะมีอายุที่ยืนยาวไหม จะอยู่ได้นานไหม คำตอบนั้นก็เป็นเรื่องที่ต้องคาดเดาคาดการณ์กันว่า จะมีวิกฤตอะไรบ้างที่จะทำให้รัฐบาลชุดนี้พบจุดจบ แต่ต้องยอมรับนะครับว่า เสียงของรัฐบาลหรือมือในสภาฯ นั้
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • HaHaHa...mgrบันเทิง TikTok@mgronline #mgronlineTikTok #news1 #บันเทิง #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    HaHaHa...mgrบันเทิง TikTok@mgronline #mgronlineTikTok #news1 #บันเทิง #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 559 มุมมอง 240 0 รีวิว
  • TikTok@mgronline #mgronlineTikTok #news1 #ราชวงศ์จักรี #พระยุหยาตราทางชลมารค #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    TikTok@mgronline #mgronlineTikTok #news1 #ราชวงศ์จักรี #พระยุหยาตราทางชลมารค #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 543 มุมมอง 222 0 รีวิว
  • SHAW SHERRY DUCK [ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก]
    Album : 2540 LIVE
    ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทาง Apple Music
    และแพลตฟอร์มอื่นๆทาง Music Online
    https://music.apple.com/th/album/2540-live/1752646363
    #LIVE #shawsherryduck #Applemusic
    #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต#Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord #เพลงรัก
    SHAW SHERRY DUCK [ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก] Album : 2540 LIVE ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทาง Apple Music และแพลตฟอร์มอื่นๆทาง Music Online https://music.apple.com/th/album/2540-live/1752646363 #LIVE #shawsherryduck #Applemusic #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต​ #Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord #เพลงรัก
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • SHAW SHERRY DUCK [ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก]
    Album : 2540 LIVE
    ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทาง Spotify
    และแพลตฟอร์มอื่นๆทาง Music Online
    https://open.spotify.com/album/2sXAjJOA3eq4GYJgTlBzT0?si=wNOiDsQPQg-mX2_N3ZGr-Q
    #LIVE #shawsherryduck #Spotify
    #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต#Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord #เพลงรัก
    SHAW SHERRY DUCK [ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก] Album : 2540 LIVE ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทาง Spotify และแพลตฟอร์มอื่นๆทาง Music Online https://open.spotify.com/album/2sXAjJOA3eq4GYJgTlBzT0?si=wNOiDsQPQg-mX2_N3ZGr-Q #LIVE #shawsherryduck #Spotify #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต​ #Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord #เพลงรัก
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • SHAW SHERRY DUCK [ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก]
    Album : Come Back Again
    7 Series เพลงรักสีชมพู
    ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทาง Spotify
    และแพลตฟอร์มอื่นๆทาง Music Online
    https://open.spotify.com/album/1dxAf85Q55drkwbI1kMDlq?si=LVmgMP8nSkCFff8Gd7sQ8w
    #newsingle #shawsherryduck #newsongs #Spotify
    #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต#Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord #เพลงรัก
    SHAW SHERRY DUCK [ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก] Album : Come Back Again 7 Series เพลงรักสีชมพู ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทาง Spotify และแพลตฟอร์มอื่นๆทาง Music Online https://open.spotify.com/album/1dxAf85Q55drkwbI1kMDlq?si=LVmgMP8nSkCFff8Gd7sQ8w #newsingle #shawsherryduck #newsongs #Spotify #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต​ #Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord #เพลงรัก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • SHAW SHERRY DUCK [ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก]
    Album : Come Back Again
    7 Series เพลงรักสีชมพู
    ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทาง Apple Music
    และแพลตฟอร์มอื่นๆทาง Music Online
    https://music.apple.com/th/album/come-back-again/1746686037
    #newsingle #shawsherryduck #newsongs #Applemusic
    #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต#Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord #เพลงรัก
    SHAW SHERRY DUCK [ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก] Album : Come Back Again 7 Series เพลงรักสีชมพู ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทาง Apple Music และแพลตฟอร์มอื่นๆทาง Music Online https://music.apple.com/th/album/come-back-again/1746686037 #newsingle #shawsherryduck #newsongs #Applemusic #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต​ #Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord #เพลงรัก
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประมวลภาพ : พิธีฌาปนกิจ "โสภณ องค์การณ์" สื่อมวลชนอาวุโส เผยฝากให้ช่วยกันดูแลบ้านเมือง

    บุคคลในแวดวงสื่อมวลชน นักการเมือง นักธุรกิจ และแฟนคลับแห่เข้าร่วมพิธีฌาปนกิจ ส่งดวงวิญญาณ "โสภณ องค์การณ์" เป็นครั้งสุดท้าย เผยฝากให้ช่วยกันดูแลบ้านเมือง ไม่ว่าใครจะมาใครจะไป ชี้สื่อมวลชนไม่มีวันเกษียณ สิ่งที่ต้องมีคือความน่าเชื่อถือ

    29 ตุลาคม 2567- ที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ ได้มีพิธีฌาปนกิจ นายโสภณ องค์การณ์ สื่อมวลชนอาวุโส อดีตบรรณาธิการบริหาร และผู้ดำเนินรายการ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมนิวส์วัน ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่สถาบันประสาทวิทยา ถนนราชวิถี กรุงเทพฯ ด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกที่ก้านสมอง รวมอายุได้ 75 ปี โดยมีบุคคลในแวดวงสื่อมวลชน นักการเมือง นักธุรกิจ เพื่อนร่วมงานทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งแฟนคลับที่ติดตามผลงานทั้งทางโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ เข้าร่วมพิธีฌาปนกิจอย่างเนืองแน่น เพื่อร่วมกันส่งดวงวิญญาณของนายโสภณเป็นครั้งสุดท้าย

    ภายในงานมีพิธีทอดผ้าบังสกุล อาทิ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการ นายธะนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ อดีตประธานกรรมการเครือเนชั่น นายเทพชัย หย่อง อดีตนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และอดีตบรรณาธิการบริหารเครือเนชั่น นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต สว.กรุงเทพมหานคร นายเกียรติ สิทธิอมร อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต น.ส.สุดากาญจน์ กลีบบัว กรรมการบริหาร บริษัท พี.อี. คอนเทนเนอร์ ผู้ผลิตและจำหน่ายถังน้ำตราดอกบัว และนายพันเทพ ชวาลา เป็นต้น

    ที่มา
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000104288

    #Thaitimes
    ประมวลภาพ : พิธีฌาปนกิจ "โสภณ องค์การณ์" สื่อมวลชนอาวุโส เผยฝากให้ช่วยกันดูแลบ้านเมือง • บุคคลในแวดวงสื่อมวลชน นักการเมือง นักธุรกิจ และแฟนคลับแห่เข้าร่วมพิธีฌาปนกิจ ส่งดวงวิญญาณ "โสภณ องค์การณ์" เป็นครั้งสุดท้าย เผยฝากให้ช่วยกันดูแลบ้านเมือง ไม่ว่าใครจะมาใครจะไป ชี้สื่อมวลชนไม่มีวันเกษียณ สิ่งที่ต้องมีคือความน่าเชื่อถือ • 29 ตุลาคม 2567- ที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ ได้มีพิธีฌาปนกิจ นายโสภณ องค์การณ์ สื่อมวลชนอาวุโส อดีตบรรณาธิการบริหาร และผู้ดำเนินรายการ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมนิวส์วัน ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่สถาบันประสาทวิทยา ถนนราชวิถี กรุงเทพฯ ด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกที่ก้านสมอง รวมอายุได้ 75 ปี โดยมีบุคคลในแวดวงสื่อมวลชน นักการเมือง นักธุรกิจ เพื่อนร่วมงานทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งแฟนคลับที่ติดตามผลงานทั้งทางโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ เข้าร่วมพิธีฌาปนกิจอย่างเนืองแน่น เพื่อร่วมกันส่งดวงวิญญาณของนายโสภณเป็นครั้งสุดท้าย • ภายในงานมีพิธีทอดผ้าบังสกุล อาทิ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการ นายธะนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ อดีตประธานกรรมการเครือเนชั่น นายเทพชัย หย่อง อดีตนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และอดีตบรรณาธิการบริหารเครือเนชั่น นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต สว.กรุงเทพมหานคร นายเกียรติ สิทธิอมร อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต น.ส.สุดากาญจน์ กลีบบัว กรรมการบริหาร บริษัท พี.อี. คอนเทนเนอร์ ผู้ผลิตและจำหน่ายถังน้ำตราดอกบัว และนายพันเทพ ชวาลา เป็นต้น • ที่มา https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000104288 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    ฌาปนกิจ "โสภณ องค์การณ์" สื่อมวลชนอาวุโส เผยฝากให้ช่วยกันดูแลบ้านเมือง
    บุคคลในแวดวงสื่อมวลชน นักการเมือง นักธุรกิจ และแฟนคลับแห่เข้าร่วมพิธีฌาปนกิจ ส่งดวงวิญญาณ โสภณ องค์การณ์ เป็นครั้งสุดท้าย เผยฝากให้ช่วยกันดูแลบ้านเมือง ไม่ว่าใครจะมาใครจะไป ชี้สื่อมวลชนไม่มีวันเกษียณ สิ่งที่ต้องมีคือความน่าเชื่อ
    Sad
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 600 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประมวลภาพ : ฌาปนกิจ "โสภณ องค์การณ์" สื่อมวลชนอาวุโส เผยฝากให้ช่วยกันดูแลบ้านเมือง

    บุคคลในแวดวงสื่อมวลชน นักการเมือง นักธุรกิจ และแฟนคลับแห่เข้าร่วมพิธีฌาปนกิจ ส่งดวงวิญญาณ "โสภณ องค์การณ์" เป็นครั้งสุดท้าย เผยฝากให้ช่วยกันดูแลบ้านเมือง ไม่ว่าใครจะมาใครจะไป ชี้สื่อมวลชนไม่มีวันเกษียณ สิ่งที่ต้องมีคือความน่าเชื่อถือ

    วันนี้ (29 ต.ค.) ที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ ได้มีพิธีฌาปนกิจ นายโสภณ องค์การณ์ สื่อมวลชนอาวุโส อดีตบรรณาธิการบริหาร และผู้ดำเนินรายการ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมนิวส์วัน ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่สถาบันประสาทวิทยา ถนนราชวิถี กรุงเทพฯ ด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกที่ก้านสมอง รวมอายุได้ 75 ปี โดยมีบุคคลในแวดวงสื่อมวลชน นักการเมือง นักธุรกิจ เพื่อนร่วมงานทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งแฟนคลับที่ติดตามผลงานทั้งทางโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ เข้าร่วมพิธีฌาปนกิจอย่างเนืองแน่น เพื่อร่วมกันส่งดวงวิญญาณของนายโสภณเป็นครั้งสุดท้าย

    ภายในงานมีพิธีทอดผ้าบังสกุล อาทิ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการ นายธะนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ อดีตประธานกรรมการเครือเนชั่น นายเทพชัย หย่อง อดีตนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และอดีตบรรณาธิการบริหารเครือเนชั่น นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต สว.กรุงเทพมหานคร นายเกียรติ สิทธีอมร อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต น.ส.สุดากาญจน์ กลีบบัว กรรมการบริหาร บริษัท พี.อี. คอนเทนเนอร์ ผู้ผลิตและจำหน่ายถังน้ำตราดอกบัว นายพันเทพ ชวาลา เป็นต้น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000104288

    #MGROnline #โสภณองค์การณ์
    ประมวลภาพ : ฌาปนกิจ "โสภณ องค์การณ์" สื่อมวลชนอาวุโส เผยฝากให้ช่วยกันดูแลบ้านเมือง • บุคคลในแวดวงสื่อมวลชน นักการเมือง นักธุรกิจ และแฟนคลับแห่เข้าร่วมพิธีฌาปนกิจ ส่งดวงวิญญาณ "โสภณ องค์การณ์" เป็นครั้งสุดท้าย เผยฝากให้ช่วยกันดูแลบ้านเมือง ไม่ว่าใครจะมาใครจะไป ชี้สื่อมวลชนไม่มีวันเกษียณ สิ่งที่ต้องมีคือความน่าเชื่อถือ • วันนี้ (29 ต.ค.) ที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ ได้มีพิธีฌาปนกิจ นายโสภณ องค์การณ์ สื่อมวลชนอาวุโส อดีตบรรณาธิการบริหาร และผู้ดำเนินรายการ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมนิวส์วัน ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่สถาบันประสาทวิทยา ถนนราชวิถี กรุงเทพฯ ด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกที่ก้านสมอง รวมอายุได้ 75 ปี โดยมีบุคคลในแวดวงสื่อมวลชน นักการเมือง นักธุรกิจ เพื่อนร่วมงานทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งแฟนคลับที่ติดตามผลงานทั้งทางโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ เข้าร่วมพิธีฌาปนกิจอย่างเนืองแน่น เพื่อร่วมกันส่งดวงวิญญาณของนายโสภณเป็นครั้งสุดท้าย • ภายในงานมีพิธีทอดผ้าบังสกุล อาทิ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการ นายธะนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ อดีตประธานกรรมการเครือเนชั่น นายเทพชัย หย่อง อดีตนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และอดีตบรรณาธิการบริหารเครือเนชั่น นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต สว.กรุงเทพมหานคร นายเกียรติ สิทธีอมร อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต น.ส.สุดากาญจน์ กลีบบัว กรรมการบริหาร บริษัท พี.อี. คอนเทนเนอร์ ผู้ผลิตและจำหน่ายถังน้ำตราดอกบัว นายพันเทพ ชวาลา เป็นต้น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000104288 • #MGROnline #โสภณองค์การณ์
    Love
    Like
    Yay
    Sad
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สามารถ” ชิงลาออกพ้นพรรค​ พปชร.​ เซ่นปมคลิปฉาว เรียกรับทรัพย์ดิไอคอน​ “ไพบูลย์” บอกยื่นตั้งแต่ 25 ต.ค.แต่ไม่ได้แจ้งพรรค

    วันนี้ (29 ต.ค.) ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐรัฐ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ถึงกรณี นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช​ อดีตรองโฆษกพรรค พปชร.ถูกพาดพิงเรื่องคลิปเสียงคดีดิไอคอน ว่า นายสามารถ ได้ลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร.แล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กกต. ได้ส่งหนังสือลาออกมาแล้ว ยืนยันว่า นายสามารถ ลาออกเอง

    ด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร.เปิดเผยว่า นายสามารถ​ ได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคต่​อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว​ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ต.ค. โดยที่ไม่ได้แจ้งพรรค ขณะที่หนังสือลาออกได้มาถึงพรรคในวันนี้

    ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยในที่ประชุมพรรคได้มีการพูดคุยถึงนายสามารถ แต่เนื่องจากมีหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคของนายสามารถส่งมา พรรคจึงมีมติรับทราบ ทำให้พรรคไม่ต้องใช้มติพรรคในการขับนายสามารถ

    #MGROnline #พรรคพลังประชารัฐ
    “สามารถ” ชิงลาออกพ้นพรรค​ พปชร.​ เซ่นปมคลิปฉาว เรียกรับทรัพย์ดิไอคอน​ “ไพบูลย์” บอกยื่นตั้งแต่ 25 ต.ค.แต่ไม่ได้แจ้งพรรค • วันนี้ (29 ต.ค.) ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐรัฐ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ถึงกรณี นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช​ อดีตรองโฆษกพรรค พปชร.ถูกพาดพิงเรื่องคลิปเสียงคดีดิไอคอน ว่า นายสามารถ ได้ลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร.แล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กกต. ได้ส่งหนังสือลาออกมาแล้ว ยืนยันว่า นายสามารถ ลาออกเอง • ด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร.เปิดเผยว่า นายสามารถ​ ได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคต่​อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว​ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ต.ค. โดยที่ไม่ได้แจ้งพรรค ขณะที่หนังสือลาออกได้มาถึงพรรคในวันนี้ • ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยในที่ประชุมพรรคได้มีการพูดคุยถึงนายสามารถ แต่เนื่องจากมีหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคของนายสามารถส่งมา พรรคจึงมีมติรับทราบ ทำให้พรรคไม่ต้องใช้มติพรรคในการขับนายสามารถ • #MGROnline #พรรคพลังประชารัฐ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทย (อย.) ได้เผยแพร่ผลการตรวจสอบองุ่นพันธุ์ไชน์มัสแคท (Shine Muscat) ที่สุ่มตัวอย่างจากตลาดภายในประเทศ พบว่ามีสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐานถึง 95.8% จากตัวอย่างที่ตรวจสอบทั้งหมด 24 ตัวอย่าง

    รายงานระบุว่า ในจำนวนนี้ 9 ตัวอย่างถูกยืนยันว่าเป็นองุ่นนำเข้าจากประเทศจีน ส่วนอีก 15 ตัวอย่างยังไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้อย่างชัดเจน เหตุการณ์นี้ได้สร้างความกังวลในด้านความปลอดภัยของอาหารในหมู่ผู้บริโภคอย่างมาก

    องุ่นไชน์มัสแคทเป็นพันธุ์องุ่นที่ได้รับการพัฒนาจากประเทศญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยรสชาติหวานหอมและเนื้อกรอบ ทำให้ได้รับความนิยมสูงในตลาดผลไม้พรีเมียม จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “Hermès แห่งวงการองุ่น” ด้วยราคาที่สูงและคุณภาพที่โดดเด่น

    องุ่นไชน์มัสแคทได้รับการนำเข้าไปเพาะปลูกในหลายประเทศ รวมถึงจีนและเกาหลีใต้ ซึ่งทำให้ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในจีนที่มีการขยายพื้นที่เพาะปลูกอย่างมาก ส่งผลให้ราคาขององุ่นพันธุ์นี้ลดลงตามกลไกตลาด อย่างไรก็ตาม การเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนสุกเต็มที่ ทำให้ระดับความหวานไม่เพียงพอ และมีการใช้สารเคมีเพื่อเร่งการเติบโตของผลผลิต

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยอาหารในจีนระบุว่า ในกระบวนการปลูกองุ่นไชน์มัสแคทนั้น มีการใช้สารเคมีเพื่อควบคุมศัตรูพืชและโรคต่างๆ ประมาณ 5-10 ครั้งในช่วงการเจริญเติบโตขององุ่น โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นองุ่นกำลังออกดอกและมีผลอ่อน ทั้งนี้ หากใช้สารเคมีอย่างถูกต้องและเว้นระยะห่างการเก็บเกี่ยวให้เหมาะสม จะทำให้สารเคมีตกค้างอยู่ในระดับที่ปลอดภัย โดยระยะห่างระหว่างการฉีดพ่นสารเคมีกับการเก็บเกี่ยวจะช่วยให้สารเคมีสลายตัวในระยะเวลาที่เหมาะสม

    นายหวังเฉียง ผู้เชี่ยวชาญด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์เกษตรจากจีนกล่าวว่า หากมีการใช้สารเคมีตามระเบียบที่กำหนด และเว้นระยะเวลาการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม สารตกค้างในองุ่นไชน์มัสแคทจะไม่เกินมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการบริโภค โดยเสริมว่า "สารเคมีหลายชนิดมีครึ่งชีวิต (half-life) ที่สลายตัวภายใน 7-14 วัน และสามารถถูกชะล้างออกไปด้วยน้ำฝนหรือแสงแดด ซึ่งจะช่วยลดสารตกค้างได้"

    #MGROnline #องุ่นไชน์มัสแคท
    สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทย (อย.) ได้เผยแพร่ผลการตรวจสอบองุ่นพันธุ์ไชน์มัสแคท (Shine Muscat) ที่สุ่มตัวอย่างจากตลาดภายในประเทศ พบว่ามีสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐานถึง 95.8% จากตัวอย่างที่ตรวจสอบทั้งหมด 24 ตัวอย่าง • รายงานระบุว่า ในจำนวนนี้ 9 ตัวอย่างถูกยืนยันว่าเป็นองุ่นนำเข้าจากประเทศจีน ส่วนอีก 15 ตัวอย่างยังไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้อย่างชัดเจน เหตุการณ์นี้ได้สร้างความกังวลในด้านความปลอดภัยของอาหารในหมู่ผู้บริโภคอย่างมาก • องุ่นไชน์มัสแคทเป็นพันธุ์องุ่นที่ได้รับการพัฒนาจากประเทศญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยรสชาติหวานหอมและเนื้อกรอบ ทำให้ได้รับความนิยมสูงในตลาดผลไม้พรีเมียม จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “Hermès แห่งวงการองุ่น” ด้วยราคาที่สูงและคุณภาพที่โดดเด่น • องุ่นไชน์มัสแคทได้รับการนำเข้าไปเพาะปลูกในหลายประเทศ รวมถึงจีนและเกาหลีใต้ ซึ่งทำให้ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในจีนที่มีการขยายพื้นที่เพาะปลูกอย่างมาก ส่งผลให้ราคาขององุ่นพันธุ์นี้ลดลงตามกลไกตลาด อย่างไรก็ตาม การเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนสุกเต็มที่ ทำให้ระดับความหวานไม่เพียงพอ และมีการใช้สารเคมีเพื่อเร่งการเติบโตของผลผลิต • นักวิจัยด้านความปลอดภัยอาหารในจีนระบุว่า ในกระบวนการปลูกองุ่นไชน์มัสแคทนั้น มีการใช้สารเคมีเพื่อควบคุมศัตรูพืชและโรคต่างๆ ประมาณ 5-10 ครั้งในช่วงการเจริญเติบโตขององุ่น โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นองุ่นกำลังออกดอกและมีผลอ่อน ทั้งนี้ หากใช้สารเคมีอย่างถูกต้องและเว้นระยะห่างการเก็บเกี่ยวให้เหมาะสม จะทำให้สารเคมีตกค้างอยู่ในระดับที่ปลอดภัย โดยระยะห่างระหว่างการฉีดพ่นสารเคมีกับการเก็บเกี่ยวจะช่วยให้สารเคมีสลายตัวในระยะเวลาที่เหมาะสม • นายหวังเฉียง ผู้เชี่ยวชาญด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์เกษตรจากจีนกล่าวว่า หากมีการใช้สารเคมีตามระเบียบที่กำหนด และเว้นระยะเวลาการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม สารตกค้างในองุ่นไชน์มัสแคทจะไม่เกินมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการบริโภค โดยเสริมว่า "สารเคมีหลายชนิดมีครึ่งชีวิต (half-life) ที่สลายตัวภายใน 7-14 วัน และสามารถถูกชะล้างออกไปด้วยน้ำฝนหรือแสงแดด ซึ่งจะช่วยลดสารตกค้างได้" • #MGROnline #องุ่นไชน์มัสแคท
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทนายรัชพล ศิริสาคร เผย ไม่หนักใจกระแสข่าว ทนายตั้มเรียกรัยเงินบอสพอล ชี้ เป็นเรื่องปกติ ทนายเรียกเงินให้ลูกความ แคลงใจ ทำไมตำรวจไม่ตั้งข้อหา แชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรง

    วันนี้ (28 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายรัชพล ศิริสาคร เปิดใจถึงกรณีกระแสข่าวทนายต้้มเรียกรับเงินบอสพอล ว่า เบื้องต้นตนไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน มาทราบอีกทีเมื่อมีข่าว แต่ถึงอย่างไรพอทราบเรื่อง ก็ไม่ได้รู้สึกตกใจ หรือคิดอะไรมาก เพราะทราบว่าเป็นการเรียกเงินเพื่อนำมาให้ผู้เสียหาย เพราะว่ามันเป็นการทำงานของทนายความในการที่จะไกล่เกลี่ยให้คู่กรณีสามารถที่จะตกลงกันได้ หรือว่าชดใช้ค่าเสียหายเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าถ้าเกินกว่านี้ก็ต้องดูเป็นเป็นรายละเอียดไป

    และสำหรับประเด็นตอนที่ทนายตั้ม ประสานมาช่วยงาน ตอนนั้นตนอยู่ต่างประเทศ ก็ได้รับการประสานจากทนายตั้ม พอเดินทางกลับมาจากต่างประเทศก็ได้เดินทางไปช่วยทันที เพราะทนายตั้มแจ้งว่าเป็นเคสใหญ่ มีผู้เสียหายกว่า 100 คน จึงได้ไปช่วยดูแลให้คำแนะนำผู้เสียหายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปบ้าง

    ทนายรัชพล ยังบอกอีกว่า มีประเด็นที่น่ากังวลใจ คือ เรื่องการแจ้งข้อกล่าวหา บอสแต่ละคนซึ่งมีการแจ้งข้อกล่าวหา ข้อหาฉ้อโกง ประชาชน และข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่ละบอสออกมาแถลงข่าวว่าตนเองเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์ แต่เมื่อใดถ้าเกิดขึ้นศาล แล้วพิสูจน์ทราบได้ว่าเป็นบอสจริง ก็อาจจะหลุดข้อหาได้ และตั้งข้อสงสัยว่าทำไมกรณีนี้เจ้าหน้าที่ไม่ตั้งข้อหาเอาผิดเรื่อง แชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรง ซึ่งเป็นประเด็นที่เห็นชัดอยู่แล้ว

    #MGROnline #ทนายรัชพล #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    ทนายรัชพล ศิริสาคร เผย ไม่หนักใจกระแสข่าว ทนายตั้มเรียกรัยเงินบอสพอล ชี้ เป็นเรื่องปกติ ทนายเรียกเงินให้ลูกความ แคลงใจ ทำไมตำรวจไม่ตั้งข้อหา แชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรง • วันนี้ (28 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายรัชพล ศิริสาคร เปิดใจถึงกรณีกระแสข่าวทนายต้้มเรียกรับเงินบอสพอล ว่า เบื้องต้นตนไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน มาทราบอีกทีเมื่อมีข่าว แต่ถึงอย่างไรพอทราบเรื่อง ก็ไม่ได้รู้สึกตกใจ หรือคิดอะไรมาก เพราะทราบว่าเป็นการเรียกเงินเพื่อนำมาให้ผู้เสียหาย เพราะว่ามันเป็นการทำงานของทนายความในการที่จะไกล่เกลี่ยให้คู่กรณีสามารถที่จะตกลงกันได้ หรือว่าชดใช้ค่าเสียหายเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าถ้าเกินกว่านี้ก็ต้องดูเป็นเป็นรายละเอียดไป • และสำหรับประเด็นตอนที่ทนายตั้ม ประสานมาช่วยงาน ตอนนั้นตนอยู่ต่างประเทศ ก็ได้รับการประสานจากทนายตั้ม พอเดินทางกลับมาจากต่างประเทศก็ได้เดินทางไปช่วยทันที เพราะทนายตั้มแจ้งว่าเป็นเคสใหญ่ มีผู้เสียหายกว่า 100 คน จึงได้ไปช่วยดูแลให้คำแนะนำผู้เสียหายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปบ้าง • ทนายรัชพล ยังบอกอีกว่า มีประเด็นที่น่ากังวลใจ คือ เรื่องการแจ้งข้อกล่าวหา บอสแต่ละคนซึ่งมีการแจ้งข้อกล่าวหา ข้อหาฉ้อโกง ประชาชน และข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่ละบอสออกมาแถลงข่าวว่าตนเองเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์ แต่เมื่อใดถ้าเกิดขึ้นศาล แล้วพิสูจน์ทราบได้ว่าเป็นบอสจริง ก็อาจจะหลุดข้อหาได้ และตั้งข้อสงสัยว่าทำไมกรณีนี้เจ้าหน้าที่ไม่ตั้งข้อหาเอาผิดเรื่อง แชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรง ซึ่งเป็นประเด็นที่เห็นชัดอยู่แล้ว • #MGROnline #ทนายรัชพล #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • TikTok@mgronline #mgronluneTikTok #news1 #กีฬา #มวย #ไทย #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    TikTok@mgronline #mgronluneTikTok #news1 #กีฬา #มวย #ไทย #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 720 มุมมอง 275 0 รีวิว
  • TikTok@mgronline #mgronlineTikTok #news1 #จีน #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    TikTok@mgronline #mgronlineTikTok #news1 #จีน #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 702 มุมมอง 234 0 รีวิว
  • ทำเพื่อบอสคนไหนหรือเปล่า บอสบางคนมีสายสัมพันธ์ทางการเมืองเหมือนกันนะ 🤨🤨

    ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ว่า หลังจาก พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้เข้าพบ นายภูมิธรรม เวชชัย รอง นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานความคืบหน้าและประชุมร่วมกันในคดีดิไอคอนกรุ๊ปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ได้ข้อสรุปว่า จะโอนสำนวนคดีทั้งหมดในส่วนของตำรวจสอบสวนกลางไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เป็นผู้ดำเนินคดีต่อ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้แถลงว่าจะรับเพียงเฉพาะข้อหา พ.ร.บ.ฟอกเงิน ไปดำเนินการท่านั้น

    https://mgronline.com/crime/detail/9670000103472
    ทำเพื่อบอสคนไหนหรือเปล่า บอสบางคนมีสายสัมพันธ์ทางการเมืองเหมือนกันนะ 🤨🤨 ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ว่า หลังจาก พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้เข้าพบ นายภูมิธรรม เวชชัย รอง นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานความคืบหน้าและประชุมร่วมกันในคดีดิไอคอนกรุ๊ปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ได้ข้อสรุปว่า จะโอนสำนวนคดีทั้งหมดในส่วนของตำรวจสอบสวนกลางไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เป็นผู้ดำเนินคดีต่อ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้แถลงว่าจะรับเพียงเฉพาะข้อหา พ.ร.บ.ฟอกเงิน ไปดำเนินการท่านั้น https://mgronline.com/crime/detail/9670000103472
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • TikTok@mgronline #mgronlineTikTok #news1 #Thaitimes #ว่างว่างก็แวะมา
    TikTok@mgronline #mgronlineTikTok #news1 #Thaitimes #ว่างว่างก็แวะมา
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 663 มุมมอง 318 0 รีวิว
  • TikTok@mgronline #mgronlineTikTok #news1 #game #Thaitimes #ว่างว่างก็แวะมา
    TikTok@mgronline #mgronlineTikTok #news1 #game #Thaitimes #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 667 มุมมอง 255 0 รีวิว
  • อัลบั้ม LIVE 2540 (Live in Studio)
    SHAW SHERRY DUCK
    บันทึกเสียงในห้องซ้อมก่อนขึ้นเวทีโลกดนตรี
    กลอง อ.เบิ้ม / เบส จอม / กีตาร์ ตู่,ภพ
    และเพลง คนเงิน แสดงสดที่อุตรดิตถ์
    กลอง พี่อ๊อฟ / กีตาร์ เต๊ะ,บิ๊ก / เบส จอม
    ความทรงจำดีๆ เมื่อ 28 ปี ที่เพิ่งผ่านมา555
    สามารถรับฟังและดาวน์โหลดได้ทาง App
    Music Online Streaming ได้แล้ววันนี้
    Sherry Duck DonngPleng On Air ยิ้มดัง YimDunk
    #live #studiolive
    #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #shawsherryduck #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต#Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #สำนักเพลงดงเพลง #DongplengRecord
    อัลบั้ม LIVE 2540 (Live in Studio) SHAW SHERRY DUCK บันทึกเสียงในห้องซ้อมก่อนขึ้นเวทีโลกดนตรี กลอง อ.เบิ้ม / เบส จอม / กีตาร์ ตู่,ภพ และเพลง คนเงิน แสดงสดที่อุตรดิตถ์ กลอง พี่อ๊อฟ / กีตาร์ เต๊ะ,บิ๊ก / เบส จอม ความทรงจำดีๆ เมื่อ 28 ปี ที่เพิ่งผ่านมา555 สามารถรับฟังและดาวน์โหลดได้ทาง App Music Online Streaming ได้แล้ววันนี้ Sherry Duck DonngPleng On Air ยิ้มดัง YimDunk #live #studiolive #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #shawsherryduck #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต​ #Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #สำนักเพลงดงเพลง #DongplengRecord
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 30 0 รีวิว
  • ปัตตานี - ญาติผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบร่วมกับเครือข่ายอ่านแถงการณ์ 20 ปีตากใบ ชี้ไม่พอใจ-หมดศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม เรียกร้องยูเอ็น-ศาลอาญาระหว่างประเทศเข้ามาตรวจสอบ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงใหม่

    วานนี้ (25 ต.ค.) เวลา 17.00 น. ที่ Patani Art Space อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ก่อนที่คดีสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 จะหมดอายุความ ญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์พร้อมกับเครือข่ายภาคประชาสังคมที่ร่วมจัดงาน เช่น สมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ รำลึก 20 ปี ตากใบ

    ad

    แถลงการณ์ดังกล่าว ระบุว่า “คดีตากใบ: การสร้างความยุติธรรมและความรับผิดชอบร่วมกัน” โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นต่อประชาชนผู้ชุมนุมอย่างสันติที่อำเภอตากใบจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2547 คืออาชญากรรมที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำต่อประชาชนอย่างโหดเหี้ยมและไม่มีผู้รับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนดังกล่าว

    “เป็นเวลา 20 ปีที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ผู้บงการกลับลอยนวลพ้นผิด ทำให้พี่น้องและญาติผู้สูญเสีย รวมถึงประชาชน ปาตานี/ชายแดนภาคใต้ มีความไม่พอใจและหมดศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม”

    ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์จากเหตุการณ์ที่ตากใบ ในวาระครบรอบ 20 ปี แถลงการณ์ฉบับในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นวันที่คดีความหมดอายุ จึงมีข้อเรียกร้องสำคัญดังนี้

    1.ให้รัฐบาลสอบสวนเหตุการณ์ในระดับนานาชาติ โดยร้องขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเข้ามาตรวจสอบ หรือขอให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court - ICC) เข้ามามีส่วนในการพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติหรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพราะเข้าข่ายกฎหมายระหว่างประเทศ เรื่องการใช้ความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุโดยรัฐในเหตุการณ์ตากใบ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน

    2.ให้รัฐบาลไทยปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศที่เคยลงนาม โดยเฉพาะกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และสนับสนุนการจัดตั้งกลไกเพื่อตรวจสอบการละเมิดสิทธิและความเป็นธรรมในกรณีอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และให้ผู้มีอำนาจรัฐตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงใหม่ โดยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมานี้ต้องมีความเป็นกลางและเป็นอิสระจากฝ่ายการเมือง

    3.ให้รัฐบาลประณามการลอยนวลของผู้กระทำความผิด (Impunity) รัฐบาลควรเน้นย้ำให้เห็นว่าความล้มเหลวในการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายในระดับชาติ เป็นตัวอย่างของการลอยนวลของผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นปัญหาที่กระทบต่อความเป็นธรรมในระดับสากล ต้องให้ตระหนักถึงความจำเป็นในการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของไทย

    “เราขอยืนยันข้อเรียกร้องเหล่านี้ ด้วยเจตจำนงที่มุ่งมั่นและเปิดกว้างต่อผู้มีอำนาจในรัฐบาลและผู้บริหารข้าราชการในพื้นที่ โดยเรามีความเชื่อมั่นว่า การแสวงหาความยุติธรรมในกรณีนี้ ไม่ใช่เพียงเรื่องของการลงโทษผู้กระทำผิด แต่คือการสร้างระบบที่เข้มแข็งเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและประเทศชาติ

    “เราขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับความยุติธรรมที่แท้จริง พร้อมทั้งสร้างความเปลี่ยนแปลงในการบริหารจัดการในพื้นที่ภาคใต้ ที่เคารพต่อสิทธิมนุษยชนและ ความเท่าเทียมของทุกฝ่าย”

    #MGROnline #ตากใบ
    ปัตตานี - ญาติผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบร่วมกับเครือข่ายอ่านแถงการณ์ 20 ปีตากใบ ชี้ไม่พอใจ-หมดศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม เรียกร้องยูเอ็น-ศาลอาญาระหว่างประเทศเข้ามาตรวจสอบ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงใหม่ วานนี้ (25 ต.ค.) เวลา 17.00 น. ที่ Patani Art Space อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ก่อนที่คดีสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 จะหมดอายุความ ญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์พร้อมกับเครือข่ายภาคประชาสังคมที่ร่วมจัดงาน เช่น สมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ รำลึก 20 ปี ตากใบ ad แถลงการณ์ดังกล่าว ระบุว่า “คดีตากใบ: การสร้างความยุติธรรมและความรับผิดชอบร่วมกัน” โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นต่อประชาชนผู้ชุมนุมอย่างสันติที่อำเภอตากใบจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2547 คืออาชญากรรมที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำต่อประชาชนอย่างโหดเหี้ยมและไม่มีผู้รับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนดังกล่าว “เป็นเวลา 20 ปีที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ผู้บงการกลับลอยนวลพ้นผิด ทำให้พี่น้องและญาติผู้สูญเสีย รวมถึงประชาชน ปาตานี/ชายแดนภาคใต้ มีความไม่พอใจและหมดศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม” ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์จากเหตุการณ์ที่ตากใบ ในวาระครบรอบ 20 ปี แถลงการณ์ฉบับในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นวันที่คดีความหมดอายุ จึงมีข้อเรียกร้องสำคัญดังนี้ 1.ให้รัฐบาลสอบสวนเหตุการณ์ในระดับนานาชาติ โดยร้องขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเข้ามาตรวจสอบ หรือขอให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court - ICC) เข้ามามีส่วนในการพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติหรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพราะเข้าข่ายกฎหมายระหว่างประเทศ เรื่องการใช้ความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุโดยรัฐในเหตุการณ์ตากใบ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน 2.ให้รัฐบาลไทยปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศที่เคยลงนาม โดยเฉพาะกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และสนับสนุนการจัดตั้งกลไกเพื่อตรวจสอบการละเมิดสิทธิและความเป็นธรรมในกรณีอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และให้ผู้มีอำนาจรัฐตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงใหม่ โดยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมานี้ต้องมีความเป็นกลางและเป็นอิสระจากฝ่ายการเมือง 3.ให้รัฐบาลประณามการลอยนวลของผู้กระทำความผิด (Impunity) รัฐบาลควรเน้นย้ำให้เห็นว่าความล้มเหลวในการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายในระดับชาติ เป็นตัวอย่างของการลอยนวลของผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นปัญหาที่กระทบต่อความเป็นธรรมในระดับสากล ต้องให้ตระหนักถึงความจำเป็นในการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของไทย “เราขอยืนยันข้อเรียกร้องเหล่านี้ ด้วยเจตจำนงที่มุ่งมั่นและเปิดกว้างต่อผู้มีอำนาจในรัฐบาลและผู้บริหารข้าราชการในพื้นที่ โดยเรามีความเชื่อมั่นว่า การแสวงหาความยุติธรรมในกรณีนี้ ไม่ใช่เพียงเรื่องของการลงโทษผู้กระทำผิด แต่คือการสร้างระบบที่เข้มแข็งเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและประเทศชาติ “เราขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับความยุติธรรมที่แท้จริง พร้อมทั้งสร้างความเปลี่ยนแปลงในการบริหารจัดการในพื้นที่ภาคใต้ ที่เคารพต่อสิทธิมนุษยชนและ ความเท่าเทียมของทุกฝ่าย” #MGROnline #ตากใบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • TikTok@mgronline #mgronlineTikTok #news1 #จีน #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    TikTok@mgronline #mgronlineTikTok #news1 #จีน #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 768 มุมมอง 351 0 รีวิว
  • What To Write In A Holiday Card

    Just as we look forward to presents and parties this time of year, we can’t get enough of holiday cards! We love them all: from colorful cards sent by snail mail to animated emails to newsletters summing up what everyone in the family has been up to all year. Fun fact: the very first holiday card in 1843 depicted children toasting with wine—oops!

    But when it comes to sending your own holiday cards this season, it can be confusing to know how to get them just right. The fear of accidentally offending someone or leaving someone off your list can be daunting.

    That’s why we’ve put together these dos and don’ts to kickstart (or improve) your holiday writing tradition.

    Do start early

    You’ll want to leave yourself time to get (or make, if you’re ambitious) cards, write a message, and sign them. If your holiday card includes a picture of your adorable family in matching elf costumes, you’ll need even more time to get the costumes, take the photo, and have it printed. Keep that in mind!

    If you’re planning on sending your holiday cards via the post, it’s recommended you mail them before December 17. So think about the time you have, and what you can reasonably accomplish, which leads us to …

    Don’t be overly ambitious

    Maybe you’re one of these people who, like Martha Stewart, can handcraft a card for each person on your 40-person list and still get them out on time. But most of us mere mortals are not Martha Stewart (sadly).

    People are happy to get a holiday card because it shows you care about them and are thinking about them. Whether it’s store-bought or handmade, it’s the thought that counts.

    Now that we’ve set reasonable expectations, let’s get into the details of writing those holiday cards.

    Do write the recipient’s name

    Even if it’s a store-bought card with a pre-printed message, you want to be sure to write the recipient’s name(s) at the top of the card. You can be formal or informal, depending on the context.

    For a less formal card, you can use the formula of “Dear” plus first names: e.g., Dear Jack & Jill.

    If you’re writing a more formal card, then you’ll want to use honorifics and last names: e.g., Dear Mr. & Dr. Falldownhill or Dear Ms. Dalloway.

    Don’t guess the spelling

    When you’re writing the recipient’s name, make sure you get it right. If it’s a name you’re unfamiliar with or one that has multiple spellings, double-check your address book or other references (social media works) to ensure that you haven’t left out a letter or put in one too many. It’s not a good look.

    Do include a personal message

    Even if your holiday card comes from a box or is an online widget, you should include a personal message to the recipient. This can be short and sweet, as simple as:

    - Wishing you and your family a happy holiday season!
    - The holidays come but once a year: enjoy!
    - Thinking of you over the holidays.
    - Hoping you have a joyous and peaceful holiday.
    - Have a wonderful New Year!
    - Let the spirit of the season inspire you.
    - Warm wishes for the holiday and New Year.
    - Hope this season is filled with joy and cheer!
    - Sending you good luck into the New Year!

    Stock phrases are a good starting point, but you can also include some personal details. For instance, you might consider adding:

    - the important things that happened to you or your family this year, like marriages or births;
    - a wish for the recipient’s health, especially if you know they’ve been under the weather this year;
    - or a note about your desire to see them if they live far away.

    All that said, unless you’re writing a holiday letter, your holiday card note shouldn’t be too long. Aim for no more than 150 words.

    If you’re writing a holiday letter, keep it to a single page long (about 400 words). Nobody needs to know about every detail of your year, trust us.

    Don’t assume everyone celebrates the same holidays

    If you’re sending cards to people you know well, you probably know what holidays they celebrate, so feel free to write “Merry Christmas” and “Happy Hanukkah.” [Is it Tis the Season or ’Tis the Season? Find out!]

    But if you’re sending cards to coworkers, family, or friends you know less well, don’t assume they celebrate the same holidays you do. That can cause unnecessary offense.

    If you’re unsure, stick to the more generic happy holidays or season’s greetings. Make it easy on yourself. Or, as the Emily Post Institute suggests, you can also opt to send a more secular greeting for the new year.

    Do be funny (if you want)

    You can absolutely send formal holiday cards. In which case, we don’t recommend you include jokes.

    But if you’re sending cards to friends and family, a little bit of levity can be nice. That said, avoid any jokes that could be offensive. For example, many people include humorous pictures of their family on their holiday cards. It’s a little cheesy, but also kind of wonderful.

    Don’t be depressing

    Unless you’re Eeyore, you should try to keep a positive, happy tone in your holiday card message.

    Don’t write “This year has sucked” or “Everything is garbage.” If you feel that way, we get it—the holidays can be tough. But holiday cards are a place where the maxim If you don’t have anything nice to say, don’t say anything at all rules.

    If you’re too bummed out to think of any good news to share, just write a generic message like the ones we suggested above.

    Do have everyone in the family sign the card

    After you’ve written your short, thoughtful note in your card, be sure to sign it. If it’s just you, that’s simple enough.

    If you’re sending the card on behalf of your entire immediate family and are going the paper route, pass the card around the family to have them sign. If you’re sending an online card, just include everyone’s name in the signature line.

    Don’t boast

    Holiday cards and letters are an opportunity to reach out to the people you love and care about. It’s not an opportunity for you to boast about how wonderful you and your family are (although we are sure they are wonderful).

    This isn’t a resumé, it’s a highlight reel. Instead of listing every good deed every family member has done all year, pick one or two of the most important things to mention in your message. Moves, weddings, graduations, and births are worth mentioning. Volunteer work at the local soup kitchen, while admirable, is not.

    We wish you the best of luck with your holiday cards this season. Sometimes the cards are as hectic as the holidays … so grab a cup of eggnog and get writing!

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    What To Write In A Holiday Card Just as we look forward to presents and parties this time of year, we can’t get enough of holiday cards! We love them all: from colorful cards sent by snail mail to animated emails to newsletters summing up what everyone in the family has been up to all year. Fun fact: the very first holiday card in 1843 depicted children toasting with wine—oops! But when it comes to sending your own holiday cards this season, it can be confusing to know how to get them just right. The fear of accidentally offending someone or leaving someone off your list can be daunting. That’s why we’ve put together these dos and don’ts to kickstart (or improve) your holiday writing tradition. Do start early You’ll want to leave yourself time to get (or make, if you’re ambitious) cards, write a message, and sign them. If your holiday card includes a picture of your adorable family in matching elf costumes, you’ll need even more time to get the costumes, take the photo, and have it printed. Keep that in mind! If you’re planning on sending your holiday cards via the post, it’s recommended you mail them before December 17. So think about the time you have, and what you can reasonably accomplish, which leads us to … Don’t be overly ambitious Maybe you’re one of these people who, like Martha Stewart, can handcraft a card for each person on your 40-person list and still get them out on time. But most of us mere mortals are not Martha Stewart (sadly). People are happy to get a holiday card because it shows you care about them and are thinking about them. Whether it’s store-bought or handmade, it’s the thought that counts. Now that we’ve set reasonable expectations, let’s get into the details of writing those holiday cards. Do write the recipient’s name Even if it’s a store-bought card with a pre-printed message, you want to be sure to write the recipient’s name(s) at the top of the card. You can be formal or informal, depending on the context. For a less formal card, you can use the formula of “Dear” plus first names: e.g., Dear Jack & Jill. If you’re writing a more formal card, then you’ll want to use honorifics and last names: e.g., Dear Mr. & Dr. Falldownhill or Dear Ms. Dalloway. Don’t guess the spelling When you’re writing the recipient’s name, make sure you get it right. If it’s a name you’re unfamiliar with or one that has multiple spellings, double-check your address book or other references (social media works) to ensure that you haven’t left out a letter or put in one too many. It’s not a good look. Do include a personal message Even if your holiday card comes from a box or is an online widget, you should include a personal message to the recipient. This can be short and sweet, as simple as: - Wishing you and your family a happy holiday season! - The holidays come but once a year: enjoy! - Thinking of you over the holidays. - Hoping you have a joyous and peaceful holiday. - Have a wonderful New Year! - Let the spirit of the season inspire you. - Warm wishes for the holiday and New Year. - Hope this season is filled with joy and cheer! - Sending you good luck into the New Year! Stock phrases are a good starting point, but you can also include some personal details. For instance, you might consider adding: - the important things that happened to you or your family this year, like marriages or births; - a wish for the recipient’s health, especially if you know they’ve been under the weather this year; - or a note about your desire to see them if they live far away. All that said, unless you’re writing a holiday letter, your holiday card note shouldn’t be too long. Aim for no more than 150 words. If you’re writing a holiday letter, keep it to a single page long (about 400 words). Nobody needs to know about every detail of your year, trust us. Don’t assume everyone celebrates the same holidays If you’re sending cards to people you know well, you probably know what holidays they celebrate, so feel free to write “Merry Christmas” and “Happy Hanukkah.” [Is it Tis the Season or ’Tis the Season? Find out!] But if you’re sending cards to coworkers, family, or friends you know less well, don’t assume they celebrate the same holidays you do. That can cause unnecessary offense. If you’re unsure, stick to the more generic happy holidays or season’s greetings. Make it easy on yourself. Or, as the Emily Post Institute suggests, you can also opt to send a more secular greeting for the new year. Do be funny (if you want) You can absolutely send formal holiday cards. In which case, we don’t recommend you include jokes. But if you’re sending cards to friends and family, a little bit of levity can be nice. That said, avoid any jokes that could be offensive. For example, many people include humorous pictures of their family on their holiday cards. It’s a little cheesy, but also kind of wonderful. Don’t be depressing Unless you’re Eeyore, you should try to keep a positive, happy tone in your holiday card message. Don’t write “This year has sucked” or “Everything is garbage.” If you feel that way, we get it—the holidays can be tough. But holiday cards are a place where the maxim If you don’t have anything nice to say, don’t say anything at all rules. If you’re too bummed out to think of any good news to share, just write a generic message like the ones we suggested above. Do have everyone in the family sign the card After you’ve written your short, thoughtful note in your card, be sure to sign it. If it’s just you, that’s simple enough. If you’re sending the card on behalf of your entire immediate family and are going the paper route, pass the card around the family to have them sign. If you’re sending an online card, just include everyone’s name in the signature line. Don’t boast Holiday cards and letters are an opportunity to reach out to the people you love and care about. It’s not an opportunity for you to boast about how wonderful you and your family are (although we are sure they are wonderful). This isn’t a resumé, it’s a highlight reel. Instead of listing every good deed every family member has done all year, pick one or two of the most important things to mention in your message. Moves, weddings, graduations, and births are worth mentioning. Volunteer work at the local soup kitchen, while admirable, is not. We wish you the best of luck with your holiday cards this season. Sometimes the cards are as hectic as the holidays … so grab a cup of eggnog and get writing! Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจคุม "นัตตี้" ยูทูบเบอร์ดัง พร้อมมารดา ถึงสนามบินดอนเมือง หลังหนีคดีโกงเทรดหุ้น 2 พันล้านกบดานอินโดฯ ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

    วันนี้ (25 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว น.ส.สุชาตา คงจักร์หรือ นัตตี้ อายุ 31 ปี และนางธานิยา คงจักร์ อายุ 66 ปี มารดาของนัทตี้ ผู้ต้องหาคดีหลอกลงทุนเทรดหุ้นมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท เดินทางถึงประเทศไทย หลังถูกจับกุมตัวได้ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยมี พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2, พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. และ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมแถลงผลการจับกุม

    สืบเนื่องจากเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ได้มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ณ ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และสถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่อดำเนินคดีกับเน็ตไอดอลสาว ชื่อ น.ส.สุชาตา คงจักร์ หรือ นัตตี้ Nutty Diary ยูทูบเบอร์ชื่อดัง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท และมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อกว่า 6,000 คน ซึ่งในเวลาต่อมาจำนวนผู้เสียหายได้เพิ่มขึ้น และมีการแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกหลายหน่วยงาน เช่น บช.สอท. และสถานีตำรวจในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000102950

    #MGROnline #NuttyDiary #เทรดหุ้น
    ตำรวจคุม "นัตตี้" ยูทูบเบอร์ดัง พร้อมมารดา ถึงสนามบินดอนเมือง หลังหนีคดีโกงเทรดหุ้น 2 พันล้านกบดานอินโดฯ ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย • วันนี้ (25 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว น.ส.สุชาตา คงจักร์หรือ นัตตี้ อายุ 31 ปี และนางธานิยา คงจักร์ อายุ 66 ปี มารดาของนัทตี้ ผู้ต้องหาคดีหลอกลงทุนเทรดหุ้นมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท เดินทางถึงประเทศไทย หลังถูกจับกุมตัวได้ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยมี พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2, พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. และ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมแถลงผลการจับกุม • สืบเนื่องจากเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ได้มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ณ ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และสถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่อดำเนินคดีกับเน็ตไอดอลสาว ชื่อ น.ส.สุชาตา คงจักร์ หรือ นัตตี้ Nutty Diary ยูทูบเบอร์ชื่อดัง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท และมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อกว่า 6,000 คน ซึ่งในเวลาต่อมาจำนวนผู้เสียหายได้เพิ่มขึ้น และมีการแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกหลายหน่วยงาน เช่น บช.สอท. และสถานีตำรวจในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000102950 • #MGROnline #NuttyDiary #เทรดหุ้น
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชะตากรรมของทักษิณ กับทางรอดจากคดีความที่รุมเร้า

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000102715
    ชะตากรรมของทักษิณ กับทางรอดจากคดีความที่รุมเร้า บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000102715
    MGRONLINE.COM
    ชะตากรรมของทักษิณ กับทางรอดจากคดีความที่รุมเร้า
    หลายคนถามหาทักษิณหลังเขาเงียบหายไป ซึ่งความจริงแล้วเขาคงทำหน้าที่สั่งการอยู่หลังม่านของอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด้วยความเคารพนับถือและอาลัยพี่โสภณอย่างที่สุดครับ

    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000102702?fbclid=IwY2xjawGHrqZleHRuA2FlbQIxMQABHTJl5wvyJQcmfwwxVsbJpHSxzw7ZBx9z32o2BBFQLnCZAKG_n5BV7tmw_w_aem_tOluLoKeJ2EAN1_w7AOAjA
    ด้วยความเคารพนับถือและอาลัยพี่โสภณอย่างที่สุดครับ https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000102702?fbclid=IwY2xjawGHrqZleHRuA2FlbQIxMQABHTJl5wvyJQcmfwwxVsbJpHSxzw7ZBx9z32o2BBFQLnCZAKG_n5BV7tmw_w_aem_tOluLoKeJ2EAN1_w7AOAjA
    MGRONLINE.COM
    อาลัย “โสภณ องค์การณ์” สื่อมวลชนอาวุโส จากไปอย่างสงบ รวมอายุได้ 75 ปี
    โสภณ องค์การณ์ สื่อมวลชนอาวุโส ผู้ดำเนินรายการทางช่องนิวส์วัน และคอลัมนิสต์สื่อในเครือผู้จัดการ จากไปอย่างสงบหลังเข้ารับการรักษาด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกนานถึง 2 สัปดาห์ ย้อนตำนาน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts