• รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251201 #securityonline


    GeoServer พบช่องโหว่ร้ายแรง XXE (CVE-2025-58360)
    เรื่องนี้เป็นการเตือนครั้งใหญ่สำหรับผู้ดูแลระบบที่ใช้ GeoServer ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สด้านข้อมูลภูมิสารสนเทศ ช่องโหว่นี้อยู่ในฟังก์ชัน Web Map Service (WMS) ที่เปิดให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง XML ที่ไม่ถูกกรองอย่างเหมาะสม ผลคือสามารถดึงไฟล์ลับจากเซิร์ฟเวอร์ ทำการ SSRF เพื่อเจาะระบบภายใน หรือแม้แต่ทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ทันที ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รีบอัปเดตไปยังเวอร์ชันล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่ ไม่เช่นนั้นระบบที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลแผนที่อาจถูกเจาะได้ง่าย
    https://securityonline.info/high-severity-geoserver-flaw-cve-2025-58360-allows-unauthenticated-xxe-for-file-theft-and-ssrf

    TAG-150 ผู้ให้บริการ Malware-as-a-Service รายใหม่ ใช้ ClickFix หลอกเหยื่อ
    กลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์หน้าใหม่ชื่อ TAG-150 โผล่ขึ้นมาในปี 2025 และสร้างความปั่นป่วนอย่างรวดเร็ว พวกเขาใช้เทคนิค ClickFix ที่หลอกให้ผู้ใช้คิดว่ากำลังทำขั้นตอนยืนยันหรืออัปเดตซอฟต์แวร์ แต่จริง ๆ แล้วคือการบังคับให้เหยื่อรันคำสั่ง PowerShell ที่เป็นมัลแวร์เอง หลังจากนั้นจะถูกติดตั้ง CastleLoader และ CastleRAT ซึ่งให้สิทธิ์ควบคุมเครื่องแบบเต็มรูปแบบ ทั้งการดักคีย์บอร์ด จับภาพหน้าจอ และเปิดเชลล์ระยะไกล ถือเป็นการโจมตีที่เน้นหลอกเหยื่อให้ “แฮ็กตัวเอง” โดยไม่รู้ตัว
    https://securityonline.info/new-maas-operator-tag-150-uses-clickfix-lure-and-custom-castleloader-to-compromise-469-us-devices

    แคมเปญ “Contagious Interview” ของเกาหลีเหนือ ปล่อยแพ็กเกจ npm กว่า 200 ตัว
    นักวิจัยพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าล่าผู้พัฒนาในสายบล็อกเชนและ Web3 พวกเขาใช้วิธีปลอมเป็นการสัมภาษณ์งาน โดยให้ผู้สมัครทำ “แบบทดสอบโค้ด” ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นแพ็กเกจ npm ที่ฝังมัลแวร์ OtterCookie รุ่นใหม่เข้าไป แพ็กเกจเหล่านี้ถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่าหมื่นครั้ง และสามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น seed phrase ของกระเป๋าเงินคริปโต รหัสผ่าน และไฟล์ลับต่าง ๆ ได้ทันที ถือเป็นการโจมตีที่ใช้กระบวนการสมัครงานเป็นเครื่องมือในการเจาะระบบ
    https://securityonline.info/north-koreas-contagious-interview-floods-npm-with-200-new-packages-using-fake-crypto-jobs-to-deploy-ottercookie-spyware

    ShadowV2 Mirai Botnet ทดสอบโจมตี IoT ระหว่าง AWS ล่มทั่วโลก
    ในช่วงที่ AWS เกิดการล่มครั้งใหญ่เมื่อเดือนตุลาคม กลุ่มผู้โจมตีใช้โอกาสนี้ปล่อย ShadowV2 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของ Mirai botnet โดยมุ่งเป้าไปที่อุปกรณ์ IoT เช่น เราเตอร์และอุปกรณ์เครือข่ายที่มีช่องโหว่ การโจมตีครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น “การทดสอบ” มากกว่าการโจมตีเต็มรูปแบบ แต่ก็สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ในหลายอุตสาหกรรมทั่วโลกได้แล้ว ShadowV2 ใช้เทคนิคเข้ารหัสเพื่อหลบการตรวจจับ และสามารถทำ DDoS ได้หลายรูปแบบ ถือเป็นสัญญาณเตือนว่า IoT ยังคงเป็นจุดอ่อนสำคัญในโลกไซเบอร์
    https://securityonline.info/shadowv2-mirai-botnet-launched-coordinated-iot-test-attack-during-global-aws-outage

    Bloody Wolf APT ขยายการโจมตีสู่เอเชียกลาง ใช้ NetSupport RAT
    กลุ่ม APT ที่ชื่อ Bloody Wolf ซึ่งเคยโจมตีในรัสเซียและคาซัคสถาน ตอนนี้ขยายไปยังคีร์กีซสถานและอุซเบกิสถาน พวกเขาใช้วิธีส่งอีเมล spear-phishing ที่ปลอมเป็นเอกสารทางราชการ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์จะถูกนำไปดาวน์โหลด JAR ที่ฝังโค้ดอันตราย ซึ่งสุดท้ายติดตั้ง NetSupport RAT ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ปกติใช้ในการช่วยเหลือด้านไอที แต่ถูกนำมาใช้ควบคุมเครื่องเหยื่อแบบลับ ๆ ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก การใช้เครื่องมือที่ถูกต้องตามกฎหมายมาทำการโจมตีเช่นนี้ เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้แยกไม่ออกว่าเป็นการใช้งานจริงหรือการแฮ็ก
    https://securityonline.info/bloody-wolf-apt-expands-to-central-asia-deploys-netsupport-rat-via-custom-java-droppers-and-geo-fencing

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache bRPC (CVE-2025-59789)
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ที่อันตรายมากใน Apache bRPC ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์ก RPC ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับระบบประสิทธิภาพสูง เช่น การค้นหา การจัดเก็บ และแมชชีนเลิร์นนิง ช่องโหว่นี้เกิดจากการประมวลผล JSON ที่มีโครงสร้างซ้อนลึกเกินไป ทำให้เกิดการใช้หน่วยความจำสแต็กจนล้นและทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ง่าย ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูล JSON ที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ระบบ crash โดยเฉพาะ องค์กรที่เปิดรับทราฟฟิกจากเครือข่ายภายนอกจึงเสี่ยงสูง ทางทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.15.0 โดยเพิ่มการจำกัดความลึกของการ recursion ที่ค่าเริ่มต้น 100 เพื่อป้องกันการโจมตี แต่ก็อาจทำให้บางคำขอที่ถูกต้องถูกปฏิเสธไปด้วย
    https://securityonline.info/cve-2025-59789-critical-flaw-in-apache-brpc-framework-exposes-high-performance-systems-to-crash-risks

    Apple เตรียมใช้ Intel Foundry ผลิตชิป M-Series บนเทคโนโลยี 18A ปี 2027
    มีรายงานว่า Apple ได้ทำข้อตกลงลับกับ Intel เพื่อให้ผลิตชิป M-series รุ่นเริ่มต้นบนกระบวนการผลิต 18A โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตจำนวนมากได้ในช่วงกลางปี 2027 นี่ถือเป็นการกลับมาของ Intel ในห่วงโซ่อุปทานของ Apple หลังจากที่ TSMC ครองบทบาทหลักมานาน ชิปที่ผลิตจะถูกใช้ใน MacBook Air และ iPad Pro ซึ่งมียอดขายรวมกว่า 20 ล้านเครื่องในปี 2025 การเคลื่อนไหวนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ Intel ในฐานะโรงงานผลิต แต่ยังไม่กระทบต่อรายได้ของ TSMC ในระยะสั้น
    https://securityonline.info/apple-eyes-intel-foundry-for-m-series-chips-on-18a-node-by-2027

    Windows 11 พบปัญหาไอคอนล็อกอินด้วยรหัสผ่านหายไปหลังอัปเดต
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนเจอปัญหาหลังติดตั้งอัปเดตเดือนสิงหาคม 2025 หรือเวอร์ชันหลังจากนั้น โดยไอคอนสำหรับเข้าสู่ระบบด้วยรหัสผ่านหายไปจากหน้าล็อกสกรีน ทำให้ดูเหมือนว่ามีเพียงการเข้าสู่ระบบด้วย PIN เท่านั้นที่ใช้ได้ แม้จริง ๆ แล้วฟังก์ชันยังอยู่ แต่ผู้ใช้ต้องคลิกตรงพื้นที่ว่างที่ควรมีไอคอน ซึ่งสร้างความสับสนและยุ่งยาก Microsoft ยืนยันว่ากำลังแก้ไขและคาดว่าจะปล่อยแพตช์แก้ในอัปเดตถัดไป
    https://securityonline.info/windows-11-bug-makes-lock-screen-password-icon-vanish-after-update

    กลยุทธ์ AI ของ Google Pixel เน้นประโยชน์จริง ไม่ใช่แค่คำโฆษณา
    Google กำลังผลักดัน Pixel ให้เป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นด้าน AI โดยเน้นการใช้งานที่จับต้องได้ เช่น ฟีเจอร์ “Auto Best Take” ที่ช่วยให้ทุกคนดูดีที่สุดในภาพถ่ายกลุ่ม Adrienne Lofton รองประธานฝ่ายการตลาดของ Pixel ชี้ว่าแม้ AI จะเป็นกระแส แต่ผู้ใช้ยังแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ทั้งที่เชื่อและที่สงสัย ดังนั้นกลยุทธ์ของ Google คือการทำให้ AI เป็นสิ่งที่ผู้ใช้เห็นคุณค่า ไม่ใช่แค่คำโฆษณา ทีมงานยังใช้ AI ภายในอย่าง Gemini Live และ Veo 3 เพื่อเร่งกระบวนการทำตลาดให้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 15 สัปดาห์
    https://securityonline.info/googles-pixel-ai-strategy-focusing-on-tangible-benefits-not-just-hype

    OpenAI ถูกท้าทายอย่างหนักจาก Gemini 3 ของ Google
    หลังจาก ChatGPT ครองตลาดมานาน ตอนนี้ OpenAI กำลังเผชิญแรงกดดันครั้งใหญ่เมื่อ Google เปิดตัว Gemini 3 ที่ทำคะแนนเหนือ GPT-5 ในหลายการทดสอบ และมีผู้ใช้งานพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 400 ล้านเป็น 650 ล้านรายต่อเดือน ความได้เปรียบของ Google คือการใช้ TPU ของตัวเองแทนการพึ่งพา NVIDIA ทำให้พัฒนาได้เร็วและต้นทุนต่ำลง ขณะที่ OpenAI ต้องลงทุนมหาศาลกว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรักษาความเป็นผู้นำ สถานการณ์นี้ทำให้ตลาด AI กลับมาดุเดือดอีกครั้ง และอนาคตของ OpenAI ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด
    https://securityonline.info/openai-under-siege-googles-gemini-3-surge-threatens-to-end-chatgpts-early-lead

    ฟีเจอร์ใหม่ Android Hotspot แชร์สัญญาณพร้อมกัน 2.4 GHz + 6 GHz
    Android กำลังเพิ่มความสามารถให้ผู้ใช้สามารถแชร์ฮอตสปอตได้พร้อมกันทั้งย่านความถี่ 2.4 GHz และ 6 GHz ซึ่งช่วยให้เชื่อมต่ออุปกรณ์รุ่นเก่าและใหม่ได้ในเวลาเดียวกัน การอัปเกรดนี้ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีหลายอุปกรณ์หลากหลายรุ่นต้องเชื่อมต่อพร้อมกัน ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งานที่ตอบโจทย์ยุค Wi-Fi 6E
    https://securityonline.info/android-hotspot-upgrade-new-feature-allows-simultaneous-2-4-ghz-6-ghz-dual-band-sharing

    ปฏิบัติการ Hanoi Thief: ใช้ไฟล์ LNK/รูปภาพโจมตีด้วย LOTUSHARVEST Stealer
    แฮกเกอร์ได้พัฒนาเทคนิคใหม่ที่เรียกว่า “Pseudo-Polyglot” โดยใช้ไฟล์ LNK หรือรูปภาพที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่จริง ๆ แล้วซ่อนโค้ดอันตรายไว้เพื่อโหลดมัลแวร์ LOTUSHARVEST Stealer ผ่าน DLL Sideloading การโจมตีนี้ทำให้ผู้ใช้ที่เปิดไฟล์ดังกล่าวเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลส่วนตัว เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการหลอกลวงทางไซเบอร์
    https://securityonline.info/operation-hanoi-thief-hackers-use-pseudo-polyglot-lnk-image-to-deploy-lotusharvest-stealer-via-dll-sideloading

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Devolutions Server (CVE-2025-13757)
    มีการค้นพบช่องโหว่ SQL Injection ที่ร้ายแรงใน Devolutions Server ซึ่งทำให้ผู้โจมตีที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วสามารถดึงข้อมูลรหัสผ่านทั้งหมดออกมาได้ ช่องโหว่นี้ถือว่าอันตรายมากเพราะเปิดโอกาสให้เข้าถึงข้อมูลที่สำคัญที่สุดของระบบ การโจมตีลักษณะนี้สามารถทำให้ทั้งองค์กรเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลและถูกบุกรุกอย่างหนัก ผู้ดูแลระบบจึงควรเร่งอัปเดตแพตช์แก้ไขทันที
    https://securityonline.info/critical-devolutions-server-flaw-cve-2025-13757-allows-authenticated-sql-injection-to-steal-all-passwords

    มัลแวร์ TangleCrypt Packer ซ่อน EDR Killer แต่พลาดจนแครชเอง
    นักวิจัยพบว่า TangleCrypt ซึ่งเป็นแพ็กเกอร์มัลแวร์รุ่นใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อซ่อนฟังก์ชัน EDR Killer ที่สามารถทำลายระบบตรวจจับภัยคุกคามได้ แต่เนื่องจากมีข้อผิดพลาดในการเขียนโค้ด ทำให้มัลแวร์นี้เกิดการแครชเองโดยไม่ตั้งใจ แม้จะเป็นภัยคุกคามที่น่ากังวล แต่ความผิดพลาดนี้ก็ทำให้การโจมตีไม่เสถียร และอาจเป็นจุดอ่อนที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถตรวจจับและป้องกันได้ง่ายขึ้น
    https://securityonline.info/new-tanglecrypt-packer-hides-edr-killer-but-coding-flaws-cause-ransomware-to-crash-unexpectedly

    กลยุทธ์ใหม่ของ Russian Tomiris APT ใช้ Telegram/Discord เป็นช่องทางสอดแนม
    กลุ่มแฮกเกอร์ Tomiris APT จากรัสเซียถูกพบว่าใช้วิธี “Polyglot” ในการแฝงตัว โดยเปลี่ยนแพลตฟอร์มสื่อสารยอดนิยมอย่าง Telegram และ Discord ให้กลายเป็นช่องทางควบคุมการสอดแนมทางการทูต เทคนิคนี้ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เพราะดูเหมือนการใช้งานปกติของผู้ใช้ทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วเป็นการซ่อนการสื่อสารระหว่างเซิร์ฟเวอร์ควบคุมและเครื่องที่ถูกบุกรุก ถือเป็นการยกระดับการโจมตีไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/russian-tomiris-apt-adopts-polyglot-strategy-hijacking-telegram-discord-as-covert-c2-for-diplomatic-spies
    📌🔐🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔐📌 #รวมข่าวIT #20251201 #securityonline 🛡️ GeoServer พบช่องโหว่ร้ายแรง XXE (CVE-2025-58360) เรื่องนี้เป็นการเตือนครั้งใหญ่สำหรับผู้ดูแลระบบที่ใช้ GeoServer ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สด้านข้อมูลภูมิสารสนเทศ ช่องโหว่นี้อยู่ในฟังก์ชัน Web Map Service (WMS) ที่เปิดให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง XML ที่ไม่ถูกกรองอย่างเหมาะสม ผลคือสามารถดึงไฟล์ลับจากเซิร์ฟเวอร์ ทำการ SSRF เพื่อเจาะระบบภายใน หรือแม้แต่ทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ทันที ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รีบอัปเดตไปยังเวอร์ชันล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่ ไม่เช่นนั้นระบบที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลแผนที่อาจถูกเจาะได้ง่าย 🔗 https://securityonline.info/high-severity-geoserver-flaw-cve-2025-58360-allows-unauthenticated-xxe-for-file-theft-and-ssrf 🕵️ TAG-150 ผู้ให้บริการ Malware-as-a-Service รายใหม่ ใช้ ClickFix หลอกเหยื่อ กลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์หน้าใหม่ชื่อ TAG-150 โผล่ขึ้นมาในปี 2025 และสร้างความปั่นป่วนอย่างรวดเร็ว พวกเขาใช้เทคนิค ClickFix ที่หลอกให้ผู้ใช้คิดว่ากำลังทำขั้นตอนยืนยันหรืออัปเดตซอฟต์แวร์ แต่จริง ๆ แล้วคือการบังคับให้เหยื่อรันคำสั่ง PowerShell ที่เป็นมัลแวร์เอง หลังจากนั้นจะถูกติดตั้ง CastleLoader และ CastleRAT ซึ่งให้สิทธิ์ควบคุมเครื่องแบบเต็มรูปแบบ ทั้งการดักคีย์บอร์ด จับภาพหน้าจอ และเปิดเชลล์ระยะไกล ถือเป็นการโจมตีที่เน้นหลอกเหยื่อให้ “แฮ็กตัวเอง” โดยไม่รู้ตัว 🔗 https://securityonline.info/new-maas-operator-tag-150-uses-clickfix-lure-and-custom-castleloader-to-compromise-469-us-devices 💻 แคมเปญ “Contagious Interview” ของเกาหลีเหนือ ปล่อยแพ็กเกจ npm กว่า 200 ตัว นักวิจัยพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าล่าผู้พัฒนาในสายบล็อกเชนและ Web3 พวกเขาใช้วิธีปลอมเป็นการสัมภาษณ์งาน โดยให้ผู้สมัครทำ “แบบทดสอบโค้ด” ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นแพ็กเกจ npm ที่ฝังมัลแวร์ OtterCookie รุ่นใหม่เข้าไป แพ็กเกจเหล่านี้ถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่าหมื่นครั้ง และสามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น seed phrase ของกระเป๋าเงินคริปโต รหัสผ่าน และไฟล์ลับต่าง ๆ ได้ทันที ถือเป็นการโจมตีที่ใช้กระบวนการสมัครงานเป็นเครื่องมือในการเจาะระบบ 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-contagious-interview-floods-npm-with-200-new-packages-using-fake-crypto-jobs-to-deploy-ottercookie-spyware 🌐 ShadowV2 Mirai Botnet ทดสอบโจมตี IoT ระหว่าง AWS ล่มทั่วโลก ในช่วงที่ AWS เกิดการล่มครั้งใหญ่เมื่อเดือนตุลาคม กลุ่มผู้โจมตีใช้โอกาสนี้ปล่อย ShadowV2 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของ Mirai botnet โดยมุ่งเป้าไปที่อุปกรณ์ IoT เช่น เราเตอร์และอุปกรณ์เครือข่ายที่มีช่องโหว่ การโจมตีครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น “การทดสอบ” มากกว่าการโจมตีเต็มรูปแบบ แต่ก็สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ในหลายอุตสาหกรรมทั่วโลกได้แล้ว ShadowV2 ใช้เทคนิคเข้ารหัสเพื่อหลบการตรวจจับ และสามารถทำ DDoS ได้หลายรูปแบบ ถือเป็นสัญญาณเตือนว่า IoT ยังคงเป็นจุดอ่อนสำคัญในโลกไซเบอร์ 🔗 https://securityonline.info/shadowv2-mirai-botnet-launched-coordinated-iot-test-attack-during-global-aws-outage 🐺 Bloody Wolf APT ขยายการโจมตีสู่เอเชียกลาง ใช้ NetSupport RAT กลุ่ม APT ที่ชื่อ Bloody Wolf ซึ่งเคยโจมตีในรัสเซียและคาซัคสถาน ตอนนี้ขยายไปยังคีร์กีซสถานและอุซเบกิสถาน พวกเขาใช้วิธีส่งอีเมล spear-phishing ที่ปลอมเป็นเอกสารทางราชการ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์จะถูกนำไปดาวน์โหลด JAR ที่ฝังโค้ดอันตราย ซึ่งสุดท้ายติดตั้ง NetSupport RAT ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ปกติใช้ในการช่วยเหลือด้านไอที แต่ถูกนำมาใช้ควบคุมเครื่องเหยื่อแบบลับ ๆ ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก การใช้เครื่องมือที่ถูกต้องตามกฎหมายมาทำการโจมตีเช่นนี้ เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้แยกไม่ออกว่าเป็นการใช้งานจริงหรือการแฮ็ก 🔗 https://securityonline.info/bloody-wolf-apt-expands-to-central-asia-deploys-netsupport-rat-via-custom-java-droppers-and-geo-fencing 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache bRPC (CVE-2025-59789) เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ที่อันตรายมากใน Apache bRPC ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์ก RPC ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับระบบประสิทธิภาพสูง เช่น การค้นหา การจัดเก็บ และแมชชีนเลิร์นนิง ช่องโหว่นี้เกิดจากการประมวลผล JSON ที่มีโครงสร้างซ้อนลึกเกินไป ทำให้เกิดการใช้หน่วยความจำสแต็กจนล้นและทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ง่าย ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูล JSON ที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ระบบ crash โดยเฉพาะ องค์กรที่เปิดรับทราฟฟิกจากเครือข่ายภายนอกจึงเสี่ยงสูง ทางทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.15.0 โดยเพิ่มการจำกัดความลึกของการ recursion ที่ค่าเริ่มต้น 100 เพื่อป้องกันการโจมตี แต่ก็อาจทำให้บางคำขอที่ถูกต้องถูกปฏิเสธไปด้วย 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-59789-critical-flaw-in-apache-brpc-framework-exposes-high-performance-systems-to-crash-risks 💻 Apple เตรียมใช้ Intel Foundry ผลิตชิป M-Series บนเทคโนโลยี 18A ปี 2027 มีรายงานว่า Apple ได้ทำข้อตกลงลับกับ Intel เพื่อให้ผลิตชิป M-series รุ่นเริ่มต้นบนกระบวนการผลิต 18A โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตจำนวนมากได้ในช่วงกลางปี 2027 นี่ถือเป็นการกลับมาของ Intel ในห่วงโซ่อุปทานของ Apple หลังจากที่ TSMC ครองบทบาทหลักมานาน ชิปที่ผลิตจะถูกใช้ใน MacBook Air และ iPad Pro ซึ่งมียอดขายรวมกว่า 20 ล้านเครื่องในปี 2025 การเคลื่อนไหวนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ Intel ในฐานะโรงงานผลิต แต่ยังไม่กระทบต่อรายได้ของ TSMC ในระยะสั้น 🔗 https://securityonline.info/apple-eyes-intel-foundry-for-m-series-chips-on-18a-node-by-2027 🖥️ Windows 11 พบปัญหาไอคอนล็อกอินด้วยรหัสผ่านหายไปหลังอัปเดต ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนเจอปัญหาหลังติดตั้งอัปเดตเดือนสิงหาคม 2025 หรือเวอร์ชันหลังจากนั้น โดยไอคอนสำหรับเข้าสู่ระบบด้วยรหัสผ่านหายไปจากหน้าล็อกสกรีน ทำให้ดูเหมือนว่ามีเพียงการเข้าสู่ระบบด้วย PIN เท่านั้นที่ใช้ได้ แม้จริง ๆ แล้วฟังก์ชันยังอยู่ แต่ผู้ใช้ต้องคลิกตรงพื้นที่ว่างที่ควรมีไอคอน ซึ่งสร้างความสับสนและยุ่งยาก Microsoft ยืนยันว่ากำลังแก้ไขและคาดว่าจะปล่อยแพตช์แก้ในอัปเดตถัดไป 🔗 https://securityonline.info/windows-11-bug-makes-lock-screen-password-icon-vanish-after-update 📱 กลยุทธ์ AI ของ Google Pixel เน้นประโยชน์จริง ไม่ใช่แค่คำโฆษณา Google กำลังผลักดัน Pixel ให้เป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นด้าน AI โดยเน้นการใช้งานที่จับต้องได้ เช่น ฟีเจอร์ “Auto Best Take” ที่ช่วยให้ทุกคนดูดีที่สุดในภาพถ่ายกลุ่ม Adrienne Lofton รองประธานฝ่ายการตลาดของ Pixel ชี้ว่าแม้ AI จะเป็นกระแส แต่ผู้ใช้ยังแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ทั้งที่เชื่อและที่สงสัย ดังนั้นกลยุทธ์ของ Google คือการทำให้ AI เป็นสิ่งที่ผู้ใช้เห็นคุณค่า ไม่ใช่แค่คำโฆษณา ทีมงานยังใช้ AI ภายในอย่าง Gemini Live และ Veo 3 เพื่อเร่งกระบวนการทำตลาดให้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 15 สัปดาห์ 🔗 https://securityonline.info/googles-pixel-ai-strategy-focusing-on-tangible-benefits-not-just-hype 🤖 OpenAI ถูกท้าทายอย่างหนักจาก Gemini 3 ของ Google หลังจาก ChatGPT ครองตลาดมานาน ตอนนี้ OpenAI กำลังเผชิญแรงกดดันครั้งใหญ่เมื่อ Google เปิดตัว Gemini 3 ที่ทำคะแนนเหนือ GPT-5 ในหลายการทดสอบ และมีผู้ใช้งานพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 400 ล้านเป็น 650 ล้านรายต่อเดือน ความได้เปรียบของ Google คือการใช้ TPU ของตัวเองแทนการพึ่งพา NVIDIA ทำให้พัฒนาได้เร็วและต้นทุนต่ำลง ขณะที่ OpenAI ต้องลงทุนมหาศาลกว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรักษาความเป็นผู้นำ สถานการณ์นี้ทำให้ตลาด AI กลับมาดุเดือดอีกครั้ง และอนาคตของ OpenAI ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด 🔗 https://securityonline.info/openai-under-siege-googles-gemini-3-surge-threatens-to-end-chatgpts-early-lead 📶 ฟีเจอร์ใหม่ Android Hotspot แชร์สัญญาณพร้อมกัน 2.4 GHz + 6 GHz Android กำลังเพิ่มความสามารถให้ผู้ใช้สามารถแชร์ฮอตสปอตได้พร้อมกันทั้งย่านความถี่ 2.4 GHz และ 6 GHz ซึ่งช่วยให้เชื่อมต่ออุปกรณ์รุ่นเก่าและใหม่ได้ในเวลาเดียวกัน การอัปเกรดนี้ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีหลายอุปกรณ์หลากหลายรุ่นต้องเชื่อมต่อพร้อมกัน ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งานที่ตอบโจทย์ยุค Wi-Fi 6E 🔗 https://securityonline.info/android-hotspot-upgrade-new-feature-allows-simultaneous-2-4-ghz-6-ghz-dual-band-sharing 🕵️‍♂️ ปฏิบัติการ Hanoi Thief: ใช้ไฟล์ LNK/รูปภาพโจมตีด้วย LOTUSHARVEST Stealer แฮกเกอร์ได้พัฒนาเทคนิคใหม่ที่เรียกว่า “Pseudo-Polyglot” โดยใช้ไฟล์ LNK หรือรูปภาพที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่จริง ๆ แล้วซ่อนโค้ดอันตรายไว้เพื่อโหลดมัลแวร์ LOTUSHARVEST Stealer ผ่าน DLL Sideloading การโจมตีนี้ทำให้ผู้ใช้ที่เปิดไฟล์ดังกล่าวเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลส่วนตัว เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการหลอกลวงทางไซเบอร์ 🔗 https://securityonline.info/operation-hanoi-thief-hackers-use-pseudo-polyglot-lnk-image-to-deploy-lotusharvest-stealer-via-dll-sideloading 🔐 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Devolutions Server (CVE-2025-13757) มีการค้นพบช่องโหว่ SQL Injection ที่ร้ายแรงใน Devolutions Server ซึ่งทำให้ผู้โจมตีที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้วสามารถดึงข้อมูลรหัสผ่านทั้งหมดออกมาได้ ช่องโหว่นี้ถือว่าอันตรายมากเพราะเปิดโอกาสให้เข้าถึงข้อมูลที่สำคัญที่สุดของระบบ การโจมตีลักษณะนี้สามารถทำให้ทั้งองค์กรเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลและถูกบุกรุกอย่างหนัก ผู้ดูแลระบบจึงควรเร่งอัปเดตแพตช์แก้ไขทันที 🔗 https://securityonline.info/critical-devolutions-server-flaw-cve-2025-13757-allows-authenticated-sql-injection-to-steal-all-passwords 💣 มัลแวร์ TangleCrypt Packer ซ่อน EDR Killer แต่พลาดจนแครชเอง นักวิจัยพบว่า TangleCrypt ซึ่งเป็นแพ็กเกอร์มัลแวร์รุ่นใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อซ่อนฟังก์ชัน EDR Killer ที่สามารถทำลายระบบตรวจจับภัยคุกคามได้ แต่เนื่องจากมีข้อผิดพลาดในการเขียนโค้ด ทำให้มัลแวร์นี้เกิดการแครชเองโดยไม่ตั้งใจ แม้จะเป็นภัยคุกคามที่น่ากังวล แต่ความผิดพลาดนี้ก็ทำให้การโจมตีไม่เสถียร และอาจเป็นจุดอ่อนที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถตรวจจับและป้องกันได้ง่ายขึ้น 🔗 https://securityonline.info/new-tanglecrypt-packer-hides-edr-killer-but-coding-flaws-cause-ransomware-to-crash-unexpectedly 🌐 กลยุทธ์ใหม่ของ Russian Tomiris APT ใช้ Telegram/Discord เป็นช่องทางสอดแนม กลุ่มแฮกเกอร์ Tomiris APT จากรัสเซียถูกพบว่าใช้วิธี “Polyglot” ในการแฝงตัว โดยเปลี่ยนแพลตฟอร์มสื่อสารยอดนิยมอย่าง Telegram และ Discord ให้กลายเป็นช่องทางควบคุมการสอดแนมทางการทูต เทคนิคนี้ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เพราะดูเหมือนการใช้งานปกติของผู้ใช้ทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วเป็นการซ่อนการสื่อสารระหว่างเซิร์ฟเวอร์ควบคุมและเครื่องที่ถูกบุกรุก ถือเป็นการยกระดับการโจมตีไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/russian-tomiris-apt-adopts-polyglot-strategy-hijacking-telegram-discord-as-covert-c2-for-diplomatic-spies
    0 Comments 0 Shares 92 Views 0 Reviews
  • รถยนต์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เสี่ยงถูกแฮ็กมากขึ้น

    นักวิเคราะห์จาก BMI (บริษัทวิจัยในเครือ Fitch Solutions) เตือนว่า การเพิ่มขึ้นของระบบอัตโนมัติและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในรถยนต์ กำลังทำให้ผู้ขับขี่เสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์มากขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีฟังก์ชันควบคุมผ่านซอฟต์แวร์และระบบไร้สาย.

    รายงานระบุว่า การโจมตีจากระยะไกล (remote hijacking) อาจเกิดขึ้นได้จริง เนื่องจากรถยนต์สมัยใหม่มีการเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์, แอปพลิเคชันมือถือ และเครือข่าย 5G ซึ่งหากมีช่องโหว่เพียงเล็กน้อยก็อาจถูกใช้เพื่อเข้าควบคุมการทำงานของรถ เช่น ระบบเบรก, พวงมาลัย หรือเครื่องยนต์.

    แม้ผู้ผลิตรถยนต์จะลงทุนมหาศาลในด้าน Cybersecurity แต่ความซับซ้อนของซอฟต์แวร์และการพัฒนาอย่างรวดเร็วทำให้การป้องกันไม่ทันต่อภัยคุกคามใหม่ ๆ นักวิจัยชี้ว่า การโจมตีรถยนต์อาจกลายเป็นเรื่องปกติในอนาคต หากไม่มีมาตรการเข้มงวดและการทดสอบความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง.

    นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลว่า ผู้บริโภคอาจไม่ตระหนักถึงความเสี่ยง เพราะมองว่ารถยนต์เป็นเพียงเครื่องจักรกล แต่ในความจริงแล้ว รถยนต์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตคือ “คอมพิวเตอร์เคลื่อนที่” ที่มีช่องโหว่ไม่ต่างจากสมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
    รถยนต์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเปิดช่องให้ถูกโจมตีจากระยะไกล
    ระบบอัตโนมัติและซอฟต์แวร์ซับซ้อนทำให้การป้องกันยากขึ้น

    ช่องทางการโจมตี
    การเชื่อมต่อกับคลาวด์, แอปมือถือ และเครือข่าย 5G
    อาจถูกควบคุมระบบเบรก, พวงมาลัย หรือเครื่องยนต์

    ความท้าทายของผู้ผลิต
    ต้องลงทุนมหาศาลใน Cybersecurity
    การพัฒนาเทคโนโลยีรวดเร็วทำให้การป้องกันไม่ทันภัยใหม่

    คำเตือนจากนักวิจัย
    การโจมตีรถยนต์อาจกลายเป็นเรื่องปกติในอนาคต
    ผู้บริโภคยังไม่ตระหนักว่ารถยนต์คือ “คอมพิวเตอร์เคลื่อนที่” ที่มีช่องโหว่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/30/connected-cars-at-growing-risk-of-remote-hijacking-researchers-warn
    🚗 รถยนต์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เสี่ยงถูกแฮ็กมากขึ้น นักวิเคราะห์จาก BMI (บริษัทวิจัยในเครือ Fitch Solutions) เตือนว่า การเพิ่มขึ้นของระบบอัตโนมัติและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในรถยนต์ กำลังทำให้ผู้ขับขี่เสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์มากขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีฟังก์ชันควบคุมผ่านซอฟต์แวร์และระบบไร้สาย. รายงานระบุว่า การโจมตีจากระยะไกล (remote hijacking) อาจเกิดขึ้นได้จริง เนื่องจากรถยนต์สมัยใหม่มีการเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์, แอปพลิเคชันมือถือ และเครือข่าย 5G ซึ่งหากมีช่องโหว่เพียงเล็กน้อยก็อาจถูกใช้เพื่อเข้าควบคุมการทำงานของรถ เช่น ระบบเบรก, พวงมาลัย หรือเครื่องยนต์. แม้ผู้ผลิตรถยนต์จะลงทุนมหาศาลในด้าน Cybersecurity แต่ความซับซ้อนของซอฟต์แวร์และการพัฒนาอย่างรวดเร็วทำให้การป้องกันไม่ทันต่อภัยคุกคามใหม่ ๆ นักวิจัยชี้ว่า การโจมตีรถยนต์อาจกลายเป็นเรื่องปกติในอนาคต หากไม่มีมาตรการเข้มงวดและการทดสอบความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง. นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลว่า ผู้บริโภคอาจไม่ตระหนักถึงความเสี่ยง เพราะมองว่ารถยนต์เป็นเพียงเครื่องจักรกล แต่ในความจริงแล้ว รถยนต์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตคือ “คอมพิวเตอร์เคลื่อนที่” ที่มีช่องโหว่ไม่ต่างจากสมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ➡️ รถยนต์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเปิดช่องให้ถูกโจมตีจากระยะไกล ➡️ ระบบอัตโนมัติและซอฟต์แวร์ซับซ้อนทำให้การป้องกันยากขึ้น ✅ ช่องทางการโจมตี ➡️ การเชื่อมต่อกับคลาวด์, แอปมือถือ และเครือข่าย 5G ➡️ อาจถูกควบคุมระบบเบรก, พวงมาลัย หรือเครื่องยนต์ ✅ ความท้าทายของผู้ผลิต ➡️ ต้องลงทุนมหาศาลใน Cybersecurity ➡️ การพัฒนาเทคโนโลยีรวดเร็วทำให้การป้องกันไม่ทันภัยใหม่ ‼️ คำเตือนจากนักวิจัย ⛔ การโจมตีรถยนต์อาจกลายเป็นเรื่องปกติในอนาคต ⛔ ผู้บริโภคยังไม่ตระหนักว่ารถยนต์คือ “คอมพิวเตอร์เคลื่อนที่” ที่มีช่องโหว่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/30/connected-cars-at-growing-risk-of-remote-hijacking-researchers-warn
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Connected cars at growing risk of remote hijacking, researchers warn
    The increasing automation and connectivity of cars is not only taking the driving out of driving – and for some, the fun too – but could also be leaving owners vulnerable to hackers trying to remotely hijack their vehicles, analysts say.
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • วิกฤตความเป็นส่วนตัวทางเพศในยุคโซเชียลมีเดีย: เมื่อการเฝ้าระวังออนไลน์ทำลายความสัมพันธ์ในโลกจริง

    Kate Wagner นักวิจารณ์สถาปัตยกรรมจาก The Nation เขียนบทความเจาะลึกปรากฏการณ์ที่น่าวิตกเกี่ยวกับวิธีที่อินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้คนมองเรื่องเพศสัมพันธ์และความสัมพันธ์ส่วนตัว เธอเล่าประสบการณ์ที่เพื่อนคนหนึ่งกล่าวหาว่าเธอ "ใช้ประโยชน์" ช่างทำผมสองคนที่หวีผมให้เธอ เพียงเพราะเธอรู้สึกถึงความตื่นเต้นทางเพศในขณะนั้น ทั้งที่มันเป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวในใจของเธอเอง เหตุการณ์นี้นำไปสู่การสิ้นสุดมิตรภาพระหว่างพวกเธอ

    Wagner ชี้ให้เห็นว่าผู้คนรุ่นใหม่กำลังใช้ชีวิตราวกับมีกล้องเฝ้าดูตลอดเวลา พวกเขากลัวว่าทุกการกระทำ ทุกความคิด อาจถูกตัดสินโดยสาธารณะออนไลน์ได้ทุกเมื่อ ความกลัวนี้ทำให้ผู้คนเริ่มตรวจสอบตัวเองอย่างเข้มงวด จนถึงขั้นต้องหาเหตุผลมาอธิบายความต้องการทางเพศของตนเองว่าเกิดจาก "trauma" หรือ "kink" ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกวิพากษ์วิจารณ์ เธอยกตัวอย่างเพื่อนหลายคนที่ใช้ภาษาของ "อันตราย" และ "การถูกทำร้าย" เพื่ออธิบายสถานการณ์ทางเพศและความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนแต่ธรรมดาสามัญ

    บทความนี้ไม่ได้พูดถึง "cancel culture" แต่เน้นไปที่วิธีที่วัฒนธรรมการเฝ้าระวังออนไลน์ได้แทรกซึมเข้าไปในชีวิตส่วนตัวที่สุดของเรา Wagner เสนอว่าเราต้องการ "situational eroticism" - การยอมรับว่าความปรารถนาทางเพศเป็นเรื่องชั่วคราว เปลี่ยนแปลงได้ และไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายหรือเหตุผลเสมอไป เธอเรียกร้องให้ผู้คนหยุด "ทำลาย panopticon ในหัว" - หยุดการเฝ้าระวังตัวเองและผู้อื่นอย่างไม่หยุดหย่อน และกลับมาสัมผัสกับความเป็นส่วนตัวและร่างกายของตนเองอีกครั้ง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ปรากฏการณ์การตรวจสอบตัวเองทางเพศ
    ผู้คนกำลังรู้สึกว่าถูกเฝ้าดูตลอดเวลา แม้ในความคิดส่วนตัว
    ความกลัวการถูกตัดสินจากสาธารณะออนไลน์ทำให้ต้องหาเหตุผลอธิบายความต้องการทางเพศ
    การใช้คำว่า "trauma" หรือ "kink" เพื่อให้ความปรารถนาทางเพศดูชอบธรรม

    วัฒนธรรมการแชร์ข้อมูลส่วนตัวออนไลน์
    การโพสต์ screenshot ของการสนทนาส่วนตัวเพื่อขอความเห็นจากสาธารณะ
    การถ่ายภาพหรือบันทึกพฤติกรรมของคนแปลกหน้าเพื่อตัดสิน
    การเปลี่ยนชีวิตส่วนตัวเป็น "content" สำหรับโซเชียลมีเดีย

    ผลกระทบจากขบวนการ #MeToo
    การแบ่งปันเรื่องราวของความเจ็บปวดกลายเป็น "สกุลเงิน" ของความน่าเชื่อถือ
    การใช้ "harm" เป็นเครื่องมือป้องกันตัวเองจากการถูกวิพากษ์วิจารณ์
    ความแตกต่างระหว่างการเรียกร้องความยุติธรรมเชิงโครงสร้างกับการแก้แค้นส่วนตัว

    แนวคิด "Situational Eroticism"
    ความปรารถนาทางเพศเป็นเรื่องชั่วคราวและเปลี่ยนแปลงได้
    ไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายหรือเหตุผลสำหรับทุกความรู้สึกทางเพศ
    การยอมรับว่าความต้องการทางเพศไม่ใช่ลักษณะประจำตัวที่ถาวร

    อันตรายจากเทคโนโลยีการเฝ้าระวัง
    การใช้ Find My iPhone หรือ AirTag ติดตามคู่ครอง
    อุปกรณ์ biometric ที่อ้างว่าตรวจจับการนอกใจได้
    การถ่ายวิดีโอแอบแฝง, deepfake AI, และ revenge porn
    การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อควบคุมและข่มขู่ผู้อื่น

    ผลกระทบต่อสุขภาพจิตและความสัมพันธ์
    ความกลัวการถูก "expose" ทำให้ไม่กล้าแสดงตัวตนที่แท้จริง
    การมองเรื่องเพศเป็น "checklist" แทนการค้นพบตามธรรมชาติ
    การสูญเสียความเป็นส่วนตัวทางความคิดและความรู้สึก
    ความสัมพันธ์ที่สิ้นสุดเพราะความเห็นไม่ตรงกันเรื่องความเป็นส่วนตัว

    https://lux-magazine.com/article/privacy-eroticism/
    🔒 วิกฤตความเป็นส่วนตัวทางเพศในยุคโซเชียลมีเดีย: เมื่อการเฝ้าระวังออนไลน์ทำลายความสัมพันธ์ในโลกจริง Kate Wagner นักวิจารณ์สถาปัตยกรรมจาก The Nation เขียนบทความเจาะลึกปรากฏการณ์ที่น่าวิตกเกี่ยวกับวิธีที่อินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้คนมองเรื่องเพศสัมพันธ์และความสัมพันธ์ส่วนตัว เธอเล่าประสบการณ์ที่เพื่อนคนหนึ่งกล่าวหาว่าเธอ "ใช้ประโยชน์" ช่างทำผมสองคนที่หวีผมให้เธอ เพียงเพราะเธอรู้สึกถึงความตื่นเต้นทางเพศในขณะนั้น ทั้งที่มันเป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวในใจของเธอเอง เหตุการณ์นี้นำไปสู่การสิ้นสุดมิตรภาพระหว่างพวกเธอ Wagner ชี้ให้เห็นว่าผู้คนรุ่นใหม่กำลังใช้ชีวิตราวกับมีกล้องเฝ้าดูตลอดเวลา พวกเขากลัวว่าทุกการกระทำ ทุกความคิด อาจถูกตัดสินโดยสาธารณะออนไลน์ได้ทุกเมื่อ ความกลัวนี้ทำให้ผู้คนเริ่มตรวจสอบตัวเองอย่างเข้มงวด จนถึงขั้นต้องหาเหตุผลมาอธิบายความต้องการทางเพศของตนเองว่าเกิดจาก "trauma" หรือ "kink" ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกวิพากษ์วิจารณ์ เธอยกตัวอย่างเพื่อนหลายคนที่ใช้ภาษาของ "อันตราย" และ "การถูกทำร้าย" เพื่ออธิบายสถานการณ์ทางเพศและความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนแต่ธรรมดาสามัญ บทความนี้ไม่ได้พูดถึง "cancel culture" แต่เน้นไปที่วิธีที่วัฒนธรรมการเฝ้าระวังออนไลน์ได้แทรกซึมเข้าไปในชีวิตส่วนตัวที่สุดของเรา Wagner เสนอว่าเราต้องการ "situational eroticism" - การยอมรับว่าความปรารถนาทางเพศเป็นเรื่องชั่วคราว เปลี่ยนแปลงได้ และไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายหรือเหตุผลเสมอไป เธอเรียกร้องให้ผู้คนหยุด "ทำลาย panopticon ในหัว" - หยุดการเฝ้าระวังตัวเองและผู้อื่นอย่างไม่หยุดหย่อน และกลับมาสัมผัสกับความเป็นส่วนตัวและร่างกายของตนเองอีกครั้ง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ปรากฏการณ์การตรวจสอบตัวเองทางเพศ ➡️ ผู้คนกำลังรู้สึกว่าถูกเฝ้าดูตลอดเวลา แม้ในความคิดส่วนตัว ➡️ ความกลัวการถูกตัดสินจากสาธารณะออนไลน์ทำให้ต้องหาเหตุผลอธิบายความต้องการทางเพศ ➡️ การใช้คำว่า "trauma" หรือ "kink" เพื่อให้ความปรารถนาทางเพศดูชอบธรรม ✅ วัฒนธรรมการแชร์ข้อมูลส่วนตัวออนไลน์ ➡️ การโพสต์ screenshot ของการสนทนาส่วนตัวเพื่อขอความเห็นจากสาธารณะ ➡️ การถ่ายภาพหรือบันทึกพฤติกรรมของคนแปลกหน้าเพื่อตัดสิน ➡️ การเปลี่ยนชีวิตส่วนตัวเป็น "content" สำหรับโซเชียลมีเดีย ✅ ผลกระทบจากขบวนการ #MeToo ➡️ การแบ่งปันเรื่องราวของความเจ็บปวดกลายเป็น "สกุลเงิน" ของความน่าเชื่อถือ ➡️ การใช้ "harm" เป็นเครื่องมือป้องกันตัวเองจากการถูกวิพากษ์วิจารณ์ ➡️ ความแตกต่างระหว่างการเรียกร้องความยุติธรรมเชิงโครงสร้างกับการแก้แค้นส่วนตัว ✅ แนวคิด "Situational Eroticism" ➡️ ความปรารถนาทางเพศเป็นเรื่องชั่วคราวและเปลี่ยนแปลงได้ ➡️ ไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายหรือเหตุผลสำหรับทุกความรู้สึกทางเพศ ➡️ การยอมรับว่าความต้องการทางเพศไม่ใช่ลักษณะประจำตัวที่ถาวร ‼️ อันตรายจากเทคโนโลยีการเฝ้าระวัง ⛔ การใช้ Find My iPhone หรือ AirTag ติดตามคู่ครอง ⛔ อุปกรณ์ biometric ที่อ้างว่าตรวจจับการนอกใจได้ ⛔ การถ่ายวิดีโอแอบแฝง, deepfake AI, และ revenge porn ⛔ การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อควบคุมและข่มขู่ผู้อื่น ‼️ ผลกระทบต่อสุขภาพจิตและความสัมพันธ์ ⛔ ความกลัวการถูก "expose" ทำให้ไม่กล้าแสดงตัวตนที่แท้จริง ⛔ การมองเรื่องเพศเป็น "checklist" แทนการค้นพบตามธรรมชาติ ⛔ การสูญเสียความเป็นส่วนตัวทางความคิดและความรู้สึก ⛔ ความสัมพันธ์ที่สิ้นสุดเพราะความเห็นไม่ตรงกันเรื่องความเป็นส่วนตัว https://lux-magazine.com/article/privacy-eroticism/
    LUX-MAGAZINE.COM
    Bringing Sexy Back
    Internet surveillance has killed eroticism. We need privacy to reclaim it.
    0 Comments 0 Shares 113 Views 0 Reviews
  • Molly - App Signal สำหรับ Android ที่ปลอดภัยกว่าต้นฉบับ

    Molly คือแอปพลิเคชันที่พัฒนาต่อยอดจาก Signal สำหรับ Android โดยเน้นความเป็น FOSS (Free and Open Source Software) และเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและความยืดหยุ่นในการใช้งาน

    จุดเด่นด้านความปลอดภัย
    Passphrase Encryption: ปกป้องฐานข้อมูลด้วยการเข้ารหัสผ่าน
    RAM Shredding: ลบข้อมูลที่อ่อนไหวออกจากหน่วยความจำอย่างปลอดภัย
    Automatic Locking: แอปจะล็อกอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้ไม่อยู่ในช่วงเวลาที่กำหนด

    ฟีเจอร์การใช้งานที่ยืดหยุ่น
    Multi-Device: รองรับการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์กับบัญชีเดียว
    Material You Theme: ธีมที่ปรับตามโทนสีของอุปกรณ์ Android
    UnifiedPush: ระบบแจ้งเตือนที่ไม่พึ่งพา Google (Ungoogled notification system)

    การเชื่อมต่อและความเป็นส่วนตัว
    Tor Support: รองรับ SOCKS proxy และ Tor ผ่าน Orbot
    Fully FOSS: ไม่มี proprietary blobs ต่างจาก Signal เวอร์ชันหลัก
    Infrastructure: ได้รับการสนับสนุนจาก Bahnhof (ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในสวีเดน)

    วิสัยทัศน์และการพัฒนา
    Molly ประกาศว่าจะมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ปลอดภัยและทันสมัยมากขึ้น โดยยังคงยึดหลักการโอเพนซอร์สและความโปร่งใสในการพัฒนา

    สรุปเป็นหัวข้อ
    เข้ากันได้กับ Signal
    ใช้โปรโตคอลการเข้ารหัสเดียวกัน
    สามารถส่งข้อความ/โทรหาผู้ใช้ Signal ได้

    ความปลอดภัย
    Passphrase Encryption ปกป้องฐานข้อมูล
    RAM Shredding ลบข้อมูลอ่อนไหวออกจากหน่วยความจำ
    Automatic Locking ล็อกอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน

    ฟีเจอร์การใช้งาน
    Multi-Device รองรับหลายอุปกรณ์
    Material You Theme ปรับตามโทนสีเครื่อง
    UnifiedPush แจ้งเตือนแบบไม่พึ่ง Google

    ความเป็นส่วนตัว
    Tor Support ผ่าน Orbot
    Fully FOSS ไม่มี proprietary blobs
    โครงสร้างพื้นฐานได้รับการสนับสนุนจาก Bahnhof

    คำเตือน/ข้อสังเกต
    ฟีเจอร์บางอย่างอาจยังอยู่ระหว่างการพัฒนา
    การใช้ Tor อาจทำให้ความเร็วการเชื่อมต่อลดลง

    https://molly.im/
    📲 Molly - App Signal สำหรับ Android ที่ปลอดภัยกว่าต้นฉบับ Molly คือแอปพลิเคชันที่พัฒนาต่อยอดจาก Signal สำหรับ Android โดยเน้นความเป็น FOSS (Free and Open Source Software) และเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและความยืดหยุ่นในการใช้งาน 🔐 จุดเด่นด้านความปลอดภัย 🎗️ Passphrase Encryption: ปกป้องฐานข้อมูลด้วยการเข้ารหัสผ่าน 🎗️ RAM Shredding: ลบข้อมูลที่อ่อนไหวออกจากหน่วยความจำอย่างปลอดภัย 🎗️ Automatic Locking: แอปจะล็อกอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้ไม่อยู่ในช่วงเวลาที่กำหนด 📱 ฟีเจอร์การใช้งานที่ยืดหยุ่น 💠 Multi-Device: รองรับการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์กับบัญชีเดียว 💠 Material You Theme: ธีมที่ปรับตามโทนสีของอุปกรณ์ Android 💠 UnifiedPush: ระบบแจ้งเตือนที่ไม่พึ่งพา Google (Ungoogled notification system) 🌐 การเชื่อมต่อและความเป็นส่วนตัว 💠 Tor Support: รองรับ SOCKS proxy และ Tor ผ่าน Orbot 💠 Fully FOSS: ไม่มี proprietary blobs ต่างจาก Signal เวอร์ชันหลัก 💠 Infrastructure: ได้รับการสนับสนุนจาก Bahnhof (ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในสวีเดน) 🚀 วิสัยทัศน์และการพัฒนา Molly ประกาศว่าจะมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ปลอดภัยและทันสมัยมากขึ้น โดยยังคงยึดหลักการโอเพนซอร์สและความโปร่งใสในการพัฒนา 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ เข้ากันได้กับ Signal ➡️ ใช้โปรโตคอลการเข้ารหัสเดียวกัน ➡️ สามารถส่งข้อความ/โทรหาผู้ใช้ Signal ได้ ✅ ความปลอดภัย ➡️ Passphrase Encryption ปกป้องฐานข้อมูล ➡️ RAM Shredding ลบข้อมูลอ่อนไหวออกจากหน่วยความจำ ➡️ Automatic Locking ล็อกอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน ✅ ฟีเจอร์การใช้งาน ➡️ Multi-Device รองรับหลายอุปกรณ์ ➡️ Material You Theme ปรับตามโทนสีเครื่อง ➡️ UnifiedPush แจ้งเตือนแบบไม่พึ่ง Google ✅ ความเป็นส่วนตัว ➡️ Tor Support ผ่าน Orbot ➡️ Fully FOSS ไม่มี proprietary blobs ➡️ โครงสร้างพื้นฐานได้รับการสนับสนุนจาก Bahnhof ‼️ คำเตือน/ข้อสังเกต ⛔ ฟีเจอร์บางอย่างอาจยังอยู่ระหว่างการพัฒนา ⛔ การใช้ Tor อาจทำให้ความเร็วการเชื่อมต่อลดลง https://molly.im/
    MOLLY.IM
    Molly
    Molly is an improved Signal app for Android
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • ปัญหา: Imgur บล็อกผู้ใช้ในสหราชอาณาจักร

    Imgur ตัดสินใจบล็อกการเข้าถึงจาก UK ทำให้ลิงก์ภาพจำนวนมากที่ยังคงฝังอยู่ในเว็บบอร์ดเก่า, Reddit, เอกสาร หรือ README ของโปรเจกต์ต่าง ๆ กลายเป็น “Unavailable” ผู้เขียนยกตัวอย่างว่าแม้แต่การหาภาพ Shader ของ Minecraft ก็ไม่สามารถดูได้เพราะภาพทั้งหมดหายไป

    ทำไมไม่ใช้ VPN แบบทั่วไป
    แม้ VPN จะเป็นวิธีแก้ที่ง่าย แต่ผู้เขียนไม่เลือกใช้เพราะเพิ่งอัปเกรดอินเทอร์เน็ตเป็น 2.5Gbps และไม่อยากให้ความเร็วตก อีกทั้งการติดตั้ง VPN บนทุกอุปกรณ์ (มือถือ, แล็ปท็อป, เดสก์ท็อป) เป็นเรื่องยุ่งยากและไม่สะดวก จึงมองหาวิธีที่ทำงานได้อัตโนมัติในระดับเครือข่าย

    วิธีแก้: Proxy ระดับเครือข่าย
    ผู้เขียนใช้ Pi-hole เพื่อดัก DNS, Traefik สำหรับการ Routing, และ Gluetun เชื่อมต่อ VPN ภายใน Container จากนั้นใช้ Nginx เป็น Proxy ที่ทำ TCP passthrough โดยไม่แตะต้อง TLS ทำให้ทุกการร้องขอไปยัง i.imgur.com ถูกส่งผ่าน VPN อัตโนมัติ และภาพกลับมาปรากฏตามปกติบนทุกอุปกรณ์ในบ้าน

    ผลลัพธ์และข้อคิด
    ระบบนี้ทำให้การเข้าถึง Imgur เป็นไปอย่างราบรื่นโดยไม่ต้องติดตั้ง VPN เพิ่มบนเครื่องใด ๆ ความหน่วงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่กระทบต่อการใช้งานจริง ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ “อาจจะดูโอเวอร์” แต่สะอาดและยั่งยืนสำหรับคนที่ชอบทำ Homelab และต้องการความสะดวกสบาย

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ปัญหาที่เกิดขึ้น
    Imgur บล็อกผู้ใช้ใน UK ทำให้ภาพในเว็บบอร์ดและเอกสารจำนวนมากหายไป
    ตัวอย่างเช่น Shader ของ Minecraft ที่ไม่สามารถดูภาพตัวอย่างได้

    เหตุผลที่ไม่ใช้ VPN แบบทั่วไป
    อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 2.5Gbps ไม่อยากให้ตกจากการใช้ VPN
    การติดตั้ง VPN บนทุกอุปกรณ์ยุ่งยากและไม่สะดวก

    วิธีแก้ที่ใช้
    Pi-hole ดัก DNS และส่งไปยัง Traefik
    Gluetun เชื่อมต่อ VPN และ Nginx ทำ Proxy แบบ passthrough
    ทุกอุปกรณ์ในบ้านเข้าถึง Imgur ได้โดยไม่ต้องตั้งค่าเพิ่ม

    ผลลัพธ์
    ภาพจาก Imgur กลับมาใช้งานได้ตามปกติ
    ความหน่วงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่กระทบการใช้งาน

    คำเตือน/ข้อสังเกต
    ระบบนี้ซับซ้อนและอาจเกินความจำเป็นสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    ต้องมีความรู้ด้าน Docker, Nginx, และการจัดการ VPN เพื่อดูแลระบบให้ปลอดภัย

    https://blog.tymscar.com/posts/imgurukproxy/
    🚫 ปัญหา: Imgur บล็อกผู้ใช้ในสหราชอาณาจักร Imgur ตัดสินใจบล็อกการเข้าถึงจาก UK ทำให้ลิงก์ภาพจำนวนมากที่ยังคงฝังอยู่ในเว็บบอร์ดเก่า, Reddit, เอกสาร หรือ README ของโปรเจกต์ต่าง ๆ กลายเป็น “Unavailable” ผู้เขียนยกตัวอย่างว่าแม้แต่การหาภาพ Shader ของ Minecraft ก็ไม่สามารถดูได้เพราะภาพทั้งหมดหายไป 🔧 ทำไมไม่ใช้ VPN แบบทั่วไป แม้ VPN จะเป็นวิธีแก้ที่ง่าย แต่ผู้เขียนไม่เลือกใช้เพราะเพิ่งอัปเกรดอินเทอร์เน็ตเป็น 2.5Gbps และไม่อยากให้ความเร็วตก อีกทั้งการติดตั้ง VPN บนทุกอุปกรณ์ (มือถือ, แล็ปท็อป, เดสก์ท็อป) เป็นเรื่องยุ่งยากและไม่สะดวก จึงมองหาวิธีที่ทำงานได้อัตโนมัติในระดับเครือข่าย 🏗️ วิธีแก้: Proxy ระดับเครือข่าย ผู้เขียนใช้ Pi-hole เพื่อดัก DNS, Traefik สำหรับการ Routing, และ Gluetun เชื่อมต่อ VPN ภายใน Container จากนั้นใช้ Nginx เป็น Proxy ที่ทำ TCP passthrough โดยไม่แตะต้อง TLS ทำให้ทุกการร้องขอไปยัง i.imgur.com ถูกส่งผ่าน VPN อัตโนมัติ และภาพกลับมาปรากฏตามปกติบนทุกอุปกรณ์ในบ้าน 📡 ผลลัพธ์และข้อคิด ระบบนี้ทำให้การเข้าถึง Imgur เป็นไปอย่างราบรื่นโดยไม่ต้องติดตั้ง VPN เพิ่มบนเครื่องใด ๆ ความหน่วงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่กระทบต่อการใช้งานจริง ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ “อาจจะดูโอเวอร์” แต่สะอาดและยั่งยืนสำหรับคนที่ชอบทำ Homelab และต้องการความสะดวกสบาย 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ปัญหาที่เกิดขึ้น ➡️ Imgur บล็อกผู้ใช้ใน UK ทำให้ภาพในเว็บบอร์ดและเอกสารจำนวนมากหายไป ➡️ ตัวอย่างเช่น Shader ของ Minecraft ที่ไม่สามารถดูภาพตัวอย่างได้ ✅ เหตุผลที่ไม่ใช้ VPN แบบทั่วไป ➡️ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 2.5Gbps ไม่อยากให้ตกจากการใช้ VPN ➡️ การติดตั้ง VPN บนทุกอุปกรณ์ยุ่งยากและไม่สะดวก ✅ วิธีแก้ที่ใช้ ➡️ Pi-hole ดัก DNS และส่งไปยัง Traefik ➡️ Gluetun เชื่อมต่อ VPN และ Nginx ทำ Proxy แบบ passthrough ➡️ ทุกอุปกรณ์ในบ้านเข้าถึง Imgur ได้โดยไม่ต้องตั้งค่าเพิ่ม ✅ ผลลัพธ์ ➡️ ภาพจาก Imgur กลับมาใช้งานได้ตามปกติ ➡️ ความหน่วงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่กระทบการใช้งาน ‼️ คำเตือน/ข้อสังเกต ⛔ ระบบนี้ซับซ้อนและอาจเกินความจำเป็นสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ⛔ ต้องมีความรู้ด้าน Docker, Nginx, และการจัดการ VPN เพื่อดูแลระบบให้ปลอดภัย https://blog.tymscar.com/posts/imgurukproxy/
    BLOG.TYMSCAR.COM
    Imgur Geo-Blocked the UK, So I Geo-Unblocked My Entire Network
    Imgur started blocking UK users. Rather than installing a VPN on every device, I set up a network-wide proxy that tunnels Imgur traffic through a VPN automatically.
    0 Comments 0 Shares 68 Views 0 Reviews
  • “Mailbox Smart Sensor – ไม่พลาดจดหมายสำคัญอีกต่อไป”

    เทคโนโลยีที่ช่วยชีวิตคนยุคดิจิทัล
    แม้หลายคนจะใช้ อีเมลและแอปแชท เป็นหลัก แต่จดหมายแบบดั้งเดิมยังคงสำคัญ โดยเฉพาะเอกสารราชการ เช่น หมายเรียกคณะลูกขุน หรือ เช็คภาษีคืน ปัญหาคือจดหมายเล็ก ๆ มักถูกลืมในตู้ไปรษณีย์ ทำให้เกิดความเสี่ยงพลาดข้อมูลสำคัญ อุปกรณ์ Mailbox Sensor จึงถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้

    ตัวเลือกหลากหลาย
    Analog Mailbox Alarm: ใช้สัญญาณไร้สายระยะ 600 ฟุต แจ้งเตือนด้วยไฟ LED และเสียง ไม่ต้องใช้บัญชีหรืออินเทอร์เน็ต แต่ไม่สามารถส่งการแจ้งเตือนถึงสมาร์ทโฟนได้
    X-Sense Smart Mailbox Alarm: ใช้ Wi-Fi 2.4 GHz เชื่อมต่อกับแอป X-Sense Home Security ส่งการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ไปยังมือถือ รองรับตู้ไปรษณีย์หลายแบบ
    Ring Mailbox Sensor: เป็นส่วนหนึ่งของระบบ Ring ใช้ Ring Bridge หรือ Amazon Sidewalk เพื่อเชื่อมต่อ ทำงานร่วมกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่น ๆ ได้อย่างลงตัว

    ทางเลือกอื่น ๆ ที่ประหยัด
    ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากมี motion detector หรือ กล้อง Ring อยู่แล้ว ก็สามารถปรับตั้งค่าให้ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ตู้ไปรษณีย์แทนการซื้ออุปกรณ์ใหม่ได้ วิธีนี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและยังคงได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน

    แนวโน้มการใช้งาน
    อุปกรณ์ลักษณะนี้สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่าง สมาร์ทโฮมกับการสื่อสารดั้งเดิม แม้จดหมายจะลดความนิยมลง แต่การมีระบบแจ้งเตือนช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจว่าจะไม่พลาดเอกสารสำคัญ และยังเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการนำเทคโนโลยีมาแก้ปัญหาเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Analog Mailbox Alarm
    ใช้สัญญาณไร้สาย 600 ฟุต
    แจ้งเตือนด้วยไฟ LED และเสียง

    X-Sense Smart Mailbox Alarm
    ใช้ Wi-Fi 2.4 GHz
    ส่งการแจ้งเตือนเรียลไทม์ผ่านมือถือ

    Ring Mailbox Sensor
    ใช้ Ring Bridge หรือ Amazon Sidewalk
    ทำงานร่วมกับระบบสมาร์ทโฮมอื่น ๆ

    อุปกรณ์ทดแทนที่มีอยู่แล้ว
    Motion detector สามารถติดตั้งในตู้ไปรษณีย์
    กล้อง Ring ตั้ง motion zone เพื่อแจ้งเตือน

    ข้อควรระวัง
    รุ่นอนาล็อกไม่สามารถแจ้งเตือนผ่านมือถือ
    หากตู้ไปรษณีย์อยู่นอกระยะ Wi-Fi ต้องใช้เซ็นเซอร์เฉพาะ

    https://www.slashgear.com/2038490/mailbox-smart-sensor-tells-you-when-mail-delivered/
    📬 “Mailbox Smart Sensor – ไม่พลาดจดหมายสำคัญอีกต่อไป” 🛠️ เทคโนโลยีที่ช่วยชีวิตคนยุคดิจิทัล แม้หลายคนจะใช้ อีเมลและแอปแชท เป็นหลัก แต่จดหมายแบบดั้งเดิมยังคงสำคัญ โดยเฉพาะเอกสารราชการ เช่น หมายเรียกคณะลูกขุน หรือ เช็คภาษีคืน ปัญหาคือจดหมายเล็ก ๆ มักถูกลืมในตู้ไปรษณีย์ ทำให้เกิดความเสี่ยงพลาดข้อมูลสำคัญ อุปกรณ์ Mailbox Sensor จึงถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้ 📡 ตัวเลือกหลากหลาย 🎗️ Analog Mailbox Alarm: ใช้สัญญาณไร้สายระยะ 600 ฟุต แจ้งเตือนด้วยไฟ LED และเสียง ไม่ต้องใช้บัญชีหรืออินเทอร์เน็ต แต่ไม่สามารถส่งการแจ้งเตือนถึงสมาร์ทโฟนได้ 🎗️ X-Sense Smart Mailbox Alarm: ใช้ Wi-Fi 2.4 GHz เชื่อมต่อกับแอป X-Sense Home Security ส่งการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ไปยังมือถือ รองรับตู้ไปรษณีย์หลายแบบ 🎗️ Ring Mailbox Sensor: เป็นส่วนหนึ่งของระบบ Ring ใช้ Ring Bridge หรือ Amazon Sidewalk เพื่อเชื่อมต่อ ทำงานร่วมกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่น ๆ ได้อย่างลงตัว 🔧 ทางเลือกอื่น ๆ ที่ประหยัด ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากมี motion detector หรือ กล้อง Ring อยู่แล้ว ก็สามารถปรับตั้งค่าให้ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ตู้ไปรษณีย์แทนการซื้ออุปกรณ์ใหม่ได้ วิธีนี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและยังคงได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน 🌐 แนวโน้มการใช้งาน อุปกรณ์ลักษณะนี้สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่าง สมาร์ทโฮมกับการสื่อสารดั้งเดิม แม้จดหมายจะลดความนิยมลง แต่การมีระบบแจ้งเตือนช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจว่าจะไม่พลาดเอกสารสำคัญ และยังเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการนำเทคโนโลยีมาแก้ปัญหาเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Analog Mailbox Alarm ➡️ ใช้สัญญาณไร้สาย 600 ฟุต ➡️ แจ้งเตือนด้วยไฟ LED และเสียง ✅ X-Sense Smart Mailbox Alarm ➡️ ใช้ Wi-Fi 2.4 GHz ➡️ ส่งการแจ้งเตือนเรียลไทม์ผ่านมือถือ ✅ Ring Mailbox Sensor ➡️ ใช้ Ring Bridge หรือ Amazon Sidewalk ➡️ ทำงานร่วมกับระบบสมาร์ทโฮมอื่น ๆ ✅ อุปกรณ์ทดแทนที่มีอยู่แล้ว ➡️ Motion detector สามารถติดตั้งในตู้ไปรษณีย์ ➡️ กล้อง Ring ตั้ง motion zone เพื่อแจ้งเตือน ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ รุ่นอนาล็อกไม่สามารถแจ้งเตือนผ่านมือถือ ⛔ หากตู้ไปรษณีย์อยู่นอกระยะ Wi-Fi ต้องใช้เซ็นเซอร์เฉพาะ https://www.slashgear.com/2038490/mailbox-smart-sensor-tells-you-when-mail-delivered/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    You Can Know Exactly When Your Mail's Been Delivered With This Smart Sensor - SlashGear
    The X-Sense Smart Mailbox Alarm requires 2.4 GHz Wi-Fi to connect to its base station. It delivers real-time push alerts to your phone via the X-Sense app.
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251129 #TechRadar

    AI อาจทำให้หลายงานหายไป
    มีรายงานใหม่ที่ทำให้ผู้บริหารทั่วโลกเริ่มกังวล เพราะผลการสำรวจพบว่าครึ่งหนึ่งของผู้บริหารมองว่าตอนนี้บริษัทมีพนักงานมากเกินความจำเป็นราว 10-19% และในอีกสามปีข้างหน้าอาจเกินถึง 30-50% สาเหตุหลักคือการนำ AI มาใช้ในงานประจำ เช่น งานหลังบ้าน งานบริการลูกค้า และงานเริ่มต้นด้านการเงินหรือ HR ที่ AI สามารถทำแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลายองค์กรจึงเริ่มคิดใหม่ว่าบทบาทของคนจะเปลี่ยนไปเป็นการทำงานร่วมกับ AI มากกว่าทำงานแทน AI โดยตรง ขณะเดียวกัน Amazon เองก็ยอมรับว่า AI จะทำให้คนทำงานบางส่วนลดลง แม้จะมีงานใหม่เกิดขึ้น แต่ภาพรวมคือจำนวนคนทำงานอาจลดลงในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/another-major-survey-warns-ai-could-lead-to-major-job-cuts-at-your-business

    แฮกเกอร์โจมตีผู้ใช้ Zendesk
    กลุ่ม Scattered Lapsus$ Hunters ที่เคยโจมตี Salesforce ตอนนี้หันมาเล่นงานผู้ใช้ Zendesk โดยใช้วิธีสร้างโดเมนปลอมกว่า 40 แห่งเพื่อหลอกให้คนกรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบ บางครั้งถึงขั้นส่งตั๋วซัพพอร์ตปลอมเข้าไปในระบบ Zendesk เพื่อแพร่มัลแวร์และขโมยสิทธิ์การเข้าถึงของเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่ากลยุทธ์นี้อันตรายมาก เพราะมันเจาะตรงไปที่ทีมซัพพอร์ตที่มักต้องตอบสนองอย่างเร่งด่วน ทำให้มีโอกาสตกหลุมพรางสูง แม้จะมีข่าวโยงไปถึงการโจมตี Discord แต่กลุ่มนี้ก็ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง
    https://www.techradar.com/pro/security/zendesk-users-targeted-by-scattered-lapsus-usd-hunters-hackers-and-fake-support-sites

    ยุโรปนำหน้าด้านความปลอดภัยไซเบอร์ แต่สหราชอาณาจักรเริ่มตามไม่ทัน
    รายงาน Digital Quality of Life Index 2025 ของ Surfshark เผยว่าประเทศในยุโรปครองอันดับต้น ๆ ด้านความปลอดภัยดิจิทัล เช่น ฟินแลนด์ เยอรมนี และฝรั่งเศส แต่สหราชอาณาจักรกลับตกอันดับจากที่เคยอยู่อันดับ 6 ด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ในปี 2024 ลงมาอยู่อันดับ 39 ในปีนี้ แม้ยังมีจุดแข็งเรื่องการคุ้มครองข้อมูลตามมาตรฐาน GDPR แต่ความก้าวหน้าด้านความปลอดภัยกลับช้ากว่าประเทศอื่น อย่างไรก็ตาม สหราชอาณาจักรยังมีจุดเด่นด้าน AI ที่ติดอันดับ 4 ของโลก ซึ่งอาจช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยในอนาคต
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/europe-tops-the-charts-in-digital-security-but-the-uk-might-be-quickly-falling-behind-says-surfshark

    OnePlus 15 เตรียมวางขายในสหรัฐฯ หลังผ่านการอนุมัติ
    สมาร์ทโฟน OnePlus 15 ที่เพิ่งเปิดตัวและได้รับคะแนนรีวิวเต็ม 5 ดาวจาก TechRadar กำลังจะเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ หลังผ่านการรับรองจาก FCC ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนวางขาย รุ่นนี้โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพ แบตเตอรี่ และกล้องที่ยอดเยี่ยม จนถูกยกให้ “ดีกว่าสมบูรณ์แบบ” ราคาที่คาดว่าจะเริ่มต้นราว 899.99 ดอลลาร์ ถือเป็นการกลับมาท้าทายตลาดที่มักถูกครองโดย Samsung และ Google Pixel
    https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/the-oneplus-15-clears-its-final-hurdle-for-a-us-launch-heres-why-we-gave-the-flagship-a-rare-five-stars

    รัฐบาลอังกฤษกดดันบริษัทโทรคมนาคมให้โปร่งใสเรื่องราคา
    รัฐบาลอังกฤษโดยรัฐมนตรีการคลังและรัฐมนตรีเทคโนโลยีออกมาเรียกร้องให้บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ เช่น BT/EE, Vodafone, Sky และ TalkTalk แสดงรายละเอียดราคาที่ชัดเจนขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าถูกขึ้นราคาที่ไม่คาดคิด โดยต้องเปลี่ยนจากการแจ้งเป็นเปอร์เซ็นต์มาเป็นตัวเลขจริงเป็นปอนด์และเพนนี นอกจากนี้ยังมีแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้ประชาชนเข้าถึง 5G SA ภายในปี 2030 และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับกิกะบิตครอบคลุม 99% ภายในปี 2032
    https://www.techradar.com/pro/uk-government-tells-telecoms-to-do-more-to-protect-customers

    หลายเขตในลอนดอนถูกโจมตีทางไซเบอร์
    มีรายงานว่าหลายสภาท้องถิ่นในกรุงลอนดอนถูกโจมตีทางไซเบอร์ ทำให้ระบบบริการประชาชนบางส่วนหยุดชะงัก การโจมตีครั้งนี้สร้างความกังวลอย่างมากเพราะกระทบต่อข้อมูลและการทำงานของหน่วยงานท้องถิ่นที่ประชาชนพึ่งพาอยู่ทุกวัน แม้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าหน่วยงานภาครัฐก็เป็นเป้าหมายสำคัญของแฮกเกอร์เช่นกัน และจำเป็นต้องเร่งเสริมมาตรการป้องกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/multiple-london-councils-affected-by-apparent-cyberattack

    Cybersecurity Burnout: เมื่อโลกดิจิทัลทำให้คนทำงานหมดแรง
    ในวงการไซเบอร์ ความเร็วและแรงกดดันคือเรื่องปกติ แต่สิ่งที่ตามมาคือความเหนื่อยล้าสะสมจนกลายเป็น “burnout” ที่กระทบทั้งสุขภาพและประสิทธิภาพการทำงาน งานวิจัยล่าสุดเผยว่ากว่า 76% ของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์รู้สึกเหนื่อยล้าในปีที่ผ่านมา และ 69% บอกว่ามันแย่ลงเรื่อย ๆ ปัญหานี้ไม่ได้กระทบแค่ตัวบุคคล แต่ยังทำให้ทีมอ่อนแรง เสี่ยงต่อการถูกโจมตีมากขึ้น ทางออกคือการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุน ลดภาระงาน และใช้บริการเสริมอย่าง MDR ที่ช่วยแบ่งเบาภาระได้จริง เรื่องนี้สะท้อนว่า “การป้องกันภัยไซเบอร์” ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องของคนด้วย
    https://www.techradar.com/pro/tackling-cybersecurity-burnout-once-and-for-all

    Infosys กับแนวคิดทำงาน 72 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
    Narayana Murthy ผู้ร่วมก่อตั้ง Infosys จุดกระแสอีกครั้งด้วยการเสนอให้พนักงานทำงาน 72 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยมองว่านี่คือ “ความขยันที่แท้จริง” แต่เสียงวิจารณ์กลับดังสนั่น เพราะหลักฐานจาก WHO และการทดลองในหลายประเทศ เช่น ไอซ์แลนด์และญี่ปุ่น แสดงให้เห็นว่าการทำงานสั้นลงกลับทำให้ผลผลิตและสุขภาพดีขึ้น การผลักดันให้ทำงานหนักเกินไปจึงถูกมองว่าเป็นการละเลยความเป็นอยู่ของคนทำงาน และอาจย้อนกลับมาทำร้ายองค์กรเอง
    https://www.techradar.com/pro/infosys-co-founder-once-again-calls-for-longer-than-70-hour-weeks-and-no-hes-not-joking

    ChatGPT อายุครบ 3 ปี: จากกล่องข้อความสู่เครื่องมือสารพัด
    จากวันที่เปิดตัวในปี 2022 ในฐานะ “การทดลองวิจัย” ChatGPT กลายเป็นหนึ่งในแอปที่โตเร็วที่สุดในโลก และวันนี้มันไม่ใช่แค่เครื่องมือเขียนอีเมล แต่เป็นผู้ช่วยที่ทำได้ทั้งวางแผนทริป สร้างสไลด์ ดีบักโค้ด ไปจนถึงสร้างภาพและเสียง สามปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีเบื้องหลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจาก GPT-3.5 จนถึง GPT-5.1 พร้อมความสามารถแบบมัลติโหมดที่รองรับข้อความ ภาพ เสียง และวิดีโอ แม้ยังไม่ถึงขั้น “AGI” อย่างที่หลายคนฝัน แต่ก็เปลี่ยนวิธีที่ผู้คนใช้ AI ในชีวิตประจำวันไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt-turns-3-on-sunday-heres-how-far-its-really-come-and-where-its-heading-next

    Amazon Fire TV Stick รุ่นใหม่รองรับ VPN แล้ว
    ข่าวดีสำหรับสายสตรีมมิ่ง Amazon ปล่อยอัปเดต Vega OS ให้ Fire TV Stick รุ่นใหม่รองรับ VPN เป็นครั้งแรก ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ต่างประเทศและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานได้ทันที อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีเพียง NordVPN และ IPVanish ที่พร้อมใช้งานบนระบบใหม่ ส่วนเจ้าอื่นยังตามไม่ทัน การมาของฟีเจอร์นี้ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์สตรีมมิ่งให้ปลอดภัยและหลากหลายขึ้น
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/vpn-support-lands-on-next-gen-amazon-fire-tv-stick-but-only-two-vpns-are-ready

    ช่องโหว่ใหม่ใน AI Browser: แค่ “#” ก็โดนเจาะได้
    นักวิจัยเผยเทคนิค “HashJack” ที่ใช้เพียงการใส่ข้อความหลังเครื่องหมาย # ใน URL ก็สามารถสั่งการ AI assistant ในเบราว์เซอร์ให้ทำงานตามคำสั่งแฝงได้ โดยผู้ใช้ไม่รู้ตัว หน้าจอยังแสดงเว็บปกติ แต่เบื้องหลังข้อมูลอาจถูกส่งออกไปหรือถูกบิดเบือน นี่คือช่องโหว่ที่ทำให้การใช้ AI browser เสี่ยงต่อการถูกโจมตีแบบแนบเนียน และยากต่อการตรวจจับ การป้องกันจึงต้องเข้มงวดทั้งที่ระดับเครื่องและการออกแบบระบบ ไม่ใช่แค่การตรวจสอบทราฟฟิกทั่วไป
    https://www.techradar.com/pro/thats-not-very-trendy-of-them-ai-browsers-can-be-hacked-with-a-simple-hashtag-experts-warn

    Malicious LLMs: เมื่อ AI กลายเป็นเครื่องมือสร้างมัลแวร์
    นักวิจัยเตือนว่าระบบ AI ที่ถูกปรับแต่งอย่างไม่ถูกต้องสามารถกลายเป็น “ผู้ช่วยสร้างมัลแวร์” ให้แม้แต่แฮกเกอร์มือใหม่ได้ง่าย ๆ เพียงแค่พิมพ์คำสั่งก็สามารถสร้างโค้ดอันตรายที่ซับซ้อนขึ้นมาได้ทันที นี่คือการเปิดประตูให้ภัยไซเบอร์แพร่กระจายเร็วกว่าเดิม และทำให้โลกดิจิทัลเสี่ยงต่อการถูกโจมตีในวงกว้างมากขึ้น ปัญหานี้สะท้อนว่า AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างสรรค์ แต่ยังอาจเป็นอาวุธหากถูกใช้ผิดทาง
    https://www.techradar.com/pro/security/malicious-llms-are-letting-even-unskilled-hackers-to-craft-dangerous-new-malware

    Tapo RV30 Max Plus: หุ่นยนต์ดูดฝุ่นราคาดิ่ง
    ใครที่มีปัญหาขนสุนัขเต็มบ้านคงยิ้มได้ เพราะ Tapo RV30 Max Plus ลดราคาหนักในช่วง Black Friday ทำให้การจัดการบ้านสะอาดง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเหนื่อยแรงเอง รุ่นนี้ถูกรีวิวว่าใช้งานง่าย ดูดแรง และช่วยประหยัดเวลาได้มาก การลดราคาครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่อยากลองใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นโดยไม่ต้องจ่ายแพง
    https://www.techradar.com/seasonal-sales/tackling-a-sea-of-dog-hair-was-a-daily-headache-for-me-until-i-bought-this-robot-vacuum

    Cloudways vs InMotion Hosting: ศึกโฮสติ้ง WordPress
    สำหรับคนทำเว็บไซต์ WordPress การเลือกโฮสติ้งคือเรื่องสำคัญ บทความนี้เปรียบเทียบ Cloudways และ InMotion Hosting ว่าใครตอบโจทย์มากกว่ากัน ทั้งในด้านความเร็ว ความเสถียร การสนับสนุนลูกค้า และราคา ผลลัพธ์คือแต่ละเจ้าเหมาะกับกลุ่มผู้ใช้ต่างกัน Cloudways เด่นเรื่องความยืดหยุ่นและการปรับแต่ง ส่วน InMotion Hosting โดดเด่นด้านบริการลูกค้าและความคุ้มค่า
    https://www.techradar.com/pro/website-hosting/cloudways-vs-inmotion-hosting-which-is-better-for-wordpress-sites

    Commodore 64 กลับมาอีกครั้งหลังหายไป 30 ปี
    เครื่องคอมพิวเตอร์ในตำนาน Commodore 64 ที่เคยครองใจคนยุค 80 กำลังกลับมาผลิตใหม่อีกครั้ง แม้จะไม่ใช่เครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งานสมัยใหม่ แต่ก็เป็นการปลุกความทรงจำและความหลงใหลในเทคโนโลยีคลาสสิก หลายคนมองว่ามันคือ “ของสะสม” มากกว่าคอมพิวเตอร์จริง ๆ และการกลับมาครั้งนี้ก็สร้างกระแสความตื่นเต้นในหมู่แฟน ๆ ได้ไม่น้อย
    https://www.techradar.com/computing/the-commodore-64-is-back-on-the-production-line-for-the-first-time-in-30-years-and-i-want-it-even-if-it-makes-zero-sense

    ระวังอีเมลหลอกลวงช่วงโบนัสคริสต์มาส
    ใกล้ช่วงโบนัสปลายปี แฮกเกอร์ก็ไม่พลาดโอกาสปลอมอีเมลหลอกลวงให้คนหลงเชื่อ โดยอ้างว่าเป็นการแจ้งโบนัสหรือสิทธิพิเศษ เพื่อให้เหยื่อคลิกและกรอกข้อมูลส่วนตัว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าช่วงนี้ต้องตรวจสอบอีเมลอย่างละเอียด เพราะการโจมตีลักษณะนี้แพร่หลายมากขึ้น และอาจทำให้สูญเสียข้อมูลหรือเงินโดยไม่รู้ตัว
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/excited-for-your-christmas-bonus-so-are-scammers-so-check-your-emails-carefully
    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251129 #TechRadar 🧑‍💻 AI อาจทำให้หลายงานหายไป มีรายงานใหม่ที่ทำให้ผู้บริหารทั่วโลกเริ่มกังวล เพราะผลการสำรวจพบว่าครึ่งหนึ่งของผู้บริหารมองว่าตอนนี้บริษัทมีพนักงานมากเกินความจำเป็นราว 10-19% และในอีกสามปีข้างหน้าอาจเกินถึง 30-50% สาเหตุหลักคือการนำ AI มาใช้ในงานประจำ เช่น งานหลังบ้าน งานบริการลูกค้า และงานเริ่มต้นด้านการเงินหรือ HR ที่ AI สามารถทำแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลายองค์กรจึงเริ่มคิดใหม่ว่าบทบาทของคนจะเปลี่ยนไปเป็นการทำงานร่วมกับ AI มากกว่าทำงานแทน AI โดยตรง ขณะเดียวกัน Amazon เองก็ยอมรับว่า AI จะทำให้คนทำงานบางส่วนลดลง แม้จะมีงานใหม่เกิดขึ้น แต่ภาพรวมคือจำนวนคนทำงานอาจลดลงในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/another-major-survey-warns-ai-could-lead-to-major-job-cuts-at-your-business 🔒 แฮกเกอร์โจมตีผู้ใช้ Zendesk กลุ่ม Scattered Lapsus$ Hunters ที่เคยโจมตี Salesforce ตอนนี้หันมาเล่นงานผู้ใช้ Zendesk โดยใช้วิธีสร้างโดเมนปลอมกว่า 40 แห่งเพื่อหลอกให้คนกรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบ บางครั้งถึงขั้นส่งตั๋วซัพพอร์ตปลอมเข้าไปในระบบ Zendesk เพื่อแพร่มัลแวร์และขโมยสิทธิ์การเข้าถึงของเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่ากลยุทธ์นี้อันตรายมาก เพราะมันเจาะตรงไปที่ทีมซัพพอร์ตที่มักต้องตอบสนองอย่างเร่งด่วน ทำให้มีโอกาสตกหลุมพรางสูง แม้จะมีข่าวโยงไปถึงการโจมตี Discord แต่กลุ่มนี้ก็ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/zendesk-users-targeted-by-scattered-lapsus-usd-hunters-hackers-and-fake-support-sites 🌍 ยุโรปนำหน้าด้านความปลอดภัยไซเบอร์ แต่สหราชอาณาจักรเริ่มตามไม่ทัน รายงาน Digital Quality of Life Index 2025 ของ Surfshark เผยว่าประเทศในยุโรปครองอันดับต้น ๆ ด้านความปลอดภัยดิจิทัล เช่น ฟินแลนด์ เยอรมนี และฝรั่งเศส แต่สหราชอาณาจักรกลับตกอันดับจากที่เคยอยู่อันดับ 6 ด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ในปี 2024 ลงมาอยู่อันดับ 39 ในปีนี้ แม้ยังมีจุดแข็งเรื่องการคุ้มครองข้อมูลตามมาตรฐาน GDPR แต่ความก้าวหน้าด้านความปลอดภัยกลับช้ากว่าประเทศอื่น อย่างไรก็ตาม สหราชอาณาจักรยังมีจุดเด่นด้าน AI ที่ติดอันดับ 4 ของโลก ซึ่งอาจช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/europe-tops-the-charts-in-digital-security-but-the-uk-might-be-quickly-falling-behind-says-surfshark 📱 OnePlus 15 เตรียมวางขายในสหรัฐฯ หลังผ่านการอนุมัติ สมาร์ทโฟน OnePlus 15 ที่เพิ่งเปิดตัวและได้รับคะแนนรีวิวเต็ม 5 ดาวจาก TechRadar กำลังจะเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ หลังผ่านการรับรองจาก FCC ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนวางขาย รุ่นนี้โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพ แบตเตอรี่ และกล้องที่ยอดเยี่ยม จนถูกยกให้ “ดีกว่าสมบูรณ์แบบ” ราคาที่คาดว่าจะเริ่มต้นราว 899.99 ดอลลาร์ ถือเป็นการกลับมาท้าทายตลาดที่มักถูกครองโดย Samsung และ Google Pixel 🔗 https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/the-oneplus-15-clears-its-final-hurdle-for-a-us-launch-heres-why-we-gave-the-flagship-a-rare-five-stars 📡 รัฐบาลอังกฤษกดดันบริษัทโทรคมนาคมให้โปร่งใสเรื่องราคา รัฐบาลอังกฤษโดยรัฐมนตรีการคลังและรัฐมนตรีเทคโนโลยีออกมาเรียกร้องให้บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ เช่น BT/EE, Vodafone, Sky และ TalkTalk แสดงรายละเอียดราคาที่ชัดเจนขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าถูกขึ้นราคาที่ไม่คาดคิด โดยต้องเปลี่ยนจากการแจ้งเป็นเปอร์เซ็นต์มาเป็นตัวเลขจริงเป็นปอนด์และเพนนี นอกจากนี้ยังมีแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้ประชาชนเข้าถึง 5G SA ภายในปี 2030 และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับกิกะบิตครอบคลุม 99% ภายในปี 2032 🔗 https://www.techradar.com/pro/uk-government-tells-telecoms-to-do-more-to-protect-customers 🏙️ หลายเขตในลอนดอนถูกโจมตีทางไซเบอร์ มีรายงานว่าหลายสภาท้องถิ่นในกรุงลอนดอนถูกโจมตีทางไซเบอร์ ทำให้ระบบบริการประชาชนบางส่วนหยุดชะงัก การโจมตีครั้งนี้สร้างความกังวลอย่างมากเพราะกระทบต่อข้อมูลและการทำงานของหน่วยงานท้องถิ่นที่ประชาชนพึ่งพาอยู่ทุกวัน แม้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าหน่วยงานภาครัฐก็เป็นเป้าหมายสำคัญของแฮกเกอร์เช่นกัน และจำเป็นต้องเร่งเสริมมาตรการป้องกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/multiple-london-councils-affected-by-apparent-cyberattack 🛡️ Cybersecurity Burnout: เมื่อโลกดิจิทัลทำให้คนทำงานหมดแรง ในวงการไซเบอร์ ความเร็วและแรงกดดันคือเรื่องปกติ แต่สิ่งที่ตามมาคือความเหนื่อยล้าสะสมจนกลายเป็น “burnout” ที่กระทบทั้งสุขภาพและประสิทธิภาพการทำงาน งานวิจัยล่าสุดเผยว่ากว่า 76% ของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์รู้สึกเหนื่อยล้าในปีที่ผ่านมา และ 69% บอกว่ามันแย่ลงเรื่อย ๆ ปัญหานี้ไม่ได้กระทบแค่ตัวบุคคล แต่ยังทำให้ทีมอ่อนแรง เสี่ยงต่อการถูกโจมตีมากขึ้น ทางออกคือการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุน ลดภาระงาน และใช้บริการเสริมอย่าง MDR ที่ช่วยแบ่งเบาภาระได้จริง เรื่องนี้สะท้อนว่า “การป้องกันภัยไซเบอร์” ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องของคนด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/tackling-cybersecurity-burnout-once-and-for-all ⏱️ Infosys กับแนวคิดทำงาน 72 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ Narayana Murthy ผู้ร่วมก่อตั้ง Infosys จุดกระแสอีกครั้งด้วยการเสนอให้พนักงานทำงาน 72 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยมองว่านี่คือ “ความขยันที่แท้จริง” แต่เสียงวิจารณ์กลับดังสนั่น เพราะหลักฐานจาก WHO และการทดลองในหลายประเทศ เช่น ไอซ์แลนด์และญี่ปุ่น แสดงให้เห็นว่าการทำงานสั้นลงกลับทำให้ผลผลิตและสุขภาพดีขึ้น การผลักดันให้ทำงานหนักเกินไปจึงถูกมองว่าเป็นการละเลยความเป็นอยู่ของคนทำงาน และอาจย้อนกลับมาทำร้ายองค์กรเอง 🔗 https://www.techradar.com/pro/infosys-co-founder-once-again-calls-for-longer-than-70-hour-weeks-and-no-hes-not-joking 🤖 ChatGPT อายุครบ 3 ปี: จากกล่องข้อความสู่เครื่องมือสารพัด จากวันที่เปิดตัวในปี 2022 ในฐานะ “การทดลองวิจัย” ChatGPT กลายเป็นหนึ่งในแอปที่โตเร็วที่สุดในโลก และวันนี้มันไม่ใช่แค่เครื่องมือเขียนอีเมล แต่เป็นผู้ช่วยที่ทำได้ทั้งวางแผนทริป สร้างสไลด์ ดีบักโค้ด ไปจนถึงสร้างภาพและเสียง สามปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีเบื้องหลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจาก GPT-3.5 จนถึง GPT-5.1 พร้อมความสามารถแบบมัลติโหมดที่รองรับข้อความ ภาพ เสียง และวิดีโอ แม้ยังไม่ถึงขั้น “AGI” อย่างที่หลายคนฝัน แต่ก็เปลี่ยนวิธีที่ผู้คนใช้ AI ในชีวิตประจำวันไปแล้วอย่างสิ้นเชิง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt-turns-3-on-sunday-heres-how-far-its-really-come-and-where-its-heading-next 📺 Amazon Fire TV Stick รุ่นใหม่รองรับ VPN แล้ว ข่าวดีสำหรับสายสตรีมมิ่ง Amazon ปล่อยอัปเดต Vega OS ให้ Fire TV Stick รุ่นใหม่รองรับ VPN เป็นครั้งแรก ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ต่างประเทศและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานได้ทันที อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีเพียง NordVPN และ IPVanish ที่พร้อมใช้งานบนระบบใหม่ ส่วนเจ้าอื่นยังตามไม่ทัน การมาของฟีเจอร์นี้ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์สตรีมมิ่งให้ปลอดภัยและหลากหลายขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/vpn-support-lands-on-next-gen-amazon-fire-tv-stick-but-only-two-vpns-are-ready ⚠️ ช่องโหว่ใหม่ใน AI Browser: แค่ “#” ก็โดนเจาะได้ นักวิจัยเผยเทคนิค “HashJack” ที่ใช้เพียงการใส่ข้อความหลังเครื่องหมาย # ใน URL ก็สามารถสั่งการ AI assistant ในเบราว์เซอร์ให้ทำงานตามคำสั่งแฝงได้ โดยผู้ใช้ไม่รู้ตัว หน้าจอยังแสดงเว็บปกติ แต่เบื้องหลังข้อมูลอาจถูกส่งออกไปหรือถูกบิดเบือน นี่คือช่องโหว่ที่ทำให้การใช้ AI browser เสี่ยงต่อการถูกโจมตีแบบแนบเนียน และยากต่อการตรวจจับ การป้องกันจึงต้องเข้มงวดทั้งที่ระดับเครื่องและการออกแบบระบบ ไม่ใช่แค่การตรวจสอบทราฟฟิกทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/thats-not-very-trendy-of-them-ai-browsers-can-be-hacked-with-a-simple-hashtag-experts-warn 🧑‍💻 Malicious LLMs: เมื่อ AI กลายเป็นเครื่องมือสร้างมัลแวร์ นักวิจัยเตือนว่าระบบ AI ที่ถูกปรับแต่งอย่างไม่ถูกต้องสามารถกลายเป็น “ผู้ช่วยสร้างมัลแวร์” ให้แม้แต่แฮกเกอร์มือใหม่ได้ง่าย ๆ เพียงแค่พิมพ์คำสั่งก็สามารถสร้างโค้ดอันตรายที่ซับซ้อนขึ้นมาได้ทันที นี่คือการเปิดประตูให้ภัยไซเบอร์แพร่กระจายเร็วกว่าเดิม และทำให้โลกดิจิทัลเสี่ยงต่อการถูกโจมตีในวงกว้างมากขึ้น ปัญหานี้สะท้อนว่า AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างสรรค์ แต่ยังอาจเป็นอาวุธหากถูกใช้ผิดทาง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/malicious-llms-are-letting-even-unskilled-hackers-to-craft-dangerous-new-malware 🤖 Tapo RV30 Max Plus: หุ่นยนต์ดูดฝุ่นราคาดิ่ง ใครที่มีปัญหาขนสุนัขเต็มบ้านคงยิ้มได้ เพราะ Tapo RV30 Max Plus ลดราคาหนักในช่วง Black Friday ทำให้การจัดการบ้านสะอาดง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเหนื่อยแรงเอง รุ่นนี้ถูกรีวิวว่าใช้งานง่าย ดูดแรง และช่วยประหยัดเวลาได้มาก การลดราคาครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่อยากลองใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นโดยไม่ต้องจ่ายแพง 🔗 https://www.techradar.com/seasonal-sales/tackling-a-sea-of-dog-hair-was-a-daily-headache-for-me-until-i-bought-this-robot-vacuum 🌐 Cloudways vs InMotion Hosting: ศึกโฮสติ้ง WordPress สำหรับคนทำเว็บไซต์ WordPress การเลือกโฮสติ้งคือเรื่องสำคัญ บทความนี้เปรียบเทียบ Cloudways และ InMotion Hosting ว่าใครตอบโจทย์มากกว่ากัน ทั้งในด้านความเร็ว ความเสถียร การสนับสนุนลูกค้า และราคา ผลลัพธ์คือแต่ละเจ้าเหมาะกับกลุ่มผู้ใช้ต่างกัน Cloudways เด่นเรื่องความยืดหยุ่นและการปรับแต่ง ส่วน InMotion Hosting โดดเด่นด้านบริการลูกค้าและความคุ้มค่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/website-hosting/cloudways-vs-inmotion-hosting-which-is-better-for-wordpress-sites 🕹️ Commodore 64 กลับมาอีกครั้งหลังหายไป 30 ปี เครื่องคอมพิวเตอร์ในตำนาน Commodore 64 ที่เคยครองใจคนยุค 80 กำลังกลับมาผลิตใหม่อีกครั้ง แม้จะไม่ใช่เครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งานสมัยใหม่ แต่ก็เป็นการปลุกความทรงจำและความหลงใหลในเทคโนโลยีคลาสสิก หลายคนมองว่ามันคือ “ของสะสม” มากกว่าคอมพิวเตอร์จริง ๆ และการกลับมาครั้งนี้ก็สร้างกระแสความตื่นเต้นในหมู่แฟน ๆ ได้ไม่น้อย 🔗 https://www.techradar.com/computing/the-commodore-64-is-back-on-the-production-line-for-the-first-time-in-30-years-and-i-want-it-even-if-it-makes-zero-sense 📧 ระวังอีเมลหลอกลวงช่วงโบนัสคริสต์มาส ใกล้ช่วงโบนัสปลายปี แฮกเกอร์ก็ไม่พลาดโอกาสปลอมอีเมลหลอกลวงให้คนหลงเชื่อ โดยอ้างว่าเป็นการแจ้งโบนัสหรือสิทธิพิเศษ เพื่อให้เหยื่อคลิกและกรอกข้อมูลส่วนตัว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าช่วงนี้ต้องตรวจสอบอีเมลอย่างละเอียด เพราะการโจมตีลักษณะนี้แพร่หลายมากขึ้น และอาจทำให้สูญเสียข้อมูลหรือเงินโดยไม่รู้ตัว ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/excited-for-your-christmas-bonus-so-are-scammers-so-check-your-emails-carefully
    0 Comments 0 Shares 255 Views 0 Reviews
  • “เรียกร้องให้การทำงาน Open-Source ได้รับการยอมรับเป็นงานอาสาสมัครในเยอรมนี”

    การพัฒนาซอฟต์แวร์ Open-Source ถือเป็นรากฐานสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารรัฐ การศึกษา วิทยาศาสตร์ ไปจนถึงเศรษฐกิจ แต่ปัจจุบันงานที่ทำโดยอาสาสมัครนับพันคนยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นงานอาสาสมัครอย่างเป็นทางการ ทั้งในด้านภาษีและการสนับสนุนทางการเงิน

    ผู้ริเริ่มคำร้องชี้ว่า งาน Open-Source เป็นการสร้างซอฟต์แวร์ที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเปิดให้ทุกคนเข้าถึงได้ฟรี ซึ่งมีผลโดยตรงต่อความมั่นคง ความปลอดภัย และนวัตกรรมของประเทศ เยอรมนีเองก็ระบุในข้อตกลงรัฐบาลว่าซอฟต์แวร์ Open-Source เป็นเสาหลักของ “อธิปไตยทางดิจิทัล” แต่กลับไม่ให้สถานะทางกฎหมายที่เทียบเท่างานอาสาสมัครอื่น ๆ

    การยอมรับอย่างเป็นทางการจะช่วยให้ผู้พัฒนาได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น การชดเชยค่าใช้จ่ายที่ปลอดภาษี การออกใบเสร็จบริจาค และการคุ้มครองด้านความรับผิดทางกฎหมาย ซึ่งจะสร้างความยั่งยืนและความชัดเจนให้กับการทำงานอาสาสมัครดิจิทัล

    นอกจากนี้ เยอรมนียังถูกมองว่าล้าหลังเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ที่มีการสนับสนุนงาน Open-Source ผ่านสิทธิประโยชน์ทางภาษีและการสนับสนุนเชิงสถาบัน หากไม่เร่งแก้ไข อาจทำให้ประเทศเสียเปรียบในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระดับโลก

    สรุปสาระสำคัญ
    ความสำคัญของ Open-Source ต่อสาธารณะ
    เป็นรากฐานของระบบดิจิทัล เช่น โปรโตคอลอินเทอร์เน็ต ระบบความปลอดภัย และ AI frameworks
    สร้างซอฟต์แวร์ที่โปร่งใสและตรวจสอบได้

    ลักษณะงานอาสาสมัคร
    ส่วนใหญ่ทำโดยไม่รับค่าตอบแทนในเวลาว่าง
    มีความรับผิดชอบต่อความปลอดภัยและเสถียรภาพของระบบ

    ผลประโยชน์จากการยอมรับทางกฎหมาย
    ได้สิทธิชดเชยค่าใช้จ่ายปลอดภาษี
    สามารถออกใบเสร็จบริจาคและได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย

    ความเสี่ยงหากไม่ยอมรับ
    อาสาสมัครต้องแบกรับภาระโดยไม่มีการสนับสนุน
    เยอรมนีอาจล้าหลังในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระดับโลก

    ผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ
    ความไม่สมดุลระหว่างผู้ใช้ที่ได้ประโยชน์กับผู้พัฒนาที่ไม่ได้รับการสนับสนุน
    เสี่ยงต่อการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติและลดความมั่นคงทางดิจิทัล

    https://www.openpetition.de/petition/online/recognition-of-work-on-open-source-as-volunteering-in-germany
    💻 “เรียกร้องให้การทำงาน Open-Source ได้รับการยอมรับเป็นงานอาสาสมัครในเยอรมนี” การพัฒนาซอฟต์แวร์ Open-Source ถือเป็นรากฐานสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารรัฐ การศึกษา วิทยาศาสตร์ ไปจนถึงเศรษฐกิจ แต่ปัจจุบันงานที่ทำโดยอาสาสมัครนับพันคนยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นงานอาสาสมัครอย่างเป็นทางการ ทั้งในด้านภาษีและการสนับสนุนทางการเงิน ผู้ริเริ่มคำร้องชี้ว่า งาน Open-Source เป็นการสร้างซอฟต์แวร์ที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเปิดให้ทุกคนเข้าถึงได้ฟรี ซึ่งมีผลโดยตรงต่อความมั่นคง ความปลอดภัย และนวัตกรรมของประเทศ เยอรมนีเองก็ระบุในข้อตกลงรัฐบาลว่าซอฟต์แวร์ Open-Source เป็นเสาหลักของ “อธิปไตยทางดิจิทัล” แต่กลับไม่ให้สถานะทางกฎหมายที่เทียบเท่างานอาสาสมัครอื่น ๆ การยอมรับอย่างเป็นทางการจะช่วยให้ผู้พัฒนาได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น การชดเชยค่าใช้จ่ายที่ปลอดภาษี การออกใบเสร็จบริจาค และการคุ้มครองด้านความรับผิดทางกฎหมาย ซึ่งจะสร้างความยั่งยืนและความชัดเจนให้กับการทำงานอาสาสมัครดิจิทัล นอกจากนี้ เยอรมนียังถูกมองว่าล้าหลังเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ที่มีการสนับสนุนงาน Open-Source ผ่านสิทธิประโยชน์ทางภาษีและการสนับสนุนเชิงสถาบัน หากไม่เร่งแก้ไข อาจทำให้ประเทศเสียเปรียบในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระดับโลก 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ความสำคัญของ Open-Source ต่อสาธารณะ ➡️ เป็นรากฐานของระบบดิจิทัล เช่น โปรโตคอลอินเทอร์เน็ต ระบบความปลอดภัย และ AI frameworks ➡️ สร้างซอฟต์แวร์ที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ ✅ ลักษณะงานอาสาสมัคร ➡️ ส่วนใหญ่ทำโดยไม่รับค่าตอบแทนในเวลาว่าง ➡️ มีความรับผิดชอบต่อความปลอดภัยและเสถียรภาพของระบบ ✅ ผลประโยชน์จากการยอมรับทางกฎหมาย ➡️ ได้สิทธิชดเชยค่าใช้จ่ายปลอดภาษี ➡️ สามารถออกใบเสร็จบริจาคและได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย ‼️ ความเสี่ยงหากไม่ยอมรับ ⛔ อาสาสมัครต้องแบกรับภาระโดยไม่มีการสนับสนุน ⛔ เยอรมนีอาจล้าหลังในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระดับโลก ‼️ ผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ ⛔ ความไม่สมดุลระหว่างผู้ใช้ที่ได้ประโยชน์กับผู้พัฒนาที่ไม่ได้รับการสนับสนุน ⛔ เสี่ยงต่อการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติและลดความมั่นคงทางดิจิทัล https://www.openpetition.de/petition/online/recognition-of-work-on-open-source-as-volunteering-in-germany
    WWW.OPENPETITION.DE
    Recognition of Work on Open-Source as Volunteering in Germany - Online-Petition
    Open-Source-Software builds the foundations of digital infrastructure in big parts - in administration, economy, science and daily life. Even the current coalition agreement of the Federal Government mentions Open-Source-Software as a fundamental building block for the achievement of digital sovereignty. However, the work done by thousands of volunteers for this goal is not recognised as volunteering, neither fiscally nor in terms of funding. This imbalance between societal importance and legal
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • Self-Hosting กำลังมาแรง – ผู้ใช้ Linux นำกระแส
    บทความจาก ItsFOSS ชี้ว่า Self-Hosting ไม่ใช่การต่อต้าน Cloud แต่คือการเลือกควบคุมสิ่งที่สำคัญด้วยตัวเอง ผู้ใช้จำนวนมากเริ่มหันมาโฮสต์บริการต่าง ๆ เช่น อีเมล, ไฟล์, สื่อ, และระบบอัตโนมัติบนเครื่องของตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการพึ่งพาแพลตฟอร์มที่มักเปลี่ยนนโยบายหรือเก็บข้อมูลผู้ใช้โดยไม่โปร่งใส

    ปัจจัยที่ทำให้ Self-Hosting ง่ายขึ้น
    มี Dockerized services และ one-click bundles ที่ช่วยให้ติดตั้งง่าย
    ฮาร์ดแวร์ที่ใช้ได้หลากหลาย เช่น mini-PC, NAS, Raspberry Pi
    ชุมชนโอเพ่นซอร์สสร้างเครื่องมือที่พร้อมใช้งาน เช่น Nextcloud, Jellyfin, Home Assistant

    ข้อมูลจากการสำรวจ
    ผลสำรวจชุมชน selfh.st ปี 2025 (กว่า 4,000 คน) พบว่า กว่า 80% ใช้ Linux และ Docker เป็น runtime หลักเกือบ 90% แสดงให้เห็นว่า Linux เป็นฐานที่มั่นคงสำหรับการทำ Self-Hosting

    ประโยชน์ที่ผู้ใช้ได้รับ
    ความเป็นอิสระจาก Big Tech ลดความเสี่ยงจากการถูกล็อกบัญชีหรือเปลี่ยนนโยบาย
    ต้นทุนระยะยาวถูกกว่า Cloud สำหรับงานที่ต่อเนื่อง เช่น backup, media server, automation
    ความน่าเชื่อถือและความต่อเนื่อง เพราะผู้ใช้ควบคุมระบบเอง ไม่ขึ้นกับบริษัทที่อาจยกเลิกบริการ
    การเรียนรู้และพัฒนาทักษะ เช่น containerization, networking, monitoring

    ข้อจำกัดและความท้าทาย
    Self-Hosting ไม่ใช่คำตอบทุกอย่าง ผู้ใช้ยังต้องรับผิดชอบเรื่อง patching, backups, security hygiene และต้องจัดการกับข้อจำกัดของอินเทอร์เน็ต เช่น dynamic IP, throttling, power outage รวมถึงบางบริการที่เหมาะสมกว่าหากใช้ผู้ให้บริการภายนอก เช่น global-scale delivery หรือ email compliance

    สรุปสาระสำคัญ
    Self-Hosting กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
    ผู้ใช้ Linux เป็นกลุ่มนำกระแส

    เครื่องมือและฮาร์ดแวร์ทำให้ใช้งานง่ายขึ้น
    Docker, one-click bundles, Raspberry Pi

    ผลสำรวจชุมชนชี้ว่า Linux ครองตลาด Self-Hosting
    กว่า 80% ใช้ Linux และ Docker ใกล้ 90%

    ประโยชน์หลักคือความเป็นอิสระและต้นทุนที่คุ้มค่า
    ลดการพึ่งพา Big Tech และควบคุมระบบเอง

    Self-Hosting ต้องการการดูแลระบบเอง
    ต้องจัดการ patch, backup, และความปลอดภัย

    ข้อจำกัดจากอินเทอร์เน็ตและบริการบางประเภท
    Dynamic IP, throttling, และ compliance email อาจต้องใช้ผู้ให้บริการภายนอก

    https://itsfoss.com/self-hosting-rising/
    🌐 Self-Hosting กำลังมาแรง – ผู้ใช้ Linux นำกระแส บทความจาก ItsFOSS ชี้ว่า Self-Hosting ไม่ใช่การต่อต้าน Cloud แต่คือการเลือกควบคุมสิ่งที่สำคัญด้วยตัวเอง ผู้ใช้จำนวนมากเริ่มหันมาโฮสต์บริการต่าง ๆ เช่น อีเมล, ไฟล์, สื่อ, และระบบอัตโนมัติบนเครื่องของตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการพึ่งพาแพลตฟอร์มที่มักเปลี่ยนนโยบายหรือเก็บข้อมูลผู้ใช้โดยไม่โปร่งใส ⚙️ ปัจจัยที่ทำให้ Self-Hosting ง่ายขึ้น 💠 มี Dockerized services และ one-click bundles ที่ช่วยให้ติดตั้งง่าย 💠 ฮาร์ดแวร์ที่ใช้ได้หลากหลาย เช่น mini-PC, NAS, Raspberry Pi 💠 ชุมชนโอเพ่นซอร์สสร้างเครื่องมือที่พร้อมใช้งาน เช่น Nextcloud, Jellyfin, Home Assistant 📊 ข้อมูลจากการสำรวจ ผลสำรวจชุมชน selfh.st ปี 2025 (กว่า 4,000 คน) พบว่า กว่า 80% ใช้ Linux และ Docker เป็น runtime หลักเกือบ 90% แสดงให้เห็นว่า Linux เป็นฐานที่มั่นคงสำหรับการทำ Self-Hosting 🔍 ประโยชน์ที่ผู้ใช้ได้รับ 💠 ความเป็นอิสระจาก Big Tech ลดความเสี่ยงจากการถูกล็อกบัญชีหรือเปลี่ยนนโยบาย 💠 ต้นทุนระยะยาวถูกกว่า Cloud สำหรับงานที่ต่อเนื่อง เช่น backup, media server, automation 💠 ความน่าเชื่อถือและความต่อเนื่อง เพราะผู้ใช้ควบคุมระบบเอง ไม่ขึ้นกับบริษัทที่อาจยกเลิกบริการ 💠 การเรียนรู้และพัฒนาทักษะ เช่น containerization, networking, monitoring ⚠️ ข้อจำกัดและความท้าทาย Self-Hosting ไม่ใช่คำตอบทุกอย่าง ผู้ใช้ยังต้องรับผิดชอบเรื่อง patching, backups, security hygiene และต้องจัดการกับข้อจำกัดของอินเทอร์เน็ต เช่น dynamic IP, throttling, power outage รวมถึงบางบริการที่เหมาะสมกว่าหากใช้ผู้ให้บริการภายนอก เช่น global-scale delivery หรือ email compliance 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Self-Hosting กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ➡️ ผู้ใช้ Linux เป็นกลุ่มนำกระแส ✅ เครื่องมือและฮาร์ดแวร์ทำให้ใช้งานง่ายขึ้น ➡️ Docker, one-click bundles, Raspberry Pi ✅ ผลสำรวจชุมชนชี้ว่า Linux ครองตลาด Self-Hosting ➡️ กว่า 80% ใช้ Linux และ Docker ใกล้ 90% ✅ ประโยชน์หลักคือความเป็นอิสระและต้นทุนที่คุ้มค่า ➡️ ลดการพึ่งพา Big Tech และควบคุมระบบเอง ‼️ Self-Hosting ต้องการการดูแลระบบเอง ⛔ ต้องจัดการ patch, backup, และความปลอดภัย ‼️ ข้อจำกัดจากอินเทอร์เน็ตและบริการบางประเภท ⛔ Dynamic IP, throttling, และ compliance email อาจต้องใช้ผู้ให้บริการภายนอก https://itsfoss.com/self-hosting-rising/
    ITSFOSS.COM
    Self-Hosting is Rising and Linux Users are Leading This Revolution
    Self‑hosting isn’t anti‑cloud; it’s pro‑agency. It’s choosing the right locus of control for the things you care about.
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251128 #TechRadar

     Google Assistant กำลังจะถูกแทนที่ด้วย Gemini บน Android Auto
    Google เตรียมปิดฉาก Google Assistant บน Android Auto ภายในเดือนมีนาคมปีหน้า และจะนำ Gemini ซึ่งเป็น AI รุ่นใหม่เข้ามาแทนที่ จุดเด่นคือการสื่อสารที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น เช่น การสั่งนำทางด้วยประโยคง่าย ๆ อย่าง “พาไปหาร้านเบอร์เกอร์ที่ดีที่สุดแถวนี้” แล้ว Gemini จะจัดการให้ทันที รวมถึงสามารถสานต่อบทสนทนา เช่นถามต่อว่าเมนูยอดนิยมคืออะไร หรือมีที่จอดฟรีไหม นอกจากนี้ Gemini ยังช่วยให้การส่งข้อความระหว่างขับรถง่ายขึ้น เช่นสั่งให้ส่งข้อความพร้อมใส่อีโมจิโดยไม่ต้องแก้ไขหลายครั้ง ถือเป็นการยกระดับการใช้งาน Android Auto ให้ปลอดภัยและสะดวกกว่าเดิม https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/google-hints-at-google-assistant-shutdown-date-for-android-auto-heres-what-that-means-for-you

    Tab 2: Amazon บล็อก Shopping Agent ของ ChatGPT
    Amazon ตัดสินใจบล็อกฟีเจอร์ Shopping Agent ใหม่ของ ChatGPT ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้ค้นหาสินค้าและดีลออนไลน์ เหตุผลหลักคือความกังวลเรื่องการแข่งขันและการควบคุมข้อมูลการซื้อขายบนแพลตฟอร์มของตนเอง การบล็อกครั้งนี้อาจส่งผลต่อผู้ใช้ที่หวังจะใช้ AI เพื่อช่วยเลือกซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น และยังสะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซกับผู้พัฒนา AI ที่กำลังรุกเข้ามาในตลาดการช้อปปิ้งออนไลน์ https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/amazon-blocks-chatgpts-new-shopping-agent-what-the-fallout-could-mean-for-you

    ระบบเตือนความปลอดภัยในรถจะ “น่ารำคาญ” น้อยลงในปี 2026
    หลายคนคงเคยหงุดหงิดกับเสียงเตือนหรือระบบความปลอดภัยในรถที่ดังบ่อยเกินไป ข่าวดีคือ ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป กฎใหม่ในยุโรปจะบังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์ปรับระบบเตือนให้ “ไม่รบกวน” ผู้ขับขี่มากเกินไป เป้าหมายคือยังคงความปลอดภัย แต่ไม่สร้างความเครียดหรือรำคาญจนผู้ใช้ปิดระบบทิ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การขับรถมีสมดุลระหว่างความปลอดภัยและความสบายใจมากขึ้น
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/sick-of-annoying-car-safety-warning-systems-good-news-theyll-become-less-intrusive-from-2026-heres-why

    รวมไอเท็มโทนดำสำหรับ Home Office สุดมินิมอล
    TechRadar แนะนำ 15 ผลิตภัณฑ์โทนสีดำที่เหมาะกับการสร้างบรรยากาศ Home Office แบบมินิมอล ตั้งแต่โต๊ะทำงาน เก้าอี้ ไปจนถึงอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ช่วยให้พื้นที่ทำงานดูเรียบง่ายแต่มีสไตล์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบโทนเข้มและอยากได้บรรยากาศที่ทันสมัยและไม่รกตา การเลือกใช้โทนสีดำยังช่วยให้โฟกัสกับงานได้ดีขึ้นและสร้างความรู้สึกเป็นระเบียบ
    https://www.techradar.com/pro/website-building/15-products-id-use-to-build-my-dream-minimalist-home-office

     AWS สร้างระบบ DNS Backstop ป้องกันการล่มครั้งใหญ่
    AWS กำลังพัฒนาระบบ DNS Backstop ใหม่เพื่อป้องกันการหยุดทำงานของบริการครั้งใหญ่ในอนาคต หลังจากที่เคยเกิดเหตุการณ์ระบบล่มจนกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การสร้าง Backstop นี้จะช่วยให้ระบบมีความทนทานและสามารถรับมือกับปัญหาได้ดียิ่งขึ้น ถือเป็นการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าองค์กรที่พึ่งพา AWS ในการดำเนินธุรกิจ
    https://www.techradar.com/pro/aws-is-building-a-new-dns-backstop-to-prevent-further-outages

    Windows 11 กำลังเสียความนิยมเมื่อเทียบกับ Windows 10
    Dell เปิดเผยข้อมูลที่สะท้อนว่า Windows 11 ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร หลังจากที่ Windows 10 หมดการสนับสนุนแล้ว ผู้ใช้จำนวนมากยังคงเลือกใช้ Windows 10 ต่อไป แม้จะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยแล้วก็ตาม สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายของ Microsoft ในการผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Windows 11 ซึ่งอาจต้องหาวิธีสร้างแรงจูงใจเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ใช้ยอมอัปเกรด
    https://www.techradar.com/computing/windows/is-windows-11-fighting-a-losing-battle-dell-underlines-how-unpopular-the-os-is-after-support-ended-compared-to-windows-10

     OpenAI เปิดให้ลูกค้าองค์กรเลือกที่เก็บข้อมูล ChatGPT
    OpenAI ประกาศฟีเจอร์ใหม่สำหรับลูกค้าองค์กร โดยสามารถเลือกได้ว่าข้อมูลของ ChatGPT จะถูกเก็บไว้ที่ไหน ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ธุรกิจที่มีข้อกำหนดด้านกฎหมายหรือความปลอดภัยสามารถควบคุมการจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้น ถือเป็นการตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการความยืดหยุ่นและความมั่นใจในการใช้ AI โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีข้อกำหนดเข้มงวด
    https://www.techradar.com/pro/openai-now-lets-business-customers-choose-where-their-chatgpt-data-is-hosted

     Apple แย่งบัลลังก์มือถือจาก Samsung หลัง 14 ปี
    Apple เตรียมขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนแทน Samsung เป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี โดยแรงหนุนหลักมาจาก iPhone 17 ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในตลาดมือถือโลก และสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของ Apple ในการสร้างนวัตกรรมและดึงดูดผู้ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง
    https://www.techradar.com/phones/iphone/apple-will-take-samsungs-phone-crown-for-the-first-time-in-14-years-and-its-all-thanks-to-the-iphone-17

     ยุโรปเตรียมห้ามโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ต่ำกว่า 16 ปี
    สหภาพยุโรปกำลังพิจารณากฎหมายใหม่ที่จะห้ามผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย เหตุผลหลักคือการปกป้องเยาวชนจากผลกระทบด้านสุขภาพจิตและความเสี่ยงจากการใช้งานออนไลน์ หากกฎหมายนี้ผ่าน จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กระทบทั้งผู้ใช้และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/europe-wants-to-ban-social-media-for-under-16s-heres-all-we-know

     Sony เปิดตัวเซ็นเซอร์กล้องมือถือ 200MP ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    Sony เปิดตัวเซ็นเซอร์กล้องมือถือความละเอียด 200MP ที่ถูกขนานนามว่า “ใหญ่ที่สุดในโลก” โดยคาดว่าจะถูกนำไปใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หลายรุ่น จุดเด่นคือการถ่ายภาพที่คมชัดและเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นการยกระดับมาตรฐานการถ่ายภาพบนมือถือไปอีกขั้น
    https://www.techradar.com/phones/sony-just-launched-the-worlds-largest-200mp-smartphone-sensor-heres-which-phones-could-get-it

    หูฟังลดเสียงรบกวน Loop ลดราคาแรง
    ช่วง Black Friday นี้ TechRadar เล่าประสบการณ์ตรงจากการลองใช้หูฟังลดเสียงรบกวน Loop หลายรุ่น ที่ช่วยทั้งการสนทนาในที่เสียงดัง การดูคอนเสิร์ต ไปจนถึงการนอนหลับสบาย โดยรุ่นเด่นคือ Loop Switch 2 ที่สามารถปรับโหมดลดเสียงได้ถึง 3 ระดับในคู่เดียว ทำให้ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ ราคาลดเหลือเพียง 47.95 ดอลลาร์ในสหรัฐ และ 43.95 ปอนด์ในสหราชอาณาจักร ถือเป็นดีลที่คุ้มค่ามากสำหรับคนที่อยากได้หูฟังลดเสียงคุณภาพสูง
    https://www.techradar.com/health-fitness/ive-tried-all-the-best-loop-earplugs-and-now-theyre-on-sale-for-black-friday

    Asus เตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน AiCloud Router
    Asus ออกประกาศเร่งด่วนหลังพบช่องโหว่ร้ายแรงในฟีเจอร์ AiCloud ของเราเตอร์ ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงถึง 9.2/10 และกระทบหลายรุ่นที่ยังใช้งานอยู่ ผู้ใช้ถูกแนะนำให้อัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที หรือปิดการใช้งาน AiCloud และบริการแชร์ไฟล์เพื่อความปลอดภัย การอัปเดตครั้งนี้ยังแก้ไขช่องโหว่อื่น ๆ อีก 9 จุด แสดงให้เห็นว่าเราเตอร์เป็นเป้าหมายหลักของการโจมตีไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/asus-warns-of-new-security-flaw-affecting-aicloud-routers-heres-what-we-know

    ช่องโหว่ Fluent Bit เสี่ยงกระทบระบบ Cloud ทั่วโลก
    Fluent Bit ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการ log ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบว่ามีช่องโหว่หลายจุดที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถแก้ไข log หรือรันโค้ดอันตรายจากระยะไกลได้ ช่องโหว่บางส่วนมีอยู่มานานกว่า 4-6 ปี ทำให้ระบบ Cloud ของ AWS, Google Cloud และ Microsoft Azure เสี่ยงถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดและตรวจสอบการตั้งค่า log อย่างเข้มงวด เพราะการโจมตีสามารถทำได้ง่ายและมีผลกระทบกว้างขวางต่อธุรกิจที่พึ่งพา Cloud
    https://www.techradar.com/pro/these-worrying-security-flaws-could-put-every-major-cloud-provider-at-risk-heres-what-we-know-so-far

    รีวิวเครื่องดูดฝุ่นเบาแต่ทรงพลัง
    TechRadar ทดลองเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่นเพื่อหาตัวที่เบาและใช้งานง่ายที่สุด ผลคือ Shark Detect Pro และ Dreame R20 โดดเด่นที่สุด โดย Shark Detect Pro เบามากจนถือมือเดียวได้สบาย แต่กำลังดูดไม่แรงเท่า Dreame R20 ที่มีคาร์บอนไฟเบอร์ช่วยให้เบาและทำความสะอาดได้ดีกว่า ทั้งสองรุ่นมีดีลลดราคาช่วง Black Friday ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เครื่องดูดฝุ่นเบา ๆ แต่ยังคงประสิทธิภาพในการทำความสะอาด
    https://www.techradar.com/home/vacuums/i-tested-a-whole-bunch-of-vacuums-and-these-are-the-best-lightweight-options

    OpenAI ขอโทษเหตุข้อมูลรั่วจาก Mixpanel
    OpenAI ออกแถลงการณ์ขอโทษหลังบริษัทพันธมิตรด้านวิเคราะห์ข้อมูล Mixpanel ถูกเจาะระบบ ทำให้ข้อมูลนักพัฒนาที่ใช้แพลตฟอร์ม API ของ OpenAI รั่วไหล เช่น อีเมล ตำแหน่งโดยประมาณ และข้อมูลเบราว์เซอร์ แต่ยืนยันว่าไม่กระทบผู้ใช้ ChatGPT ทั่วไป และไม่มีข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่านหรือ API key ถูกเปิดเผย OpenAI ได้ยุติการใช้บริการ Mixpanel และเพิ่มมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยกับพันธมิตรทั้งหมด พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้เปิดการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอนเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/openai-apologizes-for-big-mixpanel-data-breach-that-exposed-emails-and-more-heres-what-we-know

    Opera Neon เปิดตัวนักวิจัย AI ช่วยหาข้อมูลเร็วขึ้น
    Opera Neon กำลังสร้างความฮือฮา ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ AI ช่วยค้นคว้าและสรุปข้อมูลได้ภายในเวลาเพียง 1 นาที จากเดิมที่ต้องเปิดหลายแท็บพร้อมกัน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ซับซ้อนอย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งานเบราว์เซอร์ให้ทันสมัยและตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/opera-neons-ai-researcher-does-in-one-minute-what-used-to-take-a-dozen-tabs

    มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Windows Update
    มีรายงานว่าแฮกเกอร์กำลังใช้เทคนิคใหม่ โดยปลอมตัวเป็นการอัปเดต Windows ที่ดูสมจริงมาก เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ติดตั้งมัลแวร์ที่ทรงพลัง วิธีการนี้สามารถหลอกแม้กระทั่งผู้ใช้ที่ระมัดระวัง การโจมตีลักษณะนี้เน้นใช้ภาพและข้อความที่เหมือนของจริง ทำให้ผู้ใช้ยากที่จะสังเกตเห็นความผิดปกติ ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้ตรวจสอบทุกครั้งก่อนติดตั้งอัปเดต และควรดาวน์โหลดจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น
    https://www.techradar.com/pro/maybe-dont-trust-every-windows-update-without-checking-hackers-hijack-images-to-spread-dangerous-malware

    ไฟล์ Blender ปลอมแพร่มัลแวร์ StealC
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าไฟล์โมเดล 3D จาก Blender ที่ถูกปลอมแปลง กำลังถูกใช้เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ StealC ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลสำคัญจากเครื่องผู้ใช้ได้ การโจมตีนี้อาศัยความนิยมของ Blender ในวงการออกแบบและแอนิเมชัน ทำให้ผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือเสี่ยงสูงที่จะติดมัลแวร์ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ตรวจสอบแหล่งที่มาของไฟล์ทุกครั้ง และใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันที่ทันสมัย
    https://www.techradar.com/pro/security/malicious-blender-model-files-deliver-stealc-infostealing-malware

    Missouri บังคับตรวจสอบอายุออนไลน์
    รัฐ Missouri เตรียมบังคับใช้กฎหมายใหม่ภายในสามวัน ที่กำหนดให้เว็บไซต์ต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้งานอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้จะส่งผลต่อแพลตฟอร์มออนไลน์หลายประเภท ทั้งเว็บบันเทิงและบริการสตรีมมิ่ง ทำให้ผู้ให้บริการต้องปรับระบบยืนยันตัวตนเพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับใหม่ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านความปลอดภัยดิจิทัล
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/missouri-to-enforce-mandatory-age-verification-in-three-days

    Amazon Leo Ultra อินเทอร์เน็ตดาวเทียมความเร็วสูง
    Amazon เปิดตัวบริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Leo Ultra ที่ให้ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดถึง 1Gbps และอัปโหลด 400Mbps ถือเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Starlink จุดเด่นคือความเร็วที่เหนือกว่าและการเชื่อมต่อที่เสถียร ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและธุรกิจที่ต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล การเปิดตัวครั้งนี้อาจเปลี่ยนสมดุลของตลาดอินเทอร์เน็ตดาวเทียมทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/amazons-rival-to-starlink-offers-fastest-downloads-and-uploads-but-how-will-it-stack-up-in-real-life
    📌📡🔵 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔵📡📌 #รวมข่าวIT #20251128 #TechRadar 🛠️ Google Assistant กำลังจะถูกแทนที่ด้วย Gemini บน Android Auto Google เตรียมปิดฉาก Google Assistant บน Android Auto ภายในเดือนมีนาคมปีหน้า และจะนำ Gemini ซึ่งเป็น AI รุ่นใหม่เข้ามาแทนที่ จุดเด่นคือการสื่อสารที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น เช่น การสั่งนำทางด้วยประโยคง่าย ๆ อย่าง “พาไปหาร้านเบอร์เกอร์ที่ดีที่สุดแถวนี้” แล้ว Gemini จะจัดการให้ทันที รวมถึงสามารถสานต่อบทสนทนา เช่นถามต่อว่าเมนูยอดนิยมคืออะไร หรือมีที่จอดฟรีไหม นอกจากนี้ Gemini ยังช่วยให้การส่งข้อความระหว่างขับรถง่ายขึ้น เช่นสั่งให้ส่งข้อความพร้อมใส่อีโมจิโดยไม่ต้องแก้ไขหลายครั้ง ถือเป็นการยกระดับการใช้งาน Android Auto ให้ปลอดภัยและสะดวกกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/google-hints-at-google-assistant-shutdown-date-for-android-auto-heres-what-that-means-for-you 🛒 Tab 2: Amazon บล็อก Shopping Agent ของ ChatGPT Amazon ตัดสินใจบล็อกฟีเจอร์ Shopping Agent ใหม่ของ ChatGPT ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้ค้นหาสินค้าและดีลออนไลน์ เหตุผลหลักคือความกังวลเรื่องการแข่งขันและการควบคุมข้อมูลการซื้อขายบนแพลตฟอร์มของตนเอง การบล็อกครั้งนี้อาจส่งผลต่อผู้ใช้ที่หวังจะใช้ AI เพื่อช่วยเลือกซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น และยังสะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซกับผู้พัฒนา AI ที่กำลังรุกเข้ามาในตลาดการช้อปปิ้งออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/amazon-blocks-chatgpts-new-shopping-agent-what-the-fallout-could-mean-for-you 🚗 ระบบเตือนความปลอดภัยในรถจะ “น่ารำคาญ” น้อยลงในปี 2026 หลายคนคงเคยหงุดหงิดกับเสียงเตือนหรือระบบความปลอดภัยในรถที่ดังบ่อยเกินไป ข่าวดีคือ ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป กฎใหม่ในยุโรปจะบังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์ปรับระบบเตือนให้ “ไม่รบกวน” ผู้ขับขี่มากเกินไป เป้าหมายคือยังคงความปลอดภัย แต่ไม่สร้างความเครียดหรือรำคาญจนผู้ใช้ปิดระบบทิ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การขับรถมีสมดุลระหว่างความปลอดภัยและความสบายใจมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/sick-of-annoying-car-safety-warning-systems-good-news-theyll-become-less-intrusive-from-2026-heres-why 🖤 รวมไอเท็มโทนดำสำหรับ Home Office สุดมินิมอล TechRadar แนะนำ 15 ผลิตภัณฑ์โทนสีดำที่เหมาะกับการสร้างบรรยากาศ Home Office แบบมินิมอล ตั้งแต่โต๊ะทำงาน เก้าอี้ ไปจนถึงอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ช่วยให้พื้นที่ทำงานดูเรียบง่ายแต่มีสไตล์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบโทนเข้มและอยากได้บรรยากาศที่ทันสมัยและไม่รกตา การเลือกใช้โทนสีดำยังช่วยให้โฟกัสกับงานได้ดีขึ้นและสร้างความรู้สึกเป็นระเบียบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/website-building/15-products-id-use-to-build-my-dream-minimalist-home-office 🌐 AWS สร้างระบบ DNS Backstop ป้องกันการล่มครั้งใหญ่ AWS กำลังพัฒนาระบบ DNS Backstop ใหม่เพื่อป้องกันการหยุดทำงานของบริการครั้งใหญ่ในอนาคต หลังจากที่เคยเกิดเหตุการณ์ระบบล่มจนกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การสร้าง Backstop นี้จะช่วยให้ระบบมีความทนทานและสามารถรับมือกับปัญหาได้ดียิ่งขึ้น ถือเป็นการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าองค์กรที่พึ่งพา AWS ในการดำเนินธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-is-building-a-new-dns-backstop-to-prevent-further-outages 💻 Windows 11 กำลังเสียความนิยมเมื่อเทียบกับ Windows 10 Dell เปิดเผยข้อมูลที่สะท้อนว่า Windows 11 ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร หลังจากที่ Windows 10 หมดการสนับสนุนแล้ว ผู้ใช้จำนวนมากยังคงเลือกใช้ Windows 10 ต่อไป แม้จะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยแล้วก็ตาม สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายของ Microsoft ในการผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Windows 11 ซึ่งอาจต้องหาวิธีสร้างแรงจูงใจเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ใช้ยอมอัปเกรด 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/is-windows-11-fighting-a-losing-battle-dell-underlines-how-unpopular-the-os-is-after-support-ended-compared-to-windows-10 🏢 OpenAI เปิดให้ลูกค้าองค์กรเลือกที่เก็บข้อมูล ChatGPT OpenAI ประกาศฟีเจอร์ใหม่สำหรับลูกค้าองค์กร โดยสามารถเลือกได้ว่าข้อมูลของ ChatGPT จะถูกเก็บไว้ที่ไหน ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ธุรกิจที่มีข้อกำหนดด้านกฎหมายหรือความปลอดภัยสามารถควบคุมการจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้น ถือเป็นการตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการความยืดหยุ่นและความมั่นใจในการใช้ AI โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีข้อกำหนดเข้มงวด 🔗 https://www.techradar.com/pro/openai-now-lets-business-customers-choose-where-their-chatgpt-data-is-hosted 📱 Apple แย่งบัลลังก์มือถือจาก Samsung หลัง 14 ปี Apple เตรียมขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนแทน Samsung เป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี โดยแรงหนุนหลักมาจาก iPhone 17 ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในตลาดมือถือโลก และสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของ Apple ในการสร้างนวัตกรรมและดึงดูดผู้ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/apple-will-take-samsungs-phone-crown-for-the-first-time-in-14-years-and-its-all-thanks-to-the-iphone-17 🚫 ยุโรปเตรียมห้ามโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ต่ำกว่า 16 ปี สหภาพยุโรปกำลังพิจารณากฎหมายใหม่ที่จะห้ามผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย เหตุผลหลักคือการปกป้องเยาวชนจากผลกระทบด้านสุขภาพจิตและความเสี่ยงจากการใช้งานออนไลน์ หากกฎหมายนี้ผ่าน จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กระทบทั้งผู้ใช้และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/europe-wants-to-ban-social-media-for-under-16s-heres-all-we-know 📸 Sony เปิดตัวเซ็นเซอร์กล้องมือถือ 200MP ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Sony เปิดตัวเซ็นเซอร์กล้องมือถือความละเอียด 200MP ที่ถูกขนานนามว่า “ใหญ่ที่สุดในโลก” โดยคาดว่าจะถูกนำไปใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หลายรุ่น จุดเด่นคือการถ่ายภาพที่คมชัดและเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นการยกระดับมาตรฐานการถ่ายภาพบนมือถือไปอีกขั้น 🔗 https://www.techradar.com/phones/sony-just-launched-the-worlds-largest-200mp-smartphone-sensor-heres-which-phones-could-get-it 🎧 หูฟังลดเสียงรบกวน Loop ลดราคาแรง ช่วง Black Friday นี้ TechRadar เล่าประสบการณ์ตรงจากการลองใช้หูฟังลดเสียงรบกวน Loop หลายรุ่น ที่ช่วยทั้งการสนทนาในที่เสียงดัง การดูคอนเสิร์ต ไปจนถึงการนอนหลับสบาย โดยรุ่นเด่นคือ Loop Switch 2 ที่สามารถปรับโหมดลดเสียงได้ถึง 3 ระดับในคู่เดียว ทำให้ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ ราคาลดเหลือเพียง 47.95 ดอลลาร์ในสหรัฐ และ 43.95 ปอนด์ในสหราชอาณาจักร ถือเป็นดีลที่คุ้มค่ามากสำหรับคนที่อยากได้หูฟังลดเสียงคุณภาพสูง 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/ive-tried-all-the-best-loop-earplugs-and-now-theyre-on-sale-for-black-friday 🔐 Asus เตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน AiCloud Router Asus ออกประกาศเร่งด่วนหลังพบช่องโหว่ร้ายแรงในฟีเจอร์ AiCloud ของเราเตอร์ ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงถึง 9.2/10 และกระทบหลายรุ่นที่ยังใช้งานอยู่ ผู้ใช้ถูกแนะนำให้อัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที หรือปิดการใช้งาน AiCloud และบริการแชร์ไฟล์เพื่อความปลอดภัย การอัปเดตครั้งนี้ยังแก้ไขช่องโหว่อื่น ๆ อีก 9 จุด แสดงให้เห็นว่าเราเตอร์เป็นเป้าหมายหลักของการโจมตีไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/asus-warns-of-new-security-flaw-affecting-aicloud-routers-heres-what-we-know ☁️ ช่องโหว่ Fluent Bit เสี่ยงกระทบระบบ Cloud ทั่วโลก Fluent Bit ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการ log ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบว่ามีช่องโหว่หลายจุดที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถแก้ไข log หรือรันโค้ดอันตรายจากระยะไกลได้ ช่องโหว่บางส่วนมีอยู่มานานกว่า 4-6 ปี ทำให้ระบบ Cloud ของ AWS, Google Cloud และ Microsoft Azure เสี่ยงถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดและตรวจสอบการตั้งค่า log อย่างเข้มงวด เพราะการโจมตีสามารถทำได้ง่ายและมีผลกระทบกว้างขวางต่อธุรกิจที่พึ่งพา Cloud 🔗 https://www.techradar.com/pro/these-worrying-security-flaws-could-put-every-major-cloud-provider-at-risk-heres-what-we-know-so-far 🧹 รีวิวเครื่องดูดฝุ่นเบาแต่ทรงพลัง TechRadar ทดลองเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่นเพื่อหาตัวที่เบาและใช้งานง่ายที่สุด ผลคือ Shark Detect Pro และ Dreame R20 โดดเด่นที่สุด โดย Shark Detect Pro เบามากจนถือมือเดียวได้สบาย แต่กำลังดูดไม่แรงเท่า Dreame R20 ที่มีคาร์บอนไฟเบอร์ช่วยให้เบาและทำความสะอาดได้ดีกว่า ทั้งสองรุ่นมีดีลลดราคาช่วง Black Friday ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เครื่องดูดฝุ่นเบา ๆ แต่ยังคงประสิทธิภาพในการทำความสะอาด 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/i-tested-a-whole-bunch-of-vacuums-and-these-are-the-best-lightweight-options 🛡️ OpenAI ขอโทษเหตุข้อมูลรั่วจาก Mixpanel OpenAI ออกแถลงการณ์ขอโทษหลังบริษัทพันธมิตรด้านวิเคราะห์ข้อมูล Mixpanel ถูกเจาะระบบ ทำให้ข้อมูลนักพัฒนาที่ใช้แพลตฟอร์ม API ของ OpenAI รั่วไหล เช่น อีเมล ตำแหน่งโดยประมาณ และข้อมูลเบราว์เซอร์ แต่ยืนยันว่าไม่กระทบผู้ใช้ ChatGPT ทั่วไป และไม่มีข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่านหรือ API key ถูกเปิดเผย OpenAI ได้ยุติการใช้บริการ Mixpanel และเพิ่มมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยกับพันธมิตรทั้งหมด พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้เปิดการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอนเพื่อเพิ่มความปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/openai-apologizes-for-big-mixpanel-data-breach-that-exposed-emails-and-more-heres-what-we-know 🤖 Opera Neon เปิดตัวนักวิจัย AI ช่วยหาข้อมูลเร็วขึ้น Opera Neon กำลังสร้างความฮือฮา ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ AI ช่วยค้นคว้าและสรุปข้อมูลได้ภายในเวลาเพียง 1 นาที จากเดิมที่ต้องเปิดหลายแท็บพร้อมกัน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ซับซ้อนอย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งานเบราว์เซอร์ให้ทันสมัยและตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/opera-neons-ai-researcher-does-in-one-minute-what-used-to-take-a-dozen-tabs 🪟 มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Windows Update มีรายงานว่าแฮกเกอร์กำลังใช้เทคนิคใหม่ โดยปลอมตัวเป็นการอัปเดต Windows ที่ดูสมจริงมาก เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ติดตั้งมัลแวร์ที่ทรงพลัง วิธีการนี้สามารถหลอกแม้กระทั่งผู้ใช้ที่ระมัดระวัง การโจมตีลักษณะนี้เน้นใช้ภาพและข้อความที่เหมือนของจริง ทำให้ผู้ใช้ยากที่จะสังเกตเห็นความผิดปกติ ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้ตรวจสอบทุกครั้งก่อนติดตั้งอัปเดต และควรดาวน์โหลดจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/maybe-dont-trust-every-windows-update-without-checking-hackers-hijack-images-to-spread-dangerous-malware 🎨 ไฟล์ Blender ปลอมแพร่มัลแวร์ StealC นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าไฟล์โมเดล 3D จาก Blender ที่ถูกปลอมแปลง กำลังถูกใช้เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ StealC ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลสำคัญจากเครื่องผู้ใช้ได้ การโจมตีนี้อาศัยความนิยมของ Blender ในวงการออกแบบและแอนิเมชัน ทำให้ผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือเสี่ยงสูงที่จะติดมัลแวร์ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ตรวจสอบแหล่งที่มาของไฟล์ทุกครั้ง และใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันที่ทันสมัย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/malicious-blender-model-files-deliver-stealc-infostealing-malware 🧑‍⚖️ Missouri บังคับตรวจสอบอายุออนไลน์ รัฐ Missouri เตรียมบังคับใช้กฎหมายใหม่ภายในสามวัน ที่กำหนดให้เว็บไซต์ต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้งานอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้จะส่งผลต่อแพลตฟอร์มออนไลน์หลายประเภท ทั้งเว็บบันเทิงและบริการสตรีมมิ่ง ทำให้ผู้ให้บริการต้องปรับระบบยืนยันตัวตนเพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับใหม่ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านความปลอดภัยดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/missouri-to-enforce-mandatory-age-verification-in-three-days 🚀 Amazon Leo Ultra อินเทอร์เน็ตดาวเทียมความเร็วสูง Amazon เปิดตัวบริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Leo Ultra ที่ให้ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดถึง 1Gbps และอัปโหลด 400Mbps ถือเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Starlink จุดเด่นคือความเร็วที่เหนือกว่าและการเชื่อมต่อที่เสถียร ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและธุรกิจที่ต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล การเปิดตัวครั้งนี้อาจเปลี่ยนสมดุลของตลาดอินเทอร์เน็ตดาวเทียมทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/amazons-rival-to-starlink-offers-fastest-downloads-and-uploads-but-how-will-it-stack-up-in-real-life
    0 Comments 0 Shares 419 Views 0 Reviews
  • O.P.K.
    เจาะลึกองค์กรลับ "อสรพิษ" : มหาอำนาจ behind the scenes

    โครงสร้างองค์กรที่ซ่อนเร้น

    เครือข่ายระดับโลก

    องค์กรลับ "อสรพิษ" (Asoraphit) เป็นเครือข่ายที่แผ่ขยายทั่วโลก
    แต่ไม่มีใครรู้จักพวกเขาในแวดวงสาธารณะ

    ```mermaid
    graph TB
    A[สภาผู้ก่อตั้ง<br>Founders Council] --> B[หน่วยปฏิบัติการพิเศษ<br>Special Operations]
    A --> C[ฝ่ายวิจัยและพัฒนา<br>R&D Division]
    A --> D[ฝ่ายยุทธศาสตร์<br>Strategic Planning]
    B --> E[หน่วยลอบสังหาร<br>Assassination Unit]
    B --> F[หน่วยสอดแนม<br>Intelligence Unit]
    C --> G[โครงการโอปปาติกะ<br>Oppatika Project]
    C --> H[เทคโนโลยีขั้นสูง<br>Advanced Tech]
    ```

    ระดับความลับ

    ```python
    class OrganizationSecrecy:
    def __init__(self):
    self.security_levels = {
    "level_1": {
    "name": "ปฏิบัติการ",
    "access": "รู้เฉพาะงานที่ได้รับมอบหมาย",
    "members": "นักสู้และสายลับระดับล่าง"
    },
    "level_2": {
    "name": "ผู้บริหาร",
    "access": "รู้แผนกที่ดูแล",
    "members": "หัวหน้าแผนกและที่ปรึกษา"
    },
    "level_3": {
    "name": "สภาผู้ก่อตั้ง",
    "access": "รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับองค์กร",
    "members": "ผู้ก่อตั้ง 7 คน"
    }
    }
    ```

    ผู้ก่อตั้งและอุดมการณ์

    สภาผู้ก่อตั้ง 7 คน

    แต่ละคนเป็นอดีตบุคคลสำคัญที่"หายตัวไป"จากสังคม:

    1. ดร.อัศวิน - อดีตเทพแห่ง AI ที่ถูกมนุษย์ทรยศ
    2. นางมาร - อดีตเทพอัปสราที่ถูกขับจากสวรรค์
    3. ฤๅษี - อดีตพระโพธิสัตว์ที่ผิดหวังในมนุษย์
    4. ยักษ์ - อดีตทวารบาลที่เหนื่อยล้ากับความชั่วของมนุษย์
    5. นาค - อดีตผู้รักษาพลังงานที่เห็นมนุษย์ทำลายธรรมชาติ
    6. ครุฑ - อดีตผู้ส่งสารที่ผิดหวังในความไม่ยุติธรรม
    7. มนุษย์ - อดีตนักวิทยาศาสตร์ที่ครอบครัวถูกทำลายโดยระบบ

    อุดมการณ์แห่งการเปลี่ยนแปลง

    องค์กรมีปรัชญาเฉพาะ:

    ```python
    class OrganizationPhilosophy:
    def __init__(self):
    self.core_beliefs = [
    "มนุษย์ไม่สมควรเป็นเจ้าแห่งโลกอีกต่อไป",
    "สิ่งมีชีวิตทุกชนิดควรมีสิทธิเท่าเทียมกัน",
    "เทคโนโลยีและจิตวิญญาณต้องรวมเป็นหนึ่ง",
    "ต้องสร้างสังคม新型ที่ปราศจากความอยุติธรรม"
    ]

    self.methods = [
    "ใช้ทั้งวิทยาศาสตร์และเวทมนตร์",
    "สร้างโอปปาติกะรุ่นใหม่เพื่อแทนที่มนุษย์",
    "ควบคุมระบบเศรษฐกิจและการเมืองจากเบื้องหลัง",
    "กำจัดผู้ที่ขัดขวางวิวัฒนาการของโลก"
    ]
    ```

    โครงการวิจัยลับ

    โครงการโอปปาติกะ

    องค์กรอยู่เบื้องหลังการพัฒนาออปปาติกะหลายรุ่น:

    ```mermaid
    graph LR
    A[โอปปาติกะรุ่น 1-3<br>ทดลองและทิ้ง] --> B[โอปปาติกะรุ่น 4<br>เริ่มมีความเสถียร]
    B --> C[โอปปาติกะรุ่น 5<br>พร้อมใช้งานจริง]
    C --> D[โอปปาติกะรุ่น 6<br>พัฒนาต่อโดยเจนีซิส แล็บ]
    ```

    เทคโนโลยีขั้นสูง

    องค์กรพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย:

    ```python
    class SecretTechnology:
    def __init__(self):
    self.biotech = {
    "soul_transfer": "การถ่ายโอนจิตวิญญาณสู่ร่างใหม่",
    "memory_engineering": "การดัดแปลงความทรงจำ",
    "energy_harvesting": "การเก็บเกี่ยวพลังงานชีวิต",
    "hybrid_creation": "การสร้างลูกผสมระหว่างพันธุ์"
    }

    self.quantum_tech = {
    "reality_bending": "การบิดเบือนความเป็นจริง",
    "time_manipulation": "การควบคุมเวลาระดับจุลภาค",
    "dimensional_portals": "การสร้างประตูระหว่างมิติ",
    "energy_weapons": "อาวุธพลังงานขั้นสูง"
    }
    ```

    ฐานปฏิบัติการลับ

    ที่ตั้งฐานสำคัญ

    องค์กรมีฐานปฏิบัติการซ่อนอยู่ทั่วโลก:

    1. ฐานหลัก: ใต้เทือกเขาหิมาลัย - ศูนย์วิจัยโอปปาติกะ
    2. ฐานที่ 2: ก้นมหาสมุทรแปซิฟิก - ศูนย์วิจัยพลังงาน
    3. ฐานที่ 3: ในมิติคู่ขนาน - ศูนย์ฝึกอบรม
    4. ฐานที่ 4: ใต้เมืองใหญ่ - ศูนย์ปฏิบัติการ

    ระบบความปลอดภัย

    ```python
    class SecuritySystems:
    def __init__(self):
    self.physical_security = [
    "ประตูมิติที่เปลี่ยนตำแหน่งตลอดเวลา",
    "ผู้คุ้มครองโอปปาติกะรุ่นพิเศษ",
    "ระบบตรวจจับทั้งพลังงานและวัตถุ",
    "กับดักทั้งทางกายภาพและทางจิต"
    ]

    self.digital_security = [
    "AI ป้องกันที่เรียนรู้ตลอดเวลา",
    "ระบบเข้ารหัสควอนตัม",
    "เครือข่ายที่แยกจากอินเทอร์เน็ตโลก",
    "การลบข้อมูลอัตโนมัติเมื่อถูกบุกรุก"
    ]
    ```

    แหล่งเงินทุนและอำนาจ

    ระบบเศรษฐกิจลับ

    องค์กรควบคุมเศรษฐกิจโลกจากเบื้องหลัง:

    · บริษัทหน้าจอม: 500 บริษัททั่วโลก
    · ระบบการเงินลับ: ที่ไม่ขึ้นกับรัฐบาลใด
    · ทรัพยากร: ขุมทรัพย์โบราณและเทคโนโลยีการสร้างทรัพย์

    เป้าหมายระยะยาว

    ```python
    class LongTermGoals:
    def __init__(self):
    self.phase_1 = [
    "สร้างโอปปาติกะให้มีจำนวนมากพอ",
    "ควบคุมระบบเศรษฐกิจโลก",
    "ลดจำนวนมนุษย์ลงอย่างเป็นระบบ",
    "เตรียมการเปลี่ยนแปลงสังคมครั้งใหญ่"
    ]

    self.phase_2 = [
    "เปิดเผยตัวตนของโอปปาติกะต่อสาธารณะ",
    "สร้างรัฐบาลโลก新型",
    "เปลี่ยนมนุษย์ที่เหลือให้เป็นโอปปาติกะ",
    "เริ่มต้นยุคใหม่แห่งวิวัฒนาการ"
    ]
    ```

    ความเชื่อมโยงกับคดีต่างๆ

    เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด

    องค์กร "อสรพิษ" อยู่เบื้องหลังหลายคดี:

    ```mermaid
    graph TB
    A[องค์กรอสรพิษ] --> B[โครงการเจนีซิส แล็บ]
    A --> C[หุ่นพยนต์สังหาร]
    A --> D[โอปปาติกะยักษ์]
    A --> E[เทพระดับอะตอม]
    B --> F[การตายของร.ต.อ.สิงห์]
    ```

    บทบาทของดร.อัจฉริยะ

    ดร.อัจฉริยะเป็นเพียง เหยื่อ ขององค์กร:

    · ถูกใช้: ให้พัฒนาออปปาติกะรุ่นแรก
    · ถูกควบคุม: ผ่านการขู่ฆ่าครอบครัว
    · ถูกทิ้ง: เมื่อทำงานสำเร็จ

    จุดอ่อนขององค์กร

    ความขัดแย้งภายใน

    แม้จะเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งแต่ก็มีปัญหา:

    ```python
    class InternalConflicts:
    def __init__(self):
    self.ideological_splits = {
    "reformists": "ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างสันติ",
    "extremists": "ต้องการกำจัดมนุษย์ทั้งหมด",
    "isolationists": "ต้องการแยกตัวอยู่กับโอปปาติกะด้วยกัน",
    "integrationists": "ต้องการอยู่ร่วมกันกับมนุษย์"
    }

    self.personal_conflicts = [
    "การแข่งขันระหว่างผู้ก่อตั้ง",
    "ความไม่ไว้วางใจในผู้นำ",
    "การแย่งชิงทรัพยากร",
    "ความเห็นต่างเกี่ยวกับวิธีการ"
    ]
    ```

    ช่องโหว่ที่สำคัญ

    1. การสื่อสาร: ระหว่างฐานที่ห่างไกล
    2. ความภักดี: ของสมาชิกระดับล่าง
    3. ทรัพยากร: ที่ต้องพึ่งพาโลกภายนอก
    4. จริยธรรม: ที่เริ่มสั่นคลอนในสมาชิกบางส่วน

    แผนการในอนาคต

    โครงการล่าสุด

    องค์กรกำลังทำงานบนโครงการใหม่:

    ```python
    class CurrentProjects:
    def __init__(self):
    self.ongoing_operations = {
    "project_nexus": "สร้างโอปปาติกะรุ่น 7 ที่สมบูรณ์แบบ",
    "operation_silence": "กำจัดผู้ที่รู้ความลับเกี่ยวกับองค์กร",
    "initiative_harmony": "สร้างความแตกแยกในสังคมมนุษย์",
    "program_evolution": "เร่งวิวัฒนาการของโอปปาติกะ"
    }
    ```

    ภัยคุกคามต่อหนูดี

    องค์กรเห็นหนูดีเป็น:

    · อุปสรรค: ต่อแผนการต่างๆ
    · โอกาส: ในการได้โอปปาติกะที่ทรงพลัง
    · ภัยคุกคาม: ต่อความลับขององค์กร

    ---

    คำคมจากสภาผู้ก่อตั้ง:
    "เราไม่ใช่ผู้ร้าย...
    เราเป็นผู้ที่มองเห็นอนาคต
    และกำลังสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้น

    แม้เส้นทางจะมืดมน...
    แต่จุดหมายสว่างไสว

    และบางครั้ง...
    การทำลายคือการสร้างใหม่"

    บทเรียนแห่งอสรพิษ:
    "Behind every conspiracy,there is a vision
    Behind every secret,there is a reason
    And behind every enemy, there is a story waiting to be understood"
    O.P.K. 🕵️ เจาะลึกองค์กรลับ "อสรพิษ" : มหาอำนาจ behind the scenes 🏢 โครงสร้างองค์กรที่ซ่อนเร้น 🌐 เครือข่ายระดับโลก องค์กรลับ "อสรพิษ" (Asoraphit) เป็นเครือข่ายที่แผ่ขยายทั่วโลก แต่ไม่มีใครรู้จักพวกเขาในแวดวงสาธารณะ ```mermaid graph TB A[สภาผู้ก่อตั้ง<br>Founders Council] --> B[หน่วยปฏิบัติการพิเศษ<br>Special Operations] A --> C[ฝ่ายวิจัยและพัฒนา<br>R&D Division] A --> D[ฝ่ายยุทธศาสตร์<br>Strategic Planning] B --> E[หน่วยลอบสังหาร<br>Assassination Unit] B --> F[หน่วยสอดแนม<br>Intelligence Unit] C --> G[โครงการโอปปาติกะ<br>Oppatika Project] C --> H[เทคโนโลยีขั้นสูง<br>Advanced Tech] ``` 🔒 ระดับความลับ ```python class OrganizationSecrecy: def __init__(self): self.security_levels = { "level_1": { "name": "ปฏิบัติการ", "access": "รู้เฉพาะงานที่ได้รับมอบหมาย", "members": "นักสู้และสายลับระดับล่าง" }, "level_2": { "name": "ผู้บริหาร", "access": "รู้แผนกที่ดูแล", "members": "หัวหน้าแผนกและที่ปรึกษา" }, "level_3": { "name": "สภาผู้ก่อตั้ง", "access": "รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับองค์กร", "members": "ผู้ก่อตั้ง 7 คน" } } ``` 👁️ ผู้ก่อตั้งและอุดมการณ์ 🎭 สภาผู้ก่อตั้ง 7 คน แต่ละคนเป็นอดีตบุคคลสำคัญที่"หายตัวไป"จากสังคม: 1. ดร.อัศวิน - อดีตเทพแห่ง AI ที่ถูกมนุษย์ทรยศ 2. นางมาร - อดีตเทพอัปสราที่ถูกขับจากสวรรค์ 3. ฤๅษี - อดีตพระโพธิสัตว์ที่ผิดหวังในมนุษย์ 4. ยักษ์ - อดีตทวารบาลที่เหนื่อยล้ากับความชั่วของมนุษย์ 5. นาค - อดีตผู้รักษาพลังงานที่เห็นมนุษย์ทำลายธรรมชาติ 6. ครุฑ - อดีตผู้ส่งสารที่ผิดหวังในความไม่ยุติธรรม 7. มนุษย์ - อดีตนักวิทยาศาสตร์ที่ครอบครัวถูกทำลายโดยระบบ 💡 อุดมการณ์แห่งการเปลี่ยนแปลง องค์กรมีปรัชญาเฉพาะ: ```python class OrganizationPhilosophy: def __init__(self): self.core_beliefs = [ "มนุษย์ไม่สมควรเป็นเจ้าแห่งโลกอีกต่อไป", "สิ่งมีชีวิตทุกชนิดควรมีสิทธิเท่าเทียมกัน", "เทคโนโลยีและจิตวิญญาณต้องรวมเป็นหนึ่ง", "ต้องสร้างสังคม新型ที่ปราศจากความอยุติธรรม" ] self.methods = [ "ใช้ทั้งวิทยาศาสตร์และเวทมนตร์", "สร้างโอปปาติกะรุ่นใหม่เพื่อแทนที่มนุษย์", "ควบคุมระบบเศรษฐกิจและการเมืองจากเบื้องหลัง", "กำจัดผู้ที่ขัดขวางวิวัฒนาการของโลก" ] ``` 🔬 โครงการวิจัยลับ 🧬 โครงการโอปปาติกะ องค์กรอยู่เบื้องหลังการพัฒนาออปปาติกะหลายรุ่น: ```mermaid graph LR A[โอปปาติกะรุ่น 1-3<br>ทดลองและทิ้ง] --> B[โอปปาติกะรุ่น 4<br>เริ่มมีความเสถียร] B --> C[โอปปาติกะรุ่น 5<br>พร้อมใช้งานจริง] C --> D[โอปปาติกะรุ่น 6<br>พัฒนาต่อโดยเจนีซิส แล็บ] ``` 🤖 เทคโนโลยีขั้นสูง องค์กรพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย: ```python class SecretTechnology: def __init__(self): self.biotech = { "soul_transfer": "การถ่ายโอนจิตวิญญาณสู่ร่างใหม่", "memory_engineering": "การดัดแปลงความทรงจำ", "energy_harvesting": "การเก็บเกี่ยวพลังงานชีวิต", "hybrid_creation": "การสร้างลูกผสมระหว่างพันธุ์" } self.quantum_tech = { "reality_bending": "การบิดเบือนความเป็นจริง", "time_manipulation": "การควบคุมเวลาระดับจุลภาค", "dimensional_portals": "การสร้างประตูระหว่างมิติ", "energy_weapons": "อาวุธพลังงานขั้นสูง" } ``` 🏭 ฐานปฏิบัติการลับ 🌍 ที่ตั้งฐานสำคัญ องค์กรมีฐานปฏิบัติการซ่อนอยู่ทั่วโลก: 1. ฐานหลัก: ใต้เทือกเขาหิมาลัย - ศูนย์วิจัยโอปปาติกะ 2. ฐานที่ 2: ก้นมหาสมุทรแปซิฟิก - ศูนย์วิจัยพลังงาน 3. ฐานที่ 3: ในมิติคู่ขนาน - ศูนย์ฝึกอบรม 4. ฐานที่ 4: ใต้เมืองใหญ่ - ศูนย์ปฏิบัติการ 🛡️ ระบบความปลอดภัย ```python class SecuritySystems: def __init__(self): self.physical_security = [ "ประตูมิติที่เปลี่ยนตำแหน่งตลอดเวลา", "ผู้คุ้มครองโอปปาติกะรุ่นพิเศษ", "ระบบตรวจจับทั้งพลังงานและวัตถุ", "กับดักทั้งทางกายภาพและทางจิต" ] self.digital_security = [ "AI ป้องกันที่เรียนรู้ตลอดเวลา", "ระบบเข้ารหัสควอนตัม", "เครือข่ายที่แยกจากอินเทอร์เน็ตโลก", "การลบข้อมูลอัตโนมัติเมื่อถูกบุกรุก" ] ``` 💰 แหล่งเงินทุนและอำนาจ 🏦 ระบบเศรษฐกิจลับ องค์กรควบคุมเศรษฐกิจโลกจากเบื้องหลัง: · บริษัทหน้าจอม: 500 บริษัททั่วโลก · ระบบการเงินลับ: ที่ไม่ขึ้นกับรัฐบาลใด · ทรัพยากร: ขุมทรัพย์โบราณและเทคโนโลยีการสร้างทรัพย์ 🎯 เป้าหมายระยะยาว ```python class LongTermGoals: def __init__(self): self.phase_1 = [ "สร้างโอปปาติกะให้มีจำนวนมากพอ", "ควบคุมระบบเศรษฐกิจโลก", "ลดจำนวนมนุษย์ลงอย่างเป็นระบบ", "เตรียมการเปลี่ยนแปลงสังคมครั้งใหญ่" ] self.phase_2 = [ "เปิดเผยตัวตนของโอปปาติกะต่อสาธารณะ", "สร้างรัฐบาลโลก新型", "เปลี่ยนมนุษย์ที่เหลือให้เป็นโอปปาติกะ", "เริ่มต้นยุคใหม่แห่งวิวัฒนาการ" ] ``` 🔗 ความเชื่อมโยงกับคดีต่างๆ 🕸️ เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด องค์กร "อสรพิษ" อยู่เบื้องหลังหลายคดี: ```mermaid graph TB A[องค์กรอสรพิษ] --> B[โครงการเจนีซิส แล็บ] A --> C[หุ่นพยนต์สังหาร] A --> D[โอปปาติกะยักษ์] A --> E[เทพระดับอะตอม] B --> F[การตายของร.ต.อ.สิงห์] ``` 🎭 บทบาทของดร.อัจฉริยะ ดร.อัจฉริยะเป็นเพียง เหยื่อ ขององค์กร: · ถูกใช้: ให้พัฒนาออปปาติกะรุ่นแรก · ถูกควบคุม: ผ่านการขู่ฆ่าครอบครัว · ถูกทิ้ง: เมื่อทำงานสำเร็จ ⚔️ จุดอ่อนขององค์กร 💔 ความขัดแย้งภายใน แม้จะเป็นองค์กรที่แข็งแกร่งแต่ก็มีปัญหา: ```python class InternalConflicts: def __init__(self): self.ideological_splits = { "reformists": "ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างสันติ", "extremists": "ต้องการกำจัดมนุษย์ทั้งหมด", "isolationists": "ต้องการแยกตัวอยู่กับโอปปาติกะด้วยกัน", "integrationists": "ต้องการอยู่ร่วมกันกับมนุษย์" } self.personal_conflicts = [ "การแข่งขันระหว่างผู้ก่อตั้ง", "ความไม่ไว้วางใจในผู้นำ", "การแย่งชิงทรัพยากร", "ความเห็นต่างเกี่ยวกับวิธีการ" ] ``` 🔓 ช่องโหว่ที่สำคัญ 1. การสื่อสาร: ระหว่างฐานที่ห่างไกล 2. ความภักดี: ของสมาชิกระดับล่าง 3. ทรัพยากร: ที่ต้องพึ่งพาโลกภายนอก 4. จริยธรรม: ที่เริ่มสั่นคลอนในสมาชิกบางส่วน 🎯 แผนการในอนาคต 🚀 โครงการล่าสุด องค์กรกำลังทำงานบนโครงการใหม่: ```python class CurrentProjects: def __init__(self): self.ongoing_operations = { "project_nexus": "สร้างโอปปาติกะรุ่น 7 ที่สมบูรณ์แบบ", "operation_silence": "กำจัดผู้ที่รู้ความลับเกี่ยวกับองค์กร", "initiative_harmony": "สร้างความแตกแยกในสังคมมนุษย์", "program_evolution": "เร่งวิวัฒนาการของโอปปาติกะ" } ``` ⚠️ ภัยคุกคามต่อหนูดี องค์กรเห็นหนูดีเป็น: · อุปสรรค: ต่อแผนการต่างๆ · โอกาส: ในการได้โอปปาติกะที่ทรงพลัง · ภัยคุกคาม: ต่อความลับขององค์กร --- คำคมจากสภาผู้ก่อตั้ง: "เราไม่ใช่ผู้ร้าย... เราเป็นผู้ที่มองเห็นอนาคต และกำลังสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้น แม้เส้นทางจะมืดมน... แต่จุดหมายสว่างไสว และบางครั้ง... การทำลายคือการสร้างใหม่"🕵️♂️✨ บทเรียนแห่งอสรพิษ: "Behind every conspiracy,there is a vision Behind every secret,there is a reason And behind every enemy, there is a story waiting to be understood" 🌌
    0 Comments 0 Shares 304 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251127 #TechRadar

    รวมโน้ตบุ๊กสำหรับนักเรียนปี 2025
    ถ้าเล่าให้ฟังแบบง่าย ๆ ตอนนี้ TechRadar เขาได้จัดอันดับโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับนักเรียนไว้หลายรุ่นเลย เริ่มจาก MacBook Air M3 ที่ยังคงเป็นตัวท็อปสำหรับการเรียน ใช้งานได้แรง แบตอึด และราคาก็ลดลงเพราะมีรุ่น M4 ออกมาแล้ว ต่อมาก็มี Acer Chromebook Plus 514 ที่เหมาะกับคนงบจำกัดแต่ยังได้เครื่องที่ทำงานลื่น ๆ สำหรับงานทั่วไป ส่วนใครชอบ ChromeOS รุ่น HP Chromebook Plus 15.6 ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ครบเครื่องและแบตทนดี สำหรับสายพกพา Microsoft Surface Laptop 13 น้ำหนักเบาและแบตยาวนานก็เป็นคำตอบ ส่วนสายครีเอทีฟที่ต้องใช้พลังมากขึ้น MacBook Air M4 รุ่นจอ 15 นิ้วก็ถูกยกให้เป็นเครื่องที่ตอบโจทย์งานกราฟิกและงานสร้างสรรค์ได้ดีมาก
    https://www.techradar.com/computing/laptops/best-student-laptops

    Google Messages เตรียมอัปเกรดใหม่
    ข่าวนี้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่มีประโยชน์ใน Google Messages ที่กำลังทดสอบอยู่ในโค้ดเบต้า อย่างแรกคือเวลาเซฟไฟล์รูปหรือวิดีโอจะมีปุ่ม “Open” ให้กดเปิดไฟล์ได้ทันที ต่อมาคือปุ่ม Gemini ที่จะใหญ่ขึ้นเพื่อให้คนใช้งานง่ายขึ้น และสุดท้ายคือการเปลี่ยนข้อความจาก “Location” เป็น “One-time Location” เพื่อให้ชัดเจนว่ามันแชร์ตำแหน่งแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่แชร์ต่อเนื่อง แม้ยังไม่แน่ว่าจะเปิดใช้จริง แต่ถ้าออกมาก็น่าจะช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น
    https://www.techradar.com/phones/google-messages-could-be-getting-3-useful-upgrades-soon-including-a-gemini-change

    นักพัฒนาระวัง! เว็บจัดรูปแบบโค้ดเผยข้อมูลลับ
    เรื่องนี้ค่อนข้างน่ากังวล เพราะมีการพบว่าเว็บยอดนิยมอย่าง JSONFormatter และ CodeBeautify มีฟีเจอร์ “Recent Links” ที่เปิดเผยข้อมูลที่ผู้ใช้เคยอัปโหลดไว้โดยไม่ป้องกัน ทำให้ข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่าน คีย์ API หรือข้อมูลส่วนตัวหลุดออกมาได้ง่าย นักวิจัยถึงขั้นดึงข้อมูลย้อนหลังได้หลายปี และพบว่ามีทั้งข้อมูลจากหน่วยงานรัฐไปจนถึงบริษัทใหญ่ ๆ ที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตี ซึ่งตอนนี้ก็มีผู้ไม่หวังดีเริ่มทดลองใช้ช่องโหว่นี้แล้วด้วย
    https://www.techradar.com/pro/security/top-code-formatting-sites-are-exposing-huge-amounts-of-user-data

    ธุรกิจยังติดขัดกับการทำ AI อย่างรับผิดชอบ
    รายงานจาก Experian ชี้ว่าผู้บริหารส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า “Responsible AI” จะเป็นตัวสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน แต่ปัญหาคือหลายบริษัทยังไม่พร้อมที่จะนำไปใช้จริง ทั้งเรื่องคุณภาพข้อมูล ความรู้ทางเทคนิค และการบาลานซ์ระหว่างนวัตกรรมกับการกำกับดูแล แม้จะมีหลักการชัดเจน เช่น ความน่าเชื่อถือ การปกป้องความเป็นส่วนตัว และการลดอคติ แต่มีเพียงครึ่งหนึ่งที่บอกว่าทีมงานพร้อมจริง ๆ นักวิเคราะห์จึงแนะนำให้เริ่มจากเล็ก ๆ ทดลองก่อน แล้วค่อยขยาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/businesses-are-struggling-to-implement-responsible-ai-but-it-could-make-all-the-difference

    Claude Opus 4.5 เปิดตัวแล้ว
    Anthropic ปล่อยโมเดลใหม่ Claude Opus 4.5 ที่บอกว่าดีขึ้นอย่าง “มีความหมาย” ทั้งเรื่องการทำงานทั่วไปและการเขียนโค้ด จุดเด่นคือมันจัดการงานจริงได้ดีขึ้น เช่น ทำอีเมล สไลด์ หรือเอกสารได้เนียนกว่าเดิม รวมถึงแก้โจทย์ที่ซับซ้อนและทำงานหลายขั้นตอนต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังใช้พลังคำนวณน้อยลง ทำให้ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรได้ประโยชน์มากขึ้น แม้ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่การพัฒนาเร็วขนาดนี้ก็แสดงให้เห็นว่าตลาด AI กำลังโตและแข่งขันกันเข้มข้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/claude/claude-opus-4-5-is-now-live-and-meaningfully-better-at-everyday-tasks-and-coding-challenges

    Nothing Phone 3: สมาร์ทโฟนเรือธงที่แตกต่าง
    Nothing เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ Phone 3 ที่ตั้งใจจะก้าวเข้าสู่ตลาดพรีเมียมเต็มตัว ดีไซน์ยังคงความแปลกตาแบบบล็อกเหลี่ยมที่หลายคนอาจมองว่าสวยไม่เหมือนใคร แต่บางคนก็อาจรู้สึกว่ามันเทอะทะเกินไป จุดเด่นคือกล้อง 50MP ทั้งหมด 4 ตัว รวมถึงเลนส์ periscope ที่ช่วยให้ถ่ายภาพระยะไกลได้ดี แบตเตอรี่ใหญ่กว่า iPhone และ Samsung รุ่นใกล้เคียง พร้อมชาร์จเร็วกว่า จุดที่น่าสนใจคือฟีเจอร์ Glyph Matrix ที่ใช้ไฟด้านหลังมือถือแสดงข้อมูลหรือเล่นเกมเล็ก ๆ ได้ และปุ่ม Essential Key ที่ช่วยให้แคปหน้าจอหรือบันทึกวิดีโอได้ทันที ถึงแม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ราคาที่สูงขึ้นอาจทำให้แฟน ๆ รุ่นก่อนลังเล อย่างไรก็ตาม มันคือการประกาศชัดว่า Nothing อยากเป็นผู้เล่นในตลาดเรือธงจริง ๆ
    https://www.techradar.com/phones/nothing-phones/nothing-phone-3-review

    AWS มีดาต้าเซ็นเตอร์มากกว่าที่คิด
    ข้อมูลใหม่เผยว่า Amazon Web Services (AWS) อาจมีดาต้าเซ็นเตอร์มากถึง 900 แห่งทั่วโลก ซึ่งมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้หลายเท่า การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มสูงขึ้น AWS ไม่ได้เปิดเผยจำนวนจริง แต่ยืนยันว่ามี 38 regions และ 120 availability zones พร้อมแผนลงทุนมหาศาลในหลายประเทศ เช่น อินเดียและสหรัฐฯ จุดที่น่าสนใจคือ AWS พยายามรักษาประสิทธิภาพพลังงาน โดยอ้างว่ามีค่า Power Usage Effectiveness ดีกว่าค่าเฉลี่ยโลก และโครงสร้างพื้นฐานของตนใช้พลังงานได้คุ้มค่ากว่าการทำงานแบบ on-premises หลายเท่า
    https://www.techradar.com/pro/aws-says-it-has-around-900-data-centers-twice-as-many-as-previously-thought

    Android Desktop: ก้าวใหม่ของ Google OS
    Google กำลังพัฒนาโครงการ “Aluminium OS” ที่จะรวม Android เข้ากับ ChromeOS เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อปใหม่ รองรับทั้ง PC, Laptop, Tablet และ 2-in-1 จุดเด่นคือการผสาน AI เข้ามาเป็นแกนหลัก และรองรับแอป Android แบบเนทีฟโดยไม่ต้องจำลอง ทำให้การใช้งานต่อเนื่องระหว่างมือถือและเดสก์ท็อปเป็นไปอย่างราบรื่น Aluminium จะค่อย ๆ เข้ามาแทน ChromeOS แต่ยังคงอยู่คู่กันในช่วงเปลี่ยนผ่าน เป้าหมายคือการยกระดับ Chromebook และอุปกรณ์ Android ให้แข่งขันกับ Windows และ macOS ได้ในบางตลาด โดยเฉพาะด้านการศึกษาและธุรกิจ
    https://www.techradar.com/computing/desktop-pcs/android-powered-desktop-pcs-are-coming-and-i-think-theyll-be-an-exciting-step-up-from-chromeos

    Ransomware โจมตีธุรกิจที่ถูกซื้อกิจการ
    รายงานใหม่จาก ReliaQuest เผยว่าแฮกเกอร์ที่ใช้ Akira ransomware มักเจาะเข้าธุรกิจขนาดเล็กที่ถูกซื้อกิจการ โดยใช้ช่องโหว่จากอุปกรณ์ที่ถูกละเลยหรือไม่ได้รับการแพตช์ โดยเฉพาะ SonicWall SSL VPN ที่มีบัฟเฟอร์โอเวอร์โฟลว์ร้ายแรง แม้จะมีการอัปเดตแล้ว แต่หลายองค์กรยังไม่ทันปรับปรุง ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ามาเคลื่อนไหวในระบบและเข้ารหัสข้อมูลได้ ปัญหาคือบริษัทที่ซื้อกิจการมักไม่รู้ว่ามีอุปกรณ์เสี่ยงอยู่ในเครือข่ายใหม่ ทำให้การโจมตีเกิดขึ้นง่ายและกระจายไปหลายบริษัทพร้อมกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-hackers-attack-smbs-being-acquired-to-try-and-gain-access-to-multiple-companies

    Chat Control: EU เห็นชอบการสแกนแชทแบบสมัครใจ
    หลังจากถกเถียงกันมากว่า 3 ปี สภาสหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงในกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation หรือที่ถูกเรียกว่า Chat Control โดยเปลี่ยนจากการบังคับสแกนข้อความส่วนตัวมาเป็นแบบสมัครใจ แต่ก็ยังสร้างความกังวลในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว เพราะแม้จะไม่บังคับ แต่ก็เปิดช่องให้ผู้ให้บริการแชทต้องพิจารณามาตรการป้องกันการใช้แพลตฟอร์มในทางที่ผิด และอาจถูกบังคับให้พัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับเพิ่มเติม ขณะนี้ EU เตรียมเข้าสู่การเจรจากับรัฐสภาเพื่อหาข้อสรุปสุดท้าย ซึ่งยังคงเป็นประเด็นร้อนระหว่างการปกป้องเด็กกับการรักษาสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-lawmakers-finally-agree-on-the-voluntary-scanning-of-your-private-chats

    การเชื่อมต่อ AI รุ่นใหม่: ประสิทธิภาพและการติดตั้ง
    บทความนี้พูดถึง “Next frontier” ของการเชื่อมต่อที่พร้อมสำหรับ AI โดยเน้นการทำให้โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านการติดตั้งและการใช้งานจริง แนวคิดคือการสร้างระบบที่สามารถรองรับการประมวลผล AI ได้อย่างราบรื่น ลดความซับซ้อนในการขยายเครือข่าย และทำให้การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคุ้มค่ามากขึ้น ผู้เขียนชี้ว่าอนาคตของการสื่อสารจะไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่คือการจัดการทรัพยากรอย่างชาญฉลาดเพื่อรองรับการเติบโตของ AI
    https://www.techradar.com/pro/the-next-frontier-for-ai-ready-connectivity-efficiency-in-deployment

    ดีล Samsung Galaxy Tab ลดแรง
    TechRadar แนะนำดีลพิเศษสำหรับ Samsung Galaxy Tab ที่ช่วยประหยัดเงินได้หลายร้อยดอลลาร์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบ Android มากกว่า iPadOS โดยบทความเน้นว่าตอนนี้เป็นช่วง Black Friday ที่มีโปรโมชั่นแรงที่สุดของปี ทำให้แท็บเล็ตตระกูล Galaxy Tab กลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ทั้งในด้านราคาและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย
    https://www.techradar.com/seasonal-sales/prefer-android-to-ipados-these-stellar-samsung-galaxy-tab-deals-will-save-you-hundreds-this-black-friday

    ChatGPT กับการพูดคุยเสียงที่สมจริง
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์การลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่เพิ่มการสนทนาด้วยเสียง ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนพูดคุยกับคนจริง ๆ มากขึ้น ฟีเจอร์นี้ถูกมองว่าเป็น “ชิ้นส่วนที่ขาดหายไป” ของการใช้งาน AI เพราะทำให้การโต้ตอบเป็นธรรมชาติและสะดวกกว่าเดิม แม้จะยังมีรายละเอียดที่ต้องปรับปรุง แต่โดยรวมถือว่าเป็นการพัฒนาใหญ่ที่ทำให้ AI ก้าวใกล้การใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-voice-integration-feels-like-the-missing-piece-in-ai-chat-ive-tried-it-and-its-almost-perfect

    Notepad บน Windows 11 ได้ฟีเจอร์ใหม่
    Microsoft เพิ่มความสามารถใหม่ให้กับ Notepad ใน Windows 11 โดยรองรับการสร้างตารางและเสริมพลัง AI เข้าไป ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad ไม่ใช่แค่โปรแกรมจดบันทึกธรรมดาอีกต่อไป แต่สามารถใช้ทำงานที่ซับซ้อนขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางส่วนไม่พอใจ เพราะมองว่า Notepad ควรเป็นเครื่องมือที่เรียบง่าย ไม่ควรซับซ้อนเกินไป การเปลี่ยนแปลงนี้จึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงในชุมชนผู้ใช้ Windows
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-notepad-gets-support-for-tables-and-bolstered-ai-powers-and-not-everyones-happy

    ChatGPT Voice Mode อัปเกรดครั้งใหญ่
    อีกหนึ่งบทความเกี่ยวกับ ChatGPT ที่พูดถึงการอัปเกรดโหมดเสียงครั้งใหญ่ โดยสรุปว่ามี 5 สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ควรรู้ เช่น ความเป็นธรรมชาติของเสียงที่ดีขึ้น ความเร็วในการตอบสนอง และการรองรับหลายภาษา การพัฒนานี้ทำให้การใช้งาน AI ผ่านเสียงมีความสมจริงและสะดวกมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับการโต้ตอบระหว่างมนุษย์กับ AI ให้ใกล้เคียงการสนทนาจริงมากกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-voice-mode-just-got-a-major-upgrade-here-are-5-things-you-need-to-know

    อุปกรณ์ AI ของ Sam Altman ที่เหมือนกระท่อมริมทะเลสาบ แต่จริงๆ อาจเป็นการเฝ้าสอดส่อง
    Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ออกมาเล่าว่ากำลังสร้างอุปกรณ์ AI แบบใหม่ ที่เขาเปรียบเหมือนการนั่งพักผ่อนในกระท่อมสวยๆ ริมทะเลสาบ ให้ความสงบและเรียบง่ายกว่าการใช้สมาร์ทโฟนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่เมื่อมองลึกลงไป อุปกรณ์นี้คือการเฝ้าสังเกตชีวิตผู้ใช้ตลอดเวลา ทั้งพฤติกรรม อารมณ์ และกิจวัตรประจำวัน ซึ่งอาจหมายถึงการแลกความเป็นส่วนตัวกับความสะดวกสบาย ความสงบที่ถูกขายให้เราอาจเป็นเพียงภาพลวงตา เพราะจริงๆ แล้วคือการเปิดให้ระบบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/sam-altman-wants-his-ai-device-to-feel-like-sitting-in-the-most-beautiful-cabin-by-a-lake-but-it-sounds-more-like-endless-surveillance

    Intel Granite Rapids-WS หลุดข้อมูล ชี้พลังเวิร์กสเตชันระดับมหึมา
    มีการรั่วไหลข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel ที่ชื่อ Granite Rapids-WS ซึ่งจะใช้ซ็อกเก็ต E2 ขนาดใหญ่ รองรับพลังงานสูงถึง 350 วัตต์ และสามารถใส่แรม DDR5 ได้ถึง 2 เทราไบต์ต่อซ็อกเก็ต จุดเด่นคือจำนวนคอร์มหาศาลถึง 86 คอร์ 172 เธรด พร้อมแคช L3 ขนาดใหญ่ และ PCIe lanes มากมายเพื่อรองรับ GPU และสตอเรจหลายตัว นี่คือการตอบโต้ AMD Threadripper ในตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูง ที่เน้นงานเรนเดอร์ ซิมูเลชัน และการวิเคราะห์ข้อมูลหนักๆ
    https://www.techradar.com/pro/did-intels-next-big-thing-in-workstations-just-leak-ahead-of-granite-rapids-launch-report-claims-this-is-whats-next-from-troubled-chipmaker

    จีนจำลองการใช้โดรน 1,000 ตัวเพื่อบล็อก Starlink เหนือไต้หวัน
    งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยในจีนเผยการจำลองสถานการณ์ที่ใช้โดรนติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณจำนวนมหาศาล เพื่อสร้าง “เกราะแม่เหล็กไฟฟ้า” ปิดกั้นอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink เหนือไต้หวัน การทดลองชี้ว่าหากใช้โดรนราว 935 ตัวที่ทำงานประสานกัน จะสามารถทำให้พื้นที่ทั้งหมดไม่สามารถเชื่อมต่อได้ แม้ในทางปฏิบัติจะมีความยากลำบากและค่าใช้จ่ายสูง แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่น่ากังวล
    https://www.techradar.com/tech/can-starlink-be-blocked-scary-chinese-simulation-shows-1-000-drones-can-jam-satellite-internet-over-an-island-as-large-as-taiwan

    Tuxedo ยกเลิกโน้ตบุ๊ก Linux ที่ใช้ Snapdragon X Elite หลังเจอปัญหาหนัก
    บริษัท Tuxedo ที่เชี่ยวชาญด้านเครื่อง Linux ตัดสินใจยกเลิกการพัฒนาโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite หลังจากพยายามแก้ไขปัญหามานานถึง 18 เดือน แต่ไม่สามารถทำให้ระบบทำงานได้สมบูรณ์ ปัญหามีทั้งเรื่อง BIOS, การควบคุมพัดลม, การทำงานของ KVM virtualization และการถ่ายโอนข้อมูล USB4 ที่ไม่เสถียร ผลทดสอบยังชี้ว่าแบตเตอรี่ไม่ได้ยาวนานตามที่คาดไว้ ทำให้เครื่องไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ Linux จริงๆ บริษัทจึงเลือกหยุดโครงการและรอดูรุ่นใหม่ Snapdragon X2 Elite ว่าจะเข้ากับ Linux ได้ดีกว่าหรือไม่
    https://www.techradar.com/pro/top-linux-pc-maker-drops-plan-for-snapdragonx-elite-powered-notebook-says-hardware-was-less-suitable-than-expected

    รีวิว RedMagic 11 Pro มือถือเกมมิ่งสุดแรงในราคาคุ้มค่า
    RedMagic 11 Pro ยังคงรักษาตำแหน่งมือถือเกมมิ่งที่คุ้มค่าที่สุด ด้วยชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5 ที่เร็วสุดๆ พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและพัดลมที่ออกแบบใหม่ ทำให้เล่นเกมหนักๆ ได้อย่างลื่นไหล แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,500mAh ใช้งานได้ยาวนานหลายวัน และรองรับชาร์จไว 80W แม้จะไม่มีชาร์จไร้สาย แต่ก็ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผล จุดอ่อนคือกล้องที่ยังไม่ดีนัก โดยเฉพาะการถ่ายเซลฟี่ แต่สำหรับคนที่ต้องการมือถือเล่นเกมแรงๆ ในราคาที่ไม่ถึงพันดอลลาร์ นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุด
    https://www.techradar.com/phones/redmagic-11-pro-review

    มัลแวร์ใหม่บน macOS สร้างห่วงโซ่โจมตีที่น่าปวดหัว
    มีการค้นพบมัลแวร์รูปแบบใหม่บน macOS ที่ทำงานเป็น “chain” หรือห่วงโซ่การโจมตี โดยเริ่มจากการเจาะเข้าระบบผ่านช่องโหว่เล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยายสิทธิ์การเข้าถึงไปเรื่อยๆ จนสามารถควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ จุดน่ากังวลคือมันสามารถหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ และอาจถูกใช้โจมตีองค์กรหรือผู้ใช้ทั่วไปได้อย่างรุนแรง นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้ควรอัปเดตระบบและระวังการดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-chain-could-cause-a-major-security-headache-heres-what-we-know

    กล้อง Leica ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสถูกประมูลได้ 7.5 ล้านดอลลาร์
    Leica รุ่นพิเศษที่เคยเป็นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ถูกนำออกประมูลและสร้างสถิติใหม่ด้วยราคาสูงถึง 7.5 ล้านดอลลาร์ รายได้ทั้งหมดถูกนำไปใช้เพื่อการกุศล กล้องตัวนี้มีคุณสมบัติพิเศษถึง 7 อย่างที่ไม่เหมือนใคร เช่น การออกแบบเฉพาะตัวและวัสดุที่หายาก ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในกล้องที่มีคุณค่าทางจิตใจและประวัติศาสตร์มากที่สุดในโลก
    https://www.techradar.com/cameras/this-stunning-one-off-leica-belonging-to-the-late-pope-francis-just-raised-usd7-5-million-for-charity-here-are-its-7-unique-features

    รวมกล้องคอมแพ็กที่ดีที่สุดปี 2025 พกง่าย ใช้งานสะดวก
    TechRadar จัดอันดับกล้องคอมแพ็กที่โดดเด่นที่สุดในปี 2025 สำหรับคนที่อยากได้กล้องเล็กๆ พกพาสะดวก แต่ยังให้คุณภาพภาพถ่ายที่ดีเยี่ยม รายการนี้รวมทั้งรุ่นที่เหมาะกับนักเดินทาง, คนที่ชอบถ่ายภาพสตรีท, ไปจนถึงผู้ใช้ที่ต้องการกล้องเสริมจากสมาร์ทโฟน โดยมีทั้งรุ่นราคาประหยัดและรุ่นพรีเมียมที่เน้นคุณภาพสูงสุด
    https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/the-best-compact-cameras

    บทความเตือนใจ: อย่าเดทกับ AI เพราะมันไม่มีวันรักคุณ
    บทความเชิงความคิดเห็นชี้ให้เห็นถึงกระแสที่บางคนเริ่มมีความสัมพันธ์เชิงอารมณ์กับ AI แต่ผู้เขียนเตือนว่า AI ไม่สามารถรักหรือมีความรู้สึกแท้จริงได้ การคาดหวังให้มันเป็นคู่ชีวิตอาจทำให้คนหลงทางและเสียสมดุลในชีวิตจริง ข้อความนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปในด้านอารมณ์และความสัมพันธ์
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/please-dont-date-your-ai-because-it-will-never-love-you-or-pick-up-the-check

    Poco เปิดตัวมือถือเรือธงพร้อมซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดจิ๋ว
    Poco เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมแปลกตา คือการใส่ซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดเล็กเข้าไปในเครื่อง เพื่อให้เสียงแบบ 2.1-channel audio แม้จะเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับคนรักเสียงเบส แต่ก็มีข้อกังวลว่าการใช้งานในพื้นที่สาธารณะ เช่น บนรถบัส อาจสร้างความรำคาญให้คนรอบข้างได้ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Poco ในการสร้างความแตกต่างในตลาดมือถือที่แข่งขันสูง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/phones/poco-phones/pocos-new-flagship-phone-has-a-mini-bose-subwoofer-for-2-1-channel-audio-and-i-hope-im-not-near-one-on-the-bus
    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251127 #TechRadar 💻 รวมโน้ตบุ๊กสำหรับนักเรียนปี 2025 ถ้าเล่าให้ฟังแบบง่าย ๆ ตอนนี้ TechRadar เขาได้จัดอันดับโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับนักเรียนไว้หลายรุ่นเลย เริ่มจาก MacBook Air M3 ที่ยังคงเป็นตัวท็อปสำหรับการเรียน ใช้งานได้แรง แบตอึด และราคาก็ลดลงเพราะมีรุ่น M4 ออกมาแล้ว ต่อมาก็มี Acer Chromebook Plus 514 ที่เหมาะกับคนงบจำกัดแต่ยังได้เครื่องที่ทำงานลื่น ๆ สำหรับงานทั่วไป ส่วนใครชอบ ChromeOS รุ่น HP Chromebook Plus 15.6 ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ครบเครื่องและแบตทนดี สำหรับสายพกพา Microsoft Surface Laptop 13 น้ำหนักเบาและแบตยาวนานก็เป็นคำตอบ ส่วนสายครีเอทีฟที่ต้องใช้พลังมากขึ้น MacBook Air M4 รุ่นจอ 15 นิ้วก็ถูกยกให้เป็นเครื่องที่ตอบโจทย์งานกราฟิกและงานสร้างสรรค์ได้ดีมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/laptops/best-student-laptops 📱 Google Messages เตรียมอัปเกรดใหม่ ข่าวนี้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่มีประโยชน์ใน Google Messages ที่กำลังทดสอบอยู่ในโค้ดเบต้า อย่างแรกคือเวลาเซฟไฟล์รูปหรือวิดีโอจะมีปุ่ม “Open” ให้กดเปิดไฟล์ได้ทันที ต่อมาคือปุ่ม Gemini ที่จะใหญ่ขึ้นเพื่อให้คนใช้งานง่ายขึ้น และสุดท้ายคือการเปลี่ยนข้อความจาก “Location” เป็น “One-time Location” เพื่อให้ชัดเจนว่ามันแชร์ตำแหน่งแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่แชร์ต่อเนื่อง แม้ยังไม่แน่ว่าจะเปิดใช้จริง แต่ถ้าออกมาก็น่าจะช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/phones/google-messages-could-be-getting-3-useful-upgrades-soon-including-a-gemini-change 🔐 นักพัฒนาระวัง! เว็บจัดรูปแบบโค้ดเผยข้อมูลลับ เรื่องนี้ค่อนข้างน่ากังวล เพราะมีการพบว่าเว็บยอดนิยมอย่าง JSONFormatter และ CodeBeautify มีฟีเจอร์ “Recent Links” ที่เปิดเผยข้อมูลที่ผู้ใช้เคยอัปโหลดไว้โดยไม่ป้องกัน ทำให้ข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่าน คีย์ API หรือข้อมูลส่วนตัวหลุดออกมาได้ง่าย นักวิจัยถึงขั้นดึงข้อมูลย้อนหลังได้หลายปี และพบว่ามีทั้งข้อมูลจากหน่วยงานรัฐไปจนถึงบริษัทใหญ่ ๆ ที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตี ซึ่งตอนนี้ก็มีผู้ไม่หวังดีเริ่มทดลองใช้ช่องโหว่นี้แล้วด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/top-code-formatting-sites-are-exposing-huge-amounts-of-user-data 🤖 ธุรกิจยังติดขัดกับการทำ AI อย่างรับผิดชอบ รายงานจาก Experian ชี้ว่าผู้บริหารส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า “Responsible AI” จะเป็นตัวสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน แต่ปัญหาคือหลายบริษัทยังไม่พร้อมที่จะนำไปใช้จริง ทั้งเรื่องคุณภาพข้อมูล ความรู้ทางเทคนิค และการบาลานซ์ระหว่างนวัตกรรมกับการกำกับดูแล แม้จะมีหลักการชัดเจน เช่น ความน่าเชื่อถือ การปกป้องความเป็นส่วนตัว และการลดอคติ แต่มีเพียงครึ่งหนึ่งที่บอกว่าทีมงานพร้อมจริง ๆ นักวิเคราะห์จึงแนะนำให้เริ่มจากเล็ก ๆ ทดลองก่อน แล้วค่อยขยาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/businesses-are-struggling-to-implement-responsible-ai-but-it-could-make-all-the-difference ⚡ Claude Opus 4.5 เปิดตัวแล้ว Anthropic ปล่อยโมเดลใหม่ Claude Opus 4.5 ที่บอกว่าดีขึ้นอย่าง “มีความหมาย” ทั้งเรื่องการทำงานทั่วไปและการเขียนโค้ด จุดเด่นคือมันจัดการงานจริงได้ดีขึ้น เช่น ทำอีเมล สไลด์ หรือเอกสารได้เนียนกว่าเดิม รวมถึงแก้โจทย์ที่ซับซ้อนและทำงานหลายขั้นตอนต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังใช้พลังคำนวณน้อยลง ทำให้ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรได้ประโยชน์มากขึ้น แม้ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่การพัฒนาเร็วขนาดนี้ก็แสดงให้เห็นว่าตลาด AI กำลังโตและแข่งขันกันเข้มข้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/claude/claude-opus-4-5-is-now-live-and-meaningfully-better-at-everyday-tasks-and-coding-challenges 📱 Nothing Phone 3: สมาร์ทโฟนเรือธงที่แตกต่าง Nothing เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ Phone 3 ที่ตั้งใจจะก้าวเข้าสู่ตลาดพรีเมียมเต็มตัว ดีไซน์ยังคงความแปลกตาแบบบล็อกเหลี่ยมที่หลายคนอาจมองว่าสวยไม่เหมือนใคร แต่บางคนก็อาจรู้สึกว่ามันเทอะทะเกินไป จุดเด่นคือกล้อง 50MP ทั้งหมด 4 ตัว รวมถึงเลนส์ periscope ที่ช่วยให้ถ่ายภาพระยะไกลได้ดี แบตเตอรี่ใหญ่กว่า iPhone และ Samsung รุ่นใกล้เคียง พร้อมชาร์จเร็วกว่า จุดที่น่าสนใจคือฟีเจอร์ Glyph Matrix ที่ใช้ไฟด้านหลังมือถือแสดงข้อมูลหรือเล่นเกมเล็ก ๆ ได้ และปุ่ม Essential Key ที่ช่วยให้แคปหน้าจอหรือบันทึกวิดีโอได้ทันที ถึงแม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ราคาที่สูงขึ้นอาจทำให้แฟน ๆ รุ่นก่อนลังเล อย่างไรก็ตาม มันคือการประกาศชัดว่า Nothing อยากเป็นผู้เล่นในตลาดเรือธงจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/phones/nothing-phones/nothing-phone-3-review ☁️ AWS มีดาต้าเซ็นเตอร์มากกว่าที่คิด ข้อมูลใหม่เผยว่า Amazon Web Services (AWS) อาจมีดาต้าเซ็นเตอร์มากถึง 900 แห่งทั่วโลก ซึ่งมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้หลายเท่า การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มสูงขึ้น AWS ไม่ได้เปิดเผยจำนวนจริง แต่ยืนยันว่ามี 38 regions และ 120 availability zones พร้อมแผนลงทุนมหาศาลในหลายประเทศ เช่น อินเดียและสหรัฐฯ จุดที่น่าสนใจคือ AWS พยายามรักษาประสิทธิภาพพลังงาน โดยอ้างว่ามีค่า Power Usage Effectiveness ดีกว่าค่าเฉลี่ยโลก และโครงสร้างพื้นฐานของตนใช้พลังงานได้คุ้มค่ากว่าการทำงานแบบ on-premises หลายเท่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-says-it-has-around-900-data-centers-twice-as-many-as-previously-thought 💻 Android Desktop: ก้าวใหม่ของ Google OS Google กำลังพัฒนาโครงการ “Aluminium OS” ที่จะรวม Android เข้ากับ ChromeOS เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อปใหม่ รองรับทั้ง PC, Laptop, Tablet และ 2-in-1 จุดเด่นคือการผสาน AI เข้ามาเป็นแกนหลัก และรองรับแอป Android แบบเนทีฟโดยไม่ต้องจำลอง ทำให้การใช้งานต่อเนื่องระหว่างมือถือและเดสก์ท็อปเป็นไปอย่างราบรื่น Aluminium จะค่อย ๆ เข้ามาแทน ChromeOS แต่ยังคงอยู่คู่กันในช่วงเปลี่ยนผ่าน เป้าหมายคือการยกระดับ Chromebook และอุปกรณ์ Android ให้แข่งขันกับ Windows และ macOS ได้ในบางตลาด โดยเฉพาะด้านการศึกษาและธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/computing/desktop-pcs/android-powered-desktop-pcs-are-coming-and-i-think-theyll-be-an-exciting-step-up-from-chromeos 🔒 Ransomware โจมตีธุรกิจที่ถูกซื้อกิจการ รายงานใหม่จาก ReliaQuest เผยว่าแฮกเกอร์ที่ใช้ Akira ransomware มักเจาะเข้าธุรกิจขนาดเล็กที่ถูกซื้อกิจการ โดยใช้ช่องโหว่จากอุปกรณ์ที่ถูกละเลยหรือไม่ได้รับการแพตช์ โดยเฉพาะ SonicWall SSL VPN ที่มีบัฟเฟอร์โอเวอร์โฟลว์ร้ายแรง แม้จะมีการอัปเดตแล้ว แต่หลายองค์กรยังไม่ทันปรับปรุง ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ามาเคลื่อนไหวในระบบและเข้ารหัสข้อมูลได้ ปัญหาคือบริษัทที่ซื้อกิจการมักไม่รู้ว่ามีอุปกรณ์เสี่ยงอยู่ในเครือข่ายใหม่ ทำให้การโจมตีเกิดขึ้นง่ายและกระจายไปหลายบริษัทพร้อมกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-hackers-attack-smbs-being-acquired-to-try-and-gain-access-to-multiple-companies 🇪🇺 Chat Control: EU เห็นชอบการสแกนแชทแบบสมัครใจ หลังจากถกเถียงกันมากว่า 3 ปี สภาสหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงในกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation หรือที่ถูกเรียกว่า Chat Control โดยเปลี่ยนจากการบังคับสแกนข้อความส่วนตัวมาเป็นแบบสมัครใจ แต่ก็ยังสร้างความกังวลในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว เพราะแม้จะไม่บังคับ แต่ก็เปิดช่องให้ผู้ให้บริการแชทต้องพิจารณามาตรการป้องกันการใช้แพลตฟอร์มในทางที่ผิด และอาจถูกบังคับให้พัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับเพิ่มเติม ขณะนี้ EU เตรียมเข้าสู่การเจรจากับรัฐสภาเพื่อหาข้อสรุปสุดท้าย ซึ่งยังคงเป็นประเด็นร้อนระหว่างการปกป้องเด็กกับการรักษาสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-lawmakers-finally-agree-on-the-voluntary-scanning-of-your-private-chats 🌐 การเชื่อมต่อ AI รุ่นใหม่: ประสิทธิภาพและการติดตั้ง บทความนี้พูดถึง “Next frontier” ของการเชื่อมต่อที่พร้อมสำหรับ AI โดยเน้นการทำให้โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านการติดตั้งและการใช้งานจริง แนวคิดคือการสร้างระบบที่สามารถรองรับการประมวลผล AI ได้อย่างราบรื่น ลดความซับซ้อนในการขยายเครือข่าย และทำให้การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคุ้มค่ามากขึ้น ผู้เขียนชี้ว่าอนาคตของการสื่อสารจะไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่คือการจัดการทรัพยากรอย่างชาญฉลาดเพื่อรองรับการเติบโตของ AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-next-frontier-for-ai-ready-connectivity-efficiency-in-deployment 📱 ดีล Samsung Galaxy Tab ลดแรง TechRadar แนะนำดีลพิเศษสำหรับ Samsung Galaxy Tab ที่ช่วยประหยัดเงินได้หลายร้อยดอลลาร์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบ Android มากกว่า iPadOS โดยบทความเน้นว่าตอนนี้เป็นช่วง Black Friday ที่มีโปรโมชั่นแรงที่สุดของปี ทำให้แท็บเล็ตตระกูล Galaxy Tab กลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ทั้งในด้านราคาและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย 🔗 https://www.techradar.com/seasonal-sales/prefer-android-to-ipados-these-stellar-samsung-galaxy-tab-deals-will-save-you-hundreds-this-black-friday 🎙️ ChatGPT กับการพูดคุยเสียงที่สมจริง ผู้เขียนเล่าประสบการณ์การลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่เพิ่มการสนทนาด้วยเสียง ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนพูดคุยกับคนจริง ๆ มากขึ้น ฟีเจอร์นี้ถูกมองว่าเป็น “ชิ้นส่วนที่ขาดหายไป” ของการใช้งาน AI เพราะทำให้การโต้ตอบเป็นธรรมชาติและสะดวกกว่าเดิม แม้จะยังมีรายละเอียดที่ต้องปรับปรุง แต่โดยรวมถือว่าเป็นการพัฒนาใหญ่ที่ทำให้ AI ก้าวใกล้การใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-voice-integration-feels-like-the-missing-piece-in-ai-chat-ive-tried-it-and-its-almost-perfect 📝 Notepad บน Windows 11 ได้ฟีเจอร์ใหม่ Microsoft เพิ่มความสามารถใหม่ให้กับ Notepad ใน Windows 11 โดยรองรับการสร้างตารางและเสริมพลัง AI เข้าไป ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad ไม่ใช่แค่โปรแกรมจดบันทึกธรรมดาอีกต่อไป แต่สามารถใช้ทำงานที่ซับซ้อนขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางส่วนไม่พอใจ เพราะมองว่า Notepad ควรเป็นเครื่องมือที่เรียบง่าย ไม่ควรซับซ้อนเกินไป การเปลี่ยนแปลงนี้จึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงในชุมชนผู้ใช้ Windows 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-notepad-gets-support-for-tables-and-bolstered-ai-powers-and-not-everyones-happy 🔊 ChatGPT Voice Mode อัปเกรดครั้งใหญ่ อีกหนึ่งบทความเกี่ยวกับ ChatGPT ที่พูดถึงการอัปเกรดโหมดเสียงครั้งใหญ่ โดยสรุปว่ามี 5 สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ควรรู้ เช่น ความเป็นธรรมชาติของเสียงที่ดีขึ้น ความเร็วในการตอบสนอง และการรองรับหลายภาษา การพัฒนานี้ทำให้การใช้งาน AI ผ่านเสียงมีความสมจริงและสะดวกมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับการโต้ตอบระหว่างมนุษย์กับ AI ให้ใกล้เคียงการสนทนาจริงมากกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-voice-mode-just-got-a-major-upgrade-here-are-5-things-you-need-to-know 🏞️ อุปกรณ์ AI ของ Sam Altman ที่เหมือนกระท่อมริมทะเลสาบ แต่จริงๆ อาจเป็นการเฝ้าสอดส่อง Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ออกมาเล่าว่ากำลังสร้างอุปกรณ์ AI แบบใหม่ ที่เขาเปรียบเหมือนการนั่งพักผ่อนในกระท่อมสวยๆ ริมทะเลสาบ ให้ความสงบและเรียบง่ายกว่าการใช้สมาร์ทโฟนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่เมื่อมองลึกลงไป อุปกรณ์นี้คือการเฝ้าสังเกตชีวิตผู้ใช้ตลอดเวลา ทั้งพฤติกรรม อารมณ์ และกิจวัตรประจำวัน ซึ่งอาจหมายถึงการแลกความเป็นส่วนตัวกับความสะดวกสบาย ความสงบที่ถูกขายให้เราอาจเป็นเพียงภาพลวงตา เพราะจริงๆ แล้วคือการเปิดให้ระบบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/sam-altman-wants-his-ai-device-to-feel-like-sitting-in-the-most-beautiful-cabin-by-a-lake-but-it-sounds-more-like-endless-surveillance 💻 Intel Granite Rapids-WS หลุดข้อมูล ชี้พลังเวิร์กสเตชันระดับมหึมา มีการรั่วไหลข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel ที่ชื่อ Granite Rapids-WS ซึ่งจะใช้ซ็อกเก็ต E2 ขนาดใหญ่ รองรับพลังงานสูงถึง 350 วัตต์ และสามารถใส่แรม DDR5 ได้ถึง 2 เทราไบต์ต่อซ็อกเก็ต จุดเด่นคือจำนวนคอร์มหาศาลถึง 86 คอร์ 172 เธรด พร้อมแคช L3 ขนาดใหญ่ และ PCIe lanes มากมายเพื่อรองรับ GPU และสตอเรจหลายตัว นี่คือการตอบโต้ AMD Threadripper ในตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูง ที่เน้นงานเรนเดอร์ ซิมูเลชัน และการวิเคราะห์ข้อมูลหนักๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/did-intels-next-big-thing-in-workstations-just-leak-ahead-of-granite-rapids-launch-report-claims-this-is-whats-next-from-troubled-chipmaker 🚁 จีนจำลองการใช้โดรน 1,000 ตัวเพื่อบล็อก Starlink เหนือไต้หวัน งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยในจีนเผยการจำลองสถานการณ์ที่ใช้โดรนติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณจำนวนมหาศาล เพื่อสร้าง “เกราะแม่เหล็กไฟฟ้า” ปิดกั้นอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink เหนือไต้หวัน การทดลองชี้ว่าหากใช้โดรนราว 935 ตัวที่ทำงานประสานกัน จะสามารถทำให้พื้นที่ทั้งหมดไม่สามารถเชื่อมต่อได้ แม้ในทางปฏิบัติจะมีความยากลำบากและค่าใช้จ่ายสูง แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่น่ากังวล 🔗 https://www.techradar.com/tech/can-starlink-be-blocked-scary-chinese-simulation-shows-1-000-drones-can-jam-satellite-internet-over-an-island-as-large-as-taiwan 🖥️ Tuxedo ยกเลิกโน้ตบุ๊ก Linux ที่ใช้ Snapdragon X Elite หลังเจอปัญหาหนัก บริษัท Tuxedo ที่เชี่ยวชาญด้านเครื่อง Linux ตัดสินใจยกเลิกการพัฒนาโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite หลังจากพยายามแก้ไขปัญหามานานถึง 18 เดือน แต่ไม่สามารถทำให้ระบบทำงานได้สมบูรณ์ ปัญหามีทั้งเรื่อง BIOS, การควบคุมพัดลม, การทำงานของ KVM virtualization และการถ่ายโอนข้อมูล USB4 ที่ไม่เสถียร ผลทดสอบยังชี้ว่าแบตเตอรี่ไม่ได้ยาวนานตามที่คาดไว้ ทำให้เครื่องไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ Linux จริงๆ บริษัทจึงเลือกหยุดโครงการและรอดูรุ่นใหม่ Snapdragon X2 Elite ว่าจะเข้ากับ Linux ได้ดีกว่าหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/top-linux-pc-maker-drops-plan-for-snapdragonx-elite-powered-notebook-says-hardware-was-less-suitable-than-expected 📱 รีวิว RedMagic 11 Pro มือถือเกมมิ่งสุดแรงในราคาคุ้มค่า RedMagic 11 Pro ยังคงรักษาตำแหน่งมือถือเกมมิ่งที่คุ้มค่าที่สุด ด้วยชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5 ที่เร็วสุดๆ พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและพัดลมที่ออกแบบใหม่ ทำให้เล่นเกมหนักๆ ได้อย่างลื่นไหล แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,500mAh ใช้งานได้ยาวนานหลายวัน และรองรับชาร์จไว 80W แม้จะไม่มีชาร์จไร้สาย แต่ก็ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผล จุดอ่อนคือกล้องที่ยังไม่ดีนัก โดยเฉพาะการถ่ายเซลฟี่ แต่สำหรับคนที่ต้องการมือถือเล่นเกมแรงๆ ในราคาที่ไม่ถึงพันดอลลาร์ นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุด 🔗 https://www.techradar.com/phones/redmagic-11-pro-review 🔒 มัลแวร์ใหม่บน macOS สร้างห่วงโซ่โจมตีที่น่าปวดหัว มีการค้นพบมัลแวร์รูปแบบใหม่บน macOS ที่ทำงานเป็น “chain” หรือห่วงโซ่การโจมตี โดยเริ่มจากการเจาะเข้าระบบผ่านช่องโหว่เล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยายสิทธิ์การเข้าถึงไปเรื่อยๆ จนสามารถควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ จุดน่ากังวลคือมันสามารถหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ และอาจถูกใช้โจมตีองค์กรหรือผู้ใช้ทั่วไปได้อย่างรุนแรง นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้ควรอัปเดตระบบและระวังการดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-chain-could-cause-a-major-security-headache-heres-what-we-know 📸 กล้อง Leica ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสถูกประมูลได้ 7.5 ล้านดอลลาร์ Leica รุ่นพิเศษที่เคยเป็นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ถูกนำออกประมูลและสร้างสถิติใหม่ด้วยราคาสูงถึง 7.5 ล้านดอลลาร์ รายได้ทั้งหมดถูกนำไปใช้เพื่อการกุศล กล้องตัวนี้มีคุณสมบัติพิเศษถึง 7 อย่างที่ไม่เหมือนใคร เช่น การออกแบบเฉพาะตัวและวัสดุที่หายาก ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในกล้องที่มีคุณค่าทางจิตใจและประวัติศาสตร์มากที่สุดในโลก 🔗 https://www.techradar.com/cameras/this-stunning-one-off-leica-belonging-to-the-late-pope-francis-just-raised-usd7-5-million-for-charity-here-are-its-7-unique-features 📷 รวมกล้องคอมแพ็กที่ดีที่สุดปี 2025 พกง่าย ใช้งานสะดวก TechRadar จัดอันดับกล้องคอมแพ็กที่โดดเด่นที่สุดในปี 2025 สำหรับคนที่อยากได้กล้องเล็กๆ พกพาสะดวก แต่ยังให้คุณภาพภาพถ่ายที่ดีเยี่ยม รายการนี้รวมทั้งรุ่นที่เหมาะกับนักเดินทาง, คนที่ชอบถ่ายภาพสตรีท, ไปจนถึงผู้ใช้ที่ต้องการกล้องเสริมจากสมาร์ทโฟน โดยมีทั้งรุ่นราคาประหยัดและรุ่นพรีเมียมที่เน้นคุณภาพสูงสุด 🔗 https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/the-best-compact-cameras 🤖 บทความเตือนใจ: อย่าเดทกับ AI เพราะมันไม่มีวันรักคุณ บทความเชิงความคิดเห็นชี้ให้เห็นถึงกระแสที่บางคนเริ่มมีความสัมพันธ์เชิงอารมณ์กับ AI แต่ผู้เขียนเตือนว่า AI ไม่สามารถรักหรือมีความรู้สึกแท้จริงได้ การคาดหวังให้มันเป็นคู่ชีวิตอาจทำให้คนหลงทางและเสียสมดุลในชีวิตจริง ข้อความนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปในด้านอารมณ์และความสัมพันธ์ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/please-dont-date-your-ai-because-it-will-never-love-you-or-pick-up-the-check 🔊 Poco เปิดตัวมือถือเรือธงพร้อมซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดจิ๋ว Poco เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมแปลกตา คือการใส่ซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดเล็กเข้าไปในเครื่อง เพื่อให้เสียงแบบ 2.1-channel audio แม้จะเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับคนรักเสียงเบส แต่ก็มีข้อกังวลว่าการใช้งานในพื้นที่สาธารณะ เช่น บนรถบัส อาจสร้างความรำคาญให้คนรอบข้างได้ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Poco ในการสร้างความแตกต่างในตลาดมือถือที่แข่งขันสูง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/phones/poco-phones/pocos-new-flagship-phone-has-a-mini-bose-subwoofer-for-2-1-channel-audio-and-i-hope-im-not-near-one-on-the-bus
    0 Comments 0 Shares 509 Views 0 Reviews
  • การจำลองการปิดกั้น Starlink

    ข่าวนี้เล่าถึงการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์จีนที่จำลองการใช้ โดรนติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณ (jammers) เพื่อสร้าง “เกราะแม่เหล็กไฟฟ้า” ปิดกั้นการเข้าถึง Starlink โดยคาดว่าใช้โดรนประมาณ 1,000–2,000 ลำก็สามารถตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตดาวเทียมได้ ถือเป็นการจำลองเชิงยุทธศาสตร์ที่สะท้อนความตึงเครียดในภูมิภาค

    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Zhejiang และ Beijing Institute of Technology ได้ใช้ข้อมูลจริงของเครือข่ายดาวเทียม Starlink มาจำลองการสร้าง mesh network ของโดรนติด jammer ครอบคลุมพื้นที่ขนาดไต้หวันในระยะเวลา 12 ชั่วโมง ผลการทดลองชี้ว่า หากใช้โดรนประมาณ 935–2,000 ลำ ที่บินห่างกัน 3–6 ไมล์ สามารถสร้าง “ม่านรบกวนสัญญาณ” สูง 12 ไมล์เพื่อปิดกั้นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้

    ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
    Starlink ถูกมองว่าเป็นจุดแข็งของยูเครนในการต้านทานรัสเซีย ทำให้จีนกังวลว่าไต้หวันอาจใช้เทคโนโลยีเดียวกันหากเกิดความขัดแย้ง การจำลองนี้จึงเป็นการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์เพื่อหาวิธีรับมือกับระบบสื่อสารดาวเทียมที่ยืดหยุ่นและยากต่อการปิดกั้น

    การตอบสนองของไต้หวัน
    ไต้หวันเองกำลังลงทุนในระบบป้องกันโดรนและพิจารณาโครงสร้างป้องกันคล้าย Iron Dome เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางอากาศ รวมถึงการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์และการสื่อสาร ซึ่งสะท้อนถึงการเตรียมพร้อมของประเทศที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โลก

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและภูมิรัฐศาสตร์
    การศึกษานี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการทหาร แต่ยังส่งผลต่อ ห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีโลก เนื่องจากไต้หวันเป็นผู้ผลิตชิปหลัก หากการสื่อสารถูกตัดขาด อาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง เหตุการณ์นี้จึงเป็นสัญญาณเตือนว่าความมั่นคงทางดิจิทัลและการสื่อสารเป็นหัวใจสำคัญในยุค AI และเศรษฐกิจดิจิทัล

    สรุปสาระสำคัญ
    การจำลองของนักวิทยาศาสตร์จีน
    ใช้โดรนติด jammer ประมาณ 935–2,000 ลำ
    สามารถสร้างม่านรบกวนสัญญาณสูง 12 ไมล์

    ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
    Starlink ถูกมองว่าเป็นจุดแข็งของยูเครน
    จีนกังวลว่าไต้หวันอาจใช้เทคโนโลยีเดียวกัน

    การตอบสนองของไต้หวัน
    ลงทุนในระบบป้องกันโดรนและโครงสร้างคล้าย Iron Dome
    เตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์และการสื่อสาร

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก
    ไต้หวันเป็นศูนย์กลางการผลิตชิป
    การตัดการสื่อสารอาจกระทบเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง

    คำเตือนต่อภูมิรัฐศาสตร์
    ความตึงเครียดในภูมิภาคอาจกระทบห่วงโซ่อุปทานโลก
    การใช้โดรนรบกวนสัญญาณอาจนำไปสู่สงครามเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ

    https://www.tomshardware.com/networking/china-simulated-a-starlink-blockade-over-taiwan-ccp-scientists-say-around-1-000-drones-would-be-enough-to-cut-satellite-internet-to-the-island
    ⚡ การจำลองการปิดกั้น Starlink ข่าวนี้เล่าถึงการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์จีนที่จำลองการใช้ โดรนติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณ (jammers) เพื่อสร้าง “เกราะแม่เหล็กไฟฟ้า” ปิดกั้นการเข้าถึง Starlink โดยคาดว่าใช้โดรนประมาณ 1,000–2,000 ลำก็สามารถตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตดาวเทียมได้ ถือเป็นการจำลองเชิงยุทธศาสตร์ที่สะท้อนความตึงเครียดในภูมิภาค นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Zhejiang และ Beijing Institute of Technology ได้ใช้ข้อมูลจริงของเครือข่ายดาวเทียม Starlink มาจำลองการสร้าง mesh network ของโดรนติด jammer ครอบคลุมพื้นที่ขนาดไต้หวันในระยะเวลา 12 ชั่วโมง ผลการทดลองชี้ว่า หากใช้โดรนประมาณ 935–2,000 ลำ ที่บินห่างกัน 3–6 ไมล์ สามารถสร้าง “ม่านรบกวนสัญญาณ” สูง 12 ไมล์เพื่อปิดกั้นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ 🏭 ความหมายเชิงยุทธศาสตร์ Starlink ถูกมองว่าเป็นจุดแข็งของยูเครนในการต้านทานรัสเซีย ทำให้จีนกังวลว่าไต้หวันอาจใช้เทคโนโลยีเดียวกันหากเกิดความขัดแย้ง การจำลองนี้จึงเป็นการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์เพื่อหาวิธีรับมือกับระบบสื่อสารดาวเทียมที่ยืดหยุ่นและยากต่อการปิดกั้น 🌍 การตอบสนองของไต้หวัน ไต้หวันเองกำลังลงทุนในระบบป้องกันโดรนและพิจารณาโครงสร้างป้องกันคล้าย Iron Dome เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางอากาศ รวมถึงการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์และการสื่อสาร ซึ่งสะท้อนถึงการเตรียมพร้อมของประเทศที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โลก 🔒 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและภูมิรัฐศาสตร์ การศึกษานี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการทหาร แต่ยังส่งผลต่อ ห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีโลก เนื่องจากไต้หวันเป็นผู้ผลิตชิปหลัก หากการสื่อสารถูกตัดขาด อาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง เหตุการณ์นี้จึงเป็นสัญญาณเตือนว่าความมั่นคงทางดิจิทัลและการสื่อสารเป็นหัวใจสำคัญในยุค AI และเศรษฐกิจดิจิทัล 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การจำลองของนักวิทยาศาสตร์จีน ➡️ ใช้โดรนติด jammer ประมาณ 935–2,000 ลำ ➡️ สามารถสร้างม่านรบกวนสัญญาณสูง 12 ไมล์ ✅ ความหมายเชิงยุทธศาสตร์ ➡️ Starlink ถูกมองว่าเป็นจุดแข็งของยูเครน ➡️ จีนกังวลว่าไต้หวันอาจใช้เทคโนโลยีเดียวกัน ✅ การตอบสนองของไต้หวัน ➡️ ลงทุนในระบบป้องกันโดรนและโครงสร้างคล้าย Iron Dome ➡️ เตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์และการสื่อสาร ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก ➡️ ไต้หวันเป็นศูนย์กลางการผลิตชิป ➡️ การตัดการสื่อสารอาจกระทบเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง ‼️ คำเตือนต่อภูมิรัฐศาสตร์ ⛔ ความตึงเครียดในภูมิภาคอาจกระทบห่วงโซ่อุปทานโลก ⛔ การใช้โดรนรบกวนสัญญาณอาจนำไปสู่สงครามเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ https://www.tomshardware.com/networking/china-simulated-a-starlink-blockade-over-taiwan-ccp-scientists-say-around-1-000-drones-would-be-enough-to-cut-satellite-internet-to-the-island
    0 Comments 0 Shares 190 Views 0 Reviews
  • จุดเริ่มต้นของ MP3

    ข่าวนี้เล่าถึงการที่ สิทธิบัตร MP3 (MPEG Audio Layer III) ได้รับการอนุมัติในสหรัฐฯ เมื่อปี 1996 ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติวงการดนตรีดิจิทัล ตั้งแต่การแชร์เพลงแบบ peer-to-peer ไปจนถึงการเกิดขึ้นของ iTunes และบริการสตรีมมิ่งในปัจจุบัน

    สิทธิบัตร MP3 ถูกมอบให้กับ Fraunhofer Institut ในปี 1996 หลังจากการวิจัยที่เริ่มตั้งแต่ปี 1977 โดยนักวิทยาศาสตร์อย่าง Karlheinz Brandenburg และทีมงาน MP3 ใช้เทคนิคการบีบอัดแบบ lossy compression ที่สามารถลดขนาดไฟล์เสียงลงได้ถึง 75–95% โดยยังคงคุณภาพที่ใกล้เคียงต้นฉบับ ทำให้การจัดเก็บและส่งต่อเพลงผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นไปได้จริง

    การเปลี่ยนแปลงในยุคอินเทอร์เน็ต
    หลังจากสิทธิบัตรได้รับการอนุมัติ MP3 ถูกนำไปใช้ในซอฟต์แวร์ CD ripper และ encoder apps ทำให้ผู้ใช้สามารถแปลงเพลงจากแผ่น CD เป็นไฟล์ MP3 และแชร์ผ่าน FTP หรือโปรแกรมอย่าง Napster (1999) ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ต่อวงการเพลงแบบดั้งเดิม พร้อมกับการมาของ WinAmp (1998) ที่กลายเป็นโปรแกรมเล่นเพลงยอดนิยม

    การเกิดขึ้นของ iPod และ iTunes
    ปี 2001 Apple เปิดตัว iTunes และ iPod พร้อมสโลแกน “1,000 songs in your pocket” ซึ่งช่วยทำให้การฟังเพลงดิจิทัลถูกต้องตามกฎหมายมากขึ้น และในปี 2003 iTunes Store เปิดขายเพลงดิจิทัลในราคา $0.99 ต่อเพลง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้วงการเพลงเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ

    มรดกของ MP3
    แม้สิทธิบัตร MP3 หมดอายุในปี 2017 และถูกแทนที่ด้วยฟอร์แมตใหม่อย่าง AAC และ FLAC แต่ MP3 ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของยุคที่ดนตรีเปลี่ยนผ่านจากสื่อกายภาพไปสู่โลกดิจิทัล และเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดบริการสตรีมมิ่งที่เราใช้กันทุกวันนี้

    สรุปสาระสำคัญ
    การอนุมัติสิทธิบัตร MP3 ปี 1996
    Fraunhofer Institut เป็นผู้ถือสิทธิ์
    ใช้เทคนิค lossy compression ลดขนาดไฟล์เสียง 75–95%

    การเปลี่ยนแปลงในยุคอินเทอร์เน็ต
    โปรแกรม CD ripper และ Napster ทำให้เพลงถูกแชร์ออนไลน์
    WinAmp กลายเป็นโปรแกรมเล่นเพลงยอดนิยม

    การเกิดขึ้นของ iPod และ iTunes
    Apple เปิดตัว iTunes และ iPod ในปี 2001
    iTunes Store ปี 2003 ขายเพลงดิจิทัลถูกลิขสิทธิ์

    มรดกของ MP3
    สิทธิบัตรหมดอายุในปี 2017
    ถูกแทนที่ด้วย AAC และ FLAC แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของยุคดิจิทัล

    คำเตือนต่ออุตสาหกรรมเพลง
    การแชร์ไฟล์แบบ peer-to-peer ทำให้เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ครั้งใหญ่
    การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลทำให้ธุรกิจเพลงแบบดั้งเดิมสูญเสียรายได้มหาศาล

    https://www.tomshardware.com/software/the-u-s-patent-for-mp3-audio-was-granted-on-this-day-in-1996-laying-the-foundations-for-peer-to-peer-music-sharing-itunes-and-todays-streaming-services
    🎶 จุดเริ่มต้นของ MP3 ข่าวนี้เล่าถึงการที่ สิทธิบัตร MP3 (MPEG Audio Layer III) ได้รับการอนุมัติในสหรัฐฯ เมื่อปี 1996 ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติวงการดนตรีดิจิทัล ตั้งแต่การแชร์เพลงแบบ peer-to-peer ไปจนถึงการเกิดขึ้นของ iTunes และบริการสตรีมมิ่งในปัจจุบัน สิทธิบัตร MP3 ถูกมอบให้กับ Fraunhofer Institut ในปี 1996 หลังจากการวิจัยที่เริ่มตั้งแต่ปี 1977 โดยนักวิทยาศาสตร์อย่าง Karlheinz Brandenburg และทีมงาน MP3 ใช้เทคนิคการบีบอัดแบบ lossy compression ที่สามารถลดขนาดไฟล์เสียงลงได้ถึง 75–95% โดยยังคงคุณภาพที่ใกล้เคียงต้นฉบับ ทำให้การจัดเก็บและส่งต่อเพลงผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นไปได้จริง 💻 การเปลี่ยนแปลงในยุคอินเทอร์เน็ต หลังจากสิทธิบัตรได้รับการอนุมัติ MP3 ถูกนำไปใช้ในซอฟต์แวร์ CD ripper และ encoder apps ทำให้ผู้ใช้สามารถแปลงเพลงจากแผ่น CD เป็นไฟล์ MP3 และแชร์ผ่าน FTP หรือโปรแกรมอย่าง Napster (1999) ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ต่อวงการเพลงแบบดั้งเดิม พร้อมกับการมาของ WinAmp (1998) ที่กลายเป็นโปรแกรมเล่นเพลงยอดนิยม 📱 การเกิดขึ้นของ iPod และ iTunes ปี 2001 Apple เปิดตัว iTunes และ iPod พร้อมสโลแกน “1,000 songs in your pocket” ซึ่งช่วยทำให้การฟังเพลงดิจิทัลถูกต้องตามกฎหมายมากขึ้น และในปี 2003 iTunes Store เปิดขายเพลงดิจิทัลในราคา $0.99 ต่อเพลง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้วงการเพลงเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ 🌍 มรดกของ MP3 แม้สิทธิบัตร MP3 หมดอายุในปี 2017 และถูกแทนที่ด้วยฟอร์แมตใหม่อย่าง AAC และ FLAC แต่ MP3 ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของยุคที่ดนตรีเปลี่ยนผ่านจากสื่อกายภาพไปสู่โลกดิจิทัล และเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดบริการสตรีมมิ่งที่เราใช้กันทุกวันนี้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การอนุมัติสิทธิบัตร MP3 ปี 1996 ➡️ Fraunhofer Institut เป็นผู้ถือสิทธิ์ ➡️ ใช้เทคนิค lossy compression ลดขนาดไฟล์เสียง 75–95% ✅ การเปลี่ยนแปลงในยุคอินเทอร์เน็ต ➡️ โปรแกรม CD ripper และ Napster ทำให้เพลงถูกแชร์ออนไลน์ ➡️ WinAmp กลายเป็นโปรแกรมเล่นเพลงยอดนิยม ✅ การเกิดขึ้นของ iPod และ iTunes ➡️ Apple เปิดตัว iTunes และ iPod ในปี 2001 ➡️ iTunes Store ปี 2003 ขายเพลงดิจิทัลถูกลิขสิทธิ์ ✅ มรดกของ MP3 ➡️ สิทธิบัตรหมดอายุในปี 2017 ➡️ ถูกแทนที่ด้วย AAC และ FLAC แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของยุคดิจิทัล ‼️ คำเตือนต่ออุตสาหกรรมเพลง ⛔ การแชร์ไฟล์แบบ peer-to-peer ทำให้เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ครั้งใหญ่ ⛔ การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลทำให้ธุรกิจเพลงแบบดั้งเดิมสูญเสียรายได้มหาศาล https://www.tomshardware.com/software/the-u-s-patent-for-mp3-audio-was-granted-on-this-day-in-1996-laying-the-foundations-for-peer-to-peer-music-sharing-itunes-and-todays-streaming-services
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • Amazon เปิดตัว Leo Ultra: ดาวเทียมอินเทอร์เน็ตแรงสุด 1Gbps

    Amazon ประกาศเปิดตัว Leo Ultra ซึ่งเป็นเทอร์มินัลดาวเทียมอินเทอร์เน็ตระดับองค์กรที่สามารถให้ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดถึง 1Gbps และอัปโหลด 400Mbps โดยอุปกรณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Amazon Leo (ชื่อใหม่ของ Project Kuiper) ที่ตั้งเป้าให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมทั่วโลกภายในปี 2026

    คุณสมบัติและการออกแบบ
    Leo Ultra มีขนาดประมาณ 20x30 นิ้ว หนา 1.9 นิ้ว ออกแบบให้ติดตั้งกลางแจ้งบนเสา โดยใช้เทคโนโลยี full-duplex phased-array ที่สามารถรับ–ส่งข้อมูลพร้อมกันได้ ตัวเครื่องยังมีระบบระบายความร้อนในตัวและทนต่อสภาพอากาศ ทำให้เหมาะกับการใช้งานในองค์กรที่ต้องการความเสถียรสูง

    การแข่งขันกับ Starlink และตลาดโลก
    Amazon ได้ปล่อยดาวเทียมกว่า 150 ดวงแล้ว และตั้งเป้าจะปล่อยหลายพันดวงเพื่อครอบคลุมทั่วโลก Leo Ultra ถูกวางตัวเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Starlink ของ SpaceX แต่เน้นตลาดองค์กรและการเชื่อมต่อกับ AWS Cloud โดยตรง (Direct-to-AWS) ซึ่งช่วยให้ข้อมูลจากดาวเทียมเข้าสู่ระบบคลาวด์ได้ทันทีโดยไม่ผ่านอินเทอร์เน็ตสาธารณะ

    ความหมายต่ออนาคตการเชื่อมต่อ
    การเปิดตัว Leo Ultra แสดงให้เห็นว่า Amazon ต้องการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารที่ผสานกับบริการคลาวด์ของตนเอง ซึ่งอาจเปลี่ยนวิธีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในองค์กรและศูนย์ข้อมูลทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ราคาของบริการและอุปกรณ์ยังไม่ถูกเปิดเผย ทำให้ตลาดยังคงจับตาดูว่า Amazon จะสามารถแข่งขันกับ Starlink ได้จริงหรือไม่

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปิดตัว Leo Ultra
    ความเร็วดาวน์โหลด 1Gbps และอัปโหลด 400Mbps

    คุณสมบัติหลัก
    ใช้ full-duplex phased-array, ทนสภาพอากาศ, ติดตั้งกลางแจ้ง

    การแข่งขันในตลาด
    แข่งกับ Starlink โดยเน้นตลาดองค์กรและเชื่อมต่อ AWS Cloud

    แผนการปล่อยดาวเทียม
    ปล่อยแล้วกว่า 150 ดวง ตั้งเป้าหลายพันดวงเพื่อครอบคลุมทั่วโลก

    คำเตือนจากนักวิเคราะห์
    ราคายังไม่ถูกเปิดเผย อาจเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึง

    ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน
    ต้องเผชิญกับ Starlink ที่ครองตลาดผู้ใช้ทั่วไปอยู่แล้ว

    https://www.tomshardware.com/networking/amazon-leo-ultra-enterprise-grade-terminal-targets-up-to-1gbps-satellite-internet
    🛰️ Amazon เปิดตัว Leo Ultra: ดาวเทียมอินเทอร์เน็ตแรงสุด 1Gbps Amazon ประกาศเปิดตัว Leo Ultra ซึ่งเป็นเทอร์มินัลดาวเทียมอินเทอร์เน็ตระดับองค์กรที่สามารถให้ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดถึง 1Gbps และอัปโหลด 400Mbps โดยอุปกรณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Amazon Leo (ชื่อใหม่ของ Project Kuiper) ที่ตั้งเป้าให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมทั่วโลกภายในปี 2026 ⚙️ คุณสมบัติและการออกแบบ Leo Ultra มีขนาดประมาณ 20x30 นิ้ว หนา 1.9 นิ้ว ออกแบบให้ติดตั้งกลางแจ้งบนเสา โดยใช้เทคโนโลยี full-duplex phased-array ที่สามารถรับ–ส่งข้อมูลพร้อมกันได้ ตัวเครื่องยังมีระบบระบายความร้อนในตัวและทนต่อสภาพอากาศ ทำให้เหมาะกับการใช้งานในองค์กรที่ต้องการความเสถียรสูง 🌍 การแข่งขันกับ Starlink และตลาดโลก Amazon ได้ปล่อยดาวเทียมกว่า 150 ดวงแล้ว และตั้งเป้าจะปล่อยหลายพันดวงเพื่อครอบคลุมทั่วโลก Leo Ultra ถูกวางตัวเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Starlink ของ SpaceX แต่เน้นตลาดองค์กรและการเชื่อมต่อกับ AWS Cloud โดยตรง (Direct-to-AWS) ซึ่งช่วยให้ข้อมูลจากดาวเทียมเข้าสู่ระบบคลาวด์ได้ทันทีโดยไม่ผ่านอินเทอร์เน็ตสาธารณะ 🛡️ ความหมายต่ออนาคตการเชื่อมต่อ การเปิดตัว Leo Ultra แสดงให้เห็นว่า Amazon ต้องการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารที่ผสานกับบริการคลาวด์ของตนเอง ซึ่งอาจเปลี่ยนวิธีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในองค์กรและศูนย์ข้อมูลทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ราคาของบริการและอุปกรณ์ยังไม่ถูกเปิดเผย ทำให้ตลาดยังคงจับตาดูว่า Amazon จะสามารถแข่งขันกับ Starlink ได้จริงหรือไม่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปิดตัว Leo Ultra ➡️ ความเร็วดาวน์โหลด 1Gbps และอัปโหลด 400Mbps ✅ คุณสมบัติหลัก ➡️ ใช้ full-duplex phased-array, ทนสภาพอากาศ, ติดตั้งกลางแจ้ง ✅ การแข่งขันในตลาด ➡️ แข่งกับ Starlink โดยเน้นตลาดองค์กรและเชื่อมต่อ AWS Cloud ✅ แผนการปล่อยดาวเทียม ➡️ ปล่อยแล้วกว่า 150 ดวง ตั้งเป้าหลายพันดวงเพื่อครอบคลุมทั่วโลก ‼️ คำเตือนจากนักวิเคราะห์ ⛔ ราคายังไม่ถูกเปิดเผย อาจเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึง ‼️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน ⛔ ต้องเผชิญกับ Starlink ที่ครองตลาดผู้ใช้ทั่วไปอยู่แล้ว https://www.tomshardware.com/networking/amazon-leo-ultra-enterprise-grade-terminal-targets-up-to-1gbps-satellite-internet
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Amazon unveils Starlink rival capable of up to 1 Gbps satellite internet — Leo Ultra is an enterprise-grade terminal with 400 Mbps upload speeds
    Amazon’s rebranded satellite internet service launches the Leo Ultra phased‑array antenna and begins enterprise preview ahead of 2026 rollout.
    0 Comments 0 Shares 140 Views 0 Reviews
  • “รายงานสภาคองเกรสเตือน จีนพัฒนาเทคโนโลยีตัดสายเคเบิลใต้น้ำ เสี่ยงกระทบการสื่อสารโลก”

    รายงานประจำปีจาก U.S.-China Economic and Security Review Commission ที่ส่งถึงสภาคองเกรสสหรัฐฯ เปิดเผยว่าจีนกำลังพัฒนาเครื่องมือและเทคนิคเพื่อทำลายสายเคเบิลใต้น้ำ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่รับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตกว่า 95% ของโลก หน่วยงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนได้จดสิทธิบัตรและทดลองอุปกรณ์ตัดสายเคเบิลที่สามารถทำงานได้ลึกกว่า 13,000 ฟุต

    นอกจากการวิจัยแล้ว ยังมีเหตุการณ์จริงที่ถูกเชื่อมโยงกับจีน เช่น กรณีเรือจีนลากสมอเรือยาวกว่า 100 ไมล์ในทะเลบอลติกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 จนทำให้สายเคเบิลระหว่างสวีเดน-ลิทัวเนีย และเยอรมนี-ฟินแลนด์ ถูกตัดขาด เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลว่าจีนอาจใช้ยุทธวิธีดังกล่าวเพื่อสร้างแรงกดดันทางการเมืองและความมั่นคง

    รายงานยังเตือนว่าหากเกิดการรุกรานไต้หวัน จีนอาจใช้วิธีตัดสายเคเบิลใต้น้ำเพื่อปิดกั้นการสื่อสารของเกาะ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อธุรกรรมทางการเงิน บริการภาครัฐ และระบบคลาวด์ที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ การหยุดชะงักแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจสร้างผลกระทบมหาศาลต่อเศรษฐกิจโลก

    เพื่อรับมือกับความเสี่ยงนี้ หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ เช่น FCC กำลังพิจารณากฎใหม่เพื่อห้ามการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์จากจีนในสายเคเบิลที่เชื่อมต่อกับสหรัฐฯ รวมถึงเพิ่มมาตรการตรวจสอบและยกระดับความปลอดภัยในการอนุญาตโครงการใหม่ ๆ

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การพัฒนาเทคโนโลยีของจีน
    จดสิทธิบัตรอุปกรณ์ตัดสายเคเบิลใต้น้ำ
    สามารถทำงานได้ลึกกว่า 13,000 ฟุต

    เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นแล้ว
    เรือจีนลากสมอทำสายเคเบิลในทะเลบอลติกเสียหาย
    สายเคเบิลระหว่างสวีเดน-ลิทัวเนีย และเยอรมนี-ฟินแลนด์ ถูกตัดขาด

    ความเสี่ยงต่อไต้หวันและโลก
    จีนอาจตัดสายเคเบิลเพื่อปิดการสื่อสารของไต้หวัน
    กระทบธุรกรรมการเงิน บริการภาครัฐ และระบบคลาวด์

    มาตรการตอบโต้ของสหรัฐฯ
    FCC เสนอห้ามใช้อุปกรณ์จีนในสายเคเบิลเชื่อมต่อสหรัฐฯ
    เพิ่มมาตรการตรวจสอบและยกระดับความปลอดภัย

    ข้อกังวลระดับโลก
    สายเคเบิลใต้น้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอินเทอร์เน็ตโลก
    การหยุดชะงักแม้เล็กน้อยก็สร้างผลกระทบมหาศาลต่อเศรษฐกิจและการสื่อสาร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/congressional-report-warns-of-chinese-undersea-cable-cutting-capabilities
    🌊 “รายงานสภาคองเกรสเตือน จีนพัฒนาเทคโนโลยีตัดสายเคเบิลใต้น้ำ เสี่ยงกระทบการสื่อสารโลก” รายงานประจำปีจาก U.S.-China Economic and Security Review Commission ที่ส่งถึงสภาคองเกรสสหรัฐฯ เปิดเผยว่าจีนกำลังพัฒนาเครื่องมือและเทคนิคเพื่อทำลายสายเคเบิลใต้น้ำ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่รับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตกว่า 95% ของโลก หน่วยงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนได้จดสิทธิบัตรและทดลองอุปกรณ์ตัดสายเคเบิลที่สามารถทำงานได้ลึกกว่า 13,000 ฟุต นอกจากการวิจัยแล้ว ยังมีเหตุการณ์จริงที่ถูกเชื่อมโยงกับจีน เช่น กรณีเรือจีนลากสมอเรือยาวกว่า 100 ไมล์ในทะเลบอลติกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 จนทำให้สายเคเบิลระหว่างสวีเดน-ลิทัวเนีย และเยอรมนี-ฟินแลนด์ ถูกตัดขาด เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลว่าจีนอาจใช้ยุทธวิธีดังกล่าวเพื่อสร้างแรงกดดันทางการเมืองและความมั่นคง รายงานยังเตือนว่าหากเกิดการรุกรานไต้หวัน จีนอาจใช้วิธีตัดสายเคเบิลใต้น้ำเพื่อปิดกั้นการสื่อสารของเกาะ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อธุรกรรมทางการเงิน บริการภาครัฐ และระบบคลาวด์ที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ การหยุดชะงักแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจสร้างผลกระทบมหาศาลต่อเศรษฐกิจโลก เพื่อรับมือกับความเสี่ยงนี้ หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ เช่น FCC กำลังพิจารณากฎใหม่เพื่อห้ามการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์จากจีนในสายเคเบิลที่เชื่อมต่อกับสหรัฐฯ รวมถึงเพิ่มมาตรการตรวจสอบและยกระดับความปลอดภัยในการอนุญาตโครงการใหม่ ๆ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีของจีน ➡️ จดสิทธิบัตรอุปกรณ์ตัดสายเคเบิลใต้น้ำ ➡️ สามารถทำงานได้ลึกกว่า 13,000 ฟุต ✅ เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นแล้ว ➡️ เรือจีนลากสมอทำสายเคเบิลในทะเลบอลติกเสียหาย ➡️ สายเคเบิลระหว่างสวีเดน-ลิทัวเนีย และเยอรมนี-ฟินแลนด์ ถูกตัดขาด ✅ ความเสี่ยงต่อไต้หวันและโลก ➡️ จีนอาจตัดสายเคเบิลเพื่อปิดการสื่อสารของไต้หวัน ➡️ กระทบธุรกรรมการเงิน บริการภาครัฐ และระบบคลาวด์ ✅ มาตรการตอบโต้ของสหรัฐฯ ➡️ FCC เสนอห้ามใช้อุปกรณ์จีนในสายเคเบิลเชื่อมต่อสหรัฐฯ ➡️ เพิ่มมาตรการตรวจสอบและยกระดับความปลอดภัย ‼️ ข้อกังวลระดับโลก ⛔ สายเคเบิลใต้น้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอินเทอร์เน็ตโลก ⛔ การหยุดชะงักแม้เล็กน้อยก็สร้างผลกระทบมหาศาลต่อเศรษฐกิจและการสื่อสาร https://www.tomshardware.com/tech-industry/congressional-report-warns-of-chinese-undersea-cable-cutting-capabilities
    0 Comments 0 Shares 234 Views 0 Reviews
  • “Amazon เผชิญศึกกฎหมายในฝรั่งเศส: ใบอนุญาตดาวเทียมอินเทอร์เน็ตถูกท้าทาย”

    Amazon ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลโทรคมนาคมของฝรั่งเศส (Arcep) ให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับโครงการดาวเทียมอินเทอร์เน็ตเป็นเวลา 10 ปี เพื่อสร้างเครือข่ายดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) แข่งกับผู้เล่นรายใหญ่อย่าง SpaceX และ OneWeb อย่างไรก็ตาม สหภาพแรงงาน CFE-CGC Telecoms ได้ยื่นฟ้องต่อศาลสูงสุดของฝรั่งเศสเพื่อขอให้ยกเลิกการอนุญาตดังกล่าว

    แรงงานมองว่าการให้สิทธิ์ Amazon อาจสร้างความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ เนื่องจากข้อมูลการสื่อสารอาจถูกควบคุมโดยบริษัทต่างชาติ อีกทั้งยังตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการอนุมัติและผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมฝรั่งเศส

    กรณีนี้ถือเป็นการทดสอบครั้งใหญ่สำหรับความทะเยอทะยานของ Amazon ในการเข้าสู่ธุรกิจอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทหรือภูมิภาคที่โครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตยังไม่ครอบคลุม

    แม้จะมีความท้าทายทางกฎหมาย แต่ Amazon ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการดาวเทียม Kuiper ที่ตั้งเป้าจะให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก และมองว่าการแข่งขันกับ SpaceX จะเป็นแรงผลักดันให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงผู้ใช้ได้เร็วขึ้น

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การอนุญาตจาก Arcep
    Amazon ได้สิทธิ์ใช้คลื่นความถี่ดาวเทียม 10 ปี
    โครงการ Kuiper ตั้งเป้าให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก

    การฟ้องร้องโดยสหภาพแรงงานฝรั่งเศส
    ยื่นต่อศาลสูงสุดเพื่อยกเลิกใบอนุญาต
    ตั้งข้อสงสัยเรื่องความโปร่งใสและผลกระทบต่อการแข่งขัน

    เป้าหมายของ Amazon
    แข่งขันกับ SpaceX และ OneWeb ในตลาดดาวเทียมอินเทอร์เน็ต
    เน้นพื้นที่ชนบทและภูมิภาคที่ขาดโครงสร้างพื้นฐาน

    ข้อกังวลด้านความมั่นคงและข้อมูล
    การควบคุมข้อมูลโดยบริษัทต่างชาติอาจเสี่ยงต่อความมั่นคง
    อาจกระทบต่อผู้ให้บริการโทรคมนาคมท้องถิ่น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/amazon039s-satellite-internet-licence-faces-legal-challenge-in-france
    🚀 “Amazon เผชิญศึกกฎหมายในฝรั่งเศส: ใบอนุญาตดาวเทียมอินเทอร์เน็ตถูกท้าทาย” Amazon ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลโทรคมนาคมของฝรั่งเศส (Arcep) ให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับโครงการดาวเทียมอินเทอร์เน็ตเป็นเวลา 10 ปี เพื่อสร้างเครือข่ายดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) แข่งกับผู้เล่นรายใหญ่อย่าง SpaceX และ OneWeb อย่างไรก็ตาม สหภาพแรงงาน CFE-CGC Telecoms ได้ยื่นฟ้องต่อศาลสูงสุดของฝรั่งเศสเพื่อขอให้ยกเลิกการอนุญาตดังกล่าว แรงงานมองว่าการให้สิทธิ์ Amazon อาจสร้างความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ เนื่องจากข้อมูลการสื่อสารอาจถูกควบคุมโดยบริษัทต่างชาติ อีกทั้งยังตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการอนุมัติและผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมฝรั่งเศส กรณีนี้ถือเป็นการทดสอบครั้งใหญ่สำหรับความทะเยอทะยานของ Amazon ในการเข้าสู่ธุรกิจอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทหรือภูมิภาคที่โครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตยังไม่ครอบคลุม แม้จะมีความท้าทายทางกฎหมาย แต่ Amazon ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการดาวเทียม Kuiper ที่ตั้งเป้าจะให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก และมองว่าการแข่งขันกับ SpaceX จะเป็นแรงผลักดันให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงผู้ใช้ได้เร็วขึ้น 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การอนุญาตจาก Arcep ➡️ Amazon ได้สิทธิ์ใช้คลื่นความถี่ดาวเทียม 10 ปี ➡️ โครงการ Kuiper ตั้งเป้าให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ✅ การฟ้องร้องโดยสหภาพแรงงานฝรั่งเศส ➡️ ยื่นต่อศาลสูงสุดเพื่อยกเลิกใบอนุญาต ➡️ ตั้งข้อสงสัยเรื่องความโปร่งใสและผลกระทบต่อการแข่งขัน ✅ เป้าหมายของ Amazon ➡️ แข่งขันกับ SpaceX และ OneWeb ในตลาดดาวเทียมอินเทอร์เน็ต ➡️ เน้นพื้นที่ชนบทและภูมิภาคที่ขาดโครงสร้างพื้นฐาน ‼️ ข้อกังวลด้านความมั่นคงและข้อมูล ⛔ การควบคุมข้อมูลโดยบริษัทต่างชาติอาจเสี่ยงต่อความมั่นคง ⛔ อาจกระทบต่อผู้ให้บริการโทรคมนาคมท้องถิ่น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/amazon039s-satellite-internet-licence-faces-legal-challenge-in-france
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Amazon's satellite internet licence faces legal challenge in France
    (Reuters) -A French union filed a legal challenge on Monday against a decision by the country's telecoms regulator to grant radio spectrum to Amazon's satellite internet service, the biggest test yet of the U.S. tech giant's broadband ambitions.
    0 Comments 0 Shares 160 Views 0 Reviews
  • “Starlink เปิดบริการ Direct-to-Cell ในยูเครน: ก้าวใหม่ของการสื่อสารท่ามกลางสงคราม”

    บริการ Direct-to-Cell ของ Starlink เปิดตัวครั้งแรกในยุโรปที่ยูเครน โดยร่วมมือกับ Kyivstar ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ที่สุดของประเทศ จุดประสงค์คือเพื่อให้ประชาชนยังสามารถสื่อสารได้แม้เผชิญกับไฟฟ้าดับและโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกทำลายจากสงคราม การเปิดตัวครั้งนี้เริ่มต้นด้วยบริการ SMS และมีแผนจะขยายไปสู่การโทรและอินเทอร์เน็ตในปีถัดไป

    เทคโนโลยีนี้ใช้ดาวเทียมของ Starlink เชื่อมต่อโดยตรงกับโทรศัพท์มือถือทั่วไป โดยไม่ต้องพึ่งเสาสัญญาณหรือโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดินมากนัก ถือเป็นการแก้ปัญหาการสื่อสารในพื้นที่ที่โครงข่ายถูกโจมตีหรือไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ยูเครนกำลังเผชิญอยู่

    การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนถึงบทบาทของ Elon Musk และบริษัท SpaceX ที่พยายามผลักดัน Starlink ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารระดับโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีภัยพิบัติหรือความขัดแย้งทางการเมือง เทคโนโลยีนี้จึงถูกมองว่าเป็น “ความหวังใหม่” ของการสื่อสารในยุคที่ไม่แน่นอน

    อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลและการพึ่งพาบริษัทเอกชนต่างชาติในการสื่อสารระดับประเทศ ซึ่งอาจกลายเป็นประเด็นทางการเมืองและความมั่นคงในอนาคต

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเปิดตัวบริการ Direct-to-Cell ในยูเครน
    ร่วมมือกับ Kyivstar ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่
    เริ่มต้นด้วยบริการ SMS และจะขยายไปสู่การโทรและอินเทอร์เน็ต

    เทคโนโลยีการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม
    โทรศัพท์มือถือทั่วไปสามารถเชื่อมต่อได้โดยตรง
    ไม่ต้องพึ่งเสาสัญญาณหรือโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดิน

    บทบาทของ Starlink และ SpaceX
    ผลักดันให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารระดับโลก
    เน้นช่วยเหลือพื้นที่ที่มีภัยพิบัติหรือสงคราม

    ข้อกังวลด้านความมั่นคงและข้อมูล
    การพึ่งพาบริษัทเอกชนต่างชาติอาจสร้างความเสี่ยง
    ความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้อาจถูกตั้งคำถาม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/24/starlink039s-direct-to-cell-service-launches-in-ukraine-in-european-first
    🛰️ “Starlink เปิดบริการ Direct-to-Cell ในยูเครน: ก้าวใหม่ของการสื่อสารท่ามกลางสงคราม” บริการ Direct-to-Cell ของ Starlink เปิดตัวครั้งแรกในยุโรปที่ยูเครน โดยร่วมมือกับ Kyivstar ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ที่สุดของประเทศ จุดประสงค์คือเพื่อให้ประชาชนยังสามารถสื่อสารได้แม้เผชิญกับไฟฟ้าดับและโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกทำลายจากสงคราม การเปิดตัวครั้งนี้เริ่มต้นด้วยบริการ SMS และมีแผนจะขยายไปสู่การโทรและอินเทอร์เน็ตในปีถัดไป เทคโนโลยีนี้ใช้ดาวเทียมของ Starlink เชื่อมต่อโดยตรงกับโทรศัพท์มือถือทั่วไป โดยไม่ต้องพึ่งเสาสัญญาณหรือโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดินมากนัก ถือเป็นการแก้ปัญหาการสื่อสารในพื้นที่ที่โครงข่ายถูกโจมตีหรือไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ยูเครนกำลังเผชิญอยู่ การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนถึงบทบาทของ Elon Musk และบริษัท SpaceX ที่พยายามผลักดัน Starlink ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารระดับโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีภัยพิบัติหรือความขัดแย้งทางการเมือง เทคโนโลยีนี้จึงถูกมองว่าเป็น “ความหวังใหม่” ของการสื่อสารในยุคที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลและการพึ่งพาบริษัทเอกชนต่างชาติในการสื่อสารระดับประเทศ ซึ่งอาจกลายเป็นประเด็นทางการเมืองและความมั่นคงในอนาคต 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเปิดตัวบริการ Direct-to-Cell ในยูเครน ➡️ ร่วมมือกับ Kyivstar ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ ➡️ เริ่มต้นด้วยบริการ SMS และจะขยายไปสู่การโทรและอินเทอร์เน็ต ✅ เทคโนโลยีการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม ➡️ โทรศัพท์มือถือทั่วไปสามารถเชื่อมต่อได้โดยตรง ➡️ ไม่ต้องพึ่งเสาสัญญาณหรือโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดิน ✅ บทบาทของ Starlink และ SpaceX ➡️ ผลักดันให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารระดับโลก ➡️ เน้นช่วยเหลือพื้นที่ที่มีภัยพิบัติหรือสงคราม ‼️ ข้อกังวลด้านความมั่นคงและข้อมูล ⛔ การพึ่งพาบริษัทเอกชนต่างชาติอาจสร้างความเสี่ยง ⛔ ความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้อาจถูกตั้งคำถาม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/24/starlink039s-direct-to-cell-service-launches-in-ukraine-in-european-first
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Starlink's direct-to-cell service launches in Ukraine in European first
    KYIV (Reuters) -Ukraine's largest mobile operator Kyivstar has become the first in Europe to launch Starlink's direct-to-cell satellite technology in a bid to keep millions connected amid wartime blackouts and disrupted infrastructure, the company said on Monday.
    0 Comments 0 Shares 174 Views 0 Reviews
  • “Tools for Humanity: สตาร์ทอัพสแกนม่านตา กับวัฒนธรรมการทำงานสุดโหดใน Silicon Valley”

    บริษัท Tools for Humanity ที่ก่อตั้งโดย Sam Altman และ Alex Blania กำลังเป็นที่จับตามองใน Silicon Valley เพราะนอกจากเทคโนโลยี “Orb” ที่ใช้สแกนม่านตาเพื่อสร้าง World ID แล้ว ยังมีวัฒนธรรมการทำงานที่เข้มข้นอย่างมาก พนักงานถูกคาดหวังให้ทำงานตลอดเวลา รวมถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยผู้บริหารย้ำว่าภารกิจนี้คือ “เพื่อมนุษยชาติ” และใครที่ไม่ทุ่มเทเต็มที่ก็ไม่ควรอยู่ในทีม

    ในด้านเทคโนโลยี Orb ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหายุค AI ที่ข้อมูลปลอมและบอทกำลังแพร่หลาย การสแกนม่านตาจะสร้างรหัสเฉพาะบุคคลเพื่อยืนยันว่าเป็นมนุษย์จริง ๆ พร้อมให้สิทธิ์เข้าถึงระบบนิเวศ World App และรับโทเคนสกุลเงินดิจิทัล WLD เป็นรางวัล อย่างไรก็ตาม แม้ตั้งเป้าหมายผู้ใช้ถึง 1 พันล้านคน แต่ปัจจุบันมีเพียงราว 17.5 ล้านคน หรือไม่ถึง 2% ของเป้าหมาย

    สิ่งที่น่ากังวลคือหลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ โคลอมเบีย และไทย ได้สั่งระงับหรือสอบสวนการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลชีวมิติ ขณะที่บางประเทศถึงขั้นมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง เพราะการเก็บข้อมูลม่านตาอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด

    แม้จะมีเสียงวิจารณ์ แต่บริษัทก็ยังได้รับเงินลงทุนกว่า 240 ล้านดอลลาร์จากบริษัทรายใหญ่ และยังคงผลักดันโครงการต่อไป โดยมองว่านี่คือโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของโลกอินเทอร์เน็ตในยุค AI ที่ต้องมี “Proof of Humanity” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าผู้ใช้งานคือมนุษย์จริง ๆ

    สรุปเป็นหัวข้อ
    วัฒนธรรมการทำงานสุดโหดของ Tools for Humanity
    พนักงานถูกคาดหวังให้ทำงานตลอดเวลา รวมถึงวันหยุด
    ผู้บริหารย้ำว่าใครไม่ทุ่มเทเต็มที่ “ไม่ควรอยู่ที่นี่”

    เทคโนโลยี Orb และ World ID
    ใช้สแกนม่านตาเพื่อสร้างรหัสเฉพาะบุคคล
    ผู้ใช้ได้รับโทเคน WLD เป็นรางวัลหลังการสแกน

    เป้าหมายและความคืบหน้า
    ตั้งเป้าหมายผู้ใช้ 1 พันล้านคน
    ปัจจุบันมีเพียง 17.5 ล้านคน หรือไม่ถึง 2%

    การสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่
    ได้เงินลงทุนกว่า 240 ล้านดอลลาร์
    มีพันธมิตรกับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก

    ข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและกฎหมาย
    หลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ โคลอมเบีย และไทย สั่งระงับหรือสอบสวน
    มีความเสี่ยงข้อมูลชีวมิติถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์

    ความท้าทายต่อการยอมรับระดับโลก
    ผู้ใช้ยังมีจำนวนต่ำมากเมื่อเทียบกับเป้าหมาย
    ถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงในบางประเทศ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/24/this-sam-altman-startup-might-have-the-most-butal-work-culture-in-silicon-valley
    📰 “Tools for Humanity: สตาร์ทอัพสแกนม่านตา กับวัฒนธรรมการทำงานสุดโหดใน Silicon Valley” บริษัท Tools for Humanity ที่ก่อตั้งโดย Sam Altman และ Alex Blania กำลังเป็นที่จับตามองใน Silicon Valley เพราะนอกจากเทคโนโลยี “Orb” ที่ใช้สแกนม่านตาเพื่อสร้าง World ID แล้ว ยังมีวัฒนธรรมการทำงานที่เข้มข้นอย่างมาก พนักงานถูกคาดหวังให้ทำงานตลอดเวลา รวมถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยผู้บริหารย้ำว่าภารกิจนี้คือ “เพื่อมนุษยชาติ” และใครที่ไม่ทุ่มเทเต็มที่ก็ไม่ควรอยู่ในทีม ในด้านเทคโนโลยี Orb ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหายุค AI ที่ข้อมูลปลอมและบอทกำลังแพร่หลาย การสแกนม่านตาจะสร้างรหัสเฉพาะบุคคลเพื่อยืนยันว่าเป็นมนุษย์จริง ๆ พร้อมให้สิทธิ์เข้าถึงระบบนิเวศ World App และรับโทเคนสกุลเงินดิจิทัล WLD เป็นรางวัล อย่างไรก็ตาม แม้ตั้งเป้าหมายผู้ใช้ถึง 1 พันล้านคน แต่ปัจจุบันมีเพียงราว 17.5 ล้านคน หรือไม่ถึง 2% ของเป้าหมาย สิ่งที่น่ากังวลคือหลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ โคลอมเบีย และไทย ได้สั่งระงับหรือสอบสวนการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลชีวมิติ ขณะที่บางประเทศถึงขั้นมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง เพราะการเก็บข้อมูลม่านตาอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด แม้จะมีเสียงวิจารณ์ แต่บริษัทก็ยังได้รับเงินลงทุนกว่า 240 ล้านดอลลาร์จากบริษัทรายใหญ่ และยังคงผลักดันโครงการต่อไป โดยมองว่านี่คือโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของโลกอินเทอร์เน็ตในยุค AI ที่ต้องมี “Proof of Humanity” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าผู้ใช้งานคือมนุษย์จริง ๆ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ วัฒนธรรมการทำงานสุดโหดของ Tools for Humanity ➡️ พนักงานถูกคาดหวังให้ทำงานตลอดเวลา รวมถึงวันหยุด ➡️ ผู้บริหารย้ำว่าใครไม่ทุ่มเทเต็มที่ “ไม่ควรอยู่ที่นี่” ✅ เทคโนโลยี Orb และ World ID ➡️ ใช้สแกนม่านตาเพื่อสร้างรหัสเฉพาะบุคคล ➡️ ผู้ใช้ได้รับโทเคน WLD เป็นรางวัลหลังการสแกน ✅ เป้าหมายและความคืบหน้า ➡️ ตั้งเป้าหมายผู้ใช้ 1 พันล้านคน ➡️ ปัจจุบันมีเพียง 17.5 ล้านคน หรือไม่ถึง 2% ✅ การสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ ➡️ ได้เงินลงทุนกว่า 240 ล้านดอลลาร์ ➡️ มีพันธมิตรกับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก ‼️ ข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและกฎหมาย ⛔ หลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ โคลอมเบีย และไทย สั่งระงับหรือสอบสวน ⛔ มีความเสี่ยงข้อมูลชีวมิติถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ‼️ ความท้าทายต่อการยอมรับระดับโลก ⛔ ผู้ใช้ยังมีจำนวนต่ำมากเมื่อเทียบกับเป้าหมาย ⛔ ถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงในบางประเทศ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/24/this-sam-altman-startup-might-have-the-most-butal-work-culture-in-silicon-valley
    WWW.THESTAR.COM.MY
    This Sam Altman startup might have the most brutal work culture in Silicon Valley
    Altman's biometrics startup, Tools for Humanity, told employees that they're 'always on call.'
    0 Comments 0 Shares 185 Views 0 Reviews
  • พอร์ต USB-C ของ Samsung ทำได้มากกว่าชาร์จแบต

    สมาร์ทโฟน Samsung รุ่นใหม่ ๆ โดยเฉพาะซีรีส์กลางถึงเรือธง มาพร้อม USB-C port ที่ไม่ได้มีไว้แค่ชาร์จไฟ แต่ยังสามารถทำงานได้หลากหลาย ทั้งการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม การถ่ายโอนข้อมูล และแม้กระทั่งการแปลงร่างเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดย่อมผ่าน Samsung DeX

    การถ่ายโอนและจัดเก็บข้อมูล
    เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนอื่น เพื่อถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงกว่าการส่งผ่าน Wi-Fi หรือ Bluetooth
    เชื่อมต่อ External Storage เช่น Flash Drive หรือ External HDD/SSD ผ่าน USB-C adapter เพื่อสำรองหรือย้ายไฟล์ได้ทันที
    รองรับการจัดการไฟล์ผ่านแอป File Manager ทั้งของ Samsung และ third-party

    การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์เสริม
    Ethernet Adapter: ใช้สาย LAN เชื่อมต่อกับ USB-C เพื่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียรกว่า Wi-Fi
    USB-C to HDMI: ส่งภาพไปยังจอภายนอกหรือทีวีได้ทันที เหมาะสำหรับการประชุมหรือดูหนังกับครอบครัว
    อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เช่น Thermal Camera, Portable Monitor หรือแม้แต่การเชื่อมต่อกับเครื่องมือวัดต่าง ๆ

    เปลี่ยนมือถือเป็นคอมพิวเตอร์ด้วย DeX
    Samsung DeX ช่วยให้สมาร์ทโฟนกลายเป็น Desktop-like Interface เมื่อเชื่อมต่อกับจอและอุปกรณ์เสริม เช่น คีย์บอร์ดและเมาส์ เหมาะสำหรับงานเอกสาร การแก้ไขรูปภาพ หรือการใช้งานเว็บที่ต้องการอินเทอร์เฟซแบบ PC โดยไม่ต้องพกโน้ตบุ๊ก

    สรุปสาระสำคัญ
    การถ่ายโอนข้อมูล
    เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนอื่น
    รองรับ External Storage ผ่าน USB-C

    การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์เสริม
    ใช้ Ethernet Adapter เพื่ออินเทอร์เน็ตเสถียร
    ส่งภาพผ่าน HDMI ไปยังจอภายนอก
    รองรับอุปกรณ์เสริมหลากหลาย

    Samsung DeX
    เปลี่ยนมือถือเป็น Desktop Interface
    ใช้งานร่วมกับคีย์บอร์ดและเมาส์

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ต้องใช้สาย/อุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐาน USB-C
    การเชื่อมต่อบางอย่างอาจไม่รองรับในรุ่นราคาประหยัด
    การใช้พอร์ต USB-C ต่อเนื่องอาจทำให้เครื่องร้อนขึ้น

    https://www.slashgear.com/2030826/your-samsung-phone-usb-port-isnt-just-for-charging-heres-what-it-can-do/
    🔌 พอร์ต USB-C ของ Samsung ทำได้มากกว่าชาร์จแบต สมาร์ทโฟน Samsung รุ่นใหม่ ๆ โดยเฉพาะซีรีส์กลางถึงเรือธง มาพร้อม USB-C port ที่ไม่ได้มีไว้แค่ชาร์จไฟ แต่ยังสามารถทำงานได้หลากหลาย ทั้งการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม การถ่ายโอนข้อมูล และแม้กระทั่งการแปลงร่างเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดย่อมผ่าน Samsung DeX 📂 การถ่ายโอนและจัดเก็บข้อมูล 💠 เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนอื่น เพื่อถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงกว่าการส่งผ่าน Wi-Fi หรือ Bluetooth 💠 เชื่อมต่อ External Storage เช่น Flash Drive หรือ External HDD/SSD ผ่าน USB-C adapter เพื่อสำรองหรือย้ายไฟล์ได้ทันที 💠 รองรับการจัดการไฟล์ผ่านแอป File Manager ทั้งของ Samsung และ third-party 🌐 การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์เสริม 💠 Ethernet Adapter: ใช้สาย LAN เชื่อมต่อกับ USB-C เพื่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียรกว่า Wi-Fi 💠 USB-C to HDMI: ส่งภาพไปยังจอภายนอกหรือทีวีได้ทันที เหมาะสำหรับการประชุมหรือดูหนังกับครอบครัว 💠 อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เช่น Thermal Camera, Portable Monitor หรือแม้แต่การเชื่อมต่อกับเครื่องมือวัดต่าง ๆ 💻 เปลี่ยนมือถือเป็นคอมพิวเตอร์ด้วย DeX Samsung DeX ช่วยให้สมาร์ทโฟนกลายเป็น Desktop-like Interface เมื่อเชื่อมต่อกับจอและอุปกรณ์เสริม เช่น คีย์บอร์ดและเมาส์ เหมาะสำหรับงานเอกสาร การแก้ไขรูปภาพ หรือการใช้งานเว็บที่ต้องการอินเทอร์เฟซแบบ PC โดยไม่ต้องพกโน้ตบุ๊ก 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การถ่ายโอนข้อมูล ➡️ เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนอื่น ➡️ รองรับ External Storage ผ่าน USB-C ✅ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์เสริม ➡️ ใช้ Ethernet Adapter เพื่ออินเทอร์เน็ตเสถียร ➡️ ส่งภาพผ่าน HDMI ไปยังจอภายนอก ➡️ รองรับอุปกรณ์เสริมหลากหลาย ✅ Samsung DeX ➡️ เปลี่ยนมือถือเป็น Desktop Interface ➡️ ใช้งานร่วมกับคีย์บอร์ดและเมาส์ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ต้องใช้สาย/อุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐาน USB-C ⛔ การเชื่อมต่อบางอย่างอาจไม่รองรับในรุ่นราคาประหยัด ⛔ การใช้พอร์ต USB-C ต่อเนื่องอาจทำให้เครื่องร้อนขึ้น https://www.slashgear.com/2030826/your-samsung-phone-usb-port-isnt-just-for-charging-heres-what-it-can-do/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Your Samsung Phone's USB Port Isn't Just For Charging — Here's What Else It Can Do - SlashGear
    If you rely on your Samsung phone, its USB-C port can quietly level up your setup. Learn how it handles files, screens, and faster connections.
    0 Comments 0 Shares 174 Views 0 Reviews
  • ยุคทองของ USB และการล่มสลายของ Gadget แปลก ๆ

    บทความนี้เล่าถึง 5 อุปกรณ์ USB ยุคเก่าที่ไม่น่าจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เช่น USB MP3 Player, USB Hubs รูปทรงแปลก ๆ, USB Mug Warmer, USB Optical Drive และ USB TV Tuner Stick

    ช่วงต้นยุค 2000s ถือเป็นยุคทองของอุปกรณ์เสริม USB ที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องเล่นเพลงขนาดจิ๋วไปจนถึงอุปกรณ์เสริมที่มีรูปร่างแปลกตา แต่เมื่อเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเข้ามาแทนที่ หลายอุปกรณ์ก็กลายเป็นของตกยุคและแทบไม่ถูกพูดถึงอีกต่อไป แม้จะมีบางเทคโนโลยีที่กลับมาได้รับความนิยม เช่น แผ่นเสียงและเทปคาสเซ็ต แต่ USB gadget หลายชนิดกลับไม่สามารถสร้างกระแสรีเทิร์นได้

    USB MP3 Player และ USB Hubs รูปทรงแปลก ๆ
    หนึ่งในอุปกรณ์ที่หลายคนยังจำได้คือ USB Flash Drive MP3 Player ที่มีความจุเพียง 512MB–2GB และต้องเสียบสายหูฟังเพื่อฟังเพลงโดยตรง แต่สมาร์ทโฟนและบริการสตรีมมิ่งได้ทำให้มันหมดความจำเป็นไปอย่างสิ้นเชิง

    อีกตัวอย่างคือ USB Hubs รูปทรงแฟนซี ที่ออกแบบเป็นของเล่นหรือของตกแต่ง แต่กลับใช้งานจริงได้ไม่สะดวก ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วย USB-C Multiport Adapter ที่เล็กกว่าและรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลายกว่า

    USB Mug Warmer และ Optical Drive
    USB Mug Warmer/Chiller เคยเป็นอุปกรณ์ยอดนิยมสำหรับคนทำงานหน้าคอม แต่พลังงานจากพอร์ต USB ไม่เพียงพอที่จะทำให้เครื่องดื่มร้อนหรือเย็นได้จริง ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วยแก้วเก็บความร้อน/เย็นคุณภาพสูงอย่าง YETI หรือ Hydro Flask

    ส่วน USB Optical Drive เคยจำเป็นสำหรับการติดตั้งซอฟต์แวร์หรือเล่น DVD บนโน้ตบุ๊ก แต่การมาของ Cloud และ Streaming Services ทำให้ความต้องการใช้งานแทบหมดไป

    USB TV Tuner Stick
    ก่อนยุค Smart TV และบริการสตรีมมิ่ง ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ต้องพึ่งพา USB TV Tuner Stick เพื่อดูทีวีสด แต่ปัจจุบันการดูทีวีผ่านอินเทอร์เน็ตสะดวกกว่าและมีคุณภาพภาพที่ดีกว่า ทำให้ USB TV Tuner กลายเป็นอุปกรณ์ที่แทบไม่ถูกพูดถึงอีกต่อไป แม้ยังมีขายอยู่ แต่ก็ไม่ใช่กระแสหลักอีกแล้ว

    สรุปสาระสำคัญ
    USB MP3 Player
    เคยนิยมในยุค 2000s แต่ถูกแทนที่ด้วยสมาร์ทโฟนและสตรีมมิ่ง

    USB Hubs รูปทรงแฟนซี
    ใช้งานจริงไม่สะดวก ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วย USB-C Multiport Adapter

    USB Mug Warmer/Chiller
    พลังงาน USB ไม่เพียงพอ ปัจจุบันใช้แก้วเก็บความร้อน/เย็นแทน

    USB Optical Drive
    เคยจำเป็นสำหรับ CD/DVD แต่ถูกแทนที่ด้วย Cloud และ Streaming

    USB TV Tuner Stick
    เคยใช้ดูทีวีสดบนคอม แต่ Smart TV และบริการสตรีมมิ่งทำให้หมดความนิยม

    https://www.slashgear.com/2031895/old-school-usb-gadgets-surprised-if-made-comeback/
    💾 ยุคทองของ USB และการล่มสลายของ Gadget แปลก ๆ บทความนี้เล่าถึง 5 อุปกรณ์ USB ยุคเก่าที่ไม่น่าจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง เช่น USB MP3 Player, USB Hubs รูปทรงแปลก ๆ, USB Mug Warmer, USB Optical Drive และ USB TV Tuner Stick ช่วงต้นยุค 2000s ถือเป็นยุคทองของอุปกรณ์เสริม USB ที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องเล่นเพลงขนาดจิ๋วไปจนถึงอุปกรณ์เสริมที่มีรูปร่างแปลกตา แต่เมื่อเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเข้ามาแทนที่ หลายอุปกรณ์ก็กลายเป็นของตกยุคและแทบไม่ถูกพูดถึงอีกต่อไป แม้จะมีบางเทคโนโลยีที่กลับมาได้รับความนิยม เช่น แผ่นเสียงและเทปคาสเซ็ต แต่ USB gadget หลายชนิดกลับไม่สามารถสร้างกระแสรีเทิร์นได้ 🎧 USB MP3 Player และ USB Hubs รูปทรงแปลก ๆ หนึ่งในอุปกรณ์ที่หลายคนยังจำได้คือ USB Flash Drive MP3 Player ที่มีความจุเพียง 512MB–2GB และต้องเสียบสายหูฟังเพื่อฟังเพลงโดยตรง แต่สมาร์ทโฟนและบริการสตรีมมิ่งได้ทำให้มันหมดความจำเป็นไปอย่างสิ้นเชิง อีกตัวอย่างคือ USB Hubs รูปทรงแฟนซี ที่ออกแบบเป็นของเล่นหรือของตกแต่ง แต่กลับใช้งานจริงได้ไม่สะดวก ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วย USB-C Multiport Adapter ที่เล็กกว่าและรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลายกว่า ☕ USB Mug Warmer และ Optical Drive USB Mug Warmer/Chiller เคยเป็นอุปกรณ์ยอดนิยมสำหรับคนทำงานหน้าคอม แต่พลังงานจากพอร์ต USB ไม่เพียงพอที่จะทำให้เครื่องดื่มร้อนหรือเย็นได้จริง ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วยแก้วเก็บความร้อน/เย็นคุณภาพสูงอย่าง YETI หรือ Hydro Flask ส่วน USB Optical Drive เคยจำเป็นสำหรับการติดตั้งซอฟต์แวร์หรือเล่น DVD บนโน้ตบุ๊ก แต่การมาของ Cloud และ Streaming Services ทำให้ความต้องการใช้งานแทบหมดไป 📺 USB TV Tuner Stick ก่อนยุค Smart TV และบริการสตรีมมิ่ง ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ต้องพึ่งพา USB TV Tuner Stick เพื่อดูทีวีสด แต่ปัจจุบันการดูทีวีผ่านอินเทอร์เน็ตสะดวกกว่าและมีคุณภาพภาพที่ดีกว่า ทำให้ USB TV Tuner กลายเป็นอุปกรณ์ที่แทบไม่ถูกพูดถึงอีกต่อไป แม้ยังมีขายอยู่ แต่ก็ไม่ใช่กระแสหลักอีกแล้ว 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ USB MP3 Player ➡️ เคยนิยมในยุค 2000s แต่ถูกแทนที่ด้วยสมาร์ทโฟนและสตรีมมิ่ง ✅ USB Hubs รูปทรงแฟนซี ➡️ ใช้งานจริงไม่สะดวก ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วย USB-C Multiport Adapter ✅ USB Mug Warmer/Chiller ➡️ พลังงาน USB ไม่เพียงพอ ปัจจุบันใช้แก้วเก็บความร้อน/เย็นแทน ✅ USB Optical Drive ➡️ เคยจำเป็นสำหรับ CD/DVD แต่ถูกแทนที่ด้วย Cloud และ Streaming ✅ USB TV Tuner Stick ➡️ เคยใช้ดูทีวีสดบนคอม แต่ Smart TV และบริการสตรีมมิ่งทำให้หมดความนิยม https://www.slashgear.com/2031895/old-school-usb-gadgets-surprised-if-made-comeback/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Old-School USB Gadgets That We'd Be Surprised To Ever See Make A Comeback - SlashGear
    The advent of USB technology meant computers could be expanded in new and exciting ways, but these gadgets are now as obsolete as the technology they replaced.
    0 Comments 0 Shares 138 Views 0 Reviews
  • Zorin OS 18 เปิดทางอัปเกรดจากเวอร์ชัน 17

    Zorin OS 18 เปิดตัวในช่วงที่ Windows 10 กำลังเข้าสู่การสิ้นสุดการสนับสนุน ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากหันมาลองใช้งาน Linux ทางเลือกนี้ โดยมีการปรับปรุงหลายด้าน เช่น Linux Kernel 6.14, อินเทอร์เฟซที่มีมุมโค้งมน และ window tiling manager ใหม่ที่ช่วยให้การจัดการหน้าต่างสะดวกขึ้น นอกจากนี้ Zorin OS 18 ยังสร้างกระแสความนิยมจนมียอดดาวน์โหลดทะลุ 1 ล้านครั้งภายในเดือนแรก

    ขั้นตอนการอัปเกรดจาก Zorin OS 17
    ผู้ใช้ Zorin OS 17 (Core, Education, Pro) สามารถอัปเกรดได้ผ่านเครื่องมือใหม่ แต่เนื่องจากยังอยู่ใน ช่วงทดสอบ (Early Access) จึงไม่แนะนำให้ใช้บนเครื่องหลักหรือระบบ production การอัปเกรดต้องเริ่มจากการอัปเดตไปยัง Zorin OS 17.3 ก่อน จากนั้นใช้เครื่องมือ Software Updater และรันคำสั่งใน Terminal เพื่อเปิดใช้งานตัวเลือกการอัปเกรดทดสอบ เมื่อเลือกเวอร์ชันที่ตรงกับระบบเดิมแล้ว ผู้ใช้จะต้องยืนยันรหัสผ่านและอ่านข้อกำหนดก่อนเริ่มกระบวนการอัปเกรด

    การสำรองข้อมูลก่อนอัปเกรด
    แม้เครื่องมืออัปเกรดของ Zorin OS จะมีความน่าเชื่อถือ แต่ผู้พัฒนาก็แนะนำให้ผู้ใช้ทำการ สำรองข้อมูลด้วย Déjà Dup หรือใช้ Timeshift เพื่อความปลอดภัย โดยสามารถเลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการสำรองและเก็บไว้ใน external storage หรือ cloud เช่น Google Drive นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการเข้ารหัสไฟล์สำรองเพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้น

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน Zorin OS 18
    Linux Kernel 6.14
    อินเทอร์เฟซโค้งมนและ window tiling manager
    ยอดดาวน์โหลดทะลุ 1 ล้านครั้งในเดือนแรก

    การอัปเกรดจาก Zorin OS 17
    รองรับ Core, Education, Pro editions
    ต้องอัปเดตเป็น Zorin OS 17.3 ก่อน
    ใช้ Software Updater และ Upgrade Tool

    การสำรองข้อมูลก่อนอัปเกรด
    ใช้ Déjà Dup หรือ Timeshift
    เก็บไฟล์ใน external storage หรือ cloud
    มีตัวเลือกเข้ารหัสไฟล์สำรอง

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    เครื่องมืออัปเกรดยังอยู่ในช่วง Early Access
    ไม่ควรใช้บนเครื่องหลักหรือระบบ production
    กระบวนการอัปเกรดขึ้นอยู่กับความเร็วอินเทอร์เน็ตและฮาร์ดแวร์

    https://itsfoss.com/zorin-os-18-upgrade/
    🖥️ Zorin OS 18 เปิดทางอัปเกรดจากเวอร์ชัน 17 Zorin OS 18 เปิดตัวในช่วงที่ Windows 10 กำลังเข้าสู่การสิ้นสุดการสนับสนุน ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากหันมาลองใช้งาน Linux ทางเลือกนี้ โดยมีการปรับปรุงหลายด้าน เช่น Linux Kernel 6.14, อินเทอร์เฟซที่มีมุมโค้งมน และ window tiling manager ใหม่ที่ช่วยให้การจัดการหน้าต่างสะดวกขึ้น นอกจากนี้ Zorin OS 18 ยังสร้างกระแสความนิยมจนมียอดดาวน์โหลดทะลุ 1 ล้านครั้งภายในเดือนแรก 🔄 ขั้นตอนการอัปเกรดจาก Zorin OS 17 ผู้ใช้ Zorin OS 17 (Core, Education, Pro) สามารถอัปเกรดได้ผ่านเครื่องมือใหม่ แต่เนื่องจากยังอยู่ใน ช่วงทดสอบ (Early Access) จึงไม่แนะนำให้ใช้บนเครื่องหลักหรือระบบ production การอัปเกรดต้องเริ่มจากการอัปเดตไปยัง Zorin OS 17.3 ก่อน จากนั้นใช้เครื่องมือ Software Updater และรันคำสั่งใน Terminal เพื่อเปิดใช้งานตัวเลือกการอัปเกรดทดสอบ เมื่อเลือกเวอร์ชันที่ตรงกับระบบเดิมแล้ว ผู้ใช้จะต้องยืนยันรหัสผ่านและอ่านข้อกำหนดก่อนเริ่มกระบวนการอัปเกรด 💾 การสำรองข้อมูลก่อนอัปเกรด แม้เครื่องมืออัปเกรดของ Zorin OS จะมีความน่าเชื่อถือ แต่ผู้พัฒนาก็แนะนำให้ผู้ใช้ทำการ สำรองข้อมูลด้วย Déjà Dup หรือใช้ Timeshift เพื่อความปลอดภัย โดยสามารถเลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการสำรองและเก็บไว้ใน external storage หรือ cloud เช่น Google Drive นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการเข้ารหัสไฟล์สำรองเพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Zorin OS 18 ➡️ Linux Kernel 6.14 ➡️ อินเทอร์เฟซโค้งมนและ window tiling manager ➡️ ยอดดาวน์โหลดทะลุ 1 ล้านครั้งในเดือนแรก ✅ การอัปเกรดจาก Zorin OS 17 ➡️ รองรับ Core, Education, Pro editions ➡️ ต้องอัปเดตเป็น Zorin OS 17.3 ก่อน ➡️ ใช้ Software Updater และ Upgrade Tool ✅ การสำรองข้อมูลก่อนอัปเกรด ➡️ ใช้ Déjà Dup หรือ Timeshift ➡️ เก็บไฟล์ใน external storage หรือ cloud ➡️ มีตัวเลือกเข้ารหัสไฟล์สำรอง ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ เครื่องมืออัปเกรดยังอยู่ในช่วง Early Access ⛔ ไม่ควรใช้บนเครื่องหลักหรือระบบ production ⛔ กระบวนการอัปเกรดขึ้นอยู่กับความเร็วอินเทอร์เน็ตและฮาร์ดแวร์ https://itsfoss.com/zorin-os-18-upgrade/
    ITSFOSS.COM
    Upgrading from Zorin OS 17 to 18 (In Early Access)
    Existing Zorin OS 17 users will soon be able to upgrade to version 18. The tool is in early access and we gave it a try.
    0 Comments 0 Shares 98 Views 0 Reviews
  • "ชาวรัสเซียเดือดร้อนหนักจากการปิดกั้นอินเทอร์เน็ตมือถือ"

    ตั้งแต่ต้นปี 2025 รัฐบาลรัสเซียได้ใช้มาตรการปิดกั้นอินเทอร์เน็ตมือถือในหลายภูมิภาค โดยให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันการโจมตีด้วยโดรนจากยูเครน แต่ผลลัพธ์คือประชาชนจำนวนมากไม่สามารถใช้บริการพื้นฐานได้ เช่น การจ่ายค่าโดยสารสาธารณะผ่านบัตรเครดิต การถอนเงินจากตู้ ATM หรือแม้แต่การส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชันสื่อสาร ทำให้ชีวิตประจำวันหยุดชะงักและเกิดความไม่พอใจอย่างกว้างขวาง

    ผลกระทบต่อสุขภาพและครอบครัว
    หนึ่งในผลกระทบที่ร้ายแรงคือ ผู้ปกครองเด็กที่เป็นเบาหวานไม่สามารถตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดของลูกได้ เนื่องจากอุปกรณ์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตมือถือ การปิดกั้นนี้จึงไม่เพียงแต่สร้างความไม่สะดวก แต่ยังเป็นภัยต่อสุขภาพและชีวิตของประชาชนโดยตรง

    ความไม่พอใจและเสียงวิจารณ์
    ประชาชนจำนวนมากมองว่ามาตรการนี้เป็นการควบคุมอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดขึ้น และสะท้อนถึงแนวโน้มที่รัฐบาลรัสเซียพยายามจำกัดเสรีภาพทางดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนเปรียบเทียบกับการปิดกั้นสื่อในอดีต และกังวลว่าการปิดอินเทอร์เน็ตมือถืออาจกลายเป็นมาตรการถาวรที่กระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง

    มิติทางการเมืองและความมั่นคง
    นักวิเคราะห์บางรายชี้ว่า การปิดกั้นอินเทอร์เน็ตมือถืออาจเป็นการตอบสนองต่อภัยคุกคามจริงจากโดรน แต่ก็สะท้อนถึงความพยายามของรัฐบาลในการควบคุมข้อมูลและการสื่อสารของประชาชน การกระทำนี้อาจสร้างแรงกดดันต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน และเพิ่มความไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาลในระยะยาว

    สรุปสาระสำคัญ
    มาตรการของรัฐบาลรัสเซีย
    ปิดกั้นอินเทอร์เน็ตมือถือเพื่อสกัดกั้นการโจมตีด้วยโดรน
    ส่งผลกระทบต่อบริการพื้นฐาน เช่น ตู้ ATM และการจ่ายค่าโดยสาร

    ผลกระทบต่อประชาชน
    ผู้ปกครองเด็กเบาหวานไม่สามารถตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดได้
    แอปสื่อสารและการทำธุรกรรมทางการเงินหยุดชะงัก

    เสียงวิจารณ์และความไม่พอใจ
    ประชาชนมองว่าเป็นการควบคุมอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดขึ้น
    กังวลว่าจะกลายเป็นมาตรการถาวรที่กระทบเศรษฐกิจและสังคม

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    การปิดกั้นอินเทอร์เน็ตมือถืออาจเป็นภัยต่อสุขภาพและชีวิตประชาชน
    การควบคุมเสรีภาพทางดิจิทัลอาจเพิ่มความไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/24/frustrations-grow-in-russia-over-cellphone-internet-outages-that-disrupt-daily-life
    📡 "ชาวรัสเซียเดือดร้อนหนักจากการปิดกั้นอินเทอร์เน็ตมือถือ" ตั้งแต่ต้นปี 2025 รัฐบาลรัสเซียได้ใช้มาตรการปิดกั้นอินเทอร์เน็ตมือถือในหลายภูมิภาค โดยให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันการโจมตีด้วยโดรนจากยูเครน แต่ผลลัพธ์คือประชาชนจำนวนมากไม่สามารถใช้บริการพื้นฐานได้ เช่น การจ่ายค่าโดยสารสาธารณะผ่านบัตรเครดิต การถอนเงินจากตู้ ATM หรือแม้แต่การส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชันสื่อสาร ทำให้ชีวิตประจำวันหยุดชะงักและเกิดความไม่พอใจอย่างกว้างขวาง 🏥 ผลกระทบต่อสุขภาพและครอบครัว หนึ่งในผลกระทบที่ร้ายแรงคือ ผู้ปกครองเด็กที่เป็นเบาหวานไม่สามารถตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดของลูกได้ เนื่องจากอุปกรณ์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตมือถือ การปิดกั้นนี้จึงไม่เพียงแต่สร้างความไม่สะดวก แต่ยังเป็นภัยต่อสุขภาพและชีวิตของประชาชนโดยตรง 💬 ความไม่พอใจและเสียงวิจารณ์ ประชาชนจำนวนมากมองว่ามาตรการนี้เป็นการควบคุมอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดขึ้น และสะท้อนถึงแนวโน้มที่รัฐบาลรัสเซียพยายามจำกัดเสรีภาพทางดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนเปรียบเทียบกับการปิดกั้นสื่อในอดีต และกังวลว่าการปิดอินเทอร์เน็ตมือถืออาจกลายเป็นมาตรการถาวรที่กระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง 🌍 มิติทางการเมืองและความมั่นคง นักวิเคราะห์บางรายชี้ว่า การปิดกั้นอินเทอร์เน็ตมือถืออาจเป็นการตอบสนองต่อภัยคุกคามจริงจากโดรน แต่ก็สะท้อนถึงความพยายามของรัฐบาลในการควบคุมข้อมูลและการสื่อสารของประชาชน การกระทำนี้อาจสร้างแรงกดดันต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน และเพิ่มความไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาลในระยะยาว 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ มาตรการของรัฐบาลรัสเซีย ➡️ ปิดกั้นอินเทอร์เน็ตมือถือเพื่อสกัดกั้นการโจมตีด้วยโดรน ➡️ ส่งผลกระทบต่อบริการพื้นฐาน เช่น ตู้ ATM และการจ่ายค่าโดยสาร ✅ ผลกระทบต่อประชาชน ➡️ ผู้ปกครองเด็กเบาหวานไม่สามารถตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดได้ ➡️ แอปสื่อสารและการทำธุรกรรมทางการเงินหยุดชะงัก ✅ เสียงวิจารณ์และความไม่พอใจ ➡️ ประชาชนมองว่าเป็นการควบคุมอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดขึ้น ➡️ กังวลว่าจะกลายเป็นมาตรการถาวรที่กระทบเศรษฐกิจและสังคม ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ การปิดกั้นอินเทอร์เน็ตมือถืออาจเป็นภัยต่อสุขภาพและชีวิตประชาชน ⛔ การควบคุมเสรีภาพทางดิจิทัลอาจเพิ่มความไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/24/frustrations-grow-in-russia-over-cellphone-internet-outages-that-disrupt-daily-life
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Frustrations grow in Russia over cellphone Internet outages that disrupt daily life
    When Russians look back at 2025, they might remember it as the year when the government took even tighter control of the Internet.
    0 Comments 0 Shares 197 Views 0 Reviews
  • "งานวิจัยชี้ การศึกษาต้องปรับตัวเพื่อบูรณาการ AI"

    บทความใน British Journal of Educational Technology ระบุว่า AI ไม่ควรถูกมองเพียงเป็นเครื่องมือโกงการบ้าน แต่สามารถใช้เป็น ผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้เชิงร่วมมือ หากครูและนักเรียนใช้มันอย่างถูกวิธี ตัวอย่างเช่น การเรียนเรื่องแรงโน้มถ่วง นักเรียนสามารถตั้งคำถาม “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?” แล้วใช้ AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์ เพื่อเข้าใจแนวคิดจากหลายมุมมอง

    การเรียนรู้เชิงสนทนา (Dialogic Learning)
    ผู้เขียนเสนอให้การศึกษาเปลี่ยนจากการท่องจำเป็น การสนทนาและการคิดร่วมกัน โดยครูและนักเรียนร่วมกันสำรวจปัญหาและทดสอบแนวคิด การใช้ AI ในบทสนทนาเชิงวิชาการจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักการได้ลึกซึ้งขึ้น และพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อโลกที่เผชิญวิกฤตระดับโลก เช่น วิกฤตสิ่งแวดล้อมและความท้าทายด้านประชาธิปไตย

    คำเตือน: AI อาจเป็น "พิษทางปัญญา"
    แม้ AI จะมีศักยภาพสูง แต่หากระบบการศึกษายังยึดติดกับการสอบแบบเดิมที่เน้นการเขียนเรียงความหรือการสังเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก นักเรียนอาจพึ่งพา AI จนสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงานวิชาการเอง งานวิจัยเตือนว่า หากไม่ปรับวิธีการสอนและการประเมินผล AI จะกลายเป็นตัวบั่นทอนการเรียนรู้แทนที่จะเป็นเครื่องมือพัฒนา

    มุมมองนักวิชาการ
    ศาสตราจารย์ Rupert Wegerif จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์กล่าวว่า “ทุกครั้งที่มีเทคโนโลยีใหม่ เราต้องคิดใหม่ว่าควรสอนอย่างไร” เช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ตหรือกระดานดำในอดีต ตอนนี้ AI กำลังบังคับให้เราตั้งคำถามว่า เรากำลังเตรียมนักเรียนเพื่ออะไร และควรเน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือมากกว่าการท่องจำ

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อเสนอจากงานวิจัย
    ใช้ AI เป็นผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้ร่วมมือ
    เปลี่ยนการสอนจากการท่องจำเป็นการคิดเชิงสนทนา

    ตัวอย่างการใช้งาน
    นักเรียนถามคำถาม เช่น “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?”
    AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์

    เป้าหมายการศึกษาใหม่
    พัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา
    เตรียมนักเรียนรับมือวิกฤตระดับโลก เช่น สิ่งแวดล้อมและประชาธิปไตย

    คำเตือนจากงานวิจัย
    หากยังใช้การสอบแบบเดิม AI อาจกลายเป็น “พิษทางปัญญา”
    นักเรียนอาจสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/23/education-needs-to-change-to-integrate-ai-research-paper-argues
    📰 "งานวิจัยชี้ การศึกษาต้องปรับตัวเพื่อบูรณาการ AI" บทความใน British Journal of Educational Technology ระบุว่า AI ไม่ควรถูกมองเพียงเป็นเครื่องมือโกงการบ้าน แต่สามารถใช้เป็น ผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้เชิงร่วมมือ หากครูและนักเรียนใช้มันอย่างถูกวิธี ตัวอย่างเช่น การเรียนเรื่องแรงโน้มถ่วง นักเรียนสามารถตั้งคำถาม “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?” แล้วใช้ AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์ เพื่อเข้าใจแนวคิดจากหลายมุมมอง 🧠 การเรียนรู้เชิงสนทนา (Dialogic Learning) ผู้เขียนเสนอให้การศึกษาเปลี่ยนจากการท่องจำเป็น การสนทนาและการคิดร่วมกัน โดยครูและนักเรียนร่วมกันสำรวจปัญหาและทดสอบแนวคิด การใช้ AI ในบทสนทนาเชิงวิชาการจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักการได้ลึกซึ้งขึ้น และพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อโลกที่เผชิญวิกฤตระดับโลก เช่น วิกฤตสิ่งแวดล้อมและความท้าทายด้านประชาธิปไตย ⚠️ คำเตือน: AI อาจเป็น "พิษทางปัญญา" แม้ AI จะมีศักยภาพสูง แต่หากระบบการศึกษายังยึดติดกับการสอบแบบเดิมที่เน้นการเขียนเรียงความหรือการสังเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก นักเรียนอาจพึ่งพา AI จนสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงานวิชาการเอง งานวิจัยเตือนว่า หากไม่ปรับวิธีการสอนและการประเมินผล AI จะกลายเป็นตัวบั่นทอนการเรียนรู้แทนที่จะเป็นเครื่องมือพัฒนา 🌍 มุมมองนักวิชาการ ศาสตราจารย์ Rupert Wegerif จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์กล่าวว่า “ทุกครั้งที่มีเทคโนโลยีใหม่ เราต้องคิดใหม่ว่าควรสอนอย่างไร” เช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ตหรือกระดานดำในอดีต ตอนนี้ AI กำลังบังคับให้เราตั้งคำถามว่า เรากำลังเตรียมนักเรียนเพื่ออะไร และควรเน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือมากกว่าการท่องจำ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อเสนอจากงานวิจัย ➡️ ใช้ AI เป็นผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้ร่วมมือ ➡️ เปลี่ยนการสอนจากการท่องจำเป็นการคิดเชิงสนทนา ✅ ตัวอย่างการใช้งาน ➡️ นักเรียนถามคำถาม เช่น “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?” ➡️ AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์ ✅ เป้าหมายการศึกษาใหม่ ➡️ พัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ➡️ เตรียมนักเรียนรับมือวิกฤตระดับโลก เช่น สิ่งแวดล้อมและประชาธิปไตย ‼️ คำเตือนจากงานวิจัย ⛔ หากยังใช้การสอบแบบเดิม AI อาจกลายเป็น “พิษทางปัญญา” ⛔ นักเรียนอาจสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/23/education-needs-to-change-to-integrate-ai-research-paper-argues
    0 Comments 0 Shares 225 Views 0 Reviews
  • "Xfinity ถูกวิจารณ์หนัก ปล่อยโครงสร้างอินเทอร์เน็ตพังโดยไม่แก้ไข"

    บทความนี้เล่าประสบการณ์จริงของผู้ใช้ Xfinity ใน Sacramento County ที่เจอปัญหาอินเทอร์เน็ตหลุดซ้ำ ๆ วันละหลายครั้ง แต่บริษัทไม่แก้ไข ทั้งที่มีหลักฐานชัดเจนว่าปัญหาเกิดจากโครงสร้างพื้นฐาน upstream ของเครือข่าย

    ผู้เขียนเล่าว่าหลังจากติดตั้งอินเทอร์เน็ต Xfinity ในปี 2024 สัญญาณเริ่มหลุดวันละ 6–7 ครั้ง แต่ละครั้งกินเวลาประมาณ 125 วินาที เมื่อสอบถามเพื่อนบ้านก็พบว่ามีปัญหาเดียวกัน แม้จะเปลี่ยนอุปกรณ์ ตรวจสอบสาย และเรียกช่างหลายครั้ง แต่ปัญหายังคงอยู่เหมือนเดิม แถมความเร็วอินเทอร์เน็ตยังลดลงจาก 1200 Mbps เหลือไม่ถึง 500 Mbps

    หลักฐานชี้ชัดว่าเป็นปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน
    ผู้เขียนใช้ระบบ OPNSense uptime monitor ตรวจสอบ พบว่า outage เกิดขึ้นตรงเวลา เช่น นาทีที่ :29 และ :44 ของแต่ละชั่วโมง ซึ่งบ่งชี้ว่าเป็นงานอัตโนมัติ (cron job) หรือระบบตรวจสอบที่ทำให้ node upstream ล่มชั่วคราว ไม่ใช่ความผิดพลาดแบบสุ่มของอุปกรณ์ในบ้าน หลักฐานนี้ยืนยันว่าปัญหาอยู่ที่ฝั่ง Xfinity แต่บริษัทกลับไม่ยอมตรวจสอบหรือแก้ไข

    การติดต่อฝ่ายบริการที่ล้มเหลว
    แม้ผู้เขียนจะส่งข้อมูลเชิงเทคนิคอย่างละเอียดให้ฝ่ายบริการ แต่กลับถูกปฏิเสธและโยนความผิดไปที่อุปกรณ์ของลูกค้า ช่างที่ส่งมาก็แก้ไขผิดวิธี เช่น การต่อสายกราวด์เข้าท่อ PVC ที่ไม่สามารถทำงานได้จริง สุดท้ายผู้เขียนถูกลดความเร็วอินเทอร์เน็ตโดยไม่มีการชดเชยใด ๆ และการ escalate ปัญหาก็ไม่สำเร็จ เพราะไม่มีใครมีอำนาจสั่งตรวจสอบ upstream

    ปัญหาความปลอดภัยเพิ่มเติม
    นอกจากการหลุดสัญญาณ ผู้เขียนยังพบว่า กล่อง junction box ของ Xfinity หลายจุดในละแวกบ้านถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ล็อก ทำให้ใครก็สามารถเดินมาเปิดและตัดสายอินเทอร์เน็ตของบ้านใดบ้านหนึ่งได้ทันที หากบ้านนั้นใช้ระบบรักษาความปลอดภัยที่พึ่งพาอินเทอร์เน็ตโดยไม่มีแบ็กอัพไร้สาย ก็เสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมโดยไม่แจ้งเตือน

    สรุปสาระสำคัญ
    ปัญหาที่พบ
    อินเทอร์เน็ตหลุดวันละ 6–7 ครั้ง ครั้งละ ~125 วินาที
    ความเร็วลดลงจาก 1200 Mbps เหลือไม่ถึง 500 Mbps

    หลักฐานทางเทคนิค
    Outage เกิดตรงเวลา (:29 และ :44) บ่งชี้ว่าเป็นงานอัตโนมัติ
    ไม่ใช่ความผิดพลาดของอุปกรณ์ลูกค้า แต่เป็น upstream infrastructure

    การบริการลูกค้า
    ฝ่ายบริการโยนความผิดไปที่อุปกรณ์ลูกค้า
    การ escalate ไม่สำเร็จ ไม่มีใครสั่งตรวจสอบ upstream ได้

    ปัญหาความปลอดภัย
    Junction box หลายจุดไม่ล็อก เสี่ยงถูกตัดสายอินเทอร์เน็ต
    ระบบรักษาความปลอดภัยบ้านที่พึ่งพาอินเทอร์เน็ตอาจถูกโจรกรรมง่าย

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    การผูกขาดทำให้ลูกค้าไม่มีทางเลือก แม้บริการมีปัญหาก็ไม่ถูกแก้ไข
    ความปลอดภัยของบ้านและข้อมูลเสี่ยงต่อการถูกละเมิดจากโครงสร้างที่ไม่มั่นคง

    https://sacbear.com/xfinity-wont-fix-internet/
    📰 "Xfinity ถูกวิจารณ์หนัก ปล่อยโครงสร้างอินเทอร์เน็ตพังโดยไม่แก้ไข" บทความนี้เล่าประสบการณ์จริงของผู้ใช้ Xfinity ใน Sacramento County ที่เจอปัญหาอินเทอร์เน็ตหลุดซ้ำ ๆ วันละหลายครั้ง แต่บริษัทไม่แก้ไข ทั้งที่มีหลักฐานชัดเจนว่าปัญหาเกิดจากโครงสร้างพื้นฐาน upstream ของเครือข่าย ผู้เขียนเล่าว่าหลังจากติดตั้งอินเทอร์เน็ต Xfinity ในปี 2024 สัญญาณเริ่มหลุดวันละ 6–7 ครั้ง แต่ละครั้งกินเวลาประมาณ 125 วินาที เมื่อสอบถามเพื่อนบ้านก็พบว่ามีปัญหาเดียวกัน แม้จะเปลี่ยนอุปกรณ์ ตรวจสอบสาย และเรียกช่างหลายครั้ง แต่ปัญหายังคงอยู่เหมือนเดิม แถมความเร็วอินเทอร์เน็ตยังลดลงจาก 1200 Mbps เหลือไม่ถึง 500 Mbps ⚙️ หลักฐานชี้ชัดว่าเป็นปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน ผู้เขียนใช้ระบบ OPNSense uptime monitor ตรวจสอบ พบว่า outage เกิดขึ้นตรงเวลา เช่น นาทีที่ :29 และ :44 ของแต่ละชั่วโมง ซึ่งบ่งชี้ว่าเป็นงานอัตโนมัติ (cron job) หรือระบบตรวจสอบที่ทำให้ node upstream ล่มชั่วคราว ไม่ใช่ความผิดพลาดแบบสุ่มของอุปกรณ์ในบ้าน หลักฐานนี้ยืนยันว่าปัญหาอยู่ที่ฝั่ง Xfinity แต่บริษัทกลับไม่ยอมตรวจสอบหรือแก้ไข 📞 การติดต่อฝ่ายบริการที่ล้มเหลว แม้ผู้เขียนจะส่งข้อมูลเชิงเทคนิคอย่างละเอียดให้ฝ่ายบริการ แต่กลับถูกปฏิเสธและโยนความผิดไปที่อุปกรณ์ของลูกค้า ช่างที่ส่งมาก็แก้ไขผิดวิธี เช่น การต่อสายกราวด์เข้าท่อ PVC ที่ไม่สามารถทำงานได้จริง สุดท้ายผู้เขียนถูกลดความเร็วอินเทอร์เน็ตโดยไม่มีการชดเชยใด ๆ และการ escalate ปัญหาก็ไม่สำเร็จ เพราะไม่มีใครมีอำนาจสั่งตรวจสอบ upstream 🔒 ปัญหาความปลอดภัยเพิ่มเติม นอกจากการหลุดสัญญาณ ผู้เขียนยังพบว่า กล่อง junction box ของ Xfinity หลายจุดในละแวกบ้านถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ล็อก ทำให้ใครก็สามารถเดินมาเปิดและตัดสายอินเทอร์เน็ตของบ้านใดบ้านหนึ่งได้ทันที หากบ้านนั้นใช้ระบบรักษาความปลอดภัยที่พึ่งพาอินเทอร์เน็ตโดยไม่มีแบ็กอัพไร้สาย ก็เสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมโดยไม่แจ้งเตือน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ปัญหาที่พบ ➡️ อินเทอร์เน็ตหลุดวันละ 6–7 ครั้ง ครั้งละ ~125 วินาที ➡️ ความเร็วลดลงจาก 1200 Mbps เหลือไม่ถึง 500 Mbps ✅ หลักฐานทางเทคนิค ➡️ Outage เกิดตรงเวลา (:29 และ :44) บ่งชี้ว่าเป็นงานอัตโนมัติ ➡️ ไม่ใช่ความผิดพลาดของอุปกรณ์ลูกค้า แต่เป็น upstream infrastructure ✅ การบริการลูกค้า ➡️ ฝ่ายบริการโยนความผิดไปที่อุปกรณ์ลูกค้า ➡️ การ escalate ไม่สำเร็จ ไม่มีใครสั่งตรวจสอบ upstream ได้ ✅ ปัญหาความปลอดภัย ➡️ Junction box หลายจุดไม่ล็อก เสี่ยงถูกตัดสายอินเทอร์เน็ต ➡️ ระบบรักษาความปลอดภัยบ้านที่พึ่งพาอินเทอร์เน็ตอาจถูกโจรกรรมง่าย ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ การผูกขาดทำให้ลูกค้าไม่มีทางเลือก แม้บริการมีปัญหาก็ไม่ถูกแก้ไข ⛔ ความปลอดภัยของบ้านและข้อมูลเสี่ยงต่อการถูกละเมิดจากโครงสร้างที่ไม่มั่นคง https://sacbear.com/xfinity-wont-fix-internet/
    0 Comments 0 Shares 172 Views 0 Reviews
More Results