• Ant Group ประสบความสำเร็จในการลดต้นทุนการฝึก AI ด้วยการใช้ชิปจากจีน เช่น ชิปของ Alibaba และ Huawei นี่เป็นการปรับตัวท่ามกลางข้อจำกัดจากสหรัฐฯ ในการใช้ชิป NVIDIA ผลลัพธ์นี้ไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่าย แต่ยังสะท้อนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศที่ก้าวไกล อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามว่าชิปเหล่านี้จะสามารถแข่งขันในระยะยาวได้ดีเพียงใด

    การตอบสนองต่อข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี:
    - การเปลี่ยนมาใช้ชิปที่ผลิตในประเทศจีนเกิดขึ้นเนื่องจากข้อจำกัดจากสหรัฐฯ ในการเข้าถึง GPU ระดับสูงของ NVIDIA ส่งผลให้บริษัทจีนต้องหาทางเลือกที่เหมาะสม และนี่ถือเป็นความพยายามสำคัญของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก.

    ความหลากหลายในฮาร์ดแวร์:
    - นอกจากใช้ชิปของ Alibaba และ Huawei แล้ว Ant Group ยังพึ่งพาชิปจาก AMD และผู้ผลิตรายอื่น ๆ เพื่อสร้างโมเดล AI ใหม่ โดยยังคงใช้ฮาร์ดแวร์ NVIDIA ในบางกระบวนการ.

    ศักยภาพของเทคโนโลยีจีน:
    - ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงศักยภาพในการแข่งขันด้าน AI ของจีน และสอดคล้องกับความสำเร็จล่าสุดของ DeepSeek AI ที่สามารถทำผลงานได้ดีกว่า GPT-4 ของ OpenAI ในบางเกณฑ์.

    ความท้าทายระยะยาว:
    - แม้ผลลัพธ์ครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ก็ยังมีคำถามว่าชิปจากจีนและผู้ผลิตรายอื่น ๆ เช่น AMD จะสามารถแข่งขันและรองรับการทำงานในระยะยาวได้เทียบเท่ากับ NVIDIA หรือไม่.

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chinese-fintech-company-uses-domestic-semiconductors-for-ai-breakthrough
    Ant Group ประสบความสำเร็จในการลดต้นทุนการฝึก AI ด้วยการใช้ชิปจากจีน เช่น ชิปของ Alibaba และ Huawei นี่เป็นการปรับตัวท่ามกลางข้อจำกัดจากสหรัฐฯ ในการใช้ชิป NVIDIA ผลลัพธ์นี้ไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่าย แต่ยังสะท้อนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศที่ก้าวไกล อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามว่าชิปเหล่านี้จะสามารถแข่งขันในระยะยาวได้ดีเพียงใด การตอบสนองต่อข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี: - การเปลี่ยนมาใช้ชิปที่ผลิตในประเทศจีนเกิดขึ้นเนื่องจากข้อจำกัดจากสหรัฐฯ ในการเข้าถึง GPU ระดับสูงของ NVIDIA ส่งผลให้บริษัทจีนต้องหาทางเลือกที่เหมาะสม และนี่ถือเป็นความพยายามสำคัญของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก. ความหลากหลายในฮาร์ดแวร์: - นอกจากใช้ชิปของ Alibaba และ Huawei แล้ว Ant Group ยังพึ่งพาชิปจาก AMD และผู้ผลิตรายอื่น ๆ เพื่อสร้างโมเดล AI ใหม่ โดยยังคงใช้ฮาร์ดแวร์ NVIDIA ในบางกระบวนการ. ศักยภาพของเทคโนโลยีจีน: - ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงศักยภาพในการแข่งขันด้าน AI ของจีน และสอดคล้องกับความสำเร็จล่าสุดของ DeepSeek AI ที่สามารถทำผลงานได้ดีกว่า GPT-4 ของ OpenAI ในบางเกณฑ์. ความท้าทายระยะยาว: - แม้ผลลัพธ์ครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ก็ยังมีคำถามว่าชิปจากจีนและผู้ผลิตรายอื่น ๆ เช่น AMD จะสามารถแข่งขันและรองรับการทำงานในระยะยาวได้เทียบเท่ากับ NVIDIA หรือไม่. https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chinese-fintech-company-uses-domestic-semiconductors-for-ai-breakthrough
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Ant Group reportedly reduces AI costs 20% with Chinese chips
    The company still uses Nvidia but now relies mainly on Chinese chips
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • ASML เริ่มต้นจากโรงงานหลังคารั่วที่เนเธอร์แลนด์ แต่ด้วยวิสัยทัศน์และความทุ่มเท บริษัทนี้กลายมาเป็นผู้นำระดับโลกในเทคโนโลยีลิโทกราฟีสำหรับผลิตชิป ตั้งแต่การเปิดตัวเครื่องจักรรุ่นแรกในปี 1984 ไปจนถึงการพัฒนาเทคโนโลยี EUV ที่ทรงอิทธิพลในปัจจุบัน แสดงถึงการเติบโตที่น่าทึ่งของบริษัท

    บริษัทนี้เริ่มต้นจากการร่วมมือระหว่าง Philips และ Advanced Semiconductor Materials International (ASMI) เพื่อมุ่งสร้างระบบลิโทกราฟีที่ตอบโจทย์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในอนาคต ปัจจุบัน ASML มีพนักงานกว่า 44,000 คน และสร้างรายได้เกือบ 31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี

    นวัตกรรมตั้งแต่ยุคเริ่มต้น:
    - ASML เปิดตัวผลิตภัณฑ์แรกในชื่อ PAS 2000 stepper โดยทีมงานสามารถแก้ปัญหาเสียงรบกวนจากปั๊มน้ำมันไฮดรอลิกผ่านการติดตั้งคอนเทนเนอร์ในบริเวณโรงงาน ซึ่งกลายเป็นตัวจุดประกายการพัฒนาเทคโนโลยีลิโทกราฟีที่ล้ำหน้าต่อมา.

    ความร่วมมือทางเทคนิคที่ต่อเนื่อง:
    - ความร่วมมือกับบริษัท Carl Zeiss ในด้านการผลิตเลนส์เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1986 และยังคงดำเนินต่อจนถึงปัจจุบัน สร้างมาตรฐานความแม่นยำในเครื่องจักรของ ASML.

    เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า:
    - ในปี 2010 ASML ได้เปิดตัวเครื่อง Twinscan NXE:3100 ที่ใช้เทคโนโลยี EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) ซึ่งกลายเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในยุคปัจจุบัน.

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม:
    - ปัจจุบัน ASML เป็นผู้นำในตลาดเครื่องจักรผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งบริษัทใหญ่อย่าง TSMC, Intel, และ Samsung ต่างพึ่งพาเทคโนโลยีของ ASML เพื่อพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำสมัย.

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/asml-recalls-its-humble-origins-in-a-leaky-shed-in-eindhoven-circa-1984-it-now-makes-the-most-cutting-edge-chipmaking-tools-on-the-planet
    ASML เริ่มต้นจากโรงงานหลังคารั่วที่เนเธอร์แลนด์ แต่ด้วยวิสัยทัศน์และความทุ่มเท บริษัทนี้กลายมาเป็นผู้นำระดับโลกในเทคโนโลยีลิโทกราฟีสำหรับผลิตชิป ตั้งแต่การเปิดตัวเครื่องจักรรุ่นแรกในปี 1984 ไปจนถึงการพัฒนาเทคโนโลยี EUV ที่ทรงอิทธิพลในปัจจุบัน แสดงถึงการเติบโตที่น่าทึ่งของบริษัท บริษัทนี้เริ่มต้นจากการร่วมมือระหว่าง Philips และ Advanced Semiconductor Materials International (ASMI) เพื่อมุ่งสร้างระบบลิโทกราฟีที่ตอบโจทย์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในอนาคต ปัจจุบัน ASML มีพนักงานกว่า 44,000 คน และสร้างรายได้เกือบ 31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี นวัตกรรมตั้งแต่ยุคเริ่มต้น: - ASML เปิดตัวผลิตภัณฑ์แรกในชื่อ PAS 2000 stepper โดยทีมงานสามารถแก้ปัญหาเสียงรบกวนจากปั๊มน้ำมันไฮดรอลิกผ่านการติดตั้งคอนเทนเนอร์ในบริเวณโรงงาน ซึ่งกลายเป็นตัวจุดประกายการพัฒนาเทคโนโลยีลิโทกราฟีที่ล้ำหน้าต่อมา. ความร่วมมือทางเทคนิคที่ต่อเนื่อง: - ความร่วมมือกับบริษัท Carl Zeiss ในด้านการผลิตเลนส์เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1986 และยังคงดำเนินต่อจนถึงปัจจุบัน สร้างมาตรฐานความแม่นยำในเครื่องจักรของ ASML. เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า: - ในปี 2010 ASML ได้เปิดตัวเครื่อง Twinscan NXE:3100 ที่ใช้เทคโนโลยี EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) ซึ่งกลายเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในยุคปัจจุบัน. ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม: - ปัจจุบัน ASML เป็นผู้นำในตลาดเครื่องจักรผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งบริษัทใหญ่อย่าง TSMC, Intel, และ Samsung ต่างพึ่งพาเทคโนโลยีของ ASML เพื่อพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำสมัย. https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/asml-recalls-its-humble-origins-in-a-leaky-shed-in-eindhoven-circa-1984-it-now-makes-the-most-cutting-edge-chipmaking-tools-on-the-planet
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • Demonstrate Your Way With Words With Synonyms For “Vocabulary”

    It will probably not surprise you to learn that we are sort of obsessed with vocabulary. We love all words from A to Z, even ones that start with weird symbols like Ægypt. When it comes to talking about the collection of all the unusual words we have learned, it’s not enough to just call it vocabulary. This got us thinking about synonyms for vocabulary and all the wonderful terms we can use to talk about all the words we know.

    The word vocabulary comes from the Latin vocābulārius, meaning “of words.” A related word in English that you might recognize is vocal, from Latin vōcālis. At the root of both terms is vox, meaning “voice.” Essentially, a vocabulary is a collection of the terms you use to call things. Read on to find out new terms you can use to describe your vocabulary.

    dictionary
    The dictionary is one of the best places to find vocabulary words, so much so that the word dictionary itself is a near-synonym for vocabulary. The word dictionary means “a lexical resource containing a selection of the words of a language.” Dictionaries have been around since ancient times—the earliest known dictionaries date to around 2300 BCE.

    vocable
    We noted the Latin root of vocabulary already. Another word that shares that same root is vocable, “a word; term; name.” However, vocable is also used more generally to refer to utterances not typically considered words, such as abracadabra, a nonsense expression used in magic tricks.

    expression
    The word expression is a more everyday synonym for vocabulary. While expression is often used to mean “the act of expressing or setting forth in words,” it can also specifically refer to “a particular word, phrase, or form of words.” The word expression has something of a culinary origin; it comes from the Latin expressiō meaning “a pressing out.”

    terminology
    A slightly more sophisticated but still quotidian synonym for vocabulary is terminology, “the system of terms belonging or peculiar to a science, art, or specialized subject; nomenclature.” The combining form -logy is used to name sciences or bodies of knowledge. This means that the word terminology has another, if less common, meaning: “the science of terms, as in particular sciences or arts.”

    phraseology
    Another synonym for vocabulary that ends in -logy is phraseology, “manner or style of verbal expression; characteristic language,” or simply “expressions; phrases.” The word phraseology was coined by a German philologist (a term that refers to a person who specializes in linguistics or literary texts) who made a slight mistake. The correct transcription of the word from Greek would be phrasiology, but the erroneous phraseology stuck.

    locution
    A synonym for phraseology that’s less of a mouthful is locution, “a particular form of expression; a word, phrase, expression, or idiom, especially as used by a particular person, group, etc.” Locution is often specifically used to refer to oral rather than written language (meaning, words spoken aloud rather than written down). An archaic term related to locution is locutorium or locutory, meaning “parlor,” in the sense of “a room in a monastery where the inhabitants may converse with visitors or with each other.”

    lexicon
    Another sophisticated synonym for vocabulary is lexicon, “the vocabulary of a particular language, field, social class, person, etc.” A lexicon is essentially any collection of words. Each of us has our own mental lexicon, which is the collection of words that is stored, understood, and used by an individual. These mental lexicons are made up of lexemes and lemmas that help us name and describe the world.

    lexeme
    A lexeme is “a lexical unit in a language, as a word or base; vocabulary item.” A lexeme can be made up of one word or multiple words. For example, “run” and “speak up” are both lexemes. Lexeme ultimately comes from the Greek lexikós, meaning “of or pertaining to words.”

    wording
    As you may have guessed, there are a number of synonyms for vocabulary that include “word.” One of these is wording, “the act or manner of expressing in words; phrasing.” The term wording is used to particularly signal that the words were chosen deliberately and with care to transmit a message clearly.

    wordstock
    A more obscure synonym that wording is wordstock, “all the words that make up a language or dialect, or the set of words that are known or used by a particular person or group; vocabulary.” Stock literally means “inventory,” but it comes from Old English stoc(c), meaning “stump, stake, post, log.”

    word-hoard
    One of the more delightful terms to refer to mental lexicon is word-hoard, “a person’s vocabulary.” The origin of hoard gives us a clue about how important words are. Hoard comes from the Old Saxon hord meaning “treasure; hiddenmost place.”

    cant
    A synonym for vocabulary that looks suspiciously like the contraction for “cannot” is cant [ kant ], a word that means “the phraseology peculiar to a particular class, party, profession, etc.” This word has more negative connotations than the other synonyms we have looked at. It can also be used as a noun to mean “whining or singsong speech, especially of beggars” or as a verb to mean “to talk hypocritically.”

    Know what does sound nice? These synonyms and alternatives for the word nice.

    parlance
    A sophisticated term for vocabulary with a frisson of French is parlance, “a way or manner of speaking; vernacular; idiom.” The word comes from the French parler meaning “to speak.” As you might guess, parlance is most often used to refer to speech or dialect rather than written language.

    jargon
    A kind of vocabulary one is often cautioned to avoid when writing for general audiences is jargon, “the language, especially the vocabulary, peculiar to a particular trade, profession, or group.” The word comes from the Old French jargon, meaning “warbling of birds, prattle, chatter, talk.”

    lingo
    A near-synonym for jargon is lingo, “the language and speech, especially the jargon, slang, or argot, of a particular field, group, or individual.” The word lingo is said to be an altered form of lingua, meaning “language,” a reference to the phrase lingua franca, “any language that is widely used as a means of communication among speakers of other languages.” The expression lingua franca literally translates to “Frankish language,” with Frankish as a term referring to Europeans and dating back to the Crusades.

    turn of phrase
    The expression turn of phrase refers to “a particular arrangement of words.” It’s a good idiom for drawing attention to unusual or exceptional word choice. Turn of phrase alludes to the turning or shaping of objects (as on a lathe), a usage dating from the late 1600s.

    ©2025 AAKKHRA All Rights Reserved.
    Demonstrate Your Way With Words With Synonyms For “Vocabulary” It will probably not surprise you to learn that we are sort of obsessed with vocabulary. We love all words from A to Z, even ones that start with weird symbols like Ægypt. When it comes to talking about the collection of all the unusual words we have learned, it’s not enough to just call it vocabulary. This got us thinking about synonyms for vocabulary and all the wonderful terms we can use to talk about all the words we know. The word vocabulary comes from the Latin vocābulārius, meaning “of words.” A related word in English that you might recognize is vocal, from Latin vōcālis. At the root of both terms is vox, meaning “voice.” Essentially, a vocabulary is a collection of the terms you use to call things. Read on to find out new terms you can use to describe your vocabulary. dictionary The dictionary is one of the best places to find vocabulary words, so much so that the word dictionary itself is a near-synonym for vocabulary. The word dictionary means “a lexical resource containing a selection of the words of a language.” Dictionaries have been around since ancient times—the earliest known dictionaries date to around 2300 BCE. vocable We noted the Latin root of vocabulary already. Another word that shares that same root is vocable, “a word; term; name.” However, vocable is also used more generally to refer to utterances not typically considered words, such as abracadabra, a nonsense expression used in magic tricks. expression The word expression is a more everyday synonym for vocabulary. While expression is often used to mean “the act of expressing or setting forth in words,” it can also specifically refer to “a particular word, phrase, or form of words.” The word expression has something of a culinary origin; it comes from the Latin expressiō meaning “a pressing out.” terminology A slightly more sophisticated but still quotidian synonym for vocabulary is terminology, “the system of terms belonging or peculiar to a science, art, or specialized subject; nomenclature.” The combining form -logy is used to name sciences or bodies of knowledge. This means that the word terminology has another, if less common, meaning: “the science of terms, as in particular sciences or arts.” phraseology Another synonym for vocabulary that ends in -logy is phraseology, “manner or style of verbal expression; characteristic language,” or simply “expressions; phrases.” The word phraseology was coined by a German philologist (a term that refers to a person who specializes in linguistics or literary texts) who made a slight mistake. The correct transcription of the word from Greek would be phrasiology, but the erroneous phraseology stuck. locution A synonym for phraseology that’s less of a mouthful is locution, “a particular form of expression; a word, phrase, expression, or idiom, especially as used by a particular person, group, etc.” Locution is often specifically used to refer to oral rather than written language (meaning, words spoken aloud rather than written down). An archaic term related to locution is locutorium or locutory, meaning “parlor,” in the sense of “a room in a monastery where the inhabitants may converse with visitors or with each other.” lexicon Another sophisticated synonym for vocabulary is lexicon, “the vocabulary of a particular language, field, social class, person, etc.” A lexicon is essentially any collection of words. Each of us has our own mental lexicon, which is the collection of words that is stored, understood, and used by an individual. These mental lexicons are made up of lexemes and lemmas that help us name and describe the world. lexeme A lexeme is “a lexical unit in a language, as a word or base; vocabulary item.” A lexeme can be made up of one word or multiple words. For example, “run” and “speak up” are both lexemes. Lexeme ultimately comes from the Greek lexikós, meaning “of or pertaining to words.” wording As you may have guessed, there are a number of synonyms for vocabulary that include “word.” One of these is wording, “the act or manner of expressing in words; phrasing.” The term wording is used to particularly signal that the words were chosen deliberately and with care to transmit a message clearly. wordstock A more obscure synonym that wording is wordstock, “all the words that make up a language or dialect, or the set of words that are known or used by a particular person or group; vocabulary.” Stock literally means “inventory,” but it comes from Old English stoc(c), meaning “stump, stake, post, log.” word-hoard One of the more delightful terms to refer to mental lexicon is word-hoard, “a person’s vocabulary.” The origin of hoard gives us a clue about how important words are. Hoard comes from the Old Saxon hord meaning “treasure; hiddenmost place.” cant A synonym for vocabulary that looks suspiciously like the contraction for “cannot” is cant [ kant ], a word that means “the phraseology peculiar to a particular class, party, profession, etc.” This word has more negative connotations than the other synonyms we have looked at. It can also be used as a noun to mean “whining or singsong speech, especially of beggars” or as a verb to mean “to talk hypocritically.” Know what does sound nice? These synonyms and alternatives for the word nice. parlance A sophisticated term for vocabulary with a frisson of French is parlance, “a way or manner of speaking; vernacular; idiom.” The word comes from the French parler meaning “to speak.” As you might guess, parlance is most often used to refer to speech or dialect rather than written language. jargon A kind of vocabulary one is often cautioned to avoid when writing for general audiences is jargon, “the language, especially the vocabulary, peculiar to a particular trade, profession, or group.” The word comes from the Old French jargon, meaning “warbling of birds, prattle, chatter, talk.” lingo A near-synonym for jargon is lingo, “the language and speech, especially the jargon, slang, or argot, of a particular field, group, or individual.” The word lingo is said to be an altered form of lingua, meaning “language,” a reference to the phrase lingua franca, “any language that is widely used as a means of communication among speakers of other languages.” The expression lingua franca literally translates to “Frankish language,” with Frankish as a term referring to Europeans and dating back to the Crusades. turn of phrase The expression turn of phrase refers to “a particular arrangement of words.” It’s a good idiom for drawing attention to unusual or exceptional word choice. Turn of phrase alludes to the turning or shaping of objects (as on a lathe), a usage dating from the late 1600s. ©2025 AAKKHRA All Rights Reserved.
    0 Comments 0 Shares 320 Views 0 Reviews
  • Nvidia ได้เปิดตัวเทคโนโลยีเครือข่ายใหม่ที่ใช้ silicon photonics เพื่อเชื่อมต่อ GPU หลายล้านตัวในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ ความเร็วสูงถึง 1.6 Tb/s ต่อพอร์ต และมีประสิทธิภาพสูงกว่าโซลูชันเดิมหลายเท่า ความสำเร็จนี้ไม่ได้มาจาก Nvidia เพียงลำพัง แต่เป็นผลจากความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรม เทคโนโลยีนี้อาจเปลี่ยนโฉมระบบประมวลผล AI ในอนาคต

    จุดเด่นของเทคโนโลยีใหม่:
    - Spectrum-X มีพอร์ตหลากหลาย เช่น 128 พอร์ตที่ความเร็ว 800 Gb/s หรือสูงสุด 512 พอร์ตที่ 200 Gb/s.
    - Quantum-X เพิ่มประสิทธิภาพเป็นสองเท่า และสามารถเพิ่มขีดความสามารถ AI ได้ถึง 5 เท่า พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำที่ช่วยเพิ่มความเสถียรของชิป.

    ข้อได้เปรียบที่สำคัญ:
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยลดการสูญเสียพลังงานได้ถึง 3.5 เท่า เพิ่มความเสถียรของเครือข่าย 10 เท่า และสัญญาณมีคุณภาพสูงขึ้นถึง 63 เท่าเมื่อเทียบกับโซลูชันแบบเดิม.
    - รองรับการใช้งานที่ประหยัดพลังงานและสามารถเร่งกระบวนการตั้งค่าระบบได้เร็วขึ้น 1.3 เท่า.

    ความร่วมมือกับพันธมิตร:
    - Nvidia ใช้แพลตฟอร์ม Compact Universal Photonic Engine (COUPE) ของ TSMC ซึ่งผสานวงจรรวมทั้งแบบอิเล็กทรอนิกส์และโฟโตนิกส์ไว้ด้วยกัน.
    - ความร่วมมือนี้ยังรวมถึงบริษัทชั้นนำ เช่น Coherent, Corning, และ Foxconn เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคง.

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม:
    - การใช้ silicon photonics ในระดับใหญ่ยังซับซ้อนและต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายใหม่ แต่เทคโนโลยีนี้เป็นก้าวสำคัญในอนาคตของเครือข่าย AI.

    https://www.tomshardware.com/networking/nvidias-silicon-photonics-based-1-6-tb-s-switch-platforms-enable-clusters-with-millions-of-gpus
    Nvidia ได้เปิดตัวเทคโนโลยีเครือข่ายใหม่ที่ใช้ silicon photonics เพื่อเชื่อมต่อ GPU หลายล้านตัวในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ ความเร็วสูงถึง 1.6 Tb/s ต่อพอร์ต และมีประสิทธิภาพสูงกว่าโซลูชันเดิมหลายเท่า ความสำเร็จนี้ไม่ได้มาจาก Nvidia เพียงลำพัง แต่เป็นผลจากความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรม เทคโนโลยีนี้อาจเปลี่ยนโฉมระบบประมวลผล AI ในอนาคต จุดเด่นของเทคโนโลยีใหม่: - Spectrum-X มีพอร์ตหลากหลาย เช่น 128 พอร์ตที่ความเร็ว 800 Gb/s หรือสูงสุด 512 พอร์ตที่ 200 Gb/s. - Quantum-X เพิ่มประสิทธิภาพเป็นสองเท่า และสามารถเพิ่มขีดความสามารถ AI ได้ถึง 5 เท่า พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำที่ช่วยเพิ่มความเสถียรของชิป. ข้อได้เปรียบที่สำคัญ: - เทคโนโลยีนี้ช่วยลดการสูญเสียพลังงานได้ถึง 3.5 เท่า เพิ่มความเสถียรของเครือข่าย 10 เท่า และสัญญาณมีคุณภาพสูงขึ้นถึง 63 เท่าเมื่อเทียบกับโซลูชันแบบเดิม. - รองรับการใช้งานที่ประหยัดพลังงานและสามารถเร่งกระบวนการตั้งค่าระบบได้เร็วขึ้น 1.3 เท่า. ความร่วมมือกับพันธมิตร: - Nvidia ใช้แพลตฟอร์ม Compact Universal Photonic Engine (COUPE) ของ TSMC ซึ่งผสานวงจรรวมทั้งแบบอิเล็กทรอนิกส์และโฟโตนิกส์ไว้ด้วยกัน. - ความร่วมมือนี้ยังรวมถึงบริษัทชั้นนำ เช่น Coherent, Corning, และ Foxconn เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคง. ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม: - การใช้ silicon photonics ในระดับใหญ่ยังซับซ้อนและต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายใหม่ แต่เทคโนโลยีนี้เป็นก้าวสำคัญในอนาคตของเครือข่าย AI. https://www.tomshardware.com/networking/nvidias-silicon-photonics-based-1-6-tb-s-switch-platforms-enable-clusters-with-millions-of-gpus
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Nvidia’s new silicon photonics-based 400 Tb/s switch platforms enable clusters with millions of GPUs
    Spectrum-X Photonics Ethernet and Quantum-X Photonics InfiniBand platforms are here.
    0 Comments 0 Shares 182 Views 0 Reviews
  • เวียดนามกำลังวางเดิมพันใหญ่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ด้วยการสร้างโรงงานผลิตแผ่นเวเฟอร์แห่งแรกของประเทศภายในปี 2030 พร้อมเป้าหมายระยะยาวที่จะกลายเป็นผู้เล่นหลักของโลกในปี 2050 รัฐบาลยังเตรียมสนับสนุนเต็มที่ ทั้งในด้านการเงินและสิทธิพิเศษทางภาษี แต่ความท้าทายใหญ่อยู่ที่งบประมาณซึ่งยังน้อยมากเมื่อเทียบกับโครงการในประเทศชั้นนำอื่น อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่นของเวียดนามและการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติอาจทำให้ประเทศนี้ก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางสำคัญในอุตสาหกรรมนี้ได้

    เป้าหมายระยะยาว:
    - ระยะที่หนึ่งภายในปี 2030 จะมุ่งสร้างโรงงานผลิตหนึ่งแห่ง บริษัทออกแบบชิป 100 แห่ง และศูนย์บรรจุภัณฑ์/ทดสอบ 10 แห่ง.
    - ระยะที่สอง (2030-2040) ขยายไปสู่โรงงานสองแห่ง และบริษัทออกแบบชิปเพิ่มเป็น 200 แห่ง รวมทั้งศูนย์บรรจุภัณฑ์ 15 แห่ง.
    - ระยะที่สาม (2040-2050) ตั้งเป้าเพิ่มโรงงานเป็นสามแห่ง บริษัทออกแบบ 300 แห่ง และสร้างรายได้มากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี.

    การสนับสนุนจากรัฐบาล:
    - รัฐบาลเวียดนามจะครอบคลุมต้นทุนสูงถึง 30% ของโครงการ พร้อมเสนอสิทธิพิเศษทางภาษี และจัดตั้งคณะกรรมการที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำ

    พันธมิตรและการลงทุนจากต่างประเทศ:
    - มีความพยายามดึงดูดการลงทุนจากบริษัทใหญ่ ๆ เช่น GlobalFoundries และ Powerchip Semiconductor รวมถึงการส่งเสริมการร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นอย่าง Viettel

    ความท้าทายที่ต้องเผชิญ:
    - การสร้างโรงงานผลิตชิปขั้นสูงต้องใช้งบประมาณมากถึง 50 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงกว่างบประมาณในปัจจุบันของโครงการ
    - ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าเวียดนามควรมุ่งเน้นที่การบรรจุภัณฑ์และการทดสอบก่อน เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงก่อนเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูง

    https://www.techspot.com/news/107191-vietnam-wants-compete-taiwan-establishing-first-wafer-fab.html
    เวียดนามกำลังวางเดิมพันใหญ่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ด้วยการสร้างโรงงานผลิตแผ่นเวเฟอร์แห่งแรกของประเทศภายในปี 2030 พร้อมเป้าหมายระยะยาวที่จะกลายเป็นผู้เล่นหลักของโลกในปี 2050 รัฐบาลยังเตรียมสนับสนุนเต็มที่ ทั้งในด้านการเงินและสิทธิพิเศษทางภาษี แต่ความท้าทายใหญ่อยู่ที่งบประมาณซึ่งยังน้อยมากเมื่อเทียบกับโครงการในประเทศชั้นนำอื่น อย่างไรก็ตาม ความมุ่งมั่นของเวียดนามและการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติอาจทำให้ประเทศนี้ก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางสำคัญในอุตสาหกรรมนี้ได้ เป้าหมายระยะยาว: - ระยะที่หนึ่งภายในปี 2030 จะมุ่งสร้างโรงงานผลิตหนึ่งแห่ง บริษัทออกแบบชิป 100 แห่ง และศูนย์บรรจุภัณฑ์/ทดสอบ 10 แห่ง. - ระยะที่สอง (2030-2040) ขยายไปสู่โรงงานสองแห่ง และบริษัทออกแบบชิปเพิ่มเป็น 200 แห่ง รวมทั้งศูนย์บรรจุภัณฑ์ 15 แห่ง. - ระยะที่สาม (2040-2050) ตั้งเป้าเพิ่มโรงงานเป็นสามแห่ง บริษัทออกแบบ 300 แห่ง และสร้างรายได้มากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี. การสนับสนุนจากรัฐบาล: - รัฐบาลเวียดนามจะครอบคลุมต้นทุนสูงถึง 30% ของโครงการ พร้อมเสนอสิทธิพิเศษทางภาษี และจัดตั้งคณะกรรมการที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำ พันธมิตรและการลงทุนจากต่างประเทศ: - มีความพยายามดึงดูดการลงทุนจากบริษัทใหญ่ ๆ เช่น GlobalFoundries และ Powerchip Semiconductor รวมถึงการส่งเสริมการร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นอย่าง Viettel ความท้าทายที่ต้องเผชิญ: - การสร้างโรงงานผลิตชิปขั้นสูงต้องใช้งบประมาณมากถึง 50 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงกว่างบประมาณในปัจจุบันของโครงการ - ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าเวียดนามควรมุ่งเน้นที่การบรรจุภัณฑ์และการทดสอบก่อน เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงก่อนเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูง https://www.techspot.com/news/107191-vietnam-wants-compete-taiwan-establishing-first-wafer-fab.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Vietnam wants to compete with Taiwan by establishing its first wafer fab
    TrendForce reports that the facility will focus on producing specialized chips for high-tech applications like AI, defense tech, and more. It has some serious financial backing as...
    0 Comments 0 Shares 180 Views 0 Reviews
  • หลังจากที่ Chips Act 2023 ประสบความสำเร็จในการสนับสนุนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในยุโรป บริษัทในอุตสาหกรรมนี้ก็เสนอให้ยุโรปจัดทำ Chips Act 2.0 ที่มุ่งเน้นไปที่การออกแบบ วัสดุ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสริมศักยภาพในตลาดโลก. โครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้ยุโรปเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมใหม่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อีกด้วย

    ความต้องการในตลาดเซมิคอนดักเตอร์:
    - ขณะที่ Chips Act 2023 มุ่งสนับสนุนการผลิตในยุโรป EU Chips Act 2.0 จะขยายเป้าหมายไปยังส่วนอื่น ๆ ของห่วงโซ่อุปทาน เช่น การออกแบบและวัสดุ เพื่อสร้างความเข้มแข็งในอุตสาหกรรม.
    - การจัดประชุมในบรัสเซลส์ครั้งนี้ดึงดูดทั้งผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์และผู้ให้บริการในซัพพลายเชน เช่น ESIA และ SEMI Europe ที่ส่งข้อเสนอให้ Henna Virkkunen หัวหน้าฝ่ายดิจิทัลของยุโรป.

    ความสำคัญของโครงการนี้ต่อยุโรป:
    - Chips Act 2.0 จะช่วยให้ยุโรปลดการพึ่งพาจากต่างประเทศในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระดับโลก.
    - การพัฒนานี้มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ตลาดเซมิคอนดักเตอร์กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว.

    ผลกระทบที่คาดการณ์ได้:
    - หากโครงการนี้ได้รับการอนุมัติ จะช่วยเพิ่มนวัตกรรมและสร้างงานใหม่จำนวนมากในยุโรป.
    - ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการเน้นการออกแบบและวัสดุจะช่วยผลักดันยุโรปให้มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลกของเซมิคอนดักเตอร์.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/19/semiconductor-firms-call-for-eu-chips-act-20
    หลังจากที่ Chips Act 2023 ประสบความสำเร็จในการสนับสนุนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในยุโรป บริษัทในอุตสาหกรรมนี้ก็เสนอให้ยุโรปจัดทำ Chips Act 2.0 ที่มุ่งเน้นไปที่การออกแบบ วัสดุ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสริมศักยภาพในตลาดโลก. โครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้ยุโรปเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมใหม่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อีกด้วย ความต้องการในตลาดเซมิคอนดักเตอร์: - ขณะที่ Chips Act 2023 มุ่งสนับสนุนการผลิตในยุโรป EU Chips Act 2.0 จะขยายเป้าหมายไปยังส่วนอื่น ๆ ของห่วงโซ่อุปทาน เช่น การออกแบบและวัสดุ เพื่อสร้างความเข้มแข็งในอุตสาหกรรม. - การจัดประชุมในบรัสเซลส์ครั้งนี้ดึงดูดทั้งผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์และผู้ให้บริการในซัพพลายเชน เช่น ESIA และ SEMI Europe ที่ส่งข้อเสนอให้ Henna Virkkunen หัวหน้าฝ่ายดิจิทัลของยุโรป. ความสำคัญของโครงการนี้ต่อยุโรป: - Chips Act 2.0 จะช่วยให้ยุโรปลดการพึ่งพาจากต่างประเทศในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระดับโลก. - การพัฒนานี้มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ตลาดเซมิคอนดักเตอร์กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว. ผลกระทบที่คาดการณ์ได้: - หากโครงการนี้ได้รับการอนุมัติ จะช่วยเพิ่มนวัตกรรมและสร้างงานใหม่จำนวนมากในยุโรป. - ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการเน้นการออกแบบและวัสดุจะช่วยผลักดันยุโรปให้มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลกของเซมิคอนดักเตอร์. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/19/semiconductor-firms-call-for-eu-chips-act-20
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Semiconductor firms call for EU Chips Act 2.0
    AMSTERDAM (Reuters) - Computer chip makers and semiconductor supply chain firms on Wednesday called on the European Commission to launch a new support program as a follow up to the 2023 Chips Act, this time focusing on chip design, materials and equipment, in addition to manufacturing.
    0 Comments 0 Shares 98 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลจีนตั้งเป้าเพิ่มงบวิจัยและพัฒนาในปี 2025 เป็น 55 พันล้านดอลลาร์ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์, AI, และควอนตัมคอมพิวติ้ง เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันระดับโลก งบนี้ยังครอบคลุมการสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมผ่านโครงการสินเชื่อและสิทธิประโยชน์ทางภาษี ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ แม้ว่าผลลัพธ์อาจใช้เวลาพัฒนาไปอีกหลายปี

    จุดมุ่งหมายและโครงการสำคัญ:
    - งบประมาณส่วนหนึ่งจะถูกใช้ในโครงการ "Science and Technology Innovation 2030" ซึ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น วงจรรวม (Integrated Circuits) และ AI.
    - โครงการดังกล่าวไม่เพียงเน้นผลลัพธ์ในระยะสั้น แต่ยังสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในด้านการค้นคว้าพื้นฐาน (Fundamental Research) เพื่อการแข่งขันในอนาคต.

    การสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs):
    - รัฐบาลมีแผนสนับสนุน SMEs ที่มีศักยภาพด้านนวัตกรรมด้วยโครงการสินเชื่อพิเศษและกลไกการแบ่งปันความเสี่ยงผ่านกองทุนรับประกันการเงินระดับประเทศ.
    - นอกจากนี้ ยังมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเงินอุดหนุนเพื่อกระตุ้นการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่.

    ความสำคัญในบริบทโลก:
    - การลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงจะช่วยให้จีนก้าวทันหรือแม้กระทั่งแซงหน้าสหรัฐฯ ในการแข่งขันด้านเซมิคอนดักเตอร์และ AI

    แม้ว่าการลงทุนนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจีนในสถานการณ์ที่การเติบโตชะลอตัว แต่นักวิเคราะห์มองว่าผลลัพธ์อาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเห็นผลที่ชัดเจน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-to-spend-usd55-billion-on-r-and-d-in-2025-semiconductor-ai-and-quantum-computing-fields-to-benefit
    รัฐบาลจีนตั้งเป้าเพิ่มงบวิจัยและพัฒนาในปี 2025 เป็น 55 พันล้านดอลลาร์ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์, AI, และควอนตัมคอมพิวติ้ง เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันระดับโลก งบนี้ยังครอบคลุมการสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมผ่านโครงการสินเชื่อและสิทธิประโยชน์ทางภาษี ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ แม้ว่าผลลัพธ์อาจใช้เวลาพัฒนาไปอีกหลายปี จุดมุ่งหมายและโครงการสำคัญ: - งบประมาณส่วนหนึ่งจะถูกใช้ในโครงการ "Science and Technology Innovation 2030" ซึ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น วงจรรวม (Integrated Circuits) และ AI. - โครงการดังกล่าวไม่เพียงเน้นผลลัพธ์ในระยะสั้น แต่ยังสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในด้านการค้นคว้าพื้นฐาน (Fundamental Research) เพื่อการแข่งขันในอนาคต. การสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs): - รัฐบาลมีแผนสนับสนุน SMEs ที่มีศักยภาพด้านนวัตกรรมด้วยโครงการสินเชื่อพิเศษและกลไกการแบ่งปันความเสี่ยงผ่านกองทุนรับประกันการเงินระดับประเทศ. - นอกจากนี้ ยังมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเงินอุดหนุนเพื่อกระตุ้นการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่. ความสำคัญในบริบทโลก: - การลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงจะช่วยให้จีนก้าวทันหรือแม้กระทั่งแซงหน้าสหรัฐฯ ในการแข่งขันด้านเซมิคอนดักเตอร์และ AI แม้ว่าการลงทุนนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจีนในสถานการณ์ที่การเติบโตชะลอตัว แต่นักวิเคราะห์มองว่าผลลัพธ์อาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเห็นผลที่ชัดเจน https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-to-spend-usd55-billion-on-r-and-d-in-2025-semiconductor-ai-and-quantum-computing-fields-to-benefit
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    China to spend $55 billion on R&D in 2025 — Semiconductor, AI and quantum computing fields to benefit
    China set to inject $55 billion in research and development of fundamental technologies and innovating enterprises.
    0 Comments 0 Shares 293 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้ออกมาขอโทษและคืนสถานะให้กับปลั๊กอินยอดนิยมสองตัวใน Visual Studio Code Marketplace ได้แก่ "Material Theme – Free" และ "Material Theme Icons – Free" หลังจากที่ก่อนหน้านี้ถูกถอดออกเพราะสงสัยว่ามีโค้ดอันตราย

    เมื่อต้นปีนี้ นักวิจัยของ Microsoft ตรวจพบโค้ดที่ถูกเข้ารหัส (Obfuscated Code) ในปลั๊กอินทั้งสองตัว ซึ่งถูกมองว่าอาจมีเจตนาร้าย โดยโค้ดนี้อยู่ในไฟล์ "release-notes.js" ซึ่งมีการเรียกใช้ความสามารถในการรันโค้ดจากที่อื่น ทั้งนี้ ปลั๊กอินเหล่านี้ถูกใช้งานมากกว่า 9 ล้านครั้งทั่วโลก

    เมื่อปลั๊กอินถูกถอดออก ผู้พัฒนาปลั๊กอินชื่อ Mattia Astorino หรือ "equinusocio" ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้ โดยกล่าวว่าปัญหาเกิดจากการใช้งาน Library เก่าที่ชื่อ "sanity.io" ซึ่งไม่ได้ถูกอัปเดตมานานหลายปี แม้โค้ดจะดูเหมือนน่าสงสัย แต่ไม่ได้มีเจตนาร้ายเลย และสามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ หาก Microsoft แจ้งก่อน

    Microsoft ยอมรับผิดพลาด ภายหลังจากการสอบสวนเพิ่มเติม Microsoft ได้ค้นพบว่าการประเมินในครั้งแรกเป็นการสรุปผลที่ผิดพลาด โดยไม่มีเจตนาร้ายจากผู้พัฒนา ทำให้พวกเขาตัดสินใจคืนสถานะให้ปลั๊กอินอีกครั้ง พร้อมขอโทษผู้พัฒนาอย่างเป็นทางการ

    สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติม
    - การพัฒนาเครื่องมือ AI ในการตรวจสอบโค้ด: เหตุการณ์นี้แสดงถึงความสำคัญของ AI ที่ใช้สำหรับตรวจจับความเสี่ยง แต่ก็ชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาดหากไม่มีการตรวจสอบเพิ่มเติมจากมนุษย์
    - การเปลี่ยนแปลงนโยบายในอนาคต: Microsoft มีแผนปรับปรุงนโยบายเกี่ยวกับโค้ดที่ถูกเข้ารหัสและเพิ่มความแม่นยำให้กับเครื่องมือสแกน เพื่อหลีกเลี่ยงการตัดสินใจผิดพลาดในอนาคต

    https://www.bleepingcomputer.com/news/microsoft/microsoft-apologizes-for-removing-vscode-extensions-used-by-millions/
    Microsoft ได้ออกมาขอโทษและคืนสถานะให้กับปลั๊กอินยอดนิยมสองตัวใน Visual Studio Code Marketplace ได้แก่ "Material Theme – Free" และ "Material Theme Icons – Free" หลังจากที่ก่อนหน้านี้ถูกถอดออกเพราะสงสัยว่ามีโค้ดอันตราย เมื่อต้นปีนี้ นักวิจัยของ Microsoft ตรวจพบโค้ดที่ถูกเข้ารหัส (Obfuscated Code) ในปลั๊กอินทั้งสองตัว ซึ่งถูกมองว่าอาจมีเจตนาร้าย โดยโค้ดนี้อยู่ในไฟล์ "release-notes.js" ซึ่งมีการเรียกใช้ความสามารถในการรันโค้ดจากที่อื่น ทั้งนี้ ปลั๊กอินเหล่านี้ถูกใช้งานมากกว่า 9 ล้านครั้งทั่วโลก เมื่อปลั๊กอินถูกถอดออก ผู้พัฒนาปลั๊กอินชื่อ Mattia Astorino หรือ "equinusocio" ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้ โดยกล่าวว่าปัญหาเกิดจากการใช้งาน Library เก่าที่ชื่อ "sanity.io" ซึ่งไม่ได้ถูกอัปเดตมานานหลายปี แม้โค้ดจะดูเหมือนน่าสงสัย แต่ไม่ได้มีเจตนาร้ายเลย และสามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ หาก Microsoft แจ้งก่อน Microsoft ยอมรับผิดพลาด ภายหลังจากการสอบสวนเพิ่มเติม Microsoft ได้ค้นพบว่าการประเมินในครั้งแรกเป็นการสรุปผลที่ผิดพลาด โดยไม่มีเจตนาร้ายจากผู้พัฒนา ทำให้พวกเขาตัดสินใจคืนสถานะให้ปลั๊กอินอีกครั้ง พร้อมขอโทษผู้พัฒนาอย่างเป็นทางการ สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติม - การพัฒนาเครื่องมือ AI ในการตรวจสอบโค้ด: เหตุการณ์นี้แสดงถึงความสำคัญของ AI ที่ใช้สำหรับตรวจจับความเสี่ยง แต่ก็ชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาดหากไม่มีการตรวจสอบเพิ่มเติมจากมนุษย์ - การเปลี่ยนแปลงนโยบายในอนาคต: Microsoft มีแผนปรับปรุงนโยบายเกี่ยวกับโค้ดที่ถูกเข้ารหัสและเพิ่มความแม่นยำให้กับเครื่องมือสแกน เพื่อหลีกเลี่ยงการตัดสินใจผิดพลาดในอนาคต https://www.bleepingcomputer.com/news/microsoft/microsoft-apologizes-for-removing-vscode-extensions-used-by-millions/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Microsoft apologizes for removing VSCode extensions used by millions
    Microsoft has reinstated the 'Material Theme - Free' and 'Material Theme Icons - Free' extensions on the Visual Studio Marketplace after finding that the obfuscated code they contained wasn't actually malicious.
    0 Comments 0 Shares 201 Views 0 Reviews
  • DeepSeek เป็นแชทบอท AI ที่ก่อตั้งโดยมหาเศรษฐีผู้มุ่งหวังสร้างนวัตกรรมมากกว่าการหากำไรเชิงพาณิชย์ โดยบริษัทนี้เพิ่งเริ่มมีรายได้เพียงพอครอบคลุมค่าใช้จ่ายเมื่อเดือนที่ผ่านมา การตัดสินใจนี้เป็นการแตกต่างจากบริษัทเทคโนโลยีใน Silicon Valley ที่มักเน้นความรวดเร็วในการสร้างยอดขายและผลกำไร

    จุดที่น่าสนใจคือ ทัศนคติของ DeepSeek ที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาองค์ความรู้และคุณภาพของ AI ในระยะยาว โดยเห็นว่าความยั่งยืนและการวิจัยที่เข้มแข็งเป็นหัวใจสำคัญในการแข่งขันในอนาคต

    นอกจากนี้ เรื่องราวของ DeepSeek ยังสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมในโลกเทคโนโลยี ขณะที่บริษัทใน Silicon Valley มุ่งเน้นการตอบสนองต่อตลาดและนักลงทุน บริษัทจีนอย่าง DeepSeek กลับเลือกที่จะเน้นเป้าหมายทางวิทยาศาสตร์และการสร้างผลกระทบที่มีความหมายมากกว่า

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/14/deepseek-to-focus-on-research-over-revenue-in-contrast-to-silicon-valley-ft-reports
    DeepSeek เป็นแชทบอท AI ที่ก่อตั้งโดยมหาเศรษฐีผู้มุ่งหวังสร้างนวัตกรรมมากกว่าการหากำไรเชิงพาณิชย์ โดยบริษัทนี้เพิ่งเริ่มมีรายได้เพียงพอครอบคลุมค่าใช้จ่ายเมื่อเดือนที่ผ่านมา การตัดสินใจนี้เป็นการแตกต่างจากบริษัทเทคโนโลยีใน Silicon Valley ที่มักเน้นความรวดเร็วในการสร้างยอดขายและผลกำไร จุดที่น่าสนใจคือ ทัศนคติของ DeepSeek ที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาองค์ความรู้และคุณภาพของ AI ในระยะยาว โดยเห็นว่าความยั่งยืนและการวิจัยที่เข้มแข็งเป็นหัวใจสำคัญในการแข่งขันในอนาคต นอกจากนี้ เรื่องราวของ DeepSeek ยังสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมในโลกเทคโนโลยี ขณะที่บริษัทใน Silicon Valley มุ่งเน้นการตอบสนองต่อตลาดและนักลงทุน บริษัทจีนอย่าง DeepSeek กลับเลือกที่จะเน้นเป้าหมายทางวิทยาศาสตร์และการสร้างผลกระทบที่มีความหมายมากกว่า https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/14/deepseek-to-focus-on-research-over-revenue-in-contrast-to-silicon-valley-ft-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    DeepSeek to focus on research over revenue in contrast to Silicon Valley, FT reports
    (Reuters) - Chinese AI chatbot DeepSeek is choosing to focus on research over revenue, as its billionaire founder has decided not to follow Silicon Valley rivals by taking advantage of a sudden jump in sales, the Financial Times reported on Thursday.
    0 Comments 0 Shares 190 Views 0 Reviews
  • 20 ปี สิ้น “สาวสองพันปี” เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ ✨ เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น 🟣 ผู้นำเทรนด์ม่วงหัวจรดเท้า สาวเปรี้ยวแห่งยุค

    ย้อนตำนานเจ้าแม่ตัดริบบิ้น เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ หญิงสาวผู้เปลี่ยนทุกเวที ให้กลายเป็นรันเวย์แฟชั่นสีม่วง ตลอด 69 ปีเต็มของชีวิต ตัวแทนความเปรี้ยว และกล้าฉีกกฎยุคสมัยอย่างแท้จริง

    เสน่ห์ที่ไม่มีวันลบเลือน วงสังคมไฮโซไทย 🌟 ถ้าจะกล่าวถึงผู้หญิง ที่ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองจางหาย จากความสนใจของผู้คน ชื่อของ “เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่” หรือที่เรียกขานกันว่า "เจ้าป้า" ต้องโผล่มาในใจคนรุ่นเก่าและใหม่เสมอ 🟣 เจ้าป้าคือ "สาวสองพันปี" ตำนานแฟชั่นม่วง ที่กลายเป็นไอคอนของความเปรี้ยว ความมั่นใจ และความโดดเด่นเหนือใคร ✨

    ตลอด 69 ปีของชีวิต เจ้ากอแก้วได้สร้างตำนานในหลายบท ทั้งในฐานะลูกหลานเจ้านายฝ่ายเหนือแห่งเชียงใหม่ 🏯 นักเรียนที่มีการศึกษาระดับสากล 📚 ผู้นำแฟชั่นที่ไม่กลัวคำครหา 👜 และ "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ ที่ไม่เคยปล่อยให้เวทีไหนเงียบเหงา ❤️

    👑 เชื้อสายเจ้านายฝ่ายเหนือ อดีตผู้ครองนครเชียงใหม่ เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2478 ในตระกูล "ณ เชียงใหม่" อันทรงเกียรติ เป็นธิดาคนสุดท้องของเจ้ากาวิละวงศ์ กับเจ้าศิริประกาย ณ เชียงใหม่ 🌸 เป็นหลานสาวของเจ้าแก้วนวรัฐ ผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย

    ชื่อที่มีความหมาย และเรื่องราวที่น่าจดจำ เมื่อแรกเกิด ได้รับพระราชทานชื่อ "ประกายกาวิล" จากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐกาลที่ 7 ต่อมาเมื่อหม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา ขอเป็นแม่อุปถัมภ์ ได้ไปที่เชียงใหม่ และไปเฝ้าเจ้าตาขอให้ตั้งชื่อหลานสาวว่า “กอบแก้ว” แต่ตัว บ.ใบไม้หายไป จึงกลายเป็น “กอแก้ว” 🎉

    ✈️ เจ้ากอแก้วได้รับการศึกษาระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อ ที่ประเทศอังกฤษ 🇬🇧 และฝรั่งเศส 🇫🇷

    - Raven's Croft ในอีสต์บอร์น
    - Southampton Technical College
    - เรียนพิมพ์ดีดและเลขานุการที่ Pitman College กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
    - ฝึกมารยาทและการเข้าสังคมที่ Lucy Clayton
    - เรียนภาษาและมารยาททางสังคมที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส🇫🇷

    ภายหลัง เจ้ากอแก้วสามารถใช้ภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศสได้อย่างคล่องแคล่ว ✍️

    เจ้ากอแก้ว เจ้าแม่แฟชั่นแห่งยุคที่ไม่เคยตกเทรนด์ 💄👠 สีม่วง เอกลักษณ์ที่กลายเป็นตำนาน ไม่ว่าจะผ่านมากี่ทศวรรษ สีม่วงก็ยังเป็นสีประจำตัวของเจ้าป้าคนนี้ 🔮 เจ้าป้าย้อมผมเป็นสีม่วงเข้ม ฟูฟ่องตั้งแต่รากจรดปลาย และเลือกเครื่องแต่งกายทุกชิ้น ตั้งแต่หมวก 🧢 เสื้อผ้า 👗 กระเป๋า 👜 รองเท้า 👠 ไปจนถึงต่างหู 💎 ให้เป็นสีม่วงตั้งแต่หัวจรดเท้า

    เจ้าป้าเคยกล่าวขำๆ ว่า... “ทีแรกเลย ป้าต้องการสีเปลือกมังคุด แต่ไม่รู้ว่าช่างเขาผสมยังไง ผสมไปผสมมามันก็กลายเป็นสีนี้ไปได้ พอออกมาอย่างนี้เราก็เออ สวยดีแฮะ ก็เลยเอาสีนี้ก็สีนี้แหละชอบ” 😄

    ตำนานการตัดริบบิ้นที่ไม่มีใครเทียบ เจ้าป้าได้รับฉายา "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ เพราะการปรากฏตัวที่งานเปิดตัวต่างๆ มักนำมาซึ่งโชคลาภ และความสำเร็จแก่เจ้าของกิจการ 🏢 เคยสร้างสถิติตัดริบบิ้น 8 งานในวันเดียว! เจ้าป้ามีเทคนิคเฉพาะในการ "จรดกรรไกร" ให้นักข่าวถ่ายภาพได้มุมเป๊ะทุกครั้ง 📸

    ความเปรี้ยวที่เหนือกาลเวลา 🕶 เจ้ากอแก้วเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 14 ปี 🚬 ใส่เสื้อเกาะอกตั้งแต่อายุ 20 ปี 👗 และชอบดื่มไวน์ 🍷 พร้อมแต่งหน้าเข้ม ตั้งแต่ยุคที่ผู้หญิงไทยยังนิยมเรียบร้อย เจ้าป้าไม่เคยกลัวคำวิจารณ์ แต่กลับเห็นว่าเป็นสีสันของชีวิต 🖌️

    ถ้อยคำอมตะของสาวสองพันปี "คนมอง ก็อยากมองเอง ช่วยอะไรไม่ได้ เราบังคับเขาไม่ได้ แม้ว่าเขาจะเห็นเราตลก เอาเราไปล้อเลียนก็เถอะ แต่เราถือว่าเขาให้เกียรติเรา" 🌟

    ❤️ เจ้ากอแก้วสมรสครั้งแรกกับ พลตำรวจโท ทิพย์ อัศวรักษ์ มีบุตรชาย 1 คน คือ ทินกร อัศวรักษ์ หรือกุ๊กกี้ ต่อมาหย่าขาดกัน และใช้ชีวิตคู่กับเรืออากาศเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช อีก 6 ปี ก่อนลงเอยกับเอดิลเบอร์โต้ โรเมโร ชาวฟิลิปปินส์ แม้ไม่มีบุตรร่วมกัน แต่ก็มีช่วงเวลาคู่ชีวิตที่มีค่า 💞

    ผลงานและหน้าที่การงานที่น่าประทับใจ 💼
    - บริษัท CTO. Lines
    - เลขานุการและมัคคุเทศก์ บริษัทซีต้า แทรเวล
    - ประชาสัมพันธ์โรงแรมชวลิต หรือแอมบาสซาเดอร์ในปัจจุบัน
    - ประชาสัมพันธ์ ศูนย์บริหารร่างกายโจแอนดรูว์
    - ที่ปรึกษาการตลาด บริษัทเดอะมอลล์กรุ๊ป

    💐 เจ้ากอแก้วประกายกาวิลเสียชีวิต เมื่อช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 เวลา 10.30 น. ด้วยวัย 69 ปี สิ้นสุดตำนาน "สาวสองพันปี" ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานหีบทองทึบ และรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ที่วัดธาตุทอง ✨ พิธีพระราชทานเพลิงศพ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2548

    ตำนานที่ยังคงอยู่ในใจผู้คน 🕊️ 20 ปีผ่านไป ชื่อของเจ้ากอแก้วประกายกาวิล ยังไม่จางหาย เจ้าป้าคือแรงบันดาลใจ ให้คนรุ่นใหม่ที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก และกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง 💜

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 131110 มี.ค. 2568

    #เจ้ากอแก้วประกายกาวิล #สาวสองพันปี #เจ้าแม่ตัดริบบิ้น #แฟชั่นสีม่วง #ไฮโซเชียงใหม่ #ตำนานสังคมไทย #สาวเปรี้ยวแห่งยุค #กอแก้วประกายกาวิล #ChiangMaiLegend #PurpleIcon
    20 ปี สิ้น “สาวสองพันปี” เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ ✨ เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น 🟣 ผู้นำเทรนด์ม่วงหัวจรดเท้า สาวเปรี้ยวแห่งยุค ย้อนตำนานเจ้าแม่ตัดริบบิ้น เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ หญิงสาวผู้เปลี่ยนทุกเวที ให้กลายเป็นรันเวย์แฟชั่นสีม่วง ตลอด 69 ปีเต็มของชีวิต ตัวแทนความเปรี้ยว และกล้าฉีกกฎยุคสมัยอย่างแท้จริง เสน่ห์ที่ไม่มีวันลบเลือน วงสังคมไฮโซไทย 🌟 ถ้าจะกล่าวถึงผู้หญิง ที่ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองจางหาย จากความสนใจของผู้คน ชื่อของ “เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่” หรือที่เรียกขานกันว่า "เจ้าป้า" ต้องโผล่มาในใจคนรุ่นเก่าและใหม่เสมอ 🟣 เจ้าป้าคือ "สาวสองพันปี" ตำนานแฟชั่นม่วง ที่กลายเป็นไอคอนของความเปรี้ยว ความมั่นใจ และความโดดเด่นเหนือใคร ✨ ตลอด 69 ปีของชีวิต เจ้ากอแก้วได้สร้างตำนานในหลายบท ทั้งในฐานะลูกหลานเจ้านายฝ่ายเหนือแห่งเชียงใหม่ 🏯 นักเรียนที่มีการศึกษาระดับสากล 📚 ผู้นำแฟชั่นที่ไม่กลัวคำครหา 👜 และ "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ ที่ไม่เคยปล่อยให้เวทีไหนเงียบเหงา ❤️ 👑 เชื้อสายเจ้านายฝ่ายเหนือ อดีตผู้ครองนครเชียงใหม่ เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2478 ในตระกูล "ณ เชียงใหม่" อันทรงเกียรติ เป็นธิดาคนสุดท้องของเจ้ากาวิละวงศ์ กับเจ้าศิริประกาย ณ เชียงใหม่ 🌸 เป็นหลานสาวของเจ้าแก้วนวรัฐ ผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย ชื่อที่มีความหมาย และเรื่องราวที่น่าจดจำ เมื่อแรกเกิด ได้รับพระราชทานชื่อ "ประกายกาวิล" จากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐกาลที่ 7 ต่อมาเมื่อหม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา ขอเป็นแม่อุปถัมภ์ ได้ไปที่เชียงใหม่ และไปเฝ้าเจ้าตาขอให้ตั้งชื่อหลานสาวว่า “กอบแก้ว” แต่ตัว บ.ใบไม้หายไป จึงกลายเป็น “กอแก้ว” 🎉 ✈️ เจ้ากอแก้วได้รับการศึกษาระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อ ที่ประเทศอังกฤษ 🇬🇧 และฝรั่งเศส 🇫🇷 - Raven's Croft ในอีสต์บอร์น - Southampton Technical College - เรียนพิมพ์ดีดและเลขานุการที่ Pitman College กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ - ฝึกมารยาทและการเข้าสังคมที่ Lucy Clayton - เรียนภาษาและมารยาททางสังคมที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส🇫🇷 ภายหลัง เจ้ากอแก้วสามารถใช้ภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศสได้อย่างคล่องแคล่ว ✍️ เจ้ากอแก้ว เจ้าแม่แฟชั่นแห่งยุคที่ไม่เคยตกเทรนด์ 💄👠 สีม่วง เอกลักษณ์ที่กลายเป็นตำนาน ไม่ว่าจะผ่านมากี่ทศวรรษ สีม่วงก็ยังเป็นสีประจำตัวของเจ้าป้าคนนี้ 🔮 เจ้าป้าย้อมผมเป็นสีม่วงเข้ม ฟูฟ่องตั้งแต่รากจรดปลาย และเลือกเครื่องแต่งกายทุกชิ้น ตั้งแต่หมวก 🧢 เสื้อผ้า 👗 กระเป๋า 👜 รองเท้า 👠 ไปจนถึงต่างหู 💎 ให้เป็นสีม่วงตั้งแต่หัวจรดเท้า เจ้าป้าเคยกล่าวขำๆ ว่า... “ทีแรกเลย ป้าต้องการสีเปลือกมังคุด แต่ไม่รู้ว่าช่างเขาผสมยังไง ผสมไปผสมมามันก็กลายเป็นสีนี้ไปได้ พอออกมาอย่างนี้เราก็เออ สวยดีแฮะ ก็เลยเอาสีนี้ก็สีนี้แหละชอบ” 😄 ตำนานการตัดริบบิ้นที่ไม่มีใครเทียบ เจ้าป้าได้รับฉายา "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ เพราะการปรากฏตัวที่งานเปิดตัวต่างๆ มักนำมาซึ่งโชคลาภ และความสำเร็จแก่เจ้าของกิจการ 🏢 เคยสร้างสถิติตัดริบบิ้น 8 งานในวันเดียว! เจ้าป้ามีเทคนิคเฉพาะในการ "จรดกรรไกร" ให้นักข่าวถ่ายภาพได้มุมเป๊ะทุกครั้ง 📸 ความเปรี้ยวที่เหนือกาลเวลา 🕶 เจ้ากอแก้วเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 14 ปี 🚬 ใส่เสื้อเกาะอกตั้งแต่อายุ 20 ปี 👗 และชอบดื่มไวน์ 🍷 พร้อมแต่งหน้าเข้ม ตั้งแต่ยุคที่ผู้หญิงไทยยังนิยมเรียบร้อย เจ้าป้าไม่เคยกลัวคำวิจารณ์ แต่กลับเห็นว่าเป็นสีสันของชีวิต 🖌️ ถ้อยคำอมตะของสาวสองพันปี "คนมอง ก็อยากมองเอง ช่วยอะไรไม่ได้ เราบังคับเขาไม่ได้ แม้ว่าเขาจะเห็นเราตลก เอาเราไปล้อเลียนก็เถอะ แต่เราถือว่าเขาให้เกียรติเรา" 🌟 ❤️ เจ้ากอแก้วสมรสครั้งแรกกับ พลตำรวจโท ทิพย์ อัศวรักษ์ มีบุตรชาย 1 คน คือ ทินกร อัศวรักษ์ หรือกุ๊กกี้ ต่อมาหย่าขาดกัน และใช้ชีวิตคู่กับเรืออากาศเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช อีก 6 ปี ก่อนลงเอยกับเอดิลเบอร์โต้ โรเมโร ชาวฟิลิปปินส์ แม้ไม่มีบุตรร่วมกัน แต่ก็มีช่วงเวลาคู่ชีวิตที่มีค่า 💞 ผลงานและหน้าที่การงานที่น่าประทับใจ 💼 - บริษัท CTO. Lines - เลขานุการและมัคคุเทศก์ บริษัทซีต้า แทรเวล - ประชาสัมพันธ์โรงแรมชวลิต หรือแอมบาสซาเดอร์ในปัจจุบัน - ประชาสัมพันธ์ ศูนย์บริหารร่างกายโจแอนดรูว์ - ที่ปรึกษาการตลาด บริษัทเดอะมอลล์กรุ๊ป 💐 เจ้ากอแก้วประกายกาวิลเสียชีวิต เมื่อช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 เวลา 10.30 น. ด้วยวัย 69 ปี สิ้นสุดตำนาน "สาวสองพันปี" ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานหีบทองทึบ และรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ที่วัดธาตุทอง ✨ พิธีพระราชทานเพลิงศพ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ตำนานที่ยังคงอยู่ในใจผู้คน 🕊️ 20 ปีผ่านไป ชื่อของเจ้ากอแก้วประกายกาวิล ยังไม่จางหาย เจ้าป้าคือแรงบันดาลใจ ให้คนรุ่นใหม่ที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก และกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง 💜 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 131110 มี.ค. 2568 #เจ้ากอแก้วประกายกาวิล #สาวสองพันปี #เจ้าแม่ตัดริบบิ้น #แฟชั่นสีม่วง #ไฮโซเชียงใหม่ #ตำนานสังคมไทย #สาวเปรี้ยวแห่งยุค #กอแก้วประกายกาวิล #ChiangMaiLegend #PurpleIcon
    0 Comments 0 Shares 675 Views 0 Reviews
  • ทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ที่ได้พัฒนา ทรานซิสเตอร์ GAAFET แบบ 2 มิติที่ไม่ใช้ซิลิคอน เป็นครั้งแรกในโลก โดยใช้วัสดุ บิสมัทออกซีซีลีไนด์ (Bi₂O₂Se) ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่สำคัญมากในยุคโพสต์ซิลิคอนและการพัฒนาเทคโนโลยีระดับแองสตรอม

    ทรานซิสเตอร์ที่พัฒนาขึ้นนี้มีการออกแบบแบบ Gate-All-Around Field-Effect Transistor (GAAFET) ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดที่เหนือกว่าเทคโนโลยี MOSFET และ FINFET โดยโครงสร้างแบบนี้ช่วยให้การควบคุมการสื่อสารระหว่าง source และ gate มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมาก และการเปลี่ยนมาใช้วัสดุ 2 มิติอย่าง Bi₂O₂Se ยังช่วยแก้ปัญหาความสามารถในการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่ลดลงเมื่อเข้าสู่ระดับนาโนเมตร

    ทีมวิจัยระบุว่าทรานซิสเตอร์นี้เป็นการเปลี่ยนแนวทางอย่างสิ้นเชิง (หรือที่เรียกว่าการ "เปลี่ยนเลน") จากการพัฒนาเทคโนโลยีเดิม ๆ ที่ใช้ซิลิคอน โดยพวกเขาได้ทดสอบประสิทธิภาพของเทคโนโลยีนี้ และพบว่าสามารถทำงานได้ดีกว่าผลิตภัณฑ์จาก Intel, TSMC และ Samsung ในเงื่อนไขการทำงานเดียวกัน

    ความก้าวหน้านี้มีความสำคัญมากสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศจีน ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับข้อจำกัดทางเทคโนโลยีจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ เนื่องจากถูกตัดขาดจากเครื่องมือผลิตที่สำคัญ เช่น ระบบ EUV lithography ทีมวิจัยจึงมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้จีนก้าวข้ามอุปสรรคในปัจจุบันไปยังจุดที่เหนือกว่าด้วยทรานซิสเตอร์แบบ 2 มิติที่มีศักยภาพมากขึ้น

    การพัฒนานี้อาจเป็นก้าวแรกของการปฏิวัติในวงการเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะสำหรับชิปที่มีระดับการผลิตต่ำกว่า 1 นาโนเมตร ซึ่งเทคโนโลยีนี้อาจนำมาประยุกต์ใช้ในอุปกรณ์ขั้นสูง เช่น AI และ IoT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนในการใช้พลังงาน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/chinese-university-designed-worlds-first-silicon-free-2d-gaafet-transistor-new-bismuth-based-tech-is-both-the-fastest-and-lowest-power-transistor-yet
    ทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ที่ได้พัฒนา ทรานซิสเตอร์ GAAFET แบบ 2 มิติที่ไม่ใช้ซิลิคอน เป็นครั้งแรกในโลก โดยใช้วัสดุ บิสมัทออกซีซีลีไนด์ (Bi₂O₂Se) ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่สำคัญมากในยุคโพสต์ซิลิคอนและการพัฒนาเทคโนโลยีระดับแองสตรอม ทรานซิสเตอร์ที่พัฒนาขึ้นนี้มีการออกแบบแบบ Gate-All-Around Field-Effect Transistor (GAAFET) ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดที่เหนือกว่าเทคโนโลยี MOSFET และ FINFET โดยโครงสร้างแบบนี้ช่วยให้การควบคุมการสื่อสารระหว่าง source และ gate มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมาก และการเปลี่ยนมาใช้วัสดุ 2 มิติอย่าง Bi₂O₂Se ยังช่วยแก้ปัญหาความสามารถในการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่ลดลงเมื่อเข้าสู่ระดับนาโนเมตร ทีมวิจัยระบุว่าทรานซิสเตอร์นี้เป็นการเปลี่ยนแนวทางอย่างสิ้นเชิง (หรือที่เรียกว่าการ "เปลี่ยนเลน") จากการพัฒนาเทคโนโลยีเดิม ๆ ที่ใช้ซิลิคอน โดยพวกเขาได้ทดสอบประสิทธิภาพของเทคโนโลยีนี้ และพบว่าสามารถทำงานได้ดีกว่าผลิตภัณฑ์จาก Intel, TSMC และ Samsung ในเงื่อนไขการทำงานเดียวกัน ความก้าวหน้านี้มีความสำคัญมากสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศจีน ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับข้อจำกัดทางเทคโนโลยีจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ เนื่องจากถูกตัดขาดจากเครื่องมือผลิตที่สำคัญ เช่น ระบบ EUV lithography ทีมวิจัยจึงมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้จีนก้าวข้ามอุปสรรคในปัจจุบันไปยังจุดที่เหนือกว่าด้วยทรานซิสเตอร์แบบ 2 มิติที่มีศักยภาพมากขึ้น การพัฒนานี้อาจเป็นก้าวแรกของการปฏิวัติในวงการเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะสำหรับชิปที่มีระดับการผลิตต่ำกว่า 1 นาโนเมตร ซึ่งเทคโนโลยีนี้อาจนำมาประยุกต์ใช้ในอุปกรณ์ขั้นสูง เช่น AI และ IoT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนในการใช้พลังงาน https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/chinese-university-designed-worlds-first-silicon-free-2d-gaafet-transistor-new-bismuth-based-tech-is-both-the-fastest-and-lowest-power-transistor-yet
    0 Comments 0 Shares 301 Views 0 Reviews
  • Silicon Motion Technology Corporation ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในด้านคอนโทรลเลอร์แฟลชสำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบโซลิดสเตต (SSD) ได้เผยโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในงาน Embedded World 2025 ที่เมืองนูเรมเบิร์ก เยอรมนี โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์การใช้งานด้าน AI, ระบบฝังตัว (Embedded Systems) และอุตสาหกรรมยานยนต์

    == โซลูชันเด่นที่น่าสนใจ ==
    คอนโทรลเลอร์ SSD สำหรับยานยนต์ SM2264XT-AT:
    - รองรับมาตรฐาน PCIe Gen 4 พร้อมช่องสัญญาณ NAND ถึง 8 ช่อง ความเร็วสูงสุด 1,600 MT/s
    - รองรับมาตรฐานความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ เช่น AEC-Q100, ISO 26262 และ ASPICE Capability Level 3
    - เหมาะสำหรับระบบ AI ในยานยนต์และระบบฝังตัวที่ต้องการความปลอดภัยสูง

    โซลูชัน Ferri สำหรับระบบฝังตัวและ AIoT:
    - รวมถึง FerriSSD, Ferri-eMMC และ Ferri-UFS ออกแบบมาให้ทนทานและเสถียรในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น โรงงานอุตสาหกรรมหรืออุปกรณ์การแพทย์
    - มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น NANDXtend ECC และ IntelligentScan เพื่อเพิ่มความทนทานและการตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อมูลในเวลาจริง

    SM770 Display Interface SoC:
    - รองรับการแสดงผลแบบมัลติ-จอภาพ พร้อมความละเอียดระดับ 4K UHD ได้ถึง 3 จอ
    - มีฟีเจอร์ InstantView ที่ช่วยให้ใช้งานได้โดยไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์ เหมาะสำหรับระบบฝังตัวในสายงานอุตสาหกรรมและแอปพลิเคชันสำหรับผู้บริโภค

    MonTitan SSD รุ่น 128 TB QLC:
    - รองรับ PCIe Gen 5 และสามารถอ่านข้อมูลต่อเนื่องได้เร็วกว่า 14 GB/s
    - ออกแบบมาสำหรับระบบจัดเก็บข้อมูล AI ขนาดใหญ่และการใช้งานในดาต้าเซ็นเตอร์

    ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เน้นการประหยัดพลังงาน ตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรมที่เน้น AI และ IoT เช่น การควบคุมอัตโนมัติ, อุปกรณ์อัจฉริยะ และระบบยานยนต์ AI การพัฒนานี้ยังช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดของ Silicon Motion และสร้างแนวทางใหม่ในการรองรับโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

    https://www.techpowerup.com/333756/silicon-motion-showcases-storage-solutions-for-ai-and-display-interface-socs-at-embedded-world-2025
    Silicon Motion Technology Corporation ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในด้านคอนโทรลเลอร์แฟลชสำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบโซลิดสเตต (SSD) ได้เผยโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในงาน Embedded World 2025 ที่เมืองนูเรมเบิร์ก เยอรมนี โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์การใช้งานด้าน AI, ระบบฝังตัว (Embedded Systems) และอุตสาหกรรมยานยนต์ == โซลูชันเด่นที่น่าสนใจ == คอนโทรลเลอร์ SSD สำหรับยานยนต์ SM2264XT-AT: - รองรับมาตรฐาน PCIe Gen 4 พร้อมช่องสัญญาณ NAND ถึง 8 ช่อง ความเร็วสูงสุด 1,600 MT/s - รองรับมาตรฐานความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ เช่น AEC-Q100, ISO 26262 และ ASPICE Capability Level 3 - เหมาะสำหรับระบบ AI ในยานยนต์และระบบฝังตัวที่ต้องการความปลอดภัยสูง โซลูชัน Ferri สำหรับระบบฝังตัวและ AIoT: - รวมถึง FerriSSD, Ferri-eMMC และ Ferri-UFS ออกแบบมาให้ทนทานและเสถียรในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น โรงงานอุตสาหกรรมหรืออุปกรณ์การแพทย์ - มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น NANDXtend ECC และ IntelligentScan เพื่อเพิ่มความทนทานและการตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อมูลในเวลาจริง SM770 Display Interface SoC: - รองรับการแสดงผลแบบมัลติ-จอภาพ พร้อมความละเอียดระดับ 4K UHD ได้ถึง 3 จอ - มีฟีเจอร์ InstantView ที่ช่วยให้ใช้งานได้โดยไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์ เหมาะสำหรับระบบฝังตัวในสายงานอุตสาหกรรมและแอปพลิเคชันสำหรับผู้บริโภค MonTitan SSD รุ่น 128 TB QLC: - รองรับ PCIe Gen 5 และสามารถอ่านข้อมูลต่อเนื่องได้เร็วกว่า 14 GB/s - ออกแบบมาสำหรับระบบจัดเก็บข้อมูล AI ขนาดใหญ่และการใช้งานในดาต้าเซ็นเตอร์ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เน้นการประหยัดพลังงาน ตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรมที่เน้น AI และ IoT เช่น การควบคุมอัตโนมัติ, อุปกรณ์อัจฉริยะ และระบบยานยนต์ AI การพัฒนานี้ยังช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดของ Silicon Motion และสร้างแนวทางใหม่ในการรองรับโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง https://www.techpowerup.com/333756/silicon-motion-showcases-storage-solutions-for-ai-and-display-interface-socs-at-embedded-world-2025
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Silicon Motion Showcases Storage Solutions for AI and Display Interface SoCs at Embedded World 2025
    Silicon Motion Technology Corporation, a global leader in NAND flash controllers for solid-state storage devices, today announced its participation in Embedded World 2025, taking place from March 11-13, 2025, in Nuremberg, Germany. At the event, Silicon Motion will showcase its latest storage and...
    0 Comments 0 Shares 319 Views 0 Reviews
  • จากรายงานล่าสุดของศูนย์การศึกษาเชิงยุทธศาสตร์และนานาชาติ (CSIS) พบว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Huawei มีชิปเพียงพอในการผลิตชิป AI รุ่น Ascend 910C จำนวน 750,000 ชิป แม้จะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ที่มีผลกระทบต่อการเข้าถึงอุปกรณ์การผลิตชิประดับสูง

    รายงานระบุว่า Semiconductor International Manufacturing Corporation (SMIC) ผู้ผลิตชิปหลักของจีน ได้แก้ไขปัญหาหลักในการขยายการผลิตชิป 7 นาโนเมตร ด้วยการได้รับเครื่องมือการผลิตชิปจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ รายงานยังเปิดเผยว่า SMIC มีแผนขยายการผลิตชิป 7 นาโนเมตรอย่างมากในปี 2025 โดยมีเป้าหมายการผลิตเวเฟอร์ 50,000 ชิ้นต่อเดือน ทำให้สามารถผลิตชิป Ascend 910C ได้ถึง 400,000 ชิปต่อเดือน

    สหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อป้องกัน Huawei จากการพัฒนาชิป AI ใหม่ โดยเฉพาะชิปรุ่น Ascend 910B และ 910C อย่างไรก็ตาม TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวันได้ผลิตชิป Ascend 910B ให้กับ Huawei ก่อนมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมด 2 ล้านชิ้น ซึ่ง Huawei ได้นำไปใช้ในการผลิตชิปรุ่น Ascend 910C

    แม้ว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์จะป้องกันไม่ให้ SMIC ได้รับอุปกรณ์ EUV (Extreme Ultraviolet) เพื่อผลิตชิประดับสูงสุด แต่เครื่อง DUV (Deep Ultraviolet) ที่มีอยู่ยังช่วยให้บริษัทสามารถผลิตชิป 7 นาโนเมตรได้ CSIS คาดว่าเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้ SMIC ปรับปรุงอัตราการได้ชิปที่ทำงานได้จาก 20% ให้สูงขึ้น

    การวิจัยระบุว่าความต้องการ GPU สำหรับ AI ของจีนที่ใช้ชิป A800 และ H800 ซึ่งได้รับการปรับแต่งเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดการส่งออกของสหรัฐฯ ยังคงสูงมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามาตรการคว่ำบาตรไม่สามารถหยุดความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในจีนได้อย่างสมบูรณ์

    https://wccftech.com/chinas-huawei-can-make-750000-advanced-ai-chips-despite-us-sanctions-says-report/
    จากรายงานล่าสุดของศูนย์การศึกษาเชิงยุทธศาสตร์และนานาชาติ (CSIS) พบว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Huawei มีชิปเพียงพอในการผลิตชิป AI รุ่น Ascend 910C จำนวน 750,000 ชิป แม้จะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ที่มีผลกระทบต่อการเข้าถึงอุปกรณ์การผลิตชิประดับสูง รายงานระบุว่า Semiconductor International Manufacturing Corporation (SMIC) ผู้ผลิตชิปหลักของจีน ได้แก้ไขปัญหาหลักในการขยายการผลิตชิป 7 นาโนเมตร ด้วยการได้รับเครื่องมือการผลิตชิปจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ รายงานยังเปิดเผยว่า SMIC มีแผนขยายการผลิตชิป 7 นาโนเมตรอย่างมากในปี 2025 โดยมีเป้าหมายการผลิตเวเฟอร์ 50,000 ชิ้นต่อเดือน ทำให้สามารถผลิตชิป Ascend 910C ได้ถึง 400,000 ชิปต่อเดือน สหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อป้องกัน Huawei จากการพัฒนาชิป AI ใหม่ โดยเฉพาะชิปรุ่น Ascend 910B และ 910C อย่างไรก็ตาม TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวันได้ผลิตชิป Ascend 910B ให้กับ Huawei ก่อนมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมด 2 ล้านชิ้น ซึ่ง Huawei ได้นำไปใช้ในการผลิตชิปรุ่น Ascend 910C แม้ว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์จะป้องกันไม่ให้ SMIC ได้รับอุปกรณ์ EUV (Extreme Ultraviolet) เพื่อผลิตชิประดับสูงสุด แต่เครื่อง DUV (Deep Ultraviolet) ที่มีอยู่ยังช่วยให้บริษัทสามารถผลิตชิป 7 นาโนเมตรได้ CSIS คาดว่าเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้ SMIC ปรับปรุงอัตราการได้ชิปที่ทำงานได้จาก 20% ให้สูงขึ้น การวิจัยระบุว่าความต้องการ GPU สำหรับ AI ของจีนที่ใช้ชิป A800 และ H800 ซึ่งได้รับการปรับแต่งเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดการส่งออกของสหรัฐฯ ยังคงสูงมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามาตรการคว่ำบาตรไม่สามารถหยุดความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในจีนได้อย่างสมบูรณ์ https://wccftech.com/chinas-huawei-can-make-750000-advanced-ai-chips-despite-us-sanctions-says-report/
    WCCFTECH.COM
    China's Huawei Can Make ~750,000 Advanced AI Chips Despite US Sanctions, Says Report
    China's Huawei can make as many as one million advanced AI GPUs, believes a fresh research report. Take a look!
    0 Comments 0 Shares 221 Views 0 Reviews
  • Intel ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผลิตชิปชั้นนำของโลก ได้แถลงแผนการในอนาคตที่แสดงให้เห็นถึงการรักษาความร่วมมือกับ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) แม้ว่า Intel กำลังมุ่งเน้นการพัฒนาสายการผลิตของตนเองโดยเฉพาะในเทคโนโลยีล่าสุดที่เรียกว่า 18A fabrication technology

    John Pitzer รองประธานฝ่ายวางแผนและนักลงทุนสัมพันธ์ของ Intel ระบุว่า การทำงานร่วมกับ TSMC ช่วยสร้างการแข่งขันที่ดีระหว่าง TSMC และโรงงานผลิตชิปภายในของ Intel (Intel Foundry) ซึ่งในระยะยาวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต แม้ว่า Intel จะผลิตโปรเซสเซอร์รุ่นสำคัญในโรงงานของตนเอง แต่ชิ้นส่วนที่ใช้เทคโนโลยีรุ่นเก่าหรือที่เฉพาะเจาะจง เช่น ชิปควบคุมที่มีมูลค่า 10–15 ดอลลาร์ จะยังคงผลิตกับ TSMC เนื่องจาก Intel ไม่มีสายการผลิตสำหรับเทคโนโลยีเหล่านี้

    เดิม Intel มีเป้าหมายลดการพึ่งพา TSMC ให้เป็นศูนย์ แต่เปลี่ยนแผนในช่วงปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าลดการผลิตภายนอกให้อยู่ระหว่าง 15-20% ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดแทนที่จะยุติความร่วมมืออย่างสิ้นเชิง

    Intel มีแผนจะใช้โรงงาน Fab 52 และ Fab 62 ในรัฐแอริโซนา สหรัฐฯ สำหรับการผลิตโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ 'Panther Lake' ที่ใช้เทคโนโลยี 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่ล้ำหน้า และคาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัท เนื่องจากลดการพึ่งพาโรงงานภายนอก

    การคงความร่วมมือกับ TSMC สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของ Intel ในการปรับตัวให้เหมาะกับตลาดที่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าบริษัทจะมุ่งมั่นพัฒนาสายการผลิตภายใน แต่การทำงานร่วมกับ TSMC ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโต นอกจากนี้ ยังแสดงถึงความสำคัญของการมีซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-will-keep-using-tsmcs-services-even-when-18a-is-ramped-up-it-is-a-good-supplier
    Intel ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผลิตชิปชั้นนำของโลก ได้แถลงแผนการในอนาคตที่แสดงให้เห็นถึงการรักษาความร่วมมือกับ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) แม้ว่า Intel กำลังมุ่งเน้นการพัฒนาสายการผลิตของตนเองโดยเฉพาะในเทคโนโลยีล่าสุดที่เรียกว่า 18A fabrication technology John Pitzer รองประธานฝ่ายวางแผนและนักลงทุนสัมพันธ์ของ Intel ระบุว่า การทำงานร่วมกับ TSMC ช่วยสร้างการแข่งขันที่ดีระหว่าง TSMC และโรงงานผลิตชิปภายในของ Intel (Intel Foundry) ซึ่งในระยะยาวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต แม้ว่า Intel จะผลิตโปรเซสเซอร์รุ่นสำคัญในโรงงานของตนเอง แต่ชิ้นส่วนที่ใช้เทคโนโลยีรุ่นเก่าหรือที่เฉพาะเจาะจง เช่น ชิปควบคุมที่มีมูลค่า 10–15 ดอลลาร์ จะยังคงผลิตกับ TSMC เนื่องจาก Intel ไม่มีสายการผลิตสำหรับเทคโนโลยีเหล่านี้ เดิม Intel มีเป้าหมายลดการพึ่งพา TSMC ให้เป็นศูนย์ แต่เปลี่ยนแผนในช่วงปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าลดการผลิตภายนอกให้อยู่ระหว่าง 15-20% ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดแทนที่จะยุติความร่วมมืออย่างสิ้นเชิง Intel มีแผนจะใช้โรงงาน Fab 52 และ Fab 62 ในรัฐแอริโซนา สหรัฐฯ สำหรับการผลิตโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ 'Panther Lake' ที่ใช้เทคโนโลยี 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่ล้ำหน้า และคาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัท เนื่องจากลดการพึ่งพาโรงงานภายนอก การคงความร่วมมือกับ TSMC สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของ Intel ในการปรับตัวให้เหมาะกับตลาดที่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าบริษัทจะมุ่งมั่นพัฒนาสายการผลิตภายใน แต่การทำงานร่วมกับ TSMC ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโต นอกจากนี้ ยังแสดงถึงความสำคัญของการมีซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-will-keep-using-tsmcs-services-even-when-18a-is-ramped-up-it-is-a-good-supplier
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Intel will keep using TSMC's services even when 18A is ramped up: 'It is a good supplier'
    The question is, what percentage of Intel's products will be outsourced?
    0 Comments 0 Shares 274 Views 0 Reviews
  • บริษัท Cortical Labs ในออสเตรเลียได้เปิดตัว CL1 ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ชีวภาพตัวแรกของโลกที่ผสมผสานเซลล์สมองมนุษย์เข้ากับเทคโนโลยีซิลิคอนแบบดั้งเดิม CL1 ถูกเปิดตัวครั้งแรกในงาน Mobile World Congress ที่บาร์เซโลนา และถูกพัฒนามาเพื่อใช้ในการศึกษาความเป็นไปได้ของ AI และ Machine Learning ที่มีความใกล้เคียงกับสมองของมนุษย์

    CL1 ใช้ชิปซิลิคอนที่มีเซลล์สมองมนุษย์เพาะเลี้ยงอยู่บนพื้นผิว เซลล์สมองเหล่านี้สามารถตอบสนองต่อสัญญาณไฟฟ้าและสร้างเครือข่ายที่ประมวลผลข้อมูลในลักษณะเดียวกับสมองมนุษย์ สิ่งที่น่าสนใจคือ ระบบนี้สามารถสื่อสารสองทางได้ โดยใช้สัญญาณไฟฟ้ากระตุ้นเซลล์สมอง และเก็บข้อมูลการตอบสนองเพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อ

    เพื่อให้เซลล์สมองเหล่านี้ยังคงทำงานได้ดี CL1 มาพร้อมระบบช่วยชีวิตที่ควบคุมอุณหภูมิ การแลกเปลี่ยนก๊าซ และเงื่อนไขที่จำเป็นอื่น ๆ

    CL1 ถูกออกแบบมาเพื่อเรียนรู้และปรับตัว เช่นเดียวกับสมองมนุษย์ ตัวอย่างที่เคยมีการทดลอง เช่น การฝึกเซลล์สมองให้เล่นวิดีโอเกมพื้นฐาน สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์ชีวภาพสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในด้านที่ AI แบบเดิมยังไม่สมบูรณ์ เช่น การจดจำรูปแบบและการตัดสินใจในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอน

    นอกจากนี้ ความสามารถของเซลล์สมองในการปรับตัวทำให้เกิดศักยภาพใหม่ ๆ ในการประยุกต์ใช้งาน เช่น การพัฒนาหุ่นยนต์ที่ฉลาดยิ่งขึ้น หรือระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน

    ปัญหาและข้อควรระวัง
    - ความซับซ้อนในการผลิต: การสร้างและดูแลระบบ CL1 ต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนและยังไม่สามารถผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้
    - ปัญหาด้านจริยธรรม: แม้ว่าเซลล์สมองที่ใช้จะถูกเพาะเลี้ยงในห้องแล็บและไม่มีสติสัมปชัญญะ แต่ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีนี้อาจต้องการกรอบกฎหมายและจริยธรรมที่ชัดเจนในอนาคต เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ชีวภาพมนุษย์

    CL1 จะพร้อมจำหน่ายตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ $35,000 เหมาะสำหรับองค์กรและสถาบันวิจัยที่ต้องการทดสอบหรือสำรวจการใช้งานคอมพิวเตอร์ชีวภาพในเชิงลึก

    CL1 ถือเป็นก้าวใหม่ที่น่าตื่นเต้นในวงการเทคโนโลยีชีวภาพและ AI ซึ่งอาจช่วยพัฒนาอนาคตของการเรียนรู้และการประมวลผลข้อมูล หากคุณสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CL1 และความเป็นไปได้ในอนาคตของเทคโนโลยีนี้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/worlds-first-body-in-a-box-biological-computer-uses-human-brain-cells-with-silicon-based-computing
    บริษัท Cortical Labs ในออสเตรเลียได้เปิดตัว CL1 ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ชีวภาพตัวแรกของโลกที่ผสมผสานเซลล์สมองมนุษย์เข้ากับเทคโนโลยีซิลิคอนแบบดั้งเดิม CL1 ถูกเปิดตัวครั้งแรกในงาน Mobile World Congress ที่บาร์เซโลนา และถูกพัฒนามาเพื่อใช้ในการศึกษาความเป็นไปได้ของ AI และ Machine Learning ที่มีความใกล้เคียงกับสมองของมนุษย์ CL1 ใช้ชิปซิลิคอนที่มีเซลล์สมองมนุษย์เพาะเลี้ยงอยู่บนพื้นผิว เซลล์สมองเหล่านี้สามารถตอบสนองต่อสัญญาณไฟฟ้าและสร้างเครือข่ายที่ประมวลผลข้อมูลในลักษณะเดียวกับสมองมนุษย์ สิ่งที่น่าสนใจคือ ระบบนี้สามารถสื่อสารสองทางได้ โดยใช้สัญญาณไฟฟ้ากระตุ้นเซลล์สมอง และเก็บข้อมูลการตอบสนองเพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อ เพื่อให้เซลล์สมองเหล่านี้ยังคงทำงานได้ดี CL1 มาพร้อมระบบช่วยชีวิตที่ควบคุมอุณหภูมิ การแลกเปลี่ยนก๊าซ และเงื่อนไขที่จำเป็นอื่น ๆ CL1 ถูกออกแบบมาเพื่อเรียนรู้และปรับตัว เช่นเดียวกับสมองมนุษย์ ตัวอย่างที่เคยมีการทดลอง เช่น การฝึกเซลล์สมองให้เล่นวิดีโอเกมพื้นฐาน สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า คอมพิวเตอร์ชีวภาพสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในด้านที่ AI แบบเดิมยังไม่สมบูรณ์ เช่น การจดจำรูปแบบและการตัดสินใจในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอน นอกจากนี้ ความสามารถของเซลล์สมองในการปรับตัวทำให้เกิดศักยภาพใหม่ ๆ ในการประยุกต์ใช้งาน เช่น การพัฒนาหุ่นยนต์ที่ฉลาดยิ่งขึ้น หรือระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน ปัญหาและข้อควรระวัง - ความซับซ้อนในการผลิต: การสร้างและดูแลระบบ CL1 ต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนและยังไม่สามารถผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้ - ปัญหาด้านจริยธรรม: แม้ว่าเซลล์สมองที่ใช้จะถูกเพาะเลี้ยงในห้องแล็บและไม่มีสติสัมปชัญญะ แต่ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีนี้อาจต้องการกรอบกฎหมายและจริยธรรมที่ชัดเจนในอนาคต เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ชีวภาพมนุษย์ CL1 จะพร้อมจำหน่ายตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ $35,000 เหมาะสำหรับองค์กรและสถาบันวิจัยที่ต้องการทดสอบหรือสำรวจการใช้งานคอมพิวเตอร์ชีวภาพในเชิงลึก CL1 ถือเป็นก้าวใหม่ที่น่าตื่นเต้นในวงการเทคโนโลยีชีวภาพและ AI ซึ่งอาจช่วยพัฒนาอนาคตของการเรียนรู้และการประมวลผลข้อมูล หากคุณสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CL1 และความเป็นไปได้ในอนาคตของเทคโนโลยีนี้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/worlds-first-body-in-a-box-biological-computer-uses-human-brain-cells-with-silicon-based-computing
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    World's first 'body in a box' biological computer uses human brain cells with silicon-based computing
    Cortical Labs said the CL1 will be available from June, priced at around $35,000.
    0 Comments 0 Shares 243 Views 0 Reviews
  • SBI Holdings หรือที่รู้จักในชื่อ Strategic Business Innovator Group เป็นกลุ่มบริษัทด้านบริการทางการเงินที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กำลังอยู่ในระหว่างเจรจากับ SK Hynix จากเกาหลีใต้ และ UMC จากไต้หวัน เพื่อความร่วมมือในการสร้างโรงงานชิปแห่งใหม่ในจังหวัดมิยากิ ประเทศญี่ปุ่น โรงงานแห่งนี้มุ่งเน้นไปที่กระบวนการ DRAM ขั้นปลาย (back-end DRAM processes) ร่วมกับ SK Hynix และการผลิตชิปสำหรับยานยนต์ร่วมกับ UMC ซึ่งเป็นการเสริมศักยภาพในอุตสาหกรรมชิปที่กำลังเติบโตในญี่ปุ่น

    SBI ได้ประกาศยุบโครงการร่วมทุนกับ Powerchip Semiconductor Manufacturing Corp. ของไต้หวันเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยในตอนนั้น SBI ระบุว่าจะมองหาพันธมิตรใหม่ในธุรกิจที่เกี่ยวกับชิป การเจรจากับ SK Hynix และ UMC ครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่บ่งบอกถึงทิศทางใหม่ในการขยายธุรกิจ

    สิ่งที่น่าสังเกตคือโครงการนี้อาจได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น เนื่องจากรัฐบาลกำลังให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสามารถในการผลิตชิปภายในประเทศเพื่อรับมือกับความท้าทายจากวิกฤตซัพพลายเชนระดับโลก

    การสร้างโรงงานในญี่ปุ่นนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตลาดชิปในประเทศ แต่ยังเป็นตัวอย่างของการสร้างความร่วมมือในระดับนานาชาติที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เทคโนโลยีเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าและ AI ต้องการชิปประสิทธิภาพสูงมากขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/07/sbi-negotiating-with-sk-hynix-umc-on-japan-chip-plant-collaboration-report-says
    SBI Holdings หรือที่รู้จักในชื่อ Strategic Business Innovator Group เป็นกลุ่มบริษัทด้านบริการทางการเงินที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กำลังอยู่ในระหว่างเจรจากับ SK Hynix จากเกาหลีใต้ และ UMC จากไต้หวัน เพื่อความร่วมมือในการสร้างโรงงานชิปแห่งใหม่ในจังหวัดมิยากิ ประเทศญี่ปุ่น โรงงานแห่งนี้มุ่งเน้นไปที่กระบวนการ DRAM ขั้นปลาย (back-end DRAM processes) ร่วมกับ SK Hynix และการผลิตชิปสำหรับยานยนต์ร่วมกับ UMC ซึ่งเป็นการเสริมศักยภาพในอุตสาหกรรมชิปที่กำลังเติบโตในญี่ปุ่น SBI ได้ประกาศยุบโครงการร่วมทุนกับ Powerchip Semiconductor Manufacturing Corp. ของไต้หวันเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยในตอนนั้น SBI ระบุว่าจะมองหาพันธมิตรใหม่ในธุรกิจที่เกี่ยวกับชิป การเจรจากับ SK Hynix และ UMC ครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่บ่งบอกถึงทิศทางใหม่ในการขยายธุรกิจ สิ่งที่น่าสังเกตคือโครงการนี้อาจได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น เนื่องจากรัฐบาลกำลังให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสามารถในการผลิตชิปภายในประเทศเพื่อรับมือกับความท้าทายจากวิกฤตซัพพลายเชนระดับโลก การสร้างโรงงานในญี่ปุ่นนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตลาดชิปในประเทศ แต่ยังเป็นตัวอย่างของการสร้างความร่วมมือในระดับนานาชาติที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เทคโนโลยีเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าและ AI ต้องการชิปประสิทธิภาพสูงมากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/07/sbi-negotiating-with-sk-hynix-umc-on-japan-chip-plant-collaboration-report-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    SBI negotiating with SK Hynix, UMC on Japan chip plant collaboration, report says
    TOKYO (Reuters) - SBI Holdings is negotiating with South Korea's SK Hynix and Taiwan's UMC about collaboration on a chips plant the financial firm is planning in Japan's Miyagi prefecture, Nikkan Kogyo newspaper reported on Friday.
    0 Comments 0 Shares 296 Views 0 Reviews
  • ลุงสนับสนุนแนวคิดนี้ของจีนครับ

    รัฐบาลจีนได้ประกาศนโยบายใหม่ในการส่งเสริมการใช้ชิป RISC-V ที่เป็นโอเพ่นซอร์สอย่างเป็นทางการ เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ เช่น x86 และ Arm นโยบายนี้ถูกจัดทำโดยหน่วยงานรัฐบาลถึงแปดแห่ง รวมถึง Cyberspace Administration of China และ Ministry of Industry and Information Technology โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการใช้งานชิป RISC-V ในประเทศจีนให้มากขึ้น

    การออกนโยบายใหม่นี้จะส่งเสริมให้บริษัทในจีนหันมาใช้ชิป RISC-V ที่ถูกพัฒนาภายในประเทศมากขึ้น เช่น Alibaba's XuanTie และ Nuclei System Technology ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิป RISC-V ชั้นนำของจีน การใช้งานชิปเหล่านี้จะทำให้บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายและพัฒนาชิปที่เหมาะสมกับการใช้งานในด้าน AI ได้มากขึ้น แม้ว่าในช่วงแรก ชิปเหล่านี้อาจจะยังไม่สามารถแข่งกับชิปของ Nvidia ในด้านประสิทธิภาพได้ แต่ก็จะมีราคาถูกกว่าและถูกออกแบบในจีนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลจีนสนับสนุน

    แม้ว่าการพัฒนาฮาร์ดแวร์ RISC-V จะสำคัญ แต่การสร้างระบบซอฟต์แวร์ที่รองรับชิป RISC-V ก็ไม่แพ้กัน ปัจจุบันนี้ Arm และ x86 ได้รับการสนับสนุนจากระบบปฏิบัติการและโปรแกรมมากมาย ซึ่งแตกต่างจาก RISC-V ที่ยังมีข้อจำกัดในการรองรับซอฟต์แวร์ หากต้องการสร้างชิป AI ที่ใช้ RISC-V นักพัฒนาจำเป็นต้องสร้างระบบนิเวศน์ซอฟต์แวร์เช่นเดียวกับ CUDA ของ Nvidia ซึ่งต้องใช้เวลานับสิบปีในการพัฒนา

    การประกาศนโยบายนี้ทำให้หุ้นของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในจีน เช่น VeriSilicon, ASR Microelectronics และ Shanghai Anlogic Infotech พุ่งสูงขึ้นถึง 15.4% เนื่องจากความสนใจที่เพิ่มขึ้นใน RISC-V อย่างไรก็ตาม ความสนใจที่เพิ่มขึ้นใน RISC-V ยังทำให้สหรัฐฯ กังวล เพราะ RISC-V เป็นโอเพ่นซอร์ส และอาจทำให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีได้เร็วยิ่งขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/chinese-government-shifts-focus-from-x86-and-arm-cpus-promoting-the-adoption-of-risc-v-chips
    ลุงสนับสนุนแนวคิดนี้ของจีนครับ รัฐบาลจีนได้ประกาศนโยบายใหม่ในการส่งเสริมการใช้ชิป RISC-V ที่เป็นโอเพ่นซอร์สอย่างเป็นทางการ เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ เช่น x86 และ Arm นโยบายนี้ถูกจัดทำโดยหน่วยงานรัฐบาลถึงแปดแห่ง รวมถึง Cyberspace Administration of China และ Ministry of Industry and Information Technology โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการใช้งานชิป RISC-V ในประเทศจีนให้มากขึ้น การออกนโยบายใหม่นี้จะส่งเสริมให้บริษัทในจีนหันมาใช้ชิป RISC-V ที่ถูกพัฒนาภายในประเทศมากขึ้น เช่น Alibaba's XuanTie และ Nuclei System Technology ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิป RISC-V ชั้นนำของจีน การใช้งานชิปเหล่านี้จะทำให้บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายและพัฒนาชิปที่เหมาะสมกับการใช้งานในด้าน AI ได้มากขึ้น แม้ว่าในช่วงแรก ชิปเหล่านี้อาจจะยังไม่สามารถแข่งกับชิปของ Nvidia ในด้านประสิทธิภาพได้ แต่ก็จะมีราคาถูกกว่าและถูกออกแบบในจีนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลจีนสนับสนุน แม้ว่าการพัฒนาฮาร์ดแวร์ RISC-V จะสำคัญ แต่การสร้างระบบซอฟต์แวร์ที่รองรับชิป RISC-V ก็ไม่แพ้กัน ปัจจุบันนี้ Arm และ x86 ได้รับการสนับสนุนจากระบบปฏิบัติการและโปรแกรมมากมาย ซึ่งแตกต่างจาก RISC-V ที่ยังมีข้อจำกัดในการรองรับซอฟต์แวร์ หากต้องการสร้างชิป AI ที่ใช้ RISC-V นักพัฒนาจำเป็นต้องสร้างระบบนิเวศน์ซอฟต์แวร์เช่นเดียวกับ CUDA ของ Nvidia ซึ่งต้องใช้เวลานับสิบปีในการพัฒนา การประกาศนโยบายนี้ทำให้หุ้นของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในจีน เช่น VeriSilicon, ASR Microelectronics และ Shanghai Anlogic Infotech พุ่งสูงขึ้นถึง 15.4% เนื่องจากความสนใจที่เพิ่มขึ้นใน RISC-V อย่างไรก็ตาม ความสนใจที่เพิ่มขึ้นใน RISC-V ยังทำให้สหรัฐฯ กังวล เพราะ RISC-V เป็นโอเพ่นซอร์ส และอาจทำให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีได้เร็วยิ่งขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/chinese-government-shifts-focus-from-x86-and-arm-cpus-promoting-the-adoption-of-risc-v-chips
    0 Comments 0 Shares 273 Views 0 Reviews
  • Thomas Caulfield ผู้บริหารของ GlobalFoundries ได้พูดในงานประชุมกับนักลงทุนของ Morgan Stanley เกี่ยวกับภาษีศุลกากรที่สหรัฐฯ นำมาใช้กับชิปที่ผลิตในต่างประเทศ เขาแสดงความคิดเห็นว่าภาษีเหล่านี้อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ โดยช่วยเพิ่มความต้องการชิปที่ผลิตในประเทศ ทำให้ลูกค้าหันมาซื้อชิปที่ผลิตในโรงงานในสหรัฐฯ มากขึ้น

    Thomas ยังกล่าวอีกว่า กฎหมาย CHIPS and Science Act ซึ่งมีมูลค่า 52.7 พันล้านดอลลาร์ และเครดิตภาษีสำหรับการลงทุนในอุปกรณ์การผลิตชิป ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตชิปในสหรัฐฯ อย่างมาก แต่เขาคิดว่าการใช้แค่กฎหมายนี้หรือเครดิตภาษีเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ยังจำเป็นต้องมีการใช้ภาษีศุลกากรควบคู่ไปด้วย เพื่อให้สร้างกลไกที่ทำให้ความต้องการชิปในประเทศสูงขึ้น

    ในระหว่างนี้ ประธานาธิบดี Donald Trump ได้จัดแถลงข่าวร่วมกับ Taiwan Semiconductor Manufacturing Co (TSMC) ซึ่งได้ประกาศแผนการลงทุน 100 พันล้านดอลลาร์ในการสร้างโรงงานในสหรัฐฯ สิ่งนี้ทำให้เห็นถึงการที่ TSMC ต้องการเข้ามาในตลาดสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรที่พวกเขาจะต้องเผชิญหากไม่ผลิตชิปในสหรัฐฯ

    Howard Lutnick รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่า TSMC ตัดสินใจลงทุนในสหรัฐฯ เนื่องจากต้องการเข้าสู่ตลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกและหลีกเลี่ยงภาษีที่อาจต้องเจอหากไม่ผลิตชิปในสหรัฐฯ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/05/globalfoundries-chief-says-tariffs-could-benefit-us-chipmakers
    Thomas Caulfield ผู้บริหารของ GlobalFoundries ได้พูดในงานประชุมกับนักลงทุนของ Morgan Stanley เกี่ยวกับภาษีศุลกากรที่สหรัฐฯ นำมาใช้กับชิปที่ผลิตในต่างประเทศ เขาแสดงความคิดเห็นว่าภาษีเหล่านี้อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ โดยช่วยเพิ่มความต้องการชิปที่ผลิตในประเทศ ทำให้ลูกค้าหันมาซื้อชิปที่ผลิตในโรงงานในสหรัฐฯ มากขึ้น Thomas ยังกล่าวอีกว่า กฎหมาย CHIPS and Science Act ซึ่งมีมูลค่า 52.7 พันล้านดอลลาร์ และเครดิตภาษีสำหรับการลงทุนในอุปกรณ์การผลิตชิป ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตชิปในสหรัฐฯ อย่างมาก แต่เขาคิดว่าการใช้แค่กฎหมายนี้หรือเครดิตภาษีเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ยังจำเป็นต้องมีการใช้ภาษีศุลกากรควบคู่ไปด้วย เพื่อให้สร้างกลไกที่ทำให้ความต้องการชิปในประเทศสูงขึ้น ในระหว่างนี้ ประธานาธิบดี Donald Trump ได้จัดแถลงข่าวร่วมกับ Taiwan Semiconductor Manufacturing Co (TSMC) ซึ่งได้ประกาศแผนการลงทุน 100 พันล้านดอลลาร์ในการสร้างโรงงานในสหรัฐฯ สิ่งนี้ทำให้เห็นถึงการที่ TSMC ต้องการเข้ามาในตลาดสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรที่พวกเขาจะต้องเผชิญหากไม่ผลิตชิปในสหรัฐฯ Howard Lutnick รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่า TSMC ตัดสินใจลงทุนในสหรัฐฯ เนื่องจากต้องการเข้าสู่ตลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกและหลีกเลี่ยงภาษีที่อาจต้องเจอหากไม่ผลิตชิปในสหรัฐฯ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/05/globalfoundries-chief-says-tariffs-could-benefit-us-chipmakers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    GlobalFoundries chief says tariffs could benefit US chipmakers
    (Reuters) - GlobalFoundries Chief Executive Officer Thomas Caulfield said on Tuesday that U.S. tariffs on foreign-made chips could help U.S. chip manufacturers by boosting demand for domestically made chips.
    0 Comments 0 Shares 285 Views 0 Reviews
  • หุ้นของ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Co) เปิดตลาดลดลง 2.25% หลังจากที่บริษัทประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ

    การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ C.C. Wei CEO ของ TSMC ได้พบกับอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา การลงทุนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการขยายการผลิตชิปในสหรัฐฯ เพื่อลดการพึ่งพาการผลิตในเอเชียและเสริมสร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ

    สิ่งที่น่าสนใจคือ การลงทุนครั้งนี้จะช่วยสร้างงานใหม่ในสหรัฐฯ และเพิ่มความสามารถในการผลิตชิปที่ทันสมัย ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในยุคที่เทคโนโลยีและการเชื่อมต่อมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในชีวิตประจำวัน

    การประกาศนี้ยังส่งผลให้เกิดความสนใจในตลาดหุ้นและการลงทุนในเทคโนโลยีชิปมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/04/tsmc-shares-open-lower-following-announcement-of-100-billion-investment-in-us
    หุ้นของ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Co) เปิดตลาดลดลง 2.25% หลังจากที่บริษัทประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ C.C. Wei CEO ของ TSMC ได้พบกับอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา การลงทุนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการขยายการผลิตชิปในสหรัฐฯ เพื่อลดการพึ่งพาการผลิตในเอเชียและเสริมสร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ สิ่งที่น่าสนใจคือ การลงทุนครั้งนี้จะช่วยสร้างงานใหม่ในสหรัฐฯ และเพิ่มความสามารถในการผลิตชิปที่ทันสมัย ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในยุคที่เทคโนโลยีและการเชื่อมต่อมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในชีวิตประจำวัน การประกาศนี้ยังส่งผลให้เกิดความสนใจในตลาดหุ้นและการลงทุนในเทคโนโลยีชิปมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/04/tsmc-shares-open-lower-following-announcement-of-100-billion-investment-in-us
    WWW.THESTAR.COM.MY
    TSMC shares open lower following announcement of $100 billion investment in US
    TAIPEI (Reuters) - TSMC shares opened down 2.25% on Tuesday after the world's largest contract chipmaker said it will invest $100 billion in the United States.
    0 Comments 0 Shares 260 Views 0 Reviews
  • โดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศ บริษัท TSMC หรือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก จะลงทุน 1 แสนล้านดอลลาร์ ในสหรัฐฯ

    คาดว่าการประกาศอย่างเป็นทางการ จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้
    โดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศ บริษัท TSMC หรือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก จะลงทุน 1 แสนล้านดอลลาร์ ในสหรัฐฯ คาดว่าการประกาศอย่างเป็นทางการ จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้
    0 Comments 0 Shares 193 Views 0 Reviews
  • มีข่าวที่น่าสนใจจาก Tom's Hardware เกี่ยวกับการปิดตัวของบริษัท Efabless ที่ส่งผลกระทบต่อโครงการผลิตชิป Tiny Tapeout อย่างไม่แน่นอน

    Efabless เป็นบริษัทที่ทำให้กระบวนการสร้างชิปคอมพิวเตอร์เปิดกว้างสำหรับผู้ที่สนใจและนักพัฒนาขนาดเล็ก บริษัทนี้มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือในการพัฒนาและผลิตชิปที่เป็นที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ Efabless กำลังเผชิญกับปัญหาการเงินและไม่แน่ชัดว่าจะกลับมาได้หรือไม่ สิ่งนี้ส่งผลให้โครงการ Tiny Tapeout ที่พึ่งพาเทคโนโลยีของ Efabless ต้องอยู่ในสภาพไม่แน่นอน

    Tiny Tapeout เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการทำให้การออกแบบและผลิตชิปคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องง่ายและราคาถูกสำหรับผู้ที่สนใจและนักพัฒนาขนาดเล็ก โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างชิปของตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรมากมาย

    Tiny Tapeout มีการจัดทำชิปที่สามารถออกแบบได้ในขนาดเล็กและสามารถผลิตได้ในราคาที่ไม่แพง โดยมีการใช้เทคโนโลยีการออกแบบดิจิทัลและการผลิตชิปที่ทันสมัย ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นการออกแบบชิปของตัวเองได้โดยใช้เครื่องมือที่มีให้ในเว็บไซต์ของ Tiny Tapeout และสามารถส่งการออกแบบเพื่อผลิตชิปจริงได้

    โครงการนี้ยังมีการสนับสนุนจาก Efabless ซึ่งเป็นบริษัทที่ช่วยในการพัฒนาและผลิตชิป โดยมีการจัดทำชิปที่มีขนาดเล็กและราคาถูกเพื่อให้ผู้ใช้สามารถทดลองและพัฒนาชิปของตัวเองได้อย่างง่ายดาย

    Tiny Tapeout ได้ออกมาพูดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการ TT08 และ TT09 ที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ ขณะที่โครงการ TT08 ยังรอการบรรจุซิลิคอน โครงการ TT09 กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิตที่ SkyWater Technology และอาจไม่สามารถเสร็จสิ้นได้ Tiny Tapeout กำลังพยายามหาทางแก้ไขปัญหาเพื่อที่จะสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ และยังมีแผนที่จะคืนเงินให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบหากไม่สามารถจัดส่งชิปได้

    การที่ Efabless ปิดตัวเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับชุมชนผู้พัฒนาที่ใช้บริการของบริษัทนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีชิปต้องใช้เวลาและพลังงานมากมายจากผู้ที่ร่วมโครงการ ดังนั้นการที่โครงการเหล่านี้ต้องอยู่ในสภาพไม่แน่นอนเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมาก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/efabless-shuts-down-fate-of-tiny-tapeout-chip-production-projects-unclear
    มีข่าวที่น่าสนใจจาก Tom's Hardware เกี่ยวกับการปิดตัวของบริษัท Efabless ที่ส่งผลกระทบต่อโครงการผลิตชิป Tiny Tapeout อย่างไม่แน่นอน Efabless เป็นบริษัทที่ทำให้กระบวนการสร้างชิปคอมพิวเตอร์เปิดกว้างสำหรับผู้ที่สนใจและนักพัฒนาขนาดเล็ก บริษัทนี้มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือในการพัฒนาและผลิตชิปที่เป็นที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ Efabless กำลังเผชิญกับปัญหาการเงินและไม่แน่ชัดว่าจะกลับมาได้หรือไม่ สิ่งนี้ส่งผลให้โครงการ Tiny Tapeout ที่พึ่งพาเทคโนโลยีของ Efabless ต้องอยู่ในสภาพไม่แน่นอน Tiny Tapeout เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการทำให้การออกแบบและผลิตชิปคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องง่ายและราคาถูกสำหรับผู้ที่สนใจและนักพัฒนาขนาดเล็ก โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างชิปของตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรมากมาย Tiny Tapeout มีการจัดทำชิปที่สามารถออกแบบได้ในขนาดเล็กและสามารถผลิตได้ในราคาที่ไม่แพง โดยมีการใช้เทคโนโลยีการออกแบบดิจิทัลและการผลิตชิปที่ทันสมัย ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นการออกแบบชิปของตัวเองได้โดยใช้เครื่องมือที่มีให้ในเว็บไซต์ของ Tiny Tapeout และสามารถส่งการออกแบบเพื่อผลิตชิปจริงได้ โครงการนี้ยังมีการสนับสนุนจาก Efabless ซึ่งเป็นบริษัทที่ช่วยในการพัฒนาและผลิตชิป โดยมีการจัดทำชิปที่มีขนาดเล็กและราคาถูกเพื่อให้ผู้ใช้สามารถทดลองและพัฒนาชิปของตัวเองได้อย่างง่ายดาย Tiny Tapeout ได้ออกมาพูดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการ TT08 และ TT09 ที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ ขณะที่โครงการ TT08 ยังรอการบรรจุซิลิคอน โครงการ TT09 กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิตที่ SkyWater Technology และอาจไม่สามารถเสร็จสิ้นได้ Tiny Tapeout กำลังพยายามหาทางแก้ไขปัญหาเพื่อที่จะสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ และยังมีแผนที่จะคืนเงินให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบหากไม่สามารถจัดส่งชิปได้ การที่ Efabless ปิดตัวเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับชุมชนผู้พัฒนาที่ใช้บริการของบริษัทนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีชิปต้องใช้เวลาและพลังงานมากมายจากผู้ที่ร่วมโครงการ ดังนั้นการที่โครงการเหล่านี้ต้องอยู่ในสภาพไม่แน่นอนเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมาก https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/efabless-shuts-down-fate-of-tiny-tapeout-chip-production-projects-unclear
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Efabless shuts down, fate of Tiny Tapeout chip production projects unclear
    Tiny Tapeout is exploring other avenues for project manufacturing.
    0 Comments 0 Shares 260 Views 0 Reviews
  • ไมโครซอฟท์ได้ถอดปลั๊กอินยอดนิยมสองตัวออกจาก Visual Studio Marketplace เนื่องจากพบว่ามีโค้ดที่เป็นอันตราย ปลั๊กอินที่ถูกถอดออกคือ 'Material Theme – Free' และ 'Material Theme Icons – Free' ซึ่งมียอดดาวน์โหลดรวมกันเกือบ 9 ล้านครั้ง ผู้ใช้ได้รับการแจ้งเตือนใน VSCode ว่าปลั๊กอินเหล่านี้ถูกปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ Amit Assaraf และ Itay Kruk พบโค้ดที่น่าสงสัยในปลั๊กอินเหล่านี้และรายงานผลการค้นพบให้กับไมโครซอฟท์ ไมโครซอฟท์ได้ถอดปลั๊กอินทั้งสองออกจากตลาดและแบนผู้พัฒนา Mattia Astorino (หรือที่รู้จักในชื่อ equinusocio) ซึ่งมีปลั๊กอินหลายตัวในตลาด VSCode รวมยอดดาวน์โหลดกว่า 13 ล้านครั้ง

    นักวิจัยกล่าวว่าโค้ดที่เป็นอันตรายอาจถูกแทรกเข้ามาในการอัปเดตของปลั๊กอิน ซึ่งอาจเป็นการโจมตีทางซัพพลายเชนหรือบัญชีของผู้พัฒนาถูกแฮ็ก code ที่น่าสงสัยในไฟล์ 'release-notes.js' มีการเข้ารหัสอย่างหนักและมีการอ้างอิงถึงชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านหลายครั้ง

    ผู้พัฒนาปลั๊กอิน Mattia Astorino อ้างว่าปัญหาเกิดจากการพึ่งพา Sanity.io ที่ล้าสมัยและไม่ได้ตั้งใจทำอันตราย เขากล่าวว่าไมโครซอฟท์ไม่ได้ติดต่อเขาเพื่อขอคำชี้แจงก่อนที่จะถอดปลั๊กอินออก

    ประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ การโจมตีทางซัพพลายเชนเป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นในวงการซอฟต์แวร์ การพึ่งพาโค้ดจากบุคคลที่สามอาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยได้

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/vscode-extensions-with-9-million-installs-pulled-over-security-risks/
    ไมโครซอฟท์ได้ถอดปลั๊กอินยอดนิยมสองตัวออกจาก Visual Studio Marketplace เนื่องจากพบว่ามีโค้ดที่เป็นอันตราย ปลั๊กอินที่ถูกถอดออกคือ 'Material Theme – Free' และ 'Material Theme Icons – Free' ซึ่งมียอดดาวน์โหลดรวมกันเกือบ 9 ล้านครั้ง ผู้ใช้ได้รับการแจ้งเตือนใน VSCode ว่าปลั๊กอินเหล่านี้ถูกปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ นักวิจัยด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ Amit Assaraf และ Itay Kruk พบโค้ดที่น่าสงสัยในปลั๊กอินเหล่านี้และรายงานผลการค้นพบให้กับไมโครซอฟท์ ไมโครซอฟท์ได้ถอดปลั๊กอินทั้งสองออกจากตลาดและแบนผู้พัฒนา Mattia Astorino (หรือที่รู้จักในชื่อ equinusocio) ซึ่งมีปลั๊กอินหลายตัวในตลาด VSCode รวมยอดดาวน์โหลดกว่า 13 ล้านครั้ง นักวิจัยกล่าวว่าโค้ดที่เป็นอันตรายอาจถูกแทรกเข้ามาในการอัปเดตของปลั๊กอิน ซึ่งอาจเป็นการโจมตีทางซัพพลายเชนหรือบัญชีของผู้พัฒนาถูกแฮ็ก code ที่น่าสงสัยในไฟล์ 'release-notes.js' มีการเข้ารหัสอย่างหนักและมีการอ้างอิงถึงชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านหลายครั้ง ผู้พัฒนาปลั๊กอิน Mattia Astorino อ้างว่าปัญหาเกิดจากการพึ่งพา Sanity.io ที่ล้าสมัยและไม่ได้ตั้งใจทำอันตราย เขากล่าวว่าไมโครซอฟท์ไม่ได้ติดต่อเขาเพื่อขอคำชี้แจงก่อนที่จะถอดปลั๊กอินออก ประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ การโจมตีทางซัพพลายเชนเป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นในวงการซอฟต์แวร์ การพึ่งพาโค้ดจากบุคคลที่สามอาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยได้ https://www.bleepingcomputer.com/news/security/vscode-extensions-with-9-million-installs-pulled-over-security-risks/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    VSCode extensions with 9 million installs pulled over security risks
    Microsoft has removed two popular VSCode extensions, 'Material Theme - Free' and 'Material Theme Icons - Free,' from the Visual Studio Marketplace for allegedly containing malicious code.
    0 Comments 0 Shares 178 Views 0 Reviews
  • DeepSeek บริษัทสตาร์ทอัพด้าน AI จากจีน ได้ประกาศแผนการเปิดเผยซอร์สโค้ดและข้อมูลหลักในการพัฒนา AI ของพวกเขาให้เป็นสาธารณะตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป ก้าวนี้เป็นที่น่าสนใจอย่างมาก เนื่องจากบริษัทอื่นๆ เช่น OpenAI และ Meta Platforms Inc. ยังไม่เปิดเผยซอร์สโค้ดและข้อมูลของพวกเขาในระดับนี้

    DeepSeek ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 20 เดือนที่แล้ว และได้สร้างความฮือฮาใน Silicon Valley ด้วยโมเดล AI ที่มีความซับซ้อนสูง บริษัทประกาศบนแพลตฟอร์ม X ว่าโค้ดที่เกี่ยวข้องจะถูกจัดเก็บไว้ใน repository ที่พร้อมให้ดาวน์โหลดและปรับปรุงได้โดยนักพัฒนาและนักวิจัยทั่วโลก ความเคลื่อนไหวนี้เน้นย้ำความมุ่งมั่นของ DeepSeek ที่จะใช้แนวทางการพัฒนา AI แบบโอเพนซอร์ส

    นอกจากนี้ DeepSeek ยังวางแผนที่จะเปิดเผยวิธีการพัฒนาและจัดการโค้ด รวมถึงข้อมูลที่ใช้ในการสร้างโมเดล AI ด้วย ความโปร่งใสนี้จะช่วยให้เทคโนโลยีของพวกเขาถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย และอาจทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยในรัฐบาลต่างๆ จากสหรัฐฯ ถึงออสเตรเลีย

    "เราคือทีมเล็กที่กำลังสำรวจ AGI ตั้งแต่สัปดาห์หน้า เราจะเปิดเผยซอร์สโค้ด 5 repository และแชร์ความก้าวหน้าอย่างเปิดเผย" DeepSeek ประกาศผ่าน X

    ในขณะที่บริษัทใหญ่เช่น Baidu และ OpenAI ยังคงเก็บรักษาข้อมูล AI ของพวกเขาเป็นความลับ การเปิดเผยซอร์สโค้ดของ DeepSeek ทำให้เห็นถึงการแข่งขันระหว่างสหรัฐและจีนในการพัฒนาโมเดล AI ที่มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง

    ความก้าวหน้าของ DeepSeek ได้บังคับให้คู่แข่งที่เก่าแก่กว่าเช่น Baidu Inc. นำแนวทางโอเพนซอร์สมาใช้ แต่คู่แข่งในระดับโลกเช่น OpenAI และ Anthropic ยังคงเก็บรักษาโมเดล AI และข้อมูลของพวกเขาเป็นความลับ DeepSeek ที่มีจุดเริ่มต้นจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์เชิงปริมาณที่บริหารโดยผู้ก่อตั้ง Liang Wenfeng ยังไม่ได้เปิดเผยการสนับสนุนจากภายนอก ซึ่งอาจทำให้พวกเขามีความกดดันน้อยลงในการสร้างโมเดลรายได้

    การเปิดเผยซอร์สโค้ดของ DeepSeek นี้อาจส่งผลให้มีผู้สนับสนุนเพิ่มขึ้นและการนำเทคโนโลยีของพวกเขาไปใช้อย่างแพร่หลาย ขณะเดียวกันก็เป็นการกระตุ้นการแข่งขันและความกังวลเรื่องความปลอดภัยในระดับโลก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/24/deepseek-promises-to-share-even-more-ai-code-in-a-rare-step
    DeepSeek บริษัทสตาร์ทอัพด้าน AI จากจีน ได้ประกาศแผนการเปิดเผยซอร์สโค้ดและข้อมูลหลักในการพัฒนา AI ของพวกเขาให้เป็นสาธารณะตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป ก้าวนี้เป็นที่น่าสนใจอย่างมาก เนื่องจากบริษัทอื่นๆ เช่น OpenAI และ Meta Platforms Inc. ยังไม่เปิดเผยซอร์สโค้ดและข้อมูลของพวกเขาในระดับนี้ DeepSeek ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 20 เดือนที่แล้ว และได้สร้างความฮือฮาใน Silicon Valley ด้วยโมเดล AI ที่มีความซับซ้อนสูง บริษัทประกาศบนแพลตฟอร์ม X ว่าโค้ดที่เกี่ยวข้องจะถูกจัดเก็บไว้ใน repository ที่พร้อมให้ดาวน์โหลดและปรับปรุงได้โดยนักพัฒนาและนักวิจัยทั่วโลก ความเคลื่อนไหวนี้เน้นย้ำความมุ่งมั่นของ DeepSeek ที่จะใช้แนวทางการพัฒนา AI แบบโอเพนซอร์ส นอกจากนี้ DeepSeek ยังวางแผนที่จะเปิดเผยวิธีการพัฒนาและจัดการโค้ด รวมถึงข้อมูลที่ใช้ในการสร้างโมเดล AI ด้วย ความโปร่งใสนี้จะช่วยให้เทคโนโลยีของพวกเขาถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย และอาจทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยในรัฐบาลต่างๆ จากสหรัฐฯ ถึงออสเตรเลีย "เราคือทีมเล็กที่กำลังสำรวจ AGI ตั้งแต่สัปดาห์หน้า เราจะเปิดเผยซอร์สโค้ด 5 repository และแชร์ความก้าวหน้าอย่างเปิดเผย" DeepSeek ประกาศผ่าน X ในขณะที่บริษัทใหญ่เช่น Baidu และ OpenAI ยังคงเก็บรักษาข้อมูล AI ของพวกเขาเป็นความลับ การเปิดเผยซอร์สโค้ดของ DeepSeek ทำให้เห็นถึงการแข่งขันระหว่างสหรัฐและจีนในการพัฒนาโมเดล AI ที่มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ความก้าวหน้าของ DeepSeek ได้บังคับให้คู่แข่งที่เก่าแก่กว่าเช่น Baidu Inc. นำแนวทางโอเพนซอร์สมาใช้ แต่คู่แข่งในระดับโลกเช่น OpenAI และ Anthropic ยังคงเก็บรักษาโมเดล AI และข้อมูลของพวกเขาเป็นความลับ DeepSeek ที่มีจุดเริ่มต้นจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์เชิงปริมาณที่บริหารโดยผู้ก่อตั้ง Liang Wenfeng ยังไม่ได้เปิดเผยการสนับสนุนจากภายนอก ซึ่งอาจทำให้พวกเขามีความกดดันน้อยลงในการสร้างโมเดลรายได้ การเปิดเผยซอร์สโค้ดของ DeepSeek นี้อาจส่งผลให้มีผู้สนับสนุนเพิ่มขึ้นและการนำเทคโนโลยีของพวกเขาไปใช้อย่างแพร่หลาย ขณะเดียวกันก็เป็นการกระตุ้นการแข่งขันและความกังวลเรื่องความปลอดภัยในระดับโลก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/24/deepseek-promises-to-share-even-more-ai-code-in-a-rare-step
    WWW.THESTAR.COM.MY
    DeepSeek promises to share even more AI code in a rare step
    Chinese AI sensation DeepSeek plans to release key codes and data to the public starting next week, an unusual step to share more of its core technology than rivals such as OpenAI have done.
    0 Comments 0 Shares 245 Views 0 Reviews
  • TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) กำลังเดินหน้าในกระบวนการผลิตชิปรุ่น 2 นาโนเมตร (2nm) อย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลิตเวเฟอร์ได้ถึง 50,000 หน่วยต่อเดือนภายในปี 2025 และอาจเพิ่มขึ้นถึง 80,000 หน่วยหากไม่พบอุปสรรคในการผลิตใด ๆ

    จากข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่ใน Economic Daily News TSMC ได้บรรลุเป้าหมายสำคัญในการทดลองผลิตโดยมีอัตราการผลิตที่สำเร็จ (yield) สูงถึง 60% ซึ่งทำให้ TSMC สามารถเปลี่ยนมาสู่การผลิตเต็มรูปแบบในเร็วๆ นี้ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการชิปรุ่นใหม่ในหลากหลายแอปพลิเคชัน

    มีโรงงานสองแห่งในไต้หวันที่เน้นการผลิตชิปรุ่น 2nm ได้แก่ โรงงานใน Baoshan และ Kaohsiung ในระยะการทดลองผลิต TSMC มีเป้าหมายในการผลิตเวเฟอร์ที่ 5,000 หน่วยที่โรงงานใน Kaohsiung และ Baoshan แต่จากข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่า TSMC มีศักยภาพในการผลิตเวเฟอร์ได้ถึง 50,000 หน่วยต่อเดือนภายในสิ้นปีนี้ และหากไม่มีอุปสรรคในการผลิต จำนวนนี้อาจเพิ่มขึ้นถึง 80,000 หน่วย

    โรงงานใน Baoshan มีศักยภาพในการผลิตเวเฟอร์ได้ถึง 25,000 หน่วยต่อเดือน และอีก 25,000 หน่วยจะถูกผลิตโดยโรงงานใน Kaohsiung ความต้องการชิปรุ่น 2nm คาดว่าจะสูงกว่ารุ่น 3nm ซึ่งทำให้ TSMC ต้องเร่งการผลิตเพื่อให้ได้จำนวนที่ต้องการ

    ในขณะที่ TSMC กำลังทำได้ดีกว่า Samsung ที่มีอัตราการผลิตสำเร็จเพียง 30% ในกระบวนการผลิตชิปรุ่น 2nm GAA ของ Exynos 2600 การที่ TSMC สามารถเพิ่มการผลิตและตอบสนองความต้องการของตลาดได้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้บริษัทสามารถแข่งขันได้

    https://wccftech.com/tsmc-2nm-output-could-reach-up-to-80000-monthly-wafers-in-2025/
    TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) กำลังเดินหน้าในกระบวนการผลิตชิปรุ่น 2 นาโนเมตร (2nm) อย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลิตเวเฟอร์ได้ถึง 50,000 หน่วยต่อเดือนภายในปี 2025 และอาจเพิ่มขึ้นถึง 80,000 หน่วยหากไม่พบอุปสรรคในการผลิตใด ๆ จากข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่ใน Economic Daily News TSMC ได้บรรลุเป้าหมายสำคัญในการทดลองผลิตโดยมีอัตราการผลิตที่สำเร็จ (yield) สูงถึง 60% ซึ่งทำให้ TSMC สามารถเปลี่ยนมาสู่การผลิตเต็มรูปแบบในเร็วๆ นี้ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการชิปรุ่นใหม่ในหลากหลายแอปพลิเคชัน มีโรงงานสองแห่งในไต้หวันที่เน้นการผลิตชิปรุ่น 2nm ได้แก่ โรงงานใน Baoshan และ Kaohsiung ในระยะการทดลองผลิต TSMC มีเป้าหมายในการผลิตเวเฟอร์ที่ 5,000 หน่วยที่โรงงานใน Kaohsiung และ Baoshan แต่จากข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่า TSMC มีศักยภาพในการผลิตเวเฟอร์ได้ถึง 50,000 หน่วยต่อเดือนภายในสิ้นปีนี้ และหากไม่มีอุปสรรคในการผลิต จำนวนนี้อาจเพิ่มขึ้นถึง 80,000 หน่วย โรงงานใน Baoshan มีศักยภาพในการผลิตเวเฟอร์ได้ถึง 25,000 หน่วยต่อเดือน และอีก 25,000 หน่วยจะถูกผลิตโดยโรงงานใน Kaohsiung ความต้องการชิปรุ่น 2nm คาดว่าจะสูงกว่ารุ่น 3nm ซึ่งทำให้ TSMC ต้องเร่งการผลิตเพื่อให้ได้จำนวนที่ต้องการ ในขณะที่ TSMC กำลังทำได้ดีกว่า Samsung ที่มีอัตราการผลิตสำเร็จเพียง 30% ในกระบวนการผลิตชิปรุ่น 2nm GAA ของ Exynos 2600 การที่ TSMC สามารถเพิ่มการผลิตและตอบสนองความต้องการของตลาดได้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้บริษัทสามารถแข่งขันได้ https://wccftech.com/tsmc-2nm-output-could-reach-up-to-80000-monthly-wafers-in-2025/
    WCCFTECH.COM
    TSMC’s Efforts In 2nm Production Could See The Company Reaching 50,000 Monthly Wafers In 2025; With Both Facilities Operational, Output Could Reach 80,000 Units
    Two 2nm facilities belonging to TSMC have the potential to produce 80,000 monthly wafers as demand for next-generation chips continues to rise
    0 Comments 0 Shares 175 Views 0 Reviews
  • ช่วงที่ผ่านมานี้ การลงโทษทางการค้าจากสหรัฐอเมริกาต่อประเทศจีนเหมือนจะกลับให้ผลตรงกันข้าม เนื่องจากประเทศจีนกลับค้นพบวิธีในการฝ่าฟันปัญหาและมีความก้าวหน้าเหนือคู่แข่งอย่างน่าทึ่งในเรื่องของเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductors) รายงานจากการสำรวจของสถาบัน Korea Institute of S&T Evaluation and Planning ที่รวมเอาความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญจำนวน 39 คน พบว่าจีนสามารถมีความก้าวหน้ามากกว่าเกาหลีใต้ในทุกด้านของเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์

    รายงานนี้เผยว่า ในเทคโนโลยีหน่วยความจำที่มีความต้านทานและความเข้มสูง จีนได้คะแนน 94.1% ขณะที่เกาหลีใต้ได้เพียง 90.9% นอกจากนี้ ในเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ AI ที่มีประสิทธิภาพสูง จีนยังคงมีความเหนือกว่า โดยได้คะแนน 88.3% เมื่อเทียบกับเกาหลีใต้ที่ได้ 84.1% ส่วนในเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์กำลัง (Power Semiconductors) จีนได้คะแนน 79.8% ขณะที่เกาหลีใต้ได้เพียง 67.5%

    นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีเซนเซอร์ประสิทธิภาพสูงแบบใหม่ที่จีนยังคงมีคะแนนนำหน้าเกาหลีใต้เช่นกัน โดยได้คะแนน 83.9% ขณะที่เกาหลีใต้ได้ 81.3% แต่มีเพียงเทคโนโลยีแพ็กเกจเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงเท่านั้นที่ทั้งสองประเทศได้คะแนนเท่ากันที่ 74.2%

    ในปี 2022 จีนยังคงตามหลังเกาหลีใต้อยู่มาก แต่ในปัจจุบันกลับพบว่าทั้งสองประเทศได้สลับตำแหน่งกัน ซึ่งผลสำรวจนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่าเกาหลีใต้จำเป็นต้องมุ่งพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น

    นาย Park Yong-in หัวหน้าฝ่ายเซมิคอนดักเตอร์ของ Samsung ได้กล่าวในที่ประชุมว่า พนักงานในทีม System LSI ควรรับผิดชอบและแบ่งปันภาระในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เรือธงเพื่อสร้างความได้เปรียบในตลาด คาดว่าในอนาคตเราจะได้เห็นความก้าวหน้าในการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ของเกาหลีใต้ต่อไป

    https://wccftech.com/china-has-surpassed-south-korean-in-all-semiconductor-technologies-claims-survey/
    ช่วงที่ผ่านมานี้ การลงโทษทางการค้าจากสหรัฐอเมริกาต่อประเทศจีนเหมือนจะกลับให้ผลตรงกันข้าม เนื่องจากประเทศจีนกลับค้นพบวิธีในการฝ่าฟันปัญหาและมีความก้าวหน้าเหนือคู่แข่งอย่างน่าทึ่งในเรื่องของเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductors) รายงานจากการสำรวจของสถาบัน Korea Institute of S&T Evaluation and Planning ที่รวมเอาความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญจำนวน 39 คน พบว่าจีนสามารถมีความก้าวหน้ามากกว่าเกาหลีใต้ในทุกด้านของเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ รายงานนี้เผยว่า ในเทคโนโลยีหน่วยความจำที่มีความต้านทานและความเข้มสูง จีนได้คะแนน 94.1% ขณะที่เกาหลีใต้ได้เพียง 90.9% นอกจากนี้ ในเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ AI ที่มีประสิทธิภาพสูง จีนยังคงมีความเหนือกว่า โดยได้คะแนน 88.3% เมื่อเทียบกับเกาหลีใต้ที่ได้ 84.1% ส่วนในเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์กำลัง (Power Semiconductors) จีนได้คะแนน 79.8% ขณะที่เกาหลีใต้ได้เพียง 67.5% นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีเซนเซอร์ประสิทธิภาพสูงแบบใหม่ที่จีนยังคงมีคะแนนนำหน้าเกาหลีใต้เช่นกัน โดยได้คะแนน 83.9% ขณะที่เกาหลีใต้ได้ 81.3% แต่มีเพียงเทคโนโลยีแพ็กเกจเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงเท่านั้นที่ทั้งสองประเทศได้คะแนนเท่ากันที่ 74.2% ในปี 2022 จีนยังคงตามหลังเกาหลีใต้อยู่มาก แต่ในปัจจุบันกลับพบว่าทั้งสองประเทศได้สลับตำแหน่งกัน ซึ่งผลสำรวจนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่าเกาหลีใต้จำเป็นต้องมุ่งพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น นาย Park Yong-in หัวหน้าฝ่ายเซมิคอนดักเตอร์ของ Samsung ได้กล่าวในที่ประชุมว่า พนักงานในทีม System LSI ควรรับผิดชอบและแบ่งปันภาระในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เรือธงเพื่อสร้างความได้เปรียบในตลาด คาดว่าในอนาคตเราจะได้เห็นความก้าวหน้าในการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ของเกาหลีใต้ต่อไป https://wccftech.com/china-has-surpassed-south-korean-in-all-semiconductor-technologies-claims-survey/
    WCCFTECH.COM
    China Has Managed To Successfully Surpass South Korea In All Categories Of Semiconductor Technology, At Least According To A Survey Of Local Experts
    A survey involving local experts has revealed that China has comprehensively beaten South Korea in all semiconductor technologies
    0 Comments 0 Shares 213 Views 0 Reviews
More Results