• "ขณะที่ไทยมุ่งเน้นกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านในภูมิภาค"

    พลเรือตรี จักษวัฎ สายวงค์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กรมยุทธการทหารเรือ เป็นผู้แทนกองทัพเรือเข้าร่วมประชุม Navy to Navy Talk ครั้งที่ 5 ระหว่าง กองทัพเรือไทย และ กองทัพเรือเวียดนาม ณ กองบัญชาการกองทัพเรือเวียดนาม เมืองไฮฟอง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคี หลังจากที่เริ่มการลาดตระเวนร่วมระหว่างกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 จนถึงปัจจุบัน ยังคงมีการปฏิบัติในการลาดตระเวนร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
    รวมทั้งมีการส่งเรือรบเยือนเมืองท่าระหว่างกันเป็นประจำ แสดงให้เห็นถึงความไว้เนื้อเชื่อใจในระดับกองทัพเรืออย่างแน่นแฟ้น

    ทั้งนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารเรือของไทย ได้เยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ โดยได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติในบรรยากาศที่อบอุ่น

    และในปี พ.ศ.2569 ผู้บัญชาการทหารเรือเวียดนาม มีกำหนดจะเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นเครื่องยืนยันถึงความสัมพันธ์อันดี และความร่วมมือระหว่างกันในอนาคตต่อไปอีกด้วย

    การดำเนินการดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมเป็นหุ้นส่วนพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ (Comprehensive Strategic Partner) ระหว่าง 2 ประเทศ และเป็นไปตามแนวความคิดทางยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือในการเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเล
    "ขณะที่ไทยมุ่งเน้นกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านในภูมิภาค" พลเรือตรี จักษวัฎ สายวงค์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กรมยุทธการทหารเรือ เป็นผู้แทนกองทัพเรือเข้าร่วมประชุม Navy to Navy Talk ครั้งที่ 5 ระหว่าง กองทัพเรือไทย และ กองทัพเรือเวียดนาม ณ กองบัญชาการกองทัพเรือเวียดนาม เมืองไฮฟอง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคี หลังจากที่เริ่มการลาดตระเวนร่วมระหว่างกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 จนถึงปัจจุบัน ยังคงมีการปฏิบัติในการลาดตระเวนร่วมกันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการส่งเรือรบเยือนเมืองท่าระหว่างกันเป็นประจำ แสดงให้เห็นถึงความไว้เนื้อเชื่อใจในระดับกองทัพเรืออย่างแน่นแฟ้น ทั้งนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารเรือของไทย ได้เยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ โดยได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติในบรรยากาศที่อบอุ่น และในปี พ.ศ.2569 ผู้บัญชาการทหารเรือเวียดนาม มีกำหนดจะเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นเครื่องยืนยันถึงความสัมพันธ์อันดี และความร่วมมือระหว่างกันในอนาคตต่อไปอีกด้วย การดำเนินการดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมเป็นหุ้นส่วนพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ (Comprehensive Strategic Partner) ระหว่าง 2 ประเทศ และเป็นไปตามแนวความคิดทางยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือในการเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเล
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารไทยเราต้องบุกเชิงรุกเลย เอาอะไรก็ได้ไปทิ้งใบปลิวในหมู่บ้านชุมชนมันทั่วเขมร หัวเมืองใหญ่ๆด้วยของเขมรมัน จากที่มันปิดข่าวสาระพัดผ่านเน็ต จะถูกทำลายโดยใบปลิวง่ายๆนี้ทันที ใบปลิวตกมาจากฟ้าก็ว่า ปลิวทั่วเขมร อาทิ ใบปลิวข่าวศพทหารเขมรที่ฮุนเซนฮุนมาเนตเจตนาไม่เก็บศพส่งพี่น้องญาติทหารเขมรที่ตายกว่า5,000ศพ อาจเกิน10,000ศพ,ข่าวฮุนเซนฮุนมาเนตเลือกปฏิบัติดูแลทหารเมืองดีกว่าทหารแนวรบตายไม่เก็บตายไม่จ่ายค่าเยียวยาแต่ทหารบ้านดูแลพิเศษตายจัดงานศพเยียวยาอย่างดี,อยู่บ้านหรูแดกสบาย ประชาชนแดกหญ้าแดกใบไม้แดกต้มผักบุ้ง เป็นต้น ยุทธการทหารไทยเชิงนี้ทางลับต้องเล่นกับเขมรด้วย,ประชาชนเขมรมันจะแตกตื่นไม่พอใจมันฮุนเซนฮุนมาเนตหนักขึ้นไปอีก ทหารเขมรแดงที่โกรธแค้นปกติยิ่งอยากจะฆ่าฮุนเซนแน่นอน เตียบันอีก.ตีภายในด้วยสิ ,แค่ทหารไทยอยากมีมนุษยธรรมช่วยเผยแพร่ความจริงบอกช่วยชาวเขมรแค่นั้นอย่างบริสุทธิ์ใจอยากจะช่วยจึงไปแจกใบปลิวความจริงให้ดู มีรูปถ่ายชัดเจนสภาพศพทหารที่ต่างๆ ตายจริงเน่าจริง อีกาอีแร้งแดกจริง.นี้ทหารไทยต้องช่วยฮุนเซนแบบนี้ มันปกปิดก็ช่วยมันเปิดเล่าความจริงแค่นั้น,รัฐบาลชุดนี้ขัดขวางปฏิบัติการยุทธวิธีทางทหารก็อย่าสนใจหัวมัน,

    https://youtube.com/shorts/wP52B5zkHeE?si=rSyDiQh9-xkyRNHb
    ทหารไทยเราต้องบุกเชิงรุกเลย เอาอะไรก็ได้ไปทิ้งใบปลิวในหมู่บ้านชุมชนมันทั่วเขมร หัวเมืองใหญ่ๆด้วยของเขมรมัน จากที่มันปิดข่าวสาระพัดผ่านเน็ต จะถูกทำลายโดยใบปลิวง่ายๆนี้ทันที ใบปลิวตกมาจากฟ้าก็ว่า ปลิวทั่วเขมร อาทิ ใบปลิวข่าวศพทหารเขมรที่ฮุนเซนฮุนมาเนตเจตนาไม่เก็บศพส่งพี่น้องญาติทหารเขมรที่ตายกว่า5,000ศพ อาจเกิน10,000ศพ,ข่าวฮุนเซนฮุนมาเนตเลือกปฏิบัติดูแลทหารเมืองดีกว่าทหารแนวรบตายไม่เก็บตายไม่จ่ายค่าเยียวยาแต่ทหารบ้านดูแลพิเศษตายจัดงานศพเยียวยาอย่างดี,อยู่บ้านหรูแดกสบาย ประชาชนแดกหญ้าแดกใบไม้แดกต้มผักบุ้ง เป็นต้น ยุทธการทหารไทยเชิงนี้ทางลับต้องเล่นกับเขมรด้วย,ประชาชนเขมรมันจะแตกตื่นไม่พอใจมันฮุนเซนฮุนมาเนตหนักขึ้นไปอีก ทหารเขมรแดงที่โกรธแค้นปกติยิ่งอยากจะฆ่าฮุนเซนแน่นอน เตียบันอีก.ตีภายในด้วยสิ ,แค่ทหารไทยอยากมีมนุษยธรรมช่วยเผยแพร่ความจริงบอกช่วยชาวเขมรแค่นั้นอย่างบริสุทธิ์ใจอยากจะช่วยจึงไปแจกใบปลิวความจริงให้ดู มีรูปถ่ายชัดเจนสภาพศพทหารที่ต่างๆ ตายจริงเน่าจริง อีกาอีแร้งแดกจริง.นี้ทหารไทยต้องช่วยฮุนเซนแบบนี้ มันปกปิดก็ช่วยมันเปิดเล่าความจริงแค่นั้น,รัฐบาลชุดนี้ขัดขวางปฏิบัติการยุทธวิธีทางทหารก็อย่าสนใจหัวมัน, https://youtube.com/shorts/wP52B5zkHeE?si=rSyDiQh9-xkyRNHb
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • เริ่มแล้ว ! ไทย–กัมพูชา ประชุม GBC ระหว่างวันที่ 4 – 6 ส.ค. 68 ที่มาเลเซีย โดยที่ฝ่ายเลขานุการจะประชุมกันเพื่อเตรียมกรอบการประชุม ก่อนที่ในวันที่ 7 ส.ค. 68 รมว.กลาโหม ทั้งสองฝ่ายจะเดินทางมาพบกัน

