• เปลี่ยนสี!?!

    บิล เกตส์ แสดงความยินดีต่อทรัมป์ และหวังว่าจะจับมือไปด้วยกัน!

    ช่วงหาเสียงเลือกตั้งเขาบริจาคเงินมากถึง 50 ล้านเหรียญ สนับสนุนการเสนอตัวชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของคามาลา แฮร์ริส
    เปลี่ยนสี!?! บิล เกตส์ แสดงความยินดีต่อทรัมป์ และหวังว่าจะจับมือไปด้วยกัน! ช่วงหาเสียงเลือกตั้งเขาบริจาคเงินมากถึง 50 ล้านเหรียญ สนับสนุนการเสนอตัวชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของคามาลา แฮร์ริส
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวอกเดียวกัน!
    "ฮิลลารี คลินตัน" และ "คามาลา แฮร์ริส" ที่พ่ายแพ้ให้กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งคู่ อดเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ
    หัวอกเดียวกัน! "ฮิลลารี คลินตัน" และ "คามาลา แฮร์ริส" ที่พ่ายแพ้ให้กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งคู่ อดเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากที่ รถถัง จิตรเมืองนนท์ ทำเข็มขัดแชมป์โลกมวยไทย ONE รุ่นฟลายเวต กระเด็นบนตาชั่ง เมื่อไม่ผ่านการทำน้ำหนัก เกินมา 0.5 ปอนด์ ทั้งที่มีไฟต์ใหญ่ในการป้องกันตำแหน่งกับ จาค็อบ สมิธ ในศึก ONE 169 เช้าวันเสาร์ที่ 9 พ.ย.นี้ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

    เลียม แฮร์ริสัน นักชกชื่อดังจากสหราชอาณาจักร ที่เพิ่งประกาศแขวนนวมไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รุ่นพี่ร่วมชาติของ จาค็อบ สมิธ ก็ออกมาจวกหนักใส่กำปั้นชาวไทยรายนี้ โดยชี้ว่า รถถัง ไม่มีความเป็นมืออาชีพ สวนทางกับการเป็นนักมวยไทยที่ได้รับค่าตัวสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ ONE แต่สู้นักมวยที่ได้รับค่าตัวน้อยกว่าตัวเอง 20 เท่า ไม่ได้
    หลังจากที่ รถถัง จิตรเมืองนนท์ ทำเข็มขัดแชมป์โลกมวยไทย ONE รุ่นฟลายเวต กระเด็นบนตาชั่ง เมื่อไม่ผ่านการทำน้ำหนัก เกินมา 0.5 ปอนด์ ทั้งที่มีไฟต์ใหญ่ในการป้องกันตำแหน่งกับ จาค็อบ สมิธ ในศึก ONE 169 เช้าวันเสาร์ที่ 9 พ.ย.นี้ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เลียม แฮร์ริสัน นักชกชื่อดังจากสหราชอาณาจักร ที่เพิ่งประกาศแขวนนวมไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รุ่นพี่ร่วมชาติของ จาค็อบ สมิธ ก็ออกมาจวกหนักใส่กำปั้นชาวไทยรายนี้ โดยชี้ว่า รถถัง ไม่มีความเป็นมืออาชีพ สวนทางกับการเป็นนักมวยไทยที่ได้รับค่าตัวสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ ONE แต่สู้นักมวยที่ได้รับค่าตัวน้อยกว่าตัวเอง 20 เท่า ไม่ได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์เริ่มคัดเลือกทีมผู้บริหารประจำทำเนียบขาวแล้ว!
    ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศแต่งตั้ง “ซูซี่ ไวลส์” (SUSIE WILES) เป็นหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว (White House chief of staff)

    ซูซี่ ไวลส์ วัย 67 ปี คือผู้จัดการการรณรงค์หาเสียงที่ทำให้ทรัมป์ได้รับชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์เหนือคามาลา แฮร์ริส

    เธอกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้สำหรับประธานาธิบดีสหรัฐ

    ก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายคาดว่า "เควิน แม็กคาร์ธี" อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร จะได้เข้ารับตำแหน่งนี้
    ทรัมป์เริ่มคัดเลือกทีมผู้บริหารประจำทำเนียบขาวแล้ว! ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศแต่งตั้ง “ซูซี่ ไวลส์” (SUSIE WILES) เป็นหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว (White House chief of staff) ซูซี่ ไวลส์ วัย 67 ปี คือผู้จัดการการรณรงค์หาเสียงที่ทำให้ทรัมป์ได้รับชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์เหนือคามาลา แฮร์ริส เธอกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้สำหรับประธานาธิบดีสหรัฐ ก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายคาดว่า "เควิน แม็กคาร์ธี" อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร จะได้เข้ารับตำแหน่งนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024: ทรัมป์ชนะแฮร์ริส ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47


    6 พฤศจิกายน 2024
    ปรับปรุงแล้ว เมื่อ 8 ชั่วโมงที่แล้ว
    นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน เตรียมหวนคืนสู่ทำเนียบขาวเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่สอง ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการชี้ชัดถึงชัยชนะเหนือนางกมลา แฮร์ริส ตัวแทนชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต

    จนถึงเวลา 8.30 น. ของวันที่ 7 พ.ย. 2567 ตามเวลาในประเทศไทย ผลการนับคะแนนเลือกตั้งสหรัฐฯ ยังไม่เสร็จสิ้นลง โดยยังเหลืออีก 3 รัฐ ที่ยังไม่ประกาศคะแนน ได้แก่ รัฐเนวาดา, แอริโซนา และเมน

    ผลการนับคะแนนล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ได้คะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง 294 เสียง และกมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต ได้ไป 223 เสียง

    https://www.bbc.com/thai/articles/cwygj2dewl0o
    ผลเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024: ทรัมป์ชนะแฮร์ริส ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 6 พฤศจิกายน 2024 ปรับปรุงแล้ว เมื่อ 8 ชั่วโมงที่แล้ว นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน เตรียมหวนคืนสู่ทำเนียบขาวเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่สอง ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการชี้ชัดถึงชัยชนะเหนือนางกมลา แฮร์ริส ตัวแทนชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต จนถึงเวลา 8.30 น. ของวันที่ 7 พ.ย. 2567 ตามเวลาในประเทศไทย ผลการนับคะแนนเลือกตั้งสหรัฐฯ ยังไม่เสร็จสิ้นลง โดยยังเหลืออีก 3 รัฐ ที่ยังไม่ประกาศคะแนน ได้แก่ รัฐเนวาดา, แอริโซนา และเมน ผลการนับคะแนนล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ได้คะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง 294 เสียง และกมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต ได้ไป 223 เสียง https://www.bbc.com/thai/articles/cwygj2dewl0o
    WWW.BBC.COM
    ผลเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024: ทรัมป์ชนะแฮร์ริส ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 - BBC News ไทย
    บีบีซีไทยติดตามผลการเลือกตั้ง ใครจะได้เป็นประธานาธิบดีคนถัดไปของสหรัฐอเมริกา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับตานโยบายหลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการของทรัมป์ที่มีต่อชาวยิวในสหรัฐ และทั่วโลก

    จากรายงานของ NBC News ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวยิวในสหรัฐกว่า 79% โหวตให้คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต
    จับตานโยบายหลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการของทรัมป์ที่มีต่อชาวยิวในสหรัฐ และทั่วโลก จากรายงานของ NBC News ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวยิวในสหรัฐกว่า 79% โหวตให้คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ไม่เพียงชนะเลือกตั้ง แต่มีชัยเหนือภาพลวงตาที่ฝั่งหัวประชาชนมานาน ..... โดยทนง ขันทอง
    .
    ในการเลือกตั้งปี 2020 โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งลงชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง ได้คะแนนเสียงจากคนอเมริกันทั้งหมด (popular votes) 74 ล้านเสียง ถือว่าเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียว แต่ทรัมป์กลับต้องพ่ายแพ้ต่อโจ ไบเดนที่ได้คะแนน 81ล้านเสียง ที่เหนือกว่าประวัติการณ์เสียอีก
    .
    มองด้วยสามัญสำนึกธรรมดาจะเห็นทันทีเลยว่า ไม่มีทางที่นักการเมืองที่น่าเบื่ออย่างไบเดนที่เป็นส่วนหนึ่งของพวกอำนาจรัฐ (Establishment) จะได้คะแนนความนิยมมากมายอย่างนี้ มันเป็นเรื่องยากที่ไบเดนจะสามารถเอาชนะทรัมป์ที่ครองอำนาจอยู่ในทำเนียบขาวอยู่แล้ว และมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่ไบเดนจะมีคะแนนความนิยมมากกว่าโอบามาที่ได้คะแนนความนิยมเสียง 65ล้านเสียง ในการชนะการเลือกตั้งในปี 2012 หรือฮิลลารี่ที่ได้คะแนนความนิยม 65 ล้านเสียงในปี 2016 อย่างมีนัยสำคัญ
    .
    หันกลับมาดูการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทรัมป์ชนะเลือกตั้งกลับมาเป็นประธานาธิบดีในสมัยที่สองด้วยคะแนนความนิยม 72 ล้านเสียง เทียบกับกมลา แฮร์ริสที่ได้ 67ล้านเสียง โดยชนะแบบแลนด์สไลด์ขาดลอย
    .
    สรุปภาพรวมแล้ว ตัวแทนจากเดโมแครตที่ลงเลือกตั้งประธานาธิบดี ไม่ว่าจะเป็นโอบามา ฮิลลารี่ หรือแฮร์ริสมีฐานเสียงคะแนนความนิยมพอๆกันที่ประมาณ 65 ล้านเสียง แล้วจู่ๆ ไบเดนจะชนะการเลือกต้ังในปี 2020 ได้อย่างไรด้วยคะแนนความนิยมที่นำโด่งที่ 81ล้านเสียง มากกว่าฐานเสียงคะแนนความนิยมของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของเดโมแครตถึง 20 ล้านเสียง!!!!
    .
    เรื่องนี้จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ยกเว้นว่า พวกเดโมแครต และไบเดนปล้นชัยชนะจากทรัมป์ในการเลือกต้ัง โดยโมเมตัวเลขคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นมาถึง 20 ล้านเสียง ผ่านคะแนนที่มาจากจากโหวตทางไปรษณีย์ หรือเครื่องนับคะแนนDominionที่มีการตั้งโปรแกรมการนับคะแนนแบบมีข้อกังขา คะแนนของทรัมป์ที่ได้ 74 ล้านเสียง ในการแข่งกับไบเดนคร้ังนั้นถือว่าเป็นประวัติการณ์อยู่แล้ว ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้ เดโมแครตทำโพลแบบลับๆเห็นตัวเลขคะแนนความนิยมที่สูงเป็นประวัติการณ์ของทรัมป์อยู่แล้วจึงต้องหาทางปั่นตัวเลขให้ไบเดนให้ได้คะแนนความนิยมสูงเสียดฟ้าไม่งั้นไม่ชนะ โดยใช้ conspiracy ของการแพร่ระขาดของไวรัสโควิดเพื่อทำลายเศรษฐกิจของจีน และผลกระทบข้างเคียงที่ตามมาในการกักคนห้ามออกนอกบ้าน ทำให้คนอเมริกันไปโหวตที่ศูนย์เลือกตั้งไม่ได้ ต้องโหวตผ่านไปรษณีย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งเปิดโอกาสให้มีการโกงการเลือกตั้งได้ง่ายผ่านบัตรผี หรือทำลายบัตรที่ลงคะแนนให้ทรัมป์
    .
    องคายพของระบบการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐถูกควบคุมโดยเดโมแครตเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าเจ้าหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งในรัฐสมรภูมิ นักการเมืองท้องถิ่น อัยการ ศาล รวมท้ังสื่อท้ังกระแสหลัก และสื่อออนไลน์ต่างก็ให้การสนับสนุนฝ่ายลิเบอรัลเดโมแครตอยู่แล้ว การโกงชัยชนะของทรัมป์จึงสามารถทำได้ โดยที่ไบเดนแทบที่จะไม่ต้องแคมเปญอะไรมาก เพราะรู้ผลการเลือกตั้งล่วงหน้าอยู่แล้ว ผลประโยชน์ของการเข้ามามีอำนาจทางการเมืองในวอชิงตันดี ซีมากมายมหาศาลจึงเป็นเรื่องที่เดโมแครตต้องทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ
    .
    แต่การเลือกต้ังเมื่อวานนี้ เดโมแครตทำอะไรทรัมป์ไม่ได้ เพราะว่ากระแสความนิยมในตัวทรัมป์เดิมทีดีอยู่แล้ว จะโกงทรัมป์อีกรอบเป็นเรื่องยากดั่งเข็นครกขึ้นภูเขา และยิ่งตลอดระยะเวลา4ปีที่ผ่านมาของการบริหารงานของไบเดน และแฮร์ริสเป็นไปอย่างล้มเหลว โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจ และการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายของชาวต่างชาติ คนอเมริกันส่วนมากปากกัดตีนถีบเพราะของแพงเงินเฟ้อ ค่าเช่าบ้านแทบจะจ่ายไม่ไหวจึงไม่พอใจไบเดนเป็นอย่างมาก ยิ่งแฮร์ริสหาเสียงด้วยธีมที่ว่าเธอจะสานต่อนโยบายของไบเดนต่อไป ก็เท่ากับว่าเธอจะเดินหน้าดำเนินนโยบายที่ล้มเหลวต่อไปอีก 4 ปี ถ้าหากชนะเลือกตั้ง ซึ่งถือว่าเป็นฝันร้ายสำหรับคนอเมริกันที่มีสิทธิ์โหวต
    .
    CNN ทำสำรวจ exit poll ที่เผยแพร่ในวันเลือกตั้งประธานาธิบดี ปรากฏว่าคนอเมริกันประมาณ 70% ไม่พอใจในสภาพของบ้านเมืองอเมริกัน และต้องการความเปลี่ยนแปลง ตรงกันข้ามกับข้อมูลที่รัฐบาลสหรัฐเผยแพร่มาตลอดว่าเศรษฐกิจดี การจ้างงานยังแข็งแกร่ง ตลาดหุ้นตลาดการเงินไปโลดสร้างสถิติใหม่ตลอด ท้ังนี้เพราะว่าตลาดการเงินแยกตัวออกจากพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริงมาตั้งนานแล้ว คนที่มีทรัพย์สินในตลาดการเงินจึงพอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ เพราะว่าทรัพย์สินทางการเงินเพิ่มมูลค่าอย่างมาก ในขณะที่คนส่วนมากที่อยู่กับเศรษฐกิจที่แท้จริงต่างลำบากกันถ้วนหน้ากับเงินเฟ้อ และงานที่ให้ค่าจ้างดีๆที่หายากลำบาก
    .
    Chris Wallace ผู้ประกาศข่าวของ CNN จึงพูดในรายการที่รายงานการเลือกต้ังว่า ด้วยตัวเลขจากเอ็กซิตโพลที่คนอเมริกันส่วนมากไม่พอใจกับสภาพเศรษฐกิจ หรือปัญหาของบ้านเมือง มันจะเป็นส่ิงมหัศจรรย์สำหรับแฮร์ริสที่จะชนะการเลือกต้ัง และมันก็เป็นเช่นนั้น ไม่มีสิ่งมหัศจรรย์สำหรับแฮร์ริสในการพลิกผลของการเลือกตั้ง เพราะว่าคนอเมริกันส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ออกมาใช้สิทธิ์คร้ังแรก หรือคนที่ไม่สังกัดพรรคใดโหวตให้ทรัมป์ เพราะว่าต้องการความเปลี่ยนแปลง เห็นทรัมป์เป็นความหวังว่าจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้น เพราะว่าทรัมป์เป็นคนนอก ไม่ใช่เป็นคนในของระบบการเมืองอเมริกันที่ผูกขาดอำนาจ
    .
    ชัยชนะของทรัมป์ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่าโพลต่างๆเชื่อถือไม่ได้แม้แต่น้อย เพราะส่วนมากให้แฮร์ริสชนะ สื่อกระแสหลักและสื่อออนไลน์ที่ทรงพลังก็ไม่มีความน่าเชื่อถือพอๆกัน เพราะว่าถือหางแฮร์ริส และรายงานทรัมป์ในแง่ลบมาตลอด คนที่เชื่อในโพลของสื่อหรือสำนักกระแสหลัก หรือเชื่อในสื่อกระแสหลักของสื่อออนไลน์ที่ทรงพลังจะได้ข้อมูลที่บิดเบือนหรือไม่ก็โกหกกันอย่างโจ่งแจ้ง เมื่อปรากฎผลว่าทรัมป์ชนะแฮร์ริสอย่างถล่มทลาย หลายคนยอมรับไม่ได้ เพราะว่ายังติดหล่มกับความเชื่อเดิมที่ถูกฝังหัว แต่คนส่วนมากเริ่มที่จะตื่นรู้ว่าถูกแหกตามาตลอด
    .
    ได้เวลาปฏิรูประบบเสียที เพื่อว่าสังคมจะได้กลับเข้ามาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ไม่ใช่โลกที่ถูกบิดเบือนด้วยภาพลวงตา
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์ไม่เพียงชนะเลือกตั้ง แต่มีชัยเหนือภาพลวงตาที่ฝั่งหัวประชาชนมานาน ..... โดยทนง ขันทอง . ในการเลือกตั้งปี 2020 โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งลงชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง ได้คะแนนเสียงจากคนอเมริกันทั้งหมด (popular votes) 74 ล้านเสียง ถือว่าเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียว แต่ทรัมป์กลับต้องพ่ายแพ้ต่อโจ ไบเดนที่ได้คะแนน 81ล้านเสียง ที่เหนือกว่าประวัติการณ์เสียอีก . มองด้วยสามัญสำนึกธรรมดาจะเห็นทันทีเลยว่า ไม่มีทางที่นักการเมืองที่น่าเบื่ออย่างไบเดนที่เป็นส่วนหนึ่งของพวกอำนาจรัฐ (Establishment) จะได้คะแนนความนิยมมากมายอย่างนี้ มันเป็นเรื่องยากที่ไบเดนจะสามารถเอาชนะทรัมป์ที่ครองอำนาจอยู่ในทำเนียบขาวอยู่แล้ว และมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่ไบเดนจะมีคะแนนความนิยมมากกว่าโอบามาที่ได้คะแนนความนิยมเสียง 65ล้านเสียง ในการชนะการเลือกตั้งในปี 2012 หรือฮิลลารี่ที่ได้คะแนนความนิยม 65 ล้านเสียงในปี 2016 อย่างมีนัยสำคัญ . หันกลับมาดูการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทรัมป์ชนะเลือกตั้งกลับมาเป็นประธานาธิบดีในสมัยที่สองด้วยคะแนนความนิยม 72 ล้านเสียง เทียบกับกมลา แฮร์ริสที่ได้ 67ล้านเสียง โดยชนะแบบแลนด์สไลด์ขาดลอย . สรุปภาพรวมแล้ว ตัวแทนจากเดโมแครตที่ลงเลือกตั้งประธานาธิบดี ไม่ว่าจะเป็นโอบามา ฮิลลารี่ หรือแฮร์ริสมีฐานเสียงคะแนนความนิยมพอๆกันที่ประมาณ 65 ล้านเสียง แล้วจู่ๆ ไบเดนจะชนะการเลือกต้ังในปี 2020 ได้อย่างไรด้วยคะแนนความนิยมที่นำโด่งที่ 81ล้านเสียง มากกว่าฐานเสียงคะแนนความนิยมของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของเดโมแครตถึง 20 ล้านเสียง!!!! . เรื่องนี้จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ยกเว้นว่า พวกเดโมแครต และไบเดนปล้นชัยชนะจากทรัมป์ในการเลือกต้ัง โดยโมเมตัวเลขคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นมาถึง 20 ล้านเสียง ผ่านคะแนนที่มาจากจากโหวตทางไปรษณีย์ หรือเครื่องนับคะแนนDominionที่มีการตั้งโปรแกรมการนับคะแนนแบบมีข้อกังขา คะแนนของทรัมป์ที่ได้ 74 ล้านเสียง ในการแข่งกับไบเดนคร้ังนั้นถือว่าเป็นประวัติการณ์อยู่แล้ว ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้ เดโมแครตทำโพลแบบลับๆเห็นตัวเลขคะแนนความนิยมที่สูงเป็นประวัติการณ์ของทรัมป์อยู่แล้วจึงต้องหาทางปั่นตัวเลขให้ไบเดนให้ได้คะแนนความนิยมสูงเสียดฟ้าไม่งั้นไม่ชนะ โดยใช้ conspiracy ของการแพร่ระขาดของไวรัสโควิดเพื่อทำลายเศรษฐกิจของจีน และผลกระทบข้างเคียงที่ตามมาในการกักคนห้ามออกนอกบ้าน ทำให้คนอเมริกันไปโหวตที่ศูนย์เลือกตั้งไม่ได้ ต้องโหวตผ่านไปรษณีย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งเปิดโอกาสให้มีการโกงการเลือกตั้งได้ง่ายผ่านบัตรผี หรือทำลายบัตรที่ลงคะแนนให้ทรัมป์ . องคายพของระบบการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐถูกควบคุมโดยเดโมแครตเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าเจ้าหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งในรัฐสมรภูมิ นักการเมืองท้องถิ่น อัยการ ศาล รวมท้ังสื่อท้ังกระแสหลัก และสื่อออนไลน์ต่างก็ให้การสนับสนุนฝ่ายลิเบอรัลเดโมแครตอยู่แล้ว การโกงชัยชนะของทรัมป์จึงสามารถทำได้ โดยที่ไบเดนแทบที่จะไม่ต้องแคมเปญอะไรมาก เพราะรู้ผลการเลือกตั้งล่วงหน้าอยู่แล้ว ผลประโยชน์ของการเข้ามามีอำนาจทางการเมืองในวอชิงตันดี ซีมากมายมหาศาลจึงเป็นเรื่องที่เดโมแครตต้องทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ . แต่การเลือกต้ังเมื่อวานนี้ เดโมแครตทำอะไรทรัมป์ไม่ได้ เพราะว่ากระแสความนิยมในตัวทรัมป์เดิมทีดีอยู่แล้ว จะโกงทรัมป์อีกรอบเป็นเรื่องยากดั่งเข็นครกขึ้นภูเขา และยิ่งตลอดระยะเวลา4ปีที่ผ่านมาของการบริหารงานของไบเดน และแฮร์ริสเป็นไปอย่างล้มเหลว โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจ และการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายของชาวต่างชาติ คนอเมริกันส่วนมากปากกัดตีนถีบเพราะของแพงเงินเฟ้อ ค่าเช่าบ้านแทบจะจ่ายไม่ไหวจึงไม่พอใจไบเดนเป็นอย่างมาก ยิ่งแฮร์ริสหาเสียงด้วยธีมที่ว่าเธอจะสานต่อนโยบายของไบเดนต่อไป ก็เท่ากับว่าเธอจะเดินหน้าดำเนินนโยบายที่ล้มเหลวต่อไปอีก 4 ปี ถ้าหากชนะเลือกตั้ง ซึ่งถือว่าเป็นฝันร้ายสำหรับคนอเมริกันที่มีสิทธิ์โหวต . CNN ทำสำรวจ exit poll ที่เผยแพร่ในวันเลือกตั้งประธานาธิบดี ปรากฏว่าคนอเมริกันประมาณ 70% ไม่พอใจในสภาพของบ้านเมืองอเมริกัน และต้องการความเปลี่ยนแปลง ตรงกันข้ามกับข้อมูลที่รัฐบาลสหรัฐเผยแพร่มาตลอดว่าเศรษฐกิจดี การจ้างงานยังแข็งแกร่ง ตลาดหุ้นตลาดการเงินไปโลดสร้างสถิติใหม่ตลอด ท้ังนี้เพราะว่าตลาดการเงินแยกตัวออกจากพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริงมาตั้งนานแล้ว คนที่มีทรัพย์สินในตลาดการเงินจึงพอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ เพราะว่าทรัพย์สินทางการเงินเพิ่มมูลค่าอย่างมาก ในขณะที่คนส่วนมากที่อยู่กับเศรษฐกิจที่แท้จริงต่างลำบากกันถ้วนหน้ากับเงินเฟ้อ และงานที่ให้ค่าจ้างดีๆที่หายากลำบาก . Chris Wallace ผู้ประกาศข่าวของ CNN จึงพูดในรายการที่รายงานการเลือกต้ังว่า ด้วยตัวเลขจากเอ็กซิตโพลที่คนอเมริกันส่วนมากไม่พอใจกับสภาพเศรษฐกิจ หรือปัญหาของบ้านเมือง มันจะเป็นส่ิงมหัศจรรย์สำหรับแฮร์ริสที่จะชนะการเลือกต้ัง และมันก็เป็นเช่นนั้น ไม่มีสิ่งมหัศจรรย์สำหรับแฮร์ริสในการพลิกผลของการเลือกตั้ง เพราะว่าคนอเมริกันส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ออกมาใช้สิทธิ์คร้ังแรก หรือคนที่ไม่สังกัดพรรคใดโหวตให้ทรัมป์ เพราะว่าต้องการความเปลี่ยนแปลง เห็นทรัมป์เป็นความหวังว่าจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้น เพราะว่าทรัมป์เป็นคนนอก ไม่ใช่เป็นคนในของระบบการเมืองอเมริกันที่ผูกขาดอำนาจ . ชัยชนะของทรัมป์ทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่าโพลต่างๆเชื่อถือไม่ได้แม้แต่น้อย เพราะส่วนมากให้แฮร์ริสชนะ สื่อกระแสหลักและสื่อออนไลน์ที่ทรงพลังก็ไม่มีความน่าเชื่อถือพอๆกัน เพราะว่าถือหางแฮร์ริส และรายงานทรัมป์ในแง่ลบมาตลอด คนที่เชื่อในโพลของสื่อหรือสำนักกระแสหลัก หรือเชื่อในสื่อกระแสหลักของสื่อออนไลน์ที่ทรงพลังจะได้ข้อมูลที่บิดเบือนหรือไม่ก็โกหกกันอย่างโจ่งแจ้ง เมื่อปรากฎผลว่าทรัมป์ชนะแฮร์ริสอย่างถล่มทลาย หลายคนยอมรับไม่ได้ เพราะว่ายังติดหล่มกับความเชื่อเดิมที่ถูกฝังหัว แต่คนส่วนมากเริ่มที่จะตื่นรู้ว่าถูกแหกตามาตลอด . ได้เวลาปฏิรูประบบเสียที เพื่อว่าสังคมจะได้กลับเข้ามาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ไม่ใช่โลกที่ถูกบิดเบือนด้วยภาพลวงตา .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Yay
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 546 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣️ พิธายกหูหา กมลา แฮร์ริส ยันไม่ใช่ตัวซวยทำแพ้เลือกตั้ง พร้อมปลอบยังมีโอกาสอีก 4 ปีข้างหน้า ขนาดตัวมันยังต้องรอ 10 ปีก็ยังไหว
    #7ดอกจิก
    ♣️ พิธายกหูหา กมลา แฮร์ริส ยันไม่ใช่ตัวซวยทำแพ้เลือกตั้ง พร้อมปลอบยังมีโอกาสอีก 4 ปีข้างหน้า ขนาดตัวมันยังต้องรอ 10 ปีก็ยังไหว #7ดอกจิก
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • คามาลา แฮร์ริส ยอมรับผลการเลือกตั้ง โดยบอกกับผู้สนับสนุนว่า "แสงแห่งคำมั่นสัญญาของอเมริกาจะส่องสว่างอยู่เสมอ ตราบใดที่เราไม่ยอมแพ้และตราบใดที่เรายังคงต่อสู้ต่อไป"
    คามาลา แฮร์ริส ยอมรับผลการเลือกตั้ง โดยบอกกับผู้สนับสนุนว่า "แสงแห่งคำมั่นสัญญาของอเมริกาจะส่องสว่างอยู่เสมอ ตราบใดที่เราไม่ยอมแพ้และตราบใดที่เรายังคงต่อสู้ต่อไป"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และตัวแทนจากเดโมแครต ให้สัญญาถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติแก่ โดนัลด์ ทรัมป์ ระหว่างการกล่าวปราศรัย ยอมรับความพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งผู้นำอเมริกาเมื่อวันอังคาร (5 พ.ย.) ที่ผ่านมา พร้อมเรียกร้องเหล่าผู้สนับสนุนอย่าเพิ่งสิ้นหวัง ให้เดินหน้าสู้เพื่ออุดมการณ์ต่อไป
    .
    "เราต้องยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ก่อนหน้านี้ในวันนี้ ดิฉันได้คุยกับว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ และแสดงความยินดีกับเขาต่อชัยชนะของเขา" แฮร์ริส กล่าวปราศรัย ณ มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เธอเคยเรียน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
    .
    "ดิฉันบอกกับเขาว่า เราจะช่วยเขาและคณะทำงานของเขาในการเปลี่ยนผ่าน และเราจะมีส่วนร่วมในการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ" แฮร์ริสระบุ
    .
    แฮร์ริส ไม่ได้พาดพิงกรณีที่ ทรัมป์ ปฏิเสธยอมรับความพ่ายแพ้ที่เขาปราศรัยต่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในปี 2020 แต่เธอกล่าวว่าการเคารพผลการเลือกตั้งทำให้ระบอบประชาธิปไตยเป็นอะไรที่พิเศษแตกต่างจากระบอบราชาธิปไตยและระบอบเผด็จการ ใครก็ตามที่อยากได้ความไว้วางใจจากสาธารณะจำเป็นต้องเคารพผลการเลือกตั้ง
    .
    "ในขณะเดียวกัน ในประเทศของเรา เรามีความภักดีไม่ใช่แค่กับประธานาธิบดีรายหนึ่งๆ หรือพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นความภักดีต่อรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ และภักดีต่อมโนธรรมและต่อพระผู้เป็นเจ้าของเรา" เธอกล่าว
    .
    ระหว่างปราศรัยต่อหน้าฝูงชนที่ส่งเสียงเชียร์ แฮร์ริสเริ่มต้นด้วยการเรียกร้องให้บรรดาผู้สนับสนุนเดินหน้าสู้ต่อเพื่ออุดมการณ์ต่างไ ของพวกเขา แม้มีความรู้สึกผิดหวังเจ็บปวด หนึ่งวันหลังจาก ทรัมป์ คว้าชัยชนะอย่างขาดลอย
    .
    "ผลของศึกเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่เราสู้เพื่อ ไม่ใช่สิ่งที่เราโหวตเพื่อ แต่ฟังฉัน ฉันอยากบอกว่าแสงสว่างแห่งความหวังของอเมริกาจะลุกโชนสว่างไสวอยู่เสมอ ตราบใดที่เราไม่มีวันยอมแพ้ และตราบใดที่เราเดินหน้าสู้ต่อไป" เธอกล่าว "บางครั้งการต่อสู้ต้องใช้เวลาสักพัก มันไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีวันชนะ"
    .
    บรรดาผู้สนับสนุนของแฮร์ริสหลายพันคนรวมตัวกันที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ดในคืนวันอังคาร (5 พ.ย.) เพื่อสิ่งที่พวกเขาหวังว่าจะได้เห็นชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ สำหรับผู้หญิงรายหนึ่งได้ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามในวันพุธ (6 พ.ย.) พวกเขากลับมารวมตัวกันอีกรอบ เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนแฮร์ริส หลังจากเธอประสบความพ่ายแพ้
    .
    "ฉันมาที่นี่ เพื่อแสดงความรักและความเคารพที่มีต่อเธอ สำหรับสิ่งที่เธอทำ" ดอนนา บรูซ วัย 72 ปีกล่าว พร้อมระบุว่าเธอเห็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ สวมเสื้อยืดที่มีข้อความว่า เด็กผู้หญิงผิวสีจะปกป้องโลก "ฉันยังคงเชื่อแบบนั้น มันอาจไม่ใช่เด็กหญิงรายนี้ แต่ฉันเชื่อว่าเด็กผู้หญิงผิวสีรายหนึ่งจะสามารถทำได้"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000107151
    ..............
    Sondhi X
    กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และตัวแทนจากเดโมแครต ให้สัญญาถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติแก่ โดนัลด์ ทรัมป์ ระหว่างการกล่าวปราศรัย ยอมรับความพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งผู้นำอเมริกาเมื่อวันอังคาร (5 พ.ย.) ที่ผ่านมา พร้อมเรียกร้องเหล่าผู้สนับสนุนอย่าเพิ่งสิ้นหวัง ให้เดินหน้าสู้เพื่ออุดมการณ์ต่อไป . "เราต้องยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ก่อนหน้านี้ในวันนี้ ดิฉันได้คุยกับว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ และแสดงความยินดีกับเขาต่อชัยชนะของเขา" แฮร์ริส กล่าวปราศรัย ณ มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เธอเคยเรียน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. . "ดิฉันบอกกับเขาว่า เราจะช่วยเขาและคณะทำงานของเขาในการเปลี่ยนผ่าน และเราจะมีส่วนร่วมในการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ" แฮร์ริสระบุ . แฮร์ริส ไม่ได้พาดพิงกรณีที่ ทรัมป์ ปฏิเสธยอมรับความพ่ายแพ้ที่เขาปราศรัยต่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในปี 2020 แต่เธอกล่าวว่าการเคารพผลการเลือกตั้งทำให้ระบอบประชาธิปไตยเป็นอะไรที่พิเศษแตกต่างจากระบอบราชาธิปไตยและระบอบเผด็จการ ใครก็ตามที่อยากได้ความไว้วางใจจากสาธารณะจำเป็นต้องเคารพผลการเลือกตั้ง . "ในขณะเดียวกัน ในประเทศของเรา เรามีความภักดีไม่ใช่แค่กับประธานาธิบดีรายหนึ่งๆ หรือพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นความภักดีต่อรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ และภักดีต่อมโนธรรมและต่อพระผู้เป็นเจ้าของเรา" เธอกล่าว . ระหว่างปราศรัยต่อหน้าฝูงชนที่ส่งเสียงเชียร์ แฮร์ริสเริ่มต้นด้วยการเรียกร้องให้บรรดาผู้สนับสนุนเดินหน้าสู้ต่อเพื่ออุดมการณ์ต่างไ ของพวกเขา แม้มีความรู้สึกผิดหวังเจ็บปวด หนึ่งวันหลังจาก ทรัมป์ คว้าชัยชนะอย่างขาดลอย . "ผลของศึกเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่เราสู้เพื่อ ไม่ใช่สิ่งที่เราโหวตเพื่อ แต่ฟังฉัน ฉันอยากบอกว่าแสงสว่างแห่งความหวังของอเมริกาจะลุกโชนสว่างไสวอยู่เสมอ ตราบใดที่เราไม่มีวันยอมแพ้ และตราบใดที่เราเดินหน้าสู้ต่อไป" เธอกล่าว "บางครั้งการต่อสู้ต้องใช้เวลาสักพัก มันไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีวันชนะ" . บรรดาผู้สนับสนุนของแฮร์ริสหลายพันคนรวมตัวกันที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ดในคืนวันอังคาร (5 พ.ย.) เพื่อสิ่งที่พวกเขาหวังว่าจะได้เห็นชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ สำหรับผู้หญิงรายหนึ่งได้ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามในวันพุธ (6 พ.ย.) พวกเขากลับมารวมตัวกันอีกรอบ เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนแฮร์ริส หลังจากเธอประสบความพ่ายแพ้ . "ฉันมาที่นี่ เพื่อแสดงความรักและความเคารพที่มีต่อเธอ สำหรับสิ่งที่เธอทำ" ดอนนา บรูซ วัย 72 ปีกล่าว พร้อมระบุว่าเธอเห็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ สวมเสื้อยืดที่มีข้อความว่า เด็กผู้หญิงผิวสีจะปกป้องโลก "ฉันยังคงเชื่อแบบนั้น มันอาจไม่ใช่เด็กหญิงรายนี้ แต่ฉันเชื่อว่าเด็กผู้หญิงผิวสีรายหนึ่งจะสามารถทำได้" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000107151 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1027 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ กำชัยชนะเหนือ กมลา แฮร์ริส อย่างง่ายดายและเด็ดขาดเกินคาดหมายในวันพุธ (6 พ.ย.) หลังกวาดคะแนนจากรัฐสมรภูมิสำคัญ และได้กลับสู่ทำเนียบขาวสมัยที่สองที่มีแนวโน้มสร้างแรงกระเพื่อมทั่วโลก นอกจากนั้น พรรครีพับลิกันของเขายังสามารถชิงอำนาจการควบคุมวุฒิสภาจากเดโมแครตได้สำเร็จ
    .
    ถึงแม้ผลสำรวจจากหลายสำนักก่อนหน้าการเลือกตั้งซึ่งจัดขึ้นในวันอังคาร (5) ต่างระบุว่า การแข่งขันครั้งนี้จะคู่คี่สูสีกันมากและอาจต้องรอนานหลายวันกว่าจะรู้ผล แต่กลายเป็นว่า พวกสื่อยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ สามารถประกาศอย่างเป็นเสียงเอกฉันท์ชนิดไม่มีเจ้าไหนแตกแถวตั้งแต่ในวันพุธ (6) ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ปี เป็นผู้ชนะ หลังจากอดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้สามารถกวาดคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง (electoral vote) เกิน 270 คะแนนซึ่งเป็นเกณฑ์สำหรับผู้ชนะ และได้เป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47
    .
    วิสคอนซิน ซึ่งเป็น 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิที่ผู้ออกเสียงไม่ได้แสดงความนิยมในผู้สมัครคนไหนหรือพรรคใหญ่พรรคใดอย่างชัดเจน จึงถูกมองว่าจะเป็นตัวชี้ขาดผู้มีชัยในการเลือกตั้งคราวนี้ ได้กลายเป็นรัฐตัดสินไปจริงๆ โดยหลังจากฟ็อกซ์นิวส์ เป็นสื่อยักษ์ใหญ่เจ้าแรกที่คาดการณ์ว่าทรัมป์ชนะในรัฐนี้ แล้วจึงประกาศว่าเขาได้เสียงคณะผู้เลือกตั้งเกิน 270 เสียงและเป็นผู้ชนะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปแล้ว ถัดจากนั้นอีกหลายชั่วโมงต่อมา สื่อยักษ์ใหญ่อื่นๆ ได้แก่ เอบีซี ซีบีเอส เอ็นบีซี ซีเอ็นเอ็น เอพี ก็เดินมาในรอยทางเดียวกัน กล่าวคือ ทยอยประกาศคาดการณ์ว่าทรัมป์ได้วิสคอนซินซึ่งมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 10 เสียงไป และทำให้เป็นผู้ชนะโดยรวม ถึงแม้ในทางเป็นจริงแล้วยังมีอีกหลายรัฐที่นับคะแนนยังไม่ทันเสร็จสิ้นก็ตามที
    .
    ไม่เพียงชนะด้วยเสียงคณะผู้เลือกตั้ง ในครั้งนี้ทรัมป์ยังได้คะแนนป็อปปูลาร์โหวต หรือเสียงโหวตจากผู้ออกเสียงทั่วประเทศ นำหน้าแฮร์ริสถึงประมาณ 5 ล้านคะแนน แตกต่างจากตอนที่เขาชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีสมัยแรกในปี 2016 ซึ่งเขามีชัยด้านเสียงคณะผู้เลือกตั้ง แต่แพ้ป็อปปูลาร์โหวตให้แก่คู่แข่งคือ ฮิลลารี คลินตัน เกือบ 3 ล้านคะแนน
    .
    นอกจากนั้นแล้ว พรรครีพับลิกันของทรัมป์ ยังเข้ายึดวุฒิสภามาจากเดโมแครตได้สำเร็จ โดยชิงที่นั่งซึ่งเดิมเป็นของเดโมแครตมาได้ 2 ที่นั่ง ทำให้พวกเขาเวลานี้เป็นฝ่ายที่มีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ขณะที่ในสภาผู้แทนราษฎรที่ชุดที่แล้วรีพับลิกันครองเสียงข้างมากเกินครึ่งเพียงเล็กน้อยนั้น ยังไม่มีพรรคใดทำท่าชนะอย่างแน่นอนชัดเจน และต้องรอผลการนับคะแนนอย่างละเอียดถี่ถ้วนกว่านี้
    .
    แฮร์ริสที่ถูกเปลี่ยนตัวเข้าแทนที่ โจ ไบเดน และมีเวลาในการรณรงค์หาเสียงเพียง 15 สัปดาห์เท่านั้น ทำไม่สำเร็จในการระดมเสียงสนับสนุนให้มากพอเพื่อยับยั้งทรัมป์ โดยเฉพาะในการคลายความกังวลของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งที่สำคัญที่สุดคือภาวะเงินเฟ้อ และปัญหาผู้อพยพ มิหนำซ้ำผู้ออกเสียงส่วนใหญ่ยังไม่สนใจคำเตือนของแคนดิเดตจากพรรคเดโมแครตผู้นี้ที่ว่า ทรัมป์ต้องการอำนาจแบบไม่มีการตรวจสอบและเป็นตัวอันตรายสำหรับประชาธิปไตย ทำให้ประเด็นหลักในการหาเสียงของแฮร์ริสคือ การสร้างความเป็นเอกภาพและสนับสนุนสิทธิในการทำแท้ง สุดท้ายยังไม่เพียงพอให้เธอสามารถสร้างประวัติศาสตร์ในการเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ อีกทั้งเป็นหญิงผิวดำและเชื้อสายเอเชียใต้คนแรกด้วย
    .
    จากโพลสำเร็จของรอยเตอร์/อิปซอสส์ บ่งชี้ว่าพวกผู้มีสิทธิเลือกตั้งมองว่า เรื่องงานและเศรษฐกิจเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของอเมริกา โดยคนอเมริกันจำนวนมากไม่พอใจปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจด้านอื่นๆ อยู่ในอาการที่ดี ไม่ว่าจะเป็นราคาหุ้นพุ่งทำสถิติ ค่าแรงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และอัตราว่างงานต่ำ ทั้งนี้นอกจากคนเหล่านั้นมองว่า เรื่องเงินเฟ้อเป็นความผิดของคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตแล้ว พวกเขาส่วนใหญ่ยังบอกว่า ไว้ใจทรัมป์มากกว่าแฮร์ริสในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
    .
    กลุ่มฮิสปานิกหรือกลุ่มคนพูดภาษาสเปน ที่เดิมทีเป็นฐานเสียงของเดโมแครต รวมทั้งครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำที่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อรุนแรงที่สุด กลายเป็นตัวช่วยส่งให้ทรัมป์ได้รับชัยชนะในครั้งนี้ นอกเหนือจากฐานเสียงที่จงรักภักดีเหนียวแน่นกับพวกเขาซึ่งได้แก่กลุ่มคนผิวขาวที่เรียนไม่ถึงระดับมหาวิทยาลัย
    .
    ชัยชนะครั้งนี้เกิดขึ้นมา ถึงแม้ว่า ทรัมป์มีคะแนนนิยมต่ำต่อเนื่อง เคยผ่านกระบวนการถูกพิจารณาถอดถอนถึง 2 ครั้ง ถูกอดีตหัวหน้าคณะทำงานในทำเนียบขาวของตนเองระบุว่าเป็น “ฟาสซิสต์” ถูกฟ้องร้องคดีอาญา 4 คดี และถูกตัดสินว่าผิดในคดีแพ่งจากการล่วงละเมิดทางเพศและการหมิ่นประมาท ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเขาถูกคณะลูกขุนในนิวยอร์กตัดสินว่า กระทำผิดในการปลอมแปลงข้อมูลธุรกิจเพื่อปกปิดการจ่ายเงินปิดปากดาราหนังปลุกใจเสือป่า
    .
    ด้วยวัย 78 ปี ทรัมป์กำลังจะสร้างสถิติใหม่ในการเป็นประธานาธิบดีที่อายุมากที่สุด
    .
    ชัยชนะของทรัมป์ยังมีนัยสำคัญต่อนโยบายการค้า ผู้อพยพ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของอเมริกา และสงครามในยูเครน
    .
    นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า ข้อเสนอขึ้นภาษีศุลกากรอย่างแรงของทรัมป์มีแนวโน้มจุดชนวนสงครามการค้ารุนแรงขึ้นกับจีน ตลอดจนกับพวกประเทศพันธมิตรของอเมริกา นอกจากนั้นเขายังให้สัญญาเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายครั้งใหญ่
    .
    ท่ามกลางเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีของผู้สนับสนุนที่ไปรวมตัวติดตามดูการนับคะแนนอยู่ที่รัฐฟลอริดา ทรัมป์ขึ้นเวทีพร้อมเมลาเนีย ภรรยา และลูกๆ และประกาศว่า นี่คือชัยชนะอันงดงามสำหรับคนอเมริกัน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ตนทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
    .
    เขายังกล่าวถึงการรอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหารสองครั้งระหว่างช่วงหาเสียงว่า หลายคนบอกว่าพระเจ้าปกป้องเขา
    .
    นอกจากครอบครัวทรัมป์ วุฒิสมาชิก เจดี. แวนซ์ คู่หูในตำแหน่งรองประธานาธิบดี และบรรดาผู้นำพรรครีพับลิกันแล้ว งานนี้ยังมี อีลอน มัสก์ นักธุรกิจและมหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งของโลกที่อัดฉีดแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ราว 120 ล้านดอลลาร์ เข้าร่วมฉลองด้วย โดยทรัมป์ยกย่องนายใหญ่เอ็กซ์และเทสลาผู้นี้เป็น “ดาวดวงใหม่” และก่อนหน้านี้ยังประกาศว่า จะแต่งตั้งมัสก์เป็นประธานคณะกรรมาธิการตรวจสอบประสิทธิภาพของรัฐบาล
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000107148
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ กำชัยชนะเหนือ กมลา แฮร์ริส อย่างง่ายดายและเด็ดขาดเกินคาดหมายในวันพุธ (6 พ.ย.) หลังกวาดคะแนนจากรัฐสมรภูมิสำคัญ และได้กลับสู่ทำเนียบขาวสมัยที่สองที่มีแนวโน้มสร้างแรงกระเพื่อมทั่วโลก นอกจากนั้น พรรครีพับลิกันของเขายังสามารถชิงอำนาจการควบคุมวุฒิสภาจากเดโมแครตได้สำเร็จ . ถึงแม้ผลสำรวจจากหลายสำนักก่อนหน้าการเลือกตั้งซึ่งจัดขึ้นในวันอังคาร (5) ต่างระบุว่า การแข่งขันครั้งนี้จะคู่คี่สูสีกันมากและอาจต้องรอนานหลายวันกว่าจะรู้ผล แต่กลายเป็นว่า พวกสื่อยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ สามารถประกาศอย่างเป็นเสียงเอกฉันท์ชนิดไม่มีเจ้าไหนแตกแถวตั้งแต่ในวันพุธ (6) ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ปี เป็นผู้ชนะ หลังจากอดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้สามารถกวาดคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง (electoral vote) เกิน 270 คะแนนซึ่งเป็นเกณฑ์สำหรับผู้ชนะ และได้เป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 . วิสคอนซิน ซึ่งเป็น 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิที่ผู้ออกเสียงไม่ได้แสดงความนิยมในผู้สมัครคนไหนหรือพรรคใหญ่พรรคใดอย่างชัดเจน จึงถูกมองว่าจะเป็นตัวชี้ขาดผู้มีชัยในการเลือกตั้งคราวนี้ ได้กลายเป็นรัฐตัดสินไปจริงๆ โดยหลังจากฟ็อกซ์นิวส์ เป็นสื่อยักษ์ใหญ่เจ้าแรกที่คาดการณ์ว่าทรัมป์ชนะในรัฐนี้ แล้วจึงประกาศว่าเขาได้เสียงคณะผู้เลือกตั้งเกิน 270 เสียงและเป็นผู้ชนะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปแล้ว ถัดจากนั้นอีกหลายชั่วโมงต่อมา สื่อยักษ์ใหญ่อื่นๆ ได้แก่ เอบีซี ซีบีเอส เอ็นบีซี ซีเอ็นเอ็น เอพี ก็เดินมาในรอยทางเดียวกัน กล่าวคือ ทยอยประกาศคาดการณ์ว่าทรัมป์ได้วิสคอนซินซึ่งมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 10 เสียงไป และทำให้เป็นผู้ชนะโดยรวม ถึงแม้ในทางเป็นจริงแล้วยังมีอีกหลายรัฐที่นับคะแนนยังไม่ทันเสร็จสิ้นก็ตามที . ไม่เพียงชนะด้วยเสียงคณะผู้เลือกตั้ง ในครั้งนี้ทรัมป์ยังได้คะแนนป็อปปูลาร์โหวต หรือเสียงโหวตจากผู้ออกเสียงทั่วประเทศ นำหน้าแฮร์ริสถึงประมาณ 5 ล้านคะแนน แตกต่างจากตอนที่เขาชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีสมัยแรกในปี 2016 ซึ่งเขามีชัยด้านเสียงคณะผู้เลือกตั้ง แต่แพ้ป็อปปูลาร์โหวตให้แก่คู่แข่งคือ ฮิลลารี คลินตัน เกือบ 3 ล้านคะแนน . นอกจากนั้นแล้ว พรรครีพับลิกันของทรัมป์ ยังเข้ายึดวุฒิสภามาจากเดโมแครตได้สำเร็จ โดยชิงที่นั่งซึ่งเดิมเป็นของเดโมแครตมาได้ 2 ที่นั่ง ทำให้พวกเขาเวลานี้เป็นฝ่ายที่มีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ขณะที่ในสภาผู้แทนราษฎรที่ชุดที่แล้วรีพับลิกันครองเสียงข้างมากเกินครึ่งเพียงเล็กน้อยนั้น ยังไม่มีพรรคใดทำท่าชนะอย่างแน่นอนชัดเจน และต้องรอผลการนับคะแนนอย่างละเอียดถี่ถ้วนกว่านี้ . แฮร์ริสที่ถูกเปลี่ยนตัวเข้าแทนที่ โจ ไบเดน และมีเวลาในการรณรงค์หาเสียงเพียง 15 สัปดาห์เท่านั้น ทำไม่สำเร็จในการระดมเสียงสนับสนุนให้มากพอเพื่อยับยั้งทรัมป์ โดยเฉพาะในการคลายความกังวลของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งที่สำคัญที่สุดคือภาวะเงินเฟ้อ และปัญหาผู้อพยพ มิหนำซ้ำผู้ออกเสียงส่วนใหญ่ยังไม่สนใจคำเตือนของแคนดิเดตจากพรรคเดโมแครตผู้นี้ที่ว่า ทรัมป์ต้องการอำนาจแบบไม่มีการตรวจสอบและเป็นตัวอันตรายสำหรับประชาธิปไตย ทำให้ประเด็นหลักในการหาเสียงของแฮร์ริสคือ การสร้างความเป็นเอกภาพและสนับสนุนสิทธิในการทำแท้ง สุดท้ายยังไม่เพียงพอให้เธอสามารถสร้างประวัติศาสตร์ในการเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ อีกทั้งเป็นหญิงผิวดำและเชื้อสายเอเชียใต้คนแรกด้วย . จากโพลสำเร็จของรอยเตอร์/อิปซอสส์ บ่งชี้ว่าพวกผู้มีสิทธิเลือกตั้งมองว่า เรื่องงานและเศรษฐกิจเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของอเมริกา โดยคนอเมริกันจำนวนมากไม่พอใจปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจด้านอื่นๆ อยู่ในอาการที่ดี ไม่ว่าจะเป็นราคาหุ้นพุ่งทำสถิติ ค่าแรงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และอัตราว่างงานต่ำ ทั้งนี้นอกจากคนเหล่านั้นมองว่า เรื่องเงินเฟ้อเป็นความผิดของคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตแล้ว พวกเขาส่วนใหญ่ยังบอกว่า ไว้ใจทรัมป์มากกว่าแฮร์ริสในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ . กลุ่มฮิสปานิกหรือกลุ่มคนพูดภาษาสเปน ที่เดิมทีเป็นฐานเสียงของเดโมแครต รวมทั้งครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำที่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อรุนแรงที่สุด กลายเป็นตัวช่วยส่งให้ทรัมป์ได้รับชัยชนะในครั้งนี้ นอกเหนือจากฐานเสียงที่จงรักภักดีเหนียวแน่นกับพวกเขาซึ่งได้แก่กลุ่มคนผิวขาวที่เรียนไม่ถึงระดับมหาวิทยาลัย . ชัยชนะครั้งนี้เกิดขึ้นมา ถึงแม้ว่า ทรัมป์มีคะแนนนิยมต่ำต่อเนื่อง เคยผ่านกระบวนการถูกพิจารณาถอดถอนถึง 2 ครั้ง ถูกอดีตหัวหน้าคณะทำงานในทำเนียบขาวของตนเองระบุว่าเป็น “ฟาสซิสต์” ถูกฟ้องร้องคดีอาญา 4 คดี และถูกตัดสินว่าผิดในคดีแพ่งจากการล่วงละเมิดทางเพศและการหมิ่นประมาท ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเขาถูกคณะลูกขุนในนิวยอร์กตัดสินว่า กระทำผิดในการปลอมแปลงข้อมูลธุรกิจเพื่อปกปิดการจ่ายเงินปิดปากดาราหนังปลุกใจเสือป่า . ด้วยวัย 78 ปี ทรัมป์กำลังจะสร้างสถิติใหม่ในการเป็นประธานาธิบดีที่อายุมากที่สุด . ชัยชนะของทรัมป์ยังมีนัยสำคัญต่อนโยบายการค้า ผู้อพยพ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของอเมริกา และสงครามในยูเครน . นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า ข้อเสนอขึ้นภาษีศุลกากรอย่างแรงของทรัมป์มีแนวโน้มจุดชนวนสงครามการค้ารุนแรงขึ้นกับจีน ตลอดจนกับพวกประเทศพันธมิตรของอเมริกา นอกจากนั้นเขายังให้สัญญาเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายครั้งใหญ่ . ท่ามกลางเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีของผู้สนับสนุนที่ไปรวมตัวติดตามดูการนับคะแนนอยู่ที่รัฐฟลอริดา ทรัมป์ขึ้นเวทีพร้อมเมลาเนีย ภรรยา และลูกๆ และประกาศว่า นี่คือชัยชนะอันงดงามสำหรับคนอเมริกัน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ตนทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง . เขายังกล่าวถึงการรอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหารสองครั้งระหว่างช่วงหาเสียงว่า หลายคนบอกว่าพระเจ้าปกป้องเขา . นอกจากครอบครัวทรัมป์ วุฒิสมาชิก เจดี. แวนซ์ คู่หูในตำแหน่งรองประธานาธิบดี และบรรดาผู้นำพรรครีพับลิกันแล้ว งานนี้ยังมี อีลอน มัสก์ นักธุรกิจและมหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งของโลกที่อัดฉีดแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ราว 120 ล้านดอลลาร์ เข้าร่วมฉลองด้วย โดยทรัมป์ยกย่องนายใหญ่เอ็กซ์และเทสลาผู้นี้เป็น “ดาวดวงใหม่” และก่อนหน้านี้ยังประกาศว่า จะแต่งตั้งมัสก์เป็นประธานคณะกรรมาธิการตรวจสอบประสิทธิภาพของรัฐบาล . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000107148 .............. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1048 มุมมอง 0 รีวิว
  • จอห์น เคอร์บี้ โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวในรัฐบาลไบเดน-แฮร์ริสกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า:

    'ลองนึกชื่อประเทศอื่นสักประเทศที่ทำได้มากเท่ากับสหรัฐฯ ในการบรรเทาความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานของประชาชนในฉนวนกาซา'

    ทนเห็นหน้าชายคนนี้อีกสักนิด ก่อนที่เขาจะโดนปลดออกจากตำแหน่งทันทีที่ทรัมป์เข้าทำเนียบขาว
    จอห์น เคอร์บี้ โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวในรัฐบาลไบเดน-แฮร์ริสกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า: 'ลองนึกชื่อประเทศอื่นสักประเทศที่ทำได้มากเท่ากับสหรัฐฯ ในการบรรเทาความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานของประชาชนในฉนวนกาซา' ทนเห็นหน้าชายคนนี้อีกสักนิด ก่อนที่เขาจะโดนปลดออกจากตำแหน่งทันทีที่ทรัมป์เข้าทำเนียบขาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 49 0 รีวิว
  • สำนักข่าว CNN รายงานล่าสุดให้อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงประธานาธิบดีสายรีพับลิกัน เก็บชัยชนะไปแล้วอย่างน้อย 25 รัฐ รวมถึงนอร์ทแคโรไลนา และจอร์เจียซึ่งเป็น 2 ใน 7 รัฐสมรภูมิสำคัญ คว้าจำนวนผู้แทนเลือกตั้งแล้ว 246 คน ขณะที่รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต มีแนวโน้มคว้าชัยแล้วใน 14 รัฐ และเขต D.C. ได้คณะผู้แทนเลือกตั้ง 187 คน ทว่ายังต้องรอจับตาผลการนับคะแนนในอีก 5 รัฐสมรภูมิสำคัญที่คาดว่าจะเป็นตัวตัดสินชี้ขาดผลเลือกตั้งในครั้งนี้

    https://mgronline.com/around/detail/9670000106900

    #Thaitimes
    สำนักข่าว CNN รายงานล่าสุดให้อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงประธานาธิบดีสายรีพับลิกัน เก็บชัยชนะไปแล้วอย่างน้อย 25 รัฐ รวมถึงนอร์ทแคโรไลนา และจอร์เจียซึ่งเป็น 2 ใน 7 รัฐสมรภูมิสำคัญ คว้าจำนวนผู้แทนเลือกตั้งแล้ว 246 คน ขณะที่รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต มีแนวโน้มคว้าชัยแล้วใน 14 รัฐ และเขต D.C. ได้คณะผู้แทนเลือกตั้ง 187 คน ทว่ายังต้องรอจับตาผลการนับคะแนนในอีก 5 รัฐสมรภูมิสำคัญที่คาดว่าจะเป็นตัวตัดสินชี้ขาดผลเลือกตั้งในครั้งนี้ https://mgronline.com/around/detail/9670000106900 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    ใกล้เส้นชัย! CNN ชี้ ‘ทรัมป์’ กวาด 2 รัฐสมรภูมิ ‘จอร์เจีย-นอร์ทแคโรไลนา’ ได้ผู้แทนเลือกตั้ง 246 คน
    สำนักข่าว CNN รายงานล่าสุดให้อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงประธานาธิบดีสายรีพับลิกัน เก็บชัยชนะไปแล้วอย่างน้อย 25 รัฐ รวมถึงนอร์ทแคโรไลนาและจอร์เจียซึ่งเป็น 2 ใน 7 รัฐสมรภูมิสำคัญ คว้าจำนวนผู้แทนเลือกตั้งแล้ว 246 คน ข
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • เราจะทรัมป์ตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน

    แม้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ปี 2024 ยังไม่เสร็จสิ้น แต่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันประกาศชัยชนะ หลังคะแนนคณะผู้เลือกตั้งมีมากกว่า 270 เสียง เกินกึ่งหนึ่้งจากทั้งหมด 538 คน ทิ้งห่างนางกมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต นับเป็นการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของนายทรัมป์ หลังการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 แพ้ให้กับนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต 306 ต่อ 232 เสียง

    นายทรัมป์ขึ้นเวทีครั้งแรกที่เมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ระบุว่า การได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่สองจะนำไปสู่ยุคทองของอเมริกา (Golden Age of America) โดยย้ำนโยบายหาเสียงเน้นไปที่การกวาดล้างผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย และการพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะล้มเหลว ภายใต้การนำของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนก่อนหน้า ซึ่งนายทรัมป์สัญญาว่าจะแก้ไขปัญหาพรมแดน และแก้ไขทุกอย่างที่เกี่ยวกับสหรัฐฯ

    “หากร่วมมือกัน เราจะสามารถทำให้สหรัฐอเมริกายิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง สำหรับชาวอเมริกันทุกคน ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง อนาคตของอเมริกาจะยิ่งใหญ่ขึ้น ดีขึ้น กล้าหาญขึ้น ร่ำรวยขึ้น ปลอดภัยขึ้น และแข็งแกร่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา” นายทรัมป์กล่าวกับผู้สนับสนุน

    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีต่อนายทรัมป์ พร้อมทำงานร่วมกันส่งเสริมความสัมพันธมิตรระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่มีมาอย่างยาวนานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ด้านนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ระบุว่า พร้อมดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร่วมมือกับกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์นั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลใหม่ แต่ได้วางเป้าหมายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการทำธุรกิจแล้ว

    ประเทศในอาเซียน นายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ แสดงความยินดีกับนายทรัมป์ มั่นใจว่าสหรัฐฯ จะเติบโตเป็นผู้นำในระดับโลกต่อไป และยกระดับความร่วมมือกับสิงคโปร์ให้สูงขึ้นไปอีก ส่วนนายอันวาร์ อิบราฮิม ประธานาธิบดีมาเลเซีย แสดงความยินดีกับนายทรัมป์ จะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ๆ ของมาเลเซีย พร้อมก้าวไปข้างหน้าและทำงานร่วมกัน เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นชาติที่มีนักลงทุนใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ ช่วยยุติความรุนแรงในปาเลสไตน์และยูเครน

    ด้านธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) พร้อมรักษาเสถียรภาพของค่าเงินรูเปียห์ หลังเกิดความกังวลว่าหากนายทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง จะหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อาจส่งผลให้มีการเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว

    #Newskit #USElection2024 #DonaldTrump
    เราจะทรัมป์ตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แม้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ปี 2024 ยังไม่เสร็จสิ้น แต่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันประกาศชัยชนะ หลังคะแนนคณะผู้เลือกตั้งมีมากกว่า 270 เสียง เกินกึ่งหนึ่้งจากทั้งหมด 538 คน ทิ้งห่างนางกมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต นับเป็นการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของนายทรัมป์ หลังการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 แพ้ให้กับนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต 306 ต่อ 232 เสียง นายทรัมป์ขึ้นเวทีครั้งแรกที่เมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ระบุว่า การได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่สองจะนำไปสู่ยุคทองของอเมริกา (Golden Age of America) โดยย้ำนโยบายหาเสียงเน้นไปที่การกวาดล้างผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย และการพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะล้มเหลว ภายใต้การนำของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนก่อนหน้า ซึ่งนายทรัมป์สัญญาว่าจะแก้ไขปัญหาพรมแดน และแก้ไขทุกอย่างที่เกี่ยวกับสหรัฐฯ “หากร่วมมือกัน เราจะสามารถทำให้สหรัฐอเมริกายิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง สำหรับชาวอเมริกันทุกคน ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง อนาคตของอเมริกาจะยิ่งใหญ่ขึ้น ดีขึ้น กล้าหาญขึ้น ร่ำรวยขึ้น ปลอดภัยขึ้น และแข็งแกร่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา” นายทรัมป์กล่าวกับผู้สนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีต่อนายทรัมป์ พร้อมทำงานร่วมกันส่งเสริมความสัมพันธมิตรระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่มีมาอย่างยาวนานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ด้านนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ระบุว่า พร้อมดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร่วมมือกับกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์นั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลใหม่ แต่ได้วางเป้าหมายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการทำธุรกิจแล้ว ประเทศในอาเซียน นายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ แสดงความยินดีกับนายทรัมป์ มั่นใจว่าสหรัฐฯ จะเติบโตเป็นผู้นำในระดับโลกต่อไป และยกระดับความร่วมมือกับสิงคโปร์ให้สูงขึ้นไปอีก ส่วนนายอันวาร์ อิบราฮิม ประธานาธิบดีมาเลเซีย แสดงความยินดีกับนายทรัมป์ จะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ๆ ของมาเลเซีย พร้อมก้าวไปข้างหน้าและทำงานร่วมกัน เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นชาติที่มีนักลงทุนใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ ช่วยยุติความรุนแรงในปาเลสไตน์และยูเครน ด้านธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) พร้อมรักษาเสถียรภาพของค่าเงินรูเปียห์ หลังเกิดความกังวลว่าหากนายทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง จะหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อาจส่งผลให้มีการเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว #Newskit #USElection2024 #DonaldTrump
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัวแทนพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเวทีครั้งแรกที่เมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา แถลงสร้างประวัติศาสตร์ จะเอายุครุ่งเรืองสหรัฐฯกลับคืนมา กล่าวชื่นชมมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ เป็นซุปเปอร์จีเนียสช่วยให้ชนะเลือกตั้ง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ส่งสารแสดงความยินดีต่อทรัมป์ ส่วนคู่แข่ง กมลา แฮร์ริส ไม่ปรากฎตัวบนเวทีหลังคะแนนไม่ขึ้นรอลุ้นต่อถึงพรุ่งนี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000106962

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตัวแทนพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเวทีครั้งแรกที่เมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา แถลงสร้างประวัติศาสตร์ จะเอายุครุ่งเรืองสหรัฐฯกลับคืนมา กล่าวชื่นชมมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ เป็นซุปเปอร์จีเนียสช่วยให้ชนะเลือกตั้ง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ส่งสารแสดงความยินดีต่อทรัมป์ ส่วนคู่แข่ง กมลา แฮร์ริส ไม่ปรากฎตัวบนเวทีหลังคะแนนไม่ขึ้นรอลุ้นต่อถึงพรุ่งนี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000106962 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Yay
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2299 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัวแทนพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเวทีครั้งแรกที่เมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา แถลงสร้างประวัติศาสตร์ จะเอายุครุ่งเรืองสหรัฐฯกลับคืนมา กล่าวชื่นชมมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ เป็นซุปเปอร์จีเนียสช่วยให้ชนะเลือกตั้ง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ส่งสารแสดงความยินดีต่อทรัมป์ ส่วนคู่แข่ง กมลา แฮร์ริส ไม่ปรากฎตัวบนเวทีหลังคะแนนไม่ขึ้นรอลุ้นต่อถึงพรุ่งนี้
    .
    เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันนี้(6 พ.ย)ว่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ปรากฎตัวบนเวทีประกาศชัยชนะพร้อมสมาชิกครอบครัวและว่าที่คู่ชิง เจดี แวนซ์ ในเมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา
    .
    เสียงปรบมือกระหึ่มเมื่อเขาเดินเข้าไปและอยู่บนเวที ตัวแทนพรรครีพับลิกันประกาศชัยชนะเกิดขึ้นในขณะที่เขาได้คะแนนคณะเลือกตั้งสหรัฐฯ (electoral vote) ที่ 266 คะแนน และกมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครตได้ไป 195 คะแนนอ้างอิงจาก CNN ของสหรัฐฯ
    .
    ทรัมป์ยืนยันว่า เขาจะนำยุคทองกลับมายังสหรัฐอเมริกาและจะซ่อมแซมทุกสิ่ง
    .
    “และเหตุผลที่พวกเราได้สร้างประวัติศาสตร์ในคืนนี้ และเหตุผลคือพวกเราได้ฝ่าขวากหนามที่ไม่มีใครคิดว่าทำได้ และเวลานี้เป็นที่แน่ชัดว่าพวกเราได้ประสบความสำเร็จทางการเมืองสูงสุดอย่างไม่น่าเชื่อ”
    .
    และอดีตผู้นำสหรัฐฯยังกล่าวชมเชยไปถึงเจ้าของเทสลาและแพลตฟอร์ม X ที่ทุ่มหลายร้อยล้านดอลลาร์เพื่อช่วยให้สามารถเอาชนะรัฐเพนซิลเวเนียที่ถือเป็นรัฐสวิงสเตท
    .
    “เขามีบุคลิก เขาเป็นคนพิเศษ เขามันซุปเปอร์จีเนียส” ทรัมป์ประกาศ พร้อมเสริมว่า “พวกเราต้องปกป้องพวกคนอัจฉริยะเหล่านี้ของพวกเราไว้ เราไม่ได้มีมากเท่าใด พวกเราต้องปกป้องบรรดาซุปเปอร์จีเนียส”
    .
    พร้อมกันนี้ทรัมป์ยังประกาศอีกครั้งว่า จะกวาดล้างพวกผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายทั้งหลาย
    ขณะเดียวกัน คู่ชิงรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เจดี แวนซ์ กล่าวว่า “พวกเราเป็นประจักษ์พยานการกลับมาทางการเมืองอย่างยิ่งใหญ่ในประวัติศาตร์ของสหรัฐฯ”
    .
    ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง แสดงความยินดีต่ออดีตประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีแนวโน้มจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเขากล่าวว่า พร้อมที่จะทำงานร่วมกัน
    .
    และตามมาด้วยนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ได้แสดงความบิยดีต่อทรัมป์ด้วยการทวีตภาพ เนทันยาฮูและภรรยา ซารา (Sara) ที่ถ่ายภาพร่วมทรัมป์
    .
    เอบีซีของสหรัฐฯรายงานว่า อย่างไรก็ตามเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส จะไม่ขึ้นปรากฎตัวคืนเลือกตั้งเพื่อกล่าวปราศรัยต่อผู้สนับสนุน แต่จะเลื่อนไปตอนเช้าวันพุธ(6)แทน
    โดยทีมหาเสียงชี้ว่า ต้องการรอระหว่างผลคะแนนยังคงกำลังนับและอีกทั้งในวันเลือกตั้งนี้ยังไม่มีการสรุปชัดเจนว่าใครเป็นผู้ชนะ
    .
    ภาพแสดงให้เห็นบรรดาผู้สนับสนุนแฮร์ริสรวมตัวที่มหาวิทยาลัยโฮวาร์ด (Howard University)นั้นอยู่ในอาการที่เศร้าเนื่องมาจากผลคะแนนที่ไล่ตามคู่แข่งได้เดินออกไปจากสถานที่จัดงานปาร์ตี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106994
    .........
    Sondhi X
    ตัวแทนพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเวทีครั้งแรกที่เมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา แถลงสร้างประวัติศาสตร์ จะเอายุครุ่งเรืองสหรัฐฯกลับคืนมา กล่าวชื่นชมมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ เป็นซุปเปอร์จีเนียสช่วยให้ชนะเลือกตั้ง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ส่งสารแสดงความยินดีต่อทรัมป์ ส่วนคู่แข่ง กมลา แฮร์ริส ไม่ปรากฎตัวบนเวทีหลังคะแนนไม่ขึ้นรอลุ้นต่อถึงพรุ่งนี้ . เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันนี้(6 พ.ย)ว่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ปรากฎตัวบนเวทีประกาศชัยชนะพร้อมสมาชิกครอบครัวและว่าที่คู่ชิง เจดี แวนซ์ ในเมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา . เสียงปรบมือกระหึ่มเมื่อเขาเดินเข้าไปและอยู่บนเวที ตัวแทนพรรครีพับลิกันประกาศชัยชนะเกิดขึ้นในขณะที่เขาได้คะแนนคณะเลือกตั้งสหรัฐฯ (electoral vote) ที่ 266 คะแนน และกมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครตได้ไป 195 คะแนนอ้างอิงจาก CNN ของสหรัฐฯ . ทรัมป์ยืนยันว่า เขาจะนำยุคทองกลับมายังสหรัฐอเมริกาและจะซ่อมแซมทุกสิ่ง . “และเหตุผลที่พวกเราได้สร้างประวัติศาสตร์ในคืนนี้ และเหตุผลคือพวกเราได้ฝ่าขวากหนามที่ไม่มีใครคิดว่าทำได้ และเวลานี้เป็นที่แน่ชัดว่าพวกเราได้ประสบความสำเร็จทางการเมืองสูงสุดอย่างไม่น่าเชื่อ” . และอดีตผู้นำสหรัฐฯยังกล่าวชมเชยไปถึงเจ้าของเทสลาและแพลตฟอร์ม X ที่ทุ่มหลายร้อยล้านดอลลาร์เพื่อช่วยให้สามารถเอาชนะรัฐเพนซิลเวเนียที่ถือเป็นรัฐสวิงสเตท . “เขามีบุคลิก เขาเป็นคนพิเศษ เขามันซุปเปอร์จีเนียส” ทรัมป์ประกาศ พร้อมเสริมว่า “พวกเราต้องปกป้องพวกคนอัจฉริยะเหล่านี้ของพวกเราไว้ เราไม่ได้มีมากเท่าใด พวกเราต้องปกป้องบรรดาซุปเปอร์จีเนียส” . พร้อมกันนี้ทรัมป์ยังประกาศอีกครั้งว่า จะกวาดล้างพวกผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายทั้งหลาย ขณะเดียวกัน คู่ชิงรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เจดี แวนซ์ กล่าวว่า “พวกเราเป็นประจักษ์พยานการกลับมาทางการเมืองอย่างยิ่งใหญ่ในประวัติศาตร์ของสหรัฐฯ” . ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง แสดงความยินดีต่ออดีตประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีแนวโน้มจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเขากล่าวว่า พร้อมที่จะทำงานร่วมกัน . และตามมาด้วยนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ได้แสดงความบิยดีต่อทรัมป์ด้วยการทวีตภาพ เนทันยาฮูและภรรยา ซารา (Sara) ที่ถ่ายภาพร่วมทรัมป์ . เอบีซีของสหรัฐฯรายงานว่า อย่างไรก็ตามเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส จะไม่ขึ้นปรากฎตัวคืนเลือกตั้งเพื่อกล่าวปราศรัยต่อผู้สนับสนุน แต่จะเลื่อนไปตอนเช้าวันพุธ(6)แทน โดยทีมหาเสียงชี้ว่า ต้องการรอระหว่างผลคะแนนยังคงกำลังนับและอีกทั้งในวันเลือกตั้งนี้ยังไม่มีการสรุปชัดเจนว่าใครเป็นผู้ชนะ . ภาพแสดงให้เห็นบรรดาผู้สนับสนุนแฮร์ริสรวมตัวที่มหาวิทยาลัยโฮวาร์ด (Howard University)นั้นอยู่ในอาการที่เศร้าเนื่องมาจากผลคะแนนที่ไล่ตามคู่แข่งได้เดินออกไปจากสถานที่จัดงานปาร์ตี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106994 ......... Sondhi X
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1117 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัวซวยโผล่เชียร์ที่ไหนบรรลัยที่นั่น ล่าสุดไปเชียร์ฝ่ายปชต.ถึงสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส ถามกลับ มึงทำเชี้ยะไรที่นี่ตอนนี้
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ตัวซวยโผล่เชียร์ที่ไหนบรรลัยที่นั่น ล่าสุดไปเชียร์ฝ่ายปชต.ถึงสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส ถามกลับ มึงทำเชี้ยะไรที่นี่ตอนนี้ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    Wow
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 357 มุมมอง 0 รีวิว
  • คามาลา แฮร์ริส จะไม่มีการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อ หรือกล่าวคำปราศรัยใดๆในคืนนี้
    คามาลา แฮร์ริส จะไม่มีการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อ หรือกล่าวคำปราศรัยใดๆในคืนนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลโพลของสำนักข่าว CNN คาดการผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุดให้ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากรีพับลิกัน เก็บชัยชนะไปแล้วอย่างน้อย 14 รัฐ คว้าจำนวนผู้แทนเลือกตั้ง 154 คน ขณะที่ กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต มีแนวโน้มคว้าชัยแล้วใน 8 รัฐ ได้คณะผู้แทนเลือกตั้ง 81 คน แต่ยังต้องรอลุ้นผลการนับคะแนนใน 7 รัฐสมรภูมิสำคัญซึ่งจะเป็นตัวตัดสินชี้ขาดผลเลือกตั้งในครั้งนี้

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000106782

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผลโพลของสำนักข่าว CNN คาดการผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุดให้ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากรีพับลิกัน เก็บชัยชนะไปแล้วอย่างน้อย 14 รัฐ คว้าจำนวนผู้แทนเลือกตั้ง 154 คน ขณะที่ กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต มีแนวโน้มคว้าชัยแล้วใน 8 รัฐ ได้คณะผู้แทนเลือกตั้ง 81 คน แต่ยังต้องรอลุ้นผลการนับคะแนนใน 7 รัฐสมรภูมิสำคัญซึ่งจะเป็นตัวตัดสินชี้ขาดผลเลือกตั้งในครั้งนี้ อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000106782 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2169 มุมมอง 0 รีวิว
  • การนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นไปอย่างเข้มข้น
    ตอนนี้ทรัมป์กำลังนำแฮร์ริส ใครถึง 270 ก่อนชนะ
    การนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นไปอย่างเข้มข้น ตอนนี้ทรัมป์กำลังนำแฮร์ริส ใครถึง 270 ก่อนชนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน คว้าชัยในรัฐอินดีแอนา, รัฐเคนทักกี และรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันอังคาร(5พ.ย.) ขณะที่ กมลา แฮร์ริส คว้าชัยได้ที่เวอร์มอนต์ จากการคาดการณ์ของสถาบันเอดิสัน รีเสิร์ช ขณะที่หน่วยเลือกตั้งต่างๆทยอยปิดหีบไปแล้ว 9 รัฐ ในนั้นรวมถึงรัฐสมรภูมิสำคัญอย่างจอร์เจียและนอร์ทแคโรไลนา
    .
    ทั้งนี้ในรัฐจอร์เจียนั้น หลังการนับคะแนนผ่านพ้นไปราวๆ 21.7% ทางสถาบันเอดิสัน รีเสิร์ช ระบุว่า ทรัมป์ ได้คะแนนเสียงไป 59.8% ทิ้งห่าง แฮร์ริส ที่ได้ไป 39.8%
    .
    ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นของรัฐดังกล่าวข้างต้นที่ไม่ใช่รัฐสมรภูมิถือว่าเป็นไปตามความคาดหมาย ดังนั้นศึกชิงชัยครั้งนี้จึงน่าจะไปตัดสินกันที่รัฐสมรภูมิ 7 รัฐ อันประกอบด้วยจอร์เจีย, นอร์ทโคไรนา, แอริโซนา, มิชิแกน, เนวาดา, เพนซิลเวเนียและวิสคอนซิน ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆก่อนหน้านี้ เผยให้เห็นว่าทั้งคู่มีคะแนนนิยมแบบหายใจรดต้นคอจนถึงวันเลือกตั้ง
    .
    ไม่กี่ชั่วโมงก่อนปิดหีบ ทรัมป์กล่าวอ้างบนแพลตฟอร์มทรัสต์ โซเชียล โดยไม่ให้หลักฐานใดๆ ว่า "มีการพูดกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งในฟิลาเดลเฟีย" หลังจากเขาเคยกล่าวอ้างแบบเดียวกันนี้เมื่อปี 2020 ในเมืองที่ชาวเดโมแครตเป็นกลุ่มใหญ่ ทั้งนี้ในโพสต์ต่อมา ทรัมป์ อ้างอีกว่ามีการโกงในดีทรอยต์เช่นกัน
    .
    เซธ บลูสเตน คณะกรรมการการเลือกตั้งเมืองฟิลาเดลเฟีย ตอบโต้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ระบุว่า "ข้อกล่าวหานี้ไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย มันเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการบิดเบือนข้อมูล การโหวตในฟิลาเดลเฟียเป็นไปอย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้"
    .
    ทีมหาเสียงของทรัมป์ บ่งชี้ว่าเขาอาจประกาศชัยชนะในคืนวันเลือกตั้ง แม้ว่าบัตรเลือกตั้งหลายล้านใบยังไม่ถูกนับ แบบเดียวกับที่เขาเคยทำเมื่อ 4 ปีก่อน อย่างไรก็ตามคาดหมายว่าอาจต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะทราบว่าใครเป็นฝ่ายชนะ หากว่าระยะห่างของคะแนนในบรรดารัฐสมรภูมินั้นออกมาฉิวเฉียดอย่างที่คาดหมายไว้
    .
    ทรัมป์ มีแผนรับชมผลการเลือกตั้งที่บ้านพักตากอากาศในมาร์อาโก ก่อนปราศรัยกับบรรดาผู้สนับสนุน ณ ศูนย์ประชุมที่อยู่ใกล้เคียง ส่วน กมลา แฮร์ริส คู่แข่งของทรัมป์ มีรายงานว่าเธอจะอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และให้สัมภาษณ์ทางวิทยุ จากนั้นจะไปร่วมติดตามการนับคะแนนที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เธอเคยเรียน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106770
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน คว้าชัยในรัฐอินดีแอนา, รัฐเคนทักกี และรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันอังคาร(5พ.ย.) ขณะที่ กมลา แฮร์ริส คว้าชัยได้ที่เวอร์มอนต์ จากการคาดการณ์ของสถาบันเอดิสัน รีเสิร์ช ขณะที่หน่วยเลือกตั้งต่างๆทยอยปิดหีบไปแล้ว 9 รัฐ ในนั้นรวมถึงรัฐสมรภูมิสำคัญอย่างจอร์เจียและนอร์ทแคโรไลนา . ทั้งนี้ในรัฐจอร์เจียนั้น หลังการนับคะแนนผ่านพ้นไปราวๆ 21.7% ทางสถาบันเอดิสัน รีเสิร์ช ระบุว่า ทรัมป์ ได้คะแนนเสียงไป 59.8% ทิ้งห่าง แฮร์ริส ที่ได้ไป 39.8% . ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นของรัฐดังกล่าวข้างต้นที่ไม่ใช่รัฐสมรภูมิถือว่าเป็นไปตามความคาดหมาย ดังนั้นศึกชิงชัยครั้งนี้จึงน่าจะไปตัดสินกันที่รัฐสมรภูมิ 7 รัฐ อันประกอบด้วยจอร์เจีย, นอร์ทโคไรนา, แอริโซนา, มิชิแกน, เนวาดา, เพนซิลเวเนียและวิสคอนซิน ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆก่อนหน้านี้ เผยให้เห็นว่าทั้งคู่มีคะแนนนิยมแบบหายใจรดต้นคอจนถึงวันเลือกตั้ง . ไม่กี่ชั่วโมงก่อนปิดหีบ ทรัมป์กล่าวอ้างบนแพลตฟอร์มทรัสต์ โซเชียล โดยไม่ให้หลักฐานใดๆ ว่า "มีการพูดกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งในฟิลาเดลเฟีย" หลังจากเขาเคยกล่าวอ้างแบบเดียวกันนี้เมื่อปี 2020 ในเมืองที่ชาวเดโมแครตเป็นกลุ่มใหญ่ ทั้งนี้ในโพสต์ต่อมา ทรัมป์ อ้างอีกว่ามีการโกงในดีทรอยต์เช่นกัน . เซธ บลูสเตน คณะกรรมการการเลือกตั้งเมืองฟิลาเดลเฟีย ตอบโต้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ระบุว่า "ข้อกล่าวหานี้ไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย มันเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการบิดเบือนข้อมูล การโหวตในฟิลาเดลเฟียเป็นไปอย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้" . ทีมหาเสียงของทรัมป์ บ่งชี้ว่าเขาอาจประกาศชัยชนะในคืนวันเลือกตั้ง แม้ว่าบัตรเลือกตั้งหลายล้านใบยังไม่ถูกนับ แบบเดียวกับที่เขาเคยทำเมื่อ 4 ปีก่อน อย่างไรก็ตามคาดหมายว่าอาจต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะทราบว่าใครเป็นฝ่ายชนะ หากว่าระยะห่างของคะแนนในบรรดารัฐสมรภูมินั้นออกมาฉิวเฉียดอย่างที่คาดหมายไว้ . ทรัมป์ มีแผนรับชมผลการเลือกตั้งที่บ้านพักตากอากาศในมาร์อาโก ก่อนปราศรัยกับบรรดาผู้สนับสนุน ณ ศูนย์ประชุมที่อยู่ใกล้เคียง ส่วน กมลา แฮร์ริส คู่แข่งของทรัมป์ มีรายงานว่าเธอจะอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และให้สัมภาษณ์ทางวิทยุ จากนั้นจะไปร่วมติดตามการนับคะแนนที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เธอเคยเรียน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106770 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Yay
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1125 มุมมอง 0 รีวิว
  • การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรครีพับลิกัน กับกมลา แฮร์ริส ของพรรคเดโมแครต เคลื่อนเข้าสู่ระยะพุ่งโถมตัวเข้าสู่เส้นชัยซึ่งยังมีความไม่แน่นอนเป็นอย่างยิ่งในวันอังคาร (5 พ.ย.) ขณะที่ผู้ออกเสียงชาวอเมริกันหลายสิบล้านคนเดินทางไปยังหน่วยเลือกตั้ง เพื่อตัดสินใจเลือก 2 วิสัยทัศน์สำหรับประเทศชาติซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างเด่นชัด
    .
    ในเวลาที่หน่วยเลือกตั้งแห่งแรกๆ เริ่มเปิดต้อนรับผู้ออกมาใช้สิทธิ ผลโพลสำรวจและพวกผู้เชี่ยวชาญระบุว่า คู่แข่งขันสำคัญทั้งสองคือ รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส วัย 60 ที่เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ผู้สมัครของพรรครีพับลิกัน ยังคงอยู่ในสภาพที่มีคะแนนนิยมคู่คี่สูสีจนยากลำบากแก่การตัดสินชี้ขาด ในการต่อสู้ช่วงชิงทำเนียบขาวครั้งที่ถือว่ายากลำบากและพลิกผันไปมามากที่สุดในยุคสมัยใหม่
    .
    หน่วยเลือกตั้งในรัฐทางภาคตะวันออก เป็นต้นว่า เวอร์จิเนีย นอร์ทแคโรไลนา และนิวยอร์ก เปิดให้เข้าไปใช้สิทธิตั้งแต่เวลา 06.00 น. (ตรงกับ 18.00 น.เวลาเมืองไทย) โดยคาดหมายกันว่าตลอดทั้งวันจะผู้ไปใช้สิทธิกันหลายสิบล้านคน เพิ่มเติมจากจำนวนกว่า 82 ล้านคนซึ่งไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ากันแล้วในช่วงหลายๆ สัปดาห์ก่อนหน้านี้
    .
    ขณะที่ผลลัพธ์สุดท้ายอาจจะยังไม่เป็นที่ทราบกันไปอีกหลายวันทีเดียว ถ้าผลมีความคู่คี่กันมากอย่างที่โพลทั้งหลายบ่งชี้ไว้ ซึ่งก็จะเป็นการเพิ่มความตึงเครียดในประเทศที่มีการแตกแยกแบ่งขั้วกันอย่างล้ำลึกอยู่แล้วแห่งนี้
    .
    นอกจากนั้น ยังมีความหวาดกลัวกันว่าจะเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย และกระทั่งความรุนแรงขึ้นมา ถ้าหาก ทรัมป์ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และท้าทายผลเลือกตั้งอย่างที่เขาเคยกระทำในการเลือกตั้งปี 2020
    .
    ในวันจันทร์ (4) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียง ทั้ง ทรัมป์ และ แฮร์ริส ต่างทำงานอย่างไม่ยอมเหน็ดยอมเหนื่อยเพื่อปลุกเร้าให้ผู้สนับสนุนของพวกเขาออกมาใช้สิทธิที่คูหาเลือกตั้ง ขณะเดียวกับที่พยายามหาทางเอาชนะใจพวกผู้มีสิทธิออกเสียงที่ยังไม่ได้ตัดสินใจคนท้ายๆ โดยเฉพาะในบรรดารัฐสมรภูมิ ซึ่งคาดหมายกันว่าจะเป็นผู้ชี้ขาดผลการแข่งขันคราวนี้
    .
    ทรัมป์ ให้สัญญาจะนำอเมริกาสู่ “ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น” ส่วนกมลา แฮร์ริส เรียกร้อง “การเริ่มต้นใหม่” หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองซึ่งมุ่งปลุกเร้าความเกลียดชังและความรุนแรงของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ
    .
    รองประธานาธิบดีหญิงจากพรรคเดโมแครตปิดฉากการหาเสียงที่ร็อคกี้สเต็ปส์ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากสำคัญของภาพยนตร์ดัง “ร็อกกี้” ในรัฐเพนซิลเวเนีย 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิที่ต้องชนะให้ได้
    .
    แฮร์ริสประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อาจเป็นการแข่งขันที่สูสีที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งทุกคะแนนเสียงมีความสำคัญ และอ้างอิงถึงหนัง “ร็อกกี้” ว่า ขอยกย่องทุกคนที่เริ่มต้นในฐานะมวยรองแต่สามารถฝ่าฝันสู่ชัยชนะสำเร็จ
    .
    ที่ผ่านมา แฮร์ริส ย้ำอยู่เสมอว่า ตนเองเป็นมวยรอง โดยเธอได้ตั๋วชิงทำเนียบขาวในฐานะตัวแทนพรรคเดโมแครตแบบกะทันหัน หลังจากเมื่อ 3 เดือนที่แล้วประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยอมจำนนต่อการกดดันภายในพรรคและขอถอนตัวจากการแข่งขัน
    .
    อย่างไรก็ตาม แฮร์ริสยืนยันว่า เธอจะชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
    .
    ทางด้านทรัมป์พาสมาชิกครอบครัวหลายคนขึ้นเวทีทิ้งทวนการหาเสียงที่เมืองแกรนด์ราปิดส์ รัฐมิชิแกน
    .
    อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ก็เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกไปลงคะแนนในวันอังคาร (5) เพื่อให้ตนเองสามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่ประเทศเผชิญอยู่ รวมทั้งพาอเมริกาและโลกสู่ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น
    .
    การปราศรัยส่งท้ายของทั้งคู่สะท้อนว่า การออกไปใช้สิทธิมีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้ครั้งนี้ โดยทั้งทรัมป์และแฮร์ริสต่างบอกว่า รู้สึกมีกำลังใจจากจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าซึ่งสูงถึง 82 ล้านคน และตอนนี้ทั้งคู่จำเป็นต้องระดมผู้สนับสนุนออกไปเลือกตั้งในวันอังคาร
    .
    ทั้งนี้ ในการหาเสียงช่วงหลายวันสุดท้าย ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันส่งสาส์นถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกันคนละประเด็นโดยสิ้นเชิง
    .
    ที่เมืองรีดดิ้ง รัฐเพนซิลเวเนีย ทรัมป์ย้ำว่า อเมริกากำลังตกต่ำและตึงเครียดจากปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่เขาเรียกว่า “สัตว์” และบรรยายว่า “โหดเหี้ยม”
    .
    ด้านแฮร์ริสชูประเด็นต่อต้านการห้ามทำแท้งทั่วอเมริกา และเรียกร้องการเริ่มต้นใหม่ หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ
    .
    ถึงแม้มัวหมองจากการถูกตัดสินกระทำผิดคดีอาญา และเรื่องอื้อฉาวที่เหล่าผู้สนับสนุนบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อ 4 ปีก่อนตอนที่เขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการแข่งขันกับ โจ ไบเดน แต่ต้องถือว่า ทรัมป์ ที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อายุมากที่สุด มีข้อได้เปรียบหลายอย่างในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะจากการตามจิกเรื่องเศรษฐกิจซึ่งคนอเมริกันกำลังมีความกังวล โดยเฉพาะเกี่วกับอัตราเงินเฟ้อ ตลอดจนการใช้ถ้อยคำรุนแรงโจมตีปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่ได้ใจฐานเสียงปีกขวา
    .
    ในทางกลับกัน แฮร์ริสมีเวลาสร้างแคมเปญหาเสียงแค่ 3 เดือน กระนั้นก็ประสบความสำเร็จไม่ใช่น้อยๆ ในการปลุกเร้าพรรคเดโมแครต รวมถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มหนุ่มสาวและผู้หญิงอย่างชัดเจน
    .
    ขณะเดียวกัน ทั่วโลกกำลังตั้งตารอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากจะมีนัยสำคัญต่อวิกฤตการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและสงครามในยูเครน รวมถึงการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ทรัมป์กล่าวหาว่า เป็นเรื่องโกหกหลอกลวง
    .
    สถานการณ์เฉพาะหน้าที่น่ากลัวที่สุดคือประชาธิปไตยของอเมริกากำลังจะถูกทดสอบ หากทรัมป์แพ้แต่ไม่ยอมรับเหมือนเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่เหล่ากองเชียร์ของเขาบุกโจมตีอาคารรัฐสภา รวมทั้งการที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์ถูกลอบสังหารถึง 2 ครั้ง ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงดูเป็นไปได้มากขึ้น
    .
    ที่กรุงวอชิงตันมีการติดตั้งรั้วสูงรอบบริเวณที่พักแฮร์ริสและทำเนียบขาว ขณะที่ห้างร้านหลายแห่งนำแผ่นไม้อัดมาตีปิดกระจกด้านหน้า
    .
    ทั้งรัฐออริกอน วอชิงตัน และเนวาดา ต่างเรียกกองทหารรักษาดินแดน (เนชั่นแนล การ์ด) เข้ารักษาการณ์ และกระทรวงกลาโหมเผยว่า อย่างน้อย 17 รัฐสั่งให้สมาชิกกองทหารรักษาดินแดนรวม 600 นายเตรียมพร้อมหากจำเป็น
    .
    ด้านสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) จัดตั้งศูนย์บัญชาการการเลือกตั้งแห่งชาติในวอชิงตันเพื่อตรวจติดตามภัยคุกคามตลอดสัปดาห์การเลือกตั้ง นอกจากนั้น ยังมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในคูหาเลือกตั้งเกือบ 100,000 แห่งทั่วประเทศ
    .
    รันเบ็ก อิเล็กชัน เซอร์วิส ผู้ให้บริการเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยปฏิบัติการเลือกตั้ง ยืนยันข่าวที่ว่า ได้จัดส่งปุ่มกดฉุกเฉิน 1,000 ชุดสำหรับลูกค้าที่รวมถึงพวกหน่วยเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย โดยอุปกรณ์นี้มีขนาดเล็กสามารถห้อยคอหรือเก็บในกระเป๋า ซึ่งจะจับคู่กับมือถือของผู้ใช้ และเชื่อมต่อกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106742
    ..............
    Sondhi X
    การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรครีพับลิกัน กับกมลา แฮร์ริส ของพรรคเดโมแครต เคลื่อนเข้าสู่ระยะพุ่งโถมตัวเข้าสู่เส้นชัยซึ่งยังมีความไม่แน่นอนเป็นอย่างยิ่งในวันอังคาร (5 พ.ย.) ขณะที่ผู้ออกเสียงชาวอเมริกันหลายสิบล้านคนเดินทางไปยังหน่วยเลือกตั้ง เพื่อตัดสินใจเลือก 2 วิสัยทัศน์สำหรับประเทศชาติซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างเด่นชัด . ในเวลาที่หน่วยเลือกตั้งแห่งแรกๆ เริ่มเปิดต้อนรับผู้ออกมาใช้สิทธิ ผลโพลสำรวจและพวกผู้เชี่ยวชาญระบุว่า คู่แข่งขันสำคัญทั้งสองคือ รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส วัย 60 ที่เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ผู้สมัครของพรรครีพับลิกัน ยังคงอยู่ในสภาพที่มีคะแนนนิยมคู่คี่สูสีจนยากลำบากแก่การตัดสินชี้ขาด ในการต่อสู้ช่วงชิงทำเนียบขาวครั้งที่ถือว่ายากลำบากและพลิกผันไปมามากที่สุดในยุคสมัยใหม่ . หน่วยเลือกตั้งในรัฐทางภาคตะวันออก เป็นต้นว่า เวอร์จิเนีย นอร์ทแคโรไลนา และนิวยอร์ก เปิดให้เข้าไปใช้สิทธิตั้งแต่เวลา 06.00 น. (ตรงกับ 18.00 น.เวลาเมืองไทย) โดยคาดหมายกันว่าตลอดทั้งวันจะผู้ไปใช้สิทธิกันหลายสิบล้านคน เพิ่มเติมจากจำนวนกว่า 82 ล้านคนซึ่งไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ากันแล้วในช่วงหลายๆ สัปดาห์ก่อนหน้านี้ . ขณะที่ผลลัพธ์สุดท้ายอาจจะยังไม่เป็นที่ทราบกันไปอีกหลายวันทีเดียว ถ้าผลมีความคู่คี่กันมากอย่างที่โพลทั้งหลายบ่งชี้ไว้ ซึ่งก็จะเป็นการเพิ่มความตึงเครียดในประเทศที่มีการแตกแยกแบ่งขั้วกันอย่างล้ำลึกอยู่แล้วแห่งนี้ . นอกจากนั้น ยังมีความหวาดกลัวกันว่าจะเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย และกระทั่งความรุนแรงขึ้นมา ถ้าหาก ทรัมป์ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และท้าทายผลเลือกตั้งอย่างที่เขาเคยกระทำในการเลือกตั้งปี 2020 . ในวันจันทร์ (4) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียง ทั้ง ทรัมป์ และ แฮร์ริส ต่างทำงานอย่างไม่ยอมเหน็ดยอมเหนื่อยเพื่อปลุกเร้าให้ผู้สนับสนุนของพวกเขาออกมาใช้สิทธิที่คูหาเลือกตั้ง ขณะเดียวกับที่พยายามหาทางเอาชนะใจพวกผู้มีสิทธิออกเสียงที่ยังไม่ได้ตัดสินใจคนท้ายๆ โดยเฉพาะในบรรดารัฐสมรภูมิ ซึ่งคาดหมายกันว่าจะเป็นผู้ชี้ขาดผลการแข่งขันคราวนี้ . ทรัมป์ ให้สัญญาจะนำอเมริกาสู่ “ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น” ส่วนกมลา แฮร์ริส เรียกร้อง “การเริ่มต้นใหม่” หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองซึ่งมุ่งปลุกเร้าความเกลียดชังและความรุนแรงของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ . รองประธานาธิบดีหญิงจากพรรคเดโมแครตปิดฉากการหาเสียงที่ร็อคกี้สเต็ปส์ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากสำคัญของภาพยนตร์ดัง “ร็อกกี้” ในรัฐเพนซิลเวเนีย 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิที่ต้องชนะให้ได้ . แฮร์ริสประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อาจเป็นการแข่งขันที่สูสีที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งทุกคะแนนเสียงมีความสำคัญ และอ้างอิงถึงหนัง “ร็อกกี้” ว่า ขอยกย่องทุกคนที่เริ่มต้นในฐานะมวยรองแต่สามารถฝ่าฝันสู่ชัยชนะสำเร็จ . ที่ผ่านมา แฮร์ริส ย้ำอยู่เสมอว่า ตนเองเป็นมวยรอง โดยเธอได้ตั๋วชิงทำเนียบขาวในฐานะตัวแทนพรรคเดโมแครตแบบกะทันหัน หลังจากเมื่อ 3 เดือนที่แล้วประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยอมจำนนต่อการกดดันภายในพรรคและขอถอนตัวจากการแข่งขัน . อย่างไรก็ตาม แฮร์ริสยืนยันว่า เธอจะชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ . ทางด้านทรัมป์พาสมาชิกครอบครัวหลายคนขึ้นเวทีทิ้งทวนการหาเสียงที่เมืองแกรนด์ราปิดส์ รัฐมิชิแกน . อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ก็เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกไปลงคะแนนในวันอังคาร (5) เพื่อให้ตนเองสามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่ประเทศเผชิญอยู่ รวมทั้งพาอเมริกาและโลกสู่ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น . การปราศรัยส่งท้ายของทั้งคู่สะท้อนว่า การออกไปใช้สิทธิมีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้ครั้งนี้ โดยทั้งทรัมป์และแฮร์ริสต่างบอกว่า รู้สึกมีกำลังใจจากจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าซึ่งสูงถึง 82 ล้านคน และตอนนี้ทั้งคู่จำเป็นต้องระดมผู้สนับสนุนออกไปเลือกตั้งในวันอังคาร . ทั้งนี้ ในการหาเสียงช่วงหลายวันสุดท้าย ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันส่งสาส์นถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกันคนละประเด็นโดยสิ้นเชิง . ที่เมืองรีดดิ้ง รัฐเพนซิลเวเนีย ทรัมป์ย้ำว่า อเมริกากำลังตกต่ำและตึงเครียดจากปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่เขาเรียกว่า “สัตว์” และบรรยายว่า “โหดเหี้ยม” . ด้านแฮร์ริสชูประเด็นต่อต้านการห้ามทำแท้งทั่วอเมริกา และเรียกร้องการเริ่มต้นใหม่ หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ . ถึงแม้มัวหมองจากการถูกตัดสินกระทำผิดคดีอาญา และเรื่องอื้อฉาวที่เหล่าผู้สนับสนุนบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อ 4 ปีก่อนตอนที่เขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการแข่งขันกับ โจ ไบเดน แต่ต้องถือว่า ทรัมป์ ที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อายุมากที่สุด มีข้อได้เปรียบหลายอย่างในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะจากการตามจิกเรื่องเศรษฐกิจซึ่งคนอเมริกันกำลังมีความกังวล โดยเฉพาะเกี่วกับอัตราเงินเฟ้อ ตลอดจนการใช้ถ้อยคำรุนแรงโจมตีปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่ได้ใจฐานเสียงปีกขวา . ในทางกลับกัน แฮร์ริสมีเวลาสร้างแคมเปญหาเสียงแค่ 3 เดือน กระนั้นก็ประสบความสำเร็จไม่ใช่น้อยๆ ในการปลุกเร้าพรรคเดโมแครต รวมถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มหนุ่มสาวและผู้หญิงอย่างชัดเจน . ขณะเดียวกัน ทั่วโลกกำลังตั้งตารอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากจะมีนัยสำคัญต่อวิกฤตการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและสงครามในยูเครน รวมถึงการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ทรัมป์กล่าวหาว่า เป็นเรื่องโกหกหลอกลวง . สถานการณ์เฉพาะหน้าที่น่ากลัวที่สุดคือประชาธิปไตยของอเมริกากำลังจะถูกทดสอบ หากทรัมป์แพ้แต่ไม่ยอมรับเหมือนเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่เหล่ากองเชียร์ของเขาบุกโจมตีอาคารรัฐสภา รวมทั้งการที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์ถูกลอบสังหารถึง 2 ครั้ง ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงดูเป็นไปได้มากขึ้น . ที่กรุงวอชิงตันมีการติดตั้งรั้วสูงรอบบริเวณที่พักแฮร์ริสและทำเนียบขาว ขณะที่ห้างร้านหลายแห่งนำแผ่นไม้อัดมาตีปิดกระจกด้านหน้า . ทั้งรัฐออริกอน วอชิงตัน และเนวาดา ต่างเรียกกองทหารรักษาดินแดน (เนชั่นแนล การ์ด) เข้ารักษาการณ์ และกระทรวงกลาโหมเผยว่า อย่างน้อย 17 รัฐสั่งให้สมาชิกกองทหารรักษาดินแดนรวม 600 นายเตรียมพร้อมหากจำเป็น . ด้านสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) จัดตั้งศูนย์บัญชาการการเลือกตั้งแห่งชาติในวอชิงตันเพื่อตรวจติดตามภัยคุกคามตลอดสัปดาห์การเลือกตั้ง นอกจากนั้น ยังมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในคูหาเลือกตั้งเกือบ 100,000 แห่งทั่วประเทศ . รันเบ็ก อิเล็กชัน เซอร์วิส ผู้ให้บริการเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยปฏิบัติการเลือกตั้ง ยืนยันข่าวที่ว่า ได้จัดส่งปุ่มกดฉุกเฉิน 1,000 ชุดสำหรับลูกค้าที่รวมถึงพวกหน่วยเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย โดยอุปกรณ์นี้มีขนาดเล็กสามารถห้อยคอหรือเก็บในกระเป๋า ซึ่งจะจับคู่กับมือถือของผู้ใช้ และเชื่อมต่อกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106742 .............. Sondhi X
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1142 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇺🇸 โอกาสที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นเป็น ๖๐.๕% เหนือกมลา แฮร์ริส ในขณะที่วันเลือกตั้งดำเนินต่อไป
    .
    JUST IN: 🇺🇸 Donald Trump's election odds rise to 60.5% over Kamala Harris as Election Day continues.
    .
    6:31 AM · Nov 6, 2024 · 90.3K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1853943193181581716
    🇺🇸 โอกาสที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นเป็น ๖๐.๕% เหนือกมลา แฮร์ริส ในขณะที่วันเลือกตั้งดำเนินต่อไป . JUST IN: 🇺🇸 Donald Trump's election odds rise to 60.5% over Kamala Harris as Election Day continues. . 6:31 AM · Nov 6, 2024 · 90.3K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1853943193181581716
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • ❗️จนถึงขณะนี้ ทรัมป์เป็นผู้นำแฮร์ริสในผลคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยได้คะแนนไป ๑๙ เสียง ส่วนแฮร์ริสได้เพียง ๓ เสียง
    .
    ❗️Trump is so far leading Harris in the electoral vote count in the US presidential election, having secured 19 votes to her 3.
    .
    7:19 AM · Nov 6, 2024 · 742 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1853955217869382139
    ❗️จนถึงขณะนี้ ทรัมป์เป็นผู้นำแฮร์ริสในผลคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยได้คะแนนไป ๑๙ เสียง ส่วนแฮร์ริสได้เพียง ๓ เสียง . ❗️Trump is so far leading Harris in the electoral vote count in the US presidential election, having secured 19 votes to her 3. . 7:19 AM · Nov 6, 2024 · 742 Views https://x.com/SputnikInt/status/1853955217869382139
    Haha
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถึงจะอยู่ห่างกันในระยะทาง, แต่อยู่ไกลกันในประสบการณ์: ไบเดนไม่เข้าร่วมงานรวมตัวหาเสียงเลือกตั้งของแฮร์ริส

    ประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงเฝ้าติดตามคืนเลือกตั้งของรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส, รายงานของ Washington Examiner, ซึ่ง, น่าจะบอกอะไรได้หลายอย่าง

    แม้ว่าไบเดนและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งจะอยู่ที่ทำเนียบขาวเพื่อติดตามความคืบหน้าการเลือกตั้ง, แต่แฮร์ริสจะจัดงานของเธอที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด, ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงสองไมล์

    ความสัมพันธ์ระหว่างไบเดนและแฮร์ริสตึงเครียด, โดยแฮร์ริสวางตำแหน่งตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นใหม่, โดยสัญญาว่าจะมี "หนทางใหม่ข้างหน้า" และกล่าวว่า "เราจะไม่หันหลังกลับ" อย่างไรก็ตาม, อาชีพการงานของเธอเป็นหนี้บุญคุณไบเดนมาก, ซึ่งเลือกเธอเป็นคู่หูในปี 2020 และสนับสนุนเธอหลังจากถอนตัวจากการแข่งขัน
    .
    MILES APART, WORLDS AWAY: BIDEN PASSES ON HARRIS’S ELECTION NIGHT GATHERING

    President Joe Biden will not attend Vice President Kamala Harris's election night watch party, the Washington Examiner reports, which, probably, speaks volumes.

    While Biden and the first lady will stay at the White House for election updates, Harris is hosting her event at Howard University, just two miles away.

    The Biden-Harris relationship has been strained, with Harris positioning herself as a fresh start, promising a “new way forward” and saying “We are not going back.” Yet, her career owes much to Biden, who chose her as his running mate in 2020 and endorsed her after withdrawing from the race.
    .
    6:34 AM · Nov 6, 2024 · 1,710 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1853944121901383724
    ถึงจะอยู่ห่างกันในระยะทาง, แต่อยู่ไกลกันในประสบการณ์: ไบเดนไม่เข้าร่วมงานรวมตัวหาเสียงเลือกตั้งของแฮร์ริส ประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงเฝ้าติดตามคืนเลือกตั้งของรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส, รายงานของ Washington Examiner, ซึ่ง, น่าจะบอกอะไรได้หลายอย่าง แม้ว่าไบเดนและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งจะอยู่ที่ทำเนียบขาวเพื่อติดตามความคืบหน้าการเลือกตั้ง, แต่แฮร์ริสจะจัดงานของเธอที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด, ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงสองไมล์ ความสัมพันธ์ระหว่างไบเดนและแฮร์ริสตึงเครียด, โดยแฮร์ริสวางตำแหน่งตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นใหม่, โดยสัญญาว่าจะมี "หนทางใหม่ข้างหน้า" และกล่าวว่า "เราจะไม่หันหลังกลับ" อย่างไรก็ตาม, อาชีพการงานของเธอเป็นหนี้บุญคุณไบเดนมาก, ซึ่งเลือกเธอเป็นคู่หูในปี 2020 และสนับสนุนเธอหลังจากถอนตัวจากการแข่งขัน . MILES APART, WORLDS AWAY: BIDEN PASSES ON HARRIS’S ELECTION NIGHT GATHERING President Joe Biden will not attend Vice President Kamala Harris's election night watch party, the Washington Examiner reports, which, probably, speaks volumes. While Biden and the first lady will stay at the White House for election updates, Harris is hosting her event at Howard University, just two miles away. The Biden-Harris relationship has been strained, with Harris positioning herself as a fresh start, promising a “new way forward” and saying “We are not going back.” Yet, her career owes much to Biden, who chose her as his running mate in 2020 and endorsed her after withdrawing from the race. . 6:34 AM · Nov 6, 2024 · 1,710 Views https://x.com/SputnikInt/status/1853944121901383724
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts