• 🔥 เครื่องสับผสมอาหาร มีขนาด 5L & 13L 🔥
    เตรียมอาหารเร็วกว่าเดิม! สับละเอียดง่ายดายในไม่กี่วินาที เหมาะสำหรับร้านอาหาร ธุรกิจขนาดกลางและผู้ประกอบการที่ต้องการประหยัดเวลา
    💥 ทนทาน ใช้งานสะดวก
    💡 เปลี่ยนการเตรียมอาหารให้เป็นเรื่องง่าย!

    📞 สั่งซื้อวันนี้! โทร 02-2153515-9

    #เครื่องสับผสมอาหาร #เครื่องครัว #อุปกรณ์ทำอาหาร #ร้านอาหาร #ธุรกิจอาหาร #ทำอาหารง่าย #อุปกรณ์พาณิชย์ #ธุรกิจขนาดกลาง #ครัวมืออาชีพ
    #เครื่องสับผสม #ประหยัดเวลา #สับผสมอาหาร #เครื่องสับอาหาร

    ย.ย่งฮะเฮง จำหน่ายเครื่องจักรแปรรูปอาหาร หลากหลายชนิด

    สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ
    เวลาเปิดทำการ :
    จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00
    และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00
    แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7

    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼
    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน
    m.me/yonghahheng 👈👈 แชทเลย
    LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า)
    หรือ https://lin.ee/5H812n9
    02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    www.yoryonghahheng.com
    E-mail : sales@yoryonghahheng.com
    yonghahheng@gmail.com

    #สับพริก #สับกระเทียม #ทำหมูเด้ง #ทำหมูยอ #สับเนื้อ #เครื่องสับอาหาร
    #เครื่องสับพริก #ทำอาหารง่าย #เครื่องบดอาหาร #เครื่องผสมอาหาร
    #ทำอาหารอร่อย #เตรียมอาหารเร็ว #สับละเอียด #ทำอาหารไทย #อุปกรณ์สับผสมอาหาร
    🔥 เครื่องสับผสมอาหาร มีขนาด 5L & 13L 🔥 เตรียมอาหารเร็วกว่าเดิม! สับละเอียดง่ายดายในไม่กี่วินาที เหมาะสำหรับร้านอาหาร ธุรกิจขนาดกลางและผู้ประกอบการที่ต้องการประหยัดเวลา 💥 ทนทาน ใช้งานสะดวก 💡 เปลี่ยนการเตรียมอาหารให้เป็นเรื่องง่าย! 📞 สั่งซื้อวันนี้! โทร 02-2153515-9 #เครื่องสับผสมอาหาร #เครื่องครัว #อุปกรณ์ทำอาหาร #ร้านอาหาร #ธุรกิจอาหาร #ทำอาหารง่าย #อุปกรณ์พาณิชย์ #ธุรกิจขนาดกลาง #ครัวมืออาชีพ #เครื่องสับผสม #ประหยัดเวลา #สับผสมอาหาร #เครื่องสับอาหาร ย.ย่งฮะเฮง จำหน่ายเครื่องจักรแปรรูปอาหาร หลากหลายชนิด สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ เวลาเปิดทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00 แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼ ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน m.me/yonghahheng 👈👈 แชทเลย LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/5H812n9 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 www.yoryonghahheng.com E-mail : sales@yoryonghahheng.com yonghahheng@gmail.com #สับพริก #สับกระเทียม #ทำหมูเด้ง #ทำหมูยอ #สับเนื้อ #เครื่องสับอาหาร #เครื่องสับพริก #ทำอาหารง่าย #เครื่องบดอาหาร #เครื่องผสมอาหาร #ทำอาหารอร่อย #เตรียมอาหารเร็ว #สับละเอียด #ทำอาหารไทย #อุปกรณ์สับผสมอาหาร
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลจีนตั้งเป้าเพิ่มงบวิจัยและพัฒนาในปี 2025 เป็น 55 พันล้านดอลลาร์ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์, AI, และควอนตัมคอมพิวติ้ง เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันระดับโลก งบนี้ยังครอบคลุมการสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมผ่านโครงการสินเชื่อและสิทธิประโยชน์ทางภาษี ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ แม้ว่าผลลัพธ์อาจใช้เวลาพัฒนาไปอีกหลายปี

    จุดมุ่งหมายและโครงการสำคัญ:
    - งบประมาณส่วนหนึ่งจะถูกใช้ในโครงการ "Science and Technology Innovation 2030" ซึ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น วงจรรวม (Integrated Circuits) และ AI.
    - โครงการดังกล่าวไม่เพียงเน้นผลลัพธ์ในระยะสั้น แต่ยังสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในด้านการค้นคว้าพื้นฐาน (Fundamental Research) เพื่อการแข่งขันในอนาคต.

    การสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs):
    - รัฐบาลมีแผนสนับสนุน SMEs ที่มีศักยภาพด้านนวัตกรรมด้วยโครงการสินเชื่อพิเศษและกลไกการแบ่งปันความเสี่ยงผ่านกองทุนรับประกันการเงินระดับประเทศ.
    - นอกจากนี้ ยังมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเงินอุดหนุนเพื่อกระตุ้นการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่.

    ความสำคัญในบริบทโลก:
    - การลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงจะช่วยให้จีนก้าวทันหรือแม้กระทั่งแซงหน้าสหรัฐฯ ในการแข่งขันด้านเซมิคอนดักเตอร์และ AI

    แม้ว่าการลงทุนนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจีนในสถานการณ์ที่การเติบโตชะลอตัว แต่นักวิเคราะห์มองว่าผลลัพธ์อาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเห็นผลที่ชัดเจน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-to-spend-usd55-billion-on-r-and-d-in-2025-semiconductor-ai-and-quantum-computing-fields-to-benefit
    รัฐบาลจีนตั้งเป้าเพิ่มงบวิจัยและพัฒนาในปี 2025 เป็น 55 พันล้านดอลลาร์ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์, AI, และควอนตัมคอมพิวติ้ง เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันระดับโลก งบนี้ยังครอบคลุมการสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมผ่านโครงการสินเชื่อและสิทธิประโยชน์ทางภาษี ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ แม้ว่าผลลัพธ์อาจใช้เวลาพัฒนาไปอีกหลายปี จุดมุ่งหมายและโครงการสำคัญ: - งบประมาณส่วนหนึ่งจะถูกใช้ในโครงการ "Science and Technology Innovation 2030" ซึ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น วงจรรวม (Integrated Circuits) และ AI. - โครงการดังกล่าวไม่เพียงเน้นผลลัพธ์ในระยะสั้น แต่ยังสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในด้านการค้นคว้าพื้นฐาน (Fundamental Research) เพื่อการแข่งขันในอนาคต. การสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs): - รัฐบาลมีแผนสนับสนุน SMEs ที่มีศักยภาพด้านนวัตกรรมด้วยโครงการสินเชื่อพิเศษและกลไกการแบ่งปันความเสี่ยงผ่านกองทุนรับประกันการเงินระดับประเทศ. - นอกจากนี้ ยังมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเงินอุดหนุนเพื่อกระตุ้นการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่. ความสำคัญในบริบทโลก: - การลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงจะช่วยให้จีนก้าวทันหรือแม้กระทั่งแซงหน้าสหรัฐฯ ในการแข่งขันด้านเซมิคอนดักเตอร์และ AI แม้ว่าการลงทุนนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจีนในสถานการณ์ที่การเติบโตชะลอตัว แต่นักวิเคราะห์มองว่าผลลัพธ์อาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเห็นผลที่ชัดเจน https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-to-spend-usd55-billion-on-r-and-d-in-2025-semiconductor-ai-and-quantum-computing-fields-to-benefit
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    China to spend $55 billion on R&D in 2025 — Semiconductor, AI and quantum computing fields to benefit
    China set to inject $55 billion in research and development of fundamental technologies and innovating enterprises.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 584 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัทในสหรัฐฯ กำลังล้าหลังเมื่อพูดถึงการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation) แม้ว่าจะมีการลงทุนใน AI และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เป็นระดับโลกก็ตาม รายงานจาก Zoho พบว่าประมาณสองในห้าขององค์กรในสหรัฐฯ (39%) ยังอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงดิจิทัล โดยทั้งประเทศนี้มีความก้าวหน้าในการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก 1.2 เปอร์เซ็นต์

    สาเหตุของความล่าช้านี้ส่วนใหญ่มาจากความอ่อนแอด้านความปลอดภัยและการยอมรับเครื่องมือดิจิทัลที่ล่าช้า มีเพียง 15% ของพนักงานเท่านั้นที่รู้สึกว่าเครื่องมือที่ใช้ในที่ทำงานตรงตามความคาดหวังของพวกเขา การวิจัยเพิ่มเติมจาก WalkMe พบว่าเพียง 28% ของพนักงานรู้สึกว่าตนเองได้รับการฝึกอบรมเพียงพอ

    การก้าวจากขั้นตอนที่ 2 (การทำให้มาตรฐาน) ไปสู่ขั้นตอนที่ 3 (การดำเนินการที่มีโครงสร้าง) อาจใช้เวลาประมาณ 3-5 ปีและต้องเสียค่าใช้จ่ายระหว่าง $250-$500 ต่อพนักงานต่อปี และการก้าวไปสู่ขั้นตอนที่ 4 (การดำเนินการดิจิทัลที่เพิ่มประสิทธิภาพ) จะต้องใช้ทรัพยากรถึงสองเท่า – มากกว่า 10 ปีและ $500-$1,000 ต่อพนักงานต่อปี

    รายงานยังชี้ให้เห็นว่า 85% ของบริษัทในสหรัฐฯ ยังคงพึ่งพาการมอบหมายงานด้วยตนเองมากกว่าการใช้ระบบอัตโนมัติ เช่น อุตสาหกรรมบริการ การขนส่ง และการค้าปลีกที่มีความล่าช้ามากกว่าอุตสาหกรรม IT และการเงิน นอกจากนี้ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMBs) ยังล้าหลังกว่าบริษัทขนาดใหญ่ เนื่องจากมีทรัพยากรที่จำกัดมากขึ้น

    ปัญหาที่พบได้แก่ การใช้งานการยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย (MFA) ที่ไม่ดี (ใช้เพียงครึ่งหนึ่งของบริษัทที่วิเคราะห์) การให้สิทธิ์เข้าถึงแบบปลอดภัยเช่น VPN (มีให้ใช้เพียงหนึ่งในสี่) และการควบคุมความปลอดภัยทางกายภาพที่จำกัด (ใช้เพียงหนึ่งในสาม)

    ในทางกลับกัน การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ที่เหมาะสมสามารถเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนในการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลได้เกือบสามเท่า

    Raju Vegesna, Chief Evangelist ของ Zoho กล่าวว่าบริษัทในสหรัฐฯ มีพื้นฐานที่แข็งแรงในการทำงานร่วมกันและเครื่องมือดิจิทัล แต่ความไม่มีประสิทธิภาพในกระบวนการและความปลอดภัยเป็นอุปสรรคใหญ่ในการเปลี่ยนแปลงนี้

    https://www.techradar.com/pro/us-businesses-are-falling-behind-globally-when-it-comes-to-digital-transformation
    บริษัทในสหรัฐฯ กำลังล้าหลังเมื่อพูดถึงการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation) แม้ว่าจะมีการลงทุนใน AI และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เป็นระดับโลกก็ตาม รายงานจาก Zoho พบว่าประมาณสองในห้าขององค์กรในสหรัฐฯ (39%) ยังอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงดิจิทัล โดยทั้งประเทศนี้มีความก้าวหน้าในการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก 1.2 เปอร์เซ็นต์ สาเหตุของความล่าช้านี้ส่วนใหญ่มาจากความอ่อนแอด้านความปลอดภัยและการยอมรับเครื่องมือดิจิทัลที่ล่าช้า มีเพียง 15% ของพนักงานเท่านั้นที่รู้สึกว่าเครื่องมือที่ใช้ในที่ทำงานตรงตามความคาดหวังของพวกเขา การวิจัยเพิ่มเติมจาก WalkMe พบว่าเพียง 28% ของพนักงานรู้สึกว่าตนเองได้รับการฝึกอบรมเพียงพอ การก้าวจากขั้นตอนที่ 2 (การทำให้มาตรฐาน) ไปสู่ขั้นตอนที่ 3 (การดำเนินการที่มีโครงสร้าง) อาจใช้เวลาประมาณ 3-5 ปีและต้องเสียค่าใช้จ่ายระหว่าง $250-$500 ต่อพนักงานต่อปี และการก้าวไปสู่ขั้นตอนที่ 4 (การดำเนินการดิจิทัลที่เพิ่มประสิทธิภาพ) จะต้องใช้ทรัพยากรถึงสองเท่า – มากกว่า 10 ปีและ $500-$1,000 ต่อพนักงานต่อปี รายงานยังชี้ให้เห็นว่า 85% ของบริษัทในสหรัฐฯ ยังคงพึ่งพาการมอบหมายงานด้วยตนเองมากกว่าการใช้ระบบอัตโนมัติ เช่น อุตสาหกรรมบริการ การขนส่ง และการค้าปลีกที่มีความล่าช้ามากกว่าอุตสาหกรรม IT และการเงิน นอกจากนี้ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMBs) ยังล้าหลังกว่าบริษัทขนาดใหญ่ เนื่องจากมีทรัพยากรที่จำกัดมากขึ้น ปัญหาที่พบได้แก่ การใช้งานการยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย (MFA) ที่ไม่ดี (ใช้เพียงครึ่งหนึ่งของบริษัทที่วิเคราะห์) การให้สิทธิ์เข้าถึงแบบปลอดภัยเช่น VPN (มีให้ใช้เพียงหนึ่งในสี่) และการควบคุมความปลอดภัยทางกายภาพที่จำกัด (ใช้เพียงหนึ่งในสาม) ในทางกลับกัน การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ที่เหมาะสมสามารถเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนในการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลได้เกือบสามเท่า Raju Vegesna, Chief Evangelist ของ Zoho กล่าวว่าบริษัทในสหรัฐฯ มีพื้นฐานที่แข็งแรงในการทำงานร่วมกันและเครื่องมือดิจิทัล แต่ความไม่มีประสิทธิภาพในกระบวนการและความปลอดภัยเป็นอุปสรรคใหญ่ในการเปลี่ยนแปลงนี้ https://www.techradar.com/pro/us-businesses-are-falling-behind-globally-when-it-comes-to-digital-transformation
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 261 มุมมอง 0 รีวิว