• ทนายเดรัฐฉาน ปลอบใจตัวเองด้วยการเตือนแฟนคลับอย่าทำผิดจนต้องติดคุก ที่แท้ตัวมันเองแหละที่หวาดผวาการไปนอนซังเต
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    ทนายเดรัฐฉาน ปลอบใจตัวเองด้วยการเตือนแฟนคลับอย่าทำผิดจนต้องติดคุก ที่แท้ตัวมันเองแหละที่หวาดผวาการไปนอนซังเต #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • "บอล เขาวิเศษ" หรือ นายปราโมทย์ ชูจันทร์ หนุ่มตรัง วัย 35 ปี เริ่มต้นจากเด็กบ้านนอกคอกนาทั่วไป ช่วยพ่อแม่ทำสวนทำไร่ แต่เมื่อเข้าสู่หัวเลี้ยวหัวต่อก็หลงระเริงไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เมื่อเงินไม่พอซื้อก็ผันตัวมาเป็นเด็กเดินยา และนักค้ารายย่อย

    กระทั่งปี 52 ขณะเพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม ก็มาพบกับจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต เมื่อร่วมกับพวกก่อเหตุแทงคู่อริจนเสียชีวิต ถูกจับติดคุกอยู่ในเรือนจำจังหวัดตรังนานหลายปี พอพ้นโทษออกมาเมื่อปี 61 จากเด็กเดินยาต๊อกต๋อย ก็ขยับขึ้นชั้นเป็นผู้ค้ารายสำคัญ มีชื่อเสียง เงินทอง อำนาจบารมีชั่วช้าจนกลายเป็นไอดอลของเด็กใฝ่เลวในพื้นที่ จากสายสัมพันธ์เครือข่ายพ่อค้ายาที่รู้จักกันในเรือนจำจังหวัดตรัง

    ต่อมาเมื่อปี 62 ได้ก่อคดีจ้างวานฆ่าเจ้าของลานปาล์ม ปมหักหลังธุรกิจสีเทา แต่ระหว่างต่อสู้คดีก็ยังก่อเหตุฉุดนักเรียนสาวมัธยมจากหน้าโรงเรียนไปข่มขืนที่รีสอร์ตอีกด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000017808

    #MGROnline #บอลเขาวิเศษ
    "บอล เขาวิเศษ" หรือ นายปราโมทย์ ชูจันทร์ หนุ่มตรัง วัย 35 ปี เริ่มต้นจากเด็กบ้านนอกคอกนาทั่วไป ช่วยพ่อแม่ทำสวนทำไร่ แต่เมื่อเข้าสู่หัวเลี้ยวหัวต่อก็หลงระเริงไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เมื่อเงินไม่พอซื้อก็ผันตัวมาเป็นเด็กเดินยา และนักค้ารายย่อย • กระทั่งปี 52 ขณะเพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม ก็มาพบกับจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต เมื่อร่วมกับพวกก่อเหตุแทงคู่อริจนเสียชีวิต ถูกจับติดคุกอยู่ในเรือนจำจังหวัดตรังนานหลายปี พอพ้นโทษออกมาเมื่อปี 61 จากเด็กเดินยาต๊อกต๋อย ก็ขยับขึ้นชั้นเป็นผู้ค้ารายสำคัญ มีชื่อเสียง เงินทอง อำนาจบารมีชั่วช้าจนกลายเป็นไอดอลของเด็กใฝ่เลวในพื้นที่ จากสายสัมพันธ์เครือข่ายพ่อค้ายาที่รู้จักกันในเรือนจำจังหวัดตรัง • ต่อมาเมื่อปี 62 ได้ก่อคดีจ้างวานฆ่าเจ้าของลานปาล์ม ปมหักหลังธุรกิจสีเทา แต่ระหว่างต่อสู้คดีก็ยังก่อเหตุฉุดนักเรียนสาวมัธยมจากหน้าโรงเรียนไปข่มขืนที่รีสอร์ตอีกด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000017808 • #MGROnline #บอลเขาวิเศษ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุคสังคมเทาๆวิปริตวิบัติ.. สิ้นคิด
    ยกกำลังพล 4-500 นาย พรึบ
    คุ้มครองคนโกงบ้านกินเมือง
    ผู้เคยต้องโทษคดีโกงชาติ
    และไม่ติดคุกรับโทษแม้วันเดียว
    แล้วแบบนี้บ้านเมืองจะพัฒนา
    ให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างไร
    อย่าแปลกใจทำไมคอลเซ็นเตอร์ พนัน
    ยาเสพติด ธุรกิจเทา เต็มเมือง
    แทนที่จะปกป้องคุ้มครองคนดีเสียสละ
    แต่นี่คุ้มครองโจรปล้นชาติลงหาโจรใต้
    ยิ่งกว่าวงจรอุบาทว์จริมๆ ณ เมืองสาระขำ
    โถๆๆ อนาถใจแท้เนาะประเทศสารขัณฑ์
    มุมิมุมิ.. จุฟๆ
    ยุคสังคมเทาๆวิปริตวิบัติ.. สิ้นคิด ยกกำลังพล 4-500 นาย พรึบ คุ้มครองคนโกงบ้านกินเมือง ผู้เคยต้องโทษคดีโกงชาติ และไม่ติดคุกรับโทษแม้วันเดียว แล้วแบบนี้บ้านเมืองจะพัฒนา ให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างไร อย่าแปลกใจทำไมคอลเซ็นเตอร์ พนัน ยาเสพติด ธุรกิจเทา เต็มเมือง แทนที่จะปกป้องคุ้มครองคนดีเสียสละ แต่นี่คุ้มครองโจรปล้นชาติลงหาโจรใต้ ยิ่งกว่าวงจรอุบาทว์จริมๆ ณ เมืองสาระขำ โถๆๆ อนาถใจแท้เนาะประเทศสารขัณฑ์ มุมิมุมิ.. จุฟๆ
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอกลาภ ยิ้มวิไล คุก 5 ปี คดี Zipmex ฉ้อโกงพันล้าน

    ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ก.พ.2568 จำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นอดีตกรรมการและผู้บริหารบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) ผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่รอลงอาญา และลงโทษปรับบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ เป็นเงิน 100,000 บาท ในคดีที่ผู้เสียหายรายหนึ่งยื่นฟ้องฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 แม้นายเอกลาภยื่นขอประกันตนเองในชั้นอุทธรณ์ โดยยื่นหลักทรัพย์ 15 ล้านบาท แต่ทำเรื่องไม่ทัน จึงต้องไปคุมขังในเรือนจำ

    ถือเป็นคดีที่สั่นสะเทือนวงการคริปโตเคอเรนซี่ เพราะซิปเม็กซ์เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดัง ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับสองของไทย รองจากบิทคับ (Bitkub) ของนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2565 ซิปเม็กซ์ประกาศระงับการเพิกถอนเงินบาทและสินทรัพย์ดิจิทัลทุกกรณีเป็นการชั่วคราว ก่อนที่นายเอกลาภจะยอมรับว่าเกิดปัญหากับบริการ Zip-up ที่ลูกค้าในประเทศไทยฝากไปที่ Zipmex Global ในในสิงคโปร์ โดยคู่ค้าคือ Bebel Finance และ Celsius ประสบปัญหาสภาพคล่อง ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีอยู่ใน Zip-up ทั้ง Bitcoin Etherium USDT และ USDC มีปัญหา

    แต่กลุ่มผู้เสียหายจากการลงทุนในซิปเม็กซ์พบว่า มีการโอนเหรียญไปที่ Celsius ตั้งแต่ปี 2564 แต่เพิ่งมีการออก Term & Condition ให้ผู้ใช้งานกดยอมรับเมื่อเดือน เม.ย.2565 ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต. แม้รับทราบว่า Babel Finance และ Celsius มีปัญหาขาดสภาพคล่อง แต่ยังโฆษณาชักชวนให้ไปลงทุน ในที่สุด ก.ล.ต.ได้มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับนายเอกลาภ 7 ข้อหา และบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ 6 ข้อหา ตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล รวมเป็นเงิน 10.97 ล้านบาท ไม่นับรวมกลุ่มผู้เสียหายแจ้งความเอาผิดในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งตำรวจได้ให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไปแล้ว

    ซิปเม็กซ์ถูกเพิกถอนการอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.2567 ขณะที่กลุ่มผู้เสียหายในนาม “กลุ่มร่วมสู้ Zipmex” ประกอบด้วยสมาชิก 741 คน มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 2,667.29 ล้านบาท ได้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ต่อบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ นายเอกลาภ และผู้เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศรวม 23 ราย เรียกค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งคดีล่าสุดที่นายเอกลาภติดคุก ถือเป็นการจุดความหวังให้ผู้เสียหายฟ้องคดีเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลคดีแรกของประเทศไทย

    #Newskit
    เอกลาภ ยิ้มวิไล คุก 5 ปี คดี Zipmex ฉ้อโกงพันล้าน ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ก.พ.2568 จำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นอดีตกรรมการและผู้บริหารบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) ผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่รอลงอาญา และลงโทษปรับบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ เป็นเงิน 100,000 บาท ในคดีที่ผู้เสียหายรายหนึ่งยื่นฟ้องฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 แม้นายเอกลาภยื่นขอประกันตนเองในชั้นอุทธรณ์ โดยยื่นหลักทรัพย์ 15 ล้านบาท แต่ทำเรื่องไม่ทัน จึงต้องไปคุมขังในเรือนจำ ถือเป็นคดีที่สั่นสะเทือนวงการคริปโตเคอเรนซี่ เพราะซิปเม็กซ์เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดัง ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับสองของไทย รองจากบิทคับ (Bitkub) ของนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2565 ซิปเม็กซ์ประกาศระงับการเพิกถอนเงินบาทและสินทรัพย์ดิจิทัลทุกกรณีเป็นการชั่วคราว ก่อนที่นายเอกลาภจะยอมรับว่าเกิดปัญหากับบริการ Zip-up ที่ลูกค้าในประเทศไทยฝากไปที่ Zipmex Global ในในสิงคโปร์ โดยคู่ค้าคือ Bebel Finance และ Celsius ประสบปัญหาสภาพคล่อง ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีอยู่ใน Zip-up ทั้ง Bitcoin Etherium USDT และ USDC มีปัญหา แต่กลุ่มผู้เสียหายจากการลงทุนในซิปเม็กซ์พบว่า มีการโอนเหรียญไปที่ Celsius ตั้งแต่ปี 2564 แต่เพิ่งมีการออก Term & Condition ให้ผู้ใช้งานกดยอมรับเมื่อเดือน เม.ย.2565 ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต. แม้รับทราบว่า Babel Finance และ Celsius มีปัญหาขาดสภาพคล่อง แต่ยังโฆษณาชักชวนให้ไปลงทุน ในที่สุด ก.ล.ต.ได้มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับนายเอกลาภ 7 ข้อหา และบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ 6 ข้อหา ตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล รวมเป็นเงิน 10.97 ล้านบาท ไม่นับรวมกลุ่มผู้เสียหายแจ้งความเอาผิดในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งตำรวจได้ให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไปแล้ว ซิปเม็กซ์ถูกเพิกถอนการอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.2567 ขณะที่กลุ่มผู้เสียหายในนาม “กลุ่มร่วมสู้ Zipmex” ประกอบด้วยสมาชิก 741 คน มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 2,667.29 ล้านบาท ได้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ต่อบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ นายเอกลาภ และผู้เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศรวม 23 ราย เรียกค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งคดีล่าสุดที่นายเอกลาภติดคุก ถือเป็นการจุดความหวังให้ผู้เสียหายฟ้องคดีเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลคดีแรกของประเทศไทย #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 471 มุมมอง 0 รีวิว
  • BIG Story | ผับมรณะ: 13 ปีแห่งความทรมาน

    13 ปีผ่านไป แต่ความทุกข์ทรมานของเหยื่อ ซานติก้าผับ ยังไม่จบ คดีสิ้นสุดแต่เงินเยียวยาไม่เคยถึงมือ คำพิพากษากลายเป็นเพียงกระดาษแผ่นหนึ่ง เจ้าของผับล้มละลาย ติดคุก แล้วจบ…แต่ผู้บาดเจ็บกลับต้องใช้ชีวิตเหมือนตกนรกทั้งเป็น

    "ชดเชยค่าเสียหาย" เป็นเพียงคำสวยหรูที่ใช้ในสื่อ แต่ในความเป็นจริงไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    📲 ติดตามใน BIG STORY: ผับมรณะ 13 ปีแห่งความทรมาน บน Thaitimes App

    #BigStory #ผับมรณะ #13ปีแห่งความทรมาน #ซานติก้าผับ #ไฟไหม้สถานบันเทิง #ความยุติธรรมที่หายไป #ThaiTimes
    BIG Story | ผับมรณะ: 13 ปีแห่งความทรมาน 13 ปีผ่านไป แต่ความทุกข์ทรมานของเหยื่อ ซานติก้าผับ ยังไม่จบ คดีสิ้นสุดแต่เงินเยียวยาไม่เคยถึงมือ คำพิพากษากลายเป็นเพียงกระดาษแผ่นหนึ่ง เจ้าของผับล้มละลาย ติดคุก แล้วจบ…แต่ผู้บาดเจ็บกลับต้องใช้ชีวิตเหมือนตกนรกทั้งเป็น "ชดเชยค่าเสียหาย" เป็นเพียงคำสวยหรูที่ใช้ในสื่อ แต่ในความเป็นจริงไม่มีอะไรเกิดขึ้น 📲 ติดตามใน BIG STORY: ผับมรณะ 13 ปีแห่งความทรมาน บน Thaitimes App #BigStory #ผับมรณะ #13ปีแห่งความทรมาน #ซานติก้าผับ #ไฟไหม้สถานบันเทิง #ความยุติธรรมที่หายไป #ThaiTimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 446 มุมมอง 30 0 รีวิว
  • กรณีศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำพิพากษายกฟ้อง "ตู้ห่าว" กับอดีตเมียนายตำรวจหญิง พร้อมพวกรวม 19 คนทุกข้อกล่าวหาทั้งองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด และฟอกเงิน ต้องปล่อยตัวออกจากเรือนจำทันที หลังถูกตำรวจนครบาลจับกุมดำเนินคดีข้อหาเปิดผับ "จินหลิง" ย่านสาทร ให้ลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่เป็นชาวจีนเข้าไปมั่วยาเสพติด ส่วนลูกน้อง 6 คนโดนลงโทษข้อหายาเสพติด ติดคุกระหว่าง 21 ปี 4 เดือน ถึง 28 ปี 12 เดือน ปรับคนละ 1,706,666 ถึง 2,600,000 บาท

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000014185

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กรณีศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำพิพากษายกฟ้อง "ตู้ห่าว" กับอดีตเมียนายตำรวจหญิง พร้อมพวกรวม 19 คนทุกข้อกล่าวหาทั้งองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด และฟอกเงิน ต้องปล่อยตัวออกจากเรือนจำทันที หลังถูกตำรวจนครบาลจับกุมดำเนินคดีข้อหาเปิดผับ "จินหลิง" ย่านสาทร ให้ลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่เป็นชาวจีนเข้าไปมั่วยาเสพติด ส่วนลูกน้อง 6 คนโดนลงโทษข้อหายาเสพติด ติดคุกระหว่าง 21 ปี 4 เดือน ถึง 28 ปี 12 เดือน ปรับคนละ 1,706,666 ถึง 2,600,000 บาท อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000014185 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Angry
    Like
    Love
    Sad
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 849 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และอดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เผยแพร่บทความเรื่อง “มาตรฐานการใช้อำนาจหน้าที่” ตามมาตรา ๑๕๗ มีเนื้อหา ดังนี้

    ด้วยเห็นว่าบรรดาคำวิจารณ์ต่อคำพิพากษาศาลคดีทุจริต ให้จำคุก อาจารย์พิรงรอง รามสูต ๒ ปี ฐานใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่ง กสทช. โดยมิชอบ ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์กันระงมอยู่ในทุกวันนี้นั้น ยังคลาดเคลื่อนตกหล่น ไม่เพียงพอต่อการรับรู้โดยสมบูรณ์ ของสาธารณะ จำต้องขอวิพากษ์ให้ปรากฏในทำนอง ถาม-ตอบ ไว้ ดังต่อไปนี้


    ๑) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗

    “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปี ถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาท ถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ”

    ๒) กฎหมายมีช่องว่าง ???

    ถาม : TRUE ID ที่อ้างว่าตนถูกอาจารย์พิรงรอง ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้ตนเสียหายนั้น เขาเสนอบริการอะไร ต่อเราครับ
    ตอบ : เขาทำแพลตฟอร์ม ที่เรียกว่า OTT (Over The Top) คือ มีกล่องสัญญาณ รวมเอารายการทั้งปวง ที่ทีวีดิจิตอล หรือเคเบิลทีวี ถ่ายทอดออกมา มารวมไว้เป็นบริการให้เราเปิดเข้าถึงได้ตลอดเวลา ทำให้เราไม่จำต้องเฝ้ารอดูหน้าจอ ตามเวลาที่ ทีวีเขาถ่ายทอดอีกต่อไป OTT แบบนี้ มีมากมาย มีทั้งที่ขายสมาชิกภาพ เช่น Netflix หรือ เข้าถึงได้โดยเสรี เช่น TRUE ID

    ถาม : กิจการพวกนี้ไม่ต้องขออนุญาตหรือครับ

    ตอบ : กิจการแบบ OTT นี้ อาศัยอินเตอร์เน็ตเป็นถนนขนส่งข้อมูล ไม่ได้อาศัยคลื่นความถี่ที่กฎหมายไทยถือเป็นทรัพยากรของชาติ กฎหมาย กสทช.ปัจจุบันจึงยังไม่มีระบบใบอนุญาตมาควบคุมเหมือนทีวี ทำให้เถียงกันมาหลายปีแล้วว่า รัฐควรมีอำนาจควบคุม หรือไม่ อย่างไร

    ถาม : อาจารย์ว่าเราควรมีไหม

    ตอบ : อินเตอร์เน็ตมันเป็นทางหลวงของโลกไปแล้ว คุณจะให้ NETFLIX ที่เป็น OTT ชนิด ข้ามชาติข้ามโลก มาขออนุญาต กสทช.ไทย มันเป็นไปไม่ได้ อย่างเก่งบางรัฐเขาก็ทำได้แค่ ห้ามถ่ายทอดรายการที่มีเนื้อหาต้องห้ามเท่านั้น

    ถาม : เมื่อยังไม่มีกฎหมาย แล้วมันเกิดคดีระหว่างทรู กับอาจารย์พิรงรอง ได้อย่างไร
    ตอบ : มีผู้มาร้องเรียนต่อ กสทช. ว่า OTT ของทรู มีโฆษณาคอยแทรกตอนเปลี่ยนรายการอยู่ด้วยทุกครั้ง ผู้ร้องอ้างว่าทำอย่างนี้ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค

    ถาม : อ้าว…เมื่อเขาต้องลงทุน เขาก็ต้องโฆษณาหารายได้เป็นธรรมดา ใจคอคุณจะต้องบริโภคฟรีทุกอย่างเลยหรือ ไม่ชอบก็ไปดูแพลทฟอร์มอื่น สิครับ
    ตอบ : ในชั้นพิจารณาคำร้องทุกข์ TRUE ID นี้ ก็ยุติกันตรงจุดนี้เหมือนกัน ว่า เรายังไม่มีกฎหมายที่จะควบคุมเขา เรื่องก็เลยยุติไป แต่ปรากฏว่า อาจารย์พิรงรอง ไม่ยอมยุติ กลับนำปัญหานี้เข้ามาในอนุกรรมการใบอนุญาตโทรทัศน์ ที่ตนเป็นประธาน เพื่อผลักดัน จัดการกับ TRUE ID ให้ได้

    ๓) ยุทธการตลบหลัง!
    ถาม : เขาไม่ใช่ทีวี แล้ว กสทช. จะไปจัดการเขาได้อย่างไร
    ตอบ : หลังจากถกเถียงกันอยู่นานในที่ประชุมอนุกรรมการกำกับใบอนุญาตโทรทัศน์ อาจารย์พิรงรอง ก็ผลักดันออกมาจนเป็นความเห็นได้ว่า แม้จะยังไม่มีกฎหมายคุม OTT แต่เราก็มีอำนาจตามกฎหมาย ทีวี เตือนไปยังทีวีทั้งหมด ทั้ง ดิจิตอลและเคเบิ้ล ได้ว่า คุณจะถ่ายทอดได้ก็แต่เฉพาะช่องทางที่เราอนุญาตไว้ และถ้ามีรายการประเภทบังคับให้ถ่ายทอด ( Must Carry) คุณก็จะให้มีโฆษณาปรากฏด้วย ไม่ได้

    ถาม : หมายความว่า จะจัดการให้พวกทีวี ต้องยอมปฏิเสธ ไม่ให้พวก OTT เอารายการของตน ไปใส่กล่องสัญญาณ เช่นนั้นหรือ
    ตอบ : ถูกต้องครับ เมื่อยังไม่มีกฎหมาย OTT เราก็ใช้กฎหมายทีวีนี่แหละ ไป “ตลบหลัง” บีบทีวีทั้งหลาย ให้ปฏิเสธไม่ให้ถ่ายทอดรายการของตนได้ ซึ่งหลังจากเถียงกันอยู่นาน ในที่สุดก็ออกมาเป็นหนังสือเตือนถึง ทีวี ๑๒๗ เจ้า เมื่อ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ จนได้

    ๔) ล้มยักษ์!


    ถาม : เขาเตือนมาเป็นการทั่วไป ตามการตีความกฎหมายของเขา ถูกผิดอย่างไร ก็ไปให้ศาลปกครองชี้ขาดได้ ทำไม ทรู มาฟ้องเป็นคดีอาญา เอาถึงติดคุก ๒ ปี แบบนี้
    ตอบ : มันมีการออกหนังสือเตือนฉบับที่สอง เตือนซ้ำมาอีกครั้ง เมื่อ ๓ มีนาคม ๒๕๖๖ ครั้งนี้เติมความมาอีกว่า การถ่ายทอดทีวี ผ่านช่องทางอื่น เช่น OTT นั้น OTT ดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตด้วย จากนั้นก็เลยระบุถึง TRUE ID โดยเจาะจงเลยว่า รายนี้ยังใม่ได้ขออนุญาต จึงเรียนมาให้ทุกท่านทราบ และทำตามกฎหมายโดยเคร่งครัดด้วย

    พอออกหนังสือเตือนเติมมาอย่างนี้แล้ว อาจารย์พิรงรอง ก็สั่งให้แก้ไขรายงานการประชุม เพิ่มความลงไปอีกว่า ที่ประชุมมีมติให้ ระบุ กรณี TRUE ID ลงไปในคำเตือนด้วย



    ถาม : เห็นศาลระบุว่า รายงานส่วนที่เติมนี้เป็นความเท็จ คือ ที่ประชุมไม่ได้มีมติเช่นนั้นเลย
    ตอบ : ครับ คดียังได้ความจากเทปประชุมอีกนะครับว่า อาจารย์พิรงรอง พูดว่า งานนี้เราต้องเตียมตัว “ล้มยักษ์” พอศาล ถามว่า “ยักษ์” ในที่นี้คือใคร อาจารย์ก็รับกับศาลว่า ตนหมายถึง TRUE ID เรื่องมันก็เลยชัดเจนต่อศาล ว่า กสทช. คนนี้ใช้อำนาจหน้าที่ครั้งที่สองนี้ เพื่อมุ่งจัดการกับกล่องสัญญาณของทรู โดยเฉพาะ

    ทรู เขาเห็นว่า อยู่ดีๆ มาหยิบเฉพาะกล่องสัญญาณของเขารายเดียว มาระบุว่า ยังไม่ได้รับอนุญาตได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ก็รู้ดีว่า กสทช. ยังไม่มีประกาศรับอนุญาตกล่องสัญญาณ OTT เลย การระบุชื่อเขาขึ้นมาลอยๆ ในคำเตือนอย่างนี้ ยังผลทำให้ทีวีช่องต่างๆ พากันไม่ไว้วางใจที่จะตกลงกับ TRUE ID อีกต่อไป ทรูเขาก็เลยอ้างความเสียหายนี้มาฟ้อง ๑๕๗ ในที่สุด

    ถาม : เทปรายงานการประชุมที่ว่านี้ ฝ่ายต่อต้านเอ็นจีโอใน กสทช. ต้องส่งมาให้ TRUE แน่ๆ เลย
    ตอบ : ผมพอรู้จักคนใน กสทช.อยู่บ้าง ได้เช็กกับเขาแล้ว พบว่า เทปนี้ปรากฏขึ้นในศาลเองครับ เพราะชั้นแรก ทรู ฟ้อง ผอ.ที่ลงนามในหนังสือเท่านั้น ผอ.คนนี้ก็เลยต้องเอาเทปมาแสดงต่อศาลว่า ตนทำตามคำสั่งของประธาน ที่สั่งไว้อย่างนี้ ทรูเลยหันมาฟ้องอาจารย์พิรงรอง ในที่สุด

    ๕) “ความผิด” ตามคำพิพากษา


    ถาม : สรุปแล้วหนังสือเตือนฉบับนี้ ผิดพลาดจากกฎหมายอย่างไร
    ตอบ : ที่ชัดเป็นข้อแรก คือ การตีความกฎหมายทีวี ไปตลบหลังจัดการกับ OTT อย่างนี้ มันมีประเด็นต้องเถียงกันได้อีกมากว่า ทำได้โดยชอบหรือไม่ ซึ่งเรื่องสำคัญอย่างนี้ต้องผ่านมติ กสทช.ก่อน อนุกรรมการที่คุมทีวี ไม่มีอำนาจชี้ขาดเอง เตือนเองได้เลย ตรงจุดนี้นับเป็นพฤติการณ์ล้ำหน้าชัดเจน

    ถาม : แล้วการแต่งรายงานประชุมเป็นเท็จ ล่ะครับ
    ตอบ : นั่นแสดงถึงความไม่สุจริต จะเอาให้ได้ดั่งใจตนให้จงได้ ทั้งๆ ที่ในที่ประชุมไม่ได้มีมติอย่างนั้น และค้านกันไว้ระงมว่า ทำไม่ได้ ถูกฟ้องได้ ก็ไม่ยอมเชื่อ

    ถาม : แล้วใครยอมออกหนังสือเตือนเป็นทางการ ในนาม กสทช.
    ตอบ : เป็นระดับ ผอ.เท่านั้น เพราะระดับ รองเลขาฯ กสทช. ไม่ยอมลงนาม รู้ทัน พากันติดราชการต่างประเทศ หรือต่างจังหวัดกันหมด มี ผอ.ใจถึง ยอมอยู่คนเดียว ท่านก็เลยโดนฟ้องไปด้วย

    ถาม : ลำพังออกหนังสือเตือนโดยไม่ผ่านมติ กสทช. ไม่ผ่านมติอนุกรรมการ ก็ติดคุก ผิด ๑๕๗ เลยหรือครับ
    ตอบ : มันมีองค์ประกอบข้อสองมาสมทบว่า นี่ไม่ใช่ความผิดพลาดเท่านั้น แต่มันมีเจตนาพิเศษยืนอยู่ในใจ ทำไปเพื่อจะให้ TRUE ID เขาเสียหาย การทำรายงานการประชุมเป็นเท็จ ดื้อดึง เติมคดี TRUE ID ลงไปในหนังสือเตือนฉบับที่สอง ด้วยคำรับว่าจะ “ล้มยักษ์” นั้น มันแสดงชัดเจนว่า งานนี้ไม่ใช่คำเตือนทั่วไปเพื่อแก้ปัญหาทั่วไป หากแต่มุ่งจะจัดการกับทรู เท่านั้น จริงๆ
    แม้ภายหลังจากที่เกิดเป็นคดีแล้ว จะมีการเตือนเพิ่มเติมไปถึง OTT ของ AIS เพื่อให้ดูดีขึ้น เที่ยงธรรมขึ้น ก็ตาม แต่นั่นก็สายเกินการไปเสียแล้ว

    ถาม : ตกลง อาจารย์เห็นว่า ศาลอาญาคดีทุจริต ไม่ได้ใช้มาตรา ๑๕๗ โดยพร่ำเพื่อ อย่างที่เขาวิพากษ์กันใช่ไหมครับ
    ตอบ : “ตัวการกระทำ” มันนอกกฎหมายจริงๆ ส่วน “ตัวคน” ก็มีเจตนาทำไปเพื่อจะให้เขาเสียหายชัดเจน ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่เห็นทางจะตัดสินเป็นอย่างอื่นได้ ไม่ทราบจริงๆ ว่า ใครเป็นที่ปรึกษากฎหมายของอาจารย์ พามาตายกลางถนนอย่างนี้ได้อย่างไร

    คดีนี้เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า ไม่ว่าคุณจะฝังใจคิดทำเพื่อมวลมหาผู้บริโภค จนเป็นความสุจริตฝังแน่นอยู่ในใจอย่างไรก็ตาม แต่ตำแหน่ง กสทช.ที่คุณเข้ามานั่งนั้น มันมีกรอบกฎหมายรอครอบหัวคุณอยู่เสมอว่า ตัวคุณนั้นไม่มีอำนาจในตัวเอง เรืองแสงด้วยตัวเองไม่ได้ อย่าทำอะไรที่เกินกฎหมาย และต้องเที่ยงตรงเสมอภาคทุกครั้ง

    ถาม : ความเสมอภาคที่ว่านี้ ถ้าจะเปรียบเทียบก็เข้าทำนองว่า นโยบายกวาดล้างซ่องของท่านผู้กำกับนั้นถูกต้องก็จริง แต่ท่านจะประกาศออกมาเพื่อจ้องจับอยู่ซ่องเดียว ไม่ได้ ใช่มั้ยครับ
    ตอบ : ถูกต้อง…ถ้ากฎหมายถูกเลือกใช้ได้ตามอำเภอใจ มันก็ไม่ใช่กฎหมายแล้ว ประเทศไทยเรานี้ มีปัญหาเรื่องความไม่เสมอภาคภายใต้กฎหมายแบบนี้มากจริงๆ นะครับ

    คุณดูสิ… ขนาดไม่ยอมติดคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุด ก็ยังทำได้เลย เห็นไหม แล้วอย่างนี้บ้านเมืองเราจะไปรอดได้อย่างไร ?????
    นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และอดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เผยแพร่บทความเรื่อง “มาตรฐานการใช้อำนาจหน้าที่” ตามมาตรา ๑๕๗ มีเนื้อหา ดังนี้ ด้วยเห็นว่าบรรดาคำวิจารณ์ต่อคำพิพากษาศาลคดีทุจริต ให้จำคุก อาจารย์พิรงรอง รามสูต ๒ ปี ฐานใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่ง กสทช. โดยมิชอบ ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์กันระงมอยู่ในทุกวันนี้นั้น ยังคลาดเคลื่อนตกหล่น ไม่เพียงพอต่อการรับรู้โดยสมบูรณ์ ของสาธารณะ จำต้องขอวิพากษ์ให้ปรากฏในทำนอง ถาม-ตอบ ไว้ ดังต่อไปนี้ ๑) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปี ถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาท ถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ” ๒) กฎหมายมีช่องว่าง ??? ถาม : TRUE ID ที่อ้างว่าตนถูกอาจารย์พิรงรอง ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้ตนเสียหายนั้น เขาเสนอบริการอะไร ต่อเราครับ ตอบ : เขาทำแพลตฟอร์ม ที่เรียกว่า OTT (Over The Top) คือ มีกล่องสัญญาณ รวมเอารายการทั้งปวง ที่ทีวีดิจิตอล หรือเคเบิลทีวี ถ่ายทอดออกมา มารวมไว้เป็นบริการให้เราเปิดเข้าถึงได้ตลอดเวลา ทำให้เราไม่จำต้องเฝ้ารอดูหน้าจอ ตามเวลาที่ ทีวีเขาถ่ายทอดอีกต่อไป OTT แบบนี้ มีมากมาย มีทั้งที่ขายสมาชิกภาพ เช่น Netflix หรือ เข้าถึงได้โดยเสรี เช่น TRUE ID ถาม : กิจการพวกนี้ไม่ต้องขออนุญาตหรือครับ ตอบ : กิจการแบบ OTT นี้ อาศัยอินเตอร์เน็ตเป็นถนนขนส่งข้อมูล ไม่ได้อาศัยคลื่นความถี่ที่กฎหมายไทยถือเป็นทรัพยากรของชาติ กฎหมาย กสทช.ปัจจุบันจึงยังไม่มีระบบใบอนุญาตมาควบคุมเหมือนทีวี ทำให้เถียงกันมาหลายปีแล้วว่า รัฐควรมีอำนาจควบคุม หรือไม่ อย่างไร ถาม : อาจารย์ว่าเราควรมีไหม ตอบ : อินเตอร์เน็ตมันเป็นทางหลวงของโลกไปแล้ว คุณจะให้ NETFLIX ที่เป็น OTT ชนิด ข้ามชาติข้ามโลก มาขออนุญาต กสทช.ไทย มันเป็นไปไม่ได้ อย่างเก่งบางรัฐเขาก็ทำได้แค่ ห้ามถ่ายทอดรายการที่มีเนื้อหาต้องห้ามเท่านั้น ถาม : เมื่อยังไม่มีกฎหมาย แล้วมันเกิดคดีระหว่างทรู กับอาจารย์พิรงรอง ได้อย่างไร ตอบ : มีผู้มาร้องเรียนต่อ กสทช. ว่า OTT ของทรู มีโฆษณาคอยแทรกตอนเปลี่ยนรายการอยู่ด้วยทุกครั้ง ผู้ร้องอ้างว่าทำอย่างนี้ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค ถาม : อ้าว…เมื่อเขาต้องลงทุน เขาก็ต้องโฆษณาหารายได้เป็นธรรมดา ใจคอคุณจะต้องบริโภคฟรีทุกอย่างเลยหรือ ไม่ชอบก็ไปดูแพลทฟอร์มอื่น สิครับ ตอบ : ในชั้นพิจารณาคำร้องทุกข์ TRUE ID นี้ ก็ยุติกันตรงจุดนี้เหมือนกัน ว่า เรายังไม่มีกฎหมายที่จะควบคุมเขา เรื่องก็เลยยุติไป แต่ปรากฏว่า อาจารย์พิรงรอง ไม่ยอมยุติ กลับนำปัญหานี้เข้ามาในอนุกรรมการใบอนุญาตโทรทัศน์ ที่ตนเป็นประธาน เพื่อผลักดัน จัดการกับ TRUE ID ให้ได้ ๓) ยุทธการตลบหลัง! ถาม : เขาไม่ใช่ทีวี แล้ว กสทช. จะไปจัดการเขาได้อย่างไร ตอบ : หลังจากถกเถียงกันอยู่นานในที่ประชุมอนุกรรมการกำกับใบอนุญาตโทรทัศน์ อาจารย์พิรงรอง ก็ผลักดันออกมาจนเป็นความเห็นได้ว่า แม้จะยังไม่มีกฎหมายคุม OTT แต่เราก็มีอำนาจตามกฎหมาย ทีวี เตือนไปยังทีวีทั้งหมด ทั้ง ดิจิตอลและเคเบิ้ล ได้ว่า คุณจะถ่ายทอดได้ก็แต่เฉพาะช่องทางที่เราอนุญาตไว้ และถ้ามีรายการประเภทบังคับให้ถ่ายทอด ( Must Carry) คุณก็จะให้มีโฆษณาปรากฏด้วย ไม่ได้ ถาม : หมายความว่า จะจัดการให้พวกทีวี ต้องยอมปฏิเสธ ไม่ให้พวก OTT เอารายการของตน ไปใส่กล่องสัญญาณ เช่นนั้นหรือ ตอบ : ถูกต้องครับ เมื่อยังไม่มีกฎหมาย OTT เราก็ใช้กฎหมายทีวีนี่แหละ ไป “ตลบหลัง” บีบทีวีทั้งหลาย ให้ปฏิเสธไม่ให้ถ่ายทอดรายการของตนได้ ซึ่งหลังจากเถียงกันอยู่นาน ในที่สุดก็ออกมาเป็นหนังสือเตือนถึง ทีวี ๑๒๗ เจ้า เมื่อ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ จนได้ ๔) ล้มยักษ์! ถาม : เขาเตือนมาเป็นการทั่วไป ตามการตีความกฎหมายของเขา ถูกผิดอย่างไร ก็ไปให้ศาลปกครองชี้ขาดได้ ทำไม ทรู มาฟ้องเป็นคดีอาญา เอาถึงติดคุก ๒ ปี แบบนี้ ตอบ : มันมีการออกหนังสือเตือนฉบับที่สอง เตือนซ้ำมาอีกครั้ง เมื่อ ๓ มีนาคม ๒๕๖๖ ครั้งนี้เติมความมาอีกว่า การถ่ายทอดทีวี ผ่านช่องทางอื่น เช่น OTT นั้น OTT ดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตด้วย จากนั้นก็เลยระบุถึง TRUE ID โดยเจาะจงเลยว่า รายนี้ยังใม่ได้ขออนุญาต จึงเรียนมาให้ทุกท่านทราบ และทำตามกฎหมายโดยเคร่งครัดด้วย พอออกหนังสือเตือนเติมมาอย่างนี้แล้ว อาจารย์พิรงรอง ก็สั่งให้แก้ไขรายงานการประชุม เพิ่มความลงไปอีกว่า ที่ประชุมมีมติให้ ระบุ กรณี TRUE ID ลงไปในคำเตือนด้วย ถาม : เห็นศาลระบุว่า รายงานส่วนที่เติมนี้เป็นความเท็จ คือ ที่ประชุมไม่ได้มีมติเช่นนั้นเลย ตอบ : ครับ คดียังได้ความจากเทปประชุมอีกนะครับว่า อาจารย์พิรงรอง พูดว่า งานนี้เราต้องเตียมตัว “ล้มยักษ์” พอศาล ถามว่า “ยักษ์” ในที่นี้คือใคร อาจารย์ก็รับกับศาลว่า ตนหมายถึง TRUE ID เรื่องมันก็เลยชัดเจนต่อศาล ว่า กสทช. คนนี้ใช้อำนาจหน้าที่ครั้งที่สองนี้ เพื่อมุ่งจัดการกับกล่องสัญญาณของทรู โดยเฉพาะ ทรู เขาเห็นว่า อยู่ดีๆ มาหยิบเฉพาะกล่องสัญญาณของเขารายเดียว มาระบุว่า ยังไม่ได้รับอนุญาตได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ก็รู้ดีว่า กสทช. ยังไม่มีประกาศรับอนุญาตกล่องสัญญาณ OTT เลย การระบุชื่อเขาขึ้นมาลอยๆ ในคำเตือนอย่างนี้ ยังผลทำให้ทีวีช่องต่างๆ พากันไม่ไว้วางใจที่จะตกลงกับ TRUE ID อีกต่อไป ทรูเขาก็เลยอ้างความเสียหายนี้มาฟ้อง ๑๕๗ ในที่สุด ถาม : เทปรายงานการประชุมที่ว่านี้ ฝ่ายต่อต้านเอ็นจีโอใน กสทช. ต้องส่งมาให้ TRUE แน่ๆ เลย ตอบ : ผมพอรู้จักคนใน กสทช.อยู่บ้าง ได้เช็กกับเขาแล้ว พบว่า เทปนี้ปรากฏขึ้นในศาลเองครับ เพราะชั้นแรก ทรู ฟ้อง ผอ.ที่ลงนามในหนังสือเท่านั้น ผอ.คนนี้ก็เลยต้องเอาเทปมาแสดงต่อศาลว่า ตนทำตามคำสั่งของประธาน ที่สั่งไว้อย่างนี้ ทรูเลยหันมาฟ้องอาจารย์พิรงรอง ในที่สุด ๕) “ความผิด” ตามคำพิพากษา ถาม : สรุปแล้วหนังสือเตือนฉบับนี้ ผิดพลาดจากกฎหมายอย่างไร ตอบ : ที่ชัดเป็นข้อแรก คือ การตีความกฎหมายทีวี ไปตลบหลังจัดการกับ OTT อย่างนี้ มันมีประเด็นต้องเถียงกันได้อีกมากว่า ทำได้โดยชอบหรือไม่ ซึ่งเรื่องสำคัญอย่างนี้ต้องผ่านมติ กสทช.ก่อน อนุกรรมการที่คุมทีวี ไม่มีอำนาจชี้ขาดเอง เตือนเองได้เลย ตรงจุดนี้นับเป็นพฤติการณ์ล้ำหน้าชัดเจน ถาม : แล้วการแต่งรายงานประชุมเป็นเท็จ ล่ะครับ ตอบ : นั่นแสดงถึงความไม่สุจริต จะเอาให้ได้ดั่งใจตนให้จงได้ ทั้งๆ ที่ในที่ประชุมไม่ได้มีมติอย่างนั้น และค้านกันไว้ระงมว่า ทำไม่ได้ ถูกฟ้องได้ ก็ไม่ยอมเชื่อ ถาม : แล้วใครยอมออกหนังสือเตือนเป็นทางการ ในนาม กสทช. ตอบ : เป็นระดับ ผอ.เท่านั้น เพราะระดับ รองเลขาฯ กสทช. ไม่ยอมลงนาม รู้ทัน พากันติดราชการต่างประเทศ หรือต่างจังหวัดกันหมด มี ผอ.ใจถึง ยอมอยู่คนเดียว ท่านก็เลยโดนฟ้องไปด้วย ถาม : ลำพังออกหนังสือเตือนโดยไม่ผ่านมติ กสทช. ไม่ผ่านมติอนุกรรมการ ก็ติดคุก ผิด ๑๕๗ เลยหรือครับ ตอบ : มันมีองค์ประกอบข้อสองมาสมทบว่า นี่ไม่ใช่ความผิดพลาดเท่านั้น แต่มันมีเจตนาพิเศษยืนอยู่ในใจ ทำไปเพื่อจะให้ TRUE ID เขาเสียหาย การทำรายงานการประชุมเป็นเท็จ ดื้อดึง เติมคดี TRUE ID ลงไปในหนังสือเตือนฉบับที่สอง ด้วยคำรับว่าจะ “ล้มยักษ์” นั้น มันแสดงชัดเจนว่า งานนี้ไม่ใช่คำเตือนทั่วไปเพื่อแก้ปัญหาทั่วไป หากแต่มุ่งจะจัดการกับทรู เท่านั้น จริงๆ แม้ภายหลังจากที่เกิดเป็นคดีแล้ว จะมีการเตือนเพิ่มเติมไปถึง OTT ของ AIS เพื่อให้ดูดีขึ้น เที่ยงธรรมขึ้น ก็ตาม แต่นั่นก็สายเกินการไปเสียแล้ว ถาม : ตกลง อาจารย์เห็นว่า ศาลอาญาคดีทุจริต ไม่ได้ใช้มาตรา ๑๕๗ โดยพร่ำเพื่อ อย่างที่เขาวิพากษ์กันใช่ไหมครับ ตอบ : “ตัวการกระทำ” มันนอกกฎหมายจริงๆ ส่วน “ตัวคน” ก็มีเจตนาทำไปเพื่อจะให้เขาเสียหายชัดเจน ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่เห็นทางจะตัดสินเป็นอย่างอื่นได้ ไม่ทราบจริงๆ ว่า ใครเป็นที่ปรึกษากฎหมายของอาจารย์ พามาตายกลางถนนอย่างนี้ได้อย่างไร คดีนี้เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า ไม่ว่าคุณจะฝังใจคิดทำเพื่อมวลมหาผู้บริโภค จนเป็นความสุจริตฝังแน่นอยู่ในใจอย่างไรก็ตาม แต่ตำแหน่ง กสทช.ที่คุณเข้ามานั่งนั้น มันมีกรอบกฎหมายรอครอบหัวคุณอยู่เสมอว่า ตัวคุณนั้นไม่มีอำนาจในตัวเอง เรืองแสงด้วยตัวเองไม่ได้ อย่าทำอะไรที่เกินกฎหมาย และต้องเที่ยงตรงเสมอภาคทุกครั้ง ถาม : ความเสมอภาคที่ว่านี้ ถ้าจะเปรียบเทียบก็เข้าทำนองว่า นโยบายกวาดล้างซ่องของท่านผู้กำกับนั้นถูกต้องก็จริง แต่ท่านจะประกาศออกมาเพื่อจ้องจับอยู่ซ่องเดียว ไม่ได้ ใช่มั้ยครับ ตอบ : ถูกต้อง…ถ้ากฎหมายถูกเลือกใช้ได้ตามอำเภอใจ มันก็ไม่ใช่กฎหมายแล้ว ประเทศไทยเรานี้ มีปัญหาเรื่องความไม่เสมอภาคภายใต้กฎหมายแบบนี้มากจริงๆ นะครับ คุณดูสิ… ขนาดไม่ยอมติดคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุด ก็ยังทำได้เลย เห็นไหม แล้วอย่างนี้บ้านเมืองเราจะไปรอดได้อย่างไร ?????
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศเหนือ

    เดือนนี้ ตัดสินใจในเชิงธุรกิจจะเสียหายผิดพลาดผิดหวัง จะเกิดปัญหานินทาว่าร้ายเป็นเหตุซ่อนเงื่อนหักหลังแตกแยกทางการค้าอย่างรุนแรง ทำธุรกิจผิดกฎหมายจะส่งผลให้เกิดการฟ้องร้องขึ้นศาลมีคดีความติดตัวเป็นเหตุให้ติดคุกติดตะรางถูกจองจำได้ จะเกิดอันตรายจากอุบัติเหตุให้เลือดตกยางออกบาดเจ็บจนเสียเลือดเสียเนื้อด้วยอาวุธและของมีคม ชายหนุ่มไม่ควรหมกมุ่นเรื่องเพศเกินไปจะเกิดเรื่องชู้สาวให้อื้อฉาวจนผู้หญิงเสียผู้เสียคน ชีวิตคู่ไม่ราบรื่นครอบครัวแตกแยกเกิดปัญหาทั้งภายในภายนอกต่อกัน ควรระวังสุขภาพจะมีปัญหาที่ปาก ลิ้น ปอด คอ ฟัน มดลูก รังไข่ ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ อีกทั้งมีโอกาสพบภูติผีปีศาจหลอกหลอน

    เสริมมงคล : วางพรมสีน้ำเงิน
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศเหนือ เดือนนี้ ตัดสินใจในเชิงธุรกิจจะเสียหายผิดพลาดผิดหวัง จะเกิดปัญหานินทาว่าร้ายเป็นเหตุซ่อนเงื่อนหักหลังแตกแยกทางการค้าอย่างรุนแรง ทำธุรกิจผิดกฎหมายจะส่งผลให้เกิดการฟ้องร้องขึ้นศาลมีคดีความติดตัวเป็นเหตุให้ติดคุกติดตะรางถูกจองจำได้ จะเกิดอันตรายจากอุบัติเหตุให้เลือดตกยางออกบาดเจ็บจนเสียเลือดเสียเนื้อด้วยอาวุธและของมีคม ชายหนุ่มไม่ควรหมกมุ่นเรื่องเพศเกินไปจะเกิดเรื่องชู้สาวให้อื้อฉาวจนผู้หญิงเสียผู้เสียคน ชีวิตคู่ไม่ราบรื่นครอบครัวแตกแยกเกิดปัญหาทั้งภายในภายนอกต่อกัน ควรระวังสุขภาพจะมีปัญหาที่ปาก ลิ้น ปอด คอ ฟัน มดลูก รังไข่ ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ อีกทั้งมีโอกาสพบภูติผีปีศาจหลอกหลอน เสริมมงคล : วางพรมสีน้ำเงิน ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ และอดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกบทความเรื่อง “มาตรฐานการใช้อำนาจหน้าที่” ตามมาตรา ๑๕๗

    ด้วยเห็นว่าบรรดาคำวิจารณ์ต่อคำพิพากษาศาลคดีทุจริต ให้จำคุกอาจารย์พิรงรอง รามสูต ๒ ปี ฐานใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่ง กสทช. โดยมิชอบ ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์กันระงมอยู่ในทุกวันนี้นั้น ยังคลาดเคลื่อนตกหล่น ไม่เพียงพอต่อการรับรู้โดยสมบูรณ์ของสาธารณะ จำต้องขอวิพากษ์ให้ปรากฏในทำนอง ถาม-ตอบ ไว้ ดังต่อไปนี้

    ๑) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗

    “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ”

    ๒) กฎหมายมีช่องว่าง???

    - ถาม TRUE ID ที่อ้างว่าตนถูกอาจารย์พิรงรองใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้ตนเสียหายนั้น เขาเสนอบริการอะไร
    ต่อเราครับ

    ตอบ เขาทำแพลทฟอ์มที่เรียกว่า OTT (Over The Top) คือมีกล่องสัญญาณรวมเอารายการทั้งปวง ที่ทีวีดิจิตอล หรือเคเบิลทีวี ถ่ายทอดออกมา มารวมไว้เป็นบริการให้เราเปิดเข้าถึงได้ตลอดเวลา ทำให้เราไม่จำต้องเฝ้ารอดูหน้าจอตามเวลาที่ ทีวีเขาถ่ายทอดอีกต่อไป OTT แบบนี้ มีมากมาย มีทั้งที่ขายสมาชิกภาพ เช่น Netflix หรือเข้าถึงได้โดยเสรีเช่น TRUE ID

    - ถาม กิจการพวกนี้ไม่ต้องขออนุญาตหรือครับ

    ตอบ กิจการแบบ OTT นี้อาศัยอินเตอร์เน็ตเป็นถนนขนส่งข้อมูล ไม่ได้อาศัยคลื่นความถี่ . ที่กฎหมายไทยถือเป็นทรัพยากรของชาติ กฎหมาย กสทช.ปัจจุบันจึงยังไม่มีระบบใบอนุญาตมาควบคุมเหมือนทีวี ทำให้เถียงกันมาหลายปีแล้วว่ารัฐควรมีอำนาจควบคุมหรือไม่ อย่างไร

    - ถาม อาจารย์ว่าเราควรมีไหม

    ตอบ อินเตอร์เน็ตมันเป็นทางหลวงของโลกไปแล้ว คุณจะให้ NETFLIX ที่เป็น OTT ชนิด ข้ามชาติข้ามโลก มาขออนุญาต กสทช.ไทย มันเป็นไปไม่ได้ อย่างเก่งบางรัฐเขาก็ทำได้แค่ห้ามถ่ายทอดรายการที่มีเนื้อหาต้องห้ามเท่านั้น

    - ถาม เมื่อยังไม่มีกฎหมายแล้วมันเกิดคดีระหว่างทรูกับอาจารย์พิรงรองได้อย่างไร

    ตอบ มีผู้มาร้องเรียนต่อ กสทช.ว่า OTT ของทรู มีโฆษณาคอยแทรกตอนเปลี่ยนรายการอยู่ด้วยทุกครั้ง ผู้ร้องอ้างว่าทำอย่างนี้ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค

    - ถาม อ้าว…เมื่อเขาต้องลงทุน เขาก็ต้องโฆษณาหารายได้เป็นธรรมดา ใจคอคุณจะต้องบริโภคฟรีทุกอย่างเลยหรือ ไม่ชอบก็ไปดูแพลทฟอร์มอื่นสิครับ

    ตอบ ในชั้นพิจารณาคำร้องทุกข์ TRUE ID นี้ ก็ยุติกันตรงจุดนี้เหมือนกันว่า เรายังไม่มีกฎหมายที่จะควบคุมเขา เรื่องก็เลยยุติไป แต่ปรากฏว่าอาจารย์พิรงรอง ไม่ยอมยุติ กลับนำปัญหานี้เข้ามาในอนุกรรมการใบอนุญาตโทรทัศน์ที่ตนเป็นประธาน เพื่อผลักดันจัดการกับ TRUE ID ให้ได้

    ๓) ยุทธการตลบหลัง!

    - ถาม เขาไม่ใช่ทีวี แล้ว กสทช.จะไปจัดการเขาได้อย่างไร

    ตอบ หลังจากถกเถียงกันอยู่นานในที่ประชุมอนุกรรมการกำกับใบอนุญาตโทรทัศน์ อาจารย์พิรงรองก็ผลักดันออกมาจนเป็นความเห็นได้ว่า แม้จะยังไม่มีกฎหมายคุม OTT แต่เราก็มีอำนาจตามกฎหมาย ทีวี เตือนไปยังทีวีทั้งหมดทั้ง ดิจิตอลและเคเบิ้ลได้ว่า คุณจะถ่ายทอดได้ก็แต่เฉพาะช่องทางที่เราอนุญาตไว้ และถ้ามีรายการประเภทบังคับให้ถ่ายทอด ( Must Carry) คุณก็จะให้มีโฆษณาปรากฏด้วยไม่ได้

    - ถาม หมายความว่า จะจัดการให้พวกทีวี ต้องยอมปฏิเสธไม่ให้พวก OTT เอารายการของตนไปใส่กล่องสัญญาณ เช่นนั้นหรือ

    ตอบ ถูกต้องครับ เมื่อยังไม่มีกฎหมาย OTT เราก็ใช้กฎหมายทีวีนี่แหละ ไป“ตลบหลัง”บีบทีวีทั้งหลายให้ปฏิเสธไม่ให้ถ่ายทอดรายการของตนได้ ซึ่งหลังจากเถียงกันอยู่นานในที่สุดก็ออกมาเป็นหนังสือเตือนถึงทีวี ๑๒๗ เจ้า เมื่อ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ จนได้

    ๔) ล้มยักษ์!

    - ถาม เขาเตือนมาเป็นการทั่วไป ตามการตีความกฎหมายของเขา ถูกผิดอย่างไรก็ไปให้ศาลปกครองชี้ขาดได้ ทำไมทรูมาฟ้องเป็นคดีอาญาเอาถึงติดคุก ๒ ปีแบบนี้

    ตอบ มันมีการออกหนังสือเตือนฉบับที่สองเตือนซ้ำมาอีกครั้ง เมื่อ ๓ มีนาคม ๒๕๖๖ ครั้งนี้เติมความมาอีกว่า การถ่ายทอดทีวีผ่านช่องทางอื่นเช่น OTT นั้น OTT ดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตด้วย จากนั้นก็เลยระบุถึงTRUE ID โดยเจาะจงเลยว่า รายนี้ยังใม่ได้ขออนุญาต จึงเรียนมาให้ทุกท่านทราบและทำตามกฎหมายโดยเคร่งครัดด้วย

    พอออกหนังสือเตือนเติมมาอย่างนี้แล้ว อาจารย์พิรงรอง ก็สั่งให้แก้ไขรายงานการประชุมเพิ่มความลงไปอีกว่าที่ประชุมมีมติให้ระบุ กรณี TRUE IDลงไปในคำเตือนด้วย

    - ถาม เห็นศาลระบุว่า รายงานส่วนที่เติมนี้เป็นความเท็จ คือที่ประชุมไม่ได้มีมติเช่นนั้นเลย

    ตอบ ครับ คดียังได้ความจากเทปประชุมอีกนะครับว่า อาจารย์พิรงรอง พูดว่า งานนี้เราต้องเตียมตัว ”ล้มยักษ์” พอศาลถามว่า “ยักษ์”ในที่นี้คือใคร อาจารย์ก็รับกับศาลว่าตนหมายถึง TRUE ID เรื่องมันก็เลยชัดเจนต่อศาลว่า กสทช.คนนี้ใช้อำนาจหน้าที่ครั้งที่สองนี้ เพื่อมุ่งจัดการกับกล่องสัญญาณของทรูโดยเฉพาะ

    ทรูเขาเห็นว่า อยู่ดีๆ มาหยิบเฉพาะกล่องสัญญาณของเขารายเดียว มาระบุว่ายังไม่ได้รับอนุญาตได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ก็รู้ดีว่า กสทช.ยังไม่มีประกาศรับอนุญาตกล่องสัญญาณ OTT เลย การระบุชื่อเขาขึ้นมาลอยๆ ในคำเตือนอย่างนี้ ยังผลทำให้ทีวีช่องต่างๆ พากันไม่ไว้วางใจที่จะตกลงกับ TRUE ID อีกต่อไป ทรูเขาก็เลยอ้างความเสียหายนี้มาฟ้อง ๑๕๗ ในที่สุด

    - ถาม เทปรายงานการประชุมที่ว่านี้ ฝ่ายต่อต้านเอ็นจีโอ ใน กสทช. ต้องส่งมาให้ TRUE แน่ๆ เลย

    ตอบ ผมพอรู้จักคนใน กสทช. อยู่บ้าง ได้เช็กกับเขาแล้วพบว่า เทปนี้ปรากฏขึ้นในศาลเองครับ เพราะชั้นแรกทรูฟ้อง ผอ.ที่ลงนามในหนังสือ เท่านั้น ผอ.คนนี้ก็เลยต้องเอาเทปมาแสดงต่อศาลว่า ตนทำตามคำสั่งของประธานที่สั่งไว้อย่างนี้ ทรูเลยหันมาฟ้องอาจารย์พิรงรองในที่สุด

    ๕) “ความผิด” ตามคำพิพากษา

    - ถาม สรุปแล้วหนังสือเตือนฉบับนี้ ผิดพลาดจากกฎหมายอย่างไร

    ตอบ ที่ชัดเป็นข้อแรก คือการตีความกฎหมายทีวีไปตลบหลังจัดการกับ OTT อย่างนี้มันมีประเด็นต้องเถียงกันได้อีกมากว่า ทำได้โดยชอบหรือไม่ ซึ่งเรื่องสำคัญอย่างนี้ต้องผ่านมติ กสทช.ก่อน อนุกรรมการที่คุมทีวีไม่มีอำนาจชี้ขาดเองเตือนเองได้เลย ตรงจุดนี้นับเป็นพฤติการณ์ล้ำหน้าชัดเจน

    - ถาม แล้วการแต่งรายงานประชุมเป็นเท็จล่ะครับ

    ตอบ นั่นแสดงถึงความไม่สุจริต จะเอาให้ได้ดั่งใจตนให้จงได้ ทั้งๆ ที่ในที่ประชุมไม่ได้มีมติอย่างนั้น และค้านกันไว้ระงมว่าทำไม่ได้ ถูกฟ้องได้ ก็ไม่ยอมเชื่อ

    - ถาม แล้วใครยอมออกหนังสือเตือนเป็นทางการ ในนาม กสทช.

    ตอบ เป็นระดับ ผอ.เท่านั้น เพราะระดับรองเลขาฯ กสทช. ไม่ยอมลงนาม รู้ทัน พากันติดราชการต่างประเทศ หรือต่างจังหวัดกันหมด มี ผอ.ใจถึง ยอมอยู่คนเดียว ท่านก็เลยโดนฟ้องไปด้วย

    - ถาม ลำพังออกหนังสือเตือนโดยไม่ผ่านมติ กสทช. ไม่ผ่านมติอนุกรรมการ ก็ติดคุกผิด ๑๕๗ เลยหรือครับ

    ตอบ มันมีองค์ประกอบข้อสองมาสมทบว่า นี่ไม่ใช่ความผิดพลาดเท่านั้น แต่มันมีเจตนาพิเศษยืนอยู่ในใจ ทำไปเพื่อจะให้ TRUE ID เขาเสียหาย การทำรายงานการประชุมเป็นเท็จ ดื้อดึงเติมคดี TRUE ID ลงไปในหนังสือเตือนฉบับที่สอง ด้วยคำรับว่าจะ “ล้มยักษ์”นั้น มันแสดงชัดเจนว่า งานนี้ไม่ใช่คำเตือนทั่วไปเพื่อแก้ปัญหาทั่วไป หากแต่มุ่งจะจัดการกับทรูเท่านั้นจริงๆ

    แม้ภายหลังจากที่เกิดเป็นคดีแล้ว จะมีการเตือนเพิ่มเติมไปถึง OTT ของ AIS เพื่อให้ดูดีขึ้นเที่ยงธรรมขึ้นก็ตาม แต่นั่นก็สายเกินการไปเสียแล้ว

    - ถาม ตกลง อาจารย์เห็นว่า ศาลอาญาคดีทุจริตไม่ได้ใช้มาตรา ๑๕๗ โดยพร่ำเพื่อ อย่างที่เขาวิพากษ์กันใช่ไหมครับ

    ตอบ “ตัวการกระทำ”มันนอกกฎหมายจริงๆ ส่วน “ตัวคน” ก็มีเจตนาทำไปเพื่อจะให้เขาเสียหายชัดเจน ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่เห็นทางจะตัดสินเป็นอย่างอื่นได้ ไม่ทราบจริงๆ ว่าใครเป็นที่ปรึกษากฎหมายของอาจารย์ พามาตายกลางถนนอย่างนี้ได้อย่างไร

    คดีนี้เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า ไม่ว่าคุณจะ ฝังใจคิดทำเพื่อมวลมหาผู้บริโภค จนเป็นความสุจริตฝังแน่นอยู่ในใจอย่างไรก็ตาม แต่ตำแหน่ง กสทช. ที่คุณเข้ามานั่งนั้น มันมีกรอบกฎหมายรอครอบหัวคุณอยู่เสมอว่า ตัวคุณนั้นไม่มีอำนาจในตัวเอง เรืองแสงด้วยตัวเองไม่ได้ อย่าทำอะไรที่เกินกฎหมายและต้องเที่ยงตรงเสมอภาคทุกครั้ง

    - ถาม ความเสมอภาคที่ว่านี้ ถ้าจะเปรียบเทียบก็เข้าทำนองว่า นโยบายกวาดล้างซ่องของ
    ท่านผู้กำกับนั้น ถูกต้องก็จริง แต่ท่านจะประกาศออกมาเพื่อจ้องจับอยู่ซ่องเดียว
    ไม่ได้ ใช่มั้ยครับ

    ตอบ ถูกต้อง…ถ้ากฎหมายถูกเลือกใช้ได้ตามอำเภอใจ มันก็ไม่ใช่กฎหมายแล้ว ประเทศ
    ไทยเรานี้ มีปัญหาเรื่องความไม่เสมอภาคภายใต้กฎหมายแบบนี้มากจริงๆ นะครับ

    คุณดูสิ… ขนาดไม่ยอมติดคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุด ก็ยังทำได้เลยเห็นไหม แล้วอย่างนี้บ้านเมืองเราจะไปรอดได้อย่างไร?????

    .
    https://www.thaipost.net/hi-light/737423/
    นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ และอดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกบทความเรื่อง “มาตรฐานการใช้อำนาจหน้าที่” ตามมาตรา ๑๕๗ ด้วยเห็นว่าบรรดาคำวิจารณ์ต่อคำพิพากษาศาลคดีทุจริต ให้จำคุกอาจารย์พิรงรอง รามสูต ๒ ปี ฐานใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่ง กสทช. โดยมิชอบ ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์กันระงมอยู่ในทุกวันนี้นั้น ยังคลาดเคลื่อนตกหล่น ไม่เพียงพอต่อการรับรู้โดยสมบูรณ์ของสาธารณะ จำต้องขอวิพากษ์ให้ปรากฏในทำนอง ถาม-ตอบ ไว้ ดังต่อไปนี้ ๑) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ” ๒) กฎหมายมีช่องว่าง??? - ถาม TRUE ID ที่อ้างว่าตนถูกอาจารย์พิรงรองใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้ตนเสียหายนั้น เขาเสนอบริการอะไร ต่อเราครับ ตอบ เขาทำแพลทฟอ์มที่เรียกว่า OTT (Over The Top) คือมีกล่องสัญญาณรวมเอารายการทั้งปวง ที่ทีวีดิจิตอล หรือเคเบิลทีวี ถ่ายทอดออกมา มารวมไว้เป็นบริการให้เราเปิดเข้าถึงได้ตลอดเวลา ทำให้เราไม่จำต้องเฝ้ารอดูหน้าจอตามเวลาที่ ทีวีเขาถ่ายทอดอีกต่อไป OTT แบบนี้ มีมากมาย มีทั้งที่ขายสมาชิกภาพ เช่น Netflix หรือเข้าถึงได้โดยเสรีเช่น TRUE ID - ถาม กิจการพวกนี้ไม่ต้องขออนุญาตหรือครับ ตอบ กิจการแบบ OTT นี้อาศัยอินเตอร์เน็ตเป็นถนนขนส่งข้อมูล ไม่ได้อาศัยคลื่นความถี่ . ที่กฎหมายไทยถือเป็นทรัพยากรของชาติ กฎหมาย กสทช.ปัจจุบันจึงยังไม่มีระบบใบอนุญาตมาควบคุมเหมือนทีวี ทำให้เถียงกันมาหลายปีแล้วว่ารัฐควรมีอำนาจควบคุมหรือไม่ อย่างไร - ถาม อาจารย์ว่าเราควรมีไหม ตอบ อินเตอร์เน็ตมันเป็นทางหลวงของโลกไปแล้ว คุณจะให้ NETFLIX ที่เป็น OTT ชนิด ข้ามชาติข้ามโลก มาขออนุญาต กสทช.ไทย มันเป็นไปไม่ได้ อย่างเก่งบางรัฐเขาก็ทำได้แค่ห้ามถ่ายทอดรายการที่มีเนื้อหาต้องห้ามเท่านั้น - ถาม เมื่อยังไม่มีกฎหมายแล้วมันเกิดคดีระหว่างทรูกับอาจารย์พิรงรองได้อย่างไร ตอบ มีผู้มาร้องเรียนต่อ กสทช.ว่า OTT ของทรู มีโฆษณาคอยแทรกตอนเปลี่ยนรายการอยู่ด้วยทุกครั้ง ผู้ร้องอ้างว่าทำอย่างนี้ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค - ถาม อ้าว…เมื่อเขาต้องลงทุน เขาก็ต้องโฆษณาหารายได้เป็นธรรมดา ใจคอคุณจะต้องบริโภคฟรีทุกอย่างเลยหรือ ไม่ชอบก็ไปดูแพลทฟอร์มอื่นสิครับ ตอบ ในชั้นพิจารณาคำร้องทุกข์ TRUE ID นี้ ก็ยุติกันตรงจุดนี้เหมือนกันว่า เรายังไม่มีกฎหมายที่จะควบคุมเขา เรื่องก็เลยยุติไป แต่ปรากฏว่าอาจารย์พิรงรอง ไม่ยอมยุติ กลับนำปัญหานี้เข้ามาในอนุกรรมการใบอนุญาตโทรทัศน์ที่ตนเป็นประธาน เพื่อผลักดันจัดการกับ TRUE ID ให้ได้ ๓) ยุทธการตลบหลัง! - ถาม เขาไม่ใช่ทีวี แล้ว กสทช.จะไปจัดการเขาได้อย่างไร ตอบ หลังจากถกเถียงกันอยู่นานในที่ประชุมอนุกรรมการกำกับใบอนุญาตโทรทัศน์ อาจารย์พิรงรองก็ผลักดันออกมาจนเป็นความเห็นได้ว่า แม้จะยังไม่มีกฎหมายคุม OTT แต่เราก็มีอำนาจตามกฎหมาย ทีวี เตือนไปยังทีวีทั้งหมดทั้ง ดิจิตอลและเคเบิ้ลได้ว่า คุณจะถ่ายทอดได้ก็แต่เฉพาะช่องทางที่เราอนุญาตไว้ และถ้ามีรายการประเภทบังคับให้ถ่ายทอด ( Must Carry) คุณก็จะให้มีโฆษณาปรากฏด้วยไม่ได้ - ถาม หมายความว่า จะจัดการให้พวกทีวี ต้องยอมปฏิเสธไม่ให้พวก OTT เอารายการของตนไปใส่กล่องสัญญาณ เช่นนั้นหรือ ตอบ ถูกต้องครับ เมื่อยังไม่มีกฎหมาย OTT เราก็ใช้กฎหมายทีวีนี่แหละ ไป“ตลบหลัง”บีบทีวีทั้งหลายให้ปฏิเสธไม่ให้ถ่ายทอดรายการของตนได้ ซึ่งหลังจากเถียงกันอยู่นานในที่สุดก็ออกมาเป็นหนังสือเตือนถึงทีวี ๑๒๗ เจ้า เมื่อ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ จนได้ ๔) ล้มยักษ์! - ถาม เขาเตือนมาเป็นการทั่วไป ตามการตีความกฎหมายของเขา ถูกผิดอย่างไรก็ไปให้ศาลปกครองชี้ขาดได้ ทำไมทรูมาฟ้องเป็นคดีอาญาเอาถึงติดคุก ๒ ปีแบบนี้ ตอบ มันมีการออกหนังสือเตือนฉบับที่สองเตือนซ้ำมาอีกครั้ง เมื่อ ๓ มีนาคม ๒๕๖๖ ครั้งนี้เติมความมาอีกว่า การถ่ายทอดทีวีผ่านช่องทางอื่นเช่น OTT นั้น OTT ดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตด้วย จากนั้นก็เลยระบุถึงTRUE ID โดยเจาะจงเลยว่า รายนี้ยังใม่ได้ขออนุญาต จึงเรียนมาให้ทุกท่านทราบและทำตามกฎหมายโดยเคร่งครัดด้วย พอออกหนังสือเตือนเติมมาอย่างนี้แล้ว อาจารย์พิรงรอง ก็สั่งให้แก้ไขรายงานการประชุมเพิ่มความลงไปอีกว่าที่ประชุมมีมติให้ระบุ กรณี TRUE IDลงไปในคำเตือนด้วย - ถาม เห็นศาลระบุว่า รายงานส่วนที่เติมนี้เป็นความเท็จ คือที่ประชุมไม่ได้มีมติเช่นนั้นเลย ตอบ ครับ คดียังได้ความจากเทปประชุมอีกนะครับว่า อาจารย์พิรงรอง พูดว่า งานนี้เราต้องเตียมตัว ”ล้มยักษ์” พอศาลถามว่า “ยักษ์”ในที่นี้คือใคร อาจารย์ก็รับกับศาลว่าตนหมายถึง TRUE ID เรื่องมันก็เลยชัดเจนต่อศาลว่า กสทช.คนนี้ใช้อำนาจหน้าที่ครั้งที่สองนี้ เพื่อมุ่งจัดการกับกล่องสัญญาณของทรูโดยเฉพาะ ทรูเขาเห็นว่า อยู่ดีๆ มาหยิบเฉพาะกล่องสัญญาณของเขารายเดียว มาระบุว่ายังไม่ได้รับอนุญาตได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ก็รู้ดีว่า กสทช.ยังไม่มีประกาศรับอนุญาตกล่องสัญญาณ OTT เลย การระบุชื่อเขาขึ้นมาลอยๆ ในคำเตือนอย่างนี้ ยังผลทำให้ทีวีช่องต่างๆ พากันไม่ไว้วางใจที่จะตกลงกับ TRUE ID อีกต่อไป ทรูเขาก็เลยอ้างความเสียหายนี้มาฟ้อง ๑๕๗ ในที่สุด - ถาม เทปรายงานการประชุมที่ว่านี้ ฝ่ายต่อต้านเอ็นจีโอ ใน กสทช. ต้องส่งมาให้ TRUE แน่ๆ เลย ตอบ ผมพอรู้จักคนใน กสทช. อยู่บ้าง ได้เช็กกับเขาแล้วพบว่า เทปนี้ปรากฏขึ้นในศาลเองครับ เพราะชั้นแรกทรูฟ้อง ผอ.ที่ลงนามในหนังสือ เท่านั้น ผอ.คนนี้ก็เลยต้องเอาเทปมาแสดงต่อศาลว่า ตนทำตามคำสั่งของประธานที่สั่งไว้อย่างนี้ ทรูเลยหันมาฟ้องอาจารย์พิรงรองในที่สุด ๕) “ความผิด” ตามคำพิพากษา - ถาม สรุปแล้วหนังสือเตือนฉบับนี้ ผิดพลาดจากกฎหมายอย่างไร ตอบ ที่ชัดเป็นข้อแรก คือการตีความกฎหมายทีวีไปตลบหลังจัดการกับ OTT อย่างนี้มันมีประเด็นต้องเถียงกันได้อีกมากว่า ทำได้โดยชอบหรือไม่ ซึ่งเรื่องสำคัญอย่างนี้ต้องผ่านมติ กสทช.ก่อน อนุกรรมการที่คุมทีวีไม่มีอำนาจชี้ขาดเองเตือนเองได้เลย ตรงจุดนี้นับเป็นพฤติการณ์ล้ำหน้าชัดเจน - ถาม แล้วการแต่งรายงานประชุมเป็นเท็จล่ะครับ ตอบ นั่นแสดงถึงความไม่สุจริต จะเอาให้ได้ดั่งใจตนให้จงได้ ทั้งๆ ที่ในที่ประชุมไม่ได้มีมติอย่างนั้น และค้านกันไว้ระงมว่าทำไม่ได้ ถูกฟ้องได้ ก็ไม่ยอมเชื่อ - ถาม แล้วใครยอมออกหนังสือเตือนเป็นทางการ ในนาม กสทช. ตอบ เป็นระดับ ผอ.เท่านั้น เพราะระดับรองเลขาฯ กสทช. ไม่ยอมลงนาม รู้ทัน พากันติดราชการต่างประเทศ หรือต่างจังหวัดกันหมด มี ผอ.ใจถึง ยอมอยู่คนเดียว ท่านก็เลยโดนฟ้องไปด้วย - ถาม ลำพังออกหนังสือเตือนโดยไม่ผ่านมติ กสทช. ไม่ผ่านมติอนุกรรมการ ก็ติดคุกผิด ๑๕๗ เลยหรือครับ ตอบ มันมีองค์ประกอบข้อสองมาสมทบว่า นี่ไม่ใช่ความผิดพลาดเท่านั้น แต่มันมีเจตนาพิเศษยืนอยู่ในใจ ทำไปเพื่อจะให้ TRUE ID เขาเสียหาย การทำรายงานการประชุมเป็นเท็จ ดื้อดึงเติมคดี TRUE ID ลงไปในหนังสือเตือนฉบับที่สอง ด้วยคำรับว่าจะ “ล้มยักษ์”นั้น มันแสดงชัดเจนว่า งานนี้ไม่ใช่คำเตือนทั่วไปเพื่อแก้ปัญหาทั่วไป หากแต่มุ่งจะจัดการกับทรูเท่านั้นจริงๆ แม้ภายหลังจากที่เกิดเป็นคดีแล้ว จะมีการเตือนเพิ่มเติมไปถึง OTT ของ AIS เพื่อให้ดูดีขึ้นเที่ยงธรรมขึ้นก็ตาม แต่นั่นก็สายเกินการไปเสียแล้ว - ถาม ตกลง อาจารย์เห็นว่า ศาลอาญาคดีทุจริตไม่ได้ใช้มาตรา ๑๕๗ โดยพร่ำเพื่อ อย่างที่เขาวิพากษ์กันใช่ไหมครับ ตอบ “ตัวการกระทำ”มันนอกกฎหมายจริงๆ ส่วน “ตัวคน” ก็มีเจตนาทำไปเพื่อจะให้เขาเสียหายชัดเจน ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่เห็นทางจะตัดสินเป็นอย่างอื่นได้ ไม่ทราบจริงๆ ว่าใครเป็นที่ปรึกษากฎหมายของอาจารย์ พามาตายกลางถนนอย่างนี้ได้อย่างไร คดีนี้เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า ไม่ว่าคุณจะ ฝังใจคิดทำเพื่อมวลมหาผู้บริโภค จนเป็นความสุจริตฝังแน่นอยู่ในใจอย่างไรก็ตาม แต่ตำแหน่ง กสทช. ที่คุณเข้ามานั่งนั้น มันมีกรอบกฎหมายรอครอบหัวคุณอยู่เสมอว่า ตัวคุณนั้นไม่มีอำนาจในตัวเอง เรืองแสงด้วยตัวเองไม่ได้ อย่าทำอะไรที่เกินกฎหมายและต้องเที่ยงตรงเสมอภาคทุกครั้ง - ถาม ความเสมอภาคที่ว่านี้ ถ้าจะเปรียบเทียบก็เข้าทำนองว่า นโยบายกวาดล้างซ่องของ ท่านผู้กำกับนั้น ถูกต้องก็จริง แต่ท่านจะประกาศออกมาเพื่อจ้องจับอยู่ซ่องเดียว ไม่ได้ ใช่มั้ยครับ ตอบ ถูกต้อง…ถ้ากฎหมายถูกเลือกใช้ได้ตามอำเภอใจ มันก็ไม่ใช่กฎหมายแล้ว ประเทศ ไทยเรานี้ มีปัญหาเรื่องความไม่เสมอภาคภายใต้กฎหมายแบบนี้มากจริงๆ นะครับ คุณดูสิ… ขนาดไม่ยอมติดคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุด ก็ยังทำได้เลยเห็นไหม แล้วอย่างนี้บ้านเมืองเราจะไปรอดได้อย่างไร????? . https://www.thaipost.net/hi-light/737423/
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 439 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศอยู่เย็นเป็นสุขได้เพราะ ๓ สถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยมีทหารเป็นรั้วปกปักรักษาอธิปไตยของชาติและประชาชน

    มาถึงยุคประชาธิปไตยตามก้นอเมริกา ซึ่งมีประธานาธิบดีเป็นใหญ่ ก็พยายามล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เหลือเพียงเป็นสัญลักษณ์ โดยการยุแยก ใส่ร้ายต่าง ๆ นา ๆ ผ่านกลุ่มคนรุ่นใหม่ และนักวิชาการในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งไร้รากเรียนรู้ในประวัติศาสตร์ชาติตน ขาดความภาคภูมิใจในมาตุภูมิของตน เป็น กองหน้าทะลวงฟัน ด้วยความเขลา เบาปัญญา ขาดสติยั้งคิด จึงก่อความเดือดร้อนให้ตนและครอบครัว ติดคุกติดตาราง บ้างก็หนีไปอยู่ต่างแดน ซึ่งจะไม่มีแผ่นดินใดในโลกน่าอยู่เหมือนแผ่นดินไทย
    ทหารของพระราชา ซึ่งเป็นจอมทัพไทย ไม่คิดรังแกประชาชน ไม่คิดปฏิวัติแบ่งชิงอำนาจของประชาชน

    ที่ผ่านมาเมื่อบ้านเมืองวุ่นวายจากการโกงกิน การไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม การใช้อำนาจบาทใหญ่ของนักการเมืองเลว ทหารก็ต้องออกมาแก้ปัญหา เพื่อรักษาชาติไว้ให้มั่นคง แม้บางกลุ่มจะไม่ถูกใจ ด่าเช้าด่าเย็น สร้างความทุกข์ใจให้แก่ตนเองอย่างแสนสาหัส มองไม่เห็นความดีของคนตั้งใจรักษาชาติแม้แต่น้อย แต่ทหารก็ยังอดทน เตรียมกำลังตั้งมั่น เมื่อชาติและประชาชนเดือดร้อน ทหารก็ออกมาช่วยเหลือทันที
    ประเทศอยู่เย็นเป็นสุขได้เพราะ ๓ สถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยมีทหารเป็นรั้วปกปักรักษาอธิปไตยของชาติและประชาชน มาถึงยุคประชาธิปไตยตามก้นอเมริกา ซึ่งมีประธานาธิบดีเป็นใหญ่ ก็พยายามล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เหลือเพียงเป็นสัญลักษณ์ โดยการยุแยก ใส่ร้ายต่าง ๆ นา ๆ ผ่านกลุ่มคนรุ่นใหม่ และนักวิชาการในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งไร้รากเรียนรู้ในประวัติศาสตร์ชาติตน ขาดความภาคภูมิใจในมาตุภูมิของตน เป็น กองหน้าทะลวงฟัน ด้วยความเขลา เบาปัญญา ขาดสติยั้งคิด จึงก่อความเดือดร้อนให้ตนและครอบครัว ติดคุกติดตาราง บ้างก็หนีไปอยู่ต่างแดน ซึ่งจะไม่มีแผ่นดินใดในโลกน่าอยู่เหมือนแผ่นดินไทย ทหารของพระราชา ซึ่งเป็นจอมทัพไทย ไม่คิดรังแกประชาชน ไม่คิดปฏิวัติแบ่งชิงอำนาจของประชาชน ที่ผ่านมาเมื่อบ้านเมืองวุ่นวายจากการโกงกิน การไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม การใช้อำนาจบาทใหญ่ของนักการเมืองเลว ทหารก็ต้องออกมาแก้ปัญหา เพื่อรักษาชาติไว้ให้มั่นคง แม้บางกลุ่มจะไม่ถูกใจ ด่าเช้าด่าเย็น สร้างความทุกข์ใจให้แก่ตนเองอย่างแสนสาหัส มองไม่เห็นความดีของคนตั้งใจรักษาชาติแม้แต่น้อย แต่ทหารก็ยังอดทน เตรียมกำลังตั้งมั่น เมื่อชาติและประชาชนเดือดร้อน ทหารก็ออกมาช่วยเหลือทันที
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อัจฉริยะ” เผยมือถือแตงโมหลักฐานสำคัญถึงไทยตี 2 ศุกร์นี้ หลังกู้ข้อมูลเสร็จเรียบร้อย “หมอธวัชชัย” เตรียมมอบให้ดีเอสไอทันทีที่สนามบิน เผยข้อมูลคนดัง-นักการเมืองติดต่อเพียบ “กระติก” โทร.หาตอน 2 ทุ่ม 40 นาที ทั้งที่บอกว่าอยู่บนเรือด้วยกัน ซัด “เต้” กระทำกับตนมา 3 ปี แถมพูดให้เสียหายทางคดี ขวางบังแจ๊คส่งมอบมือถือแตงโม ล่าสุดถูกห้ามเข้าบ้านพระอาทิตย์แล้ว

    วันนี้(5 ก.พ.) ที่สำนักงานการสอบสวนสำนักงานอัยการสูงสุด ตลิ่งชั่น นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าพบคณะกรรมการตรวจสอบวินัยตามคำสั่งอัยการสูงสุดตั้งกรรมการสอบวินัยนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ ที่ไปออกสื่อโดยใช้เวลาราชการและได้ค่าตอบแทน โดยไม่ได้ขออนุญาตจากอัยการสูงสุด เพื่อยื่นหลักฐานและให้ถ้อยคำกับคณะกรรมการดังกล่าว

    หลังจากนั้น นายอัจฉริยะ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า กรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับคดีการเสียงชีวิตของ น.ส.ภัทรธิกา พัชระวีระพงษ์ หรือแตงโมว่า ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ตนถูกกระทำจากนายมงคลกิตติ์มาตลอด ในตอนที่ตนฟ้องคนบนเรือเกี่ยวกับเรื่องของฆาตกรรมอําพรางที่ศาลจังหวัดนนทบุรี โดยได้รับมอบอํานาจจากแม่ของแตงโมโดยชอบด้วยกฎหมาย หลังจากยื่นฟ้องเสร็จ นายมงคลกิตติ์ได้โทรศัพท์มาหา ตำหนิตนอย่างหนักว่าไปฟ้องโดยไม่มีการแจ้งแม่แตงโมให้ทราบ ทั้งที่จริงตนแจ้งแม่แตงโมให้ทราบแล้ว แล้วก็ได้นําหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องของการฆาตกรรมเมื่อ 3 ปีที่แล้วไปให้แม่แตงโมดูแล้ว ต่อมานายมงคลกิตติ์ก็ไปยุยงแม่แตงโมให้มีการถอนฟ้องโดยการอ้างว่าถ้าผมฟ้องไปแม่จะถูกฟ้องกลับ ทําให้คุณต้องติดคุก ซึ่งแม่แตงโมก็ได้หลงเชื่อแล้วก็ตามมาถอนฟ้อง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000011884

    #MGROnline #อัจฉริยะ #มือถือแตงโม #หลักฐานสำคัญ #หมอธวัชชัย #ดีเอสไอ
    “อัจฉริยะ” เผยมือถือแตงโมหลักฐานสำคัญถึงไทยตี 2 ศุกร์นี้ หลังกู้ข้อมูลเสร็จเรียบร้อย “หมอธวัชชัย” เตรียมมอบให้ดีเอสไอทันทีที่สนามบิน เผยข้อมูลคนดัง-นักการเมืองติดต่อเพียบ “กระติก” โทร.หาตอน 2 ทุ่ม 40 นาที ทั้งที่บอกว่าอยู่บนเรือด้วยกัน ซัด “เต้” กระทำกับตนมา 3 ปี แถมพูดให้เสียหายทางคดี ขวางบังแจ๊คส่งมอบมือถือแตงโม ล่าสุดถูกห้ามเข้าบ้านพระอาทิตย์แล้ว • วันนี้(5 ก.พ.) ที่สำนักงานการสอบสวนสำนักงานอัยการสูงสุด ตลิ่งชั่น นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าพบคณะกรรมการตรวจสอบวินัยตามคำสั่งอัยการสูงสุดตั้งกรรมการสอบวินัยนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ ที่ไปออกสื่อโดยใช้เวลาราชการและได้ค่าตอบแทน โดยไม่ได้ขออนุญาตจากอัยการสูงสุด เพื่อยื่นหลักฐานและให้ถ้อยคำกับคณะกรรมการดังกล่าว • หลังจากนั้น นายอัจฉริยะ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า กรณีที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับคดีการเสียงชีวิตของ น.ส.ภัทรธิกา พัชระวีระพงษ์ หรือแตงโมว่า ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ตนถูกกระทำจากนายมงคลกิตติ์มาตลอด ในตอนที่ตนฟ้องคนบนเรือเกี่ยวกับเรื่องของฆาตกรรมอําพรางที่ศาลจังหวัดนนทบุรี โดยได้รับมอบอํานาจจากแม่ของแตงโมโดยชอบด้วยกฎหมาย หลังจากยื่นฟ้องเสร็จ นายมงคลกิตติ์ได้โทรศัพท์มาหา ตำหนิตนอย่างหนักว่าไปฟ้องโดยไม่มีการแจ้งแม่แตงโมให้ทราบ ทั้งที่จริงตนแจ้งแม่แตงโมให้ทราบแล้ว แล้วก็ได้นําหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องของการฆาตกรรมเมื่อ 3 ปีที่แล้วไปให้แม่แตงโมดูแล้ว ต่อมานายมงคลกิตติ์ก็ไปยุยงแม่แตงโมให้มีการถอนฟ้องโดยการอ้างว่าถ้าผมฟ้องไปแม่จะถูกฟ้องกลับ ทําให้คุณต้องติดคุก ซึ่งแม่แตงโมก็ได้หลงเชื่อแล้วก็ตามมาถอนฟ้อง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000011884 • #MGROnline #อัจฉริยะ #มือถือแตงโม #หลักฐานสำคัญ #หมอธวัชชัย #ดีเอสไอ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 511 มุมมอง 0 รีวิว
  • 29/1/68

    จาก เฟสบุ๊คของ Akhom Makaranond (อาคม มกรานนท์)
    ..
    เพื่อนพ้องน้องพี่ที่รักครับ

    เวลานี้บ้านเมืองเรากำลังเจอกับฝุ่นพิษ พี.เอ็ม.๒.๕ อย่างหนัก การเดินทางไปไหนมาไหน ก็เหมือนเดินทางฝ่าหมอก รถราติดกันยาวเหยียด ชาวบ้านเจอพิษร้ายคราวนี้ เล่นเอาแย่ไปตามๆกัน หายใจหายคอลำบาก บางรายถึงกับเลือดกำเดาไหล

    รัฐบาลประกาศให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้า รถเมล์ฟรี ๗ วัน ที่จริงไม่ได้ฟรีตามที่รัฐบาลบอกหรอกนะ เพราะเอางบประมาณมาใช้ชดเชยงานนี้ถึง ๑๔๐ ล้านบาท จะเรียกว่าฟรีได้ยังไง มันเป็นเงินของประชาชนนั่นเอง แถมยังมีคำกล่าวของนายกฯแถมมาให้อีกด้วย
    "เราไม่สามารถดีดนิ้วให้ฝุ่นหายไปได้"
    เป็นคำกล่าวที่น่ารักมากของนายกฯหญิงคนนี้

    เลยขอฝากถึงนายกฯด้วยว่า"เราก็ไม่สามารถเอานิ้วไปดีดปากที่ท่านพูดออกมาได้ แต่เราขอใช้ปากเชิญท่านและพ่องท่านได้ ใช่ไหม? ส่วนจะเชิญไปไหนคิดเอาเอง ไม่ใช่ให้ไปสวรรค์ก็แล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่าแช่งกัน

    ถ้าความยุติธรรมในโลกนี้ยังมีอยู่ คนชั่วอย่างคนๆนี้ จะมีทางเลือกแค่"หนีคดีความ และ เข้าไปอยู่ในคุก"เท่านั้น คนชั่วไม่มีสิทธิ์มาลอยนวลอยู่อย่างนี้หรอก

    ว่าแต่ไปทำอะไรเข้า สส.เขียงใหม่ พรรคของตัวเอง "จักรพล ตั้งสุทธิธรรม" ถึงออกมาเล่นงานหัวหน้าพรรคฯตัวเอง ในฐานะนายกฯ หนีการตอบกระทู้ในสภาฯ ทุกวันพฤหัศบดี แม้แต่กระทู้เรื่องฝุ่นพิษที่กำลังระบาดอยู่ในเวลานี้ ก็เลี่ยงไม่มาตอบ

    ท่าน สส.เชียงใหม่ นายกฯจะไปทำไม? ไม่มีอะไรจะตอบ เพราะตอบไม่ได้ ไงล่ะ!

    เรื่องนี้สำคัญกว่า อยานึกว่าเขาไม่รู้ ทางการจีนเขามีคนของเขา ส่งข่าวไปให้รัฐบาลของเขาทราบ เขารู้มานานแล้วว่า ข้าราชการไทย และนักการเมืองพรรคใหญ่ มีเอี่ยวกับพวกจีนเทา

    ข่าวดังกล่าวบ่งชี้ว่า รัฐบาลและข้าราชการไทย เจ้าหน้าที่รัฐ บกพร่อง อ่อนแอ มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับขบวนการสีเทา ยิ่งบริเวณชายแดนไทย-พม่า พวกว้าแดงที่เป็นชนกลุ่มน้อย กองกำลังติดอาวุธ ขบวนการผลิตยาเสพติด มันไม่มีความเกรงกลัวอะไรเลย เพราะนายกฯและ รมต.กลาโหมไทย มันอ่อนเสียจนเขาไม่เกรงกลัวเลย น่าอายจัง

    ถึงเวลาหรือยัง? หยุดตระกูลโกงชาติ ก่อนที่บ้านเมืองจะพังพินาศจนไม่เหลืออะไรเลย

    นี่ก็อีกคน ไม่ทราบว่าเอาสมองส่วนไหนมาคิด "แก้ปัญหา พี.เอ็ม.๒.๕ ด้วยการแจกมุ้งสู้ฝุ่น ๓ หมื่นกว่าหลัง สู้ฝุ่นหรือสู้ยุง

    รัฐบาลชุดนี้ชอบทำอะไรแปลกๆอยู่เสมอ อย่างเรื่องพม่าตัดสินจำคุกลูกเรือประมงไทยที่เกาะสอง

    สื่อเราถามนายกฯว่าจะมีมาตรการอะไรตอบโต้พม่าบ้าง มาตรการตอบโต้ของนายกฯไทย
    ๑. จับพม่าเถื่อนมาขึ้นทะเบียน โดยไม่มีการสอบประวัติอาชญากรรม
    ๒. ให้อยู่ในไทยไม่จำกัดเวลา จะอยู่นานเท่าไรก็ได้
    ๓. ลูกหลานพม่าเรียนฟรี เจ็บป่วยรักษาฟรี
    ส่วนลูกเรือประมงไทย แล้วแต่เวรแต่กรรม พวกพม่าได้ฟังแล้ว พากันกลัวเสียจนเยี่ยวราดกันเป็นแถว

    ประเทศเรา สมรสเท่าเทียมก็มีแล้ว เมื่อไหร่ถึงจะติดคุกเท่าเทียมคนอื่นเขาเสียที รัฐบาลช่วยคิดด้วยสิ

    เวลานี้รัฐบาลจีนกำลังไล่กำจัดพวกคอลเซนเตอร์ เพื่อปกป้องประเทศของเขา

    สหรัฐอเมริกากำลังขับพวกอพยพออกนอกประเทศ

    ประเทศไทย ไม่ได้ทำอะไรเพื่อคนไทย แต่ทำเพื่อคนพม่า

    มันผู้ใดที่ทำร้ายบ้านเมือง ขอให้มันจงฉิบหายทั้งตระกูล สาธุ

    เราจะช่วยกันด่าหรือจะช่วยกันชม ฟังนะ

    นางหนึ่งบอก เรื่องฝุ่น พี.เอ็ม.๒.๕ นี่นะ คิดมาตั้งแต่วันแรกที่มาเป็นนายกฯ และตามที่หาเสียงไว้"เพื่อไทยแก้ฝุ่นที่ต้นตอ"
    นายหนึ่ง (ที่จริงก็พวกเดียวกันนั่นแหละ)บอกว่า"ถ้าทำไม่ได้ ก็อย่าอาสามาเป็นผู้ว่าฯ ผมศึกษามานานถึง ๒ ปี
    พ่อของพรรคก็จ้อหลอกชาวบ้านว่า"ถ้าเพื่อไทยทำไม่ได้ ให้ชี้หน้าด่าได้เลย"

    รัฐบาลประยุทธ์ฯพยายามแก้ปัญหา พี.เอ็ม.๒.๕ ด้วยการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน
    รัฐบาลเพื่อไทยแก้ปัญหาด้วยการ นั่งรถ ขสมก.- รถไฟฟ้าฟรี(ใช้งบ ๑๔๐ ล้านบาท)

    เห็นไหม"สติปัญญาของคนมันต่างกัน"เชื่อหรือยังล่ะ?

    วันนี้จบแค่นี้ก่อน เช่นเคย ขอฝากข้อคิดให้ไปคิดกัน การที่จะให้คนชั่วสูญพันธ์ ต้องใช้แบบนี้
    "คนที่ลืมรากเหง้าของ ตนเอง ทรยศต่อมาตุภูมิ และทำให้ชาติต้องแตกแยก มักจะเจอจุดจบที่ไม่ดี"

    อย่าลืมกันเสียล่ะ ช่วยดูๆกันด้วยนะ ถ้าหน้าแล้งปีนี้ ไม่มีน้ำ "ฝนหลวง"มีงบไม่พอ พี่น้องที่เลือก ๑๐ ล้านเสียง อย่าร้องเอะอะโวยวายนะ "ไอโอดิน" กินแล้วไม่โง่ สิบอกให้

    ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่เลือกพรรคนี้มาเป็นรัฐบาล แทนที่จะได้ฝน กลับได้ฝุ่นมาแทน

    ใครบอก คนตกงานต้องเดินเตะฝุ่น ตอนนี้คนมีงานก็ต้องเดินเตะฝุ่นกันเพียบเลย

    สวัสดี.
    29/1/68 จาก เฟสบุ๊คของ Akhom Makaranond (อาคม มกรานนท์) .. เพื่อนพ้องน้องพี่ที่รักครับ เวลานี้บ้านเมืองเรากำลังเจอกับฝุ่นพิษ พี.เอ็ม.๒.๕ อย่างหนัก การเดินทางไปไหนมาไหน ก็เหมือนเดินทางฝ่าหมอก รถราติดกันยาวเหยียด ชาวบ้านเจอพิษร้ายคราวนี้ เล่นเอาแย่ไปตามๆกัน หายใจหายคอลำบาก บางรายถึงกับเลือดกำเดาไหล รัฐบาลประกาศให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้า รถเมล์ฟรี ๗ วัน ที่จริงไม่ได้ฟรีตามที่รัฐบาลบอกหรอกนะ เพราะเอางบประมาณมาใช้ชดเชยงานนี้ถึง ๑๔๐ ล้านบาท จะเรียกว่าฟรีได้ยังไง มันเป็นเงินของประชาชนนั่นเอง แถมยังมีคำกล่าวของนายกฯแถมมาให้อีกด้วย "เราไม่สามารถดีดนิ้วให้ฝุ่นหายไปได้" เป็นคำกล่าวที่น่ารักมากของนายกฯหญิงคนนี้ เลยขอฝากถึงนายกฯด้วยว่า"เราก็ไม่สามารถเอานิ้วไปดีดปากที่ท่านพูดออกมาได้ แต่เราขอใช้ปากเชิญท่านและพ่องท่านได้ ใช่ไหม? ส่วนจะเชิญไปไหนคิดเอาเอง ไม่ใช่ให้ไปสวรรค์ก็แล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่าแช่งกัน ถ้าความยุติธรรมในโลกนี้ยังมีอยู่ คนชั่วอย่างคนๆนี้ จะมีทางเลือกแค่"หนีคดีความ และ เข้าไปอยู่ในคุก"เท่านั้น คนชั่วไม่มีสิทธิ์มาลอยนวลอยู่อย่างนี้หรอก ว่าแต่ไปทำอะไรเข้า สส.เขียงใหม่ พรรคของตัวเอง "จักรพล ตั้งสุทธิธรรม" ถึงออกมาเล่นงานหัวหน้าพรรคฯตัวเอง ในฐานะนายกฯ หนีการตอบกระทู้ในสภาฯ ทุกวันพฤหัศบดี แม้แต่กระทู้เรื่องฝุ่นพิษที่กำลังระบาดอยู่ในเวลานี้ ก็เลี่ยงไม่มาตอบ ท่าน สส.เชียงใหม่ นายกฯจะไปทำไม? ไม่มีอะไรจะตอบ เพราะตอบไม่ได้ ไงล่ะ! เรื่องนี้สำคัญกว่า อยานึกว่าเขาไม่รู้ ทางการจีนเขามีคนของเขา ส่งข่าวไปให้รัฐบาลของเขาทราบ เขารู้มานานแล้วว่า ข้าราชการไทย และนักการเมืองพรรคใหญ่ มีเอี่ยวกับพวกจีนเทา ข่าวดังกล่าวบ่งชี้ว่า รัฐบาลและข้าราชการไทย เจ้าหน้าที่รัฐ บกพร่อง อ่อนแอ มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับขบวนการสีเทา ยิ่งบริเวณชายแดนไทย-พม่า พวกว้าแดงที่เป็นชนกลุ่มน้อย กองกำลังติดอาวุธ ขบวนการผลิตยาเสพติด มันไม่มีความเกรงกลัวอะไรเลย เพราะนายกฯและ รมต.กลาโหมไทย มันอ่อนเสียจนเขาไม่เกรงกลัวเลย น่าอายจัง ถึงเวลาหรือยัง? หยุดตระกูลโกงชาติ ก่อนที่บ้านเมืองจะพังพินาศจนไม่เหลืออะไรเลย นี่ก็อีกคน ไม่ทราบว่าเอาสมองส่วนไหนมาคิด "แก้ปัญหา พี.เอ็ม.๒.๕ ด้วยการแจกมุ้งสู้ฝุ่น ๓ หมื่นกว่าหลัง สู้ฝุ่นหรือสู้ยุง รัฐบาลชุดนี้ชอบทำอะไรแปลกๆอยู่เสมอ อย่างเรื่องพม่าตัดสินจำคุกลูกเรือประมงไทยที่เกาะสอง สื่อเราถามนายกฯว่าจะมีมาตรการอะไรตอบโต้พม่าบ้าง มาตรการตอบโต้ของนายกฯไทย ๑. จับพม่าเถื่อนมาขึ้นทะเบียน โดยไม่มีการสอบประวัติอาชญากรรม ๒. ให้อยู่ในไทยไม่จำกัดเวลา จะอยู่นานเท่าไรก็ได้ ๓. ลูกหลานพม่าเรียนฟรี เจ็บป่วยรักษาฟรี ส่วนลูกเรือประมงไทย แล้วแต่เวรแต่กรรม พวกพม่าได้ฟังแล้ว พากันกลัวเสียจนเยี่ยวราดกันเป็นแถว ประเทศเรา สมรสเท่าเทียมก็มีแล้ว เมื่อไหร่ถึงจะติดคุกเท่าเทียมคนอื่นเขาเสียที รัฐบาลช่วยคิดด้วยสิ เวลานี้รัฐบาลจีนกำลังไล่กำจัดพวกคอลเซนเตอร์ เพื่อปกป้องประเทศของเขา สหรัฐอเมริกากำลังขับพวกอพยพออกนอกประเทศ ประเทศไทย ไม่ได้ทำอะไรเพื่อคนไทย แต่ทำเพื่อคนพม่า มันผู้ใดที่ทำร้ายบ้านเมือง ขอให้มันจงฉิบหายทั้งตระกูล สาธุ เราจะช่วยกันด่าหรือจะช่วยกันชม ฟังนะ นางหนึ่งบอก เรื่องฝุ่น พี.เอ็ม.๒.๕ นี่นะ คิดมาตั้งแต่วันแรกที่มาเป็นนายกฯ และตามที่หาเสียงไว้"เพื่อไทยแก้ฝุ่นที่ต้นตอ" นายหนึ่ง (ที่จริงก็พวกเดียวกันนั่นแหละ)บอกว่า"ถ้าทำไม่ได้ ก็อย่าอาสามาเป็นผู้ว่าฯ ผมศึกษามานานถึง ๒ ปี พ่อของพรรคก็จ้อหลอกชาวบ้านว่า"ถ้าเพื่อไทยทำไม่ได้ ให้ชี้หน้าด่าได้เลย" รัฐบาลประยุทธ์ฯพยายามแก้ปัญหา พี.เอ็ม.๒.๕ ด้วยการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน รัฐบาลเพื่อไทยแก้ปัญหาด้วยการ นั่งรถ ขสมก.- รถไฟฟ้าฟรี(ใช้งบ ๑๔๐ ล้านบาท) เห็นไหม"สติปัญญาของคนมันต่างกัน"เชื่อหรือยังล่ะ? วันนี้จบแค่นี้ก่อน เช่นเคย ขอฝากข้อคิดให้ไปคิดกัน การที่จะให้คนชั่วสูญพันธ์ ต้องใช้แบบนี้ "คนที่ลืมรากเหง้าของ ตนเอง ทรยศต่อมาตุภูมิ และทำให้ชาติต้องแตกแยก มักจะเจอจุดจบที่ไม่ดี" อย่าลืมกันเสียล่ะ ช่วยดูๆกันด้วยนะ ถ้าหน้าแล้งปีนี้ ไม่มีน้ำ "ฝนหลวง"มีงบไม่พอ พี่น้องที่เลือก ๑๐ ล้านเสียง อย่าร้องเอะอะโวยวายนะ "ไอโอดิน" กินแล้วไม่โง่ สิบอกให้ ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่เลือกพรรคนี้มาเป็นรัฐบาล แทนที่จะได้ฝน กลับได้ฝุ่นมาแทน ใครบอก คนตกงานต้องเดินเตะฝุ่น ตอนนี้คนมีงานก็ต้องเดินเตะฝุ่นกันเพียบเลย สวัสดี.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 916 มุมมอง 0 รีวิว
  • ท่านที่เกิดปีกุน

    ในปี 2568 นี้... พลังชีวิตของคนที่เกิดปีกุนทุกๆคนได้ถูกปะทะจากพลังดาวเทพเฝ้าดูแลดวงชะตา 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) ประจำปี 2568 ที่ทรงพระนามว่า “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) เสมือนดั่งผู้ตรวจการที่ทรงพลานุภาพที่สุดในบรรดาดาวร้ายอื่นๆได้แก่ ดาวร้าย大耗(ตั่วห่อ) ดาวร้าย欄杆(หลั่งกัง) ดาวร้าย披頭(พีเท้า) ส่งผลให้หากชะตาตกจะกระทบต่อพลังชีวิตอย่างร้ายแรง เป็นวิบากขวากหนามให้ชีวิตขรุขระไม่สำเร็จราบรื่นจากอุปสรรคปัญหาที่ถาถมให้เกิดสับสนและวุ่นวาย สร้างความสูญเสียต่อทรัพย์สินเงินทอง ทั้งตำแหน่งหน้าที่การงานอาจเกิดคดีความต้องฟ้องร้องขึ้นศาลให้ต้องติดคุกติดตะรางให้เสียชื่อเสียเครดิต หรืออาจถูกศัตรูปองร้ายลับหลังให้ได้รับบาดเจ็บเลือดตกยางออกต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล สำหรับผู้สูงอายุมีเกณฑ์จะเกิดอุบัติเหตุที่ศีรษะหรือโรคระบบสมองให้ต้องล้มหมอนนอนเสื่อทำให้เกิดความจดจำเสื่อมถอยหลงๆลืมๆกระทบต่อคุณภาพชีวิต

    ขณะที่มีดาวเทพมงคล 驛馬(เอี๊ยะแบ้)จรมาส่งพลังช่วยดวงชะตาในด้านการงานให้มีตำแหน่งหน้าที่ๆมั่นคง ให้ได้พบกับโอกาสที่ดีๆมีการโยกย้ายไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากได้เดินทางจะช่วยเสริมส่งให้เจริญก้าวหน้ามากยิ่งๆขึ้น ถึงแม้จะมีดาวเทพมงคลเสริมส่งเพียงแค่ดวงเดียวก็ตามแต่ก็ยังพอให้คุณได้ใจชื้นขึ้นมาบ้าง
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ท่านที่เกิดปีกุน ในปี 2568 นี้... พลังชีวิตของคนที่เกิดปีกุนทุกๆคนได้ถูกปะทะจากพลังดาวเทพเฝ้าดูแลดวงชะตา 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) ประจำปี 2568 ที่ทรงพระนามว่า “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) เสมือนดั่งผู้ตรวจการที่ทรงพลานุภาพที่สุดในบรรดาดาวร้ายอื่นๆได้แก่ ดาวร้าย大耗(ตั่วห่อ) ดาวร้าย欄杆(หลั่งกัง) ดาวร้าย披頭(พีเท้า) ส่งผลให้หากชะตาตกจะกระทบต่อพลังชีวิตอย่างร้ายแรง เป็นวิบากขวากหนามให้ชีวิตขรุขระไม่สำเร็จราบรื่นจากอุปสรรคปัญหาที่ถาถมให้เกิดสับสนและวุ่นวาย สร้างความสูญเสียต่อทรัพย์สินเงินทอง ทั้งตำแหน่งหน้าที่การงานอาจเกิดคดีความต้องฟ้องร้องขึ้นศาลให้ต้องติดคุกติดตะรางให้เสียชื่อเสียเครดิต หรืออาจถูกศัตรูปองร้ายลับหลังให้ได้รับบาดเจ็บเลือดตกยางออกต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล สำหรับผู้สูงอายุมีเกณฑ์จะเกิดอุบัติเหตุที่ศีรษะหรือโรคระบบสมองให้ต้องล้มหมอนนอนเสื่อทำให้เกิดความจดจำเสื่อมถอยหลงๆลืมๆกระทบต่อคุณภาพชีวิต ขณะที่มีดาวเทพมงคล 驛馬(เอี๊ยะแบ้)จรมาส่งพลังช่วยดวงชะตาในด้านการงานให้มีตำแหน่งหน้าที่ๆมั่นคง ให้ได้พบกับโอกาสที่ดีๆมีการโยกย้ายไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากได้เดินทางจะช่วยเสริมส่งให้เจริญก้าวหน้ามากยิ่งๆขึ้น ถึงแม้จะมีดาวเทพมงคลเสริมส่งเพียงแค่ดวงเดียวก็ตามแต่ก็ยังพอให้คุณได้ใจชื้นขึ้นมาบ้าง ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ หรืออาจารย์อ๊อด ยืนยันเดินหน้าอุทธรณ์คดีฟ้องหมิ่นประมาททนายเดชา ให้ติดคุกไม่ต้องรอลงอาญา ระบุเป็นถึงนักกฎหมาย จบเนติบัณฑิต ให้ได้รับบทเรียน เผยตอนถูกกล่าวหาว่าโกงเจ็บปวดตลอด ไม่หวั่นจะถูกฟ้องกลับเรื่องร้องไห้ในศาล ระบุลูกศิษย์รายงานมา ยืนสงบนิ่ง น้ำตาไหล อีกด้านเดินหน้าคดีมรรยาททนายความ เอาให้ถึงขั้นถอนใบอนุญาตว่าความ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000006865

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ หรืออาจารย์อ๊อด ยืนยันเดินหน้าอุทธรณ์คดีฟ้องหมิ่นประมาททนายเดชา ให้ติดคุกไม่ต้องรอลงอาญา ระบุเป็นถึงนักกฎหมาย จบเนติบัณฑิต ให้ได้รับบทเรียน เผยตอนถูกกล่าวหาว่าโกงเจ็บปวดตลอด ไม่หวั่นจะถูกฟ้องกลับเรื่องร้องไห้ในศาล ระบุลูกศิษย์รายงานมา ยืนสงบนิ่ง น้ำตาไหล อีกด้านเดินหน้าคดีมรรยาททนายความ เอาให้ถึงขั้นถอนใบอนุญาตว่าความ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000006865 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    Yay
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1023 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปีนี้..ในหลากหลายอาชีพ ..พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แย่่ที่สุด ตั้งแต่ เกิด มาเลย ..ต้มยำกุ้งปี 40 เป็นเรื่องเด็กๆ ไปเลย..ตอนนั้นกระทบแค่คนบางกลุ่ม..แต่ตอนนี้ ทั่วทุกหัวระแหง..วงการพระก็ไม่เว้น..เช็คเด้งกันหนักมาก...ซึ่งโดยปกติวิสัย วงการพระส่วนใหญ่ กรณีพระมีราคา..ใช้เครดิตกันแทบทั้งนั้น ...คือ ตีเช็คล่วงหน้า ซอยเช็คเป็นงวดๆ ...ของก็เปลี่ยนมือไป 1234_5 ทอด...ถ้าในจำนวนคนเหล่านั้น..ถ้ามัน "รวน" มันจะ "รวน" ทั้งหมด...บางรายรับผิดชอบได้ ก็ดีไป...บางคนติดคุกก็เยอะ...อ๋อ อธิบายนิด เช็ค ถ้ามีสัญญาเงินกู้กำกับ หรือ จ่ายเช็คเพื่อเจตนา ใช้หนี้ ยังคงเป็นคดีอาญาอยู่..มีโทษจำคุก ..อย่าเหมารวมว่า เป็นคดีแพ่ง...วงการพระ เป็นเรื่องของ เงินหมุน เครดิต ..คนที่มีเงินสด และมี back up ดีๆ มีไม่กี่คน ..
    ปีนี้..ในหลากหลายอาชีพ ..พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แย่่ที่สุด ตั้งแต่ เกิด มาเลย ..ต้มยำกุ้งปี 40 เป็นเรื่องเด็กๆ ไปเลย..ตอนนั้นกระทบแค่คนบางกลุ่ม..แต่ตอนนี้ ทั่วทุกหัวระแหง..วงการพระก็ไม่เว้น..เช็คเด้งกันหนักมาก...ซึ่งโดยปกติวิสัย วงการพระส่วนใหญ่ กรณีพระมีราคา..ใช้เครดิตกันแทบทั้งนั้น ...คือ ตีเช็คล่วงหน้า ซอยเช็คเป็นงวดๆ ...ของก็เปลี่ยนมือไป 1234_5 ทอด...ถ้าในจำนวนคนเหล่านั้น..ถ้ามัน "รวน" มันจะ "รวน" ทั้งหมด...บางรายรับผิดชอบได้ ก็ดีไป...บางคนติดคุกก็เยอะ...อ๋อ อธิบายนิด เช็ค ถ้ามีสัญญาเงินกู้กำกับ หรือ จ่ายเช็คเพื่อเจตนา ใช้หนี้ ยังคงเป็นคดีอาญาอยู่..มีโทษจำคุก ..อย่าเหมารวมว่า เป็นคดีแพ่ง...วงการพระ เป็นเรื่องของ เงินหมุน เครดิต ..คนที่มีเงินสด และมี back up ดีๆ มีไม่กี่คน ..
    Love
    1
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สนธิ”กับ‘วันชัย สอนศิริ ’มาตรฐานต่างกัน
    ราว “พญาเหยี่ยว”กับ‘นกกระจอก’
    .
    เรื่องของผม สนธิ ลิ้มทองกุลกับคุณวันชัย สอนศิริ ผมกลับมานอนคิดสะระตะแล้ว เฮ้ย! ความผิดอยู่ที่เรานี่หว่า ผมพลาดไปเองที่ใช้มาตรฐานผมเป็นตัวตั้ง แล้วผมก็หวังว่าคุณคงจะมีมาตรฐานเหมือนผม นี่คือข้อผิดพลาดในชีวิตของผม ผมเพิ่งจะรู้ว่ามาตรฐานของคุณกับผมมันห่างกันเหลือเกินเป็นพันๆ ลี้ อุปมาอุปไมยผมเหมือนพญาเหยี่ยวที่บินอยู่บนท้องฟ้า แต่คุณคือนกกระจอก นกกระจิบ ที่บินอยู่ข้างล่าง หากินกับไส้เดือนบนพื้นดิน
    .
    มาตรฐานของผมคือ “อะไรที่ถูกต้อง ผมไม่ถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว” จนวันนี้ก็ยังไม่ถอย ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง จากวันนั้นถึงวันนี้ผมไม่เคยเปลี่ยน และผมยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
    .
    หลักการตรงนี้อยู่ติดตัวผมมานานแล้ว มาจนกระทั่งทุกวันนี้ที่ผมสนับสนุนและส่งเสริมให้อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ทำเรื่องน้องแตงโมนั้น ก็เพราะว่าหลักการของสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ ให้ประชาชนได้รับรู้อีกด้านหนึ่ง
    .
    คุณวันชัย คุณรู้หรือเปล่าว่าผมสู้มาตั้งแต่ปี 2548 ยี่สิบปีแล้วที่ผมออกมาสู้ มาถึงวันนี้ ฝนตก แดดออก พายุเข้า พอทุกอย่างฟ้าใสแจ้งจางปาง พระอาทิตย์ออก ประชาชนเห็นว่าผมยังคงยืนอยู่ที่เดิม ผมไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย แต่คุณวันชัยต้องยอมรับกับผมนะว่า ประเทศไทยมีคนอยู่ไม่น้อยเลยที่ยอมเสียหลักการของตัวเอง เพื่อเลียคนที่มีอำนาจเพื่อให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ ผมไม่ทราบว่าคุณวันชัย เป็นหนึ่งในนั้นด้วยหรือเปล่า
    .
    ชีวิตผมอยู่ได้ด้วยความไม่กลัว ความกลัวคือความเสื่อม แล้วอีกอันหนึ่งที่ผมอยู่ได้เพราะ ธรรม พ่อแม่ครูอาจารย์ผมที่คุณดูถูก เยาะเย้ย เหยียดหยามหลวงตามหาบัว ท่านบอกว่า “สนธิ ธรรมชนะอธรรม ชนะอวิชชา ธรรมจะใช้เวลานิดหนึ่ง” เหมือนกับที่ผมต้องใช้เวลาถึง 17 ปี ผมและพันธมิตรฯ ทุกคนถึงได้รับการนิรโทษกรรมทางใจว่าพวกผมสู้มาไม่ผิด แต่ต้องรอตั้ง 17 ปี กว่า "ธรรม" ที่หลวงตามหาบัวสอนผมมาเป็นความจริง พิสูจน์ให้เห็นว่าการใช้ธรรมนำหน้าของผมที่ต่อสู้กับเจ้านายคุณ คือทักษิณ ชินวัตรนั้น เป็นความจริงที่เถียงไม่ออก เพราะนายคุณยอมรับสารภาพในราชกิจจานุเบกษาว่าได้ทำผิดจริง ได้ฉ้อราษฎร์บังหลวงจริง 1..2..3..4.. ถึงโดนโทษจำคุก 8 ปี แต่ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว
    .
    ผมเป็นคนเชื่อในหลักนิติธรรม และผมเคารพในหลักนิติธรรม ไม่ยอมปฏิเสธ ไม่หลบหนี มาตรฐานของผมบอกว่า ขนาดผมยังยอมเดินเข้าคุก ไม่หนี ติดคุกอยู่ 2 ปี 11 เดือน 27 วัน แล้วได้รับพระราชทานอภัยโทษออกมา เนื่องในวาระของราชาภิเษก ให้รัชกาลที่ 10 ขึ้นมาเป็นกษัตริย์ตอนนั้น ของผมถูกต้องตามระเบียบทุกประการ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น คุณวันชัยครับ เผอิญว่านี่ก็คือมาตรฐานของผมอย่างหนึ่งเช่นกัน ยี่สิบปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยเรียกร้องตำแหน่ง ผมไม่เคยต้องไปเลียรองเท้าของนายพลต่างๆ เพื่อให้นายพลตั้งตัวเองเป็น สว. พอเริ่มรู้ว่าตัวเองจะหมดอำนาจแล้วตั้งแต่สิงหาคม ก็เริ่มเลียการเมือง ผมไม่ได้พูดถึงใครนะครับคุณวันชัย อย่าเดือดร้อน
    .
    เพราะฉะนั้นแล้ว คุณจะไปตกลงอะไรกับทักษิณ ชินวัตร คุณตอบผมสักคำได้ไหมว่า นายใหม่คุณ เจ้าของคอกหมา ซึ่งคุณเข้าไปในคอกนั้นเรียบร้อยแล้ว เขาได้ทำอะไรให้บ้างตั้งแต่เขากลับมา นอกจากสร้างความวุ่นวายในเรื่องหลักนิติธรรมให้วุ่นวายทั่วประเทศ วิสัยทัศน์เขามีอะไร นอกจากการพนัน ตั้งบ่อนกาสิโน นอกจากแจกเงิน แล้วคุณอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ที่คุณบอกเป็นนารีกู้แผ่นดิน คุณวันชัยครับ ประชาชนเขาหัวเราะขำคำว่า "นารีกู้แผ่นดิน" ของคุณ
    .
    คุณวันชัย คุณเป็นทนาย คุณก็รู้ว่าในศาลเขาแพ้ชนะกันที่ประจักษ์พยานไม่ใช่หรือ แล้วคุณจะมาว่าผมสร้างความวุ่นวายได้อย่างไร ตัววุ่นวายคือนายคุณ ที่สร้างความวุ่นวาย แล้วคุณก็เป็นลูกคู่ที่เข้าไปช่วยทำให้ความวุ่นวายนั้นมันวุ่นวายมากขึ้น
    .
    มาตรฐานผม ผมไม่เคยถอย คุณบอกคุณเป็นนักเลง นักเลงกล้าได้กล้าเสีย แต่ผมเป็นนักเลงโบราณซึ่งนักเลงทั่วๆไปไม่มี คือผมเป็นคนที่มีสัจจะที่มีคนเชื่อผมเป็นแสนๆเป็นล้านคนทุกวันนี้ คุณไม่ต้องท้าผม ถึงเวลา ถ้าจำเป็น ผมจะลงถนนแน่นอน ผมจะลงถนนแน่นอน ถ้าการกระทำของรัฐบาลนี้ส่อให้เกิดการสูญเสียอธิปไตยของประเทศ ผมพร้อมเสมอ อย่ามาบอกว่าเดี๋ยวนี้ผมเรียกคนไม่ได้ คุณจะลองมั้ย ถึงวันนั้นแล้วคุณอย่าเสียใจนะว่าคุณปากไม่ดี พูดไม่ดี คุณวันชัย อยากจะพล่ามอะไรก็พล่าม เพราะคุณจำเป็นต้องพล่ามให้มากๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นายคุณ ว่าผมทำงานให้แล้วนะ ตำแหน่งโฆษกรัฐบาลถ้ามี ตั้งผมหน่อย
    .
    คุณจำไว้อย่างนะคุณวันชัย ผมไม่เคยเลียแข้งเลียขาใครเพื่อให้ตัวเองได้ตำแหน่ง อย่างเช่นเป็น สว. ไม่เคย ให้ตายสิ พอผมพูดถึงคุณแล้ว เขาหัวเราะกัน ประพันธ์ คูณมีบอกว่า พี่อย่าไปสนใจเลยไอ้คนประเภทนี้ คุณวันชัย เชิญคุณตามสบาย จะยั่วยุอย่างไร ยั่วยุไม่สำเร็จหรอก เพราะคุณกับผมมันคนละมาตรฐานกัน
    “สนธิ”กับ‘วันชัย สอนศิริ ’มาตรฐานต่างกัน ราว “พญาเหยี่ยว”กับ‘นกกระจอก’ . เรื่องของผม สนธิ ลิ้มทองกุลกับคุณวันชัย สอนศิริ ผมกลับมานอนคิดสะระตะแล้ว เฮ้ย! ความผิดอยู่ที่เรานี่หว่า ผมพลาดไปเองที่ใช้มาตรฐานผมเป็นตัวตั้ง แล้วผมก็หวังว่าคุณคงจะมีมาตรฐานเหมือนผม นี่คือข้อผิดพลาดในชีวิตของผม ผมเพิ่งจะรู้ว่ามาตรฐานของคุณกับผมมันห่างกันเหลือเกินเป็นพันๆ ลี้ อุปมาอุปไมยผมเหมือนพญาเหยี่ยวที่บินอยู่บนท้องฟ้า แต่คุณคือนกกระจอก นกกระจิบ ที่บินอยู่ข้างล่าง หากินกับไส้เดือนบนพื้นดิน . มาตรฐานของผมคือ “อะไรที่ถูกต้อง ผมไม่ถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว” จนวันนี้ก็ยังไม่ถอย ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง จากวันนั้นถึงวันนี้ผมไม่เคยเปลี่ยน และผมยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ . หลักการตรงนี้อยู่ติดตัวผมมานานแล้ว มาจนกระทั่งทุกวันนี้ที่ผมสนับสนุนและส่งเสริมให้อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ทำเรื่องน้องแตงโมนั้น ก็เพราะว่าหลักการของสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ ให้ประชาชนได้รับรู้อีกด้านหนึ่ง . คุณวันชัย คุณรู้หรือเปล่าว่าผมสู้มาตั้งแต่ปี 2548 ยี่สิบปีแล้วที่ผมออกมาสู้ มาถึงวันนี้ ฝนตก แดดออก พายุเข้า พอทุกอย่างฟ้าใสแจ้งจางปาง พระอาทิตย์ออก ประชาชนเห็นว่าผมยังคงยืนอยู่ที่เดิม ผมไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย แต่คุณวันชัยต้องยอมรับกับผมนะว่า ประเทศไทยมีคนอยู่ไม่น้อยเลยที่ยอมเสียหลักการของตัวเอง เพื่อเลียคนที่มีอำนาจเพื่อให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ ผมไม่ทราบว่าคุณวันชัย เป็นหนึ่งในนั้นด้วยหรือเปล่า . ชีวิตผมอยู่ได้ด้วยความไม่กลัว ความกลัวคือความเสื่อม แล้วอีกอันหนึ่งที่ผมอยู่ได้เพราะ ธรรม พ่อแม่ครูอาจารย์ผมที่คุณดูถูก เยาะเย้ย เหยียดหยามหลวงตามหาบัว ท่านบอกว่า “สนธิ ธรรมชนะอธรรม ชนะอวิชชา ธรรมจะใช้เวลานิดหนึ่ง” เหมือนกับที่ผมต้องใช้เวลาถึง 17 ปี ผมและพันธมิตรฯ ทุกคนถึงได้รับการนิรโทษกรรมทางใจว่าพวกผมสู้มาไม่ผิด แต่ต้องรอตั้ง 17 ปี กว่า "ธรรม" ที่หลวงตามหาบัวสอนผมมาเป็นความจริง พิสูจน์ให้เห็นว่าการใช้ธรรมนำหน้าของผมที่ต่อสู้กับเจ้านายคุณ คือทักษิณ ชินวัตรนั้น เป็นความจริงที่เถียงไม่ออก เพราะนายคุณยอมรับสารภาพในราชกิจจานุเบกษาว่าได้ทำผิดจริง ได้ฉ้อราษฎร์บังหลวงจริง 1..2..3..4.. ถึงโดนโทษจำคุก 8 ปี แต่ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว . ผมเป็นคนเชื่อในหลักนิติธรรม และผมเคารพในหลักนิติธรรม ไม่ยอมปฏิเสธ ไม่หลบหนี มาตรฐานของผมบอกว่า ขนาดผมยังยอมเดินเข้าคุก ไม่หนี ติดคุกอยู่ 2 ปี 11 เดือน 27 วัน แล้วได้รับพระราชทานอภัยโทษออกมา เนื่องในวาระของราชาภิเษก ให้รัชกาลที่ 10 ขึ้นมาเป็นกษัตริย์ตอนนั้น ของผมถูกต้องตามระเบียบทุกประการ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น คุณวันชัยครับ เผอิญว่านี่ก็คือมาตรฐานของผมอย่างหนึ่งเช่นกัน ยี่สิบปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยเรียกร้องตำแหน่ง ผมไม่เคยต้องไปเลียรองเท้าของนายพลต่างๆ เพื่อให้นายพลตั้งตัวเองเป็น สว. พอเริ่มรู้ว่าตัวเองจะหมดอำนาจแล้วตั้งแต่สิงหาคม ก็เริ่มเลียการเมือง ผมไม่ได้พูดถึงใครนะครับคุณวันชัย อย่าเดือดร้อน . เพราะฉะนั้นแล้ว คุณจะไปตกลงอะไรกับทักษิณ ชินวัตร คุณตอบผมสักคำได้ไหมว่า นายใหม่คุณ เจ้าของคอกหมา ซึ่งคุณเข้าไปในคอกนั้นเรียบร้อยแล้ว เขาได้ทำอะไรให้บ้างตั้งแต่เขากลับมา นอกจากสร้างความวุ่นวายในเรื่องหลักนิติธรรมให้วุ่นวายทั่วประเทศ วิสัยทัศน์เขามีอะไร นอกจากการพนัน ตั้งบ่อนกาสิโน นอกจากแจกเงิน แล้วคุณอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ที่คุณบอกเป็นนารีกู้แผ่นดิน คุณวันชัยครับ ประชาชนเขาหัวเราะขำคำว่า "นารีกู้แผ่นดิน" ของคุณ . คุณวันชัย คุณเป็นทนาย คุณก็รู้ว่าในศาลเขาแพ้ชนะกันที่ประจักษ์พยานไม่ใช่หรือ แล้วคุณจะมาว่าผมสร้างความวุ่นวายได้อย่างไร ตัววุ่นวายคือนายคุณ ที่สร้างความวุ่นวาย แล้วคุณก็เป็นลูกคู่ที่เข้าไปช่วยทำให้ความวุ่นวายนั้นมันวุ่นวายมากขึ้น . มาตรฐานผม ผมไม่เคยถอย คุณบอกคุณเป็นนักเลง นักเลงกล้าได้กล้าเสีย แต่ผมเป็นนักเลงโบราณซึ่งนักเลงทั่วๆไปไม่มี คือผมเป็นคนที่มีสัจจะที่มีคนเชื่อผมเป็นแสนๆเป็นล้านคนทุกวันนี้ คุณไม่ต้องท้าผม ถึงเวลา ถ้าจำเป็น ผมจะลงถนนแน่นอน ผมจะลงถนนแน่นอน ถ้าการกระทำของรัฐบาลนี้ส่อให้เกิดการสูญเสียอธิปไตยของประเทศ ผมพร้อมเสมอ อย่ามาบอกว่าเดี๋ยวนี้ผมเรียกคนไม่ได้ คุณจะลองมั้ย ถึงวันนั้นแล้วคุณอย่าเสียใจนะว่าคุณปากไม่ดี พูดไม่ดี คุณวันชัย อยากจะพล่ามอะไรก็พล่าม เพราะคุณจำเป็นต้องพล่ามให้มากๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นายคุณ ว่าผมทำงานให้แล้วนะ ตำแหน่งโฆษกรัฐบาลถ้ามี ตั้งผมหน่อย . คุณจำไว้อย่างนะคุณวันชัย ผมไม่เคยเลียแข้งเลียขาใครเพื่อให้ตัวเองได้ตำแหน่ง อย่างเช่นเป็น สว. ไม่เคย ให้ตายสิ พอผมพูดถึงคุณแล้ว เขาหัวเราะกัน ประพันธ์ คูณมีบอกว่า พี่อย่าไปสนใจเลยไอ้คนประเภทนี้ คุณวันชัย เชิญคุณตามสบาย จะยั่วยุอย่างไร ยั่วยุไม่สำเร็จหรอก เพราะคุณกับผมมันคนละมาตรฐานกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 690 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ชาญชัย" ยื่นคำร้องครั้งที่ 3 ขอให้ศาลไต่สวน และออกหมายจับ "ทักษิณ" กลับไปติดคุก โดยเขียนคำฟ้องใหม่ รวบรวมพยานหลักฐานผู้กระทำผิดให้ครบถ้วน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000004976

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ชาญชัย" ยื่นคำร้องครั้งที่ 3 ขอให้ศาลไต่สวน และออกหมายจับ "ทักษิณ" กลับไปติดคุก โดยเขียนคำฟ้องใหม่ รวบรวมพยานหลักฐานผู้กระทำผิดให้ครบถ้วน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000004976 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    32
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1436 มุมมอง 1 รีวิว
  • หวิดวอดทั้งชุมชน!! ยายวัย 75 ปีใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จุดไฟเผาขยะเจอลมแรงพัดเปลวไฟติดป่าหญ้าข้างทางลุกลามกินเนื้อที่กว่า 1 ไร่ ทำชาวบ้านแตกตื่นทั้งชุมชน ดับเพลิงเข้าระงับเหตุวุ่น ผญบ.เตือนมีความผิดถึงขั้นติดคุก ปรับหลักแสน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000004569

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    หวิดวอดทั้งชุมชน!! ยายวัย 75 ปีใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จุดไฟเผาขยะเจอลมแรงพัดเปลวไฟติดป่าหญ้าข้างทางลุกลามกินเนื้อที่กว่า 1 ไร่ ทำชาวบ้านแตกตื่นทั้งชุมชน ดับเพลิงเข้าระงับเหตุวุ่น ผญบ.เตือนมีความผิดถึงขั้นติดคุก ปรับหลักแสน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000004569 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Sad
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1296 มุมมอง 0 รีวิว
  • 14 ม.ค. 2568 – นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความเรื่อง “ความรับผิดชอบ”ในคดีชั้น ๑๔ โดยมีเนื้อหา ดังนี้

    จรรยาบรรณแพทย์

    ถาม ๑๕ มกราคม นี้ ถึงกำหนดที่ฝ่ายแพทย์ ทั้ง รพ.ราชทัณฑ์ และ รพ.ตำรวจ ต้องส่งเวชระเบียน ให้อนุกรรมการสอบสวนของ แพทยสภาแล้ว ขอทราบว่า แพทยสภาเขาจะไปเอาทำอะไรครับ
    ตอบ ไปตรวจว่ามีหมอคนไหน ทำผิดจรรยาบรรณ ไม่ซื่อตรงต่อหน้าที่หรือไม่ เช่นรายงานเท็จ ปั้นแต่งให้ความเห็นโดยไม่ใช้วิชาชีพ อย่างนี้ถ้าพบว่ามีจริงก็ลงโทษผิดจรรยาบรรณ คือ พักใช้หรือยึดใบประกอบโรคศิลป์ ทั้งนี้ไม่ว่าหมอคนนั้นจะอยู่ในราชการหรือไม่ก็ตาม

    ถาม แล้วหมอคนที่ผิดจรรยาบรรณนั้น ไม่ติดคุกหรือครับ
    ตอบ ถ้าอยู่ในราชการ ก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ ต้องไปติดคุกเพราะกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่เป็นอีกฐานความผิดหนึ่ง

    ถาม ถ้า รพ.ตำรวจ รับทักษิณไว้ โดยไม่มีการตรวจโรคเลย แล้วหมอก็ผ่าไหล่ให้ตามคำสั่ง ผอ.เท่านั้น
    ตอบ หมอที่ผ่าก็ไม่ผิดอะไรในทางจรรยาบรรณ จะผิดก็ตรง ผอ.โรงพยาบาลที่รับนักโทษ ให้ มาอยู่อาศัยราวกับเป็นโรงแรมเท่านั้น ตรงนี้ก็เป็นเรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ เช่นกัน
    ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่

    ถาม ถ้าเขาบอกแพทยสภาว่าไม่ให้เวชระเบียน เพราะผู้ป่วยไม่ยินยอม จะได้ไหม
    ตอบ ไม่ได้ครับ นี่เป็นคำสั่งเพื่อทำการตามหน้าที่ใ ที่บัญญัติไว้ในกฎหมายวิชาชีพเวชกรรม จะอ้างสิทธิคนป่วยมาหวงกันเวชระเบียนไว้ไม่ได้ กฎหมายสุขภาพชัดเจนว่า ให้ปฏิเสธได้แต่เฉพาะการขอทราบโดยอ้างสิทธิสาธารณะชน ตามกฎหมายข้อมูลข่าวสารเท่านั้น

    ถาม เห็น พ.ต.อ.ทวี รัฐมนตรียุติธรรม บอกว่า รพ.ตำรวจ น่าจะส่งเวชระเบียนจากหมอสิงค์โปร์ ให้แพทยสภาเขาไปซะ จะได้หมดเรื่อง
    ตอบ อย่ามั่วครับท่าน…แพทยสภาไทย เขาตรวจหมอไทยครับ ว่าตรวจสุขภาพ นช.ทักษิณ และให้ความเห็นถูกต้องไหมในกระบวนการส่งตัวและรับตัวทั้งหมดระหว่างเรือนจำ และ รพ.ตำรวจ ส่วนรายงานแพทย์จากสิงค์โปร์นั้นไม่เกี่ยวอะไรเลย

    ถาม พ.ต.อ.ทวี ยังพูดในสภาว่า ได้เคยเห็นรายงานผ่าไหล่และ ผล MRI ของ นักโทษ ในรายงานของเรือนจำด้วยตาตนเองเลยนะครับ
    ตอบ ประเด็นในคดี มันอยู่ตรงที่ว่า ป่วยหนักจน รพ.ราชทัณฑ์ รักษาไม่ได้จริงหรือไม่ เรื่องผ่าไหล่นั่นไม่เกี่ยวเลย ส่งไปนอนเล่นอยู่โรงพยาบาลตำรวจ แล้วมีผ่าไหล่แถมให้ก็ได้ ผ่าแบบนี้อยู่โรงพยาบาลวันสองวันก็กลับเรือนจำได้แล้ว มิหนำซ้ำพวกหมอเขาบอกว่า ถ้าป่วยวิกฤตแล้ว ทำMRI ก็ไม่ได้ ดมยาสลบก็ไม่ได้นะครับ

    ถาม รัฐมนตรีอาจพูดเพื่อให้ตัวเองดูสุจริตก็ได้นะครับ
    ตอบ ถ้าในรายงานจากเรือนจำ ชัดเจนว่าไม่มีการตรวจร่างกาย และไม่มีคำสั่งส่งตัวรับตัว ด้วยเหตุป่วยวิกฤตอยู่เลย ตรงนี้ก็แสดงว่า ระดับล่างทำงานบกพร่อง ละเว้นหน้าที่ชัดเจนแล้ว รายงานบกพร่องอย่างนี้ทำไมระดับบน ทั้ง อธิบดี ปลัดกระทรวง และรัฐมนตรีไม่เห็น ไม่ท้วงติง เพียงแค่นี้ผมก็ว่ามีมูลให้ ปปช.ตั้งข้อหา เจ้าหน้าที่ระดับบน เพิ่มได้แล้วครับ

    ถาม ถ้า รพ.ตำรวจและเรือนจำ ทำนิ่งเฉยไม่ส่งเวชระเบียน หรือตอบว่าไม่มี จะได้ไหม
    ตอบ ถ้าเป็นอย่างนั้น ความตามปากคำพยานบุคคล คือ พลตำรวจเอกเสรี ที่เห็นด้วยตาว่า ทักษิณไม่ป่วยจริง ก็จะมีน้ำหนักฟังเป็นที่ยุติขึ้นมาทันที จะโดน ๑๕๗ กันหมดทั้ง ผบ.เรือนจำและ ผอ.โรงพยาบาลตำรวจ
    ถาม ในมติ ปปช.เห็นว่า เจ้าหน้าที่มีมูลความผิด ถึง ๑๒ คน ครับ
    ตอบ ๑๒ คน นั้นเป็นคนที่มีชื่อเกี่ยวข้องเท่านั้น ถ้าได้เวชระเบียนมาตรวจสอบ หรือได้ปากคำจนความจริงครบถ้วน ใน ๑๒ คนนี้ก็น่าจะมีคนพ้นข้อสงสัยไปได้ ที่วันนี้โดนสงสัยกันหมดเพราะไม่ยอมให้ปากคำและเวชระเบียนใดๆเลย จริงๆนั้น มาถึงชั้นนี้ มันต้องตัวใครตัวมันกันแล้วครับ
    อำนาจศาลยุติธรรม ออกหมายจำคุกใหม่

    ถาม คำพืพากษาจำคุกมีแล้ว ออกหมายจำคุกแล้ว แล้วนักโทษถูกปล่อยไปนอนเล่นโรงพยาบาล อย่างนี้จะเอาตัวมาขังใหม่ได้ไหมครับ
    ตอบ เรื่องการบังคับตามคำพิพากษษคดีอาญานี้ มีมาตรา ๒๔๖ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาระบุว่า ถ้านักโทษป่วยและอยู่ในคุกแล้วจะมีอันตรายถึงชีวิต ก็ให้ศาลสั่งทุเลาโทษ คือไปรักษาตัวนอกเรือนจำโดยหยุดไม่นับเวลาคุมขังได้ แต่กระทรวงยุติธรรมกลับมาออกกฎกระทรวงให้อำนาจราชทัณฑ์ส่งนักโทษไปรักษานอกเรือนจำได้เองจนยาวไปเลย โดยมีการตรวจสอบของผู้บังคับบัญชาจากรายงานเป็นระยะเท่านั้นเอง
    ตรงนี้ ก็นับเป็นปัญหาทางนิติบัญญัติที่ต้องทบทวนกันให้ชัดเจนต่อไปว่าจะเอายังไงกันแน่ ที่จริงนั้นก็ควรจะให้ราชทัณฑ์ส่งตัวโดยไม่ผ่านศาลได้ เฉพาะที่เป็นการฉุกเฉินเท่านั้น แล้วค่อยให้มาขอศาลอีกทีเมื่อเกิน ๓๐ วัน ไปแล้วก็ได้

    ถาม แล้วคดี นช.ทักษิณจะทำอย่างไร เมื่อได้ส่งตัวไปแล้วโดยไม่ผ่านศาล
    ตอบ ก็ต้องถือตามกฎกระทรวงครับ แต่เงื่อนไขว่าต้องเจ็บป่วยวิกฤตถึงชีวิต ยังคงดำรงอยู่

    ถาม แล้วศาลจะมีอำนาจตรวจสอบย้อนหลังได้อย่างไรครับ ในเมื่อนักโทษเขาออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว พ้นโทษไปแล้วอย่างนี้
    ตอบ อำนาจตรวจสอบให้มีการปฏิบัติตามหมายจำคุกนั้นยังมีอยู่เสมอไป มาตรา ๒๔๖ เป็นมาตราที่ยืนยันความมีอยู๋ของอำนาจนี้ว่า ราชทัณฑ์จะเห็นหมายศาลที่ให้จำคุกเป็นกระดาษเช็ดก้นไม่ได้

    ถาม แล้วเรื่องจะไปสู่ศาล ให้ศาลตรวจสอบว่านักโทษป่วยวิกฤตจริงไหม ได้อย่างไร ใครจะร้องได้บ้างว่า นักโทษไม่ได้ติดคุกเลย
    ตอบ ก็ต้องเอานิติวิธีที่ใช้กฎหมายเทียบเคียงมาช่วยครับ โดยเทียบกับ มาตรา ๒๔๖ ดูสิครับว่ามาตรานี้ใครร้องได้บ้าง มาคดีนี้ก็น่าจะร้องได้อย่างนั้นเหมือนกัน ดูซึ่งผมว่าต้องร้องได้ทั้งราชทัณฑ์เอง หรือศาลเห็นเอง ก็ได้
    เริ่มจากรัฐมนตรียุติธรรม ถ้าพึ่งรู้ว่าผิดพลาด จะสั่งราชทัณฑ์ให้ร้องศาลก็ได้ หรือศาลจะเห็นเองก็ได้ ซึ่งวันนี้คดีนี้ก็มีข้อสงสัยถึงขั้น ปปช.สั่งมีมูลแล้ว แพทยสภาขอเวชระเบียนแล้วก็ยังเบี้ยวไม่ยอมให้ เพียงเท่านี้ก็พอให้ศาลสั่งไต่สวนได้แล้วครับ

    ถาม ศาลลงมือไต่สวนได้โดยไม่ต้องรอ ผล ปปช. หรือ แพทยสภา ใช่ไหมครับ
    ตอบ ไม่ต้องรอแน่นอนครับ โดยหลักกฎหมายนั้น เรามีแต่ห้ามองค์กรใดพิจารณาแข่งกับศาลไม่มีเลยที่ให้ศาลรอผลองค์กรอื่น และยิ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาว่าเบี้ยวคำพิพากษาศาลหรือไม่ด้วยแล้ว ศาลจะมานั่งรอเห็นตามคนอื่นไม่ได้หรอกครับ

    ถาม เห็นมีข่าวว่า ศาลส่วนหนึ่งเห็นว่าเรื่องนี้เป็นความขัดแย้งทางการเมือง ตนจึงไม่อยากเข้ามายุ่งเกี่ยว กลายเป็น “คู่กรณี” ด้วย
    ตอบ เรื่องนี้เป็นเรื่องความยุติธรรมในบ้านเมือง ที่ประชาชนได้ยอมรับเห็นศาลเป็นเสาหลักมาสี่ชั่วคนแล้ว ถ้าวันนี้คนในสถาบันไม่รู้สำนึกในหน้าที่นี้ บ้านเมืองก็ต้องชิบหายต่อไปอีก จนในที่สุดก็หายไปหมดทั้งศาลและประชาชนบนแผ่นดินนี้
    แก้วสรร อติโพธิ
    14 ม.ค. 2568 – นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความเรื่อง “ความรับผิดชอบ”ในคดีชั้น ๑๔ โดยมีเนื้อหา ดังนี้ จรรยาบรรณแพทย์ ถาม ๑๕ มกราคม นี้ ถึงกำหนดที่ฝ่ายแพทย์ ทั้ง รพ.ราชทัณฑ์ และ รพ.ตำรวจ ต้องส่งเวชระเบียน ให้อนุกรรมการสอบสวนของ แพทยสภาแล้ว ขอทราบว่า แพทยสภาเขาจะไปเอาทำอะไรครับ ตอบ ไปตรวจว่ามีหมอคนไหน ทำผิดจรรยาบรรณ ไม่ซื่อตรงต่อหน้าที่หรือไม่ เช่นรายงานเท็จ ปั้นแต่งให้ความเห็นโดยไม่ใช้วิชาชีพ อย่างนี้ถ้าพบว่ามีจริงก็ลงโทษผิดจรรยาบรรณ คือ พักใช้หรือยึดใบประกอบโรคศิลป์ ทั้งนี้ไม่ว่าหมอคนนั้นจะอยู่ในราชการหรือไม่ก็ตาม ถาม แล้วหมอคนที่ผิดจรรยาบรรณนั้น ไม่ติดคุกหรือครับ ตอบ ถ้าอยู่ในราชการ ก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ ต้องไปติดคุกเพราะกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่เป็นอีกฐานความผิดหนึ่ง ถาม ถ้า รพ.ตำรวจ รับทักษิณไว้ โดยไม่มีการตรวจโรคเลย แล้วหมอก็ผ่าไหล่ให้ตามคำสั่ง ผอ.เท่านั้น ตอบ หมอที่ผ่าก็ไม่ผิดอะไรในทางจรรยาบรรณ จะผิดก็ตรง ผอ.โรงพยาบาลที่รับนักโทษ ให้ มาอยู่อาศัยราวกับเป็นโรงแรมเท่านั้น ตรงนี้ก็เป็นเรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ เช่นกัน ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ถาม ถ้าเขาบอกแพทยสภาว่าไม่ให้เวชระเบียน เพราะผู้ป่วยไม่ยินยอม จะได้ไหม ตอบ ไม่ได้ครับ นี่เป็นคำสั่งเพื่อทำการตามหน้าที่ใ ที่บัญญัติไว้ในกฎหมายวิชาชีพเวชกรรม จะอ้างสิทธิคนป่วยมาหวงกันเวชระเบียนไว้ไม่ได้ กฎหมายสุขภาพชัดเจนว่า ให้ปฏิเสธได้แต่เฉพาะการขอทราบโดยอ้างสิทธิสาธารณะชน ตามกฎหมายข้อมูลข่าวสารเท่านั้น ถาม เห็น พ.ต.อ.ทวี รัฐมนตรียุติธรรม บอกว่า รพ.ตำรวจ น่าจะส่งเวชระเบียนจากหมอสิงค์โปร์ ให้แพทยสภาเขาไปซะ จะได้หมดเรื่อง ตอบ อย่ามั่วครับท่าน…แพทยสภาไทย เขาตรวจหมอไทยครับ ว่าตรวจสุขภาพ นช.ทักษิณ และให้ความเห็นถูกต้องไหมในกระบวนการส่งตัวและรับตัวทั้งหมดระหว่างเรือนจำ และ รพ.ตำรวจ ส่วนรายงานแพทย์จากสิงค์โปร์นั้นไม่เกี่ยวอะไรเลย ถาม พ.ต.อ.ทวี ยังพูดในสภาว่า ได้เคยเห็นรายงานผ่าไหล่และ ผล MRI ของ นักโทษ ในรายงานของเรือนจำด้วยตาตนเองเลยนะครับ ตอบ ประเด็นในคดี มันอยู่ตรงที่ว่า ป่วยหนักจน รพ.ราชทัณฑ์ รักษาไม่ได้จริงหรือไม่ เรื่องผ่าไหล่นั่นไม่เกี่ยวเลย ส่งไปนอนเล่นอยู่โรงพยาบาลตำรวจ แล้วมีผ่าไหล่แถมให้ก็ได้ ผ่าแบบนี้อยู่โรงพยาบาลวันสองวันก็กลับเรือนจำได้แล้ว มิหนำซ้ำพวกหมอเขาบอกว่า ถ้าป่วยวิกฤตแล้ว ทำMRI ก็ไม่ได้ ดมยาสลบก็ไม่ได้นะครับ ถาม รัฐมนตรีอาจพูดเพื่อให้ตัวเองดูสุจริตก็ได้นะครับ ตอบ ถ้าในรายงานจากเรือนจำ ชัดเจนว่าไม่มีการตรวจร่างกาย และไม่มีคำสั่งส่งตัวรับตัว ด้วยเหตุป่วยวิกฤตอยู่เลย ตรงนี้ก็แสดงว่า ระดับล่างทำงานบกพร่อง ละเว้นหน้าที่ชัดเจนแล้ว รายงานบกพร่องอย่างนี้ทำไมระดับบน ทั้ง อธิบดี ปลัดกระทรวง และรัฐมนตรีไม่เห็น ไม่ท้วงติง เพียงแค่นี้ผมก็ว่ามีมูลให้ ปปช.ตั้งข้อหา เจ้าหน้าที่ระดับบน เพิ่มได้แล้วครับ ถาม ถ้า รพ.ตำรวจและเรือนจำ ทำนิ่งเฉยไม่ส่งเวชระเบียน หรือตอบว่าไม่มี จะได้ไหม ตอบ ถ้าเป็นอย่างนั้น ความตามปากคำพยานบุคคล คือ พลตำรวจเอกเสรี ที่เห็นด้วยตาว่า ทักษิณไม่ป่วยจริง ก็จะมีน้ำหนักฟังเป็นที่ยุติขึ้นมาทันที จะโดน ๑๕๗ กันหมดทั้ง ผบ.เรือนจำและ ผอ.โรงพยาบาลตำรวจ ถาม ในมติ ปปช.เห็นว่า เจ้าหน้าที่มีมูลความผิด ถึง ๑๒ คน ครับ ตอบ ๑๒ คน นั้นเป็นคนที่มีชื่อเกี่ยวข้องเท่านั้น ถ้าได้เวชระเบียนมาตรวจสอบ หรือได้ปากคำจนความจริงครบถ้วน ใน ๑๒ คนนี้ก็น่าจะมีคนพ้นข้อสงสัยไปได้ ที่วันนี้โดนสงสัยกันหมดเพราะไม่ยอมให้ปากคำและเวชระเบียนใดๆเลย จริงๆนั้น มาถึงชั้นนี้ มันต้องตัวใครตัวมันกันแล้วครับ อำนาจศาลยุติธรรม ออกหมายจำคุกใหม่ ถาม คำพืพากษาจำคุกมีแล้ว ออกหมายจำคุกแล้ว แล้วนักโทษถูกปล่อยไปนอนเล่นโรงพยาบาล อย่างนี้จะเอาตัวมาขังใหม่ได้ไหมครับ ตอบ เรื่องการบังคับตามคำพิพากษษคดีอาญานี้ มีมาตรา ๒๔๖ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาระบุว่า ถ้านักโทษป่วยและอยู่ในคุกแล้วจะมีอันตรายถึงชีวิต ก็ให้ศาลสั่งทุเลาโทษ คือไปรักษาตัวนอกเรือนจำโดยหยุดไม่นับเวลาคุมขังได้ แต่กระทรวงยุติธรรมกลับมาออกกฎกระทรวงให้อำนาจราชทัณฑ์ส่งนักโทษไปรักษานอกเรือนจำได้เองจนยาวไปเลย โดยมีการตรวจสอบของผู้บังคับบัญชาจากรายงานเป็นระยะเท่านั้นเอง ตรงนี้ ก็นับเป็นปัญหาทางนิติบัญญัติที่ต้องทบทวนกันให้ชัดเจนต่อไปว่าจะเอายังไงกันแน่ ที่จริงนั้นก็ควรจะให้ราชทัณฑ์ส่งตัวโดยไม่ผ่านศาลได้ เฉพาะที่เป็นการฉุกเฉินเท่านั้น แล้วค่อยให้มาขอศาลอีกทีเมื่อเกิน ๓๐ วัน ไปแล้วก็ได้ ถาม แล้วคดี นช.ทักษิณจะทำอย่างไร เมื่อได้ส่งตัวไปแล้วโดยไม่ผ่านศาล ตอบ ก็ต้องถือตามกฎกระทรวงครับ แต่เงื่อนไขว่าต้องเจ็บป่วยวิกฤตถึงชีวิต ยังคงดำรงอยู่ ถาม แล้วศาลจะมีอำนาจตรวจสอบย้อนหลังได้อย่างไรครับ ในเมื่อนักโทษเขาออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว พ้นโทษไปแล้วอย่างนี้ ตอบ อำนาจตรวจสอบให้มีการปฏิบัติตามหมายจำคุกนั้นยังมีอยู่เสมอไป มาตรา ๒๔๖ เป็นมาตราที่ยืนยันความมีอยู๋ของอำนาจนี้ว่า ราชทัณฑ์จะเห็นหมายศาลที่ให้จำคุกเป็นกระดาษเช็ดก้นไม่ได้ ถาม แล้วเรื่องจะไปสู่ศาล ให้ศาลตรวจสอบว่านักโทษป่วยวิกฤตจริงไหม ได้อย่างไร ใครจะร้องได้บ้างว่า นักโทษไม่ได้ติดคุกเลย ตอบ ก็ต้องเอานิติวิธีที่ใช้กฎหมายเทียบเคียงมาช่วยครับ โดยเทียบกับ มาตรา ๒๔๖ ดูสิครับว่ามาตรานี้ใครร้องได้บ้าง มาคดีนี้ก็น่าจะร้องได้อย่างนั้นเหมือนกัน ดูซึ่งผมว่าต้องร้องได้ทั้งราชทัณฑ์เอง หรือศาลเห็นเอง ก็ได้ เริ่มจากรัฐมนตรียุติธรรม ถ้าพึ่งรู้ว่าผิดพลาด จะสั่งราชทัณฑ์ให้ร้องศาลก็ได้ หรือศาลจะเห็นเองก็ได้ ซึ่งวันนี้คดีนี้ก็มีข้อสงสัยถึงขั้น ปปช.สั่งมีมูลแล้ว แพทยสภาขอเวชระเบียนแล้วก็ยังเบี้ยวไม่ยอมให้ เพียงเท่านี้ก็พอให้ศาลสั่งไต่สวนได้แล้วครับ ถาม ศาลลงมือไต่สวนได้โดยไม่ต้องรอ ผล ปปช. หรือ แพทยสภา ใช่ไหมครับ ตอบ ไม่ต้องรอแน่นอนครับ โดยหลักกฎหมายนั้น เรามีแต่ห้ามองค์กรใดพิจารณาแข่งกับศาลไม่มีเลยที่ให้ศาลรอผลองค์กรอื่น และยิ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาว่าเบี้ยวคำพิพากษาศาลหรือไม่ด้วยแล้ว ศาลจะมานั่งรอเห็นตามคนอื่นไม่ได้หรอกครับ ถาม เห็นมีข่าวว่า ศาลส่วนหนึ่งเห็นว่าเรื่องนี้เป็นความขัดแย้งทางการเมือง ตนจึงไม่อยากเข้ามายุ่งเกี่ยว กลายเป็น “คู่กรณี” ด้วย ตอบ เรื่องนี้เป็นเรื่องความยุติธรรมในบ้านเมือง ที่ประชาชนได้ยอมรับเห็นศาลเป็นเสาหลักมาสี่ชั่วคนแล้ว ถ้าวันนี้คนในสถาบันไม่รู้สำนึกในหน้าที่นี้ บ้านเมืองก็ต้องชิบหายต่อไปอีก จนในที่สุดก็หายไปหมดทั้งศาลและประชาชนบนแผ่นดินนี้ แก้วสรร อติโพธิ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 630 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พุดเดิ้ล ยุพดี” เพื่อนสนิท “แอนนา ทีวีพูล” ยันที่ผ่านมาไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกง ถูกเรียกสอบ 3 ครั้ง ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี น้อยใจถูกสังคมโจมตีจนเก็บตัว เปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนไลน์ ลั่นแอนนาดีใจจะมีการรื้อคดีการตายของ “แตงโม” พร้อมโต้แตงโมตาย วิ่งหาแสง แอนนา ติดคุก ทิ้งเพื่อน

    เป็นทั้งเพื่อนสนิทและผู้จัดการให้กับ “แอนนา ทีวีพูล” วรินทร วัตรสังข์ สำหรับ “พุดเดิ้ล ยุพดี” ก่อนที่แอนนาจะเดินเข้าเรือนจำเอง ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาข่าวคราวของพุดเดิ้ล ยุพดี ก็หายเงียบไปด้วย ล่าสุดผู้สื่อข่าวเจอเจ้าตัวในงานประกวด มิสแกรนด์เลย 2025 พุดเดิ้ลก็ได้เผยชีวิตในช่วงนี้ให้ฟังว่า

    “ที่ผ่านมาไม่ค่อยเห็นเราได้ออกงาน จะพูดยังไงดี คือเราสนิทกับแอนนามาก มีพุดเดิ้ลก็ต้องมีแอนนา ตอนนี้พี่แอนนาอยู่ในเรือนจำ หลายคนก็มองว่าพุดเดิ้ลจะไปยังไงต่อดี บางคนก็มองว่า เรามีส่วนรู้เห็นไหมกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น ตอนนี้มันอยู่ในกระบวนการของกฎหมาย พุดเดิ้ลเป็นผู้จัดการแอนนา เป็นเพื่อน เป็นคนสนิท เรื่องบางเรื่อง พุดเดิ้ลไม่เคยรับรู้ และก็ไม่ได้รับทราบ กับสิ่งที่มันเกิดขึ้น พุดเดิ้ลทราบในเรื่องของพุดเดิ้ลเอง สังคมก็โจมตีว่าเราต้องมีส่วนรู้เห็นแน่นอน ต้องทำเป็นกระบวนการ ซึ่งสิ่งที่มันเกิดขึ้น ตำรวจได้เรียกพุดเดิ้ล ไปสอบสวนว่ารายละเอียดเป็นยังไง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000004148

    #MGROnline #พุดเดิ้ล #แอนนาทีวีพูล
    “พุดเดิ้ล ยุพดี” เพื่อนสนิท “แอนนา ทีวีพูล” ยันที่ผ่านมาไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกง ถูกเรียกสอบ 3 ครั้ง ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี น้อยใจถูกสังคมโจมตีจนเก็บตัว เปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนไลน์ ลั่นแอนนาดีใจจะมีการรื้อคดีการตายของ “แตงโม” พร้อมโต้แตงโมตาย วิ่งหาแสง แอนนา ติดคุก ทิ้งเพื่อน • เป็นทั้งเพื่อนสนิทและผู้จัดการให้กับ “แอนนา ทีวีพูล” วรินทร วัตรสังข์ สำหรับ “พุดเดิ้ล ยุพดี” ก่อนที่แอนนาจะเดินเข้าเรือนจำเอง ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาข่าวคราวของพุดเดิ้ล ยุพดี ก็หายเงียบไปด้วย ล่าสุดผู้สื่อข่าวเจอเจ้าตัวในงานประกวด มิสแกรนด์เลย 2025 พุดเดิ้ลก็ได้เผยชีวิตในช่วงนี้ให้ฟังว่า • “ที่ผ่านมาไม่ค่อยเห็นเราได้ออกงาน จะพูดยังไงดี คือเราสนิทกับแอนนามาก มีพุดเดิ้ลก็ต้องมีแอนนา ตอนนี้พี่แอนนาอยู่ในเรือนจำ หลายคนก็มองว่าพุดเดิ้ลจะไปยังไงต่อดี บางคนก็มองว่า เรามีส่วนรู้เห็นไหมกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น ตอนนี้มันอยู่ในกระบวนการของกฎหมาย พุดเดิ้ลเป็นผู้จัดการแอนนา เป็นเพื่อน เป็นคนสนิท เรื่องบางเรื่อง พุดเดิ้ลไม่เคยรับรู้ และก็ไม่ได้รับทราบ กับสิ่งที่มันเกิดขึ้น พุดเดิ้ลทราบในเรื่องของพุดเดิ้ลเอง สังคมก็โจมตีว่าเราต้องมีส่วนรู้เห็นแน่นอน ต้องทำเป็นกระบวนการ ซึ่งสิ่งที่มันเกิดขึ้น ตำรวจได้เรียกพุดเดิ้ล ไปสอบสวนว่ารายละเอียดเป็นยังไง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000004148 • #MGROnline #พุดเดิ้ล #แอนนาทีวีพูล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 431 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11ม.ค.2568 เมื่อเวลา 19.00 น.ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน กทม. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ(คปท.) ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยถึงทิศทางการจัดกิจกรรม “ปีเช็คบิลป่วยทิพย์ชั้น 14 แพทยสภาถึงเวลารักษาความยุติธรรม หยุด-ระบอบชินวัตร หยุด-เอ็มโอยู 44 หยุด-บ่อนคาสิโน” ว่า จากที่เราประกาศชุมนุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ม.ค.67 ซึ่งเป็นวันเด็ก จนถึงวันนี้เราชุมนุมครอบรอบ 1 ปีพอดี การต่อสู้กับระบอบชินวัตรที่ผ่านมาของพวกเรา เห็นผลได้ชัดเจนจากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ จากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน รวมถึงนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรมว.คลัง ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติในการมาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (บอร์ดแบงค์ชาติ) ผ่านมาจนปีนี้มีเรื่องที่เราต้องติดตาม ตนอยากชวนให้ทุกคนเตรียมรองเท้าผ้าใบให้พร้อม ปีนี้เราจะเช็คบิลเทวดาชั้น 14 เพื่อสร้างระบบนิติรัฐ
    นิติธรรม

    นายพิชิต กล่าวต่อว่า เรามี 2 ข้อเรียกร้อง คือ 1.ขอให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม แสดงความรับผิดชอบกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลข้าราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ที่ไปช่วยทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยการลาออก 2.เรียกร้องให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง ลาออก จากกรณีเสนอชื่อนายกิตติรัตน์ เป็นประธานบอร์แบงค์ชาติ จนไม่ผ่านคุณสมบัติ ขณะที่ 5 เรื่องที่ต้องคัดค้าน คือ 1.ยกเลิก MOU44 2.คัดค้านบ่อนคาสิโน 3.คัดค้านพนันออนไลน์ 4.เช่าที่ 99 ปี ที่เป็นการขายชาติ และ 5.คัดค้านการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่ทำให้ประเทศเสียหาย

    ส่วน 2 เรื่องที่ต้องให้กำลังใจ คือ 1.ให้กำลังใจป.ป.ช. เดินหน้าเอานักโทษมาติดคุกให้ได้ และ 2.ให้กำลังใจแพทยสภาในการเรียกเวชระเบียนมาตรวจสอบเพื่อผดุงจรรยาบรรณทางการแพทย์ แพทยสภาต้องฉีดยาความจริงให้ประเทศ อย่าไปเอื้อแพทย์ด้วยกันที่ทำผิด ทั้งนี้ ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ เวลา 10.30 น. ขอให้ทุกคนใส่รองเท้าผ้าใบ เดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เพื่อทวงถามเวชระเบียนจากโรงพยาบาลตำรวจ และวันที่ 15 ม.ค. จะเดินทางไปที่แพทยสภา ที่อยู่ในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้กำลังใจในการทวงถามเอกสารสำคัญเพื่อยืนยันอาการป่วยของนายทักษิณ แต่ถ้าในวันดังกล่าวแพทยสภาบอกว่ายังไม่ได้รับเอกสารใดๆ เราก็จะพร้อมใส่รองเท้าผ้าใบมาทวงถามที่ทำเนียบรัฐบาล

    นายพิชิต กล่าวว่า และอีก 1 เรื่องต้องจับตาที่จะเป็นชนวนในการเช็คบิลนายทักษิณ คือการที่นายทักษิณประกาศพาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ น้องสาว กลับบ้านในเดือนเม.ย.นี้ ถ้ากลับมาแล้วเป็นนักโทษนางฟ้าเหมือนพี่ชาย เราก็เตรียมออกมาไล่รัฐบาลของน.ส.แพทองธารได้ทันที อย่างไรก็ตาม เรามีสิ่งต้องตามทวงถาม โดยเฉพาะกรณีชั้น 14 นอกเหนือจากการทำลายกระบวนการยุติธรรมแล้ว ยังทำลายประเทศเราด้วย ด้วยการที่มีบุคคลหนึ่งทำลายเสาหลักของระบบนิติรัฐ นิติธรรม นอกจากที่แพทยสภาแล้ว ผบ.ตร.ต้องสั่งการให้ส่งเวชระเบียนนายทักษิณไปที่ป.ป.ช.ที่มีการเรียกขอมาก่อนหน้านี้ด้วย เพราะตามหลักการแล้วหลักฐานอยู่ในมือตำรวจก็ต้องมาแสดง แต่ถ้ากลับทำลายหลักฐานเสียเอง หรือยับนิ่งเฉย ผบ.ตร.ก็ต้องลาออกด้วย

    นายพิชิต กล่าวต่อว่า นายทักษิณ ใช้อำนาจเหนือรัฐ เป็นผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ไปประกาศว่า จะนำกำลังไปบุกประเทศเพื่อนบ้าน ประกาศทุบค่าไฟ ใช้อำนาจอะไรสั่งการ วันนี้ประเทศไทยมีอำนาจซ้อนอำนาจ มีอำนาจเหนือรัฐ นายทักษิณใช้อำนาจเต็มที่ กลายเป็นรัฐบาลไม่กล้าใช้อำนาจรัฐ ขณะเดียวกันวันนี้เป็นวันเด็ก มีเด็กๆไปนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีถ่ายรูปด้วยความภาคภูมิใจ แต่ตนบอกว่าเรามีเด็กนั่งเป็นนายกฯมานานหลายเดือนแล้ว อย่าว่าแต่เด็กไปนั่งเก้าอี้นายกฯเลย ทุกวันนี้นายกฯยังเป็นนั่งอยู่ในเก้าอี้อยู่เลย นายกฯไม่มีผลงานอะไรเด่นเลยสักเรื่อง มีเด่นอยู่อย่างเดียว คือแต่งตัวให้ถูกเขาด่าได้ทุกวันทั้งประเทศ

    นายพิชิต กล่าวด้วยว่า ที่นายทักษิณ บอกว่าเป็นโรคเอ็นเปื่อย ทางการแพทย์ไม่มีระบุ มันมีที่ไหน มันไม่ใช่ลูกชิ้นเนื้อเปื่อย คนเป็นโรคเอ็นเปื่อยจะไปตีกอล์ฟออกแรงสวิงได้อย่างไร คนป่วยติดเตียง 180 วันออกมามันจะแข็งแรงได้อย่างไร และที่นายทักษิณ บอกว่ายังไงก็เอาเขากลับเข้าเรือนจำไม่ได้ เมื่อความจริงปรากฎ แนวร่วมเริ่มเกิดขึ้นเรื่อยๆ ท้ายที่สุดกองกฐินที่มาเรื่อยๆจะมาไหลรวมกันที่ทำเนียบรัฐบาล มันหนีไม่ออก น.ส.แพทองธาร ก็ต้องรับผิดชอบทางการเมืองด้วยเช่นกัน

    “ที่นายทักษิณบอกว่าให้นำพนันออนไลน์ขึ้นมาบนดิน แล้วจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส บอกว่าสามารถทำได้ ทักษิณพูดรัฐมนตรีทำแบบนี้ไม่เรียกสั่งการครอบงำได้อย่างไร คนเห็นทั้งประเทศ ที่มองไม่เห็นอยู่ 5 คนคือคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. วันนี้กกต.เริ่มพูด การหาเสียงท้องถิ่นหากไปพูดนโยบายรัฐ สุ่มเสี่ยงที่จะผิดกฎหมาย เข้าข่ายการซื้อเสียงผ่านนโยบายรัฐหรือไม่ เราก็ไปยื่นให้กกต.ตรวจสอบแล้ว ตามสิทธิ์ของประชาชนที่สามารถตรวจสอบรัฐบาลได้ พอเข้าไปตรวจสอบ ก็หาว่าก่อความวุ่นวาย ตกลงจะให้เราจะนั่งอยู่เฉยๆ ปล่อยให้พวกคุณโกงกันหรือไง พอเข้าไปตรวจสอบตามระบบ ก็บอกว่าจะฟ้องกลับ ผมก็ยินดี คดีผมเยอะแล้ว เพิ่มอีกคดีไม่เห็นเป็นอะไร“ แกนนำคปท. กล่าว

    ที่มา : แนวหน้า
    https://www.naewna.com/politic/852717?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR19m8JG0ju8L-nNUgU4KBHxiBlnVnUyNAETuDlRU-38FCSvoWDScdrkQ5A_aem_xZPNNwpQAvULZKuNZxIqKQ#nwrsmlxrnogt5ygxo7xkpqorilo2jdzh
    11ม.ค.2568 เมื่อเวลา 19.00 น.ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน กทม. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ(คปท.) ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยถึงทิศทางการจัดกิจกรรม “ปีเช็คบิลป่วยทิพย์ชั้น 14 แพทยสภาถึงเวลารักษาความยุติธรรม หยุด-ระบอบชินวัตร หยุด-เอ็มโอยู 44 หยุด-บ่อนคาสิโน” ว่า จากที่เราประกาศชุมนุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ม.ค.67 ซึ่งเป็นวันเด็ก จนถึงวันนี้เราชุมนุมครอบรอบ 1 ปีพอดี การต่อสู้กับระบอบชินวัตรที่ผ่านมาของพวกเรา เห็นผลได้ชัดเจนจากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ จากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน รวมถึงนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรมว.คลัง ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติในการมาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (บอร์ดแบงค์ชาติ) ผ่านมาจนปีนี้มีเรื่องที่เราต้องติดตาม ตนอยากชวนให้ทุกคนเตรียมรองเท้าผ้าใบให้พร้อม ปีนี้เราจะเช็คบิลเทวดาชั้น 14 เพื่อสร้างระบบนิติรัฐ นิติธรรม นายพิชิต กล่าวต่อว่า เรามี 2 ข้อเรียกร้อง คือ 1.ขอให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม แสดงความรับผิดชอบกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลข้าราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ที่ไปช่วยทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยการลาออก 2.เรียกร้องให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง ลาออก จากกรณีเสนอชื่อนายกิตติรัตน์ เป็นประธานบอร์แบงค์ชาติ จนไม่ผ่านคุณสมบัติ ขณะที่ 5 เรื่องที่ต้องคัดค้าน คือ 1.ยกเลิก MOU44 2.คัดค้านบ่อนคาสิโน 3.คัดค้านพนันออนไลน์ 4.เช่าที่ 99 ปี ที่เป็นการขายชาติ และ 5.คัดค้านการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่ทำให้ประเทศเสียหาย ส่วน 2 เรื่องที่ต้องให้กำลังใจ คือ 1.ให้กำลังใจป.ป.ช. เดินหน้าเอานักโทษมาติดคุกให้ได้ และ 2.ให้กำลังใจแพทยสภาในการเรียกเวชระเบียนมาตรวจสอบเพื่อผดุงจรรยาบรรณทางการแพทย์ แพทยสภาต้องฉีดยาความจริงให้ประเทศ อย่าไปเอื้อแพทย์ด้วยกันที่ทำผิด ทั้งนี้ ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ เวลา 10.30 น. ขอให้ทุกคนใส่รองเท้าผ้าใบ เดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เพื่อทวงถามเวชระเบียนจากโรงพยาบาลตำรวจ และวันที่ 15 ม.ค. จะเดินทางไปที่แพทยสภา ที่อยู่ในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้กำลังใจในการทวงถามเอกสารสำคัญเพื่อยืนยันอาการป่วยของนายทักษิณ แต่ถ้าในวันดังกล่าวแพทยสภาบอกว่ายังไม่ได้รับเอกสารใดๆ เราก็จะพร้อมใส่รองเท้าผ้าใบมาทวงถามที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชิต กล่าวว่า และอีก 1 เรื่องต้องจับตาที่จะเป็นชนวนในการเช็คบิลนายทักษิณ คือการที่นายทักษิณประกาศพาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ น้องสาว กลับบ้านในเดือนเม.ย.นี้ ถ้ากลับมาแล้วเป็นนักโทษนางฟ้าเหมือนพี่ชาย เราก็เตรียมออกมาไล่รัฐบาลของน.ส.แพทองธารได้ทันที อย่างไรก็ตาม เรามีสิ่งต้องตามทวงถาม โดยเฉพาะกรณีชั้น 14 นอกเหนือจากการทำลายกระบวนการยุติธรรมแล้ว ยังทำลายประเทศเราด้วย ด้วยการที่มีบุคคลหนึ่งทำลายเสาหลักของระบบนิติรัฐ นิติธรรม นอกจากที่แพทยสภาแล้ว ผบ.ตร.ต้องสั่งการให้ส่งเวชระเบียนนายทักษิณไปที่ป.ป.ช.ที่มีการเรียกขอมาก่อนหน้านี้ด้วย เพราะตามหลักการแล้วหลักฐานอยู่ในมือตำรวจก็ต้องมาแสดง แต่ถ้ากลับทำลายหลักฐานเสียเอง หรือยับนิ่งเฉย ผบ.ตร.ก็ต้องลาออกด้วย นายพิชิต กล่าวต่อว่า นายทักษิณ ใช้อำนาจเหนือรัฐ เป็นผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ไปประกาศว่า จะนำกำลังไปบุกประเทศเพื่อนบ้าน ประกาศทุบค่าไฟ ใช้อำนาจอะไรสั่งการ วันนี้ประเทศไทยมีอำนาจซ้อนอำนาจ มีอำนาจเหนือรัฐ นายทักษิณใช้อำนาจเต็มที่ กลายเป็นรัฐบาลไม่กล้าใช้อำนาจรัฐ ขณะเดียวกันวันนี้เป็นวันเด็ก มีเด็กๆไปนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีถ่ายรูปด้วยความภาคภูมิใจ แต่ตนบอกว่าเรามีเด็กนั่งเป็นนายกฯมานานหลายเดือนแล้ว อย่าว่าแต่เด็กไปนั่งเก้าอี้นายกฯเลย ทุกวันนี้นายกฯยังเป็นนั่งอยู่ในเก้าอี้อยู่เลย นายกฯไม่มีผลงานอะไรเด่นเลยสักเรื่อง มีเด่นอยู่อย่างเดียว คือแต่งตัวให้ถูกเขาด่าได้ทุกวันทั้งประเทศ นายพิชิต กล่าวด้วยว่า ที่นายทักษิณ บอกว่าเป็นโรคเอ็นเปื่อย ทางการแพทย์ไม่มีระบุ มันมีที่ไหน มันไม่ใช่ลูกชิ้นเนื้อเปื่อย คนเป็นโรคเอ็นเปื่อยจะไปตีกอล์ฟออกแรงสวิงได้อย่างไร คนป่วยติดเตียง 180 วันออกมามันจะแข็งแรงได้อย่างไร และที่นายทักษิณ บอกว่ายังไงก็เอาเขากลับเข้าเรือนจำไม่ได้ เมื่อความจริงปรากฎ แนวร่วมเริ่มเกิดขึ้นเรื่อยๆ ท้ายที่สุดกองกฐินที่มาเรื่อยๆจะมาไหลรวมกันที่ทำเนียบรัฐบาล มันหนีไม่ออก น.ส.แพทองธาร ก็ต้องรับผิดชอบทางการเมืองด้วยเช่นกัน “ที่นายทักษิณบอกว่าให้นำพนันออนไลน์ขึ้นมาบนดิน แล้วจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส บอกว่าสามารถทำได้ ทักษิณพูดรัฐมนตรีทำแบบนี้ไม่เรียกสั่งการครอบงำได้อย่างไร คนเห็นทั้งประเทศ ที่มองไม่เห็นอยู่ 5 คนคือคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. วันนี้กกต.เริ่มพูด การหาเสียงท้องถิ่นหากไปพูดนโยบายรัฐ สุ่มเสี่ยงที่จะผิดกฎหมาย เข้าข่ายการซื้อเสียงผ่านนโยบายรัฐหรือไม่ เราก็ไปยื่นให้กกต.ตรวจสอบแล้ว ตามสิทธิ์ของประชาชนที่สามารถตรวจสอบรัฐบาลได้ พอเข้าไปตรวจสอบ ก็หาว่าก่อความวุ่นวาย ตกลงจะให้เราจะนั่งอยู่เฉยๆ ปล่อยให้พวกคุณโกงกันหรือไง พอเข้าไปตรวจสอบตามระบบ ก็บอกว่าจะฟ้องกลับ ผมก็ยินดี คดีผมเยอะแล้ว เพิ่มอีกคดีไม่เห็นเป็นอะไร“ แกนนำคปท. กล่าว ที่มา : แนวหน้า https://www.naewna.com/politic/852717?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR19m8JG0ju8L-nNUgU4KBHxiBlnVnUyNAETuDlRU-38FCSvoWDScdrkQ5A_aem_xZPNNwpQAvULZKuNZxIqKQ#nwrsmlxrnogt5ygxo7xkpqorilo2jdzh
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1339 มุมมอง 0 รีวิว
  • "รอเวรกรรมขจัดความอัปยศ"
    โสภณ องค์การณ์
    10 ตุลาคม 2567
    (งานเขียนชิ้นสุดท้าย)

    ตีพิมพ์ในผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 781 วันที่ 12-18 ตุลาคม 2567

    ผู้นำประเทศไทยอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ได้ไปออกงานระดับอินเตอร์

    งานแรกที่เมืองโดฮา กาตาร์ กลับมาสร้างความฮือฮาไม่ธรรมดา เป็นอย่างฮา

    งานที่สองไปนครเวียงจันทน์อาเซียนซัมมิต กระทบไหล่ผู้นำประเทศ ซึ่งล้วนมีวัยวุฒิ คุณวุฒิ ประสบการณ์ ความรู้ความสามารถเหนือกว่า

    สิ่งที่มาดามซอฟต์พาวเวอร์เวอร์ พึ่งโพย อวดอ้างได้ก็คือความเป็นผู้นำอายุน้อย วาระการเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีก็น้อย ส่วนจะมีอย่างอื่นน้อยหรือไม่คนไทยต้องเอาปี๊บคลุมหัวอีกรอบแล้ว

    ใครจะไปคิดว่า ความเฉิ่มจะปรากฏเร็วยิ่งกว่านายกฯหญิงคนแรกของประเทศซึ่งสร้างความฮือฮาเรื่องการยกอำเภอหาดใหญ่เป็นจังหวัด ยกให้เมืองซิดนีย์เป็นประเทศ และอะไรที่ทำให้ต้องทนต่อความอดสู

    มาดามซอฟต์พาวเวอร์เวอร์ เป็นลักษณะไม่ยอมคน เถียงฉอดๆ ชนิดคำไม่ตกฟาก และยังมีท่าทีไม่ใส่ใจต่อเสียงท้วงติง ไม่แยแสทั้งที่เป็นความผิดพลาด

    การที่กล่าวกับคณะทูตด้วยคำว่า "You guys" ถือว่าเป็นสุดยอดของความไม่รู้เรื่อง ขาดการศึกษา ประเภทที่ว่าต่อให้ยกขบวนการขี้ข้ามาแก้ต่างให้ก็คงไม่ไหว

    แสดงว่ามาดามไม่รู้อะไรจริงๆ ชีวิตที่ผ่านมาคงหลงระเริงกับชีวิตของลูกสาวคนรวยหลายพันล้านหรือมากกว่านั้น เสียงแว่วลือลั่นว่า นางใช้เงินช็อปปิ้งสัปดาห์ละ 5 ล้านบาท ก็คงไม่เกินจริง

    ดูชุดสวมใส่แต่ละวันพร้อมเครื่องประดับก็ไม่น่าจะต่ำกว่าระดับล้านบาท แต่จะไปแคร์อะไรในเมื่อเงินหาง่ายสำหรับตระกูลนี้ ยิ่งมีเงินก็ยิ่งงอกเงย ทั้งมีอำนาจก็เร่งการงอกของเงินจากหลายแหล่ง

    ไม่อย่างนั้นจะมีขบวนการขี้ข้า เป็นตัวประดับ เดินตามก้นกุมเป้าพินอบพิเทา ถ้าสั่งให้หามไปบนเสลี่ยงก็คงแย่งกันทำเอาหน้า เพื่อยกระดับขี้ข้าซึ่งมีต่างกัน

    มาดามจะรู้ตัวหรือไม่ว่า คนไทยที่มีจิตสำนึกจะรู้สึกอับอายขายหน้าทั้งประเทศเพราะมีหัวหน้าคณะรัฐมนตรีที่ไร้เดียงสาด้อยความรู้ความสามารถ มีอย่างเดียวคือความถือดี ไม่ฟังใคร ไม่สนใจ อาจจะไม่เห็นหัวคน มองว่าเป็นขี้ข้า

    ไม่มียุคใดที่ประเทศไทยจะ "ต้องทน" กับ "ความอัปยศ" เพราะมีผู้นำที่ด้อยความรู้ความสามารถเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เป็นตัวประหลาดในงานประชุมระดับนานาชาติ

    พ่อแม่ของเธอไม่รู้สึกอับอายบ้างเหรอที่ลูกสาวสุดที่รักถูกเยาะเย้ยถากถางเพราะความไม่ประสีประสาและมีพฤติกรรมสร้างความขบขันที่คนไทยหัวเราะไม่ออก

    เป็นการทำร้ายประเทศไทยอย่างเลือดเย็นที่สุด แม้แต่ประเทศด้อยพัฒนา หรือกำลังพัฒนามีประชากรไม่กี่หมื่นคน หาบนแผนที่โลกแทบไม่เจอ ก็ยังสามารถหาผู้นำที่เป็นตัวแทนของประเทศแล้วประชาชนไม่ต้องทนอับอาย

    แต่ประเทศไทยมีพลเมืองเกือบ 70 ล้านคน ต้องทนกับระบบการเมืองที่มีโครงสร้างไม่เปิดทางให้คนมีความรู้ความสามารถได้เป็นผู้นำ ทั้งที่มีความได้เปรียบหลายประเทศ มีนักท่องเที่ยวมากอันดับหนึ่งของโลก

    แต่ดันมีผู้นำอายุน้อยที่สุด และสร้างความขายหน้าที่สุด นี่ยังไม่ถึงสองเดือน ถ้าจะต้องทนถึงสิ้นปี ยังไม่รู้ว่าโรงงานทำปี๊บจะมีพอขายหรือไม่ คงต้องเอาถุงปุ๋ยหรือถุงดำแทน

    ยังดีที่กระบวนการทางกฎหมายค้างคาอยู่หลายเรื่องเพื่อจะตัดต่อความเป็นผู้นำของมาดาม รวมถึงความลำพองและอำนาจของบิดา อดีตนักโทษที่ไม่เคยติดคุกแม้แต่วันเดียว

    ทั้งหมดนี้คงเป็นกรรมไล่ตาม จะถึงพ่อหรือถึงลูกก่อนก็ยังต้องรอดู ความเป็นจริงก็คือลูกคนที่พ่อรักที่สุดจะต้องเจ็บปวดที่สุดเพราะความไม่รู้จักพอและความหลงในอำนาจ

    ยิ่งมาดามเชื่อว่าตัวเองมีความสามารถเป็นผู้นำประเทศได้ ทำให้การเร่งสภาวะหายนะให้เกิดขึ้นพร้อมกับกรรมเก่าที่ทำไว้กับประเทศชาติซึ่งถูกกอบโกยความมั่งคั่งทางด้านดีและระบบทุจริตประพฤติมิชอบ

    ทั้งพ่อและลูกรวมทั้งสาแหรกสมาชิกตระกูลจะรู้หรือไม่ว่าเวรกรรมมีจริง เท่าที่ผ่านมาก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว ยังไม่สำนึก ยังดันทุรัง ทำอะไรนอกลู่นอกทาง นอกกฎหมาย

    ขบวนการขี้คุกและขี้ข้ารับใช้ช่วยกันเร่งความเสื่อมโทรมให้แผ่นดินนี้

    พรรคร่วมรับประทานล้วนไร้จิตสำนึก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เพราะตลอดชีวิตการเมืองอยู่ในระบบคอร์รัปชั่นและกอบโกยผลประโยชน์จากทรัพยากรแผ่นดิน อยากร่วมรัฐบาลทั้งที่รู้ว่าต้องมีความชั่วร้าย

    ต้องยอมรับระดับความไม่อาย ไม่ประมาณตน ไม่รู้ข้อจำกัดความรู้ความสามารถของตนเอง ถ้าเป็นคนธรรมดาป่านนี้พยายามแทรกแผ่นดินหนีความอัปยศ เพราะแต่ละคนในตระกูลมีมลทินด่างพร้อยไม่มากก็น้อย

    ถ้าไม่มีอำนาจ ไม่มีเงินเครือข่าย ป่านนี้ติดคุกไปหลายรายเพราะพฤติกรรมนอกกฎหมาย จะเห็นได้จากจำนวนคนขี้ข้าขี้คุกในพรรคและยังคาคุกอยู่หลายคน ล้วนเกี่ยวกับคดีทุจริตคอร์รัปชันประพฤติมิชอบทั้งนั้น

    ยังดีแผ่นดินนี้แม้จะถูกคนชั่วร้ายหรือเครือข่ายทุรชนครอบงำ แต่ก็ไม่นานจนทำให้หายนะ แม้อยู่ในสภาพเสื่อมโทรมโครงสร้างทรุด ชาวบ้านยากจนถึงระดับอกไหม้ไส้ขม สิ้นไร้ไม้ตอก แต่ก็หวังว่าต้องมีวันจบสิ้น

    ครั้งที่จะถึงนี้ต้องใช้เวลาอีกนานหรือไม่สำหรับการสิ้นสุดของการครอบงำ การครอบครองอำนาจ และความหวังจะกอบโกยผลประโยชน์ครั้งสุดท้าย ต้องรอดูการทำงานของกระบวนการกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม

    ที่สำคัญเวรกรรมมีจริง พิสูจน์ให้เห็นแล้ว รอบใหม่จะมาช้าหรือเร็ว คงไม่นานเกินรอ
    "รอเวรกรรมขจัดความอัปยศ" โสภณ องค์การณ์ 10 ตุลาคม 2567 (งานเขียนชิ้นสุดท้าย) ตีพิมพ์ในผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 781 วันที่ 12-18 ตุลาคม 2567 ผู้นำประเทศไทยอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ได้ไปออกงานระดับอินเตอร์ งานแรกที่เมืองโดฮา กาตาร์ กลับมาสร้างความฮือฮาไม่ธรรมดา เป็นอย่างฮา งานที่สองไปนครเวียงจันทน์อาเซียนซัมมิต กระทบไหล่ผู้นำประเทศ ซึ่งล้วนมีวัยวุฒิ คุณวุฒิ ประสบการณ์ ความรู้ความสามารถเหนือกว่า สิ่งที่มาดามซอฟต์พาวเวอร์เวอร์ พึ่งโพย อวดอ้างได้ก็คือความเป็นผู้นำอายุน้อย วาระการเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีก็น้อย ส่วนจะมีอย่างอื่นน้อยหรือไม่คนไทยต้องเอาปี๊บคลุมหัวอีกรอบแล้ว ใครจะไปคิดว่า ความเฉิ่มจะปรากฏเร็วยิ่งกว่านายกฯหญิงคนแรกของประเทศซึ่งสร้างความฮือฮาเรื่องการยกอำเภอหาดใหญ่เป็นจังหวัด ยกให้เมืองซิดนีย์เป็นประเทศ และอะไรที่ทำให้ต้องทนต่อความอดสู มาดามซอฟต์พาวเวอร์เวอร์ เป็นลักษณะไม่ยอมคน เถียงฉอดๆ ชนิดคำไม่ตกฟาก และยังมีท่าทีไม่ใส่ใจต่อเสียงท้วงติง ไม่แยแสทั้งที่เป็นความผิดพลาด การที่กล่าวกับคณะทูตด้วยคำว่า "You guys" ถือว่าเป็นสุดยอดของความไม่รู้เรื่อง ขาดการศึกษา ประเภทที่ว่าต่อให้ยกขบวนการขี้ข้ามาแก้ต่างให้ก็คงไม่ไหว แสดงว่ามาดามไม่รู้อะไรจริงๆ ชีวิตที่ผ่านมาคงหลงระเริงกับชีวิตของลูกสาวคนรวยหลายพันล้านหรือมากกว่านั้น เสียงแว่วลือลั่นว่า นางใช้เงินช็อปปิ้งสัปดาห์ละ 5 ล้านบาท ก็คงไม่เกินจริง ดูชุดสวมใส่แต่ละวันพร้อมเครื่องประดับก็ไม่น่าจะต่ำกว่าระดับล้านบาท แต่จะไปแคร์อะไรในเมื่อเงินหาง่ายสำหรับตระกูลนี้ ยิ่งมีเงินก็ยิ่งงอกเงย ทั้งมีอำนาจก็เร่งการงอกของเงินจากหลายแหล่ง ไม่อย่างนั้นจะมีขบวนการขี้ข้า เป็นตัวประดับ เดินตามก้นกุมเป้าพินอบพิเทา ถ้าสั่งให้หามไปบนเสลี่ยงก็คงแย่งกันทำเอาหน้า เพื่อยกระดับขี้ข้าซึ่งมีต่างกัน มาดามจะรู้ตัวหรือไม่ว่า คนไทยที่มีจิตสำนึกจะรู้สึกอับอายขายหน้าทั้งประเทศเพราะมีหัวหน้าคณะรัฐมนตรีที่ไร้เดียงสาด้อยความรู้ความสามารถ มีอย่างเดียวคือความถือดี ไม่ฟังใคร ไม่สนใจ อาจจะไม่เห็นหัวคน มองว่าเป็นขี้ข้า ไม่มียุคใดที่ประเทศไทยจะ "ต้องทน" กับ "ความอัปยศ" เพราะมีผู้นำที่ด้อยความรู้ความสามารถเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เป็นตัวประหลาดในงานประชุมระดับนานาชาติ พ่อแม่ของเธอไม่รู้สึกอับอายบ้างเหรอที่ลูกสาวสุดที่รักถูกเยาะเย้ยถากถางเพราะความไม่ประสีประสาและมีพฤติกรรมสร้างความขบขันที่คนไทยหัวเราะไม่ออก เป็นการทำร้ายประเทศไทยอย่างเลือดเย็นที่สุด แม้แต่ประเทศด้อยพัฒนา หรือกำลังพัฒนามีประชากรไม่กี่หมื่นคน หาบนแผนที่โลกแทบไม่เจอ ก็ยังสามารถหาผู้นำที่เป็นตัวแทนของประเทศแล้วประชาชนไม่ต้องทนอับอาย แต่ประเทศไทยมีพลเมืองเกือบ 70 ล้านคน ต้องทนกับระบบการเมืองที่มีโครงสร้างไม่เปิดทางให้คนมีความรู้ความสามารถได้เป็นผู้นำ ทั้งที่มีความได้เปรียบหลายประเทศ มีนักท่องเที่ยวมากอันดับหนึ่งของโลก แต่ดันมีผู้นำอายุน้อยที่สุด และสร้างความขายหน้าที่สุด นี่ยังไม่ถึงสองเดือน ถ้าจะต้องทนถึงสิ้นปี ยังไม่รู้ว่าโรงงานทำปี๊บจะมีพอขายหรือไม่ คงต้องเอาถุงปุ๋ยหรือถุงดำแทน ยังดีที่กระบวนการทางกฎหมายค้างคาอยู่หลายเรื่องเพื่อจะตัดต่อความเป็นผู้นำของมาดาม รวมถึงความลำพองและอำนาจของบิดา อดีตนักโทษที่ไม่เคยติดคุกแม้แต่วันเดียว ทั้งหมดนี้คงเป็นกรรมไล่ตาม จะถึงพ่อหรือถึงลูกก่อนก็ยังต้องรอดู ความเป็นจริงก็คือลูกคนที่พ่อรักที่สุดจะต้องเจ็บปวดที่สุดเพราะความไม่รู้จักพอและความหลงในอำนาจ ยิ่งมาดามเชื่อว่าตัวเองมีความสามารถเป็นผู้นำประเทศได้ ทำให้การเร่งสภาวะหายนะให้เกิดขึ้นพร้อมกับกรรมเก่าที่ทำไว้กับประเทศชาติซึ่งถูกกอบโกยความมั่งคั่งทางด้านดีและระบบทุจริตประพฤติมิชอบ ทั้งพ่อและลูกรวมทั้งสาแหรกสมาชิกตระกูลจะรู้หรือไม่ว่าเวรกรรมมีจริง เท่าที่ผ่านมาก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว ยังไม่สำนึก ยังดันทุรัง ทำอะไรนอกลู่นอกทาง นอกกฎหมาย ขบวนการขี้คุกและขี้ข้ารับใช้ช่วยกันเร่งความเสื่อมโทรมให้แผ่นดินนี้ พรรคร่วมรับประทานล้วนไร้จิตสำนึก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เพราะตลอดชีวิตการเมืองอยู่ในระบบคอร์รัปชั่นและกอบโกยผลประโยชน์จากทรัพยากรแผ่นดิน อยากร่วมรัฐบาลทั้งที่รู้ว่าต้องมีความชั่วร้าย ต้องยอมรับระดับความไม่อาย ไม่ประมาณตน ไม่รู้ข้อจำกัดความรู้ความสามารถของตนเอง ถ้าเป็นคนธรรมดาป่านนี้พยายามแทรกแผ่นดินหนีความอัปยศ เพราะแต่ละคนในตระกูลมีมลทินด่างพร้อยไม่มากก็น้อย ถ้าไม่มีอำนาจ ไม่มีเงินเครือข่าย ป่านนี้ติดคุกไปหลายรายเพราะพฤติกรรมนอกกฎหมาย จะเห็นได้จากจำนวนคนขี้ข้าขี้คุกในพรรคและยังคาคุกอยู่หลายคน ล้วนเกี่ยวกับคดีทุจริตคอร์รัปชันประพฤติมิชอบทั้งนั้น ยังดีแผ่นดินนี้แม้จะถูกคนชั่วร้ายหรือเครือข่ายทุรชนครอบงำ แต่ก็ไม่นานจนทำให้หายนะ แม้อยู่ในสภาพเสื่อมโทรมโครงสร้างทรุด ชาวบ้านยากจนถึงระดับอกไหม้ไส้ขม สิ้นไร้ไม้ตอก แต่ก็หวังว่าต้องมีวันจบสิ้น ครั้งที่จะถึงนี้ต้องใช้เวลาอีกนานหรือไม่สำหรับการสิ้นสุดของการครอบงำ การครอบครองอำนาจ และความหวังจะกอบโกยผลประโยชน์ครั้งสุดท้าย ต้องรอดูการทำงานของกระบวนการกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ที่สำคัญเวรกรรมมีจริง พิสูจน์ให้เห็นแล้ว รอบใหม่จะมาช้าหรือเร็ว คงไม่นานเกินรอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 777 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวยอย่างชินวัตร Episode 3 : ‘รวยจนชาติบ้านเมืองชิบหาย’9 ม.ค.2568 - นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความ รวยอย่างชินวัตร Episode 3 : “รวยจนชาติบ้านเมืองชิบหาย” มีรายละเอียดดังนี้“คอรัปชั่น”ใน “ระบอบทักษิณ” ถาม ระบอบทักษิณเกิดและเติบโตได้อย่างไรตอบ ระบอบนี้มีทุนพื้นฐาน ๔ ประการรองรับครบถ้วน ทั้งเงินลงทุน, อำนาจในระบบ, สื่อและปัญญชนชวนเชื่อ และสาวกบริวาร ทุนทั้งสี่จะมีพลวัตสร้างเสริมกันตลอดเวลาใช้เงินสร้างอำนาจ สร้างสื่อ สร้างพวก แล้วเอาอำนาจไปสร้างเงิน สร้างพวก สร้างสื่ออีกที ด้วยพลวัตอย่างนี้นี่เองที่ทำให้ระบอบนี้เติบโตได้ด้วยตนเองไปตลอดถาม ใช้เวลาไม่นานเลยนะครับตอบ คุณเห็นไหมว่าพอเข้าสมัยที่สอง ระบอบทักษิณก็ยึดสภาได้เด็ดขาด คนพลังธรรมและความหวังใหม่สลายตัวมาเข้าด้วยหมด ส่วนบ้านใหญ่ตามต่างจังหวัดก็สยบเข้าร่วมเปิดสาขา รับสินค้าประชานิยมไทยรักไทยมาขายให้ชาวบ้านทุกหัวระแหง ราวกับเปิด 7-11 พรึบทั้งประเทศเลยก็ว่าได้ถาม ในระบอบอย่างนี้ ไม่มีคอรัปชั่นได้ไหม ?ตอบ ไม่ได้ครับระบอบนี้เกิดและเติบโตจากความเห็นแก่ตัวที่ไม่มีคำว่า“ประโยชน์ส่วนรวม”อยู่เลย สำหรับสาวกที่รอบริโภคนั้น ก็มีสินค้าประชานิยมมาตอบแทนคะแนนเลือกตั้ง ทั้งข้าวทุกเมล็ดเกวียนละสามหมื่น รถคันแรก ค่าจ้างขั้นต่ำ เงินแจกดิจิตอล เงินเดือนปริญญาตรี รักษาฟรีทุกแห่งทุกโรคทุกคนแม้แต่มะเร็ง ทั้งหมดนี้เราจะแจกจนมีเกียรติ -มีศักดิ์ศรี ทุกคนนะคร้าา....ถาม ที่แจกเป็นพื้นที่ เฉพาะพื้นที่ มีไหมครับตอบ มีครับ อย่างหอประชุมนานาชาตินั้น ภูเก็ตไม่เลือกเรา เราก็ไม่ให้ เราไปให้เชียงใหม่ หรือที่เป็นโครงการระดับหมู่บ้านหรือตำบล ก็มีเงินจากกองสลาก ไหลผ่านมือ สส.กับหัวคะแนน ลงไปช่วยเหลืออุ้มชูฐานเสียงไม่มีขาดสาย เงินท่อนี้ถือเป็นPocket money ทางการเมือง ที่ทำให้ระบอบทักษิณเกิดขึ้นมาอย่างทรงพลังมากๆถาม เขาสร้างท่อนี้ขึ้นมาอย่างไรตอบ หวยสามตัวสมัยทักษิณนั้น พอผลสลากใกล้จะออก จะมีการอ้างว่าไม่พอขายแล้วสั่งพิมพ์เพิ่มล้อตใหญ่ทุกครั้งไป ทำทุกงวดนานเป็นปีๆเลยนะครับ สลากมืดถาดนี้ เป็นที่มาของเงินมืดที่ใช้จ่ายกันได้สะดวก โดยไม่ปรากฏในระบบตรวจเงินแผ่นดินเลยถาม แล้วตัว สส.กับหัวคะแนน มีเงินอุดหนุนจากพรรคไหมตอบ มีแน่นอนทุกเดือนครับ ยุคแพทองธาร ๑ นี่ ข่าวยืนยันว่าอัดฉีดรายเดือนกันเป็นล้านแล้ว ส่วนที่หัวหน้าซุ้มต้องหามาให้ลูกซุ้มก็มีอีกส่วนหนึ่ง แต่เงินซุ้มนี้หัวหน้าหามาได้เมื่อไหร่ก็ต้องแบ่งส่งพรรคหลักด้วยเสมอ สำหรับกระทรวงที่ “นาย”สร้างโครงการขึ้นมาชงเองกินเองก็มีเช่นกันถาม สรุปแล้วในระบอบนี้ ทุกชีวิตก็ร่วมกันคอรัปชั่นหมด ทั้งชาวบ้านที่เสพติดประชานิยมสส.กับหัวคะแนน และรัฐมนตรี พวกเขาต่างก็ร่วมทุนกันทำมาหากินจากส่วนรวม ถือสิทธิเลือกตั้งและอำนาจหน้าที่เป็นสินทรัพย์แล้วแปรเป็นทุนด้วยตัวระบอบทั้งสิ้น ตอบ เป็นเช่นนั้น.. ในภาพรวมอย่างนี้ เราจะไปมองว่าทักษิณโกงคนเดียวไม่ได้ พวกเขาวินวิน ร่วมมือกันจนได้กินกันหมดทุกคน เปรียบเหมือนซ่องโสเภณี ที่มีรายได้อ้วนท้วนกันทุกฝ่าย ทั้งเจ้าของซ่อง แมงดาการเมืองที่เกาะกิน และตัวโสเภณีด้วย ”รวยจนสิ้นชาติบ้านเมือง” ถาม ที่ผ่านมามีคอรัปชั่นอะไรไปบ้างแล้วครับตอบ ที่ฉาวโฉ่ อุกอาจ ก็มีหลายโครงการ ชิบหายรวมเป็นแสนล้านเลย คือ- ซื้อรถเรือดับเพลิงใช้การไม่ได้กว่า ๑๐๐ ล้านด้วย จีทูจี จอมปลอม รัฐมนตรีหนีคดี- ซื้อเครื่องบินแพงและไม่จำเป็นจนการบินไทยเสียหายหลายหมื่นล้าน- สร้างระบบสายพานขนสัมภาระในสนามบินแพงเกินจริง ทางการสหรัฐรายงานว่าเลขาพรรครัฐบาลเรียกเงินเป็นพันล้าน- สร้างรถไฟเชื่อมสนามบินด้วยสัญญาเหมาเบ็ดเสร็จ ทั้งออกแบบก่อสร้างและหาแหล่งเงินทุน พบเงินปากถุงกินเปล่าก้อนใหญ่ ไปไหนไม่ทราบ รัฐมนตรีคมนาคมคุมเปิดซองด้วยตนเอง- แจกกล้ายางที่ใช้การไม่ได้ ซื้อมาแล้วขายให้รัฐโดยพอกราคารวยเละ- สร้างและขายบ้านเอื้ออาทร ด้วยสัญญาโควต้าเหมาจ่ายทั้งโครงการราคาตายตัว จ้างให้ทำทั้งหาที่ดิน-หาผู้จองก่อสร้าง แล้วจบลงเป็นบ้านร้างสร้างไม่เสร็จ หรือเป็นบ้านผีสิงไม่มีผู้จองซื้อจริงทั่วไปหมด ครั้นตรวจกระแสเงินขายโควต้า ก็พบเงิน ๑๔๐๐ ล้าน เข้าเสี่ยเปี๋ยงคนที่รับงานเจรจา เป็นลูกน้องเจ๊ใหญ่ ติดคุกด้วย- รับจำนำข้าวเกินราคาตลาด จบเป็นข้าวเน่า ค้างโกดังรัฐเสียหายเป็นแสนล้าน เสี่ยเปี๋ยง ก็โผล่มาจนติดคุกอีก ตัวนายกฯหนีคดีตามเคย- เงินกู้ธนาคารกรุงไทย คดีนี้นายสั่งให้คณะกรรมการให้บริษัทอสังหาฯกู้เงินหลายพันล้าน เอาที่ดินมาพัฒนาเป็นโครงการจอมปลอม ธนาคารเสียหายเป็นพันล้าน ตามรอยเงินพบเข้าลูกและลูกน้องชินวัตร กว่า ๑๐๐ ล้าน งานนี้ติดคุกรวดถาม วันนี้ วันหน้า ถ้า “ระบอบทักษิณ” ฟื้นขึ้นมาอีก ประเทศก็ชิบหายอีกสิครับตอบ เขาฟื้นอยู่แล้ว ขณะนี้กำลังเดินหน้าปราศัยหาเสียงไปทั่วประเทศ ดำริจะออกสลากเพิ่มพร้อมโครงการหนึ่งทุนหนึ่งตำบลอีก งบประมาณปีนี้ทำขาดดุลเพื่อเทงบมาแจกชาวบ้านแล้วก็ยังไม่พอ ต้องแปรญัตติเบี้ยวไม่จ่ายหนี้เงินกู้ให้ธนาคาร แล้วตัดลดเงินต่อหัวในโครงการ ๓๐ บาทรักษาทุกโรคลงอีก หน้ามืดจะแจกเงินให้ได้อย่างนี้ อนาคตธนาคารไทยโรงพยาบาลไทยซวยแน่ๆ ถาม ถ้าทรัมป์ลุยจีน ยิวลุยอิหร่าน รัสเซียลุยเคียฟถล่มจรวดลงโปแลนด์ จนเศรษฐกิจโลกยับเยิน ซ้ำเติมสุขภาพเศรษฐกิจไทยที่ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว จนเงินบาทลดค่า สินค้าส่งไม่ออก เงินคงคลังก็หมด อะไรจะเกิดขึ้นตอบ วิกฤตขนาดต้องดุลย์ข้าราชการหรือลูกจ้างจนตกงานกันทั้งประเทศนี่ ระวังฮุนเซ็นโมเดลไว้ให้ดีก็แล้วกันครับ
    รวยอย่างชินวัตร Episode 3 : ‘รวยจนชาติบ้านเมืองชิบหาย’9 ม.ค.2568 - นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความ รวยอย่างชินวัตร Episode 3 : “รวยจนชาติบ้านเมืองชิบหาย” มีรายละเอียดดังนี้“คอรัปชั่น”ใน “ระบอบทักษิณ” ถาม ระบอบทักษิณเกิดและเติบโตได้อย่างไรตอบ ระบอบนี้มีทุนพื้นฐาน ๔ ประการรองรับครบถ้วน ทั้งเงินลงทุน, อำนาจในระบบ, สื่อและปัญญชนชวนเชื่อ และสาวกบริวาร ทุนทั้งสี่จะมีพลวัตสร้างเสริมกันตลอดเวลาใช้เงินสร้างอำนาจ สร้างสื่อ สร้างพวก แล้วเอาอำนาจไปสร้างเงิน สร้างพวก สร้างสื่ออีกที ด้วยพลวัตอย่างนี้นี่เองที่ทำให้ระบอบนี้เติบโตได้ด้วยตนเองไปตลอดถาม ใช้เวลาไม่นานเลยนะครับตอบ คุณเห็นไหมว่าพอเข้าสมัยที่สอง ระบอบทักษิณก็ยึดสภาได้เด็ดขาด คนพลังธรรมและความหวังใหม่สลายตัวมาเข้าด้วยหมด ส่วนบ้านใหญ่ตามต่างจังหวัดก็สยบเข้าร่วมเปิดสาขา รับสินค้าประชานิยมไทยรักไทยมาขายให้ชาวบ้านทุกหัวระแหง ราวกับเปิด 7-11 พรึบทั้งประเทศเลยก็ว่าได้ถาม ในระบอบอย่างนี้ ไม่มีคอรัปชั่นได้ไหม ?ตอบ ไม่ได้ครับระบอบนี้เกิดและเติบโตจากความเห็นแก่ตัวที่ไม่มีคำว่า“ประโยชน์ส่วนรวม”อยู่เลย สำหรับสาวกที่รอบริโภคนั้น ก็มีสินค้าประชานิยมมาตอบแทนคะแนนเลือกตั้ง ทั้งข้าวทุกเมล็ดเกวียนละสามหมื่น รถคันแรก ค่าจ้างขั้นต่ำ เงินแจกดิจิตอล เงินเดือนปริญญาตรี รักษาฟรีทุกแห่งทุกโรคทุกคนแม้แต่มะเร็ง ทั้งหมดนี้เราจะแจกจนมีเกียรติ -มีศักดิ์ศรี ทุกคนนะคร้าา....ถาม ที่แจกเป็นพื้นที่ เฉพาะพื้นที่ มีไหมครับตอบ มีครับ อย่างหอประชุมนานาชาตินั้น ภูเก็ตไม่เลือกเรา เราก็ไม่ให้ เราไปให้เชียงใหม่ หรือที่เป็นโครงการระดับหมู่บ้านหรือตำบล ก็มีเงินจากกองสลาก ไหลผ่านมือ สส.กับหัวคะแนน ลงไปช่วยเหลืออุ้มชูฐานเสียงไม่มีขาดสาย เงินท่อนี้ถือเป็นPocket money ทางการเมือง ที่ทำให้ระบอบทักษิณเกิดขึ้นมาอย่างทรงพลังมากๆถาม เขาสร้างท่อนี้ขึ้นมาอย่างไรตอบ หวยสามตัวสมัยทักษิณนั้น พอผลสลากใกล้จะออก จะมีการอ้างว่าไม่พอขายแล้วสั่งพิมพ์เพิ่มล้อตใหญ่ทุกครั้งไป ทำทุกงวดนานเป็นปีๆเลยนะครับ สลากมืดถาดนี้ เป็นที่มาของเงินมืดที่ใช้จ่ายกันได้สะดวก โดยไม่ปรากฏในระบบตรวจเงินแผ่นดินเลยถาม แล้วตัว สส.กับหัวคะแนน มีเงินอุดหนุนจากพรรคไหมตอบ มีแน่นอนทุกเดือนครับ ยุคแพทองธาร ๑ นี่ ข่าวยืนยันว่าอัดฉีดรายเดือนกันเป็นล้านแล้ว ส่วนที่หัวหน้าซุ้มต้องหามาให้ลูกซุ้มก็มีอีกส่วนหนึ่ง แต่เงินซุ้มนี้หัวหน้าหามาได้เมื่อไหร่ก็ต้องแบ่งส่งพรรคหลักด้วยเสมอ สำหรับกระทรวงที่ “นาย”สร้างโครงการขึ้นมาชงเองกินเองก็มีเช่นกันถาม สรุปแล้วในระบอบนี้ ทุกชีวิตก็ร่วมกันคอรัปชั่นหมด ทั้งชาวบ้านที่เสพติดประชานิยมสส.กับหัวคะแนน และรัฐมนตรี พวกเขาต่างก็ร่วมทุนกันทำมาหากินจากส่วนรวม ถือสิทธิเลือกตั้งและอำนาจหน้าที่เป็นสินทรัพย์แล้วแปรเป็นทุนด้วยตัวระบอบทั้งสิ้น ตอบ เป็นเช่นนั้น.. ในภาพรวมอย่างนี้ เราจะไปมองว่าทักษิณโกงคนเดียวไม่ได้ พวกเขาวินวิน ร่วมมือกันจนได้กินกันหมดทุกคน เปรียบเหมือนซ่องโสเภณี ที่มีรายได้อ้วนท้วนกันทุกฝ่าย ทั้งเจ้าของซ่อง แมงดาการเมืองที่เกาะกิน และตัวโสเภณีด้วย ”รวยจนสิ้นชาติบ้านเมือง” ถาม ที่ผ่านมามีคอรัปชั่นอะไรไปบ้างแล้วครับตอบ ที่ฉาวโฉ่ อุกอาจ ก็มีหลายโครงการ ชิบหายรวมเป็นแสนล้านเลย คือ- ซื้อรถเรือดับเพลิงใช้การไม่ได้กว่า ๑๐๐ ล้านด้วย จีทูจี จอมปลอม รัฐมนตรีหนีคดี- ซื้อเครื่องบินแพงและไม่จำเป็นจนการบินไทยเสียหายหลายหมื่นล้าน- สร้างระบบสายพานขนสัมภาระในสนามบินแพงเกินจริง ทางการสหรัฐรายงานว่าเลขาพรรครัฐบาลเรียกเงินเป็นพันล้าน- สร้างรถไฟเชื่อมสนามบินด้วยสัญญาเหมาเบ็ดเสร็จ ทั้งออกแบบก่อสร้างและหาแหล่งเงินทุน พบเงินปากถุงกินเปล่าก้อนใหญ่ ไปไหนไม่ทราบ รัฐมนตรีคมนาคมคุมเปิดซองด้วยตนเอง- แจกกล้ายางที่ใช้การไม่ได้ ซื้อมาแล้วขายให้รัฐโดยพอกราคารวยเละ- สร้างและขายบ้านเอื้ออาทร ด้วยสัญญาโควต้าเหมาจ่ายทั้งโครงการราคาตายตัว จ้างให้ทำทั้งหาที่ดิน-หาผู้จองก่อสร้าง แล้วจบลงเป็นบ้านร้างสร้างไม่เสร็จ หรือเป็นบ้านผีสิงไม่มีผู้จองซื้อจริงทั่วไปหมด ครั้นตรวจกระแสเงินขายโควต้า ก็พบเงิน ๑๔๐๐ ล้าน เข้าเสี่ยเปี๋ยงคนที่รับงานเจรจา เป็นลูกน้องเจ๊ใหญ่ ติดคุกด้วย- รับจำนำข้าวเกินราคาตลาด จบเป็นข้าวเน่า ค้างโกดังรัฐเสียหายเป็นแสนล้าน เสี่ยเปี๋ยง ก็โผล่มาจนติดคุกอีก ตัวนายกฯหนีคดีตามเคย- เงินกู้ธนาคารกรุงไทย คดีนี้นายสั่งให้คณะกรรมการให้บริษัทอสังหาฯกู้เงินหลายพันล้าน เอาที่ดินมาพัฒนาเป็นโครงการจอมปลอม ธนาคารเสียหายเป็นพันล้าน ตามรอยเงินพบเข้าลูกและลูกน้องชินวัตร กว่า ๑๐๐ ล้าน งานนี้ติดคุกรวดถาม วันนี้ วันหน้า ถ้า “ระบอบทักษิณ” ฟื้นขึ้นมาอีก ประเทศก็ชิบหายอีกสิครับตอบ เขาฟื้นอยู่แล้ว ขณะนี้กำลังเดินหน้าปราศัยหาเสียงไปทั่วประเทศ ดำริจะออกสลากเพิ่มพร้อมโครงการหนึ่งทุนหนึ่งตำบลอีก งบประมาณปีนี้ทำขาดดุลเพื่อเทงบมาแจกชาวบ้านแล้วก็ยังไม่พอ ต้องแปรญัตติเบี้ยวไม่จ่ายหนี้เงินกู้ให้ธนาคาร แล้วตัดลดเงินต่อหัวในโครงการ ๓๐ บาทรักษาทุกโรคลงอีก หน้ามืดจะแจกเงินให้ได้อย่างนี้ อนาคตธนาคารไทยโรงพยาบาลไทยซวยแน่ๆ ถาม ถ้าทรัมป์ลุยจีน ยิวลุยอิหร่าน รัสเซียลุยเคียฟถล่มจรวดลงโปแลนด์ จนเศรษฐกิจโลกยับเยิน ซ้ำเติมสุขภาพเศรษฐกิจไทยที่ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว จนเงินบาทลดค่า สินค้าส่งไม่ออก เงินคงคลังก็หมด อะไรจะเกิดขึ้นตอบ วิกฤตขนาดต้องดุลย์ข้าราชการหรือลูกจ้างจนตกงานกันทั้งประเทศนี่ ระวังฮุนเซ็นโมเดลไว้ให้ดีก็แล้วกันครับ
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1080 มุมมอง 0 รีวิว
  • ออกมาโพสต์ขอความเป็นธรรม หลังโดนทนายรายหนึ่งโกงเงินไปกว่า 2 ล้าน สำหรับ “นิวนิว เอวเด้ง” ธนวลัญช์ ธนรัตน์หิรัญช์ งานนี้ทำให้เครียดถึงขั้นวูบฟันหักเลยทีเดียว

    “เป็นทนายก็ต้องอยู่ข้างประชาชน ไม่ใช่ #โกง เอาเงินหนูไป❌แล้วไม่ทำคดีให้ แล้วก็ไม่ คืนเงินให้หนู หลอกลวงหนู ยอดที่โกงหนูไป 2,460,000 บาท

    ขอเงินลูกหนูคืนด้วยนะคะ หนูเครียด หนูเป็นโรค #ซึมเศร้า คุณก็ทราบ ที่หนูวูบล้มฟันหัก ก็เพราะเครียดนอนไม่หลับ กินยานอนหลับไปเยอะ ขอเงินลูกหนูคืนด้วยนะคะ ครอบครัวหนูก็ต้องกินต้องใช้ อย่าทำให้อาชีพ #ทนายเสื่อมเสียเพราะคนอย่างคุณเลย”

    ต่อมา ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ซึ่งนิวนิวเรียกว่าพ่อ ได้วิดีโอคอลมาถาม ว่าเป็นทนายคนไหน อายุเท่าไหร่ โกรธที่กล้าล้วงคองูเห่า เดี๋ยวเอาให้ตาย ถ้าไม่คืนก็ติดคุก เดี๋ยวดำเนินคดีเอง พ่อเพิ่งรู้เมื่อกี้ ทีหลังมีอะไรนิวไม่ต้องกลัว ให้มาบอก ทนายเยอะแยะ เดี๋ยวทำให้ เรื่องนี้เดี๋ยวพ่อล่าเอง

    #MGROnline #นิวนิวเอวเด้ง #ทนายโกง
    ออกมาโพสต์ขอความเป็นธรรม หลังโดนทนายรายหนึ่งโกงเงินไปกว่า 2 ล้าน สำหรับ “นิวนิว เอวเด้ง” ธนวลัญช์ ธนรัตน์หิรัญช์ งานนี้ทำให้เครียดถึงขั้นวูบฟันหักเลยทีเดียว • “เป็นทนายก็ต้องอยู่ข้างประชาชน ไม่ใช่ #โกง เอาเงินหนูไป❌แล้วไม่ทำคดีให้ แล้วก็ไม่ คืนเงินให้หนู หลอกลวงหนู ยอดที่โกงหนูไป 2,460,000 บาท • ขอเงินลูกหนูคืนด้วยนะคะ หนูเครียด หนูเป็นโรค #ซึมเศร้า คุณก็ทราบ ที่หนูวูบล้มฟันหัก ก็เพราะเครียดนอนไม่หลับ กินยานอนหลับไปเยอะ ขอเงินลูกหนูคืนด้วยนะคะ ครอบครัวหนูก็ต้องกินต้องใช้ อย่าทำให้อาชีพ #ทนายเสื่อมเสียเพราะคนอย่างคุณเลย” • ต่อมา ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ซึ่งนิวนิวเรียกว่าพ่อ ได้วิดีโอคอลมาถาม ว่าเป็นทนายคนไหน อายุเท่าไหร่ โกรธที่กล้าล้วงคองูเห่า เดี๋ยวเอาให้ตาย ถ้าไม่คืนก็ติดคุก เดี๋ยวดำเนินคดีเอง พ่อเพิ่งรู้เมื่อกี้ ทีหลังมีอะไรนิวไม่ต้องกลัว ให้มาบอก ทนายเยอะแยะ เดี๋ยวทำให้ เรื่องนี้เดี๋ยวพ่อล่าเอง • #MGROnline #นิวนิวเอวเด้ง #ทนายโกง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 434 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศใต้

    เดือนนี้ ตัดสินใจในเชิงธุรกิจจะเสียหายผิดพลาดผิดหวัง จะเกิดปัญหานินทาว่าร้ายเป็นเหตุซ่อนเงื่อนหักหลังแตกแยกทางการค้าอย่างรุนแรง ทำธุรกิจผิดกฎหมายจะส่งผลให้เกิดการฟ้องร้องขึ้นศาลมีคดีความติดตัวเป็นเหตุให้ติดคุกติดตะรางถูกจองจำได้ จะเกิดอันตรายจากอุบัติเหตุให้เลือดตกยางออกบาดเจ็บจนเสียเลือดเสียเนื้อด้วยอาวุธและของมีคม ชายหนุ่มไม่ควรหมกมุ่นเรื่องเพศเกินไปจะเกิดเรื่องชู้สาวให้อื้อฉาวจนผู้หญิงเสียผู้เสียคน ชีวิตคู่ไม่ราบรื่นครอบครัวแตกแยกเกิดปัญหาทั้งภายในภายนอกต่อกัน ควรระวังสุขภาพจะมีปัญหาที่ปาก ลิ้น ปอด คอ ฟัน มดลูก รังไข่ ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ อีกทั้งมีโอกาสพบภูติผีปีศาจหลอกหลอน

    เสริมความมงคล : ตั้งแจกันแก้วใส่ไผ่กวนอิม 3 ต้น
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศใต้ เดือนนี้ ตัดสินใจในเชิงธุรกิจจะเสียหายผิดพลาดผิดหวัง จะเกิดปัญหานินทาว่าร้ายเป็นเหตุซ่อนเงื่อนหักหลังแตกแยกทางการค้าอย่างรุนแรง ทำธุรกิจผิดกฎหมายจะส่งผลให้เกิดการฟ้องร้องขึ้นศาลมีคดีความติดตัวเป็นเหตุให้ติดคุกติดตะรางถูกจองจำได้ จะเกิดอันตรายจากอุบัติเหตุให้เลือดตกยางออกบาดเจ็บจนเสียเลือดเสียเนื้อด้วยอาวุธและของมีคม ชายหนุ่มไม่ควรหมกมุ่นเรื่องเพศเกินไปจะเกิดเรื่องชู้สาวให้อื้อฉาวจนผู้หญิงเสียผู้เสียคน ชีวิตคู่ไม่ราบรื่นครอบครัวแตกแยกเกิดปัญหาทั้งภายในภายนอกต่อกัน ควรระวังสุขภาพจะมีปัญหาที่ปาก ลิ้น ปอด คอ ฟัน มดลูก รังไข่ ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ อีกทั้งมีโอกาสพบภูติผีปีศาจหลอกหลอน เสริมความมงคล : ตั้งแจกันแก้วใส่ไผ่กวนอิม 3 ต้น ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts