• ปี 2550 ภาพจิตรกรรม “ภิกษุสันดานกา” เคยตกเป็นข่าวถกเถียงมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นผลงานของ “อนุพงษ์ จันทร “ใช้เทคนิคการวาดภาพด้วยสีอะคริลิกลงบนจีวรพระ ได้แรงบันดาลใจจากคติความเชื่อของไทยเรื่อง "เปรตภูมิ” และภาพ ”บรรพชิตทุศีล” ในสมุดภาพไตรภูมิ มีข้อความปรากฏเอาไว้ด้านล่างภาพว่า "บาปเป็นบรรพชิตทุศีลแลเลี้ยงชีพผิดมิชอบด้วยธรรม ตายไปต้องกลายเป็นเปรต มีไฟไหม้ลุกจีวรไหม้กาย"อนุพงษ์ ยืนยันว่า ”ภิกษุสันดานกา” ไม่ใช่ชื่อที่ตนตั้งขึ้นมาเอง แต่มีระบุในพระไตรปิฎก ในหนังสือคำพยากรณ์ของพระพุทธเจ้า ตำราดูพระภิกษุ และตนขอยืนยันว่า ภาพที่ตนเขียนขึ้นมา ไม่ใช่ภาพพระดีดีในสังคม แต่ตนเขียนเปรตที่แอบแฝงอยู่ในผ้ากาสาวพัสตร์ เพื่อเตือนสติคนในสังคม โดยสื่อภาพออกมาในเชิงสัญลักษณ์ ตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงเปรียบเทียบพระภิกษุลามกว่า มีนิสัยเหมือนกา 10 อย่าง“ภิกษุทั้งหลาย กาเป็นสัตว์ประกอบด้วยความเลวสิบประการ” สิบประการเป็นไฉน? สิบประการคือ1. กาเป็นสัตว์ทำลายความดี 2. กาเป็นสัตว์คะนอง 3. กาเป็นสัตว์ทะเยอทะยาน 4. กาเป็นสัตว์กินจุ 5. กาเป็นสัตว์หยาบคาย 6. กาเป็นสัตว์ไม่กรุณาปรานี 7. กาเป็นสัตว์ทุรพล 8. กาเป็นสัตว์เสียงอึง 9. กาเป็นสัตว์ปล่อยสติ 10. กาเป็นสัตว์สะสมของกินภิกษุทั้งหลาย! ภิกษุลามกก็เป็นเช่นเดียวกับกานั่นแหละ เป็นคนประกอบด้วยอสัทธรรมสิบประการ สิบประการเป็นไฉน? สิบประการคือ1. ภิกษุลามกเป็นคนทำลายความดี 2. ภิกษุลามกเป็นคนคะนอง 3. ภิกษุลามกเป็นคนทะเยอทะยาน 4. ภิกษุลามกเป็นคนกินจุ 5. ภิกษุลามกเป็นคนหยาบคาย 6. ภิกษุลามกเป็นคนไม่กรุณาปรานี 7. ภิกษุลามกเป็นคนทุรพล 8. ภิกษุลามกเป็นคนร้องเสียงอึง 9. ภิกษุลามกเป็นคนปล่อยสติ 10. ภิกษุลามกเป็นคนสะสมของกินโดยนัยแห่งพฤติกรรมของนกกา สิบประการดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่าล้วนแล้วแต่เป็นความเลวที่ไม่เหมาะไม่ควรที่คนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนมีศีล เช่น ภิกษุในพระพุทธศาสนาไม่ควรประพฤติ ไม่ควรปฏิบัติแต่ในความเป็นจริง ความเป็นปุถุชนคนมีกิเลส ถึงแม้ว่าจะมาบวชถือศีล 227 ข้อแล้วก็ยังมีภิกษุบางรูปในครั้งพุทธกาลมีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ พระพุทธองค์จึงได้ตรัสสอนด้วยข้อวัตรปฏิบัติที่พระภิกษุที่เข้ามาบวชเพื่อการทำความดี โดยมุ่งความหลุดพ้น ควรงดเว้นอสัทธรรม 10 ประการ อันเป็นพฤติกรรมของกาดังกล่าวอ.สามารถ มังสัง เคยเสนอแนวทางแก้ปัญหาภิกษุสันดานกาไว้ว่า “แต่ในความเป็นจริงที่ปรากฏพฤติกรรมอันไม่เหมาะไม่ควรในวงการสงฆ์ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากสงฆ์ด้วยกันเท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่มหาเถรสมาคม และสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ควรจะได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา และกำหนดมาตรการแก้ไขและป้องกันดังต่อไปนี้1. ทำการสำรวจสำมโนประชากรพระสงฆ์ในประเทศไทยให้แน่ชัดว่ามีอยู่เท่าใด และมีรายละเอียดลงลึกถึงเรื่องการศึกษา อายุพรรษา และภาระหน้าที่ต่อสังคมเท่าที่พระจะพึงกระทำได้ เช่น เป็นครูสอนศีลธรรม อบรมประชาชน และให้ความรู้แก่พระภิกษุสงฆ์ เป็นต้น2. เมื่อได้ข้อมูลแล้วให้จัดทำแผนฟื้นฟูพฤติกรรมพระสงฆ์ที่ไม่ได้รับการศึกษา และการอบรมอย่างทั่วถึง3. ให้นำพระภิกษุสงฆ์ที่มีความรู้ความสามารถในการสอนมาประชุมแลกเปลี่ยนความรู้ แนวทางการปรับองค์กรสงฆ์ แล้วมอบหมายให้แต่ละท่านกลับไปดำเนินการในถิ่นของตนเองเป็นระยะเวลา 1-3 ปี แล้วส่งคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานออกไปทำการประเมินในการดำเนินการ 3 ประการนี้ ทางรัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุนทางด้านการเงิน และบุคลากรให้เพียงพอแก่การดำเนินงานในขณะเดียวกัน ถ้าพบว่าในท้องถิ่นใดดำเนินการไม่ได้ผล ก็ควรอย่างยิ่งที่ทางการปกครองจะต้องเข้ามาดูแลแก้ไขโดยใช้อำนาจบริหาร เช่น การโยกย้ายหรือปลดออกจากตำแหน่ง เป็นการลงโทษผู้รับผิดชอบในระดับเจ้าคณะจังหวัด อำเภอ และตำบลลงไปตามลำดับชั้นยิ่งกว่านี้ ทางมหาเถรสมาคมจะต้องไม่ปล่อยให้พระสงฆ์ในระดับปกครองเข้าไปมีส่วนได้เสียกับกิจกรรมใดๆ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการช่วยกันปกปิดความผิดของผู้อยู่ใต้ปกครอง เพื่อแลกกับลาภสักการะที่ผู้กระทำผิดมอบให้ถ้าทุกหน่วยงานดำเนินการได้เยี่ยงนี้ เชื่อว่าพฤติกรรมอันไม่เหมาะไม่ควรของพระสงฆ์จะลดลง และหมดไปในที่สุด”https://www.facebook.com/share/1Cj37basD6/?mibextid=wwXIfr
    ปี 2550 ภาพจิตรกรรม “ภิกษุสันดานกา” เคยตกเป็นข่าวถกเถียงมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นผลงานของ “อนุพงษ์ จันทร “ใช้เทคนิคการวาดภาพด้วยสีอะคริลิกลงบนจีวรพระ ได้แรงบันดาลใจจากคติความเชื่อของไทยเรื่อง "เปรตภูมิ” และภาพ ”บรรพชิตทุศีล” ในสมุดภาพไตรภูมิ มีข้อความปรากฏเอาไว้ด้านล่างภาพว่า "บาปเป็นบรรพชิตทุศีลแลเลี้ยงชีพผิดมิชอบด้วยธรรม ตายไปต้องกลายเป็นเปรต มีไฟไหม้ลุกจีวรไหม้กาย"อนุพงษ์ ยืนยันว่า ”ภิกษุสันดานกา” ไม่ใช่ชื่อที่ตนตั้งขึ้นมาเอง แต่มีระบุในพระไตรปิฎก ในหนังสือคำพยากรณ์ของพระพุทธเจ้า ตำราดูพระภิกษุ และตนขอยืนยันว่า ภาพที่ตนเขียนขึ้นมา ไม่ใช่ภาพพระดีดีในสังคม แต่ตนเขียนเปรตที่แอบแฝงอยู่ในผ้ากาสาวพัสตร์ เพื่อเตือนสติคนในสังคม โดยสื่อภาพออกมาในเชิงสัญลักษณ์ ตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงเปรียบเทียบพระภิกษุลามกว่า มีนิสัยเหมือนกา 10 อย่าง“ภิกษุทั้งหลาย กาเป็นสัตว์ประกอบด้วยความเลวสิบประการ” สิบประการเป็นไฉน? สิบประการคือ1. กาเป็นสัตว์ทำลายความดี 2. กาเป็นสัตว์คะนอง 3. กาเป็นสัตว์ทะเยอทะยาน 4. กาเป็นสัตว์กินจุ 5. กาเป็นสัตว์หยาบคาย 6. กาเป็นสัตว์ไม่กรุณาปรานี 7. กาเป็นสัตว์ทุรพล 8. กาเป็นสัตว์เสียงอึง 9. กาเป็นสัตว์ปล่อยสติ 10. กาเป็นสัตว์สะสมของกินภิกษุทั้งหลาย! ภิกษุลามกก็เป็นเช่นเดียวกับกานั่นแหละ เป็นคนประกอบด้วยอสัทธรรมสิบประการ สิบประการเป็นไฉน? สิบประการคือ1. ภิกษุลามกเป็นคนทำลายความดี 2. ภิกษุลามกเป็นคนคะนอง 3. ภิกษุลามกเป็นคนทะเยอทะยาน 4. ภิกษุลามกเป็นคนกินจุ 5. ภิกษุลามกเป็นคนหยาบคาย 6. ภิกษุลามกเป็นคนไม่กรุณาปรานี 7. ภิกษุลามกเป็นคนทุรพล 8. ภิกษุลามกเป็นคนร้องเสียงอึง 9. ภิกษุลามกเป็นคนปล่อยสติ 10. ภิกษุลามกเป็นคนสะสมของกินโดยนัยแห่งพฤติกรรมของนกกา สิบประการดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่าล้วนแล้วแต่เป็นความเลวที่ไม่เหมาะไม่ควรที่คนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนมีศีล เช่น ภิกษุในพระพุทธศาสนาไม่ควรประพฤติ ไม่ควรปฏิบัติแต่ในความเป็นจริง ความเป็นปุถุชนคนมีกิเลส ถึงแม้ว่าจะมาบวชถือศีล 227 ข้อแล้วก็ยังมีภิกษุบางรูปในครั้งพุทธกาลมีพฤติกรรมเยี่ยงนี้ พระพุทธองค์จึงได้ตรัสสอนด้วยข้อวัตรปฏิบัติที่พระภิกษุที่เข้ามาบวชเพื่อการทำความดี โดยมุ่งความหลุดพ้น ควรงดเว้นอสัทธรรม 10 ประการ อันเป็นพฤติกรรมของกาดังกล่าวอ.สามารถ มังสัง เคยเสนอแนวทางแก้ปัญหาภิกษุสันดานกาไว้ว่า “แต่ในความเป็นจริงที่ปรากฏพฤติกรรมอันไม่เหมาะไม่ควรในวงการสงฆ์ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากสงฆ์ด้วยกันเท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่มหาเถรสมาคม และสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ควรจะได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา และกำหนดมาตรการแก้ไขและป้องกันดังต่อไปนี้1. ทำการสำรวจสำมโนประชากรพระสงฆ์ในประเทศไทยให้แน่ชัดว่ามีอยู่เท่าใด และมีรายละเอียดลงลึกถึงเรื่องการศึกษา อายุพรรษา และภาระหน้าที่ต่อสังคมเท่าที่พระจะพึงกระทำได้ เช่น เป็นครูสอนศีลธรรม อบรมประชาชน และให้ความรู้แก่พระภิกษุสงฆ์ เป็นต้น2. เมื่อได้ข้อมูลแล้วให้จัดทำแผนฟื้นฟูพฤติกรรมพระสงฆ์ที่ไม่ได้รับการศึกษา และการอบรมอย่างทั่วถึง3. ให้นำพระภิกษุสงฆ์ที่มีความรู้ความสามารถในการสอนมาประชุมแลกเปลี่ยนความรู้ แนวทางการปรับองค์กรสงฆ์ แล้วมอบหมายให้แต่ละท่านกลับไปดำเนินการในถิ่นของตนเองเป็นระยะเวลา 1-3 ปี แล้วส่งคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานออกไปทำการประเมินในการดำเนินการ 3 ประการนี้ ทางรัฐบาลจะต้องให้การสนับสนุนทางด้านการเงิน และบุคลากรให้เพียงพอแก่การดำเนินงานในขณะเดียวกัน ถ้าพบว่าในท้องถิ่นใดดำเนินการไม่ได้ผล ก็ควรอย่างยิ่งที่ทางการปกครองจะต้องเข้ามาดูแลแก้ไขโดยใช้อำนาจบริหาร เช่น การโยกย้ายหรือปลดออกจากตำแหน่ง เป็นการลงโทษผู้รับผิดชอบในระดับเจ้าคณะจังหวัด อำเภอ และตำบลลงไปตามลำดับชั้นยิ่งกว่านี้ ทางมหาเถรสมาคมจะต้องไม่ปล่อยให้พระสงฆ์ในระดับปกครองเข้าไปมีส่วนได้เสียกับกิจกรรมใดๆ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการช่วยกันปกปิดความผิดของผู้อยู่ใต้ปกครอง เพื่อแลกกับลาภสักการะที่ผู้กระทำผิดมอบให้ถ้าทุกหน่วยงานดำเนินการได้เยี่ยงนี้ เชื่อว่าพฤติกรรมอันไม่เหมาะไม่ควรของพระสงฆ์จะลดลง และหมดไปในที่สุด”https://www.facebook.com/share/1Cj37basD6/?mibextid=wwXIfr
    0 Comments 0 Shares 3 Views 0 Reviews
  • วันนี้เรามาคุยกันเรื่องลวดลายเหนือหว่างคิ้วหรือที่เรียกกันว่า “ฮวาเตี้ยน” (花钿)
    ความมีอยู่ว่า
    ... ฝูหรงรักสวยรักงาม จะทนให้คนชี้นิ้วซุบซิบเรื่องรอยแผลเป็นขนาดเม็ดงาบนหน้าผากนางได้อย่างไร? ยังดีที่ตำแหน่งนี้เหมาะเจาะ นางติดลายฮวาเตี้ยนทุกวันไว้กลบรอยแผล ลวดลายของฮวาเตี้ยนน้อยใหญ่ บ้างลายจุด บ้างลายกลีบบุปผา เปลี่ยนไปทุกวัน เสริมความงดงามของนางยิ่งขึ้นไปอีก ...

    - จากเรื่อง <เส้นทางของฮองเฮาคนโปรด> ผู้แต่ง เซี่ยวเจียเหริน
    (หมายเหตุ ละครเรื่อง <กรุ่นรักกลิ่นบุปผา> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    ฮวาเตี้ยนเป็นที่นิยมอย่างมากในการใช้แต่งหน้าสตรีในสมัยราชวงศ์ถัง ตำนานและที่มาของฮวาเตี้ยนมีคนเคยเขียนถึงมากแล้ว Storyฯ จะไม่พูดถึง แต่ที่วันนี้จะมาคุยกันเรื่องฮวาเตี้ยน เพราะเชื่อว่าเพื่อนเพจหลายคนคงจะคิดเหมือน Storyฯ ว่ามันคือการทาสีแต้มชาด แต่พอไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจึงรู้ว่า ไม่ใช่ค่ะ

    จริงๆ แล้วฮวาเตี้ยนเป็นการ “แปะ” ไม่ใช่ “วาด” วัสดุที่ใช้แปะนั้นแรกเริ่มเลยคือกระดาษสีและทองคำเปลวที่ตัดเป็นลวดลาย ต่อมามีการใช้วัสดุอื่น เช่นไข่มุกและเปลือกหอย และยังมีวัสดุอื่นที่ทำเอา Storyฯ ถึงกับทึ่งในความคิดสร้างสรรค์ เพราะมีกระดูกแก้มปลา เกล็ดปลา ขนนก ปีกแมลงปอ ฯลฯ ย้อมสีอีกด้วย

    แล้วใช้อะไรแปะ? เขาใช้กาวที่ทำมาจากกระเพาะปลาเรียกว่า “เฮ้อเจี่ยว” (呵胶) เวลาจะใช้ให้อังลมปาก (เป็นที่มาของคำว่า “เฮ้อ”) หรือแตะน้ำหรือน้ำลายเล็กน้อย ก็สามารถแปะติดได้ทนทานหลายวัน เวลาจะเอาออกก็ใช้น้ำอุ่นร้อนทาให้ชุ่มก็เอาออกได้ สมัยโบราณมีการใช้กาวชนิดนี้เชื่อมติดขนนกในการทำลูกธนูด้วย

    กระแสนิยมฮวาเตี้ยนเริ่มจางลงในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ (ใช้กันเฉพาะในวังหลัง และใช้วัสดุมีค่าเช่นไข่มุก ตามภาพ) พอมาถึงยุคสมัยราชวงศ์หมิงจะมีการใช้ฮวาเตี้ยนเฉพาะในงานทางการและลวดลายเบาบางลง และไม่มีใช้ฮวาเตี้ยนอีกเลยเมื่อเข้าสู่ยุคสมัยราชวงศ์ชิง

    Storyฯ พยายามหาว่าตกลงมีการใช้วาดหรือแต้มสีหรือไม่ แต่ก็ไม่เห็นมีข้อมูลบ่งบอกว่ามี เพื่อนเพจท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมมาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://waynesan.com/ruyi-pavilion/
    http://www.cunman.com/new/decad6397de34fe9b1cdca62cb53623e
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://culture.gansudaily.com.cn/system/2020/09/01/030144072.shtml
    http://www.guoxue.com/?p=11516
    https://zhidao.baidu.com/question/558092075.html
    https://zh.m.wikipedia.org/wiki/%E8%8A%B1%E9%88%BF%E5%A6%9D

    #กรุ่นรักกลิ่นบุปผา #วังเดียวดาย #ประเพณีจีนโบราณ #ฮวาเตี้ยน #StoryfromStory
    วันนี้เรามาคุยกันเรื่องลวดลายเหนือหว่างคิ้วหรือที่เรียกกันว่า “ฮวาเตี้ยน” (花钿) ความมีอยู่ว่า ... ฝูหรงรักสวยรักงาม จะทนให้คนชี้นิ้วซุบซิบเรื่องรอยแผลเป็นขนาดเม็ดงาบนหน้าผากนางได้อย่างไร? ยังดีที่ตำแหน่งนี้เหมาะเจาะ นางติดลายฮวาเตี้ยนทุกวันไว้กลบรอยแผล ลวดลายของฮวาเตี้ยนน้อยใหญ่ บ้างลายจุด บ้างลายกลีบบุปผา เปลี่ยนไปทุกวัน เสริมความงดงามของนางยิ่งขึ้นไปอีก ... - จากเรื่อง <เส้นทางของฮองเฮาคนโปรด> ผู้แต่ง เซี่ยวเจียเหริน (หมายเหตุ ละครเรื่อง <กรุ่นรักกลิ่นบุปผา> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) ฮวาเตี้ยนเป็นที่นิยมอย่างมากในการใช้แต่งหน้าสตรีในสมัยราชวงศ์ถัง ตำนานและที่มาของฮวาเตี้ยนมีคนเคยเขียนถึงมากแล้ว Storyฯ จะไม่พูดถึง แต่ที่วันนี้จะมาคุยกันเรื่องฮวาเตี้ยน เพราะเชื่อว่าเพื่อนเพจหลายคนคงจะคิดเหมือน Storyฯ ว่ามันคือการทาสีแต้มชาด แต่พอไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจึงรู้ว่า ไม่ใช่ค่ะ จริงๆ แล้วฮวาเตี้ยนเป็นการ “แปะ” ไม่ใช่ “วาด” วัสดุที่ใช้แปะนั้นแรกเริ่มเลยคือกระดาษสีและทองคำเปลวที่ตัดเป็นลวดลาย ต่อมามีการใช้วัสดุอื่น เช่นไข่มุกและเปลือกหอย และยังมีวัสดุอื่นที่ทำเอา Storyฯ ถึงกับทึ่งในความคิดสร้างสรรค์ เพราะมีกระดูกแก้มปลา เกล็ดปลา ขนนก ปีกแมลงปอ ฯลฯ ย้อมสีอีกด้วย แล้วใช้อะไรแปะ? เขาใช้กาวที่ทำมาจากกระเพาะปลาเรียกว่า “เฮ้อเจี่ยว” (呵胶) เวลาจะใช้ให้อังลมปาก (เป็นที่มาของคำว่า “เฮ้อ”) หรือแตะน้ำหรือน้ำลายเล็กน้อย ก็สามารถแปะติดได้ทนทานหลายวัน เวลาจะเอาออกก็ใช้น้ำอุ่นร้อนทาให้ชุ่มก็เอาออกได้ สมัยโบราณมีการใช้กาวชนิดนี้เชื่อมติดขนนกในการทำลูกธนูด้วย กระแสนิยมฮวาเตี้ยนเริ่มจางลงในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ (ใช้กันเฉพาะในวังหลัง และใช้วัสดุมีค่าเช่นไข่มุก ตามภาพ) พอมาถึงยุคสมัยราชวงศ์หมิงจะมีการใช้ฮวาเตี้ยนเฉพาะในงานทางการและลวดลายเบาบางลง และไม่มีใช้ฮวาเตี้ยนอีกเลยเมื่อเข้าสู่ยุคสมัยราชวงศ์ชิง Storyฯ พยายามหาว่าตกลงมีการใช้วาดหรือแต้มสีหรือไม่ แต่ก็ไม่เห็นมีข้อมูลบ่งบอกว่ามี เพื่อนเพจท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมมาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจาก: https://waynesan.com/ruyi-pavilion/ http://www.cunman.com/new/decad6397de34fe9b1cdca62cb53623e Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://culture.gansudaily.com.cn/system/2020/09/01/030144072.shtml http://www.guoxue.com/?p=11516 https://zhidao.baidu.com/question/558092075.html https://zh.m.wikipedia.org/wiki/%E8%8A%B1%E9%88%BF%E5%A6%9D #กรุ่นรักกลิ่นบุปผา #วังเดียวดาย #ประเพณีจีนโบราณ #ฮวาเตี้ยน #StoryfromStory
    WAYNESAN.COM
    Cyber Revue – 電影、韓劇、日劇、台劇等各類影視介紹與評價
    發掘最新電影與影集評論,來自影評人及實際觀影者的深入見解。我們提供可信的影評,幫助你選擇最佳觀影體驗。探索更多有關電影與影集的專業分析和觀影建議,盡在我們的網站。
    1 Comments 0 Shares 5 Views 0 Reviews
  • นักเรียนไทยยุค AI: อยู่รอดอย่างไรในโลกที่เปลี่ยนเร็วกว่าเดิม?
    โลกยุคใหม่ไม่ได้รอใครอีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อนวัตกรรมอย่าง AI เข้ามามีบทบาทในแทบทุกด้านของชีวิต ตั้งแต่การเรียน ไปจนถึงการทำงานในอนาคต และนักเรียนไทยจะต้องไม่ใช่แค่ “ปรับตัว” แต่ต้อง “เปลี่ยนวิธีคิด” เพื่อให้อยู่รอดและเติบโตในโลกที่ AI ครองเวที

    แล้วนักเรียนต้องพัฒนาอะไรบ้าง?
    1️⃣. AI Literacy – ทักษะความรู้เรื่อง AI
    ไม่ใช่แค่ใช้ ChatGPT ได้ แต่ต้องเข้าใจว่า AI ทำงานอย่างไร มีข้อดี ข้อจำกัด และ “อคติ” อย่างไรบ้าง นักเรียนต้องฝึกคิดแบบวิพากษ์ ไม่เชื่อทุกอย่างที่ AI บอกมา ต้องกล้าตั้งคำถาม และตรวจสอบแหล่งข้อมูลให้เป็น

    2️⃣. ทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา
    AI เก่งในเรื่อง “การจำและประมวลผล” แต่การตั้งคำถาม การตีความ การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ยังเป็นทักษะของมนุษย์ นักเรียนควรฝึกคิดในเชิงลึก ฝึกตั้งสมมุติฐาน ทดลอง และปรับปรุง ไม่ใช่แค่หาคำตอบเร็วๆ จากอินเทอร์เน็ต

    3️⃣. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
    AI ช่วยเราคิดได้ แต่ไม่สามารถ “คิดแทนเราได้หมด” การสร้างผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น เขียนเรื่องราว แต่งเพลง ทำโครงการนวัตกรรม หรือผลงานศิลปะ ยังคงต้องใช้พลังความคิดของมนุษย์อย่างแท้จริง

    4️⃣. การทำงานร่วมกันกับ AI และมนุษย์
    นักเรียนในยุคนี้ต้องทำงานเป็นทีม ทั้งกับคนและกับเทคโนโลยี ต้องรู้ว่าเมื่อไรควรใช้ AI ช่วย และเมื่อไรควรใช้หัวใจของมนุษย์ เช่น การฟังเพื่อน ความเข้าใจอารมณ์ หรือการทำโปรเจกต์ร่วมกัน

    5️⃣. จริยธรรมและความรับผิดชอบ
    การใช้ AI อย่างถูกจริยธรรมเป็นเรื่องใหญ่ เช่น ไม่คัดลอกเนื้อหาที่ AI สร้างมาโดยไม่เข้าใจ การเคารพความเป็นส่วนตัวของคนอื่น และรู้เท่าทัน Deepfake หรือข้อมูลบิดเบือนที่อาจเจอในชีวิตประจำวัน

    AI คือเพื่อน ไม่ใช่ศัตรู
    หลายคนกลัวว่า AI จะมาแย่งงาน หรือทำให้คนไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป แต่ในความเป็นจริง AI คือ “เครื่องมือ” ที่ดีมาก ถ้าเราใช้เป็น มันจะช่วยให้เราเก่งขึ้น ไม่ใช่ถูกแทนที่

    เช่น:
    - นักเรียนสามารถใช้ AI ช่วยสรุปบทเรียน ติวสอบ หรือสร้างไอเดียสำหรับโปรเจกต์
    - ครูสามารถใช้ AI ช่วยตรวจข้อสอบ วางแผนบทเรียน และมีเวลาสอนนักเรียนแบบใกล้ชิดขึ้น
    - โรงเรียนหลายแห่งก็เริ่มใช้ AI อย่าง SplashLearn, ChatGPT หรือ Writable เพื่อช่วยให้การเรียนสนุกและเข้าถึงได้มากขึ้น

    แต่อย่าลืมความเสี่ยง
    แม้ว่า AI จะช่วยได้มาก แต่ก็มีความท้าทาย เช่น:
    - ความเครียดจากการอยู่กับหน้าจอนานๆ
    - ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือมีอคติจาก AI
    - ความเหลื่อมล้ำเรื่องอุปกรณ์และทักษะในบางพื้นที่ของประเทศ

    ดังนั้น นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และภาครัฐต้องร่วมมือกัน สร้างระบบการเรียนรู้ที่ปลอดภัย เท่าเทียม และพัฒนาความรู้รอบด้านไปพร้อมกัน

    สรุปง่ายๆ สำหรับนักเรียนไทยในยุค AI:
    - อย่าใช้ AI แค่ “ให้มันทำให้” แต่ต้อง “ใช้มันเพื่อให้เราเก่งขึ้น”
    - พัฒนาให้รอบด้าน ทั้งสมอง จิตใจ และจริยธรรม
    - ฝึกเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะเทคโนโลยีจะไม่หยุดรอเราแน่นอน

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    🎓 นักเรียนไทยยุค AI: อยู่รอดอย่างไรในโลกที่เปลี่ยนเร็วกว่าเดิม? โลกยุคใหม่ไม่ได้รอใครอีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อนวัตกรรมอย่าง AI เข้ามามีบทบาทในแทบทุกด้านของชีวิต ตั้งแต่การเรียน ไปจนถึงการทำงานในอนาคต และนักเรียนไทยจะต้องไม่ใช่แค่ “ปรับตัว” แต่ต้อง “เปลี่ยนวิธีคิด” เพื่อให้อยู่รอดและเติบโตในโลกที่ AI ครองเวที ✅ แล้วนักเรียนต้องพัฒนาอะไรบ้าง? 1️⃣. AI Literacy – ทักษะความรู้เรื่อง AI ไม่ใช่แค่ใช้ ChatGPT ได้ แต่ต้องเข้าใจว่า AI ทำงานอย่างไร มีข้อดี ข้อจำกัด และ “อคติ” อย่างไรบ้าง นักเรียนต้องฝึกคิดแบบวิพากษ์ ไม่เชื่อทุกอย่างที่ AI บอกมา ต้องกล้าตั้งคำถาม และตรวจสอบแหล่งข้อมูลให้เป็น 2️⃣. ทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา AI เก่งในเรื่อง “การจำและประมวลผล” แต่การตั้งคำถาม การตีความ การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ยังเป็นทักษะของมนุษย์ นักเรียนควรฝึกคิดในเชิงลึก ฝึกตั้งสมมุติฐาน ทดลอง และปรับปรุง ไม่ใช่แค่หาคำตอบเร็วๆ จากอินเทอร์เน็ต 3️⃣. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) AI ช่วยเราคิดได้ แต่ไม่สามารถ “คิดแทนเราได้หมด” การสร้างผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น เขียนเรื่องราว แต่งเพลง ทำโครงการนวัตกรรม หรือผลงานศิลปะ ยังคงต้องใช้พลังความคิดของมนุษย์อย่างแท้จริง 4️⃣. การทำงานร่วมกันกับ AI และมนุษย์ นักเรียนในยุคนี้ต้องทำงานเป็นทีม ทั้งกับคนและกับเทคโนโลยี ต้องรู้ว่าเมื่อไรควรใช้ AI ช่วย และเมื่อไรควรใช้หัวใจของมนุษย์ เช่น การฟังเพื่อน ความเข้าใจอารมณ์ หรือการทำโปรเจกต์ร่วมกัน 5️⃣. จริยธรรมและความรับผิดชอบ การใช้ AI อย่างถูกจริยธรรมเป็นเรื่องใหญ่ เช่น ไม่คัดลอกเนื้อหาที่ AI สร้างมาโดยไม่เข้าใจ การเคารพความเป็นส่วนตัวของคนอื่น และรู้เท่าทัน Deepfake หรือข้อมูลบิดเบือนที่อาจเจอในชีวิตประจำวัน 📌 AI คือเพื่อน ไม่ใช่ศัตรู หลายคนกลัวว่า AI จะมาแย่งงาน หรือทำให้คนไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป แต่ในความเป็นจริง AI คือ “เครื่องมือ” ที่ดีมาก ถ้าเราใช้เป็น มันจะช่วยให้เราเก่งขึ้น ไม่ใช่ถูกแทนที่ เช่น: - นักเรียนสามารถใช้ AI ช่วยสรุปบทเรียน ติวสอบ หรือสร้างไอเดียสำหรับโปรเจกต์ - ครูสามารถใช้ AI ช่วยตรวจข้อสอบ วางแผนบทเรียน และมีเวลาสอนนักเรียนแบบใกล้ชิดขึ้น - โรงเรียนหลายแห่งก็เริ่มใช้ AI อย่าง SplashLearn, ChatGPT หรือ Writable เพื่อช่วยให้การเรียนสนุกและเข้าถึงได้มากขึ้น 🚨 แต่อย่าลืมความเสี่ยง แม้ว่า AI จะช่วยได้มาก แต่ก็มีความท้าทาย เช่น: - ความเครียดจากการอยู่กับหน้าจอนานๆ - ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือมีอคติจาก AI - ความเหลื่อมล้ำเรื่องอุปกรณ์และทักษะในบางพื้นที่ของประเทศ ดังนั้น นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และภาครัฐต้องร่วมมือกัน สร้างระบบการเรียนรู้ที่ปลอดภัย เท่าเทียม และพัฒนาความรู้รอบด้านไปพร้อมกัน 💡 สรุปง่ายๆ สำหรับนักเรียนไทยในยุค AI: - อย่าใช้ AI แค่ “ให้มันทำให้” แต่ต้อง “ใช้มันเพื่อให้เราเก่งขึ้น” - พัฒนาให้รอบด้าน ทั้งสมอง จิตใจ และจริยธรรม - ฝึกเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะเทคโนโลยีจะไม่หยุดรอเราแน่นอน #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • Samsung เร่งฟื้นความเชื่อมั่น – ตั้งเป้า yield 2nm ให้ถึง 70% ภายในปีนี้

    Samsung กำลังเผชิญความท้าทายในการผลิตชิป 2nm GAA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้โครงสร้างทรานซิสเตอร์แบบ Gate-All-Around เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน แต่ปัญหาใหญ่คือ yield ต่ำมาก—ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 30% เท่านั้น

    เพื่อแข่งขันกับ TSMC ที่มี yield สูงกว่าในเทคโนโลยีระดับเดียวกัน Samsung จึงตัดสินใจชะลอการพัฒนา 1.4nm และทุ่มทรัพยากรทั้งหมดไปที่ 2nm โดยตั้งเป้าเพิ่ม yield เป็น 50% ภายในไม่กี่เดือน และ 60–70% ภายในสิ้นปี 2025

    Qualcomm ซึ่งเคยมีข่าวว่าจะยกเลิกการสั่งผลิต Snapdragon 8 Elite Gen 2 กับ Samsung ก็ยังคงใช้บริการอยู่ในบางส่วน ทำให้ Samsung ต้องเร่งสร้างความมั่นใจเพื่อรักษาลูกค้ารายนี้ไว้

    Samsung ยังพัฒนาเทคโนโลยี 2nm GAA รุ่นที่สองและสาม (SF2P+) เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยหวังว่าจะสามารถกลับมาเป็นผู้นำในตลาดการผลิตชิปได้อีกครั้ง

    https://wccftech.com/samsung-requires-more-time-to-stabilize-2nm-yields-with-a-goal-of-70-percent-by-year-end/
    Samsung เร่งฟื้นความเชื่อมั่น – ตั้งเป้า yield 2nm ให้ถึง 70% ภายในปีนี้ Samsung กำลังเผชิญความท้าทายในการผลิตชิป 2nm GAA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้โครงสร้างทรานซิสเตอร์แบบ Gate-All-Around เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน แต่ปัญหาใหญ่คือ yield ต่ำมาก—ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 30% เท่านั้น เพื่อแข่งขันกับ TSMC ที่มี yield สูงกว่าในเทคโนโลยีระดับเดียวกัน Samsung จึงตัดสินใจชะลอการพัฒนา 1.4nm และทุ่มทรัพยากรทั้งหมดไปที่ 2nm โดยตั้งเป้าเพิ่ม yield เป็น 50% ภายในไม่กี่เดือน และ 60–70% ภายในสิ้นปี 2025 Qualcomm ซึ่งเคยมีข่าวว่าจะยกเลิกการสั่งผลิต Snapdragon 8 Elite Gen 2 กับ Samsung ก็ยังคงใช้บริการอยู่ในบางส่วน ทำให้ Samsung ต้องเร่งสร้างความมั่นใจเพื่อรักษาลูกค้ารายนี้ไว้ Samsung ยังพัฒนาเทคโนโลยี 2nm GAA รุ่นที่สองและสาม (SF2P+) เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยหวังว่าจะสามารถกลับมาเป็นผู้นำในตลาดการผลิตชิปได้อีกครั้ง https://wccftech.com/samsung-requires-more-time-to-stabilize-2nm-yields-with-a-goal-of-70-percent-by-year-end/
    WCCFTECH.COM
    Samsung Requires More Time To Stabilize Its 2nm Yields, New Report Says Goal Of 70 Percent Is Being Targeted By The End Of 2025 To Secure Large Chip Orders From Qualcomm & Others
    To secure larger chip orders from the likes of Qualcomm, a new report states that Samsung needs more time to stabilize its 2nm GAA yields
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • VPN ฟรีที่ไม่ฟรี – มัลแวร์ขโมยข้อมูลแฝงใน GitHub

    นักวิจัยจาก Cyfirma พบแคมเปญมัลแวร์ใหม่ที่ใช้ GitHub เป็นช่องทางเผยแพร่ โดยปลอมตัวเป็นเครื่องมือยอดนิยม เช่น “Free VPN for PC” และ “Minecraft Skin Changer” เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านและคำแนะนำการติดตั้งอย่างละเอียด—ทำให้ดูน่าเชื่อถือ

    เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ Launch.exe ภายใน ZIP:
    - มัลแวร์จะถอดรหัสสตริง Base64 ที่ซ่อนด้วยข้อความภาษาฝรั่งเศส
    - สร้างไฟล์ DLL ชื่อ msvcp110.dll ในโฟลเดอร์ AppData
    - โหลด DLL แบบ dynamic และเรียกฟังก์ชัน GetGameData() เพื่อเริ่ม payload สุดท้าย

    มัลแวร์นี้คือ Lumma Stealer ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, โปรแกรมแชต, และกระเป๋าเงินคริปโต โดยใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น:
    - memory injection
    - DLL side-loading
    - sandbox evasion
    - process injection ผ่าน MSBuild.exe และ aspnet_regiis.exe

    การวิเคราะห์มัลแวร์ทำได้ยาก เพราะมีการใช้ anti-debugging เช่น IsDebuggerPresent() และการบิดเบือนโครงสร้างโค้ด

    ข้อมูลจากข่าว
    - มัลแวร์ Lumma Stealer ถูกปลอมเป็น VPN ฟรีและ Minecraft mods บน GitHub
    - ใช้ไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านและคำแนะนำการติดตั้งเพื่อหลอกผู้ใช้
    - เมื่อเปิดไฟล์ Launch.exe จะถอดรหัส Base64 และสร้าง DLL ใน AppData
    - DLL ถูกโหลดแบบ dynamic และเรียกฟังก์ชันเพื่อเริ่ม payload
    - ใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น memory injection, DLL side-loading, sandbox evasion
    - ใช้ process injection ผ่าน MSBuild.exe และ aspnet_regiis.exe
    - มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, โปรแกรมแชต, และ crypto wallets
    - GitHub repository ที่ใช้ชื่อ SAMAIOEC เป็นแหล่งเผยแพร่หลัก

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - ห้ามดาวน์โหลด VPN ฟรีหรือ game mods จากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ โดยเฉพาะ GitHub ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ
    - ไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านและคำแนะนำติดตั้งซับซ้อนควรถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย
    - หลีกเลี่ยงการรันไฟล์ .exe จากแหล่งที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะในโฟลเดอร์ AppData
    - ควรใช้แอนติไวรัสที่มีระบบตรวจจับพฤติกรรม ไม่ใช่แค่การสแกนไฟล์
    - ตรวจสอบ Task Manager และระบบว่ามี MSBuild.exe หรือ aspnet_regiis.exe ทำงานผิดปกติหรือไม่
    - หากพบ DLL ในโฟลเดอร์ Roaming หรือ Temp ควรตรวจสอบทันที

    https://www.techradar.com/pro/criminals-are-using-a-dangerous-fake-free-vpn-to-spread-malware-via-github-heres-how-to-stay-safe
    VPN ฟรีที่ไม่ฟรี – มัลแวร์ขโมยข้อมูลแฝงใน GitHub นักวิจัยจาก Cyfirma พบแคมเปญมัลแวร์ใหม่ที่ใช้ GitHub เป็นช่องทางเผยแพร่ โดยปลอมตัวเป็นเครื่องมือยอดนิยม เช่น “Free VPN for PC” และ “Minecraft Skin Changer” เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านและคำแนะนำการติดตั้งอย่างละเอียด—ทำให้ดูน่าเชื่อถือ เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ Launch.exe ภายใน ZIP: - มัลแวร์จะถอดรหัสสตริง Base64 ที่ซ่อนด้วยข้อความภาษาฝรั่งเศส - สร้างไฟล์ DLL ชื่อ msvcp110.dll ในโฟลเดอร์ AppData - โหลด DLL แบบ dynamic และเรียกฟังก์ชัน GetGameData() เพื่อเริ่ม payload สุดท้าย มัลแวร์นี้คือ Lumma Stealer ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, โปรแกรมแชต, และกระเป๋าเงินคริปโต โดยใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น: - memory injection - DLL side-loading - sandbox evasion - process injection ผ่าน MSBuild.exe และ aspnet_regiis.exe การวิเคราะห์มัลแวร์ทำได้ยาก เพราะมีการใช้ anti-debugging เช่น IsDebuggerPresent() และการบิดเบือนโครงสร้างโค้ด ✅ ข้อมูลจากข่าว - มัลแวร์ Lumma Stealer ถูกปลอมเป็น VPN ฟรีและ Minecraft mods บน GitHub - ใช้ไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านและคำแนะนำการติดตั้งเพื่อหลอกผู้ใช้ - เมื่อเปิดไฟล์ Launch.exe จะถอดรหัส Base64 และสร้าง DLL ใน AppData - DLL ถูกโหลดแบบ dynamic และเรียกฟังก์ชันเพื่อเริ่ม payload - ใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น memory injection, DLL side-loading, sandbox evasion - ใช้ process injection ผ่าน MSBuild.exe และ aspnet_regiis.exe - มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, โปรแกรมแชต, และ crypto wallets - GitHub repository ที่ใช้ชื่อ SAMAIOEC เป็นแหล่งเผยแพร่หลัก ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - ห้ามดาวน์โหลด VPN ฟรีหรือ game mods จากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ โดยเฉพาะ GitHub ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ - ไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านและคำแนะนำติดตั้งซับซ้อนควรถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย - หลีกเลี่ยงการรันไฟล์ .exe จากแหล่งที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะในโฟลเดอร์ AppData - ควรใช้แอนติไวรัสที่มีระบบตรวจจับพฤติกรรม ไม่ใช่แค่การสแกนไฟล์ - ตรวจสอบ Task Manager และระบบว่ามี MSBuild.exe หรือ aspnet_regiis.exe ทำงานผิดปกติหรือไม่ - หากพบ DLL ในโฟลเดอร์ Roaming หรือ Temp ควรตรวจสอบทันที https://www.techradar.com/pro/criminals-are-using-a-dangerous-fake-free-vpn-to-spread-malware-via-github-heres-how-to-stay-safe
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • Intel Diamond Rapids – ซีพียูเซิร์ฟเวอร์ 192 คอร์ พร้อมรองรับ AI และงานหนักระดับองค์กร

    Intel เตรียมเปิดตัวซีพียูเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ Diamond Rapids ในปี 2026 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Oak Stream โดยใช้สถาปัตยกรรม Panther Cove และกระบวนการผลิต Intel 18A ที่ทันสมัยที่สุดของบริษัท

    รุ่นสูงสุดของ Diamond Rapids จะมี 4 compute tiles โดยแต่ละ tile มี 48 คอร์ รวมเป็น 192 คอร์ต่อซ็อกเก็ต และสามารถใช้งานแบบ quad-socket ได้ ทำให้เซิร์ฟเวอร์หนึ่งเครื่องมีคอร์รวมสูงสุดถึง 768 คอร์

    รองรับเทคโนโลยีใหม่:
    - ซ็อกเก็ตใหม่ LGA 9324
    - PCIe 6.0 และ CXL 3.0 สำหรับเชื่อมต่อ accelerator และ storage
    - รองรับ DDR5 แบบ 16 ช่อง พร้อม MRDIMM ที่ความเร็ว 12800MT/s
    - Instruction set ใหม่ Intel APX และ AMX engine รุ่นอัปเกรด
    - รองรับการประมวลผล AI inference ด้วย native FP8 และ TF32

    Intel ยังเตรียมเปิดตัว Jaguar Shores AI accelerator ควบคู่กัน เพื่อสร้างแพลตฟอร์มเซิร์ฟเวอร์ที่พร้อมใช้งานกับ AI เต็มรูปแบบ

    https://www.techradar.com/pro/want-a-quad-socket-server-with-768-cores-sure-intels-192-core-diamond-rapids-xeon-cpu-will-deliver-that-in-2026-but-i-wonder-whether-it-will-be-too-little-too-late
    Intel Diamond Rapids – ซีพียูเซิร์ฟเวอร์ 192 คอร์ พร้อมรองรับ AI และงานหนักระดับองค์กร 🏢 Intel เตรียมเปิดตัวซีพียูเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ Diamond Rapids ในปี 2026 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Oak Stream โดยใช้สถาปัตยกรรม Panther Cove และกระบวนการผลิต Intel 18A ที่ทันสมัยที่สุดของบริษัท รุ่นสูงสุดของ Diamond Rapids จะมี 4 compute tiles โดยแต่ละ tile มี 48 คอร์ รวมเป็น 192 คอร์ต่อซ็อกเก็ต และสามารถใช้งานแบบ quad-socket ได้ ทำให้เซิร์ฟเวอร์หนึ่งเครื่องมีคอร์รวมสูงสุดถึง 768 คอร์ รองรับเทคโนโลยีใหม่: - ซ็อกเก็ตใหม่ LGA 9324 - PCIe 6.0 และ CXL 3.0 สำหรับเชื่อมต่อ accelerator และ storage - รองรับ DDR5 แบบ 16 ช่อง พร้อม MRDIMM ที่ความเร็ว 12800MT/s - Instruction set ใหม่ Intel APX และ AMX engine รุ่นอัปเกรด - รองรับการประมวลผล AI inference ด้วย native FP8 และ TF32 Intel ยังเตรียมเปิดตัว Jaguar Shores AI accelerator ควบคู่กัน เพื่อสร้างแพลตฟอร์มเซิร์ฟเวอร์ที่พร้อมใช้งานกับ AI เต็มรูปแบบ https://www.techradar.com/pro/want-a-quad-socket-server-with-768-cores-sure-intels-192-core-diamond-rapids-xeon-cpu-will-deliver-that-in-2026-but-i-wonder-whether-it-will-be-too-little-too-late
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • LG Electronics เตรียมผลิตเครื่อง Hybrid Bonding – ปูทางสู่ยุค HBM4 และ AI ระดับโลก

    LG Electronics ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและโซลูชัน B2B เช่น HVAC และหุ่นยนต์ กำลังขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ โดยพัฒนาเครื่อง Hybrid Bonding สำหรับการประกอบหน่วยความจำ HBM (High Bandwidth Memory) รุ่นใหม่

    Hybrid Bonding คือเทคนิคการเชื่อมต่อชั้น wafer โดยไม่ใช้การบัดกรีแบบเดิม แต่ใช้การกดแผ่นทองแดงที่ถูกขัดเรียบระดับนาโนเข้าด้วยกันที่อุณหภูมิห้อง ทำให้ได้การเชื่อมต่อที่บางกว่า เย็นกว่า และเร็วกว่าแบบ Thermal Compression Bonding

    เทคโนโลยีนี้จำเป็นสำหรับการผลิต HBM4 และ HBM4E ที่มีการซ้อนชั้น DRAM มากกว่า 12 ชั้น ซึ่งวิธีเดิมไม่สามารถรองรับได้อีกต่อไป

    LG ตั้งเป้าส่งมอบเครื่องผลิตจริงภายในปี 2028 โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Seoul National University และเปิดรับนักวิจัยระดับปริญญาเอกจำนวนมากเพื่อเร่งการพัฒนา

    ปัจจุบันมีเพียงบริษัท BESI (เนเธอร์แลนด์) และ Applied Materials (สหรัฐฯ) ที่ผลิตเครื่อง Hybrid Bonding เชิงพาณิชย์ แต่ยังไม่มีฐานในเกาหลีใต้ ทำให้ LG มีโอกาสเป็นผู้เล่นรายแรกในประเทศ

    หาก LG ทำสำเร็จตามแผน เครื่องรุ่นแรกอาจพร้อมใช้งานทันกับการผลิต HBM4E ของ SK hynix และการเปิดสายผลิต HBM4 ของ Samsung ในปี 2028

    ข้อมูลจากข่าว
    - LG Electronics พัฒนาเครื่อง Hybrid Bonding สำหรับการผลิต HBM รุ่นใหม่
    - Hybrid Bonding ใช้การกดแผ่นทองแดงเรียบเข้าด้วยกันที่อุณหภูมิห้อง
    - ให้ผลลัพธ์ที่บางกว่า เย็นกว่า และเร็วกว่า Thermal Compression Bonding
    - จำเป็นสำหรับการผลิต HBM4 และ HBM4E ที่ซ้อนชั้น DRAM มากกว่า 12 ชั้น
    - LG ตั้งเป้าส่งมอบเครื่องผลิตจริงภายในปี 2028
    - ร่วมมือกับ Seoul National University และรับนักวิจัยระดับ PhD
    - ปัจจุบันมีเพียง BESI และ Applied Materials ที่ผลิตเครื่องแบบนี้เชิงพาณิชย์
    - LG อาจเป็นผู้ผลิตรายแรกในเกาหลีใต้ที่เข้าสู่ตลาดนี้
    - เครื่องรุ่นแรกอาจพร้อมใช้งานทันกับการผลิต HBM4E ของ SK hynix และ Samsung

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - LG ยังอยู่ในขั้นพัฒนาเบื้องต้น ต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์
    - การแข่งขันกับบริษัทต่างชาติที่มีประสบการณ์สูงอาจเป็นความท้าทาย
    - หากไม่สามารถพัฒนาเครื่องให้ตรงตามมาตรฐานอุตสาหกรรม อาจเสียโอกาสทางธุรกิจ
    - การพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่ต้องมีการทดสอบความเสถียรและความแม่นยำอย่างเข้มงวด
    - ตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์มีความผันผวนสูง ต้องมีแผนธุรกิจที่ยืดหยุ่น

    https://www.techpowerup.com/338913/lg-electronics-to-enter-semiconductor-equipment-market-with-hybrid-bonding
    LG Electronics เตรียมผลิตเครื่อง Hybrid Bonding – ปูทางสู่ยุค HBM4 และ AI ระดับโลก LG Electronics ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและโซลูชัน B2B เช่น HVAC และหุ่นยนต์ กำลังขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ โดยพัฒนาเครื่อง Hybrid Bonding สำหรับการประกอบหน่วยความจำ HBM (High Bandwidth Memory) รุ่นใหม่ Hybrid Bonding คือเทคนิคการเชื่อมต่อชั้น wafer โดยไม่ใช้การบัดกรีแบบเดิม แต่ใช้การกดแผ่นทองแดงที่ถูกขัดเรียบระดับนาโนเข้าด้วยกันที่อุณหภูมิห้อง ทำให้ได้การเชื่อมต่อที่บางกว่า เย็นกว่า และเร็วกว่าแบบ Thermal Compression Bonding เทคโนโลยีนี้จำเป็นสำหรับการผลิต HBM4 และ HBM4E ที่มีการซ้อนชั้น DRAM มากกว่า 12 ชั้น ซึ่งวิธีเดิมไม่สามารถรองรับได้อีกต่อไป LG ตั้งเป้าส่งมอบเครื่องผลิตจริงภายในปี 2028 โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Seoul National University และเปิดรับนักวิจัยระดับปริญญาเอกจำนวนมากเพื่อเร่งการพัฒนา ปัจจุบันมีเพียงบริษัท BESI (เนเธอร์แลนด์) และ Applied Materials (สหรัฐฯ) ที่ผลิตเครื่อง Hybrid Bonding เชิงพาณิชย์ แต่ยังไม่มีฐานในเกาหลีใต้ ทำให้ LG มีโอกาสเป็นผู้เล่นรายแรกในประเทศ หาก LG ทำสำเร็จตามแผน เครื่องรุ่นแรกอาจพร้อมใช้งานทันกับการผลิต HBM4E ของ SK hynix และการเปิดสายผลิต HBM4 ของ Samsung ในปี 2028 ✅ ข้อมูลจากข่าว - LG Electronics พัฒนาเครื่อง Hybrid Bonding สำหรับการผลิต HBM รุ่นใหม่ - Hybrid Bonding ใช้การกดแผ่นทองแดงเรียบเข้าด้วยกันที่อุณหภูมิห้อง - ให้ผลลัพธ์ที่บางกว่า เย็นกว่า และเร็วกว่า Thermal Compression Bonding - จำเป็นสำหรับการผลิต HBM4 และ HBM4E ที่ซ้อนชั้น DRAM มากกว่า 12 ชั้น - LG ตั้งเป้าส่งมอบเครื่องผลิตจริงภายในปี 2028 - ร่วมมือกับ Seoul National University และรับนักวิจัยระดับ PhD - ปัจจุบันมีเพียง BESI และ Applied Materials ที่ผลิตเครื่องแบบนี้เชิงพาณิชย์ - LG อาจเป็นผู้ผลิตรายแรกในเกาหลีใต้ที่เข้าสู่ตลาดนี้ - เครื่องรุ่นแรกอาจพร้อมใช้งานทันกับการผลิต HBM4E ของ SK hynix และ Samsung ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - LG ยังอยู่ในขั้นพัฒนาเบื้องต้น ต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ - การแข่งขันกับบริษัทต่างชาติที่มีประสบการณ์สูงอาจเป็นความท้าทาย - หากไม่สามารถพัฒนาเครื่องให้ตรงตามมาตรฐานอุตสาหกรรม อาจเสียโอกาสทางธุรกิจ - การพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่ต้องมีการทดสอบความเสถียรและความแม่นยำอย่างเข้มงวด - ตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์มีความผันผวนสูง ต้องมีแผนธุรกิจที่ยืดหยุ่น https://www.techpowerup.com/338913/lg-electronics-to-enter-semiconductor-equipment-market-with-hybrid-bonding
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    LG Electronics to Enter Semiconductor Equipment Market with Hybrid Bonding
    LG Electronics has quietly launched a plan to become a semiconductor equipment maker. Its Production Technology Research Institute has begun developing a hybrid bonding machine tailored for next-generation high bandwidth memory (HBM), with an internal goal of shipping production units by 2028. Hybri...
    0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • HoloMem ริบบิ้นฮอโลกราฟิก – เก็บข้อมูล 200TB นาน 50 ปี ใช้พลังงานเป็นศูนย์

    HoloMem เปิดตัวเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบใหม่ที่ใช้ริบบิ้นโพลีเมอร์บางเพียง 120 ไมครอน ซึ่งสามารถเขียนข้อมูลแบบฮอโลกราฟิกได้หลายชั้นในรูปแบบ WORM (Write Once, Read Many) โดยใช้เลเซอร์ไดโอดราคาถูกเพียง $5 เป็นหัวอ่าน/เขียน

    จุดเด่นของ HoloMem:
    - ความจุสูงถึง 200TB ต่อแผ่น (มากกว่า LTO-10 ถึง 11 เท่า)
    - อายุการใช้งาน 50 ปี (มากกว่าเทปแม่เหล็กถึง 10 เท่า)
    - ใช้พลังงานเป็นศูนย์เมื่อเก็บข้อมูลไว้เฉย ๆ
    - ขนาดแผ่นเท่ากับ LTO สามารถใช้กับหุ่นยนต์จัดการเทปเดิมได้ทันที
    - ใช้ชิ้นส่วนราคาถูกและผลิตง่าย เช่น โพลีเมอร์ไวแสงหนา 16 ไมครอน
    - ความยาวริบบิ้นเพียง 100 เมตร (เทียบกับเทปแม่เหล็กที่ยาว 1,000 เมตร)

    HoloMem ยังออกแบบให้สามารถติดตั้งร่วมกับระบบจัดเก็บข้อมูลเดิมได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์มากนัก ลดแรงเสียดทานในการเปลี่ยนผ่าน และได้รับการสนับสนุนจาก Intel Ignite และ Innovate UK

    แม้ยังไม่มีวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ TechRe Consultants ในสหราชอาณาจักรจะเริ่มทดลองใช้งานจริงในศูนย์ข้อมูลเพื่อทดสอบความทนทานและประสิทธิภาพ

    ข้อมูลจากข่าว
    - HoloMem พัฒนาเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบฮอโลกราฟิกบนริบบิ้นโพลีเมอร์
    - ความจุสูงถึง 200TB ต่อแผ่น และอายุการใช้งาน 50 ปี
    - ใช้พลังงานเป็นศูนย์เมื่อเก็บข้อมูลไว้เฉย ๆ
    - ขนาดเท่ากับ LTO สามารถใช้กับระบบจัดการเทปเดิมได้ทันที
    - ใช้เลเซอร์ไดโอดราคาถูก ($5) และวัสดุโพลีเมอร์ที่ผลิตง่าย
    - ความยาวริบบิ้นเพียง 100 เมตร เทียบกับเทปแม่เหล็ก 1,000 เมตร
    - ทำงานในรูปแบบ WORM (Write Once, Read Many)
    - ได้รับการสนับสนุนจาก Intel Ignite และ Innovate UK
    - TechRe Consultants จะเริ่มทดลองใช้งานในศูนย์ข้อมูลจริง

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - เทคโนโลยียังอยู่ในขั้นต้น ไม่มีวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
    - ต้องพิสูจน์ความทนทานและความเสถียรในสภาพแวดล้อมจริงก่อนใช้งานเชิงพาณิชย์
    - แม้จะใช้ร่วมกับระบบเดิมได้ แต่การเปลี่ยนผ่านต้องมีการฝึกอบรมและปรับกระบวนการ
    - การจัดเก็บแบบ WORM ไม่สามารถเขียนซ้ำได้ อาจไม่เหมาะกับงานที่ต้องแก้ไขข้อมูล
    - คู่แข่งอย่าง Cerabyte และ Microsoft Project Silica ยังมีแนวทางที่ต่างกันและอาจสร้างแรงกดดันด้านนวัตกรรม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/holographic-ribbon-aims-to-oust-magnetic-tape-with-50-year-life-span-and-200tb-capacity-per-cartridge-holomem-says-optical-ribbon-based-carts-work-with-some-components-of-existing-systems-reducing-fricition
    HoloMem ริบบิ้นฮอโลกราฟิก – เก็บข้อมูล 200TB นาน 50 ปี ใช้พลังงานเป็นศูนย์ HoloMem เปิดตัวเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบใหม่ที่ใช้ริบบิ้นโพลีเมอร์บางเพียง 120 ไมครอน ซึ่งสามารถเขียนข้อมูลแบบฮอโลกราฟิกได้หลายชั้นในรูปแบบ WORM (Write Once, Read Many) โดยใช้เลเซอร์ไดโอดราคาถูกเพียง $5 เป็นหัวอ่าน/เขียน จุดเด่นของ HoloMem: - ความจุสูงถึง 200TB ต่อแผ่น (มากกว่า LTO-10 ถึง 11 เท่า) - อายุการใช้งาน 50 ปี (มากกว่าเทปแม่เหล็กถึง 10 เท่า) - ใช้พลังงานเป็นศูนย์เมื่อเก็บข้อมูลไว้เฉย ๆ - ขนาดแผ่นเท่ากับ LTO สามารถใช้กับหุ่นยนต์จัดการเทปเดิมได้ทันที - ใช้ชิ้นส่วนราคาถูกและผลิตง่าย เช่น โพลีเมอร์ไวแสงหนา 16 ไมครอน - ความยาวริบบิ้นเพียง 100 เมตร (เทียบกับเทปแม่เหล็กที่ยาว 1,000 เมตร) HoloMem ยังออกแบบให้สามารถติดตั้งร่วมกับระบบจัดเก็บข้อมูลเดิมได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์มากนัก ลดแรงเสียดทานในการเปลี่ยนผ่าน และได้รับการสนับสนุนจาก Intel Ignite และ Innovate UK แม้ยังไม่มีวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ TechRe Consultants ในสหราชอาณาจักรจะเริ่มทดลองใช้งานจริงในศูนย์ข้อมูลเพื่อทดสอบความทนทานและประสิทธิภาพ ✅ ข้อมูลจากข่าว - HoloMem พัฒนาเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบฮอโลกราฟิกบนริบบิ้นโพลีเมอร์ - ความจุสูงถึง 200TB ต่อแผ่น และอายุการใช้งาน 50 ปี - ใช้พลังงานเป็นศูนย์เมื่อเก็บข้อมูลไว้เฉย ๆ - ขนาดเท่ากับ LTO สามารถใช้กับระบบจัดการเทปเดิมได้ทันที - ใช้เลเซอร์ไดโอดราคาถูก ($5) และวัสดุโพลีเมอร์ที่ผลิตง่าย - ความยาวริบบิ้นเพียง 100 เมตร เทียบกับเทปแม่เหล็ก 1,000 เมตร - ทำงานในรูปแบบ WORM (Write Once, Read Many) - ได้รับการสนับสนุนจาก Intel Ignite และ Innovate UK - TechRe Consultants จะเริ่มทดลองใช้งานในศูนย์ข้อมูลจริง ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - เทคโนโลยียังอยู่ในขั้นต้น ไม่มีวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ - ต้องพิสูจน์ความทนทานและความเสถียรในสภาพแวดล้อมจริงก่อนใช้งานเชิงพาณิชย์ - แม้จะใช้ร่วมกับระบบเดิมได้ แต่การเปลี่ยนผ่านต้องมีการฝึกอบรมและปรับกระบวนการ - การจัดเก็บแบบ WORM ไม่สามารถเขียนซ้ำได้ อาจไม่เหมาะกับงานที่ต้องแก้ไขข้อมูล - คู่แข่งอย่าง Cerabyte และ Microsoft Project Silica ยังมีแนวทางที่ต่างกันและอาจสร้างแรงกดดันด้านนวัตกรรม https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/holographic-ribbon-aims-to-oust-magnetic-tape-with-50-year-life-span-and-200tb-capacity-per-cartridge-holomem-says-optical-ribbon-based-carts-work-with-some-components-of-existing-systems-reducing-fricition
    0 Comments 0 Shares 18 Views 0 Reviews
  • Jensen Huang เตือนว่า AI อาจทำให้คนตกงาน – ถ้าโลกหมดไอเดีย

    Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ให้สัมภาษณ์กับ CNN โดยตอบโต้คำเตือนจาก Dario Amodei ซีอีโอของ Anthropic ที่เคยกล่าวว่า AI อาจทำให้ครึ่งหนึ่งของตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นหายไป และอัตราการว่างงานในประเทศอาจพุ่งถึง 20% ภายใน 5 ปี

    Huang ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ แต่เน้นว่า “ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างสรรค์ของมนุษย์” หากโลกยังมีไอเดียใหม่ ๆ เทคโนโลยีก็จะสร้างงานใหม่แทนที่งานเดิมได้เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เช่น การเปลี่ยนจากอาชีพดูแลม้าไปเป็นช่างซ่อมรถยนต์

    เขายังกล่าวว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่เข้าถึงง่ายที่สุดในประวัติศาสตร์ และสามารถช่วยให้คนที่ไม่มีทักษะด้านเทคนิคสามารถสร้างสิ่งใหม่ได้ โดยแม้แต่บทบาทของเขาเองก็เปลี่ยนไปเพราะ AI

    ผลสำรวจจากหลายองค์กรก็สะท้อนความกังวลนี้:
    - Adecco Group พบว่า 41% ของผู้นำองค์กรคาดว่า AI จะลดจำนวนพนักงานในอีก 5 ปี
    - World Economic Forum รายงานว่า 41% ของนายจ้างมีแผนลดทีมงานภายในปี 2030
    - การสำรวจร่วมของ Duke University และธนาคารกลางสหรัฐฯ พบว่าองค์กรใหญ่ในอเมริกากว่า 50% เตรียมใช้ AI แทนงานประจำ เช่น การจัดการใบแจ้งหนี้

    Huang ย้ำว่า “ทุกอาชีพจะได้รับผลกระทบจาก AI” แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดการว่างงานครั้งใหญ่ หากสังคมยังคงขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม

    ข้อมูลจากข่าว
    - Jensen Huang เตือนว่า AI อาจทำให้คนตกงาน หากโลกหมดไอเดียใหม่ ๆ
    - ตอบโต้คำเตือนจาก Dario Amodei ที่คาดว่า AI จะทำให้ว่างงาน 20% ภายใน 5 ปี
    - Huang เชื่อว่า AI จะสร้างงานใหม่ หากมนุษย์ยังคงสร้างสรรค์
    - AI เป็นเทคโนโลยีที่เข้าถึงง่ายที่สุดในประวัติศาสตร์
    - บทบาทของ Huang เองก็เปลี่ยนไปเพราะ AI
    - ผลสำรวจจาก Adecco Group และ WEF พบว่า 41% ขององค์กรมีแผนลดพนักงานเพราะ AI
    - การสำรวจจาก Duke University พบว่าองค์กรใหญ่จะใช้ AI แทนงานประจำในหลายด้าน

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - หากมนุษย์หยุดสร้างสรรค์ AI อาจทำให้เกิดการว่างงานครั้งใหญ่
    - งานระดับเริ่มต้นมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทนที่ด้วย AI
    - การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างแรงงานอย่างรวดเร็ว
    - องค์กรต้องเตรียมแผน reskill และ upskill พนักงานเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
    - การเปลี่ยนผ่านต้องมีนโยบายสังคมรองรับ มิฉะนั้นอาจเกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/jensen-huang-adds-voice-to-those-warning-of-ai-induced-job-losses-but-only-if-the-world-runs-out-of-ideas
    Jensen Huang เตือนว่า AI อาจทำให้คนตกงาน – ถ้าโลกหมดไอเดีย Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ให้สัมภาษณ์กับ CNN โดยตอบโต้คำเตือนจาก Dario Amodei ซีอีโอของ Anthropic ที่เคยกล่าวว่า AI อาจทำให้ครึ่งหนึ่งของตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นหายไป และอัตราการว่างงานในประเทศอาจพุ่งถึง 20% ภายใน 5 ปี Huang ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ แต่เน้นว่า “ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างสรรค์ของมนุษย์” หากโลกยังมีไอเดียใหม่ ๆ เทคโนโลยีก็จะสร้างงานใหม่แทนที่งานเดิมได้เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เช่น การเปลี่ยนจากอาชีพดูแลม้าไปเป็นช่างซ่อมรถยนต์ เขายังกล่าวว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่เข้าถึงง่ายที่สุดในประวัติศาสตร์ และสามารถช่วยให้คนที่ไม่มีทักษะด้านเทคนิคสามารถสร้างสิ่งใหม่ได้ โดยแม้แต่บทบาทของเขาเองก็เปลี่ยนไปเพราะ AI ผลสำรวจจากหลายองค์กรก็สะท้อนความกังวลนี้: - Adecco Group พบว่า 41% ของผู้นำองค์กรคาดว่า AI จะลดจำนวนพนักงานในอีก 5 ปี - World Economic Forum รายงานว่า 41% ของนายจ้างมีแผนลดทีมงานภายในปี 2030 - การสำรวจร่วมของ Duke University และธนาคารกลางสหรัฐฯ พบว่าองค์กรใหญ่ในอเมริกากว่า 50% เตรียมใช้ AI แทนงานประจำ เช่น การจัดการใบแจ้งหนี้ Huang ย้ำว่า “ทุกอาชีพจะได้รับผลกระทบจาก AI” แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดการว่างงานครั้งใหญ่ หากสังคมยังคงขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ✅ ข้อมูลจากข่าว - Jensen Huang เตือนว่า AI อาจทำให้คนตกงาน หากโลกหมดไอเดียใหม่ ๆ - ตอบโต้คำเตือนจาก Dario Amodei ที่คาดว่า AI จะทำให้ว่างงาน 20% ภายใน 5 ปี - Huang เชื่อว่า AI จะสร้างงานใหม่ หากมนุษย์ยังคงสร้างสรรค์ - AI เป็นเทคโนโลยีที่เข้าถึงง่ายที่สุดในประวัติศาสตร์ - บทบาทของ Huang เองก็เปลี่ยนไปเพราะ AI - ผลสำรวจจาก Adecco Group และ WEF พบว่า 41% ขององค์กรมีแผนลดพนักงานเพราะ AI - การสำรวจจาก Duke University พบว่าองค์กรใหญ่จะใช้ AI แทนงานประจำในหลายด้าน ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - หากมนุษย์หยุดสร้างสรรค์ AI อาจทำให้เกิดการว่างงานครั้งใหญ่ - งานระดับเริ่มต้นมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทนที่ด้วย AI - การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างแรงงานอย่างรวดเร็ว - องค์กรต้องเตรียมแผน reskill และ upskill พนักงานเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง - การเปลี่ยนผ่านต้องมีนโยบายสังคมรองรับ มิฉะนั้นอาจเกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/jensen-huang-adds-voice-to-those-warning-of-ai-induced-job-losses-but-only-if-the-world-runs-out-of-ideas
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • หลังจากเงียบหายไปนานกว่า 30 ปี Commodore กลับมาอีกครั้งภายใต้การบริหารใหม่โดยกลุ่มผู้หลงใหลในเทคโนโลยีย้อนยุค นำโดย Christian ‘Peri Fractic’ Simpson ผู้ก่อตั้งช่อง Retro Recipes ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO ชั่วคราวของบริษัท

    Commodore 64 Ultimate เป็นคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่ไม่ใช่การจำลองด้วยซอฟต์แวร์ แต่ใช้ชิป AMD Artix-7 FPGA เพื่อสร้างเมนบอร์ดแบบดั้งเดิมขึ้นมาใหม่ ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับเกม ตลับ และอุปกรณ์เสริมกว่า 10,000 รายการจากยุค 80s/90s ได้จริง

    มีให้เลือก 3 รุ่น:
    - BASIC Beige ($299): รุ่นพื้นฐาน ไม่มีไฟตกแต่ง
    - Starlight Edition ($349): เคสโปร่งแสง พร้อมคีย์บอร์ดเรืองแสงแบบโต้ตอบเสียง
    - Founders Edition ($499): เคสโปร่งแสงสีอำพัน พร้อมของสะสมทองคำ 24k และหมายเลขซีเรียลพิเศษ

    สเปกเด่น:
    - RAM 128MB DDR2, Flash 16MB
    - รองรับไฟล์ .D64, .TAP, .PRG ฯลฯ
    - วิดีโอ HDMI 1080p, S-Video, RGB
    - เสียง SID แท้ + FPGA emulation
    - พอร์ตครบ: USB-A, USB-C, MicroSD, Ethernet, Wi-Fi, Cartridge, Joystick ฯลฯ
    - คีย์บอร์ดกลไก Gateron Pro 3.0 พร้อมไฟ RGB 70 จุด

    แถมฟรี:
    - คู่มือแบบเข้าใจง่าย
    - USB Cassette Drive 64GB พร้อมเกมคลาสสิกกว่า 50 เกม
    - สติกเกอร์และของสะสม

    แม้จะเปิดให้พรีออเดอร์แล้ว แต่การจัดส่งจะเริ่มเร็วที่สุดในเดือนตุลาคม และยังมีความไม่แน่นอนเรื่องการซื้อกิจการ Commodore ที่ยังไม่ปิดดีลอย่างสมบูรณ์

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/the-commodore-64-ultimate-computer-is-the-companys-first-hardware-release-in-over-30-years-pre-orders-start-at-usd299
    หลังจากเงียบหายไปนานกว่า 30 ปี Commodore กลับมาอีกครั้งภายใต้การบริหารใหม่โดยกลุ่มผู้หลงใหลในเทคโนโลยีย้อนยุค นำโดย Christian ‘Peri Fractic’ Simpson ผู้ก่อตั้งช่อง Retro Recipes ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO ชั่วคราวของบริษัท Commodore 64 Ultimate เป็นคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่ไม่ใช่การจำลองด้วยซอฟต์แวร์ แต่ใช้ชิป AMD Artix-7 FPGA เพื่อสร้างเมนบอร์ดแบบดั้งเดิมขึ้นมาใหม่ ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับเกม ตลับ และอุปกรณ์เสริมกว่า 10,000 รายการจากยุค 80s/90s ได้จริง มีให้เลือก 3 รุ่น: - BASIC Beige ($299): รุ่นพื้นฐาน ไม่มีไฟตกแต่ง - Starlight Edition ($349): เคสโปร่งแสง พร้อมคีย์บอร์ดเรืองแสงแบบโต้ตอบเสียง - Founders Edition ($499): เคสโปร่งแสงสีอำพัน พร้อมของสะสมทองคำ 24k และหมายเลขซีเรียลพิเศษ สเปกเด่น: - RAM 128MB DDR2, Flash 16MB - รองรับไฟล์ .D64, .TAP, .PRG ฯลฯ - วิดีโอ HDMI 1080p, S-Video, RGB - เสียง SID แท้ + FPGA emulation - พอร์ตครบ: USB-A, USB-C, MicroSD, Ethernet, Wi-Fi, Cartridge, Joystick ฯลฯ - คีย์บอร์ดกลไก Gateron Pro 3.0 พร้อมไฟ RGB 70 จุด แถมฟรี: - คู่มือแบบเข้าใจง่าย - USB Cassette Drive 64GB พร้อมเกมคลาสสิกกว่า 50 เกม - สติกเกอร์และของสะสม แม้จะเปิดให้พรีออเดอร์แล้ว แต่การจัดส่งจะเริ่มเร็วที่สุดในเดือนตุลาคม และยังมีความไม่แน่นอนเรื่องการซื้อกิจการ Commodore ที่ยังไม่ปิดดีลอย่างสมบูรณ์ https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/the-commodore-64-ultimate-computer-is-the-companys-first-hardware-release-in-over-30-years-pre-orders-start-at-usd299
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    The Commodore 64 Ultimate computer is the company's first hardware release in over 30 years — pre-orders start at $299
    No software emulation, this 'faithful recreation of the original motherboard' runs on an AMD Artix 7 FPGA.
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • ยิ่งเก่ง ยิ่งช้า? AI coding assistant อาจทำให้โปรแกรมเมอร์มือเก๋าทำงานช้าลง

    องค์กรวิจัยไม่แสวงกำไร METR (Model Evaluation & Threat Research) ได้ทำการศึกษาผลกระทบของ AI coding tools ต่อประสิทธิภาพของนักพัฒนา โดยติดตามนักพัฒนาโอเพ่นซอร์สที่มีประสบการณ์ 16 คน ขณะทำงานกับโค้ดที่พวกเขาคุ้นเคยมากกว่า 246 งานจริง ตั้งแต่การแก้บั๊กไปจนถึงการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่

    ก่อนเริ่มงาน นักพัฒนาคาดว่า AI จะช่วยให้พวกเขาทำงานเร็วขึ้น 24% และหลังจบงานก็ยังเชื่อว่าตัวเองเร็วขึ้น 20% เมื่อใช้ AI แต่ข้อมูลจริงกลับพบว่า พวกเขาใช้เวลานานขึ้นถึง 19% เมื่อใช้ AI coding assistant

    สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความล่าช้า ได้แก่:
    - ความคาดหวังเกินจริงต่อความสามารถของ AI
    - โค้ดที่ซับซ้อนและมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่ AI จะเข้าใจบริบทได้ดี
    - ความแม่นยำของโค้ดที่ AI สร้างยังไม่ดีพอ โดยนักพัฒนายอมรับโค้ดที่ AI เสนอเพียง 44%
    - ต้องเสียเวลาในการตรวจสอบและแก้ไขโค้ดที่ AI สร้าง
    - AI ไม่สามารถเข้าใจบริบทแฝงในโปรเจกต์ขนาดใหญ่ได้ดี

    แม้ผลลัพธ์จะชี้ว่า AI ทำให้ช้าลง แต่ผู้เข้าร่วมหลายคนยังคงใช้ AI ต่อไป เพราะรู้สึกว่างานเขียนโค้ดมีความเครียดน้อยลง และกลายเป็นกระบวนการที่ “ไม่ต้องใช้พลังสมองมาก” เหมือนเดิม

    ข้อมูลจากข่าว
    - METR ศึกษานักพัฒนา 16 คนกับงานจริง 246 งานในโค้ดที่คุ้นเคย
    - นักพัฒนาคาดว่า AI จะช่วยให้เร็วขึ้น 24% แต่จริง ๆ แล้วช้าลง 19%
    - ใช้ AI coding tools เช่น Cursor Pro ร่วมกับ Claude 3.5 หรือ 3.7 Sonnet
    - นักพัฒนายอมรับโค้ดจาก AI เพียง 44% และต้องใช้เวลาตรวจสอบมาก
    - AI เข้าใจบริบทของโค้ดขนาดใหญ่ได้ไม่ดี ทำให้เสนอคำตอบผิด
    - การศึกษามีความเข้มงวดและไม่มีอคติจากผู้วิจัย
    - ผู้เข้าร่วมได้รับค่าตอบแทน $150 ต่อชั่วโมงเพื่อความจริงจัง
    - แม้จะช้าลง แต่หลายคนยังใช้ AI เพราะช่วยลดความเครียดในการทำงาน

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - AI coding tools อาจไม่เหมาะกับนักพัฒนาที่มีประสบการณ์สูงและทำงานกับโค้ดที่ซับซ้อน
    - ความคาดหวังเกินจริงต่อ AI อาจทำให้เสียเวลาแทนที่จะได้ประโยชน์
    - การใช้ AI กับโปรเจกต์ขนาดใหญ่ต้องระวังเรื่องบริบทที่ AI อาจเข้าใจผิด
    - การตรวจสอบและแก้ไขโค้ดจาก AI อาจใช้เวลามากกว่าการเขียนเอง
    - ผลการศึกษานี้ไม่ควรนำไปใช้กับนักพัฒนาทุกระดับ เพราะ AI อาจมีประโยชน์มากกว่าสำหรับผู้เริ่มต้นหรือโปรเจกต์ขนาดเล็ก

    https://www.techspot.com/news/108651-experienced-developers-working-ai-tools-take-longer-complete.html
    ยิ่งเก่ง ยิ่งช้า? AI coding assistant อาจทำให้โปรแกรมเมอร์มือเก๋าทำงานช้าลง องค์กรวิจัยไม่แสวงกำไร METR (Model Evaluation & Threat Research) ได้ทำการศึกษาผลกระทบของ AI coding tools ต่อประสิทธิภาพของนักพัฒนา โดยติดตามนักพัฒนาโอเพ่นซอร์สที่มีประสบการณ์ 16 คน ขณะทำงานกับโค้ดที่พวกเขาคุ้นเคยมากกว่า 246 งานจริง ตั้งแต่การแก้บั๊กไปจนถึงการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ก่อนเริ่มงาน นักพัฒนาคาดว่า AI จะช่วยให้พวกเขาทำงานเร็วขึ้น 24% และหลังจบงานก็ยังเชื่อว่าตัวเองเร็วขึ้น 20% เมื่อใช้ AI แต่ข้อมูลจริงกลับพบว่า พวกเขาใช้เวลานานขึ้นถึง 19% เมื่อใช้ AI coding assistant สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความล่าช้า ได้แก่: - ความคาดหวังเกินจริงต่อความสามารถของ AI - โค้ดที่ซับซ้อนและมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่ AI จะเข้าใจบริบทได้ดี - ความแม่นยำของโค้ดที่ AI สร้างยังไม่ดีพอ โดยนักพัฒนายอมรับโค้ดที่ AI เสนอเพียง 44% - ต้องเสียเวลาในการตรวจสอบและแก้ไขโค้ดที่ AI สร้าง - AI ไม่สามารถเข้าใจบริบทแฝงในโปรเจกต์ขนาดใหญ่ได้ดี แม้ผลลัพธ์จะชี้ว่า AI ทำให้ช้าลง แต่ผู้เข้าร่วมหลายคนยังคงใช้ AI ต่อไป เพราะรู้สึกว่างานเขียนโค้ดมีความเครียดน้อยลง และกลายเป็นกระบวนการที่ “ไม่ต้องใช้พลังสมองมาก” เหมือนเดิม ✅ ข้อมูลจากข่าว - METR ศึกษานักพัฒนา 16 คนกับงานจริง 246 งานในโค้ดที่คุ้นเคย - นักพัฒนาคาดว่า AI จะช่วยให้เร็วขึ้น 24% แต่จริง ๆ แล้วช้าลง 19% - ใช้ AI coding tools เช่น Cursor Pro ร่วมกับ Claude 3.5 หรือ 3.7 Sonnet - นักพัฒนายอมรับโค้ดจาก AI เพียง 44% และต้องใช้เวลาตรวจสอบมาก - AI เข้าใจบริบทของโค้ดขนาดใหญ่ได้ไม่ดี ทำให้เสนอคำตอบผิด - การศึกษามีความเข้มงวดและไม่มีอคติจากผู้วิจัย - ผู้เข้าร่วมได้รับค่าตอบแทน $150 ต่อชั่วโมงเพื่อความจริงจัง - แม้จะช้าลง แต่หลายคนยังใช้ AI เพราะช่วยลดความเครียดในการทำงาน ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - AI coding tools อาจไม่เหมาะกับนักพัฒนาที่มีประสบการณ์สูงและทำงานกับโค้ดที่ซับซ้อน - ความคาดหวังเกินจริงต่อ AI อาจทำให้เสียเวลาแทนที่จะได้ประโยชน์ - การใช้ AI กับโปรเจกต์ขนาดใหญ่ต้องระวังเรื่องบริบทที่ AI อาจเข้าใจผิด - การตรวจสอบและแก้ไขโค้ดจาก AI อาจใช้เวลามากกว่าการเขียนเอง - ผลการศึกษานี้ไม่ควรนำไปใช้กับนักพัฒนาทุกระดับ เพราะ AI อาจมีประโยชน์มากกว่าสำหรับผู้เริ่มต้นหรือโปรเจกต์ขนาดเล็ก https://www.techspot.com/news/108651-experienced-developers-working-ai-tools-take-longer-complete.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Study shows AI coding assistants actually slow down experienced developers
    The research, conducted by the non-profit Model Evaluation & Threat Research (METR), set out to measure the real-world impact of advanced AI tools on software development. Over...
    0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • MIT พัฒนาอุปกรณ์ฝังใต้ผิวหนัง ปล่อยฮอร์โมนช่วยชีวิตเมื่อระดับน้ำตาลตก

    ทีมวิศวกรจาก MIT ได้สร้างอุปกรณ์ขนาดเท่าเหรียญที่ฝังใต้ผิวหนัง ซึ่งสามารถปล่อย glucagon—ฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด—ได้ทันทีเมื่อเกิดภาวะ hypoglycemia โดยไม่ต้องรอให้ผู้ป่วยรู้ตัวหรือมีคนช่วยฉีดยา

    อุปกรณ์นี้ประกอบด้วย:
    - แหล่งเก็บ glucagon แบบผง (มีความเสถียรมากกว่าสารละลาย)
    - วัสดุโลหะจำรูปร่าง (shape-memory alloy) ที่เปิดฝาเมื่อถูกความร้อน
    - เสาอากาศที่รับคลื่นวิทยุเฉพาะเพื่อกระตุ้นการปล่อยยา
    - ระบบเชื่อมต่อกับเครื่องวัดน้ำตาลแบบต่อเนื่อง (CGM) เพื่อปล่อยยาอัตโนมัติ

    เมื่อระดับน้ำตาลลดต่ำเกินไป:
    - CGM ส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์
    - เกิดกระแสไฟฟ้าเล็กน้อยเพื่อให้โลหะจำรูปร่างร้อนถึง 40°C
    - ฝาเปิดและ glucagon ถูกปล่อยออกมา ละลายและเข้าสู่ร่างกาย

    ในการทดลองกับหนูเบาหวาน อุปกรณ์สามารถฟื้นฟูระดับน้ำตาลได้ภายใน 10 นาที และยังสามารถใช้ปล่อย epinephrine สำหรับกรณีแพ้รุนแรงหรือหัวใจหยุดเต้นได้ด้วย

    แม้ร่างกายจะสร้างพังผืดรอบอุปกรณ์หลังฝัง แต่ทีมวิจัยพบว่าอุปกรณ์ยังทำงานได้ดี และกำลังพัฒนาให้ใช้งานได้นานถึง 1 ปี ก่อนต้องเปลี่ยนใหม่

    https://www.techspot.com/news/108650-mit-engineers-create-implant-automatically-treats-dangerously-low.html
    MIT พัฒนาอุปกรณ์ฝังใต้ผิวหนัง ปล่อยฮอร์โมนช่วยชีวิตเมื่อระดับน้ำตาลตก ทีมวิศวกรจาก MIT ได้สร้างอุปกรณ์ขนาดเท่าเหรียญที่ฝังใต้ผิวหนัง ซึ่งสามารถปล่อย glucagon—ฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด—ได้ทันทีเมื่อเกิดภาวะ hypoglycemia โดยไม่ต้องรอให้ผู้ป่วยรู้ตัวหรือมีคนช่วยฉีดยา อุปกรณ์นี้ประกอบด้วย: - แหล่งเก็บ glucagon แบบผง (มีความเสถียรมากกว่าสารละลาย) - วัสดุโลหะจำรูปร่าง (shape-memory alloy) ที่เปิดฝาเมื่อถูกความร้อน - เสาอากาศที่รับคลื่นวิทยุเฉพาะเพื่อกระตุ้นการปล่อยยา - ระบบเชื่อมต่อกับเครื่องวัดน้ำตาลแบบต่อเนื่อง (CGM) เพื่อปล่อยยาอัตโนมัติ เมื่อระดับน้ำตาลลดต่ำเกินไป: - CGM ส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์ - เกิดกระแสไฟฟ้าเล็กน้อยเพื่อให้โลหะจำรูปร่างร้อนถึง 40°C - ฝาเปิดและ glucagon ถูกปล่อยออกมา ละลายและเข้าสู่ร่างกาย ในการทดลองกับหนูเบาหวาน อุปกรณ์สามารถฟื้นฟูระดับน้ำตาลได้ภายใน 10 นาที และยังสามารถใช้ปล่อย epinephrine สำหรับกรณีแพ้รุนแรงหรือหัวใจหยุดเต้นได้ด้วย แม้ร่างกายจะสร้างพังผืดรอบอุปกรณ์หลังฝัง แต่ทีมวิจัยพบว่าอุปกรณ์ยังทำงานได้ดี และกำลังพัฒนาให้ใช้งานได้นานถึง 1 ปี ก่อนต้องเปลี่ยนใหม่ https://www.techspot.com/news/108650-mit-engineers-create-implant-automatically-treats-dangerously-low.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New MIT implant automatically treats dangerously low blood sugar in people with type 1 diabetes
    For individuals with type 1 diabetes – an autoimmune condition – maintaining stable blood sugar is a constant challenge. Rapid-acting insulin must be administered, either through injections...
    0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • AMD Zen 6 – แรงทะลุ 7 GHz พร้อม 24 คอร์ในเดสก์ท็อป

    AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Zen 6 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมใหม่สำหรับ Ryzen desktop CPUs โดยมีข้อมูลหลุดจากแหล่งวงในอย่าง Yuri Bubily (ผู้สร้าง Hydra tuning software) และช่อง YouTube Moore’s Law Is Dead ที่เผยว่า Zen 6 จะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดดมากกว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งหมด

    จุดเด่นของ Zen 6 ได้แก่:
    - รองรับสูงสุด 12 คอร์ต่อ CCD (Core Complex Die) และ 24 คอร์ 48 เธรดต่อชิป
    - เพิ่มแคช L3 ต่อ CCD เป็น 48 MB และอาจมีรุ่นที่ใช้ 3D V-Cache หลายชั้น รวมสูงสุดถึง 240 MB
    - ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงจาก TSMC เช่น N2X (2nm enhanced) สำหรับรุ่นท็อป
    - ความเร็วสัญญาณนาฬิกาอาจทะลุ 7 GHz ในรุ่นเดสก์ท็อประดับสูง
    - ยังคงใช้ซ็อกเก็ต AM5 ทำให้ผู้ใช้ Ryzen รุ่นปัจจุบันสามารถอัปเกรดได้ง่าย
    - ปรับปรุง memory controller เป็นแบบ dual IMC แต่ยังใช้ DDR5 แบบ dual-channel
    - ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในระบบ Boost และ Curve Optimizer ทำให้การปรับแต่งยังคงเหมือนเดิม

    Zen 6 ยังมีรุ่นสำหรับเซิร์ฟเวอร์ (Venice-class EPYC) และ APU (Medusa Point) ที่ใช้เทคโนโลยี N2P หรือ N3P ซึ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์มากกว่าความเร็วสูงสุด

    คาดว่า Zen 6 จะเปิดตัวช่วงกลางถึงปลายปี 2026 พร้อมชนกับ Intel Nova Lake-S ที่จะใช้ซ็อกเก็ตใหม่และมีจำนวนคอร์สูงถึง 52 คอร์

    https://www.techspot.com/news/108646-amd-zen-6-could-hit-7-ghz-24.html
    AMD Zen 6 – แรงทะลุ 7 GHz พร้อม 24 คอร์ในเดสก์ท็อป AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Zen 6 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมใหม่สำหรับ Ryzen desktop CPUs โดยมีข้อมูลหลุดจากแหล่งวงในอย่าง Yuri Bubily (ผู้สร้าง Hydra tuning software) และช่อง YouTube Moore’s Law Is Dead ที่เผยว่า Zen 6 จะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดดมากกว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งหมด จุดเด่นของ Zen 6 ได้แก่: - รองรับสูงสุด 12 คอร์ต่อ CCD (Core Complex Die) และ 24 คอร์ 48 เธรดต่อชิป - เพิ่มแคช L3 ต่อ CCD เป็น 48 MB และอาจมีรุ่นที่ใช้ 3D V-Cache หลายชั้น รวมสูงสุดถึง 240 MB - ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงจาก TSMC เช่น N2X (2nm enhanced) สำหรับรุ่นท็อป - ความเร็วสัญญาณนาฬิกาอาจทะลุ 7 GHz ในรุ่นเดสก์ท็อประดับสูง - ยังคงใช้ซ็อกเก็ต AM5 ทำให้ผู้ใช้ Ryzen รุ่นปัจจุบันสามารถอัปเกรดได้ง่าย - ปรับปรุง memory controller เป็นแบบ dual IMC แต่ยังใช้ DDR5 แบบ dual-channel - ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในระบบ Boost และ Curve Optimizer ทำให้การปรับแต่งยังคงเหมือนเดิม Zen 6 ยังมีรุ่นสำหรับเซิร์ฟเวอร์ (Venice-class EPYC) และ APU (Medusa Point) ที่ใช้เทคโนโลยี N2P หรือ N3P ซึ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์มากกว่าความเร็วสูงสุด คาดว่า Zen 6 จะเปิดตัวช่วงกลางถึงปลายปี 2026 พร้อมชนกับ Intel Nova Lake-S ที่จะใช้ซ็อกเก็ตใหม่และมีจำนวนคอร์สูงถึง 52 คอร์ https://www.techspot.com/news/108646-amd-zen-6-could-hit-7-ghz-24.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD Zen 6 could hit 7 GHz and 24 cores in desktop CPUs
    Yuri Bubily, creator of the Hydra tuning software, revealed on his official Discord that engineering samples of Zen 6-based Ryzen CPUs have already reached AMD's industry partners....
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • Emily Strand และ Will Christiansen คู่รักจากเนวาดา ใช้ AI วางแผนงานแต่งของพวกเขาในเดือนตุลาคม 2025 ตั้งแต่การจัดที่นั่ง ไปจนถึงการเขียนจดหมายถึงผู้ให้บริการ โดยใช้ ChatGPT สร้างรายการสิ่งที่ต้องทำกว่า 200 รายการในไม่กี่วินาที—สิ่งที่ปกติอาจต้องใช้เวลาค้นหากว่า 250 ชั่วโมง

    AI ยังช่วยจัดการงบประมาณ, หาเจ้าพิธี, ช่างทำเค้ก, และปรับปรุงเว็บไซต์งานแต่งได้อย่างรวดเร็ว

    Anne Chang ใช้ AI จาก Bridesmaid for Hire สร้างแผนเที่ยวปาร์ตี้สละโสด 5 วันใน Ibiza โดยจ่ายเพียง 35 ดอลลาร์ ได้แผนการเที่ยวแบบละเอียด พร้อม “fun meter”, รายชื่อโรงพยาบาลใกล้เคียง และรายการของที่ต้องเตรียม

    Julia Lynch และ Alex Eckstein ใช้ AI สร้างแผนผังที่นั่งสำหรับแขก 300 คน โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์และบุคลิกของแขกแต่ละคน ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีและจ่ายแค่ 9 ดอลลาร์

    Jen Glantz ผู้ก่อตั้ง Bridesmaid for Hire เปิดเผยว่า 70% ของธุรกิจของเธอในปีนี้มาจากเครื่องมือ AI เช่น speech generator และสายด่วนให้คำปรึกษา 24 ชั่วโมง

    แพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Zola, Canva, Minted ก็เริ่มใช้ AI เช่นกัน เช่นเครื่องมือแบ่งงานแต่งงานระหว่างคู่รัก หรือสร้างข้อความขอบคุณอัตโนมัติ

    คู่รักหลายคู่ยังสร้างแพลตฟอร์ม AI ของตัวเอง เช่น Guestlist และ Nupt.ai เพื่อช่วยจัดการ RSVP, ส่งข้อความอัปเดตแบบเรียลไทม์ และสร้าง checklist ตามวัฒนธรรมเฉพาะ

    แม้หลายคนจะใช้ AI แทน wedding planner แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่นในกรณีที่เกิดพายุใหญ่ก่อนวันแต่งงาน—AI ไม่สามารถปลอบใจเจ้าสาวหรือจัดการแผนสำรองได้เหมือนมนุษย์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/14/how-ai-is-transforming-wedding-planning
    Emily Strand และ Will Christiansen คู่รักจากเนวาดา ใช้ AI วางแผนงานแต่งของพวกเขาในเดือนตุลาคม 2025 ตั้งแต่การจัดที่นั่ง ไปจนถึงการเขียนจดหมายถึงผู้ให้บริการ โดยใช้ ChatGPT สร้างรายการสิ่งที่ต้องทำกว่า 200 รายการในไม่กี่วินาที—สิ่งที่ปกติอาจต้องใช้เวลาค้นหากว่า 250 ชั่วโมง AI ยังช่วยจัดการงบประมาณ, หาเจ้าพิธี, ช่างทำเค้ก, และปรับปรุงเว็บไซต์งานแต่งได้อย่างรวดเร็ว Anne Chang ใช้ AI จาก Bridesmaid for Hire สร้างแผนเที่ยวปาร์ตี้สละโสด 5 วันใน Ibiza โดยจ่ายเพียง 35 ดอลลาร์ ได้แผนการเที่ยวแบบละเอียด พร้อม “fun meter”, รายชื่อโรงพยาบาลใกล้เคียง และรายการของที่ต้องเตรียม Julia Lynch และ Alex Eckstein ใช้ AI สร้างแผนผังที่นั่งสำหรับแขก 300 คน โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์และบุคลิกของแขกแต่ละคน ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีและจ่ายแค่ 9 ดอลลาร์ Jen Glantz ผู้ก่อตั้ง Bridesmaid for Hire เปิดเผยว่า 70% ของธุรกิจของเธอในปีนี้มาจากเครื่องมือ AI เช่น speech generator และสายด่วนให้คำปรึกษา 24 ชั่วโมง แพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Zola, Canva, Minted ก็เริ่มใช้ AI เช่นกัน เช่นเครื่องมือแบ่งงานแต่งงานระหว่างคู่รัก หรือสร้างข้อความขอบคุณอัตโนมัติ คู่รักหลายคู่ยังสร้างแพลตฟอร์ม AI ของตัวเอง เช่น Guestlist และ Nupt.ai เพื่อช่วยจัดการ RSVP, ส่งข้อความอัปเดตแบบเรียลไทม์ และสร้าง checklist ตามวัฒนธรรมเฉพาะ แม้หลายคนจะใช้ AI แทน wedding planner แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่นในกรณีที่เกิดพายุใหญ่ก่อนวันแต่งงาน—AI ไม่สามารถปลอบใจเจ้าสาวหรือจัดการแผนสำรองได้เหมือนมนุษย์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/14/how-ai-is-transforming-wedding-planning
    WWW.THESTAR.COM.MY
    How AI is transforming wedding planning
    AI is enhancing a time-consuming and stressful process, providing couples and planners with event suggestions, budgeting and many other useful tools.
    0 Comments 0 Shares 18 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้พูดถึงงานวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Physical Review D ซึ่งเสนอแนวคิดว่า “จุดกำเนิดของจักรวาล” อาจไม่ใช่ Big Bang อย่างที่เราเคยเชื่อกัน แต่เป็นการ “ดีดตัวกลับ” (bounce) จากการยุบตัวของมวลมหาศาลภายในหลุมดำ—เป็นการพลิกมุมมองต่อจักรวาลอย่างสิ้นเชิง

    นักฟิสิกส์จาก The Conversation และสถาบันวิจัยต่าง ๆ เสนอโมเดลใหม่ที่อธิบายว่าจักรวาลของเราอาจเกิดจากการยุบตัวของมวลมหาศาลภายในหลุมดำ ไม่ใช่จากการระเบิดของจุดเอกฐาน (singularity) แบบ Big Bang ที่เราเคยเชื่อ

    แนวคิดนี้ใช้หลักฟิสิกส์ควอนตัม โดยเฉพาะ “หลักการกีดกันของเฟอร์มิออน” (quantum exclusion principle) ซึ่งระบุว่าอนุภาคที่เหมือนกันไม่สามารถอยู่ในสถานะควอนตัมเดียวกันได้ ทำให้การยุบตัวของมวลไม่สามารถดำเนินต่อไปได้เรื่อย ๆ และเกิดการ “ดีดตัวกลับ” หรือ bounce

    หลังจาก bounce จักรวาลจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีแรงดันภายในทำหน้าที่คล้ายกับพลังงานมืดและการขยายตัวในยุค inflation ตามทฤษฎีดั้งเดิม

    โมเดลนี้ยังทำนายว่า:
    - จักรวาลมีความโค้งเล็กน้อย (Ωₖ ≈ −0.07 ± 0.02)
    - การดีดตัวเกิดภายในรัศมีความโน้มถ่วง r_S = 2GM ซึ่งทำหน้าที่คล้ายค่าคงที่จักรวาล (Λ)
    - ภายนอกยังดูเหมือนหลุมดำ Schwarzschild ปกติ

    ภารกิจในอนาคต เช่น Euclid และ Arrakihs อาจช่วยตรวจสอบความโค้งของจักรวาลและโครงสร้างที่หลงเหลือจากการดีดตัว เช่น เฮโลของดาวฤกษ์และกาแล็กซีบริวาร

    https://www.neowin.net/news/our-universes-origin-is-indeed-a-black-hole-and-not-the-big-bang-reckons-this-new-study/
    ข่าวนี้พูดถึงงานวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Physical Review D ซึ่งเสนอแนวคิดว่า “จุดกำเนิดของจักรวาล” อาจไม่ใช่ Big Bang อย่างที่เราเคยเชื่อกัน แต่เป็นการ “ดีดตัวกลับ” (bounce) จากการยุบตัวของมวลมหาศาลภายในหลุมดำ—เป็นการพลิกมุมมองต่อจักรวาลอย่างสิ้นเชิง 🕳️🌌 นักฟิสิกส์จาก The Conversation และสถาบันวิจัยต่าง ๆ เสนอโมเดลใหม่ที่อธิบายว่าจักรวาลของเราอาจเกิดจากการยุบตัวของมวลมหาศาลภายในหลุมดำ ไม่ใช่จากการระเบิดของจุดเอกฐาน (singularity) แบบ Big Bang ที่เราเคยเชื่อ แนวคิดนี้ใช้หลักฟิสิกส์ควอนตัม โดยเฉพาะ “หลักการกีดกันของเฟอร์มิออน” (quantum exclusion principle) ซึ่งระบุว่าอนุภาคที่เหมือนกันไม่สามารถอยู่ในสถานะควอนตัมเดียวกันได้ ทำให้การยุบตัวของมวลไม่สามารถดำเนินต่อไปได้เรื่อย ๆ และเกิดการ “ดีดตัวกลับ” หรือ bounce หลังจาก bounce จักรวาลจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีแรงดันภายในทำหน้าที่คล้ายกับพลังงานมืดและการขยายตัวในยุค inflation ตามทฤษฎีดั้งเดิม โมเดลนี้ยังทำนายว่า: - จักรวาลมีความโค้งเล็กน้อย (Ωₖ ≈ −0.07 ± 0.02) - การดีดตัวเกิดภายในรัศมีความโน้มถ่วง r_S = 2GM ซึ่งทำหน้าที่คล้ายค่าคงที่จักรวาล (Λ) - ภายนอกยังดูเหมือนหลุมดำ Schwarzschild ปกติ ภารกิจในอนาคต เช่น Euclid และ Arrakihs อาจช่วยตรวจสอบความโค้งของจักรวาลและโครงสร้างที่หลงเหลือจากการดีดตัว เช่น เฮโลของดาวฤกษ์และกาแล็กซีบริวาร https://www.neowin.net/news/our-universes-origin-is-indeed-a-black-hole-and-not-the-big-bang-reckons-this-new-study/
    WWW.NEOWIN.NET
    Our Universe's origin is indeed a Black Hole and not the Big Bang, reckons this new study
    The Big Bang may not be the beginning—new research suggests our universe could have bounced from a collapsing black hole.
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • ในยุคที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฝังในร่างกายและใช้งานใต้น้ำมีมากขึ้น การชาร์จแบตเตอรี่กลายเป็นเรื่องท้าทาย เพราะเทคโนโลยีไร้สายแบบเดิม เช่น RF หรือแม่เหล็กไฟฟ้า มีข้อจำกัดด้านระยะทางและการรบกวนสัญญาณ

    นักวิจัยจาก Korea Institute of Science and Technology (KIST) และ Korea University จึงพัฒนาเทคโนโลยีใหม่โดยใช้คลื่นเสียง (ultrasound) ซึ่งสามารถทะลุผ่านน้ำและเนื้อเยื่อมนุษย์ได้ดีกว่า RF และไม่รบกวนอุปกรณ์อื่น

    ทีมงานนำโดย Dr. Sunghoon Hur และ Prof. Hyun-Cheol Song สร้างตัวรับคลื่นเสียงแบบยืดหยุ่นจากวัสดุ piezoelectric ที่สามารถติดกับผิวหนังหรือพื้นผิวโค้งได้ และสามารถส่งพลังงานได้ถึง:

    - 20 มิลลิวัตต์ผ่านน้ำลึก 3 ซม.
    - 7 มิลลิวัตต์ผ่านผิวหนังลึก 3 ซม.

    พลังงานนี้เพียงพอสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น เซ็นเซอร์สวมใส่หรืออุปกรณ์ฝังในร่างกาย และยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ด้วย

    อีกทีมวิจัยยังพัฒนา US-TENGDF-B ซึ่งเป็น triboelectric nanogenerator ที่ใช้ ultrasound เพื่อผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้นจากระยะไกล โดยสามารถสร้างแรงดัน 26 โวลต์ และจ่ายพลังงาน 6.7 มิลลิวัตต์จากระยะ 35 มม. แม้จะอยู่ในสภาพโค้งงอ

    เทคโนโลยีเหล่านี้เปิดทางให้กับอุปกรณ์ฝังในร่างกาย เช่น pacemaker, neurostimulator หรือแม้แต่โดรนใต้น้ำ ที่สามารถทำงานได้นานขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือชาร์จบ่อย ๆ

    https://www.neowin.net/news/scientists-summon-ultrasonic-tech-that-charges-devices-through-water-and-even-skin/
    ในยุคที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฝังในร่างกายและใช้งานใต้น้ำมีมากขึ้น การชาร์จแบตเตอรี่กลายเป็นเรื่องท้าทาย เพราะเทคโนโลยีไร้สายแบบเดิม เช่น RF หรือแม่เหล็กไฟฟ้า มีข้อจำกัดด้านระยะทางและการรบกวนสัญญาณ นักวิจัยจาก Korea Institute of Science and Technology (KIST) และ Korea University จึงพัฒนาเทคโนโลยีใหม่โดยใช้คลื่นเสียง (ultrasound) ซึ่งสามารถทะลุผ่านน้ำและเนื้อเยื่อมนุษย์ได้ดีกว่า RF และไม่รบกวนอุปกรณ์อื่น ทีมงานนำโดย Dr. Sunghoon Hur และ Prof. Hyun-Cheol Song สร้างตัวรับคลื่นเสียงแบบยืดหยุ่นจากวัสดุ piezoelectric ที่สามารถติดกับผิวหนังหรือพื้นผิวโค้งได้ และสามารถส่งพลังงานได้ถึง: - 20 มิลลิวัตต์ผ่านน้ำลึก 3 ซม. - 7 มิลลิวัตต์ผ่านผิวหนังลึก 3 ซม. พลังงานนี้เพียงพอสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น เซ็นเซอร์สวมใส่หรืออุปกรณ์ฝังในร่างกาย และยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ด้วย อีกทีมวิจัยยังพัฒนา US-TENGDF-B ซึ่งเป็น triboelectric nanogenerator ที่ใช้ ultrasound เพื่อผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้นจากระยะไกล โดยสามารถสร้างแรงดัน 26 โวลต์ และจ่ายพลังงาน 6.7 มิลลิวัตต์จากระยะ 35 มม. แม้จะอยู่ในสภาพโค้งงอ เทคโนโลยีเหล่านี้เปิดทางให้กับอุปกรณ์ฝังในร่างกาย เช่น pacemaker, neurostimulator หรือแม้แต่โดรนใต้น้ำ ที่สามารถทำงานได้นานขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือชาร์จบ่อย ๆ https://www.neowin.net/news/scientists-summon-ultrasonic-tech-that-charges-devices-through-water-and-even-skin/
    WWW.NEOWIN.NET
    Scientists summon ultrasonic tech that charges devices through water and even skin
    Thanks to new research, an ultrasonic tech has been developed that sneaks through skin and water to wirelessly charge devices.
    0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • Team Group เปิดตัว SSD รุ่น INDUSTRIAL P250Q Self-Destruct ที่งาน COMPUTEX 2025 และคว้ารางวัล Best Choice Award ด้าน Cyber Security ด้วยฟีเจอร์ลบข้อมูลแบบ “dual-mode” ที่ผสานการทำงานระหว่างซอฟต์แวร์อัจฉริยะและวงจรฮาร์ดแวร์ที่จดสิทธิบัตรในไต้หวัน

    จุดเด่นของ P250Q คือ:
    - ปุ่ม “ทำลายตัวเอง” แบบ one-click
    - วงจรฮาร์ดแวร์ที่ยิงตรงไปยัง Flash IC เพื่อทำลายข้อมูลแบบถาวร
    - ระบบซอฟต์แวร์ที่สามารถกลับมาลบข้อมูลต่อได้อัตโนมัติหลังไฟดับ
    - ไฟ LED หลายระดับที่แสดงสถานะการลบแบบเรียลไทม์

    แม้จะออกแบบมาเพื่อองค์กรที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น หน่วยงานรัฐบาลหรือบริษัทด้านความมั่นคง แต่ก็เป็นแนวคิดที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ทั่วไปในอนาคต โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลส่วนตัวมีความเสี่ยงสูงขึ้นเรื่อย ๆ

    ด้านสเปก P250Q ใช้ PCIe Gen4x4 (NVMe 1.4) มีความเร็วอ่านสูงสุด 7,000 MB/s และเขียน 5,500 MB/s รองรับความจุ 256 GB ถึง 2 TB และมีความทนทานสูงตามมาตรฐาน MIL-STD

    https://www.neowin.net/news/this-gen4-nvme-ssd-has-a-self-destruct-button-to-bomb-all-user-data-but-its-for-the-good/
    Team Group เปิดตัว SSD รุ่น INDUSTRIAL P250Q Self-Destruct ที่งาน COMPUTEX 2025 และคว้ารางวัล Best Choice Award ด้าน Cyber Security ด้วยฟีเจอร์ลบข้อมูลแบบ “dual-mode” ที่ผสานการทำงานระหว่างซอฟต์แวร์อัจฉริยะและวงจรฮาร์ดแวร์ที่จดสิทธิบัตรในไต้หวัน จุดเด่นของ P250Q คือ: - ปุ่ม “ทำลายตัวเอง” แบบ one-click - วงจรฮาร์ดแวร์ที่ยิงตรงไปยัง Flash IC เพื่อทำลายข้อมูลแบบถาวร - ระบบซอฟต์แวร์ที่สามารถกลับมาลบข้อมูลต่อได้อัตโนมัติหลังไฟดับ - ไฟ LED หลายระดับที่แสดงสถานะการลบแบบเรียลไทม์ แม้จะออกแบบมาเพื่อองค์กรที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น หน่วยงานรัฐบาลหรือบริษัทด้านความมั่นคง แต่ก็เป็นแนวคิดที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ทั่วไปในอนาคต โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลส่วนตัวมีความเสี่ยงสูงขึ้นเรื่อย ๆ ด้านสเปก P250Q ใช้ PCIe Gen4x4 (NVMe 1.4) มีความเร็วอ่านสูงสุด 7,000 MB/s และเขียน 5,500 MB/s รองรับความจุ 256 GB ถึง 2 TB และมีความทนทานสูงตามมาตรฐาน MIL-STD https://www.neowin.net/news/this-gen4-nvme-ssd-has-a-self-destruct-button-to-bomb-all-user-data-but-its-for-the-good/
    WWW.NEOWIN.NET
    This Gen4 NVMe SSD has a self-destruct button to bomb all user data but it's for the good
    Team Group has designed a new SSD that is said to feature an actual self destruct button so it can destroy data completely and securely with no chance of recovery.
    0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • ในช่วงที่ผู้ใช้ Windows 10 ต้องตัดสินใจว่าจะอัปเกรดเป็น Windows 11 หรือเปลี่ยนไปใช้ระบบอื่น ข่าวนี้จึงเปิดเผยว่าไม่ว่าจะเลือก Windows 10 หรือ 11 ระบบจะเก็บข้อมูลจากผู้ใช้ในลักษณะเดียวกัน โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก:

    1. ข้อมูลที่จำเป็น (Required data)
     – ใช้เพื่อรักษาความปลอดภัย อัปเดตระบบ และให้บริการคลาวด์ เช่น Find My Device, Windows Search, Defender, Voice typing ฯลฯ
     – รวมถึงข้อมูลการตั้งค่าเครื่อง, การเชื่อมต่อเครือข่าย, ประสิทธิภาพระบบ, รายการแอปและไดรเวอร์ที่ติดตั้ง

    2. ข้อมูลเพิ่มเติม (Optional data)
     – ผู้ใช้สามารถเลือกส่งได้ เช่น ประวัติการใช้งานเบราว์เซอร์, การพิมพ์, การเขียน, การใช้แอป, การตั้งค่าระบบ
     – Microsoft ใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์และแก้ไขปัญหา

    ผู้ใช้ทั่วไปสามารถปรับระดับการส่งข้อมูลได้ใน Settings > Privacy > Diagnostics and feedback และเปิดเครื่องมือ Diagnostic Data Viewer เพื่อดูข้อมูลที่ถูกส่งออกไป ซึ่งจะใช้พื้นที่ประมาณ 1GB

    อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ทั่วไปมีสิทธิ์จำกัดในการควบคุมข้อมูลที่ส่งออก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับลูกค้าองค์กรที่สามารถจัดการได้ละเอียดกว่า

    ข้อมูลจากข่าว
    - Windows 10 และ 11 มีนโยบายการเก็บข้อมูลแบบเดียวกันตั้งแต่เวอร์ชัน 1903 ขึ้นไป
    - ข้อมูลแบ่งเป็น 2 ประเภท: Required และ Optional
    - Required data รวมถึงข้อมูลการตั้งค่าเครื่อง, การเชื่อมต่อ, ประสิทธิภาพ และรายการแอป
    - Optional data รวมถึงประวัติการใช้งานเบราว์เซอร์, การพิมพ์, การใช้แอป และการตั้งค่า
    - ผู้ใช้สามารถปรับระดับการส่งข้อมูลได้ใน Settings > Privacy > Diagnostics and feedback
    - Diagnostic Data Viewer ช่วยให้ผู้ใช้ดูข้อมูลที่ถูกส่งออกไปได้
    - ลูกค้าองค์กรมีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลได้ละเอียดกว่าผู้ใช้ทั่วไป

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - ผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถปิดการส่งข้อมูลทั้งหมดได้ มีเพียงการเลือก “น้อยที่สุด” เท่านั้น
    - การใช้บริการที่เชื่อมต่อกับคลาวด์ เช่น Find My Device หรือ Voice typing จะส่งข้อมูลเพิ่มเติมโดยอัตโนมัติ
    - การเปิด Diagnostic Data Viewer จะใช้พื้นที่ในเครื่องประมาณ 1GB
    - ผู้ใช้ที่ไม่เข้าใจระบบ telemetry อาจไม่รู้ว่าข้อมูลส่วนตัวถูกส่งออกไป
    - การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใน Windows ต้องปรับด้วยตัวเอง มิฉะนั้นระบบจะใช้ค่าเริ่มต้นที่อาจไม่ปลอดภัย

    https://www.neowin.net/news/this-is-the-data-windows-collects-about-you/
    ในช่วงที่ผู้ใช้ Windows 10 ต้องตัดสินใจว่าจะอัปเกรดเป็น Windows 11 หรือเปลี่ยนไปใช้ระบบอื่น ข่าวนี้จึงเปิดเผยว่าไม่ว่าจะเลือก Windows 10 หรือ 11 ระบบจะเก็บข้อมูลจากผู้ใช้ในลักษณะเดียวกัน โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก: 1. ข้อมูลที่จำเป็น (Required data)  – ใช้เพื่อรักษาความปลอดภัย อัปเดตระบบ และให้บริการคลาวด์ เช่น Find My Device, Windows Search, Defender, Voice typing ฯลฯ  – รวมถึงข้อมูลการตั้งค่าเครื่อง, การเชื่อมต่อเครือข่าย, ประสิทธิภาพระบบ, รายการแอปและไดรเวอร์ที่ติดตั้ง 2. ข้อมูลเพิ่มเติม (Optional data)  – ผู้ใช้สามารถเลือกส่งได้ เช่น ประวัติการใช้งานเบราว์เซอร์, การพิมพ์, การเขียน, การใช้แอป, การตั้งค่าระบบ  – Microsoft ใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์และแก้ไขปัญหา ผู้ใช้ทั่วไปสามารถปรับระดับการส่งข้อมูลได้ใน Settings > Privacy > Diagnostics and feedback และเปิดเครื่องมือ Diagnostic Data Viewer เพื่อดูข้อมูลที่ถูกส่งออกไป ซึ่งจะใช้พื้นที่ประมาณ 1GB อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ทั่วไปมีสิทธิ์จำกัดในการควบคุมข้อมูลที่ส่งออก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับลูกค้าองค์กรที่สามารถจัดการได้ละเอียดกว่า ✅ ข้อมูลจากข่าว - Windows 10 และ 11 มีนโยบายการเก็บข้อมูลแบบเดียวกันตั้งแต่เวอร์ชัน 1903 ขึ้นไป - ข้อมูลแบ่งเป็น 2 ประเภท: Required และ Optional - Required data รวมถึงข้อมูลการตั้งค่าเครื่อง, การเชื่อมต่อ, ประสิทธิภาพ และรายการแอป - Optional data รวมถึงประวัติการใช้งานเบราว์เซอร์, การพิมพ์, การใช้แอป และการตั้งค่า - ผู้ใช้สามารถปรับระดับการส่งข้อมูลได้ใน Settings > Privacy > Diagnostics and feedback - Diagnostic Data Viewer ช่วยให้ผู้ใช้ดูข้อมูลที่ถูกส่งออกไปได้ - ลูกค้าองค์กรมีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลได้ละเอียดกว่าผู้ใช้ทั่วไป ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - ผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถปิดการส่งข้อมูลทั้งหมดได้ มีเพียงการเลือก “น้อยที่สุด” เท่านั้น - การใช้บริการที่เชื่อมต่อกับคลาวด์ เช่น Find My Device หรือ Voice typing จะส่งข้อมูลเพิ่มเติมโดยอัตโนมัติ - การเปิด Diagnostic Data Viewer จะใช้พื้นที่ในเครื่องประมาณ 1GB - ผู้ใช้ที่ไม่เข้าใจระบบ telemetry อาจไม่รู้ว่าข้อมูลส่วนตัวถูกส่งออกไป - การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใน Windows ต้องปรับด้วยตัวเอง มิฉะนั้นระบบจะใช้ค่าเริ่มต้นที่อาจไม่ปลอดภัย https://www.neowin.net/news/this-is-the-data-windows-collects-about-you/
    WWW.NEOWIN.NET
    This is the data Windows collects about you
    From crashes to clicks, here's what Windows knows about you, and how much control you really have over this data harvesting.
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • อิสราเอลกำลังสนับสนุนให้ชาวดรูซซึ่งอยู่ทางใต้ของซีเรียก่อตั้งเป็นรัฐใหม่ ในตะวันออกกลาง

    หลังการล่มสลายของรัฐบาลอัสซาดในซีเรีย จากการนำกองกำลังเข้าโค่นล้มโดยโจลานี ชุมชนชาวดรูซได้ประกาศแยกตัวออกจากซีเรีย และต้องการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในอิสราเอล ขณะนี้กองกำลังชาวดรูซสามารถควบคุมพื้นที่ชไวดาทางตอนใต้ของซีเรียได้อย่างสมบูรณ์

    ในเขตชไวดามีประชากรเกือบครึ่งล้านคน และกว่า 85% เป็นชาวดรูซ อีกเกือบ 10% เป็นชาวคริสต์ นับเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับชาวคริสต์ในซีเรีย ทำให้ชไวดาจะกลายเป็นรัฐที่สองต่อจากอิสราเอลที่อยู่ในตะวันออกกลางที่ประชากรส่วนใหญ่ไม่ใช่ชาวมุสลิม
    อิสราเอลกำลังสนับสนุนให้ชาวดรูซซึ่งอยู่ทางใต้ของซีเรียก่อตั้งเป็นรัฐใหม่ ในตะวันออกกลาง หลังการล่มสลายของรัฐบาลอัสซาดในซีเรีย จากการนำกองกำลังเข้าโค่นล้มโดยโจลานี ชุมชนชาวดรูซได้ประกาศแยกตัวออกจากซีเรีย และต้องการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในอิสราเอล ขณะนี้กองกำลังชาวดรูซสามารถควบคุมพื้นที่ชไวดาทางตอนใต้ของซีเรียได้อย่างสมบูรณ์ ในเขตชไวดามีประชากรเกือบครึ่งล้านคน และกว่า 85% เป็นชาวดรูซ อีกเกือบ 10% เป็นชาวคริสต์ นับเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับชาวคริสต์ในซีเรีย ทำให้ชไวดาจะกลายเป็นรัฐที่สองต่อจากอิสราเอลที่อยู่ในตะวันออกกลางที่ประชากรส่วนใหญ่ไม่ใช่ชาวมุสลิม
    0 Comments 0 Shares 27 Views 0 Reviews
  • “วิสุทธิ์” ยัน “ทักษิณ” ไม่ได้ครอบงำพรรคเพื่อไทย ชี้เป็นเพียงผู้มีประสบการณ์ร่วมให้คำแนะนำ ไม่ใช่สั่งการ ซัดกลับอย่าเอาอคติมาบดบังประโยชน์ประเทศ ลั่นไม่สน “ฮุน เซน” เรียกแค่ “พ่อมดเขมร” ไม่ให้ราคา

    วันนี้ (14ก.ค.) นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสวิจารณ์บทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองบ่อยครั้งในระยะหลัง จนมีผู้ไปยื่นร้องเรียนต่อหน่วยงานต่าง ๆ ว่าเข้าข่ายครอบงำพรรคว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องปกติ เพราะแม้แต่นายทักษิณ “หายใจก็มีคนร้องแล้ว” ทั้งที่นายทักษิณเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และเคยมีบทบาทในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยในอดีต

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000066083

    #Thaitimes #MGROnline #วิสุทธิ์ #ทักษิณ
    “วิสุทธิ์” ยัน “ทักษิณ” ไม่ได้ครอบงำพรรคเพื่อไทย ชี้เป็นเพียงผู้มีประสบการณ์ร่วมให้คำแนะนำ ไม่ใช่สั่งการ ซัดกลับอย่าเอาอคติมาบดบังประโยชน์ประเทศ ลั่นไม่สน “ฮุน เซน” เรียกแค่ “พ่อมดเขมร” ไม่ให้ราคา • วันนี้ (14ก.ค.) นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสวิจารณ์บทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองบ่อยครั้งในระยะหลัง จนมีผู้ไปยื่นร้องเรียนต่อหน่วยงานต่าง ๆ ว่าเข้าข่ายครอบงำพรรคว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องปกติ เพราะแม้แต่นายทักษิณ “หายใจก็มีคนร้องแล้ว” ทั้งที่นายทักษิณเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และเคยมีบทบาทในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยในอดีต • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000066083 • #Thaitimes #MGROnline #วิสุทธิ์ #ทักษิณ
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • ผิดความมั่นคง สำนวนคลิปฮุนเซนถึงอัยการ : [THE MESSAGE]
    พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 นำสำนวนคดีคลิปเสียงนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา คุยกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม มีความหนา 50 หน้า มอบให้อัยการสูงสุดพิจารณาฟ้องต่อศาล โดยนายศักดิ์เกษม นิไทรโยค โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด รับมอบ ชี้เข้าข่ายความผิดม.116 เกี่ยวกับความมั่นคงของราชอาณาจักร และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตรวจสอบ พบเฟสบุ๊กชื่อ "Samdech Hun Sen of Cambodia" โพสต์ข้อความและปล่อยคลิปเสียง
    มีแอดมินเพจมากกว่า 1 คน แต่ไม่สามารถระบุได้ว่ามีนายฮุน เซน ร่วมด้วยหรือไม่ ทำงานเป็นขั้นเป็นตอนอยู่ในกัมพูชา ยืนยัน ไม่ได้ฟ้องแก้เกี้ยว สอบสวนพบกระทำความผิดจริง มีพฤติการณ์โพสต์ต่อเนื่อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหวังผลบางอย่าง ยอมรับ เป็นคดีที่ละเอียดอ่อน อาจกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงต้องทำสำนวนคดีอย่างรอบคอบ เป็นไปตามพยานหลักฐานที่มี
    ผิดความมั่นคง สำนวนคลิปฮุนเซนถึงอัยการ : [THE MESSAGE] พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 นำสำนวนคดีคลิปเสียงนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา คุยกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม มีความหนา 50 หน้า มอบให้อัยการสูงสุดพิจารณาฟ้องต่อศาล โดยนายศักดิ์เกษม นิไทรโยค โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด รับมอบ ชี้เข้าข่ายความผิดม.116 เกี่ยวกับความมั่นคงของราชอาณาจักร และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตรวจสอบ พบเฟสบุ๊กชื่อ "Samdech Hun Sen of Cambodia" โพสต์ข้อความและปล่อยคลิปเสียง มีแอดมินเพจมากกว่า 1 คน แต่ไม่สามารถระบุได้ว่ามีนายฮุน เซน ร่วมด้วยหรือไม่ ทำงานเป็นขั้นเป็นตอนอยู่ในกัมพูชา ยืนยัน ไม่ได้ฟ้องแก้เกี้ยว สอบสวนพบกระทำความผิดจริง มีพฤติการณ์โพสต์ต่อเนื่อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหวังผลบางอย่าง ยอมรับ เป็นคดีที่ละเอียดอ่อน อาจกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงต้องทำสำนวนคดีอย่างรอบคอบ เป็นไปตามพยานหลักฐานที่มี
    0 Comments 0 Shares 73 Views 0 0 Reviews
  • ..กลางสิงหา,รวมพลังคนแผ่นดินไทยยึดอำนาจเลย โดยประชาชน เพื่อประชาชน ขึ้นบริหารประเทศในภาวะพิเศษเลย,ทหารพระราชา ต้องวัดใจกับประชาชนต้องพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงจริงเพื่อประเทศชาติ,
    ..ภาคมหาประชาชนคือหนทางเดียว,การเมืองที่นักการเมืองปัจจุบันดำเนินสายการปกครองล้มเหลวสิ้นดีแล้ว,ไม่อาจเชื่อถือและเชื่อมั่นไว้วางใจในอธิปไตยแผ่นดินไทยนี้ได้แล้ว,อังเคิลต้องการอะไรเดี๋ยวจัดให้ก็ชัดเจนในบริบทพรรคการเมืองและพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ตลอดกล่าวอีกว่า ทหารเป็นฝ่ายตรงข้ามเราอีก สมควรจะพูดมั้ย.
    ..พันธมิตรรวมพลังแผ่นดินไทย,จริงๆสมควรเป็นตัวแทนภาคประชาชนยึดอำนาจเลย,โดยทหารพระราชาต้องสนับสนุนเปิดทางออก อย่าเอาตัวเองเข้ามายุ่ง,เป็นเพียงยื่นความสะดวกให้เท่านั้นหรือคืนอำนาจผ่านพันธมิตรรวมพลังแผ่นดินไทยในกลางสิงหาเลย,เสนอรายชื่อนายกฯพระราชทานฉุกเฉินพิเศษก็ได้,จะเกิดรัฐบาลภาคประชาชนทันทีในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่แล้วเขียนการปกครองเราใหม่ก็ได้เป็นระบบธรรมาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขก็ได้,ตัดทิ้งระบบประชาธิปไตยของฝรั่งที่ส่งออกมานานนมไป,ฝรั่งจะแทรกแซงอ้างเข้ามาสร้างความแตกแยกไม่ได้อีก,เราจะเริ่มเดินถูกทาง,ขึ้นสู่ถนนหนทางที่เหมาะสมราบรื่นจริงทันที,ปัจจุบันทั้งกฎหมายและระบบปกครองไทยเราเต็มไปด้วยภายใต้การเป็นทาสของต่างชาติมิใช่ไทเสรีอะไรใดๆเลย กฎหมายมากมายเป็นทาสฝรั่งนายทุนชัดเจนและกดขี่ประชาชนคนไทยมากกว่า ตลอดเป็นด้วยการสูญเสียทรัพยากรมีค่ามากมายบนแผ่นดินของประเทศไทย,สูญเสียวัตถุดิบบนแผ่นดินไทยตนเองที่จำเป็นต้องบริหารจัดการใช้ในการพัฒนาชาติไทยตนให้ประชาชนมีความผาสุกร่มเย็นไม่ทุกข์ยาก ยากจนเข็ญใจลำเค็ญแบบปัจจุบันนี้.
    ..พันธมิตรคณะรวมพลังแผ่นดินไทยจึงคือหนทางเดี๋ยวจริงๆ,เราสามารถสร้างกองทัพภาคประชาชนเร็วเชิงรุกได้,บูรณาการระดับล่างทำความเข้าใจไม่ยาก เช่น มีสำนักงานประสานงานภาคประชาชนจริงประจำหมู่บ้านทุกๆหมู่บ้านชุมชน 80,000หมู่บ้านทั่วประเทศนี้,ยุบอบต.อบจ.มีแค่อำเภอ.จังหวัดก็พอ,เงินมากมายจะสนับสนุนกองทัพย่อยภาคประชาชนระดับหมู่บ้านทันที ใกล้ชิดปัญหาจริง ขจัดปัญหาได้เร็วเพราะเข้าถึงได้ตรงจุด,มีโครงการอะไร ย้ายมาสำนักงานนี้ทำความเข้าใจชัดตรงจุดแก้ประชาชน.การบริหารประเทศจะก้าวอย่างก้าวกระโดดทันที.
    ..กลางสิงหา,รวมพลังคนแผ่นดินไทยยึดอำนาจเลย โดยประชาชน เพื่อประชาชน ขึ้นบริหารประเทศในภาวะพิเศษเลย,ทหารพระราชา ต้องวัดใจกับประชาชนต้องพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงจริงเพื่อประเทศชาติ, ..ภาคมหาประชาชนคือหนทางเดียว,การเมืองที่นักการเมืองปัจจุบันดำเนินสายการปกครองล้มเหลวสิ้นดีแล้ว,ไม่อาจเชื่อถือและเชื่อมั่นไว้วางใจในอธิปไตยแผ่นดินไทยนี้ได้แล้ว,อังเคิลต้องการอะไรเดี๋ยวจัดให้ก็ชัดเจนในบริบทพรรคการเมืองและพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ตลอดกล่าวอีกว่า ทหารเป็นฝ่ายตรงข้ามเราอีก สมควรจะพูดมั้ย. ..พันธมิตรรวมพลังแผ่นดินไทย,จริงๆสมควรเป็นตัวแทนภาคประชาชนยึดอำนาจเลย,โดยทหารพระราชาต้องสนับสนุนเปิดทางออก อย่าเอาตัวเองเข้ามายุ่ง,เป็นเพียงยื่นความสะดวกให้เท่านั้นหรือคืนอำนาจผ่านพันธมิตรรวมพลังแผ่นดินไทยในกลางสิงหาเลย,เสนอรายชื่อนายกฯพระราชทานฉุกเฉินพิเศษก็ได้,จะเกิดรัฐบาลภาคประชาชนทันทีในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่แล้วเขียนการปกครองเราใหม่ก็ได้เป็นระบบธรรมาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขก็ได้,ตัดทิ้งระบบประชาธิปไตยของฝรั่งที่ส่งออกมานานนมไป,ฝรั่งจะแทรกแซงอ้างเข้ามาสร้างความแตกแยกไม่ได้อีก,เราจะเริ่มเดินถูกทาง,ขึ้นสู่ถนนหนทางที่เหมาะสมราบรื่นจริงทันที,ปัจจุบันทั้งกฎหมายและระบบปกครองไทยเราเต็มไปด้วยภายใต้การเป็นทาสของต่างชาติมิใช่ไทเสรีอะไรใดๆเลย กฎหมายมากมายเป็นทาสฝรั่งนายทุนชัดเจนและกดขี่ประชาชนคนไทยมากกว่า ตลอดเป็นด้วยการสูญเสียทรัพยากรมีค่ามากมายบนแผ่นดินของประเทศไทย,สูญเสียวัตถุดิบบนแผ่นดินไทยตนเองที่จำเป็นต้องบริหารจัดการใช้ในการพัฒนาชาติไทยตนให้ประชาชนมีความผาสุกร่มเย็นไม่ทุกข์ยาก ยากจนเข็ญใจลำเค็ญแบบปัจจุบันนี้. ..พันธมิตรคณะรวมพลังแผ่นดินไทยจึงคือหนทางเดี๋ยวจริงๆ,เราสามารถสร้างกองทัพภาคประชาชนเร็วเชิงรุกได้,บูรณาการระดับล่างทำความเข้าใจไม่ยาก เช่น มีสำนักงานประสานงานภาคประชาชนจริงประจำหมู่บ้านทุกๆหมู่บ้านชุมชน 80,000หมู่บ้านทั่วประเทศนี้,ยุบอบต.อบจ.มีแค่อำเภอ.จังหวัดก็พอ,เงินมากมายจะสนับสนุนกองทัพย่อยภาคประชาชนระดับหมู่บ้านทันที ใกล้ชิดปัญหาจริง ขจัดปัญหาได้เร็วเพราะเข้าถึงได้ตรงจุด,มีโครงการอะไร ย้ายมาสำนักงานนี้ทำความเข้าใจชัดตรงจุดแก้ประชาชน.การบริหารประเทศจะก้าวอย่างก้าวกระโดดทันที.
    Live "ความจริงมีหนึ่งเดียว" ครั้งที่ 3 ประจำปี 2568 ณ หอประชุมเล็ก ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

    คลิกชม https://m.youtube.com/watch?v=jeJPjdQo0KUt
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • ถ้าสว.โดน แสดงว่าการจัดตัังรัฐบาลจะมิชอบทันทีเพราะสว.เป็นคนละคะแนนรับรองด้วย.,ตลอดถึงสว.รับรองการมีอยู่ของครม.เชื่อมต่อกันหมด,เพราะดับอนาถที่ต้นเรื่องด้วยนั้นเอง,นั้นคือการมีอยู่ของรัฐบาลชุดปัจจุบันโมฆะทันที,เพราะเป็นการเกิดขึ้นโดยมิชอบทั้งตัวนายกฯเองทีีเกิดขึ้นมิชอบด้วย,การยื่นเสนอนายกฯได้เพราะมีรัฐบาลที่สว.ลงคะแนนให้เป็นด้วยนั้นเอง,จริงฯmouใดๆข้อตกลงใดๆในเวลานี้ รักษานายกฯไม่สามารถดำเนินการตัดสินใจได้และจะต้องโมฆะทัังหมดเพราะตนเองมิใช่นายกฯ100%,การเจรจาตกลงกับทรัมป์เรื่องภาษี36%นี้ก็ด้วย,รักษานายกมิสามารถกระทำได้ ยิ่งถ้าไปตกลงเรื่องตั้งฐานทัพในพังงา ตลอดยกเลิกมาตรา ม.112 อีกยิ่งไม่สามารถดำเนินการทัังทางตรงและทางลับได้,และหากดูดีๆนี้คือแผนที่อเมริกาไซออนิสต์จัดเตรียมไว้ด้วย ไทยเขมรคุยกันอัดเทปมาปล่อย ต่อมาให้นายกฯนอมินีออกจากวงเพราะเป็นเรื่องเกินตัวรักษาคุ้มครองลูกตนไว้,ให้รักษาการเล่นหมากแทนเพราะบทบาทจะเป็นเพียงรักษาการ,อเมริกาไซออนิสต์นำโดยเหี้ยทรัมป์บังเอิญที่มิใช่บังเอิญทำทีหยิบเรื่องภาษีมาชูเล่นในจังหวะเวลานี้พอดีเป๊ะเลย คือเตรียมเรื่องภาษีที่เดินหมากมาหลายเดือนแล้วจะได้ใช้อีกทีนัดสำคัญที่ไทยนี้ล่ะจากเคยใช้ในหลายประเทศมาแล้วบีบบังคับรีดไถ่ตังทุกๆประเทศทั่วโลกเพื่อหาตังใช้หนี้อเมริกาที่ยิวไซออนิสต์แกล้งไม่เข้าช่วยก็ว่า,จนมาถึงจังหวะที่ไทยจะได้รุกคืบกำจัดสถาบันพระมหากษัตริย์ในไทยคราวเดียวเลย,ได้ตั้งฐานทัพที่พังงายึดเส้นทางสายไหมจีนด้วยตัดเส้นทางสายไหมจีนดับฝันจีนไปในตัว ยิวไซออนิสต์นำโดยขี้ข้าอเมริกาdeep stateที่ทรัมป์ทรยศฝ่ายแสงยึดภาคใต้ไทยด้วยเลยแบ่งแยกประเทศไทยให้ภาคใต้เป็นอิสระก็ว่ายึดภาคใต้เลย,จึงเตรียมกฎหมายยึดภาคใต้ปูทางอ้างSECเตรียมไว้แล้วและทั้งขุดคลองคอดกระในอนาคตอีกที่คู่ขนานแลนด์บริดจ์ปูทางยึดภาคใต้ไว้ก่อน มีกฎหมายรับรองพื้นที่บริหารจัดการแลนด์บริดจ์รอให้ไว้ก่อนแล้ว,รุกฆาตโชว์สันดานแท้โชว์ตัวออกมาคือยึดภาคใต้ผ่านมุกตั้งกองทัพในพังงาอย่างอิสระเหยียบอธิปไตยไทยคุมอาเชียนทัังทางทะเลและลาดตะเวนทางบกก็สะดวก บินทิ้งระเบิดได้หมด บินไปอินโดฯก็สะดวก,บินไปพม่าเข้าจีนทิ้งระเบิดก็สบาย,จีนยิงขีปนาวุธมาก็มีเวลาพอยิงสกัดทันเพราะไกลขึ้นนิดหน่อยไม่ใช่ใกล้แบบเชียงใหม่.
    ..
    ..

    https://youtu.be/cu5Yue0XLNI?si=neBBeJFV4y9NvQ3C
    ถ้าสว.โดน แสดงว่าการจัดตัังรัฐบาลจะมิชอบทันทีเพราะสว.เป็นคนละคะแนนรับรองด้วย.,ตลอดถึงสว.รับรองการมีอยู่ของครม.เชื่อมต่อกันหมด,เพราะดับอนาถที่ต้นเรื่องด้วยนั้นเอง,นั้นคือการมีอยู่ของรัฐบาลชุดปัจจุบันโมฆะทันที,เพราะเป็นการเกิดขึ้นโดยมิชอบทั้งตัวนายกฯเองทีีเกิดขึ้นมิชอบด้วย,การยื่นเสนอนายกฯได้เพราะมีรัฐบาลที่สว.ลงคะแนนให้เป็นด้วยนั้นเอง,จริงฯmouใดๆข้อตกลงใดๆในเวลานี้ รักษานายกฯไม่สามารถดำเนินการตัดสินใจได้และจะต้องโมฆะทัังหมดเพราะตนเองมิใช่นายกฯ100%,การเจรจาตกลงกับทรัมป์เรื่องภาษี36%นี้ก็ด้วย,รักษานายกมิสามารถกระทำได้ ยิ่งถ้าไปตกลงเรื่องตั้งฐานทัพในพังงา ตลอดยกเลิกมาตรา ม.112 อีกยิ่งไม่สามารถดำเนินการทัังทางตรงและทางลับได้,และหากดูดีๆนี้คือแผนที่อเมริกาไซออนิสต์จัดเตรียมไว้ด้วย ไทยเขมรคุยกันอัดเทปมาปล่อย ต่อมาให้นายกฯนอมินีออกจากวงเพราะเป็นเรื่องเกินตัวรักษาคุ้มครองลูกตนไว้,ให้รักษาการเล่นหมากแทนเพราะบทบาทจะเป็นเพียงรักษาการ,อเมริกาไซออนิสต์นำโดยเหี้ยทรัมป์บังเอิญที่มิใช่บังเอิญทำทีหยิบเรื่องภาษีมาชูเล่นในจังหวะเวลานี้พอดีเป๊ะเลย คือเตรียมเรื่องภาษีที่เดินหมากมาหลายเดือนแล้วจะได้ใช้อีกทีนัดสำคัญที่ไทยนี้ล่ะจากเคยใช้ในหลายประเทศมาแล้วบีบบังคับรีดไถ่ตังทุกๆประเทศทั่วโลกเพื่อหาตังใช้หนี้อเมริกาที่ยิวไซออนิสต์แกล้งไม่เข้าช่วยก็ว่า,จนมาถึงจังหวะที่ไทยจะได้รุกคืบกำจัดสถาบันพระมหากษัตริย์ในไทยคราวเดียวเลย,ได้ตั้งฐานทัพที่พังงายึดเส้นทางสายไหมจีนด้วยตัดเส้นทางสายไหมจีนดับฝันจีนไปในตัว ยิวไซออนิสต์นำโดยขี้ข้าอเมริกาdeep stateที่ทรัมป์ทรยศฝ่ายแสงยึดภาคใต้ไทยด้วยเลยแบ่งแยกประเทศไทยให้ภาคใต้เป็นอิสระก็ว่ายึดภาคใต้เลย,จึงเตรียมกฎหมายยึดภาคใต้ปูทางอ้างSECเตรียมไว้แล้วและทั้งขุดคลองคอดกระในอนาคตอีกที่คู่ขนานแลนด์บริดจ์ปูทางยึดภาคใต้ไว้ก่อน มีกฎหมายรับรองพื้นที่บริหารจัดการแลนด์บริดจ์รอให้ไว้ก่อนแล้ว,รุกฆาตโชว์สันดานแท้โชว์ตัวออกมาคือยึดภาคใต้ผ่านมุกตั้งกองทัพในพังงาอย่างอิสระเหยียบอธิปไตยไทยคุมอาเชียนทัังทางทะเลและลาดตะเวนทางบกก็สะดวก บินทิ้งระเบิดได้หมด บินไปอินโดฯก็สะดวก,บินไปพม่าเข้าจีนทิ้งระเบิดก็สบาย,จีนยิงขีปนาวุธมาก็มีเวลาพอยิงสกัดทันเพราะไกลขึ้นนิดหน่อยไม่ใช่ใกล้แบบเชียงใหม่. .. .. https://youtu.be/cu5Yue0XLNI?si=neBBeJFV4y9NvQ3C
    0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
  • MK ร่วมแจม ศึกสุกี้ตลาดแมส

    ในที่สุด บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) หรือ M เจ้าของภัตตาคารอาหารเอ็มเค และอีกสารพัดแบรนด์ ตัดสินใจโดดร่วมสมรภูมิสุกี้ตลาดแมส ด้วยการเปิดร้านสุกี้แบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า "โบนัสสุกี้" ประเดิมสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สระบุรี จ.สระบุรี ในวันที่ 16 ก.ค. ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึง 05.00 น. พร้อมเปิดตัวอย่างร้อนแรงด้วยโปรโมชันฉลองเปิดสาขา 1 ฟรี 1 เป็นเวลา 5 วัน วันละ 100 สิทธิ์

    นับเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของเอ็มเค หลังคู่แข่งอย่างร้านสุกี้ตี๋น้อย ของ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด ประสบความสำเร็จด้วยจำนวนสาขา 82 สาขา มีกำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 รวม 271 ล้านบาท แซงหน้าเอ็มเคที่มีกำไรสุทธิ 234 ล้านบาท รวมทั้งคู่แข่งในตลาดเดียวกันอย่าง ร้านลัคกี้สุกี้ ของบริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด ที่มี 19 สาขาอีกด้วย ทำให้เอ็มเคตัดสินใจตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อว่า บริษัท คุ้มคุ้ม จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา

    สำหรับจังหวัดสระบุรี นอกจากมีรายได้ต่อหัวสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ เป็นแหล่งผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ รวมทั้งมีค่ายอดิศร เป็นที่ตั้งของศูนย์การทหารม้า มณฑลทหารบกที่ 18 รวมทั้งโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ที่ อ.มวกเหล็ก แล้ว ยังเป็นทางผ่านสู่ภาคอีสานด้วยถนนมิตรภาพ และมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา ที่ผ่านมามีสุกี้ตี๋น้อย เปิดสาขาสระบุรีที่ปั๊มบางจาก B5 อเวนิว ใกล้ห้างบิ๊กซีเพลสสระบุรี และลัคกี้สุกี้ สาขาโลตัสสระบุรี

    ก่อนหน้านี้เอ็มเคได้ทดลองจัดโปรโมชัน “MK บุฟเฟต์ คุ้มคุ้มอิ่มไม่อั้น 90 นาที” ราคา 299 บาทต่อคน หากลูกค้ามา 4 คน สามารถสั่งกุ้งแม่น้ำได้ไม่อั้น เฉพาะร้านเอ็มเค เรสโตรองต์ สาขาในห้างค้าปลีก เช่น โลตัส และบิ๊กซี รวม 250 สาขา พบว่าลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี จึงขยายโปรโมชันถึงวันที่ 31 ก.ค. 2568 พร้อมเพิ่มสาขาร่วมรายการอีก 49 สาขา รวม 299 สาขา นอกจากนี้ ยังทดลองขยายเวลาให้บริการถึงเวลา 24.00 น. จำนวน 9 สาขา และเวลา 23.00 น. จำนวน 8 สาขา เพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการรับประทานอาหารในช่วงกลางคืนหรือหลังเลิกงาน

    การเปิดแบรนด์สุกี้ใหม่ของเอ็มเค นอกจากจะสร้างสีสันการแข่งขันสุกี้ตลาดแมสให้คึกคัก ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพเศรษฐกิจแล้ว ยังส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก เช่น ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ที่ปัจจุบันมีพื้นที่ว่างจำนวนมาก แม้จะต้องปรับตัวเรื่องการรักษาความปลอดภัยหลังศูนย์การค้าปิดให้บริการก็ตาม

    #Newskit
    MK ร่วมแจม ศึกสุกี้ตลาดแมส ในที่สุด บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) หรือ M เจ้าของภัตตาคารอาหารเอ็มเค และอีกสารพัดแบรนด์ ตัดสินใจโดดร่วมสมรภูมิสุกี้ตลาดแมส ด้วยการเปิดร้านสุกี้แบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า "โบนัสสุกี้" ประเดิมสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สระบุรี จ.สระบุรี ในวันที่ 16 ก.ค. ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึง 05.00 น. พร้อมเปิดตัวอย่างร้อนแรงด้วยโปรโมชันฉลองเปิดสาขา 1 ฟรี 1 เป็นเวลา 5 วัน วันละ 100 สิทธิ์ นับเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของเอ็มเค หลังคู่แข่งอย่างร้านสุกี้ตี๋น้อย ของ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด ประสบความสำเร็จด้วยจำนวนสาขา 82 สาขา มีกำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 รวม 271 ล้านบาท แซงหน้าเอ็มเคที่มีกำไรสุทธิ 234 ล้านบาท รวมทั้งคู่แข่งในตลาดเดียวกันอย่าง ร้านลัคกี้สุกี้ ของบริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด ที่มี 19 สาขาอีกด้วย ทำให้เอ็มเคตัดสินใจตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อว่า บริษัท คุ้มคุ้ม จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา สำหรับจังหวัดสระบุรี นอกจากมีรายได้ต่อหัวสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ เป็นแหล่งผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ รวมทั้งมีค่ายอดิศร เป็นที่ตั้งของศูนย์การทหารม้า มณฑลทหารบกที่ 18 รวมทั้งโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช ที่ อ.มวกเหล็ก แล้ว ยังเป็นทางผ่านสู่ภาคอีสานด้วยถนนมิตรภาพ และมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา ที่ผ่านมามีสุกี้ตี๋น้อย เปิดสาขาสระบุรีที่ปั๊มบางจาก B5 อเวนิว ใกล้ห้างบิ๊กซีเพลสสระบุรี และลัคกี้สุกี้ สาขาโลตัสสระบุรี ก่อนหน้านี้เอ็มเคได้ทดลองจัดโปรโมชัน “MK บุฟเฟต์ คุ้มคุ้มอิ่มไม่อั้น 90 นาที” ราคา 299 บาทต่อคน หากลูกค้ามา 4 คน สามารถสั่งกุ้งแม่น้ำได้ไม่อั้น เฉพาะร้านเอ็มเค เรสโตรองต์ สาขาในห้างค้าปลีก เช่น โลตัส และบิ๊กซี รวม 250 สาขา พบว่าลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี จึงขยายโปรโมชันถึงวันที่ 31 ก.ค. 2568 พร้อมเพิ่มสาขาร่วมรายการอีก 49 สาขา รวม 299 สาขา นอกจากนี้ ยังทดลองขยายเวลาให้บริการถึงเวลา 24.00 น. จำนวน 9 สาขา และเวลา 23.00 น. จำนวน 8 สาขา เพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการรับประทานอาหารในช่วงกลางคืนหรือหลังเลิกงาน การเปิดแบรนด์สุกี้ใหม่ของเอ็มเค นอกจากจะสร้างสีสันการแข่งขันสุกี้ตลาดแมสให้คึกคัก ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพเศรษฐกิจแล้ว ยังส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก เช่น ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ที่ปัจจุบันมีพื้นที่ว่างจำนวนมาก แม้จะต้องปรับตัวเรื่องการรักษาความปลอดภัยหลังศูนย์การค้าปิดให้บริการก็ตาม #Newskit
    0 Comments 0 Shares 76 Views 0 Reviews
  • มาแล้วครับ ตัวเลขสถิติการเสียชีวิตของคนไทย ครึ่งแรกของปี เทียบรายปีตั้งแต่ปี 2558 ถึงปีปัจจุบัน2568 ให้สังเกตแนวโน้มเส้นสีฟ้าว่า กำลังอยู่ขาขึ้น
    ที่น่าสนใจ สีเหลืองคือ ก่อนการระบาดของโควิด สีส้มคือช่วงที่มีการระบาดหนักจนต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน สีแดงคือ การระบาดยุติ เลิกปิดบ้านปิดเมือง
    เห็นได้ชัดเจนว่า ปีแรกของการระบาด คนไทยไม่ได้ตายเพิ่มขึ้น ปีนั้นยังไม่มีวัคซีน
    ปีที่สองของการระบาด มีการฉีดวัคซีนกลับตายเพิ่มขึ้น
    ปี 2564 เริ่มมีการระดมฉีดวัคซีน กลับตายเพิ่มขึ้น
    แต่ที่น่า ตั้งคำถาม คือ ปี 2565 2566 2567 ที่ การระบาดยุติลง คนไทยกลับตายเพิ่มขึ้น มากกว่าก่อนการระบาดของโควิด ทั้งที่ เมื่อโควิด ยุติลง อัตราการเสียชีวิตควรจะกลับไปใกล้เคียงก่อนการระบาด
    ปีปัจจุบัน คนไทยยังเสียชีวิตในอัตราที่สูง แนวโน้มก็ยังอยู่ในขาขึ้น ทำไม?
    ถ้ารัฐบาล ใส่ใจ เรื่องชีวิตของคนไทย ต้องการแก้ปัญหาสาธารณสุข แค่เอาข้อมูล อายุเฉลี่ยของผู้ที่เสียชีวิตมาเทียบกันดู ก็จะเห็นว่า คนที่ตายอายุ น้อยลงด้วยไหม ตายก่อนวัยอันควรไหม?
    หลาย คนอาจสงสัยทำไมผมไม่วิเคราะห์เอง?
    ผม ไม่ได้เป็น รัฐบาล ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้
    แต่ รัฐบาล คณะรัฐมนตรี ทำได้ง่ายๆ แต่ จะทำหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ว่า เขาเห็นความสำคัญของชีวิตคนไทยไหม?

    นิลฉงน นลเฉลย
    https://www.facebook.com/share/p/167nL51Umt/

    ขอขอบคุณอาจารย์หมอที่สละเวลาทำข้อมูลให้คนไทยได้ตื่นครับ
    มาแล้วครับ ตัวเลขสถิติการเสียชีวิตของคนไทย ครึ่งแรกของปี เทียบรายปีตั้งแต่ปี 2558 ถึงปีปัจจุบัน2568 ให้สังเกตแนวโน้มเส้นสีฟ้าว่า กำลังอยู่ขาขึ้น ที่น่าสนใจ สีเหลืองคือ ก่อนการระบาดของโควิด สีส้มคือช่วงที่มีการระบาดหนักจนต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน สีแดงคือ การระบาดยุติ เลิกปิดบ้านปิดเมือง เห็นได้ชัดเจนว่า ปีแรกของการระบาด คนไทยไม่ได้ตายเพิ่มขึ้น ปีนั้นยังไม่มีวัคซีน ปีที่สองของการระบาด มีการฉีดวัคซีนกลับตายเพิ่มขึ้น ปี 2564 เริ่มมีการระดมฉีดวัคซีน กลับตายเพิ่มขึ้น แต่ที่น่า ตั้งคำถาม คือ ปี 2565 2566 2567 ที่ การระบาดยุติลง คนไทยกลับตายเพิ่มขึ้น มากกว่าก่อนการระบาดของโควิด ทั้งที่ เมื่อโควิด ยุติลง อัตราการเสียชีวิตควรจะกลับไปใกล้เคียงก่อนการระบาด ปีปัจจุบัน คนไทยยังเสียชีวิตในอัตราที่สูง แนวโน้มก็ยังอยู่ในขาขึ้น ทำไม? ถ้ารัฐบาล ใส่ใจ เรื่องชีวิตของคนไทย ต้องการแก้ปัญหาสาธารณสุข แค่เอาข้อมูล อายุเฉลี่ยของผู้ที่เสียชีวิตมาเทียบกันดู ก็จะเห็นว่า คนที่ตายอายุ น้อยลงด้วยไหม ตายก่อนวัยอันควรไหม? หลาย คนอาจสงสัยทำไมผมไม่วิเคราะห์เอง? ผม ไม่ได้เป็น รัฐบาล ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ แต่ รัฐบาล คณะรัฐมนตรี ทำได้ง่ายๆ แต่ จะทำหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ว่า เขาเห็นความสำคัญของชีวิตคนไทยไหม? นิลฉงน นลเฉลย https://www.facebook.com/share/p/167nL51Umt/ ขอขอบคุณอาจารย์หมอที่สละเวลาทำข้อมูลให้คนไทยได้ตื่นครับ 🙏🙏🙏
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
More Results