• Opera ได้เปิดตัว Aria AI บน Opera Mini สำหรับ Android ซึ่งเป็นการขยายการใช้งาน AI ไปยังผู้ใช้มือถือ โดย Aria AI สามารถช่วยในการค้นหาข้อมูล, สรุปเนื้อหาออนไลน์, สร้างภาพ และอื่นๆ ได้โดยตรงภายในเบราว์เซอร์

    ✅ Opera นำ Aria AI มาสู่ Opera Mini เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน
    - Opera Mini เป็นเบราว์เซอร์ที่เน้น การประหยัดข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพ
    - Aria AI ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ค้นหาข้อมูล, สรุปเนื้อหา และสร้างภาพ ได้โดยตรง

    ✅ การทำงานของ Aria AI ใน Opera Mini
    - ใช้ Composer AI engine ซึ่งพัฒนาโดย Opera
    - ใช้เทคโนโลยีจาก OpenAI และ Google AI เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างภาพ

    ✅ เป้าหมายของ Opera ในการนำ AI สู่ตลาดมือถือ
    - Opera ต้องการทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคที่มีราคาข้อมูลสูง
    - Opera Mini มีผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก

    ✅ การเปิดตัวและการใช้งาน
    - ผู้ใช้สามารถอัปเดต Opera Mini เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อใช้งาน Aria AI
    - สามารถเปิดใช้งานได้จาก หน้าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์

    https://www.neowin.net/news/aria-ai-is-now-available-in-opera-mini-on-android/
    Opera ได้เปิดตัว Aria AI บน Opera Mini สำหรับ Android ซึ่งเป็นการขยายการใช้งาน AI ไปยังผู้ใช้มือถือ โดย Aria AI สามารถช่วยในการค้นหาข้อมูล, สรุปเนื้อหาออนไลน์, สร้างภาพ และอื่นๆ ได้โดยตรงภายในเบราว์เซอร์ ✅ Opera นำ Aria AI มาสู่ Opera Mini เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน - Opera Mini เป็นเบราว์เซอร์ที่เน้น การประหยัดข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพ - Aria AI ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ค้นหาข้อมูล, สรุปเนื้อหา และสร้างภาพ ได้โดยตรง ✅ การทำงานของ Aria AI ใน Opera Mini - ใช้ Composer AI engine ซึ่งพัฒนาโดย Opera - ใช้เทคโนโลยีจาก OpenAI และ Google AI เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างภาพ ✅ เป้าหมายของ Opera ในการนำ AI สู่ตลาดมือถือ - Opera ต้องการทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคที่มีราคาข้อมูลสูง - Opera Mini มีผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก ✅ การเปิดตัวและการใช้งาน - ผู้ใช้สามารถอัปเดต Opera Mini เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อใช้งาน Aria AI - สามารถเปิดใช้งานได้จาก หน้าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์ https://www.neowin.net/news/aria-ai-is-now-available-in-opera-mini-on-android/
    WWW.NEOWIN.NET
    Aria AI is now available in Opera Mini on Android
    Opera is making its in-browser AI assistant Aria more accessible by bringing it to Opera Mini on Android.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้กำหนด ข้อกำหนดขั้นต่ำใหม่สำหรับการติดตั้ง Android 15 และ 16 ซึ่งอาจทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นเก่าหลายรุ่นไม่สามารถอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดได้

    ✅ Google เพิ่มข้อกำหนดขั้นต่ำสำหรับการติดตั้ง Android 15 และ 16
    - สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ต้องการรับรอง Android 15 ต้องมี พื้นที่เก็บข้อมูลขั้นต่ำ 32GB
    - ข้อกำหนดเดิมอยู่ที่ 16GB ซึ่งหมายความว่าอุปกรณ์ที่มีพื้นที่น้อยกว่านี้จะไม่สามารถติดตั้ง Android 15 หรือ 16 ได้

    ✅ ข้อกำหนด RAM ขั้นต่ำสำหรับ Android 15
    - อุปกรณ์ที่ต้องการติดตั้ง Android 15 ต้องมี RAM อย่างน้อย 4GB
    - ข้อกำหนดนี้ใช้กับผู้ผลิตที่ต้องการรวม Google Play Store และบริการของ Google ในอุปกรณ์ของตน

    ✅ เหตุผลที่ Google เพิ่มข้อกำหนดขั้นต่ำ
    - เพื่อปรับปรุง ประสบการณ์การใช้งาน บนอุปกรณ์ระดับเริ่มต้น
    - อุปกรณ์ที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลน้อยมักมีปัญหา พื้นที่เต็มเร็วหลังติดตั้งระบบและแอปพลิเคชันที่มาพร้อมเครื่อง

    ✅ ผลกระทบต่อสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น
    - สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลต่ำกว่า 32GB จะไม่สามารถติดตั้ง Android 15 หรือ 16 ได้
    - อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในปี 2025 มีพื้นที่เก็บข้อมูล อย่างน้อย 64GB ทำให้ข้อกำหนดใหม่นี้ไม่ส่งผลกระทบมากนัก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/these-smartphones-will-not-be-able-to-run-the-new-versions-of-android
    Google ได้กำหนด ข้อกำหนดขั้นต่ำใหม่สำหรับการติดตั้ง Android 15 และ 16 ซึ่งอาจทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นเก่าหลายรุ่นไม่สามารถอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดได้ ✅ Google เพิ่มข้อกำหนดขั้นต่ำสำหรับการติดตั้ง Android 15 และ 16 - สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ต้องการรับรอง Android 15 ต้องมี พื้นที่เก็บข้อมูลขั้นต่ำ 32GB - ข้อกำหนดเดิมอยู่ที่ 16GB ซึ่งหมายความว่าอุปกรณ์ที่มีพื้นที่น้อยกว่านี้จะไม่สามารถติดตั้ง Android 15 หรือ 16 ได้ ✅ ข้อกำหนด RAM ขั้นต่ำสำหรับ Android 15 - อุปกรณ์ที่ต้องการติดตั้ง Android 15 ต้องมี RAM อย่างน้อย 4GB - ข้อกำหนดนี้ใช้กับผู้ผลิตที่ต้องการรวม Google Play Store และบริการของ Google ในอุปกรณ์ของตน ✅ เหตุผลที่ Google เพิ่มข้อกำหนดขั้นต่ำ - เพื่อปรับปรุง ประสบการณ์การใช้งาน บนอุปกรณ์ระดับเริ่มต้น - อุปกรณ์ที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลน้อยมักมีปัญหา พื้นที่เต็มเร็วหลังติดตั้งระบบและแอปพลิเคชันที่มาพร้อมเครื่อง ✅ ผลกระทบต่อสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น - สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลต่ำกว่า 32GB จะไม่สามารถติดตั้ง Android 15 หรือ 16 ได้ - อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในปี 2025 มีพื้นที่เก็บข้อมูล อย่างน้อย 64GB ทำให้ข้อกำหนดใหม่นี้ไม่ส่งผลกระทบมากนัก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/these-smartphones-will-not-be-able-to-run-the-new-versions-of-android
    WWW.THESTAR.COM.MY
    These smartphones will not be able to run the new versions of Android
    Google has just set new storage space minimums for installing the latest versions of Android.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เปิดตัว ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยใหม่สำหรับ Android ซึ่งจะทำให้โทรศัพท์ของคุณ รีบูตอัตโนมัติ หากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน โดยฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Google Play Services update

    ✅ โทรศัพท์ Android จะรีบูตอัตโนมัติหากไม่ได้ใช้งาน 3 วัน
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยโดยบังคับให้ผู้ใช้ต้อง ป้อน PIN หลังจากรีบูต
    - ระบบจะไม่อนุญาตให้ใช้ การปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือหรือใบหน้า หลังจากรีบูต

    ✅ การทำงานของระบบล็อก BFU และ AFU
    - โทรศัพท์มี สองสถานะล็อก คือ Before First Unlock (BFU) และ After First Unlock (AFU)
    - ในสถานะ BFU ข้อมูลจะถูกเข้ารหัสอย่างแน่นหนา ทำให้ ไม่สามารถเข้าถึงได้แม้ใช้เครื่องมือแฮกขั้นสูง

    ✅ ผลกระทบต่อการบังคับใช้กฎหมาย
    - ฟีเจอร์นี้อาจทำให้ ตำรวจหรือ FBI มีเวลาจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลบนโทรศัพท์ที่ถูกยึดเป็นหลักฐาน
    - Apple ได้เปิดตัวฟีเจอร์คล้ายกันสำหรับ iPhone เมื่อปีที่แล้ว

    ✅ การเปิดใช้งานและข้อจำกัด
    - ฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Google System release notes เดือนเมษายน 2025
    - ใช้ได้กับ โทรศัพท์และแท็บเล็ต Android แต่ ไม่รองรับ Pixel Watch, Android Auto และทีวี

    https://www.zdnet.com/article/your-android-phone-is-getting-a-new-security-secret-weapon-how-it-works/
    Google ได้เปิดตัว ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยใหม่สำหรับ Android ซึ่งจะทำให้โทรศัพท์ของคุณ รีบูตอัตโนมัติ หากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน โดยฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Google Play Services update ✅ โทรศัพท์ Android จะรีบูตอัตโนมัติหากไม่ได้ใช้งาน 3 วัน - ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยโดยบังคับให้ผู้ใช้ต้อง ป้อน PIN หลังจากรีบูต - ระบบจะไม่อนุญาตให้ใช้ การปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือหรือใบหน้า หลังจากรีบูต ✅ การทำงานของระบบล็อก BFU และ AFU - โทรศัพท์มี สองสถานะล็อก คือ Before First Unlock (BFU) และ After First Unlock (AFU) - ในสถานะ BFU ข้อมูลจะถูกเข้ารหัสอย่างแน่นหนา ทำให้ ไม่สามารถเข้าถึงได้แม้ใช้เครื่องมือแฮกขั้นสูง ✅ ผลกระทบต่อการบังคับใช้กฎหมาย - ฟีเจอร์นี้อาจทำให้ ตำรวจหรือ FBI มีเวลาจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลบนโทรศัพท์ที่ถูกยึดเป็นหลักฐาน - Apple ได้เปิดตัวฟีเจอร์คล้ายกันสำหรับ iPhone เมื่อปีที่แล้ว ✅ การเปิดใช้งานและข้อจำกัด - ฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Google System release notes เดือนเมษายน 2025 - ใช้ได้กับ โทรศัพท์และแท็บเล็ต Android แต่ ไม่รองรับ Pixel Watch, Android Auto และทีวี https://www.zdnet.com/article/your-android-phone-is-getting-a-new-security-secret-weapon-how-it-works/
    WWW.ZDNET.COM
    Your Android phone is getting a new security secret weapon - how it works
    This new security feature from Google will make your Android phone more difficult to access if you haven't used it in a while.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • ญี่ปุ่นได้ออกคำสั่ง "หยุดและยุติ" ต่อ Google โดยกล่าวหาว่าบริษัทละเมิดกฎหมาย ต่อต้านการผูกขาด ด้วยการบังคับให้ เครื่องมือค้นหาของ Google เป็นค่าเริ่มต้นในสมาร์ทโฟน Android

    ✅ ญี่ปุ่นกล่าวหา Google ว่าละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด
    - คณะกรรมการการค้าแห่งญี่ปุ่น (JFTC) ระบุว่า Google ใช้อำนาจตลาดเพื่อให้ เครื่องมือค้นหาของตนเป็นค่าเริ่มต้นใน Android
    - คำสั่ง "หยุดและยุติ" เป็นมาตรการที่ใช้เพื่อบังคับให้บริษัทหยุดพฤติกรรมที่อาจเป็นการผูกขาด

    ✅ กรณีนี้คล้ายกับคดีในสหรัฐฯ และยุโรป
    - กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กำลังดำเนินคดีเกี่ยวกับ การครอบงำตลาดของ Google
    - ในยุโรป Google เคยถูกปรับ 4.34 พันล้านยูโร ในปี 2018 เนื่องจากข้อจำกัดเกี่ยวกับ Android

    ✅ การสอบสวนของญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่ปี 2023
    - ญี่ปุ่นได้ปรึกษากับประเทศอื่นที่มีคดีเกี่ยวกับ Google ก่อนออกคำสั่งนี้
    - Google Japan แสดงความผิดหวังต่อคำสั่งดังกล่าว และอ้างว่าบริษัทมีส่วนช่วยพัฒนาเทคโนโลยีในญี่ปุ่น

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีในญี่ปุ่น
    - หาก Google ต้องเปลี่ยนแปลงนโยบาย อาจส่งผลต่อ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและนักพัฒนาแอป
    - อาจมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับ การตั้งค่าเริ่มต้นของเครื่องมือค้นหาใน Android

    ℹ️ ความท้าทายในการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการผูกขาด
    - คดีในสหรัฐฯ และยุโรปใช้เวลาหลายปีในการดำเนินการ
    - ญี่ปุ่นอาจต้องใช้เวลานานในการบังคับใช้คำสั่งนี้

    ℹ️ แนวโน้มของการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่
    - หลายประเทศกำลังเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ บริษัทเทคโนโลยีที่มีอำนาจตลาดสูง
    - อาจมีการออกกฎหมายใหม่เพื่อควบคุมพฤติกรรมของบริษัทเหล่านี้

    https://www.neowin.net/news/japan-hits-google-with-anti-monopoly-accusations-over-android-phones/
    ญี่ปุ่นได้ออกคำสั่ง "หยุดและยุติ" ต่อ Google โดยกล่าวหาว่าบริษัทละเมิดกฎหมาย ต่อต้านการผูกขาด ด้วยการบังคับให้ เครื่องมือค้นหาของ Google เป็นค่าเริ่มต้นในสมาร์ทโฟน Android ✅ ญี่ปุ่นกล่าวหา Google ว่าละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด - คณะกรรมการการค้าแห่งญี่ปุ่น (JFTC) ระบุว่า Google ใช้อำนาจตลาดเพื่อให้ เครื่องมือค้นหาของตนเป็นค่าเริ่มต้นใน Android - คำสั่ง "หยุดและยุติ" เป็นมาตรการที่ใช้เพื่อบังคับให้บริษัทหยุดพฤติกรรมที่อาจเป็นการผูกขาด ✅ กรณีนี้คล้ายกับคดีในสหรัฐฯ และยุโรป - กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กำลังดำเนินคดีเกี่ยวกับ การครอบงำตลาดของ Google - ในยุโรป Google เคยถูกปรับ 4.34 พันล้านยูโร ในปี 2018 เนื่องจากข้อจำกัดเกี่ยวกับ Android ✅ การสอบสวนของญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่ปี 2023 - ญี่ปุ่นได้ปรึกษากับประเทศอื่นที่มีคดีเกี่ยวกับ Google ก่อนออกคำสั่งนี้ - Google Japan แสดงความผิดหวังต่อคำสั่งดังกล่าว และอ้างว่าบริษัทมีส่วนช่วยพัฒนาเทคโนโลยีในญี่ปุ่น ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีในญี่ปุ่น - หาก Google ต้องเปลี่ยนแปลงนโยบาย อาจส่งผลต่อ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและนักพัฒนาแอป - อาจมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับ การตั้งค่าเริ่มต้นของเครื่องมือค้นหาใน Android ℹ️ ความท้าทายในการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการผูกขาด - คดีในสหรัฐฯ และยุโรปใช้เวลาหลายปีในการดำเนินการ - ญี่ปุ่นอาจต้องใช้เวลานานในการบังคับใช้คำสั่งนี้ ℹ️ แนวโน้มของการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ - หลายประเทศกำลังเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ บริษัทเทคโนโลยีที่มีอำนาจตลาดสูง - อาจมีการออกกฎหมายใหม่เพื่อควบคุมพฤติกรรมของบริษัทเหล่านี้ https://www.neowin.net/news/japan-hits-google-with-anti-monopoly-accusations-over-android-phones/
    WWW.NEOWIN.NET
    Japan hits Google with anti-monopoly accusations over Android phones
    Japan has slapped Google with an antitrust order over Android phones, accusing it of shutting out rivals in the search market.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปภ. แจ้ง 23 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์

    เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 68 เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง

    นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 ดังนี้

    ภาคเหนือ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด ดอยหล่อ พร้าว แม่แจ่ม แม่แตง แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันกำแพง สันทราย และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน บ้านธิ ป่าซาง และอำเภอแม่ทา) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม เมืองปาน วังเหนือ สบปราบ เสริมงาม และอำเภอห้างฉัตร) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอสอง) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง)

    ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค ทองผาภูมิ บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ สังขละบุรี และอำเภอหนองปรือ) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) ตราด (อําเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน)

    ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี พนม บ้านตาขุน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอฉวาง ชะอวด ช้างกลาง ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ และอำเภอนาบอน) พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน ป่าพะยอม และอำเภอป่าบอน) สงขลา (อำเภอนาทวี คลองหอยโข่ง ควนเนียง รัตภูมิ สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และอำเภอรามัน) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ และอำเภอระแงะ) ระนอง (อำเภอกระบุรี) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ทับปุด และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง วังวิเศษ สีเกา และอำเภอหัวยอด) และจังหวังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตล ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง และอำเภอละงู)

    กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด

    ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

    ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างสรุปข่าวในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเผยแพร่ในเว็บไซต์หรือใช้ในสคริปต์ข่าวทีวี/ออนไลน์:
    ปภ. แจ้งเตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม ช่วง 15-17 เม.ย. 68 เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์
    วันนี้ (15 เม.ย. 2568) เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 พร้อมสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ
    พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่
    • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก
    • ภาคกลาง: กาญจนบุรี สระบุรี ตราด เพชรบุรี
    • ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
    นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ และถ้ำลอด หากพบความเสี่ยงให้สั่งปิดทันที
    พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย หากพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่
    • ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM)
    • สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
    • หรือผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT


    ปภ. แจ้ง 23 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 68 เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 ดังนี้ ภาคเหนือ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด ดอยหล่อ พร้าว แม่แจ่ม แม่แตง แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันกำแพง สันทราย และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน บ้านธิ ป่าซาง และอำเภอแม่ทา) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม เมืองปาน วังเหนือ สบปราบ เสริมงาม และอำเภอห้างฉัตร) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอสอง) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง) ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค ทองผาภูมิ บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ สังขละบุรี และอำเภอหนองปรือ) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) ตราด (อําเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน) ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี พนม บ้านตาขุน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอฉวาง ชะอวด ช้างกลาง ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ และอำเภอนาบอน) พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน ป่าพะยอม และอำเภอป่าบอน) สงขลา (อำเภอนาทวี คลองหอยโข่ง ควนเนียง รัตภูมิ สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และอำเภอรามัน) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ และอำเภอระแงะ) ระนอง (อำเภอกระบุรี) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ทับปุด และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง วังวิเศษ สีเกา และอำเภอหัวยอด) และจังหวังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตล ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง และอำเภอละงู) กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างสรุปข่าวในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเผยแพร่ในเว็บไซต์หรือใช้ในสคริปต์ข่าวทีวี/ออนไลน์: ปภ. แจ้งเตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม ช่วง 15-17 เม.ย. 68 เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ วันนี้ (15 เม.ย. 2568) เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 พร้อมสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก • ภาคกลาง: กาญจนบุรี สระบุรี ตราด เพชรบุรี • ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ และถ้ำลอด หากพบความเสี่ยงให้สั่งปิดทันที พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย หากพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ • ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM) • สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง • หรือผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple ได้เปิดตัว Apple Maps Web App ที่สามารถใช้งานได้ผ่านเบราว์เซอร์ โดยไม่จำกัดเฉพาะอุปกรณ์ของ Apple อีกต่อไป ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงฟีเจอร์พื้นฐาน เช่น การค้นหาและการนำทาง รวมถึงฟีเจอร์ Look Around ที่คล้ายกับ Google Street View อย่างไรก็ตาม Web App นี้ยังมีข้อจำกัด เช่น ไม่รองรับการเข้าสู่ระบบเพื่อบันทึกข้อมูล ไม่มีแผนที่การเดินทาง และไม่มีอาคาร 3D

    การเปิดตัวนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามของ Apple ในการตอบสนองต่อแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแล โดยเฉพาะในยุโรปที่เรียกร้องให้ Apple เปิดระบบนิเวศของตนให้กว้างขึ้น

    ✅ การเปิดตัว Apple Maps Web App
    - Apple Maps Web App สามารถใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์ รวมถึง Android
    - รองรับฟีเจอร์พื้นฐาน เช่น การค้นหา การนำทาง และ Look Around

    ✅ ข้อจำกัดของ Web App
    - ไม่รองรับการเข้าสู่ระบบเพื่อบันทึกข้อมูล
    - ไม่มีแผนที่การเดินทางและอาคาร 3D

    ✅ แรงผลักดันจากหน่วยงานกำกับดูแล
    - การเปิดตัวนี้เป็นผลมาจากแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป
    - Apple ถูกเรียกร้องให้เปิดระบบนิเวศของตนให้กว้างขึ้น

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อการใช้งาน
    - Web App อาจไม่สามารถแข่งขันกับ Google Maps ในด้านฟีเจอร์และความสะดวก
    - ผู้ใช้งานอาจไม่เลือกใช้ Apple Maps หากไม่มีฟีเจอร์ที่ครบครัน

    ℹ️ ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Apple
    - การเปิดตัว Web App ที่มีข้อจำกัดอาจลดความน่าเชื่อถือในผลิตภัณฑ์ของ Apple
    - Apple อาจต้องพัฒนาฟีเจอร์เพิ่มเติมเพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน

    https://www.techspot.com/news/107529-android-users-can-now-use-apple-maps-web.html
    Apple ได้เปิดตัว Apple Maps Web App ที่สามารถใช้งานได้ผ่านเบราว์เซอร์ โดยไม่จำกัดเฉพาะอุปกรณ์ของ Apple อีกต่อไป ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงฟีเจอร์พื้นฐาน เช่น การค้นหาและการนำทาง รวมถึงฟีเจอร์ Look Around ที่คล้ายกับ Google Street View อย่างไรก็ตาม Web App นี้ยังมีข้อจำกัด เช่น ไม่รองรับการเข้าสู่ระบบเพื่อบันทึกข้อมูล ไม่มีแผนที่การเดินทาง และไม่มีอาคาร 3D การเปิดตัวนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามของ Apple ในการตอบสนองต่อแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแล โดยเฉพาะในยุโรปที่เรียกร้องให้ Apple เปิดระบบนิเวศของตนให้กว้างขึ้น ✅ การเปิดตัว Apple Maps Web App - Apple Maps Web App สามารถใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์ รวมถึง Android - รองรับฟีเจอร์พื้นฐาน เช่น การค้นหา การนำทาง และ Look Around ✅ ข้อจำกัดของ Web App - ไม่รองรับการเข้าสู่ระบบเพื่อบันทึกข้อมูล - ไม่มีแผนที่การเดินทางและอาคาร 3D ✅ แรงผลักดันจากหน่วยงานกำกับดูแล - การเปิดตัวนี้เป็นผลมาจากแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป - Apple ถูกเรียกร้องให้เปิดระบบนิเวศของตนให้กว้างขึ้น ℹ️ ความเสี่ยงต่อการใช้งาน - Web App อาจไม่สามารถแข่งขันกับ Google Maps ในด้านฟีเจอร์และความสะดวก - ผู้ใช้งานอาจไม่เลือกใช้ Apple Maps หากไม่มีฟีเจอร์ที่ครบครัน ℹ️ ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Apple - การเปิดตัว Web App ที่มีข้อจำกัดอาจลดความน่าเชื่อถือในผลิตภัณฑ์ของ Apple - Apple อาจต้องพัฒนาฟีเจอร์เพิ่มเติมเพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน https://www.techspot.com/news/107529-android-users-can-now-use-apple-maps-web.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Apple Maps web app is now available on all devices, including Android
    Initially, users could only access the Maps web app from desktops or tablets. Now, Apple has quietly dropped the beta tag from the URL and opened the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple Maps บนเว็บได้ออกจากสถานะเบต้าและเปิดให้ใช้งานสำหรับทุกคน โดยมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์มือถือ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการขยายการเข้าถึงบริการของ Apple

    ✅ การออกจากสถานะเบต้า:
    - Apple Maps บนเว็บเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2024 ในสถานะเบต้า และตอนนี้ได้ออกจากสถานะเบต้าแล้ว
    - ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง Apple Maps บนเว็บได้ที่ maps.apple.com

    ✅ การรองรับอุปกรณ์มือถือ:
    - Apple Maps บนเว็บสามารถใช้งานได้ทั้งบน Android และ iPhone ซึ่งก่อนหน้านี้รองรับเฉพาะเดสก์ท็อปและแท็บเล็ต

    ✅ ฟีเจอร์ Look Around:
    - ฟีเจอร์ Look Around ช่วยให้ผู้ใช้งานสำรวจพื้นที่ใกล้เคียงในมุมมองพาโนรามา 360 องศา โดยสามารถเข้าถึงได้ผ่านไอคอนกล้องส่องทางไกล

    ✅ ข้อจำกัดของฟีเจอร์:
    - ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น แผนที่ขนส่งอัตโนมัติ อาคาร 3D และการลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Apple เพื่อเข้าถึงสถานที่ที่บันทึกไว้ ยังไม่พร้อมใช้งาน

    https://www.neowin.net/news/apple-maps-on-the-web-leaves-beta-and-launches-with-support-for-mobile-devices/
    Apple Maps บนเว็บได้ออกจากสถานะเบต้าและเปิดให้ใช้งานสำหรับทุกคน โดยมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์มือถือ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการขยายการเข้าถึงบริการของ Apple ✅ การออกจากสถานะเบต้า: - Apple Maps บนเว็บเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2024 ในสถานะเบต้า และตอนนี้ได้ออกจากสถานะเบต้าแล้ว - ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง Apple Maps บนเว็บได้ที่ maps.apple.com ✅ การรองรับอุปกรณ์มือถือ: - Apple Maps บนเว็บสามารถใช้งานได้ทั้งบน Android และ iPhone ซึ่งก่อนหน้านี้รองรับเฉพาะเดสก์ท็อปและแท็บเล็ต ✅ ฟีเจอร์ Look Around: - ฟีเจอร์ Look Around ช่วยให้ผู้ใช้งานสำรวจพื้นที่ใกล้เคียงในมุมมองพาโนรามา 360 องศา โดยสามารถเข้าถึงได้ผ่านไอคอนกล้องส่องทางไกล ✅ ข้อจำกัดของฟีเจอร์: - ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น แผนที่ขนส่งอัตโนมัติ อาคาร 3D และการลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Apple เพื่อเข้าถึงสถานที่ที่บันทึกไว้ ยังไม่พร้อมใช้งาน https://www.neowin.net/news/apple-maps-on-the-web-leaves-beta-and-launches-with-support-for-mobile-devices/
    WWW.NEOWIN.NET
    Apple Maps on the web leaves beta and launches with support for mobile devices
    While Apple Maps previously worked only on desktop and tablet web browsers in beta, it now supports mobile devices.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • Bigme B7 เป็นอุปกรณ์ ePaper สีขนาด 7 นิ้ว ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android และฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น การโทรศัพท์, การบันทึกเสียงเป็นข้อความ และการใช้งานปากกาแบบไร้สาย

    🌐 จุดเด่นของ Bigme B7:
    - 🖥️ หน้าจอ ePaper สี: ใช้เทคโนโลยี Kaleido 3 ที่ให้ความละเอียด 1264x1680 สำหรับเนื้อหาขาวดำ และ 632x840 สำหรับเนื้อหาสี
    - 💾 สเปคที่ทรงพลัง: มาพร้อม RAM 8GB, พื้นที่เก็บข้อมูล 128GB และรองรับการเพิ่มพื้นที่ด้วย TF card สูงสุด 1TB
    - 📞 การเชื่อมต่อหลากหลาย: รองรับ Wi-Fi, Bluetooth 5.0 และ 4G ผ่าน Nano SIM พร้อมฟีเจอร์การบันทึกเสียงเป็นข้อความที่รองรับ 37 ภาษา

    ⚠️ ข้อจำกัดและความท้าทาย:
    - 🔋 แบตเตอรี่: แม้จะมีแบตเตอรี่ 3000mAh ที่ควรใช้งานได้นาน แต่ยังไม่มีรีวิวที่ยืนยันประสิทธิภาพ
    - ✏️ ปากกาไร้สาย: ปากกามีระดับแรงกด 4096 และรองรับการชาร์จแบบไร้สาย แต่ไม่มีที่เก็บปากกาในตัวเครื่อง

    https://www.techradar.com/pro/i-cant-wait-to-try-this-7-inch-color-e-ink-display-that-can-make-calls-it-has-a-wireless-charging-stylus-and-a-unique-2-button-navigation
    Bigme B7 เป็นอุปกรณ์ ePaper สีขนาด 7 นิ้ว ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android และฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น การโทรศัพท์, การบันทึกเสียงเป็นข้อความ และการใช้งานปากกาแบบไร้สาย 🌐 จุดเด่นของ Bigme B7: - 🖥️ หน้าจอ ePaper สี: ใช้เทคโนโลยี Kaleido 3 ที่ให้ความละเอียด 1264x1680 สำหรับเนื้อหาขาวดำ และ 632x840 สำหรับเนื้อหาสี - 💾 สเปคที่ทรงพลัง: มาพร้อม RAM 8GB, พื้นที่เก็บข้อมูล 128GB และรองรับการเพิ่มพื้นที่ด้วย TF card สูงสุด 1TB - 📞 การเชื่อมต่อหลากหลาย: รองรับ Wi-Fi, Bluetooth 5.0 และ 4G ผ่าน Nano SIM พร้อมฟีเจอร์การบันทึกเสียงเป็นข้อความที่รองรับ 37 ภาษา ⚠️ ข้อจำกัดและความท้าทาย: - 🔋 แบตเตอรี่: แม้จะมีแบตเตอรี่ 3000mAh ที่ควรใช้งานได้นาน แต่ยังไม่มีรีวิวที่ยืนยันประสิทธิภาพ - ✏️ ปากกาไร้สาย: ปากกามีระดับแรงกด 4096 และรองรับการชาร์จแบบไร้สาย แต่ไม่มีที่เก็บปากกาในตัวเครื่อง https://www.techradar.com/pro/i-cant-wait-to-try-this-7-inch-color-e-ink-display-that-can-make-calls-it-has-a-wireless-charging-stylus-and-a-unique-2-button-navigation
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google เปิดตัว Gemini 2.5 Pro ซึ่งขับเคลื่อนฟีเจอร์ Deep Research ช่วยผู้ใช้งานสร้างรายงานที่ครบถ้วนและวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลจำนวนมาก ด้วยคุณภาพที่เหนือกว่าคู่แข่ง ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การวิจัยข้อมูลที่ซับซ้อนเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสำหรับผู้ใช้งานทั่วโลก

    ✅ ความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูง Deep Research สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไซต์หลายร้อยแห่งพร้อมกัน และสร้างรายงานที่อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนรายงานเป็นบทสนทนาแบบ Podcast-style เพื่อเพิ่มความสะดวกในการนำเสนอ

    ✅ คุณภาพที่เหนือกว่าคู่แข่ง Google ระบุว่ารายงานที่สร้างจาก Gemini 2.5 Pro ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานและผู้ประเมินว่ามีคุณภาพดีกว่ารายงานจาก OpenAI ถึง 2 ต่อ 1 โดยเน้นการวิเคราะห์ที่มีเหตุผลและข้อมูลที่เป็นเชิงลึก

    ✅ การใช้งานที่หลากหลาย ผู้ใช้งานสามารถใช้ Deep Research ผ่านเวอร์ชัน Gemini Advanced บนเว็บ, Android หรือ iOS และเลือกโมเดล Gemini 2.5 Pro (Experimental) ในเมนู

    Deep Research ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องวิจัยข้อมูลที่ซับซ้อน เช่น การรายงานสำหรับธุรกิจหรือการศึกษา โดยยังมีเวอร์ชัน Gemini 2.0 Flash ให้ทดลองใช้งานฟรีใน 150 ประเทศทั่วโลก

    https://www.neowin.net/news/google-launches-gemini-25-pro-powered-deep-research-outperforming-chatgpt-deep-research/
    Google เปิดตัว Gemini 2.5 Pro ซึ่งขับเคลื่อนฟีเจอร์ Deep Research ช่วยผู้ใช้งานสร้างรายงานที่ครบถ้วนและวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลจำนวนมาก ด้วยคุณภาพที่เหนือกว่าคู่แข่ง ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การวิจัยข้อมูลที่ซับซ้อนเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสำหรับผู้ใช้งานทั่วโลก ✅ ความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูง Deep Research สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไซต์หลายร้อยแห่งพร้อมกัน และสร้างรายงานที่อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนรายงานเป็นบทสนทนาแบบ Podcast-style เพื่อเพิ่มความสะดวกในการนำเสนอ ✅ คุณภาพที่เหนือกว่าคู่แข่ง Google ระบุว่ารายงานที่สร้างจาก Gemini 2.5 Pro ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานและผู้ประเมินว่ามีคุณภาพดีกว่ารายงานจาก OpenAI ถึง 2 ต่อ 1 โดยเน้นการวิเคราะห์ที่มีเหตุผลและข้อมูลที่เป็นเชิงลึก ✅ การใช้งานที่หลากหลาย ผู้ใช้งานสามารถใช้ Deep Research ผ่านเวอร์ชัน Gemini Advanced บนเว็บ, Android หรือ iOS และเลือกโมเดล Gemini 2.5 Pro (Experimental) ในเมนู Deep Research ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องวิจัยข้อมูลที่ซับซ้อน เช่น การรายงานสำหรับธุรกิจหรือการศึกษา โดยยังมีเวอร์ชัน Gemini 2.0 Flash ให้ทดลองใช้งานฟรีใน 150 ประเทศทั่วโลก https://www.neowin.net/news/google-launches-gemini-25-pro-powered-deep-research-outperforming-chatgpt-deep-research/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google launches Gemini 2.5 Pro-powered Deep Research, outperforming ChatGPT Deep Research
    Google has updated its Deep Research feature in Gemini Advanced, now powering it with the new Gemini 2.5 Pro Experimental model.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันที่ 7 เมษายน 2025 ถือเป็นวันสำคัญที่ Git เครื่องมือจัดการเวอร์ชันชื่อดังในวงการโอเพนซอร์สมีอายุครบ 20 ปี Git ถูกสร้างขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่วันโดย Linus Torvalds และเปิดตัวสู่สาธารณะเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2005 ซึ่งนับตั้งแต่วันนั้นมา มันกลายเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาโอเพนซอร์สทั่วโลก

    ✅ แนวคิดการกระจายตัวที่ล้ำสมัย:
    - หนึ่งในจุดเด่นของ Git คือการเป็น ระบบควบคุมเวอร์ชันแบบกระจายตัว (Distributed Control System) ซึ่งแตกต่างจากระบบแบบรวมศูนย์เดิม ๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถพัฒนาโค้ดได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์กลาง

    ✅ รองรับระบบปฏิบัติการหลากหลาย:
    - Git สามารถทำงานได้ทั้งบน Linux, Windows, Android, และ Solaris เป็นต้น ทำให้มันยิ่งแพร่หลายและเหมาะกับการใช้งานในวงกว้าง

    ✅ ที่มาของชื่อ Git:
    - คำว่า "Git" มาจากคำแสลงของอังกฤษที่แปลว่า “คนที่คิดว่าตัวเองถูกเสมอ” ซึ่ง Linus Torvalds ใช้ตั้งชื่อโปรเจกต์นี้เพื่อแสดงถึงตัวตนของเขาเอง

    ✅ การสืบทอดความสำคัญในมือผู้อื่น:
    - แม้ว่า Linus จะเริ่มต้นโครงการนี้ แต่เขาไม่ได้ดูแล Git มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2005 โดยบทบาทนั้นถูกส่งต่อให้ Junio Hamano ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและดูแล Git ให้ทันสมัยอยู่เสมอ

    ✅ บทบาทของ Git ในโลกโอเพนซอร์ส:
    - Git เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างชุมชนผู้พัฒนาที่มีความคิดสร้างสรรค์ โดยช่วยนักพัฒนาและผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงโปรเจกต์ที่ต้องการความร่วมมือขนาดใหญ่ได้
    - ชุมชนโอเพนซอร์สและการประยุกต์ใช้ เช่น กับ Linux Kernel และโครงการที่เกี่ยวข้องกับ Raspberry Pi ยกให้ Git เป็นหัวใจสำคัญของการทำงานร่วมกัน

    https://www.tomshardware.com/software/git-turns-20-as-we-celebrate-decades-of-open-source-software-distribution
    วันที่ 7 เมษายน 2025 ถือเป็นวันสำคัญที่ Git เครื่องมือจัดการเวอร์ชันชื่อดังในวงการโอเพนซอร์สมีอายุครบ 20 ปี Git ถูกสร้างขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่วันโดย Linus Torvalds และเปิดตัวสู่สาธารณะเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2005 ซึ่งนับตั้งแต่วันนั้นมา มันกลายเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาโอเพนซอร์สทั่วโลก ✅ แนวคิดการกระจายตัวที่ล้ำสมัย: - หนึ่งในจุดเด่นของ Git คือการเป็น ระบบควบคุมเวอร์ชันแบบกระจายตัว (Distributed Control System) ซึ่งแตกต่างจากระบบแบบรวมศูนย์เดิม ๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถพัฒนาโค้ดได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์กลาง ✅ รองรับระบบปฏิบัติการหลากหลาย: - Git สามารถทำงานได้ทั้งบน Linux, Windows, Android, และ Solaris เป็นต้น ทำให้มันยิ่งแพร่หลายและเหมาะกับการใช้งานในวงกว้าง ✅ ที่มาของชื่อ Git: - คำว่า "Git" มาจากคำแสลงของอังกฤษที่แปลว่า “คนที่คิดว่าตัวเองถูกเสมอ” ซึ่ง Linus Torvalds ใช้ตั้งชื่อโปรเจกต์นี้เพื่อแสดงถึงตัวตนของเขาเอง ✅ การสืบทอดความสำคัญในมือผู้อื่น: - แม้ว่า Linus จะเริ่มต้นโครงการนี้ แต่เขาไม่ได้ดูแล Git มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2005 โดยบทบาทนั้นถูกส่งต่อให้ Junio Hamano ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและดูแล Git ให้ทันสมัยอยู่เสมอ ✅ บทบาทของ Git ในโลกโอเพนซอร์ส: - Git เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างชุมชนผู้พัฒนาที่มีความคิดสร้างสรรค์ โดยช่วยนักพัฒนาและผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงโปรเจกต์ที่ต้องการความร่วมมือขนาดใหญ่ได้ - ชุมชนโอเพนซอร์สและการประยุกต์ใช้ เช่น กับ Linux Kernel และโครงการที่เกี่ยวข้องกับ Raspberry Pi ยกให้ Git เป็นหัวใจสำคัญของการทำงานร่วมกัน https://www.tomshardware.com/software/git-turns-20-as-we-celebrate-decades-of-open-source-software-distribution
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z Fold 7 และ Flip 7 ซึ่งมาพร้อม One UI 8 ที่พัฒนาขึ้นใหม่จาก Android 16 เพิ่มความสะดวกสบายและฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เหล่านี้เน้นดีไซน์บางเฉียบ การปรับปรุงกล้อง และประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีกว่าเดิม แสดงถึงทิศทางที่ชัดเจนของ Samsung ในการเป็นผู้นำด้านสมาร์ทโฟนพับได้

    ✅ One UI 8: ระบบปฏิบัติการที่มาพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะ
    - Samsung เลือกเปิดตัว One UI 8 บนสมาร์ทโฟนพับได้รุ่นใหม่ก่อนใคร โดยมีข่าวลือว่าระบบปฏิบัติการนี้จะปรับปรุงโหมด Desktop Mode เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ใกล้เคียงคอมพิวเตอร์มากยิ่งขึ้น
    - ฟีเจอร์เด่นอื่น ๆ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพของฟังก์ชันสุขภาพ และระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ที่จะช่วยป้องกันการโจรกรรม

    ✅ Galaxy Z Fold 7: ดีไซน์บางเฉียบและปรับปรุงกล้อง
    - ตัวเครื่องจะบางลงจากรุ่นก่อน พร้อมการอัปเกรดประสิทธิภาพการทำงานและความเร็วของชิปประมวลผล รวมถึงอาจมีการพัฒนากล้องเพื่อรองรับการถ่ายภาพที่ดีขึ้น

    ✅ Galaxy Z Flip 7: จอด้านนอกที่ใหญ่ขึ้น
    - มีการคาดการณ์ว่า Z Flip 7 จะมาพร้อมกับ หน้าจอด้านนอกที่ขยายใหญ่เต็มพื้นที่ เพื่อการแสดงผลที่สะดวกและตอบโจทย์การใช้งานในยุคปัจจุบัน

    ✅ ปรับปรุงอายุการใช้งานแบตเตอรี่:
    - ทั้งสองรุ่นจะใช้หน้าจอที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่าเดิม

    นอกจาก Galaxy Z Fold 7 และ Flip 7 ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับ Galaxy Z Flip SE รุ่นราคาประหยัด และสมาร์ทโฟนพับสาม (Tri-Fold) ซึ่งอาจถูกเปิดตัวพร้อมกัน แสดงให้เห็นว่า Samsung ยังคงมุ่งมั่นขยายตลาดสมาร์ทโฟนพับได้ให้หลากหลายกลุ่มผู้ใช้งาน

    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-z-fold-7-and-galaxy-z-flip-7-are-being-tipped-to-come-with-one-ui-8-on-board
    Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z Fold 7 และ Flip 7 ซึ่งมาพร้อม One UI 8 ที่พัฒนาขึ้นใหม่จาก Android 16 เพิ่มความสะดวกสบายและฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เหล่านี้เน้นดีไซน์บางเฉียบ การปรับปรุงกล้อง และประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีกว่าเดิม แสดงถึงทิศทางที่ชัดเจนของ Samsung ในการเป็นผู้นำด้านสมาร์ทโฟนพับได้ ✅ One UI 8: ระบบปฏิบัติการที่มาพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะ - Samsung เลือกเปิดตัว One UI 8 บนสมาร์ทโฟนพับได้รุ่นใหม่ก่อนใคร โดยมีข่าวลือว่าระบบปฏิบัติการนี้จะปรับปรุงโหมด Desktop Mode เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ใกล้เคียงคอมพิวเตอร์มากยิ่งขึ้น - ฟีเจอร์เด่นอื่น ๆ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพของฟังก์ชันสุขภาพ และระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ที่จะช่วยป้องกันการโจรกรรม ✅ Galaxy Z Fold 7: ดีไซน์บางเฉียบและปรับปรุงกล้อง - ตัวเครื่องจะบางลงจากรุ่นก่อน พร้อมการอัปเกรดประสิทธิภาพการทำงานและความเร็วของชิปประมวลผล รวมถึงอาจมีการพัฒนากล้องเพื่อรองรับการถ่ายภาพที่ดีขึ้น ✅ Galaxy Z Flip 7: จอด้านนอกที่ใหญ่ขึ้น - มีการคาดการณ์ว่า Z Flip 7 จะมาพร้อมกับ หน้าจอด้านนอกที่ขยายใหญ่เต็มพื้นที่ เพื่อการแสดงผลที่สะดวกและตอบโจทย์การใช้งานในยุคปัจจุบัน ✅ ปรับปรุงอายุการใช้งานแบตเตอรี่: - ทั้งสองรุ่นจะใช้หน้าจอที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่าเดิม นอกจาก Galaxy Z Fold 7 และ Flip 7 ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับ Galaxy Z Flip SE รุ่นราคาประหยัด และสมาร์ทโฟนพับสาม (Tri-Fold) ซึ่งอาจถูกเปิดตัวพร้อมกัน แสดงให้เห็นว่า Samsung ยังคงมุ่งมั่นขยายตลาดสมาร์ทโฟนพับได้ให้หลากหลายกลุ่มผู้ใช้งาน https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-z-fold-7-and-galaxy-z-flip-7-are-being-tipped-to-come-with-one-ui-8-on-board
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อผิดพลาดใน Google Assistant ทำให้โหมด Do Not Disturb ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้ ส่งผลให้พลาดสายสำคัญและการปลุก ผู้ใช้ควรตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android เพื่อความมั่นใจว่าการแจ้งเตือนสำคัญจะไม่ถูกปิดเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจ ในขณะที่ Google ยังไม่ได้ออกมาแก้ไขปัญหา ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของ Assistant กับ Gemini อาจเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูต่อไป

    ✅ DND ผ่าน Google Assistant ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้
    - การสั่งเปิดโหมด Do Not Disturb ผ่านคำสั่งเสียงของ Google Assistant อาจ ปิดเสียงทุกการแจ้งเตือนและสายเรียกเข้าทั้งหมด
    - การตั้งค่าส่วนบุคคล เช่น การอนุญาตให้สายเรียกเข้าจากบุคคลสำคัญยังคงดัง จะถูกละเลย

    ✅ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง
    - ผู้ใช้งานบางรายพบว่า พลาดสายเรียกเข้าที่สำคัญ เช่น สายจากญาติผู้ใหญ่ หรือ การปลุกตอนเช้า
    - ปัญหานี้ได้รับการพูดถึงในชุมชน Reddit และได้รับการยืนยันโดย Android Authority

    ✅ วิธีแก้ไขชั่วคราว
    - ผู้ใช้ควร ตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android แทนการใช้คำสั่งเสียง Google Assistant
    - การเข้าถึง DND สามารถทำได้ผ่าน Settings > Modes > Do Not Disturb เพื่อกำหนดรูปแบบการแจ้งเตือนที่ต้องการ

    ✅ ความเงียบจาก Google
    - จนถึงขณะนี้ Google ยังไม่มีคำชี้แจงหรือการแก้ไขปัญหา อย่างเป็นทางการ

    ✅ ความเชื่อมโยงกับ Gemini
    - Google Assistant อาจถูกแทนที่ด้วยระบบ Gemini AI ในอนาคต ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการละเลยในเรื่องนี้

    https://www.techradar.com/phones/android/a-google-assistant-bug-seems-to-be-causing-some-users-to-miss-alarms-and-calls-on-android
    ข้อผิดพลาดใน Google Assistant ทำให้โหมด Do Not Disturb ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้ ส่งผลให้พลาดสายสำคัญและการปลุก ผู้ใช้ควรตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android เพื่อความมั่นใจว่าการแจ้งเตือนสำคัญจะไม่ถูกปิดเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจ ในขณะที่ Google ยังไม่ได้ออกมาแก้ไขปัญหา ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของ Assistant กับ Gemini อาจเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูต่อไป ✅ DND ผ่าน Google Assistant ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้ - การสั่งเปิดโหมด Do Not Disturb ผ่านคำสั่งเสียงของ Google Assistant อาจ ปิดเสียงทุกการแจ้งเตือนและสายเรียกเข้าทั้งหมด - การตั้งค่าส่วนบุคคล เช่น การอนุญาตให้สายเรียกเข้าจากบุคคลสำคัญยังคงดัง จะถูกละเลย ✅ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง - ผู้ใช้งานบางรายพบว่า พลาดสายเรียกเข้าที่สำคัญ เช่น สายจากญาติผู้ใหญ่ หรือ การปลุกตอนเช้า - ปัญหานี้ได้รับการพูดถึงในชุมชน Reddit และได้รับการยืนยันโดย Android Authority ✅ วิธีแก้ไขชั่วคราว - ผู้ใช้ควร ตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android แทนการใช้คำสั่งเสียง Google Assistant - การเข้าถึง DND สามารถทำได้ผ่าน Settings > Modes > Do Not Disturb เพื่อกำหนดรูปแบบการแจ้งเตือนที่ต้องการ ✅ ความเงียบจาก Google - จนถึงขณะนี้ Google ยังไม่มีคำชี้แจงหรือการแก้ไขปัญหา อย่างเป็นทางการ ✅ ความเชื่อมโยงกับ Gemini - Google Assistant อาจถูกแทนที่ด้วยระบบ Gemini AI ในอนาคต ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการละเลยในเรื่องนี้ https://www.techradar.com/phones/android/a-google-assistant-bug-seems-to-be-causing-some-users-to-miss-alarms-and-calls-on-android
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมองต่อร่าง

    ภาพนี้เกิดขึ้นจากการได้ปากกา stylus มาใหม่ เอาโฆษณาว่าเป็นปากกาที่สามารถใช้ได้กับโทรศัพท์ ในระบบ android และ iOS
    ไอ้เราก็อยากลองเพราะว่าโทรศัพท์ของเราไม่รองรับปากกา stylus ในการเขียนภาพ สั่งปากกามาในราคาไม่เกิน 100 บาท
    และก็โหลด app วาดรูปมา

    และมันก็สามารถใช้ได้จริงถึงแม้โทรศัพท์ของเราจะเป็นรุ่นเก่าหลายปีแล้วก็ตาม

    เพลินอีกแล้ว

    #changyai #artaeaa #อาร์ตเอะอะ #painting
    สมองต่อร่าง ภาพนี้เกิดขึ้นจากการได้ปากกา stylus มาใหม่ เอาโฆษณาว่าเป็นปากกาที่สามารถใช้ได้กับโทรศัพท์ ในระบบ android และ iOS ไอ้เราก็อยากลองเพราะว่าโทรศัพท์ของเราไม่รองรับปากกา stylus ในการเขียนภาพ สั่งปากกามาในราคาไม่เกิน 100 บาท และก็โหลด app วาดรูปมา และมันก็สามารถใช้ได้จริงถึงแม้โทรศัพท์ของเราจะเป็นรุ่นเก่าหลายปีแล้วก็ตาม เพลินอีกแล้ว #changyai #artaeaa #อาร์ตเอะอะ #painting
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิธีสมัครสมาชิกช่อง YouTube `sondhitalk` บนมือถือ iOS (โดยไม่เปิดแอป YouTube)

    คลิ๊ก → https://www.youtube.com/channel/UCbJfg1BrJ5hJPlVqDUUv8lg/join

    หรือเข้าด้วยตนเองคือ

    1. เปิด Safari แล้วค้นหาใน Google ว่า sondhitalk
    → เลื่อนหา ลิงก์ YouTube ช่อง Sondhitalk

    2. กด “ค้าง” ที่ลิงก์ → เลือก เปิดในแท็บใหม่ (Open in New Tab)
    (*ห้ามกดปกติ เพราะจะเปิดในแอป YouTube อัตโนมัติ*)

    3. เข้าไปที่หน้าช่องแล้วเลื่อนดู “ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่องนี้” →
    กดปุ่ม เพิ่มเติม (See more) → จะเห็นลิงก์ สมัครสมาชิก (Membership)
    → กดลิงก์เพื่อไปหน้า Join

    4. กดปุ่ม สมัคร (Join) → ระบบแสดงราคา 100 บาท/เดือน

    5. เลือกช่องทางชำระเงิน (Google Play)
    → หากยังไม่เคยเพิ่มบัตร ให้เพิ่มช่องทางที่รองรับ:
    💳 รองรับช่องทางต่อไปนี้
    🔹 เพิ่มบัตรเครดิต / เดบิต
    🔹 ShopeePay
    🔹 PayPal
    🔹 TrueMoney Wallet

    6. ยืนยันกด ซื้อ (Subscribe)
    → ระบบจะหักเงินอัตโนมัติทุกเดือน

    🙏 ขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ ร่วมสนับสนุนช่อง SONDHITALK ❤️
    .
    วิธีสมัครสมาชิก YouTube ช่อง sondhitalk บน Android

    คลิ๊ก → https://www.youtube.com/channel/UCbJfg1BrJ5hJPlVqDUUv8lg/join

    หรือเข้าด้วยตนเองคือ

    ขั้นตอนที่ 1: เปิดแอป YouTube แล้วค้นหา `sondhitalk`
    - เข้า YouTube แล้วพิมพ์คำว่า `sondhitalk` ในช่องค้นหา

    ขั้นตอนที่ 2: กดปุ่ม “Join” ได้ทันที
    - ปุ่ม `Join` (หรือ `สมัครสมาชิก`) จะอยู่ข้าง ๆ กับปุ่ม `Subscribe` (หรือ ติดตาม หรือ กำลังติดตาม)

    ขั้นตอนที่ 3: เลือกช่องทางชำระเงินผ่าน Google Play
    - ระบบจะแสดงราคา 100 บาท/เดือน
    - ถ้ายังไม่เคยเพิ่มบัตร → ให้คลิ๊กไปที่หน้า “เพิ่มช่องทางชำระเงิน”
    💳 รองรับช่องทางต่อไปนี้:
    🔹 TrueMoney Wallet
    🔹 Rabbit LINE Pay
    🔹 ShopeePay
    🔹 ค่ายเบอร์มือถือ Billing (ตัดผ่านเบอร์มือถือ รายเดือน)
    🔹 เพิ่มบัตรเครดิต / เดบิต (Add card)
    🔹 PayPal

    ขั้นตอนที่ 4: ยืนยันกด Subscribe
    - เมื่อยืนยันแล้ว ระบบจะเริ่มเรียกเก็บเงินอัตโนมัติทุกเดือนผ่าน Google Play

    🙏 ขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ ร่วมสนับสนุนช่อง SONDHITALK ❤️

    https://youtu.be/X88C8_6n4Uk?si=QC3NEDRuqWZSUs4h
    วิธีสมัครสมาชิกช่อง YouTube `sondhitalk` บนมือถือ iOS (โดยไม่เปิดแอป YouTube) คลิ๊ก → https://www.youtube.com/channel/UCbJfg1BrJ5hJPlVqDUUv8lg/join หรือเข้าด้วยตนเองคือ 1. เปิด Safari แล้วค้นหาใน Google ว่า sondhitalk → เลื่อนหา ลิงก์ YouTube ช่อง Sondhitalk 2. กด “ค้าง” ที่ลิงก์ → เลือก เปิดในแท็บใหม่ (Open in New Tab) (*ห้ามกดปกติ เพราะจะเปิดในแอป YouTube อัตโนมัติ*) 3. เข้าไปที่หน้าช่องแล้วเลื่อนดู “ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่องนี้” → กดปุ่ม เพิ่มเติม (See more) → จะเห็นลิงก์ สมัครสมาชิก (Membership) → กดลิงก์เพื่อไปหน้า Join 4. กดปุ่ม สมัคร (Join) → ระบบแสดงราคา 100 บาท/เดือน 5. เลือกช่องทางชำระเงิน (Google Play) → หากยังไม่เคยเพิ่มบัตร ให้เพิ่มช่องทางที่รองรับ: 💳 รองรับช่องทางต่อไปนี้ 🔹 เพิ่มบัตรเครดิต / เดบิต 🔹 ShopeePay 🔹 PayPal 🔹 TrueMoney Wallet 6. ยืนยันกด ซื้อ (Subscribe) → ระบบจะหักเงินอัตโนมัติทุกเดือน 🙏 ขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ ร่วมสนับสนุนช่อง SONDHITALK ❤️ . วิธีสมัครสมาชิก YouTube ช่อง sondhitalk บน Android คลิ๊ก → https://www.youtube.com/channel/UCbJfg1BrJ5hJPlVqDUUv8lg/join หรือเข้าด้วยตนเองคือ ขั้นตอนที่ 1: เปิดแอป YouTube แล้วค้นหา `sondhitalk` - เข้า YouTube แล้วพิมพ์คำว่า `sondhitalk` ในช่องค้นหา ขั้นตอนที่ 2: กดปุ่ม “Join” ได้ทันที - ปุ่ม `Join` (หรือ `สมัครสมาชิก`) จะอยู่ข้าง ๆ กับปุ่ม `Subscribe` (หรือ ติดตาม หรือ กำลังติดตาม) ขั้นตอนที่ 3: เลือกช่องทางชำระเงินผ่าน Google Play - ระบบจะแสดงราคา 100 บาท/เดือน - ถ้ายังไม่เคยเพิ่มบัตร → ให้คลิ๊กไปที่หน้า “เพิ่มช่องทางชำระเงิน” 💳 รองรับช่องทางต่อไปนี้: 🔹 TrueMoney Wallet 🔹 Rabbit LINE Pay 🔹 ShopeePay 🔹 ค่ายเบอร์มือถือ Billing (ตัดผ่านเบอร์มือถือ รายเดือน) 🔹 เพิ่มบัตรเครดิต / เดบิต (Add card) 🔹 PayPal ขั้นตอนที่ 4: ยืนยันกด Subscribe - เมื่อยืนยันแล้ว ระบบจะเริ่มเรียกเก็บเงินอัตโนมัติทุกเดือนผ่าน Google Play 🙏 ขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ ร่วมสนับสนุนช่อง SONDHITALK ❤️ https://youtu.be/X88C8_6n4Uk?si=QC3NEDRuqWZSUs4h
    Like
    Love
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1243 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในการเปรียบเทียบความปลอดภัยของแอปส่งข้อความ Signal ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุด ด้วยระบบเข้ารหัสแบบ E2EE และไม่มีการเก็บ metadata ในขณะที่ iMessage มีความปลอดภัยดีเยี่ยมสำหรับผู้ใช้ iPhone แต่มีข้อจำกัดเมื่อสื่อสารกับอุปกรณ์ Android สำหรับ WhatsApp แม้มีระบบเข้ารหัสที่ปลอดภัย แต่มีการเก็บข้อมูล metadata ซึ่งทำให้บางคนกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ส่วน Telegram และ Messenger ยังมีข้อจำกัดในระบบ E2EE ที่ต้องปรับปรุง

    ✅ Signal—ความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    - Signal ใช้ Signal Protocol ที่เปิดให้ตรวจสอบได้แบบ open source ซึ่งช่วยลดช่องโหว่ที่อาจซ่อนอยู่
    - ไม่ต้องเชื่อมโยงเบอร์โทรศัพท์ และไม่มีการเก็บ metadata ทำให้ Signal ถือเป็น แอปส่งข้อความที่ปลอดภัยที่สุด

    ✅ iMessage—ตัวเลือกดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ iPhone
    - iMessage ใช้ การเข้ารหัสแบบ 1:1 สำหรับทุกข้อความในกลุ่ม ซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่าระบบ Sender Key ของ Signal
    - ข้อเสียคือการส่งข้อความไปยังอุปกรณ์ Android จะตกไปเป็น RCS หรือ SMS ซึ่งไม่เข้ารหัส

    ✅ WhatsApp—ระบบเข้ารหัสที่ปลอดภัย แต่มีการเก็บ metadata
    - WhatsApp ใช้ Signal Protocol ในการเข้ารหัสข้อความเช่นกัน แต่มีการเก็บข้อมูล metadata และเชื่อมโยงเบอร์โทรศัพท์
    - WhatsApp มีข้อดีคือ ฟีเจอร์การส่งข้อความแบบกลุ่มที่ดีที่สุด แต่ข้อเสียคือความน่าเชื่อถือของ Meta ซึ่งเป็นเจ้าของแอป

    ✅ Telegram และ Messenger—ตัวเลือกที่ยังมีข้อจำกัดเรื่อง E2EE
    - Telegram ไม่มีการเข้ารหัสแบบ E2EE เป็นค่าเริ่มต้น แต่มี Secret Chat สำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัย
    - Messenger เริ่มเพิ่ม E2EE แต่ยังไม่พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ทุกคน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/05/signal-whatsapp-and-imessage-which-messaging-app-is-most-secure
    ในการเปรียบเทียบความปลอดภัยของแอปส่งข้อความ Signal ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุด ด้วยระบบเข้ารหัสแบบ E2EE และไม่มีการเก็บ metadata ในขณะที่ iMessage มีความปลอดภัยดีเยี่ยมสำหรับผู้ใช้ iPhone แต่มีข้อจำกัดเมื่อสื่อสารกับอุปกรณ์ Android สำหรับ WhatsApp แม้มีระบบเข้ารหัสที่ปลอดภัย แต่มีการเก็บข้อมูล metadata ซึ่งทำให้บางคนกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ส่วน Telegram และ Messenger ยังมีข้อจำกัดในระบบ E2EE ที่ต้องปรับปรุง ✅ Signal—ความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป - Signal ใช้ Signal Protocol ที่เปิดให้ตรวจสอบได้แบบ open source ซึ่งช่วยลดช่องโหว่ที่อาจซ่อนอยู่ - ไม่ต้องเชื่อมโยงเบอร์โทรศัพท์ และไม่มีการเก็บ metadata ทำให้ Signal ถือเป็น แอปส่งข้อความที่ปลอดภัยที่สุด ✅ iMessage—ตัวเลือกดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ iPhone - iMessage ใช้ การเข้ารหัสแบบ 1:1 สำหรับทุกข้อความในกลุ่ม ซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่าระบบ Sender Key ของ Signal - ข้อเสียคือการส่งข้อความไปยังอุปกรณ์ Android จะตกไปเป็น RCS หรือ SMS ซึ่งไม่เข้ารหัส ✅ WhatsApp—ระบบเข้ารหัสที่ปลอดภัย แต่มีการเก็บ metadata - WhatsApp ใช้ Signal Protocol ในการเข้ารหัสข้อความเช่นกัน แต่มีการเก็บข้อมูล metadata และเชื่อมโยงเบอร์โทรศัพท์ - WhatsApp มีข้อดีคือ ฟีเจอร์การส่งข้อความแบบกลุ่มที่ดีที่สุด แต่ข้อเสียคือความน่าเชื่อถือของ Meta ซึ่งเป็นเจ้าของแอป ✅ Telegram และ Messenger—ตัวเลือกที่ยังมีข้อจำกัดเรื่อง E2EE - Telegram ไม่มีการเข้ารหัสแบบ E2EE เป็นค่าเริ่มต้น แต่มี Secret Chat สำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัย - Messenger เริ่มเพิ่ม E2EE แต่ยังไม่พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ทุกคน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/05/signal-whatsapp-and-imessage-which-messaging-app-is-most-secure
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Signal, WhatsApp, and iMessage: Which messaging app is most secure?
    You probably don't think about how your messages are protected, but you should.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ Android Auto ที่ช่วยเปลี่ยนกล้องรถให้กลายเป็น Dash Cam ได้ฟรี ผู้ใช้ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่ม แต่ต้องรอให้ผู้ผลิตรถยนต์อัปเดตรองรับฟีเจอร์นี้ ระบบจะบันทึกวิดีโออัตโนมัติเมื่อเข้าเงื่อนไข เช่น ขับรถด้วยความเร็วที่กำหนด และสามารถ จัดเก็บวิดีโอในหน่วยความจำภายนอกเพื่อไม่ให้เต็มความจุของรถ อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ยังไม่สามารถบันทึกภาพภายในห้องโดยสาร และต้องรอให้รถรองรับก่อนจึงจะใช้งานได้

    ✅ ใช้กล้องของรถบันทึกภาพขณะขับขี่โดยตรง
    - ฟีเจอร์ใหม่ของ Android Auto ช่วยให้รถยนต์ที่มีกล้องอยู่แล้วสามารถบันทึกวิดีโอได้
    - ลดความจำเป็นในการซื้อตัว Dash Cam เพิ่มเติม

    ✅ ผู้ผลิตรถยนต์ต้องปรับแต่งแอปเพื่อรองรับฟีเจอร์นี้
    - แม้ Google เปิดตัวระบบนี้ แต่ ผู้ผลิตต้องเพิ่มการรองรับในระบบของตนก่อน
    - ส่งผลให้บางรุ่นอาจต้องรออัปเดตจากค่ายรถยนต์

    ✅ วิดีโอจะถูกจัดเก็บในที่เก็บข้อมูลภายนอกเพื่อไม่ให้เต็มหน่วยความจำของรถ
    - ผู้ใช้สามารถ เชื่อมต่อหน่วยความจำภายนอกเพื่อบันทึกไฟล์วิดีโอ
    - สามารถตั้งค่าระยะเวลาที่ไฟล์จะถูกเก็บ ก่อนระบบลบอัตโนมัติ

    ✅ ระบบจะเริ่มบันทึกอัตโนมัติเมื่อเข้าเงื่อนไขที่กำหนด
    - Dash Cam จะทำงานเองเมื่อมีเงื่อนไข เช่น ขับรถด้วยความเร็วที่กำหนด
    - ผู้พัฒนาสามารถตั้งค่าให้มี การแจ้งเตือน และการสตรีมวิดีโอจากรถไปยังอุปกรณ์อื่น

    ✅ ข้อจำกัด—ไม่รองรับกล้องในห้องโดยสาร และต้องรออัปเดตจากผู้ผลิตรถยนต์
    - ระบบนี้ใช้ กล้องที่ติดตั้งภายนอกรถ แต่ไม่สามารถบันทึกภายในห้องโดยสาร
    - ผู้ใช้ไม่สามารถติดตั้งใช้งานได้ทันที ต้องรอให้รถยนต์รองรับฟีเจอร์ผ่านอัปเดต

    https://www.techradar.com/vehicle-tech/dash-cams/latest-android-auto-update-could-turn-your-cars-cameras-into-a-free-dash-cam
    Google เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ Android Auto ที่ช่วยเปลี่ยนกล้องรถให้กลายเป็น Dash Cam ได้ฟรี ผู้ใช้ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่ม แต่ต้องรอให้ผู้ผลิตรถยนต์อัปเดตรองรับฟีเจอร์นี้ ระบบจะบันทึกวิดีโออัตโนมัติเมื่อเข้าเงื่อนไข เช่น ขับรถด้วยความเร็วที่กำหนด และสามารถ จัดเก็บวิดีโอในหน่วยความจำภายนอกเพื่อไม่ให้เต็มความจุของรถ อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ยังไม่สามารถบันทึกภาพภายในห้องโดยสาร และต้องรอให้รถรองรับก่อนจึงจะใช้งานได้ ✅ ใช้กล้องของรถบันทึกภาพขณะขับขี่โดยตรง - ฟีเจอร์ใหม่ของ Android Auto ช่วยให้รถยนต์ที่มีกล้องอยู่แล้วสามารถบันทึกวิดีโอได้ - ลดความจำเป็นในการซื้อตัว Dash Cam เพิ่มเติม ✅ ผู้ผลิตรถยนต์ต้องปรับแต่งแอปเพื่อรองรับฟีเจอร์นี้ - แม้ Google เปิดตัวระบบนี้ แต่ ผู้ผลิตต้องเพิ่มการรองรับในระบบของตนก่อน - ส่งผลให้บางรุ่นอาจต้องรออัปเดตจากค่ายรถยนต์ ✅ วิดีโอจะถูกจัดเก็บในที่เก็บข้อมูลภายนอกเพื่อไม่ให้เต็มหน่วยความจำของรถ - ผู้ใช้สามารถ เชื่อมต่อหน่วยความจำภายนอกเพื่อบันทึกไฟล์วิดีโอ - สามารถตั้งค่าระยะเวลาที่ไฟล์จะถูกเก็บ ก่อนระบบลบอัตโนมัติ ✅ ระบบจะเริ่มบันทึกอัตโนมัติเมื่อเข้าเงื่อนไขที่กำหนด - Dash Cam จะทำงานเองเมื่อมีเงื่อนไข เช่น ขับรถด้วยความเร็วที่กำหนด - ผู้พัฒนาสามารถตั้งค่าให้มี การแจ้งเตือน และการสตรีมวิดีโอจากรถไปยังอุปกรณ์อื่น ✅ ข้อจำกัด—ไม่รองรับกล้องในห้องโดยสาร และต้องรออัปเดตจากผู้ผลิตรถยนต์ - ระบบนี้ใช้ กล้องที่ติดตั้งภายนอกรถ แต่ไม่สามารถบันทึกภายในห้องโดยสาร - ผู้ใช้ไม่สามารถติดตั้งใช้งานได้ทันที ต้องรอให้รถยนต์รองรับฟีเจอร์ผ่านอัปเดต https://www.techradar.com/vehicle-tech/dash-cams/latest-android-auto-update-could-turn-your-cars-cameras-into-a-free-dash-cam
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google เปิดตัวฟีเจอร์จัดการแบตเตอรี่ใหม่ใน Pixel 9a ที่ลดความจุสูงสุดเมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ เพื่อ ช่วยให้แบตเสื่อมช้าลงและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น อย่างไรก็ตาม อาจทำให้ระยะเวลาการใช้งานแบตลดลงเล็กน้อย และไม่มีตัวเลือกให้ปิดฟีเจอร์นี้ Android 16 จะเพิ่มเมนู Battery Health เพื่อให้ผู้ใช้ตรวจสอบข้อมูลแบตเตอรี่ได้ละเอียดขึ้น

    ✅ Battery Health Assistance—ลดความจุสูงสุดของแบตหลังครบ 200 รอบการชาร์จ
    - ฟีเจอร์นี้จะ ค่อย ๆ ลดระดับแบตเตอรี่สูงสุดเมื่อใช้งานถึง 1,000 รอบการชาร์จ
    - เป้าหมายคือ ช่วยลดอัตราการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติในแบตลิเธียมไอออน

    ✅ Google อ้างว่าฟีเจอร์นี้ช่วยให้แบตมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
    - ปกติแล้วแบตเตอรี่เสื่อมลงตามระยะเวลา แต่ระบบใหม่นี้ จัดการกระบวนการลดความจุอย่างค่อยเป็นค่อยไป
    - ช่วยให้ Pixel 9a ยังคงมีประสิทธิภาพที่ดีแม้ใช้งานไปหลายปี

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้—อาจทำให้ระยะเวลาการใช้งานแบตลดลงเล็กน้อย
    - Google เตือนว่า ผู้ใช้จะเห็นการลดลงของเวลาการใช้งานแบตเตอรี่เมื่อเวลาผ่านไป
    - การปรับลดความจุสูงสุดยังมีผลต่อ ความเร็วในการชาร์จ

    ✅ ไม่มีตัวเลือกให้ปิดฟีเจอร์—ระบบทำงานโดยอัตโนมัติ
    - ฟีเจอร์นี้ บังคับใช้ใน Pixel 9a และจะมีในรุ่นถัดไป
    - ไม่มีตัวเลือกให้ผู้ใช้ ปิดหรือแก้ไขค่าการลดความจุ

    ✅ Android 16 จะเพิ่มเมนู Battery Health ให้ดูข้อมูลแบตเตอรี่ได้ละเอียดขึ้น
    - Google เตรียมเพิ่ม เมนูใหม่ที่แสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ และสถิติรอบการชาร์จ

    https://www.techspot.com/news/107405-google-new-battery-tech-lower-capacity-over-time.html
    Google เปิดตัวฟีเจอร์จัดการแบตเตอรี่ใหม่ใน Pixel 9a ที่ลดความจุสูงสุดเมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ เพื่อ ช่วยให้แบตเสื่อมช้าลงและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น อย่างไรก็ตาม อาจทำให้ระยะเวลาการใช้งานแบตลดลงเล็กน้อย และไม่มีตัวเลือกให้ปิดฟีเจอร์นี้ Android 16 จะเพิ่มเมนู Battery Health เพื่อให้ผู้ใช้ตรวจสอบข้อมูลแบตเตอรี่ได้ละเอียดขึ้น ✅ Battery Health Assistance—ลดความจุสูงสุดของแบตหลังครบ 200 รอบการชาร์จ - ฟีเจอร์นี้จะ ค่อย ๆ ลดระดับแบตเตอรี่สูงสุดเมื่อใช้งานถึง 1,000 รอบการชาร์จ - เป้าหมายคือ ช่วยลดอัตราการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติในแบตลิเธียมไอออน ✅ Google อ้างว่าฟีเจอร์นี้ช่วยให้แบตมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น - ปกติแล้วแบตเตอรี่เสื่อมลงตามระยะเวลา แต่ระบบใหม่นี้ จัดการกระบวนการลดความจุอย่างค่อยเป็นค่อยไป - ช่วยให้ Pixel 9a ยังคงมีประสิทธิภาพที่ดีแม้ใช้งานไปหลายปี ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้—อาจทำให้ระยะเวลาการใช้งานแบตลดลงเล็กน้อย - Google เตือนว่า ผู้ใช้จะเห็นการลดลงของเวลาการใช้งานแบตเตอรี่เมื่อเวลาผ่านไป - การปรับลดความจุสูงสุดยังมีผลต่อ ความเร็วในการชาร์จ ✅ ไม่มีตัวเลือกให้ปิดฟีเจอร์—ระบบทำงานโดยอัตโนมัติ - ฟีเจอร์นี้ บังคับใช้ใน Pixel 9a และจะมีในรุ่นถัดไป - ไม่มีตัวเลือกให้ผู้ใช้ ปิดหรือแก้ไขค่าการลดความจุ ✅ Android 16 จะเพิ่มเมนู Battery Health ให้ดูข้อมูลแบตเตอรี่ได้ละเอียดขึ้น - Google เตรียมเพิ่ม เมนูใหม่ที่แสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ และสถิติรอบการชาร์จ https://www.techspot.com/news/107405-google-new-battery-tech-lower-capacity-over-time.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google's new battery tech will lower capacity over time, whether you like it or not
    The feature, called "Battery Health Assistance," is essentially a software mechanism that automatically lowers the maximum charge level on your Pixel 9a after every 200 charge cycles....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยพบว่าโทรศัพท์ Android ปลอมราคาถูกถูกติดตั้งมัลแวร์ Triada Trojan มาตั้งแต่กระบวนการผลิต ทำให้สามารถ ขโมยข้อมูล, แฮกบัญชีโซเชียล และเปลี่ยนที่อยู่กระเป๋าเงินคริปโตเพื่อขโมยเงิน มีผลกระทบกับแอปยอดนิยม เช่น WhatsApp และ Telegram โดยพบว่าผู้โจรกรรมขโมยเงินคริปโตไปแล้วกว่า $270,000 ซอฟต์แวร์ Kaspersky สามารถตรวจจับมัลแวร์นี้ได้ แต่ถูกแบนในสหรัฐฯ

    ✅ Triada Trojan—มัลแวร์ที่ถูกฝังในเฟิร์มแวร์
    - มัลแวร์รุ่นใหม่ของ Triada Trojan ถูกติดตั้งตั้งแต่กระบวนการผลิต โดยร้านค้าหรือซัพพลายเชนบางแห่งอาจไม่รู้ว่าถูกฝังไว้
    - สามารถ เข้าควบคุมทุกระบบของเครื่อง ส่งข้อความ, แฮกบัญชีโซเชียล และเปลี่ยนที่อยู่กระเป๋าเงินคริปโตเพื่อขโมยเงิน

    ✅ ส่งผลกระทบต่อแอปยอดนิยม เช่น WhatsApp และ Telegram
    - มัลแวร์สามารถ แอบส่งและลบข้อความ เพื่อหลอกลวงผู้ใช้
    - ดักจับ ลิงก์และประวัติการท่องเว็บ เพื่อเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์ปลอม

    ✅ ขโมยคริปโตไปแล้วกว่า $270,000
    - กลุ่มผู้อยู่เบื้องหลัง สามารถดูดเงินดิจิทัลจากเหยื่อได้หลายรูปแบบ
    - โดยเฉพาะ Monero ซึ่งไม่สามารถติดตามได้ ทำให้ยอดขโมยอาจสูงกว่านี้

    ✅ Kaspersky สามารถตรวจจับมัลแวร์ได้ แต่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทถูกแบนในสหรัฐฯ
    - ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยของ Kaspersky สามารถตรวจจับ Triada ได้
    - อย่างไรก็ตาม บริษัทถูกห้ามใช้ในสหรัฐฯ เนื่องจากความสัมพันธ์กับรัสเซีย

    ✅ การโจมตีกระจายตัวในหลายประเทศ โดยส่วนใหญ่อยู่ในรัสเซีย
    - พบผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบ กว่า 2,600 คนในช่วงเดือนมีนาคม 2025

    https://www.techspot.com/news/107401-counterfeit-android-phones-hid-pre-installed-malware-could.html
    นักวิจัยพบว่าโทรศัพท์ Android ปลอมราคาถูกถูกติดตั้งมัลแวร์ Triada Trojan มาตั้งแต่กระบวนการผลิต ทำให้สามารถ ขโมยข้อมูล, แฮกบัญชีโซเชียล และเปลี่ยนที่อยู่กระเป๋าเงินคริปโตเพื่อขโมยเงิน มีผลกระทบกับแอปยอดนิยม เช่น WhatsApp และ Telegram โดยพบว่าผู้โจรกรรมขโมยเงินคริปโตไปแล้วกว่า $270,000 ซอฟต์แวร์ Kaspersky สามารถตรวจจับมัลแวร์นี้ได้ แต่ถูกแบนในสหรัฐฯ ✅ Triada Trojan—มัลแวร์ที่ถูกฝังในเฟิร์มแวร์ - มัลแวร์รุ่นใหม่ของ Triada Trojan ถูกติดตั้งตั้งแต่กระบวนการผลิต โดยร้านค้าหรือซัพพลายเชนบางแห่งอาจไม่รู้ว่าถูกฝังไว้ - สามารถ เข้าควบคุมทุกระบบของเครื่อง ส่งข้อความ, แฮกบัญชีโซเชียล และเปลี่ยนที่อยู่กระเป๋าเงินคริปโตเพื่อขโมยเงิน ✅ ส่งผลกระทบต่อแอปยอดนิยม เช่น WhatsApp และ Telegram - มัลแวร์สามารถ แอบส่งและลบข้อความ เพื่อหลอกลวงผู้ใช้ - ดักจับ ลิงก์และประวัติการท่องเว็บ เพื่อเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์ปลอม ✅ ขโมยคริปโตไปแล้วกว่า $270,000 - กลุ่มผู้อยู่เบื้องหลัง สามารถดูดเงินดิจิทัลจากเหยื่อได้หลายรูปแบบ - โดยเฉพาะ Monero ซึ่งไม่สามารถติดตามได้ ทำให้ยอดขโมยอาจสูงกว่านี้ ✅ Kaspersky สามารถตรวจจับมัลแวร์ได้ แต่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทถูกแบนในสหรัฐฯ - ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยของ Kaspersky สามารถตรวจจับ Triada ได้ - อย่างไรก็ตาม บริษัทถูกห้ามใช้ในสหรัฐฯ เนื่องจากความสัมพันธ์กับรัสเซีย ✅ การโจมตีกระจายตัวในหลายประเทศ โดยส่วนใหญ่อยู่ในรัสเซีย - พบผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบ กว่า 2,600 คนในช่วงเดือนมีนาคม 2025 https://www.techspot.com/news/107401-counterfeit-android-phones-hid-pre-installed-malware-could.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Counterfeit Android phones are hiding pre-installed malware that can infect every system process
    Kaspersky researchers have discovered a new strain of the Triada Trojan preinstalled on thousands of new very cheap Android devices – counterfeit versions of popular models. The...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • Proton ได้เปิดตัว VPN เวอร์ชันปรับปรุงใหม่บน Windows พร้อม อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายขึ้น และเพิ่มฟีเจอร์ Profiles ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ตั้งค่าการเชื่อมต่อเฉพาะสำหรับสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การเล่นเกม, การสตรีมวิดีโอ หรือการเชื่อมต่อเพื่อความเป็นส่วนตัว

    ✅ UI ใหม่ ช่วยให้การเข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ สะดวกขึ้น
    - มี การจัดเรียงเมนูใหม่ ทำให้การตั้งค่า Kill Switch, Port Forwarding, Split Tunneling และอื่น ๆ เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
    - รองรับ โหมด Light Mode สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการอินเทอร์เฟซสว่าง

    ✅ Profiles—ตัวเลือกปรับแต่งการเชื่อมต่อ VPN ตามสถานการณ์
    - ผู้ใช้สามารถสร้างโปรไฟล์สำหรับ การท่องเว็บทั่วไป, การเล่นเกม, การสตรีมวิดีโอ หรือ P2P การเชื่อมต่อ
    - โปรไฟล์แต่ละแบบสามารถกำหนด ประเทศ, เมือง, เซิร์ฟเวอร์, โปรโตคอล และการตั้งค่าเฉพาะ

    ✅ ฟีเจอร์โปรไฟล์ยังรองรับบน iOS และ Android
    - ผู้ใช้สามารถ ตั้งค่าการเชื่อมต่อและเข้าถึง VPN ได้จากหน้า Home Screen
    - บน iOS และ Android มีวิดเจ็ตช่วยให้เปิด VPN และเชื่อมต่อโปรไฟล์ที่ใช้บ่อยได้ง่ายขึ้น

    ✅ วิธีดาวน์โหลดเวอร์ชันใหม่
    - สำหรับ Windows ไปที่ Menu > About แล้วตรวจสอบการอัปเดต
    - สำหรับ iOS สามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store

    https://www.neowin.net/news/proton-launches-redesigned-vpn-client-for-windows-with-new-profiles-feature/
    Proton ได้เปิดตัว VPN เวอร์ชันปรับปรุงใหม่บน Windows พร้อม อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายขึ้น และเพิ่มฟีเจอร์ Profiles ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ตั้งค่าการเชื่อมต่อเฉพาะสำหรับสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การเล่นเกม, การสตรีมวิดีโอ หรือการเชื่อมต่อเพื่อความเป็นส่วนตัว ✅ UI ใหม่ ช่วยให้การเข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ สะดวกขึ้น - มี การจัดเรียงเมนูใหม่ ทำให้การตั้งค่า Kill Switch, Port Forwarding, Split Tunneling และอื่น ๆ เข้าถึงได้ง่ายขึ้น - รองรับ โหมด Light Mode สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการอินเทอร์เฟซสว่าง ✅ Profiles—ตัวเลือกปรับแต่งการเชื่อมต่อ VPN ตามสถานการณ์ - ผู้ใช้สามารถสร้างโปรไฟล์สำหรับ การท่องเว็บทั่วไป, การเล่นเกม, การสตรีมวิดีโอ หรือ P2P การเชื่อมต่อ - โปรไฟล์แต่ละแบบสามารถกำหนด ประเทศ, เมือง, เซิร์ฟเวอร์, โปรโตคอล และการตั้งค่าเฉพาะ ✅ ฟีเจอร์โปรไฟล์ยังรองรับบน iOS และ Android - ผู้ใช้สามารถ ตั้งค่าการเชื่อมต่อและเข้าถึง VPN ได้จากหน้า Home Screen - บน iOS และ Android มีวิดเจ็ตช่วยให้เปิด VPN และเชื่อมต่อโปรไฟล์ที่ใช้บ่อยได้ง่ายขึ้น ✅ วิธีดาวน์โหลดเวอร์ชันใหม่ - สำหรับ Windows ไปที่ Menu > About แล้วตรวจสอบการอัปเดต - สำหรับ iOS สามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store https://www.neowin.net/news/proton-launches-redesigned-vpn-client-for-windows-with-new-profiles-feature/
    WWW.NEOWIN.NET
    Proton launches redesigned VPN client for Windows with new profiles feature
    Proton is launching a redesigned VPN client for Windows with improved visuals and some new features.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft เปิดตัว Windows App บน Android เพื่อแทนที่ Remote Desktop โดยรวมบริการ Virtualization ไว้ในแอปเดียว มี UI ใหม่ รองรับ Chrome OS และเพิ่มระบบ Passkey เพื่อความปลอดภัย แอป Remote Desktop จะถูกยกเลิกใน 27 พฤษภาคม 2025 ขณะที่ Windows App ได้รับการใช้งานไปแล้วกว่า 425 ล้านชั่วโมง แต่บางคนยังไม่ชอบชื่อใหม่เพราะฟังดูสับสน

    ✅ Windows App เป็นศูนย์กลางของบริการ Virtualization ทั้งหมดของ Microsoft
    - รวมการเข้าถึง Windows 365, Azure Virtual Desktop, Microsoft Dev Box และ Remote Desktop ไว้ในแอปเดียว

    ✅ การปรับปรุง UI และฟีเจอร์ใหม่
    - รองรับ Chrome OS (เวอร์ชัน Android)
    - เพิ่มระบบ Passkey Authentication เพื่อความปลอดภัยที่ดีขึ้น

    ✅ Remote Desktop จะถูกยกเลิกในวันที่ 27 พฤษภาคม 2025
    - ผู้ใช้ Windows ต้องเปลี่ยนไปใช้ Windows App จาก Microsoft Store

    ✅ Windows App มียอดใช้งานมากกว่า 425 ล้านชั่วโมงแล้ว
    - Microsoft ระบุว่าได้รับการตอบรับดี แต่บางคนยังไม่ชอบชื่อแอปใหม่ เพราะฟังดูสับสนมากกว่า Remote Desktop

    https://www.neowin.net/news/windows-app-is-now-available-on-android-replaces-remote-desktop/
    Microsoft เปิดตัว Windows App บน Android เพื่อแทนที่ Remote Desktop โดยรวมบริการ Virtualization ไว้ในแอปเดียว มี UI ใหม่ รองรับ Chrome OS และเพิ่มระบบ Passkey เพื่อความปลอดภัย แอป Remote Desktop จะถูกยกเลิกใน 27 พฤษภาคม 2025 ขณะที่ Windows App ได้รับการใช้งานไปแล้วกว่า 425 ล้านชั่วโมง แต่บางคนยังไม่ชอบชื่อใหม่เพราะฟังดูสับสน ✅ Windows App เป็นศูนย์กลางของบริการ Virtualization ทั้งหมดของ Microsoft - รวมการเข้าถึง Windows 365, Azure Virtual Desktop, Microsoft Dev Box และ Remote Desktop ไว้ในแอปเดียว ✅ การปรับปรุง UI และฟีเจอร์ใหม่ - รองรับ Chrome OS (เวอร์ชัน Android) - เพิ่มระบบ Passkey Authentication เพื่อความปลอดภัยที่ดีขึ้น ✅ Remote Desktop จะถูกยกเลิกในวันที่ 27 พฤษภาคม 2025 - ผู้ใช้ Windows ต้องเปลี่ยนไปใช้ Windows App จาก Microsoft Store ✅ Windows App มียอดใช้งานมากกว่า 425 ล้านชั่วโมงแล้ว - Microsoft ระบุว่าได้รับการตอบรับดี แต่บางคนยังไม่ชอบชื่อแอปใหม่ เพราะฟังดูสับสนมากกว่า Remote Desktop https://www.neowin.net/news/windows-app-is-now-available-on-android-replaces-remote-desktop/
    WWW.NEOWIN.NET
    Windows App is now available on Android, replaces Remote Desktop
    Say goodbye to the Remote Desktop app on Android, as Microsoft replaces it with the new Windows App.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google กำลังพัฒนา Gemini เวอร์ชันสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี โดยเน้นช่วยเด็ก เรียนรู้, ทำการบ้าน และสร้างเรื่องราว พร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น ข้อมูลล่าสุดพบว่า Google อาจกำลังทดสอบโค้ดที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้เด็ก แต่ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ หน่วยงานกำกับดูแลอาจเข้ามาควบคุมการเข้าถึง AI สำหรับเด็กเพื่อลดความเสี่ยงด้านเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม

    ✅ Gemini เวอร์ชันสำหรับเด็กอาจมาพร้อมฟีเจอร์ช่วยเรียนรู้
    - เด็กสามารถ ถามคำถามเกี่ยวกับการบ้านและได้รับคำอธิบายที่เหมาะสมกับวัย
    - มีเครื่องมือช่วย สร้างเรื่องราว เพื่อกระตุ้น ความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนาทักษะการเขียน

    ✅ Google เพิ่มมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น
    - เนื้อหาที่แสดงจะถูก กรองให้เหมาะสมกับวัย โดยหลีกเลี่ยงข้อมูลที่ไม่เหมาะสม
    - Gemini สำหรับเด็กจะใช้ กฎความปลอดภัยที่เข้มงวดกว่าสำหรับผู้ใช้ที่มีอายุ 13-18 ปี

    ✅ หลักฐานบ่งชี้ว่าโครงการนี้อาจกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา
    - นักวิเคราะห์พบ โค้ดที่เกี่ยวข้องกับ "kid users" ในแอป Google บน Android
    - ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการจาก Google ว่า Gemini เวอร์ชันเด็กจะเปิดตัวเมื่อไร

    ✅ ภาครัฐอาจมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการเข้าถึง AI ของเด็ก
    - หลายหน่วยงานทั่วโลก ต้องการควบคุมการเข้าถึงบริการออนไลน์สำหรับเด็ก
    - มีความเป็นไปได้ว่า Gemini เวอร์ชันเด็กอาจต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/03/could-children-under-13-soon-get-their-own-ai-chatbot
    Google กำลังพัฒนา Gemini เวอร์ชันสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี โดยเน้นช่วยเด็ก เรียนรู้, ทำการบ้าน และสร้างเรื่องราว พร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น ข้อมูลล่าสุดพบว่า Google อาจกำลังทดสอบโค้ดที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้เด็ก แต่ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ หน่วยงานกำกับดูแลอาจเข้ามาควบคุมการเข้าถึง AI สำหรับเด็กเพื่อลดความเสี่ยงด้านเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ✅ Gemini เวอร์ชันสำหรับเด็กอาจมาพร้อมฟีเจอร์ช่วยเรียนรู้ - เด็กสามารถ ถามคำถามเกี่ยวกับการบ้านและได้รับคำอธิบายที่เหมาะสมกับวัย - มีเครื่องมือช่วย สร้างเรื่องราว เพื่อกระตุ้น ความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนาทักษะการเขียน ✅ Google เพิ่มมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น - เนื้อหาที่แสดงจะถูก กรองให้เหมาะสมกับวัย โดยหลีกเลี่ยงข้อมูลที่ไม่เหมาะสม - Gemini สำหรับเด็กจะใช้ กฎความปลอดภัยที่เข้มงวดกว่าสำหรับผู้ใช้ที่มีอายุ 13-18 ปี ✅ หลักฐานบ่งชี้ว่าโครงการนี้อาจกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา - นักวิเคราะห์พบ โค้ดที่เกี่ยวข้องกับ "kid users" ในแอป Google บน Android - ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการจาก Google ว่า Gemini เวอร์ชันเด็กจะเปิดตัวเมื่อไร ✅ ภาครัฐอาจมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการเข้าถึง AI ของเด็ก - หลายหน่วยงานทั่วโลก ต้องการควบคุมการเข้าถึงบริการออนไลน์สำหรับเด็ก - มีความเป็นไปได้ว่า Gemini เวอร์ชันเด็กอาจต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/03/could-children-under-13-soon-get-their-own-ai-chatbot
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Could children under 13 soon get their own AI chatbot?
    Google could soon extend access to its Gemini generative artificial intelligence chatbot to children. Currently reserved for users over the age of 13, Gemini is reportedly being adapted to meet the needs of younger users.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google กำลังพัฒนา ดีไซน์ใหม่ สำหรับแอป Google Photos โดยเน้น การค้นหารูปภาพให้แม่นยำขึ้น และ ปรับปรุงฟังก์ชัน Memories ให้ใหญ่ขึ้นพร้อมขอบภาพที่โค้งมนมากขึ้น รายงานจาก Android Authority เผยว่า Google ได้ทำ แบบสำรวจดีไซน์ใหม่ กับผู้ใช้ โดยเปรียบเทียบระหว่างเลย์เอาต์ปัจจุบันกับเวอร์ชันใหม่ เพื่อวัดระดับความทันสมัย

    ปรับรูปแบบการค้นหาให้ใช้งานง่ายขึ้น
    - หน้าตาของ Google Photos อาจมีการเปลี่ยนแปลงใน ส่วน Today heading โดยแทนที่เครื่องหมายติ๊กถูกด้วย ไอคอนตัวกรอง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถกรองภาพตามสถานที่หรือบุคคลที่อยู่ในภาพได้ง่ายขึ้น

    ดีไซน์ของแท็บเปลี่ยนไป
    - แท็บ Photos, Collections และ Search อาจถูกแทนที่ด้วย แถบค้นหาลอยตัว และ ไอคอนใหม่ ที่นำไปสู่หน้า Collections

    เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน AI Search
    - Google Photos กำลังพัฒนา AI Search ให้สามารถเข้าใจคำสั่งได้แม่นยำยิ่งขึ้น เช่น ค้นหารูปภาพเฉพาะที่มีสัตว์เลี้ยง หรือภาพจากสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง

    การเปลี่ยนแปลงนี้ยังไม่แน่นอน
    - แม้จะมีการเปิดเผยดีไซน์ใหม่ในแบบสำรวจ แต่ Google อาจไม่ใช้แบบเดียวกันในการเปิดตัวจริง

    https://www.techradar.com/phones/android/google-photos-tipped-to-get-a-major-design-overhaul-and-itll-make-the-app-much-better-for-finding-specific-images
    Google กำลังพัฒนา ดีไซน์ใหม่ สำหรับแอป Google Photos โดยเน้น การค้นหารูปภาพให้แม่นยำขึ้น และ ปรับปรุงฟังก์ชัน Memories ให้ใหญ่ขึ้นพร้อมขอบภาพที่โค้งมนมากขึ้น รายงานจาก Android Authority เผยว่า Google ได้ทำ แบบสำรวจดีไซน์ใหม่ กับผู้ใช้ โดยเปรียบเทียบระหว่างเลย์เอาต์ปัจจุบันกับเวอร์ชันใหม่ เพื่อวัดระดับความทันสมัย ปรับรูปแบบการค้นหาให้ใช้งานง่ายขึ้น - หน้าตาของ Google Photos อาจมีการเปลี่ยนแปลงใน ส่วน Today heading โดยแทนที่เครื่องหมายติ๊กถูกด้วย ไอคอนตัวกรอง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถกรองภาพตามสถานที่หรือบุคคลที่อยู่ในภาพได้ง่ายขึ้น ดีไซน์ของแท็บเปลี่ยนไป - แท็บ Photos, Collections และ Search อาจถูกแทนที่ด้วย แถบค้นหาลอยตัว และ ไอคอนใหม่ ที่นำไปสู่หน้า Collections เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน AI Search - Google Photos กำลังพัฒนา AI Search ให้สามารถเข้าใจคำสั่งได้แม่นยำยิ่งขึ้น เช่น ค้นหารูปภาพเฉพาะที่มีสัตว์เลี้ยง หรือภาพจากสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง การเปลี่ยนแปลงนี้ยังไม่แน่นอน - แม้จะมีการเปิดเผยดีไซน์ใหม่ในแบบสำรวจ แต่ Google อาจไม่ใช้แบบเดียวกันในการเปิดตัวจริง https://www.techradar.com/phones/android/google-photos-tipped-to-get-a-major-design-overhaul-and-itll-make-the-app-much-better-for-finding-specific-images
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลการศึกษาใหม่ที่เผยว่า การลดเวลาใช้สมาร์ทโฟนลงเหลือไม่เกิน สองชั่วโมงต่อวัน สามารถส่งผลดีต่อสุขภาพจิตอย่างมีนัยสำคัญ โดยการวิจัยนี้จัดทำโดยทีมงานมหาวิทยาลัย Krems ในเยอรมนี พบว่าในเวลาเพียง สามสัปดาห์ ผู้เข้าร่วมที่จำกัดการใช้สมาร์ทโฟนแสดงอาการซึมเศร้าลดลงถึง 27% ความเครียดลดลง 16% คุณภาพการนอนหลับเพิ่มขึ้น 18% และสุขภาพจิตโดยรวมเพิ่มขึ้น 14% อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่มักกลับมาใช้เวลาบนโทรศัพท์มากขึ้นหลังการทดลอง เนื่องจากความท้าทายในการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานในระยะยาว

    ความสำคัญของการกำหนดเวลาใช้งาน:
    - การติดตามและจำกัดเวลาใช้สมาร์ทโฟนสามารถทำได้ง่ายผ่านฟังก์ชัน Screen Time บนอุปกรณ์ iOS หรือ Digital Wellbeing บน Android ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจพฤติกรรมการใช้งานได้ชัดเจนขึ้น.

    ต้นทุนของการใช้สมาร์ทโฟนมากเกินไป:
    - การใช้มือถือโดยเฉลี่ย 3.5 ชั่วโมงต่อวันตลอดชีวิตนั้นเทียบเท่ากับการเสียเวลาไปถึง 10 ปี ซึ่งสามารถนำไปใช้ทำสิ่งอื่นที่มีคุณค่าได้.

    ข้อเสียจากพฤติกรรมติดโทรศัพท์:
    - สมาร์ทโฟนและแอปต่าง ๆ ถูกออกแบบมาเพื่อดึงดูดความสนใจ ซึ่งทำให้การลดเวลาใช้งานเป็นเรื่องยาก เพราะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนนิสัยและความเคยชินที่ต้องใช้ความพยายามสูง.

    เคล็ดลับลดเวลาใช้สมาร์ทโฟน:
    - ตั้งค่าจำกัดเวลาการใช้งาน, หมั่นตรวจสอบพฤติกรรม และตั้งคำถามกับตัวเองว่าใช้โทรศัพท์เพื่ออะไร หากใช้เพื่อฆ่าเวลา ควรหากิจกรรมอื่นที่เติมเต็มชีวิตได้มากกว่า.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/29/cutting-time-spent-on-your-smartphone-can-improve-your-mental-health
    ผลการศึกษาใหม่ที่เผยว่า การลดเวลาใช้สมาร์ทโฟนลงเหลือไม่เกิน สองชั่วโมงต่อวัน สามารถส่งผลดีต่อสุขภาพจิตอย่างมีนัยสำคัญ โดยการวิจัยนี้จัดทำโดยทีมงานมหาวิทยาลัย Krems ในเยอรมนี พบว่าในเวลาเพียง สามสัปดาห์ ผู้เข้าร่วมที่จำกัดการใช้สมาร์ทโฟนแสดงอาการซึมเศร้าลดลงถึง 27% ความเครียดลดลง 16% คุณภาพการนอนหลับเพิ่มขึ้น 18% และสุขภาพจิตโดยรวมเพิ่มขึ้น 14% อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่มักกลับมาใช้เวลาบนโทรศัพท์มากขึ้นหลังการทดลอง เนื่องจากความท้าทายในการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานในระยะยาว ความสำคัญของการกำหนดเวลาใช้งาน: - การติดตามและจำกัดเวลาใช้สมาร์ทโฟนสามารถทำได้ง่ายผ่านฟังก์ชัน Screen Time บนอุปกรณ์ iOS หรือ Digital Wellbeing บน Android ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจพฤติกรรมการใช้งานได้ชัดเจนขึ้น. ต้นทุนของการใช้สมาร์ทโฟนมากเกินไป: - การใช้มือถือโดยเฉลี่ย 3.5 ชั่วโมงต่อวันตลอดชีวิตนั้นเทียบเท่ากับการเสียเวลาไปถึง 10 ปี ซึ่งสามารถนำไปใช้ทำสิ่งอื่นที่มีคุณค่าได้. ข้อเสียจากพฤติกรรมติดโทรศัพท์: - สมาร์ทโฟนและแอปต่าง ๆ ถูกออกแบบมาเพื่อดึงดูดความสนใจ ซึ่งทำให้การลดเวลาใช้งานเป็นเรื่องยาก เพราะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนนิสัยและความเคยชินที่ต้องใช้ความพยายามสูง. เคล็ดลับลดเวลาใช้สมาร์ทโฟน: - ตั้งค่าจำกัดเวลาการใช้งาน, หมั่นตรวจสอบพฤติกรรม และตั้งคำถามกับตัวเองว่าใช้โทรศัพท์เพื่ออะไร หากใช้เพื่อฆ่าเวลา ควรหากิจกรรมอื่นที่เติมเต็มชีวิตได้มากกว่า. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/29/cutting-time-spent-on-your-smartphone-can-improve-your-mental-health
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Cutting time spent on your smartphone can improve your mental health
    Spending less than two hours on our smartphones could noticeably improve our well-being, according to the latest science.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • มัลแวร์ PJobRAT กลับมาอีกครั้งพร้อมความสามารถใหม่ ๆ ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถขโมยข้อมูลสำคัญและควบคุมอุปกรณ์ Android ได้ มันปลอมตัวเป็นแอปแชทที่ดูเหมือนจริงและแจกจ่ายผ่านเว็บไซต์ WordPress ผู้ใช้ควรระวังการติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือและอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันภัยคุกคาม

    พัฒนาการของมัลแวร์:
    - PJobRAT เวอร์ชันใหม่สามารถปลอมตัวเป็นแอปแชท เช่น SangaalLite และ CChat ซึ่งเป็นการเลียนแบบแอปแชทที่มีชื่อเสียง เพื่อให้ผู้ใช้ไว้วางใจและติดตั้ง.

    การแพร่กระจาย:
    - แอปที่ติดมัลแวร์ถูกแจกจ่ายผ่านเว็บไซต์ WordPress แทนที่จะผ่านแอปสโตร์หลัก เช่น Google Play ทำให้มัลแวร์สามารถแพร่กระจายได้อย่างยากที่จะตรวจสอบ.

    ผลกระทบต่อความปลอดภัย:
    - ความสามารถของมัลแวร์ที่รันคำสั่ง shell ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถใช้อุปกรณ์ของเหยื่อในการโจมตีเป้าหมายอื่นในเครือข่ายได้ และยังสามารถลบตัวเองออกจากระบบเมื่อบรรลุเป้าหมาย.

    คำแนะนำสำหรับผู้ใช้:
    - หลีกเลี่ยงการติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ, ใช้แอนตี้ไวรัสบนอุปกรณ์ และอัปเดตระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันความเสี่ยง.

    https://www.techradar.com/pro/security/an-old-android-rat-has-returned-with-some-new-tricks-here-is-what-to-look-out-for
    มัลแวร์ PJobRAT กลับมาอีกครั้งพร้อมความสามารถใหม่ ๆ ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถขโมยข้อมูลสำคัญและควบคุมอุปกรณ์ Android ได้ มันปลอมตัวเป็นแอปแชทที่ดูเหมือนจริงและแจกจ่ายผ่านเว็บไซต์ WordPress ผู้ใช้ควรระวังการติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือและอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันภัยคุกคาม พัฒนาการของมัลแวร์: - PJobRAT เวอร์ชันใหม่สามารถปลอมตัวเป็นแอปแชท เช่น SangaalLite และ CChat ซึ่งเป็นการเลียนแบบแอปแชทที่มีชื่อเสียง เพื่อให้ผู้ใช้ไว้วางใจและติดตั้ง. การแพร่กระจาย: - แอปที่ติดมัลแวร์ถูกแจกจ่ายผ่านเว็บไซต์ WordPress แทนที่จะผ่านแอปสโตร์หลัก เช่น Google Play ทำให้มัลแวร์สามารถแพร่กระจายได้อย่างยากที่จะตรวจสอบ. ผลกระทบต่อความปลอดภัย: - ความสามารถของมัลแวร์ที่รันคำสั่ง shell ช่วยให้ผู้โจมตีสามารถใช้อุปกรณ์ของเหยื่อในการโจมตีเป้าหมายอื่นในเครือข่ายได้ และยังสามารถลบตัวเองออกจากระบบเมื่อบรรลุเป้าหมาย. คำแนะนำสำหรับผู้ใช้: - หลีกเลี่ยงการติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ, ใช้แอนตี้ไวรัสบนอุปกรณ์ และอัปเดตระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันความเสี่ยง. https://www.techradar.com/pro/security/an-old-android-rat-has-returned-with-some-new-tricks-here-is-what-to-look-out-for
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • Mullvad VPN เปิดตัวฟีเจอร์ Multihop บน Android ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยออนไลน์ ด้วยการส่งข้อมูลผ่านเซิร์ฟเวอร์สองตัวที่อยู่ในเขตอำนาจต่างกัน การตั้งค่านั้นง่าย และผู้ใช้งานสามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ได้เองเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพ

    การทำงานของ Multihop:
    - Multihop สร้าง "อุโมงค์ภายในอุโมงค์" ผ่านการเลือกจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดที่แตกต่างกัน โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการได้เองจากกว่า 600 เซิร์ฟเวอร์ใน 49 ประเทศ.

    เพิ่มระดับความปลอดภัย:
    - การใช้เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในเขตอำนาจที่ต่างกันลดโอกาสในการติดตามข้อมูล เนื่องจากต้องการการวิเคราะห์การใช้งานจากหลายตำแหน่ง ทำให้การโจมตีแบบ timing attacks ยากขึ้น.

    การเปิดใช้งาน:
    - ผู้ใช้สามารถเปิด Multihop ในแอป Mullvad VPN เวอร์ชัน 2025.1 หรือใหม่กว่า โดยเข้าไปที่ Settings และสลับการเปิด Multihop ในแอป จากนั้นเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการจากเมนู Switch location.

    การใช้งานที่หลากหลาย:
    - ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาให้เหมาะกับผู้ใช้งานบนทุกแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการความปลอดภัยในชีวิตออนไลน์.

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/mullvad-vpn-brings-multihop-to-android-promising-to-make-online-tracking-even-harder
    Mullvad VPN เปิดตัวฟีเจอร์ Multihop บน Android ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยออนไลน์ ด้วยการส่งข้อมูลผ่านเซิร์ฟเวอร์สองตัวที่อยู่ในเขตอำนาจต่างกัน การตั้งค่านั้นง่าย และผู้ใช้งานสามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ได้เองเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพ การทำงานของ Multihop: - Multihop สร้าง "อุโมงค์ภายในอุโมงค์" ผ่านการเลือกจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดที่แตกต่างกัน โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการได้เองจากกว่า 600 เซิร์ฟเวอร์ใน 49 ประเทศ. เพิ่มระดับความปลอดภัย: - การใช้เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในเขตอำนาจที่ต่างกันลดโอกาสในการติดตามข้อมูล เนื่องจากต้องการการวิเคราะห์การใช้งานจากหลายตำแหน่ง ทำให้การโจมตีแบบ timing attacks ยากขึ้น. การเปิดใช้งาน: - ผู้ใช้สามารถเปิด Multihop ในแอป Mullvad VPN เวอร์ชัน 2025.1 หรือใหม่กว่า โดยเข้าไปที่ Settings และสลับการเปิด Multihop ในแอป จากนั้นเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการจากเมนู Switch location. การใช้งานที่หลากหลาย: - ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาให้เหมาะกับผู้ใช้งานบนทุกแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการความปลอดภัยในชีวิตออนไลน์. https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/mullvad-vpn-brings-multihop-to-android-promising-to-make-online-tracking-even-harder
    WWW.TECHRADAR.COM
    Mullvad VPN brings Multihop to Android – promising to make online tracking even harder
    You can now reroute WireGuard traffic from two servers for better privacy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts