• เหรียญหลวงพ่อบุญแถม รุ่น1 สำนักสงฆ์บ้านวังรี สระแก้ว ปี2556
    เหรียญหลวงพ่อบุญแถม รุ่น1 เนื้อทองแดงรมดำ สำนักสงฆ์บ้านวังรี สระแก้ว ปี2556 //พระดีพิธีขลัง!! เจตนาสร้างดี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อบุญแถม รุ่น1 สำนักสงฆ์บ้านวังรี สระแก้ว ปี2556 เหรียญหลวงพ่อบุญแถม รุ่น1 เนื้อทองแดงรมดำ สำนักสงฆ์บ้านวังรี สระแก้ว ปี2556 //พระดีพิธีขลัง!! เจตนาสร้างดี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 37 Views 0 Reviews
  • หลวงพ่อทวดจัมโบ้ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี ปี2552
    หลวงพ่อทวดจัมโบ้ เนื้อผงพุทธคุณ (ก้นตอกโค็ดหลังฝังตะกรุดเงิน) พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ปี2552 // พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสก 3 วาระ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณเด่นด้านเรียกทรัพย์..บันดาลโชค เปิดโชครับทรัพย์ เมตตามหานิยม เรื่องเสน่ห์ โชคลาภ ค้าขาย มหาลาภ เรียกทรัพย์หนุนดวง โชคลาภมหาสมบัติค้าขายร่ำรวย อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >>

    ** พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสก 3 วาระ วาระที่1 ปลุกเสกตั้งธาตุโดยฆราวาส 5 ท่าน วาระที่ 2 วันที่ 30 เมษายน 2552 ณ วัดบ้านลุ่น หลวงปู่เขียว วัดห้วยเงาะ เป็นประธานจุดเทียนชัย และดับเทียนชัย พระสงฆ์เจริญพุทธมนต์ 4 รูป พระเกจิอาจารย์นั่งปรกปลุกเสก 6 รูป ได้แก่ หลวงจ่าง เจ้าอาวาส วัดศรีมหาโพธิ์ พ่อท่าแดง วัดยางแดง (วัดยายเขียด) พ่อท่านหวาน วัดสะบาย้อย (ตำนานหลวงปู่ทวดช่วยรอดตายจากเครื่องบินตกที่ "เซิ่นเจิ้น") วาระที่ 3 ปลุกเสกในกฏิหลวงปู่เขียว วันที่ 1 พ.ค 2552 วันไหว้ครู หลวงปู่เขียว ซึ่งในปี 2552 ที่วัดห้วยเงาะจัดพิธีปลุกเสกใหญ่

    ** มวลสารมหามงคล ได้แก่
    1. ว่านมงคลตามตำรา
    2. ผงพระหักปี 2497
    3. ผงพระสมเด็จวัดระฆัง บางขุนพรหม
    4. ผงปัทมัง (นะปัดตลอด) หลวงพ่อมุ่ย
    5. ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม
    6. ผงกะลาไม่มีตา และผงกะลาตาเดียว
    7. ดินสำคัญต่างๆ เช่น ดินมหาอุดปิดรูปู ดินกากยายักษ์ ฯลฯ
    8. ปลวกเป็นหิน ฯลฯ


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงพ่อทวดจัมโบ้ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี ปี2552 หลวงพ่อทวดจัมโบ้ เนื้อผงพุทธคุณ (ก้นตอกโค็ดหลังฝังตะกรุดเงิน) พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ปี2552 // พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสก 3 วาระ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณเด่นด้านเรียกทรัพย์..บันดาลโชค เปิดโชครับทรัพย์ เมตตามหานิยม เรื่องเสน่ห์ โชคลาภ ค้าขาย มหาลาภ เรียกทรัพย์หนุนดวง โชคลาภมหาสมบัติค้าขายร่ำรวย อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >> ** พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสก 3 วาระ วาระที่1 ปลุกเสกตั้งธาตุโดยฆราวาส 5 ท่าน วาระที่ 2 วันที่ 30 เมษายน 2552 ณ วัดบ้านลุ่น หลวงปู่เขียว วัดห้วยเงาะ เป็นประธานจุดเทียนชัย และดับเทียนชัย พระสงฆ์เจริญพุทธมนต์ 4 รูป พระเกจิอาจารย์นั่งปรกปลุกเสก 6 รูป ได้แก่ หลวงจ่าง เจ้าอาวาส วัดศรีมหาโพธิ์ พ่อท่าแดง วัดยางแดง (วัดยายเขียด) พ่อท่านหวาน วัดสะบาย้อย (ตำนานหลวงปู่ทวดช่วยรอดตายจากเครื่องบินตกที่ "เซิ่นเจิ้น") วาระที่ 3 ปลุกเสกในกฏิหลวงปู่เขียว วันที่ 1 พ.ค 2552 วันไหว้ครู หลวงปู่เขียว ซึ่งในปี 2552 ที่วัดห้วยเงาะจัดพิธีปลุกเสกใหญ่ ** มวลสารมหามงคล ได้แก่ 1. ว่านมงคลตามตำรา 2. ผงพระหักปี 2497 3. ผงพระสมเด็จวัดระฆัง บางขุนพรหม 4. ผงปัทมัง (นะปัดตลอด) หลวงพ่อมุ่ย 5. ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม 6. ผงกะลาไม่มีตา และผงกะลาตาเดียว 7. ดินสำคัญต่างๆ เช่น ดินมหาอุดปิดรูปู ดินกากยายักษ์ ฯลฯ 8. ปลวกเป็นหิน ฯลฯ ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • เหรียญพระครูกาญจนาวิหารคุณ พระครูขำ วัดกาญจนาราม วัดบางนาว จ.นครศรีธรรมราช
    เหรียญพระครูกาญจนาวิหารคุณ พระครูขำ วัดกาญจนาราม วัดบางนาว อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช // พระดีพิธีขลัง !! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณคงกระพันชาตรี มหาอุด แคล้วคลาด และป้องกันอันตรายต่าง ๆ และเมตตามหานิยม ค้าขายดีและเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง เพื่อเพิ่มพูนเมตตามหานิยม คุณไสยมนต์ดำไม่อาจกล้ำกราย >>

    ** วัดกาญจนาราม คนคอนคนปากพนังเรียนวัดบางนาว พระครูขำท่านทันสมัยยุคพ่อท่านเมืองไปมาหาสู่ทำกิจกรรมต่างๆของสงฆ์ วัดกาญจนาราม เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๓ ตำบลบางพระ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช สถานะวัด ตั้งวัด เมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๐ รับวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๒ >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระครูกาญจนาวิหารคุณ พระครูขำ วัดกาญจนาราม วัดบางนาว จ.นครศรีธรรมราช เหรียญพระครูกาญจนาวิหารคุณ พระครูขำ วัดกาญจนาราม วัดบางนาว อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช // พระดีพิธีขลัง !! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณคงกระพันชาตรี มหาอุด แคล้วคลาด และป้องกันอันตรายต่าง ๆ และเมตตามหานิยม ค้าขายดีและเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง เพื่อเพิ่มพูนเมตตามหานิยม คุณไสยมนต์ดำไม่อาจกล้ำกราย >> ** วัดกาญจนาราม คนคอนคนปากพนังเรียนวัดบางนาว พระครูขำท่านทันสมัยยุคพ่อท่านเมืองไปมาหาสู่ทำกิจกรรมต่างๆของสงฆ์ วัดกาญจนาราม เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๓ ตำบลบางพระ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช สถานะวัด ตั้งวัด เมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๐ รับวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๒ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​วิธีพิจารณา เพื่อ “หมดปัญหา” เกี่ยวกับอาหารสี่ประการ
    สัทธรรมลำดับที่ : 750
    ชื่อบทธรรม :- วิธีพิจารณา เพื่อ “หมดปัญหา” เกี่ยวกับอาหาร
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=750
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --วิธีพิจารณา เพื่อ “หมดปัญหา” เกี่ยวกับอาหาร
    --ภิกษุ ท. ! #กวฬีการาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลควรเห็นอย่างไร ?
    http://etipitaka.com/read/pali/16/1​19/?keywords=กวฬีกาโร+อาหาโร
    +--ภิกษุ ท. ! ปรียบเหมือนภรรยาสามีสองคน
    ถือเอาสะเบียงสำหรับเดินทางเล็กน้อย เดินไปสู่หนทางอันกันดาร.
    สองภรรยาสามีนั้น มีบุตรน้อยคนเดียวผู้น่ารักน่าเอ็นดูอยู่คนหนึ่ง.
    เมื่อขณะเขาทั้งสองกำลังเดินไปตามทางอันกันดารอยู่นั้น
    สะเบียงสำหรับเดินทางที่เขามีอยู่เพียงเล็กน้อยนั้น
    ได้หมดสิ้นไปหนทางอันกันดารนั้นยังเหลืออยู่
    เขาทั้งสองนั้นยังไม่เดินข้ามหนทางอันกันดารนั้นไปได้.
    ครั้งนั้นแล สองภรรยาสามีนั้นได้คิดกันว่า
    “เสบียงสำหรับเดินทางของเราทั้งสองที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยนี้ ได้หมดสิ้นลงแล้ว
    หนทางอันกันดารนี้ยังเหลืออยู่ ทั้งเราก็ยังไม่เดินข้ามหนทางอันกันดารนั้นไปได้;
    อย่ากระนั้นเลยเราทั้งสองพึงฆ่าบุตรน้อยคนเดียวผู้น่ารักน่าเอ็นดูนี้เสีย
    แล้วทำให้เป็นเนื้อเค็มและเนื้อย่าง บริโภคเนื้อบุตรนี้แหละ
    เดินข้ามหนทางอันกันดารที่ยังเหลืออยู่นี้กันเถิด
    เพราะถ้าไม่ทำเช่นนั้น พวกเราทั้งสามคนจะต้องพากันพินาศหมดแน่”
    ดังนี้.
    ครั้งนั้นแล ภรรยาสามีทั้งสองนั้น จึงฆ่าบุตรน้อยคนเดียวผู้น่ารักน่าเอ็นดูนั้น
    แล้วทำให้เป็นเนื้อเค็มและเนื้อย่าง บริโภคเนื้อบุตรนั้นเทียวเดินข้ามหนทางอันกันดารที่ยังเหลืออยู่นั้น.
    สองภรรยาสามีนั้น บริโภคเนื้อบุตรไปพลางพร้อมกับข้อนอกไปพลาง
    รำพันว่า “บุตรน้อยคนเดียวของเราไปไหนเสีย บุตรน้อยคนเดียวของเราไปไหนเสีย”
    ดังนี้.
    +--ภิกษุ ท. ! เธอจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร :
    สองภรรยาสามีนั้นจะพึงบริโภคเนื้อบุตรเป็นอาหาร
    เพื่อความเพลิดเพลินสนุกสนานบ้าง
    เพื่อความมัวเมาบ้าง
    เพื่อความประดับประดาบ้าง หรือ
    เพื่อตบแต่ง (ร่างกาย) บ้าง, หรือหนอ ?
    ”ข้อนั้นหาเป็นเช่นนั้นไม่ พระเจ้าข้า !”
    ถ้าอย่างนั้น สองภรรยาสามีนั้นจะพึงบริโภคเนื้อบุตรเป็นอาหาร
    เพียงเพื่อ (อาศัย) เดินข้ามหนทางอันกันดารเท่านั้น ใช่ไหม ?
    “ใช่ พระเจ้าข้า !”
    ถ้าอย่างนั้น ภิกษุ ท. ! ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ;
    เรากล่าวว่า กวฬีการาหาร อันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนเนื้อบุตร)
    http://etipitaka.com/read/pali/16/1​19/?keywords=กวฬีกาโร+อาหาโร
    ฉันนั้น.
    +--ภิกษุ ท. ! กพฬีการาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว ;
    ราคะ (ความกำหนัด) ที่มีเบญจกามคุณเป็นแดนเกิด
    ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย.
    เมื่อ ราคะที่มีเบญจกามคุณ เป็นแดนเกิด เป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้ว,
    สังโยชน์ชนิดที่อริยสาวกประกอบเข้าแล้ว จะพึงเป็นเหตุให้มาสู่โลกนี้ได้อีกย่อมไม่มี.

    --ภิกษุ ท. ! #ผัสสาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลควรเห็นอย่างไร ?
    http://etipitaka.com/read/pali/16/120/?keywords=ผสฺสาหาโร
    +--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนแม่โคนมที่ปราศจากหนังห่อหุ้ม :
    ถ้าแม่โคนมนั้นพึงยืนพิงฝาอยู่ไซร้,
    มันก็จะพึงถูกพวกตัวสัตว์ที่อาศัยฝาเจาะกิน ;
    ถ้าแม่โคนมนั้นพึงยืนพิงต้นไม้อยู่ไซร้,
    มันก็จะพึงถูกพวกสัตว์ชนิดอาศัยต้นไม้ไชกิน;
    ถ้าหากแม่โคนมนั้นพึงลงไปแช่น้ำอยู่ไซร้,
    มันก็จะพึงถูกพวกสัตว์ที่อาศัยน้ำตอดกันกิน;
    ถ้าหากแม่โคนมนั้นจะพึงยืนอาศัยอยู่ในที่โล่งแจ้งไซร้,
    มันก็จะพึงถูกพวกสัตว์ที่อาศัยอยู่ในอากาศเกาะกัดจิกกิน.
    +--ภิกษุ ท. ! แม่โคนมที่ปราศจากหนังห่อหุ้มจะพึงอาศัยอยู่สถานที่ใดๆ ก็ตาม
    มันก็จะพึงถูกจำพวกสัตว์ที่อาศัยอยู่ในสถานที่นั้นๆ กัดกินอยู่ร่ำไป, ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ;
    +--ภิกษุ ท. ! เราย่อมกล่าวว่า ผัสสาหาร อันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนแม่โคนมที่ปราศจากหนังห่อหุ้ม)
    ฉันนั้น.
    +--ภิกษุ ท. ! เมื่อผัสสาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว
    เวทนาทั้งสาม ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย,
    เมื่อ เวทนาทั้งสาม เป็นสิ่งที่อริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว
    เราย่อมกล่าวว่า “สิ่งไรๆ ที่ควรกระทำให้ ยิ่งขึ้นไป (กว่านี้) ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น”
    ดังนี้.

    --ภิกษุ ท. ! #มโนสัญเจตนาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลควรเห็นอย่างไร ?
    http://etipitaka.com/read/pali/16/120/?keywords=มโนสญฺเจตนาหาโร
    ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนหลุมถ่านเพลิง ลึกเกินกว่าชั่วบุรุษหนึ่ง
    เต็มด้วยถ่านเพลิงที่ปราศจากเปลวและปราศจากควัน มีอยู่.
    ครั้งนั้น บรุษผู้หนึ่งผู้ต้องการเป็นอยู่ ไม่อยากตาย รักสุข เกลียดทุกข์ มาสู่ที่นั้น.
    และมีบุรุษที่มีกำลังกล้าแข็งอีกสองคน จับบุรุษนั้นที่แขนแต่ละข้าง
    แล้วฉุดคร่าไปยังหลุมถ่านเพลิงนั้น.
    +--ภิกษุ ท. ! ครั้งนั้นแล บุรุษนั้นมีความคิด ความปรารถนา ความตั้งใจ
    ที่จะให้ห่างไกลหลุมถ่านเพลิงนั้น.
    ข้อนั้นเพราะเหตุใดเล่า ?
    +--ภิกษุ ท. ! ข้อนั้นเพราะเหตุว่าบุรุษนั้นย่อมรู้ว่า
    “ถ้าเราจะตกลงไปยังหลุมถ่านเพลิงไซร้ เราพึงถึงความตาย
    หรือได้รับทุกข์เจียนตาย เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ”
    ดังนี้,
    ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ;
    +--ภิกษุ ท. ! เราย่อมกล่าวว่า มโนสัญเจตนาหาร อันอริยสาวกควรเห็น
    (ว่ามีอุปมาเหมือนหลุมถ่านเพลิง) ฉันนั้น.

    +--ภิกษุ ท. ! เมื่อมโนสัญเจตนาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว,
    ตัณหาทั้งสาม ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย ;
    เมื่อ ตัณหาทั้งสาม เป็นสิ่งที่อริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว,
    เราย่อมกล่าวว่า “สิ่งไร ๆ ที่ควรกระทำให้ยิ่งขึ้นไป (กว่านี้) ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น“
    ดังนี้.

    --ภิกษุ ท. ! #วิญญาณาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลเห็นอย่างไร ?
    http://etipitaka.com/read/pali/16/121/?keywords=วิญฺญาณาหาโร
    +--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนพวกเจ้าหน้าที่จับโจรผู้ประพฤติชั่วช้าได้แล้ว
    แสดงแก่พระราชาว่า
    “ข้าแต่สมมติเทพ ! บุรุษนี้เป็นโจรประพฤติหยาบช้าต่อใต้ฝ่าพระบาท
    ขอใต้ฝ่าพระบาทจงโปรดให้ลงโทษโจรผู้นี้ตามประสงค์เถิด พระเจ้าข้า !“
    พระราชามีกระแสรับสั่งอย่างนี้ว่า
    “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงไปประหารบุรุษนั้น ด้วยหอกร้อยเล่มในเวลาเช้านี้” เจ้าหน้าที่เหล่านั้นจึงประหารนักโทษนั้นด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเช้า.
    ต่อมา ในเวลาเที่ยงวัน พระราชาทรงซักถามพวกเจ้าหน้าที่นั้นว่า
    “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! บุรุษนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ?”.
    พวกเขากราบทูลว่า “ข้าแต่สมมติเทพ ! นักโทษนั้นยังมีชีวิตอยู่ พระเจ้าข้า !”.
    พระราชาทรงมีพระกระแสรับสั่งอย่างนี้ว่า
    “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงไปประหารบุรุษนั้น ด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเที่ยง”.
    พวกเจ้าหน้าที่เหล่านั้น จึงประหารนักโทษนั้นด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเที่ยง.
    ต่อมา ในเวลาเย็น พระราชาทรงซักถามเจ้าหน้าที่เหล่านั้นอีกว่า
    “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! บุรุษนั้น เป็นอย่างไรบ้าง ?”.
    พวกเขากราบทูลว่า “ยังมีชีวิตอยู่ พระเจ้าข้า !”.
    พระราชาทรงมีพระกระแสรับสั่งอีกว่า
    “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงไปประหารบุรุษนั้น ด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเย็น” ดังนี้.
    พวกเจ้าหน้าที่เหล่านั้น จึงประหารนักโทษนั้นด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเย็น.
    +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร
    : บุรุษนักโทษ นั้นถูกเจ้าหน้าที่ประหารอยู่ด้วยหอกสามร้อยเล่ม ตลอดทั้งวัน เขาจะพึงเสวยแต่ทุกขโทมนัสที่มีข้อนั้นเป็นเหตุ มิใช่หรือ ?
    +--ภิกษุ ท. ! บุรุษนักโทษนั้น ถูกพวกเจ้าหน้าที่ประหารด้วยหอกเพียงเล่มเดียว
    ก็พึงเสวยทุกขโทมนัสที่มีข้อนั้นเป็นเหตุ (มากอยู่แล้ว)
    ก็จะกล่าวไปไยถึงการที่บุรุษนักโทษนั้นถูกประหารด้วยหอกสามร้อยเล่มเล่า,
    ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ;
    +--ภิกษุ ท. ! เราย่อมกล่าวว่า วิญญาณาหาร อันอริยสาวกควรเห็น
    (ว่ามีอุปมาเหมือนนักโทษถูกประหารนั้น) ฉันนั้น.
    +--ภิกษุ ท. ! เมื่อวิญญาณาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว,
    นามรูป ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย;
    เมื่อ นามรูป เป็นสิ่งที่อริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว,
    เราย่อมกล่าวว่า “สิ่งไร ๆ ที่ควรกระทำให้ยิ่งขึ้นไป (กว่านี้) ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น”,
    ดังนี้แล.-

    (คำข้าว เรียกว่าอาหาร เพราะหล่อเลี้ยงร่างกาย;
    ผัสสะเรียกว่าอาหาร เพราะทำให้ เกิดเวทนา ;
    มโนสัญเจตนา เรียกว่าอาหาร เพราะทำให้ เกิดกรรม;
    วิญญาณ เรียกว่าอาหาร เพราะทำให้ เกิดนามรูป.
    ถ้าบุคคลพิจารณาเห็นโทษแห่งอาหารแต่ละอย่างๆ
    ดังที่ตรัสไว้โดยอุปมาในข้อความหมายนั้นๆได้,
    จะดับทุกข์ได้ถึงขั้นเป็นพระอรหันต์
    http://etipitaka.com/read/pali/16/123/?keywords=สอุปายาสนฺติ
    ).

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน.สํ. 16/97-99/241 - 244.
    http://etipitaka.com/read/thai/16/97/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94%E0%B9%91​
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน.สํ. ๑๖/๑๑๙-๑๒๑/๒๔๑ - ๒๔๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/119/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94%E0%B9%91​
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=750
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=750
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57
    ลำดับสาธยายธรรม : 57​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​วิธีพิจารณา เพื่อ “หมดปัญหา” เกี่ยวกับอาหารสี่ประการ สัทธรรมลำดับที่ : 750 ชื่อบทธรรม :- วิธีพิจารณา เพื่อ “หมดปัญหา” เกี่ยวกับอาหาร https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=750 เนื้อความทั้งหมด :- --วิธีพิจารณา เพื่อ “หมดปัญหา” เกี่ยวกับอาหาร --ภิกษุ ท. ! #กวฬีการาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลควรเห็นอย่างไร ? http://etipitaka.com/read/pali/16/1​19/?keywords=กวฬีกาโร+อาหาโร +--ภิกษุ ท. ! ปรียบเหมือนภรรยาสามีสองคน ถือเอาสะเบียงสำหรับเดินทางเล็กน้อย เดินไปสู่หนทางอันกันดาร. สองภรรยาสามีนั้น มีบุตรน้อยคนเดียวผู้น่ารักน่าเอ็นดูอยู่คนหนึ่ง. เมื่อขณะเขาทั้งสองกำลังเดินไปตามทางอันกันดารอยู่นั้น สะเบียงสำหรับเดินทางที่เขามีอยู่เพียงเล็กน้อยนั้น ได้หมดสิ้นไปหนทางอันกันดารนั้นยังเหลืออยู่ เขาทั้งสองนั้นยังไม่เดินข้ามหนทางอันกันดารนั้นไปได้. ครั้งนั้นแล สองภรรยาสามีนั้นได้คิดกันว่า “เสบียงสำหรับเดินทางของเราทั้งสองที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยนี้ ได้หมดสิ้นลงแล้ว หนทางอันกันดารนี้ยังเหลืออยู่ ทั้งเราก็ยังไม่เดินข้ามหนทางอันกันดารนั้นไปได้; อย่ากระนั้นเลยเราทั้งสองพึงฆ่าบุตรน้อยคนเดียวผู้น่ารักน่าเอ็นดูนี้เสีย แล้วทำให้เป็นเนื้อเค็มและเนื้อย่าง บริโภคเนื้อบุตรนี้แหละ เดินข้ามหนทางอันกันดารที่ยังเหลืออยู่นี้กันเถิด เพราะถ้าไม่ทำเช่นนั้น พวกเราทั้งสามคนจะต้องพากันพินาศหมดแน่” ดังนี้. ครั้งนั้นแล ภรรยาสามีทั้งสองนั้น จึงฆ่าบุตรน้อยคนเดียวผู้น่ารักน่าเอ็นดูนั้น แล้วทำให้เป็นเนื้อเค็มและเนื้อย่าง บริโภคเนื้อบุตรนั้นเทียวเดินข้ามหนทางอันกันดารที่ยังเหลืออยู่นั้น. สองภรรยาสามีนั้น บริโภคเนื้อบุตรไปพลางพร้อมกับข้อนอกไปพลาง รำพันว่า “บุตรน้อยคนเดียวของเราไปไหนเสีย บุตรน้อยคนเดียวของเราไปไหนเสีย” ดังนี้. +--ภิกษุ ท. ! เธอจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : สองภรรยาสามีนั้นจะพึงบริโภคเนื้อบุตรเป็นอาหาร เพื่อความเพลิดเพลินสนุกสนานบ้าง เพื่อความมัวเมาบ้าง เพื่อความประดับประดาบ้าง หรือ เพื่อตบแต่ง (ร่างกาย) บ้าง, หรือหนอ ? ”ข้อนั้นหาเป็นเช่นนั้นไม่ พระเจ้าข้า !” ถ้าอย่างนั้น สองภรรยาสามีนั้นจะพึงบริโภคเนื้อบุตรเป็นอาหาร เพียงเพื่อ (อาศัย) เดินข้ามหนทางอันกันดารเท่านั้น ใช่ไหม ? “ใช่ พระเจ้าข้า !” ถ้าอย่างนั้น ภิกษุ ท. ! ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ; เรากล่าวว่า กวฬีการาหาร อันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนเนื้อบุตร) http://etipitaka.com/read/pali/16/1​19/?keywords=กวฬีกาโร+อาหาโร ฉันนั้น. +--ภิกษุ ท. ! กพฬีการาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว ; ราคะ (ความกำหนัด) ที่มีเบญจกามคุณเป็นแดนเกิด ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย. เมื่อ ราคะที่มีเบญจกามคุณ เป็นแดนเกิด เป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้ว, สังโยชน์ชนิดที่อริยสาวกประกอบเข้าแล้ว จะพึงเป็นเหตุให้มาสู่โลกนี้ได้อีกย่อมไม่มี. --ภิกษุ ท. ! #ผัสสาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลควรเห็นอย่างไร ? http://etipitaka.com/read/pali/16/120/?keywords=ผสฺสาหาโร +--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนแม่โคนมที่ปราศจากหนังห่อหุ้ม : ถ้าแม่โคนมนั้นพึงยืนพิงฝาอยู่ไซร้, มันก็จะพึงถูกพวกตัวสัตว์ที่อาศัยฝาเจาะกิน ; ถ้าแม่โคนมนั้นพึงยืนพิงต้นไม้อยู่ไซร้, มันก็จะพึงถูกพวกสัตว์ชนิดอาศัยต้นไม้ไชกิน; ถ้าหากแม่โคนมนั้นพึงลงไปแช่น้ำอยู่ไซร้, มันก็จะพึงถูกพวกสัตว์ที่อาศัยน้ำตอดกันกิน; ถ้าหากแม่โคนมนั้นจะพึงยืนอาศัยอยู่ในที่โล่งแจ้งไซร้, มันก็จะพึงถูกพวกสัตว์ที่อาศัยอยู่ในอากาศเกาะกัดจิกกิน. +--ภิกษุ ท. ! แม่โคนมที่ปราศจากหนังห่อหุ้มจะพึงอาศัยอยู่สถานที่ใดๆ ก็ตาม มันก็จะพึงถูกจำพวกสัตว์ที่อาศัยอยู่ในสถานที่นั้นๆ กัดกินอยู่ร่ำไป, ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ; +--ภิกษุ ท. ! เราย่อมกล่าวว่า ผัสสาหาร อันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนแม่โคนมที่ปราศจากหนังห่อหุ้ม) ฉันนั้น. +--ภิกษุ ท. ! เมื่อผัสสาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว เวทนาทั้งสาม ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย, เมื่อ เวทนาทั้งสาม เป็นสิ่งที่อริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว เราย่อมกล่าวว่า “สิ่งไรๆ ที่ควรกระทำให้ ยิ่งขึ้นไป (กว่านี้) ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! #มโนสัญเจตนาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลควรเห็นอย่างไร ? http://etipitaka.com/read/pali/16/120/?keywords=มโนสญฺเจตนาหาโร ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนหลุมถ่านเพลิง ลึกเกินกว่าชั่วบุรุษหนึ่ง เต็มด้วยถ่านเพลิงที่ปราศจากเปลวและปราศจากควัน มีอยู่. ครั้งนั้น บรุษผู้หนึ่งผู้ต้องการเป็นอยู่ ไม่อยากตาย รักสุข เกลียดทุกข์ มาสู่ที่นั้น. และมีบุรุษที่มีกำลังกล้าแข็งอีกสองคน จับบุรุษนั้นที่แขนแต่ละข้าง แล้วฉุดคร่าไปยังหลุมถ่านเพลิงนั้น. +--ภิกษุ ท. ! ครั้งนั้นแล บุรุษนั้นมีความคิด ความปรารถนา ความตั้งใจ ที่จะให้ห่างไกลหลุมถ่านเพลิงนั้น. ข้อนั้นเพราะเหตุใดเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! ข้อนั้นเพราะเหตุว่าบุรุษนั้นย่อมรู้ว่า “ถ้าเราจะตกลงไปยังหลุมถ่านเพลิงไซร้ เราพึงถึงความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ” ดังนี้, ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ; +--ภิกษุ ท. ! เราย่อมกล่าวว่า มโนสัญเจตนาหาร อันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนหลุมถ่านเพลิง) ฉันนั้น. +--ภิกษุ ท. ! เมื่อมโนสัญเจตนาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว, ตัณหาทั้งสาม ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย ; เมื่อ ตัณหาทั้งสาม เป็นสิ่งที่อริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว, เราย่อมกล่าวว่า “สิ่งไร ๆ ที่ควรกระทำให้ยิ่งขึ้นไป (กว่านี้) ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น“ ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! #วิญญาณาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลเห็นอย่างไร ? http://etipitaka.com/read/pali/16/121/?keywords=วิญฺญาณาหาโร +--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนพวกเจ้าหน้าที่จับโจรผู้ประพฤติชั่วช้าได้แล้ว แสดงแก่พระราชาว่า “ข้าแต่สมมติเทพ ! บุรุษนี้เป็นโจรประพฤติหยาบช้าต่อใต้ฝ่าพระบาท ขอใต้ฝ่าพระบาทจงโปรดให้ลงโทษโจรผู้นี้ตามประสงค์เถิด พระเจ้าข้า !“ พระราชามีกระแสรับสั่งอย่างนี้ว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงไปประหารบุรุษนั้น ด้วยหอกร้อยเล่มในเวลาเช้านี้” เจ้าหน้าที่เหล่านั้นจึงประหารนักโทษนั้นด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเช้า. ต่อมา ในเวลาเที่ยงวัน พระราชาทรงซักถามพวกเจ้าหน้าที่นั้นว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! บุรุษนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ?”. พวกเขากราบทูลว่า “ข้าแต่สมมติเทพ ! นักโทษนั้นยังมีชีวิตอยู่ พระเจ้าข้า !”. พระราชาทรงมีพระกระแสรับสั่งอย่างนี้ว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงไปประหารบุรุษนั้น ด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเที่ยง”. พวกเจ้าหน้าที่เหล่านั้น จึงประหารนักโทษนั้นด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเที่ยง. ต่อมา ในเวลาเย็น พระราชาทรงซักถามเจ้าหน้าที่เหล่านั้นอีกว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! บุรุษนั้น เป็นอย่างไรบ้าง ?”. พวกเขากราบทูลว่า “ยังมีชีวิตอยู่ พระเจ้าข้า !”. พระราชาทรงมีพระกระแสรับสั่งอีกว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงไปประหารบุรุษนั้น ด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเย็น” ดังนี้. พวกเจ้าหน้าที่เหล่านั้น จึงประหารนักโทษนั้นด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเย็น. +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : บุรุษนักโทษ นั้นถูกเจ้าหน้าที่ประหารอยู่ด้วยหอกสามร้อยเล่ม ตลอดทั้งวัน เขาจะพึงเสวยแต่ทุกขโทมนัสที่มีข้อนั้นเป็นเหตุ มิใช่หรือ ? +--ภิกษุ ท. ! บุรุษนักโทษนั้น ถูกพวกเจ้าหน้าที่ประหารด้วยหอกเพียงเล่มเดียว ก็พึงเสวยทุกขโทมนัสที่มีข้อนั้นเป็นเหตุ (มากอยู่แล้ว) ก็จะกล่าวไปไยถึงการที่บุรุษนักโทษนั้นถูกประหารด้วยหอกสามร้อยเล่มเล่า, ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ; +--ภิกษุ ท. ! เราย่อมกล่าวว่า วิญญาณาหาร อันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนนักโทษถูกประหารนั้น) ฉันนั้น. +--ภิกษุ ท. ! เมื่อวิญญาณาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว, นามรูป ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย; เมื่อ นามรูป เป็นสิ่งที่อริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว, เราย่อมกล่าวว่า “สิ่งไร ๆ ที่ควรกระทำให้ยิ่งขึ้นไป (กว่านี้) ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น”, ดังนี้แล.- (คำข้าว เรียกว่าอาหาร เพราะหล่อเลี้ยงร่างกาย; ผัสสะเรียกว่าอาหาร เพราะทำให้ เกิดเวทนา ; มโนสัญเจตนา เรียกว่าอาหาร เพราะทำให้ เกิดกรรม; วิญญาณ เรียกว่าอาหาร เพราะทำให้ เกิดนามรูป. ถ้าบุคคลพิจารณาเห็นโทษแห่งอาหารแต่ละอย่างๆ ดังที่ตรัสไว้โดยอุปมาในข้อความหมายนั้นๆได้, จะดับทุกข์ได้ถึงขั้นเป็นพระอรหันต์ http://etipitaka.com/read/pali/16/123/?keywords=สอุปายาสนฺติ ). #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน.สํ. 16/97-99/241 - 244. http://etipitaka.com/read/thai/16/97/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94%E0%B9%91​ อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน.สํ. ๑๖/๑๑๙-๑๒๑/๒๔๑ - ๒๔๔. http://etipitaka.com/read/pali/16/119/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94%E0%B9%91​ ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=750 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=750 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57 ลำดับสาธยายธรรม : 57​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - วิธีพิจารณา เพื่อ “หมดปัญหา” เกี่ยวกับอาหาร
    -วิธีพิจารณา เพื่อ “หมดปัญหา” เกี่ยวกับอาหาร ภิกษุ ท. ! กพฬีการาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลควรเห็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! ปรียบเหมือนภรรยาสามีสองคน ถือเอาสะเบียงสำหรับเดินทางเล็กน้อย เดินไปสู่หนทางอันกันดาร. สองภรรยาสามีนั้น มีบุตรน้อยคนเดียวผู้น่ารักน่าเอ็นดูอยู่คนหนึ่ง. เมื่อขณะเขาทั้งสองกำลังเดินไปตามทางอันกันดารอยู่นั้น สะเบียงสำหรับเดินทางที่เขามีอยู่เพียงเล็กน้อยนั้น ได้หมดสิ้นไปหนทางอันกันดารนั้นยังเหลืออยู่ เขาทั้งสองนั้นยังไม่เดินข้ามหนทางอันกันดารนั้นไปได้. ครั้งนั้นแล สองภรรยาสามีนั้นได้คิดกันว่า “เสบียงสำหรับเดินทางของเราทั้งสองที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยนี้ ได้หมดสิ้นลงแล้ว หนทางอันกันดารนี้ยังเหลืออยู่ ทั้งเราก็ยังไม่เดินข้ามหนทางอันกันดารนั้นไปได้; อย่ากระนั้นเลยเราทั้งสองพึงฆ่าบุตรน้อยคนเดียวผู้น่ารักน่าเอ็นดูนี้เสีย แล้วทำให้เป็นเนื้อเค็มและเนื้อย่าง บริโภคเนื้อบุตรนี้แหละ เดินข้ามหนทางอันกันดารที่ยังเหลืออยู่นี้กันเถิด เพราะถ้าไม่ทำเช่นนั้น พวกเราทั้งสามคนจะต้องพากันพินาศหมดแน่” ดังนี้. ครั้งนั้นแล ภรรยาสามีทั้งสองนั้น จึงฆ่าบุตรน้อยคนเดียวผู้น่ารักน่าเอ็นดูนั้น แล้วทำให้เป็นเนื้อเค็มและเนื้อย่าง บริโภคเนื้อบุตรนั้นเทียวเดินข้ามหนทางอันกันดารที่ยังเหลืออยู่นั้น. สองภรรยาสามีนั้น บริโภคเนื้อบุตรไปพลางพร้อมกับข้อนอกไปพลาง รำพันว่า “บุตรน้อยคนเดียวของเราไปไหนเสีย บุตรน้อยคนเดียวของเราไปไหนเสีย” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เธอจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : สองภรรยาสามีนั้นจะพึงบริโภคเนื้อบุตรเป็นอาหาร เพื่อความเพลิดเพลินสนุกสนานบ้าง เพื่อความมัวเมาบ้าง เพื่อความประดับประดาบ้าง หรือเพื่อตบแต่ง (ร่างกาย) บ้าง, หรือ หนอ ? ”ข้อนั้นหาเป็นเช่นนั้นไม่ พระเจ้าข้า !” ถ้าอย่างนั้น สองภรรยาสามีนั้นจะพึงบริโภคเนื้อบุตรเป็นอาหาร เพียงเพื่อ (อาศัย) เดินข้ามหนทางอันกันดารเท่านั้น ใช่ไหม ? “ใช่ พระเจ้าข้า !” ถ้าอย่างนั้น ภิกษุ ท. ! ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ; เรากล่าวว่ากพฬีการาหารอันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนเนื้อบุตร) ฉันนั้น. ภิกษุ ท. ! กพฬีการาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว ; ราคะ (ความกำหนัด) ที่มีเบญจกามคุณเป็นแดนเกิด ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย. เมื่อราคะที่มีเบญจกามคุณเป็นแดนเกิด เป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้ว, สังโยชน์ชนิดที่อริยสาวกประกอบเข้าแล้ว จะพึงเป็นเหตุให้มาสู่โลกนี้ได้อีกย่อมไม่มี. ภิกษุ ท. ! ผัสสาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลควรเห็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนแม่โคนมที่ปราศจากหนังห่อหุ้ม : ถ้าแม่โคนมนั้นพึงยืนพิงฝาอยู่ไซร้, มันก็จะพึงถูกพวกตัวสัตว์ที่อาศัยฝาเจาะกิน ; ถ้าแม่โคนมนั้นพึงยืนพิงต้นไม้อยู่ไซร้, มันก็จะพึงถูกพวกสัตว์ชนิดอาศัยต้นไม้ไชกิน; ถ้าหากแม่โคนมนั้นพึงลงไปแช่น้ำอยู่ไซร้, มันก็จะพึงถูกพวกสัตว์ที่อาศัยน้ำตอดกันกิน; ถ้าหากแม่โคนมนั้นจะพึงยืนอาศัยอยู่ในที่โล่งแจ้งไซร้, มันก็จะพึงถูกพวกสัตว์ที่อาศัยอยู่ในอากาศเกาะกัดจิกกิน. ภิกษุ ท. ! แม่โคนมที่ปราศจากหนังห่อหุ้มจะพึงอาศัยอยู่สถานที่ใดๆ ก็ตาม มันก็จะพึงถูกจำพวกสัตว์ที่อาศัยอยู่ในสถานที่นั้นๆ กัดกินอยู่ร่ำไป, ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ; ภิกษุ ท. ! เราย่อมกล่าวว่าผัสสาหาร อันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนแม่โคนมที่ปราศจากหนังห่อหุ้ม) ฉันนั้น. ภิกษุ ท. ! เมื่อผัสสาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว เวทนาทั้งสาม ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย, เมื่อเวทนาทั้งสามเป็นสิ่งที่อริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว เราย่อมกล่าวว่า “สิ่งไรๆ ที่ควรกระทำให้ ยิ่งขึ้นไป (กว่านี้) ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! มโนสัญเจตนาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลควรเห็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนหลุมถ่านเพลิง ลึกเกินกว่าชั่วบุรุษหนึ่ง เต็มด้วยถ่านเพลิงที่ปราศจากเปลวและปราศจากควัน มีอยู่. ครั้งนั้น บรุษผู้หนึ่งผู้ต้องการเป็นอยู่ ไม่อยากตาย รักสุข เกลียดทุกข์ มาสู่ที่นั้น. และมีบุรุษที่มีกำลังกล้าแข็งอีกสองคน จับบุรุษนั้นที่แขนแต่ละข้าง แล้วฉุดคร่าไปยังหลุมถ่านเพลิงนั้น. ภิกษุ ท. ! ครั้งนั้นแล บุรุษนั้นมีความคิด ความปรารถนา ความตั้งใจ ที่จะให้ห่างไกลหลุมถ่านเพลิงนั้น. ข้อนั้นเพราะเหตุใดเล่า ? ภิกษุ ท. ! ข้อนั้นเพราะเหตุว่าบุรุษนั้นย่อมรู้ว่า “ถ้าเราจะตกลงไปยังหลุมถ่านเพลิงไซร้ เราพึงถึงความตาย หรือได้รับทุกข์เจียนตาย เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ” ดังนี้, ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ; ภิกษุ ท. ! เราย่อมกล่าวว่า มโนสัญเจตนาหารอันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนหลุมถ่านเพลิง) ฉันนั้น. ภิกษุ ท. ! เมื่อมโนสัญเจตนาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว, ตัณหาทั้งสาม ย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย ; เมื่อตัณหาทั้งสามเป็นสิ่งที่อริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว, เราย่อมกล่าวว่า “สิ่งไร ๆ ที่ควรกระทำให้ยิ่งขึ้นไป (กว่านี้) ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น“ ดังนี้. ภิกษุ ท. ! วิญญาณาหารเป็นสิ่งที่บุคคลเห็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนพวกเจ้าหน้าที่จับโจรผู้ประพฤติหยาบช้าได้แล้ว แสดงแก่พระราชาว่า “ข้าแต่สมมติเทพ ! บุรุษนี้เป็นโจรประพฤติหยาบช้าต่อใต้ฝ่าพระบาท ขอใต้ฝ่าพระบาทจงโปรดให้ลงโทษโจรผู้นี้ตามประสงค์เถิด พระเจ้าข้า !“ พระราชามีกระแสรับสั่งอย่างนี้ว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงไปประหารบุรุษนั้น ด้วยหอกร้อยเล่มในเวลาเช้านี้” เจ้าหน้าที่เหล่านั้นจึงประหารนักโทษนั้นด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเช้า. ต่อมา ในเวลาเที่ยงวัน พระราชาทรงซักถามพวกเจ้าหน้าที่นั้นว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! บุรุษนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ?”. พวกเขากราบทูลว่า “ข้าแต่สมมติเทพ ! นักโทษนั้นยังมีชีวิตอยู่ พระเจ้าข้า !”. พระราชาทรงมีพระกระแสรับสั่งอย่างนี้ว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงไปประหารบุรุษนั้น ด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเที่ยง”. พวกเจ้าหน้าที่เหล่านั้น จึงประหารนักโทษนั้นด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเที่ยง. ต่อมา ในเวลาเย็น พระราชาทรงซักถามเจ้าหน้าที่เหล่านั้นอีกว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! บุรุษนั้น เป็นอย่างไรบ้าง ?”. พวกเขากราบทูลว่า “ยังมีชีวิตอยู่ พระเจ้าข้า !”. พระราชาทรงมีพระกระแสรับสั่งอีกว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! ท่านทั้งหลายจงไปประหารบุรุษนั้น ด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเย็น” ดังนี้. พวกเจ้าหน้าที่เหล่านั้น จึงประหารนักโทษนั้นด้วยหอกร้อยเล่ม ในเวลาเย็น. ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : บุรุษนักโทษ นั้นถูกเจ้าหน้าที่ประหารอยู่ด้วยหอกสามร้อยเล่ม ตลอดทั้งวัน เขาจะพึงเสวยแต่ทุกขโทมนัสที่มีข้อนั้นเป็นเหตุ มิใช่หรือ ? ภิกษุ ท. ! บุรุษนักโทษนั้น ถูกพวกเจ้าหน้าที่ประหารด้วยหอกเพียงเล่มเดียว ก็พึงเสวยทุกขโทมนัสที่มีข้อนั้นเป็นเหตุ (มากอยู่แล้ว) ก็จะกล่าวไปไยถึงการที่บุรุษนักโทษนั้นถูกประหารด้วยหอกสามร้อยเล่มเล่า, ข้อนี้มีอุปมาฉันใด ; ภิกษุ ท. ! เราย่อมกล่าวว่า วิญญาณาหารอันอริยสาวกควรเห็น (ว่ามีอุปมาเหมือนนักโทษถูกประหารนั้น) ฉันนั้น. ภิกษุ ท. ! เมื่อวิญญาณาหารอันอริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว, นามรูปย่อมเป็นสิ่งที่อริยสาวกนั้นกำหนดรู้ได้แล้วด้วย; เมื่อนามรูปเป็นสิ่งที่อริยสาวกกำหนดรู้ได้แล้ว, เราย่อมกล่าวว่า “สิ่งไร ๆ ที่ควรกระทำให้ยิ่งขึ้นไป (กว่านี้) ย่อมไม่มีแก่อริยสาวกนั้น”, ดังนี้แล.
    0 Comments 0 Shares 77 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าเห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเราและการดับทุกข์สิ้นเชิง
    สัทธรรมลำดับที่ : 381
    ชื่อบทธรรม :- เห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเรา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=381
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --เห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเรา
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นเทพฤษี !
    ....ข้าพระองค์จะพิจารณาเห็นโลกอย่างไร
    ความตายจึงไม่แลเห็นข้าพระองค์เล่า ? พระเจ้าข้า !”
    --ดูก่อนโมฆราช ! ท่านจงเป็นคนมีสติ
    ถอนความตามเห็นว่าเป็นตัวตนออกเสีย
    พิจารณาเห็นโลก โดยความเป็นของว่างเปล่าทุกเมื่อเถิด.
    ท่านจะพึงข้ามความตายเสียได้ ด้วยข้อปฏิบัติอย่างนี้,
    #ความตายจะไม่แลเห็นท่าน
    http://etipitaka.com/read/pali/25/548/?keywords=มจฺจุราช
    ผู้พิจารณาเห็นโลกอยู่ โดยอาการอย่างนี้ แล.
    --- สุตฺต. ขุ. ๒๕/๕๔๙/๔๓๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/25/548/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%93%E0%B9%99
    --- จูฬนิ. ขุ. ๓๐/๒๔๕/๔๙๙, ๕๐๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/30/245/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%99%E0%B9%99
    http://etipitaka.com/read/pali/30/245/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%94

    --การดับทุกข์สิ้นเชิง
    --ไม่เนื่องด้วยอิทธิวิธี แม้กระทั่งวิโมกข์ที่ไม่เกี่ยวกับการสิ้นอาสวะ
    (นักบวชเดียรถีย์อื่น ชื่อ สุสิมะ
    หาอุบายเข้ามาบวชในพุทธศาสนา เพื่อจะบรรลุคุณวิเศษสำหรับนำเอาไปทำให้คณะของตัวเจริญรุ่งเรืองด้วยลาภยศสักการะ เหมือนสังฆบริษัทของพระพุทธองค์ ;
    ครั้นบวชแล้ว ได้เข้าไปหาพวกภิกษุปัญญาวิมุตต์ โดยคิดว่าภิกษุพวกนี้ มีอภิญญาทั้งหก เมื่อได้ทราบว่าภิกษุพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอภิญญาทั้งหก และได้รับบอกเล่าว่าความเป็นอริยะบุคคลไม่เนื่องด้วยอภิญญาทั้งหก ก็เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า
    ซักไซ้ถึงเรื่องอภิญญาทั้งหก ว่าเกี่ยวข้องกันอย่างจำเป็นกับความสิ้นอาสวะตามความเชื่อของเขาหรือไม่.
    พระพุทธองค์ได้ทรงใช้วิธีทำให้เขาเกิดธัมมฐิติญาณและนิพพานญาณ โดยทรงนำเอาเรื่องเบญจขันธ์ไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา ไม่ควรเห็นว่าเป็นของเรา เป็นเรา เป็นอัตตาของเรา จนเป็นธัมมฐิติญาณขึ้นมาก่อน จนกระทั่งจิตเบื่อหน่ายคลายกำหนัด หลุดพ้น และรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว อันเป็นนิพพานญาณ
    ตามนัยแห่งอนัตตลักขณสูตร ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว หรืออาจจะหาอ่านดูได้จากที่ทั่วไป และเมื่อนักบวชชื่อสุสิมะนั้น เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ในเรื่องความดับทุกข์หรือความสิ้นอาสวะนั้น ว่าเป็นไปได้ตามเหตุตามปัจจัยของมันเอง และเมื่อนักบวชชื่อสุสิมะเห็นชัดในความจริงข้อนี้แล้ว จึงตรัสแก่เขาต่อไปว่า:- )
    --การดับทุกข์สิ้นเชิงไม่เนื่องด้วยอิทธิวิธี แม้กระทั่งวิโมกข์ที่ไม่เกี่ยวกับการสิ้นอาสวะ
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ชรามรณะ มี เพราะชาติเป็นปัจจัย ? “
    อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ชาติ มี เพราะภพเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ภพ มี เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า อุปาทาน มีเพราะตัณหาเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ตัณหา มี เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า เวทนา มี เพราะผัสสะเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ผัสสะ มี เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า สฬายตนะ มี เพราะนามรูปเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า นามรูป มี เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า วิญญาณ มี เพราะสังขารเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า สังขาร ทั้งหลายมี เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    (ใต่อไปได้ตรัสชักนำให้เห็นปฏิจจสมุปบาทฝ่ายนิโรธวาร (ความดับ)​
    โดยรูปแบบแห่งถ้อยคำอย่างเดียวกับข้อความข้างบนนี้ ครบทั้ง ๑๑ อาการ
    แล้วได้ตรัสว่า :-​ )​
    --สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี อิทธิวิธี มีอย่างต่าง ๆ อยู่อีกหรือ
    คือคนเดียวแปลงรูปเป็นหลายคน, หลายคนเป็นคนเดียว, ....ฯลฯ....
    และแสดงอำนาจทางกาย เป็นไปตลอดถึงพรหมโลกได้ ดังนี้.
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ทิพพโสต อยู่อีกหรือ คือมีโสตธาตุอันเป็นทิพย์ ....ฯลฯ....
    ทั้งที่ไกลและที่ใกล้ ดังนี้.
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มีลักษณะแห่งอภิญญาแต่ละอย่าง ๆ โดยละเอียด ออกจะยืดยาว ในที่นี้นำมาใส่ไว้แต่โดยย่อพอ เป็นเครื่องสังเกต เจโตปริยญาณ อยู่อีกหรือ คือกำหนดรู้ใจแห่งสัตว์อื่น ....ฯลฯ....
    จิตไม่หลุดพ้นว่าไม่หลุดพ้น ดังนี้.
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ อยู่อีกหรือ คือระลึกได้ถึงขันธ์ที่เคยอยู่อาศัยในภพก่อนมีอย่างต่าง ๆ ....ฯลฯ....
    พร้อมทั้งอาการและอุทเทศ ด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้.
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ทิพพจักขุญาณ อยู่อีกหรือ คือ มีจักษุอันเป็นทิพย์ บริสุทธิ์หมดจดล่วงจักษุของสามัญมนุษย์ ....ฯลฯ....
    รู้ชัดหมู่สัตว์ผู้เข้าถึงตามกรรมได้ ดังนี้.
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี อารุปปวิโมกข์ อยู่อีกหรือ คือ วิโมกข์เหล่าใด อันสงบรำงับ เป็นอรูปเพราะก้าวล่วงรูปเสียได้ เธอถูกต้องวิโมกข์เหล่านั้นด้วยนามกายแล้วแลอยู่ ดังนี้.
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! คราวนี้, คำพูดอย่างโน้นของเธอกับการที่ (เธอกล่าวบัดนี้ว่า)
    ไม่ต้องมีการบรรลุถึงอภิญญาธรรมทั้งหลายเหล่านี้ ก็ได้,
    ในกรณีนี้ นี้เราจะว่า อย่างไรกัน.-

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/122-124/294-302
    http://etipitaka.com/read/thai/16/122/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%94​
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๑๕๓-๑๕๕/๒๙๔-๓๐๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/153/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%94
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=381
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=381
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าเห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเราและการดับทุกข์สิ้นเชิง สัทธรรมลำดับที่ : 381 ชื่อบทธรรม :- เห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเรา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=381 เนื้อความทั้งหมด :- --เห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเรา --“ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นเทพฤษี ! ....ข้าพระองค์จะพิจารณาเห็นโลกอย่างไร ความตายจึงไม่แลเห็นข้าพระองค์เล่า ? พระเจ้าข้า !” --ดูก่อนโมฆราช ! ท่านจงเป็นคนมีสติ ถอนความตามเห็นว่าเป็นตัวตนออกเสีย พิจารณาเห็นโลก โดยความเป็นของว่างเปล่าทุกเมื่อเถิด. ท่านจะพึงข้ามความตายเสียได้ ด้วยข้อปฏิบัติอย่างนี้, #ความตายจะไม่แลเห็นท่าน http://etipitaka.com/read/pali/25/548/?keywords=มจฺจุราช ผู้พิจารณาเห็นโลกอยู่ โดยอาการอย่างนี้ แล. --- สุตฺต. ขุ. ๒๕/๕๔๙/๔๓๙. http://etipitaka.com/read/pali/25/548/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%93%E0%B9%99 --- จูฬนิ. ขุ. ๓๐/๒๔๕/๔๙๙, ๕๐๔. http://etipitaka.com/read/pali/30/245/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%99%E0%B9%99 http://etipitaka.com/read/pali/30/245/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%94 --การดับทุกข์สิ้นเชิง --ไม่เนื่องด้วยอิทธิวิธี แม้กระทั่งวิโมกข์ที่ไม่เกี่ยวกับการสิ้นอาสวะ (นักบวชเดียรถีย์อื่น ชื่อ สุสิมะ หาอุบายเข้ามาบวชในพุทธศาสนา เพื่อจะบรรลุคุณวิเศษสำหรับนำเอาไปทำให้คณะของตัวเจริญรุ่งเรืองด้วยลาภยศสักการะ เหมือนสังฆบริษัทของพระพุทธองค์ ; ครั้นบวชแล้ว ได้เข้าไปหาพวกภิกษุปัญญาวิมุตต์ โดยคิดว่าภิกษุพวกนี้ มีอภิญญาทั้งหก เมื่อได้ทราบว่าภิกษุพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอภิญญาทั้งหก และได้รับบอกเล่าว่าความเป็นอริยะบุคคลไม่เนื่องด้วยอภิญญาทั้งหก ก็เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ซักไซ้ถึงเรื่องอภิญญาทั้งหก ว่าเกี่ยวข้องกันอย่างจำเป็นกับความสิ้นอาสวะตามความเชื่อของเขาหรือไม่. พระพุทธองค์ได้ทรงใช้วิธีทำให้เขาเกิดธัมมฐิติญาณและนิพพานญาณ โดยทรงนำเอาเรื่องเบญจขันธ์ไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา ไม่ควรเห็นว่าเป็นของเรา เป็นเรา เป็นอัตตาของเรา จนเป็นธัมมฐิติญาณขึ้นมาก่อน จนกระทั่งจิตเบื่อหน่ายคลายกำหนัด หลุดพ้น และรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว อันเป็นนิพพานญาณ ตามนัยแห่งอนัตตลักขณสูตร ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว หรืออาจจะหาอ่านดูได้จากที่ทั่วไป และเมื่อนักบวชชื่อสุสิมะนั้น เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ในเรื่องความดับทุกข์หรือความสิ้นอาสวะนั้น ว่าเป็นไปได้ตามเหตุตามปัจจัยของมันเอง และเมื่อนักบวชชื่อสุสิมะเห็นชัดในความจริงข้อนี้แล้ว จึงตรัสแก่เขาต่อไปว่า:- ) --การดับทุกข์สิ้นเชิงไม่เนื่องด้วยอิทธิวิธี แม้กระทั่งวิโมกข์ที่ไม่เกี่ยวกับการสิ้นอาสวะ --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ชรามรณะ มี เพราะชาติเป็นปัจจัย ? “ อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ชาติ มี เพราะภพเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ภพ มี เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า อุปาทาน มีเพราะตัณหาเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ตัณหา มี เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า เวทนา มี เพราะผัสสะเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ผัสสะ มี เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า สฬายตนะ มี เพราะนามรูปเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า นามรูป มี เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า วิญญาณ มี เพราะสังขารเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า สังขาร ทั้งหลายมี เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” (ใต่อไปได้ตรัสชักนำให้เห็นปฏิจจสมุปบาทฝ่ายนิโรธวาร (ความดับ)​ โดยรูปแบบแห่งถ้อยคำอย่างเดียวกับข้อความข้างบนนี้ ครบทั้ง ๑๑ อาการ แล้วได้ตรัสว่า :-​ )​ --สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี อิทธิวิธี มีอย่างต่าง ๆ อยู่อีกหรือ คือคนเดียวแปลงรูปเป็นหลายคน, หลายคนเป็นคนเดียว, ....ฯลฯ.... และแสดงอำนาจทางกาย เป็นไปตลอดถึงพรหมโลกได้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ทิพพโสต อยู่อีกหรือ คือมีโสตธาตุอันเป็นทิพย์ ....ฯลฯ.... ทั้งที่ไกลและที่ใกล้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มีลักษณะแห่งอภิญญาแต่ละอย่าง ๆ โดยละเอียด ออกจะยืดยาว ในที่นี้นำมาใส่ไว้แต่โดยย่อพอ เป็นเครื่องสังเกต เจโตปริยญาณ อยู่อีกหรือ คือกำหนดรู้ใจแห่งสัตว์อื่น ....ฯลฯ.... จิตไม่หลุดพ้นว่าไม่หลุดพ้น ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ อยู่อีกหรือ คือระลึกได้ถึงขันธ์ที่เคยอยู่อาศัยในภพก่อนมีอย่างต่าง ๆ ....ฯลฯ.... พร้อมทั้งอาการและอุทเทศ ด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ทิพพจักขุญาณ อยู่อีกหรือ คือ มีจักษุอันเป็นทิพย์ บริสุทธิ์หมดจดล่วงจักษุของสามัญมนุษย์ ....ฯลฯ.... รู้ชัดหมู่สัตว์ผู้เข้าถึงตามกรรมได้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี อารุปปวิโมกข์ อยู่อีกหรือ คือ วิโมกข์เหล่าใด อันสงบรำงับ เป็นอรูปเพราะก้าวล่วงรูปเสียได้ เธอถูกต้องวิโมกข์เหล่านั้นด้วยนามกายแล้วแลอยู่ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! คราวนี้, คำพูดอย่างโน้นของเธอกับการที่ (เธอกล่าวบัดนี้ว่า) ไม่ต้องมีการบรรลุถึงอภิญญาธรรมทั้งหลายเหล่านี้ ก็ได้, ในกรณีนี้ นี้เราจะว่า อย่างไรกัน.- #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/122-124/294-302 http://etipitaka.com/read/thai/16/122/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%94​ อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๑๕๓-๑๕๕/๒๙๔-๓๐๒. http://etipitaka.com/read/pali/16/153/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%94 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=381 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=381 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - เห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเรา
    -เห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเรา “ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นเทพฤษี ! ....ข้าพระองค์จะพิจารณาเห็นโลกอย่างไร ความตายจึงไม่แลเห็นข้าพระองค์เล่า ? พระเจ้าข้า !” ดูก่อนโมฆราช ! ท่านจงเป็นคนมีสติ ถอนความตามเห็นว่าเป็นตัวตนออกเสีย พิจารณาเห็นโลก โดยความเป็นของว่างเปล่าทุกเมื่อเถิด. ท่านจะพึงข้ามความตายเสียได้ ด้วยข้อปฏิบัติอย่างนี้, ความตายจะไม่แลเห็นท่าน ผู้พิจารณาเห็นโลกอยู่ โดยอาการอย่างนี้ แล. สุตฺต. ขุ. ๒๕/๕๔๙/๔๓๙. - จูฬนิ. ขุ. ๓๐/๒๔๕/๔๙๙, ๕๐๔. การดับทุกข์สิ้นเชิง ไม่เนื่องด้วยอิทธิวิธี แม้กระทั่งวิโมกข์ที่ไม่เกี่ยวกับการสิ้นอาสวะ (นักบวชเดียรถีย์อื่น ชื่อ สุสิมะ หาอุบายเข้ามาบวชในพุทธศาสนา เพื่อจะบรรลุคุณวิเศษสำหรับนำเอาไปทำให้คณะของตัวเจริญรุ่งเรืองด้วยลาภยศสักการะ เหมือนสังฆบริษัทของพระพุทธองค์ ; ครั้นบวชแล้ว ได้เข้าไปหาพวกภิกษุปัญญาวิมุตต์ โดยคิดว่าภิกษุพวกนี้ มีอภิญญาทั้งหก เมื่อได้ทราบว่าภิกษุพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอภิญญาทั้งหก และได้รับบอกเล่าว่าความเป็นอริยะบุคคลไม่ เนื่องด้วยอภิญญาทั้งหก ก็เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ซักไซ้ถึงเรื่องอภิญญาทั้งหก ว่าเกี่ยวข้องกันอย่างจำเป็นกับความสิ้นอาสวะตามความเชื่อของเขาหรือไม่. พระพุทธองค์ได้ทรงใช้วิธีทำให้เขาเกิดธัมมฐิติญาณและนิพพานญาณ โดยทรงนำเอาเรื่องเบญจขันธ์ไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา ไม่ควรเห็นว่าเป็นของเรา เป็นเรา เป็นอัตตาของเรา จนเป็นธัมมฐิติญาณขึ้นมาก่อน จนกระทั่งจิตเบื่อหน่ายคลายกำหนัด หลุดพ้น และรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว อันเป็นนิพพานญาณ ตามนัยแห่งอนัตตลักขณสูตร ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว หรืออาจจะหาอ่านดูได้จากที่ทั่วไป และเมื่อนักบวชชื่อสุสิมะนั้น เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ในเรื่องความดับทุกข์หรือความสิ้นอาสวะนั้น ว่าเป็นไปได้ตามเหตุตามปัจจัยของมันเอง และเมื่อนักบวชชื่อสุสิมะเห็นชัดในความจริงข้อนี้แล้ว จึงตรัสแก่เขาต่อไปว่า:- ) สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ชรามรณะ มี เพราะชาติเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ชาติ มี เพราะภพเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ภพ มี เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า อุปาทาน มีเพราะตัณหาเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ตัณหา มี เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า เวทนา มี เพราะผัสสะเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ผัสสะ มี เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า สฬายตนะ มี เพราะนามรูปเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า นามรูป มี เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า วิญญาณ มี เพราะสังขารเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า สังขาร ทั้งหลายมี เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” (ต่อไปได้ตรัสชักนำให้เห็นปฏิจจสมุปบาทฝ่ายนิโรธวาร โดยรูปแบบแห่งถ้อยคำอย่างเดียวกับข้อความข้างบนนี้ ครบทั้ง ๑๑ อาการ แล้วได้ตรัสว่า :-) สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี อิทธิวิธี มีอย่างต่าง ๆ อยู่อีกหรือ คือคนเดียวแปลงรูปเป็นหลายคน, หลายคนเป็นคนเดียว, ....ฯลฯ....๑ และแสดงอำนาจทางกาย เป็นไปตลอดถึงพรหมโลกได้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ทิพพโสต อยู่อีกหรือ คือมีโสตธาตุอันเป็นทิพย์ ....ฯลฯ....๑ ทั้งที่ไกลและที่ใกล้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ๑. ลักษณะแห่งอภิญญาแต่ละอย่าง ๆ โดยละเอียด ออกจะยืดยาว ในที่นี้นำมาใส่ไว้แต่โดยย่อพอ เป็นเครื่องสังเกต ผู้ปรารถนาจะทราบโดยละเอียด พึงดูได้ที่หัวข้อว่า “ธรรมธาตุต่างๆ ที่เป็นผล ของสมถวิปัสสนาอันดับสุดท้าย” ที่หน้า ๔๙๕ แห่งหนังสือนี้. เจโตปริยญาณ อยู่อีกหรือ คือกำหนดรู้ใจแห่งสัตว์อื่น ....ฯลฯ....๑ จิตไม่หลุดพ้นว่าไม่หลุดพ้น ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ อยู่อีกหรือ คือระลึกได้ถึงขันธ์ที่เคยอยู่อาศัยในภพก่อนมีอย่างต่าง ๆ ....ฯลฯ....๑ พร้อมทั้งอาการและอุทเทศ ด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ทิพพจักขุญาณ อยู่อีกหรือ คือ มีจักษุอันเป็นทิพย์ บริสุทธิ์หมดจดล่วงจักษุของสามัญมนุษย์ ....ฯลฯ....๑ รู้ชัดหมู่สัตว์ผู้เข้าถึงตามกรรมได้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี อารุปปวิโมกข์ อยู่อีกหรือ คือ วิโมกข์เหล่าใด อันสงบรำงับ เป็นอรูปเพราะก้าวล่วงรูปเสียได้ เธอถูกต้องวิโมกข์เหล่านั้นด้วยนามกายแล้วแลอยู่ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! คราวนี้, คำพูดอย่างโน้นของเธอกับการที่ (เธอกล่าวบัดนี้ว่า) ไม่ต้องมีการบรรลุถึงอภิญญาธรรมทั้งหลายเหล่านี้ ก็ได้, ในกรณีนี้ นี้เราจะว่า อย่างไรกัน.
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • รูปหล่อหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี
    รูปหล่อหลวงปู่ทวด ก้นกลวง เนื้อตะกั่วชุบทองแดงกะไหล่ทอง วัดช้างให้ อำเภอโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี //พระดีพิธีใหญ่ พระเก่า พศ.ลึก พระแท้ดูง่ายสบายตา นานๆพบสักองศ์ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ พระมหาเถระผู้ทรงอภิญญาที่รู้จักกันดีในประเทศไทย ผู้ที่ศรัทธาในหลวงปู่ทวดเชื่อกันว่าพระเครื่องที่สร้างเนื่องด้วยท่านจะมีอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีพระเครื่องหลวงปู่ทวดในครอบครอง ปัจจุบันหลวงปู่ทวดถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาในประเทศไทยที่มีผู้ศรัทธาจำนวนมาก ซึ่งเป็นพระที่มีผู้เคารพ บูชานับถือทั่วประเทศไทย >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    รูปหล่อหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี รูปหล่อหลวงปู่ทวด ก้นกลวง เนื้อตะกั่วชุบทองแดงกะไหล่ทอง วัดช้างให้ อำเภอโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี //พระดีพิธีใหญ่ พระเก่า พศ.ลึก พระแท้ดูง่ายสบายตา นานๆพบสักองศ์ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ พระมหาเถระผู้ทรงอภิญญาที่รู้จักกันดีในประเทศไทย ผู้ที่ศรัทธาในหลวงปู่ทวดเชื่อกันว่าพระเครื่องที่สร้างเนื่องด้วยท่านจะมีอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีพระเครื่องหลวงปู่ทวดในครอบครอง ปัจจุบันหลวงปู่ทวดถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาในประเทศไทยที่มีผู้ศรัทธาจำนวนมาก ซึ่งเป็นพระที่มีผู้เคารพ บูชานับถือทั่วประเทศไทย >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • เหรียญพระยายเขียด รุ่นแรก วัดยางแดง จ.ปัตตานี ปี2536
    เหรียญพระยายเขียด รุ่นแรก เนื้อนิเกิ้ล วัดยางแดง อำเภอโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ปี2536 // พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ ประสบการณ์ ยิงไม่เข้า มหาอุด อันดับ1 ของสามจังหวัดชายแดนใต้ // เหรียญสถาพสวยยยยยกริ๊บ!! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณ อันดับ1 ของสามจังหวัดชายแดนใต้ คงกระพันชาตรี มหาอุด ทั้งปืนและระเบิด จังงัง แคล้วคลาด และป้องกันอันตรายต่าง ๆ และเมตตามหานิยม ประสบการณ์ด้านคงกระพัน กับทหาร ตำรวจ และชาวบ้าน มีมากมายครับ ใครมีต่างหวงแหนกันมาก >>

    ** พระดีพิธีใหญ๋ พระยายเขียด วัดยางแดง จ.ปัตตานี ปี2536 รุ่นนี้รุ่นประสบการณ์ ยิงไม่เข้า มหาอุด และประสบการณ์อีกมากมาย พระดี พิธีใหญ่ เกจิอาจารย์ที่ร่วมพิธีปลุกเสก อาจารย์นอง วัดทรายขาว, อ.พล วัดนาประดู่ หลวงปู่แดง วัดศรีมหาโพธิ์, พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ พ่อท่านหย่วน วัดช้างให้ อาจารย์จวน วัดยางแดง หลวงพ่อหวาน วัดสะบ้าย้อน และเกจิอื่นๆอีกมากมาย ร่วมปลุกเสก... >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระยายเขียด รุ่นแรก วัดยางแดง จ.ปัตตานี ปี2536 เหรียญพระยายเขียด รุ่นแรก เนื้อนิเกิ้ล วัดยางแดง อำเภอโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ปี2536 // พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ ประสบการณ์ ยิงไม่เข้า มหาอุด อันดับ1 ของสามจังหวัดชายแดนใต้ // เหรียญสถาพสวยยยยยกริ๊บ!! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ อันดับ1 ของสามจังหวัดชายแดนใต้ คงกระพันชาตรี มหาอุด ทั้งปืนและระเบิด จังงัง แคล้วคลาด และป้องกันอันตรายต่าง ๆ และเมตตามหานิยม ประสบการณ์ด้านคงกระพัน กับทหาร ตำรวจ และชาวบ้าน มีมากมายครับ ใครมีต่างหวงแหนกันมาก >> ** พระดีพิธีใหญ๋ พระยายเขียด วัดยางแดง จ.ปัตตานี ปี2536 รุ่นนี้รุ่นประสบการณ์ ยิงไม่เข้า มหาอุด และประสบการณ์อีกมากมาย พระดี พิธีใหญ่ เกจิอาจารย์ที่ร่วมพิธีปลุกเสก อาจารย์นอง วัดทรายขาว, อ.พล วัดนาประดู่ หลวงปู่แดง วัดศรีมหาโพธิ์, พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ พ่อท่านหย่วน วัดช้างให้ อาจารย์จวน วัดยางแดง หลวงพ่อหวาน วัดสะบ้าย้อน และเกจิอื่นๆอีกมากมาย ร่วมปลุกเสก... >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 55 Views 0 Reviews
  • พญาต่อเงินต่อทองเรียกทรัพย์
    พญาต่อเงินต่อทองเรียกทรัพย์ // เครื่องรางเสริมการค้าขาย เรียกทรัพย์ โชคลาภ // พระสถาพสวย หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเสริมโภคทรัพย์ เสริมโชคลาภ เมตตามหานิยม เสริมบารมี เงินไหลกองทองไหลมา ค้าขายดี กำไรงาม >>

    ** การนำไปบูชา...ใช้แขวนคอ...แขวนไว้หน้ารถ...บูชาไว้บนหิ้งพระ หรือใส่ในกระเป๋าตังค์เพื่อเรียกทรัพย์ ฯลฯ พญาต่อเงินต่อทองใส่หลอดแก้วพลาสติกไส...ประกอบด้วยตัวต่อตัวผู้กับตัวเมีย..จำนวน..2..ตัว. มีพุทธคุณที่ช่วยในเรื่องของการค้าขายดี กำไรงาม นอกจากนี้ยังมีความเชื่อด้วยว่า ต่อเงิน ต่อทอง นั้น ช่วยในเรื่องของการเสริมโชคลาภด้วยเช่นกัน หรือการไปติดต่องานพบปะผู้คนในเรื่องของการคุยด้านธุรกิจก็จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี >>

    ** คาถาบูชาต่อเงินต่อทอง
    ตั้งนะโม 3 จบ และท่องว่า

    นะชาลิติ อะระหัง สุสินะโส นะโมพุทธายะ

    ** พระสถาพสวย หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พญาต่อเงินต่อทองเรียกทรัพย์ พญาต่อเงินต่อทองเรียกทรัพย์ // เครื่องรางเสริมการค้าขาย เรียกทรัพย์ โชคลาภ // พระสถาพสวย หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเสริมโภคทรัพย์ เสริมโชคลาภ เมตตามหานิยม เสริมบารมี เงินไหลกองทองไหลมา ค้าขายดี กำไรงาม >> ** การนำไปบูชา...ใช้แขวนคอ...แขวนไว้หน้ารถ...บูชาไว้บนหิ้งพระ หรือใส่ในกระเป๋าตังค์เพื่อเรียกทรัพย์ ฯลฯ พญาต่อเงินต่อทองใส่หลอดแก้วพลาสติกไส...ประกอบด้วยตัวต่อตัวผู้กับตัวเมีย..จำนวน..2..ตัว. มีพุทธคุณที่ช่วยในเรื่องของการค้าขายดี กำไรงาม นอกจากนี้ยังมีความเชื่อด้วยว่า ต่อเงิน ต่อทอง นั้น ช่วยในเรื่องของการเสริมโชคลาภด้วยเช่นกัน หรือการไปติดต่องานพบปะผู้คนในเรื่องของการคุยด้านธุรกิจก็จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี >> ** คาถาบูชาต่อเงินต่อทอง ตั้งนะโม 3 จบ และท่องว่า นะชาลิติ อะระหัง สุสินะโส นะโมพุทธายะ ** พระสถาพสวย หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 48 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงพ่อทวี วัดมงคลวราราม บางขุนเทียน ปี2525
    เหรียญหลวงพ่อทวี วัดมงคลวราราม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ ปี2525 // ที่ระลึกสร้างอุโบสถ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพัน โชคลาภ ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ ภูตผี กันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร >>

    ** วัดมงคลวราราม ตั้งขึ้นเป็นวัดเมื่อปี พ.ศ. 2410 เดิมชื่อ วัดมะเกลือ เนื่องจากบริเวณที่ตั้งวัดนั้นเป็นป่าต้นมะเกลือ (ปัจจุบันเหลือต้นมะเกลือ 1 ต้น) ต่อมาปี พ.ศ. 2497 เปลี่ยนชื่อวัดมาเป็น "วัดมงคลวราราม" >>

    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อทวี วัดมงคลวราราม บางขุนเทียน ปี2525 เหรียญหลวงพ่อทวี วัดมงคลวราราม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ ปี2525 // ที่ระลึกสร้างอุโบสถ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพัน โชคลาภ ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ ภูตผี กันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร >> ** วัดมงคลวราราม ตั้งขึ้นเป็นวัดเมื่อปี พ.ศ. 2410 เดิมชื่อ วัดมะเกลือ เนื่องจากบริเวณที่ตั้งวัดนั้นเป็นป่าต้นมะเกลือ (ปัจจุบันเหลือต้นมะเกลือ 1 ต้น) ต่อมาปี พ.ศ. 2497 เปลี่ยนชื่อวัดมาเป็น "วัดมงคลวราราม" >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 34 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​อริยวิโมกข์ (ความพ้นพิเศษอันประเสริฐ)หรือโอฆนิตถรณะ
    สัทธรรมลำดับที่ : 749
    ชื่อบทธรรม :- อริยวิโมกข์ หรือโอฆนิตถรณะ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=749
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อริยวิโมกข์ หรือโอฆนิตถรณะ
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! อริยวิโมกข์ (ความพ้นพิเศษอันประเสริฐ) เป็นอย่างไรเล่า ?”
    --อานนท์ ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นโทษโดย ประจักษ์ดังนี้ว่า
    “กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย,
    กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย,
    กามสัญญาที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย,
    กามสัญญาที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย,
    รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย,
    รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย,
    รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย,
    รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย,
    อาเนญชสัญญา เหล่าใดด้วย,
    อากิญจัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย,
    เนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย,
    นั่นล้วนแต่เป็นสักกายะ เป็นแต่เพียงสักกายะ (เป็นที่ตั้งแห่งความยึดถือด้วยอุปาทาน) ;
    ส่วนอมตธรรมนั้น ได้แก่ วิโมกข์แห่งจิต เพราะไม่มี #อุปาทานในสักกายะนั้น ๆ นี่เอง”.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=อุปาทา

    --อานนท์ ! ด้วยเหตุนี้แหละ เป็นอันว่า
    อาเนญชสัปปายปฏิปทา เราได้แสดงแล้ว,
    อากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราก็ได้แสดงแล้ว,
    เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราก็ได้แสดงแล้ว,
    การอาศัยปฏิปทานั้นๆ ตามลำดับๆ แล้วข้ามโอฆะเสียได้ เราได้แสดงแล้ว,
    นั่นแหละคือ #อริยวิโมกข์​.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=อริโย+วิโมกฺ

    --อานนท์ ! กิจอันใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว
    จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจอันนั้นเราได้ทำแล้วแก่พวกเธอทั้งหลาย.
    --อานนท์ ! นั่นโคนไม้ทั้งหลาย, นั่น เรือนว่างทั้งหลาย.
    --อานนท์ ! พวกเธอทั้งหลายจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท.
    พวกเธอทั้งหลาย อย่าได้เป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย.
    นี่แหละ เป็นวาจาเครื่องพร่ำสอนแก่พวกเธอทั้งหลายของเรา.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ.ม. 14/60/90 - 92.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/60/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ.ม. ๑๔/๗๘/๙๐ - ๙๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/78/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%90
    ศึกษา​เพิ่มเติม....
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=749
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=749
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57
    ลำดับสาธยายธรรม : 57​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​อริยวิโมกข์ (ความพ้นพิเศษอันประเสริฐ)หรือโอฆนิตถรณะ สัทธรรมลำดับที่ : 749 ชื่อบทธรรม :- อริยวิโมกข์ หรือโอฆนิตถรณะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=749 เนื้อความทั้งหมด :- --อริยวิโมกข์ หรือโอฆนิตถรณะ --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! อริยวิโมกข์ (ความพ้นพิเศษอันประเสริฐ) เป็นอย่างไรเล่า ?” --อานนท์ ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นโทษโดย ประจักษ์ดังนี้ว่า “กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, กามสัญญาที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, กามสัญญาที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, อาเนญชสัญญา เหล่าใดด้วย, อากิญจัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย, เนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย, นั่นล้วนแต่เป็นสักกายะ เป็นแต่เพียงสักกายะ (เป็นที่ตั้งแห่งความยึดถือด้วยอุปาทาน) ; ส่วนอมตธรรมนั้น ได้แก่ วิโมกข์แห่งจิต เพราะไม่มี #อุปาทานในสักกายะนั้น ๆ นี่เอง”. http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=อุปาทา --อานนท์ ! ด้วยเหตุนี้แหละ เป็นอันว่า อาเนญชสัปปายปฏิปทา เราได้แสดงแล้ว, อากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราก็ได้แสดงแล้ว, เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราก็ได้แสดงแล้ว, การอาศัยปฏิปทานั้นๆ ตามลำดับๆ แล้วข้ามโอฆะเสียได้ เราได้แสดงแล้ว, นั่นแหละคือ #อริยวิโมกข์​. http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=อริโย+วิโมกฺ --อานนท์ ! กิจอันใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจอันนั้นเราได้ทำแล้วแก่พวกเธอทั้งหลาย. --อานนท์ ! นั่นโคนไม้ทั้งหลาย, นั่น เรือนว่างทั้งหลาย. --อานนท์ ! พวกเธอทั้งหลายจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท. พวกเธอทั้งหลาย อย่าได้เป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย. นี่แหละ เป็นวาจาเครื่องพร่ำสอนแก่พวกเธอทั้งหลายของเรา.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ.ม. 14/60/90 - 92. http://etipitaka.com/read/thai/14/60/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ.ม. ๑๔/๗๘/๙๐ - ๙๒. http://etipitaka.com/read/pali/14/78/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%90 ศึกษา​เพิ่มเติม.... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=749 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=749 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57 ลำดับสาธยายธรรม : 57​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อริยวิโมกข์ หรือโอฆนิตถรณะ
    -(คำว่า โอฆนิตถรณะ ในที่นี้ คือ การถอนตนขึ้นจากโอฆะ (ความตกจมอยู่ในกิเลสและความทุกข์ ด้วยกาม-ทิฏฐิ-ภพ-อวิชชา) เป็นสิ่งที่มีได้ในภพปัจจุบัน กล่าวคือไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นทั้งหลาย อันมีเนวสัญญานาสัญญายตนะเป็นสิ่งสูงสุดสำหรับการยึดมั่นถือมั่น และไม่ยึดมั่นแม้แต่ในการบรรลุธรรมของตน; เมื่อไม่ยึดมั่นถือมั่นก็ดับเย็น เป็นปรินิพพาน นี้เรียกว่า โอฆนิตถรณะ หรือ อริยวิโมกข์ ก็เรียก (ดูได้ในหัวข้อหรือเรื่องถัดไป) เป็นสิ่งที่มีได้ในภพปัจจุบัน). อริยวิโมกข์ หรือโอฆนิตถรณะ “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! อริยวิโมกข์ (ความพ้นพิเศษอันประเสริฐ) เป็นอย่างไรเล่า ?” อานนท์ ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นโทษโดย ประจักษ์ดังนี้ว่า “กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, กามสัญญาที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, กามสัญญาที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใด ด้วย, รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย อาเนญชสัญญา เหล่าใดด้วย, อากิญจัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย, เนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย, นั่นล้วนแต่เป็นสักกายะ เป็นแต่เพียงสักกายะ (เป็นที่ตั้งแห่งความ ยึดถือด้วยอุปาทาน) ; ส่วนอมตธรรมนั้น ได้แก่วิโมกข์แห่งจิต เพราะไม่มี อุปาทานในสักกายะนั้น ๆ นี่เอง”. อานนท์ ! ด้วยเหตุนี้แหละ เป็นอันว่า อาเนญชสัปปายปฏิปทา เราได้แสดงแล้ว, อากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราก็ได้แสดงแล้ว, เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราก็ได้แสดงแล้ว, การอาศัยปฏิปทานั้นๆ ตามลำดับๆ แล้วข้ามโอฆะเสียได้ เราได้แสดงแล้ว, นั่นแหละคืออริยวิโมกข์. อานนท์ ! กิจอันใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจอันนั้นเราได้ทำแล้วแก่พวกเธอทั้งหลาย. อานนท์ ! นั่นโคนไม้ทั้งหลาย, นั่น เรือนว่างทั้งหลาย. อานนท์ ! พวกเธอทั้งหลายจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท. พวกเธอทั้งหลาย อย่าได้เป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย. นี่แหละ เป็นวาจาเครื่องพร่ำสอนแก่พวกเธอทั้งหลายของเรา.
    0 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • อริยบุคคลพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าการเห็นโลกธาตุก็เห็นเหมือนเห็นฟองน้ำและพยับแดด
    สัทธรรมลำดับที่ : 380
    ชื่อบทธรรม :- เห็นโลกก็เห็นเหมือนเห็นฟองน้ำและพยับแดด
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=380
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --บุคคลผู้พิจารณาเห็นโลก ก็เห็นเหมือนเห็นฟองน้ำและพยับแดด
    บุคคลพึงเห็นฟองน้ำ ฉันใด. พึงเห็นพยับแดด ฉันใด,
    พญามัจจุราช จักไม่เห็นผู้ที่พิจารณาเห็นโลกธาตุ ฉันนั้นอยู่ แล.-
    http://etipitaka.com/read/pali/25/38/?keywords=มจฺจุราช+โลกํ

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. 25/26/23.
    http://etipitaka.com/read/thai/25/26/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%93
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. ๒๕/๓๘/๒๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/25/38/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%93
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=380
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยบุคคลพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าการเห็นโลกธาตุก็เห็นเหมือนเห็นฟองน้ำและพยับแดด สัทธรรมลำดับที่ : 380 ชื่อบทธรรม :- เห็นโลกก็เห็นเหมือนเห็นฟองน้ำและพยับแดด https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=380 เนื้อความทั้งหมด :- --บุคคลผู้พิจารณาเห็นโลก ก็เห็นเหมือนเห็นฟองน้ำและพยับแดด บุคคลพึงเห็นฟองน้ำ ฉันใด. พึงเห็นพยับแดด ฉันใด, พญามัจจุราช จักไม่เห็นผู้ที่พิจารณาเห็นโลกธาตุ ฉันนั้นอยู่ แล.- http://etipitaka.com/read/pali/25/38/?keywords=มจฺจุราช+โลกํ #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. 25/26/23. http://etipitaka.com/read/thai/25/26/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. ๒๕/๓๘/๒๓. http://etipitaka.com/read/pali/25/38/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%93 ศึกษาเพิ่มเติม... http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=380 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - (ความมุ่งหมายของการประพฤติพรหมจรรย์ในสูตรนี้ ทรงแสดงว่า เพื่อละเสียซึ่งอนุสัยเจ็ด; ในสูตรอื่น (๒๓/๗-๘/๘-๙) ทรงแสดงว่าเพื่อตัดเสียซึ่งสังโยชน์เจ็ด ดูรายละเอียดที่หัวข้อว่า “สังโยชน์เจ็ด” ที่หน้า ๓๘๘ แห่งหนังสือนี้. )
    -(ความมุ่งหมายของการประพฤติพรหมจรรย์ในสูตรนี้ ทรงแสดงว่า เพื่อละเสียซึ่งอนุสัยเจ็ด; ในสูตรอื่น (๒๓/๗-๘/๘-๙) ทรงแสดงว่าเพื่อตัดเสียซึ่งสังโยชน์เจ็ด ดูรายละเอียดที่หัวข้อว่า “สังโยชน์เจ็ด” ที่หน้า ๓๘๘ แห่งหนังสือนี้. ) เห็นโลกก็เห็นเหมือนเห็นฟองน้ำและพยับแดด บุคคลพึงเห็นฟองน้ำ ฉันใด. พึงเห็นพยับแดด ฉันใด, พญามัจจุราช จักไม่เห็นผู้ที่พิจารณาเห็นโลก ฉันนั้นอยู่ แล.
    0 Comments 0 Shares 73 Views 0 Reviews
  • เหรียญเม็ดแตงหลวงพ่อทวด รุ่นแรก หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย จ.ปัตตานี
    เหรียญเม็ดแตงหลวงพ่อทวด รุ่นแรก เนื้อนิเกิ้ล หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย จ.ปัตตานี //พระดีพิธีใหญ่ สร้างจำนวนน้อย ปลุกเสกอย่างเข้มขลัง หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย พระเกจิอาจารย์อันดับ ๑ เมืองปัตตานี //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากกพระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>
    ** พระมีขนาดขนาดเล็ก จิ๋ว เหมาะสำหรับ ท่านที่นิยม พระขนาดเล็ก จิ๋ว นำไปใส่กรอบทอง สำหรับสุภาพสตรีและเด็กๆ ไว้เป็นพระเครื่องมงคลประจำตัว ลูกๆ หลานๆ .. รุ่นนี้มีประสบกาณ์มากครับ เหมาะสำหรับคนพิเศษ >>

    ** พุทธคุณด้านเมตตาค้าขาย มหาอุตตม์ มหาลาภ มหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย โดยเฉพาะผู้ทำธุรกิจหรือทำอาชีพค้าขายก็จะร่ำรวย เดินทางแคล้วคลาด ปลอดภัย เสริมสิริมงคลแก่ผู้บูชา >>

    ** พระดีพิธีใหญ่ พิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดสำเภาเชย อ.ปะนะเระ จ.ปัตตานี มีเกจิที่มีชื่อเสียงร่วมในพิธี หลวงพ่อทอง ท่านได้ร่วมปลุกเสก อย่างเข้มขลัง ** หลวงพ่อทอง ท่านปลุกเสกมีพุทธคุณเป็นที่ประจักษ์ ท่านเป็นพระที่เคร่งครัดในการปฏิบัติกรรมฐาน เป็นพระที่รักสันโดษ สมถะ พูดน้อย มีความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย ทำให้สาธุชนเคารพศรัทธาท่านอย่างมาก วัตถุมงคล ของ หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย นั้นมีอยู่หลายรุ่นซึ่งเป็นที่นิยม พุทธคุณ ดีเด่นด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขาย รวมไปถึงแคล้วคลาด ปลอดภัยจากอันตรายก็โดดเด่นไม่แพ้กัน >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญเม็ดแตงหลวงพ่อทวด รุ่นแรก หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย จ.ปัตตานี เหรียญเม็ดแตงหลวงพ่อทวด รุ่นแรก เนื้อนิเกิ้ล หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย จ.ปัตตานี //พระดีพิธีใหญ่ สร้างจำนวนน้อย ปลุกเสกอย่างเข้มขลัง หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย พระเกจิอาจารย์อันดับ ๑ เมืองปัตตานี //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากกพระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พระมีขนาดขนาดเล็ก จิ๋ว เหมาะสำหรับ ท่านที่นิยม พระขนาดเล็ก จิ๋ว นำไปใส่กรอบทอง สำหรับสุภาพสตรีและเด็กๆ ไว้เป็นพระเครื่องมงคลประจำตัว ลูกๆ หลานๆ .. รุ่นนี้มีประสบกาณ์มากครับ เหมาะสำหรับคนพิเศษ >> ** พุทธคุณด้านเมตตาค้าขาย มหาอุตตม์ มหาลาภ มหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย โดยเฉพาะผู้ทำธุรกิจหรือทำอาชีพค้าขายก็จะร่ำรวย เดินทางแคล้วคลาด ปลอดภัย เสริมสิริมงคลแก่ผู้บูชา >> ** พระดีพิธีใหญ่ พิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดสำเภาเชย อ.ปะนะเระ จ.ปัตตานี มีเกจิที่มีชื่อเสียงร่วมในพิธี หลวงพ่อทอง ท่านได้ร่วมปลุกเสก อย่างเข้มขลัง ** หลวงพ่อทอง ท่านปลุกเสกมีพุทธคุณเป็นที่ประจักษ์ ท่านเป็นพระที่เคร่งครัดในการปฏิบัติกรรมฐาน เป็นพระที่รักสันโดษ สมถะ พูดน้อย มีความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย ทำให้สาธุชนเคารพศรัทธาท่านอย่างมาก วัตถุมงคล ของ หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย นั้นมีอยู่หลายรุ่นซึ่งเป็นที่นิยม พุทธคุณ ดีเด่นด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขาย รวมไปถึงแคล้วคลาด ปลอดภัยจากอันตรายก็โดดเด่นไม่แพ้กัน >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 83 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ปี2557
    เหรียญหลวงพ่อกลั่น ย้อนยุค เนื้อทองแดงผิวไฟ (ตอกโค๊ต) วัดพระญาติการาม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปี2557 // พระดีพิธีใหญ่ เจตนาสร้างดี หลวงพ่อเฉลิม ปลุกเสกเดี่ยว..เหรียญรุ่นนี้มีประสบการณ์ยิงไม่ออก. // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** วัดพระญาติการาม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระญาติ เดิมเรียก วัดพบญาติ เป็นวัดที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา หลวงพ่อกลั่น พระคณาจารย์ดังผู้ทรงคุณในอดีต มีลูกศิษย์ลูกหามาก ตลอดจนบุคคลทั่วไปให้ความเคารพศรัทธา ความเขมขลังศักดิ์สิทธิ์ พระเวทย์พุทธาคมขลัง ได้รับการกล่าวขานเป็นตำนานมาถึงปัจจุบัน แม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้วก็ตาม เห็นได้จากวัตถุมงคลต่างๆที่ท่านได้ปลุกเสกไว้ ล้วนเป็นที่แสวงหามีราคาแพง เฉพาะอย่างยิ่งเหรียญรุ่นแรก ปี 2469 จัดเป็นเหรียญหลักยอดนิยมของวงการนานมาแล้ว >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ปี2557 เหรียญหลวงพ่อกลั่น ย้อนยุค เนื้อทองแดงผิวไฟ (ตอกโค๊ต) วัดพระญาติการาม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปี2557 // พระดีพิธีใหญ่ เจตนาสร้างดี หลวงพ่อเฉลิม ปลุกเสกเดี่ยว..เหรียญรุ่นนี้มีประสบการณ์ยิงไม่ออก. // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** วัดพระญาติการาม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระญาติ เดิมเรียก วัดพบญาติ เป็นวัดที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา หลวงพ่อกลั่น พระคณาจารย์ดังผู้ทรงคุณในอดีต มีลูกศิษย์ลูกหามาก ตลอดจนบุคคลทั่วไปให้ความเคารพศรัทธา ความเขมขลังศักดิ์สิทธิ์ พระเวทย์พุทธาคมขลัง ได้รับการกล่าวขานเป็นตำนานมาถึงปัจจุบัน แม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้วก็ตาม เห็นได้จากวัตถุมงคลต่างๆที่ท่านได้ปลุกเสกไว้ ล้วนเป็นที่แสวงหามีราคาแพง เฉพาะอย่างยิ่งเหรียญรุ่นแรก ปี 2469 จัดเป็นเหรียญหลักยอดนิยมของวงการนานมาแล้ว >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 77 Views 0 Reviews
  • เหรียญพ่อท่านเปลี่ยวหลังพ่อแก่ วัดดุลยาราม ปี2514
    เหรียญพ่อท่านเปลี่ยวหลังพ่อแก่ เนื้อ*ผิวปีกแมลงทับ* ( เนื้อทองแดง ม่วงๆ ผิวสวยมาก) วัดดุลยาราม จ.สตูล ปี2514 // พระดีพิธีใหญ่ หายาก นาน ๆ จะเห็น ผู้คนจึงนิยมมาสักการะขอพรและแก้บน /// พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณด้านความโชคดี ช่วยให้ได้รับโชคลาภ การค้าขาย การงาน การเรียน ขอพรให้สมหวังในหน้าที่การงานและเรื่องการเรียน. และการพ้นจากภยันตราย >>

    ** “หลวงพ่อแก่” เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสตูล โดยพระอธิการเปลียว ปรักกโม หรือพ่อท่านเปลียว เจ้าอาวาสวัดดุลยาราม อัญเชิญหลวงพ่อแก่ประดิษฐานไว้ที่วัด ต่อมา พระศิริขันตยาภรณ์ (มหารุ่ง) ได้เป็นเจ้าอาวาสจึงจัดสร้างเหรียญหลวงพ่อแก่รุ่นแรก ปี 2514 ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ วิหารวัดดุลยาราม อ.เมือง จ.สตูล ในวันเสาร์ที่ 3 เม.ย.2514 โดยมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเข้าร่วมพิธี >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพ่อท่านเปลี่ยวหลังพ่อแก่ วัดดุลยาราม ปี2514 เหรียญพ่อท่านเปลี่ยวหลังพ่อแก่ เนื้อ*ผิวปีกแมลงทับ* ( เนื้อทองแดง ม่วงๆ ผิวสวยมาก) วัดดุลยาราม จ.สตูล ปี2514 // พระดีพิธีใหญ่ หายาก นาน ๆ จะเห็น ผู้คนจึงนิยมมาสักการะขอพรและแก้บน /// พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณด้านความโชคดี ช่วยให้ได้รับโชคลาภ การค้าขาย การงาน การเรียน ขอพรให้สมหวังในหน้าที่การงานและเรื่องการเรียน. และการพ้นจากภยันตราย >> ** “หลวงพ่อแก่” เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสตูล โดยพระอธิการเปลียว ปรักกโม หรือพ่อท่านเปลียว เจ้าอาวาสวัดดุลยาราม อัญเชิญหลวงพ่อแก่ประดิษฐานไว้ที่วัด ต่อมา พระศิริขันตยาภรณ์ (มหารุ่ง) ได้เป็นเจ้าอาวาสจึงจัดสร้างเหรียญหลวงพ่อแก่รุ่นแรก ปี 2514 ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ วิหารวัดดุลยาราม อ.เมือง จ.สตูล ในวันเสาร์ที่ 3 เม.ย.2514 โดยมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเข้าร่วมพิธี >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 74 Views 0 Reviews
  • เหรียญหล่อหลวงพ่อทวดหลังหลวงพ่อไกร วัดลำพะยา จ.ยะลา
    เหรียญหล่อหลวงพ่อทวดหลังหลวงพ่อไกร รุ่นครองราชย์ 50 ปี วัดลำพะยา จ.ยะลา //พระดีพิธีใหญ่ พระมีประสบการณ์สูง ปลุกเสกโดย พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว และเกจิสายหลวงพ่อทวดและสายเขาอ้อ หลายท่าน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครบทุกด้านให้คุณทางด้านอำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่งทรัพย์สินเงินทอง อุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล” ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ >>

    ** สุดยอด 2 พระอรหันต์ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลวงพอไกร วัดลำพะยา ท่านเป็นพระรวมสมัยกับ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ โดยที่ท่านเป็นศิษยร์วมอาจารยเดียวกันกับหลวงปู่ทวด วัดช้างให้

    พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยเกจิสายหลวงพ่อทวดและสายเขาอ้อ หลายท่าน มีเกจิสายใต้เข้าร่วมปลุกเสกดังนี้
    1. พ่อท่านมณฑล เจ้าคณะจังหวัดพัทลุง
    2. พ่อท่านแดง เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี
    3. อาจารย์นอง วัดทรายขาว
    4. พ่อท่านสุก วัดตุยง
    5. พ่อท่านพล วัดนาประดู่
    6. อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย
    7. พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา
    8. พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา เจ้าคณะจังหวัดยะลา

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหล่อหลวงพ่อทวดหลังหลวงพ่อไกร วัดลำพะยา จ.ยะลา เหรียญหล่อหลวงพ่อทวดหลังหลวงพ่อไกร รุ่นครองราชย์ 50 ปี วัดลำพะยา จ.ยะลา //พระดีพิธีใหญ่ พระมีประสบการณ์สูง ปลุกเสกโดย พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว และเกจิสายหลวงพ่อทวดและสายเขาอ้อ หลายท่าน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครบทุกด้านให้คุณทางด้านอำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่งทรัพย์สินเงินทอง อุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล” ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ >> ** สุดยอด 2 พระอรหันต์ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลวงพอไกร วัดลำพะยา ท่านเป็นพระรวมสมัยกับ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ โดยที่ท่านเป็นศิษยร์วมอาจารยเดียวกันกับหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยเกจิสายหลวงพ่อทวดและสายเขาอ้อ หลายท่าน มีเกจิสายใต้เข้าร่วมปลุกเสกดังนี้ 1. พ่อท่านมณฑล เจ้าคณะจังหวัดพัทลุง 2. พ่อท่านแดง เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี 3. อาจารย์นอง วัดทรายขาว 4. พ่อท่านสุก วัดตุยง 5. พ่อท่านพล วัดนาประดู่ 6. อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย 7. พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา 8. พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา เจ้าคณะจังหวัดยะลา ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงปู่พรหมมี รุ่น1 จ.ศรีสะเกษ
    เหรียญหลวงปู่พรหมมี รุ่น1 จ.ศรีสะเกษ เนื้อทองแดงรมดำ ผิวสนิมเขียว // พระสถาพสวยผิวหิ้ง หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณเมตตามหานิยม ก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด >>

    ** หลวงปู่พรหมมี ธมมปาโล เป็นพระมหาเถระที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ และเจ้าอาวาสวัดป่าศิลาทัศน์ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เดิมเป็นพระลูกวัดที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร। ท่านมรณภาพเมื่อปี 2539 และเป็นที่รู้จักจากเหรียญรุ่นแรกที่จัดสร้างในจังหวัดศรีสะเกษ >>

    ** พระสถาพสวยผิวหิ้ง หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงปู่พรหมมี รุ่น1 จ.ศรีสะเกษ เหรียญหลวงปู่พรหมมี รุ่น1 จ.ศรีสะเกษ เนื้อทองแดงรมดำ ผิวสนิมเขียว // พระสถาพสวยผิวหิ้ง หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณเมตตามหานิยม ก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด >> ** หลวงปู่พรหมมี ธมมปาโล เป็นพระมหาเถระที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ และเจ้าอาวาสวัดป่าศิลาทัศน์ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เดิมเป็นพระลูกวัดที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร। ท่านมรณภาพเมื่อปี 2539 และเป็นที่รู้จักจากเหรียญรุ่นแรกที่จัดสร้างในจังหวัดศรีสะเกษ >> ** พระสถาพสวยผิวหิ้ง หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​การปฏิบัติอย่างมีสัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ
    สัทธรรมลำดับที่ : 748
    ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=748
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ
    --อานนท์ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้ปฏิบัติ
    (ในปฏิปทาอันเป็นที่สบาย
    (สัปปายปฏิปทา)
    แก่อาเนญชามาตามลำดับๆ
    )
    อย่างนี้แล้ว ย่อมได้เฉพาะซึ่งอุเบกขา(ความเข้าไปเพ่งอยู่) ว่า

    “ถ้า (ปัจจัย) ไม่เคยมี (ผล) ก็ต้องไม่มีอยู่แก่เรา;
    ถ้า (ปัจจัยเพื่ออนาคต) จักไม่มีอยู่ (ผลในอนาคต) ก็ต้องไม่มีแก่เรา.
    สิ่งใดมีอยู่ สิ่งใดเป็นแล้ว เราย่อมละได้ซึ่งสิ่งนั้น”
    ดังนี้.

    ภิกษุนั้น ย่อมไม่เพลิดเพลินไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งอุเบกขานั้น ดำรงอยู่.
    เมื่อภิกษุนั้น ไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งอุเบกขานั้น ดำรงอยู่,
    วิญญาณนั้นเป็นวิญญาณอันตัณหาไม่อาศัยแล้ว นั่นคือ #ภาวะไม่มีอุปาทาน.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=อนุปาทาโน

    --อานนท์ ! ภิกษุ #ผู้ไม่มีอุปาทานย่อมปรินิพพาน (ดับเย็น).
    http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=ปรินิพฺพายตีติ
    +--“น่าอัศจรรย์ พระเจ้าข้า !
    ไม่เคยมีแล้ว พระเจ้าข้า !
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
    ได้ทราบมาว่า พระผู้มีพระภาคทรงอาศัยแล้ว
    ทรงอาศัยแล้ว (ซึ่งปฏิปทาอันทรงแสดงมาแล้วตามลำดับ)
    ตรัสบอกซึ่งโอฆนิตถรณะ(การถอนตนขึ้นจากโอฆะ*--๑)
    แก่ข้าพระองค์ทั้งหลายแล้ว”.-

    *--๑​
    (คำว่า โอฆนิตถรณะ ในที่นี้ คือ การถอนตนขึ้นจากโอฆะ
    (ความตกจมอยู่ในกิเลสและความทุกข์ ด้วยกาม-ทิฏฐิ-ภพ-อวิชชา)
    เป็นสิ่งที่มีได้ในภพปัจจุบัน กล่าวคือไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นทั้งหลาย อันมีเนวสัญญานาสัญญายตนะเป็นสิ่งสูงสุดสำหรับการยึดมั่นถือมั่น และไม่ยึดมั่นแม้แต่ในการบรรลุธรรมของตน; เมื่อไม่ยึดมั่นถือมั่นก็ดับเย็น เป็นปรินิพพาน
    นี้เรียกว่า โอฆนิตถรณะ หรือ อริยวิโมกข์ ก็เรียก
    (ศึกษาได้ในข้อสัทธรรมหรือเรื่องถัดไป)
    เป็นสิ่งที่มีได้ในภพปัจจุบัน
    )

    #ทุกขมรรค#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/60/91.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/60/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๙/๙๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%91
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=748
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57
    ลำดับสาธยายธรรม : 57 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​การปฏิบัติอย่างมีสัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ สัทธรรมลำดับที่ : 748 ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=748 เนื้อความทั้งหมด :- --สัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ --อานนท์ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้ปฏิบัติ (ในปฏิปทาอันเป็นที่สบาย (สัปปายปฏิปทา) แก่อาเนญชามาตามลำดับๆ ) อย่างนี้แล้ว ย่อมได้เฉพาะซึ่งอุเบกขา(ความเข้าไปเพ่งอยู่) ว่า “ถ้า (ปัจจัย) ไม่เคยมี (ผล) ก็ต้องไม่มีอยู่แก่เรา; ถ้า (ปัจจัยเพื่ออนาคต) จักไม่มีอยู่ (ผลในอนาคต) ก็ต้องไม่มีแก่เรา. สิ่งใดมีอยู่ สิ่งใดเป็นแล้ว เราย่อมละได้ซึ่งสิ่งนั้น” ดังนี้. ภิกษุนั้น ย่อมไม่เพลิดเพลินไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งอุเบกขานั้น ดำรงอยู่. เมื่อภิกษุนั้น ไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งอุเบกขานั้น ดำรงอยู่, วิญญาณนั้นเป็นวิญญาณอันตัณหาไม่อาศัยแล้ว นั่นคือ #ภาวะไม่มีอุปาทาน. http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=อนุปาทาโน --อานนท์ ! ภิกษุ #ผู้ไม่มีอุปาทานย่อมปรินิพพาน (ดับเย็น). http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=ปรินิพฺพายตีติ +--“น่าอัศจรรย์ พระเจ้าข้า ! ไม่เคยมีแล้ว พระเจ้าข้า ! ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ได้ทราบมาว่า พระผู้มีพระภาคทรงอาศัยแล้ว ทรงอาศัยแล้ว (ซึ่งปฏิปทาอันทรงแสดงมาแล้วตามลำดับ) ตรัสบอกซึ่งโอฆนิตถรณะ(การถอนตนขึ้นจากโอฆะ*--๑) แก่ข้าพระองค์ทั้งหลายแล้ว”.- *--๑​ (คำว่า โอฆนิตถรณะ ในที่นี้ คือ การถอนตนขึ้นจากโอฆะ (ความตกจมอยู่ในกิเลสและความทุกข์ ด้วยกาม-ทิฏฐิ-ภพ-อวิชชา) เป็นสิ่งที่มีได้ในภพปัจจุบัน กล่าวคือไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นทั้งหลาย อันมีเนวสัญญานาสัญญายตนะเป็นสิ่งสูงสุดสำหรับการยึดมั่นถือมั่น และไม่ยึดมั่นแม้แต่ในการบรรลุธรรมของตน; เมื่อไม่ยึดมั่นถือมั่นก็ดับเย็น เป็นปรินิพพาน นี้เรียกว่า โอฆนิตถรณะ หรือ อริยวิโมกข์ ก็เรียก (ศึกษาได้ในข้อสัทธรรมหรือเรื่องถัดไป) เป็นสิ่งที่มีได้ในภพปัจจุบัน ) #ทุกขมรรค​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/60/91. http://etipitaka.com/read/thai/14/60/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๙/๙๑. http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%91 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=748 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57 ลำดับสาธยายธรรม : 57 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - สัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ
    -สัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ อานนท์ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้ปฏิบัติ (ในปฏิปทาอันเป็นที่สบาย (สัปปายปฏิปทา) แก่อาเนญชามาตามลำดับๆ) อย่างนี้แล้ว ย่อมได้เฉพาะซึ่งอุเบกขา(ความเข้าไปเพ่งอยู่) ว่า “ถ้า (ปัจจัย) ไม่เคยมี (ผล) ก็ต้องไม่มีอยู่แก่เรา; ถ้า (ปัจจัยเพื่ออนาคต) จักไม่มีอยู่ (ผลในอนาคต) ก็ต้องไม่มีแก่เรา. สิ่งใดมีอยู่ สิ่งใดเป็นแล้ว เราย่อมละได้ซึ่งสิ่งนั้น” ดังนี้. ภิกษุนั้น ย่อมไม่เพลิดเพลินไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งอุเบกขานั้น ดำรงอยู่. เมื่อภิกษุนั้น ไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งอุเบกขานั้น ดำรงอยู่, วิญญาณนั้นเป็นวิญญาณอันตัณหาไม่อาศัยแล้ว นั่นคือภาวะไม่มีอุปาทาน. อานนท์ ! ภิกษุผู้ไม่มีอุปาทานย่อมปรินิพพาน (ดับเย็น). “น่าอัศจรรย์ พระเจ้าข้า ! ไม่เคยมีแล้ว พระเจ้าข้า ! ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ได้ทราบมาว่า พระผู้มีพระภาคทรงอาศัยแล้ว ทรงอาศัยแล้ว (ซึ่งปฏิปทาอันทรงแสดงมาแล้วตามลำดับ) ตรัสบอกซึ่งโอฆนิตถรณะ(การถอนตนขึ้นจากโอฆะ) แก่ข้าพระองค์ทั้งหลายแล้ว”.
    0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละเพื่อตัดอนุสัยโดยเด็ดขาด
    สัทธรรมลำดับที่ : 379
    ชื่อบทธรรม :- ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละเพื่อตัดอนุสัยโดยเด็ดขาด
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=379
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละเพื่อตัดอนุสัยโดยเด็ดขาด
    --ภิกษุ ท. ! อนุสัยมี ๗ อย่างเหล่านี้. เจ็ดอย่างเหล่าไหนเล่า ? เจ็ดอย่างคือ
    ๑.อนุสัยคือกามราคะ ๑
    ๒.อนุสัยคือปฏิฆะ ๑
    ๓.อนุสัยคือทิฏฐิ ๑
    ๔.อนุสัยคือวิจิกิจฉา ๑
    ๕.อนุสัยคือมานะ ๑
    ๖.อนุสัยคือภวราคะ ๑
    ๗.อนุสัยคืออวิชชา ๑.
    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แลคือ อนุสัย ๗ อย่าง.
    --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่นี้ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัย ๗ อย่าง.
    เจ็ดอย่างเหล่าไหนเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่
    เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ กามราคะ,
    เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ ปฏิฆะ,
    เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ ทิฏฐิ,
    เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ วิจิกิจฉา,
    เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ มานะ,
    เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ ภวราคะ,
    เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ อวิชชา,
    --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่นี้ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัย ๗ อย่างเหล่านี้แล.
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อใดแล
    อนุสัยคือกามราคะก็ดี,
    อนุสัยคือปฏิฆะก็ดี,
    อนุสัยคือทิฏฐิก็ดี,
    อนุสัยคือวิจิกิจฉาก็ดี,
    อนุสัยคือมานะก็ดี,
    อนุสัยคือภวราคะก็ดี, และ
    อนุสัยคืออวิชชาก็ดี,
    เป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว มีรากเง่าอันตัดขาดแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดเน่า
    ทำให้มีอยู่ไม่ได้ ทำให้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้อีกต่อไป ;
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อนั้น, ภิกษุนี้ เราเรียกว่า
    “#ตัดตัณหาได้แล้วรื้อถอนสัญโญชน์แล้ว ได้ทำที่สุดแห่งทุกข์
    http://etipitaka.com/read/pali/23/9/?keywords=ตณฺหํ+วิวตฺตยิ+สญฺโญชนํ
    เพราะรู้จักหน้าตาของมานะอย่างถูกต้องแล้ว”
    ดังนี้ แล.-

    #ทุกขนิโรธ#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. 23/8-9/11-12.
    http://etipitaka.com/read/thai/23/8/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. ๒๓/๘-๙/๑๑-๑๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/9/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=379
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=379
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละเพื่อตัดอนุสัยโดยเด็ดขาด สัทธรรมลำดับที่ : 379 ชื่อบทธรรม :- ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละเพื่อตัดอนุสัยโดยเด็ดขาด https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=379 เนื้อความทั้งหมด :- --ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละเพื่อตัดอนุสัยโดยเด็ดขาด --ภิกษุ ท. ! อนุสัยมี ๗ อย่างเหล่านี้. เจ็ดอย่างเหล่าไหนเล่า ? เจ็ดอย่างคือ ๑.อนุสัยคือกามราคะ ๑ ๒.อนุสัยคือปฏิฆะ ๑ ๓.อนุสัยคือทิฏฐิ ๑ ๔.อนุสัยคือวิจิกิจฉา ๑ ๕.อนุสัยคือมานะ ๑ ๖.อนุสัยคือภวราคะ ๑ ๗.อนุสัยคืออวิชชา ๑. --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แลคือ อนุสัย ๗ อย่าง. --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่นี้ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัย ๗ อย่าง. เจ็ดอย่างเหล่าไหนเล่า ? --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ กามราคะ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ ปฏิฆะ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ ทิฏฐิ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ วิจิกิจฉา, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ มานะ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ ภวราคะ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือ อวิชชา, --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่นี้ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัย ๗ อย่างเหล่านี้แล. --ภิกษุ ท. ! เมื่อใดแล อนุสัยคือกามราคะก็ดี, อนุสัยคือปฏิฆะก็ดี, อนุสัยคือทิฏฐิก็ดี, อนุสัยคือวิจิกิจฉาก็ดี, อนุสัยคือมานะก็ดี, อนุสัยคือภวราคะก็ดี, และ อนุสัยคืออวิชชาก็ดี, เป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว มีรากเง่าอันตัดขาดแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดเน่า ทำให้มีอยู่ไม่ได้ ทำให้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้อีกต่อไป ; --ภิกษุ ท. ! เมื่อนั้น, ภิกษุนี้ เราเรียกว่า “#ตัดตัณหาได้แล้วรื้อถอนสัญโญชน์แล้ว ได้ทำที่สุดแห่งทุกข์ http://etipitaka.com/read/pali/23/9/?keywords=ตณฺหํ+วิวตฺตยิ+สญฺโญชนํ เพราะรู้จักหน้าตาของมานะอย่างถูกต้องแล้ว” ดังนี้ แล.- #ทุกขนิโรธ​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. 23/8-9/11-12. http://etipitaka.com/read/thai/23/8/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. ๒๓/๘-๙/๑๑-๑๒. http://etipitaka.com/read/pali/23/9/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=379 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=379 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละเพื่อตัดอนุสัยโดยเด็ดขาด
    -ประพฤติพรหมจรรย์เพื่อละเพื่อตัดอนุสัยโดยเด็ดขาด ภิกษุ ท. ! อนุสัยมี ๗ อย่างเหล่านี้. เจ็ดอย่างเหล่าไหนเล่า ? เจ็ดอย่างคือ อนุสัยคือกามราคะ ๑ อนุสัยคือปฏิฆะ ๑ อนุสัยคือทิฏฐิ ๑ อนุสัยคือวิจิกิจฉา ๑ อนุสัยคือมานะ ๑ อนุสัยคือภวราคะ ๑ อนุสัยคืออวิชชา ๑. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แลคือ อนุสัย ๗ อย่าง. ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่นี้ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัย ๗ อย่าง. เจ็ดอย่างเหล่าไหนเล่า ? ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือกามราคะ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือปฏิฆะ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือทิฏฐิ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือวิจิกิจฉา, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือมานะ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคือภวราคะ, เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัยคืออวิชชา, ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์ที่ประพฤติกันอยู่นี้ เพื่อละเพื่อตัดขาด ซึ่งอนุสัย ๗ อย่างเหล่านี้แล. ภิกษุ ท. ! เมื่อใดแล อนุสัยคือกามราคะก็ดี, อนุสัยคือปฏิฆะก็ดี, อนุสัยคือทิฏฐิก็ดี, อนุสัยคือวิจิกิจฉาก็ดี, อนุสัยคือมานะก็ดี, อนุสัยคือภวราคะก็ดี, และอนุสัยคืออวิชชาก็ดี, เป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว มีรากเง่าอันตัดขาดแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดเน่า ทำให้มีอยู่ไม่ได้ ทำให้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้อีกต่อไป ; ภิกษุ ท. ! เมื่อนั้น, ภิกษุนี้ เราเรียกว่า “ตัดตัณหาได้แล้ว รื้อถอนสัญโญชน์แล้ว ได้ทำที่สุดแห่งทุกข์เพราะรู้จักหน้าตาของมานะอย่างถูกต้องแล้ว” ดังนี้ แล.
    0 Comments 0 Shares 84 Views 0 Reviews
  • "ไก่ มีสุข" เมื่อครั้งมีคดีกับ "พระคึกฤทธิ์" ย้อนไปในปี 2562 เคยตกเป็นข่าวใหญ่กรณีถูกอดีตลูกศิษย์ฟ้องร้อง กล่าวหาว่าฉ้อโกงเงินบริจาคเพื่อซื้อที่ดินและจัดพิมพ์หนังสือพุทธวจน รวมกว่า 515 ล้านบาท

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000088385

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    "ไก่ มีสุข" เมื่อครั้งมีคดีกับ "พระคึกฤทธิ์" ย้อนไปในปี 2562 เคยตกเป็นข่าวใหญ่กรณีถูกอดีตลูกศิษย์ฟ้องร้อง กล่าวหาว่าฉ้อโกงเงินบริจาคเพื่อซื้อที่ดินและจัดพิมพ์หนังสือพุทธวจน รวมกว่า 515 ล้านบาท อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000088385 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 355 Views 0 Reviews
  • หลวงปู่ทวดหลังเตารีด รุ่นกฐินรวมใจ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ปี2542
    หลวงปู่ทวดหลังเตารีด รุ่นกฐินรวมใจ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2542 // พระดีพิธีใหญ่ หายาก นาน ๆ จะเห็น // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์สูงสุด จะเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ จะเป็นที่นิยมชมชอบเอ็นดู จะเข้าหาเพศตรงข้าม ก็จะเป็นมหาละลวย เป็นที่ตรึงตาตรึงใจ แก่เพศตรงข้าม เปลี่ยนแปลงพลิกผันสรรพเรื่องราว ไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งชีวิต อาชีพการ งาน และสิ่งอวมงคลทั้งหลาย จากร้ายให้กลายกลับเป็นดีเสมอ >>

    ** หลวงปู่ทวดหลังเตารีด หลัง ยันต์นารายณ์แปลงรูป วิชานารายณ์แปลงรูป เป็นวิชาหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับท่านอาจารย์นองเป็นอย่างมาก มีพุทธคุณสูงมาก เป็นเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์สูงสุด จะเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ จะเป็นที่นิยมชมชอบเอ็นดู จะเข้าหาเพศตรงข้าม ก็จะเป็นมหาละลวย.... หลวงปู่ทวดเป็นที่เคารพของชาวไทยและชาวต่างประเทศ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง เปี่ยมด้วยพุทธคุณ บารมีเข้ม ขลัง มีไว้ประจำตัวคุ้มครองป้องกันภัย เพื่อความเป็นสิริมงคล แก่ตนเอง และครอบครัว.....

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงปู่ทวดหลังเตารีด รุ่นกฐินรวมใจ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ปี2542 หลวงปู่ทวดหลังเตารีด รุ่นกฐินรวมใจ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี2542 // พระดีพิธีใหญ่ หายาก นาน ๆ จะเห็น // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์สูงสุด จะเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ จะเป็นที่นิยมชมชอบเอ็นดู จะเข้าหาเพศตรงข้าม ก็จะเป็นมหาละลวย เป็นที่ตรึงตาตรึงใจ แก่เพศตรงข้าม เปลี่ยนแปลงพลิกผันสรรพเรื่องราว ไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งชีวิต อาชีพการ งาน และสิ่งอวมงคลทั้งหลาย จากร้ายให้กลายกลับเป็นดีเสมอ >> ** หลวงปู่ทวดหลังเตารีด หลัง ยันต์นารายณ์แปลงรูป วิชานารายณ์แปลงรูป เป็นวิชาหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับท่านอาจารย์นองเป็นอย่างมาก มีพุทธคุณสูงมาก เป็นเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์สูงสุด จะเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ จะเป็นที่นิยมชมชอบเอ็นดู จะเข้าหาเพศตรงข้าม ก็จะเป็นมหาละลวย.... หลวงปู่ทวดเป็นที่เคารพของชาวไทยและชาวต่างประเทศ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง เปี่ยมด้วยพุทธคุณ บารมีเข้ม ขลัง มีไว้ประจำตัวคุ้มครองป้องกันภัย เพื่อความเป็นสิริมงคล แก่ตนเอง และครอบครัว..... ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 99 Views 0 Reviews
  • เหรียญสมเด็จพระสังฆราชวาสนมหาเถร หลัง ภปร วัดราชบพิธ กทม ปี2531
    เหรียญสมเด็จพระสังฆราชวาสนมหาเถร หลัง ภปร วัดราชบพิธ กทม ปี2531 // พระดีพิธีใหญ๋ ฉลองพระชนมายุ ๙๐ พรรษา // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณดีทางเมตตาคุ้มครอง โชคลาภ โภคทรัพย์ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน และ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด เป็นสิริมงคล รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** พระดี พิธีใหญ๋ ในพิธีนี้มีการจัดสร้างวัตถุมงคล ฉลองอายุ 90 พรรษา มีพิธีพุทธาภิเษกใหญ่โดยเชิญพระคณาจารย์มาร่วมปลุกเสกมากมายทั้งพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นและพระเกจิเรืองวิทยาคมอีกหลายรูป สมเด็จฯ ได้สิ้นพระชนม์ด้วยพระอาการสงบ เมื่อ วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2531 ณ โรงพยาบาลศิริราช >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญสมเด็จพระสังฆราชวาสนมหาเถร หลัง ภปร วัดราชบพิธ กทม ปี2531 เหรียญสมเด็จพระสังฆราชวาสนมหาเถร หลัง ภปร วัดราชบพิธ กทม ปี2531 // พระดีพิธีใหญ๋ ฉลองพระชนมายุ ๙๐ พรรษา // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณดีทางเมตตาคุ้มครอง โชคลาภ โภคทรัพย์ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน และ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด เป็นสิริมงคล รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** พระดี พิธีใหญ๋ ในพิธีนี้มีการจัดสร้างวัตถุมงคล ฉลองอายุ 90 พรรษา มีพิธีพุทธาภิเษกใหญ่โดยเชิญพระคณาจารย์มาร่วมปลุกเสกมากมายทั้งพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นและพระเกจิเรืองวิทยาคมอีกหลายรูป สมเด็จฯ ได้สิ้นพระชนม์ด้วยพระอาการสงบ เมื่อ วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2531 ณ โรงพยาบาลศิริราช >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • เหรียญทรงผนวช รุ่นบูรณะพระเจดีย์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี2550
    เหรียญทรงผนวช เนื้อทองแดง รุ่นบูรณะพระเจดีย์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี2550 //พระดีพิธีใหญ่ ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณมีความเจริญรุ่งเรือง เจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา สูงสุดทางมหาเศรษฐีมีทรัพย์ ลาภยศ สรรเสริญสุข ไหลมาไม่ขาดสาย และช่วยบันดาลโชคลาภโภคทรัพย์ให้แก่ผู้บูชา >>

    ** ในปี พ.ศ. 2550 วัดบวรนิเวศวิหารได้จัดสร้าง "เหรียญทรงผนวช" เพื่อเป็นอนุสรณ์และสมนาคุณผู้บริจาคสมทบในการบูรณปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ทองที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 80 พรรษา 5 ธันวาคม พ.ศ. 2550
    เหรียญทรงผนวช ปี พ.ศ. 2550 นี้ มีรูปลักษณะคล้ายกับเหรียญทรงผนวชที่สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2508 ต่างกันตรงที่ เหรียญทรงผนวชปี พ.ศ. 2550 เป็นเหรียญกลมไม่มีห่วง (หายห่วง) และจารึกข้อความบนขอบเหรียญด้านหลังว่า "บูรณะพระเจดีย์ วัดบวรนิเวศวิหาร ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระขนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐" >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญทรงผนวช รุ่นบูรณะพระเจดีย์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี2550 เหรียญทรงผนวช เนื้อทองแดง รุ่นบูรณะพระเจดีย์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี2550 //พระดีพิธีใหญ่ ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณมีความเจริญรุ่งเรือง เจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา สูงสุดทางมหาเศรษฐีมีทรัพย์ ลาภยศ สรรเสริญสุข ไหลมาไม่ขาดสาย และช่วยบันดาลโชคลาภโภคทรัพย์ให้แก่ผู้บูชา >> ** ในปี พ.ศ. 2550 วัดบวรนิเวศวิหารได้จัดสร้าง "เหรียญทรงผนวช" เพื่อเป็นอนุสรณ์และสมนาคุณผู้บริจาคสมทบในการบูรณปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ทองที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 80 พรรษา 5 ธันวาคม พ.ศ. 2550 เหรียญทรงผนวช ปี พ.ศ. 2550 นี้ มีรูปลักษณะคล้ายกับเหรียญทรงผนวชที่สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2508 ต่างกันตรงที่ เหรียญทรงผนวชปี พ.ศ. 2550 เป็นเหรียญกลมไม่มีห่วง (หายห่วง) และจารึกข้อความบนขอบเหรียญด้านหลังว่า "บูรณะพระเจดีย์ วัดบวรนิเวศวิหาร ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระขนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐" >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 69 Views 0 Reviews
  • เกิดมาเป็นคน
    หนทางชีวี
    มีกรรมความดี
    ศีลธรรมอาศัย

    พระพุทธธรรมสงฆ์
    คงทุกสมัย
    รวมลงสู่ใจ
    ให้ไตรสิกขา

    ศีลสมาธิ
    จิตน้อมนำพา
    ธรรมให้ปัญญา
    พาประเสริฐจริง

    จงเป็นสุขเถิด
    เกิดธรรมพึ่งพิง
    จิตนี้มีจริง
    ดั่งลิงคุมไว้

    มหาสติ
    จิตนิ่งรวมได้
    สมาธิได้
    ธรรมให้ปัญญา
    เกิดมาเป็นคน หนทางชีวี มีกรรมความดี ศีลธรรมอาศัย พระพุทธธรรมสงฆ์ คงทุกสมัย รวมลงสู่ใจ ให้ไตรสิกขา ศีลสมาธิ จิตน้อมนำพา ธรรมให้ปัญญา พาประเสริฐจริง จงเป็นสุขเถิด เกิดธรรมพึ่งพิง จิตนี้มีจริง ดั่งลิงคุมไว้ มหาสติ จิตนิ่งรวมได้ สมาธิได้ ธรรมให้ปัญญา
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าสัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา
    สัทธรรมลำดับที่ : 747
    ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=747
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา
    --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ดังนี้ว่า
    “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี
    รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี
    อาเนญชสัญญา ก็ดี
    อากิญจัญญายตนสัญญา ก็ดี
    สัญญาทั้งหมดนั้น ดับไม่มีส่วนเหลือ ในธรรมใด ธรรมนั้นประณีต
    กล่าวคือ #เนวสัญญานาสัญญายตนะ”.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/78/?keywords=เนวสญฺญานาสญฺญายตน

    +--เมื่ออริยสาวกนั้น
    ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้อยู่,
    จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ.
    เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ (สมาบัติ) ในกาลนั้น
    หรือน้อมไปเพื่อ ปัญญา.
    ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย
    ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป
    ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น #เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/59/88.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/59/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๗/๘๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/77/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%98
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=747
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57
    ลำดับสาธยายธรรม : 57 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าสัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา สัทธรรมลำดับที่ : 747 ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=747 เนื้อความทั้งหมด :- --สัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี อาเนญชสัญญา ก็ดี อากิญจัญญายตนสัญญา ก็ดี สัญญาทั้งหมดนั้น ดับไม่มีส่วนเหลือ ในธรรมใด ธรรมนั้นประณีต กล่าวคือ #เนวสัญญานาสัญญายตนะ”. http://etipitaka.com/read/pali/14/78/?keywords=เนวสญฺญานาสญฺญายตน +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อ ปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ. --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น #เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/59/88. http://etipitaka.com/read/thai/14/59/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๗/๘๘. http://etipitaka.com/read/pali/14/77/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%98 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=747 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57 ลำดับสาธยายธรรม : 57 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ¸ªà¸±à¸¡à¸¡à¸²à¸—ิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา
    -[คำว่า อากิญจัญญายตนะ คำนี้ เป็นคำแปลกและกำกวม เคยใช้ให้มีความหมายเป็นนิพพาน มาแต่ก่อนพุทธศาสนา หรือนอกพุทธศาสนา เช่น ในสำนักของพาวรีพราหมณ์ (ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดโสฬสปัญหา) นั้นเขาถือว่าเป็นนิพพาน จึงมาทูลขอให้พระองค์ทรงแสดงอากิญจัญญายตนะ ตามแบบของพระองค์ ในฐานะที่เป็นนิพพาน ดังนั้นในสูตรนี้ จึงมีบทพิจารณาทำนองเดียวกับนิพพาน เช่นคำว่า นั่นว่างจากอัตตาว่างจากอัตตนิยา หรือว่านั่นสงบนั่นประณีต ดังนี้เป็นต้น ผู้ศึกษาจะต้องมีความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง อย่าให้ปะปนกันเสีย จะมีความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง]. สัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะก็ดี รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี อาเนญชสัญญา ก็ดี อากิญจัญญายตนสัญญา ก็ดี สัญญาทั้งหมดนั้น ดับไม่มี ส่วนเหลือ ในธรรมใด ธรรมนั้นประณีต กล่าวคือ เนวสัญญานาสัญญายตนะ”. เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ. ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา.
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาละสัญโญชน์ทั้งหลายได้แล้ว จักทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
    สัทธรรมลำดับที่ : 378
    ชื่อบทธรรม :- ละสัญโญชน์ทั้งหลายได้แล้ว จักทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=378
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ละสัญโญชน์ทั้งหลายได้แล้ว จักทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุนั้นหนอ ไม่เป็นผู้มีความพอใจ ในความคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ,
    ไม่มีความยินดีในการคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ,
    ไม่ตามประกอบซึ่งความพอใจในการคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ,
    ไม่มีความพอใจในคณะ ไม่ยินดีในคณะ ไม่ตามประกอบซึ่งความพอใจในคณะ ;
    ผู้เดี่ยวโดดนั้น จักอภิรมย์ในความสงบสงัดอยู่ได้
    ดังนี้,
    ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ;
    ๑.ผู้เดี่ยวโดด เมื่ออภิรมย์ในความสงบสงัดอยู่ จักถือเอาซึ่งนิมิตแห่งจิตได้
    ดังนี้,
    ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ;
    ๒.เมื่อถือเอาซึ่งนิมิตแห่งจิตได้อยู่ จักทำสัมมาทิฏฐิให้บริบูรณ์ได้
    ดังนี้,
    ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ;
    ๓.เมื่อทำสัมมาทิฏฐิให้บริบูรณ์ ได้แล้ว จักทำสัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ได้
    ดังนี้,
    ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ;
    ๔.เมื่อทำสัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ได้แล้ว จักละสัญโญชน์ทั้งหลายได้
    ดังนี้,
    ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ;
    ๕.เมื่อ #ละสัญโญชน์ทั้งหลายได้แล้ว จักทำให้แจ้งซึ่ง #พระนิพพาน ได้
    http://etipitaka.com/read/pali/22/473/?keywords=นิพฺพานํ
    ดังนี้,
    ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ แล.-

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/375/339
    http://etipitaka.com/read/pali/22/375/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๗๒/๓๓๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/472/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%99
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=378
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=378
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาละสัญโญชน์ทั้งหลายได้แล้ว จักทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน สัทธรรมลำดับที่ : 378 ชื่อบทธรรม :- ละสัญโญชน์ทั้งหลายได้แล้ว จักทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=378 เนื้อความทั้งหมด :- --ละสัญโญชน์ทั้งหลายได้แล้ว จักทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน --ภิกษุ ท. ! ภิกษุนั้นหนอ ไม่เป็นผู้มีความพอใจ ในความคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ไม่มีความยินดีในการคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ไม่ตามประกอบซึ่งความพอใจในการคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ไม่มีความพอใจในคณะ ไม่ยินดีในคณะ ไม่ตามประกอบซึ่งความพอใจในคณะ ; ผู้เดี่ยวโดดนั้น จักอภิรมย์ในความสงบสงัดอยู่ได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; ๑.ผู้เดี่ยวโดด เมื่ออภิรมย์ในความสงบสงัดอยู่ จักถือเอาซึ่งนิมิตแห่งจิตได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; ๒.เมื่อถือเอาซึ่งนิมิตแห่งจิตได้อยู่ จักทำสัมมาทิฏฐิให้บริบูรณ์ได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; ๓.เมื่อทำสัมมาทิฏฐิให้บริบูรณ์ ได้แล้ว จักทำสัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; ๔.เมื่อทำสัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ได้แล้ว จักละสัญโญชน์ทั้งหลายได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; ๕.เมื่อ #ละสัญโญชน์ทั้งหลายได้แล้ว จักทำให้แจ้งซึ่ง #พระนิพพาน ได้ http://etipitaka.com/read/pali/22/473/?keywords=นิพฺพานํ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ แล.- #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/375/339 http://etipitaka.com/read/pali/22/375/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๗๒/๓๓๙. http://etipitaka.com/read/pali/22/472/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%99 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=378 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=378 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - (ปฏิปักขนัย)
    -(ปฏิปักขนัย) ภิกษุ ท. ! ภิกษุนั้นหนอ ไม่เป็นผู้มีความพอใจ ในความคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ไม่มีความยินดีในการคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ไม่ตามประกอบซึ่งความพอใจในการคลุกคลีกันเป็นหมู่ ๆ, ไม่มีความพอใจในคณะ ไม่ยินดีในคณะ ไม่ตามประกอบซึ่งความพอใจในคณะ ; ผู้เดี่ยวโดดนั้น จักอภิรมย์ในความสงบสงัดอยู่ได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; ผู้เดี่ยวโดด เมื่ออภิรมย์ในความสงบสงัดอยู่ จักถือเอาซึ่งนิมิตแห่งจิตได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; เมื่อถือเอาซึ่งนิมิตแห่งจิตได้อยู่ จักทำสัมมาทิฏฐิให้บริบูรณ์ได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; เมื่อทำสัมมาทิฏฐิให้บริบูรณ์ ได้แล้ว จักทำสัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; เมื่อทำสัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ได้แล้ว จักละสัญโญชน์ทั้งหลายได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ ; เมื่อละสัญโญชน์ทั้งหลายได้แล้ว จักทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพานได้ ดังนี้, ข้อนี้เป็นฐานะที่มีได้เป็นได้ แล.
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
More Results