    การประชุมจะแบ่งออกเป็นสองช่วง คือ:
    1.ส่วนที่หนึ่ง วันที่ 4-6 ส.ค.68 จะเป็นในส่วนของคณะกองเลขานุการ GBC ฝ่ายไทยที่เดินทางถึงประเทศมาเลเซียตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็น (วันที่ 3 ส.ค. 2568) โดยวันนี้จะเริ่มประชุมกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อกำหนดกรอบ และตกลงหัวข้อการประชุม คณะของฝ่ายไทยประกอบด้วย:
    เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เป็นเลขานุการคณะกรรมชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา
    ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ (กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และกรมเอเชียตะวันออก)
    ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย 
    ผู้แทน สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
    ผู้แทนกระทรวงกลาโหม (สำนักนโยบายและแผน กรมพระธรรมนูญ)
    ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) (กรมข่าวทหาร กรมยุทธการ)
    ผู้แทนกองทัพบก (ทบ.) (กรมยุทธการทหารบก กรมข่าวทหารบก กองทัพภาคที่ 1, 2 กองกำลังสุรนารี)
    ผู้แทนกองทัพเรือ (ทร.) (กรมยุทธการทหารเรือ กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด)
    ผู้แทนกองทัพอากาศ (ทอ.)
    ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    ผู้ช่วยทูตทหารบก ทหารอากาศไทย ประจำกรุงพนมเปญ

    2. ส่วนที่สองจะเป็นวันที่ 7 ส.ค. 68 โดยคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีฝ่ายทหารระดับรมว.กลาโหม นำคณะโดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรมว.กลาโหม ส่วนฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.อ.เตีย เซรยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชา
    เริ่มแล้ว ! ไทย–กัมพูชา ประชุม GBC ระหว่างวันที่ 4 – 6 ส.ค. 68 ที่มาเลเซีย โดยที่ฝ่ายเลขานุการจะประชุมกันเพื่อเตรียมกรอบการประชุม ก่อนที่ในวันที่ 7 ส.ค. 68 รมว.กลาโหม ทั้งสองฝ่ายจะเดินทางมาพบกัน การประชุมจะแบ่งออกเป็นสองช่วง คือ: 👉1.ส่วนที่หนึ่ง วันที่ 4-6 ส.ค.68 จะเป็นในส่วนของคณะกองเลขานุการ GBC ฝ่ายไทยที่เดินทางถึงประเทศมาเลเซียตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็น (วันที่ 3 ส.ค. 2568) โดยวันนี้จะเริ่มประชุมกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อกำหนดกรอบ และตกลงหัวข้อการประชุม คณะของฝ่ายไทยประกอบด้วย: 🔘เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เป็นเลขานุการคณะกรรมชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา 🔘ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ (กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และกรมเอเชียตะวันออก) 🔘ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย  🔘ผู้แทน สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) 🔘ผู้แทนกระทรวงกลาโหม (สำนักนโยบายและแผน กรมพระธรรมนูญ) 🔘ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) (กรมข่าวทหาร กรมยุทธการ) 🔘ผู้แทนกองทัพบก (ทบ.) (กรมยุทธการทหารบก กรมข่าวทหารบก กองทัพภาคที่ 1, 2 กองกำลังสุรนารี) 🔘ผู้แทนกองทัพเรือ (ทร.) (กรมยุทธการทหารเรือ กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด) 🔘ผู้แทนกองทัพอากาศ (ทอ.) 🔘ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 🔘ผู้ช่วยทูตทหารบก ทหารอากาศไทย ประจำกรุงพนมเปญ 👉2. ส่วนที่สองจะเป็นวันที่ 7 ส.ค. 68 โดยคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีฝ่ายทหารระดับรมว.กลาโหม นำคณะโดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรมว.กลาโหม ส่วนฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.อ.เตีย เซรยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 362 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ไม่ได้ขัดแย้ง 2 ตระกูล!" ทักษิณชี้กัมพูชา "บ้าอยู่คนเดียว" ปลุกชาตินิยมจนระแวงไทย ย้ำรัฐบาลไม่แทรกแซง ขอปล่อยให้ยุทธการเดินหน้า
    https://www.thai-tai.tv/news/20561/
    .
    #ทักษิณชินวัตร #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไม่ยืดเยื้อ #ไร้มนุษยธรรม #โดรน #สั่งสอนฮุนเซน #ยุทธการทหาร #ไม่แทรกแซง #สมช #ศักยภาพกองทัพ #ไทยไท
    "ไม่ได้ขัดแย้ง 2 ตระกูล!" ทักษิณชี้กัมพูชา "บ้าอยู่คนเดียว" ปลุกชาตินิยมจนระแวงไทย ย้ำรัฐบาลไม่แทรกแซง ขอปล่อยให้ยุทธการเดินหน้า https://www.thai-tai.tv/news/20561/ . #ทักษิณชินวัตร #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไม่ยืดเยื้อ #ไร้มนุษยธรรม #โดรน #สั่งสอนฮุนเซน #ยุทธการทหาร #ไม่แทรกแซง #สมช #ศักยภาพกองทัพ #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • "แผนจักรพงษ์ภูวนาถ"

    สำหรับแผนจักรพงษ์ภูวนารถ “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เตรียมทหารรุ่น 21 อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหารบก มีส่วนเขียนแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ในการเปิดศึกเขาพระวิหาร เมื่อปี 2554 ทำให้กองทัพกัมพูชาย่อยยับ ราบเป็นหน้ากลอง เลิกตอแยกับกองทัพไทยมาร่วม 10 ปี

    แผนจักรพงษ์ภูวนาถ ยุทธวิธีทางทหาร งัดไม้แข็งโต้กลับกัมพูชา มีหลักการคร่าวๆ ดังนี้
    การเตรียมความพร้อม
    การสั่งการและเตรียมกำลังพล ผบ.ทบ. สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ 1 และ 2เตรียมความพร้อมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ให้พร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ได้ทันทีเมื่อมีการสั่งการ

    ประสานงานข่าวกรอง มีการดำเนินการตามการฝึกในแผนป้องกันประเทศ โดยเฉพาะด้านการข่าวกรอง เพื่อรวบรวมข้อมูลสถานการณ์และประเมินภัยคุกคาม

    การเตรียมกลไกตอบโต้ กองทัพบกจะเตรียมพร้อมใช้ทุกกลไกที่มีอยู่เพื่อปกป้องความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชน

    การปฏิบัติการเมื่อเกิดเหตุการณ์
    การประเมินสถานการณ์และลงพื้นที่ ผู้บังคับบัญชาระดับสูง เช่น ผบ.ทบ. อาจจะลงพื้นที่เพื่อบัญชาการและติดตามสถานการณ์ด้วยตนเอง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและตัดสินใจในการดำเนินการ

    การดำเนินการตามกรอบที่เหมาะสม แผนนี้จะเน้นการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจะดำเนินการตามกรอบที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย และปกป้องผลประโยชน์ของชาติ

    การตอบโต้ หากจำเป็น แม้จะเน้นการแก้ไขปัญหา แต่กองทัพบกก็ยืนยันว่าจะต่อสู้ทุกวิถีทางด้วยกลไกที่มีอยู่ หากมีความจำเป็นในการตอบโต้

    หลักการสำคัญของแผนจักรพงษ์ภูวนาถ
    -ปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ เป็นหลักการสำคัญที่สุดในการดำเนินการใด ๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์และอธิปไตยของประเทศไทย

    -ปกป้องความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชน เน้นการดูแลและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับกำลังพลและประชาชนในพื้นที่ชายแดน

    -แก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ เป็นแผนที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนอย่างมีแบบแผนและประสิทธิภาพ

    -ใช้กลไกที่เหมาะสม ดำเนินการตามกรอบและกลไกที่เหมาะสม ไม่ได้มุ่งเน้นการใช้กำลังโดยทันที แต่พร้อมที่จะตอบโต้หากมีความจำเป็น
    "แผนจักรพงษ์ภูวนาถ" สำหรับแผนจักรพงษ์ภูวนารถ “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เตรียมทหารรุ่น 21 อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหารบก มีส่วนเขียนแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ในการเปิดศึกเขาพระวิหาร เมื่อปี 2554 ทำให้กองทัพกัมพูชาย่อยยับ ราบเป็นหน้ากลอง เลิกตอแยกับกองทัพไทยมาร่วม 10 ปี แผนจักรพงษ์ภูวนาถ ยุทธวิธีทางทหาร งัดไม้แข็งโต้กลับกัมพูชา มีหลักการคร่าวๆ ดังนี้ 👉การเตรียมความพร้อม การสั่งการและเตรียมกำลังพล ผบ.ทบ. สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ 1 และ 2เตรียมความพร้อมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ให้พร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ได้ทันทีเมื่อมีการสั่งการ ประสานงานข่าวกรอง มีการดำเนินการตามการฝึกในแผนป้องกันประเทศ โดยเฉพาะด้านการข่าวกรอง เพื่อรวบรวมข้อมูลสถานการณ์และประเมินภัยคุกคาม การเตรียมกลไกตอบโต้ กองทัพบกจะเตรียมพร้อมใช้ทุกกลไกที่มีอยู่เพื่อปกป้องความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชน 👉การปฏิบัติการเมื่อเกิดเหตุการณ์ การประเมินสถานการณ์และลงพื้นที่ ผู้บังคับบัญชาระดับสูง เช่น ผบ.ทบ. อาจจะลงพื้นที่เพื่อบัญชาการและติดตามสถานการณ์ด้วยตนเอง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและตัดสินใจในการดำเนินการ การดำเนินการตามกรอบที่เหมาะสม แผนนี้จะเน้นการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจะดำเนินการตามกรอบที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย และปกป้องผลประโยชน์ของชาติ การตอบโต้ หากจำเป็น แม้จะเน้นการแก้ไขปัญหา แต่กองทัพบกก็ยืนยันว่าจะต่อสู้ทุกวิถีทางด้วยกลไกที่มีอยู่ หากมีความจำเป็นในการตอบโต้ 👉หลักการสำคัญของแผนจักรพงษ์ภูวนาถ -ปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ เป็นหลักการสำคัญที่สุดในการดำเนินการใด ๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์และอธิปไตยของประเทศไทย -ปกป้องความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชน เน้นการดูแลและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับกำลังพลและประชาชนในพื้นที่ชายแดน -แก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ เป็นแผนที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนอย่างมีแบบแผนและประสิทธิภาพ -ใช้กลไกที่เหมาะสม ดำเนินการตามกรอบและกลไกที่เหมาะสม ไม่ได้มุ่งเน้นการใช้กำลังโดยทันที แต่พร้อมที่จะตอบโต้หากมีความจำเป็น
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 442 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘เสธ.เบิร์ด’ เปิดชื่อ 2 ผู้พันกัมพูชา เอี่ยววาง ‘ทุ่นระเบิด’ หน้าแนวคูเลต ล้ำดินแดนไทย

    เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย (ผอ.สน.ปร.มน) โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Wanchana Sawasdee” เปิดชื่อนายทหารกัมพูชาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์วางทุ่นระเบิด โดยมีรายละเอียดว่า:

    ที่แนวต้นพญาสัตบรรณ กัมพูชายอมรับ ว่าล้ำแนวไทยจริง จึงยอมกลบคูเลต และถอยออกจากแนว ไม่ล้ำแล้วถอยทำไมกลบแนวคูเลตทำไม นิสัยเขมรๆ แบบฮุนเซน ถ้าจับไม่ได้คาหนังคาเขา ไม่มีวันยอมรับ ขนาดวันแรก นายแฮง รัตนา ผอ.สนง.ปฏิบัติการทุระเบิดแห่งชาติกัมพูชา ออกมาแถลงข่าวว่าทุนระเบิดอยู่ในแผ่นดินไทย แต่ในวันถัดมาแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาก็กลับคำบอกว่าทุนระเบิดอยู่ในพื้นที่กัมพูชา เอายังไงแน่ คุยกันก่อนดีไหม แต่ที่ยืนยันชัดเจนว่า จุดที่ระเบิดนั้นอยู่ในฝั่งไทยคือ

    1 กัมพูชายอมกลบแนวคูเลตที่ตัวเองขุดขึ้นและถอย ย้ำนะครับ ยอมถอยออกจากพื้นที่แนวพญาสัตบรรณ (ยืนยันชัดว่า ถ้ามั่นใจจริงว่า ไม่ล้ำ แล้วถอยทำไม่)

    2 การวางระเบิดเพื่อป้องกัน ขศ. เข้ามาแนววางกำลัง หลักการทางทหาร ก็ต้องวางหน้าแนววางกำลัง หรือหน้าแนว คูเลต ไม่มีใครวางหลังแนวตัวเองแน่นอน ก็ตรงตามจุดโดนระเบิด คือ อยู่หน้าแนวคูเลต เมื่อมองจากฝั่งกัมพูชา ขนาด คูเลตยังล้ำแดน ฉะนั้น หน้าแนวคูเลต ก็ยิ่งล้ำเข้ามาอีก

    ใครจะรับผิดชอบหล่ะ หน่วยในพื้นที่ ที่เผชิญหน้ากันอยู่ หรือหน่วยวางระเบิด ชื่อหน่วยและ ผู้นำในพื้นที่ก็รู้กันอยู่แล้ว เพราะไปมาหาสู่กันมานาน พูดได้ว่า รู้จักกัน

    หน่วยที่วางกำลังเผชิญหน้าอยู่คือ พัน สสน.392 สน. มี พ.ต.ชุน โซะพอล เป็น ผบ.พัน

    ส่วน หน่วยที่มาวางกับระเบิด คือ หน่วย ช. พล.สสน.3 มี พ.ท.ลำ โซะเคน ผบ.พัน

    2 หน่วยนี้มาเดินเก็บกู้พร้อมกันไหม? แต่ถามหาความรับผิดชอบคงไม่มี เพราะฮุนเซนคงให้ปฏิเสธ ไป ตามนิสัยจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน อย่ารับผิด

    แต่ที่แน่นอนคือ อยู่ในดินแดนไทย เพราะ เขมร ยอมถอย เนื่องจากรู้ดีว่า ล้ำแดนจริง จำนนต่อหลักฐานแผนที่ 1 : 200,000 ที่ทำมาเป็นเพียงการนำเสนอให้รู้ว่า แม้แผนที่หยาบมาก ก็ยังอยู่ในแผ่นดินไทย

    https://web.facebook.com/share/p/1VP9eMWksG/
    ‘เสธ.เบิร์ด’ เปิดชื่อ 2 ผู้พันกัมพูชา เอี่ยววาง ‘ทุ่นระเบิด’ หน้าแนวคูเลต ล้ำดินแดนไทย เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย (ผอ.สน.ปร.มน) โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Wanchana Sawasdee” เปิดชื่อนายทหารกัมพูชาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์วางทุ่นระเบิด โดยมีรายละเอียดว่า: ที่แนวต้นพญาสัตบรรณ กัมพูชายอมรับ ว่าล้ำแนวไทยจริง จึงยอมกลบคูเลต และถอยออกจากแนว ไม่ล้ำแล้วถอยทำไมกลบแนวคูเลตทำไม นิสัยเขมรๆ แบบฮุนเซน ถ้าจับไม่ได้คาหนังคาเขา ไม่มีวันยอมรับ ขนาดวันแรก นายแฮง รัตนา ผอ.สนง.ปฏิบัติการทุระเบิดแห่งชาติกัมพูชา ออกมาแถลงข่าวว่าทุนระเบิดอยู่ในแผ่นดินไทย แต่ในวันถัดมาแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาก็กลับคำบอกว่าทุนระเบิดอยู่ในพื้นที่กัมพูชา เอายังไงแน่ คุยกันก่อนดีไหม แต่ที่ยืนยันชัดเจนว่า จุดที่ระเบิดนั้นอยู่ในฝั่งไทยคือ 1 กัมพูชายอมกลบแนวคูเลตที่ตัวเองขุดขึ้นและถอย ย้ำนะครับ ยอมถอยออกจากพื้นที่แนวพญาสัตบรรณ (ยืนยันชัดว่า ถ้ามั่นใจจริงว่า ไม่ล้ำ แล้วถอยทำไม่) 2 การวางระเบิดเพื่อป้องกัน ขศ. เข้ามาแนววางกำลัง หลักการทางทหาร ก็ต้องวางหน้าแนววางกำลัง หรือหน้าแนว คูเลต ไม่มีใครวางหลังแนวตัวเองแน่นอน ก็ตรงตามจุดโดนระเบิด คือ อยู่หน้าแนวคูเลต เมื่อมองจากฝั่งกัมพูชา ขนาด คูเลตยังล้ำแดน ฉะนั้น หน้าแนวคูเลต ก็ยิ่งล้ำเข้ามาอีก ใครจะรับผิดชอบหล่ะ หน่วยในพื้นที่ ที่เผชิญหน้ากันอยู่ หรือหน่วยวางระเบิด ชื่อหน่วยและ ผู้นำในพื้นที่ก็รู้กันอยู่แล้ว เพราะไปมาหาสู่กันมานาน พูดได้ว่า รู้จักกัน หน่วยที่วางกำลังเผชิญหน้าอยู่คือ พัน สสน.392 สน. มี พ.ต.ชุน โซะพอล เป็น ผบ.พัน ส่วน หน่วยที่มาวางกับระเบิด คือ หน่วย ช. พล.สสน.3 มี พ.ท.ลำ โซะเคน ผบ.พัน 2 หน่วยนี้มาเดินเก็บกู้พร้อมกันไหม? แต่ถามหาความรับผิดชอบคงไม่มี เพราะฮุนเซนคงให้ปฏิเสธ ไป ตามนิสัยจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน อย่ารับผิด แต่ที่แน่นอนคือ อยู่ในดินแดนไทย เพราะ เขมร ยอมถอย เนื่องจากรู้ดีว่า ล้ำแดนจริง จำนนต่อหลักฐานแผนที่ 1 : 200,000 ที่ทำมาเป็นเพียงการนำเสนอให้รู้ว่า แม้แผนที่หยาบมาก ก็ยังอยู่ในแผ่นดินไทย https://web.facebook.com/share/p/1VP9eMWksG/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว