• สนธิเล่าเรื่อง 28-4-68
    .
    เช้าวันจันทร์ หลังรับประทานอาหารเช้าเป็น ข้าวไก่ย่างสูตรพิเศษ ไข่เจียวทอดน้ำปลา และไข่ต้มยางมะตูม คุณสนธิจะมาอัพเดตถึงสถานการณ์โลก สถานการณ์บ้านเมือง รวมถึงผู้คน-เรื่องราว-ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่คุณสนธิได้พบเจอ รับรองว่าหาฟังที่ไหนไม่ได้ เชิญรับชม
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=yiOw_mcjUfE
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #
    สนธิเล่าเรื่อง 28-4-68 . เช้าวันจันทร์ หลังรับประทานอาหารเช้าเป็น ข้าวไก่ย่างสูตรพิเศษ ไข่เจียวทอดน้ำปลา และไข่ต้มยางมะตูม คุณสนธิจะมาอัพเดตถึงสถานการณ์โลก สถานการณ์บ้านเมือง รวมถึงผู้คน-เรื่องราว-ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่คุณสนธิได้พบเจอ รับรองว่าหาฟังที่ไหนไม่ได้ เชิญรับชม . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=yiOw_mcjUfE . #สนธิเล่าเรื่อง #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #
    Like
    4
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงวิธีป้องกันไม่ให้ อุปกรณ์สตรีมมิ่ง เช่น Fire Stick, Roku, Chromecast และ Apple TV ติดตามพฤติกรรมการรับชมของคุณ โดยอุปกรณ์เหล่านี้มักรวบรวมข้อมูลส่วนตัว เช่น ประวัติการค้นหา การตั้งค่า และการโต้ตอบกับโฆษณา เพื่อปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานและแสดงโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย

    แม้ว่าการเก็บข้อมูลบางส่วนจะจำเป็นสำหรับการทำงานพื้นฐาน แต่การเก็บข้อมูลที่มากเกินไปอาจทำให้คุณสูญเสียความเป็นส่วนตัวและตกอยู่ใน "วงจำกัดของข้อมูล" (filter bubble) ซึ่งจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาที่หลากหลาย

    ✅ การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    - ตรวจสอบและปิดการตั้งค่าการติดตามในอุปกรณ์สตรีมมิ่ง
    - จำกัดการติดตามโฆษณาและเลือกไม่รับโฆษณาแบบเจาะจง

    ✅ การใช้ VPN
    - ใช้ VPN เพื่อเข้ารหัสการรับส่งข้อมูลและปกปิดที่อยู่ IP

    ✅ การจัดการคำสั่งเสียง
    - ปิดการใช้งานคำสั่งเสียงหรือใช้งานอย่างระมัดระวัง

    ✅ การตัดการเชื่อมต่อเมื่อไม่ใช้งาน
    - ตัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์จากอินเทอร์เน็ตเมื่อไม่ได้ใช้งาน

    ✅ คำแนะนำเฉพาะสำหรับอุปกรณ์
    - Apple TV: ปิดการติดตามในแอปและการวิเคราะห์
    - Google Chromecast: ปิดการวิเคราะห์และการปรับแต่งโฆษณา
    - Roku: ปิดการติดตามโฆษณาและการเข้าถึงไมโครโฟน
    - Amazon Fire TV: ปิดการเก็บข้อมูลการใช้งานและโฆษณาแบบเจาะจง

    https://www.zdnet.com/home-and-office/home-entertainment/is-your-streaming-device-tracking-your-tv-viewing-habits-yes-but-heres-how-to-stop-it/
    บทความนี้กล่าวถึงวิธีป้องกันไม่ให้ อุปกรณ์สตรีมมิ่ง เช่น Fire Stick, Roku, Chromecast และ Apple TV ติดตามพฤติกรรมการรับชมของคุณ โดยอุปกรณ์เหล่านี้มักรวบรวมข้อมูลส่วนตัว เช่น ประวัติการค้นหา การตั้งค่า และการโต้ตอบกับโฆษณา เพื่อปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานและแสดงโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย แม้ว่าการเก็บข้อมูลบางส่วนจะจำเป็นสำหรับการทำงานพื้นฐาน แต่การเก็บข้อมูลที่มากเกินไปอาจทำให้คุณสูญเสียความเป็นส่วนตัวและตกอยู่ใน "วงจำกัดของข้อมูล" (filter bubble) ซึ่งจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาที่หลากหลาย ✅ การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว - ตรวจสอบและปิดการตั้งค่าการติดตามในอุปกรณ์สตรีมมิ่ง - จำกัดการติดตามโฆษณาและเลือกไม่รับโฆษณาแบบเจาะจง ✅ การใช้ VPN - ใช้ VPN เพื่อเข้ารหัสการรับส่งข้อมูลและปกปิดที่อยู่ IP ✅ การจัดการคำสั่งเสียง - ปิดการใช้งานคำสั่งเสียงหรือใช้งานอย่างระมัดระวัง ✅ การตัดการเชื่อมต่อเมื่อไม่ใช้งาน - ตัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์จากอินเทอร์เน็ตเมื่อไม่ได้ใช้งาน ✅ คำแนะนำเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ - Apple TV: ปิดการติดตามในแอปและการวิเคราะห์ - Google Chromecast: ปิดการวิเคราะห์และการปรับแต่งโฆษณา - Roku: ปิดการติดตามโฆษณาและการเข้าถึงไมโครโฟน - Amazon Fire TV: ปิดการเก็บข้อมูลการใช้งานและโฆษณาแบบเจาะจง https://www.zdnet.com/home-and-office/home-entertainment/is-your-streaming-device-tracking-your-tv-viewing-habits-yes-but-heres-how-to-stop-it/
    WWW.ZDNET.COM
    How to prevent your streaming device from tracking your viewing habits (and why it makes a difference)
    Your Fire Stick, Roku, and other streaming devices collect your personal data for various reasons. If you're uncomfortable with that, here's how to get peace of mind.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ เข้าสู่แพลทฟอร์ม สตรีมมิ่งของจีน เรียบร้อย...เมื่อวานนี้ 11 เม.ย.
    แฟนคลับเซียวจ้านเตรียมรับชมได้ทางแพลทฟอร์ม Wetv, iQIYI, Youku, mango Tv
    มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ เข้าสู่แพลทฟอร์ม สตรีมมิ่งของจีน เรียบร้อย...เมื่อวานนี้ 11 เม.ย. แฟนคลับเซียวจ้านเตรียมรับชมได้ทางแพลทฟอร์ม Wetv, iQIYI, Youku, mango Tv
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • วรรณกรรมประเภทหนึ่งที่ตอนนี้มีเยอะมากโดยเฉพาะจากฝั่งตะวันออก (จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี) แต่ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไร คือเรื่องแนวฟีลกู๊ดประเภทสถานที่เยียวยาจิตใจ ไม่ใช่เพราะผมเป็นพวกจิตใจหยาบกระด้างหรือชอบเสพแต่ความดาร์กและความสยอง แต่เพราะผมมองว่าตัวเองพอดักทางได้ว่าเรื่องพวกนั้นมี "สาร" อย่างไร ต้องการสอนผู้อ่านอย่างไร ทั้งนี้ก็จะมีบางเรื่องที่เป็นข้อยกเว้น หนึ่งในนั้นคือคาเฟ่ของแม่หมอมานูล

    'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' โดย อัตสึกิ โอโตะ เป็นนิยายแบบที่ผมคงไม่สนใจในแวบแรก ถ้าไม่ใช่เพราะโดนล่อตาล่อใจจากของแถมที่ทาง สนพ. บอกว่ามีเฉพาะในรอบพิมพ์ครั้งแรกเท่านั้น นั่นคือ ไพ่ทาโรต์ขนาดเล็ก ๆ 5 ใบที่เป็นภาพคุณมานูล แมวหมอดูตัวเอกประจำเรื่อง ข้อนี้เลยเป็นตัวแปรสำคัญให้ผมเปิดใจรับหนังสือเล่มนี้มาบรรจุเข้าชั้นที่บ้าน

    ไหน ๆ ก็พูดถึงหนังสือเล่มนี้แล้ว ผมก็เห็นว่ามันควรค่าแก่การรีวิวในแบบของไพ่เราเผาเรื่อง แต่รอบนี้จะต่างจากครั้งอื่น ๆ ตรงที่ผมจะไม่ใช้ไพ่ทาโรต์หรือไพ่พยากรณ์สำรับใด ๆ ในคลัง แต่จะใช้ไพ่แถม 5 ใบที่มากับหนังสือเล่มนี้เป็นเครื่องมือประกอบการ "เผาเรื่อง" โดยสับไพ่แล้วสุ่มหยิบตามลำดับ

    ขอเชิญรับชม #ไพ่เราเผาหนังสือ 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' ด้วยไพ่แถมสุดน่ารักทั้ง 5 ใบ ได้ ณ บัดนี้ครับ

    ----------

    "เรื่องจบในตอนพร้อมข้อคิดดี ๆ"
    🃏The Sun + 🃏The World

    ในไพ่ทาโรต์ 78 ใบ The Sun เป็นไพ่ที่ความหมายดีรอบด้านในอันดับต้น ๆ แต่ไพ่ใบนี้ยังสื่อถึง "ความจริง" และ "ข้อคิดที่เป็นประโยชน์" ได้ด้วย ส่วน The World ในฐานะไพ่ใบสุดท้ายของไพ่ชุดหลัก (Major Arcana) จึงมักสื่อความถึง "จุดสิ้นสุด" และ "ความสมบูรณ์" แต่มันไม่ใช่การตัดจบแบบบริบูรณ์หรือ Happily Ever After ทว่าเป็นการจบลงของบทหนึ่งเพื่อที่จะเข้าสู่บทถัดไป

    'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' มีลักษณะการเขียนแบบที่มักเจอใน Fiction ประเภทสถานที่ที่ช่วยให้ผู้คนได้ฮีลใจ นั่นคือเป็นนวนิยายแบบเนื้อเรื่องจบในตอน (Episodic novel) โดยแต่ละตอนมักจะมีข้อคิดจรรโลงใจหรือมุมมองที่น่าสนใจแตกต่างกัน บางครั้งต่างตอนก็มีสารหรือข้อคิดสำหรับคนต่างกลุ่มต่างจำพวก

    หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยเนื้อเรื่อง 5 บท แต่ละบทสามารถอ่านแยกในฐานะเรื่องสั้นที่จบสมบูรณ์ในตัวเองได้ แต่ตอนหลัง ๆ ก็จะมีรายละเอียดบางอย่างที่ต่อเนื่องจากตอนก่อน ๆ ตัวละครดำเนินเรื่องในแต่ละตอนมีช่วงอายุ บทบาท และปัญหาคาใจแตกต่างกัน มีทั้งเด็กมัธยมที่หาทาง fit in ในสังคมห้องเรียน อินฟลูเอนเซอร์สาว ซิงเกิลมัม ไปจนถึงวัยกลางคนที่กำลังสับสนกับทิศทางชีวิตและหน้าที่การงานของตัวเอง จากนั้นโชคชะตาหรือพล็อตเรื่องก็จะพาตัวละครไปเจอกับคุณมานูลและคาเฟมาร์เนิล

    คุณมานูล ศูนย์กลางของเรื่อง เดิมเคยเป็นมนุษย์ชื่อ คาวาตานิ ไอซาวะ แต่ด้วยสาเหตุบางอย่าง นางเลือก 'ลาออก' จากการเป็นมนุษย์ มาอยู่ในร่างของแมวมานูล (Manul) หรืออีกชื่อคือแมวพัลลาส (Pallas's cat) และรับดูดวงด้วยสารพัดวิธี ไม่ว่าจะใช้ไพ่ ลูกแก้ว หรือเครื่องเสี่ยงเซียมซีรูเลตต์ พร้อมทั้งเปิดคาเฟ่ร่วมกับคนที่น่าจะเป็นสามีและลูกสาว (ส่วนชื่อคาเฟ่ ทำไมถึงชื่อ "มาร์เนิล" แทนที่จะเป็น "มานูล" ตรงนี้ในหนังสือมีอธิบายไว้ แต่สั้น ๆ คือเป็นมุกที่เล่นกับตัวเขียนญี่ปุ่นแบบคาตาคานะ ซึ่งต้องขอชื่นชมผู้แปลที่พยายามเรียบเรียงเป็นไทยให้ใกล้เคียงโดยไม่เสียอรรถรสของต้นฉบับ)

    เนื้อเรื่องแต่ละตอนดำเนินไปอย่างค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จ เริ่มจากแนะนำตัวละครและชีวิตประจำวันที่เจ้าตัวไม่พึงพอใจเท่าไร จากนั้นตัวละครก็จะได้เจอคุณมานูลช่วยทำนายดวงชะตาพร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบคร่าว ๆ เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งตัวละครจะทำตามและอะไร ๆ ก็ดูจะดีขึ้นจริง ๆ แต่แล้วก็จะมีเหตุสักอย่างให้ชีวิตตัวละครกลับไปเป็นแบบตอนต้นเรื่องหรือเผลอ ๆ เหมือนจะดูแย่ลง และทำให้ตัวละครได้รับการชี้แนะจากคุณมานูลเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งคราวนี้เรื่องก็จะดูจบตอนแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ชวนให้นึกถึงโดราเอมอนแแบบอนิเมะในทีวีที่ฉายเป็นตอน ๆ หรือการ์ตูนต่อสู้อย่างเซเลอร์มูนช่วงแรก ๆ ที่จะมีตัวร้ายประจำสัปดาห์ (Monster of the week) มาให้ตัวเอกปราบ

    นิยายประเภทสถานที่ฮีลใจมักมีตัวละครประจำตอนที่แแตกต่างกันทั้งช่วงอายุและอาชีพ เพื่อจะได้เป็นตัวแทนของคนอ่านในกลุ่มต่าง ๆ นิยายเล่มนี้ก็เช่นกัน ทั้ง 5 ตอนมีตัวละครตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยกลางคน ซึ่งก็น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ผู้เขียนคคาดหวังว่าจะรวมอยู่ในหมู่คนอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วย และถึงแม้ปัญหาที่ตัวละครในเรื่องเผชิญอาจไม่ตรงกับเรื่องที่คนอ่านในช่วงวัยเดียวกันเจอในชีวิตจริงทั้งหมด แต่ข้อคิดและคำแนะนำจากคุณมานููลในแต่ละตอนก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เช่นกัน

    ----------

    "เยียวยาจิตใจในสถานที่ที่มอบความสุข"
    🃏The Star + 🃏Ten of Cups

    The Star คือดวงดาว จึงเป็นไพ่ตัวแทนหลายสิ่งหลายอย่างที่คนเรามักเชื่อมโยงกับดาว ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง ความโด่งดัง หรือความหวัง แต่มันก็มีอีกความหมายหนึ่ง นั่นคือ "การเยียวยา" ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ส่วนไพ่ 10 ถ้วย โดยทั่วไปมักหมายถึงบ้านหรือครอบครัว แต่บางกรณีก็สื่อถึง "ความสุขอย่างเต็มเปี่ยม" โดยเป็นความสุขที่มาจากกลุ่มคนที่อยู่กันสนิทชิดเชื้อเหมือนเป็นครอบครัว (แบบใน "แฟ้มเมอะหลี่" ของพี่ดอม ทอร์เรตโต แห่งซีรีส์ Fast & Furious) หรือจากาสถานที่มีผู้พร้อมจะส่งมอบความสุขให้ผู้อื่น

    คาเฟ่มาร์เนิลของคุณมานูลลงล็อกพอดีกับคำจำกัดความของสถานที่แบบที่ว่า แต่ก็อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ข้างบน ๆ นิยายเรื่องนี้ผลิตซ้ำ Trope ของสถานที่ที่ให้ความช่วยเหลือผู้คนในการแก้ปัญหาและเยียวยาจิตใจ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมกันในวงการวรรณกรรมฝั่งเอเชียตะวันออก แต่ละเรื่องอาจมีสถานที่ต่างกันไป บางเรื่องเป็นคาเฟ่ บางเรื่องเป็นร้านเบเกอรี่ บ้างเรื่องเป็นร้านหนังสือหรือห้องสมุด แต่ทุกเรื่องจบลงที่ตัวละครซึ่งไปเยือนสถานที่นั้น ๆ ได้เยียวยาบาดแผลหรือปมปัญหาในใจ หรือได้ปลดล็อกอะไรสักอย่างที่ติดค้างอยู่

    น่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า ในชีวิตจริงซึ่งไม่ได้มีมนตร์วิเศษอยู่ (อย่างน้อยก็ในแบบที่มักเกิลอย่างเรา ๆ จับต้องและพิสูจน์ได้) คนเราก็มีสถานที่สำหรับเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำและแตกร้าว นอกจากกลับบ้านไปหาครอบครัวแล้ว ที่อื่นที่คนมักไปเพื่อฮีลใจตัวเอง เช่น คาเฟ่ ซุ้มหมอดู (หรือบางคนก็ทักไปหาหมอดูทางออนไลน์) และที่ใดก็ตามที่มีแมวอยู่ กล่าวอีกอย่างคือ คาเฟ่ การดูดวง และแมว คือ Top 3 แห่งเครื่องเยียวยาจิตใจของมนุษย์ในปัจจุบัน (ซึ่งจะเรียกว่าเป็นยุคทุนนิยมหรือยุคโพสต์โมเดิร์นก็ตามแต่)

    และสามอย่างที่ว่านี้ นอกจากในนิยายซีรีส์ "ร้านกาแฟจันทร์เต็มดวง" แล้ว ก็มีคุณมานูลในนิยายเรื่องนี้ที่รวมทุกอย่างไว้ในตัว เหมือนผู้เขียนจงใจ หรือไม่ก็สร้างไว้ให้คนอ่านที่ชอบ Overanalyze ได้สังเกตและทึกทักเอา

    ----------

    "โชคชะตาไม่สำคัญเมื่อเธอนั้นกลายเป็นแมว"
    🃏Wheel of Fortune

    ไพ่วงล้อแห่งโชคชะตาเป็นใบหนึ่งที่ท้าทายสกิลการอ่านและตีความไพ่ของผู้อ่านไพ่มากที่สุด บางบริบท มันสื่อถึงการที่โชคชะตากำลังดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าช่วงนั้นดวงกกำลังดี ๆ อยู่ มันก็อาจเป็นคำเตือนในระวังถึงขาลงของชีวิตที่ส่อแววมาแต่ไกล โดยรวมแล้ว ไพ่ใบนี้สื่อถึง "โชคชะตา" ในภาพรวม ซึ่งโดยตัวมันเองไม่มีดีหรือร้าย แต่ที่เรามองว่าดีหรือร้ายก็เพราะเรามองจากมุมมองของตัวเรา ถ้าเรามองเรื่องที่เกิดกับคนอื่น หรือมองตัวเองอย่างเป็นภววิสัย เราก็คงมองว่าททุกอย่างเป็นเรื่องของธรรมชาติ เดี๋ยวมีดี เดี๋ยวมีร้าย ไม่แน่ไม่นอน เผลอ ๆ คาดเดาไม่ได้ (หากเราเชื่อตาม Chaos Theory) และด้วยเหตุนี้ ไพ่ใบนี้จึงหมายรวมถึงการพยากรณ์ การดูดวง หรือการตรวจสอบดวงชะตาเช่นกัน

    ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนผมไหม ตอนเห็นชื่อหนังสือฉบับแปลไทยครั้งแรก ก็คิดว่าคุณมานูลน่าจะเป็นตัวละครประเภทกวน ๆ ที่ทำนายดวงตรงมั่งมั่วมั่ง (แต่สุดท้ายก็ช่วยให้ตัวละครในแต่ละตอนได้มีความสุขอยู่ดี ตามแนวทางของนิยายฮีลใจแบบนี้) แต่พอได้อ่านจริงก็พบว่านางเป็นคาแรกเตอร์ประเภทกวน ๆ จริง กวนแบบน่ารัก ๆ ชนิดที่เชื่อว่าทุกคนน่าจะอยากมีเพื่อนสนิทแบบนี้สักคนสองคน ทว่าสิ่งที่ดูเหมือนจะหายไปคือการทำนายแบบมั่ว ๆ เพราะเท่าที่อ่านเจอในเรื่อง คุณมานูลไม่เคยทำนายดวงชะตาให้ตัวละครไหนแบบมั่ว ๆ เลย อย่างมากคือทำนายแบบส่งเดช พอให้เห็นว่ามีการใช้อุปกรณ์ทำนาย (อันนี้พูดในฐานะคนที่ทุกวันนี้รายรอบด้วยคนในวงการนักพยากรณ์ และเคยเจอหมอดูที่ทำนายแบบมั่วซั่วมาจนมากเกินจะนับด้วยนิ้วมือรวมนิ้วเท้าได้) อันที่จริงชื่อต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นของนิยายเรื่องนี้แปลตรงตัวแค่ว่า "คุณมานูลผู้ลาออกจากการเป็นมนุษย์จะทำนายดวงชะตาให้คุณ" ด้วยซ้ำ

    อย่างไรก็ตาม คุณมานูลตลอดทั้งเรื่องจะเล่นอีกบทบาทหนึ่ง ซึ่งเป็นบทบาทที่หมอดูทุกศาสตร์ทุกแขนงควรเป็นในตัว (ถ้ายังไม่เป็นก็ควรฝึกตัวเองให้เป็น หรือไป take course เสียโดยด่วน โปรดรู้ว่าสังคมทุกวันนี้กำลังต้องการมาก) นั่นคือการเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านจิตใจและสังคม เนื้อเรื่องไม่เคยฟันธงว่าคุณมานูลดูดวงเป็นจริง ๆ หรือไม่ แต่เรื่องแสดงให้เห็นว่านางดูคนเป็น เข้าใจว่าแต่ละคนกำลังขาดหรือล้นเกินในเรื่องอะไร ซึ่งก็น่าจะเป็นทักษะที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยนางยังเป็นมนุษย์ และจากตรงนี้ นางจึงให้คำแนะนำแบบแมว ๆ ให้แต่ละตัวละครรับไปหาทางแก้ปัญหาของตัวเองอย่างตรงจุด

    เนื้อเรื่องไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้คุณไอซาวะลาออกจากการเป็นมนุษย์แล้วผันตัวมาเป็นแมวมานูล แต่เมื่อดูจากคำใบ้ในแต่ละตอน (โดยเฉพาะตอนสุดท้าย) ผมมองว่านางคงเบื่อชีวิตมนุษย์ที่วัน ๆ ได้แต่ไหลไปตามสิ่งรอบข้างอย่างกระแสสังคม ความควาดหวังและแรงกดดันจากคนรอบข้าง (ซึ่งไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นสิ่งที่เรารับมากระทำกับตัวเราเอง) ตลอดจนการยอมจำนนต่อ "โชคชะตา" เดี๋ยวดวงดี เดี๋ยวดวงซวย ช่วงนี้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อหลีกเลี่ยงกาลกิณี ฯลฯ

    ในเมื่อมีแต่มนุษย์ที่ปวดหัววุ่นวายกับเรื่องเหล่านี้ แต่แมวใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องนำพาต่อสิ่งเหล่านี้ นางก็เลยเลิกเป็นมนุษย์แล้วเป็นแมวซะดื้อ ๆ แต่ครั้นจะเป็นแมวพันธุ์ธรรมดา ๆ พื้น ๆ ก็ไม่เอา เลยขอเป็นพันธุ์หายากอย่างแมวมานูล และพอเป็นแมวแล้ว นางเลยสามารถมองเรื่องราววุ่น ๆ ของมนุษย์ได้อย่างเป็นกลาง พร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบชิล ๆ แต่ตรงประเด็นได้

    ถึงแม้นิยายเรื่องนี้จะขึ้นชื่อว่ามีหมอดูอยู่ แต่เนื้อเรื่องแทบไม่เกี่ยวกับการทำนายดวงชะตา (จริง ๆ) เลย กลับกัน มันแนะแนววิธีการใช้ชีวิตแบบไม่แคร์ดวง เหมือนที่แมวไม่แคร์วิถีชีวิตของมนุษย์ แต่พร้อมกันนั้น มันก็ให้คำแนะนำที่ดีอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นหมอดูและอยากเป็นหมอดูครับ

    ----------

    Final Verdict: 🃏The Sun + 🃏The World + 🃏The Star + 🃏Ten of Cups + 🃏Wheel of Fortune

    'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' จะช่วยให้คุณเข้าใจความจริงว่า ต่อให้โลกนี้จะหมุนไปและชีวิตนำพาอะไรมาให้คุณ แต่คุณก็สามารถเฉิดฉายในแบบของตัวเองและมีความสุขทุกวันได้ ขอแค่คุณปล่อยจอยกับชีวิต คิดเสียว่าลาออกจากการมนุษย์แล้วทำตัวเหมือนเป็นแมวเสีย เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้แค่เวลาจำกัด แล้วทำไม เราต้องปล่อยให้เรื่องชั่วประเดี๋ยวประด๋าว (เมื่อเทียบกับเวลาของจักรวาล) มาขัดจังหวะการเก็บเกี่ยวความสุขในแต่ละวันของเราด้วย จริงไหม?

    🃏🃏🃏🃏🃏
    แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่งคาเฟมาร์เนิล (2025)
    • แปลจาก: 人間やめたマヌルさんが、あなたの人生占います (2023)
    • ผู้เขียน: ฮัตสึกิ โอโตะ
    • ผู้แปล: วิลาสินี จงสถิตวัฒนา
    • สำนักพิมพ์: Lumi (ในเครือนานมีบุ๊คส์)
    ไพ่ที่ใช้: ไพ่ทาโรต์แถมพิเศษเฉพาะฉบับพิมพ์ครั้งแรกของนิยายเรื่องนี้
    วรรณกรรมประเภทหนึ่งที่ตอนนี้มีเยอะมากโดยเฉพาะจากฝั่งตะวันออก (จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี) แต่ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไร คือเรื่องแนวฟีลกู๊ดประเภทสถานที่เยียวยาจิตใจ ไม่ใช่เพราะผมเป็นพวกจิตใจหยาบกระด้างหรือชอบเสพแต่ความดาร์กและความสยอง แต่เพราะผมมองว่าตัวเองพอดักทางได้ว่าเรื่องพวกนั้นมี "สาร" อย่างไร ต้องการสอนผู้อ่านอย่างไร ทั้งนี้ก็จะมีบางเรื่องที่เป็นข้อยกเว้น หนึ่งในนั้นคือคาเฟ่ของแม่หมอมานูล 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' โดย อัตสึกิ โอโตะ เป็นนิยายแบบที่ผมคงไม่สนใจในแวบแรก ถ้าไม่ใช่เพราะโดนล่อตาล่อใจจากของแถมที่ทาง สนพ. บอกว่ามีเฉพาะในรอบพิมพ์ครั้งแรกเท่านั้น นั่นคือ ไพ่ทาโรต์ขนาดเล็ก ๆ 5 ใบที่เป็นภาพคุณมานูล แมวหมอดูตัวเอกประจำเรื่อง ข้อนี้เลยเป็นตัวแปรสำคัญให้ผมเปิดใจรับหนังสือเล่มนี้มาบรรจุเข้าชั้นที่บ้าน ไหน ๆ ก็พูดถึงหนังสือเล่มนี้แล้ว ผมก็เห็นว่ามันควรค่าแก่การรีวิวในแบบของไพ่เราเผาเรื่อง แต่รอบนี้จะต่างจากครั้งอื่น ๆ ตรงที่ผมจะไม่ใช้ไพ่ทาโรต์หรือไพ่พยากรณ์สำรับใด ๆ ในคลัง แต่จะใช้ไพ่แถม 5 ใบที่มากับหนังสือเล่มนี้เป็นเครื่องมือประกอบการ "เผาเรื่อง" โดยสับไพ่แล้วสุ่มหยิบตามลำดับ ขอเชิญรับชม #ไพ่เราเผาหนังสือ 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' ด้วยไพ่แถมสุดน่ารักทั้ง 5 ใบ ได้ ณ บัดนี้ครับ ---------- "เรื่องจบในตอนพร้อมข้อคิดดี ๆ" 🃏The Sun + 🃏The World ในไพ่ทาโรต์ 78 ใบ The Sun เป็นไพ่ที่ความหมายดีรอบด้านในอันดับต้น ๆ แต่ไพ่ใบนี้ยังสื่อถึง "ความจริง" และ "ข้อคิดที่เป็นประโยชน์" ได้ด้วย ส่วน The World ในฐานะไพ่ใบสุดท้ายของไพ่ชุดหลัก (Major Arcana) จึงมักสื่อความถึง "จุดสิ้นสุด" และ "ความสมบูรณ์" แต่มันไม่ใช่การตัดจบแบบบริบูรณ์หรือ Happily Ever After ทว่าเป็นการจบลงของบทหนึ่งเพื่อที่จะเข้าสู่บทถัดไป 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' มีลักษณะการเขียนแบบที่มักเจอใน Fiction ประเภทสถานที่ที่ช่วยให้ผู้คนได้ฮีลใจ นั่นคือเป็นนวนิยายแบบเนื้อเรื่องจบในตอน (Episodic novel) โดยแต่ละตอนมักจะมีข้อคิดจรรโลงใจหรือมุมมองที่น่าสนใจแตกต่างกัน บางครั้งต่างตอนก็มีสารหรือข้อคิดสำหรับคนต่างกลุ่มต่างจำพวก หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยเนื้อเรื่อง 5 บท แต่ละบทสามารถอ่านแยกในฐานะเรื่องสั้นที่จบสมบูรณ์ในตัวเองได้ แต่ตอนหลัง ๆ ก็จะมีรายละเอียดบางอย่างที่ต่อเนื่องจากตอนก่อน ๆ ตัวละครดำเนินเรื่องในแต่ละตอนมีช่วงอายุ บทบาท และปัญหาคาใจแตกต่างกัน มีทั้งเด็กมัธยมที่หาทาง fit in ในสังคมห้องเรียน อินฟลูเอนเซอร์สาว ซิงเกิลมัม ไปจนถึงวัยกลางคนที่กำลังสับสนกับทิศทางชีวิตและหน้าที่การงานของตัวเอง จากนั้นโชคชะตาหรือพล็อตเรื่องก็จะพาตัวละครไปเจอกับคุณมานูลและคาเฟมาร์เนิล คุณมานูล ศูนย์กลางของเรื่อง เดิมเคยเป็นมนุษย์ชื่อ คาวาตานิ ไอซาวะ แต่ด้วยสาเหตุบางอย่าง นางเลือก 'ลาออก' จากการเป็นมนุษย์ มาอยู่ในร่างของแมวมานูล (Manul) หรืออีกชื่อคือแมวพัลลาส (Pallas's cat) และรับดูดวงด้วยสารพัดวิธี ไม่ว่าจะใช้ไพ่ ลูกแก้ว หรือเครื่องเสี่ยงเซียมซีรูเลตต์ พร้อมทั้งเปิดคาเฟ่ร่วมกับคนที่น่าจะเป็นสามีและลูกสาว (ส่วนชื่อคาเฟ่ ทำไมถึงชื่อ "มาร์เนิล" แทนที่จะเป็น "มานูล" ตรงนี้ในหนังสือมีอธิบายไว้ แต่สั้น ๆ คือเป็นมุกที่เล่นกับตัวเขียนญี่ปุ่นแบบคาตาคานะ ซึ่งต้องขอชื่นชมผู้แปลที่พยายามเรียบเรียงเป็นไทยให้ใกล้เคียงโดยไม่เสียอรรถรสของต้นฉบับ) เนื้อเรื่องแต่ละตอนดำเนินไปอย่างค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จ เริ่มจากแนะนำตัวละครและชีวิตประจำวันที่เจ้าตัวไม่พึงพอใจเท่าไร จากนั้นตัวละครก็จะได้เจอคุณมานูลช่วยทำนายดวงชะตาพร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบคร่าว ๆ เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งตัวละครจะทำตามและอะไร ๆ ก็ดูจะดีขึ้นจริง ๆ แต่แล้วก็จะมีเหตุสักอย่างให้ชีวิตตัวละครกลับไปเป็นแบบตอนต้นเรื่องหรือเผลอ ๆ เหมือนจะดูแย่ลง และทำให้ตัวละครได้รับการชี้แนะจากคุณมานูลเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งคราวนี้เรื่องก็จะดูจบตอนแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ชวนให้นึกถึงโดราเอมอนแแบบอนิเมะในทีวีที่ฉายเป็นตอน ๆ หรือการ์ตูนต่อสู้อย่างเซเลอร์มูนช่วงแรก ๆ ที่จะมีตัวร้ายประจำสัปดาห์ (Monster of the week) มาให้ตัวเอกปราบ นิยายประเภทสถานที่ฮีลใจมักมีตัวละครประจำตอนที่แแตกต่างกันทั้งช่วงอายุและอาชีพ เพื่อจะได้เป็นตัวแทนของคนอ่านในกลุ่มต่าง ๆ นิยายเล่มนี้ก็เช่นกัน ทั้ง 5 ตอนมีตัวละครตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยกลางคน ซึ่งก็น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ผู้เขียนคคาดหวังว่าจะรวมอยู่ในหมู่คนอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วย และถึงแม้ปัญหาที่ตัวละครในเรื่องเผชิญอาจไม่ตรงกับเรื่องที่คนอ่านในช่วงวัยเดียวกันเจอในชีวิตจริงทั้งหมด แต่ข้อคิดและคำแนะนำจากคุณมานููลในแต่ละตอนก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เช่นกัน ---------- "เยียวยาจิตใจในสถานที่ที่มอบความสุข" 🃏The Star + 🃏Ten of Cups The Star คือดวงดาว จึงเป็นไพ่ตัวแทนหลายสิ่งหลายอย่างที่คนเรามักเชื่อมโยงกับดาว ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง ความโด่งดัง หรือความหวัง แต่มันก็มีอีกความหมายหนึ่ง นั่นคือ "การเยียวยา" ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ส่วนไพ่ 10 ถ้วย โดยทั่วไปมักหมายถึงบ้านหรือครอบครัว แต่บางกรณีก็สื่อถึง "ความสุขอย่างเต็มเปี่ยม" โดยเป็นความสุขที่มาจากกลุ่มคนที่อยู่กันสนิทชิดเชื้อเหมือนเป็นครอบครัว (แบบใน "แฟ้มเมอะหลี่" ของพี่ดอม ทอร์เรตโต แห่งซีรีส์ Fast & Furious) หรือจากาสถานที่มีผู้พร้อมจะส่งมอบความสุขให้ผู้อื่น คาเฟ่มาร์เนิลของคุณมานูลลงล็อกพอดีกับคำจำกัดความของสถานที่แบบที่ว่า แต่ก็อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ข้างบน ๆ นิยายเรื่องนี้ผลิตซ้ำ Trope ของสถานที่ที่ให้ความช่วยเหลือผู้คนในการแก้ปัญหาและเยียวยาจิตใจ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมกันในวงการวรรณกรรมฝั่งเอเชียตะวันออก แต่ละเรื่องอาจมีสถานที่ต่างกันไป บางเรื่องเป็นคาเฟ่ บางเรื่องเป็นร้านเบเกอรี่ บ้างเรื่องเป็นร้านหนังสือหรือห้องสมุด แต่ทุกเรื่องจบลงที่ตัวละครซึ่งไปเยือนสถานที่นั้น ๆ ได้เยียวยาบาดแผลหรือปมปัญหาในใจ หรือได้ปลดล็อกอะไรสักอย่างที่ติดค้างอยู่ น่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า ในชีวิตจริงซึ่งไม่ได้มีมนตร์วิเศษอยู่ (อย่างน้อยก็ในแบบที่มักเกิลอย่างเรา ๆ จับต้องและพิสูจน์ได้) คนเราก็มีสถานที่สำหรับเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำและแตกร้าว นอกจากกลับบ้านไปหาครอบครัวแล้ว ที่อื่นที่คนมักไปเพื่อฮีลใจตัวเอง เช่น คาเฟ่ ซุ้มหมอดู (หรือบางคนก็ทักไปหาหมอดูทางออนไลน์) และที่ใดก็ตามที่มีแมวอยู่ กล่าวอีกอย่างคือ คาเฟ่ การดูดวง และแมว คือ Top 3 แห่งเครื่องเยียวยาจิตใจของมนุษย์ในปัจจุบัน (ซึ่งจะเรียกว่าเป็นยุคทุนนิยมหรือยุคโพสต์โมเดิร์นก็ตามแต่) และสามอย่างที่ว่านี้ นอกจากในนิยายซีรีส์ "ร้านกาแฟจันทร์เต็มดวง" แล้ว ก็มีคุณมานูลในนิยายเรื่องนี้ที่รวมทุกอย่างไว้ในตัว เหมือนผู้เขียนจงใจ หรือไม่ก็สร้างไว้ให้คนอ่านที่ชอบ Overanalyze ได้สังเกตและทึกทักเอา ---------- "โชคชะตาไม่สำคัญเมื่อเธอนั้นกลายเป็นแมว" 🃏Wheel of Fortune ไพ่วงล้อแห่งโชคชะตาเป็นใบหนึ่งที่ท้าทายสกิลการอ่านและตีความไพ่ของผู้อ่านไพ่มากที่สุด บางบริบท มันสื่อถึงการที่โชคชะตากำลังดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าช่วงนั้นดวงกกำลังดี ๆ อยู่ มันก็อาจเป็นคำเตือนในระวังถึงขาลงของชีวิตที่ส่อแววมาแต่ไกล โดยรวมแล้ว ไพ่ใบนี้สื่อถึง "โชคชะตา" ในภาพรวม ซึ่งโดยตัวมันเองไม่มีดีหรือร้าย แต่ที่เรามองว่าดีหรือร้ายก็เพราะเรามองจากมุมมองของตัวเรา ถ้าเรามองเรื่องที่เกิดกับคนอื่น หรือมองตัวเองอย่างเป็นภววิสัย เราก็คงมองว่าททุกอย่างเป็นเรื่องของธรรมชาติ เดี๋ยวมีดี เดี๋ยวมีร้าย ไม่แน่ไม่นอน เผลอ ๆ คาดเดาไม่ได้ (หากเราเชื่อตาม Chaos Theory) และด้วยเหตุนี้ ไพ่ใบนี้จึงหมายรวมถึงการพยากรณ์ การดูดวง หรือการตรวจสอบดวงชะตาเช่นกัน ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนผมไหม ตอนเห็นชื่อหนังสือฉบับแปลไทยครั้งแรก ก็คิดว่าคุณมานูลน่าจะเป็นตัวละครประเภทกวน ๆ ที่ทำนายดวงตรงมั่งมั่วมั่ง (แต่สุดท้ายก็ช่วยให้ตัวละครในแต่ละตอนได้มีความสุขอยู่ดี ตามแนวทางของนิยายฮีลใจแบบนี้) แต่พอได้อ่านจริงก็พบว่านางเป็นคาแรกเตอร์ประเภทกวน ๆ จริง กวนแบบน่ารัก ๆ ชนิดที่เชื่อว่าทุกคนน่าจะอยากมีเพื่อนสนิทแบบนี้สักคนสองคน ทว่าสิ่งที่ดูเหมือนจะหายไปคือการทำนายแบบมั่ว ๆ เพราะเท่าที่อ่านเจอในเรื่อง คุณมานูลไม่เคยทำนายดวงชะตาให้ตัวละครไหนแบบมั่ว ๆ เลย อย่างมากคือทำนายแบบส่งเดช พอให้เห็นว่ามีการใช้อุปกรณ์ทำนาย (อันนี้พูดในฐานะคนที่ทุกวันนี้รายรอบด้วยคนในวงการนักพยากรณ์ และเคยเจอหมอดูที่ทำนายแบบมั่วซั่วมาจนมากเกินจะนับด้วยนิ้วมือรวมนิ้วเท้าได้) อันที่จริงชื่อต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นของนิยายเรื่องนี้แปลตรงตัวแค่ว่า "คุณมานูลผู้ลาออกจากการเป็นมนุษย์จะทำนายดวงชะตาให้คุณ" ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม คุณมานูลตลอดทั้งเรื่องจะเล่นอีกบทบาทหนึ่ง ซึ่งเป็นบทบาทที่หมอดูทุกศาสตร์ทุกแขนงควรเป็นในตัว (ถ้ายังไม่เป็นก็ควรฝึกตัวเองให้เป็น หรือไป take course เสียโดยด่วน โปรดรู้ว่าสังคมทุกวันนี้กำลังต้องการมาก) นั่นคือการเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านจิตใจและสังคม เนื้อเรื่องไม่เคยฟันธงว่าคุณมานูลดูดวงเป็นจริง ๆ หรือไม่ แต่เรื่องแสดงให้เห็นว่านางดูคนเป็น เข้าใจว่าแต่ละคนกำลังขาดหรือล้นเกินในเรื่องอะไร ซึ่งก็น่าจะเป็นทักษะที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยนางยังเป็นมนุษย์ และจากตรงนี้ นางจึงให้คำแนะนำแบบแมว ๆ ให้แต่ละตัวละครรับไปหาทางแก้ปัญหาของตัวเองอย่างตรงจุด เนื้อเรื่องไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้คุณไอซาวะลาออกจากการเป็นมนุษย์แล้วผันตัวมาเป็นแมวมานูล แต่เมื่อดูจากคำใบ้ในแต่ละตอน (โดยเฉพาะตอนสุดท้าย) ผมมองว่านางคงเบื่อชีวิตมนุษย์ที่วัน ๆ ได้แต่ไหลไปตามสิ่งรอบข้างอย่างกระแสสังคม ความควาดหวังและแรงกดดันจากคนรอบข้าง (ซึ่งไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นสิ่งที่เรารับมากระทำกับตัวเราเอง) ตลอดจนการยอมจำนนต่อ "โชคชะตา" เดี๋ยวดวงดี เดี๋ยวดวงซวย ช่วงนี้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อหลีกเลี่ยงกาลกิณี ฯลฯ ในเมื่อมีแต่มนุษย์ที่ปวดหัววุ่นวายกับเรื่องเหล่านี้ แต่แมวใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องนำพาต่อสิ่งเหล่านี้ นางก็เลยเลิกเป็นมนุษย์แล้วเป็นแมวซะดื้อ ๆ แต่ครั้นจะเป็นแมวพันธุ์ธรรมดา ๆ พื้น ๆ ก็ไม่เอา เลยขอเป็นพันธุ์หายากอย่างแมวมานูล และพอเป็นแมวแล้ว นางเลยสามารถมองเรื่องราววุ่น ๆ ของมนุษย์ได้อย่างเป็นกลาง พร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบชิล ๆ แต่ตรงประเด็นได้ ถึงแม้นิยายเรื่องนี้จะขึ้นชื่อว่ามีหมอดูอยู่ แต่เนื้อเรื่องแทบไม่เกี่ยวกับการทำนายดวงชะตา (จริง ๆ) เลย กลับกัน มันแนะแนววิธีการใช้ชีวิตแบบไม่แคร์ดวง เหมือนที่แมวไม่แคร์วิถีชีวิตของมนุษย์ แต่พร้อมกันนั้น มันก็ให้คำแนะนำที่ดีอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นหมอดูและอยากเป็นหมอดูครับ ---------- Final Verdict: 🃏The Sun + 🃏The World + 🃏The Star + 🃏Ten of Cups + 🃏Wheel of Fortune 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' จะช่วยให้คุณเข้าใจความจริงว่า ต่อให้โลกนี้จะหมุนไปและชีวิตนำพาอะไรมาให้คุณ แต่คุณก็สามารถเฉิดฉายในแบบของตัวเองและมีความสุขทุกวันได้ ขอแค่คุณปล่อยจอยกับชีวิต คิดเสียว่าลาออกจากการมนุษย์แล้วทำตัวเหมือนเป็นแมวเสีย เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้แค่เวลาจำกัด แล้วทำไม เราต้องปล่อยให้เรื่องชั่วประเดี๋ยวประด๋าว (เมื่อเทียบกับเวลาของจักรวาล) มาขัดจังหวะการเก็บเกี่ยวความสุขในแต่ละวันของเราด้วย จริงไหม? 🃏🃏🃏🃏🃏 แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่งคาเฟมาร์เนิล (2025) • แปลจาก: 人間やめたマヌルさんが、あなたの人生占います (2023) • ผู้เขียน: ฮัตสึกิ โอโตะ • ผู้แปล: วิลาสินี จงสถิตวัฒนา • สำนักพิมพ์: Lumi (ในเครือนานมีบุ๊คส์) ไพ่ที่ใช้: ไพ่ทาโรต์แถมพิเศษเฉพาะฉบับพิมพ์ครั้งแรกของนิยายเรื่องนี้
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 547 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำหรับผม ญี่ปุ่นและไทยคล้ายคลึงกันมากในปริมณฑลเรื่องเหนือธรรมชาติ ไทยเรามีภูตผีหลากหลายดีไซน์มากพอ ๆ กับโยไคของญี่ปุ่น ต่างกันแค่ผีญี่ปุ่นยังมีการรวมตัวเดินขบวนพาเหรดเป็น "ขบวนแห่ร้อยอสูร" (百鬼夜行 - เฮียกกิยาเกียว) จนเมื่อได้อ่านนิยายเล่มนี้เองที่ได้เจอเรื่องราวของขบวนแห่แบบที่ว่าในรูปผสมผสานสองเชื้อชาติ

    'เฮียกกิยาเกียว ขบวนแห่ร้อยผีแห่งเดือนเพ็ญพิศวง' โดย กันตชาต ชวนะวิรัช เป็นนวนิยายที่ได้รับคัดเลือกจาก บ.อมรินทร์ให้ตีพิมพ์ในโปรเจกต์ "ไทยเล่าไทยหลอน" เนื้อเรื่องเกิดขึ้นในที่ที่เป็นไปได้มากว่าจะอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีตำนานท้องถิ่นกล่าวถึงขบวนแห่ร้อยผีที่มีผู้ร่วมขบวนทั้งผีไทยและผีญี่ปุ่น มีผู้นำขบวนคือ เทพอาคันตุกะ หรือนูราริเฮียง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งโยไคของญี่ปุ่น เล่ากันว่าหากคนทั่วไปที่ไม่ได้มีสัมผัสพิเศษมองเห็นขบวนแห่ร้อยผีเข้า ก็จะโดนทั้งขบวนตามล่าเพื่อนำวิญญาณไปร่วมขบวนด้วย ในเนื้อเรื่อง อัญรินทร์เห็นขบวนแห่นี้และโดนหมายหัว อัคร น้องชายวัย ม.ปลาย ซึ่งมองเห็นวิญญาณได้ จึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อพาพี่สาวหลบหนีจากขบวนแห่ร้อยผี แม้กระทั่งต้องเข้าไปซ่อนในบ้านเด็กกำพร้าผีสิงก็ตาม

    ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นเรื่องผี มีคำว่า "ผี" อยู่ในชื่อเรื่อง แต่โทนเรื่องโดยรวมไม่ได้เน้นความน่ากลัวสยองขวัญเท่าไร (สำหรับผมอะนะ) ออกจะเป็นแฟนตาซีที่แฝงกลิ่นอายลึกลับแบบ Spirited Away ของสตูดิโอจิบลิมากกว่า คงเพราะมีผีญี่ปุ่นอยู่ในเรื่องด้วย (แต่ก็น่าเสียดายนิดหน่อยที่เอาจริง ๆ ถ้าเทียบแอร์ไทม์แล้ว ผีในขบวนแห่ร้อยผีกลับมีบทบาทน้อยกว่าผีที่ไม่ได้อยู่ในขบวนแห่เสียอีก) ทั้งนี้ ตอนจบทั้งสวยงามและปวดตับอย่างยิ่ง ต่อให้คุณพอจะคาดการณ์ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ผมเชื่อว่าบทสุดท้ายก็น่าจะกระชากอารมณ์คุณไม่มากก็น้อย ยกเว้นก็แต่คุณจะอารมณ์ตายด้านไปแล้วหรือไม่ก็เป็นไซโคพาธ อี๋ย์ ไปให้พ้น ชิ่ว ๆ

    อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่พื้นที่ที่ผมจะรีวิวหนังสือ แต่ผมจะให้ไพ่ทาโรต์หรือไพ่พยากรณ์ในคลังของผมกำหนดประเด็นที่จะรีวิว วิจารณ์ หรือหยิบยกมาพูด แล้วผมจะนำมาแปลและถ่ายทอดต่ออีกที โดยสุ่มจับไพ่ 4 ใบ และใช้ไพ่ใต้กองอีก 1 ใบ

    สำหรับนิยายเล่มนี้ ซึ่งมีภูตผีญี่ปุ่นมาเกี่ยวข้อง ผมก็คิดว่าน่าจะเหมาะสมถ้าใช้ไพ่ที่มีธีมเป็นผีญี่ปุ่นมาทำการ "เผาเรื่อง" นั่นคือไพ่ชุด 'Yokai Tarot' โดย สนพ.Lo Scarabeo จากอิตาลี

    ขอเชิญรับชม #ไพ่เราเผาหนังสือ 'เฮียกกิยาเกียว ขบวนแห่ร้อยผีแห่งเดือนเพ็ญพิศวง' ด้วย 'Yokai Tarot' ได้ ณ บัดนี้ครับ

    ----------

    "หลอกลวงคนอ่านอย่าง(เกือบ)แนบเนียน"
    🃏I-The Magician + 🃏XIV-Temperance

    ไพ่ Magician ของ Yokai Tarot เลือกหน้าไพ่เป็นปีศาจทานุกิ ซึ่งเป็นโยไคที่ขึ้นชื่อเรื่องการแปลงร่างไปหลอกลวงหรือแกล้งมนุษย์ ตรงกับความหมายในแง่ "การหลอกลวง" ของไพ่นักมายากล ส่วนไพ่ Temperance มีหน้าไพ่เป็น "นิงเกียว" หรือก็คือนางเงือกแบบญี่ปุ่น เชื่อกันว่าเนื้อของเงือกญี่ปุ่นจะทำให้อายุยืนยาวหรือถึงขั้นเป็นอมตะ แต่เฉพาะในบริบทของไพ่แห่งความพอดี เงือกคือตัวตนที่แสดงถึงความสอดประสานกันอย่างลงตัว กลมเกลียว และ "แนบเนียน" ระหว่างสิ่งตรงข้าม ไม่ว่าจะคนและปลา หรือบกและน้ำ

    'เฮียกกิยาเกียว' เป็นนิยายที่ไม่ได้ใส่ผีมาหลอกตัวละครในเรื่องอย่างเดียว แต่ตัวมันยังพยายามหลอกคนอ่านอย่างเราให้เข้าใจผิดเกือบตลอดเวลา ซึ่งก็มาพร้อมกับ Plot twists หรือการหักมุมหลายตลบ แต่ก็ไม่ได้เป็นการหักแบบคอพับ 180 องศาชนิดไม่มีปี่มีขลุ่ย ระหว่างทาง เนื้อเรื่องจะแอบหยอดรายละเอียดที่ค่อย ๆ นำไปสู่การเฉลยปมหักมุมแต่ละเรื่อง ดังนั้นสำหรับผู้อ่านที่ช่างสังเกตและช่างคิด รวมถึงมีชั่วโมงบินเยอะ ก็อาจคาดเดาจุดหักมุมแต่ละจุดได้ไม่ยาก รวมถึง Plot twist ใหญ่ในหน้า 226

    นอกจากนี้ ผมชอบเป็นพิเศษที่ไพ่ Temperance ขึ้นมาในหัวข้อนี้พอดี ความหมายหลักอย่างหนึ่งของไพ่ใบนี้คือ "ความกลมเกลียว" และ "การสอดประสานกันอย่างลงตัว" ซึ่งเป็นคำที่ใช้อธิบายได้ดีอย่างยิ่งกับความสัมพันธ์ระหว่างสังคมมนุษย์กับสังคมผีในนิยายเรื่องนี้ เนื้อเรื่องบรรยายว่าชุมชนในเรื่องเป็นที่ที่ผีและคนอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิด จนบางครั้งพรมแดนระหว่าง 2 ภพก็พร่าเลือนโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรืออาจจะทั้ง 2 ฝ่ายไม่รู้ตัว ซึ่งนี่ก็เป็นกลวิธีอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนใช้หลอกลวงคนอ่านด้วย (แน่นอนว่าตรงนี้ไม่ได้สปอยล์สาระสำคัญของเรื่องแต่อย่างใด ;) )

    ----------

    "บูรณาการตำนาน(ผี)จากสองชาติ"
    🃏Queen of Coins (Queen of Pentacles) + 🃏3 of Coins (3 of Pentacles)

    โยไคบนหน้าไพ่ราชินีเหรียญของชุด Yokai Tarot คือ "ยามะฮิเมะ" (เจ้าหญิงแห่งขุนเขา) ซึ่งมีบทบาทคล้าย ๆ วิญญาณเจ้าป่าเจ้าเขาในไทยเรา เป็นผู้ปกปักรักษาสิ่งต่าง ๆ ในพื้นที่ภูเขาของตน ทั้งป่าดงพงไพร พืช สัตว์ รวมถึงมนุษย์ที่อาศัยในบริเวณนั้นและเคารพบูชานาง บทบาทตามตำนานความเชื่อของโยไคตนนี้ตรงกับความหมายของไพ่ราชินีเหรียญในแง่การเป็นผูปกปักรักษา บำรุงเลี้ยงดู ขณะเดียวกันก็เชื่อมโยงกับความหมายด้านธรรมชาติของไพ่ใบนี้ด้วย ส่วนในบริบทของนิยายเรื่องนี้ ผมตีความว่าไพ่ใบนี้สื่อถึงสิ่งที่เป็นเสมือนธรรมชาติเก่าแก่ในชุมชนท้องที่ต่าง ๆ ซึ่งก็คือวัฒนธรรม ตำนาน คติชน และเรื่องเล่าต่าง ๆ ที่มีมาแต่โบราณในท้องที่นั้น ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในท้องถิ่นหวนแหนและดูแลสืบต่อไปยังชนรุ่นหลัง

    ส่วนไพ่ 3 เหรียญเป็นภาพของ "อิปปงดาตาระ" โยไคตาเดียวขาเดียวที่ว่ากันว่าเคยเป็นช่างฝีมือมาก่อน แต่แกทุ่มเทให้กับงานที่ทำมากเกินไปจนสูญเสียดวงตากับขาไปอย่างละข้าง ไพ่ชุดนี้นำโยไคตนนี้มาเชื่อมโยงกับไพ่ 3 เหรียญในแง่ที่ตัวมันเป็นภูตที่มีที่มาจากช่างฝีมือ ซึ่งเป็นความหมายหนึ่งของไพ่ใบนี้ ส่วนอีกความหมายที่รู้จักกันมากกว่าคือ "การร่วมมือ" (รวมถึงงานประเภทคอลแลบฯ ระหว่างศิลปิน) และ "การบูรณาการ"

    ไพ่สองใบนี้รวมกัน จึงสื่อถึง การบูรณาการของตำนานความเชื่อเก่าแก่ ซึ่งในบริบทของ 'เฮียกกิยาเกียว' มันก็คือการบูรณาการความเชื่อเกี่ยวกับภูตผีของไทยและญี่ปุ่น จนกลายมาเป็นขบวนแห่ร้อยผีประจำนิยายเรื่องนี้ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเรื่องที่ต้องชื่นชมความช่างคิดของผู้เขียนจริง ๆ

    ในขบวนแห่ร้อยผี นอกจากจะมีโยไคญี่ปุ่นอย่างนูราริเฮียงแล้ว ยังมีผีไทยที่คนภาคกลางอาจไม่คุ้นเคยเท่าไร เช่น ผีม้าบ้อง ซึ่งมีลักษณะเป็นครึ่งคนครึ่งม้าคล้ายเซนทอร์ของกรีก (ในนิยายเล่มนี้เรียกผีม้าบ้องว่า "เซนทอร์แห่งล้านนา" ด้วยซ้ำ) หรือแมวจะกละ แมวดำที่ทำให้มนุษย์ที่ได้สัมผัสร่างต้องพบความตายอย่างน่าสยดสยอง นอกจากนั้นยังมีผีบางตนที่มีอยู่ในทั้งเรื่องผีของไทยและญี่ปุ่นอย่างผีกระสือ ซึ่งเวอร์ชันของญี่ปุ่นเรียกว่า "นูเกะคูบิ"

    นอกจากนั้น นิยายเรื่องนี้ยังบูรณาการเรื่องจริงที่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ไทยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องด้วย โดยเชื่อมโยงกับชีวิตของยามาดะ นางามาสะ หรือ ออกญาเสนาภิมุข (ซึ่งตรงนี้ทำให้ผมค่อนข้างเชื่อว่า ฉากท้องเรื่องของเรื่องนี้อยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช)

    ----------

    "บางสิ่งที่ไม่อาจหนีพ้น"
    ใต้กอง: 🃏Judgement

    ไพ่ใต้กองของการเปิดไพ่ "เผาเรื่อง" ครั้งนี้คือไพ่ Judgement ซึ่งเป็นภาพของโยไคชื่อ "คิโยะฮิเมะ" นางเป็นปีศาจงูที่ไปตกหลุมรักพระรูปหนึ่งอย่างจัง แต่พระหนุ่มไม่เล่นด้วย ทิ้งนางอย่างไม่ไยดี นางจึงตามล่าพระหนุ่มไปทั่วญี่ปุ่น จนในที่สุด พระหนุ่มไปหลบซ่อนในระฆังวัด แต่นางก็หาเจอ และคลายขนดหางออกมารัดระฆัง ก่อนจะพ่นไฟออกมาย่างสดพระหนุ่ม โหดฉิบ แต่ใด ๆ คือ ไพ่ชุดนี้เลือกวีรกรรมการตามล่าเหยื่ออย่างไม่ลดไม่ละของนางมาเชื่อมโยงกับความหมายของไพ่ Judgement ในด้านการมาถึงของบางสิ่งที่เราไม่อาจหนีพ้น ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม อาจเป็นความจริงหรือสัจธรรมของจักรวาล

    การถูกตามล่าโดยบางสิ่งที่ไม่อาจหนีพ้น คือแก่นเรื่องของ 'เฮียกกิยาเกียว' ใครก็ตามที่มองเห็นขบวนแห่ร้อยผี (ยกเว้นผู้มีตาทิพย์หรือสัมผัสพิเศษ) จะต้องถูกตามล่าไปตลอดกาล จนกว่าภูตผีในขบวนจะจับตัวและพาไปร่วมขบวนได้ อาจมีบางช่วงเวลาหรือเงื่อนไขที่ช่วยให้ยืดเวลาหรือหลบหนีจากขบวนแห่ร้อยผีได้ แต่ก็ทำได้แค่ชั่วคราว

    เมื่ออ่านนิยายเล่มนี้ไปเรื่อย ๆ คนอ่านจะพบว่า ไม่ได้มีแค่อัครและอัญรินทร์ สองตัวละครเอกที่พยายามหนีจากขบวนแห่ร้อยผี มีคนอื่นที่เคยพบเจอและพยายามหนีจากพวกมันด้วย รวมทั้งมีตัวละครอื่นที่พยายามหลบหนีจากอะไรอย่างอื่น แต่ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ไม่มีทางหลบหนีพ้น ดังนั้นจึงมีทางเลือกแค่หาทางหนีประวิงเวลาไปเรื่อย ๆ หรือยอมจำนน

    ----------

    Final Verdict: 🃏I-The Magician + 🃏XIV-Temperance + 🃏Queen of Coins (Queen of Pentacles) + 🃏3 of Coins (3 of Pentacles) + 🃏Judgement (ใต้กอง)

    'เฮียกกิยาเกียว' เป็นเรื่องที่นำตำนานความเชื่อและเรื่องเหล่าอันแตกต่างหลากหลายมาผสมผสานและบูรณาการเข้าด้วยกันอย่าชาญฉลาดและลงตัว พร้อมกับทำให้ปิดเล่มไปด้วยความจรรโลงใจและการตระหนักซึ่งในสัจธรรมบางประการ

    🃏🃏🃏🃏🃏
    เฮียกกิยาเกียว ขบวนแห่ร้อยผีแห่งเดือนเพ็ญพิศวง (2025)
    • ผู้เขียน: กันตชาต ชวนะวิรัช
    • สำนักพิมพ์: Prism (ในเครืออมรินทร์)
    ไพ่ที่ใช้: Yokai Tarot (2024) ผลิตและจัดจำหน่ายโดย Lo Scarabeo Tarot
    สำหรับผม ญี่ปุ่นและไทยคล้ายคลึงกันมากในปริมณฑลเรื่องเหนือธรรมชาติ ไทยเรามีภูตผีหลากหลายดีไซน์มากพอ ๆ กับโยไคของญี่ปุ่น ต่างกันแค่ผีญี่ปุ่นยังมีการรวมตัวเดินขบวนพาเหรดเป็น "ขบวนแห่ร้อยอสูร" (百鬼夜行 - เฮียกกิยาเกียว) จนเมื่อได้อ่านนิยายเล่มนี้เองที่ได้เจอเรื่องราวของขบวนแห่แบบที่ว่าในรูปผสมผสานสองเชื้อชาติ 'เฮียกกิยาเกียว ขบวนแห่ร้อยผีแห่งเดือนเพ็ญพิศวง' โดย กันตชาต ชวนะวิรัช เป็นนวนิยายที่ได้รับคัดเลือกจาก บ.อมรินทร์ให้ตีพิมพ์ในโปรเจกต์ "ไทยเล่าไทยหลอน" เนื้อเรื่องเกิดขึ้นในที่ที่เป็นไปได้มากว่าจะอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีตำนานท้องถิ่นกล่าวถึงขบวนแห่ร้อยผีที่มีผู้ร่วมขบวนทั้งผีไทยและผีญี่ปุ่น มีผู้นำขบวนคือ เทพอาคันตุกะ หรือนูราริเฮียง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งโยไคของญี่ปุ่น เล่ากันว่าหากคนทั่วไปที่ไม่ได้มีสัมผัสพิเศษมองเห็นขบวนแห่ร้อยผีเข้า ก็จะโดนทั้งขบวนตามล่าเพื่อนำวิญญาณไปร่วมขบวนด้วย ในเนื้อเรื่อง อัญรินทร์เห็นขบวนแห่นี้และโดนหมายหัว อัคร น้องชายวัย ม.ปลาย ซึ่งมองเห็นวิญญาณได้ จึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อพาพี่สาวหลบหนีจากขบวนแห่ร้อยผี แม้กระทั่งต้องเข้าไปซ่อนในบ้านเด็กกำพร้าผีสิงก็ตาม ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นเรื่องผี มีคำว่า "ผี" อยู่ในชื่อเรื่อง แต่โทนเรื่องโดยรวมไม่ได้เน้นความน่ากลัวสยองขวัญเท่าไร (สำหรับผมอะนะ) ออกจะเป็นแฟนตาซีที่แฝงกลิ่นอายลึกลับแบบ Spirited Away ของสตูดิโอจิบลิมากกว่า คงเพราะมีผีญี่ปุ่นอยู่ในเรื่องด้วย (แต่ก็น่าเสียดายนิดหน่อยที่เอาจริง ๆ ถ้าเทียบแอร์ไทม์แล้ว ผีในขบวนแห่ร้อยผีกลับมีบทบาทน้อยกว่าผีที่ไม่ได้อยู่ในขบวนแห่เสียอีก) ทั้งนี้ ตอนจบทั้งสวยงามและปวดตับอย่างยิ่ง ต่อให้คุณพอจะคาดการณ์ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ผมเชื่อว่าบทสุดท้ายก็น่าจะกระชากอารมณ์คุณไม่มากก็น้อย ยกเว้นก็แต่คุณจะอารมณ์ตายด้านไปแล้วหรือไม่ก็เป็นไซโคพาธ อี๋ย์ ไปให้พ้น ชิ่ว ๆ อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่พื้นที่ที่ผมจะรีวิวหนังสือ แต่ผมจะให้ไพ่ทาโรต์หรือไพ่พยากรณ์ในคลังของผมกำหนดประเด็นที่จะรีวิว วิจารณ์ หรือหยิบยกมาพูด แล้วผมจะนำมาแปลและถ่ายทอดต่ออีกที โดยสุ่มจับไพ่ 4 ใบ และใช้ไพ่ใต้กองอีก 1 ใบ สำหรับนิยายเล่มนี้ ซึ่งมีภูตผีญี่ปุ่นมาเกี่ยวข้อง ผมก็คิดว่าน่าจะเหมาะสมถ้าใช้ไพ่ที่มีธีมเป็นผีญี่ปุ่นมาทำการ "เผาเรื่อง" นั่นคือไพ่ชุด 'Yokai Tarot' โดย สนพ.Lo Scarabeo จากอิตาลี ขอเชิญรับชม #ไพ่เราเผาหนังสือ 'เฮียกกิยาเกียว ขบวนแห่ร้อยผีแห่งเดือนเพ็ญพิศวง' ด้วย 'Yokai Tarot' ได้ ณ บัดนี้ครับ ---------- "หลอกลวงคนอ่านอย่าง(เกือบ)แนบเนียน" 🃏I-The Magician + 🃏XIV-Temperance ไพ่ Magician ของ Yokai Tarot เลือกหน้าไพ่เป็นปีศาจทานุกิ ซึ่งเป็นโยไคที่ขึ้นชื่อเรื่องการแปลงร่างไปหลอกลวงหรือแกล้งมนุษย์ ตรงกับความหมายในแง่ "การหลอกลวง" ของไพ่นักมายากล ส่วนไพ่ Temperance มีหน้าไพ่เป็น "นิงเกียว" หรือก็คือนางเงือกแบบญี่ปุ่น เชื่อกันว่าเนื้อของเงือกญี่ปุ่นจะทำให้อายุยืนยาวหรือถึงขั้นเป็นอมตะ แต่เฉพาะในบริบทของไพ่แห่งความพอดี เงือกคือตัวตนที่แสดงถึงความสอดประสานกันอย่างลงตัว กลมเกลียว และ "แนบเนียน" ระหว่างสิ่งตรงข้าม ไม่ว่าจะคนและปลา หรือบกและน้ำ 'เฮียกกิยาเกียว' เป็นนิยายที่ไม่ได้ใส่ผีมาหลอกตัวละครในเรื่องอย่างเดียว แต่ตัวมันยังพยายามหลอกคนอ่านอย่างเราให้เข้าใจผิดเกือบตลอดเวลา ซึ่งก็มาพร้อมกับ Plot twists หรือการหักมุมหลายตลบ แต่ก็ไม่ได้เป็นการหักแบบคอพับ 180 องศาชนิดไม่มีปี่มีขลุ่ย ระหว่างทาง เนื้อเรื่องจะแอบหยอดรายละเอียดที่ค่อย ๆ นำไปสู่การเฉลยปมหักมุมแต่ละเรื่อง ดังนั้นสำหรับผู้อ่านที่ช่างสังเกตและช่างคิด รวมถึงมีชั่วโมงบินเยอะ ก็อาจคาดเดาจุดหักมุมแต่ละจุดได้ไม่ยาก รวมถึง Plot twist ใหญ่ในหน้า 226 นอกจากนี้ ผมชอบเป็นพิเศษที่ไพ่ Temperance ขึ้นมาในหัวข้อนี้พอดี ความหมายหลักอย่างหนึ่งของไพ่ใบนี้คือ "ความกลมเกลียว" และ "การสอดประสานกันอย่างลงตัว" ซึ่งเป็นคำที่ใช้อธิบายได้ดีอย่างยิ่งกับความสัมพันธ์ระหว่างสังคมมนุษย์กับสังคมผีในนิยายเรื่องนี้ เนื้อเรื่องบรรยายว่าชุมชนในเรื่องเป็นที่ที่ผีและคนอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิด จนบางครั้งพรมแดนระหว่าง 2 ภพก็พร่าเลือนโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรืออาจจะทั้ง 2 ฝ่ายไม่รู้ตัว ซึ่งนี่ก็เป็นกลวิธีอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนใช้หลอกลวงคนอ่านด้วย (แน่นอนว่าตรงนี้ไม่ได้สปอยล์สาระสำคัญของเรื่องแต่อย่างใด ;) ) ---------- "บูรณาการตำนาน(ผี)จากสองชาติ" 🃏Queen of Coins (Queen of Pentacles) + 🃏3 of Coins (3 of Pentacles) โยไคบนหน้าไพ่ราชินีเหรียญของชุด Yokai Tarot คือ "ยามะฮิเมะ" (เจ้าหญิงแห่งขุนเขา) ซึ่งมีบทบาทคล้าย ๆ วิญญาณเจ้าป่าเจ้าเขาในไทยเรา เป็นผู้ปกปักรักษาสิ่งต่าง ๆ ในพื้นที่ภูเขาของตน ทั้งป่าดงพงไพร พืช สัตว์ รวมถึงมนุษย์ที่อาศัยในบริเวณนั้นและเคารพบูชานาง บทบาทตามตำนานความเชื่อของโยไคตนนี้ตรงกับความหมายของไพ่ราชินีเหรียญในแง่การเป็นผูปกปักรักษา บำรุงเลี้ยงดู ขณะเดียวกันก็เชื่อมโยงกับความหมายด้านธรรมชาติของไพ่ใบนี้ด้วย ส่วนในบริบทของนิยายเรื่องนี้ ผมตีความว่าไพ่ใบนี้สื่อถึงสิ่งที่เป็นเสมือนธรรมชาติเก่าแก่ในชุมชนท้องที่ต่าง ๆ ซึ่งก็คือวัฒนธรรม ตำนาน คติชน และเรื่องเล่าต่าง ๆ ที่มีมาแต่โบราณในท้องที่นั้น ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในท้องถิ่นหวนแหนและดูแลสืบต่อไปยังชนรุ่นหลัง ส่วนไพ่ 3 เหรียญเป็นภาพของ "อิปปงดาตาระ" โยไคตาเดียวขาเดียวที่ว่ากันว่าเคยเป็นช่างฝีมือมาก่อน แต่แกทุ่มเทให้กับงานที่ทำมากเกินไปจนสูญเสียดวงตากับขาไปอย่างละข้าง ไพ่ชุดนี้นำโยไคตนนี้มาเชื่อมโยงกับไพ่ 3 เหรียญในแง่ที่ตัวมันเป็นภูตที่มีที่มาจากช่างฝีมือ ซึ่งเป็นความหมายหนึ่งของไพ่ใบนี้ ส่วนอีกความหมายที่รู้จักกันมากกว่าคือ "การร่วมมือ" (รวมถึงงานประเภทคอลแลบฯ ระหว่างศิลปิน) และ "การบูรณาการ" ไพ่สองใบนี้รวมกัน จึงสื่อถึง การบูรณาการของตำนานความเชื่อเก่าแก่ ซึ่งในบริบทของ 'เฮียกกิยาเกียว' มันก็คือการบูรณาการความเชื่อเกี่ยวกับภูตผีของไทยและญี่ปุ่น จนกลายมาเป็นขบวนแห่ร้อยผีประจำนิยายเรื่องนี้ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเรื่องที่ต้องชื่นชมความช่างคิดของผู้เขียนจริง ๆ ในขบวนแห่ร้อยผี นอกจากจะมีโยไคญี่ปุ่นอย่างนูราริเฮียงแล้ว ยังมีผีไทยที่คนภาคกลางอาจไม่คุ้นเคยเท่าไร เช่น ผีม้าบ้อง ซึ่งมีลักษณะเป็นครึ่งคนครึ่งม้าคล้ายเซนทอร์ของกรีก (ในนิยายเล่มนี้เรียกผีม้าบ้องว่า "เซนทอร์แห่งล้านนา" ด้วยซ้ำ) หรือแมวจะกละ แมวดำที่ทำให้มนุษย์ที่ได้สัมผัสร่างต้องพบความตายอย่างน่าสยดสยอง นอกจากนั้นยังมีผีบางตนที่มีอยู่ในทั้งเรื่องผีของไทยและญี่ปุ่นอย่างผีกระสือ ซึ่งเวอร์ชันของญี่ปุ่นเรียกว่า "นูเกะคูบิ" นอกจากนั้น นิยายเรื่องนี้ยังบูรณาการเรื่องจริงที่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ไทยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องด้วย โดยเชื่อมโยงกับชีวิตของยามาดะ นางามาสะ หรือ ออกญาเสนาภิมุข (ซึ่งตรงนี้ทำให้ผมค่อนข้างเชื่อว่า ฉากท้องเรื่องของเรื่องนี้อยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช) ---------- "บางสิ่งที่ไม่อาจหนีพ้น" ใต้กอง: 🃏Judgement ไพ่ใต้กองของการเปิดไพ่ "เผาเรื่อง" ครั้งนี้คือไพ่ Judgement ซึ่งเป็นภาพของโยไคชื่อ "คิโยะฮิเมะ" นางเป็นปีศาจงูที่ไปตกหลุมรักพระรูปหนึ่งอย่างจัง แต่พระหนุ่มไม่เล่นด้วย ทิ้งนางอย่างไม่ไยดี นางจึงตามล่าพระหนุ่มไปทั่วญี่ปุ่น จนในที่สุด พระหนุ่มไปหลบซ่อนในระฆังวัด แต่นางก็หาเจอ และคลายขนดหางออกมารัดระฆัง ก่อนจะพ่นไฟออกมาย่างสดพระหนุ่ม โหดฉิบ แต่ใด ๆ คือ ไพ่ชุดนี้เลือกวีรกรรมการตามล่าเหยื่ออย่างไม่ลดไม่ละของนางมาเชื่อมโยงกับความหมายของไพ่ Judgement ในด้านการมาถึงของบางสิ่งที่เราไม่อาจหนีพ้น ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม อาจเป็นความจริงหรือสัจธรรมของจักรวาล การถูกตามล่าโดยบางสิ่งที่ไม่อาจหนีพ้น คือแก่นเรื่องของ 'เฮียกกิยาเกียว' ใครก็ตามที่มองเห็นขบวนแห่ร้อยผี (ยกเว้นผู้มีตาทิพย์หรือสัมผัสพิเศษ) จะต้องถูกตามล่าไปตลอดกาล จนกว่าภูตผีในขบวนจะจับตัวและพาไปร่วมขบวนได้ อาจมีบางช่วงเวลาหรือเงื่อนไขที่ช่วยให้ยืดเวลาหรือหลบหนีจากขบวนแห่ร้อยผีได้ แต่ก็ทำได้แค่ชั่วคราว เมื่ออ่านนิยายเล่มนี้ไปเรื่อย ๆ คนอ่านจะพบว่า ไม่ได้มีแค่อัครและอัญรินทร์ สองตัวละครเอกที่พยายามหนีจากขบวนแห่ร้อยผี มีคนอื่นที่เคยพบเจอและพยายามหนีจากพวกมันด้วย รวมทั้งมีตัวละครอื่นที่พยายามหลบหนีจากอะไรอย่างอื่น แต่ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ไม่มีทางหลบหนีพ้น ดังนั้นจึงมีทางเลือกแค่หาทางหนีประวิงเวลาไปเรื่อย ๆ หรือยอมจำนน ---------- Final Verdict: 🃏I-The Magician + 🃏XIV-Temperance + 🃏Queen of Coins (Queen of Pentacles) + 🃏3 of Coins (3 of Pentacles) + 🃏Judgement (ใต้กอง) 'เฮียกกิยาเกียว' เป็นเรื่องที่นำตำนานความเชื่อและเรื่องเหล่าอันแตกต่างหลากหลายมาผสมผสานและบูรณาการเข้าด้วยกันอย่าชาญฉลาดและลงตัว พร้อมกับทำให้ปิดเล่มไปด้วยความจรรโลงใจและการตระหนักซึ่งในสัจธรรมบางประการ 🃏🃏🃏🃏🃏 เฮียกกิยาเกียว ขบวนแห่ร้อยผีแห่งเดือนเพ็ญพิศวง (2025) • ผู้เขียน: กันตชาต ชวนะวิรัช • สำนักพิมพ์: Prism (ในเครืออมรินทร์) ไพ่ที่ใช้: Yokai Tarot (2024) ผลิตและจัดจำหน่ายโดย Lo Scarabeo Tarot
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 522 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เปิดตัวระบบ End-to-End Encryption (E2EE) สำหรับ Gmail ช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งอีเมลแบบเข้ารหัสที่แม้แต่ Google เองก็ไม่สามารถอ่านได้ โดยตอนนี้ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งาน เฉพาะผู้ใช้ในองค์กรเดียวกัน แต่จะถูกขยายให้รองรับการส่งอีเมลเข้ารหัสไปยังผู้ใช้จากผู้ให้บริการอีเมลอื่นภายในปีนี้

    แตกต่างจากการเข้ารหัสทั่วไป
    - Gmail มีระบบ TLS (Transport Layer Security) ที่ช่วยเข้ารหัสอีเมลระหว่างเซิร์ฟเวอร์ และการเข้ารหัสอีเมลที่เก็บอยู่ในศูนย์ข้อมูลของ Google
    - แต่ E2EE ช่วยให้ข้อความที่ส่งไปถูกเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทาง และมีเพียงผู้รับเท่านั้นที่สามารถถอดรหัสและอ่านข้อความได้

    การเข้ารหัสแบบใหม่ของ Google แตกต่างจาก S/MIME
    - ปัจจุบันการเข้ารหัสอีเมลแบบ E2EE มักใช้ S/MIME ซึ่งต้องมี การแลกเปลี่ยนกุญแจเข้ารหัสและใบรับรองดิจิทัล ทำให้ตั้งค่าระบบยากและใช้ได้เฉพาะกับผู้ใช้ที่มี S/MIME เหมือนกัน
    - Google ใช้แนวทางใหม่ที่ไม่ต้องมีการแลกเปลี่ยนกุญแจและสามารถทำงานได้สะดวกกว่าการเข้ารหัสแบบเดิม

    การทำงานของระบบ E2EE ใหม่นี้
    - ผู้ใช้ Gmail ในองค์กรสามารถเลือก เข้ารหัสอีเมลแบบ E2EE ได้โดยตรงจากหน้าต่างเขียนอีเมล
    - ในอนาคตเมื่อฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานกับผู้ใช้ทั่วไป ผู้รับอีเมลจากผู้ให้บริการอื่นจะได้รับ ลิงก์ ที่นำไปยัง Gmail เวอร์ชันพิเศษที่ต้องมีการตรวจสอบตัวตนก่อนอ่านข้อความ

    ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นสำหรับองค์กร
    - ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดให้การรับชมอีเมลต้องใช้ Restricted View ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้อีเมลถูกดาวน์โหลดหรือบันทึกลงในอุปกรณ์ภายนอก

    อนาคตของการเข้ารหัสอีเมลใน Gmail
    - Google กำลังพัฒนาให้ E2EE รองรับอีเมลระหว่างบัญชี Gmail ทั่วไปและองค์กร
    - ระบบนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการเข้ารหัสได้เอง โดยไม่มีการแลกเปลี่ยนกุญแจเข้ารหัสกับ Google หรือบุคคลภายนอก

    https://www.csoonline.com/article/3952075/google-adds-end-to-end-email-encryption-to-gmail.html
    Google ได้เปิดตัวระบบ End-to-End Encryption (E2EE) สำหรับ Gmail ช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งอีเมลแบบเข้ารหัสที่แม้แต่ Google เองก็ไม่สามารถอ่านได้ โดยตอนนี้ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งาน เฉพาะผู้ใช้ในองค์กรเดียวกัน แต่จะถูกขยายให้รองรับการส่งอีเมลเข้ารหัสไปยังผู้ใช้จากผู้ให้บริการอีเมลอื่นภายในปีนี้ แตกต่างจากการเข้ารหัสทั่วไป - Gmail มีระบบ TLS (Transport Layer Security) ที่ช่วยเข้ารหัสอีเมลระหว่างเซิร์ฟเวอร์ และการเข้ารหัสอีเมลที่เก็บอยู่ในศูนย์ข้อมูลของ Google - แต่ E2EE ช่วยให้ข้อความที่ส่งไปถูกเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทาง และมีเพียงผู้รับเท่านั้นที่สามารถถอดรหัสและอ่านข้อความได้ การเข้ารหัสแบบใหม่ของ Google แตกต่างจาก S/MIME - ปัจจุบันการเข้ารหัสอีเมลแบบ E2EE มักใช้ S/MIME ซึ่งต้องมี การแลกเปลี่ยนกุญแจเข้ารหัสและใบรับรองดิจิทัล ทำให้ตั้งค่าระบบยากและใช้ได้เฉพาะกับผู้ใช้ที่มี S/MIME เหมือนกัน - Google ใช้แนวทางใหม่ที่ไม่ต้องมีการแลกเปลี่ยนกุญแจและสามารถทำงานได้สะดวกกว่าการเข้ารหัสแบบเดิม การทำงานของระบบ E2EE ใหม่นี้ - ผู้ใช้ Gmail ในองค์กรสามารถเลือก เข้ารหัสอีเมลแบบ E2EE ได้โดยตรงจากหน้าต่างเขียนอีเมล - ในอนาคตเมื่อฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานกับผู้ใช้ทั่วไป ผู้รับอีเมลจากผู้ให้บริการอื่นจะได้รับ ลิงก์ ที่นำไปยัง Gmail เวอร์ชันพิเศษที่ต้องมีการตรวจสอบตัวตนก่อนอ่านข้อความ ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นสำหรับองค์กร - ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดให้การรับชมอีเมลต้องใช้ Restricted View ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้อีเมลถูกดาวน์โหลดหรือบันทึกลงในอุปกรณ์ภายนอก อนาคตของการเข้ารหัสอีเมลใน Gmail - Google กำลังพัฒนาให้ E2EE รองรับอีเมลระหว่างบัญชี Gmail ทั่วไปและองค์กร - ระบบนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการเข้ารหัสได้เอง โดยไม่มีการแลกเปลี่ยนกุญแจเข้ารหัสกับ Google หรือบุคคลภายนอก https://www.csoonline.com/article/3952075/google-adds-end-to-end-email-encryption-to-gmail.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Google adds end-to-end email encryption to Gmail
    The new encryption system doesn’t require external exchange of keys or complex user certificate management
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 17-3-68 https://www.youtube.com/live/AHqr02i0KFY?si=GehX210mLfJorcHn.เช้าวันจันทร์ คุณสนธิมีหลายเรื่องมาพูดคุยกัน และเล่าให้ฟังทั้งเรื่องราวการทุจริตในระบบตุลาการของไทย, รายการความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 1/2568 ที่เมื่อวานนี้จัดงานขึ้นที่หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์, เรื่องการก่อสร้างทางด่วนถล่มที่ ถ.พระราม 2 รวมไปถึงข่าวต่างประเทศที่มากระทบกับในประเทศคือ การประกาศแบนนักการเมืองและข้าราชการไทยที่มีความเกี่ยวข้องกับการส่งชาวอุยกูร์ 40 คนกลับไปที่ประเทศจีน ... แค่เกริ่นให้ฟังก็เข้มข้นแล้ว โปรดรับชมโดยพลัน.คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=AHqr02i0KFY.#สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    สนธิเล่าเรื่อง 17-3-68 https://www.youtube.com/live/AHqr02i0KFY?si=GehX210mLfJorcHn.เช้าวันจันทร์ คุณสนธิมีหลายเรื่องมาพูดคุยกัน และเล่าให้ฟังทั้งเรื่องราวการทุจริตในระบบตุลาการของไทย, รายการความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 1/2568 ที่เมื่อวานนี้จัดงานขึ้นที่หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์, เรื่องการก่อสร้างทางด่วนถล่มที่ ถ.พระราม 2 รวมไปถึงข่าวต่างประเทศที่มากระทบกับในประเทศคือ การประกาศแบนนักการเมืองและข้าราชการไทยที่มีความเกี่ยวข้องกับการส่งชาวอุยกูร์ 40 คนกลับไปที่ประเทศจีน ... แค่เกริ่นให้ฟังก็เข้มข้นแล้ว โปรดรับชมโดยพลัน.คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=AHqr02i0KFY.#สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 558 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 17-3-68
    .
    เช้าวันจันทร์ คุณสนธิมีหลายเรื่องมาพูดคุยกัน และเล่าให้ฟังทั้งเรื่องราวการทุจริตในระบบตุลาการของไทย, รายการความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 1/2568 ที่เมื่อวานนี้จัดงานขึ้นที่หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์, เรื่องการก่อสร้างทางด่วนถล่มที่ ถ.พระราม 2 รวมไปถึงข่าวต่างประเทศที่มากระทบกับในประเทศคือ การประกาศแบนนักการเมืองและข้าราชการไทยที่มีความเกี่ยวข้องกับการส่งชาวอุยกูร์ 40 คนกลับไปที่ประเทศจีน ... แค่เกริ่นให้ฟังก็เข้มข้นแล้ว โปรดรับชมโดยพลัน
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=AHqr02i0KFY
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    สนธิเล่าเรื่อง 17-3-68 . เช้าวันจันทร์ คุณสนธิมีหลายเรื่องมาพูดคุยกัน และเล่าให้ฟังทั้งเรื่องราวการทุจริตในระบบตุลาการของไทย, รายการความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 1/2568 ที่เมื่อวานนี้จัดงานขึ้นที่หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์, เรื่องการก่อสร้างทางด่วนถล่มที่ ถ.พระราม 2 รวมไปถึงข่าวต่างประเทศที่มากระทบกับในประเทศคือ การประกาศแบนนักการเมืองและข้าราชการไทยที่มีความเกี่ยวข้องกับการส่งชาวอุยกูร์ 40 คนกลับไปที่ประเทศจีน ... แค่เกริ่นให้ฟังก็เข้มข้นแล้ว โปรดรับชมโดยพลัน . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=AHqr02i0KFY . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    Like
    Love
    5
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 696 มุมมอง 0 รีวิว
  • สลามเมืองไทย EP14 | รอมฎอน เดือนอันประเสริฐ (กุมภาพันธ์ - มีนาคม 2025)

    รอมฎอน (Ramadan) เป็นเดือนที่ 9 ตามปฏิทินอิสลาม (ฮิจเราะห์) ซึ่งเป็นปฏิทินจันทรคติ แต่เนื่องจากปฏิทินอิสลามสั้นกว่าปฏิทินสากลประมาณ 10-12 วันต่อปี วันเริ่มต้นของรอมฎอนในปฏิทินสากลจึงเปลี่ยนไปทุกปี

    สำหรับปี 2025 (ฮ.ศ. 1446) คาดว่า รอมฎอนจะเริ่มในช่วงค่ำของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2025 และสิ้นสุดในช่วงค่ำของวันที่ 30 มีนาคม 2025 (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการดูดวงจันทร์ในแต่ละประเทศ)

    "รอมฎอน: เดือนแห่งการฝึกฝนจิตใจและการเชื่อมสัมพันธ์"
    ✅ ถือศีลอด ตั้งแต่รุ่งอรุณถึงพลบค่ำ เพื่อฝึกความอดทนและละเว้นจากสิ่งที่ไม่ดี
    ✅ ละหมาด ตื่นตัวทางจิตใจ และอ่านอัลกุรอาน เพื่อเสริมสร้างศรัทธา
    ✅ บริจาค ซะกาต และช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อส่งต่อความเมตตา
    ✅ สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับครอบครัวและชุมชน

    "มากกว่าการถือศีลอด แต่คือการพัฒนาตนเอง"
    เดือนรอมฎอนไม่ใช่แค่ช่วงเวลาของการงดอาหารและน้ำ แต่เป็น เดือนแห่งการให้อภัย การเสียสละ และการเชื่อมความสัมพันธ์กับพระเจ้าและพี่น้องมุสลิมทั่วโลก

    📌 รับชมเทปย้อนหลังรอมฎอน และเรียนรู้ความสำคัญของเดือนอันประเสริฐนี้ ที่เป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธาและการปฏิบัติตนเพื่อความดีงาม

    #สลามเมืองไทย #EP14 #เทปย้อนหลัง #รอมฎอนเดือนอันประเสริฐ #Ramadan2025 #ถือศีลอด #IslamicFaith #เดือนแห่งศรัทธา #MuslimCommunity #เรียนรู้ศรัทธา #ThaiTimes
    สลามเมืองไทย EP14 | รอมฎอน เดือนอันประเสริฐ (กุมภาพันธ์ - มีนาคม 2025) รอมฎอน (Ramadan) เป็นเดือนที่ 9 ตามปฏิทินอิสลาม (ฮิจเราะห์) ซึ่งเป็นปฏิทินจันทรคติ แต่เนื่องจากปฏิทินอิสลามสั้นกว่าปฏิทินสากลประมาณ 10-12 วันต่อปี วันเริ่มต้นของรอมฎอนในปฏิทินสากลจึงเปลี่ยนไปทุกปี สำหรับปี 2025 (ฮ.ศ. 1446) คาดว่า รอมฎอนจะเริ่มในช่วงค่ำของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2025 และสิ้นสุดในช่วงค่ำของวันที่ 30 มีนาคม 2025 (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการดูดวงจันทร์ในแต่ละประเทศ) "รอมฎอน: เดือนแห่งการฝึกฝนจิตใจและการเชื่อมสัมพันธ์" ✅ ถือศีลอด ตั้งแต่รุ่งอรุณถึงพลบค่ำ เพื่อฝึกความอดทนและละเว้นจากสิ่งที่ไม่ดี ✅ ละหมาด ตื่นตัวทางจิตใจ และอ่านอัลกุรอาน เพื่อเสริมสร้างศรัทธา ✅ บริจาค ซะกาต และช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อส่งต่อความเมตตา ✅ สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับครอบครัวและชุมชน "มากกว่าการถือศีลอด แต่คือการพัฒนาตนเอง" เดือนรอมฎอนไม่ใช่แค่ช่วงเวลาของการงดอาหารและน้ำ แต่เป็น เดือนแห่งการให้อภัย การเสียสละ และการเชื่อมความสัมพันธ์กับพระเจ้าและพี่น้องมุสลิมทั่วโลก 📌 รับชมเทปย้อนหลังรอมฎอน และเรียนรู้ความสำคัญของเดือนอันประเสริฐนี้ ที่เป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธาและการปฏิบัติตนเพื่อความดีงาม #สลามเมืองไทย #EP14 #เทปย้อนหลัง #รอมฎอนเดือนอันประเสริฐ #Ramadan2025 #ถือศีลอด #IslamicFaith #เดือนแห่งศรัทธา #MuslimCommunity #เรียนรู้ศรัทธา #ThaiTimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 869 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • Big Story - เรื่องจริงที่คุณต้องรู้!
    ติดตามข่าวเจาะลึก สัมภาษณ์พิเศษ และการวิเคราะห์ที่ไม่เหมือนใคร

    🎥 รับชมเรื่องราวได้ที่นี่ 👉 https://thaitimes.co/pages/BIGStory

    📌 กดติดตามเพื่อไม่พลาดข่าวสำคัญ! #BigStory #Thaitimes
    Big Story - เรื่องจริงที่คุณต้องรู้! ติดตามข่าวเจาะลึก สัมภาษณ์พิเศษ และการวิเคราะห์ที่ไม่เหมือนใคร 🎥 รับชมเรื่องราวได้ที่นี่ 👉 https://thaitimes.co/pages/BIGStory 📌 กดติดตามเพื่อไม่พลาดข่าวสำคัญ! #BigStory #Thaitimes
    BIG Story | ย้อนรอย13 ปี ลอบสังหารคุณสนธิ

    BIG Story ตอน ย้อนรอย 13 ปี ลอบสังหาร "สนธิ ลิ้มทองกุล" (Ep1) แฉเบื้องหลังแผนทหารลอบฆ่า ใครเกี่ยวข้องบ้าง และแม้มีหลักฐานชัดเจนแต่ทำไมคดีไม่คืบ จับคนร้ายไม่ได้แม้แต่คนเดียว อำนาจมืดยังคงลอยนวล

    #BigStory #ย้อนรอยลอบสังหาร #สนธิลิ้มทองกุล #คดีลอบฆ่า #เงื่อนงำที่ยังไร้คำตอบ #อำนาจมืดที่ลอยนวล #ThaiTimes
    Like
    Love
    35
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4190 มุมมอง 161 1 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 3-3-68
    .
    เช้าวันจันทร์ วันนี้คุณสนธิมีหลายเรื่องมาเล่าให้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฮอต ๆ อย่าง "การส่งกลับชาวอุยกูร์" ที่หลบหนีเข้าเมือง และอาศัยอยู่ในประเทศไทยมาเป็นเวลากว่าสิบปีแล้ว, วิวาทะระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์-เจดี แแวนซ์ ประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับ นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ รวมไปถึงคดีที่คุณสนธิฟ้อง "ทนายอั๋น" ที่ศาลมีคำพิพากษาลงมาแล้ว ... เชิญรับชม
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=UnMK7GV-aJI
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #อุยกูร์ #ซินเกียง #ทรัมป์เซเลนสกี
    สนธิเล่าเรื่อง 3-3-68 . เช้าวันจันทร์ วันนี้คุณสนธิมีหลายเรื่องมาเล่าให้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฮอต ๆ อย่าง "การส่งกลับชาวอุยกูร์" ที่หลบหนีเข้าเมือง และอาศัยอยู่ในประเทศไทยมาเป็นเวลากว่าสิบปีแล้ว, วิวาทะระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์-เจดี แแวนซ์ ประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับ นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ รวมไปถึงคดีที่คุณสนธิฟ้อง "ทนายอั๋น" ที่ศาลมีคำพิพากษาลงมาแล้ว ... เชิญรับชม . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=UnMK7GV-aJI . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #อุยกูร์ #ซินเกียง #ทรัมป์เซเลนสกี
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 510 มุมมอง 0 รีวิว
  • สลามเมืองไทย EP11 | เดือนรอมฎอน เดือนแห่งศรัทธา

    ✨ เทปย้อนหลังรอมฎอน: เสียงและภาพแห่งความศรัทธา ✨

    เดือนรอมฎอน (Ramadan) ซึ่งถือว่าเป็น เดือนแห่งศรัทธา เป็นช่วงเวลาแห่งการถือศีลอด การทำความดี และการฝึกจิตใจให้เข้มแข็ง พร้อมทั้งระลึกถึงผู้ที่ด้อยโอกาส

    ร่วมย้อนรำลึกถึงบรรยากาศของเดือนอันประเสริฐ ผ่านเรื่องราวแห่งศรัทธาและภาพความประทับใจที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ 📿💫

    📌 ติดตามรับชมเทปย้อนหลังได้ที่นี่

    #สลามเมืองไทย #EP11 #รอมฎอนเดือนแห่งศรัทธา #Ramadan #RamadanKareem #ถือศีลอด #IslamicFaith #รอมฎอนแห่งความเมตตา #เสียงและภาพแห่งศรัทธา #MuslimCommunity #ThaiTimes
    สลามเมืองไทย EP11 | เดือนรอมฎอน เดือนแห่งศรัทธา ✨ เทปย้อนหลังรอมฎอน: เสียงและภาพแห่งความศรัทธา ✨ เดือนรอมฎอน (Ramadan) ซึ่งถือว่าเป็น เดือนแห่งศรัทธา เป็นช่วงเวลาแห่งการถือศีลอด การทำความดี และการฝึกจิตใจให้เข้มแข็ง พร้อมทั้งระลึกถึงผู้ที่ด้อยโอกาส ร่วมย้อนรำลึกถึงบรรยากาศของเดือนอันประเสริฐ ผ่านเรื่องราวแห่งศรัทธาและภาพความประทับใจที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ 📿💫 📌 ติดตามรับชมเทปย้อนหลังได้ที่นี่ #สลามเมืองไทย #EP11 #รอมฎอนเดือนแห่งศรัทธา #Ramadan #RamadanKareem #ถือศีลอด #IslamicFaith #รอมฎอนแห่งความเมตตา #เสียงและภาพแห่งศรัทธา #MuslimCommunity #ThaiTimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 866 มุมมอง 27 0 รีวิว
  • ชายชาวฟลอริดา ชื่อ Jonathan Challinger ขับรถ Tesla Cybertruck ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (self-driving) แต่รถกลับชนเข้ากับเสาไฟโดยไม่ได้พยายามชะลอหรือเลี้ยวก่อนชน ขณะที่เขาโพสต์เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้บนสื่อสังคม X เขากลับขอบคุณ Tesla ที่สร้างระบบความปลอดภัยระดับโลก เนื่องจากเขาไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อยจากเหตุการณ์นี้

    Challinger เล่าในโพสต์ว่า รถ Cybertruck ของเขาทำงานผิดพลาด ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการชนขณะที่กำลังวิ่งอยู่ในเลนที่กำลังจะสิ้นสุด ส่งผลให้รถวิ่งข้ามขอบถนนและชนเข้ากับเสาไฟทันที โพสต์นี้ได้รับการรับชมเกือบสองล้านครั้งก่อนที่จะถูกลบออก

    สิ่งที่น่าสนใจคือแม้ว่า Tesla จะมีฟีเจอร์ขับขี่อัตโนมัติที่สามารถนำรถผ่านทางโค้ง สี่แยก การเลี้ยวซ้ายและขวา วงเวียน และทางหลวงได้ แต่ในคู่มือของ Cybertruck ยังคงระบุว่าผู้ขับขี่จะต้องมีความตื่นตัวตลอดเวลาและต้องมีมือจับพวงมาลัยในขณะที่เปิดใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติ

    Elon Musk, ซีอีโอของ Tesla เคยประกาศในเดือนมกราคมว่าบริษัทจะเปิดตัวรถแท็กซี่อัตโนมัติ (robotaxis) ในเมืองออสตินภายในฤดูร้อนปีนี้ และยังวางแผนที่จะขยายระบบขับขี่อัตโนมัติโดยไม่ต้องควบคุม (unsupervised Full Self-Driving) ไปยังรัฐแคลิฟอร์เนียและพื้นที่อื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกาภายในสิ้นปี 2025

    แม้ว่าในเหตุการณ์นี้ Challinger จะชี้โทษตัวเองว่าเป็นฝ่ายผิดและเรียกร้องให้ผู้ขับขี่ทุกคนมีความตื่นตัวในการขับขี่อย่างเต็มที่ แต่ก็ยังเป็นข้อเตือนใจให้เห็นว่าระบบขับขี่อัตโนมัติยังไม่สมบูรณ์และยังคงต้องการการเฝ้าระวังจากผู้ขับขี่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/22/tesla-is-safest-in-the-world-says-driver-whose-cybertruck-self-drove-into-pole
    ชายชาวฟลอริดา ชื่อ Jonathan Challinger ขับรถ Tesla Cybertruck ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (self-driving) แต่รถกลับชนเข้ากับเสาไฟโดยไม่ได้พยายามชะลอหรือเลี้ยวก่อนชน ขณะที่เขาโพสต์เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้บนสื่อสังคม X เขากลับขอบคุณ Tesla ที่สร้างระบบความปลอดภัยระดับโลก เนื่องจากเขาไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อยจากเหตุการณ์นี้ Challinger เล่าในโพสต์ว่า รถ Cybertruck ของเขาทำงานผิดพลาด ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการชนขณะที่กำลังวิ่งอยู่ในเลนที่กำลังจะสิ้นสุด ส่งผลให้รถวิ่งข้ามขอบถนนและชนเข้ากับเสาไฟทันที โพสต์นี้ได้รับการรับชมเกือบสองล้านครั้งก่อนที่จะถูกลบออก สิ่งที่น่าสนใจคือแม้ว่า Tesla จะมีฟีเจอร์ขับขี่อัตโนมัติที่สามารถนำรถผ่านทางโค้ง สี่แยก การเลี้ยวซ้ายและขวา วงเวียน และทางหลวงได้ แต่ในคู่มือของ Cybertruck ยังคงระบุว่าผู้ขับขี่จะต้องมีความตื่นตัวตลอดเวลาและต้องมีมือจับพวงมาลัยในขณะที่เปิดใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติ Elon Musk, ซีอีโอของ Tesla เคยประกาศในเดือนมกราคมว่าบริษัทจะเปิดตัวรถแท็กซี่อัตโนมัติ (robotaxis) ในเมืองออสตินภายในฤดูร้อนปีนี้ และยังวางแผนที่จะขยายระบบขับขี่อัตโนมัติโดยไม่ต้องควบคุม (unsupervised Full Self-Driving) ไปยังรัฐแคลิฟอร์เนียและพื้นที่อื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกาภายในสิ้นปี 2025 แม้ว่าในเหตุการณ์นี้ Challinger จะชี้โทษตัวเองว่าเป็นฝ่ายผิดและเรียกร้องให้ผู้ขับขี่ทุกคนมีความตื่นตัวในการขับขี่อย่างเต็มที่ แต่ก็ยังเป็นข้อเตือนใจให้เห็นว่าระบบขับขี่อัตโนมัติยังไม่สมบูรณ์และยังคงต้องการการเฝ้าระวังจากผู้ขับขี่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/22/tesla-is-safest-in-the-world-says-driver-whose-cybertruck-self-drove-into-pole
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Tesla is safest in the world, says driver whose Cybertruck self-drove into pole
    The car "made no attempt to slow down or turn until it had already hit the curb,"the man said in a the post, which received nearly two million views and was later deleted.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 431 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจราชการและเยี่ยมชมผลการดำเนินงานในพื้นที่อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี

    วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 14.00 น. ณ อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะฯ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ในพื้นที่อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี โดยมี นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยนายสิทธิชัย หล่อประสงค์สุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่น คณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินระดับจังหวัดและอำเภอ คณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดลพบุรี คณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอ กลุ่มชาติพันธุ์ลาวเวียง กลุ่มชาติพันธุ์ไทยพวน ประชาชนในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดและอำเภอ ร่วมให้การต้อนรับ
    นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะฯ มีแผนลงพื้นที่ตรวจราชการและเยี่ยมชมผลการดำเนินงาน ทั้งหมด 4 จุด ประกอบด้วย จุดแรก ตรวจราชการ ผลการดำเนินงาน OTOP ผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมแปรง ณ ศูนย์อนุรักษ์ชาติพันธุ์ลาวเวียง ตำบลป่าตาล อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี พร้อมรับชมชุดการแสดงชาติพันธุ์ลาวเวียง, รับชมการสาธิตการทำขนมต้องบ้อง (ขนมวง), สาธิตการทำขนมข้าวเม่าทอด, สาธิตการทำผ้าย้อมแปรง และสาธิตการทอผ้า
    จุดที่สอง ตรวจราชการ ผลการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ณ ศาลา SML วัดถนนแค ตำบลถนนใหญ่ อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการ การสาธิตการทำดินสอพอง, สาธิตการทำไข่เค็มดินสอพอง, สาธิตการทำผัดไทไข่เค็ม, และสาธิตการทำข้าวจี่
    จุดที่สาม ตรวจราชการ ผลการขับเคลื่อนการดำเนินงานกองทุนแม่ของแผ่นดิน ณ โรงเรียนวัดตองปุ หมู่ที่ 1 ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี พบปะ ให้คำแนะนำ แนวทางการดำเนินงานฯ พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการ พบปะเยาวชนนักกีฬาสตรีทฟุตบอล ตลอดจนเยาวชนที่ผ่านการบำบัด และกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา (สกร.) และจุดสุดท้าย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานอนุบาลสัตว์ เทศบาลเมืองลพบุรี ตำบลโพธิ์เก้าต้น เพื่อรับทราบข้อมูลการดำเนินงานภายในสถานอนุบาลลิงโดยนำข้อมูลที่ได้ไปสนับสนุนคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในการผลักดันขับเคลื่อนโครงการต่างๆต่อรัฐบาลต่อไป
    รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจราชการและเยี่ยมชมผลการดำเนินงานในพื้นที่อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 14.00 น. ณ อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะฯ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ในพื้นที่อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี โดยมี นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยนายสิทธิชัย หล่อประสงค์สุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่น คณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินระดับจังหวัดและอำเภอ คณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดลพบุรี คณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอ กลุ่มชาติพันธุ์ลาวเวียง กลุ่มชาติพันธุ์ไทยพวน ประชาชนในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดและอำเภอ ร่วมให้การต้อนรับ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะฯ มีแผนลงพื้นที่ตรวจราชการและเยี่ยมชมผลการดำเนินงาน ทั้งหมด 4 จุด ประกอบด้วย จุดแรก ตรวจราชการ ผลการดำเนินงาน OTOP ผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมแปรง ณ ศูนย์อนุรักษ์ชาติพันธุ์ลาวเวียง ตำบลป่าตาล อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี พร้อมรับชมชุดการแสดงชาติพันธุ์ลาวเวียง, รับชมการสาธิตการทำขนมต้องบ้อง (ขนมวง), สาธิตการทำขนมข้าวเม่าทอด, สาธิตการทำผ้าย้อมแปรง และสาธิตการทอผ้า จุดที่สอง ตรวจราชการ ผลการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ณ ศาลา SML วัดถนนแค ตำบลถนนใหญ่ อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการ การสาธิตการทำดินสอพอง, สาธิตการทำไข่เค็มดินสอพอง, สาธิตการทำผัดไทไข่เค็ม, และสาธิตการทำข้าวจี่ จุดที่สาม ตรวจราชการ ผลการขับเคลื่อนการดำเนินงานกองทุนแม่ของแผ่นดิน ณ โรงเรียนวัดตองปุ หมู่ที่ 1 ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี พบปะ ให้คำแนะนำ แนวทางการดำเนินงานฯ พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการ พบปะเยาวชนนักกีฬาสตรีทฟุตบอล ตลอดจนเยาวชนที่ผ่านการบำบัด และกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา (สกร.) และจุดสุดท้าย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานอนุบาลสัตว์ เทศบาลเมืองลพบุรี ตำบลโพธิ์เก้าต้น เพื่อรับทราบข้อมูลการดำเนินงานภายในสถานอนุบาลลิงโดยนำข้อมูลที่ได้ไปสนับสนุนคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในการผลักดันขับเคลื่อนโครงการต่างๆต่อรัฐบาลต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 534 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✴️ สามารถรับชมคลิปต่างๆ เพิ่มเติมได้ใน ชีชั่น 💻
    ✴️ สามารถรับชมคลิปต่างๆ เพิ่มเติมได้ใน ชีชั่น 💻
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • วาเลนไทน์นี้คุณ จะหวีดหรือจะหวาน ก็เลือกเอานะ ❤
    แล้วเตรียมไปรับชมภาพยนตร์สยองขวัญ

    Final Destination Bloodlines
    ไฟนอลเดสติเนชั่น ทายาทโกงตาย
    15 พฤษภาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

    ชมตัวอย่าง | https://youtu.be/LKR7fMF-Fak

    #FinalDestination #Bloodlines
    #ไฟนอลเดสติเนชั่น #ทายาทโกงตาย
    วาเลนไทน์นี้คุณ จะหวีดหรือจะหวาน ก็เลือกเอานะ ❤ แล้วเตรียมไปรับชมภาพยนตร์สยองขวัญ Final Destination Bloodlines ไฟนอลเดสติเนชั่น ทายาทโกงตาย 15 พฤษภาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ ชมตัวอย่าง | https://youtu.be/LKR7fMF-Fak #FinalDestination #Bloodlines #ไฟนอลเดสติเนชั่น #ทายาทโกงตาย
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 637 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลงานเพลงที่2 ของชาวเราครับฮะ
    Sherry Duck Special #1
    Single : ไม่ใช่ความบังเอิญ
    Artist : Mr. Morgan And Shaw Sherry Duck
    14 กุมภาฯ เวลา 14.00 น. รับชมรับฟังทั่วไทยไกลทั่วโลก
    เพลงรักดีๆอบอุ่นๆ ฝากด้วยนะครับฮะ
    มุมิมุมิ.. จุฟๆ
    ผลงานเพลงที่2 ของชาวเราครับฮะ Sherry Duck Special #1 Single : ไม่ใช่ความบังเอิญ Artist : Mr. Morgan And Shaw Sherry Duck 14 กุมภาฯ เวลา 14.00 น. รับชมรับฟังทั่วไทยไกลทั่วโลก เพลงรักดีๆอบอุ่นๆ ฝากด้วยนะครับฮะ มุมิมุมิ.. จุฟๆ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทุกความรักไม่ใช่เรื่องบังเอิญ รักดีๆมีทุกวัน
    Single : ไม่ใช่ความบังเอิญ
    Sherry Duck Special #1
    Artist : Mr. Morgan And Shaw Sherry Duck
    Lyric & Melody : Shaw Sherry Duck
    Arrange & Musician : Mr. Morgan
    Vocal & Chorus : Shaw
    Mixed : Mr. Morgan
    Mastering : Shaw Sherry Duck
    Producer : เฮียชอว์ & อ.มอร์แกน
    รับชมรับฟังทั่วไทยไกลทั่วโลก วันแห่งความรัก
    #ไม่ใช่ความบังเอิญ #sherryduckspecial #morganandshaw #newsingle #newsong #Sherryduck #shawsherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #morgan #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต#Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord #tvphuket #ทีวีภูเก็ต
    ทุกความรักไม่ใช่เรื่องบังเอิญ รักดีๆมีทุกวัน Single : ไม่ใช่ความบังเอิญ Sherry Duck Special #1 Artist : Mr. Morgan And Shaw Sherry Duck Lyric & Melody : Shaw Sherry Duck Arrange & Musician : Mr. Morgan Vocal & Chorus : Shaw Mixed : Mr. Morgan Mastering : Shaw Sherry Duck Producer : เฮียชอว์ & อ.มอร์แกน รับชมรับฟังทั่วไทยไกลทั่วโลก วันแห่งความรัก #ไม่ใช่ความบังเอิญ #sherryduckspecial #morganandshaw #newsingle #newsong #Sherryduck #shawsherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #morgan #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต​ #Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord #tvphuket #ทีวีภูเก็ต
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1148 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • วันนี้ 11 โมง พี่วันจะไลฟ์ชี้แจงประเด็นถูกโยงแชทขอภาพ XYZ น้องแตงโม โปรดใช้วิจารณจักรยานในการรับชม
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    วันนี้ 11 โมง พี่วันจะไลฟ์ชี้แจงประเด็นถูกโยงแชทขอภาพ XYZ น้องแตงโม โปรดใช้วิจารณจักรยานในการรับชม #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในปัจจุบัน (ข้อมูล截至ปี 2024) รายการทีวีดิจิตอลยังคงมีอยู่และเป็นส่วนสำคัญของการแพร่ภาพโทรทัศน์ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้ชมกำลังส่งผลต่ออุตสาหกรรมนี้

    ### สถานการณ์ของทีวีดิจิตอลในปัจจุบัน:
    1. **ยังคงมีอยู่**: ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย รายการทีวีดิจิตอลยังคงแพร่ภาพอยู่ และมีผู้ชมจำนวนหนึ่งที่ยังคงรับชมผ่านช่องทางนี้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชมที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ยากหรือไม่สะดวกในการใช้บริการสตรีมมิง

    2. **การแข่งขันจากสตรีมมิง**: บริการสตรีมมิงเช่น Netflix, YouTube, Disney+ และอื่นๆ กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้ผู้ชมบางส่วนหันไปใช้บริการเหล่านี้แทนการดูทีวีดิจิตอล

    3. **การปรับตัวของสถานีโทรทัศน์**: สถานีโทรทัศน์หลายแห่งกำลังปรับตัวโดยการนำเนื้อหาไปเผยแพร่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อดึงดูดผู้ชมรุ่นใหม่ที่ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต

    4. **นโยบายของรัฐบาล**: ในบางประเทศ รัฐบาลยังคงสนับสนุนการแพร่ภาพทีวีดิจิตอลเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงได้อย่างทั่วถึง

    ### อนาคตของทีวีดิจิตอล:
    - **ลดความสำคัญลง**: คาดว่าในอนาคตทีวีดิจิตอลอาจลดความสำคัญลง เนื่องจากผู้ชมหันไปใช้บริการออนไลน์มากขึ้น
    - **การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี**: เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น 5G และ AI อาจส่งผลต่อรูปแบบการบริโภคสื่อ ทำให้ทีวีดิจิตอลต้องปรับตัวเพื่อให้ทันสมัย

    สรุป: รายการทีวีดิจิตอลยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน แต่กำลังเผชิญกับความท้าทายจากเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงไป ในอนาคตอาจมีการปรับตัวหรือลดบทบาทลงตามสภาพแวดล้อมทางดิจิทัลที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว
    ในปัจจุบัน (ข้อมูล截至ปี 2024) รายการทีวีดิจิตอลยังคงมีอยู่และเป็นส่วนสำคัญของการแพร่ภาพโทรทัศน์ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้ชมกำลังส่งผลต่ออุตสาหกรรมนี้ ### สถานการณ์ของทีวีดิจิตอลในปัจจุบัน: 1. **ยังคงมีอยู่**: ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย รายการทีวีดิจิตอลยังคงแพร่ภาพอยู่ และมีผู้ชมจำนวนหนึ่งที่ยังคงรับชมผ่านช่องทางนี้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชมที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ยากหรือไม่สะดวกในการใช้บริการสตรีมมิง 2. **การแข่งขันจากสตรีมมิง**: บริการสตรีมมิงเช่น Netflix, YouTube, Disney+ และอื่นๆ กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้ผู้ชมบางส่วนหันไปใช้บริการเหล่านี้แทนการดูทีวีดิจิตอล 3. **การปรับตัวของสถานีโทรทัศน์**: สถานีโทรทัศน์หลายแห่งกำลังปรับตัวโดยการนำเนื้อหาไปเผยแพร่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อดึงดูดผู้ชมรุ่นใหม่ที่ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต 4. **นโยบายของรัฐบาล**: ในบางประเทศ รัฐบาลยังคงสนับสนุนการแพร่ภาพทีวีดิจิตอลเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงได้อย่างทั่วถึง ### อนาคตของทีวีดิจิตอล: - **ลดความสำคัญลง**: คาดว่าในอนาคตทีวีดิจิตอลอาจลดความสำคัญลง เนื่องจากผู้ชมหันไปใช้บริการออนไลน์มากขึ้น - **การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี**: เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น 5G และ AI อาจส่งผลต่อรูปแบบการบริโภคสื่อ ทำให้ทีวีดิจิตอลต้องปรับตัวเพื่อให้ทันสมัย สรุป: รายการทีวีดิจิตอลยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน แต่กำลังเผชิญกับความท้าทายจากเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงไป ในอนาคตอาจมีการปรับตัวหรือลดบทบาทลงตามสภาพแวดล้อมทางดิจิทัลที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✅ สามารถรับชมคลิปแนะนำคุณสมบัติผ่าน Youtube 👇
    ✅ สามารถรับชมคลิปแนะนำคุณสมบัติผ่าน Youtube 👇
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • ✴️ สามารถรับชมคลิปต่างๆ เพิ่มเติมได้ใน ชีชั่น 💻
    ✴️ สามารถรับชมคลิปต่างๆ เพิ่มเติมได้ใน ชีชั่น 💻
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษา "พิรงรอง" กรรมการ กสทช. ผิด ม.157 สั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญาฯ คดี "ทรูไอดี" ยื่นฟ้องออกหนังสือเตือนทีวีดิจิทัล มีโฆษณาแทรกในสัญญาณที่นำไปออก ผิดกฎ “Must Carry” ที่มีโฆษณาแทรกไม่ได้ ชี้มีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย เพราะไม่มีระเบียบเฉพาะกับ OTT จับตาหากไม่ได้รับการประกันตัว จะหลุดจากตำแหน่งทันที
    .
    วันนี้ (6 ก.พ.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี น.ส.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีที่ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ฟ้องมาตรา 157 โดยกล่าวหาว่า น.ส.พิรงรอง มีเจตนากลั่นแกล้งทำให้ ทรู ดิจิทัล ไอดี บริษัทในกลุ่มทรู ดิจิทัล กรุ๊ปเสียหาย
    .
    สำหรับคดีดังกล่าว เนื่องจากการมีผู้บริโภคร้องเรียนมาที่สำนักงาน กสทช. เมื่อปี 2566 หลังจากได้พบว่าบนแพลตฟอร์มของแอปพลิเคชันทรู ไอดี (True ID) มีการโฆษณาแทรกในช่องรายการทีวีดิจิทัลของผู้ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. ซึ่งบริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ปฯ ในฐานะผู้ให้บริการแอปฯ ทรูไอดีได้นำสัญญาณมาถ่ายทอดในแพลตฟอร์มของตนเอง
    .
    ต่อมาคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ได้พิจารณาและเสนอความเห็นในเรื่องดังกล่าว และ สำนักงาน กสทช. ได้ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ให้ตรวจสอบว่ามีการนำช่องรายการที่ได้รับอนุญาตไปออกอากาศผ่านโครงข่ายใดหรือนำไปแพร่ภาพในแพลตฟอร์มใดและให้ปฏิบัติตามประกาศ กสทช. และเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ซึ่งเป็นไปตามหลัก “มัสแครี่” (Must Carry) ที่มีโฆษณาแทรกไม่ได้ แม้หนังสือดังกล่าวไม่ได้ส่งตรงไปยังบริษัท ทรู ดิจิทัลฯ เนื่องจากบริษัทไม่ได้เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตและไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. แต่บริษัทได้อ้างว่าการออกหนังสือดังกล่าวทำให้ตนเองเสียหาย จึงนำมาซึ่งการฟ้องร้องต่อการทำหน้าที่ของประธานอนุกรรมการชุดนี้ คือ น.ส.พิรงรอง กรรมการ กสทช.
    .
    ในคำร้องของบริษัททรูดิจิทัลฯ อ้างว่าหนังสือดังกล่าวเป็นเหตุที่ทำให้ตนเองได้รับความเสียหายเนื่องจากผู้รับใบอนุญาตประเภทช่องรายการโทรทัศน์ อาจทำการระงับการเผยแพร่รายการต่าง ๆ ผ่านทางแพลตฟอร์มของตน ในคำร้องได้อ้างว่าทางสำนักงาน กสทช. ยังไม่มีระเบียบเฉพาะในการกำกับดูแลกิจการ OTT (Over-The-Top หรือการให้บริการสตรีมเนื้อหาผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต)
    .
    อย่างไรก็ตาม น.ส.พิรงรอง ยืนยันว่า การออกหนังสือของสำนักงาน กสทช. เป็นการทำตามหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการแทรกโฆษณาในบนแพลตฟอร์มทรูไอดีในการรับชมเนื้อหาตามประกาศมัสต์ แครี่ และดูแลลิขสิทธิ์เนื้อหาของผู้ให้บริการโทรทัศน์ดิจิทัล เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ซึ่งการตรวจสอบของสำนักงาน กสทช. จนนำไปสู่การออกหนังสือดังกล่าวมาจากการร้องเรียนของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการแทรกโฆษณาบนกล่องทรูไอดี ทั้งนี้ ไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ประกอบกิจการรายหนึ่งรายใดเป็นพิเศษ
    .
    เป็นที่สังเกตได้ว่า หนังสือดังกล่าวที่ออกโดยสำนักงาน กสทช. มิใช่คำสั่งทางปกครอง จึงไม่มีผลบังคับใช้ตามกฏหมาย อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ได้รับใบอนุญาตได้รับหนังสือข้างต้นและจะปฏิบัติตามประกาศ กสทช. ในประเด็นมัสแครี่ อย่างเคร่งครัดหรือไม่ ก็ยังไม่มีบทลงโทษตามกฎหมาย และผู้ได้รับใบอนุญาตมีสิทธิที่จะพิจารณาตามความเหมาะสมต่อรายการที่อยู่ภายใต้การประกอบการของตน
    .
    ก่อนหน้านี้ ในเดือน เม.ย. 2567 ศาลมีคำสั่งประทับฟ้องบริษัททรูดิจิทัลฯ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ น.ส.พิรงรอง ยุติการปฏิบัติหน้าที่กรรมการ กสทช. และประธานอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ไว้ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดีนี้
    .
    แต่ต่อมาในเดือน พ.ค. 2567 ศาลยกคำร้องดังกล่าว โดยพิจารณาว่าจำเลยไม่มีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นปฏิปักษ์ ขัดขวาง หรือกลั่นแกล้งการประกอบธุรกิจของโจทก์ตามที่กล่าวอ้าง อย่างไรก็ตาม หาก น.ส.พิรงรอง ถูกตัดสินว่ามีความผิดและไม่ได้รับสิทธิให้ประกันตัวระหว่างรอการอนุมัติการอุทธรณ์ จะต้องสิ้นสภาพการเป็นกรรมการ กสทช. ทันที
    .
    ทั้งนี้ ผู้ที่กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีโทษคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนคุณสมบัติของ กสทช. ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 7 (6) และ (7) กำหนดลักษณะต้องห้ามของกรรมการ กสทช. ว่า เป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล หรือ เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012019
    .........
    Sondhi X
    ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษา "พิรงรอง" กรรมการ กสทช. ผิด ม.157 สั่งจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญาฯ คดี "ทรูไอดี" ยื่นฟ้องออกหนังสือเตือนทีวีดิจิทัล มีโฆษณาแทรกในสัญญาณที่นำไปออก ผิดกฎ “Must Carry” ที่มีโฆษณาแทรกไม่ได้ ชี้มีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย เพราะไม่มีระเบียบเฉพาะกับ OTT จับตาหากไม่ได้รับการประกันตัว จะหลุดจากตำแหน่งทันที . วันนี้ (6 ก.พ.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี น.ส.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีที่ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ฟ้องมาตรา 157 โดยกล่าวหาว่า น.ส.พิรงรอง มีเจตนากลั่นแกล้งทำให้ ทรู ดิจิทัล ไอดี บริษัทในกลุ่มทรู ดิจิทัล กรุ๊ปเสียหาย . สำหรับคดีดังกล่าว เนื่องจากการมีผู้บริโภคร้องเรียนมาที่สำนักงาน กสทช. เมื่อปี 2566 หลังจากได้พบว่าบนแพลตฟอร์มของแอปพลิเคชันทรู ไอดี (True ID) มีการโฆษณาแทรกในช่องรายการทีวีดิจิทัลของผู้ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. ซึ่งบริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ปฯ ในฐานะผู้ให้บริการแอปฯ ทรูไอดีได้นำสัญญาณมาถ่ายทอดในแพลตฟอร์มของตนเอง . ต่อมาคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ได้พิจารณาและเสนอความเห็นในเรื่องดังกล่าว และ สำนักงาน กสทช. ได้ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ให้ตรวจสอบว่ามีการนำช่องรายการที่ได้รับอนุญาตไปออกอากาศผ่านโครงข่ายใดหรือนำไปแพร่ภาพในแพลตฟอร์มใดและให้ปฏิบัติตามประกาศ กสทช. และเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ซึ่งเป็นไปตามหลัก “มัสแครี่” (Must Carry) ที่มีโฆษณาแทรกไม่ได้ แม้หนังสือดังกล่าวไม่ได้ส่งตรงไปยังบริษัท ทรู ดิจิทัลฯ เนื่องจากบริษัทไม่ได้เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตและไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. แต่บริษัทได้อ้างว่าการออกหนังสือดังกล่าวทำให้ตนเองเสียหาย จึงนำมาซึ่งการฟ้องร้องต่อการทำหน้าที่ของประธานอนุกรรมการชุดนี้ คือ น.ส.พิรงรอง กรรมการ กสทช. . ในคำร้องของบริษัททรูดิจิทัลฯ อ้างว่าหนังสือดังกล่าวเป็นเหตุที่ทำให้ตนเองได้รับความเสียหายเนื่องจากผู้รับใบอนุญาตประเภทช่องรายการโทรทัศน์ อาจทำการระงับการเผยแพร่รายการต่าง ๆ ผ่านทางแพลตฟอร์มของตน ในคำร้องได้อ้างว่าทางสำนักงาน กสทช. ยังไม่มีระเบียบเฉพาะในการกำกับดูแลกิจการ OTT (Over-The-Top หรือการให้บริการสตรีมเนื้อหาผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต) . อย่างไรก็ตาม น.ส.พิรงรอง ยืนยันว่า การออกหนังสือของสำนักงาน กสทช. เป็นการทำตามหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการแทรกโฆษณาในบนแพลตฟอร์มทรูไอดีในการรับชมเนื้อหาตามประกาศมัสต์ แครี่ และดูแลลิขสิทธิ์เนื้อหาของผู้ให้บริการโทรทัศน์ดิจิทัล เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ซึ่งการตรวจสอบของสำนักงาน กสทช. จนนำไปสู่การออกหนังสือดังกล่าวมาจากการร้องเรียนของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการแทรกโฆษณาบนกล่องทรูไอดี ทั้งนี้ ไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ประกอบกิจการรายหนึ่งรายใดเป็นพิเศษ . เป็นที่สังเกตได้ว่า หนังสือดังกล่าวที่ออกโดยสำนักงาน กสทช. มิใช่คำสั่งทางปกครอง จึงไม่มีผลบังคับใช้ตามกฏหมาย อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ได้รับใบอนุญาตได้รับหนังสือข้างต้นและจะปฏิบัติตามประกาศ กสทช. ในประเด็นมัสแครี่ อย่างเคร่งครัดหรือไม่ ก็ยังไม่มีบทลงโทษตามกฎหมาย และผู้ได้รับใบอนุญาตมีสิทธิที่จะพิจารณาตามความเหมาะสมต่อรายการที่อยู่ภายใต้การประกอบการของตน . ก่อนหน้านี้ ในเดือน เม.ย. 2567 ศาลมีคำสั่งประทับฟ้องบริษัททรูดิจิทัลฯ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ น.ส.พิรงรอง ยุติการปฏิบัติหน้าที่กรรมการ กสทช. และประธานอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ไว้ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดีนี้ . แต่ต่อมาในเดือน พ.ค. 2567 ศาลยกคำร้องดังกล่าว โดยพิจารณาว่าจำเลยไม่มีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นปฏิปักษ์ ขัดขวาง หรือกลั่นแกล้งการประกอบธุรกิจของโจทก์ตามที่กล่าวอ้าง อย่างไรก็ตาม หาก น.ส.พิรงรอง ถูกตัดสินว่ามีความผิดและไม่ได้รับสิทธิให้ประกันตัวระหว่างรอการอนุมัติการอุทธรณ์ จะต้องสิ้นสภาพการเป็นกรรมการ กสทช. ทันที . ทั้งนี้ ผู้ที่กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีโทษคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนคุณสมบัติของ กสทช. ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 7 (6) และ (7) กำหนดลักษณะต้องห้ามของกรรมการ กสทช. ว่า เป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล หรือ เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012019 ......... Sondhi X
    Like
    Love
    Yay
    25
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2577 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📲 รับชมวีดีโอได้ที่ playlist 🧡
    📲 รับชมวีดีโอได้ที่ playlist 🧡
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📲 รับชมวีดีโอได้ที่ playlist 🧡
    📲 รับชมวีดีโอได้ที่ playlist 🧡
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts