• 🔐 การอัปเดตด้านความปลอดภัยของ Windows 11 และ Server 2025
    Microsoft ได้เปิดตัว Windows 11 24H2 และ Windows Server 2025 พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย เช่น Recall และ Windows Hotpatching ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อควรระวังสำหรับองค์กร

    Recall เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้อนดูการทำงานบนเครื่องได้ผ่าน AI และ Optical Character Recognition (OCR) อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้เคยถูกวิจารณ์ว่าเป็น "ฝันร้ายด้านความเป็นส่วนตัว" ทำให้ Microsoft ต้องปรับให้เป็น ระบบ opt-in

    Windows Hotpatching เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยให้สามารถติดตั้งอัปเดตด้านความปลอดภัยโดยไม่ต้องรีบูตเครื่อง ซึ่งช่วยลดเวลาหยุดทำงานของระบบ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Windows 11 24H2 และ Server 2025 มาพร้อมกับฟีเจอร์ Recall และ Windows Hotpatching
    - Recall ใช้ AI และ OCR เพื่อสร้างฐานข้อมูลกิจกรรมของผู้ใช้
    - Windows Hotpatching ช่วยให้สามารถติดตั้งอัปเดตโดยไม่ต้องรีบูตเครื่อง
    - Microsoft แนะนำให้ตั้งค่าความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น การบล็อก NTLM และการใช้ Entra ID
    - Server 2025 มีการปรับปรุงนโยบาย Local Administrator Password Solution (LAPS)

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - Recall เคยถูกวิจารณ์เรื่องความเป็นส่วนตัว และต้องมีการตั้งค่าความปลอดภัยเพิ่มเติม
    - Windows Hotpatching อาจไม่รองรับทุกอัปเดต และต้องมีการตรวจสอบก่อนใช้งาน
    - องค์กรควรพิจารณาการตั้งค่าความปลอดภัย เช่น การบล็อก NTLM เพื่อป้องกันการโจมตี
    - ต้องติดตามการอัปเดตจาก Microsoft เพื่อดูว่าฟีเจอร์ใหม่มีผลกระทบต่อระบบอย่างไร

    Windows 11 24H2 และ Server 2025 นำเสนอฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็มีข้อควรระวังที่องค์กรต้องพิจารณา เช่น การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของ Recall และการตรวจสอบความเข้ากันได้ของ Windows Hotpatching

    https://www.csoonline.com/article/3996290/securing-windows-11-and-server-2025-what-cisos-should-know-about-the-latest-updates.html
    🔐 การอัปเดตด้านความปลอดภัยของ Windows 11 และ Server 2025 Microsoft ได้เปิดตัว Windows 11 24H2 และ Windows Server 2025 พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย เช่น Recall และ Windows Hotpatching ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อควรระวังสำหรับองค์กร Recall เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้อนดูการทำงานบนเครื่องได้ผ่าน AI และ Optical Character Recognition (OCR) อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้เคยถูกวิจารณ์ว่าเป็น "ฝันร้ายด้านความเป็นส่วนตัว" ทำให้ Microsoft ต้องปรับให้เป็น ระบบ opt-in Windows Hotpatching เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยให้สามารถติดตั้งอัปเดตด้านความปลอดภัยโดยไม่ต้องรีบูตเครื่อง ซึ่งช่วยลดเวลาหยุดทำงานของระบบ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Windows 11 24H2 และ Server 2025 มาพร้อมกับฟีเจอร์ Recall และ Windows Hotpatching - Recall ใช้ AI และ OCR เพื่อสร้างฐานข้อมูลกิจกรรมของผู้ใช้ - Windows Hotpatching ช่วยให้สามารถติดตั้งอัปเดตโดยไม่ต้องรีบูตเครื่อง - Microsoft แนะนำให้ตั้งค่าความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น การบล็อก NTLM และการใช้ Entra ID - Server 2025 มีการปรับปรุงนโยบาย Local Administrator Password Solution (LAPS) ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - Recall เคยถูกวิจารณ์เรื่องความเป็นส่วนตัว และต้องมีการตั้งค่าความปลอดภัยเพิ่มเติม - Windows Hotpatching อาจไม่รองรับทุกอัปเดต และต้องมีการตรวจสอบก่อนใช้งาน - องค์กรควรพิจารณาการตั้งค่าความปลอดภัย เช่น การบล็อก NTLM เพื่อป้องกันการโจมตี - ต้องติดตามการอัปเดตจาก Microsoft เพื่อดูว่าฟีเจอร์ใหม่มีผลกระทบต่อระบบอย่างไร Windows 11 24H2 และ Server 2025 นำเสนอฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็มีข้อควรระวังที่องค์กรต้องพิจารณา เช่น การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของ Recall และการตรวจสอบความเข้ากันได้ของ Windows Hotpatching https://www.csoonline.com/article/3996290/securing-windows-11-and-server-2025-what-cisos-should-know-about-the-latest-updates.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Securing Windows 11 and Server 2025: What CISOs should know about the latest updates
    Microsoft’s latest rollouts to Windows 11 24H2 and Windows Server 2025 include the arrival of Recall and hotpatching. Here are the security settings and recommendations to note.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) แจง กรณีเพจปลอมปล่อยข่าวอ้างว่านิสิตติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ยันเตรียมดำเนินคดีถึงที่สุด

    วันนี้ (30 พ.ค.) เพจ "Mahasarakham University Thailand" ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงกรณีเพจแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัย เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน ยืนยันตรวจสอบข้อเท็จจริงรอบด้าน ดูแลนิสิตอย่างใกล้ชิด และดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด

    มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) ขอชี้แจงกรณีเพจเฟซบุ๊ก “น้องใหม่ มมส 69” ซึ่งแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยและเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน โดยกล่าวอ้างว่านิสิตติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และมีการกล่าวถึงการแพร่ระบาดของโรคร้ายแรงในลักษณะที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000050826

    #MGROnline #มหาวิทยาลัยมหาสารคาม #มมส69
    มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) แจง กรณีเพจปลอมปล่อยข่าวอ้างว่านิสิตติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ยันเตรียมดำเนินคดีถึงที่สุด • วันนี้ (30 พ.ค.) เพจ "Mahasarakham University Thailand" ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงกรณีเพจแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัย เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน ยืนยันตรวจสอบข้อเท็จจริงรอบด้าน ดูแลนิสิตอย่างใกล้ชิด และดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด • มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) ขอชี้แจงกรณีเพจเฟซบุ๊ก “น้องใหม่ มมส 69” ซึ่งแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยและเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน โดยกล่าวอ้างว่านิสิตติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และมีการกล่าวถึงการแพร่ระบาดของโรคร้ายแรงในลักษณะที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000050826 • #MGROnline #มหาวิทยาลัยมหาสารคาม #มมส69
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพบกออกแถลงการณ์ผลหารือระหว่าง ผบ.ทบ.ไทยและ ผบ.ทบ.กัมพูชา ย้ำยึดแนวทางเจรจา บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี บรรลุข้อตกลงทั้งสองฝ่ายถอนกำลังออกจากจุดที่ปะทะ และคงกำลังอยู่ในที่ตั้งเดิม รอผลการประชุม JBC ผู้บังคับบัญชาทั้งสองฝ่ายจะกำกับดูแลกำลังพลให้อยู่ภายใต้กรอบการเจรจาอย่างเคร่งครัด ผบ.ทบ.กัมพูชารับปากหากผู้ใต้บังคับบัญชาฝ่าฝืนพร้อมย้ายออกจากพื้นที่

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000050849

    #MGROnline #ทหารไทย #ทหารกัมพูชา #ช่องบก
    กองทัพบกออกแถลงการณ์ผลหารือระหว่าง ผบ.ทบ.ไทยและ ผบ.ทบ.กัมพูชา ย้ำยึดแนวทางเจรจา บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี บรรลุข้อตกลงทั้งสองฝ่ายถอนกำลังออกจากจุดที่ปะทะ และคงกำลังอยู่ในที่ตั้งเดิม รอผลการประชุม JBC ผู้บังคับบัญชาทั้งสองฝ่ายจะกำกับดูแลกำลังพลให้อยู่ภายใต้กรอบการเจรจาอย่างเคร่งครัด ผบ.ทบ.กัมพูชารับปากหากผู้ใต้บังคับบัญชาฝ่าฝืนพร้อมย้ายออกจากพื้นที่ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000050849 • #MGROnline #ทหารไทย #ทหารกัมพูชา #ช่องบก
    Haha
    Angry
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับแนวโน้มมัลแวร์ที่กำลังเพิ่มขึ้นเผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในกลยุทธ์ของอาชญากรไซเบอร์ โดยมีการใช้ AI และเทคนิคใหม่ ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและเพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตี

    มัลแวร์กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ infostealers ที่ขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น คุกกี้เบราว์เซอร์, ข้อมูล VPN, โทเค็น MFA และกระเป๋าเงินคริปโต ซึ่งถูกขายในตลาดมืดเพื่อให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบองค์กรได้ง่ายขึ้น

    นอกจากนี้ มัลแวร์ที่ใช้วิศวกรรมสังคม (social engineering) กำลังเพิ่มขึ้น โดยใช้เทคนิค ClickFix ที่หลอกให้ผู้ใช้คัดลอกและวางโค้ดที่เป็นอันตรายลงในระบบของตนเอง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - infostealers เพิ่มขึ้น 58% ในปีที่ผ่านมา และรับผิดชอบต่อ 75% ของข้อมูลที่ถูกขโมย
    - มัลแวร์ที่ฝังอยู่ในแพ็กเกจสำหรับนักพัฒนา เพิ่มขึ้น 156% โดยพบมากใน NPM, PyPI และ HuggingFace
    - แรนซัมแวร์กำลังเปลี่ยนไปใช้การโจมตีแบบเจาะจง โดยเน้นการขโมยข้อมูลก่อนเข้ารหัสไฟล์
    - มัลแวร์ที่ใช้วิศวกรรมสังคม เช่น ClickFix กำลังแพร่หลายมากขึ้น

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - องค์กรควรตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของระบบ เพื่อป้องกันการโจมตีจาก infostealers
    - นักพัฒนาควรตรวจสอบแพ็กเกจที่ใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงมัลแวร์ที่ฝังอยู่ในเครื่องมือพัฒนา
    - ผู้ใช้ควรระวังการโจมตีแบบ ClickFix ซึ่งอาจทำให้พวกเขาติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว
    - แรนซัมแวร์กำลังเปลี่ยนกลยุทธ์ จากการเข้ารหัสไฟล์ไปเป็นการขโมยข้อมูลและขู่กรรโชก

    แนวโน้มมัลแวร์ที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่องค์กรและผู้ใช้ทั่วไปต้องปรับตัวและเพิ่มมาตรการป้องกันเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนมากขึ้น

    https://www.csoonline.com/article/3997388/6-rising-malware-trends-every-security-pro-should-know.html
    ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับแนวโน้มมัลแวร์ที่กำลังเพิ่มขึ้นเผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในกลยุทธ์ของอาชญากรไซเบอร์ โดยมีการใช้ AI และเทคนิคใหม่ ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและเพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตี มัลแวร์กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ infostealers ที่ขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น คุกกี้เบราว์เซอร์, ข้อมูล VPN, โทเค็น MFA และกระเป๋าเงินคริปโต ซึ่งถูกขายในตลาดมืดเพื่อให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบองค์กรได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ มัลแวร์ที่ใช้วิศวกรรมสังคม (social engineering) กำลังเพิ่มขึ้น โดยใช้เทคนิค ClickFix ที่หลอกให้ผู้ใช้คัดลอกและวางโค้ดที่เป็นอันตรายลงในระบบของตนเอง ✅ ข้อมูลจากข่าว - infostealers เพิ่มขึ้น 58% ในปีที่ผ่านมา และรับผิดชอบต่อ 75% ของข้อมูลที่ถูกขโมย - มัลแวร์ที่ฝังอยู่ในแพ็กเกจสำหรับนักพัฒนา เพิ่มขึ้น 156% โดยพบมากใน NPM, PyPI และ HuggingFace - แรนซัมแวร์กำลังเปลี่ยนไปใช้การโจมตีแบบเจาะจง โดยเน้นการขโมยข้อมูลก่อนเข้ารหัสไฟล์ - มัลแวร์ที่ใช้วิศวกรรมสังคม เช่น ClickFix กำลังแพร่หลายมากขึ้น ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - องค์กรควรตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของระบบ เพื่อป้องกันการโจมตีจาก infostealers - นักพัฒนาควรตรวจสอบแพ็กเกจที่ใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงมัลแวร์ที่ฝังอยู่ในเครื่องมือพัฒนา - ผู้ใช้ควรระวังการโจมตีแบบ ClickFix ซึ่งอาจทำให้พวกเขาติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว - แรนซัมแวร์กำลังเปลี่ยนกลยุทธ์ จากการเข้ารหัสไฟล์ไปเป็นการขโมยข้อมูลและขู่กรรโชก แนวโน้มมัลแวร์ที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่องค์กรและผู้ใช้ทั่วไปต้องปรับตัวและเพิ่มมาตรการป้องกันเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนมากขึ้น https://www.csoonline.com/article/3997388/6-rising-malware-trends-every-security-pro-should-know.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    6 rising malware trends every security pro should know
    From infostealers commoditizing initial access to a more targeted approach to ransomware attacks, cybercriminals’ malware tools, tactics, and techniques are evolving rapidly.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ฮุนเซน” แถลงกลางที่ประชุมวุฒิสภากัมพูชา ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ เชื่อมั่นใจการเจรจา แต่ยันจุดปะทะเป็นของกัมพูชา ตนเคยไปเยือนปี 52 โวสมัยสงครามปราสาทพระวิหารปี 54 ทหารขอใช้ปืนใหญ่ยิงเข้าไทย 40 กม.แต่ตนไม่ให้ใช้ พร้อมท้ากองทัพไทยบุกนครวัต จะได้ร้องยูเอ็นว่าไทยรุกราน พร้อมทำลายกองทัพไทยให้ย่อยยับ โวเครื่องบินรบของไทยทำอะไรไม่ได้ เขมรมีเครื่องยิงประสิทธิภาพสูง เรียกร้องประชาชนสนับสนุนกองทัพแสดงความสามัคคีเป็นกระดูกสันหลังป้องกันประเทศ

    วันนี้(29 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.34 น. ในเฟซบุ๊ก “Samdech Hun Sen of Cambodia” ของ จอมพล สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา บิดาของนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนปัจจุบัน มีการโพสต์ข้อความเป็นสารพิเศษที่สมเด็จฮุนเซนกล่าวในการประชุมวุฒิสภากัมพูชาในวันนี้ โดยระบุว่า

    ต่อไปนี้คือถ้อยแถลงหลักของสมเด็จฮุนเซนในคำแถลงพิเศษเกี่ยวกับการปะทะด้วยอาวุธระหว่างกองทัพกัมพูชาและไทยที่ชายแดนบริเวณมอมเตย จังหวัดพระวิหาร

    สมเด็จฮุนเซนขอให้เพื่อนร่วมชาติของเขาอยู่ในความสงบและไว้วางใจในความเป็นผู้นำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาผ่านการเจรจาแทนที่จะใช้กำลังทหาร

    นายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบในประเด็นชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทย และเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาระหว่างรัฐบาลทั้งสอง ระวังข่าวปลอมที่ผลักดันให้เกิดสงครามระหว่างสองประเทศ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000050442

    #MGROnline #ฮุนเซน #กัมพูชา
    “ฮุนเซน” แถลงกลางที่ประชุมวุฒิสภากัมพูชา ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ เชื่อมั่นใจการเจรจา แต่ยันจุดปะทะเป็นของกัมพูชา ตนเคยไปเยือนปี 52 โวสมัยสงครามปราสาทพระวิหารปี 54 ทหารขอใช้ปืนใหญ่ยิงเข้าไทย 40 กม.แต่ตนไม่ให้ใช้ พร้อมท้ากองทัพไทยบุกนครวัต จะได้ร้องยูเอ็นว่าไทยรุกราน พร้อมทำลายกองทัพไทยให้ย่อยยับ โวเครื่องบินรบของไทยทำอะไรไม่ได้ เขมรมีเครื่องยิงประสิทธิภาพสูง เรียกร้องประชาชนสนับสนุนกองทัพแสดงความสามัคคีเป็นกระดูกสันหลังป้องกันประเทศ • วันนี้(29 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.34 น. ในเฟซบุ๊ก “Samdech Hun Sen of Cambodia” ของ จอมพล สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา บิดาของนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนปัจจุบัน มีการโพสต์ข้อความเป็นสารพิเศษที่สมเด็จฮุนเซนกล่าวในการประชุมวุฒิสภากัมพูชาในวันนี้ โดยระบุว่า • ต่อไปนี้คือถ้อยแถลงหลักของสมเด็จฮุนเซนในคำแถลงพิเศษเกี่ยวกับการปะทะด้วยอาวุธระหว่างกองทัพกัมพูชาและไทยที่ชายแดนบริเวณมอมเตย จังหวัดพระวิหาร • สมเด็จฮุนเซนขอให้เพื่อนร่วมชาติของเขาอยู่ในความสงบและไว้วางใจในความเป็นผู้นำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาผ่านการเจรจาแทนที่จะใช้กำลังทหาร • นายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบในประเด็นชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทย และเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาระหว่างรัฐบาลทั้งสอง ระวังข่าวปลอมที่ผลักดันให้เกิดสงครามระหว่างสองประเทศ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000050442 • #MGROnline #ฮุนเซน #กัมพูชา
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ธนกฤต” เผย “สมศักดิ์” ส่งหนังสือตีกลับมติแพทยสภาลงโทษ 3 หมอแล้ว เมื่อเย็นวาน มีทั้งเห็นด้วย และให้กลับไปพิจารณาใหม่ เรื่องกระบวนการ แต่ไม่ใช่คำสั่งให้ทบทวน แล้วแต่บอร์ดแพทยสภาจะพิจารณา

    วันนี้ (29 พ.ค.) นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ภายหลังคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ได้ประชุมไปแล้ว 3 ครั้ง และส่งสรุปความเห็นของแต่ละคนให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แล้ว เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้น นายสมศักดิ์ ได้ทำหนังสือส่งถึงแพทยสภาเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) เวลาประมาณ 16.00 น.

    อย่างไรก็ตาม นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า ตนไม่ทราบในเนื้อหามากนัก แต่ทราบว่าเบื้องต้นว่า นายสมศักดิ์ ได้มีการส่งความเห็นต่อมติของแพทยสภาซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์ 4 คน โดยมี 1 คน ที่ยกคำร้อง อีก 3 คนถูกลงโทษตักเตือนและพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000050394

    #MGROnline #มติแพทยสภา #กระทรวงสาธารณสุข #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
    “ธนกฤต” เผย “สมศักดิ์” ส่งหนังสือตีกลับมติแพทยสภาลงโทษ 3 หมอแล้ว เมื่อเย็นวาน มีทั้งเห็นด้วย และให้กลับไปพิจารณาใหม่ เรื่องกระบวนการ แต่ไม่ใช่คำสั่งให้ทบทวน แล้วแต่บอร์ดแพทยสภาจะพิจารณา • วันนี้ (29 พ.ค.) นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ภายหลังคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ได้ประชุมไปแล้ว 3 ครั้ง และส่งสรุปความเห็นของแต่ละคนให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แล้ว เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้น นายสมศักดิ์ ได้ทำหนังสือส่งถึงแพทยสภาเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) เวลาประมาณ 16.00 น. • อย่างไรก็ตาม นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า ตนไม่ทราบในเนื้อหามากนัก แต่ทราบว่าเบื้องต้นว่า นายสมศักดิ์ ได้มีการส่งความเห็นต่อมติของแพทยสภาซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์ 4 คน โดยมี 1 คน ที่ยกคำร้อง อีก 3 คนถูกลงโทษตักเตือนและพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000050394 • #MGROnline #มติแพทยสภา #กระทรวงสาธารณสุข #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • บีวายดี (BYD) สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการยานยนต์จีนอีกครั้ง หลังจากประกาศปรับลดราคาครั้งใหญ่ครอบคลุมรถยนต์ถึง 22 รุ่น โดยรุ่นที่ได้รับส่วนลดมากที่สุด ได้แก่ Seal 07 DM-i (รุ่น 1.5L 125km) ที่ลดลงถึง 53,000 หยวน หรือประมาณ 241,792 บาท* นอกจากนี้ รุ่น Qin PLUS DM-i และ Qin L DM-i ก็มีราคาลดลงอย่างชัดเจน ส่งผลให้ราคารถเริ่มต้นอยู่ที่เพียง 63,800–79,800 หยวน หรือประมาณ 291,063 –364,052 บาท

    การปรับลดราคาครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สามในรอบ 2 เดือนของบีวายดี สะท้อนแรงกดดันที่บริษัทเผชิญในด้านยอดขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดภายในประเทศ แม้ว่ายอดขายรวมในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนจะอยู่ที่ 1.38 ล้านคัน แต่เมื่อพิจารณาเฉพาะในประเทศ ยอดขายอยู่ที่ประมาณ 1.1 ล้านคัน หรือเฉลี่ยเดือนละ 275,000 คัน ซึ่งยังห่างไกลจากเป้าหมายรายปีที่ตั้งไว้ 5.5 ล้านคัน และจำเป็นต้องมียอดขายเฉลี่ยวันละกว่า 15,000 คันในช่วงที่เหลือของปี

    แม้ภาพรวมยอดขายจะดูแข็งแกร่ง แต่บีวายดีกลับเผชิญแรงแข่งขันจากทั้งผู้ผลิตจีนรายอื่นและบริษัทรถยนต์ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มรถราคาประหยัด เช่น รถยนต์รุ่นเรือธงอย่าง Han DM, Song PLUS DM และ Qin PLUS DM ก็เผชิญกับแรงกดดันจากคู่แข่งใหม่ เช่น Geely Xingyao 8ที่มีราคาถูกกว่าถึง 53,000 หยวน หรือ 241,792 บาท และ Chery Fengyun A9 ส่วนในตลาดรถยนต์ ICE แบรนด์ต่างชาติอย่าง Volkswagen, Honda และ Buick ก็เร่งเคลียร์สต๊อกด้วยการหั่นราคาอย่างหนัก ทำให้ความได้เปรียบด้านราคาของบีวายดีลดลง
    ทันทีหลังประกาศลดราคาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นของบีวายดีในตลาดหลักทรัพย์ร่วงลงอย่างรุนแรง โดยในตลาดฮ่องกงราคาลดลงถึง 8.6% และในตลาด A-share ลดลงกว่า 6% ภายในเวลา 3 วัน มูลค่าบริษัทหายไปราว 1 แสนล้านหยวน นักลงทุนตื่นตระหนกกับแนวโน้มกำไรของบริษัทที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามราคา ขณะที่หุ้นของบริษัทรถยนต์รายอื่น เช่น Geely, Great Wall, Seres, Changan และ SAIC ก็ร่วงตามไปในระดับ 2–5%

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000050149

    #MGROnline #บีวายดี #ยานยนต์จีน
    บีวายดี (BYD) สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการยานยนต์จีนอีกครั้ง หลังจากประกาศปรับลดราคาครั้งใหญ่ครอบคลุมรถยนต์ถึง 22 รุ่น โดยรุ่นที่ได้รับส่วนลดมากที่สุด ได้แก่ Seal 07 DM-i (รุ่น 1.5L 125km) ที่ลดลงถึง 53,000 หยวน หรือประมาณ 241,792 บาท* นอกจากนี้ รุ่น Qin PLUS DM-i และ Qin L DM-i ก็มีราคาลดลงอย่างชัดเจน ส่งผลให้ราคารถเริ่มต้นอยู่ที่เพียง 63,800–79,800 หยวน หรือประมาณ 291,063 –364,052 บาท • การปรับลดราคาครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สามในรอบ 2 เดือนของบีวายดี สะท้อนแรงกดดันที่บริษัทเผชิญในด้านยอดขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดภายในประเทศ แม้ว่ายอดขายรวมในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนจะอยู่ที่ 1.38 ล้านคัน แต่เมื่อพิจารณาเฉพาะในประเทศ ยอดขายอยู่ที่ประมาณ 1.1 ล้านคัน หรือเฉลี่ยเดือนละ 275,000 คัน ซึ่งยังห่างไกลจากเป้าหมายรายปีที่ตั้งไว้ 5.5 ล้านคัน และจำเป็นต้องมียอดขายเฉลี่ยวันละกว่า 15,000 คันในช่วงที่เหลือของปี • แม้ภาพรวมยอดขายจะดูแข็งแกร่ง แต่บีวายดีกลับเผชิญแรงแข่งขันจากทั้งผู้ผลิตจีนรายอื่นและบริษัทรถยนต์ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มรถราคาประหยัด เช่น รถยนต์รุ่นเรือธงอย่าง Han DM, Song PLUS DM และ Qin PLUS DM ก็เผชิญกับแรงกดดันจากคู่แข่งใหม่ เช่น Geely Xingyao 8ที่มีราคาถูกกว่าถึง 53,000 หยวน หรือ 241,792 บาท และ Chery Fengyun A9 ส่วนในตลาดรถยนต์ ICE แบรนด์ต่างชาติอย่าง Volkswagen, Honda และ Buick ก็เร่งเคลียร์สต๊อกด้วยการหั่นราคาอย่างหนัก ทำให้ความได้เปรียบด้านราคาของบีวายดีลดลง ทันทีหลังประกาศลดราคาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นของบีวายดีในตลาดหลักทรัพย์ร่วงลงอย่างรุนแรง โดยในตลาดฮ่องกงราคาลดลงถึง 8.6% และในตลาด A-share ลดลงกว่า 6% ภายในเวลา 3 วัน มูลค่าบริษัทหายไปราว 1 แสนล้านหยวน นักลงทุนตื่นตระหนกกับแนวโน้มกำไรของบริษัทที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามราคา ขณะที่หุ้นของบริษัทรถยนต์รายอื่น เช่น Geely, Great Wall, Seres, Changan และ SAIC ก็ร่วงตามไปในระดับ 2–5% • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000050149 • #MGROnline #บีวายดี #ยานยนต์จีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ชาญชัย- เสรีพิสุทธิ์"มอบเอกสาร คดีไต่สวนชั้น 14 ปม"ทักษิณ"พักรักษาตัว ให้ศาลฎีกาประกอบพิจารณา ด้านเสรีพิศุทธ์ เชื่อ 13 มิ.ย. เจ้าตัวไม่มาร่วมฟังไต่สวนของศาลแน่นอน

    เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (29 พ.ค.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนราขดำเนินใน นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ,นายสมชาย แสวงการ อดีตสว. ,นายตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ,นายภิมะ สิทธิ์ประเสริฐ และนายนิติธร ล้ำเหลือ เดินทางไปยื่นคำร้องขอส่งมอบพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงต่างๆ ในคดีที่นายทักษิณ ชินวัตร รักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ขณะถูกคุมขัง อันเป็นที่มาของคำร้องฉบับที่ศาลฎีกาได้สั่งรับไว้ไต่สวนหาความจริงด้วยศาลเองในวันที่ 13 มิ.ยนี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000050350

    #MGROnline #ชาญชัย #เสรีพิสุทธิ์ #ทักษิณชินวัตร #ชั้น14
    "ชาญชัย- เสรีพิสุทธิ์"มอบเอกสาร คดีไต่สวนชั้น 14 ปม"ทักษิณ"พักรักษาตัว ให้ศาลฎีกาประกอบพิจารณา ด้านเสรีพิศุทธ์ เชื่อ 13 มิ.ย. เจ้าตัวไม่มาร่วมฟังไต่สวนของศาลแน่นอน • เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (29 พ.ค.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนราขดำเนินใน นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ,นายสมชาย แสวงการ อดีตสว. ,นายตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ,นายภิมะ สิทธิ์ประเสริฐ และนายนิติธร ล้ำเหลือ เดินทางไปยื่นคำร้องขอส่งมอบพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงต่างๆ ในคดีที่นายทักษิณ ชินวัตร รักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ขณะถูกคุมขัง อันเป็นที่มาของคำร้องฉบับที่ศาลฎีกาได้สั่งรับไว้ไต่สวนหาความจริงด้วยศาลเองในวันที่ 13 มิ.ยนี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000050350 • #MGROnline #ชาญชัย #เสรีพิสุทธิ์ #ทักษิณชินวัตร #ชั้น14
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ดอนเมืองโทลล์เวย์”แจ้งตลาดฯ ยื่นอนุญาโตตุลาการฟ้องกรมทางหลวง ชดเชย ผลกระทบโควิดช่วงปี 63-65 เป็นเงิน 2.3 พันล้านบาท “สุริยะ”ยันต้องดำเนินการภายใต้ผลประโยชน์ของรัฐมากที่สุด

    รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) (DMT) หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงนามโดยนายศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ เรื่องการยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อใช้สิทธิและปฏิบัติตามสัญญาสัมปทานทางหลวงในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 ถนนวิภาวดีรังสิต ตอนดินแดง – ดอนเมือง (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) (‘สัญญาสัมปทาน”) ระหว่างกรมทางหลวงกับบริษัทฯ เพื่อให้กรมทางหลวง แก้ไขผลเสียต่อฐานะทางการของบริษัทฯ โดยยื่นคำเสนอข้อพิพาทวันที่ 27 พฤษภาคม 2568

    โดยระบุว่า บริษัทฯ เป็นผู้รับสัมปทานทางหลวงในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 (ถนนวิภาวดีรังสิต) จากกรมทางหลวง รวม 2 ตอน ได้แก่ สัมปทานทางหลวงตอนดินแดง – ดอนเมือง และสัมปทาน ทางหลวงตอนดอนเมือง – อนุสรณ์สถาน โดยระหว่างอายุสัญญาสัมปทานในปี 2563 ถึงปี 2565 ปรากฎการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร อันเป็นเหตุสุดวิสัยตามสัญญาสัมปทาน ส่งผลให้ปริมาณการจราจรที่ใช้ทางหลวงสัมปทานทางหลวงเดิมและทางหลวงสัมปทานตอนต่อขยายทางด้านทิศเหนือลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของสัญญาสัมปทานโดยแจ้งเหตุสุดวิสัยให้กรมทางหลวงทราบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000050355

    #MGROnline #ดอนเมืองโทลล์เวย์ #ทางยกระดับดอนเมือง
    “ดอนเมืองโทลล์เวย์”แจ้งตลาดฯ ยื่นอนุญาโตตุลาการฟ้องกรมทางหลวง ชดเชย ผลกระทบโควิดช่วงปี 63-65 เป็นเงิน 2.3 พันล้านบาท “สุริยะ”ยันต้องดำเนินการภายใต้ผลประโยชน์ของรัฐมากที่สุด • รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) (DMT) หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงนามโดยนายศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ เรื่องการยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อใช้สิทธิและปฏิบัติตามสัญญาสัมปทานทางหลวงในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 ถนนวิภาวดีรังสิต ตอนดินแดง – ดอนเมือง (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) (‘สัญญาสัมปทาน”) ระหว่างกรมทางหลวงกับบริษัทฯ เพื่อให้กรมทางหลวง แก้ไขผลเสียต่อฐานะทางการของบริษัทฯ โดยยื่นคำเสนอข้อพิพาทวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 • โดยระบุว่า บริษัทฯ เป็นผู้รับสัมปทานทางหลวงในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 (ถนนวิภาวดีรังสิต) จากกรมทางหลวง รวม 2 ตอน ได้แก่ สัมปทานทางหลวงตอนดินแดง – ดอนเมือง และสัมปทาน ทางหลวงตอนดอนเมือง – อนุสรณ์สถาน โดยระหว่างอายุสัญญาสัมปทานในปี 2563 ถึงปี 2565 ปรากฎการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร อันเป็นเหตุสุดวิสัยตามสัญญาสัมปทาน ส่งผลให้ปริมาณการจราจรที่ใช้ทางหลวงสัมปทานทางหลวงเดิมและทางหลวงสัมปทานตอนต่อขยายทางด้านทิศเหนือลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของสัญญาสัมปทานโดยแจ้งเหตุสุดวิสัยให้กรมทางหลวงทราบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000050355 • #MGROnline #ดอนเมืองโทลล์เวย์ #ทางยกระดับดอนเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • โอกาสที่ทักษิณกลับไปติดคุกสูง

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000050199
    โอกาสที่ทักษิณกลับไปติดคุกสูง บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000050199
    MGRONLINE.COM
    โอกาสที่ทักษิณกลับไปติดคุกสูง
    ทักษิณจะกลับมาติดคุกหรือไม่ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีความสงสัยเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของการบังคับโทษและสั่งให้ดำเนินการไต่สวนด้วยตนเองเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระบวนการบังคับโทษของทักษิณนั้นชอบหรือ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • CISOs ควรเตรียมรับมือกับการโจมตีของ Scattered Spider

    Scattered Spider เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีชื่อเสียงด้านการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่ โดยล่าสุด Marks & Spencer, Harrods และ Co-op ในสหราชอาณาจักรตกเป็นเป้าหมาย ซึ่งสร้างความเสียหายทางธุรกิจมหาศาล และคาดว่า กลุ่มนี้จะขยายการโจมตีไปยังสหรัฐฯ

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Scattered Spider และแนวทางป้องกัน
    ✅ Scattered Spider เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Social Engineering
    - ใช้ เทคนิคหลอกลวงพนักงานและฝ่ายสนับสนุนลูกค้าเพื่อเข้าถึงระบบ

    ✅ กลุ่มนี้ร่วมมือกับ DragonForce ซึ่งเป็นกลุ่ม Ransomware-as-a-Service
    - DragonForce อาจมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยข่าวกรองรัสเซีย

    ✅ Scattered Spider เปลี่ยนกลยุทธ์จาก Phishing เป็น Social Engineering
    - ใช้ SIM Swapping และการปลอมตัวเป็นพนักงานเพื่อขอรีเซ็ตรหัสผ่าน

    ✅ CISOs ควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์
    - โดยเฉพาะ ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าและพนักงานที่มีสิทธิ์เข้าถึงระบบ

    ✅ ควรมีระบบตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติของผู้ใช้ในเครือข่าย
    - เช่น การเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของพนักงาน

    ✅ หากถูกโจมตี ควรใช้การกู้คืนข้อมูลจาก Backup แทนการจ่ายค่าไถ่
    - การจ่ายค่าไถ่ ไม่รับประกันว่าข้อมูลจะไม่ถูกเผยแพร่

    https://www.csoonline.com/article/3994369/how-cisos-can-defend-against-scattered-spider-ransomware-attacks.html
    CISOs ควรเตรียมรับมือกับการโจมตีของ Scattered Spider Scattered Spider เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีชื่อเสียงด้านการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่ โดยล่าสุด Marks & Spencer, Harrods และ Co-op ในสหราชอาณาจักรตกเป็นเป้าหมาย ซึ่งสร้างความเสียหายทางธุรกิจมหาศาล และคาดว่า กลุ่มนี้จะขยายการโจมตีไปยังสหรัฐฯ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Scattered Spider และแนวทางป้องกัน ✅ Scattered Spider เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Social Engineering - ใช้ เทคนิคหลอกลวงพนักงานและฝ่ายสนับสนุนลูกค้าเพื่อเข้าถึงระบบ ✅ กลุ่มนี้ร่วมมือกับ DragonForce ซึ่งเป็นกลุ่ม Ransomware-as-a-Service - DragonForce อาจมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ✅ Scattered Spider เปลี่ยนกลยุทธ์จาก Phishing เป็น Social Engineering - ใช้ SIM Swapping และการปลอมตัวเป็นพนักงานเพื่อขอรีเซ็ตรหัสผ่าน ✅ CISOs ควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ - โดยเฉพาะ ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าและพนักงานที่มีสิทธิ์เข้าถึงระบบ ✅ ควรมีระบบตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติของผู้ใช้ในเครือข่าย - เช่น การเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของพนักงาน ✅ หากถูกโจมตี ควรใช้การกู้คืนข้อมูลจาก Backup แทนการจ่ายค่าไถ่ - การจ่ายค่าไถ่ ไม่รับประกันว่าข้อมูลจะไม่ถูกเผยแพร่ https://www.csoonline.com/article/3994369/how-cisos-can-defend-against-scattered-spider-ransomware-attacks.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    How CISOs can defend against Scattered Spider ransomware attacks
    CISOs should fortify help desk and employee defenses, enhance intrusion detection and tracking capabilities, and recognize that paying ransoms is not a viable strategy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้องคดี "ทนายธรรมราช" ฟ้อง "จตุรงค์ จงอาษา" ข้อหาหมิ่นประมาทในรายการโหนกระแส ชี้เป็นการติชมวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความคิดเห็นไปตามข้อเท็จจริงที่ได้ความมาจากกระแสสังคม

    คดีความระหว่างทนายธรรมราช สาระปัญญา ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจตุรงค์ จงอาษาข้อหาหมิ่นประมาท ศาลจังหวัดชลบุรีมีควาพิพากษายกฟ้องไปเมื่อ 24 พฤษภาคม 2567 กรณีที่มีการกล่าวพาดพิงในรายการโหนกระแส ตอน “ครูบาไก่ขุดพระ” ที่ออกอากาศเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2566

    จากนั้นทนายธรรมราชได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 2 ในวันนี้(27 พ.ค.2568) เวลา 10.00 น. ศาลจังหวัดชลบุรีได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 2

    สรุปได้ว่า ตามที่โจทก์อุทธรณ์มานั้น เห็นว่า การที่โจทก์ประกอบวิชาชีพเป็นทนายความและเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อทนายธรรมราช The Lawyer of legality มีผู้ติดตามกว่า 81,000 คน และมีผู้ถูกใจเพจกว่า 150,000 คน โดยตั้งค่าเพจเฟซบุ๊กเป็นสาธารณะ ซึ่งประชาชาชนทั่วไปเข้าถึงเพจเฟซบุ๊กของโจทก์ได้ ย่อมแสดงออกให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าตนเป็นบุคคลสาธารณะ คำพูดดังกล่าวของจำเลยมีลักษณะเป็นคำเสียดสีและไม่สุภาพเป็นเพียงการวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ทนายความของโจทก์ ขณะเกิดเหตุโจก์ก็ได้แสดงออกในที่สาธารณะและสื่อมวลชนจนเป็นกระแสสังคม โจทก์ย่อมเข้าใจและความีความหนักแน่นที่จะยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ชมผู้ฟังได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000049673

    #MGROnline #ทนายธรรมราช
    ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้องคดี "ทนายธรรมราช" ฟ้อง "จตุรงค์ จงอาษา" ข้อหาหมิ่นประมาทในรายการโหนกระแส ชี้เป็นการติชมวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความคิดเห็นไปตามข้อเท็จจริงที่ได้ความมาจากกระแสสังคม • คดีความระหว่างทนายธรรมราช สาระปัญญา ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจตุรงค์ จงอาษาข้อหาหมิ่นประมาท ศาลจังหวัดชลบุรีมีควาพิพากษายกฟ้องไปเมื่อ 24 พฤษภาคม 2567 กรณีที่มีการกล่าวพาดพิงในรายการโหนกระแส ตอน “ครูบาไก่ขุดพระ” ที่ออกอากาศเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2566 • จากนั้นทนายธรรมราชได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 2 ในวันนี้(27 พ.ค.2568) เวลา 10.00 น. ศาลจังหวัดชลบุรีได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 2 • สรุปได้ว่า ตามที่โจทก์อุทธรณ์มานั้น เห็นว่า การที่โจทก์ประกอบวิชาชีพเป็นทนายความและเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อทนายธรรมราช The Lawyer of legality มีผู้ติดตามกว่า 81,000 คน และมีผู้ถูกใจเพจกว่า 150,000 คน โดยตั้งค่าเพจเฟซบุ๊กเป็นสาธารณะ ซึ่งประชาชาชนทั่วไปเข้าถึงเพจเฟซบุ๊กของโจทก์ได้ ย่อมแสดงออกให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าตนเป็นบุคคลสาธารณะ คำพูดดังกล่าวของจำเลยมีลักษณะเป็นคำเสียดสีและไม่สุภาพเป็นเพียงการวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ทนายความของโจทก์ ขณะเกิดเหตุโจก์ก็ได้แสดงออกในที่สาธารณะและสื่อมวลชนจนเป็นกระแสสังคม โจทก์ย่อมเข้าใจและความีความหนักแน่นที่จะยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ชมผู้ฟังได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000049673 • #MGROnline #ทนายธรรมราช
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว

  • "ทักษิณ" โวยแหลก โดนสมาชิกแพทยสภาด่าในไลน์กลุ่ม ซัดมีหน้าที่ตรวจสอบจริยธรรมแต่ไม่มีจริยธรรมเสียเอง เชื่อ “สมศักดิ์” มีข้อมูลทุกอย่าง แต่ต้องคิดเยอะหน่อย

    วันนี้ (27พ.ย.) เมื่อเวลา 14.55 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แพทยสภามีมติลงโทษแพทยสภา 3 คนกรณีการพักรักษาตัวนายทักษิณ ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่า แพทยสภามีหน้าที่ดูเรื่องจริยธรรมของแพทย์ บางทีแพทยสภาก็ไม่มีจริยธรรมเสียเองก็มี

    “ไลน์กลุ่มหลุดออกมา แพทยสภาบางคนด่าผมอยู่ในกลุ่มไลน์กลุ่ม แล้วก็มีแพทยสภาคนหนึ่ง ตอบไปเป็นสติ๊กเกอร์ว่า yes อย่างงี้มันยังไม่ทันพิจารณาเลย อย่างงี้ เค้าเรียกจริยธรรมมีปัญหาซะเอง

    “คือเป็นมันทุกฝ่ายด้วยนะ ถ้ารักษากติกาและรักษาจริยธรรมในวิชาชีพมันไม่มีปัญหานะครับ”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049633

    #MGROnline #แพทยสภา #ทักษิณ #ชั้น14 #โรงพยาบาลตำรวจ
    "ทักษิณ" โวยแหลก โดนสมาชิกแพทยสภาด่าในไลน์กลุ่ม ซัดมีหน้าที่ตรวจสอบจริยธรรมแต่ไม่มีจริยธรรมเสียเอง เชื่อ “สมศักดิ์” มีข้อมูลทุกอย่าง แต่ต้องคิดเยอะหน่อย • วันนี้ (27พ.ย.) เมื่อเวลา 14.55 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แพทยสภามีมติลงโทษแพทยสภา 3 คนกรณีการพักรักษาตัวนายทักษิณ ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่า แพทยสภามีหน้าที่ดูเรื่องจริยธรรมของแพทย์ บางทีแพทยสภาก็ไม่มีจริยธรรมเสียเองก็มี • “ไลน์กลุ่มหลุดออกมา แพทยสภาบางคนด่าผมอยู่ในกลุ่มไลน์กลุ่ม แล้วก็มีแพทยสภาคนหนึ่ง ตอบไปเป็นสติ๊กเกอร์ว่า yes อย่างงี้มันยังไม่ทันพิจารณาเลย อย่างงี้ เค้าเรียกจริยธรรมมีปัญหาซะเอง • “คือเป็นมันทุกฝ่ายด้วยนะ ถ้ารักษากติกาและรักษาจริยธรรมในวิชาชีพมันไม่มีปัญหานะครับ” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049633 • #MGROnline #แพทยสภา #ทักษิณ #ชั้น14 #โรงพยาบาลตำรวจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • คิวต่อไป...กกต. เรียก16 สว. เข้ารับทราบข้อหาฮั้วเลือกตั้ง “หมอเกศ” ร่วมด้วย ภายในวันที่ 4 มิ.ย.

    วันนี้ (27พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากวุฒิสภาว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)คณะที่ 26 ได้มีหนังสือลงวันที่ 22พ.ค. เรียกสมาชิกวุฒิสภา(สว.) จำนวน 16 คน ให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีฮั้วเลือกสว. ภายในวันที่ 4 มิ.ย. 68

    ทั้งนี้สว.16ราย ประกอบด้วย 1.นายภมร เชาว์ศิริกุล 2.พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ 3.นายจรุณ กลิ่นตลบ 4.นายประเทือง มนตรี 5.นายนฤพล สุคณธนชาติ 6.นายอะมัด อายุเคน 7.น.ส.สายฝน กองแก้ว 8.นายชาญชัย ไชยพิศ 9.นายนิรุตติ สิทธินนท์ 10.นายศุภโชค ศาลากิจ 11.นางอารีย์ บรรจงธุรการ 12.นายจำลอง อนันตสุข 13. น.ส.เกศกมล เปลี่ยนสมัย 14.นายขจรศักดิ์ ศรีวิราช 15.นายอเนก วีระพจนานันท์ และ 16. นางวลีรักษณ์ พัชระเมธาพัฒน์

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049602

    #MGROnline #กกต. #ฮั้วเลือกตั้ง #หมอเกศ
    คิวต่อไป...กกต. เรียก16 สว. เข้ารับทราบข้อหาฮั้วเลือกตั้ง “หมอเกศ” ร่วมด้วย ภายในวันที่ 4 มิ.ย. • วันนี้ (27พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากวุฒิสภาว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)คณะที่ 26 ได้มีหนังสือลงวันที่ 22พ.ค. เรียกสมาชิกวุฒิสภา(สว.) จำนวน 16 คน ให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีฮั้วเลือกสว. ภายในวันที่ 4 มิ.ย. 68 • ทั้งนี้สว.16ราย ประกอบด้วย 1.นายภมร เชาว์ศิริกุล 2.พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ 3.นายจรุณ กลิ่นตลบ 4.นายประเทือง มนตรี 5.นายนฤพล สุคณธนชาติ 6.นายอะมัด อายุเคน 7.น.ส.สายฝน กองแก้ว 8.นายชาญชัย ไชยพิศ 9.นายนิรุตติ สิทธินนท์ 10.นายศุภโชค ศาลากิจ 11.นางอารีย์ บรรจงธุรการ 12.นายจำลอง อนันตสุข 13. น.ส.เกศกมล เปลี่ยนสมัย 14.นายขจรศักดิ์ ศรีวิราช 15.นายอเนก วีระพจนานันท์ และ 16. นางวลีรักษณ์ พัชระเมธาพัฒน์ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049602 • #MGROnline #กกต. #ฮั้วเลือกตั้ง #หมอเกศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เจ้าท่าฯ”ลุยยกระดับปรับปรุงท่าเรือโดยสารแม่น้ำเจ้าพระยาออกแบบ “อารยสถาปัตย์” ส่งเสริมสิทธิเท่าเทียม รองรับบริการทุกกลุ่ม บริหารท่าเรืออัจฉริยะ Smart Pier ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรมพลังงาน ตั้งเป้าปี 69 เสร็จครบ 29 แห่ง เชื่อม”ล้อ - ราง – เรือ” สะดวกไร้รอยต่อ คาดปี 70 มีผู้ใช้บริการท่าเรือโดยสารเฉลี่ย 53,000 คนต่อวัน

    นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการพัฒนาท่าเรือเป็นสถานีเรือโดยสารอัจฉริยะ (Smart Pier) ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 29 ท่า นั้นปัจจุบันมีการปรับปรุงและแก้ไขในรูปแบบอารยสถาปัตย์แล้วเสร็จ 16 แห่ง อาทิ ท่าเรือกรมเจ้าท่า ท่าเรือสะพานพุทธ ท่าเรือนนทบุรี ท่าเรือท่าช้าง ท่าเรือสาทร ท่าเรือราชินี ท่าเรือบางโพ ท่าเรือพายัพ ท่าเรือเตียน เป็นต้น ยังเหลืออีก 13 แห่ง ที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 ตามแผนงานที่วางไว้

    โดยเมื่อเดือนเม.ย. 2568 เพิ่งเปิดให้บริการท่าเรือพระราม 7 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นอีกท่าเรือที่ปรับปรุงด้วยแนวคิด “ท่าเรือยุคใหม่ สะดวกปลอดภัย เทคโนโลยีก้าวไกล ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ซึ่งถือเป็นท่าเรือที่ได้ร่วมมือกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มีการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านพลังงาน ติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อปบนหลังคาท่าเรือ พร้อมสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV CHARGER) ให้เป็นท่าเรือ Smart Pier อย่างสมบูรณ์แบบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000049615

    #MGROnline #ท่าเรืออัจฉริยะ #SmartPier
    “เจ้าท่าฯ”ลุยยกระดับปรับปรุงท่าเรือโดยสารแม่น้ำเจ้าพระยาออกแบบ “อารยสถาปัตย์” ส่งเสริมสิทธิเท่าเทียม รองรับบริการทุกกลุ่ม บริหารท่าเรืออัจฉริยะ Smart Pier ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรมพลังงาน ตั้งเป้าปี 69 เสร็จครบ 29 แห่ง เชื่อม”ล้อ - ราง – เรือ” สะดวกไร้รอยต่อ คาดปี 70 มีผู้ใช้บริการท่าเรือโดยสารเฉลี่ย 53,000 คนต่อวัน • นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการพัฒนาท่าเรือเป็นสถานีเรือโดยสารอัจฉริยะ (Smart Pier) ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 29 ท่า นั้นปัจจุบันมีการปรับปรุงและแก้ไขในรูปแบบอารยสถาปัตย์แล้วเสร็จ 16 แห่ง อาทิ ท่าเรือกรมเจ้าท่า ท่าเรือสะพานพุทธ ท่าเรือนนทบุรี ท่าเรือท่าช้าง ท่าเรือสาทร ท่าเรือราชินี ท่าเรือบางโพ ท่าเรือพายัพ ท่าเรือเตียน เป็นต้น ยังเหลืออีก 13 แห่ง ที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 ตามแผนงานที่วางไว้ • โดยเมื่อเดือนเม.ย. 2568 เพิ่งเปิดให้บริการท่าเรือพระราม 7 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นอีกท่าเรือที่ปรับปรุงด้วยแนวคิด “ท่าเรือยุคใหม่ สะดวกปลอดภัย เทคโนโลยีก้าวไกล ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ซึ่งถือเป็นท่าเรือที่ได้ร่วมมือกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มีการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านพลังงาน ติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อปบนหลังคาท่าเรือ พร้อมสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV CHARGER) ให้เป็นท่าเรือ Smart Pier อย่างสมบูรณ์แบบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000049615 • #MGROnline #ท่าเรืออัจฉริยะ #SmartPier
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนจัดการแข่งขันหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รายการแรกของโลกในชื่อ “CMG World Robot Tournament – Series Event” ซึ่งถือเป็นการเปิดฉากยุคใหม่ของการแข่งขันหุ่นยนต์อย่างเป็นทางการ โดยการแข่งขันครั้งนี้มีหุ่นยนต์ G1 จากบริษัท Unitree Robotics (宇树科技) เป็นพระเอกของสนาม ไม่ว่าจะเป็นในรอบโชว์หรือการแข่งขันจริง หุ่นยนต์ทั้งหมดล้วนมาจากรุ่นเดียวกัน เพื่อทดสอบศักยภาพด้านการควบคุม การออกแบบ และความสามารถของระบบควบคุมระยะไกล

    หุ่นยนต์ G1 มีความสูง 1.32 เมตร หนัก 25 กิโลกรัม ติดตั้งมอเตอร์แรงบิดสูงถึง 43 จุด ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้หลากหลายทั้งในเชิงกีฬาและศิลปะการต่อสู้ เช่น หมัดตรง หมัดฮุก หมัดอัปเปอร์คัต เตะข้าง เตะหน้า หรือแม้แต่การล้มและลุกขึ้นในเวลาไม่ถึง 5 วินาที โดยบางตัวสามารถใช้ท่าลุกแบบ “ปลากระโดด” ได้อย่างลื่นไหล เสียงปรบมือจากผู้ชมดังขึ้นหลายครั้งเมื่อหุ่นยนต์แสดงท่าทางสมจริงราวกับนักมวยมืออาชีพ

    การแข่งขันใช้กติกาแบบ 3 ยก ยกละ 2 นาที คะแนนนับจากการโจมตีจุดสำคัญ ได้แก่ การโจมตีแขนได้ 1 คะแนน ขา 3 คะแนน การล้มโดนหัก 5 คะแนน และหากล้มแล้วลุกไม่ขึ้นภายใน 8 วินาที จะถูกหักทันที 10 คะแนน ทั้งนี้ หุ่นยนต์จะควบคุมโดยมนุษย์ผ่านรีโมตแบบมือจับ (joystick) ซึ่งช่วยให้การควบคุมเป็นไปอย่างแม่นยำและทันสถานการณ์ ทำให้การแข่งขันมีความสนุก สนามมีชีวิตชีวา และยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้ในอนาคต

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000049189

    #MGROnline #ประเทศจีน #การแข่งขัน #หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์
    เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนจัดการแข่งขันหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รายการแรกของโลกในชื่อ “CMG World Robot Tournament – Series Event” ซึ่งถือเป็นการเปิดฉากยุคใหม่ของการแข่งขันหุ่นยนต์อย่างเป็นทางการ โดยการแข่งขันครั้งนี้มีหุ่นยนต์ G1 จากบริษัท Unitree Robotics (宇树科技) เป็นพระเอกของสนาม ไม่ว่าจะเป็นในรอบโชว์หรือการแข่งขันจริง หุ่นยนต์ทั้งหมดล้วนมาจากรุ่นเดียวกัน เพื่อทดสอบศักยภาพด้านการควบคุม การออกแบบ และความสามารถของระบบควบคุมระยะไกล • หุ่นยนต์ G1 มีความสูง 1.32 เมตร หนัก 25 กิโลกรัม ติดตั้งมอเตอร์แรงบิดสูงถึง 43 จุด ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้หลากหลายทั้งในเชิงกีฬาและศิลปะการต่อสู้ เช่น หมัดตรง หมัดฮุก หมัดอัปเปอร์คัต เตะข้าง เตะหน้า หรือแม้แต่การล้มและลุกขึ้นในเวลาไม่ถึง 5 วินาที โดยบางตัวสามารถใช้ท่าลุกแบบ “ปลากระโดด” ได้อย่างลื่นไหล เสียงปรบมือจากผู้ชมดังขึ้นหลายครั้งเมื่อหุ่นยนต์แสดงท่าทางสมจริงราวกับนักมวยมืออาชีพ • การแข่งขันใช้กติกาแบบ 3 ยก ยกละ 2 นาที คะแนนนับจากการโจมตีจุดสำคัญ ได้แก่ การโจมตีแขนได้ 1 คะแนน ขา 3 คะแนน การล้มโดนหัก 5 คะแนน และหากล้มแล้วลุกไม่ขึ้นภายใน 8 วินาที จะถูกหักทันที 10 คะแนน ทั้งนี้ หุ่นยนต์จะควบคุมโดยมนุษย์ผ่านรีโมตแบบมือจับ (joystick) ซึ่งช่วยให้การควบคุมเป็นไปอย่างแม่นยำและทันสถานการณ์ ทำให้การแข่งขันมีความสนุก สนามมีชีวิตชีวา และยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้ในอนาคต • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000049189 • #MGROnline #ประเทศจีน #การแข่งขัน #หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • นครปฐม - สีกาเตยและสามี ถูกจับตาเข้ม ปมพัวพันผลประโยชน์จากวัดไร่ขิงนานกว่า 17 ปี มีข้อมูลเส้นทางเงินไหลเวียนมหาศาล ทั้งรีสอร์ต รถหรู และค่ายเพลงส่วนตัว ขณะ ตร. เตรียมพิจารณาออกหมายจับ หากพบความเชื่อมโยง

    วันนี้( 27 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งกำลังเป็นที่จับตามองในกรณีของนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรือ “สมีแย้ม” และ “สีกาเตย” และ นางสาวอรัญญวรรณ หรือสีกาเกน สาวคนสนิท ที่มีประเด็นโยงใยกับการยักยอกเงินวัดไปใช้ในกิจการส่วนตัว จนยอดเงินไหลเวียนทะลุกว่า 2,000 ล้านบาท

    ล่าสุด มีรายงานว่าตำรวจอยู่ระหว่างพิจารณาออกหมายจับสีกาเตย และนายฉัตรชัย สามีคนปัจจุบัน หลังพบความเชื่อมโยงกับเงินที่รั่วไหลจากวัดไร่ขิงนานถึง 17 ปี โดยเฉพาะในช่วงหลังการจัดงานประจำปีของวัดที่มักมีการ “ออกรถใหม่” อยู่เสมอ สอดคล้องกับภาพชีวิตหรูหราที่มีการโชว์เงินสด รีสอร์ท ร้านกาแฟ และรถหรูถึง 23 คัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000049665

    #MGROnline #นครปฐม #สมีแย้ม #สีกาเตย #สีกาเกน #วัดไร่ขิง
    นครปฐม - สีกาเตยและสามี ถูกจับตาเข้ม ปมพัวพันผลประโยชน์จากวัดไร่ขิงนานกว่า 17 ปี มีข้อมูลเส้นทางเงินไหลเวียนมหาศาล ทั้งรีสอร์ต รถหรู และค่ายเพลงส่วนตัว ขณะ ตร. เตรียมพิจารณาออกหมายจับ หากพบความเชื่อมโยง • วันนี้( 27 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งกำลังเป็นที่จับตามองในกรณีของนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรือ “สมีแย้ม” และ “สีกาเตย” และ นางสาวอรัญญวรรณ หรือสีกาเกน สาวคนสนิท ที่มีประเด็นโยงใยกับการยักยอกเงินวัดไปใช้ในกิจการส่วนตัว จนยอดเงินไหลเวียนทะลุกว่า 2,000 ล้านบาท • ล่าสุด มีรายงานว่าตำรวจอยู่ระหว่างพิจารณาออกหมายจับสีกาเตย และนายฉัตรชัย สามีคนปัจจุบัน หลังพบความเชื่อมโยงกับเงินที่รั่วไหลจากวัดไร่ขิงนานถึง 17 ปี โดยเฉพาะในช่วงหลังการจัดงานประจำปีของวัดที่มักมีการ “ออกรถใหม่” อยู่เสมอ สอดคล้องกับภาพชีวิตหรูหราที่มีการโชว์เงินสด รีสอร์ท ร้านกาแฟ และรถหรูถึง 23 คัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000049665 • #MGROnline #นครปฐม #สมีแย้ม #สีกาเตย #สีกาเกน #วัดไร่ขิง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทักษิณ" กอด "อนุทิน" โชว์สื่อ อวดแดงน้ำเงินยังรักกันดีเหนียวแน่น จับมือกันไป จนครบเทอม มั่นใจคดีฮั้ว เลือกสว. ไม่กระทบความสัมพันธ์ปล่อยตามกระบวนการ

    วันนี้ (27พ.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ความสัมพันธ์ในพรรครวมรัฐบาลโดยเฉพาะกับพรรคภูมิใจไทยยังคงเหนียวแน่นกันดี ไม่มีปัญหาอะไรกัน มั่นใจว่า จะยังคงร่วมงานกันต่อไปจน จนครบสี่ปี และจะไม่มีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีกลางคัน จนกว่าจะมีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งก็อีกนาน

    นายทักษิณ ระบุว่ากระแสข่าวเรื่องความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยเกิดขึ้นจากเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการได้มาซึ่ง สว. ที่ทั้ง กรมสอบสวนคดีพิเศษและคณะกรรมการการเลือกตั้งต่างทำหน้าที่ของตัวเอง โดยไม่มีใครสามารถสั่งการได้เพราะหากไม่ดำเนินการตามคำร้องก็จะถูกร้องเรียนฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่

    แต่ในความเป็นจริง ทั้งสีแดงและสีน้ำเงิน ต่างก็ยังรักกันดี เป็นพี่น้องกันทุกคน มั่นใจไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างก็เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049625

    #MGROnline #ทักษิณ #อนุทิน
    "ทักษิณ" กอด "อนุทิน" โชว์สื่อ อวดแดงน้ำเงินยังรักกันดีเหนียวแน่น จับมือกันไป จนครบเทอม มั่นใจคดีฮั้ว เลือกสว. ไม่กระทบความสัมพันธ์ปล่อยตามกระบวนการ • วันนี้ (27พ.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ความสัมพันธ์ในพรรครวมรัฐบาลโดยเฉพาะกับพรรคภูมิใจไทยยังคงเหนียวแน่นกันดี ไม่มีปัญหาอะไรกัน มั่นใจว่า จะยังคงร่วมงานกันต่อไปจน จนครบสี่ปี และจะไม่มีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีกลางคัน จนกว่าจะมีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งก็อีกนาน • นายทักษิณ ระบุว่ากระแสข่าวเรื่องความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยเกิดขึ้นจากเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการได้มาซึ่ง สว. ที่ทั้ง กรมสอบสวนคดีพิเศษและคณะกรรมการการเลือกตั้งต่างทำหน้าที่ของตัวเอง โดยไม่มีใครสามารถสั่งการได้เพราะหากไม่ดำเนินการตามคำร้องก็จะถูกร้องเรียนฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ • แต่ในความเป็นจริง ทั้งสีแดงและสีน้ำเงิน ต่างก็ยังรักกันดี เป็นพี่น้องกันทุกคน มั่นใจไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างก็เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049625 • #MGROnline #ทักษิณ #อนุทิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • คดีประวัติศาสตร์!! ศาลมีคำพิพากษาคดีแรก พ.ร.บ.อุ้มหาย กรณีครูฝึก-รุ่นพี่ รวม 13 ราย กระทำทรมานและทำร้ายร่างกายพลทหาร จนเสียชีวิต

    สืบเนื่องจากกรณี พลทหาร วรปรัชญ์ พัดมาสกุล สังกัด หน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ถูกครูฝึกและรุ่นพี่ ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งแพทย์เผยสาเหตุร่างกายถูกทำร้ายหนัก ทั้งสมองบวม ซี่โครงหักทั้ง 2 ข้าง ปอดฉีก ปอดรั่ว ไหปลาร้าหัก และกระดูกสันหลังหัก ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ส.ค.67

    วันนี้ (27 พ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2 จังหวัดระยอง ได้มีคำพิพากษาลงโทษจำเลย (ทหาร) จำนวน 13 คน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 (พ.ร.บ.อุ้มหาย) ประกอบกับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา เนื่องจากจำเลยทั้ง 13 คน ได้ร่วมกันลงโทษ สั่งซ่อม และร่วมกันทำร้าย พลทหาร วรปรัชญ์ พัดมาสกุล อย่างรุนแรงในหลายรูปแบบและหลายครั้ง จนกระทั่งทำให้พลทหาร วรปรัชญ์ เสียชีวิตในเวลาต่อมา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000049629

    #MGROnline #พลทหาร
    คดีประวัติศาสตร์!! ศาลมีคำพิพากษาคดีแรก พ.ร.บ.อุ้มหาย กรณีครูฝึก-รุ่นพี่ รวม 13 ราย กระทำทรมานและทำร้ายร่างกายพลทหาร จนเสียชีวิต • สืบเนื่องจากกรณี พลทหาร วรปรัชญ์ พัดมาสกุล สังกัด หน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ถูกครูฝึกและรุ่นพี่ ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งแพทย์เผยสาเหตุร่างกายถูกทำร้ายหนัก ทั้งสมองบวม ซี่โครงหักทั้ง 2 ข้าง ปอดฉีก ปอดรั่ว ไหปลาร้าหัก และกระดูกสันหลังหัก ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 • วันนี้ (27 พ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2 จังหวัดระยอง ได้มีคำพิพากษาลงโทษจำเลย (ทหาร) จำนวน 13 คน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 (พ.ร.บ.อุ้มหาย) ประกอบกับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา เนื่องจากจำเลยทั้ง 13 คน ได้ร่วมกันลงโทษ สั่งซ่อม และร่วมกันทำร้าย พลทหาร วรปรัชญ์ พัดมาสกุล อย่างรุนแรงในหลายรูปแบบและหลายครั้ง จนกระทั่งทำให้พลทหาร วรปรัชญ์ เสียชีวิตในเวลาต่อมา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000049629 • #MGROnline #พลทหาร
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ เผย บทบาทไทยบนเวทีสำคัญของสามภูมิภาค “อาเซียน -อ่าวอาหรับ-จีน” ที่มีขนาดศก. 1 ใน 4 ของโลก แสดงวิสัยทัศน์เน้นย้ำกรอบ “3M” ขับเคลื่อนความร่วมมือพหุภาคี หนุนขนส่งรวดเร็วทุกมิติ ร่วมกันกำหนดทิศทางใหม่เพื่อรับมือความไม่แน่นอนศก.โลก เพื่อการเจริญเติบโตทางศก.ในสามภูมิภาคของโลก

    วันนี้ (27 พฤษภาคม 2568) เวลา 15.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งตรงกับเวลา 14.45 น.ในประเทศไทย ณ ห้อง Ballroom 1 ชั้น 3 ศูนย์ประชุม Kuala Lumpur Convention Center (KLCC) ประเทศมาเลเซีย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน – คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ – จีน (ASEAN – GCC – China Summit) ประกอบไปด้วยผู้นำประเทศ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กับประเทศจีน โดยนายหลี่ เฉียง (H.E. Mr. Li Qiang) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนและผู้นำจากประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049631

    #MGROnline #อาเซียน #อ่าวอาหรับ #จีน
    นายกฯ เผย บทบาทไทยบนเวทีสำคัญของสามภูมิภาค “อาเซียน -อ่าวอาหรับ-จีน” ที่มีขนาดศก. 1 ใน 4 ของโลก แสดงวิสัยทัศน์เน้นย้ำกรอบ “3M” ขับเคลื่อนความร่วมมือพหุภาคี หนุนขนส่งรวดเร็วทุกมิติ ร่วมกันกำหนดทิศทางใหม่เพื่อรับมือความไม่แน่นอนศก.โลก เพื่อการเจริญเติบโตทางศก.ในสามภูมิภาคของโลก • วันนี้ (27 พฤษภาคม 2568) เวลา 15.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งตรงกับเวลา 14.45 น.ในประเทศไทย ณ ห้อง Ballroom 1 ชั้น 3 ศูนย์ประชุม Kuala Lumpur Convention Center (KLCC) ประเทศมาเลเซีย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน – คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ – จีน (ASEAN – GCC – China Summit) ประกอบไปด้วยผู้นำประเทศ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กับประเทศจีน โดยนายหลี่ เฉียง (H.E. Mr. Li Qiang) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนและผู้นำจากประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049631 • #MGROnline #อาเซียน #อ่าวอาหรับ #จีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แม้ว” ชี้ ปมฮั้ว สว.เป็นไปตามกระบวนการ เมื่อมีคนร้อง กกต.แล้วมีดีเอสไอมาร่วมเป็นกรรมการสอบ ก็ต้องทำตามหน้าที่ เหมือนตนโดนคดี 112 กลับมาก็ต้องเข้ากระบวนการ หากบริสุทธิ์ก็อธิบายให้บริสุทธิ์ไม่มีปัญหา แต่จะหยุดกลางกระบวนการไม่ได้ ไม่งั้นคดีค้าง

    วันนี้ (27พ.ค.) เมื่อเวลา 14.55 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการฮั้ว สว. ว่า จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดจากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพราะมีการร้องเรียนไปที่ กกต. จึงตั้งกรรมการขึ้นมาโดยมีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าร่วมด้วย โดยมีพยานหลักฐานต่างๆ ไหลไปที่ดีเอสไอ เขาจึงทำตามหน้าที่ ไม่ต้องมีใครไปสั่ง ถ้าไม่ทำเขาอาจจะโดนมาตรา 157 เมื่อเขามีพยานหลักฐาน ส่วน สว หรือผู้ถูกกล่าวหาก็แก้ไปตามประมวลกฎหมาย ทุกอย่างเมื่อมีกระบวนการเข้าไปแล้ว ก็ต้องจบที่กระบวนการ เหมือนตนที่ถูกทหารเกี่ยวเบ็ดไว้ 112 ตอนสมัยปฏิวัติยิ่งลักษณ์ เมื่อตนกลับมาก็ต้องเข้าสู่กระบวนการให้จบ เราบริสุทธิ์ก็อธิบายให้บริสุทธิ์ ไม่มีปัญหาอะไร เรื่องนี้เมื่อมีกระบวนการแล้ว การจะหยุดกลางกระบวนการไม่ได้ ไม่งั้นทุกคนก็ยังมีปัญหาหรือคดีค้างอยู่

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049635

    #MGROnline #ทักษิณชินวัตร #อดีตนายกรัฐมนตรี #ดีเอสไอ
    “แม้ว” ชี้ ปมฮั้ว สว.เป็นไปตามกระบวนการ เมื่อมีคนร้อง กกต.แล้วมีดีเอสไอมาร่วมเป็นกรรมการสอบ ก็ต้องทำตามหน้าที่ เหมือนตนโดนคดี 112 กลับมาก็ต้องเข้ากระบวนการ หากบริสุทธิ์ก็อธิบายให้บริสุทธิ์ไม่มีปัญหา แต่จะหยุดกลางกระบวนการไม่ได้ ไม่งั้นคดีค้าง • วันนี้ (27พ.ค.) เมื่อเวลา 14.55 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการฮั้ว สว. ว่า จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดจากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพราะมีการร้องเรียนไปที่ กกต. จึงตั้งกรรมการขึ้นมาโดยมีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าร่วมด้วย โดยมีพยานหลักฐานต่างๆ ไหลไปที่ดีเอสไอ เขาจึงทำตามหน้าที่ ไม่ต้องมีใครไปสั่ง ถ้าไม่ทำเขาอาจจะโดนมาตรา 157 เมื่อเขามีพยานหลักฐาน ส่วน สว หรือผู้ถูกกล่าวหาก็แก้ไปตามประมวลกฎหมาย ทุกอย่างเมื่อมีกระบวนการเข้าไปแล้ว ก็ต้องจบที่กระบวนการ เหมือนตนที่ถูกทหารเกี่ยวเบ็ดไว้ 112 ตอนสมัยปฏิวัติยิ่งลักษณ์ เมื่อตนกลับมาก็ต้องเข้าสู่กระบวนการให้จบ เราบริสุทธิ์ก็อธิบายให้บริสุทธิ์ ไม่มีปัญหาอะไร เรื่องนี้เมื่อมีกระบวนการแล้ว การจะหยุดกลางกระบวนการไม่ได้ ไม่งั้นทุกคนก็ยังมีปัญหาหรือคดีค้างอยู่ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049635 • #MGROnline #ทักษิณชินวัตร #อดีตนายกรัฐมนตรี #ดีเอสไอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทักษิณ" ชี้ช่อง "ยิ่งลักษณ์" สู้คดีจำนำข้าว อาจไม่ต้องจ่ายถึงหมื่นล้าน เพราะกระทรวงคลังได้รับชดเชยมาจากส่วนอื่นแล้ว ต้องไปคำนวณใหม่ อาจโดนปรับไม่ถึงหมื่นล้าน ซึ่งขอใช้สิทธิตั้งคดีใหม่ได้ภายใน 90 วันตามกระบวนการ ยอมรับคุยกันบ้าง ส่วนจะกลับบ้านเมื่อไหร่รอพายุสงบก่อนเพราะมีคนปั่นเยอะ ส่วนลุงป้อมล้ม ”น่าสงสาร“

    วันนี้ (27พ.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคดีโครงการรับจำนำข้าวว่าศาลปกครองสูงสุดอธิบายชัดเจนว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นโจทก์ยื่นฟ้องกระทรวงการคลังว่าออกคำสั่งทางปกครองโดยไม่ถูกต้อง ที่ต้องให้ชดใช้เงินค่าเสียหายถึง 35,000 ล้านบาท โดยเห็นควรให้ชดใช้เฉพาะบางส่วน เป็นเงินเพียง10,028 ล้านบาท ก็ถือว่าเป็นไปตามกระบวนการโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ยังสามารถใช้สิทธิ์ในการเสนอขอตั้งคดีใหม่ภายใน 90 วันได้ และต้องต่อสู้กันไปตามกระบวนการและช่องทางของกฎหมาย

    "ศาลได้อธิบายอีกครั้งหนึ่ง ว่าเรื่องนี้คุณยิ่งลักษณ์เป็นโจทย์ เค้าไม่ได้เป็นจําเลย เพราะฉะนั้นเนี่ย คุณยิ่งลักษณ์ฟ้อง ว่ากระทรวงการคลังทําไม่ถูก ใช้งานออกสาร ออกมติทางปกครองเนี่ยไม่ถูก แล้วจะปรับตั้ง 35,000 ศาลก็เลยบอกว่าเท่าที่ตรวจดูแล้วเนี่ยบางบางอันก็ถูก บางอันก็ไม่ถูก แต่สรุปแล้วว่าปรับได้ไม่เกิน 10,028 ล้านเนี่ย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049628

    #MGROnline #ทักษิณ #ยิ่งลักษณ์ #คดีจำนำข้าว
    "ทักษิณ" ชี้ช่อง "ยิ่งลักษณ์" สู้คดีจำนำข้าว อาจไม่ต้องจ่ายถึงหมื่นล้าน เพราะกระทรวงคลังได้รับชดเชยมาจากส่วนอื่นแล้ว ต้องไปคำนวณใหม่ อาจโดนปรับไม่ถึงหมื่นล้าน ซึ่งขอใช้สิทธิตั้งคดีใหม่ได้ภายใน 90 วันตามกระบวนการ ยอมรับคุยกันบ้าง ส่วนจะกลับบ้านเมื่อไหร่รอพายุสงบก่อนเพราะมีคนปั่นเยอะ ส่วนลุงป้อมล้ม ”น่าสงสาร“ • วันนี้ (27พ.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคดีโครงการรับจำนำข้าวว่าศาลปกครองสูงสุดอธิบายชัดเจนว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นโจทก์ยื่นฟ้องกระทรวงการคลังว่าออกคำสั่งทางปกครองโดยไม่ถูกต้อง ที่ต้องให้ชดใช้เงินค่าเสียหายถึง 35,000 ล้านบาท โดยเห็นควรให้ชดใช้เฉพาะบางส่วน เป็นเงินเพียง10,028 ล้านบาท ก็ถือว่าเป็นไปตามกระบวนการโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ยังสามารถใช้สิทธิ์ในการเสนอขอตั้งคดีใหม่ภายใน 90 วันได้ และต้องต่อสู้กันไปตามกระบวนการและช่องทางของกฎหมาย • "ศาลได้อธิบายอีกครั้งหนึ่ง ว่าเรื่องนี้คุณยิ่งลักษณ์เป็นโจทย์ เค้าไม่ได้เป็นจําเลย เพราะฉะนั้นเนี่ย คุณยิ่งลักษณ์ฟ้อง ว่ากระทรวงการคลังทําไม่ถูก ใช้งานออกสาร ออกมติทางปกครองเนี่ยไม่ถูก แล้วจะปรับตั้ง 35,000 ศาลก็เลยบอกว่าเท่าที่ตรวจดูแล้วเนี่ยบางบางอันก็ถูก บางอันก็ไม่ถูก แต่สรุปแล้วว่าปรับได้ไม่เกิน 10,028 ล้านเนี่ย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049628 • #MGROnline #ทักษิณ #ยิ่งลักษณ์ #คดีจำนำข้าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7 กฎสำคัญในการนำองค์กรผ่านวิกฤต

    แม้ว่าองค์กรส่วนใหญ่จะมีแผนจัดการวิกฤตอยู่แล้ว แต่การนำทีมผ่านสถานการณ์ฉุกเฉินต้องอาศัยมากกว่าขั้นตอนที่กำหนดไว้ โดยบทความนี้นำเสนอ 7 กฎสำคัญที่ช่วยให้ผู้นำสามารถจัดการวิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    🔍 กฎสำคัญในการนำองค์กรผ่านวิกฤต
    ✅ ความยืดหยุ่นต้องมาพร้อมกับความสงบ ไม่ใช่ความเงียบ
    - ผู้นำต้อง แจ้งข้อมูลให้ทีมและลูกค้าทราบอย่างตรงไปตรงมา
    - การปิดบังข้อมูล ทำให้เกิดความสับสนและความไม่ไว้วางใจ

    ✅ แนวคิดเชิงรุกช่วยให้ทีมเรียนรู้ร่วมกัน
    - การให้ข้อมูลที่ชัดเจน ช่วยลดความสับสนและสร้างความมั่นใจ
    - การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อาจทำให้สถานการณ์แย่ลง

    ✅ การสื่อสารที่เปิดเผยทำให้ทีมมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหา
    - การตอบสนองแบบปิดกั้น ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ
    - การแจ้งปัญหาอย่างรวดเร็ว ช่วยรักษาความน่าเชื่อถือขององค์กร

    ✅ ความโปร่งใสและการตอบสนองอย่างตรงไปตรงมาสร้างความไว้วางใจ
    - การซ่อนปัญหา ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
    - การให้ข้อมูลที่ชัดเจน ช่วยให้ทีมสามารถรับมือกับวิกฤตได้ดีขึ้น

    ✅ ทีมที่อยู่ภายใต้ความกดดันต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง
    - หากผู้นำไม่มีความมั่นคง ทีมจะเกิดความสับสนและตัดสินใจผิดพลาด
    - ความไว้วางใจในผู้นำ เป็นปัจจัยสำคัญในการจัดการวิกฤต

    ✅ องค์กรที่เตรียมพร้อมสามารถรับมือกับแรงกดดันได้ดีขึ้น
    - การกำหนดบทบาทล่วงหน้า ช่วยให้ทีมสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
    - การฝึกซ้อมเป็นประจำ ช่วยลดความผิดพลาดในการตัดสินใจ

    ✅ การตัดสินใจต้องอาศัยข้อมูลที่แม่นยำ ไม่ใช่แค่ความเร่งด่วน
    - การตอบสนองโดยไม่มีข้อมูล อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดร้ายแรง
    - การใช้ข้อมูลข่าวกรองช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.csoonline.com/article/3992768/the-7-unwritten-rules-of-leading-through-crisis.html
    7 กฎสำคัญในการนำองค์กรผ่านวิกฤต แม้ว่าองค์กรส่วนใหญ่จะมีแผนจัดการวิกฤตอยู่แล้ว แต่การนำทีมผ่านสถานการณ์ฉุกเฉินต้องอาศัยมากกว่าขั้นตอนที่กำหนดไว้ โดยบทความนี้นำเสนอ 7 กฎสำคัญที่ช่วยให้ผู้นำสามารถจัดการวิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🔍 กฎสำคัญในการนำองค์กรผ่านวิกฤต ✅ ความยืดหยุ่นต้องมาพร้อมกับความสงบ ไม่ใช่ความเงียบ - ผู้นำต้อง แจ้งข้อมูลให้ทีมและลูกค้าทราบอย่างตรงไปตรงมา - การปิดบังข้อมูล ทำให้เกิดความสับสนและความไม่ไว้วางใจ ✅ แนวคิดเชิงรุกช่วยให้ทีมเรียนรู้ร่วมกัน - การให้ข้อมูลที่ชัดเจน ช่วยลดความสับสนและสร้างความมั่นใจ - การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อาจทำให้สถานการณ์แย่ลง ✅ การสื่อสารที่เปิดเผยทำให้ทีมมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหา - การตอบสนองแบบปิดกั้น ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ - การแจ้งปัญหาอย่างรวดเร็ว ช่วยรักษาความน่าเชื่อถือขององค์กร ✅ ความโปร่งใสและการตอบสนองอย่างตรงไปตรงมาสร้างความไว้วางใจ - การซ่อนปัญหา ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง - การให้ข้อมูลที่ชัดเจน ช่วยให้ทีมสามารถรับมือกับวิกฤตได้ดีขึ้น ✅ ทีมที่อยู่ภายใต้ความกดดันต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง - หากผู้นำไม่มีความมั่นคง ทีมจะเกิดความสับสนและตัดสินใจผิดพลาด - ความไว้วางใจในผู้นำ เป็นปัจจัยสำคัญในการจัดการวิกฤต ✅ องค์กรที่เตรียมพร้อมสามารถรับมือกับแรงกดดันได้ดีขึ้น - การกำหนดบทบาทล่วงหน้า ช่วยให้ทีมสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว - การฝึกซ้อมเป็นประจำ ช่วยลดความผิดพลาดในการตัดสินใจ ✅ การตัดสินใจต้องอาศัยข้อมูลที่แม่นยำ ไม่ใช่แค่ความเร่งด่วน - การตอบสนองโดยไม่มีข้อมูล อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดร้ายแรง - การใช้ข้อมูลข่าวกรองช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ https://www.csoonline.com/article/3992768/the-7-unwritten-rules-of-leading-through-crisis.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    The 7 unwritten rules of leading through crisis
    Your crisis management playbook may look fail-proof on paper, but leadership and culture offer intangibles that can make or break execution when emergency strikes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาล ปค.แจงเป็นหน้าที่นายกฯ-รมว.คลัง-กรมบังคับคดี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกคำสั่งใหม่บังคับให้ "ยิ่งลักษณ์" จ่ายชดใช้จำนำข้าวให้เป็นไปตามคำพิพากษา หน้าที่ศาลปกครองยุติแล้ว

    วันที่ 26 พ.ค.น.ส.สายทิพย์ สุคติพันธ์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ในฐานะกรรมการประชาพันธ์ ศาลปกครอง เปิดเผยว่าการออกมานี้ชี้แจงนี้ เพื่อให้สังคมประชาชนเข้าใจกระบวนการพิจารณาของศาลว่า เป็นพิจารณาเฉพาะประเด็นคำสั่งที่เป็นข้อพิพาทระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ นายกรัฐมนตรีกับพวกทั้ง 9 เท่านั้น เมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 35,717,273,028.23 บาท เฉพาะส่วนที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเกินกว่าจำนวน10,028,861,880.83 บาท แล้ว บทบาทหน้าที่ของศาลปกครองถือว่ายุติแล้ว การดำเนินการใดใดจากนี้ไปเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร ต้องไปดำเนินการออกคำสั่งใหม่และปฏิบัติให้ถูกต้องตามคำพิพากษา

    น.ส.สายทิพย์ อธิบายเพิ่มเติมว่า คดีนี้เป็นการฟ้องของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งโดนคำสั่งของกระทรวงการคลังที่เรียกให้รับผิดใดใช้ค่าสินไหมโครงการจำนำข้าวเปลือกไป3.5 หมื่นล้านบาท จากนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์จึงเอาคำสั่งนี้มาฟ้องต่อศาลว่าคำสั่งนี้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ศาลก็ได้ทบทวน โดยพิจารณาแล้ว เห็นว่า โคงการจำนำข้าวนั้นประกอบด้วยหลายขั้นตอน จึงวินิจฉัยว่า อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ในส่วนที่ทำหน้าที่กำหนดนโยบายนั้น ไม่ต้องมีความรับผิด แต่ในส่วนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ คือเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมการปฏิบัตินโยบาย ดังนั้น การระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี มีปัญหาการทุจริต มีการรายงานเข้ามาโดยหลายหน่วยงาน แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ติดตามกำกับดูแลตรวจสอบการทุจริตในส่วนนี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049199

    #MGROnline #ยิ่งลักษณ์ #จ่ายชดใช้จำนำข้าว #จำนำข้าว
    ศาล ปค.แจงเป็นหน้าที่นายกฯ-รมว.คลัง-กรมบังคับคดี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกคำสั่งใหม่บังคับให้ "ยิ่งลักษณ์" จ่ายชดใช้จำนำข้าวให้เป็นไปตามคำพิพากษา หน้าที่ศาลปกครองยุติแล้ว • วันที่ 26 พ.ค.น.ส.สายทิพย์ สุคติพันธ์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ในฐานะกรรมการประชาพันธ์ ศาลปกครอง เปิดเผยว่าการออกมานี้ชี้แจงนี้ เพื่อให้สังคมประชาชนเข้าใจกระบวนการพิจารณาของศาลว่า เป็นพิจารณาเฉพาะประเด็นคำสั่งที่เป็นข้อพิพาทระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ นายกรัฐมนตรีกับพวกทั้ง 9 เท่านั้น เมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 35,717,273,028.23 บาท เฉพาะส่วนที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเกินกว่าจำนวน10,028,861,880.83 บาท แล้ว บทบาทหน้าที่ของศาลปกครองถือว่ายุติแล้ว การดำเนินการใดใดจากนี้ไปเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร ต้องไปดำเนินการออกคำสั่งใหม่และปฏิบัติให้ถูกต้องตามคำพิพากษา น.ส.สายทิพย์ อธิบายเพิ่มเติมว่า คดีนี้เป็นการฟ้องของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งโดนคำสั่งของกระทรวงการคลังที่เรียกให้รับผิดใดใช้ค่าสินไหมโครงการจำนำข้าวเปลือกไป3.5 หมื่นล้านบาท จากนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์จึงเอาคำสั่งนี้มาฟ้องต่อศาลว่าคำสั่งนี้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ศาลก็ได้ทบทวน โดยพิจารณาแล้ว เห็นว่า โคงการจำนำข้าวนั้นประกอบด้วยหลายขั้นตอน จึงวินิจฉัยว่า อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ในส่วนที่ทำหน้าที่กำหนดนโยบายนั้น ไม่ต้องมีความรับผิด แต่ในส่วนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ คือเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมการปฏิบัตินโยบาย ดังนั้น การระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี มีปัญหาการทุจริต มีการรายงานเข้ามาโดยหลายหน่วยงาน แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ติดตามกำกับดูแลตรวจสอบการทุจริตในส่วนนี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049199 • #MGROnline #ยิ่งลักษณ์ #จ่ายชดใช้จำนำข้าว #จำนำข้าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลปกครองแจงข้อกฎหมายคดี “ยิ่งลักษณ์” ฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังให้ชดใช้ค่าสินไหมโครงการจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน ชี้ไม่ใช่การสั่งให้ "ยิ่งลักษณ์" จ่ายชดใช้ความเสียหาย แต่เป็นการเพิกถอนคำสั่งกระทรวงคลังส่วนที่ให้จ่ายเกิน 10,029 ล้าน เผยพิจารณาคดีตั้งแต่ 12 ก.ย.2566 จึงมีชื่อตุลาการบางคนที่พ้นราชการไปแล้ว

    วันนี้ ( 26 พ.ค.) สำนักงานศาลปกครองชี้แจงข้อกฎหมายในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีหมายเลขแดงที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร ฟ้องนายกรัฐมนตรีกับพวกรวม 9คน ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ให้ชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน ว่า 1.คดีในส่วนของนางสาวยิ่งลักษณ์ มีมูลเหตุมาจากกรณีที่มีคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 35,717,273,028.23 บาท อันเป็นคำสั่งทางปกครองที่ให้ชำระเงิน ซึ่งหากไม่ชำระ กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีอำนาจใช้มาตรการบังคับทางปกครอง โดยยึดหรืออายัดทรัพย์สินและขายทอดตลาดเพื่อชำระเงินตามคำสั่งได้ โดยไม่จำต้องฟ้องคดีต่อศาล ทั้งนี้ตามมาตรา 12 พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ที่ใช้บังคับอยู่เดิม และมาตรา 63/7 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวที่แก้ไขใหม่ เมื่อเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและฟ้องคดีต่อศาลปกครอง โดยมีคำขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว คดีในส่วนนี้ จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ศาลปกครองมีอำนาจเพียงพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวทั้งหมดหรือบางส่วน

    คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/politics/detail/9680000049119

    #MGROnline #ยิ่งลักษณ์ #กระทรวงการคลัง #ชดใช้ค่าสินไหม #โครงการจำนำข้าว
    ศาลปกครองแจงข้อกฎหมายคดี “ยิ่งลักษณ์” ฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังให้ชดใช้ค่าสินไหมโครงการจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน ชี้ไม่ใช่การสั่งให้ "ยิ่งลักษณ์" จ่ายชดใช้ความเสียหาย แต่เป็นการเพิกถอนคำสั่งกระทรวงคลังส่วนที่ให้จ่ายเกิน 10,029 ล้าน เผยพิจารณาคดีตั้งแต่ 12 ก.ย.2566 จึงมีชื่อตุลาการบางคนที่พ้นราชการไปแล้ว • วันนี้ ( 26 พ.ค.) สำนักงานศาลปกครองชี้แจงข้อกฎหมายในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีหมายเลขแดงที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร ฟ้องนายกรัฐมนตรีกับพวกรวม 9คน ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ให้ชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน ว่า 1.คดีในส่วนของนางสาวยิ่งลักษณ์ มีมูลเหตุมาจากกรณีที่มีคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 35,717,273,028.23 บาท อันเป็นคำสั่งทางปกครองที่ให้ชำระเงิน ซึ่งหากไม่ชำระ กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีอำนาจใช้มาตรการบังคับทางปกครอง โดยยึดหรืออายัดทรัพย์สินและขายทอดตลาดเพื่อชำระเงินตามคำสั่งได้ โดยไม่จำต้องฟ้องคดีต่อศาล ทั้งนี้ตามมาตรา 12 พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ที่ใช้บังคับอยู่เดิม และมาตรา 63/7 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวที่แก้ไขใหม่ เมื่อเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและฟ้องคดีต่อศาลปกครอง โดยมีคำขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว คดีในส่วนนี้ จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ศาลปกครองมีอำนาจเพียงพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวทั้งหมดหรือบางส่วน • คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/politics/detail/9680000049119 • #MGROnline #ยิ่งลักษณ์ #กระทรวงการคลัง #ชดใช้ค่าสินไหม #โครงการจำนำข้าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts