• ประธานาธิบดีมาครง แห่งฝรั่งเศส ยืนให้การต้อนรับ อัล-โจลานี อดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้าย HTS ที่มีรางวัลนำจับสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ และขณะนี้แต่งตั้งตนเองเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของซีเรีย หลังจากโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีอัสซาดที่มาจากการเลือกตั้ง
    ประธานาธิบดีมาครง แห่งฝรั่งเศส ยืนให้การต้อนรับ อัล-โจลานี อดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้าย HTS ที่มีรางวัลนำจับสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ และขณะนี้แต่งตั้งตนเองเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของซีเรีย หลังจากโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีอัสซาดที่มาจากการเลือกตั้ง
    0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • เป้าหมาย ‘บิตคอยน์’ 130,000 ดอลลาร์ (07/05/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #บิตคอยน์
    เป้าหมาย ‘บิตคอยน์’ 130,000 ดอลลาร์ (07/05/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #บิตคอยน์
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 74 Views 5 0 Reviews
  • Han Duck-soo อดีตผู้นำชั่วคราวของเกาหลีใต้และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ประกาศแผนจัดตั้งกระทรวง AI เพื่อผลักดัน นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ หากเขาได้รับเลือกตั้ง

    แผนดังกล่าวเป็น คำมั่นสัญญาแรกของเขาหลังจากเปิดตัวแคมเปญหาเสียง โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ AI และ จัดตั้งกองทุนมูลค่า 1 ล้านล้านวอน (ประมาณ 716 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3 พันล้านบาท) เพื่อสนับสนุน บุคลากรในประเทศและดึงดูดนักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศ

    ✅ Han Duck-soo วางแผนจัดตั้งกระทรวง AI หากได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี
    - มุ่งเน้น นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์
    - เป็น คำมั่นสัญญาแรกของเขาหลังจากเปิดตัวแคมเปญหาเสียง

    ✅ เป้าหมายหลักคือการเพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ AI
    - เกาหลีใต้ต้องการ แข่งขันกับประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยี AI

    ✅ จัดตั้งกองทุนมูลค่า 1 ล้านล้านวอน (ประมาณ 716 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3 พันล้านบาท)
    - สนับสนุน บุคลากรในประเทศและดึงดูดนักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศ

    ✅ เกาหลีใต้ต้องการไล่ตามประเทศอื่น ๆ ในด้าน AI และเทคโนโลยีขั้นสูง
    - มุ่งเน้น การพัฒนาอุตสาหกรรม AI ให้สามารถแข่งขันในระดับโลก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/south-korea-presidential-hopeful-han-vows-to-create-ai-ministry
    Han Duck-soo อดีตผู้นำชั่วคราวของเกาหลีใต้และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ประกาศแผนจัดตั้งกระทรวง AI เพื่อผลักดัน นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ หากเขาได้รับเลือกตั้ง แผนดังกล่าวเป็น คำมั่นสัญญาแรกของเขาหลังจากเปิดตัวแคมเปญหาเสียง โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ AI และ จัดตั้งกองทุนมูลค่า 1 ล้านล้านวอน (ประมาณ 716 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3 พันล้านบาท) เพื่อสนับสนุน บุคลากรในประเทศและดึงดูดนักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศ ✅ Han Duck-soo วางแผนจัดตั้งกระทรวง AI หากได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี - มุ่งเน้น นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ - เป็น คำมั่นสัญญาแรกของเขาหลังจากเปิดตัวแคมเปญหาเสียง ✅ เป้าหมายหลักคือการเพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ AI - เกาหลีใต้ต้องการ แข่งขันกับประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยี AI ✅ จัดตั้งกองทุนมูลค่า 1 ล้านล้านวอน (ประมาณ 716 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3 พันล้านบาท) - สนับสนุน บุคลากรในประเทศและดึงดูดนักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศ ✅ เกาหลีใต้ต้องการไล่ตามประเทศอื่น ๆ ในด้าน AI และเทคโนโลยีขั้นสูง - มุ่งเน้น การพัฒนาอุตสาหกรรม AI ให้สามารถแข่งขันในระดับโลก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/south-korea-presidential-hopeful-han-vows-to-create-ai-ministry
    WWW.THESTAR.COM.MY
    South Korea presidential hopeful Han vows to create AI ministry
    The election comes at a critical time for Asia's fourth-largest economy as it faces slowing exports resulting from Donald Trump's sweeping tariffs campaign.
    0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
  • Qing Chenjingliang หรือที่รู้จักกันในชื่อ "นักโทษหญิงที่สวยที่สุดของจีน" ถูก แบนจากแพลตฟอร์มออนไลน์ หลังจากที่เธอใช้ ไลฟ์สตรีมเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมายและต่อต้านการฉ้อโกง

    เธอเคยเป็นสมาชิกของ แก๊งฉ้อโกงที่สร้างความเสียหายกว่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐ และถูกจำคุกก่อนที่จะ กลับตัวเป็นคนดีหลังพ้นโทษ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้บุคคลที่เคยมีประวัติอาชญากรรมใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเผยแพร่ข้อมูล

    ✅ Qing Chenjingliang ถูกแบนจากแพลตฟอร์มออนไลน์หลังจากใช้ไลฟ์สตรีมเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมาย
    - เธอเคยเป็นสมาชิกของ แก๊งฉ้อโกงที่สร้างความเสียหายกว่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐ
    - หลังพ้นโทษ เธอพยายามให้ความรู้ด้านกฎหมายและต่อต้านการฉ้อโกงผ่านไลฟ์สตรีม

    ✅ รัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้บุคคลที่เคยมีประวัติอาชญากรรมใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเผยแพร่ข้อมูล
    - เป็นมาตรการที่ ป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดใช้ชื่อเสียงเพื่อสร้างรายได้

    ✅ Qing Chenjingliang เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียนมัธยมเนื่องจากผลการเรียนต่ำ
    - เธอเติบโตมาใน มณฑลเสฉวน ประเทศจีน

    ✅ กรณีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในโซเชียลมีเดียจีน
    - มีการถกเถียงกันว่า บุคคลที่เคยกระทำผิดควรได้รับโอกาสในการแก้ไขตัวเองหรือไม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/ex-china-most-beautiful-fugitive-banned-for-promoting-legal-education-via-livestreams
    Qing Chenjingliang หรือที่รู้จักกันในชื่อ "นักโทษหญิงที่สวยที่สุดของจีน" ถูก แบนจากแพลตฟอร์มออนไลน์ หลังจากที่เธอใช้ ไลฟ์สตรีมเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมายและต่อต้านการฉ้อโกง เธอเคยเป็นสมาชิกของ แก๊งฉ้อโกงที่สร้างความเสียหายกว่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐ และถูกจำคุกก่อนที่จะ กลับตัวเป็นคนดีหลังพ้นโทษ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้บุคคลที่เคยมีประวัติอาชญากรรมใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเผยแพร่ข้อมูล ✅ Qing Chenjingliang ถูกแบนจากแพลตฟอร์มออนไลน์หลังจากใช้ไลฟ์สตรีมเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมาย - เธอเคยเป็นสมาชิกของ แก๊งฉ้อโกงที่สร้างความเสียหายกว่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐ - หลังพ้นโทษ เธอพยายามให้ความรู้ด้านกฎหมายและต่อต้านการฉ้อโกงผ่านไลฟ์สตรีม ✅ รัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้บุคคลที่เคยมีประวัติอาชญากรรมใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเผยแพร่ข้อมูล - เป็นมาตรการที่ ป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดใช้ชื่อเสียงเพื่อสร้างรายได้ ✅ Qing Chenjingliang เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียนมัธยมเนื่องจากผลการเรียนต่ำ - เธอเติบโตมาใน มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ✅ กรณีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในโซเชียลมีเดียจีน - มีการถกเถียงกันว่า บุคคลที่เคยกระทำผิดควรได้รับโอกาสในการแก้ไขตัวเองหรือไม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/ex-china-most-beautiful-fugitive-banned-for-promoting-legal-education-via-livestreams
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Ex-China ‘most beautiful fugitive’ banned for promoting legal education via livestreams
    Former member of gang involved in US$190,000 fraud racket claimed to have 'turned over a new leaf' after release from prison.
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • NSO Group บริษัทผู้ผลิตสปายแวร์จากอิสราเอล ถูกปรับเป็นเงิน 167 ล้านดอลลาร์ หลังจากศาลตัดสินว่าบริษัทละเมิดกฎหมายไซเบอร์โดยใช้ Pegasus spyware โจมตีผู้ใช้ WhatsApp

    คดีนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2019 เมื่อ NSO Group ใช้ช่องโหว่ในระบบโทรศัพท์ของ WhatsApp เพื่อแอบติดตั้ง Pegasus บนอุปกรณ์ของเป้าหมายโดยไม่ต้องให้ผู้ใช้ดำเนินการใด ๆ ซึ่งเป็น การโจมตีแบบ zero-click

    ✅ NSO Group ถูกปรับ 167 ล้านดอลลาร์จากการใช้ Pegasus spyware โจมตีผู้ใช้ WhatsApp
    - คดีนี้เริ่มต้นในปี 2019 และสิ้นสุดในปี 2025
    - ศาลตัดสินว่า NSO Group ละเมิดกฎหมายไซเบอร์ของสหรัฐฯ

    ✅ Pegasus spyware สามารถติดตั้งบนอุปกรณ์โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้ดำเนินการใด ๆ
    - ใช้ช่องโหว่ใน ระบบโทรศัพท์ของ WhatsApp
    - เพียงแค่ โทรหาผู้ใช้ แม้ไม่ได้รับสาย Spyware ก็สามารถติดตั้งได้

    ✅ WhatsApp ได้แจ้งเตือนผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบและแก้ไขช่องโหว่ในปี 2019
    - อัปเดตระบบเพื่อป้องกันการโจมตี
    - แจ้งเตือน 1,400 ผู้ใช้ที่ตกเป็นเป้าหมาย

    ✅ Meta วางแผนบริจาคเงินค่าปรับให้กับองค์กรด้านสิทธิทางดิจิทัล
    - เพื่อช่วยเหลือ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีสอดแนม

    ✅ NSO Group ยืนยันว่าบริษัทจะอุทธรณ์คำตัดสิน
    - ระบุว่า เทคโนโลยีของบริษัทมีบทบาทสำคัญในการป้องกันอาชญากรรมและก่อการร้าย

    ‼️ Pegasus spyware สามารถพัฒนาให้โจมตีผ่านข้อความได้โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้ดำเนินการใด ๆ
    - เทคโนโลยีของ NSO Group ยังคงมีความสามารถในการเจาะระบบที่ซับซ้อนขึ้น

    ‼️ NSO Group เคยถูกดำเนินคดีโดย Apple และถูกขึ้นบัญชีดำโดยรัฐบาลสหรัฐฯ
    - ในปี 2021 Apple ฟ้อง NSO Group ฐานเจาะระบบ iPhone
    - รัฐบาลสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ NSO Group เนื่องจากเป็นภัยต่อความมั่นคง

    https://www.neowin.net/news/israeli-spyware-maker-nso-group-fined-167m-for-whatsapp-spyware-attack/
    NSO Group บริษัทผู้ผลิตสปายแวร์จากอิสราเอล ถูกปรับเป็นเงิน 167 ล้านดอลลาร์ หลังจากศาลตัดสินว่าบริษัทละเมิดกฎหมายไซเบอร์โดยใช้ Pegasus spyware โจมตีผู้ใช้ WhatsApp คดีนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2019 เมื่อ NSO Group ใช้ช่องโหว่ในระบบโทรศัพท์ของ WhatsApp เพื่อแอบติดตั้ง Pegasus บนอุปกรณ์ของเป้าหมายโดยไม่ต้องให้ผู้ใช้ดำเนินการใด ๆ ซึ่งเป็น การโจมตีแบบ zero-click ✅ NSO Group ถูกปรับ 167 ล้านดอลลาร์จากการใช้ Pegasus spyware โจมตีผู้ใช้ WhatsApp - คดีนี้เริ่มต้นในปี 2019 และสิ้นสุดในปี 2025 - ศาลตัดสินว่า NSO Group ละเมิดกฎหมายไซเบอร์ของสหรัฐฯ ✅ Pegasus spyware สามารถติดตั้งบนอุปกรณ์โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้ดำเนินการใด ๆ - ใช้ช่องโหว่ใน ระบบโทรศัพท์ของ WhatsApp - เพียงแค่ โทรหาผู้ใช้ แม้ไม่ได้รับสาย Spyware ก็สามารถติดตั้งได้ ✅ WhatsApp ได้แจ้งเตือนผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบและแก้ไขช่องโหว่ในปี 2019 - อัปเดตระบบเพื่อป้องกันการโจมตี - แจ้งเตือน 1,400 ผู้ใช้ที่ตกเป็นเป้าหมาย ✅ Meta วางแผนบริจาคเงินค่าปรับให้กับองค์กรด้านสิทธิทางดิจิทัล - เพื่อช่วยเหลือ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีสอดแนม ✅ NSO Group ยืนยันว่าบริษัทจะอุทธรณ์คำตัดสิน - ระบุว่า เทคโนโลยีของบริษัทมีบทบาทสำคัญในการป้องกันอาชญากรรมและก่อการร้าย ‼️ Pegasus spyware สามารถพัฒนาให้โจมตีผ่านข้อความได้โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้ดำเนินการใด ๆ - เทคโนโลยีของ NSO Group ยังคงมีความสามารถในการเจาะระบบที่ซับซ้อนขึ้น ‼️ NSO Group เคยถูกดำเนินคดีโดย Apple และถูกขึ้นบัญชีดำโดยรัฐบาลสหรัฐฯ - ในปี 2021 Apple ฟ้อง NSO Group ฐานเจาะระบบ iPhone - รัฐบาลสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ NSO Group เนื่องจากเป็นภัยต่อความมั่นคง https://www.neowin.net/news/israeli-spyware-maker-nso-group-fined-167m-for-whatsapp-spyware-attack/
    WWW.NEOWIN.NET
    Israeli spyware maker NSO Group fined $167M for WhatsApp spyware attack
    Meta has won over $167 million from NSO Group following a 6-year battle over the Israeli firm's Pegasus spyware.
    0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews
  • อิสราเอลกล่าวว่า การโจมตีทางอากาศที่สนามบินซานาของเยเมน เพื่อนต้องการทำลายสนามบินโดยสมบูรณ์ และเพื่อตัดการขนส่งทางอากาศของฮูตี

    ▫️ล่าสุดมีรายงานว่า สายการบินเยเมเนียแอร์ไลน์ (Yemenia Airlines) ซึ่งเป็นสายการบินประจำชาติของประเทศ สูญเสียเครื่องบินไป 3 ลำ และขณะนี้เหลืออยู่เพียง 1 ลำเท่านั้น

    ▫️นอกจากนี้ มีการประเมินความเสียหายของสนามบินทั้งหมด จากการโจมตีของอิสราเอลอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์
    อิสราเอลกล่าวว่า การโจมตีทางอากาศที่สนามบินซานาของเยเมน เพื่อนต้องการทำลายสนามบินโดยสมบูรณ์ และเพื่อตัดการขนส่งทางอากาศของฮูตี ▫️ล่าสุดมีรายงานว่า สายการบินเยเมเนียแอร์ไลน์ (Yemenia Airlines) ซึ่งเป็นสายการบินประจำชาติของประเทศ สูญเสียเครื่องบินไป 3 ลำ และขณะนี้เหลืออยู่เพียง 1 ลำเท่านั้น ▫️นอกจากนี้ มีการประเมินความเสียหายของสนามบินทั้งหมด จากการโจมตีของอิสราเอลอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • Gen Digital ซึ่งเป็นเจ้าของซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส Avast, Avira และ Norton ได้ประกาศคาดการณ์รายได้และกำไรในปีงบประมาณ 2026 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจาก ความต้องการโซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น

    บริษัทคาดการณ์รายได้ทั้งปีอยู่ที่ 4.70–4.80 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าค่าประมาณของนักวิเคราะห์ที่ 4.13 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังคาดการณ์กำไรต่อหุ้นแบบปรับปรุงที่ 2.46–2.54 ดอลลาร์ สูงกว่าค่าประมาณที่ 2.43 ดอลลาร์

    ✅ Gen Digital คาดการณ์รายได้ปี 2026 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
    - คาดการณ์รายได้อยู่ที่ 4.70–4.80 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับค่าประมาณของนักวิเคราะห์ที่ 4.13 พันล้านดอลลาร์
    - คาดการณ์กำไรต่อหุ้นแบบปรับปรุงที่ 2.46–2.54 ดอลลาร์ สูงกว่าค่าประมาณที่ 2.43 ดอลลาร์

    ✅ ความต้องการโซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์เพิ่มขึ้น
    - การโจมตีทางไซเบอร์ที่มีชื่อเสียงและการหลอกลวงออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น กระตุ้นให้บริษัทต่าง ๆ ลงทุนในโซลูชันความปลอดภัยมากขึ้น
    - เทคโนโลยี AI ช่วยให้ แฮกเกอร์สามารถพัฒนาเทคนิคการโจมตีที่ซับซ้อนขึ้น

    ✅ Gen Digital รายงานรายได้ไตรมาสที่สี่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
    - รายได้ไตรมาสที่สี่อยู่ที่ 1.01 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าค่าประมาณที่ 997 ล้านดอลลาร์
    - กำไรต่อหุ้นแบบปรับปรุงอยู่ที่ 59 เซนต์ เทียบกับค่าประมาณที่ 58 เซนต์

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์
    - อาจทำให้ บริษัทอื่น ๆ ต้องเพิ่มการลงทุนในโซลูชันความปลอดภัย
    - อาจช่วยให้ Gen Digital ขยายตลาดและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/avast-antivirus-owner-gen-digital-forecasts-upbeat-2026-on-strong-demand
    Gen Digital ซึ่งเป็นเจ้าของซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส Avast, Avira และ Norton ได้ประกาศคาดการณ์รายได้และกำไรในปีงบประมาณ 2026 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจาก ความต้องการโซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น บริษัทคาดการณ์รายได้ทั้งปีอยู่ที่ 4.70–4.80 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าค่าประมาณของนักวิเคราะห์ที่ 4.13 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังคาดการณ์กำไรต่อหุ้นแบบปรับปรุงที่ 2.46–2.54 ดอลลาร์ สูงกว่าค่าประมาณที่ 2.43 ดอลลาร์ ✅ Gen Digital คาดการณ์รายได้ปี 2026 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ - คาดการณ์รายได้อยู่ที่ 4.70–4.80 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับค่าประมาณของนักวิเคราะห์ที่ 4.13 พันล้านดอลลาร์ - คาดการณ์กำไรต่อหุ้นแบบปรับปรุงที่ 2.46–2.54 ดอลลาร์ สูงกว่าค่าประมาณที่ 2.43 ดอลลาร์ ✅ ความต้องการโซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์เพิ่มขึ้น - การโจมตีทางไซเบอร์ที่มีชื่อเสียงและการหลอกลวงออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น กระตุ้นให้บริษัทต่าง ๆ ลงทุนในโซลูชันความปลอดภัยมากขึ้น - เทคโนโลยี AI ช่วยให้ แฮกเกอร์สามารถพัฒนาเทคนิคการโจมตีที่ซับซ้อนขึ้น ✅ Gen Digital รายงานรายได้ไตรมาสที่สี่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ - รายได้ไตรมาสที่สี่อยู่ที่ 1.01 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าค่าประมาณที่ 997 ล้านดอลลาร์ - กำไรต่อหุ้นแบบปรับปรุงอยู่ที่ 59 เซนต์ เทียบกับค่าประมาณที่ 58 เซนต์ ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ - อาจทำให้ บริษัทอื่น ๆ ต้องเพิ่มการลงทุนในโซลูชันความปลอดภัย - อาจช่วยให้ Gen Digital ขยายตลาดและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/avast-antivirus-owner-gen-digital-forecasts-upbeat-2026-on-strong-demand
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Avast antivirus-owner Gen Digital forecasts upbeat 2026 on strong demand
    (Reuters) -Gen Digital, which offers antivirus software such as Avast, Avira and Norton, forecast annual revenue and profit above analysts' estimate on Tuesday, signaling strong demand for its cybersecurity tools, sending its shares up about 4% after the bell.
    0 Comments 0 Shares 18 Views 0 Reviews
  • Electronic Arts (EA) ได้ประกาศ คาดการณ์รายได้จากการจองเกมในปีงบประมาณ 2026 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ โดยมีปัจจัยสำคัญจาก เกมกีฬาและการเปิดตัวเกม Battlefield ภาคใหม่

    หุ้นของ EA พุ่งขึ้นกว่า 7% หลังจากการประกาศดังกล่าว ซึ่งสะท้อนถึง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในอุตสาหกรรมเกม แม้ว่าจะมีความผันผวนทางเศรษฐกิจจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ

    นอกจากนี้ การเลื่อนเปิดตัว Grand Theft Auto VI (GTA VI) ของ Take-Two Interactive อาจช่วยให้ EA มีโอกาสทำยอดขายสูงขึ้น เนื่องจากการแข่งขันในตลาดเกมลดลง

    ✅ EA คาดการณ์รายได้จากการจองเกมในปีงบประมาณ 2026 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
    - คาดการณ์รายได้อยู่ที่ 7.60–8.00 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 7.62 พันล้านดอลลาร์
    - สูงกว่ารายได้จากการจองเกมในปีงบประมาณก่อนหน้าที่ 7.36 พันล้านดอลลาร์

    ✅ หุ้นของ EA พุ่งขึ้นกว่า 7% หลังการประกาศ
    - สะท้อนถึง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในอุตสาหกรรมเกม
    - แม้ว่าจะมีความผันผวนทางเศรษฐกิจจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ

    ✅ Battlefield ภาคใหม่เป็นหนึ่งในเกมที่ EA คาดหวังว่าจะช่วยเพิ่มรายได้
    - CEO ของ EA ระบุว่า เกมนี้จะถูกเปิดตัวในช่วงฤดูร้อน
    - เป็นเกมภาคใหม่ของแฟรนไชส์ที่มีอายุกว่า สองทศวรรษ

    ✅ การเลื่อนเปิดตัว GTA VI อาจช่วยให้ EA มีโอกาสทำยอดขายสูงขึ้น
    - นักวิเคราะห์มองว่า การแข่งขันในตลาดเกมลดลง
    - อาจช่วยให้ เกมของ EA มีโอกาสทำยอดขายได้ดีขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/ea-forecasts-annual-bookings-above-estimates-with-new-039battlefield039-game
    Electronic Arts (EA) ได้ประกาศ คาดการณ์รายได้จากการจองเกมในปีงบประมาณ 2026 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ โดยมีปัจจัยสำคัญจาก เกมกีฬาและการเปิดตัวเกม Battlefield ภาคใหม่ หุ้นของ EA พุ่งขึ้นกว่า 7% หลังจากการประกาศดังกล่าว ซึ่งสะท้อนถึง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในอุตสาหกรรมเกม แม้ว่าจะมีความผันผวนทางเศรษฐกิจจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ นอกจากนี้ การเลื่อนเปิดตัว Grand Theft Auto VI (GTA VI) ของ Take-Two Interactive อาจช่วยให้ EA มีโอกาสทำยอดขายสูงขึ้น เนื่องจากการแข่งขันในตลาดเกมลดลง ✅ EA คาดการณ์รายได้จากการจองเกมในปีงบประมาณ 2026 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ - คาดการณ์รายได้อยู่ที่ 7.60–8.00 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 7.62 พันล้านดอลลาร์ - สูงกว่ารายได้จากการจองเกมในปีงบประมาณก่อนหน้าที่ 7.36 พันล้านดอลลาร์ ✅ หุ้นของ EA พุ่งขึ้นกว่า 7% หลังการประกาศ - สะท้อนถึง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในอุตสาหกรรมเกม - แม้ว่าจะมีความผันผวนทางเศรษฐกิจจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ✅ Battlefield ภาคใหม่เป็นหนึ่งในเกมที่ EA คาดหวังว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ - CEO ของ EA ระบุว่า เกมนี้จะถูกเปิดตัวในช่วงฤดูร้อน - เป็นเกมภาคใหม่ของแฟรนไชส์ที่มีอายุกว่า สองทศวรรษ ✅ การเลื่อนเปิดตัว GTA VI อาจช่วยให้ EA มีโอกาสทำยอดขายสูงขึ้น - นักวิเคราะห์มองว่า การแข่งขันในตลาดเกมลดลง - อาจช่วยให้ เกมของ EA มีโอกาสทำยอดขายได้ดีขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/ea-forecasts-annual-bookings-above-estimates-with-new-039battlefield039-game
    WWW.THESTAR.COM.MY
    EA forecasts annual bookings above estimates with new 'Battlefield' game
    (Reuters) - Electronic Arts forecast fiscal 2026 bookings above Wall Street expectations on Tuesday, as the videogame publisher bets on the strong performance of its sports titles and the launch of a new "Battlefield" game.
    0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • รายงานจากเพจเฟซบุ๊กBlognone ระบุว่า อุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ของสหรัฐฯ เตือนว่าการที่รัฐบาล Trump ปราบปรามพลังงานหมุนเวียนอย่างเข้มงวด กำลังขัดขวางการเติบโตของกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ และทำให้สหรัฐฯ เสี่ยงเสียตำแหน่งผู้นำ AI ระดับโลกให้กับจีนได้
    .
    จีนออกมาตรการเชิงรุกในการส่งเสริม และปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้ทันสมัย และการจ่ายพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งตรงข้ามกับสหรัฐฯ ที่ระงับการพัฒนาพลังงานสะอาดบนที่ดินของรัฐบาลกลาง หยุดการปล่อยเงินกู้สำหรับพลังงานสะอาด และยกเลิกโครงการสำคัญ เช่น โครงการพลังงานลมของ Equinor มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ฯ
    .
    ดาต้าเซ็นเตอร์จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าที่มั่นคงและมีราคาย่อมเยา ซึ่งพลังงานหมุนเวียนช่วยตอบโจทย์ได้ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากสหรัฐฯ เข้าถึงแหล่งพลังงานหมุนเวียนได้น้อยลง ดาต้าเซ็นเตอร์อาจเผชิญกับปัญหาขาดแคลนพลังงาน ต้นทุนที่สูงขึ้น ความล่าช้าในการก่อสร้าง และต้องหันมาพึ่งพลังงานฟอสซิลมากขึ้น
    .
    แม้โครงการพลังงานก๊าซบางแห่งถูกเร่งดำเนินการ แต่ก็มีต้นทุนสูง และใช้เวลานานกว่าจะสร้างเสร็จ เช่นเดียวกับบิ๊กเทคฯ อย่าง Amazon, Google, และ Equinix ที่เจอปัญหาในการรักษาเป้าหมายด้านความยั่งยืน และควบคุมต้นทุนจากความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น
    .
    ตอนนี้ในรัฐเท็กซัส ซึ่งตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐฯ กำลังพิจารณาร่างกฎหมายที่อาจเพิ่มข้อจำกัดต่อโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และลม ซึ่งจะยิ่งทำให้การขยายโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ยากขึ้น
    .
    https://www.ft.com/content/6821ec83-3a33-4a20-a3c6-152135c8ad57
    รายงานจากเพจเฟซบุ๊กBlognone ระบุว่า อุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ของสหรัฐฯ เตือนว่าการที่รัฐบาล Trump ปราบปรามพลังงานหมุนเวียนอย่างเข้มงวด กำลังขัดขวางการเติบโตของกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ และทำให้สหรัฐฯ เสี่ยงเสียตำแหน่งผู้นำ AI ระดับโลกให้กับจีนได้ . จีนออกมาตรการเชิงรุกในการส่งเสริม และปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้ทันสมัย และการจ่ายพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งตรงข้ามกับสหรัฐฯ ที่ระงับการพัฒนาพลังงานสะอาดบนที่ดินของรัฐบาลกลาง หยุดการปล่อยเงินกู้สำหรับพลังงานสะอาด และยกเลิกโครงการสำคัญ เช่น โครงการพลังงานลมของ Equinor มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ฯ . ดาต้าเซ็นเตอร์จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าที่มั่นคงและมีราคาย่อมเยา ซึ่งพลังงานหมุนเวียนช่วยตอบโจทย์ได้ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากสหรัฐฯ เข้าถึงแหล่งพลังงานหมุนเวียนได้น้อยลง ดาต้าเซ็นเตอร์อาจเผชิญกับปัญหาขาดแคลนพลังงาน ต้นทุนที่สูงขึ้น ความล่าช้าในการก่อสร้าง และต้องหันมาพึ่งพลังงานฟอสซิลมากขึ้น . แม้โครงการพลังงานก๊าซบางแห่งถูกเร่งดำเนินการ แต่ก็มีต้นทุนสูง และใช้เวลานานกว่าจะสร้างเสร็จ เช่นเดียวกับบิ๊กเทคฯ อย่าง Amazon, Google, และ Equinix ที่เจอปัญหาในการรักษาเป้าหมายด้านความยั่งยืน และควบคุมต้นทุนจากความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น . ตอนนี้ในรัฐเท็กซัส ซึ่งตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐฯ กำลังพิจารณาร่างกฎหมายที่อาจเพิ่มข้อจำกัดต่อโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และลม ซึ่งจะยิ่งทำให้การขยายโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ยากขึ้น . https://www.ft.com/content/6821ec83-3a33-4a20-a3c6-152135c8ad57
    WWW.FT.COM
    Donald Trump’s attack on green energy could hurt US in AI race, data centres warn
    Industry needs renewables to meet surging power demand from artificial intelligence
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Sansec ได้ค้นพบ ช่องโหว่ในซัพพลายเชนของ Magento ซึ่งส่งผลให้ เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหลายร้อยแห่งถูกโจมตี โดยมัลแวร์ที่แฝงตัวอยู่ใน 21 ส่วนขยายของ Magento มานานกว่า 6 ปี

    ส่วนขยายที่ได้รับผลกระทบมาจาก สามบริษัทหลัก ได้แก่ Tigren, Meetanshi และ MSG ซึ่งบางส่วนขยายถูก ฝังโค้ดอันตรายตั้งแต่ปี 2019 และเพิ่งถูกเปิดใช้งานในเดือนเมษายน 2025 ทำให้เว็บไซต์ที่ติดตั้งส่วนขยายเหล่านี้ ถูกแฮกและข้อมูลลูกค้าถูกขโมย

    ✅ Sansec พบว่ามี 21 ส่วนขยายของ Magento ที่ถูกฝังโค้ดอันตราย
    - ส่วนขยายมาจาก Tigren, Meetanshi และ MSG
    - โค้ดอันตรายถูกฝังตั้งแต่ปี 2019 แต่เพิ่งถูกเปิดใช้งานใน เมษายน 2025

    ✅ เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหลายร้อยแห่งถูกโจมตี
    - มีเว็บไซต์ที่ได้รับผลกระทบระหว่าง 500 - 1,000 แห่ง
    - รวมถึงเว็บไซต์ของ บริษัทขนาดใหญ่ที่มีมูลค่า 40 พันล้านดอลลาร์

    ✅ แฮกเกอร์ใช้ PHP backdoor เพื่อเข้าควบคุมเว็บไซต์
    - โค้ดอันตรายถูกฝังใน ไฟล์ตรวจสอบไลเซนส์ของส่วนขยาย
    - ทำให้แฮกเกอร์สามารถ รันโค้ด PHP จากระยะไกลและเข้าถึงข้อมูลลูกค้า

    ✅ การตอบสนองของบริษัทที่เกี่ยวข้อง
    - Tigren ปฏิเสธว่าไม่ได้ถูกแฮก และยังคงให้บริการส่วนขยายที่มีช่องโหว่
    - Meetanshi ยอมรับว่าถูกแฮก แต่ปฏิเสธว่ามีส่วนขยายที่ถูกฝังโค้ดอันตราย
    - MSG ไม่ตอบสนองต่อการสอบถามของ Sansec

    https://www.techradar.com/pro/security/hundreds-of-top-ecommerce-sites-under-attack-following-magento-supply-chain-flaw
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Sansec ได้ค้นพบ ช่องโหว่ในซัพพลายเชนของ Magento ซึ่งส่งผลให้ เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหลายร้อยแห่งถูกโจมตี โดยมัลแวร์ที่แฝงตัวอยู่ใน 21 ส่วนขยายของ Magento มานานกว่า 6 ปี ส่วนขยายที่ได้รับผลกระทบมาจาก สามบริษัทหลัก ได้แก่ Tigren, Meetanshi และ MSG ซึ่งบางส่วนขยายถูก ฝังโค้ดอันตรายตั้งแต่ปี 2019 และเพิ่งถูกเปิดใช้งานในเดือนเมษายน 2025 ทำให้เว็บไซต์ที่ติดตั้งส่วนขยายเหล่านี้ ถูกแฮกและข้อมูลลูกค้าถูกขโมย ✅ Sansec พบว่ามี 21 ส่วนขยายของ Magento ที่ถูกฝังโค้ดอันตราย - ส่วนขยายมาจาก Tigren, Meetanshi และ MSG - โค้ดอันตรายถูกฝังตั้งแต่ปี 2019 แต่เพิ่งถูกเปิดใช้งานใน เมษายน 2025 ✅ เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหลายร้อยแห่งถูกโจมตี - มีเว็บไซต์ที่ได้รับผลกระทบระหว่าง 500 - 1,000 แห่ง - รวมถึงเว็บไซต์ของ บริษัทขนาดใหญ่ที่มีมูลค่า 40 พันล้านดอลลาร์ ✅ แฮกเกอร์ใช้ PHP backdoor เพื่อเข้าควบคุมเว็บไซต์ - โค้ดอันตรายถูกฝังใน ไฟล์ตรวจสอบไลเซนส์ของส่วนขยาย - ทำให้แฮกเกอร์สามารถ รันโค้ด PHP จากระยะไกลและเข้าถึงข้อมูลลูกค้า ✅ การตอบสนองของบริษัทที่เกี่ยวข้อง - Tigren ปฏิเสธว่าไม่ได้ถูกแฮก และยังคงให้บริการส่วนขยายที่มีช่องโหว่ - Meetanshi ยอมรับว่าถูกแฮก แต่ปฏิเสธว่ามีส่วนขยายที่ถูกฝังโค้ดอันตราย - MSG ไม่ตอบสนองต่อการสอบถามของ Sansec https://www.techradar.com/pro/security/hundreds-of-top-ecommerce-sites-under-attack-following-magento-supply-chain-flaw
    0 Comments 0 Shares 68 Views 0 Reviews
  • เช้านี้ทองดีดตัวแรง เปิดตลาดพุ่งทันที 950 บาท เหตุดอลลาร์อ่อนค่า ส.ค้าทองชี้หากบาทไม่แข็งราคาสูงกว่านี้ https://www.matichon.co.th/economy/news_5169671
    เช้านี้ทองดีดตัวแรง เปิดตลาดพุ่งทันที 950 บาท เหตุดอลลาร์อ่อนค่า ส.ค้าทองชี้หากบาทไม่แข็งราคาสูงกว่านี้ https://www.matichon.co.th/economy/news_5169671
    0 Comments 0 Shares 58 Views 0 Reviews
  • ค่าเงิน ดอลลาร์ไต้หวัน (TWD) แข็งค่าขึ้น 10% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งเป็นการแข็งค่าที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี ส่งผลให้ราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ที่ผลิตในไต้หวันอาจสูงขึ้น

    บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของไต้หวัน เช่น Acer, Asus, Pegatron, Wistron และ Foxconn มีการถือครองพอร์ตสกุลเงินที่หลากหลายเพื่อป้องกันความผันผวน อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของ TWD ครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อ อัตรากำไรของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ เช่น TSMC และ UMC

    ✅ ค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันแข็งค่าขึ้น 10% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
    - เป็นการแข็งค่าที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี
    - อาจทำให้ราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์สูงขึ้น

    ✅ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของไต้หวันมีการถือครองพอร์ตสกุลเงินที่หลากหลาย
    - Acer, Asus, Pegatron, Wistron และ Foxconn พยายามลดผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน
    - แต่การแข็งค่าครั้งนี้อาจส่งผลต่อ อัตรากำไรของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ เช่น TSMC และ UMC

    ✅ ธนาคารกลางไต้หวันออกแถลงการณ์เพื่อควบคุมสถานการณ์
    - ระบุว่าการแข็งค่าของ TWD เกิดจาก การคาดการณ์เกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างไต้หวันและสหรัฐฯ
    - เตือนให้ระวัง นักเก็งกำไรที่อาจสร้างความผันผวนในตลาด

    ✅ ผลกระทบต่อราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐฯ
    - หากค่าเงิน TWD ยังคงแข็งค่า อาจทำให้ ราคาชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สูงขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/10-percent-surge-in-taiwanese-currency-vs-us-dollar-could-hurt-pc-and-components-pricing
    ค่าเงิน ดอลลาร์ไต้หวัน (TWD) แข็งค่าขึ้น 10% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งเป็นการแข็งค่าที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี ส่งผลให้ราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ที่ผลิตในไต้หวันอาจสูงขึ้น บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของไต้หวัน เช่น Acer, Asus, Pegatron, Wistron และ Foxconn มีการถือครองพอร์ตสกุลเงินที่หลากหลายเพื่อป้องกันความผันผวน อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของ TWD ครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อ อัตรากำไรของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ เช่น TSMC และ UMC ✅ ค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันแข็งค่าขึ้น 10% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ - เป็นการแข็งค่าที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี - อาจทำให้ราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์สูงขึ้น ✅ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของไต้หวันมีการถือครองพอร์ตสกุลเงินที่หลากหลาย - Acer, Asus, Pegatron, Wistron และ Foxconn พยายามลดผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน - แต่การแข็งค่าครั้งนี้อาจส่งผลต่อ อัตรากำไรของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ เช่น TSMC และ UMC ✅ ธนาคารกลางไต้หวันออกแถลงการณ์เพื่อควบคุมสถานการณ์ - ระบุว่าการแข็งค่าของ TWD เกิดจาก การคาดการณ์เกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างไต้หวันและสหรัฐฯ - เตือนให้ระวัง นักเก็งกำไรที่อาจสร้างความผันผวนในตลาด ✅ ผลกระทบต่อราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐฯ - หากค่าเงิน TWD ยังคงแข็งค่า อาจทำให้ ราคาชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สูงขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/10-percent-surge-in-taiwanese-currency-vs-us-dollar-could-hurt-pc-and-components-pricing
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    10% surge in Taiwanese currency vs US dollar could hurt PC and components pricing
    We are witnessing the most powerful Taiwan Dollar appreciation in over 30 years.
    0 Comments 0 Shares 33 Views 0 Reviews
  • Epic Games ได้ประกาศ นโยบายแบ่งรายได้ใหม่ สำหรับ Epic Games Store โดยจะ ไม่คิดค่าธรรมเนียมสำหรับรายได้ 1 ล้านดอลลาร์แรกของแต่ละเกม ซึ่งเป็นความพยายามในการแข่งขันกับ Steam ที่ยังคงมี โมเดลแบ่งรายได้แบบขั้นบันได

    ก่อนหน้านี้ Epic Games Store มี ค่าธรรมเนียม 12% สำหรับทุกยอดขาย แต่ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025 เป็นต้นไป นักพัฒนาจะได้รับรายได้เต็มจำนวนสำหรับ 1 ล้านดอลลาร์แรกของแต่ละเกม และจะถูกคิดค่าธรรมเนียม 12% เฉพาะยอดขายที่เกินจากนั้น

    นอกจากนี้ Epic ยังเปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า "Webshop" ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถ สร้างร้านค้าของตัวเองบนแพลตฟอร์ม Epic Games Store และขายเกมโดยตรงให้กับผู้เล่น โดยไม่ต้องผ่านร้านค้าแอปแบบดั้งเดิม

    ✅ Epic Games Store ไม่คิดค่าธรรมเนียมสำหรับรายได้ 1 ล้านดอลลาร์แรกของแต่ละเกม
    - นักพัฒนาจะได้รับ รายได้เต็มจำนวนสำหรับ 1 ล้านดอลลาร์แรก
    - รายได้ที่เกินจากนั้นจะถูกคิดค่าธรรมเนียม 12%

    ✅ เปรียบเทียบกับโมเดลแบ่งรายได้ของ Steam
    - Steam คิดค่าธรรมเนียม 30% สำหรับ 10 ล้านดอลลาร์แรก
    - ลดลงเหลือ 25% หลังจากยอดขายเกิน 10 ล้านดอลลาร์
    - ลดลงเหลือ 20% เมื่อยอดขายถึง 50 ล้านดอลลาร์

    ✅ Epic เปิดตัวฟีเจอร์ "Webshop" สำหรับนักพัฒนา
    - นักพัฒนาสามารถ สร้างร้านค้าของตัวเองบน Epic Games Store
    - ผู้เล่นสามารถ ซื้อเกมโดยตรงจากนักพัฒนา

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกม
    - อาจช่วยให้นักพัฒนา โดยเฉพาะอินดี้เกมสามารถทำกำไรได้มากขึ้น
    - อาจทำให้ Steam ต้องปรับโมเดลแบ่งรายได้เพื่อแข่งขัน

    https://www.techspot.com/news/107797-epic-challenges-steam-zero-percent-fee-first-1.html
    Epic Games ได้ประกาศ นโยบายแบ่งรายได้ใหม่ สำหรับ Epic Games Store โดยจะ ไม่คิดค่าธรรมเนียมสำหรับรายได้ 1 ล้านดอลลาร์แรกของแต่ละเกม ซึ่งเป็นความพยายามในการแข่งขันกับ Steam ที่ยังคงมี โมเดลแบ่งรายได้แบบขั้นบันได ก่อนหน้านี้ Epic Games Store มี ค่าธรรมเนียม 12% สำหรับทุกยอดขาย แต่ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025 เป็นต้นไป นักพัฒนาจะได้รับรายได้เต็มจำนวนสำหรับ 1 ล้านดอลลาร์แรกของแต่ละเกม และจะถูกคิดค่าธรรมเนียม 12% เฉพาะยอดขายที่เกินจากนั้น นอกจากนี้ Epic ยังเปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า "Webshop" ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถ สร้างร้านค้าของตัวเองบนแพลตฟอร์ม Epic Games Store และขายเกมโดยตรงให้กับผู้เล่น โดยไม่ต้องผ่านร้านค้าแอปแบบดั้งเดิม ✅ Epic Games Store ไม่คิดค่าธรรมเนียมสำหรับรายได้ 1 ล้านดอลลาร์แรกของแต่ละเกม - นักพัฒนาจะได้รับ รายได้เต็มจำนวนสำหรับ 1 ล้านดอลลาร์แรก - รายได้ที่เกินจากนั้นจะถูกคิดค่าธรรมเนียม 12% ✅ เปรียบเทียบกับโมเดลแบ่งรายได้ของ Steam - Steam คิดค่าธรรมเนียม 30% สำหรับ 10 ล้านดอลลาร์แรก - ลดลงเหลือ 25% หลังจากยอดขายเกิน 10 ล้านดอลลาร์ - ลดลงเหลือ 20% เมื่อยอดขายถึง 50 ล้านดอลลาร์ ✅ Epic เปิดตัวฟีเจอร์ "Webshop" สำหรับนักพัฒนา - นักพัฒนาสามารถ สร้างร้านค้าของตัวเองบน Epic Games Store - ผู้เล่นสามารถ ซื้อเกมโดยตรงจากนักพัฒนา ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกม - อาจช่วยให้นักพัฒนา โดยเฉพาะอินดี้เกมสามารถทำกำไรได้มากขึ้น - อาจทำให้ Steam ต้องปรับโมเดลแบ่งรายได้เพื่อแข่งขัน https://www.techspot.com/news/107797-epic-challenges-steam-zero-percent-fee-first-1.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Epic challenges Steam with zero percent fee for first $1 million per game
    Epic Games recently announced a new revenue policy for its digital game store. Starting in June, the company will implement a developer-friendly change: any new payment processed...
    0 Comments 0 Shares 34 Views 0 Reviews
  • Palantir Technologies ได้ปรับเพิ่ม คาดการณ์รายได้ประจำปี เนื่องจากความต้องการ AI ที่เพิ่มขึ้น แต่กลับทำให้ หุ้นของบริษัทลดลง 8% ในการซื้อขายหลังตลาด เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังผลประกอบการที่สูงกว่านี้

    แม้ว่าหุ้นของ Palantir จะเพิ่มขึ้น 60% ในปีนี้ จากความสนใจใน AI และการใช้เทคโนโลยีในภาครัฐ แต่รายได้ไตรมาสแรกอยู่ที่ 883.9 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เพียง 2.4% ทำให้นักลงทุนผิดหวัง

    นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงเป็นลูกค้าหลักของ Palantir โดยคิดเป็น 42% ของรายได้ในไตรมาสแรก อย่างไรก็ตาม การลดงบประมาณของ Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งนำโดย Elon Musk อาจส่งผลต่อสัญญาของบริษัท

    ✅ Palantir ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ประจำปี
    - คาดการณ์รายได้ปี 2025 อยู่ที่ 3.89 - 3.90 พันล้านดอลลาร์
    - สูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 3.74 - 3.76 พันล้านดอลลาร์

    ✅ หุ้นลดลง 8% หลังจากรายงานผลประกอบการ
    - นักลงทุนคาดหวังผลประกอบการที่สูงกว่านี้
    - รายได้ไตรมาสแรกอยู่ที่ 883.9 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าคาดการณ์เพียง 2.4%

    ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นลูกค้าหลักของ Palantir
    - คิดเป็น 42% ของรายได้ในไตรมาสแรก
    - ให้บริการซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูลทางทหาร

    ✅ ผลกระทบจากการลดงบประมาณของ DOGE
    - การลดงบประมาณอาจส่งผลต่อ สัญญาของ Palantir กับรัฐบาลสหรัฐฯ
    - Palantir ระบุว่า สนับสนุนแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐบาล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/palantir-raises-annual-revenue-forecast-on-booming-ai-demand
    Palantir Technologies ได้ปรับเพิ่ม คาดการณ์รายได้ประจำปี เนื่องจากความต้องการ AI ที่เพิ่มขึ้น แต่กลับทำให้ หุ้นของบริษัทลดลง 8% ในการซื้อขายหลังตลาด เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังผลประกอบการที่สูงกว่านี้ แม้ว่าหุ้นของ Palantir จะเพิ่มขึ้น 60% ในปีนี้ จากความสนใจใน AI และการใช้เทคโนโลยีในภาครัฐ แต่รายได้ไตรมาสแรกอยู่ที่ 883.9 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เพียง 2.4% ทำให้นักลงทุนผิดหวัง นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงเป็นลูกค้าหลักของ Palantir โดยคิดเป็น 42% ของรายได้ในไตรมาสแรก อย่างไรก็ตาม การลดงบประมาณของ Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งนำโดย Elon Musk อาจส่งผลต่อสัญญาของบริษัท ✅ Palantir ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ประจำปี - คาดการณ์รายได้ปี 2025 อยู่ที่ 3.89 - 3.90 พันล้านดอลลาร์ - สูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 3.74 - 3.76 พันล้านดอลลาร์ ✅ หุ้นลดลง 8% หลังจากรายงานผลประกอบการ - นักลงทุนคาดหวังผลประกอบการที่สูงกว่านี้ - รายได้ไตรมาสแรกอยู่ที่ 883.9 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าคาดการณ์เพียง 2.4% ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นลูกค้าหลักของ Palantir - คิดเป็น 42% ของรายได้ในไตรมาสแรก - ให้บริการซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูลทางทหาร ✅ ผลกระทบจากการลดงบประมาณของ DOGE - การลดงบประมาณอาจส่งผลต่อ สัญญาของ Palantir กับรัฐบาลสหรัฐฯ - Palantir ระบุว่า สนับสนุนแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐบาล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/palantir-raises-annual-revenue-forecast-on-booming-ai-demand
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Palantir raises annual revenue forecast on AI demand but investors unimpressed
    (Reuters) -Palantir Technologies raised its annual sales forecast on Monday, although its inline profit and a modest revenue beat disappointed investors who were expecting more from the AI-focused data and analytics firm, driving its shares down 8% in extended trading.
    0 Comments 0 Shares 40 Views 0 Reviews
  • JPMorgan Chase ได้ใช้ AI เพื่อเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน โดย AI ช่วยให้ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถ ให้คำแนะนำด้านการลงทุนได้รวดเร็วขึ้น และ จัดการคำขอจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ในช่วงเดือนเมษายน 2025 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความผันผวนสูงจาก ประกาศภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดลดลงหลายล้านล้านดอลลาร์ นักลงทุนจำนวนมากต้องการคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงิน และ AI ของ JPMorgan สามารถ ดึงข้อมูลการซื้อขายของลูกค้าและคาดการณ์คำถามที่อาจเกิดขึ้น ได้อย่างรวดเร็ว

    นอกจากนี้ JPMorgan ยังมี Coach AI ซึ่งช่วยให้ที่ปรึกษาสามารถค้นหาข้อมูลและงานวิจัยได้เร็วขึ้นถึง 95% ทำให้สามารถใช้เวลาในการพูดคุยกับลูกค้าได้มากขึ้น

    ✅ AI ช่วยเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า
    - ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถ ให้คำแนะนำด้านการลงทุนได้รวดเร็วขึ้น
    - AI ช่วย จัดการคำขอจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ✅ Coach AI ช่วยให้ที่ปรึกษาค้นหาข้อมูลได้เร็วขึ้น
    - ค้นหาข้อมูลและงานวิจัยได้เร็วขึ้นถึง 95%
    - ช่วยให้ที่ปรึกษา ใช้เวลาในการพูดคุยกับลูกค้าได้มากขึ้น

    ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจของ JPMorgan
    - ยอดขายเพิ่มขึ้น 20% ระหว่างปี 2023-2024
    - AI ช่วยให้ที่ปรึกษาสามารถ ขยายฐานลูกค้าได้ 50% ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า

    ✅ งบประมาณด้านเทคโนโลยีของ JPMorgan
    - มีงบประมาณด้านเทคโนโลยี 17 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024
    - คาดว่าจะเพิ่มการใช้ AI จาก 450 กรณีเป็น 1,000 กรณีในปีหน้า

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/jpmorgan-says-ai-helped-boost-sales-add-clients-in-market-turmoil
    JPMorgan Chase ได้ใช้ AI เพื่อเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน โดย AI ช่วยให้ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถ ให้คำแนะนำด้านการลงทุนได้รวดเร็วขึ้น และ จัดการคำขอจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในช่วงเดือนเมษายน 2025 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความผันผวนสูงจาก ประกาศภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดลดลงหลายล้านล้านดอลลาร์ นักลงทุนจำนวนมากต้องการคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงิน และ AI ของ JPMorgan สามารถ ดึงข้อมูลการซื้อขายของลูกค้าและคาดการณ์คำถามที่อาจเกิดขึ้น ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ JPMorgan ยังมี Coach AI ซึ่งช่วยให้ที่ปรึกษาสามารถค้นหาข้อมูลและงานวิจัยได้เร็วขึ้นถึง 95% ทำให้สามารถใช้เวลาในการพูดคุยกับลูกค้าได้มากขึ้น ✅ AI ช่วยเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า - ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถ ให้คำแนะนำด้านการลงทุนได้รวดเร็วขึ้น - AI ช่วย จัดการคำขอจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ Coach AI ช่วยให้ที่ปรึกษาค้นหาข้อมูลได้เร็วขึ้น - ค้นหาข้อมูลและงานวิจัยได้เร็วขึ้นถึง 95% - ช่วยให้ที่ปรึกษา ใช้เวลาในการพูดคุยกับลูกค้าได้มากขึ้น ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจของ JPMorgan - ยอดขายเพิ่มขึ้น 20% ระหว่างปี 2023-2024 - AI ช่วยให้ที่ปรึกษาสามารถ ขยายฐานลูกค้าได้ 50% ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ✅ งบประมาณด้านเทคโนโลยีของ JPMorgan - มีงบประมาณด้านเทคโนโลยี 17 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 - คาดว่าจะเพิ่มการใช้ AI จาก 450 กรณีเป็น 1,000 กรณีในปีหน้า https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/jpmorgan-says-ai-helped-boost-sales-add-clients-in-market-turmoil
    WWW.THESTAR.COM.MY
    JPMorgan says AI helped boost sales, add clients in market turmoil
    NEW YORK (Reuters) -JPMorgan Chase's artificial-intelligence tools enabled it to boost sales to wealthy clients and manage scores of requests from worried customers even during April's market rout, the bank's CEO of asset and wealth management said.
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • Samsung ประสบปัญหาขาดทุน 400 ล้านดอลลาร์ หลังจากตัดสินใจ ยกเลิกการใช้ชิป Exynos 2500 ในสมาร์ทโฟน Galaxy S25 Series เนื่องจากปัญหาด้าน ผลผลิตต่ำและประสิทธิภาพที่ไม่สามารถแข่งขันกับ Snapdragon 8 Elite ได้

    เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์เช่นนี้ในอนาคต Samsung มีแผนที่จะเปิดตัว Exynos 2600 ใน Galaxy S26 Series โดยคาดว่าจะใช้เฉพาะใน รุ่นที่จำหน่ายในยุโรป เนื่องจากปัญหาด้านผลผลิตที่ยังคงต่ำ

    ✅ Samsung ขาดทุน 400 ล้านดอลลาร์จากการยกเลิก Exynos 2500
    - ตัดสินใจใช้ Snapdragon 8 Elite ใน Galaxy S25 Series
    - ผลผลิตของ Exynos 2500 ต่ำและไม่สามารถแข่งขันกับ Snapdragon ได้

    ✅ Exynos 2600 อาจถูกใช้ใน Galaxy S26 รุ่นยุโรป
    - ผลผลิตยังคงต่ำ ทำให้มีการจำกัดการใช้งานในบางรุ่น
    - คาดว่า Snapdragon 8 Elite Gen 2 จะยังคงมีประสิทธิภาพเหนือกว่า

    ✅ Samsung ตั้งเป้าปรับปรุงกระบวนการผลิต 2nm GAA
    - ตั้งเป้าให้ ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 60% เพื่อรองรับการผลิตเต็มรูปแบบ
    - คาดว่าจะเริ่มการผลิตจำนวนมากใน ครึ่งหลังของปี 2025

    ✅ ผลกระทบต่อกลยุทธ์ของ Samsung ในตลาดชิปเซ็ต
    - Samsung ต้องการลดต้นทุนการผลิตชิปโดยใช้ Exynos 2600
    - อาจมีการเปิดตัว Exynos 2600 ใน Galaxy Z Flip 7

    https://wccftech.com/samsung-lost-400-million-for-dropping-exynos-2500-in-the-galaxy-s25-series/
    Samsung ประสบปัญหาขาดทุน 400 ล้านดอลลาร์ หลังจากตัดสินใจ ยกเลิกการใช้ชิป Exynos 2500 ในสมาร์ทโฟน Galaxy S25 Series เนื่องจากปัญหาด้าน ผลผลิตต่ำและประสิทธิภาพที่ไม่สามารถแข่งขันกับ Snapdragon 8 Elite ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์เช่นนี้ในอนาคต Samsung มีแผนที่จะเปิดตัว Exynos 2600 ใน Galaxy S26 Series โดยคาดว่าจะใช้เฉพาะใน รุ่นที่จำหน่ายในยุโรป เนื่องจากปัญหาด้านผลผลิตที่ยังคงต่ำ ✅ Samsung ขาดทุน 400 ล้านดอลลาร์จากการยกเลิก Exynos 2500 - ตัดสินใจใช้ Snapdragon 8 Elite ใน Galaxy S25 Series - ผลผลิตของ Exynos 2500 ต่ำและไม่สามารถแข่งขันกับ Snapdragon ได้ ✅ Exynos 2600 อาจถูกใช้ใน Galaxy S26 รุ่นยุโรป - ผลผลิตยังคงต่ำ ทำให้มีการจำกัดการใช้งานในบางรุ่น - คาดว่า Snapdragon 8 Elite Gen 2 จะยังคงมีประสิทธิภาพเหนือกว่า ✅ Samsung ตั้งเป้าปรับปรุงกระบวนการผลิต 2nm GAA - ตั้งเป้าให้ ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 60% เพื่อรองรับการผลิตเต็มรูปแบบ - คาดว่าจะเริ่มการผลิตจำนวนมากใน ครึ่งหลังของปี 2025 ✅ ผลกระทบต่อกลยุทธ์ของ Samsung ในตลาดชิปเซ็ต - Samsung ต้องการลดต้นทุนการผลิตชิปโดยใช้ Exynos 2600 - อาจมีการเปิดตัว Exynos 2600 ใน Galaxy Z Flip 7 https://wccftech.com/samsung-lost-400-million-for-dropping-exynos-2500-in-the-galaxy-s25-series/
    WCCFTECH.COM
    Samsung Was Estimated To Lose Around $400 Million After It Decided To Drop The Exynos 2500 For The Galaxy S25 Series; European Galaxy S26 Models To Be Equipped With Exynos 2600
    The Exynos 2600 will apparently be found in some Galaxy S26 variants, as Samsung was estimated to lose $400 million for dropping the Exynos 2500
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • Samsung กำลังต่อสู้กับ คำสั่งเรียกเก็บภาษีมูลค่า 520 ล้านดอลลาร์ จากรัฐบาลอินเดีย โดยอ้างว่า บริษัท Reliance Jio เคยนำเข้าอุปกรณ์เดียวกันโดยไม่เสียภาษี เป็นเวลาหลายปี

    รัฐบาลอินเดียกล่าวหาว่า Samsung หลีกเลี่ยงภาษี 10-20% โดยการ จัดประเภทผิดพลาด สำหรับอุปกรณ์เครือข่ายที่นำเข้าจาก เกาหลีและเวียดนาม ระหว่างปี 2018-2021 ซึ่งถูกขายให้กับ Reliance Jio

    Samsung โต้แย้งว่า หน่วยงานภาษีอินเดียรับรู้ถึงแนวทางการนำเข้านี้มานานแล้ว และไม่เคยตั้งคำถามเกี่ยวกับการจัดประเภทสินค้าจนกระทั่งปี 2025

    ✅ Samsung ถูกเรียกเก็บภาษี 520 ล้านดอลลาร์จากรัฐบาลอินเดีย
    - ถูกกล่าวหาว่า จัดประเภทผิดพลาด สำหรับอุปกรณ์เครือข่าย
    - อุปกรณ์ดังกล่าวถูกขายให้กับ Reliance Jio

    ✅ ข้อโต้แย้งของ Samsung
    - อ้างว่า Reliance Jio เคยนำเข้าอุปกรณ์เดียวกันโดยไม่เสียภาษี
    - หน่วยงานภาษีอินเดีย รับรู้ถึงแนวทางนี้มานานแล้ว

    ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจของ Samsung ในอินเดีย
    - คำสั่งเรียกเก็บภาษีคิดเป็น มากกว่า 50% ของกำไรสุทธิของ Samsung ในอินเดียปีที่แล้ว
    - อาจส่งผลต่อ กลยุทธ์ทางธุรกิจของ Samsung ในตลาดอินเดีย

    ✅ แนวทางการต่อสู้ของ Samsung
    - ยื่นคำร้องต่อ ศาลภาษีในมุมไบ
    - อ้างว่า ไม่ได้รับโอกาสที่เป็นธรรมในการนำเสนอหลักฐาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/04/samsung-fights-520-million-india-tax-demand-points-to-reliance-practice
    Samsung กำลังต่อสู้กับ คำสั่งเรียกเก็บภาษีมูลค่า 520 ล้านดอลลาร์ จากรัฐบาลอินเดีย โดยอ้างว่า บริษัท Reliance Jio เคยนำเข้าอุปกรณ์เดียวกันโดยไม่เสียภาษี เป็นเวลาหลายปี รัฐบาลอินเดียกล่าวหาว่า Samsung หลีกเลี่ยงภาษี 10-20% โดยการ จัดประเภทผิดพลาด สำหรับอุปกรณ์เครือข่ายที่นำเข้าจาก เกาหลีและเวียดนาม ระหว่างปี 2018-2021 ซึ่งถูกขายให้กับ Reliance Jio Samsung โต้แย้งว่า หน่วยงานภาษีอินเดียรับรู้ถึงแนวทางการนำเข้านี้มานานแล้ว และไม่เคยตั้งคำถามเกี่ยวกับการจัดประเภทสินค้าจนกระทั่งปี 2025 ✅ Samsung ถูกเรียกเก็บภาษี 520 ล้านดอลลาร์จากรัฐบาลอินเดีย - ถูกกล่าวหาว่า จัดประเภทผิดพลาด สำหรับอุปกรณ์เครือข่าย - อุปกรณ์ดังกล่าวถูกขายให้กับ Reliance Jio ✅ ข้อโต้แย้งของ Samsung - อ้างว่า Reliance Jio เคยนำเข้าอุปกรณ์เดียวกันโดยไม่เสียภาษี - หน่วยงานภาษีอินเดีย รับรู้ถึงแนวทางนี้มานานแล้ว ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจของ Samsung ในอินเดีย - คำสั่งเรียกเก็บภาษีคิดเป็น มากกว่า 50% ของกำไรสุทธิของ Samsung ในอินเดียปีที่แล้ว - อาจส่งผลต่อ กลยุทธ์ทางธุรกิจของ Samsung ในตลาดอินเดีย ✅ แนวทางการต่อสู้ของ Samsung - ยื่นคำร้องต่อ ศาลภาษีในมุมไบ - อ้างว่า ไม่ได้รับโอกาสที่เป็นธรรมในการนำเสนอหลักฐาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/04/samsung-fights-520-million-india-tax-demand-points-to-reliance-practice
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Samsung fights $520 million India tax demand, points to Reliance practice
    NEW DELHI (Reuters) -Samsung has asked an Indian tribunal to quash a $520 million tax demand for allegedly misclassifying imports of networking gear, arguing officials were aware of the practice as India's Reliance imported the same component in a similar manner for years, documents show.
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
  • ธุรกิจออนไลน์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับ ปัญหาการฉ้อโกงผ่านการเรียกเงินคืน (Chargeback Fraud) ซึ่งคาดว่าจะทำให้ สูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 โดย Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028

    Chargeback Fraud เกิดขึ้นเมื่อ ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้อง ผ่านแอปธนาคาร โดยอ้างว่าไม่ได้ทำรายการนั้น ทั้งที่จริงแล้วเป็นการซื้อสินค้าหรือบริการที่ถูกต้อง ส่งผลให้ ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง

    ✅ ธุรกิจทั่วโลกสูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025
    - Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028

    ✅ Chargeback Fraud คืออะไร?
    - ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้องผ่านแอปธนาคาร
    - ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง

    ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจออนไลน์
    - ธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) ไม่สามารถรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้
    - บางบริษัทต้องเลือก แบกรับความสูญเสียหรือเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ แนวทางแก้ไขที่ Mastercard แนะนำ
    - ใช้ AI และระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ เพื่อตรวจจับธุรกรรมที่น่าสงสัย
    - เพิ่ม ความชัดเจนของใบเสร็จดิจิทัล เพื่อช่วยให้ผู้ขายสามารถโต้แย้งการเรียกเงินคืนได้

    https://www.techradar.com/pro/businesses-globally-set-to-lose-usd15-billion-in-2025-because-of-fraudulent-chargebacks-says-mastercard-heres-how-it-impacts-you-me-and-everyone
    ธุรกิจออนไลน์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับ ปัญหาการฉ้อโกงผ่านการเรียกเงินคืน (Chargeback Fraud) ซึ่งคาดว่าจะทำให้ สูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 โดย Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028 Chargeback Fraud เกิดขึ้นเมื่อ ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้อง ผ่านแอปธนาคาร โดยอ้างว่าไม่ได้ทำรายการนั้น ทั้งที่จริงแล้วเป็นการซื้อสินค้าหรือบริการที่ถูกต้อง ส่งผลให้ ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง ✅ ธุรกิจทั่วโลกสูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 - Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028 ✅ Chargeback Fraud คืออะไร? - ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้องผ่านแอปธนาคาร - ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจออนไลน์ - ธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) ไม่สามารถรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ - บางบริษัทต้องเลือก แบกรับความสูญเสียหรือเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ แนวทางแก้ไขที่ Mastercard แนะนำ - ใช้ AI และระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ เพื่อตรวจจับธุรกรรมที่น่าสงสัย - เพิ่ม ความชัดเจนของใบเสร็จดิจิทัล เพื่อช่วยให้ผู้ขายสามารถโต้แย้งการเรียกเงินคืนได้ https://www.techradar.com/pro/businesses-globally-set-to-lose-usd15-billion-in-2025-because-of-fraudulent-chargebacks-says-mastercard-heres-how-it-impacts-you-me-and-everyone
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews
  • ญี่ปุ่นไม่หมู! อเมริกางง เจรจาไม่ง่ายอย่างที่คิด!

    รมว คลังญี่ปุ่นขู่ขายทิ้งพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

    รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ญี่ปุ่นอาจใช้พันธบัตรสหรัฐที่ถือครองมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นไม้ตายในการเจรจาการค้ากับวอชิงตัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นกล้าแข็งข้อกับสหรัฐ นับตั้งแต่พ่ายแพ้ในสงครามโลก

    แม้ว่ารัฐมนตรีคลัง คัตสึโนบุ คาโตะ จะไม่ได้บอกว่าจะขายพันธบัตรที่ถืออยู่ แต่คำพูดของเขามีการพูดถึงส่วนนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสิ่งที่ญี่ปุ่นถือครองพันธบัตรสหรัฐมากที่สุด

    นอกจากนี้ สำนักข่าว Nikkei รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการเสนอผ่อนปรนมาตรการภาษีของสหรัฐที่ไม่รวมสินค้ายานยนต์และสินค้าเกษตรอีกด้วยเข้ามาในการผ่อนปรนครั้งนี้อีกด้วย
    ญี่ปุ่นไม่หมู! อเมริกางง เจรจาไม่ง่ายอย่างที่คิด! รมว คลังญี่ปุ่นขู่ขายทิ้งพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ญี่ปุ่นอาจใช้พันธบัตรสหรัฐที่ถือครองมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นไม้ตายในการเจรจาการค้ากับวอชิงตัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นกล้าแข็งข้อกับสหรัฐ นับตั้งแต่พ่ายแพ้ในสงครามโลก แม้ว่ารัฐมนตรีคลัง คัตสึโนบุ คาโตะ จะไม่ได้บอกว่าจะขายพันธบัตรที่ถืออยู่ แต่คำพูดของเขามีการพูดถึงส่วนนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสิ่งที่ญี่ปุ่นถือครองพันธบัตรสหรัฐมากที่สุด นอกจากนี้ สำนักข่าว Nikkei รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการเสนอผ่อนปรนมาตรการภาษีของสหรัฐที่ไม่รวมสินค้ายานยนต์และสินค้าเกษตรอีกด้วยเข้ามาในการผ่อนปรนครั้งนี้อีกด้วย
    0 Comments 0 Shares 200 Views 0 Reviews
  • Apple วางแผนที่จะจัดหาชิปมากกว่า 19 พันล้านตัว จากโรงงานในสหรัฐฯ ในปี 2025 โดย TSMC ในรัฐแอริโซนา จะผลิตชิปหลายสิบล้านตัวให้กับ Apple แม้ว่าชิประดับสูงสุดของ Apple จะยังคงผลิตในไต้หวัน

    Tim Cook CEO ของ Apple เปิดเผยว่า Apple มีซัพพลายเออร์มากกว่า 9,000 รายในสหรัฐฯ และกำลังลงทุน 500 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 ปีข้างหน้าเพื่อขยายการดำเนินงานในหลายรัฐ รวมถึง มิชิแกน, เท็กซัส, แคลิฟอร์เนีย, แอริโซนา และเนวาดา

    แม้ว่าโรงงาน Fab 21 ของ TSMC ในแอริโซนา จะผลิตชิปที่ใช้ 4nm และ 5nm-class nodes ซึ่งไม่ใช่เทคโนโลยีล่าสุด แต่ Apple ยังคงมีผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ใช้ชิปเหล่านี้

    ✅ Apple จะจัดหาชิปมากกว่า 19 พันล้านตัวจากโรงงานในสหรัฐฯ
    - รวมถึง หลายสิบล้านตัวจาก TSMC ในแอริโซนา
    - Apple มี ซัพพลายเออร์มากกว่า 9,000 รายในสหรัฐฯ

    ✅ การลงทุน 500 พันล้านดอลลาร์ของ Apple
    - ขยายการดำเนินงานใน มิชิแกน, เท็กซัส, แคลิฟอร์เนีย, แอริโซนา และเนวาดา
    - ตั้งโรงงานใหม่ใน เท็กซัส เพื่อผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI

    ✅ บทบาทของ TSMC ในแอริโซนา
    - โรงงาน Fab 21 ผลิตชิปที่ใช้ 4nm และ 5nm-class nodes
    - Apple ยังคงมีผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ใช้ชิปเหล่านี้

    ✅ การผลิตชิประดับสูงสุดของ Apple
    - ชิปหลัก เช่น SoC, หน่วยความจำ และเซ็นเซอร์กล้อง ยังคงผลิตใน ไต้หวัน, สิงคโปร์, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/apple-expects-to-source-over-19-billion-chips-from-u-s-factories-this-year
    Apple วางแผนที่จะจัดหาชิปมากกว่า 19 พันล้านตัว จากโรงงานในสหรัฐฯ ในปี 2025 โดย TSMC ในรัฐแอริโซนา จะผลิตชิปหลายสิบล้านตัวให้กับ Apple แม้ว่าชิประดับสูงสุดของ Apple จะยังคงผลิตในไต้หวัน Tim Cook CEO ของ Apple เปิดเผยว่า Apple มีซัพพลายเออร์มากกว่า 9,000 รายในสหรัฐฯ และกำลังลงทุน 500 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 ปีข้างหน้าเพื่อขยายการดำเนินงานในหลายรัฐ รวมถึง มิชิแกน, เท็กซัส, แคลิฟอร์เนีย, แอริโซนา และเนวาดา แม้ว่าโรงงาน Fab 21 ของ TSMC ในแอริโซนา จะผลิตชิปที่ใช้ 4nm และ 5nm-class nodes ซึ่งไม่ใช่เทคโนโลยีล่าสุด แต่ Apple ยังคงมีผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ใช้ชิปเหล่านี้ ✅ Apple จะจัดหาชิปมากกว่า 19 พันล้านตัวจากโรงงานในสหรัฐฯ - รวมถึง หลายสิบล้านตัวจาก TSMC ในแอริโซนา - Apple มี ซัพพลายเออร์มากกว่า 9,000 รายในสหรัฐฯ ✅ การลงทุน 500 พันล้านดอลลาร์ของ Apple - ขยายการดำเนินงานใน มิชิแกน, เท็กซัส, แคลิฟอร์เนีย, แอริโซนา และเนวาดา - ตั้งโรงงานใหม่ใน เท็กซัส เพื่อผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ✅ บทบาทของ TSMC ในแอริโซนา - โรงงาน Fab 21 ผลิตชิปที่ใช้ 4nm และ 5nm-class nodes - Apple ยังคงมีผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ใช้ชิปเหล่านี้ ✅ การผลิตชิประดับสูงสุดของ Apple - ชิปหลัก เช่น SoC, หน่วยความจำ และเซ็นเซอร์กล้อง ยังคงผลิตใน ไต้หวัน, สิงคโปร์, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/apple-expects-to-source-over-19-billion-chips-from-u-s-factories-this-year
    0 Comments 0 Shares 128 Views 0 Reviews
  • Apple เผชิญกับผลกระทบจาก Trump tariffs ซึ่งอาจทำให้บริษัทต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้นถึง 900 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสเดือนมิถุนายน 2025 แม้ว่าผลประกอบการของ Apple จะยังคงแข็งแกร่ง แต่ CEO Tim Cook ยอมรับว่าผลกระทบจากภาษีศุลกากรยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตามอง

    Apple ได้ดำเนินมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากภาษี เช่น การขยายโรงงานผลิตในอินเดียและบราซิล และ การนำเข้า iPhone กว่า 600 ตันเข้าสหรัฐฯ ก่อนที่ภาษีจะมีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ตาม อัตราภาษีที่สูงถึง 145% สำหรับสินค้าจากจีน และ 27% สำหรับสินค้าจากอินเดีย อาจส่งผลต่อแผนการผลิตของ Apple ในอนาคต

    ✅ ผลกระทบต่อ Apple
    - อาจต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้น 900 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสเดือนมิถุนายน 2025
    - CEO Tim Cook ยอมรับว่าผลกระทบจากภาษีศุลกากรยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตามอง

    ✅ มาตรการลดผลกระทบของ Apple
    - ขยายโรงงานผลิตในอินเดียและบราซิล
    - นำเข้า iPhone กว่า 600 ตันเข้าสหรัฐฯ ก่อนที่ภาษีจะมีผลบังคับใช้

    ✅ อัตราภาษีที่ส่งผลต่อ Apple
    - 145% สำหรับสินค้าจากจีน
    - 27% สำหรับสินค้าจากอินเดีย

    ✅ แนวโน้มของตลาดและการผลิต
    - Apple อาจต้องปรับกลยุทธ์การผลิตเพื่อลดผลกระทบจากภาษี
    - อาจมีการเพิ่มการผลิตในประเทศที่มีภาษีต่ำกว่า

    https://www.neowin.net/news/tim-cook-says-tariffs-had-limited-impact-on-apple-but-it-may-still-lose-close-to-a-billion/
    Apple เผชิญกับผลกระทบจาก Trump tariffs ซึ่งอาจทำให้บริษัทต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้นถึง 900 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสเดือนมิถุนายน 2025 แม้ว่าผลประกอบการของ Apple จะยังคงแข็งแกร่ง แต่ CEO Tim Cook ยอมรับว่าผลกระทบจากภาษีศุลกากรยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตามอง Apple ได้ดำเนินมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากภาษี เช่น การขยายโรงงานผลิตในอินเดียและบราซิล และ การนำเข้า iPhone กว่า 600 ตันเข้าสหรัฐฯ ก่อนที่ภาษีจะมีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ตาม อัตราภาษีที่สูงถึง 145% สำหรับสินค้าจากจีน และ 27% สำหรับสินค้าจากอินเดีย อาจส่งผลต่อแผนการผลิตของ Apple ในอนาคต ✅ ผลกระทบต่อ Apple - อาจต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้น 900 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสเดือนมิถุนายน 2025 - CEO Tim Cook ยอมรับว่าผลกระทบจากภาษีศุลกากรยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตามอง ✅ มาตรการลดผลกระทบของ Apple - ขยายโรงงานผลิตในอินเดียและบราซิล - นำเข้า iPhone กว่า 600 ตันเข้าสหรัฐฯ ก่อนที่ภาษีจะมีผลบังคับใช้ ✅ อัตราภาษีที่ส่งผลต่อ Apple - 145% สำหรับสินค้าจากจีน - 27% สำหรับสินค้าจากอินเดีย ✅ แนวโน้มของตลาดและการผลิต - Apple อาจต้องปรับกลยุทธ์การผลิตเพื่อลดผลกระทบจากภาษี - อาจมีการเพิ่มการผลิตในประเทศที่มีภาษีต่ำกว่า https://www.neowin.net/news/tim-cook-says-tariffs-had-limited-impact-on-apple-but-it-may-still-lose-close-to-a-billion/
    WWW.NEOWIN.NET
    Tim Cook says tariffs had "limited" impact on Apple but it may still lose close to a billion
    Apple CEO says the company could manage tariffs impact on its business, but it is difficult to predict beyond June.
    0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน

    ผมเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0 ซึ่งโอนเงินได้รวดเร็วกว่าเดิม โดยเชื่อมต่อกับธนาคารใน 16 ประเทศพร้อมกัน ทั้งใน จีน อาเซียน และตะวันออกกลาง เมื่อเช้าตรู่วันที่ 21 เม.ย. CIPS เป็นระบบโอนเงินข้ามชาติแบบเดียวกับ SWIFT ของสหรัฐฯ แต่ CIPS จะโอนเป็นเงินหยวนของจีน ขณะที่ SWIFT จะโอนเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ CIPS ถือเป็นระบบโอนเงินข้ามชาติที่เป็นคู่แข่งสำคัญของสหรัฐฯ CIPS ใช้เวลาโอนเงินข้ามประเทศเร็วมากเพียงไม่กี่วินาที มีต้นทุนการโอนเงินที่ตํ่ามาก เทียบกับ ระบบ SWIFT ของสหรัฐฯที่ต้องใช้เวลาในการโอนเงิน 2–3 วัน มีค่าโอนเงินที่แพงกว่ากันถึง 4 หมื่นกว่าเท่า

    การเปิดตัวของ ระบบโอนเงินข้ามพรมแดน CIPS 2.0 ของจีนครั้งนี้ จึงเป็นการทลายการผูกขาดโอนเงินข้ามชาติของระบบ SWIFT สหรัฐฯ ที่มีมายาวนาน

    วันอังคาร 29 เม.ย. คุณพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ได้เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้เพิ่มศักยภาพการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวน (Chinese Yuan–CNY) ผ่าน ระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน หรือ CIPS (Cross–Border Interbank Payment System) เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ใช้รับอนุมัติจากธนาคารกลางจีนให้เป็น Direct Participant สมาชิกตรง

    ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพจึงสามารถทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนได้โดยตรงกับระบบ CIPS ซึ่งช่วยลดระยะเวลาทำธุรกรรมให้สั้นลง คู่ค้าได้รับเงินเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ เป็นการยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการค้าระหว่างประเทศไทยกับจีนในอนาคตเพิ่มมากขึ้นด้วย

    คุณพิพัฒน์ กล่าวว่า บริการโอนเงิน CIPS เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ นำเข้าและส่งออกซึ่งมีธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศกับคู่ค้าในจีน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการค้าสูง เช่น เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นต้น ปี 2567 จีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับ 1 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวมเกือบ 4.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปจีนมูลค่าประมาณ 1.2 ล้าน ล้านบาท และการนำเข้าจากจีนมีมูลค่าประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท จึงถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก

    การเข้าร่วมเป็น Direct Participant ในระบบ CIPS สะท้อนถึงความตั้งใจในการพัฒนาบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และทำให้ธุรกิจของลูกค้าได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจยุคใหม่ ตอกย้ำความเป็น “เพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน” เคียงข้างและช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ การพัฒนาบริการดังกล่าวจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

    วันนี้การค้าโลกแยกออกเป็น 2 ค่ายชัดเจน จีน กับ สหรัฐฯ เมื่อ ประธานาธิบดีทรัมป์ ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลกเพื่อเอาเปรียบ ตั้งแต่ 2 เม.ย.ทรัมป์ได้ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศไปแล้ว 10% และ จะขึ้นภาษีตอบโต้อีก 20–245% กับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ จะยึดคลองปานามา จะยึดคลองสุเอซที่เก็บค่าผ่านเรือสหรัฐฯ กลายเป็นอันธพาลระดับโลก ทำให้ทุกชาติ เริ่มถอยห่างจากสหรัฐฯมาใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น

    มาซาโตะ คานดะ ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้เสนอ ให้ประเทศในเอเชียหันมาค้าขายกันเองให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อปกป้องเศรษฐกิจในภูมิภาคจากแรงกระแทกภายนอก

    ผมเชื่อว่า ระบบโอนเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน CIPS ของจีน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการค้าในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก “ยกเว้นสหรัฐฯ” ทำให้ ระบบโอนเงิน SWIFT ลดบทบาทลง สหรัฐฯจะได้ “โดดเดี่ยวตัวเอง” สมใจทรัมป์แน่นอน.


    “ลม เปลี่ยนทิศ”

    https://www.thairath.co.th/news/local/2855708
    ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน ผมเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0 ซึ่งโอนเงินได้รวดเร็วกว่าเดิม โดยเชื่อมต่อกับธนาคารใน 16 ประเทศพร้อมกัน ทั้งใน จีน อาเซียน และตะวันออกกลาง เมื่อเช้าตรู่วันที่ 21 เม.ย. CIPS เป็นระบบโอนเงินข้ามชาติแบบเดียวกับ SWIFT ของสหรัฐฯ แต่ CIPS จะโอนเป็นเงินหยวนของจีน ขณะที่ SWIFT จะโอนเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ CIPS ถือเป็นระบบโอนเงินข้ามชาติที่เป็นคู่แข่งสำคัญของสหรัฐฯ CIPS ใช้เวลาโอนเงินข้ามประเทศเร็วมากเพียงไม่กี่วินาที มีต้นทุนการโอนเงินที่ตํ่ามาก เทียบกับ ระบบ SWIFT ของสหรัฐฯที่ต้องใช้เวลาในการโอนเงิน 2–3 วัน มีค่าโอนเงินที่แพงกว่ากันถึง 4 หมื่นกว่าเท่า การเปิดตัวของ ระบบโอนเงินข้ามพรมแดน CIPS 2.0 ของจีนครั้งนี้ จึงเป็นการทลายการผูกขาดโอนเงินข้ามชาติของระบบ SWIFT สหรัฐฯ ที่มีมายาวนาน วันอังคาร 29 เม.ย. คุณพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ได้เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้เพิ่มศักยภาพการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวน (Chinese Yuan–CNY) ผ่าน ระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน หรือ CIPS (Cross–Border Interbank Payment System) เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ใช้รับอนุมัติจากธนาคารกลางจีนให้เป็น Direct Participant สมาชิกตรง ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพจึงสามารถทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนได้โดยตรงกับระบบ CIPS ซึ่งช่วยลดระยะเวลาทำธุรกรรมให้สั้นลง คู่ค้าได้รับเงินเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ เป็นการยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการค้าระหว่างประเทศไทยกับจีนในอนาคตเพิ่มมากขึ้นด้วย คุณพิพัฒน์ กล่าวว่า บริการโอนเงิน CIPS เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ นำเข้าและส่งออกซึ่งมีธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศกับคู่ค้าในจีน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการค้าสูง เช่น เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นต้น ปี 2567 จีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับ 1 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวมเกือบ 4.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปจีนมูลค่าประมาณ 1.2 ล้าน ล้านบาท และการนำเข้าจากจีนมีมูลค่าประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท จึงถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก การเข้าร่วมเป็น Direct Participant ในระบบ CIPS สะท้อนถึงความตั้งใจในการพัฒนาบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และทำให้ธุรกิจของลูกค้าได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจยุคใหม่ ตอกย้ำความเป็น “เพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน” เคียงข้างและช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ การพัฒนาบริการดังกล่าวจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น วันนี้การค้าโลกแยกออกเป็น 2 ค่ายชัดเจน จีน กับ สหรัฐฯ เมื่อ ประธานาธิบดีทรัมป์ ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลกเพื่อเอาเปรียบ ตั้งแต่ 2 เม.ย.ทรัมป์ได้ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศไปแล้ว 10% และ จะขึ้นภาษีตอบโต้อีก 20–245% กับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ จะยึดคลองปานามา จะยึดคลองสุเอซที่เก็บค่าผ่านเรือสหรัฐฯ กลายเป็นอันธพาลระดับโลก ทำให้ทุกชาติ เริ่มถอยห่างจากสหรัฐฯมาใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น มาซาโตะ คานดะ ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้เสนอ ให้ประเทศในเอเชียหันมาค้าขายกันเองให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อปกป้องเศรษฐกิจในภูมิภาคจากแรงกระแทกภายนอก ผมเชื่อว่า ระบบโอนเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน CIPS ของจีน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการค้าในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก “ยกเว้นสหรัฐฯ” ทำให้ ระบบโอนเงิน SWIFT ลดบทบาทลง สหรัฐฯจะได้ “โดดเดี่ยวตัวเอง” สมใจทรัมป์แน่นอน. “ลม เปลี่ยนทิศ” https://www.thairath.co.th/news/local/2855708
    WWW.THAIRATH.CO.TH
    ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน
    ผมเพิ่งเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 222 Views 0 Reviews
  • ชัดเจนแล้วว่าสหรัฐยังคงทำสงครามกับรัสเซียผ่านยูเครนต่อไป แม้ว่าที่ผ่านมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ จะอ้างว่าต้องการยุติความขัดแย้งก็ตาม

    ข้อตกลงแร่หายากที่สหรัฐทำกับยูเครน จะรวมถึงการเสนอขายอาวุธมูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์ นอกเหนือไปจากสัญญาที่จัดทำขึ้นไว้ก่อนแล้วเมื่อช่วงต้นปีนี้โดยผู้ผลิตอาวุธในสหรัฐกับชาติในยุโรป ซึ่งจะโอนอาวุธของสหรัฐให้กับยูเครน

    การเจรจาที่ผ่านมาของสหรัฐที่พวกเขาพยายามแสร้งเป็น "คนกลาง" เป็นเพียงกลอุบายที่ต้องการบีบยูเครนให้ยอมทำข้อตกลงแร่ธาตุเท่านั้น

    พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ว่าเป้าหมายของสหรัฐคือการระงับ(freeze) ความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซียเท่านั้น ไม่ใช่ยุติ (end) ความขัดแย้ง เพื่อมอบหมายให้ยุโรปเข้ามาดำเนินการแทน โดยสหรัฐจะย้ายเป้าหมายไปสร้างความขัดแย้งที่คล้ายคลึงกันกับจีน-ไต้หวันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแทน
    ชัดเจนแล้วว่าสหรัฐยังคงทำสงครามกับรัสเซียผ่านยูเครนต่อไป แม้ว่าที่ผ่านมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ จะอ้างว่าต้องการยุติความขัดแย้งก็ตาม ข้อตกลงแร่หายากที่สหรัฐทำกับยูเครน จะรวมถึงการเสนอขายอาวุธมูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์ นอกเหนือไปจากสัญญาที่จัดทำขึ้นไว้ก่อนแล้วเมื่อช่วงต้นปีนี้โดยผู้ผลิตอาวุธในสหรัฐกับชาติในยุโรป ซึ่งจะโอนอาวุธของสหรัฐให้กับยูเครน การเจรจาที่ผ่านมาของสหรัฐที่พวกเขาพยายามแสร้งเป็น "คนกลาง" เป็นเพียงกลอุบายที่ต้องการบีบยูเครนให้ยอมทำข้อตกลงแร่ธาตุเท่านั้น พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ว่าเป้าหมายของสหรัฐคือการระงับ(freeze) ความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซียเท่านั้น ไม่ใช่ยุติ (end) ความขัดแย้ง เพื่อมอบหมายให้ยุโรปเข้ามาดำเนินการแทน โดยสหรัฐจะย้ายเป้าหมายไปสร้างความขัดแย้งที่คล้ายคลึงกันกับจีน-ไต้หวันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแทน
    0 Comments 0 Shares 246 Views 0 Reviews
  • วอชิงตันโพสต์แสดงความเห็นไว้ว่าแร่ธาตุที่ดีที่สุดของยูเครนส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในดินแดนส่วนที่เป็นยูเครน แต่เป็นในภูมิภาคใหม่ทั้งสี่ที่ผนวกเข้ารัสเซีย และยังไม่ชัดเจนว่าต้นทุนในการขุดแร่ธาตุเหล่านี้จะมีราคาถูกพอที่จะแข่งขันกับจีนได้หรือไม่

    ทางด้าน ทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวถึงข้อตกลงเรื่องแร่หายากของยูเครนว่า ถือเป็นหนึ่งในการ "ชำระหนี้" จากเงินช่วยเหลือด้านทหารที่มีต่อยูเครนในรัฐบาลไบเดนมูลค่า 350,000 ล้านดอลลาร์

    ขณะเดียวกัน เมื่อคืนที่ผ่านมาเซเลนสกียืนยันว่า รัฐบาลของเขาลงนามความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับสหรัฐอเมริกาแล้วและจะส่งเรื่องต่อไปยัง Verkhovna Rada (รัฐสภายูเครน) เพื่อรับรองโดยจะไม่ให้มีความล่าช้าใดๆเกิดขึ้น สิ่งนี้ยืนยันได้อย่างดีว่า "สหรัฐกลายเป็นเจ้าของทางเศรษฐกิขยูเครนอย่างไม่มีกำหนด"
    วอชิงตันโพสต์แสดงความเห็นไว้ว่าแร่ธาตุที่ดีที่สุดของยูเครนส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในดินแดนส่วนที่เป็นยูเครน แต่เป็นในภูมิภาคใหม่ทั้งสี่ที่ผนวกเข้ารัสเซีย และยังไม่ชัดเจนว่าต้นทุนในการขุดแร่ธาตุเหล่านี้จะมีราคาถูกพอที่จะแข่งขันกับจีนได้หรือไม่ ทางด้าน ทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวถึงข้อตกลงเรื่องแร่หายากของยูเครนว่า ถือเป็นหนึ่งในการ "ชำระหนี้" จากเงินช่วยเหลือด้านทหารที่มีต่อยูเครนในรัฐบาลไบเดนมูลค่า 350,000 ล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน เมื่อคืนที่ผ่านมาเซเลนสกียืนยันว่า รัฐบาลของเขาลงนามความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับสหรัฐอเมริกาแล้วและจะส่งเรื่องต่อไปยัง Verkhovna Rada (รัฐสภายูเครน) เพื่อรับรองโดยจะไม่ให้มีความล่าช้าใดๆเกิดขึ้น สิ่งนี้ยืนยันได้อย่างดีว่า "สหรัฐกลายเป็นเจ้าของทางเศรษฐกิขยูเครนอย่างไม่มีกำหนด"
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 235 Views 0 Reviews
  • ตลาดรถกระบะไฟฟ้ากำลังกลายเป็น สมรภูมิใหม่ของอุตสาหกรรม EV โดยล่าสุด Isuzu ได้ประกาศเปิดตัว D-Max EV ในปี 2026 ซึ่งจะมีสมรรถนะเทียบเท่ารุ่นดีเซล

    ก่อนหน้านี้ Slate Auto ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Amazon ก็ได้ประกาศแผนผลิตรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดในปีหน้า ทำให้การแข่งขันในตลาดนี้เริ่มเข้มข้นขึ้น

    แม้ว่าผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Ford และ Chevrolet จะมียอดขายรถกระบะไฟฟ้าที่ค่อนข้างช้า แต่การมาถึงของ D-Max EV และรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดจากจีน อาจทำให้ตลาดนี้กลายเป็น จุดแข่งขันสำคัญของอุตสาหกรรม EV

    ✅ การเปิดตัว D-Max EV ของ Isuzu
    - เปิดตัวในปี 2026
    - สมรรถนะเทียบเท่ารุ่นดีเซล
    - รองรับน้ำหนักบรรทุก 1,000 กิโลกรัม และลากจูง 3,500 กิโลกรัม

    ✅ การแข่งขันในตลาดรถกระบะไฟฟ้า
    - Slate Auto เตรียมผลิตรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดในปีหน้า
    - Ford และ Chevrolet มียอดขายรถกระบะไฟฟ้าที่ค่อนข้างช้า

    ✅ เทคโนโลยีของ D-Max EV
    - ใช้แบตเตอรี่ 66.9kWh ติดตั้งใต้พื้นรถ
    - มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถาวร พร้อมมอเตอร์ที่เพลาหน้าและหลัง

    ✅ แนวโน้มของตลาดรถกระบะไฟฟ้า
    - คาดว่าตลาดรถบรรทุกไฟฟ้าทั่วโลกจะมีมูลค่า 78 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2033

    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/first-slate-auto-and-now-isuzu-why-electric-pick-up-trucks-could-be-the-next-big-ev-battleground
    ตลาดรถกระบะไฟฟ้ากำลังกลายเป็น สมรภูมิใหม่ของอุตสาหกรรม EV โดยล่าสุด Isuzu ได้ประกาศเปิดตัว D-Max EV ในปี 2026 ซึ่งจะมีสมรรถนะเทียบเท่ารุ่นดีเซล ก่อนหน้านี้ Slate Auto ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Amazon ก็ได้ประกาศแผนผลิตรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดในปีหน้า ทำให้การแข่งขันในตลาดนี้เริ่มเข้มข้นขึ้น แม้ว่าผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Ford และ Chevrolet จะมียอดขายรถกระบะไฟฟ้าที่ค่อนข้างช้า แต่การมาถึงของ D-Max EV และรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดจากจีน อาจทำให้ตลาดนี้กลายเป็น จุดแข่งขันสำคัญของอุตสาหกรรม EV ✅ การเปิดตัว D-Max EV ของ Isuzu - เปิดตัวในปี 2026 - สมรรถนะเทียบเท่ารุ่นดีเซล - รองรับน้ำหนักบรรทุก 1,000 กิโลกรัม และลากจูง 3,500 กิโลกรัม ✅ การแข่งขันในตลาดรถกระบะไฟฟ้า - Slate Auto เตรียมผลิตรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดในปีหน้า - Ford และ Chevrolet มียอดขายรถกระบะไฟฟ้าที่ค่อนข้างช้า ✅ เทคโนโลยีของ D-Max EV - ใช้แบตเตอรี่ 66.9kWh ติดตั้งใต้พื้นรถ - มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถาวร พร้อมมอเตอร์ที่เพลาหน้าและหลัง ✅ แนวโน้มของตลาดรถกระบะไฟฟ้า - คาดว่าตลาดรถบรรทุกไฟฟ้าทั่วโลกจะมีมูลค่า 78 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2033 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/first-slate-auto-and-now-isuzu-why-electric-pick-up-trucks-could-be-the-next-big-ev-battleground
    0 Comments 0 Shares 116 Views 0 Reviews
More Results