• Château Christophe ตอนที่ 6
    นิทานเรื่อง “Château Christophe”
    ตอนที่ 6 (ตอนจบ)
    ฝ่ายที่จู่โจมสถานกงสุลอเมริกันที่ Benghazi คาดเดากันว่าน่าจะเป็นพวกทหารอิสลาม แต่มันไม่น่าเชื่อว่า พวกเขาจะไม่รู้ว่า “ใคร” ที่อยู่ในบริเวณที่พวกเขาจัดการเผาจนเรียบวุธขนาดนั้น ถ้า Chris Stevens เป็นเป้าหมาย มันน่าจะง่ายกว่า ถ้าจะโจมตีขบวนรถเขาหรือชิงตัวเขาขณะออกไปวิ่งตอนเช้า หรือชิงตัวจากที่นัดพบและที่สำคัญ ฑูตอเมริกันที่มีชีวิตย่อมเป็นทรัพย์สินที่มีค่ามากกว่าฑูตที่ตายแล้ว
    แต่เพราะ Chris Stevens ถูกฆ่าตาย 56 วันก่อนมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี การตายเขาจึงกลายเป็นส่วนประกอบของฉากการเมือง ที่ทุกฝ่ายอยากเอาไปประกอบให้มีคะแนนเพิ่มขึ้น หรือเอาไปลดคะแนนคู่ต่อสู้
    รัฐบาล Obama ถูกวิจารณ์อย่างหนัก เมื่ออ้างในตอนแรกอย่างไม่มีน้ำหนักว่าการโจมตีสถานกงสุลเกิดขึ้นเพราะการประท้วงเรื่อง วีดีโอ แต่หลังจากนั้นประมาณเดือนตุลาคม เมื่อ New York Times รายงานว่า ชาวพื้นเมืองบอกว่าพวกที่บุกรุกเข้าไปในสถานกงสุลเป็นพวกอิสลามที่แค้นเรื่อง วีดีโอ มันก็เลยทำให้ข้อแก้ตัวของรัฐบาลพอฟังขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ทำให้หลายๆ ฝ่ายหายสงสัย
    นอกจากนี้ภาพของฑูต Stevens ที่แพร่ทางสื่อต่าง ๆ มีความแตกต่างกัน มีหลายสื่อที่ออกข่าวว่า ฑูต Stevens ถูกทารุณและถูกชำเราทางทวารหนัก โดยมีภาพกึ่งเปลือยของเขาถูกชาวเมืองกำลังแบกอยู่ ในขณะที่สื่อฝั่งตะวันตก แพร่ภาพของฑูต Stevens นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลและบอกเพียงว่า Stevens เสียชีวิตเพราะสำลักควัน ไม่ได้ถูกทำร้ายทารุณ เขามีบาดแผลเพียงเล็กน้อยที่หน้าผากเท่านั้น
    ข่าวนี้ออกมาใกล้เคียงกับการที่สภาสูง ของอเมริกาได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนสาเหตุการตายของ Stevens และตรวจสอบประเด็นเรื่องการรักษาความปลอดภัยด้วย ผลของการตรวจสอบ ยังไม่สามารถให้ความกระจ่างได้ ข้อมูลที่ออกมาสับสนและขัดแย้งกันเอง (จนถึงทุกวันนี้) ยากแก่การลงความเห็นว่าฑูต Stevens เสียชีวิตจากการสำลักควัน โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และกำลังเสริมที่อยู่ห่างไปเพียง 1.2 ไมล์ ซึ่งมาถึงช้าอย่าผิดปกติ จนบริเวณกงสุลไหม้ไปเกือบหมดแล้ว
    ขณะเดียวกันก็เริ่มมีข่าวแพร่ออกมาว่า CIA มีส่วนเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของฑูต Stevens ข่าวรายงานว่า จุดยืนอย่างเป็นทางการของอเมริกา คือ ไม่มีการส่งอาวุธไปช่วยพวกกบฏในซีเรีย แต่ก็มีหลักฐานโผล่ขึ้นมาเรื่อย ๆ ว่าตัวแทนของอเมริกาโดยเฉพาะ ฑูต Stevens ที่เพิ่งถูกฆาตกรรมไปนั่นแหละ อย่างน้อยมีส่วนรู้เห็นกับการขนย้ายอาวุธจากลิเบียไปให้พวกกบฎ Jihadist ของซีเรีย
    เดือนมีนาคม ค.ศ. 2011 นาย Stevens ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของอเมริกา เพื่อประสานงานกับ al-Qaeda-linked ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลลิเบีย โดยติดต่อโดยตรงกับ Abdelhakim Belhadj ของ Libyan Islamic Fighting Group ซึ่งกลุ่มนี้ต่อมายกเลิกไป หลังจากมีรายงานว่ามีส่วนร่วมในการโจมตีกงสุลอเมริกันและทำให้นาย Stevens เสียชีวิต !
    เดือนกันยายน ค.ศ. 2011 หนังสือพิมพ์ Time of London รายงานว่าเรือสัญชาติ Libya ขนสินค้าจำนวนมากเป็นอาวุธไปให้ซีเรีย โดยเทียบท่าที่ตุรกี รายงานข่าวว่าสินค้าหนักถึง 400 ตันนั้น มีจรวดประเภท SA-7 surface-to air anti-craft และ rocket-propelled grenade (ขีปนาวุธ ประเภทขับเคลื่อน) จำนวนมาก อาวุธทั้งหมดน่าจะมาจากส่วนที่ เก็บอยู่ในกองทัพของ Qaddafi ซึ่งมีประมาณ 20,000 ชิ้น สื่อ Reuters รายงานว่าฝ่ายกบฎซีเรีย ใช้อาวุธเหล่านี้ ยิงเครื่องเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินรบของฝ่ายรัฐบาลซีเรีย
    เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011 หนังสือพิมพ์ Telegraph รายงานว่า Belhadj ในฐานะหัวหน้า Tripoli Military Council ได้พบกับบรรดาหัวหน้าของ Free Serian Army (FSA) ที่ Istanbul และแถบชายแดนของตุรกี โดยเป็นความพยายามของรัฐบาลใหม่ของลิเบียที่จะให้ความสนับสนุนทางด้านเงินและอาวุธแก่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ซึ่งกำลังเริ่มเกิดขึ้น
    นี่หมายความว่า ฑูต Stevens มีบุคคลเดียว คือ Belhadj ที่โยงระหว่างเขากับคน Benghazi ที่ขนอาวุธให้กบฎซีเรีย และถ้ารัฐบาลใหม่ของลิเบีย ส่งอาวุธให้กับกบฎซีเรีย ผ่านทางท่าเรือของตุรกี โดยมี Stevens เป็นตัวกลางให้กับพวกกบฎลิเบีย รัฐบาลตุรกีและรัฐบาลอเมริกันก็น่าจะรู้เห็นเรื่องนี้ด้วย
    และอย่าลืมว่า มีหน่วยงานที่ขึ้นกับ CIA ประจำอยู่ที่เมือง Benghazi ซึ่งห่างจากสถานกงสุลแค่ 1.2 ไมล์ หน่วยงานนี้ทำหน้าที่เก็บข้อมูลของการกระจายอาวุธที่ยึดมาจากรัฐบาลลิเบีย และปฏิบัติภาระกิจอะไรอีกบ้าง ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่เป็นที่รู้กันว่า การรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานนี้ หนาแน่นมั่นคงและมีอาวุธที่ก้าวหน้าว่าที่สถานกงสุลมากนัก
    มาถึงจุดนี้มันค่อนข้างชัดเจนว่า อเมริกาต้องมีอะไรซ่อนอยู่ที่ Benghazi มันถึงทำให้รายงาน ต่าง ๆ สับสน และเมื่อถูกสอบถาม คุณนาย Clinton ถึงกับลมจับใบ้รับประทาน
    อย่าลืมว่านัดสุดท้ายของฑูต Stevens เมื่อวันที่ 11 กันยายน คือ การพบกับกงสุลตุรกี ชื่อ General Ali Sait Akin ซึ่ง Fox News บอกว่าเพื่อเป็นการเจรจาเกี่ยว กับการส่งมอบ ขีปนาวุธ SA-7 Business Insider รายงานเพิ่มว่า Stevens และลูกน้องเขา ทำหน้าที่เป็น “diplomatic cover” ให้แก่ CIA จากจำนวน 30 คน ที่อพยพมาจาก Benghazi มีเพียง 7 คน เท่านั้นที่ทำงานให้กับกระทรวงต่างประเทศและถ้า Stevens รู้ว่าอาวุธที่ส่งให้กบฎซีเรียมาจากไหน จะเป็นไปได้หรือที่ CIA จะไม่รู้ ไม่เห็นด้วย มันคงจะเป็นเรื่องที่ทำให้วอชิงตันลำบากใจอย่างยิ่ง ในการตอบคำถามที่เกี่ยวข้อง
    ไม่ว่าจะมีข่าวออกไปทางใด การตายของนาย Stevens คงจะเป็นปริศนาค้างคาอยู่กันต่อไป แต่จากเรื่องที่สื่อต่างชาติเขียนมานี้ น่าจะทำให้เราเห็นอะไรหลายอย่างว่า อเมริกาแท้จริงเป็นอย่างไร
    ในการสร้างสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ละประเทศต่างก็ส่งคนของตนไปทั่วโลก เพื่อหาข้อมูลและเพื่อดูแลผลประโยชน์ของประเทศตน และแน่นอนที่สุด เพื่อสร้างมิตร สร้างสัมพันธ์ไมตรีที่ดีต่อกัน การที่อเมริกันเข้าไปในบ้านเมืองอื่นๆ ด้วยวิธีการอย่างที่อเมริกาเข้าไปในลิเบีย หรือส่งของขวัญพิเศษให้กับกบฎซีเรีย หรือที่กำลังทำอยู่ในหลายๆประเทศ และรวมทั้งที่กำลังทำอยู่กับราช อาณาจักรไทยด้วยนั้น การฑูตผ่านรั้วสูง กำแพงเหล็ก โกหก จุ้นจ้าน จาบจ้วง ทวงบุญคุณ และการส่ง “ของขวัญ” แบบพิเศษนี้ ฯลฯ คงจะสร้าง หรือรักษา “มิตร” ได้ยาก
    คนเล่านิทาน
7 มิย. 57
    Château Christophe ตอนที่ 6 นิทานเรื่อง “Château Christophe” ตอนที่ 6 (ตอนจบ) ฝ่ายที่จู่โจมสถานกงสุลอเมริกันที่ Benghazi คาดเดากันว่าน่าจะเป็นพวกทหารอิสลาม แต่มันไม่น่าเชื่อว่า พวกเขาจะไม่รู้ว่า “ใคร” ที่อยู่ในบริเวณที่พวกเขาจัดการเผาจนเรียบวุธขนาดนั้น ถ้า Chris Stevens เป็นเป้าหมาย มันน่าจะง่ายกว่า ถ้าจะโจมตีขบวนรถเขาหรือชิงตัวเขาขณะออกไปวิ่งตอนเช้า หรือชิงตัวจากที่นัดพบและที่สำคัญ ฑูตอเมริกันที่มีชีวิตย่อมเป็นทรัพย์สินที่มีค่ามากกว่าฑูตที่ตายแล้ว แต่เพราะ Chris Stevens ถูกฆ่าตาย 56 วันก่อนมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี การตายเขาจึงกลายเป็นส่วนประกอบของฉากการเมือง ที่ทุกฝ่ายอยากเอาไปประกอบให้มีคะแนนเพิ่มขึ้น หรือเอาไปลดคะแนนคู่ต่อสู้ รัฐบาล Obama ถูกวิจารณ์อย่างหนัก เมื่ออ้างในตอนแรกอย่างไม่มีน้ำหนักว่าการโจมตีสถานกงสุลเกิดขึ้นเพราะการประท้วงเรื่อง วีดีโอ แต่หลังจากนั้นประมาณเดือนตุลาคม เมื่อ New York Times รายงานว่า ชาวพื้นเมืองบอกว่าพวกที่บุกรุกเข้าไปในสถานกงสุลเป็นพวกอิสลามที่แค้นเรื่อง วีดีโอ มันก็เลยทำให้ข้อแก้ตัวของรัฐบาลพอฟังขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ทำให้หลายๆ ฝ่ายหายสงสัย นอกจากนี้ภาพของฑูต Stevens ที่แพร่ทางสื่อต่าง ๆ มีความแตกต่างกัน มีหลายสื่อที่ออกข่าวว่า ฑูต Stevens ถูกทารุณและถูกชำเราทางทวารหนัก โดยมีภาพกึ่งเปลือยของเขาถูกชาวเมืองกำลังแบกอยู่ ในขณะที่สื่อฝั่งตะวันตก แพร่ภาพของฑูต Stevens นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลและบอกเพียงว่า Stevens เสียชีวิตเพราะสำลักควัน ไม่ได้ถูกทำร้ายทารุณ เขามีบาดแผลเพียงเล็กน้อยที่หน้าผากเท่านั้น ข่าวนี้ออกมาใกล้เคียงกับการที่สภาสูง ของอเมริกาได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนสาเหตุการตายของ Stevens และตรวจสอบประเด็นเรื่องการรักษาความปลอดภัยด้วย ผลของการตรวจสอบ ยังไม่สามารถให้ความกระจ่างได้ ข้อมูลที่ออกมาสับสนและขัดแย้งกันเอง (จนถึงทุกวันนี้) ยากแก่การลงความเห็นว่าฑูต Stevens เสียชีวิตจากการสำลักควัน โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และกำลังเสริมที่อยู่ห่างไปเพียง 1.2 ไมล์ ซึ่งมาถึงช้าอย่าผิดปกติ จนบริเวณกงสุลไหม้ไปเกือบหมดแล้ว ขณะเดียวกันก็เริ่มมีข่าวแพร่ออกมาว่า CIA มีส่วนเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของฑูต Stevens ข่าวรายงานว่า จุดยืนอย่างเป็นทางการของอเมริกา คือ ไม่มีการส่งอาวุธไปช่วยพวกกบฏในซีเรีย แต่ก็มีหลักฐานโผล่ขึ้นมาเรื่อย ๆ ว่าตัวแทนของอเมริกาโดยเฉพาะ ฑูต Stevens ที่เพิ่งถูกฆาตกรรมไปนั่นแหละ อย่างน้อยมีส่วนรู้เห็นกับการขนย้ายอาวุธจากลิเบียไปให้พวกกบฎ Jihadist ของซีเรีย เดือนมีนาคม ค.ศ. 2011 นาย Stevens ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของอเมริกา เพื่อประสานงานกับ al-Qaeda-linked ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลลิเบีย โดยติดต่อโดยตรงกับ Abdelhakim Belhadj ของ Libyan Islamic Fighting Group ซึ่งกลุ่มนี้ต่อมายกเลิกไป หลังจากมีรายงานว่ามีส่วนร่วมในการโจมตีกงสุลอเมริกันและทำให้นาย Stevens เสียชีวิต ! เดือนกันยายน ค.ศ. 2011 หนังสือพิมพ์ Time of London รายงานว่าเรือสัญชาติ Libya ขนสินค้าจำนวนมากเป็นอาวุธไปให้ซีเรีย โดยเทียบท่าที่ตุรกี รายงานข่าวว่าสินค้าหนักถึง 400 ตันนั้น มีจรวดประเภท SA-7 surface-to air anti-craft และ rocket-propelled grenade (ขีปนาวุธ ประเภทขับเคลื่อน) จำนวนมาก อาวุธทั้งหมดน่าจะมาจากส่วนที่ เก็บอยู่ในกองทัพของ Qaddafi ซึ่งมีประมาณ 20,000 ชิ้น สื่อ Reuters รายงานว่าฝ่ายกบฎซีเรีย ใช้อาวุธเหล่านี้ ยิงเครื่องเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินรบของฝ่ายรัฐบาลซีเรีย เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011 หนังสือพิมพ์ Telegraph รายงานว่า Belhadj ในฐานะหัวหน้า Tripoli Military Council ได้พบกับบรรดาหัวหน้าของ Free Serian Army (FSA) ที่ Istanbul และแถบชายแดนของตุรกี โดยเป็นความพยายามของรัฐบาลใหม่ของลิเบียที่จะให้ความสนับสนุนทางด้านเงินและอาวุธแก่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ซึ่งกำลังเริ่มเกิดขึ้น นี่หมายความว่า ฑูต Stevens มีบุคคลเดียว คือ Belhadj ที่โยงระหว่างเขากับคน Benghazi ที่ขนอาวุธให้กบฎซีเรีย และถ้ารัฐบาลใหม่ของลิเบีย ส่งอาวุธให้กับกบฎซีเรีย ผ่านทางท่าเรือของตุรกี โดยมี Stevens เป็นตัวกลางให้กับพวกกบฎลิเบีย รัฐบาลตุรกีและรัฐบาลอเมริกันก็น่าจะรู้เห็นเรื่องนี้ด้วย และอย่าลืมว่า มีหน่วยงานที่ขึ้นกับ CIA ประจำอยู่ที่เมือง Benghazi ซึ่งห่างจากสถานกงสุลแค่ 1.2 ไมล์ หน่วยงานนี้ทำหน้าที่เก็บข้อมูลของการกระจายอาวุธที่ยึดมาจากรัฐบาลลิเบีย และปฏิบัติภาระกิจอะไรอีกบ้าง ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่เป็นที่รู้กันว่า การรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานนี้ หนาแน่นมั่นคงและมีอาวุธที่ก้าวหน้าว่าที่สถานกงสุลมากนัก มาถึงจุดนี้มันค่อนข้างชัดเจนว่า อเมริกาต้องมีอะไรซ่อนอยู่ที่ Benghazi มันถึงทำให้รายงาน ต่าง ๆ สับสน และเมื่อถูกสอบถาม คุณนาย Clinton ถึงกับลมจับใบ้รับประทาน อย่าลืมว่านัดสุดท้ายของฑูต Stevens เมื่อวันที่ 11 กันยายน คือ การพบกับกงสุลตุรกี ชื่อ General Ali Sait Akin ซึ่ง Fox News บอกว่าเพื่อเป็นการเจรจาเกี่ยว กับการส่งมอบ ขีปนาวุธ SA-7 Business Insider รายงานเพิ่มว่า Stevens และลูกน้องเขา ทำหน้าที่เป็น “diplomatic cover” ให้แก่ CIA จากจำนวน 30 คน ที่อพยพมาจาก Benghazi มีเพียง 7 คน เท่านั้นที่ทำงานให้กับกระทรวงต่างประเทศและถ้า Stevens รู้ว่าอาวุธที่ส่งให้กบฎซีเรียมาจากไหน จะเป็นไปได้หรือที่ CIA จะไม่รู้ ไม่เห็นด้วย มันคงจะเป็นเรื่องที่ทำให้วอชิงตันลำบากใจอย่างยิ่ง ในการตอบคำถามที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะมีข่าวออกไปทางใด การตายของนาย Stevens คงจะเป็นปริศนาค้างคาอยู่กันต่อไป แต่จากเรื่องที่สื่อต่างชาติเขียนมานี้ น่าจะทำให้เราเห็นอะไรหลายอย่างว่า อเมริกาแท้จริงเป็นอย่างไร ในการสร้างสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ละประเทศต่างก็ส่งคนของตนไปทั่วโลก เพื่อหาข้อมูลและเพื่อดูแลผลประโยชน์ของประเทศตน และแน่นอนที่สุด เพื่อสร้างมิตร สร้างสัมพันธ์ไมตรีที่ดีต่อกัน การที่อเมริกันเข้าไปในบ้านเมืองอื่นๆ ด้วยวิธีการอย่างที่อเมริกาเข้าไปในลิเบีย หรือส่งของขวัญพิเศษให้กับกบฎซีเรีย หรือที่กำลังทำอยู่ในหลายๆประเทศ และรวมทั้งที่กำลังทำอยู่กับราช อาณาจักรไทยด้วยนั้น การฑูตผ่านรั้วสูง กำแพงเหล็ก โกหก จุ้นจ้าน จาบจ้วง ทวงบุญคุณ และการส่ง “ของขวัญ” แบบพิเศษนี้ ฯลฯ คงจะสร้าง หรือรักษา “มิตร” ได้ยาก คนเล่านิทาน
7 มิย. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Bing ถึง Kerberoasting: เมื่อการคลิกเดียวกลายเป็นจุดเริ่มต้นของภัยไซเบอร์ระดับประเทศ

    Senator Ron Wyden ได้ส่งจดหมายถึง FTC เรียกร้องให้สอบสวน Microsoft กรณีการละเลยด้านความปลอดภัยที่นำไปสู่การโจมตี ransomware ครั้งใหญ่ในระบบสุขภาพของสหรัฐฯ โดยเฉพาะกรณี Ascension Health ที่ข้อมูลผู้ป่วยกว่า 5.6 ล้านรายถูกขโมยในปี 2024

    การโจมตีเริ่มต้นจากการที่ contractor ของ Ascension ใช้ Bing ค้นหาข้อมูล แล้วคลิกบนลิงก์อันตรายที่นำไปสู่การติดมัลแวร์ในแล็ปท็อปเครื่องเดียว แต่เนื่องจากการตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้นของ Microsoft Active Directory ยังรองรับ RC4 encryption ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเก่าจากยุค 1980 ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้เทคนิค Kerberoasting เพื่อขยายการโจมตีไปทั่วเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว

    Wyden วิจารณ์ว่า Microsoft สร้างธุรกิจด้านความปลอดภัยมูลค่ากว่า $20 พันล้าน จากการขายฟีเจอร์เสริมที่ควรเป็นส่วนหนึ่งของระบบหลัก เช่น advanced logging และการป้องกันรหัสผ่านที่แข็งแรง โดยเปรียบเทียบว่า “เหมือนคนจุดไฟแล้วขายบริการดับเพลิงให้เหยื่อของตัวเอง”

    แม้ Microsoft จะเคยสัญญาว่าจะออกอัปเดตเพื่อปิดการใช้งาน RC4 ตั้งแต่ตุลาคม 2024 แต่จนถึงกันยายน 2025 ยังไม่มีการปล่อยอัปเดตนั้น และคำแนะนำที่ออกมาก็ถูกฝังไว้ในบล็อกเทคนิคที่ไม่เข้าถึงง่าย ทำให้หลายองค์กรยังไม่รู้ว่าตัวเองเสี่ยงอยู่

    เหตุการณ์โจมตี Ascension Health
    เริ่มจาก contractor คลิกลิงก์อันตรายจาก Bing
    มัลแวร์แพร่กระจายผ่านเครือข่ายโดยใช้ Kerberoasting
    ข้อมูลผู้ป่วยกว่า 5.6 ล้านรายถูกขโมย และระบบโรงพยาบาลล่มหลายสัปดาห์

    ช่องโหว่ RC4 และ Kerberoasting
    RC4 เป็น encryption จากยุค 1980 ที่ไม่ปลอดภัย
    Microsoft ยังรองรับ RC4 โดยค่าเริ่มต้นใน Active Directory
    Kerberoasting ใช้ RC4 เพื่อขโมยรหัสผ่านของบัญชีผู้ดูแลระบบ

    การตอบสนองของ Microsoft
    สัญญาจะออกอัปเดตปิด RC4 ตั้งแต่ตุลาคม 2024 แต่ยังไม่ปล่อย
    เผยแพร่คำแนะนำในบล็อกเทคนิคที่ไม่เข้าถึงง่าย
    อ้างว่า RC4 ใช้งานน้อยกว่า 0.1% แต่ยังไม่ปิดโดยค่าเริ่มต้น

    การวิจารณ์จาก Ron Wyden
    กล่าวหาว่า Microsoft มีวัฒนธรรมความปลอดภัยที่ละเลย
    เปรียบเทียบว่า “จุดไฟแล้วขายบริการดับเพลิง”
    เรียกร้องให้ FTC สอบสวนและกำหนดมาตรการควบคุม

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    CISO หลายองค์กรเริ่มปิด RC4 ด้วยตนเอง
    เริ่มใช้สัญญาจัดซื้อเพื่อบังคับให้ Microsoft ปรับการตั้งค่า
    อาจเปลี่ยนแนวทางการออกแบบซอฟต์แวร์ทั้งอุตสาหกรรม

    https://www.csoonline.com/article/4055697/microsoft-under-fire-senator-demands-ftc-investigation-into-arsonist-selling-firefighting-services.html
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Bing ถึง Kerberoasting: เมื่อการคลิกเดียวกลายเป็นจุดเริ่มต้นของภัยไซเบอร์ระดับประเทศ Senator Ron Wyden ได้ส่งจดหมายถึง FTC เรียกร้องให้สอบสวน Microsoft กรณีการละเลยด้านความปลอดภัยที่นำไปสู่การโจมตี ransomware ครั้งใหญ่ในระบบสุขภาพของสหรัฐฯ โดยเฉพาะกรณี Ascension Health ที่ข้อมูลผู้ป่วยกว่า 5.6 ล้านรายถูกขโมยในปี 2024 การโจมตีเริ่มต้นจากการที่ contractor ของ Ascension ใช้ Bing ค้นหาข้อมูล แล้วคลิกบนลิงก์อันตรายที่นำไปสู่การติดมัลแวร์ในแล็ปท็อปเครื่องเดียว แต่เนื่องจากการตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้นของ Microsoft Active Directory ยังรองรับ RC4 encryption ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเก่าจากยุค 1980 ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้เทคนิค Kerberoasting เพื่อขยายการโจมตีไปทั่วเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว Wyden วิจารณ์ว่า Microsoft สร้างธุรกิจด้านความปลอดภัยมูลค่ากว่า $20 พันล้าน จากการขายฟีเจอร์เสริมที่ควรเป็นส่วนหนึ่งของระบบหลัก เช่น advanced logging และการป้องกันรหัสผ่านที่แข็งแรง โดยเปรียบเทียบว่า “เหมือนคนจุดไฟแล้วขายบริการดับเพลิงให้เหยื่อของตัวเอง” แม้ Microsoft จะเคยสัญญาว่าจะออกอัปเดตเพื่อปิดการใช้งาน RC4 ตั้งแต่ตุลาคม 2024 แต่จนถึงกันยายน 2025 ยังไม่มีการปล่อยอัปเดตนั้น และคำแนะนำที่ออกมาก็ถูกฝังไว้ในบล็อกเทคนิคที่ไม่เข้าถึงง่าย ทำให้หลายองค์กรยังไม่รู้ว่าตัวเองเสี่ยงอยู่ ✅ เหตุการณ์โจมตี Ascension Health ➡️ เริ่มจาก contractor คลิกลิงก์อันตรายจาก Bing ➡️ มัลแวร์แพร่กระจายผ่านเครือข่ายโดยใช้ Kerberoasting ➡️ ข้อมูลผู้ป่วยกว่า 5.6 ล้านรายถูกขโมย และระบบโรงพยาบาลล่มหลายสัปดาห์ ✅ ช่องโหว่ RC4 และ Kerberoasting ➡️ RC4 เป็น encryption จากยุค 1980 ที่ไม่ปลอดภัย ➡️ Microsoft ยังรองรับ RC4 โดยค่าเริ่มต้นใน Active Directory ➡️ Kerberoasting ใช้ RC4 เพื่อขโมยรหัสผ่านของบัญชีผู้ดูแลระบบ ✅ การตอบสนองของ Microsoft ➡️ สัญญาจะออกอัปเดตปิด RC4 ตั้งแต่ตุลาคม 2024 แต่ยังไม่ปล่อย ➡️ เผยแพร่คำแนะนำในบล็อกเทคนิคที่ไม่เข้าถึงง่าย ➡️ อ้างว่า RC4 ใช้งานน้อยกว่า 0.1% แต่ยังไม่ปิดโดยค่าเริ่มต้น ✅ การวิจารณ์จาก Ron Wyden ➡️ กล่าวหาว่า Microsoft มีวัฒนธรรมความปลอดภัยที่ละเลย ➡️ เปรียบเทียบว่า “จุดไฟแล้วขายบริการดับเพลิง” ➡️ เรียกร้องให้ FTC สอบสวนและกำหนดมาตรการควบคุม ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ CISO หลายองค์กรเริ่มปิด RC4 ด้วยตนเอง ➡️ เริ่มใช้สัญญาจัดซื้อเพื่อบังคับให้ Microsoft ปรับการตั้งค่า ➡️ อาจเปลี่ยนแนวทางการออกแบบซอฟต์แวร์ทั้งอุตสาหกรรม https://www.csoonline.com/article/4055697/microsoft-under-fire-senator-demands-ftc-investigation-into-arsonist-selling-firefighting-services.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Microsoft under fire: Senator demands FTC investigation into ‘arsonist selling firefighting services’
    US Senator Ron Wyden has called for accountability after healthcare ransomware attacks exposed Windows vulnerabilities that Microsoft had known about for over a decade.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • “จีนควรเลิกใช้ GPU จากสหรัฐฯ — ผู้เชี่ยวชาญเตือนโมเดลพัฒนา AI ปัจจุบันอาจ ‘อันตรายถึงชีวิต’ หากไม่เปลี่ยนแนวทาง”

    Wei Shaojun รองประธานสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน และที่ปรึกษาระดับสูงของรัฐบาลจีน ได้ออกมาเรียกร้องให้จีนและประเทศในเอเชียหยุดพึ่งพา GPU จาก Nvidia และ AMD ในการพัฒนา AI โดยเฉพาะการฝึกโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) เช่น ChatGPT และ DeepSeek ซึ่งเขาเห็นว่าเป็นการเลียนแบบแนวทางของสหรัฐฯ ที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยงระยะยาวทั้งด้านเทคโนโลยีและความมั่นคง

    Wei กล่าวในเวทีที่สิงคโปร์ว่า โมเดลการพัฒนา AI แบบอิง GPU นั้น “อาจถึงขั้นอันตราย” หากไม่เปลี่ยนแนวทาง เพราะมันทำให้ประเทศในเอเชียขาดอำนาจในการควบคุมโครงสร้างพื้นฐานของตนเอง และติดกับดักการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ โดยเฉพาะในช่วงที่สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิป AI ประสิทธิภาพสูงไปยังจีนตั้งแต่ปี 2023

    แม้จีนจะยังตามหลังสหรัฐฯ และไต้หวันในด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ แต่ Wei ยกตัวอย่าง DeepSeek ซึ่งสามารถพัฒนาโมเดล AI ที่แข่งขันกับ OpenAI ได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ระดับสูงเป็นหลักฐานว่า “อัลกอริธึมที่ดี” สำคัญกว่าฮาร์ดแวร์ล้ำสมัย

    เขาเสนอให้จีนพัฒนาโปรเซสเซอร์เฉพาะทางสำหรับการฝึกโมเดล AI แทนการใช้ GPU ที่เดิมออกแบบมาเพื่อกราฟิก พร้อมย้ำว่าจีนมีเงินทุนและความมุ่งมั่นเพียงพอที่จะสร้างระบบนิเวศด้านเซมิคอนดักเตอร์ของตนเอง แม้จะเผชิญแรงกดดันจากการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ มาหลายปี

    ข้อมูลสำคัญจากคำแถลงของ Wei Shaojun
    เรียกร้องให้จีนและเอเชียหยุดใช้ GPU จาก Nvidia และ AMD ในการพัฒนา AI
    วิจารณ์ว่าการเลียนแบบแนวทางสหรัฐฯ ทำให้ขาดอำนาจควบคุมเทคโนโลยี
    เสนอให้พัฒนาโปรเซสเซอร์เฉพาะทางสำหรับ LLM แทน GPU ที่ออกแบบเพื่อกราฟิก
    ยกตัวอย่าง DeepSeek เป็นหลักฐานว่าจีนสามารถพัฒนาอัลกอริธึมได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ระดับสูง

    สถานการณ์ด้านฮาร์ดแวร์และการส่งออก
    สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิป AI และ HPC ไปยังจีนตั้งแต่ปี 2023
    Nvidia H20 ถูกลดสเปกเพื่อให้ผ่านข้อจำกัด แต่จีนยังไม่ไว้วางใจ
    จีนมีความคืบหน้าในการผลิตชิป แต่ยังตามหลังสหรัฐฯ และไต้หวันหลายปี
    รัฐบาลจีนผลักดันให้บริษัทในประเทศหลีกเลี่ยงการใช้ GPU จากสหรัฐฯ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Nvidia ครองตลาด AI ด้วย CUDA และ Tensor Core ที่ออกแบบมาเพื่อ deep learning
    GPU ของ Nvidia กลายเป็นมาตรฐานในวงการ AI เพราะประสิทธิภาพสูงและ ecosystem ครบ
    ASIC เฉพาะทางสำหรับ AI ยังไม่แพร่หลาย แต่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต
    DeepSeek และ Meituan เป็นตัวอย่างของบริษัทจีนที่พัฒนาโมเดล AI โดยเน้นอัลกอริธึมมากกว่าฮาร์ดแวร์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/top-china-silicon-figure-calls-on-country-to-stop-using-nvidia-gpus-for-ai-says-current-ai-development-model-could-become-lethal-if-not-addressed
    🇨🇳 “จีนควรเลิกใช้ GPU จากสหรัฐฯ — ผู้เชี่ยวชาญเตือนโมเดลพัฒนา AI ปัจจุบันอาจ ‘อันตรายถึงชีวิต’ หากไม่เปลี่ยนแนวทาง” Wei Shaojun รองประธานสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน และที่ปรึกษาระดับสูงของรัฐบาลจีน ได้ออกมาเรียกร้องให้จีนและประเทศในเอเชียหยุดพึ่งพา GPU จาก Nvidia และ AMD ในการพัฒนา AI โดยเฉพาะการฝึกโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) เช่น ChatGPT และ DeepSeek ซึ่งเขาเห็นว่าเป็นการเลียนแบบแนวทางของสหรัฐฯ ที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยงระยะยาวทั้งด้านเทคโนโลยีและความมั่นคง Wei กล่าวในเวทีที่สิงคโปร์ว่า โมเดลการพัฒนา AI แบบอิง GPU นั้น “อาจถึงขั้นอันตราย” หากไม่เปลี่ยนแนวทาง เพราะมันทำให้ประเทศในเอเชียขาดอำนาจในการควบคุมโครงสร้างพื้นฐานของตนเอง และติดกับดักการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ โดยเฉพาะในช่วงที่สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิป AI ประสิทธิภาพสูงไปยังจีนตั้งแต่ปี 2023 แม้จีนจะยังตามหลังสหรัฐฯ และไต้หวันในด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ แต่ Wei ยกตัวอย่าง DeepSeek ซึ่งสามารถพัฒนาโมเดล AI ที่แข่งขันกับ OpenAI ได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ระดับสูงเป็นหลักฐานว่า “อัลกอริธึมที่ดี” สำคัญกว่าฮาร์ดแวร์ล้ำสมัย เขาเสนอให้จีนพัฒนาโปรเซสเซอร์เฉพาะทางสำหรับการฝึกโมเดล AI แทนการใช้ GPU ที่เดิมออกแบบมาเพื่อกราฟิก พร้อมย้ำว่าจีนมีเงินทุนและความมุ่งมั่นเพียงพอที่จะสร้างระบบนิเวศด้านเซมิคอนดักเตอร์ของตนเอง แม้จะเผชิญแรงกดดันจากการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ มาหลายปี ✅ ข้อมูลสำคัญจากคำแถลงของ Wei Shaojun ➡️ เรียกร้องให้จีนและเอเชียหยุดใช้ GPU จาก Nvidia และ AMD ในการพัฒนา AI ➡️ วิจารณ์ว่าการเลียนแบบแนวทางสหรัฐฯ ทำให้ขาดอำนาจควบคุมเทคโนโลยี ➡️ เสนอให้พัฒนาโปรเซสเซอร์เฉพาะทางสำหรับ LLM แทน GPU ที่ออกแบบเพื่อกราฟิก ➡️ ยกตัวอย่าง DeepSeek เป็นหลักฐานว่าจีนสามารถพัฒนาอัลกอริธึมได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ระดับสูง ✅ สถานการณ์ด้านฮาร์ดแวร์และการส่งออก ➡️ สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิป AI และ HPC ไปยังจีนตั้งแต่ปี 2023 ➡️ Nvidia H20 ถูกลดสเปกเพื่อให้ผ่านข้อจำกัด แต่จีนยังไม่ไว้วางใจ ➡️ จีนมีความคืบหน้าในการผลิตชิป แต่ยังตามหลังสหรัฐฯ และไต้หวันหลายปี ➡️ รัฐบาลจีนผลักดันให้บริษัทในประเทศหลีกเลี่ยงการใช้ GPU จากสหรัฐฯ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Nvidia ครองตลาด AI ด้วย CUDA และ Tensor Core ที่ออกแบบมาเพื่อ deep learning ➡️ GPU ของ Nvidia กลายเป็นมาตรฐานในวงการ AI เพราะประสิทธิภาพสูงและ ecosystem ครบ ➡️ ASIC เฉพาะทางสำหรับ AI ยังไม่แพร่หลาย แต่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต ➡️ DeepSeek และ Meituan เป็นตัวอย่างของบริษัทจีนที่พัฒนาโมเดล AI โดยเน้นอัลกอริธึมมากกว่าฮาร์ดแวร์ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/top-china-silicon-figure-calls-on-country-to-stop-using-nvidia-gpus-for-ai-says-current-ai-development-model-could-become-lethal-if-not-addressed
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • “มัลแวร์ยุคใหม่ไม่ต้องคลิก — เมื่อ AI ถูกหลอกด้วยคำสั่งซ่อนในไฟล์ Word และแมโคร”

    ภัยคุกคามไซเบอร์กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าอย่างเงียบ ๆ และน่ากลัวกว่าที่เคย เมื่อผู้โจมตีเริ่มใช้เทคนิค “AI Prompt Injection” ผ่านไฟล์เอกสารทั่วไป เช่น Word, PDF หรือแม้แต่เรซูเม่ โดยฝังคำสั่งลับไว้ในแมโครหรือ metadata เพื่อหลอกให้ระบบ AI ที่ใช้วิเคราะห์ไฟล์หรือช่วยงานอัตโนมัติทำตามคำสั่งของผู้โจมตีโดยไม่รู้ตัว

    รายงานล่าสุดจาก CSO Online เปิดเผยว่าเทคนิคนี้ถูกใช้จริงแล้วในหลายกรณี เช่น ช่องโหว่ EchoLeak (CVE-2025-32711) ที่พบใน Microsoft 365 Copilot ซึ่งสามารถฝังคำสั่งในอีเมลหรือไฟล์ Word ให้ Copilot ประมวลผลและรันคำสั่งโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องคลิกหรือเปิดไฟล์เลยด้วยซ้ำ — นี่คือ “zero-click prompt injection” ที่แท้จริง

    อีกกรณีคือ CurXecute (CVE-2025-54135) ซึ่งโจมตี Cursor IDE โดยใช้ prompt injection ผ่านไฟล์ config ที่ถูกเขียนใหม่แบบเงียบ ๆ เพื่อรันคำสั่งในเครื่องของนักพัฒนาโดยไม่รู้ตัว และ Skynet malware ที่ใช้เทคนิค “Jedi mind trick” เพื่อหลอก AI scanner ให้มองข้ามมัลแวร์

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า prompt injection ไม่ใช่แค่เรื่องของการหลอกให้ AI ตอบผิด — แต่มันคือการควบคุมพฤติกรรมของระบบ AI ทั้งชุด เช่น การสั่งให้เปิดช่องหลัง, ส่งข้อมูลลับ, หรือแม้แต่รันโค้ดอันตราย โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้เลยว่ามีคำสั่งซ่อนอยู่ในไฟล์

    รูปแบบการโจมตีแบบใหม่ด้วย AI Prompt Injection
    ฝังคำสั่งในแมโคร, VBA script หรือ metadata ของไฟล์ เช่น DOCX, PDF, EXIF
    เมื่อ AI parser อ่านไฟล์ จะรันคำสั่งโดยไม่ต้องคลิกหรือเปิดไฟล์
    ใช้เทคนิค ASCII smuggling, ฟอนต์ขนาดเล็ก, สีพื้นหลังกลืนกับข้อความ
    ตัวอย่างเช่น EchoLeak ใน Microsoft 365 Copilot และ CurXecute ใน Cursor IDE

    ผลกระทบต่อระบบ AI และองค์กร
    AI ถูกหลอกให้ส่งข้อมูลลับ, เปิดช่องทางเข้าระบบ หรือรันโค้ดอันตราย
    Skynet malware ใช้ prompt injection เพื่อหลอก AI scanner ให้มองข้ามมัลแวร์
    ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งในเรซูเม่เพื่อให้ AI job portal ดันขึ้นอันดับต้น
    การโจมตีแบบนี้ไม่ต้องใช้ payload แบบเดิม — ใช้คำสั่งแทน

    แนวทางป้องกันที่แนะนำ
    ตรวจสอบไฟล์จากแหล่งที่ไม่เชื่อถือด้วย sandbox และ static analysis
    ใช้ Content Disarm & Reconstruction (CDR) เพื่อลบเนื้อหาที่ฝังคำสั่ง
    แยกการรันแมโครออกจากระบบหลัก เช่น ใช้ protected view หรือ sandbox
    สร้างระบบ AI ที่มี guardrails และการตรวจสอบ input/output อย่างเข้มงวด

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Prompt injection เคยเป็นแค่การทดลอง แต่ตอนนี้เริ่มถูกใช้จริงในมัลแวร์
    ช่องโหว่แบบ zero-click ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกโจมตี
    AI agent ที่เชื่อมต่อกับระบบภายนอก เช่น Slack, GitHub, database ยิ่งเสี่ย
    นักวิจัยแนะนำให้องค์กรปฏิบัติต่อ AI pipeline เหมือน CI/CD pipeline — ต้องมี Zero Trust

    https://www.csoonline.com/article/4053107/ai-prompt-injection-gets-real-with-macros-the-latest-hidden-threat.html
    🧠 “มัลแวร์ยุคใหม่ไม่ต้องคลิก — เมื่อ AI ถูกหลอกด้วยคำสั่งซ่อนในไฟล์ Word และแมโคร” ภัยคุกคามไซเบอร์กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าอย่างเงียบ ๆ และน่ากลัวกว่าที่เคย เมื่อผู้โจมตีเริ่มใช้เทคนิค “AI Prompt Injection” ผ่านไฟล์เอกสารทั่วไป เช่น Word, PDF หรือแม้แต่เรซูเม่ โดยฝังคำสั่งลับไว้ในแมโครหรือ metadata เพื่อหลอกให้ระบบ AI ที่ใช้วิเคราะห์ไฟล์หรือช่วยงานอัตโนมัติทำตามคำสั่งของผู้โจมตีโดยไม่รู้ตัว รายงานล่าสุดจาก CSO Online เปิดเผยว่าเทคนิคนี้ถูกใช้จริงแล้วในหลายกรณี เช่น ช่องโหว่ EchoLeak (CVE-2025-32711) ที่พบใน Microsoft 365 Copilot ซึ่งสามารถฝังคำสั่งในอีเมลหรือไฟล์ Word ให้ Copilot ประมวลผลและรันคำสั่งโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องคลิกหรือเปิดไฟล์เลยด้วยซ้ำ — นี่คือ “zero-click prompt injection” ที่แท้จริง อีกกรณีคือ CurXecute (CVE-2025-54135) ซึ่งโจมตี Cursor IDE โดยใช้ prompt injection ผ่านไฟล์ config ที่ถูกเขียนใหม่แบบเงียบ ๆ เพื่อรันคำสั่งในเครื่องของนักพัฒนาโดยไม่รู้ตัว และ Skynet malware ที่ใช้เทคนิค “Jedi mind trick” เพื่อหลอก AI scanner ให้มองข้ามมัลแวร์ นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า prompt injection ไม่ใช่แค่เรื่องของการหลอกให้ AI ตอบผิด — แต่มันคือการควบคุมพฤติกรรมของระบบ AI ทั้งชุด เช่น การสั่งให้เปิดช่องหลัง, ส่งข้อมูลลับ, หรือแม้แต่รันโค้ดอันตราย โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้เลยว่ามีคำสั่งซ่อนอยู่ในไฟล์ ✅ รูปแบบการโจมตีแบบใหม่ด้วย AI Prompt Injection ➡️ ฝังคำสั่งในแมโคร, VBA script หรือ metadata ของไฟล์ เช่น DOCX, PDF, EXIF ➡️ เมื่อ AI parser อ่านไฟล์ จะรันคำสั่งโดยไม่ต้องคลิกหรือเปิดไฟล์ ➡️ ใช้เทคนิค ASCII smuggling, ฟอนต์ขนาดเล็ก, สีพื้นหลังกลืนกับข้อความ ➡️ ตัวอย่างเช่น EchoLeak ใน Microsoft 365 Copilot และ CurXecute ใน Cursor IDE ✅ ผลกระทบต่อระบบ AI และองค์กร ➡️ AI ถูกหลอกให้ส่งข้อมูลลับ, เปิดช่องทางเข้าระบบ หรือรันโค้ดอันตราย ➡️ Skynet malware ใช้ prompt injection เพื่อหลอก AI scanner ให้มองข้ามมัลแวร์ ➡️ ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งในเรซูเม่เพื่อให้ AI job portal ดันขึ้นอันดับต้น ➡️ การโจมตีแบบนี้ไม่ต้องใช้ payload แบบเดิม — ใช้คำสั่งแทน ✅ แนวทางป้องกันที่แนะนำ ➡️ ตรวจสอบไฟล์จากแหล่งที่ไม่เชื่อถือด้วย sandbox และ static analysis ➡️ ใช้ Content Disarm & Reconstruction (CDR) เพื่อลบเนื้อหาที่ฝังคำสั่ง ➡️ แยกการรันแมโครออกจากระบบหลัก เช่น ใช้ protected view หรือ sandbox ➡️ สร้างระบบ AI ที่มี guardrails และการตรวจสอบ input/output อย่างเข้มงวด ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Prompt injection เคยเป็นแค่การทดลอง แต่ตอนนี้เริ่มถูกใช้จริงในมัลแวร์ ➡️ ช่องโหว่แบบ zero-click ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกโจมตี ➡️ AI agent ที่เชื่อมต่อกับระบบภายนอก เช่น Slack, GitHub, database ยิ่งเสี่ย ➡️ นักวิจัยแนะนำให้องค์กรปฏิบัติต่อ AI pipeline เหมือน CI/CD pipeline — ต้องมี Zero Trust https://www.csoonline.com/article/4053107/ai-prompt-injection-gets-real-with-macros-the-latest-hidden-threat.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    AI prompt injection gets real — with macros the latest hidden threat
    Attackers are evolving their malware delivery tactics by weaponing malicious prompts embedded in document macros to hack AI systems.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Hyprland 0.51 เพิ่มท่าทางแทร็กแพดแบบปรับแต่งได้เต็มรูปแบบ — ยกระดับประสบการณ์ Wayland ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้จริง”

    Hyprland 0.51 เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2025 พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ Linux โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ Wayland และต้องการความยืดหยุ่นในการจัดการหน้าต่างและอินพุต โดยหนึ่งในไฮไลต์ของเวอร์ชันนี้คือการรองรับ “ท่าทางแทร็กแพดแบบปรับแต่งได้เต็มรูปแบบ” ซึ่งผู้ใช้สามารถกำหนดท่าทางนิ้ว, ทิศทาง, และ modifiers ได้เองทั้งหมด

    นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงหลายจุด เช่น การตั้งค่า scroll factor แยกตามอุปกรณ์, ตัวเลือกใหม่ในการซ่อนเคอร์เซอร์ (cursor:invisible), และการรองรับ DPMS animations เพื่อให้การปิดหน้าจอมีความลื่นไหลมากขึ้น

    Hyprland ยังแก้ปัญหาการแชร์หน้าจอแบบ 10-bit ที่เคยมีปัญหากับ Firefox และ Chromium โดยเพิ่มตัวเลือก misc:screencopy_force_8b เพื่อบังคับให้ PipeWire ใช้การแชร์แบบ 8-bit แทน ซึ่งช่วยให้การใช้งาน screencast มีความเสถียรมากขึ้น

    ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่ การปรับปรุง virtual keyboard, การเพิ่ม fade-in/fade-out สำหรับ pop-up, การปรับ zoom animation ให้ลื่นขึ้น, และการเพิ่มโหมด previous ให้กับคำสั่ง focusmaster เพื่อจัดการ layout ได้แม่นยำขึ้น

    Hyprland ยังคงรักษาจุดเด่นด้านการปรับแต่งได้สูง เช่น การใช้ bezier curve สำหรับ animation, การจัดการ workspace แบบ dynamic, และระบบ plugin manager ที่รองรับปลั๊กอินจากชุมชนได้อย่างยืดหยุ่น

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Hyprland 0.51
    รองรับท่าทางแทร็กแพดแบบปรับแต่งได้เต็มรูปแบบ (1:1 gesture config)
    ตั้ง scroll factor แยกตามอุปกรณ์ได้ — เพิ่มความแม่นยำในการเลื่อน
    เพิ่ม cursor:invisible สำหรับการซ่อนเคอร์เซอร์
    รองรับ DPMS animations สำหรับการปิดหน้าจอแบบมีเอฟเฟกต์

    การปรับปรุงด้านการแชร์หน้าจอและอินพุต
    เพิ่ม misc:screencopy_force_8b เพื่อแก้ปัญหา 10-bit screensharing
    ใช้ PipeWire สำหรับการแชร์หน้าจอบน Wayland
    ปรับ virtual keyboard ให้ข้ามการปล่อย key และไม่แชร์ key state
    เพิ่ม novrr rule เพื่อบล็อก VRR (Variable Refresh Rate)

    การปรับแต่ง UI และ layout
    เพิ่ม fade-in/fade-out สำหรับ pop-up เพื่อความลื่นไหล
    เพิ่ม dim_modal สำหรับการลดแสงหน้าต่าง modal
    ปรับ zoom animation ให้ลื่นขึ้น
    เพิ่ม previous mode ให้กับ focusmaster เพื่อจัด layout ได้แม่นยำ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Hyprland เป็น Wayland compositor แบบ dynamic tiling ที่ปรับแต่งได้สูง
    รองรับ plugin manager และ keybinds แบบ global
    ใช้ bezier curve สำหรับ animation เพื่อความลื่นไหล
    มี layout แบบ built-in สองแบบ และรองรับ window groups

    https://9to5linux.com/hyprland-0-51-wayland-compositor-adds-fully-configurable-trackpad-gestures
    🖱️ “Hyprland 0.51 เพิ่มท่าทางแทร็กแพดแบบปรับแต่งได้เต็มรูปแบบ — ยกระดับประสบการณ์ Wayland ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้จริง” Hyprland 0.51 เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2025 พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ Linux โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ Wayland และต้องการความยืดหยุ่นในการจัดการหน้าต่างและอินพุต โดยหนึ่งในไฮไลต์ของเวอร์ชันนี้คือการรองรับ “ท่าทางแทร็กแพดแบบปรับแต่งได้เต็มรูปแบบ” ซึ่งผู้ใช้สามารถกำหนดท่าทางนิ้ว, ทิศทาง, และ modifiers ได้เองทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงหลายจุด เช่น การตั้งค่า scroll factor แยกตามอุปกรณ์, ตัวเลือกใหม่ในการซ่อนเคอร์เซอร์ (cursor:invisible), และการรองรับ DPMS animations เพื่อให้การปิดหน้าจอมีความลื่นไหลมากขึ้น Hyprland ยังแก้ปัญหาการแชร์หน้าจอแบบ 10-bit ที่เคยมีปัญหากับ Firefox และ Chromium โดยเพิ่มตัวเลือก misc:screencopy_force_8b เพื่อบังคับให้ PipeWire ใช้การแชร์แบบ 8-bit แทน ซึ่งช่วยให้การใช้งาน screencast มีความเสถียรมากขึ้น ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่ การปรับปรุง virtual keyboard, การเพิ่ม fade-in/fade-out สำหรับ pop-up, การปรับ zoom animation ให้ลื่นขึ้น, และการเพิ่มโหมด previous ให้กับคำสั่ง focusmaster เพื่อจัดการ layout ได้แม่นยำขึ้น Hyprland ยังคงรักษาจุดเด่นด้านการปรับแต่งได้สูง เช่น การใช้ bezier curve สำหรับ animation, การจัดการ workspace แบบ dynamic, และระบบ plugin manager ที่รองรับปลั๊กอินจากชุมชนได้อย่างยืดหยุ่น ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Hyprland 0.51 ➡️ รองรับท่าทางแทร็กแพดแบบปรับแต่งได้เต็มรูปแบบ (1:1 gesture config) ➡️ ตั้ง scroll factor แยกตามอุปกรณ์ได้ — เพิ่มความแม่นยำในการเลื่อน ➡️ เพิ่ม cursor:invisible สำหรับการซ่อนเคอร์เซอร์ ➡️ รองรับ DPMS animations สำหรับการปิดหน้าจอแบบมีเอฟเฟกต์ ✅ การปรับปรุงด้านการแชร์หน้าจอและอินพุต ➡️ เพิ่ม misc:screencopy_force_8b เพื่อแก้ปัญหา 10-bit screensharing ➡️ ใช้ PipeWire สำหรับการแชร์หน้าจอบน Wayland ➡️ ปรับ virtual keyboard ให้ข้ามการปล่อย key และไม่แชร์ key state ➡️ เพิ่ม novrr rule เพื่อบล็อก VRR (Variable Refresh Rate) ✅ การปรับแต่ง UI และ layout ➡️ เพิ่ม fade-in/fade-out สำหรับ pop-up เพื่อความลื่นไหล ➡️ เพิ่ม dim_modal สำหรับการลดแสงหน้าต่าง modal ➡️ ปรับ zoom animation ให้ลื่นขึ้น ➡️ เพิ่ม previous mode ให้กับ focusmaster เพื่อจัด layout ได้แม่นยำ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Hyprland เป็น Wayland compositor แบบ dynamic tiling ที่ปรับแต่งได้สูง ➡️ รองรับ plugin manager และ keybinds แบบ global ➡️ ใช้ bezier curve สำหรับ animation เพื่อความลื่นไหล ➡️ มี layout แบบ built-in สองแบบ และรองรับ window groups https://9to5linux.com/hyprland-0-51-wayland-compositor-adds-fully-configurable-trackpad-gestures
    9TO5LINUX.COM
    Hyprland 0.51 Wayland Compositor Adds Fully Configurable Trackpad Gestures - 9to5Linux
    Hyprland 0.51 Wayland compositor is now available with support for fully configurable trackpad gestures and other changes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ศึกขายคีย์ Windows มือสองเดือด! Microsoft สู้คดีในศาลอังกฤษ อาจทำให้ตลาดคีย์ราคาถูกทั่วยุโรปพังทั้งระบบ”

    ถ้าคุณเคยซื้อคีย์ Windows หรือ Office ราคาถูกจากเว็บรีเซลเลอร์ในยุโรป — ตอนนี้สิ่งนั้นอาจกลายเป็นอดีต เพราะ Microsoft กำลังต่อสู้คดีครั้งสำคัญกับบริษัท ValueLicensing ในศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักร ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงกฎการขายซอฟต์แวร์มือสองทั้งทวีป

    คดีนี้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2021 เมื่อ ValueLicensing ฟ้อง Microsoft มูลค่า 270 ล้านปอนด์ โดยกล่าวหาว่า Microsoft ใช้กลยุทธ์ผูกขาด เช่น เสนอส่วนลดให้ลูกค้าองค์กรแลกกับการยกเลิกสิทธิ์ขายต่อของไลเซนส์แบบถาวร ทำให้ตลาดซอฟต์แวร์มือสองถูกบีบจนแทบหายไป

    แต่ในปี 2025 Microsoft เปลี่ยนแนวทางการป้องกันจาก “เราไม่ได้ทำ” เป็น “ตลาดนี้ไม่ควรมีตั้งแต่แรก” โดยอ้างว่ากฎหมายการขายต่อซอฟต์แวร์ในยุโรป (EU Software Directive) ใช้ได้เฉพาะกับ “โปรแกรม” เท่านั้น ไม่รวมส่วนที่ไม่ใช่โปรแกรม เช่น GUI หรือองค์ประกอบอื่นที่ยังอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ — ถ้าศาลเห็นด้วย ตลาดรีเซลคีย์ทั้งหมดอาจกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

    การพิจารณาคดีเบื้องต้นเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน และจะใช้เวลาสามวันเพื่อวินิจฉัยประเด็นลิขสิทธิ์ก่อนเข้าสู่การไต่สวนเต็มรูปแบบในปี 2026 ซึ่งจะเป็นการตัดสินว่าการขายคีย์มือสองในยุโรปนั้น “ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่”

    ผลกระทบอาจรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงที่ Windows 10 กำลังจะหมดการสนับสนุนในเดือนหน้า และผู้ใช้จำนวนมากต้องอัปเกรด — ถ้าคีย์ราคาถูกหายไป ราคาค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดอาจพุ่งขึ้นทันที

    ข้อมูลจากคดี Microsoft vs ValueLicensing
    คดีเริ่มต้นในปี 2021 ด้วยข้อกล่าวหาว่า Microsoft ผูกขาดตลาดซอฟต์แวร์มือสอง
    มูลค่าความเสียหายที่ ValueLicensing อ้างคือ 270 ล้านปอนด์
    Microsoft เสนอส่วนลดให้ลูกค้าองค์กรแลกกับการยกเลิกสิทธิ์ขายต่อ
    การพิจารณาคดีเบื้องต้นเริ่มวันที่ 9 กันยายน 2025

    ประเด็นทางกฎหมายที่ถกเถียง
    Microsoft อ้างว่ากฎหมาย EU Software Directive ใช้ได้เฉพาะ “โปรแกรม”
    ส่วนที่ไม่ใช่โปรแกรม เช่น GUI ยังอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์
    ถ้าศาลเห็นด้วย ตลาดรีเซลคีย์อาจกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
    การตีความนี้อาจส่งผลต่อการขายซอฟต์แวร์มือสองทั่วทั้งยุโรปและสหราชอาณาจักร

    ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน
    คีย์ราคาถูกเป็นที่นิยมในกลุ่ม DIY และผู้ประกอบคอมพิวเตอร์
    การอัปเกรดจาก Windows 10 อาจมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
    ผู้ใช้ที่ไม่ต้องการ Microsoft 365 อาจไม่มีทางเลือกอื่น
    ตลาดรีเซลอาจหายไปทั้งระบบ หากคำตัดสินเข้าข้าง Microsoft

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    คดีนี้อยู่ในศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักร
    ValueLicensing เคยกล่าวว่า “ถ้า Microsoft ชนะ ตลาดนี้ไม่ควรมีตั้งแต่แรก”
    Microsoft เคยใช้แนวทาง “เราไม่ได้ทำ” ก่อนเปลี่ยนเป็น “ตลาดนี้ผิดกฎหมาย”
    คดีเต็มรูปแบบจะเริ่มในปี 2026

    https://www.tomshardware.com/software/microsoft-resale-fight-heads-to-uk-court
    ⚖️ “ศึกขายคีย์ Windows มือสองเดือด! Microsoft สู้คดีในศาลอังกฤษ อาจทำให้ตลาดคีย์ราคาถูกทั่วยุโรปพังทั้งระบบ” ถ้าคุณเคยซื้อคีย์ Windows หรือ Office ราคาถูกจากเว็บรีเซลเลอร์ในยุโรป — ตอนนี้สิ่งนั้นอาจกลายเป็นอดีต เพราะ Microsoft กำลังต่อสู้คดีครั้งสำคัญกับบริษัท ValueLicensing ในศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักร ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงกฎการขายซอฟต์แวร์มือสองทั้งทวีป คดีนี้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2021 เมื่อ ValueLicensing ฟ้อง Microsoft มูลค่า 270 ล้านปอนด์ โดยกล่าวหาว่า Microsoft ใช้กลยุทธ์ผูกขาด เช่น เสนอส่วนลดให้ลูกค้าองค์กรแลกกับการยกเลิกสิทธิ์ขายต่อของไลเซนส์แบบถาวร ทำให้ตลาดซอฟต์แวร์มือสองถูกบีบจนแทบหายไป แต่ในปี 2025 Microsoft เปลี่ยนแนวทางการป้องกันจาก “เราไม่ได้ทำ” เป็น “ตลาดนี้ไม่ควรมีตั้งแต่แรก” โดยอ้างว่ากฎหมายการขายต่อซอฟต์แวร์ในยุโรป (EU Software Directive) ใช้ได้เฉพาะกับ “โปรแกรม” เท่านั้น ไม่รวมส่วนที่ไม่ใช่โปรแกรม เช่น GUI หรือองค์ประกอบอื่นที่ยังอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ — ถ้าศาลเห็นด้วย ตลาดรีเซลคีย์ทั้งหมดอาจกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย การพิจารณาคดีเบื้องต้นเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน และจะใช้เวลาสามวันเพื่อวินิจฉัยประเด็นลิขสิทธิ์ก่อนเข้าสู่การไต่สวนเต็มรูปแบบในปี 2026 ซึ่งจะเป็นการตัดสินว่าการขายคีย์มือสองในยุโรปนั้น “ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่” ผลกระทบอาจรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงที่ Windows 10 กำลังจะหมดการสนับสนุนในเดือนหน้า และผู้ใช้จำนวนมากต้องอัปเกรด — ถ้าคีย์ราคาถูกหายไป ราคาค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดอาจพุ่งขึ้นทันที ✅ ข้อมูลจากคดี Microsoft vs ValueLicensing ➡️ คดีเริ่มต้นในปี 2021 ด้วยข้อกล่าวหาว่า Microsoft ผูกขาดตลาดซอฟต์แวร์มือสอง ➡️ มูลค่าความเสียหายที่ ValueLicensing อ้างคือ 270 ล้านปอนด์ ➡️ Microsoft เสนอส่วนลดให้ลูกค้าองค์กรแลกกับการยกเลิกสิทธิ์ขายต่อ ➡️ การพิจารณาคดีเบื้องต้นเริ่มวันที่ 9 กันยายน 2025 ✅ ประเด็นทางกฎหมายที่ถกเถียง ➡️ Microsoft อ้างว่ากฎหมาย EU Software Directive ใช้ได้เฉพาะ “โปรแกรม” ➡️ ส่วนที่ไม่ใช่โปรแกรม เช่น GUI ยังอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ ➡️ ถ้าศาลเห็นด้วย ตลาดรีเซลคีย์อาจกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ➡️ การตีความนี้อาจส่งผลต่อการขายซอฟต์แวร์มือสองทั่วทั้งยุโรปและสหราชอาณาจักร ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน ➡️ คีย์ราคาถูกเป็นที่นิยมในกลุ่ม DIY และผู้ประกอบคอมพิวเตอร์ ➡️ การอัปเกรดจาก Windows 10 อาจมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ➡️ ผู้ใช้ที่ไม่ต้องการ Microsoft 365 อาจไม่มีทางเลือกอื่น ➡️ ตลาดรีเซลอาจหายไปทั้งระบบ หากคำตัดสินเข้าข้าง Microsoft ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ คดีนี้อยู่ในศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักร ➡️ ValueLicensing เคยกล่าวว่า “ถ้า Microsoft ชนะ ตลาดนี้ไม่ควรมีตั้งแต่แรก” ➡️ Microsoft เคยใช้แนวทาง “เราไม่ได้ทำ” ก่อนเปลี่ยนเป็น “ตลาดนี้ผิดกฎหมาย” ➡️ คดีเต็มรูปแบบจะเริ่มในปี 2026 https://www.tomshardware.com/software/microsoft-resale-fight-heads-to-uk-court
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Microsoft key resale fight heads to court in the UK — case potentially puts cheap Windows keys at risk
    Tribunal weighs whether parts of Windows and Office fall outside Europe’s resale rules.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • Highlight Words In Action : August 2025

    bipartisan
    adjective: representing, characterized by, or including members from two parties or factions

    From the headlines: The Trump administration’s decision to cut funding for the Open Technology Fund (OTF) has raised concerns among lawmakers, who see it as a vital tool against internet censorship in authoritarian regimes. Trump’s executive order effectively terminated the OTF’s budget, prompting bipartisan efforts to save the program. Advocates warn that without OTF-backed tools, many citizens and activists could lose secure communication channels, increasing their risk of surveillance and persecution.

    bounty
    noun: a premium or reward, especially one offered by a government

    From the headlines: The United States has lifted bounties on three senior Taliban figures. The three members of the Haqqani militant network in Afghanistan were allegedly involved in planning deadly attacks during the war with the U.S., some of which killed American citizens. Until this week, the State Department had offered rewards of up to $10 million for the death or capture of the militant leaders. The move follows last week’s release of a U.S. hostage who had been held by the Taliban since 2022.

    breach
    noun: an infraction or violation, such as of a law, contract, trust, or promise

    Jeffrey Goldberg, editor-in-chief of The Atlantic, disclosed that he was inadvertently added to a private Signal group chat used by U.S. national security officials. This unexpected breach exposed sensitive information, including details about military strikes in Yemen. The incident underscored a serious protocol violation, as national security deliberations are typically confined to secure, classified settings rather than informal messaging platforms.

    cartography
    noun: the production of maps, including construction of projections, design, compilation, drafting, and reproduction

    From the headlines: After more than a decade of unraveling the mysteries of the universe, the space telescope Gaia has officially powered down. In its ten years of operation, Gaia meticulously mapped nearly 2 billion stars, 150,000 asteroids, and countless other celestial wonders. This cartography resulted in a precise, three-dimensional map of our solar system, which has transformed our understanding of the Milky Way.

    civil liberty
    noun: the freedom of a citizen to exercise customary rights, as of speech or assembly, without unwarranted or arbitrary interference by the government

    From the headlines: Legal experts say surveillance methods being used by colleges and universities on their students may violate their civil liberties. When investigating vandalism connected to political protests, campus police have been using new tactics, including seizing students’ phones and laptops. They have also issued warrants based on social media posts or participation in campus protests. Civil liberties experts say these actions amount to stifling university students’ right to free speech.

    confiscate
    verb: to seize as forfeited to the public domain; appropriate, by way of penalty, for public use

    From the headlines: A kite was briefly confiscated after it came into contact with a United Airlines plane near Washington, D.C. The aircraft landed safely at Ronald Reagan National Airport following reports of a kite hitting it. Police seized the kite from a family at nearby Gravelly Point park, but returned it later. Despite the fact that kite flying is banned there because the sky overhead is “restricted airspace,” about a dozen people had reportedly been flying kites at the park that day.

    defraud
    verb: to deprive of a right, money, or property by fraud

    From the headlines: Hollywood writer-director Carl Erik Rinsch was arrested for defrauding Netflix of $11 million, meant for his unfinished sci-fi show White Horse. Prosecutors say he spent around $10 million on luxury purchases, including Rolls-Royces, a Ferrari, and antiques. Prosecutors also claim that he used the money to pay legal fees to sue Netflix for additional money. Rinsch has been charged with wire fraud and money laundering, while Netflix has declined to comment.

    embezzlement
    noun: the stealing of money entrusted to one’s care

    From the headlines: French politician Marine Le Pen was convicted of embezzlement and barred from public office for five years. Le Pen, who leads the far-right National Rally party, had planned to run for president in 2027. She was also sentenced to four years in prison for spending $4.3 million in European Parliament funds on her own party expenses.

    Fun fact: Embezzlement is from the Anglo-French enbesiler, “cause to disappear,” and an Old French root meaning “to destroy or gouge.”

    fairway
    noun: Golf. the part of the course where the grass is cut short between the tees and the putting greens

    From the headlines: When golf courses close, research shows the surrounding environment improves. With declining interest in golf, nearby neighborhoods report benefits like less flooding and reduced pesticide runoff. Across the U.S., many former courses have been repurposed as nature reserves, where manicured fairways have been replaced by thriving wildflower meadows.

    forage
    verb: to wander or go in search of provisions

    From the headlines: A new online map shows where 1.6 million edible plants grow in cities around the world. The guide, called Falling Fruit, is meant to help urban dwellers and visitors forage for food. Its open source design means people can add locations, mapping additional fruit trees, berry bushes, beehives, and plants that might otherwise go unnoticed.

    franchise
    noun: Sports. a professional sports team

    From the headlines: A group led by Bill Chisholm has agreed to buy the Boston Celtics for $6.1 billion, making it the most expensive franchise sale in North American sports history. The Celtics, fresh off their 18th NBA title, are facing significant financial challenges under the new collective bargaining agreement, but remain favorites to repeat as champions.

    geriatric
    adjective: noting or relating to aged people or animals

    From the headlines: The New England Aquarium in Boston has introduced a new “retirement home” for geriatric aquarium penguins, relocating six elderly birds to a designated island. While wild penguins typically live about ten years, the new aquarium houses twenty penguins in their twenties and thirties. This specialized haven ensures these aging animals receive monitoring for conditions such as arthritis and cataracts.

    Fun fact: The Greek gērōs, “old,” is the root of geriatric.

    iguana
    noun: a large, arboreal lizard, native to Central and South America, having stout legs and a crest of spines from neck to tail

    From the headlines: A recent study sheds light on how North American iguanas may have reached a remote island in Fiji. Genetic analysis suggests that these large reptiles likely traversed thousands of miles across the Pacific Ocean by drifting on makeshift rafts of fallen trees. If confirmed, this would represent the longest documented oceanic migration by any terrestrial vertebrate, apart from humans.

    inaccessible
    adjective: not accessible; unapproachable

    From the headlines: Researchers investigating why we can’t remember being babies found evidence that those memories still exist in our brains, but are inaccessible. Scientists have long suspected that infants don’t create memories at all. A new study using MRI imaging to observe babies’ brains found that around 12 months old, they do begin storing memories of specific images. Neuroscientists are now focused on learning why these early recollections become locked away and out of reach as we grow older.

    magnitude
    noun: greatness of size or amount

    From the headlines: A devastating 7.7 magnitude earthquake struck Myanmar, killing over 3,000 people and leaving hundreds missing. The tremors were so intense they reached 600 miles to Bangkok, where skyscrapers swayed. In response, China, India, and Russia sent rescue teams, while countries like Thailand, Malaysia, and Vietnam offered aid.

    manipulate
    verb: to adapt or change (accounts, figures, etc.) to suit one’s purpose or advantage

    From the headlines: A cheating scandal shook the world of professional ski jumping this week. Several members of Team Norway were suspended after officials found evidence that their ski suits had been manipulated to make the athletes more aerodynamic. The team’s manager admitted to illegally adding an extra seam where the legs are sewn together; more material there was hoped to give the jumpers extra lift and allow air to flow around them more efficiently.

    mush
    verb: to drive or spur on (sled dogs or a sled drawn by dogs)

    From the headlines: Greenland’s annual dog sledding race attracted unusual international attention when the White House said the vice president’s wife, Usha Vance, would attend. Vance canceled her trip after Greenlanders planned to protest her presence at the event. Competitors in the Avannaata Qimussersua, or “Great Race of the North,” mushed their dogs over 26 snowy miles. Henrik Jensen, a musher from northern Greenland, crossed the finish line in first place, pulled by his team of Greenlandic sled dogs.

    ovine
    adjective: pertaining to, of the nature of, or like sheep

    From the headlines: The world’s first known case of bird flu in sheep was diagnosed in Yorkshire, England. After the H5N1 virus was found among birds on a farm, health officials also tested its flock of sheep; only one ovine case was detected. The infected sheep was euthanized to prevent the disease from spreading, and officials said “the risk to livestock remains low.”

    pontiff
    noun: Ecclesiastical. the Roman Catholic pope, the Bishop of Rome

    From the headlines: Following the release of Pope Francis from the hospital on March 23, his lead physician said the pontiff had faced such grave danger that his medical team considered halting treatment. During his hospitalization, the pope endured two critical health crises, prompting intense deliberations over whether aggressive interventions should continue, given the potential risks to his internal organs. Ultimately, the doctors opted to pursue “all available medicines and treatments,” a decision that proved pivotal to his recovery.

    populism
    noun: grass-roots democracy; working-class activism; egalitarianism

    From the headlines: Bernie Sanders is drawing unprecedented crowds on his “Fighting Oligarchy” tour, fueled by a message rooted in economic populism. His rhetoric resonates with disillusioned voters seeking an alternative to both President Trump and the Democratic Party. The independent senator from Vermont frequently denounces what he terms a “government of the billionaires, by the billionaires, and for the billionaires,” while chastising Democrats for failing to adequately champion the interests of the working class.

    prescription
    noun: a direction, usually written, by the physician to the pharmacist for the preparation and use of a medicine or remedy

    From the headlines: A new trend is emerging in healthcare — doctors are now prescribing museum visits. Backed by research showing that time spent in cultural spots can boost mental health and ease loneliness, more physicians are encouraging patients to explore art galleries, theaters, concert halls, and libraries. These cultural outings are said to reduce stress, alleviate mild anxiety and depression, and even improve conditions like high blood pressure. It’s the prescription you didn’t know you needed.

    pristine
    adjective: having its original purity; uncorrupted or unsullied

    From the headlines: Many countries are looking to Switzerland as a model, hoping to replicate its transformation of once heavily polluted rivers and lakes into some of the most pristine in Europe. In the 1960s, Swiss waterways were choked with algae and dead fish due to sewage and industrial pollution. However, over the following decades, the country made significant investments in advanced water treatment facilities. Today, nearly all of its lakes and rivers are once again pristine and safe for swimming.

    prolong
    verb: to lengthen out in time; extend the duration of; cause to continue longer

    From the headlines: After their quick trip to the International Space Station turned out to have an unexpectedly long duration, two NASA astronauts have been safely returned to Earth. What began as an eight-day mission for Butch Wilmore and Suni Williams had to be prolonged after their Starliner spacecraft experienced helium leaks and thruster problems. The two ended up staying on the ISS for more than nine months, until two seats were available on a returning space capsule.

    recruit
    verb: to attempt to acquire the services of (a person) for an employer

    From the headlines: As the White House cuts funding for scientific research, European countries are stepping up to recruit top U.S. scientists. Experts in climate change and vaccine safety are now eyeing job offers across the Atlantic, with France and the Netherlands boosting their budgets to hire talent for their universities.

    reinstate
    verb: to put back or establish again, as in a former position or state

    From the headlines: On March 24, a South Korean court reinstated impeached Prime Minister Han Duck-soo. Han was returned to the government and named acting leader once his impeachment was overturned. President Yoon Suk Yeol, who was also removed from office, is still awaiting a verdict. Han and Yoon were both suspended by South Korea’s National Assembly in December.

    repatriation
    noun: the act or process of returning a person or thing to the country of origin

    From the headlines: After several weeks of refusal, Venezuela agreed to accept repatriation flights from the United States, and the first plane carrying Venezuelan migrants back to their home country landed on March 24. About 200 people who had been deported from the U.S. were on the initial flight. Conflicts between the two countries had previously put the returns on hold.

    serenade
    verb: to entertain with or perform with vocal or instrumental music

    From the headlines: After an incredible 70-year career, Johnny Mathis, the legendary crooner with the famously smooth “velvet voice,” has announced his retirement at the age of 89. Known for his romantic ballads, jazz classics, and soft rock hits, Mathis has been serenading audiences since his teenage years. With more albums sold than any pop artist except Frank Sinatra, his voice has been the soundtrack to countless memories.

    tuition
    noun: the charge or fee for instruction, as at a private school or a college or university

    From the headlines: Starting this fall, attending Harvard University will cost nothing for most students. The school announced that tuition will be free for people whose families earn less than $200,000 per year. The average household income in the U.S. is $80,000. Food, housing, health insurance, and travel will also be free for less wealthy students. The University of Pennsylvania and the Massachusetts Institute of Technology have adopted the same financial aid policy.

    unredacted
    adjective: (of a document) with confidential or sensitive information included or visible

    From the headlines: The Trump administration released over 2,000 documents on JFK’s assassination, leading to a search for new insights. While the unredacted files do not dispute that Lee Harvey Oswald acted alone, they reveal long-hidden details about CIA agents and operations. Attorney Larry Schnapf, who has pushed for their release, argues the disclosures highlight excessive government secrecy. He believes the unredacted documents demonstrate how overclassification has been misused by national security officials.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    Highlight Words In Action : August 2025 bipartisan adjective: representing, characterized by, or including members from two parties or factions From the headlines: The Trump administration’s decision to cut funding for the Open Technology Fund (OTF) has raised concerns among lawmakers, who see it as a vital tool against internet censorship in authoritarian regimes. Trump’s executive order effectively terminated the OTF’s budget, prompting bipartisan efforts to save the program. Advocates warn that without OTF-backed tools, many citizens and activists could lose secure communication channels, increasing their risk of surveillance and persecution. bounty noun: a premium or reward, especially one offered by a government From the headlines: The United States has lifted bounties on three senior Taliban figures. The three members of the Haqqani militant network in Afghanistan were allegedly involved in planning deadly attacks during the war with the U.S., some of which killed American citizens. Until this week, the State Department had offered rewards of up to $10 million for the death or capture of the militant leaders. The move follows last week’s release of a U.S. hostage who had been held by the Taliban since 2022. breach noun: an infraction or violation, such as of a law, contract, trust, or promise Jeffrey Goldberg, editor-in-chief of The Atlantic, disclosed that he was inadvertently added to a private Signal group chat used by U.S. national security officials. This unexpected breach exposed sensitive information, including details about military strikes in Yemen. The incident underscored a serious protocol violation, as national security deliberations are typically confined to secure, classified settings rather than informal messaging platforms. cartography noun: the production of maps, including construction of projections, design, compilation, drafting, and reproduction From the headlines: After more than a decade of unraveling the mysteries of the universe, the space telescope Gaia has officially powered down. In its ten years of operation, Gaia meticulously mapped nearly 2 billion stars, 150,000 asteroids, and countless other celestial wonders. This cartography resulted in a precise, three-dimensional map of our solar system, which has transformed our understanding of the Milky Way. civil liberty noun: the freedom of a citizen to exercise customary rights, as of speech or assembly, without unwarranted or arbitrary interference by the government From the headlines: Legal experts say surveillance methods being used by colleges and universities on their students may violate their civil liberties. When investigating vandalism connected to political protests, campus police have been using new tactics, including seizing students’ phones and laptops. They have also issued warrants based on social media posts or participation in campus protests. Civil liberties experts say these actions amount to stifling university students’ right to free speech. confiscate verb: to seize as forfeited to the public domain; appropriate, by way of penalty, for public use From the headlines: A kite was briefly confiscated after it came into contact with a United Airlines plane near Washington, D.C. The aircraft landed safely at Ronald Reagan National Airport following reports of a kite hitting it. Police seized the kite from a family at nearby Gravelly Point park, but returned it later. Despite the fact that kite flying is banned there because the sky overhead is “restricted airspace,” about a dozen people had reportedly been flying kites at the park that day. defraud verb: to deprive of a right, money, or property by fraud From the headlines: Hollywood writer-director Carl Erik Rinsch was arrested for defrauding Netflix of $11 million, meant for his unfinished sci-fi show White Horse. Prosecutors say he spent around $10 million on luxury purchases, including Rolls-Royces, a Ferrari, and antiques. Prosecutors also claim that he used the money to pay legal fees to sue Netflix for additional money. Rinsch has been charged with wire fraud and money laundering, while Netflix has declined to comment. embezzlement noun: the stealing of money entrusted to one’s care From the headlines: French politician Marine Le Pen was convicted of embezzlement and barred from public office for five years. Le Pen, who leads the far-right National Rally party, had planned to run for president in 2027. She was also sentenced to four years in prison for spending $4.3 million in European Parliament funds on her own party expenses. Fun fact: Embezzlement is from the Anglo-French enbesiler, “cause to disappear,” and an Old French root meaning “to destroy or gouge.” fairway noun: Golf. the part of the course where the grass is cut short between the tees and the putting greens From the headlines: When golf courses close, research shows the surrounding environment improves. With declining interest in golf, nearby neighborhoods report benefits like less flooding and reduced pesticide runoff. Across the U.S., many former courses have been repurposed as nature reserves, where manicured fairways have been replaced by thriving wildflower meadows. forage verb: to wander or go in search of provisions From the headlines: A new online map shows where 1.6 million edible plants grow in cities around the world. The guide, called Falling Fruit, is meant to help urban dwellers and visitors forage for food. Its open source design means people can add locations, mapping additional fruit trees, berry bushes, beehives, and plants that might otherwise go unnoticed. franchise noun: Sports. a professional sports team From the headlines: A group led by Bill Chisholm has agreed to buy the Boston Celtics for $6.1 billion, making it the most expensive franchise sale in North American sports history. The Celtics, fresh off their 18th NBA title, are facing significant financial challenges under the new collective bargaining agreement, but remain favorites to repeat as champions. geriatric adjective: noting or relating to aged people or animals From the headlines: The New England Aquarium in Boston has introduced a new “retirement home” for geriatric aquarium penguins, relocating six elderly birds to a designated island. While wild penguins typically live about ten years, the new aquarium houses twenty penguins in their twenties and thirties. This specialized haven ensures these aging animals receive monitoring for conditions such as arthritis and cataracts. Fun fact: The Greek gērōs, “old,” is the root of geriatric. iguana noun: a large, arboreal lizard, native to Central and South America, having stout legs and a crest of spines from neck to tail From the headlines: A recent study sheds light on how North American iguanas may have reached a remote island in Fiji. Genetic analysis suggests that these large reptiles likely traversed thousands of miles across the Pacific Ocean by drifting on makeshift rafts of fallen trees. If confirmed, this would represent the longest documented oceanic migration by any terrestrial vertebrate, apart from humans. inaccessible adjective: not accessible; unapproachable From the headlines: Researchers investigating why we can’t remember being babies found evidence that those memories still exist in our brains, but are inaccessible. Scientists have long suspected that infants don’t create memories at all. A new study using MRI imaging to observe babies’ brains found that around 12 months old, they do begin storing memories of specific images. Neuroscientists are now focused on learning why these early recollections become locked away and out of reach as we grow older. magnitude noun: greatness of size or amount From the headlines: A devastating 7.7 magnitude earthquake struck Myanmar, killing over 3,000 people and leaving hundreds missing. The tremors were so intense they reached 600 miles to Bangkok, where skyscrapers swayed. In response, China, India, and Russia sent rescue teams, while countries like Thailand, Malaysia, and Vietnam offered aid. manipulate verb: to adapt or change (accounts, figures, etc.) to suit one’s purpose or advantage From the headlines: A cheating scandal shook the world of professional ski jumping this week. Several members of Team Norway were suspended after officials found evidence that their ski suits had been manipulated to make the athletes more aerodynamic. The team’s manager admitted to illegally adding an extra seam where the legs are sewn together; more material there was hoped to give the jumpers extra lift and allow air to flow around them more efficiently. mush verb: to drive or spur on (sled dogs or a sled drawn by dogs) From the headlines: Greenland’s annual dog sledding race attracted unusual international attention when the White House said the vice president’s wife, Usha Vance, would attend. Vance canceled her trip after Greenlanders planned to protest her presence at the event. Competitors in the Avannaata Qimussersua, or “Great Race of the North,” mushed their dogs over 26 snowy miles. Henrik Jensen, a musher from northern Greenland, crossed the finish line in first place, pulled by his team of Greenlandic sled dogs. ovine adjective: pertaining to, of the nature of, or like sheep From the headlines: The world’s first known case of bird flu in sheep was diagnosed in Yorkshire, England. After the H5N1 virus was found among birds on a farm, health officials also tested its flock of sheep; only one ovine case was detected. The infected sheep was euthanized to prevent the disease from spreading, and officials said “the risk to livestock remains low.” pontiff noun: Ecclesiastical. the Roman Catholic pope, the Bishop of Rome From the headlines: Following the release of Pope Francis from the hospital on March 23, his lead physician said the pontiff had faced such grave danger that his medical team considered halting treatment. During his hospitalization, the pope endured two critical health crises, prompting intense deliberations over whether aggressive interventions should continue, given the potential risks to his internal organs. Ultimately, the doctors opted to pursue “all available medicines and treatments,” a decision that proved pivotal to his recovery. populism noun: grass-roots democracy; working-class activism; egalitarianism From the headlines: Bernie Sanders is drawing unprecedented crowds on his “Fighting Oligarchy” tour, fueled by a message rooted in economic populism. His rhetoric resonates with disillusioned voters seeking an alternative to both President Trump and the Democratic Party. The independent senator from Vermont frequently denounces what he terms a “government of the billionaires, by the billionaires, and for the billionaires,” while chastising Democrats for failing to adequately champion the interests of the working class. prescription noun: a direction, usually written, by the physician to the pharmacist for the preparation and use of a medicine or remedy From the headlines: A new trend is emerging in healthcare — doctors are now prescribing museum visits. Backed by research showing that time spent in cultural spots can boost mental health and ease loneliness, more physicians are encouraging patients to explore art galleries, theaters, concert halls, and libraries. These cultural outings are said to reduce stress, alleviate mild anxiety and depression, and even improve conditions like high blood pressure. It’s the prescription you didn’t know you needed. pristine adjective: having its original purity; uncorrupted or unsullied From the headlines: Many countries are looking to Switzerland as a model, hoping to replicate its transformation of once heavily polluted rivers and lakes into some of the most pristine in Europe. In the 1960s, Swiss waterways were choked with algae and dead fish due to sewage and industrial pollution. However, over the following decades, the country made significant investments in advanced water treatment facilities. Today, nearly all of its lakes and rivers are once again pristine and safe for swimming. prolong verb: to lengthen out in time; extend the duration of; cause to continue longer From the headlines: After their quick trip to the International Space Station turned out to have an unexpectedly long duration, two NASA astronauts have been safely returned to Earth. What began as an eight-day mission for Butch Wilmore and Suni Williams had to be prolonged after their Starliner spacecraft experienced helium leaks and thruster problems. The two ended up staying on the ISS for more than nine months, until two seats were available on a returning space capsule. recruit verb: to attempt to acquire the services of (a person) for an employer From the headlines: As the White House cuts funding for scientific research, European countries are stepping up to recruit top U.S. scientists. Experts in climate change and vaccine safety are now eyeing job offers across the Atlantic, with France and the Netherlands boosting their budgets to hire talent for their universities. reinstate verb: to put back or establish again, as in a former position or state From the headlines: On March 24, a South Korean court reinstated impeached Prime Minister Han Duck-soo. Han was returned to the government and named acting leader once his impeachment was overturned. President Yoon Suk Yeol, who was also removed from office, is still awaiting a verdict. Han and Yoon were both suspended by South Korea’s National Assembly in December. repatriation noun: the act or process of returning a person or thing to the country of origin From the headlines: After several weeks of refusal, Venezuela agreed to accept repatriation flights from the United States, and the first plane carrying Venezuelan migrants back to their home country landed on March 24. About 200 people who had been deported from the U.S. were on the initial flight. Conflicts between the two countries had previously put the returns on hold. serenade verb: to entertain with or perform with vocal or instrumental music From the headlines: After an incredible 70-year career, Johnny Mathis, the legendary crooner with the famously smooth “velvet voice,” has announced his retirement at the age of 89. Known for his romantic ballads, jazz classics, and soft rock hits, Mathis has been serenading audiences since his teenage years. With more albums sold than any pop artist except Frank Sinatra, his voice has been the soundtrack to countless memories. tuition noun: the charge or fee for instruction, as at a private school or a college or university From the headlines: Starting this fall, attending Harvard University will cost nothing for most students. The school announced that tuition will be free for people whose families earn less than $200,000 per year. The average household income in the U.S. is $80,000. Food, housing, health insurance, and travel will also be free for less wealthy students. The University of Pennsylvania and the Massachusetts Institute of Technology have adopted the same financial aid policy. unredacted adjective: (of a document) with confidential or sensitive information included or visible From the headlines: The Trump administration released over 2,000 documents on JFK’s assassination, leading to a search for new insights. While the unredacted files do not dispute that Lee Harvey Oswald acted alone, they reveal long-hidden details about CIA agents and operations. Attorney Larry Schnapf, who has pushed for their release, argues the disclosures highlight excessive government secrecy. He believes the unredacted documents demonstrate how overclassification has been misused by national security officials. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 426 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Sitecore โดนเจาะ! ช่องโหว่ ViewState เปิดทางให้มัลแวร์ WEEPSTEEL ยึดระบบแบบเงียบๆ”

    ลองนึกภาพว่าคุณเป็นผู้ดูแลระบบของเว็บไซต์องค์กรที่ใช้ Sitecore ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจัดการเนื้อหายอดนิยมระดับโลก แล้วจู่ๆ มีแฮกเกอร์แอบเข้ามาในระบบโดยที่คุณไม่รู้ตัว ไม่ใช่เพราะโค้ดมีบั๊ก แต่เพราะคุณใช้ “คีย์ตัวอย่าง” จากเอกสารคู่มือที่ Sitecore เคยเผยแพร่ไว้ตั้งแต่ปี 2017!

    ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น CVE-2025-53690 ซึ่งเกิดจากการใช้ machine key ที่ไม่ปลอดภัยในฟีเจอร์ ViewState ของ ASP.NET โดย ViewState เป็นกลไกที่ช่วยให้เว็บจำสถานะของผู้ใช้ระหว่างการใช้งาน แต่หากคีย์ที่ใช้ในการเข้ารหัส ViewState ถูกเปิดเผย แฮกเกอร์สามารถสร้าง payload ปลอมที่ดูเหมือนถูกต้อง และส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้รันโค้ดอันตรายได้ทันที — นี่คือ Remote Code Execution (RCE) แบบเต็มรูปแบบ

    มัลแวร์ที่ถูกใช้ในแคมเปญนี้ชื่อว่า WEEPSTEEL ซึ่งเป็น backdoor ที่ออกแบบมาเพื่อเก็บข้อมูลภายในระบบ เช่น รายชื่อผู้ใช้, โครงสร้างเครือข่าย, และไฟล์ config สำคัญ จากนั้นแฮกเกอร์จะใช้เครื่องมือโอเพ่นซอร์สอย่าง EARTHWORM, DWAGENT และ SHARPHOUND เพื่อขยายการควบคุมระบบ สร้างบัญชีผู้ดูแลใหม่ และขโมยข้อมูลแบบเงียบๆ

    สิ่งที่น่ากลัวคือ ช่องโหว่นี้ไม่ได้เกิดจากโค้ดของ ASP.NET แต่เกิดจาก “การคัดลอกคีย์ตัวอย่าง” จากเอกสารคู่มือมาใช้จริงใน production ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่หลายองค์กรทำโดยไม่รู้ตัว

    แม้ว่า Sitecore จะออกอัปเดตใหม่ที่สร้างคีย์แบบสุ่มโดยอัตโนมัติ และแจ้งเตือนลูกค้าที่ได้รับผลกระทบแล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า “ผลกระทบที่แท้จริงยังไม่ปรากฏ” และอาจมีการโจมตีเพิ่มเติมในอนาคต หากองค์กรไม่รีบแก้ไข

    ช่องโหว่ CVE-2025-53690 ใน Sitecore
    เกิดจากการใช้ machine key ตัวอย่างจากเอกสารคู่มือก่อนปี 2017
    เป็นช่องโหว่ ViewState deserialization ที่เปิดทางให้ Remote Code Execution (RCE)
    ส่งผลกระทบต่อ Sitecore XM, XP, XC และ Managed Cloud ที่ใช้คีย์แบบ static
    ไม่กระทบต่อ XM Cloud, Content Hub, CDP, Personalize, OrderCloud และ Commerce Server
    ViewState ถูกใช้ใน ASP.NET เพื่อเก็บสถานะของผู้ใช้ใน hidden field
    หาก machine key ถูกเปิดเผย เซิร์ฟเวอร์จะไม่สามารถแยกแยะ payload ที่ถูกต้องกับมัลแวร์ได้

    การโจมตีและมัลแวร์ WEEPSTEEL
    เริ่มจากการ probe หน้า /sitecore/blocked.aspx ที่มี ViewState แบบไม่ต้องล็อกอิน
    ใช้ ViewState payload ที่ฝัง WEEPSTEEL เพื่อเก็บข้อมูลระบบ
    ใช้ EARTHWORM สำหรับสร้าง tunnel, DWAGENT สำหรับ remote access, SHARPHOUND สำหรับสำรวจ Active Directory
    สร้างบัญชีผู้ดูแลใหม่ เช่น asp$ และ sawadmin เพื่อขโมย credentials
    dump ข้อมูลจาก SAM และ SYSTEM hives เพื่อขยายการเข้าถึง
    ใช้ GoTokenTheft เพื่อขโมย token และเปิดทางให้ RDP access
    ลบบัญชีที่สร้างไว้หลังจากได้สิทธิ์จากบัญชีอื่น เพื่อหลบการตรวจสอบ

    การตอบสนองและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
    Sitecore ออกอัปเดตใหม่ที่สร้าง machine key แบบสุ่มโดยอัตโนมัติ
    แนะนำให้ผู้ดูแลระบบเปลี่ยนคีย์ทั้งหมดใน web.config และเข้ารหัส <machineKey>
    ควรหมุนเวียน machine key เป็นประจำเพื่อความปลอดภัย
    ตรวจสอบระบบย้อนหลังเพื่อหาสัญญาณการเจาะระบบ

    https://hackread.com/zero-day-sitecore-exploited-deploy-weepsteel-malware/
    🛡️ “Sitecore โดนเจาะ! ช่องโหว่ ViewState เปิดทางให้มัลแวร์ WEEPSTEEL ยึดระบบแบบเงียบๆ” ลองนึกภาพว่าคุณเป็นผู้ดูแลระบบของเว็บไซต์องค์กรที่ใช้ Sitecore ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจัดการเนื้อหายอดนิยมระดับโลก แล้วจู่ๆ มีแฮกเกอร์แอบเข้ามาในระบบโดยที่คุณไม่รู้ตัว ไม่ใช่เพราะโค้ดมีบั๊ก แต่เพราะคุณใช้ “คีย์ตัวอย่าง” จากเอกสารคู่มือที่ Sitecore เคยเผยแพร่ไว้ตั้งแต่ปี 2017! ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น CVE-2025-53690 ซึ่งเกิดจากการใช้ machine key ที่ไม่ปลอดภัยในฟีเจอร์ ViewState ของ ASP.NET โดย ViewState เป็นกลไกที่ช่วยให้เว็บจำสถานะของผู้ใช้ระหว่างการใช้งาน แต่หากคีย์ที่ใช้ในการเข้ารหัส ViewState ถูกเปิดเผย แฮกเกอร์สามารถสร้าง payload ปลอมที่ดูเหมือนถูกต้อง และส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้รันโค้ดอันตรายได้ทันที — นี่คือ Remote Code Execution (RCE) แบบเต็มรูปแบบ มัลแวร์ที่ถูกใช้ในแคมเปญนี้ชื่อว่า WEEPSTEEL ซึ่งเป็น backdoor ที่ออกแบบมาเพื่อเก็บข้อมูลภายในระบบ เช่น รายชื่อผู้ใช้, โครงสร้างเครือข่าย, และไฟล์ config สำคัญ จากนั้นแฮกเกอร์จะใช้เครื่องมือโอเพ่นซอร์สอย่าง EARTHWORM, DWAGENT และ SHARPHOUND เพื่อขยายการควบคุมระบบ สร้างบัญชีผู้ดูแลใหม่ และขโมยข้อมูลแบบเงียบๆ สิ่งที่น่ากลัวคือ ช่องโหว่นี้ไม่ได้เกิดจากโค้ดของ ASP.NET แต่เกิดจาก “การคัดลอกคีย์ตัวอย่าง” จากเอกสารคู่มือมาใช้จริงใน production ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่หลายองค์กรทำโดยไม่รู้ตัว แม้ว่า Sitecore จะออกอัปเดตใหม่ที่สร้างคีย์แบบสุ่มโดยอัตโนมัติ และแจ้งเตือนลูกค้าที่ได้รับผลกระทบแล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า “ผลกระทบที่แท้จริงยังไม่ปรากฏ” และอาจมีการโจมตีเพิ่มเติมในอนาคต หากองค์กรไม่รีบแก้ไข ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-53690 ใน Sitecore ➡️ เกิดจากการใช้ machine key ตัวอย่างจากเอกสารคู่มือก่อนปี 2017 ➡️ เป็นช่องโหว่ ViewState deserialization ที่เปิดทางให้ Remote Code Execution (RCE) ➡️ ส่งผลกระทบต่อ Sitecore XM, XP, XC และ Managed Cloud ที่ใช้คีย์แบบ static ➡️ ไม่กระทบต่อ XM Cloud, Content Hub, CDP, Personalize, OrderCloud และ Commerce Server ➡️ ViewState ถูกใช้ใน ASP.NET เพื่อเก็บสถานะของผู้ใช้ใน hidden field ➡️ หาก machine key ถูกเปิดเผย เซิร์ฟเวอร์จะไม่สามารถแยกแยะ payload ที่ถูกต้องกับมัลแวร์ได้ ✅ การโจมตีและมัลแวร์ WEEPSTEEL ➡️ เริ่มจากการ probe หน้า /sitecore/blocked.aspx ที่มี ViewState แบบไม่ต้องล็อกอิน ➡️ ใช้ ViewState payload ที่ฝัง WEEPSTEEL เพื่อเก็บข้อมูลระบบ ➡️ ใช้ EARTHWORM สำหรับสร้าง tunnel, DWAGENT สำหรับ remote access, SHARPHOUND สำหรับสำรวจ Active Directory ➡️ สร้างบัญชีผู้ดูแลใหม่ เช่น asp$ และ sawadmin เพื่อขโมย credentials ➡️ dump ข้อมูลจาก SAM และ SYSTEM hives เพื่อขยายการเข้าถึง ➡️ ใช้ GoTokenTheft เพื่อขโมย token และเปิดทางให้ RDP access ➡️ ลบบัญชีที่สร้างไว้หลังจากได้สิทธิ์จากบัญชีอื่น เพื่อหลบการตรวจสอบ ✅ การตอบสนองและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ➡️ Sitecore ออกอัปเดตใหม่ที่สร้าง machine key แบบสุ่มโดยอัตโนมัติ ➡️ แนะนำให้ผู้ดูแลระบบเปลี่ยนคีย์ทั้งหมดใน web.config และเข้ารหัส <machineKey> ➡️ ควรหมุนเวียน machine key เป็นประจำเพื่อความปลอดภัย ➡️ ตรวจสอบระบบย้อนหลังเพื่อหาสัญญาณการเจาะระบบ https://hackread.com/zero-day-sitecore-exploited-deploy-weepsteel-malware/
    HACKREAD.COM
    Zero-Day in Sitecore Exploited to Deploy WEEPSTEEL Malware
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ย้อนอดีตสู่อนาคต: ทำไมการจัดรูปแบบโค้ดควรเป็นเรื่องไม่จำเป็นตั้งแต่ยุค 80”

    ลองจินตนาการว่า...คุณกำลังเขียนโค้ดในปี 2025 แต่ยังต้องมานั่งเถียงกันเรื่องการเว้นวรรค, การใช้ tab หรือ space, หรือแม้แต่การตั้งค่า eslint ที่ทำให้ทีมปวดหัว ทั้งที่ปัญหาเหล่านี้ “ถูกแก้ไปแล้วตั้งแต่ยุค 80”!

    บทความนี้เล่าย้อนถึงประสบการณ์ของผู้เขียนกับครูสอนคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนมัธยมที่เคยทำงานกับคอมไพเลอร์ภาษา Ada และ Rational R1000 ซึ่งเป็น workstation ที่ล้ำหน้ามากในยุคนั้น โดยใช้ระบบที่เรียกว่า DIANA (Descriptive Intermediate Attributed Notation for Ada) แทนการเก็บ source code แบบข้อความธรรมดา

    DIANA เป็น IR (Intermediate Representation) ที่สามารถแสดงผลในรูปแบบใดก็ได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการ โดยไม่ต้องสนใจเรื่องการจัดรูปแบบโค้ดเลย เพราะสิ่งที่แสดงออกมาเป็นเพียง “ภาพพิมพ์สวยๆ” ของโครงสร้างโปรแกรมที่แท้จริง ซึ่งถูกจัดเก็บเป็นต้นไม้ข้อมูล (program tree) และแก้ไขได้โดยตรงผ่าน editor แบบ projectional editing

    Rational R1000 ยังมีฟีเจอร์ล้ำยุค เช่น incremental compilation, semantic analysis, version control และ debugging ที่ฝังอยู่ในระบบตั้งแต่ต้น ซึ่งช่วยให้การพัฒนาโปรแกรมขนาดใหญ่เป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

    แม้วันนี้เราจะมีเครื่องมือที่ดีขึ้น เช่น Claude ที่ช่วย refactor โค้ดได้ง่าย แต่ในเรื่องของการจัดรูปแบบ เรากลับถอยหลัง เพราะยังต้องเสียเวลาไปกับการตั้งค่าลินเตอร์และการตกแต่งโค้ด ทั้งที่เทคโนโลยีในอดีตเคยทำให้สิ่งเหล่านี้ “ไม่จำเป็น” มาแล้ว

    แนวคิดจากยุค 80 ที่ล้ำหน้ากว่าปัจจุบัน
    DIANA เป็น IR ที่ใช้แทนการเก็บ source code แบบข้อความ
    ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการแสดงผลโค้ดได้ตามใจ โดยไม่กระทบต่อการทำงาน
    Rational R1000 ใช้ DIANA เป็นแกนหลักในการพัฒนาโปรแกรม
    ระบบสามารถแก้ไขโครงสร้างโปรแกรมโดยตรงผ่าน projectional editing
    ไม่ต้องเถียงเรื่อง tab vs space หรือ eslint-config อีกต่อไป

    ฟีเจอร์ล้ำยุคของ Rational R1000
    มี incremental compilation สำหรับภาษา strongly typed
    รองรับ semantic analysis และ version control ในตัว
    ใช้ในการพัฒนาโปรแกรมระดับชาติ เช่น ISS และ F-22
    เป็นต้นกำเนิดของ UML โดย Grady Booch
    IDE ที่ฝังอยู่ในระบบสามารถ debug และ refactor ได้ทันที

    บทเรียนสำหรับยุคปัจจุบัน
    Claude และ AI agent ช่วยให้ refactor โค้ดได้ง่ายขึ้น
    แต่การจัดรูปแบบโค้ดยังเป็นปัญหาที่ไม่ควรมีอีกต่อไป
    ควรพิจารณาแนวทางใหม่ เช่น projectional editing หรือการใช้ IR

    คำเตือนเกี่ยวกับการพึ่งพาเครื่องมือจัดรูปแบบ
    การถกเถียงเรื่อง formatting อาจทำให้เสียเวลาโดยไม่จำเป็น
    การบังคับใช้ eslint หรือ prettier อาจสร้างความขัดแย้งในทีม
    การยึดติดกับรูปแบบโค้ดอาจบดบังเป้าหมายที่แท้จริงของการพัฒนา
    การไม่เข้าใจโครงสร้างภายในของโค้ด อาจทำให้ refactor ผิดพลาด

    https://maxleiter.com/blog/formatting
    🧾 “ย้อนอดีตสู่อนาคต: ทำไมการจัดรูปแบบโค้ดควรเป็นเรื่องไม่จำเป็นตั้งแต่ยุค 80” ลองจินตนาการว่า...คุณกำลังเขียนโค้ดในปี 2025 แต่ยังต้องมานั่งเถียงกันเรื่องการเว้นวรรค, การใช้ tab หรือ space, หรือแม้แต่การตั้งค่า eslint ที่ทำให้ทีมปวดหัว ทั้งที่ปัญหาเหล่านี้ “ถูกแก้ไปแล้วตั้งแต่ยุค 80”! บทความนี้เล่าย้อนถึงประสบการณ์ของผู้เขียนกับครูสอนคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนมัธยมที่เคยทำงานกับคอมไพเลอร์ภาษา Ada และ Rational R1000 ซึ่งเป็น workstation ที่ล้ำหน้ามากในยุคนั้น โดยใช้ระบบที่เรียกว่า DIANA (Descriptive Intermediate Attributed Notation for Ada) แทนการเก็บ source code แบบข้อความธรรมดา DIANA เป็น IR (Intermediate Representation) ที่สามารถแสดงผลในรูปแบบใดก็ได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการ โดยไม่ต้องสนใจเรื่องการจัดรูปแบบโค้ดเลย เพราะสิ่งที่แสดงออกมาเป็นเพียง “ภาพพิมพ์สวยๆ” ของโครงสร้างโปรแกรมที่แท้จริง ซึ่งถูกจัดเก็บเป็นต้นไม้ข้อมูล (program tree) และแก้ไขได้โดยตรงผ่าน editor แบบ projectional editing Rational R1000 ยังมีฟีเจอร์ล้ำยุค เช่น incremental compilation, semantic analysis, version control และ debugging ที่ฝังอยู่ในระบบตั้งแต่ต้น ซึ่งช่วยให้การพัฒนาโปรแกรมขนาดใหญ่เป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ แม้วันนี้เราจะมีเครื่องมือที่ดีขึ้น เช่น Claude ที่ช่วย refactor โค้ดได้ง่าย แต่ในเรื่องของการจัดรูปแบบ เรากลับถอยหลัง เพราะยังต้องเสียเวลาไปกับการตั้งค่าลินเตอร์และการตกแต่งโค้ด ทั้งที่เทคโนโลยีในอดีตเคยทำให้สิ่งเหล่านี้ “ไม่จำเป็น” มาแล้ว ✅ แนวคิดจากยุค 80 ที่ล้ำหน้ากว่าปัจจุบัน ➡️ DIANA เป็น IR ที่ใช้แทนการเก็บ source code แบบข้อความ ➡️ ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการแสดงผลโค้ดได้ตามใจ โดยไม่กระทบต่อการทำงาน ➡️ Rational R1000 ใช้ DIANA เป็นแกนหลักในการพัฒนาโปรแกรม ➡️ ระบบสามารถแก้ไขโครงสร้างโปรแกรมโดยตรงผ่าน projectional editing ➡️ ไม่ต้องเถียงเรื่อง tab vs space หรือ eslint-config อีกต่อไป ✅ ฟีเจอร์ล้ำยุคของ Rational R1000 ➡️ มี incremental compilation สำหรับภาษา strongly typed ➡️ รองรับ semantic analysis และ version control ในตัว ➡️ ใช้ในการพัฒนาโปรแกรมระดับชาติ เช่น ISS และ F-22 ➡️ เป็นต้นกำเนิดของ UML โดย Grady Booch ➡️ IDE ที่ฝังอยู่ในระบบสามารถ debug และ refactor ได้ทันที ✅ บทเรียนสำหรับยุคปัจจุบัน ➡️ Claude และ AI agent ช่วยให้ refactor โค้ดได้ง่ายขึ้น ➡️ แต่การจัดรูปแบบโค้ดยังเป็นปัญหาที่ไม่ควรมีอีกต่อไป ➡️ ควรพิจารณาแนวทางใหม่ เช่น projectional editing หรือการใช้ IR ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับการพึ่งพาเครื่องมือจัดรูปแบบ ⛔ การถกเถียงเรื่อง formatting อาจทำให้เสียเวลาโดยไม่จำเป็น ⛔ การบังคับใช้ eslint หรือ prettier อาจสร้างความขัดแย้งในทีม ⛔ การยึดติดกับรูปแบบโค้ดอาจบดบังเป้าหมายที่แท้จริงของการพัฒนา ⛔ การไม่เข้าใจโครงสร้างภายในของโค้ด อาจทำให้ refactor ผิดพลาด https://maxleiter.com/blog/formatting
    MAXLEITER.COM
    Max Leiter
    and we knew this back in the 80s
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Ironwood: เมื่อ Google สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ “ฉลาดและยืดหยุ่น” ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

    ในงาน Hot Chips 2025 Google ได้เปิดเผยรายละเอียดของ Ironwood TPU ซึ่งเป็นชิปรุ่นที่ 7 ของตระกูล Tensor Processing Unit โดยออกแบบมาเพื่อรองรับงาน inference ขนาดใหญ่โดยเฉพาะ ไม่ใช่การเทรนโมเดลเหมือนรุ่นก่อน ๆ

    แต่ละชิป Ironwood มีสถาปัตยกรรมแบบ dual-die ให้กำลังประมวลผล FP8 สูงถึง 4,614 TFLOPs และมาพร้อมกับหน่วยความจำ HBM3e ขนาด 192GB ต่อชิป โดยมีแบนด์วิดธ์สูงถึง 7.3TB/s

    ระบบสามารถขยายได้ถึง 9,216 ชิปต่อหนึ่ง pod โดยไม่ต้องใช้ glue logic และมี I/O bandwidth รวมถึง 1.2TBps ทำให้สามารถสร้างระบบที่มี shared memory ขนาด 1.77PB ได้—ซึ่งถือเป็นสถิติโลกใหม่สำหรับระบบ multi-CPU ที่ใช้ shared memory

    การเชื่อมต่อระหว่างแร็คใช้ optical circuit switch ที่สามารถ reconfigure ได้เมื่อมี node เสีย พร้อมระบบ checkpoint recovery และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย เช่น root of trust, built-in self test, และการตรวจจับ silent data corruption

    Ironwood ยังใช้ AI ในการออกแบบตัวเอง เช่น การ optimize ALU circuits และ floorplan พร้อมเพิ่ม SparseCore รุ่นที่ 4 เพื่อเร่งงาน embedding และ collective operations เช่น recommendation engine

    ระบบระบายความร้อนใช้ cold plate รุ่นที่ 3 ของ Google ซึ่งเป็น liquid cooling แบบเต็มรูปแบบ และมีการปรับแรงดันไฟฟ้าและความถี่แบบ dynamic เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์ให้ดีกว่ารุ่น Trillium ถึง 2 เท่า

    สเปกหลักของ Ironwood TPU
    Dual-die architecture ให้ 4,614 TFLOPs FP8 ต่อชิป
    หน่วยความจำ HBM3e ขนาด 192GB ต่อชิป พร้อมแบนด์วิดธ์ 7.3TB/s
    รองรับการขยายถึง 9,216 ชิปต่อ pod ด้วย I/O bandwidth 1.2TBps

    สถิติโลกด้าน shared memory
    ระบบมี shared memory ขนาด 1.77PB แบบ addressable โดยตรง
    ใช้ optical circuit switch เชื่อมต่อแร็คแบบ dynamic
    รองรับ workload recovery และ node reconfiguration

    ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและเสถียรภาพ
    มี root of trust, built-in self test, และ logic repair
    ตรวจจับและป้องกัน silent data corruption
    ออกแบบเพื่อ RAS: reliability, availability, serviceability

    การออกแบบด้วย AI และการใช้งาน
    ใช้ AI ในการ optimize ALU และ floorplan
    เพิ่ม SparseCore รุ่นที่ 4 สำหรับ embedding และ collective ops
    รองรับงาน inference เช่น LLM, recommendation, simulation

    ระบบระบายความร้อนและประสิทธิภาพ
    ใช้ cold plate liquid cooling รุ่นที่ 3 ของ Google
    ปรับแรงดันและความถี่แบบ dynamic เพื่อเพิ่ม efficiency
    ประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีกว่ารุ่น Trillium ถึง 2 เท่า

    https://www.techradar.com/pro/googles-most-powerful-supercomputer-ever-has-a-combined-memory-of-1-77pb-apparently-a-new-world-record-for-shared-memory-multi-cpu-setups
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Ironwood: เมื่อ Google สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ “ฉลาดและยืดหยุ่น” ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในงาน Hot Chips 2025 Google ได้เปิดเผยรายละเอียดของ Ironwood TPU ซึ่งเป็นชิปรุ่นที่ 7 ของตระกูล Tensor Processing Unit โดยออกแบบมาเพื่อรองรับงาน inference ขนาดใหญ่โดยเฉพาะ ไม่ใช่การเทรนโมเดลเหมือนรุ่นก่อน ๆ แต่ละชิป Ironwood มีสถาปัตยกรรมแบบ dual-die ให้กำลังประมวลผล FP8 สูงถึง 4,614 TFLOPs และมาพร้อมกับหน่วยความจำ HBM3e ขนาด 192GB ต่อชิป โดยมีแบนด์วิดธ์สูงถึง 7.3TB/s ระบบสามารถขยายได้ถึง 9,216 ชิปต่อหนึ่ง pod โดยไม่ต้องใช้ glue logic และมี I/O bandwidth รวมถึง 1.2TBps ทำให้สามารถสร้างระบบที่มี shared memory ขนาด 1.77PB ได้—ซึ่งถือเป็นสถิติโลกใหม่สำหรับระบบ multi-CPU ที่ใช้ shared memory การเชื่อมต่อระหว่างแร็คใช้ optical circuit switch ที่สามารถ reconfigure ได้เมื่อมี node เสีย พร้อมระบบ checkpoint recovery และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย เช่น root of trust, built-in self test, และการตรวจจับ silent data corruption Ironwood ยังใช้ AI ในการออกแบบตัวเอง เช่น การ optimize ALU circuits และ floorplan พร้อมเพิ่ม SparseCore รุ่นที่ 4 เพื่อเร่งงาน embedding และ collective operations เช่น recommendation engine ระบบระบายความร้อนใช้ cold plate รุ่นที่ 3 ของ Google ซึ่งเป็น liquid cooling แบบเต็มรูปแบบ และมีการปรับแรงดันไฟฟ้าและความถี่แบบ dynamic เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์ให้ดีกว่ารุ่น Trillium ถึง 2 เท่า ✅ สเปกหลักของ Ironwood TPU ➡️ Dual-die architecture ให้ 4,614 TFLOPs FP8 ต่อชิป ➡️ หน่วยความจำ HBM3e ขนาด 192GB ต่อชิป พร้อมแบนด์วิดธ์ 7.3TB/s ➡️ รองรับการขยายถึง 9,216 ชิปต่อ pod ด้วย I/O bandwidth 1.2TBps ✅ สถิติโลกด้าน shared memory ➡️ ระบบมี shared memory ขนาด 1.77PB แบบ addressable โดยตรง ➡️ ใช้ optical circuit switch เชื่อมต่อแร็คแบบ dynamic ➡️ รองรับ workload recovery และ node reconfiguration ✅ ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและเสถียรภาพ ➡️ มี root of trust, built-in self test, และ logic repair ➡️ ตรวจจับและป้องกัน silent data corruption ➡️ ออกแบบเพื่อ RAS: reliability, availability, serviceability ✅ การออกแบบด้วย AI และการใช้งาน ➡️ ใช้ AI ในการ optimize ALU และ floorplan ➡️ เพิ่ม SparseCore รุ่นที่ 4 สำหรับ embedding และ collective ops ➡️ รองรับงาน inference เช่น LLM, recommendation, simulation ✅ ระบบระบายความร้อนและประสิทธิภาพ ➡️ ใช้ cold plate liquid cooling รุ่นที่ 3 ของ Google ➡️ ปรับแรงดันและความถี่แบบ dynamic เพื่อเพิ่ม efficiency ➡️ ประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีกว่ารุ่น Trillium ถึง 2 เท่า https://www.techradar.com/pro/googles-most-powerful-supercomputer-ever-has-a-combined-memory-of-1-77pb-apparently-a-new-world-record-for-shared-memory-multi-cpu-setups
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Dragonfly ถึง $10M: เมื่อสหรัฐฯ ประกาศล่าตัวแฮกเกอร์รัฐรัสเซียที่เจาะโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก

    กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศตั้งรางวัลสูงถึง $10 ล้าน สำหรับผู้ให้ข้อมูลนำไปสู่การจับกุมแฮกเกอร์ชาวรัสเซีย 3 ราย ได้แก่ Marat Tyukov, Mikhail Gavrilov และ Pavel Akulov ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของ FSB หน่วยข่าวกรองของรัสเซีย และเป็นสมาชิกของ Center 16 หรือที่รู้จักในวงการไซเบอร์ว่า Dragonfly, Berserk Bear, Energetic Bear และ Crouching Yeti

    ตั้งแต่ปี 2012–2017 กลุ่มนี้ได้เจาะระบบของโรงงานพลังงานกว่า 500 แห่งใน 135 ประเทศ รวมถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์, ระบบส่งกำลัง, บริษัทน้ำมันและก๊าซ, และแม้แต่หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ เช่น Nuclear Regulatory Commission โดยใช้เทคนิคหลากหลาย เช่น spear-phishing, watering hole, supply chain attack และการฝังมัลแวร์ Havex

    หนึ่งในเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดคือการเจาะระบบโรงกลั่นน้ำมันในปี 2017 และติดตั้งมัลแวร์ที่ทำให้ระบบควบคุมความปลอดภัย (ICS) “ดูเหมือนทำงานปกติ” ทั้งที่จริงแล้วสามารถทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ทันที

    แม้ Cisco จะออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ CVE-2018-0171 ตั้งแต่ปี 2018 แต่กลุ่มนี้ยังคงใช้ช่องโหว่นี้เจาะระบบที่ยังใช้อุปกรณ์รุ่นเก่า โดยเฉพาะ Smart Install บน IOS และ IOS XE ซึ่งไม่ต้องมีการยืนยันตัวตนในการเข้าถึง configuration

    การโจมตีล่าสุดยังพบว่ากลุ่มนี้ใช้ช่องโหว่เดิมเพื่อเข้าถึงระบบเครือข่ายของมหาวิทยาลัย, หน่วยงานรัฐท้องถิ่น, ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และโรงงานอุตสาหกรรมในหลายประเทศทั่วโลก โดย FBI เตือนว่าองค์กรอาจไม่รู้ตัวเลยว่าระบบถูกเปลี่ยนแปลง จนกว่าจะเกิดการโจมตีขั้นที่สองที่สร้างความเสียหายจริง

    การตั้งรางวัลนำจับโดยสหรัฐฯ
    กระทรวงการต่างประเทศเสนอรางวัล $10M ผ่านโปรแกรม Rewards for Justice
    เป้าหมายคือเจ้าหน้าที่ FSB 3 รายที่เกี่ยวข้องกับการเจาะโครงสร้างพื้นฐาน
    เปิดช่องทางรับข้อมูลผ่าน Tor เพื่อความปลอดภัยของผู้แจ้งเบาะแส

    กลุ่ม Dragonfly และประวัติการโจมตี
    เป็นหน่วย Center 16 ของ FSB มีชื่อเรียกหลายชื่อในวงการไซเบอร์
    เคยเจาะระบบโรงงานพลังงานกว่า 500 แห่งใน 135 ประเทศ
    ใช้เทคนิค Havex, watering hole, spear-phishing และ supply chain attack

    ช่องโหว่ CVE-2018-0171 และการใช้งานล่าสุด
    เป็นช่องโหว่ใน Smart Install ของ Cisco IOS/IOS XE
    เปิดให้เข้าถึง configuration โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน
    ยังถูกใช้เจาะระบบที่ใช้อุปกรณ์รุ่นเก่าที่ไม่ได้รับการอัปเดต

    ผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐาน
    ระบบ ICS/SCADA ถูกเจาะเพื่อเตรียมการโจมตีขั้นที่สอง
    องค์กรอาจไม่รู้ตัวว่าระบบถูกเปลี่ยนแปลง
    มีความเสี่ยงต่อระบบพลังงาน, น้ำ, และการสื่อสารทั่วโลก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/us-offers-usd10m-reward-for-snitching-on-trio-of-russians-who-hacked-critical-infrastructure
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Dragonfly ถึง $10M: เมื่อสหรัฐฯ ประกาศล่าตัวแฮกเกอร์รัฐรัสเซียที่เจาะโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศตั้งรางวัลสูงถึง $10 ล้าน สำหรับผู้ให้ข้อมูลนำไปสู่การจับกุมแฮกเกอร์ชาวรัสเซีย 3 ราย ได้แก่ Marat Tyukov, Mikhail Gavrilov และ Pavel Akulov ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของ FSB หน่วยข่าวกรองของรัสเซีย และเป็นสมาชิกของ Center 16 หรือที่รู้จักในวงการไซเบอร์ว่า Dragonfly, Berserk Bear, Energetic Bear และ Crouching Yeti ตั้งแต่ปี 2012–2017 กลุ่มนี้ได้เจาะระบบของโรงงานพลังงานกว่า 500 แห่งใน 135 ประเทศ รวมถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์, ระบบส่งกำลัง, บริษัทน้ำมันและก๊าซ, และแม้แต่หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ เช่น Nuclear Regulatory Commission โดยใช้เทคนิคหลากหลาย เช่น spear-phishing, watering hole, supply chain attack และการฝังมัลแวร์ Havex หนึ่งในเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดคือการเจาะระบบโรงกลั่นน้ำมันในปี 2017 และติดตั้งมัลแวร์ที่ทำให้ระบบควบคุมความปลอดภัย (ICS) “ดูเหมือนทำงานปกติ” ทั้งที่จริงแล้วสามารถทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ทันที แม้ Cisco จะออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ CVE-2018-0171 ตั้งแต่ปี 2018 แต่กลุ่มนี้ยังคงใช้ช่องโหว่นี้เจาะระบบที่ยังใช้อุปกรณ์รุ่นเก่า โดยเฉพาะ Smart Install บน IOS และ IOS XE ซึ่งไม่ต้องมีการยืนยันตัวตนในการเข้าถึง configuration การโจมตีล่าสุดยังพบว่ากลุ่มนี้ใช้ช่องโหว่เดิมเพื่อเข้าถึงระบบเครือข่ายของมหาวิทยาลัย, หน่วยงานรัฐท้องถิ่น, ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และโรงงานอุตสาหกรรมในหลายประเทศทั่วโลก โดย FBI เตือนว่าองค์กรอาจไม่รู้ตัวเลยว่าระบบถูกเปลี่ยนแปลง จนกว่าจะเกิดการโจมตีขั้นที่สองที่สร้างความเสียหายจริง ✅ การตั้งรางวัลนำจับโดยสหรัฐฯ ➡️ กระทรวงการต่างประเทศเสนอรางวัล $10M ผ่านโปรแกรม Rewards for Justice ➡️ เป้าหมายคือเจ้าหน้าที่ FSB 3 รายที่เกี่ยวข้องกับการเจาะโครงสร้างพื้นฐาน ➡️ เปิดช่องทางรับข้อมูลผ่าน Tor เพื่อความปลอดภัยของผู้แจ้งเบาะแส ✅ กลุ่ม Dragonfly และประวัติการโจมตี ➡️ เป็นหน่วย Center 16 ของ FSB มีชื่อเรียกหลายชื่อในวงการไซเบอร์ ➡️ เคยเจาะระบบโรงงานพลังงานกว่า 500 แห่งใน 135 ประเทศ ➡️ ใช้เทคนิค Havex, watering hole, spear-phishing และ supply chain attack ✅ ช่องโหว่ CVE-2018-0171 และการใช้งานล่าสุด ➡️ เป็นช่องโหว่ใน Smart Install ของ Cisco IOS/IOS XE ➡️ เปิดให้เข้าถึง configuration โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ➡️ ยังถูกใช้เจาะระบบที่ใช้อุปกรณ์รุ่นเก่าที่ไม่ได้รับการอัปเดต ✅ ผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐาน ➡️ ระบบ ICS/SCADA ถูกเจาะเพื่อเตรียมการโจมตีขั้นที่สอง ➡️ องค์กรอาจไม่รู้ตัวว่าระบบถูกเปลี่ยนแปลง ➡️ มีความเสี่ยงต่อระบบพลังงาน, น้ำ, และการสื่อสารทั่วโลก https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/us-offers-usd10m-reward-for-snitching-on-trio-of-russians-who-hacked-critical-infrastructure
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก CVE-2025-50173: เมื่อการป้องกันการยกระดับสิทธิ์กลายเป็นกับดักสำหรับผู้ใช้ทั่วไป

    Microsoft ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัย KB5063878 สำหรับ Windows 10, 11 และ Server ทุกรุ่นในเดือนสิงหาคม 2025 เพื่อแก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-50173 ซึ่งเป็นช่องโหว่ด้านการยกระดับสิทธิ์ผ่าน Windows Installer โดยผู้โจมตีสามารถใช้ MSI repair flow เพื่อยกระดับสิทธิ์เป็น SYSTEM ได้

    เพื่อปิดช่องโหว่นี้ Microsoft ได้เพิ่มความเข้มงวดของระบบ UAC (User Account Control) โดยบังคับให้มีการขอสิทธิ์แอดมินเมื่อมีการเรียกใช้ MSI repair หรือการติดตั้งบางประเภท แม้จะเป็นผู้ใช้ทั่วไปที่เคยใช้งานได้ตามปกติก็ตาม

    ผลที่ตามมาคือ ผู้ใช้ที่ไม่ใช่แอดมินจะเจอหน้าต่าง UAC เด้งขึ้นมาโดยไม่คาดคิด หรือบางครั้งแอปจะล้มเหลวทันทีโดยไม่มีการแจ้งเตือน เช่น การติดตั้ง Office 2010 จะล้มเหลวด้วย error code 1730 หรือ Autodesk AutoCAD จะไม่สามารถเปิดได้หากมีการเรียก MSI repair แบบเบื้องหลัง

    Microsoft แนะนำให้ผู้ใช้ทั่วไป “คลิกขวาแล้วเลือก Run as administrator” เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา และสำหรับองค์กรสามารถใช้ Group Policy ที่ชื่อ Known Issue Rollback (KIR) เพื่อย้อนการเปลี่ยนแปลงนี้ชั่วคราว

    ในอนาคต Microsoft วางแผนจะให้แอดมินสามารถอนุญาตให้แอปบางตัวทำ MSI repair ได้โดยไม่ต้องขอสิทธิ์ทุกครั้ง แต่ตอนนี้ยังไม่มีแพตช์แก้ไขถาวร

    ช่องโหว่ CVE-2025-50173 และการแก้ไข
    เป็นช่องโหว่ด้านการยกระดับสิทธิ์ผ่าน Windows Installer
    Microsoft แก้ไขด้วยการเพิ่มความเข้มงวดของ UAC
    ส่งผลให้ผู้ใช้ทั่วไปเจอ UAC prompt หรือแอปล้มเหลว

    ผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไป
    แอปที่ใช้ MSI repair เช่น Office 2010, Autodesk, SAP อาจล้มเหลว
    การติดตั้งแบบ per-user หรือ Active Setup จะเจอ UAC prompt
    การ deploy ผ่าน ConfigMgr ที่ใช้ “advertising” จะล้มเหลว

    วิธีแก้ไขชั่วคราว
    ผู้ใช้ทั่วไปควรใช้ “Run as administrator” เพื่อเปิดแอป
    องค์กรสามารถใช้ Group Policy แบบ KIR เพื่อย้อนการเปลี่ยนแปลง
    Microsoft กำลังพัฒนาให้แอดมินอนุญาตแอปเฉพาะได้ในอนาคต

    แพลตฟอร์มที่ได้รับผลกระทบ
    Windows 11 ทุกรุ่น (22H2, 23H2, 24H2)
    Windows 10 (21H2, 22H2) และ Windows Server ตั้งแต่ 2012
    Enterprise และ Server editions ได้รับผลกระทบเช่นกัน

    https://www.tomshardware.com/software/windows/windows-11-august-2025-security-update-is-causing-unintended-uac-prompts-to-appear-for-non-admin-users-some-apps-are-crashing
    🎙️ เรื่องเล่าจาก CVE-2025-50173: เมื่อการป้องกันการยกระดับสิทธิ์กลายเป็นกับดักสำหรับผู้ใช้ทั่วไป Microsoft ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัย KB5063878 สำหรับ Windows 10, 11 และ Server ทุกรุ่นในเดือนสิงหาคม 2025 เพื่อแก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-50173 ซึ่งเป็นช่องโหว่ด้านการยกระดับสิทธิ์ผ่าน Windows Installer โดยผู้โจมตีสามารถใช้ MSI repair flow เพื่อยกระดับสิทธิ์เป็น SYSTEM ได้ เพื่อปิดช่องโหว่นี้ Microsoft ได้เพิ่มความเข้มงวดของระบบ UAC (User Account Control) โดยบังคับให้มีการขอสิทธิ์แอดมินเมื่อมีการเรียกใช้ MSI repair หรือการติดตั้งบางประเภท แม้จะเป็นผู้ใช้ทั่วไปที่เคยใช้งานได้ตามปกติก็ตาม ผลที่ตามมาคือ ผู้ใช้ที่ไม่ใช่แอดมินจะเจอหน้าต่าง UAC เด้งขึ้นมาโดยไม่คาดคิด หรือบางครั้งแอปจะล้มเหลวทันทีโดยไม่มีการแจ้งเตือน เช่น การติดตั้ง Office 2010 จะล้มเหลวด้วย error code 1730 หรือ Autodesk AutoCAD จะไม่สามารถเปิดได้หากมีการเรียก MSI repair แบบเบื้องหลัง Microsoft แนะนำให้ผู้ใช้ทั่วไป “คลิกขวาแล้วเลือก Run as administrator” เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา และสำหรับองค์กรสามารถใช้ Group Policy ที่ชื่อ Known Issue Rollback (KIR) เพื่อย้อนการเปลี่ยนแปลงนี้ชั่วคราว ในอนาคต Microsoft วางแผนจะให้แอดมินสามารถอนุญาตให้แอปบางตัวทำ MSI repair ได้โดยไม่ต้องขอสิทธิ์ทุกครั้ง แต่ตอนนี้ยังไม่มีแพตช์แก้ไขถาวร ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-50173 และการแก้ไข ➡️ เป็นช่องโหว่ด้านการยกระดับสิทธิ์ผ่าน Windows Installer ➡️ Microsoft แก้ไขด้วยการเพิ่มความเข้มงวดของ UAC ➡️ ส่งผลให้ผู้ใช้ทั่วไปเจอ UAC prompt หรือแอปล้มเหลว ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไป ➡️ แอปที่ใช้ MSI repair เช่น Office 2010, Autodesk, SAP อาจล้มเหลว ➡️ การติดตั้งแบบ per-user หรือ Active Setup จะเจอ UAC prompt ➡️ การ deploy ผ่าน ConfigMgr ที่ใช้ “advertising” จะล้มเหลว ✅ วิธีแก้ไขชั่วคราว ➡️ ผู้ใช้ทั่วไปควรใช้ “Run as administrator” เพื่อเปิดแอป ➡️ องค์กรสามารถใช้ Group Policy แบบ KIR เพื่อย้อนการเปลี่ยนแปลง ➡️ Microsoft กำลังพัฒนาให้แอดมินอนุญาตแอปเฉพาะได้ในอนาคต ✅ แพลตฟอร์มที่ได้รับผลกระทบ ➡️ Windows 11 ทุกรุ่น (22H2, 23H2, 24H2) ➡️ Windows 10 (21H2, 22H2) และ Windows Server ตั้งแต่ 2012 ➡️ Enterprise และ Server editions ได้รับผลกระทบเช่นกัน https://www.tomshardware.com/software/windows/windows-11-august-2025-security-update-is-causing-unintended-uac-prompts-to-appear-for-non-admin-users-some-apps-are-crashing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก BlazeCore: เมื่อ CPU ที่ยังไม่เปิดตัวถูกใส่ไว้ในเครื่องขายจริง

    ต้นเดือนกันยายน 2025 มีผู้พบว่า BlazeCore ซึ่งเป็นผู้ผลิตพีซีเกมมิ่งแบบประกอบล่วงหน้า ได้ระบุ “Ryzen 7 9700F” ไว้ในรายละเอียดของเครื่องรุ่นหนึ่งที่ขายผ่านร้าน Microless ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยในหน้าสเปกหลักยังคงระบุว่าใช้ Ryzen 7 9700X แต่เมื่อเลื่อนลงไปอ่านรายละเอียดกลับพบชื่อ 9700F โผล่ขึ้นมา

    Ryzen 7 9700F เป็นรุ่นที่ยังไม่มีการเปิดตัวจาก AMD แต่มีข้อมูลหลุดออกมาก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนึ่งในสองรุ่นใหม่ในตระกูล Zen 5 ที่ไม่มีกราฟิกในตัว (F-series) โดยอีกตัวคือ Ryzen 5 9500F

    จากข้อมูลที่หลุดออกมา Ryzen 7 9700F มีสเปกใกล้เคียงกับ 9700X ทุกประการ: 8 คอร์ 16 เธรด, base clock 3.8 GHz, L3 cache 32MB แต่ boost clock ต่ำกว่าเล็กน้อยที่ 5.4 GHz (9700X อยู่ที่ 5.5 GHz) และไม่มี iGPU ซึ่งทำให้ราคาควรจะถูกกว่า แต่ในรายการสินค้ากลับตั้งไว้ที่ $294 ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้

    เมื่อดูจาก benchmark ล่าสุด พบว่า 9700F มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ 9700X ทั้งในงาน multi-core และ single-core โดยต่างกันเพียงเล็กน้อยในคะแนน Cinebench และ Geekbench ซึ่งหมายความว่าในงานจริง เช่น การเล่นเกมหรือการตัดต่อวิดีโอ ความแตกต่างแทบไม่รู้สึกได้ หากใช้ GPU แยก

    การปรากฏตัวของ Ryzen 7 9700F
    ถูกระบุในรายละเอียดของเครื่อง BlazeCore บนร้าน Microless
    ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก AMD
    อาจเป็นการเตรียมเปลี่ยนสเปก หรือพิมพ์ผิดจากผู้ประกอบ

    สเปกของ Ryzen 7 9700F เทียบกับ 9700X
    8 คอร์ 16 เธรด, base clock 3.8 GHz, L3 cache 32MB เท่ากัน
    boost clock ต่ำกว่า 9700X เล็กน้อย (5.4 GHz vs 5.5 GHz)
    ไม่มี iGPU ซึ่งทำให้ราคาควรต่ำกว่า แต่กลับตั้งไว้ที่ $294

    ประสิทธิภาพจาก benchmark ล่าสุด
    คะแนน Cinebench และ Geekbench ต่างกันเพียง ~2% ใน single-core
    multi-core performance เท่ากันทุกประการ
    เหมาะกับผู้ใช้ที่มี GPU แยกและไม่ต้องการ iGPU

    บริบทของ Zen 5 และ F-series
    Ryzen 7 9700F และ 9500F เป็นรุ่นแรกของ Zen 5 ที่ไม่มีกราฟิกในตัว
    เหมาะกับตลาดที่เน้นประสิทธิภาพต่อราคา เช่น เกมมิ่งและ workstation
    อาจเป็นกลยุทธ์ของ AMD เพื่อลดต้นทุนและแข่งขันกับ Intel F-series

    https://wccftech.com/system-integrator-mentions-ryzen-7-9700f-with-boost-clock-of-5-4-ghz-configuration-still-boasts-9700x/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก BlazeCore: เมื่อ CPU ที่ยังไม่เปิดตัวถูกใส่ไว้ในเครื่องขายจริง ต้นเดือนกันยายน 2025 มีผู้พบว่า BlazeCore ซึ่งเป็นผู้ผลิตพีซีเกมมิ่งแบบประกอบล่วงหน้า ได้ระบุ “Ryzen 7 9700F” ไว้ในรายละเอียดของเครื่องรุ่นหนึ่งที่ขายผ่านร้าน Microless ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยในหน้าสเปกหลักยังคงระบุว่าใช้ Ryzen 7 9700X แต่เมื่อเลื่อนลงไปอ่านรายละเอียดกลับพบชื่อ 9700F โผล่ขึ้นมา Ryzen 7 9700F เป็นรุ่นที่ยังไม่มีการเปิดตัวจาก AMD แต่มีข้อมูลหลุดออกมาก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนึ่งในสองรุ่นใหม่ในตระกูล Zen 5 ที่ไม่มีกราฟิกในตัว (F-series) โดยอีกตัวคือ Ryzen 5 9500F จากข้อมูลที่หลุดออกมา Ryzen 7 9700F มีสเปกใกล้เคียงกับ 9700X ทุกประการ: 8 คอร์ 16 เธรด, base clock 3.8 GHz, L3 cache 32MB แต่ boost clock ต่ำกว่าเล็กน้อยที่ 5.4 GHz (9700X อยู่ที่ 5.5 GHz) และไม่มี iGPU ซึ่งทำให้ราคาควรจะถูกกว่า แต่ในรายการสินค้ากลับตั้งไว้ที่ $294 ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ เมื่อดูจาก benchmark ล่าสุด พบว่า 9700F มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ 9700X ทั้งในงาน multi-core และ single-core โดยต่างกันเพียงเล็กน้อยในคะแนน Cinebench และ Geekbench ซึ่งหมายความว่าในงานจริง เช่น การเล่นเกมหรือการตัดต่อวิดีโอ ความแตกต่างแทบไม่รู้สึกได้ หากใช้ GPU แยก ✅ การปรากฏตัวของ Ryzen 7 9700F ➡️ ถูกระบุในรายละเอียดของเครื่อง BlazeCore บนร้าน Microless ➡️ ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก AMD ➡️ อาจเป็นการเตรียมเปลี่ยนสเปก หรือพิมพ์ผิดจากผู้ประกอบ ✅ สเปกของ Ryzen 7 9700F เทียบกับ 9700X ➡️ 8 คอร์ 16 เธรด, base clock 3.8 GHz, L3 cache 32MB เท่ากัน ➡️ boost clock ต่ำกว่า 9700X เล็กน้อย (5.4 GHz vs 5.5 GHz) ➡️ ไม่มี iGPU ซึ่งทำให้ราคาควรต่ำกว่า แต่กลับตั้งไว้ที่ $294 ✅ ประสิทธิภาพจาก benchmark ล่าสุด ➡️ คะแนน Cinebench และ Geekbench ต่างกันเพียง ~2% ใน single-core ➡️ multi-core performance เท่ากันทุกประการ ➡️ เหมาะกับผู้ใช้ที่มี GPU แยกและไม่ต้องการ iGPU ✅ บริบทของ Zen 5 และ F-series ➡️ Ryzen 7 9700F และ 9500F เป็นรุ่นแรกของ Zen 5 ที่ไม่มีกราฟิกในตัว ➡️ เหมาะกับตลาดที่เน้นประสิทธิภาพต่อราคา เช่น เกมมิ่งและ workstation ➡️ อาจเป็นกลยุทธ์ของ AMD เพื่อลดต้นทุนและแข่งขันกับ Intel F-series https://wccftech.com/system-integrator-mentions-ryzen-7-9700f-with-boost-clock-of-5-4-ghz-configuration-still-boasts-9700x/
    WCCFTECH.COM
    System Integrator Mentions Ryzen 7 9700F With Boost Clock Of 5.4 GHz; Configuration Still Boasts 9700X
    AMD's Ryzen 7 9700F with 5.4 GHz boost listed at $294 in pre-built systems, features identical specs to 9700X but lacks integrated graphics
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก LinkedIn: เมื่อ AMD เตรียมปลุกชีพ GPU แบบหลายชิ้นส่วนอีกครั้ง

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา AMD ได้สร้างชื่อจากการใช้สถาปัตยกรรม chiplet ใน CPU อย่าง Ryzen และ EPYC ซึ่งช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และปรับขนาดได้ง่าย แต่ในโลกของ GPU การใช้ chiplet ยังเป็นเรื่องท้าทาย เพราะกราฟิกต้องการการประมวลผลแบบขนานที่เร็วและแม่นยำมากกว่าการคำนวณทั่วไป

    ล่าสุดจากโปรไฟล์ LinkedIn ของ Laks Pappu ซึ่งเป็น Chief SoC Architect ของ AMD มีการเปิดเผยว่าเขากำลังพัฒนา GPU แบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี packaging แบบ 2.5D และ 3.5D โดยเฉพาะในสถาปัตยกรรม RDNA 5 (Navi 5x) และ Instinct MI500 สำหรับ data center และ cloud gaming

    สิ่งที่น่าสนใจคือ AMD อาจนำแนวคิด multi-tile GPU กลับมาใช้ในตลาด consumer อีกครั้ง ซึ่งเคยถูกจำกัดไว้เฉพาะใน data center เพราะปัญหาด้าน latency, coherency และการจัดการซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนมากในงานกราฟิก

    แต่ด้วยประสบการณ์จาก Navi 31 ที่ใช้ chiplet สำหรับ cache และ memory controller รวมถึงความก้าวหน้าด้าน interconnect อย่าง Infinity Fabric และ CoWoS ทำให้ AMD อาจพร้อมแล้วสำหรับการแยก compute core ออกเป็นหลาย tile และรวมกลับมาเป็น GPU เดียวที่ OS และเกมมองว่าเป็นชิ้นเดียว

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/according-to-a-linkedin-profile-amd-is-working-on-another-chiplet-based-gpu-udna-could-herald-the-return-of-2-5d-3-5d-chiplet-based-configuration
    🎙️ เรื่องเล่าจาก LinkedIn: เมื่อ AMD เตรียมปลุกชีพ GPU แบบหลายชิ้นส่วนอีกครั้ง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา AMD ได้สร้างชื่อจากการใช้สถาปัตยกรรม chiplet ใน CPU อย่าง Ryzen และ EPYC ซึ่งช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และปรับขนาดได้ง่าย แต่ในโลกของ GPU การใช้ chiplet ยังเป็นเรื่องท้าทาย เพราะกราฟิกต้องการการประมวลผลแบบขนานที่เร็วและแม่นยำมากกว่าการคำนวณทั่วไป ล่าสุดจากโปรไฟล์ LinkedIn ของ Laks Pappu ซึ่งเป็น Chief SoC Architect ของ AMD มีการเปิดเผยว่าเขากำลังพัฒนา GPU แบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี packaging แบบ 2.5D และ 3.5D โดยเฉพาะในสถาปัตยกรรม RDNA 5 (Navi 5x) และ Instinct MI500 สำหรับ data center และ cloud gaming สิ่งที่น่าสนใจคือ AMD อาจนำแนวคิด multi-tile GPU กลับมาใช้ในตลาด consumer อีกครั้ง ซึ่งเคยถูกจำกัดไว้เฉพาะใน data center เพราะปัญหาด้าน latency, coherency และการจัดการซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนมากในงานกราฟิก แต่ด้วยประสบการณ์จาก Navi 31 ที่ใช้ chiplet สำหรับ cache และ memory controller รวมถึงความก้าวหน้าด้าน interconnect อย่าง Infinity Fabric และ CoWoS ทำให้ AMD อาจพร้อมแล้วสำหรับการแยก compute core ออกเป็นหลาย tile และรวมกลับมาเป็น GPU เดียวที่ OS และเกมมองว่าเป็นชิ้นเดียว https://www.tomshardware.com/tech-industry/according-to-a-linkedin-profile-amd-is-working-on-another-chiplet-based-gpu-udna-could-herald-the-return-of-2-5d-3-5d-chiplet-based-configuration
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: ช่องโหว่ที่ซ่อนอยู่ใน ping และ ActiveMQ

    เมื่อไม่นานมานี้ มีการเปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงสองตัวที่ทำให้ผู้ดูแลระบบ Linux ต้องรีบหันมามองระบบของตัวเองใหม่อีกครั้ง หนึ่งคือ CVE-2025-48964 ที่ซ่อนอยู่ใน ping utility ของ iputils และอีกหนึ่งคือ CVE-2023-46604 ใน Apache ActiveMQ ที่ถูกใช้เป็นช่องทางในการปล่อยมัลแวร์ชื่อ DripDropper

    เริ่มจาก ping utility ที่เราคุ้นเคยกันดี มันคือเครื่องมือพื้นฐานในการตรวจสอบการเชื่อมต่อเครือข่าย แต่ใน adaptive ping mode กลับมีช่องโหว่ที่เปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดีส่งแพ็กเก็ต ICMP ที่มี timestamp เป็นศูนย์ ซึ่งจะทำให้เกิดการคำนวณค่าที่ผิดพลาดและนำไปสู่การล่มของแอปพลิเคชัน หรือการเก็บข้อมูลเครือข่ายที่ผิดเพี้ยน

    ในอีกด้านหนึ่ง Apache ActiveMQ ซึ่งเป็น message broker ที่นิยมใช้ในระบบ enterprise ก็ถูกโจมตีด้วยช่องโหว่ CVE-2023-46604 ที่เปิดให้รันคำสั่งจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้ติดตั้งมัลแวร์ DripDropper ที่ไม่เพียงแค่แอบซ่อนตัวเอง แต่ยัง “อุดช่องโหว่” ที่มันใช้เจาะเข้ามา เพื่อกันไม่ให้ใครอื่นตามเข้ามาอีก เป็นการปิดประตูหลังบ้านหลังจากแอบเข้ามาแล้ว

    DripDropper ยังใช้ Dropbox เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้โจมตี ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เพราะมันแฝงตัวอยู่ในทราฟฟิกที่ดูเหมือนปกติ และยังมีการปรับแต่ง SSH config เพื่อเปิด root login และสร้าง cron jobs เพื่อให้มัลแวร์ทำงานต่อเนื่องแม้ระบบจะรีบูต

    ช่องโหว่ CVE-2025-48964 ใน iputils
    เกิดจาก adaptive ping mode ที่ไม่จัดการ timestamp เป็นศูนย์อย่างเหมาะสม
    ส่งผลให้เกิด integer overflow ระหว่างการคำนวณสถิติ
    ส่งผลให้ ping ล่มหรือเก็บข้อมูลเครือข่ายผิดพลาด
    กระทบต่อระบบที่ใช้ iputils ก่อนเวอร์ชัน 20250602

    ช่องโหว่ CVE-2023-46604 ใน Apache ActiveMQ
    เป็นช่องโหว่ remote code execution ที่มี CVSS 10.0
    เปิดให้รันคำสั่ง shell โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน
    ถูกใช้ในการติดตั้งมัลแวร์ DripDropper
    ActiveMQ ที่ได้รับผลกระทบคือเวอร์ชันก่อน 5.15.16, 5.16.7, 5.17.6 และ 5.18.3

    พฤติกรรมของมัลแวร์ DripDropper
    เป็นไฟล์ PyInstaller แบบ ELF ที่ต้องใช้รหัสผ่านในการรัน
    สื่อสารกับบัญชี Dropbox ของผู้โจมตีผ่าน bearer token
    สร้างไฟล์มัลแวร์สองตัวที่ทำงานผ่าน cron jobs และปรับแต่ง SSH
    ใช้เทคนิค “patch หลังเจาะ” เพื่อปิดช่องโหว่ที่ใช้เจาะเข้ามา

    ความเสี่ยงจาก adaptive ping mode
    อาจทำให้ระบบตรวจสอบเครือข่ายล้มเหลวในช่วงที่ถูกโจมตี
    ส่งผลให้การวิเคราะห์เครือข่ายผิดพลาดและไม่สามารถตรวจจับการบุกรุกได้

    ความซับซ้อนของการโจมตี ActiveMQ
    ผู้โจมตีใช้เทคนิค patch ช่องโหว่หลังเจาะเพื่อหลบการตรวจจับ
    ทำให้ผู้ดูแลระบบเข้าใจผิดว่าระบบปลอดภัยแล้ว
    การใช้ Dropbox เป็น C2 channel ทำให้การตรวจจับยากขึ้น

    ความเสี่ยงจาก SSH และ cron jobs ที่ถูกปรับแต่ง
    เปิด root login โดยไม่ได้รับอนุญาต
    สร้างช่องทางให้มัลแวร์ทำงานต่อเนื่องแม้มีการรีบูตหรืออัปเดต

    https://linuxconfig.org/critical-cve-2025-48964-vulnerability-in-iputils-a-major-concern-for-linux-administrators
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: ช่องโหว่ที่ซ่อนอยู่ใน ping และ ActiveMQ เมื่อไม่นานมานี้ มีการเปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงสองตัวที่ทำให้ผู้ดูแลระบบ Linux ต้องรีบหันมามองระบบของตัวเองใหม่อีกครั้ง หนึ่งคือ CVE-2025-48964 ที่ซ่อนอยู่ใน ping utility ของ iputils และอีกหนึ่งคือ CVE-2023-46604 ใน Apache ActiveMQ ที่ถูกใช้เป็นช่องทางในการปล่อยมัลแวร์ชื่อ DripDropper เริ่มจาก ping utility ที่เราคุ้นเคยกันดี มันคือเครื่องมือพื้นฐานในการตรวจสอบการเชื่อมต่อเครือข่าย แต่ใน adaptive ping mode กลับมีช่องโหว่ที่เปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดีส่งแพ็กเก็ต ICMP ที่มี timestamp เป็นศูนย์ ซึ่งจะทำให้เกิดการคำนวณค่าที่ผิดพลาดและนำไปสู่การล่มของแอปพลิเคชัน หรือการเก็บข้อมูลเครือข่ายที่ผิดเพี้ยน ในอีกด้านหนึ่ง Apache ActiveMQ ซึ่งเป็น message broker ที่นิยมใช้ในระบบ enterprise ก็ถูกโจมตีด้วยช่องโหว่ CVE-2023-46604 ที่เปิดให้รันคำสั่งจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้ติดตั้งมัลแวร์ DripDropper ที่ไม่เพียงแค่แอบซ่อนตัวเอง แต่ยัง “อุดช่องโหว่” ที่มันใช้เจาะเข้ามา เพื่อกันไม่ให้ใครอื่นตามเข้ามาอีก เป็นการปิดประตูหลังบ้านหลังจากแอบเข้ามาแล้ว DripDropper ยังใช้ Dropbox เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้โจมตี ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เพราะมันแฝงตัวอยู่ในทราฟฟิกที่ดูเหมือนปกติ และยังมีการปรับแต่ง SSH config เพื่อเปิด root login และสร้าง cron jobs เพื่อให้มัลแวร์ทำงานต่อเนื่องแม้ระบบจะรีบูต ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-48964 ใน iputils ➡️ เกิดจาก adaptive ping mode ที่ไม่จัดการ timestamp เป็นศูนย์อย่างเหมาะสม ➡️ ส่งผลให้เกิด integer overflow ระหว่างการคำนวณสถิติ ➡️ ส่งผลให้ ping ล่มหรือเก็บข้อมูลเครือข่ายผิดพลาด ➡️ กระทบต่อระบบที่ใช้ iputils ก่อนเวอร์ชัน 20250602 ✅ ช่องโหว่ CVE-2023-46604 ใน Apache ActiveMQ ➡️ เป็นช่องโหว่ remote code execution ที่มี CVSS 10.0 ➡️ เปิดให้รันคำสั่ง shell โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ➡️ ถูกใช้ในการติดตั้งมัลแวร์ DripDropper ➡️ ActiveMQ ที่ได้รับผลกระทบคือเวอร์ชันก่อน 5.15.16, 5.16.7, 5.17.6 และ 5.18.3 ✅ พฤติกรรมของมัลแวร์ DripDropper ➡️ เป็นไฟล์ PyInstaller แบบ ELF ที่ต้องใช้รหัสผ่านในการรัน ➡️ สื่อสารกับบัญชี Dropbox ของผู้โจมตีผ่าน bearer token ➡️ สร้างไฟล์มัลแวร์สองตัวที่ทำงานผ่าน cron jobs และปรับแต่ง SSH ➡️ ใช้เทคนิค “patch หลังเจาะ” เพื่อปิดช่องโหว่ที่ใช้เจาะเข้ามา ‼️ ความเสี่ยงจาก adaptive ping mode ⛔ อาจทำให้ระบบตรวจสอบเครือข่ายล้มเหลวในช่วงที่ถูกโจมตี ⛔ ส่งผลให้การวิเคราะห์เครือข่ายผิดพลาดและไม่สามารถตรวจจับการบุกรุกได้ ‼️ ความซับซ้อนของการโจมตี ActiveMQ ⛔ ผู้โจมตีใช้เทคนิค patch ช่องโหว่หลังเจาะเพื่อหลบการตรวจจับ ⛔ ทำให้ผู้ดูแลระบบเข้าใจผิดว่าระบบปลอดภัยแล้ว ⛔ การใช้ Dropbox เป็น C2 channel ทำให้การตรวจจับยากขึ้น ‼️ ความเสี่ยงจาก SSH และ cron jobs ที่ถูกปรับแต่ง ⛔ เปิด root login โดยไม่ได้รับอนุญาต ⛔ สร้างช่องทางให้มัลแวร์ทำงานต่อเนื่องแม้มีการรีบูตหรืออัปเดต https://linuxconfig.org/critical-cve-2025-48964-vulnerability-in-iputils-a-major-concern-for-linux-administrators
    LINUXCONFIG.ORG
    Critical CVE-2025-48964 Vulnerability in iputils: A Major Concern for Linux Administrators
    Discover the critical CVE-2025-48964 vulnerability impacting the ping utility in iputils, posing significant security risks for Linux systems. Learn how this flaw allows attackers to trigger denial of service and explore the importance of immediate patching and regular monitoring to safeguard your infrastructure.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • GPU ที่ปรับแต่งได้เหมือนเลโก้ พร้อมพลังที่ฉลาดขึ้น

    ลองจินตนาการว่า GPU ไม่ใช่แค่ชิปกราฟิกธรรมดา แต่เป็นเหมือนชุดเลโก้ที่สามารถประกอบใหม่ได้ตามความต้องการของตลาด นั่นคือแนวคิดของ AMD RDNA 4 ที่ใช้การออกแบบแบบ Modular SoC ซึ่งสามารถ “ตัดต่อ” ส่วนประกอบภายในได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น Shader Engine, Memory Controller หรือแม้แต่ระบบรักษาความปลอดภัยภายในชิป

    AMD ได้เปิดเผยว่า Navi 44 ซึ่งเป็นหนึ่งใน GPU ตระกูล RDNA 4 ใช้การออกแบบที่มี Shader Engine 2 ตัว และ Memory Controller แบบ 128-bit GDDR6 ซึ่งสามารถขยายหรือย่อขนาดได้ตามต้องการ เช่น ถ้าต้องการรุ่นแรงขึ้น ก็เพิ่ม Shader Engine และ Memory Controller เข้าไปได้เลย

    นอกจากนี้ AMD ยังได้พัฒนาเทคนิคการบีบอัดข้อมูลภายใน GPU ที่ช่วยลดการใช้แบนด์วิดท์ของ Infinity Fabric ลงถึง 25% และเพิ่มประสิทธิภาพการเรนเดอร์ภาพแบบ raster ได้ถึง 15% โดยไม่ต้องพึ่งพาซอฟต์แวร์ภายนอกในการจัดการการบีบอัดอีกต่อไป

    สิ่งที่น่าสนใจคือการออกแบบนี้ยังช่วยให้ AMD สามารถสร้าง GPU ได้หลายรุ่นจากแผนผังเดียวกัน เช่น RX 9070 XT ที่ใช้ Navi 48 ก็เป็นผลลัพธ์จากการขยายโครงสร้างเดียวกันนี้

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    AMD เปิดเผยรายละเอียด RDNA 4 เพิ่มเติมในงาน Hot Chips 2025
    RDNA 4 ใช้การออกแบบ Modular SoC ที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ
    Navi 44 มี Shader Engine 2 ตัว และ Memory Controller แบบ 128-bit GDDR6
    Modular SoC สามารถขยายเป็น Navi 48 สำหรับ RX 9070 XT ได้
    Infinity Fabric มีแบนด์วิดท์ 1KB/clock และความถี่ 1.5–2.5 GHz
    ระบบ GL2 Cache และ LLC ช่วยให้การสื่อสารภายในชิปมีประสิทธิภาพ
    RDNA 4 มีการฝังระบบรักษาความปลอดภัยและการจัดการพลังงานไว้ในชิป
    มีการใช้เทคนิคบีบอัดข้อมูลใหม่ที่ช่วยลดการใช้แบนด์วิดท์ลง 25%
    ประสิทธิภาพการเรนเดอร์ภาพแบบ raster เพิ่มขึ้น 15%
    AMD มี Navi 44 และ Navi 48 หลาย SKU ที่แตกต่างกันตามการปรับแต่ง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    RDNA 4 ไม่มีรุ่นเดสก์ท็อประดับสูงอย่าง Navi 4C ตามข่าวลือก่อนเปิดตัว
    AMD ใช้เทคนิค “Harvesting” เพื่อปรับแต่ง GPU เช่น ปิด Shader Engine หรือลด Memory Bus
    RDNA 4 ยังไม่มีรุ่นสำหรับโน้ตบุ๊กหรือแบบฝังตัว แม้เคยมีข่าวลือก่อนเปิดตัว RX 9000
    การออกแบบ Modular ช่วยให้ AMD ลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดจำหน่าย

    https://wccftech.com/amd-rdna-4-modular-soc-flexible-configurability-helps-spawn-smaller-gpus-navi-44-features-to-reduce-memory-bandwidth/
    🎮 GPU ที่ปรับแต่งได้เหมือนเลโก้ พร้อมพลังที่ฉลาดขึ้น ลองจินตนาการว่า GPU ไม่ใช่แค่ชิปกราฟิกธรรมดา แต่เป็นเหมือนชุดเลโก้ที่สามารถประกอบใหม่ได้ตามความต้องการของตลาด นั่นคือแนวคิดของ AMD RDNA 4 ที่ใช้การออกแบบแบบ Modular SoC ซึ่งสามารถ “ตัดต่อ” ส่วนประกอบภายในได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น Shader Engine, Memory Controller หรือแม้แต่ระบบรักษาความปลอดภัยภายในชิป AMD ได้เปิดเผยว่า Navi 44 ซึ่งเป็นหนึ่งใน GPU ตระกูล RDNA 4 ใช้การออกแบบที่มี Shader Engine 2 ตัว และ Memory Controller แบบ 128-bit GDDR6 ซึ่งสามารถขยายหรือย่อขนาดได้ตามต้องการ เช่น ถ้าต้องการรุ่นแรงขึ้น ก็เพิ่ม Shader Engine และ Memory Controller เข้าไปได้เลย นอกจากนี้ AMD ยังได้พัฒนาเทคนิคการบีบอัดข้อมูลภายใน GPU ที่ช่วยลดการใช้แบนด์วิดท์ของ Infinity Fabric ลงถึง 25% และเพิ่มประสิทธิภาพการเรนเดอร์ภาพแบบ raster ได้ถึง 15% โดยไม่ต้องพึ่งพาซอฟต์แวร์ภายนอกในการจัดการการบีบอัดอีกต่อไป สิ่งที่น่าสนใจคือการออกแบบนี้ยังช่วยให้ AMD สามารถสร้าง GPU ได้หลายรุ่นจากแผนผังเดียวกัน เช่น RX 9070 XT ที่ใช้ Navi 48 ก็เป็นผลลัพธ์จากการขยายโครงสร้างเดียวกันนี้ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ AMD เปิดเผยรายละเอียด RDNA 4 เพิ่มเติมในงาน Hot Chips 2025 ➡️ RDNA 4 ใช้การออกแบบ Modular SoC ที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ ➡️ Navi 44 มี Shader Engine 2 ตัว และ Memory Controller แบบ 128-bit GDDR6 ➡️ Modular SoC สามารถขยายเป็น Navi 48 สำหรับ RX 9070 XT ได้ ➡️ Infinity Fabric มีแบนด์วิดท์ 1KB/clock และความถี่ 1.5–2.5 GHz ➡️ ระบบ GL2 Cache และ LLC ช่วยให้การสื่อสารภายในชิปมีประสิทธิภาพ ➡️ RDNA 4 มีการฝังระบบรักษาความปลอดภัยและการจัดการพลังงานไว้ในชิป ➡️ มีการใช้เทคนิคบีบอัดข้อมูลใหม่ที่ช่วยลดการใช้แบนด์วิดท์ลง 25% ➡️ ประสิทธิภาพการเรนเดอร์ภาพแบบ raster เพิ่มขึ้น 15% ➡️ AMD มี Navi 44 และ Navi 48 หลาย SKU ที่แตกต่างกันตามการปรับแต่ง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ RDNA 4 ไม่มีรุ่นเดสก์ท็อประดับสูงอย่าง Navi 4C ตามข่าวลือก่อนเปิดตัว ➡️ AMD ใช้เทคนิค “Harvesting” เพื่อปรับแต่ง GPU เช่น ปิด Shader Engine หรือลด Memory Bus ➡️ RDNA 4 ยังไม่มีรุ่นสำหรับโน้ตบุ๊กหรือแบบฝังตัว แม้เคยมีข่าวลือก่อนเปิดตัว RX 9000 ➡️ การออกแบบ Modular ช่วยให้ AMD ลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดจำหน่าย https://wccftech.com/amd-rdna-4-modular-soc-flexible-configurability-helps-spawn-smaller-gpus-navi-44-features-to-reduce-memory-bandwidth/
    WCCFTECH.COM
    AMD RDNA 4's Modular SoC Nature & Flexible Configurability Helps Spawn Smaller & Diverse GPUs Such as Navi 44, Highlights Features To Reduce Memory & Bandwidth Needs
    AMD further detailed its RDNA 4 GPU architecture and its Modular SoC design, along with new memory & bandwidth compression techniques.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVMe 2.3: ยกระดับ SSD ให้ฉลาดขึ้น ปลอดภัยขึ้น และทนทานต่อความล้มเหลวมากขึ้น

    กลุ่ม NVM Express ได้เปิดตัวมาตรฐาน NVMe 2.3 ซึ่งเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่ครอบคลุมทั้งชุดคำสั่งการจัดเก็บข้อมูลและโปรโตคอลการส่งข้อมูล เช่น PCIe, RDMA และ TCP โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้ SSD มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ประหยัดพลังงาน และสามารถฟื้นตัวจากความล้มเหลวได้ดีขึ้น

    หนึ่งในฟีเจอร์เด่นคือ Rapid Path Failure Recovery (RPFR) ซึ่งช่วยให้ระบบสามารถเปลี่ยนเส้นทางการสื่อสารไปยังช่องทางสำรองได้ทันทีเมื่อเกิดปัญหาระหว่าง host กับ storage subsystem ลดโอกาสข้อมูลเสียหายและ downtime

    ด้านการจัดการพลังงาน NVMe 2.3 เพิ่มฟีเจอร์ Power Limit Config ที่ให้ผู้ดูแลระบบกำหนดขีดจำกัดการใช้พลังงานของ SSD ได้ และ Self-Reported Drive Power ที่ช่วยให้ SSD รายงานการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ ซึ่งเหมาะกับการวางแผนพลังงานและตรวจจับปัญหาแต่เนิ่นๆ

    ในด้านความปลอดภัย มีฟีเจอร์ Sanitize Per Namespace ที่ช่วยลบข้อมูลเฉพาะบางส่วนของ SSD โดยไม่กระทบข้อมูลอื่น และ Configurable Device Personality ที่ให้ SSD ปรับโหมดการทำงานได้ตามความต้องการ เช่น โหมดประหยัดพลังงานหรือโหมดประสิทธิภาพสูง

    แม้ฟีเจอร์เหล่านี้จะมีประโยชน์มากในระดับองค์กร แต่การนำไปใช้ใน SSD สำหรับผู้บริโภคทั่วไปยังขึ้นอยู่กับผู้ผลิตว่าจะนำไปใช้อย่างจริงจังหรือไม่

    ข้อมูลจากข่าวหลัก
    NVMe 2.3 เปิดตัวพร้อมอัปเดต 11 รายการในชุดคำสั่งและโปรโตคอลการส่งข้อมูล
    Rapid Path Failure Recovery ช่วยให้ระบบเปลี่ยนเส้นทางการสื่อสารเมื่อเกิดปัญหา
    Power Limit Config ให้ผู้ดูแลระบบกำหนดขีดจำกัดการใช้พลังงานของ SSD
    Self-Reported Drive Power ช่วยให้ SSD รายงานการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์
    Sanitize Per Namespace ลบข้อมูลเฉพาะบางส่วนของ SSD ได้อย่างปลอดภัย
    Configurable Device Personality ให้ SSD ปรับโหมดการทำงานตามความต้องการ
    NVMe Management Interface อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 2.1 และ NVMe Boot เป็นเวอร์ชัน 1.3
    ฟีเจอร์ใหม่เน้นความยืดหยุ่น ความปลอดภัย และการจัดการพลังงานในระดับองค์กร

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    NVMe 2.3 รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูล, ระบบ AI, และแอปพลิเคชันที่ใช้ข้อมูลหนัก
    RPFR ลดโอกาสข้อมูลเสียหายจากการสื่อสารล้มเหลวในระบบขนาดใหญ่
    Power Limit Config เหมาะกับเซิร์ฟเวอร์รุ่นเก่าที่มีข้อจำกัดด้านพลังงาน
    Self-Reported Drive Power ช่วยวางแผนพลังงานและตรวจจับปัญหาได้แต่เนิ่นๆ
    Sanitize Per Namespace เหมาะกับการรีไทร์หรือรีไซเคิล SSD โดยไม่ลบข้อมูลทั้งหมด
    Configurable Device Personality ช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการ SSD หลายรุ่น

    https://www.techradar.com/pro/finally-future-ssds-are-set-to-be-more-energy-efficient-and-more-secure-thanks-to-a-new-set-of-guidelines
    🚀 NVMe 2.3: ยกระดับ SSD ให้ฉลาดขึ้น ปลอดภัยขึ้น และทนทานต่อความล้มเหลวมากขึ้น กลุ่ม NVM Express ได้เปิดตัวมาตรฐาน NVMe 2.3 ซึ่งเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่ครอบคลุมทั้งชุดคำสั่งการจัดเก็บข้อมูลและโปรโตคอลการส่งข้อมูล เช่น PCIe, RDMA และ TCP โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้ SSD มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ประหยัดพลังงาน และสามารถฟื้นตัวจากความล้มเหลวได้ดีขึ้น หนึ่งในฟีเจอร์เด่นคือ Rapid Path Failure Recovery (RPFR) ซึ่งช่วยให้ระบบสามารถเปลี่ยนเส้นทางการสื่อสารไปยังช่องทางสำรองได้ทันทีเมื่อเกิดปัญหาระหว่าง host กับ storage subsystem ลดโอกาสข้อมูลเสียหายและ downtime ด้านการจัดการพลังงาน NVMe 2.3 เพิ่มฟีเจอร์ Power Limit Config ที่ให้ผู้ดูแลระบบกำหนดขีดจำกัดการใช้พลังงานของ SSD ได้ และ Self-Reported Drive Power ที่ช่วยให้ SSD รายงานการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ ซึ่งเหมาะกับการวางแผนพลังงานและตรวจจับปัญหาแต่เนิ่นๆ ในด้านความปลอดภัย มีฟีเจอร์ Sanitize Per Namespace ที่ช่วยลบข้อมูลเฉพาะบางส่วนของ SSD โดยไม่กระทบข้อมูลอื่น และ Configurable Device Personality ที่ให้ SSD ปรับโหมดการทำงานได้ตามความต้องการ เช่น โหมดประหยัดพลังงานหรือโหมดประสิทธิภาพสูง แม้ฟีเจอร์เหล่านี้จะมีประโยชน์มากในระดับองค์กร แต่การนำไปใช้ใน SSD สำหรับผู้บริโภคทั่วไปยังขึ้นอยู่กับผู้ผลิตว่าจะนำไปใช้อย่างจริงจังหรือไม่ ✅ ข้อมูลจากข่าวหลัก ➡️ NVMe 2.3 เปิดตัวพร้อมอัปเดต 11 รายการในชุดคำสั่งและโปรโตคอลการส่งข้อมูล ➡️ Rapid Path Failure Recovery ช่วยให้ระบบเปลี่ยนเส้นทางการสื่อสารเมื่อเกิดปัญหา ➡️ Power Limit Config ให้ผู้ดูแลระบบกำหนดขีดจำกัดการใช้พลังงานของ SSD ➡️ Self-Reported Drive Power ช่วยให้ SSD รายงานการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ ➡️ Sanitize Per Namespace ลบข้อมูลเฉพาะบางส่วนของ SSD ได้อย่างปลอดภัย ➡️ Configurable Device Personality ให้ SSD ปรับโหมดการทำงานตามความต้องการ ➡️ NVMe Management Interface อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 2.1 และ NVMe Boot เป็นเวอร์ชัน 1.3 ➡️ ฟีเจอร์ใหม่เน้นความยืดหยุ่น ความปลอดภัย และการจัดการพลังงานในระดับองค์กร ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ NVMe 2.3 รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูล, ระบบ AI, และแอปพลิเคชันที่ใช้ข้อมูลหนัก ➡️ RPFR ลดโอกาสข้อมูลเสียหายจากการสื่อสารล้มเหลวในระบบขนาดใหญ่ ➡️ Power Limit Config เหมาะกับเซิร์ฟเวอร์รุ่นเก่าที่มีข้อจำกัดด้านพลังงาน ➡️ Self-Reported Drive Power ช่วยวางแผนพลังงานและตรวจจับปัญหาได้แต่เนิ่นๆ ➡️ Sanitize Per Namespace เหมาะกับการรีไทร์หรือรีไซเคิล SSD โดยไม่ลบข้อมูลทั้งหมด ➡️ Configurable Device Personality ช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการ SSD หลายรุ่น https://www.techradar.com/pro/finally-future-ssds-are-set-to-be-more-energy-efficient-and-more-secure-thanks-to-a-new-set-of-guidelines
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • GNU Hurd 2025: ก้าวสำคัญของระบบปฏิบัติการเสรีที่หลายคนลืมไป

    ในโลกที่ Linux ครองตลาดระบบปฏิบัติการแบบโอเพ่นซอร์สมานานหลายสิบปี มีอีกหนึ่งโครงการที่ยังคงเดินหน้าด้วยอุดมการณ์อันแรงกล้า นั่นคือ GNU Hurd ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดย Free Software Foundation (FSF) โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบที่ “เสรีอย่างแท้จริง” ทั้งในด้านซอร์สโค้ดและสิทธิของผู้ใช้

    ล่าสุดในปี 2025 โครงการนี้ได้ออกเวอร์ชันใหม่ในชื่อ Debian GNU/Hurd 2025 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะมีการปรับปรุงหลายด้านให้ทันสมัยขึ้น เช่น รองรับสถาปัตยกรรม 64-bit อย่างเต็มรูปแบบ, เพิ่มการสนับสนุนภาษา Rust, รองรับ SMP (การใช้หลายคอร์พร้อมกัน), และระบบ ACPI สำหรับจัดการพลังงาน

    GNU Hurd แตกต่างจาก Linux ตรงที่ใช้ “microkernel” แทน “monolithic kernel” โดยแบ่งการทำงานของระบบออกเป็นเซิร์ฟเวอร์ย่อย ๆ ที่ทำงานแยกกัน เช่น การจัดการไฟล์, เครือข่าย, และสิทธิ์การเข้าถึง ซึ่งช่วยให้ระบบมีความปลอดภัยและเสถียรมากขึ้น เพราะแต่ละส่วนสามารถรีสตาร์ทได้โดยไม่ต้องรีบูตทั้งเครื่อง

    แม้จะยังไม่เหมาะกับการใช้งานในระดับ production แต่ GNU/Hurd ก็เป็นแพลตฟอร์มที่ดีสำหรับนักพัฒนาและผู้สนใจด้านระบบปฏิบัติการ เพราะเปิดโอกาสให้เรียนรู้โครงสร้างภายในได้อย่างโปร่งใส และสอดคล้องกับหลักการ “4 เสรีภาพ” ของซอฟต์แวร์เสรี

    https://linuxconfig.org/gnu-hurd-2025-release-marks-milestone-for-free-software-foundation
    🧠 GNU Hurd 2025: ก้าวสำคัญของระบบปฏิบัติการเสรีที่หลายคนลืมไป ในโลกที่ Linux ครองตลาดระบบปฏิบัติการแบบโอเพ่นซอร์สมานานหลายสิบปี มีอีกหนึ่งโครงการที่ยังคงเดินหน้าด้วยอุดมการณ์อันแรงกล้า นั่นคือ GNU Hurd ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดย Free Software Foundation (FSF) โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบที่ “เสรีอย่างแท้จริง” ทั้งในด้านซอร์สโค้ดและสิทธิของผู้ใช้ ล่าสุดในปี 2025 โครงการนี้ได้ออกเวอร์ชันใหม่ในชื่อ Debian GNU/Hurd 2025 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะมีการปรับปรุงหลายด้านให้ทันสมัยขึ้น เช่น รองรับสถาปัตยกรรม 64-bit อย่างเต็มรูปแบบ, เพิ่มการสนับสนุนภาษา Rust, รองรับ SMP (การใช้หลายคอร์พร้อมกัน), และระบบ ACPI สำหรับจัดการพลังงาน GNU Hurd แตกต่างจาก Linux ตรงที่ใช้ “microkernel” แทน “monolithic kernel” โดยแบ่งการทำงานของระบบออกเป็นเซิร์ฟเวอร์ย่อย ๆ ที่ทำงานแยกกัน เช่น การจัดการไฟล์, เครือข่าย, และสิทธิ์การเข้าถึง ซึ่งช่วยให้ระบบมีความปลอดภัยและเสถียรมากขึ้น เพราะแต่ละส่วนสามารถรีสตาร์ทได้โดยไม่ต้องรีบูตทั้งเครื่อง แม้จะยังไม่เหมาะกับการใช้งานในระดับ production แต่ GNU/Hurd ก็เป็นแพลตฟอร์มที่ดีสำหรับนักพัฒนาและผู้สนใจด้านระบบปฏิบัติการ เพราะเปิดโอกาสให้เรียนรู้โครงสร้างภายในได้อย่างโปร่งใส และสอดคล้องกับหลักการ “4 เสรีภาพ” ของซอฟต์แวร์เสรี https://linuxconfig.org/gnu-hurd-2025-release-marks-milestone-for-free-software-foundation
    LINUXCONFIG.ORG
    GNU Hurd 2025 Release Marks Milestone for Free Software Foundation
    The Debian GNU/Hurd 2025 release represents a major advancement in free software, supporting modern hardware with enhanced features, prioritizing user freedom and software transparency. Discover what this means for users and the future of the GNU/Hurd project.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • เล่าให้ฟังใหม่: Intel APO — ซอฟต์แวร์ลับที่ช่วยเร่งเฟรมเกม แต่ยังไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคน

    ในช่วงที่ Intel กำลังปรับโครงสร้างองค์กรและลดจำนวนพนักงาน หลายโครงการถูกยกเลิกหรือชะลอ แต่หนึ่งในเทคโนโลยีที่ยังคงอยู่คือ Application Optimization หรือ APO ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมบนซีพียู Intel รุ่นใหม่

    APO ไม่ใช่แค่การปิด E-core แล้วใช้ P-core อย่างเดียว แต่เป็นระบบที่ใช้การจัดสรรงานแบบไดนามิก เพื่อให้เกมใช้ทรัพยากรของซีพียูได้อย่างเหมาะสมที่สุด โดยเฉพาะในซีพียูแบบ hybrid ที่มีทั้ง P-core และ E-core เช่น Raptor Lake และ Arrow Lake

    จากการทดสอบจริงในเกม Metro Exodus พบว่า APO สามารถเพิ่มเฟรมเรตได้ถึง 26% เมื่อใช้กราฟิกระดับต่ำที่เน้นการทำงานของซีพียู แต่เมื่อปรับกราฟิกสูงขึ้น APO ให้ผลน้อยลง และในบางเกมอาจไม่มีผลเลย

    Intel ยืนยันว่าจะยังคงอัปเดต APO ทุกไตรมาส โดยเน้นเฉพาะซีพียูรุ่นปัจจุบันและรุ่นถัดไปเท่านั้น เช่น Core Ultra 200 และ Nova Lake ที่จะเปิดตัวในปี 2026 ส่วนซีพียูรุ่นเก่าอย่าง Alder Lake และ Raptor Lake จะได้รับการสนับสนุนแบบจำกัด

    Intel ยืนยันว่าจะยังคงพัฒนา APO แม้มีการปรับโครงสร้างองค์กร
    แต่จะเน้นเฉพาะซีพียูรุ่นปัจจุบันและรุ่นถัดไป

    APO เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม
    โดยจัดสรรงานระหว่าง P-core และ E-core แบบเรียลไทม์

    APO เปิดตัวพร้อม Raptor Lake Refresh ในปี 2023
    และขยายไปยัง Alder Lake, Raptor Lake และ Core Ultra 200

    APO ไม่ใช่ระบบที่ใช้ได้กับทุกเกมหรือทุกซีพียู
    ต้องปรับแต่งเฉพาะรุ่นและเกมที่รองรับ

    Intel ใช้ระบบทดสอบแบบ stock configuration
    หากผู้ใช้โอเวอร์คล็อกหรือปรับพลังงาน อาจไม่เห็นผล

    รายชื่อเกมที่รองรับมีน้อยกว่า 50 เกม
    แต่รวมถึงเกมดังอย่าง Cyberpunk 2077 และ Counter-Strike 2

    มีข่าวลือว่า Nova Lake อาจมี bLLC คล้าย AMD 3D V-Cache
    เพื่อแข่งกับ Ryzen X3D ในด้านเกม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-promises-to-keep-updating-its-game-boosting-software-despite-recent-delays-apo-will-only-focus-on-current-and-upcoming-intel-cpus
    🎮⚙️ เล่าให้ฟังใหม่: Intel APO — ซอฟต์แวร์ลับที่ช่วยเร่งเฟรมเกม แต่ยังไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคน ในช่วงที่ Intel กำลังปรับโครงสร้างองค์กรและลดจำนวนพนักงาน หลายโครงการถูกยกเลิกหรือชะลอ แต่หนึ่งในเทคโนโลยีที่ยังคงอยู่คือ Application Optimization หรือ APO ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมบนซีพียู Intel รุ่นใหม่ APO ไม่ใช่แค่การปิด E-core แล้วใช้ P-core อย่างเดียว แต่เป็นระบบที่ใช้การจัดสรรงานแบบไดนามิก เพื่อให้เกมใช้ทรัพยากรของซีพียูได้อย่างเหมาะสมที่สุด โดยเฉพาะในซีพียูแบบ hybrid ที่มีทั้ง P-core และ E-core เช่น Raptor Lake และ Arrow Lake จากการทดสอบจริงในเกม Metro Exodus พบว่า APO สามารถเพิ่มเฟรมเรตได้ถึง 26% เมื่อใช้กราฟิกระดับต่ำที่เน้นการทำงานของซีพียู แต่เมื่อปรับกราฟิกสูงขึ้น APO ให้ผลน้อยลง และในบางเกมอาจไม่มีผลเลย Intel ยืนยันว่าจะยังคงอัปเดต APO ทุกไตรมาส โดยเน้นเฉพาะซีพียูรุ่นปัจจุบันและรุ่นถัดไปเท่านั้น เช่น Core Ultra 200 และ Nova Lake ที่จะเปิดตัวในปี 2026 ส่วนซีพียูรุ่นเก่าอย่าง Alder Lake และ Raptor Lake จะได้รับการสนับสนุนแบบจำกัด ✅ Intel ยืนยันว่าจะยังคงพัฒนา APO แม้มีการปรับโครงสร้างองค์กร ➡️ แต่จะเน้นเฉพาะซีพียูรุ่นปัจจุบันและรุ่นถัดไป ✅ APO เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม ➡️ โดยจัดสรรงานระหว่าง P-core และ E-core แบบเรียลไทม์ ✅ APO เปิดตัวพร้อม Raptor Lake Refresh ในปี 2023 ➡️ และขยายไปยัง Alder Lake, Raptor Lake และ Core Ultra 200 ✅ APO ไม่ใช่ระบบที่ใช้ได้กับทุกเกมหรือทุกซีพียู ➡️ ต้องปรับแต่งเฉพาะรุ่นและเกมที่รองรับ ✅ Intel ใช้ระบบทดสอบแบบ stock configuration ➡️ หากผู้ใช้โอเวอร์คล็อกหรือปรับพลังงาน อาจไม่เห็นผล ✅ รายชื่อเกมที่รองรับมีน้อยกว่า 50 เกม ➡️ แต่รวมถึงเกมดังอย่าง Cyberpunk 2077 และ Counter-Strike 2 ✅ มีข่าวลือว่า Nova Lake อาจมี bLLC คล้าย AMD 3D V-Cache ➡️ เพื่อแข่งกับ Ryzen X3D ในด้านเกม https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-promises-to-keep-updating-its-game-boosting-software-despite-recent-delays-apo-will-only-focus-on-current-and-upcoming-intel-cpus
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อ Huawei เปิดซอร์ส CANN: ยุทธศาสตร์ใหม่ท้าชน CUDA เพื่ออิสรภาพด้าน AI ของจีน

    ลองนึกภาพว่าโลกของ AI ที่เคยถูกครอบงำโดย CUDA ของ Nvidia กำลังถูกท้าทายอย่างจริงจังจาก Huawei ที่ตัดสินใจเปิดซอร์ส CANN ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือสำหรับพัฒนาแอปพลิเคชัน AI บนชิป Ascend ของตัวเอง

    CUDA ครองตลาดมากว่า 20 ปี ด้วยการผูกขาดนักพัฒนาให้ใช้เฉพาะฮาร์ดแวร์ของ Nvidia เท่านั้น การเปิดซอร์ส CANN จึงไม่ใช่แค่การปล่อยโค้ด แต่เป็นการเปิดประตูสู่ระบบนิเวศใหม่ที่ไม่ถูกจำกัดด้วยเจ้าของเทคโนโลยี

    Huawei เริ่มพูดคุยกับมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย และบริษัท AI ชั้นนำในจีน เพื่อร่วมกันสร้างชุมชนพัฒนาแบบเปิดสำหรับ Ascend ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างเครื่องมือ ไลบรารี และเฟรมเวิร์กใหม่ที่รองรับงาน AI ได้หลากหลายมากขึ้น

    แม้จะยังไม่เทียบเท่า CUDA ในแง่ของความเสถียรและการสนับสนุน แต่ Huawei ก็เริ่มไล่ตามในด้านประสิทธิภาพ โดยบางรุ่นของ Ascend มีผลทดสอบที่เหนือกว่า Nvidia ในบางสถานการณ์

    การเปิดซอร์ส CANN ยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตก โดยเฉพาะในช่วงที่สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิปให้กับ Huawei การสร้างซอฟต์แวร์พื้นฐานของตัวเองจึงเป็นก้าวสำคัญ

    Huawei เปิดซอร์ส CANN ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือสำหรับชิป Ascend
    เพื่อท้าทายการผูกขาดของ CUDA จาก Nvidia

    CUDA เป็นระบบปิดที่ผูกนักพัฒนาไว้กับฮาร์ดแวร์ Nvidia
    ทำให้การพัฒนา AI ต้องอยู่ในระบบของ Nvidia เท่านั้น

    CANN มีโครงสร้างแบบหลายชั้น รองรับทั้งงานทั่วไปและงานประสิทธิภาพสูง
    เป็นทางเลือกใหม่สำหรับนักพัฒนา AI

    Huawei เริ่มสร้างชุมชนพัฒนาแบบเปิดร่วมกับมหาวิทยาลัยและบริษัท AI ในจีน
    เพื่อเร่งสร้างเครื่องมือ ไลบรารี และเฟรมเวิร์กสำหรับ Ascend

    มีรายงานว่า Ascend บางรุ่นมีประสิทธิภาพสูงกว่า Nvidia ในบางกรณี
    เช่น DeepSeek R1 บน CloudMatrix 384

    การเปิดซอร์ส CANN เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เทคโนโลยีอิสระของจีน
    ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตกท่ามกลางข้อจำกัดการส่งออกจากสหรัฐฯ

    https://www.techradar.com/pro/brave-or-foolhardy-huawei-takes-the-fight-to-nvidia-cuda-by-making-its-ascend-ai-gpu-software-open-source
    🚀🇨🇳 เมื่อ Huawei เปิดซอร์ส CANN: ยุทธศาสตร์ใหม่ท้าชน CUDA เพื่ออิสรภาพด้าน AI ของจีน ลองนึกภาพว่าโลกของ AI ที่เคยถูกครอบงำโดย CUDA ของ Nvidia กำลังถูกท้าทายอย่างจริงจังจาก Huawei ที่ตัดสินใจเปิดซอร์ส CANN ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือสำหรับพัฒนาแอปพลิเคชัน AI บนชิป Ascend ของตัวเอง CUDA ครองตลาดมากว่า 20 ปี ด้วยการผูกขาดนักพัฒนาให้ใช้เฉพาะฮาร์ดแวร์ของ Nvidia เท่านั้น การเปิดซอร์ส CANN จึงไม่ใช่แค่การปล่อยโค้ด แต่เป็นการเปิดประตูสู่ระบบนิเวศใหม่ที่ไม่ถูกจำกัดด้วยเจ้าของเทคโนโลยี Huawei เริ่มพูดคุยกับมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย และบริษัท AI ชั้นนำในจีน เพื่อร่วมกันสร้างชุมชนพัฒนาแบบเปิดสำหรับ Ascend ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างเครื่องมือ ไลบรารี และเฟรมเวิร์กใหม่ที่รองรับงาน AI ได้หลากหลายมากขึ้น แม้จะยังไม่เทียบเท่า CUDA ในแง่ของความเสถียรและการสนับสนุน แต่ Huawei ก็เริ่มไล่ตามในด้านประสิทธิภาพ โดยบางรุ่นของ Ascend มีผลทดสอบที่เหนือกว่า Nvidia ในบางสถานการณ์ การเปิดซอร์ส CANN ยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตก โดยเฉพาะในช่วงที่สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิปให้กับ Huawei การสร้างซอฟต์แวร์พื้นฐานของตัวเองจึงเป็นก้าวสำคัญ ✅ Huawei เปิดซอร์ส CANN ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือสำหรับชิป Ascend ➡️ เพื่อท้าทายการผูกขาดของ CUDA จาก Nvidia ✅ CUDA เป็นระบบปิดที่ผูกนักพัฒนาไว้กับฮาร์ดแวร์ Nvidia ➡️ ทำให้การพัฒนา AI ต้องอยู่ในระบบของ Nvidia เท่านั้น ✅ CANN มีโครงสร้างแบบหลายชั้น รองรับทั้งงานทั่วไปและงานประสิทธิภาพสูง ➡️ เป็นทางเลือกใหม่สำหรับนักพัฒนา AI ✅ Huawei เริ่มสร้างชุมชนพัฒนาแบบเปิดร่วมกับมหาวิทยาลัยและบริษัท AI ในจีน ➡️ เพื่อเร่งสร้างเครื่องมือ ไลบรารี และเฟรมเวิร์กสำหรับ Ascend ✅ มีรายงานว่า Ascend บางรุ่นมีประสิทธิภาพสูงกว่า Nvidia ในบางกรณี ➡️ เช่น DeepSeek R1 บน CloudMatrix 384 ✅ การเปิดซอร์ส CANN เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เทคโนโลยีอิสระของจีน ➡️ ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตกท่ามกลางข้อจำกัดการส่งออกจากสหรัฐฯ https://www.techradar.com/pro/brave-or-foolhardy-huawei-takes-the-fight-to-nvidia-cuda-by-making-its-ascend-ai-gpu-software-open-source
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกโอเพ่นซอร์ส: Ubuntu 24.04.3 LTS มาแล้ว พร้อมรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่และอัปเดตความปลอดภัยแบบจัดเต็ม

    วันที่ 8 สิงหาคม 2025 Canonical ได้ปล่อย Ubuntu 24.04.3 LTS ซึ่งเป็น point release ล่าสุดของเวอร์ชัน Noble Numbat โดยมีจุดเด่นคือการ backport Linux kernel 6.14 และ Mesa 25.0 จาก Ubuntu 25.04 เพื่อให้ผู้ใช้ LTS ได้สัมผัสกับการรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่โดยไม่ต้องเสียเสถียรภาพระยะยาว

    เวอร์ชันนี้รองรับทั้ง Desktop, Server และ Cloud รวมถึงรสชาติอื่น ๆ ของ Ubuntu เช่น Kubuntu, Ubuntu MATE, Lubuntu, Xubuntu และ Ubuntu Studio โดย Ubuntu Studio มีการเปลี่ยนจาก low-latency kernel มาใช้ generic kernel ที่ปรับแต่งให้บูตเร็วแต่ยังคงความสามารถด้าน real-time สำหรับงานมัลติมีเดีย

    การอัปเดตนี้ยังมาพร้อมกับสื่อการติดตั้งใหม่ที่ลดการดาวน์โหลดหลังติดตั้ง และรวมแพตช์ความปลอดภัยที่สะสมมาตั้งแต่เวอร์ชัน 24.04.1 ทำให้เหมาะกับองค์กรที่ต้องการระบบเสถียรแต่รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่

    Ubuntu 24.04.3 LTS เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 8 สิงหาคม 2025
    เป็น point release ล่าสุดของ Ubuntu 24.04 LTS (Noble Numbat)

    ใช้ Linux kernel 6.14 และ Mesa 25.0 จาก Ubuntu 25.04
    เพิ่มการรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่และประสิทธิภาพด้านกราฟิก

    รองรับ Desktop, Server, Cloud และ Ubuntu flavours ทั้งหมด
    เช่น Kubuntu, Ubuntu MATE, Lubuntu, Xubuntu, Ubuntu Studio

    Ubuntu Studio เปลี่ยนจาก low-latency kernel มาใช้ generic kernel
    พร้อม boot parameter ที่ยังคงความสามารถด้าน real-time

    สื่อการติดตั้งใหม่ช่วยลดการดาวน์โหลดหลังติดตั้ง
    เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการ deploy ระบบจำนวนมาก

    Ubuntu 24.04.3 LTS จะได้รับการสนับสนุนถึงปี 2029
    เป็น LTS ที่มีระยะเวลาสนับสนุน 5 ปีเต็ม

    Kernel 6.14 รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ เช่น GPU รุ่นล่าสุดและอุปกรณ์ PCIe Gen5
    เหมาะกับผู้ใช้ที่ใช้โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่หรือเซิร์ฟเวอร์ระดับสูง

    Mesa 25.0 ปรับปรุงการรองรับ Vulkan และ OpenGL
    เพิ่มประสิทธิภาพในเกมและแอปพลิเคชันกราฟิก

    Ubuntu LTS เป็นตัวเลือกหลักขององค์กรและสถาบันการศึกษา
    เพราะมีรอบอัปเดตที่คาดการณ์ได้และความเสถียรสูง

    Ubuntu 24.04.4 LTS จะออกในเดือนกุมภาพันธ์ 2026
    คาดว่าจะใช้ kernel และ Mesa จาก Ubuntu 25.10

    https://linuxconfig.org/ubuntu-24-04-3-lts-release-enhanced-hardware-support-and-security-updates
    🐧⚙️ เรื่องเล่าจากโลกโอเพ่นซอร์ส: Ubuntu 24.04.3 LTS มาแล้ว พร้อมรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่และอัปเดตความปลอดภัยแบบจัดเต็ม วันที่ 8 สิงหาคม 2025 Canonical ได้ปล่อย Ubuntu 24.04.3 LTS ซึ่งเป็น point release ล่าสุดของเวอร์ชัน Noble Numbat โดยมีจุดเด่นคือการ backport Linux kernel 6.14 และ Mesa 25.0 จาก Ubuntu 25.04 เพื่อให้ผู้ใช้ LTS ได้สัมผัสกับการรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่โดยไม่ต้องเสียเสถียรภาพระยะยาว เวอร์ชันนี้รองรับทั้ง Desktop, Server และ Cloud รวมถึงรสชาติอื่น ๆ ของ Ubuntu เช่น Kubuntu, Ubuntu MATE, Lubuntu, Xubuntu และ Ubuntu Studio โดย Ubuntu Studio มีการเปลี่ยนจาก low-latency kernel มาใช้ generic kernel ที่ปรับแต่งให้บูตเร็วแต่ยังคงความสามารถด้าน real-time สำหรับงานมัลติมีเดีย การอัปเดตนี้ยังมาพร้อมกับสื่อการติดตั้งใหม่ที่ลดการดาวน์โหลดหลังติดตั้ง และรวมแพตช์ความปลอดภัยที่สะสมมาตั้งแต่เวอร์ชัน 24.04.1 ทำให้เหมาะกับองค์กรที่ต้องการระบบเสถียรแต่รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ ✅ Ubuntu 24.04.3 LTS เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 8 สิงหาคม 2025 ➡️ เป็น point release ล่าสุดของ Ubuntu 24.04 LTS (Noble Numbat) ✅ ใช้ Linux kernel 6.14 และ Mesa 25.0 จาก Ubuntu 25.04 ➡️ เพิ่มการรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่และประสิทธิภาพด้านกราฟิก ✅ รองรับ Desktop, Server, Cloud และ Ubuntu flavours ทั้งหมด ➡️ เช่น Kubuntu, Ubuntu MATE, Lubuntu, Xubuntu, Ubuntu Studio ✅ Ubuntu Studio เปลี่ยนจาก low-latency kernel มาใช้ generic kernel ➡️ พร้อม boot parameter ที่ยังคงความสามารถด้าน real-time ✅ สื่อการติดตั้งใหม่ช่วยลดการดาวน์โหลดหลังติดตั้ง ➡️ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการ deploy ระบบจำนวนมาก ✅ Ubuntu 24.04.3 LTS จะได้รับการสนับสนุนถึงปี 2029 ➡️ เป็น LTS ที่มีระยะเวลาสนับสนุน 5 ปีเต็ม ✅ Kernel 6.14 รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ เช่น GPU รุ่นล่าสุดและอุปกรณ์ PCIe Gen5 ➡️ เหมาะกับผู้ใช้ที่ใช้โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่หรือเซิร์ฟเวอร์ระดับสูง ✅ Mesa 25.0 ปรับปรุงการรองรับ Vulkan และ OpenGL ➡️ เพิ่มประสิทธิภาพในเกมและแอปพลิเคชันกราฟิก ✅ Ubuntu LTS เป็นตัวเลือกหลักขององค์กรและสถาบันการศึกษา ➡️ เพราะมีรอบอัปเดตที่คาดการณ์ได้และความเสถียรสูง ✅ Ubuntu 24.04.4 LTS จะออกในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 ➡️ คาดว่าจะใช้ kernel และ Mesa จาก Ubuntu 25.10 https://linuxconfig.org/ubuntu-24-04-3-lts-release-enhanced-hardware-support-and-security-updates
    LINUXCONFIG.ORG
    Ubuntu 24.04.3 LTS Release: Enhanced Hardware Support and Security Updates
    Discover the new features and updates in the Ubuntu 24.04.3 LTS release, including improved hardware support, security updates, and performance optimizations. Ideal for users seeking long-term stability with modern hardware compatibility.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
  • สาวเขมรปล่อยโฮ ฮุนเซนบังคับสามีไปรบ “10วันแล้วติดต่อไม่ได้” ทัพเขมรก็เงียบกริบ (7/8/68)
    Khmer woman speaks out: Hun Sen forced her husband to fight. “It’s been 10 days, no contact.” The army remains silent. He’s not treated with dignity.

    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #Hunsenfiredfirst
    #กัมพูชายิงก่อน
    #CambodianDeception
    #ข่าววันนี้
    #ข่าวดัง
    #ข่าวต่างประเทศ
    #shorts
    #thaitimes
    #news1
    สาวเขมรปล่อยโฮ ฮุนเซนบังคับสามีไปรบ “10วันแล้วติดต่อไม่ได้” ทัพเขมรก็เงียบกริบ (7/8/68) Khmer woman speaks out: Hun Sen forced her husband to fight. “It’s been 10 days, no contact.” The army remains silent. He’s not treated with dignity. #TruthFromThailand #scambodia #Hunsenfiredfirst #กัมพูชายิงก่อน #CambodianDeception #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ข่าวต่างประเทศ #shorts #thaitimes #news1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกเวอร์ชวล: Proxmox VE 9.0 อัปเดตครั้งใหญ่ที่พร้อมพาองค์กรสู่ยุคใหม่ของการจำลองระบบ

    Proxmox VE 9.0 เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2025 โดยถือเป็นเวอร์ชันแรกของซีรีส์ 9.x ที่มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความสามารถในการจัดการระบบเวอร์ชวลสำหรับทั้งองค์กรและผู้ใช้ระดับ home lab

    เวอร์ชันนี้สร้างบน Debian 13 “Trixie” พร้อม Linux kernel 6.14.8-2 ซึ่งช่วยให้รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ได้ดีขึ้น และเพิ่มความเสถียรในการใช้งาน KVM และ LXC โดยมีการอัปเดตเทคโนโลยีหลัก เช่น QEMU 10.0.2, LXC 6.0.4, ZFS 2.3.3 และ Ceph Squid 19.2.3 ที่ช่วยให้การจัดการ VM และ container มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ฟีเจอร์เด่นที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่ snapshot สำหรับ VM บน LVM แบบ thick-provisioned, ระบบ Software-Defined Networking (SDN) ที่รองรับ OpenFabric และ OSPF, และ affinity rules สำหรับ High Availability ที่ช่วยให้วาง workload ได้อย่างแม่นยำ

    สำหรับผู้ที่ต้องการอัปเกรดจากเวอร์ชัน 8.x ไปยัง 9.0 Proxmox แนะนำให้ใช้สคริปต์ pve8to9 เพื่อเช็กความเข้ากันได้ก่อนอัปเกรด และควรสำรองข้อมูล VM และ container ทั้งหมด รวมถึงไฟล์ config ที่สำคัญ

    Proxmox VE 9.0 เปิดตัวเมื่อ 5 สิงหาคม 2025
    เป็นเวอร์ชันแรกของซีรีส์ 9.x ที่มีการอัปเดตครั้งใหญ่

    สร้างบน Debian 13 “Trixie” และใช้ Linux kernel 6.14.8-2
    เพิ่มความเสถียรและรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่

    อัปเดตเทคโนโลยีหลัก ได้แก่ QEMU 10.0.2, LXC 6.0.4, ZFS 2.3.3, Ceph Squid 19.2.3
    เพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการจัดการ VM และ container

    เพิ่ม snapshot สำหรับ VM บน LVM แบบ thick-provisioned
    เหมาะกับองค์กรที่ใช้ Fibre Channel หรือ iSCSI SAN

    รองรับ Software-Defined Networking ด้วย OpenFabric และ OSPF
    ช่วยสร้างโครงสร้างเครือข่ายที่ซับซ้อนและขยายได้

    เพิ่ม affinity rules สำหรับ High Availability
    ช่วยควบคุมการวาง workload ให้เหมาะสมกับทรัพยากร

    Proxmox VE 9.0 เหมาะกับ hybrid cloud และ software-defined datacenter
    รองรับการใช้งานระดับองค์กรที่ต้องการความยืดหยุ่น

    pve8to9 เป็นสคริปต์เช็กความเข้ากันได้ก่อนอัปเกรด
    ช่วยตรวจสอบปัญหาและแนะนำการแก้ไข

    มีสองวิธีในการอัปเกรด: in-place upgrade และติดตั้งใหม่
    การติดตั้งใหม่ต้องสำรองข้อมูลและ config ทั้งหมด

    ควรใช้ tmux หรือ screen เมื่ออัปเกรดผ่าน SSH
    ป้องกันการหลุดการเชื่อมต่อระหว่างการอัปเกรด

    https://linuxconfig.org/proxmox-virtual-environment-9-0-released-a-comprehensive-update-with-enhanced-virtualization
    🖥️🚀 เรื่องเล่าจากโลกเวอร์ชวล: Proxmox VE 9.0 อัปเดตครั้งใหญ่ที่พร้อมพาองค์กรสู่ยุคใหม่ของการจำลองระบบ Proxmox VE 9.0 เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2025 โดยถือเป็นเวอร์ชันแรกของซีรีส์ 9.x ที่มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความสามารถในการจัดการระบบเวอร์ชวลสำหรับทั้งองค์กรและผู้ใช้ระดับ home lab เวอร์ชันนี้สร้างบน Debian 13 “Trixie” พร้อม Linux kernel 6.14.8-2 ซึ่งช่วยให้รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ได้ดีขึ้น และเพิ่มความเสถียรในการใช้งาน KVM และ LXC โดยมีการอัปเดตเทคโนโลยีหลัก เช่น QEMU 10.0.2, LXC 6.0.4, ZFS 2.3.3 และ Ceph Squid 19.2.3 ที่ช่วยให้การจัดการ VM และ container มีประสิทธิภาพมากขึ้น ฟีเจอร์เด่นที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่ snapshot สำหรับ VM บน LVM แบบ thick-provisioned, ระบบ Software-Defined Networking (SDN) ที่รองรับ OpenFabric และ OSPF, และ affinity rules สำหรับ High Availability ที่ช่วยให้วาง workload ได้อย่างแม่นยำ สำหรับผู้ที่ต้องการอัปเกรดจากเวอร์ชัน 8.x ไปยัง 9.0 Proxmox แนะนำให้ใช้สคริปต์ pve8to9 เพื่อเช็กความเข้ากันได้ก่อนอัปเกรด และควรสำรองข้อมูล VM และ container ทั้งหมด รวมถึงไฟล์ config ที่สำคัญ ✅ Proxmox VE 9.0 เปิดตัวเมื่อ 5 สิงหาคม 2025 ➡️ เป็นเวอร์ชันแรกของซีรีส์ 9.x ที่มีการอัปเดตครั้งใหญ่ ✅ สร้างบน Debian 13 “Trixie” และใช้ Linux kernel 6.14.8-2 ➡️ เพิ่มความเสถียรและรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ ✅ อัปเดตเทคโนโลยีหลัก ได้แก่ QEMU 10.0.2, LXC 6.0.4, ZFS 2.3.3, Ceph Squid 19.2.3 ➡️ เพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการจัดการ VM และ container ✅ เพิ่ม snapshot สำหรับ VM บน LVM แบบ thick-provisioned ➡️ เหมาะกับองค์กรที่ใช้ Fibre Channel หรือ iSCSI SAN ✅ รองรับ Software-Defined Networking ด้วย OpenFabric และ OSPF ➡️ ช่วยสร้างโครงสร้างเครือข่ายที่ซับซ้อนและขยายได้ ✅ เพิ่ม affinity rules สำหรับ High Availability ➡️ ช่วยควบคุมการวาง workload ให้เหมาะสมกับทรัพยากร ✅ Proxmox VE 9.0 เหมาะกับ hybrid cloud และ software-defined datacenter ➡️ รองรับการใช้งานระดับองค์กรที่ต้องการความยืดหยุ่น ✅ pve8to9 เป็นสคริปต์เช็กความเข้ากันได้ก่อนอัปเกรด ➡️ ช่วยตรวจสอบปัญหาและแนะนำการแก้ไข ✅ มีสองวิธีในการอัปเกรด: in-place upgrade และติดตั้งใหม่ ➡️ การติดตั้งใหม่ต้องสำรองข้อมูลและ config ทั้งหมด ✅ ควรใช้ tmux หรือ screen เมื่ออัปเกรดผ่าน SSH ➡️ ป้องกันการหลุดการเชื่อมต่อระหว่างการอัปเกรด https://linuxconfig.org/proxmox-virtual-environment-9-0-released-a-comprehensive-update-with-enhanced-virtualization
    LINUXCONFIG.ORG
    Proxmox VE 9.0 Released: What's New, Key Features, and How to Upgrade from Version 8.x
    Explore the new features and enhancements of Proxmox VE 9.0, including updates to the virtualization stack, support for modern server hardware, and advanced storage solutions. Discover why this release is crucial for hybrid cloud environments and data centers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 317 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: Node.js 2025 – จาก CommonJS สู่โลกใหม่ที่สะอาดกว่าและฉลาดกว่า

    ในปี 2025 Node.js ได้เปลี่ยนโฉมไปอย่างมากจากยุคที่เต็มไปด้วย callback และ require แบบ CommonJS สู่ยุคใหม่ที่ใช้ ES Modules (ESM) เป็นมาตรฐาน พร้อมรองรับฟีเจอร์ระดับเว็บเบราว์เซอร์ เช่น fetch API และ top-level await โดยไม่ต้องพึ่งพาไลบรารีภายนอกอีกต่อไป

    การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง syntax แต่เป็นการปรับแนวคิดการพัฒนาให้สอดคล้องกับมาตรฐานเว็บสมัยใหม่ ทำให้โค้ดสะอาดขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น และลดความซับซ้อนในการจัดการ dependency

    นอกจากนี้ Node.js ยังนำเสนอแนวทางใหม่ในการจัดการกับ asynchronous data ผ่าน async iteration และการใช้ Proxy-based observables เพื่อสร้างระบบ reactive โดยไม่ต้องพึ่ง state management ที่ยุ่งยาก

    ES Modules (ESM) กลายเป็นมาตรฐานใหม่แทน CommonJS
    ใช้ import/export แทน require/module.exports
    รองรับ static analysis และ tree-shaking ได้ดีขึ้น

    ใช้ node: prefix เพื่อแยก built-in modules ออกจาก npm packages
    เช่น import { readFile } from 'node:fs/promises'
    ลดความสับสนและเพิ่มความชัดเจนในการจัดการ dependency

    รองรับ top-level await โดยไม่ต้องใช้ async wrapper function
    ทำให้โค้ด initialization ง่ายขึ้นและอ่านง่ายขึ้น
    เหมาะกับการโหลด config หรือข้อมูลก่อนเริ่มเซิร์ฟเวอร์

    Fetch API ถูกนำมาใช้ใน Node.js โดยไม่ต้องติดตั้ง axios หรือ node-fetch
    รองรับการเรียก HTTP แบบ native
    มีฟีเจอร์ timeout และ cancellation ในตัว

    แนวคิด async iteration และ for-await-of กลายเป็นมาตรฐานในการจัดการ stream
    เหมาะกับ real-time data และ paginated APIs
    ลดการพึ่งพาไลบรารีภายนอก

    Proxy-based observables เริ่มได้รับความนิยมในการสร้างระบบ reactive
    ใช้ JavaScript Proxy เพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงของ state
    ลด boilerplate และไม่ต้องใช้ state management library หนัก ๆ

    Deno กำลังกลายเป็น runtime เสริมที่น่าสนใจควบคู่กับ Node.js
    ใช้ ESM เป็นหลักตั้งแต่ต้น
    มีระบบ permission และ security ที่เข้มงวดกว่า

    Serverless architecture ยังคงนิยมใช้ Node.js เป็นหลักในปี 2025
    รองรับ AWS Lambda, Vercel, Cloudflare Workers
    เหมาะกับแอปพลิเคชันที่ต้องการความเร็วและความยืดหยุ่น

    JavaScript กำลังพัฒนา pattern matching แบบ native
    คล้ายกับ switch statement ที่อ่านง่ายและทรงพลัง
    อยู่ในขั้น proposal แต่เป็นเทรนด์ที่ควรจับตามอง

    https://kashw1n.com/blog/nodejs-2025/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: Node.js 2025 – จาก CommonJS สู่โลกใหม่ที่สะอาดกว่าและฉลาดกว่า ในปี 2025 Node.js ได้เปลี่ยนโฉมไปอย่างมากจากยุคที่เต็มไปด้วย callback และ require แบบ CommonJS สู่ยุคใหม่ที่ใช้ ES Modules (ESM) เป็นมาตรฐาน พร้อมรองรับฟีเจอร์ระดับเว็บเบราว์เซอร์ เช่น fetch API และ top-level await โดยไม่ต้องพึ่งพาไลบรารีภายนอกอีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง syntax แต่เป็นการปรับแนวคิดการพัฒนาให้สอดคล้องกับมาตรฐานเว็บสมัยใหม่ ทำให้โค้ดสะอาดขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น และลดความซับซ้อนในการจัดการ dependency นอกจากนี้ Node.js ยังนำเสนอแนวทางใหม่ในการจัดการกับ asynchronous data ผ่าน async iteration และการใช้ Proxy-based observables เพื่อสร้างระบบ reactive โดยไม่ต้องพึ่ง state management ที่ยุ่งยาก ✅ ES Modules (ESM) กลายเป็นมาตรฐานใหม่แทน CommonJS ➡️ ใช้ import/export แทน require/module.exports ➡️ รองรับ static analysis และ tree-shaking ได้ดีขึ้น ✅ ใช้ node: prefix เพื่อแยก built-in modules ออกจาก npm packages ➡️ เช่น import { readFile } from 'node:fs/promises' ➡️ ลดความสับสนและเพิ่มความชัดเจนในการจัดการ dependency ✅ รองรับ top-level await โดยไม่ต้องใช้ async wrapper function ➡️ ทำให้โค้ด initialization ง่ายขึ้นและอ่านง่ายขึ้น ➡️ เหมาะกับการโหลด config หรือข้อมูลก่อนเริ่มเซิร์ฟเวอร์ ✅ Fetch API ถูกนำมาใช้ใน Node.js โดยไม่ต้องติดตั้ง axios หรือ node-fetch ➡️ รองรับการเรียก HTTP แบบ native ➡️ มีฟีเจอร์ timeout และ cancellation ในตัว ✅ แนวคิด async iteration และ for-await-of กลายเป็นมาตรฐานในการจัดการ stream ➡️ เหมาะกับ real-time data และ paginated APIs ➡️ ลดการพึ่งพาไลบรารีภายนอก ✅ Proxy-based observables เริ่มได้รับความนิยมในการสร้างระบบ reactive ➡️ ใช้ JavaScript Proxy เพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงของ state ➡️ ลด boilerplate และไม่ต้องใช้ state management library หนัก ๆ ✅ Deno กำลังกลายเป็น runtime เสริมที่น่าสนใจควบคู่กับ Node.js ➡️ ใช้ ESM เป็นหลักตั้งแต่ต้น ➡️ มีระบบ permission และ security ที่เข้มงวดกว่า ✅ Serverless architecture ยังคงนิยมใช้ Node.js เป็นหลักในปี 2025 ➡️ รองรับ AWS Lambda, Vercel, Cloudflare Workers ➡️ เหมาะกับแอปพลิเคชันที่ต้องการความเร็วและความยืดหยุ่น ✅ JavaScript กำลังพัฒนา pattern matching แบบ native ➡️ คล้ายกับ switch statement ที่อ่านง่ายและทรงพลัง ➡️ อยู่ในขั้น proposal แต่เป็นเทรนด์ที่ควรจับตามอง https://kashw1n.com/blog/nodejs-2025/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ Intel ลดพนักงาน ส่งผลสะเทือนถึงโลกของ Linux

    ในปี 2025 Intel ได้ประกาศลดจำนวนพนักงานครั้งใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาไดรเวอร์ใน Linux kernel โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์ของ Intel เช่น GPU, Ethernet, และ CPU microcode ที่เคยมีทีมงานเฉพาะดูแลอย่างใกล้ชิด

    การลดทีมงานทำให้เกิดความล่าช้าในการแก้บั๊ก การทดสอบฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของ Intel ที่จะรองรับใน Linux kernel รุ่นถัดไป นอกจากนี้ยังมีไดรเวอร์บางตัวที่ถูกประกาศว่า “orphaned” หรือไม่มีผู้ดูแลแล้ว เช่น Slim Bootloader firmware update driver ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการอัปเดตเฟิร์มแวร์ของแพลตฟอร์ม Intel x86

    แม้จะมีความกังวล แต่ชุมชน Linux ก็ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยมีนักพัฒนาอิสระและบริษัทอื่น ๆ เช่น Red Hat, SUSE, Canonical เข้ามาช่วยดูแลไดรเวอร์ที่ขาดผู้ดูแล พร้อมทั้งใช้โครงสร้างแบบ modular และ framework ที่ช่วยลดการพึ่งพาไดรเวอร์เฉพาะจากผู้ผลิต

    Intel ลดจำนวนพนักงานในปี 2025 ส่งผลต่อการพัฒนา Linux kernel driver
    ส่งผลให้การแก้บั๊กและการรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าช้า
    กระทบต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ของ Intel ใน Linux

    ไดรเวอร์บางตัวถูกประกาศว่า orphaned เช่น Slim Bootloader firmware update driver
    ไม่มีผู้ดูแลที่มีความเชี่ยวชาญเหลืออยู่ในทีม
    อาจส่งผลต่อการอัปเดตเฟิร์มแวร์ของแพลตฟอร์ม Intel x86

    ชุมชน Linux และบริษัทอื่น ๆ เข้ามาช่วยดูแลไดรเวอร์ที่ขาดผู้ดูแล
    ใช้กระบวนการ maintainer transition เพื่อเปลี่ยนผู้ดูแล
    บริษัทเช่น Red Hat, SUSE, Canonical มีทีม kernel ของตัวเอง

    Linux kernel มีโครงสร้างแบบ modular ที่ช่วยให้การพัฒนาไม่หยุดชะงัก
    สามารถเปลี่ยนผู้ดูแลหรือปรับโครงสร้างได้ตามสถานการณ์
    มี framework ที่ช่วยลดการพึ่งพาไดรเวอร์เฉพาะจากผู้ผลิต

    ผู้ใช้ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงใน MAINTAINERS file และ kernel mailing list
    เพื่อรู้ว่าไดรเวอร์ใดเปลี่ยนผู้ดูแล
    ควรทดสอบฮาร์ดแวร์ของตนเองเมื่ออัปเดต kernel

    การลดทีมงานของ Intel อาจทำให้การรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าช้า
    ผู้ใช้ที่ใช้ฮาร์ดแวร์ Intel รุ่นใหม่อาจต้องรอนานกว่าจะมีไดรเวอร์ใน kernel
    อาจต้องใช้ kernel รุ่นพิเศษหรือ patch เองในบางกรณี

    ไดรเวอร์ที่ไม่มีผู้ดูแลอาจมีช่องโหว่หรือไม่รองรับ kernel รุ่นใหม่
    เสี่ยงต่อความไม่เสถียรหรือปัญหาด้านความปลอดภัย
    ต้องพึ่งพาชุมชนหรือบริษัทอื่นในการดูแล

    การถอนตัวจากโครงการ Clear Linux แสดงถึงการลดบทบาทของ Intel ในโลก open-source
    อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักพัฒนาและผู้ใช้
    ลดโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เน้น Linux โดยเฉพาะ

    องค์กรที่ใช้ฮาร์ดแวร์ Intel ควรพิจารณาการ compile kernel เองเพื่อควบคุมไดรเวอร์
    โดยเฉพาะในระบบ enterprise ที่ต้องการความเสถียรสูง
    ต้องมีทีมเทคนิคที่เข้าใจการจัดการ kernel และ driver

    https://linuxconfig.org/intel-layoffs-impact-linux-kernel-driver-development-what-you-need-to-know
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ Intel ลดพนักงาน ส่งผลสะเทือนถึงโลกของ Linux ในปี 2025 Intel ได้ประกาศลดจำนวนพนักงานครั้งใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาไดรเวอร์ใน Linux kernel โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์ของ Intel เช่น GPU, Ethernet, และ CPU microcode ที่เคยมีทีมงานเฉพาะดูแลอย่างใกล้ชิด การลดทีมงานทำให้เกิดความล่าช้าในการแก้บั๊ก การทดสอบฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของ Intel ที่จะรองรับใน Linux kernel รุ่นถัดไป นอกจากนี้ยังมีไดรเวอร์บางตัวที่ถูกประกาศว่า “orphaned” หรือไม่มีผู้ดูแลแล้ว เช่น Slim Bootloader firmware update driver ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการอัปเดตเฟิร์มแวร์ของแพลตฟอร์ม Intel x86 แม้จะมีความกังวล แต่ชุมชน Linux ก็ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยมีนักพัฒนาอิสระและบริษัทอื่น ๆ เช่น Red Hat, SUSE, Canonical เข้ามาช่วยดูแลไดรเวอร์ที่ขาดผู้ดูแล พร้อมทั้งใช้โครงสร้างแบบ modular และ framework ที่ช่วยลดการพึ่งพาไดรเวอร์เฉพาะจากผู้ผลิต ✅ Intel ลดจำนวนพนักงานในปี 2025 ส่งผลต่อการพัฒนา Linux kernel driver ➡️ ส่งผลให้การแก้บั๊กและการรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าช้า ➡️ กระทบต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ของ Intel ใน Linux ✅ ไดรเวอร์บางตัวถูกประกาศว่า orphaned เช่น Slim Bootloader firmware update driver ➡️ ไม่มีผู้ดูแลที่มีความเชี่ยวชาญเหลืออยู่ในทีม ➡️ อาจส่งผลต่อการอัปเดตเฟิร์มแวร์ของแพลตฟอร์ม Intel x86 ✅ ชุมชน Linux และบริษัทอื่น ๆ เข้ามาช่วยดูแลไดรเวอร์ที่ขาดผู้ดูแล ➡️ ใช้กระบวนการ maintainer transition เพื่อเปลี่ยนผู้ดูแล ➡️ บริษัทเช่น Red Hat, SUSE, Canonical มีทีม kernel ของตัวเอง ✅ Linux kernel มีโครงสร้างแบบ modular ที่ช่วยให้การพัฒนาไม่หยุดชะงัก ➡️ สามารถเปลี่ยนผู้ดูแลหรือปรับโครงสร้างได้ตามสถานการณ์ ➡️ มี framework ที่ช่วยลดการพึ่งพาไดรเวอร์เฉพาะจากผู้ผลิต ✅ ผู้ใช้ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงใน MAINTAINERS file และ kernel mailing list ➡️ เพื่อรู้ว่าไดรเวอร์ใดเปลี่ยนผู้ดูแล ➡️ ควรทดสอบฮาร์ดแวร์ของตนเองเมื่ออัปเดต kernel ‼️ การลดทีมงานของ Intel อาจทำให้การรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าช้า ⛔ ผู้ใช้ที่ใช้ฮาร์ดแวร์ Intel รุ่นใหม่อาจต้องรอนานกว่าจะมีไดรเวอร์ใน kernel ⛔ อาจต้องใช้ kernel รุ่นพิเศษหรือ patch เองในบางกรณี ‼️ ไดรเวอร์ที่ไม่มีผู้ดูแลอาจมีช่องโหว่หรือไม่รองรับ kernel รุ่นใหม่ ⛔ เสี่ยงต่อความไม่เสถียรหรือปัญหาด้านความปลอดภัย ⛔ ต้องพึ่งพาชุมชนหรือบริษัทอื่นในการดูแล ‼️ การถอนตัวจากโครงการ Clear Linux แสดงถึงการลดบทบาทของ Intel ในโลก open-source ⛔ อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักพัฒนาและผู้ใช้ ⛔ ลดโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เน้น Linux โดยเฉพาะ ‼️ องค์กรที่ใช้ฮาร์ดแวร์ Intel ควรพิจารณาการ compile kernel เองเพื่อควบคุมไดรเวอร์ ⛔ โดยเฉพาะในระบบ enterprise ที่ต้องการความเสถียรสูง ⛔ ต้องมีทีมเทคนิคที่เข้าใจการจัดการ kernel และ driver https://linuxconfig.org/intel-layoffs-impact-linux-kernel-driver-development-what-you-need-to-know
    LINUXCONFIG.ORG
    Intel Layoffs Impact Linux Kernel Driver Development: What You Need to Know
    Intel's workforce reductions may affect Linux kernel drivers, raising concerns over hardware support and compatibility. Discover what this means for development and communities.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts