• เด้งอุตสาหกรรมระยองเข้ากรุ เซ่นเคสฝุ่นแดง ซินเคอหยวน หลังถอนอายัด ‘ธนกร’ ยันไม่เกี่ยวข้อง
    https://www.thai-tai.tv/news/22442/
    .
    #ไทยไท #ฝุ่นแดง #ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม #ซินเคอหยวน #ถอนอายัด #อุตสาหกรรมระยอง

    เด้งอุตสาหกรรมระยองเข้ากรุ เซ่นเคสฝุ่นแดง ซินเคอหยวน หลังถอนอายัด ‘ธนกร’ ยันไม่เกี่ยวข้อง https://www.thai-tai.tv/news/22442/ . #ไทยไท #ฝุ่นแดง #ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม #ซินเคอหยวน #ถอนอายัด #อุตสาหกรรมระยอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • โพสต์ "ฮุนเซ็น" ไม่มีผล ไทยต้องให้ข้อมูลจริง : [NEWS UPDATE]
    นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ เผยถึงการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม(JBC) ฝ่ายไทย ครั้งที่ 1 เพื่อเตรียมความพร้อมพูดคุยกับกัมพูชาในกรอบ JBC ซึ่งจะประชุมกันเร็วที่สุด คาดไม่เกินกลางเดือน มิ.ย. นี้ ย้ำ ทหารไม่ประสงค์ให้มีความรุนแรง ทีมไทยแลนด์ทั้งทีม ฝ่ายทหาร พลเรือน ข้าราชการ มุ่งหาข้อยุติอย่างสันติวิธี ส่วนโพสต์บนโซเชียลมีเดียของสมเด็จฮุนเซ็น ไม่มีผลตามกฎหมาย สามารถโพสต์ได้ แต่ไทยต้องดูในฝั่งของไทยให้ข้อมูลที่ออกมาสะท้อนความจริงมากที่สุด



    ตรวจกองกำลังบูรพา

    ห่วงกระทบการค้า 3 หมื่นล้าน

    ขบวนการฝุ่นแดงไม่สำนึก

    เจ้าท่าหนุนเยาวชนรักษ์น้ำ
    โพสต์ "ฮุนเซ็น" ไม่มีผล ไทยต้องให้ข้อมูลจริง : [NEWS UPDATE] นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ เผยถึงการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม(JBC) ฝ่ายไทย ครั้งที่ 1 เพื่อเตรียมความพร้อมพูดคุยกับกัมพูชาในกรอบ JBC ซึ่งจะประชุมกันเร็วที่สุด คาดไม่เกินกลางเดือน มิ.ย. นี้ ย้ำ ทหารไม่ประสงค์ให้มีความรุนแรง ทีมไทยแลนด์ทั้งทีม ฝ่ายทหาร พลเรือน ข้าราชการ มุ่งหาข้อยุติอย่างสันติวิธี ส่วนโพสต์บนโซเชียลมีเดียของสมเด็จฮุนเซ็น ไม่มีผลตามกฎหมาย สามารถโพสต์ได้ แต่ไทยต้องดูในฝั่งของไทยให้ข้อมูลที่ออกมาสะท้อนความจริงมากที่สุด ตรวจกองกำลังบูรพา ห่วงกระทบการค้า 3 หมื่นล้าน ขบวนการฝุ่นแดงไม่สำนึก เจ้าท่าหนุนเยาวชนรักษ์น้ำ
    Like
    Angry
    Sad
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 808 มุมมอง 33 0 รีวิว
  • “เอกนัฏ” สอยยกแก๊งลอบนำเข้า “ฝุ่นแดง” จ๊ะเอ๋! เส้นเงินโผล่ “ซิน เคอ หยวน” เสิร์ฟฟ้องคดีโทษจำคุก รวบข้าราชการ มีเอี่ยว
    https://www.thai-tai.tv/news/18427/
    “เอกนัฏ” สอยยกแก๊งลอบนำเข้า “ฝุ่นแดง” จ๊ะเอ๋! เส้นเงินโผล่ “ซิน เคอ หยวน” เสิร์ฟฟ้องคดีโทษจำคุก รวบข้าราชการ มีเอี่ยว https://www.thai-tai.tv/news/18427/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • ”ก.อุตสาหกรรม-สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ“ เข้าค้น "ซิน เคอ หยวน" เก็บหลักฐานการนำเข้า-ส่งออก ครอบครอง "เหล็ก-ฝุ่นแดง" พิจารณาเป็นคดีพิเศษ

    วันนี้ (12 เม.ย.) แหล่งข่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้ากรณี กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมตำรวจสอบสวนกลาง และดีเอสไอ เข้าตรวจค้น บริษัท ซิน เคอ หยวน (SKY) เมื่อวานนี้ 11 เม.ย. ว่า กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นเจ้าภาพนำตรวจค้นบริษัทดังกล่าวเพื่อเก็บพยานเอกสารเป็นหลัก เช่น การนำเข้า-ส่งออก การซื้อขาย ที่มาที่ไปเกี่ยวกับการครอบครองเหล็กและฝุ่นแดง จะดูย้อนหลังตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ประมาณปี 2557 ส่วนตัวอย่างเหล็กได้เก็บไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่ได้ไปพิจารณาตรวจสอบว่าเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เพื่อรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ และส่งให้ดีเอสไอดำเนินการ ซึ่งขณะนี้มีเพียงคดีตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 (นอมินี) โดยรับเป็นคดีพิเศษที่ 32/2568

    แหล่งข่าวดีเอสไอ เผยว่า ส่วน กรมสรรพากร ภาค 3 ร้องทุกข์ดีเอสไอ ตรวจสอบบริษัทดังกล่าวใช้ใบกำกับภาษีปลอมหรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตั้งแต่เดือน ก.ค.2558 - มี.ค.2560 จำนวน 7,426 ฉบับ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท อันเป็นความผิดอาญาตามประมวลรัษฎากร ซึ่งเข้าบัญชีท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ขณะนี้ได้รับเป็นคดีพิเศษเลขที่ 38/2568 โดยกองคดีภาษีอากร และแยกสำนวนอีกคดี ไม่เกี่ยวกับคดีนอมินี

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000034997

    #MGROnline #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง. #ซินเคอหยวน
    ”ก.อุตสาหกรรม-สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ“ เข้าค้น "ซิน เคอ หยวน" เก็บหลักฐานการนำเข้า-ส่งออก ครอบครอง "เหล็ก-ฝุ่นแดง" พิจารณาเป็นคดีพิเศษ • วันนี้ (12 เม.ย.) แหล่งข่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้ากรณี กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมตำรวจสอบสวนกลาง และดีเอสไอ เข้าตรวจค้น บริษัท ซิน เคอ หยวน (SKY) เมื่อวานนี้ 11 เม.ย. ว่า กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นเจ้าภาพนำตรวจค้นบริษัทดังกล่าวเพื่อเก็บพยานเอกสารเป็นหลัก เช่น การนำเข้า-ส่งออก การซื้อขาย ที่มาที่ไปเกี่ยวกับการครอบครองเหล็กและฝุ่นแดง จะดูย้อนหลังตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ประมาณปี 2557 ส่วนตัวอย่างเหล็กได้เก็บไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่ได้ไปพิจารณาตรวจสอบว่าเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เพื่อรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ และส่งให้ดีเอสไอดำเนินการ ซึ่งขณะนี้มีเพียงคดีตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 (นอมินี) โดยรับเป็นคดีพิเศษที่ 32/2568 • แหล่งข่าวดีเอสไอ เผยว่า ส่วน กรมสรรพากร ภาค 3 ร้องทุกข์ดีเอสไอ ตรวจสอบบริษัทดังกล่าวใช้ใบกำกับภาษีปลอมหรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตั้งแต่เดือน ก.ค.2558 - มี.ค.2560 จำนวน 7,426 ฉบับ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท อันเป็นความผิดอาญาตามประมวลรัษฎากร ซึ่งเข้าบัญชีท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ขณะนี้ได้รับเป็นคดีพิเศษเลขที่ 38/2568 โดยกองคดีภาษีอากร และแยกสำนวนอีกคดี ไม่เกี่ยวกับคดีนอมินี • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000034997 • #MGROnline #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง. #ซินเคอหยวน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 705 มุมมอง 0 รีวิว
  • รมว.อุตสาหกรรมตอบ “อ.ปานเทพ” ยันข่าวต่ออายุ มอก.ให้โรงงานเหล็ก “ซินเคอหยวน” ไม่จริง ทุกวันนี้ยังระงับทั้งโรงงาน-ผลิตภัณฑ์ ชงเป็นคดีพิเศษ ล่าสุดยื่นให้ถอน BOI ย้ำตั้งแต่ ธ.ค.67 ยังคงปิดตาม พ.ร.บ.โรงงานฯ ของกลางที่ถูกอายัดยังอยู่ครบ แต่พบอาจทำผิดเพิ่มเรื่องครอบครองฝุ่นแดงมูลค่ามหาศาล ทุกประเด็นเก็บหลักฐานดำเนินคดีหมด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000032681
    รมว.อุตสาหกรรมตอบ “อ.ปานเทพ” ยันข่าวต่ออายุ มอก.ให้โรงงานเหล็ก “ซินเคอหยวน” ไม่จริง ทุกวันนี้ยังระงับทั้งโรงงาน-ผลิตภัณฑ์ ชงเป็นคดีพิเศษ ล่าสุดยื่นให้ถอน BOI ย้ำตั้งแต่ ธ.ค.67 ยังคงปิดตาม พ.ร.บ.โรงงานฯ ของกลางที่ถูกอายัดยังอยู่ครบ แต่พบอาจทำผิดเพิ่มเรื่องครอบครองฝุ่นแดงมูลค่ามหาศาล ทุกประเด็นเก็บหลักฐานดำเนินคดีหมด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000032681
    Like
    Angry
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 908 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เอกนัฏ" ส่งทีมสุดซอยควง DSI-CIB-กอ.รมน.-บก.ปทส.บุกยึดฝุ่นแดงโรงงานเหล็กระยอง 4.3 หมื่นตัน มูลค่ากว่า 1.7 พันล้าน
    https://www.thai-tai.tv/news/18046/
    "เอกนัฏ" ส่งทีมสุดซอยควง DSI-CIB-กอ.รมน.-บก.ปทส.บุกยึดฝุ่นแดงโรงงานเหล็กระยอง 4.3 หมื่นตัน มูลค่ากว่า 1.7 พันล้าน https://www.thai-tai.tv/news/18046/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์เพจมูลนิธิบูรณะนิเวศ 4 เมษายน 2568 พิรุธใหม่ “ซินเคอหยวน” ซุก “ฝุ่นแดง” เกือบครึ่งแสนตัน.จากกรณีการเกิดแผ่นดินไหวจนอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ถล่มลง ชื่อของบริษัททุนจีนที่ปรากฏเป็นข่าวและถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง นอกจากบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) แล้ว ยังมีชื่อของบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด เคียงคู่มาด้วย ในฐานะเจ้าของผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นยี่ห้อ SKY.ทั้งนี้ เหล็กข้ออ้อยขนาด 20 และ 32 มิลลิเมตรที่กระทรวงอุตสาหกรรมเก็บตัวอย่างมาจากตึก สตง. ซึ่งทดสอบแล้วพบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ก็คือเหล็ก SKY นั่นเอง.จากผลการตรวจพบข้อเท็จจริงดังกล่าว ทำให้เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา คณะตรวจการสุดซอยกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ร่วมกับตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เข้าตรวจสอบโรงงานซินเคอหยวน ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง โดยตั้งเป้าตรวจสอบใน 2 ประเด็นหลัก.นั่นคือ 1. ตรวจสอบว่าเหล็กตกมาตรฐานของบริษัทที่เคยถูกยึดอายัดไว้เดือนธันวาคม 2567 ยังอยู่ครบหรือไม่ 2. บริษัทซึ่งถูกสั่งปิดปรับปรุงตั้งแต่ปลายปีนั้น มีการลักลอบประกอบกิจการหรือไม่.ผลการตรวจสอบในประเด็นแรกพบว่า เหล็กของกลางที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดอายัดไว้ยังอยู่ครบถ้วน ไม่มีการเคลื่อนย้าย ส่วนการตรวจในประเด็นที่ 2 ในวันที่ลงตรวจก็ไม่พบการประกอบกิจการ.อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มสื่อมวลชนที่ติดตามประเด็น ต่างตั้งข้อสังเกตว่า สภาพโรงงานดู “สะอาดเรียบร้อย” พร้อมรับการตรวจราวทราบล่วงหน้า รวมทั้งผู้เป็นตัวแทนบริษัทได้แสดงความมั่นใจ และบางช่วงได้ทักทายผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “เป็นไงนักข่าวได้ข่าวอะไรไหม”.กระนั้นก็ตาม จากการที่คณะตรวจการสุดซอยฯ ตรวจสอบการใช้ไฟฟ้าในโรงงานจากบิลค่าไฟ แม้พบว่า ค่าไฟในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2568 จะลดลงอย่างมาก จากค่าเฉลี่ยเดิมที่ประมาณเดือนละ 150 ล้านบาท คงเหลือที่ 1.2 ล้านบาท 0.64 ล้านบาท และ 6.4 ล้านบาท ตามลำดับ แต่ตัวเลขของเดือนล่าสุดก็ยังมีความน่าสงสัย.แต่สำหรับประเด็นชวนกังขาที่แท้จริงกลับอยู่ที่ “ฝุ่นแดง” ที่ทางบริษัทมีอยู่ในครอบครอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ประเมินว่าน่าจะมีจำนวนมากกว่า 43,000 ตัน ในขณะที่จำนวนที่บริษัทแจ้งต่อภาครัฐมีเพียง 2,245 ตันต่อปี อีกทั้งในปี 2567 บริษัทฯ ไม่มีการแจ้งหรือรายงานการกักเก็บฝุ่นแดงแต่อย่างใด .อนึ่ง ฝุ่นแดงคือฝุ่นที่เกิดจากเตาหลอมเหล็ก ซึ่งในระดับนานาชาติถือว่าเป็นของเสียอันตรายที่ต้องควบคุมการก่อเกิด การเคลื่อนย้าย และการกำจัดอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีส่วนประกอบเป็นโลหะหนักที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม.การมีฝุ่นแดงในครอบครองในกรณีของซินเคอหยวนจึงถือว่าเป็นเรื่องปกติ ในฐานะของเสียจากกระบวนการผลิต เพียงแต่ปริมาณที่แตกต่างมหาศาล จากระดับ 2,000 ตัน กลายเป็น 40,000 ตัน ก่อให้เกิดคำถามใหญ่และสำคัญว่า ฝุ่นแดงส่วนเกินนั้นมาจากไหน และฝุ่นแดงเหล่านั้นเข้ามาอยู่ในโรงงานของบริษัทในฐานะอะไร เรื่องนี้จึงถือว่าเป็นข้อพิรุธใหญ่ที่จำเป็นต้องมีการสืบสวนสอบสวนต่ออย่างเอาจริงเอาจัง.เท่าที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิบูรณะนิเวศสังเกตดูกองถุงบิ๊กแบกบรรจุฝุ่นแดงภายในโรงงานของซินเคอหยวน พบว่าลักษณะของถุงมีความแตกต่างกัน ส่วนที่กองอยู่ในฟากหนึ่งเป็นถุงสีขาวออกน้ำตาลที่มีดูหมองและเก่า หลายจุดมีมีหยากไย่เกาะปกคลุม .ในขณะที่อีกฟากมีถุงบิ๊กแบกสีดำที่มีอักษรจีนกำกับ ซึ่งลักษณะดูใหม่กว่า และส่วนใหญ่จะวางทับถุงสีขาวน้ำตาล คล้ายกับว่าถุงเหล่านี้ถูกนำหรือเคลื่อนย้ายเข้ามาทีหลัง.สำหรับถุงบิ๊กแบกสีดำที่ที่มีอักษรจีนเป็นแบบเดียวกับเราเคยพบมาก่อนจากการลงพื้นที่โรงงานในจังหวัดสมุทรสาคร โดยเป็นถุงบรรจุฝุ่นแดงเช่นเดียวกัน.ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (3 เมษายน 2568) ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้ประสานดีเอสไอรับประเด็นเรื่องฝุ่นแดงกรณีบริษัทซินเคอหยวนนี้เป็นคดีพิเศษแล้ว ซึ่งทางเพจจะนำเสนอประเด็นเกี่ยวเนื่องอื่นๆ และความคืบหน้าต่อไป......เรื่องและภาพโดย นราธิป ทองถนอม มูลนิธิบูรณะนิเวศ
    รีโพสต์เพจมูลนิธิบูรณะนิเวศ 4 เมษายน 2568 พิรุธใหม่ “ซินเคอหยวน” ซุก “ฝุ่นแดง” เกือบครึ่งแสนตัน.จากกรณีการเกิดแผ่นดินไหวจนอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ถล่มลง ชื่อของบริษัททุนจีนที่ปรากฏเป็นข่าวและถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง นอกจากบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) แล้ว ยังมีชื่อของบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด เคียงคู่มาด้วย ในฐานะเจ้าของผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นยี่ห้อ SKY.ทั้งนี้ เหล็กข้ออ้อยขนาด 20 และ 32 มิลลิเมตรที่กระทรวงอุตสาหกรรมเก็บตัวอย่างมาจากตึก สตง. ซึ่งทดสอบแล้วพบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ก็คือเหล็ก SKY นั่นเอง.จากผลการตรวจพบข้อเท็จจริงดังกล่าว ทำให้เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา คณะตรวจการสุดซอยกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ร่วมกับตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เข้าตรวจสอบโรงงานซินเคอหยวน ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง โดยตั้งเป้าตรวจสอบใน 2 ประเด็นหลัก.นั่นคือ 1. ตรวจสอบว่าเหล็กตกมาตรฐานของบริษัทที่เคยถูกยึดอายัดไว้เดือนธันวาคม 2567 ยังอยู่ครบหรือไม่ 2. บริษัทซึ่งถูกสั่งปิดปรับปรุงตั้งแต่ปลายปีนั้น มีการลักลอบประกอบกิจการหรือไม่.ผลการตรวจสอบในประเด็นแรกพบว่า เหล็กของกลางที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดอายัดไว้ยังอยู่ครบถ้วน ไม่มีการเคลื่อนย้าย ส่วนการตรวจในประเด็นที่ 2 ในวันที่ลงตรวจก็ไม่พบการประกอบกิจการ.อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มสื่อมวลชนที่ติดตามประเด็น ต่างตั้งข้อสังเกตว่า สภาพโรงงานดู “สะอาดเรียบร้อย” พร้อมรับการตรวจราวทราบล่วงหน้า รวมทั้งผู้เป็นตัวแทนบริษัทได้แสดงความมั่นใจ และบางช่วงได้ทักทายผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “เป็นไงนักข่าวได้ข่าวอะไรไหม”.กระนั้นก็ตาม จากการที่คณะตรวจการสุดซอยฯ ตรวจสอบการใช้ไฟฟ้าในโรงงานจากบิลค่าไฟ แม้พบว่า ค่าไฟในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2568 จะลดลงอย่างมาก จากค่าเฉลี่ยเดิมที่ประมาณเดือนละ 150 ล้านบาท คงเหลือที่ 1.2 ล้านบาท 0.64 ล้านบาท และ 6.4 ล้านบาท ตามลำดับ แต่ตัวเลขของเดือนล่าสุดก็ยังมีความน่าสงสัย.แต่สำหรับประเด็นชวนกังขาที่แท้จริงกลับอยู่ที่ “ฝุ่นแดง” ที่ทางบริษัทมีอยู่ในครอบครอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ประเมินว่าน่าจะมีจำนวนมากกว่า 43,000 ตัน ในขณะที่จำนวนที่บริษัทแจ้งต่อภาครัฐมีเพียง 2,245 ตันต่อปี อีกทั้งในปี 2567 บริษัทฯ ไม่มีการแจ้งหรือรายงานการกักเก็บฝุ่นแดงแต่อย่างใด .อนึ่ง ฝุ่นแดงคือฝุ่นที่เกิดจากเตาหลอมเหล็ก ซึ่งในระดับนานาชาติถือว่าเป็นของเสียอันตรายที่ต้องควบคุมการก่อเกิด การเคลื่อนย้าย และการกำจัดอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีส่วนประกอบเป็นโลหะหนักที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม.การมีฝุ่นแดงในครอบครองในกรณีของซินเคอหยวนจึงถือว่าเป็นเรื่องปกติ ในฐานะของเสียจากกระบวนการผลิต เพียงแต่ปริมาณที่แตกต่างมหาศาล จากระดับ 2,000 ตัน กลายเป็น 40,000 ตัน ก่อให้เกิดคำถามใหญ่และสำคัญว่า ฝุ่นแดงส่วนเกินนั้นมาจากไหน และฝุ่นแดงเหล่านั้นเข้ามาอยู่ในโรงงานของบริษัทในฐานะอะไร เรื่องนี้จึงถือว่าเป็นข้อพิรุธใหญ่ที่จำเป็นต้องมีการสืบสวนสอบสวนต่ออย่างเอาจริงเอาจัง.เท่าที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิบูรณะนิเวศสังเกตดูกองถุงบิ๊กแบกบรรจุฝุ่นแดงภายในโรงงานของซินเคอหยวน พบว่าลักษณะของถุงมีความแตกต่างกัน ส่วนที่กองอยู่ในฟากหนึ่งเป็นถุงสีขาวออกน้ำตาลที่มีดูหมองและเก่า หลายจุดมีมีหยากไย่เกาะปกคลุม .ในขณะที่อีกฟากมีถุงบิ๊กแบกสีดำที่มีอักษรจีนกำกับ ซึ่งลักษณะดูใหม่กว่า และส่วนใหญ่จะวางทับถุงสีขาวน้ำตาล คล้ายกับว่าถุงเหล่านี้ถูกนำหรือเคลื่อนย้ายเข้ามาทีหลัง.สำหรับถุงบิ๊กแบกสีดำที่ที่มีอักษรจีนเป็นแบบเดียวกับเราเคยพบมาก่อนจากการลงพื้นที่โรงงานในจังหวัดสมุทรสาคร โดยเป็นถุงบรรจุฝุ่นแดงเช่นเดียวกัน.ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (3 เมษายน 2568) ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้ประสานดีเอสไอรับประเด็นเรื่องฝุ่นแดงกรณีบริษัทซินเคอหยวนนี้เป็นคดีพิเศษแล้ว ซึ่งทางเพจจะนำเสนอประเด็นเกี่ยวเนื่องอื่นๆ และความคืบหน้าต่อไป......เรื่องและภาพโดย นราธิป ทองถนอม มูลนิธิบูรณะนิเวศ
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 974 มุมมอง 0 รีวิว
  • พบพิรุจบริษัท ซิน เคอ หยวน ผู้ผลิตเหล็กตึก สตง. ถล่ม ค่าไฟพุ่ง 6.4 ล้านบาท ขณะที่โรงงานถูกสั่งปิด พร้อมซุกฝุ่นแดงอันตรายอีกกว่า 43,000 ตัน
    https://www.thai-tai.tv/news/18008/
    พบพิรุจบริษัท ซิน เคอ หยวน ผู้ผลิตเหล็กตึก สตง. ถล่ม ค่าไฟพุ่ง 6.4 ล้านบาท ขณะที่โรงงานถูกสั่งปิด พร้อมซุกฝุ่นแดงอันตรายอีกกว่า 43,000 ตัน https://www.thai-tai.tv/news/18008/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เอกนัฏ” สั่งทีมสุดซอยลุยตรวจโรงงาน ซิน เคอ หยวน ที่บ้านค่าย จ.ระยอง เพื่อตรวจสอบว่ามีการลักลอบประกอบการหรือไม่ รวมทั้งเช็คเหล็กยึดอายัด พร้อมเก็บตัวอย่างส่งตรวจเทียบเหล็กตึก สตง. ถล่ม อึ้ง! พบซุกฝุ่นแดงไม่ตรงที่รายงาน ลุยตรวจสอบต่อ หากผิดจริงดำเนินคดีถึงที่สุด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031573
    “เอกนัฏ” สั่งทีมสุดซอยลุยตรวจโรงงาน ซิน เคอ หยวน ที่บ้านค่าย จ.ระยอง เพื่อตรวจสอบว่ามีการลักลอบประกอบการหรือไม่ รวมทั้งเช็คเหล็กยึดอายัด พร้อมเก็บตัวอย่างส่งตรวจเทียบเหล็กตึก สตง. ถล่ม อึ้ง! พบซุกฝุ่นแดงไม่ตรงที่รายงาน ลุยตรวจสอบต่อ หากผิดจริงดำเนินคดีถึงที่สุด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031573
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 772 มุมมอง 0 รีวิว
  • อึ้ง!เหล็กตึกสตง. มาจากโรงงานถูกสั่งปิด : [THE-MESSAGE]

    นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เผยถึงการนำทีมเข้าตรวจวัสดุก่อสร้างในจุดที่อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม เก็บตัวอย่าง 6 ประเภท ทั้งเหล็กกลม เหล็กข้ออ้อย 3 ยี่ห้อ ตรวจสอบพบมีเหล็ก 2 ขนาด ไม่ได้มาตรฐานคือไซซ์ 20 และ 32 มาจากยี่ห้อเดียวกัน เป็นผู้ผลิตที่สั่งหยุดโรงงานเมื่อเดือน ธ.ค. 2567 จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนขยายผล เตรียมเข้าพื้นที่พร้อมคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เก็บตัวอย่างอีกครั้ง โดยจะเก็บแบบชี้เป้าให้ครบทุกประเภท และเก็บในจุดที่สันนิษฐานว่าทำให้ตึกถล่ม ยอมรับอึ้งเพราะโรงงานที่ผลิตเหล็กไม่ได้มาตรฐาน เป็นโรงงานที่ไปตรวจและสั่งปิด โดยการตรวจเหล็กจะตรวจ 2 ส่วน คือคุณสมบัติด้านการกล และคุณสมบัติทางเคมี ครั้งแรกที่ตรวจตกทางเคมี ล่าสุดที่ตรวจตกทางกล ได้ข่าวมีความพยายามวิ่งเต้น ข่มขู่เจ้าหน้าที่ เตรียมลงพื้นที่ตรวจโรงงาน ซินเคอหยวน ต.หนองละลอก จ.ระยอง ที่สั่งปิด หลังพบโรงงานยังมีความเคลื่อนไหว​ พบรถบรรทุกขนฝุ่นแดง อาจลักลอบผลิตเหล็กอยู่หรือไม่
    อึ้ง!เหล็กตึกสตง. มาจากโรงงานถูกสั่งปิด : [THE-MESSAGE] นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เผยถึงการนำทีมเข้าตรวจวัสดุก่อสร้างในจุดที่อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม เก็บตัวอย่าง 6 ประเภท ทั้งเหล็กกลม เหล็กข้ออ้อย 3 ยี่ห้อ ตรวจสอบพบมีเหล็ก 2 ขนาด ไม่ได้มาตรฐานคือไซซ์ 20 และ 32 มาจากยี่ห้อเดียวกัน เป็นผู้ผลิตที่สั่งหยุดโรงงานเมื่อเดือน ธ.ค. 2567 จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนขยายผล เตรียมเข้าพื้นที่พร้อมคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เก็บตัวอย่างอีกครั้ง โดยจะเก็บแบบชี้เป้าให้ครบทุกประเภท และเก็บในจุดที่สันนิษฐานว่าทำให้ตึกถล่ม ยอมรับอึ้งเพราะโรงงานที่ผลิตเหล็กไม่ได้มาตรฐาน เป็นโรงงานที่ไปตรวจและสั่งปิด โดยการตรวจเหล็กจะตรวจ 2 ส่วน คือคุณสมบัติด้านการกล และคุณสมบัติทางเคมี ครั้งแรกที่ตรวจตกทางเคมี ล่าสุดที่ตรวจตกทางกล ได้ข่าวมีความพยายามวิ่งเต้น ข่มขู่เจ้าหน้าที่ เตรียมลงพื้นที่ตรวจโรงงาน ซินเคอหยวน ต.หนองละลอก จ.ระยอง ที่สั่งปิด หลังพบโรงงานยังมีความเคลื่อนไหว​ พบรถบรรทุกขนฝุ่นแดง อาจลักลอบผลิตเหล็กอยู่หรือไม่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 963 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • เอกนัฏ ฟัน บริษัทหัวจง จ.สมุทรสาคร ลักลอบปล่อยน้ำเสียออกนอกโรงงาน พร้อมพบความเชื่อมโยงการลักลอบนำเข้าฝุ่นแดง
    https://www.thai-tai.tv/news/17761/
    เอกนัฏ ฟัน บริษัทหัวจง จ.สมุทรสาคร ลักลอบปล่อยน้ำเสียออกนอกโรงงาน พร้อมพบความเชื่อมโยงการลักลอบนำเข้าฝุ่นแดง https://www.thai-tai.tv/news/17761/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • BAN เรียกร้อง MAERSK ชี้แจงแผนเดินเรือใหม่ของเรือ 2 ลำที่ขนขยะพิษฝุ่นแดง หลังพบเรือ “แคมป์ตัน” ผ่านสิงคโปร์ไปแล้วโดยไม่จอด ขณะที่ “แคนดอร์” เงียบหายไม่แสดงตัวมาแล้ว 6 วัน พร้อมทั้งขอคำรับรองจาก MAERSK ว่าจะไม่ฝ่าฝืนมาตรฐานเรื่องการเดินเรือขนส่งสินค้าและปฏิบัติตามกฎกติการที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด จนกว่าที่ตู้คอนเทนเนอร์ต้องสงสัยว่าบรรจุขยะพิษทั้ง 100 ตู้บนเรือ “เมอรส์กแคมป์ตัน” และ “เมอรส์ก แคนดอร์” จะถูกส่งถึงแอลเบเนีย
    .
    16 สิงหาคม 2567- เครือข่ายปฏิบัติการบาเซล หรือ Basel Action Network (BAN) ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ทำงานตรวจสอบเกี่ยวกับการปฏิบัติตามอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด หรือที่เรียกกันโดยย่อว่า “อนุสัญญาบาเซล” (Basel Convention) ได้ส่งจดหมายผ่านทางอีเมล ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2567 (เวลาช้ากว่าไทยประมาณ 12 ชั่วโมง) ถึงผู้บริหารของบริษัท เมอส์ก (MAERSK) ระบุว่า เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องสอบถามถึงเจตนารมณ์ของ Maersk เกี่ยวกับตู้คอนเทนเนอร์ต้องสงสัยว่าบรรจุขยะอันตรายที่ขนส่งมาบนเรือของบริษัทที่ชื่อ “เมอรส์กแคมป์ตัน” และ “เมอรส์ก แคนดอร์”
    .
    BAN ได้กล่าวอ้างอิงถึงข่าวจากบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รวมทั้งเนื้อหาในจดหมายของบริษัท เมอส์ก ไลน์ (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ส่งถึงผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เรื่อง “การชี้แจงข้อมูลเส้นทางการเดินเรือ” ซึ่งแจ้งไว้ว่าจะส่งคืนตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมดจำนวน 100 ตู้บนเรือทั้งสองลำดังกล่าวกลับไปยังแอลเบเนีย ซึ่ง BAN ระบุว่า “เราปรบมือให้กับการตัดสินใจนั้น”
    .
    จดหมายของ BAN ที่ลงนามโดยจิม พักเก็ตต์ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม เรือแคมป์ตันซึ่งควรที่จะจอดยังท่าเรือในสิงคโปร์ และมีขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ต้องสงสัย ตามแผนการเดิม กลับเพิ่งมีรายงานข่าวว่าได้แล่นผ่านสิงคโปร์ไปแล้วเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยไม่มีการหยุด ซึ่งในจดหมายได้มีการแนบแผนที่แสดงเส้นทางและตำแหน่งการเดินเรือของ “เมอรส์กแคมป์ตัน” ไว้ด้วย
    .
    จดหมายของ BAN แจ้งอีกว่า ในขณะที่ทางด้านเรือแคนดอร์ก็ได้เงียบหายไปตลอดช่วงหกวันที่ผ่านมา หลังจากที่พบว่ามีการปิดระบบสัญญาณ AIS (Automatic Identification System) หรือสัญญาณการระบุตัวตนอัตโนมัติครั้งสุดท้ายที่นอกชายฝั่งแอฟริกาใต้ ซึ่งปรากฏการณ์ล่าสุดเหล่านี้ได้ “สร้างความกังวลอย่างยิ่งยวด” ให้เกิดขึ้นตามหลังจากการแถลงของบริษัท
    .
    ดังนั้น BAN จึงเรียกร้องให้บริษัท MAERSK ชี้แจงและอธิบายให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสื่อที่เกี่ยวข้องทั้งหลายโดยทันที ว่าเหตุใดจึงมีการปรับเปลี่ยนแผนการเดินเรือ และแผนใหม่คืออะไร ตลอดจนชี้แจงถึงตําแหน่งและจุดหมายปลายทางของเรือทั้งสองลําด้วย โดยที่ MAERSK จะต้องรับรองว่าจะไม่ฝ่าฝืนต่อกฎเกณฑ์สากลของการเดินเรือขนส่งสินค้า รวมถึงระเบียบกติกาทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง
    .
    และที่สำคัญคือ ต้องรักษาไว้ซึ่งความมุ่งมั่นที่จะส่งคอนเทนเนอร์บรรจุของเสียอันตรายต้องสงสัยกลับไปยังประเทศต้นทาง ให้ถึงมือรัฐบาลแอลเบเนีย เพื่อที่จะจัดการส่งกลับไปยังประเทศต้นทางได้ต่อ

    ดูเรื่องที่เกี่ยวข้องได้ที่
    - MAERSK ยอมส่งเรือกลับแอลเบเนีย!?! แต่ไม่ยอมรับว่ามีการขนส่งขยะอันตราย: https://shorturl.at/hivjM

    - "กรณีการขนย้ายฝุ่นแดงจากประเทศแอลเบเนีย ถือเป็นอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมข้ามชาติ": https://shorturl.at/th5yX

    ที่มา : มูลนิธิบูรณะนิเวศ

    #Thaitimes
    BAN เรียกร้อง MAERSK ชี้แจงแผนเดินเรือใหม่ของเรือ 2 ลำที่ขนขยะพิษฝุ่นแดง หลังพบเรือ “แคมป์ตัน” ผ่านสิงคโปร์ไปแล้วโดยไม่จอด ขณะที่ “แคนดอร์” เงียบหายไม่แสดงตัวมาแล้ว 6 วัน พร้อมทั้งขอคำรับรองจาก MAERSK ว่าจะไม่ฝ่าฝืนมาตรฐานเรื่องการเดินเรือขนส่งสินค้าและปฏิบัติตามกฎกติการที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด จนกว่าที่ตู้คอนเทนเนอร์ต้องสงสัยว่าบรรจุขยะพิษทั้ง 100 ตู้บนเรือ “เมอรส์กแคมป์ตัน” และ “เมอรส์ก แคนดอร์” จะถูกส่งถึงแอลเบเนีย . 16 สิงหาคม 2567- เครือข่ายปฏิบัติการบาเซล หรือ Basel Action Network (BAN) ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ทำงานตรวจสอบเกี่ยวกับการปฏิบัติตามอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด หรือที่เรียกกันโดยย่อว่า “อนุสัญญาบาเซล” (Basel Convention) ได้ส่งจดหมายผ่านทางอีเมล ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2567 (เวลาช้ากว่าไทยประมาณ 12 ชั่วโมง) ถึงผู้บริหารของบริษัท เมอส์ก (MAERSK) ระบุว่า เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องสอบถามถึงเจตนารมณ์ของ Maersk เกี่ยวกับตู้คอนเทนเนอร์ต้องสงสัยว่าบรรจุขยะอันตรายที่ขนส่งมาบนเรือของบริษัทที่ชื่อ “เมอรส์กแคมป์ตัน” และ “เมอรส์ก แคนดอร์” . BAN ได้กล่าวอ้างอิงถึงข่าวจากบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รวมทั้งเนื้อหาในจดหมายของบริษัท เมอส์ก ไลน์ (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ส่งถึงผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เรื่อง “การชี้แจงข้อมูลเส้นทางการเดินเรือ” ซึ่งแจ้งไว้ว่าจะส่งคืนตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมดจำนวน 100 ตู้บนเรือทั้งสองลำดังกล่าวกลับไปยังแอลเบเนีย ซึ่ง BAN ระบุว่า “เราปรบมือให้กับการตัดสินใจนั้น” . จดหมายของ BAN ที่ลงนามโดยจิม พักเก็ตต์ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม เรือแคมป์ตันซึ่งควรที่จะจอดยังท่าเรือในสิงคโปร์ และมีขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ต้องสงสัย ตามแผนการเดิม กลับเพิ่งมีรายงานข่าวว่าได้แล่นผ่านสิงคโปร์ไปแล้วเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยไม่มีการหยุด ซึ่งในจดหมายได้มีการแนบแผนที่แสดงเส้นทางและตำแหน่งการเดินเรือของ “เมอรส์กแคมป์ตัน” ไว้ด้วย . จดหมายของ BAN แจ้งอีกว่า ในขณะที่ทางด้านเรือแคนดอร์ก็ได้เงียบหายไปตลอดช่วงหกวันที่ผ่านมา หลังจากที่พบว่ามีการปิดระบบสัญญาณ AIS (Automatic Identification System) หรือสัญญาณการระบุตัวตนอัตโนมัติครั้งสุดท้ายที่นอกชายฝั่งแอฟริกาใต้ ซึ่งปรากฏการณ์ล่าสุดเหล่านี้ได้ “สร้างความกังวลอย่างยิ่งยวด” ให้เกิดขึ้นตามหลังจากการแถลงของบริษัท . ดังนั้น BAN จึงเรียกร้องให้บริษัท MAERSK ชี้แจงและอธิบายให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสื่อที่เกี่ยวข้องทั้งหลายโดยทันที ว่าเหตุใดจึงมีการปรับเปลี่ยนแผนการเดินเรือ และแผนใหม่คืออะไร ตลอดจนชี้แจงถึงตําแหน่งและจุดหมายปลายทางของเรือทั้งสองลําด้วย โดยที่ MAERSK จะต้องรับรองว่าจะไม่ฝ่าฝืนต่อกฎเกณฑ์สากลของการเดินเรือขนส่งสินค้า รวมถึงระเบียบกติกาทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง . และที่สำคัญคือ ต้องรักษาไว้ซึ่งความมุ่งมั่นที่จะส่งคอนเทนเนอร์บรรจุของเสียอันตรายต้องสงสัยกลับไปยังประเทศต้นทาง ให้ถึงมือรัฐบาลแอลเบเนีย เพื่อที่จะจัดการส่งกลับไปยังประเทศต้นทางได้ต่อ ดูเรื่องที่เกี่ยวข้องได้ที่ - MAERSK ยอมส่งเรือกลับแอลเบเนีย!?! แต่ไม่ยอมรับว่ามีการขนส่งขยะอันตราย: https://shorturl.at/hivjM - "กรณีการขนย้ายฝุ่นแดงจากประเทศแอลเบเนีย ถือเป็นอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมข้ามชาติ": https://shorturl.at/th5yX ที่มา : มูลนิธิบูรณะนิเวศ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 905 มุมมอง 0 รีวิว
  • อธิบดีกรมโรงงานสั่งเข้มติดตามร่วมกับกรมศุลกากรป้องกันขยะกากฝุ่นแดงพิษที่จะขนมาทางเรือจากแอลบาเนียมาทิ้งที่ไทยโดยไทยไม่อนุญาติ หลังจากปีที่แล้วไทยเคยทำหนังสือไม่ยินยอมให้เคลื่อนย้ายขยะกากพิษนี้มาไทย

    14 สิงหาคม 2567-อธิบดีกรมโรงงานฯ สั่งติดตามการขนย้ายฝุ่นแดง จากประเทศแอลบาเนีย อย่างใกล้ชิด

    นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม มอบหมายกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ดำเนินการร่วมกับหน่วยข่าวกรองและส่วนงานปราบปรามของกรมศุลกากร เพื่อเฝ้าระวังและยับยั้งการขนย้ายของเสียอันตรายแบบผิดกฎหมาย (illegal traffic) คาดว่าเป็น Electric Arc Furnace (EAF) dust หรือ ฝุ่นแดง จากอุตสาหกรรมถลุงเหล็ก จำนวน 816 ตัน (ประมาณ 100 ตู้คอนเทนเนอร์) จากประเทศแอลบาเนีย ซึ่งเป็นของเสียอันตรายตามอนุสัญญาบาเซล และเป็นของเสียเคมีวัตถุ ตาม พ.ร.บ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 อย่างใกล้ชิด

    สืบเนื่องจากกรมโรงงานฯ ในฐานะหน่วยงานผู้มีอำนาจ (Competent Authority : CA) ของประเทศไทย ภายใต้ “อนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด” ได้รับการประสานงานและแจ้งข่าวการขนส่งของเสียดังกล่าวจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรหรือ NGO ด้านสิ่งแวดล้อม 3 แห่ง ได้แก่ 1.เครือข่าย Basel Action Network (BAN) สหรัฐอเมริกา 2.องค์กร Friends of the Earth ประเทศแอฟริกาใต้ และ 3.มูลนิธิบูรณะนิเวศ หรือ EARTH ประเทศไทย เพื่อยับยั้งการเคลื่อนย้ายของเสียแบบผิดกฎหมายด้วยเรือขนส่งสินค้าจำนวน 2 ลำ ที่มีต้นทางจากประเทศแอลบาเนีย ปลายทางประเทศไทย โดย ประเทศไทย ไม่เคยได้รับการแจ้งขอความยินยอมการนำเข้าของเสียดังกล่าว รวมทั้งไม่เคยยินยอมหรืออนุญาตให้มีการนำเข้าของเสียดังกล่าวแต่อย่างใด จึงถือเป็นการเคลื่อนย้ายของของเสียอันตรายแบบผิดกฎหมายภายใต้อนุสัญญาบาเซล

    โดยเมื่อปี 2565 ประเทศไทยเคยมีหนังสือถึงรัฐบาลประเทศแอลบาเนียไม่ยินยอมให้นำเข้าของเสียดังกล่าวมายังราชอาณาจักรไทย

    ล่าสุดกรมโรงงานฯ ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิด กับหน่วยงานผู้มีอำนาจ (CA) ของประเทศแอลบาเนีย (ประเทศต้นทาง) และหน่วยงาน National Environment Agency (CA ของประเทศสิงคโปร์) ซึ่งเป็นประเทศผู้นำผ่าน และคาดการณ์ว่า จะมีการถ่ายลำเรือของเสียดังกล่าว เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ จึงให้เฝ้าระวังบริเวณท่าเรือและยับยั้งการเคลื่อนย้ายของเสียดังกล่าว

    ทั้งนี้ กรมโรงงานฯ ได้ประสานงานกับกรมศุลกากร เพื่อติดตามตรวจสอบการนำ “ของเสียอันตรายที่ไม่ได้รับอนุญาต” เข้ามาในราชอาณาจักรไทยอย่างต่อเนื่อง

    ขณะที่มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH)เตือนภัยว่า““กรณีนี้ถือเป็นอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมข้ามชาติ...เพราะว่าเป็นการขนส่ง/เคลื่อนย้ายกากของเสียอันตรายแบบเถื่อน ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายของประเทศที่เป็นเป้าหมายปลายทางอย่างประเทศไทยเองด้วย ดังนั้นการดำเนินการที่จะรับมือและจัดการจึงต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะคู่กรณีของเราในกรณีนี้คืออาชญากรระหว่างประเทศ” เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ กล่าวอธิบายถึงกรณีเรื่องการขนย้ายฝุ่นแดงจากประเทศแอลเบเนีย หรือชื่อทางการว่าสาธารณรัฐแอลเบเนีย (Albania) ภายหลังจากที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง กรอ. กำลังประสานงานกับกรมศุลกากร เพื่อติดตามตรวจสอบกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
    .
    ทั้งนี้ มูลนิธิบูรณะนิเวศได้รับการประสานเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวจากเครือข่าย BAN หรือ Basel Action Network ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ทำงานตรวจสอบเกี่ยวกับการปฏิบัติตามอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด หรือที่เรียกกันโดยย่อว่า “อนุสัญญาบาเซล” (Basel Convention) ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา
    .
    ประเด็นสาระสำคัญที่ทางเครือข่าย BAN แจ้งมาในเบื้องต้นคือ ทราบว่าจะมีการขนส่งกากของเสียอันตรายที่ตามอนุสัญญาบาเซลและภาคแก้ไขของอนุสัญญาบาเซลถือเป็นของเสียอันตรายที่ห้ามเคลื่อนย้ายออกนอกประเทศที่เป็นแหล่งกำเนิด มายังประเทศไทย โดยขนส่งมาทางเรือจำนวน 2 ลำ
    .
    ในช่วงที่ผ่านมา ทางมูลนิธิบูรณะนิเวศจึงได้พยายามหาทางสื่อสารและส่งผ่านข้อมูลให้กับหน่วยงานราชการที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจึงมีกระบวนการประสานงานด้านข้อมูลในรายละเอียดกันทั้งภายในและภายนอกประเทศ กระทั่งทราบว่าเรือทั้งสองลำจะเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือประเทศสิงคโปร์ ก่อนที่จะเข้าสู่ท่าเรือของประเทศไทย ซึ่งขณะนี้เรือใกล้จะถึงสิงคโปร์แล้ว
    .
    อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุที่กรณีนี้เป็นการดำเนินการที่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่อาจต้องระมัดระวังในประเด็นการไหวตัวของคนร้าย ซึ่งคาดว่ามีลักษณะเป็นขบวนการใหญ่ และพวกเขาย่อมพยายามดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อหาช่องทางลอดหนีจากการสกัดกั้นและการจับกุมไปให้ได้ ดังที่พบว่า ก่อนหน้านี้ก็มีเรือ 1 ใน 2 ลำที่ขนส่งกากอันตรายกรณีนี้หายออกไปจากสารบบการติดตามระหว่างประเทศ

    ทั้งนี้คาดว่าเรือขนกากพิษฝุ่นแดงจากแอลบาเนียม800 ตันจะมาถึงท่าเรือแหลมฉบังในวันที่ 20 สิงหาคม 2567นี้

    #Thaitimes
    อธิบดีกรมโรงงานสั่งเข้มติดตามร่วมกับกรมศุลกากรป้องกันขยะกากฝุ่นแดงพิษที่จะขนมาทางเรือจากแอลบาเนียมาทิ้งที่ไทยโดยไทยไม่อนุญาติ หลังจากปีที่แล้วไทยเคยทำหนังสือไม่ยินยอมให้เคลื่อนย้ายขยะกากพิษนี้มาไทย 14 สิงหาคม 2567-อธิบดีกรมโรงงานฯ สั่งติดตามการขนย้ายฝุ่นแดง จากประเทศแอลบาเนีย อย่างใกล้ชิด นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม มอบหมายกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ดำเนินการร่วมกับหน่วยข่าวกรองและส่วนงานปราบปรามของกรมศุลกากร เพื่อเฝ้าระวังและยับยั้งการขนย้ายของเสียอันตรายแบบผิดกฎหมาย (illegal traffic) คาดว่าเป็น Electric Arc Furnace (EAF) dust หรือ ฝุ่นแดง จากอุตสาหกรรมถลุงเหล็ก จำนวน 816 ตัน (ประมาณ 100 ตู้คอนเทนเนอร์) จากประเทศแอลบาเนีย ซึ่งเป็นของเสียอันตรายตามอนุสัญญาบาเซล และเป็นของเสียเคมีวัตถุ ตาม พ.ร.บ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 อย่างใกล้ชิด สืบเนื่องจากกรมโรงงานฯ ในฐานะหน่วยงานผู้มีอำนาจ (Competent Authority : CA) ของประเทศไทย ภายใต้ “อนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด” ได้รับการประสานงานและแจ้งข่าวการขนส่งของเสียดังกล่าวจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรหรือ NGO ด้านสิ่งแวดล้อม 3 แห่ง ได้แก่ 1.เครือข่าย Basel Action Network (BAN) สหรัฐอเมริกา 2.องค์กร Friends of the Earth ประเทศแอฟริกาใต้ และ 3.มูลนิธิบูรณะนิเวศ หรือ EARTH ประเทศไทย เพื่อยับยั้งการเคลื่อนย้ายของเสียแบบผิดกฎหมายด้วยเรือขนส่งสินค้าจำนวน 2 ลำ ที่มีต้นทางจากประเทศแอลบาเนีย ปลายทางประเทศไทย โดย ประเทศไทย ไม่เคยได้รับการแจ้งขอความยินยอมการนำเข้าของเสียดังกล่าว รวมทั้งไม่เคยยินยอมหรืออนุญาตให้มีการนำเข้าของเสียดังกล่าวแต่อย่างใด จึงถือเป็นการเคลื่อนย้ายของของเสียอันตรายแบบผิดกฎหมายภายใต้อนุสัญญาบาเซล โดยเมื่อปี 2565 ประเทศไทยเคยมีหนังสือถึงรัฐบาลประเทศแอลบาเนียไม่ยินยอมให้นำเข้าของเสียดังกล่าวมายังราชอาณาจักรไทย ล่าสุดกรมโรงงานฯ ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิด กับหน่วยงานผู้มีอำนาจ (CA) ของประเทศแอลบาเนีย (ประเทศต้นทาง) และหน่วยงาน National Environment Agency (CA ของประเทศสิงคโปร์) ซึ่งเป็นประเทศผู้นำผ่าน และคาดการณ์ว่า จะมีการถ่ายลำเรือของเสียดังกล่าว เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ จึงให้เฝ้าระวังบริเวณท่าเรือและยับยั้งการเคลื่อนย้ายของเสียดังกล่าว ทั้งนี้ กรมโรงงานฯ ได้ประสานงานกับกรมศุลกากร เพื่อติดตามตรวจสอบการนำ “ของเสียอันตรายที่ไม่ได้รับอนุญาต” เข้ามาในราชอาณาจักรไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH)เตือนภัยว่า““กรณีนี้ถือเป็นอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมข้ามชาติ...เพราะว่าเป็นการขนส่ง/เคลื่อนย้ายกากของเสียอันตรายแบบเถื่อน ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายของประเทศที่เป็นเป้าหมายปลายทางอย่างประเทศไทยเองด้วย ดังนั้นการดำเนินการที่จะรับมือและจัดการจึงต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะคู่กรณีของเราในกรณีนี้คืออาชญากรระหว่างประเทศ” เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ กล่าวอธิบายถึงกรณีเรื่องการขนย้ายฝุ่นแดงจากประเทศแอลเบเนีย หรือชื่อทางการว่าสาธารณรัฐแอลเบเนีย (Albania) ภายหลังจากที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง กรอ. กำลังประสานงานกับกรมศุลกากร เพื่อติดตามตรวจสอบกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด . ทั้งนี้ มูลนิธิบูรณะนิเวศได้รับการประสานเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวจากเครือข่าย BAN หรือ Basel Action Network ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ทำงานตรวจสอบเกี่ยวกับการปฏิบัติตามอนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด หรือที่เรียกกันโดยย่อว่า “อนุสัญญาบาเซล” (Basel Convention) ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา . ประเด็นสาระสำคัญที่ทางเครือข่าย BAN แจ้งมาในเบื้องต้นคือ ทราบว่าจะมีการขนส่งกากของเสียอันตรายที่ตามอนุสัญญาบาเซลและภาคแก้ไขของอนุสัญญาบาเซลถือเป็นของเสียอันตรายที่ห้ามเคลื่อนย้ายออกนอกประเทศที่เป็นแหล่งกำเนิด มายังประเทศไทย โดยขนส่งมาทางเรือจำนวน 2 ลำ . ในช่วงที่ผ่านมา ทางมูลนิธิบูรณะนิเวศจึงได้พยายามหาทางสื่อสารและส่งผ่านข้อมูลให้กับหน่วยงานราชการที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจึงมีกระบวนการประสานงานด้านข้อมูลในรายละเอียดกันทั้งภายในและภายนอกประเทศ กระทั่งทราบว่าเรือทั้งสองลำจะเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือประเทศสิงคโปร์ ก่อนที่จะเข้าสู่ท่าเรือของประเทศไทย ซึ่งขณะนี้เรือใกล้จะถึงสิงคโปร์แล้ว . อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุที่กรณีนี้เป็นการดำเนินการที่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่อาจต้องระมัดระวังในประเด็นการไหวตัวของคนร้าย ซึ่งคาดว่ามีลักษณะเป็นขบวนการใหญ่ และพวกเขาย่อมพยายามดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อหาช่องทางลอดหนีจากการสกัดกั้นและการจับกุมไปให้ได้ ดังที่พบว่า ก่อนหน้านี้ก็มีเรือ 1 ใน 2 ลำที่ขนส่งกากอันตรายกรณีนี้หายออกไปจากสารบบการติดตามระหว่างประเทศ ทั้งนี้คาดว่าเรือขนกากพิษฝุ่นแดงจากแอลบาเนียม800 ตันจะมาถึงท่าเรือแหลมฉบังในวันที่ 20 สิงหาคม 2567นี้ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1085 มุมมอง 0 รีวิว