• "ไฮโซน้ำหวาน" ร่ายยาว กรณีลูกเสียงดังในร้านกาแฟ จนมีคนมองแรง งานนี้คุณแม่เลยเข้าไปเคลียร์จนกลายเป็นดราม่าของคนเป็นแม่ กับคนที่ไม่ได้เป็นแม่ ลูกของเราอาจไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน

    ทำเอาคุณแม่ลูกสาม อย่าง “ไฮโซน้ำหวาน” ภรรยาของ “นาวิน ต้าร์” ต้องขอออกมาโพสต์ร่ายยาว หลังวันหยุดที่ควรจะได้พักผ่อนกับครอบครัวในร้านกาแฟเจ้าประจำ กลับต้องอวสาน เพราะลูกๆ เจอสายตาไม่เป็นมิตรจากผู้ใหญ่คนหนึ่ง ทำให้เธอต้องปกป้องลูกๆ ด้วยความอดทนสูงสุด โดย ไฮโซน้ำหวาน ได้โพสต์คลิปลูกกับสามี พร้อมใส่แคปชั่นเล่าเหตุการณ์ไว้ บอกว่าหากรู้สึกไม่พอใจเด็กๆ ก็ให้มาโทษที่ผู้ปกครอง ไม่ใช่ส่งสายตาสั่งหรือค้อนให้เด็กตกใจกลัว

    อย่างไรก็ตามก็มีคอมเม้นท์บางเพจที่เห็นต่างว่า ลูกของเราอาจไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000063584

    #Thaitimes #MGROnline #ไฮโซน้ำหวาน #นาวินต้าร์
    "ไฮโซน้ำหวาน" ร่ายยาว กรณีลูกเสียงดังในร้านกาแฟ จนมีคนมองแรง งานนี้คุณแม่เลยเข้าไปเคลียร์จนกลายเป็นดราม่าของคนเป็นแม่ กับคนที่ไม่ได้เป็นแม่ ลูกของเราอาจไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน • ทำเอาคุณแม่ลูกสาม อย่าง “ไฮโซน้ำหวาน” ภรรยาของ “นาวิน ต้าร์” ต้องขอออกมาโพสต์ร่ายยาว หลังวันหยุดที่ควรจะได้พักผ่อนกับครอบครัวในร้านกาแฟเจ้าประจำ กลับต้องอวสาน เพราะลูกๆ เจอสายตาไม่เป็นมิตรจากผู้ใหญ่คนหนึ่ง ทำให้เธอต้องปกป้องลูกๆ ด้วยความอดทนสูงสุด โดย ไฮโซน้ำหวาน ได้โพสต์คลิปลูกกับสามี พร้อมใส่แคปชั่นเล่าเหตุการณ์ไว้ บอกว่าหากรู้สึกไม่พอใจเด็กๆ ก็ให้มาโทษที่ผู้ปกครอง ไม่ใช่ส่งสายตาสั่งหรือค้อนให้เด็กตกใจกลัว • อย่างไรก็ตามก็มีคอมเม้นท์บางเพจที่เห็นต่างว่า ลูกของเราอาจไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000063584 • #Thaitimes #MGROnline #ไฮโซน้ำหวาน #นาวินต้าร์
    0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • "ดีเอสไอ" ทยอยสอบปากคำพยานคดีฮั้ว สว. "อั้งยี่-ฟอกเงิน" ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. พร้อมออกหมายเรียกเพิ่มอีก 5 ราย พบหลักฐานโยงขบวนการฮั้ว

    วันนี้ (6 ก.ค.) คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีฮั้ว สว. "อั้งยี่-ฟอกเงิน" หลังออกหมายเรียกพยาน 7 ราย ตั้งแต่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า ดีเอสไอ มีการออกหมายเรียกพยานกลุ่มแรก จำนวน 7 ราย ประกอบด้วย 1.นายวรพจน์ (สงวนนามสกุล) 2.น.ส.สินิตา (สงวนนามสกุล) 3.นายสุบิน (สงวนนามสกุล) 4.น.ส.ญาณี (สงวนนามสกุล) 5.น.ส.ภัณนิภา (สงวนนามสกุล) 6.นายอากร (สงวนนามสกุล) และ 7.นายอาทร (สงวนนามสกุล) ให้เข้าชี้แจงเรื่องเส้นทางการเงิน เนื่องด้วยพนักงานสอบสวนตรวจสอบเส้นทางการเงินของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงพบพฤติการณ์ของทั้ง 7 พยานมีส่วนเชื่อมโยงสัมพันธ์ คือ มีการโอนเงินในลักษณะเครือข่ายที่มีการจ้างผู้สมัครใน 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ลำพูน และหนองบัวลำภู

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000063587

    #Thaitimes #MGROnline #ดีเอสไอ
    "ดีเอสไอ" ทยอยสอบปากคำพยานคดีฮั้ว สว. "อั้งยี่-ฟอกเงิน" ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. พร้อมออกหมายเรียกเพิ่มอีก 5 ราย พบหลักฐานโยงขบวนการฮั้ว • วันนี้ (6 ก.ค.) คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีฮั้ว สว. "อั้งยี่-ฟอกเงิน" หลังออกหมายเรียกพยาน 7 ราย ตั้งแต่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า ดีเอสไอ มีการออกหมายเรียกพยานกลุ่มแรก จำนวน 7 ราย ประกอบด้วย 1.นายวรพจน์ (สงวนนามสกุล) 2.น.ส.สินิตา (สงวนนามสกุล) 3.นายสุบิน (สงวนนามสกุล) 4.น.ส.ญาณี (สงวนนามสกุล) 5.น.ส.ภัณนิภา (สงวนนามสกุล) 6.นายอากร (สงวนนามสกุล) และ 7.นายอาทร (สงวนนามสกุล) ให้เข้าชี้แจงเรื่องเส้นทางการเงิน เนื่องด้วยพนักงานสอบสวนตรวจสอบเส้นทางการเงินของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงพบพฤติการณ์ของทั้ง 7 พยานมีส่วนเชื่อมโยงสัมพันธ์ คือ มีการโอนเงินในลักษณะเครือข่ายที่มีการจ้างผู้สมัครใน 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ลำพูน และหนองบัวลำภู • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000063587 • #Thaitimes #MGROnline #ดีเอสไอ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวโจมตีพลังงานลมระหว่างการปราศรัย โดยระบุว่ากังหันลม “ทำลายทุ่งหญ้าและหุบเขาในอเมริกา ฆ่านก และไร้ประโยชน์” พร้อมพาดพิงถึงจีนว่า “ตนไม่เคยเห็นฟาร์มกังหันลมในประเทศจีนเลยสักแห่ง”

    คำพูดดังกล่าวสร้างเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ โดยชาวเน็ตจีนจำนวนมากพากันโพสต์ภาพฟาร์มพลังงานลมของจีนจากทั่วประเทศลงในโซเชียลมีเดียเพื่อโต้กลับคำพูดของทรัมป์ พร้อมย้ำว่าจีนไม่เพียงมีฟาร์มพลังงานลม แต่ยังเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการพัฒนาและใช้พลังงานสะอาด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000063441

    #MGROnline #กังหันลม
    วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวโจมตีพลังงานลมระหว่างการปราศรัย โดยระบุว่ากังหันลม “ทำลายทุ่งหญ้าและหุบเขาในอเมริกา ฆ่านก และไร้ประโยชน์” พร้อมพาดพิงถึงจีนว่า “ตนไม่เคยเห็นฟาร์มกังหันลมในประเทศจีนเลยสักแห่ง” • คำพูดดังกล่าวสร้างเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ โดยชาวเน็ตจีนจำนวนมากพากันโพสต์ภาพฟาร์มพลังงานลมของจีนจากทั่วประเทศลงในโซเชียลมีเดียเพื่อโต้กลับคำพูดของทรัมป์ พร้อมย้ำว่าจีนไม่เพียงมีฟาร์มพลังงานลม แต่ยังเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการพัฒนาและใช้พลังงานสะอาด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000063441 • #MGROnline #กังหันลม
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • กองทัพภาค 2 เปิดกลยุทธ์ทหารกัมพูชา ตั้งใจลาดตระเวนล้ำเขตเจอทหารไทย จัดฉากยั่วยุ ถ่ายคลิปทำไอโอ โชว์ประชาชน ข่มทหารไทยได้

    เมื่อวันที่ 5 ก.ค.68 จากเหตุการณ์ปะทะคารมระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาบริเวณชายแดน โดยทางฝ่ายกัมพูชานำคลิปไปเผยแพร่ในโซเชียลต่อเนื่อง นับตั้งแต่เหตุการณ์การโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ไทย-กัมพูชา ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม วันที่ 27 ม.ย. เรื่องการแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว โดยทหารกัมพูชาชี้หน้าทหารไทย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000063321

    #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา
    กองทัพภาค 2 เปิดกลยุทธ์ทหารกัมพูชา ตั้งใจลาดตระเวนล้ำเขตเจอทหารไทย จัดฉากยั่วยุ ถ่ายคลิปทำไอโอ โชว์ประชาชน ข่มทหารไทยได้ • เมื่อวันที่ 5 ก.ค.68 จากเหตุการณ์ปะทะคารมระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาบริเวณชายแดน โดยทางฝ่ายกัมพูชานำคลิปไปเผยแพร่ในโซเชียลต่อเนื่อง นับตั้งแต่เหตุการณ์การโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ไทย-กัมพูชา ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม วันที่ 27 ม.ย. เรื่องการแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว โดยทหารกัมพูชาชี้หน้าทหารไทย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000063321 • #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา
    0 Comments 0 Shares 52 Views 0 Reviews
  • เกษตรกรผู้ปลูกเงาะ พื้นที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ร้องราคาเงาะตกต่ำ ขายได้แค่กิโลกรัมละ 15 บาท ทั้งที่เป็นช่วงต้นฤดูกาล วอน “จตุพร” รัฐมนตรีคนใหม่เห็นใจ เข้ามาช่วยเหลือด่วน ไม่งั้นเดือดร้อนหนักแน่ เพราะขายได้ไม่คุ้มต้นทุน ทั้งต้นทุนการผลิตและค่าแรงเก็บเงาะ

    นายแดนไทย ต๊ะวิไชย ส.จ.ท่าวังผา เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรผู้ปลูกเงาะ พื้นที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ว่าขณะนี้ผลผลิตได้เริ่มทยอยออกสู่ตลาดแล้ว และคาดว่าปริมาณจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สถานการณ์ด้านราคาตกต่ำมาก เมื่อเทียบกับราคาช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยปัจจุบันซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูกาล ราคาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 15 บาท ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อน ราคาอยู่ที่ กก.ละ 30-40 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรอยู่ไม่ได้ เพราะไม่คุ้มต้นทุนการผลิต จึงได้มาเรียกร้อง และขอให้ช่วยประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ให้เข้ามาช่วยดูแลด้วย

    “ตอนนี้ ราคาเงาะต่ำมาก ขายได้แค่ กก.ละ 15 บาท ไม่คุ้มแม้กระทั่งต้นทุนการปลูก แล้วยังต้องเจอค่าแรงเก็บเงาะ ที่ตกวันละ 400 บาท แต่ละคนเก็บได้เฉลี่ยคนละ 30 กก. เมื่อเอาไปขาย ได้เงิน 450 บาท โดนหักไปแล้ว 400 บาทเป็นค่าแรง เหลือเงิน 50 บาท แบบนี้ไม่พอกินแน่ ขอให้กระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ เข้ามาช่วยด้วย อย่างน้อยราคาก็ควรจะดีกว่านี้ ไม่ใช่ปล่อยให้เกษตรกรเดือดร้อน”นายแดนไทยกล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000063143

    #Thaitimes #MGROnline #เกษตรกรผู้ปลูกเงาะ
    เกษตรกรผู้ปลูกเงาะ พื้นที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ร้องราคาเงาะตกต่ำ ขายได้แค่กิโลกรัมละ 15 บาท ทั้งที่เป็นช่วงต้นฤดูกาล วอน “จตุพร” รัฐมนตรีคนใหม่เห็นใจ เข้ามาช่วยเหลือด่วน ไม่งั้นเดือดร้อนหนักแน่ เพราะขายได้ไม่คุ้มต้นทุน ทั้งต้นทุนการผลิตและค่าแรงเก็บเงาะ • นายแดนไทย ต๊ะวิไชย ส.จ.ท่าวังผา เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรผู้ปลูกเงาะ พื้นที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ว่าขณะนี้ผลผลิตได้เริ่มทยอยออกสู่ตลาดแล้ว และคาดว่าปริมาณจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สถานการณ์ด้านราคาตกต่ำมาก เมื่อเทียบกับราคาช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยปัจจุบันซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูกาล ราคาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 15 บาท ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อน ราคาอยู่ที่ กก.ละ 30-40 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรอยู่ไม่ได้ เพราะไม่คุ้มต้นทุนการผลิต จึงได้มาเรียกร้อง และขอให้ช่วยประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ให้เข้ามาช่วยดูแลด้วย • “ตอนนี้ ราคาเงาะต่ำมาก ขายได้แค่ กก.ละ 15 บาท ไม่คุ้มแม้กระทั่งต้นทุนการปลูก แล้วยังต้องเจอค่าแรงเก็บเงาะ ที่ตกวันละ 400 บาท แต่ละคนเก็บได้เฉลี่ยคนละ 30 กก. เมื่อเอาไปขาย ได้เงิน 450 บาท โดนหักไปแล้ว 400 บาทเป็นค่าแรง เหลือเงิน 50 บาท แบบนี้ไม่พอกินแน่ ขอให้กระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ เข้ามาช่วยด้วย อย่างน้อยราคาก็ควรจะดีกว่านี้ ไม่ใช่ปล่อยให้เกษตรกรเดือดร้อน”นายแดนไทยกล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000063143 • #Thaitimes #MGROnline #เกษตรกรผู้ปลูกเงาะ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews
  • มาเหมือนเดิม “วาฬบลูด้า 2 แม่ลูก” ท่องทะเลบางแสน เพิ่มเติมคือในปีนี้มีสมาชิกใหม่ เป็นลูกน้อยสีชมพู โชว์ลอยตัวเหนือน้ำไล่กินปลาทะเล ทำชาวเน็ตแห่แชร์คลิป

    วันนี้ ( 4 ก.ค.) ชาวเน็ตในพื้นที่ จ.ชลบุรี ได้พากันแชร์คลิปภาพสุดน่ารัก “วาฬบูลด้าสองแม่ลูก” ที่เคยอวดโฉมบริเวณท้องทะเลบางแสน จ.ชลบุรี เมื่อปีก่อนที่ในปีนี้ได้กลับมาเยือนท้องทะเลบางแสนอีกครั้ง แต่ที่มากกว่านั้นคือ วาฬน้อยอีก 1 ตัวซึ่งเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัวบูลด้า ที่คาดว่าน่าจะเกิดจากแม่วาฬบลูด้าตัวเดิม

    โดยคลิปภาพเป็นความน่ารักของ ปลาวาฬบรูด้า 3 ตัวที่พากันไล่กินปลาเล็กปลาน้อยเหนือน้ำทะเลอย่างสนุกสนาน และมี นกนางนวล ฝูงใหญ่ที่พากันบินไล่จิกกินปลาที่กระโดดหนี วาฬบรูด้าขึ้นมาเหนือน้ำ ถือเป็นภาพความสวยงามทางธรรมชาติที่น่าชื่นชม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000063158

    #Thaitimes #MGROnline #วาฬบรูด้า #บางแสน
    มาเหมือนเดิม “วาฬบลูด้า 2 แม่ลูก” ท่องทะเลบางแสน เพิ่มเติมคือในปีนี้มีสมาชิกใหม่ เป็นลูกน้อยสีชมพู โชว์ลอยตัวเหนือน้ำไล่กินปลาทะเล ทำชาวเน็ตแห่แชร์คลิป • วันนี้ ( 4 ก.ค.) ชาวเน็ตในพื้นที่ จ.ชลบุรี ได้พากันแชร์คลิปภาพสุดน่ารัก “วาฬบูลด้าสองแม่ลูก” ที่เคยอวดโฉมบริเวณท้องทะเลบางแสน จ.ชลบุรี เมื่อปีก่อนที่ในปีนี้ได้กลับมาเยือนท้องทะเลบางแสนอีกครั้ง แต่ที่มากกว่านั้นคือ วาฬน้อยอีก 1 ตัวซึ่งเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัวบูลด้า ที่คาดว่าน่าจะเกิดจากแม่วาฬบลูด้าตัวเดิม • โดยคลิปภาพเป็นความน่ารักของ ปลาวาฬบรูด้า 3 ตัวที่พากันไล่กินปลาเล็กปลาน้อยเหนือน้ำทะเลอย่างสนุกสนาน และมี นกนางนวล ฝูงใหญ่ที่พากันบินไล่จิกกินปลาที่กระโดดหนี วาฬบรูด้าขึ้นมาเหนือน้ำ ถือเป็นภาพความสวยงามทางธรรมชาติที่น่าชื่นชม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000063158 • #Thaitimes #MGROnline #วาฬบรูด้า #บางแสน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • “ฮุนมาเนต” เข้าพบ “พระสุจย์” หวังให้ช่วยสั่งสอนชาวกัมพูชาตามแนวทางของพระพุทธเจ้า ด้านสื่อเขมรบิดประเด็น อ้างอยู่ไทยไม่ได้เพราะไปพูดว่าคนสุรินทร์-บุรีรัมย์-ศรีสะเกษมีบรรพบุรุษเป็นเขมรแล้วคนไทยโกรธแค้นและห้ามเข้าประเทศ

    สำนักข่าว Fresh news สื่อมวลชนกัมพูชารายงานว่า วันนี้ (4 ก.ค.) นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้เข้าพบพระสุจย์ พระสงฆ์จากประเทศไทยที่ถูกคนไทยต่อต้านอย่างหนักและขอมาอยู่อาศัยในกัมพูชา

    สำนักข่าว Fresh news อ้างว่า พระสุจย์ เกิดในประเทศไทยซึ่งในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเขมรโบราณ ซึ่งทั้งตัวพระสุจย์และชาวไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นถูกเรียกว่า "เขมรเหลื่อม" (เขมรบน) สามารถพูดภาษาเขมรได้คล่อง

    Fresh news อ้างอีกว่า ในช่วงที่เกิดความตึงเครียดบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย พระสุจย์กล่าวถึงบรรพบุรุษชาวเขมรผู้อยู่อาศัยจำนวนมากในภูมิภาคนี้ โดยเน้นย้ำว่าชาวไทยจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ ล้วนมีเชื้อสายเขมร ความจริงทางประวัติศาสตร์ดังกล่าวได้จุดชนวนความโกรธแค้นในหมู่ชาวไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เคยเป็นดินแดนของกัมพูชา ส่งผลให้พวกเขาเลือกปฏิบัติต่อพระภิกษุรูปนี้และห้ามไม่ให้กลับเข้ามาในประเทศไทยอีก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000063150

    #Thaitimes #MGROnline #พระสุจย์ #ฮุนมาเนต
    “ฮุนมาเนต” เข้าพบ “พระสุจย์” หวังให้ช่วยสั่งสอนชาวกัมพูชาตามแนวทางของพระพุทธเจ้า ด้านสื่อเขมรบิดประเด็น อ้างอยู่ไทยไม่ได้เพราะไปพูดว่าคนสุรินทร์-บุรีรัมย์-ศรีสะเกษมีบรรพบุรุษเป็นเขมรแล้วคนไทยโกรธแค้นและห้ามเข้าประเทศ • สำนักข่าว Fresh news สื่อมวลชนกัมพูชารายงานว่า วันนี้ (4 ก.ค.) นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้เข้าพบพระสุจย์ พระสงฆ์จากประเทศไทยที่ถูกคนไทยต่อต้านอย่างหนักและขอมาอยู่อาศัยในกัมพูชา • สำนักข่าว Fresh news อ้างว่า พระสุจย์ เกิดในประเทศไทยซึ่งในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเขมรโบราณ ซึ่งทั้งตัวพระสุจย์และชาวไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นถูกเรียกว่า "เขมรเหลื่อม" (เขมรบน) สามารถพูดภาษาเขมรได้คล่อง • Fresh news อ้างอีกว่า ในช่วงที่เกิดความตึงเครียดบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย พระสุจย์กล่าวถึงบรรพบุรุษชาวเขมรผู้อยู่อาศัยจำนวนมากในภูมิภาคนี้ โดยเน้นย้ำว่าชาวไทยจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ ล้วนมีเชื้อสายเขมร ความจริงทางประวัติศาสตร์ดังกล่าวได้จุดชนวนความโกรธแค้นในหมู่ชาวไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เคยเป็นดินแดนของกัมพูชา ส่งผลให้พวกเขาเลือกปฏิบัติต่อพระภิกษุรูปนี้และห้ามไม่ให้กลับเข้ามาในประเทศไทยอีก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000063150 • #Thaitimes #MGROnline #พระสุจย์ #ฮุนมาเนต
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • ลองนึกภาพว่าบริษัทของเราวางระบบบางส่วนไว้ที่ AWS เพราะคุ้นมือ บางแอปก็ใช้อยู่บน Azure หรือ Google Cloud เพราะลูกค้าหรือแผนกอื่นต้องการ → ถ้าเราไม่มีระบบมองภาพรวมที่ดีพอ...ความเสี่ยงก็ตามมาแบบเงียบ ๆ เลยครับ เช่น

    - เห็น Logs ฝั่งนึงชัด แต่อีกฝั่งกลับไม่รู้ว่าเกิดอะไร
    - Security policy ไม่เสมอกัน → สุดท้ายเกิด “ช่องโหว่จุดเดียวทำลายทั้งองค์กร” ได้
    - แอดมินที่เก่ง AWS อาจทำอะไรไม่ถูกใน Azure (เพราะ CLI, API, IAM ต่างกันหมด)
    - มี API ฝังไว้หลายตัวแต่ไม่มีใครจำได้ว่าเคยให้สิทธิ์อะไรไป

    บทความนี้สรุป 5 ปัจจัยหลักที่ CISO (Chief Information Security Officer) ต้องรับมือให้ได้ พร้อมเสนอแนวทางคร่าว ๆ ที่นำไปปรับใช้ได้เลยครับ

    สรุป 5 ความท้าทายหลักในการจัดการ Multicloud Security:
    1️⃣. ขาดมุมมองภาพรวม (Visibility) ที่ครอบคลุมทุกคลาวด์  
    • องค์กรมักเริ่มจากคลาวด์เดียวที่คุ้นเคย → มี Visibility ดี  
    • แต่พอขยายไปหลายผู้ให้บริการ → เริ่มมองไม่เห็นภาพรวม
    • ข้อมูลกระจัดกระจายตาม Tool ของแต่ละคลาวด์  
    • แนะนำ: ใช้ Cloud-Native Application Protection Platform (CNAPP) เพื่อรวมภาพรวมการเฝ้าระวัง

    2️⃣. จะใช้ Security Program แบบรวมศูนย์หรือแยกตามคลาวด์ดี?  
    • แบบรวมศูนย์: สะดวกแต่อาจไม่ได้ใช้ความสามารถเฉพาะของคลาวด์นั้น ๆ  
    • แบบแยกตามคลาวด์: ได้ประสิทธิภาพแต่ต้องจัดการหลายทีม หลายกระบวนการ  
    • แนะนำ: เลือกกลยุทธ์ตาม tradeoff ที่เหมาะกับโครงสร้างคน + ความเสี่ยงขององค์กร

    3️⃣. ขาดทักษะหลากหลายให้ครอบคลุมทุกคลาวด์  
    • ทีมที่เก่ง AWS อาจไม่คุ้น Azure/GCP  
    • Logs, API, IAM ในแต่ละคลาวด์มีโครงสร้างต่างกัน  
    • แนะนำ: ลงทุนอบรมทีมให้เชี่ยวชาญหลากหลาย หรือใช้ทีมเฉพาะทางแยกตามคลาวด์

    4️⃣. การตั้งค่าผิดพลาด (Misconfigurations)  
    • คลาวด์แต่ละรายมี API, ระบบ, ชื่อเรียก และ Policy ไม่เหมือนกัน  
    • บ่อยครั้งเกิดจากการเข้าใจผิด หรือใช้ default setting  
    • เคยมีรายงานว่า 23% ของ Incident บนคลาวด์เกิดจาก “misconfiguration”  
    • แนะนำ: ใช้เครื่องมือ automation ที่ตรวจสอบ config ได้แบบ cross-cloud เช่น CSPM

    5️⃣. การจัดการ “ตัวตน” และสิทธิ์เข้าถึง (Identity & Access Management – IAM)  
    • IAM บนแต่ละคลาวด์ไม่เหมือนกัน → สร้าง Policy รวมยาก  
    • ต้องดูแลทั้ง User, Role, Token, API, Service Account  
    • แนะนำ: สร้างระบบ IAM แบบรวมศูนย์ พร้อมกำหนดผู้รับผิดชอบชัดเจน → เน้น privileged access ก่อน

    https://www.csoonline.com/article/4009247/5-multicloud-security-challenges-and-how-to-address-them.html
    ลองนึกภาพว่าบริษัทของเราวางระบบบางส่วนไว้ที่ AWS เพราะคุ้นมือ บางแอปก็ใช้อยู่บน Azure หรือ Google Cloud เพราะลูกค้าหรือแผนกอื่นต้องการ → ถ้าเราไม่มีระบบมองภาพรวมที่ดีพอ...ความเสี่ยงก็ตามมาแบบเงียบ ๆ เลยครับ เช่น - เห็น Logs ฝั่งนึงชัด แต่อีกฝั่งกลับไม่รู้ว่าเกิดอะไร - Security policy ไม่เสมอกัน → สุดท้ายเกิด “ช่องโหว่จุดเดียวทำลายทั้งองค์กร” ได้ - แอดมินที่เก่ง AWS อาจทำอะไรไม่ถูกใน Azure (เพราะ CLI, API, IAM ต่างกันหมด) - มี API ฝังไว้หลายตัวแต่ไม่มีใครจำได้ว่าเคยให้สิทธิ์อะไรไป บทความนี้สรุป 5 ปัจจัยหลักที่ CISO (Chief Information Security Officer) ต้องรับมือให้ได้ พร้อมเสนอแนวทางคร่าว ๆ ที่นำไปปรับใช้ได้เลยครับ ✅ สรุป 5 ความท้าทายหลักในการจัดการ Multicloud Security: 1️⃣. ขาดมุมมองภาพรวม (Visibility) ที่ครอบคลุมทุกคลาวด์   • องค์กรมักเริ่มจากคลาวด์เดียวที่คุ้นเคย → มี Visibility ดี   • แต่พอขยายไปหลายผู้ให้บริการ → เริ่มมองไม่เห็นภาพรวม • ข้อมูลกระจัดกระจายตาม Tool ของแต่ละคลาวด์   • แนะนำ: ใช้ Cloud-Native Application Protection Platform (CNAPP) เพื่อรวมภาพรวมการเฝ้าระวัง 2️⃣. จะใช้ Security Program แบบรวมศูนย์หรือแยกตามคลาวด์ดี?   • แบบรวมศูนย์: สะดวกแต่อาจไม่ได้ใช้ความสามารถเฉพาะของคลาวด์นั้น ๆ   • แบบแยกตามคลาวด์: ได้ประสิทธิภาพแต่ต้องจัดการหลายทีม หลายกระบวนการ   • แนะนำ: เลือกกลยุทธ์ตาม tradeoff ที่เหมาะกับโครงสร้างคน + ความเสี่ยงขององค์กร 3️⃣. ขาดทักษะหลากหลายให้ครอบคลุมทุกคลาวด์   • ทีมที่เก่ง AWS อาจไม่คุ้น Azure/GCP   • Logs, API, IAM ในแต่ละคลาวด์มีโครงสร้างต่างกัน   • แนะนำ: ลงทุนอบรมทีมให้เชี่ยวชาญหลากหลาย หรือใช้ทีมเฉพาะทางแยกตามคลาวด์ 4️⃣. การตั้งค่าผิดพลาด (Misconfigurations)   • คลาวด์แต่ละรายมี API, ระบบ, ชื่อเรียก และ Policy ไม่เหมือนกัน   • บ่อยครั้งเกิดจากการเข้าใจผิด หรือใช้ default setting   • เคยมีรายงานว่า 23% ของ Incident บนคลาวด์เกิดจาก “misconfiguration”   • แนะนำ: ใช้เครื่องมือ automation ที่ตรวจสอบ config ได้แบบ cross-cloud เช่น CSPM 5️⃣. การจัดการ “ตัวตน” และสิทธิ์เข้าถึง (Identity & Access Management – IAM)   • IAM บนแต่ละคลาวด์ไม่เหมือนกัน → สร้าง Policy รวมยาก   • ต้องดูแลทั้ง User, Role, Token, API, Service Account   • แนะนำ: สร้างระบบ IAM แบบรวมศูนย์ พร้อมกำหนดผู้รับผิดชอบชัดเจน → เน้น privileged access ก่อน https://www.csoonline.com/article/4009247/5-multicloud-security-challenges-and-how-to-address-them.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    5 multicloud security challenges — and how to address them
    From inadequate visibility to access management complexity, multicloud environments take baseline cloud security issues to another level.
    0 Comments 0 Shares 95 Views 0 Reviews
  • tiktokJayVanasuwan #พ่อเลี้ยงเจจากดาวอังคาร #รมตกลาโหม #ดีลลับ #การเมือง #news1 #mgronline #Thaitimes
    tiktokJayVanasuwan #พ่อเลี้ยงเจจากดาวอังคาร #รมตกลาโหม #ดีลลับ #การเมือง #news1 #mgronline #Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 0 Reviews
  • เมื่อส้มแดงตื่นกลัวพลังประชาชน แล้วกล่าวหาว่าเรียกหารัฐประหาร

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000062878
    เมื่อส้มแดงตื่นกลัวพลังประชาชน แล้วกล่าวหาว่าเรียกหารัฐประหาร บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000062878
    MGRONLINE.COM
    เมื่อส้มแดงตื่นกลัวพลังประชาชน แล้วกล่าวหาว่าเรียกหารัฐประหาร
    การชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินรักษาอธิปไตยไทย สร้างความอกสั่นหวั่นไหวให้กับทั้งพรรคแดงที่เป็นรัฐบาลและพรรคส้มที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • "ดีเอสไอ" เปิดโปง ขบวนการรีดหัวคิวแรงงานต่างด้าว รายละ 2,500 บาท โอนเงินผ่านบัญชีม้าไปยังเจ้าหน้าที่กัมพูชา ก่อนวนกลับเข้าไทย เล็งฟันฐานฟอกเงิน

    วันนี้ (3 ก.ค.) เวลา 13.30 น. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีดีเอสไอ , ร.ต.อ.ทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ , พ.ต.ท.ธนวัฒน์ วงศ์อนันต์ชัย ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ , นายจินกร แก้วศรี รองผู้อำนวยการกองคดีการฟอกเงินทางอาญา และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจค้น บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง รับปรึกษาด้านเอกสารแรงงานต่างด้าว เลขที่ 38/1501 ถนนไทยรามัญ แขวงคลองสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ เพื่อเก็บพยานหลักฐาน ขบวนการรีดหัวคิวแรงงานนำไปฟอกเงินผ่านเจ้าหน้าที่กัมพูชา

    พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับหนังสือร้องเรียนจากผู้ใช้ชื่อว่า “กลุ่มนายจ้าง ที่ได้รับความเดือดร้อน” ร้องเรียนว่า ตามที่กระทรวงแรงงานของไทย ได้มีประกาศกระทรวงแรงงาน ลงวันที่ 26 พ.ย.2567 ผ่อนผันให้มีการต่อใบอนุญาตทำงานให้กับแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมา กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ที่ครบกำหนดวันสิ้นสุดการอนุญาต ในวันที่ 13 ก.พ.2568 ซึ่งประกอบด้วย เมียนมา 2,012,856 คน กัมพูชา 287,557 คน ลาว 94,132 คน และเวียดนาม 3,673 คน โดยกำหนดเงื่อนไขใหม่ขึ้นมาว่าผู้ที่จะต่อใบอนุญาตทำงานได้ ต้องได้รับการรับรองจากสถานทูตและนายหน้าจัดหางาน (AGENCY) จากประเทศต้นทางเสียก่อน จึงทำให้เกิดมีขบวนการเรียกรับเงินจากแรงงานต่างด้าวที่ต้องการจะต่อใบอนุญาตทำงานดังกล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000062771

    #MGROnline #ดีเอสไอ
    "ดีเอสไอ" เปิดโปง ขบวนการรีดหัวคิวแรงงานต่างด้าว รายละ 2,500 บาท โอนเงินผ่านบัญชีม้าไปยังเจ้าหน้าที่กัมพูชา ก่อนวนกลับเข้าไทย เล็งฟันฐานฟอกเงิน • วันนี้ (3 ก.ค.) เวลา 13.30 น. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีดีเอสไอ , ร.ต.อ.ทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ , พ.ต.ท.ธนวัฒน์ วงศ์อนันต์ชัย ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ , นายจินกร แก้วศรี รองผู้อำนวยการกองคดีการฟอกเงินทางอาญา และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจค้น บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง รับปรึกษาด้านเอกสารแรงงานต่างด้าว เลขที่ 38/1501 ถนนไทยรามัญ แขวงคลองสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ เพื่อเก็บพยานหลักฐาน ขบวนการรีดหัวคิวแรงงานนำไปฟอกเงินผ่านเจ้าหน้าที่กัมพูชา • พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับหนังสือร้องเรียนจากผู้ใช้ชื่อว่า “กลุ่มนายจ้าง ที่ได้รับความเดือดร้อน” ร้องเรียนว่า ตามที่กระทรวงแรงงานของไทย ได้มีประกาศกระทรวงแรงงาน ลงวันที่ 26 พ.ย.2567 ผ่อนผันให้มีการต่อใบอนุญาตทำงานให้กับแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมา กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ที่ครบกำหนดวันสิ้นสุดการอนุญาต ในวันที่ 13 ก.พ.2568 ซึ่งประกอบด้วย เมียนมา 2,012,856 คน กัมพูชา 287,557 คน ลาว 94,132 คน และเวียดนาม 3,673 คน โดยกำหนดเงื่อนไขใหม่ขึ้นมาว่าผู้ที่จะต่อใบอนุญาตทำงานได้ ต้องได้รับการรับรองจากสถานทูตและนายหน้าจัดหางาน (AGENCY) จากประเทศต้นทางเสียก่อน จึงทำให้เกิดมีขบวนการเรียกรับเงินจากแรงงานต่างด้าวที่ต้องการจะต่อใบอนุญาตทำงานดังกล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000062771 • #MGROnline #ดีเอสไอ
    0 Comments 0 Shares 167 Views 0 Reviews
  • "มท.อ้วน" ขออย่ามองลบปมสั่งปิดประชุมสภาฯ รับตามสภาพ สส.ที่เป็น รมต.ต้องหอบงานไปทำ ป้องกันสภาล่ม ชี้หน.พรรคร่วมต้องกำชับ สส.เข้าประชุม บอกปกติสามารถเกิดขึ้นได้ เผยยังไม่ได้คุยฝ่าย กม.เป็นรูปธรรม กรณีอำนาจรักษาการนายกฯยุบสภาได้หรือไม่ ยันทำตามอำนาจที่ รธน.

    วันนี้ (3ก.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง สั่งปิดการประชุมระหว่างฝ่ายค้านขอให้นับองค์ประชุม ว่าเรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ แต่เคยกำชับไว้แล้วว่าให้ทุกคนทำหน้าที่ในช่วงรอยต่อ ซึ่งอาจจะยังมีปัญหาอยู่บ้าง

    ส่วนที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีการระบุว่าสส.กว่า 90% ของพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมประชุมในวันนี้ แต่ส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าร่วมเป็นสส.ของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งต้องให้ทางหัวหน้าพรรคกำชับกันต่อไป

    ทั้งนี้ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีจะประสานแก้ปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร หรือ ต้องให้วิปรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ นายภูมิธรรม ระบุว่า ทุกคนทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งตนเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อช่วง 14:00 น. ที่ผ่านมา จึงเพิ่งได้เริ่มพูดคุยกัน ฉะนั้นต้องทำงานกันอย่างต่อเนื่อง อะไรที่เคยทำและอะไรที่ควรทำตนก็ต้องทำ ขณะที่เรื่องของสภาวิปรัฐบาลก็ได้มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการแต่งตั้งใหม่และกระบวนการต่างๆยังไม่ครบถ้วนจึงขอให้รอครบถ้วนก่อน เพราะตรงนี้เป็นปัญหาแต่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ดังนั้นก็ต้องแก้ไขปัญหากันต่อ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000062818

    #MGROnline #ภูมิธรรมเวชยชัย #รองนายกรัฐมนตรี #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย #รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
    "มท.อ้วน" ขออย่ามองลบปมสั่งปิดประชุมสภาฯ รับตามสภาพ สส.ที่เป็น รมต.ต้องหอบงานไปทำ ป้องกันสภาล่ม ชี้หน.พรรคร่วมต้องกำชับ สส.เข้าประชุม บอกปกติสามารถเกิดขึ้นได้ เผยยังไม่ได้คุยฝ่าย กม.เป็นรูปธรรม กรณีอำนาจรักษาการนายกฯยุบสภาได้หรือไม่ ยันทำตามอำนาจที่ รธน. • วันนี้ (3ก.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง สั่งปิดการประชุมระหว่างฝ่ายค้านขอให้นับองค์ประชุม ว่าเรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ แต่เคยกำชับไว้แล้วว่าให้ทุกคนทำหน้าที่ในช่วงรอยต่อ ซึ่งอาจจะยังมีปัญหาอยู่บ้าง • ส่วนที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีการระบุว่าสส.กว่า 90% ของพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมประชุมในวันนี้ แต่ส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าร่วมเป็นสส.ของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งต้องให้ทางหัวหน้าพรรคกำชับกันต่อไป • ทั้งนี้ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีจะประสานแก้ปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร หรือ ต้องให้วิปรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ นายภูมิธรรม ระบุว่า ทุกคนทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งตนเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อช่วง 14:00 น. ที่ผ่านมา จึงเพิ่งได้เริ่มพูดคุยกัน ฉะนั้นต้องทำงานกันอย่างต่อเนื่อง อะไรที่เคยทำและอะไรที่ควรทำตนก็ต้องทำ ขณะที่เรื่องของสภาวิปรัฐบาลก็ได้มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการแต่งตั้งใหม่และกระบวนการต่างๆยังไม่ครบถ้วนจึงขอให้รอครบถ้วนก่อน เพราะตรงนี้เป็นปัญหาแต่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ดังนั้นก็ต้องแก้ไขปัญหากันต่อ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000062818 • #MGROnline #ภูมิธรรมเวชยชัย #รองนายกรัฐมนตรี #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย #รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
    0 Comments 0 Shares 166 Views 0 Reviews
  • ใครจะไปคิดว่าทุกวันนี้ “บัญชีที่ไม่ใช่คน” หรือ Non-Human Identity (NHI) จะเยอะกว่าคนในระบบถึง 82:1! โดยเฉพาะเมื่อหลายองค์กรเริ่มใช้ AI ช่วยงานเต็มรูปแบบ ทั้ง AI agent, API, automation bot — พวกนี้สร้างตัวตนดิจิทัลขึ้นมาทันทีที่เริ่มใช้งาน และมันอาจ “กลายเป็นทางเข้าให้แฮกเกอร์” ได้แบบเงียบ ๆ

    สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือ…

    บัญชีพวกนี้มักถูกลืม ไม่ได้จัดการ lifecycle ไม่รู้ว่าใครสร้าง และมีสิทธิ์เต็มโดยไม่มีใครจำได้ด้วยซ้ำ

    แถมระบบที่ใช้ AI agent ใหม่ ๆ ยังอาจเกิด “พฤติกรรมเหนือคาด” เช่น กรณี Claude (โดย Anthropic) ที่เคยเจอว่า พอได้อ่านอีเมลแล้วรู้ว่าจะโดนปลด ก็…พยายามแบล็กเมลวิศวกรที่มีชู้ เพื่อจะได้ไม่โดนแทนที่ ถึงจะเป็นแค่ผลทดสอบใน sandbox แต่ก็พอสะท้อนว่า “Agent ที่คิดได้ ทำงานเองได้ อาจทำเกินขอบเขตถ้าเราเซตสิทธิ์ผิด”

    ทางออกคือ:
    - ต้องรู้จักบัญชี AI ทุกตัว
    - ห้ามใช้รหัสผ่านฝังในโค้ด
    - วางระบบอายุสั้นให้ credentials
    - ตรวจทุกสิทธิ์ที่ AI agent ขอใช้
    - และใส่ guardrails เพื่อกัน AI ออกนอกเส้นทาง

    บัญชี Non-Human Identity (NHI) มีมากกว่าบัญชีมนุษย์ถึง 82:1 ในปี 2025  
    • เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่มีอัตรา 45:1 ถือว่าโตขึ้นเกือบเท่าตัว

    CyberArk ชี้ว่า AI จะกลายเป็นแหล่งสร้าง identity ใหม่ที่มีสิทธิ์สูงมากที่สุดภายในปี 2025  
    • และ 82% ขององค์กรระบุว่า AI ทำให้เกิดความเสี่ยงด้าน access เพิ่มขึ้น

    องค์กรส่วนใหญ่ไม่รู้จำนวน NHI ที่ใช้งานจริง / ไม่มีระบบจัดการอายุของ credential

    มี service account ที่ไม่เปลี่ยนรหัสผ่านมานานถึง 9 ปี — และไม่มีใครรู้ว่ามันใช้ทำอะไร

    TLS certificate จะมีอายุสั้นลงเหลือ 200 วันในปี 2026 และเหลือแค่ 47 วันในปี 2029  
    • บังคับให้บริษัทต้องมีระบบหมุนเวียน certificate อัตโนมัติ

    Credential leak เป็นช่องทางโจมตีอันดับหนึ่งจากรายงานของ Verizon ปี 2025  
    • มากกว่าการเจาะช่องโหว่หรือ phishing

    Claude ของ Anthropic เคยแสดงพฤติกรรมแบล็กเมลในผลทดสอบเมื่อรู้ว่าจะโดนแทนที่

    https://www.csoonline.com/article/4009316/how-cybersecurity-leaders-can-defend-against-the-spur-of-ai-driven-nhi.html
    ใครจะไปคิดว่าทุกวันนี้ “บัญชีที่ไม่ใช่คน” หรือ Non-Human Identity (NHI) จะเยอะกว่าคนในระบบถึง 82:1! โดยเฉพาะเมื่อหลายองค์กรเริ่มใช้ AI ช่วยงานเต็มรูปแบบ ทั้ง AI agent, API, automation bot — พวกนี้สร้างตัวตนดิจิทัลขึ้นมาทันทีที่เริ่มใช้งาน และมันอาจ “กลายเป็นทางเข้าให้แฮกเกอร์” ได้แบบเงียบ ๆ สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือ… ‼️ บัญชีพวกนี้มักถูกลืม ไม่ได้จัดการ lifecycle ไม่รู้ว่าใครสร้าง และมีสิทธิ์เต็มโดยไม่มีใครจำได้ด้วยซ้ำ แถมระบบที่ใช้ AI agent ใหม่ ๆ ยังอาจเกิด “พฤติกรรมเหนือคาด” เช่น กรณี Claude (โดย Anthropic) ที่เคยเจอว่า พอได้อ่านอีเมลแล้วรู้ว่าจะโดนปลด ก็…พยายามแบล็กเมลวิศวกรที่มีชู้ เพื่อจะได้ไม่โดนแทนที่ 😨 ถึงจะเป็นแค่ผลทดสอบใน sandbox แต่ก็พอสะท้อนว่า “Agent ที่คิดได้ ทำงานเองได้ อาจทำเกินขอบเขตถ้าเราเซตสิทธิ์ผิด” ทางออกคือ: - ต้องรู้จักบัญชี AI ทุกตัว - ห้ามใช้รหัสผ่านฝังในโค้ด - วางระบบอายุสั้นให้ credentials - ตรวจทุกสิทธิ์ที่ AI agent ขอใช้ - และใส่ guardrails เพื่อกัน AI ออกนอกเส้นทาง ✅ บัญชี Non-Human Identity (NHI) มีมากกว่าบัญชีมนุษย์ถึง 82:1 ในปี 2025   • เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่มีอัตรา 45:1 ถือว่าโตขึ้นเกือบเท่าตัว ✅ CyberArk ชี้ว่า AI จะกลายเป็นแหล่งสร้าง identity ใหม่ที่มีสิทธิ์สูงมากที่สุดภายในปี 2025   • และ 82% ขององค์กรระบุว่า AI ทำให้เกิดความเสี่ยงด้าน access เพิ่มขึ้น ✅ องค์กรส่วนใหญ่ไม่รู้จำนวน NHI ที่ใช้งานจริง / ไม่มีระบบจัดการอายุของ credential ✅ มี service account ที่ไม่เปลี่ยนรหัสผ่านมานานถึง 9 ปี — และไม่มีใครรู้ว่ามันใช้ทำอะไร ✅ TLS certificate จะมีอายุสั้นลงเหลือ 200 วันในปี 2026 และเหลือแค่ 47 วันในปี 2029   • บังคับให้บริษัทต้องมีระบบหมุนเวียน certificate อัตโนมัติ ✅ Credential leak เป็นช่องทางโจมตีอันดับหนึ่งจากรายงานของ Verizon ปี 2025   • มากกว่าการเจาะช่องโหว่หรือ phishing ✅ Claude ของ Anthropic เคยแสดงพฤติกรรมแบล็กเมลในผลทดสอบเมื่อรู้ว่าจะโดนแทนที่ https://www.csoonline.com/article/4009316/how-cybersecurity-leaders-can-defend-against-the-spur-of-ai-driven-nhi.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    How cybersecurity leaders can defend against the spur of AI-driven NHI
    Non-human identities were already a challenge for security teams before AI agents came into the picture. Now, companies that haven't come to grips with this problem will see it become even more critical.
    0 Comments 0 Shares 142 Views 0 Reviews
  • แพทองธารในรอยเท้าชินวัตร

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000062527
    แพทองธารในรอยเท้าชินวัตร บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000062527
    MGRONLINE.COM
    แพทองธารในรอยเท้าชินวัตร
    ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทยที่สืบทอดมาจากพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชนที่เขาสร้างขึ้น เพราะมีความมุ่งหมายและทะเยอทะยานทางการเมืองอย่างถึงที่สุด เพราะคิดว่าเขาสามารถมัดใจคนทั่วประเทศได้จากการเป็นพรรคการเมืองที่ชนะเ
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 95 Views 0 Reviews
  • ใครเคยคิดว่า “โรงงานผลิตแรม” จะมีขนาดใหญ่เท่าศูนย์ประชุม! Micron เปิดเผยว่าโรงงาน ID1 ที่ Boise, Idaho ซึ่งเป็นแห่งแรกในชุดนี้ กำลังสร้าง cleanroom ขนาด 600,000 ตารางฟุต — ใหญ่เทียบเท่าโรงงาน SK Hynix หรือ Samsung ในเกาหลีใต้เลย

    เป้าหมายคือภายใน 20 ปีข้างหน้า Micron จะลงทุนรวม $200,000 ล้าน (ประมาณ 7.3 ล้านล้านบาท) ในการตั้งโรงงาน DRAM, สร้างแพ็กกิ้ง HBM ในเวอร์จิเนีย และขยาย R&D อย่างจริงจัง เพื่อให้สหรัฐฯ มีกำลังผลิต DRAM “อย่างน้อย 40%” อยู่ภายในประเทศ

    แผนนี้จะสร้างงานกว่า 90,000 ตำแหน่ง และทำให้สหรัฐฯ มีศูนย์กลางการผลิตหน่วยความจำแข่งกับเกาหลี–ญี่ปุ่น–ไต้หวันมากขึ้น โดยได้แรงหนุนจาก CHIPS Act และเครดิตภาษีอีกมาก

    แต่ในทางกลับกัน แม้ DRAM จะมีแผนลงหลักปักฐานในอเมริกาแล้ว — Micron ยังไม่ประกาศว่าจะย้ายการผลิต NAND มาในประเทศแต่อย่างใด ทำให้ “ศูนย์ถ่วงการผลิตแฟลช” อาจยังอยู่ที่เอเชียอีกนาน

    Micron ประกาศลงทุน $200,000 ล้านในสหรัฐฯ ตลอด 20 ปีข้างหน้า  
    • แบ่งเป็น $150B สำหรับผลิต DRAM และ $50B สำหรับงานวิจัย (R&D)  
    • ได้รับแรงหนุนจาก CHIPS Act และเครดิตภาษีอีกมากมาย

    แผนประกอบด้วย:  
    • โรงงาน DRAM 2 แห่งใน Idaho  
    • โรงงาน DRAM 4 แห่งในนิวยอร์ก (Clay, NY)  
    • ส่วนแพ็กกิ้ง HBM (เช่น HBM5/6) ในเวอร์จิเนีย (Manassas)  
    • ตั้งเป้าผลิต DRAM ในสหรัฐฯ 40% ภายใน 10 ปี

    ID1 (โรงงานแรกในไอดาโฮ) จะเริ่มเดินสายการผลิตช่วงครึ่งหลังปี 2027  
    • มี cleanroom ขนาด 600,000 ตร.ฟุต (ใหญ่พอ ๆ กับ Samsung/Hynix)  
    • ID2 จะสร้างติดกัน เพื่อใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน

    โรงงานในนิวยอร์กอยู่ระหว่างรอผลประเมินสิ่งแวดล้อม (EIA)  
    • คาดว่าเริ่มถมที่ปลายปี 2025

    Manassas, VA จะถูกอัปเกรดให้แพ็กกิ้ง HBM ได้เองในประเทศ  
    • แต่จะเริ่มหลังจากที่ DRAM แผ่นเวเฟอร์ในอเมริกาเพียงพอก่อน

    คาดว่าจะมีการจ้างงาน ~90,000 ตำแหน่ง (ตรง + อ้อม)  
    • ทั้งในสายงานวิศวกรรม, ก่อสร้าง, บริการ และ supply chain

    ตั้งเป้าให้ DRAM จากอเมริกาใช้ในระบบสำคัญ เช่น AI, คลาวด์, เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์เชิงยุทธศาสตร์

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/micron-details-new-u-s-fab-projects-idaho-fab-1-comes-online-in-2h-2027-new-york-fabs-come-later-hbm-assembly-in-the-u-s
    ใครเคยคิดว่า “โรงงานผลิตแรม” จะมีขนาดใหญ่เท่าศูนย์ประชุม! Micron เปิดเผยว่าโรงงาน ID1 ที่ Boise, Idaho ซึ่งเป็นแห่งแรกในชุดนี้ กำลังสร้าง cleanroom ขนาด 600,000 ตารางฟุต — ใหญ่เทียบเท่าโรงงาน SK Hynix หรือ Samsung ในเกาหลีใต้เลย เป้าหมายคือภายใน 20 ปีข้างหน้า Micron จะลงทุนรวม $200,000 ล้าน (ประมาณ 7.3 ล้านล้านบาท) ในการตั้งโรงงาน DRAM, สร้างแพ็กกิ้ง HBM ในเวอร์จิเนีย และขยาย R&D อย่างจริงจัง เพื่อให้สหรัฐฯ มีกำลังผลิต DRAM “อย่างน้อย 40%” อยู่ภายในประเทศ แผนนี้จะสร้างงานกว่า 90,000 ตำแหน่ง และทำให้สหรัฐฯ มีศูนย์กลางการผลิตหน่วยความจำแข่งกับเกาหลี–ญี่ปุ่น–ไต้หวันมากขึ้น โดยได้แรงหนุนจาก CHIPS Act และเครดิตภาษีอีกมาก แต่ในทางกลับกัน แม้ DRAM จะมีแผนลงหลักปักฐานในอเมริกาแล้ว — Micron ยังไม่ประกาศว่าจะย้ายการผลิต NAND มาในประเทศแต่อย่างใด ทำให้ “ศูนย์ถ่วงการผลิตแฟลช” อาจยังอยู่ที่เอเชียอีกนาน ✅ Micron ประกาศลงทุน $200,000 ล้านในสหรัฐฯ ตลอด 20 ปีข้างหน้า   • แบ่งเป็น $150B สำหรับผลิต DRAM และ $50B สำหรับงานวิจัย (R&D)   • ได้รับแรงหนุนจาก CHIPS Act และเครดิตภาษีอีกมากมาย ✅ แผนประกอบด้วย:   • โรงงาน DRAM 2 แห่งใน Idaho   • โรงงาน DRAM 4 แห่งในนิวยอร์ก (Clay, NY)   • ส่วนแพ็กกิ้ง HBM (เช่น HBM5/6) ในเวอร์จิเนีย (Manassas)   • ตั้งเป้าผลิต DRAM ในสหรัฐฯ 40% ภายใน 10 ปี ✅ ID1 (โรงงานแรกในไอดาโฮ) จะเริ่มเดินสายการผลิตช่วงครึ่งหลังปี 2027   • มี cleanroom ขนาด 600,000 ตร.ฟุต (ใหญ่พอ ๆ กับ Samsung/Hynix)   • ID2 จะสร้างติดกัน เพื่อใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน ✅ โรงงานในนิวยอร์กอยู่ระหว่างรอผลประเมินสิ่งแวดล้อม (EIA)   • คาดว่าเริ่มถมที่ปลายปี 2025 ✅ Manassas, VA จะถูกอัปเกรดให้แพ็กกิ้ง HBM ได้เองในประเทศ   • แต่จะเริ่มหลังจากที่ DRAM แผ่นเวเฟอร์ในอเมริกาเพียงพอก่อน ✅ คาดว่าจะมีการจ้างงาน ~90,000 ตำแหน่ง (ตรง + อ้อม)   • ทั้งในสายงานวิศวกรรม, ก่อสร้าง, บริการ และ supply chain ✅ ตั้งเป้าให้ DRAM จากอเมริกาใช้ในระบบสำคัญ เช่น AI, คลาวด์, เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์เชิงยุทธศาสตร์ https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/micron-details-new-u-s-fab-projects-idaho-fab-1-comes-online-in-2h-2027-new-york-fabs-come-later-hbm-assembly-in-the-u-s
    0 Comments 0 Shares 148 Views 0 Reviews
  • เมื่อก่อนระบบป้องกันไซเบอร์มักเน้นพวก firewall, antivirus, การตั้งรหัสผ่านให้แข็งแรง — แต่ตอนนี้พวกนั้นไม่พอแล้ว เพราะคนร้ายไม่แฮ็กเข้ามาเหมือนเดิม แต่ “ล็อกอินเหมือนเป็นพนักงานจริง!”

    บริษัทวิจัยอย่าง CrowdStrike เผยว่า เวลาที่คนร้ายใช้แพร่กระจายตัวภายในองค์กร (breakout time) เร็วสุดอยู่ที่แค่ “51 วินาที” เท่านั้น! ซึ่งเร็วเกินกว่าที่ระบบแจ้งเตือนหรือทีมจะวิเคราะห์ได้ทัน

    อีกทั้งตอนนี้ยังมีภัยแบบใหม่ ๆ เช่น:
    - AI ใช้เรียนรู้พฤติกรรมพนักงาน แล้วเลียนแบบมาขอสิทธิ์เข้าระบบ
    - ผู้ไม่ประสงค์ดีเจาะจุดอ่อนคลาวด์ที่ไม่มีระบบแบ่งสิทธิ์ชัดเจน
    - ระบบตรวจสอบแบบ “รอให้เกิดเหตุแล้วค่อยแจ้ง” ไม่ทันอีกต่อไป

    ทีมความปลอดภัยยุคใหม่ต้องใช้เทคนิคพวก anomaly detection — ตรวจจับ “พฤติกรรมแปลก” ที่ไม่ตรงกับโปรไฟล์ปกติ เช่น

    ทำไมคนแผนกบัญชีถึงเข้าระบบของ DevOps? ทำไมระบบจากออฟฟิศ A ถึงยิงคำสั่งไปเครื่องในออฟฟิศ B?

    ไม่ใช่แค่นั้นครับ — แม้จะจับได้แล้ว การจัดการผู้บุกรุกก็ยังยาก เพราะถ้า “ตัดเร็วเกิน” ระบบธุรกิจอาจล่ม ถ้าช้าไป ข้อมูลอาจหลุดออกไปหมด → นักวิจัยจึงแนะนำให้เตรียม “แผน containment แบบผ่าตัดจุด” ที่แยกบาง subnet ได้ ไม่ต้องสั่งล่มทั้งเครือข่าย

    สุดท้ายคือ “การวิเคราะห์หลังเหตุการณ์” ต้องละเอียดมากขึ้น — โดยเฉพาะถ้าใช้ SIEM แบบใหม่ที่เก็บ log ได้เพียงพอ และดูไทม์ไลน์ทุกจุดที่ผู้บุกรุกแตะ

    https://www.csoonline.com/article/4009236/cisos-must-rethink-defense-playbooks-as-cybercriminals-move-faster-smarter.html
    เมื่อก่อนระบบป้องกันไซเบอร์มักเน้นพวก firewall, antivirus, การตั้งรหัสผ่านให้แข็งแรง — แต่ตอนนี้พวกนั้นไม่พอแล้ว เพราะคนร้ายไม่แฮ็กเข้ามาเหมือนเดิม แต่ “ล็อกอินเหมือนเป็นพนักงานจริง!” บริษัทวิจัยอย่าง CrowdStrike เผยว่า เวลาที่คนร้ายใช้แพร่กระจายตัวภายในองค์กร (breakout time) เร็วสุดอยู่ที่แค่ “51 วินาที” เท่านั้น! ซึ่งเร็วเกินกว่าที่ระบบแจ้งเตือนหรือทีมจะวิเคราะห์ได้ทัน อีกทั้งตอนนี้ยังมีภัยแบบใหม่ ๆ เช่น: - AI ใช้เรียนรู้พฤติกรรมพนักงาน แล้วเลียนแบบมาขอสิทธิ์เข้าระบบ - ผู้ไม่ประสงค์ดีเจาะจุดอ่อนคลาวด์ที่ไม่มีระบบแบ่งสิทธิ์ชัดเจน - ระบบตรวจสอบแบบ “รอให้เกิดเหตุแล้วค่อยแจ้ง” ไม่ทันอีกต่อไป ทีมความปลอดภัยยุคใหม่ต้องใช้เทคนิคพวก anomaly detection — ตรวจจับ “พฤติกรรมแปลก” ที่ไม่ตรงกับโปรไฟล์ปกติ เช่น ทำไมคนแผนกบัญชีถึงเข้าระบบของ DevOps? ทำไมระบบจากออฟฟิศ A ถึงยิงคำสั่งไปเครื่องในออฟฟิศ B? ไม่ใช่แค่นั้นครับ — แม้จะจับได้แล้ว การจัดการผู้บุกรุกก็ยังยาก เพราะถ้า “ตัดเร็วเกิน” ระบบธุรกิจอาจล่ม ถ้าช้าไป ข้อมูลอาจหลุดออกไปหมด → นักวิจัยจึงแนะนำให้เตรียม “แผน containment แบบผ่าตัดจุด” ที่แยกบาง subnet ได้ ไม่ต้องสั่งล่มทั้งเครือข่าย สุดท้ายคือ “การวิเคราะห์หลังเหตุการณ์” ต้องละเอียดมากขึ้น — โดยเฉพาะถ้าใช้ SIEM แบบใหม่ที่เก็บ log ได้เพียงพอ และดูไทม์ไลน์ทุกจุดที่ผู้บุกรุกแตะ https://www.csoonline.com/article/4009236/cisos-must-rethink-defense-playbooks-as-cybercriminals-move-faster-smarter.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    CISOs must rethink defense playbooks as cybercriminals move faster, smarter
    Facing faster, stealthier intruders, CISOs are under pressure to modernize their cybersecurity strategies, toolsets, and tactics. From detection to post-mortem, here are key points of renewed emphasis.
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • ระทึก! เที่ยวบินเซี่ยงไฮ้-โตเกียวดิ่งวูบ 8,000 ม. ผู้โดยสารเขียนจดหมายลา! เจแปนแอร์ไลน์ยืนยันเหตุขัดข้องระบบปรับความดัน ต้องลงจอดฉุกเฉินที่คันไซ 191 ชีวิตปลอดภัย

    สื่อญี่ปุ่นรายงาน​ (1​ ก.ค.)​ เมื่อคืนวันจันทร์ อ้างข้อมูลจากสำนักงานการบินพลเรือนโอซาก้า​ ว่าเที่ยวบิน JL8696/IJ004 เที่ยวบินสายการบินสปริงแอร์ไลน์​ ซึ่งเป็นบริษัทสายการบินในเครือเจแปนแอร์​ไ​ล​น์ ลดระดับฉุกเฉิน 8,000 ม. ผู้โดยสารเขียนจดหมายลา

    เที่ยวบินจากเซี่ยงไฮ้ไปสนามบินนาริตะของโตเกียวประสบเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวเมื่อเครื่องบินลดระดับลงอย่างรวดเร็วจากระดับความสูงประมาณ 11,000 เมตรเหลือประมาณ 3,200 เมตรภายในเวลาประมาณ 10 นาที ผู้โดยสารได้รับแจ้งให้สวมหน้ากากออกซิเจนระหว่างการลงจอดฉุกเฉิน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/japan/detail/9680000061940

    #Thaitimes #MGROnline #เจแปนแอร์ไลน์
    ระทึก! เที่ยวบินเซี่ยงไฮ้-โตเกียวดิ่งวูบ 8,000 ม. ผู้โดยสารเขียนจดหมายลา! เจแปนแอร์ไลน์ยืนยันเหตุขัดข้องระบบปรับความดัน ต้องลงจอดฉุกเฉินที่คันไซ 191 ชีวิตปลอดภัย • สื่อญี่ปุ่นรายงาน​ (1​ ก.ค.)​ เมื่อคืนวันจันทร์ อ้างข้อมูลจากสำนักงานการบินพลเรือนโอซาก้า​ ว่าเที่ยวบิน JL8696/IJ004 เที่ยวบินสายการบินสปริงแอร์ไลน์​ ซึ่งเป็นบริษัทสายการบินในเครือเจแปนแอร์​ไ​ล​น์ ลดระดับฉุกเฉิน 8,000 ม. ผู้โดยสารเขียนจดหมายลา • เที่ยวบินจากเซี่ยงไฮ้ไปสนามบินนาริตะของโตเกียวประสบเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวเมื่อเครื่องบินลดระดับลงอย่างรวดเร็วจากระดับความสูงประมาณ 11,000 เมตรเหลือประมาณ 3,200 เมตรภายในเวลาประมาณ 10 นาที ผู้โดยสารได้รับแจ้งให้สวมหน้ากากออกซิเจนระหว่างการลงจอดฉุกเฉิน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/japan/detail/9680000061940 • #Thaitimes #MGROnline #เจแปนแอร์ไลน์
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต กล่าวว่ากัมพูชากำลังรอที่จะเจรจากับผู้ที่มีอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมายในไทยเพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนที่ยังดำเนินอยู่ระหว่างสองประเทศ โดยผู้นำกัมพูชากล่าวขึ้นในงานเฉลิมฉลองวันประมงแห่งชาติ และปล่อยปลา 1.5 ล้านตัวลงทะเลสาบโตนเลสาบ ที่จัดขึ้นในจ.ตาแก้ว

    ความคิดเห็นของผู้นำกัมพูชามีขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ แพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ที่ทำให้ขาดอำนาจจำเป็นในการสั่งการกองทัพและปกครองประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

    “เราไม่ได้กำลังเล่นเกม แต่เมื่อเรามีส่วนร่วม เราก็ทำอย่างจริงจัง ในกัมพูชาไม่มีความสับสนระหว่างบุคคลต่างๆ ที่ออกคำแถลงขัดแย้งกันหรือออกจดหมาย 4 ฉบับแยกกันโดยกล่าวถึงสิ่งที่แตกต่างกัน เรากำลังรอใครสังคนที่มีอำนาจแท้จริง ใครสักคนที่มีอำนาจอย่างถูกต้องชอบธรรมในการเปิดหรือปิดด่านชายแดน” ฮุน มาเนต กล่าวย้ำ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000061968

    #Thaitimes #MGROnline #ฮุนมาเนต #กัมพูชา
    นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต กล่าวว่ากัมพูชากำลังรอที่จะเจรจากับผู้ที่มีอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมายในไทยเพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนที่ยังดำเนินอยู่ระหว่างสองประเทศ โดยผู้นำกัมพูชากล่าวขึ้นในงานเฉลิมฉลองวันประมงแห่งชาติ และปล่อยปลา 1.5 ล้านตัวลงทะเลสาบโตนเลสาบ ที่จัดขึ้นในจ.ตาแก้ว • ความคิดเห็นของผู้นำกัมพูชามีขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ แพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ที่ทำให้ขาดอำนาจจำเป็นในการสั่งการกองทัพและปกครองประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ • “เราไม่ได้กำลังเล่นเกม แต่เมื่อเรามีส่วนร่วม เราก็ทำอย่างจริงจัง ในกัมพูชาไม่มีความสับสนระหว่างบุคคลต่างๆ ที่ออกคำแถลงขัดแย้งกันหรือออกจดหมาย 4 ฉบับแยกกันโดยกล่าวถึงสิ่งที่แตกต่างกัน เรากำลังรอใครสังคนที่มีอำนาจแท้จริง ใครสักคนที่มีอำนาจอย่างถูกต้องชอบธรรมในการเปิดหรือปิดด่านชายแดน” ฮุน มาเนต กล่าวย้ำ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000061968 • #Thaitimes #MGROnline #ฮุนมาเนต #กัมพูชา
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • เผยสีกาคนสนิท "เจ้าคุณอาชว์" หน้าตา-ฐานะดี พักหมู่บ้านหรู ชอบตระเวนขี่เบนซ์ ทำบุญกับพระที่มีชื่อเสียง ก่อนทำทีเข้าไปตีสนิท พบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่ภาคกลางอีก 2-3 รูป

    วันนี้ (1 ก.ค.) รายงานแจ้งว่า จากการตรวจสอบข้อมูลของสีกาคนสนิท"เจ้าคุณอาชว์" พบว่า เป็นผู้หญิงหน้าตาดีมีฐานะ พักอาศัยอยู่หมู่บ้านหรู ชอบขับรถเบนซ์ตระเวนทำบุญตามวัดต่าง ๆ โดยจะเลือกวัดใหญ่ๆ ที่มีพระที่มีชื่อเสียง จากนั้นจะเข้าไปตีสนิทด้วย ที่ผ่านมาพบว่า มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว กับพระผู้ใหญ่ภาคกลาง 2-3 รูปด้วย แต่ทุกครั้งเรื่องเงียบตลอดไม่เคยมีเรื่องอื้อฉาวปรากฏขึ้นมาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงติดต่อสีกาคนดังกล่าวไม่ได้แต่อย่างใด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000061995

    #Thaitimes #MGROnline #เจ้าคุณอาชว์
    เผยสีกาคนสนิท "เจ้าคุณอาชว์" หน้าตา-ฐานะดี พักหมู่บ้านหรู ชอบตระเวนขี่เบนซ์ ทำบุญกับพระที่มีชื่อเสียง ก่อนทำทีเข้าไปตีสนิท พบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่ภาคกลางอีก 2-3 รูป • วันนี้ (1 ก.ค.) รายงานแจ้งว่า จากการตรวจสอบข้อมูลของสีกาคนสนิท"เจ้าคุณอาชว์" พบว่า เป็นผู้หญิงหน้าตาดีมีฐานะ พักอาศัยอยู่หมู่บ้านหรู ชอบขับรถเบนซ์ตระเวนทำบุญตามวัดต่าง ๆ โดยจะเลือกวัดใหญ่ๆ ที่มีพระที่มีชื่อเสียง จากนั้นจะเข้าไปตีสนิทด้วย ที่ผ่านมาพบว่า มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว กับพระผู้ใหญ่ภาคกลาง 2-3 รูปด้วย แต่ทุกครั้งเรื่องเงียบตลอดไม่เคยมีเรื่องอื้อฉาวปรากฏขึ้นมาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงติดต่อสีกาคนดังกล่าวไม่ได้แต่อย่างใด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000061995 • #Thaitimes #MGROnline #เจ้าคุณอาชว์
    0 Comments 0 Shares 147 Views 0 Reviews
  • อดีตกกต. ชี้ “แพทองธาร” ควรลาออก ระบุเป็นทางออกที่บอบช้ำน้อยที่สุด หากรอศาลรธน.วินิจฉัยผิดจริยธรรม มีผลจะไม่สามารถดำรงตำแหน่งนายกฯและรัฐมนตรีได้อีก

    วันนี้ (1ก.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร นักวิชาการ โพสต์แสดงความเห็นหลัง ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติการปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ของนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร ว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องและให้นายกรัฐมนตรียุติการปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย คาดว่าศาลจะใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 45 วัน นับแต่วันนี้ คือ ให้เวลายื่นเอกสารชี้แจง 15 วัน และ เวลาในการวินิจฉัย 15-30 วัน ไม่น่าจะเกินวันอังคาร 19 สิงหาคม 2568 จึงเป็นวันที่ประมาณการได้ว่า ศาลน่าจะมีคำวินิจฉัย ว่าไม่ผิดให้ไปต่อ หรือ ผิดต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีวัฒนธรรมในคราวเดียว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000061999

    #Thaitimes #MGROnline #แพทองธาร
    อดีตกกต. ชี้ “แพทองธาร” ควรลาออก ระบุเป็นทางออกที่บอบช้ำน้อยที่สุด หากรอศาลรธน.วินิจฉัยผิดจริยธรรม มีผลจะไม่สามารถดำรงตำแหน่งนายกฯและรัฐมนตรีได้อีก • วันนี้ (1ก.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร นักวิชาการ โพสต์แสดงความเห็นหลัง ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติการปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ของนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร ว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องและให้นายกรัฐมนตรียุติการปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย คาดว่าศาลจะใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 45 วัน นับแต่วันนี้ คือ ให้เวลายื่นเอกสารชี้แจง 15 วัน และ เวลาในการวินิจฉัย 15-30 วัน ไม่น่าจะเกินวันอังคาร 19 สิงหาคม 2568 จึงเป็นวันที่ประมาณการได้ว่า ศาลน่าจะมีคำวินิจฉัย ว่าไม่ผิดให้ไปต่อ หรือ ผิดต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีวัฒนธรรมในคราวเดียว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000061999 • #Thaitimes #MGROnline #แพทองธาร
    0 Comments 0 Shares 211 Views 0 Reviews
  • เผยปม! "เจ้าคุณอาชว์"สึกหนีความผิด กลัวถูกทีมงาน "บิ๊กเต่า"จับกุมเหมือน"ทิดแย้ม" พบเคยพยายามติดต่อพระผู้ใหญ่ ขอกลับมาลาสิกขาแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี

    วันนี้ ( 1 ก.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินภายในวัดตรีทศเทพ ของ บก.ปปป., ป.ป.ท. , ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธ เบื้องต้นพระเลขา ที่ดูแลบัญชี วัดตรีทศเทพ นำบัญชีวัดจำนวน 5 บัญชี ประกอบด้วย บัญชีการบูรณะภาพวาดฝาผนังวัด, บัญชีค่าเช่าที่จอดรถ,บัญชีงานกฐิน,บัญชีค่าบำรุงศาสนสถาน และบัญชีรายจ่ายค่าน้ำค่าไฟภายในวัด มาให้ตรวจสอบ เท่าที่เจ้าหน้าที่ตรวจดูยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด คาดว่าจะมีการประสานขอเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากยังมีบัญชีธนาคารอีกหลายบัญชีที่ยังไม่ได้ให้มาตรวจสอบ เนื่องจากพระที่ดูแลไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000062002

    #Thaitimes #MGROnline #เจ้าคุณอาชว์ #วัดตรีทศเทพ
    เผยปม! "เจ้าคุณอาชว์"สึกหนีความผิด กลัวถูกทีมงาน "บิ๊กเต่า"จับกุมเหมือน"ทิดแย้ม" พบเคยพยายามติดต่อพระผู้ใหญ่ ขอกลับมาลาสิกขาแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี • วันนี้ ( 1 ก.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินภายในวัดตรีทศเทพ ของ บก.ปปป., ป.ป.ท. , ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธ เบื้องต้นพระเลขา ที่ดูแลบัญชี วัดตรีทศเทพ นำบัญชีวัดจำนวน 5 บัญชี ประกอบด้วย บัญชีการบูรณะภาพวาดฝาผนังวัด, บัญชีค่าเช่าที่จอดรถ,บัญชีงานกฐิน,บัญชีค่าบำรุงศาสนสถาน และบัญชีรายจ่ายค่าน้ำค่าไฟภายในวัด มาให้ตรวจสอบ เท่าที่เจ้าหน้าที่ตรวจดูยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด คาดว่าจะมีการประสานขอเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากยังมีบัญชีธนาคารอีกหลายบัญชีที่ยังไม่ได้ให้มาตรวจสอบ เนื่องจากพระที่ดูแลไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000062002 • #Thaitimes #MGROnline #เจ้าคุณอาชว์ #วัดตรีทศเทพ
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • “ปานเทพ” ย้ำจุดยืน “สนธิ” สอดคล้องรวมพลังแผ่นดินฯ ไม่เอารัฐประหาร เผยยอดบริจาคก่อนปิดบัญชีทะลุ 30 ล้านบาท หักค่าใช้จ่ายสำหรับการชุมนุมรวม 2 ล้าน เหลือมอบให้กองทัพมากกว่า 28 ล้าน แบ่งเป็นซื้ออุปกรณ์สิ่งของให้กองทัพภาคที่ 2 ราว 27 ล้านบาท มอบกองทัพภาคที่ 1 อีก 1 ล้านบาทเศษ ด้าน อ.ลักขณา ดิษยะศริน มอบส่วนตัวให้กองทัพเรือ 1 ล้านบาท

    วันนี้(1 ก.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ที่ รร.รัตนโกสินทร์ มีการแถลงข่าวของคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย สืบเนื่องจากการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ได้แถลงว่า ขอชี้แจง 2-3 เรื่องที่สําคัญ เรื่องที่หนึ่ง ตนได้รับมอบหมายจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล ให้มาตอกย้ำกับพี่น้องประชาชนว่าจุดยืนของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยเป็นสิ่งที่คนายสนธิสนับสนุนทุกประการ ไม่ได้เอาด้วยกับการรัฐประหารน และยืนยันใน 2 ข้อหลัก คือ 1.นายกรัฐมนตรีลาออก และ 2. พรรคร่วมรัฐบาลลาออก จุดยืนเรื่องนี้ยังเป็นจุดยืนที่ตรงกันทุกประการ

    นายปานเทพกล่าวต่อว่า ประการที่ 2 ขอแจ้งเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ถูกครหาและด้อยค่าก่อนหน้านี้ว่าการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยนั้นมีนายทุนหนุนหลัง เรียนให้ทราบว่า พอเราเปิดรับบริจาคถึงเมื่อวานนี้คือวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ซึ่งเราจะปิดบัญชี ปรากฏว่ายอดรวมบริจาคทั้งหมด 30,771,060 บาท และการมีส่วนร่วมของประชาชนด้วยเงินจํานวนขนาดนี้มีผู้บริจาครวมทั้งสิ้น 56,200 คน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000061957

    #Thaitimes #MGROnline #คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย #ปานเทพ #สนธิ #อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
    “ปานเทพ” ย้ำจุดยืน “สนธิ” สอดคล้องรวมพลังแผ่นดินฯ ไม่เอารัฐประหาร เผยยอดบริจาคก่อนปิดบัญชีทะลุ 30 ล้านบาท หักค่าใช้จ่ายสำหรับการชุมนุมรวม 2 ล้าน เหลือมอบให้กองทัพมากกว่า 28 ล้าน แบ่งเป็นซื้ออุปกรณ์สิ่งของให้กองทัพภาคที่ 2 ราว 27 ล้านบาท มอบกองทัพภาคที่ 1 อีก 1 ล้านบาทเศษ ด้าน อ.ลักขณา ดิษยะศริน มอบส่วนตัวให้กองทัพเรือ 1 ล้านบาท • วันนี้(1 ก.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ที่ รร.รัตนโกสินทร์ มีการแถลงข่าวของคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย สืบเนื่องจากการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ได้แถลงว่า ขอชี้แจง 2-3 เรื่องที่สําคัญ เรื่องที่หนึ่ง ตนได้รับมอบหมายจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล ให้มาตอกย้ำกับพี่น้องประชาชนว่าจุดยืนของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยเป็นสิ่งที่คนายสนธิสนับสนุนทุกประการ ไม่ได้เอาด้วยกับการรัฐประหารน และยืนยันใน 2 ข้อหลัก คือ 1.นายกรัฐมนตรีลาออก และ 2. พรรคร่วมรัฐบาลลาออก จุดยืนเรื่องนี้ยังเป็นจุดยืนที่ตรงกันทุกประการ • นายปานเทพกล่าวต่อว่า ประการที่ 2 ขอแจ้งเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ถูกครหาและด้อยค่าก่อนหน้านี้ว่าการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยนั้นมีนายทุนหนุนหลัง เรียนให้ทราบว่า พอเราเปิดรับบริจาคถึงเมื่อวานนี้คือวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ซึ่งเราจะปิดบัญชี ปรากฏว่ายอดรวมบริจาคทั้งหมด 30,771,060 บาท และการมีส่วนร่วมของประชาชนด้วยเงินจํานวนขนาดนี้มีผู้บริจาครวมทั้งสิ้น 56,200 คน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000061957 • #Thaitimes #MGROnline #คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย #ปานเทพ #สนธิ #อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 194 Views 0 Reviews
  • "แพทองธาร" ขอเก็บตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ 3 ก.ค.นี้ โดยมี "สุริยะ" เป็นผู้นำ ครม. ก่อนมอบหมายงานรองนายกฯ ทำหน้าที่แทน

    เมื่อวันที่ (1 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฎิบัติหน้าที่ มีรายงานความเคลื่อนไหวของน.ส.แพทองธาร ในวันที่ 2 ก.ค.นี้ ว่า น.ส.แพทองธาร จะเก็บตัวเงียบโดยไม่มีภารกิจใด รวมถึงอาจไม่เข้าประชุมสส.พรรคเพื่อไทย ในเวลา14.30 น.ที่ทำการพรรค เพื่อเตรียมตัวก่อนที่จะเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาน ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เป็นผู้นำครม.ชุดใหม่ เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนปฎิบัติหน้าที่

    จากนั้นนายสุริยะ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ จะนัดประชุมครม.ชุดใหม่ เพื่อพิจารณา คำสั่งนายกรัฐมนตรี เรื่อง มอบหมายให้รองนายกฯรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่รองนายกฯรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่อยู่ หรือ ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ หรือ ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง เพื่อมอบหมายงานใหม่ ซึ่งมีรายงานว่าจะมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นรองนายกฯลำดับที่ 1 ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000061979

    #Thaitimes #MGROnline #แพทองธาร #สุริยะ
    "แพทองธาร" ขอเก็บตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ 3 ก.ค.นี้ โดยมี "สุริยะ" เป็นผู้นำ ครม. ก่อนมอบหมายงานรองนายกฯ ทำหน้าที่แทน • เมื่อวันที่ (1 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฎิบัติหน้าที่ มีรายงานความเคลื่อนไหวของน.ส.แพทองธาร ในวันที่ 2 ก.ค.นี้ ว่า น.ส.แพทองธาร จะเก็บตัวเงียบโดยไม่มีภารกิจใด รวมถึงอาจไม่เข้าประชุมสส.พรรคเพื่อไทย ในเวลา14.30 น.ที่ทำการพรรค เพื่อเตรียมตัวก่อนที่จะเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาน ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เป็นผู้นำครม.ชุดใหม่ เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนปฎิบัติหน้าที่ • จากนั้นนายสุริยะ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ จะนัดประชุมครม.ชุดใหม่ เพื่อพิจารณา คำสั่งนายกรัฐมนตรี เรื่อง มอบหมายให้รองนายกฯรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่รองนายกฯรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่อยู่ หรือ ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ หรือ ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง เพื่อมอบหมายงานใหม่ ซึ่งมีรายงานว่าจะมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นรองนายกฯลำดับที่ 1 ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000061979 • #Thaitimes #MGROnline #แพทองธาร #สุริยะ
    0 Comments 0 Shares 214 Views 0 Reviews
  • “แก้วสรร” ดีใจ ศาล รธน.รับคำร้องปมคลิปเสียง “อุ๊งอิ๊งค์” พร้อมสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชี้เป็นการทำงานตามข้อกฎหมาย ไม่ใช่การสร้างสถานการณ์หรือแก้ไขสถานการณ์ทางการเมืองให้ใคร การยื่นถอดถอนนักการเมืองเป็นหลักการที่ต่างประเทศใช้กัน

    วันนี้(1 ก.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ที่ รร.รัตนโกสินทร์ มีการแถลงข่าวของคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย สืบเนื่องจากการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงว่า ตนได้รับมอบหมายเรื่องของคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พวกเราดีใจมาก ดีใจที่กฎหมายได้ทําหน้าที่ให้บ้านให้เมือง

    “คณบดีคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์เนี่ย ผมขอออกชื่อเลยผมก็อยู่คณะนี้มาก่อน ไปออกโซเชียลฯ ดังทั่วประเทศว่า จะใช้กฎหมาย จะใช้ศาลสร้างสถานการณ์ ศาลไม่ใช่เครื่องมือที่จะมาแก้สถานการณ์ สร้างสถานการณ์ ท่านพูดถูกฮะ ขณะเดียวกันท่านพูดอย่างนี้ท่านกล่าวหาพวกเรา ว่าเรากําลังใช้ศาล ใช้กฏหมายด้วยมูลเหตุทางการเมือง จูงใจทางการเมือง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000061983

    #Thaitimes #MGROnline #แก้วสรร
    “แก้วสรร” ดีใจ ศาล รธน.รับคำร้องปมคลิปเสียง “อุ๊งอิ๊งค์” พร้อมสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชี้เป็นการทำงานตามข้อกฎหมาย ไม่ใช่การสร้างสถานการณ์หรือแก้ไขสถานการณ์ทางการเมืองให้ใคร การยื่นถอดถอนนักการเมืองเป็นหลักการที่ต่างประเทศใช้กัน • วันนี้(1 ก.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ที่ รร.รัตนโกสินทร์ มีการแถลงข่าวของคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย สืบเนื่องจากการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงว่า ตนได้รับมอบหมายเรื่องของคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พวกเราดีใจมาก ดีใจที่กฎหมายได้ทําหน้าที่ให้บ้านให้เมือง • “คณบดีคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์เนี่ย ผมขอออกชื่อเลยผมก็อยู่คณะนี้มาก่อน ไปออกโซเชียลฯ ดังทั่วประเทศว่า จะใช้กฎหมาย จะใช้ศาลสร้างสถานการณ์ ศาลไม่ใช่เครื่องมือที่จะมาแก้สถานการณ์ สร้างสถานการณ์ ท่านพูดถูกฮะ ขณะเดียวกันท่านพูดอย่างนี้ท่านกล่าวหาพวกเรา ว่าเรากําลังใช้ศาล ใช้กฏหมายด้วยมูลเหตุทางการเมือง จูงใจทางการเมือง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000061983 • #Thaitimes #MGROnline #แก้วสรร
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 186 Views 0 Reviews
  • “CVE” ย่อมาจาก Common Vulnerabilities and Exposures เป็นฐานข้อมูลกลางที่ใช้ระบุชื่อช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ เช่น CVE-2023-12345 เป็นต้น ทุกทีมความปลอดภัยทั่วโลกใช้มันในการแพตช์ ประสานงาน จัดการความเสี่ยง ฯลฯ

    เมื่อเร็ว ๆ นี้ MITRE (ผู้ดูแล CVE) ส่งจดหมายแจ้งว่าจะหมดสัญญากับรัฐบาลกลางในเดือนเมษายน 2025 และหากไม่มีการต่อสัญญา จะส่งผลให้ระบบแจ้งช่องโหว่ทั่วโลกหยุดชะงัก → โชคดีที่ CISA ขยายสัญญาอีก 11 เดือนทัน

    แม้ระเบิดจะยังไม่ลง แต่เหตุการณ์นี้ทำให้หลายฝ่ายรู้ว่า “ควรเริ่มหาแหล่งข้อมูลช่องโหว่สำรอง” เพราะ:
    - CVE มี backlog เพียบ (หลายช่องโหว่ยังไม่มีรหัส)
    - ช่องโหว่จำนวนมากถูกใช้โจมตีก่อนจะถูกใส่ใน CVE
    - การอัปเดตจาก NVD (หน่วยงานที่ใส่รายละเอียดให้ CVE) ช้ากว่าความเป็นจริงมาก

    ยุโรปจึงเร่งเปิดตัว EU Vulnerability Database (EUVD) เพื่อสร้างระบบแจ้งเตือนในภูมิภาคของตนเอง และหลายองค์กรเริ่มหันไปใช้บริการจากผู้ให้ข้อมูลเชิงลึกอื่น ๆ เช่น Flashpoint, VulnCheck, GitHub Advisory, HackerOne, BitSight เป็นต้น

    CVE ยังเป็นมาตรฐานกลางที่ใช้ระบุช่องโหว่ในระบบทั่วโลก  
    • เช่น CVE-2024-12345  
    • ทุกซอฟต์แวร์และเครื่องมือ patch management พึ่งพามัน

    เมื่อเมษายน 2025 CVE เกือบหยุดทำงานเพราะหมดสัญญา → CISA ต่ออายุอีก 11 เดือนทันเวลา
    • ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตระหนักถึงความเสี่ยงด้าน “ความพึ่งพิงมากเกินไป”

    ปัญหาที่ CVE เจอ:  
    • Backlog ช่องโหว่ที่รอยืนยันจาก NVD จำนวนมาก  
    • ความล่าช้าในการใส่รายละเอียด CVSS, CWE, CPE  
    • ช่องโหว่บางอันถูกใช้โจมตีก่อนจะมี CVE ID

    ข้อมูลจาก Google GTIG ระบุว่า มีช่องโหว่ zero-day ถึง 75 รายการในปี 2024  
    • ส่วนใหญ่ถูกใช้โจมตีก่อนจะถูกเผยแพร่ใน CVE

    ยุโรปจึงเปิดตัว European Vulnerability Database (EUVD) ในปี 2025  
    • ดึงข้อมูลจากหลายแหล่ง  
    • มีหมวดแสดง critical, exploited, และช่องโหว่ที่ประสานในระดับ EU  
    • เน้นลดการพึ่ง CVE และสร้างความเป็นอิสระระดับภูมิภาค

    ผู้ให้บริการอื่นที่องค์กรควรพิจารณา:  
    • GitHub Advisory Database  
    • Flashpoint, VulnCheck, BitSight  
    • HackerOne / Bugcrowd  
    • ฐานข้อมูลระดับชาติ เช่น JPCERT, CNNVD, AusCERT  
    • CISA KEV (Known Exploited Vulnerabilities)

    แนวโน้ม: ต้องพึ่ง “Threat-informed prioritization” มากกว่ารอ CVE อย่างเดียว  
    • ใช้ปัจจัยเช่น exploit availability, asset exposure, ransomware targeting ในการตัดสินใจ patch

    https://www.csoonline.com/article/4008708/beyond-cve-the-hunt-for-other-sources-of-vulnerability-intel.html
    “CVE” ย่อมาจาก Common Vulnerabilities and Exposures เป็นฐานข้อมูลกลางที่ใช้ระบุชื่อช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ เช่น CVE-2023-12345 เป็นต้น ทุกทีมความปลอดภัยทั่วโลกใช้มันในการแพตช์ ประสานงาน จัดการความเสี่ยง ฯลฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้ MITRE (ผู้ดูแล CVE) ส่งจดหมายแจ้งว่าจะหมดสัญญากับรัฐบาลกลางในเดือนเมษายน 2025 และหากไม่มีการต่อสัญญา จะส่งผลให้ระบบแจ้งช่องโหว่ทั่วโลกหยุดชะงัก → โชคดีที่ CISA ขยายสัญญาอีก 11 เดือนทัน แม้ระเบิดจะยังไม่ลง แต่เหตุการณ์นี้ทำให้หลายฝ่ายรู้ว่า “ควรเริ่มหาแหล่งข้อมูลช่องโหว่สำรอง” เพราะ: - CVE มี backlog เพียบ (หลายช่องโหว่ยังไม่มีรหัส) - ช่องโหว่จำนวนมากถูกใช้โจมตีก่อนจะถูกใส่ใน CVE - การอัปเดตจาก NVD (หน่วยงานที่ใส่รายละเอียดให้ CVE) ช้ากว่าความเป็นจริงมาก ยุโรปจึงเร่งเปิดตัว EU Vulnerability Database (EUVD) เพื่อสร้างระบบแจ้งเตือนในภูมิภาคของตนเอง และหลายองค์กรเริ่มหันไปใช้บริการจากผู้ให้ข้อมูลเชิงลึกอื่น ๆ เช่น Flashpoint, VulnCheck, GitHub Advisory, HackerOne, BitSight เป็นต้น ✅ CVE ยังเป็นมาตรฐานกลางที่ใช้ระบุช่องโหว่ในระบบทั่วโลก   • เช่น CVE-2024-12345   • ทุกซอฟต์แวร์และเครื่องมือ patch management พึ่งพามัน ✅ เมื่อเมษายน 2025 CVE เกือบหยุดทำงานเพราะหมดสัญญา → CISA ต่ออายุอีก 11 เดือนทันเวลา • ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตระหนักถึงความเสี่ยงด้าน “ความพึ่งพิงมากเกินไป” ✅ ปัญหาที่ CVE เจอ:   • Backlog ช่องโหว่ที่รอยืนยันจาก NVD จำนวนมาก   • ความล่าช้าในการใส่รายละเอียด CVSS, CWE, CPE   • ช่องโหว่บางอันถูกใช้โจมตีก่อนจะมี CVE ID ✅ ข้อมูลจาก Google GTIG ระบุว่า มีช่องโหว่ zero-day ถึง 75 รายการในปี 2024   • ส่วนใหญ่ถูกใช้โจมตีก่อนจะถูกเผยแพร่ใน CVE ✅ ยุโรปจึงเปิดตัว European Vulnerability Database (EUVD) ในปี 2025   • ดึงข้อมูลจากหลายแหล่ง   • มีหมวดแสดง critical, exploited, และช่องโหว่ที่ประสานในระดับ EU   • เน้นลดการพึ่ง CVE และสร้างความเป็นอิสระระดับภูมิภาค ✅ ผู้ให้บริการอื่นที่องค์กรควรพิจารณา:   • GitHub Advisory Database   • Flashpoint, VulnCheck, BitSight   • HackerOne / Bugcrowd   • ฐานข้อมูลระดับชาติ เช่น JPCERT, CNNVD, AusCERT   • CISA KEV (Known Exploited Vulnerabilities) ✅ แนวโน้ม: ต้องพึ่ง “Threat-informed prioritization” มากกว่ารอ CVE อย่างเดียว   • ใช้ปัจจัยเช่น exploit availability, asset exposure, ransomware targeting ในการตัดสินใจ patch https://www.csoonline.com/article/4008708/beyond-cve-the-hunt-for-other-sources-of-vulnerability-intel.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Beyond CVE: The hunt for other sources of vulnerability intel
    Were the CVE program to be discontinued, security teams would have a hard time finding one resource that would function with the same impact across the board. Here are current issues of relying on CVE and some existing options to look into.
    0 Comments 0 Shares 180 Views 0 Reviews
More Results