• หลวงพ่อทวด รุ่น 5 แชะ พิมพ์พิเศษ หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์ จ.ปัตตานี ปี2538
    หลวงพ่อทวด รุ่น 5 แชะ พิมพ์พิเศษ (เนื้อว่านเคลือบรัก นิยมสุด หายาก จัดสร้างน้อย) หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์ จ.ปัตตานี ปี2538 //พระดีพิธีใหญ่ หลวงพ่อแดง 5 แชะ ปลุกเสก พิธีพุทธาภิเษกถึง 3 ครั้ง มีประสบการณ์มาแล้วมากมาย // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี โด่งดังไปทั่วประเทศ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย **

    ** เนื้อว่านเคลือบรัก หลวงปู่ทวด รุ่น 5 แชะ ""พิมพ์พิเศษ"" พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดย พ่อท่านแดง วัดศรีมหาโพธิ์ อาจารย์นอง วัดทรายขาว พ่อท่านทอง วัดสำเภาเชย พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ พ่อท่านทอง วัดป่ากอ โดยมีพ่อท่านแดงวัดศรีมหาโพธิ์เป็นเจ้าพิธี..... ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเกจิอาจารย์ผู้เข้มขลังวิทยาคม ทั้งสิ้น ...

    ** พระเครื่องที่สร้างในปี พ.ศ. 2538 สร้างเป็นพิมพ์พิเศษ มีพิธีพุทธาภิเษกถึง 3 ครั้ง

    ครั้งที่1 ที่วัดช้างให้โดยพ่อท่านแดงจุดเทียนชัยพุทธาภิเษก มีพระอาจารย์นอง วัดทรายขาว หลวงพ่อเขียว วัดห้วยเงาะ ฯลฯ ร่วมพิธีปลุกเสกด้วย

    ครั้งที่2 พ่อท่านแดงได้ปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลา 9 วัน

    ครั้งที่ 3 มีพิธีใหญ่ที่วัดศรีมหาโพธิ์ มีพระเกจิ ทั่วทุกสารทิศมาร่วมในพิธีมากมาย **


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงพ่อทวด รุ่น 5 แชะ พิมพ์พิเศษ หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์ จ.ปัตตานี ปี2538 หลวงพ่อทวด รุ่น 5 แชะ พิมพ์พิเศษ (เนื้อว่านเคลือบรัก นิยมสุด หายาก จัดสร้างน้อย) หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์ จ.ปัตตานี ปี2538 //พระดีพิธีใหญ่ หลวงพ่อแดง 5 แชะ ปลุกเสก พิธีพุทธาภิเษกถึง 3 ครั้ง มีประสบการณ์มาแล้วมากมาย // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี โด่งดังไปทั่วประเทศ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย ** ** เนื้อว่านเคลือบรัก หลวงปู่ทวด รุ่น 5 แชะ ""พิมพ์พิเศษ"" พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดย พ่อท่านแดง วัดศรีมหาโพธิ์ อาจารย์นอง วัดทรายขาว พ่อท่านทอง วัดสำเภาเชย พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ พ่อท่านทอง วัดป่ากอ โดยมีพ่อท่านแดงวัดศรีมหาโพธิ์เป็นเจ้าพิธี..... ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเกจิอาจารย์ผู้เข้มขลังวิทยาคม ทั้งสิ้น ... ** พระเครื่องที่สร้างในปี พ.ศ. 2538 สร้างเป็นพิมพ์พิเศษ มีพิธีพุทธาภิเษกถึง 3 ครั้ง ครั้งที่1 ที่วัดช้างให้โดยพ่อท่านแดงจุดเทียนชัยพุทธาภิเษก มีพระอาจารย์นอง วัดทรายขาว หลวงพ่อเขียว วัดห้วยเงาะ ฯลฯ ร่วมพิธีปลุกเสกด้วย ครั้งที่2 พ่อท่านแดงได้ปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลา 9 วัน ครั้งที่ 3 มีพิธีใหญ่ที่วัดศรีมหาโพธิ์ มีพระเกจิ ทั่วทุกสารทิศมาร่วมในพิธีมากมาย ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยอดร้องเรียน สคบ.ร้านค้าโกงคนละครึ่งพลัสพุ่งทั่วไทย , สคบ.เผย 14 วันแรกมีร้องเรียน 66 เคส ร้านค้าขึ้นราคา–เก็บ VAT–อ้างร่วมโครงการแต่สแกนไม่ได้ รัฐเร่งจัดการขั้นเด็ดขาด
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108597
    .
    #News1live #News1 #คนละครึ่งพลัส #สคบ #ร้านค้าโกงคนละครึ่ง #ร้องเรียนผู้บริโภค #ข่าวเศรษฐกิจ #กระทรวงการคลัง #คุ้มครองผู้บริโภค #ThailandNews #newsupdate
    ยอดร้องเรียน สคบ.ร้านค้าโกงคนละครึ่งพลัสพุ่งทั่วไทย , สคบ.เผย 14 วันแรกมีร้องเรียน 66 เคส ร้านค้าขึ้นราคา–เก็บ VAT–อ้างร่วมโครงการแต่สแกนไม่ได้ รัฐเร่งจัดการขั้นเด็ดขาด . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108597 . #News1live #News1 #คนละครึ่งพลัส #สคบ #ร้านค้าโกงคนละครึ่ง #ร้องเรียนผู้บริโภค #ข่าวเศรษฐกิจ #กระทรวงการคลัง #คุ้มครองผู้บริโภค #ThailandNews #newsupdate
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องสไลด์อาหารแช่แข็ง 13 นิ้ว AUTO
    เปลี่ยนงานสไลด์ที่ยุ่งยากให้เป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว ด้วย เครื่องสไลด์อาหารแช่แข็ง (FROZEN FOOD SLICER) 13 นิ้ว AUTO จาก หจก.ย่งฮะเฮง!

    คุณสมบัติเด่นที่ทำให้งานคุณง่ายขึ้น:
    เส้นผ่าศูนย์กลางใบมีด: 32 ซม.
    กำลังการผลิตสูง: สไลด์ได้ถึง 45 ชิ้น/นาที เร็วทันใจ
    ปรับความหนา-บางได้ตามต้องการ: ตั้งแต่ 1-15 mm เพื่อความหลากหลายของเมนู
    มอเตอร์ทรงพลัง: 1,100 วัตต์ ทำงานต่อเนื่องไม่มีสะดุด

    เหมาะสำหรับ: ร้านอาหาร โรงแรม ธุรกิจแปรรูปเนื้อสัตว์ หรือผู้ที่ต้องการความรวดเร็วและมาตรฐานในการสไลด์อาหารแช่แข็ง!

    ติดต่อและเยี่ยมชมสินค้า
    มาดูเครื่องจริงได้ที่ร้าน ย. ย่งฮะเฮง! เราพร้อมให้คำแนะนำเครื่องจักรคุณภาพสำหรับธุรกิจคุณ

    เปิดบริการ:
    จันทร์-ศุกร์: 8.00 - 17.00 น.
    เสาร์: 8.00 - 16.00 น.
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/En3Rw6JCCjnFHnoT7
    สอบถาม/สั่งซื้อ
    โทร: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    แชท Messenger: m.me/yonghahheng
    LINE: @yonghahheng
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com

    #เครื่องสไลด์ #เครื่องสไลด์เนื้อ #เครื่องสไลด์อาหารแช่แข็ง #FrozenFoodSlicer #อุปกรณ์ร้านอาหาร #ย่งฮะเฮง #เครื่องครัว #เครื่องครัวมืออาชีพ #เนื้อสไลด์ #หมูกระทะ #ชาบู #บุฟเฟ่ต์ #ร้านอาหาร #อุปกรณ์ครัว #เครื่องจักรอาหาร #แปรรูปเนื้อสัตว์ #เครื่องสไลด์ออโต้ #ครัวมืออาชีพ #วัตถุดิบอาหาร #ทำอาหาร #ขายเนื้อ #อุปกรณ์ทำอาหาร #FrozenFood #Slicer #เครื่องตัดเนื้อ #FoodProcessing #เครื่องสไลด์หมู #โรงงานอาหาร
    🥩 เครื่องสไลด์อาหารแช่แข็ง 13 นิ้ว AUTO 💯 เปลี่ยนงานสไลด์ที่ยุ่งยากให้เป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว ด้วย เครื่องสไลด์อาหารแช่แข็ง (FROZEN FOOD SLICER) 13 นิ้ว AUTO จาก หจก.ย่งฮะเฮง! ✨ คุณสมบัติเด่นที่ทำให้งานคุณง่ายขึ้น: เส้นผ่าศูนย์กลางใบมีด: 32 ซม. กำลังการผลิตสูง: สไลด์ได้ถึง 45 ชิ้น/นาที เร็วทันใจ 🚀 ปรับความหนา-บางได้ตามต้องการ: ตั้งแต่ 1-15 mm เพื่อความหลากหลายของเมนู มอเตอร์ทรงพลัง: 1,100 วัตต์ ทำงานต่อเนื่องไม่มีสะดุด 📌 เหมาะสำหรับ: ร้านอาหาร โรงแรม ธุรกิจแปรรูปเนื้อสัตว์ หรือผู้ที่ต้องการความรวดเร็วและมาตรฐานในการสไลด์อาหารแช่แข็ง! 📍 ติดต่อและเยี่ยมชมสินค้า มาดูเครื่องจริงได้ที่ร้าน ย. ย่งฮะเฮง! เราพร้อมให้คำแนะนำเครื่องจักรคุณภาพสำหรับธุรกิจคุณ เปิดบริการ: จันทร์-ศุกร์: 8.00 - 17.00 น. เสาร์: 8.00 - 16.00 น. แผนที่: https://maps.app.goo.gl/En3Rw6JCCjnFHnoT7 📞 สอบถาม/สั่งซื้อ โทร: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 แชท Messenger: m.me/yonghahheng LINE: @yonghahheng เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com #เครื่องสไลด์ #เครื่องสไลด์เนื้อ #เครื่องสไลด์อาหารแช่แข็ง #FrozenFoodSlicer #อุปกรณ์ร้านอาหาร #ย่งฮะเฮง #เครื่องครัว #เครื่องครัวมืออาชีพ #เนื้อสไลด์ #หมูกระทะ #ชาบู #บุฟเฟ่ต์ #ร้านอาหาร #อุปกรณ์ครัว #เครื่องจักรอาหาร #แปรรูปเนื้อสัตว์ #เครื่องสไลด์ออโต้ #ครัวมืออาชีพ #วัตถุดิบอาหาร #ทำอาหาร #ขายเนื้อ #อุปกรณ์ทำอาหาร #FrozenFood #Slicer #เครื่องตัดเนื้อ #FoodProcessing #เครื่องสไลด์หมู #โรงงานอาหาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • รศ.ดร.อิสระ ยกระดับความร่วมมือ WFD ศึกษา บทบาทรัฐสภา-จริยธรรม AI
    https://www.thai-tai.tv/news/22365/
    .
    #ไทยไท #อิสระเสรีวัฒนวุฒิ #รัฐสภาอังกฤษ #WFD #ดิจิทัลในภาครัฐ #จริยธรรมAI

    รศ.ดร.อิสระ ยกระดับความร่วมมือ WFD ศึกษา บทบาทรัฐสภา-จริยธรรม AI https://www.thai-tai.tv/news/22365/ . #ไทยไท #อิสระเสรีวัฒนวุฒิ #รัฐสภาอังกฤษ #WFD #ดิจิทัลในภาครัฐ #จริยธรรมAI
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • FENGSHUI DAILY
    อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว
    สีเสริมดวง เสริมความเฮง
    ทิศมงคล เวลามงคล
    อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่
    วันเสาร์ที่ 15 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2568
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    FENGSHUI DAILY อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว สีเสริมดวง เสริมความเฮง ทิศมงคล เวลามงคล อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่ วันเสาร์ที่ 15 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2568 ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • โนวาเลคของ Intel: คืนชีพเวคเตอร์ 512 บิต หรือแผนเปลี่ยนกลางทาง?

    Intel ถูกจับตาอย่างหนักว่ารุ่น Nova Lake จะรองรับ AVX10.2 (เวคเตอร์แบบ “Converged” 128/256/512 บิต) และ APX (เพิ่มรีจิสเตอร์ทั่วไป) ตามเอกสาร ISA และการอ้างอิงของชุมชนนักพัฒนา ซึ่งถ้าจริง จะเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่ของไลน์ลูกค้า (เดสก์ท็อป/โน้ตบุ๊ก) ให้มีประสิทธิภาพเวคเตอร์และงาน AI/สื่อ ที่เคยจำกัดใน Xeon กลับมาอยู่บนเครื่องทั่วไปอีกครั้ง.

    อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลจากแพตช์คอมไพเลอร์ GCC/LLVM และเอกสารฟีเจอร์สถาปัตยกรรมฉบับล่าสุดบางส่วนที่ “ไม่เห็น” การประกาศรองรับ AVX10/APX สำหรับ Nova Lake ชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่ฟีเจอร์จะถูกจำกัดหรือเลื่อน แม้จะมีหลักฐานจาก NASM ที่ทำให้ความหวังกลับมาอีกครั้ง จึงเกิดภาพ “ข่าวดี-ข่าวลบ” ปะทะกันในระยะเตรียมเปิดตัว.

    หาก Nova Lake รองรับ AVX10/APX จริง พร้อมขยาย 512 บิตสู่ไลน์ลูกค้า จะเป็นครั้งแรกที่ Intel และ AMD (Zen 5 รองรับ AVX-512 เต็มจริง) ยืนบนเวทีเวคเตอร์ 512 บิตพร้อมกันในตลาดผู้ใช้ทั่วไป ลดความแตกแยกของโปรแกรมมิงโมเดล และยกระดับงานวิทยาศาสตร์ สื่อ และ AI inference บนพีซีส่วนบุคคลอย่างมีนัยสำคัญ.

    ข่าวลือด้านฮาร์ดแวร์ยังพูดถึงสเกลคอร์ที่ทะเยอทะยาน (เช่น สูงสุด 52 คอร์แบบผสม P/E/LPE) เพื่อบาลานซ์ซิงเกิลเธรดกับงานขนานโดยคุมพลังงาน แม้รายละเอียดยังไม่เป็นทางการ แต่หากจับคู่กับ AVX10/APX ได้จริง จะเป็นแพลตฟอร์มที่เปลี่ยนเกมทั้งงานครีเอทีฟ เกม และซอฟต์แวร์ขับเคลื่อน AI บนไคลเอนต์.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    สัญญาณรองรับ: เอกสาร ISA และชุมชนเครื่องมือพัฒนาเผยเบาะแส AVX10.2/APX บน Nova Lake
    ผลเชิงปฏิบัติ: เวคเตอร์ 512 บิตและรีจิสเตอร์เพิ่ม ช่วยทั้งสื่อ วิทย์ และ AI บนเดสก์ท็อป/โน้ตบุ๊ก

    ประโยชน์ผู้ใช้: โมเดลโปรแกรมที่ “คงที่” มากขึ้น ระหว่างลูกค้ากับเซิร์ฟเวอร์
    การแข่งขัน: สอดรับกับ AMD Zen 5 ที่รองรับ 512 บิตเต็มในไลน์ลูกค้าแล้ว

    ฮาร์ดแวร์ลือ: โครงสร้างไฮบริดคอร์จำนวนมากเพื่อคุมพลังงาน-ขยายมัลติเธรด
    ผลลัพธ์: ยกระดับเกม งานครีเอทีฟ และซอฟต์แวร์ AI บนไคลเอนต์ถ้าฟีเจอร์มาเต็มจริง

    คำเตือนข้อมูล: แพตช์ GCC/LLVM และบางเอกสารล่าสุด “ไม่กล่าวถึง” AVX10/APX สำหรับ Nova Lake
    ข้อควรจำ: อาจเปลี่ยนแผนกลางทาง หรือจำกัดตาม SKU—อย่าตัดสินใจซื้อจากข่าวลือเพียงอย่างเดียว

    ความเสี่ยงเฟิร์มแวร์/OS: หาก P/E cores รองรับไม่เท่ากัน อาจเกิดข้อจำกัดการจัดคิวงาน
    แนวทาง: รอการยืนยันทางการและรายละเอียดการแมปคอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้งานผิดคอร์แล้วเกิด error

    https://wccftech.com/intel-confirms-avx10-support-for-nova-lake-including-both-desktop-and-mobile-lineups/
    🔰 โนวาเลคของ Intel: คืนชีพเวคเตอร์ 512 บิต หรือแผนเปลี่ยนกลางทาง? 🧠 Intel ถูกจับตาอย่างหนักว่ารุ่น Nova Lake จะรองรับ AVX10.2 (เวคเตอร์แบบ “Converged” 128/256/512 บิต) และ APX (เพิ่มรีจิสเตอร์ทั่วไป) ตามเอกสาร ISA และการอ้างอิงของชุมชนนักพัฒนา ซึ่งถ้าจริง จะเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่ของไลน์ลูกค้า (เดสก์ท็อป/โน้ตบุ๊ก) ให้มีประสิทธิภาพเวคเตอร์และงาน AI/สื่อ ที่เคยจำกัดใน Xeon กลับมาอยู่บนเครื่องทั่วไปอีกครั้ง. อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลจากแพตช์คอมไพเลอร์ GCC/LLVM และเอกสารฟีเจอร์สถาปัตยกรรมฉบับล่าสุดบางส่วนที่ “ไม่เห็น” การประกาศรองรับ AVX10/APX สำหรับ Nova Lake ชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่ฟีเจอร์จะถูกจำกัดหรือเลื่อน แม้จะมีหลักฐานจาก NASM ที่ทำให้ความหวังกลับมาอีกครั้ง จึงเกิดภาพ “ข่าวดี-ข่าวลบ” ปะทะกันในระยะเตรียมเปิดตัว. หาก Nova Lake รองรับ AVX10/APX จริง พร้อมขยาย 512 บิตสู่ไลน์ลูกค้า จะเป็นครั้งแรกที่ Intel และ AMD (Zen 5 รองรับ AVX-512 เต็มจริง) ยืนบนเวทีเวคเตอร์ 512 บิตพร้อมกันในตลาดผู้ใช้ทั่วไป ลดความแตกแยกของโปรแกรมมิงโมเดล และยกระดับงานวิทยาศาสตร์ สื่อ และ AI inference บนพีซีส่วนบุคคลอย่างมีนัยสำคัญ. ข่าวลือด้านฮาร์ดแวร์ยังพูดถึงสเกลคอร์ที่ทะเยอทะยาน (เช่น สูงสุด 52 คอร์แบบผสม P/E/LPE) เพื่อบาลานซ์ซิงเกิลเธรดกับงานขนานโดยคุมพลังงาน แม้รายละเอียดยังไม่เป็นทางการ แต่หากจับคู่กับ AVX10/APX ได้จริง จะเป็นแพลตฟอร์มที่เปลี่ยนเกมทั้งงานครีเอทีฟ เกม และซอฟต์แวร์ขับเคลื่อน AI บนไคลเอนต์. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ สัญญาณรองรับ: เอกสาร ISA และชุมชนเครื่องมือพัฒนาเผยเบาะแส AVX10.2/APX บน Nova Lake ➡️ ผลเชิงปฏิบัติ: เวคเตอร์ 512 บิตและรีจิสเตอร์เพิ่ม ช่วยทั้งสื่อ วิทย์ และ AI บนเดสก์ท็อป/โน้ตบุ๊ก ✅ ประโยชน์ผู้ใช้: โมเดลโปรแกรมที่ “คงที่” มากขึ้น ระหว่างลูกค้ากับเซิร์ฟเวอร์ ➡️ การแข่งขัน: สอดรับกับ AMD Zen 5 ที่รองรับ 512 บิตเต็มในไลน์ลูกค้าแล้ว ✅ ฮาร์ดแวร์ลือ: โครงสร้างไฮบริดคอร์จำนวนมากเพื่อคุมพลังงาน-ขยายมัลติเธรด ➡️ ผลลัพธ์: ยกระดับเกม งานครีเอทีฟ และซอฟต์แวร์ AI บนไคลเอนต์ถ้าฟีเจอร์มาเต็มจริง ‼️ คำเตือนข้อมูล: แพตช์ GCC/LLVM และบางเอกสารล่าสุด “ไม่กล่าวถึง” AVX10/APX สำหรับ Nova Lake ⛔ ข้อควรจำ: อาจเปลี่ยนแผนกลางทาง หรือจำกัดตาม SKU—อย่าตัดสินใจซื้อจากข่าวลือเพียงอย่างเดียว ‼️ ความเสี่ยงเฟิร์มแวร์/OS: หาก P/E cores รองรับไม่เท่ากัน อาจเกิดข้อจำกัดการจัดคิวงาน ⛔ แนวทาง: รอการยืนยันทางการและรายละเอียดการแมปคอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้งานผิดคอร์แล้วเกิด error https://wccftech.com/intel-confirms-avx10-support-for-nova-lake-including-both-desktop-and-mobile-lineups/
    WCCFTECH.COM
    Intel Confirms AVX10 Support For Nova Lake, Including Both Desktop And Mobile Lineups
    According to the official ISA documents, the Intel Nova Lake CPUs will reportedly support the AVX10 vector and APX performance extensions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวฮาร์ดแวร์เดือด: เมนบอร์ด X870 ทำ CPU พองไหม้

    ASRock X870 Riptide กลายเป็นกระแสร้อน เมื่อมีผู้ใช้รายงานภาพ Ryzen 7 7800X3D พองบวมและซ็อกเก็ตไหม้ โดยใช้ BIOS เวอร์ชันเก่ากว่าหนึ่งปี (3.06) ซึ่งไม่มีแพตช์ลดความเสี่ยง ชี้ให้เห็นว่าการไม่อัปเดตเฟิร์มแวร์อาจเพิ่มโอกาสเกิดเหตุรุนแรง แม้อัปเดตใหม่จะไม่ได้การันตีความปลอดภัย 100% แต่ทั้ง AMD และ ASRock ต่างแนะนำให้ใช้ BIOS ล่าสุด (เช่น 3.40–3.50) เพื่อปรับเสถียรภาพและตั้งค่า PBO ให้ปลอดภัยขึ้น.

    เคสคล้ายกันเคยเกิดกับ Ryzen 9800X3D บนเมนบอร์ด ASRock X870E ที่ไหม้ทั้ง CPU และซ็อกเก็ตในสภาพค่าโรงงาน เปิดแค่ EXPO ซึ่งสร้างข้อสงสัยถึงสาเหตุจริง บางรายอัปเดต BIOS ใหม่ (เช่น 3.18) แล้วไม่มีปัญหา อย่างไรก็ดี ยังมีเสียงเตือนว่าเป็นปัญหาเฉพาะบางล็อตหรือบางคอนฟิก และชุมชนยังถกเถียงว่ากรณีเดี่ยวไม่ควรตัดสินทั้งแพลตฟอร์ม.

    อีกด้านหนึ่ง มีผู้ใช้รายงานอาการ “ถูกล็อกกำลัง” ที่ 75W บน ASRock หลายรุ่น ทำให้เฟรมเรตตก ทั้งที่ไม่ได้เปิด Eco mode หรือจำกัด TDP สาเหตุถูกตั้งข้อสังเกตตั้งแต่การต่อ EPS 4-pin เดียว ไปจนถึงบั๊กเฟิร์มแวร์ที่กด PBO/แพลตฟอร์มสายจ่ายพลังงาน แม้แก้ด้วยอัปเดต BIOS และเคลียร์ CMOS ก็ยังติดเพดาน 75W ในบางเครื่อง แสดงให้เห็นว่าปัญหาอาจหลากปัจจัยและเฉพาะรุ่น.

    ข่าวดีคือ ASRock (เกาหลี) ออก BIOS 3.25 (AGESA 1.2.0.3d) ที่ระบุชัดว่า “รับผิดชอบ” กรณีเกิดความเสียหายจากปัญหานี้ พร้อมปรับปรุงเสถียรภาพและ PBO สำหรับ Ryzen 9000 แม้มีข่าวว่าประสิทธิภาพเกมและการกินไฟอาจลดลงเล็กน้อย แต่เป้าหมายคือความปลอดภัย และสัญญาว่าจะช่วยดูแล RMA ทั้ง CPU และเมนบอร์ดที่จัดจำหน่ายผ่านผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ภาพรวมเหตุการณ์: ผู้ใช้รายงาน 7800X3D พองและซ็อกเก็ตไหม้บน ASRock X870 Riptide
    เฟิร์มแวร์เก่า: ใช้ BIOS 3.06 ไม่มีแพตช์ลดความเสี่ยง ทำให้โอกาสเกิดเหตุสูงขึ้น

    เคส 9800X3D: เกิดความเสียหายภายใต้ค่าโรงงาน เปิดเพียง EXPO
    บทเรียน: บางรายอัปเดต BIOS ใหม่แล้วทำงานปกติ แต่ยังถกเถียงสาเหตุที่แท้จริง

    อาการ 75W cap: หลายเครื่องบน ASRock ติดเพดาน “Package Power” ที่ 75W
    ข้อสังเกต: อาจเกี่ยวกับการต่อ EPS หรือบั๊กที่กด PBO/นโยบายพลังงานใน BIOS

    การแก้ไข: ASRock ปล่อย BIOS 3.25 ปรับ PBO และประกาศรับผิดชอบ RMA
    ผลข้างเคียง: ประสิทธิภาพเกม/การกินไฟอาจลดลงเล็กน้อย เพื่อแลกความปลอดภัย

    คำเตือนสำคัญ: ไม่อัปเดต BIOS เสี่ยงต่อการไหม้และความเสียหายถาวร
    หลีกเลี่ยง: ใช้โปรไฟล์ OC/PBO รุนแรงโดยไม่ตรวจเสถียรภาพและอุณหภูมิ

    การต่อไฟผิด: ต่อ EPS 4-pin เดียวอาจทำให้ระบบกดกำลังและไม่เสถียร
    ตรวจสอบ: สาย EPS 8-pin/8+4-pin ต่อครบแน่นทุกหัว ไม่ใช้โหมด Eco ของ PSU โดยไม่ได้ตั้งใจ

    การตั้งค่าแรม: เปิด EXPO/XMP โดยไม่ผ่าน stress test อาจเพิ่มความเสี่ยง
    แนวทาง: ทดสอบเสถียรภาพ (TM5/HCI/OCCT) และเฝ้าค่ากระแส-อุณหภูมิ VRM/SoC เป็นระยะ

    https://wccftech.com/asrock-x870-riptide-pops-ryzen-7800x3d-and-burns-socket-horribly/
    🔥 ข่าวฮาร์ดแวร์เดือด: เมนบอร์ด X870 ทำ CPU พองไหม้ 🔥 ASRock X870 Riptide กลายเป็นกระแสร้อน เมื่อมีผู้ใช้รายงานภาพ Ryzen 7 7800X3D พองบวมและซ็อกเก็ตไหม้ โดยใช้ BIOS เวอร์ชันเก่ากว่าหนึ่งปี (3.06) ซึ่งไม่มีแพตช์ลดความเสี่ยง ชี้ให้เห็นว่าการไม่อัปเดตเฟิร์มแวร์อาจเพิ่มโอกาสเกิดเหตุรุนแรง แม้อัปเดตใหม่จะไม่ได้การันตีความปลอดภัย 100% แต่ทั้ง AMD และ ASRock ต่างแนะนำให้ใช้ BIOS ล่าสุด (เช่น 3.40–3.50) เพื่อปรับเสถียรภาพและตั้งค่า PBO ให้ปลอดภัยขึ้น. เคสคล้ายกันเคยเกิดกับ Ryzen 9800X3D บนเมนบอร์ด ASRock X870E ที่ไหม้ทั้ง CPU และซ็อกเก็ตในสภาพค่าโรงงาน เปิดแค่ EXPO ซึ่งสร้างข้อสงสัยถึงสาเหตุจริง บางรายอัปเดต BIOS ใหม่ (เช่น 3.18) แล้วไม่มีปัญหา อย่างไรก็ดี ยังมีเสียงเตือนว่าเป็นปัญหาเฉพาะบางล็อตหรือบางคอนฟิก และชุมชนยังถกเถียงว่ากรณีเดี่ยวไม่ควรตัดสินทั้งแพลตฟอร์ม. อีกด้านหนึ่ง มีผู้ใช้รายงานอาการ “ถูกล็อกกำลัง” ที่ 75W บน ASRock หลายรุ่น ทำให้เฟรมเรตตก ทั้งที่ไม่ได้เปิด Eco mode หรือจำกัด TDP สาเหตุถูกตั้งข้อสังเกตตั้งแต่การต่อ EPS 4-pin เดียว ไปจนถึงบั๊กเฟิร์มแวร์ที่กด PBO/แพลตฟอร์มสายจ่ายพลังงาน แม้แก้ด้วยอัปเดต BIOS และเคลียร์ CMOS ก็ยังติดเพดาน 75W ในบางเครื่อง แสดงให้เห็นว่าปัญหาอาจหลากปัจจัยและเฉพาะรุ่น. ข่าวดีคือ ASRock (เกาหลี) ออก BIOS 3.25 (AGESA 1.2.0.3d) ที่ระบุชัดว่า “รับผิดชอบ” กรณีเกิดความเสียหายจากปัญหานี้ พร้อมปรับปรุงเสถียรภาพและ PBO สำหรับ Ryzen 9000 แม้มีข่าวว่าประสิทธิภาพเกมและการกินไฟอาจลดลงเล็กน้อย แต่เป้าหมายคือความปลอดภัย และสัญญาว่าจะช่วยดูแล RMA ทั้ง CPU และเมนบอร์ดที่จัดจำหน่ายผ่านผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ภาพรวมเหตุการณ์: ผู้ใช้รายงาน 7800X3D พองและซ็อกเก็ตไหม้บน ASRock X870 Riptide ➡️ เฟิร์มแวร์เก่า: ใช้ BIOS 3.06 ไม่มีแพตช์ลดความเสี่ยง ทำให้โอกาสเกิดเหตุสูงขึ้น ✅ เคส 9800X3D: เกิดความเสียหายภายใต้ค่าโรงงาน เปิดเพียง EXPO ➡️ บทเรียน: บางรายอัปเดต BIOS ใหม่แล้วทำงานปกติ แต่ยังถกเถียงสาเหตุที่แท้จริง ✅ อาการ 75W cap: หลายเครื่องบน ASRock ติดเพดาน “Package Power” ที่ 75W ➡️ ข้อสังเกต: อาจเกี่ยวกับการต่อ EPS หรือบั๊กที่กด PBO/นโยบายพลังงานใน BIOS ✅ การแก้ไข: ASRock ปล่อย BIOS 3.25 ปรับ PBO และประกาศรับผิดชอบ RMA ➡️ ผลข้างเคียง: ประสิทธิภาพเกม/การกินไฟอาจลดลงเล็กน้อย เพื่อแลกความปลอดภัย ‼️ คำเตือนสำคัญ: ไม่อัปเดต BIOS เสี่ยงต่อการไหม้และความเสียหายถาวร ⛔ หลีกเลี่ยง: ใช้โปรไฟล์ OC/PBO รุนแรงโดยไม่ตรวจเสถียรภาพและอุณหภูมิ ‼️ การต่อไฟผิด: ต่อ EPS 4-pin เดียวอาจทำให้ระบบกดกำลังและไม่เสถียร ⛔ ตรวจสอบ: สาย EPS 8-pin/8+4-pin ต่อครบแน่นทุกหัว ไม่ใช้โหมด Eco ของ PSU โดยไม่ได้ตั้งใจ ‼️ การตั้งค่าแรม: เปิด EXPO/XMP โดยไม่ผ่าน stress test อาจเพิ่มความเสี่ยง ⛔ แนวทาง: ทดสอบเสถียรภาพ (TM5/HCI/OCCT) และเฝ้าค่ากระแส-อุณหภูมิ VRM/SoC เป็นระยะ https://wccftech.com/asrock-x870-riptide-pops-ryzen-7800x3d-and-burns-socket-horribly/
    WCCFTECH.COM
    ASRock X870 Riptide Pops Ryzen 7800X3D And Burns Socket Horribly
    Another burnt Ryzen 7000 CPU surfaces: The user witnessed a horribly damaged Ryzen 7 7800X3D on ASRock X870 Riptide.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD Zen 6 “EPYC Venice” – ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของโลกเซิร์ฟเวอร์

    AMD ได้เปิดเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับซีพียูรุ่นถัดไป Zen 6 ภายใต้ชื่อรหัส “EPYC Venice” ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2026 โดยชูจุดเด่นคือ ประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพิ่มขึ้นกว่า 70% เมื่อเทียบกับรุ่น Zen 5 และยังเพิ่มความหนาแน่นของเธรดขึ้นอีก 30% ทำให้รองรับงานในศูนย์ข้อมูลและ AI ได้ดียิ่งขึ้น ซีพียูนี้จะใช้เทคโนโลยีการผลิต 2nm จาก TSMC ที่เปลี่ยนจาก FinFET ไปสู่ Nanosheet (GAA) ซึ่งช่วยให้ได้ทั้งความเร็วสูงขึ้นและการใช้พลังงานที่ลดลง

    นอกจากนี้ EPYC Venice จะมีจำนวนคอร์สูงสุดถึง 256 คอร์ และ 512 เธรด ซึ่งถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่จากรุ่นก่อนที่มี 192 คอร์เท่านั้น การปรับปรุงไม่ได้มาจากจำนวนคอร์เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการเพิ่ม IPC (Instructions per Cycle) และสถาปัตยกรรมใหม่ที่ช่วยให้การประมวลผลต่อคอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังรองรับหน่วยความจำ DDR5 รุ่นใหม่และแบนด์วิดท์ที่สูงขึ้น ซึ่งเหมาะกับงานจำลองทางวิศวกรรมและการประมวลผล AI ขนาดใหญ่

    สิ่งที่น่าสนใจคือ AMD ไม่ได้หยุดแค่ซีพียู แต่ยังเตรียมเปิดตัว Instinct MI400 AI Accelerator ที่มาพร้อมหน่วยความจำ HBM4 ขนาด 432GB และแบนด์วิดท์สูงถึง 19.6TB/s เพื่อรองรับการฝึกและการประมวลผลโมเดล AI ขนาดมหึมา ทำให้ AMD มีแนวโน้มจะขยายส่วนแบ่งตลาดในศูนย์ข้อมูลได้มากกว่า 50%

    สรุป
    จุดเด่นของ Zen 6
    ประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพิ่มขึ้นกว่า 70%
    ความหนาแน่นของเธรดสูงขึ้น 30%
    ใช้เทคโนโลยีการผลิต 2nm จาก TSMC

    ข้อมูลเพิ่มเติม
    สูงสุด 256 คอร์ / 512 เธรด
    รองรับ DDR5 และ PCIe 6.0

    คำเตือน
    การใช้พลังงานอาจสูงขึ้นในบางรุ่น (TDP สูงถึง 600W)
    ซอฟต์แวร์บางประเภทอาจยังไม่รองรับจำนวนคอร์มหาศาล

    https://wccftech.com/amd-next-gen-zen-6-cpus-over-70-percent-performance-efficiency-improvement/
    🖥️ AMD Zen 6 “EPYC Venice” – ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของโลกเซิร์ฟเวอร์ AMD ได้เปิดเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับซีพียูรุ่นถัดไป Zen 6 ภายใต้ชื่อรหัส “EPYC Venice” ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2026 โดยชูจุดเด่นคือ ประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพิ่มขึ้นกว่า 70% เมื่อเทียบกับรุ่น Zen 5 และยังเพิ่มความหนาแน่นของเธรดขึ้นอีก 30% ทำให้รองรับงานในศูนย์ข้อมูลและ AI ได้ดียิ่งขึ้น ซีพียูนี้จะใช้เทคโนโลยีการผลิต 2nm จาก TSMC ที่เปลี่ยนจาก FinFET ไปสู่ Nanosheet (GAA) ซึ่งช่วยให้ได้ทั้งความเร็วสูงขึ้นและการใช้พลังงานที่ลดลง นอกจากนี้ EPYC Venice จะมีจำนวนคอร์สูงสุดถึง 256 คอร์ และ 512 เธรด ซึ่งถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่จากรุ่นก่อนที่มี 192 คอร์เท่านั้น การปรับปรุงไม่ได้มาจากจำนวนคอร์เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการเพิ่ม IPC (Instructions per Cycle) และสถาปัตยกรรมใหม่ที่ช่วยให้การประมวลผลต่อคอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังรองรับหน่วยความจำ DDR5 รุ่นใหม่และแบนด์วิดท์ที่สูงขึ้น ซึ่งเหมาะกับงานจำลองทางวิศวกรรมและการประมวลผล AI ขนาดใหญ่ สิ่งที่น่าสนใจคือ AMD ไม่ได้หยุดแค่ซีพียู แต่ยังเตรียมเปิดตัว Instinct MI400 AI Accelerator ที่มาพร้อมหน่วยความจำ HBM4 ขนาด 432GB และแบนด์วิดท์สูงถึง 19.6TB/s เพื่อรองรับการฝึกและการประมวลผลโมเดล AI ขนาดมหึมา ทำให้ AMD มีแนวโน้มจะขยายส่วนแบ่งตลาดในศูนย์ข้อมูลได้มากกว่า 50% 📌 สรุป ✅ จุดเด่นของ Zen 6 ➡️ ประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพิ่มขึ้นกว่า 70% ➡️ ความหนาแน่นของเธรดสูงขึ้น 30% ➡️ ใช้เทคโนโลยีการผลิต 2nm จาก TSMC ✅ ข้อมูลเพิ่มเติม ➡️ สูงสุด 256 คอร์ / 512 เธรด ➡️ รองรับ DDR5 และ PCIe 6.0 ‼️ คำเตือน ⛔ การใช้พลังงานอาจสูงขึ้นในบางรุ่น (TDP สูงถึง 600W) ⛔ ซอฟต์แวร์บางประเภทอาจยังไม่รองรับจำนวนคอร์มหาศาล https://wccftech.com/amd-next-gen-zen-6-cpus-over-70-percent-performance-efficiency-improvement/
    WCCFTECH.COM
    AMD Promises Big Gains With Next-Gen Zen 6 CPUs: Over 70% Performance & Efficiency Uplift
    AMD's Zen 6 CPUs will deliver over 70% improvement in performance and efficiency versus the existing Zen 5 lineups.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sony เปิดตัวจอมอนิเตอร์ PlayStation 240 Hz

    Sony ประกาศเปิดตัวจอมอนิเตอร์ PlayStation รุ่นใหม่ ขนาด 27 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560x1440) พร้อมรีเฟรชเรตสูงสุดถึง 240 Hz แม้ว่าเครื่อง PS5 จะรองรับเพียง 120 Hz แต่ Sony อาจเตรียมไว้สำหรับ PlayStation รุ่นถัดไปที่คาดว่าจะรองรับ 240 Hz เต็มรูปแบบ

    จอนี้ใช้พาเนล IPS LCD ซึ่งคุณภาพอาจด้อยกว่า OLED หรือ Mini-LED แต่ก็ช่วยลดต้นทุน ทำให้ราคาน่าจะอยู่ในระดับแข่งขันได้ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ VRR (Variable Refresh Rate) เพื่อให้ภาพลื่นไหล และมีอุปกรณ์เสริมเป็น DualSense charging hook สำหรับชาร์จจอยโดยตรงใต้จอ

    Sony ยังไม่ประกาศราคา แต่คาดว่าจะอยู่ราว ๆ 500 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต้องแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Acer และ Asus ที่มีจอรีเฟรชเรตสูงในราคาถูกกว่า จุดเด่นของ Sony คือแบรนด์ PlayStation ที่มีฐานแฟนเกมจำนวนมาก

    สรุปประเด็น
    Sony เปิดตัวจอมอนิเตอร์ PlayStation 27 นิ้ว QHD
    รีเฟรชเรตสูงสุด 240 Hz

    มีฟีเจอร์ VRR และอุปกรณ์เสริมชาร์จจอย DualSense
    ติดตั้งใต้จอแบบ retractable

    PS5 รองรับเพียง 120 Hz
    ต้องรอ PlayStation รุ่นใหม่เพื่อใช้เต็มศักยภาพ

    ราคายังไม่ประกาศ แต่คาดสูงกว่าแบรนด์คู่แข่ง
    อาจทำให้ผู้ใช้ลังเลหากเทียบกับจอเกมมิ่งอื่น

    https://www.tomshardware.com/monitors/gaming-monitors/sony-announces-240-hz-playstation-gaming-monitor-qhd-monitor-features-built-in-dualsense-charging-hook-and-vrr-support-for-ps5
    🎮 Sony เปิดตัวจอมอนิเตอร์ PlayStation 240 Hz Sony ประกาศเปิดตัวจอมอนิเตอร์ PlayStation รุ่นใหม่ ขนาด 27 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560x1440) พร้อมรีเฟรชเรตสูงสุดถึง 240 Hz แม้ว่าเครื่อง PS5 จะรองรับเพียง 120 Hz แต่ Sony อาจเตรียมไว้สำหรับ PlayStation รุ่นถัดไปที่คาดว่าจะรองรับ 240 Hz เต็มรูปแบบ จอนี้ใช้พาเนล IPS LCD ซึ่งคุณภาพอาจด้อยกว่า OLED หรือ Mini-LED แต่ก็ช่วยลดต้นทุน ทำให้ราคาน่าจะอยู่ในระดับแข่งขันได้ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ VRR (Variable Refresh Rate) เพื่อให้ภาพลื่นไหล และมีอุปกรณ์เสริมเป็น DualSense charging hook สำหรับชาร์จจอยโดยตรงใต้จอ Sony ยังไม่ประกาศราคา แต่คาดว่าจะอยู่ราว ๆ 500 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต้องแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Acer และ Asus ที่มีจอรีเฟรชเรตสูงในราคาถูกกว่า จุดเด่นของ Sony คือแบรนด์ PlayStation ที่มีฐานแฟนเกมจำนวนมาก 📌 สรุปประเด็น ✅ Sony เปิดตัวจอมอนิเตอร์ PlayStation 27 นิ้ว QHD ➡️ รีเฟรชเรตสูงสุด 240 Hz ✅ มีฟีเจอร์ VRR และอุปกรณ์เสริมชาร์จจอย DualSense ➡️ ติดตั้งใต้จอแบบ retractable ‼️ PS5 รองรับเพียง 120 Hz ⛔ ต้องรอ PlayStation รุ่นใหม่เพื่อใช้เต็มศักยภาพ ‼️ ราคายังไม่ประกาศ แต่คาดสูงกว่าแบรนด์คู่แข่ง ⛔ อาจทำให้ผู้ใช้ลังเลหากเทียบกับจอเกมมิ่งอื่น https://www.tomshardware.com/monitors/gaming-monitors/sony-announces-240-hz-playstation-gaming-monitor-qhd-monitor-features-built-in-dualsense-charging-hook-and-vrr-support-for-ps5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI และศูนย์ข้อมูล AI ขนาดมหึมา

    OpenAI มีแผนสร้างศูนย์ข้อมูลที่ใช้พลังงานมหาศาลถึง 250 กิกะวัตต์ ภายในปี 2033 ซึ่งเทียบเท่ากับการใช้ไฟฟ้าของทั้งประเทศอินเดีย! นอกจากนี้ยังต้องใช้ GPU จำนวนมหาศาลกว่า 30 ล้านตัวต่อปีเพื่อให้ระบบทำงานต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง

    สิ่งที่น่ากังวลคือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะการใช้พลังงานระดับนี้จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าสองเท่าของ ExxonMobil บริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก และยังต้องใช้น้ำจำนวนมหาศาลเพื่อระบายความร้อนของเครื่องจักร ซึ่งอาจกระทบต่อทรัพยากรน้ำในหลายภูมิภาค

    นอกจาก OpenAI แล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น xAI ของ Elon Musk ก็มีแผนสร้างศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่เช่นกัน ทำให้เกิดการแข่งขันที่อาจบีบทรัพยากรโลก ทั้งไฟฟ้า น้ำ และวัตถุดิบหายากที่ใช้ผลิตชิปขั้นสูง

    สรุปประเด็น
    OpenAI ตั้งเป้าสร้างศูนย์ข้อมูล 250 GW ภายในปี 2033
    เทียบเท่าการใช้ไฟฟ้าของประเทศอินเดีย

    ต้องใช้ GPU กว่า 30 ล้านตัวต่อปี
    เพื่อรองรับการทำงานต่อเนื่อง 24/7

    ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการปล่อย CO₂ มหาศาล
    มากกว่าสองเท่าของ ExxonMobil

    การใช้น้ำจำนวนมหาศาลเพื่อระบายความร้อน
    อาจกระทบต่อชุมชนและทรัพยากรน้ำโลก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/openais-colossal-ai-data-center-targets-would-consume-as-much-electricity-as-entire-nation-of-india-250gw-target-would-require-30-million-gpus-annually-to-ensure-continuous-operation-emit-twice-as-much-carbon-dioxide-as-exxonmobil
    ⚡ OpenAI และศูนย์ข้อมูล AI ขนาดมหึมา OpenAI มีแผนสร้างศูนย์ข้อมูลที่ใช้พลังงานมหาศาลถึง 250 กิกะวัตต์ ภายในปี 2033 ซึ่งเทียบเท่ากับการใช้ไฟฟ้าของทั้งประเทศอินเดีย! นอกจากนี้ยังต้องใช้ GPU จำนวนมหาศาลกว่า 30 ล้านตัวต่อปีเพื่อให้ระบบทำงานต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง สิ่งที่น่ากังวลคือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะการใช้พลังงานระดับนี้จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าสองเท่าของ ExxonMobil บริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก และยังต้องใช้น้ำจำนวนมหาศาลเพื่อระบายความร้อนของเครื่องจักร ซึ่งอาจกระทบต่อทรัพยากรน้ำในหลายภูมิภาค นอกจาก OpenAI แล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น xAI ของ Elon Musk ก็มีแผนสร้างศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่เช่นกัน ทำให้เกิดการแข่งขันที่อาจบีบทรัพยากรโลก ทั้งไฟฟ้า น้ำ และวัตถุดิบหายากที่ใช้ผลิตชิปขั้นสูง 📌 สรุปประเด็น ✅ OpenAI ตั้งเป้าสร้างศูนย์ข้อมูล 250 GW ภายในปี 2033 ➡️ เทียบเท่าการใช้ไฟฟ้าของประเทศอินเดีย ✅ ต้องใช้ GPU กว่า 30 ล้านตัวต่อปี ➡️ เพื่อรองรับการทำงานต่อเนื่อง 24/7 ‼️ ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการปล่อย CO₂ มหาศาล ⛔ มากกว่าสองเท่าของ ExxonMobil ‼️ การใช้น้ำจำนวนมหาศาลเพื่อระบายความร้อน ⛔ อาจกระทบต่อชุมชนและทรัพยากรน้ำโลก https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/openais-colossal-ai-data-center-targets-would-consume-as-much-electricity-as-entire-nation-of-india-250gw-target-would-require-30-million-gpus-annually-to-ensure-continuous-operation-emit-twice-as-much-carbon-dioxide-as-exxonmobil
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิกฤติ RAM – ผู้ผลิตไม่เพิ่มกำลังผลิตแม้ขาดตลาด

    ตลาดหน่วยความจำกำลังเผชิญวิกฤติรุนแรง ราคาของ DRAM พุ่งขึ้นกว่า 170% ภายในปีเดียว เนื่องจากความต้องการจาก AI Data Center ที่มหาศาล ผู้ผลิตรายใหญ่เช่น Samsung, SK Hynix และ Micron เลือกลงทุนไปที่ HBM (High Bandwidth Memory) ซึ่งใช้ใน AI Accelerator มากกว่าการผลิต RAM สำหรับผู้ใช้ทั่วไป

    รายงานล่าสุดเผยว่า Hyperscaler ในสหรัฐฯ และจีนได้รับ RAM เพียง 70% ของคำสั่งซื้อ แม้ยอมจ่ายแพงขึ้นถึง 50% ขณะเดียวกันผู้ใช้ทั่วไปก็เริ่มได้รับผลกระทบ ราคาของ DDR5 สำหรับ PC พุ่งขึ้น 20–40% และมีแนวโน้มจะสูงต่อเนื่องไปจนถึงปี 2027

    นักวิเคราะห์เตือนว่านี่อาจเป็น “ทศวรรษแห่งการขาดแคลนหน่วยความจำ” เพราะโครงการใหญ่เช่น OpenAI Stargate ใช้ DRAM ถึง 40% ของกำลังผลิตโลก ทำให้แม้จะสร้างโรงงานใหม่ก็ยังไม่ทันต่อความต้องการ

    สรุป
    ราคาของ DRAM พุ่งขึ้นกว่า 170%
    สูงกว่าการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำในปีเดียว

    Hyperscaler ได้รับ RAM เพียง 70% ของคำสั่งซื้อ
    แม้ยอมจ่ายแพงขึ้นถึง 50%

    ผู้ผลิตหันไปลงทุนใน HBM สำหรับ AI
    ทิ้งตลาด RAM ผู้ใช้ทั่วไปให้ขาดแคลน

    ผู้ใช้ทั่วไปจะเจอราคาคอมพิวเตอร์สูงขึ้นต่อเนื่อง
    การสร้าง PC หรืออัปเกรดจะมีต้นทุนสูงมาก

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/memory-makers-have-no-plans-to-increase-production-despite-crushing-ram-shortages-modest-2026-increase-predicted-as-dram-makers-hedge-their-ai-bets
    💾 วิกฤติ RAM – ผู้ผลิตไม่เพิ่มกำลังผลิตแม้ขาดตลาด ตลาดหน่วยความจำกำลังเผชิญวิกฤติรุนแรง ราคาของ DRAM พุ่งขึ้นกว่า 170% ภายในปีเดียว เนื่องจากความต้องการจาก AI Data Center ที่มหาศาล ผู้ผลิตรายใหญ่เช่น Samsung, SK Hynix และ Micron เลือกลงทุนไปที่ HBM (High Bandwidth Memory) ซึ่งใช้ใน AI Accelerator มากกว่าการผลิต RAM สำหรับผู้ใช้ทั่วไป รายงานล่าสุดเผยว่า Hyperscaler ในสหรัฐฯ และจีนได้รับ RAM เพียง 70% ของคำสั่งซื้อ แม้ยอมจ่ายแพงขึ้นถึง 50% ขณะเดียวกันผู้ใช้ทั่วไปก็เริ่มได้รับผลกระทบ ราคาของ DDR5 สำหรับ PC พุ่งขึ้น 20–40% และมีแนวโน้มจะสูงต่อเนื่องไปจนถึงปี 2027 นักวิเคราะห์เตือนว่านี่อาจเป็น “ทศวรรษแห่งการขาดแคลนหน่วยความจำ” เพราะโครงการใหญ่เช่น OpenAI Stargate ใช้ DRAM ถึง 40% ของกำลังผลิตโลก ทำให้แม้จะสร้างโรงงานใหม่ก็ยังไม่ทันต่อความต้องการ 📌 สรุป ✅ ราคาของ DRAM พุ่งขึ้นกว่า 170% ➡️ สูงกว่าการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำในปีเดียว ✅ Hyperscaler ได้รับ RAM เพียง 70% ของคำสั่งซื้อ ➡️ แม้ยอมจ่ายแพงขึ้นถึง 50% ✅ ผู้ผลิตหันไปลงทุนใน HBM สำหรับ AI ➡️ ทิ้งตลาด RAM ผู้ใช้ทั่วไปให้ขาดแคลน ‼️ ผู้ใช้ทั่วไปจะเจอราคาคอมพิวเตอร์สูงขึ้นต่อเนื่อง ⛔ การสร้าง PC หรืออัปเกรดจะมีต้นทุนสูงมาก https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/memory-makers-have-no-plans-to-increase-production-despite-crushing-ram-shortages-modest-2026-increase-predicted-as-dram-makers-hedge-their-ai-bets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไต้หวันเพิ่มงบป้องกันประเทศ สร้าง “T-Dome” ป้องกันขีปนาวุธ

    ไต้หวันประกาศเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศเป็น 5% ของ GDP พร้อมพัฒนาระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Iron Dome ของอิสราเอล โดยตั้งชื่อว่า T-Dome เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากจีนที่อาจใช้ขีปนาวุธโจมตี

    สิ่งที่ทำให้โลกจับตามองคือคำเตือนจากนักวิจัยว่า หากจีนยิงขีปนาวุธเพียงลูกเดียวใส่ Hsinchu Science Park ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตชิปของ TSMC ผลกระทบจะรุนแรงถึงขั้นทำให้ GDP โลกหดตัว 6–10% และการผลิต iPhone อาจหยุดชะงักไปนานถึง 3 ปีเต็ม

    แม้สหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรพยายามสร้างโรงงานผลิตชิปในประเทศ เช่น TSMC ที่ลงทุนในรัฐแอริโซนา แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 20 ปีจึงจะลดการพึ่งพาไต้หวันได้ นี่ทำให้ไต้หวันยังคงเป็น “จุดเปราะบางที่สุด” ของห่วงโซ่อุปทานโลก

    สรุปประเด็น
    ไต้หวันเพิ่มงบป้องกันประเทศเป็น 5% ของ GDP
    พัฒนาระบบ T-Dome ป้องกันภัยทางอากาศ

    Hsinchu Science Park เป็นหัวใจการผลิตชิปโลก
    มี TSMC และบริษัทกว่า 600 แห่งตั้งอยู่

    สหรัฐฯ พยายามสร้างโรงงานชิปในประเทศ
    แต่ต้องใช้เวลา 20 ปีจึงจะลดการพึ่งพาไต้หวัน

    หากจีนโจมตี Hsinchu จะกระทบเศรษฐกิจโลกทันที
    GDP โลกอาจหดตัว 6–10% และ iPhone ขาดตลาด 3 ปี

    ความเสี่ยงสูงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก
    ทำให้ทั้ง AI, รถยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมไฮเทคหยุดชะงัก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/taiwan-to-up-defense-spending-and-develop-iron-dome-inspired-missile-protection-expert-warns-one-well-placed-chinese-missile-could-make-it-impossible-to-get-a-new-iphone-for-three-years
    🚀 ไต้หวันเพิ่มงบป้องกันประเทศ สร้าง “T-Dome” ป้องกันขีปนาวุธ ไต้หวันประกาศเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศเป็น 5% ของ GDP พร้อมพัฒนาระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Iron Dome ของอิสราเอล โดยตั้งชื่อว่า T-Dome เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากจีนที่อาจใช้ขีปนาวุธโจมตี สิ่งที่ทำให้โลกจับตามองคือคำเตือนจากนักวิจัยว่า หากจีนยิงขีปนาวุธเพียงลูกเดียวใส่ Hsinchu Science Park ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตชิปของ TSMC ผลกระทบจะรุนแรงถึงขั้นทำให้ GDP โลกหดตัว 6–10% และการผลิต iPhone อาจหยุดชะงักไปนานถึง 3 ปีเต็ม แม้สหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรพยายามสร้างโรงงานผลิตชิปในประเทศ เช่น TSMC ที่ลงทุนในรัฐแอริโซนา แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 20 ปีจึงจะลดการพึ่งพาไต้หวันได้ นี่ทำให้ไต้หวันยังคงเป็น “จุดเปราะบางที่สุด” ของห่วงโซ่อุปทานโลก 📌 สรุปประเด็น ✅ ไต้หวันเพิ่มงบป้องกันประเทศเป็น 5% ของ GDP ➡️ พัฒนาระบบ T-Dome ป้องกันภัยทางอากาศ ✅ Hsinchu Science Park เป็นหัวใจการผลิตชิปโลก ➡️ มี TSMC และบริษัทกว่า 600 แห่งตั้งอยู่ ✅ สหรัฐฯ พยายามสร้างโรงงานชิปในประเทศ ➡️ แต่ต้องใช้เวลา 20 ปีจึงจะลดการพึ่งพาไต้หวัน ‼️ หากจีนโจมตี Hsinchu จะกระทบเศรษฐกิจโลกทันที ⛔ GDP โลกอาจหดตัว 6–10% และ iPhone ขาดตลาด 3 ปี ‼️ ความเสี่ยงสูงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก ⛔ ทำให้ทั้ง AI, รถยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมไฮเทคหยุดชะงัก https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/taiwan-to-up-defense-spending-and-develop-iron-dome-inspired-missile-protection-expert-warns-one-well-placed-chinese-missile-could-make-it-impossible-to-get-a-new-iphone-for-three-years
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทปแม่เหล็กยังไม่ตาย! LTO-10 เปิดตัวความจุ 40TB

    แม้โลกจะเข้าสู่ยุค SSD และ Cloud แต่เทปแม่เหล็กยังคงมีชีวิตอยู่ ล่าสุดกลุ่มผู้พัฒนา LTO (Linear Tape-Open) ได้เปิดตัวมาตรฐานใหม่ LTO-10 ที่มีความจุสูงถึง 40TB แบบ native และสามารถบีบอัดได้ถึง 100TB ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 2.2 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

    เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือการใช้เทคโนโลยีหัวอ่านใหม่และวัสดุ Aramid base film ที่ทำให้เทปบางและเรียบขึ้น จึงสามารถบรรจุข้อมูลได้มากขึ้นในขนาดเดิม จุดเด่นคือยังคงความน่าเชื่อถือและต้นทุนต่ำ ซึ่งเป็นเหตุผลที่องค์กรใหญ่ ๆ เช่นธนาคารและหน่วยงานวิจัยยังคงใช้เทปในการเก็บข้อมูลระยะยาว

    สิ่งที่น่าสนใจคือ LTO มีแผนพัฒนาไปถึงรุ่น LTO-14 ที่จะมีความจุสูงสุดถึง 913TB ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า นี่สะท้อนว่าการเก็บข้อมูลแบบเทปยังคงมีอนาคต โดยเฉพาะในยุคที่ AI และ Big Data ทำให้ข้อมูลเพิ่มขึ้นมหาศาลทุกวัน

    สรุปประเด็น
    LTO-10 เปิดตัวความจุ 40TB
    บีบอัดได้ถึง 100TB ด้วย compression 2.5:1

    ใช้เทคโนโลยี Aramid film และหัวอ่านใหม่
    ทำให้เทปบางขึ้นและเก็บข้อมูลได้มากขึ้น

    แผนอนาคตไปถึง LTO-14 ความจุ 913TB
    คาดว่าจะพร้อมใช้งานภายใน 7 ปี

    เทปยังคงถูกมองว่า “ล้าสมัย”
    อาจถูกท้าทายจาก SSD และ Cloud ที่เร็วกว่า

    หากองค์กรไม่ปรับตัว อาจเจอปัญหาความเข้ากันได้
    ต้องลงทุนอุปกรณ์ใหม่เพื่อรองรับมาตรฐาน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/tape-keeps-kicking-breakthrough-40tb-native-spec-announced-lto-10-tapes-claim-up-to-100tb-compressed-data-capacity-hold-2-2x-more-data-than-previous-spec
    💾 เทปแม่เหล็กยังไม่ตาย! LTO-10 เปิดตัวความจุ 40TB แม้โลกจะเข้าสู่ยุค SSD และ Cloud แต่เทปแม่เหล็กยังคงมีชีวิตอยู่ ล่าสุดกลุ่มผู้พัฒนา LTO (Linear Tape-Open) ได้เปิดตัวมาตรฐานใหม่ LTO-10 ที่มีความจุสูงถึง 40TB แบบ native และสามารถบีบอัดได้ถึง 100TB ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 2.2 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือการใช้เทคโนโลยีหัวอ่านใหม่และวัสดุ Aramid base film ที่ทำให้เทปบางและเรียบขึ้น จึงสามารถบรรจุข้อมูลได้มากขึ้นในขนาดเดิม จุดเด่นคือยังคงความน่าเชื่อถือและต้นทุนต่ำ ซึ่งเป็นเหตุผลที่องค์กรใหญ่ ๆ เช่นธนาคารและหน่วยงานวิจัยยังคงใช้เทปในการเก็บข้อมูลระยะยาว สิ่งที่น่าสนใจคือ LTO มีแผนพัฒนาไปถึงรุ่น LTO-14 ที่จะมีความจุสูงสุดถึง 913TB ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า นี่สะท้อนว่าการเก็บข้อมูลแบบเทปยังคงมีอนาคต โดยเฉพาะในยุคที่ AI และ Big Data ทำให้ข้อมูลเพิ่มขึ้นมหาศาลทุกวัน 📌 สรุปประเด็น ✅ LTO-10 เปิดตัวความจุ 40TB ➡️ บีบอัดได้ถึง 100TB ด้วย compression 2.5:1 ✅ ใช้เทคโนโลยี Aramid film และหัวอ่านใหม่ ➡️ ทำให้เทปบางขึ้นและเก็บข้อมูลได้มากขึ้น ✅ แผนอนาคตไปถึง LTO-14 ความจุ 913TB ➡️ คาดว่าจะพร้อมใช้งานภายใน 7 ปี ‼️ เทปยังคงถูกมองว่า “ล้าสมัย” ⛔ อาจถูกท้าทายจาก SSD และ Cloud ที่เร็วกว่า ‼️ หากองค์กรไม่ปรับตัว อาจเจอปัญหาความเข้ากันได้ ⛔ ต้องลงทุนอุปกรณ์ใหม่เพื่อรองรับมาตรฐาน https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/tape-keeps-kicking-breakthrough-40tb-native-spec-announced-lto-10-tapes-claim-up-to-100tb-compressed-data-capacity-hold-2-2x-more-data-than-previous-spec
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • คดี “Bitcoin Queen” – ฟอกเงินกว่า 5.6 พันล้านดอลลาร์

    เรื่องราวของ Zhimin Qian หรือที่รู้จักกันว่า “Bitcoin Queen” กลายเป็นข่าวใหญ่ในอังกฤษ เธอถูกตัดสินจำคุกเกือบ 12 ปี หลังจากฟอกเงินผ่านคริปโตมูลค่ากว่า 5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยหลอกนักลงทุนกว่า 128,000 รายในจีนระหว่างปี 2014–2017 ก่อนหลบหนีไปหลายประเทศด้วยพาสปอร์ตปลอม

    การสืบสวนเริ่มต้นเมื่อเธอพยายามซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนด้วย Bitcoin ทำให้ตำรวจเริ่มติดตามและยึดได้กว่า 61,000 Bitcoin ซึ่งถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ช่วงนั้น แม้เธอจะใช้ชีวิตหรูหราและเดินทางหลบเลี่ยงประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่สุดท้ายก็ถูกจับในอังกฤษ

    สิ่งที่น่าสนใจคือ เธอเคยวางแผนจะขาย Bitcoin เดือนละ 250,000 ดอลลาร์เพื่อใช้ชีวิต และถึงขั้นฝันอยากเป็น “ราชินีแห่ง Liberland” ประเทศเล็ก ๆ ระหว่างโครเอเชียและเซอร์เบีย แต่ความฝันก็จบลงเมื่อถูกจับและตัดสินโทษหนัก ปัจจุบันยังมีข้อถกเถียงว่าจีนและอังกฤษจะจัดการคืนเงินให้ผู้เสียหายอย่างไร

    สรุปประเด็น
    Zhimin Qian ถูกตัดสินจำคุกเกือบ 12 ปี
    ฟอกเงินผ่านคริปโตมูลค่ากว่า 5.6 พันล้านดอลลาร์

    ตำรวจอังกฤษยึดได้กว่า 61,000 Bitcoin
    ถือเป็นการยึดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

    เธอใช้ชีวิตหรูหราและหลบหนีหลายประเทศ
    เลี่ยงประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน

    ผู้เสียหายกว่า 128,000 รายยังไม่แน่ว่าจะได้เงินคืน
    การจัดการระหว่างรัฐบาลจีนและอังกฤษยังไม่ชัดเจน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/bitcoin-queen-who-laundered-usd5-6-billion-in-illicit-funds-through-crypto-gets-nearly-12-years-in-prison-uk-court-hands-down-sentence
    💰 คดี “Bitcoin Queen” – ฟอกเงินกว่า 5.6 พันล้านดอลลาร์ เรื่องราวของ Zhimin Qian หรือที่รู้จักกันว่า “Bitcoin Queen” กลายเป็นข่าวใหญ่ในอังกฤษ เธอถูกตัดสินจำคุกเกือบ 12 ปี หลังจากฟอกเงินผ่านคริปโตมูลค่ากว่า 5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยหลอกนักลงทุนกว่า 128,000 รายในจีนระหว่างปี 2014–2017 ก่อนหลบหนีไปหลายประเทศด้วยพาสปอร์ตปลอม การสืบสวนเริ่มต้นเมื่อเธอพยายามซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนด้วย Bitcoin ทำให้ตำรวจเริ่มติดตามและยึดได้กว่า 61,000 Bitcoin ซึ่งถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ช่วงนั้น แม้เธอจะใช้ชีวิตหรูหราและเดินทางหลบเลี่ยงประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่สุดท้ายก็ถูกจับในอังกฤษ สิ่งที่น่าสนใจคือ เธอเคยวางแผนจะขาย Bitcoin เดือนละ 250,000 ดอลลาร์เพื่อใช้ชีวิต และถึงขั้นฝันอยากเป็น “ราชินีแห่ง Liberland” ประเทศเล็ก ๆ ระหว่างโครเอเชียและเซอร์เบีย แต่ความฝันก็จบลงเมื่อถูกจับและตัดสินโทษหนัก ปัจจุบันยังมีข้อถกเถียงว่าจีนและอังกฤษจะจัดการคืนเงินให้ผู้เสียหายอย่างไร 📌 สรุปประเด็น ✅ Zhimin Qian ถูกตัดสินจำคุกเกือบ 12 ปี ➡️ ฟอกเงินผ่านคริปโตมูลค่ากว่า 5.6 พันล้านดอลลาร์ ✅ ตำรวจอังกฤษยึดได้กว่า 61,000 Bitcoin ➡️ ถือเป็นการยึดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ✅ เธอใช้ชีวิตหรูหราและหลบหนีหลายประเทศ ➡️ เลี่ยงประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ‼️ ผู้เสียหายกว่า 128,000 รายยังไม่แน่ว่าจะได้เงินคืน ⛔ การจัดการระหว่างรัฐบาลจีนและอังกฤษยังไม่ชัดเจน https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/bitcoin-queen-who-laundered-usd5-6-billion-in-illicit-funds-through-crypto-gets-nearly-12-years-in-prison-uk-court-hands-down-sentence
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • Centauri Carbon 2 – เครื่องพิมพ์ 3D รุ่นใหม่จาก Elegoo

    บริษัท Elegoo เตรียมเปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3D รุ่นใหม่ชื่อ Centauri Carbon 2 ในไตรมาสแรกปี 2026 หลังจากรุ่นแรกได้รับความนิยมในปี 2025 จุดเด่นคือระบบ multi-material printing ที่สามารถพิมพ์หลายสีหรือหลายวัสดุในงานเดียวกัน โดยใช้ระบบ “CANVAS” ที่ออกแบบให้เส้นทางฟีดเส้นพลาสติกดูเรียบง่ายกว่ารุ่นอื่น

    เครื่องยังคงขนาดการพิมพ์ 256 x 256 x 256 มม. เหมือนรุ่นแรก แต่เพิ่มความร้อนของฐานพิมพ์ได้ถึง 110°C และมีระบบปรับระดับอัตโนมัติ 121 จุด ทำให้การพิมพ์เสถียรมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ เช่น RFID สำหรับตรวจสอบเส้นพลาสติก และกล้องในตัวเพื่อดูงานพิมพ์แบบเรียลไทม์

    แม้ยังไม่เปิดเผยราคา แต่คาดว่าจะอยู่ในระดับเข้าถึงได้เหมือนรุ่นแรก และรองรับวัสดุยอดนิยม เช่น PLA, PETG, TPU และ ABS ถือเป็นการต่อยอดจากรุ่นเดิมที่แฟน ๆ ชื่นชอบ โดยมีการปรับปรุงให้รองรับงานซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น

    https://www.tomshardware.com/3d-printing/elegoo-centauri-carbon-2-is-on-the-way-in-q1-2026-multi-material-3d-printing-among-the-top-features
    🖨️ Centauri Carbon 2 – เครื่องพิมพ์ 3D รุ่นใหม่จาก Elegoo บริษัท Elegoo เตรียมเปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3D รุ่นใหม่ชื่อ Centauri Carbon 2 ในไตรมาสแรกปี 2026 หลังจากรุ่นแรกได้รับความนิยมในปี 2025 จุดเด่นคือระบบ multi-material printing ที่สามารถพิมพ์หลายสีหรือหลายวัสดุในงานเดียวกัน โดยใช้ระบบ “CANVAS” ที่ออกแบบให้เส้นทางฟีดเส้นพลาสติกดูเรียบง่ายกว่ารุ่นอื่น เครื่องยังคงขนาดการพิมพ์ 256 x 256 x 256 มม. เหมือนรุ่นแรก แต่เพิ่มความร้อนของฐานพิมพ์ได้ถึง 110°C และมีระบบปรับระดับอัตโนมัติ 121 จุด ทำให้การพิมพ์เสถียรมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ เช่น RFID สำหรับตรวจสอบเส้นพลาสติก และกล้องในตัวเพื่อดูงานพิมพ์แบบเรียลไทม์ แม้ยังไม่เปิดเผยราคา แต่คาดว่าจะอยู่ในระดับเข้าถึงได้เหมือนรุ่นแรก และรองรับวัสดุยอดนิยม เช่น PLA, PETG, TPU และ ABS ถือเป็นการต่อยอดจากรุ่นเดิมที่แฟน ๆ ชื่นชอบ โดยมีการปรับปรุงให้รองรับงานซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น https://www.tomshardware.com/3d-printing/elegoo-centauri-carbon-2-is-on-the-way-in-q1-2026-multi-material-3d-printing-among-the-top-features
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • Checkout.com ยืนหยัดต่อกรกับการขู่กรรโชกไซเบอร์

    Checkout.com บริษัทด้านการชำระเงินระดับโลกออกแถลงการณ์ว่าเพิ่งถูกกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ “ShinyHunters” พยายามขู่กรรโชก โดยเจาะเข้าระบบเก็บไฟล์เก่าที่เคยใช้ในปี 2020 แต่ไม่ได้ปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์ แม้ข้อมูลบางส่วนของลูกค้าอาจได้รับผลกระทบ แต่ระบบประมวลผลการชำระเงินสดใหม่ยังปลอดภัย ไม่ถูกแตะต้อง และไม่มีเงินหรือข้อมูลบัตรเครดิตรั่วไหล

    สิ่งที่น่าสนใจคือบริษัทเลือกที่จะไม่จ่ายค่าไถ่ แต่กลับนำเงินจำนวนดังกล่าวไปบริจาคให้มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon และ Oxford เพื่อสนับสนุนงานวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ถือเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส และสร้างภาพลักษณ์ด้านความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อสังคม

    จากข้อมูลเพิ่มเติมในโลกไซเบอร์ปี 2025 กลุ่ม ShinyHunters ไม่ได้ทำงานเพียงลำพัง แต่มีการจับมือกับกลุ่ม Scattered Spider และ LAPSUS$ เพื่อทำการโจมตีเชิงสังคมวิศวกรรม (social engineering) เช่นการโทรหลอก (vishing) และสร้างแอปปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อกรอกข้อมูล สิ่งนี้สะท้อนว่าการโจมตีไซเบอร์กำลังพัฒนาไปสู่รูปแบบที่ซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น

    สรุป
    เหตุการณ์การขู่กรรโชก
    กลุ่ม ShinyHunters เจาะระบบไฟล์เก่า ไม่กระทบระบบจ่ายเงินสดใหม่

    การตอบสนองของบริษัท
    ไม่จ่ายค่าไถ่ แต่บริจาคเงินเพื่อวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์

    ความเคลื่อนไหวในโลกไซเบอร์
    ShinyHunters จับมือกับกลุ่มอื่น ใช้เทคนิค vishing และ phishing ที่ซับซ้อน

    คำเตือน
    ธุรกิจที่ยังใช้ระบบเก่าโดยไม่ปิดอย่างถูกต้องเสี่ยงต่อการถูกเจาะข้อมูล
    การโจมตีเชิงสังคมวิศวกรรมกำลังเป็นภัยที่ยากต่อการป้องกัน

    https://www.checkout.com/blog/protecting-our-merchants-standing-up-to-extortion
    🛡️ Checkout.com ยืนหยัดต่อกรกับการขู่กรรโชกไซเบอร์ Checkout.com บริษัทด้านการชำระเงินระดับโลกออกแถลงการณ์ว่าเพิ่งถูกกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ “ShinyHunters” พยายามขู่กรรโชก โดยเจาะเข้าระบบเก็บไฟล์เก่าที่เคยใช้ในปี 2020 แต่ไม่ได้ปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์ แม้ข้อมูลบางส่วนของลูกค้าอาจได้รับผลกระทบ แต่ระบบประมวลผลการชำระเงินสดใหม่ยังปลอดภัย ไม่ถูกแตะต้อง และไม่มีเงินหรือข้อมูลบัตรเครดิตรั่วไหล สิ่งที่น่าสนใจคือบริษัทเลือกที่จะไม่จ่ายค่าไถ่ แต่กลับนำเงินจำนวนดังกล่าวไปบริจาคให้มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon และ Oxford เพื่อสนับสนุนงานวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ถือเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส และสร้างภาพลักษณ์ด้านความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อสังคม จากข้อมูลเพิ่มเติมในโลกไซเบอร์ปี 2025 กลุ่ม ShinyHunters ไม่ได้ทำงานเพียงลำพัง แต่มีการจับมือกับกลุ่ม Scattered Spider และ LAPSUS$ เพื่อทำการโจมตีเชิงสังคมวิศวกรรม (social engineering) เช่นการโทรหลอก (vishing) และสร้างแอปปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อกรอกข้อมูล สิ่งนี้สะท้อนว่าการโจมตีไซเบอร์กำลังพัฒนาไปสู่รูปแบบที่ซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น 📌 สรุป ✅ เหตุการณ์การขู่กรรโชก ➡️ กลุ่ม ShinyHunters เจาะระบบไฟล์เก่า ไม่กระทบระบบจ่ายเงินสดใหม่ ✅ การตอบสนองของบริษัท ➡️ ไม่จ่ายค่าไถ่ แต่บริจาคเงินเพื่อวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ ความเคลื่อนไหวในโลกไซเบอร์ ➡️ ShinyHunters จับมือกับกลุ่มอื่น ใช้เทคนิค vishing และ phishing ที่ซับซ้อน ‼️ คำเตือน ⛔ ธุรกิจที่ยังใช้ระบบเก่าโดยไม่ปิดอย่างถูกต้องเสี่ยงต่อการถูกเจาะข้อมูล ⛔ การโจมตีเชิงสังคมวิศวกรรมกำลังเป็นภัยที่ยากต่อการป้องกัน https://www.checkout.com/blog/protecting-our-merchants-standing-up-to-extortion
    WWW.CHECKOUT.COM
    Protecting our Merchants: Standing up to Extortion
    Our statement detailing an incident concerning a legacy system. We outline our commitment to transparency, accountability, and planned investment in cyber security research.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google เปิด Early Access ระบบตรวจสอบนักพัฒนา Android

    Google ประกาศเปิดระบบตรวจสอบตัวตนของนักพัฒนา Android (Developer Verification) ในช่วง Early Access เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการติดตั้งแอป โดยเฉพาะแอปที่ติดตั้งนอก Play Store หรือการ sideloading จุดประสงค์คือบังคับให้ผู้พัฒนาต้องใช้ตัวตนจริง ลดโอกาสที่แฮกเกอร์จะสร้างแอปปลอมเพื่อหลอกผู้ใช้

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Google ไม่ได้ปิดกั้นเสรีภาพทั้งหมด แต่สร้าง “advanced flow” สำหรับผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ ให้สามารถเลือกติดตั้งแอปที่ไม่ได้รับการตรวจสอบได้ โดยมีการเตือนที่ชัดเจนและขั้นตอนที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการถูกบังคับให้ข้ามระบบเตือน เช่นกรณีที่มิจฉาชีพโทรหลอกให้ติดตั้งแอปปลอมเพื่อขโมยรหัส OTP จากธนาคาร

    นอกจากนี้ Google ยังสร้างบัญชีพิเศษสำหรับนักเรียนและนักพัฒนาสมัครเล่น เพื่อให้สามารถเผยแพร่แอปในวงจำกัดโดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบเต็มรูปแบบ ถือเป็นการหาจุดสมดุลระหว่างความปลอดภัยและการเปิดโอกาสให้ผู้เริ่มต้นได้เรียนรู้และสร้างสรรค์

    สรุป
    การเปลี่ยนแปลงของ Google
    เปิดระบบตรวจสอบตัวตน Early Access สำหรับนักพัฒนา

    ทางเลือกสำหรับผู้ใช้
    มี advanced flow สำหรับผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ สามารถติดตั้งแอปที่ไม่ได้ตรวจสอบได้

    สนับสนุนนักเรียนและนักพัฒนาสมัครเล่น
    มีบัญชีพิเศษที่ไม่ต้องตรวจสอบเต็มรูปแบบ แต่จำกัดจำนวนอุปกรณ์

    คำเตือน
    การ sideloading แอปจากนักพัฒนาที่ไม่ตรวจสอบยังคงมีความเสี่ยงสูง
    มิจฉาชีพใช้วิธีโทรหลอกและสร้างแอปปลอมเพื่อขโมยข้อมูล OTP

    https://android-developers.googleblog.com/2025/11/android-developer-verification-early.html
    📱 Google เปิด Early Access ระบบตรวจสอบนักพัฒนา Android Google ประกาศเปิดระบบตรวจสอบตัวตนของนักพัฒนา Android (Developer Verification) ในช่วง Early Access เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการติดตั้งแอป โดยเฉพาะแอปที่ติดตั้งนอก Play Store หรือการ sideloading จุดประสงค์คือบังคับให้ผู้พัฒนาต้องใช้ตัวตนจริง ลดโอกาสที่แฮกเกอร์จะสร้างแอปปลอมเพื่อหลอกผู้ใช้ สิ่งที่น่าสนใจคือ Google ไม่ได้ปิดกั้นเสรีภาพทั้งหมด แต่สร้าง “advanced flow” สำหรับผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ ให้สามารถเลือกติดตั้งแอปที่ไม่ได้รับการตรวจสอบได้ โดยมีการเตือนที่ชัดเจนและขั้นตอนที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการถูกบังคับให้ข้ามระบบเตือน เช่นกรณีที่มิจฉาชีพโทรหลอกให้ติดตั้งแอปปลอมเพื่อขโมยรหัส OTP จากธนาคาร นอกจากนี้ Google ยังสร้างบัญชีพิเศษสำหรับนักเรียนและนักพัฒนาสมัครเล่น เพื่อให้สามารถเผยแพร่แอปในวงจำกัดโดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบเต็มรูปแบบ ถือเป็นการหาจุดสมดุลระหว่างความปลอดภัยและการเปิดโอกาสให้ผู้เริ่มต้นได้เรียนรู้และสร้างสรรค์ 📌 สรุป ✅ การเปลี่ยนแปลงของ Google ➡️ เปิดระบบตรวจสอบตัวตน Early Access สำหรับนักพัฒนา ✅ ทางเลือกสำหรับผู้ใช้ ➡️ มี advanced flow สำหรับผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ สามารถติดตั้งแอปที่ไม่ได้ตรวจสอบได้ ✅ สนับสนุนนักเรียนและนักพัฒนาสมัครเล่น ➡️ มีบัญชีพิเศษที่ไม่ต้องตรวจสอบเต็มรูปแบบ แต่จำกัดจำนวนอุปกรณ์ ‼️ คำเตือน ⛔ การ sideloading แอปจากนักพัฒนาที่ไม่ตรวจสอบยังคงมีความเสี่ยงสูง ⛔ มิจฉาชีพใช้วิธีโทรหลอกและสร้างแอปปลอมเพื่อขโมยข้อมูล OTP https://android-developers.googleblog.com/2025/11/android-developer-verification-early.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Nano Banana – AI สร้างภาพที่เข้าใจคำสั่งลึกซึ้ง”

    Nano Banana คือชื่อเล่นของโมเดล Gemini 2.5 Flash Image ของ Google ที่สร้างกระแสในปี 2025 เพราะสามารถทำตามคำสั่งที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำกว่ารุ่นก่อน ๆ จุดเด่นคือการใช้โมเดลแบบ autoregressive ที่สามารถตีความคำสั่งยาว ๆ และซับซ้อนได้ดีกว่าโมเดล diffusion แบบเดิม

    สิ่งที่ทำให้ Nano Banana น่าสนใจคือความสามารถในการแก้ไขภาพตามคำสั่งเฉพาะ เช่น เพิ่มวัตถุในตำแหน่งที่กำหนด หรือปรับองค์ประกอบภาพโดยไม่กระทบส่วนอื่น ๆ อีกทั้งยังรองรับการใช้ JSON หรือ HTML เป็นคำสั่งเพื่อสร้างภาพที่ซับซ้อน เช่นการออกแบบตัวละคร หรือแม้แต่การเรนเดอร์หน้าเว็บ ซึ่งถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของการใช้ AI ในงานสร้างสรรค์

    สรุปเป็นหัวข้อ:
    จุดเด่นของ Nano Banana
    ใช้โมเดล autoregressive ที่ตีความคำสั่งได้ละเอียด
    รองรับ prompt ยาวถึง 32,768 tokens

    ความสามารถพิเศษ
    แก้ไขภาพเฉพาะส่วนได้แม่นยำ
    รองรับการใช้ JSON/HTML เป็นคำสั่งสร้างภาพ

    ตัวอย่างการใช้งาน
    สร้างภาพ “แพนเคกกะโหลก” พร้อมน้ำเชื่อมและผลไม้ตามคำสั่ง
    สร้างภาพตัวละครผสม Paladin + Pirate + Barista ตาม JSON

    คำเตือน
    มีความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์ เพราะสามารถสร้างภาพจาก IP ดัง ๆ ได้
    ระบบ moderation ยังอ่อน อาจถูกใช้สร้างภาพไม่เหมาะสม

    https://minimaxir.com/2025/11/nano-banana-prompts/
    🍌 “Nano Banana – AI สร้างภาพที่เข้าใจคำสั่งลึกซึ้ง” Nano Banana คือชื่อเล่นของโมเดล Gemini 2.5 Flash Image ของ Google ที่สร้างกระแสในปี 2025 เพราะสามารถทำตามคำสั่งที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำกว่ารุ่นก่อน ๆ จุดเด่นคือการใช้โมเดลแบบ autoregressive ที่สามารถตีความคำสั่งยาว ๆ และซับซ้อนได้ดีกว่าโมเดล diffusion แบบเดิม สิ่งที่ทำให้ Nano Banana น่าสนใจคือความสามารถในการแก้ไขภาพตามคำสั่งเฉพาะ เช่น เพิ่มวัตถุในตำแหน่งที่กำหนด หรือปรับองค์ประกอบภาพโดยไม่กระทบส่วนอื่น ๆ อีกทั้งยังรองรับการใช้ JSON หรือ HTML เป็นคำสั่งเพื่อสร้างภาพที่ซับซ้อน เช่นการออกแบบตัวละคร หรือแม้แต่การเรนเดอร์หน้าเว็บ ซึ่งถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของการใช้ AI ในงานสร้างสรรค์ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ: ✅ จุดเด่นของ Nano Banana ➡️ ใช้โมเดล autoregressive ที่ตีความคำสั่งได้ละเอียด ➡️ รองรับ prompt ยาวถึง 32,768 tokens ✅ ความสามารถพิเศษ ➡️ แก้ไขภาพเฉพาะส่วนได้แม่นยำ ➡️ รองรับการใช้ JSON/HTML เป็นคำสั่งสร้างภาพ ✅ ตัวอย่างการใช้งาน ➡️ สร้างภาพ “แพนเคกกะโหลก” พร้อมน้ำเชื่อมและผลไม้ตามคำสั่ง ➡️ สร้างภาพตัวละครผสม Paladin + Pirate + Barista ตาม JSON ‼️ คำเตือน ⛔ มีความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์ เพราะสามารถสร้างภาพจาก IP ดัง ๆ ได้ ⛔ ระบบ moderation ยังอ่อน อาจถูกใช้สร้างภาพไม่เหมาะสม https://minimaxir.com/2025/11/nano-banana-prompts/
    MINIMAXIR.COM
    Nano Banana can be prompt engineered for extremely nuanced AI image generation
    Nano Banana allows 32,768 input tokens and I’m going to try to use them all dammit.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • “การแปรรูปรถไฟอังกฤษที่ล้มเหลว”

    เรื่องราวนี้เล่าถึงการแปรรูปรถไฟอังกฤษในช่วงปี 1990s ที่ถูกขายออกไปให้เอกชน โดยหวังว่าจะสร้างการแข่งขันและยกระดับคุณภาพ แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม ระบบรถไฟที่เคยมีประสิทธิภาพสูงกลับเผชิญปัญหามากมาย ทั้งอุบัติเหตุร้ายแรง การขาดการลงทุน และการจัดการที่ซับซ้อนเกินไป จนท้ายที่สุดต้องกลับเข้าสู่การดูแลของรัฐอีกครั้งในรูปแบบใหม่ที่ชื่อว่า Great British Railways (GBR)

    การเล่าเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า การแปรรูปไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยและความต่อเนื่องของบริการสาธารณะ แต่กลับเน้นผลประโยชน์ทางการเงินของเอกชน ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพยากรอย่างมหาศาล ปัจจุบันแม้ประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนการกลับมาเป็นของรัฐ แต่ก็ยังมีความไม่แน่ใจว่าระบบใหม่จะสามารถแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่

    สรุปเป็นหัวข้อ:
    การแปรรูปรถไฟอังกฤษในปี 1990s
    ถูกขายให้เอกชนหลายบริษัท ทั้งโครงสร้างพื้นฐานและขบวนรถ
    เกิดการจัดการที่ซับซ้อนและไม่ต่อเนื่อง

    ผลกระทบหลังแปรรูป
    เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงหลายครั้ง เช่น Southall, Ladbroke Grove, Hatfield
    ผู้โดยสารเผชิญปัญหาความปลอดภัยและความล่าช้า

    การกลับสู่รัฐ
    ก่อตั้ง Network Rail และต่อมา Great British Railways
    ประชาชน 75% สนับสนุนการเป็นของรัฐ

    คำเตือน
    การแปรรูปโดยไม่คำนึงถึงบริการสาธารณะอาจสร้างหายนะ
    การเมืองและผลประโยชน์อาจทำให้การปฏิรูปไม่ยั่งยืน

    https://www.rosalux.de/en/news/id/53917/britains-railway-privatization-was-an-abject-failure
    🚆 “การแปรรูปรถไฟอังกฤษที่ล้มเหลว” เรื่องราวนี้เล่าถึงการแปรรูปรถไฟอังกฤษในช่วงปี 1990s ที่ถูกขายออกไปให้เอกชน โดยหวังว่าจะสร้างการแข่งขันและยกระดับคุณภาพ แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม ระบบรถไฟที่เคยมีประสิทธิภาพสูงกลับเผชิญปัญหามากมาย ทั้งอุบัติเหตุร้ายแรง การขาดการลงทุน และการจัดการที่ซับซ้อนเกินไป จนท้ายที่สุดต้องกลับเข้าสู่การดูแลของรัฐอีกครั้งในรูปแบบใหม่ที่ชื่อว่า Great British Railways (GBR) การเล่าเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า การแปรรูปไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยและความต่อเนื่องของบริการสาธารณะ แต่กลับเน้นผลประโยชน์ทางการเงินของเอกชน ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพยากรอย่างมหาศาล ปัจจุบันแม้ประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนการกลับมาเป็นของรัฐ แต่ก็ยังมีความไม่แน่ใจว่าระบบใหม่จะสามารถแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ: ✅ การแปรรูปรถไฟอังกฤษในปี 1990s ➡️ ถูกขายให้เอกชนหลายบริษัท ทั้งโครงสร้างพื้นฐานและขบวนรถ ➡️ เกิดการจัดการที่ซับซ้อนและไม่ต่อเนื่อง ✅ ผลกระทบหลังแปรรูป ➡️ เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงหลายครั้ง เช่น Southall, Ladbroke Grove, Hatfield ➡️ ผู้โดยสารเผชิญปัญหาความปลอดภัยและความล่าช้า ✅ การกลับสู่รัฐ ➡️ ก่อตั้ง Network Rail และต่อมา Great British Railways ➡️ ประชาชน 75% สนับสนุนการเป็นของรัฐ ‼️ คำเตือน ⛔ การแปรรูปโดยไม่คำนึงถึงบริการสาธารณะอาจสร้างหายนะ ⛔ การเมืองและผลประโยชน์อาจทำให้การปฏิรูปไม่ยั่งยืน https://www.rosalux.de/en/news/id/53917/britains-railway-privatization-was-an-abject-failure
    WWW.ROSALUX.DE
    Britain’s Railway Privatization Was an Abject Failure - Rosa-Luxemburg-Stiftung
    Sold off in the 1990s, the UK’s railways are returning to public hands — but at what cost?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • "MCP Servers – เทคโนโลยีใหม่ที่มาแรง แต่ยังมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย"

    MCP (Model Context Protocol) กำลังกลายเป็นมาตรฐานสำคัญที่ช่วยให้ AI agents สามารถเชื่อมต่อกับข้อมูลและเครื่องมือภายนอกได้สะดวกขึ้น แต่ความนิยมที่เพิ่มขึ้นก็มาพร้อมกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่หลากหลาย เช่น prompt injection, token theft และการโจมตีข้ามเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลภายในองค์กรรั่วไหลได้หากไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ

    ในช่วงปีที่ผ่านมา มีการปรับปรุงมาตรฐาน MCP อย่างต่อเนื่อง เช่น การเพิ่มการรองรับ OAuth และระบบ third-party authentication อย่าง Auth0 หรือ Okta รวมถึงการเปิดตัว MCP Registry เพื่อป้องกันการปลอมแปลงเซิร์ฟเวอร์ อย่างไรก็ตาม การยืนยันตัวตนยังคงเป็นเพียง "ทางเลือก" ไม่ใช่ข้อบังคับ ทำให้หลายองค์กรยังคงเผชิญความเสี่ยงสูง

    ผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น AWS, Microsoft และ Google Cloud ต่างก็ออกเครื่องมือเสริมเพื่อช่วยป้องกัน MCP servers เช่น ระบบ Zero Trust, การตรวจจับ prompt injection และการจัดเก็บข้อมูลลับใน Secret Manager ขณะเดียวกัน ผู้เล่นหน้าใหม่และสตาร์ทอัพก็เข้ามาเสนอโซลูชันเฉพาะทาง เช่น การสแกนหา MCP servers ที่ซ่อนอยู่ในองค์กร หรือการสร้าง proxy เพื่อกันข้อมูลรั่วไหล

    สิ่งที่น่าสนใจคือ หลายบริษัทใหญ่ เช่น PayPal, Slack และ GitHub ได้เปิดตัว MCP servers ของตนเองแล้ว เพื่อให้ AI agents เชื่อมต่อกับบริการได้โดยตรง ขณะที่ผู้ให้บริการ third-party อย่าง Zapier ก็เปิดให้เชื่อมต่อกับแอปกว่า 8,000 ตัว ซึ่งสะท้อนว่า MCP กำลังกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของโลก AI แต่ก็ยังต้องการการป้องกันที่เข้มงวดกว่านี้

    สรุปสาระสำคัญ
    การพัฒนาและการใช้งาน MCP Servers
    MCP ช่วยให้ AI agents เข้าถึงข้อมูลและเครื่องมือได้สะดวก
    มีการเพิ่ม OAuth และระบบยืนยันตัวตนจาก third-party เช่น Okta, Auth0
    เปิดตัว MCP Registry เพื่อป้องกันการปลอมแปลงเซิร์ฟเวอร์

    ผู้ให้บริการรายใหญ่และสตาร์ทอัพเข้ามาเสริมความปลอดภัย
    AWS, Microsoft, Google Cloud เพิ่มระบบ Zero Trust และการตรวจจับ prompt injection
    สตาร์ทอัพเสนอเครื่องมือสแกน MCP servers และ proxy ป้องกันข้อมูลรั่วไหล

    การใช้งานจริงในองค์กรและแพลตฟอร์มต่างๆ
    PayPal, Slack, GitHub เปิดตัว MCP servers ของตนเอง
    Zapier ให้เชื่อมต่อกับกว่า 8,000 แอปพลิเคชัน

    ความเสี่ยงและช่องโหว่ที่ยังคงอยู่
    Authentication ยังเป็นเพียงทางเลือก ไม่ใช่ข้อบังคับ
    เสี่ยงต่อ prompt injection, token theft และการโจมตีข้ามเซิร์ฟเวอร์
    MCP servers ที่ไม่เป็นทางการอาจไม่ปลอดภัยและเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล

    https://www.csoonline.com/article/4087656/what-cisos-need-to-know-about-new-tools-for-securing-mcp-servers.html
    🛡️ "MCP Servers – เทคโนโลยีใหม่ที่มาแรง แต่ยังมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย" MCP (Model Context Protocol) กำลังกลายเป็นมาตรฐานสำคัญที่ช่วยให้ AI agents สามารถเชื่อมต่อกับข้อมูลและเครื่องมือภายนอกได้สะดวกขึ้น แต่ความนิยมที่เพิ่มขึ้นก็มาพร้อมกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่หลากหลาย เช่น prompt injection, token theft และการโจมตีข้ามเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลภายในองค์กรรั่วไหลได้หากไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ ในช่วงปีที่ผ่านมา มีการปรับปรุงมาตรฐาน MCP อย่างต่อเนื่อง เช่น การเพิ่มการรองรับ OAuth และระบบ third-party authentication อย่าง Auth0 หรือ Okta รวมถึงการเปิดตัว MCP Registry เพื่อป้องกันการปลอมแปลงเซิร์ฟเวอร์ อย่างไรก็ตาม การยืนยันตัวตนยังคงเป็นเพียง "ทางเลือก" ไม่ใช่ข้อบังคับ ทำให้หลายองค์กรยังคงเผชิญความเสี่ยงสูง ผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น AWS, Microsoft และ Google Cloud ต่างก็ออกเครื่องมือเสริมเพื่อช่วยป้องกัน MCP servers เช่น ระบบ Zero Trust, การตรวจจับ prompt injection และการจัดเก็บข้อมูลลับใน Secret Manager ขณะเดียวกัน ผู้เล่นหน้าใหม่และสตาร์ทอัพก็เข้ามาเสนอโซลูชันเฉพาะทาง เช่น การสแกนหา MCP servers ที่ซ่อนอยู่ในองค์กร หรือการสร้าง proxy เพื่อกันข้อมูลรั่วไหล สิ่งที่น่าสนใจคือ หลายบริษัทใหญ่ เช่น PayPal, Slack และ GitHub ได้เปิดตัว MCP servers ของตนเองแล้ว เพื่อให้ AI agents เชื่อมต่อกับบริการได้โดยตรง ขณะที่ผู้ให้บริการ third-party อย่าง Zapier ก็เปิดให้เชื่อมต่อกับแอปกว่า 8,000 ตัว ซึ่งสะท้อนว่า MCP กำลังกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของโลก AI แต่ก็ยังต้องการการป้องกันที่เข้มงวดกว่านี้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การพัฒนาและการใช้งาน MCP Servers ➡️ MCP ช่วยให้ AI agents เข้าถึงข้อมูลและเครื่องมือได้สะดวก ➡️ มีการเพิ่ม OAuth และระบบยืนยันตัวตนจาก third-party เช่น Okta, Auth0 ➡️ เปิดตัว MCP Registry เพื่อป้องกันการปลอมแปลงเซิร์ฟเวอร์ ✅ ผู้ให้บริการรายใหญ่และสตาร์ทอัพเข้ามาเสริมความปลอดภัย ➡️ AWS, Microsoft, Google Cloud เพิ่มระบบ Zero Trust และการตรวจจับ prompt injection ➡️ สตาร์ทอัพเสนอเครื่องมือสแกน MCP servers และ proxy ป้องกันข้อมูลรั่วไหล ✅ การใช้งานจริงในองค์กรและแพลตฟอร์มต่างๆ ➡️ PayPal, Slack, GitHub เปิดตัว MCP servers ของตนเอง ➡️ Zapier ให้เชื่อมต่อกับกว่า 8,000 แอปพลิเคชัน ‼️ ความเสี่ยงและช่องโหว่ที่ยังคงอยู่ ⛔ Authentication ยังเป็นเพียงทางเลือก ไม่ใช่ข้อบังคับ ⛔ เสี่ยงต่อ prompt injection, token theft และการโจมตีข้ามเซิร์ฟเวอร์ ⛔ MCP servers ที่ไม่เป็นทางการอาจไม่ปลอดภัยและเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล https://www.csoonline.com/article/4087656/what-cisos-need-to-know-about-new-tools-for-securing-mcp-servers.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    What CISOs need to know about new tools for securing MCP servers
    As MCP servers become more popular, so do the risks. To address some of the risks many vendors have started to offer products meant to secure the use of MCP servers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทัวร์เกาหลี เที่ยวปูซาน 6,999

    🗓 จำนวนวัน 4วัน 2คืน
    ✈ BX แอร์ปูซาน / LJ จินแอร์ / 7Cเจจูแอร์
    พักโรงแรม

    หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน
    ชายหาดแฮอุนแด
    ตลาดแฮอุนแด
    เที่ยวแบบอิสระ1 วัน

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #เกาหลี #ปูซาน #korea #busan #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    ทัวร์เกาหลี เที่ยวปูซาน 🌸🌺 6,999 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 4วัน 2คืน ✈ BX แอร์ปูซาน / LJ จินแอร์ / 7Cเจจูแอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน 📍 ชายหาดแฮอุนแด 📍 ตลาดแฮอุนแด 📍 เที่ยวแบบอิสระ1 วัน รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #เกาหลี #ปูซาน #korea #busan #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Operation Endgame – ปฏิบัติการระดับโลกยึดเซิร์ฟเวอร์ 1,025 เครื่อง ปราบสามแก๊งมัลแวร์

    ในเดือนพฤศจิกายน 2025 หน่วยงาน Europol และพันธมิตรจาก 11 ประเทศ ได้ร่วมกันเปิดปฏิบัติการ Operation Endgame ที่สามารถยึดเซิร์ฟเวอร์กว่า 1,025 เครื่อง และจับกุมผู้ต้องสงสัยรายสำคัญในกรีซ การปฏิบัติการนี้มุ่งเป้าไปที่กลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ที่ใช้เครื่องมือมัลแวร์ชื่อดัง ได้แก่ Rhadamanthys (Infostealer), VenomRAT (Remote Access Tool) และ Elysium Botnet

    การเข้าจู่โจมครั้งนี้ไม่เพียงแต่ยึดโดเมนที่ใช้โจมตี แต่ยังค้นพบข้อมูลที่ถูกขโมยมหาศาล เช่น รหัสล็อกอินหลายล้านรายการ และกระเป๋าเงินคริปโตมากกว่า 100,000 ใบที่ถูกควบคุมโดยผู้ต้องสงสัย ซึ่งอาจมีมูลค่าหลายล้านยูโร

    สิ่งที่น่าสนใจคือการร่วมมือกันของทั้งหน่วยงานรัฐและบริษัทเอกชน เช่น CrowdStrike, Proofpoint และ Bitdefender ที่ช่วยสนับสนุนการสืบสวนและปิดระบบที่เกี่ยวข้อง การปฏิบัติการนี้ยังต่อยอดจากการปราบปรามก่อนหน้า เช่น Smokeloader และ IcedID ในปี 2024–2025 แสดงให้เห็นว่าหน่วยงานกำลังไล่ล่าทั้งผู้สร้างและผู้ใช้บริการมัลแวร์อย่างจริงจัง

    ประชาชนทั่วไปที่กังวลว่าตัวเองอาจถูกติดมัลแวร์ สามารถตรวจสอบได้ผ่านเครื่องมือฟรีที่ตำรวจยุโรปเผยแพร่ เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจว่าระบบของตนปลอดภัยจากการโจมตี

    สรุปเป็นหัวข้อ:
    รายละเอียดของ Operation Endgame
    ยึดเซิร์ฟเวอร์ 1,025 เครื่อง, จับผู้ต้องสงสัยในกรีซ

    มัลแวร์ที่ถูกปราบปราม
    Rhadamanthys, VenomRAT, Elysium Botnet

    ความร่วมมือระหว่างประเทศและเอกชน
    Europol, CrowdStrike, Proofpoint, Bitdefender

    ความเสี่ยงที่ผู้ใช้ทั่วไปควรตรวจสอบ
    ใช้เครื่องมือฟรีตรวจสอบ, ระวังข้อมูลล็อกอินและกระเป๋าเงินคริปโตถูกขโมย

    https://hackread.com/operation-endgame-rhadamanthys-venomrat-elysium-malware/
    🌐 Operation Endgame – ปฏิบัติการระดับโลกยึดเซิร์ฟเวอร์ 1,025 เครื่อง ปราบสามแก๊งมัลแวร์ ในเดือนพฤศจิกายน 2025 หน่วยงาน Europol และพันธมิตรจาก 11 ประเทศ ได้ร่วมกันเปิดปฏิบัติการ Operation Endgame ที่สามารถยึดเซิร์ฟเวอร์กว่า 1,025 เครื่อง และจับกุมผู้ต้องสงสัยรายสำคัญในกรีซ การปฏิบัติการนี้มุ่งเป้าไปที่กลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ที่ใช้เครื่องมือมัลแวร์ชื่อดัง ได้แก่ Rhadamanthys (Infostealer), VenomRAT (Remote Access Tool) และ Elysium Botnet การเข้าจู่โจมครั้งนี้ไม่เพียงแต่ยึดโดเมนที่ใช้โจมตี แต่ยังค้นพบข้อมูลที่ถูกขโมยมหาศาล เช่น รหัสล็อกอินหลายล้านรายการ และกระเป๋าเงินคริปโตมากกว่า 100,000 ใบที่ถูกควบคุมโดยผู้ต้องสงสัย ซึ่งอาจมีมูลค่าหลายล้านยูโร สิ่งที่น่าสนใจคือการร่วมมือกันของทั้งหน่วยงานรัฐและบริษัทเอกชน เช่น CrowdStrike, Proofpoint และ Bitdefender ที่ช่วยสนับสนุนการสืบสวนและปิดระบบที่เกี่ยวข้อง การปฏิบัติการนี้ยังต่อยอดจากการปราบปรามก่อนหน้า เช่น Smokeloader และ IcedID ในปี 2024–2025 แสดงให้เห็นว่าหน่วยงานกำลังไล่ล่าทั้งผู้สร้างและผู้ใช้บริการมัลแวร์อย่างจริงจัง ประชาชนทั่วไปที่กังวลว่าตัวเองอาจถูกติดมัลแวร์ สามารถตรวจสอบได้ผ่านเครื่องมือฟรีที่ตำรวจยุโรปเผยแพร่ เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจว่าระบบของตนปลอดภัยจากการโจมตี 📌 สรุปเป็นหัวข้อ: ✅ รายละเอียดของ Operation Endgame ➡️ ยึดเซิร์ฟเวอร์ 1,025 เครื่อง, จับผู้ต้องสงสัยในกรีซ ✅ มัลแวร์ที่ถูกปราบปราม ➡️ Rhadamanthys, VenomRAT, Elysium Botnet ✅ ความร่วมมือระหว่างประเทศและเอกชน ➡️ Europol, CrowdStrike, Proofpoint, Bitdefender ‼️ ความเสี่ยงที่ผู้ใช้ทั่วไปควรตรวจสอบ ⛔ ใช้เครื่องมือฟรีตรวจสอบ, ระวังข้อมูลล็อกอินและกระเป๋าเงินคริปโตถูกขโมย https://hackread.com/operation-endgame-rhadamanthys-venomrat-elysium-malware/
    HACKREAD.COM
    Operation Endgame Hits Rhadamanthys, VenomRAT, Elysium Malware, seize 1025 servers
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ในกลยุทธ์ EASM – เมื่อผู้โจมตีใช้ประโยชน์จาก “Blind Spots”

    เรื่องราวนี้เล่าถึงการจัดการ External Attack Surface Management (EASM) ที่หลายองค์กรใช้เพื่อป้องกันภัยไซเบอร์ แต่กลับมีจุดบอดที่ผู้โจมตีสามารถเจาะเข้ามาได้ง่าย ๆ เช่น เซิร์ฟเวอร์เก่าที่ไม่ได้อัปเดต, อุปกรณ์ที่พนักงานนำมาใช้เองโดยไม่ผ่านการตรวจสอบ หรือแม้แต่ระบบของพันธมิตรที่องค์กรไม่สามารถควบคุมได้เต็มที่ เหตุการณ์จริงที่สะท้อนความร้ายแรงคือการโจมตี Oracle ในปี 2025 ที่เกิดจากเพียงซับโดเมนที่ไม่มีการจัดการ แต่กลับนำไปสู่การรั่วไหลข้อมูลลูกค้านับล้านราย

    นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงบทบาทของ AI ที่ทั้งช่วยและทำร้ายได้ในเวลาเดียวกัน ฝั่งผู้โจมตีใช้ AI เพื่อเร่งการสแกนและสร้างสคริปต์โจมตี ส่วนฝั่งป้องกันก็ใช้ AI เพื่อค้นหาและจัดลำดับความสำคัญของช่องโหว่ แต่ท้ายที่สุดแล้ว AI ไม่ได้สร้างความได้เปรียบที่ชัดเจน เพราะทั้งสองฝ่ายต่างก็พัฒนาแข่งกันอยู่ตลอดเวลา

    สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำคือการสแกนระบบอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงรายไตรมาส และควรลบโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ได้ใช้งานออกไป รวมถึงการเสริมชั้นการตรวจสอบเพิ่มเติมนอกเหนือจาก Microsoft Defender เพื่อให้ครอบคลุมมากขึ้น พร้อมเชื่อมโยงเข้ากับระบบ SIEM และ SOAR เพื่อให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    สรุปเป็นหัวข้อ:
    จุดบอดของ EASM ที่ผู้โจมตีใช้ประโยชน์
    เซิร์ฟเวอร์เก่า, Shadow IT, ระบบพันธมิตรที่ไม่ปลอดภัย

    AI มีบทบาททั้งช่วยและทำร้าย
    ผู้โจมตีใช้เพื่อเร่งการโจมตี, ฝั่งป้องกันใช้เพื่อค้นหาช่องโหว่

    วิธีเสริมความปลอดภัย
    สแกนต่อเนื่อง, ลบระบบที่ไม่ได้ใช้งาน, เพิ่มชั้นตรวจสอบ

    ความเสี่ยงจากการพึ่งพาเครื่องมือเดียว
    Defender เพียงอย่างเดียวอาจสร้างความมั่นใจผิด ๆ

    https://hackread.com/how-adversaries-exploit-blind-spots-easm-strategy/
    🛡️ ช่องโหว่ในกลยุทธ์ EASM – เมื่อผู้โจมตีใช้ประโยชน์จาก “Blind Spots” เรื่องราวนี้เล่าถึงการจัดการ External Attack Surface Management (EASM) ที่หลายองค์กรใช้เพื่อป้องกันภัยไซเบอร์ แต่กลับมีจุดบอดที่ผู้โจมตีสามารถเจาะเข้ามาได้ง่าย ๆ เช่น เซิร์ฟเวอร์เก่าที่ไม่ได้อัปเดต, อุปกรณ์ที่พนักงานนำมาใช้เองโดยไม่ผ่านการตรวจสอบ หรือแม้แต่ระบบของพันธมิตรที่องค์กรไม่สามารถควบคุมได้เต็มที่ เหตุการณ์จริงที่สะท้อนความร้ายแรงคือการโจมตี Oracle ในปี 2025 ที่เกิดจากเพียงซับโดเมนที่ไม่มีการจัดการ แต่กลับนำไปสู่การรั่วไหลข้อมูลลูกค้านับล้านราย นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงบทบาทของ AI ที่ทั้งช่วยและทำร้ายได้ในเวลาเดียวกัน ฝั่งผู้โจมตีใช้ AI เพื่อเร่งการสแกนและสร้างสคริปต์โจมตี ส่วนฝั่งป้องกันก็ใช้ AI เพื่อค้นหาและจัดลำดับความสำคัญของช่องโหว่ แต่ท้ายที่สุดแล้ว AI ไม่ได้สร้างความได้เปรียบที่ชัดเจน เพราะทั้งสองฝ่ายต่างก็พัฒนาแข่งกันอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำคือการสแกนระบบอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงรายไตรมาส และควรลบโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ได้ใช้งานออกไป รวมถึงการเสริมชั้นการตรวจสอบเพิ่มเติมนอกเหนือจาก Microsoft Defender เพื่อให้ครอบคลุมมากขึ้น พร้อมเชื่อมโยงเข้ากับระบบ SIEM และ SOAR เพื่อให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ: ✅ จุดบอดของ EASM ที่ผู้โจมตีใช้ประโยชน์ ➡️ เซิร์ฟเวอร์เก่า, Shadow IT, ระบบพันธมิตรที่ไม่ปลอดภัย ✅ AI มีบทบาททั้งช่วยและทำร้าย ➡️ ผู้โจมตีใช้เพื่อเร่งการโจมตี, ฝั่งป้องกันใช้เพื่อค้นหาช่องโหว่ ✅ วิธีเสริมความปลอดภัย ➡️ สแกนต่อเนื่อง, ลบระบบที่ไม่ได้ใช้งาน, เพิ่มชั้นตรวจสอบ ‼️ ความเสี่ยงจากการพึ่งพาเครื่องมือเดียว ⛔ Defender เพียงอย่างเดียวอาจสร้างความมั่นใจผิด ๆ https://hackread.com/how-adversaries-exploit-blind-spots-easm-strategy/
    HACKREAD.COM
    How Adversaries Exploit the Blind Spots in Your EASM Strategy
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • อายุการใช้งานทีวีราคาถูก จริง ๆ แล้วอยู่ได้นานแค่ไหน

    ทีวีราคาถูกที่ขายกันทั่วไปในตลาดราว 300 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 10,000 บาท มักถูกตั้งคำถามว่าใช้งานได้นานจริงหรือไม่ ผู้ผลิตมักเคลมว่าอายุการใช้งานอยู่ที่ราว 45,000–50,000 ชั่วโมง หรือประมาณ 5–6 ปี แต่ในความเป็นจริง ผู้ใช้จำนวนมากพบว่าทีวีราคาถูกเสื่อมสภาพเร็วกว่านั้น ทั้งจากปัญหาซอฟต์แวร์ที่ล้าสมัย การระบายความร้อนที่ไม่ดี และคุณภาพชิ้นส่วนที่ต่ำกว่า

    เจ้าของทีวีราคาถูกหลายคนเล่าว่าบางเครื่องอยู่ได้เพียง 2–4 ปี โดยเฉพาะหากเปิดใช้งานต่อเนื่องวันละหลายชั่วโมง ขณะที่บางเครื่องอาจอยู่ได้นานถึง 10 ปี หากใช้งานเบา ๆ และดูแลรักษาอย่างดี เช่น การลดความสว่าง ปิดเครื่องเมื่อไม่ใช้ และทำความสะอาดช่องระบายอากาศเพื่อป้องกันฝุ่นสะสม

    นอกจากนี้ เทคโนโลยีทีวีสมัยใหม่ที่เน้นซอฟต์แวร์อัจฉริยะกลับทำให้เครื่องเสื่อมเร็วขึ้น เพราะระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันอาจไม่รองรับในเวลาไม่กี่ปี ทำให้ทีวีที่ยังใช้งานได้ดีด้านฮาร์ดแวร์ กลายเป็นล้าสมัยด้านซอฟต์แวร์ไปโดยปริยาย ผู้ใช้จึงต้องพิจารณาว่าการซื้อทีวีราคาถูกเป็นการลงทุนระยะสั้นมากกว่าระยะยาว

    สรุปเป็นหัวข้อ:
    อายุการใช้งานทีวีราคาถูกโดยเฉลี่ย 4–6 ปี
    ผู้ผลิตเคลมสูงสุด 45,000–50,000 ชั่วโมง
    บางเครื่องอยู่ได้ถึง 10 ปีหากใช้งานเบา ๆ

    ปัจจัยที่ทำให้เสื่อมเร็ว
    ซอฟต์แวร์ล้าสมัย
    คุณภาพชิ้นส่วนต่ำ

    ความเสี่ยงจากการใช้งานต่อเนื่อง
    เปิดทั้งวันทำให้ชิ้นส่วนร้อนและเสื่อมเร็ว
    ฝุ่นสะสมทำให้ระบบระบายความร้อนล้มเหลว

    ปัญหาซอฟต์แวร์ที่ทำให้ทีวีล้าสมัย
    ระบบปฏิบัติการไม่รองรับแอปใหม่
    ทำให้ทีวียังดีด้านฮาร์ดแวร์แต่ใช้งานจริงไม่ได้

    https://www.slashgear.com/2012275/how-long-cheap-tvs-last-lifespan/
    📺 อายุการใช้งานทีวีราคาถูก จริง ๆ แล้วอยู่ได้นานแค่ไหน ทีวีราคาถูกที่ขายกันทั่วไปในตลาดราว 300 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 10,000 บาท มักถูกตั้งคำถามว่าใช้งานได้นานจริงหรือไม่ ผู้ผลิตมักเคลมว่าอายุการใช้งานอยู่ที่ราว 45,000–50,000 ชั่วโมง หรือประมาณ 5–6 ปี แต่ในความเป็นจริง ผู้ใช้จำนวนมากพบว่าทีวีราคาถูกเสื่อมสภาพเร็วกว่านั้น ทั้งจากปัญหาซอฟต์แวร์ที่ล้าสมัย การระบายความร้อนที่ไม่ดี และคุณภาพชิ้นส่วนที่ต่ำกว่า เจ้าของทีวีราคาถูกหลายคนเล่าว่าบางเครื่องอยู่ได้เพียง 2–4 ปี โดยเฉพาะหากเปิดใช้งานต่อเนื่องวันละหลายชั่วโมง ขณะที่บางเครื่องอาจอยู่ได้นานถึง 10 ปี หากใช้งานเบา ๆ และดูแลรักษาอย่างดี เช่น การลดความสว่าง ปิดเครื่องเมื่อไม่ใช้ และทำความสะอาดช่องระบายอากาศเพื่อป้องกันฝุ่นสะสม นอกจากนี้ เทคโนโลยีทีวีสมัยใหม่ที่เน้นซอฟต์แวร์อัจฉริยะกลับทำให้เครื่องเสื่อมเร็วขึ้น เพราะระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันอาจไม่รองรับในเวลาไม่กี่ปี ทำให้ทีวีที่ยังใช้งานได้ดีด้านฮาร์ดแวร์ กลายเป็นล้าสมัยด้านซอฟต์แวร์ไปโดยปริยาย ผู้ใช้จึงต้องพิจารณาว่าการซื้อทีวีราคาถูกเป็นการลงทุนระยะสั้นมากกว่าระยะยาว 📌 สรุปเป็นหัวข้อ: ✅ อายุการใช้งานทีวีราคาถูกโดยเฉลี่ย 4–6 ปี ➡️ ผู้ผลิตเคลมสูงสุด 45,000–50,000 ชั่วโมง ➡️ บางเครื่องอยู่ได้ถึง 10 ปีหากใช้งานเบา ๆ ✅ ปัจจัยที่ทำให้เสื่อมเร็ว ➡️ ซอฟต์แวร์ล้าสมัย ➡️ คุณภาพชิ้นส่วนต่ำ ‼️ ความเสี่ยงจากการใช้งานต่อเนื่อง ⛔ เปิดทั้งวันทำให้ชิ้นส่วนร้อนและเสื่อมเร็ว ⛔ ฝุ่นสะสมทำให้ระบบระบายความร้อนล้มเหลว ‼️ ปัญหาซอฟต์แวร์ที่ทำให้ทีวีล้าสมัย ⛔ ระบบปฏิบัติการไม่รองรับแอปใหม่ ⛔ ทำให้ทีวียังดีด้านฮาร์ดแวร์แต่ใช้งานจริงไม่ได้ https://www.slashgear.com/2012275/how-long-cheap-tvs-last-lifespan/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    How Long Can You Expect A Cheap TV To Last? Here's What Owners Say - SlashGear
    Cheap TVs typically last about 5 years under normal use, though signs of wear and picture degradation may show sooner according to owners.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • สายการบิน WestJet เก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มหากอยากเอนเบาะ

    WestJet สายการบินจากแคนาดา กำลังสร้างกระแสใหม่ในอุตสาหกรรมการบิน โดยประกาศว่าจะยกเลิกเบาะปรับเอนได้ในชั้นประหยัดมาตรฐาน และหากผู้โดยสารต้องการเอนเบาะ จะต้องจ่ายเพิ่มเพื่อเลือกที่นั่งในชั้น Premium หรือ Extended Comfort เท่านั้น การเปลี่ยนแปลงนี้ครอบคลุมเครื่องบิน Boeing 737-8 Max และ 737-800 จำนวนกว่า 40 ลำ ซึ่งบินไปยังหลายรัฐในสหรัฐฯ และจุดหมายปลายทางทั่วโลก

    เหตุผลเบื้องหลังคือการเพิ่มจำนวนที่นั่งในแต่ละเที่ยวบิน เพื่อให้ราคาตั๋วโดยรวมถูกลง และยังอ้างว่าผู้โดยสารบางส่วนชอบเก้าอี้แบบไม่เอนได้ เพราะไม่ต้องกังวลว่าคนข้างหน้าจะเอนมารบกวนพื้นที่ส่วนตัว อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนแนวโน้มที่สายการบินอเมริกาเหนือหลายแห่งเริ่มลดสิ่งอำนวยความสะดวกที่เคยเป็นมาตรฐาน เช่น Southwest ที่เริ่มเก็บค่ากระเป๋าใบแรก

    นอกจากเรื่องค่าใช้จ่าย ผู้โดยสารยังต้องพิจารณาว่าการนั่งเก้าอี้แบบไม่เอนได้อาจส่งผลต่อความสบายในเที่ยวบินยาว ๆ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหลังหรือคอ แม้ WestJet จะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น ที่วางขาเพิ่ม พอร์ตชาร์จ และพาร์ติชันกั้นพื้นที่ แต่ก็ยังไม่แน่ว่าจะชดเชยความรู้สึกสบายที่หายไปได้

    สรุปเป็นหัวข้อ:
    WestJet ยกเลิกเบาะปรับเอนได้ในชั้นประหยัด
    เพิ่มที่นั่งได้อีกหนึ่งแถวต่อเครื่อง
    มีตัวเลือก Premium และ Extended Comfort พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่ม

    แนวโน้มอุตสาหกรรมการบินลดสิ่งอำนวยความสะดวก
    Southwest เริ่มเก็บค่ากระเป๋าและยกเลิกการเลือกที่นั่งอิสระ

    ความเสี่ยงต่อสุขภาพและความสบายของผู้โดยสาร
    ผู้ที่มีปัญหาหลัง/คออาจได้รับผลกระทบ
    เที่ยวบินยาว ๆ อาจทำให้เกิดความเมื่อยล้าเพิ่มขึ้น

    https://www.slashgear.com/2006598/westjet-airline-reclining-seat-fee/
    ✈️ สายการบิน WestJet เก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มหากอยากเอนเบาะ WestJet สายการบินจากแคนาดา กำลังสร้างกระแสใหม่ในอุตสาหกรรมการบิน โดยประกาศว่าจะยกเลิกเบาะปรับเอนได้ในชั้นประหยัดมาตรฐาน และหากผู้โดยสารต้องการเอนเบาะ จะต้องจ่ายเพิ่มเพื่อเลือกที่นั่งในชั้น Premium หรือ Extended Comfort เท่านั้น การเปลี่ยนแปลงนี้ครอบคลุมเครื่องบิน Boeing 737-8 Max และ 737-800 จำนวนกว่า 40 ลำ ซึ่งบินไปยังหลายรัฐในสหรัฐฯ และจุดหมายปลายทางทั่วโลก เหตุผลเบื้องหลังคือการเพิ่มจำนวนที่นั่งในแต่ละเที่ยวบิน เพื่อให้ราคาตั๋วโดยรวมถูกลง และยังอ้างว่าผู้โดยสารบางส่วนชอบเก้าอี้แบบไม่เอนได้ เพราะไม่ต้องกังวลว่าคนข้างหน้าจะเอนมารบกวนพื้นที่ส่วนตัว อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนแนวโน้มที่สายการบินอเมริกาเหนือหลายแห่งเริ่มลดสิ่งอำนวยความสะดวกที่เคยเป็นมาตรฐาน เช่น Southwest ที่เริ่มเก็บค่ากระเป๋าใบแรก นอกจากเรื่องค่าใช้จ่าย ผู้โดยสารยังต้องพิจารณาว่าการนั่งเก้าอี้แบบไม่เอนได้อาจส่งผลต่อความสบายในเที่ยวบินยาว ๆ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหลังหรือคอ แม้ WestJet จะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น ที่วางขาเพิ่ม พอร์ตชาร์จ และพาร์ติชันกั้นพื้นที่ แต่ก็ยังไม่แน่ว่าจะชดเชยความรู้สึกสบายที่หายไปได้ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ: ✅ WestJet ยกเลิกเบาะปรับเอนได้ในชั้นประหยัด ➡️ เพิ่มที่นั่งได้อีกหนึ่งแถวต่อเครื่อง ➡️ มีตัวเลือก Premium และ Extended Comfort พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่ม ✅ แนวโน้มอุตสาหกรรมการบินลดสิ่งอำนวยความสะดวก ➡️ Southwest เริ่มเก็บค่ากระเป๋าและยกเลิกการเลือกที่นั่งอิสระ ‼️ ความเสี่ยงต่อสุขภาพและความสบายของผู้โดยสาร ⛔ ผู้ที่มีปัญหาหลัง/คออาจได้รับผลกระทบ ⛔ เที่ยวบินยาว ๆ อาจทำให้เกิดความเมื่อยล้าเพิ่มขึ้น https://www.slashgear.com/2006598/westjet-airline-reclining-seat-fee/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    This US Airline Wants To Charge You Extra To Recline Your Seat - SlashGear
    Only Premium and Extended Comfort passengers will get reclining seats (with an added cost), while those in Standard Economy will be in fixed-recline chairs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts