• GL.iNet ได้เปิดตัว Slate 7 (GL-BE3600) ซึ่งเป็นเราเตอร์ Wi-Fi 7 แบบพกพาตัวแรกของโลก โดยออกแบบมาเพื่อรองรับ 4K และ 8K streaming, การประชุมวิดีโอ และการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ต้องใช้แบนด์วิดท์สูง Slate 7 มีคุณสมบัติเด่นหลายอย่าง รวมถึง ซีพียู Qualcomm 1.1GHz quad-core, แรม 1GB DDR4 และหน่วยความจำแฟลช 512MB

    ✅ ความเร็ว Wi-Fi 7 ระดับสูงสุด—เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อที่ต้องการความเร็วและเสถียรภาพ
    - ความเร็ว 688 Mbps บนคลื่น 2.4GHz และ 2882 Mbps บนคลื่น 5GHz
    - เสาอากาศภายนอกพับเก็บได้ ช่วยขยายสัญญาณให้ครอบคลุมมากขึ้น

    ✅ รองรับการเชื่อมต่อแบบสายที่มีประสิทธิภาพสูง
    - มี พอร์ต WAN 2.5Gbps และ LAN 1Gbps เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและเสถียร
    - รองรับ USB 3.0 สำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลหรือโมเด็ม

    ✅ ระบบ VPN ที่แข็งแกร่ง—ความปลอดภัยระดับสูงสำหรับการเชื่อมต่อออนไลน์
    - รองรับ OpenVPN ความเร็วสูงสุด 100 Mbps และ WireGuard ที่ความเร็วสูงสุด 540 Mbps
    - สามารถเชื่อมต่อกับ บริการ VPN กว่า 30 แห่ง เพื่อปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

    ✅ พลังงานยืดหยุ่น—ใช้งานได้หลากหลาย
    - ใช้ พอร์ต USB-C และรองรับ แรงดันไฟฟ้าหลายระดับ (5V/3A, 9V/3A, 12V/2.5A)
    - สามารถใช้พลังงานจาก แล็ปท็อป, พาวเวอร์แบงก์ หรือสมาร์ทโฟน

    ✅ ฟีเจอร์เพิ่มเติมสำหรับการจัดการเครือข่ายขั้นสูง
    - ระบบ OpenWrt 23.05 พร้อม Kernel 5.4.213 ให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งปลั๊กอินเพิ่มเติม เช่น การตรวจสอบการใช้แบนด์วิดท์ และกำหนดค่าฟีเจอร์ไฟร์วอลล์
    - ใช้ WPA3 encryption เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์

    ✅ ราคาเป็นมิตรกับงบประมาณ—เข้าถึงได้ง่าย
    - ราคา $120 สำหรับการสั่งจองล่วงหน้า และ ราคาเต็มอยู่ที่ $149.90
    - การส่งมอบสินค้าเริ่มต้นใน เดือนพฤษภาคม 2025

    https://www.techradar.com/pro/heres-the-worlds-first-mobile-wi-fi-7-router-and-i-cant-believe-how-ridiculously-cheap-it-is
    GL.iNet ได้เปิดตัว Slate 7 (GL-BE3600) ซึ่งเป็นเราเตอร์ Wi-Fi 7 แบบพกพาตัวแรกของโลก โดยออกแบบมาเพื่อรองรับ 4K และ 8K streaming, การประชุมวิดีโอ และการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ต้องใช้แบนด์วิดท์สูง Slate 7 มีคุณสมบัติเด่นหลายอย่าง รวมถึง ซีพียู Qualcomm 1.1GHz quad-core, แรม 1GB DDR4 และหน่วยความจำแฟลช 512MB ✅ ความเร็ว Wi-Fi 7 ระดับสูงสุด—เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อที่ต้องการความเร็วและเสถียรภาพ - ความเร็ว 688 Mbps บนคลื่น 2.4GHz และ 2882 Mbps บนคลื่น 5GHz - เสาอากาศภายนอกพับเก็บได้ ช่วยขยายสัญญาณให้ครอบคลุมมากขึ้น ✅ รองรับการเชื่อมต่อแบบสายที่มีประสิทธิภาพสูง - มี พอร์ต WAN 2.5Gbps และ LAN 1Gbps เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและเสถียร - รองรับ USB 3.0 สำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลหรือโมเด็ม ✅ ระบบ VPN ที่แข็งแกร่ง—ความปลอดภัยระดับสูงสำหรับการเชื่อมต่อออนไลน์ - รองรับ OpenVPN ความเร็วสูงสุด 100 Mbps และ WireGuard ที่ความเร็วสูงสุด 540 Mbps - สามารถเชื่อมต่อกับ บริการ VPN กว่า 30 แห่ง เพื่อปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ✅ พลังงานยืดหยุ่น—ใช้งานได้หลากหลาย - ใช้ พอร์ต USB-C และรองรับ แรงดันไฟฟ้าหลายระดับ (5V/3A, 9V/3A, 12V/2.5A) - สามารถใช้พลังงานจาก แล็ปท็อป, พาวเวอร์แบงก์ หรือสมาร์ทโฟน ✅ ฟีเจอร์เพิ่มเติมสำหรับการจัดการเครือข่ายขั้นสูง - ระบบ OpenWrt 23.05 พร้อม Kernel 5.4.213 ให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งปลั๊กอินเพิ่มเติม เช่น การตรวจสอบการใช้แบนด์วิดท์ และกำหนดค่าฟีเจอร์ไฟร์วอลล์ - ใช้ WPA3 encryption เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ✅ ราคาเป็นมิตรกับงบประมาณ—เข้าถึงได้ง่าย - ราคา $120 สำหรับการสั่งจองล่วงหน้า และ ราคาเต็มอยู่ที่ $149.90 - การส่งมอบสินค้าเริ่มต้นใน เดือนพฤษภาคม 2025 https://www.techradar.com/pro/heres-the-worlds-first-mobile-wi-fi-7-router-and-i-cant-believe-how-ridiculously-cheap-it-is
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • Altera ได้เริ่มจัดส่ง Agilex 7 FPGA M-Series ซึ่งเป็นชิปประมวลผลแบบ FPGA ระดับไฮเอนด์ที่ออกแบบมาเพื่อ AI และศูนย์ข้อมูล โดยใช้ HBM2E และ DDR5/LPDDR5 เพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์และลดความล่าช้า Positron ซึ่งเป็นบริษัท AI รายงานว่า FPGA นี้ช่วยให้ทำงานได้เร็วกว่า GPU ในการรันโมเดล AI เช่น Llama3 และช่วยประหยัดพลังงานมากกว่า Intel คาดว่า FPGA นี้จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเซิร์ฟเวอร์ AI และอุตสาหกรรมสื่อสาร 5G ในอีก 10 ปีข้างหน้า

    ✅ FPGA นี้ออกแบบเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
    - มี 3.8 ล้าน Logic Elements รองรับการประมวลผลระดับสูง
    - ใช้ Hyperflex Architecture รุ่นที่ 2 เพื่อเพิ่มความเร็วและลดการใช้พลังงาน

    ✅ หน่วยความจำความเร็วสูงช่วยแก้ปัญหาคอขวด
    - มี HBM2E ขนาด 32 GB พร้อมแบนด์วิดท์สูงสุด 820 GBps
    - รองรับ DDR5/LPDDR5 โดยมี Memory Bandwidth สูงสุด 1 TBps

    ✅ การใช้งานหลักของ Agilex 7 FPGA M-Series
    - ศูนย์ข้อมูล: ใช้เป็นเร่งความเร็ว AI และช่วยลดภาระงานของโปรเซสเซอร์ทั่วไป
    - อุปกรณ์เครือข่าย: รองรับไฟร์วอลล์ยุคใหม่ที่ต้องใช้การประมวลผลข้อมูลระดับสูง
    - อุปกรณ์ออกอากาศ: ส่งข้อมูล 8K UHD ได้รวดเร็ว ลดความล่าช้าในเซ็นเซอร์ภาพ

    ✅ บริษัท AI ใช้ FPGA เพื่อประสิทธิภาพสูงกว่าระบบ GPU ทั่วไป
    - Positron รายงานว่า Agilex 7 มีการใช้ Bandwidth สูงถึง 93% ซึ่งสูงกว่าระบบ GPU ที่มักอยู่ที่ 10-30%
    - เมื่อใช้ในการประมวลผล LLM (เช่น Llama3 และ MOE Models) ทำให้ได้ ประสิทธิภาพต่อค่าใช้จ่ายดีขึ้น 3.5 เท่า

    ✅ อนาคตของ Agilex 7 FPGA M-Series
    - มีอายุการใช้งานถึง ปี 2035 และพร้อมใช้งานทั่วโลก
    - คาดว่าจะถูกนำมาใช้ในเซิร์ฟเวอร์ระดับสูง, การประมวลผล AI, และโครงสร้างพื้นฐาน 5G

    https://www.techpowerup.com/334926/altera-starts-production-shipments-of-agilex-7-fpga-m-series
    Altera ได้เริ่มจัดส่ง Agilex 7 FPGA M-Series ซึ่งเป็นชิปประมวลผลแบบ FPGA ระดับไฮเอนด์ที่ออกแบบมาเพื่อ AI และศูนย์ข้อมูล โดยใช้ HBM2E และ DDR5/LPDDR5 เพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์และลดความล่าช้า Positron ซึ่งเป็นบริษัท AI รายงานว่า FPGA นี้ช่วยให้ทำงานได้เร็วกว่า GPU ในการรันโมเดล AI เช่น Llama3 และช่วยประหยัดพลังงานมากกว่า Intel คาดว่า FPGA นี้จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเซิร์ฟเวอร์ AI และอุตสาหกรรมสื่อสาร 5G ในอีก 10 ปีข้างหน้า ✅ FPGA นี้ออกแบบเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด - มี 3.8 ล้าน Logic Elements รองรับการประมวลผลระดับสูง - ใช้ Hyperflex Architecture รุ่นที่ 2 เพื่อเพิ่มความเร็วและลดการใช้พลังงาน ✅ หน่วยความจำความเร็วสูงช่วยแก้ปัญหาคอขวด - มี HBM2E ขนาด 32 GB พร้อมแบนด์วิดท์สูงสุด 820 GBps - รองรับ DDR5/LPDDR5 โดยมี Memory Bandwidth สูงสุด 1 TBps ✅ การใช้งานหลักของ Agilex 7 FPGA M-Series - ศูนย์ข้อมูล: ใช้เป็นเร่งความเร็ว AI และช่วยลดภาระงานของโปรเซสเซอร์ทั่วไป - อุปกรณ์เครือข่าย: รองรับไฟร์วอลล์ยุคใหม่ที่ต้องใช้การประมวลผลข้อมูลระดับสูง - อุปกรณ์ออกอากาศ: ส่งข้อมูล 8K UHD ได้รวดเร็ว ลดความล่าช้าในเซ็นเซอร์ภาพ ✅ บริษัท AI ใช้ FPGA เพื่อประสิทธิภาพสูงกว่าระบบ GPU ทั่วไป - Positron รายงานว่า Agilex 7 มีการใช้ Bandwidth สูงถึง 93% ซึ่งสูงกว่าระบบ GPU ที่มักอยู่ที่ 10-30% - เมื่อใช้ในการประมวลผล LLM (เช่น Llama3 และ MOE Models) ทำให้ได้ ประสิทธิภาพต่อค่าใช้จ่ายดีขึ้น 3.5 เท่า ✅ อนาคตของ Agilex 7 FPGA M-Series - มีอายุการใช้งานถึง ปี 2035 และพร้อมใช้งานทั่วโลก - คาดว่าจะถูกนำมาใช้ในเซิร์ฟเวอร์ระดับสูง, การประมวลผล AI, และโครงสร้างพื้นฐาน 5G https://www.techpowerup.com/334926/altera-starts-production-shipments-of-agilex-7-fpga-m-series
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Altera Starts Production Shipments of Agilex 7 FPGA M-Series
    Altera Corporation, a leader in FPGA innovations, today announced production shipments of its Agilex 7 FPGA M-Series, the industry's first high-end, high-density FPGA to feature integrated high bandwidth memory and support for DDR5 and LPDDR5 memory technologies. Offering over 3.8 million logic elem...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft กำลังเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Startup Boost ซึ่งจะช่วยให้แอปพลิเคชัน Office เช่น Word, Excel, และ PowerPoint เปิดได้รวดเร็วขึ้น โดยฟีเจอร์นี้จะเริ่มทำงานทันทีหลังจากที่ผู้ใช้เข้าสู่ระบบ Windows โดยการโหลดข้อมูลล่วงหน้าและเก็บไว้ในหน่วยความจำในสถานะพักจนกระทั่งผู้ใช้เปิดใช้งานจริง นอกจากนี้ ฟีเจอร์ยังออกแบบมาเพื่อให้สามารถคืนทรัพยากรหน่วยความจำให้ระบบอัตโนมัติหากจำเป็น

    ข้อจำกัดของฟีเจอร์:
    - ฟีเจอร์นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะในอุปกรณ์ที่มี RAM อย่างน้อย 8GB และพื้นที่ว่างบนดิสก์ 5GB และจะปิดการทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดโหมด Energy Saver เพื่อประหยัดแบตเตอรี่.

    ตัวเลือกการปิดการใช้งาน:
    - ผู้ใช้ที่ไม่ต้องการให้ฟีเจอร์ทำงาน สามารถปิดการใช้งานได้ใน Settings ของ Office แต่หลังจากที่มีการอัปเดต Office ครั้งใหม่ ฟีเจอร์จะกลับมาเปิดอีกครั้ง ซึ่งผู้ใช้จะต้องปิดซ้ำเอง.

    แรงบันดาลใจจาก Edge:
    - ฟีเจอร์นี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก Startup Boost ของเบราว์เซอร์ Microsoft Edge ที่ใช้วิธีเดียวกันในการโหลดโปรเซสพื้นหลังเพื่อช่วยให้เปิดเบราว์เซอร์ได้เร็วขึ้น ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ.

    กำหนดการเปิดตัว:
    - การเปิดตัวจะเริ่มกลางเดือนพฤษภาคม โดยจะมีใน Word เป็นแอปแรก และจะขยายไปยังแอป Office อื่น ๆ ในภายหลัง.

    https://www.techspot.com/news/107343-microsoft-office-apps-soon-preload-windows-boot-faster.html
    Microsoft กำลังเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Startup Boost ซึ่งจะช่วยให้แอปพลิเคชัน Office เช่น Word, Excel, และ PowerPoint เปิดได้รวดเร็วขึ้น โดยฟีเจอร์นี้จะเริ่มทำงานทันทีหลังจากที่ผู้ใช้เข้าสู่ระบบ Windows โดยการโหลดข้อมูลล่วงหน้าและเก็บไว้ในหน่วยความจำในสถานะพักจนกระทั่งผู้ใช้เปิดใช้งานจริง นอกจากนี้ ฟีเจอร์ยังออกแบบมาเพื่อให้สามารถคืนทรัพยากรหน่วยความจำให้ระบบอัตโนมัติหากจำเป็น ข้อจำกัดของฟีเจอร์: - ฟีเจอร์นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะในอุปกรณ์ที่มี RAM อย่างน้อย 8GB และพื้นที่ว่างบนดิสก์ 5GB และจะปิดการทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดโหมด Energy Saver เพื่อประหยัดแบตเตอรี่. ตัวเลือกการปิดการใช้งาน: - ผู้ใช้ที่ไม่ต้องการให้ฟีเจอร์ทำงาน สามารถปิดการใช้งานได้ใน Settings ของ Office แต่หลังจากที่มีการอัปเดต Office ครั้งใหม่ ฟีเจอร์จะกลับมาเปิดอีกครั้ง ซึ่งผู้ใช้จะต้องปิดซ้ำเอง. แรงบันดาลใจจาก Edge: - ฟีเจอร์นี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก Startup Boost ของเบราว์เซอร์ Microsoft Edge ที่ใช้วิธีเดียวกันในการโหลดโปรเซสพื้นหลังเพื่อช่วยให้เปิดเบราว์เซอร์ได้เร็วขึ้น ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ. กำหนดการเปิดตัว: - การเปิดตัวจะเริ่มกลางเดือนพฤษภาคม โดยจะมีใน Word เป็นแอปแรก และจะขยายไปยังแอป Office อื่น ๆ ในภายหลัง. https://www.techspot.com/news/107343-microsoft-office-apps-soon-preload-windows-boot-faster.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft Office apps will soon preload on Windows boot for faster launch
    The announcement comes from the Microsoft 365 Message Center. The feature works by preloading parts of Office apps into memory after Windows startup and keeping them in...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/8gt2NV-Ibqg?si=5gPYrK4F3CU0hevI
    https://youtu.be/8gt2NV-Ibqg?si=5gPYrK4F3CU0hevI
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • Vivaldi ร่วมมือกับ Proton เพื่อนำบริการ VPN ฟรีมาไว้ในเบราว์เซอร์ ช่วยให้ผู้ใช้เพิ่มความเป็นส่วนตัวออนไลน์ได้ง่ายขึ้นโดยไม่จำกัดแบนด์วิธ นอกจากนี้ยังมีการเข้ารหัสขั้นสูงเพื่อปกป้องข้อมูล แม้จะมีความเร็วระดับปานกลาง แต่ผู้ใช้ยังสามารถสมัครสมาชิก ProtonVPN Plus เพื่อความเร็วที่สูงขึ้นและเซิร์ฟเวอร์ที่หลากหลายกว่า เป็นการก้าวสำคัญในการให้บริการเบราว์เซอร์ที่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน

    ทางเลือกที่มีความยืดหยุ่น:
    - ProtonVPN ยังมีเวอร์ชัน Plus ที่เปิดให้ผู้ใช้สมัครสมาชิกเพื่อความเร็วที่สูงขึ้นและเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์กว่า 11,000 แห่งใน 110 ประเทศทั่วโลก.

    เปรียบเทียบกับบริการ VPN อื่น ๆ:
    - เบราว์เซอร์อื่น เช่น Microsoft Edge และ Brave มีบริการ VPN ในตัว แต่ Edge มีข้อจำกัดในแบนด์วิธเพียง 5GB ต่อเดือน ขณะที่ Brave เสนอ VPN ที่ไม่มีการเก็บบันทึกข้อมูลแต่มีค่าใช้จ่าย $9.99 ต่อเดือน หรือ $99 ต่อปี.

    เป้าหมายที่เหนือกว่า:
    - การรวมบริการ VPN ใน Vivaldi และ Proton มุ่งเน้นการต่อต้านการเก็บข้อมูลโดยบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ โดยนำเสนอทางเลือกจากยุโรป ซึ่ง Vivaldi ตั้งอยู่ในนอร์เวย์ และ Proton มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสวิตเซอร์แลนด์.

    https://www.techspot.com/news/107313-vivaldi-partners-proton-integrate-free-vpn-browser.html
    Vivaldi ร่วมมือกับ Proton เพื่อนำบริการ VPN ฟรีมาไว้ในเบราว์เซอร์ ช่วยให้ผู้ใช้เพิ่มความเป็นส่วนตัวออนไลน์ได้ง่ายขึ้นโดยไม่จำกัดแบนด์วิธ นอกจากนี้ยังมีการเข้ารหัสขั้นสูงเพื่อปกป้องข้อมูล แม้จะมีความเร็วระดับปานกลาง แต่ผู้ใช้ยังสามารถสมัครสมาชิก ProtonVPN Plus เพื่อความเร็วที่สูงขึ้นและเซิร์ฟเวอร์ที่หลากหลายกว่า เป็นการก้าวสำคัญในการให้บริการเบราว์เซอร์ที่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ทางเลือกที่มีความยืดหยุ่น: - ProtonVPN ยังมีเวอร์ชัน Plus ที่เปิดให้ผู้ใช้สมัครสมาชิกเพื่อความเร็วที่สูงขึ้นและเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์กว่า 11,000 แห่งใน 110 ประเทศทั่วโลก. เปรียบเทียบกับบริการ VPN อื่น ๆ: - เบราว์เซอร์อื่น เช่น Microsoft Edge และ Brave มีบริการ VPN ในตัว แต่ Edge มีข้อจำกัดในแบนด์วิธเพียง 5GB ต่อเดือน ขณะที่ Brave เสนอ VPN ที่ไม่มีการเก็บบันทึกข้อมูลแต่มีค่าใช้จ่าย $9.99 ต่อเดือน หรือ $99 ต่อปี. เป้าหมายที่เหนือกว่า: - การรวมบริการ VPN ใน Vivaldi และ Proton มุ่งเน้นการต่อต้านการเก็บข้อมูลโดยบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ โดยนำเสนอทางเลือกจากยุโรป ซึ่ง Vivaldi ตั้งอยู่ในนอร์เวย์ และ Proton มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสวิตเซอร์แลนด์. https://www.techspot.com/news/107313-vivaldi-partners-proton-integrate-free-vpn-browser.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Vivaldi and Proton partner to integrate free browser VPN
    Vivaldi (download safely here) is a fast, ultra-customizable browser that prioritizes user privacy – the antithesis of Chrome, arguably – offering built-in ad-tracking protection, ad-blocking, and a...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/live/7fl20-G_y9w?si=AFMsdg2mad7d5GyU
    https://www.youtube.com/live/7fl20-G_y9w?si=AFMsdg2mad7d5GyU
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/8lmFhgb5gSw?si=ZHc8OuUEO_yLEK3w
    https://youtu.be/8lmFhgb5gSw?si=ZHc8OuUEO_yLEK3w
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • Maxtang SXRL-20 เป็น Mini PC ที่ออกแบบได้ล้ำมาก เพราะตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมที่ช่วยระบายความร้อนแบบไร้พัดลม ทำให้ทำงานเงียบและทนทานเหมาะกับงานในอุตสาหกรรม จุดเด่นคือรองรับการเชื่อมต่อหน้าจอได้ถึง 5 จอแบบ 4K และยังเก็บข้อมูลได้เยอะสุด ๆ ด้วยพื้นที่จัดเก็บสูงถึง 8TB นอกจากนี้ยังรองรับ Windows และ Linux แถมมีราคาเริ่มต้นที่คุ้มค่า ใครมองหาเครื่องสำหรับงานหนักหรือระบบ IoT ไม่ควรพลาด

    การออกแบบที่เหนือชั้น:
    - อะลูมิเนียมชิ้นใหญ่ที่เป็นทั้งตัวเครื่องและฮีทซิงค์ ช่วยระบายความร้อนโดยไม่ต้องใช้พัดลม ทำให้ทำงานเงียบสนิทและเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีฝุ่นหรือการสั่นสะเทือนสูง

    ประสิทธิภาพที่รองรับการใช้งานหนัก:
    - ใช้ชิป Intel Core เจนเนอเรชัน 12 เช่น i5-1235U พร้อมความสามารถในการจัดการพลังงานตั้งแต่ 12W ถึง 55W
    - มีช่องสำหรับ NVMe/SATA dual slots รองรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงสุด 8TB และ RAM DDR4 ได้ถึง 32GB

    ความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อ:
    - รองรับพอร์ต USB-C, USB 3.2, USB 2.0, Ethernet (2.5G) และ COM port สำหรับการเชื่อมต่อระบบเดิมในอุตสาหกรรม
    - มี M.2 Slot สำหรับการติดตั้ง Wi-Fi หรือโมเด็ม พร้อมรองรับเสาอากาศภายนอกถึง 6 เสา

    ความเหมาะสมในการใช้งาน:
    - รองรับ Windows 11 Pro และ Linux พร้อมฟีเจอร์เช่นการตั้งเวลาเปิดระบบด้วย RTC และการบูตอัตโนมัติ ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานในระบบอัตโนมัติและ IoT

    ราคาและความคุ้มค่า:
    - ราคาตั้งต้นที่ €544 (ประมาณ 21,000 บาท) พร้อมจัดส่งฟรีในบางพื้นที่ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา Mini PC ที่มีคุณสมบัติครบครัน

    https://www.techradar.com/pro/this-fanless-pc-looks-like-a-giant-heatsink-and-has-one-incredible-feature-five-yes-five-4k-capable-hdmi-ports
    Maxtang SXRL-20 เป็น Mini PC ที่ออกแบบได้ล้ำมาก เพราะตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมที่ช่วยระบายความร้อนแบบไร้พัดลม ทำให้ทำงานเงียบและทนทานเหมาะกับงานในอุตสาหกรรม จุดเด่นคือรองรับการเชื่อมต่อหน้าจอได้ถึง 5 จอแบบ 4K และยังเก็บข้อมูลได้เยอะสุด ๆ ด้วยพื้นที่จัดเก็บสูงถึง 8TB นอกจากนี้ยังรองรับ Windows และ Linux แถมมีราคาเริ่มต้นที่คุ้มค่า ใครมองหาเครื่องสำหรับงานหนักหรือระบบ IoT ไม่ควรพลาด การออกแบบที่เหนือชั้น: - อะลูมิเนียมชิ้นใหญ่ที่เป็นทั้งตัวเครื่องและฮีทซิงค์ ช่วยระบายความร้อนโดยไม่ต้องใช้พัดลม ทำให้ทำงานเงียบสนิทและเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีฝุ่นหรือการสั่นสะเทือนสูง ประสิทธิภาพที่รองรับการใช้งานหนัก: - ใช้ชิป Intel Core เจนเนอเรชัน 12 เช่น i5-1235U พร้อมความสามารถในการจัดการพลังงานตั้งแต่ 12W ถึง 55W - มีช่องสำหรับ NVMe/SATA dual slots รองรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงสุด 8TB และ RAM DDR4 ได้ถึง 32GB ความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อ: - รองรับพอร์ต USB-C, USB 3.2, USB 2.0, Ethernet (2.5G) และ COM port สำหรับการเชื่อมต่อระบบเดิมในอุตสาหกรรม - มี M.2 Slot สำหรับการติดตั้ง Wi-Fi หรือโมเด็ม พร้อมรองรับเสาอากาศภายนอกถึง 6 เสา ความเหมาะสมในการใช้งาน: - รองรับ Windows 11 Pro และ Linux พร้อมฟีเจอร์เช่นการตั้งเวลาเปิดระบบด้วย RTC และการบูตอัตโนมัติ ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานในระบบอัตโนมัติและ IoT ราคาและความคุ้มค่า: - ราคาตั้งต้นที่ €544 (ประมาณ 21,000 บาท) พร้อมจัดส่งฟรีในบางพื้นที่ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา Mini PC ที่มีคุณสมบัติครบครัน https://www.techradar.com/pro/this-fanless-pc-looks-like-a-giant-heatsink-and-has-one-incredible-feature-five-yes-five-4k-capable-hdmi-ports
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • Minisforum AI X1 เป็นมินิพีซีขนาดจิ๋วที่มาพร้อมความสามารถอันทรงพลัง รองรับการแสดงผล 8K พร้อมกันถึง 4 จอ ใช้ชิป AMD Ryzen 7 260 พร้อม RAM สูงสุด 96GB และพื้นที่เก็บข้อมูลถึง 16TB อีกทั้งยังมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต Wi-Fi 7 และ Ethernet 2.5G สำหรับการใช้งานทั้งในสำนักงานหรือด้านสร้างสรรค์ ขนาดเล็กแต่จิ๋วแจ๋ว ราคาน่าสนใจ เริ่มจัดส่งเมษายนนี้ ใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์ตัวจิ๋วแต่แรงเกินตัว ต้องไม่พลาด

    ประสิทธิภาพการทำงานสูง:
    - ใช้ CPU Ryzen 7 260 แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.1 GHz และมี GPU Radeon 780M ที่รองรับ Ray Tracing เพื่อการใช้งานที่หนัก เช่น เกมและการเรนเดอร์กราฟิก.
    - รองรับ RAM DDR5 ได้ถึง 96GB และ SSD ความจุรวมสูงสุด 16TB ช่วยเพิ่มความลื่นไหลในการใช้งาน.

    การเชื่อมต่อหลากหลาย:
    - มีพอร์ต HDMI 2.1, DisplayPort 2.0 และ USB4 รวมถึงการเชื่อมต่อเครือข่ายด้วย Ethernet 2.5G สองพอร์ต และ Wi-Fi 7 ช่วยให้การรับส่งข้อมูลรวดเร็วและเสถียร.
    - รองรับการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดถึง 40Gbps ผ่าน USB4.

    ออกแบบเพื่อความทนทานและพกพา:
    - น้ำหนักเบาเพียง 0.6 กิโลกรัม และขนาด 128×126×52 มม. พร้อมระบบระบายความร้อนที่ทันสมัย ทั้งพัดลมขนาดใหญ่ และท่อทองแดงระบายความร้อน.

    ราคาและการเปิดตัว:
    - วางขายในราคาเริ่มต้น $439 (ลดจาก $549) โดยการจัดส่งจะเริ่มต้นวันที่ 8 เมษายนนี้

    https://www.techradar.com/pro/tiny-mac-mini-rival-can-power-four-8k-monitors-and-is-first-mini-pc-to-receive-amds-powerful-ryzen-7-260-apu
    Minisforum AI X1 เป็นมินิพีซีขนาดจิ๋วที่มาพร้อมความสามารถอันทรงพลัง รองรับการแสดงผล 8K พร้อมกันถึง 4 จอ ใช้ชิป AMD Ryzen 7 260 พร้อม RAM สูงสุด 96GB และพื้นที่เก็บข้อมูลถึง 16TB อีกทั้งยังมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต Wi-Fi 7 และ Ethernet 2.5G สำหรับการใช้งานทั้งในสำนักงานหรือด้านสร้างสรรค์ ขนาดเล็กแต่จิ๋วแจ๋ว ราคาน่าสนใจ เริ่มจัดส่งเมษายนนี้ ใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์ตัวจิ๋วแต่แรงเกินตัว ต้องไม่พลาด ประสิทธิภาพการทำงานสูง: - ใช้ CPU Ryzen 7 260 แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.1 GHz และมี GPU Radeon 780M ที่รองรับ Ray Tracing เพื่อการใช้งานที่หนัก เช่น เกมและการเรนเดอร์กราฟิก. - รองรับ RAM DDR5 ได้ถึง 96GB และ SSD ความจุรวมสูงสุด 16TB ช่วยเพิ่มความลื่นไหลในการใช้งาน. การเชื่อมต่อหลากหลาย: - มีพอร์ต HDMI 2.1, DisplayPort 2.0 และ USB4 รวมถึงการเชื่อมต่อเครือข่ายด้วย Ethernet 2.5G สองพอร์ต และ Wi-Fi 7 ช่วยให้การรับส่งข้อมูลรวดเร็วและเสถียร. - รองรับการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดถึง 40Gbps ผ่าน USB4. ออกแบบเพื่อความทนทานและพกพา: - น้ำหนักเบาเพียง 0.6 กิโลกรัม และขนาด 128×126×52 มม. พร้อมระบบระบายความร้อนที่ทันสมัย ทั้งพัดลมขนาดใหญ่ และท่อทองแดงระบายความร้อน. ราคาและการเปิดตัว: - วางขายในราคาเริ่มต้น $439 (ลดจาก $549) โดยการจัดส่งจะเริ่มต้นวันที่ 8 เมษายนนี้ https://www.techradar.com/pro/tiny-mac-mini-rival-can-power-four-8k-monitors-and-is-first-mini-pc-to-receive-amds-powerful-ryzen-7-260-apu
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 330 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดตัวอุปกรณ์เครือข่ายใหม่ของ AEWIN ในรุ่น SCB-1953 Series ซึ่งใช้พลังประมวลผลจาก Intel Xeon 6 Processors ที่ทันสมัยที่สุดในตลาด โดยออกแบบมาเพื่อรองรับงานเครือข่ายและงานประมวลผลที่ต้องการความหนาแน่นและประสิทธิภาพสูง เช่น การจัดการข้อมูลในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ หรือการประมวลผลในระบบเครือข่ายระดับองค์กร

    == คุณสมบัติเด่นของ SCB-1953 Series ==
    1) หลากหลายตัวเลือกในการปรับแต่ง
    - รุ่น SCB-1953-2U มีช่องขยาย PCIe 5.0 ถึง 8 ช่อง รองรับ NIC cards และ SSD เพื่อการเพิ่มฟังก์ชันการทำงานอย่างยืดหยุ่น
    - รุ่น SCB-1953-1U มีช่องขยาย PCIe Gen 5 จำนวน 4 ช่อง รองรับการใช้งานในพื้นที่จำกัด

    2) การประมวลผลทรงพลัง
    - ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Xeon 6 ซึ่งรองรับการประมวลผลสูงสุดถึง 144 E-cores หรือ 86 P-cores
    - สนับสนุนหน่วยความจำ DDR5 RDIMM สูงสุด 6400 MT/s และ MRDIMM สูงสุดถึง 8000 MT/s

    3) การออกแบบเพื่อประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน
    - รองรับ CXL 2.0 add-on cards สำหรับการสื่อสารระหว่าง CPU, GPU, และ FPGA accelerators ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาแฝง
    - มีระบบระบายความร้อนที่ควบคุมด้วย BMC เพื่อการทำงานที่ราบรื่น

    == สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติม ==
    - SCB-1953 Series มาพร้อมกับความสามารถในการจัดการผ่านพอร์ต RJ45 10G และ SFP56 50G หรือ SFP28 25G ขึ้นอยู่กับรุ่น ทำให้สามารถรองรับระบบเครือข่ายที่ต้องการการเชื่อมต่อความเร็วสูง
    - อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อม edge computing ที่ต้องการความยืดหยุ่น

    การพัฒนา SCB-1953 Series เป็นก้าวสำคัญของ AEWIN ในการนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของตลาดเทคโนโลยีเครือข่าย

    https://www.techpowerup.com/334100/aewin-unveils-cb-1953-series-network-appliance-powered-by-intel-xeon-6-processors
    ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดตัวอุปกรณ์เครือข่ายใหม่ของ AEWIN ในรุ่น SCB-1953 Series ซึ่งใช้พลังประมวลผลจาก Intel Xeon 6 Processors ที่ทันสมัยที่สุดในตลาด โดยออกแบบมาเพื่อรองรับงานเครือข่ายและงานประมวลผลที่ต้องการความหนาแน่นและประสิทธิภาพสูง เช่น การจัดการข้อมูลในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ หรือการประมวลผลในระบบเครือข่ายระดับองค์กร == คุณสมบัติเด่นของ SCB-1953 Series == 1) หลากหลายตัวเลือกในการปรับแต่ง - รุ่น SCB-1953-2U มีช่องขยาย PCIe 5.0 ถึง 8 ช่อง รองรับ NIC cards และ SSD เพื่อการเพิ่มฟังก์ชันการทำงานอย่างยืดหยุ่น - รุ่น SCB-1953-1U มีช่องขยาย PCIe Gen 5 จำนวน 4 ช่อง รองรับการใช้งานในพื้นที่จำกัด 2) การประมวลผลทรงพลัง - ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Xeon 6 ซึ่งรองรับการประมวลผลสูงสุดถึง 144 E-cores หรือ 86 P-cores - สนับสนุนหน่วยความจำ DDR5 RDIMM สูงสุด 6400 MT/s และ MRDIMM สูงสุดถึง 8000 MT/s 3) การออกแบบเพื่อประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน - รองรับ CXL 2.0 add-on cards สำหรับการสื่อสารระหว่าง CPU, GPU, และ FPGA accelerators ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาแฝง - มีระบบระบายความร้อนที่ควบคุมด้วย BMC เพื่อการทำงานที่ราบรื่น == สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติม == - SCB-1953 Series มาพร้อมกับความสามารถในการจัดการผ่านพอร์ต RJ45 10G และ SFP56 50G หรือ SFP28 25G ขึ้นอยู่กับรุ่น ทำให้สามารถรองรับระบบเครือข่ายที่ต้องการการเชื่อมต่อความเร็วสูง - อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อม edge computing ที่ต้องการความยืดหยุ่น การพัฒนา SCB-1953 Series เป็นก้าวสำคัญของ AEWIN ในการนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของตลาดเทคโนโลยีเครือข่าย https://www.techpowerup.com/334100/aewin-unveils-cb-1953-series-network-appliance-powered-by-intel-xeon-6-processors
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AEWIN Unveils CB-1953 Series Network Appliance Powered by Intel Xeon 6 Processors
    AEWIN is excited to unveil the SCB-1953 Series, 2U/1U performant network appliances powered by Intel's latest Xeon 6 processors built upon Intel 3. Equipped with a single Intel Xeon 6700/6500-series processor, it is a series of flagship products supporting up to 144 E-cores or 86 P-cores for high de...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/al8q3Nt737w?si=SrYxDT-fOgEmn5Gw
    https://youtu.be/al8q3Nt737w?si=SrYxDT-fOgEmn5Gw
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาธิปไตยที่กินได้ (ใครได้กิน??)

    รัฐบาลของประธานาธิบดี Trump ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงนโยบายในโครงการ Broadband Equity, Access, and Deployment (BEAD) มูลค่า 42.45 พันล้านดอลลาร์ โดยยกเลิกการให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตใยแก้วนำแสง (Fiber Internet) เพื่อเปิดทางให้เทคโนโลยีอื่น เช่นบริการดาวเทียม Starlink ของ Elon Musk สามารถเข้าถึงงบประมาณจากโครงการนี้ได้มากขึ้น ซึ่งอาจอยู่ในช่วง 10 ถึง 20 พันล้านดอลลาร์

    ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Biden ก่อนหน้านี้ โครงสร้างใยแก้วนำแสงได้รับการเน้นย้ำว่าเป็นโซลูชันที่มั่นคงและพัฒนาต่อยอดได้ง่ายในอนาคต เช่น การสนับสนุนโครงข่าย 5G แต่รัฐบาล Trump มองว่านโยบายดังกล่าวมีข้อจำกัดและอุปสรรคมากเกินไป จึงเปลี่ยนมาใช้นโยบาย "เทคโนโลยีเป็นกลาง" ที่มุ่งเน้นการให้บริการอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วในราคาถูกแก่ประชาชน โดยลดข้อกำหนดที่ถูกมองว่าเป็นภาระหรือสร้างความล่าช้าในการก่อสร้าง

    นักวิจารณ์และกลุ่มผู้สนับสนุนการเข้าถึงบรอดแบนด์คุณภาพสูง เช่น Benton Institute for Broadband & Society ได้แสดงความกังวลว่า การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ประชาชนในชนบทหลายล้านคนต้องพึ่งพาบริการอินเทอร์เน็ตที่ช้ากว่า ไม่เสถียร และไม่ตอบโจทย์ความต้องการทางเทคโนโลยีในระยะยาว เช่น การแพทย์ทางไกลหรือการเล่นเกม

    การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจเป็นโอกาสทองสำหรับ Starlink ซึ่งเป็นโครงการบริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมที่บริหารโดย SpaceX แม้จะยังไม่ได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากโครงการ BEAD แต่ก็มีแนวโน้มที่จะได้รับเงินทุนจากโปรแกรมสนับสนุนบรอดแบนด์ของรัฐบาล เช่น Universal Service Programs โดย FCC และบทบาทของ Elon Musk ในรัฐบาล Trump ยังถูกตั้งคำถามถึงผลประโยชน์ทับซ้อน

    ในขณะที่นโยบายนี้อาจช่วยให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมีความรวดเร็วขึ้นในบางพื้นที่ แต่การลดความสำคัญของใยแก้วนำแสงอาจส่งผลต่อความยั่งยืนและความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์ในระยะยาว การสร้างสมดุลระหว่างเทคโนโลยีที่หลากหลายกับคุณภาพของบริการจึงเป็นความท้าทายสำคัญที่สหรัฐฯ ต้องเผชิญ

    https://www.techspot.com/news/107067-broadband-policy-shift-us-drops-fiber-priority-could.html
    ประชาธิปไตยที่กินได้ (ใครได้กิน??) รัฐบาลของประธานาธิบดี Trump ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงนโยบายในโครงการ Broadband Equity, Access, and Deployment (BEAD) มูลค่า 42.45 พันล้านดอลลาร์ โดยยกเลิกการให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตใยแก้วนำแสง (Fiber Internet) เพื่อเปิดทางให้เทคโนโลยีอื่น เช่นบริการดาวเทียม Starlink ของ Elon Musk สามารถเข้าถึงงบประมาณจากโครงการนี้ได้มากขึ้น ซึ่งอาจอยู่ในช่วง 10 ถึง 20 พันล้านดอลลาร์ ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Biden ก่อนหน้านี้ โครงสร้างใยแก้วนำแสงได้รับการเน้นย้ำว่าเป็นโซลูชันที่มั่นคงและพัฒนาต่อยอดได้ง่ายในอนาคต เช่น การสนับสนุนโครงข่าย 5G แต่รัฐบาล Trump มองว่านโยบายดังกล่าวมีข้อจำกัดและอุปสรรคมากเกินไป จึงเปลี่ยนมาใช้นโยบาย "เทคโนโลยีเป็นกลาง" ที่มุ่งเน้นการให้บริการอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วในราคาถูกแก่ประชาชน โดยลดข้อกำหนดที่ถูกมองว่าเป็นภาระหรือสร้างความล่าช้าในการก่อสร้าง นักวิจารณ์และกลุ่มผู้สนับสนุนการเข้าถึงบรอดแบนด์คุณภาพสูง เช่น Benton Institute for Broadband & Society ได้แสดงความกังวลว่า การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ประชาชนในชนบทหลายล้านคนต้องพึ่งพาบริการอินเทอร์เน็ตที่ช้ากว่า ไม่เสถียร และไม่ตอบโจทย์ความต้องการทางเทคโนโลยีในระยะยาว เช่น การแพทย์ทางไกลหรือการเล่นเกม การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจเป็นโอกาสทองสำหรับ Starlink ซึ่งเป็นโครงการบริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมที่บริหารโดย SpaceX แม้จะยังไม่ได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากโครงการ BEAD แต่ก็มีแนวโน้มที่จะได้รับเงินทุนจากโปรแกรมสนับสนุนบรอดแบนด์ของรัฐบาล เช่น Universal Service Programs โดย FCC และบทบาทของ Elon Musk ในรัฐบาล Trump ยังถูกตั้งคำถามถึงผลประโยชน์ทับซ้อน ในขณะที่นโยบายนี้อาจช่วยให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมีความรวดเร็วขึ้นในบางพื้นที่ แต่การลดความสำคัญของใยแก้วนำแสงอาจส่งผลต่อความยั่งยืนและความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์ในระยะยาว การสร้างสมดุลระหว่างเทคโนโลยีที่หลากหลายกับคุณภาพของบริการจึงเป็นความท้าทายสำคัญที่สหรัฐฯ ต้องเผชิญ https://www.techspot.com/news/107067-broadband-policy-shift-us-drops-fiber-priority-could.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Broadband policy shift in the U.S. drops fiber priority, could funnel billions to Starlink
    This move marks a departure from the Biden administration's approach, which emphasized fiber-optic networks as the most future-proof and reliable option for broadband deployment.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 341 มุมมอง 0 รีวิว
  • MicroTik บริษัทจากลัตเวียที่เชี่ยวชาญในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เครือข่าย ได้เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่ที่ชื่อว่า ROSE Data Server RDS2216 ซึ่งเป็นการรวมโซลูชั่นด้านการจัดเก็บข้อมูล, การเชื่อมต่อเครือข่าย, และการประมวลผลเข้าไว้ในอุปกรณ์เดียว โดยเซิร์ฟเวอร์รุ่นนี้ทำงานบน AWS Graviton 1 Arm CPU ที่พัฒนาโดย Annapurna Labs ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Amazon

    คุณสมบัติเด่นของ ROSE Data Server RDS2216
    - สถาปัตยกรรมและหน่วยประมวลผล: RDS2216 ใช้ CPU ARMv8 แบบ 16 คอร์ ความเร็ว 2GHz พร้อมด้วย RAM 32GB และ NAND storage ขนาด 128MB ซึ่งรองรับการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง
    - การเชื่อมต่อที่หลากหลาย: มีพอร์ตเชื่อมต่อทั้งหมด 16 พอร์ต รวมถึงสองพอร์ต 100G QSFP28, สี่พอร์ต 25G SFP28, สี่พอร์ต 10G SFP+, และสองพอร์ต 10G Ethernet นอกจากนี้ยังมีช่องสำหรับเก็บข้อมูล U.2 NVMe สูงสุดถึง 20 ช่อง
    - ความยืดหยุ่นและการขยายตัว: รองรับการใช้งาน MinIO, Nextcloud, และการเข้ารหัสข้อมูล โดยไม่มีการเก็บค่าสมาชิกหรือการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติม
    - การใช้งานหลากหลาย: RDS2216 สามารถใช้ในงานต่าง ๆ เช่น การเก็บข้อมูลแบบ self-hosted, การโฮสต์คลาวด์ในองค์กร, การสำรองข้อมูลความเร็วสูง, และการขยายการจัดเก็บข้อมูลสาขาย่อย

    AWS Graviton 1 เป็น CPU ที่พัฒนาโดย Annapurna Labs ภายใต้ Amazon และถูกนำมาใช้ในเซิร์ฟเวอร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลและการจัดเก็บข้อมูล CPU นี้มีความสามารถในการเร่งการเข้ารหัส (IPsec hardware acceleration) เพื่อให้การเชื่อมต่อข้อมูลเป็นไปอย่างปลอดภัยและไม่มีการขัดข้อง

    การเปิดตัว ROSE Data Server RDS2216 ของ MicroTik แสดงถึงความร่วมมือที่น่าสนใจระหว่าง MicroTik และ Amazon ซึ่งเปิดทางเลือกใหม่ในการจัดการข้อมูลและการเชื่อมต่อเครือข่ายในองค์กร โดยเทคโนโลยีจาก AWS Graviton 1 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการประมวลผลข้อมูล นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในองค์กรต่าง ๆ

    https://www.techradar.com/pro/this-is-amazons-first-foray-in-servers-and-certainly-not-the-last-microtik-franken-router-is-powered-by-the-aws-graviton-1-arm-cpu
    MicroTik บริษัทจากลัตเวียที่เชี่ยวชาญในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เครือข่าย ได้เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่ที่ชื่อว่า ROSE Data Server RDS2216 ซึ่งเป็นการรวมโซลูชั่นด้านการจัดเก็บข้อมูล, การเชื่อมต่อเครือข่าย, และการประมวลผลเข้าไว้ในอุปกรณ์เดียว โดยเซิร์ฟเวอร์รุ่นนี้ทำงานบน AWS Graviton 1 Arm CPU ที่พัฒนาโดย Annapurna Labs ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Amazon คุณสมบัติเด่นของ ROSE Data Server RDS2216 - สถาปัตยกรรมและหน่วยประมวลผล: RDS2216 ใช้ CPU ARMv8 แบบ 16 คอร์ ความเร็ว 2GHz พร้อมด้วย RAM 32GB และ NAND storage ขนาด 128MB ซึ่งรองรับการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง - การเชื่อมต่อที่หลากหลาย: มีพอร์ตเชื่อมต่อทั้งหมด 16 พอร์ต รวมถึงสองพอร์ต 100G QSFP28, สี่พอร์ต 25G SFP28, สี่พอร์ต 10G SFP+, และสองพอร์ต 10G Ethernet นอกจากนี้ยังมีช่องสำหรับเก็บข้อมูล U.2 NVMe สูงสุดถึง 20 ช่อง - ความยืดหยุ่นและการขยายตัว: รองรับการใช้งาน MinIO, Nextcloud, และการเข้ารหัสข้อมูล โดยไม่มีการเก็บค่าสมาชิกหรือการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติม - การใช้งานหลากหลาย: RDS2216 สามารถใช้ในงานต่าง ๆ เช่น การเก็บข้อมูลแบบ self-hosted, การโฮสต์คลาวด์ในองค์กร, การสำรองข้อมูลความเร็วสูง, และการขยายการจัดเก็บข้อมูลสาขาย่อย AWS Graviton 1 เป็น CPU ที่พัฒนาโดย Annapurna Labs ภายใต้ Amazon และถูกนำมาใช้ในเซิร์ฟเวอร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลและการจัดเก็บข้อมูล CPU นี้มีความสามารถในการเร่งการเข้ารหัส (IPsec hardware acceleration) เพื่อให้การเชื่อมต่อข้อมูลเป็นไปอย่างปลอดภัยและไม่มีการขัดข้อง การเปิดตัว ROSE Data Server RDS2216 ของ MicroTik แสดงถึงความร่วมมือที่น่าสนใจระหว่าง MicroTik และ Amazon ซึ่งเปิดทางเลือกใหม่ในการจัดการข้อมูลและการเชื่อมต่อเครือข่ายในองค์กร โดยเทคโนโลยีจาก AWS Graviton 1 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการประมวลผลข้อมูล นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในองค์กรต่าง ๆ https://www.techradar.com/pro/this-is-amazons-first-foray-in-servers-and-certainly-not-the-last-microtik-franken-router-is-powered-by-the-aws-graviton-1-arm-cpu
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตามรอยเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> ผ่านเส้นทางสายไหม

    สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> คงจำได้ว่าฉากหลังของเรื่องคือการค้าอัญมณีในสมัยถัง ซึ่งเส้นทางการเดินทางมีทั้งการเดินเรือทะเลและข้ามทะเลทรายเข้าเขตซีอวี้ ชวนให้ Storyฯ งงไม่น้อยเลยลองไปหาข้อมูลดู

    มีบทสัมภาษณ์ของศาสตราจารย์ท่านหนึ่งของมหาวิทยาลัยเหอหนานกล่าวไว้ว่าจริงๆ แล้วซีรีส์เรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> นี้คือการเดินทางผ่านเส้นทางสายไหม ซึ่งก็ตรงกับตอนจบของเรื่องที่กล่าวถึงการพัฒนาด้านการค้าผ่านเส้นทางสายไหม

    Storyฯ เลยลองเอาการเดินทางของพระเอกนางเอกจากในซีรีส์มาปักหมุดลง เราลองมาดูกันค่ะ

    มีบทความและแผนที่เกี่ยวกับเส้นทางสายไหมจำนวนไม่น้อยในหลากหลายภาษา ดังนั้น Storyฯ ขอไม่ลงรายละเอียด แต่จากการเปรียบเทียบดู Storyฯ พบว่ามีความแตกต่างกันบ้าง จึงขอใช้เวอร์ชั่นที่แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์หนิงเซี่ยกู้หยวนเป็นหลักเพราะถือว่าเป็นไปตามข้อมูลประวัติศาสตร์ที่จีนบันทึกเอง (ดูรูปประกอบ 2) เราจะเห็นว่าเส้นทางสายไหมมีเส้นทางบกและเส้นทางทะเล และเส้นทางบกไม่ได้จบลงที่เมืองฉางอัน (ซีอันปัจจุบัน) อย่างที่หลายคนเข้าใจ หากแต่มีการเชื่อมต่อไปจรดทะเลเชื่อมต่อเข้ากับเส้นทางทะเล

    Storyฯ ลองใส่ข้อมูลอื่นเพิ่มเข้าไปในแผนที่เต็มนี้ (ดูรูปประกอบ 1) ก่อนอื่นคือใส่แผนที่ของราชวงศ์ถังซ้อนลงไปเพื่อให้เห็นภาพอาณาเขตโดยคร่าว ทั้งนี้ตลอดสามร้อยกว่าปีการปกครองของถังในเขตซีอวี้ (ซินเกียงปัจจุบัน) แตกต่างกันไป เลยลองใช้แผนที่ของช่วงประมาณปีค.ศ. 700 ก็จะเห็นเขตพื้นที่ซีอวี้ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือที่มีเมืองตุนหวงเป็นเสมือนประตูทางผ่าน จากนั้นใส่เขตพื้นที่มณฑลหยางโจวในสมัยนั้นซึ่งอยู่ทางใต้ของแผนที่ติดทะเล (คือเส้นประเล็กๆ) (หมายเหตุ เส้นขอบทั้งหมดอาจไม่เป๊ะด้วยข้อจำกัดการวาดของ Storyฯ เอง)

    เมื่อใส่เสร็จแล้วก็เห็นได้เลยว่าตวนอู่และเยี่ยจื่อจิงของเราในเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> เขาเดินทางตามเส้นทางสายใหม่จริงๆ

    เริ่มกันที่ด้านล่างของแผนที่ซึ่งเป็นแถบพื้นที่เหอผู่อันเป็นแหล่งเก็บมุกทะเล (ปัจจุบันเรียกเป๋ยไห่ คือพื้นที่สีแดง) ที่นี่เป็นฉากเริ่มต้นของเรื่อง (ย้อนอ่านเรื่องการเก็บมุกได้จากบทความสัปดาห์ที่แล้ว) จากนั้นเดินทางผ่านกวางเจาขึ้นเหนือและสู้รบปรบมือกับคนตระกูลชุยและศัตรูอื่นเป็นระยะตั้งแต่เมืองซ่าวโจวถึงเมืองอู่หลิง จากนั้นเดินทางเรื่อยขึ้นไปจนถึงเมืองเปี้ยนโจวซึ่งคือเมืองไคฟงปัจจุบัน แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านนครฉางอัน ข้ามเขตทะเลทรายเข้าเขตซีอวี้ซึ่งการเข้าเขตซีอวี้ในสมัยนั้นจะผ่านเมืองตุนหวง ณ จุดนี้ เรื่องราวผ่านไปแล้วประมาณ 1/3 ของเรื่อง

    หลังจากนั้นเหล่าตัวละครกลับมาจากซีอวี้แล้วเดินทางมาถึงเมืองหยางโจวข้ามผ่านระยะทางอย่างไกลได้อย่างไรไม่ทราบได้ Storyฯ ดูจากแผนที่แล้วน่าจะย้อนกลับมาทางเมืองเปี้ยนเฉิงและจากจุดนั้นมีเส้นทาง (ที่ไม่ใช่เส้นทางสายไหมและไม่ได้วาดไว้ในรูปประกอบ) เชื่อมลงมายังเมืองหยางโจว ซึ่งมีทั้งเส้นทางบกและเส้นทางคลองใหญ่ต้าอวิ้นเหอที่สามารถใช้ได้ (หมายเหตุ เส้นทางต้าอวิ้นเหอมีการเปลี่ยนแปลงไปในยุคสมัยหมิงเป็นต้นมา) และเรื่องราวที่เหลือของเรื่องก็จะมีฉากหลังอยู่ที่การค้าอัญมณีที่เมืองหยางโจวนี้

    ในเรื่องมีกล่าวถึงอัญมณีหนึ่งที่น่าสนใจชื่อว่า ‘เซ่อเซ่อ’ (瑟瑟 ไม่แน่ใจว่าแปลซับไทยไว้ว่าอย่างไร) ซึ่งเป็นพลอยประเภท Beryl Stone มีสีเขียวฟ้าและฟ้า บอกว่าเป็นพลอยที่มีค่าหายากมาก ในความเป็นจริง Beryl Stone แบ่งเป็นประเภทย่อยอีกตามสี แต่เรามักเรียกรวมพลอยสีฟ้าเขียวว่าพลอยอะความารีน (Aquamarine) และในละครมีการกล่าวว่าพลอยเซ่อเซ่อเกรดดีส่วนใหญ่มาจากเขตซีอวี้ แต่แถวหยางโจวก็พอให้หาซื้อได้ ซึ่งเป็นข้อมูลจริงตามประวัติศาสตร์ เพราะพลอยเซ่อเซ่อในจีนหาได้ในสามพื้นที่หลักคือซินเกียง (ซีอวี้) ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ และที่ยูนนานและหูเป่ย (ไม่ไกลจากเมืองอู่หลิงในภาพ ซึ่งเป็นจุดที่น้องชุยสือจิ่วของเราถูกจับขังในเหมือง)

    เมืองหยางโจวเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการคมนาคมทั้งทางบกและทางเรือของจีนโบราณ จึงไม่แปลกที่เรามักเห็นในซีรีส์และนิยายจีนโบราณกล่าวถึงหยางโจวว่าเป็นเขตค้าขายมีตระกูลพ่อค้าร่ำรวย ที่นี่ไม่เพียงเป็นจุดเชื่อมเส้นทางสายไหมทางบกและทะเลโดยผ่านแม่น้ำแยงซีเกียง และยังมีคลองต้าอวิ้นเหอเชื่อมขึ้นเหนือ ในสมัยถังที่นี่เป็นศูนย์กลางการค้าเสบียงอาหาร เกลือและเหล็กไปยังพื้นที่ต่างๆ ของจีน อีกทั้งค้าขายส่งออกผ้าไหมและงานกระเบื้องรวมถึงนำเข้าสินค้าหลากชนิดผ่านเส้นทางบกและเรือ นอกจากนี้ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องงานช่างงานฝีมือและมีการพบเจอซากเรือสมัยถังพร้อมเครื่องประดับมากมายที่แสดงให้เห็นว่าในสมัยถังมีการค้าขายเครื่องประดับด้วยเช่นกัน

    หวังว่าเพื่อนเพจจะเห็นภาพแล้วว่าการเดินเรื่องของ <ม่านมุกม่านหยก> ผ่านพื้นที่ไหนบ้าง และทำไมเหล่าคู่อริทางการค้าจึงพบหน้ากันบ่อย... เพราะทุกคนล้วนค้าขายและใช้เส้นทางสายไหมกันนั่นเอง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://m.bjnews.com.cn/detail/1730788116168379.html
    https://www.chinadiscovery.com/assets/images/silk-road/history/tang-silk-road-map-llsboc-qunar.jpg
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.163.com/dy/article/JG5GE87L0512D3VJ.html
    https://www.163.com/dy/article/JGCT7TAP0530WJTO.html
    https://baike.baidu.com/item/扬州市
    https://turnstone.ca/rom186be.htm

    #ม่านมุกม่านหยก #เส้นทางสายไหม #พลอยจีน #หยางโจว #สาระจีน
    ตามรอยเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> ผ่านเส้นทางสายไหม สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> คงจำได้ว่าฉากหลังของเรื่องคือการค้าอัญมณีในสมัยถัง ซึ่งเส้นทางการเดินทางมีทั้งการเดินเรือทะเลและข้ามทะเลทรายเข้าเขตซีอวี้ ชวนให้ Storyฯ งงไม่น้อยเลยลองไปหาข้อมูลดู มีบทสัมภาษณ์ของศาสตราจารย์ท่านหนึ่งของมหาวิทยาลัยเหอหนานกล่าวไว้ว่าจริงๆ แล้วซีรีส์เรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> นี้คือการเดินทางผ่านเส้นทางสายไหม ซึ่งก็ตรงกับตอนจบของเรื่องที่กล่าวถึงการพัฒนาด้านการค้าผ่านเส้นทางสายไหม Storyฯ เลยลองเอาการเดินทางของพระเอกนางเอกจากในซีรีส์มาปักหมุดลง เราลองมาดูกันค่ะ มีบทความและแผนที่เกี่ยวกับเส้นทางสายไหมจำนวนไม่น้อยในหลากหลายภาษา ดังนั้น Storyฯ ขอไม่ลงรายละเอียด แต่จากการเปรียบเทียบดู Storyฯ พบว่ามีความแตกต่างกันบ้าง จึงขอใช้เวอร์ชั่นที่แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์หนิงเซี่ยกู้หยวนเป็นหลักเพราะถือว่าเป็นไปตามข้อมูลประวัติศาสตร์ที่จีนบันทึกเอง (ดูรูปประกอบ 2) เราจะเห็นว่าเส้นทางสายไหมมีเส้นทางบกและเส้นทางทะเล และเส้นทางบกไม่ได้จบลงที่เมืองฉางอัน (ซีอันปัจจุบัน) อย่างที่หลายคนเข้าใจ หากแต่มีการเชื่อมต่อไปจรดทะเลเชื่อมต่อเข้ากับเส้นทางทะเล Storyฯ ลองใส่ข้อมูลอื่นเพิ่มเข้าไปในแผนที่เต็มนี้ (ดูรูปประกอบ 1) ก่อนอื่นคือใส่แผนที่ของราชวงศ์ถังซ้อนลงไปเพื่อให้เห็นภาพอาณาเขตโดยคร่าว ทั้งนี้ตลอดสามร้อยกว่าปีการปกครองของถังในเขตซีอวี้ (ซินเกียงปัจจุบัน) แตกต่างกันไป เลยลองใช้แผนที่ของช่วงประมาณปีค.ศ. 700 ก็จะเห็นเขตพื้นที่ซีอวี้ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือที่มีเมืองตุนหวงเป็นเสมือนประตูทางผ่าน จากนั้นใส่เขตพื้นที่มณฑลหยางโจวในสมัยนั้นซึ่งอยู่ทางใต้ของแผนที่ติดทะเล (คือเส้นประเล็กๆ) (หมายเหตุ เส้นขอบทั้งหมดอาจไม่เป๊ะด้วยข้อจำกัดการวาดของ Storyฯ เอง) เมื่อใส่เสร็จแล้วก็เห็นได้เลยว่าตวนอู่และเยี่ยจื่อจิงของเราในเรื่อง <ม่านมุกม่านหยก> เขาเดินทางตามเส้นทางสายใหม่จริงๆ เริ่มกันที่ด้านล่างของแผนที่ซึ่งเป็นแถบพื้นที่เหอผู่อันเป็นแหล่งเก็บมุกทะเล (ปัจจุบันเรียกเป๋ยไห่ คือพื้นที่สีแดง) ที่นี่เป็นฉากเริ่มต้นของเรื่อง (ย้อนอ่านเรื่องการเก็บมุกได้จากบทความสัปดาห์ที่แล้ว) จากนั้นเดินทางผ่านกวางเจาขึ้นเหนือและสู้รบปรบมือกับคนตระกูลชุยและศัตรูอื่นเป็นระยะตั้งแต่เมืองซ่าวโจวถึงเมืองอู่หลิง จากนั้นเดินทางเรื่อยขึ้นไปจนถึงเมืองเปี้ยนโจวซึ่งคือเมืองไคฟงปัจจุบัน แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านนครฉางอัน ข้ามเขตทะเลทรายเข้าเขตซีอวี้ซึ่งการเข้าเขตซีอวี้ในสมัยนั้นจะผ่านเมืองตุนหวง ณ จุดนี้ เรื่องราวผ่านไปแล้วประมาณ 1/3 ของเรื่อง หลังจากนั้นเหล่าตัวละครกลับมาจากซีอวี้แล้วเดินทางมาถึงเมืองหยางโจวข้ามผ่านระยะทางอย่างไกลได้อย่างไรไม่ทราบได้ Storyฯ ดูจากแผนที่แล้วน่าจะย้อนกลับมาทางเมืองเปี้ยนเฉิงและจากจุดนั้นมีเส้นทาง (ที่ไม่ใช่เส้นทางสายไหมและไม่ได้วาดไว้ในรูปประกอบ) เชื่อมลงมายังเมืองหยางโจว ซึ่งมีทั้งเส้นทางบกและเส้นทางคลองใหญ่ต้าอวิ้นเหอที่สามารถใช้ได้ (หมายเหตุ เส้นทางต้าอวิ้นเหอมีการเปลี่ยนแปลงไปในยุคสมัยหมิงเป็นต้นมา) และเรื่องราวที่เหลือของเรื่องก็จะมีฉากหลังอยู่ที่การค้าอัญมณีที่เมืองหยางโจวนี้ ในเรื่องมีกล่าวถึงอัญมณีหนึ่งที่น่าสนใจชื่อว่า ‘เซ่อเซ่อ’ (瑟瑟 ไม่แน่ใจว่าแปลซับไทยไว้ว่าอย่างไร) ซึ่งเป็นพลอยประเภท Beryl Stone มีสีเขียวฟ้าและฟ้า บอกว่าเป็นพลอยที่มีค่าหายากมาก ในความเป็นจริง Beryl Stone แบ่งเป็นประเภทย่อยอีกตามสี แต่เรามักเรียกรวมพลอยสีฟ้าเขียวว่าพลอยอะความารีน (Aquamarine) และในละครมีการกล่าวว่าพลอยเซ่อเซ่อเกรดดีส่วนใหญ่มาจากเขตซีอวี้ แต่แถวหยางโจวก็พอให้หาซื้อได้ ซึ่งเป็นข้อมูลจริงตามประวัติศาสตร์ เพราะพลอยเซ่อเซ่อในจีนหาได้ในสามพื้นที่หลักคือซินเกียง (ซีอวี้) ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ และที่ยูนนานและหูเป่ย (ไม่ไกลจากเมืองอู่หลิงในภาพ ซึ่งเป็นจุดที่น้องชุยสือจิ่วของเราถูกจับขังในเหมือง) เมืองหยางโจวเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการคมนาคมทั้งทางบกและทางเรือของจีนโบราณ จึงไม่แปลกที่เรามักเห็นในซีรีส์และนิยายจีนโบราณกล่าวถึงหยางโจวว่าเป็นเขตค้าขายมีตระกูลพ่อค้าร่ำรวย ที่นี่ไม่เพียงเป็นจุดเชื่อมเส้นทางสายไหมทางบกและทะเลโดยผ่านแม่น้ำแยงซีเกียง และยังมีคลองต้าอวิ้นเหอเชื่อมขึ้นเหนือ ในสมัยถังที่นี่เป็นศูนย์กลางการค้าเสบียงอาหาร เกลือและเหล็กไปยังพื้นที่ต่างๆ ของจีน อีกทั้งค้าขายส่งออกผ้าไหมและงานกระเบื้องรวมถึงนำเข้าสินค้าหลากชนิดผ่านเส้นทางบกและเรือ นอกจากนี้ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องงานช่างงานฝีมือและมีการพบเจอซากเรือสมัยถังพร้อมเครื่องประดับมากมายที่แสดงให้เห็นว่าในสมัยถังมีการค้าขายเครื่องประดับด้วยเช่นกัน หวังว่าเพื่อนเพจจะเห็นภาพแล้วว่าการเดินเรื่องของ <ม่านมุกม่านหยก> ผ่านพื้นที่ไหนบ้าง และทำไมเหล่าคู่อริทางการค้าจึงพบหน้ากันบ่อย... เพราะทุกคนล้วนค้าขายและใช้เส้นทางสายไหมกันนั่นเอง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://m.bjnews.com.cn/detail/1730788116168379.html https://www.chinadiscovery.com/assets/images/silk-road/history/tang-silk-road-map-llsboc-qunar.jpg Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.163.com/dy/article/JG5GE87L0512D3VJ.html https://www.163.com/dy/article/JGCT7TAP0530WJTO.html https://baike.baidu.com/item/扬州市 https://turnstone.ca/rom186be.htm #ม่านมุกม่านหยก #เส้นทางสายไหม #พลอยจีน #หยางโจว #สาระจีน
    M.BJNEWS.COM.CN
    赵露思、刘宇宁新剧《珠帘玉幕》今日卫视开播
    赵露思、刘宇宁新剧《珠帘玉幕》今日卫视开播
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 723 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในงาน Mobile World Congress 2025 ที่ผ่านมา AMD ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Cisco, Nokia และ Jio Platforms เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มที่เรียกว่า Open Telecom AI Platform โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในโครงสร้างโทรคมนาคมเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดต้นทุนการดำเนินงาน และสร้างเครือข่ายที่มีความชาญฉลาด

    == องค์ประกอบและบทบาทของพันธมิตร ==
    - AMD: สนับสนุนด้วยโซลูชันการประมวลผลประสิทธิภาพสูง เช่น CPU EPYC, GPU Instinct และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ปรับเปลี่ยนได้
    - Cisco: มาพร้อมโซลูชันเครือข่ายและการวิเคราะห์ AI เช่น Cisco Agile Services Networking และ Splunk Analytics
    - Nokia: เชี่ยวชาญด้านเครือข่ายไร้สาย การขนส่งข้อมูลผ่าน IP และบรอดแบนด์
    - Jio Platforms: เป็นผู้นำในแพลตฟอร์มนี้ พร้อมแสดงต้นแบบและนำไปใช้งานในตลาดโทรคมนาคมทั่วโลก

    แพลตฟอร์มนี้จะรวม AI เข้ากับทุกระดับของโครงสร้างโทรคมนาคม โดยใช้อัลกอริทึมที่ล้ำสมัย เช่น โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) เพื่อบริหารจัดการเครือข่ายให้สามารถปรับตัวได้เองในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง

    การเปิดตัว Open APIs จะช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถทำงานร่วมกับโครงสร้างโทรคมนาคมเดิมได้อย่างราบรื่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน

    == เป้าหมายและประโยชน์ ==
    - เพิ่มความปลอดภัย: ระบบจะสามารถตรวจจับความเสี่ยงได้อัตโนมัติและปรับการทำงานเพื่อป้องกันการโจมตี
    - ลดต้นทุน: การใช้ AI ในการบริหารจัดการเครือข่ายช่วยลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน
    - ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น: ผู้ให้บริการสามารถปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้

    ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ AMD ในตลาดโทรคมนาคม ซึ่งก่อนหน้านี้ Intel มีบทบาทนำหน้าอย่างชัดเจนในเทคโนโลยี 5G และการพัฒนาระบบโทรคมนาคม แพลตฟอร์มนี้ยังสะท้อนถึงการใช้ AI เพื่อสร้างโครงสร้างเครือข่ายที่มีความยืดหยุ่นและชาญฉลาด พร้อมเพิ่มโอกาสใหม่ในการนำเทคโนโลยีไปใช้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/amd-teams-up-with-cisco-nokia-and-jio-platforms-for-open-telecom-ai-platform
    ในงาน Mobile World Congress 2025 ที่ผ่านมา AMD ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Cisco, Nokia และ Jio Platforms เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มที่เรียกว่า Open Telecom AI Platform โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในโครงสร้างโทรคมนาคมเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดต้นทุนการดำเนินงาน และสร้างเครือข่ายที่มีความชาญฉลาด == องค์ประกอบและบทบาทของพันธมิตร == - AMD: สนับสนุนด้วยโซลูชันการประมวลผลประสิทธิภาพสูง เช่น CPU EPYC, GPU Instinct และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ปรับเปลี่ยนได้ - Cisco: มาพร้อมโซลูชันเครือข่ายและการวิเคราะห์ AI เช่น Cisco Agile Services Networking และ Splunk Analytics - Nokia: เชี่ยวชาญด้านเครือข่ายไร้สาย การขนส่งข้อมูลผ่าน IP และบรอดแบนด์ - Jio Platforms: เป็นผู้นำในแพลตฟอร์มนี้ พร้อมแสดงต้นแบบและนำไปใช้งานในตลาดโทรคมนาคมทั่วโลก แพลตฟอร์มนี้จะรวม AI เข้ากับทุกระดับของโครงสร้างโทรคมนาคม โดยใช้อัลกอริทึมที่ล้ำสมัย เช่น โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) เพื่อบริหารจัดการเครือข่ายให้สามารถปรับตัวได้เองในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง การเปิดตัว Open APIs จะช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถทำงานร่วมกับโครงสร้างโทรคมนาคมเดิมได้อย่างราบรื่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน == เป้าหมายและประโยชน์ == - เพิ่มความปลอดภัย: ระบบจะสามารถตรวจจับความเสี่ยงได้อัตโนมัติและปรับการทำงานเพื่อป้องกันการโจมตี - ลดต้นทุน: การใช้ AI ในการบริหารจัดการเครือข่ายช่วยลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน - ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น: ผู้ให้บริการสามารถปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้ ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ AMD ในตลาดโทรคมนาคม ซึ่งก่อนหน้านี้ Intel มีบทบาทนำหน้าอย่างชัดเจนในเทคโนโลยี 5G และการพัฒนาระบบโทรคมนาคม แพลตฟอร์มนี้ยังสะท้อนถึงการใช้ AI เพื่อสร้างโครงสร้างเครือข่ายที่มีความยืดหยุ่นและชาญฉลาด พร้อมเพิ่มโอกาสใหม่ในการนำเทคโนโลยีไปใช้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/amd-teams-up-with-cisco-nokia-and-jio-platforms-for-open-telecom-ai-platform
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD teams up with Cisco, Nokia, and Jio Platforms for Open Telecom AI platform
    Promises to improve network security while cutting operational costs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/5g4p9l0cjyg?si=_08RDbYKHInv4y6o
    https://youtu.be/5g4p9l0cjyg?si=_08RDbYKHInv4y6o
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพิ่งมีการเปิดตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วใหม่จากบริษัทชื่อ GenMachine Zhi ซึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เล็กที่สุดที่เคยเห็นมา แต่อย่าให้ขนาดหลอกลวงเพราะมันมีความสามารถที่เกินคาด ด้วยชิป AMD Ryzen 3 5425U APU ที่มีซีพียูแบบ 4 แกน และความสามารถในการทำงานด้วยความเร็วสูงถึง 4.1GHz และยังมาพร้อมกับกราฟิกการ์ด AMD Vega 5 ที่มีความเร็วสูงถึง 1.5GHz เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กจิ๋วนี้สามารถวางบนฝ่ามือได้ แต่ยังสามารถทำงานได้ดีกว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิป Intel 11th gen Core i7

    GenMachine Zhi มีให้เลือกสามรุ่น โดยมีความจุ RAM ตั้งแต่ 8GB, 16GB, ถึง 32GB และความจุของพื้นที่เก็บข้อมูลสามารถเพิ่มได้ถึง 2TB มาพร้อมกับพอร์ต Ethernet แบบ 2.5G จำนวน 4 พอร์ต, พอร์ต USB-A 3.2 จำนวน 2 พอร์ต, พอร์ต USB-C 3.2 จำนวน 2 พอร์ต และพอร์ต HDMI 2.0 ที่สามารถเชื่อมต่อกับจอมอนิเตอร์ 4K ได้

    นอกจากจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับใช้งานทั่วไปแล้ว GenMachine Zhi ยังสามารถใช้งานเป็น NAS (Network-Attached Storage) ได้อีกด้วย

    เครื่องนี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 11 ทำให้เหมาะสำหรับครัวเรือนที่ใช้งาน Microsoft และยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Linux ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.2 เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน

    https://www.techradar.com/pro/this-is-the-smallest-amd-pc-ive-ever-seen-mysterious-manufacturer-uses-ryzen-3-apu-with-surprising-results
    เพิ่งมีการเปิดตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วใหม่จากบริษัทชื่อ GenMachine Zhi ซึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เล็กที่สุดที่เคยเห็นมา แต่อย่าให้ขนาดหลอกลวงเพราะมันมีความสามารถที่เกินคาด ด้วยชิป AMD Ryzen 3 5425U APU ที่มีซีพียูแบบ 4 แกน และความสามารถในการทำงานด้วยความเร็วสูงถึง 4.1GHz และยังมาพร้อมกับกราฟิกการ์ด AMD Vega 5 ที่มีความเร็วสูงถึง 1.5GHz เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กจิ๋วนี้สามารถวางบนฝ่ามือได้ แต่ยังสามารถทำงานได้ดีกว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิป Intel 11th gen Core i7 GenMachine Zhi มีให้เลือกสามรุ่น โดยมีความจุ RAM ตั้งแต่ 8GB, 16GB, ถึง 32GB และความจุของพื้นที่เก็บข้อมูลสามารถเพิ่มได้ถึง 2TB มาพร้อมกับพอร์ต Ethernet แบบ 2.5G จำนวน 4 พอร์ต, พอร์ต USB-A 3.2 จำนวน 2 พอร์ต, พอร์ต USB-C 3.2 จำนวน 2 พอร์ต และพอร์ต HDMI 2.0 ที่สามารถเชื่อมต่อกับจอมอนิเตอร์ 4K ได้ นอกจากจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับใช้งานทั่วไปแล้ว GenMachine Zhi ยังสามารถใช้งานเป็น NAS (Network-Attached Storage) ได้อีกด้วย เครื่องนี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 11 ทำให้เหมาะสำหรับครัวเรือนที่ใช้งาน Microsoft และยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Linux ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.2 เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน https://www.techradar.com/pro/this-is-the-smallest-amd-pc-ive-ever-seen-mysterious-manufacturer-uses-ryzen-3-apu-with-surprising-results
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มผู้นำด้านโทรคมนาคมในยุโรปไม่พอใจกับระบบราชการของสหภาพยุโรป โดยกล่าวว่าการจัดการที่ยุ่งยากเกินไปทำให้การรวมตัวของบริษัทต่าง ๆ เป็นไปได้ยาก ซึ่งส่งผลให้ยุโรปล้าหลังเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในสหรัฐฯ และเอเชีย

    Tim Höttges ซีอีโอของ Deutsche Telekom AG กล่าวในงาน Mobile World Congress ที่บาร์เซโลนาว่า “ยุโรปต้องการอะไรสักอย่างเช่น DOGE” ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดี Donald Trump เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในยุโรปถูกจำกัดด้วยกำไรที่ต่ำและการแข่งขันที่สูง

    ในงานดังกล่าว ซีอีโอของ Vodafone, Orange SA และ Telefonica SA ก็แสดงความเห็นด้วยกับ Höttges โดยบอกว่ายุโรปยังตามหลังในการพัฒนา 5G และมีความจำเป็นต้องมีการรวมตัวของบริษัทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขัน

    รายงานจากอดีตประธานธนาคารกลางยุโรป Mario Draghi แนะนำว่าสหภาพยุโรปควรสนับสนุนการรวมตัวของบริษัทในอุตสาหกรรมนี้เพื่อให้สามารถแข่งขันกับตลาดอื่น ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม Teresa Ribera หัวหน้าฝ่ายการควบคุมการผูกขาดของสหภาพยุโรปยังไม่สามารถผลักดันการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์การรวมตัวให้เกิดขึ้นได้

    Höttges กล่าวว่าควรเลียนแบบสิ่งที่สหรัฐฯ ทำ โดยยกตัวอย่างจีนที่มีเพียงสามผู้ประกอบการและอินเดียที่ลดจำนวนผู้ประกอบการลงเหลือสามราย และการดำเนินการนี้ช่วยให้พวกเขาเติบโตได้ดี

    ในการประชุมนี้ยังมีผู้นำบริษัทต่าง ๆ เช่น Telefonica, Emirates Telecommunications Group, Telenor และ Bharti Airtel แสดงความไม่พอใจว่าพวกเขาไม่ได้รับผลตอบแทนที่เพียงพอจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ซึ่ง Sunil Bharti Mittal ประธาน Bharti Airtel กล่าวว่าผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 4% ซึ่งถือว่าน้อยมาก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/04/europe-needs-a-doge-telecom-ceos-fume-at-eu-bureaucracy
    กลุ่มผู้นำด้านโทรคมนาคมในยุโรปไม่พอใจกับระบบราชการของสหภาพยุโรป โดยกล่าวว่าการจัดการที่ยุ่งยากเกินไปทำให้การรวมตัวของบริษัทต่าง ๆ เป็นไปได้ยาก ซึ่งส่งผลให้ยุโรปล้าหลังเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในสหรัฐฯ และเอเชีย Tim Höttges ซีอีโอของ Deutsche Telekom AG กล่าวในงาน Mobile World Congress ที่บาร์เซโลนาว่า “ยุโรปต้องการอะไรสักอย่างเช่น DOGE” ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดี Donald Trump เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในยุโรปถูกจำกัดด้วยกำไรที่ต่ำและการแข่งขันที่สูง ในงานดังกล่าว ซีอีโอของ Vodafone, Orange SA และ Telefonica SA ก็แสดงความเห็นด้วยกับ Höttges โดยบอกว่ายุโรปยังตามหลังในการพัฒนา 5G และมีความจำเป็นต้องมีการรวมตัวของบริษัทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขัน รายงานจากอดีตประธานธนาคารกลางยุโรป Mario Draghi แนะนำว่าสหภาพยุโรปควรสนับสนุนการรวมตัวของบริษัทในอุตสาหกรรมนี้เพื่อให้สามารถแข่งขันกับตลาดอื่น ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม Teresa Ribera หัวหน้าฝ่ายการควบคุมการผูกขาดของสหภาพยุโรปยังไม่สามารถผลักดันการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์การรวมตัวให้เกิดขึ้นได้ Höttges กล่าวว่าควรเลียนแบบสิ่งที่สหรัฐฯ ทำ โดยยกตัวอย่างจีนที่มีเพียงสามผู้ประกอบการและอินเดียที่ลดจำนวนผู้ประกอบการลงเหลือสามราย และการดำเนินการนี้ช่วยให้พวกเขาเติบโตได้ดี ในการประชุมนี้ยังมีผู้นำบริษัทต่าง ๆ เช่น Telefonica, Emirates Telecommunications Group, Telenor และ Bharti Airtel แสดงความไม่พอใจว่าพวกเขาไม่ได้รับผลตอบแทนที่เพียงพอจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ซึ่ง Sunil Bharti Mittal ประธาน Bharti Airtel กล่าวว่าผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 4% ซึ่งถือว่าน้อยมาก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/04/europe-needs-a-doge-telecom-ceos-fume-at-eu-bureaucracy
    WWW.THESTAR.COM.MY
    'Europe needs a DOGE': Telecom CEOs fume at EU bureaucracy
    European telecommunications executives gathered at the continent's biggest trade show railed against over-regulation, blaming Brussels for preventing consolidation in the industry that's fallen behind peers in the US and Asia.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีข่าวที่น่าสนใจจาก Tom's Hardware เกี่ยวกับการที่ Intel ได้ประกาศความเป็นผู้นำด้านการพัฒนา CPU สำหรับเซิร์ฟเวอร์ Xeon 6 "Granite Rapids" ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมหลักๆ เนื่องจากการรวมความสามารถในการเร่งความเร็วของ AI และอื่นๆ อีกมากมาย

    อุตสาหกรรมโทรคมนาคมกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อเทคโนโลยี AI และ 5G ได้เปลี่ยนรูปแบบเครือข่ายและการเชื่อมต่อ ผู้ให้บริการเหล่านี้กำลังปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของตนอย่างรวดเร็ว แต่อุปสรรคยังคงมีอยู่ เช่น ค่าใช้จ่ายสูง ความกังวลเรื่องความปลอดภัย และการรวมระบบเดิมเข้ากับระบบใหม่

    ในงาน MWC 2025, Intel ร่วมกับพันธมิตรและลูกค้ามากกว่า 50 รายได้นำเสนอทางแก้ไขปัญหาที่ล้ำสมัย โดยแสดงผลลัพธ์ที่มีความจุสูงและประสิทธิภาพสูง พร้อมการรวม AI ที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมที่มีราคาแพง การพัฒนานี้ช่วยลดต้นทุนทั้งหมดในการเป็นเจ้าของ (TCO) ที่ปรับให้เหมาะสม

    การปรับปรุงเครือข่ายและการเร่งความเร็วของ AI เป็นสิ่งที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมต่างๆ นำมาใช้ในการพัฒนาของพวกเขา โดย CPU Xeon 6 "Granite Rapids" นั้นได้ทำให้เกณฑ์มาตรฐานใหม่ในเรื่องของการประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น ด้วยการรวมการเร่งความเร็วของ AI ที่พัฒนาขึ้น

    สิ่งที่น่าสนใจคือ CPU Xeon 6 นี้มีพอร์ต Ethernet แบบครบวงจรแปดพอร์ตและการส่งผ่านข้อมูลสูงสุดถึง 200 Gbps ซึ่งช่วยลดจำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องใช้ในการดำเนินงานได้อย่างมาก ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานได้ในเวลาเดียวกัน

    นอกจากนี้ CPU Xeon 6 ยังเป็นระบบแรกที่มีตัวเร่งความเร็วการแปลงสัญญาณสื่อในตัว ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแปลงสัญญาณวิดีโอสูงสุดถึง 14.25 เท่า และลดการใช้พลังงานอย่างมาก ช่วยให้ผู้ให้บริการวิดีโอสามารถให้บริการประสบการณ์เกือบเรียลไทม์สำหรับกีฬา เกม และการประมูลออนไลน์ได้

    ด้านความปลอดภัย Intel Xeon 6 ก็มีคุณสมบัติที่เพิ่มความปลอดภัยในการเชื่อมต่อแบบ zero-trust จากขอบเครือข่ายไปถึงคลาวด์ได้อย่างครอบคลุม ช่วยให้การเชื่อมต่อของข้อมูลมีความปลอดภัยและมั่นคงยิ่งขึ้น

    การเปิดตัว CPU Xeon 6 "Granite Rapids" ของ Intel ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำเช่น Vodafone, AT&T, Samsung, Verizon, และ Ericsson ที่ต่างกำลังนำเทคโนโลยีนี้มาใช้เพื่อพัฒนาเครือข่าย 5G และลดต้นทุนในการดำเนินงาน

    https://wccftech.com/intel-announces-leadership-with-xeon-6-granite-rapids-cpus-in-network-infrastructure/
    มีข่าวที่น่าสนใจจาก Tom's Hardware เกี่ยวกับการที่ Intel ได้ประกาศความเป็นผู้นำด้านการพัฒนา CPU สำหรับเซิร์ฟเวอร์ Xeon 6 "Granite Rapids" ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมหลักๆ เนื่องจากการรวมความสามารถในการเร่งความเร็วของ AI และอื่นๆ อีกมากมาย อุตสาหกรรมโทรคมนาคมกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อเทคโนโลยี AI และ 5G ได้เปลี่ยนรูปแบบเครือข่ายและการเชื่อมต่อ ผู้ให้บริการเหล่านี้กำลังปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของตนอย่างรวดเร็ว แต่อุปสรรคยังคงมีอยู่ เช่น ค่าใช้จ่ายสูง ความกังวลเรื่องความปลอดภัย และการรวมระบบเดิมเข้ากับระบบใหม่ ในงาน MWC 2025, Intel ร่วมกับพันธมิตรและลูกค้ามากกว่า 50 รายได้นำเสนอทางแก้ไขปัญหาที่ล้ำสมัย โดยแสดงผลลัพธ์ที่มีความจุสูงและประสิทธิภาพสูง พร้อมการรวม AI ที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมที่มีราคาแพง การพัฒนานี้ช่วยลดต้นทุนทั้งหมดในการเป็นเจ้าของ (TCO) ที่ปรับให้เหมาะสม การปรับปรุงเครือข่ายและการเร่งความเร็วของ AI เป็นสิ่งที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมต่างๆ นำมาใช้ในการพัฒนาของพวกเขา โดย CPU Xeon 6 "Granite Rapids" นั้นได้ทำให้เกณฑ์มาตรฐานใหม่ในเรื่องของการประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น ด้วยการรวมการเร่งความเร็วของ AI ที่พัฒนาขึ้น สิ่งที่น่าสนใจคือ CPU Xeon 6 นี้มีพอร์ต Ethernet แบบครบวงจรแปดพอร์ตและการส่งผ่านข้อมูลสูงสุดถึง 200 Gbps ซึ่งช่วยลดจำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องใช้ในการดำเนินงานได้อย่างมาก ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานได้ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ CPU Xeon 6 ยังเป็นระบบแรกที่มีตัวเร่งความเร็วการแปลงสัญญาณสื่อในตัว ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแปลงสัญญาณวิดีโอสูงสุดถึง 14.25 เท่า และลดการใช้พลังงานอย่างมาก ช่วยให้ผู้ให้บริการวิดีโอสามารถให้บริการประสบการณ์เกือบเรียลไทม์สำหรับกีฬา เกม และการประมูลออนไลน์ได้ ด้านความปลอดภัย Intel Xeon 6 ก็มีคุณสมบัติที่เพิ่มความปลอดภัยในการเชื่อมต่อแบบ zero-trust จากขอบเครือข่ายไปถึงคลาวด์ได้อย่างครอบคลุม ช่วยให้การเชื่อมต่อของข้อมูลมีความปลอดภัยและมั่นคงยิ่งขึ้น การเปิดตัว CPU Xeon 6 "Granite Rapids" ของ Intel ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำเช่น Vodafone, AT&T, Samsung, Verizon, และ Ericsson ที่ต่างกำลังนำเทคโนโลยีนี้มาใช้เพื่อพัฒนาเครือข่าย 5G และลดต้นทุนในการดำเนินงาน https://wccftech.com/intel-announces-leadership-with-xeon-6-granite-rapids-cpus-in-network-infrastructure/
    WCCFTECH.COM
    Intel Announces Leadership With Xeon 6 "Granite Rapids CPUs" In Network Infrastructure; Sees Adoption From Mainstream Telecom Operators
    Intel's Xeon 6 "Granite Rapids" server CPUs have seen massive adoption from leading telecom operators, courtesy of integrated AI acceleration.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในข่าวจาก TechPowerUp นี้ มีการกล่าวถึงการเปิดตัวแพลตฟอร์ม Dragonwing Fixed Wireless Access Gen 4 Elite ของ Qualcomm ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม FWA (Fixed Wireless Access) ที่รองรับ 5G Advanced แพลตฟอร์มนี้ใช้โมเด็ม Qualcomm X85 5G Modem-RF ที่สามารถให้ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดถึง 12.5 Gbps

    แพลตฟอร์ม Dragonwing FWA Gen 4 Elite มีการปรับปรุงด้วย AI ที่ครอบคลุมและมีการรวมโคโปรเซสเซอร์ Edge AI ที่มีพลังการประมวลผล NPU สูงถึง 40 TOPS ทำให้การเชื่อมต่อไร้สายผ่าน 5G และ Wi-Fi มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังสามารถใช้พลังของ Generative AI ในอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น ทำให้ประสบการณ์การใช้งานมีความเสถียรและเป็นเอกภาพมากขึ้น

    แพลตฟอร์มนี้ยังมีความสามารถในการสื่อสารผ่านดาวเทียม NTN และรองรับการใช้งาน Dual SIM Dual Active (DSDA) เพื่อเพิ่มความเสถียรและการจัดการระยะไกล นอกจากนี้ยังมีโปรเซสเซอร์แบบควอดคอร์ที่มีการเร่งความเร็วเครือข่ายเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการเชื่อมต่อ 5G, Ethernet และ Wi-Fi

    แพลตฟอร์ม Dragonwing Fixed Wireless Access Gen 4 Elite นี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานกับอุปกรณ์ที่ต้องการการเชื่อมต่อไร้สายที่มีความเร็วสูงและมีประสิทธิภาพมาก เช่น:

    1) อุปกรณ์เครือข่ายภายในบ้านและสำนักงาน - เพื่อให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สายที่เร็วและเสถียร ด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ 5G ทำให้ผู้ใช้สามารถมีประสบการณ์การใช้งานที่มีคุณภาพสูง
    2) อุปกรณ์ IoT และอุตสาหกรรม - เช่น เซ็นเซอร์อัจฉริยะ กล้องวงจรปิด และอุปกรณ์อัจฉริยะอื่น ๆ ที่ต้องการการเชื่อมต่อที่มั่นคงและเสถียร ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การเกษตร การแพทย์ และการผลิต
    3) เครือข่ายสาธารณะและการสื่อสารทางไกล - รองรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สายยาก เช่น พื้นที่ห่างไกล หรือพื้นที่ที่มีความต้องการการเชื่อมต่อที่มากขึ้น เช่น สนามบิน โรงพยาบาล และโรงเรียน
    4) ยานพาหนะและระบบขนส่ง - เพื่อให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนยานพาหนะ เช่น รถบัส รถไฟ และเรือ โดยใช้การเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม NTN และ 5G เพื่อให้การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียร

    การเปิดตัว Dragonwing FWA Gen 4 Elite นี้เป็นการก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี FWA ที่สามารถให้ความเร็วสูงและความเสถียรในการเชื่อมต่อในระยะทางไกลถึง 14 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรในราคาที่ต่ำกว่าการใช้บรอดแบนด์แบบมีสาย

    https://www.techpowerup.com/333528/qualcomm-launches-the-dragonwing-fixed-wireless-access-gen-4-elite-platform
    ในข่าวจาก TechPowerUp นี้ มีการกล่าวถึงการเปิดตัวแพลตฟอร์ม Dragonwing Fixed Wireless Access Gen 4 Elite ของ Qualcomm ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม FWA (Fixed Wireless Access) ที่รองรับ 5G Advanced แพลตฟอร์มนี้ใช้โมเด็ม Qualcomm X85 5G Modem-RF ที่สามารถให้ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดถึง 12.5 Gbps แพลตฟอร์ม Dragonwing FWA Gen 4 Elite มีการปรับปรุงด้วย AI ที่ครอบคลุมและมีการรวมโคโปรเซสเซอร์ Edge AI ที่มีพลังการประมวลผล NPU สูงถึง 40 TOPS ทำให้การเชื่อมต่อไร้สายผ่าน 5G และ Wi-Fi มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังสามารถใช้พลังของ Generative AI ในอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น ทำให้ประสบการณ์การใช้งานมีความเสถียรและเป็นเอกภาพมากขึ้น แพลตฟอร์มนี้ยังมีความสามารถในการสื่อสารผ่านดาวเทียม NTN และรองรับการใช้งาน Dual SIM Dual Active (DSDA) เพื่อเพิ่มความเสถียรและการจัดการระยะไกล นอกจากนี้ยังมีโปรเซสเซอร์แบบควอดคอร์ที่มีการเร่งความเร็วเครือข่ายเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการเชื่อมต่อ 5G, Ethernet และ Wi-Fi แพลตฟอร์ม Dragonwing Fixed Wireless Access Gen 4 Elite นี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานกับอุปกรณ์ที่ต้องการการเชื่อมต่อไร้สายที่มีความเร็วสูงและมีประสิทธิภาพมาก เช่น: 1) อุปกรณ์เครือข่ายภายในบ้านและสำนักงาน - เพื่อให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สายที่เร็วและเสถียร ด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ 5G ทำให้ผู้ใช้สามารถมีประสบการณ์การใช้งานที่มีคุณภาพสูง 2) อุปกรณ์ IoT และอุตสาหกรรม - เช่น เซ็นเซอร์อัจฉริยะ กล้องวงจรปิด และอุปกรณ์อัจฉริยะอื่น ๆ ที่ต้องการการเชื่อมต่อที่มั่นคงและเสถียร ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การเกษตร การแพทย์ และการผลิต 3) เครือข่ายสาธารณะและการสื่อสารทางไกล - รองรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สายยาก เช่น พื้นที่ห่างไกล หรือพื้นที่ที่มีความต้องการการเชื่อมต่อที่มากขึ้น เช่น สนามบิน โรงพยาบาล และโรงเรียน 4) ยานพาหนะและระบบขนส่ง - เพื่อให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนยานพาหนะ เช่น รถบัส รถไฟ และเรือ โดยใช้การเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม NTN และ 5G เพื่อให้การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียร การเปิดตัว Dragonwing FWA Gen 4 Elite นี้เป็นการก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี FWA ที่สามารถให้ความเร็วสูงและความเสถียรในการเชื่อมต่อในระยะทางไกลถึง 14 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรในราคาที่ต่ำกว่าการใช้บรอดแบนด์แบบมีสาย https://www.techpowerup.com/333528/qualcomm-launches-the-dragonwing-fixed-wireless-access-gen-4-elite-platform
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Qualcomm Launches the Dragonwing Fixed Wireless Access Gen 4 Elite Platform
    Qualcomm Technologies, Inc. today announced the Dragonwing FWA Gen 4 Elite, the world's first 5G Advanced-capable FWA platform. Powered by the Qualcomm X85 5G Modem-RF, the platform sets a new benchmark for 5G broadband performance with downlink speeds up to 12.5 Gbps. The Dragonwing FWA Gen 4 Elite...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลับมาคุยกันต่อถึงภาพที่ 9 ของ 12 กงซวิ่นถู (宫训图) ที่ในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฮ่องเต้เฉียนหลงได้ทรงพระราชทานให้บรรดาพระภรรยาแห่งสิบสองตำหนัก โดยเป็นภาพที่เล่าเรื่องราวของพระภรรยาในประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกไว้ซึ่งคุณงามความดี

    ภาพที่เราจะคุยกันในวันนี้มีชื่อว่า ‘ฝานจีเจี้ยนเลี่ย’ (樊姬谏猎 / ฝานจีเตือนสติให้หยุดล่าสัตว์) ถูกพระราชทานไปที่พระตำหนักหย่งเหอกง ภาพจริงหน้าตาอย่างไร Storyฯ หาไม่พบเพราะมันสูญหายไปแล้ว ภาพที่นำมาให้ดูเป็นภาพเรื่องราวเดียวกัน แต่มีชื่อเรียกว่า ‘ฝานจีก่านจวง’ (ฝานจีดลใจจวงหวาง) ซึ่งเป็นตอนหนึ่งของภาพม้วนยาว ‘หนีว์สื่อเจิน’ (女史箴图 / ข้าราชสำนักหญิงเตือนสติ) ผลงานของกู้ข่ายจือ ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงฉบับคัดลอกที่มี 9 ตอนจากเดิม 12 ตอน

    Storyฯ เคยกล่าวถึงภาพ ‘หนีว์สื่อเจิน’ นี้มาบ้างแล้วในบทความก่อนๆ เกี่ยวกับกงซวิ่นถู แต่ไม่ได้เล่าว่า ภาพทั้ง 12 ตอนของ ‘หนีว์สื่อเจิน’ นี้วาดขึ้นตามเนื้อหาจากบันทึก ‘เลี่ยหนี่ว์จ้วน’ (列女传 / บันทึกเรื่องราวสตรีตัวอย่าง) ที่จัดทำขึ้นในสมัยฮั่นตะวันตกโดยหลี่เซี่ยง แบ่งเป็น 7 หมวดรวมเหตุการณ์ที่ถูกยกมาเป็นตัวอย่างของจรรยาที่สตรีพึงมี จัดเป็นงานวรรณกรรมจำพวก ‘เหวินเหยียนเหวิน’ หรืองานวรรณกรรมภาษาโบราณ ปัจจุบันเป็นเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ทำให้ชนรุ่นหลังเข้าใจมากขึ้นถึงมุมมองของสังคมในสมัยนั้น

    ‘ฝานจี’ ที่กล่าวถึงในภาพ ‘ฝานจีเจี้ยนเลี่ย’ นี้ก็เป็นพระธิดาของกษัตริย์ผู้ครองแคว้นฝานและเป็นพระภรรยาของฉู่จวงหวาง (จวงอ๋อง) กษัตริย์แห่งแคว้นฉู่ในสมัยชุนชิว (ประมาณ 613-691 ปีก่อนคริสตกาล) จวงหวางแห่งแคว้นฉู่นี้ต่อมาถูกยกย่องเป็นหนึ่งในห้าของผู้ครองแคว้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคสมัยชุนชิว หรือที่เรียกว่า ‘ชุนชิวอู่ป้า’ (霸 /ป้า แปลได้ประมาณว่า เจ้าผู้ครองโลก)

    หลี่เซี่ยงเคยเขียนถึงจวงหวางไว้ว่า “ความยิ่งใหญ่ของฉู่จวงหวาง คือผลงานของฝานจี”

    ฝานจีไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไรที่จะช่วยจวงหวางยึดครองอาณาจักร ที่นางได้รับการยกย่องอย่างนี้เป็นเพราะนางคอยเตือนสติให้จวงหวางใส่ใจการบริหารบ้านเมือง ไม่หลงไหลเคลิบเคลิ้มไปกับเรื่องใดหรือใครจนทำให้ละเลยการบริหารบ้านเมือง แม้แต่สนมนางในฝานจีก็เป็นคนคัดเลือกเอง เพราะต้องการให้คนใกล้ชิดจวงหวางล้วนเป็นคนที่มีจรรยาและวางตัวได้ดี ไม่ยั่วยวนฉู่จวงหวางให้ลุ่มหลงมัวเมา (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์ในบทความนี้)

    มีหลายเหตุการณ์เกี่ยวกับการเตือนสติของฝานจีได้รับการบันทึกไว้และเล่ากันต่อมา แต่ ‘ผลงานสำคัญ’ เป็นเรื่องเกี่ยวกับอัครมหาเสนาบดีอวี๋ชิวจื่อ เขาเป็นขุนนางที่มีฝีมือและจงรักภักดี เป็นที่เคารพยกย่องและมีอิทธิพลมากในราชสำนัก... ว่ากันว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งจวงหวางโปรดปรานอวี๋ชิวจื่อมากจนเสวนาด้วยจนดึกดื่นทุกวัน อยู่มาวันหนึ่งฝานจีเห็นจวงหวางกลับดึกมากจึงถามไถ่สาเหตุ จวงหวางตอบว่าอวี๋ซิวจื่อคนนี้มิเพียงฉลาดปราดเปรื่อง หากยังจงรักภักดี จึงชอบเสวนาด้วย แต่ฝานจีกลับหัวเราะขบขันแล้วยกตัวอย่างว่า ตัวนางเองก็เป็นที่โปรดปรานของจวงหวาง แต่ยังไม่คิดจะเหนี่ยวรั้งจวงหวางไว้กับตนเพียงผู้เดียว หากแต่ยังช่วยสรรหาหญิงที่งามพร้อมจรรยามาช่วยดูแลปรนนิบัติ อวี๋ซิวจื่อผู้นี้แม้ฉลาดปราดเปรื่อง แต่สิบปีที่ผ่านมาไม่เปิดโอกาสให้คนดีมีฝีมือนอกแวดวงของเขาเข้ามารับราชการ เสนอชื่อแต่เพียงคนใกล้ชิดและลูกศิษย์ให้เจริญก้าวหน้าไม่ลงโทษหนักแม้ทำผิด จะเรียกว่าจงรักภักดีทำเพื่อคุณประโยชน์ของประเทศได้อย่างไร?

    เป็นเรื่องเล่าต่อมาอีกว่า วันรุ่งขึ้นจวงหวางเล่าให้อวี๋ซิวจื่อฟังถึงคำพูดของฝานจี อวี๋ซิวจื่อได้ยินก็ฉุกใจคิดคล้อยตาม รู้สึกละอายใจจนเก็บตัวเงียบหลายวัน หลังจากนั้นเขาสรรหาและคัดเลือกคนดีมีฝีมือใหม่ๆ เข้าราชสำนัก สุดท้ายค้นพบและเสนอชื่อซุนซูเอ้าให้มารับหน้าที่อัครมหาเสนาบดีแทนตน จากนั้นก็ขอเกษียณจากราชการ

    เหตุการณ์นี้อาจเรียกได้ว่าเป็นจุดสำคัญของการเปลี่ยนโฉมแคว้นฉู่ ซุนซูเอ้าผู้นี้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นหนึ่งในนักการเมืองและอัครมหาเสนาบดีที่เก่งกาจที่สุดในยุคสมัยนั้น เขาวางตนสมถะ ชี้นำให้จวงหวางยึดถือความสุขของประชาชนเป็นที่ตั้ง ให้คำปรึกษาที่ดีทั้งด้านเศรษฐกิจการเมืองและการทหาร กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้แคว้นฉู่เจริญยิ่งใหญ่จนกลายเป็นหนึ่งในห้าแคว้นที่เข้มแข็งที่สุดในสมัยนั้น

    จึงเป็นที่มาของวลีที่ว่า “ความยิ่งใหญ่ของฉู่จวงหวาง คือผลงานของฝานจี”

    เหตุการณ์ที่เล่าถึงในภาพกงซวิ่นถูนี้ เป็นการกล่าวถึงสมัยที่ฉู่จวงหวางขึ้นครองราชย์แคว้นฉู่ใหม่ๆ หลงรักการล่าสัตว์จนละเลยกิจการบ้านเมือง ฝานจีทั้งเตือนทั้งหว่านล้อมให้รามือหันมาดูแลบ้านเมืองเท่าไหร่ก็ไม่ใส่ใจ สุดท้ายนางจึงงดกินเนื้อสัตว์เป็นการประท้วงจนจวงหวางได้คิด เลิกเห็นการล่าสัตว์เป็นเรื่องบันเทิงและหันกลับมาให้เวลากับการบริหารบ้านเมือง

    ส่วนป้ายที่องค์เฉียนหลงพระราชทานไปคู่กับภาพนี้เขียนไว้ว่า ‘อี๋เจาซูเจิ้น’ (仪昭淑慎) แปลได้ประมาณว่า โอบอ้อมอารีมีสติ รักษาไว้ซึ่งจรรยาและพิธีการอันดีงาม Storyฯ เหมือนผ่านตาว่าวรรคนี้มีการพูดถึงและอธิบายไว้ในละครเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> ด้วย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/40578846
    https://kknews.cc/zh-hk/news/m6lqj5g.html#google_vignette
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/列女传/869659
    http://www.guoxue.com/?people=fanji
    https://baike.baidu.com/item/樊姬/10584406
    http://dzrb.dzng.com/articleContent/17_1032125.html
    https://hk.epochtimes.com/news/2018-05-29/28583343
    https://baike.baidu.com/item/孙叔敖/669927

    #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #ฝานจี #ฉู่จวงหวาง #ชุนชิวอู่ป้า #ฝานจีเจี้ยนเลี่ย #หนีว์สื่อเจิน #เลี่ยหนี่ว์จ้วน #หลี่เซี่ยง #กงซวิ่นถู #เฉียนหลงสิบสองภาพวาด
    กลับมาคุยกันต่อถึงภาพที่ 9 ของ 12 กงซวิ่นถู (宫训图) ที่ในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฮ่องเต้เฉียนหลงได้ทรงพระราชทานให้บรรดาพระภรรยาแห่งสิบสองตำหนัก โดยเป็นภาพที่เล่าเรื่องราวของพระภรรยาในประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกไว้ซึ่งคุณงามความดี ภาพที่เราจะคุยกันในวันนี้มีชื่อว่า ‘ฝานจีเจี้ยนเลี่ย’ (樊姬谏猎 / ฝานจีเตือนสติให้หยุดล่าสัตว์) ถูกพระราชทานไปที่พระตำหนักหย่งเหอกง ภาพจริงหน้าตาอย่างไร Storyฯ หาไม่พบเพราะมันสูญหายไปแล้ว ภาพที่นำมาให้ดูเป็นภาพเรื่องราวเดียวกัน แต่มีชื่อเรียกว่า ‘ฝานจีก่านจวง’ (ฝานจีดลใจจวงหวาง) ซึ่งเป็นตอนหนึ่งของภาพม้วนยาว ‘หนีว์สื่อเจิน’ (女史箴图 / ข้าราชสำนักหญิงเตือนสติ) ผลงานของกู้ข่ายจือ ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงฉบับคัดลอกที่มี 9 ตอนจากเดิม 12 ตอน Storyฯ เคยกล่าวถึงภาพ ‘หนีว์สื่อเจิน’ นี้มาบ้างแล้วในบทความก่อนๆ เกี่ยวกับกงซวิ่นถู แต่ไม่ได้เล่าว่า ภาพทั้ง 12 ตอนของ ‘หนีว์สื่อเจิน’ นี้วาดขึ้นตามเนื้อหาจากบันทึก ‘เลี่ยหนี่ว์จ้วน’ (列女传 / บันทึกเรื่องราวสตรีตัวอย่าง) ที่จัดทำขึ้นในสมัยฮั่นตะวันตกโดยหลี่เซี่ยง แบ่งเป็น 7 หมวดรวมเหตุการณ์ที่ถูกยกมาเป็นตัวอย่างของจรรยาที่สตรีพึงมี จัดเป็นงานวรรณกรรมจำพวก ‘เหวินเหยียนเหวิน’ หรืองานวรรณกรรมภาษาโบราณ ปัจจุบันเป็นเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ทำให้ชนรุ่นหลังเข้าใจมากขึ้นถึงมุมมองของสังคมในสมัยนั้น ‘ฝานจี’ ที่กล่าวถึงในภาพ ‘ฝานจีเจี้ยนเลี่ย’ นี้ก็เป็นพระธิดาของกษัตริย์ผู้ครองแคว้นฝานและเป็นพระภรรยาของฉู่จวงหวาง (จวงอ๋อง) กษัตริย์แห่งแคว้นฉู่ในสมัยชุนชิว (ประมาณ 613-691 ปีก่อนคริสตกาล) จวงหวางแห่งแคว้นฉู่นี้ต่อมาถูกยกย่องเป็นหนึ่งในห้าของผู้ครองแคว้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคสมัยชุนชิว หรือที่เรียกว่า ‘ชุนชิวอู่ป้า’ (霸 /ป้า แปลได้ประมาณว่า เจ้าผู้ครองโลก) หลี่เซี่ยงเคยเขียนถึงจวงหวางไว้ว่า “ความยิ่งใหญ่ของฉู่จวงหวาง คือผลงานของฝานจี” ฝานจีไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไรที่จะช่วยจวงหวางยึดครองอาณาจักร ที่นางได้รับการยกย่องอย่างนี้เป็นเพราะนางคอยเตือนสติให้จวงหวางใส่ใจการบริหารบ้านเมือง ไม่หลงไหลเคลิบเคลิ้มไปกับเรื่องใดหรือใครจนทำให้ละเลยการบริหารบ้านเมือง แม้แต่สนมนางในฝานจีก็เป็นคนคัดเลือกเอง เพราะต้องการให้คนใกล้ชิดจวงหวางล้วนเป็นคนที่มีจรรยาและวางตัวได้ดี ไม่ยั่วยวนฉู่จวงหวางให้ลุ่มหลงมัวเมา (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์ในบทความนี้) มีหลายเหตุการณ์เกี่ยวกับการเตือนสติของฝานจีได้รับการบันทึกไว้และเล่ากันต่อมา แต่ ‘ผลงานสำคัญ’ เป็นเรื่องเกี่ยวกับอัครมหาเสนาบดีอวี๋ชิวจื่อ เขาเป็นขุนนางที่มีฝีมือและจงรักภักดี เป็นที่เคารพยกย่องและมีอิทธิพลมากในราชสำนัก... ว่ากันว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งจวงหวางโปรดปรานอวี๋ชิวจื่อมากจนเสวนาด้วยจนดึกดื่นทุกวัน อยู่มาวันหนึ่งฝานจีเห็นจวงหวางกลับดึกมากจึงถามไถ่สาเหตุ จวงหวางตอบว่าอวี๋ซิวจื่อคนนี้มิเพียงฉลาดปราดเปรื่อง หากยังจงรักภักดี จึงชอบเสวนาด้วย แต่ฝานจีกลับหัวเราะขบขันแล้วยกตัวอย่างว่า ตัวนางเองก็เป็นที่โปรดปรานของจวงหวาง แต่ยังไม่คิดจะเหนี่ยวรั้งจวงหวางไว้กับตนเพียงผู้เดียว หากแต่ยังช่วยสรรหาหญิงที่งามพร้อมจรรยามาช่วยดูแลปรนนิบัติ อวี๋ซิวจื่อผู้นี้แม้ฉลาดปราดเปรื่อง แต่สิบปีที่ผ่านมาไม่เปิดโอกาสให้คนดีมีฝีมือนอกแวดวงของเขาเข้ามารับราชการ เสนอชื่อแต่เพียงคนใกล้ชิดและลูกศิษย์ให้เจริญก้าวหน้าไม่ลงโทษหนักแม้ทำผิด จะเรียกว่าจงรักภักดีทำเพื่อคุณประโยชน์ของประเทศได้อย่างไร? เป็นเรื่องเล่าต่อมาอีกว่า วันรุ่งขึ้นจวงหวางเล่าให้อวี๋ซิวจื่อฟังถึงคำพูดของฝานจี อวี๋ซิวจื่อได้ยินก็ฉุกใจคิดคล้อยตาม รู้สึกละอายใจจนเก็บตัวเงียบหลายวัน หลังจากนั้นเขาสรรหาและคัดเลือกคนดีมีฝีมือใหม่ๆ เข้าราชสำนัก สุดท้ายค้นพบและเสนอชื่อซุนซูเอ้าให้มารับหน้าที่อัครมหาเสนาบดีแทนตน จากนั้นก็ขอเกษียณจากราชการ เหตุการณ์นี้อาจเรียกได้ว่าเป็นจุดสำคัญของการเปลี่ยนโฉมแคว้นฉู่ ซุนซูเอ้าผู้นี้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นหนึ่งในนักการเมืองและอัครมหาเสนาบดีที่เก่งกาจที่สุดในยุคสมัยนั้น เขาวางตนสมถะ ชี้นำให้จวงหวางยึดถือความสุขของประชาชนเป็นที่ตั้ง ให้คำปรึกษาที่ดีทั้งด้านเศรษฐกิจการเมืองและการทหาร กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้แคว้นฉู่เจริญยิ่งใหญ่จนกลายเป็นหนึ่งในห้าแคว้นที่เข้มแข็งที่สุดในสมัยนั้น จึงเป็นที่มาของวลีที่ว่า “ความยิ่งใหญ่ของฉู่จวงหวาง คือผลงานของฝานจี” เหตุการณ์ที่เล่าถึงในภาพกงซวิ่นถูนี้ เป็นการกล่าวถึงสมัยที่ฉู่จวงหวางขึ้นครองราชย์แคว้นฉู่ใหม่ๆ หลงรักการล่าสัตว์จนละเลยกิจการบ้านเมือง ฝานจีทั้งเตือนทั้งหว่านล้อมให้รามือหันมาดูแลบ้านเมืองเท่าไหร่ก็ไม่ใส่ใจ สุดท้ายนางจึงงดกินเนื้อสัตว์เป็นการประท้วงจนจวงหวางได้คิด เลิกเห็นการล่าสัตว์เป็นเรื่องบันเทิงและหันกลับมาให้เวลากับการบริหารบ้านเมือง ส่วนป้ายที่องค์เฉียนหลงพระราชทานไปคู่กับภาพนี้เขียนไว้ว่า ‘อี๋เจาซูเจิ้น’ (仪昭淑慎) แปลได้ประมาณว่า โอบอ้อมอารีมีสติ รักษาไว้ซึ่งจรรยาและพิธีการอันดีงาม Storyฯ เหมือนผ่านตาว่าวรรคนี้มีการพูดถึงและอธิบายไว้ในละครเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> ด้วย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://zhuanlan.zhihu.com/p/40578846 https://kknews.cc/zh-hk/news/m6lqj5g.html#google_vignette Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/列女传/869659 http://www.guoxue.com/?people=fanji https://baike.baidu.com/item/樊姬/10584406 http://dzrb.dzng.com/articleContent/17_1032125.html https://hk.epochtimes.com/news/2018-05-29/28583343 https://baike.baidu.com/item/孙叔敖/669927 #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #ฝานจี #ฉู่จวงหวาง #ชุนชิวอู่ป้า #ฝานจีเจี้ยนเลี่ย #หนีว์สื่อเจิน #เลี่ยหนี่ว์จ้วน #หลี่เซี่ยง #กงซวิ่นถู #เฉียนหลงสิบสองภาพวาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 683 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung เปิดตัว Samsung Galaxy A36 รุ่นใหม่ที่มีราคา $399 ที่เป็นเครื่องมือที่แข็งแกร่งในตลาดมือถือระดับกลาง โดย Galaxy A36 และ A26 ได้รับการอัปเกรดใหม่หลายด้านเช่น การปรับปรุงกล้องเสียงจอแสดงผล และแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น

    นอกเหนือจากนี้ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ AI ที่ชื่อว่า "Awesome Intelligence" ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาได้อย่างรวดเร็วด้วยการวงล้อมุมหน้าจอ, เครื่องมือ Eraser ที่ช่วยลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากรูปภาพ และฟิลเตอร์ที่ผู้ใช้สามารถสร้างได้เอง นอกจากนี้ รุ่น A56 ยังมีฟีเจอร์ Best Face ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับสีหน้าของบุคคลในรูปกลุ่มให้ดูดีขึ้นได้

    Galaxy A36 5G มีการปรับปรุงที่สำคัญเช่น กล้องหลังสามตัวที่ประกอบด้วยเลนส์หลัก 50MP OIS, เลนส์กว้างพิเศษ 8MP, และเลนส์มาโคร 5MP กล้องหน้าก็ได้อัปเกรดเป็น 12MP จอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรช 120Hz และความสว่างสูงสุด 1200 นิต แบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh รองรับการชาร์จไว 45W และมีความสามารถในการกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP67

    Galaxy A26 5G แม้จะเป็นรุ่นที่มีราคาต่ำกว่า แต่ยังคงมีฟีเจอร์ AI อันทรงพลังและกล้องที่ดีเลิศประกอบด้วยกล้องหลัก 50MP, เลนส์กว้างพิเศษ 8MP, และเลนส์มาโคร 2MP จอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรช 120Hz และกันน้ำฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 เช่นเดียวกับรุ่น A36

    https://www.zdnet.com/article/forget-iphone-16e-samsungs-399-galaxy-a36-is-the-mid-ranger-to-beat/
    Samsung เปิดตัว Samsung Galaxy A36 รุ่นใหม่ที่มีราคา $399 ที่เป็นเครื่องมือที่แข็งแกร่งในตลาดมือถือระดับกลาง โดย Galaxy A36 และ A26 ได้รับการอัปเกรดใหม่หลายด้านเช่น การปรับปรุงกล้องเสียงจอแสดงผล และแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น นอกเหนือจากนี้ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ AI ที่ชื่อว่า "Awesome Intelligence" ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาได้อย่างรวดเร็วด้วยการวงล้อมุมหน้าจอ, เครื่องมือ Eraser ที่ช่วยลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากรูปภาพ และฟิลเตอร์ที่ผู้ใช้สามารถสร้างได้เอง นอกจากนี้ รุ่น A56 ยังมีฟีเจอร์ Best Face ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับสีหน้าของบุคคลในรูปกลุ่มให้ดูดีขึ้นได้ Galaxy A36 5G มีการปรับปรุงที่สำคัญเช่น กล้องหลังสามตัวที่ประกอบด้วยเลนส์หลัก 50MP OIS, เลนส์กว้างพิเศษ 8MP, และเลนส์มาโคร 5MP กล้องหน้าก็ได้อัปเกรดเป็น 12MP จอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรช 120Hz และความสว่างสูงสุด 1200 นิต แบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh รองรับการชาร์จไว 45W และมีความสามารถในการกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 Galaxy A26 5G แม้จะเป็นรุ่นที่มีราคาต่ำกว่า แต่ยังคงมีฟีเจอร์ AI อันทรงพลังและกล้องที่ดีเลิศประกอบด้วยกล้องหลัก 50MP, เลนส์กว้างพิเศษ 8MP, และเลนส์มาโคร 2MP จอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรช 120Hz และกันน้ำฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 เช่นเดียวกับรุ่น A36 https://www.zdnet.com/article/forget-iphone-16e-samsungs-399-galaxy-a36-is-the-mid-ranger-to-beat/
    WWW.ZDNET.COM
    Forget iPhone 16e: Samsung's $399 Galaxy A36 is the mid-ranger to beat
    The A36 5G is being released alongside the A26, both of which feature AI enhancements and improvements to the camera, audio, display, and battery.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • ABI Research ได้ทำการคาดการณ์เกี่ยวกับตลาดเทคโนโลยีในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยระบุถึงเทคโนโลยีที่กำลังจะเติบโตและจะหดตัว โดยสิ่งที่น่าสนใจคือการคาดการณ์ว่าโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) จะเติบโตขึ้นอย่างมาก รวมถึงเครื่องมือจัดการข้อมูลที่จะสร้างมูลค่ามากมาย

    ==เทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว==
    1) โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs): จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 35% เนื่องจากการใช้งานเพิ่มขึ้นในซอฟต์แวร์องค์กรต่างๆ
    2) เครื่องมือจัดการข้อมูล: การเติบโตของเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และปัญญาประดิษฐ์จะสร้างโอกาสมูลค่ามากกว่า 200 พันล้านดอลลาร์ในปี 2029
    3) อุปกรณ์สมาร์ทโฮม: คาดว่าอุปกรณ์สำหรับความปลอดภัยและความสะดวกสบายในบ้านจะเติบโตเฉลี่ย 14% ต่อปี และมีการจัดส่งถึง 500 ล้านหน่วย
    4) แว่นตาอัจฉริยะ (Smart Glasses): คาดว่าการใช้แว่นตาอัจฉริยะในการทำงานจะเติบโตขึ้น โดยมียอดส่งถึง 20.23 ล้านหน่วยในปี 2029
    5) หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ (Humanoid Robots): คาดว่าจะมีการส่งออกถึง 180,000 หน่วยต่อปีภายในปี 2030 เนื่องจากต้นทุนที่ลดลงและความต้องการในด้านการบริการและบันเทิง
    6) ซอฟต์แวร์และบริการด้านความปลอดภัย: ความต้องการซอฟต์แวร์ความปลอดภัยบนเครือข่าย 5G และบริการที่เกี่ยวข้องจะเติบโตอย่างมาก
    7) ระบบการจัดการคลังสินค้า: คาดว่าจะมีการลงทุนถึง 8.6 พันล้านดอลลาร์ โดยได้รับการสนับสนุนจากการวางแผนและวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    8) การวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับประสิทธิภาพการดำเนินงาน: การแก้ปัญหาด้านข้อมูลจะเติบโตเฉลี่ย 13% ต่อปี เนื่องจากความสำคัญของการใช้ข้อมูลและความโปร่งใสในการดำเนินงาน

    ==เทคโนโลยีที่อาจมีการหดตัวหรือลดลง==
    1) แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์: แม้ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2024 แต่การส่งแท็บเล็ตคาดว่าจะลดลงอย่างช้าๆ จนถึงปี 2029
    2) สมาร์ทโฟน: คาดว่าตลาดสมาร์ทโฟนจะเติบโตแบบไม่ต่อเนื่องเนื่องจากความต้องการที่ลดลงและรอบการเปลี่ยนทดแทนที่ยาวขึ้น
    3) ชิปเซ็ต CPU ของดาต้าเซ็นเตอร์: ส่วนแบ่งตลาดจะลดลงจาก 26% เป็น 18% ในอีก 5 ปีข้างหน้า
    4) บล็อกเชนอุตสาหกรรม: รายได้จะลดลง 2% ต่อปีเนื่องจากแอปพลิเคชันส่วนใหญ่ไม่สามารถพัฒนาขึ้นมาได้
    5) ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Cloud Hyperscalers): คาดว่าจะเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นที่มีความเข้าใจในข้อบังคับท้องถิ่น
    6) ฮาร์ดแวร์ด้านความปลอดภัย: อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีจะอยู่ที่ 7% เนื่องจากมีซอฟต์แวร์ที่ทำงานแทนฮาร์ดแวร์แบบดั้งเดิม
    7) ซอฟต์แวร์การโปรแกรมหุ่นยนต์แบบออฟไลน์: คาดว่ารายได้จะเติบโตเฉลี่ย 8.5% ต่อปี ทำให้บริษัทซอฟต์แวร์ขนาดเล็กเผชิญกับความท้าทาย
    8) อุปกรณ์ VR แบบมีสายและมือถือ: การส่งออกของอุปกรณ์เหล่านี้จะคงที่และคิดเป็นเพียง 34% ของการส่งออกทั้งหมดในปี 2029

    การคาดการณ์นี้แสดงถึงทิศทางของตลาดเทคโนโลยีในอนาคต ซึ่งผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อวางแผนการลงทุนและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ

    https://www.zdnet.com/article/this-5-year-tech-industry-forecast-predicts-some-surprising-winners-and-losers/
    ABI Research ได้ทำการคาดการณ์เกี่ยวกับตลาดเทคโนโลยีในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยระบุถึงเทคโนโลยีที่กำลังจะเติบโตและจะหดตัว โดยสิ่งที่น่าสนใจคือการคาดการณ์ว่าโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) จะเติบโตขึ้นอย่างมาก รวมถึงเครื่องมือจัดการข้อมูลที่จะสร้างมูลค่ามากมาย ==เทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว== 1) โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs): จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 35% เนื่องจากการใช้งานเพิ่มขึ้นในซอฟต์แวร์องค์กรต่างๆ 2) เครื่องมือจัดการข้อมูล: การเติบโตของเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และปัญญาประดิษฐ์จะสร้างโอกาสมูลค่ามากกว่า 200 พันล้านดอลลาร์ในปี 2029 3) อุปกรณ์สมาร์ทโฮม: คาดว่าอุปกรณ์สำหรับความปลอดภัยและความสะดวกสบายในบ้านจะเติบโตเฉลี่ย 14% ต่อปี และมีการจัดส่งถึง 500 ล้านหน่วย 4) แว่นตาอัจฉริยะ (Smart Glasses): คาดว่าการใช้แว่นตาอัจฉริยะในการทำงานจะเติบโตขึ้น โดยมียอดส่งถึง 20.23 ล้านหน่วยในปี 2029 5) หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ (Humanoid Robots): คาดว่าจะมีการส่งออกถึง 180,000 หน่วยต่อปีภายในปี 2030 เนื่องจากต้นทุนที่ลดลงและความต้องการในด้านการบริการและบันเทิง 6) ซอฟต์แวร์และบริการด้านความปลอดภัย: ความต้องการซอฟต์แวร์ความปลอดภัยบนเครือข่าย 5G และบริการที่เกี่ยวข้องจะเติบโตอย่างมาก 7) ระบบการจัดการคลังสินค้า: คาดว่าจะมีการลงทุนถึง 8.6 พันล้านดอลลาร์ โดยได้รับการสนับสนุนจากการวางแผนและวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น 8) การวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับประสิทธิภาพการดำเนินงาน: การแก้ปัญหาด้านข้อมูลจะเติบโตเฉลี่ย 13% ต่อปี เนื่องจากความสำคัญของการใช้ข้อมูลและความโปร่งใสในการดำเนินงาน ==เทคโนโลยีที่อาจมีการหดตัวหรือลดลง== 1) แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์: แม้ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2024 แต่การส่งแท็บเล็ตคาดว่าจะลดลงอย่างช้าๆ จนถึงปี 2029 2) สมาร์ทโฟน: คาดว่าตลาดสมาร์ทโฟนจะเติบโตแบบไม่ต่อเนื่องเนื่องจากความต้องการที่ลดลงและรอบการเปลี่ยนทดแทนที่ยาวขึ้น 3) ชิปเซ็ต CPU ของดาต้าเซ็นเตอร์: ส่วนแบ่งตลาดจะลดลงจาก 26% เป็น 18% ในอีก 5 ปีข้างหน้า 4) บล็อกเชนอุตสาหกรรม: รายได้จะลดลง 2% ต่อปีเนื่องจากแอปพลิเคชันส่วนใหญ่ไม่สามารถพัฒนาขึ้นมาได้ 5) ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Cloud Hyperscalers): คาดว่าจะเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นที่มีความเข้าใจในข้อบังคับท้องถิ่น 6) ฮาร์ดแวร์ด้านความปลอดภัย: อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีจะอยู่ที่ 7% เนื่องจากมีซอฟต์แวร์ที่ทำงานแทนฮาร์ดแวร์แบบดั้งเดิม 7) ซอฟต์แวร์การโปรแกรมหุ่นยนต์แบบออฟไลน์: คาดว่ารายได้จะเติบโตเฉลี่ย 8.5% ต่อปี ทำให้บริษัทซอฟต์แวร์ขนาดเล็กเผชิญกับความท้าทาย 8) อุปกรณ์ VR แบบมีสายและมือถือ: การส่งออกของอุปกรณ์เหล่านี้จะคงที่และคิดเป็นเพียง 34% ของการส่งออกทั้งหมดในปี 2029 การคาดการณ์นี้แสดงถึงทิศทางของตลาดเทคโนโลยีในอนาคต ซึ่งผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อวางแผนการลงทุนและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ https://www.zdnet.com/article/this-5-year-tech-industry-forecast-predicts-some-surprising-winners-and-losers/
    WWW.ZDNET.COM
    This 5-year tech industry forecast predicts some surprising winners - and losers
    Here's what will be hot or not in technology markets over the next five years, as projected by ABI Research. Do you agree?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 352 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผมได้รวมความระyumของUSAIDไว้
    ในโพสต์เดียว เผื่อใครจะค้นหาข้อมูลการทำชั่วขององค์กรนี้

    จากThe GreyZone มี4ตอน
    https://www.facebook.com/share/p/1WnizJ23Rn/

    ในซีเรีย
    https://www.facebook.com/share/p/1VcLDCdxTt/

    ในคิวบาและเวเนซุเอลา
    https://www.facebook.com/share/p/1Gxf4CLyY3/

    ทุ่มเงินซื้อนักข่าวและสื่อต่างๆ มี3ตอน
    https://www.facebook.com/share/p/1BHJJMKQCe/

    แผนชั่วในโบลิเวีย เฮติ อัฟกานิสถาน
    https://www.facebook.com/share/p/1HhboCaktS/

    ในรัสเซีย
    https://www.facebook.com/share/p/19fNWgeQXs/

    https://www.facebook.com/share/p/1FVMC7qkqu/

    ในประเทศสารขัณฑ์
    https://www.facebook.com/share/p/1Fa4WfCLvc/

    Usaidเกี่ยวข้องกับโซรอส
    https://www.facebook.com/share/p/1B6h1MsWdK/

    ในยูเครน
    https://www.facebook.com/share/p/18g7Dv4CmJ/

    แผนการที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากมนุษย์ธรรม ประชาธิปไตย มี2 ตอน
    https://www.facebook.com/share/p/162yZPFrMM/

    Black Lives Matter ได้รับทุนสนับสนุนจาก USAID
    https://www.facebook.com/share/p/18iiTii2U8/

    จัดหาทหารรับจ้างไปยูเครน
    https://www.facebook.com/share/p/15tUgEQNi4/

    ในอิหร่าน มี3ตอน
    https://www.facebook.com/share/p/1ABRw5G8p2/

    ให้เงินทุนกลุ่มต่อต้านอิหร่าน มี4ตอน
    https://www.facebook.com/share/p/15jJpMxUJx/

    ในชิลีและสโลวาเกีย
    https://www.facebook.com/share/p/15srZdA7Pr/

    จะปักหมุดอยู่ในแนะนำ เพื่อการค้นหาที่ง่าย
    ผมได้รวมความระyumของUSAIDไว้ ในโพสต์เดียว เผื่อใครจะค้นหาข้อมูลการทำชั่วขององค์กรนี้ จากThe GreyZone มี4ตอน https://www.facebook.com/share/p/1WnizJ23Rn/ ในซีเรีย https://www.facebook.com/share/p/1VcLDCdxTt/ ในคิวบาและเวเนซุเอลา https://www.facebook.com/share/p/1Gxf4CLyY3/ ทุ่มเงินซื้อนักข่าวและสื่อต่างๆ มี3ตอน https://www.facebook.com/share/p/1BHJJMKQCe/ แผนชั่วในโบลิเวีย เฮติ อัฟกานิสถาน https://www.facebook.com/share/p/1HhboCaktS/ ในรัสเซีย https://www.facebook.com/share/p/19fNWgeQXs/ https://www.facebook.com/share/p/1FVMC7qkqu/ ในประเทศสารขัณฑ์ https://www.facebook.com/share/p/1Fa4WfCLvc/ Usaidเกี่ยวข้องกับโซรอส https://www.facebook.com/share/p/1B6h1MsWdK/ ในยูเครน https://www.facebook.com/share/p/18g7Dv4CmJ/ แผนการที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากมนุษย์ธรรม ประชาธิปไตย มี2 ตอน https://www.facebook.com/share/p/162yZPFrMM/ Black Lives Matter ได้รับทุนสนับสนุนจาก USAID https://www.facebook.com/share/p/18iiTii2U8/ จัดหาทหารรับจ้างไปยูเครน https://www.facebook.com/share/p/15tUgEQNi4/ ในอิหร่าน มี3ตอน https://www.facebook.com/share/p/1ABRw5G8p2/ ให้เงินทุนกลุ่มต่อต้านอิหร่าน มี4ตอน https://www.facebook.com/share/p/15jJpMxUJx/ ในชิลีและสโลวาเกีย https://www.facebook.com/share/p/15srZdA7Pr/ จะปักหมุดอยู่ในแนะนำ เพื่อการค้นหาที่ง่าย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 374 มุมมอง 0 รีวิว
  • Solidigm ได้เปิดตัว SSD รุ่นใหม่ที่มีความจุสูงถึง 122.88TB เป็นครั้งแรกในโลก โดยมีชื่อรุ่นว่า Solidigm D5-P5336 SSD รุ่นนี้ถูกใช้ในการทดสอบการรันโมเดล AI บนคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก Nvidia Jetson Orin Nano Super

    Solidigm D5-P5336 เป็น SSD แบบ QLC ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อแบบ PCIe Gen 4 โดยมีความเร็วในการอ่านแบบลำดับสูงสุดที่ 7.1 GB/s และความเร็วในการเขียนแบบลำดับสูงสุดที่ 3.3 GB/s รวมถึงประสิทธิภาพการอ่านแบบสุ่มสูงถึง 1,269,000 IOPS ซึ่งทำให้ SSD นี้มีประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากและใช้งานในงานประมวลผลที่ซับซ้อนได้ดีมาก

    การทดสอบการรันโมเดล AI ทีมงานจาก StorageReview ได้ทำการทดสอบ Nvidia Jetson Orin Nano Super ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์บอร์ดเดี่ยวขนาดเล็กที่ออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI ที่มีซีพียู 6 คอร์, GPU Ampere 1024 คอร์, และ RAM LPDDR5 ขนาด 8GB โดยใช้ SSD Solidigm D5-P5336 เพื่อรันโมเดล AI ที่ซับซ้อน

    เนื่องจากข้อจำกัดของหน่วยความจำกราฟิกบน Nano Super ทำให้การรันโมเดลที่มีพารามิเตอร์พันล้านต้องใช้วิธีการที่นวัตกรรม ทีมงานได้ใช้เทคนิคการโหลดเลเยอร์โมเดลแบบไดนามิกเพื่อข้ามข้อจำกัดนี้ และสามารถรันโมเดล DeepSeek R1 70B Distilled ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าที่สามารถรันบน Nano Super ปกติถึง 45 เท่า

    ความท้าทายในการทดสอบ การทดสอบพบว่าการประมวลผลด้วย Nano Super มีข้อจำกัดในด้านความเร็ว เนื่องจากการเชื่อมต่อแบบ PCIe Gen 3 ทำให้ SSD ไม่สามารถแสดงศักยภาพสูงสุดได้ อย่างไรก็ตาม Nano Super ยังสามารถทำความเร็วในการอ่านได้สูงถึง 2.5GB/s และสามารถรันโมเดล AI ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ แม้ว่าจะใช้เวลาในการสร้างโทเค็นนานถึง 4.5 นาทีต่อโทเค็น ซึ่งไม่เหมาะสำหรับการใช้งาน AI แบบเรียลไทม์

    https://www.techradar.com/pro/worlds-first-122-88tb-ssd-gets-reviewed-with-two-very-odd-bedfellows-the-controversial-deepseek-and-nvidias-jetson-orin-ai-sbc
    Solidigm ได้เปิดตัว SSD รุ่นใหม่ที่มีความจุสูงถึง 122.88TB เป็นครั้งแรกในโลก โดยมีชื่อรุ่นว่า Solidigm D5-P5336 SSD รุ่นนี้ถูกใช้ในการทดสอบการรันโมเดล AI บนคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก Nvidia Jetson Orin Nano Super Solidigm D5-P5336 เป็น SSD แบบ QLC ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อแบบ PCIe Gen 4 โดยมีความเร็วในการอ่านแบบลำดับสูงสุดที่ 7.1 GB/s และความเร็วในการเขียนแบบลำดับสูงสุดที่ 3.3 GB/s รวมถึงประสิทธิภาพการอ่านแบบสุ่มสูงถึง 1,269,000 IOPS ซึ่งทำให้ SSD นี้มีประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากและใช้งานในงานประมวลผลที่ซับซ้อนได้ดีมาก การทดสอบการรันโมเดล AI ทีมงานจาก StorageReview ได้ทำการทดสอบ Nvidia Jetson Orin Nano Super ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์บอร์ดเดี่ยวขนาดเล็กที่ออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI ที่มีซีพียู 6 คอร์, GPU Ampere 1024 คอร์, และ RAM LPDDR5 ขนาด 8GB โดยใช้ SSD Solidigm D5-P5336 เพื่อรันโมเดล AI ที่ซับซ้อน เนื่องจากข้อจำกัดของหน่วยความจำกราฟิกบน Nano Super ทำให้การรันโมเดลที่มีพารามิเตอร์พันล้านต้องใช้วิธีการที่นวัตกรรม ทีมงานได้ใช้เทคนิคการโหลดเลเยอร์โมเดลแบบไดนามิกเพื่อข้ามข้อจำกัดนี้ และสามารถรันโมเดล DeepSeek R1 70B Distilled ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าที่สามารถรันบน Nano Super ปกติถึง 45 เท่า ความท้าทายในการทดสอบ การทดสอบพบว่าการประมวลผลด้วย Nano Super มีข้อจำกัดในด้านความเร็ว เนื่องจากการเชื่อมต่อแบบ PCIe Gen 3 ทำให้ SSD ไม่สามารถแสดงศักยภาพสูงสุดได้ อย่างไรก็ตาม Nano Super ยังสามารถทำความเร็วในการอ่านได้สูงถึง 2.5GB/s และสามารถรันโมเดล AI ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ แม้ว่าจะใช้เวลาในการสร้างโทเค็นนานถึง 4.5 นาทีต่อโทเค็น ซึ่งไม่เหมาะสำหรับการใช้งาน AI แบบเรียลไทม์ https://www.techradar.com/pro/worlds-first-122-88tb-ssd-gets-reviewed-with-two-very-odd-bedfellows-the-controversial-deepseek-and-nvidias-jetson-orin-ai-sbc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts