• Intel ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับ กระบวนการผลิต 18A ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำหน้าที่สุดของบริษัท โดยมีการปรับปรุงด้าน ประสิทธิภาพ, การใช้พลังงาน และความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ เมื่อเทียบกับ Intel 3 เทคโนโลยีนี้ใช้ PowerVia ซึ่งช่วยให้การส่งพลังงานมีเสถียรภาพมากขึ้น และช่วยลดปัญหา voltage droop ที่เกิดขึ้นในชิปประสิทธิภาพสูง

    ✅ Intel 18A มีการปรับปรุงด้านความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์กว่า 30%
    - ใช้เทคโนโลยี RibbonFET (GAA) และ PowerVia (BSPDN)
    - ช่วยให้สามารถออกแบบชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและใช้พื้นที่น้อยลง

    ✅ Intel 18A มีประสิทธิภาพสูงขึ้น 25% และใช้พลังงานน้อยลง 36%
    - ทดสอบบน Arm core sub-block ที่แรงดันไฟฟ้า 1.1V
    - ช่วยให้สามารถออกแบบชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและประหยัดพลังงาน

    ✅ Intel 18A มีความสามารถในการแข่งขันกับ TSMC N2
    - มีความหนาแน่นของ SRAM เทียบเท่ากับกระบวนการผลิต N2 ของ TSMC
    - แสดงให้เห็นว่า Intel สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลกได้

    ✅ Intel 18A จะถูกนำไปใช้ในชิป Panther Lake และ Xeon "Clearwater Forest"
    - คาดว่าจะเริ่มใช้งานในผลิตภัณฑ์จริงภายในปี 2026

    https://wccftech.com/intels-18a-process-outperforms-intel-3-with-breakthrough-technologies/
    Intel ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับ กระบวนการผลิต 18A ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำหน้าที่สุดของบริษัท โดยมีการปรับปรุงด้าน ประสิทธิภาพ, การใช้พลังงาน และความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ เมื่อเทียบกับ Intel 3 เทคโนโลยีนี้ใช้ PowerVia ซึ่งช่วยให้การส่งพลังงานมีเสถียรภาพมากขึ้น และช่วยลดปัญหา voltage droop ที่เกิดขึ้นในชิปประสิทธิภาพสูง ✅ Intel 18A มีการปรับปรุงด้านความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์กว่า 30% - ใช้เทคโนโลยี RibbonFET (GAA) และ PowerVia (BSPDN) - ช่วยให้สามารถออกแบบชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและใช้พื้นที่น้อยลง ✅ Intel 18A มีประสิทธิภาพสูงขึ้น 25% และใช้พลังงานน้อยลง 36% - ทดสอบบน Arm core sub-block ที่แรงดันไฟฟ้า 1.1V - ช่วยให้สามารถออกแบบชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและประหยัดพลังงาน ✅ Intel 18A มีความสามารถในการแข่งขันกับ TSMC N2 - มีความหนาแน่นของ SRAM เทียบเท่ากับกระบวนการผลิต N2 ของ TSMC - แสดงให้เห็นว่า Intel สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลกได้ ✅ Intel 18A จะถูกนำไปใช้ในชิป Panther Lake และ Xeon "Clearwater Forest" - คาดว่าจะเริ่มใช้งานในผลิตภัณฑ์จริงภายในปี 2026 https://wccftech.com/intels-18a-process-outperforms-intel-3-with-breakthrough-technologies/
    WCCFTECH.COM
    Intel's 18A Process Outperforms Intel 3 with Breakthrough Technologies; Superior PPA & Density Scaling Credits To PowerVia
    Intel's 18A process is by far one of the most anticipated ones in the industry, and Team Blue has shown intentions to take leadership status.
    0 Comments 0 Shares 18 Views 0 Reviews
  • Jacinda Ardern อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ได้กล่าวในงาน Zendesk Relate 2025 ว่าเราควรปรับมุมมองเกี่ยวกับ AI จากความกลัวไปสู่โอกาส โดยเธอเน้นว่าการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีไม่ควรทำให้แรงงานรู้สึกถูกทอดทิ้ง แต่ควรมีการสนับสนุนจากรัฐบาลและองค์กรเพื่อช่วยให้พนักงานปรับตัว

    ✅ AI ไม่ได้ทำให้แรงงานหมดความสำคัญ แต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
    - Ardern เชื่อว่า AI จะช่วยให้แรงงานสามารถทำงานได้ดีขึ้น แทนที่จะเข้ามาแทนที่พวกเขา
    - เธอเน้นว่าคุณค่าของแรงงานจะยังคงอยู่ แม้ว่าบทบาทของพวกเขาจะเปลี่ยนไป

    ✅ รัฐบาลควรมีบทบาทในการสนับสนุนแรงงาน
    - นิวซีแลนด์มีโครงการ ประกันรายได้ และ การเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อช่วยให้ประชาชนปรับตัว
    - การสนับสนุนจากรัฐบาลช่วยให้ประชาชนรู้สึกมั่นใจในการเปลี่ยนแปลง

    ✅ AI ต้องการการกำกับดูแลและความโปร่งใส
    - Ardern เน้นว่าการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีต้องมีความชัดเจนและโปร่งใส
    - บริษัทและรัฐบาลต้องร่วมมือกันเพื่อให้แน่ใจว่า AI ถูกนำไปใช้ในทางที่เป็นประโยชน์

    ✅ AI สามารถช่วยเพิ่มผลิตภาพของแรงงาน
    - แม้ว่า AI จะช่วยให้แรงงานทำงานได้เร็วขึ้น แต่ยังต้องการการควบคุมจากมนุษย์

    https://www.techradar.com/pro/former-new-zealand-prime-minister-jacinda-ardern-says-we-should-reframe-how-we-think-about-ai
    Jacinda Ardern อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ได้กล่าวในงาน Zendesk Relate 2025 ว่าเราควรปรับมุมมองเกี่ยวกับ AI จากความกลัวไปสู่โอกาส โดยเธอเน้นว่าการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีไม่ควรทำให้แรงงานรู้สึกถูกทอดทิ้ง แต่ควรมีการสนับสนุนจากรัฐบาลและองค์กรเพื่อช่วยให้พนักงานปรับตัว ✅ AI ไม่ได้ทำให้แรงงานหมดความสำคัญ แต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ - Ardern เชื่อว่า AI จะช่วยให้แรงงานสามารถทำงานได้ดีขึ้น แทนที่จะเข้ามาแทนที่พวกเขา - เธอเน้นว่าคุณค่าของแรงงานจะยังคงอยู่ แม้ว่าบทบาทของพวกเขาจะเปลี่ยนไป ✅ รัฐบาลควรมีบทบาทในการสนับสนุนแรงงาน - นิวซีแลนด์มีโครงการ ประกันรายได้ และ การเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อช่วยให้ประชาชนปรับตัว - การสนับสนุนจากรัฐบาลช่วยให้ประชาชนรู้สึกมั่นใจในการเปลี่ยนแปลง ✅ AI ต้องการการกำกับดูแลและความโปร่งใส - Ardern เน้นว่าการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีต้องมีความชัดเจนและโปร่งใส - บริษัทและรัฐบาลต้องร่วมมือกันเพื่อให้แน่ใจว่า AI ถูกนำไปใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ ✅ AI สามารถช่วยเพิ่มผลิตภาพของแรงงาน - แม้ว่า AI จะช่วยให้แรงงานทำงานได้เร็วขึ้น แต่ยังต้องการการควบคุมจากมนุษย์ https://www.techradar.com/pro/former-new-zealand-prime-minister-jacinda-ardern-says-we-should-reframe-how-we-think-about-ai
    WWW.TECHRADAR.COM
    Former New Zealand Prime Minister Jacinda Ardern says we should reframe how we think about AI
    How can governments, companies and workers create a more positive environment?
    0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • NTT Japan ได้พัฒนา ระบบโดรนป้องกันฟ้าผ่า ซึ่งเป็นระบบแรกของโลกที่สามารถ กระตุ้นและนำทางฟ้าผ่า เพื่อปกป้องเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน โดยระบบนี้ใช้โดรนที่ติดตั้งในกรงป้องกันฟ้าผ่า และสามารถตรวจจับสภาพอากาศเพื่อส่งโดรนขึ้นไปสกัดฟ้าผ่าก่อนที่มันจะสร้างความเสียหาย

    ✅ NTT Japan พัฒนาระบบโดรนที่สามารถกระตุ้นและนำทางฟ้าผ่า
    - โดรนถูกออกแบบให้สามารถบินเข้าใกล้เมฆพายุและกระตุ้นฟ้าผ่า
    - ใช้กรงป้องกันฟ้าผ่าเพื่อให้โดรนสามารถบินต่อไปได้แม้ถูกฟ้าผ่า

    ✅ การทดลองครั้งแรกประสบความสำเร็จในการกระตุ้นฟ้าผ่า
    - ในการทดสอบเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2024 โดรนสามารถกระตุ้นฟ้าผ่าได้จริง
    - ระบบสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสนามไฟฟ้าและส่งโดรนขึ้นไปสกัดฟ้าผ่า

    ✅ ระบบนี้สามารถช่วยปกป้องเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน
    - ฟ้าผ่าทำให้เกิดความเสียหายกว่า 100-200 พันล้านเยนต่อปีในญี่ปุ่น
    - ระบบโดรนสามารถช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกังหันลมและอาคารสูง

    ✅ NTT กำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเก็บพลังงานจากฟ้าผ่า
    - มีแผนที่จะวิจัยวิธีการเก็บพลังงานจากฟ้าผ่าเพื่อใช้ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/worlds-first-drone-system-for-fighting-lightning-protects-cities-and-infrastructure
    NTT Japan ได้พัฒนา ระบบโดรนป้องกันฟ้าผ่า ซึ่งเป็นระบบแรกของโลกที่สามารถ กระตุ้นและนำทางฟ้าผ่า เพื่อปกป้องเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน โดยระบบนี้ใช้โดรนที่ติดตั้งในกรงป้องกันฟ้าผ่า และสามารถตรวจจับสภาพอากาศเพื่อส่งโดรนขึ้นไปสกัดฟ้าผ่าก่อนที่มันจะสร้างความเสียหาย ✅ NTT Japan พัฒนาระบบโดรนที่สามารถกระตุ้นและนำทางฟ้าผ่า - โดรนถูกออกแบบให้สามารถบินเข้าใกล้เมฆพายุและกระตุ้นฟ้าผ่า - ใช้กรงป้องกันฟ้าผ่าเพื่อให้โดรนสามารถบินต่อไปได้แม้ถูกฟ้าผ่า ✅ การทดลองครั้งแรกประสบความสำเร็จในการกระตุ้นฟ้าผ่า - ในการทดสอบเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2024 โดรนสามารถกระตุ้นฟ้าผ่าได้จริง - ระบบสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสนามไฟฟ้าและส่งโดรนขึ้นไปสกัดฟ้าผ่า ✅ ระบบนี้สามารถช่วยปกป้องเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน - ฟ้าผ่าทำให้เกิดความเสียหายกว่า 100-200 พันล้านเยนต่อปีในญี่ปุ่น - ระบบโดรนสามารถช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกังหันลมและอาคารสูง ✅ NTT กำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเก็บพลังงานจากฟ้าผ่า - มีแผนที่จะวิจัยวิธีการเก็บพลังงานจากฟ้าผ่าเพื่อใช้ในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/worlds-first-drone-system-for-fighting-lightning-protects-cities-and-infrastructure
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    World's first drone system for fighting lightning protects cities and infrastructure
    NNT's drones flew in lightning-resistant cages and hope to, some day, tap and store the power of thunderclouds.
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้เปิดตัว BitNet b1.58 2B4T ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้หน่วยความจำเพียง 400MB โดยไม่ต้องใช้ GPU โมเดลนี้ใช้เทคนิค ternary quantization ซึ่งช่วยลดขนาดของโมเดลโดยใช้เพียง -1, 0 และ +1 แทนค่าถ่วงน้ำหนักแบบดั้งเดิม ทำให้สามารถทำงานบนฮาร์ดแวร์มาตรฐาน เช่น Apple M2 chip ได้อย่างราบรื่น

    ✅ BitNet ใช้หน่วยความจำเพียง 400MB และไม่ต้องใช้ GPU
    - สามารถทำงานบน CPU มาตรฐานโดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ AI เฉพาะทาง
    - ใช้พลังงานน้อยกว่ารุ่นอื่นถึง 85-96%

    ✅ ใช้เทคนิค ternary quantization เพื่อลดขนาดโมเดล
    - แทนค่าถ่วงน้ำหนักด้วย -1, 0 และ +1 แทนที่จะใช้ตัวเลขทศนิยมแบบ 16 หรือ 32 บิต
    - ช่วยให้โมเดลมีประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยไม่สูญเสียความแม่นยำ

    ✅ BitNet มีพารามิเตอร์ 2 พันล้านตัวและถูกฝึกด้วยข้อมูล 4 ล้านล้านโทเค็น
    - เทียบเท่ากับเนื้อหาของหนังสือ 33 ล้านเล่ม
    - สามารถแข่งขันกับโมเดลชั้นนำ เช่น Llama 3.2 1B, Gemma 3 1B และ Qwen 2.5 1.5B

    ✅ สามารถทำงานบนเฟรมเวิร์ก bitnet.cpp ที่พัฒนาโดย Microsoft
    - เฟรมเวิร์กนี้ช่วยให้โมเดลทำงานได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรน้อยลง
    - รองรับเฉพาะ CPU ในปัจจุบัน แต่มีแผนที่จะเพิ่มการรองรับฮาร์ดแวร์อื่นๆ ในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/107617-microsoft-bitnet-shows-what-ai-can-do-400mb.html
    Microsoft ได้เปิดตัว BitNet b1.58 2B4T ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้หน่วยความจำเพียง 400MB โดยไม่ต้องใช้ GPU โมเดลนี้ใช้เทคนิค ternary quantization ซึ่งช่วยลดขนาดของโมเดลโดยใช้เพียง -1, 0 และ +1 แทนค่าถ่วงน้ำหนักแบบดั้งเดิม ทำให้สามารถทำงานบนฮาร์ดแวร์มาตรฐาน เช่น Apple M2 chip ได้อย่างราบรื่น ✅ BitNet ใช้หน่วยความจำเพียง 400MB และไม่ต้องใช้ GPU - สามารถทำงานบน CPU มาตรฐานโดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ AI เฉพาะทาง - ใช้พลังงานน้อยกว่ารุ่นอื่นถึง 85-96% ✅ ใช้เทคนิค ternary quantization เพื่อลดขนาดโมเดล - แทนค่าถ่วงน้ำหนักด้วย -1, 0 และ +1 แทนที่จะใช้ตัวเลขทศนิยมแบบ 16 หรือ 32 บิต - ช่วยให้โมเดลมีประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยไม่สูญเสียความแม่นยำ ✅ BitNet มีพารามิเตอร์ 2 พันล้านตัวและถูกฝึกด้วยข้อมูล 4 ล้านล้านโทเค็น - เทียบเท่ากับเนื้อหาของหนังสือ 33 ล้านเล่ม - สามารถแข่งขันกับโมเดลชั้นนำ เช่น Llama 3.2 1B, Gemma 3 1B และ Qwen 2.5 1.5B ✅ สามารถทำงานบนเฟรมเวิร์ก bitnet.cpp ที่พัฒนาโดย Microsoft - เฟรมเวิร์กนี้ช่วยให้โมเดลทำงานได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรน้อยลง - รองรับเฉพาะ CPU ในปัจจุบัน แต่มีแผนที่จะเพิ่มการรองรับฮาร์ดแวร์อื่นๆ ในอนาคต https://www.techspot.com/news/107617-microsoft-bitnet-shows-what-ai-can-do-400mb.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft's BitNet shows what AI can do with just 400MB and no GPU
    The BitNet b1.58 2B4T model was developed by Microsoft's General Artificial Intelligence group and contains two billion parameters – internal values that enable the model to understand...
    0 Comments 0 Shares 18 Views 0 Reviews
  • Google ได้เปิดตัว Android XR Smart Glasses ซึ่งเป็นแว่นตาอัจฉริยะที่ใช้ Gemini AI เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถจดจำวัตถุ, แปลภาษา และแสดงบันทึกการพูดแบบเรียลไทม์ โดยแว่นตานี้ถูกนำเสนอครั้งแรกในงาน TED2025 และถือเป็นก้าวสำคัญของ Google ในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีสวมใส่

    ✅ แว่นตาอัจฉริยะของ Google ใช้ Gemini AI
    - สามารถจดจำวัตถุและช่วยค้นหาสิ่งของที่ผู้ใช้ทำหาย
    - รองรับการแปลภาษาแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องตั้งค่าล่วงหน้า

    ✅ แสดงบันทึกการพูดแบบเรียลไทม์
    - ผู้ใช้สามารถดูบันทึกการพูดบนเลนส์ของแว่นตาได้ทันที
    - เหมาะสำหรับการนำเสนอหรือการประชุม

    ✅ รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
    - ใช้พลังประมวลผลจากสมาร์ทโฟนเพื่อเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ
    - รองรับการใช้งานร่วมกับแอป Android ทั่วไป

    ✅ Samsung เตรียมเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะของตัวเอง
    - แว่นตา Haean ของ Samsung ถูกออกแบบให้มีความเบาและคล้ายแว่นกันแดด
    - อาจใช้ชิป Snapdragon XR2 Plus Gen 2 และรองรับการควบคุมด้วยท่าทาง

    https://www.techspot.com/news/107616-google-demos-android-xr-smart-glasses-gemini-ai.html
    Google ได้เปิดตัว Android XR Smart Glasses ซึ่งเป็นแว่นตาอัจฉริยะที่ใช้ Gemini AI เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถจดจำวัตถุ, แปลภาษา และแสดงบันทึกการพูดแบบเรียลไทม์ โดยแว่นตานี้ถูกนำเสนอครั้งแรกในงาน TED2025 และถือเป็นก้าวสำคัญของ Google ในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีสวมใส่ ✅ แว่นตาอัจฉริยะของ Google ใช้ Gemini AI - สามารถจดจำวัตถุและช่วยค้นหาสิ่งของที่ผู้ใช้ทำหาย - รองรับการแปลภาษาแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องตั้งค่าล่วงหน้า ✅ แสดงบันทึกการพูดแบบเรียลไทม์ - ผู้ใช้สามารถดูบันทึกการพูดบนเลนส์ของแว่นตาได้ทันที - เหมาะสำหรับการนำเสนอหรือการประชุม ✅ รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ - ใช้พลังประมวลผลจากสมาร์ทโฟนเพื่อเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ - รองรับการใช้งานร่วมกับแอป Android ทั่วไป ✅ Samsung เตรียมเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะของตัวเอง - แว่นตา Haean ของ Samsung ถูกออกแบบให้มีความเบาและคล้ายแว่นกันแดด - อาจใช้ชิป Snapdragon XR2 Plus Gen 2 และรองรับการควบคุมด้วยท่าทาง https://www.techspot.com/news/107616-google-demos-android-xr-smart-glasses-gemini-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google demos Android XR smart glasses with Gemini AI, visual memory, and multilingual capabilities
    Until now, Google's Android XR glasses had only appeared in carefully curated teaser videos and limited hands-on previews shared with select publications. These early glimpses hinted at...
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • Western Digital และ Microsoft ได้ร่วมมือกันเปิดตัวโครงการ Advanced Recycling and Rare Earth Material Capture Program ซึ่งเป็นโครงการรีไซเคิลฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ขนาดใหญ่ โดยมีเป้าหมายเพื่อกู้คืนแร่หายากจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ โครงการนี้ช่วยลดการสูญเสียวัสดุสำคัญที่มักถูกทำลายเมื่อ HDD จากศูนย์ข้อมูลหมดอายุการใช้งาน

    ✅ โครงการนี้สามารถกู้คืนแร่หายากได้ถึง 90%
    - ใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลแบบ acid-free dissolution ซึ่งช่วยสกัดแร่หายาก เช่น dysprosium, neodymium และ praseodymium
    - ลดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายและช่วยรักษาคุณภาพของวัสดุ

    ✅ Microsoft เป็นผู้จัดหา HDD ที่หมดอายุการใช้งานจากศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ
    - HDD ที่หมดอายุจะถูกส่งไปยัง PedalPoint Recycling เพื่อแยกวัสดุ
    - แม่เหล็กและเหล็กที่สกัดได้จะถูกส่งไปยัง Critical Materials Recycling เพื่อรีไซเคิล

    ✅ โครงการนี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 95%
    - เมื่อเทียบกับการทำเหมืองแร่แบบดั้งเดิม การรีไซเคิลช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีนัยสำคัญ
    - ลดการพึ่งพาการนำเข้าแร่หายากจากจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตหลักของโลก

    ✅ โครงการนำร่องสามารถรีไซเคิล HDD ได้กว่า 47,000 ปอนด์
    - รวมถึง SSD และอุปกรณ์ติดตั้ง HDD ที่ถูกนำออกจากศูนย์ข้อมูล

    https://www.techspot.com/news/107615-western-digital-microsoft-launch-hdd-recycling-program-recover.html
    Western Digital และ Microsoft ได้ร่วมมือกันเปิดตัวโครงการ Advanced Recycling and Rare Earth Material Capture Program ซึ่งเป็นโครงการรีไซเคิลฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ขนาดใหญ่ โดยมีเป้าหมายเพื่อกู้คืนแร่หายากจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ โครงการนี้ช่วยลดการสูญเสียวัสดุสำคัญที่มักถูกทำลายเมื่อ HDD จากศูนย์ข้อมูลหมดอายุการใช้งาน ✅ โครงการนี้สามารถกู้คืนแร่หายากได้ถึง 90% - ใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลแบบ acid-free dissolution ซึ่งช่วยสกัดแร่หายาก เช่น dysprosium, neodymium และ praseodymium - ลดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายและช่วยรักษาคุณภาพของวัสดุ ✅ Microsoft เป็นผู้จัดหา HDD ที่หมดอายุการใช้งานจากศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ - HDD ที่หมดอายุจะถูกส่งไปยัง PedalPoint Recycling เพื่อแยกวัสดุ - แม่เหล็กและเหล็กที่สกัดได้จะถูกส่งไปยัง Critical Materials Recycling เพื่อรีไซเคิล ✅ โครงการนี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 95% - เมื่อเทียบกับการทำเหมืองแร่แบบดั้งเดิม การรีไซเคิลช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีนัยสำคัญ - ลดการพึ่งพาการนำเข้าแร่หายากจากจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตหลักของโลก ✅ โครงการนำร่องสามารถรีไซเคิล HDD ได้กว่า 47,000 ปอนด์ - รวมถึง SSD และอุปกรณ์ติดตั้ง HDD ที่ถูกนำออกจากศูนย์ข้อมูล https://www.techspot.com/news/107615-western-digital-microsoft-launch-hdd-recycling-program-recover.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Western Digital and Microsoft launch HDD recycling program to recover rare earths from e-waste
    Although solid-state drives have become the standard for personal computers, mechanical hard drives remain the backbone of data centers worldwide. When these drives are retired, they are...
    0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
  • แฟลชไดรฟ์ราคาถูกที่มีความจุสูงอาจไม่ใช่ข้อเสนอที่ดีอย่างที่คิด! บทความนี้เตือนถึงอันตรายของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลปลอมที่ขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยอุปกรณ์เหล่านี้มักมีความจุจริงต่ำกว่าที่โฆษณา และอาจทำให้ข้อมูลสูญหายหรือเสียหายได้

    ✅ แฟลชไดรฟ์ราคาถูกมักมีความจุจริงต่ำกว่าที่โฆษณา
    - ตัวอย่างเช่น แฟลชไดรฟ์ที่โฆษณาว่ามีความจุ 2TB แต่เมื่อทดสอบพบว่ามีเพียง 18.2GB
    - ผู้ขายมักใช้เฟิร์มแวร์ปลอมเพื่อให้ระบบรายงานความจุสูงกว่าความเป็นจริง

    ✅ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซพยายามจัดการกับสินค้าปลอม
    - Lazada และ Shopee ใช้เทคโนโลยีเพื่อตรวจจับและลบรายการสินค้าปลอม
    - อย่างไรก็ตาม ผู้ขายที่ไม่ซื่อสัตย์ยังคงหาวิธีหลีกเลี่ยงมาตรการตรวจสอบ

    ✅ อุปกรณ์ปลอมอาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์
    - แฮกเกอร์สามารถใช้แฟลชไดรฟ์ปลอมเพื่อแพร่กระจายมัลแวร์
    - มีรายงานว่า USB ปลอมสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการขโมยข้อมูลหรือเข้าควบคุมคอมพิวเตอร์

    ✅ วิธีหลีกเลี่ยงการซื้อแฟลชไดรฟ์ปลอม
    - ซื้อจากร้านค้าที่ได้รับการรับรองหรือแบรนด์ที่เชื่อถือได้
    - หลีกเลี่ยงสินค้าที่มีราคาถูกเกินไปเมื่อเทียบกับราคาตลาด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/21/danger-in-disguise-when-that-ultra-cheap-high-capacity-thumb-drive-seems-too-good-to-be-true
    แฟลชไดรฟ์ราคาถูกที่มีความจุสูงอาจไม่ใช่ข้อเสนอที่ดีอย่างที่คิด! บทความนี้เตือนถึงอันตรายของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลปลอมที่ขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยอุปกรณ์เหล่านี้มักมีความจุจริงต่ำกว่าที่โฆษณา และอาจทำให้ข้อมูลสูญหายหรือเสียหายได้ ✅ แฟลชไดรฟ์ราคาถูกมักมีความจุจริงต่ำกว่าที่โฆษณา - ตัวอย่างเช่น แฟลชไดรฟ์ที่โฆษณาว่ามีความจุ 2TB แต่เมื่อทดสอบพบว่ามีเพียง 18.2GB - ผู้ขายมักใช้เฟิร์มแวร์ปลอมเพื่อให้ระบบรายงานความจุสูงกว่าความเป็นจริง ✅ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซพยายามจัดการกับสินค้าปลอม - Lazada และ Shopee ใช้เทคโนโลยีเพื่อตรวจจับและลบรายการสินค้าปลอม - อย่างไรก็ตาม ผู้ขายที่ไม่ซื่อสัตย์ยังคงหาวิธีหลีกเลี่ยงมาตรการตรวจสอบ ✅ อุปกรณ์ปลอมอาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์ - แฮกเกอร์สามารถใช้แฟลชไดรฟ์ปลอมเพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ - มีรายงานว่า USB ปลอมสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการขโมยข้อมูลหรือเข้าควบคุมคอมพิวเตอร์ ✅ วิธีหลีกเลี่ยงการซื้อแฟลชไดรฟ์ปลอม - ซื้อจากร้านค้าที่ได้รับการรับรองหรือแบรนด์ที่เชื่อถือได้ - หลีกเลี่ยงสินค้าที่มีราคาถูกเกินไปเมื่อเทียบกับราคาตลาด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/21/danger-in-disguise-when-that-ultra-cheap-high-capacity-thumb-drive-seems-too-good-to-be-true
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Danger in disguise: When that cheap 2TB thumb drive seems too good to be true
    Beware of counterfeit USB drives being sold cheaply online as they could pose a cybersecurity risk.
    0 Comments 0 Shares 18 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึง Opera Browser Days ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นในลิสบอนเพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของ Opera และนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับ AI โดย Opera ได้เปิดตัว Operator ซึ่งเป็น AI ที่สามารถทำงานภายในเบราว์เซอร์ได้โดยตรง งานนี้ยังเน้นถึงแนวคิดของ Opera ในการพัฒนาเบราว์เซอร์ให้เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น Opera GX สำหรับเกมเมอร์ และ Opera Mini สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประหยัดข้อมูล

    ✅ Opera ฉลองครบรอบ 30 ปีและเปิดตัว AI Operator
    - Operator เป็น AI ที่สามารถทำงานภายในเบราว์เซอร์ได้โดยตรง
    - Opera เน้นการพัฒนาเบราว์เซอร์ให้เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย

    ✅ Opera GX และ Opera Mini ได้รับการปรับปรุงใหม่
    - Opera GX เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการควบคุมทรัพยากรระบบ
    - Opera Mini ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการประหยัดข้อมูล

    ✅ Opera One มีประสิทธิภาพในการใช้หน่วยความจำมากกว่า Firefox
    - การทดสอบพบว่า Opera One ใช้ RAM น้อยกว่า Firefox ประมาณ 570MB
    - Opera One โหลดหน้าเว็บเร็วกว่า Firefox เมื่อเปิดแท็บเดิม

    ✅ Opera มีฟีเจอร์ Sidebar Messenger และการจัดการบุ๊กมาร์กที่สะดวก
    - Sidebar Messenger ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแอปแชทได้ง่ายขึ้น
    - Opera รองรับการจัดกลุ่มไอคอนบนหน้าเริ่มต้น

    https://www.neowin.net/editorials/i-attended-operas-browser-days-in-lisbon-maybe-ai-isnt-such-a-bad-thing-after-all/
    บทความนี้กล่าวถึง Opera Browser Days ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นในลิสบอนเพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของ Opera และนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับ AI โดย Opera ได้เปิดตัว Operator ซึ่งเป็น AI ที่สามารถทำงานภายในเบราว์เซอร์ได้โดยตรง งานนี้ยังเน้นถึงแนวคิดของ Opera ในการพัฒนาเบราว์เซอร์ให้เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น Opera GX สำหรับเกมเมอร์ และ Opera Mini สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประหยัดข้อมูล ✅ Opera ฉลองครบรอบ 30 ปีและเปิดตัว AI Operator - Operator เป็น AI ที่สามารถทำงานภายในเบราว์เซอร์ได้โดยตรง - Opera เน้นการพัฒนาเบราว์เซอร์ให้เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย ✅ Opera GX และ Opera Mini ได้รับการปรับปรุงใหม่ - Opera GX เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการควบคุมทรัพยากรระบบ - Opera Mini ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการประหยัดข้อมูล ✅ Opera One มีประสิทธิภาพในการใช้หน่วยความจำมากกว่า Firefox - การทดสอบพบว่า Opera One ใช้ RAM น้อยกว่า Firefox ประมาณ 570MB - Opera One โหลดหน้าเว็บเร็วกว่า Firefox เมื่อเปิดแท็บเดิม ✅ Opera มีฟีเจอร์ Sidebar Messenger และการจัดการบุ๊กมาร์กที่สะดวก - Sidebar Messenger ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแอปแชทได้ง่ายขึ้น - Opera รองรับการจัดกลุ่มไอคอนบนหน้าเริ่มต้น https://www.neowin.net/editorials/i-attended-operas-browser-days-in-lisbon-maybe-ai-isnt-such-a-bad-thing-after-all/
    WWW.NEOWIN.NET
    I attended Opera's Browser Days in Lisbon. Maybe AI isn't such a bad thing after all!
    Opera showcased its latest innovations in the browser space, along with a live demo of its agentic AI called Operator. I also compare the new features one-to-one against my browser of choice, Firefox.
    0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
  • บทความนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธี หยุดการอัปเดต Patch Tuesday บน Windows 10 และ Windows 11 ซึ่งเป็นการอัปเดตที่ Microsoft ปล่อยออกมาเป็นประจำทุกเดือน แม้ว่าการอัปเดตจะช่วยปรับปรุงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบ แต่บางครั้งอาจมีข้อผิดพลาดที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของอุปกรณ์ ดังนั้น ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะ หยุดชั่วคราว หรือ เลื่อนการอัปเดต เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

    ✅ หยุดการอัปเดตบน Windows 11 ผ่าน Settings
    - เปิด Settings โดยกด Win + I หรือคลิกขวาที่ปุ่ม Start แล้วเลือก Settings
    - ไปที่แท็บ Windows Update และเลือก Pause updates
    - สามารถหยุดการอัปเดตได้ตั้งแต่ 1 ถึง 5 สัปดาห์

    ✅ หยุดการอัปเดตบน Windows 10 ผ่าน Settings
    - ไปที่ Settings > Update & Security > Advanced Options
    - เลือก Pause updates for 7 days หรือกำหนดระยะเวลาหยุดอัปเดตสูงสุด 5 สัปดาห์

    ✅ เลื่อนการอัปเดตฟีเจอร์บน Windows 10 และ Windows 11
    - ผู้ใช้สามารถเลื่อนการอัปเดตฟีเจอร์ได้นานถึง 1 ปี โดยใช้ Local Group Policy Editor หรือ Windows Registry Editor
    - วิธีนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหลีกเลี่ยงการอัปเดตใหญ่ที่อาจมีข้อผิดพลาด

    https://www.neowin.net/guides/how-to-pause-patch-tuesday-updates-in-windows-11-and-10/
    บทความนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธี หยุดการอัปเดต Patch Tuesday บน Windows 10 และ Windows 11 ซึ่งเป็นการอัปเดตที่ Microsoft ปล่อยออกมาเป็นประจำทุกเดือน แม้ว่าการอัปเดตจะช่วยปรับปรุงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบ แต่บางครั้งอาจมีข้อผิดพลาดที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของอุปกรณ์ ดังนั้น ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะ หยุดชั่วคราว หรือ เลื่อนการอัปเดต เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ✅ หยุดการอัปเดตบน Windows 11 ผ่าน Settings - เปิด Settings โดยกด Win + I หรือคลิกขวาที่ปุ่ม Start แล้วเลือก Settings - ไปที่แท็บ Windows Update และเลือก Pause updates - สามารถหยุดการอัปเดตได้ตั้งแต่ 1 ถึง 5 สัปดาห์ ✅ หยุดการอัปเดตบน Windows 10 ผ่าน Settings - ไปที่ Settings > Update & Security > Advanced Options - เลือก Pause updates for 7 days หรือกำหนดระยะเวลาหยุดอัปเดตสูงสุด 5 สัปดาห์ ✅ เลื่อนการอัปเดตฟีเจอร์บน Windows 10 และ Windows 11 - ผู้ใช้สามารถเลื่อนการอัปเดตฟีเจอร์ได้นานถึง 1 ปี โดยใช้ Local Group Policy Editor หรือ Windows Registry Editor - วิธีนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหลีกเลี่ยงการอัปเดตใหญ่ที่อาจมีข้อผิดพลาด https://www.neowin.net/guides/how-to-pause-patch-tuesday-updates-in-windows-11-and-10/
    WWW.NEOWIN.NET
    How to pause Patch Tuesday updates in Windows 11 and 10
    Turning off Windows Updates for good is never a good idea, but sometimes, pausing them for a brief period is necessary. Here is how to defer Windows Updates in Windows 10 and 11.
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการศึกษาเปรียบเทียบความสามารถในการวินิจฉัยโรคของ AI กับแพทย์ โดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอซาก้าได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจาก 18,371 งานวิจัย และคัดเลือก 83 งานวิจัย เพื่อศึกษารายละเอียด พบว่า AI มีความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคเฉลี่ย 52.1% ซึ่งใกล้เคียงกับแพทย์ทั่วไป แต่ยังคงมีช่องว่างเมื่อเทียบกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

    ✅ AI มีความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคเฉลี่ย 52.1%
    - ผลการศึกษาพบว่า AI มีความแม่นยำใกล้เคียงกับแพทย์ทั่วไป
    - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังคงมีความแม่นยำสูงกว่า AI ประมาณ 15.8%

    ✅ GPT-4 เป็นโมเดลที่ถูกศึกษามากที่สุด
    - นอกจาก GPT-4 ยังมีการศึกษาโมเดลอื่น เช่น Llama3 70B, Gemini 1.5 Pro และ Claude 3 Sonnet

    ✅ AI มีประสิทธิภาพสูงในสาขาโรคผิวหนัง
    - เนื่องจากโรคผิวหนังต้องอาศัยการจดจำรูปแบบ ซึ่งเป็นจุดแข็งของ AI
    - อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยโรคผิวหนังยังต้องใช้เหตุผลเชิงซับซ้อน ซึ่ง AI ยังมีข้อจำกัด

    ✅ AI อาจมีบทบาทสำคัญในการศึกษาแพทย์
    - สามารถใช้ AI เพื่อจำลองกรณีศึกษาและช่วยฝึกฝนแพทย์ฝึกหัด

    https://www.neowin.net/news/detailed-studycompares-ai-vs-doctors-and-its-closer-than-what-doctors-may-like/
    บทความนี้กล่าวถึงการศึกษาเปรียบเทียบความสามารถในการวินิจฉัยโรคของ AI กับแพทย์ โดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอซาก้าได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจาก 18,371 งานวิจัย และคัดเลือก 83 งานวิจัย เพื่อศึกษารายละเอียด พบว่า AI มีความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคเฉลี่ย 52.1% ซึ่งใกล้เคียงกับแพทย์ทั่วไป แต่ยังคงมีช่องว่างเมื่อเทียบกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ✅ AI มีความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคเฉลี่ย 52.1% - ผลการศึกษาพบว่า AI มีความแม่นยำใกล้เคียงกับแพทย์ทั่วไป - แพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังคงมีความแม่นยำสูงกว่า AI ประมาณ 15.8% ✅ GPT-4 เป็นโมเดลที่ถูกศึกษามากที่สุด - นอกจาก GPT-4 ยังมีการศึกษาโมเดลอื่น เช่น Llama3 70B, Gemini 1.5 Pro และ Claude 3 Sonnet ✅ AI มีประสิทธิภาพสูงในสาขาโรคผิวหนัง - เนื่องจากโรคผิวหนังต้องอาศัยการจดจำรูปแบบ ซึ่งเป็นจุดแข็งของ AI - อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยโรคผิวหนังยังต้องใช้เหตุผลเชิงซับซ้อน ซึ่ง AI ยังมีข้อจำกัด ✅ AI อาจมีบทบาทสำคัญในการศึกษาแพทย์ - สามารถใช้ AI เพื่อจำลองกรณีศึกษาและช่วยฝึกฝนแพทย์ฝึกหัด https://www.neowin.net/news/detailed-studycompares-ai-vs-doctors-and-its-closer-than-what-doctors-may-like/
    WWW.NEOWIN.NET
    Detailed study compares AI vs doctors and it's closer than what doctors may like
    AI took on doctors in a scientific evaluation and the results are much closer than what doctors may have wanted to see.
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • 👁️‍🗨️ 48 ปี “ปีศาจโดเวอร์” สิ่งมีชีวิตลึกลับแห่งแมสซาชูเซตส์ ตำนานปริศนาอเมริกา ที่ยังไร้คำอธิบาย

    เปิดตำนานปริศนาสุดลึกลับ จากสหรัฐอเมริกา กับสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏตัวเพียงไม่กี่ครั้ง แต่กลับทิ้งคำถาม ไว้ให้โลกค้นหามานานถึงครึ่งศตวรรษ

    🎯 เมื่อ “สิ่งลึกลับ” ปรากฏขึ้นเพียงไม่กี่วินาที... แต่คนทั้งเมืองจดจำมันได้เป็นสิบปี หากเป็นหนึ่งในคนที่ชอบเรื่องลี้ลับ ชอบฟังตำนานเมือง หรือหลงใหลในเรื่องสิ่งมีชีวิตประหลาดแบบ “X-Files” หรือ “Stranger Things” ไม่ควรพลาดตำนานของ “ปีศาจโดเวอร์” (Dover Demon) 🛸

    ปี พ.ศ. 2520 คือปีที่ชื่อของ “Dover Demon” ปรากฏขึ้นครั้งแรกในเมืองเล็ก ๆ ชื่อว่า “โดเวอร์” รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา สิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาดที่มีหัวโต ตาเรืองแสง ไม่มีจมูกปาก แขนขายาว ผิวหยาบเหมือนกระดาษทราย และสำคัญที่สุด ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ว่า มันคืออะไร ❓

    👹 ตำนานที่เริ่มต้นจาก “ความบังเอิญ” เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2520 ในคืนเดือนมืด วันพฤหัสบดีอันเงียบสงบของเมืองโดเวอร์ กลับกลายเป็นวันที่เปลี่ยนชีวิต ของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งไปตลอดกาล…

    "บิลล์ บาร์ทเล็ทท์" (Bill Bartlett) วัย 17 ปี กำลังขับรถกับเพื่อน ๆ ในถนนสายเปลี่ยว จู่ ๆ เขาก็เห็นสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์แปลกประหลาดปีนไปตามกำแพงเตี้ย ๆ ข้างถนน มันมีหัวโตมาก ดวงตาเรืองแสง ไม่มีจมูก ไม่มีปาก และผิวของมันดูเหมือน “ทรายเปียก” 🌑

    เสียงของเพื่อนอาจไม่ได้ยิน แต่ภาพนั้นกลับตราตรึงบาร์ทเล็ทท์ ไปตลอดชีวิต เขาถึงขั้นวาดภาพสิ่งที่เห็น ออกมาในคืนนั้นเลยทันที

    การพบเห็นอีก 2 ครั้งใน 24 ชั่วโมงถัดมา

    "จอห์น แบกซ์เตอร์" วัย 15 ปี พบเห็นสิ่งมีชีวิตเดียวกัน ในช่วงเช้ามืดของวันถัดมา

    "แอ็บบี อับราฮัม" และ "วิลล์ เทนเตอร์" ก็พบเห็นรูปร่างคล้ายกัน ขณะขับรถบนถนนอีกสาย ที่อยู่ในรัศมีไม่ไกลจากจุดแรก

    ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในรัศมีเพียง 4 กิโลเมตร ‼️ และแม้จะเป็นวัยรุ่นต่างกลุ่ม ต่างสถานที่ ต่างช่วงเวลา แต่คำอธิบายของพวกเขา กลับเหมือนกันอย่างน่าประหลาดใจ

    🧠 ความสำคัญของปีศาจโดเวอร์ ในแง่วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม การพบเห็นสิ่งลึกลับเพียงไม่กี่วินาที ทำไมถึงกลายเป็นตำนาน ที่คนทั้งโลกพูดถึง? 🤔

    มุมมองเชิงจิตวิทยา นักจิตวิทยาวิเคราะห์ว่า เรื่องของ “ปีศาจโดเวอร์” อาจเป็นผลจากการรับรู้ผิดเพี้ยน (misperception) หรือการตีความสิ่งที่เห็นผิดจากความจริง อันเนื่องมาจากสภาพแสง เงา และความกลัว

    👁️‍🗨️ “เราเห็นสิ่งที่เรา อยากเห็น มากกว่าสิ่งที่ มันเป็นจริง ๆ”

    แต่ถ้าแค่คนเดียวที่เห็นผิด ยังพอเข้าใจได้... แล้วทำไมถึงมีคนเห็นคล้ายกันถึง 3 กลุ่ม ภายในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง? นี่คือสิ่งที่ทำให้ปีศาจโดเวอร์ ไม่ใช่แค่เรื่องหลอนกลางคืน ธรรมดา

    มุมมองเชิงวัฒนธรรม ปีศาจโดเวอร์ได้รับการบันทึกโดย "Loren Coleman" ผู้เชี่ยวชาญด้าน Cryptozoology หรือการศึกษาสิ่งมีชีวิตลึกลับ และเผยแพร่ผ่านหนังสือพิมพ์และสารคดี ทำให้เรื่องนี้แพร่กระจายจนกลายเป็น Urban Legend หรือ “ตำนานเมือง” ที่ถูกพูดถึงในวงกว้าง 🌍

    💬 ความเชื่อและทฤษฎีต่าง ๆ เกี่ยวกับปีศาจโดเวอร์

    👽 มนุษย์ต่างดาว (Alien Theory) ด้วยรูปลักษณ์ที่หัวโต ตาใหญ่ คล้ายกับ “Grey Alien” ในวัฒนธรรมป๊อป หลายคนจึงเชื่อว่า ปีศาจโดเวอร์ อาจเป็นสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก หรือ “สปาย” จากกาแล็กซีอื่นที่กำลังสำรวจโลกอยู่ 🛸

    🧬 สิ่งมีชีวิตทดลองหลุดจากห้องแล็บ? อีกทฤษฎีหนึ่งที่น่าขนลุกไม่น้อย คือปีศาจโดเวอร์ อาจเป็นผลผลิตของการทดลองทางพันธุกรรม ที่ผิดพลาด และหลุดรอดออกมาสู่โลกภายนอก โดยไม่ได้ตั้งใจ

    🧠 ภาพลวงตาหรือจินตนาการ? ฝ่ายที่ไม่เชื่อ มักมองว่าทั้งหมด เป็นเพียงจินตนาการของวัยรุ่นที่ตื่นเต้น หรืออาจเป็นอาการ hypnagogic hallucination คือภาพหลอนช่วงก่อนหลับ ที่สมองสร้างขึ้นเองจากความกลัว

    🔍 รายละเอียดการพบเห็นทั้ง 3 ครั้ง

    📍 กรณีที่ 1 "บิลล์ บาร์ทเล็ทท์" เห็นครั้งแรก 21 เม.ย. 2520 พบสิ่งมีชีวิตปีนกำแพง ลักษณะหัวใหญ่ ดวงตาเรืองแสง ไม่มีจมูก ไม่มีปาก แขนขายาว ผิวเหมือนกระดาษทราย สูงประมาณ 4 ฟุต หรือ 1.2 เมตร วาดภาพไว้เป็นหลักฐานทันที หลังเหตุการณ์

    📍 กรณีที่ 2 "จอห์น แบกซ์เตอร์" การเผชิญหน้าใกล้ 22 เม.ย. 2520 ตี 1 พบสิ่งมีชีวิตเดินสวนทางมา รูปร่างคล้ายลิง แต่ไม่มีขน ตาเขียว ผิวดำ ใช้นิ้วยาวโอบต้นไม้ คล้ายพฤติกรรมลิง

    📍 กรณีที่ 3 "แอ็บบี และวิลล์" บังเอิญเจออีกครั้ง 22 เม.ย. 2520 เที่ยงคืน เห็นรูปร่างคล้าย “แพะ” ยืนอยู่ข้างถนน ดวงตาสะท้อนแสงสีเขียว เมื่อต้องไฟหน้ารถ

    📌 ปีศาจโดเวอร์กับตำนานในอเมริกาอื่น ๆ

    The Rake ผิวซีด เดิน 4 ขา ไร้ขน รูปร่างคล้ายมนุษย์ ไม่มีขน

    Mothman มนุษย์มีปีก ดวงตาแดง ความหลอนในช่วงเวลาเฉพาะ

    Grey Alien หัวโต ผิวเทา ตาดำ ตรงลักษณะกายภาพที่สุด

    🇹🇭 เปรียบเทียบกับตำนานลึกลับในไทย

    👻 กระสือ สิ่งลี้ลับที่เห็นเฉพาะกลางคืน ไม่มีคำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์

    🌊 พรายน้ำ สิ่งมีชีวิตลึกลับในแหล่งน้ำ ที่คนเห็นบ้างไม่เห็นบ้าง

    🙏 ผีเปรต ร่างสูง ผอม หวาดกลัว แต่ไม่ใช่สัตว์

    😱 แม่นาคพระโขนง สิ่งลี้ลับระหว่างความเป็นคน กับวิญญาณ

    ปีศาจโดเวอร์ใกล้เคียงที่สุดกับ “กระสือ” หรือ “พรายน้ำ” ที่เป็นสิ่งมีชีวิต ที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ และเห็นเพียงบางช่วงเวลา

    🧩 เรื่องเล่าที่ไม่มีวันหายไป แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 48 ปี แล้ว แต่คำถามที่ว่า “ปีศาจโดเวอร์คืออะไรกันแน่?” ยังคงไม่ได้รับคำตอบ

    จะเป็นเอเลี่ยน สัตว์ทดลอง ภาพลวงตา หรือปีศาจในตำนานอินเดียแดง สิ่งเดียวที่แน่นอนคือ มันได้ทิ้งร่องรอยทางวัฒนธรรม ไว้ในใจผู้คน และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับหนังสือ สารคดี และแม้แต่ในเกมบางเกม 🎮

    “บางเรื่อง... ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์เสมอไป แค่มีคนเล่า... มันก็อยู่ได้ตลอดไปแล้ว” 👣

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 210817 เม.ย. 2568

    📲 #ปีศาจโดเวอร์ #DoverDemon #สิ่งมีชีวิตลึกลับ #UrbanLegend #เรื่องลี้ลับอเมริกา #มนุษย์ต่างดาว #GreyAlien #Mothman #TheRake #ตำนานเมือง
    👁️‍🗨️ 48 ปี “ปีศาจโดเวอร์” สิ่งมีชีวิตลึกลับแห่งแมสซาชูเซตส์ ตำนานปริศนาอเมริกา ที่ยังไร้คำอธิบาย เปิดตำนานปริศนาสุดลึกลับ จากสหรัฐอเมริกา กับสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏตัวเพียงไม่กี่ครั้ง แต่กลับทิ้งคำถาม ไว้ให้โลกค้นหามานานถึงครึ่งศตวรรษ 🎯 เมื่อ “สิ่งลึกลับ” ปรากฏขึ้นเพียงไม่กี่วินาที... แต่คนทั้งเมืองจดจำมันได้เป็นสิบปี หากเป็นหนึ่งในคนที่ชอบเรื่องลี้ลับ ชอบฟังตำนานเมือง หรือหลงใหลในเรื่องสิ่งมีชีวิตประหลาดแบบ “X-Files” หรือ “Stranger Things” ไม่ควรพลาดตำนานของ “ปีศาจโดเวอร์” (Dover Demon) 🛸 ปี พ.ศ. 2520 คือปีที่ชื่อของ “Dover Demon” ปรากฏขึ้นครั้งแรกในเมืองเล็ก ๆ ชื่อว่า “โดเวอร์” รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา สิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาดที่มีหัวโต ตาเรืองแสง ไม่มีจมูกปาก แขนขายาว ผิวหยาบเหมือนกระดาษทราย และสำคัญที่สุด ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ว่า มันคืออะไร ❓ 👹 ตำนานที่เริ่มต้นจาก “ความบังเอิญ” เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2520 ในคืนเดือนมืด วันพฤหัสบดีอันเงียบสงบของเมืองโดเวอร์ กลับกลายเป็นวันที่เปลี่ยนชีวิต ของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งไปตลอดกาล… "บิลล์ บาร์ทเล็ทท์" (Bill Bartlett) วัย 17 ปี กำลังขับรถกับเพื่อน ๆ ในถนนสายเปลี่ยว จู่ ๆ เขาก็เห็นสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์แปลกประหลาดปีนไปตามกำแพงเตี้ย ๆ ข้างถนน มันมีหัวโตมาก ดวงตาเรืองแสง ไม่มีจมูก ไม่มีปาก และผิวของมันดูเหมือน “ทรายเปียก” 🌑 เสียงของเพื่อนอาจไม่ได้ยิน แต่ภาพนั้นกลับตราตรึงบาร์ทเล็ทท์ ไปตลอดชีวิต เขาถึงขั้นวาดภาพสิ่งที่เห็น ออกมาในคืนนั้นเลยทันที การพบเห็นอีก 2 ครั้งใน 24 ชั่วโมงถัดมา "จอห์น แบกซ์เตอร์" วัย 15 ปี พบเห็นสิ่งมีชีวิตเดียวกัน ในช่วงเช้ามืดของวันถัดมา "แอ็บบี อับราฮัม" และ "วิลล์ เทนเตอร์" ก็พบเห็นรูปร่างคล้ายกัน ขณะขับรถบนถนนอีกสาย ที่อยู่ในรัศมีไม่ไกลจากจุดแรก ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในรัศมีเพียง 4 กิโลเมตร ‼️ และแม้จะเป็นวัยรุ่นต่างกลุ่ม ต่างสถานที่ ต่างช่วงเวลา แต่คำอธิบายของพวกเขา กลับเหมือนกันอย่างน่าประหลาดใจ 🧠 ความสำคัญของปีศาจโดเวอร์ ในแง่วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม การพบเห็นสิ่งลึกลับเพียงไม่กี่วินาที ทำไมถึงกลายเป็นตำนาน ที่คนทั้งโลกพูดถึง? 🤔 มุมมองเชิงจิตวิทยา นักจิตวิทยาวิเคราะห์ว่า เรื่องของ “ปีศาจโดเวอร์” อาจเป็นผลจากการรับรู้ผิดเพี้ยน (misperception) หรือการตีความสิ่งที่เห็นผิดจากความจริง อันเนื่องมาจากสภาพแสง เงา และความกลัว 👁️‍🗨️ “เราเห็นสิ่งที่เรา อยากเห็น มากกว่าสิ่งที่ มันเป็นจริง ๆ” แต่ถ้าแค่คนเดียวที่เห็นผิด ยังพอเข้าใจได้... แล้วทำไมถึงมีคนเห็นคล้ายกันถึง 3 กลุ่ม ภายในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง? นี่คือสิ่งที่ทำให้ปีศาจโดเวอร์ ไม่ใช่แค่เรื่องหลอนกลางคืน ธรรมดา มุมมองเชิงวัฒนธรรม ปีศาจโดเวอร์ได้รับการบันทึกโดย "Loren Coleman" ผู้เชี่ยวชาญด้าน Cryptozoology หรือการศึกษาสิ่งมีชีวิตลึกลับ และเผยแพร่ผ่านหนังสือพิมพ์และสารคดี ทำให้เรื่องนี้แพร่กระจายจนกลายเป็น Urban Legend หรือ “ตำนานเมือง” ที่ถูกพูดถึงในวงกว้าง 🌍 💬 ความเชื่อและทฤษฎีต่าง ๆ เกี่ยวกับปีศาจโดเวอร์ 👽 มนุษย์ต่างดาว (Alien Theory) ด้วยรูปลักษณ์ที่หัวโต ตาใหญ่ คล้ายกับ “Grey Alien” ในวัฒนธรรมป๊อป หลายคนจึงเชื่อว่า ปีศาจโดเวอร์ อาจเป็นสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก หรือ “สปาย” จากกาแล็กซีอื่นที่กำลังสำรวจโลกอยู่ 🛸 🧬 สิ่งมีชีวิตทดลองหลุดจากห้องแล็บ? อีกทฤษฎีหนึ่งที่น่าขนลุกไม่น้อย คือปีศาจโดเวอร์ อาจเป็นผลผลิตของการทดลองทางพันธุกรรม ที่ผิดพลาด และหลุดรอดออกมาสู่โลกภายนอก โดยไม่ได้ตั้งใจ 🧠 ภาพลวงตาหรือจินตนาการ? ฝ่ายที่ไม่เชื่อ มักมองว่าทั้งหมด เป็นเพียงจินตนาการของวัยรุ่นที่ตื่นเต้น หรืออาจเป็นอาการ hypnagogic hallucination คือภาพหลอนช่วงก่อนหลับ ที่สมองสร้างขึ้นเองจากความกลัว 🔍 รายละเอียดการพบเห็นทั้ง 3 ครั้ง 📍 กรณีที่ 1 "บิลล์ บาร์ทเล็ทท์" เห็นครั้งแรก 21 เม.ย. 2520 พบสิ่งมีชีวิตปีนกำแพง ลักษณะหัวใหญ่ ดวงตาเรืองแสง ไม่มีจมูก ไม่มีปาก แขนขายาว ผิวเหมือนกระดาษทราย สูงประมาณ 4 ฟุต หรือ 1.2 เมตร วาดภาพไว้เป็นหลักฐานทันที หลังเหตุการณ์ 📍 กรณีที่ 2 "จอห์น แบกซ์เตอร์" การเผชิญหน้าใกล้ 22 เม.ย. 2520 ตี 1 พบสิ่งมีชีวิตเดินสวนทางมา รูปร่างคล้ายลิง แต่ไม่มีขน ตาเขียว ผิวดำ ใช้นิ้วยาวโอบต้นไม้ คล้ายพฤติกรรมลิง 📍 กรณีที่ 3 "แอ็บบี และวิลล์" บังเอิญเจออีกครั้ง 22 เม.ย. 2520 เที่ยงคืน เห็นรูปร่างคล้าย “แพะ” ยืนอยู่ข้างถนน ดวงตาสะท้อนแสงสีเขียว เมื่อต้องไฟหน้ารถ 📌 ปีศาจโดเวอร์กับตำนานในอเมริกาอื่น ๆ The Rake ผิวซีด เดิน 4 ขา ไร้ขน รูปร่างคล้ายมนุษย์ ไม่มีขน Mothman มนุษย์มีปีก ดวงตาแดง ความหลอนในช่วงเวลาเฉพาะ Grey Alien หัวโต ผิวเทา ตาดำ ตรงลักษณะกายภาพที่สุด 🇹🇭 เปรียบเทียบกับตำนานลึกลับในไทย 👻 กระสือ สิ่งลี้ลับที่เห็นเฉพาะกลางคืน ไม่มีคำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ 🌊 พรายน้ำ สิ่งมีชีวิตลึกลับในแหล่งน้ำ ที่คนเห็นบ้างไม่เห็นบ้าง 🙏 ผีเปรต ร่างสูง ผอม หวาดกลัว แต่ไม่ใช่สัตว์ 😱 แม่นาคพระโขนง สิ่งลี้ลับระหว่างความเป็นคน กับวิญญาณ ปีศาจโดเวอร์ใกล้เคียงที่สุดกับ “กระสือ” หรือ “พรายน้ำ” ที่เป็นสิ่งมีชีวิต ที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ และเห็นเพียงบางช่วงเวลา 🧩 เรื่องเล่าที่ไม่มีวันหายไป แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 48 ปี แล้ว แต่คำถามที่ว่า “ปีศาจโดเวอร์คืออะไรกันแน่?” ยังคงไม่ได้รับคำตอบ จะเป็นเอเลี่ยน สัตว์ทดลอง ภาพลวงตา หรือปีศาจในตำนานอินเดียแดง สิ่งเดียวที่แน่นอนคือ มันได้ทิ้งร่องรอยทางวัฒนธรรม ไว้ในใจผู้คน และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับหนังสือ สารคดี และแม้แต่ในเกมบางเกม 🎮 “บางเรื่อง... ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์เสมอไป แค่มีคนเล่า... มันก็อยู่ได้ตลอดไปแล้ว” 👣 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 210817 เม.ย. 2568 📲 #ปีศาจโดเวอร์ #DoverDemon #สิ่งมีชีวิตลึกลับ #UrbanLegend #เรื่องลี้ลับอเมริกา #มนุษย์ต่างดาว #GreyAlien #Mothman #TheRake #ตำนานเมือง
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • มีรายงานเกิดเหตุระเบิดหลายครั้งในคาลินินสกีของเมืองโดเนตสค์ ซึ่งเป็นช่วงระหว่างการประกาศหยุดยิงชั่วคราวช่วงวันอีสเตอร์ของรัสเซีย


    กลุ่มควันหนาทึบมองเห็นได้อย่างชัดเจน หลังจากมีรายงานว่ายูเครนเปิดฉากโจมตีมาในทิศทางดังกล่าว และระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300 ของรัสเซียสามารถสะกัดกั้นเอาไว้ได้
    มีรายงานเกิดเหตุระเบิดหลายครั้งในคาลินินสกีของเมืองโดเนตสค์ ซึ่งเป็นช่วงระหว่างการประกาศหยุดยิงชั่วคราวช่วงวันอีสเตอร์ของรัสเซีย กลุ่มควันหนาทึบมองเห็นได้อย่างชัดเจน หลังจากมีรายงานว่ายูเครนเปิดฉากโจมตีมาในทิศทางดังกล่าว และระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300 ของรัสเซียสามารถสะกัดกั้นเอาไว้ได้
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงคำแนะนำจาก Anjul Bhambhri รองประธานอาวุโสของ Adobe Experience Cloud ในการสร้างกลยุทธ์ AI ที่มีประสิทธิภาพ โดยเน้นความสำคัญของ ความโปร่งใส และ การจัดการข้อมูล เพื่อให้ธุรกิจสามารถสร้างความไว้วางใจและเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้าได้ นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงวิธีการจัดการทรัพยากรเพื่อความยั่งยืน เช่น การแบ่งประเภทข้อมูลเป็น hot, warm และ cold storage เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    ✅ ความโปร่งใสเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างกลยุทธ์ AI
    - ธุรกิจควรเปิดเผยข้อมูลและให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในกระบวนการ
    - การฟังความคิดเห็นของลูกค้าช่วยให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ได้มากขึ้น

    ✅ การจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
    - Adobe ใช้การแบ่งประเภทข้อมูลเป็น hot, warm และ cold storage เพื่อจัดการทรัพยากร
    - การใช้ SSD และ HDD อย่างเหมาะสมช่วยลดการใช้พลังงาน

    ✅ การปฏิบัติตามกฎระเบียบช่วยสร้างความไว้วางใจ
    - กฎระเบียบ เช่น GDPR, HIPAA และ FERPA ช่วยกำหนดแนวทางการจัดการข้อมูล
    - ธุรกิจควรมีบทบาทชัดเจนในการกำกับดูแลข้อมูล

    ✅ การสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการจัดการข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ
    - ปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้การจัดการข้อมูลมีความสำคัญมากขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/want-to-build-an-ai-strategy-adobe-svp-advises-you-start-with-transparency
    บทความนี้กล่าวถึงคำแนะนำจาก Anjul Bhambhri รองประธานอาวุโสของ Adobe Experience Cloud ในการสร้างกลยุทธ์ AI ที่มีประสิทธิภาพ โดยเน้นความสำคัญของ ความโปร่งใส และ การจัดการข้อมูล เพื่อให้ธุรกิจสามารถสร้างความไว้วางใจและเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้าได้ นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงวิธีการจัดการทรัพยากรเพื่อความยั่งยืน เช่น การแบ่งประเภทข้อมูลเป็น hot, warm และ cold storage เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ✅ ความโปร่งใสเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างกลยุทธ์ AI - ธุรกิจควรเปิดเผยข้อมูลและให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในกระบวนการ - การฟังความคิดเห็นของลูกค้าช่วยให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ได้มากขึ้น ✅ การจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม - Adobe ใช้การแบ่งประเภทข้อมูลเป็น hot, warm และ cold storage เพื่อจัดการทรัพยากร - การใช้ SSD และ HDD อย่างเหมาะสมช่วยลดการใช้พลังงาน ✅ การปฏิบัติตามกฎระเบียบช่วยสร้างความไว้วางใจ - กฎระเบียบ เช่น GDPR, HIPAA และ FERPA ช่วยกำหนดแนวทางการจัดการข้อมูล - ธุรกิจควรมีบทบาทชัดเจนในการกำกับดูแลข้อมูล ✅ การสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการจัดการข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ - ปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้การจัดการข้อมูลมีความสำคัญมากขึ้น https://www.techradar.com/pro/want-to-build-an-ai-strategy-adobe-svp-advises-you-start-with-transparency
    WWW.TECHRADAR.COM
    Want to build an AI strategy? Adobe SVP advises you start with transparency
    Start with transparency and honesty, and the rest will follow
    0 Comments 0 Shares 81 Views 0 Reviews
  • Huawei ได้เปิดตัวชิป AI รุ่นใหม่ Ascend 920 ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างที่เกิดขึ้นหลังจากการห้ามส่งออกชิป Nvidia H20 ไปยังจีน โดย Ascend 920 มีประสิทธิภาพที่สามารถเทียบเคียงกับ Nvidia H20 และคาดว่าจะเข้าสู่การผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ชิปนี้ใช้กระบวนการผลิตแบบ 6 นาโนเมตร และมีแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงถึง 4 TB/s ด้วยโมดูล HBM3

    ✅ Ascend 920 มีประสิทธิภาพที่เทียบเคียงกับ Nvidia H20
    - ชิปนี้สามารถประมวลผลได้ถึง 900 TFLOPs ต่อการ์ด
    - ใช้กระบวนการผลิตแบบ 6 นาโนเมตร และโมดูล HBM3

    ✅ Ascend 920C รุ่นพิเศษสำหรับโมเดล AI ขั้นสูง
    - รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับโมเดล Transformer และ Mixture of Experts
    - มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นประมาณ 30-40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

    ✅ Huawei เปิดตัว Ascend 920 หลังการประกาศห้ามส่งออกชิป Nvidia H20
    - การเปิดตัวนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากการประกาศห้ามส่งออกชิปของสหรัฐฯ

    ✅ Ascend 920 เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ AI ของ Huawei
    - Huawei ยังเปิดตัวโซลูชัน AI CloudMatrix 384 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า Nvidia GB200

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/huawei-introduces-the-ascend-920-ai-chip-to-fill-the-void-left-by-nvidias-h20
    Huawei ได้เปิดตัวชิป AI รุ่นใหม่ Ascend 920 ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างที่เกิดขึ้นหลังจากการห้ามส่งออกชิป Nvidia H20 ไปยังจีน โดย Ascend 920 มีประสิทธิภาพที่สามารถเทียบเคียงกับ Nvidia H20 และคาดว่าจะเข้าสู่การผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ชิปนี้ใช้กระบวนการผลิตแบบ 6 นาโนเมตร และมีแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงถึง 4 TB/s ด้วยโมดูล HBM3 ✅ Ascend 920 มีประสิทธิภาพที่เทียบเคียงกับ Nvidia H20 - ชิปนี้สามารถประมวลผลได้ถึง 900 TFLOPs ต่อการ์ด - ใช้กระบวนการผลิตแบบ 6 นาโนเมตร และโมดูล HBM3 ✅ Ascend 920C รุ่นพิเศษสำหรับโมเดล AI ขั้นสูง - รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับโมเดล Transformer และ Mixture of Experts - มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นประมาณ 30-40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ✅ Huawei เปิดตัว Ascend 920 หลังการประกาศห้ามส่งออกชิป Nvidia H20 - การเปิดตัวนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากการประกาศห้ามส่งออกชิปของสหรัฐฯ ✅ Ascend 920 เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ AI ของ Huawei - Huawei ยังเปิดตัวโซลูชัน AI CloudMatrix 384 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า Nvidia GB200 https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/huawei-introduces-the-ascend-920-ai-chip-to-fill-the-void-left-by-nvidias-h20
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Huawei introduces the Ascend 920 AI chip to fill the void left by Nvidia's H20
    The Ascend 920 supposedly offers a performance comparable to the Nvidia H20.
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตเกียวได้พัฒนาเทคนิคการระบายความร้อนแบบใหม่ที่ใช้ การเปลี่ยนสถานะของน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อน โดยเทคนิคนี้สามารถระบายความร้อนได้มากกว่าเทคนิคมาตรฐานถึง 7 เท่า การเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นไอช่วยให้สามารถดูดซับและกระจายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ การเปลี่ยนสถานะของน้ำช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อน
    - น้ำสามารถดูดซับพลังงานได้มากขึ้นเมื่อเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นไอ
    - เทคนิคนี้ช่วยแก้ปัญหาการไหลของไอในช่องแคบที่มักเกิดในระบบระบายความร้อนแบบเดิม

    ✅ การออกแบบช่องทางไมโครฟลูอิดิก 3D ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
    - ช่องทางไมโครฟลูอิดิกแบบ 3D มีโครงสร้างที่ช่วยให้การไหลของน้ำและไอเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
    - ระบบนี้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนสูงถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนแบบน้ำ

    ✅ เทคนิคนี้สามารถใช้งานได้หลากหลาย
    - เหมาะสำหรับการใช้งานในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ชิปประมวลผล, เลเซอร์, และระบบเรดาร์
    - สามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์และอวกาศ

    ✅ ระบบนี้สามารถทำงานแบบพาสซีฟได้
    - การเปลี่ยนสถานะของน้ำช่วยให้ระบบสามารถระบายความร้อนผ่านการพาความร้อนโดยไม่ต้องใช้ปั๊ม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/liquid-cooling/researchers-develop-two-phase-cooling-technique-that-dissipates-7x-more-heat
    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตเกียวได้พัฒนาเทคนิคการระบายความร้อนแบบใหม่ที่ใช้ การเปลี่ยนสถานะของน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อน โดยเทคนิคนี้สามารถระบายความร้อนได้มากกว่าเทคนิคมาตรฐานถึง 7 เท่า การเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นไอช่วยให้สามารถดูดซับและกระจายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ การเปลี่ยนสถานะของน้ำช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อน - น้ำสามารถดูดซับพลังงานได้มากขึ้นเมื่อเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นไอ - เทคนิคนี้ช่วยแก้ปัญหาการไหลของไอในช่องแคบที่มักเกิดในระบบระบายความร้อนแบบเดิม ✅ การออกแบบช่องทางไมโครฟลูอิดิก 3D ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ - ช่องทางไมโครฟลูอิดิกแบบ 3D มีโครงสร้างที่ช่วยให้การไหลของน้ำและไอเป็นไปอย่างต่อเนื่อง - ระบบนี้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนสูงถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนแบบน้ำ ✅ เทคนิคนี้สามารถใช้งานได้หลากหลาย - เหมาะสำหรับการใช้งานในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ชิปประมวลผล, เลเซอร์, และระบบเรดาร์ - สามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์และอวกาศ ✅ ระบบนี้สามารถทำงานแบบพาสซีฟได้ - การเปลี่ยนสถานะของน้ำช่วยให้ระบบสามารถระบายความร้อนผ่านการพาความร้อนโดยไม่ต้องใช้ปั๊ม https://www.tomshardware.com/pc-components/liquid-cooling/researchers-develop-two-phase-cooling-technique-that-dissipates-7x-more-heat
    0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึง FramePack ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมใหม่ที่ช่วยให้การสร้างวิดีโอด้วย AI สามารถทำได้บน GPU สำหรับเล่นเกมที่มีหน่วยความจำเพียง 6GB VRAM โดย FramePack ใช้เทคนิคการบีบอัดเฟรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้หน่วยความจำ GPU ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถสร้างวิดีโอ AI ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ที่มีค่าใช้จ่ายสูง

    ✅ FramePack ช่วยให้การสร้างวิดีโอ AI ทำได้บน GPU ที่มี VRAM เพียง 6GB
    - ใช้เทคนิคการบีบอัดเฟรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้หน่วยความจำ
    - รองรับ GPU รุ่น RTX 30/40/50 ที่มีการสนับสนุน FP16 และ BF16

    ✅ FramePack ใช้สถาปัตยกรรมที่ลดการใช้หน่วยความจำ GPU
    - บีบอัดเฟรมตามความสำคัญเพื่อให้ได้ความยาวคอนเท็กซ์ที่เหมาะสม
    - ลดปัญหา "drifting" ที่ทำให้คุณภาพวิดีโอลดลงเมื่อวิดีโอมีความยาวมากขึ้น

    ✅ สามารถสร้างวิดีโอคุณภาพสูงได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์
    - ช่วยลดค่าใช้จ่ายและทำให้การสร้างวิดีโอ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

    ✅ เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การสร้าง GIF และมีม
    - แม้ไม่ใช่ครีเอเตอร์มืออาชีพ ก็สามารถใช้งาน FramePack เพื่อความบันเทิงได้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/framepack-can-generate-ai-videos-locally-with-just-6gb-of-vram
    บทความนี้กล่าวถึง FramePack ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมใหม่ที่ช่วยให้การสร้างวิดีโอด้วย AI สามารถทำได้บน GPU สำหรับเล่นเกมที่มีหน่วยความจำเพียง 6GB VRAM โดย FramePack ใช้เทคนิคการบีบอัดเฟรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้หน่วยความจำ GPU ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถสร้างวิดีโอ AI ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ที่มีค่าใช้จ่ายสูง ✅ FramePack ช่วยให้การสร้างวิดีโอ AI ทำได้บน GPU ที่มี VRAM เพียง 6GB - ใช้เทคนิคการบีบอัดเฟรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้หน่วยความจำ - รองรับ GPU รุ่น RTX 30/40/50 ที่มีการสนับสนุน FP16 และ BF16 ✅ FramePack ใช้สถาปัตยกรรมที่ลดการใช้หน่วยความจำ GPU - บีบอัดเฟรมตามความสำคัญเพื่อให้ได้ความยาวคอนเท็กซ์ที่เหมาะสม - ลดปัญหา "drifting" ที่ทำให้คุณภาพวิดีโอลดลงเมื่อวิดีโอมีความยาวมากขึ้น ✅ สามารถสร้างวิดีโอคุณภาพสูงได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ - ช่วยลดค่าใช้จ่ายและทำให้การสร้างวิดีโอ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ✅ เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การสร้าง GIF และมีม - แม้ไม่ใช่ครีเอเตอร์มืออาชีพ ก็สามารถใช้งาน FramePack เพื่อความบันเทิงได้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/framepack-can-generate-ai-videos-locally-with-just-6gb-of-vram
    0 Comments 0 Shares 68 Views 0 Reviews
  • นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Fudan ในเซี่ยงไฮ้ได้เปิดตัวอุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชที่ทำลายสถิติความเร็วในการเขียนข้อมูล โดยอุปกรณ์นี้มีชื่อว่า PoX ซึ่งสามารถเขียนข้อมูลได้ในเวลาเพียง 400 พิโควินาที หรือ สี่ร้อยล้านล้านส่วนของวินาที นับว่าเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบเซมิคอนดักเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก ความสำเร็จนี้มีผลกระทบอย่างมากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่

    ✅ PoX เป็นอุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชที่เร็วที่สุดในโลก
    - สามารถเขียนข้อมูลได้ในเวลาเพียง 400 พิโควินาที
    - ทำงานได้ถึง 25 พันล้านครั้งต่อวินาที ซึ่งเร็วกว่าสถิติโลกก่อนหน้าถึง 100,000 เท่า

    ✅ PoX ใช้กราฟีนเป็นวัสดุหลักในการพัฒนา
    - กราฟีนมีคุณสมบัติทางไฟฟ้าที่โดดเด่นและช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล
    - ใช้โครงสร้าง Dirac band และเทคนิค super-injection เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

    ✅ PoX มีผลกระทบต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI
    - ช่วยให้การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่เป็นไปอย่างรวดเร็วและลดการใช้พลังงาน
    - เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบ AI ที่ต้องการการประมวลผลแบบเรียลไทม์

    ✅ PoX ช่วยลดปัญหาคอขวดด้านการถ่ายโอนข้อมูล
    - การพัฒนา PoX ช่วยแก้ปัญหาที่หน่วยความจำแบบไม่ลบข้อมูล (non-volatile memory) เผชิญมานานหลายทศวรรษ

    https://www.techspot.com/news/107614-new-graphene-based-flash-memory-writes-data-400.html
    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Fudan ในเซี่ยงไฮ้ได้เปิดตัวอุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชที่ทำลายสถิติความเร็วในการเขียนข้อมูล โดยอุปกรณ์นี้มีชื่อว่า PoX ซึ่งสามารถเขียนข้อมูลได้ในเวลาเพียง 400 พิโควินาที หรือ สี่ร้อยล้านล้านส่วนของวินาที นับว่าเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบเซมิคอนดักเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก ความสำเร็จนี้มีผลกระทบอย่างมากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ✅ PoX เป็นอุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชที่เร็วที่สุดในโลก - สามารถเขียนข้อมูลได้ในเวลาเพียง 400 พิโควินาที - ทำงานได้ถึง 25 พันล้านครั้งต่อวินาที ซึ่งเร็วกว่าสถิติโลกก่อนหน้าถึง 100,000 เท่า ✅ PoX ใช้กราฟีนเป็นวัสดุหลักในการพัฒนา - กราฟีนมีคุณสมบัติทางไฟฟ้าที่โดดเด่นและช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล - ใช้โครงสร้าง Dirac band และเทคนิค super-injection เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ✅ PoX มีผลกระทบต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI - ช่วยให้การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่เป็นไปอย่างรวดเร็วและลดการใช้พลังงาน - เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบ AI ที่ต้องการการประมวลผลแบบเรียลไทม์ ✅ PoX ช่วยลดปัญหาคอขวดด้านการถ่ายโอนข้อมูล - การพัฒนา PoX ช่วยแก้ปัญหาที่หน่วยความจำแบบไม่ลบข้อมูล (non-volatile memory) เผชิญมานานหลายทศวรรษ https://www.techspot.com/news/107614-new-graphene-based-flash-memory-writes-data-400.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New graphene-based flash memory writes data in 400 picoseconds, shattering all speed records
    To put this achievement into perspective, PoX can perform 25 billion operations per second – surpassing the previous world record for similar technology by a factor of 100,000.
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้อธิบายถึงประโยชน์ของ TPM 2.0 ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อกำหนดของระบบสำหรับ Windows 11 โดย TPM มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การตรวจสอบความสมบูรณ์ของซอฟต์แวร์ และการป้องกันการแก้ไขฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ Microsoft ยังเน้นถึงข้อดีอื่นๆ ของ Windows 11 เช่น ประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นและความพร้อมสำหรับการอัปเดตในอนาคต

    ✅ TPM ช่วยปกป้องข้อมูลของผู้ใช้
    - TPM สามารถเข้ารหัสข้อมูล เช่น รายละเอียดส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน และไฟล์ที่เป็นความลับ

    ✅ TPM ช่วยตรวจสอบความสมบูรณ์ของซอฟต์แวร์
    - ฟีเจอร์ Secure Boot ของ TPM ช่วยป้องกันซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายไม่ให้เริ่มต้นระบบ

    ✅ TPM ช่วยป้องกันการแก้ไขฮาร์ดแวร์
    - TPM สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในฮาร์ดแวร์และป้องกันระบบไม่ให้เริ่มต้น

    ✅ Windows 11 มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่พึ่งพา TPM
    - ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ แม้ว่าอุปกรณ์จะสูญหายหรือถูกขโมย

    ✅ Windows 11 มีประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น
    - อินเทอร์เฟซที่ปรับปรุงใหม่และความเข้ากันได้ที่ดีขึ้นช่วยให้การใช้งานราบรื่น

    ✅ Windows 11 พร้อมสำหรับการอัปเดตในอนาคต
    - การอัปเกรดเป็น Windows 11 ช่วยให้ระบบพร้อมสำหรับฟีเจอร์และการอัปเดตด้านความปลอดภัยในอนาคต

    https://www.neowin.net/news/microsoft-explains-tpm-benefits-and-why-it-makes-windows-11-better-than-10/
    Microsoft ได้อธิบายถึงประโยชน์ของ TPM 2.0 ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อกำหนดของระบบสำหรับ Windows 11 โดย TPM มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การตรวจสอบความสมบูรณ์ของซอฟต์แวร์ และการป้องกันการแก้ไขฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ Microsoft ยังเน้นถึงข้อดีอื่นๆ ของ Windows 11 เช่น ประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นและความพร้อมสำหรับการอัปเดตในอนาคต ✅ TPM ช่วยปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ - TPM สามารถเข้ารหัสข้อมูล เช่น รายละเอียดส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน และไฟล์ที่เป็นความลับ ✅ TPM ช่วยตรวจสอบความสมบูรณ์ของซอฟต์แวร์ - ฟีเจอร์ Secure Boot ของ TPM ช่วยป้องกันซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายไม่ให้เริ่มต้นระบบ ✅ TPM ช่วยป้องกันการแก้ไขฮาร์ดแวร์ - TPM สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในฮาร์ดแวร์และป้องกันระบบไม่ให้เริ่มต้น ✅ Windows 11 มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่พึ่งพา TPM - ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ แม้ว่าอุปกรณ์จะสูญหายหรือถูกขโมย ✅ Windows 11 มีประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น - อินเทอร์เฟซที่ปรับปรุงใหม่และความเข้ากันได้ที่ดีขึ้นช่วยให้การใช้งานราบรื่น ✅ Windows 11 พร้อมสำหรับการอัปเดตในอนาคต - การอัปเกรดเป็น Windows 11 ช่วยให้ระบบพร้อมสำหรับฟีเจอร์และการอัปเดตด้านความปลอดภัยในอนาคต https://www.neowin.net/news/microsoft-explains-tpm-benefits-and-why-it-makes-windows-11-better-than-10/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft explains TPM benefits and why it makes Windows 11 better than 10
    Microsoft has explained why TPM, which is a system requirement for Windows 11, is so beneficial for users and why it makes Windows 11 better.
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • แนะนำ และ ชอบ Project DIY UNIVERSAL Step up & Down DC to DC converter
    สามารถนำไปใช้ได้หลายหลากหลาย เช่น ใช้ร่วมกับ Solar Cell ชาร์จ Battery หรือเป็นแหล่งจ่ายไฟ
    วงจรไม่ยาก อธิบายละเอียด มีการทดสอบวงจรให้ดู
    ผมอาจออกแบบแผงวงจรให้ คน Down load gerber ไปใช้

    https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=9wsVshsJ11o
    แนะนำ และ ชอบ Project DIY UNIVERSAL Step up & Down DC to DC converter สามารถนำไปใช้ได้หลายหลากหลาย เช่น ใช้ร่วมกับ Solar Cell ชาร์จ Battery หรือเป็นแหล่งจ่ายไฟ วงจรไม่ยาก อธิบายละเอียด มีการทดสอบวงจรให้ดู ผมอาจออกแบบแผงวงจรให้ คน Down load gerber ไปใช้ https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=9wsVshsJ11o
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • 🌿 20 เมษา “วันกัญชาโลก” เดอะวอลโดส โค้ดลับ โฟร์ทเวนตี ต่างชาติหลงใหลกัญชาไทย เสน่ห์ใหม่ หรือว่า… ปัญหางอก! จากรหัสลับ สู่สนามถกเถียงระดับโลก

    จากเรื่องเล่ากลุ่มวัยรุ่น The Waldos สู่กระแสร่วมสมัยในไทย การใช้กัญชาควรเป็นเสรีภาพเพื่อสุขภาพ หรือแค่แฟชั่นเสพติด?

    🔍 หากเคยเห็นคำว่า “420” หรือ “4/20” บนเสื้อผ้า โซเชียลมีเดีย หรือในบทสนทนาระหว่างกลุ่มวัยรุ่น และสงสัยว่า... หมายถึงอะไร? คำตอบคือ 420 คือรหัสลับของผู้ใช้กัญชาทั่วโลก ที่ถูกยกระดับให้กลายเป็น "วันกัญชาโลก" หรือ "World Cannabis Day" 🗓️

    ทุกวันที่ 20 เมษายน (20/4) ของทุกปี กลายเป็นวันเฉลิมฉลอง ของผู้สนับสนุนเสรีภาพในการใช้กัญชา ทั้งในด้านการแพทย์ การพักผ่อน และการรณรงค์ให้กฎหมายในแต่ละประเทศ เปิดใจยอมรับพืชชนิดนี้มากขึ้น 📢

    แต่... การเฉลิมฉลองนั้น ควรมีขอบเขตแค่ไหน? เสรีภาพจะพาไปสู่โอกาส หรือปัญหางอกไม่รู้จบ?

    🧠 จุดเริ่มต้นจากกลุ่ม The Waldos สู่วัฒนธรรมสมัยนิยม เรื่องราวของ “420” เริ่มต้นในปี 2514 จากกลุ่มวัยรุ่นชื่อ "The Waldos" ที่เมืองซานราฟาเอล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขานัดเจอกันทุกวันเวลา 16.20 น. หรือ 4:20 PM เพื่อออกตามหาต้นกัญชาลึกลับ ในค่ายทหาร "abandoned" โดยใช้เวลา 4:20 เป็นรหัสลับระหว่างกัน 🕓

    แม้จะไม่เจอต้นกัญชานั้นจริงๆ แต่คำว่า “420” กลายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ใช้กัญชา โดยถูกผลักดันจากวงดนตรี "Grateful Dead" และต่อมากลายเป็นวัฒนธรรมย่อย ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก 🌍

    📅 วันที่ 20 เมษายน หรือ “4/20” ตามรูปแบบการเขียนเดือนและวัน ของสหรัฐฯ ถูกยกระดับให้เป็น วันแห่งการเฉลิมฉลองกัญชา โดยผู้ใช้กัญชาทั่วโลก จะออกมารวมตัวจัดกิจกรรม สังสรรค์ หรือแม้แต่ประท้วง เรียกร้องให้มีการออกกฎหมายที่เป็นธรรม เกี่ยวกับการใช้กัญชา ✊

    🌿 ประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์ แม้กัญชาจะเคยถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษ แต่ด้วยการวิจัยทางการแพทย์ล่าสุด กัญชาถูกมองใหม่ในฐานะ “สมุนไพรทางเลือก” ที่มี CBD และ THC เป็นสารออกฤทธิ์สำคัญ ซึ่งช่วยรักษาอาการ ได้หลายประเภท 🧪

    ✅ ประโยชน์ที่ได้รับการยอมรับ ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด 🤢 บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง เช่น ปวดประสาท ปวดข้อ 🤕 ช่วยให้ผู้ป่วยหลับสบายขึ้น 💤 ลดอาการวิตกกังวล เฉพาะบางกรณี 😟➡️🙂

    📌 ทั้งนี้.... การใช้ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น

    ❌ ความเสี่ยงที่ต้องเข้าใจ กัญชาไม่ใช่ยาวิเศษ เพราะมันมีผลข้างเคียงหากใช้อย่างไม่ถูกต้อง เสี่ยงต่อการเสพติด หากใช้ต่อเนื่องในปริมาณมาก 🔄 ส่งผลต่อสมอง โดยเฉพาะในวัยรุ่น 🧠 อาจก่อให้เกิดความจำสั้น สมาธิสั้น และอารมณ์แปรปรวน 😵 มีความเสี่ยงต่อภาวะจิตประสาท ในบางราย 🧨

    🇹🇭 "กัญชาไทย" จากปลดล็อกสู่การควบคุม ปี 2565 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลประกาศ “ปลดล็อกกัญชา” ออกจากบัญชียาเสพติด เพื่อเปิดโอกาสให้ใช้เพื่อการแพทย์ และเศรษฐกิจภายในครัวเรือน 👩‍⚕️🏠

    แต่เมื่อขาดกฎหมายควบคุมที่ชัดเจน ปัญหาจึงตามมา เยาวชนเข้าถึงได้ง่ายเกินไป 👦👧 โฆษณาเกินจริงบนโลกออนไลน์ 💻 และการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่ตระหนักถึงผลเสีย 🚬

    📈 ธุรกิจกัญชาไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว มีมูลค่าตลาดคาดการณ์สูงถึง 20,000 ล้านบาท หากสามารถจัดการได้ดี 💸

    🧩 เสรีภาพ กับความปลอดภัย สมดุลที่ต้องคิดให้รอบด้าน คำถามใหญ่ที่สังคมไทยกำลังเผชิญในปี 2568 คือ...

    “กัญชาเป็นเสรีภาพใหม่ หรือปัญหางอก?”

    แม้หลายฝ่ายจะชูธงเรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่กลุ่มทางการแพทย์และผู้ปกครอง กลับกังวลถึงผลกระทบระยะยาวต่อเด็ก และเยาวชน โดยเฉพาะเมื่อไม่มีพระราชบัญญัติ ควบคุมที่ชัดเจน 😰

    🔒 ล่าสุด รัฐบาลมีแนวโน้มจะออก "พระราชบัญญัติกัญชา" เพื่อควบคุมให้ใช้เพื่อสุขภาพ และการแพทย์เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อความบันเทิง

    👶 เยาวชนคือกลุ่มเสี่ยงที่สุด ผลกระทบต่อสมองและพฤติกรรม การพัฒนาสมองถูกรบกวนโดยสาร THC 🧠 เพิ่มความเสี่ยงโรคซึมเศร้า โรคจิตเภท และอาการหลอน 😨 พฤติกรรมเสี่ยงมากขึ้น เช่น การลองยาเสพติดอื่น 🔗

    แนวทางป้องกันคือ ให้ความรู้ในโรงเรียน 🏫 ควบคุมการโฆษณา และจำหน่ายอย่างเคร่งครัด 🔞 จำกัดอายุขั้นต่ำ ในการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา 🚫

    ✈️ ต่างชาติหลงใหล “กัญชาไทย” หรือแค่... โบนัสท่องเที่ยว? หลังปลดล็อกกัญชาในปี 2565 ไทยกลายเป็น “จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวสายเขียว” 🌍💚

    โดยเฉพาะจากประเทศที่มีกฎหมายยาเสพติดเข้มงวด เช่น 🇯🇵 ญี่ปุ่น 🇰🇷 เกาหลีใต้ นักท่องเที่ยวบางคนมองว่า กัญชาไทยเป็นเสน่ห์ใหม่ ของการท่องเที่ยว แต่บางส่วนกลับกังวลว่า อาจบ่อนทำลายภาพลักษณ์ไทย ในสายตาชาวโลก

    📢 กฎหมายของไทย อาจไม่ตรงกับกฎหมายในประเทศต้นทาง นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา!

    💼 เศรษฐกิจกัญชา โอกาสทองหรือความเสี่ยงซ่อนเร้น? ประเทศที่ปลดล็อกกัญชาแล้วประสบความสำเร็จ เช่น 🇨🇦 แคนาดา 🇺🇾 อุรุกวัย 🇲🇹 มอลตา ล้วนมีระบบควบคุมกัญชาเข้มงวด ควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจ

    📉 หากไม่มีการควบคุมที่ดี เศรษฐกิจกัญชาจะกลายเป็นดาบสองคม ทำให้ปัญหาสังคมลุกลาม และลดความน่าเชื่อถือของประเทศได้

    🧑‍⚕️ แพทย์เตือน กัญชาเป็น “เครื่องมือ” ไม่ใช่ “ของเล่น” วงการแพทย์ย้ำว่า...

    “กัญชาใช้รักษาโรคได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุม และไม่ควรใช้แบบสันทนาการทั่วไป”

    กลุ่มโรคที่อาจได้ประโยชน์จากกัญชาคือ ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ที่ปวดเรื้อรัง ผู้ที่นอนไม่หลับ และผู้ป่วยจิตเวชบางกลุ่ม

    อย่างไรก็ตาม การใช้ต้องอาศัยการวินิจฉัยจากแพทย์ และข้อมูลวิจัยเพิ่มเติม 🔍

    📚 ควรฉลองหรือทบทวน? วันกัญชาโลก (420) คือโอกาสให้เราหยุดคิด ทบทวน และสร้างบทสนทนาที่มีคุณภาพ ในสังคมไทย ไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง 🎉

    สิ่งที่สังคมควรย้ำคือ

    ✅ สนับสนุนการใช้กัญชา เพื่อการแพทย์และสุขภาพ

    ❌ ต่อต้านการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่มีการควบคุม

    ⚖️ สร้างสมดุลระหว่างสิทธิเสรีภาพ และความปลอดภัยของสาธารณชน

    "กัญชาอาจเป็นพืชมหัศจรรย์... ถ้าเราใช้ด้วยความรู้ ไม่ใช่แค่ตามกระแส" 🌱

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200924 เม.ย. 2568

    📌 #วันกัญชาโลก #420ไทย #โฟร์ทเวนตี้ #กัญชาเพื่อการแพทย์
    #กัญชาไทย #เสรีภาพไม่ใช่สันทนาการ #TheWaldos #กัญชากับเยาวชน
    #สังคมกับกัญชา #กัญชาอย่างปลอดภัย
    🌿 20 เมษา “วันกัญชาโลก” เดอะวอลโดส โค้ดลับ โฟร์ทเวนตี ต่างชาติหลงใหลกัญชาไทย เสน่ห์ใหม่ หรือว่า… ปัญหางอก! จากรหัสลับ สู่สนามถกเถียงระดับโลก จากเรื่องเล่ากลุ่มวัยรุ่น The Waldos สู่กระแสร่วมสมัยในไทย การใช้กัญชาควรเป็นเสรีภาพเพื่อสุขภาพ หรือแค่แฟชั่นเสพติด? 🔍 หากเคยเห็นคำว่า “420” หรือ “4/20” บนเสื้อผ้า โซเชียลมีเดีย หรือในบทสนทนาระหว่างกลุ่มวัยรุ่น และสงสัยว่า... หมายถึงอะไร? คำตอบคือ 420 คือรหัสลับของผู้ใช้กัญชาทั่วโลก ที่ถูกยกระดับให้กลายเป็น "วันกัญชาโลก" หรือ "World Cannabis Day" 🗓️ ทุกวันที่ 20 เมษายน (20/4) ของทุกปี กลายเป็นวันเฉลิมฉลอง ของผู้สนับสนุนเสรีภาพในการใช้กัญชา ทั้งในด้านการแพทย์ การพักผ่อน และการรณรงค์ให้กฎหมายในแต่ละประเทศ เปิดใจยอมรับพืชชนิดนี้มากขึ้น 📢 แต่... การเฉลิมฉลองนั้น ควรมีขอบเขตแค่ไหน? เสรีภาพจะพาไปสู่โอกาส หรือปัญหางอกไม่รู้จบ? 🧠 จุดเริ่มต้นจากกลุ่ม The Waldos สู่วัฒนธรรมสมัยนิยม เรื่องราวของ “420” เริ่มต้นในปี 2514 จากกลุ่มวัยรุ่นชื่อ "The Waldos" ที่เมืองซานราฟาเอล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขานัดเจอกันทุกวันเวลา 16.20 น. หรือ 4:20 PM เพื่อออกตามหาต้นกัญชาลึกลับ ในค่ายทหาร "abandoned" โดยใช้เวลา 4:20 เป็นรหัสลับระหว่างกัน 🕓 แม้จะไม่เจอต้นกัญชานั้นจริงๆ แต่คำว่า “420” กลายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ใช้กัญชา โดยถูกผลักดันจากวงดนตรี "Grateful Dead" และต่อมากลายเป็นวัฒนธรรมย่อย ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก 🌍 📅 วันที่ 20 เมษายน หรือ “4/20” ตามรูปแบบการเขียนเดือนและวัน ของสหรัฐฯ ถูกยกระดับให้เป็น วันแห่งการเฉลิมฉลองกัญชา โดยผู้ใช้กัญชาทั่วโลก จะออกมารวมตัวจัดกิจกรรม สังสรรค์ หรือแม้แต่ประท้วง เรียกร้องให้มีการออกกฎหมายที่เป็นธรรม เกี่ยวกับการใช้กัญชา ✊ 🌿 ประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์ แม้กัญชาจะเคยถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษ แต่ด้วยการวิจัยทางการแพทย์ล่าสุด กัญชาถูกมองใหม่ในฐานะ “สมุนไพรทางเลือก” ที่มี CBD และ THC เป็นสารออกฤทธิ์สำคัญ ซึ่งช่วยรักษาอาการ ได้หลายประเภท 🧪 ✅ ประโยชน์ที่ได้รับการยอมรับ ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด 🤢 บรรเทาอาการปวดเรื้อรัง เช่น ปวดประสาท ปวดข้อ 🤕 ช่วยให้ผู้ป่วยหลับสบายขึ้น 💤 ลดอาการวิตกกังวล เฉพาะบางกรณี 😟➡️🙂 📌 ทั้งนี้.... การใช้ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น ❌ ความเสี่ยงที่ต้องเข้าใจ กัญชาไม่ใช่ยาวิเศษ เพราะมันมีผลข้างเคียงหากใช้อย่างไม่ถูกต้อง เสี่ยงต่อการเสพติด หากใช้ต่อเนื่องในปริมาณมาก 🔄 ส่งผลต่อสมอง โดยเฉพาะในวัยรุ่น 🧠 อาจก่อให้เกิดความจำสั้น สมาธิสั้น และอารมณ์แปรปรวน 😵 มีความเสี่ยงต่อภาวะจิตประสาท ในบางราย 🧨 🇹🇭 "กัญชาไทย" จากปลดล็อกสู่การควบคุม ปี 2565 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลประกาศ “ปลดล็อกกัญชา” ออกจากบัญชียาเสพติด เพื่อเปิดโอกาสให้ใช้เพื่อการแพทย์ และเศรษฐกิจภายในครัวเรือน 👩‍⚕️🏠 แต่เมื่อขาดกฎหมายควบคุมที่ชัดเจน ปัญหาจึงตามมา เยาวชนเข้าถึงได้ง่ายเกินไป 👦👧 โฆษณาเกินจริงบนโลกออนไลน์ 💻 และการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่ตระหนักถึงผลเสีย 🚬 📈 ธุรกิจกัญชาไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว มีมูลค่าตลาดคาดการณ์สูงถึง 20,000 ล้านบาท หากสามารถจัดการได้ดี 💸 🧩 เสรีภาพ กับความปลอดภัย สมดุลที่ต้องคิดให้รอบด้าน คำถามใหญ่ที่สังคมไทยกำลังเผชิญในปี 2568 คือ... “กัญชาเป็นเสรีภาพใหม่ หรือปัญหางอก?” แม้หลายฝ่ายจะชูธงเรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่กลุ่มทางการแพทย์และผู้ปกครอง กลับกังวลถึงผลกระทบระยะยาวต่อเด็ก และเยาวชน โดยเฉพาะเมื่อไม่มีพระราชบัญญัติ ควบคุมที่ชัดเจน 😰 🔒 ล่าสุด รัฐบาลมีแนวโน้มจะออก "พระราชบัญญัติกัญชา" เพื่อควบคุมให้ใช้เพื่อสุขภาพ และการแพทย์เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อความบันเทิง 👶 เยาวชนคือกลุ่มเสี่ยงที่สุด ผลกระทบต่อสมองและพฤติกรรม การพัฒนาสมองถูกรบกวนโดยสาร THC 🧠 เพิ่มความเสี่ยงโรคซึมเศร้า โรคจิตเภท และอาการหลอน 😨 พฤติกรรมเสี่ยงมากขึ้น เช่น การลองยาเสพติดอื่น 🔗 แนวทางป้องกันคือ ให้ความรู้ในโรงเรียน 🏫 ควบคุมการโฆษณา และจำหน่ายอย่างเคร่งครัด 🔞 จำกัดอายุขั้นต่ำ ในการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา 🚫 ✈️ ต่างชาติหลงใหล “กัญชาไทย” หรือแค่... โบนัสท่องเที่ยว? หลังปลดล็อกกัญชาในปี 2565 ไทยกลายเป็น “จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวสายเขียว” 🌍💚 โดยเฉพาะจากประเทศที่มีกฎหมายยาเสพติดเข้มงวด เช่น 🇯🇵 ญี่ปุ่น 🇰🇷 เกาหลีใต้ นักท่องเที่ยวบางคนมองว่า กัญชาไทยเป็นเสน่ห์ใหม่ ของการท่องเที่ยว แต่บางส่วนกลับกังวลว่า อาจบ่อนทำลายภาพลักษณ์ไทย ในสายตาชาวโลก 📢 กฎหมายของไทย อาจไม่ตรงกับกฎหมายในประเทศต้นทาง นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา! 💼 เศรษฐกิจกัญชา โอกาสทองหรือความเสี่ยงซ่อนเร้น? ประเทศที่ปลดล็อกกัญชาแล้วประสบความสำเร็จ เช่น 🇨🇦 แคนาดา 🇺🇾 อุรุกวัย 🇲🇹 มอลตา ล้วนมีระบบควบคุมกัญชาเข้มงวด ควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจ 📉 หากไม่มีการควบคุมที่ดี เศรษฐกิจกัญชาจะกลายเป็นดาบสองคม ทำให้ปัญหาสังคมลุกลาม และลดความน่าเชื่อถือของประเทศได้ 🧑‍⚕️ แพทย์เตือน กัญชาเป็น “เครื่องมือ” ไม่ใช่ “ของเล่น” วงการแพทย์ย้ำว่า... “กัญชาใช้รักษาโรคได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุม และไม่ควรใช้แบบสันทนาการทั่วไป” กลุ่มโรคที่อาจได้ประโยชน์จากกัญชาคือ ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ที่ปวดเรื้อรัง ผู้ที่นอนไม่หลับ และผู้ป่วยจิตเวชบางกลุ่ม อย่างไรก็ตาม การใช้ต้องอาศัยการวินิจฉัยจากแพทย์ และข้อมูลวิจัยเพิ่มเติม 🔍 📚 ควรฉลองหรือทบทวน? วันกัญชาโลก (420) คือโอกาสให้เราหยุดคิด ทบทวน และสร้างบทสนทนาที่มีคุณภาพ ในสังคมไทย ไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง 🎉 สิ่งที่สังคมควรย้ำคือ ✅ สนับสนุนการใช้กัญชา เพื่อการแพทย์และสุขภาพ ❌ ต่อต้านการใช้ในเชิงสันทนาการ โดยไม่มีการควบคุม ⚖️ สร้างสมดุลระหว่างสิทธิเสรีภาพ และความปลอดภัยของสาธารณชน "กัญชาอาจเป็นพืชมหัศจรรย์... ถ้าเราใช้ด้วยความรู้ ไม่ใช่แค่ตามกระแส" 🌱 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200924 เม.ย. 2568 📌 #วันกัญชาโลก #420ไทย #โฟร์ทเวนตี้ #กัญชาเพื่อการแพทย์ #กัญชาไทย #เสรีภาพไม่ใช่สันทนาการ #TheWaldos #กัญชากับเยาวชน #สังคมกับกัญชา #กัญชาอย่างปลอดภัย
    0 Comments 0 Shares 134 Views 0 Reviews
  • Bloomberg รายงานว่า ด้วยความช่วยเหลือจากรัสเซีย อิหร่านกำลังสร้างโครงการอวกาศที่ทรงพลังที่สุดแห่งหนึ่งในตะวันออกกลาง

    อิหร่านจะมีความสามารถในการปล่อยดาวเทียม จรวด และขีปนาวุธพิสัยไกลจากเขตชาบาฮาร์ ที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ และตั้งอยู่บริเวณพรมแดนของอิหร่านติดกับปากีสถาน


    ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่สำหรับจุดประสงค์ดังกล่าวได้รับการสร้างขึ้นมาเป็นเวลา 4 ปี โดยเทียบเท่ากับแหลมคานาเวอรัลของรัฐฟลอริดา
    Bloomberg รายงานว่า ด้วยความช่วยเหลือจากรัสเซีย อิหร่านกำลังสร้างโครงการอวกาศที่ทรงพลังที่สุดแห่งหนึ่งในตะวันออกกลาง อิหร่านจะมีความสามารถในการปล่อยดาวเทียม จรวด และขีปนาวุธพิสัยไกลจากเขตชาบาฮาร์ ที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ และตั้งอยู่บริเวณพรมแดนของอิหร่านติดกับปากีสถาน ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่สำหรับจุดประสงค์ดังกล่าวได้รับการสร้างขึ้นมาเป็นเวลา 4 ปี โดยเทียบเท่ากับแหลมคานาเวอรัลของรัฐฟลอริดา
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 154 Views 0 Reviews
  • จาก “ทุกวัน” กลายเป็นแค่คนเคยรู้จัก: ความสัมพันธ์ที่จบลงโดยไม่มีคำลา 💔 แม้ไม่มีใครพูดลา…แต่ใจเรารู้ดีว่า มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

    เมื่อความสัมพันธ์ค่อย ๆ เลือนหายไป โดยไม่มีคำลา บางครั้งเราไม่ได้หายไป... แค่เปลี่ยนไปตามธรรมชาติของชีวิต

    บางคนเคยอยู่ในทุกวันของเรา แต่ตอนนี้กลายเป็นเพียงความทรงจำเงียบ ๆ ในใจ สำรวจความสัมพันธ์ที่จบลง โดยไม่มีคำลา... และทำไมมันถึงเจ็บกว่าที่คิด

    ความเงียบที่ดังที่สุด คือการหายไปของใครบางคน... ในทุกปี... เราอาจได้เจอใครบางคน ที่กลายมาเป็น "คนสำคัญ" ในชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน... เราก็อาจเสียใครบางคนไป ไม่ใช่ด้วยการทะเลาะ ไม่ใช่ด้วยความผิดพลาด แต่เป็นการ “ค่อย ๆ หายไป” แบบไม่มีแม้แต่คำลา 🕊️

    เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของความรัก แต่คือทุกความสัมพันธ์ในชีวิต เพื่อนสนิท ครอบครัว คนเคยใกล้ชิด หรือแม้แต่คนที่เคยอยู่ในทุกช่วงเวลาสำคัญ...

    วันนี้ เราจะมาคุยกันถึง "การจากลาในความเงียบ" ทำไมมันถึงเกิดขึ้น และเราจะเข้าใจมันได้อย่างไร?

    🌒 ความเงียบไม่ใช่จุดจบ แต่คือสัญญาณของความเปลี่ยนแปลง ในหลายความสัมพันธ์ จุดจบไม่ได้มาพร้อมคำพูด
    ไม่มีคำบอกลาชัดเจน ไม่มีน้ำตา ไม่มีการโต้แย้ง แต่กลับเป็นเพียง “การเงียบ” ที่ค่อย ๆ สร้างระยะห่าง

    📱 ข้อความที่ค่อย ๆ หายไป บทสนทนาที่สั้นลง และหัวใจที่ไม่เต้นพร้อมกันอีกต่อไป

    บางครั้ง... เราเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า มันเริ่มห่างกันตั้งแต่เมื่อไร แต่รู้ตัวอีกที เขาหรือเธอก็กลายเป็น “คนเคยรู้จัก” ไปแล้ว...

    ทำไมเราถึงหายไปจากกัน…แม้ไม่ได้ตั้งใจ?

    เราทุกคนมีชีวิตที่ยุ่งขึ้นทุกวัน ชีวิตผู้ใหญ่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบ งาน การเงิน สุขภาพ ครอบครัว ความฝัน ทั้งหมดนี้ดึงพลังใจของเรา ไปจากความสัมพันธ์เดิม ๆ จนบางครั้ง... เรา “ลืม” ว่าเคยมีใครอีกคนรอคุยกับเราอยู่

    🌀 มันไม่ได้เกิดจากการเบื่อกัน แต่เกิดจาก “ชีวิตที่พาให้เราหายไป”

    ความเหนื่อยล้าในใจที่บอกไม่ออก บางคนไม่ได้อยากหายไป แต่แค่ "เหนื่อยเกินไป" ที่จะเป็นคนเดิม เหนื่อยที่จะยิ้ม เหนื่อยที่จะคุย เหนื่อยที่จะพยายามรักษาความสัมพันธ์นั้นไว้

    และเมื่อเราปล่อยให้ความเงียบเกิดขึ้น... มันก็กลายเป็น “กำแพง” ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ 🧱

    เราเติบโตในเส้นทางที่ต่างกัน การเติบโตทำให้มุมมองเปลี่ยน ความฝันเปลี่ยน สิ่งที่เคยชอบเหมือนกัน กลับไม่ตรงกันอีกต่อไป แม้จะไม่มีใครผิด… แต่เมื่อเราเดินไปคนละเส้นทาง "ระยะห่าง" ก็เกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ 🚶‍♂️🚶‍♀️

    ความสัมพันธ์ที่จางหายไป… ไม่ได้หมายความว่าไร้ค่า ถึงแม้เราจะไม่ได้อยู่ในชีวิตกันแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า “วันเวลาที่เคยมีร่วมกัน” ไร้ความหมาย

    ❤️ ความทรงจำดี ๆ ยังคงอยู่ในใจ

    🌿 ความห่วงใยยังแทรกอยู่ในความเงียบ

    💬 บางบทสนทนายังคงอยู่ในความคิดเสมอ

    และบางครั้ง... เพียงแค่ได้คิดถึงใครคนนั้น ในความทรงจำ ก็เพียงพอแล้ว... ที่จะทำให้ใจอบอุ่นขึ้นในวันเหงา ๆ

    บางคนเคยเป็น "ทุกวัน" ของเรา… แต่กลายเป็นเพียงคนในความทรงจำ ลองย้อนกลับไปนึกถึงใครบางคนที่...

    📌 เคยโทรหากันทุกคืน
    📌 เคยเล่าเรื่องให้ฟังทุกเช้า
    📌 เคยไปทุกที่ด้วยกัน
    📌 เคยรู้ใจโดยไม่ต้องพูดอะไร

    แล้ววันนี้... เราอาจจะไม่ได้คุยกันเลย ไม่ได้พบกันอีกเลย แต่สิ่งหนึ่งที่ยังอยู่คือ... ความทรงจำ

    “ไม่มีใครผิดที่เปลี่ยนไป” ประโยคที่เข้าใจได้ เมื่อเรารักตัวเองมากพอ การเติบโตคือการเปลี่ยนแปลง และการเปลี่ยนแปลง คือสิ่งที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้

    👤 คนบางคนสอนให้เรารู้จักรัก
    👤 บางคนสอนให้เรารู้จักเจ็บ
    👤 และบางคน… สอนให้เรารู้จักปล่อยวาง

    ถึงสุดท้ายเราจะไม่ได้อยู่ในชีวิตกันอีก แต่เรายังอยู่ใน "บทเรียนชีวิต" ของกันและกันเสมอ

    แล้วเราจะเยียวยาหัวใจ หลังความสัมพันธ์ที่จบลงในความเงียบ ได้อย่างไร?

    ยอมรับว่าความเปลี่ยนแปลง คือเรื่องธรรมดา การหายไปไม่ได้แปลว่าใครไม่รัก แต่เป็นเพราะเส้นทางของเรา มาถึงจุดที่ต้องแยกกันเดิน

    ให้อภัยตัวเอง และให้อภัยอีกฝ่าย แม้จะไม่มีคำขอโทษ หรือคำอธิบาย แต่เราสามารถเลือก “ให้อภัยในใจ” เพื่อปลดปล่อยตัวเองจากความเจ็บ

    เก็บความทรงจำดี ๆ ไว้… แต่ไม่ต้องยึดติด ความทรงจำดี ๆ ไม่ต้องลบทิ้ง แต่เราไม่จำเป็นต้องใช้มัน มาฉุดรั้งเราไว้จากการเติบโต

    แม้จะจางหายไป…แต่ยังคงมีอยู่ในใจเสมอ 🕊️

    เราไม่สามารถห้ามใครหายไปจากชีวิตเราได้ และเราเองก็ไม่สามารถอยู่ในชีวิตทุกคน ได้ตลอดไป

    แต่สิ่งที่เราทำได้ คือการ...

    🫶 รักษาความทรงจำดี ๆ
    📌 เรียนรู้จากความสัมพันธ์ที่ผ่านมา
    🌱 และใช้มันเป็นพลังในการเติบโตต่อไป

    เพราะสุดท้าย... สิ่งสำคัญ ไม่ใช่การอยู่กับใครไปตลอดชีวิต แต่คือ ในวันที่ยังอยู่ด้วยกัน เราได้สร้างความทรงจำ ที่งดงามพอหรือยัง? 💫

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 192315 เม.ย. 2568

    📱 #ความสัมพันธ์ #คนเคยรู้จัก #จากลาที่ไม่มีคำลา #คิดถึงเสมอ #คนในความทรงจำ
    #เติบโตด้วยกัน #บทเรียนชีวิต #ความเงียบที่เจ็บปวด #ความเปลี่ยนแปลง #รักในความทรงจำ
    จาก “ทุกวัน” กลายเป็นแค่คนเคยรู้จัก: ความสัมพันธ์ที่จบลงโดยไม่มีคำลา 💔 แม้ไม่มีใครพูดลา…แต่ใจเรารู้ดีว่า มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เมื่อความสัมพันธ์ค่อย ๆ เลือนหายไป โดยไม่มีคำลา บางครั้งเราไม่ได้หายไป... แค่เปลี่ยนไปตามธรรมชาติของชีวิต บางคนเคยอยู่ในทุกวันของเรา แต่ตอนนี้กลายเป็นเพียงความทรงจำเงียบ ๆ ในใจ สำรวจความสัมพันธ์ที่จบลง โดยไม่มีคำลา... และทำไมมันถึงเจ็บกว่าที่คิด ความเงียบที่ดังที่สุด คือการหายไปของใครบางคน... ในทุกปี... เราอาจได้เจอใครบางคน ที่กลายมาเป็น "คนสำคัญ" ในชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน... เราก็อาจเสียใครบางคนไป ไม่ใช่ด้วยการทะเลาะ ไม่ใช่ด้วยความผิดพลาด แต่เป็นการ “ค่อย ๆ หายไป” แบบไม่มีแม้แต่คำลา 🕊️ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของความรัก แต่คือทุกความสัมพันธ์ในชีวิต เพื่อนสนิท ครอบครัว คนเคยใกล้ชิด หรือแม้แต่คนที่เคยอยู่ในทุกช่วงเวลาสำคัญ... วันนี้ เราจะมาคุยกันถึง "การจากลาในความเงียบ" ทำไมมันถึงเกิดขึ้น และเราจะเข้าใจมันได้อย่างไร? 🌒 ความเงียบไม่ใช่จุดจบ แต่คือสัญญาณของความเปลี่ยนแปลง ในหลายความสัมพันธ์ จุดจบไม่ได้มาพร้อมคำพูด ไม่มีคำบอกลาชัดเจน ไม่มีน้ำตา ไม่มีการโต้แย้ง แต่กลับเป็นเพียง “การเงียบ” ที่ค่อย ๆ สร้างระยะห่าง 📱 ข้อความที่ค่อย ๆ หายไป บทสนทนาที่สั้นลง และหัวใจที่ไม่เต้นพร้อมกันอีกต่อไป บางครั้ง... เราเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า มันเริ่มห่างกันตั้งแต่เมื่อไร แต่รู้ตัวอีกที เขาหรือเธอก็กลายเป็น “คนเคยรู้จัก” ไปแล้ว... ทำไมเราถึงหายไปจากกัน…แม้ไม่ได้ตั้งใจ? เราทุกคนมีชีวิตที่ยุ่งขึ้นทุกวัน ชีวิตผู้ใหญ่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบ งาน การเงิน สุขภาพ ครอบครัว ความฝัน ทั้งหมดนี้ดึงพลังใจของเรา ไปจากความสัมพันธ์เดิม ๆ จนบางครั้ง... เรา “ลืม” ว่าเคยมีใครอีกคนรอคุยกับเราอยู่ 🌀 มันไม่ได้เกิดจากการเบื่อกัน แต่เกิดจาก “ชีวิตที่พาให้เราหายไป” ความเหนื่อยล้าในใจที่บอกไม่ออก บางคนไม่ได้อยากหายไป แต่แค่ "เหนื่อยเกินไป" ที่จะเป็นคนเดิม เหนื่อยที่จะยิ้ม เหนื่อยที่จะคุย เหนื่อยที่จะพยายามรักษาความสัมพันธ์นั้นไว้ และเมื่อเราปล่อยให้ความเงียบเกิดขึ้น... มันก็กลายเป็น “กำแพง” ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ 🧱 เราเติบโตในเส้นทางที่ต่างกัน การเติบโตทำให้มุมมองเปลี่ยน ความฝันเปลี่ยน สิ่งที่เคยชอบเหมือนกัน กลับไม่ตรงกันอีกต่อไป แม้จะไม่มีใครผิด… แต่เมื่อเราเดินไปคนละเส้นทาง "ระยะห่าง" ก็เกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ 🚶‍♂️🚶‍♀️ ความสัมพันธ์ที่จางหายไป… ไม่ได้หมายความว่าไร้ค่า ถึงแม้เราจะไม่ได้อยู่ในชีวิตกันแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า “วันเวลาที่เคยมีร่วมกัน” ไร้ความหมาย ❤️ ความทรงจำดี ๆ ยังคงอยู่ในใจ 🌿 ความห่วงใยยังแทรกอยู่ในความเงียบ 💬 บางบทสนทนายังคงอยู่ในความคิดเสมอ และบางครั้ง... เพียงแค่ได้คิดถึงใครคนนั้น ในความทรงจำ ก็เพียงพอแล้ว... ที่จะทำให้ใจอบอุ่นขึ้นในวันเหงา ๆ บางคนเคยเป็น "ทุกวัน" ของเรา… แต่กลายเป็นเพียงคนในความทรงจำ ลองย้อนกลับไปนึกถึงใครบางคนที่... 📌 เคยโทรหากันทุกคืน 📌 เคยเล่าเรื่องให้ฟังทุกเช้า 📌 เคยไปทุกที่ด้วยกัน 📌 เคยรู้ใจโดยไม่ต้องพูดอะไร แล้ววันนี้... เราอาจจะไม่ได้คุยกันเลย ไม่ได้พบกันอีกเลย แต่สิ่งหนึ่งที่ยังอยู่คือ... ความทรงจำ “ไม่มีใครผิดที่เปลี่ยนไป” ประโยคที่เข้าใจได้ เมื่อเรารักตัวเองมากพอ การเติบโตคือการเปลี่ยนแปลง และการเปลี่ยนแปลง คือสิ่งที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ 👤 คนบางคนสอนให้เรารู้จักรัก 👤 บางคนสอนให้เรารู้จักเจ็บ 👤 และบางคน… สอนให้เรารู้จักปล่อยวาง ถึงสุดท้ายเราจะไม่ได้อยู่ในชีวิตกันอีก แต่เรายังอยู่ใน "บทเรียนชีวิต" ของกันและกันเสมอ แล้วเราจะเยียวยาหัวใจ หลังความสัมพันธ์ที่จบลงในความเงียบ ได้อย่างไร? ยอมรับว่าความเปลี่ยนแปลง คือเรื่องธรรมดา การหายไปไม่ได้แปลว่าใครไม่รัก แต่เป็นเพราะเส้นทางของเรา มาถึงจุดที่ต้องแยกกันเดิน ให้อภัยตัวเอง และให้อภัยอีกฝ่าย แม้จะไม่มีคำขอโทษ หรือคำอธิบาย แต่เราสามารถเลือก “ให้อภัยในใจ” เพื่อปลดปล่อยตัวเองจากความเจ็บ เก็บความทรงจำดี ๆ ไว้… แต่ไม่ต้องยึดติด ความทรงจำดี ๆ ไม่ต้องลบทิ้ง แต่เราไม่จำเป็นต้องใช้มัน มาฉุดรั้งเราไว้จากการเติบโต แม้จะจางหายไป…แต่ยังคงมีอยู่ในใจเสมอ 🕊️ เราไม่สามารถห้ามใครหายไปจากชีวิตเราได้ และเราเองก็ไม่สามารถอยู่ในชีวิตทุกคน ได้ตลอดไป แต่สิ่งที่เราทำได้ คือการ... 🫶 รักษาความทรงจำดี ๆ 📌 เรียนรู้จากความสัมพันธ์ที่ผ่านมา 🌱 และใช้มันเป็นพลังในการเติบโตต่อไป เพราะสุดท้าย... สิ่งสำคัญ ไม่ใช่การอยู่กับใครไปตลอดชีวิต แต่คือ ในวันที่ยังอยู่ด้วยกัน เราได้สร้างความทรงจำ ที่งดงามพอหรือยัง? 💫 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 192315 เม.ย. 2568 📱 #ความสัมพันธ์ #คนเคยรู้จัก #จากลาที่ไม่มีคำลา #คิดถึงเสมอ #คนในความทรงจำ #เติบโตด้วยกัน #บทเรียนชีวิต #ความเงียบที่เจ็บปวด #ความเปลี่ยนแปลง #รักในความทรงจำ
    0 Comments 0 Shares 92 Views 0 Reviews
  • เปิดฉากการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ต! นักกีฬาอีสปอร์ตกว่า 500 คนจากทั่วไทยตบเท้าเข้าแข่งขัน “ESAN ESPORT OPEN 2025 @ THE MALL KORAT” ร่วมชิงเงินรางวัลมูลค่ากว่า 3 แสนบาท พร้อม ถ้วยเกียรติยศ จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

    สโมสรกีฬาอีสปอร์ตนครราชสีมาเป็นสโมสรสังกัดภายใต้สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมา และสมาชิกภาคีสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ได้จัดการแข่งขัน “ESAN ESPORT OPEN 2025 @ THE MALL KORAT” วันที่ 19 – 20 เมษายน 2568 ณ ห้องเอ็มซีซีฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมการแข่งขัน ROV/ TEKKEN/ STREET FIGHTER/ E-FOOTBALL การประกวดคอสเพลย์ การแข่งขันการ์ดเกมส์ และส่วนจัดแสดงผลิตภัณฑ์

    โดยพิธีเปิดการแข่งขันได้รับเกียรติจากนายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายธนากร ประพฤทธิพงษ์ ประธานสโมสรกีฬาอีสปอร์ต นครราชสีมา กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขัน ,น.ส.ชัญญ์ญาณ์ ธำรงวินิจฉัย ผู้จัดการใหญ่กิจกรรมการตลาด บริษัท เดอะมอลล์กรุ๊ป จำกัด นายแสนพล อู่วิเชียร คณะกรรมาธิการสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย คณะกรรมการและผู้สนับสนุนงาน เข้าร่วมงานและให้กำลังใจนักกีฬาอีสปอร์ต

    การแข่งขันครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อเฟ้นหานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศทางด้านกีฬาอีสปอร์ต ในการเป็นตัวแทนนักกีฬาสังกัดนครราชสีมาเข้าร่วมการแข่งขันในระดับต่าง ๆ พร้อมสนับสนุนส่งเสริมให้เยาวชนในจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง ได้เข้าถึงกีฬาอีสปอร์ตอย่างแพร่หลาย ได้รับองค์ความรู้ในเรื่อง กฎ กติกา มารยาท และวิธีการเล่นกีฬาอีสปอร์ต อย่างถูกต้อง สร้างซอฟท์พาว์เวอร์ด้านกีฬาอีสปอร์ต เป็นประตูสู่ภาคอีสาน ส่งเสริมนโยบายโคราชเมืองแห่งกีฬาของจังหวัดนครราชสีมา โดยได้เปิดรับสมัครผู้เข้าแข่งขันตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.-18 เม.ย.2568 ผ่านทาง https://koratesport.com หรือเฟสบุ๊คเพจ https://www.facebook.com/koratesport

    การจัดการแข่งขัน “ESAN ESPORT OPEN 2025 @ THE MALL KORAT”ครั้งนี้เป็นการแข่งขันที่เปิดรับสมัครเข้าแข่งขันฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมการสมัคร ไม่จำกัดเพศ และรุ่นอายุ อุปกรณ์ที่ใช้เป็นมือถือส่วนบุคคล รับสมัครทีมนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 256 ทีม ทีมละ 5 – 6 คน ซึ่งตลอด 2 วันจัดงาน มีผู้เข้าแข่งขันจากทั่วประเทศไทย จำนวนกว่า 500 คน

    โดยเกมที่ใช้ในการแข่งขัน คือ Arena of Valor หรือ ROV การแข่งขันประเภทบุคคลในเกมส์ TEKKEN STREET FIGHTER และ E-FOOTBALL มีการประกวดคอสเพลย์ และการแข่งขันการ์ดเกมส์ การแข่งขันมีการถ่ายทอดสดออนไลน์ในทุกรอบ ผู้เข้าแข่งขันทุกคนสามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกในทีมที่เข้าแข่งขันได้ 1 ทีมเท่านั้น โดยมีทุนรางวัลให้กับทีมนักกีฬาที่ชนะเลิศการแข่งขัน ดังนี้
    1. ROV รางวัลรวมมูลค่า 200,000 บาท
    2. STREET FIGHTER รางวัลรวมมูลค่า 20,000 บาท
    3. TEKKEN รางวัลรวมมูลค่า 20,000 บาท
    4. E-FOOTBALL รางวัลรวมมูลค่า 20,000 บาท
    5. COSPLAYER รางวัลรวมมูลค่า 20,000 บาท
    6. CARDGAME รางวัลรวมมูลค่า 20,000 บาท
    รางวัลรวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท และผู้เข้าแข่งขันทีมผู้ชนะเลิศชนิดกีฬา ROV จะได้รับทุนรางวัลพร้อม ถ้วยเกียรติยศ จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และผู้ชนะจากทุกรายการแข่งขัน จะได้รับกรอบเกียรติบัตรลงนามโดย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ นายกสมากีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทยอีกด้วย โดยได้รับเกียรติบัตรจากสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทยดูแลด้านเทคนิคจัดการแข่งขัน ร่วมเป็นคณะกรรมการการตัดสิน ได้รับการสนับสนุนด้านสิทธิประโยชน์จาก บริษัท Garena ประเทศไทย และ บริษัท โคลเวอร์โซลูชั่น จำกัด สำหรับผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ในทีมผู้ชนะเลิศ ในทุกผลอันดับ ที่เป็นชาวจังหวัดนครราชสีมา จะได้สิทธิ์เข้าเป็นนักกีฬาภายใต้สังกัดสโมสรกีฬาอีสปอร์ตจังหวัดนครราชสีมา สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมาต่อไป
    เปิดฉากการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ต! นักกีฬาอีสปอร์ตกว่า 500 คนจากทั่วไทยตบเท้าเข้าแข่งขัน “ESAN ESPORT OPEN 2025 @ THE MALL KORAT” ร่วมชิงเงินรางวัลมูลค่ากว่า 3 แสนบาท พร้อม ถ้วยเกียรติยศ จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม สโมสรกีฬาอีสปอร์ตนครราชสีมาเป็นสโมสรสังกัดภายใต้สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมา และสมาชิกภาคีสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ได้จัดการแข่งขัน “ESAN ESPORT OPEN 2025 @ THE MALL KORAT” วันที่ 19 – 20 เมษายน 2568 ณ ห้องเอ็มซีซีฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมการแข่งขัน ROV/ TEKKEN/ STREET FIGHTER/ E-FOOTBALL การประกวดคอสเพลย์ การแข่งขันการ์ดเกมส์ และส่วนจัดแสดงผลิตภัณฑ์ โดยพิธีเปิดการแข่งขันได้รับเกียรติจากนายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายธนากร ประพฤทธิพงษ์ ประธานสโมสรกีฬาอีสปอร์ต นครราชสีมา กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขัน ,น.ส.ชัญญ์ญาณ์ ธำรงวินิจฉัย ผู้จัดการใหญ่กิจกรรมการตลาด บริษัท เดอะมอลล์กรุ๊ป จำกัด นายแสนพล อู่วิเชียร คณะกรรมาธิการสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย คณะกรรมการและผู้สนับสนุนงาน เข้าร่วมงานและให้กำลังใจนักกีฬาอีสปอร์ต การแข่งขันครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อเฟ้นหานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศทางด้านกีฬาอีสปอร์ต ในการเป็นตัวแทนนักกีฬาสังกัดนครราชสีมาเข้าร่วมการแข่งขันในระดับต่าง ๆ พร้อมสนับสนุนส่งเสริมให้เยาวชนในจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง ได้เข้าถึงกีฬาอีสปอร์ตอย่างแพร่หลาย ได้รับองค์ความรู้ในเรื่อง กฎ กติกา มารยาท และวิธีการเล่นกีฬาอีสปอร์ต อย่างถูกต้อง สร้างซอฟท์พาว์เวอร์ด้านกีฬาอีสปอร์ต เป็นประตูสู่ภาคอีสาน ส่งเสริมนโยบายโคราชเมืองแห่งกีฬาของจังหวัดนครราชสีมา โดยได้เปิดรับสมัครผู้เข้าแข่งขันตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.-18 เม.ย.2568 ผ่านทาง https://koratesport.com หรือเฟสบุ๊คเพจ https://www.facebook.com/koratesport การจัดการแข่งขัน “ESAN ESPORT OPEN 2025 @ THE MALL KORAT”ครั้งนี้เป็นการแข่งขันที่เปิดรับสมัครเข้าแข่งขันฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมการสมัคร ไม่จำกัดเพศ และรุ่นอายุ อุปกรณ์ที่ใช้เป็นมือถือส่วนบุคคล รับสมัครทีมนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 256 ทีม ทีมละ 5 – 6 คน ซึ่งตลอด 2 วันจัดงาน มีผู้เข้าแข่งขันจากทั่วประเทศไทย จำนวนกว่า 500 คน โดยเกมที่ใช้ในการแข่งขัน คือ Arena of Valor หรือ ROV การแข่งขันประเภทบุคคลในเกมส์ TEKKEN STREET FIGHTER และ E-FOOTBALL มีการประกวดคอสเพลย์ และการแข่งขันการ์ดเกมส์ การแข่งขันมีการถ่ายทอดสดออนไลน์ในทุกรอบ ผู้เข้าแข่งขันทุกคนสามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกในทีมที่เข้าแข่งขันได้ 1 ทีมเท่านั้น โดยมีทุนรางวัลให้กับทีมนักกีฬาที่ชนะเลิศการแข่งขัน ดังนี้ 1. ROV รางวัลรวมมูลค่า 200,000 บาท 2. STREET FIGHTER รางวัลรวมมูลค่า 20,000 บาท 3. TEKKEN รางวัลรวมมูลค่า 20,000 บาท 4. E-FOOTBALL รางวัลรวมมูลค่า 20,000 บาท 5. COSPLAYER รางวัลรวมมูลค่า 20,000 บาท 6. CARDGAME รางวัลรวมมูลค่า 20,000 บาท รางวัลรวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท และผู้เข้าแข่งขันทีมผู้ชนะเลิศชนิดกีฬา ROV จะได้รับทุนรางวัลพร้อม ถ้วยเกียรติยศ จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และผู้ชนะจากทุกรายการแข่งขัน จะได้รับกรอบเกียรติบัตรลงนามโดย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ นายกสมากีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทยอีกด้วย โดยได้รับเกียรติบัตรจากสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทยดูแลด้านเทคนิคจัดการแข่งขัน ร่วมเป็นคณะกรรมการการตัดสิน ได้รับการสนับสนุนด้านสิทธิประโยชน์จาก บริษัท Garena ประเทศไทย และ บริษัท โคลเวอร์โซลูชั่น จำกัด สำหรับผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ในทีมผู้ชนะเลิศ ในทุกผลอันดับ ที่เป็นชาวจังหวัดนครราชสีมา จะได้สิทธิ์เข้าเป็นนักกีฬาภายใต้สังกัดสโมสรกีฬาอีสปอร์ตจังหวัดนครราชสีมา สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมาต่อไป
    0 Comments 0 Shares 138 Views 0 Reviews
  • วันนี้คงแย่สุดๆ แต่จะแย่แค่ไหน โดนด่าแค่ไหน โดนดูถูกแค่ไหน อารมณ์ผมคงแทบจะคุมไม่อยู่ แต่ยอมถูกไล่เป็นคนเร่ร่อนดีกว่าทนอยู่ปฏิบัติเยี่ยงวัวควาย เอาเข้าจริงๆ คือจะบีบให้นับถือองค์เทพมากขึ้น ปฏิบัติตามความเคร่งของการนับถือองค์เทพมากขึ้น เข้าหามูเตลูมากขึ้น จนผมสูญเสียตัวตนโดยสิ้นเชิง แต่ผมไม่สามารถทำได้เพราะผมต้องรักษาตัวของตัวเองให้ดีกว่านี้ก่อน ปรับตัวให้สอดคล้องกับเขาผมคงทำไม่ได้ ทำไม่ลง ผมไม่อยากเถียง ผมอยากออกมาแบบเงียบๆครับ คือยินยอมถูกไล่เป็นคนเร่ร่อน แต่ผมจะไปเริ่มชีวิตใหม่ที่บางแสน บ้านเกิดไม่ต้องกลับแล้ว เพราะบางแสนบรรยากาศดีมาก อากาศก็สะอาดโปร่งใส เหมาะกับงานดีไซนเนอร์แทบจะทุกศาสตร์ แต่ก็ขอให้เต็มที่ก็แล้วกันนะครับ
    วันนี้คงแย่สุดๆ แต่จะแย่แค่ไหน โดนด่าแค่ไหน โดนดูถูกแค่ไหน อารมณ์ผมคงแทบจะคุมไม่อยู่ แต่ยอมถูกไล่เป็นคนเร่ร่อนดีกว่าทนอยู่ปฏิบัติเยี่ยงวัวควาย เอาเข้าจริงๆ คือจะบีบให้นับถือองค์เทพมากขึ้น ปฏิบัติตามความเคร่งของการนับถือองค์เทพมากขึ้น เข้าหามูเตลูมากขึ้น จนผมสูญเสียตัวตนโดยสิ้นเชิง แต่ผมไม่สามารถทำได้เพราะผมต้องรักษาตัวของตัวเองให้ดีกว่านี้ก่อน ปรับตัวให้สอดคล้องกับเขาผมคงทำไม่ได้ ทำไม่ลง ผมไม่อยากเถียง ผมอยากออกมาแบบเงียบๆครับ คือยินยอมถูกไล่เป็นคนเร่ร่อน แต่ผมจะไปเริ่มชีวิตใหม่ที่บางแสน บ้านเกิดไม่ต้องกลับแล้ว เพราะบางแสนบรรยากาศดีมาก อากาศก็สะอาดโปร่งใส เหมาะกับงานดีไซนเนอร์แทบจะทุกศาสตร์ แต่ก็ขอให้เต็มที่ก็แล้วกันนะครับ
    0 Comments 0 Shares 68 Views 0 Reviews
  • 91 ปี “เนสซี” เผยโฉม 🐉 สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสส์ ตำนานลวงโลก หรือปริศนาแห่งความจริง?

    จากภาพลวงตา สู่ปริศนาระดับโลก ✨ ตำนานแห่งทะเลสาบล็อคเนสส์ ที่แม้ถูกแฉว่า "หลอกลวง" แต่ก็ยังไม่มีใครหยุดตามหาได้

    ✨ ตำนานที่ยังมีชีวิต ทุกคนคงเคยได้ยินชื่อ "เนสซี" 🐲 หรือ สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสส์ (Loch Ness Monster) อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ไม่ว่าจะผ่านสารคดี รายการทีวี หนังสือพิมพ์ หรือแม้แต่การ์ตูน เนสซีได้กลายเป็น สัญลักษณ์ของความลึกลับ ที่ดึงดูดจินตนาการของคนทั่วโลก มานานกว่า 9 ทศวรรษ 🕰️

    ปีนี้ พ.ศ. 2568 เป็นวาระครบ 91 ปี ของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ทำให้ชื่อของเนสซี กลายเป็นตำนานระดับโลก นั่นคือ ภาพถ่าย “Surgeon's Photograph” อันโด่งดังในปี 2477 ซึ่งกลายเป็น "หลักฐาน" แรก ที่ทำให้คนทั้งโลกเชื่อว่า สัตว์ประหลาดในทะเลสาบมีอยู่จริง...

    แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความจริงบางอย่างก็ค่อยๆ ปรากฏ จนกลายเป็นคำถามว่า… “เนสซี” มีอยู่จริง หรือเป็นแค่ เรื่องแต่ง?

    🐉 "เนสซี" หรือ Loch Ness Monster เป็นชื่อเรียกของสัตว์ประหลาดลึกลับ ที่เชื่อกันว่า อาศัยอยู่ในทะเลสาบล็อคเนสส์ (Loch Ness) ทางตอนเหนือของประเทศสก็อตแลนด์ ลักษณะที่ถูกบรรยายมักเป็นสัตว์คอยาว 🦕 ตัวใหญ่คล้ายไดโนเสาร์น้ำโบราณ

    จุดเริ่มต้นของตำนานนี้ มาจากเหตุการณ์ในวันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2477 เมื่อ "โรเบิร์ต เคนเน็ธ วิลสัน" (Robert Kenneth Wilson) สูตินรีแพทย์ชาวอังกฤษ ได้ถ่ายภาพที่ดูเหมือนหัว และคอของสัตว์ประหลาดโผล่พ้นผิวน้ำ ภาพนี้ถูกตีพิมพ์ไปทั่วโลกในชื่อว่า “Surgeon’s Photograph” 📸 และกลายเป็นไวรัลในยุคนั้น!

    ภาพนั้นคือสิ่งที่เปลี่ยน เรื่องเล่าในท้องถิ่น ให้กลายเป็นข่าวระดับโลกทันที แต่กว่า 60 ปี ต่อมา ความจริงก็ถูกเปิดเผย… 📜

    🕵️‍♂️ ภาพปลอมที่สร้างความเชื่อทั้งโลก ในปี 2541 ความจริงที่สะเทือนโลกก็เปิดเผยโดย "คริสเตียน สเปอร์ลิง" (Christian Spurling) หนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับภาพถ่ายว่า แท้จริงแล้วภาพนั้นคือ “ของปลอม” ❌

    พวกเขาใช้หุ่นจำลอง ติดกับเรือดำน้ำของเล่น แล้วจัดฉากถ่ายภาพเพื่อหลอกผู้คน ซึ่งพวกเขาทำเพราะต้องการ “เอาคืน” สื่อที่เคยทำให้ญาติของเขาเสียชื่อเสียง

    แม้จะเป็นเรื่องโกหก... แต่กลับไม่มีใครหยุดตามหา "เนสซี" ได้เลย 🧭

    🔍 ไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่ยังคงมี “ความเชื่อ” จนถึงปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ ยังไม่สามารถหาหลักฐานชัดเจนว่า เนสซีมีตัวตนอยู่จริง ไม่ว่าจะเป็น...

    🦴 โครงกระดูก

    🐋 ซากสัตว์

    📷 ภาพถ่าย หรือวิดีโอที่ชัด 100%

    🧬 DNA ของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ชนิดใหม่

    แต่ในทางกลับกัน “เนสซี” ก็ไม่ใช่แค่เรื่องเล่านิทาน เพราะยังมี... 📚 หลักฐานและข้อเท็จจริง ที่ทำให้คนยังเชื่อ

    ✅ รายงานการพบเห็นกว่า 1,100 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2476 จนถึงปัจจุบัน มีการบันทึกการพบเห็น "เนสซี" มากกว่า 1,159 ครั้ง และบางครั้งยังมีภาพถ่าย วิดีโอ หรือการจับสัญญาณแปลกๆ จากโซนาร์

    ✅ ภาพถ่ายและคลิปที่ยังอธิบายไม่ได้ แม้บางภาพจะไม่ชัดเจน หรือเป็นของปลอม แต่ก็มีหลายภาพ ที่ยังไม่สามารถหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้ จนถึงปัจจุบัน

    ✅ โซนาร์จับวัตถุขนาดใหญ่ใต้น้ำ มีรายงานว่า โซนาร์ตรวจจับวัตถุเคลื่อนที่ขนาดใหญ่ ในทะเลสาบได้ โดยเฉพาะบริเวณจุดลึกกลางทะเลสาบ

    ✅ นักวิทยาศาสตร์บางส่วน “ไม่ปฏิเสธ” นักวิจัยบางคนยังเชื่อว่า อาจมีสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่ถูกค้นพบ อาศัยอยู่ในทะเลสาบ ที่กว้างและลึกแห่งนี้

    🔬 ทฤษฎีปลาไหลยักษ์ คำอธิบายที่เป็นไปได้มากที่สุด? ในปี 2562 มีการศึกษาด้วยวิธี eDNA (Environmental DNA) จากทีมของ "ศาสตราจารย์ Neil Gemmell" ที่เก็บตัวอย่างน้ำกว่า 250 จุดในทะเลสาบล็อกเนสส์ เพื่อดูว่ามี DNA ของสิ่งมีชีวิตชนิดใดอยู่บ้าง

    ผลลัพธ์คือ พบ DNA ของ ปลาไหลยุโรป (European Eel) จำนวนมาก แต่ไม่พบ DNA ของไดโนเสาร์ หรือสัตว์เลื้อยคลานโบราณ อีกทั้งยังไม่พบหลักฐาน ของสัตว์ทะเลขนาดใหญ่เช่น วาฬ

    📌 ความเป็นไปได้ ของทฤษฎีปลาไหลยักษ์คือ มีรูปร่างคล้ายที่พยานบรรยาย มีอยู่จริงในทะเลสาบ และมีพฤติกรรมว่ายน้ำลึกลับ

    📌 แต่ก็มีข้อโต้แย้งคือ ไม่เคยพบปลาไหลที่ยาวกว่า 2 เมตรจริงๆ ปลาไหลไม่ค่อยโผล่พ้นน้ำแบบสัตว์คอยาว หากมีปลาไหลยักษ์อยู่จริง ควรมีคนถ่ายภาพได้ชัดกว่านี้

    🌍 จุดที่พบเห็น "เนสซี" บ่อยที่สุด

    🏰 Urquhart Bay ใกล้ปราสาท Urquhart จุดชมวิวที่ได้รับรายงานพบเห็น มากที่สุดในประวัติศาสตร์

    ใกล้หมู่บ้าน Drumnadrochit มีพิพิธภัณฑ์ Loch Ness Centre และมีผู้เชี่ยวชาญประจำ

    ใจกลางทะเลสาบ ลึกกว่า 200 เมตร โซนาร์ตรวจพบวัตถุลึกลับบ่อยครั้ง

    ริมทะเลสาบฝั่งเมือง Inverness มีถนน A82 เลียบทะเลสาบ ผ่านผู้คนมาก ทำให้มีรายงานมากในอดีต

    🧠 ปรากฏการณ์ทางจิตวิทยา? นักวิทยาศาสตร์หลายคนเสนอว่า เนสซีอาจเป็นผลของปรากฏการณ์ ที่เรียกว่า Pareidolia คือ... “สมองของมนุษย์พยายามตีความภาพที่ไม่ชัดเจน ให้กลายเป็นสิ่งที่คุ้นเคย เช่น รูปสัตว์ หน้าคน หรือร่างลึกลับ” 👀 บวกกับความลึกลับ บรรยากาศหมอกปกคลุม และการคาดหวัง ก็ทำให้ผู้คน "เชื่อ" ได้ง่ายขึ้น

    📖 10 ข้อเท็จจริงที่ไม่ใช่แค่ตำนาน
    1. ทะเลสาบล็อคเนสส์ยาว 37 กม. ลึกเกือบ 230 เมตร
    2. ภาพ "Surgeon's Photograph" ถูกพิสูจน์ว่าเป็นของปลอม
    3. ตรวจพบ eDNA ของปลาไหลในปริมาณมาก
    4. ใช้โซนาร์ตรวจสอบหลายรอบ แต่ยังไม่พบสัตว์ประหลาด
    5. ล็อคเนสส์ไม่มีทางเชื่อมกับทะเล เปิดโอกาสการมีสัตว์ทะเลต่ำ
    6. รายงานพบเห็นเพิ่มขึ้น หลังมีถนนเลียบทะเลสาบ
    7. BBC เคยทำสารคดีพิสูจน์เรื่องนี้โดยตรง
    5. หลายกรณีพบว่าเป็นฟองอากาศ ท่อนไม้ หรือนกน้ำ
    9. การพบเห็นล่าสุดยังมีอยู่ทุกปี
    10. เนสซีเป็นตัวดึงดูดการท่องเที่ยวสำคัญ ของสก็อตแลนด์ 💰

    🎯 ตำนานอมตะที่ยังไม่มีบทจบ “เนสซี” ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่า แต่เป็นสัญลักษณ์ของ ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ ที่ไม่เคยหยุดตามหาความจริง 🔍

    แม้จะไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าเนสซีมีอยู่จริง แต่ “ปริศนา” นี้ก็ยังไม่มีใครไขได้ทั้งหมด

    นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ “เนสซี” ยังคง มีชีวิตในจินตนาการของผู้คน และอาจจะยังอยู่ในคลื่นลึก ของทะเลสาบล็อคเนสส์... หรือในหัวใจของคนที่อยากเชื่อว่า “สิ่งลึกลับ” ยังมีอยู่จริงในโลกใบนี้ 🌍💙

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 191553 เม.ย. 2568

    📣 #Nessie #LochNessMonster #เนสซี #ตำนานเนสซี #สัตว์ประหลาดล็อคเนสส์
    #LochNess #MysteryOfNessie #ค้นหาความจริง #เนสซีมีอยู่จริงไหม #ภาพหลอนหรือตัวจริง
    91 ปี “เนสซี” เผยโฉม 🐉 สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสส์ ตำนานลวงโลก หรือปริศนาแห่งความจริง? จากภาพลวงตา สู่ปริศนาระดับโลก ✨ ตำนานแห่งทะเลสาบล็อคเนสส์ ที่แม้ถูกแฉว่า "หลอกลวง" แต่ก็ยังไม่มีใครหยุดตามหาได้ ✨ ตำนานที่ยังมีชีวิต ทุกคนคงเคยได้ยินชื่อ "เนสซี" 🐲 หรือ สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสส์ (Loch Ness Monster) อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ไม่ว่าจะผ่านสารคดี รายการทีวี หนังสือพิมพ์ หรือแม้แต่การ์ตูน เนสซีได้กลายเป็น สัญลักษณ์ของความลึกลับ ที่ดึงดูดจินตนาการของคนทั่วโลก มานานกว่า 9 ทศวรรษ 🕰️ ปีนี้ พ.ศ. 2568 เป็นวาระครบ 91 ปี ของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ทำให้ชื่อของเนสซี กลายเป็นตำนานระดับโลก นั่นคือ ภาพถ่าย “Surgeon's Photograph” อันโด่งดังในปี 2477 ซึ่งกลายเป็น "หลักฐาน" แรก ที่ทำให้คนทั้งโลกเชื่อว่า สัตว์ประหลาดในทะเลสาบมีอยู่จริง... แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความจริงบางอย่างก็ค่อยๆ ปรากฏ จนกลายเป็นคำถามว่า… “เนสซี” มีอยู่จริง หรือเป็นแค่ เรื่องแต่ง? 🐉 "เนสซี" หรือ Loch Ness Monster เป็นชื่อเรียกของสัตว์ประหลาดลึกลับ ที่เชื่อกันว่า อาศัยอยู่ในทะเลสาบล็อคเนสส์ (Loch Ness) ทางตอนเหนือของประเทศสก็อตแลนด์ ลักษณะที่ถูกบรรยายมักเป็นสัตว์คอยาว 🦕 ตัวใหญ่คล้ายไดโนเสาร์น้ำโบราณ จุดเริ่มต้นของตำนานนี้ มาจากเหตุการณ์ในวันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2477 เมื่อ "โรเบิร์ต เคนเน็ธ วิลสัน" (Robert Kenneth Wilson) สูตินรีแพทย์ชาวอังกฤษ ได้ถ่ายภาพที่ดูเหมือนหัว และคอของสัตว์ประหลาดโผล่พ้นผิวน้ำ ภาพนี้ถูกตีพิมพ์ไปทั่วโลกในชื่อว่า “Surgeon’s Photograph” 📸 และกลายเป็นไวรัลในยุคนั้น! ภาพนั้นคือสิ่งที่เปลี่ยน เรื่องเล่าในท้องถิ่น ให้กลายเป็นข่าวระดับโลกทันที แต่กว่า 60 ปี ต่อมา ความจริงก็ถูกเปิดเผย… 📜 🕵️‍♂️ ภาพปลอมที่สร้างความเชื่อทั้งโลก ในปี 2541 ความจริงที่สะเทือนโลกก็เปิดเผยโดย "คริสเตียน สเปอร์ลิง" (Christian Spurling) หนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับภาพถ่ายว่า แท้จริงแล้วภาพนั้นคือ “ของปลอม” ❌ พวกเขาใช้หุ่นจำลอง ติดกับเรือดำน้ำของเล่น แล้วจัดฉากถ่ายภาพเพื่อหลอกผู้คน ซึ่งพวกเขาทำเพราะต้องการ “เอาคืน” สื่อที่เคยทำให้ญาติของเขาเสียชื่อเสียง แม้จะเป็นเรื่องโกหก... แต่กลับไม่มีใครหยุดตามหา "เนสซี" ได้เลย 🧭 🔍 ไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่ยังคงมี “ความเชื่อ” จนถึงปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ ยังไม่สามารถหาหลักฐานชัดเจนว่า เนสซีมีตัวตนอยู่จริง ไม่ว่าจะเป็น... 🦴 โครงกระดูก 🐋 ซากสัตว์ 📷 ภาพถ่าย หรือวิดีโอที่ชัด 100% 🧬 DNA ของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ชนิดใหม่ แต่ในทางกลับกัน “เนสซี” ก็ไม่ใช่แค่เรื่องเล่านิทาน เพราะยังมี... 📚 หลักฐานและข้อเท็จจริง ที่ทำให้คนยังเชื่อ ✅ รายงานการพบเห็นกว่า 1,100 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2476 จนถึงปัจจุบัน มีการบันทึกการพบเห็น "เนสซี" มากกว่า 1,159 ครั้ง และบางครั้งยังมีภาพถ่าย วิดีโอ หรือการจับสัญญาณแปลกๆ จากโซนาร์ ✅ ภาพถ่ายและคลิปที่ยังอธิบายไม่ได้ แม้บางภาพจะไม่ชัดเจน หรือเป็นของปลอม แต่ก็มีหลายภาพ ที่ยังไม่สามารถหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้ จนถึงปัจจุบัน ✅ โซนาร์จับวัตถุขนาดใหญ่ใต้น้ำ มีรายงานว่า โซนาร์ตรวจจับวัตถุเคลื่อนที่ขนาดใหญ่ ในทะเลสาบได้ โดยเฉพาะบริเวณจุดลึกกลางทะเลสาบ ✅ นักวิทยาศาสตร์บางส่วน “ไม่ปฏิเสธ” นักวิจัยบางคนยังเชื่อว่า อาจมีสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่ถูกค้นพบ อาศัยอยู่ในทะเลสาบ ที่กว้างและลึกแห่งนี้ 🔬 ทฤษฎีปลาไหลยักษ์ คำอธิบายที่เป็นไปได้มากที่สุด? ในปี 2562 มีการศึกษาด้วยวิธี eDNA (Environmental DNA) จากทีมของ "ศาสตราจารย์ Neil Gemmell" ที่เก็บตัวอย่างน้ำกว่า 250 จุดในทะเลสาบล็อกเนสส์ เพื่อดูว่ามี DNA ของสิ่งมีชีวิตชนิดใดอยู่บ้าง ผลลัพธ์คือ พบ DNA ของ ปลาไหลยุโรป (European Eel) จำนวนมาก แต่ไม่พบ DNA ของไดโนเสาร์ หรือสัตว์เลื้อยคลานโบราณ อีกทั้งยังไม่พบหลักฐาน ของสัตว์ทะเลขนาดใหญ่เช่น วาฬ 📌 ความเป็นไปได้ ของทฤษฎีปลาไหลยักษ์คือ มีรูปร่างคล้ายที่พยานบรรยาย มีอยู่จริงในทะเลสาบ และมีพฤติกรรมว่ายน้ำลึกลับ 📌 แต่ก็มีข้อโต้แย้งคือ ไม่เคยพบปลาไหลที่ยาวกว่า 2 เมตรจริงๆ ปลาไหลไม่ค่อยโผล่พ้นน้ำแบบสัตว์คอยาว หากมีปลาไหลยักษ์อยู่จริง ควรมีคนถ่ายภาพได้ชัดกว่านี้ 🌍 จุดที่พบเห็น "เนสซี" บ่อยที่สุด 🏰 Urquhart Bay ใกล้ปราสาท Urquhart จุดชมวิวที่ได้รับรายงานพบเห็น มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ใกล้หมู่บ้าน Drumnadrochit มีพิพิธภัณฑ์ Loch Ness Centre และมีผู้เชี่ยวชาญประจำ ใจกลางทะเลสาบ ลึกกว่า 200 เมตร โซนาร์ตรวจพบวัตถุลึกลับบ่อยครั้ง ริมทะเลสาบฝั่งเมือง Inverness มีถนน A82 เลียบทะเลสาบ ผ่านผู้คนมาก ทำให้มีรายงานมากในอดีต 🧠 ปรากฏการณ์ทางจิตวิทยา? นักวิทยาศาสตร์หลายคนเสนอว่า เนสซีอาจเป็นผลของปรากฏการณ์ ที่เรียกว่า Pareidolia คือ... “สมองของมนุษย์พยายามตีความภาพที่ไม่ชัดเจน ให้กลายเป็นสิ่งที่คุ้นเคย เช่น รูปสัตว์ หน้าคน หรือร่างลึกลับ” 👀 บวกกับความลึกลับ บรรยากาศหมอกปกคลุม และการคาดหวัง ก็ทำให้ผู้คน "เชื่อ" ได้ง่ายขึ้น 📖 10 ข้อเท็จจริงที่ไม่ใช่แค่ตำนาน 1. ทะเลสาบล็อคเนสส์ยาว 37 กม. ลึกเกือบ 230 เมตร 2. ภาพ "Surgeon's Photograph" ถูกพิสูจน์ว่าเป็นของปลอม 3. ตรวจพบ eDNA ของปลาไหลในปริมาณมาก 4. ใช้โซนาร์ตรวจสอบหลายรอบ แต่ยังไม่พบสัตว์ประหลาด 5. ล็อคเนสส์ไม่มีทางเชื่อมกับทะเล เปิดโอกาสการมีสัตว์ทะเลต่ำ 6. รายงานพบเห็นเพิ่มขึ้น หลังมีถนนเลียบทะเลสาบ 7. BBC เคยทำสารคดีพิสูจน์เรื่องนี้โดยตรง 5. หลายกรณีพบว่าเป็นฟองอากาศ ท่อนไม้ หรือนกน้ำ 9. การพบเห็นล่าสุดยังมีอยู่ทุกปี 10. เนสซีเป็นตัวดึงดูดการท่องเที่ยวสำคัญ ของสก็อตแลนด์ 💰 🎯 ตำนานอมตะที่ยังไม่มีบทจบ “เนสซี” ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่า แต่เป็นสัญลักษณ์ของ ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ ที่ไม่เคยหยุดตามหาความจริง 🔍 แม้จะไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าเนสซีมีอยู่จริง แต่ “ปริศนา” นี้ก็ยังไม่มีใครไขได้ทั้งหมด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ “เนสซี” ยังคง มีชีวิตในจินตนาการของผู้คน และอาจจะยังอยู่ในคลื่นลึก ของทะเลสาบล็อคเนสส์... หรือในหัวใจของคนที่อยากเชื่อว่า “สิ่งลึกลับ” ยังมีอยู่จริงในโลกใบนี้ 🌍💙 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 191553 เม.ย. 2568 📣 #Nessie #LochNessMonster #เนสซี #ตำนานเนสซี #สัตว์ประหลาดล็อคเนสส์ #LochNess #MysteryOfNessie #ค้นหาความจริง #เนสซีมีอยู่จริงไหม #ภาพหลอนหรือตัวจริง
    0 Comments 0 Shares 178 Views 0 Reviews
More Results