• เมื่อคนส่วนใหญ่บนโลกปฏิเสธเทคโนโลยีหากคนส่วนใหญ่บนโลกปฏิเสธเทคโนโลยีอย่างกว้างขวาง ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจะซับซ้อนและส่งผลทั้งเชิงบวกและลบต่อสังคม ดังนี้:

    ### 1. **ผลกระทบเชิงลบ:**
    - **เศรษฐกิจถดถอย:** อุตสาหกรรมหลัก (เช่น การผลิต, การสื่อสาร, การขนส่ง) พึ่งพาเทคโนโลยีอย่างหนัก การหยุดชะงักอาจนำไปสู่การว่างงานมวลชน ระบบการเงินล่มสลาย และการขาดแคลนสินค้าจำเป็น เช่น ยาและอาหาร
    - **การแพทย์ถดถอย:** เทคโนโลยีช่วยในด้านการวินิจฉัยโรค การผลิตยา และการวิจัย การปฏิเสธอาจทำให้อายุขัยเฉลี่ยลดลง และโรคระบาดกลับมาระบาดรุนแรง
    - **การสื่อสารชะลอตัว:** การขาดอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ทำให้การประสานงานระหว่างประเทศยากขึ้น อาจเกิดความขัดแย้งจากความเข้าใจผิดหรือข้อมูลไม่ทันสมัย
    - **ความรู้ถูกลืม:** การเก็บข้อมูลดิจิทัลหายไป ส่งผลให้ความรู้สมัยใหม่หลายด้านสูญหาย โดยเฉพาะหากระบบการศึกษาไม่ปรับตัวทัน

    ### 2. **ผลกระทบเชิงบวก:**
    - **สิ่งแวดล้อมฟื้นตัว:** การลดใช้เทคโนโลยีอาจลดมลภาวะ การใช้ทรัพยากรเกินจำเป็น และการปล่อยคาร์บอน ช่วยให้ระบบนิเวศค่อยๆ ฟื้นตัว
    - **ชุมชนแข็งแรงขึ้น:** ผู้คนหันมาพึ่งพากันในท้องถิ่นมากขึ้น เน้นทักษะ手工งานและเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม สังคมอาจใกล้ชิดกันขึ้น
    - **ชีวิตช้าลง:** การลดการแข่งขันทางเทคโนโลยีอาจลดความเครียด เปิดพื้นที่ให้มนุษย์โฟกัสความสัมพันธ์และความคิดสร้างสรรค์

    ### 3. **ความท้าทายในการปรับตัว:**
    - **ความเหลื่อมล้ำ:** กลุ่มที่ยังใช้เทคโนโลยีลับๆ อาจได้เปรียบด้านอำนาจและทรัพยากร ขณะที่ชุมชนที่ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงเสี่ยงถูกกดขี่
    - **การจัดการความขัดแย้ง:** การขาดเครื่องมือสื่อสารสมัยใหม่อาจทำให้การแก้ปัญหาความขัดแย้งใช้เวลานานและรุนแรงขึ้น
    - **การรักษาความรู้:** ต้องพึ่งพาการบันทึกความรู้แบบเดิม (เช่น กระดาษ) ซึ่งเสี่ยงต่อการสูญหายและเข้าถึงยาก

    ### 4. **สถานการณ์สมมติที่เป็นไปได้:**
    - **สังคมแบ่งขั้ว:** เกิดกลุ่ม "ผู้คงไว้ซึ่งเทคโนโลยี" กับ "ผู้ปฏิเสธ" อย่างชัดเจน นำไปสู่ความตึงเครียดหรือสงคราม
    - **การฟื้นฟูธรรมชาติ:** โลกเข้าสู่ยุคฟื้นฟูระบบนิเวศ แต่ต้องแลกกับความสะดวกสบายและความก้าวหน้าของมนุษย์
    - **การพัฒนาทางเลือก:** มนุษย์อาจหันไปใช้เทคโนโลยีระดับพื้นฐาน (Low-tech) ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยั่งยืนกว่า

    ### 5. **บทสรุป:**
    การปฏิเสธเทคโนโลยีไม่ใช่ทางออกแบบสุดขั้ว แต่สะท้อนความต้องการปรับสมดุลระหว่างความก้าวหน้ากับความยั่งยืน ในทางปฏิบัติ สังคมอาจต้อง **เลือกรับใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติ** มากกว่าการตัดสินใจแบบ "ทั้งหมดหรือไม่เลย" เพื่อหลีกเลี่ยงหายนะแต่ยังรักษาแนวทางพัฒนาที่สอดคล้องกับธรรมชาติและมนุษย์เอง
    เมื่อคนส่วนใหญ่บนโลกปฏิเสธเทคโนโลยีหากคนส่วนใหญ่บนโลกปฏิเสธเทคโนโลยีอย่างกว้างขวาง ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจะซับซ้อนและส่งผลทั้งเชิงบวกและลบต่อสังคม ดังนี้: ### 1. **ผลกระทบเชิงลบ:** - **เศรษฐกิจถดถอย:** อุตสาหกรรมหลัก (เช่น การผลิต, การสื่อสาร, การขนส่ง) พึ่งพาเทคโนโลยีอย่างหนัก การหยุดชะงักอาจนำไปสู่การว่างงานมวลชน ระบบการเงินล่มสลาย และการขาดแคลนสินค้าจำเป็น เช่น ยาและอาหาร - **การแพทย์ถดถอย:** เทคโนโลยีช่วยในด้านการวินิจฉัยโรค การผลิตยา และการวิจัย การปฏิเสธอาจทำให้อายุขัยเฉลี่ยลดลง และโรคระบาดกลับมาระบาดรุนแรง - **การสื่อสารชะลอตัว:** การขาดอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ทำให้การประสานงานระหว่างประเทศยากขึ้น อาจเกิดความขัดแย้งจากความเข้าใจผิดหรือข้อมูลไม่ทันสมัย - **ความรู้ถูกลืม:** การเก็บข้อมูลดิจิทัลหายไป ส่งผลให้ความรู้สมัยใหม่หลายด้านสูญหาย โดยเฉพาะหากระบบการศึกษาไม่ปรับตัวทัน ### 2. **ผลกระทบเชิงบวก:** - **สิ่งแวดล้อมฟื้นตัว:** การลดใช้เทคโนโลยีอาจลดมลภาวะ การใช้ทรัพยากรเกินจำเป็น และการปล่อยคาร์บอน ช่วยให้ระบบนิเวศค่อยๆ ฟื้นตัว - **ชุมชนแข็งแรงขึ้น:** ผู้คนหันมาพึ่งพากันในท้องถิ่นมากขึ้น เน้นทักษะ手工งานและเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม สังคมอาจใกล้ชิดกันขึ้น - **ชีวิตช้าลง:** การลดการแข่งขันทางเทคโนโลยีอาจลดความเครียด เปิดพื้นที่ให้มนุษย์โฟกัสความสัมพันธ์และความคิดสร้างสรรค์ ### 3. **ความท้าทายในการปรับตัว:** - **ความเหลื่อมล้ำ:** กลุ่มที่ยังใช้เทคโนโลยีลับๆ อาจได้เปรียบด้านอำนาจและทรัพยากร ขณะที่ชุมชนที่ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงเสี่ยงถูกกดขี่ - **การจัดการความขัดแย้ง:** การขาดเครื่องมือสื่อสารสมัยใหม่อาจทำให้การแก้ปัญหาความขัดแย้งใช้เวลานานและรุนแรงขึ้น - **การรักษาความรู้:** ต้องพึ่งพาการบันทึกความรู้แบบเดิม (เช่น กระดาษ) ซึ่งเสี่ยงต่อการสูญหายและเข้าถึงยาก ### 4. **สถานการณ์สมมติที่เป็นไปได้:** - **สังคมแบ่งขั้ว:** เกิดกลุ่ม "ผู้คงไว้ซึ่งเทคโนโลยี" กับ "ผู้ปฏิเสธ" อย่างชัดเจน นำไปสู่ความตึงเครียดหรือสงคราม - **การฟื้นฟูธรรมชาติ:** โลกเข้าสู่ยุคฟื้นฟูระบบนิเวศ แต่ต้องแลกกับความสะดวกสบายและความก้าวหน้าของมนุษย์ - **การพัฒนาทางเลือก:** มนุษย์อาจหันไปใช้เทคโนโลยีระดับพื้นฐาน (Low-tech) ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยั่งยืนกว่า ### 5. **บทสรุป:** การปฏิเสธเทคโนโลยีไม่ใช่ทางออกแบบสุดขั้ว แต่สะท้อนความต้องการปรับสมดุลระหว่างความก้าวหน้ากับความยั่งยืน ในทางปฏิบัติ สังคมอาจต้อง **เลือกรับใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติ** มากกว่าการตัดสินใจแบบ "ทั้งหมดหรือไม่เลย" เพื่อหลีกเลี่ยงหายนะแต่ยังรักษาแนวทางพัฒนาที่สอดคล้องกับธรรมชาติและมนุษย์เอง
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • ในปัจจุบัน (ข้อมูล截至ปี 2024) รายการทีวีดิจิตอลยังคงมีอยู่และเป็นส่วนสำคัญของการแพร่ภาพโทรทัศน์ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้ชมกำลังส่งผลต่ออุตสาหกรรมนี้

    ### สถานการณ์ของทีวีดิจิตอลในปัจจุบัน:
    1. **ยังคงมีอยู่**: ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย รายการทีวีดิจิตอลยังคงแพร่ภาพอยู่ และมีผู้ชมจำนวนหนึ่งที่ยังคงรับชมผ่านช่องทางนี้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชมที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ยากหรือไม่สะดวกในการใช้บริการสตรีมมิง

    2. **การแข่งขันจากสตรีมมิง**: บริการสตรีมมิงเช่น Netflix, YouTube, Disney+ และอื่นๆ กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้ผู้ชมบางส่วนหันไปใช้บริการเหล่านี้แทนการดูทีวีดิจิตอล

    3. **การปรับตัวของสถานีโทรทัศน์**: สถานีโทรทัศน์หลายแห่งกำลังปรับตัวโดยการนำเนื้อหาไปเผยแพร่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อดึงดูดผู้ชมรุ่นใหม่ที่ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต

    4. **นโยบายของรัฐบาล**: ในบางประเทศ รัฐบาลยังคงสนับสนุนการแพร่ภาพทีวีดิจิตอลเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงได้อย่างทั่วถึง

    ### อนาคตของทีวีดิจิตอล:
    - **ลดความสำคัญลง**: คาดว่าในอนาคตทีวีดิจิตอลอาจลดความสำคัญลง เนื่องจากผู้ชมหันไปใช้บริการออนไลน์มากขึ้น
    - **การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี**: เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น 5G และ AI อาจส่งผลต่อรูปแบบการบริโภคสื่อ ทำให้ทีวีดิจิตอลต้องปรับตัวเพื่อให้ทันสมัย

    สรุป: รายการทีวีดิจิตอลยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน แต่กำลังเผชิญกับความท้าทายจากเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงไป ในอนาคตอาจมีการปรับตัวหรือลดบทบาทลงตามสภาพแวดล้อมทางดิจิทัลที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว
    ในปัจจุบัน (ข้อมูล截至ปี 2024) รายการทีวีดิจิตอลยังคงมีอยู่และเป็นส่วนสำคัญของการแพร่ภาพโทรทัศน์ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้ชมกำลังส่งผลต่ออุตสาหกรรมนี้ ### สถานการณ์ของทีวีดิจิตอลในปัจจุบัน: 1. **ยังคงมีอยู่**: ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย รายการทีวีดิจิตอลยังคงแพร่ภาพอยู่ และมีผู้ชมจำนวนหนึ่งที่ยังคงรับชมผ่านช่องทางนี้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชมที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ยากหรือไม่สะดวกในการใช้บริการสตรีมมิง 2. **การแข่งขันจากสตรีมมิง**: บริการสตรีมมิงเช่น Netflix, YouTube, Disney+ และอื่นๆ กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้ผู้ชมบางส่วนหันไปใช้บริการเหล่านี้แทนการดูทีวีดิจิตอล 3. **การปรับตัวของสถานีโทรทัศน์**: สถานีโทรทัศน์หลายแห่งกำลังปรับตัวโดยการนำเนื้อหาไปเผยแพร่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อดึงดูดผู้ชมรุ่นใหม่ที่ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต 4. **นโยบายของรัฐบาล**: ในบางประเทศ รัฐบาลยังคงสนับสนุนการแพร่ภาพทีวีดิจิตอลเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงได้อย่างทั่วถึง ### อนาคตของทีวีดิจิตอล: - **ลดความสำคัญลง**: คาดว่าในอนาคตทีวีดิจิตอลอาจลดความสำคัญลง เนื่องจากผู้ชมหันไปใช้บริการออนไลน์มากขึ้น - **การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี**: เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น 5G และ AI อาจส่งผลต่อรูปแบบการบริโภคสื่อ ทำให้ทีวีดิจิตอลต้องปรับตัวเพื่อให้ทันสมัย สรุป: รายการทีวีดิจิตอลยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน แต่กำลังเผชิญกับความท้าทายจากเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงไป ในอนาคตอาจมีการปรับตัวหรือลดบทบาทลงตามสภาพแวดล้อมทางดิจิทัลที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว
    0 Comments 0 Shares 46 Views 0 Reviews
  • จำนวนดาวเทียมที่เพิ่มขึ้นมีผลกระทบต่อโลกหลายด้าน ทั้งด้านบวกและลบ ดังนี้:

    ### ผลกระทบด้านบวก:
    1. **การสื่อสาร**:
    - ดาวเทียมช่วยให้การสื่อสารทั่วโลกเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทั้งโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต และการแพร่สัญญาณโทรทัศน์

    2. **การพยากรณ์อากาศ**:
    - ดาวเทียมตรวจสภาพอากาศช่วยให้พยากรณ์อากาศได้แม่นยำขึ้น ช่วยเตือนภัยธรรมชาติ เช่น พายุ เฮอริเคน และสึนามิ

    3. **การสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ**:
    - ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ ช่วยในการจัดการสิ่งแวดล้อม การเกษตร และการวางแผนการใช้ที่ดิน

    4. **การนำทาง**:
    - ระบบนำทางด้วยดาวเทียม (เช่น GPS) ช่วยให้การเดินทางทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศมีความแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น

    5. **การวิจัยทางวิทยาศาสตร์**:
    - ดาวเทียมช่วยในการศึกษาด้านอวกาศ สภาพอากาศ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

    ### ผลกระทบด้านลบ:
    1. **มลภาวะทางแสง**:
    - ดาวเทียมจำนวนมากอาจสะท้อนแสงอาทิตย์ ทำให้เกิดมลภาวะทางแสง ส่งผลต่อการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์

    2. **ขยะอวกาศ**:
    - ดาวเทียมที่หมดอายุหรือเสียหายอาจกลายเป็นขยะอวกาศ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของการชนกันในอวกาศและอาจสร้างขยะอวกาศมากขึ้น

    3. **การรบกวนสัญญาณ**:
    - ดาวเทียมจำนวนมากอาจทำให้เกิดการรบกวนสัญญาณ无线电频率 ส่งผลต่อการสื่อสารและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์

    4. **ความเสี่ยงต่อความปลอดภัย**:
    - ดาวเทียมอาจเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์หรือทางกายภาพ ซึ่งอาจส่งผลต่อการสื่อสารและความปลอดภัยของประเทศ

    5. **ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม**:
    - การปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศต้องใช้เชื้อเพลิงจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    ### สรุป:
    การเพิ่มขึ้นของจำนวนดาวเทียมมีทั้งประโยชน์และความท้าทาย จำเป็นต้องมีการจัดการและควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดผลกระทบด้านลบและเพิ่มประโยชน์ให้สูงสุด
    จำนวนดาวเทียมที่เพิ่มขึ้นมีผลกระทบต่อโลกหลายด้าน ทั้งด้านบวกและลบ ดังนี้: ### ผลกระทบด้านบวก: 1. **การสื่อสาร**: - ดาวเทียมช่วยให้การสื่อสารทั่วโลกเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทั้งโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต และการแพร่สัญญาณโทรทัศน์ 2. **การพยากรณ์อากาศ**: - ดาวเทียมตรวจสภาพอากาศช่วยให้พยากรณ์อากาศได้แม่นยำขึ้น ช่วยเตือนภัยธรรมชาติ เช่น พายุ เฮอริเคน และสึนามิ 3. **การสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ**: - ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ ช่วยในการจัดการสิ่งแวดล้อม การเกษตร และการวางแผนการใช้ที่ดิน 4. **การนำทาง**: - ระบบนำทางด้วยดาวเทียม (เช่น GPS) ช่วยให้การเดินทางทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศมีความแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น 5. **การวิจัยทางวิทยาศาสตร์**: - ดาวเทียมช่วยในการศึกษาด้านอวกาศ สภาพอากาศ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ### ผลกระทบด้านลบ: 1. **มลภาวะทางแสง**: - ดาวเทียมจำนวนมากอาจสะท้อนแสงอาทิตย์ ทำให้เกิดมลภาวะทางแสง ส่งผลต่อการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ 2. **ขยะอวกาศ**: - ดาวเทียมที่หมดอายุหรือเสียหายอาจกลายเป็นขยะอวกาศ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของการชนกันในอวกาศและอาจสร้างขยะอวกาศมากขึ้น 3. **การรบกวนสัญญาณ**: - ดาวเทียมจำนวนมากอาจทำให้เกิดการรบกวนสัญญาณ无线电频率 ส่งผลต่อการสื่อสารและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ 4. **ความเสี่ยงต่อความปลอดภัย**: - ดาวเทียมอาจเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์หรือทางกายภาพ ซึ่งอาจส่งผลต่อการสื่อสารและความปลอดภัยของประเทศ 5. **ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม**: - การปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศต้องใช้เชื้อเพลิงจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ### สรุป: การเพิ่มขึ้นของจำนวนดาวเทียมมีทั้งประโยชน์และความท้าทาย จำเป็นต้องมีการจัดการและควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดผลกระทบด้านลบและเพิ่มประโยชน์ให้สูงสุด
    0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews
  • เลขา สมช.เผยมอบรอง สมช.ประชุมติดตามผล 3 มาตรการตัดไฟ น้ำมัน สัญญาณอินเตอร์เน็ตฝั่งเมียนมา ในรอบ 1 สัปดาห์ ชี้ จับตาการย้ายฐานตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไปยังพื้นที่ตรงข้ามด่านเจดีย์สามองค์

    วันนี้(11 ก.พ.) นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เปิดเผยว่าช่วงเช้าวันนี้ นายวรณัฐ คงเมือง รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้เป็นประธานประชุมร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยว ประเมินผลมาตรการตัดไฟฟ้าน้ำมัน และสัญญาณอินเตอร์เน็ตไปฝั่งเมียนมา รวมถึงหารือถึงแนวทางออกมาตรการเพิ่มเติม ว่า เป็นการประเมินในรอบหนึ่งสัปดาห์ภายหลังจากที่รัฐบาลได้มีมาตรการฯ ใน 3 เรื่อง คือ ตัดไฟฟ้า งดส่งน้ำมัน และสัญญาณอินเทอร์เน็ต ดำเนินการได้เป็นอย่างไร และติดขัดตรงไหนหรือไม่ ซึ่งเป็นการประเมินเบื้องต้น จากนั้นจะมีมาตรการอีกจำนวนมาก ดำเนินการต่อไป ก่อนจะนำเสนอนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000013627

    #MGROnline #เลขาสมช. #ตัดไฟ #น้ำมัน #สัญญาณอินเทอร์เน็ต #เมียนมา #แก๊งคอลเซ็นเตอร์
    เลขา สมช.เผยมอบรอง สมช.ประชุมติดตามผล 3 มาตรการตัดไฟ น้ำมัน สัญญาณอินเตอร์เน็ตฝั่งเมียนมา ในรอบ 1 สัปดาห์ ชี้ จับตาการย้ายฐานตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไปยังพื้นที่ตรงข้ามด่านเจดีย์สามองค์ • วันนี้(11 ก.พ.) นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เปิดเผยว่าช่วงเช้าวันนี้ นายวรณัฐ คงเมือง รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้เป็นประธานประชุมร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยว ประเมินผลมาตรการตัดไฟฟ้าน้ำมัน และสัญญาณอินเตอร์เน็ตไปฝั่งเมียนมา รวมถึงหารือถึงแนวทางออกมาตรการเพิ่มเติม ว่า เป็นการประเมินในรอบหนึ่งสัปดาห์ภายหลังจากที่รัฐบาลได้มีมาตรการฯ ใน 3 เรื่อง คือ ตัดไฟฟ้า งดส่งน้ำมัน และสัญญาณอินเทอร์เน็ต ดำเนินการได้เป็นอย่างไร และติดขัดตรงไหนหรือไม่ ซึ่งเป็นการประเมินเบื้องต้น จากนั้นจะมีมาตรการอีกจำนวนมาก ดำเนินการต่อไป ก่อนจะนำเสนอนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000013627 • #MGROnline #เลขาสมช. #ตัดไฟ #น้ำมัน #สัญญาณอินเทอร์เน็ต #เมียนมา #แก๊งคอลเซ็นเตอร์
    0 Comments 0 Shares 97 Views 0 Reviews
  • ในยุคดิจิทัลที่ทุกคนต่างต้องการความปลอดภัยในการใช้งานคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ การเลือกซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสกลายเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ บทความนี้นำเสนอการเปรียบเทียบระหว่างแอปป้องกันไวรัสที่เป็นแบบฟรีและแบบเสียเงิน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถตัดสินใจได้ว่าควรเลือกใช้งานแบบใดที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง

    งบประมาณ: สำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด แอปฟรีอาจเป็นทางเลือกที่ดี แต่ควรระวังในการเลือกซอฟต์แวร์จากบริษัทที่น่าเชื่อถือ โดยให้ความสำคัญกับชื่อเสียงและประสบการณ์ของบริษัทผู้พัฒนา

    ฟีเจอร์: แอปฟรีมักมีฟีเจอร์พื้นฐานในการป้องกันไวรัสเท่านั้น ในขณะที่แอปเสียเงินจะมีฟีเจอร์เสริมที่สำคัญ เช่น การป้องกันมัลแวร์ การป้องกันฟิชชิ่ง และการควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ต ทำให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

    โฆษณา: แอปฟรีมักจะมีโฆษณาหรือข้อความเชิญชวนให้อัปเกรดเป็นเวอร์ชันพรีเมียม ซึ่งอาจสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งาน ในขณะที่แอปเสียเงินจะไม่มีโฆษณาเหล่านี้

    การสนับสนุน: แอปเสียเงินมักจะมีการสนับสนุนทางเทคนิคที่ครบวงจร รวมถึงการสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง ในขณะที่แอปฟรีมักมีการสนับสนุนที่จำกัด โดยส่วนใหญ่จะเป็นการสนับสนุนผ่าน FAQs หรือฟอรัม

    การเลือกซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ หากต้องการฟีเจอร์ที่ครอบคลุมและการสนับสนุนที่ดี การเลือกใช้แอปเสียเงินจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าต้องการประหยัดเงินและสามารถดูแลความปลอดภัยของตัวเองได้ แอปฟรีก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน

    สรุป: แม้ว่าแอปฟรีจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการประหยัดเงิน แต่แอปเสียเงินจะให้ฟีเจอร์เสริมและการสนับสนุนที่ดีกว่า ในท้ายที่สุด การตัดสินใจขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของแต่ละบุคคล

    https://www.techradar.com/news/paid-antivirus-vs-free-antivirus-which-should-you-get
    ในยุคดิจิทัลที่ทุกคนต่างต้องการความปลอดภัยในการใช้งานคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ การเลือกซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสกลายเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ บทความนี้นำเสนอการเปรียบเทียบระหว่างแอปป้องกันไวรัสที่เป็นแบบฟรีและแบบเสียเงิน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถตัดสินใจได้ว่าควรเลือกใช้งานแบบใดที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง งบประมาณ: สำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด แอปฟรีอาจเป็นทางเลือกที่ดี แต่ควรระวังในการเลือกซอฟต์แวร์จากบริษัทที่น่าเชื่อถือ โดยให้ความสำคัญกับชื่อเสียงและประสบการณ์ของบริษัทผู้พัฒนา ฟีเจอร์: แอปฟรีมักมีฟีเจอร์พื้นฐานในการป้องกันไวรัสเท่านั้น ในขณะที่แอปเสียเงินจะมีฟีเจอร์เสริมที่สำคัญ เช่น การป้องกันมัลแวร์ การป้องกันฟิชชิ่ง และการควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ต ทำให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โฆษณา: แอปฟรีมักจะมีโฆษณาหรือข้อความเชิญชวนให้อัปเกรดเป็นเวอร์ชันพรีเมียม ซึ่งอาจสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งาน ในขณะที่แอปเสียเงินจะไม่มีโฆษณาเหล่านี้ การสนับสนุน: แอปเสียเงินมักจะมีการสนับสนุนทางเทคนิคที่ครบวงจร รวมถึงการสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง ในขณะที่แอปฟรีมักมีการสนับสนุนที่จำกัด โดยส่วนใหญ่จะเป็นการสนับสนุนผ่าน FAQs หรือฟอรัม การเลือกซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ หากต้องการฟีเจอร์ที่ครอบคลุมและการสนับสนุนที่ดี การเลือกใช้แอปเสียเงินจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าต้องการประหยัดเงินและสามารถดูแลความปลอดภัยของตัวเองได้ แอปฟรีก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน สรุป: แม้ว่าแอปฟรีจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการประหยัดเงิน แต่แอปเสียเงินจะให้ฟีเจอร์เสริมและการสนับสนุนที่ดีกว่า ในท้ายที่สุด การตัดสินใจขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของแต่ละบุคคล https://www.techradar.com/news/paid-antivirus-vs-free-antivirus-which-should-you-get
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • มีรายงานการวิจัยเกี่ยวกับการใช้งาน CAPTCHA และ reCAPTCHA โดยพบว่าไม่ได้มีประสิทธิภาพในการป้องกันบอท และยังสร้างความเสียเวลามหาศาลให้กับผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

    การวิจัยนี้เปิดเผยว่าผู้ใช้ได้ใช้เวลากว่า 819 ล้านชั่วโมงในการแก้ปริศนา reCAPTCHA ซึ่งทำให้ Google ได้รับรายได้ประมาณ 888 พันล้านดอลลาร์จากข้อมูลคุกกี้ที่ใช้ในการติดตามผู้ใช้และการโฆษณา ปริศนาเหล่านี้ยังสร้างการใช้พลังงานถึง 7.5 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงหรือ 7.5 ล้านปอนด์ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

    CAPTCHAs มีหลายประเภท เช่น การใช้ข้อความแบบบิดเบือนหรือการเลือกภาพจาก Google Street View ผู้ใช้ต้องเลือกภาพที่มีวัตถุเช่น จักรยานหรือไฟจราจร แม้ว่าจะเป็นเรื่องไม่สะดวก แต่ AI ในปัจจุบันสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ทำให้ CAPTCHA ไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันบอท

    รายงานยังแสดงให้เห็นว่าการทดสอบ CAPTCHA ทำให้มีการแพร่กระจายมัลแวร์และการใช้งานคุกกี้ที่รุกล้ำความเป็นส่วนตัว ในปัจจุบันมีทางเลือกใหม่ที่เรียกว่า "การท้าทายที่มองไม่เห็น" ซึ่งใช้อัลกอริธึมที่ซับซ้อนและการวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อแยกแยะระหว่างมนุษย์และบอท โดยไม่ต้องการการโต้ตอบจากผู้ใช้

    https://www.techradar.com/pro/security/a-tracking-cookie-farm-for-profit-report-claims-recaptcha-has-caused-819-million-hours-of-wasted-human-time-and-billions-in-google-profits
    มีรายงานการวิจัยเกี่ยวกับการใช้งาน CAPTCHA และ reCAPTCHA โดยพบว่าไม่ได้มีประสิทธิภาพในการป้องกันบอท และยังสร้างความเสียเวลามหาศาลให้กับผู้ใช้อินเทอร์เน็ต การวิจัยนี้เปิดเผยว่าผู้ใช้ได้ใช้เวลากว่า 819 ล้านชั่วโมงในการแก้ปริศนา reCAPTCHA ซึ่งทำให้ Google ได้รับรายได้ประมาณ 888 พันล้านดอลลาร์จากข้อมูลคุกกี้ที่ใช้ในการติดตามผู้ใช้และการโฆษณา ปริศนาเหล่านี้ยังสร้างการใช้พลังงานถึง 7.5 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงหรือ 7.5 ล้านปอนด์ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CAPTCHAs มีหลายประเภท เช่น การใช้ข้อความแบบบิดเบือนหรือการเลือกภาพจาก Google Street View ผู้ใช้ต้องเลือกภาพที่มีวัตถุเช่น จักรยานหรือไฟจราจร แม้ว่าจะเป็นเรื่องไม่สะดวก แต่ AI ในปัจจุบันสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ทำให้ CAPTCHA ไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันบอท รายงานยังแสดงให้เห็นว่าการทดสอบ CAPTCHA ทำให้มีการแพร่กระจายมัลแวร์และการใช้งานคุกกี้ที่รุกล้ำความเป็นส่วนตัว ในปัจจุบันมีทางเลือกใหม่ที่เรียกว่า "การท้าทายที่มองไม่เห็น" ซึ่งใช้อัลกอริธึมที่ซับซ้อนและการวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อแยกแยะระหว่างมนุษย์และบอท โดยไม่ต้องการการโต้ตอบจากผู้ใช้ https://www.techradar.com/pro/security/a-tracking-cookie-farm-for-profit-report-claims-recaptcha-has-caused-819-million-hours-of-wasted-human-time-and-billions-in-google-profits
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • ซินหัว - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคมของกัมพูชา เปิดเผยจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้อินเทอร์เน็ตในกัมพูชารวมอยู่ที่ 18.98 ล้านคน

    รัฐมนตรีกระทรวงไปรษณีย์กล่าวในพิธีปิดการประชุมของกระทรวงฯ ว่ามีผู้สมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ราว 18.28 ล้านคน ผู้สมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ตประจำที่หรืออินเทอร์เน็ตบ้าน 708,234 คน รวมทั้งมีผู้ลงทะเบียนใช้โทรศัพท์มือถือ 20.6 ล้านคน และผู้ใช้โทรศัพท์ประจำที่หรือโทรศัพท์บ้าน 31,601 คน

    จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและผู้ใช้โทรศัพท์ในกัมพูชานั้นสูงกว่าจำนวนประชากรรวมในประเทศซึ่งอยู่ที่ 17 ล้านคน เนื่องจากประชาชนบางส่วนสมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ตหรือโทรศัพท์มากกว่าหนึ่งบริการ

    รัฐมนตรีเผยว่าปัจจุบันเครือข่ายมือถือ 4G ครอบคลุมพื้นที่ของกัมพูชาร้อยละ 82 และเข้าถึงประชากรร้อยละ 93.2 พร้อมเสริมว่ากระทรวงฯ มุ่งมั่นที่จะขยายบริการโทรศัพท์ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศภายในปี 2570

    ทั้งนี้ กัมพูชามีผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ 4 ราย บริษัทโทรศัพท์บ้าน 4 ราย และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต 39 ราย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000013399

    #MGROnline #กัมพูชา #อินเทอร์เน็ต
    ซินหัว - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคมของกัมพูชา เปิดเผยจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้อินเทอร์เน็ตในกัมพูชารวมอยู่ที่ 18.98 ล้านคน • รัฐมนตรีกระทรวงไปรษณีย์กล่าวในพิธีปิดการประชุมของกระทรวงฯ ว่ามีผู้สมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ราว 18.28 ล้านคน ผู้สมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ตประจำที่หรืออินเทอร์เน็ตบ้าน 708,234 คน รวมทั้งมีผู้ลงทะเบียนใช้โทรศัพท์มือถือ 20.6 ล้านคน และผู้ใช้โทรศัพท์ประจำที่หรือโทรศัพท์บ้าน 31,601 คน • จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและผู้ใช้โทรศัพท์ในกัมพูชานั้นสูงกว่าจำนวนประชากรรวมในประเทศซึ่งอยู่ที่ 17 ล้านคน เนื่องจากประชาชนบางส่วนสมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ตหรือโทรศัพท์มากกว่าหนึ่งบริการ • รัฐมนตรีเผยว่าปัจจุบันเครือข่ายมือถือ 4G ครอบคลุมพื้นที่ของกัมพูชาร้อยละ 82 และเข้าถึงประชากรร้อยละ 93.2 พร้อมเสริมว่ากระทรวงฯ มุ่งมั่นที่จะขยายบริการโทรศัพท์ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศภายในปี 2570 • ทั้งนี้ กัมพูชามีผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ 4 ราย บริษัทโทรศัพท์บ้าน 4 ราย และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต 39 ราย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000013399 • #MGROnline #กัมพูชา #อินเทอร์เน็ต
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • เป็นที่รู้กันว่ารัฐบาลทหารพม่าใช้การปิดกั้นอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือควบคุมประชาชนและจำกัดการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้าน แต่ท่ามกลางการปิดกั้นเหล่านี้ เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม "สตาร์ลิงค์" (Starlink) ของอีลอน มักส์ (Elon Musk) ได้กลายเป็นความหวังของประชาชน เพื่อฝันในการเชื่อมต่อและไม่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

    ปัจจุบัน มีรายงานว่าอินเทอร์เน็ตของ Starlink ถูกให้บริการในมากกว่า 60 แห่งในพื้นที่ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า เช่น ซะไกง์หรือสะกาย มัคเวย์ คะเรนนี และคะฉิ่น ซึ่งแม้จะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างอิสระมากขึ้น แต่ Starlink ก็กำลังเป็นที่จับตามอง โดยเฉพาะในกรณีของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ที่ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงนี้เพื่อดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย

    ในขณะที่ Starlink อาจถูกใช้งานทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ แต่ต้นสังกัดอย่าง "สเปซ เอ็กซ์" (SpaceX) ก็ยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยในต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2025 บริษัท SpaceX มีกำหนดการปล่อยดาวเทียม Starlink เพิ่มอีก 23 ดวงผ่านจรวด Falcon 9 จากฐานปล่อยจรวด Vandenberg Space Force Base เป้าหมายหลักของการขยายเครือข่ายคือการปรับปรุงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลและเพิ่มประสิทธิภาพของบริการ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9680000013337

    #MGROnline #Starlink #ElonMusk
    เป็นที่รู้กันว่ารัฐบาลทหารพม่าใช้การปิดกั้นอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือควบคุมประชาชนและจำกัดการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้าน แต่ท่ามกลางการปิดกั้นเหล่านี้ เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม "สตาร์ลิงค์" (Starlink) ของอีลอน มักส์ (Elon Musk) ได้กลายเป็นความหวังของประชาชน เพื่อฝันในการเชื่อมต่อและไม่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก • ปัจจุบัน มีรายงานว่าอินเทอร์เน็ตของ Starlink ถูกให้บริการในมากกว่า 60 แห่งในพื้นที่ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า เช่น ซะไกง์หรือสะกาย มัคเวย์ คะเรนนี และคะฉิ่น ซึ่งแม้จะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างอิสระมากขึ้น แต่ Starlink ก็กำลังเป็นที่จับตามอง โดยเฉพาะในกรณีของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ที่ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงนี้เพื่อดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย • ในขณะที่ Starlink อาจถูกใช้งานทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ แต่ต้นสังกัดอย่าง "สเปซ เอ็กซ์" (SpaceX) ก็ยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยในต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2025 บริษัท SpaceX มีกำหนดการปล่อยดาวเทียม Starlink เพิ่มอีก 23 ดวงผ่านจรวด Falcon 9 จากฐานปล่อยจรวด Vandenberg Space Force Base เป้าหมายหลักของการขยายเครือข่ายคือการปรับปรุงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลและเพิ่มประสิทธิภาพของบริการ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9680000013337 • #MGROnline #Starlink #ElonMusk
    Like
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • Openreach บริษัทที่รับผิดชอบการจัดการโครงสร้างพื้นฐานโทรศัพท์และไฟเบอร์ในสหราชอาณาจักร ได้ร่วมมือกับ Nokia ในการทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงถึง 50Gbps การทดสอบนี้เกิดขึ้นที่เมือง Ipswich โดยใช้เทคโนโลยีจาก Nokia ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในบ้านที่อยู่อาศัยได้สำเร็จ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการทดสอบการเชื่อมต่อความเร็วสูงถึงระดับนี้ในสหราชอาณาจักร

    ปัจจุบัน Openreach ใช้เทคโนโลยี Gigabit Passive Optical Network (GPON) ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตที่สามารถให้ความเร็วสูงสุดถึง 2.5Gbps ทาง Downstream และ 1.24Gbps ทาง Upstream แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ถูกทดสอบในครั้งนี้ Openreach ได้ใช้ชุดอุปกรณ์ 50G PON จาก Nokia ที่เชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟเบอร์ของ BT ซึ่งสามารถให้ความเร็วสูงถึง 41.9Gbps ทาง Downstream และ 20.6Gbps ทาง Upstream

    เทคโนโลยีใหม่นี้มีศักยภาพสูงในการเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสำหรับผู้บริโภคในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในด้านความเป็นจริงเสมือนและความเป็นจริงเสมือนที่ผสมผสานกับการถ่ายทอดสดวิดีโอ 8K และการสนทนาทางไกลที่มีความคมชัดสูง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการประสานงานและฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์เจนเนอเรทีฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ทั้งนี้ นักวิเคราะห์โทรคมนาคมได้คาดการณ์ว่าแม้เทคโนโลยีนี้อาจยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งก่อนที่จะสามารถนำมาใช้เชิงพาณิชย์ได้ แต่การเตรียมความพร้อมตั้งแต่วันนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะในอนาคตการบริโภคข้อมูลจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้ความต้องการเครือข่ายที่มีความสามารถสูงเป็นสิ่งจำเป็น

    https://www.techspot.com/news/106693-openreach-testing-50gbps-broadband-nokia-kits-uk.html
    Openreach บริษัทที่รับผิดชอบการจัดการโครงสร้างพื้นฐานโทรศัพท์และไฟเบอร์ในสหราชอาณาจักร ได้ร่วมมือกับ Nokia ในการทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงถึง 50Gbps การทดสอบนี้เกิดขึ้นที่เมือง Ipswich โดยใช้เทคโนโลยีจาก Nokia ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในบ้านที่อยู่อาศัยได้สำเร็จ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการทดสอบการเชื่อมต่อความเร็วสูงถึงระดับนี้ในสหราชอาณาจักร ปัจจุบัน Openreach ใช้เทคโนโลยี Gigabit Passive Optical Network (GPON) ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตที่สามารถให้ความเร็วสูงสุดถึง 2.5Gbps ทาง Downstream และ 1.24Gbps ทาง Upstream แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ถูกทดสอบในครั้งนี้ Openreach ได้ใช้ชุดอุปกรณ์ 50G PON จาก Nokia ที่เชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟเบอร์ของ BT ซึ่งสามารถให้ความเร็วสูงถึง 41.9Gbps ทาง Downstream และ 20.6Gbps ทาง Upstream เทคโนโลยีใหม่นี้มีศักยภาพสูงในการเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสำหรับผู้บริโภคในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในด้านความเป็นจริงเสมือนและความเป็นจริงเสมือนที่ผสมผสานกับการถ่ายทอดสดวิดีโอ 8K และการสนทนาทางไกลที่มีความคมชัดสูง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการประสานงานและฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์เจนเนอเรทีฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์โทรคมนาคมได้คาดการณ์ว่าแม้เทคโนโลยีนี้อาจยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งก่อนที่จะสามารถนำมาใช้เชิงพาณิชย์ได้ แต่การเตรียมความพร้อมตั้งแต่วันนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะในอนาคตการบริโภคข้อมูลจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้ความต้องการเครือข่ายที่มีความสามารถสูงเป็นสิ่งจำเป็น https://www.techspot.com/news/106693-openreach-testing-50gbps-broadband-nokia-kits-uk.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Openreach is testing 50Gbps broadband in the UK using Nokia kits
    Openreach and Nokia have successfully tested what the two companies call the first "live" 50Gbps-class broadband connection from a residential location in the UK. The test took...
    0 Comments 0 Shares 90 Views 0 Reviews
  • ครูวาฬ สอนเปียโน​ กีตาร์​ ​ตามบ้าน และออนไลน์
    สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หลักสูตรดุริยางคศาสตรบัณฑิต (ดศ.บ.) วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปีพ.ศ. 2555

    สาขาวิชาที่รับสอน :
    1. ปฏิบัติเครื่องดนตรี Piano สำหรับดนตรีคลาสสิค และดนตรีสมัยนิยม
    2. ปฏิบัติเครื่องดนตรี Guitar สำหรับดนตรีคลาสสิค และดนตรีสมัยนิยม
    3. ทฤษฎีดนตรีตะวันตก Western Music Theory
    4. การฝึกโสตและการอ่านโน้ต Ear Training And Sight-Singing
    5. ลักษณะของจังหวะ ควบคู่กับเครื่องกำกับจังหวะ Rhythm Concept With Metronome

    รูปแบบการสอน และสถานที่รับสอน :
    1. Private Teaching บริเวณที่พักอาศัยของผู้เรียน ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร และในจังหวัดนนทบุรี
    2. Online Teaching หรือ Learn From Home ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยการใช้ Web and Video Conferencing Application ต่างๆ เช่น Google Meets, Cisco Webex, Zoom, Line ฯลฯ ในทุกจังหวัดของประเทศไทย และต่างประเทศ

    วัตถุประสงค์ของการสอน :
    1. ให้ผู้เรียนสามารถสอบเข้าศึกษาต่อในสาขาวิชาดนตรี ระดับเตรียมอุดมฯ และระดับปริญญาตรี, การสอบตามเกณฑ์ในระดับต่างๆ และการสอบเทียบทางด้านดนตรี
    2. ให้ผู้เรียนมีความผ่อนคลาย สบายอารมณ์ การสังสรรค์ และงานอดิเรก
    3. ให้ผู้เรียนสามารถประกอบอาชีพดนตรีในอนาคต
    4. ให้ผู้เรียนมีความเข้าใจ และความรู้ ที่เพียงพอในศาสตร์ด้านดนตรี

    * หัวข้อหลักในการเรียน การสอน​ :
    1. เทคนิคพื้นฐาน Basic ต่างๆ ตั้งแต่ท่าทาง, การจัดระเบียบ, รูปลักษณ์, ลักษณะที่ดี และถูกต้อง
    2. วิธีการเล่นดนตรี การซ้อมดนตรีที่ดี มีประสิทธิภาพ ถูกวิธี และเป็นระบบ เช่น ความสบาย, การ Save พลัง และการป้องกันการบาดเจ็บได้ดี
    3. Mindset ระบบความคิด, Attitude ทัศนคติ, การวางแผน Plan, วิธีคิด, ความสัมพันธ์ และการคิดล่วงหน้า
    4. เทคนิคในการอ่านโน้ตดนตรี
    5. การให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียง มิติเสียงที่ควรจะเป็น และทิศทางประโยคของบทเพลง
    6. เทคนิคการบรรเลงเครื่องดนตรี การควบคุมเสียง และความต่อเนื่องในการเล่นอย่างมั่นใจ ไม่สะดุดและติดขัด
    7. ความเที่ยงตรงของจังหวะ, ความเร็วของจังหวะ Tempo มีความคงที่ และระดับเสียงที่ถูกต้อง
    8. การเล่นดนตรี ร่วมกับผู้อื่น เพื่อพัฒนาโสตประสาท การรักษาจังหวะ และอารมณ์เพลง ให้มีประสิทธิภาพ
    9. การบริหารการจัดการ และการก้าวข้ามผ่านอุปสรรค
    และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อปูพื้นฐานทักษะเหล่านี้ ให้แข็งแรง แข็งแกร่ง ไปจนถึงสามารถเล่นเพลงได้ทุกเพลงในโลก ที่มีโน้ตเพลงอยู่ข้างหน้าเรา อย่างมีประสิทธิภาพ

    ประสบการณ์การทำงานและการสอน :
    1. เข้าร่วมคณะนักร้องเสียงประสาน Mahidol Symphonic Choir เมื่อปีพ.ศ. 2551 - 2552 ผ่านการแสดงร้องเสียงประสานในบทเพลง
    - Ludwig van Beethoven, "An die Freude" (Ode to Joy) from Symphony No.9, Op.125 "Choral" (1882) และ​ Carl Orff's Carmina Burana​ ร่วมกับวงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย หรือ Thailand Philharmonic Orchestra
    - Johannes Brahms's Ein Deutshes Requiem
    - Puccini's Messa di Gloria
    2. ผู้ช่วยคณะกรรมการคุมสอบเข้าศึกษาต่อในระดับเตรียมอุดมดนตรี และระดับปริญญาตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เ​​มื่อปีพ.ศ. 2552
    3. รับสอนตามสถาบันสอนดนตรี, โรงเรียนสอนดนตรี, ที่พักอาศัยของผู้เรียน และที่พักอาศัยของครูผู้สอน ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2555 ถึงปัจจุบัน

    ประวัติการฝึกอบรม :
    1. เข้าร่วมอบรมโครงการ "การใช้ดนตรีเพื่อพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม" วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล เมื่อปีพ.ศ. 2553
    2. เข้าร่วมอบรมหลักสูตร "พัฒนาผู้นำองค์กรนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล MU Leadership Program" รุ่นที่ 1 เมื่อปีพ.ศ. 2553
    3. ผ่านการอบรมออนไลน์ "โควิด19 และระบาดวิทยา" โดยศาสตราจารย์ นพ. ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปีพ.ศ. 2564
    4. ผ่านการอบรมออนไลน์ "ชีวิตวิถีใหม่และความฉลาดทางดิจิทัล New Normal Life and Digital Quotient" โดยรองศาสตราจารย์ ยืน ภู่วรวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในปีพ.ศ. 2564
    5. ผ่านการอบรมออนไลน์ "โครงการความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาบุคลากรทางไซเบอร์" สำหรับบุคคลทั่วไป "หลักสูตรเสริมสร้างการรับรู้ที่แข็งแกร่งด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ Build a Strong Security Awareness Program" โดยสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และบริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด ในปีพ.ศ. 2564
    6. เข้าร่วมอบรมออนไลน์ "Thailand National Cyber Week 2021 เพื่อพัฒนาองค์ความรู้และทักษะด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์" โดยสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ในปีพ.ศ. 2564

    คุณลักษณะ :
    ใจเย็น ใส่ใจในรายละเอียด สามารถปรับแก้ไขเนื้อหา เรื่องราวต่างๆ ให้เหมาะสมตามสถานการณ์ของแต่ละบุคคล รวมถึงการฝึกระเบียบวินัยเบื้องต้นต่อตนเองและผู้อื่น ให้ความสำคัญกับสุขอนามัย ทั้งแนวทางการดูแล การจัดการ การปฏิบัติ การป้องกัน ระหว่างผู้เรียนและผู้สอน ให้ดีมีประสิทธิภาพมากที่สุด

    คุณสมบัติของผู้เรียน :
    มีเครื่องดนตรีเป็นของตนเอง ทุกเพศ ทุกเชื้อชาติ ตั้งแต่วัยมัธยมต้น​ อายุ​ 12​ ปี​, วัยมัธยมปลาย, วัยมหาวิทยาลัย, วัยผู้ใหญ่, วัยกลางคน และวัยผู้สูงอายุ​ อายุ​ 60​ ปีขึ้นไป

    สนใจสมัครเรียน :
    ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-483-5190
    ถ้าไม่มีสัญญานตอบรับ หรือไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนั้น สามารถไปที่เว็บไซต์ https://bestkru.com/39158 ได้เช่นกัน และรอการติดต่อกลับ จากครูวาฬได้ ทั้ง 2 ช่องทางครับ

    ขอบคุณครับ
    ครูวาฬ สอนเปียโน​ กีตาร์​ ​ตามบ้าน และออนไลน์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หลักสูตรดุริยางคศาสตรบัณฑิต (ดศ.บ.) วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปีพ.ศ. 2555 สาขาวิชาที่รับสอน : 1. ปฏิบัติเครื่องดนตรี Piano สำหรับดนตรีคลาสสิค และดนตรีสมัยนิยม 2. ปฏิบัติเครื่องดนตรี Guitar สำหรับดนตรีคลาสสิค และดนตรีสมัยนิยม 3. ทฤษฎีดนตรีตะวันตก Western Music Theory 4. การฝึกโสตและการอ่านโน้ต Ear Training And Sight-Singing 5. ลักษณะของจังหวะ ควบคู่กับเครื่องกำกับจังหวะ Rhythm Concept With Metronome รูปแบบการสอน และสถานที่รับสอน : 1. Private Teaching บริเวณที่พักอาศัยของผู้เรียน ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร และในจังหวัดนนทบุรี 2. Online Teaching หรือ Learn From Home ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยการใช้ Web and Video Conferencing Application ต่างๆ เช่น Google Meets, Cisco Webex, Zoom, Line ฯลฯ ในทุกจังหวัดของประเทศไทย และต่างประเทศ วัตถุประสงค์ของการสอน : 1. ให้ผู้เรียนสามารถสอบเข้าศึกษาต่อในสาขาวิชาดนตรี ระดับเตรียมอุดมฯ และระดับปริญญาตรี, การสอบตามเกณฑ์ในระดับต่างๆ และการสอบเทียบทางด้านดนตรี 2. ให้ผู้เรียนมีความผ่อนคลาย สบายอารมณ์ การสังสรรค์ และงานอดิเรก 3. ให้ผู้เรียนสามารถประกอบอาชีพดนตรีในอนาคต 4. ให้ผู้เรียนมีความเข้าใจ และความรู้ ที่เพียงพอในศาสตร์ด้านดนตรี * หัวข้อหลักในการเรียน การสอน​ : 1. เทคนิคพื้นฐาน Basic ต่างๆ ตั้งแต่ท่าทาง, การจัดระเบียบ, รูปลักษณ์, ลักษณะที่ดี และถูกต้อง 2. วิธีการเล่นดนตรี การซ้อมดนตรีที่ดี มีประสิทธิภาพ ถูกวิธี และเป็นระบบ เช่น ความสบาย, การ Save พลัง และการป้องกันการบาดเจ็บได้ดี 3. Mindset ระบบความคิด, Attitude ทัศนคติ, การวางแผน Plan, วิธีคิด, ความสัมพันธ์ และการคิดล่วงหน้า 4. เทคนิคในการอ่านโน้ตดนตรี 5. การให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียง มิติเสียงที่ควรจะเป็น และทิศทางประโยคของบทเพลง 6. เทคนิคการบรรเลงเครื่องดนตรี การควบคุมเสียง และความต่อเนื่องในการเล่นอย่างมั่นใจ ไม่สะดุดและติดขัด 7. ความเที่ยงตรงของจังหวะ, ความเร็วของจังหวะ Tempo มีความคงที่ และระดับเสียงที่ถูกต้อง 8. การเล่นดนตรี ร่วมกับผู้อื่น เพื่อพัฒนาโสตประสาท การรักษาจังหวะ และอารมณ์เพลง ให้มีประสิทธิภาพ 9. การบริหารการจัดการ และการก้าวข้ามผ่านอุปสรรค และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อปูพื้นฐานทักษะเหล่านี้ ให้แข็งแรง แข็งแกร่ง ไปจนถึงสามารถเล่นเพลงได้ทุกเพลงในโลก ที่มีโน้ตเพลงอยู่ข้างหน้าเรา อย่างมีประสิทธิภาพ ประสบการณ์การทำงานและการสอน : 1. เข้าร่วมคณะนักร้องเสียงประสาน Mahidol Symphonic Choir เมื่อปีพ.ศ. 2551 - 2552 ผ่านการแสดงร้องเสียงประสานในบทเพลง - Ludwig van Beethoven, "An die Freude" (Ode to Joy) from Symphony No.9, Op.125 "Choral" (1882) และ​ Carl Orff's Carmina Burana​ ร่วมกับวงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย หรือ Thailand Philharmonic Orchestra - Johannes Brahms's Ein Deutshes Requiem - Puccini's Messa di Gloria 2. ผู้ช่วยคณะกรรมการคุมสอบเข้าศึกษาต่อในระดับเตรียมอุดมดนตรี และระดับปริญญาตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เ​​มื่อปีพ.ศ. 2552 3. รับสอนตามสถาบันสอนดนตรี, โรงเรียนสอนดนตรี, ที่พักอาศัยของผู้เรียน และที่พักอาศัยของครูผู้สอน ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2555 ถึงปัจจุบัน ประวัติการฝึกอบรม : 1. เข้าร่วมอบรมโครงการ "การใช้ดนตรีเพื่อพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม" วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล เมื่อปีพ.ศ. 2553 2. เข้าร่วมอบรมหลักสูตร "พัฒนาผู้นำองค์กรนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล MU Leadership Program" รุ่นที่ 1 เมื่อปีพ.ศ. 2553 3. ผ่านการอบรมออนไลน์ "โควิด19 และระบาดวิทยา" โดยศาสตราจารย์ นพ. ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปีพ.ศ. 2564 4. ผ่านการอบรมออนไลน์ "ชีวิตวิถีใหม่และความฉลาดทางดิจิทัล New Normal Life and Digital Quotient" โดยรองศาสตราจารย์ ยืน ภู่วรวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในปีพ.ศ. 2564 5. ผ่านการอบรมออนไลน์ "โครงการความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาบุคลากรทางไซเบอร์" สำหรับบุคคลทั่วไป "หลักสูตรเสริมสร้างการรับรู้ที่แข็งแกร่งด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ Build a Strong Security Awareness Program" โดยสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และบริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด ในปีพ.ศ. 2564 6. เข้าร่วมอบรมออนไลน์ "Thailand National Cyber Week 2021 เพื่อพัฒนาองค์ความรู้และทักษะด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์" โดยสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ในปีพ.ศ. 2564 คุณลักษณะ : ใจเย็น ใส่ใจในรายละเอียด สามารถปรับแก้ไขเนื้อหา เรื่องราวต่างๆ ให้เหมาะสมตามสถานการณ์ของแต่ละบุคคล รวมถึงการฝึกระเบียบวินัยเบื้องต้นต่อตนเองและผู้อื่น ให้ความสำคัญกับสุขอนามัย ทั้งแนวทางการดูแล การจัดการ การปฏิบัติ การป้องกัน ระหว่างผู้เรียนและผู้สอน ให้ดีมีประสิทธิภาพมากที่สุด คุณสมบัติของผู้เรียน : มีเครื่องดนตรีเป็นของตนเอง ทุกเพศ ทุกเชื้อชาติ ตั้งแต่วัยมัธยมต้น​ อายุ​ 12​ ปี​, วัยมัธยมปลาย, วัยมหาวิทยาลัย, วัยผู้ใหญ่, วัยกลางคน และวัยผู้สูงอายุ​ อายุ​ 60​ ปีขึ้นไป สนใจสมัครเรียน : ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-483-5190 ถ้าไม่มีสัญญานตอบรับ หรือไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนั้น สามารถไปที่เว็บไซต์ https://bestkru.com/39158 ได้เช่นกัน และรอการติดต่อกลับ จากครูวาฬได้ ทั้ง 2 ช่องทางครับ ขอบคุณครับ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 266 Views 0 Reviews
  • พิรงรองจะล้มยักษ์ ยกแรกคุก 2 ปี

    ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิพากษาจำคุก 2 ปี น.ส.พิรงรอง รามสูต คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 กรณีที่บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ยื่นฟ้องกรณีที่ กสทช.มีหนังสือแจ้งผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ ไม่ให้นำช่องรายการไปให้บริการบนแพลตฟอร์ม True ID เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา

    ศาลเห็นว่าโจทก์เป็นผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน True ID มาตั้งแต่ปี 2559 ประเภทผ่านอินเทอร์เน็ตสาธารณะ (Over-The-Top หรือ OTT) ในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ ครั้งที่ 3/2566 เมื่อ 16 ก.พ. 2566 จำเลยทำหน้าที่ประธาน ที่ประชุมนำวาระการตรวจสอบการแพร่เสียงแพร่ภาพผ่านกล่องทรูไอดี และแอปฯ True ID มาพิจารณา แต่ที่ประชุมไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ประกอบกับปัจจุบันมีผู้ให้บริการ OTT เช่นเดียวกันจำนวนมาก ซึ่งไม่ได้เป็นผู้รับใบอนุญาตและกำกับดูแลจาก กสทช. และยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับข้อกฎหมาย

    ต่อมาได้มีหนังสือไปยังผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ 127 ราย โดยเลขานุการคณะอนุกรรมการฯ จัดทำบันทึกและร่างหนังสือของสำนักงาน กสทช. ตามระบบสารบัญ คนที่กลั่นกรองงานให้แก่รองเลขาธิการ กสทช. สอบถามเหตุผลและความจำเป็นว่าทำไมต้องระบุชื่อ True ID เป็นการเฉพาะ ได้รับแจ้งว่าจำเลยเป็นผู้สั่งการและเร่งรัดให้จัดทำ ต่อมาการประชุมครั้งที่ 4/2566 เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2566 จำเลยต่อว่าและตำหนิฝ่ายเลขานุการที่ไม่ได้ระบุหรือเจาะจงถึงการให้บริการ True ID และในรายงานการประชุมครั้งที่ 3/2566 ไม่ได้มีมติให้ทำหนังสือแจ้งถึงบริการ True ID แต่บันทึกรายงานการประชุมกลับระบุว่ามีมติรับรอง อันเป็นการทำเอกสารรายงานการประชุมอันเป็นเท็จ

    นอกจากนี้ จำเลยยังได้กล่าวถ้อยคำในการประชุมครั้งที่ 3/2566 พยายามโน้มน้าวและรวบรัดการพิจารณา อีกทั้งก่อนจบการประชุมจำเลยใช้คำพูดว่า "ต้องเตรียมตัวจะ จะล้มยักษ์" และยอมรับว่าหมายถึงโจทก์ สื่อความหมายชัดเจนว่าประสงค์ให้กิจการของโจทก์ได้รับความเสียหาย เจตนามุ่งประสงค์กลั่นแกล้งโจทก์และใช้อำนาจไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้มีผู้ประกอบกิจการหลายรายได้ชะลอหรือขยายเวลาเข้าทำนิติกรรมกับโจทก์

    น.ส.พิรงรองได้รับการประกันตัวด้วยวงเงิน 1.2 แสนบาท พร้อมเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ทำให้ยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการ กสทช. เช่นเดิม ถึงกระนั้นยังต้องต่อสู้อีกสองศาลที่เหลือ ได้แก่ ชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกา

    #Newskit
    พิรงรองจะล้มยักษ์ ยกแรกคุก 2 ปี ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิพากษาจำคุก 2 ปี น.ส.พิรงรอง รามสูต คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 กรณีที่บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ยื่นฟ้องกรณีที่ กสทช.มีหนังสือแจ้งผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ ไม่ให้นำช่องรายการไปให้บริการบนแพลตฟอร์ม True ID เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา ศาลเห็นว่าโจทก์เป็นผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน True ID มาตั้งแต่ปี 2559 ประเภทผ่านอินเทอร์เน็ตสาธารณะ (Over-The-Top หรือ OTT) ในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ ครั้งที่ 3/2566 เมื่อ 16 ก.พ. 2566 จำเลยทำหน้าที่ประธาน ที่ประชุมนำวาระการตรวจสอบการแพร่เสียงแพร่ภาพผ่านกล่องทรูไอดี และแอปฯ True ID มาพิจารณา แต่ที่ประชุมไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ประกอบกับปัจจุบันมีผู้ให้บริการ OTT เช่นเดียวกันจำนวนมาก ซึ่งไม่ได้เป็นผู้รับใบอนุญาตและกำกับดูแลจาก กสทช. และยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ต่อมาได้มีหนังสือไปยังผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ 127 ราย โดยเลขานุการคณะอนุกรรมการฯ จัดทำบันทึกและร่างหนังสือของสำนักงาน กสทช. ตามระบบสารบัญ คนที่กลั่นกรองงานให้แก่รองเลขาธิการ กสทช. สอบถามเหตุผลและความจำเป็นว่าทำไมต้องระบุชื่อ True ID เป็นการเฉพาะ ได้รับแจ้งว่าจำเลยเป็นผู้สั่งการและเร่งรัดให้จัดทำ ต่อมาการประชุมครั้งที่ 4/2566 เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2566 จำเลยต่อว่าและตำหนิฝ่ายเลขานุการที่ไม่ได้ระบุหรือเจาะจงถึงการให้บริการ True ID และในรายงานการประชุมครั้งที่ 3/2566 ไม่ได้มีมติให้ทำหนังสือแจ้งถึงบริการ True ID แต่บันทึกรายงานการประชุมกลับระบุว่ามีมติรับรอง อันเป็นการทำเอกสารรายงานการประชุมอันเป็นเท็จ นอกจากนี้ จำเลยยังได้กล่าวถ้อยคำในการประชุมครั้งที่ 3/2566 พยายามโน้มน้าวและรวบรัดการพิจารณา อีกทั้งก่อนจบการประชุมจำเลยใช้คำพูดว่า "ต้องเตรียมตัวจะ จะล้มยักษ์" และยอมรับว่าหมายถึงโจทก์ สื่อความหมายชัดเจนว่าประสงค์ให้กิจการของโจทก์ได้รับความเสียหาย เจตนามุ่งประสงค์กลั่นแกล้งโจทก์และใช้อำนาจไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้มีผู้ประกอบกิจการหลายรายได้ชะลอหรือขยายเวลาเข้าทำนิติกรรมกับโจทก์ น.ส.พิรงรองได้รับการประกันตัวด้วยวงเงิน 1.2 แสนบาท พร้อมเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ทำให้ยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการ กสทช. เช่นเดิม ถึงกระนั้นยังต้องต่อสู้อีกสองศาลที่เหลือ ได้แก่ ชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกา #Newskit
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 286 Views 0 Reviews
  • ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษา "พิรงรอง" กรรมการ กสทช. ผิด ม.157 สั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญาฯ คดี "ทรูไอดี" ยื่นฟ้องออกหนังสือเตือนทีวีดิจิทัล มีโฆษณาแทรกในสัญญาณที่นำไปออก ผิดกฎ “Must Carry” ที่มีโฆษณาแทรกไม่ได้ ชี้มีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย เพราะไม่มีระเบียบเฉพาะกับ OTT จับตาหากไม่ได้รับการประกันตัว จะหลุดจากตำแหน่งทันที
    .
    วันนี้ (6 ก.พ.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี น.ส.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีที่ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ฟ้องมาตรา 157 โดยกล่าวหาว่า น.ส.พิรงรอง มีเจตนากลั่นแกล้งทำให้ ทรู ดิจิทัล ไอดี บริษัทในกลุ่มทรู ดิจิทัล กรุ๊ปเสียหาย
    .
    สำหรับคดีดังกล่าว เนื่องจากการมีผู้บริโภคร้องเรียนมาที่สำนักงาน กสทช. เมื่อปี 2566 หลังจากได้พบว่าบนแพลตฟอร์มของแอปพลิเคชันทรู ไอดี (True ID) มีการโฆษณาแทรกในช่องรายการทีวีดิจิทัลของผู้ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. ซึ่งบริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ปฯ ในฐานะผู้ให้บริการแอปฯ ทรูไอดีได้นำสัญญาณมาถ่ายทอดในแพลตฟอร์มของตนเอง
    .
    ต่อมาคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ได้พิจารณาและเสนอความเห็นในเรื่องดังกล่าว และ สำนักงาน กสทช. ได้ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ให้ตรวจสอบว่ามีการนำช่องรายการที่ได้รับอนุญาตไปออกอากาศผ่านโครงข่ายใดหรือนำไปแพร่ภาพในแพลตฟอร์มใดและให้ปฏิบัติตามประกาศ กสทช. และเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ซึ่งเป็นไปตามหลัก “มัสแครี่” (Must Carry) ที่มีโฆษณาแทรกไม่ได้ แม้หนังสือดังกล่าวไม่ได้ส่งตรงไปยังบริษัท ทรู ดิจิทัลฯ เนื่องจากบริษัทไม่ได้เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตและไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. แต่บริษัทได้อ้างว่าการออกหนังสือดังกล่าวทำให้ตนเองเสียหาย จึงนำมาซึ่งการฟ้องร้องต่อการทำหน้าที่ของประธานอนุกรรมการชุดนี้ คือ น.ส.พิรงรอง กรรมการ กสทช.
    .
    ในคำร้องของบริษัททรูดิจิทัลฯ อ้างว่าหนังสือดังกล่าวเป็นเหตุที่ทำให้ตนเองได้รับความเสียหายเนื่องจากผู้รับใบอนุญาตประเภทช่องรายการโทรทัศน์ อาจทำการระงับการเผยแพร่รายการต่าง ๆ ผ่านทางแพลตฟอร์มของตน ในคำร้องได้อ้างว่าทางสำนักงาน กสทช. ยังไม่มีระเบียบเฉพาะในการกำกับดูแลกิจการ OTT (Over-The-Top หรือการให้บริการสตรีมเนื้อหาผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต)
    .
    อย่างไรก็ตาม น.ส.พิรงรอง ยืนยันว่า การออกหนังสือของสำนักงาน กสทช. เป็นการทำตามหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการแทรกโฆษณาในบนแพลตฟอร์มทรูไอดีในการรับชมเนื้อหาตามประกาศมัสต์ แครี่ และดูแลลิขสิทธิ์เนื้อหาของผู้ให้บริการโทรทัศน์ดิจิทัล เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ซึ่งการตรวจสอบของสำนักงาน กสทช. จนนำไปสู่การออกหนังสือดังกล่าวมาจากการร้องเรียนของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการแทรกโฆษณาบนกล่องทรูไอดี ทั้งนี้ ไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ประกอบกิจการรายหนึ่งรายใดเป็นพิเศษ
    .
    เป็นที่สังเกตได้ว่า หนังสือดังกล่าวที่ออกโดยสำนักงาน กสทช. มิใช่คำสั่งทางปกครอง จึงไม่มีผลบังคับใช้ตามกฏหมาย อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ได้รับใบอนุญาตได้รับหนังสือข้างต้นและจะปฏิบัติตามประกาศ กสทช. ในประเด็นมัสแครี่ อย่างเคร่งครัดหรือไม่ ก็ยังไม่มีบทลงโทษตามกฎหมาย และผู้ได้รับใบอนุญาตมีสิทธิที่จะพิจารณาตามความเหมาะสมต่อรายการที่อยู่ภายใต้การประกอบการของตน
    .
    ก่อนหน้านี้ ในเดือน เม.ย. 2567 ศาลมีคำสั่งประทับฟ้องบริษัททรูดิจิทัลฯ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ น.ส.พิรงรอง ยุติการปฏิบัติหน้าที่กรรมการ กสทช. และประธานอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ไว้ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดีนี้
    .
    แต่ต่อมาในเดือน พ.ค. 2567 ศาลยกคำร้องดังกล่าว โดยพิจารณาว่าจำเลยไม่มีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นปฏิปักษ์ ขัดขวาง หรือกลั่นแกล้งการประกอบธุรกิจของโจทก์ตามที่กล่าวอ้าง อย่างไรก็ตาม หาก น.ส.พิรงรอง ถูกตัดสินว่ามีความผิดและไม่ได้รับสิทธิให้ประกันตัวระหว่างรอการอนุมัติการอุทธรณ์ จะต้องสิ้นสภาพการเป็นกรรมการ กสทช. ทันที
    .
    ทั้งนี้ ผู้ที่กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีโทษคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนคุณสมบัติของ กสทช. ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 7 (6) และ (7) กำหนดลักษณะต้องห้ามของกรรมการ กสทช. ว่า เป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล หรือ เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012019
    .........
    Sondhi X
    ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษา "พิรงรอง" กรรมการ กสทช. ผิด ม.157 สั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญาฯ คดี "ทรูไอดี" ยื่นฟ้องออกหนังสือเตือนทีวีดิจิทัล มีโฆษณาแทรกในสัญญาณที่นำไปออก ผิดกฎ “Must Carry” ที่มีโฆษณาแทรกไม่ได้ ชี้มีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย เพราะไม่มีระเบียบเฉพาะกับ OTT จับตาหากไม่ได้รับการประกันตัว จะหลุดจากตำแหน่งทันที . วันนี้ (6 ก.พ.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี น.ส.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีที่ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ฟ้องมาตรา 157 โดยกล่าวหาว่า น.ส.พิรงรอง มีเจตนากลั่นแกล้งทำให้ ทรู ดิจิทัล ไอดี บริษัทในกลุ่มทรู ดิจิทัล กรุ๊ปเสียหาย . สำหรับคดีดังกล่าว เนื่องจากการมีผู้บริโภคร้องเรียนมาที่สำนักงาน กสทช. เมื่อปี 2566 หลังจากได้พบว่าบนแพลตฟอร์มของแอปพลิเคชันทรู ไอดี (True ID) มีการโฆษณาแทรกในช่องรายการทีวีดิจิทัลของผู้ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. ซึ่งบริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ปฯ ในฐานะผู้ให้บริการแอปฯ ทรูไอดีได้นำสัญญาณมาถ่ายทอดในแพลตฟอร์มของตนเอง . ต่อมาคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ได้พิจารณาและเสนอความเห็นในเรื่องดังกล่าว และ สำนักงาน กสทช. ได้ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ให้ตรวจสอบว่ามีการนำช่องรายการที่ได้รับอนุญาตไปออกอากาศผ่านโครงข่ายใดหรือนำไปแพร่ภาพในแพลตฟอร์มใดและให้ปฏิบัติตามประกาศ กสทช. และเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ซึ่งเป็นไปตามหลัก “มัสแครี่” (Must Carry) ที่มีโฆษณาแทรกไม่ได้ แม้หนังสือดังกล่าวไม่ได้ส่งตรงไปยังบริษัท ทรู ดิจิทัลฯ เนื่องจากบริษัทไม่ได้เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตและไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. แต่บริษัทได้อ้างว่าการออกหนังสือดังกล่าวทำให้ตนเองเสียหาย จึงนำมาซึ่งการฟ้องร้องต่อการทำหน้าที่ของประธานอนุกรรมการชุดนี้ คือ น.ส.พิรงรอง กรรมการ กสทช. . ในคำร้องของบริษัททรูดิจิทัลฯ อ้างว่าหนังสือดังกล่าวเป็นเหตุที่ทำให้ตนเองได้รับความเสียหายเนื่องจากผู้รับใบอนุญาตประเภทช่องรายการโทรทัศน์ อาจทำการระงับการเผยแพร่รายการต่าง ๆ ผ่านทางแพลตฟอร์มของตน ในคำร้องได้อ้างว่าทางสำนักงาน กสทช. ยังไม่มีระเบียบเฉพาะในการกำกับดูแลกิจการ OTT (Over-The-Top หรือการให้บริการสตรีมเนื้อหาผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต) . อย่างไรก็ตาม น.ส.พิรงรอง ยืนยันว่า การออกหนังสือของสำนักงาน กสทช. เป็นการทำตามหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการแทรกโฆษณาในบนแพลตฟอร์มทรูไอดีในการรับชมเนื้อหาตามประกาศมัสต์ แครี่ และดูแลลิขสิทธิ์เนื้อหาของผู้ให้บริการโทรทัศน์ดิจิทัล เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ซึ่งการตรวจสอบของสำนักงาน กสทช. จนนำไปสู่การออกหนังสือดังกล่าวมาจากการร้องเรียนของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการแทรกโฆษณาบนกล่องทรูไอดี ทั้งนี้ ไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ประกอบกิจการรายหนึ่งรายใดเป็นพิเศษ . เป็นที่สังเกตได้ว่า หนังสือดังกล่าวที่ออกโดยสำนักงาน กสทช. มิใช่คำสั่งทางปกครอง จึงไม่มีผลบังคับใช้ตามกฏหมาย อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ได้รับใบอนุญาตได้รับหนังสือข้างต้นและจะปฏิบัติตามประกาศ กสทช. ในประเด็นมัสแครี่ อย่างเคร่งครัดหรือไม่ ก็ยังไม่มีบทลงโทษตามกฎหมาย และผู้ได้รับใบอนุญาตมีสิทธิที่จะพิจารณาตามความเหมาะสมต่อรายการที่อยู่ภายใต้การประกอบการของตน . ก่อนหน้านี้ ในเดือน เม.ย. 2567 ศาลมีคำสั่งประทับฟ้องบริษัททรูดิจิทัลฯ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ น.ส.พิรงรอง ยุติการปฏิบัติหน้าที่กรรมการ กสทช. และประธานอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ไว้ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดีนี้ . แต่ต่อมาในเดือน พ.ค. 2567 ศาลยกคำร้องดังกล่าว โดยพิจารณาว่าจำเลยไม่มีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นปฏิปักษ์ ขัดขวาง หรือกลั่นแกล้งการประกอบธุรกิจของโจทก์ตามที่กล่าวอ้าง อย่างไรก็ตาม หาก น.ส.พิรงรอง ถูกตัดสินว่ามีความผิดและไม่ได้รับสิทธิให้ประกันตัวระหว่างรอการอนุมัติการอุทธรณ์ จะต้องสิ้นสภาพการเป็นกรรมการ กสทช. ทันที . ทั้งนี้ ผู้ที่กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีโทษคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนคุณสมบัติของ กสทช. ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 7 (6) และ (7) กำหนดลักษณะต้องห้ามของกรรมการ กสทช. ว่า เป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล หรือ เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012019 ......... Sondhi X
    Like
    Love
    Yay
    24
    0 Comments 1 Shares 2004 Views 0 Reviews
  • บริษัท Gigabyte ได้เปิดโอกาสให้บุคคลหรือองค์กรที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีโครงการที่น่าสนใจ สามารถทดสอบซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่น G383-R80 ที่ใช้โปรเซสเซอร์ AMD MI300A ได้ฟรีเป็นเวลา 7 วัน ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้มีมูลค่าถึง $304,207 หรือประมาณ 10,000,000 บาท และถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น การฝึก AI, การทำนายข้อมูลด้วย AI, และการประมวลผลความเร็วสูง

    เพื่อเข้าร่วมทดสอบ ผู้สมัครต้องกรอกแบบฟอร์มบนเว็บไซต์ Gigabyte Launchpad และโครงการที่เสนอต้องมีความเป็นไปได้เชิงพาณิชย์หรือมีความคิดสร้างสรรค์ที่น่าสนใจ ทางบริษัทจะพิจารณาใบสมัครและแจ้งผลให้ผู้สมัครทราบภายในสามวันทำการ โดยระยะเวลาการทดสอบสามารถขยายได้ถึงสองสัปดาห์ผ่านการติดต่อกับตัวแทนขาย

    ซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นนี้มีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม เช่น การรองรับโปรเซสเซอร์ AMD MI300A APUs ซึ่งรวมทั้ง CPU และ GPU ไว้ด้วยกันเพื่อการประมวลผลที่รวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีหน่วยเก็บข้อมูลแบบ NVMe ที่รองรับความจุถึง 61.44TB และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 10Gb/s Ethernet

    https://www.techradar.com/pro/want-to-rent-a-usd300-000-amd-mi300a-supercomputer-for-free-for-seven-days-gigabyte-wants-to-hear-from-you-asap
    บริษัท Gigabyte ได้เปิดโอกาสให้บุคคลหรือองค์กรที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีโครงการที่น่าสนใจ สามารถทดสอบซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่น G383-R80 ที่ใช้โปรเซสเซอร์ AMD MI300A ได้ฟรีเป็นเวลา 7 วัน ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้มีมูลค่าถึง $304,207 หรือประมาณ 10,000,000 บาท และถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น การฝึก AI, การทำนายข้อมูลด้วย AI, และการประมวลผลความเร็วสูง เพื่อเข้าร่วมทดสอบ ผู้สมัครต้องกรอกแบบฟอร์มบนเว็บไซต์ Gigabyte Launchpad และโครงการที่เสนอต้องมีความเป็นไปได้เชิงพาณิชย์หรือมีความคิดสร้างสรรค์ที่น่าสนใจ ทางบริษัทจะพิจารณาใบสมัครและแจ้งผลให้ผู้สมัครทราบภายในสามวันทำการ โดยระยะเวลาการทดสอบสามารถขยายได้ถึงสองสัปดาห์ผ่านการติดต่อกับตัวแทนขาย ซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นนี้มีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม เช่น การรองรับโปรเซสเซอร์ AMD MI300A APUs ซึ่งรวมทั้ง CPU และ GPU ไว้ด้วยกันเพื่อการประมวลผลที่รวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีหน่วยเก็บข้อมูลแบบ NVMe ที่รองรับความจุถึง 61.44TB และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 10Gb/s Ethernet https://www.techradar.com/pro/want-to-rent-a-usd300-000-amd-mi300a-supercomputer-for-free-for-seven-days-gigabyte-wants-to-hear-from-you-asap
    0 Comments 0 Shares 83 Views 0 Reviews
  • จีนกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างเงียบ ๆ ด้วยการพัฒนาเครือข่ายบรอดแบนด์ความเร็วสูงสุดถึง 50,000 Mbps ซึ่งมากกว่าประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก การพัฒนาเครือข่ายนี้ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า 50G-PON (Passive Optical Network) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีไฟเบอร์รุ่นใหม่ที่สามารถให้ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงถึง 50 Gbps และในการอัพโหลดสูงถึง 25 Gbps

    รายงานจาก Dell’Oro Group กล่าวว่าการใช้เทคโนโลยีนี้ในจีนคาดว่าจะสร้างรายได้ถึง 1.55 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2027 โดยจีนจะเป็นตลาดเดียวที่มีการใช้ 50G-PON ในปี 2024 และ 2025 ซึ่งคิดเป็น 93% ของตลาดโลก การขยายตัวนี้นำโดยบริษัท China Telecom และพันธมิตรอื่น ๆ เช่น Shanghai Telecom และ ZTE

    สิ่งที่น่าสนใจคือเทคโนโลยี FTTR (Fiber to the Room) ซึ่งเป็นการนำสายไฟเบอร์เข้าสู่แต่ละห้องภายในบ้านหรืออาคารธุรกิจ ทำให้การเชื่อมต่อมีความเร็วสูงกว่าและมีความเสถียรมากกว่าโครงข่ายทั่วไปที่ใช้สาย Ethernet หรือ Wi-Fi

    นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่ารายได้จากอุปกรณ์ CPE (Customer Premises Equipment) แบบไร้สายคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสูงสุดในปี 2025 และ 2026 ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อการพัฒนาเครือข่าย 5G และ Wi-Fi 7 ที่จะสร้างรายได้ถึง 8.9 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2029

    โดยรวมแล้ว การพัฒนานี้เป็นการพัฒนาครั้งใหญ่ที่ทำให้จีนก้าวล้ำหน้าในด้านความเร็วอินเทอร์เน็ต และยังแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของการเชื่อมต่อด้วยไฟเบอร์ออฟติก

    https://www.techradar.com/pro/china-is-quietly-pushing-ahead-with-massive-50-000mbps-broadband-rollout-to-leapfrog-rest-of-the-world-on-internet-speeds-says-report
    จีนกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างเงียบ ๆ ด้วยการพัฒนาเครือข่ายบรอดแบนด์ความเร็วสูงสุดถึง 50,000 Mbps ซึ่งมากกว่าประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก การพัฒนาเครือข่ายนี้ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า 50G-PON (Passive Optical Network) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีไฟเบอร์รุ่นใหม่ที่สามารถให้ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงถึง 50 Gbps และในการอัพโหลดสูงถึง 25 Gbps รายงานจาก Dell’Oro Group กล่าวว่าการใช้เทคโนโลยีนี้ในจีนคาดว่าจะสร้างรายได้ถึง 1.55 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2027 โดยจีนจะเป็นตลาดเดียวที่มีการใช้ 50G-PON ในปี 2024 และ 2025 ซึ่งคิดเป็น 93% ของตลาดโลก การขยายตัวนี้นำโดยบริษัท China Telecom และพันธมิตรอื่น ๆ เช่น Shanghai Telecom และ ZTE สิ่งที่น่าสนใจคือเทคโนโลยี FTTR (Fiber to the Room) ซึ่งเป็นการนำสายไฟเบอร์เข้าสู่แต่ละห้องภายในบ้านหรืออาคารธุรกิจ ทำให้การเชื่อมต่อมีความเร็วสูงกว่าและมีความเสถียรมากกว่าโครงข่ายทั่วไปที่ใช้สาย Ethernet หรือ Wi-Fi นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่ารายได้จากอุปกรณ์ CPE (Customer Premises Equipment) แบบไร้สายคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสูงสุดในปี 2025 และ 2026 ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อการพัฒนาเครือข่าย 5G และ Wi-Fi 7 ที่จะสร้างรายได้ถึง 8.9 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2029 โดยรวมแล้ว การพัฒนานี้เป็นการพัฒนาครั้งใหญ่ที่ทำให้จีนก้าวล้ำหน้าในด้านความเร็วอินเทอร์เน็ต และยังแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของการเชื่อมต่อด้วยไฟเบอร์ออฟติก https://www.techradar.com/pro/china-is-quietly-pushing-ahead-with-massive-50-000mbps-broadband-rollout-to-leapfrog-rest-of-the-world-on-internet-speeds-says-report
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • ตัดไฟใส่กลอน แล้วเข้ามุ้งนอน คิดถึงเมียนมา

    เถียงกันอยู่ตั้งนาน พอทำจริงก็ไม่เห็นจะยาก สำหรับการงดจำหน่ายไฟฟ้า 5 จุดในประเทศเมียนมา ตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมติให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) งดจำหน่ายไฟฟ้า กระทั่งวันที่ 5 ก.พ. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานคลิกเมาส์กดปุ่มงดจ่ายกระแสไฟฟ้า ที่ศูนย์ปฎิบัติการระบบไฟฟ้าสำนักงานใหญ่ กฟภ. ถนนงามวงศ์วาน กรุงเทพฯ ถูกวิจารณ์ด้วยความตลกขบขัน ราวกับมีพิธีเปิดงานกีฬาสีแล้วต้องเชิญประธานชักธงขึ้นสู่ยอดเสา

    การงดจำหน่ายไฟฟ้าไปยังประเทศเมียนมา เป็นที่ถกเถียงกันระหว่างนายอนุทิน กับรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม หลังทางการจีนส่งนายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ มายังพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาด้านจังหวัดตากและเชียงราย เพื่อหารือแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยที่หนึ่งในนั้นมีข้อเรียกร้องให้ไทยตัดไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่ถือเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยง

    ทั้งสองฝ่าย ต่างฝ่ายต่างโยนกันไปมา นายภูมิธรรมอ้างว่าเป็นดุลยพินิจของกระทรวงมหาดไทย เพราะถือเป็นหนึ่งในหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง แต่นายอนุทินอ้างว่า กฟภ. รัฐวิสาหกิจในสังกัด มท. ทำสัญญากับบริษัทที่ทางการเมียนมาและรัฐบาลไทยรับรอง ที่ตัดไฟไม่ได้เพราะไม่มีคู่เจรจา เป็นเรื่องของรัฐและสนธิสัญญาต่างๆ ที่ผ่านมา กฟภ. ทำหนังสือไปแล้ว คำตอบอยู่ในสายลม ขณะที่ กฟภ. อ้างว่าเคยส่งหนังสือไปหน่วยงานด้านความมั่นคงหลายหน่วยงานแล้ว แต่กลับไม่ได้คำตอบ

    เมื่อความขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายมีทีท่าว่าจะบานปลาย ในที่สุดเมื่อวันที่ 4 ก.พ. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้นายภูมิธรรมเรียกประชุม สมช. ด่วน ระบุว่า หากพบความชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซนเตอร์ ก็สามารถตัดไฟได้เลย รวมถึงน้ำมันก็ไม่ต้องส่ง นำมาซึ่งการประชุม สมช. และมีมติออกมาตอนค่ำ ซึ่งวันต่อมานายอนุทินจึงได้ออกมาตัดไฟให้เห็น

    แม้ฝ่ายไทยจะตัดกระแสไฟฟ้าไปแล้ว แต่ฝั่งท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ได้ซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนไฟฟ้าน้ำทา สปป.ลาว ซึ่งเป็นของกลุ่มทุนจีน ข้ามแม่น้ำโขงไปแล้วก่อนหน้านี้ เมื่อไทยตัดไฟฟ้าก็เพิ่มการซื้อไฟฟ้ามากขึ้น โดยกำลังเชื่อมต่อกับผู้ใช้ไฟบริเวณใกล้กับชายแดนไทย-เมียนมาภายใน 1-2 วัน ส่วนฝั่งเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง และฝั่งพญาตองซู รัฐมอญ ยังคงสว่างไสวเพราะใช้เครื่องปั่นไฟผลิตไฟฟ้าใช้ภายในอาคารต่างๆ แม้จะลดการใช้ไฟประดับตกแต่งอาคารก็ตาม

    หมายเหตุ : พาดหัวดัดแปลงมาจากเพลงฉันทนาที่รัก ของรักชาติ ศิริชัย

    #Newskit
    ตัดไฟใส่กลอน แล้วเข้ามุ้งนอน คิดถึงเมียนมา เถียงกันอยู่ตั้งนาน พอทำจริงก็ไม่เห็นจะยาก สำหรับการงดจำหน่ายไฟฟ้า 5 จุดในประเทศเมียนมา ตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมติให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) งดจำหน่ายไฟฟ้า กระทั่งวันที่ 5 ก.พ. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานคลิกเมาส์กดปุ่มงดจ่ายกระแสไฟฟ้า ที่ศูนย์ปฎิบัติการระบบไฟฟ้าสำนักงานใหญ่ กฟภ. ถนนงามวงศ์วาน กรุงเทพฯ ถูกวิจารณ์ด้วยความตลกขบขัน ราวกับมีพิธีเปิดงานกีฬาสีแล้วต้องเชิญประธานชักธงขึ้นสู่ยอดเสา การงดจำหน่ายไฟฟ้าไปยังประเทศเมียนมา เป็นที่ถกเถียงกันระหว่างนายอนุทิน กับรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม หลังทางการจีนส่งนายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ มายังพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาด้านจังหวัดตากและเชียงราย เพื่อหารือแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยที่หนึ่งในนั้นมีข้อเรียกร้องให้ไทยตัดไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่ถือเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยง ทั้งสองฝ่าย ต่างฝ่ายต่างโยนกันไปมา นายภูมิธรรมอ้างว่าเป็นดุลยพินิจของกระทรวงมหาดไทย เพราะถือเป็นหนึ่งในหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง แต่นายอนุทินอ้างว่า กฟภ. รัฐวิสาหกิจในสังกัด มท. ทำสัญญากับบริษัทที่ทางการเมียนมาและรัฐบาลไทยรับรอง ที่ตัดไฟไม่ได้เพราะไม่มีคู่เจรจา เป็นเรื่องของรัฐและสนธิสัญญาต่างๆ ที่ผ่านมา กฟภ. ทำหนังสือไปแล้ว คำตอบอยู่ในสายลม ขณะที่ กฟภ. อ้างว่าเคยส่งหนังสือไปหน่วยงานด้านความมั่นคงหลายหน่วยงานแล้ว แต่กลับไม่ได้คำตอบ เมื่อความขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายมีทีท่าว่าจะบานปลาย ในที่สุดเมื่อวันที่ 4 ก.พ. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้นายภูมิธรรมเรียกประชุม สมช. ด่วน ระบุว่า หากพบความชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซนเตอร์ ก็สามารถตัดไฟได้เลย รวมถึงน้ำมันก็ไม่ต้องส่ง นำมาซึ่งการประชุม สมช. และมีมติออกมาตอนค่ำ ซึ่งวันต่อมานายอนุทินจึงได้ออกมาตัดไฟให้เห็น แม้ฝ่ายไทยจะตัดกระแสไฟฟ้าไปแล้ว แต่ฝั่งท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ได้ซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนไฟฟ้าน้ำทา สปป.ลาว ซึ่งเป็นของกลุ่มทุนจีน ข้ามแม่น้ำโขงไปแล้วก่อนหน้านี้ เมื่อไทยตัดไฟฟ้าก็เพิ่มการซื้อไฟฟ้ามากขึ้น โดยกำลังเชื่อมต่อกับผู้ใช้ไฟบริเวณใกล้กับชายแดนไทย-เมียนมาภายใน 1-2 วัน ส่วนฝั่งเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง และฝั่งพญาตองซู รัฐมอญ ยังคงสว่างไสวเพราะใช้เครื่องปั่นไฟผลิตไฟฟ้าใช้ภายในอาคารต่างๆ แม้จะลดการใช้ไฟประดับตกแต่งอาคารก็ตาม หมายเหตุ : พาดหัวดัดแปลงมาจากเพลงฉันทนาที่รัก ของรักชาติ ศิริชัย #Newskit
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 283 Views 0 Reviews
  • โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนตอบรับมาตรการของประเทศไทยที่ตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และระงับการส่งเชื้อเพลิงให้กับฐานของขบวนการสแกมเมอร์ในเมียนมา

    ในการแถลงข่าวประจำวัน ณ กระทรวงการต่างประเทศจีน วันที่ 5 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงมาตรการของรัฐบาลไทยที่ระงับการจ่ายไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และการส่งเชื้อเพลิงให้กับพื้นที่ต่าง ๆ ในเมียนมา ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นฐานของขบวนการอาชญากรรมออนไลน์ มาตรการเหล่านี้มีขึ้นก่อนที่นางแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางเยือนประเทศจีน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000011878

    #MGROnline #ประเทศจีน #กระทรวงการต่างประเทศจีน
    โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนตอบรับมาตรการของประเทศไทยที่ตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และระงับการส่งเชื้อเพลิงให้กับฐานของขบวนการสแกมเมอร์ในเมียนมา • ในการแถลงข่าวประจำวัน ณ กระทรวงการต่างประเทศจีน วันที่ 5 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงมาตรการของรัฐบาลไทยที่ระงับการจ่ายไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และการส่งเชื้อเพลิงให้กับพื้นที่ต่าง ๆ ในเมียนมา ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นฐานของขบวนการอาชญากรรมออนไลน์ มาตรการเหล่านี้มีขึ้นก่อนที่นางแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางเยือนประเทศจีน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000011878 • #MGROnline #ประเทศจีน #กระทรวงการต่างประเทศจีน
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 218 Views 0 Reviews
  • กาญจนบุรี - กองกำลังสุรสีห์ คุมเข้มชายแดนทุกช่องทาง สกัดลอบนำน้ำมันเชื้อเพลิงข้ามแดน พบน้ำมันเมืองพญาตองซู พุ่งสูทะลุลิตรละ 60 บาท ส่วน 10 สาวชาวไทย รับเป็นโคโยตี้สถานบันเทิงแห่กลับไทย เพราะกระแสไฟฟ้าถูกตัด

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช) มีวาระเร่งด่วนกรณีตัดไฟฟ้าบางพื้นที่ในฝั่งเมียนมาหลังพบเชื่อมโยงแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่ประชุมมีมติให้ตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และน้ำมัน รวม 5 จุด ตั้งแต่เวลา 09.00 น.ของวันที่ 5 ก.พ.เป็นต้นไป โดย 1 ใน 5 จุด มีจุดซื้อขายบริเวณบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่มีขายแดนติดกับ อ.พญาตองซู ประเทสเมียนมา รวมอยู่ด้วย

    โดยวันนี้ ( 5 ก.พ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้ดำเนินการตามที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช)ด้วยการกดปุ่มสวิตช์คอสเซอร์ หรือสวิทซ์อัตโนมัติ รวมถึงปลอดฟิวส์ไฟฟ้าแรงสูงและฟิวส์แรงต่ำ ที่จุดรับมอบพลังไฟฟ้าและพลังงานไฟฟ้า บริเวณจุดติดตั้งมาตรวัดไฟฟ้าแรงสูง ด้านพรมแดนบ้านบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เพื่องดจ่ายกระแสไฟฟ้าตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการป้องกันปัญหาอาชญากรรม และแก็งคอลเซนเตอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจจีนเทา ที่อาศัยอยู่ในเมือง พยาตองซู รัฐมอญ ประเทศเมียนมา อย่างถาวรเป็นที่เรียบร้องแล้ว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000011854

    #MGROnline #น้ำมัน #เมืองพญาตองซู #ลิตรละ60บาท
    กาญจนบุรี - กองกำลังสุรสีห์ คุมเข้มชายแดนทุกช่องทาง สกัดลอบนำน้ำมันเชื้อเพลิงข้ามแดน พบน้ำมันเมืองพญาตองซู พุ่งสูทะลุลิตรละ 60 บาท ส่วน 10 สาวชาวไทย รับเป็นโคโยตี้สถานบันเทิงแห่กลับไทย เพราะกระแสไฟฟ้าถูกตัด • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช) มีวาระเร่งด่วนกรณีตัดไฟฟ้าบางพื้นที่ในฝั่งเมียนมาหลังพบเชื่อมโยงแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่ประชุมมีมติให้ตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และน้ำมัน รวม 5 จุด ตั้งแต่เวลา 09.00 น.ของวันที่ 5 ก.พ.เป็นต้นไป โดย 1 ใน 5 จุด มีจุดซื้อขายบริเวณบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่มีขายแดนติดกับ อ.พญาตองซู ประเทสเมียนมา รวมอยู่ด้วย • โดยวันนี้ ( 5 ก.พ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้ดำเนินการตามที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช)ด้วยการกดปุ่มสวิตช์คอสเซอร์ หรือสวิทซ์อัตโนมัติ รวมถึงปลอดฟิวส์ไฟฟ้าแรงสูงและฟิวส์แรงต่ำ ที่จุดรับมอบพลังไฟฟ้าและพลังงานไฟฟ้า บริเวณจุดติดตั้งมาตรวัดไฟฟ้าแรงสูง ด้านพรมแดนบ้านบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เพื่องดจ่ายกระแสไฟฟ้าตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการป้องกันปัญหาอาชญากรรม และแก็งคอลเซนเตอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจจีนเทา ที่อาศัยอยู่ในเมือง พยาตองซู รัฐมอญ ประเทศเมียนมา อย่างถาวรเป็นที่เรียบร้องแล้ว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000011854 • #MGROnline #น้ำมัน #เมืองพญาตองซู #ลิตรละ60บาท
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • สมช.มีมติตัดเส้นเลือดแก๊งคอลเซนเตอร์ อาชญากรรมตามแนวชายแดนไทย-เมียนม่า งดส่งกระแสไฟฟ้า-น้ำมัน-สัญญาณอินเทอร์เน็ต 5 จุด ไล่ไปตั้งแต่เมืองท่าขี้เหล็ก ตรงข้ามจังหวัดเชียงราย เมืองเมียวดี ตรงข้ามจังหวัดตาก และเมืองพญาตองซู ตรงข้ามจังหวัดกาญจนบุรี เริ่ม 9 โมงพรุ่งนี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000011460

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สมช.มีมติตัดเส้นเลือดแก๊งคอลเซนเตอร์ อาชญากรรมตามแนวชายแดนไทย-เมียนม่า งดส่งกระแสไฟฟ้า-น้ำมัน-สัญญาณอินเทอร์เน็ต 5 จุด ไล่ไปตั้งแต่เมืองท่าขี้เหล็ก ตรงข้ามจังหวัดเชียงราย เมืองเมียวดี ตรงข้ามจังหวัดตาก และเมืองพญาตองซู ตรงข้ามจังหวัดกาญจนบุรี เริ่ม 9 โมงพรุ่งนี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000011460 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    Wow
    Angry
    16
    0 Comments 0 Shares 826 Views 0 Reviews
  • #ท้องผูก

    บางครั้งอาการท้องผูกอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวหรือเจ็บปวดได้ หากกลายเป็นอาการเรื้อรัง อาจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ เพิ่มเติมได้ เช่น ริดสีดวงทวาร

    ในหลายๆ กรณี คุณสามารถรักษาอาการท้องผูกได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตหรือยาที่ซื้อเองได้ บางคนยังแนะนำให้ใช้วิธีรักษาที่บ้าน เช่น การใช้เบกกิ้งโซดาหรือการล้างลำไส้ด้วยเกลือ

    อาการท้องผูกมีอะไรบ้าง

    หากคุณถ่ายอุจจาระได้ยากหรือถ่ายน้อยกว่าสามครั้งต่อสัปดาห์ คุณอาจมีอาการท้องผูก

    อาการอื่นๆ ของอาการท้องผูก ได้แก่:

    • ถ่ายอุจจาระเป็นก้อนหรือแข็ง

    • รู้สึกปวดบริเวณท้องน้อย

    • รู้สึกเหมือนทวารหนักอุดตัน

    • รู้สึกเหมือนถ่ายอุจจาระไม่หมด

    • ต้องใช้มือกดที่หน้าท้องเพื่อให้ถ่ายอุจจาระ

    • ต้องใช้มือดึงอุจจาระออกจากทวารหนัก

    อาการท้องผูกมีภาวะแทรกซ้อนอะไรบ้าง

    อาการท้องผูกเรื้อรังอาจทำให้เกิดปัญหาได้หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษา ตัวอย่างเช่น หากคุณมีอาการท้องผูกเรื้อรัง คุณมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการดังต่อไปนี้:

    • ริดสีดวงทวาร

    • รอยแยกที่ทวารหนัก ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังรอบทวารหนักฉีกขาด

    • อุจจาระอุดตัน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่ออุจจาระอัดแน่นและติดอยู่ในทวารหนัก

    สาเหตุของอาการท้องผูก

    อาการท้องผูกมักเกิดขึ้นเมื่อของเสียในลำไส้เคลื่อนตัวช้าเกินไป ซึ่งทำให้มีช่วงเวลาในการแข็งตัวและแห้ง ทำให้ขับถ่ายได้ยากขึ้น
    มีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการท้องผูก ได้แก่:

    • รับประทานอาหารที่มีกากใยต่ำ

    • ดื่มน้ำไม่เพียงพอ

    • ไม่ออกกำลังกายอย่างเพียงพอ

    • ไม่ใช้ห้องน้ำเมื่อรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ

    • การรับประทานน้ำตาลและผลไม้ที่มากจนเกินไป

    การเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวันอาจขัดขวางนิสัยการขับถ่ายของคุณได้ ตัวอย่างเช่น การเดินทางหรือความเครียดที่เพิ่มมากขึ้นอาจส่งผลต่อความสามารถในการขับถ่ายเป็นประจำ

    สาเหตุอื่นๆ ที่พบได้น้อยกว่าของอาการท้องผูก ได้แก่:

    • กลุ่มอาการลำไส้แปรปรวนและโรคลำไส้อื่นๆ

    • รอยแยกที่ทวารหนัก

    • มะเร็งลำไส้ใหญ่

    • ลำไส้ใหญ่ตีบแคบ

    • กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแรง

    • การตั้งครรภ์

    • ปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์

    • โรคเบาหวาน

    • ความผิดปกติทางสุขภาพจิต

    • ความผิดปกติทางระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสันหรือโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง

    • ยาบางชนิด

    อาการท้องผูกรักษาอย่างไร

    ในหลายๆ กรณี คุณสามารถรักษาอาการท้องผูกได้โดยการเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิต ตัวอย่างเช่น การรับประทานอาหารที่มีกากใยมากขึ้น ดื่มน้ำมากขึ้น และออกกำลังกาย อาจช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น

    หลีกเลี่ยงยาระบายและไฟเบอร์เร่งการขับถ่าย มะขามแขกที่ซื้อเองได้ เพราะยาเหล่านี้อาจทำให้ท้องผูกแย่ลงได้ในระยะยาว

    วิธีการรักษาตามธรรมชาติบางอย่างอาจช่วยบรรเทาอาการได้

    เบกกิ้งโซดา

    เบกกิ้งโซดาถูกใช้เป็นยาลดกรดมานานหลายทศวรรษ การบริโภคเบกกิ้งโซดาสามารถช่วยทำให้กรดในกระเพาะเป็นกลางได้ นั่นเป็นเหตุผลที่บางคนใช้เบกกิ้งโซดาเป็นยารักษาอาการเสียดท้องและอาหารไม่ย่อยตามธรรมชาติ

    ลองผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชากับน้ำเย็น 1 แก้ว ดื่มหลังจากคุณลุกจากเตียง

    การแช่ตัวในเบคกิ้งโซดา

    ตามรายงานของโรงพยาบาล El Camino การแช่ตัวในอ่างที่มีเบคกิ้งโซดาอาจช่วยบรรเทาอาการปวดทวารหนักที่เกี่ยวข้องกับอาการท้องผูกได้ นอกจากนี้ยังอาจช่วยผ่อนคลายหูรูดทวารหนัก ซึ่งอาจช่วยให้คุณขับถ่ายได้

    ในการเตรียมอ่างด้วยเบคกิ้งโซดา ให้เติมน้ำอุ่นในอ่างแล้วเติมเบคกิ้งโซดา 60 มิลลิลิตร แช่ตัวในอ่างเป็นเวลา 20 นาที

    ผลข้างเคียงของการบริโภคเบคกิ้งโซดา

    มีรายงานผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้น้อยมากจากการบริโภคเบคกิ้งโซดา

    แต่การบริโภคเบคกิ้งโซดามากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดอาการดังต่อไปนี้:

    • อาเจียน

    • ท้องเสีย

    • ปัสสาวะบ่อย

    • กล้ามเนื้ออ่อนแรง

    • กล้ามเนื้อกระตุก

    • ชัก

    • หงุดหงิดง่าย

    การล้างลำไส้ด้วยน้ำเกลือ

    การล้างลำไส้ด้วยน้ำเกลือใช้เพื่อทำความสะอาดลำไส้ใหญ่ รักษาอาการท้องผูกเรื้อรัง และช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย วิธีนี้กลายเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมในฐานะส่วนหนึ่งของโปรแกรมดีท็อกซ์และการอดอาหาร Master Cleanse

    โดยเกี่ยวข้องกับการดื่มน้ำอุ่นผสมเกลือที่ไม่เสริมไอโอดีนหรือเกลือหิมาลัย การดื่มเกลือและน้ำอุ่นมีฤทธิ์เป็นยาระบาย โดยปกติแล้วจะทำให้ขับถ่ายภายใน 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงหรืออาจใช้เวลานานกว่านั้นก็ตาม

    การล้างลำไส้ด้วยน้ำเกลือมีประโยชน์อย่างไร

    จากหลักฐานเชิงประจักษ์ การล้างลำไส้ด้วยน้ำเกลือดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดลำไส้ใหญ่ในระยะสั้นโดยทำให้เกิดการขับถ่าย

    อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่บ่งชี้ว่าการล้างลำไส้ด้วยน้ำเกลือสามารถขับสารพิษออกจากร่างกายหรือขจัดสิ่งที่เรียกว่าของเสียและปรสิตออกจากระบบย่อยอาหารของคุณได้

    แม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะเต็มไปด้วยคำยืนยันเรื่องการล้างพิษด้วยเกลือ แต่ยากที่จะระบุอัตราความสำเร็จที่แน่นอนได้

    วิธีล้างพิษด้วยน้ำเกลือ

    ขั้นตอนมาตรฐานที่ไม่เป็นทางการสำหรับการล้างพิษด้วยน้ำเกลือคือ:

    • ละลายเกลือทะเลที่ไม่ได้เสริมไอโอดีนหรือเกลือสีชมพูจากเทือกเขาหิมาลัย 2 ช้อนชาในน้ำอุ่น4 ถ้วย

    • ดื่มส่วนผสมนี้ให้เร็วที่สุดในขณะท้องว่างหรือตื่นนอน

    คุณควรจะรู้สึกอยากขับถ่ายไม่นานหลังจากดื่มส่วนผสมของน้ำเกลือ

    ทำไมต้องล้างพิษด้วยน้ำเกลือในตอนเช้า

    การล้างด้วยน้ำเกลือมักจะทำทันทีที่ตื่นนอนในตอนเช้า หรืออาจทำตอนเย็นหลังอาหารมื้อสุดท้ายไม่กี่ชั่วโมงก็ได้ ไม่สำคัญว่าคุณจะล้างในเวลาใดของวัน ตราบใดที่ล้างในขณะท้องว่าง

    อย่าคิดไปทำธุระหรือออกกำลังกายเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากดื่มน้ำเกลือ คุณอาจขับถ่ายบ่อยมาก ดังนั้นคุณไม่ควรออกห่างจากห้องน้ำมากเกินไป

    ความเสี่ยงและคำเตือน

    โปรดทราบว่าเกลือ 2 ช้อนชาเป็นสองเท่าของโซเดียมต่อวันตามคำแนะนำด้านโภชนาการ (2,300 มิลลิกรัม)

    แม้ว่าการดื่มน้ำเกลือในปริมาณนี้เป็นครั้งคราวจะไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่การดื่มน้ำเกลือในขณะท้องว่างอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียนได้

    การบริโภคเกลือในปริมาณสูง เช่น ในระหว่างการล้างลำไส้ใหญ่เพื่อเตรียมการส่องกล้อง อาจทำให้เกิดตะคริว ท้องอืด และขาดน้ำได้ การล้างลำไส้ใหญ่โดยทั่วไปอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์เนื่องจากการสูญเสียโซเดียมและของเหลวอย่างรวดเร็ว

    ซึ่งอาจนำไปสู่:

    • กล้ามเนื้อกระตุก

    • อ่อนแรง

    • สับสน

    • หัวใจเต้นผิดจังหวะ

    • ชัก

    • ปัญหาความดันโลหิต

    แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะมีอาการขับถ่ายหลังจากล้างลำไส้ใหญ่ด้วยน้ำเกลือ แต่บางคนก็ไม่เป็นเช่นนั้น การล้างลำไส้ใหญ่ด้วยน้ำเกลืออาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการได้รับโซเดียมมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่ความดันโลหิตสูง

    อย่าล้างลำไส้ใหญ่ด้วยน้ำเกลือหากคุณมี:

    • ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ

    • โรคเบาหวาน

    • อาการบวมน้ำ

    • ปัญหาไต

    • ความดันโลหิตสูง

    • ปัญหาทางเดินอาหาร เช่น แผลในกระเพาะหรือโรคลำไส้อักเสบ

    ผลิตภัณฑ์แนะนำเมื่อมีปัญหาท้องผูก

    Paa vill เพื่อเพิ่มปริมาณเส้นใยอาหารในลำไส้
    K cal เพื่อเพิ่มการบีบและคลายตัวของลำไส้ใหญ่
    Synbc เพื่อเพิ่มจุลชีพฝั่งดีในลำไส้

    ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง

    Cr. Santi Manadee
    #ท้องผูก บางครั้งอาการท้องผูกอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวหรือเจ็บปวดได้ หากกลายเป็นอาการเรื้อรัง อาจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ เพิ่มเติมได้ เช่น ริดสีดวงทวาร ในหลายๆ กรณี คุณสามารถรักษาอาการท้องผูกได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตหรือยาที่ซื้อเองได้ บางคนยังแนะนำให้ใช้วิธีรักษาที่บ้าน เช่น การใช้เบกกิ้งโซดาหรือการล้างลำไส้ด้วยเกลือ อาการท้องผูกมีอะไรบ้าง หากคุณถ่ายอุจจาระได้ยากหรือถ่ายน้อยกว่าสามครั้งต่อสัปดาห์ คุณอาจมีอาการท้องผูก อาการอื่นๆ ของอาการท้องผูก ได้แก่: • ถ่ายอุจจาระเป็นก้อนหรือแข็ง • รู้สึกปวดบริเวณท้องน้อย • รู้สึกเหมือนทวารหนักอุดตัน • รู้สึกเหมือนถ่ายอุจจาระไม่หมด • ต้องใช้มือกดที่หน้าท้องเพื่อให้ถ่ายอุจจาระ • ต้องใช้มือดึงอุจจาระออกจากทวารหนัก อาการท้องผูกมีภาวะแทรกซ้อนอะไรบ้าง อาการท้องผูกเรื้อรังอาจทำให้เกิดปัญหาได้หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษา ตัวอย่างเช่น หากคุณมีอาการท้องผูกเรื้อรัง คุณมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการดังต่อไปนี้: • ริดสีดวงทวาร • รอยแยกที่ทวารหนัก ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังรอบทวารหนักฉีกขาด • อุจจาระอุดตัน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่ออุจจาระอัดแน่นและติดอยู่ในทวารหนัก สาเหตุของอาการท้องผูก อาการท้องผูกมักเกิดขึ้นเมื่อของเสียในลำไส้เคลื่อนตัวช้าเกินไป ซึ่งทำให้มีช่วงเวลาในการแข็งตัวและแห้ง ทำให้ขับถ่ายได้ยากขึ้น มีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการท้องผูก ได้แก่: • รับประทานอาหารที่มีกากใยต่ำ • ดื่มน้ำไม่เพียงพอ • ไม่ออกกำลังกายอย่างเพียงพอ • ไม่ใช้ห้องน้ำเมื่อรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ • การรับประทานน้ำตาลและผลไม้ที่มากจนเกินไป การเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวันอาจขัดขวางนิสัยการขับถ่ายของคุณได้ ตัวอย่างเช่น การเดินทางหรือความเครียดที่เพิ่มมากขึ้นอาจส่งผลต่อความสามารถในการขับถ่ายเป็นประจำ สาเหตุอื่นๆ ที่พบได้น้อยกว่าของอาการท้องผูก ได้แก่: • กลุ่มอาการลำไส้แปรปรวนและโรคลำไส้อื่นๆ • รอยแยกที่ทวารหนัก • มะเร็งลำไส้ใหญ่ • ลำไส้ใหญ่ตีบแคบ • กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแรง • การตั้งครรภ์ • ปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ • โรคเบาหวาน • ความผิดปกติทางสุขภาพจิต • ความผิดปกติทางระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสันหรือโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง • ยาบางชนิด อาการท้องผูกรักษาอย่างไร ในหลายๆ กรณี คุณสามารถรักษาอาการท้องผูกได้โดยการเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิต ตัวอย่างเช่น การรับประทานอาหารที่มีกากใยมากขึ้น ดื่มน้ำมากขึ้น และออกกำลังกาย อาจช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น หลีกเลี่ยงยาระบายและไฟเบอร์เร่งการขับถ่าย มะขามแขกที่ซื้อเองได้ เพราะยาเหล่านี้อาจทำให้ท้องผูกแย่ลงได้ในระยะยาว วิธีการรักษาตามธรรมชาติบางอย่างอาจช่วยบรรเทาอาการได้ เบกกิ้งโซดา เบกกิ้งโซดาถูกใช้เป็นยาลดกรดมานานหลายทศวรรษ การบริโภคเบกกิ้งโซดาสามารถช่วยทำให้กรดในกระเพาะเป็นกลางได้ นั่นเป็นเหตุผลที่บางคนใช้เบกกิ้งโซดาเป็นยารักษาอาการเสียดท้องและอาหารไม่ย่อยตามธรรมชาติ ลองผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชากับน้ำเย็น 1 แก้ว ดื่มหลังจากคุณลุกจากเตียง การแช่ตัวในเบคกิ้งโซดา ตามรายงานของโรงพยาบาล El Camino การแช่ตัวในอ่างที่มีเบคกิ้งโซดาอาจช่วยบรรเทาอาการปวดทวารหนักที่เกี่ยวข้องกับอาการท้องผูกได้ นอกจากนี้ยังอาจช่วยผ่อนคลายหูรูดทวารหนัก ซึ่งอาจช่วยให้คุณขับถ่ายได้ ในการเตรียมอ่างด้วยเบคกิ้งโซดา ให้เติมน้ำอุ่นในอ่างแล้วเติมเบคกิ้งโซดา 60 มิลลิลิตร แช่ตัวในอ่างเป็นเวลา 20 นาที ผลข้างเคียงของการบริโภคเบคกิ้งโซดา มีรายงานผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้น้อยมากจากการบริโภคเบคกิ้งโซดา แต่การบริโภคเบคกิ้งโซดามากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดอาการดังต่อไปนี้: • อาเจียน • ท้องเสีย • ปัสสาวะบ่อย • กล้ามเนื้ออ่อนแรง • กล้ามเนื้อกระตุก • ชัก • หงุดหงิดง่าย การล้างลำไส้ด้วยน้ำเกลือ การล้างลำไส้ด้วยน้ำเกลือใช้เพื่อทำความสะอาดลำไส้ใหญ่ รักษาอาการท้องผูกเรื้อรัง และช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย วิธีนี้กลายเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมในฐานะส่วนหนึ่งของโปรแกรมดีท็อกซ์และการอดอาหาร Master Cleanse โดยเกี่ยวข้องกับการดื่มน้ำอุ่นผสมเกลือที่ไม่เสริมไอโอดีนหรือเกลือหิมาลัย การดื่มเกลือและน้ำอุ่นมีฤทธิ์เป็นยาระบาย โดยปกติแล้วจะทำให้ขับถ่ายภายใน 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงหรืออาจใช้เวลานานกว่านั้นก็ตาม การล้างลำไส้ด้วยน้ำเกลือมีประโยชน์อย่างไร จากหลักฐานเชิงประจักษ์ การล้างลำไส้ด้วยน้ำเกลือดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดลำไส้ใหญ่ในระยะสั้นโดยทำให้เกิดการขับถ่าย อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่บ่งชี้ว่าการล้างลำไส้ด้วยน้ำเกลือสามารถขับสารพิษออกจากร่างกายหรือขจัดสิ่งที่เรียกว่าของเสียและปรสิตออกจากระบบย่อยอาหารของคุณได้ แม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะเต็มไปด้วยคำยืนยันเรื่องการล้างพิษด้วยเกลือ แต่ยากที่จะระบุอัตราความสำเร็จที่แน่นอนได้ วิธีล้างพิษด้วยน้ำเกลือ ขั้นตอนมาตรฐานที่ไม่เป็นทางการสำหรับการล้างพิษด้วยน้ำเกลือคือ: • ละลายเกลือทะเลที่ไม่ได้เสริมไอโอดีนหรือเกลือสีชมพูจากเทือกเขาหิมาลัย 2 ช้อนชาในน้ำอุ่น4 ถ้วย • ดื่มส่วนผสมนี้ให้เร็วที่สุดในขณะท้องว่างหรือตื่นนอน คุณควรจะรู้สึกอยากขับถ่ายไม่นานหลังจากดื่มส่วนผสมของน้ำเกลือ ทำไมต้องล้างพิษด้วยน้ำเกลือในตอนเช้า การล้างด้วยน้ำเกลือมักจะทำทันทีที่ตื่นนอนในตอนเช้า หรืออาจทำตอนเย็นหลังอาหารมื้อสุดท้ายไม่กี่ชั่วโมงก็ได้ ไม่สำคัญว่าคุณจะล้างในเวลาใดของวัน ตราบใดที่ล้างในขณะท้องว่าง อย่าคิดไปทำธุระหรือออกกำลังกายเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากดื่มน้ำเกลือ คุณอาจขับถ่ายบ่อยมาก ดังนั้นคุณไม่ควรออกห่างจากห้องน้ำมากเกินไป ความเสี่ยงและคำเตือน โปรดทราบว่าเกลือ 2 ช้อนชาเป็นสองเท่าของโซเดียมต่อวันตามคำแนะนำด้านโภชนาการ (2,300 มิลลิกรัม) แม้ว่าการดื่มน้ำเกลือในปริมาณนี้เป็นครั้งคราวจะไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่การดื่มน้ำเกลือในขณะท้องว่างอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียนได้ การบริโภคเกลือในปริมาณสูง เช่น ในระหว่างการล้างลำไส้ใหญ่เพื่อเตรียมการส่องกล้อง อาจทำให้เกิดตะคริว ท้องอืด และขาดน้ำได้ การล้างลำไส้ใหญ่โดยทั่วไปอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์เนื่องจากการสูญเสียโซเดียมและของเหลวอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจนำไปสู่: • กล้ามเนื้อกระตุก • อ่อนแรง • สับสน • หัวใจเต้นผิดจังหวะ • ชัก • ปัญหาความดันโลหิต แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะมีอาการขับถ่ายหลังจากล้างลำไส้ใหญ่ด้วยน้ำเกลือ แต่บางคนก็ไม่เป็นเช่นนั้น การล้างลำไส้ใหญ่ด้วยน้ำเกลืออาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการได้รับโซเดียมมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่ความดันโลหิตสูง อย่าล้างลำไส้ใหญ่ด้วยน้ำเกลือหากคุณมี: • ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ • โรคเบาหวาน • อาการบวมน้ำ • ปัญหาไต • ความดันโลหิตสูง • ปัญหาทางเดินอาหาร เช่น แผลในกระเพาะหรือโรคลำไส้อักเสบ ผลิตภัณฑ์แนะนำเมื่อมีปัญหาท้องผูก Paa vill เพื่อเพิ่มปริมาณเส้นใยอาหารในลำไส้ K cal เพื่อเพิ่มการบีบและคลายตัวของลำไส้ใหญ่ Synbc เพื่อเพิ่มจุลชีพฝั่งดีในลำไส้ ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง Cr. Santi Manadee
    0 Comments 0 Shares 234 Views 0 Reviews
  • อดีตผู้บริหารระดับสูงของ Sony Interactive Entertainment USA ชอว์น เลย์เดน (Shawn Layden) ที่เชื่อว่า PlayStation 6 จะยังคงรองรับแผ่นดิสก์ (Optical Disc) โดยเลย์เดนกล่าวว่า Sony อาจจะเปิดตัว PlayStation 6 ในสองรูปแบบ คือมีหรือไม่มีไดรฟ์แผ่นดิสก์

    เลย์เดนกล่าวว่า Sony ไม่สามารถทำเหมือนกับ Xbox ที่เปิดตัวคอนโซลที่เป็นดิจิตอลอย่างเดียว เนื่องจาก PlayStation 5 ซึ่งประกอบด้วยรุ่นมาตรฐาน รุ่นบาง และรุ่น Pro เป็นผู้นำตลาดในปัจจุบัน โดยมียอดขายกว่า 65 ล้านเครื่องทั่วโลกเมื่อเดือนกันยายน 2024 และผู้ใช้ในพื้นที่ชนบทของบางประเทศสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ดีพอที่จะเพลิดเพลินกับเกมหรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นที่ Sony จะต้องทำการวิจัยอย่างละเอียดเกี่ยวกับตลาดที่อาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนไปสู่ดิจิตอลอย่างเดียว และจะมีจุดที่สามารถตัดสินใจได้ว่าเมื่อไหร่ที่สามารถละเลยส่วนที่ได้รับผลกระทบได้

    เลย์เดนกล่าวว่า "Sony มีความรับผิดชอบต่อผู้ใช้งานทั่วโลก หากเราไปสู่ตลาดที่ไม่มีแผ่นดิสก์ จะมีส่วนใดของตลาดที่ไม่สามารถทำตามได้" เขาเชื่อว่า Sony จะพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เนื่องจากตลาดของ Sony มีความกว้างใหญ่ทั่วโลก

    การตัดสินใจของ Sony ที่จะยังคงรองรับแผ่นดิสก์แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการรองรับความหลากหลายของตลาดทั่วโลก และความพยายามในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในพื้นที่ที่อาจไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ การรักษาความสามารถในการใช้แผ่นดิสก์เป็นการยืนยันถึงความใส่ใจในตลาดที่หลากหลายและครอบคลุมของ Sony

    https://www.techpowerup.com/332025/former-sony-exec-believes-playstation-6-will-retain-optical-disc-support
    อดีตผู้บริหารระดับสูงของ Sony Interactive Entertainment USA ชอว์น เลย์เดน (Shawn Layden) ที่เชื่อว่า PlayStation 6 จะยังคงรองรับแผ่นดิสก์ (Optical Disc) โดยเลย์เดนกล่าวว่า Sony อาจจะเปิดตัว PlayStation 6 ในสองรูปแบบ คือมีหรือไม่มีไดรฟ์แผ่นดิสก์ เลย์เดนกล่าวว่า Sony ไม่สามารถทำเหมือนกับ Xbox ที่เปิดตัวคอนโซลที่เป็นดิจิตอลอย่างเดียว เนื่องจาก PlayStation 5 ซึ่งประกอบด้วยรุ่นมาตรฐาน รุ่นบาง และรุ่น Pro เป็นผู้นำตลาดในปัจจุบัน โดยมียอดขายกว่า 65 ล้านเครื่องทั่วโลกเมื่อเดือนกันยายน 2024 และผู้ใช้ในพื้นที่ชนบทของบางประเทศสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ดีพอที่จะเพลิดเพลินกับเกมหรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นที่ Sony จะต้องทำการวิจัยอย่างละเอียดเกี่ยวกับตลาดที่อาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนไปสู่ดิจิตอลอย่างเดียว และจะมีจุดที่สามารถตัดสินใจได้ว่าเมื่อไหร่ที่สามารถละเลยส่วนที่ได้รับผลกระทบได้ เลย์เดนกล่าวว่า "Sony มีความรับผิดชอบต่อผู้ใช้งานทั่วโลก หากเราไปสู่ตลาดที่ไม่มีแผ่นดิสก์ จะมีส่วนใดของตลาดที่ไม่สามารถทำตามได้" เขาเชื่อว่า Sony จะพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เนื่องจากตลาดของ Sony มีความกว้างใหญ่ทั่วโลก การตัดสินใจของ Sony ที่จะยังคงรองรับแผ่นดิสก์แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการรองรับความหลากหลายของตลาดทั่วโลก และความพยายามในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในพื้นที่ที่อาจไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ การรักษาความสามารถในการใช้แผ่นดิสก์เป็นการยืนยันถึงความใส่ใจในตลาดที่หลากหลายและครอบคลุมของ Sony https://www.techpowerup.com/332025/former-sony-exec-believes-playstation-6-will-retain-optical-disc-support
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Former Sony Exec Believes PlayStation 6 Will Retain Optical Disc Support
    A former chairman of Sony Interactive Entertainment USA—Shawn Layden—has shared his views regarding current and future PlayStation product landscapes. In an interview conducted by podcaster Reece Reilly (of KIWI TALKZ), the American businessman was asked about Microsoft's recent-ish release of all-d...
    0 Comments 0 Shares 140 Views 0 Reviews
  • มหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ กล่าวโจมตีสำนักงานพัฒนาการระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) ในวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) เรียกหน่วยงานแห่งนี้ว่าเป็น "องค์กรก่อการร้าย" หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคลื่อนไหวระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศของวอชิงตันเป็นเวลา 3 เดือน
    .
    หลังจากระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับตั้งแต่นั้นรัฐบาลของทรัมป์ ได้ออกประกาศมอบข้อยกเว้นบางส่วนสำหรับเงินช่วยเหลือด้านอาการและมนุษยธรรมอื่นๆ แต่บรรดาเจ้าหน้าที่ด้านความช่วยเหลือบอกว่าคำสั่งดังกล่าวยังคงนำพามาซึ่งความไม่แน่นอน และกลุ่มคนอ่อนแอที่สุดในโลกบางส่วนเริ่มสัมผัสได้ถึงผลกระทบของมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    ทรัมป์ มอบหมายให้ มัสก์ รับผิดชอบด้านการตัดลดคนงานรัฐบาลและปรับลดในสิ่งที่ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้เรียกว่าเป็นการใช้จ่ายที่เปล่าประโยชน์และไม่จำเป็น ภายใต้หน้ากากของกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (Department of Government Efficiency - DOGE) ซึ่งเวลานี้กำลังเล่นงาน USAID ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    .
    "USAID คือองค์กรอาชญากรรม" มัสก์ เขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของเขาเอง ตอบกลับวิดีโอหนึ่งที่กล่าวอ้างว่า USAID เกี่ยวข้องกับ "งานเกเรของ CIA" และ "เซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต"
    .
    ข้อความในโพสต์ต่อมา มัสก์เน้นย้ำในคำกล่าวหานี้ แต่ไม่ได้ให้หลักฐานใดๆ เขาถามผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ 215 ล้านคน "คุณรู้หรือไม่ว่า USAID ใช้ภาษีเงินดอลลาร์ของคุณเป็นทุนวิจัยอาวุธชีวภาพ ในนั้นรวมถึงโควิด-19 ที่เข่นฆ่าผู้คนหลายล้านคน"
    .
    มีรายงานว่า ทรัมป์ ต้องการดึง USAID ซึ่งปัจจุบันเป็นหน่วยงานอิสระ เข้าไปอยู่ภายใต้สังกัดของกระทรวงการต่างประเทศ แต่พอสำนักข่าวเอเอฟพีติดต่อสอบถามในเรื่องนี้ ทางคณะทำงานของทรัมป์ ยังไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว
    .
    เอเอฟพียืนยันว่าเวลานี้เว็บไซต์ของ USAID หยุดให้บริการแล้ว หลังจากที่ ทรัมป์ สั่งระงับการช่วยเหลือต่างประเทศและองค์การพัฒนาทั่วโลก ทำให้ต้องมีการพักงาน เลิกจ้าง และปิดโครงการต่างๆ หลายพันโครงการ
    .
    USAID เป็นองค์กรอิสระที่ถูกจัดตั้งขึ้นในนามของสภาคองเกรส ทำหน้าที่บริหารจัดการงบประมาณกว่า 42,800 ล้านดอลลาร์ ที่มีเจตนาบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมและมอบความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่ทั่วโลก
    .
    คริส เมอร์ฟีย์ สมาชิกวุฒิสภาจากเดโมแครต วิพากษ์วิจารณ์คำสั่งของทรัมป์ ว่าเทียบเท่ากับเป็นการทำลายล้างองค์กรแห่งนี้โดยสิ้นเชิง
    .
    ซีเอ็นเอ็นรายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของ USAID จำนวน 2 ราย ถูกบังคับให้ลางาน หลังจากพวกเขาห้ามเจ้าหน้าที่จากกระทรวง DOGE ของมัสก์ เข้าถึงเอกสารลับ ส่วนหนึ่งในความพยายามอย่างกว้างขวางในการตรวจสอบงบประมาณของรัฐบาล
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010780
    ..................
    Sondhi X
    มหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ กล่าวโจมตีสำนักงานพัฒนาการระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) ในวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) เรียกหน่วยงานแห่งนี้ว่าเป็น "องค์กรก่อการร้าย" หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคลื่อนไหวระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศของวอชิงตันเป็นเวลา 3 เดือน . หลังจากระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับตั้งแต่นั้นรัฐบาลของทรัมป์ ได้ออกประกาศมอบข้อยกเว้นบางส่วนสำหรับเงินช่วยเหลือด้านอาการและมนุษยธรรมอื่นๆ แต่บรรดาเจ้าหน้าที่ด้านความช่วยเหลือบอกว่าคำสั่งดังกล่าวยังคงนำพามาซึ่งความไม่แน่นอน และกลุ่มคนอ่อนแอที่สุดในโลกบางส่วนเริ่มสัมผัสได้ถึงผลกระทบของมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว . ทรัมป์ มอบหมายให้ มัสก์ รับผิดชอบด้านการตัดลดคนงานรัฐบาลและปรับลดในสิ่งที่ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้เรียกว่าเป็นการใช้จ่ายที่เปล่าประโยชน์และไม่จำเป็น ภายใต้หน้ากากของกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (Department of Government Efficiency - DOGE) ซึ่งเวลานี้กำลังเล่นงาน USAID ซ้ำแล้วซ้ำเล่า . "USAID คือองค์กรอาชญากรรม" มัสก์ เขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของเขาเอง ตอบกลับวิดีโอหนึ่งที่กล่าวอ้างว่า USAID เกี่ยวข้องกับ "งานเกเรของ CIA" และ "เซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต" . ข้อความในโพสต์ต่อมา มัสก์เน้นย้ำในคำกล่าวหานี้ แต่ไม่ได้ให้หลักฐานใดๆ เขาถามผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ 215 ล้านคน "คุณรู้หรือไม่ว่า USAID ใช้ภาษีเงินดอลลาร์ของคุณเป็นทุนวิจัยอาวุธชีวภาพ ในนั้นรวมถึงโควิด-19 ที่เข่นฆ่าผู้คนหลายล้านคน" . มีรายงานว่า ทรัมป์ ต้องการดึง USAID ซึ่งปัจจุบันเป็นหน่วยงานอิสระ เข้าไปอยู่ภายใต้สังกัดของกระทรวงการต่างประเทศ แต่พอสำนักข่าวเอเอฟพีติดต่อสอบถามในเรื่องนี้ ทางคณะทำงานของทรัมป์ ยังไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว . เอเอฟพียืนยันว่าเวลานี้เว็บไซต์ของ USAID หยุดให้บริการแล้ว หลังจากที่ ทรัมป์ สั่งระงับการช่วยเหลือต่างประเทศและองค์การพัฒนาทั่วโลก ทำให้ต้องมีการพักงาน เลิกจ้าง และปิดโครงการต่างๆ หลายพันโครงการ . USAID เป็นองค์กรอิสระที่ถูกจัดตั้งขึ้นในนามของสภาคองเกรส ทำหน้าที่บริหารจัดการงบประมาณกว่า 42,800 ล้านดอลลาร์ ที่มีเจตนาบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมและมอบความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่ทั่วโลก . คริส เมอร์ฟีย์ สมาชิกวุฒิสภาจากเดโมแครต วิพากษ์วิจารณ์คำสั่งของทรัมป์ ว่าเทียบเท่ากับเป็นการทำลายล้างองค์กรแห่งนี้โดยสิ้นเชิง . ซีเอ็นเอ็นรายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของ USAID จำนวน 2 ราย ถูกบังคับให้ลางาน หลังจากพวกเขาห้ามเจ้าหน้าที่จากกระทรวง DOGE ของมัสก์ เข้าถึงเอกสารลับ ส่วนหนึ่งในความพยายามอย่างกว้างขวางในการตรวจสอบงบประมาณของรัฐบาล . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010780 .................. Sondhi X
    Like
    Haha
    10
    0 Comments 0 Shares 1173 Views 0 Reviews
  • "รัสเซียตั้งเป้าหมายปล่อยดาวเทียมในปี 2026 เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตครอบคลุมทั้งประเทศ และสามารถตอบสนองความต้องการอินเทอร์เน็ตได้อย่างเต็มที่

    การให้บริการอินเตอร์เน็ตจะไม่หยุดเพียงแค่ในรัสเซียเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศต่างๆ ในสหภาพด้วย ซึ่งจะทำให้ค่าบริการอินเทอร์เน็ตราคาถูกลงและรวดเร็ว"

    มิคาอิล มิชูสติน (Mikhail Mishustin) นายกรัฐมนตรีรัสเซีย
    "รัสเซียตั้งเป้าหมายปล่อยดาวเทียมในปี 2026 เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตครอบคลุมทั้งประเทศ และสามารถตอบสนองความต้องการอินเทอร์เน็ตได้อย่างเต็มที่ การให้บริการอินเตอร์เน็ตจะไม่หยุดเพียงแค่ในรัสเซียเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศต่างๆ ในสหภาพด้วย ซึ่งจะทำให้ค่าบริการอินเทอร์เน็ตราคาถูกลงและรวดเร็ว" มิคาอิล มิชูสติน (Mikhail Mishustin) นายกรัฐมนตรีรัสเซีย
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 352 Views 13 0 Reviews
  • NordVPN เปิดตัวโปรโตคอลใหม่ที่ชื่อว่า "NordWhisper" ซึ่งออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงการกรองบนเครือข่ายที่มีข้อจำกัด โดยโปรโตคอลนี้สามารถซ่อนการเชื่อมต่อของผู้ใช้ได้ดีกว่าโปรโตคอลอื่นๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น OpenVPN หรือ WireGuard

    VPN หรือเครือข่ายส่วนตัวเสมือน เป็นเทคโนโลยีที่สร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและเข้ารหัสระหว่างอุปกรณ์ของคุณกับอินเทอร์เน็ต โดยการส่งข้อมูลผ่านเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว ทำให้ที่อยู่ IP ของคุณถูกซ่อนและข้อมูลของคุณถูกเข้ารหัสเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย

    โปรโตคอล NordWhisper ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ลูกค้าของ NordVPN สามารถเข้าถึงทรัพยากรระยะไกลจากเครือข่ายที่มักจะจำกัดการใช้งาน VPN โดยโปรโตคอลนี้ทำงานโดยการเลียนแบบการจราจรเว็บทั่วไป ทำให้การเชื่อมต่อ VPN ของผู้ใช้สามารถผสมผสานกับกิจกรรมอินเทอร์เน็ตทั่วไปได้อย่างราบรื่น

    โปรโตคอล NordWhisper ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีข้อจำกัด เช่น ประเทศที่มีการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวด เช่น จีนหรือรัสเซีย จะเริ่มเปิดให้ใช้งานผ่านแอป NordVPN ในเร็วๆ นี้ โดยจะเริ่มจากผู้ใช้ Windows, Android และ Linux ก่อน และจะขยายไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ ในภายหลัง

    อย่างไรก็ตาม โปรโตคอลใหม่นี้มีข้อเสียที่สำคัญคือ อาจทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตช้าลงเมื่อเทียบกับโปรโตคอล VPN อื่นๆ ในบางสถานการณ์

    https://www.techspot.com/news/106578-nordvpn-debuts-new-protocol-could-make-vpn-connections.html
    NordVPN เปิดตัวโปรโตคอลใหม่ที่ชื่อว่า "NordWhisper" ซึ่งออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงการกรองบนเครือข่ายที่มีข้อจำกัด โดยโปรโตคอลนี้สามารถซ่อนการเชื่อมต่อของผู้ใช้ได้ดีกว่าโปรโตคอลอื่นๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น OpenVPN หรือ WireGuard VPN หรือเครือข่ายส่วนตัวเสมือน เป็นเทคโนโลยีที่สร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและเข้ารหัสระหว่างอุปกรณ์ของคุณกับอินเทอร์เน็ต โดยการส่งข้อมูลผ่านเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว ทำให้ที่อยู่ IP ของคุณถูกซ่อนและข้อมูลของคุณถูกเข้ารหัสเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย โปรโตคอล NordWhisper ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ลูกค้าของ NordVPN สามารถเข้าถึงทรัพยากรระยะไกลจากเครือข่ายที่มักจะจำกัดการใช้งาน VPN โดยโปรโตคอลนี้ทำงานโดยการเลียนแบบการจราจรเว็บทั่วไป ทำให้การเชื่อมต่อ VPN ของผู้ใช้สามารถผสมผสานกับกิจกรรมอินเทอร์เน็ตทั่วไปได้อย่างราบรื่น โปรโตคอล NordWhisper ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีข้อจำกัด เช่น ประเทศที่มีการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวด เช่น จีนหรือรัสเซีย จะเริ่มเปิดให้ใช้งานผ่านแอป NordVPN ในเร็วๆ นี้ โดยจะเริ่มจากผู้ใช้ Windows, Android และ Linux ก่อน และจะขยายไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ ในภายหลัง อย่างไรก็ตาม โปรโตคอลใหม่นี้มีข้อเสียที่สำคัญคือ อาจทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตช้าลงเมื่อเทียบกับโปรโตคอล VPN อื่นๆ ในบางสถานการณ์ https://www.techspot.com/news/106578-nordvpn-debuts-new-protocol-could-make-vpn-connections.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    NordVPN debuts new protocol that could make VPN connections undetectable
    Virtual private networks are a clever network architecture that creates a secure, encrypted connection between your device and the internet. It works by routing your internet traffic...
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • 5 ปี คนไทยรายแรกติดเชื้อโควิด-19 จุดเริ่มต้นโครงการ “คนละครึ่ง-เราไม่ทิ้งกัน”

    ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2563 ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 คนไทยรายแรก เป็นชายวัย 50 ปี อาชีพขับแท็กซี่ ซึ่งติดเชื้อมาจากผู้โดยสาร ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน นี่คือจุดเริ่มต้นของการรับมือ กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กลายเป็น วิกฤตการณ์ระดับโลก

    จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับ ความท้าทายด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม โควิด-19 ทำให้เกิดมาตรการล็อกดาวน์ การปิดประเทศ และวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยได้ออกมาตรการช่วยเหลือต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบ หนึ่งในนั้นคือ โครงการ "คนละครึ่ง" และ "เราไม่ทิ้งกัน" ที่มีบทบาทสำคัญ ในการพยุงเศรษฐกิจ และช่วยเหลือประชาชน

    จากอู่ฮั่นสู่การระบาดทั่วโลก
    "โควิด-19" เป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งเกิดจาก ไวรัส SARS-CoV-2 เริ่มต้นระบาดในนครอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อเดือนธันวาคม 2562 ก่อนแพร่กระจายไปทั่วโลก

    การประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO)
    30 มกราคม 2563 WHO ประกาศให้โควิด-19 เป็นภาวะฉุกเฉิน ทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ
    11 มีนาคม 2563 WHO ประกาศให้โควิด-19 เป็นการระบาดใหญ่ระดับโลก (Pandemic)

    ลักษณะการแพร่เชื้อ
    โควิด-19 สามารถแพร่กระจายผ่านละอองฝอย จากการไอหรือจาม โดยมีระยะฟักตัว 2-14 วัน อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่
    ✅ มีไข้
    ✅ ไอแห้ง
    ✅ หายใจลำบาก

    มาตรการป้องกันเบื้องต้น
    ✅ ล้างมือบ่อยๆ
    ✅ สวมหน้ากากอนามัย
    ✅ เว้นระยะห่างทางสังคม
    ✅ กักตัวเมื่อสงสัยว่าติดเชื้อ

    จากผู้ติดเชื้อรายแรก สู่การล็อกดาวน์
    ประเทศไทยเป็นประเทศที่สองของโลก ที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลังจากจีน โดยในช่วงต้นของการระบาด รัฐบาลไทยได้ออกมาตรการที่เข้มงวด เพื่อควบคุมสถานการณ์

    มาตรการสำคัญที่ไทยใช้รับมือกับโควิด-19
    🔹 ปิดประเทศและล็อกดาวน์ ควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศ
    🔹 มาตรการ Work From Home ให้หน่วยงานและบริษัทต่างๆ ทำงานที่บ้าน
    🔹 Social Distancing จำกัดการรวมตัวในที่สาธารณะ
    🔹 การเร่งตรวจหาเชื้อและกักตัว สร้างศูนย์ตรวจโควิด-19 และสถานกักตัว

    ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
    📉 ธุรกิจปิดตัวจำนวนมาก โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว
    📉 อัตราการว่างงานสูงขึ้น
    📉 ประชาชนมีรายได้ลดลง และเกิดปัญหาความยากจน

    โครงการ "เราไม่ทิ้งกัน" และ "คนละครึ่ง" ตัวช่วยสำคัญของประชาชน
    เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ของประชาชน รัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือที่สำคัญ ได้แก่

    💰 โครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” 💰
    📍 เริ่มต้นในปี 2563
    📍 แจกเงินเยียวยา 5,000 บาท ต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน
    📍 ครอบคลุมแรงงานนอกระบบ แรงงานอิสระ และผู้ประกอบอาชีพอิสระ

    🛍 โครงการ “คนละครึ่ง” 🛍
    📍 เริ่มต้นในปี 2563
    📍 รัฐบาลช่วยออกค่าใช้จ่าย 50% (สูงสุด 150 บาท/วัน)
    📍 ใช้ได้กับร้านค้ารายย่อยทั่วประเทศ
    📍 กระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กอยู่รอด

    ผลกระทบทางสังคมและการศึกษา
    📉 รายได้และความเป็นอยู่ของประชาชน
    💸 ประชาชนกว่า 70% รายได้ลดลง
    💸 50% ของแรงงาน ได้รับผลกระทบโดยตรง
    💸 ครัวเรือนในชนบท ได้รับผลกระทบหนัก รายได้ลดลงมากกว่า 80%

    📚 ผลกระทบต่อการศึกษา
    🏫 โรงเรียนปิด และปรับเปลี่ยนเป็น การเรียนออนไลน์
    📶 เด็กที่ยากจน ขาดอุปกรณ์การเรียน และอินเทอร์เน็ต
    📉 คุณภาพการศึกษาลดลง ส่งผลต่อโอกาสทางการศึกษา ในอนาคต

    วัคซีนโควิด-19 จุดเปลี่ยนของการระบาด
    ในช่วงแรกของการระบาด ประเทศไทยประสบปัญหา การจัดหาวัคซีนล่าช้า อย่างไรก็ตาม ในปี 2564-2565 รัฐบาลได้เร่งนำเข้าวัคซีน และกระจายวัคซีนให้ประชาชน

    แผนการฉีดวัคซีนในไทย
    ✅ Sinovac & AstraZeneca เป็นวัคซีนชุดแรกที่ใช้ในไทย
    ✅ Pfizer & Moderna เพิ่มตัวเลือกให้ประชาชน
    ✅ ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster Dose) เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน

    ผลของการฉีดวัคซีน
    📉 อัตราการเสียชีวิตลดลง
    📉 ระบบสาธารณสุขรับมือได้ดีขึ้น
    📉 เปิดประเทศและฟื้นฟูเศรษฐกิจ

    บทเรียนจากโควิด-19 อนาคตประเทศไทย
    ตลอด 5 ปีของโควิด-19 ประเทศไทยได้เผชิญกับความท้าทาย ทั้งด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม อย่างไรก็ตาม รัฐบาลและประชาชนร่วมมือกัน รับมือกับสถานการณ์นี้อย่างเต็มที่

    📌 บทเรียนสำคัญจากโควิด-19
    🔹 ต้องมีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง เพื่อรับมือโรคระบาดในอนาคต
    🔹 การช่วยเหลือประชาชน ต้องรวดเร็วและทั่วถึง
    🔹 การพึ่งพาเทคโนโลยี และการทำงานออนไลน์ เป็นเรื่องสำคัญ
    🔹 ต้องมีแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะยาว

    ประเทศไทยหลังโควิด-19
    ✅ เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว
    ✅ การท่องเที่ยวกลับมาเติบโตอีกครั้ง
    ✅ การแพทย์และระบบสาธารณสุข พัฒนาไปอีกขั้น

    นี่คือภาพรวม 5 ปี ของโควิด-19 ในประเทศไทย จากวันแรกที่พบผู้ติดเชื้อรายแรก สู่ มาตรการช่วยเหลือประชาชน และ การฟื้นตัวของประเทศ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ก็เป็นบทเรียนสำคัญในการรับมือกับวิกฤต ในอนาคต 🚀💙

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 311121 ม.ค. 2568

    🔖 #โควิด19 #คนละครึ่ง #เราไม่ทิ้งกัน #ไทยหลังโควิด #ฟื้นฟูเศรษฐกิจ #วัคซีนโควิด #NewNormal #ล็อกดาวน์ #ช่วยเหลือประชาชน #ชีวิตหลังโควิด
    5 ปี คนไทยรายแรกติดเชื้อโควิด-19 จุดเริ่มต้นโครงการ “คนละครึ่ง-เราไม่ทิ้งกัน” ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2563 ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 คนไทยรายแรก เป็นชายวัย 50 ปี อาชีพขับแท็กซี่ ซึ่งติดเชื้อมาจากผู้โดยสาร ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน นี่คือจุดเริ่มต้นของการรับมือ กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กลายเป็น วิกฤตการณ์ระดับโลก จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับ ความท้าทายด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม โควิด-19 ทำให้เกิดมาตรการล็อกดาวน์ การปิดประเทศ และวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยได้ออกมาตรการช่วยเหลือต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบ หนึ่งในนั้นคือ โครงการ "คนละครึ่ง" และ "เราไม่ทิ้งกัน" ที่มีบทบาทสำคัญ ในการพยุงเศรษฐกิจ และช่วยเหลือประชาชน จากอู่ฮั่นสู่การระบาดทั่วโลก "โควิด-19" เป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งเกิดจาก ไวรัส SARS-CoV-2 เริ่มต้นระบาดในนครอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อเดือนธันวาคม 2562 ก่อนแพร่กระจายไปทั่วโลก การประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) 30 มกราคม 2563 WHO ประกาศให้โควิด-19 เป็นภาวะฉุกเฉิน ทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ 11 มีนาคม 2563 WHO ประกาศให้โควิด-19 เป็นการระบาดใหญ่ระดับโลก (Pandemic) ลักษณะการแพร่เชื้อ โควิด-19 สามารถแพร่กระจายผ่านละอองฝอย จากการไอหรือจาม โดยมีระยะฟักตัว 2-14 วัน อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ ✅ มีไข้ ✅ ไอแห้ง ✅ หายใจลำบาก มาตรการป้องกันเบื้องต้น ✅ ล้างมือบ่อยๆ ✅ สวมหน้ากากอนามัย ✅ เว้นระยะห่างทางสังคม ✅ กักตัวเมื่อสงสัยว่าติดเชื้อ จากผู้ติดเชื้อรายแรก สู่การล็อกดาวน์ ประเทศไทยเป็นประเทศที่สองของโลก ที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลังจากจีน โดยในช่วงต้นของการระบาด รัฐบาลไทยได้ออกมาตรการที่เข้มงวด เพื่อควบคุมสถานการณ์ มาตรการสำคัญที่ไทยใช้รับมือกับโควิด-19 🔹 ปิดประเทศและล็อกดาวน์ ควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศ 🔹 มาตรการ Work From Home ให้หน่วยงานและบริษัทต่างๆ ทำงานที่บ้าน 🔹 Social Distancing จำกัดการรวมตัวในที่สาธารณะ 🔹 การเร่งตรวจหาเชื้อและกักตัว สร้างศูนย์ตรวจโควิด-19 และสถานกักตัว ผลกระทบทางเศรษฐกิจ 📉 ธุรกิจปิดตัวจำนวนมาก โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว 📉 อัตราการว่างงานสูงขึ้น 📉 ประชาชนมีรายได้ลดลง และเกิดปัญหาความยากจน โครงการ "เราไม่ทิ้งกัน" และ "คนละครึ่ง" ตัวช่วยสำคัญของประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ของประชาชน รัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือที่สำคัญ ได้แก่ 💰 โครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” 💰 📍 เริ่มต้นในปี 2563 📍 แจกเงินเยียวยา 5,000 บาท ต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน 📍 ครอบคลุมแรงงานนอกระบบ แรงงานอิสระ และผู้ประกอบอาชีพอิสระ 🛍 โครงการ “คนละครึ่ง” 🛍 📍 เริ่มต้นในปี 2563 📍 รัฐบาลช่วยออกค่าใช้จ่าย 50% (สูงสุด 150 บาท/วัน) 📍 ใช้ได้กับร้านค้ารายย่อยทั่วประเทศ 📍 กระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กอยู่รอด ผลกระทบทางสังคมและการศึกษา 📉 รายได้และความเป็นอยู่ของประชาชน 💸 ประชาชนกว่า 70% รายได้ลดลง 💸 50% ของแรงงาน ได้รับผลกระทบโดยตรง 💸 ครัวเรือนในชนบท ได้รับผลกระทบหนัก รายได้ลดลงมากกว่า 80% 📚 ผลกระทบต่อการศึกษา 🏫 โรงเรียนปิด และปรับเปลี่ยนเป็น การเรียนออนไลน์ 📶 เด็กที่ยากจน ขาดอุปกรณ์การเรียน และอินเทอร์เน็ต 📉 คุณภาพการศึกษาลดลง ส่งผลต่อโอกาสทางการศึกษา ในอนาคต วัคซีนโควิด-19 จุดเปลี่ยนของการระบาด ในช่วงแรกของการระบาด ประเทศไทยประสบปัญหา การจัดหาวัคซีนล่าช้า อย่างไรก็ตาม ในปี 2564-2565 รัฐบาลได้เร่งนำเข้าวัคซีน และกระจายวัคซีนให้ประชาชน แผนการฉีดวัคซีนในไทย ✅ Sinovac & AstraZeneca เป็นวัคซีนชุดแรกที่ใช้ในไทย ✅ Pfizer & Moderna เพิ่มตัวเลือกให้ประชาชน ✅ ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster Dose) เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ผลของการฉีดวัคซีน 📉 อัตราการเสียชีวิตลดลง 📉 ระบบสาธารณสุขรับมือได้ดีขึ้น 📉 เปิดประเทศและฟื้นฟูเศรษฐกิจ บทเรียนจากโควิด-19 อนาคตประเทศไทย ตลอด 5 ปีของโควิด-19 ประเทศไทยได้เผชิญกับความท้าทาย ทั้งด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม อย่างไรก็ตาม รัฐบาลและประชาชนร่วมมือกัน รับมือกับสถานการณ์นี้อย่างเต็มที่ 📌 บทเรียนสำคัญจากโควิด-19 🔹 ต้องมีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง เพื่อรับมือโรคระบาดในอนาคต 🔹 การช่วยเหลือประชาชน ต้องรวดเร็วและทั่วถึง 🔹 การพึ่งพาเทคโนโลยี และการทำงานออนไลน์ เป็นเรื่องสำคัญ 🔹 ต้องมีแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะยาว ประเทศไทยหลังโควิด-19 ✅ เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ✅ การท่องเที่ยวกลับมาเติบโตอีกครั้ง ✅ การแพทย์และระบบสาธารณสุข พัฒนาไปอีกขั้น นี่คือภาพรวม 5 ปี ของโควิด-19 ในประเทศไทย จากวันแรกที่พบผู้ติดเชื้อรายแรก สู่ มาตรการช่วยเหลือประชาชน และ การฟื้นตัวของประเทศ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ก็เป็นบทเรียนสำคัญในการรับมือกับวิกฤต ในอนาคต 🚀💙 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 311121 ม.ค. 2568 🔖 #โควิด19 #คนละครึ่ง #เราไม่ทิ้งกัน #ไทยหลังโควิด #ฟื้นฟูเศรษฐกิจ #วัคซีนโควิด #NewNormal #ล็อกดาวน์ #ช่วยเหลือประชาชน #ชีวิตหลังโควิด
    0 Comments 0 Shares 600 Views 0 Reviews
  • โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคารีวา กล่าวอวยพรวันตรุษจีนเป็นภาษาจีน

    เธอกลายเป็นขวัญใจชาวจีนในอินเทอร์เน็ต ซึ่งรู้จักเธอในชื่อ ซิสเตอร์ซา 扎姐

    เธอยังบอกอีกว่าอาหารจีนที่เธอชอบคือหมูเปรี้ยวหวาน และเธอก็ชอบเกี๊ยวของจีนด้วยเช่นกัน ที่รัสเซียก็มีประเพณีเกี๊ยวในแบบของรัสเซียด้วยเช่นกัน
    โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคารีวา กล่าวอวยพรวันตรุษจีนเป็นภาษาจีน เธอกลายเป็นขวัญใจชาวจีนในอินเทอร์เน็ต ซึ่งรู้จักเธอในชื่อ ซิสเตอร์ซา 扎姐 เธอยังบอกอีกว่าอาหารจีนที่เธอชอบคือหมูเปรี้ยวหวาน และเธอก็ชอบเกี๊ยวของจีนด้วยเช่นกัน ที่รัสเซียก็มีประเพณีเกี๊ยวในแบบของรัสเซียด้วยเช่นกัน
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 284 Views 19 0 Reviews
More Results