• ECHO: เครื่องมือใหม่ที่ใช้โค้ดของมัลแวร์เองเพื่อกำจัดมัน นักวิจัยจาก Georgia Tech ได้พัฒนาเครื่องมือที่ชื่อว่า ECHO ซึ่งสามารถ ใช้โครงสร้างของมัลแวร์เองในการทำลายมัน โดยใช้ ช่องทางอัปเดตของมัลแวร์เพื่อส่งคำสั่งทำลายตัวเอง

    ECHO ถูกออกแบบมาเพื่อ จัดการกับบ็อตเน็ต ซึ่งเป็นเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ที่ติดมัลแวร์และถูกควบคุมจากระยะไกล โดยปกติแล้ว การกำจัดบ็อตเน็ตต้องใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ แต่ ECHO สามารถ ลดเวลาการตอบสนองและจำกัดความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ✅ ECHO ใช้ช่องทางอัปเดตของมัลแวร์เพื่อส่งคำสั่งทำลายตัวเอง
    - ทำให้ สามารถกำจัดมัลแวร์ได้โดยไม่ต้องใช้วิธีดั้งเดิม

    ✅ สามารถกำจัดบ็อตเน็ตได้โดยอัตโนมัติ
    - ลดเวลาการตอบสนอง จากหลายวันเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง

    ✅ ในการทดสอบ ECHO สามารถกำจัดมัลแวร์ Android ได้ 75%
    - จากตัวอย่างมัลแวร์ 702 ตัว สามารถกำจัดได้ 523 ตัว

    ✅ แนวคิดนี้เคยถูกใช้ในการกำจัด Retadup botnet ในปี 2019
    - แต่ต้องใช้แรงงานมนุษย์จำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถทำซ้ำได้ง่าย

    ✅ ECHO ถูกเปิดให้ใช้งานแบบโอเพ่นซอร์สบน GitHub
    - สามารถ ใช้ร่วมกับเครื่องมือรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ ได้

    https://www.techradar.com/pro/security/security-researchers-develop-automated-malware-removal-that-works-like-a-vaccine
    ECHO: เครื่องมือใหม่ที่ใช้โค้ดของมัลแวร์เองเพื่อกำจัดมัน นักวิจัยจาก Georgia Tech ได้พัฒนาเครื่องมือที่ชื่อว่า ECHO ซึ่งสามารถ ใช้โครงสร้างของมัลแวร์เองในการทำลายมัน โดยใช้ ช่องทางอัปเดตของมัลแวร์เพื่อส่งคำสั่งทำลายตัวเอง ECHO ถูกออกแบบมาเพื่อ จัดการกับบ็อตเน็ต ซึ่งเป็นเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ที่ติดมัลแวร์และถูกควบคุมจากระยะไกล โดยปกติแล้ว การกำจัดบ็อตเน็ตต้องใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ แต่ ECHO สามารถ ลดเวลาการตอบสนองและจำกัดความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ECHO ใช้ช่องทางอัปเดตของมัลแวร์เพื่อส่งคำสั่งทำลายตัวเอง - ทำให้ สามารถกำจัดมัลแวร์ได้โดยไม่ต้องใช้วิธีดั้งเดิม ✅ สามารถกำจัดบ็อตเน็ตได้โดยอัตโนมัติ - ลดเวลาการตอบสนอง จากหลายวันเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง ✅ ในการทดสอบ ECHO สามารถกำจัดมัลแวร์ Android ได้ 75% - จากตัวอย่างมัลแวร์ 702 ตัว สามารถกำจัดได้ 523 ตัว ✅ แนวคิดนี้เคยถูกใช้ในการกำจัด Retadup botnet ในปี 2019 - แต่ต้องใช้แรงงานมนุษย์จำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถทำซ้ำได้ง่าย ✅ ECHO ถูกเปิดให้ใช้งานแบบโอเพ่นซอร์สบน GitHub - สามารถ ใช้ร่วมกับเครื่องมือรักษาความปลอดภัยอื่น ๆ ได้ https://www.techradar.com/pro/security/security-researchers-develop-automated-malware-removal-that-works-like-a-vaccine
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple ปรับปรุงแอป Move to iOS ให้โอนข้อมูลจาก Android ไป iPhone ได้ง่ายขึ้น Apple ได้อัปเดต แอป Move to iOS ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ โอนข้อมูลจากสมาร์ทโฟน Android ไปยัง iPhone ได้รวดเร็วและครอบคลุมมากขึ้น โดยเพิ่ม การรองรับประวัติการโทร, ไฟล์เสียง และป้ายกำกับ Dual SIM

    นอกจากนี้ แอปยัง รองรับการโอนข้อมูลผ่านสาย USB-C สำหรับ iPhone รุ่นใหม่ และ USB-C to Lightning สำหรับรุ่นเก่า ทำให้การโอนข้อมูล มีความเร็วสูงขึ้นและลดข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อ

    ✅ Move to iOS รองรับการโอนข้อมูลที่ครอบคลุมมากขึ้น
    - สามารถ โอนรายชื่อ, ประวัติข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ, บุ๊กมาร์กเว็บ, บัญชีอีเมล และปฏิทิน
    - รองรับ แอปที่เข้ากันได้ รวมถึงเนื้อหา WhatsApp

    ✅ เพิ่มการรองรับประวัติการโทรและไฟล์เสียง
    - สามารถ โอนข้อมูลไปยังแอป Voice Memos หรือ Files ได้โดยตรง

    ✅ รองรับการโอนป้ายกำกับ Dual SIM
    - ช่วยให้ ผู้ใช้ที่ใช้สองซิมสามารถรักษาชื่อที่ตั้งค่าไว้ได้

    ✅ รองรับการโอนข้อมูลผ่านสาย USB-C และ USB-C to Lightning
    - ทำให้ การโอนข้อมูลเร็วขึ้นและลดข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อ

    ✅ Google มีแอป Switch to Android สำหรับการโอนข้อมูลจาก iPhone ไป Android
    - ใช้ QR Code เพื่อโอนรายชื่อ, ปฏิทิน, รูปภาพ และวิดีโอ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/09/switching-from-an-android-handset-to-an-iphone-has-never-been-easier
    Apple ปรับปรุงแอป Move to iOS ให้โอนข้อมูลจาก Android ไป iPhone ได้ง่ายขึ้น Apple ได้อัปเดต แอป Move to iOS ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ โอนข้อมูลจากสมาร์ทโฟน Android ไปยัง iPhone ได้รวดเร็วและครอบคลุมมากขึ้น โดยเพิ่ม การรองรับประวัติการโทร, ไฟล์เสียง และป้ายกำกับ Dual SIM นอกจากนี้ แอปยัง รองรับการโอนข้อมูลผ่านสาย USB-C สำหรับ iPhone รุ่นใหม่ และ USB-C to Lightning สำหรับรุ่นเก่า ทำให้การโอนข้อมูล มีความเร็วสูงขึ้นและลดข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อ ✅ Move to iOS รองรับการโอนข้อมูลที่ครอบคลุมมากขึ้น - สามารถ โอนรายชื่อ, ประวัติข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ, บุ๊กมาร์กเว็บ, บัญชีอีเมล และปฏิทิน - รองรับ แอปที่เข้ากันได้ รวมถึงเนื้อหา WhatsApp ✅ เพิ่มการรองรับประวัติการโทรและไฟล์เสียง - สามารถ โอนข้อมูลไปยังแอป Voice Memos หรือ Files ได้โดยตรง ✅ รองรับการโอนป้ายกำกับ Dual SIM - ช่วยให้ ผู้ใช้ที่ใช้สองซิมสามารถรักษาชื่อที่ตั้งค่าไว้ได้ ✅ รองรับการโอนข้อมูลผ่านสาย USB-C และ USB-C to Lightning - ทำให้ การโอนข้อมูลเร็วขึ้นและลดข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อ ✅ Google มีแอป Switch to Android สำหรับการโอนข้อมูลจาก iPhone ไป Android - ใช้ QR Code เพื่อโอนรายชื่อ, ปฏิทิน, รูปภาพ และวิดีโอ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/09/switching-from-an-android-handset-to-an-iphone-has-never-been-easier
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Switching from an Android handset to an iPhone has never been easier
    Apple has announced a major update to its Move to iOS mobile application which, as the name suggests, lets you transfer your personal data from an old Android smartphone to a new iPhone. The manufacturer now promises a faster, more comprehensive switchover.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Chrome ใช้ AI Gemini Nano เพื่อป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ Google ได้เปิดเผยว่า Chrome Enhanced Protection mode บนเดสก์ท็อปตอนนี้ใช้ Gemini Nano ซึ่งเป็น โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่ทำงานบนอุปกรณ์ เพื่อช่วย ตรวจจับเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยงและป้องกันการหลอกลวงออนไลน์

    Gemini Nano สามารถ วิเคราะห์ข้อความจำนวนมากและระบุรูปแบบภาษาที่อาจเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ทำให้สามารถ ป้องกันภัยคุกคามที่ยังไม่เคยถูกตรวจพบมาก่อน นอกจากนี้ Google ยังใช้ AI ในการตรวจจับเว็บไซต์ที่หลอกลวงบน Google Search ซึ่งช่วยลด จำนวนเว็บไซต์หลอกลวงลงถึง 80%

    ✅ Chrome Enhanced Protection mode ใช้ Gemini Nano เพื่อป้องกันการหลอกลวงออนไลน์
    - ให้ การป้องกันแบบเรียลไทม์สำหรับเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยง
    - สามารถ ตรวจจับภัยคุกคามที่ยังไม่เคยถูกพบมาก่อน

    ✅ Google ใช้ AI เพื่อปรับปรุงระบบตรวจจับเว็บไซต์หลอกลวงบน Google Search
    - ลด จำนวนเว็บไซต์หลอกลวงลงถึง 80%
    - ป้องกัน เว็บไซต์ที่แอบอ้างเป็นบริการทางการ เช่น วีซ่า หรือหน่วยงานรัฐบาล

    ✅ Google จะขยายฟีเจอร์ความปลอดภัยไปยัง Android และเพิ่มการป้องกันประเภทการหลอกลวงใหม่ ๆ
    - รวมถึง การแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับเว็บไซต์ที่มีการแจ้งเตือนที่เป็นอันตราย

    ✅ ผู้ใช้สามารถเปิด Enhanced Protection mode ได้ใน Chrome Settings
    - ไปที่ Settings > Privacy and Security > Security

    https://www.neowin.net/news/google-chrome-now-uses-gemini-nano-to-fight-online-scams/
    Google Chrome ใช้ AI Gemini Nano เพื่อป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ Google ได้เปิดเผยว่า Chrome Enhanced Protection mode บนเดสก์ท็อปตอนนี้ใช้ Gemini Nano ซึ่งเป็น โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่ทำงานบนอุปกรณ์ เพื่อช่วย ตรวจจับเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยงและป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ Gemini Nano สามารถ วิเคราะห์ข้อความจำนวนมากและระบุรูปแบบภาษาที่อาจเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ทำให้สามารถ ป้องกันภัยคุกคามที่ยังไม่เคยถูกตรวจพบมาก่อน นอกจากนี้ Google ยังใช้ AI ในการตรวจจับเว็บไซต์ที่หลอกลวงบน Google Search ซึ่งช่วยลด จำนวนเว็บไซต์หลอกลวงลงถึง 80% ✅ Chrome Enhanced Protection mode ใช้ Gemini Nano เพื่อป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ - ให้ การป้องกันแบบเรียลไทม์สำหรับเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยง - สามารถ ตรวจจับภัยคุกคามที่ยังไม่เคยถูกพบมาก่อน ✅ Google ใช้ AI เพื่อปรับปรุงระบบตรวจจับเว็บไซต์หลอกลวงบน Google Search - ลด จำนวนเว็บไซต์หลอกลวงลงถึง 80% - ป้องกัน เว็บไซต์ที่แอบอ้างเป็นบริการทางการ เช่น วีซ่า หรือหน่วยงานรัฐบาล ✅ Google จะขยายฟีเจอร์ความปลอดภัยไปยัง Android และเพิ่มการป้องกันประเภทการหลอกลวงใหม่ ๆ - รวมถึง การแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับเว็บไซต์ที่มีการแจ้งเตือนที่เป็นอันตราย ✅ ผู้ใช้สามารถเปิด Enhanced Protection mode ได้ใน Chrome Settings - ไปที่ Settings > Privacy and Security > Security https://www.neowin.net/news/google-chrome-now-uses-gemini-nano-to-fight-online-scams/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google Chrome now uses Gemini Nano to fight online scams
    Google has updated Chrome's Enhanced Protection mode. The feature uses Gemini to enable faster detection.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้ ปลดพนักงานประมาณ 200 คน ในหน่วยธุรกิจระดับโลก ซึ่งรับผิดชอบด้าน การขายและการเป็นพันธมิตร โดยเป็นส่วนหนึ่งของ การปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อให้สามารถ ทำงานร่วมกันได้ดีขึ้นและให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    การปลดพนักงานครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่กำลังลดการลงทุนในบางส่วน และ มุ่งเน้นไปที่ศูนย์ข้อมูลและการพัฒนา AI นอกจากนี้ Google ยังเคย ปลดพนักงานหลายร้อยคนในหน่วยแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ ซึ่งรวมถึง Android, Pixel และ Chrome

    ✅ Google ปลดพนักงานประมาณ 200 คนในหน่วยธุรกิจระดับโลก
    - หน่วยนี้รับผิดชอบด้าน การขายและการเป็นพันธมิตร
    - เป็นส่วนหนึ่งของ การปรับโครงสร้างองค์กร

    ✅ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่กำลังลดการลงทุนในบางส่วนและมุ่งเน้นไปที่ศูนย์ข้อมูลและ AI
    - Google ลดการลงทุนในบางแผนกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

    ✅ Google เคยปลดพนักงานหลายร้อยคนในหน่วยแพลตฟอร์มและอุปกรณ์
    - รวมถึง Android, Pixel และ Chrome

    ✅ บริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ก็มีการปลดพนักงานเช่นกัน
    - Meta ปลดพนักงาน 5% ของกลุ่มที่มีผลงานต่ำสุด
    - Microsoft ปลดพนักงาน 650 คนในหน่วย Xbox
    - Amazon ปลดพนักงานในหลายหน่วยงาน รวมถึงฝ่ายสื่อสาร
    - Apple ลดตำแหน่งงานประมาณ 100 ตำแหน่งในกลุ่มบริการดิจิทัล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/google-cuts-about-200-staff-in-global-business-unit-the-information-reports
    Google ได้ ปลดพนักงานประมาณ 200 คน ในหน่วยธุรกิจระดับโลก ซึ่งรับผิดชอบด้าน การขายและการเป็นพันธมิตร โดยเป็นส่วนหนึ่งของ การปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อให้สามารถ ทำงานร่วมกันได้ดีขึ้นและให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การปลดพนักงานครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่กำลังลดการลงทุนในบางส่วน และ มุ่งเน้นไปที่ศูนย์ข้อมูลและการพัฒนา AI นอกจากนี้ Google ยังเคย ปลดพนักงานหลายร้อยคนในหน่วยแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ ซึ่งรวมถึง Android, Pixel และ Chrome ✅ Google ปลดพนักงานประมาณ 200 คนในหน่วยธุรกิจระดับโลก - หน่วยนี้รับผิดชอบด้าน การขายและการเป็นพันธมิตร - เป็นส่วนหนึ่งของ การปรับโครงสร้างองค์กร ✅ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่กำลังลดการลงทุนในบางส่วนและมุ่งเน้นไปที่ศูนย์ข้อมูลและ AI - Google ลดการลงทุนในบางแผนกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ✅ Google เคยปลดพนักงานหลายร้อยคนในหน่วยแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ - รวมถึง Android, Pixel และ Chrome ✅ บริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ก็มีการปลดพนักงานเช่นกัน - Meta ปลดพนักงาน 5% ของกลุ่มที่มีผลงานต่ำสุด - Microsoft ปลดพนักงาน 650 คนในหน่วย Xbox - Amazon ปลดพนักงานในหลายหน่วยงาน รวมถึงฝ่ายสื่อสาร - Apple ลดตำแหน่งงานประมาณ 100 ตำแหน่งในกลุ่มบริการดิจิทัล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/google-cuts-about-200-staff-in-global-business-unit-the-information-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Google cuts about 200 staff in global business unit, The Information reports
    (Reuters) -Google on Tuesday cut about 200 jobs across its global business unit, which is responsible for sales and partnerships, The Information reported on Wednesday, citing a person with knowledge of the situation.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในปี 2025 ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยมีการใช้ มัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI, ชุดเครื่องมือฟิชชิ่งแบบบริการ (Phishing-as-a-Service) และช่องโหว่ Zero-day ที่สามารถโจมตีได้ตั้งแต่บุคคลทั่วไปไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่

    ด้วยเหตุนี้ การเลือกใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ใช่แค่การตรวจจับไวรัส แต่ต้องเป็น ระบบป้องกันที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่ ไฟล์ส่วนตัวไปจนถึงข้อมูลทางการเงิน และสามารถทำงานได้บน หลายอุปกรณ์และแพลตฟอร์ม

    ✅ Bitdefender Total Security – ป้องกันรอบด้านสำหรับทุกอุปกรณ์
    - ใช้ AI ในการตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์
    - มี VPN ปลอดภัย พร้อมตัวจัดการรหัสผ่าน
    - รองรับ Windows, macOS, Android และ iOS

    ✅ Kaspersky Internet Security – ประสิทธิภาพสูง ใช้ทรัพยากรระบบน้อย
    - มี Safe Money browser สำหรับธุรกรรมออนไลน์
    - ป้องกัน การโจมตีเครือข่ายและฟิชชิ่ง
    - มี ระบบเข้ารหัสข้อมูลและการตรวจสอบแบบเรียลไทม์

    ✅ ESET Smart Security Premium – เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับสูง
    - มี LiveGuard sandboxing สำหรับตรวจจับภัยคุกคามใหม่
    - ป้องกัน การโจมตีระดับเฟิร์มแวร์ด้วย UEFI scanner
    - มี ระบบเข้ารหัสไฟล์และตัวจัดการรหัสผ่าน

    ✅ Norton 360 Deluxe – ป้องกันข้อมูลส่วนตัวและการโจมตีทางไซเบอร์
    - มี Dark Web Monitoring และการแจ้งเตือนข้อมูลรั่วไหล
    - รองรับ การสำรองข้อมูลบนคลาวด์ 50GB
    - มี VPN ไม่จำกัดแบนด์วิดท์

    ✅ Webroot SecureAnywhere – เหมาะสำหรับระบบที่มีทรัพยากรจำกัด
    - ใช้ การวิเคราะห์ภัยคุกคามบนคลาวด์
    - มี ระบบป้องกันฟิชชิ่งและการโจมตีแบบเรียลไทม์
    - ใช้ทรัพยากรระบบน้อยมาก

    ‼️ มัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อาจทำให้การโจมตีมีความซับซ้อนมากขึ้น
    - ระบบรักษาความปลอดภัยต้อง สามารถตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติได้

    ‼️ ช่องโหว่ Zero-day ยังคงเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง
    - ควรใช้ ซอฟต์แวร์ที่มีระบบอัปเดตและแพตช์ความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง

    https://computercity.com/software/malware/best-network-security-software-for-protecting-your-digital-assets-2025
    ในปี 2025 ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยมีการใช้ มัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI, ชุดเครื่องมือฟิชชิ่งแบบบริการ (Phishing-as-a-Service) และช่องโหว่ Zero-day ที่สามารถโจมตีได้ตั้งแต่บุคคลทั่วไปไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยเหตุนี้ การเลือกใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ใช่แค่การตรวจจับไวรัส แต่ต้องเป็น ระบบป้องกันที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่ ไฟล์ส่วนตัวไปจนถึงข้อมูลทางการเงิน และสามารถทำงานได้บน หลายอุปกรณ์และแพลตฟอร์ม ✅ Bitdefender Total Security – ป้องกันรอบด้านสำหรับทุกอุปกรณ์ - ใช้ AI ในการตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ - มี VPN ปลอดภัย พร้อมตัวจัดการรหัสผ่าน - รองรับ Windows, macOS, Android และ iOS ✅ Kaspersky Internet Security – ประสิทธิภาพสูง ใช้ทรัพยากรระบบน้อย - มี Safe Money browser สำหรับธุรกรรมออนไลน์ - ป้องกัน การโจมตีเครือข่ายและฟิชชิ่ง - มี ระบบเข้ารหัสข้อมูลและการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ ✅ ESET Smart Security Premium – เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับสูง - มี LiveGuard sandboxing สำหรับตรวจจับภัยคุกคามใหม่ - ป้องกัน การโจมตีระดับเฟิร์มแวร์ด้วย UEFI scanner - มี ระบบเข้ารหัสไฟล์และตัวจัดการรหัสผ่าน ✅ Norton 360 Deluxe – ป้องกันข้อมูลส่วนตัวและการโจมตีทางไซเบอร์ - มี Dark Web Monitoring และการแจ้งเตือนข้อมูลรั่วไหล - รองรับ การสำรองข้อมูลบนคลาวด์ 50GB - มี VPN ไม่จำกัดแบนด์วิดท์ ✅ Webroot SecureAnywhere – เหมาะสำหรับระบบที่มีทรัพยากรจำกัด - ใช้ การวิเคราะห์ภัยคุกคามบนคลาวด์ - มี ระบบป้องกันฟิชชิ่งและการโจมตีแบบเรียลไทม์ - ใช้ทรัพยากรระบบน้อยมาก ‼️ มัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อาจทำให้การโจมตีมีความซับซ้อนมากขึ้น - ระบบรักษาความปลอดภัยต้อง สามารถตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติได้ ‼️ ช่องโหว่ Zero-day ยังคงเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง - ควรใช้ ซอฟต์แวร์ที่มีระบบอัปเดตและแพตช์ความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง https://computercity.com/software/malware/best-network-security-software-for-protecting-your-digital-assets-2025
    COMPUTERCITY.COM
    Best Network Security Software for Protecting Your Digital Assets (2025)
    In 2025, cyber threats have grown more advanced than ever, with AI-driven malware, phishing-as-a-service kits, and zero-day exploits targeting everyone from
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google กำลังพัฒนา โหมดเดสก์ท็อปใหม่สำหรับ Android 16 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นพีซี โดยเชื่อมต่อกับ หน้าจอภายนอกผ่าน USB-C

    โหมดนี้คล้ายกับ Samsung DeX แต่ได้รับการออกแบบให้ รองรับการทำงานแบบมัลติทาสก์ได้ดีขึ้น โดยมี แถบงานที่สามารถปักหมุดแอป, หน้าต่างที่ปรับขนาดได้ และการลากวางข้อมูลระหว่างแอป

    ✅ Google กำลังพัฒนาโหมดเดสก์ท็อปสำหรับ Android 16
    - ช่วยให้สามารถ เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นพีซี
    - รองรับ การเชื่อมต่อกับหน้าจอภายนอกผ่าน USB-C

    ✅ คล้ายกับ Samsung DeX แต่มีฟีเจอร์ที่ปรับปรุงใหม่
    - มี แถบงานที่สามารถปักหมุดแอป
    - รองรับ หน้าต่างที่ปรับขนาดได้และการลากวางข้อมูลระหว่างแอป

    ✅ สามารถเปิดแอปหลายตัวพร้อมกันในหน้าต่างลอย
    - ช่วยให้ การทำงานแบบมัลติทาสก์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - แอปสามารถ จัดเรียงและปรับขนาดได้ตามต้องการ

    ✅ Google ทดสอบฟีเจอร์นี้บน Pixel 8 Pro ที่ใช้ Android 16 Beta
    - คาดว่า จะเปิดตัวใน Android 17 หากยังไม่พร้อมสำหรับ Android 16

    https://www.techspot.com/news/107810-android-16-beta-reveals-new-desktop-mode-turn.html
    Google กำลังพัฒนา โหมดเดสก์ท็อปใหม่สำหรับ Android 16 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นพีซี โดยเชื่อมต่อกับ หน้าจอภายนอกผ่าน USB-C โหมดนี้คล้ายกับ Samsung DeX แต่ได้รับการออกแบบให้ รองรับการทำงานแบบมัลติทาสก์ได้ดีขึ้น โดยมี แถบงานที่สามารถปักหมุดแอป, หน้าต่างที่ปรับขนาดได้ และการลากวางข้อมูลระหว่างแอป ✅ Google กำลังพัฒนาโหมดเดสก์ท็อปสำหรับ Android 16 - ช่วยให้สามารถ เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นพีซี - รองรับ การเชื่อมต่อกับหน้าจอภายนอกผ่าน USB-C ✅ คล้ายกับ Samsung DeX แต่มีฟีเจอร์ที่ปรับปรุงใหม่ - มี แถบงานที่สามารถปักหมุดแอป - รองรับ หน้าต่างที่ปรับขนาดได้และการลากวางข้อมูลระหว่างแอป ✅ สามารถเปิดแอปหลายตัวพร้อมกันในหน้าต่างลอย - ช่วยให้ การทำงานแบบมัลติทาสก์มีประสิทธิภาพมากขึ้น - แอปสามารถ จัดเรียงและปรับขนาดได้ตามต้องการ ✅ Google ทดสอบฟีเจอร์นี้บน Pixel 8 Pro ที่ใช้ Android 16 Beta - คาดว่า จะเปิดตัวใน Android 17 หากยังไม่พร้อมสำหรับ Android 16 https://www.techspot.com/news/107810-android-16-beta-reveals-new-desktop-mode-turn.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Android 16 beta reveals new desktop mode to turn your phone into a PC
    Google appears poised to bring a full-fledged desktop experience to Android users. The search giant recently enabled the new functionality on a Pixel 8 Pro running the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google กำลังก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ด้วยโครงการ "100 Zeros" ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ Range Media Partners โดยมีเป้าหมายเพื่อ ส่งเสริมเทคโนโลยีและปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์

    โครงการนี้จะช่วยให้ Google มีบทบาทในวงการบันเทิง โดยสนับสนุนทั้ง ภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี นอกจากนี้ Google ยังต้องการให้ ตัวละครในภาพยนตร์ใช้ Android แทน iPhone เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มผู้ชม

    ✅ Google เปิดตัวโครงการ "100 Zeros" เพื่อเข้าสู่วงการภาพยนตร์และโทรทัศน์
    - เป็นความร่วมมือกับ Range Media Partners
    - มีเป้าหมายเพื่อ ส่งเสริมเทคโนโลยีและปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์

    ✅ สนับสนุนทั้งภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
    - Google หวังว่า โครงการนี้จะช่วยให้ผู้สร้างภาพยนตร์นำเทคโนโลยีของ Google ไปใช้
    - รวมถึง Immersive View ใน Maps และเครื่องมือ AI ต่าง ๆ

    ✅ Google ต้องการให้ตัวละครในภาพยนตร์ใช้ Android แทน iPhone
    - เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มผู้ชม
    - อย่างไรก็ตาม Google ระบุว่าไม่ต้องการบังคับให้มีการใช้ผลิตภัณฑ์ของตนในภาพยนตร์

    ✅ YouTube จะไม่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้
    - Google ต้องการขายโครงการให้กับ สตูดิโอและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งแบบดั้งเดิม

    ✅ โครงการ AI On Screen จะช่วยพัฒนาเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ AI
    - Google และ Range จะใช้เวลา 18 เดือนในการพัฒนาและผลิตภาพยนตร์สั้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับ AI

    https://www.techspot.com/news/107814-google-launches-100-zeros-movie-tv-venture-boost.html
    Google กำลังก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ด้วยโครงการ "100 Zeros" ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ Range Media Partners โดยมีเป้าหมายเพื่อ ส่งเสริมเทคโนโลยีและปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ โครงการนี้จะช่วยให้ Google มีบทบาทในวงการบันเทิง โดยสนับสนุนทั้ง ภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี นอกจากนี้ Google ยังต้องการให้ ตัวละครในภาพยนตร์ใช้ Android แทน iPhone เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มผู้ชม ✅ Google เปิดตัวโครงการ "100 Zeros" เพื่อเข้าสู่วงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ - เป็นความร่วมมือกับ Range Media Partners - มีเป้าหมายเพื่อ ส่งเสริมเทคโนโลยีและปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ✅ สนับสนุนทั้งภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี - Google หวังว่า โครงการนี้จะช่วยให้ผู้สร้างภาพยนตร์นำเทคโนโลยีของ Google ไปใช้ - รวมถึง Immersive View ใน Maps และเครื่องมือ AI ต่าง ๆ ✅ Google ต้องการให้ตัวละครในภาพยนตร์ใช้ Android แทน iPhone - เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มผู้ชม - อย่างไรก็ตาม Google ระบุว่าไม่ต้องการบังคับให้มีการใช้ผลิตภัณฑ์ของตนในภาพยนตร์ ✅ YouTube จะไม่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ - Google ต้องการขายโครงการให้กับ สตูดิโอและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งแบบดั้งเดิม ✅ โครงการ AI On Screen จะช่วยพัฒนาเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ AI - Google และ Range จะใช้เวลา 18 เดือนในการพัฒนาและผลิตภาพยนตร์สั้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับ AI https://www.techspot.com/news/107814-google-launches-100-zeros-movie-tv-venture-boost.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google launches "100 Zeros" movie and TV venture to boost its brand image
    Range Media Partners, the talent firm and production company that produced Longlegs and A Complete Unknown, has been tasked with finding both scripted and unscripted projects that...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google กำลังเตรียมเปิดตัว Material 3 Expressive (M3E) ซึ่งเป็น ดีไซน์ใหม่สำหรับ Android 16 ที่เน้น สี, รูปร่าง, ขนาด, การเคลื่อนไหว และการจัดวางองค์ประกอบ เพื่อให้ การใช้งานง่ายขึ้นและมีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น

    M3E เป็น การพัฒนาต่อยอดจาก Material You โดยมีการปรับปรุง ปุ่มที่ใหญ่ขึ้น, ขอบเขตที่มีความคมชัดสูง และองค์ประกอบที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับ UI ได้เร็วขึ้น

    ✅ Material 3 Expressive เป็นดีไซน์ใหม่สำหรับ Android 16
    - เน้น สี, รูปร่าง, ขนาด, การเคลื่อนไหว และการจัดวางองค์ประกอบ
    - ช่วยให้ การใช้งานง่ายขึ้นและมีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น

    ✅ Google ปรับปรุง UI ให้มีความชัดเจนมากขึ้น
    - ปุ่มที่ใหญ่ขึ้น และ ขอบเขตที่มีความคมชัดสูง
    - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับ UI ได้เร็วขึ้น

    ✅ ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงในแอป Gmail
    - ปุ่ม Send ถูกย้ายมาอยู่ เหนือคีย์บอร์ด และมีสีรองเพื่อให้เห็นได้ง่ายขึ้น
    - ต่างจากเวอร์ชันปัจจุบันที่ ปุ่ม Send อยู่ในแถบเครื่องมือด้านบน

    ✅ M3E จะถูกนำไปใช้กับทุกแอปของ Google รวมถึง Android 16
    - คาดว่า Wear OS อาจได้รับการอัปเดตให้รองรับ M3E ด้วย

    ✅ การเปลี่ยนแปลงในแอป Clock
    - ปรับ แถบเครื่องมือด้านล่าง และเพิ่ม World Clock label
    - เปลี่ยน รูปแบบตัวเลขในหน้า Alarms ให้เป็น ตัวเลือกเวลาที่ยาวขึ้น

    https://www.techspot.com/news/107815-google-leaks-android-16-material-3-expressive-design.html
    Google กำลังเตรียมเปิดตัว Material 3 Expressive (M3E) ซึ่งเป็น ดีไซน์ใหม่สำหรับ Android 16 ที่เน้น สี, รูปร่าง, ขนาด, การเคลื่อนไหว และการจัดวางองค์ประกอบ เพื่อให้ การใช้งานง่ายขึ้นและมีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น M3E เป็น การพัฒนาต่อยอดจาก Material You โดยมีการปรับปรุง ปุ่มที่ใหญ่ขึ้น, ขอบเขตที่มีความคมชัดสูง และองค์ประกอบที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับ UI ได้เร็วขึ้น ✅ Material 3 Expressive เป็นดีไซน์ใหม่สำหรับ Android 16 - เน้น สี, รูปร่าง, ขนาด, การเคลื่อนไหว และการจัดวางองค์ประกอบ - ช่วยให้ การใช้งานง่ายขึ้นและมีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น ✅ Google ปรับปรุง UI ให้มีความชัดเจนมากขึ้น - ปุ่มที่ใหญ่ขึ้น และ ขอบเขตที่มีความคมชัดสูง - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับ UI ได้เร็วขึ้น ✅ ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงในแอป Gmail - ปุ่ม Send ถูกย้ายมาอยู่ เหนือคีย์บอร์ด และมีสีรองเพื่อให้เห็นได้ง่ายขึ้น - ต่างจากเวอร์ชันปัจจุบันที่ ปุ่ม Send อยู่ในแถบเครื่องมือด้านบน ✅ M3E จะถูกนำไปใช้กับทุกแอปของ Google รวมถึง Android 16 - คาดว่า Wear OS อาจได้รับการอัปเดตให้รองรับ M3E ด้วย ✅ การเปลี่ยนแปลงในแอป Clock - ปรับ แถบเครื่องมือด้านล่าง และเพิ่ม World Clock label - เปลี่ยน รูปแบบตัวเลขในหน้า Alarms ให้เป็น ตัวเลือกเวลาที่ยาวขึ้น https://www.techspot.com/news/107815-google-leaks-android-16-material-3-expressive-design.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Android is getting a new look with Google's Material 3 Expressive
    The article, which is still accessible via the Wayback Machine, describes what Google calls its "most-researched" update to a design language. According to the company, Material 3...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • Brave ได้เปิดตัว ฟีเจอร์ Block Elements บน Android ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ บล็อกองค์ประกอบของหน้าเว็บ ได้เหมือนกับเวอร์ชันเดสก์ท็อป

    ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ กำจัดองค์ประกอบที่ไม่ต้องการ เช่น ป๊อปอัปหรือโฆษณาที่รบกวนการใช้งาน โดยสามารถเข้าถึงได้ผ่าน เมนู Shields → Advanced controls → Block element และเลือกองค์ประกอบที่ต้องการบล็อก

    แม้ว่าการบล็อกองค์ประกอบจะช่วยให้ ประสบการณ์การใช้งานดีขึ้น แต่ก็อาจทำให้ บางเว็บไซต์แสดงผลผิดพลาด หากองค์ประกอบที่ถูกบล็อกมีความสำคัญต่อการทำงานของหน้าเว็บ

    ✅ Brave เพิ่มฟีเจอร์ Block Elements บน Android
    - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ บล็อกองค์ประกอบของหน้าเว็บ ได้เหมือนกับเวอร์ชันเดสก์ท็อป
    - สามารถเข้าถึงได้ผ่าน เมนู Shields → Advanced controls → Block element

    ✅ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำจัดองค์ประกอบที่ไม่ต้องการ
    - เช่น ป๊อปอัป, โฆษณา หรือองค์ประกอบที่รบกวนการใช้งาน
    - สามารถ รีเซ็ตการตั้งค่าการบล็อกได้ผ่านเมนู Shields

    ✅ การตั้งค่าการบล็อกสามารถดูได้ผ่าน brave://settings/shields/filters
    - ผู้ใช้สามารถ ดูรายการองค์ประกอบที่ถูกบล็อกในแต่ละเว็บไซต์

    ✅ ฟีเจอร์นี้พร้อมใช้งานใน Brave for Android 1.78
    - สามารถอัปเดตผ่าน Google Play Store

    ‼️ ผลกระทบต่อการแสดงผลของเว็บไซต์
    - หากบล็อกองค์ประกอบที่สำคัญ อาจทำให้ เว็บไซต์แสดงผลผิดพลาด

    ‼️ ความท้าทายในการใช้งานสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    - ฟีเจอร์นี้ ถูกซ่อนอยู่ในเมนูขั้นสูง อาจทำให้ผู้ใช้บางคนหาไม่เจอ

    https://www.neowin.net/news/brave-for-android-now-lets-you-block-elements-just-like-on-desktop/
    Brave ได้เปิดตัว ฟีเจอร์ Block Elements บน Android ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ บล็อกองค์ประกอบของหน้าเว็บ ได้เหมือนกับเวอร์ชันเดสก์ท็อป ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ กำจัดองค์ประกอบที่ไม่ต้องการ เช่น ป๊อปอัปหรือโฆษณาที่รบกวนการใช้งาน โดยสามารถเข้าถึงได้ผ่าน เมนู Shields → Advanced controls → Block element และเลือกองค์ประกอบที่ต้องการบล็อก แม้ว่าการบล็อกองค์ประกอบจะช่วยให้ ประสบการณ์การใช้งานดีขึ้น แต่ก็อาจทำให้ บางเว็บไซต์แสดงผลผิดพลาด หากองค์ประกอบที่ถูกบล็อกมีความสำคัญต่อการทำงานของหน้าเว็บ ✅ Brave เพิ่มฟีเจอร์ Block Elements บน Android - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ บล็อกองค์ประกอบของหน้าเว็บ ได้เหมือนกับเวอร์ชันเดสก์ท็อป - สามารถเข้าถึงได้ผ่าน เมนู Shields → Advanced controls → Block element ✅ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำจัดองค์ประกอบที่ไม่ต้องการ - เช่น ป๊อปอัป, โฆษณา หรือองค์ประกอบที่รบกวนการใช้งาน - สามารถ รีเซ็ตการตั้งค่าการบล็อกได้ผ่านเมนู Shields ✅ การตั้งค่าการบล็อกสามารถดูได้ผ่าน brave://settings/shields/filters - ผู้ใช้สามารถ ดูรายการองค์ประกอบที่ถูกบล็อกในแต่ละเว็บไซต์ ✅ ฟีเจอร์นี้พร้อมใช้งานใน Brave for Android 1.78 - สามารถอัปเดตผ่าน Google Play Store ‼️ ผลกระทบต่อการแสดงผลของเว็บไซต์ - หากบล็อกองค์ประกอบที่สำคัญ อาจทำให้ เว็บไซต์แสดงผลผิดพลาด ‼️ ความท้าทายในการใช้งานสำหรับผู้ใช้ทั่วไป - ฟีเจอร์นี้ ถูกซ่อนอยู่ในเมนูขั้นสูง อาจทำให้ผู้ใช้บางคนหาไม่เจอ https://www.neowin.net/news/brave-for-android-now-lets-you-block-elements-just-like-on-desktop/
    WWW.NEOWIN.NET
    Brave for Android now lets you block elements, just like on desktop
    The Brave browser on Android now lets you select any page elements that you'd like to block. This could come in handy if a certain part of the web page is causing a website to lag.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • Xiaomi และกลุ่มผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีนกำลังพัฒนา ระบบปฏิบัติการทางเลือกที่ไม่มีบริการของ Google โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดการพึ่งพา Android และ Google Play Services ซึ่งอาจเป็นผลมาจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน

    Xiaomi, Oppo, Vivo และ OnePlus ได้หารือเกี่ยวกับการ สร้างระบบปฏิบัติการของตัวเอง โดยเริ่มต้นจาก HyperOS 3 ซึ่งอาจเป็นก้าวแรกของยุคใหม่ที่สมาร์ทโฟนจีน ไม่มีซอฟต์แวร์จาก Google

    แนวคิดนี้มีรากฐานมาจาก กรณีของ Huawei ที่ถูกแบนจาก Google ในปี 2019 และต้องพัฒนา HarmonyOS ซึ่งปัจจุบันมี ผู้ใช้กว่า 1 พันล้านคน และมีแอปมากกว่า 20,000 แอป

    ✅ Xiaomi และพันธมิตรพัฒนา OS ที่ไม่มีบริการของ Google
    - Xiaomi, Oppo, Vivo และ OnePlus กำลังพัฒนา ระบบปฏิบัติการของตัวเอง
    - HyperOS 3 อาจเป็น ก้าวแรกของยุคใหม่ที่ไม่มีซอฟต์แวร์จาก Google

    ✅ แรงจูงใจในการพัฒนา OS ใหม่
    - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน
    - Huawei ถูกแบนจาก Google และต้องพัฒนา HarmonyOS

    ✅ ความสำเร็จของ HarmonyOS
    - มีผู้ใช้กว่า 1 พันล้านคน
    - มีแอปมากกว่า 20,000 แอป

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน
    - หาก Xiaomi และพันธมิตรเลิกใช้ Android อาจส่งผลต่อ ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก
    - อาจเกิดการแข่งขันระหว่าง Android และระบบปฏิบัติการใหม่จากจีน

    https://www.neowin.net/news/chinese-smartphone-makers-reportedly-want-a-google-free-android-alternative/
    Xiaomi และกลุ่มผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีนกำลังพัฒนา ระบบปฏิบัติการทางเลือกที่ไม่มีบริการของ Google โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดการพึ่งพา Android และ Google Play Services ซึ่งอาจเป็นผลมาจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน Xiaomi, Oppo, Vivo และ OnePlus ได้หารือเกี่ยวกับการ สร้างระบบปฏิบัติการของตัวเอง โดยเริ่มต้นจาก HyperOS 3 ซึ่งอาจเป็นก้าวแรกของยุคใหม่ที่สมาร์ทโฟนจีน ไม่มีซอฟต์แวร์จาก Google แนวคิดนี้มีรากฐานมาจาก กรณีของ Huawei ที่ถูกแบนจาก Google ในปี 2019 และต้องพัฒนา HarmonyOS ซึ่งปัจจุบันมี ผู้ใช้กว่า 1 พันล้านคน และมีแอปมากกว่า 20,000 แอป ✅ Xiaomi และพันธมิตรพัฒนา OS ที่ไม่มีบริการของ Google - Xiaomi, Oppo, Vivo และ OnePlus กำลังพัฒนา ระบบปฏิบัติการของตัวเอง - HyperOS 3 อาจเป็น ก้าวแรกของยุคใหม่ที่ไม่มีซอฟต์แวร์จาก Google ✅ แรงจูงใจในการพัฒนา OS ใหม่ - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน - Huawei ถูกแบนจาก Google และต้องพัฒนา HarmonyOS ✅ ความสำเร็จของ HarmonyOS - มีผู้ใช้กว่า 1 พันล้านคน - มีแอปมากกว่า 20,000 แอป ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน - หาก Xiaomi และพันธมิตรเลิกใช้ Android อาจส่งผลต่อ ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก - อาจเกิดการแข่งขันระหว่าง Android และระบบปฏิบัติการใหม่จากจีน https://www.neowin.net/news/chinese-smartphone-makers-reportedly-want-a-google-free-android-alternative/
    WWW.NEOWIN.NET
    Chinese smartphone makers reportedly want a Google-free Android alternative
    A coalition of Chinese smartphone makers have ventilated the idea of ditching Google-owned Android from their devices due to fear of threats from the US government.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • Xiaomi กำลังพัฒนา HyperOS 3 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ไม่มีบริการและแอปของ Google โดยได้รับความร่วมมือจาก Huawei และ BBK Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ OPPO, Vivo และ OnePlus

    การพัฒนานี้เกิดขึ้นเนื่องจาก ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งส่งผลให้ Huawei ถูกคว่ำบาตร และ Xiaomi อาจเผชิญชะตากรรมเดียวกันในอนาคต

    แม้ว่า Xiaomi ยังมีใบอนุญาตให้ใช้ Android และ Google Play Services แต่บริษัทอาจกำลังเตรียม HyperOS 3 เป็นทางเลือกสำรอง หากถูกแบนจากสหรัฐฯ

    ✅ Xiaomi พัฒนา HyperOS 3 โดยไม่มีบริการของ Google
    - ได้รับความร่วมมือจาก Huawei และ BBK Group
    - คล้ายกับ HarmonyOS ของ Huawei

    ✅ เหตุผลในการพัฒนา HyperOS 3
    - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน
    - Xiaomi อาจถูกแบนจาก Google Play Services ในอนาคต

    ✅ ความท้าทายของ HyperOS 3
    - ต้องสร้าง App Store ที่มีแอปสำคัญครบถ้วน
    - อาจได้รับความนิยมเฉพาะใน ตลาดจีน

    ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต
    - หาก Xiaomi ถูกแบน HyperOS 3 อาจกลายเป็น ระบบหลักของบริษัท
    - อาจมีการขยายไปยัง ตลาดอื่น ๆ นอกจีน

    https://wccftech.com/xiaomi-rumored-to-be-making-google-free-hyperos-with-help-from-huawei/
    Xiaomi กำลังพัฒนา HyperOS 3 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ไม่มีบริการและแอปของ Google โดยได้รับความร่วมมือจาก Huawei และ BBK Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ OPPO, Vivo และ OnePlus การพัฒนานี้เกิดขึ้นเนื่องจาก ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งส่งผลให้ Huawei ถูกคว่ำบาตร และ Xiaomi อาจเผชิญชะตากรรมเดียวกันในอนาคต แม้ว่า Xiaomi ยังมีใบอนุญาตให้ใช้ Android และ Google Play Services แต่บริษัทอาจกำลังเตรียม HyperOS 3 เป็นทางเลือกสำรอง หากถูกแบนจากสหรัฐฯ ✅ Xiaomi พัฒนา HyperOS 3 โดยไม่มีบริการของ Google - ได้รับความร่วมมือจาก Huawei และ BBK Group - คล้ายกับ HarmonyOS ของ Huawei ✅ เหตุผลในการพัฒนา HyperOS 3 - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน - Xiaomi อาจถูกแบนจาก Google Play Services ในอนาคต ✅ ความท้าทายของ HyperOS 3 - ต้องสร้าง App Store ที่มีแอปสำคัญครบถ้วน - อาจได้รับความนิยมเฉพาะใน ตลาดจีน ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต - หาก Xiaomi ถูกแบน HyperOS 3 อาจกลายเป็น ระบบหลักของบริษัท - อาจมีการขยายไปยัง ตลาดอื่น ๆ นอกจีน https://wccftech.com/xiaomi-rumored-to-be-making-google-free-hyperos-with-help-from-huawei/
    WCCFTECH.COM
    Xiaomi Rumored To Be Collaborating With Huawei And The BBK Group to Develop Its HyperOS 3 As A Google-Free Alternative Without The Company’s Pre-Loaded Services Or Apps
    Huawei and the BBK Group could be aiding Xiaomi to develop a HyperOS platform without the addition of Google’s services or apps
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Password Manager ได้รับความนิยมสูงสุดจากการสำรวจของ TechRadar Pro โดย 39% ของผู้ตอบแบบสอบถาม เลือกใช้บริการนี้ เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและมีอยู่ใน Chrome และ Android

    อย่างไรก็ตาม 20% ของผู้ใช้ยังคงเลือกจัดการรหัสผ่านด้วยตนเอง แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยจะเตือนว่าการใช้รหัสผ่านซ้ำและไม่เปลี่ยนรหัสผ่านบ่อย ๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์

    Apple Passwords เป็นตัวเลือกอันดับสอง โดย 23% ของผู้ใช้เลือกใช้บริการนี้ ซึ่งมีฟีเจอร์ตรวจสอบข้อมูลรั่วไหลและสุขภาพของรหัสผ่าน

    ✅ Google Password Manager ได้รับความนิยมสูงสุด
    - 39% ของผู้ใช้เลือกใช้ เนื่องจากใช้งานง่ายและมีอยู่ใน Chrome และ Android
    - มีฟีเจอร์ช่วยจัดการรหัสผ่านและแจ้งเตือนเมื่อพบข้อมูลรั่วไหล

    ✅ Apple Passwords เป็นตัวเลือกอันดับสอง
    - 23% ของผู้ใช้เลือกใช้
    - มีฟีเจอร์ตรวจสอบข้อมูลรั่วไหลและสุขภาพของรหัสผ่าน

    ✅ ผู้ใช้บางส่วนยังคงจัดการรหัสผ่านด้วยตนเอง
    - 20% ของผู้ใช้เลือกไม่ใช้ Password Manager
    - ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้รหัสผ่านซ้ำอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกโจมตี

    ✅ ข้อเสนอพิเศษจากผู้ให้บริการ Password Manager
    - Keeper ลดราคาสูงสุด 50% สำหรับแผน Personal และ Family
    - RoboForm Premium ลดราคา 60% พร้อมฟีเจอร์ 2FA และ Cloud Backup
    - NordPass Business ลดราคา 20% เมื่อใช้โค้ด PASSDAY20

    https://www.techradar.com/pro/security/google-password-manager-is-a-favourite-amongst-techradar-pro-readers-whats-yours
    Google Password Manager ได้รับความนิยมสูงสุดจากการสำรวจของ TechRadar Pro โดย 39% ของผู้ตอบแบบสอบถาม เลือกใช้บริการนี้ เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและมีอยู่ใน Chrome และ Android อย่างไรก็ตาม 20% ของผู้ใช้ยังคงเลือกจัดการรหัสผ่านด้วยตนเอง แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยจะเตือนว่าการใช้รหัสผ่านซ้ำและไม่เปลี่ยนรหัสผ่านบ่อย ๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ Apple Passwords เป็นตัวเลือกอันดับสอง โดย 23% ของผู้ใช้เลือกใช้บริการนี้ ซึ่งมีฟีเจอร์ตรวจสอบข้อมูลรั่วไหลและสุขภาพของรหัสผ่าน ✅ Google Password Manager ได้รับความนิยมสูงสุด - 39% ของผู้ใช้เลือกใช้ เนื่องจากใช้งานง่ายและมีอยู่ใน Chrome และ Android - มีฟีเจอร์ช่วยจัดการรหัสผ่านและแจ้งเตือนเมื่อพบข้อมูลรั่วไหล ✅ Apple Passwords เป็นตัวเลือกอันดับสอง - 23% ของผู้ใช้เลือกใช้ - มีฟีเจอร์ตรวจสอบข้อมูลรั่วไหลและสุขภาพของรหัสผ่าน ✅ ผู้ใช้บางส่วนยังคงจัดการรหัสผ่านด้วยตนเอง - 20% ของผู้ใช้เลือกไม่ใช้ Password Manager - ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้รหัสผ่านซ้ำอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ✅ ข้อเสนอพิเศษจากผู้ให้บริการ Password Manager - Keeper ลดราคาสูงสุด 50% สำหรับแผน Personal และ Family - RoboForm Premium ลดราคา 60% พร้อมฟีเจอร์ 2FA และ Cloud Backup - NordPass Business ลดราคา 20% เมื่อใช้โค้ด PASSDAY20 https://www.techradar.com/pro/security/google-password-manager-is-a-favourite-amongst-techradar-pro-readers-whats-yours
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของระบบปฏิบัติการและความตื่นเต้นที่ลดลงเกี่ยวกับการอัปเดตระบบปฏิบัติการใหม่ๆ โดยผู้เขียนสะท้อนถึงช่วงเวลาที่ Windows XP, Vista และ Windows 7 มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและน่าตื่นเต้น แต่เมื่อ ChromeOS และ Android เริ่มมีการอัปเดตแบบต่อเนื่องและไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ความตื่นเต้นเกี่ยวกับการอัปเดตระบบปฏิบัติการก็ลดลง

    Google มีบทบาทสำคัญในการทำให้การอัปเดตระบบปฏิบัติการกลายเป็นเรื่องธรรมดา โดย ChromeOS ใช้แนวทางการอัปเดตแบบต่อเนื่องที่ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ขณะที่ Android ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่ลดลงหลังจากยุคของ Android 5 เป็นต้นมา

    นอกจากนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีเว็บ เช่น HTML5 ทำให้เว็บแอปมีความสามารถมากขึ้น ส่งผลให้ระบบปฏิบัติการมีบทบาทลดลงในการใช้งานทั่วไป

    ✅ ChromeOS และการอัปเดตแบบต่อเนื่อง
    - ChromeOS ใช้แนวทางการอัปเดตแบบต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
    - ระบบมีความปลอดภัยสูงและสามารถอัปเดตได้รวดเร็ว

    ✅ Android และการลดลงของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
    - Android มีการเปลี่ยนแปลงที่ลดลงหลังจากยุคของ Android 5
    - การอัปเดตระบบปฏิบัติการกลายเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญสำหรับผู้ใช้

    ✅ บทบาทของเทคโนโลยีเว็บ
    - HTML5 ทำให้เว็บแอปมีความสามารถมากขึ้น
    - ระบบปฏิบัติการมีบทบาทลดลงในการใช้งานทั่วไป

    ✅ แนวโน้มของการอัปเดตระบบปฏิบัติการ
    - การอัปเดตแบบต่อเนื่องช่วยลดความยุ่งยากในการใช้งาน
    - ผู้ใช้สามารถโฟกัสไปที่การทำงานแทนที่จะต้องเรียนรู้ระบบใหม่

    https://www.neowin.net/editorials/how-google-killed-my-excitement-in-operating-system-upgrades/
    บทความนี้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของระบบปฏิบัติการและความตื่นเต้นที่ลดลงเกี่ยวกับการอัปเดตระบบปฏิบัติการใหม่ๆ โดยผู้เขียนสะท้อนถึงช่วงเวลาที่ Windows XP, Vista และ Windows 7 มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและน่าตื่นเต้น แต่เมื่อ ChromeOS และ Android เริ่มมีการอัปเดตแบบต่อเนื่องและไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ความตื่นเต้นเกี่ยวกับการอัปเดตระบบปฏิบัติการก็ลดลง Google มีบทบาทสำคัญในการทำให้การอัปเดตระบบปฏิบัติการกลายเป็นเรื่องธรรมดา โดย ChromeOS ใช้แนวทางการอัปเดตแบบต่อเนื่องที่ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ขณะที่ Android ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่ลดลงหลังจากยุคของ Android 5 เป็นต้นมา นอกจากนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีเว็บ เช่น HTML5 ทำให้เว็บแอปมีความสามารถมากขึ้น ส่งผลให้ระบบปฏิบัติการมีบทบาทลดลงในการใช้งานทั่วไป ✅ ChromeOS และการอัปเดตแบบต่อเนื่อง - ChromeOS ใช้แนวทางการอัปเดตแบบต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ - ระบบมีความปลอดภัยสูงและสามารถอัปเดตได้รวดเร็ว ✅ Android และการลดลงของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ - Android มีการเปลี่ยนแปลงที่ลดลงหลังจากยุคของ Android 5 - การอัปเดตระบบปฏิบัติการกลายเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญสำหรับผู้ใช้ ✅ บทบาทของเทคโนโลยีเว็บ - HTML5 ทำให้เว็บแอปมีความสามารถมากขึ้น - ระบบปฏิบัติการมีบทบาทลดลงในการใช้งานทั่วไป ✅ แนวโน้มของการอัปเดตระบบปฏิบัติการ - การอัปเดตแบบต่อเนื่องช่วยลดความยุ่งยากในการใช้งาน - ผู้ใช้สามารถโฟกัสไปที่การทำงานแทนที่จะต้องเรียนรู้ระบบใหม่ https://www.neowin.net/editorials/how-google-killed-my-excitement-in-operating-system-upgrades/
    WWW.NEOWIN.NET
    How Google killed my excitement in operating system upgrades
    In this editorial, I explore how Google killed my excitement in operating system upgrades. Despite this, there is a bit of a twist to my opinion on the matter.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • Flappy Bird เกมมือถือสุดฮิตที่เคยสร้างปรากฏการณ์ในปี 2013 ได้กลับมาอีกครั้งบน Android หลังจากหายไปนานถึง 10 ปี โดยครั้งนี้เกมมาพร้อมกับตัวละครใหม่ โลกใหม่ และโหมดการเล่นที่หลากหลาย

    เกมเวอร์ชันล่าสุดสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีผ่าน Epic Games Store และยังคงรูปแบบการเล่นที่เรียบง่ายแต่ท้าทาย ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นในโหมด Classic หรือ Quest ซึ่งเพิ่มความท้าทายใหม่ๆ ให้กับเกม อย่างไรก็ตาม เกมเวอร์ชันนี้ไม่มีการเกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งเคยเป็นประเด็นในเวอร์ชันก่อนหน้านี้

    Flappy Bird ถูกสร้างโดย Dong Nguyen นักพัฒนาเกมชาวเวียดนาม และเคยได้รับความนิยมอย่างมากจนมียอดดาวน์โหลดกว่า 50 ล้านครั้ง ก่อนที่ Nguyen จะตัดสินใจถอดเกมออกจากร้านค้าแอปในปี 2014 เนื่องจากเขารู้สึกว่าเกมนี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเขา

    ในปี 2024 Nguyen สูญเสียเครื่องหมายการค้าของเกมให้กับ Gametech Holdings และมีการเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ภายใต้ชื่อ The Flappy Bird Foundation ซึ่งได้รับเสียงวิจารณ์เชิงลบเนื่องจากมีการนำคริปโตเคอร์เรนซีเข้ามาเกี่ยวข้อง Nguyen ได้ออกมาปฏิเสธว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเกมเวอร์ชันดังกล่าว

    ✅ การเปิดตัวใหม่บน Android
    - Flappy Bird กลับมาอีกครั้งหลังจากหายไป 10 ปี
    - สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีผ่าน Epic Games Store

    ✅ โหมดการเล่นใหม่
    - มีโหมด Classic และ Quest เพิ่มความท้าทายให้กับผู้เล่น
    - ไม่มีการเกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซี

    ✅ ประวัติของเกม
    - สร้างโดย Dong Nguyen และเคยได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2013
    - มียอดดาวน์โหลดกว่า 50 ล้านครั้งก่อนถูกถอดออกจากร้านค้าแอป

    ✅ การเปลี่ยนแปลงด้านเครื่องหมายการค้า
    - Nguyen สูญเสียเครื่องหมายการค้าให้กับ Gametech Holdings ในปี 2024
    - เวอร์ชันใหม่ภายใต้ชื่อ The Flappy Bird Foundation ได้รับเสียงวิจารณ์เชิงลบ

    https://www.neowin.net/news/flappy-bird-returns-to-android-after-10-years-with-new-characters-and-worlds/
    Flappy Bird เกมมือถือสุดฮิตที่เคยสร้างปรากฏการณ์ในปี 2013 ได้กลับมาอีกครั้งบน Android หลังจากหายไปนานถึง 10 ปี โดยครั้งนี้เกมมาพร้อมกับตัวละครใหม่ โลกใหม่ และโหมดการเล่นที่หลากหลาย เกมเวอร์ชันล่าสุดสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีผ่าน Epic Games Store และยังคงรูปแบบการเล่นที่เรียบง่ายแต่ท้าทาย ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นในโหมด Classic หรือ Quest ซึ่งเพิ่มความท้าทายใหม่ๆ ให้กับเกม อย่างไรก็ตาม เกมเวอร์ชันนี้ไม่มีการเกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งเคยเป็นประเด็นในเวอร์ชันก่อนหน้านี้ Flappy Bird ถูกสร้างโดย Dong Nguyen นักพัฒนาเกมชาวเวียดนาม และเคยได้รับความนิยมอย่างมากจนมียอดดาวน์โหลดกว่า 50 ล้านครั้ง ก่อนที่ Nguyen จะตัดสินใจถอดเกมออกจากร้านค้าแอปในปี 2014 เนื่องจากเขารู้สึกว่าเกมนี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเขา ในปี 2024 Nguyen สูญเสียเครื่องหมายการค้าของเกมให้กับ Gametech Holdings และมีการเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ภายใต้ชื่อ The Flappy Bird Foundation ซึ่งได้รับเสียงวิจารณ์เชิงลบเนื่องจากมีการนำคริปโตเคอร์เรนซีเข้ามาเกี่ยวข้อง Nguyen ได้ออกมาปฏิเสธว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเกมเวอร์ชันดังกล่าว ✅ การเปิดตัวใหม่บน Android - Flappy Bird กลับมาอีกครั้งหลังจากหายไป 10 ปี - สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีผ่าน Epic Games Store ✅ โหมดการเล่นใหม่ - มีโหมด Classic และ Quest เพิ่มความท้าทายให้กับผู้เล่น - ไม่มีการเกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซี ✅ ประวัติของเกม - สร้างโดย Dong Nguyen และเคยได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2013 - มียอดดาวน์โหลดกว่า 50 ล้านครั้งก่อนถูกถอดออกจากร้านค้าแอป ✅ การเปลี่ยนแปลงด้านเครื่องหมายการค้า - Nguyen สูญเสียเครื่องหมายการค้าให้กับ Gametech Holdings ในปี 2024 - เวอร์ชันใหม่ภายใต้ชื่อ The Flappy Bird Foundation ได้รับเสียงวิจารณ์เชิงลบ https://www.neowin.net/news/flappy-bird-returns-to-android-after-10-years-with-new-characters-and-worlds/
    WWW.NEOWIN.NET
    Flappy Bird returns to Android after 10 years with new characters and worlds
    Flappy Bird is back for Android users after more than a decade. The resurrected game is available to download on the Epic Games Store.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Wallet อาจได้รับการอัปเกรดครั้งสำคัญที่ช่วยให้การเพิ่มบัตรชำระเงินแบบไร้สัมผัสง่ายและรวดเร็วขึ้น โดยฟีเจอร์ใหม่นี้จะใช้เทคโนโลยี NFC (Near-Field Communication) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มบัตรชำระเงินได้เพียงแค่แตะบัตรกับโทรศัพท์มือถือ เช่นเดียวกับการแตะบัตรบนเครื่องอ่านบัตรไร้สัมผัส

    ฟีเจอร์นี้จะปรากฏในหน้าจอ “Add payment method” พร้อมกับวิธีการเพิ่มบัตรแบบเดิม เช่น การกรอกข้อมูลบัตรด้วยตนเอง แม้ว่าการใช้ NFC จะช่วยลดเวลาในการเพิ่มบัตร แต่ยังคงต้องกรอกหมายเลข CVV หรือ CVC เพื่อความปลอดภัย

    อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของบัตรและผู้ให้บริการ หรือว่าฟีเจอร์นี้จะมาพร้อมกับ Android 16 หรือเป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดตเล็กๆ

    ✅ การเพิ่มบัตรด้วย NFC
    - ใช้เทคโนโลยี NFC เพื่อเพิ่มบัตรชำระเงินแบบไร้สัมผัส
    - ลดเวลาในการเพิ่มบัตรเมื่อเทียบกับการกรอกข้อมูลด้วยตนเอง

    ✅ ความปลอดภัย
    - ยังคงต้องกรอกหมายเลข CVV หรือ CVC เพื่อป้องกันการเพิ่มบัตรโดยไม่ได้รับอนุญาต

    ✅ การใช้งานและความเข้ากันได้
    - ฟีเจอร์นี้จะปรากฏในหน้าจอ “Add payment method”
    - ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของบัตรและผู้ให้บริการ

    ✅ เป้าหมายของฟีเจอร์
    - เพิ่มความสะดวกและลดเวลาในการเพิ่มบัตรชำระเงิน

    https://www.techradar.com/phones/android/google-wallet-could-soon-let-you-add-cards-by-tapping-them-on-your-phone-and-i-cant-believe-this-isnt-already-a-thing
    Google Wallet อาจได้รับการอัปเกรดครั้งสำคัญที่ช่วยให้การเพิ่มบัตรชำระเงินแบบไร้สัมผัสง่ายและรวดเร็วขึ้น โดยฟีเจอร์ใหม่นี้จะใช้เทคโนโลยี NFC (Near-Field Communication) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มบัตรชำระเงินได้เพียงแค่แตะบัตรกับโทรศัพท์มือถือ เช่นเดียวกับการแตะบัตรบนเครื่องอ่านบัตรไร้สัมผัส ฟีเจอร์นี้จะปรากฏในหน้าจอ “Add payment method” พร้อมกับวิธีการเพิ่มบัตรแบบเดิม เช่น การกรอกข้อมูลบัตรด้วยตนเอง แม้ว่าการใช้ NFC จะช่วยลดเวลาในการเพิ่มบัตร แต่ยังคงต้องกรอกหมายเลข CVV หรือ CVC เพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของบัตรและผู้ให้บริการ หรือว่าฟีเจอร์นี้จะมาพร้อมกับ Android 16 หรือเป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดตเล็กๆ ✅ การเพิ่มบัตรด้วย NFC - ใช้เทคโนโลยี NFC เพื่อเพิ่มบัตรชำระเงินแบบไร้สัมผัส - ลดเวลาในการเพิ่มบัตรเมื่อเทียบกับการกรอกข้อมูลด้วยตนเอง ✅ ความปลอดภัย - ยังคงต้องกรอกหมายเลข CVV หรือ CVC เพื่อป้องกันการเพิ่มบัตรโดยไม่ได้รับอนุญาต ✅ การใช้งานและความเข้ากันได้ - ฟีเจอร์นี้จะปรากฏในหน้าจอ “Add payment method” - ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของบัตรและผู้ให้บริการ ✅ เป้าหมายของฟีเจอร์ - เพิ่มความสะดวกและลดเวลาในการเพิ่มบัตรชำระเงิน https://www.techradar.com/phones/android/google-wallet-could-soon-let-you-add-cards-by-tapping-them-on-your-phone-and-i-cant-believe-this-isnt-already-a-thing
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • Onyx ได้เปิดตัวเครื่องอ่าน e-reader รุ่นใหม่ในซีรีส์ Go ได้แก่ BOOX Go 7 และ BOOX Go Color 7 (Gen 2) ซึ่งเป็นรุ่นที่เพิ่มฟีเจอร์การรองรับปากกา stylus เพื่อการจดบันทึกและการวาดภาพ โดยฟีเจอร์นี้เคยมีเฉพาะในรุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่า แต่ตอนนี้ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบเครื่องอ่านขนาดกะทัดรัด 7 นิ้วสามารถเพลิดเพลินกับฟีเจอร์นี้ได้

    BOOX Go 7 มาพร้อมหน้าจอ Carta 1300 monochrome ที่มีความละเอียด 300 PPI เพื่อความคมชัดของข้อความ ส่วน BOOX Go Color 7 Gen 2 ใช้หน้าจอ E-Ink Kaleido 3 ที่มีการปรับปรุงความอิ่มตัวของสี ลด ghosting และเพิ่มอัตราการรีเฟรช โดยในโหมดสีจะมีความละเอียด 150 PPI

    ทั้งสองรุ่นรองรับการหมุนหน้าจออัตโนมัติและการปรับอุณหภูมิแสงไฟหน้า มีหน่วยความจำ 4 GB พื้นที่เก็บข้อมูล 64 GB (รองรับ microSD) และแบตเตอรี่ 2,400 mAh พร้อมระบบปฏิบัติการ Android 13 และการเข้าถึง Google Play Store

    ✅ ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา
    - รองรับปากกา BOOX InkSense active stylus (จำหน่ายแยก)
    - เพิ่มความสามารถในการจดบันทึกและวาดภาพ

    ✅ หน้าจอและความละเอียด
    - BOOX Go 7: หน้าจอ Carta 1300 monochrome ความละเอียด 300 PPI
    - BOOX Go Color 7 Gen 2: หน้าจอ E-Ink Kaleido 3 ความละเอียด 150 PPI ในโหมดสี

    ✅ การออกแบบและฟังก์ชันเพิ่มเติม
    - ออกแบบให้ใช้งานมือเดียวได้ พร้อมปุ่มพลิกหน้ากระดาษ
    - มีพื้นผิวด้านหลังที่ช่วยให้จับถนัดมือ

    ✅ ราคาและการวางจำหน่าย
    - BOOX Go 7 ราคา $249.99 วางจำหน่ายแล้ว
    - BOOX Go Color 7 Gen 2 ราคา $279.99 จะวางจำหน่ายในภายหลัง

    https://www.neowin.net/news/onyx-brings-stylus-and-handwriting-capabilities-to-its-7-inch-go-e-readers/
    Onyx ได้เปิดตัวเครื่องอ่าน e-reader รุ่นใหม่ในซีรีส์ Go ได้แก่ BOOX Go 7 และ BOOX Go Color 7 (Gen 2) ซึ่งเป็นรุ่นที่เพิ่มฟีเจอร์การรองรับปากกา stylus เพื่อการจดบันทึกและการวาดภาพ โดยฟีเจอร์นี้เคยมีเฉพาะในรุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่า แต่ตอนนี้ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบเครื่องอ่านขนาดกะทัดรัด 7 นิ้วสามารถเพลิดเพลินกับฟีเจอร์นี้ได้ BOOX Go 7 มาพร้อมหน้าจอ Carta 1300 monochrome ที่มีความละเอียด 300 PPI เพื่อความคมชัดของข้อความ ส่วน BOOX Go Color 7 Gen 2 ใช้หน้าจอ E-Ink Kaleido 3 ที่มีการปรับปรุงความอิ่มตัวของสี ลด ghosting และเพิ่มอัตราการรีเฟรช โดยในโหมดสีจะมีความละเอียด 150 PPI ทั้งสองรุ่นรองรับการหมุนหน้าจออัตโนมัติและการปรับอุณหภูมิแสงไฟหน้า มีหน่วยความจำ 4 GB พื้นที่เก็บข้อมูล 64 GB (รองรับ microSD) และแบตเตอรี่ 2,400 mAh พร้อมระบบปฏิบัติการ Android 13 และการเข้าถึง Google Play Store ✅ ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา - รองรับปากกา BOOX InkSense active stylus (จำหน่ายแยก) - เพิ่มความสามารถในการจดบันทึกและวาดภาพ ✅ หน้าจอและความละเอียด - BOOX Go 7: หน้าจอ Carta 1300 monochrome ความละเอียด 300 PPI - BOOX Go Color 7 Gen 2: หน้าจอ E-Ink Kaleido 3 ความละเอียด 150 PPI ในโหมดสี ✅ การออกแบบและฟังก์ชันเพิ่มเติม - ออกแบบให้ใช้งานมือเดียวได้ พร้อมปุ่มพลิกหน้ากระดาษ - มีพื้นผิวด้านหลังที่ช่วยให้จับถนัดมือ ✅ ราคาและการวางจำหน่าย - BOOX Go 7 ราคา $249.99 วางจำหน่ายแล้ว - BOOX Go Color 7 Gen 2 ราคา $279.99 จะวางจำหน่ายในภายหลัง https://www.neowin.net/news/onyx-brings-stylus-and-handwriting-capabilities-to-its-7-inch-go-e-readers/
    WWW.NEOWIN.NET
    Onyx brings stylus and handwriting capabilities to its 7-inch Go e-readers
    Onyx is launching a refreshed version of its 7-inch e-readers, which, for the first time, now feature proper stylus support and handwriting capabilities.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์ Data Classification Labels สำหรับ Gmail ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถจัดการและปกป้องข้อมูลที่สำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดกฎการป้องกันข้อมูล เช่น การป้องกันไม่ให้ส่งอีเมลที่มีข้อมูลภายในออกนอกองค์กร หรือการติดป้ายกำกับ "Confidential" ให้กับข้อความที่มีข้อมูลสำคัญโดยอัตโนมัติ

    ✅ ฟีเจอร์ Data Classification Labels พร้อมใช้งานใน Gmail
    - ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการข้อมูลสำคัญด้วยการติดป้ายกำกับ
    - ป้ายกำกับสามารถกำหนดได้ทั้งแบบกำหนดเองและแบบที่ใช้ร่วมกับ Google Drive

    ✅ การปรับปรุงฟีเจอร์ตั้งแต่ช่วง Beta
    - เพิ่มการติดป้ายกำกับอัตโนมัติผ่านกฎ Data Loss Prevention (DLP)
    - เพิ่มฟีเจอร์ "Sensitive Content Snippets" เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้งานเกี่ยวกับเนื้อหาที่ถูกตั้งกฎ

    ✅ การรองรับการใช้งานบนมือถือ
    - ฟีเจอร์นี้รองรับทั้ง Android และ iOS เพื่อให้การป้องกันข้อมูลครอบคลุมทุกอุปกรณ์

    ✅ การจัดการผ่าน Admin Console
    - ผู้ดูแลระบบสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ในระดับโดเมน กลุ่ม หรือผู้ใช้งานรายบุคคล

    https://www.neowin.net/news/data-classifications-labels-for-gmail-leaves-open-beta-now-generally-available/
    Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์ Data Classification Labels สำหรับ Gmail ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถจัดการและปกป้องข้อมูลที่สำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดกฎการป้องกันข้อมูล เช่น การป้องกันไม่ให้ส่งอีเมลที่มีข้อมูลภายในออกนอกองค์กร หรือการติดป้ายกำกับ "Confidential" ให้กับข้อความที่มีข้อมูลสำคัญโดยอัตโนมัติ ✅ ฟีเจอร์ Data Classification Labels พร้อมใช้งานใน Gmail - ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการข้อมูลสำคัญด้วยการติดป้ายกำกับ - ป้ายกำกับสามารถกำหนดได้ทั้งแบบกำหนดเองและแบบที่ใช้ร่วมกับ Google Drive ✅ การปรับปรุงฟีเจอร์ตั้งแต่ช่วง Beta - เพิ่มการติดป้ายกำกับอัตโนมัติผ่านกฎ Data Loss Prevention (DLP) - เพิ่มฟีเจอร์ "Sensitive Content Snippets" เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้งานเกี่ยวกับเนื้อหาที่ถูกตั้งกฎ ✅ การรองรับการใช้งานบนมือถือ - ฟีเจอร์นี้รองรับทั้ง Android และ iOS เพื่อให้การป้องกันข้อมูลครอบคลุมทุกอุปกรณ์ ✅ การจัดการผ่าน Admin Console - ผู้ดูแลระบบสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ในระดับโดเมน กลุ่ม หรือผู้ใช้งานรายบุคคล https://www.neowin.net/news/data-classifications-labels-for-gmail-leaves-open-beta-now-generally-available/
    WWW.NEOWIN.NET
    Data classifications labels for Gmail leaves open beta, now generally available
    Data classification labels are handy for organizing sensitive emails. Now, Google has made them widely available for Gmail customers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • YouTube TV กำลังจะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ในปีนี้ โดยมีการออกแบบ UI ใหม่เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน รวมถึงฟีเจอร์ Multiview ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดูหลายช่องพร้อมกันได้ นอกจากนี้ YouTube Music ยังเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ AI ในการสร้างสถานีวิทยุส่วนตัว และ YouTube Premium เพิ่มตัวเลือกความเร็วในการเล่นวิดีโอสูงสุดถึง 4x บนมือถือ

    ✅ การออกแบบ UI ใหม่ใน YouTube TV
    - เพิ่มการนำทางที่ง่ายขึ้นและการควบคุมการเล่นที่ดีขึ้น
    - เพิ่มการเข้าถึงความคิดเห็นและข้อมูลช่อง รวมถึงการสมัครสมาชิก

    ✅ ฟีเจอร์ Multiview ที่ปรับปรุงใหม่
    - ผู้ใช้งานสามารถสร้าง Multiview ของตัวเองได้ โดยเริ่มจากช่องยอดนิยมบางช่อง
    - ก่อนหน้านี้ Multiview จำกัดเฉพาะเนื้อหากีฬาและการจัดวางที่เลือกโดย YouTube TV

    ✅ ฟีเจอร์ AI ใน YouTube Music
    - ฟีเจอร์ Ask Music ช่วยสร้างสถานีวิทยุส่วนตัวตามคำอธิบายของผู้ใช้งาน
    - ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานใน iOS และ Android สำหรับผู้ใช้ YouTube Premium และ YouTube Music

    ✅ การเพิ่มตัวเลือกความเร็วในการเล่นวิดีโอใน YouTube Premium
    - รองรับความเร็วในการเล่นสูงสุดถึง 4x บนมือถือ

    ✅ ฟีเจอร์ใหม่สำหรับผู้สร้างเนื้อหา
    - ผู้สร้างสามารถตอบความคิดเห็นด้วยโน้ตเสียง ซึ่งจะเปิดตัวให้ผู้สร้างมากขึ้นในปีนี้

    https://www.neowin.net/news/youtube-tv-is-getting-a-redesign-and-multiview-later-this-year/
    YouTube TV กำลังจะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ในปีนี้ โดยมีการออกแบบ UI ใหม่เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน รวมถึงฟีเจอร์ Multiview ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดูหลายช่องพร้อมกันได้ นอกจากนี้ YouTube Music ยังเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ AI ในการสร้างสถานีวิทยุส่วนตัว และ YouTube Premium เพิ่มตัวเลือกความเร็วในการเล่นวิดีโอสูงสุดถึง 4x บนมือถือ ✅ การออกแบบ UI ใหม่ใน YouTube TV - เพิ่มการนำทางที่ง่ายขึ้นและการควบคุมการเล่นที่ดีขึ้น - เพิ่มการเข้าถึงความคิดเห็นและข้อมูลช่อง รวมถึงการสมัครสมาชิก ✅ ฟีเจอร์ Multiview ที่ปรับปรุงใหม่ - ผู้ใช้งานสามารถสร้าง Multiview ของตัวเองได้ โดยเริ่มจากช่องยอดนิยมบางช่อง - ก่อนหน้านี้ Multiview จำกัดเฉพาะเนื้อหากีฬาและการจัดวางที่เลือกโดย YouTube TV ✅ ฟีเจอร์ AI ใน YouTube Music - ฟีเจอร์ Ask Music ช่วยสร้างสถานีวิทยุส่วนตัวตามคำอธิบายของผู้ใช้งาน - ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานใน iOS และ Android สำหรับผู้ใช้ YouTube Premium และ YouTube Music ✅ การเพิ่มตัวเลือกความเร็วในการเล่นวิดีโอใน YouTube Premium - รองรับความเร็วในการเล่นสูงสุดถึง 4x บนมือถือ ✅ ฟีเจอร์ใหม่สำหรับผู้สร้างเนื้อหา - ผู้สร้างสามารถตอบความคิดเห็นด้วยโน้ตเสียง ซึ่งจะเปิดตัวให้ผู้สร้างมากขึ้นในปีนี้ https://www.neowin.net/news/youtube-tv-is-getting-a-redesign-and-multiview-later-this-year/
    WWW.NEOWIN.NET
    YouTube TV is getting a redesign and multiview later this year
    YouTube, in its blog post celebrating its 20th anniversary, announced new features, including a TV app redesign coming this summer.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI ได้แสดงความสนใจที่จะซื้อ Google Chrome หากศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ บังคับให้ Google ขาย Chrome ออกไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคดีการผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์ที่กำลังดำเนินอยู่ในสหรัฐฯ การตัดสินใจนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดย OpenAI มองว่าการรวม ChatGPT เข้ากับ Chrome จะช่วยสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เน้น AI เป็นหลัก

    ✅ OpenAI สนใจซื้อ Google Chrome หากศาลบังคับให้ขาย
    - Nick Turley จากทีม ChatGPT ของ OpenAI ยืนยันความสนใจนี้ในศาล
    - OpenAI มองว่าการรวม ChatGPT เข้ากับ Chrome จะช่วยสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เน้น AI

    ✅ คดีการผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์ของ Google
    - ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ตัดสินว่า Google ผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์ในปี 2024
    - ข้อเสนอของกระทรวงยุติธรรมรวมถึงการบังคับให้ Google ขาย Chrome

    ✅ OpenAI เผชิญความท้าทายในการเข้าถึงผู้ใช้งาน Android
    - Google ใช้ความได้เปรียบจากการควบคุมระบบปฏิบัติการ Android เพื่อผลักดันแอปของตนเอง
    - OpenAI พยายามเจรจากับ Samsung แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้

    ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดเทคโนโลยี
    - การขาย Chrome อาจช่วยเพิ่มการแข่งขันและลดอำนาจของ Google

    https://www.neowin.net/news/openai-rubs-salt-in-googles-wound-says-it-wants-chrome-if-googles-forced-to-sell/
    OpenAI ได้แสดงความสนใจที่จะซื้อ Google Chrome หากศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ บังคับให้ Google ขาย Chrome ออกไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคดีการผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์ที่กำลังดำเนินอยู่ในสหรัฐฯ การตัดสินใจนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดย OpenAI มองว่าการรวม ChatGPT เข้ากับ Chrome จะช่วยสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เน้น AI เป็นหลัก ✅ OpenAI สนใจซื้อ Google Chrome หากศาลบังคับให้ขาย - Nick Turley จากทีม ChatGPT ของ OpenAI ยืนยันความสนใจนี้ในศาล - OpenAI มองว่าการรวม ChatGPT เข้ากับ Chrome จะช่วยสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เน้น AI ✅ คดีการผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์ของ Google - ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ตัดสินว่า Google ผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์ในปี 2024 - ข้อเสนอของกระทรวงยุติธรรมรวมถึงการบังคับให้ Google ขาย Chrome ✅ OpenAI เผชิญความท้าทายในการเข้าถึงผู้ใช้งาน Android - Google ใช้ความได้เปรียบจากการควบคุมระบบปฏิบัติการ Android เพื่อผลักดันแอปของตนเอง - OpenAI พยายามเจรจากับ Samsung แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดเทคโนโลยี - การขาย Chrome อาจช่วยเพิ่มการแข่งขันและลดอำนาจของ Google https://www.neowin.net/news/openai-rubs-salt-in-googles-wound-says-it-wants-chrome-if-googles-forced-to-sell/
    WWW.NEOWIN.NET
    OpenAI rubs salt in Google's wound, says it wants Chrome if Google's forced to sell
    As Google faces antitrust pressure, OpenAI, now a top competitor, has signaled interest in taking over Chrome.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรู คอร์ปอเรชั่น สนับสนุน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พร้อมเดินหน้าทดสอบระบบแจ้งเตือนภัยแบบเซลล์บรอดแคสต์ (Cell Broadcast Service) แบบเต็มรูปแบบทั้ง 3 ระดับ ได้แก่ ระดับเล็ก ระดับกลาง และระดับใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ตัวแทนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ปภ. กสทช. และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อสร้างความมั่นใจในประสิทธิภาพการแจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติก่อนเปิดใช้งานจริง โดย ทรู คอร์ปอเรชั่น ติดตั้ง CBS เสร็จสมบูรณ์แล้วพร้อมทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ทั้งในรูปแบบปกติและแบบ Virtual ตามระเบียบปฏิบัติประจำ (SOP) ที่ทุกหน่วยงานกำหนดร่วมกัน

    นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทรู คอร์ปอเรชั่น มีความพร้อมเปิดใช้งาน Cell Broadcast Service (CBS) แล้ววันนี้ ทั้งในรูปแบบปกติและแบบ Virtual โดยได้ติดตั้งระบบ CBS ครอบคลุมทุกสถานีฐาน 4G และ 5G ทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตามระเบียบปฏิบัติประจำ (SOP) ที่ทุกหน่วยงานกำหนดร่วมกัน ทั้งนี้ เราพร้อมสนับสนุน ปภ. ทดสอบระบบแบบเต็มรูปแบบทั้ง 3 ระดับ ได้แก่ ระดับเล็ก ระดับกลาง และระดับใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ตัวแทนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ

    ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ทดสอบการรับสัญญาณ Cell Broadcast เรียบร้อยแล้วทั้งในอุปกรณ์ iPhone และ Android ที่รองรับ 4G และ 5G สามารถรับข้อความแจ้งเตือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้ทดสอบต่อสายตานักข่าวสัปดาห์ที่ผ่านมา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9680000038134

    #MGROnline #CellBroadcastService #ทรูคอร์ปอเรชั่น #กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
    ทรู คอร์ปอเรชั่น สนับสนุน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พร้อมเดินหน้าทดสอบระบบแจ้งเตือนภัยแบบเซลล์บรอดแคสต์ (Cell Broadcast Service) แบบเต็มรูปแบบทั้ง 3 ระดับ ได้แก่ ระดับเล็ก ระดับกลาง และระดับใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ตัวแทนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ปภ. กสทช. และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อสร้างความมั่นใจในประสิทธิภาพการแจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติก่อนเปิดใช้งานจริง โดย ทรู คอร์ปอเรชั่น ติดตั้ง CBS เสร็จสมบูรณ์แล้วพร้อมทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ทั้งในรูปแบบปกติและแบบ Virtual ตามระเบียบปฏิบัติประจำ (SOP) ที่ทุกหน่วยงานกำหนดร่วมกัน • นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทรู คอร์ปอเรชั่น มีความพร้อมเปิดใช้งาน Cell Broadcast Service (CBS) แล้ววันนี้ ทั้งในรูปแบบปกติและแบบ Virtual โดยได้ติดตั้งระบบ CBS ครอบคลุมทุกสถานีฐาน 4G และ 5G ทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตามระเบียบปฏิบัติประจำ (SOP) ที่ทุกหน่วยงานกำหนดร่วมกัน ทั้งนี้ เราพร้อมสนับสนุน ปภ. ทดสอบระบบแบบเต็มรูปแบบทั้ง 3 ระดับ ได้แก่ ระดับเล็ก ระดับกลาง และระดับใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ตัวแทนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ • ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ทดสอบการรับสัญญาณ Cell Broadcast เรียบร้อยแล้วทั้งในอุปกรณ์ iPhone และ Android ที่รองรับ 4G และ 5G สามารถรับข้อความแจ้งเตือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้ทดสอบต่อสายตานักข่าวสัปดาห์ที่ผ่านมา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9680000038134 • #MGROnline #CellBroadcastService #ทรูคอร์ปอเรชั่น #กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 303 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Messages กำลังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งาน โดยฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ การแชร์ตำแหน่งแบบเรียลไทม์ (Live Location Sharing) และ การแจ้งเตือนเนื้อหาที่ละเอียดอ่อน (Sensitive Content Warnings) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถป้องกันตัวเองจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและแชร์ตำแหน่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ✅ การแชร์ตำแหน่งแบบเรียลไทม์ (Live Location Sharing)
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์ตำแหน่งที่เปลี่ยนแปลงได้แบบเรียลไทม์
    - ช่วยให้การนัดพบหรือการติดตามตำแหน่งระหว่างการเดินทางสะดวกขึ้น

    ✅ การแจ้งเตือนเนื้อหาที่ละเอียดอ่อน (Sensitive Content Warnings)
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันการส่งหรือรับภาพเปลือยโดยมีการแจ้งเตือนก่อนเปิดดู
    - ใช้ AI บนอุปกรณ์เพื่อวิเคราะห์ภาพโดยไม่ส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Google

    ✅ การตั้งค่าความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งานที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
    - บัญชีที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีจะเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้โดยอัตโนมัติ
    - ผู้ปกครองสามารถควบคุมการตั้งค่าผ่านแอป Family Link

    ✅ การปรับปรุงความปลอดภัยใน Google Messages
    - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการรับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม

    https://www.techradar.com/phones/android/google-messages-update-finally-adds-an-important-safety-tool-and-teases-a-feature-im-surprised-the-app-doesnt-have-already
    Google Messages กำลังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งาน โดยฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ การแชร์ตำแหน่งแบบเรียลไทม์ (Live Location Sharing) และ การแจ้งเตือนเนื้อหาที่ละเอียดอ่อน (Sensitive Content Warnings) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถป้องกันตัวเองจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและแชร์ตำแหน่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ การแชร์ตำแหน่งแบบเรียลไทม์ (Live Location Sharing) - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์ตำแหน่งที่เปลี่ยนแปลงได้แบบเรียลไทม์ - ช่วยให้การนัดพบหรือการติดตามตำแหน่งระหว่างการเดินทางสะดวกขึ้น ✅ การแจ้งเตือนเนื้อหาที่ละเอียดอ่อน (Sensitive Content Warnings) - ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันการส่งหรือรับภาพเปลือยโดยมีการแจ้งเตือนก่อนเปิดดู - ใช้ AI บนอุปกรณ์เพื่อวิเคราะห์ภาพโดยไม่ส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Google ✅ การตั้งค่าความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งานที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี - บัญชีที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีจะเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้โดยอัตโนมัติ - ผู้ปกครองสามารถควบคุมการตั้งค่าผ่านแอป Family Link ✅ การปรับปรุงความปลอดภัยใน Google Messages - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการรับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม https://www.techradar.com/phones/android/google-messages-update-finally-adds-an-important-safety-tool-and-teases-a-feature-im-surprised-the-app-doesnt-have-already
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Photos ได้เพิ่มฟีเจอร์ Ultra HDR ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มความสดใสของภาพถ่ายได้ แม้จะเป็นภาพที่ถ่ายไปแล้วก่อนหน้านี้ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ภาพมีช่วงสีที่กว้างขึ้นและสามารถปรับระดับความเข้มของ HDR ได้ผ่าน Google Photos Editor

    ✅ Ultra HDR ช่วยเพิ่มความสดใสของภาพถ่ายได้ แม้จะเป็นภาพที่ถ่ายไปแล้ว
    - ผู้ใช้สามารถเพิ่มเอฟเฟกต์ HDR ให้กับภาพที่มีอยู่ในคลังภาพ
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ภาพมีช่วงสีที่กว้างขึ้นและดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

    ✅ สามารถปรับระดับความเข้มของ HDR ได้ผ่าน Google Photos Editor
    - ผู้ใช้สามารถเลือกความเข้มของเอฟเฟกต์ HDR ผ่าน Adjust section ในแอป Google Photos
    - ฟีเจอร์นี้จะมาแทนที่ตัวเลือก HDR Effect ที่มีอยู่เดิม

    ✅ Ultra HDR รองรับการแสดงผลบนหน้าจอ HDR และสามารถปรับให้เข้ากับหน้าจอทั่วไป
    - หากใช้งานบนอุปกรณ์ที่รองรับ HDR จะสามารถเห็นความแตกต่างของสีได้ชัดเจน
    - หากดูบนหน้าจอทั่วไป ภาพจะถูกปรับให้เข้ากับช่วงสีมาตรฐาน

    ✅ ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดให้ใช้งานใน Google Photos เวอร์ชัน 7.24.0.747539053
    - คาดว่าจะทยอยเปิดให้ใช้งานกับผู้ใช้ Android ในช่วงเวลาต่อไป

    https://www.techradar.com/phones/google-photos-is-letting-you-add-ultra-hdr-magic-to-your-images-after-youve-taken-them
    Google Photos ได้เพิ่มฟีเจอร์ Ultra HDR ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มความสดใสของภาพถ่ายได้ แม้จะเป็นภาพที่ถ่ายไปแล้วก่อนหน้านี้ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ภาพมีช่วงสีที่กว้างขึ้นและสามารถปรับระดับความเข้มของ HDR ได้ผ่าน Google Photos Editor ✅ Ultra HDR ช่วยเพิ่มความสดใสของภาพถ่ายได้ แม้จะเป็นภาพที่ถ่ายไปแล้ว - ผู้ใช้สามารถเพิ่มเอฟเฟกต์ HDR ให้กับภาพที่มีอยู่ในคลังภาพ - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ภาพมีช่วงสีที่กว้างขึ้นและดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ✅ สามารถปรับระดับความเข้มของ HDR ได้ผ่าน Google Photos Editor - ผู้ใช้สามารถเลือกความเข้มของเอฟเฟกต์ HDR ผ่าน Adjust section ในแอป Google Photos - ฟีเจอร์นี้จะมาแทนที่ตัวเลือก HDR Effect ที่มีอยู่เดิม ✅ Ultra HDR รองรับการแสดงผลบนหน้าจอ HDR และสามารถปรับให้เข้ากับหน้าจอทั่วไป - หากใช้งานบนอุปกรณ์ที่รองรับ HDR จะสามารถเห็นความแตกต่างของสีได้ชัดเจน - หากดูบนหน้าจอทั่วไป ภาพจะถูกปรับให้เข้ากับช่วงสีมาตรฐาน ✅ ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดให้ใช้งานใน Google Photos เวอร์ชัน 7.24.0.747539053 - คาดว่าจะทยอยเปิดให้ใช้งานกับผู้ใช้ Android ในช่วงเวลาต่อไป https://www.techradar.com/phones/google-photos-is-letting-you-add-ultra-hdr-magic-to-your-images-after-youve-taken-them
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เปิดตัว Android XR Smart Glasses ซึ่งเป็นแว่นตาอัจฉริยะที่ใช้ Gemini AI เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถจดจำวัตถุ, แปลภาษา และแสดงบันทึกการพูดแบบเรียลไทม์ โดยแว่นตานี้ถูกนำเสนอครั้งแรกในงาน TED2025 และถือเป็นก้าวสำคัญของ Google ในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีสวมใส่

    ✅ แว่นตาอัจฉริยะของ Google ใช้ Gemini AI
    - สามารถจดจำวัตถุและช่วยค้นหาสิ่งของที่ผู้ใช้ทำหาย
    - รองรับการแปลภาษาแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องตั้งค่าล่วงหน้า

    ✅ แสดงบันทึกการพูดแบบเรียลไทม์
    - ผู้ใช้สามารถดูบันทึกการพูดบนเลนส์ของแว่นตาได้ทันที
    - เหมาะสำหรับการนำเสนอหรือการประชุม

    ✅ รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
    - ใช้พลังประมวลผลจากสมาร์ทโฟนเพื่อเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ
    - รองรับการใช้งานร่วมกับแอป Android ทั่วไป

    ✅ Samsung เตรียมเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะของตัวเอง
    - แว่นตา Haean ของ Samsung ถูกออกแบบให้มีความเบาและคล้ายแว่นกันแดด
    - อาจใช้ชิป Snapdragon XR2 Plus Gen 2 และรองรับการควบคุมด้วยท่าทาง

    https://www.techspot.com/news/107616-google-demos-android-xr-smart-glasses-gemini-ai.html
    Google ได้เปิดตัว Android XR Smart Glasses ซึ่งเป็นแว่นตาอัจฉริยะที่ใช้ Gemini AI เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถจดจำวัตถุ, แปลภาษา และแสดงบันทึกการพูดแบบเรียลไทม์ โดยแว่นตานี้ถูกนำเสนอครั้งแรกในงาน TED2025 และถือเป็นก้าวสำคัญของ Google ในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีสวมใส่ ✅ แว่นตาอัจฉริยะของ Google ใช้ Gemini AI - สามารถจดจำวัตถุและช่วยค้นหาสิ่งของที่ผู้ใช้ทำหาย - รองรับการแปลภาษาแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องตั้งค่าล่วงหน้า ✅ แสดงบันทึกการพูดแบบเรียลไทม์ - ผู้ใช้สามารถดูบันทึกการพูดบนเลนส์ของแว่นตาได้ทันที - เหมาะสำหรับการนำเสนอหรือการประชุม ✅ รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ - ใช้พลังประมวลผลจากสมาร์ทโฟนเพื่อเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ - รองรับการใช้งานร่วมกับแอป Android ทั่วไป ✅ Samsung เตรียมเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะของตัวเอง - แว่นตา Haean ของ Samsung ถูกออกแบบให้มีความเบาและคล้ายแว่นกันแดด - อาจใช้ชิป Snapdragon XR2 Plus Gen 2 และรองรับการควบคุมด้วยท่าทาง https://www.techspot.com/news/107616-google-demos-android-xr-smart-glasses-gemini-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google demos Android XR smart glasses with Gemini AI, visual memory, and multilingual capabilities
    Until now, Google's Android XR glasses had only appeared in carefully curated teaser videos and limited hands-on previews shared with select publications. These early glimpses hinted at...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เปิดตัว ChromeOS M135 ซึ่งเป็นอัปเดตใหม่ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น การปรับปรุงการควบคุมด้วยใบหน้า (Face Control) และ การค้นหารูปภาพตามเนื้อหาใน Launcher โดยยังคงเน้นการพัฒนาด้านการเข้าถึงและการใช้งานที่ง่ายขึ้น

    ✅ การปรับปรุงการควบคุมด้วยใบหน้า (Face Control)
    - เพิ่มข้อความแจ้งเตือนเมื่อเปิดใช้งาน Face Control เช่น "Face control active"
    - มีปุ่มปิดการใช้งานที่ชัดเจนและแจ้งเตือนเมื่อเปิดใช้งาน

    ✅ การค้นหารูปภาพตามเนื้อหาใน Launcher
    - ผู้ใช้สามารถค้นหารูปภาพโดยไม่ต้องจำชื่อไฟล์ เพียงแค่ค้นหาตามเนื้อหาของภาพ

    ✅ การรองรับ Android Bluetooth Stack (Fluoride)
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth เป็นไปอย่างราบรื่น
    - รองรับการใช้งานบน ChromeOS Flex สำหรับฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า

    ✅ ฟีเจอร์ Mouse Keys และ Fast Pair สำหรับเมาส์
    - Mouse Keys ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมเคอร์เซอร์ด้วยคีย์บอร์ด
    - Fast Pair ช่วยให้การเชื่อมต่อเมาส์ที่รองรับเป็นไปอย่างรวดเร็ว

    ✅ การอัปเดตจะทยอยเปิดให้ใช้งานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
    - หากพบปัญหา ผู้ใช้สามารถรายงานได้ผ่านระบบฟีดแบ็ก

    https://www.neowin.net/news/google-brings-chromeos-m135-to-the-stable-channel-with-improved-mouse-support-and-more/
    Google ได้เปิดตัว ChromeOS M135 ซึ่งเป็นอัปเดตใหม่ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น การปรับปรุงการควบคุมด้วยใบหน้า (Face Control) และ การค้นหารูปภาพตามเนื้อหาใน Launcher โดยยังคงเน้นการพัฒนาด้านการเข้าถึงและการใช้งานที่ง่ายขึ้น ✅ การปรับปรุงการควบคุมด้วยใบหน้า (Face Control) - เพิ่มข้อความแจ้งเตือนเมื่อเปิดใช้งาน Face Control เช่น "Face control active" - มีปุ่มปิดการใช้งานที่ชัดเจนและแจ้งเตือนเมื่อเปิดใช้งาน ✅ การค้นหารูปภาพตามเนื้อหาใน Launcher - ผู้ใช้สามารถค้นหารูปภาพโดยไม่ต้องจำชื่อไฟล์ เพียงแค่ค้นหาตามเนื้อหาของภาพ ✅ การรองรับ Android Bluetooth Stack (Fluoride) - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth เป็นไปอย่างราบรื่น - รองรับการใช้งานบน ChromeOS Flex สำหรับฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า ✅ ฟีเจอร์ Mouse Keys และ Fast Pair สำหรับเมาส์ - Mouse Keys ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมเคอร์เซอร์ด้วยคีย์บอร์ด - Fast Pair ช่วยให้การเชื่อมต่อเมาส์ที่รองรับเป็นไปอย่างรวดเร็ว ✅ การอัปเดตจะทยอยเปิดให้ใช้งานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า - หากพบปัญหา ผู้ใช้สามารถรายงานได้ผ่านระบบฟีดแบ็ก https://www.neowin.net/news/google-brings-chromeos-m135-to-the-stable-channel-with-improved-mouse-support-and-more/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google brings ChromeOS M135 to the stable channel, with improved mouse support and more
    ChromeOS M135 has landed in the stable channel, bringing several improvements that will roll out over the next few days.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • Opera ได้เปิดตัว Aria AI บน Opera Mini สำหรับ Android ซึ่งเป็นการขยายการใช้งาน AI ไปยังผู้ใช้มือถือ โดย Aria AI สามารถช่วยในการค้นหาข้อมูล, สรุปเนื้อหาออนไลน์, สร้างภาพ และอื่นๆ ได้โดยตรงภายในเบราว์เซอร์

    ✅ Opera นำ Aria AI มาสู่ Opera Mini เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน
    - Opera Mini เป็นเบราว์เซอร์ที่เน้น การประหยัดข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพ
    - Aria AI ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ค้นหาข้อมูล, สรุปเนื้อหา และสร้างภาพ ได้โดยตรง

    ✅ การทำงานของ Aria AI ใน Opera Mini
    - ใช้ Composer AI engine ซึ่งพัฒนาโดย Opera
    - ใช้เทคโนโลยีจาก OpenAI และ Google AI เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างภาพ

    ✅ เป้าหมายของ Opera ในการนำ AI สู่ตลาดมือถือ
    - Opera ต้องการทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคที่มีราคาข้อมูลสูง
    - Opera Mini มีผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก

    ✅ การเปิดตัวและการใช้งาน
    - ผู้ใช้สามารถอัปเดต Opera Mini เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อใช้งาน Aria AI
    - สามารถเปิดใช้งานได้จาก หน้าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์

    https://www.neowin.net/news/aria-ai-is-now-available-in-opera-mini-on-android/
    Opera ได้เปิดตัว Aria AI บน Opera Mini สำหรับ Android ซึ่งเป็นการขยายการใช้งาน AI ไปยังผู้ใช้มือถือ โดย Aria AI สามารถช่วยในการค้นหาข้อมูล, สรุปเนื้อหาออนไลน์, สร้างภาพ และอื่นๆ ได้โดยตรงภายในเบราว์เซอร์ ✅ Opera นำ Aria AI มาสู่ Opera Mini เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน - Opera Mini เป็นเบราว์เซอร์ที่เน้น การประหยัดข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพ - Aria AI ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ค้นหาข้อมูล, สรุปเนื้อหา และสร้างภาพ ได้โดยตรง ✅ การทำงานของ Aria AI ใน Opera Mini - ใช้ Composer AI engine ซึ่งพัฒนาโดย Opera - ใช้เทคโนโลยีจาก OpenAI และ Google AI เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างภาพ ✅ เป้าหมายของ Opera ในการนำ AI สู่ตลาดมือถือ - Opera ต้องการทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคที่มีราคาข้อมูลสูง - Opera Mini มีผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก ✅ การเปิดตัวและการใช้งาน - ผู้ใช้สามารถอัปเดต Opera Mini เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อใช้งาน Aria AI - สามารถเปิดใช้งานได้จาก หน้าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์ https://www.neowin.net/news/aria-ai-is-now-available-in-opera-mini-on-android/
    WWW.NEOWIN.NET
    Aria AI is now available in Opera Mini on Android
    Opera is making its in-browser AI assistant Aria more accessible by bringing it to Opera Mini on Android.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts