• รัสเซียยังคงใช้ Starlink บนโดรนโจมตี

    รายงานล่าสุดจาก Ukraine Defense Express และภาพถ่ายที่เผยแพร่โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ชาวยูเครน พบว่าโดรนรุ่น Molniya ถูกติดตั้ง Starlink Mini อย่างชัดเจน แม้เพนตากอนเคยยืนยันเมื่อปี 2024 ว่ามี “วิธีแก้ที่ดี” เพื่อหยุดการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาต แต่หลักฐานใหม่แสดงให้เห็นว่ารัสเซียยังคงหาช่องทางเข้าถึงระบบนี้ได้อยู่

    ความเสี่ยงจากการสื่อสารไร้ขีดจำกัด
    การติดตั้ง Starlink บนโดรนทำให้รัสเซียสามารถควบคุม UAV ได้ไกลกว่าระบบวิทยุทั่วไป และยังสามารถปรับเป้าหมายแบบเรียลไทม์ระหว่างบิน ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพของโดรนโจมตีแบบ “suicide drone” และทำให้การป้องกันของยูเครนยากขึ้นมาก

    ช่องทางมืดและตลาดผิดกฎหมาย
    มีรายงานว่ารัสเซียได้ จัดหาชุด Starlink ผ่านตลาดมืด และช่องทางที่ไม่เป็นทางการ แม้ SpaceX ยืนยันว่าไม่ได้ขายหรือให้บริการในรัสเซีย แต่การลักลอบนำเข้าอุปกรณ์ยังคงเกิดขึ้น และถูกนำไปใช้ในสนามรบเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการโจมตี

    มุมมองด้านความมั่นคงโลก
    นักวิเคราะห์เตือนว่าการใช้เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์อย่าง Starlink ในสงคราม อาจเป็นตัวอย่างของการ “ทำให้เทคโนโลยีพลเรือนกลายเป็นเครื่องมือทางทหาร” ซึ่งไม่เพียงกระทบต่อยูเครน แต่ยังสร้างแรงกดดันต่อกฎระเบียบสากลเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีอวกาศในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การค้นพบโดรน Molniya ติดตั้ง Starlink Mini
    ภาพถ่ายจากผู้เชี่ยวชาญยูเครนยืนยันการใช้งานจริง

    ความสามารถของ Starlink ในการควบคุมระยะไกล
    ทำให้โดรนสามารถปรับเป้าหมายและสื่อสารได้แบบไร้ข้อจำกัด

    ตลาดมืดเป็นช่องทางจัดหาอุปกรณ์
    รัสเซียยังคงเข้าถึง Starlink แม้มีมาตรการป้องกันจากสหรัฐฯ

    ผลกระทบต่อความมั่นคงโลกและกฎระเบียบอวกาศ
    เทคโนโลยีพลเรือนถูกนำไปใช้ในสงครามจริง

    ความเสี่ยงต่อการโจมตีที่แม่นยำและยากต่อการป้องกัน
    เพิ่มประสิทธิภาพของโดรน suicide และทำให้ยูเครนเสียเปรียบ

    การควบคุมเทคโนโลยีพลเรือนที่ไม่เพียงพอ
    อาจกลายเป็นแบบอย่างให้ประเทศอื่นนำไปใช้ในสงคราม

    https://www.tomshardware.com/service-providers/network-providers/russia-still-using-starlink-guided-drones-in-ukraine-insists-report-starlink-mini-atop-grounded-drone-points-to-ongoing-issue-despite-u-s-dod-claims-threat-was-blunted
    🛰️ รัสเซียยังคงใช้ Starlink บนโดรนโจมตี รายงานล่าสุดจาก Ukraine Defense Express และภาพถ่ายที่เผยแพร่โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ชาวยูเครน พบว่าโดรนรุ่น Molniya ถูกติดตั้ง Starlink Mini อย่างชัดเจน แม้เพนตากอนเคยยืนยันเมื่อปี 2024 ว่ามี “วิธีแก้ที่ดี” เพื่อหยุดการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาต แต่หลักฐานใหม่แสดงให้เห็นว่ารัสเซียยังคงหาช่องทางเข้าถึงระบบนี้ได้อยู่ ⚡ ความเสี่ยงจากการสื่อสารไร้ขีดจำกัด การติดตั้ง Starlink บนโดรนทำให้รัสเซียสามารถควบคุม UAV ได้ไกลกว่าระบบวิทยุทั่วไป และยังสามารถปรับเป้าหมายแบบเรียลไทม์ระหว่างบิน ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพของโดรนโจมตีแบบ “suicide drone” และทำให้การป้องกันของยูเครนยากขึ้นมาก 🌍 ช่องทางมืดและตลาดผิดกฎหมาย มีรายงานว่ารัสเซียได้ จัดหาชุด Starlink ผ่านตลาดมืด และช่องทางที่ไม่เป็นทางการ แม้ SpaceX ยืนยันว่าไม่ได้ขายหรือให้บริการในรัสเซีย แต่การลักลอบนำเข้าอุปกรณ์ยังคงเกิดขึ้น และถูกนำไปใช้ในสนามรบเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการโจมตี 🔒 มุมมองด้านความมั่นคงโลก นักวิเคราะห์เตือนว่าการใช้เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์อย่าง Starlink ในสงคราม อาจเป็นตัวอย่างของการ “ทำให้เทคโนโลยีพลเรือนกลายเป็นเครื่องมือทางทหาร” ซึ่งไม่เพียงกระทบต่อยูเครน แต่ยังสร้างแรงกดดันต่อกฎระเบียบสากลเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีอวกาศในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การค้นพบโดรน Molniya ติดตั้ง Starlink Mini ➡️ ภาพถ่ายจากผู้เชี่ยวชาญยูเครนยืนยันการใช้งานจริง ✅ ความสามารถของ Starlink ในการควบคุมระยะไกล ➡️ ทำให้โดรนสามารถปรับเป้าหมายและสื่อสารได้แบบไร้ข้อจำกัด ✅ ตลาดมืดเป็นช่องทางจัดหาอุปกรณ์ ➡️ รัสเซียยังคงเข้าถึง Starlink แม้มีมาตรการป้องกันจากสหรัฐฯ ✅ ผลกระทบต่อความมั่นคงโลกและกฎระเบียบอวกาศ ➡️ เทคโนโลยีพลเรือนถูกนำไปใช้ในสงครามจริง ‼️ ความเสี่ยงต่อการโจมตีที่แม่นยำและยากต่อการป้องกัน ⛔ เพิ่มประสิทธิภาพของโดรน suicide และทำให้ยูเครนเสียเปรียบ ‼️ การควบคุมเทคโนโลยีพลเรือนที่ไม่เพียงพอ ⛔ อาจกลายเป็นแบบอย่างให้ประเทศอื่นนำไปใช้ในสงคราม https://www.tomshardware.com/service-providers/network-providers/russia-still-using-starlink-guided-drones-in-ukraine-insists-report-starlink-mini-atop-grounded-drone-points-to-ongoing-issue-despite-u-s-dod-claims-threat-was-blunted
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Russia allegedly still using Starlink-guided drones in Ukraine, report claims — Starlink Mini strapped to grounded drone points to ongoing issue, despite U.S. DoD claims threat was blunted
    Russian drones with Starlink Mini terminals on board are still being spotted despite assurances, a year earlier, of ‘good solutions’ to prevent this from happening.
    0 Comments 0 Shares 99 Views 0 Reviews
  • 'ไชยชนก' เปิดรอยรั่วใหญ่ในวิกฤตน้ำท่วมใต้ ชี้ระบบสื่อสารไทยล่มเป็นวงกว้างจนการประสานงานสะดุด ดีอีเร่งตั้งศูนย์ข้อมูลกลาง ใช้ไทยคม-Starlink อุดช่องโหว่ พร้อมวางระบบฉุกเฉิน จุดสื่อสารสูง และแผนสำรองระยะยาว เพื่อให้รับมือภัยใหญ่ในอนาคตได้ดีขึ้น
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000114030
    .
    #น้ำท่วมใต้ #ระบบสื่อสารล่ม #ดีอี #ไชยชนกชิดชอบ #Starlink #ไทยคม #ภัยพิบัติ #News1live #News1
    'ไชยชนก' เปิดรอยรั่วใหญ่ในวิกฤตน้ำท่วมใต้ ชี้ระบบสื่อสารไทยล่มเป็นวงกว้างจนการประสานงานสะดุด ดีอีเร่งตั้งศูนย์ข้อมูลกลาง ใช้ไทยคม-Starlink อุดช่องโหว่ พร้อมวางระบบฉุกเฉิน จุดสื่อสารสูง และแผนสำรองระยะยาว เพื่อให้รับมือภัยใหญ่ในอนาคตได้ดีขึ้น . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000114030 . #น้ำท่วมใต้ #ระบบสื่อสารล่ม #ดีอี #ไชยชนกชิดชอบ #Starlink #ไทยคม #ภัยพิบัติ #News1live #News1
    Like
    Sad
    4
    0 Comments 0 Shares 515 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251128 #TechRadar

     Google Assistant กำลังจะถูกแทนที่ด้วย Gemini บน Android Auto
    Google เตรียมปิดฉาก Google Assistant บน Android Auto ภายในเดือนมีนาคมปีหน้า และจะนำ Gemini ซึ่งเป็น AI รุ่นใหม่เข้ามาแทนที่ จุดเด่นคือการสื่อสารที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น เช่น การสั่งนำทางด้วยประโยคง่าย ๆ อย่าง “พาไปหาร้านเบอร์เกอร์ที่ดีที่สุดแถวนี้” แล้ว Gemini จะจัดการให้ทันที รวมถึงสามารถสานต่อบทสนทนา เช่นถามต่อว่าเมนูยอดนิยมคืออะไร หรือมีที่จอดฟรีไหม นอกจากนี้ Gemini ยังช่วยให้การส่งข้อความระหว่างขับรถง่ายขึ้น เช่นสั่งให้ส่งข้อความพร้อมใส่อีโมจิโดยไม่ต้องแก้ไขหลายครั้ง ถือเป็นการยกระดับการใช้งาน Android Auto ให้ปลอดภัยและสะดวกกว่าเดิม https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/google-hints-at-google-assistant-shutdown-date-for-android-auto-heres-what-that-means-for-you

    Tab 2: Amazon บล็อก Shopping Agent ของ ChatGPT
    Amazon ตัดสินใจบล็อกฟีเจอร์ Shopping Agent ใหม่ของ ChatGPT ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้ค้นหาสินค้าและดีลออนไลน์ เหตุผลหลักคือความกังวลเรื่องการแข่งขันและการควบคุมข้อมูลการซื้อขายบนแพลตฟอร์มของตนเอง การบล็อกครั้งนี้อาจส่งผลต่อผู้ใช้ที่หวังจะใช้ AI เพื่อช่วยเลือกซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น และยังสะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซกับผู้พัฒนา AI ที่กำลังรุกเข้ามาในตลาดการช้อปปิ้งออนไลน์ https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/amazon-blocks-chatgpts-new-shopping-agent-what-the-fallout-could-mean-for-you

    ระบบเตือนความปลอดภัยในรถจะ “น่ารำคาญ” น้อยลงในปี 2026
    หลายคนคงเคยหงุดหงิดกับเสียงเตือนหรือระบบความปลอดภัยในรถที่ดังบ่อยเกินไป ข่าวดีคือ ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป กฎใหม่ในยุโรปจะบังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์ปรับระบบเตือนให้ “ไม่รบกวน” ผู้ขับขี่มากเกินไป เป้าหมายคือยังคงความปลอดภัย แต่ไม่สร้างความเครียดหรือรำคาญจนผู้ใช้ปิดระบบทิ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การขับรถมีสมดุลระหว่างความปลอดภัยและความสบายใจมากขึ้น
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/sick-of-annoying-car-safety-warning-systems-good-news-theyll-become-less-intrusive-from-2026-heres-why

    รวมไอเท็มโทนดำสำหรับ Home Office สุดมินิมอล
    TechRadar แนะนำ 15 ผลิตภัณฑ์โทนสีดำที่เหมาะกับการสร้างบรรยากาศ Home Office แบบมินิมอล ตั้งแต่โต๊ะทำงาน เก้าอี้ ไปจนถึงอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ช่วยให้พื้นที่ทำงานดูเรียบง่ายแต่มีสไตล์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบโทนเข้มและอยากได้บรรยากาศที่ทันสมัยและไม่รกตา การเลือกใช้โทนสีดำยังช่วยให้โฟกัสกับงานได้ดีขึ้นและสร้างความรู้สึกเป็นระเบียบ
    https://www.techradar.com/pro/website-building/15-products-id-use-to-build-my-dream-minimalist-home-office

     AWS สร้างระบบ DNS Backstop ป้องกันการล่มครั้งใหญ่
    AWS กำลังพัฒนาระบบ DNS Backstop ใหม่เพื่อป้องกันการหยุดทำงานของบริการครั้งใหญ่ในอนาคต หลังจากที่เคยเกิดเหตุการณ์ระบบล่มจนกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การสร้าง Backstop นี้จะช่วยให้ระบบมีความทนทานและสามารถรับมือกับปัญหาได้ดียิ่งขึ้น ถือเป็นการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าองค์กรที่พึ่งพา AWS ในการดำเนินธุรกิจ
    https://www.techradar.com/pro/aws-is-building-a-new-dns-backstop-to-prevent-further-outages

    Windows 11 กำลังเสียความนิยมเมื่อเทียบกับ Windows 10
    Dell เปิดเผยข้อมูลที่สะท้อนว่า Windows 11 ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร หลังจากที่ Windows 10 หมดการสนับสนุนแล้ว ผู้ใช้จำนวนมากยังคงเลือกใช้ Windows 10 ต่อไป แม้จะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยแล้วก็ตาม สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายของ Microsoft ในการผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Windows 11 ซึ่งอาจต้องหาวิธีสร้างแรงจูงใจเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ใช้ยอมอัปเกรด
    https://www.techradar.com/computing/windows/is-windows-11-fighting-a-losing-battle-dell-underlines-how-unpopular-the-os-is-after-support-ended-compared-to-windows-10

     OpenAI เปิดให้ลูกค้าองค์กรเลือกที่เก็บข้อมูล ChatGPT
    OpenAI ประกาศฟีเจอร์ใหม่สำหรับลูกค้าองค์กร โดยสามารถเลือกได้ว่าข้อมูลของ ChatGPT จะถูกเก็บไว้ที่ไหน ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ธุรกิจที่มีข้อกำหนดด้านกฎหมายหรือความปลอดภัยสามารถควบคุมการจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้น ถือเป็นการตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการความยืดหยุ่นและความมั่นใจในการใช้ AI โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีข้อกำหนดเข้มงวด
    https://www.techradar.com/pro/openai-now-lets-business-customers-choose-where-their-chatgpt-data-is-hosted

     Apple แย่งบัลลังก์มือถือจาก Samsung หลัง 14 ปี
    Apple เตรียมขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนแทน Samsung เป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี โดยแรงหนุนหลักมาจาก iPhone 17 ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในตลาดมือถือโลก และสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของ Apple ในการสร้างนวัตกรรมและดึงดูดผู้ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง
    https://www.techradar.com/phones/iphone/apple-will-take-samsungs-phone-crown-for-the-first-time-in-14-years-and-its-all-thanks-to-the-iphone-17

     ยุโรปเตรียมห้ามโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ต่ำกว่า 16 ปี
    สหภาพยุโรปกำลังพิจารณากฎหมายใหม่ที่จะห้ามผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย เหตุผลหลักคือการปกป้องเยาวชนจากผลกระทบด้านสุขภาพจิตและความเสี่ยงจากการใช้งานออนไลน์ หากกฎหมายนี้ผ่าน จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กระทบทั้งผู้ใช้และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/europe-wants-to-ban-social-media-for-under-16s-heres-all-we-know

     Sony เปิดตัวเซ็นเซอร์กล้องมือถือ 200MP ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    Sony เปิดตัวเซ็นเซอร์กล้องมือถือความละเอียด 200MP ที่ถูกขนานนามว่า “ใหญ่ที่สุดในโลก” โดยคาดว่าจะถูกนำไปใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หลายรุ่น จุดเด่นคือการถ่ายภาพที่คมชัดและเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นการยกระดับมาตรฐานการถ่ายภาพบนมือถือไปอีกขั้น
    https://www.techradar.com/phones/sony-just-launched-the-worlds-largest-200mp-smartphone-sensor-heres-which-phones-could-get-it

    หูฟังลดเสียงรบกวน Loop ลดราคาแรง
    ช่วง Black Friday นี้ TechRadar เล่าประสบการณ์ตรงจากการลองใช้หูฟังลดเสียงรบกวน Loop หลายรุ่น ที่ช่วยทั้งการสนทนาในที่เสียงดัง การดูคอนเสิร์ต ไปจนถึงการนอนหลับสบาย โดยรุ่นเด่นคือ Loop Switch 2 ที่สามารถปรับโหมดลดเสียงได้ถึง 3 ระดับในคู่เดียว ทำให้ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ ราคาลดเหลือเพียง 47.95 ดอลลาร์ในสหรัฐ และ 43.95 ปอนด์ในสหราชอาณาจักร ถือเป็นดีลที่คุ้มค่ามากสำหรับคนที่อยากได้หูฟังลดเสียงคุณภาพสูง
    https://www.techradar.com/health-fitness/ive-tried-all-the-best-loop-earplugs-and-now-theyre-on-sale-for-black-friday

    Asus เตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน AiCloud Router
    Asus ออกประกาศเร่งด่วนหลังพบช่องโหว่ร้ายแรงในฟีเจอร์ AiCloud ของเราเตอร์ ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงถึง 9.2/10 และกระทบหลายรุ่นที่ยังใช้งานอยู่ ผู้ใช้ถูกแนะนำให้อัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที หรือปิดการใช้งาน AiCloud และบริการแชร์ไฟล์เพื่อความปลอดภัย การอัปเดตครั้งนี้ยังแก้ไขช่องโหว่อื่น ๆ อีก 9 จุด แสดงให้เห็นว่าเราเตอร์เป็นเป้าหมายหลักของการโจมตีไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/asus-warns-of-new-security-flaw-affecting-aicloud-routers-heres-what-we-know

    ช่องโหว่ Fluent Bit เสี่ยงกระทบระบบ Cloud ทั่วโลก
    Fluent Bit ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการ log ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบว่ามีช่องโหว่หลายจุดที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถแก้ไข log หรือรันโค้ดอันตรายจากระยะไกลได้ ช่องโหว่บางส่วนมีอยู่มานานกว่า 4-6 ปี ทำให้ระบบ Cloud ของ AWS, Google Cloud และ Microsoft Azure เสี่ยงถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดและตรวจสอบการตั้งค่า log อย่างเข้มงวด เพราะการโจมตีสามารถทำได้ง่ายและมีผลกระทบกว้างขวางต่อธุรกิจที่พึ่งพา Cloud
    https://www.techradar.com/pro/these-worrying-security-flaws-could-put-every-major-cloud-provider-at-risk-heres-what-we-know-so-far

    รีวิวเครื่องดูดฝุ่นเบาแต่ทรงพลัง
    TechRadar ทดลองเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่นเพื่อหาตัวที่เบาและใช้งานง่ายที่สุด ผลคือ Shark Detect Pro และ Dreame R20 โดดเด่นที่สุด โดย Shark Detect Pro เบามากจนถือมือเดียวได้สบาย แต่กำลังดูดไม่แรงเท่า Dreame R20 ที่มีคาร์บอนไฟเบอร์ช่วยให้เบาและทำความสะอาดได้ดีกว่า ทั้งสองรุ่นมีดีลลดราคาช่วง Black Friday ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เครื่องดูดฝุ่นเบา ๆ แต่ยังคงประสิทธิภาพในการทำความสะอาด
    https://www.techradar.com/home/vacuums/i-tested-a-whole-bunch-of-vacuums-and-these-are-the-best-lightweight-options

    OpenAI ขอโทษเหตุข้อมูลรั่วจาก Mixpanel
    OpenAI ออกแถลงการณ์ขอโทษหลังบริษัทพันธมิตรด้านวิเคราะห์ข้อมูล Mixpanel ถูกเจาะระบบ ทำให้ข้อมูลนักพัฒนาที่ใช้แพลตฟอร์ม API ของ OpenAI รั่วไหล เช่น อีเมล ตำแหน่งโดยประมาณ และข้อมูลเบราว์เซอร์ แต่ยืนยันว่าไม่กระทบผู้ใช้ ChatGPT ทั่วไป และไม่มีข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่านหรือ API key ถูกเปิดเผย OpenAI ได้ยุติการใช้บริการ Mixpanel และเพิ่มมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยกับพันธมิตรทั้งหมด พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้เปิดการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอนเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/openai-apologizes-for-big-mixpanel-data-breach-that-exposed-emails-and-more-heres-what-we-know

    Opera Neon เปิดตัวนักวิจัย AI ช่วยหาข้อมูลเร็วขึ้น
    Opera Neon กำลังสร้างความฮือฮา ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ AI ช่วยค้นคว้าและสรุปข้อมูลได้ภายในเวลาเพียง 1 นาที จากเดิมที่ต้องเปิดหลายแท็บพร้อมกัน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ซับซ้อนอย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งานเบราว์เซอร์ให้ทันสมัยและตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/opera-neons-ai-researcher-does-in-one-minute-what-used-to-take-a-dozen-tabs

    มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Windows Update
    มีรายงานว่าแฮกเกอร์กำลังใช้เทคนิคใหม่ โดยปลอมตัวเป็นการอัปเดต Windows ที่ดูสมจริงมาก เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ติดตั้งมัลแวร์ที่ทรงพลัง วิธีการนี้สามารถหลอกแม้กระทั่งผู้ใช้ที่ระมัดระวัง การโจมตีลักษณะนี้เน้นใช้ภาพและข้อความที่เหมือนของจริง ทำให้ผู้ใช้ยากที่จะสังเกตเห็นความผิดปกติ ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้ตรวจสอบทุกครั้งก่อนติดตั้งอัปเดต และควรดาวน์โหลดจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น
    https://www.techradar.com/pro/maybe-dont-trust-every-windows-update-without-checking-hackers-hijack-images-to-spread-dangerous-malware

    ไฟล์ Blender ปลอมแพร่มัลแวร์ StealC
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าไฟล์โมเดล 3D จาก Blender ที่ถูกปลอมแปลง กำลังถูกใช้เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ StealC ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลสำคัญจากเครื่องผู้ใช้ได้ การโจมตีนี้อาศัยความนิยมของ Blender ในวงการออกแบบและแอนิเมชัน ทำให้ผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือเสี่ยงสูงที่จะติดมัลแวร์ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ตรวจสอบแหล่งที่มาของไฟล์ทุกครั้ง และใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันที่ทันสมัย
    https://www.techradar.com/pro/security/malicious-blender-model-files-deliver-stealc-infostealing-malware

    Missouri บังคับตรวจสอบอายุออนไลน์
    รัฐ Missouri เตรียมบังคับใช้กฎหมายใหม่ภายในสามวัน ที่กำหนดให้เว็บไซต์ต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้งานอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้จะส่งผลต่อแพลตฟอร์มออนไลน์หลายประเภท ทั้งเว็บบันเทิงและบริการสตรีมมิ่ง ทำให้ผู้ให้บริการต้องปรับระบบยืนยันตัวตนเพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับใหม่ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านความปลอดภัยดิจิทัล
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/missouri-to-enforce-mandatory-age-verification-in-three-days

    Amazon Leo Ultra อินเทอร์เน็ตดาวเทียมความเร็วสูง
    Amazon เปิดตัวบริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Leo Ultra ที่ให้ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดถึง 1Gbps และอัปโหลด 400Mbps ถือเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Starlink จุดเด่นคือความเร็วที่เหนือกว่าและการเชื่อมต่อที่เสถียร ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและธุรกิจที่ต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล การเปิดตัวครั้งนี้อาจเปลี่ยนสมดุลของตลาดอินเทอร์เน็ตดาวเทียมทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/amazons-rival-to-starlink-offers-fastest-downloads-and-uploads-but-how-will-it-stack-up-in-real-life
    📌📡🔵 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔵📡📌 #รวมข่าวIT #20251128 #TechRadar 🛠️ Google Assistant กำลังจะถูกแทนที่ด้วย Gemini บน Android Auto Google เตรียมปิดฉาก Google Assistant บน Android Auto ภายในเดือนมีนาคมปีหน้า และจะนำ Gemini ซึ่งเป็น AI รุ่นใหม่เข้ามาแทนที่ จุดเด่นคือการสื่อสารที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น เช่น การสั่งนำทางด้วยประโยคง่าย ๆ อย่าง “พาไปหาร้านเบอร์เกอร์ที่ดีที่สุดแถวนี้” แล้ว Gemini จะจัดการให้ทันที รวมถึงสามารถสานต่อบทสนทนา เช่นถามต่อว่าเมนูยอดนิยมคืออะไร หรือมีที่จอดฟรีไหม นอกจากนี้ Gemini ยังช่วยให้การส่งข้อความระหว่างขับรถง่ายขึ้น เช่นสั่งให้ส่งข้อความพร้อมใส่อีโมจิโดยไม่ต้องแก้ไขหลายครั้ง ถือเป็นการยกระดับการใช้งาน Android Auto ให้ปลอดภัยและสะดวกกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/google-hints-at-google-assistant-shutdown-date-for-android-auto-heres-what-that-means-for-you 🛒 Tab 2: Amazon บล็อก Shopping Agent ของ ChatGPT Amazon ตัดสินใจบล็อกฟีเจอร์ Shopping Agent ใหม่ของ ChatGPT ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้ค้นหาสินค้าและดีลออนไลน์ เหตุผลหลักคือความกังวลเรื่องการแข่งขันและการควบคุมข้อมูลการซื้อขายบนแพลตฟอร์มของตนเอง การบล็อกครั้งนี้อาจส่งผลต่อผู้ใช้ที่หวังจะใช้ AI เพื่อช่วยเลือกซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น และยังสะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซกับผู้พัฒนา AI ที่กำลังรุกเข้ามาในตลาดการช้อปปิ้งออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/amazon-blocks-chatgpts-new-shopping-agent-what-the-fallout-could-mean-for-you 🚗 ระบบเตือนความปลอดภัยในรถจะ “น่ารำคาญ” น้อยลงในปี 2026 หลายคนคงเคยหงุดหงิดกับเสียงเตือนหรือระบบความปลอดภัยในรถที่ดังบ่อยเกินไป ข่าวดีคือ ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป กฎใหม่ในยุโรปจะบังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์ปรับระบบเตือนให้ “ไม่รบกวน” ผู้ขับขี่มากเกินไป เป้าหมายคือยังคงความปลอดภัย แต่ไม่สร้างความเครียดหรือรำคาญจนผู้ใช้ปิดระบบทิ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การขับรถมีสมดุลระหว่างความปลอดภัยและความสบายใจมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/sick-of-annoying-car-safety-warning-systems-good-news-theyll-become-less-intrusive-from-2026-heres-why 🖤 รวมไอเท็มโทนดำสำหรับ Home Office สุดมินิมอล TechRadar แนะนำ 15 ผลิตภัณฑ์โทนสีดำที่เหมาะกับการสร้างบรรยากาศ Home Office แบบมินิมอล ตั้งแต่โต๊ะทำงาน เก้าอี้ ไปจนถึงอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ช่วยให้พื้นที่ทำงานดูเรียบง่ายแต่มีสไตล์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบโทนเข้มและอยากได้บรรยากาศที่ทันสมัยและไม่รกตา การเลือกใช้โทนสีดำยังช่วยให้โฟกัสกับงานได้ดีขึ้นและสร้างความรู้สึกเป็นระเบียบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/website-building/15-products-id-use-to-build-my-dream-minimalist-home-office 🌐 AWS สร้างระบบ DNS Backstop ป้องกันการล่มครั้งใหญ่ AWS กำลังพัฒนาระบบ DNS Backstop ใหม่เพื่อป้องกันการหยุดทำงานของบริการครั้งใหญ่ในอนาคต หลังจากที่เคยเกิดเหตุการณ์ระบบล่มจนกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การสร้าง Backstop นี้จะช่วยให้ระบบมีความทนทานและสามารถรับมือกับปัญหาได้ดียิ่งขึ้น ถือเป็นการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าองค์กรที่พึ่งพา AWS ในการดำเนินธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-is-building-a-new-dns-backstop-to-prevent-further-outages 💻 Windows 11 กำลังเสียความนิยมเมื่อเทียบกับ Windows 10 Dell เปิดเผยข้อมูลที่สะท้อนว่า Windows 11 ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร หลังจากที่ Windows 10 หมดการสนับสนุนแล้ว ผู้ใช้จำนวนมากยังคงเลือกใช้ Windows 10 ต่อไป แม้จะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยแล้วก็ตาม สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายของ Microsoft ในการผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Windows 11 ซึ่งอาจต้องหาวิธีสร้างแรงจูงใจเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ใช้ยอมอัปเกรด 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/is-windows-11-fighting-a-losing-battle-dell-underlines-how-unpopular-the-os-is-after-support-ended-compared-to-windows-10 🏢 OpenAI เปิดให้ลูกค้าองค์กรเลือกที่เก็บข้อมูล ChatGPT OpenAI ประกาศฟีเจอร์ใหม่สำหรับลูกค้าองค์กร โดยสามารถเลือกได้ว่าข้อมูลของ ChatGPT จะถูกเก็บไว้ที่ไหน ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ธุรกิจที่มีข้อกำหนดด้านกฎหมายหรือความปลอดภัยสามารถควบคุมการจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้น ถือเป็นการตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการความยืดหยุ่นและความมั่นใจในการใช้ AI โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีข้อกำหนดเข้มงวด 🔗 https://www.techradar.com/pro/openai-now-lets-business-customers-choose-where-their-chatgpt-data-is-hosted 📱 Apple แย่งบัลลังก์มือถือจาก Samsung หลัง 14 ปี Apple เตรียมขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนแทน Samsung เป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี โดยแรงหนุนหลักมาจาก iPhone 17 ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในตลาดมือถือโลก และสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของ Apple ในการสร้างนวัตกรรมและดึงดูดผู้ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/apple-will-take-samsungs-phone-crown-for-the-first-time-in-14-years-and-its-all-thanks-to-the-iphone-17 🚫 ยุโรปเตรียมห้ามโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ต่ำกว่า 16 ปี สหภาพยุโรปกำลังพิจารณากฎหมายใหม่ที่จะห้ามผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย เหตุผลหลักคือการปกป้องเยาวชนจากผลกระทบด้านสุขภาพจิตและความเสี่ยงจากการใช้งานออนไลน์ หากกฎหมายนี้ผ่าน จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กระทบทั้งผู้ใช้และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/europe-wants-to-ban-social-media-for-under-16s-heres-all-we-know 📸 Sony เปิดตัวเซ็นเซอร์กล้องมือถือ 200MP ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Sony เปิดตัวเซ็นเซอร์กล้องมือถือความละเอียด 200MP ที่ถูกขนานนามว่า “ใหญ่ที่สุดในโลก” โดยคาดว่าจะถูกนำไปใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หลายรุ่น จุดเด่นคือการถ่ายภาพที่คมชัดและเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นการยกระดับมาตรฐานการถ่ายภาพบนมือถือไปอีกขั้น 🔗 https://www.techradar.com/phones/sony-just-launched-the-worlds-largest-200mp-smartphone-sensor-heres-which-phones-could-get-it 🎧 หูฟังลดเสียงรบกวน Loop ลดราคาแรง ช่วง Black Friday นี้ TechRadar เล่าประสบการณ์ตรงจากการลองใช้หูฟังลดเสียงรบกวน Loop หลายรุ่น ที่ช่วยทั้งการสนทนาในที่เสียงดัง การดูคอนเสิร์ต ไปจนถึงการนอนหลับสบาย โดยรุ่นเด่นคือ Loop Switch 2 ที่สามารถปรับโหมดลดเสียงได้ถึง 3 ระดับในคู่เดียว ทำให้ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ ราคาลดเหลือเพียง 47.95 ดอลลาร์ในสหรัฐ และ 43.95 ปอนด์ในสหราชอาณาจักร ถือเป็นดีลที่คุ้มค่ามากสำหรับคนที่อยากได้หูฟังลดเสียงคุณภาพสูง 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/ive-tried-all-the-best-loop-earplugs-and-now-theyre-on-sale-for-black-friday 🔐 Asus เตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน AiCloud Router Asus ออกประกาศเร่งด่วนหลังพบช่องโหว่ร้ายแรงในฟีเจอร์ AiCloud ของเราเตอร์ ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงถึง 9.2/10 และกระทบหลายรุ่นที่ยังใช้งานอยู่ ผู้ใช้ถูกแนะนำให้อัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที หรือปิดการใช้งาน AiCloud และบริการแชร์ไฟล์เพื่อความปลอดภัย การอัปเดตครั้งนี้ยังแก้ไขช่องโหว่อื่น ๆ อีก 9 จุด แสดงให้เห็นว่าเราเตอร์เป็นเป้าหมายหลักของการโจมตีไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/asus-warns-of-new-security-flaw-affecting-aicloud-routers-heres-what-we-know ☁️ ช่องโหว่ Fluent Bit เสี่ยงกระทบระบบ Cloud ทั่วโลก Fluent Bit ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการ log ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบว่ามีช่องโหว่หลายจุดที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถแก้ไข log หรือรันโค้ดอันตรายจากระยะไกลได้ ช่องโหว่บางส่วนมีอยู่มานานกว่า 4-6 ปี ทำให้ระบบ Cloud ของ AWS, Google Cloud และ Microsoft Azure เสี่ยงถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดและตรวจสอบการตั้งค่า log อย่างเข้มงวด เพราะการโจมตีสามารถทำได้ง่ายและมีผลกระทบกว้างขวางต่อธุรกิจที่พึ่งพา Cloud 🔗 https://www.techradar.com/pro/these-worrying-security-flaws-could-put-every-major-cloud-provider-at-risk-heres-what-we-know-so-far 🧹 รีวิวเครื่องดูดฝุ่นเบาแต่ทรงพลัง TechRadar ทดลองเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่นเพื่อหาตัวที่เบาและใช้งานง่ายที่สุด ผลคือ Shark Detect Pro และ Dreame R20 โดดเด่นที่สุด โดย Shark Detect Pro เบามากจนถือมือเดียวได้สบาย แต่กำลังดูดไม่แรงเท่า Dreame R20 ที่มีคาร์บอนไฟเบอร์ช่วยให้เบาและทำความสะอาดได้ดีกว่า ทั้งสองรุ่นมีดีลลดราคาช่วง Black Friday ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เครื่องดูดฝุ่นเบา ๆ แต่ยังคงประสิทธิภาพในการทำความสะอาด 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/i-tested-a-whole-bunch-of-vacuums-and-these-are-the-best-lightweight-options 🛡️ OpenAI ขอโทษเหตุข้อมูลรั่วจาก Mixpanel OpenAI ออกแถลงการณ์ขอโทษหลังบริษัทพันธมิตรด้านวิเคราะห์ข้อมูล Mixpanel ถูกเจาะระบบ ทำให้ข้อมูลนักพัฒนาที่ใช้แพลตฟอร์ม API ของ OpenAI รั่วไหล เช่น อีเมล ตำแหน่งโดยประมาณ และข้อมูลเบราว์เซอร์ แต่ยืนยันว่าไม่กระทบผู้ใช้ ChatGPT ทั่วไป และไม่มีข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่านหรือ API key ถูกเปิดเผย OpenAI ได้ยุติการใช้บริการ Mixpanel และเพิ่มมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยกับพันธมิตรทั้งหมด พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้เปิดการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอนเพื่อเพิ่มความปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/openai-apologizes-for-big-mixpanel-data-breach-that-exposed-emails-and-more-heres-what-we-know 🤖 Opera Neon เปิดตัวนักวิจัย AI ช่วยหาข้อมูลเร็วขึ้น Opera Neon กำลังสร้างความฮือฮา ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ AI ช่วยค้นคว้าและสรุปข้อมูลได้ภายในเวลาเพียง 1 นาที จากเดิมที่ต้องเปิดหลายแท็บพร้อมกัน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ซับซ้อนอย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งานเบราว์เซอร์ให้ทันสมัยและตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/opera-neons-ai-researcher-does-in-one-minute-what-used-to-take-a-dozen-tabs 🪟 มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Windows Update มีรายงานว่าแฮกเกอร์กำลังใช้เทคนิคใหม่ โดยปลอมตัวเป็นการอัปเดต Windows ที่ดูสมจริงมาก เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ติดตั้งมัลแวร์ที่ทรงพลัง วิธีการนี้สามารถหลอกแม้กระทั่งผู้ใช้ที่ระมัดระวัง การโจมตีลักษณะนี้เน้นใช้ภาพและข้อความที่เหมือนของจริง ทำให้ผู้ใช้ยากที่จะสังเกตเห็นความผิดปกติ ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้ตรวจสอบทุกครั้งก่อนติดตั้งอัปเดต และควรดาวน์โหลดจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/maybe-dont-trust-every-windows-update-without-checking-hackers-hijack-images-to-spread-dangerous-malware 🎨 ไฟล์ Blender ปลอมแพร่มัลแวร์ StealC นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าไฟล์โมเดล 3D จาก Blender ที่ถูกปลอมแปลง กำลังถูกใช้เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ StealC ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลสำคัญจากเครื่องผู้ใช้ได้ การโจมตีนี้อาศัยความนิยมของ Blender ในวงการออกแบบและแอนิเมชัน ทำให้ผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือเสี่ยงสูงที่จะติดมัลแวร์ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ตรวจสอบแหล่งที่มาของไฟล์ทุกครั้ง และใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันที่ทันสมัย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/malicious-blender-model-files-deliver-stealc-infostealing-malware 🧑‍⚖️ Missouri บังคับตรวจสอบอายุออนไลน์ รัฐ Missouri เตรียมบังคับใช้กฎหมายใหม่ภายในสามวัน ที่กำหนดให้เว็บไซต์ต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้งานอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้จะส่งผลต่อแพลตฟอร์มออนไลน์หลายประเภท ทั้งเว็บบันเทิงและบริการสตรีมมิ่ง ทำให้ผู้ให้บริการต้องปรับระบบยืนยันตัวตนเพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับใหม่ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านความปลอดภัยดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/missouri-to-enforce-mandatory-age-verification-in-three-days 🚀 Amazon Leo Ultra อินเทอร์เน็ตดาวเทียมความเร็วสูง Amazon เปิดตัวบริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Leo Ultra ที่ให้ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดถึง 1Gbps และอัปโหลด 400Mbps ถือเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Starlink จุดเด่นคือความเร็วที่เหนือกว่าและการเชื่อมต่อที่เสถียร ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและธุรกิจที่ต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล การเปิดตัวครั้งนี้อาจเปลี่ยนสมดุลของตลาดอินเทอร์เน็ตดาวเทียมทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/amazons-rival-to-starlink-offers-fastest-downloads-and-uploads-but-how-will-it-stack-up-in-real-life
    0 Comments 0 Shares 677 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251127 #TechRadar

    รวมโน้ตบุ๊กสำหรับนักเรียนปี 2025
    ถ้าเล่าให้ฟังแบบง่าย ๆ ตอนนี้ TechRadar เขาได้จัดอันดับโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับนักเรียนไว้หลายรุ่นเลย เริ่มจาก MacBook Air M3 ที่ยังคงเป็นตัวท็อปสำหรับการเรียน ใช้งานได้แรง แบตอึด และราคาก็ลดลงเพราะมีรุ่น M4 ออกมาแล้ว ต่อมาก็มี Acer Chromebook Plus 514 ที่เหมาะกับคนงบจำกัดแต่ยังได้เครื่องที่ทำงานลื่น ๆ สำหรับงานทั่วไป ส่วนใครชอบ ChromeOS รุ่น HP Chromebook Plus 15.6 ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ครบเครื่องและแบตทนดี สำหรับสายพกพา Microsoft Surface Laptop 13 น้ำหนักเบาและแบตยาวนานก็เป็นคำตอบ ส่วนสายครีเอทีฟที่ต้องใช้พลังมากขึ้น MacBook Air M4 รุ่นจอ 15 นิ้วก็ถูกยกให้เป็นเครื่องที่ตอบโจทย์งานกราฟิกและงานสร้างสรรค์ได้ดีมาก
    https://www.techradar.com/computing/laptops/best-student-laptops

    Google Messages เตรียมอัปเกรดใหม่
    ข่าวนี้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่มีประโยชน์ใน Google Messages ที่กำลังทดสอบอยู่ในโค้ดเบต้า อย่างแรกคือเวลาเซฟไฟล์รูปหรือวิดีโอจะมีปุ่ม “Open” ให้กดเปิดไฟล์ได้ทันที ต่อมาคือปุ่ม Gemini ที่จะใหญ่ขึ้นเพื่อให้คนใช้งานง่ายขึ้น และสุดท้ายคือการเปลี่ยนข้อความจาก “Location” เป็น “One-time Location” เพื่อให้ชัดเจนว่ามันแชร์ตำแหน่งแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่แชร์ต่อเนื่อง แม้ยังไม่แน่ว่าจะเปิดใช้จริง แต่ถ้าออกมาก็น่าจะช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น
    https://www.techradar.com/phones/google-messages-could-be-getting-3-useful-upgrades-soon-including-a-gemini-change

    นักพัฒนาระวัง! เว็บจัดรูปแบบโค้ดเผยข้อมูลลับ
    เรื่องนี้ค่อนข้างน่ากังวล เพราะมีการพบว่าเว็บยอดนิยมอย่าง JSONFormatter และ CodeBeautify มีฟีเจอร์ “Recent Links” ที่เปิดเผยข้อมูลที่ผู้ใช้เคยอัปโหลดไว้โดยไม่ป้องกัน ทำให้ข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่าน คีย์ API หรือข้อมูลส่วนตัวหลุดออกมาได้ง่าย นักวิจัยถึงขั้นดึงข้อมูลย้อนหลังได้หลายปี และพบว่ามีทั้งข้อมูลจากหน่วยงานรัฐไปจนถึงบริษัทใหญ่ ๆ ที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตี ซึ่งตอนนี้ก็มีผู้ไม่หวังดีเริ่มทดลองใช้ช่องโหว่นี้แล้วด้วย
    https://www.techradar.com/pro/security/top-code-formatting-sites-are-exposing-huge-amounts-of-user-data

    ธุรกิจยังติดขัดกับการทำ AI อย่างรับผิดชอบ
    รายงานจาก Experian ชี้ว่าผู้บริหารส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า “Responsible AI” จะเป็นตัวสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน แต่ปัญหาคือหลายบริษัทยังไม่พร้อมที่จะนำไปใช้จริง ทั้งเรื่องคุณภาพข้อมูล ความรู้ทางเทคนิค และการบาลานซ์ระหว่างนวัตกรรมกับการกำกับดูแล แม้จะมีหลักการชัดเจน เช่น ความน่าเชื่อถือ การปกป้องความเป็นส่วนตัว และการลดอคติ แต่มีเพียงครึ่งหนึ่งที่บอกว่าทีมงานพร้อมจริง ๆ นักวิเคราะห์จึงแนะนำให้เริ่มจากเล็ก ๆ ทดลองก่อน แล้วค่อยขยาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/businesses-are-struggling-to-implement-responsible-ai-but-it-could-make-all-the-difference

    Claude Opus 4.5 เปิดตัวแล้ว
    Anthropic ปล่อยโมเดลใหม่ Claude Opus 4.5 ที่บอกว่าดีขึ้นอย่าง “มีความหมาย” ทั้งเรื่องการทำงานทั่วไปและการเขียนโค้ด จุดเด่นคือมันจัดการงานจริงได้ดีขึ้น เช่น ทำอีเมล สไลด์ หรือเอกสารได้เนียนกว่าเดิม รวมถึงแก้โจทย์ที่ซับซ้อนและทำงานหลายขั้นตอนต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังใช้พลังคำนวณน้อยลง ทำให้ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรได้ประโยชน์มากขึ้น แม้ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่การพัฒนาเร็วขนาดนี้ก็แสดงให้เห็นว่าตลาด AI กำลังโตและแข่งขันกันเข้มข้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/claude/claude-opus-4-5-is-now-live-and-meaningfully-better-at-everyday-tasks-and-coding-challenges

    Nothing Phone 3: สมาร์ทโฟนเรือธงที่แตกต่าง
    Nothing เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ Phone 3 ที่ตั้งใจจะก้าวเข้าสู่ตลาดพรีเมียมเต็มตัว ดีไซน์ยังคงความแปลกตาแบบบล็อกเหลี่ยมที่หลายคนอาจมองว่าสวยไม่เหมือนใคร แต่บางคนก็อาจรู้สึกว่ามันเทอะทะเกินไป จุดเด่นคือกล้อง 50MP ทั้งหมด 4 ตัว รวมถึงเลนส์ periscope ที่ช่วยให้ถ่ายภาพระยะไกลได้ดี แบตเตอรี่ใหญ่กว่า iPhone และ Samsung รุ่นใกล้เคียง พร้อมชาร์จเร็วกว่า จุดที่น่าสนใจคือฟีเจอร์ Glyph Matrix ที่ใช้ไฟด้านหลังมือถือแสดงข้อมูลหรือเล่นเกมเล็ก ๆ ได้ และปุ่ม Essential Key ที่ช่วยให้แคปหน้าจอหรือบันทึกวิดีโอได้ทันที ถึงแม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ราคาที่สูงขึ้นอาจทำให้แฟน ๆ รุ่นก่อนลังเล อย่างไรก็ตาม มันคือการประกาศชัดว่า Nothing อยากเป็นผู้เล่นในตลาดเรือธงจริง ๆ
    https://www.techradar.com/phones/nothing-phones/nothing-phone-3-review

    AWS มีดาต้าเซ็นเตอร์มากกว่าที่คิด
    ข้อมูลใหม่เผยว่า Amazon Web Services (AWS) อาจมีดาต้าเซ็นเตอร์มากถึง 900 แห่งทั่วโลก ซึ่งมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้หลายเท่า การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มสูงขึ้น AWS ไม่ได้เปิดเผยจำนวนจริง แต่ยืนยันว่ามี 38 regions และ 120 availability zones พร้อมแผนลงทุนมหาศาลในหลายประเทศ เช่น อินเดียและสหรัฐฯ จุดที่น่าสนใจคือ AWS พยายามรักษาประสิทธิภาพพลังงาน โดยอ้างว่ามีค่า Power Usage Effectiveness ดีกว่าค่าเฉลี่ยโลก และโครงสร้างพื้นฐานของตนใช้พลังงานได้คุ้มค่ากว่าการทำงานแบบ on-premises หลายเท่า
    https://www.techradar.com/pro/aws-says-it-has-around-900-data-centers-twice-as-many-as-previously-thought

    Android Desktop: ก้าวใหม่ของ Google OS
    Google กำลังพัฒนาโครงการ “Aluminium OS” ที่จะรวม Android เข้ากับ ChromeOS เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อปใหม่ รองรับทั้ง PC, Laptop, Tablet และ 2-in-1 จุดเด่นคือการผสาน AI เข้ามาเป็นแกนหลัก และรองรับแอป Android แบบเนทีฟโดยไม่ต้องจำลอง ทำให้การใช้งานต่อเนื่องระหว่างมือถือและเดสก์ท็อปเป็นไปอย่างราบรื่น Aluminium จะค่อย ๆ เข้ามาแทน ChromeOS แต่ยังคงอยู่คู่กันในช่วงเปลี่ยนผ่าน เป้าหมายคือการยกระดับ Chromebook และอุปกรณ์ Android ให้แข่งขันกับ Windows และ macOS ได้ในบางตลาด โดยเฉพาะด้านการศึกษาและธุรกิจ
    https://www.techradar.com/computing/desktop-pcs/android-powered-desktop-pcs-are-coming-and-i-think-theyll-be-an-exciting-step-up-from-chromeos

    Ransomware โจมตีธุรกิจที่ถูกซื้อกิจการ
    รายงานใหม่จาก ReliaQuest เผยว่าแฮกเกอร์ที่ใช้ Akira ransomware มักเจาะเข้าธุรกิจขนาดเล็กที่ถูกซื้อกิจการ โดยใช้ช่องโหว่จากอุปกรณ์ที่ถูกละเลยหรือไม่ได้รับการแพตช์ โดยเฉพาะ SonicWall SSL VPN ที่มีบัฟเฟอร์โอเวอร์โฟลว์ร้ายแรง แม้จะมีการอัปเดตแล้ว แต่หลายองค์กรยังไม่ทันปรับปรุง ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ามาเคลื่อนไหวในระบบและเข้ารหัสข้อมูลได้ ปัญหาคือบริษัทที่ซื้อกิจการมักไม่รู้ว่ามีอุปกรณ์เสี่ยงอยู่ในเครือข่ายใหม่ ทำให้การโจมตีเกิดขึ้นง่ายและกระจายไปหลายบริษัทพร้อมกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-hackers-attack-smbs-being-acquired-to-try-and-gain-access-to-multiple-companies

    Chat Control: EU เห็นชอบการสแกนแชทแบบสมัครใจ
    หลังจากถกเถียงกันมากว่า 3 ปี สภาสหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงในกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation หรือที่ถูกเรียกว่า Chat Control โดยเปลี่ยนจากการบังคับสแกนข้อความส่วนตัวมาเป็นแบบสมัครใจ แต่ก็ยังสร้างความกังวลในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว เพราะแม้จะไม่บังคับ แต่ก็เปิดช่องให้ผู้ให้บริการแชทต้องพิจารณามาตรการป้องกันการใช้แพลตฟอร์มในทางที่ผิด และอาจถูกบังคับให้พัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับเพิ่มเติม ขณะนี้ EU เตรียมเข้าสู่การเจรจากับรัฐสภาเพื่อหาข้อสรุปสุดท้าย ซึ่งยังคงเป็นประเด็นร้อนระหว่างการปกป้องเด็กกับการรักษาสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-lawmakers-finally-agree-on-the-voluntary-scanning-of-your-private-chats

    การเชื่อมต่อ AI รุ่นใหม่: ประสิทธิภาพและการติดตั้ง
    บทความนี้พูดถึง “Next frontier” ของการเชื่อมต่อที่พร้อมสำหรับ AI โดยเน้นการทำให้โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านการติดตั้งและการใช้งานจริง แนวคิดคือการสร้างระบบที่สามารถรองรับการประมวลผล AI ได้อย่างราบรื่น ลดความซับซ้อนในการขยายเครือข่าย และทำให้การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคุ้มค่ามากขึ้น ผู้เขียนชี้ว่าอนาคตของการสื่อสารจะไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่คือการจัดการทรัพยากรอย่างชาญฉลาดเพื่อรองรับการเติบโตของ AI
    https://www.techradar.com/pro/the-next-frontier-for-ai-ready-connectivity-efficiency-in-deployment

    ดีล Samsung Galaxy Tab ลดแรง
    TechRadar แนะนำดีลพิเศษสำหรับ Samsung Galaxy Tab ที่ช่วยประหยัดเงินได้หลายร้อยดอลลาร์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบ Android มากกว่า iPadOS โดยบทความเน้นว่าตอนนี้เป็นช่วง Black Friday ที่มีโปรโมชั่นแรงที่สุดของปี ทำให้แท็บเล็ตตระกูล Galaxy Tab กลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ทั้งในด้านราคาและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย
    https://www.techradar.com/seasonal-sales/prefer-android-to-ipados-these-stellar-samsung-galaxy-tab-deals-will-save-you-hundreds-this-black-friday

    ChatGPT กับการพูดคุยเสียงที่สมจริง
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์การลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่เพิ่มการสนทนาด้วยเสียง ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนพูดคุยกับคนจริง ๆ มากขึ้น ฟีเจอร์นี้ถูกมองว่าเป็น “ชิ้นส่วนที่ขาดหายไป” ของการใช้งาน AI เพราะทำให้การโต้ตอบเป็นธรรมชาติและสะดวกกว่าเดิม แม้จะยังมีรายละเอียดที่ต้องปรับปรุง แต่โดยรวมถือว่าเป็นการพัฒนาใหญ่ที่ทำให้ AI ก้าวใกล้การใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-voice-integration-feels-like-the-missing-piece-in-ai-chat-ive-tried-it-and-its-almost-perfect

    Notepad บน Windows 11 ได้ฟีเจอร์ใหม่
    Microsoft เพิ่มความสามารถใหม่ให้กับ Notepad ใน Windows 11 โดยรองรับการสร้างตารางและเสริมพลัง AI เข้าไป ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad ไม่ใช่แค่โปรแกรมจดบันทึกธรรมดาอีกต่อไป แต่สามารถใช้ทำงานที่ซับซ้อนขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางส่วนไม่พอใจ เพราะมองว่า Notepad ควรเป็นเครื่องมือที่เรียบง่าย ไม่ควรซับซ้อนเกินไป การเปลี่ยนแปลงนี้จึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงในชุมชนผู้ใช้ Windows
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-notepad-gets-support-for-tables-and-bolstered-ai-powers-and-not-everyones-happy

    ChatGPT Voice Mode อัปเกรดครั้งใหญ่
    อีกหนึ่งบทความเกี่ยวกับ ChatGPT ที่พูดถึงการอัปเกรดโหมดเสียงครั้งใหญ่ โดยสรุปว่ามี 5 สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ควรรู้ เช่น ความเป็นธรรมชาติของเสียงที่ดีขึ้น ความเร็วในการตอบสนอง และการรองรับหลายภาษา การพัฒนานี้ทำให้การใช้งาน AI ผ่านเสียงมีความสมจริงและสะดวกมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับการโต้ตอบระหว่างมนุษย์กับ AI ให้ใกล้เคียงการสนทนาจริงมากกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-voice-mode-just-got-a-major-upgrade-here-are-5-things-you-need-to-know

    อุปกรณ์ AI ของ Sam Altman ที่เหมือนกระท่อมริมทะเลสาบ แต่จริงๆ อาจเป็นการเฝ้าสอดส่อง
    Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ออกมาเล่าว่ากำลังสร้างอุปกรณ์ AI แบบใหม่ ที่เขาเปรียบเหมือนการนั่งพักผ่อนในกระท่อมสวยๆ ริมทะเลสาบ ให้ความสงบและเรียบง่ายกว่าการใช้สมาร์ทโฟนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่เมื่อมองลึกลงไป อุปกรณ์นี้คือการเฝ้าสังเกตชีวิตผู้ใช้ตลอดเวลา ทั้งพฤติกรรม อารมณ์ และกิจวัตรประจำวัน ซึ่งอาจหมายถึงการแลกความเป็นส่วนตัวกับความสะดวกสบาย ความสงบที่ถูกขายให้เราอาจเป็นเพียงภาพลวงตา เพราะจริงๆ แล้วคือการเปิดให้ระบบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/sam-altman-wants-his-ai-device-to-feel-like-sitting-in-the-most-beautiful-cabin-by-a-lake-but-it-sounds-more-like-endless-surveillance

    Intel Granite Rapids-WS หลุดข้อมูล ชี้พลังเวิร์กสเตชันระดับมหึมา
    มีการรั่วไหลข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel ที่ชื่อ Granite Rapids-WS ซึ่งจะใช้ซ็อกเก็ต E2 ขนาดใหญ่ รองรับพลังงานสูงถึง 350 วัตต์ และสามารถใส่แรม DDR5 ได้ถึง 2 เทราไบต์ต่อซ็อกเก็ต จุดเด่นคือจำนวนคอร์มหาศาลถึง 86 คอร์ 172 เธรด พร้อมแคช L3 ขนาดใหญ่ และ PCIe lanes มากมายเพื่อรองรับ GPU และสตอเรจหลายตัว นี่คือการตอบโต้ AMD Threadripper ในตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูง ที่เน้นงานเรนเดอร์ ซิมูเลชัน และการวิเคราะห์ข้อมูลหนักๆ
    https://www.techradar.com/pro/did-intels-next-big-thing-in-workstations-just-leak-ahead-of-granite-rapids-launch-report-claims-this-is-whats-next-from-troubled-chipmaker

    จีนจำลองการใช้โดรน 1,000 ตัวเพื่อบล็อก Starlink เหนือไต้หวัน
    งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยในจีนเผยการจำลองสถานการณ์ที่ใช้โดรนติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณจำนวนมหาศาล เพื่อสร้าง “เกราะแม่เหล็กไฟฟ้า” ปิดกั้นอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink เหนือไต้หวัน การทดลองชี้ว่าหากใช้โดรนราว 935 ตัวที่ทำงานประสานกัน จะสามารถทำให้พื้นที่ทั้งหมดไม่สามารถเชื่อมต่อได้ แม้ในทางปฏิบัติจะมีความยากลำบากและค่าใช้จ่ายสูง แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่น่ากังวล
    https://www.techradar.com/tech/can-starlink-be-blocked-scary-chinese-simulation-shows-1-000-drones-can-jam-satellite-internet-over-an-island-as-large-as-taiwan

    Tuxedo ยกเลิกโน้ตบุ๊ก Linux ที่ใช้ Snapdragon X Elite หลังเจอปัญหาหนัก
    บริษัท Tuxedo ที่เชี่ยวชาญด้านเครื่อง Linux ตัดสินใจยกเลิกการพัฒนาโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite หลังจากพยายามแก้ไขปัญหามานานถึง 18 เดือน แต่ไม่สามารถทำให้ระบบทำงานได้สมบูรณ์ ปัญหามีทั้งเรื่อง BIOS, การควบคุมพัดลม, การทำงานของ KVM virtualization และการถ่ายโอนข้อมูล USB4 ที่ไม่เสถียร ผลทดสอบยังชี้ว่าแบตเตอรี่ไม่ได้ยาวนานตามที่คาดไว้ ทำให้เครื่องไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ Linux จริงๆ บริษัทจึงเลือกหยุดโครงการและรอดูรุ่นใหม่ Snapdragon X2 Elite ว่าจะเข้ากับ Linux ได้ดีกว่าหรือไม่
    https://www.techradar.com/pro/top-linux-pc-maker-drops-plan-for-snapdragonx-elite-powered-notebook-says-hardware-was-less-suitable-than-expected

    รีวิว RedMagic 11 Pro มือถือเกมมิ่งสุดแรงในราคาคุ้มค่า
    RedMagic 11 Pro ยังคงรักษาตำแหน่งมือถือเกมมิ่งที่คุ้มค่าที่สุด ด้วยชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5 ที่เร็วสุดๆ พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและพัดลมที่ออกแบบใหม่ ทำให้เล่นเกมหนักๆ ได้อย่างลื่นไหล แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,500mAh ใช้งานได้ยาวนานหลายวัน และรองรับชาร์จไว 80W แม้จะไม่มีชาร์จไร้สาย แต่ก็ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผล จุดอ่อนคือกล้องที่ยังไม่ดีนัก โดยเฉพาะการถ่ายเซลฟี่ แต่สำหรับคนที่ต้องการมือถือเล่นเกมแรงๆ ในราคาที่ไม่ถึงพันดอลลาร์ นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุด
    https://www.techradar.com/phones/redmagic-11-pro-review

    มัลแวร์ใหม่บน macOS สร้างห่วงโซ่โจมตีที่น่าปวดหัว
    มีการค้นพบมัลแวร์รูปแบบใหม่บน macOS ที่ทำงานเป็น “chain” หรือห่วงโซ่การโจมตี โดยเริ่มจากการเจาะเข้าระบบผ่านช่องโหว่เล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยายสิทธิ์การเข้าถึงไปเรื่อยๆ จนสามารถควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ จุดน่ากังวลคือมันสามารถหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ และอาจถูกใช้โจมตีองค์กรหรือผู้ใช้ทั่วไปได้อย่างรุนแรง นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้ควรอัปเดตระบบและระวังการดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-chain-could-cause-a-major-security-headache-heres-what-we-know

    กล้อง Leica ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสถูกประมูลได้ 7.5 ล้านดอลลาร์
    Leica รุ่นพิเศษที่เคยเป็นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ถูกนำออกประมูลและสร้างสถิติใหม่ด้วยราคาสูงถึง 7.5 ล้านดอลลาร์ รายได้ทั้งหมดถูกนำไปใช้เพื่อการกุศล กล้องตัวนี้มีคุณสมบัติพิเศษถึง 7 อย่างที่ไม่เหมือนใคร เช่น การออกแบบเฉพาะตัวและวัสดุที่หายาก ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในกล้องที่มีคุณค่าทางจิตใจและประวัติศาสตร์มากที่สุดในโลก
    https://www.techradar.com/cameras/this-stunning-one-off-leica-belonging-to-the-late-pope-francis-just-raised-usd7-5-million-for-charity-here-are-its-7-unique-features

    รวมกล้องคอมแพ็กที่ดีที่สุดปี 2025 พกง่าย ใช้งานสะดวก
    TechRadar จัดอันดับกล้องคอมแพ็กที่โดดเด่นที่สุดในปี 2025 สำหรับคนที่อยากได้กล้องเล็กๆ พกพาสะดวก แต่ยังให้คุณภาพภาพถ่ายที่ดีเยี่ยม รายการนี้รวมทั้งรุ่นที่เหมาะกับนักเดินทาง, คนที่ชอบถ่ายภาพสตรีท, ไปจนถึงผู้ใช้ที่ต้องการกล้องเสริมจากสมาร์ทโฟน โดยมีทั้งรุ่นราคาประหยัดและรุ่นพรีเมียมที่เน้นคุณภาพสูงสุด
    https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/the-best-compact-cameras

    บทความเตือนใจ: อย่าเดทกับ AI เพราะมันไม่มีวันรักคุณ
    บทความเชิงความคิดเห็นชี้ให้เห็นถึงกระแสที่บางคนเริ่มมีความสัมพันธ์เชิงอารมณ์กับ AI แต่ผู้เขียนเตือนว่า AI ไม่สามารถรักหรือมีความรู้สึกแท้จริงได้ การคาดหวังให้มันเป็นคู่ชีวิตอาจทำให้คนหลงทางและเสียสมดุลในชีวิตจริง ข้อความนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปในด้านอารมณ์และความสัมพันธ์
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/please-dont-date-your-ai-because-it-will-never-love-you-or-pick-up-the-check

    Poco เปิดตัวมือถือเรือธงพร้อมซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดจิ๋ว
    Poco เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมแปลกตา คือการใส่ซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดเล็กเข้าไปในเครื่อง เพื่อให้เสียงแบบ 2.1-channel audio แม้จะเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับคนรักเสียงเบส แต่ก็มีข้อกังวลว่าการใช้งานในพื้นที่สาธารณะ เช่น บนรถบัส อาจสร้างความรำคาญให้คนรอบข้างได้ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Poco ในการสร้างความแตกต่างในตลาดมือถือที่แข่งขันสูง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/phones/poco-phones/pocos-new-flagship-phone-has-a-mini-bose-subwoofer-for-2-1-channel-audio-and-i-hope-im-not-near-one-on-the-bus
    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251127 #TechRadar 💻 รวมโน้ตบุ๊กสำหรับนักเรียนปี 2025 ถ้าเล่าให้ฟังแบบง่าย ๆ ตอนนี้ TechRadar เขาได้จัดอันดับโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับนักเรียนไว้หลายรุ่นเลย เริ่มจาก MacBook Air M3 ที่ยังคงเป็นตัวท็อปสำหรับการเรียน ใช้งานได้แรง แบตอึด และราคาก็ลดลงเพราะมีรุ่น M4 ออกมาแล้ว ต่อมาก็มี Acer Chromebook Plus 514 ที่เหมาะกับคนงบจำกัดแต่ยังได้เครื่องที่ทำงานลื่น ๆ สำหรับงานทั่วไป ส่วนใครชอบ ChromeOS รุ่น HP Chromebook Plus 15.6 ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ครบเครื่องและแบตทนดี สำหรับสายพกพา Microsoft Surface Laptop 13 น้ำหนักเบาและแบตยาวนานก็เป็นคำตอบ ส่วนสายครีเอทีฟที่ต้องใช้พลังมากขึ้น MacBook Air M4 รุ่นจอ 15 นิ้วก็ถูกยกให้เป็นเครื่องที่ตอบโจทย์งานกราฟิกและงานสร้างสรรค์ได้ดีมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/laptops/best-student-laptops 📱 Google Messages เตรียมอัปเกรดใหม่ ข่าวนี้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่มีประโยชน์ใน Google Messages ที่กำลังทดสอบอยู่ในโค้ดเบต้า อย่างแรกคือเวลาเซฟไฟล์รูปหรือวิดีโอจะมีปุ่ม “Open” ให้กดเปิดไฟล์ได้ทันที ต่อมาคือปุ่ม Gemini ที่จะใหญ่ขึ้นเพื่อให้คนใช้งานง่ายขึ้น และสุดท้ายคือการเปลี่ยนข้อความจาก “Location” เป็น “One-time Location” เพื่อให้ชัดเจนว่ามันแชร์ตำแหน่งแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่แชร์ต่อเนื่อง แม้ยังไม่แน่ว่าจะเปิดใช้จริง แต่ถ้าออกมาก็น่าจะช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/phones/google-messages-could-be-getting-3-useful-upgrades-soon-including-a-gemini-change 🔐 นักพัฒนาระวัง! เว็บจัดรูปแบบโค้ดเผยข้อมูลลับ เรื่องนี้ค่อนข้างน่ากังวล เพราะมีการพบว่าเว็บยอดนิยมอย่าง JSONFormatter และ CodeBeautify มีฟีเจอร์ “Recent Links” ที่เปิดเผยข้อมูลที่ผู้ใช้เคยอัปโหลดไว้โดยไม่ป้องกัน ทำให้ข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่าน คีย์ API หรือข้อมูลส่วนตัวหลุดออกมาได้ง่าย นักวิจัยถึงขั้นดึงข้อมูลย้อนหลังได้หลายปี และพบว่ามีทั้งข้อมูลจากหน่วยงานรัฐไปจนถึงบริษัทใหญ่ ๆ ที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตี ซึ่งตอนนี้ก็มีผู้ไม่หวังดีเริ่มทดลองใช้ช่องโหว่นี้แล้วด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/top-code-formatting-sites-are-exposing-huge-amounts-of-user-data 🤖 ธุรกิจยังติดขัดกับการทำ AI อย่างรับผิดชอบ รายงานจาก Experian ชี้ว่าผู้บริหารส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า “Responsible AI” จะเป็นตัวสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน แต่ปัญหาคือหลายบริษัทยังไม่พร้อมที่จะนำไปใช้จริง ทั้งเรื่องคุณภาพข้อมูล ความรู้ทางเทคนิค และการบาลานซ์ระหว่างนวัตกรรมกับการกำกับดูแล แม้จะมีหลักการชัดเจน เช่น ความน่าเชื่อถือ การปกป้องความเป็นส่วนตัว และการลดอคติ แต่มีเพียงครึ่งหนึ่งที่บอกว่าทีมงานพร้อมจริง ๆ นักวิเคราะห์จึงแนะนำให้เริ่มจากเล็ก ๆ ทดลองก่อน แล้วค่อยขยาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/businesses-are-struggling-to-implement-responsible-ai-but-it-could-make-all-the-difference ⚡ Claude Opus 4.5 เปิดตัวแล้ว Anthropic ปล่อยโมเดลใหม่ Claude Opus 4.5 ที่บอกว่าดีขึ้นอย่าง “มีความหมาย” ทั้งเรื่องการทำงานทั่วไปและการเขียนโค้ด จุดเด่นคือมันจัดการงานจริงได้ดีขึ้น เช่น ทำอีเมล สไลด์ หรือเอกสารได้เนียนกว่าเดิม รวมถึงแก้โจทย์ที่ซับซ้อนและทำงานหลายขั้นตอนต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังใช้พลังคำนวณน้อยลง ทำให้ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรได้ประโยชน์มากขึ้น แม้ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่การพัฒนาเร็วขนาดนี้ก็แสดงให้เห็นว่าตลาด AI กำลังโตและแข่งขันกันเข้มข้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/claude/claude-opus-4-5-is-now-live-and-meaningfully-better-at-everyday-tasks-and-coding-challenges 📱 Nothing Phone 3: สมาร์ทโฟนเรือธงที่แตกต่าง Nothing เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ Phone 3 ที่ตั้งใจจะก้าวเข้าสู่ตลาดพรีเมียมเต็มตัว ดีไซน์ยังคงความแปลกตาแบบบล็อกเหลี่ยมที่หลายคนอาจมองว่าสวยไม่เหมือนใคร แต่บางคนก็อาจรู้สึกว่ามันเทอะทะเกินไป จุดเด่นคือกล้อง 50MP ทั้งหมด 4 ตัว รวมถึงเลนส์ periscope ที่ช่วยให้ถ่ายภาพระยะไกลได้ดี แบตเตอรี่ใหญ่กว่า iPhone และ Samsung รุ่นใกล้เคียง พร้อมชาร์จเร็วกว่า จุดที่น่าสนใจคือฟีเจอร์ Glyph Matrix ที่ใช้ไฟด้านหลังมือถือแสดงข้อมูลหรือเล่นเกมเล็ก ๆ ได้ และปุ่ม Essential Key ที่ช่วยให้แคปหน้าจอหรือบันทึกวิดีโอได้ทันที ถึงแม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ราคาที่สูงขึ้นอาจทำให้แฟน ๆ รุ่นก่อนลังเล อย่างไรก็ตาม มันคือการประกาศชัดว่า Nothing อยากเป็นผู้เล่นในตลาดเรือธงจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/phones/nothing-phones/nothing-phone-3-review ☁️ AWS มีดาต้าเซ็นเตอร์มากกว่าที่คิด ข้อมูลใหม่เผยว่า Amazon Web Services (AWS) อาจมีดาต้าเซ็นเตอร์มากถึง 900 แห่งทั่วโลก ซึ่งมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้หลายเท่า การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มสูงขึ้น AWS ไม่ได้เปิดเผยจำนวนจริง แต่ยืนยันว่ามี 38 regions และ 120 availability zones พร้อมแผนลงทุนมหาศาลในหลายประเทศ เช่น อินเดียและสหรัฐฯ จุดที่น่าสนใจคือ AWS พยายามรักษาประสิทธิภาพพลังงาน โดยอ้างว่ามีค่า Power Usage Effectiveness ดีกว่าค่าเฉลี่ยโลก และโครงสร้างพื้นฐานของตนใช้พลังงานได้คุ้มค่ากว่าการทำงานแบบ on-premises หลายเท่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-says-it-has-around-900-data-centers-twice-as-many-as-previously-thought 💻 Android Desktop: ก้าวใหม่ของ Google OS Google กำลังพัฒนาโครงการ “Aluminium OS” ที่จะรวม Android เข้ากับ ChromeOS เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อปใหม่ รองรับทั้ง PC, Laptop, Tablet และ 2-in-1 จุดเด่นคือการผสาน AI เข้ามาเป็นแกนหลัก และรองรับแอป Android แบบเนทีฟโดยไม่ต้องจำลอง ทำให้การใช้งานต่อเนื่องระหว่างมือถือและเดสก์ท็อปเป็นไปอย่างราบรื่น Aluminium จะค่อย ๆ เข้ามาแทน ChromeOS แต่ยังคงอยู่คู่กันในช่วงเปลี่ยนผ่าน เป้าหมายคือการยกระดับ Chromebook และอุปกรณ์ Android ให้แข่งขันกับ Windows และ macOS ได้ในบางตลาด โดยเฉพาะด้านการศึกษาและธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/computing/desktop-pcs/android-powered-desktop-pcs-are-coming-and-i-think-theyll-be-an-exciting-step-up-from-chromeos 🔒 Ransomware โจมตีธุรกิจที่ถูกซื้อกิจการ รายงานใหม่จาก ReliaQuest เผยว่าแฮกเกอร์ที่ใช้ Akira ransomware มักเจาะเข้าธุรกิจขนาดเล็กที่ถูกซื้อกิจการ โดยใช้ช่องโหว่จากอุปกรณ์ที่ถูกละเลยหรือไม่ได้รับการแพตช์ โดยเฉพาะ SonicWall SSL VPN ที่มีบัฟเฟอร์โอเวอร์โฟลว์ร้ายแรง แม้จะมีการอัปเดตแล้ว แต่หลายองค์กรยังไม่ทันปรับปรุง ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ามาเคลื่อนไหวในระบบและเข้ารหัสข้อมูลได้ ปัญหาคือบริษัทที่ซื้อกิจการมักไม่รู้ว่ามีอุปกรณ์เสี่ยงอยู่ในเครือข่ายใหม่ ทำให้การโจมตีเกิดขึ้นง่ายและกระจายไปหลายบริษัทพร้อมกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-hackers-attack-smbs-being-acquired-to-try-and-gain-access-to-multiple-companies 🇪🇺 Chat Control: EU เห็นชอบการสแกนแชทแบบสมัครใจ หลังจากถกเถียงกันมากว่า 3 ปี สภาสหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงในกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation หรือที่ถูกเรียกว่า Chat Control โดยเปลี่ยนจากการบังคับสแกนข้อความส่วนตัวมาเป็นแบบสมัครใจ แต่ก็ยังสร้างความกังวลในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว เพราะแม้จะไม่บังคับ แต่ก็เปิดช่องให้ผู้ให้บริการแชทต้องพิจารณามาตรการป้องกันการใช้แพลตฟอร์มในทางที่ผิด และอาจถูกบังคับให้พัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับเพิ่มเติม ขณะนี้ EU เตรียมเข้าสู่การเจรจากับรัฐสภาเพื่อหาข้อสรุปสุดท้าย ซึ่งยังคงเป็นประเด็นร้อนระหว่างการปกป้องเด็กกับการรักษาสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-lawmakers-finally-agree-on-the-voluntary-scanning-of-your-private-chats 🌐 การเชื่อมต่อ AI รุ่นใหม่: ประสิทธิภาพและการติดตั้ง บทความนี้พูดถึง “Next frontier” ของการเชื่อมต่อที่พร้อมสำหรับ AI โดยเน้นการทำให้โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านการติดตั้งและการใช้งานจริง แนวคิดคือการสร้างระบบที่สามารถรองรับการประมวลผล AI ได้อย่างราบรื่น ลดความซับซ้อนในการขยายเครือข่าย และทำให้การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคุ้มค่ามากขึ้น ผู้เขียนชี้ว่าอนาคตของการสื่อสารจะไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่คือการจัดการทรัพยากรอย่างชาญฉลาดเพื่อรองรับการเติบโตของ AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-next-frontier-for-ai-ready-connectivity-efficiency-in-deployment 📱 ดีล Samsung Galaxy Tab ลดแรง TechRadar แนะนำดีลพิเศษสำหรับ Samsung Galaxy Tab ที่ช่วยประหยัดเงินได้หลายร้อยดอลลาร์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบ Android มากกว่า iPadOS โดยบทความเน้นว่าตอนนี้เป็นช่วง Black Friday ที่มีโปรโมชั่นแรงที่สุดของปี ทำให้แท็บเล็ตตระกูล Galaxy Tab กลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ทั้งในด้านราคาและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย 🔗 https://www.techradar.com/seasonal-sales/prefer-android-to-ipados-these-stellar-samsung-galaxy-tab-deals-will-save-you-hundreds-this-black-friday 🎙️ ChatGPT กับการพูดคุยเสียงที่สมจริง ผู้เขียนเล่าประสบการณ์การลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่เพิ่มการสนทนาด้วยเสียง ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนพูดคุยกับคนจริง ๆ มากขึ้น ฟีเจอร์นี้ถูกมองว่าเป็น “ชิ้นส่วนที่ขาดหายไป” ของการใช้งาน AI เพราะทำให้การโต้ตอบเป็นธรรมชาติและสะดวกกว่าเดิม แม้จะยังมีรายละเอียดที่ต้องปรับปรุง แต่โดยรวมถือว่าเป็นการพัฒนาใหญ่ที่ทำให้ AI ก้าวใกล้การใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-voice-integration-feels-like-the-missing-piece-in-ai-chat-ive-tried-it-and-its-almost-perfect 📝 Notepad บน Windows 11 ได้ฟีเจอร์ใหม่ Microsoft เพิ่มความสามารถใหม่ให้กับ Notepad ใน Windows 11 โดยรองรับการสร้างตารางและเสริมพลัง AI เข้าไป ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad ไม่ใช่แค่โปรแกรมจดบันทึกธรรมดาอีกต่อไป แต่สามารถใช้ทำงานที่ซับซ้อนขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางส่วนไม่พอใจ เพราะมองว่า Notepad ควรเป็นเครื่องมือที่เรียบง่าย ไม่ควรซับซ้อนเกินไป การเปลี่ยนแปลงนี้จึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงในชุมชนผู้ใช้ Windows 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-notepad-gets-support-for-tables-and-bolstered-ai-powers-and-not-everyones-happy 🔊 ChatGPT Voice Mode อัปเกรดครั้งใหญ่ อีกหนึ่งบทความเกี่ยวกับ ChatGPT ที่พูดถึงการอัปเกรดโหมดเสียงครั้งใหญ่ โดยสรุปว่ามี 5 สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ควรรู้ เช่น ความเป็นธรรมชาติของเสียงที่ดีขึ้น ความเร็วในการตอบสนอง และการรองรับหลายภาษา การพัฒนานี้ทำให้การใช้งาน AI ผ่านเสียงมีความสมจริงและสะดวกมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับการโต้ตอบระหว่างมนุษย์กับ AI ให้ใกล้เคียงการสนทนาจริงมากกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-voice-mode-just-got-a-major-upgrade-here-are-5-things-you-need-to-know 🏞️ อุปกรณ์ AI ของ Sam Altman ที่เหมือนกระท่อมริมทะเลสาบ แต่จริงๆ อาจเป็นการเฝ้าสอดส่อง Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ออกมาเล่าว่ากำลังสร้างอุปกรณ์ AI แบบใหม่ ที่เขาเปรียบเหมือนการนั่งพักผ่อนในกระท่อมสวยๆ ริมทะเลสาบ ให้ความสงบและเรียบง่ายกว่าการใช้สมาร์ทโฟนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่เมื่อมองลึกลงไป อุปกรณ์นี้คือการเฝ้าสังเกตชีวิตผู้ใช้ตลอดเวลา ทั้งพฤติกรรม อารมณ์ และกิจวัตรประจำวัน ซึ่งอาจหมายถึงการแลกความเป็นส่วนตัวกับความสะดวกสบาย ความสงบที่ถูกขายให้เราอาจเป็นเพียงภาพลวงตา เพราะจริงๆ แล้วคือการเปิดให้ระบบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/sam-altman-wants-his-ai-device-to-feel-like-sitting-in-the-most-beautiful-cabin-by-a-lake-but-it-sounds-more-like-endless-surveillance 💻 Intel Granite Rapids-WS หลุดข้อมูล ชี้พลังเวิร์กสเตชันระดับมหึมา มีการรั่วไหลข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel ที่ชื่อ Granite Rapids-WS ซึ่งจะใช้ซ็อกเก็ต E2 ขนาดใหญ่ รองรับพลังงานสูงถึง 350 วัตต์ และสามารถใส่แรม DDR5 ได้ถึง 2 เทราไบต์ต่อซ็อกเก็ต จุดเด่นคือจำนวนคอร์มหาศาลถึง 86 คอร์ 172 เธรด พร้อมแคช L3 ขนาดใหญ่ และ PCIe lanes มากมายเพื่อรองรับ GPU และสตอเรจหลายตัว นี่คือการตอบโต้ AMD Threadripper ในตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูง ที่เน้นงานเรนเดอร์ ซิมูเลชัน และการวิเคราะห์ข้อมูลหนักๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/did-intels-next-big-thing-in-workstations-just-leak-ahead-of-granite-rapids-launch-report-claims-this-is-whats-next-from-troubled-chipmaker 🚁 จีนจำลองการใช้โดรน 1,000 ตัวเพื่อบล็อก Starlink เหนือไต้หวัน งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยในจีนเผยการจำลองสถานการณ์ที่ใช้โดรนติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณจำนวนมหาศาล เพื่อสร้าง “เกราะแม่เหล็กไฟฟ้า” ปิดกั้นอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink เหนือไต้หวัน การทดลองชี้ว่าหากใช้โดรนราว 935 ตัวที่ทำงานประสานกัน จะสามารถทำให้พื้นที่ทั้งหมดไม่สามารถเชื่อมต่อได้ แม้ในทางปฏิบัติจะมีความยากลำบากและค่าใช้จ่ายสูง แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่น่ากังวล 🔗 https://www.techradar.com/tech/can-starlink-be-blocked-scary-chinese-simulation-shows-1-000-drones-can-jam-satellite-internet-over-an-island-as-large-as-taiwan 🖥️ Tuxedo ยกเลิกโน้ตบุ๊ก Linux ที่ใช้ Snapdragon X Elite หลังเจอปัญหาหนัก บริษัท Tuxedo ที่เชี่ยวชาญด้านเครื่อง Linux ตัดสินใจยกเลิกการพัฒนาโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite หลังจากพยายามแก้ไขปัญหามานานถึง 18 เดือน แต่ไม่สามารถทำให้ระบบทำงานได้สมบูรณ์ ปัญหามีทั้งเรื่อง BIOS, การควบคุมพัดลม, การทำงานของ KVM virtualization และการถ่ายโอนข้อมูล USB4 ที่ไม่เสถียร ผลทดสอบยังชี้ว่าแบตเตอรี่ไม่ได้ยาวนานตามที่คาดไว้ ทำให้เครื่องไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ Linux จริงๆ บริษัทจึงเลือกหยุดโครงการและรอดูรุ่นใหม่ Snapdragon X2 Elite ว่าจะเข้ากับ Linux ได้ดีกว่าหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/top-linux-pc-maker-drops-plan-for-snapdragonx-elite-powered-notebook-says-hardware-was-less-suitable-than-expected 📱 รีวิว RedMagic 11 Pro มือถือเกมมิ่งสุดแรงในราคาคุ้มค่า RedMagic 11 Pro ยังคงรักษาตำแหน่งมือถือเกมมิ่งที่คุ้มค่าที่สุด ด้วยชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5 ที่เร็วสุดๆ พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและพัดลมที่ออกแบบใหม่ ทำให้เล่นเกมหนักๆ ได้อย่างลื่นไหล แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,500mAh ใช้งานได้ยาวนานหลายวัน และรองรับชาร์จไว 80W แม้จะไม่มีชาร์จไร้สาย แต่ก็ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผล จุดอ่อนคือกล้องที่ยังไม่ดีนัก โดยเฉพาะการถ่ายเซลฟี่ แต่สำหรับคนที่ต้องการมือถือเล่นเกมแรงๆ ในราคาที่ไม่ถึงพันดอลลาร์ นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุด 🔗 https://www.techradar.com/phones/redmagic-11-pro-review 🔒 มัลแวร์ใหม่บน macOS สร้างห่วงโซ่โจมตีที่น่าปวดหัว มีการค้นพบมัลแวร์รูปแบบใหม่บน macOS ที่ทำงานเป็น “chain” หรือห่วงโซ่การโจมตี โดยเริ่มจากการเจาะเข้าระบบผ่านช่องโหว่เล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยายสิทธิ์การเข้าถึงไปเรื่อยๆ จนสามารถควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ จุดน่ากังวลคือมันสามารถหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ และอาจถูกใช้โจมตีองค์กรหรือผู้ใช้ทั่วไปได้อย่างรุนแรง นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้ควรอัปเดตระบบและระวังการดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-chain-could-cause-a-major-security-headache-heres-what-we-know 📸 กล้อง Leica ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสถูกประมูลได้ 7.5 ล้านดอลลาร์ Leica รุ่นพิเศษที่เคยเป็นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ถูกนำออกประมูลและสร้างสถิติใหม่ด้วยราคาสูงถึง 7.5 ล้านดอลลาร์ รายได้ทั้งหมดถูกนำไปใช้เพื่อการกุศล กล้องตัวนี้มีคุณสมบัติพิเศษถึง 7 อย่างที่ไม่เหมือนใคร เช่น การออกแบบเฉพาะตัวและวัสดุที่หายาก ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในกล้องที่มีคุณค่าทางจิตใจและประวัติศาสตร์มากที่สุดในโลก 🔗 https://www.techradar.com/cameras/this-stunning-one-off-leica-belonging-to-the-late-pope-francis-just-raised-usd7-5-million-for-charity-here-are-its-7-unique-features 📷 รวมกล้องคอมแพ็กที่ดีที่สุดปี 2025 พกง่าย ใช้งานสะดวก TechRadar จัดอันดับกล้องคอมแพ็กที่โดดเด่นที่สุดในปี 2025 สำหรับคนที่อยากได้กล้องเล็กๆ พกพาสะดวก แต่ยังให้คุณภาพภาพถ่ายที่ดีเยี่ยม รายการนี้รวมทั้งรุ่นที่เหมาะกับนักเดินทาง, คนที่ชอบถ่ายภาพสตรีท, ไปจนถึงผู้ใช้ที่ต้องการกล้องเสริมจากสมาร์ทโฟน โดยมีทั้งรุ่นราคาประหยัดและรุ่นพรีเมียมที่เน้นคุณภาพสูงสุด 🔗 https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/the-best-compact-cameras 🤖 บทความเตือนใจ: อย่าเดทกับ AI เพราะมันไม่มีวันรักคุณ บทความเชิงความคิดเห็นชี้ให้เห็นถึงกระแสที่บางคนเริ่มมีความสัมพันธ์เชิงอารมณ์กับ AI แต่ผู้เขียนเตือนว่า AI ไม่สามารถรักหรือมีความรู้สึกแท้จริงได้ การคาดหวังให้มันเป็นคู่ชีวิตอาจทำให้คนหลงทางและเสียสมดุลในชีวิตจริง ข้อความนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปในด้านอารมณ์และความสัมพันธ์ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/please-dont-date-your-ai-because-it-will-never-love-you-or-pick-up-the-check 🔊 Poco เปิดตัวมือถือเรือธงพร้อมซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดจิ๋ว Poco เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมแปลกตา คือการใส่ซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดเล็กเข้าไปในเครื่อง เพื่อให้เสียงแบบ 2.1-channel audio แม้จะเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับคนรักเสียงเบส แต่ก็มีข้อกังวลว่าการใช้งานในพื้นที่สาธารณะ เช่น บนรถบัส อาจสร้างความรำคาญให้คนรอบข้างได้ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Poco ในการสร้างความแตกต่างในตลาดมือถือที่แข่งขันสูง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/phones/poco-phones/pocos-new-flagship-phone-has-a-mini-bose-subwoofer-for-2-1-channel-audio-and-i-hope-im-not-near-one-on-the-bus
    0 Comments 0 Shares 760 Views 0 Reviews
  • การจำลองการปิดกั้น Starlink

    ข่าวนี้เล่าถึงการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์จีนที่จำลองการใช้ โดรนติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณ (jammers) เพื่อสร้าง “เกราะแม่เหล็กไฟฟ้า” ปิดกั้นการเข้าถึง Starlink โดยคาดว่าใช้โดรนประมาณ 1,000–2,000 ลำก็สามารถตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตดาวเทียมได้ ถือเป็นการจำลองเชิงยุทธศาสตร์ที่สะท้อนความตึงเครียดในภูมิภาค

    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Zhejiang และ Beijing Institute of Technology ได้ใช้ข้อมูลจริงของเครือข่ายดาวเทียม Starlink มาจำลองการสร้าง mesh network ของโดรนติด jammer ครอบคลุมพื้นที่ขนาดไต้หวันในระยะเวลา 12 ชั่วโมง ผลการทดลองชี้ว่า หากใช้โดรนประมาณ 935–2,000 ลำ ที่บินห่างกัน 3–6 ไมล์ สามารถสร้าง “ม่านรบกวนสัญญาณ” สูง 12 ไมล์เพื่อปิดกั้นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้

    ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
    Starlink ถูกมองว่าเป็นจุดแข็งของยูเครนในการต้านทานรัสเซีย ทำให้จีนกังวลว่าไต้หวันอาจใช้เทคโนโลยีเดียวกันหากเกิดความขัดแย้ง การจำลองนี้จึงเป็นการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์เพื่อหาวิธีรับมือกับระบบสื่อสารดาวเทียมที่ยืดหยุ่นและยากต่อการปิดกั้น

    การตอบสนองของไต้หวัน
    ไต้หวันเองกำลังลงทุนในระบบป้องกันโดรนและพิจารณาโครงสร้างป้องกันคล้าย Iron Dome เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางอากาศ รวมถึงการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์และการสื่อสาร ซึ่งสะท้อนถึงการเตรียมพร้อมของประเทศที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โลก

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและภูมิรัฐศาสตร์
    การศึกษานี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการทหาร แต่ยังส่งผลต่อ ห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีโลก เนื่องจากไต้หวันเป็นผู้ผลิตชิปหลัก หากการสื่อสารถูกตัดขาด อาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง เหตุการณ์นี้จึงเป็นสัญญาณเตือนว่าความมั่นคงทางดิจิทัลและการสื่อสารเป็นหัวใจสำคัญในยุค AI และเศรษฐกิจดิจิทัล

    สรุปสาระสำคัญ
    การจำลองของนักวิทยาศาสตร์จีน
    ใช้โดรนติด jammer ประมาณ 935–2,000 ลำ
    สามารถสร้างม่านรบกวนสัญญาณสูง 12 ไมล์

    ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
    Starlink ถูกมองว่าเป็นจุดแข็งของยูเครน
    จีนกังวลว่าไต้หวันอาจใช้เทคโนโลยีเดียวกัน

    การตอบสนองของไต้หวัน
    ลงทุนในระบบป้องกันโดรนและโครงสร้างคล้าย Iron Dome
    เตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์และการสื่อสาร

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก
    ไต้หวันเป็นศูนย์กลางการผลิตชิป
    การตัดการสื่อสารอาจกระทบเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง

    คำเตือนต่อภูมิรัฐศาสตร์
    ความตึงเครียดในภูมิภาคอาจกระทบห่วงโซ่อุปทานโลก
    การใช้โดรนรบกวนสัญญาณอาจนำไปสู่สงครามเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ

    https://www.tomshardware.com/networking/china-simulated-a-starlink-blockade-over-taiwan-ccp-scientists-say-around-1-000-drones-would-be-enough-to-cut-satellite-internet-to-the-island
    ⚡ การจำลองการปิดกั้น Starlink ข่าวนี้เล่าถึงการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์จีนที่จำลองการใช้ โดรนติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณ (jammers) เพื่อสร้าง “เกราะแม่เหล็กไฟฟ้า” ปิดกั้นการเข้าถึง Starlink โดยคาดว่าใช้โดรนประมาณ 1,000–2,000 ลำก็สามารถตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตดาวเทียมได้ ถือเป็นการจำลองเชิงยุทธศาสตร์ที่สะท้อนความตึงเครียดในภูมิภาค นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Zhejiang และ Beijing Institute of Technology ได้ใช้ข้อมูลจริงของเครือข่ายดาวเทียม Starlink มาจำลองการสร้าง mesh network ของโดรนติด jammer ครอบคลุมพื้นที่ขนาดไต้หวันในระยะเวลา 12 ชั่วโมง ผลการทดลองชี้ว่า หากใช้โดรนประมาณ 935–2,000 ลำ ที่บินห่างกัน 3–6 ไมล์ สามารถสร้าง “ม่านรบกวนสัญญาณ” สูง 12 ไมล์เพื่อปิดกั้นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ 🏭 ความหมายเชิงยุทธศาสตร์ Starlink ถูกมองว่าเป็นจุดแข็งของยูเครนในการต้านทานรัสเซีย ทำให้จีนกังวลว่าไต้หวันอาจใช้เทคโนโลยีเดียวกันหากเกิดความขัดแย้ง การจำลองนี้จึงเป็นการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์เพื่อหาวิธีรับมือกับระบบสื่อสารดาวเทียมที่ยืดหยุ่นและยากต่อการปิดกั้น 🌍 การตอบสนองของไต้หวัน ไต้หวันเองกำลังลงทุนในระบบป้องกันโดรนและพิจารณาโครงสร้างป้องกันคล้าย Iron Dome เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางอากาศ รวมถึงการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์และการสื่อสาร ซึ่งสะท้อนถึงการเตรียมพร้อมของประเทศที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โลก 🔒 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและภูมิรัฐศาสตร์ การศึกษานี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการทหาร แต่ยังส่งผลต่อ ห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีโลก เนื่องจากไต้หวันเป็นผู้ผลิตชิปหลัก หากการสื่อสารถูกตัดขาด อาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง เหตุการณ์นี้จึงเป็นสัญญาณเตือนว่าความมั่นคงทางดิจิทัลและการสื่อสารเป็นหัวใจสำคัญในยุค AI และเศรษฐกิจดิจิทัล 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การจำลองของนักวิทยาศาสตร์จีน ➡️ ใช้โดรนติด jammer ประมาณ 935–2,000 ลำ ➡️ สามารถสร้างม่านรบกวนสัญญาณสูง 12 ไมล์ ✅ ความหมายเชิงยุทธศาสตร์ ➡️ Starlink ถูกมองว่าเป็นจุดแข็งของยูเครน ➡️ จีนกังวลว่าไต้หวันอาจใช้เทคโนโลยีเดียวกัน ✅ การตอบสนองของไต้หวัน ➡️ ลงทุนในระบบป้องกันโดรนและโครงสร้างคล้าย Iron Dome ➡️ เตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์และการสื่อสาร ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก ➡️ ไต้หวันเป็นศูนย์กลางการผลิตชิป ➡️ การตัดการสื่อสารอาจกระทบเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง ‼️ คำเตือนต่อภูมิรัฐศาสตร์ ⛔ ความตึงเครียดในภูมิภาคอาจกระทบห่วงโซ่อุปทานโลก ⛔ การใช้โดรนรบกวนสัญญาณอาจนำไปสู่สงครามเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ https://www.tomshardware.com/networking/china-simulated-a-starlink-blockade-over-taiwan-ccp-scientists-say-around-1-000-drones-would-be-enough-to-cut-satellite-internet-to-the-island
    0 Comments 0 Shares 303 Views 0 Reviews
  • Amazon เปิดตัว Leo Ultra: ดาวเทียมอินเทอร์เน็ตแรงสุด 1Gbps

    Amazon ประกาศเปิดตัว Leo Ultra ซึ่งเป็นเทอร์มินัลดาวเทียมอินเทอร์เน็ตระดับองค์กรที่สามารถให้ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดถึง 1Gbps และอัปโหลด 400Mbps โดยอุปกรณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Amazon Leo (ชื่อใหม่ของ Project Kuiper) ที่ตั้งเป้าให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมทั่วโลกภายในปี 2026

    คุณสมบัติและการออกแบบ
    Leo Ultra มีขนาดประมาณ 20x30 นิ้ว หนา 1.9 นิ้ว ออกแบบให้ติดตั้งกลางแจ้งบนเสา โดยใช้เทคโนโลยี full-duplex phased-array ที่สามารถรับ–ส่งข้อมูลพร้อมกันได้ ตัวเครื่องยังมีระบบระบายความร้อนในตัวและทนต่อสภาพอากาศ ทำให้เหมาะกับการใช้งานในองค์กรที่ต้องการความเสถียรสูง

    การแข่งขันกับ Starlink และตลาดโลก
    Amazon ได้ปล่อยดาวเทียมกว่า 150 ดวงแล้ว และตั้งเป้าจะปล่อยหลายพันดวงเพื่อครอบคลุมทั่วโลก Leo Ultra ถูกวางตัวเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Starlink ของ SpaceX แต่เน้นตลาดองค์กรและการเชื่อมต่อกับ AWS Cloud โดยตรง (Direct-to-AWS) ซึ่งช่วยให้ข้อมูลจากดาวเทียมเข้าสู่ระบบคลาวด์ได้ทันทีโดยไม่ผ่านอินเทอร์เน็ตสาธารณะ

    ความหมายต่ออนาคตการเชื่อมต่อ
    การเปิดตัว Leo Ultra แสดงให้เห็นว่า Amazon ต้องการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารที่ผสานกับบริการคลาวด์ของตนเอง ซึ่งอาจเปลี่ยนวิธีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในองค์กรและศูนย์ข้อมูลทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ราคาของบริการและอุปกรณ์ยังไม่ถูกเปิดเผย ทำให้ตลาดยังคงจับตาดูว่า Amazon จะสามารถแข่งขันกับ Starlink ได้จริงหรือไม่

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปิดตัว Leo Ultra
    ความเร็วดาวน์โหลด 1Gbps และอัปโหลด 400Mbps

    คุณสมบัติหลัก
    ใช้ full-duplex phased-array, ทนสภาพอากาศ, ติดตั้งกลางแจ้ง

    การแข่งขันในตลาด
    แข่งกับ Starlink โดยเน้นตลาดองค์กรและเชื่อมต่อ AWS Cloud

    แผนการปล่อยดาวเทียม
    ปล่อยแล้วกว่า 150 ดวง ตั้งเป้าหลายพันดวงเพื่อครอบคลุมทั่วโลก

    คำเตือนจากนักวิเคราะห์
    ราคายังไม่ถูกเปิดเผย อาจเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึง

    ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน
    ต้องเผชิญกับ Starlink ที่ครองตลาดผู้ใช้ทั่วไปอยู่แล้ว

    https://www.tomshardware.com/networking/amazon-leo-ultra-enterprise-grade-terminal-targets-up-to-1gbps-satellite-internet
    🛰️ Amazon เปิดตัว Leo Ultra: ดาวเทียมอินเทอร์เน็ตแรงสุด 1Gbps Amazon ประกาศเปิดตัว Leo Ultra ซึ่งเป็นเทอร์มินัลดาวเทียมอินเทอร์เน็ตระดับองค์กรที่สามารถให้ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดถึง 1Gbps และอัปโหลด 400Mbps โดยอุปกรณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Amazon Leo (ชื่อใหม่ของ Project Kuiper) ที่ตั้งเป้าให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมทั่วโลกภายในปี 2026 ⚙️ คุณสมบัติและการออกแบบ Leo Ultra มีขนาดประมาณ 20x30 นิ้ว หนา 1.9 นิ้ว ออกแบบให้ติดตั้งกลางแจ้งบนเสา โดยใช้เทคโนโลยี full-duplex phased-array ที่สามารถรับ–ส่งข้อมูลพร้อมกันได้ ตัวเครื่องยังมีระบบระบายความร้อนในตัวและทนต่อสภาพอากาศ ทำให้เหมาะกับการใช้งานในองค์กรที่ต้องการความเสถียรสูง 🌍 การแข่งขันกับ Starlink และตลาดโลก Amazon ได้ปล่อยดาวเทียมกว่า 150 ดวงแล้ว และตั้งเป้าจะปล่อยหลายพันดวงเพื่อครอบคลุมทั่วโลก Leo Ultra ถูกวางตัวเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Starlink ของ SpaceX แต่เน้นตลาดองค์กรและการเชื่อมต่อกับ AWS Cloud โดยตรง (Direct-to-AWS) ซึ่งช่วยให้ข้อมูลจากดาวเทียมเข้าสู่ระบบคลาวด์ได้ทันทีโดยไม่ผ่านอินเทอร์เน็ตสาธารณะ 🛡️ ความหมายต่ออนาคตการเชื่อมต่อ การเปิดตัว Leo Ultra แสดงให้เห็นว่า Amazon ต้องการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารที่ผสานกับบริการคลาวด์ของตนเอง ซึ่งอาจเปลี่ยนวิธีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในองค์กรและศูนย์ข้อมูลทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ราคาของบริการและอุปกรณ์ยังไม่ถูกเปิดเผย ทำให้ตลาดยังคงจับตาดูว่า Amazon จะสามารถแข่งขันกับ Starlink ได้จริงหรือไม่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปิดตัว Leo Ultra ➡️ ความเร็วดาวน์โหลด 1Gbps และอัปโหลด 400Mbps ✅ คุณสมบัติหลัก ➡️ ใช้ full-duplex phased-array, ทนสภาพอากาศ, ติดตั้งกลางแจ้ง ✅ การแข่งขันในตลาด ➡️ แข่งกับ Starlink โดยเน้นตลาดองค์กรและเชื่อมต่อ AWS Cloud ✅ แผนการปล่อยดาวเทียม ➡️ ปล่อยแล้วกว่า 150 ดวง ตั้งเป้าหลายพันดวงเพื่อครอบคลุมทั่วโลก ‼️ คำเตือนจากนักวิเคราะห์ ⛔ ราคายังไม่ถูกเปิดเผย อาจเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึง ‼️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน ⛔ ต้องเผชิญกับ Starlink ที่ครองตลาดผู้ใช้ทั่วไปอยู่แล้ว https://www.tomshardware.com/networking/amazon-leo-ultra-enterprise-grade-terminal-targets-up-to-1gbps-satellite-internet
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Amazon unveils Starlink rival capable of up to 1 Gbps satellite internet — Leo Ultra is an enterprise-grade terminal with 400 Mbps upload speeds
    Amazon’s rebranded satellite internet service launches the Leo Ultra phased‑array antenna and begins enterprise preview ahead of 2026 rollout.
    0 Comments 0 Shares 177 Views 0 Reviews
  • “Starlink เปิดบริการ Direct-to-Cell ในยูเครน: ก้าวใหม่ของการสื่อสารท่ามกลางสงคราม”

    บริการ Direct-to-Cell ของ Starlink เปิดตัวครั้งแรกในยุโรปที่ยูเครน โดยร่วมมือกับ Kyivstar ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ที่สุดของประเทศ จุดประสงค์คือเพื่อให้ประชาชนยังสามารถสื่อสารได้แม้เผชิญกับไฟฟ้าดับและโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกทำลายจากสงคราม การเปิดตัวครั้งนี้เริ่มต้นด้วยบริการ SMS และมีแผนจะขยายไปสู่การโทรและอินเทอร์เน็ตในปีถัดไป

    เทคโนโลยีนี้ใช้ดาวเทียมของ Starlink เชื่อมต่อโดยตรงกับโทรศัพท์มือถือทั่วไป โดยไม่ต้องพึ่งเสาสัญญาณหรือโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดินมากนัก ถือเป็นการแก้ปัญหาการสื่อสารในพื้นที่ที่โครงข่ายถูกโจมตีหรือไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ยูเครนกำลังเผชิญอยู่

    การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนถึงบทบาทของ Elon Musk และบริษัท SpaceX ที่พยายามผลักดัน Starlink ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารระดับโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีภัยพิบัติหรือความขัดแย้งทางการเมือง เทคโนโลยีนี้จึงถูกมองว่าเป็น “ความหวังใหม่” ของการสื่อสารในยุคที่ไม่แน่นอน

    อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลและการพึ่งพาบริษัทเอกชนต่างชาติในการสื่อสารระดับประเทศ ซึ่งอาจกลายเป็นประเด็นทางการเมืองและความมั่นคงในอนาคต

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเปิดตัวบริการ Direct-to-Cell ในยูเครน
    ร่วมมือกับ Kyivstar ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่
    เริ่มต้นด้วยบริการ SMS และจะขยายไปสู่การโทรและอินเทอร์เน็ต

    เทคโนโลยีการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม
    โทรศัพท์มือถือทั่วไปสามารถเชื่อมต่อได้โดยตรง
    ไม่ต้องพึ่งเสาสัญญาณหรือโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดิน

    บทบาทของ Starlink และ SpaceX
    ผลักดันให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารระดับโลก
    เน้นช่วยเหลือพื้นที่ที่มีภัยพิบัติหรือสงคราม

    ข้อกังวลด้านความมั่นคงและข้อมูล
    การพึ่งพาบริษัทเอกชนต่างชาติอาจสร้างความเสี่ยง
    ความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้อาจถูกตั้งคำถาม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/24/starlink039s-direct-to-cell-service-launches-in-ukraine-in-european-first
    🛰️ “Starlink เปิดบริการ Direct-to-Cell ในยูเครน: ก้าวใหม่ของการสื่อสารท่ามกลางสงคราม” บริการ Direct-to-Cell ของ Starlink เปิดตัวครั้งแรกในยุโรปที่ยูเครน โดยร่วมมือกับ Kyivstar ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ที่สุดของประเทศ จุดประสงค์คือเพื่อให้ประชาชนยังสามารถสื่อสารได้แม้เผชิญกับไฟฟ้าดับและโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกทำลายจากสงคราม การเปิดตัวครั้งนี้เริ่มต้นด้วยบริการ SMS และมีแผนจะขยายไปสู่การโทรและอินเทอร์เน็ตในปีถัดไป เทคโนโลยีนี้ใช้ดาวเทียมของ Starlink เชื่อมต่อโดยตรงกับโทรศัพท์มือถือทั่วไป โดยไม่ต้องพึ่งเสาสัญญาณหรือโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดินมากนัก ถือเป็นการแก้ปัญหาการสื่อสารในพื้นที่ที่โครงข่ายถูกโจมตีหรือไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ยูเครนกำลังเผชิญอยู่ การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนถึงบทบาทของ Elon Musk และบริษัท SpaceX ที่พยายามผลักดัน Starlink ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารระดับโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีภัยพิบัติหรือความขัดแย้งทางการเมือง เทคโนโลยีนี้จึงถูกมองว่าเป็น “ความหวังใหม่” ของการสื่อสารในยุคที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลและการพึ่งพาบริษัทเอกชนต่างชาติในการสื่อสารระดับประเทศ ซึ่งอาจกลายเป็นประเด็นทางการเมืองและความมั่นคงในอนาคต 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเปิดตัวบริการ Direct-to-Cell ในยูเครน ➡️ ร่วมมือกับ Kyivstar ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ ➡️ เริ่มต้นด้วยบริการ SMS และจะขยายไปสู่การโทรและอินเทอร์เน็ต ✅ เทคโนโลยีการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม ➡️ โทรศัพท์มือถือทั่วไปสามารถเชื่อมต่อได้โดยตรง ➡️ ไม่ต้องพึ่งเสาสัญญาณหรือโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดิน ✅ บทบาทของ Starlink และ SpaceX ➡️ ผลักดันให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารระดับโลก ➡️ เน้นช่วยเหลือพื้นที่ที่มีภัยพิบัติหรือสงคราม ‼️ ข้อกังวลด้านความมั่นคงและข้อมูล ⛔ การพึ่งพาบริษัทเอกชนต่างชาติอาจสร้างความเสี่ยง ⛔ ความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้อาจถูกตั้งคำถาม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/24/starlink039s-direct-to-cell-service-launches-in-ukraine-in-european-first
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Starlink's direct-to-cell service launches in Ukraine in European first
    KYIV (Reuters) -Ukraine's largest mobile operator Kyivstar has become the first in Europe to launch Starlink's direct-to-cell satellite technology in a bid to keep millions connected amid wartime blackouts and disrupted infrastructure, the company said on Monday.
    0 Comments 0 Shares 214 Views 0 Reviews
  • HughesNet สูญเสียลูกค้าให้ Starlink จนเสี่ยงล้มละลาย

    Starlink กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ กว่า 2 ล้านรายในปี 2025 และทั่วโลกมากกว่า 6 ล้านราย ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจาก 4.6 ล้านรายในปี 2024 ซึ่งสะท้อนถึงความนิยมของเครือข่ายดาวเทียมวงโคจรต่ำที่ให้ความเร็วสูงและความหน่วงต่ำ เหมาะกับผู้ใช้งานในพื้นที่ชนบทที่เคยพึ่งพา HughesNet

    HughesNet ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่แข่งหลัก ไม่สามารถตามทันความต้องการของตลาดได้ ทั้งในด้านความเร็ว ความเสถียร และข้อจำกัดของดาวเทียมที่มีอยู่ เช่น ปัญหาสัญญาณขาดหายเมื่อฝนตกหนัก และ การจำกัดปริมาณข้อมูลรายเดือน ที่ทำให้ผู้ใช้ไม่พอใจ แม้จะมีการลงทุนในดาวเทียมใหม่อย่าง Jupiter 3 เพื่อเพิ่มความเร็ว แต่ก็ยังไม่สามารถแข่งขันกับเครือข่ายที่หนาแน่นและทันสมัยของ Starlink ได้

    แทนที่จะสู้ตรง ๆ HughesNet และบริษัทแม่ EchoStar เลือกทำข้อตกลงกับ SpaceX โดยเปิด โปรแกรมแนะนำลูกค้าไปใช้ Starlink เพื่อรักษารายได้บางส่วน แม้จะเป็นการยอมรับการสูญเสียลูกค้า แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้รายได้หายไปทั้งหมด อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่ากลยุทธ์นี้อาจไม่เพียงพอ และ HughesNet อาจต้องถอนตัวจากตลาดผู้บริโภคในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเติบโตของ Starlink
    ผู้ใช้ในสหรัฐฯ กว่า 2 ล้านรายในปี 2025
    ผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 6 ล้านราย

    ปัญหาของ HughesNet
    ความเร็วและความเสถียรต่ำกว่า Starlink
    สัญญาณขาดหายเมื่อฝนตกหนัก
    การจำกัดปริมาณข้อมูลรายเดือน

    การลงทุนและกลยุทธ์ใหม่
    เปิดตัวดาวเทียม Jupiter 3 เพื่อเพิ่มความเร็ว
    ทำข้อตกลงกับ SpaceX เปิดโปรแกรมแนะนำลูกค้าไปใช้ Starlink

    คำเตือนและความเสี่ยง
    HughesNet อาจต้องยื่นล้มละลายหากสูญเสียลูกค้าเพิ่มขึ้น
    การพึ่งพาโปรแกรมแนะนำลูกค้าอาจไม่ยั่งยืน
    ตลาดผู้บริโภคอาจถูกครอบครองโดย Starlink อย่างสมบูรณ์

    https://www.slashgear.com/2030563/hughesnet-satellite-internet-provider-struggling-after-starlink-steals-customers/
    🚀 HughesNet สูญเสียลูกค้าให้ Starlink จนเสี่ยงล้มละลาย Starlink กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ กว่า 2 ล้านรายในปี 2025 และทั่วโลกมากกว่า 6 ล้านราย ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจาก 4.6 ล้านรายในปี 2024 ซึ่งสะท้อนถึงความนิยมของเครือข่ายดาวเทียมวงโคจรต่ำที่ให้ความเร็วสูงและความหน่วงต่ำ เหมาะกับผู้ใช้งานในพื้นที่ชนบทที่เคยพึ่งพา HughesNet HughesNet ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่แข่งหลัก ไม่สามารถตามทันความต้องการของตลาดได้ ทั้งในด้านความเร็ว ความเสถียร และข้อจำกัดของดาวเทียมที่มีอยู่ เช่น ปัญหาสัญญาณขาดหายเมื่อฝนตกหนัก และ การจำกัดปริมาณข้อมูลรายเดือน ที่ทำให้ผู้ใช้ไม่พอใจ แม้จะมีการลงทุนในดาวเทียมใหม่อย่าง Jupiter 3 เพื่อเพิ่มความเร็ว แต่ก็ยังไม่สามารถแข่งขันกับเครือข่ายที่หนาแน่นและทันสมัยของ Starlink ได้ แทนที่จะสู้ตรง ๆ HughesNet และบริษัทแม่ EchoStar เลือกทำข้อตกลงกับ SpaceX โดยเปิด โปรแกรมแนะนำลูกค้าไปใช้ Starlink เพื่อรักษารายได้บางส่วน แม้จะเป็นการยอมรับการสูญเสียลูกค้า แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้รายได้หายไปทั้งหมด อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่ากลยุทธ์นี้อาจไม่เพียงพอ และ HughesNet อาจต้องถอนตัวจากตลาดผู้บริโภคในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเติบโตของ Starlink ➡️ ผู้ใช้ในสหรัฐฯ กว่า 2 ล้านรายในปี 2025 ➡️ ผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 6 ล้านราย ✅ ปัญหาของ HughesNet ➡️ ความเร็วและความเสถียรต่ำกว่า Starlink ➡️ สัญญาณขาดหายเมื่อฝนตกหนัก ➡️ การจำกัดปริมาณข้อมูลรายเดือน ✅ การลงทุนและกลยุทธ์ใหม่ ➡️ เปิดตัวดาวเทียม Jupiter 3 เพื่อเพิ่มความเร็ว ➡️ ทำข้อตกลงกับ SpaceX เปิดโปรแกรมแนะนำลูกค้าไปใช้ Starlink ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ HughesNet อาจต้องยื่นล้มละลายหากสูญเสียลูกค้าเพิ่มขึ้น ⛔ การพึ่งพาโปรแกรมแนะนำลูกค้าอาจไม่ยั่งยืน ⛔ ตลาดผู้บริโภคอาจถูกครอบครองโดย Starlink อย่างสมบูรณ์ https://www.slashgear.com/2030563/hughesnet-satellite-internet-provider-struggling-after-starlink-steals-customers/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    This Major Internet Provider Is Struggling Because Starlink Stole Its Customers - SlashGear
    Starlink's rise to stardom (no pun intended) has had a major impact on HughesNet, which has been one of the best and only Starlink alternatives out there.
    0 Comments 0 Shares 199 Views 0 Reviews
  • Amazon Leo: ก้าวใหม่ของการสื่อสารผ่านดาวเทียม

    Amazon เปิดตัวชื่อใหม่ Amazon Leo แทนที่ชื่อเดิม Project Kuiper ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2019 โดยมีเป้าหมายสร้างเครือข่ายดาวเทียมกว่า 3,000 ดวง เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตครอบคลุมประชากรโลกถึง 95% การเปลี่ยนชื่อครั้งนี้สะท้อนว่าโครงการได้พ้นจากสถานะ “ทดลอง” และพร้อมเข้าสู่การเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ

    ความคืบหน้าและการแข่งขันกับ Starlink
    แม้ Amazon จะเพิ่งส่งดาวเทียมปฏิบัติการชุดแรกจำนวน 27 ดวงขึ้นสู่วงโคจรในปีนี้ แต่คู่แข่งอย่าง SpaceX Starlink ได้เปิดบริการตั้งแต่ปี 2020 และขยายอย่างรวดเร็ว ทั้งการเชื่อมต่อกับสายการบินและผู้ให้บริการมือถือ ทำให้ Amazon Leo ยังต้องเร่งพัฒนาเพื่อไล่ตามการแข่งขันที่เข้มข้นในตลาดอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม

    เทคโนโลยีและการใช้งาน
    Amazon ได้ทดสอบเทคโนโลยีสำคัญ เช่น เครือข่ายเลเซอร์เชื่อมโยงดาวเทียม (laser mesh network) และเสาอากาศผู้ใช้ที่ออกแบบมาให้ติดตั้งง่าย การรีแบรนด์ครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่เปลี่ยนชื่อ แต่เป็นการประกาศความพร้อมที่จะให้บริการจริง ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนในเว็บไซต์ Amazon Leo เพื่อรับข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับการเปิดให้บริการในอนาคต

    มุมมองเชิงกลยุทธ์
    การเข้าสู่ตลาดดาวเทียมวงโคจรต่ำของ Amazon ไม่เพียงแต่เป็นการขยายธุรกิจด้านคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังเป็นการสร้างระบบนิเวศที่เชื่อมโยงกับบริการอื่น ๆ ของบริษัท เช่น AWS และอีคอมเมิร์ซ การแข่งขันกับ Starlink จึงไม่ใช่แค่เรื่องความเร็วอินเทอร์เน็ต แต่ยังเป็นการวางรากฐานโครงสร้างการสื่อสารระดับโลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Amazon รีแบรนด์ Project Kuiper เป็น Amazon Leo
    สะท้อนการใช้ดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) และความพร้อมเชิงพาณิชย์

    เป้าหมายครอบคลุมประชากรโลก 95%
    ใช้ดาวเทียมกว่า 3,000 ดวงเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ต

    เปิดตัวดาวเทียมปฏิบัติการชุดแรก 27 ดวงในปีนี้
    เป็นก้าวสำคัญหลังจากการทดสอบหลายปี

    เทคโนโลยี laser mesh network และเสาอากาศผู้ใช้
    ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความง่ายในการเข้าถึง

    ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนในเว็บไซต์ Amazon Leo
    เพื่อรับข้อมูลการเปิดให้บริการในอนาคต

    การแข่งขันกับ Starlink เข้มข้นมาก
    Starlink เปิดบริการตั้งแต่ปี 2020 และขยายอย่างรวดเร็ว

    ยังไม่มีการประกาศวันเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ชัดเจน
    ผู้ใช้ต้องรอติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจาก Amazon

    ความเสี่ยงด้านการลงทุนและโครงสร้างพื้นฐาน
    การสร้างเครือข่ายดาวเทียมจำนวนมหาศาลต้องใช้เวลาและต้นทุนสูง

    https://securityonline.info/project-kuiper-is-now-amazon-leo-amazon-rebrands-satellite-initiative-for-commercial-launch/
    🚀 Amazon Leo: ก้าวใหม่ของการสื่อสารผ่านดาวเทียม Amazon เปิดตัวชื่อใหม่ Amazon Leo แทนที่ชื่อเดิม Project Kuiper ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2019 โดยมีเป้าหมายสร้างเครือข่ายดาวเทียมกว่า 3,000 ดวง เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตครอบคลุมประชากรโลกถึง 95% การเปลี่ยนชื่อครั้งนี้สะท้อนว่าโครงการได้พ้นจากสถานะ “ทดลอง” และพร้อมเข้าสู่การเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ 🌐 ความคืบหน้าและการแข่งขันกับ Starlink แม้ Amazon จะเพิ่งส่งดาวเทียมปฏิบัติการชุดแรกจำนวน 27 ดวงขึ้นสู่วงโคจรในปีนี้ แต่คู่แข่งอย่าง SpaceX Starlink ได้เปิดบริการตั้งแต่ปี 2020 และขยายอย่างรวดเร็ว ทั้งการเชื่อมต่อกับสายการบินและผู้ให้บริการมือถือ ทำให้ Amazon Leo ยังต้องเร่งพัฒนาเพื่อไล่ตามการแข่งขันที่เข้มข้นในตลาดอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม 📡 เทคโนโลยีและการใช้งาน Amazon ได้ทดสอบเทคโนโลยีสำคัญ เช่น เครือข่ายเลเซอร์เชื่อมโยงดาวเทียม (laser mesh network) และเสาอากาศผู้ใช้ที่ออกแบบมาให้ติดตั้งง่าย การรีแบรนด์ครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่เปลี่ยนชื่อ แต่เป็นการประกาศความพร้อมที่จะให้บริการจริง ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนในเว็บไซต์ Amazon Leo เพื่อรับข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับการเปิดให้บริการในอนาคต ⚖️ มุมมองเชิงกลยุทธ์ การเข้าสู่ตลาดดาวเทียมวงโคจรต่ำของ Amazon ไม่เพียงแต่เป็นการขยายธุรกิจด้านคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังเป็นการสร้างระบบนิเวศที่เชื่อมโยงกับบริการอื่น ๆ ของบริษัท เช่น AWS และอีคอมเมิร์ซ การแข่งขันกับ Starlink จึงไม่ใช่แค่เรื่องความเร็วอินเทอร์เน็ต แต่ยังเป็นการวางรากฐานโครงสร้างการสื่อสารระดับโลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Amazon รีแบรนด์ Project Kuiper เป็น Amazon Leo ➡️ สะท้อนการใช้ดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) และความพร้อมเชิงพาณิชย์ ✅ เป้าหมายครอบคลุมประชากรโลก 95% ➡️ ใช้ดาวเทียมกว่า 3,000 ดวงเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ต ✅ เปิดตัวดาวเทียมปฏิบัติการชุดแรก 27 ดวงในปีนี้ ➡️ เป็นก้าวสำคัญหลังจากการทดสอบหลายปี ✅ เทคโนโลยี laser mesh network และเสาอากาศผู้ใช้ ➡️ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความง่ายในการเข้าถึง ✅ ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนในเว็บไซต์ Amazon Leo ➡️ เพื่อรับข้อมูลการเปิดให้บริการในอนาคต ‼️ การแข่งขันกับ Starlink เข้มข้นมาก ⛔ Starlink เปิดบริการตั้งแต่ปี 2020 และขยายอย่างรวดเร็ว ‼️ ยังไม่มีการประกาศวันเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ชัดเจน ⛔ ผู้ใช้ต้องรอติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจาก Amazon ‼️ ความเสี่ยงด้านการลงทุนและโครงสร้างพื้นฐาน ⛔ การสร้างเครือข่ายดาวเทียมจำนวนมหาศาลต้องใช้เวลาและต้นทุนสูง https://securityonline.info/project-kuiper-is-now-amazon-leo-amazon-rebrands-satellite-initiative-for-commercial-launch/
    SECURITYONLINE.INFO
    Project Kuiper is Now Amazon Leo: Amazon Rebrands Satellite Initiative for Commercial Launch
    Amazon officially rebranded its LEO satellite initiative, formerly Project Kuiper, as Amazon Leo, signaling its readiness to transition the network into a commercial product.
    0 Comments 0 Shares 348 Views 0 Reviews
  • ยอดใช้งานอินเทอร์เน็ตสตาร์ลิงก์ในพม่าดิ่งฮวบ , หลัง SpaceX ปิดระบบกว่า 2,500 เครื่องในพื้นที่ศูนย์สแกมเมอร์
    .
    Apnic เผยสัดส่วนผู้ใช้งาน Starlink จากเดิมกว่า 14% ลดลงเหลือไม่ถึง 7% หลังพบจานรับสัญญาณติดตั้งบนอาคารศูนย์หลอกลวงในเคเค พาร์ก ก่อน SpaceX สั่งปิดระบบจำนวนมาก ขณะเดียวกัน Starlink ถูกสอบสวนโดยรัฐสภาสหรัฐฯ กรณีเอื้อโครงข่ายหลอกลวงออนไลน์
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109019
    .
    #News1live #News1 #Starlink #SpaceX #พม่า #Myanmar #KKPark #สแกมเมอร์ #ศูนย์หลอกลวง #อินเทอร์เน็ตดาวเทียม #Apnic #อาชญากรรมไซเบอร์ #ข่าวต่างประเทศ #ThailandNews #newsupdate
    ยอดใช้งานอินเทอร์เน็ตสตาร์ลิงก์ในพม่าดิ่งฮวบ , หลัง SpaceX ปิดระบบกว่า 2,500 เครื่องในพื้นที่ศูนย์สแกมเมอร์ . Apnic เผยสัดส่วนผู้ใช้งาน Starlink จากเดิมกว่า 14% ลดลงเหลือไม่ถึง 7% หลังพบจานรับสัญญาณติดตั้งบนอาคารศูนย์หลอกลวงในเคเค พาร์ก ก่อน SpaceX สั่งปิดระบบจำนวนมาก ขณะเดียวกัน Starlink ถูกสอบสวนโดยรัฐสภาสหรัฐฯ กรณีเอื้อโครงข่ายหลอกลวงออนไลน์ . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109019 . #News1live #News1 #Starlink #SpaceX #พม่า #Myanmar #KKPark #สแกมเมอร์ #ศูนย์หลอกลวง #อินเทอร์เน็ตดาวเทียม #Apnic #อาชญากรรมไซเบอร์ #ข่าวต่างประเทศ #ThailandNews #newsupdate
    Like
    Angry
    4
    0 Comments 0 Shares 580 Views 0 Reviews
  • Musk ปั้นซัพพลายเชนชิปในสหรัฐ: จาก PCB สู่แพ็คเกจชิปขั้นสูง

    วิสัยทัศน์ “TeraFab” ของ Elon Musk เริ่มเห็นรูปธรรม: รายงานระบุว่ากำลังพัฒนาโรงงาน Advanced Packaging แบบ FOPLP ในเท็กซัส โดยมี SpaceX เป็นผู้จัดการเริ่มต้น ผลิตคอมโพเนนต์ RF สำหรับ Starlink เป้าหมายเดินเครื่องผลิตช่วงไตรมาส 3 ปี 2026 เพื่อแก้คอขวดซัพพลายเชนในสหรัฐและยกระดับอินทิเกรชันของโมดูล RF/พาวเวอร์ให้แน่นขึ้น ลดต้นทุนและเวลานำส่ง.

    สิ่งนี้สอดคล้องกับการสร้างฐาน PCB ขนาดมหึมาใน Bastrop, Texas ที่ประกาศว่าจะเป็น “โรงงาน PCB ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ” ผลิตอุปกรณ์ Starlink มหาศาล มีแผนเพิ่มดาวเทียมและลูกค้าอีกมาก โครงสร้างพื้นฐาน PCB ทำให้การต่อยอดสู่ FOPLP เป็นธรรมชาติ ทั้งกระบวนการผลิตมีส่วนร่วมกัน และช่วยเร่งสปรินต์ดีไซน์—ผลิต สำหรับระบบดาวเทียม.

    รายงานอีกฉบับชี้ว่าไลน์ FOPLP อาจใช้แผงขนาด 700×700 มม. ซึ่งท้าทายเรื่องการแอ่น/บิด แต่หากสเกลสำเร็จจะลดต้นทุนอย่างมาก และเพิ่มความเร็วการผลิต นอกจากนี้ การผลิตในประเทศช่วยตอบโจทย์สัญญาเชิงความมั่นคงและลดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ สำหรับเครือข่ายดาวเทียมที่มีการขยายตัวรวดเร็วของ SpaceX.

    ทั้งหมดตั้งอยู่บนภูมิทัศน์การผลิตที่กว้างขึ้นในเท็กซัส—ตั้งแต่ Starbase ที่เป็นฐานทดสอบ/ผลิต Starship ไปจนถึงฐานอุตสาหกรรมในหลายเมือง โครงสร้างพื้นฐานและแรงงานที่เพิ่มขึ้นช่วยโอบอุ้มแผน vertical integration ของ Musk ให้ขับเคลื่อนเร็วขึ้นในห่วงโซ่อิเล็กทรอนิกส์จาก PCB ถึงแพ็คเกจชิปขั้นสูง.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    FOPLP กำลังมา: โรงงานแพ็คเกจชิปขั้นสูงในเท็กซัส ตั้งเป้าเริ่มผลิต Q3 2026
    โฟกัสแรก: โมดูล RF/พาวเวอร์สำหรับ Starlink แบบแพ็คเกจอินทิเกรตแน่น ลดต้นทุนเวลานำส่ง

    ฐาน PCB มหึมา: Bastrop จะเป็นโรงงาน PCB ใหญ่สุดในสหรัฐ ผลิตอุปกรณ์ Starlink
    ผลกระทบ: เพิ่มความพึ่งพาตนเอง ลดการเอาท์ซอร์สเอเชีย และเร่งขยายเครือข่ายผู้ใช้

    สเกล 700×700 มม.: พยายามสเกล FOPLP บนแผงขนาดใหญ่อุตสาหกรรม
    ข้อดี: หากสำเร็จ ลดต้นทุนและเพิ่ม throughput อย่างมีนัยสำคัญ

    ระบบนิเวศเท็กซัส: โครงสร้างพื้นฐาน Starbase/โรงงานต่างๆ หนุน vertical integration
    ภาพรวม: สายการผลิตในประเทศสอดคล้องข้อกำหนดสัญญารัฐและลดเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์

    ความท้าทายเทคนิค: แผง FOPLP ใหญ่เสี่ยงการแอ่น/บิด และ yield ต่ำในช่วงแรก
    แนวทาง: ต้องลงทุนเครื่องมือ/กระบวนการควบคุมความเรียบและความแม่นยำขั้นสูง

    ไทม์ไลน์ผลิต: Q3 2026 เป็นกรอบเริ่มต้นที่อาจเลื่อนจากการติดตั้ง/ปรับจูน
    ข้อควรเฝ้าระวัง: ความพร้อมเครื่องจักร ซัพพลายเออร์ และทีมกระบวนการอาจกระทบกำลังผลิตเริ่มต้น

    https://wccftech.com/elon-musk-dramatic-chip-ambitions-have-already-started-to-play-out/
    🙎‍♂️ Musk ปั้นซัพพลายเชนชิปในสหรัฐ: จาก PCB สู่แพ็คเกจชิปขั้นสูง 🚀 วิสัยทัศน์ “TeraFab” ของ Elon Musk เริ่มเห็นรูปธรรม: รายงานระบุว่ากำลังพัฒนาโรงงาน Advanced Packaging แบบ FOPLP ในเท็กซัส โดยมี SpaceX เป็นผู้จัดการเริ่มต้น ผลิตคอมโพเนนต์ RF สำหรับ Starlink เป้าหมายเดินเครื่องผลิตช่วงไตรมาส 3 ปี 2026 เพื่อแก้คอขวดซัพพลายเชนในสหรัฐและยกระดับอินทิเกรชันของโมดูล RF/พาวเวอร์ให้แน่นขึ้น ลดต้นทุนและเวลานำส่ง. สิ่งนี้สอดคล้องกับการสร้างฐาน PCB ขนาดมหึมาใน Bastrop, Texas ที่ประกาศว่าจะเป็น “โรงงาน PCB ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ” ผลิตอุปกรณ์ Starlink มหาศาล มีแผนเพิ่มดาวเทียมและลูกค้าอีกมาก โครงสร้างพื้นฐาน PCB ทำให้การต่อยอดสู่ FOPLP เป็นธรรมชาติ ทั้งกระบวนการผลิตมีส่วนร่วมกัน และช่วยเร่งสปรินต์ดีไซน์—ผลิต สำหรับระบบดาวเทียม. รายงานอีกฉบับชี้ว่าไลน์ FOPLP อาจใช้แผงขนาด 700×700 มม. ซึ่งท้าทายเรื่องการแอ่น/บิด แต่หากสเกลสำเร็จจะลดต้นทุนอย่างมาก และเพิ่มความเร็วการผลิต นอกจากนี้ การผลิตในประเทศช่วยตอบโจทย์สัญญาเชิงความมั่นคงและลดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ สำหรับเครือข่ายดาวเทียมที่มีการขยายตัวรวดเร็วของ SpaceX. ทั้งหมดตั้งอยู่บนภูมิทัศน์การผลิตที่กว้างขึ้นในเท็กซัส—ตั้งแต่ Starbase ที่เป็นฐานทดสอบ/ผลิต Starship ไปจนถึงฐานอุตสาหกรรมในหลายเมือง โครงสร้างพื้นฐานและแรงงานที่เพิ่มขึ้นช่วยโอบอุ้มแผน vertical integration ของ Musk ให้ขับเคลื่อนเร็วขึ้นในห่วงโซ่อิเล็กทรอนิกส์จาก PCB ถึงแพ็คเกจชิปขั้นสูง. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ FOPLP กำลังมา: โรงงานแพ็คเกจชิปขั้นสูงในเท็กซัส ตั้งเป้าเริ่มผลิต Q3 2026 ➡️ โฟกัสแรก: โมดูล RF/พาวเวอร์สำหรับ Starlink แบบแพ็คเกจอินทิเกรตแน่น ลดต้นทุนเวลานำส่ง ✅ ฐาน PCB มหึมา: Bastrop จะเป็นโรงงาน PCB ใหญ่สุดในสหรัฐ ผลิตอุปกรณ์ Starlink ➡️ ผลกระทบ: เพิ่มความพึ่งพาตนเอง ลดการเอาท์ซอร์สเอเชีย และเร่งขยายเครือข่ายผู้ใช้ ✅ สเกล 700×700 มม.: พยายามสเกล FOPLP บนแผงขนาดใหญ่อุตสาหกรรม ➡️ ข้อดี: หากสำเร็จ ลดต้นทุนและเพิ่ม throughput อย่างมีนัยสำคัญ ✅ ระบบนิเวศเท็กซัส: โครงสร้างพื้นฐาน Starbase/โรงงานต่างๆ หนุน vertical integration ➡️ ภาพรวม: สายการผลิตในประเทศสอดคล้องข้อกำหนดสัญญารัฐและลดเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ‼️ ความท้าทายเทคนิค: แผง FOPLP ใหญ่เสี่ยงการแอ่น/บิด และ yield ต่ำในช่วงแรก ⛔ แนวทาง: ต้องลงทุนเครื่องมือ/กระบวนการควบคุมความเรียบและความแม่นยำขั้นสูง ‼️ ไทม์ไลน์ผลิต: Q3 2026 เป็นกรอบเริ่มต้นที่อาจเลื่อนจากการติดตั้ง/ปรับจูน ⛔ ข้อควรเฝ้าระวัง: ความพร้อมเครื่องจักร ซัพพลายเออร์ และทีมกระบวนการอาจกระทบกำลังผลิตเริ่มต้น https://wccftech.com/elon-musk-dramatic-chip-ambitions-have-already-started-to-play-out/
    WCCFTECH.COM
    Elon Musk’s Dramatic Chip Ambitions Are Already Taking Shape — And the Early Signs Look Highly Optimistic
    Elon Musk's statements around building up a chip supply were seen as 'ambitious', but it appears that Tesla already has efforts in place.
    0 Comments 0 Shares 382 Views 0 Reviews
  • เขาว่าดาวเทียมวงโคจรต่ำเลยนะ starlinkก็ว่า


    https://vm.tiktok.com/ZSH3e1ByjsHNt-FjW2Z/
    เขาว่าดาวเทียมวงโคจรต่ำเลยนะ starlinkก็ว่า https://vm.tiktok.com/ZSH3e1ByjsHNt-FjW2Z/
    @maygjgerol

    starLink sateLLites #balloons #starlink #fyp #viral الحقيقة The Truth 😁 @m3ct0n.3 @ganred7keller @كابتن @الله أكبر @সমতলে বিছানো স্হির পৃথিবী ২ @Ahmed Sanjar @ابراهيم @المستشار/ احمد كامل 𓂀⚖️ @خالدوك @Luna🍄🍀 @zeaid shelmane @Amir Shawky @COBRAHERO28 @WhiteMoon

    ♬ original sound - ⚜️Foorout⚜️
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • จริงเท็จไม่รู้,ดาวเทียมวงโคจรต่ำก็ว่า, บางคลิปก็ของรุ่นstarlinkก็มี.

    บอลลูนดาวเทียมวงโคจรต่ำ ,ฝ่ายมืดมากมายมันชอบขายฝัน ขายความคาดหวังให้ผู้คน,หลอกลวงว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ตรึม,เพื่อควบคุมนุดๆแบบเราๆให้เป็นทาสมันนี้ล่ะ

    https://vm.tiktok.com/ZSH3JcqjDLb1q-9m6Qm/
    จริงเท็จไม่รู้,ดาวเทียมวงโคจรต่ำก็ว่า, บางคลิปก็ของรุ่นstarlinkก็มี. บอลลูนดาวเทียมวงโคจรต่ำ ,ฝ่ายมืดมากมายมันชอบขายฝัน ขายความคาดหวังให้ผู้คน,หลอกลวงว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ตรึม,เพื่อควบคุมนุดๆแบบเราๆให้เป็นทาสมันนี้ล่ะ https://vm.tiktok.com/ZSH3JcqjDLb1q-9m6Qm/
    @maygjgerol

    مسلسل سقوط الأقمار الاصطناعية the series of satellites crashes continues #مسلسل #الأقمار_الاصطناعية #satellites #flpシ #foryou satellites🛰️🎈 مسلسل سقوط الوهم

    ♬ Mission Impossible - Adam Clayton
    0 Comments 0 Shares 147 Views 0 Reviews
  • "Vodafone Germany ปิดประตูอินเทอร์เน็ตเสรี – ลูกค้าเตรียมรับมือกับยุคมืดของการเชื่อมต่อ"

    ลองจินตนาการว่าอินเทอร์เน็ตที่คุณจ่ายเงินเพื่อใช้งานทุกเดือน ไม่ได้เชื่อมต่อกับโลกภายนอกอย่างที่คุณคิด… นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในเยอรมนี เมื่อ Vodafone Germany ตัดสินใจถอนตัวจากจุดแลกเปลี่ยนข้อมูลสาธารณะ (Internet Exchange Points) และหันไปใช้บริการของบริษัทกลางชื่อ Inter.link แทน

    การเปลี่ยนแปลงนี้อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเทคนิค แต่ผลกระทบกลับรุนแรงต่อผู้ใช้งานทั่วไปอย่างเราๆ เพราะมันหมายถึงว่า การเข้าถึงเว็บไซต์ยอดนิยมอย่าง YouTube, Netflix, GitHub หรือแม้แต่เกมออนไลน์ อาจช้าลง กระตุก หรือเข้าไม่ได้เลยในช่วงเวลาสำคัญ

    Vodafone อ้างว่า การเปลี่ยนมาใช้ Inter.link จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่หลักฐานจาก Deutsche Telekom ซึ่งเคยทำแบบเดียวกันมาก่อน กลับชี้ว่าผู้ใช้งานจะเจอกับ "นรกแห่งการเชื่อมต่อ" ที่เต็มไปด้วยความล่าช้าและการตัดขาดจากบริการสำคัญ

    สิ่งที่น่ากังวลคือ โมเดลใหม่นี้เปลี่ยนอินเทอร์เน็ตจากระบบที่ทุกฝ่ายร่วมมือกัน เป็นระบบที่บริษัทกลางเรียกเก็บเงินจากผู้ให้บริการเนื้อหา หากไม่จ่าย…ลูกค้าก็จะไม่ได้รับบริการที่ดี

    Vodafone Germany เปลี่ยนโครงสร้างการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    ถอนตัวจากจุดแลกเปลี่ยนข้อมูลสาธารณะ เช่น DE-CIX Frankfurt
    หันไปใช้บริการ Inter.link ซึ่งเป็นบริษัทกลางที่จัดการการเชื่อมต่อ
    อ้างว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความเสถียร

    Inter.link มีนโยบาย "ไม่เชื่อมต่อกับลูกค้าโดยตรง"
    ผู้ให้บริการเนื้อหา เช่น YouTube หรือ Netflix ต้องจ่ายเงินเพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย Vodafone
    หากไม่จ่าย อาจเกิดการเชื่อมต่อที่ช้า หรือไม่เสถียร

    Deutsche Telekom เคยใช้โมเดลนี้มาก่อน
    ลูกค้าประสบปัญหา GitHub ดาวน์โหลดช้า เกมออนไลน์กระตุก
    VPN กลายเป็นทางออกเดียวที่ช่วยให้ใช้งานได้ตามปกติ

    ทางเลือกใหม่: อินเทอร์เน็ตดาวเทียม
    Starlink ให้บริการที่ไม่ขึ้นกับโครงสร้าง ISP แบบเดิม
    ความเร็วและความเสถียรสูงกว่าในช่วงเวลาที่ Vodafone มีปัญหา

    https://coffee.link/vodafone-germany-is-killing-the-open-internet-one-peering-connection-at-a-time/
    👿 "Vodafone Germany ปิดประตูอินเทอร์เน็ตเสรี – ลูกค้าเตรียมรับมือกับยุคมืดของการเชื่อมต่อ" ลองจินตนาการว่าอินเทอร์เน็ตที่คุณจ่ายเงินเพื่อใช้งานทุกเดือน ไม่ได้เชื่อมต่อกับโลกภายนอกอย่างที่คุณคิด… นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในเยอรมนี เมื่อ Vodafone Germany ตัดสินใจถอนตัวจากจุดแลกเปลี่ยนข้อมูลสาธารณะ (Internet Exchange Points) และหันไปใช้บริการของบริษัทกลางชื่อ Inter.link แทน การเปลี่ยนแปลงนี้อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเทคนิค แต่ผลกระทบกลับรุนแรงต่อผู้ใช้งานทั่วไปอย่างเราๆ เพราะมันหมายถึงว่า การเข้าถึงเว็บไซต์ยอดนิยมอย่าง YouTube, Netflix, GitHub หรือแม้แต่เกมออนไลน์ อาจช้าลง กระตุก หรือเข้าไม่ได้เลยในช่วงเวลาสำคัญ Vodafone อ้างว่า การเปลี่ยนมาใช้ Inter.link จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่หลักฐานจาก Deutsche Telekom ซึ่งเคยทำแบบเดียวกันมาก่อน กลับชี้ว่าผู้ใช้งานจะเจอกับ "นรกแห่งการเชื่อมต่อ" ที่เต็มไปด้วยความล่าช้าและการตัดขาดจากบริการสำคัญ สิ่งที่น่ากังวลคือ โมเดลใหม่นี้เปลี่ยนอินเทอร์เน็ตจากระบบที่ทุกฝ่ายร่วมมือกัน เป็นระบบที่บริษัทกลางเรียกเก็บเงินจากผู้ให้บริการเนื้อหา หากไม่จ่าย…ลูกค้าก็จะไม่ได้รับบริการที่ดี ✅ Vodafone Germany เปลี่ยนโครงสร้างการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ➡️ ถอนตัวจากจุดแลกเปลี่ยนข้อมูลสาธารณะ เช่น DE-CIX Frankfurt ➡️ หันไปใช้บริการ Inter.link ซึ่งเป็นบริษัทกลางที่จัดการการเชื่อมต่อ ➡️ อ้างว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความเสถียร ✅ Inter.link มีนโยบาย "ไม่เชื่อมต่อกับลูกค้าโดยตรง" ➡️ ผู้ให้บริการเนื้อหา เช่น YouTube หรือ Netflix ต้องจ่ายเงินเพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย Vodafone ➡️ หากไม่จ่าย อาจเกิดการเชื่อมต่อที่ช้า หรือไม่เสถียร ✅ Deutsche Telekom เคยใช้โมเดลนี้มาก่อน ➡️ ลูกค้าประสบปัญหา GitHub ดาวน์โหลดช้า เกมออนไลน์กระตุก ➡️ VPN กลายเป็นทางออกเดียวที่ช่วยให้ใช้งานได้ตามปกติ ✅ ทางเลือกใหม่: อินเทอร์เน็ตดาวเทียม ➡️ Starlink ให้บริการที่ไม่ขึ้นกับโครงสร้าง ISP แบบเดิม ➡️ ความเร็วและความเสถียรสูงกว่าในช่วงเวลาที่ Vodafone มีปัญหา https://coffee.link/vodafone-germany-is-killing-the-open-internet-one-peering-connection-at-a-time/
    COFFEE.LINK
    Vodafone Germany is changing the open internet — one peering connection at a time
    The telecom giant claims its exit from public internet exchanges will give customers "lower latencies." The evidence suggests they're in for a nightmare.
    0 Comments 0 Shares 219 Views 0 Reviews
  • Starlink ผนึกกำลัง Veon เปิดศักราชใหม่ “มือถือเชื่อมดาวเทียม” ทะลุ 150 ล้านผู้ใช้

    ในยุคที่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตยังไม่ทั่วถึงทุกพื้นที่ Elon Musk และทีม Starlink กำลังพลิกโฉมโลกการสื่อสาร ด้วยเทคโนโลยี “Direct-to-Cell” ที่ทำให้มือถือธรรมดาเชื่อมต่อกับดาวเทียมได้โดยตรง ล่าสุด Starlink เซ็นสัญญาครั้งใหญ่กับ Veon กลุ่มโทรคมนาคมระดับโลก เปิดทางให้ผู้ใช้กว่า 150 ล้านคนเข้าถึงบริการนี้

    Starlink ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SpaceX ได้ประกาศดีลครั้งใหญ่กับ Veon ผู้ให้บริการโทรคมนาคมในหลายประเทศ เช่น ปากีสถาน บังกลาเทศ และยูเครน โดยดีลนี้จะเปิดทางให้ผู้ใช้ในพื้นที่ห่างไกลสามารถใช้มือถือเชื่อมต่อกับดาวเทียมได้โดยตรง โดยไม่ต้องพึ่งเสาสัญญาณหรือเครือข่ายพื้นฐาน

    เทคโนโลยี “Direct-to-Cell” นี้ทำให้มือถือสามารถรับสัญญาณจากดาวเทียมที่โคจรอยู่เหนือโลก แล้วส่งกลับมายังพื้นดินได้ทันที ซึ่งต่างจากระบบเดิมที่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษหรืออยู่ในพื้นที่ที่มีเสาสัญญาณ

    ดีลนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในสงครามเทคโนโลยีระหว่างผู้ให้บริการดาวเทียม เช่น AST SpaceMobile, Lynk Global และ Starlink ที่กำลังแข่งขันกันเพื่อครองตลาด “มือถือเชื่อมดาวเทียม” ซึ่งคาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

    ข้อตกลงระหว่าง Starlink และ Veon
    Starlink เซ็นดีลกับ Veon เพื่อให้บริการ Direct-to-Cell แก่ผู้ใช้กว่า 150 ล้านคน
    ครอบคลุมประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก เช่น ปากีสถาน บังกลาเทศ และยูเครน
    เป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดของ Starlink ในด้านการเชื่อมต่อมือถือผ่านดาวเทียม

    เทคโนโลยี Direct-to-Cell คืออะไร
    เป็นการเชื่อมต่อมือถือกับดาวเทียมโดยตรง โดยไม่ต้องใช้เสาสัญญาณ
    ใช้ดาวเทียมในวงโคจรต่ำ (LEO) ส่งสัญญาณกลับมายังพื้นโลก
    ช่วยให้พื้นที่ห่างไกลหรือภัยพิบัติสามารถสื่อสารได้ทันที

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคม
    ผู้ให้บริการเครือข่ายพื้นฐานอาจต้องปรับตัวหรือร่วมมือกับผู้ให้บริการดาวเทียม
    เปิดโอกาสให้เกิดบริการใหม่ เช่น การสื่อสารในพื้นที่ห่างไกล, การช่วยเหลือฉุกเฉิน
    เพิ่มการแข่งขันในตลาดโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    การใช้ดาวเทียมอาจมีข้อจำกัดด้านความเร็วและความหน่วงของสัญญาณ
    ต้องมีการปรับปรุงมือถือให้รองรับเทคโนโลยีนี้อย่างเต็มรูปแบบ
    ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลต้องได้รับการดูแลอย่างเข้มงวด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/07/starlink-signs-landmark-global-direct-to-cell-deal-with-veon-as-satellite-to-phone-race-heats-up
    🚀 Starlink ผนึกกำลัง Veon เปิดศักราชใหม่ “มือถือเชื่อมดาวเทียม” ทะลุ 150 ล้านผู้ใช้ ในยุคที่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตยังไม่ทั่วถึงทุกพื้นที่ Elon Musk และทีม Starlink กำลังพลิกโฉมโลกการสื่อสาร ด้วยเทคโนโลยี “Direct-to-Cell” ที่ทำให้มือถือธรรมดาเชื่อมต่อกับดาวเทียมได้โดยตรง ล่าสุด Starlink เซ็นสัญญาครั้งใหญ่กับ Veon กลุ่มโทรคมนาคมระดับโลก เปิดทางให้ผู้ใช้กว่า 150 ล้านคนเข้าถึงบริการนี้ Starlink ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SpaceX ได้ประกาศดีลครั้งใหญ่กับ Veon ผู้ให้บริการโทรคมนาคมในหลายประเทศ เช่น ปากีสถาน บังกลาเทศ และยูเครน โดยดีลนี้จะเปิดทางให้ผู้ใช้ในพื้นที่ห่างไกลสามารถใช้มือถือเชื่อมต่อกับดาวเทียมได้โดยตรง โดยไม่ต้องพึ่งเสาสัญญาณหรือเครือข่ายพื้นฐาน เทคโนโลยี “Direct-to-Cell” นี้ทำให้มือถือสามารถรับสัญญาณจากดาวเทียมที่โคจรอยู่เหนือโลก แล้วส่งกลับมายังพื้นดินได้ทันที ซึ่งต่างจากระบบเดิมที่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษหรืออยู่ในพื้นที่ที่มีเสาสัญญาณ ดีลนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในสงครามเทคโนโลยีระหว่างผู้ให้บริการดาวเทียม เช่น AST SpaceMobile, Lynk Global และ Starlink ที่กำลังแข่งขันกันเพื่อครองตลาด “มือถือเชื่อมดาวเทียม” ซึ่งคาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ✅ ข้อตกลงระหว่าง Starlink และ Veon ➡️ Starlink เซ็นดีลกับ Veon เพื่อให้บริการ Direct-to-Cell แก่ผู้ใช้กว่า 150 ล้านคน ➡️ ครอบคลุมประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก เช่น ปากีสถาน บังกลาเทศ และยูเครน ➡️ เป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดของ Starlink ในด้านการเชื่อมต่อมือถือผ่านดาวเทียม ✅ เทคโนโลยี Direct-to-Cell คืออะไร ➡️ เป็นการเชื่อมต่อมือถือกับดาวเทียมโดยตรง โดยไม่ต้องใช้เสาสัญญาณ ➡️ ใช้ดาวเทียมในวงโคจรต่ำ (LEO) ส่งสัญญาณกลับมายังพื้นโลก ➡️ ช่วยให้พื้นที่ห่างไกลหรือภัยพิบัติสามารถสื่อสารได้ทันที ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคม ➡️ ผู้ให้บริการเครือข่ายพื้นฐานอาจต้องปรับตัวหรือร่วมมือกับผู้ให้บริการดาวเทียม ➡️ เปิดโอกาสให้เกิดบริการใหม่ เช่น การสื่อสารในพื้นที่ห่างไกล, การช่วยเหลือฉุกเฉิน ➡️ เพิ่มการแข่งขันในตลาดโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ การใช้ดาวเทียมอาจมีข้อจำกัดด้านความเร็วและความหน่วงของสัญญาณ ⛔ ต้องมีการปรับปรุงมือถือให้รองรับเทคโนโลยีนี้อย่างเต็มรูปแบบ ⛔ ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลต้องได้รับการดูแลอย่างเข้มงวด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/07/starlink-signs-landmark-global-direct-to-cell-deal-with-veon-as-satellite-to-phone-race-heats-up
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Starlink signs landmark global direct-to-cell deal with Veon as satellite-to-phone race heats up
    (Reuters) -Elon Musk's Starlink, a subsidiary of SpaceX, secured its largest direct-to-cell deal yet with telecoms group Veon, granting access to over 150 million potential customers, both companies said on Thursday, as competition in satellite-to-smartphone connectivity intensifies.
    0 Comments 0 Shares 289 Views 0 Reviews
  • หัวข้อข่าว: เกมที่เธอเขียนบนเรือ กลายเป็นชีวิตที่ลอยอยู่ได้

    Lente Cuenen นักพัฒนาเกมสาวชาวดัตช์วัย 25 ปี สร้างเกม “Spilled!” บนเรือที่เธออาศัยอยู่ใกล้กรุงอัมสเตอร์ดัม เกมที่สะท้อนชีวิต ความทรงจำ และความเชื่อเรื่องสิ่งแวดล้อมของเธอ กลายเป็นผลงานอินดี้ที่ขายได้เกือบ 100,000 ชุด สร้างรายได้กว่า US$425,000 และทำให้เธอสามารถเป็นเจ้าของเรือได้อย่างเต็มตัว

    ลองจินตนาการว่าคุณใช้ชีวิตอยู่บนเรือไม้เก่าๆ ที่เคยเป็นบ้านของครอบครัวมาก่อน แล้ววันหนึ่งคุณตัดสินใจสร้างเกมเกี่ยวกับการทำความสะอาดแม่น้ำบนเรือลำใหม่ที่คุณซื้อด้วยเงินกู้จากแม่ — นี่คือชีวิตจริงของ Lente Cuenen

    เธอเติบโตบนเรือบรรทุกสินค้าเก่า “Twee Gezusters” ที่ครอบครัวใช้เป็นบ้านนานเกือบ 20 ปี ความรักในเรือและธรรมชาติฝังลึกในตัวเธอ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างเกม “Spilled!” ที่ผู้เล่นต้องทำความสะอาดน้ำที่ปนเปื้อนด้วยน้ำมัน

    แม้จะไม่มีงบการตลาด แต่เธอใช้เรื่องราวชีวิตบนเรือโพสต์ลง Twitter จนกลายเป็นกระแส เกมขายได้เกือบแสนชุดบน Steam และเธอสามารถคืนเงินกู้ให้แม่ได้ภายในปีเดียว

    เธอใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายบนเรือ “Zusje V” ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์และอินเทอร์เน็ตผ่าน Starlink ใช้ MacBook ที่เต็มไปด้วยสติกเกอร์โปเกมอนและจอย PS3 เก่าๆ ในการพัฒนาเกม

    เกมของเธอไม่ใช่แค่เรื่องเล่นสนุก แต่เป็นการสะท้อนความเชื่อเรื่องการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน เธอบริจาค 10 เซ็นต์จากทุกยอดขายให้กับกองทุนอนุรักษ์วาฬและโลมา

    ชีวิตและแรงบันดาลใจของ Lente Cuenen
    เติบโตบนเรือเก่าที่ครอบครัวใช้เป็นบ้าน
    ซื้อเรือใหม่ด้วยเงินกู้จากแม่เพื่อใช้เป็นบ้านและที่ทำงาน
    ใช้ชีวิตเรียบง่ายด้วยพลังงานแสงอาทิตย์และอุปกรณ์มือสอง

    เกม Spilled! และความสำเร็จ
    เกมแนวทำความสะอาดแม่น้ำจากน้ำมัน
    ขายได้เกือบ 100,000 ชุดบน Steam
    สร้างรายได้กว่า US$425,000
    บริจาคส่วนหนึ่งให้กองทุนอนุรักษ์สัตว์น้ำ

    ความเชื่อและไลฟ์สไตล์
    ใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน หลีกเลี่ยงการซื้อของใหม่
    เกมสะท้อนความเชื่อเรื่องสิ่งแวดล้อมและความเรียบง่าย
    มีรอยสักชื่อเรือเก่าของครอบครัว “Twee Gezusters 1920” บนแขน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/06/the-game-she-wrote-on-a-boat-kept-her-afloat
    ⛵ หัวข้อข่าว: เกมที่เธอเขียนบนเรือ กลายเป็นชีวิตที่ลอยอยู่ได้ Lente Cuenen นักพัฒนาเกมสาวชาวดัตช์วัย 25 ปี สร้างเกม “Spilled!” บนเรือที่เธออาศัยอยู่ใกล้กรุงอัมสเตอร์ดัม เกมที่สะท้อนชีวิต ความทรงจำ และความเชื่อเรื่องสิ่งแวดล้อมของเธอ กลายเป็นผลงานอินดี้ที่ขายได้เกือบ 100,000 ชุด สร้างรายได้กว่า US$425,000 และทำให้เธอสามารถเป็นเจ้าของเรือได้อย่างเต็มตัว ลองจินตนาการว่าคุณใช้ชีวิตอยู่บนเรือไม้เก่าๆ ที่เคยเป็นบ้านของครอบครัวมาก่อน แล้ววันหนึ่งคุณตัดสินใจสร้างเกมเกี่ยวกับการทำความสะอาดแม่น้ำบนเรือลำใหม่ที่คุณซื้อด้วยเงินกู้จากแม่ — นี่คือชีวิตจริงของ Lente Cuenen เธอเติบโตบนเรือบรรทุกสินค้าเก่า “Twee Gezusters” ที่ครอบครัวใช้เป็นบ้านนานเกือบ 20 ปี ความรักในเรือและธรรมชาติฝังลึกในตัวเธอ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างเกม “Spilled!” ที่ผู้เล่นต้องทำความสะอาดน้ำที่ปนเปื้อนด้วยน้ำมัน แม้จะไม่มีงบการตลาด แต่เธอใช้เรื่องราวชีวิตบนเรือโพสต์ลง Twitter จนกลายเป็นกระแส เกมขายได้เกือบแสนชุดบน Steam และเธอสามารถคืนเงินกู้ให้แม่ได้ภายในปีเดียว เธอใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายบนเรือ “Zusje V” ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์และอินเทอร์เน็ตผ่าน Starlink ใช้ MacBook ที่เต็มไปด้วยสติกเกอร์โปเกมอนและจอย PS3 เก่าๆ ในการพัฒนาเกม เกมของเธอไม่ใช่แค่เรื่องเล่นสนุก แต่เป็นการสะท้อนความเชื่อเรื่องการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน เธอบริจาค 10 เซ็นต์จากทุกยอดขายให้กับกองทุนอนุรักษ์วาฬและโลมา ✅ ชีวิตและแรงบันดาลใจของ Lente Cuenen ➡️ เติบโตบนเรือเก่าที่ครอบครัวใช้เป็นบ้าน ➡️ ซื้อเรือใหม่ด้วยเงินกู้จากแม่เพื่อใช้เป็นบ้านและที่ทำงาน ➡️ ใช้ชีวิตเรียบง่ายด้วยพลังงานแสงอาทิตย์และอุปกรณ์มือสอง ✅ เกม Spilled! และความสำเร็จ ➡️ เกมแนวทำความสะอาดแม่น้ำจากน้ำมัน ➡️ ขายได้เกือบ 100,000 ชุดบน Steam ➡️ สร้างรายได้กว่า US$425,000 ➡️ บริจาคส่วนหนึ่งให้กองทุนอนุรักษ์สัตว์น้ำ ✅ ความเชื่อและไลฟ์สไตล์ ➡️ ใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน หลีกเลี่ยงการซื้อของใหม่ ➡️ เกมสะท้อนความเชื่อเรื่องสิ่งแวดล้อมและความเรียบง่าย ➡️ มีรอยสักชื่อเรือเก่าของครอบครัว “Twee Gezusters 1920” บนแขน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/06/the-game-she-wrote-on-a-boat-kept-her-afloat
    WWW.THESTAR.COM.MY
    The game she wrote on a boat kept her afloat
    By sharing details of her seafaring life, a young designer found an audience for her cozy game about cleaning polluted waterways.
    0 Comments 0 Shares 359 Views 0 Reviews
  • หัวข้อข่าว: “อินเทอร์เน็ตโลกยังเปราะบาง – Cloudflare เผยเบื้องหลังการล่มจากสายเคเบิล,ภัยธรรมชาติ และคำสั่งรัฐ”

    รายงานล่าสุดจาก Cloudflare เผยว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2025 โลกเผชิญกับการล่มของอินเทอร์เน็ตจากหลายสาเหตุ ทั้งภัยธรรมชาติ, การก่อสร้าง, การโจมตีไซเบอร์ และคำสั่งจากรัฐบาล โดยมีผลกระทบต่อผู้ใช้งานในกว่า 125 ประเทศ.

    ลองนึกภาพว่าแค่กระสุนหลงในเท็กซัสก็สามารถทำให้ผู้ใช้ Spectrum หลายพันคนใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่ได้ถึง 2 ชั่วโมง นี่คือหนึ่งในหลายกรณีที่ Cloudflare รวบรวมไว้ในรายงาน “Q3 Internet Disruptions” ซึ่งชี้ให้เห็นว่าโครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ตทั่วโลกยังคงเปราะบางอย่างมาก

    รายงานระบุว่า:
    รัฐบาลยังคงเป็นต้นเหตุหลักของการล่ม เช่น อิรัก, ซีเรีย และซูดาน ที่สั่งปิดอินเทอร์เน็ตช่วงสอบระดับชาติ เพื่อป้องกันการโกงข้อสอบ
    ภัยธรรมชาติและอุบัติเหตุ เช่น แผ่นดินไหวขนาด 8.8 ในคัมชัตกา, ไฟไหม้ศูนย์กลางโทรคมนาคมในอียิปต์, และการตัดสายเคเบิลจากการก่อสร้างในแองโกลาและโดมินิกัน
    การโจมตีไซเบอร์และความผิดพลาดของระบบ เช่น Starlink ที่ล่มทั่วโลกในวันที่ 24 กรกฎาคม จากความผิดพลาดของซอฟต์แวร์ภายใน

    แม้จะมีเทคโนโลยีป้องกัน DDoS และระบบ routing ที่ทันสมัย แต่เมื่อโครงสร้างพื้นฐานถูกทำลายหรือถูกสั่งปิด อินเทอร์เน็ตก็ยังคงล่มได้ง่าย

    Cloudflare เผยรายงาน Q3 Internet Disruptions ปี 2025
    ครอบคลุมเหตุการณ์ล่มใน 125 ประเทศจากหลายสาเหตุ

    รัฐบาลยังคงใช้การปิดอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือควบคุม
    เช่น อิรัก, ซีเรีย, ซูดาน ปิดเน็ตช่วงสอบเพื่อป้องกันการโกง

    ภัยธรรมชาติและอุบัติเหตุเป็นสาเหตุสำคัญ
    แผ่นดินไหวในรัสเซีย, ไฟไหม้ในอียิปต์, กระสุนหลงในเท็กซัส

    การก่อสร้างทำให้สายเคเบิลถูกตัด
    ส่งผลให้การเชื่อมต่อหยุดชะงักหลายชั่วโมงในหลายประเทศ

    Starlink ล่มทั่วโลกจากความผิดพลาดของระบบ
    แสดงให้เห็นว่าแม้ระบบดาวเทียมก็ยังไม่ปลอดภัยจากข้อผิดพลาดภายใน

    Cloudflare ใช้ข้อมูลจากเครือข่ายใน 330 เมืองทั่วโลก
    เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการล่มและสาเหตุที่แท้จริง

    https://www.techradar.com/pro/disasters-shutdowns-and-cable-damage-galore-cloudflare-study-reveals-whats-really-been-behind-all-the-recent-internet-outages
    🌐⚡ หัวข้อข่าว: “อินเทอร์เน็ตโลกยังเปราะบาง – Cloudflare เผยเบื้องหลังการล่มจากสายเคเบิล,ภัยธรรมชาติ และคำสั่งรัฐ” รายงานล่าสุดจาก Cloudflare เผยว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2025 โลกเผชิญกับการล่มของอินเทอร์เน็ตจากหลายสาเหตุ ทั้งภัยธรรมชาติ, การก่อสร้าง, การโจมตีไซเบอร์ และคำสั่งจากรัฐบาล โดยมีผลกระทบต่อผู้ใช้งานในกว่า 125 ประเทศ. ลองนึกภาพว่าแค่กระสุนหลงในเท็กซัสก็สามารถทำให้ผู้ใช้ Spectrum หลายพันคนใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่ได้ถึง 2 ชั่วโมง นี่คือหนึ่งในหลายกรณีที่ Cloudflare รวบรวมไว้ในรายงาน “Q3 Internet Disruptions” ซึ่งชี้ให้เห็นว่าโครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ตทั่วโลกยังคงเปราะบางอย่างมาก รายงานระบุว่า: 📍 รัฐบาลยังคงเป็นต้นเหตุหลักของการล่ม เช่น อิรัก, ซีเรีย และซูดาน ที่สั่งปิดอินเทอร์เน็ตช่วงสอบระดับชาติ เพื่อป้องกันการโกงข้อสอบ 📍 ภัยธรรมชาติและอุบัติเหตุ เช่น แผ่นดินไหวขนาด 8.8 ในคัมชัตกา, ไฟไหม้ศูนย์กลางโทรคมนาคมในอียิปต์, และการตัดสายเคเบิลจากการก่อสร้างในแองโกลาและโดมินิกัน 📍 การโจมตีไซเบอร์และความผิดพลาดของระบบ เช่น Starlink ที่ล่มทั่วโลกในวันที่ 24 กรกฎาคม จากความผิดพลาดของซอฟต์แวร์ภายใน แม้จะมีเทคโนโลยีป้องกัน DDoS และระบบ routing ที่ทันสมัย แต่เมื่อโครงสร้างพื้นฐานถูกทำลายหรือถูกสั่งปิด อินเทอร์เน็ตก็ยังคงล่มได้ง่าย ✅ Cloudflare เผยรายงาน Q3 Internet Disruptions ปี 2025 ➡️ ครอบคลุมเหตุการณ์ล่มใน 125 ประเทศจากหลายสาเหตุ ✅ รัฐบาลยังคงใช้การปิดอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือควบคุม ➡️ เช่น อิรัก, ซีเรีย, ซูดาน ปิดเน็ตช่วงสอบเพื่อป้องกันการโกง ✅ ภัยธรรมชาติและอุบัติเหตุเป็นสาเหตุสำคัญ ➡️ แผ่นดินไหวในรัสเซีย, ไฟไหม้ในอียิปต์, กระสุนหลงในเท็กซัส ✅ การก่อสร้างทำให้สายเคเบิลถูกตัด ➡️ ส่งผลให้การเชื่อมต่อหยุดชะงักหลายชั่วโมงในหลายประเทศ ✅ Starlink ล่มทั่วโลกจากความผิดพลาดของระบบ ➡️ แสดงให้เห็นว่าแม้ระบบดาวเทียมก็ยังไม่ปลอดภัยจากข้อผิดพลาดภายใน ✅ Cloudflare ใช้ข้อมูลจากเครือข่ายใน 330 เมืองทั่วโลก ➡️ เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการล่มและสาเหตุที่แท้จริง https://www.techradar.com/pro/disasters-shutdowns-and-cable-damage-galore-cloudflare-study-reveals-whats-really-been-behind-all-the-recent-internet-outages
    WWW.TECHRADAR.COM
    Fires, bullets, and earthquakes can easily take the internet down
    Little things like a stray bullet in Texas can disrupt entire network connections
    0 Comments 0 Shares 414 Views 0 Reviews
  • ศูนย์ข้อมูลประกอบตัวเองในอวกาศ: เมื่อ AI, หุ่นยนต์ และอวกาศมาบรรจบกัน

    Rendezvous Robotics และ Starcloud กำลังปฏิวัติวงการศูนย์ข้อมูล ด้วยแนวคิดสร้าง Data Center ขนาดยักษ์ในอวกาศที่สามารถประกอบตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้มนุษย์!

    ลองจินตนาการถึงศูนย์ข้อมูลขนาด 5 กิกะวัตต์ ลอยอยู่ในอวกาศ ประกอบตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้มือมนุษย์ — ฟังดูเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์ใช่ไหม? แต่ตอนนี้มันกำลังจะกลายเป็นจริงแล้ว

    บริษัท Starcloud ซึ่งมีแผนจะส่งดาวเทียมที่ติดตั้ง GPU Nvidia H100 ขึ้นสู่วงโคจรในเดือนหน้า ได้จับมือกับ Rendezvous Robotics บริษัทสตาร์ทอัพจาก MIT ที่พัฒนาเทคโนโลยี “TESSERAE” — โมดูลแบบแผ่นกระเบื้องที่สามารถประกอบตัวเองในอวกาศได้ด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า

    เป้าหมายคือสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดมหึมาในอวกาศ โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ที่ไม่มีวันหมด และหลีกเลี่ยงปัญหาสิ่งแวดล้อมจากศูนย์ข้อมูลบนโลกที่กินพลังงานมหาศาล

    Elon Musk ยังออกมาแสดงความเห็นว่า Starlink รุ่น V3 ของ SpaceX ก็จะสามารถทำแบบนี้ได้เช่นกัน โดยจะมีความเร็วสูงถึง 1 Tbps ซึ่งมากกว่ารุ่นปัจจุบันถึง 10 เท่า

    ความร่วมมือระหว่าง Starcloud และ Rendezvous Robotics
    สร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศที่สามารถประกอบตัวเองได้
    ใช้เทคโนโลยี TESSERAE จาก MIT Media Lab
    โมดูลแต่ละชิ้นมีแบตเตอรี่ โปรเซสเซอร์ และระบบแม่เหล็กไฟฟ้า
    ลดความจำเป็นในการใช้มนุษย์หรือแขนกลในการประกอบ
    ศูนย์ข้อมูลจะใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 4x4 กิโลเมตร
    ใหญ่กว่าระบบโซลาร์ของสถานีอวกาศนานาชาติถึง 20,000 เท่า

    จุดเด่นของศูนย์ข้อมูลในอวกาศ
    ไม่ต้องใช้พื้นที่บนโลก
    ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    ลดปัญหาความร้อนและการระบายอากาศ
    รองรับการประมวลผล AI ขนาดใหญ่ในอนาคต

    ความท้าทายและข้อควรระวัง
    การระบายความร้อนในอวกาศยังเป็นปัญหาใหญ่
    ค่าใช้จ่ายในการส่งอุปกรณ์ขึ้นสู่วงโคจรยังสูงมาก
    ต้องมีระบบควบคุมอัตโนมัติที่แม่นยำและปลอดภัย
    ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนจาก SpaceX ว่าจะร่วมมือจริงหรือไม่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/self-assembling-data-centers-in-space-are-becoming-reality-as-rendezvous-robotics-partners-with-starcloud-elon-musk-chimes-in-that-spacex-will-be-doing-this
    🛰️ ศูนย์ข้อมูลประกอบตัวเองในอวกาศ: เมื่อ AI, หุ่นยนต์ และอวกาศมาบรรจบกัน Rendezvous Robotics และ Starcloud กำลังปฏิวัติวงการศูนย์ข้อมูล ด้วยแนวคิดสร้าง Data Center ขนาดยักษ์ในอวกาศที่สามารถประกอบตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้มนุษย์! ลองจินตนาการถึงศูนย์ข้อมูลขนาด 5 กิกะวัตต์ ลอยอยู่ในอวกาศ ประกอบตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้มือมนุษย์ — ฟังดูเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์ใช่ไหม? แต่ตอนนี้มันกำลังจะกลายเป็นจริงแล้ว บริษัท Starcloud ซึ่งมีแผนจะส่งดาวเทียมที่ติดตั้ง GPU Nvidia H100 ขึ้นสู่วงโคจรในเดือนหน้า ได้จับมือกับ Rendezvous Robotics บริษัทสตาร์ทอัพจาก MIT ที่พัฒนาเทคโนโลยี “TESSERAE” — โมดูลแบบแผ่นกระเบื้องที่สามารถประกอบตัวเองในอวกาศได้ด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า เป้าหมายคือสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดมหึมาในอวกาศ โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ที่ไม่มีวันหมด และหลีกเลี่ยงปัญหาสิ่งแวดล้อมจากศูนย์ข้อมูลบนโลกที่กินพลังงานมหาศาล Elon Musk ยังออกมาแสดงความเห็นว่า Starlink รุ่น V3 ของ SpaceX ก็จะสามารถทำแบบนี้ได้เช่นกัน โดยจะมีความเร็วสูงถึง 1 Tbps ซึ่งมากกว่ารุ่นปัจจุบันถึง 10 เท่า ✅ ความร่วมมือระหว่าง Starcloud และ Rendezvous Robotics ➡️ สร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศที่สามารถประกอบตัวเองได้ ➡️ ใช้เทคโนโลยี TESSERAE จาก MIT Media Lab ➡️ โมดูลแต่ละชิ้นมีแบตเตอรี่ โปรเซสเซอร์ และระบบแม่เหล็กไฟฟ้า ➡️ ลดความจำเป็นในการใช้มนุษย์หรือแขนกลในการประกอบ ➡️ ศูนย์ข้อมูลจะใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 4x4 กิโลเมตร ➡️ ใหญ่กว่าระบบโซลาร์ของสถานีอวกาศนานาชาติถึง 20,000 เท่า ✅ จุดเด่นของศูนย์ข้อมูลในอวกาศ ➡️ ไม่ต้องใช้พื้นที่บนโลก ➡️ ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ➡️ ลดปัญหาความร้อนและการระบายอากาศ ➡️ รองรับการประมวลผล AI ขนาดใหญ่ในอนาคต ‼️ ความท้าทายและข้อควรระวัง ⛔ การระบายความร้อนในอวกาศยังเป็นปัญหาใหญ่ ⛔ ค่าใช้จ่ายในการส่งอุปกรณ์ขึ้นสู่วงโคจรยังสูงมาก ⛔ ต้องมีระบบควบคุมอัตโนมัติที่แม่นยำและปลอดภัย ⛔ ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนจาก SpaceX ว่าจะร่วมมือจริงหรือไม่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/self-assembling-data-centers-in-space-are-becoming-reality-as-rendezvous-robotics-partners-with-starcloud-elon-musk-chimes-in-that-spacex-will-be-doing-this
    0 Comments 0 Shares 361 Views 0 Reviews
  • มันเดอะแก๊งเดียวกันหมด,ทุกๆตัวในนักการเมืองนี้,มันจึงเขียนกฎหมายมาจนเปลี่ยนนายกฯมานั่งเล่นๆกันจนว่าเล่นตั้งแต่นายกฯไม่ซื่อสัตย์คนแรก คนสองทหารคือฝ่ายตรงข้ามเรา คนต่อมาเดอะแก๊งชูสามนิ้วยกมือให้มาแก้ม.112แทนตนมานั่งนายกฯเองแบบเสียงข้างน้อยหรือหนักกว่านายกฯรักษาการอุ๊งอิ๊งอีกเจตนาพูดหลุดชัดเจน คนไทยไปล้ำแผ่นดินเขมรตรงส่วนไหนบ้าง มันป่าเถื่อนทัั้งวางกับระเบิด ปล้นชิงเรียกค่าไถคนไทย 100%ไม่มีใครไปล้ำแดนมันแน่นอน,ต่างจากทหารเขมรมันเจตนาล้ำตามคำสั่งฮุนเซน ใช้ครอบครัวทหารล้ำเนียนๆมาตลอด เพื่อยึดพื้นที่สร้างแนวเขตใหม่ กะชิงทรัพยากรมีค่าจากพื้นที่ไทยที่ชิงมาได้ทั้งบนบกและลากลงทะเล,อย่าลืมว่าพรบ.ชุมนุมในที่สาธารณะก็เกิดจากยุคลุงยึดอำนาจปิดปากประชาชนชัดเจน แก้ม.190สำเร็จด้วย.,รธน.60นี้จึงเป็นภัยมากหากพูดกันจริง,ทำทีห้ามคนอื่นยึดอำนาจต่อโทษประหารมันเขียนปิดทางคนดีอื่นๆด้วยดักไว้,แต่ถ้ายึดแล้วฉีกทิ้งมันก็ทำอะไรไม่ได้ ผู้ชนะเขียนกฎใหม่ได้หมด,
    ..เรา..ประชาชนจึงคาดหวังกับทหารกองทัพไทยเราใหม่สูงมากกว่ายุคคนบูรพาพยัคฆ์ผีบ้าไม่ถีบเขมรเหมือนบิ๊กกุ้งถีบออกไปอย่างชัดเจน,ผบ.สสและผบ.ทบ.เราต้องเด็ดขาดเสียทีกับนักการเมืองชั่วเลวเหล่านี้,ลุกลามพากันเลวชั่วจนถึงระดับท้องถิ่นไปหมด,แม้มีเลือกตั้งสมัยหน้าคนไทยที่ยากจนตามความจำเป็นในการใช้ตังของระบบทาสตังฝ่ายมือวางไว้จะไร้ปัญญาหนีออกจากระบบมันได้,ยิ่งเงินเถื่อนกว่าล้านล้านบาทมันพร้อมลงทุนซื้อคนนักการเมืองทุกๆระดับได้ ตั้งแต่ระดับชาติถึงผญบ.ก็ว่า มันทำแล้วด้วยในปัจจุบันที่ผ่านๆมา นักการเมืองท้องถิ่น อบต.อบจ.ส.อบต. ส.อบจ. ผญบ. ผู้ว่า นายอำเภอ ข้าราชการท้องถิ่นแต่ละที่มันสร้างเดอะแก๊งมันไว้หมด ควบคุมโดยหัวหน้าแก๊งลูกน้องมันอีก เมื่อคนมันวางไว้พร้อม ที่ๆผ่านมามันทดลองทดสอบระบบมันแล้ว กทม.พื้นที่มากมายจึงทดสอบที่หัวละ1,000-5,000บาทกันไปแล้ว,ขยายมาต่างจังหวัดแล้วด้วย,มีการเลือกตัังใหม่ มันจัดเต็มที่แน่นอน,ที่เหลือมันจะให้ใครรับบทเป็นนายกฯคนต่อไปแค่นั้น,เพราะสุดท้ายใครจะมาเป็นนายกฯคนไทย มันอยากได้อะไรมันจะสั่งให้ทำได้ทันทีนั้นเอง,แบบสั่งยกบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยให้มันครอบครองหมด,ล่าสุดสั่งให้ยกแร่เอิร์ธให้มันอีกด้วย อาจกว่าแสนล้านตัน มิใช่พันล้านตันหรือหมื่นล้านตันหรอก คือเราน้อยกว่าจีนไม่เท่าไรเองแค่นั้น,พม่า ไทย มีมากสุด และไทยง่ายปลอดภัยกว่าพม่า เขมรจีนยึดแร่เอิร์ธแล้ว.

    ..สรุปหนทางออกที่ดีคือกองทัพไทยต้องปกป้องอธิปไตยแผ่นดินไทยเราให้เด็ดขาดชัดเจน จะให้นักการเมืองชั่วเลวเจ้าสัวชั่วเลวคนข้าราชการชั่วเลวนี้มาทำลายชาติไทยเราไม่ได้,ต้องฉีกกฎคนชั่วเลวที่สร้างขึ้นทั้งหมดทันที,ยึดอำนาจมันคือคำตอบสุดท้าย.,ส่วนพิธีกรรมในชาติบ้านเมืองขณะนี้ สามารถทำแทนมันคนชั่วเลวนี้ได้หมดล่ะและดีกว่าด้วยอย่างสมพระเกียรติอีก,อย่าปล่อยผ่านเหมือนยุคอุ๊งอิ๊งอีกเลย,มันลุกลามจนชาติเสียหายประชาชนตายอีกจากสงครามเขมรยิงใส่เราก่อนเลยนะ,ทรัมป์มันอ้างสันติภาพบังหน้า ก็สะดวกที่เราจัดการให้จบจากภายในประเทศไทยเราเลย,จากนั้นยิ่งง่ายในการต่อยอดจัดการภายนอกประเทศ ,เช่นกรณีเขมรเราสามารถต่อยอดแบบสันติภาพคว่ำบาตรเขมรทั้งหมดต่อยอดได้,สันติภาพแบบคว่ำบาตรสงบสุขชาติใครชาติมันอยู่ใครอยู่มันก็ไม่ผิด,ปิดด่านถาวรตลอดแนวทั้งทางบกทางอากาศทางทะเลจริง,ตัดน้ำตัดไฟตัดเน็ต ห้ามดาวเทียมstarlinkข้ามวงโคจรต่ำผ่านเขตไทยห้ามอำนวยปล่อยสัญญาณให้เน็ตเขมร ,เรา..สามารถกำจัดภัยคุกคามได้เด็ดขาดด้วยผ่านสันติภาพนี้ล่ะ,แบบไม่รบด้วย ก็ให้สันติไง.
    มันเดอะแก๊งเดียวกันหมด,ทุกๆตัวในนักการเมืองนี้,มันจึงเขียนกฎหมายมาจนเปลี่ยนนายกฯมานั่งเล่นๆกันจนว่าเล่นตั้งแต่นายกฯไม่ซื่อสัตย์คนแรก คนสองทหารคือฝ่ายตรงข้ามเรา คนต่อมาเดอะแก๊งชูสามนิ้วยกมือให้มาแก้ม.112แทนตนมานั่งนายกฯเองแบบเสียงข้างน้อยหรือหนักกว่านายกฯรักษาการอุ๊งอิ๊งอีกเจตนาพูดหลุดชัดเจน คนไทยไปล้ำแผ่นดินเขมรตรงส่วนไหนบ้าง มันป่าเถื่อนทัั้งวางกับระเบิด ปล้นชิงเรียกค่าไถคนไทย 100%ไม่มีใครไปล้ำแดนมันแน่นอน,ต่างจากทหารเขมรมันเจตนาล้ำตามคำสั่งฮุนเซน ใช้ครอบครัวทหารล้ำเนียนๆมาตลอด เพื่อยึดพื้นที่สร้างแนวเขตใหม่ กะชิงทรัพยากรมีค่าจากพื้นที่ไทยที่ชิงมาได้ทั้งบนบกและลากลงทะเล,อย่าลืมว่าพรบ.ชุมนุมในที่สาธารณะก็เกิดจากยุคลุงยึดอำนาจปิดปากประชาชนชัดเจน แก้ม.190สำเร็จด้วย.,รธน.60นี้จึงเป็นภัยมากหากพูดกันจริง,ทำทีห้ามคนอื่นยึดอำนาจต่อโทษประหารมันเขียนปิดทางคนดีอื่นๆด้วยดักไว้,แต่ถ้ายึดแล้วฉีกทิ้งมันก็ทำอะไรไม่ได้ ผู้ชนะเขียนกฎใหม่ได้หมด, ..เรา..ประชาชนจึงคาดหวังกับทหารกองทัพไทยเราใหม่สูงมากกว่ายุคคนบูรพาพยัคฆ์ผีบ้าไม่ถีบเขมรเหมือนบิ๊กกุ้งถีบออกไปอย่างชัดเจน,ผบ.สสและผบ.ทบ.เราต้องเด็ดขาดเสียทีกับนักการเมืองชั่วเลวเหล่านี้,ลุกลามพากันเลวชั่วจนถึงระดับท้องถิ่นไปหมด,แม้มีเลือกตั้งสมัยหน้าคนไทยที่ยากจนตามความจำเป็นในการใช้ตังของระบบทาสตังฝ่ายมือวางไว้จะไร้ปัญญาหนีออกจากระบบมันได้,ยิ่งเงินเถื่อนกว่าล้านล้านบาทมันพร้อมลงทุนซื้อคนนักการเมืองทุกๆระดับได้ ตั้งแต่ระดับชาติถึงผญบ.ก็ว่า มันทำแล้วด้วยในปัจจุบันที่ผ่านๆมา นักการเมืองท้องถิ่น อบต.อบจ.ส.อบต. ส.อบจ. ผญบ. ผู้ว่า นายอำเภอ ข้าราชการท้องถิ่นแต่ละที่มันสร้างเดอะแก๊งมันไว้หมด ควบคุมโดยหัวหน้าแก๊งลูกน้องมันอีก เมื่อคนมันวางไว้พร้อม ที่ๆผ่านมามันทดลองทดสอบระบบมันแล้ว กทม.พื้นที่มากมายจึงทดสอบที่หัวละ1,000-5,000บาทกันไปแล้ว,ขยายมาต่างจังหวัดแล้วด้วย,มีการเลือกตัังใหม่ มันจัดเต็มที่แน่นอน,ที่เหลือมันจะให้ใครรับบทเป็นนายกฯคนต่อไปแค่นั้น,เพราะสุดท้ายใครจะมาเป็นนายกฯคนไทย มันอยากได้อะไรมันจะสั่งให้ทำได้ทันทีนั้นเอง,แบบสั่งยกบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยให้มันครอบครองหมด,ล่าสุดสั่งให้ยกแร่เอิร์ธให้มันอีกด้วย อาจกว่าแสนล้านตัน มิใช่พันล้านตันหรือหมื่นล้านตันหรอก คือเราน้อยกว่าจีนไม่เท่าไรเองแค่นั้น,พม่า ไทย มีมากสุด และไทยง่ายปลอดภัยกว่าพม่า เขมรจีนยึดแร่เอิร์ธแล้ว. ..สรุปหนทางออกที่ดีคือกองทัพไทยต้องปกป้องอธิปไตยแผ่นดินไทยเราให้เด็ดขาดชัดเจน จะให้นักการเมืองชั่วเลวเจ้าสัวชั่วเลวคนข้าราชการชั่วเลวนี้มาทำลายชาติไทยเราไม่ได้,ต้องฉีกกฎคนชั่วเลวที่สร้างขึ้นทั้งหมดทันที,ยึดอำนาจมันคือคำตอบสุดท้าย.,ส่วนพิธีกรรมในชาติบ้านเมืองขณะนี้ สามารถทำแทนมันคนชั่วเลวนี้ได้หมดล่ะและดีกว่าด้วยอย่างสมพระเกียรติอีก,อย่าปล่อยผ่านเหมือนยุคอุ๊งอิ๊งอีกเลย,มันลุกลามจนชาติเสียหายประชาชนตายอีกจากสงครามเขมรยิงใส่เราก่อนเลยนะ,ทรัมป์มันอ้างสันติภาพบังหน้า ก็สะดวกที่เราจัดการให้จบจากภายในประเทศไทยเราเลย,จากนั้นยิ่งง่ายในการต่อยอดจัดการภายนอกประเทศ ,เช่นกรณีเขมรเราสามารถต่อยอดแบบสันติภาพคว่ำบาตรเขมรทั้งหมดต่อยอดได้,สันติภาพแบบคว่ำบาตรสงบสุขชาติใครชาติมันอยู่ใครอยู่มันก็ไม่ผิด,ปิดด่านถาวรตลอดแนวทั้งทางบกทางอากาศทางทะเลจริง,ตัดน้ำตัดไฟตัดเน็ต ห้ามดาวเทียมstarlinkข้ามวงโคจรต่ำผ่านเขตไทยห้ามอำนวยปล่อยสัญญาณให้เน็ตเขมร ,เรา..สามารถกำจัดภัยคุกคามได้เด็ดขาดด้วยผ่านสันติภาพนี้ล่ะ,แบบไม่รบด้วย ก็ให้สันติไง.
    เบื้องหลังนายกฯขอโทษคนไทย ก็เพราะมือขวาครูใหญ่ สั่งนายกฯปากไวให้แก้ปัญหาด้วยตัวเอง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    0 Comments 0 Shares 658 Views 0 0 Reviews
  • Starshield ดาวเทียมทหารสหรัฐฯ ส่งสัญญาณรบกวนระบบพลเรือน – ความลับที่เพิ่งถูกเปิดเผย

    ในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2025 มีเหตุการณ์ที่ทำให้วงการอวกาศต้องหันมามองอย่างจริงจัง เมื่อเครือข่ายดาวเทียม Starshield ซึ่งเป็นระบบสื่อสารของกองทัพสหรัฐฯ ที่พัฒนาโดย SpaceX ภายใต้สัญญากับสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ (NRO) ถูกพบว่ากำลังส่งสัญญาณรบกวนคลื่นความถี่ที่ใช้โดยดาวเทียมพลเรือน

    เรื่องนี้ไม่ได้ถูกเปิดเผยโดยหน่วยงานรัฐ แต่กลับเป็น Scott Tilley นักดาราศาสตร์สมัครเล่นจากแคนาดา ที่บังเอิญตรวจพบสัญญาณจากอวกาศที่เชื่อมโยงกลับไปยัง Starshield โดยตรง เขาให้สัมภาษณ์กับ NPR แต่ยังไม่แสดงความเห็นเพิ่มเติมในช่องทางอื่น

    แม้ว่าเหตุการณ์นี้ยังไม่ส่งผลกระทบในระดับรุนแรง แต่หากการรบกวนยังดำเนินต่อไป อาจสร้างปัญหาใหญ่ต่อระบบสื่อสารพลเรือน เช่น GPS, การพยากรณ์อากาศ และอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม

    Starshield มีจุดเด่นคือใช้ดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) ซึ่งช่วยให้การส่งข้อมูลทางทหารรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่างจากระบบเดิมที่ใช้ดาวเทียมวงโคจรสูงที่มีต้นทุนสูงและจำกัดผู้ให้บริการ

    นอกจากนี้ การใช้คลื่นความถี่ที่ไม่ใช่ของทหารโดยไม่มีคำอธิบายชัดเจน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเป็นเพราะช่องสัญญาณเดิมแออัด หรือมีเหตุผลลับอื่นที่ยังไม่เปิดเผย

    ระบบดาวเทียม Starshield ของกองทัพสหรัฐฯ
    พัฒนาโดย SpaceX ภายใต้สัญญากับ NRO
    ใช้ดาวเทียมวงโคจรต่ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร
    ช่วยให้ทหารภาคสนามรับข้อมูลได้เกือบทันที

    การรบกวนคลื่นความถี่ของดาวเทียมพลเรือน
    เกิดจากสัญญาณที่ส่งจาก Starshield โดยไม่ใช่คลื่นทหารทั่วไป
    อาจเป็นเพราะช่องสัญญาณทหารแออัด
    ยังไม่มีคำชี้แจงจาก SpaceX หรือ NRO

    การค้นพบโดยนักดาราศาสตร์สมัครเล่น
    Scott Tilley ตรวจพบสัญญาณโดยบังเอิญ
    ให้สัมภาษณ์กับ NPR แต่ยังไม่โพสต์ในโซเชียลมีเดีย

    ความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมดาวเทียม
    ดาวเทียมวงโคจรต่ำเปิดโอกาสให้บริษัทใหม่เข้ามาแข่งขัน
    เช่น Project Kuiper และ OneWeb

    ความเสี่ยงต่อระบบสื่อสารพลเรือน
    หากการรบกวนเพิ่มขึ้น อาจกระทบ GPS, อินเทอร์เน็ต และการพยากรณ์อากาศ
    ยังไม่มีการสอบสวนจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ

    การใช้คลื่นความถี่โดยไม่มีการแจ้งเตือน
    อาจละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศด้านการสื่อสาร
    สร้างความไม่ไว้วางใจต่อการใช้งานดาวเทียมทหารในพื้นที่พลเรือน

    https://www.slashgear.com/2005346/starlink-vs-starshield-civilian-satellite-control/
    🛰️ Starshield ดาวเทียมทหารสหรัฐฯ ส่งสัญญาณรบกวนระบบพลเรือน – ความลับที่เพิ่งถูกเปิดเผย ในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2025 มีเหตุการณ์ที่ทำให้วงการอวกาศต้องหันมามองอย่างจริงจัง เมื่อเครือข่ายดาวเทียม Starshield ซึ่งเป็นระบบสื่อสารของกองทัพสหรัฐฯ ที่พัฒนาโดย SpaceX ภายใต้สัญญากับสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ (NRO) ถูกพบว่ากำลังส่งสัญญาณรบกวนคลื่นความถี่ที่ใช้โดยดาวเทียมพลเรือน เรื่องนี้ไม่ได้ถูกเปิดเผยโดยหน่วยงานรัฐ แต่กลับเป็น Scott Tilley นักดาราศาสตร์สมัครเล่นจากแคนาดา ที่บังเอิญตรวจพบสัญญาณจากอวกาศที่เชื่อมโยงกลับไปยัง Starshield โดยตรง เขาให้สัมภาษณ์กับ NPR แต่ยังไม่แสดงความเห็นเพิ่มเติมในช่องทางอื่น แม้ว่าเหตุการณ์นี้ยังไม่ส่งผลกระทบในระดับรุนแรง แต่หากการรบกวนยังดำเนินต่อไป อาจสร้างปัญหาใหญ่ต่อระบบสื่อสารพลเรือน เช่น GPS, การพยากรณ์อากาศ และอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม Starshield มีจุดเด่นคือใช้ดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) ซึ่งช่วยให้การส่งข้อมูลทางทหารรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่างจากระบบเดิมที่ใช้ดาวเทียมวงโคจรสูงที่มีต้นทุนสูงและจำกัดผู้ให้บริการ นอกจากนี้ การใช้คลื่นความถี่ที่ไม่ใช่ของทหารโดยไม่มีคำอธิบายชัดเจน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเป็นเพราะช่องสัญญาณเดิมแออัด หรือมีเหตุผลลับอื่นที่ยังไม่เปิดเผย ✅ ระบบดาวเทียม Starshield ของกองทัพสหรัฐฯ ➡️ พัฒนาโดย SpaceX ภายใต้สัญญากับ NRO ➡️ ใช้ดาวเทียมวงโคจรต่ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร ➡️ ช่วยให้ทหารภาคสนามรับข้อมูลได้เกือบทันที ✅ การรบกวนคลื่นความถี่ของดาวเทียมพลเรือน ➡️ เกิดจากสัญญาณที่ส่งจาก Starshield โดยไม่ใช่คลื่นทหารทั่วไป ➡️ อาจเป็นเพราะช่องสัญญาณทหารแออัด ➡️ ยังไม่มีคำชี้แจงจาก SpaceX หรือ NRO ✅ การค้นพบโดยนักดาราศาสตร์สมัครเล่น ➡️ Scott Tilley ตรวจพบสัญญาณโดยบังเอิญ ➡️ ให้สัมภาษณ์กับ NPR แต่ยังไม่โพสต์ในโซเชียลมีเดีย ✅ ความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมดาวเทียม ➡️ ดาวเทียมวงโคจรต่ำเปิดโอกาสให้บริษัทใหม่เข้ามาแข่งขัน ➡️ เช่น Project Kuiper และ OneWeb ‼️ ความเสี่ยงต่อระบบสื่อสารพลเรือน ⛔ หากการรบกวนเพิ่มขึ้น อาจกระทบ GPS, อินเทอร์เน็ต และการพยากรณ์อากาศ ⛔ ยังไม่มีการสอบสวนจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ‼️ การใช้คลื่นความถี่โดยไม่มีการแจ้งเตือน ⛔ อาจละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศด้านการสื่อสาร ⛔ สร้างความไม่ไว้วางใจต่อการใช้งานดาวเทียมทหารในพื้นที่พลเรือน https://www.slashgear.com/2005346/starlink-vs-starshield-civilian-satellite-control/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    The Military Version Of Starlink Is Causing Problems For Civilian Satellites - SlashGear
    The military's equivalent of Starlink, which allows for troops to remain in contact, is now disrupting other satellites, as discovered by a civilian tracker.
    0 Comments 0 Shares 453 Views 0 Reviews
  • Apple และ SpaceX อาจจับมือกัน – สัญญาณเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม Starlink ใกล้เป็นจริง

    ดูเหมือนว่า Apple และ SpaceX กำลังเข้าใกล้การร่วมมือกันมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเป้าหมายคือการนำเครือข่ายดาวเทียม Starlink มาให้บริการกับ iPhone โดยตรง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อได้แม้อยู่ในพื้นที่ไม่มีสัญญาณมือถือหรือ Wi-Fi

    ปัจจุบัน Apple ใช้บริการจาก Globalstar สำหรับฟีเจอร์ Emergency SOS แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสองบริษัทเริ่มห่างเหิน โดย Globalstar กำลังพิจารณาขายกิจการ และแม้ Apple จะลงทุนไปกว่า $2 พันล้าน ก็ยังไม่ต้องการซื้อกิจการเพราะไม่อยากถูกจัดเป็นผู้ให้บริการเครือข่าย

    ในขณะเดียวกัน SpaceX ได้ออกแบบดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ให้รองรับคลื่นความถี่ที่ iPhone ใช้ และยังซื้อคลื่นความถี่จาก EchoStar มูลค่า $17 พันล้าน เพื่อเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับผู้ผลิตชิปเพื่อฝังระบบเชื่อมต่อดาวเทียมลงในสมาร์ทโฟนโดยตรง

    แม้จะมีอุปสรรค เช่น ความขัดแย้งระหว่าง Elon Musk และ Tim Cook รวมถึงข้อเสนอเดิมที่ Apple ปฏิเสธไปในปี 2022 แต่ความเคลื่อนไหวล่าสุดบ่งชี้ว่าความร่วมมือครั้งนี้อาจเกิดขึ้นจริงในอนาคตอันใกล้

    ความเคลื่อนไหวของ Apple และ SpaceX
    อาจร่วมมือกันให้บริการเชื่อมต่อ iPhone ผ่านเครือข่าย Starlink
    ดาวเทียมรุ่นใหม่ของ SpaceX รองรับคลื่นความถี่ของ iPhone
    SpaceX ซื้อคลื่นความถี่จาก EchoStar มูลค่า $17 พันล้าน
    กำลังร่วมมือกับผู้ผลิตชิปเพื่อฝังระบบเชื่อมต่อดาวเทียมในสมาร์ทโฟน

    สถานการณ์ของ Globalstar
    ปัจจุบันให้บริการ Emergency SOS บน iPhone
    Apple ลงทุนกว่า $2 พันล้าน แต่ไม่ต้องการซื้อกิจการ
    Globalstar อาจขายกิจการในราคาเกิน $10 พันล้าน
    ความสัมพันธ์กับ Apple เริ่มห่างเหิน

    อุปสรรคที่อาจขัดขวางความร่วมมือ
    ความขัดแย้งระหว่าง Elon Musk และ Tim Cook
    Apple เคยปฏิเสธข้อเสนอของ Musk ในปี 2022
    Musk เคยเสนอให้ SpaceX เป็นผู้ให้บริการดาวเทียมแต่เพียงผู้เดียว พร้อมเรียกเงินล่วงหน้า $5 พันล้าน

    https://wccftech.com/tantalizing-signs-of-a-possible-tie-up-between-apple-and-spacex/
    📡 Apple และ SpaceX อาจจับมือกัน – สัญญาณเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม Starlink ใกล้เป็นจริง ดูเหมือนว่า Apple และ SpaceX กำลังเข้าใกล้การร่วมมือกันมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเป้าหมายคือการนำเครือข่ายดาวเทียม Starlink มาให้บริการกับ iPhone โดยตรง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อได้แม้อยู่ในพื้นที่ไม่มีสัญญาณมือถือหรือ Wi-Fi ปัจจุบัน Apple ใช้บริการจาก Globalstar สำหรับฟีเจอร์ Emergency SOS แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสองบริษัทเริ่มห่างเหิน โดย Globalstar กำลังพิจารณาขายกิจการ และแม้ Apple จะลงทุนไปกว่า $2 พันล้าน ก็ยังไม่ต้องการซื้อกิจการเพราะไม่อยากถูกจัดเป็นผู้ให้บริการเครือข่าย ในขณะเดียวกัน SpaceX ได้ออกแบบดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ให้รองรับคลื่นความถี่ที่ iPhone ใช้ และยังซื้อคลื่นความถี่จาก EchoStar มูลค่า $17 พันล้าน เพื่อเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับผู้ผลิตชิปเพื่อฝังระบบเชื่อมต่อดาวเทียมลงในสมาร์ทโฟนโดยตรง แม้จะมีอุปสรรค เช่น ความขัดแย้งระหว่าง Elon Musk และ Tim Cook รวมถึงข้อเสนอเดิมที่ Apple ปฏิเสธไปในปี 2022 แต่ความเคลื่อนไหวล่าสุดบ่งชี้ว่าความร่วมมือครั้งนี้อาจเกิดขึ้นจริงในอนาคตอันใกล้ ✅ ความเคลื่อนไหวของ Apple และ SpaceX ➡️ อาจร่วมมือกันให้บริการเชื่อมต่อ iPhone ผ่านเครือข่าย Starlink ➡️ ดาวเทียมรุ่นใหม่ของ SpaceX รองรับคลื่นความถี่ของ iPhone ➡️ SpaceX ซื้อคลื่นความถี่จาก EchoStar มูลค่า $17 พันล้าน ➡️ กำลังร่วมมือกับผู้ผลิตชิปเพื่อฝังระบบเชื่อมต่อดาวเทียมในสมาร์ทโฟน ✅ สถานการณ์ของ Globalstar ➡️ ปัจจุบันให้บริการ Emergency SOS บน iPhone ➡️ Apple ลงทุนกว่า $2 พันล้าน แต่ไม่ต้องการซื้อกิจการ ➡️ Globalstar อาจขายกิจการในราคาเกิน $10 พันล้าน ➡️ ความสัมพันธ์กับ Apple เริ่มห่างเหิน ✅ อุปสรรคที่อาจขัดขวางความร่วมมือ ➡️ ความขัดแย้งระหว่าง Elon Musk และ Tim Cook ➡️ Apple เคยปฏิเสธข้อเสนอของ Musk ในปี 2022 ➡️ Musk เคยเสนอให้ SpaceX เป็นผู้ให้บริการดาวเทียมแต่เพียงผู้เดียว พร้อมเรียกเงินล่วงหน้า $5 พันล้าน https://wccftech.com/tantalizing-signs-of-a-possible-tie-up-between-apple-and-spacex/
    WCCFTECH.COM
    Tantalizing Signs Of A Possible Tie-Up Between Apple And SpaceX
    This previously incorporeal Apple-SpaceX tie-up idea seems closer to getting realized, courtesy of a few tantalizing developments.
    0 Comments 0 Shares 253 Views 0 Reviews
  • Starlink จับมือ Samsung พัฒนาโมเด็ม AI – ปูทางสู่การเชื่อมต่อ 6G จากดาวเทียมสู่มือถือโดยตรง

    Starlink ของ Elon Musk กำลังร่วมมือกับ Samsung เพื่อพัฒนาโมเด็มรุ่นใหม่ที่มีหน่วยประมวลผล AI (NPU) ในตัว โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์บนโลกกับดาวเทียมได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านสถานีฐานแบบเดิม ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างเครือข่าย 6G แบบ non-terrestrial network (NTN)

    โมเด็มใหม่นี้จะใช้ AI ในการ “คาดการณ์ตำแหน่งดาวเทียมและปรับสัญญาณแบบเรียลไทม์” ซึ่งช่วยให้การเชื่อมต่อมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย Samsung อ้างว่าโมเด็ม Exynos รุ่นใหม่สามารถปรับปรุงการระบุลำแสงและการคาดการณ์ช่องสัญญาณได้ดีกว่าเดิมถึง 55 เท่าและ 42 เท่าตามลำดับ

    SpaceX ยังลงทุนซื้อคลื่นความถี่ 50 MHz และ MSS เพื่อรองรับบริการ 6G NTN โดยมีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 17 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการผลักดันเทคโนโลยีนี้

    นอกจากการใช้งานในสมาร์ทโฟนแล้ว โมเด็มนี้ยังสามารถนำไปใช้ในยานยนต์และหุ่นยนต์ ซึ่งไม่ต้องการประสิทธิภาพด้านพลังงานสูงเท่ากับอุปกรณ์พกพา

    ความร่วมมือระหว่าง Starlink และ Samsung
    พัฒนาโมเด็มที่มี NPU เพื่อเชื่อมต่อกับดาวเทียมโดยตรง
    ใช้ AI ในการคาดการณ์ตำแหน่งดาวเทียมและปรับสัญญาณแบบเรียลไทม์
    รองรับเครือข่าย 6G แบบ non-terrestrial network (NTN)

    ความสามารถของโมเด็ม Exynos รุ่นใหม่
    ปรับปรุงการระบุลำแสงได้ดีขึ้น 55 เท่า
    คาดการณ์ช่องสัญญาณได้ดีขึ้น 42 เท่า
    รองรับการใช้งานแบบเรียลไทม์ที่โมเด็มปัจจุบันยังทำไม่ได้

    การลงทุนของ SpaceX
    ซื้อคลื่นความถี่ 50 MHz และ MSS เพื่อรองรับบริการ 6G
    มูลค่าการลงทุนสูงถึง 17 พันล้านดอลลาร์
    แสดงถึงความมุ่งมั่นในการสร้างเครือข่ายดาวเทียมระดับโลก

    การใช้งานในอุตสาหกรรมอื่น
    โมเด็มสามารถนำไปใช้ในยานยนต์และหุ่นยนต์
    ไม่ต้องการประสิทธิภาพด้านพลังงานสูงเท่ากับสมาร์ทโฟน

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    การเชื่อมต่อโดยตรงกับดาวเทียมยังเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ต้องทดสอบ
    ความแม่นยำในการคาดการณ์ตำแหน่งดาวเทียมอาจมีผลต่อคุณภาพสัญญาณ
    การใช้งานในสมาร์ทโฟนอาจเผชิญกับข้อจำกัดด้านพลังงานและขนาดโมเด็ม
    การพัฒนาโมเด็ม AI ต้องใช้ทรัพยากรสูงและอาจมีต้นทุนที่แพงในช่วงแรก

    https://www.tomshardware.com/networking/elon-musks-starlink-reportedly-tasks-samsung-to-build-ai-powered-modem-space-based-6g-service-could-revolutionize-satellite-to-device-connectivity
    🚀 Starlink จับมือ Samsung พัฒนาโมเด็ม AI – ปูทางสู่การเชื่อมต่อ 6G จากดาวเทียมสู่มือถือโดยตรง Starlink ของ Elon Musk กำลังร่วมมือกับ Samsung เพื่อพัฒนาโมเด็มรุ่นใหม่ที่มีหน่วยประมวลผล AI (NPU) ในตัว โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์บนโลกกับดาวเทียมได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านสถานีฐานแบบเดิม ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างเครือข่าย 6G แบบ non-terrestrial network (NTN) โมเด็มใหม่นี้จะใช้ AI ในการ “คาดการณ์ตำแหน่งดาวเทียมและปรับสัญญาณแบบเรียลไทม์” ซึ่งช่วยให้การเชื่อมต่อมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย Samsung อ้างว่าโมเด็ม Exynos รุ่นใหม่สามารถปรับปรุงการระบุลำแสงและการคาดการณ์ช่องสัญญาณได้ดีกว่าเดิมถึง 55 เท่าและ 42 เท่าตามลำดับ SpaceX ยังลงทุนซื้อคลื่นความถี่ 50 MHz และ MSS เพื่อรองรับบริการ 6G NTN โดยมีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 17 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการผลักดันเทคโนโลยีนี้ นอกจากการใช้งานในสมาร์ทโฟนแล้ว โมเด็มนี้ยังสามารถนำไปใช้ในยานยนต์และหุ่นยนต์ ซึ่งไม่ต้องการประสิทธิภาพด้านพลังงานสูงเท่ากับอุปกรณ์พกพา ✅ ความร่วมมือระหว่าง Starlink และ Samsung ➡️ พัฒนาโมเด็มที่มี NPU เพื่อเชื่อมต่อกับดาวเทียมโดยตรง ➡️ ใช้ AI ในการคาดการณ์ตำแหน่งดาวเทียมและปรับสัญญาณแบบเรียลไทม์ ➡️ รองรับเครือข่าย 6G แบบ non-terrestrial network (NTN) ✅ ความสามารถของโมเด็ม Exynos รุ่นใหม่ ➡️ ปรับปรุงการระบุลำแสงได้ดีขึ้น 55 เท่า ➡️ คาดการณ์ช่องสัญญาณได้ดีขึ้น 42 เท่า ➡️ รองรับการใช้งานแบบเรียลไทม์ที่โมเด็มปัจจุบันยังทำไม่ได้ ✅ การลงทุนของ SpaceX ➡️ ซื้อคลื่นความถี่ 50 MHz และ MSS เพื่อรองรับบริการ 6G ➡️ มูลค่าการลงทุนสูงถึง 17 พันล้านดอลลาร์ ➡️ แสดงถึงความมุ่งมั่นในการสร้างเครือข่ายดาวเทียมระดับโลก ✅ การใช้งานในอุตสาหกรรมอื่น ➡️ โมเด็มสามารถนำไปใช้ในยานยนต์และหุ่นยนต์ ➡️ ไม่ต้องการประสิทธิภาพด้านพลังงานสูงเท่ากับสมาร์ทโฟน ‼️ ข้อควรระวังและความท้าทาย ⛔ การเชื่อมต่อโดยตรงกับดาวเทียมยังเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ต้องทดสอบ ⛔ ความแม่นยำในการคาดการณ์ตำแหน่งดาวเทียมอาจมีผลต่อคุณภาพสัญญาณ ⛔ การใช้งานในสมาร์ทโฟนอาจเผชิญกับข้อจำกัดด้านพลังงานและขนาดโมเด็ม ⛔ การพัฒนาโมเด็ม AI ต้องใช้ทรัพยากรสูงและอาจมีต้นทุนที่แพงในช่วงแรก https://www.tomshardware.com/networking/elon-musks-starlink-reportedly-tasks-samsung-to-build-ai-powered-modem-space-based-6g-service-could-revolutionize-satellite-to-device-connectivity
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Elon Musk's Starlink reportedly tasks Samsung to build AI-powered modem — space-based 6G service could revolutionize satellite-to-device connectivity
    The modem’s NPU will be used to ‘predict satellite trajectories and optimize signal links in real time,’ it is claimed.
    0 Comments 0 Shares 244 Views 0 Reviews
  • “Airbus–Thales–Leonardo รวมพลังสร้างแชมป์ดาวเทียมยุโรป – แม้ประกาศล่าช้า แต่ดีลยังเดินหน้าเต็มสูบ”

    ยุโรปกำลังรวมพลังเพื่อท้าชน Starlink ของ Elon Musk ด้วยการควบรวมกิจการด้านการผลิตดาวเทียมระหว่างสามยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอวกาศ ได้แก่ Airbus, Thales, และ Leonardo โดยมีชื่อรหัสโครงการว่า Projet Bromo

    แม้การประกาศอย่างเป็นทางการจะล่าช้าไป 1–2 วัน เพราะทีมกฎหมายยังตรวจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ แต่แหล่งข่าวยืนยันว่า แผนควบรวมยังคงอยู่ครบ และไม่มีอุปสรรคใหม่ที่เป็นสาระสำคัญ

    เป้าหมายของดีลนี้คือการรวมสินทรัพย์ด้านดาวเทียมของทั้งสามบริษัทเข้าไว้ในบริษัทโฮลดิ้งใหม่ โดยแต่ละฝ่ายจะถือหุ้นประมาณหนึ่งในสาม หลังจากมีการปรับสมดุลด้วยการชำระเงินระหว่างกัน ซึ่งโครงสร้างใหม่นี้จะใช้เวลาราว สองปี กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ เพราะต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล

    การควบรวมครั้งนี้จะทำให้ยุโรปกลายเป็นผู้ผลิตดาวเทียม geostationary เชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้า Maxar, Northrop Grumman และ Lockheed Martin โดยครองส่วนแบ่งตลาดถึงหนึ่งในสาม — แต่ก็ต้องยอมรับว่า ตลาด geostationary กำลังหดตัว เพราะการเติบโตของดาวเทียมขนาดเล็กในวงโคจรต่ำ (LEO) เช่น Starlink

    แม้จะมีความขัดแย้งเล็กน้อยเรื่องการแต่งตั้ง CEO, CFO และประธานบริษัท ซึ่งเคยเป็นปัญหาในดีลยุโรปก่อนหน้านี้ แต่แหล่งข่าวระบุว่าทั้งสามฝ่ายมีความตั้งใจร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพราะต่างก็เผชิญกับ การขาดทุนและส่วนแบ่งตลาดที่ลดลง

    รายละเอียดของการควบรวม
    Airbus, Thales และ Leonardo รวมกิจการด้านดาวเทียม
    ใช้ชื่อรหัสโครงการว่า Projet Bromo
    สร้างบริษัทโฮลดิ้งใหม่ โดยแต่ละฝ่ายถือหุ้นประมาณ 1/3
    ใช้เวลาราว 2 ปีในการจัดโครงสร้างและขออนุมัติ

    เป้าหมายของดีล
    สร้างผู้ผลิตดาวเทียม geostationary เชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุด
    ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 1/3
    แซงหน้า Maxar, Northrop Grumman และ Lockheed Martin
    เพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับ Starlink และ SpaceX

    ความท้าทายและความล่าช้า
    การประกาศดีลล่าช้าเพราะตรวจรายละเอียดทางกฎหมาย
    ยังไม่มีอุปสรรคใหม่ที่เป็นสาระสำคัญ
    ความขัดแย้งเรื่องการแต่งตั้งผู้บริหารยังต้องตกลงกัน
    เคยมีดีลล้มเพราะติด EU antitrust มาก่อน

    สภาพตลาดดาวเทียม
    ตลาด geostationary กำลังหดตัว
    ดาวเทียมขนาดเล็กในวงโคจรต่ำ (LEO) เติบโตเร็ว
    Starlink เป็นผู้นำในตลาด LEO broadband
    ผู้เล่นยุโรปต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/23/europe-satellite-merger-intact-as-announcement-slips-sources-say
    🛰️ “Airbus–Thales–Leonardo รวมพลังสร้างแชมป์ดาวเทียมยุโรป – แม้ประกาศล่าช้า แต่ดีลยังเดินหน้าเต็มสูบ” ยุโรปกำลังรวมพลังเพื่อท้าชน Starlink ของ Elon Musk ด้วยการควบรวมกิจการด้านการผลิตดาวเทียมระหว่างสามยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอวกาศ ได้แก่ Airbus, Thales, และ Leonardo โดยมีชื่อรหัสโครงการว่า Projet Bromo แม้การประกาศอย่างเป็นทางการจะล่าช้าไป 1–2 วัน เพราะทีมกฎหมายยังตรวจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ แต่แหล่งข่าวยืนยันว่า แผนควบรวมยังคงอยู่ครบ และไม่มีอุปสรรคใหม่ที่เป็นสาระสำคัญ เป้าหมายของดีลนี้คือการรวมสินทรัพย์ด้านดาวเทียมของทั้งสามบริษัทเข้าไว้ในบริษัทโฮลดิ้งใหม่ โดยแต่ละฝ่ายจะถือหุ้นประมาณหนึ่งในสาม หลังจากมีการปรับสมดุลด้วยการชำระเงินระหว่างกัน ซึ่งโครงสร้างใหม่นี้จะใช้เวลาราว สองปี กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ เพราะต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล การควบรวมครั้งนี้จะทำให้ยุโรปกลายเป็นผู้ผลิตดาวเทียม geostationary เชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้า Maxar, Northrop Grumman และ Lockheed Martin โดยครองส่วนแบ่งตลาดถึงหนึ่งในสาม — แต่ก็ต้องยอมรับว่า ตลาด geostationary กำลังหดตัว เพราะการเติบโตของดาวเทียมขนาดเล็กในวงโคจรต่ำ (LEO) เช่น Starlink แม้จะมีความขัดแย้งเล็กน้อยเรื่องการแต่งตั้ง CEO, CFO และประธานบริษัท ซึ่งเคยเป็นปัญหาในดีลยุโรปก่อนหน้านี้ แต่แหล่งข่าวระบุว่าทั้งสามฝ่ายมีความตั้งใจร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพราะต่างก็เผชิญกับ การขาดทุนและส่วนแบ่งตลาดที่ลดลง ✅ รายละเอียดของการควบรวม ➡️ Airbus, Thales และ Leonardo รวมกิจการด้านดาวเทียม ➡️ ใช้ชื่อรหัสโครงการว่า Projet Bromo ➡️ สร้างบริษัทโฮลดิ้งใหม่ โดยแต่ละฝ่ายถือหุ้นประมาณ 1/3 ➡️ ใช้เวลาราว 2 ปีในการจัดโครงสร้างและขออนุมัติ ✅ เป้าหมายของดีล ➡️ สร้างผู้ผลิตดาวเทียม geostationary เชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุด ➡️ ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 1/3 ➡️ แซงหน้า Maxar, Northrop Grumman และ Lockheed Martin ➡️ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับ Starlink และ SpaceX ✅ ความท้าทายและความล่าช้า ➡️ การประกาศดีลล่าช้าเพราะตรวจรายละเอียดทางกฎหมาย ➡️ ยังไม่มีอุปสรรคใหม่ที่เป็นสาระสำคัญ ➡️ ความขัดแย้งเรื่องการแต่งตั้งผู้บริหารยังต้องตกลงกัน ➡️ เคยมีดีลล้มเพราะติด EU antitrust มาก่อน ✅ สภาพตลาดดาวเทียม ➡️ ตลาด geostationary กำลังหดตัว ➡️ ดาวเทียมขนาดเล็กในวงโคจรต่ำ (LEO) เติบโตเร็ว ➡️ Starlink เป็นผู้นำในตลาด LEO broadband ➡️ ผู้เล่นยุโรปต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/23/europe-satellite-merger-intact-as-announcement-slips-sources-say
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Europe satellite merger intact as announcement slips, sources say
    PARIS/ROME (Reuters) -Europe's aerospace giants kept investors waiting an extra day for details of a new space champion on Wednesday as lawyers and advisers pored over the smallprint, but merger plans remained intact, people familiar with the talks said.
    0 Comments 0 Shares 433 Views 0 Reviews
  • “Starlink จับมือ Muon เปิดตัว ‘เลเซอร์อวกาศ’ เชื่อมดาวเทียมแบบเรียลไทม์ – ส่งข้อมูลเร็วถึง 25Gbps ไกล 4,000 กม.”

    Muon Space บริษัทด้านเทคโนโลยีดาวเทียม ประกาศความร่วมมือกับ Starlink ของ SpaceX เพื่อสร้างระบบเชื่อมต่อข้อมูลแบบใหม่ในอวกาศ โดยใช้ “เลเซอร์อวกาศ” เชื่อมโยงดาวเทียมเข้ากับเครือข่าย Starlink โดยตรง ทำให้สามารถส่งข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ตลอดเวลา ไม่ต้องรอให้ดาวเทียมบินผ่านสถานีภาคพื้นอีกต่อไป

    ระบบใหม่นี้จะใช้ Starlink Mini Laser Terminals ที่ติดตั้งบนแพลตฟอร์ม Halo ของ Muon ซึ่งสามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงถึง 25Gbps และครอบคลุมระยะทางไกลถึง 4,000 กิโลเมตร โดย Muon ระบุว่า latency จากเดิมที่เฉลี่ย 20 นาที จะลดลงเหลือ “เกือบเรียลไทม์”

    หนึ่งในภารกิจแรกที่ใช้เทคโนโลยีนี้คือ FireSat ซึ่งเป็นโครงการร่วมกับ Earth Fire Alliance เพื่อเฝ้าระวังไฟป่าแบบทันที โดยดาวเทียมจะสามารถแจ้งเตือนการเกิดไฟใหม่ได้ทันที ช่วยลดโอกาสที่ไฟจะลุกลามเป็นภัยพิบัติขนาดใหญ่

    นอกจากนี้ Muon ยังเผยว่าเทคโนโลยีนี้จะเปิดทางให้เกิด “Data center-class pipelines” ในอวกาศ เช่น การประมวลผล edge computing, AI inference และการสร้างผลิตภัณฑ์ข้อมูลแบบทันทีจากอวกาศ

    ระบบนี้ยังมีความปลอดภัยสูง โดยใช้การเข้ารหัสแบบ end-to-end และการยืนยันตัวตนด้วยฮาร์ดแวร์ พร้อม uptime สูงถึง 99% แม้จะมีการเปลี่ยนลิงก์ระหว่างดาวเทียม

    ความร่วมมือระหว่าง Muon และ Starlink
    ใช้ Starlink Mini Laser Terminals เชื่อมดาวเทียมเข้ากับเครือข่าย Starlink
    ส่งข้อมูลได้เร็วถึง 25Gbps และไกลถึง 4,000 กม.
    ลด latency จาก 20 นาที เหลือเกือบเรียลไทม์
    ใช้กับแพลตฟอร์ม Halo ของ Muon
    เตรียมเปิดตัวดาวเทียมรุ่นแรกใน Q1 ปี 2027

    ภารกิจและการใช้งาน
    FireSat ใช้เลเซอร์อวกาศแจ้งเตือนไฟป่าแบบทันที
    ช่วยลดโอกาสเกิดไฟป่าขนาดใหญ่
    รองรับการประมวลผล edge computing และ AI inference ในอวกาศ
    สร้างระบบข้อมูลแบบ real-time จากอวกาศสู่โลก

    ความปลอดภัยและความเสถียร
    ใช้การเข้ารหัสแบบ end-to-end และ hardware authentication
    ออกแบบให้มี uptime สูงถึง 99%
    รองรับการเปลี่ยนลิงก์ระหว่างดาวเทียมแบบไร้รอยต่อ

    https://www.tomshardware.com/networking/starlink-and-muon-fuse-space-lasers-and-satellites-to-deliver-industry-first-persistent-optical-connectivity-in-orbit-will-enable-25-gbps-data-transfer-at-distances-up-to-4-000km
    🚀 “Starlink จับมือ Muon เปิดตัว ‘เลเซอร์อวกาศ’ เชื่อมดาวเทียมแบบเรียลไทม์ – ส่งข้อมูลเร็วถึง 25Gbps ไกล 4,000 กม.” Muon Space บริษัทด้านเทคโนโลยีดาวเทียม ประกาศความร่วมมือกับ Starlink ของ SpaceX เพื่อสร้างระบบเชื่อมต่อข้อมูลแบบใหม่ในอวกาศ โดยใช้ “เลเซอร์อวกาศ” เชื่อมโยงดาวเทียมเข้ากับเครือข่าย Starlink โดยตรง ทำให้สามารถส่งข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ตลอดเวลา ไม่ต้องรอให้ดาวเทียมบินผ่านสถานีภาคพื้นอีกต่อไป ระบบใหม่นี้จะใช้ Starlink Mini Laser Terminals ที่ติดตั้งบนแพลตฟอร์ม Halo ของ Muon ซึ่งสามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงถึง 25Gbps และครอบคลุมระยะทางไกลถึง 4,000 กิโลเมตร โดย Muon ระบุว่า latency จากเดิมที่เฉลี่ย 20 นาที จะลดลงเหลือ “เกือบเรียลไทม์” หนึ่งในภารกิจแรกที่ใช้เทคโนโลยีนี้คือ FireSat ซึ่งเป็นโครงการร่วมกับ Earth Fire Alliance เพื่อเฝ้าระวังไฟป่าแบบทันที โดยดาวเทียมจะสามารถแจ้งเตือนการเกิดไฟใหม่ได้ทันที ช่วยลดโอกาสที่ไฟจะลุกลามเป็นภัยพิบัติขนาดใหญ่ นอกจากนี้ Muon ยังเผยว่าเทคโนโลยีนี้จะเปิดทางให้เกิด “Data center-class pipelines” ในอวกาศ เช่น การประมวลผล edge computing, AI inference และการสร้างผลิตภัณฑ์ข้อมูลแบบทันทีจากอวกาศ ระบบนี้ยังมีความปลอดภัยสูง โดยใช้การเข้ารหัสแบบ end-to-end และการยืนยันตัวตนด้วยฮาร์ดแวร์ พร้อม uptime สูงถึง 99% แม้จะมีการเปลี่ยนลิงก์ระหว่างดาวเทียม ✅ ความร่วมมือระหว่าง Muon และ Starlink ➡️ ใช้ Starlink Mini Laser Terminals เชื่อมดาวเทียมเข้ากับเครือข่าย Starlink ➡️ ส่งข้อมูลได้เร็วถึง 25Gbps และไกลถึง 4,000 กม. ➡️ ลด latency จาก 20 นาที เหลือเกือบเรียลไทม์ ➡️ ใช้กับแพลตฟอร์ม Halo ของ Muon ➡️ เตรียมเปิดตัวดาวเทียมรุ่นแรกใน Q1 ปี 2027 ✅ ภารกิจและการใช้งาน ➡️ FireSat ใช้เลเซอร์อวกาศแจ้งเตือนไฟป่าแบบทันที ➡️ ช่วยลดโอกาสเกิดไฟป่าขนาดใหญ่ ➡️ รองรับการประมวลผล edge computing และ AI inference ในอวกาศ ➡️ สร้างระบบข้อมูลแบบ real-time จากอวกาศสู่โลก ✅ ความปลอดภัยและความเสถียร ➡️ ใช้การเข้ารหัสแบบ end-to-end และ hardware authentication ➡️ ออกแบบให้มี uptime สูงถึง 99% ➡️ รองรับการเปลี่ยนลิงก์ระหว่างดาวเทียมแบบไร้รอยต่อ https://www.tomshardware.com/networking/starlink-and-muon-fuse-space-lasers-and-satellites-to-deliver-industry-first-persistent-optical-connectivity-in-orbit-will-enable-25-gbps-data-transfer-at-distances-up-to-4-000km
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Starlink and Muon fuse space lasers and satellites to deliver ‘industry-first’ persistent optical connectivity in orbit — will enable 25 Gbps data transfer at distances up to 4,000km
    Traditional comms satellites rely on intermittent links with ground stations, but Muon Halo satellites will stay continuously connected with integrated Starlink Mini lasers.
    0 Comments 0 Shares 252 Views 0 Reviews
  • “SpaceX เปิดตัวดาวเทียม Starlink V3” — อินเทอร์เน็ตระดับกิกะบิตจากอวกาศ พร้อมขยายความจุเครือข่ายถึง 60 Tbps

    SpaceX เผยโฉมดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ V3 ที่มาพร้อมขนาดใหญ่ขึ้น น้ำหนักมากขึ้น และความสามารถในการส่งข้อมูลที่เหนือชั้น โดยมีเป้าหมายเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วระดับกิกะบิตแก่ผู้ใช้ทั่วโลก

    ดาวเทียม V3 หนักถึง 2,000 กิโลกรัม ซึ่งมากกว่ารุ่น V2 Mini ที่หนักไม่ถึง 600 กิโลกรัม และ V1 ที่หนักประมาณ 300 กิโลกรัม ด้วยขนาดและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น SpaceX จึงใช้ยาน Starship ที่ทรงพลังมากกว่ารุ่น Falcon 9 เพื่อส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร โดยแต่ละเที่ยวบินสามารถบรรทุกดาวเทียม V3 ได้ถึง 60 ดวง ซึ่งเพิ่มความจุเครือข่ายมากกว่า 20 เท่าต่อเที่ยวบินเมื่อเทียบกับ V2 Mini

    ดาวเทียม V3 มีความสามารถในการดาวน์โหลดข้อมูลสูงถึง 1,000 Gbps และอัปโหลด 200 Gbps ต่อดวง รวมกันแล้วสามารถเพิ่มความจุเครือข่าย Starlink ได้ถึง 60 Tbps ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการทำให้วิสัยทัศน์ของ Elon Musk ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเป็นจริง

    อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้จะต้องมีฮาร์ดแวร์ใหม่เพื่อรองรับความเร็วที่ดาวเทียม V3 สามารถให้บริการได้ และ SpaceX ยืนยันว่าดาวเทียม V3 จะถูกออกแบบให้เผาไหม้หมดเมื่อหมดอายุการใช้งาน เพื่อลดปัญหาขยะอวกาศ

    ข้อมูลในข่าว
    SpaceX เปิดตัวดาวเทียม Starlink V3 ขนาดใหญ่และหนักถึง 2,000 กิโลกรัม
    ใช้ยาน Starship ส่งขึ้นสู่วงโคจร แทน Falcon 9
    แต่ละเที่ยวบินสามารถบรรทุกดาวเทียม V3 ได้ถึง 60 ดวง
    เพิ่มความจุเครือข่ายมากกว่า 20 เท่าต่อเที่ยวบินเมื่อเทียบกับ V2 Mini
    ความสามารถดาวน์โหลด 1,000 Gbps และอัปโหลด 200 Gbps ต่อดวง
    เพิ่มความจุเครือข่ายรวมถึง 60 Tbps
    ผู้ใช้ต้องมีฮาร์ดแวร์ใหม่เพื่อรองรับความเร็วระดับกิกะบิต
    ดาวเทียม V3 ถูกออกแบบให้เผาไหม้หมดเมื่อหมดอายุการใช้งาน

    https://www.tomshardware.com/service-providers/network-providers/spacex-shows-off-massive-new-v3-starlink-satellites-expanded-technology-will-deliver-gigabit-internet-to-customers-for-the-first-time-and-enable-60-tera-bits-per-second-downlink-capacity
    🛰️ “SpaceX เปิดตัวดาวเทียม Starlink V3” — อินเทอร์เน็ตระดับกิกะบิตจากอวกาศ พร้อมขยายความจุเครือข่ายถึง 60 Tbps SpaceX เผยโฉมดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ V3 ที่มาพร้อมขนาดใหญ่ขึ้น น้ำหนักมากขึ้น และความสามารถในการส่งข้อมูลที่เหนือชั้น โดยมีเป้าหมายเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วระดับกิกะบิตแก่ผู้ใช้ทั่วโลก ดาวเทียม V3 หนักถึง 2,000 กิโลกรัม ซึ่งมากกว่ารุ่น V2 Mini ที่หนักไม่ถึง 600 กิโลกรัม และ V1 ที่หนักประมาณ 300 กิโลกรัม ด้วยขนาดและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น SpaceX จึงใช้ยาน Starship ที่ทรงพลังมากกว่ารุ่น Falcon 9 เพื่อส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร โดยแต่ละเที่ยวบินสามารถบรรทุกดาวเทียม V3 ได้ถึง 60 ดวง ซึ่งเพิ่มความจุเครือข่ายมากกว่า 20 เท่าต่อเที่ยวบินเมื่อเทียบกับ V2 Mini ดาวเทียม V3 มีความสามารถในการดาวน์โหลดข้อมูลสูงถึง 1,000 Gbps และอัปโหลด 200 Gbps ต่อดวง รวมกันแล้วสามารถเพิ่มความจุเครือข่าย Starlink ได้ถึง 60 Tbps ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการทำให้วิสัยทัศน์ของ Elon Musk ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเป็นจริง อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้จะต้องมีฮาร์ดแวร์ใหม่เพื่อรองรับความเร็วที่ดาวเทียม V3 สามารถให้บริการได้ และ SpaceX ยืนยันว่าดาวเทียม V3 จะถูกออกแบบให้เผาไหม้หมดเมื่อหมดอายุการใช้งาน เพื่อลดปัญหาขยะอวกาศ ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ SpaceX เปิดตัวดาวเทียม Starlink V3 ขนาดใหญ่และหนักถึง 2,000 กิโลกรัม ➡️ ใช้ยาน Starship ส่งขึ้นสู่วงโคจร แทน Falcon 9 ➡️ แต่ละเที่ยวบินสามารถบรรทุกดาวเทียม V3 ได้ถึง 60 ดวง ➡️ เพิ่มความจุเครือข่ายมากกว่า 20 เท่าต่อเที่ยวบินเมื่อเทียบกับ V2 Mini ➡️ ความสามารถดาวน์โหลด 1,000 Gbps และอัปโหลด 200 Gbps ต่อดวง ➡️ เพิ่มความจุเครือข่ายรวมถึง 60 Tbps ➡️ ผู้ใช้ต้องมีฮาร์ดแวร์ใหม่เพื่อรองรับความเร็วระดับกิกะบิต ➡️ ดาวเทียม V3 ถูกออกแบบให้เผาไหม้หมดเมื่อหมดอายุการใช้งาน https://www.tomshardware.com/service-providers/network-providers/spacex-shows-off-massive-new-v3-starlink-satellites-expanded-technology-will-deliver-gigabit-internet-to-customers-for-the-first-time-and-enable-60-tera-bits-per-second-downlink-capacity
    0 Comments 0 Shares 282 Views 0 Reviews
More Results