• เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อ AI กลายเป็นเครื่องมือของสายลับเกาหลีเหนือ

    ลองจินตนาการว่าคุณกำลังสัมภาษณ์พนักงานไอทีผ่านวิดีโอคอล—เขาดูมืออาชีพ พูดภาษาอังกฤษคล่อง และมีโปรไฟล์ LinkedIn สมบูรณ์แบบ แต่เบื้องหลังนั้นคือปฏิบัติการระดับชาติของเกาหลีเหนือที่ใช้ AI ปลอมตัวคน สร้างเอกสารปลอม และแทรกซึมเข้าไปในบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก เพื่อหาเงินสนับสนุนโครงการอาวุธนิวเคลียร์

    รายงานล่าสุดจาก CrowdStrike เผยว่าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา มีกรณีที่สายลับไซเบอร์ของเกาหลีเหนือได้งานเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์แบบรีโมตกว่า 320 ครั้ง โดยใช้เครื่องมือ AI สร้างเรซูเม่ ปลอมภาพโปรไฟล์ และแม้แต่ใช้ deepfake เปลี่ยนใบหน้าในวิดีโอคอลให้ดูเหมือนคนอื่น

    เมื่อได้งานแล้ว พวกเขาใช้ AI ช่วยเขียนโค้ด แปลภาษา และตอบอีเมลจากหัวหน้าอย่างมืออาชีพ ทั้งที่บางคนทำงานพร้อมกันถึง 3–4 บริษัท และไม่พูดอังกฤษได้จริง

    เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือ “ฟาร์มแล็ปท็อป” ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ โดยมีผู้ร่วมขบวนการชาวอเมริกันช่วยรับเครื่องจากบริษัท แล้วติดตั้งซอฟต์แวร์ให้สายลับเกาหลีเหนือเข้าถึงระบบจากต่างประเทศได้อย่างแนบเนียน

    รายได้จากแผนนี้สูงถึง 600 ล้านดอลลาร์ต่อปี และบางกรณีมีการขโมยข้อมูลภายในบริษัทเพื่อใช้ในการแบล็กเมล์หรือขายต่อให้แฮกเกอร์อื่น

    แม้จะมีการจับกุมและลงโทษผู้ร่วมขบวนการในสหรัฐฯ แต่ CrowdStrike เตือนว่าการตรวจสอบตัวตนแบบเดิมไม่เพียงพออีกต่อไป และแนะนำให้ใช้เทคนิคใหม่ เช่น การทดสอบ deepfake แบบเรียลไทม์ในระหว่างสัมภาษณ์

    CrowdStrike พบการแทรกซึมของสายลับเกาหลีเหนือในบริษัทไอทีแบบรีโมตกว่า 320 กรณีใน 12 เดือน
    ใช้ AI สร้างเรซูเม่ ปลอมโปรไฟล์ และ deepfake ในวิดีโอคอล

    สายลับใช้ AI ช่วยทำงานจริง เช่น เขียนโค้ด แปลภาษา และตอบอีเมล
    บางคนทำงานพร้อมกันหลายบริษัทโดยไม่ถูกจับได้

    มีการตั้ง “ฟาร์มแล็ปท็อป” ในสหรัฐฯ เพื่อให้สายลับเข้าถึงระบบจากต่างประเทศ
    ผู้ร่วมขบวนการในสหรัฐฯ ถูกจับและจำคุกหลายปี

    รายได้จากแผนนี้ถูกนำไปสนับสนุนโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ
    สร้างรายได้สูงถึง 600 ล้านดอลลาร์ต่อปี

    Microsoft พบว่าเกาหลีเหนือใช้ AI เปลี่ยนภาพในเอกสารและใช้ซอฟต์แวร์เปลี่ยนเสียง
    เพื่อให้ดูเหมือนเป็นผู้สมัครงานจริงจากประเทศตะวันตก

    ทีมสายลับถูกฝึกจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในเปียงยาง
    มีเป้าหมายหาเงินเดือนขั้นต่ำ $10,000 ต่อคนต่อเดือน

    ฟาร์มแล็ปท็อปในสหรัฐฯ มีการควบคุมอุปกรณ์หลายสิบเครื่องพร้อมกัน
    ใช้ซอฟต์แวร์รีโมตเพื่อให้สายลับทำงานจากต่างประเทศได้

    บริษัทที่จ้างพนักงานรีโมตโดยไม่ตรวจสอบตัวตนอาจตกเป็นเหยื่อ
    เสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลหรือถูกแบล็กเมล์

    การใช้ deepfake ทำให้การสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
    ผู้สมัครสามารถเปลี่ยนใบหน้าและเสียงแบบเรียลไทม์

    การจ้างงานแบบรีโมตเปิดช่องให้สายลับแทรกซึมได้ง่ายขึ้น
    โดยเฉพาะในบริษัทที่ไม่มีระบบตรวจสอบดิจิทัลอย่างเข้มงวด

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/crowdstrike-report-details-scale-of-north-koreas-use-of-ai-in-remote-work-schemes-320-known-cases-in-the-last-year-funding-nations-weapons-programs
    🕵️‍♂️ เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อ AI กลายเป็นเครื่องมือของสายลับเกาหลีเหนือ ลองจินตนาการว่าคุณกำลังสัมภาษณ์พนักงานไอทีผ่านวิดีโอคอล—เขาดูมืออาชีพ พูดภาษาอังกฤษคล่อง และมีโปรไฟล์ LinkedIn สมบูรณ์แบบ แต่เบื้องหลังนั้นคือปฏิบัติการระดับชาติของเกาหลีเหนือที่ใช้ AI ปลอมตัวคน สร้างเอกสารปลอม และแทรกซึมเข้าไปในบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก เพื่อหาเงินสนับสนุนโครงการอาวุธนิวเคลียร์ รายงานล่าสุดจาก CrowdStrike เผยว่าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา มีกรณีที่สายลับไซเบอร์ของเกาหลีเหนือได้งานเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์แบบรีโมตกว่า 320 ครั้ง โดยใช้เครื่องมือ AI สร้างเรซูเม่ ปลอมภาพโปรไฟล์ และแม้แต่ใช้ deepfake เปลี่ยนใบหน้าในวิดีโอคอลให้ดูเหมือนคนอื่น เมื่อได้งานแล้ว พวกเขาใช้ AI ช่วยเขียนโค้ด แปลภาษา และตอบอีเมลจากหัวหน้าอย่างมืออาชีพ ทั้งที่บางคนทำงานพร้อมกันถึง 3–4 บริษัท และไม่พูดอังกฤษได้จริง เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือ “ฟาร์มแล็ปท็อป” ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ โดยมีผู้ร่วมขบวนการชาวอเมริกันช่วยรับเครื่องจากบริษัท แล้วติดตั้งซอฟต์แวร์ให้สายลับเกาหลีเหนือเข้าถึงระบบจากต่างประเทศได้อย่างแนบเนียน รายได้จากแผนนี้สูงถึง 600 ล้านดอลลาร์ต่อปี และบางกรณีมีการขโมยข้อมูลภายในบริษัทเพื่อใช้ในการแบล็กเมล์หรือขายต่อให้แฮกเกอร์อื่น แม้จะมีการจับกุมและลงโทษผู้ร่วมขบวนการในสหรัฐฯ แต่ CrowdStrike เตือนว่าการตรวจสอบตัวตนแบบเดิมไม่เพียงพออีกต่อไป และแนะนำให้ใช้เทคนิคใหม่ เช่น การทดสอบ deepfake แบบเรียลไทม์ในระหว่างสัมภาษณ์ ✅ CrowdStrike พบการแทรกซึมของสายลับเกาหลีเหนือในบริษัทไอทีแบบรีโมตกว่า 320 กรณีใน 12 เดือน ➡️ ใช้ AI สร้างเรซูเม่ ปลอมโปรไฟล์ และ deepfake ในวิดีโอคอล ✅ สายลับใช้ AI ช่วยทำงานจริง เช่น เขียนโค้ด แปลภาษา และตอบอีเมล ➡️ บางคนทำงานพร้อมกันหลายบริษัทโดยไม่ถูกจับได้ ✅ มีการตั้ง “ฟาร์มแล็ปท็อป” ในสหรัฐฯ เพื่อให้สายลับเข้าถึงระบบจากต่างประเทศ ➡️ ผู้ร่วมขบวนการในสหรัฐฯ ถูกจับและจำคุกหลายปี ✅ รายได้จากแผนนี้ถูกนำไปสนับสนุนโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ ➡️ สร้างรายได้สูงถึง 600 ล้านดอลลาร์ต่อปี ✅ Microsoft พบว่าเกาหลีเหนือใช้ AI เปลี่ยนภาพในเอกสารและใช้ซอฟต์แวร์เปลี่ยนเสียง ➡️ เพื่อให้ดูเหมือนเป็นผู้สมัครงานจริงจากประเทศตะวันตก ✅ ทีมสายลับถูกฝึกจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในเปียงยาง ➡️ มีเป้าหมายหาเงินเดือนขั้นต่ำ $10,000 ต่อคนต่อเดือน ✅ ฟาร์มแล็ปท็อปในสหรัฐฯ มีการควบคุมอุปกรณ์หลายสิบเครื่องพร้อมกัน ➡️ ใช้ซอฟต์แวร์รีโมตเพื่อให้สายลับทำงานจากต่างประเทศได้ ‼️ บริษัทที่จ้างพนักงานรีโมตโดยไม่ตรวจสอบตัวตนอาจตกเป็นเหยื่อ ⛔ เสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลหรือถูกแบล็กเมล์ ‼️ การใช้ deepfake ทำให้การสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอไม่ปลอดภัยอีกต่อไป ⛔ ผู้สมัครสามารถเปลี่ยนใบหน้าและเสียงแบบเรียลไทม์ ‼️ การจ้างงานแบบรีโมตเปิดช่องให้สายลับแทรกซึมได้ง่ายขึ้น ⛔ โดยเฉพาะในบริษัทที่ไม่มีระบบตรวจสอบดิจิทัลอย่างเข้มงวด https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/crowdstrike-report-details-scale-of-north-koreas-use-of-ai-in-remote-work-schemes-320-known-cases-in-the-last-year-funding-nations-weapons-programs
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    CrowdStrike report details scale of North Korea's use of AI in remote work schemes — 320 known cases in the last year, funding nation's weapons programs
    The Democratic People's Republic of Korea is using generative AI tools to land agents jobs at tech companies to fund its weapons programs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: วิศวกร AI ปฏิเสธเงินพันล้านจาก Meta เพื่อสร้างอนาคตในแบบที่ตัวเองเชื่อ

    Meta พยายามดึงตัวทีมงานจาก Thinking Machines Lab ซึ่งนำโดย Andrew Tulloch และ Mira Murati—สองบุคคลสำคัญที่เคยมีบทบาทใน Meta และ OpenAI โดยเสนอแพ็กเกจค่าตอบแทนที่อาจรวมสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ในระยะหลายปี ขึ้นอยู่กับหุ้นและโบนัส

    แต่ทั้ง Tulloch และ Murati รวมถึงทีมงานของพวกเขา ปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่า พวกเขาต้องการสร้างเทคโนโลยีในแบบที่มีจริยธรรม ไม่ถูกครอบงำด้วยเป้าหมายทางโฆษณาหรือผลตอบแทนผู้ถือหุ้น

    เหตุการณ์นี้สะท้อนแนวโน้มใหม่ในวงการ AI ที่นักพัฒนาเริ่มให้ความสำคัญกับ “เป้าหมายร่วม” และ “ความไว้วางใจในผู้นำ” มากกว่าการไล่ตามเงินก้อนโต ซึ่ง Meta แม้จะมีทรัพยากรมหาศาล ก็ยังไม่สามารถดึงตัวนักวิจัยระดับสูงจากคู่แข่งได้มากนัก

    Meta เสนอค่าตอบแทนสูงถึง $1.5 พันล้านให้กับ Andrew Tulloch และทีม Thinking Machines
    ขึ้นอยู่กับหุ้นและโบนัสในระยะหลายปี
    เป็นหนึ่งในข้อเสนอที่สูงที่สุดในวงการ AI

    Mira Murati และทีมงานของเธอปฏิเสธข้อเสนอจาก Meta ทั้งหมด
    ไม่เพียงแต่ปฏิเสธการเข้าซื้อกิจการ แต่ยังปฏิเสธข้อเสนอส่วนตัว
    แสดงจุดยืนชัดเจนในการรักษาอุดมการณ์ขององค์กร

    Meta ไม่ปฏิเสธว่ามีความพยายามดึงตัวนักวิจัยจากคู่แข่ง
    แม้จะบอกว่าตัวเลขอาจถูกกล่าวเกินจริง
    แต่ยอมรับว่ามีการทาบทามนักวิจัยระดับสูงจริง

    แนวโน้มใหม่ในวงการ AI คือการเลือก “เป้าหมายร่วม” มากกว่า “ค่าตอบแทนสูงสุด”
    วิศวกรบางคนต้องการสร้างเทคโนโลยีที่มีจริยธรรม
    ไม่ต้องการให้ผลงานถูกใช้เพื่อโฆษณาหรือผลตอบแทนผู้ถือหุ้น

    Meta สามารถดึงตัวนักวิจัยจากคู่แข่งได้เพียงจำนวนน้อย แม้จะมีทรัพยากรมหาศาล
    การแข่งขันด้าน AI ไม่ได้วัดกันแค่เงิน
    ความเชื่อมั่นในผู้นำและเป้าหมายองค์กรกลายเป็นปัจจัยสำคัญ

    https://www.techspot.com/news/108917-ai-engineers-reject-meta-15-billion-offers-stay.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: วิศวกร AI ปฏิเสธเงินพันล้านจาก Meta เพื่อสร้างอนาคตในแบบที่ตัวเองเชื่อ Meta พยายามดึงตัวทีมงานจาก Thinking Machines Lab ซึ่งนำโดย Andrew Tulloch และ Mira Murati—สองบุคคลสำคัญที่เคยมีบทบาทใน Meta และ OpenAI โดยเสนอแพ็กเกจค่าตอบแทนที่อาจรวมสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ในระยะหลายปี ขึ้นอยู่กับหุ้นและโบนัส แต่ทั้ง Tulloch และ Murati รวมถึงทีมงานของพวกเขา ปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่า พวกเขาต้องการสร้างเทคโนโลยีในแบบที่มีจริยธรรม ไม่ถูกครอบงำด้วยเป้าหมายทางโฆษณาหรือผลตอบแทนผู้ถือหุ้น เหตุการณ์นี้สะท้อนแนวโน้มใหม่ในวงการ AI ที่นักพัฒนาเริ่มให้ความสำคัญกับ “เป้าหมายร่วม” และ “ความไว้วางใจในผู้นำ” มากกว่าการไล่ตามเงินก้อนโต ซึ่ง Meta แม้จะมีทรัพยากรมหาศาล ก็ยังไม่สามารถดึงตัวนักวิจัยระดับสูงจากคู่แข่งได้มากนัก ✅ Meta เสนอค่าตอบแทนสูงถึง $1.5 พันล้านให้กับ Andrew Tulloch และทีม Thinking Machines ➡️ ขึ้นอยู่กับหุ้นและโบนัสในระยะหลายปี ➡️ เป็นหนึ่งในข้อเสนอที่สูงที่สุดในวงการ AI ✅ Mira Murati และทีมงานของเธอปฏิเสธข้อเสนอจาก Meta ทั้งหมด ➡️ ไม่เพียงแต่ปฏิเสธการเข้าซื้อกิจการ แต่ยังปฏิเสธข้อเสนอส่วนตัว ➡️ แสดงจุดยืนชัดเจนในการรักษาอุดมการณ์ขององค์กร ✅ Meta ไม่ปฏิเสธว่ามีความพยายามดึงตัวนักวิจัยจากคู่แข่ง ➡️ แม้จะบอกว่าตัวเลขอาจถูกกล่าวเกินจริง ➡️ แต่ยอมรับว่ามีการทาบทามนักวิจัยระดับสูงจริง ✅ แนวโน้มใหม่ในวงการ AI คือการเลือก “เป้าหมายร่วม” มากกว่า “ค่าตอบแทนสูงสุด” ➡️ วิศวกรบางคนต้องการสร้างเทคโนโลยีที่มีจริยธรรม ➡️ ไม่ต้องการให้ผลงานถูกใช้เพื่อโฆษณาหรือผลตอบแทนผู้ถือหุ้น ✅ Meta สามารถดึงตัวนักวิจัยจากคู่แข่งได้เพียงจำนวนน้อย แม้จะมีทรัพยากรมหาศาล ➡️ การแข่งขันด้าน AI ไม่ได้วัดกันแค่เงิน ➡️ ความเชื่อมั่นในผู้นำและเป้าหมายองค์กรกลายเป็นปัจจัยสำคัญ https://www.techspot.com/news/108917-ai-engineers-reject-meta-15-billion-offers-stay.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AI engineers reject Meta's $1.5 billion offers to build on their own terms
    While not in the majority, many engineers are choosing to pass up unprecedented offers in favor of staying loyal to their mission, values, and the chance to...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: 7 สัญญาณอันตรายเมื่อเลือกอุปกรณ์ PC ราคาถูก—ประหยัดวันนี้ เสียใจวันหน้า

    ในยุคที่การ์ดจอราคาแรง หลายคนเลือกประหยัดกับชิ้นส่วนอื่น เช่น CPU, RAM, SSD, PSU หรือเคส แต่ TechSpot เตือนว่าแนวคิดนี้อาจพาไปเจอปัญหาใหญ่ เพราะอุปกรณ์ราคาถูกบางประเภทมีข้อจำกัดที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่อง

    รายการ 7 ชิ้นส่วน PC ที่ไม่ควรประหยัดผิดจุด
    1. CPU แบบ Dual-core ที่ล้าสมัย
    เกมใหม่ ๆ ไม่รองรับ และประสิทธิภาพต่ำจนเล่นไม่ลื่น

    2. RAM แบบ Single-channel
    ลดแบนด์วิดธ์ลงครึ่งหนึ่ง โดยเฉพาะถ้าใช้กราฟิกแบบรวม

    3. HDD แทน SSD
    โหลดเกมช้า, กระตุก, เสียงไม่ตรง และประสบการณ์แย่

    4. เมนบอร์ดที่ไม่มี VRM heatsink หรือสล็อตขยาย
    จำกัดการอัปเกรดและทำให้ CPU ร้อนเกิน

    5. เคสที่บางและวัสดุคุณภาพต่ำ
    สั่นง่าย, แตกง่าย, ไม่มีฟีเจอร์พื้นฐาน เช่น ช่องกรองฝุ่น

    6. PSU ที่ดูแรงแต่ไม่มีขั้วต่อสำคัญ
    ไม่มีขั้วต่อ PCIe สำหรับการ์ดจอ และวัสดุภายในอาจไม่ปลอดภัย

    7. เมนบอร์ดที่มีแค่ 2 ช่อง RAM
    จำกัดการอัปเกรดในอนาคต และอาจไม่มี PCIe 4.0 หรือ M.2 เพิ่มเติม

    https://www.techspot.com/article/2994-red-flag-cheap-pc-parts-v2/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: 7 สัญญาณอันตรายเมื่อเลือกอุปกรณ์ PC ราคาถูก—ประหยัดวันนี้ เสียใจวันหน้า ในยุคที่การ์ดจอราคาแรง หลายคนเลือกประหยัดกับชิ้นส่วนอื่น เช่น CPU, RAM, SSD, PSU หรือเคส แต่ TechSpot เตือนว่าแนวคิดนี้อาจพาไปเจอปัญหาใหญ่ เพราะอุปกรณ์ราคาถูกบางประเภทมีข้อจำกัดที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่อง ✅ รายการ 7 ชิ้นส่วน PC ที่ไม่ควรประหยัดผิดจุด ✅ 1. CPU แบบ Dual-core ที่ล้าสมัย ➡️ เกมใหม่ ๆ ไม่รองรับ และประสิทธิภาพต่ำจนเล่นไม่ลื่น ✅ 2. RAM แบบ Single-channel ➡️ ลดแบนด์วิดธ์ลงครึ่งหนึ่ง โดยเฉพาะถ้าใช้กราฟิกแบบรวม ✅ 3. HDD แทน SSD ➡️ โหลดเกมช้า, กระตุก, เสียงไม่ตรง และประสบการณ์แย่ ✅ 4. เมนบอร์ดที่ไม่มี VRM heatsink หรือสล็อตขยาย ➡️ จำกัดการอัปเกรดและทำให้ CPU ร้อนเกิน ✅ 5. เคสที่บางและวัสดุคุณภาพต่ำ ➡️ สั่นง่าย, แตกง่าย, ไม่มีฟีเจอร์พื้นฐาน เช่น ช่องกรองฝุ่น ✅ 6. PSU ที่ดูแรงแต่ไม่มีขั้วต่อสำคัญ ➡️ ไม่มีขั้วต่อ PCIe สำหรับการ์ดจอ และวัสดุภายในอาจไม่ปลอดภัย ✅ 7. เมนบอร์ดที่มีแค่ 2 ช่อง RAM ➡️ จำกัดการอัปเกรดในอนาคต และอาจไม่มี PCIe 4.0 หรือ M.2 เพิ่มเติม https://www.techspot.com/article/2994-red-flag-cheap-pc-parts-v2/
    WWW.TECHSPOT.COM
    7 Red Flags When Choosing Cheap PC Components
    Building a budget gaming PC? Don't let a pricey GPU trick you into cutting corners elsewhere. Here are 7 components you shouldn't cheap out on if you...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: NotebookLM จาก Google—AI คู่คิดสำหรับการเรียนรู้ที่ปลอดภัยและทรงพลัง

    Google ประกาศขยายการเข้าถึง NotebookLM ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI สำหรับการเรียนรู้ ให้กับผู้ใช้ทุกวัยในระบบ Google Workspace for Education โดยไม่จำกัดอายุอีกต่อไป ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2025 เป็นต้นไป NotebookLM จะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติในทุกสถาบันที่ใช้ Google Workspace for Education ทั้งในระดับ Fundamentals, Standard และ Plus

    NotebookLM ถูกออกแบบให้เป็น “AI-powered thinking partner” ที่ช่วยสรุปบทเรียน สร้างแผนการสอน คำถามแบบฝึกหัด และบทสนทนาเพื่อการเรียนรู้ โดยสามารถอัปโหลดไฟล์จาก Google Docs, Slides หรือ Sheets เพื่อให้ AI สร้างเนื้อหาประกอบการเรียนได้ทันที

    ที่สำคัญ Google ยืนยันว่า NotebookLM ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยข้อมูล เช่น FERPA และ COPPA โดยข้อมูลผู้ใช้จะไม่ถูกมนุษย์ตรวจสอบหรือใช้ในการฝึกโมเดล AI และผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมการเข้าถึงได้ผ่าน Admin Console

    Google ขยายการเข้าถึง NotebookLM ให้กับผู้ใช้ทุกวัยใน Google Workspace for Education
    ไม่จำกัดอายุอีกต่อไป ทั้งนักเรียนระดับประถมถึงมหาวิทยาลัย
    เริ่มเปิดใช้งานอัตโนมัติในวันที่ 4 สิงหาคม 2025

    NotebookLM เป็น Core Service ที่เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติในทุกระดับของ Workspace for Education
    รวมถึง Fundamentals, Standard และ Plus
    ผู้ดูแลระบบสามารถเปิด/ปิดการใช้งานได้ตามหน่วยงานย่อย

    NotebookLM ช่วยสร้างสรุปบทเรียน, แผนการสอน, แบบฝึกหัด และบทสนทนาเพื่อการเรียนรู้
    รองรับการอัปโหลดไฟล์จาก Google Docs, Slides, Sheets
    ใช้ AI เพื่อสร้างเนื้อหาแบบเรียลไทม์

    รองรับมากกว่า 35 ภาษา และใช้งานได้ในกว่า 180 ประเทศที่เปิดใช้ Gemini API
    เหมาะกับการเรียนรู้ในบริบทนานาชาติ
    ช่วยให้ครูและนักเรียนทั่วโลกเข้าถึงเครื่องมือเดียวกัน

    ข้อมูลผู้ใช้ไม่ถูกใช้ในการฝึกโมเดล AI และไม่ถูกมนุษย์ตรวจสอบ
    ปฏิบัติตามมาตรฐาน FERPA และ COPPA
    เสริมความมั่นใจด้านความปลอดภัยข้อมูลในสถานศึกษา

    ผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมการเข้าถึงผ่าน Admin Console ได้อย่างละเอียด
    ตั้งค่าการเข้าถึงระดับ notebook หรือหน่วยงานย่อย
    มีช่วงเวลา 45 วันให้เลือก opt-out ก่อนเปิดใช้งานอัตโนมัติ

    https://www.neowin.net/news/google-expands-notebooklm-access-to-all-workspace-for-education-users/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: NotebookLM จาก Google—AI คู่คิดสำหรับการเรียนรู้ที่ปลอดภัยและทรงพลัง Google ประกาศขยายการเข้าถึง NotebookLM ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI สำหรับการเรียนรู้ ให้กับผู้ใช้ทุกวัยในระบบ Google Workspace for Education โดยไม่จำกัดอายุอีกต่อไป ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2025 เป็นต้นไป NotebookLM จะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติในทุกสถาบันที่ใช้ Google Workspace for Education ทั้งในระดับ Fundamentals, Standard และ Plus NotebookLM ถูกออกแบบให้เป็น “AI-powered thinking partner” ที่ช่วยสรุปบทเรียน สร้างแผนการสอน คำถามแบบฝึกหัด และบทสนทนาเพื่อการเรียนรู้ โดยสามารถอัปโหลดไฟล์จาก Google Docs, Slides หรือ Sheets เพื่อให้ AI สร้างเนื้อหาประกอบการเรียนได้ทันที ที่สำคัญ Google ยืนยันว่า NotebookLM ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยข้อมูล เช่น FERPA และ COPPA โดยข้อมูลผู้ใช้จะไม่ถูกมนุษย์ตรวจสอบหรือใช้ในการฝึกโมเดล AI และผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมการเข้าถึงได้ผ่าน Admin Console ✅ Google ขยายการเข้าถึง NotebookLM ให้กับผู้ใช้ทุกวัยใน Google Workspace for Education ➡️ ไม่จำกัดอายุอีกต่อไป ทั้งนักเรียนระดับประถมถึงมหาวิทยาลัย ➡️ เริ่มเปิดใช้งานอัตโนมัติในวันที่ 4 สิงหาคม 2025 ✅ NotebookLM เป็น Core Service ที่เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติในทุกระดับของ Workspace for Education ➡️ รวมถึง Fundamentals, Standard และ Plus ➡️ ผู้ดูแลระบบสามารถเปิด/ปิดการใช้งานได้ตามหน่วยงานย่อย ✅ NotebookLM ช่วยสร้างสรุปบทเรียน, แผนการสอน, แบบฝึกหัด และบทสนทนาเพื่อการเรียนรู้ ➡️ รองรับการอัปโหลดไฟล์จาก Google Docs, Slides, Sheets ➡️ ใช้ AI เพื่อสร้างเนื้อหาแบบเรียลไทม์ ✅ รองรับมากกว่า 35 ภาษา และใช้งานได้ในกว่า 180 ประเทศที่เปิดใช้ Gemini API ➡️ เหมาะกับการเรียนรู้ในบริบทนานาชาติ ➡️ ช่วยให้ครูและนักเรียนทั่วโลกเข้าถึงเครื่องมือเดียวกัน ✅ ข้อมูลผู้ใช้ไม่ถูกใช้ในการฝึกโมเดล AI และไม่ถูกมนุษย์ตรวจสอบ ➡️ ปฏิบัติตามมาตรฐาน FERPA และ COPPA ➡️ เสริมความมั่นใจด้านความปลอดภัยข้อมูลในสถานศึกษา ✅ ผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมการเข้าถึงผ่าน Admin Console ได้อย่างละเอียด ➡️ ตั้งค่าการเข้าถึงระดับ notebook หรือหน่วยงานย่อย ➡️ มีช่วงเวลา 45 วันให้เลือก opt-out ก่อนเปิดใช้งานอัตโนมัติ https://www.neowin.net/news/google-expands-notebooklm-access-to-all-workspace-for-education-users/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google expands NotebookLM access to all Workspace for Education users
    Users of Google Workspace for Education, regardless of age, are now getting expanded access to NotebookLM as part of a new update.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: ChatGPT แตะ 700 ล้านผู้ใช้ต่อสัปดาห์—ก่อนเปิดตัว GPT-5 ที่ “คิดก่อนตอบ”

    OpenAI ประกาศว่า ChatGPT กำลังจะถึงจุดสูงสุดใหม่ที่ 700 ล้านผู้ใช้งานต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้นจาก 500 ล้านในเดือนมีนาคม และมากกว่า 4 เท่าจากปีที่แล้ว ความนิยมนี้เกิดขึ้นก่อนการเปิดตัว GPT-5 ซึ่งจะรวมโมเดลสาย o-series และ GPT-series เข้าด้วยกัน โดยมีความสามารถใหม่คือ “คิดก่อนตอบ” หรือการเลือกว่าจะใช้เวลาประมวลผลนานขึ้นเพื่อให้ได้คำตอบที่ลึกซึ้งกว่า

    GPT-5 จะเปิดให้ใช้งานในทุก tier ของ ChatGPT โดยผู้ใช้ทั่วไปจะได้ใช้เวอร์ชันพื้นฐานแบบไม่จำกัด ส่วนผู้ใช้ Plus และ Pro จะสามารถเข้าถึงระดับความฉลาดที่สูงขึ้นตามลำดับ

    นอกจากนี้ OpenAI ยังเตรียมเปิดตัวโมเดลแบบ open-weight และผลิตภัณฑ์ใหม่อีกมากในเดือนถัดไป โดยได้รับเงินลงทุนเพิ่มอีก $8.3 พันล้านดอลลาร์จากนักลงทุนชั้นนำ เช่น Sequoia, Andreessen Horowitz และ Fidelity เพื่อรองรับต้นทุนการพัฒนาและขยายโครงสร้างพื้นฐาน

    ChatGPT กำลังจะถึง 700 ล้านผู้ใช้งานต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 4 เท่าจากปีที่แล้ว
    เพิ่มจาก 500 ล้านในเดือนมีนาคม 2025
    สะท้อนการเติบโตอย่างรวดเร็วของการใช้งาน AI ในชีวิตประจำวัน

    GPT-5 จะรวมโมเดล o-series และ GPT-series เข้าด้วยกัน
    มีความสามารถ “คิดก่อนตอบ” เพื่อให้คำตอบลึกซึ้งขึ้น
    เป็นการเปลี่ยนแนวทางการออกแบบโมเดลจากเดิมที่เน้นความเร็ว

    ผู้ใช้ทั่วไปจะสามารถใช้ GPT-5 ได้แบบไม่จำกัดในระดับพื้นฐาน
    Plus tier จะได้ใช้ GPT-5 ที่ฉลาดขึ้น
    Pro tier ($200/เดือน) จะได้ใช้ GPT-5 ในระดับสูงสุด

    OpenAI มีผู้ใช้แบบธุรกิจถึง 5 ล้านราย เพิ่มจาก 3 ล้านในเดือนมิถุนายน
    สะท้อนการนำ AI ไปใช้ในองค์กรอย่างแพร่หลาย
    รวมถึงภาคการศึกษาและการสร้างสรรค์เนื้อหา

    รายได้ประจำต่อปี (ARR) ของ OpenAI พุ่งถึง $13 พันล้าน และคาดว่าจะเกิน $20 พันล้านภายในสิ้นปี
    ได้รับเงินลงทุนใหม่ $8.3 พันล้านจากนักลงทุนชั้นนำ
    เป็นส่วนหนึ่งของรอบการระดมทุน $40 พันล้านที่นำโดย SoftBank

    OpenAI เตรียมเปิดตัวโมเดลแบบ open-weight และผลิตภัณฑ์ใหม่ในเดือนถัดไป
    เลื่อนจากเดือนก่อนเพื่อทดสอบความปลอดภัยเพิ่มเติม
    เน้นการตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงสูงก่อนเปิดใช้งาน

    “คิดก่อนตอบ” คือแนวคิดใหม่ใน AI ที่ให้โมเดลเลือกว่าจะใช้เวลาประมวลผลมากขึ้นเพื่อให้ได้คำตอบที่ลึกกว่า
    คล้ายกับการ “หยุดคิด” ก่อนพูดของมนุษย์
    ช่วยให้คำตอบมีความละเอียดและมีบริบทมากขึ้น

    การเติบโตของ ChatGPT สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้ใช้ทั่วโลก
    จากเครื่องมือทดลองกลายเป็นส่วนหนึ่งของ workflow จริง
    ใช้ในงานเขียน, การเรียน, การวิเคราะห์ และการสื่อสาร

    การเปิดโมเดลแบบ open-weight เป็นแนวทางที่หลายบริษัท AI เริ่มนำมาใช้ เช่น Meta และ Mistral
    ช่วยให้ชุมชนวิจัยสามารถพัฒนาและตรวจสอบได้
    แต่ต้องมีการควบคุมเพื่อป้องกันการใช้ในทางที่ผิด

    https://www.neowin.net/news/openai-chatgpt-on-track-to-reach-700m-weekly-active-users-ahead-of-gpt-5-launch/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: ChatGPT แตะ 700 ล้านผู้ใช้ต่อสัปดาห์—ก่อนเปิดตัว GPT-5 ที่ “คิดก่อนตอบ” OpenAI ประกาศว่า ChatGPT กำลังจะถึงจุดสูงสุดใหม่ที่ 700 ล้านผู้ใช้งานต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้นจาก 500 ล้านในเดือนมีนาคม และมากกว่า 4 เท่าจากปีที่แล้ว ความนิยมนี้เกิดขึ้นก่อนการเปิดตัว GPT-5 ซึ่งจะรวมโมเดลสาย o-series และ GPT-series เข้าด้วยกัน โดยมีความสามารถใหม่คือ “คิดก่อนตอบ” หรือการเลือกว่าจะใช้เวลาประมวลผลนานขึ้นเพื่อให้ได้คำตอบที่ลึกซึ้งกว่า GPT-5 จะเปิดให้ใช้งานในทุก tier ของ ChatGPT โดยผู้ใช้ทั่วไปจะได้ใช้เวอร์ชันพื้นฐานแบบไม่จำกัด ส่วนผู้ใช้ Plus และ Pro จะสามารถเข้าถึงระดับความฉลาดที่สูงขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ OpenAI ยังเตรียมเปิดตัวโมเดลแบบ open-weight และผลิตภัณฑ์ใหม่อีกมากในเดือนถัดไป โดยได้รับเงินลงทุนเพิ่มอีก $8.3 พันล้านดอลลาร์จากนักลงทุนชั้นนำ เช่น Sequoia, Andreessen Horowitz และ Fidelity เพื่อรองรับต้นทุนการพัฒนาและขยายโครงสร้างพื้นฐาน ✅ ChatGPT กำลังจะถึง 700 ล้านผู้ใช้งานต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 4 เท่าจากปีที่แล้ว ➡️ เพิ่มจาก 500 ล้านในเดือนมีนาคม 2025 ➡️ สะท้อนการเติบโตอย่างรวดเร็วของการใช้งาน AI ในชีวิตประจำวัน ✅ GPT-5 จะรวมโมเดล o-series และ GPT-series เข้าด้วยกัน ➡️ มีความสามารถ “คิดก่อนตอบ” เพื่อให้คำตอบลึกซึ้งขึ้น ➡️ เป็นการเปลี่ยนแนวทางการออกแบบโมเดลจากเดิมที่เน้นความเร็ว ✅ ผู้ใช้ทั่วไปจะสามารถใช้ GPT-5 ได้แบบไม่จำกัดในระดับพื้นฐาน ➡️ Plus tier จะได้ใช้ GPT-5 ที่ฉลาดขึ้น ➡️ Pro tier ($200/เดือน) จะได้ใช้ GPT-5 ในระดับสูงสุด ✅ OpenAI มีผู้ใช้แบบธุรกิจถึง 5 ล้านราย เพิ่มจาก 3 ล้านในเดือนมิถุนายน ➡️ สะท้อนการนำ AI ไปใช้ในองค์กรอย่างแพร่หลาย ➡️ รวมถึงภาคการศึกษาและการสร้างสรรค์เนื้อหา ✅ รายได้ประจำต่อปี (ARR) ของ OpenAI พุ่งถึง $13 พันล้าน และคาดว่าจะเกิน $20 พันล้านภายในสิ้นปี ➡️ ได้รับเงินลงทุนใหม่ $8.3 พันล้านจากนักลงทุนชั้นนำ ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของรอบการระดมทุน $40 พันล้านที่นำโดย SoftBank ✅ OpenAI เตรียมเปิดตัวโมเดลแบบ open-weight และผลิตภัณฑ์ใหม่ในเดือนถัดไป ➡️ เลื่อนจากเดือนก่อนเพื่อทดสอบความปลอดภัยเพิ่มเติม ➡️ เน้นการตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงสูงก่อนเปิดใช้งาน ✅ “คิดก่อนตอบ” คือแนวคิดใหม่ใน AI ที่ให้โมเดลเลือกว่าจะใช้เวลาประมวลผลมากขึ้นเพื่อให้ได้คำตอบที่ลึกกว่า ➡️ คล้ายกับการ “หยุดคิด” ก่อนพูดของมนุษย์ ➡️ ช่วยให้คำตอบมีความละเอียดและมีบริบทมากขึ้น ✅ การเติบโตของ ChatGPT สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้ใช้ทั่วโลก ➡️ จากเครื่องมือทดลองกลายเป็นส่วนหนึ่งของ workflow จริง ➡️ ใช้ในงานเขียน, การเรียน, การวิเคราะห์ และการสื่อสาร ✅ การเปิดโมเดลแบบ open-weight เป็นแนวทางที่หลายบริษัท AI เริ่มนำมาใช้ เช่น Meta และ Mistral ➡️ ช่วยให้ชุมชนวิจัยสามารถพัฒนาและตรวจสอบได้ ➡️ แต่ต้องมีการควบคุมเพื่อป้องกันการใช้ในทางที่ผิด https://www.neowin.net/news/openai-chatgpt-on-track-to-reach-700m-weekly-active-users-ahead-of-gpt-5-launch/
    WWW.NEOWIN.NET
    OpenAI: ChatGPT on track to reach 700M weekly active users ahead of GPT-5 launch
    OpenAI's ChatGPT is set to hit a new milestone of 700 million weekly active users, marking significant growth from last year.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ “Direct Send” กลายเป็นดาบสองคม—อีเมลปลอมที่ดูเหมือนเพื่อนร่วมงานส่งมา

    ฟีเจอร์ Direct Send ใน Microsoft 365 ถูกออกแบบมาเพื่อให้เครื่องพิมพ์หรือสแกนเนอร์ส่งอีเมลภายในองค์กรได้โดยไม่ต้องล็อกอิน แต่แฮกเกอร์กลับใช้ช่องโหว่นี้ส่งอีเมลฟิชชิ่งที่ดูเหมือนมาจากเพื่อนร่วมงาน เช่น “แจ้งเตือนงาน”, “ใบโอนเงิน”, หรือ “ข้อความเสียงใหม่” ซึ่งหลอกให้ผู้รับคลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบอันตราย

    อีเมลเหล่านี้ถูกส่งผ่าน SMTP relay ที่ไม่ได้รับการป้องกันอย่างเหมาะสม โดยใช้ PowerShell หรือ Python script เชื่อมต่อกับ smart host ของ Microsoft เช่น tenantname.mail.protection.outlook.com โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านหรือ token ใด ๆ

    แม้ Microsoft จะมีระบบตรวจจับ spoofing แต่หลายข้อความยังหลุดเข้าไปใน junk folder หรือแม้แต่ inbox ได้ เพราะไม่มีการตรวจสอบ SPF, DKIM หรือ DMARC สำหรับ Direct Send ทำให้ระบบเชื่อว่าอีเมลนั้น “น่าเชื่อถือ”

    แฮกเกอร์ใช้ฟีเจอร์ Direct Send ของ Microsoft 365 ส่งอีเมลปลอมจากภายในองค์กร
    ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อให้เครื่องพิมพ์หรือแอปภายในส่งอีเมลโดยไม่ต้องล็อกอิน
    ไม่ตรวจสอบ SPF, DKIM หรือ DMARC ทำให้ spoofing ได้ง่าย

    อีเมลปลอมมีหัวเรื่องที่ดูเป็นงาน เช่น “แจ้งเตือนงาน”, “ใบโอนเงิน”, หรือ “ข้อความเสียง”
    ใช้เทมเพลตที่ดูเหมือนอีเมลจริงในองค์กร
    หลอกให้ผู้รับคลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบอันตราย

    แฮกเกอร์ใช้ PowerShell หรือ Python script เชื่อมต่อกับ smart host ของ Microsoft
    เช่น company.mail.protection.outlook.com โดยไม่ต้องล็อกอิน
    ใช้เทคนิค connection pooling และ session management เพื่อหลบ rate limit

    SMTP relay ที่ใช้ส่งอีเมลมักเปิดพอร์ต 8008, 8010, 8015 โดยไม่มีการป้องกันที่ดี
    ใช้ใบรับรอง SSL ที่หมดอายุหรือ self-signed
    ทำให้อุปกรณ์เหล่านี้กลายเป็นช่องทางส่งอีเมลอันตราย

    แคมเปญนี้ส่งผลกระทบต่อองค์กรกว่า 70 แห่งในสหรัฐฯ ตั้งแต่พฤษภาคม 2025
    รวมถึงภาคการผลิต, ที่ปรึกษา, และการแพทย์
    อีเมลปลอมหลุดผ่านระบบตรวจสอบของ Microsoft และ Secure Email Gateway

    นักวิจัยแนะนำให้ปิด Direct Send หากองค์กรไม่จำเป็นต้องใช้
    หรือกำหนด authentication และตรวจสอบ SPF/DKIM/DMARC ให้เข้มงวด
    ควร audit ระบบอีเมลและตั้งค่าความปลอดภัยใหม่

    Direct Send เป็นช่องโหว่ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์ส่งอีเมลปลอมโดยไม่ต้องล็อกอิน
    ไม่ต้องใช้ credentials หรือ token ใด ๆ
    อีเมลปลอมดูเหมือนมาจากภายในองค์กรจริง

    การไม่ตรวจสอบ SPF, DKIM, และ DMARC ทำให้อีเมลปลอมหลุดผ่านระบบได้ง่าย
    ระบบเชื่อว่าอีเมลนั้นน่าเชื่อถือ
    ผู้ใช้มีแนวโน้มคลิกโดยไม่ระวัง

    SMTP relay ที่ไม่ได้รับการป้องกันอาจถูกใช้เป็นฐานส่งอีเมลฟิชชิ่ง
    พอร์ตที่เปิดไว้โดยไม่มีการเข้ารหัสหรือใบรับรองที่ปลอดภัย
    เสี่ยงต่อการถูกใช้โจมตีองค์กรอื่น

    การปล่อยให้ Direct Send ทำงานโดยไม่มีการควบคุม อาจทำลายความเชื่อมั่นขององค์กร
    อีเมลปลอมอาจทำให้เกิดการสูญเสียข้อมูลหรือเงิน
    ส่งผลต่อชื่อเสียงและความไว้วางใจจากลูกค้าและพนักงาน

    https://hackread.com/hackers-microsoft-365-direct-send-internal-phishing-emails/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ “Direct Send” กลายเป็นดาบสองคม—อีเมลปลอมที่ดูเหมือนเพื่อนร่วมงานส่งมา ฟีเจอร์ Direct Send ใน Microsoft 365 ถูกออกแบบมาเพื่อให้เครื่องพิมพ์หรือสแกนเนอร์ส่งอีเมลภายในองค์กรได้โดยไม่ต้องล็อกอิน แต่แฮกเกอร์กลับใช้ช่องโหว่นี้ส่งอีเมลฟิชชิ่งที่ดูเหมือนมาจากเพื่อนร่วมงาน เช่น “แจ้งเตือนงาน”, “ใบโอนเงิน”, หรือ “ข้อความเสียงใหม่” ซึ่งหลอกให้ผู้รับคลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบอันตราย อีเมลเหล่านี้ถูกส่งผ่าน SMTP relay ที่ไม่ได้รับการป้องกันอย่างเหมาะสม โดยใช้ PowerShell หรือ Python script เชื่อมต่อกับ smart host ของ Microsoft เช่น tenantname.mail.protection.outlook.com โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านหรือ token ใด ๆ แม้ Microsoft จะมีระบบตรวจจับ spoofing แต่หลายข้อความยังหลุดเข้าไปใน junk folder หรือแม้แต่ inbox ได้ เพราะไม่มีการตรวจสอบ SPF, DKIM หรือ DMARC สำหรับ Direct Send ทำให้ระบบเชื่อว่าอีเมลนั้น “น่าเชื่อถือ” ✅ แฮกเกอร์ใช้ฟีเจอร์ Direct Send ของ Microsoft 365 ส่งอีเมลปลอมจากภายในองค์กร ➡️ ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อให้เครื่องพิมพ์หรือแอปภายในส่งอีเมลโดยไม่ต้องล็อกอิน ➡️ ไม่ตรวจสอบ SPF, DKIM หรือ DMARC ทำให้ spoofing ได้ง่าย ✅ อีเมลปลอมมีหัวเรื่องที่ดูเป็นงาน เช่น “แจ้งเตือนงาน”, “ใบโอนเงิน”, หรือ “ข้อความเสียง” ➡️ ใช้เทมเพลตที่ดูเหมือนอีเมลจริงในองค์กร ➡️ หลอกให้ผู้รับคลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบอันตราย ✅ แฮกเกอร์ใช้ PowerShell หรือ Python script เชื่อมต่อกับ smart host ของ Microsoft ➡️ เช่น company.mail.protection.outlook.com โดยไม่ต้องล็อกอิน ➡️ ใช้เทคนิค connection pooling และ session management เพื่อหลบ rate limit ✅ SMTP relay ที่ใช้ส่งอีเมลมักเปิดพอร์ต 8008, 8010, 8015 โดยไม่มีการป้องกันที่ดี ➡️ ใช้ใบรับรอง SSL ที่หมดอายุหรือ self-signed ➡️ ทำให้อุปกรณ์เหล่านี้กลายเป็นช่องทางส่งอีเมลอันตราย ✅ แคมเปญนี้ส่งผลกระทบต่อองค์กรกว่า 70 แห่งในสหรัฐฯ ตั้งแต่พฤษภาคม 2025 ➡️ รวมถึงภาคการผลิต, ที่ปรึกษา, และการแพทย์ ➡️ อีเมลปลอมหลุดผ่านระบบตรวจสอบของ Microsoft และ Secure Email Gateway ✅ นักวิจัยแนะนำให้ปิด Direct Send หากองค์กรไม่จำเป็นต้องใช้ ➡️ หรือกำหนด authentication และตรวจสอบ SPF/DKIM/DMARC ให้เข้มงวด ➡️ ควร audit ระบบอีเมลและตั้งค่าความปลอดภัยใหม่ ‼️ Direct Send เป็นช่องโหว่ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์ส่งอีเมลปลอมโดยไม่ต้องล็อกอิน ⛔ ไม่ต้องใช้ credentials หรือ token ใด ๆ ⛔ อีเมลปลอมดูเหมือนมาจากภายในองค์กรจริง ‼️ การไม่ตรวจสอบ SPF, DKIM, และ DMARC ทำให้อีเมลปลอมหลุดผ่านระบบได้ง่าย ⛔ ระบบเชื่อว่าอีเมลนั้นน่าเชื่อถือ ⛔ ผู้ใช้มีแนวโน้มคลิกโดยไม่ระวัง ‼️ SMTP relay ที่ไม่ได้รับการป้องกันอาจถูกใช้เป็นฐานส่งอีเมลฟิชชิ่ง ⛔ พอร์ตที่เปิดไว้โดยไม่มีการเข้ารหัสหรือใบรับรองที่ปลอดภัย ⛔ เสี่ยงต่อการถูกใช้โจมตีองค์กรอื่น ‼️ การปล่อยให้ Direct Send ทำงานโดยไม่มีการควบคุม อาจทำลายความเชื่อมั่นขององค์กร ⛔ อีเมลปลอมอาจทำให้เกิดการสูญเสียข้อมูลหรือเงิน ⛔ ส่งผลต่อชื่อเสียงและความไว้วางใจจากลูกค้าและพนักงาน https://hackread.com/hackers-microsoft-365-direct-send-internal-phishing-emails/
    HACKREAD.COM
    Hackers Abuse Microsoft 365 Direct Send to Deliver Internal Phishing Emails
    Follow us on Blue Sky, Mastodon Twitter, Facebook and LinkedIn @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อเกมผู้ใหญ่กลายเป็นภัยต่อแบรนด์—Valve vs Mastercard

    เรื่องเริ่มจากการที่ Steam และ Itch.io ลบหรือซ่อนเกม NSFW จำนวนมาก โดยอ้างว่า “ถูกกดดันจาก payment processors” ซึ่งรวมถึง Mastercard ที่ถูกกล่าวหาว่าใช้กฎ Rule 5.12.7 เพื่อปฏิเสธการทำธุรกรรมที่ “อาจทำลายภาพลักษณ์ของแบรนด์”

    Mastercard ออกแถลงการณ์ว่า “เราไม่ได้ประเมินเกมใด ๆ หรือสั่งให้ลบเกมจากแพลตฟอร์ม” แต่ Valve โต้กลับทันทีว่า Mastercard สื่อสารผ่านตัวกลาง เช่น payment processors และธนาคารผู้รับชำระเงิน โดยไม่ได้ติดต่อกับ Valve โดยตรง แม้ Valve จะร้องขอให้คุยกันตรง ๆ ก็ตาม

    Valve ยืนยันว่า payment processors ปฏิเสธนโยบายของ Steam ที่พยายามเผยแพร่เฉพาะเกมที่ถูกกฎหมาย และอ้างถึง Rule 5.12.7 ว่าเกม NSFW บางประเภท “อาจเป็นภัยต่อแบรนด์ Mastercard” แม้จะไม่ผิดกฎหมายก็ตาม

    Mastercard ปฏิเสธว่าไม่ได้สั่งให้ลบเกม NSFW จาก Steam หรือ Itch.io
    ระบุว่า “อนุญาตให้ทำธุรกรรมที่ถูกกฎหมายทั้งหมด”
    แต่ต้องมีการควบคุมไม่ให้ใช้บัตร Mastercard ซื้อเนื้อหาผิดกฎหมาย

    Valve ยืนยันว่า Mastercard สื่อสารผ่านตัวกลาง ไม่เคยคุยตรง ๆ กับ Valve
    ใช้ payment processors และ acquiring banks เป็นตัวแทน
    Valve ขอคุยตรง ๆ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ

    Rule 5.12.7 ของ Mastercard ถูกใช้เป็นเหตุผลในการปฏิเสธเกม NSFW บางประเภท
    ห้ามธุรกรรมที่ “ผิดกฎหมาย หรืออาจทำลาย goodwill หรือภาพลักษณ์ของแบรนด์”
    รวมถึงเนื้อหาที่ “ลามกอนาจารอย่างชัดเจนและไม่มีคุณค่าทางศิลปะ”

    Itch.io ก็ได้รับแรงกดดันเช่นกัน และเริ่มลบเกม NSFW ออกจากแพลตฟอร์ม
    โดยเฉพาะเกมที่มีเนื้อหา LGBTQ+ หรือเนื้อหาที่ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย
    ปัจจุบันเริ่มนำเกมฟรีกลับมา และมองหาผู้ให้บริการชำระเงินรายใหม่

    GOG ออกแคมเปญ FreedomToBuy เพื่อสนับสนุนสิทธิ์ในการซื้อเกม NSFW
    แจกเกม NSFW ฟรีกว่า 1 ล้านชุดในช่วงสุดสัปดาห์
    เป็นการตอบโต้การเซ็นเซอร์จาก payment processors

    Rule 5.12.7 ของ Mastercard ให้อำนาจในการตัดสินว่าเนื้อหาใด “ไม่เหมาะสม” ได้อย่างกว้างขวาง
    แม้เนื้อหาจะไม่ผิดกฎหมาย ก็อาจถูกปฏิเสธได้
    ส่งผลให้เกิดการเซ็นเซอร์เนื้อหาที่หลากหลายโดยไม่มีมาตรฐานชัดเจน

    การสื่อสารผ่านตัวกลางทำให้เกิดความคลุมเครือและขาดความโปร่งใส
    Valve ไม่สามารถเจรจาโดยตรงกับ Mastercard
    ทำให้การตัดสินใจลบเกมขาดความชัดเจนและความรับผิดชอบ

    การลบเกม NSFW โดยไม่ระบุเหตุผลชัดเจน อาจกระทบต่อผู้พัฒนาเกมอินดี้และชุมชน LGBTQ+
    เกมที่ไม่ผิดกฎหมายถูกลบเพราะ “เสี่ยงต่อแบรนด์”
    สร้างบรรยากาศแห่งความกลัวและการเซ็นเซอร์ในวงการเกม

    การควบคุมเนื้อหาผ่านระบบการชำระเงินอาจกลายเป็นเครื่องมือในการจำกัดเสรีภาพทางศิลปะ
    ผู้ให้บริการชำระเงินมีอำนาจเหนือแพลตฟอร์มเกม
    อาจนำไปสู่การควบคุมเนื้อหาทางวัฒนธรรมในวงกว้าง

    “Patently offensive” เป็นคำที่ตีความได้กว้างและขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัท
    ไม่มีมาตรฐานกลางในการวัดคุณค่าทางศิลปะ
    อาจถูกใช้เป็นข้ออ้างในการลบเนื้อหาที่ไม่ถูกใจ

    Collective Shout กลุ่มนักเคลื่อนไหวจากออสเตรเลียอยู่เบื้องหลังการกดดัน payment processors
    เคยส่งจดหมายถึง Mastercard, Visa, PayPal และบริษัทอื่น ๆ
    อ้างว่าเกม NSFW เป็น “สื่อลามกที่รุนแรง” และควรถูกลบ

    การหาผู้ให้บริการชำระเงินที่สนับสนุนเนื้อหาผู้ใหญ่กลายเป็นทางรอดของแพลตฟอร์มเกมอินดี้
    Itch.io กำลังเจรจากับผู้ให้บริการรายใหม่
    เพื่อรักษาเสรีภาพในการเผยแพร่เนื้อหาที่ถูกกฎหมาย

    https://www.pcgamer.com/games/mastercard-deflects-blame-for-nsfw-games-being-taken-down-but-valve-says-payment-processors-specifically-cited-a-mastercard-rule-about-damaging-the-brand/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อเกมผู้ใหญ่กลายเป็นภัยต่อแบรนด์—Valve vs Mastercard เรื่องเริ่มจากการที่ Steam และ Itch.io ลบหรือซ่อนเกม NSFW จำนวนมาก โดยอ้างว่า “ถูกกดดันจาก payment processors” ซึ่งรวมถึง Mastercard ที่ถูกกล่าวหาว่าใช้กฎ Rule 5.12.7 เพื่อปฏิเสธการทำธุรกรรมที่ “อาจทำลายภาพลักษณ์ของแบรนด์” Mastercard ออกแถลงการณ์ว่า “เราไม่ได้ประเมินเกมใด ๆ หรือสั่งให้ลบเกมจากแพลตฟอร์ม” แต่ Valve โต้กลับทันทีว่า Mastercard สื่อสารผ่านตัวกลาง เช่น payment processors และธนาคารผู้รับชำระเงิน โดยไม่ได้ติดต่อกับ Valve โดยตรง แม้ Valve จะร้องขอให้คุยกันตรง ๆ ก็ตาม Valve ยืนยันว่า payment processors ปฏิเสธนโยบายของ Steam ที่พยายามเผยแพร่เฉพาะเกมที่ถูกกฎหมาย และอ้างถึง Rule 5.12.7 ว่าเกม NSFW บางประเภท “อาจเป็นภัยต่อแบรนด์ Mastercard” แม้จะไม่ผิดกฎหมายก็ตาม ✅ Mastercard ปฏิเสธว่าไม่ได้สั่งให้ลบเกม NSFW จาก Steam หรือ Itch.io ➡️ ระบุว่า “อนุญาตให้ทำธุรกรรมที่ถูกกฎหมายทั้งหมด” ➡️ แต่ต้องมีการควบคุมไม่ให้ใช้บัตร Mastercard ซื้อเนื้อหาผิดกฎหมาย ✅ Valve ยืนยันว่า Mastercard สื่อสารผ่านตัวกลาง ไม่เคยคุยตรง ๆ กับ Valve ➡️ ใช้ payment processors และ acquiring banks เป็นตัวแทน ➡️ Valve ขอคุยตรง ๆ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ ✅ Rule 5.12.7 ของ Mastercard ถูกใช้เป็นเหตุผลในการปฏิเสธเกม NSFW บางประเภท ➡️ ห้ามธุรกรรมที่ “ผิดกฎหมาย หรืออาจทำลาย goodwill หรือภาพลักษณ์ของแบรนด์” ➡️ รวมถึงเนื้อหาที่ “ลามกอนาจารอย่างชัดเจนและไม่มีคุณค่าทางศิลปะ” ✅ Itch.io ก็ได้รับแรงกดดันเช่นกัน และเริ่มลบเกม NSFW ออกจากแพลตฟอร์ม ➡️ โดยเฉพาะเกมที่มีเนื้อหา LGBTQ+ หรือเนื้อหาที่ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ➡️ ปัจจุบันเริ่มนำเกมฟรีกลับมา และมองหาผู้ให้บริการชำระเงินรายใหม่ ✅ GOG ออกแคมเปญ FreedomToBuy เพื่อสนับสนุนสิทธิ์ในการซื้อเกม NSFW ➡️ แจกเกม NSFW ฟรีกว่า 1 ล้านชุดในช่วงสุดสัปดาห์ ➡️ เป็นการตอบโต้การเซ็นเซอร์จาก payment processors ‼️ Rule 5.12.7 ของ Mastercard ให้อำนาจในการตัดสินว่าเนื้อหาใด “ไม่เหมาะสม” ได้อย่างกว้างขวาง ⛔ แม้เนื้อหาจะไม่ผิดกฎหมาย ก็อาจถูกปฏิเสธได้ ⛔ ส่งผลให้เกิดการเซ็นเซอร์เนื้อหาที่หลากหลายโดยไม่มีมาตรฐานชัดเจน ‼️ การสื่อสารผ่านตัวกลางทำให้เกิดความคลุมเครือและขาดความโปร่งใส ⛔ Valve ไม่สามารถเจรจาโดยตรงกับ Mastercard ⛔ ทำให้การตัดสินใจลบเกมขาดความชัดเจนและความรับผิดชอบ ‼️ การลบเกม NSFW โดยไม่ระบุเหตุผลชัดเจน อาจกระทบต่อผู้พัฒนาเกมอินดี้และชุมชน LGBTQ+ ⛔ เกมที่ไม่ผิดกฎหมายถูกลบเพราะ “เสี่ยงต่อแบรนด์” ⛔ สร้างบรรยากาศแห่งความกลัวและการเซ็นเซอร์ในวงการเกม ‼️ การควบคุมเนื้อหาผ่านระบบการชำระเงินอาจกลายเป็นเครื่องมือในการจำกัดเสรีภาพทางศิลปะ ⛔ ผู้ให้บริการชำระเงินมีอำนาจเหนือแพลตฟอร์มเกม ⛔ อาจนำไปสู่การควบคุมเนื้อหาทางวัฒนธรรมในวงกว้าง ✅ “Patently offensive” เป็นคำที่ตีความได้กว้างและขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัท ➡️ ไม่มีมาตรฐานกลางในการวัดคุณค่าทางศิลปะ ➡️ อาจถูกใช้เป็นข้ออ้างในการลบเนื้อหาที่ไม่ถูกใจ ✅ Collective Shout กลุ่มนักเคลื่อนไหวจากออสเตรเลียอยู่เบื้องหลังการกดดัน payment processors ➡️ เคยส่งจดหมายถึง Mastercard, Visa, PayPal และบริษัทอื่น ๆ ➡️ อ้างว่าเกม NSFW เป็น “สื่อลามกที่รุนแรง” และควรถูกลบ ✅ การหาผู้ให้บริการชำระเงินที่สนับสนุนเนื้อหาผู้ใหญ่กลายเป็นทางรอดของแพลตฟอร์มเกมอินดี้ ➡️ Itch.io กำลังเจรจากับผู้ให้บริการรายใหม่ ➡️ เพื่อรักษาเสรีภาพในการเผยแพร่เนื้อหาที่ถูกกฎหมาย https://www.pcgamer.com/games/mastercard-deflects-blame-for-nsfw-games-being-taken-down-but-valve-says-payment-processors-specifically-cited-a-mastercard-rule-about-damaging-the-brand/
    WWW.PCGAMER.COM
    Mastercard deflects blame for NSFW games being taken down, but Valve says payment processors 'specifically cited' a Mastercard rule about damaging the brand
    Steam and Itch.io are worried about trouble with their payment processors, and Mastercard is not a payment processor.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/lW1YNKjQQck?si=lrg-vC0-v-4OFRYU
    https://youtube.com/shorts/lW1YNKjQQck?si=lrg-vC0-v-4OFRYU
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/IUPAOvzFnkE?si=hDCuocXVZ2A9gqcQ
    https://youtu.be/IUPAOvzFnkE?si=hDCuocXVZ2A9gqcQ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: แท็บเล็ตวาดภาพที่พร้อมใช้งานทันที แต่อาจไม่เหมาะกับทุกคน

    Wacom เปิดตัว MovinkPad 11 แท็บเล็ต Android ขนาด 11.45 นิ้ว ที่มาพร้อมกับปากกา Pro Pen 3 รุ่นมืออาชีพ ซึ่งไม่ต้องใช้แบตเตอรี่หรือ Bluetooth และให้ความแม่นยำสูงด้วยเทคโนโลยี EMR (Electromagnetic Resonance)

    จุดเด่นคือฟีเจอร์ “Quick Draw” ที่ให้ผู้ใช้แตะปากกาบนหน้าจอเพื่อเปิดแอป Wacom Canvas ได้ทันที—เหมือนเปิดสมุดสเก็ตช์แบบดิจิทัล ไม่ต้องปลดล็อกเครื่องหรือรอโหลดแอป

    หน้าจอแบบด้านช่วยลดแสงสะท้อนและให้สัมผัสเหมือนวาดบนกระดาษจริง ๆ เหมาะกับการใช้งานร่วมกับแอป Clip Studio Paint Debut ที่ติดตั้งมาให้แล้ว

    แต่แม้จะมีจุดเด่นด้านการวาด MovinkPad 11 ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น ใช้ชิป MediaTek Helio G99 ซึ่งเป็นระดับกลาง และยังไม่มีแอป Adobe Photoshop หรือ Illustrator บน Android ทำให้การทำงานระดับมืออาชีพยังไม่ครบถ้วน

    Wacom MovinkPad 11 มาพร้อมปากกา Pro Pen 3 แบบไม่ต้องชาร์จ
    ใช้เทคโนโลยี EMR ให้ความแม่นยำสูง
    รองรับแรงกด 8,192 ระดับและการเอียงปากกา

    หน้าจอขนาด 11.45 นิ้ว ความละเอียด 2200 x 1440 แบบด้าน
    ลดแสงสะท้อนและรอยนิ้วมือ
    ให้สัมผัสเหมือนวาดบนกระดาษจริง

    ฟีเจอร์ Quick Draw เปิดแอป Wacom Canvas ได้ทันที
    ไม่ต้องปลดล็อกเครื่อง
    เหมาะกับการสเก็ตช์ไอเดียแบบรวดเร็ว

    แอป Clip Studio Paint Debut ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน
    เหมาะกับนักวาดมือใหม่และนักเรียน
    ใช้งานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์

    รองรับปากกา EMR จากแบรนด์อื่น เช่น LAMY และ STAEDTLER
    เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน
    ไม่จำกัดเฉพาะปากกา Wacom เท่านั้น

    แบตเตอรี่ขนาด 7,700 mAh ใช้งานได้นานหลายชั่วโมง
    น้ำหนักเบาเพียง 1.3 ปอนด์
    พกพาสะดวกและเหมาะกับการใช้งานนอกสถานที่

    https://www.techradar.com/pro/wacoms-unique-movinkpad-11-android-tablet-with-pro-pen-3-support-gets-its-first-review-and-aspiring-illustrators-will-love-it
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: แท็บเล็ตวาดภาพที่พร้อมใช้งานทันที แต่อาจไม่เหมาะกับทุกคน Wacom เปิดตัว MovinkPad 11 แท็บเล็ต Android ขนาด 11.45 นิ้ว ที่มาพร้อมกับปากกา Pro Pen 3 รุ่นมืออาชีพ ซึ่งไม่ต้องใช้แบตเตอรี่หรือ Bluetooth และให้ความแม่นยำสูงด้วยเทคโนโลยี EMR (Electromagnetic Resonance) จุดเด่นคือฟีเจอร์ “Quick Draw” ที่ให้ผู้ใช้แตะปากกาบนหน้าจอเพื่อเปิดแอป Wacom Canvas ได้ทันที—เหมือนเปิดสมุดสเก็ตช์แบบดิจิทัล ไม่ต้องปลดล็อกเครื่องหรือรอโหลดแอป หน้าจอแบบด้านช่วยลดแสงสะท้อนและให้สัมผัสเหมือนวาดบนกระดาษจริง ๆ เหมาะกับการใช้งานร่วมกับแอป Clip Studio Paint Debut ที่ติดตั้งมาให้แล้ว แต่แม้จะมีจุดเด่นด้านการวาด MovinkPad 11 ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น ใช้ชิป MediaTek Helio G99 ซึ่งเป็นระดับกลาง และยังไม่มีแอป Adobe Photoshop หรือ Illustrator บน Android ทำให้การทำงานระดับมืออาชีพยังไม่ครบถ้วน ✅ Wacom MovinkPad 11 มาพร้อมปากกา Pro Pen 3 แบบไม่ต้องชาร์จ ➡️ ใช้เทคโนโลยี EMR ให้ความแม่นยำสูง ➡️ รองรับแรงกด 8,192 ระดับและการเอียงปากกา ✅ หน้าจอขนาด 11.45 นิ้ว ความละเอียด 2200 x 1440 แบบด้าน ➡️ ลดแสงสะท้อนและรอยนิ้วมือ ➡️ ให้สัมผัสเหมือนวาดบนกระดาษจริง ✅ ฟีเจอร์ Quick Draw เปิดแอป Wacom Canvas ได้ทันที ➡️ ไม่ต้องปลดล็อกเครื่อง ➡️ เหมาะกับการสเก็ตช์ไอเดียแบบรวดเร็ว ✅ แอป Clip Studio Paint Debut ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ➡️ เหมาะกับนักวาดมือใหม่และนักเรียน ➡️ ใช้งานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ✅ รองรับปากกา EMR จากแบรนด์อื่น เช่น LAMY และ STAEDTLER ➡️ เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน ➡️ ไม่จำกัดเฉพาะปากกา Wacom เท่านั้น ✅ แบตเตอรี่ขนาด 7,700 mAh ใช้งานได้นานหลายชั่วโมง ➡️ น้ำหนักเบาเพียง 1.3 ปอนด์ ➡️ พกพาสะดวกและเหมาะกับการใช้งานนอกสถานที่ https://www.techradar.com/pro/wacoms-unique-movinkpad-11-android-tablet-with-pro-pen-3-support-gets-its-first-review-and-aspiring-illustrators-will-love-it
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อบทสนทนาส่วนตัวกับ ChatGPT กลายเป็นสาธารณะใน Google โดยไม่รู้ตัว

    ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2025 ผู้ใช้ ChatGPT หลายพันคนต้องตกใจเมื่อพบว่าบทสนทนาส่วนตัวของตนปรากฏในผลการค้นหาของ Google โดยไม่ตั้งใจ สาเหตุเกิดจากฟีเจอร์ “แชร์บทสนทนา” ที่มีตัวเลือกให้ “ทำให้ค้นหาได้” ซึ่งแม้จะต้องกดยืนยันเอง แต่ข้อความอธิบายกลับคลุมเครือและไม่ชัดเจน

    Fast Company พบว่ามีบทสนทนากว่า 4,500 รายการที่ถูกจัดทำเป็นลิงก์สาธารณะ และถูก Google ดึงไปแสดงในผลการค้นหา โดยบางบทสนทนาเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ เมืองที่อยู่ อีเมล หรือแม้แต่เรื่องราวส่วนตัวอย่างความวิตกกังวล การเสพติด ความรุนแรงในครอบครัว และปัญหาความสัมพันธ์

    แม้จะไม่มีการเปิดเผยตัวตนโดยตรง แต่เนื้อหาในบทสนทนาเพียงพอที่จะระบุตัวบุคคลได้ในบางกรณี

    OpenAI ได้ลบฟีเจอร์นี้ออกทันที พร้อมดำเนินการให้ Google และเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ ลบข้อมูลออกจากดัชนี แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการแคชหน้าเว็บที่อาจยังคงอยู่

    ฟีเจอร์ “แชร์บทสนทนา” ของ ChatGPT ทำให้บทสนทนาส่วนตัวปรากฏใน Google Search
    ผู้ใช้ต้องกดยืนยัน “ทำให้ค้นหาได้” แต่คำอธิบายไม่ชัดเจน
    มีบทสนทนากว่า 4,500 รายการถูกค้นพบโดย Fast Company

    เนื้อหาที่หลุดออกมามีข้อมูลส่วนตัวและเรื่องราวที่ละเอียดอ่อน
    เช่น ความวิตกกังวล การเสพติด ปัญหาครอบครัว และความสัมพันธ์
    บางบทสนทนาเผยชื่อ เมืองที่อยู่ และข้อมูลติดต่อ

    OpenAI ลบฟีเจอร์ทันทีและดำเนินการให้ลบข้อมูลออกจากเครื่องมือค้นหา
    ระบุว่าเป็น “การทดลองระยะสั้น” เพื่อให้ผู้คนค้นหาบทสนทนาที่มีประโยชน์
    กำลังดำเนินการลบข้อมูลจากดัชนีของ Google

    ผู้ใช้สามารถจัดการลิงก์ที่แชร์ได้ผ่าน Shared Links Dashboard
    แต่การลบลิงก์ไม่รับประกันว่าข้อมูลจะหายจาก Google ทันที
    หน้าแคชอาจยังคงอยู่ในระบบของเครื่องมือค้นหา

    กรณีนี้เกิดขึ้นหลังจากศาลสหรัฐฯ สั่งให้ OpenAI เก็บบันทึกบทสนทนาไว้ทั้งหมด
    เพื่อใช้ในการพิจารณาคดีเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์
    ทีมกฎหมายสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป

    การแชร์บทสนทนาโดยไม่เข้าใจเงื่อนไขอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวหลุดสู่สาธารณะ
    โดยเฉพาะเมื่อมีชื่อ อีเมล หรือข้อมูลบริษัทในบทสนทนา
    แม้จะลบลิงก์แล้ว ข้อมูลอาจยังอยู่ใน Google ผ่านหน้าแคช

    การใช้ ChatGPT เป็นพื้นที่ระบายอารมณ์หรือพูดคุยเรื่องส่วนตัวอาจไม่ปลอดภัย
    ผู้ใช้บางรายใช้ ChatGPT เหมือนสมุดบันทึกส่วนตัว
    แต่ระบบไม่ได้ออกแบบมาเพื่อความเป็นส่วนตัวระดับนั้น

    บริษัทที่ใช้ ChatGPT ในการพัฒนาไอเดียหรือกลยุทธ์อาจเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล
    เช่น การเขียนโค้ด การประชุม หรือแผนการตลาด
    ข้อมูลภายในอาจถูกเผยแพร่โดยไม่ตั้งใจ

    การเข้าใจผิดเกี่ยวกับฟีเจอร์ “แชร์” อาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัวโดยไม่รู้ตัว
    ผู้ใช้บางรายคิดว่าลิงก์จะถูกส่งให้เฉพาะคนที่ตั้งใจ
    แต่จริง ๆ แล้วลิงก์นั้นสามารถถูกค้นเจอได้โดยทุกคน

    https://www.techspot.com/news/108911-thousands-private-chatgpt-conversations-found-google-search-after.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อบทสนทนาส่วนตัวกับ ChatGPT กลายเป็นสาธารณะใน Google โดยไม่รู้ตัว ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2025 ผู้ใช้ ChatGPT หลายพันคนต้องตกใจเมื่อพบว่าบทสนทนาส่วนตัวของตนปรากฏในผลการค้นหาของ Google โดยไม่ตั้งใจ สาเหตุเกิดจากฟีเจอร์ “แชร์บทสนทนา” ที่มีตัวเลือกให้ “ทำให้ค้นหาได้” ซึ่งแม้จะต้องกดยืนยันเอง แต่ข้อความอธิบายกลับคลุมเครือและไม่ชัดเจน Fast Company พบว่ามีบทสนทนากว่า 4,500 รายการที่ถูกจัดทำเป็นลิงก์สาธารณะ และถูก Google ดึงไปแสดงในผลการค้นหา โดยบางบทสนทนาเผยข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ เมืองที่อยู่ อีเมล หรือแม้แต่เรื่องราวส่วนตัวอย่างความวิตกกังวล การเสพติด ความรุนแรงในครอบครัว และปัญหาความสัมพันธ์ แม้จะไม่มีการเปิดเผยตัวตนโดยตรง แต่เนื้อหาในบทสนทนาเพียงพอที่จะระบุตัวบุคคลได้ในบางกรณี OpenAI ได้ลบฟีเจอร์นี้ออกทันที พร้อมดำเนินการให้ Google และเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ ลบข้อมูลออกจากดัชนี แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการแคชหน้าเว็บที่อาจยังคงอยู่ ✅ ฟีเจอร์ “แชร์บทสนทนา” ของ ChatGPT ทำให้บทสนทนาส่วนตัวปรากฏใน Google Search ➡️ ผู้ใช้ต้องกดยืนยัน “ทำให้ค้นหาได้” แต่คำอธิบายไม่ชัดเจน ➡️ มีบทสนทนากว่า 4,500 รายการถูกค้นพบโดย Fast Company ✅ เนื้อหาที่หลุดออกมามีข้อมูลส่วนตัวและเรื่องราวที่ละเอียดอ่อน ➡️ เช่น ความวิตกกังวล การเสพติด ปัญหาครอบครัว และความสัมพันธ์ ➡️ บางบทสนทนาเผยชื่อ เมืองที่อยู่ และข้อมูลติดต่อ ✅ OpenAI ลบฟีเจอร์ทันทีและดำเนินการให้ลบข้อมูลออกจากเครื่องมือค้นหา ➡️ ระบุว่าเป็น “การทดลองระยะสั้น” เพื่อให้ผู้คนค้นหาบทสนทนาที่มีประโยชน์ ➡️ กำลังดำเนินการลบข้อมูลจากดัชนีของ Google ✅ ผู้ใช้สามารถจัดการลิงก์ที่แชร์ได้ผ่าน Shared Links Dashboard ➡️ แต่การลบลิงก์ไม่รับประกันว่าข้อมูลจะหายจาก Google ทันที ➡️ หน้าแคชอาจยังคงอยู่ในระบบของเครื่องมือค้นหา ✅ กรณีนี้เกิดขึ้นหลังจากศาลสหรัฐฯ สั่งให้ OpenAI เก็บบันทึกบทสนทนาไว้ทั้งหมด ➡️ เพื่อใช้ในการพิจารณาคดีเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ ➡️ ทีมกฎหมายสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป ‼️ การแชร์บทสนทนาโดยไม่เข้าใจเงื่อนไขอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวหลุดสู่สาธารณะ ⛔ โดยเฉพาะเมื่อมีชื่อ อีเมล หรือข้อมูลบริษัทในบทสนทนา ⛔ แม้จะลบลิงก์แล้ว ข้อมูลอาจยังอยู่ใน Google ผ่านหน้าแคช ‼️ การใช้ ChatGPT เป็นพื้นที่ระบายอารมณ์หรือพูดคุยเรื่องส่วนตัวอาจไม่ปลอดภัย ⛔ ผู้ใช้บางรายใช้ ChatGPT เหมือนสมุดบันทึกส่วนตัว ⛔ แต่ระบบไม่ได้ออกแบบมาเพื่อความเป็นส่วนตัวระดับนั้น ‼️ บริษัทที่ใช้ ChatGPT ในการพัฒนาไอเดียหรือกลยุทธ์อาจเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล ⛔ เช่น การเขียนโค้ด การประชุม หรือแผนการตลาด ⛔ ข้อมูลภายในอาจถูกเผยแพร่โดยไม่ตั้งใจ ‼️ การเข้าใจผิดเกี่ยวกับฟีเจอร์ “แชร์” อาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัวโดยไม่รู้ตัว ⛔ ผู้ใช้บางรายคิดว่าลิงก์จะถูกส่งให้เฉพาะคนที่ตั้งใจ ⛔ แต่จริง ๆ แล้วลิงก์นั้นสามารถถูกค้นเจอได้โดยทุกคน https://www.techspot.com/news/108911-thousands-private-chatgpt-conversations-found-google-search-after.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Thousands of private ChatGPT conversations found via Google search after feature mishap
    OpenAI recently confirmed that it has deactivated an opt-in feature that shared chat histories on the open web. Although the functionality required users' explicit permission, its description...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อไฟล์ลัดกลายเป็นประตูหลัง—REMCOS RAT แฝงตัวผ่าน LNK และ PowerShell โดยไม่ทิ้งร่องรอย

    ทีมวิจัย Lat61 จากบริษัท Point Wild ได้เปิดเผยแคมเปญมัลแวร์หลายขั้นตอนที่ใช้ไฟล์ลัด Windows (.lnk) เป็นตัวเปิดทางให้ REMCOS RAT เข้าสู่ระบบของเหยื่อ โดยเริ่มจากไฟล์ที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัย เช่น “ORDINE-DI-ACQUIST-7263535.lnk” ซึ่งเมื่อคลิกแล้วจะรันคำสั่ง PowerShell แบบลับ ๆ เพื่อดาวน์โหลด payload ที่ถูกเข้ารหัสแบบ Base64 จากเซิร์ฟเวอร์ภายนอก

    หลังจากถอดรหัสแล้ว payload จะถูกเปิดใช้งานในรูปแบบไฟล์ .PIF ที่ปลอมเป็น CHROME.PIF เพื่อหลอกว่าเป็นโปรแกรมจริง ก่อนจะติดตั้ง REMCOS RAT ซึ่งสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์ได้เต็มรูปแบบ—ตั้งแต่ keylogging, เปิดกล้อง, ไปจนถึงการสร้าง shell ระยะไกล

    แคมเปญนี้ยังใช้เทคนิคหลบเลี่ยงการตรวจจับ เช่น ไม่ใช้ไฟล์บนดิสก์, ไม่ใช้ macro, และไม่แสดงคำเตือนใด ๆ ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปแทบไม่รู้ตัวว่าโดนโจมตี

    แคมเปญมัลแวร์ใหม่ใช้ไฟล์ลัด Windows (.lnk) เป็นช่องทางติดตั้ง REMCOS RAT
    ไฟล์ลัดปลอมเป็นเอกสารหรือโปรแกรม เช่น “ORDINE-DI-ACQUIST…”
    เมื่อคลิกจะรัน PowerShell แบบลับ ๆ

    PowerShell ถูกใช้เพื่อดาวน์โหลด payload ที่ถูกเข้ารหัสแบบ Base64 จากเซิร์ฟเวอร์ภายนอก
    ไม่ใช้ไฟล์บนดิสก์หรือ macro ทำให้หลบการตรวจจับได้
    payload ถูกเปิดใช้งานในรูปแบบไฟล์ .PIF ปลอมชื่อเป็น CHROME.PIF

    REMCOS RAT ให้ผู้โจมตีควบคุมระบบได้เต็มรูปแบบ
    keylogging, เปิดกล้อง, สร้าง shell ระยะไกล, เข้าถึงไฟล์
    สร้าง log file ใน %ProgramData% เพื่อเก็บข้อมูลการกดแป้นพิมพ์

    เซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) ของแคมเปญนี้อยู่ในสหรัฐฯ และโรมาเนีย
    แสดงให้เห็นว่าการโจมตีสามารถมาจากหลายประเทศ
    ใช้โครงสร้างแบบกระจายเพื่อหลบการติดตาม

    ไฟล์ลัดไม่แสดงคำเตือน macro และสามารถหลอกผู้ใช้ได้ง่าย
    Windows ซ่อนนามสกุลไฟล์โดยค่าเริ่มต้น
    ไฟล์ .lnk อาจดูเหมือน .pdf หรือ .docx.

    ไฟล์ลัด (.lnk) สามารถรันคำสั่งอันตรายได้โดยไม่ต้องใช้ macro หรือไฟล์ .exe
    ผู้ใช้มักเข้าใจผิดว่าเป็นไฟล์เอกสาร
    ไม่มีการแจ้งเตือนจากระบบความปลอดภัยของ Office

    REMCOS RAT สามารถทำงานแบบ fileless โดยไม่ทิ้งร่องรอยบนดิสก์
    ยากต่อการตรวจจับด้วย antivirus แบบดั้งเดิม
    ต้องใช้ระบบป้องกันแบบ real-time และ behavioral analysis

    การปลอมชื่อไฟล์และไอคอนทำให้ผู้ใช้หลงเชื่อว่าเป็นไฟล์จริง
    Windows ซ่อนนามสกุลไฟล์โดยค่าเริ่มต้น
    ไฟล์ .lnk อาจดูเหมือน “Invoice.pdf” ทั้งที่เป็น shortcut

    การเปิดไฟล์จากอีเมลหรือเครือข่ายที่ไม่ปลอดภัยอาจนำไปสู่การติดมัลแวร์ทันที
    ไม่ควรเปิดไฟล์แนบจากผู้ส่งที่ไม่รู้จัก
    ควรใช้ sandbox หรือระบบแยกเพื่อทดสอบไฟล์ก่อนเปิด

    https://hackread.com/attack-windows-shortcut-files-install-remcos-backdoor/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อไฟล์ลัดกลายเป็นประตูหลัง—REMCOS RAT แฝงตัวผ่าน LNK และ PowerShell โดยไม่ทิ้งร่องรอย ทีมวิจัย Lat61 จากบริษัท Point Wild ได้เปิดเผยแคมเปญมัลแวร์หลายขั้นตอนที่ใช้ไฟล์ลัด Windows (.lnk) เป็นตัวเปิดทางให้ REMCOS RAT เข้าสู่ระบบของเหยื่อ โดยเริ่มจากไฟล์ที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัย เช่น “ORDINE-DI-ACQUIST-7263535.lnk” ซึ่งเมื่อคลิกแล้วจะรันคำสั่ง PowerShell แบบลับ ๆ เพื่อดาวน์โหลด payload ที่ถูกเข้ารหัสแบบ Base64 จากเซิร์ฟเวอร์ภายนอก หลังจากถอดรหัสแล้ว payload จะถูกเปิดใช้งานในรูปแบบไฟล์ .PIF ที่ปลอมเป็น CHROME.PIF เพื่อหลอกว่าเป็นโปรแกรมจริง ก่อนจะติดตั้ง REMCOS RAT ซึ่งสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์ได้เต็มรูปแบบ—ตั้งแต่ keylogging, เปิดกล้อง, ไปจนถึงการสร้าง shell ระยะไกล แคมเปญนี้ยังใช้เทคนิคหลบเลี่ยงการตรวจจับ เช่น ไม่ใช้ไฟล์บนดิสก์, ไม่ใช้ macro, และไม่แสดงคำเตือนใด ๆ ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปแทบไม่รู้ตัวว่าโดนโจมตี ✅ แคมเปญมัลแวร์ใหม่ใช้ไฟล์ลัด Windows (.lnk) เป็นช่องทางติดตั้ง REMCOS RAT ➡️ ไฟล์ลัดปลอมเป็นเอกสารหรือโปรแกรม เช่น “ORDINE-DI-ACQUIST…” ➡️ เมื่อคลิกจะรัน PowerShell แบบลับ ๆ ✅ PowerShell ถูกใช้เพื่อดาวน์โหลด payload ที่ถูกเข้ารหัสแบบ Base64 จากเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ➡️ ไม่ใช้ไฟล์บนดิสก์หรือ macro ทำให้หลบการตรวจจับได้ ➡️ payload ถูกเปิดใช้งานในรูปแบบไฟล์ .PIF ปลอมชื่อเป็น CHROME.PIF ✅ REMCOS RAT ให้ผู้โจมตีควบคุมระบบได้เต็มรูปแบบ ➡️ keylogging, เปิดกล้อง, สร้าง shell ระยะไกล, เข้าถึงไฟล์ ➡️ สร้าง log file ใน %ProgramData% เพื่อเก็บข้อมูลการกดแป้นพิมพ์ ✅ เซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) ของแคมเปญนี้อยู่ในสหรัฐฯ และโรมาเนีย ➡️ แสดงให้เห็นว่าการโจมตีสามารถมาจากหลายประเทศ ➡️ ใช้โครงสร้างแบบกระจายเพื่อหลบการติดตาม ✅ ไฟล์ลัดไม่แสดงคำเตือน macro และสามารถหลอกผู้ใช้ได้ง่าย ➡️ Windows ซ่อนนามสกุลไฟล์โดยค่าเริ่มต้น ➡️ ไฟล์ .lnk อาจดูเหมือน .pdf หรือ .docx. ‼️ ไฟล์ลัด (.lnk) สามารถรันคำสั่งอันตรายได้โดยไม่ต้องใช้ macro หรือไฟล์ .exe ⛔ ผู้ใช้มักเข้าใจผิดว่าเป็นไฟล์เอกสาร ⛔ ไม่มีการแจ้งเตือนจากระบบความปลอดภัยของ Office ‼️ REMCOS RAT สามารถทำงานแบบ fileless โดยไม่ทิ้งร่องรอยบนดิสก์ ⛔ ยากต่อการตรวจจับด้วย antivirus แบบดั้งเดิม ⛔ ต้องใช้ระบบป้องกันแบบ real-time และ behavioral analysis ‼️ การปลอมชื่อไฟล์และไอคอนทำให้ผู้ใช้หลงเชื่อว่าเป็นไฟล์จริง ⛔ Windows ซ่อนนามสกุลไฟล์โดยค่าเริ่มต้น ⛔ ไฟล์ .lnk อาจดูเหมือน “Invoice.pdf” ทั้งที่เป็น shortcut ‼️ การเปิดไฟล์จากอีเมลหรือเครือข่ายที่ไม่ปลอดภัยอาจนำไปสู่การติดมัลแวร์ทันที ⛔ ไม่ควรเปิดไฟล์แนบจากผู้ส่งที่ไม่รู้จัก ⛔ ควรใช้ sandbox หรือระบบแยกเพื่อทดสอบไฟล์ก่อนเปิด https://hackread.com/attack-windows-shortcut-files-install-remcos-backdoor/
    HACKREAD.COM
    New Attack Uses Windows Shortcut Files to Install REMCOS Backdoor
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เฮลซิงกิ เมืองที่ไม่มีใครตายบนถนนตลอดปี—บทพิสูจน์ของการวางแผนระยะยาวและความร่วมมือของทุกฝ่าย

    ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อน เฮลซิงกิเคยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรถึง 30 รายต่อปี และอุบัติเหตุที่มีผู้บาดเจ็บเกือบ 1,000 ครั้งต่อปี แต่ในปี 2025 เมืองนี้สามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรลงเหลือ “ศูนย์” ได้สำเร็จ

    ความสำเร็จนี้ไม่ได้เกิดจากโชคช่วย แต่เป็นผลจากการวางแผนอย่างต่อเนื่องหลายทศวรรษ โดยมีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน, ลดความเร็วรถ, เพิ่มระบบขนส่งสาธารณะ, และใช้แนวคิด “Vision Zero” ที่เชื่อว่า “ไม่มีใครควรต้องตายจากการใช้ถนน”

    เฮลซิงกิบันทึกปี 2025 โดยไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรเลยแม้แต่รายเดียว
    ครั้งสุดท้ายที่มีผู้เสียชีวิตคือเดือนกรกฎาคม 2024 ในเขต Kontula
    ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเมืองหลวงยุโรป

    มากกว่าครึ่งของถนนในเฮลซิงกิมีการจำกัดความเร็วไว้ที่ 30 กม./ชม.
    ลดจาก 50 กม./ชม. ที่เคยใช้เมื่อ 50 ปีก่อน
    โดยเฉพาะรอบโรงเรียนและพื้นที่ชุมชน

    มีการออกแบบถนนใหม่เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
    เช่น การจัดทางม้าลาย, แยกทางจักรยาน, และลดช่องทางรถยนต์
    ปลูกต้นไม้และสร้างภูมิทัศน์ให้ซับซ้อนเพื่อบังคับให้คนขับระมัดระวัง

    ระบบขนส่งสาธารณะมีประสิทธิภาพสูง ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว
    มีการลงทุนในรถบัสไฟฟ้า, รถรางใหม่, และเครือข่ายจักรยานกว่า 1,500 กม.
    ส่งผลให้จำนวนอุบัติเหตุรุนแรงลดลงอย่างชัดเจน

    มีการใช้กล้องตรวจจับความเร็วและระบบบังคับใช้กฎหมายอัตโนมัติ
    ติดตั้งกล้องใหม่กว่า 70 ตัวทั่วเมือง
    เพิ่มความร่วมมือระหว่างตำรวจและเจ้าหน้าที่เมือง

    กลยุทธ์ Vision Zero ของ EU เป็นแนวทางหลักในการตัดสินใจ
    ตั้งเป้าหมายให้ไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุภายในปี 2050
    ใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์ผลกระทบระยะยาวในการวางแผน

    จำนวนอุบัติเหตุที่มีผู้บาดเจ็บลดลงจาก 1,000 เหลือเพียง 277 รายในปีล่าสุด
    สะท้อนถึงผลลัพธ์ของการวางแผนและการออกแบบเมืองที่เน้นความปลอดภัย

    https://www.helsinkitimes.fi/finland/finland-news/domestic/27539-helsinki-records-zero-traffic-deaths-for-full-year.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: เฮลซิงกิ เมืองที่ไม่มีใครตายบนถนนตลอดปี—บทพิสูจน์ของการวางแผนระยะยาวและความร่วมมือของทุกฝ่าย ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อน เฮลซิงกิเคยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรถึง 30 รายต่อปี และอุบัติเหตุที่มีผู้บาดเจ็บเกือบ 1,000 ครั้งต่อปี แต่ในปี 2025 เมืองนี้สามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรลงเหลือ “ศูนย์” ได้สำเร็จ ความสำเร็จนี้ไม่ได้เกิดจากโชคช่วย แต่เป็นผลจากการวางแผนอย่างต่อเนื่องหลายทศวรรษ โดยมีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน, ลดความเร็วรถ, เพิ่มระบบขนส่งสาธารณะ, และใช้แนวคิด “Vision Zero” ที่เชื่อว่า “ไม่มีใครควรต้องตายจากการใช้ถนน” ✅ เฮลซิงกิบันทึกปี 2025 โดยไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรเลยแม้แต่รายเดียว ➡️ ครั้งสุดท้ายที่มีผู้เสียชีวิตคือเดือนกรกฎาคม 2024 ในเขต Kontula ➡️ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเมืองหลวงยุโรป ✅ มากกว่าครึ่งของถนนในเฮลซิงกิมีการจำกัดความเร็วไว้ที่ 30 กม./ชม. ➡️ ลดจาก 50 กม./ชม. ที่เคยใช้เมื่อ 50 ปีก่อน ➡️ โดยเฉพาะรอบโรงเรียนและพื้นที่ชุมชน ✅ มีการออกแบบถนนใหม่เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ➡️ เช่น การจัดทางม้าลาย, แยกทางจักรยาน, และลดช่องทางรถยนต์ ➡️ ปลูกต้นไม้และสร้างภูมิทัศน์ให้ซับซ้อนเพื่อบังคับให้คนขับระมัดระวัง ✅ ระบบขนส่งสาธารณะมีประสิทธิภาพสูง ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ➡️ มีการลงทุนในรถบัสไฟฟ้า, รถรางใหม่, และเครือข่ายจักรยานกว่า 1,500 กม. ➡️ ส่งผลให้จำนวนอุบัติเหตุรุนแรงลดลงอย่างชัดเจน ✅ มีการใช้กล้องตรวจจับความเร็วและระบบบังคับใช้กฎหมายอัตโนมัติ ➡️ ติดตั้งกล้องใหม่กว่า 70 ตัวทั่วเมือง ➡️ เพิ่มความร่วมมือระหว่างตำรวจและเจ้าหน้าที่เมือง ✅ กลยุทธ์ Vision Zero ของ EU เป็นแนวทางหลักในการตัดสินใจ ➡️ ตั้งเป้าหมายให้ไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุภายในปี 2050 ➡️ ใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์ผลกระทบระยะยาวในการวางแผน ✅ จำนวนอุบัติเหตุที่มีผู้บาดเจ็บลดลงจาก 1,000 เหลือเพียง 277 รายในปีล่าสุด ➡️ สะท้อนถึงผลลัพธ์ของการวางแผนและการออกแบบเมืองที่เน้นความปลอดภัย https://www.helsinkitimes.fi/finland/finland-news/domestic/27539-helsinki-records-zero-traffic-deaths-for-full-year.html
    WWW.HELSINKITIMES.FI
    Helsinki records zero traffic deaths for full year
    Helsinki has completed 12 months without a single traffic fatality, a milestone credited to lower speed limits, safer infrastructure, and years of consistent planning, officials say.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอน 7
    ไม่ช้าไม่นาน สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ก็ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2502 (ค.ศ.1959) สภาพัฒน์ฯ ควรบันทึกไว้ด้วยว่า เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ คนแรก ชื่อนายพจน์ สารสิน (พจน์ อีกแล้ว!)
    อย่างที่เล่าไว้ตอนแรกๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฉบับที่ 1 ได้ถูกทำขึ้นโดยใช้วิธีแปลรายงานของธนาคารโลก (World Bank) ทั้งฉบับเป็นภาษาไทย ฝ่ายไทยไม่ต้องออกแรงเปลืองหัวสมองเท่าเม็ดถั่ว แค่แปลแล้วนำก็มาใช้เป็นแผนแม่ บทของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ก็เท่านั้นเอง
    รายการที่ไทยแลนด์ต้องพัฒนาเป็นการด่วน คือระบบสาธารณูปโภค ด้านไฟฟ้า น้ำประปา ปรับปรุงระบบขน ส่ง สร้างถนน สร้างท่าเรือ สร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ำ และสร้างสนามบิน! ฟังดูดี๊ดีนะครับ แต่ลองสังเกตอีกที  สิ่งที่พี่เบิ้มเขาให้เราทำน่ะ มันอะไรกันแน่
    แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาปรับปรุงระบบต่างๆ มาก่อสร้างตามรายการ และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผน มันเกินกว่างบประมาณไปหลายจี๋นะ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นคนเคยรวยเร็วไปหน่อยมั้ย คุณป๋ารำพึงดังๆ
    แน่นอน พีเบิ้มหูไว ก็ติดเครื่องดักฟังไว้ทั่วราชอาณาจักรไทย ได้ยินดังนั้นก็บอกว่า สมันน้อยไม่ต้องห่วง เดี๋ยวไอจัดให้ !
    ไอหาเงินกู้ดอกถูกไว้ให้ยูแล้ว ของธนาคารโลก ไงล่ะ สำรวจเอง เขียนเอง ให้กู้เอง ไม่รู้สึกแปลกกันบ้างเหรอไง ว่าแล้วชาวเราก็กระโดดลงหม้อตุ๋นด้วยความขอบคุณ
    โปรดรับทราบว่า ไทยสร้างสนามบินตามแผนพัฒนาฯ ด้วยเงินกู้ทั้งหมด 7 แห่ง คือ อู่ตะเภา ตาคลี อุบล อุดร โคราช น้ำพอง และนครพนม พัฒนาประเทศไทยจริงๆ ชาวบ้านยังขี่สองล้อ สามล้อกันอยู่เลย คุณพ่อให้สร้างสนามบิน เฮ้อ เกินจะบรรยาย มันจะให้กู ขี้สามล้อ วิ่งเล่นในสนามบินหรือไงนะเนี่ย
    สาธารณูปโภคที่สร้างก็อยู่ในจังหวัดที่สร้างสนามบินหรือใกล้เคียง นั่นแหละเช่น ถนนสายอู่ตะเภา โคราช สายพิษณุโลกขอนแก่น ถนนพวกนี้ตามรายงานของ ซีไอเอ เขาเรียกว่า ถนนยุทธศาสตร์! พัฒนาประเทศไทยจริงๆ
    นอกจากนี้ยังสร้าง สถานีเรดาร์ที่อุดร อุบล ศรีราชา ฯลฯ
    สถานีเรดาร์ใหญ่ที่สุดอยู่ที่อุดร ชื่อสถานีรามสูร มีอุปกรณ์ตรวจสอบครบเครื่อง บริเวณกว้างขวางขนาดมีสนามกอล์ฟ 9 หลุม สระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิคฯลฯ มีพนักงานชาวอเมริกัน 1,000 คนและลูกจ้างชาวไทยอีก1,400 คน รวมพนักงานทั้งหมด 2,400 คน มันจะเอาไว้ดักฟังสัญญาณดาวอังคารหรือไงวุ้ย
    ที่สำคัญ สถานีนี้ไม่อนุญาตให้คนไทยทั่วไปเข้าในบริเวณ แล้วมันอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ได้ไงเนี่ย
    หลังสงครามเวียตนามเลิก อเมริกาถอนทัพออกจากประเทศไทย แต่ลืมถอนสถานีรามสูรกลับไปด้วย ยังฝากไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งของประเทศไทย เอาไว้ดักฟังหนุ่มสาวไทยจีบกันหรือไงไม่รู้ เพราะฉะนั้นทุกเรื่องที่เรากระซิบกันน่ะ พี่เขารู้หมดน่ะ เรื่องนี้ ผมเล่าแล้วก็เสี่ยงกับการกลายเป็นมนุษย์ล่องหนอย่างยิ่ง
    คิดออก มองเห็นหรือยัง อเมริกามหามิตรมอบของขวัญแบบไหนให้ไทยแลนด์ ประเภทล้วงกระเป๋าเรา เอาไปซื้อของของขวัญให้เราน่ะ หลงดีใจจนเนื้อเต้น
    ที่นี้เข้าใจหรือยัง ไอ้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ น่ะ มันวางไว้ก่อนแล้ว มันเตรียมการพัฒนาบ้านเรา เพื่อใช้บ้านเราเป็นฐานไปรบกับคอมมี่ที่เวียตนาม จะเอารถบรรทุกทหารหัวทองวิ่งมาบนท้องนาได้ไง บางแห่งถนนยังไม่มี มีแต่ทางเกวียน สนุกจริงๆ
    อย่าลืมถนนมิตรภาพ ที่อเมริกาสร้างให้ไทย ที่คนไทยภูมิใจหนักหนาด้วยล่ะ  วันเปิดถนนทำพิธีใหญ่โต ไปยืนตบมือกันเปาะแปะ เอารถไปทดลองวิ่งกันเป็นแถว แหม! มันเรียบดีนะ เอาถ้วยกาแฟวางหน้ารถไม่หกเลยจ๊ะ เฮ้ย! ไม่ทันคิดว่าถนนนี้เป็นเส้นทางหลักที่พี่เบิ้มเขาจะใช้ในการลำเลียงพลและอาวุธยุทโธปกรณ์เอาไว้ไปรบกะเวียตนาม
    มันคล้ายๆ บ้านเรายังกินข้าวด้วยมือเปิบอยู่ แต่วันดีคืนร้าย ดันมีคนให้ของขวัญ เราก็ดีใจเปิดกล่องของขวัญออกมา อ้าวตาย กลายเป็น มีดกับส้อม เขาบอกว่า…เอาไว้ใช้เวลาไอมาทานข้าวบ้านยูไง ของขวัญแบบนั่นน่ะ เข้าใจไหมครับ
    หลังจากเตรียมการเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ไทยแลนด์แดนสวรรค์มีถนน มีน้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี (แต่ยังไม่มีงานทำ 555) สนามบินก็สร้างแล้ว ตำรวจสารพัดนึกก็มีแล้ว เหลืออะไรล่ะที่เรายังไม่ได้ให้ไทยแลนด์ทำกองทัพไงจ้ะ ไทยแลนด์ต้องมีกองทัพอันเกรียงไกร เอาไว้ป้องกันประเทศ เอาไว้กันไม่ให้พวกคอมมี่ มันขยายตัวแหลมหัวเข้ามาแถวนี้
    ตั้งแต่ พ.ศ.2504 ถึง พ.ศ.2515 ตลอดเวลาที่อเมริกา นำทัพสู้ในสงครามเวียตนาม ไทยมีส่วนสำคัญ ในการรบเคียงขาเคียงบ่าเคียงไหล่กับอเมริกา รวมไปถึงการรบในลาวและกัมพูชา ตลอดเวลาดังกล่าว มีทหารอเมริกันอยู่ในประเทศไทย น้อยสุด 50,000 นาย และมากสุดถึง 200,000 นาย มีเครื่องบินขึ้นลงทั้งหมดไม่น้อยกว่า 70, 000 เที่ยว บินไปปฏิบัติการรบทั้งที่ เวียตนาม ลาวและกัมพูชา
    ที่น่าสนใจ การที่อเมริกาเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพ โจมตีเวียตนามและเพื่อนบ้าน อเมริกาไม่เคยทำข้อตกลงอย่างเป็นรูปธรรมกับไทย มันเป็นความพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายอเมริกาก็ไม่ต้องการมีข้อผูกมัด แค่มาใช้บ้านเขาเฉยๆ เอง มาเมื่อไหร่ ไปเมื่อไหร่ ไม่มีข้อผูกพัน… ฝ่ายเจ้าของบ้านคือรัฐบาลก็ O.K งุบๆ งิบๆ อย่างนี้ดีกว่า …ไม่มีใครรู้เงินช่วยเหลือเข้ามาเท่าไหร่ ส่วนไหนของวัด ส่วนไหนของกรรมการ อู้ฟู้กันเป็นแถวๆ
    และที่เหลือเชื่อไปกว่านั้น พี่เบิ้มอ้างว่า ปฏิบัติการที่ใช้ไทยเป็นฐานทัพน่ะ เป็นปฏิบัติการลับเสีย 99% เพราะฉะนั้นเกือบทุกครั้งที่เครื่องบินรบของพี่เขาจะบินขึ้นจากฐานทัพ (ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย) พี่เขาไม่ต้องขออนุญาตไทย …ไทยแลนด์ยูไม่ต้องยุ่ง… เดี๋ยวความลับรั่วไหลเหมือนท่อน้ำประปาบ้านยู
    ทหารไทยก็ใจกว้าง ตกลงงั้นไอมอบอำนาจให้ยูอนุมัติบินได้เลยนะ ทูตอเมริกันประจำไทย ขณะนั้น นายมาร์ติน (Martin) จึงเป็นคนอนุมัติ กดปุ่ม O.K.!
    สิทธิสภาพนอกอาณาเขตยุคสงครามเวียตนาม ประชาชนคนไทยรู้ไหมเป็นเมืองขึ้นเขาไปแล้ว! แล้วจะไม่บอกว่า ทหารไทยนี่เป็นยอดดวงใจของพี่เบิ้มอเมริกาได้ยังไง ยังไม่จบเรื่องยอดดวงใจนี้ มีหลายภาค ค่อยๆ อ่านไป
    เห็นชัดหรือยังครับ ลองเรียบเรียงดูการสำรวจของธนาคารโลก (World Bank) แผนพัฒนาเศรษฐกิจ การตั้งสภาพัฒน์ การพัฒนาประเทศ การให้ความช่วยเหลือโดย CIA แก่กรมตำรวจ การให้ความช่วยเหลือแก่กอง ทัพไทย การควบ คุมจัดตั้งการเลือกตั้ง การควบคุมการเมืองไทยทั้งทางตรงทางอ้อม มันโยงกันไหมและทำเพื่ออะไร ผลประ โยชน์ของใคร อาจมีผู้เห็นแย้งว่า ไทยก็ได้ประโยชน์ ป้องกันไม่ให้ระบอบคอม มิวนิสต์เข้ายึดครองประเทศไทย แต่ถามว่า แล้วเรามีวิธีป้องกันด้วยวิธีอื่นหรือไม่ ที่ไม่ต้องเปลี่ยนประ เทศกลับหัวกลับหางหกคะเมนตีลังกาเช่นนี้
    เมื่ออเมริกาถอนฐานทัพออกไปจากไทยเมื่อปี พ.ศ.2517 (ค.ศ.1974) ประเทศไทยมีสภาพเป็นอย่างไร ผู้ที่เกิดไม่ทันสมัยนั้น ลองไปหาประวัติศาสตร์อ่านกันดูหน่อย รีบๆ ทำความรู้จักไว้ เพราะเหตุการณ์เช่น สงครามเวียตนาม ฐานทัพ และวัฒนธรรมอเมริกัน การควบคุมชีวิตของคนไทยโดยการเมืองและกองทัพของอเมริกา อาจกลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้ถ้ากลับมาอีก ไทยเรายังจะมีประเทศเหลือหรือเปล่า ไม่แน่ใจ
    หยิบกระดาษมา 1 แผ่น ด้านซ้ายเขียนต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ ด้านขวาเขียนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ เพื่อนำเข้าทุนนิยมเสรี เปลี่ยนประเทศทำเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรม ดูทีละด้าน ก็ไม่รู้ว่าเรื่องเดียวกัน แต่ลองเอามาร้อยเรียงกัน เหมือนต่อจิกซอว์ เราน่าจะเห็นว่า นี่มันคือการล่าอาณานิคมยุคใหม่ ที่แนบเนียน ชนิดถ้าไม่ทำ CSI ก็จับผู้ร้ายไม่ได้เด็ดขาด
    ชาวไทยที่รักทั้งหลาย จงอย่างดูอะไรที่ละด้าน ที่ละชิ้น …หัดมองภาพรวม หัดต่อภาพให้เป็น แล้วจะได้เห็นภาพใหญ่ พวกสื่อเขาไม่ทำให้เราหรอกครับ เขาเสนอทีละภาพ ทีละเหตุการณ์ จิกซอว์ที่ละตัว เราก็เห็นก็ตามเท่าที่เขาเสนอให้ดู แล้วยิ่งถ้ามันเสนอแบบฟอกย้อมล่ะ จะรู้ได้ยังไง ว่าที่สีฟ้าๆ น่ะ มันน้ำหรือท้องฟ้า สีเขียว ๆ น่ะมันดอลลาร์ หรือใบตองที่แน่สีทองๆ อย่านึกว่าเป็นทอง อาจเป็นอย่างอื่นก็ได้นะ
    ภายใต้ Pax Americana หรือการขยายระบบทุนนิยมของอเมริกา ไทยแลนด์แดนเนรมิต ต้องแต่งตัวใหม่ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง เพื่อให้ทุนนิยมอุตสาหกรรมเข้ามาในบ้านเราได้เต็มที่ พี่เบิ้มจึงทั้งบีบทั้งบี้ ถึงขนาดขู่ว่า ถ้าไม่เป็นเด็กดีจะตัดงบช่วยเหลือ พวก good boy เลย ต้องออกพรบ.ให้พี่เบิ้มเต็มพิกัดในพ.ศ.2505 เช่น พรบ.ส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม เป็นการจูงใจให้นักลง ทุน ต ด (แปลว่าต่างด้าว) เต็มที่ พรบ.งบประมาณ และตั้งสนง.งบประมาณ ไทยแลนด์ ยูจะได้ไม่เอาเงินช่วยเหลือไปใช้จ่ายรุ่ยร่าย เงินของไอนะ พรบ.ธนาคารพาณิชย์ จะได้เข้ามาตรฐาน ต ด (ต่างด้าว) เปิดทางให้ ต ด มาลงทุน
    แล้วดูตอนนี้ซิ ลงทุนกันไปถึงไหน ธนาคารชื่อไทยน่ะ ทุนไทยเหลือแค่ไหน เป็นของฝรั่งตาน้ำข้าวหัวทอง ตาตี่หัวดำ อย่างสิงคโปร์ขี้ข้าฝรั่งเข้าไปเท่าไหร่ ถ้าอยากรู้ตัวเลขจริงๆ ทำใจแข็งไปขอดูรายงานของ ธปท.เลยครับ รู้แล้วอย่าเป็นลมก็แล้วกัน!
    เรื่องนี้ ถ้าเล่าขบวนการสมคบอันชั่วร้ายของขบวนการทุนนิยมเสรีแล้ว
    ท่านผู้อ่านอาจอยากเปลี่ยนใจไปใช้เงินพดด้วง!
    นอกจากนี้พี้เบิ้มยังแนะนำ (บังคับ!) ให้สมันน้อยยกเลิกรัฐวิสาหกิจ 150 แห่ง ที่ตั้งมาตั้งกะสมัยคณะราษฎร (อันนี้มันส์พะยะค่ะ เล่นเอาพวกปล้นเจ้า หน้าจ๋อยไปเลย) เพราะว่าการเป็นรัฐวิสาหกิจ หมายความว่า รัฐเป็นผู้ดำเนินกิจการเอง ควบคุมเอง ทุนต่างด้าว ทุนนิยมเสรีจะเข้ามาค้าแล้วรวยได้อย่างไร มันก็เหมือนเล่นไพ่กับเจ้ามือ มันจะไปได้กินเจ้ามืออย่างไร ดังนั้นพี่เบิ้มเลยบังคับให้มีทั้งการตัด การตอนรัฐวิสาหกิจให้หดและหายไปในที่สุด …ไอ้ทฤษฏีตอนไม่ให้โตน่ะ แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก็ยังใช้เล่นต่อ เนื่องมาถึงทุกวันนี้ เห็นฤทธิ์ทุนนิยมเสรีหรือยัง มันมาทั้งได้ในรูปทุนนิยมต่างด้าว และทุนนิยมเผด็จการไทย
    ชาวบ้านอย่างเราๆ ก็มีแต่จนแห้งตายซาก ทั้งขึ้น ทั้งล่อง


    คนเล่านิทาน
    ตอน 7 ไม่ช้าไม่นาน สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ก็ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2502 (ค.ศ.1959) สภาพัฒน์ฯ ควรบันทึกไว้ด้วยว่า เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ คนแรก ชื่อนายพจน์ สารสิน (พจน์ อีกแล้ว!) อย่างที่เล่าไว้ตอนแรกๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฉบับที่ 1 ได้ถูกทำขึ้นโดยใช้วิธีแปลรายงานของธนาคารโลก (World Bank) ทั้งฉบับเป็นภาษาไทย ฝ่ายไทยไม่ต้องออกแรงเปลืองหัวสมองเท่าเม็ดถั่ว แค่แปลแล้วนำก็มาใช้เป็นแผนแม่ บทของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ก็เท่านั้นเอง รายการที่ไทยแลนด์ต้องพัฒนาเป็นการด่วน คือระบบสาธารณูปโภค ด้านไฟฟ้า น้ำประปา ปรับปรุงระบบขน ส่ง สร้างถนน สร้างท่าเรือ สร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ำ และสร้างสนามบิน! ฟังดูดี๊ดีนะครับ แต่ลองสังเกตอีกที  สิ่งที่พี่เบิ้มเขาให้เราทำน่ะ มันอะไรกันแน่ แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาปรับปรุงระบบต่างๆ มาก่อสร้างตามรายการ และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผน มันเกินกว่างบประมาณไปหลายจี๋นะ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นคนเคยรวยเร็วไปหน่อยมั้ย คุณป๋ารำพึงดังๆ แน่นอน พีเบิ้มหูไว ก็ติดเครื่องดักฟังไว้ทั่วราชอาณาจักรไทย ได้ยินดังนั้นก็บอกว่า สมันน้อยไม่ต้องห่วง เดี๋ยวไอจัดให้ ! ไอหาเงินกู้ดอกถูกไว้ให้ยูแล้ว ของธนาคารโลก ไงล่ะ สำรวจเอง เขียนเอง ให้กู้เอง ไม่รู้สึกแปลกกันบ้างเหรอไง ว่าแล้วชาวเราก็กระโดดลงหม้อตุ๋นด้วยความขอบคุณ โปรดรับทราบว่า ไทยสร้างสนามบินตามแผนพัฒนาฯ ด้วยเงินกู้ทั้งหมด 7 แห่ง คือ อู่ตะเภา ตาคลี อุบล อุดร โคราช น้ำพอง และนครพนม พัฒนาประเทศไทยจริงๆ ชาวบ้านยังขี่สองล้อ สามล้อกันอยู่เลย คุณพ่อให้สร้างสนามบิน เฮ้อ เกินจะบรรยาย มันจะให้กู ขี้สามล้อ วิ่งเล่นในสนามบินหรือไงนะเนี่ย สาธารณูปโภคที่สร้างก็อยู่ในจังหวัดที่สร้างสนามบินหรือใกล้เคียง นั่นแหละเช่น ถนนสายอู่ตะเภา โคราช สายพิษณุโลกขอนแก่น ถนนพวกนี้ตามรายงานของ ซีไอเอ เขาเรียกว่า ถนนยุทธศาสตร์! พัฒนาประเทศไทยจริงๆ นอกจากนี้ยังสร้าง สถานีเรดาร์ที่อุดร อุบล ศรีราชา ฯลฯ สถานีเรดาร์ใหญ่ที่สุดอยู่ที่อุดร ชื่อสถานีรามสูร มีอุปกรณ์ตรวจสอบครบเครื่อง บริเวณกว้างขวางขนาดมีสนามกอล์ฟ 9 หลุม สระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิคฯลฯ มีพนักงานชาวอเมริกัน 1,000 คนและลูกจ้างชาวไทยอีก1,400 คน รวมพนักงานทั้งหมด 2,400 คน มันจะเอาไว้ดักฟังสัญญาณดาวอังคารหรือไงวุ้ย ที่สำคัญ สถานีนี้ไม่อนุญาตให้คนไทยทั่วไปเข้าในบริเวณ แล้วมันอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ได้ไงเนี่ย หลังสงครามเวียตนามเลิก อเมริกาถอนทัพออกจากประเทศไทย แต่ลืมถอนสถานีรามสูรกลับไปด้วย ยังฝากไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งของประเทศไทย เอาไว้ดักฟังหนุ่มสาวไทยจีบกันหรือไงไม่รู้ เพราะฉะนั้นทุกเรื่องที่เรากระซิบกันน่ะ พี่เขารู้หมดน่ะ เรื่องนี้ ผมเล่าแล้วก็เสี่ยงกับการกลายเป็นมนุษย์ล่องหนอย่างยิ่ง คิดออก มองเห็นหรือยัง อเมริกามหามิตรมอบของขวัญแบบไหนให้ไทยแลนด์ ประเภทล้วงกระเป๋าเรา เอาไปซื้อของของขวัญให้เราน่ะ หลงดีใจจนเนื้อเต้น ที่นี้เข้าใจหรือยัง ไอ้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ น่ะ มันวางไว้ก่อนแล้ว มันเตรียมการพัฒนาบ้านเรา เพื่อใช้บ้านเราเป็นฐานไปรบกับคอมมี่ที่เวียตนาม จะเอารถบรรทุกทหารหัวทองวิ่งมาบนท้องนาได้ไง บางแห่งถนนยังไม่มี มีแต่ทางเกวียน สนุกจริงๆ อย่าลืมถนนมิตรภาพ ที่อเมริกาสร้างให้ไทย ที่คนไทยภูมิใจหนักหนาด้วยล่ะ  วันเปิดถนนทำพิธีใหญ่โต ไปยืนตบมือกันเปาะแปะ เอารถไปทดลองวิ่งกันเป็นแถว แหม! มันเรียบดีนะ เอาถ้วยกาแฟวางหน้ารถไม่หกเลยจ๊ะ เฮ้ย! ไม่ทันคิดว่าถนนนี้เป็นเส้นทางหลักที่พี่เบิ้มเขาจะใช้ในการลำเลียงพลและอาวุธยุทโธปกรณ์เอาไว้ไปรบกะเวียตนาม มันคล้ายๆ บ้านเรายังกินข้าวด้วยมือเปิบอยู่ แต่วันดีคืนร้าย ดันมีคนให้ของขวัญ เราก็ดีใจเปิดกล่องของขวัญออกมา อ้าวตาย กลายเป็น มีดกับส้อม เขาบอกว่า…เอาไว้ใช้เวลาไอมาทานข้าวบ้านยูไง ของขวัญแบบนั่นน่ะ เข้าใจไหมครับ หลังจากเตรียมการเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ไทยแลนด์แดนสวรรค์มีถนน มีน้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี (แต่ยังไม่มีงานทำ 555) สนามบินก็สร้างแล้ว ตำรวจสารพัดนึกก็มีแล้ว เหลืออะไรล่ะที่เรายังไม่ได้ให้ไทยแลนด์ทำกองทัพไงจ้ะ ไทยแลนด์ต้องมีกองทัพอันเกรียงไกร เอาไว้ป้องกันประเทศ เอาไว้กันไม่ให้พวกคอมมี่ มันขยายตัวแหลมหัวเข้ามาแถวนี้ ตั้งแต่ พ.ศ.2504 ถึง พ.ศ.2515 ตลอดเวลาที่อเมริกา นำทัพสู้ในสงครามเวียตนาม ไทยมีส่วนสำคัญ ในการรบเคียงขาเคียงบ่าเคียงไหล่กับอเมริกา รวมไปถึงการรบในลาวและกัมพูชา ตลอดเวลาดังกล่าว มีทหารอเมริกันอยู่ในประเทศไทย น้อยสุด 50,000 นาย และมากสุดถึง 200,000 นาย มีเครื่องบินขึ้นลงทั้งหมดไม่น้อยกว่า 70, 000 เที่ยว บินไปปฏิบัติการรบทั้งที่ เวียตนาม ลาวและกัมพูชา ที่น่าสนใจ การที่อเมริกาเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพ โจมตีเวียตนามและเพื่อนบ้าน อเมริกาไม่เคยทำข้อตกลงอย่างเป็นรูปธรรมกับไทย มันเป็นความพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายอเมริกาก็ไม่ต้องการมีข้อผูกมัด แค่มาใช้บ้านเขาเฉยๆ เอง มาเมื่อไหร่ ไปเมื่อไหร่ ไม่มีข้อผูกพัน… ฝ่ายเจ้าของบ้านคือรัฐบาลก็ O.K งุบๆ งิบๆ อย่างนี้ดีกว่า …ไม่มีใครรู้เงินช่วยเหลือเข้ามาเท่าไหร่ ส่วนไหนของวัด ส่วนไหนของกรรมการ อู้ฟู้กันเป็นแถวๆ และที่เหลือเชื่อไปกว่านั้น พี่เบิ้มอ้างว่า ปฏิบัติการที่ใช้ไทยเป็นฐานทัพน่ะ เป็นปฏิบัติการลับเสีย 99% เพราะฉะนั้นเกือบทุกครั้งที่เครื่องบินรบของพี่เขาจะบินขึ้นจากฐานทัพ (ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย) พี่เขาไม่ต้องขออนุญาตไทย …ไทยแลนด์ยูไม่ต้องยุ่ง… เดี๋ยวความลับรั่วไหลเหมือนท่อน้ำประปาบ้านยู ทหารไทยก็ใจกว้าง ตกลงงั้นไอมอบอำนาจให้ยูอนุมัติบินได้เลยนะ ทูตอเมริกันประจำไทย ขณะนั้น นายมาร์ติน (Martin) จึงเป็นคนอนุมัติ กดปุ่ม O.K.! สิทธิสภาพนอกอาณาเขตยุคสงครามเวียตนาม ประชาชนคนไทยรู้ไหมเป็นเมืองขึ้นเขาไปแล้ว! แล้วจะไม่บอกว่า ทหารไทยนี่เป็นยอดดวงใจของพี่เบิ้มอเมริกาได้ยังไง ยังไม่จบเรื่องยอดดวงใจนี้ มีหลายภาค ค่อยๆ อ่านไป เห็นชัดหรือยังครับ ลองเรียบเรียงดูการสำรวจของธนาคารโลก (World Bank) แผนพัฒนาเศรษฐกิจ การตั้งสภาพัฒน์ การพัฒนาประเทศ การให้ความช่วยเหลือโดย CIA แก่กรมตำรวจ การให้ความช่วยเหลือแก่กอง ทัพไทย การควบ คุมจัดตั้งการเลือกตั้ง การควบคุมการเมืองไทยทั้งทางตรงทางอ้อม มันโยงกันไหมและทำเพื่ออะไร ผลประ โยชน์ของใคร อาจมีผู้เห็นแย้งว่า ไทยก็ได้ประโยชน์ ป้องกันไม่ให้ระบอบคอม มิวนิสต์เข้ายึดครองประเทศไทย แต่ถามว่า แล้วเรามีวิธีป้องกันด้วยวิธีอื่นหรือไม่ ที่ไม่ต้องเปลี่ยนประ เทศกลับหัวกลับหางหกคะเมนตีลังกาเช่นนี้ เมื่ออเมริกาถอนฐานทัพออกไปจากไทยเมื่อปี พ.ศ.2517 (ค.ศ.1974) ประเทศไทยมีสภาพเป็นอย่างไร ผู้ที่เกิดไม่ทันสมัยนั้น ลองไปหาประวัติศาสตร์อ่านกันดูหน่อย รีบๆ ทำความรู้จักไว้ เพราะเหตุการณ์เช่น สงครามเวียตนาม ฐานทัพ และวัฒนธรรมอเมริกัน การควบคุมชีวิตของคนไทยโดยการเมืองและกองทัพของอเมริกา อาจกลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้ถ้ากลับมาอีก ไทยเรายังจะมีประเทศเหลือหรือเปล่า ไม่แน่ใจ หยิบกระดาษมา 1 แผ่น ด้านซ้ายเขียนต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ ด้านขวาเขียนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ เพื่อนำเข้าทุนนิยมเสรี เปลี่ยนประเทศทำเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรม ดูทีละด้าน ก็ไม่รู้ว่าเรื่องเดียวกัน แต่ลองเอามาร้อยเรียงกัน เหมือนต่อจิกซอว์ เราน่าจะเห็นว่า นี่มันคือการล่าอาณานิคมยุคใหม่ ที่แนบเนียน ชนิดถ้าไม่ทำ CSI ก็จับผู้ร้ายไม่ได้เด็ดขาด ชาวไทยที่รักทั้งหลาย จงอย่างดูอะไรที่ละด้าน ที่ละชิ้น …หัดมองภาพรวม หัดต่อภาพให้เป็น แล้วจะได้เห็นภาพใหญ่ พวกสื่อเขาไม่ทำให้เราหรอกครับ เขาเสนอทีละภาพ ทีละเหตุการณ์ จิกซอว์ที่ละตัว เราก็เห็นก็ตามเท่าที่เขาเสนอให้ดู แล้วยิ่งถ้ามันเสนอแบบฟอกย้อมล่ะ จะรู้ได้ยังไง ว่าที่สีฟ้าๆ น่ะ มันน้ำหรือท้องฟ้า สีเขียว ๆ น่ะมันดอลลาร์ หรือใบตองที่แน่สีทองๆ อย่านึกว่าเป็นทอง อาจเป็นอย่างอื่นก็ได้นะ ภายใต้ Pax Americana หรือการขยายระบบทุนนิยมของอเมริกา ไทยแลนด์แดนเนรมิต ต้องแต่งตัวใหม่ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง เพื่อให้ทุนนิยมอุตสาหกรรมเข้ามาในบ้านเราได้เต็มที่ พี่เบิ้มจึงทั้งบีบทั้งบี้ ถึงขนาดขู่ว่า ถ้าไม่เป็นเด็กดีจะตัดงบช่วยเหลือ พวก good boy เลย ต้องออกพรบ.ให้พี่เบิ้มเต็มพิกัดในพ.ศ.2505 เช่น พรบ.ส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม เป็นการจูงใจให้นักลง ทุน ต ด (แปลว่าต่างด้าว) เต็มที่ พรบ.งบประมาณ และตั้งสนง.งบประมาณ ไทยแลนด์ ยูจะได้ไม่เอาเงินช่วยเหลือไปใช้จ่ายรุ่ยร่าย เงินของไอนะ พรบ.ธนาคารพาณิชย์ จะได้เข้ามาตรฐาน ต ด (ต่างด้าว) เปิดทางให้ ต ด มาลงทุน แล้วดูตอนนี้ซิ ลงทุนกันไปถึงไหน ธนาคารชื่อไทยน่ะ ทุนไทยเหลือแค่ไหน เป็นของฝรั่งตาน้ำข้าวหัวทอง ตาตี่หัวดำ อย่างสิงคโปร์ขี้ข้าฝรั่งเข้าไปเท่าไหร่ ถ้าอยากรู้ตัวเลขจริงๆ ทำใจแข็งไปขอดูรายงานของ ธปท.เลยครับ รู้แล้วอย่าเป็นลมก็แล้วกัน! เรื่องนี้ ถ้าเล่าขบวนการสมคบอันชั่วร้ายของขบวนการทุนนิยมเสรีแล้ว ท่านผู้อ่านอาจอยากเปลี่ยนใจไปใช้เงินพดด้วง! นอกจากนี้พี้เบิ้มยังแนะนำ (บังคับ!) ให้สมันน้อยยกเลิกรัฐวิสาหกิจ 150 แห่ง ที่ตั้งมาตั้งกะสมัยคณะราษฎร (อันนี้มันส์พะยะค่ะ เล่นเอาพวกปล้นเจ้า หน้าจ๋อยไปเลย) เพราะว่าการเป็นรัฐวิสาหกิจ หมายความว่า รัฐเป็นผู้ดำเนินกิจการเอง ควบคุมเอง ทุนต่างด้าว ทุนนิยมเสรีจะเข้ามาค้าแล้วรวยได้อย่างไร มันก็เหมือนเล่นไพ่กับเจ้ามือ มันจะไปได้กินเจ้ามืออย่างไร ดังนั้นพี่เบิ้มเลยบังคับให้มีทั้งการตัด การตอนรัฐวิสาหกิจให้หดและหายไปในที่สุด …ไอ้ทฤษฏีตอนไม่ให้โตน่ะ แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก็ยังใช้เล่นต่อ เนื่องมาถึงทุกวันนี้ เห็นฤทธิ์ทุนนิยมเสรีหรือยัง มันมาทั้งได้ในรูปทุนนิยมต่างด้าว และทุนนิยมเผด็จการไทย ชาวบ้านอย่างเราๆ ก็มีแต่จนแห้งตายซาก ทั้งขึ้น ทั้งล่อง คนเล่านิทาน
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพจดังเปิดหลักฐานเขมร+พระ ใช้วัดเป็นโล่! (3/8/68)
    Top page exposes evidence: Cambodians and monks using temples as shields against Thai retaliation

    #TruthFromThailand
    #CambodiaNoCeasefire
    #Hunsenfiredfirst
    #CambodianDeception
    #กัมพูชายิงก่อน
    #ใช้วัดเป็นโล่
    #อย่าเอาศาสนามาอ้าง
    #News1 #Shorts
    เพจดังเปิดหลักฐานเขมร+พระ ใช้วัดเป็นโล่! (3/8/68) Top page exposes evidence: Cambodians and monks using temples as shields against Thai retaliation #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #Hunsenfiredfirst #CambodianDeception #กัมพูชายิงก่อน #ใช้วัดเป็นโล่ #อย่าเอาศาสนามาอ้าง #News1 #Shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เขมร “ถ่อย” ก่อกวนคนไทยและธุรกิจไทยในเกาหลี (2/8/68)
    Cambodians harass Thai citizens and businesses in South Korea.

    #TruthFromThailand
    #CambodiaNoCeasefire
    #CambodianDeception
    #Hunsenfiredfirst
    #กัมพูชายิงก่อน
    #캄보디아인
    #한국내태국인위협
    #ThaiInKorea
    #ProtectThaiCitizens
    #News1 #Shorts
    เขมร “ถ่อย” ก่อกวนคนไทยและธุรกิจไทยในเกาหลี (2/8/68) Cambodians harass Thai citizens and businesses in South Korea. #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #CambodianDeception #Hunsenfiredfirst #กัมพูชายิงก่อน #캄보디아인 #한국내태국인위협 #ThaiInKorea #ProtectThaiCitizens #News1 #Shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/live/xDIGM782qno?si=GpmO6Hnk3jTTh4SW
    https://www.youtube.com/live/xDIGM782qno?si=GpmO6Hnk3jTTh4SW
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17-07-68/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.56 ชื่อตอนว่า "JUDGEMENT DAY COMING SOON" วันพิพากษาโลกใกล้เข้ามาแล้ว โลกจะเปลี่ยนเรา ไม่ใช่เราเปลี่ยนเองจ๊ะ จำคีย์ตรงนี้เอาไว้ให้แม่น! วันนี้ขอพูด ในสิ่งที่มรึงไม่คิด ไม่คาดฝัน และนึกภาพยังไม่ออก กูจะเอาแผนการสวรรค์มากางแผนที่ให้มรึงได้เห็น ณ บัดเดี๋ยวนี้

    ขอเกริ่นสั้นๆ เพื่อปูทางให้เห็น TIME LINE จิกซอว์ทั้งหมด ว่าเรา ณ จุดนี้ จะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน? สัญญานมันแรงมาตั้งแต่ ปรับภาพลักษณ์สถาบันสูงสุด องค์ราชินีทรงเล่นฮ้อกกี้น้ำแข็ง แล่นเรือใบ ตามกีฬาโปรดสมเด็จพ่อร.9 และทรงขับเครื่องบิน เป็นทหารตามวินัยในรูปแบบพ่อร.10 ปรับเพื่อ? โลกเปลี่ยน เพราะผู้นำโลกเปลี่ยน กติกาใหม่มา สังคมเปลี่ยนไป ความอยู่รอดของราชสำนึกที่ค้ำแผ่นดินนี้ จึงต้องยืดหยุ่นไปตามกาลเวลา พสกนิกรเข้าถึงง่าย ลดระยะห่างจากพ่อสู่ลูก สิ่งที่มรึงกำลังจะได้เห็น และเห็นผ่านตามาแล้ววันนี้ คือสิ่งที่พ่อร.9 วางเอาไว้ล่วงหน้าทั้งหมด การแต่งตั้งองค์ราชินีคู่บังลังก์ คือการพลิกแผ่นดินยุคใหม่ ไม่ได้คิดแค่สั้นๆ แต่คิดยาวไปไกล โปรดดูบทบาทราชินียุคใหม่ หัวหมู่ทะลวงฟัน ยุคพระเดช ที่คอยทำหน้าที่แทนพ่ออยู่หัวร.10 นี่คือสัญลักษณ์ของราชวงศ์จักรียุคใหม่ ที่มรึงไม่เคยเห็นไงล่ะ

    ในช่วงผลัดใบโลก ผลัดใบแผ่นดินอโยธยา สิ่งที่มรึงต้องเตรียมตัวมาก่อนให้ดีคือ "แสนยานุภาพ" ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจใดใดในโลก การปะทะ ย่อมหลีกเลี่ยงได้ยาก มรึงอาจจะคิดว่า ไทยเรากำลังจะกลายเป็นยูเครน2 ฉนวนกาซ่า2 นั่นคือภาพที่มรึงเห็น ณ ปัจจุบันนี้ ที่พรมแดนต่างมีปัญหากัน ทั้งหมดมาจากแผนล่าอาณานิคมขั้วเก่าที่ตกยุคล้าสมัยไปนานแล้ว ขั้วใหม่เค้าเดินเกมส์ จูงมือร่วมกันไปข้างหน้า อำนาจหลายขั้ว ถ่วงดุล คือคำตอบของโลกยุคใหม่ ที่นานาชาติต่างยอมรับสดุดีแล้ว ใครปรับตัวไม่ทัน มรึงจะล้าหลัง ไทยเราเดินนำหน้าใครเพื่อน? อาเซียน 10 ชาติเดิม ใครดูก็รู้ ว่ามีสายขั้วเก่า ขั้วใหม่ปะปนกันไป และจีนได้เลือกแล้วว่า ไทย อีเหงียน อิเหนา คือตัวเล่นหลักในภูมิภาคนี้ นั่นแปลว่า อำนาจอาเซียน ถูกแบ่งฝ่ายไปเรียบร้อยแล้วนั่นเอง อาจมีลด และเพิ่มตามมา ช่วงฝุ่นตลบ มันมาจากการรอดูทิศทางโลก ว่าใครเอาใครอยู่?

    เอาแหละ เข้าเนื้อหาสำคัญที่สุด : สงครามการค้าโลก จีนทุนเหี้ยด้วยทองคำ และเทคโนโลยี รัสเซียทุบเหี้ยด้วยพลังงาน อาหาร อิหร่านทุบเหี้ยด้วยอาวุธสงครามรุ่นใหม่ และใช้สงครามศรัทธากลืนเศรษฐกิจเยรูซาเล็ม ปิดช่องทางโลจิสติคทะเลแดง ส่วนโสมแดงทุบเหี้ยด้วยโรงงานผลิตอาวุธโลก สายพานการผลิตมหาศาล ได้เทคโนโลยีจากจีน รัสเซีย อิหร่าน เข้ามาไว้ด้วยกัน เพราะกูเป็นคนประกอบโว๊ย? เมื่อต้นทุน แหล่งแร่ ไม่ว่าอะไรในโลก ต้นทางมาจากเอเซีย ตะวันตกจะสู้ต่อยังไง? สหรัฐใช้กำแพงภาษีมาบีบชาวโลก และกำลังจะถูกสวนหมัดกลับอย่างหนัก เมื่อโลกเข้าหา BRICS กันหมด ไม่ค้าขายกับมรึง แต่ค้าขายกันเองทั้งโลกที่ปราศจากมรึงไง เพราะไม่ใช้ดอลลาร์ อีกเหตุผลสำคัญคือ SCO เข้า BRICS มีกองทัพโลกดูแล ใครจะไม่เอา? เพราะเรือขนส่งสินค้าในกลุ่ม BRICS ต่างได้รับการคุ้มครองจาก SCO โดยพฤตินัยอยู่แล้ว

    เอาล่ะ! เมื่อลุยกันอะไรจะตามมา เอานาทีนี้ไปเลยจะได้เห็นภาพ เหี้ยมันรู้อยู่แล้วว่า ศึกยูเครนแค่บั่นทอนรัสเซีย(แต่พลิกล็อค) เสือกไปเพิ่มอำนาจให้ปูตินโดยไม่รู้ตัว ชนะเรียบวุธ ยอดขายถล่มทลาย แถมเส้นทางท่อแก็สมูลค่าพุ่งกระฉูด พลังงานโลก ทองคำ ดีดตัวสูงสุด ศึกเยรูซาเล็ม(ตายอย่างหมา) นาโต้ก็แล้ว ส่งเหี้ยมะกันไปช่วยก็แล้ว ตายห่าคาทะเลแดง เข้าไม่ถึง แถมถูกอิหร่านปิดช่องแคบเฮอร์มูซ แปลว่า กองเรือเหี้ยในตะวันออกกลางไปไหนไม่ได้ อิหร่านปิดประตูไว้เกลี้ยง แรดออกมากูจมเรือมรึงทันที ปิดการขนส่งลำเลียงทางทหารทางน้ำสิ้น แล้วแผนบุกแปซิฟิค ยังไปไม่รอด เมื่อจีนเตรียมพร้อมกว่าเยอะ ไม่รอมรึงมา แต่จะไปเปิดไต้หวัน เพื่อให้มรึงมาถมเงิน ชีวิต อาวุธ ที่นี่ต่อ เอาให้คาตรีนกันไปเลย เหลืออะไรล่ะ แอฟริกาก็ถูก WAGNER ทุบจนเละเทะ ปลดแอก อิสรภาพทั่วแอฟริกาสำเร็จ ด้านลาติน ทำห่าอะไรไม่ได้เลย เพราะนับวัน จำนวนอเมริกาใต้ที่จะจับมือกันเพื่อเทดอลล่าร์มีมากขึ้น และกองทัพต่อกันติดแล้ว ตั้งเงินกลุ่มดิจิตอลแล้ว ขืนเปิดสงครามใกล้บ้าน เข้าทางตรีนจีน รัสเซีย ทันที ถึงต้องหันมาเจาะไข่แดงอาเซียนแทน เพราะคือตัวเลือกสุดท้าย ที่เหี้ยไม่อยากเสี่ยงจะเล่น แต่จนปัญญา ถึงต้องเปิดตัว

    เจาะอาเซียนไม่หมู จีนดักคอพวกมรึงก่อนนานแล้ว อีเหงียน อิเหนา ไทย คุยกันมาก่อนแล้วเมื่อ 20 ปี เมื่อถึงเวลาที่ต้องปกป้องอาเซียน เราจะต้องสามัคคีกัน ห้ามแตกแถว เพราะรู้ดีว่า อีปินส์ อีลอดช่อง อีขะแมร์ ถูกแยกค่ายเพลงแน่ แล้วมันก็เป็นเช่นนั้น หากแต่ สมรภูมิจริง มันไม่เหมือนภาพในฝัน จีน รัสเซีย หนุนไทยเต็มตรีน แต่เฉพาะรัฐบาลที่เอาจีน นั่นคือวัง กองทัพ แต่ไม่เอารัฐบาลขี้ข้าวอชิงตันไงล่ะ เค้าถึงได้นิ่งเฉยช่วงที่ผ่านมา ไม่ TAKE ACTION เท่าที่ควร สงครามข่าวสารมาเต็มคาราเบล สื่อเหี้ย โซเชี่ยลในมือเหี้ย แม้แต่ขนาดล่าสุด LINE@ ของหมี CNN ยังต้องถูกหยุด ให้ยืนยันตัวตนใหม่ มาฟอร์มเดียวกับอี ฟัคบุ๊คนั่นแหละ ล่อกูทั้งเบอร์มือถือ อีเหมี๊ยว IP เครื่อง กูกลายเป็นที่ WANTED ของสื่อเหี้ยทั่วจักรวาลมาเวลไปแล้ว โดยในเชิงพฤตินัยแล้ว อาเซียนมีไทย อีเหงียน อิเหนา เป็นตัวหลักขับเคลื่อน และมีศักยภาพไม่แพ้กัน เชียวคนละทาง เก่งคนละด้าน จีนจึงจับมัดเป็นข้าวต้มมัดไงล่ะ รักกันเข้าไว้ เราจะสู้กับเหี้ยในไม่ช้านี้ อีขะแมร์ไม่ใช่คู่ต่อกรเราดอก มันก็รู้ ต่อให้มรึงเทอาวุธเหี้ยอะไรมาให้ ถามคำเดียว มันใช้เป็นเหรอ? สุดท้าย มรึงก็ต้องส่งคนของมรึงมาเล่นเอง และนั่นแหละ คือสิ่งที่อาเซียนรออยู่ จีนเตรียมอีโต้ยักษ์ตัดคอเหี้ยที่สหประชาชาติอยู่แล้ว ทหารรับจ้างก็ดี นักรบรับจ้างก็ดี อาวุธใครล่ะ? และเมื่อนั้น จีน รัสเซียถึงจะออกตัวช่วยไทยได้เต็มอัตราศึก เพราะอีขะแมร์ใช้คนนอกเข้ามาเล่นเกมส์นี้ก่อน สรุปคือไทย-ขะแมร์สู้กัน คนนอกอย่าเสือก หากมรึงส่งใครเข้ามาช่วย จีน รัสเซีย ก็จะเข้ามาได้โดยคุณยายละม่อม

    ถึงตอนนี้ มรึงเริ่มเห็นภาพชัดยัง? ว่ามันจะจบที่ตรงไหน ใครแพ้ ใครชนะ? ทั้งหมด มันคือการวางแผนรับมือเหี้ยที่เตรียมการมาดี และยาวนาน พ่อร.9 ส่งพระเทพเยือนจีนอย่างกับไปเดินตลาด ถี่ยิบ ส่งน้องเล็กไปยุโรปถี่ยิบ เรื่องวิทยาการ และวิทยาศาสตร์การแพทย์ หลายคนไม่รู้ เราพัฒนาวัคซีน และเทคโนโลยีการแพทย์ล้ำสมัย มาจากโครงการขององค์เล็กเนี่ยแหละ พูดน้อยแต่ข้อมูลมาเต็มคาราเบล ดวงอาทิตย์ที่ 2 ที่จีนมอบให้ไทย ก็มาจากความร่วมมือวังกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนเนี่ยแหละ มรึงว่าเค้าเตรียมการมานานแค่ไหนกันล่ะ? อ่านทะลุ มองขาดกระจุย เหมือนเห็นอนาคตมาก่อนกาล อย่ากังวลเรื่องปราบปชต.ตอแหล จะกำจัดปรสิต เหี้ย เหลือบเกาะแผ่นดินยังไง? เป็นเพราะกรอบในหัวมรึงถูกเหี้ยมันตีกรอบมาครึ่งศตวรรษ ต้องมีประชาธิปไตย ต้องมีการเลือกตั้ง นานาชาติถึงยอมรับ มรึงลืมไปแล้วรึว่า ผู้นำโลกกำหนดบทบาทโลก ดังนั้น จีน รัสเซีย คือผู้นำโลกขั้วใหม่ นโยบายจะเปลี่ยนตามทันที แบบข้ามขั้วกันไปเลย ปกครองอะไรก็ได้ ที่ไม่เข่นฆ่า และล่าอาณานิคมแบบเหี้ยมันทำ ทุบกรอบในหัวมรึงแตกออกเมื่อไหร่ ดวงตาเห็นธรรมมาทันที ไม่มีอะไรที่ยาก ก็แค่โลกเปลี่ยน มรึงจึงต้องเปลี่ยนไปตามโลก เท่านั้นเอง

    ปล.ไม่อยากจะแหวกหญ้าให้เหี้ยมันตื่นดอกน่ะ มรึงคิดว่า หากจีน รัสเซีย จะอุ้มไทยทั้งที จะไม่ให้อาวุธติดมือมาด้วยเหรอ เราได้อะไร มากมายกว่าที่มรึงคิดซะอีก 1.โครงการพลังงานโลกผ่านฮับอาเซียน 2.เขตเศรษฐกิจโลกใหม่ โดยมีเงินบาทไทยเป็นสกุลเงินหลักที่ใช้ได้จริง เป็นที่ยอมรับในภูมิภาค อิงทองคำ วัด 1:1 เท่าเทียม ไม่มีกฎหมาจ๊ะ 3.ย่ออาเซียนเข้ารวมกัน และเพิ่มประเทศสมาชิกใหม่เข้ามา ยังไงก็มีไม่ต่ำกว่า 10 แน่นอน ถึงได้บอกไงล่ะว่า บางส่วนอีขะแมร์ อีหม่อง น้องลาว จะเข้ามาเป็นส่วนนึงของไทยชัวร์ ไม่ต้องไปแย่งชิง เดินเข้ามาหาเอง เพราะมั่งคั่ง มั่นคง มั่นใจ 4.อาเซียนคือตัวเชื่อมพลังงานเอเซียสู่โลกแท้จริง ที่ผ่านมา ท่อแก็ส น้ำมัน แยกหลายค่าย หลายชาติ แต่งวดนี้ อาเซียนคือพลังงานหลัก ที่เชื่อมต่อกันแล้ว ทั้งโลกอาหรับ รัสเซีย จีน สู่แอฟริกา แม้แต่ในโอเชเนีย รู้มั้ยทำไมต้องอาเซียน รู้มั้ยว่า แหล่งแก็สมหาศาล ทองคำ น้ำมัน มีเต็มอยู่ในอาเซียนหลายชาติ ที่มาว่าทำไม จีน รัสเซีย ถึงอุ้มอาเซียนยิ่งกว่าไข่ในหิน เพราะโลจิสติคสุดยอด ความมั่นคงปลอดภัย และภัยธรรมชาติไม่ค่อยจะเกิด เหมาะที่จะทำแหล่งขุดเจาะพลังงานที่ซ่อนอยู่ใต้มหาสมุทรจำนวนมาก 5.WAGNER KGB เก่า หน่วยข่าวกรองจีน สายลับจีน อยู่เต็มพื้นที่ไปหมด หากเทียบเมื่อก่อน เดินไปไหน เจอแต่สายลับเหี้ย C แต่ตอนนี้ กลับตาลปัตรแล้วจ๊ะ มรึงเดินผ่านยังไม่รู้ตัวเลย นักศึกษาจีนที่เข้ามาเรียนมหา'ลัยไทย ใครจะบอกมรึงว่าคือหน่วยไซเบอร์อันดับ 1 จีน นักลงทุนจีนหน้าฉาก เบื้องหลังคือผู้พัฒนา AI และเข้าใจระบบดาวเทียมระดับจักรวาล นัยยะคือ เชื่อมต่อดาวเทียมไทยใหม่ ที่ผ่านมา เราอิงกับระบบ GPS เหี้ยมะกัน แต่ต่อไป เราอาจจะเปลี่ยนดาวเทียมเชื่อมต่อที่โยงโลกทั้งหมดเข้าหากันเองโดยอัตโนมัติ แน่นอนว่า เจ้าของทั้งหมดย่อมต้องรู้การเคลื่อนไหว แต่หากใครไม่เป็นศัตรูกับจีน รัสเซีย ไม่ได้คิดร้ายใครก่อน แบบที่เราเคยเป็นมา เค้าถึงได้เชื่อใจ ไว้วางใจเราขนาดนี้ เพราะเค้าดูเรามาไม่ใช่แค่ 20-30 ปี แต่ดูมาเป็น 100 ปีแล้วจ๊ะ เพราะไทยเรานี้รักสงบ แต่ยามสงบ เรากัดกันเองตลอด แต่ไม่กัดเพื่อนบ้านจ๊ะ

    หมี CNN(บทสรุป ศึกขะแมร์แค่ออเดิร์ฟ ล่อเป้าใหญ่เหี้ยมะกันมาติดบ่วงกับดักจีน แผนเจาะอาเซียนเด็กประถมของอีวอชิงตันแห้วแดร๊กไปตามระเบียบ ขะแมร์แตกไปตามเนื้อผ้า ไทยได้ทุกอย่างที่ต้องการคืนมาหมด แถมได้พื้นที่แนวกันชนใหม่ ยกระดับอาเซียนขึ้นมาเป็นฮับพลังงานโลกอนาคต ฝั่งตะวันตก จะสิ้นลาย หมดสภาพ รอการฟื้นฟูอีก 50 ปี กว่าจะกลับมาเทียบเอเซียตอนนี้ได้ วงจรโลกมาอยู่เอเซียนาน 50 ปี แล้วจะไปต่อที่แอฟริกา ลาติน แล้วกลับมาใหม่ที่ยุโรปอีกครั้ง อ้าว..แล้วอเมริกาล่ะ หายไปไหน อ๋อ..ไม่มีในแผนที่โลกแล้วจ๊ะ ขอโทษด้วย มันใช้ชื่อใหม่เป็น "รัฐยิวใหม่สดใสซาบซ่าส์" เห็นอนาคตโลกทั้งหมดแล้วรึยัง? ความผาสุขกำลังจะมา แต่ต้องแลกด้วยความสามัคคีของคนในชาติก่อนตอนนี้ จัดการอี 24 ล้านไทยบัดซบ จับมันไปถ่วงตระกร้าล้างน้ำ ทำห่าอะไรก็ได้ ให้มันกลายร่างกลับมาเป็นคนเหมือนเดิม ยัดสมองให้มันเข้าไปด้วย กลวงมานานเกินไปแล้ว ควายที่ไร้ประโยชน์ต่อแผ่นดิน จะถูกเทวดา ฟ้าดิน กำจัดออกไปเอง อย่ากังวล เปลี่ยนควายไทยบัดซบ 24 ล้านตัว ให้กลับมาเป็นคนได้แค่ 20% ก็ถือว่าเยอะแล้ว เชื่อในมือสวรรค์ ส่วนอีก 80% เชิญไปลงขุมนรกตามพ่องซะ ก็แค่เดรัจฉานมาเกิดเป็นคนเพื่อให้แผนกลียุคสำเร็จ เมื่อทำหน้าที่จบ ก็ต้องกลับไปขุมนรกที่มรึงจากมา อนิจจัง)
    01 สิงหาคม 68
    11.22 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    17-07-68/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.56 ชื่อตอนว่า "JUDGEMENT DAY COMING SOON" วันพิพากษาโลกใกล้เข้ามาแล้ว โลกจะเปลี่ยนเรา ไม่ใช่เราเปลี่ยนเองจ๊ะ จำคีย์ตรงนี้เอาไว้ให้แม่น! วันนี้ขอพูด ในสิ่งที่มรึงไม่คิด ไม่คาดฝัน และนึกภาพยังไม่ออก กูจะเอาแผนการสวรรค์มากางแผนที่ให้มรึงได้เห็น ณ บัดเดี๋ยวนี้ ขอเกริ่นสั้นๆ เพื่อปูทางให้เห็น TIME LINE จิกซอว์ทั้งหมด ว่าเรา ณ จุดนี้ จะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน? สัญญานมันแรงมาตั้งแต่ ปรับภาพลักษณ์สถาบันสูงสุด องค์ราชินีทรงเล่นฮ้อกกี้น้ำแข็ง แล่นเรือใบ ตามกีฬาโปรดสมเด็จพ่อร.9 และทรงขับเครื่องบิน เป็นทหารตามวินัยในรูปแบบพ่อร.10 ปรับเพื่อ? โลกเปลี่ยน เพราะผู้นำโลกเปลี่ยน กติกาใหม่มา สังคมเปลี่ยนไป ความอยู่รอดของราชสำนึกที่ค้ำแผ่นดินนี้ จึงต้องยืดหยุ่นไปตามกาลเวลา พสกนิกรเข้าถึงง่าย ลดระยะห่างจากพ่อสู่ลูก สิ่งที่มรึงกำลังจะได้เห็น และเห็นผ่านตามาแล้ววันนี้ คือสิ่งที่พ่อร.9 วางเอาไว้ล่วงหน้าทั้งหมด การแต่งตั้งองค์ราชินีคู่บังลังก์ คือการพลิกแผ่นดินยุคใหม่ ไม่ได้คิดแค่สั้นๆ แต่คิดยาวไปไกล โปรดดูบทบาทราชินียุคใหม่ หัวหมู่ทะลวงฟัน ยุคพระเดช ที่คอยทำหน้าที่แทนพ่ออยู่หัวร.10 นี่คือสัญลักษณ์ของราชวงศ์จักรียุคใหม่ ที่มรึงไม่เคยเห็นไงล่ะ ในช่วงผลัดใบโลก ผลัดใบแผ่นดินอโยธยา สิ่งที่มรึงต้องเตรียมตัวมาก่อนให้ดีคือ "แสนยานุภาพ" ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจใดใดในโลก การปะทะ ย่อมหลีกเลี่ยงได้ยาก มรึงอาจจะคิดว่า ไทยเรากำลังจะกลายเป็นยูเครน2 ฉนวนกาซ่า2 นั่นคือภาพที่มรึงเห็น ณ ปัจจุบันนี้ ที่พรมแดนต่างมีปัญหากัน ทั้งหมดมาจากแผนล่าอาณานิคมขั้วเก่าที่ตกยุคล้าสมัยไปนานแล้ว ขั้วใหม่เค้าเดินเกมส์ จูงมือร่วมกันไปข้างหน้า อำนาจหลายขั้ว ถ่วงดุล คือคำตอบของโลกยุคใหม่ ที่นานาชาติต่างยอมรับสดุดีแล้ว ใครปรับตัวไม่ทัน มรึงจะล้าหลัง ไทยเราเดินนำหน้าใครเพื่อน? อาเซียน 10 ชาติเดิม ใครดูก็รู้ ว่ามีสายขั้วเก่า ขั้วใหม่ปะปนกันไป และจีนได้เลือกแล้วว่า ไทย อีเหงียน อิเหนา คือตัวเล่นหลักในภูมิภาคนี้ นั่นแปลว่า อำนาจอาเซียน ถูกแบ่งฝ่ายไปเรียบร้อยแล้วนั่นเอง อาจมีลด และเพิ่มตามมา ช่วงฝุ่นตลบ มันมาจากการรอดูทิศทางโลก ว่าใครเอาใครอยู่? เอาแหละ เข้าเนื้อหาสำคัญที่สุด : สงครามการค้าโลก จีนทุนเหี้ยด้วยทองคำ และเทคโนโลยี รัสเซียทุบเหี้ยด้วยพลังงาน อาหาร อิหร่านทุบเหี้ยด้วยอาวุธสงครามรุ่นใหม่ และใช้สงครามศรัทธากลืนเศรษฐกิจเยรูซาเล็ม ปิดช่องทางโลจิสติคทะเลแดง ส่วนโสมแดงทุบเหี้ยด้วยโรงงานผลิตอาวุธโลก สายพานการผลิตมหาศาล ได้เทคโนโลยีจากจีน รัสเซีย อิหร่าน เข้ามาไว้ด้วยกัน เพราะกูเป็นคนประกอบโว๊ย? เมื่อต้นทุน แหล่งแร่ ไม่ว่าอะไรในโลก ต้นทางมาจากเอเซีย ตะวันตกจะสู้ต่อยังไง? สหรัฐใช้กำแพงภาษีมาบีบชาวโลก และกำลังจะถูกสวนหมัดกลับอย่างหนัก เมื่อโลกเข้าหา BRICS กันหมด ไม่ค้าขายกับมรึง แต่ค้าขายกันเองทั้งโลกที่ปราศจากมรึงไง เพราะไม่ใช้ดอลลาร์ อีกเหตุผลสำคัญคือ SCO เข้า BRICS มีกองทัพโลกดูแล ใครจะไม่เอา? เพราะเรือขนส่งสินค้าในกลุ่ม BRICS ต่างได้รับการคุ้มครองจาก SCO โดยพฤตินัยอยู่แล้ว เอาล่ะ! เมื่อลุยกันอะไรจะตามมา เอานาทีนี้ไปเลยจะได้เห็นภาพ เหี้ยมันรู้อยู่แล้วว่า ศึกยูเครนแค่บั่นทอนรัสเซีย(แต่พลิกล็อค) เสือกไปเพิ่มอำนาจให้ปูตินโดยไม่รู้ตัว ชนะเรียบวุธ ยอดขายถล่มทลาย แถมเส้นทางท่อแก็สมูลค่าพุ่งกระฉูด พลังงานโลก ทองคำ ดีดตัวสูงสุด ศึกเยรูซาเล็ม(ตายอย่างหมา) นาโต้ก็แล้ว ส่งเหี้ยมะกันไปช่วยก็แล้ว ตายห่าคาทะเลแดง เข้าไม่ถึง แถมถูกอิหร่านปิดช่องแคบเฮอร์มูซ แปลว่า กองเรือเหี้ยในตะวันออกกลางไปไหนไม่ได้ อิหร่านปิดประตูไว้เกลี้ยง แรดออกมากูจมเรือมรึงทันที ปิดการขนส่งลำเลียงทางทหารทางน้ำสิ้น แล้วแผนบุกแปซิฟิค ยังไปไม่รอด เมื่อจีนเตรียมพร้อมกว่าเยอะ ไม่รอมรึงมา แต่จะไปเปิดไต้หวัน เพื่อให้มรึงมาถมเงิน ชีวิต อาวุธ ที่นี่ต่อ เอาให้คาตรีนกันไปเลย เหลืออะไรล่ะ แอฟริกาก็ถูก WAGNER ทุบจนเละเทะ ปลดแอก อิสรภาพทั่วแอฟริกาสำเร็จ ด้านลาติน ทำห่าอะไรไม่ได้เลย เพราะนับวัน จำนวนอเมริกาใต้ที่จะจับมือกันเพื่อเทดอลล่าร์มีมากขึ้น และกองทัพต่อกันติดแล้ว ตั้งเงินกลุ่มดิจิตอลแล้ว ขืนเปิดสงครามใกล้บ้าน เข้าทางตรีนจีน รัสเซีย ทันที ถึงต้องหันมาเจาะไข่แดงอาเซียนแทน เพราะคือตัวเลือกสุดท้าย ที่เหี้ยไม่อยากเสี่ยงจะเล่น แต่จนปัญญา ถึงต้องเปิดตัว เจาะอาเซียนไม่หมู จีนดักคอพวกมรึงก่อนนานแล้ว อีเหงียน อิเหนา ไทย คุยกันมาก่อนแล้วเมื่อ 20 ปี เมื่อถึงเวลาที่ต้องปกป้องอาเซียน เราจะต้องสามัคคีกัน ห้ามแตกแถว เพราะรู้ดีว่า อีปินส์ อีลอดช่อง อีขะแมร์ ถูกแยกค่ายเพลงแน่ แล้วมันก็เป็นเช่นนั้น หากแต่ สมรภูมิจริง มันไม่เหมือนภาพในฝัน จีน รัสเซีย หนุนไทยเต็มตรีน แต่เฉพาะรัฐบาลที่เอาจีน นั่นคือวัง กองทัพ แต่ไม่เอารัฐบาลขี้ข้าวอชิงตันไงล่ะ เค้าถึงได้นิ่งเฉยช่วงที่ผ่านมา ไม่ TAKE ACTION เท่าที่ควร สงครามข่าวสารมาเต็มคาราเบล สื่อเหี้ย โซเชี่ยลในมือเหี้ย แม้แต่ขนาดล่าสุด LINE@ ของหมี CNN ยังต้องถูกหยุด ให้ยืนยันตัวตนใหม่ มาฟอร์มเดียวกับอี ฟัคบุ๊คนั่นแหละ ล่อกูทั้งเบอร์มือถือ อีเหมี๊ยว IP เครื่อง กูกลายเป็นที่ WANTED ของสื่อเหี้ยทั่วจักรวาลมาเวลไปแล้ว โดยในเชิงพฤตินัยแล้ว อาเซียนมีไทย อีเหงียน อิเหนา เป็นตัวหลักขับเคลื่อน และมีศักยภาพไม่แพ้กัน เชียวคนละทาง เก่งคนละด้าน จีนจึงจับมัดเป็นข้าวต้มมัดไงล่ะ รักกันเข้าไว้ เราจะสู้กับเหี้ยในไม่ช้านี้ อีขะแมร์ไม่ใช่คู่ต่อกรเราดอก มันก็รู้ ต่อให้มรึงเทอาวุธเหี้ยอะไรมาให้ ถามคำเดียว มันใช้เป็นเหรอ? สุดท้าย มรึงก็ต้องส่งคนของมรึงมาเล่นเอง และนั่นแหละ คือสิ่งที่อาเซียนรออยู่ จีนเตรียมอีโต้ยักษ์ตัดคอเหี้ยที่สหประชาชาติอยู่แล้ว ทหารรับจ้างก็ดี นักรบรับจ้างก็ดี อาวุธใครล่ะ? และเมื่อนั้น จีน รัสเซียถึงจะออกตัวช่วยไทยได้เต็มอัตราศึก เพราะอีขะแมร์ใช้คนนอกเข้ามาเล่นเกมส์นี้ก่อน สรุปคือไทย-ขะแมร์สู้กัน คนนอกอย่าเสือก หากมรึงส่งใครเข้ามาช่วย จีน รัสเซีย ก็จะเข้ามาได้โดยคุณยายละม่อม ถึงตอนนี้ มรึงเริ่มเห็นภาพชัดยัง? ว่ามันจะจบที่ตรงไหน ใครแพ้ ใครชนะ? ทั้งหมด มันคือการวางแผนรับมือเหี้ยที่เตรียมการมาดี และยาวนาน พ่อร.9 ส่งพระเทพเยือนจีนอย่างกับไปเดินตลาด ถี่ยิบ ส่งน้องเล็กไปยุโรปถี่ยิบ เรื่องวิทยาการ และวิทยาศาสตร์การแพทย์ หลายคนไม่รู้ เราพัฒนาวัคซีน และเทคโนโลยีการแพทย์ล้ำสมัย มาจากโครงการขององค์เล็กเนี่ยแหละ พูดน้อยแต่ข้อมูลมาเต็มคาราเบล ดวงอาทิตย์ที่ 2 ที่จีนมอบให้ไทย ก็มาจากความร่วมมือวังกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนเนี่ยแหละ มรึงว่าเค้าเตรียมการมานานแค่ไหนกันล่ะ? อ่านทะลุ มองขาดกระจุย เหมือนเห็นอนาคตมาก่อนกาล อย่ากังวลเรื่องปราบปชต.ตอแหล จะกำจัดปรสิต เหี้ย เหลือบเกาะแผ่นดินยังไง? เป็นเพราะกรอบในหัวมรึงถูกเหี้ยมันตีกรอบมาครึ่งศตวรรษ ต้องมีประชาธิปไตย ต้องมีการเลือกตั้ง นานาชาติถึงยอมรับ มรึงลืมไปแล้วรึว่า ผู้นำโลกกำหนดบทบาทโลก ดังนั้น จีน รัสเซีย คือผู้นำโลกขั้วใหม่ นโยบายจะเปลี่ยนตามทันที แบบข้ามขั้วกันไปเลย ปกครองอะไรก็ได้ ที่ไม่เข่นฆ่า และล่าอาณานิคมแบบเหี้ยมันทำ ทุบกรอบในหัวมรึงแตกออกเมื่อไหร่ ดวงตาเห็นธรรมมาทันที ไม่มีอะไรที่ยาก ก็แค่โลกเปลี่ยน มรึงจึงต้องเปลี่ยนไปตามโลก เท่านั้นเอง ปล.ไม่อยากจะแหวกหญ้าให้เหี้ยมันตื่นดอกน่ะ มรึงคิดว่า หากจีน รัสเซีย จะอุ้มไทยทั้งที จะไม่ให้อาวุธติดมือมาด้วยเหรอ เราได้อะไร มากมายกว่าที่มรึงคิดซะอีก 1.โครงการพลังงานโลกผ่านฮับอาเซียน 2.เขตเศรษฐกิจโลกใหม่ โดยมีเงินบาทไทยเป็นสกุลเงินหลักที่ใช้ได้จริง เป็นที่ยอมรับในภูมิภาค อิงทองคำ วัด 1:1 เท่าเทียม ไม่มีกฎหมาจ๊ะ 3.ย่ออาเซียนเข้ารวมกัน และเพิ่มประเทศสมาชิกใหม่เข้ามา ยังไงก็มีไม่ต่ำกว่า 10 แน่นอน ถึงได้บอกไงล่ะว่า บางส่วนอีขะแมร์ อีหม่อง น้องลาว จะเข้ามาเป็นส่วนนึงของไทยชัวร์ ไม่ต้องไปแย่งชิง เดินเข้ามาหาเอง เพราะมั่งคั่ง มั่นคง มั่นใจ 4.อาเซียนคือตัวเชื่อมพลังงานเอเซียสู่โลกแท้จริง ที่ผ่านมา ท่อแก็ส น้ำมัน แยกหลายค่าย หลายชาติ แต่งวดนี้ อาเซียนคือพลังงานหลัก ที่เชื่อมต่อกันแล้ว ทั้งโลกอาหรับ รัสเซีย จีน สู่แอฟริกา แม้แต่ในโอเชเนีย รู้มั้ยทำไมต้องอาเซียน รู้มั้ยว่า แหล่งแก็สมหาศาล ทองคำ น้ำมัน มีเต็มอยู่ในอาเซียนหลายชาติ ที่มาว่าทำไม จีน รัสเซีย ถึงอุ้มอาเซียนยิ่งกว่าไข่ในหิน เพราะโลจิสติคสุดยอด ความมั่นคงปลอดภัย และภัยธรรมชาติไม่ค่อยจะเกิด เหมาะที่จะทำแหล่งขุดเจาะพลังงานที่ซ่อนอยู่ใต้มหาสมุทรจำนวนมาก 5.WAGNER KGB เก่า หน่วยข่าวกรองจีน สายลับจีน อยู่เต็มพื้นที่ไปหมด หากเทียบเมื่อก่อน เดินไปไหน เจอแต่สายลับเหี้ย C แต่ตอนนี้ กลับตาลปัตรแล้วจ๊ะ มรึงเดินผ่านยังไม่รู้ตัวเลย นักศึกษาจีนที่เข้ามาเรียนมหา'ลัยไทย ใครจะบอกมรึงว่าคือหน่วยไซเบอร์อันดับ 1 จีน นักลงทุนจีนหน้าฉาก เบื้องหลังคือผู้พัฒนา AI และเข้าใจระบบดาวเทียมระดับจักรวาล นัยยะคือ เชื่อมต่อดาวเทียมไทยใหม่ ที่ผ่านมา เราอิงกับระบบ GPS เหี้ยมะกัน แต่ต่อไป เราอาจจะเปลี่ยนดาวเทียมเชื่อมต่อที่โยงโลกทั้งหมดเข้าหากันเองโดยอัตโนมัติ แน่นอนว่า เจ้าของทั้งหมดย่อมต้องรู้การเคลื่อนไหว แต่หากใครไม่เป็นศัตรูกับจีน รัสเซีย ไม่ได้คิดร้ายใครก่อน แบบที่เราเคยเป็นมา เค้าถึงได้เชื่อใจ ไว้วางใจเราขนาดนี้ เพราะเค้าดูเรามาไม่ใช่แค่ 20-30 ปี แต่ดูมาเป็น 100 ปีแล้วจ๊ะ เพราะไทยเรานี้รักสงบ แต่ยามสงบ เรากัดกันเองตลอด แต่ไม่กัดเพื่อนบ้านจ๊ะ หมี CNN(บทสรุป ศึกขะแมร์แค่ออเดิร์ฟ ล่อเป้าใหญ่เหี้ยมะกันมาติดบ่วงกับดักจีน แผนเจาะอาเซียนเด็กประถมของอีวอชิงตันแห้วแดร๊กไปตามระเบียบ ขะแมร์แตกไปตามเนื้อผ้า ไทยได้ทุกอย่างที่ต้องการคืนมาหมด แถมได้พื้นที่แนวกันชนใหม่ ยกระดับอาเซียนขึ้นมาเป็นฮับพลังงานโลกอนาคต ฝั่งตะวันตก จะสิ้นลาย หมดสภาพ รอการฟื้นฟูอีก 50 ปี กว่าจะกลับมาเทียบเอเซียตอนนี้ได้ วงจรโลกมาอยู่เอเซียนาน 50 ปี แล้วจะไปต่อที่แอฟริกา ลาติน แล้วกลับมาใหม่ที่ยุโรปอีกครั้ง อ้าว..แล้วอเมริกาล่ะ หายไปไหน อ๋อ..ไม่มีในแผนที่โลกแล้วจ๊ะ ขอโทษด้วย มันใช้ชื่อใหม่เป็น "รัฐยิวใหม่สดใสซาบซ่าส์" เห็นอนาคตโลกทั้งหมดแล้วรึยัง? ความผาสุขกำลังจะมา แต่ต้องแลกด้วยความสามัคคีของคนในชาติก่อนตอนนี้ จัดการอี 24 ล้านไทยบัดซบ จับมันไปถ่วงตระกร้าล้างน้ำ ทำห่าอะไรก็ได้ ให้มันกลายร่างกลับมาเป็นคนเหมือนเดิม ยัดสมองให้มันเข้าไปด้วย กลวงมานานเกินไปแล้ว ควายที่ไร้ประโยชน์ต่อแผ่นดิน จะถูกเทวดา ฟ้าดิน กำจัดออกไปเอง อย่ากังวล เปลี่ยนควายไทยบัดซบ 24 ล้านตัว ให้กลับมาเป็นคนได้แค่ 20% ก็ถือว่าเยอะแล้ว เชื่อในมือสวรรค์ ส่วนอีก 80% เชิญไปลงขุมนรกตามพ่องซะ ก็แค่เดรัจฉานมาเกิดเป็นคนเพื่อให้แผนกลียุคสำเร็จ เมื่อทำหน้าที่จบ ก็ต้องกลับไปขุมนรกที่มรึงจากมา อนิจจัง) 01 สิงหาคม 68 11.22 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • SME D Bank ขานรับนโยบายรัฐบาล-ธปท.ออกมาตรการช่วยเพิ่มเติม พักชำระหนี้สูงสุด 12 เดือน คู่เติมทุนฉุกเฉิน ลดผลกระทบเอสเอ็มอีจากเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา
    https://www.thai-tai.tv/news/20686/
    SME D Bank ขานรับนโยบายรัฐบาล-ธปท.ออกมาตรการช่วยเพิ่มเติม พักชำระหนี้สูงสุด 12 เดือน คู่เติมทุนฉุกเฉิน ลดผลกระทบเอสเอ็มอีจากเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา https://www.thai-tai.tv/news/20686/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: ARM พลิกเกมจากเบื้องหลังสู่เวทีหน้าในตลาด AI

    ARM เคยเป็นผู้ให้สิทธิ์ใช้งานสถาปัตยกรรม CPU ให้กับบริษัทต่างๆ เช่น Apple, Qualcomm, NVIDIA และ AWS โดยไม่ผลิตชิปเอง แต่ในปี 2025 ARM ประกาศแผนใหม่—จะพัฒนา “Full-End Solutions” ด้วยตัวเอง ตั้งแต่ชิปเล็ก (chiplet) ไปจนถึงระบบคอมพิวเตอร์ครบชุด เพื่อรองรับความต้องการด้าน AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

    CEO ของ ARM, Rene Haas เผยว่า “เราไม่ใช่แค่จะออกแบบ แต่จะสร้างจริง” ซึ่งหมายถึงการลงทุนมหาศาลใน R&D การเลือกโรงงานผลิต และการจัดจำหน่าย ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึง $500 ล้านต่อชิปหนึ่งตัว

    แม้จะเสี่ยงต่อการสูญเสียลูกค้าเดิมที่อาจมองว่า ARM กลายเป็นคู่แข่ง แต่ ARM ก็มีจุดแข็งจากประสบการณ์และการยอมรับในตลาด โดยเฉพาะในกลุ่ม hyperscaler เช่น AWS, Google, Microsoft ที่ใช้ชิป Neoverse ของ ARM ในระบบ AI ของตน

    ARM เตรียมพัฒนา Full-End Solutions สำหรับตลาด AI
    รวมถึง chiplets, บอร์ด, และระบบคอมพิวเตอร์ครบชุด
    เปลี่ยนจากโมเดล IP licensing ไปสู่การผลิตจริง

    CEO Rene Haas ยืนยันการลงทุนใน R&D และการสร้างชิปเอง
    อาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึง $500 ล้านต่อชิป
    ต้องเลือกโรงงานผลิตและจัดจำหน่ายเอง

    ARM มีฐานลูกค้าในตลาด AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
    Neoverse CPU ถูกใช้ใน AWS Graviton, Google Axion, Microsoft Cobalt
    คาดว่า 50% ของ CPU ใน data center จะใช้สถาปัตยกรรม ARM ภายในปีนี้

    SoftBank เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ ARM และมีประวัติการลงทุนในโครงการเสี่ยง
    เพิ่มความมั่นใจในการสนับสนุนแผนใหม่ของ ARM
    เคยลงทุนหลายพันล้านในเทคโนโลยีล้ำสมัย

    ARM ไม่ได้ตั้งใจเป็นผู้ผลิตชิปเต็มรูปแบบ แต่จะสร้าง prototype เพื่อเร่งนวัตกรรมของลูกค้า
    ใช้เป็นตัวอย่างเพื่อช่วยลูกค้าออกแบบชิปเฉพาะทาง
    เน้นตลาด AI inference และ data center

    https://wccftech.com/arm-is-reportedly-exploring-full-end-solutions-for-the-ai-market/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: ARM พลิกเกมจากเบื้องหลังสู่เวทีหน้าในตลาด AI ARM เคยเป็นผู้ให้สิทธิ์ใช้งานสถาปัตยกรรม CPU ให้กับบริษัทต่างๆ เช่น Apple, Qualcomm, NVIDIA และ AWS โดยไม่ผลิตชิปเอง แต่ในปี 2025 ARM ประกาศแผนใหม่—จะพัฒนา “Full-End Solutions” ด้วยตัวเอง ตั้งแต่ชิปเล็ก (chiplet) ไปจนถึงระบบคอมพิวเตอร์ครบชุด เพื่อรองรับความต้องการด้าน AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว CEO ของ ARM, Rene Haas เผยว่า “เราไม่ใช่แค่จะออกแบบ แต่จะสร้างจริง” ซึ่งหมายถึงการลงทุนมหาศาลใน R&D การเลือกโรงงานผลิต และการจัดจำหน่าย ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึง $500 ล้านต่อชิปหนึ่งตัว แม้จะเสี่ยงต่อการสูญเสียลูกค้าเดิมที่อาจมองว่า ARM กลายเป็นคู่แข่ง แต่ ARM ก็มีจุดแข็งจากประสบการณ์และการยอมรับในตลาด โดยเฉพาะในกลุ่ม hyperscaler เช่น AWS, Google, Microsoft ที่ใช้ชิป Neoverse ของ ARM ในระบบ AI ของตน ✅ ARM เตรียมพัฒนา Full-End Solutions สำหรับตลาด AI ➡️ รวมถึง chiplets, บอร์ด, และระบบคอมพิวเตอร์ครบชุด ➡️ เปลี่ยนจากโมเดล IP licensing ไปสู่การผลิตจริง ✅ CEO Rene Haas ยืนยันการลงทุนใน R&D และการสร้างชิปเอง ➡️ อาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึง $500 ล้านต่อชิป ➡️ ต้องเลือกโรงงานผลิตและจัดจำหน่ายเอง ✅ ARM มีฐานลูกค้าในตลาด AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ➡️ Neoverse CPU ถูกใช้ใน AWS Graviton, Google Axion, Microsoft Cobalt ➡️ คาดว่า 50% ของ CPU ใน data center จะใช้สถาปัตยกรรม ARM ภายในปีนี้ ✅ SoftBank เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ ARM และมีประวัติการลงทุนในโครงการเสี่ยง ➡️ เพิ่มความมั่นใจในการสนับสนุนแผนใหม่ของ ARM ➡️ เคยลงทุนหลายพันล้านในเทคโนโลยีล้ำสมัย ✅ ARM ไม่ได้ตั้งใจเป็นผู้ผลิตชิปเต็มรูปแบบ แต่จะสร้าง prototype เพื่อเร่งนวัตกรรมของลูกค้า ➡️ ใช้เป็นตัวอย่างเพื่อช่วยลูกค้าออกแบบชิปเฉพาะทาง ➡️ เน้นตลาด AI inference และ data center https://wccftech.com/arm-is-reportedly-exploring-full-end-solutions-for-the-ai-market/
    WCCFTECH.COM
    ARM Is Reportedly Exploring "Full-End" Solutions for the AI Market, Marking a Major Pivot from CPU IP Licensing to Competing with Mainstream Players Like AMD & Intel
    ARM is expected to make a pivot towards full-end solutions for its customers, creating its own chips to compete with Intel and AMD.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: “Neuralink GB-PRIME” เมื่อความคิดกลายเป็นเมาส์และคีย์บอร์ด

    Neuralink ประกาศเปิดตัวการทดลองทางคลินิกในสหราชอาณาจักรชื่อว่า “GB-PRIME” โดยร่วมมือกับ University College London Hospitals (UCLH) และ Newcastle Hospitals เพื่อทดสอบชิปสมอง N1 ที่สามารถแปลสัญญาณประสาทเป็นคำสั่งควบคุมอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟน

    ผู้เข้าร่วมต้องเป็นผู้ที่มีอาการอัมพาตรุนแรงจากโรค ALS หรือบาดเจ็บไขสันหลัง โดยชิปจะฝังเข้าไปในสมองผ่านหุ่นยนต์ R1 ที่สามารถวางเส้นใยอิเล็กโทรดบางกว่าผมมนุษย์กว่า 1,000 จุดในตำแหน่งที่แม่นยำ

    Neuralink ได้รับอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหราชอาณาจักร เช่น MHRA และ REC และเคยเริ่มทดลองในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2024 หลังจากผ่านการอนุมัติจาก FDA ซึ่งเคยปฏิเสธในปี 2022 ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย

    ล่าสุด Neuralink ระดมทุนได้ถึง $650 ล้านในรอบ Series E จากนักลงทุนชั้นนำ เช่น Sequoia, ARK Invest และ Founders Fund เพื่อขยายการทดลองและพัฒนาเทคโนโลยีให้ล้ำลึกยิ่งขึ้น

    Neuralink เปิดตัวการทดลอง GB-PRIME ในสหราชอาณาจักรเพื่อทดสอบชิปสมอง N1
    ร่วมมือกับ UCLH และ Newcastle Hospitals
    ใช้หุ่นยนต์ R1 ฝังเส้นใยอิเล็กโทรดบางเฉียบในสมอง

    ผู้เข้าร่วมต้องเป็นผู้ที่มีอัมพาตจาก ALS หรือบาดเจ็บไขสันหลัง
    ต้องมีอายุเกิน 22 ปี และไม่สามารถใช้มือทั้งสองข้างได้
    สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ Neuralink

    ชิป N1 สามารถแปลสัญญาณสมองเป็นคำสั่งควบคุมอุปกรณ์ดิจิทัล
    เช่น การเลื่อนเมาส์, พิมพ์ข้อความ, เล่นเกม
    ใช้แบตเตอรี่แบบไร้สายและไม่ต้องมีสายเชื่อมต่อภายนอก

    Neuralink เคยทดลองในสหรัฐอเมริกาและมีผู้ใช้จริงแล้ว 5 ราย
    ผู้ป่วยสามารถเล่นเกมหรือพิมพ์ข้อความด้วยความคิด
    มีการปรับปรุงซอฟต์แวร์เพื่อแก้ปัญหาเส้นใยหลุด

    บริษัทได้รับทุน $650 ล้าน ในเดือนมิถุนายน 2025 เพื่อขยายการทดลองและพัฒนาอุปกรณ์ใหม่
    นักลงทุนหลัก ได้แก่ Sequoia, ARK Invest, Founders Fund
    มูลค่าบริษัทอยู่ที่ประมาณ $9 พันล้าน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/31/musk039s-neuralink-to-launch-a-clinical-study-in-great-britain
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: “Neuralink GB-PRIME” เมื่อความคิดกลายเป็นเมาส์และคีย์บอร์ด Neuralink ประกาศเปิดตัวการทดลองทางคลินิกในสหราชอาณาจักรชื่อว่า “GB-PRIME” โดยร่วมมือกับ University College London Hospitals (UCLH) และ Newcastle Hospitals เพื่อทดสอบชิปสมอง N1 ที่สามารถแปลสัญญาณประสาทเป็นคำสั่งควบคุมอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟน ผู้เข้าร่วมต้องเป็นผู้ที่มีอาการอัมพาตรุนแรงจากโรค ALS หรือบาดเจ็บไขสันหลัง โดยชิปจะฝังเข้าไปในสมองผ่านหุ่นยนต์ R1 ที่สามารถวางเส้นใยอิเล็กโทรดบางกว่าผมมนุษย์กว่า 1,000 จุดในตำแหน่งที่แม่นยำ Neuralink ได้รับอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหราชอาณาจักร เช่น MHRA และ REC และเคยเริ่มทดลองในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2024 หลังจากผ่านการอนุมัติจาก FDA ซึ่งเคยปฏิเสธในปี 2022 ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ล่าสุด Neuralink ระดมทุนได้ถึง $650 ล้านในรอบ Series E จากนักลงทุนชั้นนำ เช่น Sequoia, ARK Invest และ Founders Fund เพื่อขยายการทดลองและพัฒนาเทคโนโลยีให้ล้ำลึกยิ่งขึ้น ✅ Neuralink เปิดตัวการทดลอง GB-PRIME ในสหราชอาณาจักรเพื่อทดสอบชิปสมอง N1 ➡️ ร่วมมือกับ UCLH และ Newcastle Hospitals ➡️ ใช้หุ่นยนต์ R1 ฝังเส้นใยอิเล็กโทรดบางเฉียบในสมอง ✅ ผู้เข้าร่วมต้องเป็นผู้ที่มีอัมพาตจาก ALS หรือบาดเจ็บไขสันหลัง ➡️ ต้องมีอายุเกิน 22 ปี และไม่สามารถใช้มือทั้งสองข้างได้ ➡️ สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ Neuralink ✅ ชิป N1 สามารถแปลสัญญาณสมองเป็นคำสั่งควบคุมอุปกรณ์ดิจิทัล ➡️ เช่น การเลื่อนเมาส์, พิมพ์ข้อความ, เล่นเกม ➡️ ใช้แบตเตอรี่แบบไร้สายและไม่ต้องมีสายเชื่อมต่อภายนอก ✅ Neuralink เคยทดลองในสหรัฐอเมริกาและมีผู้ใช้จริงแล้ว 5 ราย ➡️ ผู้ป่วยสามารถเล่นเกมหรือพิมพ์ข้อความด้วยความคิด ➡️ มีการปรับปรุงซอฟต์แวร์เพื่อแก้ปัญหาเส้นใยหลุด ✅ บริษัทได้รับทุน $650 ล้าน ในเดือนมิถุนายน 2025 เพื่อขยายการทดลองและพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ ➡️ นักลงทุนหลัก ได้แก่ Sequoia, ARK Invest, Founders Fund ➡️ มูลค่าบริษัทอยู่ที่ประมาณ $9 พันล้าน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/31/musk039s-neuralink-to-launch-a-clinical-study-in-great-britain
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Musk's Neuralink to test brain chips in clinical study in Great Britain
    (Reuters) - Elon Musk's brain implant company Neuralink said on Thursday it will launch a clinical study in Great Britain to test how its chips can enable patients with severe paralysis to control digital and physical tools with their thoughts.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • การล่าทรัพยากรรุ่นใหม่ แม้ไม่ได้เน้นการใช้กำลังทหารยึดครองดินแดน ก็ต้องแน่ใจว่าประเทศเป้า หมาย อยู่ในกำมือแน่นอน ไม่มีนักล่าต่างพวกมาแย่งไปจากปากอเมริกา นักล่ารุ่นใหม่ในฐานะพี่เบิ้ม ถักตาข่ายมาคลุมสมันน้อยไทยแลนด์ ด้านเศรษฐกิจแล้ว แค่นั้นไม่พอ มันต้องคุมการเมือง การทหารด้วย มันถึงจะอยู่หมัด (มาถึงแล้วไง เรื่องความมั่นคง)

    สงครามอินโดจีนเริ่มต้น เมื่อปี พ.ศ.2490 (ค.ศ.1947) เริ่มจากมวยคู่แรกระหว่างเวียตนามกับฝรั่งเศส

    แต่เค้าลางน่ะ มันมีมาก่อนแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2482 (ค.ศ.1939) เวียตนามซึ่งตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสมากว่า 50 ปี ชักจะทนเหม็นเขียวฝรั่งกร่างไม่ไหว ลุงโฮจึงพยายามปลุกชาวญวนให้ตื่น ขยับตัวขยับขาให้พ้นจักกะแร้ฝรั่ง

    อย่าลืมว่า อังกฤษ ฝรั่งเศส อเมริกา นั้นเกาะกลุ่มกันแน่น แม้ภาพข้างนอก บางครั้งเหมือนจะแย่งกระดูกกันเอง แต่มันเป็นเพียงแค่ละครตบตา

    ของจริง 3 ชาตินี่มันเป็น 3 เกลอหัวแข็งต้นแบบ ทำเป็นทะเลาะตีหัวกันไปมา แต่มันก็หากินด้วยกัน แบ่งกระดูกกันมาตลอด ไม่แบ่งได้ยังไง ย้อนไปดูประวัติศาสตร์อังกฤษกับฝรั่งเศส เดี๋ยวมันก็รบกัน เดี๋ยวมันก็จับลูกสาว ลูกชายให้แต่งงานกัน มันก็เรื่องในครอบครัวเขานั่นแหละ

    ส่วนอเมริกาเศรษฐีใหม่ มาจากไหน ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกไอริช อพยพมาหากินในแผ่นที่เพิ่งค้นพบใหม่ เพราะทนอดอยากอยู่ที่เดิมไม่ไหว ถูกอังกฤษข่มเหงให้กินแต่ของเหลือเดน ดังนั้น ถึงจะเป็นไม้เบื่อของอังกฤษ แต่ก็อยู่ในอวยของอังกฤษอยู่ดี จึงไม่แปลกที่อังกฤษ จะมองอเมริกาเป็นลูกไล่อยู่ตลอดเวลา ขู่ฝ่อใส่มาตั้งแต่สงครามกลางเมืองแล้ว ทุกวันนี้อเมริกันแถวนิวยอร์ค ยังแต่งสีเขียวฉลองวันเซนต์ แพรทริกอยู่เลย ราชวงศ์เคนเนดีก็มาจากแถวนี้แหละ ดูจากท่าทางนายโทนี่ แบลร์ ตอนอยู่กับนายบุช ตัวลูก แล้วก็คงพอเข้าใจกันนะ แล้วจะกล้าไปหือ กับเขาได้ไง มีแต่อือ อือ อย่างเดียว

    แล้วฝรั่งเศสล่ะ คนอื่นไกลกันที่ไหน ทางใต้ของอเมริกาน่ะ ใครมีอิทธิพล นิวออร์ลีน น่ะมาจากภาษาฝรั่งเศสนะ ไม่ใช่ ภาษาอินเดียนแดง ดังนั้นเมื่อฝรั่งเศสเริ่มเดือดร้อนในการปกครองเวียตนาม เพราะลุงโฮเริ่มเอาจริงตั้งแต่ปี พ.ศ.2482 (ค.ศ.1939) สามเกลอหัวแข็ง ก็คิดหนัก เดี๋ยวพวกขี้ข้าเมืองขึ้นทั้ง หลาย มันจะเอาอย่างกันหมด อย่ากระนั้นเลย จำเป็นต้องตัดไฟแต่หัวลม เราจงร่วมกันสร้างผี ให้พวกมันกลัวซักตัว มันจะได้ไม่กล้าไปจากอ้อมจักกะแร้เหม็นเขียวของพวกเรา

    บัดนั้นเอง ผีคอมมิวนิสต์ ก็ถูกสร้าง ถูกปลุกไปทั่วแถบอินโดจีน ต่างอะไรกับการปลุกประชาธิปไตยสมัยนี้ ในประเทศที่อุดมด้วยทรัพยากร แต่ไม่อุดมปัญญา

    ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นบุกเข้าเวียตนามและยึดได้ ในปี พ.ศ.2483 (ค.ศ.1940) ยึดไว้ในกำมือไม่

    พอ ประกาศยกเลิกการปกครองโดยฝรั่งเศส ไล่ไอ้พวกหัวทองจักกะแร้เหม็นออกไป (แหม! ญี่ปุ่นก็เข็ดฝรั่งเหมือนกันนะ โชกุนน่ะ โดนอเมริกาเล่นชะงอมหล่นเหมือนกัน ซามูไรจะไปสู้กับเรือปืนไหวหรือ)

    อย่างที่บอก ขบวนการลุงโฮเกิดขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1939 ดังนั้นพอญี่ปุ่นยึดเวียตนาม สามเกลอหัวแข็ง ก็วางแผนยุและสนับสนุนขบวนการลุงโฮ ให้ไปสู้กับญี่ปุ่น ใช้ไปจิกกระดูก ออกมาจากปากญี่ปุ่นแทนพวกตัว… ลุงโฮฉลาดล้ำ รับแผนไปปฏิบัติตามทันที แต่มันพลิกล็อก ตอนที่ลุงโฮไล่ญี่ปุ่นออกไปแล้ว แทนที่ลุงแกจะคืนกระดูกให้ฝรั่ง แกกลับเก็บกระดูกไว้ แล้วดัดหลัง 3 เกลอหัวแข็งอีกต่อ

    ลุงโฮประกาศแยกเวียดมินห์ ออกจากเวียตนาม ในปี พ.ศ.2489 (ค.ศ.1946) หลังจากควันสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังไม่ทันจะจางดี …ฝรั่งหงายท้องผลึ่ง โอ้พระเจ้าจอร์จ ยูทำได้งัยเนี่ย เรียกได้ว่ากำลังสำคัญ ที่สนับสนุนให้ เวียตมินห์เติบโต ก็คืออเมริกา ภายใต้การกำกับของกลุ่มสามเกลอหัวแข็ง อืม โลกนี้มันสลับซับซ้อนแยะกว่าที่คิดนะโยม

    พ.ศ.2490 (ค.ศ.1947) พี่เบิ้มทำเป็นตกกะใจ ว้ายตาเถร ดันติดดาบให้ยักษ์ ติดอาวุธให้ศัตรู เวียตมินห์เริ่มขยายแนวร่วม ดอกไม้แห่งเสรีภาพขยายพันธ์อย่างรวดเร็ว

    อเมริกาจึงประกาศขยายนโยบายปิดกั้น (Containment) การแพร่พันธุ์ของระบอบคอมมิวนิสต์ ซึ่งกำลังขยายตัวอยู่ในแถบรัสเซียข้ามโลกมาถึงจีน และอินโดจีนด้วย…. พญาอินทรีสยายปีกแล้ว

    นี่มันเอาหนังเก่ามา ฉายใหม่นี่หว่า จำได้ไหมครับ สมัยรัชกาลที่ 4 ต่อรัชกาลที่ 5 ฝรั่งเศสกับอังกฤษ มันเล่นป่าหี่กันจะยึดไทย ไทยพยายามถ่วงดุลระหว่าง 2 ประเทศ พระเจ้าแผ่นดินทั้ง 2 พระองค์ต้องใช้พระปรีชาสามารถอย่างสูง ในการดำเนินวิธีการทูตถ่วงดุล 2 ประเทศอยู่นาน มาฝีแตกเอา ร.ศ.112 (ประวัติศาสตร์ตอนนี้ยาวขอติดไว้เล่าวันหลังนะ แต่ต้องรู้เพราะมันต่อเนื่องกับปัจจุบัน ก็บอกแล้ว ถ้าไม่รู้ว่า ต้นไม้ต้นใดเป็นพิษ จะรู้ได้ได้ไงว่าลูกมันกินอร่อย หรือกินแล้วเด็ดสะมอเร่)

    กลับไปดูภูมิศาสตร์กันหน่อย ประเทศไทยตั้งอยู่ตรงไหน ข้างซ้ายของไทยเป็นพม่า ติดพม่าขึ้นไปทางเหนือเป็นลาว ย้ายมาด้านขวาหน่อยเป็นญวนและเขมร กระจุกประเทศแถบนี้ อยู่ใต้มณฑลยูนานของจีน ซึ่งเป็นประตูทางเข้าที่สำคัญของจีน ที่เขาเรียกกันว่า (Soft Belly) ท้องน้อยของจีน น่ารักนะ

    ยูนาน เป็นมณฑลที่อุดมสมบูรณ์มาก ในน้ำมีปลาในนามีข้าว ป่าไม้ แร่ธาตุ โอ้ย ! อุดมไปหมด ภัยธรรมชาติก็ไม่มี น้ำไหลทั้งปี ใครๆ ก็อยากได้

    ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ที่ 5 ทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษ ก็เล็งเข้าจีนทางยูนาน อังกฤษวางแผนจะเข้าผ่านทางพม่า ฝรั่งเศสจะเข้าผ่านทางลาว ญวน และเขมร ฝรั่งเศสจึงตีเขมรก่อน เพื่อขึ้นไปล้อมญวน แต่ลาวนั้นยังขึ้นอยู่กับไทยในช่วงนั้น มันถึงหาเรื่องทะเลาะกับไทย เพื่อจะเอาลาว เหตุการณ์ ร.ศ.112 ก็มาจากเรื่องนี้แหละ เล่าย่อไว้ก่อนนะ จนแล้วจนรอดก็กินไทยไม่ได้เต็มที่ มันถึงฝังใจมาถึงเดี๋ยวนี้ไง โน้น! เขาพระวิหารมา

    รำไรเกี่ยวกันไหมหนอ

    พอเห็นไหมครับ ทำไมประเทศรอบบ้านเราตกเป็นอาณานิคมของไอ้ 2 เกลอ แล้วทำไมมันถึงตามบี้เราจนทุกวันนี้ ทุกอย่างมันต่อเนื่องกัน สงสัยต้องหัดเล่นจิกซอว์ จะได้มองเห็นภาพรวมชัด พม่าเสียเมืองให้อังกฤษในปี พ.ศ.2428 (ค.ศ.1875) ส่วนญวน เขมรและลาว ก็ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส ในปี พ.ศ.2401, พ.ศ.2426, พ.ศ.2436 ตามลำดับ

    เมื่อเราเป็นประเทศที่เป็นปากทางเข้าจีน และคอมมิวนิสต์ก็กำลังเริ่มบานเบิกอยู่ที่จีนและกำลังลามมาเวียตนาม แล้วนี้ถ้ามันลาม มาทั้งอินโดจีน จะทำยังไง สามเกลอหัวแข็งเริ่มเกาหัว ไอ้ประเทศแถวนี้ (ยกเว้นไทยแลนด์) มันก็ขี้ข้าเก่าเราทั้งนั้น ถึงให้เอกราชมันไปแล้ว แต่มันก็ยังกุมเป้าเวลาพูดกับเรา เรายังพอจิกหัวมันใช้ได้ จะปล่อยให้คนอื่นมางาบต่อไปได้ยังไง ว่าแล้ว สามเกลอก็เซ็นใบมอบอำนาจแบบเด็ดขาดให้อเมริกา

    ยูไปจัดการเอาให้อยู่หมัดเลยนะ ไทยแลนด์น่ะรอดปากพวกเรามาหลายหนแล้ว ครั้งนี้อย่าให้พลาดนะ!

    อเมริกาออกข่าวทั้งทางตรงและทางอ้อมว่า ไทยเป็นประเทศที่มีความสำคัญ ที่อเมริกาต้องการใช้เป็นฐาน ในการปฏิบัติการปิดกั้นระบอบคอมมิวนิสต์ ในอินโดจีน เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ของไทย (ทฤษฎีโดมิโนไง)

    ไอ้ที่ออกข่าวมันก็ อีหรอบเดิม ใช้เป็นหน้าฉากของการล่าครั้งสำคัญ ครั้งนี้เขาเขียนบทไว้ยาว เล่นกันนาน สมันน้อยจะรู้ทันไหมหนอ ไม่เคยจำซะทีว่า ไอ้พวกสามเกลอหัวแข็งมันเล่นตลกเก่ง เปลี่ยนฉาก สลับกันตีหัว แล้วก็ไอ้วิธีการแบบนี้น่ะ จำไว้ให้ดีนะ สมันน้อย มันกำลังจะกลับมาใช้เล่นอีก

    เมื่อออกข่าวหัวสีไปแล้ว ที่นี้ก็ส่งพนักงานเดินสารระดับรองประธานาธิบดี มากล่อมนายกรัฐมนตรีของสมันน้อยต่อ (ตอนนั้น จอมพลคนแปลก ใส่หมวกแล้ว ทำให้ชาติเจริญ เป็นนายกรัฐมนตรี) บอกว่า ไอ้พวกคอมมี่มันมาใกล้บ้านยูแล้วนะ อย่าทำเป็นเล่นไป แต่ยูไม่ต้องห่วงหรอก ไอเห็นใจยู ไอจะเลี้ยงดู เอ๊ย ดูแลไทยอย่างดี หาเงินกู้ให้ยู (พี่เบิ้มใจป้ำมากนะ!) ไปพัฒนาประเทศ และกองทัพให้แข็งแรง ยูจะได้สู้กับคอมมี่ได้ไงล่ะ

    นู้น อยู่กันคนละซีกโลก อยู่ดีๆก็จะมาช่วยไทยรบกับคอมมี่ ไม่สงสัยกันบ้างเหรอว่าทำไมพี่เบิ้มใจดีอย่างนี้

    แล้วพี่เบิ้มก็จัดการให้ไทยกู้เงินจากธนาคารโลก (World Bank) และ IBRD ก้อนใหญ่ซึ่งแน่นอน มีเงื่อนไขที่พี่เขาวางไว้ แบบกับดักสมันน้อยติดมาเพียบ (ไม่ต่างกับยุครัฐบาลชวน กู้เงิน IMF เลยนะ ฟังนิทานไปเรื่อย ๆ ไปเดี๋ยวถึงบางอ้อเอง) แต่พี่เบิ้มเขาเก่ง กลัวไทยแลนด์ไม่สบายใจ ก็เพิ่งจีบกันใหม่ๆน่ะ เขาก็เลยแถมเงินช่วยเหลือทางทหารจาก USOM, USAID, JUSMAC ติดไม้ติดมือมาให้นิดหน่อย แค่นี้พี่ไทยสมันน้อยก็อ่อนระทวย มันก็เป็นยังงี้แหละ ใครเขาเอาเงินมาล่อ ก็รีบรับของเขา ไม่คิดอะไรมาก เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่

    เฮ้อ! แล้วมันจะเหลือเหรอ ไทยแลนด์ สยามเมืองยิ้มของเราน่ะ…


    คนเล่านิทาน
    การล่าทรัพยากรรุ่นใหม่ แม้ไม่ได้เน้นการใช้กำลังทหารยึดครองดินแดน ก็ต้องแน่ใจว่าประเทศเป้า หมาย อยู่ในกำมือแน่นอน ไม่มีนักล่าต่างพวกมาแย่งไปจากปากอเมริกา นักล่ารุ่นใหม่ในฐานะพี่เบิ้ม ถักตาข่ายมาคลุมสมันน้อยไทยแลนด์ ด้านเศรษฐกิจแล้ว แค่นั้นไม่พอ มันต้องคุมการเมือง การทหารด้วย มันถึงจะอยู่หมัด (มาถึงแล้วไง เรื่องความมั่นคง) สงครามอินโดจีนเริ่มต้น เมื่อปี พ.ศ.2490 (ค.ศ.1947) เริ่มจากมวยคู่แรกระหว่างเวียตนามกับฝรั่งเศส แต่เค้าลางน่ะ มันมีมาก่อนแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2482 (ค.ศ.1939) เวียตนามซึ่งตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสมากว่า 50 ปี ชักจะทนเหม็นเขียวฝรั่งกร่างไม่ไหว ลุงโฮจึงพยายามปลุกชาวญวนให้ตื่น ขยับตัวขยับขาให้พ้นจักกะแร้ฝรั่ง อย่าลืมว่า อังกฤษ ฝรั่งเศส อเมริกา นั้นเกาะกลุ่มกันแน่น แม้ภาพข้างนอก บางครั้งเหมือนจะแย่งกระดูกกันเอง แต่มันเป็นเพียงแค่ละครตบตา ของจริง 3 ชาตินี่มันเป็น 3 เกลอหัวแข็งต้นแบบ ทำเป็นทะเลาะตีหัวกันไปมา แต่มันก็หากินด้วยกัน แบ่งกระดูกกันมาตลอด ไม่แบ่งได้ยังไง ย้อนไปดูประวัติศาสตร์อังกฤษกับฝรั่งเศส เดี๋ยวมันก็รบกัน เดี๋ยวมันก็จับลูกสาว ลูกชายให้แต่งงานกัน มันก็เรื่องในครอบครัวเขานั่นแหละ ส่วนอเมริกาเศรษฐีใหม่ มาจากไหน ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกไอริช อพยพมาหากินในแผ่นที่เพิ่งค้นพบใหม่ เพราะทนอดอยากอยู่ที่เดิมไม่ไหว ถูกอังกฤษข่มเหงให้กินแต่ของเหลือเดน ดังนั้น ถึงจะเป็นไม้เบื่อของอังกฤษ แต่ก็อยู่ในอวยของอังกฤษอยู่ดี จึงไม่แปลกที่อังกฤษ จะมองอเมริกาเป็นลูกไล่อยู่ตลอดเวลา ขู่ฝ่อใส่มาตั้งแต่สงครามกลางเมืองแล้ว ทุกวันนี้อเมริกันแถวนิวยอร์ค ยังแต่งสีเขียวฉลองวันเซนต์ แพรทริกอยู่เลย ราชวงศ์เคนเนดีก็มาจากแถวนี้แหละ ดูจากท่าทางนายโทนี่ แบลร์ ตอนอยู่กับนายบุช ตัวลูก แล้วก็คงพอเข้าใจกันนะ แล้วจะกล้าไปหือ กับเขาได้ไง มีแต่อือ อือ อย่างเดียว แล้วฝรั่งเศสล่ะ คนอื่นไกลกันที่ไหน ทางใต้ของอเมริกาน่ะ ใครมีอิทธิพล นิวออร์ลีน น่ะมาจากภาษาฝรั่งเศสนะ ไม่ใช่ ภาษาอินเดียนแดง ดังนั้นเมื่อฝรั่งเศสเริ่มเดือดร้อนในการปกครองเวียตนาม เพราะลุงโฮเริ่มเอาจริงตั้งแต่ปี พ.ศ.2482 (ค.ศ.1939) สามเกลอหัวแข็ง ก็คิดหนัก เดี๋ยวพวกขี้ข้าเมืองขึ้นทั้ง หลาย มันจะเอาอย่างกันหมด อย่ากระนั้นเลย จำเป็นต้องตัดไฟแต่หัวลม เราจงร่วมกันสร้างผี ให้พวกมันกลัวซักตัว มันจะได้ไม่กล้าไปจากอ้อมจักกะแร้เหม็นเขียวของพวกเรา บัดนั้นเอง ผีคอมมิวนิสต์ ก็ถูกสร้าง ถูกปลุกไปทั่วแถบอินโดจีน ต่างอะไรกับการปลุกประชาธิปไตยสมัยนี้ ในประเทศที่อุดมด้วยทรัพยากร แต่ไม่อุดมปัญญา ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นบุกเข้าเวียตนามและยึดได้ ในปี พ.ศ.2483 (ค.ศ.1940) ยึดไว้ในกำมือไม่ พอ ประกาศยกเลิกการปกครองโดยฝรั่งเศส ไล่ไอ้พวกหัวทองจักกะแร้เหม็นออกไป (แหม! ญี่ปุ่นก็เข็ดฝรั่งเหมือนกันนะ โชกุนน่ะ โดนอเมริกาเล่นชะงอมหล่นเหมือนกัน ซามูไรจะไปสู้กับเรือปืนไหวหรือ) อย่างที่บอก ขบวนการลุงโฮเกิดขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1939 ดังนั้นพอญี่ปุ่นยึดเวียตนาม สามเกลอหัวแข็ง ก็วางแผนยุและสนับสนุนขบวนการลุงโฮ ให้ไปสู้กับญี่ปุ่น ใช้ไปจิกกระดูก ออกมาจากปากญี่ปุ่นแทนพวกตัว… ลุงโฮฉลาดล้ำ รับแผนไปปฏิบัติตามทันที แต่มันพลิกล็อก ตอนที่ลุงโฮไล่ญี่ปุ่นออกไปแล้ว แทนที่ลุงแกจะคืนกระดูกให้ฝรั่ง แกกลับเก็บกระดูกไว้ แล้วดัดหลัง 3 เกลอหัวแข็งอีกต่อ ลุงโฮประกาศแยกเวียดมินห์ ออกจากเวียตนาม ในปี พ.ศ.2489 (ค.ศ.1946) หลังจากควันสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังไม่ทันจะจางดี …ฝรั่งหงายท้องผลึ่ง โอ้พระเจ้าจอร์จ ยูทำได้งัยเนี่ย เรียกได้ว่ากำลังสำคัญ ที่สนับสนุนให้ เวียตมินห์เติบโต ก็คืออเมริกา ภายใต้การกำกับของกลุ่มสามเกลอหัวแข็ง อืม โลกนี้มันสลับซับซ้อนแยะกว่าที่คิดนะโยม พ.ศ.2490 (ค.ศ.1947) พี่เบิ้มทำเป็นตกกะใจ ว้ายตาเถร ดันติดดาบให้ยักษ์ ติดอาวุธให้ศัตรู เวียตมินห์เริ่มขยายแนวร่วม ดอกไม้แห่งเสรีภาพขยายพันธ์อย่างรวดเร็ว อเมริกาจึงประกาศขยายนโยบายปิดกั้น (Containment) การแพร่พันธุ์ของระบอบคอมมิวนิสต์ ซึ่งกำลังขยายตัวอยู่ในแถบรัสเซียข้ามโลกมาถึงจีน และอินโดจีนด้วย…. พญาอินทรีสยายปีกแล้ว นี่มันเอาหนังเก่ามา ฉายใหม่นี่หว่า จำได้ไหมครับ สมัยรัชกาลที่ 4 ต่อรัชกาลที่ 5 ฝรั่งเศสกับอังกฤษ มันเล่นป่าหี่กันจะยึดไทย ไทยพยายามถ่วงดุลระหว่าง 2 ประเทศ พระเจ้าแผ่นดินทั้ง 2 พระองค์ต้องใช้พระปรีชาสามารถอย่างสูง ในการดำเนินวิธีการทูตถ่วงดุล 2 ประเทศอยู่นาน มาฝีแตกเอา ร.ศ.112 (ประวัติศาสตร์ตอนนี้ยาวขอติดไว้เล่าวันหลังนะ แต่ต้องรู้เพราะมันต่อเนื่องกับปัจจุบัน ก็บอกแล้ว ถ้าไม่รู้ว่า ต้นไม้ต้นใดเป็นพิษ จะรู้ได้ได้ไงว่าลูกมันกินอร่อย หรือกินแล้วเด็ดสะมอเร่) กลับไปดูภูมิศาสตร์กันหน่อย ประเทศไทยตั้งอยู่ตรงไหน ข้างซ้ายของไทยเป็นพม่า ติดพม่าขึ้นไปทางเหนือเป็นลาว ย้ายมาด้านขวาหน่อยเป็นญวนและเขมร กระจุกประเทศแถบนี้ อยู่ใต้มณฑลยูนานของจีน ซึ่งเป็นประตูทางเข้าที่สำคัญของจีน ที่เขาเรียกกันว่า (Soft Belly) ท้องน้อยของจีน น่ารักนะ ยูนาน เป็นมณฑลที่อุดมสมบูรณ์มาก ในน้ำมีปลาในนามีข้าว ป่าไม้ แร่ธาตุ โอ้ย ! อุดมไปหมด ภัยธรรมชาติก็ไม่มี น้ำไหลทั้งปี ใครๆ ก็อยากได้ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ที่ 5 ทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษ ก็เล็งเข้าจีนทางยูนาน อังกฤษวางแผนจะเข้าผ่านทางพม่า ฝรั่งเศสจะเข้าผ่านทางลาว ญวน และเขมร ฝรั่งเศสจึงตีเขมรก่อน เพื่อขึ้นไปล้อมญวน แต่ลาวนั้นยังขึ้นอยู่กับไทยในช่วงนั้น มันถึงหาเรื่องทะเลาะกับไทย เพื่อจะเอาลาว เหตุการณ์ ร.ศ.112 ก็มาจากเรื่องนี้แหละ เล่าย่อไว้ก่อนนะ จนแล้วจนรอดก็กินไทยไม่ได้เต็มที่ มันถึงฝังใจมาถึงเดี๋ยวนี้ไง โน้น! เขาพระวิหารมา รำไรเกี่ยวกันไหมหนอ พอเห็นไหมครับ ทำไมประเทศรอบบ้านเราตกเป็นอาณานิคมของไอ้ 2 เกลอ แล้วทำไมมันถึงตามบี้เราจนทุกวันนี้ ทุกอย่างมันต่อเนื่องกัน สงสัยต้องหัดเล่นจิกซอว์ จะได้มองเห็นภาพรวมชัด พม่าเสียเมืองให้อังกฤษในปี พ.ศ.2428 (ค.ศ.1875) ส่วนญวน เขมรและลาว ก็ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส ในปี พ.ศ.2401, พ.ศ.2426, พ.ศ.2436 ตามลำดับ เมื่อเราเป็นประเทศที่เป็นปากทางเข้าจีน และคอมมิวนิสต์ก็กำลังเริ่มบานเบิกอยู่ที่จีนและกำลังลามมาเวียตนาม แล้วนี้ถ้ามันลาม มาทั้งอินโดจีน จะทำยังไง สามเกลอหัวแข็งเริ่มเกาหัว ไอ้ประเทศแถวนี้ (ยกเว้นไทยแลนด์) มันก็ขี้ข้าเก่าเราทั้งนั้น ถึงให้เอกราชมันไปแล้ว แต่มันก็ยังกุมเป้าเวลาพูดกับเรา เรายังพอจิกหัวมันใช้ได้ จะปล่อยให้คนอื่นมางาบต่อไปได้ยังไง ว่าแล้ว สามเกลอก็เซ็นใบมอบอำนาจแบบเด็ดขาดให้อเมริกา ยูไปจัดการเอาให้อยู่หมัดเลยนะ ไทยแลนด์น่ะรอดปากพวกเรามาหลายหนแล้ว ครั้งนี้อย่าให้พลาดนะ! อเมริกาออกข่าวทั้งทางตรงและทางอ้อมว่า ไทยเป็นประเทศที่มีความสำคัญ ที่อเมริกาต้องการใช้เป็นฐาน ในการปฏิบัติการปิดกั้นระบอบคอมมิวนิสต์ ในอินโดจีน เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ของไทย (ทฤษฎีโดมิโนไง) ไอ้ที่ออกข่าวมันก็ อีหรอบเดิม ใช้เป็นหน้าฉากของการล่าครั้งสำคัญ ครั้งนี้เขาเขียนบทไว้ยาว เล่นกันนาน สมันน้อยจะรู้ทันไหมหนอ ไม่เคยจำซะทีว่า ไอ้พวกสามเกลอหัวแข็งมันเล่นตลกเก่ง เปลี่ยนฉาก สลับกันตีหัว แล้วก็ไอ้วิธีการแบบนี้น่ะ จำไว้ให้ดีนะ สมันน้อย มันกำลังจะกลับมาใช้เล่นอีก เมื่อออกข่าวหัวสีไปแล้ว ที่นี้ก็ส่งพนักงานเดินสารระดับรองประธานาธิบดี มากล่อมนายกรัฐมนตรีของสมันน้อยต่อ (ตอนนั้น จอมพลคนแปลก ใส่หมวกแล้ว ทำให้ชาติเจริญ เป็นนายกรัฐมนตรี) บอกว่า ไอ้พวกคอมมี่มันมาใกล้บ้านยูแล้วนะ อย่าทำเป็นเล่นไป แต่ยูไม่ต้องห่วงหรอก ไอเห็นใจยู ไอจะเลี้ยงดู เอ๊ย ดูแลไทยอย่างดี หาเงินกู้ให้ยู (พี่เบิ้มใจป้ำมากนะ!) ไปพัฒนาประเทศ และกองทัพให้แข็งแรง ยูจะได้สู้กับคอมมี่ได้ไงล่ะ นู้น อยู่กันคนละซีกโลก อยู่ดีๆก็จะมาช่วยไทยรบกับคอมมี่ ไม่สงสัยกันบ้างเหรอว่าทำไมพี่เบิ้มใจดีอย่างนี้ แล้วพี่เบิ้มก็จัดการให้ไทยกู้เงินจากธนาคารโลก (World Bank) และ IBRD ก้อนใหญ่ซึ่งแน่นอน มีเงื่อนไขที่พี่เขาวางไว้ แบบกับดักสมันน้อยติดมาเพียบ (ไม่ต่างกับยุครัฐบาลชวน กู้เงิน IMF เลยนะ ฟังนิทานไปเรื่อย ๆ ไปเดี๋ยวถึงบางอ้อเอง) แต่พี่เบิ้มเขาเก่ง กลัวไทยแลนด์ไม่สบายใจ ก็เพิ่งจีบกันใหม่ๆน่ะ เขาก็เลยแถมเงินช่วยเหลือทางทหารจาก USOM, USAID, JUSMAC ติดไม้ติดมือมาให้นิดหน่อย แค่นี้พี่ไทยสมันน้อยก็อ่อนระทวย มันก็เป็นยังงี้แหละ ใครเขาเอาเงินมาล่อ ก็รีบรับของเขา ไม่คิดอะไรมาก เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ เฮ้อ! แล้วมันจะเหลือเหรอ ไทยแลนด์ สยามเมืองยิ้มของเราน่ะ… คนเล่านิทาน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากห้องแล็บจีน: Zhaoxin กับภารกิจไล่ตาม AMD ด้วย KH-50000 และ KX-7000N

    Zhaoxin เปิดตัวสองโปรเซสเซอร์ใหม่ในงาน WAIC 2025 ได้แก่:
    - Kaisheng KH-50000 สำหรับเซิร์ฟเวอร์ระดับสูง
    - KaiXian KX-7000N สำหรับ AI PC ที่มี NPU ในตัว

    KH-50000 เป็นรุ่นต่อยอดจาก KH-40000 โดยเพิ่มจำนวนคอร์จาก 32 เป็น 96 คอร์ พร้อม L3 cache ขนาด 384MB เทียบเท่ากับ AMD EPYC Genoa และรองรับ 128 PCIe 5.0 lanes กับหน่วยความจำ DDR5 แบบ 12-channel ECC

    แม้ Zhaoxin ยังไม่เปิดเผยสถาปัตยกรรมใหม่ที่ใช้ แต่จากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสเปกและฟีเจอร์ คาดว่า KH-50000 ใช้สถาปัตยกรรมใหม่แทน Yongfeng เดิม และรองรับการเชื่อมต่อหลายซ็อกเก็ตผ่าน ZPI 5.0 ทำให้สามารถสร้างระบบที่มีสูงสุด 384 คอร์ได้

    ในฝั่งผู้บริโภค KX-7000N ถือเป็นชิปแรกของ Zhaoxin ที่มี NPU สำหรับงาน AI โดยอัปเกรดจาก PCIe 4.0 เป็น 5.0 และเพิ่มจำนวนคอร์จากรุ่นเดิม แม้ยังไม่เปิดเผยตัวเลขแน่ชัด

    Zhaoxin เปิดตัว KH-50000 สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ KX-7000N สำหรับ AI PC
    เปิดตัวในงาน WAIC 2025
    เป็นก้าวสำคัญของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก

    KH-50000 มี 96 คอร์, L3 cache 384MB, รองรับ 128 PCIe 5.0 lanes และ DDR5 แบบ 12-channel
    เทียบเท่า AMD EPYC Genoa ในหลายด้าน
    รองรับ Compute Express Link (CXL) และ ZPI 5.0 สำหรับ multi-socket

    KH-50000 ใช้สถาปัตยกรรมใหม่ที่ยังไม่เปิดเผย
    ไม่ใช่ Yongfeng แบบรุ่นก่อน
    คาดว่าออกแบบใหม่เพื่อรองรับงาน HPC และ AI

    KX-7000N เป็นชิปแรกของ Zhaoxin ที่มี NPU สำหรับงาน AI
    อัปเกรดจาก PCIe 4.0 เป็น 5.0
    เพิ่มจำนวนคอร์จากรุ่น KX-7000 เดิม

    Zhaoxin ตั้งเป้าแข่งขันกับ AMD, Intel และ Nvidia ในอนาคต
    ยังไม่เทียบเท่าในด้านประสิทธิภาพ แต่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
    มุ่งสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยีของจีน

    KH-50000 ยังไม่ยืนยันว่ารองรับ simultaneous multithreading (SMT)
    อาจมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพต่อคอร์
    ยังไม่ชัดเจนว่ารองรับ workload แบบ multi-thread ได้ดีแค่ไหน

    ยังไม่มีข้อมูลด้านประสิทธิภาพจริงหรือ benchmark จาก Zhaoxin
    ไม่สามารถเปรียบเทียบกับ AMD หรือ Intel ได้อย่างแม่นยำ
    ต้องรอผลการทดสอบจากผู้ใช้งานจริง

    การพัฒนา NPU ใน KX-7000N ยังไม่มีข้อมูลด้านซอฟต์แวร์หรือ ecosystem รองรับ
    อาจมีข้อจำกัดในการใช้งาน AI บนเดสก์ท็อป
    ต้องพึ่งพาการพัฒนา framework และ driver เพิ่มเติม

    การผลิตและวางจำหน่ายยังไม่มีกำหนดแน่ชัด
    อาจล่าช้าหรือไม่สามารถผลิตได้ตามเป้า
    ส่งผลต่อการนำไปใช้งานในระดับองค์กรหรือผู้บริโภค

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/chinese-cpus-are-closing-the-gap-on-amd-next-gen-zhaoxin-chips-feature-96-cores-12-channel-ddr5-memory-and-128-pcie-5-0-lanes
    🧠 เรื่องเล่าจากห้องแล็บจีน: Zhaoxin กับภารกิจไล่ตาม AMD ด้วย KH-50000 และ KX-7000N Zhaoxin เปิดตัวสองโปรเซสเซอร์ใหม่ในงาน WAIC 2025 ได้แก่: - Kaisheng KH-50000 สำหรับเซิร์ฟเวอร์ระดับสูง - KaiXian KX-7000N สำหรับ AI PC ที่มี NPU ในตัว KH-50000 เป็นรุ่นต่อยอดจาก KH-40000 โดยเพิ่มจำนวนคอร์จาก 32 เป็น 96 คอร์ พร้อม L3 cache ขนาด 384MB เทียบเท่ากับ AMD EPYC Genoa และรองรับ 128 PCIe 5.0 lanes กับหน่วยความจำ DDR5 แบบ 12-channel ECC แม้ Zhaoxin ยังไม่เปิดเผยสถาปัตยกรรมใหม่ที่ใช้ แต่จากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสเปกและฟีเจอร์ คาดว่า KH-50000 ใช้สถาปัตยกรรมใหม่แทน Yongfeng เดิม และรองรับการเชื่อมต่อหลายซ็อกเก็ตผ่าน ZPI 5.0 ทำให้สามารถสร้างระบบที่มีสูงสุด 384 คอร์ได้ ในฝั่งผู้บริโภค KX-7000N ถือเป็นชิปแรกของ Zhaoxin ที่มี NPU สำหรับงาน AI โดยอัปเกรดจาก PCIe 4.0 เป็น 5.0 และเพิ่มจำนวนคอร์จากรุ่นเดิม แม้ยังไม่เปิดเผยตัวเลขแน่ชัด ✅ Zhaoxin เปิดตัว KH-50000 สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ KX-7000N สำหรับ AI PC ➡️ เปิดตัวในงาน WAIC 2025 ➡️ เป็นก้าวสำคัญของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก ✅ KH-50000 มี 96 คอร์, L3 cache 384MB, รองรับ 128 PCIe 5.0 lanes และ DDR5 แบบ 12-channel ➡️ เทียบเท่า AMD EPYC Genoa ในหลายด้าน ➡️ รองรับ Compute Express Link (CXL) และ ZPI 5.0 สำหรับ multi-socket ✅ KH-50000 ใช้สถาปัตยกรรมใหม่ที่ยังไม่เปิดเผย ➡️ ไม่ใช่ Yongfeng แบบรุ่นก่อน ➡️ คาดว่าออกแบบใหม่เพื่อรองรับงาน HPC และ AI ✅ KX-7000N เป็นชิปแรกของ Zhaoxin ที่มี NPU สำหรับงาน AI ➡️ อัปเกรดจาก PCIe 4.0 เป็น 5.0 ➡️ เพิ่มจำนวนคอร์จากรุ่น KX-7000 เดิม ✅ Zhaoxin ตั้งเป้าแข่งขันกับ AMD, Intel และ Nvidia ในอนาคต ➡️ ยังไม่เทียบเท่าในด้านประสิทธิภาพ แต่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ➡️ มุ่งสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยีของจีน ‼️ KH-50000 ยังไม่ยืนยันว่ารองรับ simultaneous multithreading (SMT) ⛔ อาจมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพต่อคอร์ ⛔ ยังไม่ชัดเจนว่ารองรับ workload แบบ multi-thread ได้ดีแค่ไหน ‼️ ยังไม่มีข้อมูลด้านประสิทธิภาพจริงหรือ benchmark จาก Zhaoxin ⛔ ไม่สามารถเปรียบเทียบกับ AMD หรือ Intel ได้อย่างแม่นยำ ⛔ ต้องรอผลการทดสอบจากผู้ใช้งานจริง ‼️ การพัฒนา NPU ใน KX-7000N ยังไม่มีข้อมูลด้านซอฟต์แวร์หรือ ecosystem รองรับ ⛔ อาจมีข้อจำกัดในการใช้งาน AI บนเดสก์ท็อป ⛔ ต้องพึ่งพาการพัฒนา framework และ driver เพิ่มเติม ‼️ การผลิตและวางจำหน่ายยังไม่มีกำหนดแน่ชัด ⛔ อาจล่าช้าหรือไม่สามารถผลิตได้ตามเป้า ⛔ ส่งผลต่อการนำไปใช้งานในระดับองค์กรหรือผู้บริโภค https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/chinese-cpus-are-closing-the-gap-on-amd-next-gen-zhaoxin-chips-feature-96-cores-12-channel-ddr5-memory-and-128-pcie-5-0-lanes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากอวกาศปลอม: เมื่อ Starlink ถูกแอบอ้างเพื่อหลอกเงินผู้บริโภค

    ช่วงกลางปี 2025 มีโฆษณาบน Facebook ที่อ้างว่าเสนอ “แพ็กเกจอินเทอร์เน็ต Starlink ตลอดชีพ” ในราคาเพียง $127 หรือแม้แต่ “แผนรายปี $67” พร้อมจานรับสัญญาณ Starlink Mini ฟรี ฟังดูคุ้มเกินจริงใช่ไหม? เพราะมันคือ “หลอกลวงเต็มรูปแบบ”2

    เมื่อผู้ใช้คลิกโฆษณา จะถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบหน้าตาและโลโก้ของ Starlink อย่างแนบเนียน เช่น “ministarnt.xyz” หรือ “starlinkoficial.com” ซึ่งใช้ภาพจริงและคำพูดจาก SpaceX เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

    เว็บไซต์เหล่านี้หลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตและที่อยู่จัดส่ง โดยไม่มีการส่งสินค้าใด ๆ หรือส่งอุปกรณ์ปลอมที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับดาวเทียมได้เลย บางรายยังถูกขโมยข้อมูลและพบธุรกรรมแปลก ๆ ในบัญชีธนาคารภายหลัง

    SpaceX เคยออกคำเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงลักษณะนี้ และย้ำว่าโปรโมชั่นจริงจะมีเฉพาะบนเว็บไซต์หรือบัญชีโซเชียลทางการเท่านั้น เช่น การแจกจานฟรีเมื่อสมัครใช้งาน 12 เดือน

    มีการหลอกลวงผ่าน Facebook โดยอ้างว่าเป็นแพ็กเกจ Starlink ตลอดชีพ
    ราคาเพียง $127 หรือ $67 ต่อปี พร้อมจาน Starlink Mini ฟรี
    ดูเหมือนถูกมากเมื่อเทียบกับค่าบริการจริงที่ $120 ต่อเดือน

    เว็บไซต์ปลอมเลียนแบบหน้าตา Starlink อย่างแนบเนียน
    ใช้ชื่อโดเมนคล้ายของจริง เช่น “starlinkoficial.com”
    มีโลโก้ ภาพสินค้า และคำพูดจาก SpaceX เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

    เมื่อผู้ใช้กรอกข้อมูล จะถูกขโมยเงินหรือข้อมูลส่วนตัว
    บางรายไม่ได้รับสินค้าเลย หรือได้อุปกรณ์ปลอมที่ใช้ไม่ได้
    พบธุรกรรมแปลก ๆ ในบัญชีหลังจากซื้อสินค้า

    SpaceX เคยออกคำเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงลักษณะนี้
    โปรโมชั่นจริงจะมีเฉพาะบนเว็บไซต์หรือบัญชีโซเชียลทางการ
    ตัวอย่างโปรจริง: แจกจานฟรีเมื่อสมัครใช้งาน 12 เดือน (มูลค่า $499)

    ผู้ใช้ทั่วโลกเริ่มร้องเรียนบนโซเชียลมีเดียตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
    PCMag พบหลายรูปแบบของโฆษณาหลอกลวงเมื่อค้นคำว่า “Starlink” บน Facebook

    วิธีตรวจสอบว่าโปรโมชั่นจริงหรือไม่
    เข้าเว็บไซต์ทางการของบริษัทเพื่อตรวจสอบ
    ตรวจสอบบัญชีโซเชียลมีเดียที่ได้รับการยืนยัน
    โทรสอบถามฝ่ายบริการลูกค้าโดยตรง

    https://www.techspot.com/news/108874-viral-lifetime-starlink-offer-facebook-total-scam.html
    🧠 เรื่องเล่าจากอวกาศปลอม: เมื่อ Starlink ถูกแอบอ้างเพื่อหลอกเงินผู้บริโภค ช่วงกลางปี 2025 มีโฆษณาบน Facebook ที่อ้างว่าเสนอ “แพ็กเกจอินเทอร์เน็ต Starlink ตลอดชีพ” ในราคาเพียง $127 หรือแม้แต่ “แผนรายปี $67” พร้อมจานรับสัญญาณ Starlink Mini ฟรี ฟังดูคุ้มเกินจริงใช่ไหม? เพราะมันคือ “หลอกลวงเต็มรูปแบบ”2 เมื่อผู้ใช้คลิกโฆษณา จะถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบหน้าตาและโลโก้ของ Starlink อย่างแนบเนียน เช่น “ministarnt.xyz” หรือ “starlinkoficial.com” ซึ่งใช้ภาพจริงและคำพูดจาก SpaceX เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เว็บไซต์เหล่านี้หลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตและที่อยู่จัดส่ง โดยไม่มีการส่งสินค้าใด ๆ หรือส่งอุปกรณ์ปลอมที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับดาวเทียมได้เลย บางรายยังถูกขโมยข้อมูลและพบธุรกรรมแปลก ๆ ในบัญชีธนาคารภายหลัง SpaceX เคยออกคำเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงลักษณะนี้ และย้ำว่าโปรโมชั่นจริงจะมีเฉพาะบนเว็บไซต์หรือบัญชีโซเชียลทางการเท่านั้น เช่น การแจกจานฟรีเมื่อสมัครใช้งาน 12 เดือน ✅ มีการหลอกลวงผ่าน Facebook โดยอ้างว่าเป็นแพ็กเกจ Starlink ตลอดชีพ ➡️ ราคาเพียง $127 หรือ $67 ต่อปี พร้อมจาน Starlink Mini ฟรี ➡️ ดูเหมือนถูกมากเมื่อเทียบกับค่าบริการจริงที่ $120 ต่อเดือน ✅ เว็บไซต์ปลอมเลียนแบบหน้าตา Starlink อย่างแนบเนียน ➡️ ใช้ชื่อโดเมนคล้ายของจริง เช่น “starlinkoficial.com” ➡️ มีโลโก้ ภาพสินค้า และคำพูดจาก SpaceX เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ✅ เมื่อผู้ใช้กรอกข้อมูล จะถูกขโมยเงินหรือข้อมูลส่วนตัว ➡️ บางรายไม่ได้รับสินค้าเลย หรือได้อุปกรณ์ปลอมที่ใช้ไม่ได้ ➡️ พบธุรกรรมแปลก ๆ ในบัญชีหลังจากซื้อสินค้า ✅ SpaceX เคยออกคำเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงลักษณะนี้ ➡️ โปรโมชั่นจริงจะมีเฉพาะบนเว็บไซต์หรือบัญชีโซเชียลทางการ ➡️ ตัวอย่างโปรจริง: แจกจานฟรีเมื่อสมัครใช้งาน 12 เดือน (มูลค่า $499) ✅ ผู้ใช้ทั่วโลกเริ่มร้องเรียนบนโซเชียลมีเดียตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ➡️ PCMag พบหลายรูปแบบของโฆษณาหลอกลวงเมื่อค้นคำว่า “Starlink” บน Facebook ✅ วิธีตรวจสอบว่าโปรโมชั่นจริงหรือไม่ ➡️ เข้าเว็บไซต์ทางการของบริษัทเพื่อตรวจสอบ ➡️ ตรวจสอบบัญชีโซเชียลมีเดียที่ได้รับการยืนยัน ➡️ โทรสอบถามฝ่ายบริการลูกค้าโดยตรง https://www.techspot.com/news/108874-viral-lifetime-starlink-offer-facebook-total-scam.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    That viral lifetime Starlink offer on Facebook is a total scam
    The latest scam making the rounds on Facebook promises a lifetime subscription to SpaceX's Starlink satellite Internet service for as low as $127 – roughly as much...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลวงตาสุจงานงอก พบคลิปโซเชียลไทย แห่ขอบคุณสายลับตาสุจ [31/7/68]
    (Thai social media thanks Thai spy named Ta Such)

    #หลวงตาสุจ #สายลับไทย #ขอบคุณสายลับ #สายลับตาสุจ #ไทยปลื้มตาสุจ #ข่าวดังโซเชียล #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #Hunsenfiredfirst #thaitimes #news1 #shorts #សូមកុំប្រាប់រឿងនេះជូនជនជាតិខ្មែរ។
    หลวงตาสุจงานงอก พบคลิปโซเชียลไทย แห่ขอบคุณสายลับตาสุจ [31/7/68] (Thai social media thanks Thai spy named Ta Such) #หลวงตาสุจ #สายลับไทย #ขอบคุณสายลับ #สายลับตาสุจ #ไทยปลื้มตาสุจ #ข่าวดังโซเชียล #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #Hunsenfiredfirst #thaitimes #news1 #shorts #សូមកុំប្រាប់រឿងនេះជូនជនជាតិខ្មែរ។
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 0 รีวิว
Pages Boosts