• มีรายงานเครื่องบินของรัฐบาลอิหร่าน หลังจากบินออกจากเตหะราน ขณะนี้ได้ลงจอดในโอมานแล้ว คาดว่าจะมีการเจรจาหยุดยิงกับสหรัฐและอิสราเอล

    ขณะเดียวกัน น่านฟ้าเหนืออิสราเอล อิหร่าน อิรัก และซีเรียก็เปิดออกพร้อมๆกัน

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากอิสราเอลเปิดฉากถล่มทางอากาศครั้งใหญ่โดยได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา

    มีรายงานเครื่องบินของรัฐบาลอิหร่าน หลังจากบินออกจากเตหะราน ขณะนี้ได้ลงจอดในโอมานแล้ว คาดว่าจะมีการเจรจาหยุดยิงกับสหรัฐและอิสราเอล ขณะเดียวกัน น่านฟ้าเหนืออิสราเอล อิหร่าน อิรัก และซีเรียก็เปิดออกพร้อมๆกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากอิสราเอลเปิดฉากถล่มทางอากาศครั้งใหญ่โดยได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดานิเอล เบสซาราบอฟ ส.ส. รัสเซีย :
    " พวกเขา (อิสราเอล สหรัฐฯ ชาติตะวันตก) พยายามกล่าวหาอิหร่านกำลังจะสร้างหรือมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง เรื่องนี้เป็นเพียงข้ออ้างเหมือนอิรัก พวกเขาไม่สนว่าอิหร่านจะมีหรือไม่มี
    .
    แต่สิ่งที่พวกเขาสนคือ พื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญของอิหร่าน อิหร่านเป็นหนึ่งในสองประเทศในตะวันออกกลางที่ต่อต้านอิสราเอลและอเมริกาอย่างแข็งกร้าวเช่นเดียวกับเยเมน ชาติที่แข็งข้อกับพวกเขาสุดท้ายจะโดนกำจัดตั้งแต่อิรัก ลิเบีย ล่าสุด ซีเรีย จากหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายไอซิส ที่สหรัฐตั้งค่าหัว $10 ล้าน ในที่สุดกลับกลายเป็นหุ่นเชิดอเมริกา
    .
    พวกเขาต้องการเปลี่ยนแปลงอิหร่าน เพียงเพราะต้องการหุ่นเชิดเหมือนซีเรีย และต้องการปล้นทรัพยากรธรรมชาติก๊าซและนํ้ามัน ตลอดไปจนถึงเข้ายึดครองพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของอิหร่านในช่องแคบฮอร์มุซ และนี่คือข้อเท็จจริง"
    ดานิเอล เบสซาราบอฟ ส.ส. รัสเซีย : " พวกเขา (อิสราเอล สหรัฐฯ ชาติตะวันตก) พยายามกล่าวหาอิหร่านกำลังจะสร้างหรือมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง เรื่องนี้เป็นเพียงข้ออ้างเหมือนอิรัก พวกเขาไม่สนว่าอิหร่านจะมีหรือไม่มี . แต่สิ่งที่พวกเขาสนคือ พื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญของอิหร่าน อิหร่านเป็นหนึ่งในสองประเทศในตะวันออกกลางที่ต่อต้านอิสราเอลและอเมริกาอย่างแข็งกร้าวเช่นเดียวกับเยเมน ชาติที่แข็งข้อกับพวกเขาสุดท้ายจะโดนกำจัดตั้งแต่อิรัก ลิเบีย ล่าสุด ซีเรีย จากหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายไอซิส ที่สหรัฐตั้งค่าหัว $10 ล้าน ในที่สุดกลับกลายเป็นหุ่นเชิดอเมริกา . พวกเขาต้องการเปลี่ยนแปลงอิหร่าน เพียงเพราะต้องการหุ่นเชิดเหมือนซีเรีย และต้องการปล้นทรัพยากรธรรมชาติก๊าซและนํ้ามัน ตลอดไปจนถึงเข้ายึดครองพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของอิหร่านในช่องแคบฮอร์มุซ และนี่คือข้อเท็จจริง"
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • "มันเป็นแผนการที่ถูกกำหนดมาตลอดจากความร่วมมือของสหรัฐและอิสราเอล"

    อิสราเอลคือตัวแทนสหรัฐที่มีหน้าที่ทำงาน "สกปรก" ข้ามเส้นแดงด้านมนุษยธรรมให้สหรัฐ ประเทศที่มีหน้าที่แสร้งทำตัวเป็นฝ่ายคนดีมีคุณธรรม สหรัฐจึงมีหน้าที่ต้องปกป้องอิสราเอลมาตลอดหลายสิบปี (ซุ้มมือปืนที่มีนายเป็นนักการเมืองอิทธิพลสูงคอยคุ้มกะลาหัว)

    ย้อนดูคำสัมภาษณ์ของ เวสลีย์ คลาร์ก เมื่อปี 2003:

    "เราวางแผนจะบุกเจ็ดประเทศ"
    จากเหตุการณ์ในอิหร่านขณะนี้ โดยมีตัวเริ่มต้นคือ "อิสราเอล" ที่เป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อน เพียงแค่อ้องว่าอิสราเอล "กำลังจะ" มีนิวเคลียร์และ "อาจจะ" เป็นภัยกับตนเอง

    👉ย้อนไปฟังคำพูดของ นายพลเวสลีย์ คลาร์ก (Wesley Clark) อดีตผู้บัญชาการกองกำลังพันธมิตรในสงครามโคโซโวระหว่างดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดฝ่ายสัมพันธมิตรยุโรปของนาโต้ระหว่างปี 2540 ถึง 2543

    👉เขากล่าวว่า หลังเหตุการณ์ 9/11 สหรัฐมุ่งหมายที่จะ 
    "กำจัด 7 ประเทศภายใน 5 ปี ได้แก่
    -อิรัก
    -ซีเรีย
    -เลบานอน
    -ลิเบีย
    -โซมาเลีย
    -ซูดาน
    -และปิดท้ายด้วยอิหร่าน"

    👉แม้ว่าระยะเวลาไม่ได้จบลงภายใน 5 ปี ตามกำหนด แต่เส้นทางการทำลายประเทศเหล่านั้นตามรายชื่อที่ระบุ ยังคงดำเนินต่อมา


    .
    https://www.aljazeera.com/news/2003/9/22/us-plans-to-attack-seven-muslim-states

    .

    https://www.chinadaily.com.cn/a/202109/24/WS614d2604a310cdd39bc6b2f4.html


    "มันเป็นแผนการที่ถูกกำหนดมาตลอดจากความร่วมมือของสหรัฐและอิสราเอล" อิสราเอลคือตัวแทนสหรัฐที่มีหน้าที่ทำงาน "สกปรก" ข้ามเส้นแดงด้านมนุษยธรรมให้สหรัฐ ประเทศที่มีหน้าที่แสร้งทำตัวเป็นฝ่ายคนดีมีคุณธรรม สหรัฐจึงมีหน้าที่ต้องปกป้องอิสราเอลมาตลอดหลายสิบปี (ซุ้มมือปืนที่มีนายเป็นนักการเมืองอิทธิพลสูงคอยคุ้มกะลาหัว) ย้อนดูคำสัมภาษณ์ของ เวสลีย์ คลาร์ก เมื่อปี 2003: "เราวางแผนจะบุกเจ็ดประเทศ" จากเหตุการณ์ในอิหร่านขณะนี้ โดยมีตัวเริ่มต้นคือ "อิสราเอล" ที่เป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อน เพียงแค่อ้องว่าอิสราเอล "กำลังจะ" มีนิวเคลียร์และ "อาจจะ" เป็นภัยกับตนเอง 👉ย้อนไปฟังคำพูดของ นายพลเวสลีย์ คลาร์ก (Wesley Clark) อดีตผู้บัญชาการกองกำลังพันธมิตรในสงครามโคโซโวระหว่างดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดฝ่ายสัมพันธมิตรยุโรปของนาโต้ระหว่างปี 2540 ถึง 2543 👉เขากล่าวว่า หลังเหตุการณ์ 9/11 สหรัฐมุ่งหมายที่จะ  "กำจัด 7 ประเทศภายใน 5 ปี ได้แก่ -อิรัก -ซีเรีย -เลบานอน -ลิเบีย -โซมาเลีย -ซูดาน -และปิดท้ายด้วยอิหร่าน" 👉แม้ว่าระยะเวลาไม่ได้จบลงภายใน 5 ปี ตามกำหนด แต่เส้นทางการทำลายประเทศเหล่านั้นตามรายชื่อที่ระบุ ยังคงดำเนินต่อมา . https://www.aljazeera.com/news/2003/9/22/us-plans-to-attack-seven-muslim-states . https://www.chinadaily.com.cn/a/202109/24/WS614d2604a310cdd39bc6b2f4.html
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาหมัด อัลชารา ผู้นำซีเรีย อนุญาตให้กองกำลังอิสราเอลและกองกำลังที่สนับสนุนอิสราเอลใช้พื้นที่น่านฟ้าซีเรียเพื่อสกัดกั้นโดรนและขีปนาวุธของอิหร่านได้
    อาหมัด อัลชารา ผู้นำซีเรีย อนุญาตให้กองกำลังอิสราเอลและกองกำลังที่สนับสนุนอิสราเอลใช้พื้นที่น่านฟ้าซีเรียเพื่อสกัดกั้นโดรนและขีปนาวุธของอิหร่านได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพขณะกำลังเติมน้ำมันให้เครื่องบินของอิสราเอลเหนือน่านฟ้าซีเรียได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกลัวอันตรายจากซีเรีย

    นี่เป็นสาเหตุที่ทั้งอิสราเอลและสหรัฐต้องการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในซีเรีย โดยสร้างเรื่องเลวร้ายใส่ความอดีตประธานาธิบดีอัสซาดจนถุกโค่นล้มจากหุ่นเชิดของสหรัฐ
    ภาพขณะกำลังเติมน้ำมันให้เครื่องบินของอิสราเอลเหนือน่านฟ้าซีเรียได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกลัวอันตรายจากซีเรีย นี่เป็นสาเหตุที่ทั้งอิสราเอลและสหรัฐต้องการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในซีเรีย โดยสร้างเรื่องเลวร้ายใส่ความอดีตประธานาธิบดีอัสซาดจนถุกโค่นล้มจากหุ่นเชิดของสหรัฐ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • พบถังเชื้อเพลิงภายนอกที่น่าจะมีไว้สำหรับเครื่องบินรบโจมตี F-15I “Ra'am” ของกองทัพอากาศอิสราเอล ในเขตปกครองดาราอา (Daraa) ทางตะวันตกเฉียงใต้บนดินแดนของซีเรีย ใกล้กับอิสราเอล
    พบถังเชื้อเพลิงภายนอกที่น่าจะมีไว้สำหรับเครื่องบินรบโจมตี F-15I “Ra'am” ของกองทัพอากาศอิสราเอล ในเขตปกครองดาราอา (Daraa) ทางตะวันตกเฉียงใต้บนดินแดนของซีเรีย ใกล้กับอิสราเอล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • Danny Hyphong เป็นคนอเมริกันเอเชี่ยน ตัดสินใจเดินทางมาที่ซินเจียงเพื่อดูด้วยตาตนเองว่า ศาสนาอิสลามถูกปิดกั้นและชาวมุสลิมที่นี่ถูกห้ามปฏิบัติศาสนกิจจริงอย่างที่เขาได้รับรู้จากสื่อในอเมริกาหรือไม่ ก่อนจะเดินทางมา มีแต่คนห้ามและเตือนเขา แต่เขาก็ตัดสินใจมาและพบว่ามันต่างจากที่เขารับรู้มาในอเมริกาอย่างสิ้นเชิง
    .
    ที่จริงโดยรวมแล้วมันเป็นเรื่องแปลกอย่างยิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ฉุกคิด
    รัฐบาลอเมริกันเองมักนำเสนอทัศนคติในการต่อต้านชาติอิสลาม และมักตราหน้าพวกเขาหลายประเทศว่าเป็นชาติก่อการร้าย และโดยความประพฤติแล้ว รัฐบาลอเมริกันส่งทหารเข้าไปในตะวันออกกลาง เช่น อิรัค ลิเบีย ซีเรีย เพื่อจุดมุงหมายในการปล้นชิงน้ำมัน พวกเขากระทำการที่เป็นปฏิปักษ์ต่อชาติมุสลิมมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่กลับแสดงออกในท่าทีปกป้องมุสลิมในกรณีนี้ ซึ่งมันย้อนแย้งและชวนสงสัยอย่างเห็นได้ชัด
    .
    มันเป็นเรื่องตลกที่พรอพพาแกนดาของอเมริกาที่พยายามป้ายสีว่าจีนจีโนไซด์พวกอุยกูร์และกำจัดศาสนาอิสลาม ในปี 1949 มีชาวอุยกูร์ในซินเจียงราว 2.5 ล้านคน (ในซินเจียงมีชนเผ่าอื่นด้วย) แต่ปัจจุบันมีชาวอุยกูร์อยู่ราว 12 ล้านคน ช่างเป็นการจีโนไซด์ที่ล้มเหลวจริง 555
    ใช่ไหมอีแยม?
    .
    Danny Hyphong เป็นคนอเมริกันเอเชี่ยน ตัดสินใจเดินทางมาที่ซินเจียงเพื่อดูด้วยตาตนเองว่า ศาสนาอิสลามถูกปิดกั้นและชาวมุสลิมที่นี่ถูกห้ามปฏิบัติศาสนกิจจริงอย่างที่เขาได้รับรู้จากสื่อในอเมริกาหรือไม่ ก่อนจะเดินทางมา มีแต่คนห้ามและเตือนเขา แต่เขาก็ตัดสินใจมาและพบว่ามันต่างจากที่เขารับรู้มาในอเมริกาอย่างสิ้นเชิง . ที่จริงโดยรวมแล้วมันเป็นเรื่องแปลกอย่างยิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ฉุกคิด รัฐบาลอเมริกันเองมักนำเสนอทัศนคติในการต่อต้านชาติอิสลาม และมักตราหน้าพวกเขาหลายประเทศว่าเป็นชาติก่อการร้าย และโดยความประพฤติแล้ว รัฐบาลอเมริกันส่งทหารเข้าไปในตะวันออกกลาง เช่น อิรัค ลิเบีย ซีเรีย เพื่อจุดมุงหมายในการปล้นชิงน้ำมัน พวกเขากระทำการที่เป็นปฏิปักษ์ต่อชาติมุสลิมมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่กลับแสดงออกในท่าทีปกป้องมุสลิมในกรณีนี้ ซึ่งมันย้อนแย้งและชวนสงสัยอย่างเห็นได้ชัด . มันเป็นเรื่องตลกที่พรอพพาแกนดาของอเมริกาที่พยายามป้ายสีว่าจีนจีโนไซด์พวกอุยกูร์และกำจัดศาสนาอิสลาม ในปี 1949 มีชาวอุยกูร์ในซินเจียงราว 2.5 ล้านคน (ในซินเจียงมีชนเผ่าอื่นด้วย) แต่ปัจจุบันมีชาวอุยกูร์อยู่ราว 12 ล้านคน ช่างเป็นการจีโนไซด์ที่ล้มเหลวจริง 555 ใช่ไหมอีแยม? .
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สามว้าว!!"

    มีรายงานว่า อาหมัด อัล-ชารา ผู้นำซีเรียจากการแต่งตั้งตนเอง มีกำหนดเดินทางไปอเมริกาในเดือนกันยายนนี้

    นอกจากนี้ อัล-ชารา อาจจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติอีกด้วย ซึ่งหากเป็นจริง นี่จะเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปีที่ผู้นำจากประเทศซีเรียได้มีโอกาสนี้

    เป็นที่ทราบกันดีว่า อัล-ชารา คืออดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้ายที่สหรัฐหมายหัว และมีรางวัลนำจับสิบล้านดอลลาร์ และเป็นผู้นำกองกำลังกบฏโค่นล้มรัฐบาลอัสซาดของซีเรียที่มาจากการเลือกตั้งอย่างถูกต้อง
    "สามว้าว!!" มีรายงานว่า อาหมัด อัล-ชารา ผู้นำซีเรียจากการแต่งตั้งตนเอง มีกำหนดเดินทางไปอเมริกาในเดือนกันยายนนี้ นอกจากนี้ อัล-ชารา อาจจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติอีกด้วย ซึ่งหากเป็นจริง นี่จะเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปีที่ผู้นำจากประเทศซีเรียได้มีโอกาสนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า อัล-ชารา คืออดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้ายที่สหรัฐหมายหัว และมีรางวัลนำจับสิบล้านดอลลาร์ และเป็นผู้นำกองกำลังกบฏโค่นล้มรัฐบาลอัสซาดของซีเรียที่มาจากการเลือกตั้งอย่างถูกต้อง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทอม บาร์รัค ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ประจำซีเรีย พร้อมด้วย อาซาด อัล-ไชบานี รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ร่วมกันเชิญธงชาติสหรัฐฯ ขึ้นสู่ยอดเสาที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรียเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งถือเป็นความสัยมพันธ์ที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็วกว่าปกติ!

    สหรัฐประกาศยกเลิกการคว่ำบาตรซีเรีย หลังจาก "อัล-โจลานี" ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย HTS ใช้กำลังโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด และแต่งตั้งตนเองขึ้นปกครองซีเรีย

    แม้ว่าโจลานีจะเป็นผู้ก่อการร้ายที่สหรัฐเคยหมายหัว และมีรางวัลนำจับสิบล้านดอลลาร์ แต่เมื่อสามารถโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด ที่สหรัฐไม่ชอบหน้า และหาเหตุคว่ำบาตรซีเรียนานกว่าสิบปีได้เป็นผลสำเร็จ คงไม่มีอะไรที่ทำให้สหรัฐดีใจไปมากกว่านี้
    ทอม บาร์รัค ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ประจำซีเรีย พร้อมด้วย อาซาด อัล-ไชบานี รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ร่วมกันเชิญธงชาติสหรัฐฯ ขึ้นสู่ยอดเสาที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรียเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งถือเป็นความสัยมพันธ์ที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็วกว่าปกติ! สหรัฐประกาศยกเลิกการคว่ำบาตรซีเรีย หลังจาก "อัล-โจลานี" ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย HTS ใช้กำลังโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด และแต่งตั้งตนเองขึ้นปกครองซีเรีย แม้ว่าโจลานีจะเป็นผู้ก่อการร้ายที่สหรัฐเคยหมายหัว และมีรางวัลนำจับสิบล้านดอลลาร์ แต่เมื่อสามารถโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด ที่สหรัฐไม่ชอบหน้า และหาเหตุคว่ำบาตรซีเรียนานกว่าสิบปีได้เป็นผลสำเร็จ คงไม่มีอะไรที่ทำให้สหรัฐดีใจไปมากกว่านี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขียนเล่าเรื่องพันธุกรรมมนุษย์มาหลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่ความรู้นี้โลกเขารับรู้มาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว ปัจจุบันนักวิชาการไทยหลายคนก็ทำวิจัยเรื่องนี้ตีพิมพ์ออกมาพอสมควร แต่ก็ยังมีบางพวกบางกลุ่มที่ยังตะแบงติดกับดักวังวนของสำนักคิดเก่าๆ อยู่อย่างนั้น ไอ้ที่แย่กว่าคือ จำต้องยอมรับวิทยาศาสตร์นี้โดยปริยายทั้งที่ไปกันไม่ได้กับเรื่องที่ตนเขียน แต่ความที่เคยพูดเคยเขียนหนังสือขายหาเงินรับประทานมาไม่น้อยกับความรู้ผิดๆ ครึ่งๆกลางๆ งูๆปลาๆ ก็เลยยังต้องยืนยันความคิดเดิมตะแบงต่อไป ถ้าไอ้ส่วนที่ความรู้ใหม่มันไปกันได้กับที่เคยเขียนก็จะหยิบมาอ้าง แต่ส่วนที่มันฟ้องว่าเอ็งเข้าใจผิดแล้วก็จะเลี่ยงเสีย เช่นกรณีเฒ่าเจ๊กปนลาวชังชาตินั่น
    .
    ความแบ่งแยกอันเป็นความคิดของปีศาจ นำมาซึ่งชื่อสมมุติ ที่โดยมากมักอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อปฏิเสธความเกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างอัตลักษณ์ใหม่ เพื่อให้ดูแตกต่างกับผู้คนหรือบรรพบุรุษที่เคยเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเครื่องแต่งกายก็ตาม ความเชื่อ ภาษาพูดก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์องค์ประกอบของตัวมนุษย์แต่ละผู้ว่าเป็นใครหรือเผ่าพันธุ์ไหน เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าความเป็นเจ๊กปนลาวที่พูดไทยหากินกับภาษาไทยของเฒ่าผู้นั้น อาจเป็นเรื่องเลื่อนลอยไปได้ ลาวที่เขาคิดว่าเป็นพ่ออาจเป็นกัมมุ และเจ๊กที่เขาคิดว่าเป็นแม่อาจเป็นชนเผ่าฮักกา ที่ซึ่งไม่ใช่เจ๊ก แต่เป็นเยว่ ก็เป็นได้... อยากจะแน่ใจก็ไปตรวจซะ
    .
    อย่างที่ทราบ (เอ๊ะ หรือใครยังไม่ทราบ?) มนุษย์ที่เป็นชนชาติต่างๆในโลกนี้ อพยพออกมาจากแอฟริกาเมื่อแสนกว่าปีก่อน เป็นหน่อเนื้อลูกหลานของบรรพบุรุษที่อาศัยในบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่าซาฮาร่า ดังนั้นนักวิชาการเลย "นิยามชื่อ" พวกเขาว่าพวก "ซาฮารันโบราณ" ผู้ชายทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าคนออสตราอะบอริจิ้น คนเอเชีย คนตะวันออกกลาง คนยุโรป คนเมโสอเมริกา ล้วนมียีนของอาดัมทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่าวายโครโมโซม M168 นี้ทุกคน ยกเว้นพวกแอฟริกาบางเผ่าที่บรรพบุรุษไม่ได้อพยพออกมาและยังคงอยู่รอดในแอฟริกาจนถึงปัจจุบันนี้
    .
    ด้วยภาพใหญ่นี้ สาแหรกพันธุกรรมแสดงให้เห็น "DEEP ANCESTOR" โคตรเหง้าที่ลึกที่สุดของมนุษย์โลก "การที่พวกอาหรับพูดภาษาสกุลเซมิติคส่วนคนไทยอย่างเราพูดภาษาสกุลจ้วง-ไท ความแตกต่างนี้ไม่อาจลบล้างข้อเท็จจริงทางพันธุกรรมที่ทั้งคู่มี Deep Ancestor ร่วมกันไปได้". ทุกวันนี้มนุษย์ที่มียีนของ M168 เก่าแก่กว่าใครในโลกคือพวก San Bushman พวกเขาพูดภาษาสกุลกอยซานที่ในทาง Linguistic ถือว่าเป็นภาษาลูกของภาษาซาฮารันโบราณที่ยอมรับกันว่าคือ Global Early Language * หมายถึงภาษาแรกของโลก เมื่อพิจารณาจากวิทยาศาสตร์ข้อนี้ มนุษย์ทุกชนชาติที่มีชื่อสมมุติกันไปต่างๆ จะว่าไปก็ถือเป็นคนกอยซานทั้งสิ้น ดังนั้นคุณจงอย่าได้ยึดติดว่าภาษาพูดของชาติพันธ์หนึ่ง จะบ่งบอกว่าเขาคือชาติพันธ์นั้นเสมอไป... คนจีนอพยพตั้งแต่รุ่นที่สองที่อยู่ในเมืองไทยพูดภาษาไทยชัดทุกคน คนอเมริกันที่เกิดที่นี่ คนอินเดียที่เกิดที่นี่พูดไทยสำเนียงไทยชัดทุกคน และเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งเขาอาจย้ายไปอยู่ที่ภูฏานเป็นการถาวรจนลูกหลานเขาเกิดที่นั่น แล้วพูดภาษาภูฏานชัดเจน
    .
    [* ภาษากอยซาน : นักภาษาศาสตร์ลงความเห็นว่าคือภาษาที่เก่าที่สุดในโลก มีลักษณะพิเศษคือมีเสียงคลิ๊กอยู่ในคำ ซึ่งได้หายไปจากภาษาอื่นๆ ที่เกิดภายหลัง นักวิชาการเชื่อว่า เมื่อบรรพบุรุษของเราอพยพออกจากแอฟริกาเมื่อแสนปีก่อน พวกเขามีภาษาพูดแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถล่าสัตว์ใหญ่อย่างแมมมอธได้ เพราะการล่าเช่นนี้ต้องทำงานเป็นทีม ไม่มีภาษาก็ทำงานเป็นทีมไม่ได้]
    .
    เมื่อมนุษย์มาจากแอฟริกาและเรามีเชื้อสายซาฮารันมาก่อน ทำไมเราจึงพูดกันไม่รู้เรื่อง พูดกันคนละภาษา ผมเคยเขียนบทความหนึ่งชื่อ บาเบล สืบเนื่องจากคัมภีร์ปฐมกาลบทที่ชื่อบาเบล เล่าว่า “พระเจ้าทรงเห็นว่ามนุษย์สร้างหอคอยใหญ่เทียมฟ้าขึ้นมาได้ พวกเขาอยากจะทำอะไรก็จะสำเร็จได้ อย่ากระนั้นเลย เราจะบันดาลให้เขาพูดกันไม่รู้เรื่อง ผู้คนก็แยกย้ายกันไป เป็นชนชาติต่างๆ ภาษาต่างๆ” นี่...ใครสักคนป้ายสีพระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นมูลเหตุให้มนุษย์พูดกันไม่รู้เรื่อง. ใครสักคนในที่นี้มีอย่างน้อยสามคน นักภาษาศาสตร์ยุคใหม่วิเคราะห์ลักษณะการเขียน สำนวน คำศัพท์ที่ใช้ซึ่งบ่งบอกรากฐานและยุคสมัยได้ ทำการวิเคราะห์พระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับคิงเจมส์ พวกเขาลงความเห็นว่า คัมภีร์ไบเบิ้ลมีผู้เขียนราวสามคน มีลักษณะการเขียนที่แตกต่างกันสามสำนวน คละเคล้ากันไปในแต่ละบท บางบทมีการปนกันมากกว่าหนึ่งสำนวน และยังลงความเห็นว่ารูปแบบการเขียนของบทปฐมกาล (genesis) เขียนทีหลังบทอพยพ (exodus)
    .
    นอกจากนี้นักภาษาศาสตร์ยุคหลังมานี่เชื่อว่าภาษาอินโดยูโรเปี้ยนนี้ คือผลของการทุบทำลายภาษาแม่ครั้งสำคัญในโลก เมื่อคุณพิจารณาพันธุกรรม คุณจะต้องทราบว่าผู้ชายชาวยุโรปและตะวันออกกลางแชร์สาแหรกพันธุกรรมในเครือเดียวกันคือ R / J / E อย่างที่ผมเขียนเรื่องยิวและปาเลสไตน์ไปก่อนนี้.. พวกคนยุโรป เปอร์เซีย อารยัน (ที่ภายหลังไปบุกอินเดียโบราณ) ล้วนเป็นสาแหรกเดียวกัน อย่าว่าแต่ยิวซึ่งเป็น semitic speaker ฆ่าปาเลสไตน์ที่เป็นพี่น้องใกล้ชิดเลย หากคนกรีก คนโรมัน ไปฆ่าคนเปอร์เซียหรือกลับกัน ก็คือพี่น้องฆ่ากันอยู่ดีนั่นแหละ อยู่มาวันหนึ่ง ไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นเหตุ หลังสงครามเทวีที่เกิดการต่อต้านปฏิเสธความเชื่อที่นับถือแม่เป็นใหญ่ เทวรูปของเทพีมากมาย เช่น Artemis เทวีผู้มอบความอุดมสมบูรณ์ ต่างพากันถูกทุบจมูกทุบใบหน้าทิ้งให้ดูน่าเกลียด ชนชาติที่เคยเกี่ยวดองกัน พลันแยกออกจากกันเป็นชนชาติใหม่ พูดภาษาใหม่ เด็กที่เกิดใหม่นับแต่นั้นจะถูกฝึกให้พูดภาษาที่สร้างขึ้นมา จากนั้นก็ตามมาด้วยชื่อสมมุติอย่างเช่น อัสซีเรีย อัคเคเดียน ฮิตไทท์... จากนั้นก็ตามมาด้วยสงครามพี่น้องฆ่ากัน ทั้งที่ชีววิทยาพันธุกรรมบอกว่าพวกเขาคือพี่น้องคลานตามกันมาทั้งนั้น และถ้าอ้างไบเบิ้ล อย่างเช่นกรณีของบุตรหลานของ Sam ลูกหลานของโนอาห์ ก็อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว ความแบ่งแยกทำให้พวกเขาปฏิเสธสายใยที่มี
    .
    อย่างที่ชี้ให้เห็นนี่ ดีเอ็นเอบอกเราถึงความเป็นพี่น้องร่วมสาแหรก แต่พวกเขาปฏิเสธกันเองแล้วแบ่งแยก ทุบทำลายภาษาแม่ทิ้งไปพร้อมๆ กันในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ใช่เพราะฝีมือพระเจ้าหรอก มนุษย์นี่แหละ นักภาษาศาสตร์โบราณคดีทำการค้นคว้าเรื่องนี้แล้วทำการโยงภาษาในสกุลอินโดยูโรเปี้ยนทั้งหมด ย้อนกลับไปสู่ภาษาซาฮารันโบราณ ด้วยพจนานุกรมคำศัพท์ของพวก Basque (กลุ่มคนที่ isolated อยู่ในสเปนซึ่งเชื่อว่าเป็นภาษาลูกที่เหลืออยู่ของภาษาซาฮารัน).. เรื่องนี้ยาวนะ ผมเคยเล่าไว้ในบทความชื่อบาเบลที่ผมเกริ่นไปข้างบน ใครอยากลงลึกให้ไปอ่าน Linguistic Archaeology เขียนโดย Edo Nyland
    .
    เวลาเจอบทความอะไรจากเฒ่าเจ๊กปนลาวผู้นี้ รวมทั้งจากพวกสาวกกระดูกอ่อนของเขาก็เลยออกจะรำคาญ ด้วยการอ้างชื่อต่างๆ พวกเขาเชื่อมโยงยกแม่น้ำเป็นตุเป็นตะ ไอ้นั่นมาจากไหน ไอ้นี่มาจากไหน โดยไม่มีหลักฐานอะไรที่หนักแน่นพอมารองรับ… ยกตัวอย่างเช่นใช้กลองสำริดบ้าง ใช้ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณบ้าง มาอ้างอิงทั้งที่ไม่เข้าใจว่าดูอะไรอยู่
    .
    ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณแต่ละแห่งที่พบในโลกที่รังสรรค์โดยบรรพบุรุษยุคแรก ถ้าคุณทาบข้อมูลทางโบราณคดีของมันกับข้อมูลอื่น เช่น พันธุกรรมและการอพยพย้ายถิ่น ธรณีวิทยา ภาษาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มานุษยวิทยา วิทยาศาสตร์.. ก็จะรู้อะไรที่ต่างไปจากที่เคยมีคนสันนิษฐานกันออกมาก่อนหน้านี้ได้ เช่น ภูมิศาสตร์บอกว่าลักษณะภูมิประเทศแบบใดที่มนุษย์โบราณในยุคนั้นชอบใช้เป็นที่อาศัยและหลบภัย ลักษณะทางภูมิศาสตร์แบบไหนที่พบภาพเขียนสี ทำไมมันจึงถูกเลือกเป็นที่จัดทำนิทรรศการ.. ธรณีวิทยาบอกว่า พบดินแบบเดียวกันถูกใช้เป็นสีเขียนผนังถ้ำทุกแห่ง.. วิทยาศาสตร์บอกองค์ประกอบธาตุของสีที่ใช้เขียนว่าเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งแปลได้ว่าพวกเขาเรียนหนังสือมาจากที่เดียวกัน คือเรียนรู้เทคนิคในการทำแบบนี้ซ้ำต่อๆ กันมาเหมือนๆ กัน.. มานุษยวิทยาเห็นการสะท้อนธรรมเนียมนิยมทางวัฒนธรรมบรรพกาลของพวกเขา เช่น เอาสีใส่ปากพ่นผ่านมือให้เป็นรูปมือ เขียนรูปคนและสัตว์ที่มีลักษณะทาง figure ที่คล้ายคลึงกัน มีจินตนาการในการสร้างลักษณะของบุคคลที่พิเศษออกไปจากคนปกติเพื่อแสดงว่าเป็นผีสางเทวดาที่เขานับถือ... มีการวิเคราะห์คุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ของสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ศักดิ์สิทธ์ที่พวกเขาไปเขียนรูปไว้ เช่น คุณสมบัติการก้องสะท้อนเสียงของสถานที่
    .
    และเมื่อทาบพันธุกรรมลงไปดูความสอดคล้องกัน เริ่มจากพวกเผ่า San Bushman ที่มียีนของอดัมที่เก่าที่สุดในโลก พบว่าพวกเขาทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันทุกด้านดังที่ได้กล่าวไปนั่น พวกอัสเลียนโบราณก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันกับที่กล่าวไปเช่นกัน เอาภาพเขียนสีเช่นที่ถ้ำเขาจันทร์งาม สีคิ้ว ไปเปรียบกับภาพเขียนสีในแอฟริกาที่พวกกอยซานทำ ทุกองค์ประกอบที่ว่านั่นก็จะเห็นว่าเหมือนกัน... พวกปาปัว-ออสตราอะบอริจิ้น ก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกับที่กล่าวไป นี่เป็นนวัตกรรมที่เป็นมรดกโคตรยาวนานของมนุษย์ จากแอฟริกาไปสู่จุดต่างๆในโลก ในวันนี้ พวกเขาเหล่านี้พูดกันคนละภาษา มันดูไม่มีความกี่ยวข้องกันใช่ไหมล่ะ? แต่วิทยาศาสตร์ไม่ได้บอกเช่นนั้น ในพันธุกรรมมี mutation ในวัฒนธรรมมี cultural transmission ถ้าเราขยับไปดูสิ่งที่คุ้นเคยกว่านั้นอีกสักอย่าง เช่น "กลอง".. มนุษย์ทุกแห่ง ตั้งแต่พวกที่อยู่ในแอฟริกา แม้แต่พวกชนเผ่าที่ไม่ได้อพยพไปไหนเลยจนกระทั่งยุคล่าอาณานิคม กับมนุษย์ทุกชนชาติที่กระจายอยู่ในทุกมุมโลก พวกเขาต่างทำกลองเหมือนกัน วิธีการคือ ด้วยการขึงหนังสัตว์ (membrane) ลงบนปากทรงกลมของวัตถุทรงกระบอก (cylinder) ขึงให้ตึงและตีให้สั่น นี่คือนวัตกรรมที่เรียก Membranophones คนทั้งโลกไม่ได้ต่างคนต่างทำเหมือนกันโดยบังเอิญ มันคือมรดกที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่ก่อนอพยพเมื่อแสนปีที่แล้วและเก่าพอๆ กับภาษาแรก
    .
    ซากบรรพชีวินที่นักวิชาการไทยอย่างที่อาจารย์รัศมีท่านสำรวจและค้นคว้าอยู่ กรอบเวลาเท่าไหร่? โนนนกทา? บ้านเชียง? พวกนั้นเป็นใคร? โฮโมเซเปี้ยนส์แน่นอน ชีววิทยาบอกชัดว่าเซเปี้ยนส์ เราไม่ได้วิวัฒน์มาจากโฮโมอีเร็คตัส พวกนั้นสูญพันธ์ไปแล้วก็จบ ยีนพ่อไม่เคยหายไปจากมนุษย์และเราไม่มียีนของอีเร็คตัสอยู่ในตัวเรา เมื่อราวเจ็ดหมื่นปีก่อน เกิด super eruption ขึ้นที่ภูเขาโทบาในสุมาตราโบราณ [https://geographical.co.uk/.../explainer-the-toba...] ทิ้งบาดแผลไว้เป็นทะเลสาปโทบาให้ดูในทุกวันนี้ ภัยพิบัตินี้รุนแรง มันตามมาด้วยฤดูหนาวนิวเคลียร์ (นักวิชาการว่าเช่นนี้) เถ้าภูเขาไฟปกคลุมโลกนานหลายปีและลอยไปไกลถึงกรีนแลนด์ โฮโมอีเร็คตัสในเอเชียถ้ายังมีชีวิตอยู่จะต้องตายหมด ดังนั้นไม่ว่าจะมนุษย์ปักกิ่ง มนุษย์ชวาอะไร ไม่เกี่ยวกับเราทั้งนั้น กรอบเวลาของบรรพบุรุษเราที่มาถึงที่นี่คือห้าหมื่นและสามหมื่นปีมาแล้ว มากันสองระลอก และคนพื้นเมืองที่บุกเบิกดินแดนนี้ไม่ได้แปะยี่ห้ออะไรเมื่อมาถึง นอกจากเรียกตัวเองว่า กอย หมายถึง คน… (ข่า ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย.. ลาว ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย)
    .
    ในความเป็นจริง มนุษย์โบราณที่เป็นบรรพบุรุษของชายชาวเอเชียราว 75 เปอร์เซ็นต์ล้วนเป็น Y DNA Hg O คือครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขามิวเททมาจากสาแหรกของพ่อ Y DNA Hg K ซึ่งมาถึงเอเชียกลางเมื่อราวสี่หมื่นปีและกระจายออกไป ทั้งที่ข้ามโกบีและไซบีเรีย ข้ามเบริงเจียไปอเมริกา (Hg Q) กลายเป็นพวกนาวาโฮ... ทั้งที่ย้อนกลับเข้าไปในยุโรปเผชิญความทารุณของยุคน้ำแข็งกลายเป็นพวกยุโรป (Hg R)… บรรพบุรุษพวกนี้ เมื่อตั้งถิ่นฐานตรงจุดใด ก็มักอยู่ตรงนั้น ลองนึกถึงความเป็นจริงว่า การย้ายถิ่นฐานใช้เวลายาวนานหลายชั่วคน เมื่อผู้อาวุโสหรือพ่อของเขาแก่เฒ่าไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินทางบุกเบิกต่อไป บางส่วนของพวกเขาจะหยุดการเดินทางและตั้งหลักแหล่งโดยเฉพาะเมื่อพบสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์พอจะดำรงชีพ คนหนุ่มจะเดินทางผจญภัยต่อไปเพื่อหาที่ของตนที่จะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ ได้มองโลกด้วยทัศนะของพวกเขาเอง พวกเขาจะพบปัญหาใหม่ จะได้หาทางแก้ไขสถานะการณ์ที่ไม่เคยพบ ดังนั้นพวกเขาจะมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นไปเองโดยธรรมชาติ จนเมื่อพวกเขาพบว่าได้เจอสถานที่ที่พึงพอใจหรือไปต่อไม่ได้แล้ว การเดินทางก็จะหยุด
    .
    คุณคิดว่ามีมนุษย์จำนวนเท่าไหร่ เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินซุนดาเมื่อสามหมื่นปีก่อน?
    .
    บรรพบุรุษของเรา เดินทางมาตามซุปเปอร์ไฮเวย์โบราณสายเอเชียกลางที่เป็นทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ อุดมด้วยกวางแอนทีโลฟและช้างแมมมอธ ท้องอิ่ม อบอุ่น และอันตรายน้อย เมื่อมาถึงซุนดา คุณคิดว่าพวกเขาจะอยู่อาศัยกันที่ไหน? บนภูเขา ในป่า หรือที่ราบลุ่มปากแม่น้ำ? ไปคิดดูเป็นการบ้าน
    .
    หากพิจารณาดูปัจจัยต่างๆ เราจะรู้ได้ว่าชุมชนบรรพกาล มักจะตั้งอยู่บนที่ที่เหมาะสมในการผดุงชีพ อ.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ให้ความเห็นว่า เนื่องเพราะบรรพบุรุษพวกนี้ต้องเผชิญกับน้ำท่วมซุนดาถึงสามครั้ง พวกเขานิยมสร้างบ้านที่มีเสาสูงและมีไต้ถุนสูง ทำแพและมีทักษะในการเดินทางด้วยแพ ซึ่งพร้อมที่จะอพยพหนีโดยล่องด้วยแพขึ้นไปเรื่อยๆ สู่ทิศทางต้นน้ำ ไม่เดินเท้าเพราะไม่รู้ว่าน้ำจะมาทางไหน เมื่อเห็นและแน่ใจว่าน้ำหยุดท่วมแล้วก็ปักหลักตั้งถิ่นฐานใหม่ เพราะพวกเขารู้ดีว่าไม่มีจุดไหนที่มีทรัพยากรอุดมไปกว่าริมแม่น้ำ ทั้งสัตว์น้ำและดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ในป่านั้นมีโรคมากมายและสัตว์ร้าย พวกเขาจะเข้าไปต่อเมื่อต้องการล่าหรือหาของป่า
    .
    ชุมชนบรรพกาลเหล่านี้ เมื่อพบพื้นที่ที่พวกเขาพึงพอใจแล้วก็มักจะปักหลักอยู่เช่นนั้น สืบต่อกันไปหลายชั่วคน หลักฐานทางโบราณคดีก็ชี้ชัดเช่นนั้น ทำให้เกิดชุมชนโบราณขึ้นตรงนั้นตรงนี้มากมายและขยายตัวออกไป เกษตรกรรมเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เลิกเร่ร่อนแล้วหยุดตั้งหลักแหล่ง ผลที่เก็บเกี่ยวแน่นอนตามฤดูกาลทำให้ปัจจัยทางอาหารมั่นคง ดังนั้นพวกเขาจะไม่ย้ายไปไหนโดยง่ายถ้าไม่ใช่เพราะภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือสงครามจากคนกลุ่มอื่นมาบีบบังคับให้ย้ายไปที่อื่น ชุมชนบรรพกาลซึ่งประชากรมีอยู่น้อย ย่อมต้องการปริมาณแรงงานไว้เพื่อสร้างชุมชนของตนให้เติบโตรุ่งเรืองขึ้น ถ้าไม่เกิดปัญหาที่ว่านี้ พวกเขาก็จะไม่ย้ายไปไหน พวกเขาจำฤดูกาลประจำถิ่น ทิศทางลม เวลาน้ำขึ้นลง ยาอยู่ที่ไหน อะไรเป็นยา จำต้นไม้ได้ทุกต้นและรู้ว่าอะไรใช้ทำอะไรได้บ้าง สัตว์อยู่ที่ไหน หาเจอยังไง จับยังไง... ความรู้ในภูมิลำเนาพวกนี้ใช้เวลาสั่งสมยาวนาน
    .
    เราต่างได้เรียนรู้กันมามากพอสมควรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่บางครั้งนิยามหรือความสมมุติในความเป็นชนชาติบ้านเมืองต่างๆ มักพาให้ไขว้เขว บางถิ่นฐาน ผู้ปกครองเป็นผู้มีศักดิ์ฐานะ มีทรัพยากรมาก แต่เป็นคนต่างถิ่นมาจากที่อื่น ไม่ต่างกับทุกวันนี้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหัวเมืองเช่นเชียงราย อาจเป็นลูกเศรษฐีตระกูลใหญ่จากกรุงเทพ สมัยโบราณก็เช่นกัน ประชากรเป็นคนพื้นเมืองท้องถิ่น อาจอยู่ที่นั่นมาแปดชั่วคนแล้ว เขาไม่ย้ายไปที่อื่นเพียงเพราะผู้ปกครองไม่ใช่คนพื้นเมืองเหมือนตน ถ้าปกครองดี ทุกคนยังกินอิ่ม ไม่รีดภาษี ไม่ก่อกรรมทำเข็ญ ข่มเหงรังแก พวกเขาก็จะอยู่อย่างนั้นต่อไปในรุ่นลูกรุ่นหลาน จักรวรรดิจีนโบราณดินแดนกว้างใหญ่ ประชากรไม่ได้มีแต่จีนฮั่นเท่านั้น ยังมีประชากรที่เป็นชนเผ่าอื่นๆในปกครองหลายสิบเผ่า แล้วก็มีผู้ปกครองที่มาจากถิ่นอื่นมาปกครอง เคยมีกษัตริย์ที่เป็นมองโกล กษัตริย์ที่เป็นแมนจูมานั่งบัลลังก์ฮ่องเต้ ยิ่งรูปงามผิวพรรณผุดผ่องมาพร้อมโปรโมชั่นว่าเป็นเทพลงมาเกิดก็จะทำให้รู้สึกนับถืออยากพึ่งพาบารมี ดังนั้นผู้ปกครองก็อาจเป็นชาติพันธุ์หนึ่งขณะที่ประชากรในดินแดนเป็นอีกชาติพันธุ์หนึ่งได้ เช่น ผู้ปกครองมีชื่อสมมุติว่าเป็นชาติพันธุ์ลาว ผู้ใต้ปกครองอาจเป็นชาวพื้นเมืองมีชื่อสมมุติว่าชาติพันธุ์ข่า เป็นต้น.. ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่พูดนี่ เป็นคนละเรื่องกับแนวความคิดเรื่องชาติ ประเทศ รัฐ ชนชาติและสัญชาติ ซึ่งเป็นความคิดใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังตามคติของอาณานิคมตะวันตก
    .
    สำหรับผมมันเป็นเรื่องตลก ที่พูดว่าคนโคราชไม่ใช่คนอีสาน
    ความยึดมั่นของผู้พูดผูกโยงกับภูมิลำเนา ผูกกับสำเนียงภาษาที่ใช้ แล้วเอามามัดให้ประชากรนั้นเป็นเผ่าพันธ์ตามที่ตนผูกไว้
    .
    คนอีสานคือใครในทัศนะวิทยาศาสตร์ คนอีสานอาจประกอบด้วยพลเมืองจากทางเหนือที่มาไกลจากจีน มาจากหยุนหนาน หรืออาจมาจากเวียตนาม ได้มากพอกับมีพลเมืองที่มีชื่อสมมุติว่า "ลาว" ที่เฒ่างี่เง่านี้นิยามให้สาวกเชื่อว่าเป็นคนท้องถิ่นโดยแท้แล้วก็ปฏิเสธในเชิงที่รู้สึกได้ว่าพยายามจะบอกใครๆ ว่าคนโคราชเป็น "สิ่งแปลกปลอมในท่ามกลางคนอีสาน" ผมรู้สึกอย่างนั้น แล้วเขาก็โยงเรื่องโยงชื่อ ทั้งคนทั้งสถานที่ มั่วไปหมดชนแพะชนแกะชนควาย อนุมานเอาตามความเชื่อตน ทั้งที่ความเป็นจริงทุกมนุษย์ที่อ้างอิงมานั่นไม่ว่าจะด้วยคำ สยาม ทวารวดี มอญ อยุธยา สุพรรณ โคราช ศรีโคตรบูรณ์ เวียงจันทร์ ชัยวรมัน.... บลาๆๆ... ล้วนคือ Y Chromosome DNA Haplogroup O (O2 เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงสุด) ทั้งนั้น ต่อให้หมู่บ้านนึงมันดันพูดได้สามภาษา ทั้งลาวทั้งอังกฤษทั้งเกาหลีสำเนียงเป๊ะทั้งหมู่บ้านก็ตามที
    .
    เขย่าไว้ไม่ให้นอนก้น
    ข้าว่าพวกเอ็งมันนอนก้นถอยหลังไปสองร้อยปี
    ฟังวนอยู่ห้าคำสิบคำ เต็มไปด้วยคำว่า “สันนิษฐานว่า…“
    แปลเป็นไทยคือ คาดว่า เดาว่า... คือเอ็งไม่รู้ไง เชื่อเองเออเองแล้วมาชวนคนอื่นให้เชื่อตาม
    .
    นี่รู้ไหม...
    มีไม่น้อยนะที่สันนิษฐานว่ามนุษย์เซเปี้ยนส์นี่น่ะ มาจากเชื้อพันธุ์มนุษย์ต่างดาวชื่อ อนูนากิ แกเชื่อไหมเล่า?
    .
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] -
    .
    เขียนเล่าเรื่องพันธุกรรมมนุษย์มาหลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่ความรู้นี้โลกเขารับรู้มาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว ปัจจุบันนักวิชาการไทยหลายคนก็ทำวิจัยเรื่องนี้ตีพิมพ์ออกมาพอสมควร แต่ก็ยังมีบางพวกบางกลุ่มที่ยังตะแบงติดกับดักวังวนของสำนักคิดเก่าๆ อยู่อย่างนั้น ไอ้ที่แย่กว่าคือ จำต้องยอมรับวิทยาศาสตร์นี้โดยปริยายทั้งที่ไปกันไม่ได้กับเรื่องที่ตนเขียน แต่ความที่เคยพูดเคยเขียนหนังสือขายหาเงินรับประทานมาไม่น้อยกับความรู้ผิดๆ ครึ่งๆกลางๆ งูๆปลาๆ ก็เลยยังต้องยืนยันความคิดเดิมตะแบงต่อไป ถ้าไอ้ส่วนที่ความรู้ใหม่มันไปกันได้กับที่เคยเขียนก็จะหยิบมาอ้าง แต่ส่วนที่มันฟ้องว่าเอ็งเข้าใจผิดแล้วก็จะเลี่ยงเสีย เช่นกรณีเฒ่าเจ๊กปนลาวชังชาตินั่น . ความแบ่งแยกอันเป็นความคิดของปีศาจ นำมาซึ่งชื่อสมมุติ ที่โดยมากมักอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อปฏิเสธความเกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างอัตลักษณ์ใหม่ เพื่อให้ดูแตกต่างกับผู้คนหรือบรรพบุรุษที่เคยเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเครื่องแต่งกายก็ตาม ความเชื่อ ภาษาพูดก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์องค์ประกอบของตัวมนุษย์แต่ละผู้ว่าเป็นใครหรือเผ่าพันธุ์ไหน เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าความเป็นเจ๊กปนลาวที่พูดไทยหากินกับภาษาไทยของเฒ่าผู้นั้น อาจเป็นเรื่องเลื่อนลอยไปได้ ลาวที่เขาคิดว่าเป็นพ่ออาจเป็นกัมมุ และเจ๊กที่เขาคิดว่าเป็นแม่อาจเป็นชนเผ่าฮักกา ที่ซึ่งไม่ใช่เจ๊ก แต่เป็นเยว่ ก็เป็นได้... อยากจะแน่ใจก็ไปตรวจซะ . อย่างที่ทราบ (เอ๊ะ หรือใครยังไม่ทราบ?) มนุษย์ที่เป็นชนชาติต่างๆในโลกนี้ อพยพออกมาจากแอฟริกาเมื่อแสนกว่าปีก่อน เป็นหน่อเนื้อลูกหลานของบรรพบุรุษที่อาศัยในบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่าซาฮาร่า ดังนั้นนักวิชาการเลย "นิยามชื่อ" พวกเขาว่าพวก "ซาฮารันโบราณ" ผู้ชายทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าคนออสตราอะบอริจิ้น คนเอเชีย คนตะวันออกกลาง คนยุโรป คนเมโสอเมริกา ล้วนมียีนของอาดัมทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่าวายโครโมโซม M168 นี้ทุกคน ยกเว้นพวกแอฟริกาบางเผ่าที่บรรพบุรุษไม่ได้อพยพออกมาและยังคงอยู่รอดในแอฟริกาจนถึงปัจจุบันนี้ . ด้วยภาพใหญ่นี้ สาแหรกพันธุกรรมแสดงให้เห็น "DEEP ANCESTOR" โคตรเหง้าที่ลึกที่สุดของมนุษย์โลก "การที่พวกอาหรับพูดภาษาสกุลเซมิติคส่วนคนไทยอย่างเราพูดภาษาสกุลจ้วง-ไท ความแตกต่างนี้ไม่อาจลบล้างข้อเท็จจริงทางพันธุกรรมที่ทั้งคู่มี Deep Ancestor ร่วมกันไปได้". ทุกวันนี้มนุษย์ที่มียีนของ M168 เก่าแก่กว่าใครในโลกคือพวก San Bushman พวกเขาพูดภาษาสกุลกอยซานที่ในทาง Linguistic ถือว่าเป็นภาษาลูกของภาษาซาฮารันโบราณที่ยอมรับกันว่าคือ Global Early Language * หมายถึงภาษาแรกของโลก เมื่อพิจารณาจากวิทยาศาสตร์ข้อนี้ มนุษย์ทุกชนชาติที่มีชื่อสมมุติกันไปต่างๆ จะว่าไปก็ถือเป็นคนกอยซานทั้งสิ้น ดังนั้นคุณจงอย่าได้ยึดติดว่าภาษาพูดของชาติพันธ์หนึ่ง จะบ่งบอกว่าเขาคือชาติพันธ์นั้นเสมอไป... คนจีนอพยพตั้งแต่รุ่นที่สองที่อยู่ในเมืองไทยพูดภาษาไทยชัดทุกคน คนอเมริกันที่เกิดที่นี่ คนอินเดียที่เกิดที่นี่พูดไทยสำเนียงไทยชัดทุกคน และเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งเขาอาจย้ายไปอยู่ที่ภูฏานเป็นการถาวรจนลูกหลานเขาเกิดที่นั่น แล้วพูดภาษาภูฏานชัดเจน . [* ภาษากอยซาน : นักภาษาศาสตร์ลงความเห็นว่าคือภาษาที่เก่าที่สุดในโลก มีลักษณะพิเศษคือมีเสียงคลิ๊กอยู่ในคำ ซึ่งได้หายไปจากภาษาอื่นๆ ที่เกิดภายหลัง นักวิชาการเชื่อว่า เมื่อบรรพบุรุษของเราอพยพออกจากแอฟริกาเมื่อแสนปีก่อน พวกเขามีภาษาพูดแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถล่าสัตว์ใหญ่อย่างแมมมอธได้ เพราะการล่าเช่นนี้ต้องทำงานเป็นทีม ไม่มีภาษาก็ทำงานเป็นทีมไม่ได้] . เมื่อมนุษย์มาจากแอฟริกาและเรามีเชื้อสายซาฮารันมาก่อน ทำไมเราจึงพูดกันไม่รู้เรื่อง พูดกันคนละภาษา ผมเคยเขียนบทความหนึ่งชื่อ บาเบล สืบเนื่องจากคัมภีร์ปฐมกาลบทที่ชื่อบาเบล เล่าว่า “พระเจ้าทรงเห็นว่ามนุษย์สร้างหอคอยใหญ่เทียมฟ้าขึ้นมาได้ พวกเขาอยากจะทำอะไรก็จะสำเร็จได้ อย่ากระนั้นเลย เราจะบันดาลให้เขาพูดกันไม่รู้เรื่อง ผู้คนก็แยกย้ายกันไป เป็นชนชาติต่างๆ ภาษาต่างๆ” นี่...ใครสักคนป้ายสีพระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นมูลเหตุให้มนุษย์พูดกันไม่รู้เรื่อง. ใครสักคนในที่นี้มีอย่างน้อยสามคน นักภาษาศาสตร์ยุคใหม่วิเคราะห์ลักษณะการเขียน สำนวน คำศัพท์ที่ใช้ซึ่งบ่งบอกรากฐานและยุคสมัยได้ ทำการวิเคราะห์พระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับคิงเจมส์ พวกเขาลงความเห็นว่า คัมภีร์ไบเบิ้ลมีผู้เขียนราวสามคน มีลักษณะการเขียนที่แตกต่างกันสามสำนวน คละเคล้ากันไปในแต่ละบท บางบทมีการปนกันมากกว่าหนึ่งสำนวน และยังลงความเห็นว่ารูปแบบการเขียนของบทปฐมกาล (genesis) เขียนทีหลังบทอพยพ (exodus) . นอกจากนี้นักภาษาศาสตร์ยุคหลังมานี่เชื่อว่าภาษาอินโดยูโรเปี้ยนนี้ คือผลของการทุบทำลายภาษาแม่ครั้งสำคัญในโลก เมื่อคุณพิจารณาพันธุกรรม คุณจะต้องทราบว่าผู้ชายชาวยุโรปและตะวันออกกลางแชร์สาแหรกพันธุกรรมในเครือเดียวกันคือ R / J / E อย่างที่ผมเขียนเรื่องยิวและปาเลสไตน์ไปก่อนนี้.. พวกคนยุโรป เปอร์เซีย อารยัน (ที่ภายหลังไปบุกอินเดียโบราณ) ล้วนเป็นสาแหรกเดียวกัน อย่าว่าแต่ยิวซึ่งเป็น semitic speaker ฆ่าปาเลสไตน์ที่เป็นพี่น้องใกล้ชิดเลย หากคนกรีก คนโรมัน ไปฆ่าคนเปอร์เซียหรือกลับกัน ก็คือพี่น้องฆ่ากันอยู่ดีนั่นแหละ อยู่มาวันหนึ่ง ไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นเหตุ หลังสงครามเทวีที่เกิดการต่อต้านปฏิเสธความเชื่อที่นับถือแม่เป็นใหญ่ เทวรูปของเทพีมากมาย เช่น Artemis เทวีผู้มอบความอุดมสมบูรณ์ ต่างพากันถูกทุบจมูกทุบใบหน้าทิ้งให้ดูน่าเกลียด ชนชาติที่เคยเกี่ยวดองกัน พลันแยกออกจากกันเป็นชนชาติใหม่ พูดภาษาใหม่ เด็กที่เกิดใหม่นับแต่นั้นจะถูกฝึกให้พูดภาษาที่สร้างขึ้นมา จากนั้นก็ตามมาด้วยชื่อสมมุติอย่างเช่น อัสซีเรีย อัคเคเดียน ฮิตไทท์... จากนั้นก็ตามมาด้วยสงครามพี่น้องฆ่ากัน ทั้งที่ชีววิทยาพันธุกรรมบอกว่าพวกเขาคือพี่น้องคลานตามกันมาทั้งนั้น และถ้าอ้างไบเบิ้ล อย่างเช่นกรณีของบุตรหลานของ Sam ลูกหลานของโนอาห์ ก็อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว ความแบ่งแยกทำให้พวกเขาปฏิเสธสายใยที่มี . อย่างที่ชี้ให้เห็นนี่ ดีเอ็นเอบอกเราถึงความเป็นพี่น้องร่วมสาแหรก แต่พวกเขาปฏิเสธกันเองแล้วแบ่งแยก ทุบทำลายภาษาแม่ทิ้งไปพร้อมๆ กันในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ใช่เพราะฝีมือพระเจ้าหรอก มนุษย์นี่แหละ นักภาษาศาสตร์โบราณคดีทำการค้นคว้าเรื่องนี้แล้วทำการโยงภาษาในสกุลอินโดยูโรเปี้ยนทั้งหมด ย้อนกลับไปสู่ภาษาซาฮารันโบราณ ด้วยพจนานุกรมคำศัพท์ของพวก Basque (กลุ่มคนที่ isolated อยู่ในสเปนซึ่งเชื่อว่าเป็นภาษาลูกที่เหลืออยู่ของภาษาซาฮารัน).. เรื่องนี้ยาวนะ ผมเคยเล่าไว้ในบทความชื่อบาเบลที่ผมเกริ่นไปข้างบน ใครอยากลงลึกให้ไปอ่าน Linguistic Archaeology เขียนโดย Edo Nyland . เวลาเจอบทความอะไรจากเฒ่าเจ๊กปนลาวผู้นี้ รวมทั้งจากพวกสาวกกระดูกอ่อนของเขาก็เลยออกจะรำคาญ ด้วยการอ้างชื่อต่างๆ พวกเขาเชื่อมโยงยกแม่น้ำเป็นตุเป็นตะ ไอ้นั่นมาจากไหน ไอ้นี่มาจากไหน โดยไม่มีหลักฐานอะไรที่หนักแน่นพอมารองรับ… ยกตัวอย่างเช่นใช้กลองสำริดบ้าง ใช้ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณบ้าง มาอ้างอิงทั้งที่ไม่เข้าใจว่าดูอะไรอยู่ . ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณแต่ละแห่งที่พบในโลกที่รังสรรค์โดยบรรพบุรุษยุคแรก ถ้าคุณทาบข้อมูลทางโบราณคดีของมันกับข้อมูลอื่น เช่น พันธุกรรมและการอพยพย้ายถิ่น ธรณีวิทยา ภาษาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มานุษยวิทยา วิทยาศาสตร์.. ก็จะรู้อะไรที่ต่างไปจากที่เคยมีคนสันนิษฐานกันออกมาก่อนหน้านี้ได้ เช่น ภูมิศาสตร์บอกว่าลักษณะภูมิประเทศแบบใดที่มนุษย์โบราณในยุคนั้นชอบใช้เป็นที่อาศัยและหลบภัย ลักษณะทางภูมิศาสตร์แบบไหนที่พบภาพเขียนสี ทำไมมันจึงถูกเลือกเป็นที่จัดทำนิทรรศการ.. ธรณีวิทยาบอกว่า พบดินแบบเดียวกันถูกใช้เป็นสีเขียนผนังถ้ำทุกแห่ง.. วิทยาศาสตร์บอกองค์ประกอบธาตุของสีที่ใช้เขียนว่าเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งแปลได้ว่าพวกเขาเรียนหนังสือมาจากที่เดียวกัน คือเรียนรู้เทคนิคในการทำแบบนี้ซ้ำต่อๆ กันมาเหมือนๆ กัน.. มานุษยวิทยาเห็นการสะท้อนธรรมเนียมนิยมทางวัฒนธรรมบรรพกาลของพวกเขา เช่น เอาสีใส่ปากพ่นผ่านมือให้เป็นรูปมือ เขียนรูปคนและสัตว์ที่มีลักษณะทาง figure ที่คล้ายคลึงกัน มีจินตนาการในการสร้างลักษณะของบุคคลที่พิเศษออกไปจากคนปกติเพื่อแสดงว่าเป็นผีสางเทวดาที่เขานับถือ... มีการวิเคราะห์คุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ของสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ศักดิ์สิทธ์ที่พวกเขาไปเขียนรูปไว้ เช่น คุณสมบัติการก้องสะท้อนเสียงของสถานที่ . และเมื่อทาบพันธุกรรมลงไปดูความสอดคล้องกัน เริ่มจากพวกเผ่า San Bushman ที่มียีนของอดัมที่เก่าที่สุดในโลก พบว่าพวกเขาทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันทุกด้านดังที่ได้กล่าวไปนั่น พวกอัสเลียนโบราณก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันกับที่กล่าวไปเช่นกัน เอาภาพเขียนสีเช่นที่ถ้ำเขาจันทร์งาม สีคิ้ว ไปเปรียบกับภาพเขียนสีในแอฟริกาที่พวกกอยซานทำ ทุกองค์ประกอบที่ว่านั่นก็จะเห็นว่าเหมือนกัน... พวกปาปัว-ออสตราอะบอริจิ้น ก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกับที่กล่าวไป นี่เป็นนวัตกรรมที่เป็นมรดกโคตรยาวนานของมนุษย์ จากแอฟริกาไปสู่จุดต่างๆในโลก ในวันนี้ พวกเขาเหล่านี้พูดกันคนละภาษา มันดูไม่มีความกี่ยวข้องกันใช่ไหมล่ะ? แต่วิทยาศาสตร์ไม่ได้บอกเช่นนั้น ในพันธุกรรมมี mutation ในวัฒนธรรมมี cultural transmission ถ้าเราขยับไปดูสิ่งที่คุ้นเคยกว่านั้นอีกสักอย่าง เช่น "กลอง".. มนุษย์ทุกแห่ง ตั้งแต่พวกที่อยู่ในแอฟริกา แม้แต่พวกชนเผ่าที่ไม่ได้อพยพไปไหนเลยจนกระทั่งยุคล่าอาณานิคม กับมนุษย์ทุกชนชาติที่กระจายอยู่ในทุกมุมโลก พวกเขาต่างทำกลองเหมือนกัน วิธีการคือ ด้วยการขึงหนังสัตว์ (membrane) ลงบนปากทรงกลมของวัตถุทรงกระบอก (cylinder) ขึงให้ตึงและตีให้สั่น นี่คือนวัตกรรมที่เรียก Membranophones คนทั้งโลกไม่ได้ต่างคนต่างทำเหมือนกันโดยบังเอิญ มันคือมรดกที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่ก่อนอพยพเมื่อแสนปีที่แล้วและเก่าพอๆ กับภาษาแรก . ซากบรรพชีวินที่นักวิชาการไทยอย่างที่อาจารย์รัศมีท่านสำรวจและค้นคว้าอยู่ กรอบเวลาเท่าไหร่? โนนนกทา? บ้านเชียง? พวกนั้นเป็นใคร? โฮโมเซเปี้ยนส์แน่นอน ชีววิทยาบอกชัดว่าเซเปี้ยนส์ เราไม่ได้วิวัฒน์มาจากโฮโมอีเร็คตัส พวกนั้นสูญพันธ์ไปแล้วก็จบ ยีนพ่อไม่เคยหายไปจากมนุษย์และเราไม่มียีนของอีเร็คตัสอยู่ในตัวเรา เมื่อราวเจ็ดหมื่นปีก่อน เกิด super eruption ขึ้นที่ภูเขาโทบาในสุมาตราโบราณ [https://geographical.co.uk/.../explainer-the-toba...] ทิ้งบาดแผลไว้เป็นทะเลสาปโทบาให้ดูในทุกวันนี้ ภัยพิบัตินี้รุนแรง มันตามมาด้วยฤดูหนาวนิวเคลียร์ (นักวิชาการว่าเช่นนี้) เถ้าภูเขาไฟปกคลุมโลกนานหลายปีและลอยไปไกลถึงกรีนแลนด์ โฮโมอีเร็คตัสในเอเชียถ้ายังมีชีวิตอยู่จะต้องตายหมด ดังนั้นไม่ว่าจะมนุษย์ปักกิ่ง มนุษย์ชวาอะไร ไม่เกี่ยวกับเราทั้งนั้น กรอบเวลาของบรรพบุรุษเราที่มาถึงที่นี่คือห้าหมื่นและสามหมื่นปีมาแล้ว มากันสองระลอก และคนพื้นเมืองที่บุกเบิกดินแดนนี้ไม่ได้แปะยี่ห้ออะไรเมื่อมาถึง นอกจากเรียกตัวเองว่า กอย หมายถึง คน… (ข่า ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย.. ลาว ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย) . ในความเป็นจริง มนุษย์โบราณที่เป็นบรรพบุรุษของชายชาวเอเชียราว 75 เปอร์เซ็นต์ล้วนเป็น Y DNA Hg O คือครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขามิวเททมาจากสาแหรกของพ่อ Y DNA Hg K ซึ่งมาถึงเอเชียกลางเมื่อราวสี่หมื่นปีและกระจายออกไป ทั้งที่ข้ามโกบีและไซบีเรีย ข้ามเบริงเจียไปอเมริกา (Hg Q) กลายเป็นพวกนาวาโฮ... ทั้งที่ย้อนกลับเข้าไปในยุโรปเผชิญความทารุณของยุคน้ำแข็งกลายเป็นพวกยุโรป (Hg R)… บรรพบุรุษพวกนี้ เมื่อตั้งถิ่นฐานตรงจุดใด ก็มักอยู่ตรงนั้น ลองนึกถึงความเป็นจริงว่า การย้ายถิ่นฐานใช้เวลายาวนานหลายชั่วคน เมื่อผู้อาวุโสหรือพ่อของเขาแก่เฒ่าไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินทางบุกเบิกต่อไป บางส่วนของพวกเขาจะหยุดการเดินทางและตั้งหลักแหล่งโดยเฉพาะเมื่อพบสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์พอจะดำรงชีพ คนหนุ่มจะเดินทางผจญภัยต่อไปเพื่อหาที่ของตนที่จะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ ได้มองโลกด้วยทัศนะของพวกเขาเอง พวกเขาจะพบปัญหาใหม่ จะได้หาทางแก้ไขสถานะการณ์ที่ไม่เคยพบ ดังนั้นพวกเขาจะมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นไปเองโดยธรรมชาติ จนเมื่อพวกเขาพบว่าได้เจอสถานที่ที่พึงพอใจหรือไปต่อไม่ได้แล้ว การเดินทางก็จะหยุด . คุณคิดว่ามีมนุษย์จำนวนเท่าไหร่ เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินซุนดาเมื่อสามหมื่นปีก่อน? . บรรพบุรุษของเรา เดินทางมาตามซุปเปอร์ไฮเวย์โบราณสายเอเชียกลางที่เป็นทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ อุดมด้วยกวางแอนทีโลฟและช้างแมมมอธ ท้องอิ่ม อบอุ่น และอันตรายน้อย เมื่อมาถึงซุนดา คุณคิดว่าพวกเขาจะอยู่อาศัยกันที่ไหน? บนภูเขา ในป่า หรือที่ราบลุ่มปากแม่น้ำ? ไปคิดดูเป็นการบ้าน . หากพิจารณาดูปัจจัยต่างๆ เราจะรู้ได้ว่าชุมชนบรรพกาล มักจะตั้งอยู่บนที่ที่เหมาะสมในการผดุงชีพ อ.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ให้ความเห็นว่า เนื่องเพราะบรรพบุรุษพวกนี้ต้องเผชิญกับน้ำท่วมซุนดาถึงสามครั้ง พวกเขานิยมสร้างบ้านที่มีเสาสูงและมีไต้ถุนสูง ทำแพและมีทักษะในการเดินทางด้วยแพ ซึ่งพร้อมที่จะอพยพหนีโดยล่องด้วยแพขึ้นไปเรื่อยๆ สู่ทิศทางต้นน้ำ ไม่เดินเท้าเพราะไม่รู้ว่าน้ำจะมาทางไหน เมื่อเห็นและแน่ใจว่าน้ำหยุดท่วมแล้วก็ปักหลักตั้งถิ่นฐานใหม่ เพราะพวกเขารู้ดีว่าไม่มีจุดไหนที่มีทรัพยากรอุดมไปกว่าริมแม่น้ำ ทั้งสัตว์น้ำและดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ในป่านั้นมีโรคมากมายและสัตว์ร้าย พวกเขาจะเข้าไปต่อเมื่อต้องการล่าหรือหาของป่า . ชุมชนบรรพกาลเหล่านี้ เมื่อพบพื้นที่ที่พวกเขาพึงพอใจแล้วก็มักจะปักหลักอยู่เช่นนั้น สืบต่อกันไปหลายชั่วคน หลักฐานทางโบราณคดีก็ชี้ชัดเช่นนั้น ทำให้เกิดชุมชนโบราณขึ้นตรงนั้นตรงนี้มากมายและขยายตัวออกไป เกษตรกรรมเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เลิกเร่ร่อนแล้วหยุดตั้งหลักแหล่ง ผลที่เก็บเกี่ยวแน่นอนตามฤดูกาลทำให้ปัจจัยทางอาหารมั่นคง ดังนั้นพวกเขาจะไม่ย้ายไปไหนโดยง่ายถ้าไม่ใช่เพราะภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือสงครามจากคนกลุ่มอื่นมาบีบบังคับให้ย้ายไปที่อื่น ชุมชนบรรพกาลซึ่งประชากรมีอยู่น้อย ย่อมต้องการปริมาณแรงงานไว้เพื่อสร้างชุมชนของตนให้เติบโตรุ่งเรืองขึ้น ถ้าไม่เกิดปัญหาที่ว่านี้ พวกเขาก็จะไม่ย้ายไปไหน พวกเขาจำฤดูกาลประจำถิ่น ทิศทางลม เวลาน้ำขึ้นลง ยาอยู่ที่ไหน อะไรเป็นยา จำต้นไม้ได้ทุกต้นและรู้ว่าอะไรใช้ทำอะไรได้บ้าง สัตว์อยู่ที่ไหน หาเจอยังไง จับยังไง... ความรู้ในภูมิลำเนาพวกนี้ใช้เวลาสั่งสมยาวนาน . เราต่างได้เรียนรู้กันมามากพอสมควรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่บางครั้งนิยามหรือความสมมุติในความเป็นชนชาติบ้านเมืองต่างๆ มักพาให้ไขว้เขว บางถิ่นฐาน ผู้ปกครองเป็นผู้มีศักดิ์ฐานะ มีทรัพยากรมาก แต่เป็นคนต่างถิ่นมาจากที่อื่น ไม่ต่างกับทุกวันนี้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหัวเมืองเช่นเชียงราย อาจเป็นลูกเศรษฐีตระกูลใหญ่จากกรุงเทพ สมัยโบราณก็เช่นกัน ประชากรเป็นคนพื้นเมืองท้องถิ่น อาจอยู่ที่นั่นมาแปดชั่วคนแล้ว เขาไม่ย้ายไปที่อื่นเพียงเพราะผู้ปกครองไม่ใช่คนพื้นเมืองเหมือนตน ถ้าปกครองดี ทุกคนยังกินอิ่ม ไม่รีดภาษี ไม่ก่อกรรมทำเข็ญ ข่มเหงรังแก พวกเขาก็จะอยู่อย่างนั้นต่อไปในรุ่นลูกรุ่นหลาน จักรวรรดิจีนโบราณดินแดนกว้างใหญ่ ประชากรไม่ได้มีแต่จีนฮั่นเท่านั้น ยังมีประชากรที่เป็นชนเผ่าอื่นๆในปกครองหลายสิบเผ่า แล้วก็มีผู้ปกครองที่มาจากถิ่นอื่นมาปกครอง เคยมีกษัตริย์ที่เป็นมองโกล กษัตริย์ที่เป็นแมนจูมานั่งบัลลังก์ฮ่องเต้ ยิ่งรูปงามผิวพรรณผุดผ่องมาพร้อมโปรโมชั่นว่าเป็นเทพลงมาเกิดก็จะทำให้รู้สึกนับถืออยากพึ่งพาบารมี ดังนั้นผู้ปกครองก็อาจเป็นชาติพันธุ์หนึ่งขณะที่ประชากรในดินแดนเป็นอีกชาติพันธุ์หนึ่งได้ เช่น ผู้ปกครองมีชื่อสมมุติว่าเป็นชาติพันธุ์ลาว ผู้ใต้ปกครองอาจเป็นชาวพื้นเมืองมีชื่อสมมุติว่าชาติพันธุ์ข่า เป็นต้น.. ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่พูดนี่ เป็นคนละเรื่องกับแนวความคิดเรื่องชาติ ประเทศ รัฐ ชนชาติและสัญชาติ ซึ่งเป็นความคิดใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังตามคติของอาณานิคมตะวันตก . สำหรับผมมันเป็นเรื่องตลก ที่พูดว่าคนโคราชไม่ใช่คนอีสาน ความยึดมั่นของผู้พูดผูกโยงกับภูมิลำเนา ผูกกับสำเนียงภาษาที่ใช้ แล้วเอามามัดให้ประชากรนั้นเป็นเผ่าพันธ์ตามที่ตนผูกไว้ . คนอีสานคือใครในทัศนะวิทยาศาสตร์ คนอีสานอาจประกอบด้วยพลเมืองจากทางเหนือที่มาไกลจากจีน มาจากหยุนหนาน หรืออาจมาจากเวียตนาม ได้มากพอกับมีพลเมืองที่มีชื่อสมมุติว่า "ลาว" ที่เฒ่างี่เง่านี้นิยามให้สาวกเชื่อว่าเป็นคนท้องถิ่นโดยแท้แล้วก็ปฏิเสธในเชิงที่รู้สึกได้ว่าพยายามจะบอกใครๆ ว่าคนโคราชเป็น "สิ่งแปลกปลอมในท่ามกลางคนอีสาน" ผมรู้สึกอย่างนั้น แล้วเขาก็โยงเรื่องโยงชื่อ ทั้งคนทั้งสถานที่ มั่วไปหมดชนแพะชนแกะชนควาย อนุมานเอาตามความเชื่อตน ทั้งที่ความเป็นจริงทุกมนุษย์ที่อ้างอิงมานั่นไม่ว่าจะด้วยคำ สยาม ทวารวดี มอญ อยุธยา สุพรรณ โคราช ศรีโคตรบูรณ์ เวียงจันทร์ ชัยวรมัน.... บลาๆๆ... ล้วนคือ Y Chromosome DNA Haplogroup O (O2 เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงสุด) ทั้งนั้น ต่อให้หมู่บ้านนึงมันดันพูดได้สามภาษา ทั้งลาวทั้งอังกฤษทั้งเกาหลีสำเนียงเป๊ะทั้งหมู่บ้านก็ตามที . เขย่าไว้ไม่ให้นอนก้น ข้าว่าพวกเอ็งมันนอนก้นถอยหลังไปสองร้อยปี ฟังวนอยู่ห้าคำสิบคำ เต็มไปด้วยคำว่า “สันนิษฐานว่า…“ แปลเป็นไทยคือ คาดว่า เดาว่า... คือเอ็งไม่รู้ไง เชื่อเองเออเองแล้วมาชวนคนอื่นให้เชื่อตาม . นี่รู้ไหม... มีไม่น้อยนะที่สันนิษฐานว่ามนุษย์เซเปี้ยนส์นี่น่ะ มาจากเชื้อพันธุ์มนุษย์ต่างดาวชื่อ อนูนากิ แกเชื่อไหมเล่า? . - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] - .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 629 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทอม บารัค เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำตุรกี (ซ้ายมือของรูป) พบกับอาหมัด อัล-ชารา (อัล-โจลานี) (คนกลางของรูป) ผู้นำที่แต่งตั้งตนเองแห่งซีเรีย และ Asaad Hassan al-Shaibani รัฐมนตรีต่างประเทศของซีเรีย (ขวามือของรูป)

    สหรัฐยืนยันถึงการสนับสนุนชาวซีเรียมาโดยตลอด หลังจากที่พวกเขาต้องทนทุกข์กับความรุนแรงมาหลายปี (จากการคว่ำบาตรของสหรัฐเอง!!) พร้อมกันนี้สหรัฐได้มีการหารือถึงการสร้างซีเรียใหม่ที่เจริญรุ่งเรืองตามค่านิยมของสหรัฐ

    ขณะเดียวกัน อัล-โจลานี กล่าวชื่นชมการตัดสินใจของสหรัฐ ในการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรซีเรีย
    ทอม บารัค เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำตุรกี (ซ้ายมือของรูป) พบกับอาหมัด อัล-ชารา (อัล-โจลานี) (คนกลางของรูป) ผู้นำที่แต่งตั้งตนเองแห่งซีเรีย และ Asaad Hassan al-Shaibani รัฐมนตรีต่างประเทศของซีเรีย (ขวามือของรูป) สหรัฐยืนยันถึงการสนับสนุนชาวซีเรียมาโดยตลอด หลังจากที่พวกเขาต้องทนทุกข์กับความรุนแรงมาหลายปี (จากการคว่ำบาตรของสหรัฐเอง!!) พร้อมกันนี้สหรัฐได้มีการหารือถึงการสร้างซีเรียใหม่ที่เจริญรุ่งเรืองตามค่านิยมของสหรัฐ ขณะเดียวกัน อัล-โจลานี กล่าวชื่นชมการตัดสินใจของสหรัฐ ในการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรซีเรีย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • อียูประกาศยกเลิกคว่ำบาตรซีเรีย หลังจากสหรัฐประกาศยกเลิกไปเมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา

    หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป "คาจา คัลลาส" ประกาศเมื่อวันอังคารว่า จะยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจทั้งหมดต่อซีเรีย โดยมุ่งหวังที่จะสนับสนุนประชาชนซีเรียและส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

    ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศของซีเรีย "อาซาด อัล-ชาอิบานี" เรียกร้องให้ตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่ครอบคลุมด้านการเงินและธนาคาร ซึ่งจะทำให้ธนาคารซีเรียสามารถเข้าสู่ระบบทั่วโลกได้ และต้องการให้ยกเลิกอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางด้วย

    👉 ตลอดเวลาที่ผ่านมาจากการรวมหัวกันใช้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและยุโรปอย่างรุนแรง ทำให้ประชากรซีเรียมากกว่า 90% ต้องเผชิญกับความยากจน และ 12 ล้านคนอยู่ในภาวะการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง!!

    นักวิจารณ์เตือนถึง การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและยุโรป อย่างรวดเร็วเช่นนี้ อาจทำให้การปกครองแบบกลุ่มก่อการร้าย HTS กลับมาแข้มแข็ง และจะเกิดสงครามกลางเมืองจากชนกลุ่มน้อยภายในซีเรียที่หวั่นเกรงแนวนโยบายบริหารของอดีตผู้ก่อการร้าย

    เช่นเดียวกับมาร์โก รูบิโอ เพิ่งตอบคำถามในรัฐสภาสหรัฐว่า แนวโน้มของซีเรียกำลังย่างก้าวเข้าสู่สงครามกลางเมืองในเร็ววันนี้
    อียูประกาศยกเลิกคว่ำบาตรซีเรีย หลังจากสหรัฐประกาศยกเลิกไปเมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป "คาจา คัลลาส" ประกาศเมื่อวันอังคารว่า จะยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจทั้งหมดต่อซีเรีย โดยมุ่งหวังที่จะสนับสนุนประชาชนซีเรียและส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศของซีเรีย "อาซาด อัล-ชาอิบานี" เรียกร้องให้ตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่ครอบคลุมด้านการเงินและธนาคาร ซึ่งจะทำให้ธนาคารซีเรียสามารถเข้าสู่ระบบทั่วโลกได้ และต้องการให้ยกเลิกอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางด้วย 👉 ตลอดเวลาที่ผ่านมาจากการรวมหัวกันใช้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและยุโรปอย่างรุนแรง ทำให้ประชากรซีเรียมากกว่า 90% ต้องเผชิญกับความยากจน และ 12 ล้านคนอยู่ในภาวะการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง!! นักวิจารณ์เตือนถึง การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและยุโรป อย่างรวดเร็วเช่นนี้ อาจทำให้การปกครองแบบกลุ่มก่อการร้าย HTS กลับมาแข้มแข็ง และจะเกิดสงครามกลางเมืองจากชนกลุ่มน้อยภายในซีเรียที่หวั่นเกรงแนวนโยบายบริหารของอดีตผู้ก่อการร้าย เช่นเดียวกับมาร์โก รูบิโอ เพิ่งตอบคำถามในรัฐสภาสหรัฐว่า แนวโน้มของซีเรียกำลังย่างก้าวเข้าสู่สงครามกลางเมืองในเร็ววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 336 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ประเทศไทยเราเองก็อาจเดินตามอเมริกาเช่นกัน,สูติบัตรเราคือการค้ำประกันหนี้แก่ประเทศไทย ,คือคนไทยทุกๆคนมีค่าตัวตั้งแต่เกืดมาทันทีหรือมีมูลค่าทันที,เพราะคนไทยคือทรัพย์สินมิใช่สิ่งมีชีวิต,ทาสก็ว่า เทียบใบหุ้นใบหนึ่งหรือตราสารหนี้ระดับชาติโดยค้ำประกันหนี้จากคนไทย,เพราะคนไทยคือแหล่งค้ำประกันหนี้คือสูติบัตรเราอ้างสมมุติไปทำแทนตัวเป็นๆ,อเมริกาสูติบัตรเขามีมูลค่าเป็นล้านเหรียญและปั่นจนกว่าพันล้านเหรียญ,คนไทยก็คงเช่นกันปั่นกว่าพันล้านถึงหมื่นล้านบาทแน่ๆต่อสูติบัตร1คน,ยิ่งมีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ มีมูลน่าเชื่อได้,รัฐฐะทั่วโลกฝ่ายอีลิทชนชั้นสูงยึดปกครองหมด แน่นอนมันต้องวางหมากวางนโยบายปั่นตีตรามูลค่าสูติบัตรเป็นนโยบายหลักบังคับใช้ในทุกๆประเทศทั่วโลกที่มันปกครอง ไม่เว้นแม้แต่ไทยด้วย,ธนาคารมันอีลิทก็ต้นคิดก่อตั้งแม้ในไทยก็ด้วย,ตลาดหุ้นในไทยมันเองอีกที่ก่อการหัวคิดก่อตั้งในไทยให้ขี้ข้าสมุนรับใช้ในไทยเดินเนื้องานลงหน้างานดำเนินการเปิดให้ได้,พะสาสูติบัตรแน่นอนมันสร้างมูลลค่าแน่ๆและยิ่งฝ่ายดีถ้ามีและคิดอ่านทำอีก แสดงว่าฝ่ายไม่ดียิ่งเหี้ย หามุกโกงแดกฝ่ายดีที่ตั้งราคาหัวสูติบัตรคนบนโลกไว้,ฝ่ายไม่ดีอาสาทำงานให้ฝ่ายดีก็ว่า ,โดยขณะทำงานก็คตโกงสร้างมุกต่างๆวางหมากวางสนุ๊คต่างๆโกงตังชาวโลกก็ว่าในกองทุนกลางของโลกฝ่ายดีที่โอนตังให้ชาวโลกใช้หรือตั้งมูลค่าตังไว้แล้วว่าตลอดการเกิดถึงตาย คนแต่ละน่าจะใช้จ่ายตังดำรงชีพจนถึงตายคงประมาณนี้ ร้อยล้านพันล้านก็ว่าไป,พวกฝ่ายไม่ดีก็ล้างสมองมิให้เรารับรู้ผ่านผู้นำผู้ปกครองประเทศนั้นๆอย่าเปิดปากบอกคนพวกนี้นะก็ว่า,ก็เปิดธนาคาร ปล่อยกู้โดยเอาตังเราๆนั้นล่ะมาปล่อย กินสองทาง ทางตรงแดกจากกองทุนเช่นซื้อบ้านจ่าย10ล้าน กองทุนจ่ายทันที10ล้านโดยเราไม่รู้หรือหักผ่านกองทุนเราใครมันแต่ละคนที่ส่วนกลางกำหนดไว้แล้วอาทิคนละ1หมื่นล้านบาทในไทย หักอัตโนมัติซื้อบ้านที่ดินรถนั้นนี้โน้นตลอดชีพผ่านกองทุนใครมัน,แต่รัฐฐะที่ปกครองล้มเหลวผิดพลาดหมายแดก เสือกมิให้คนไทยรับรู้,หอบตังเหมารวมว่าเองอาจกว่าล้านล้านล้านบาท จากนั้นกระจายให้อีลิทกิจการขี้ข้าทาสซาตานเครือข่ายเต็มไทยไปทำ แบบแบงค์ก็ปล่อยกู้ กิน2ต่อ ต่อที่1กินจากทางตรงของกองทุนที่ว่า,ต่อที่2กินจากคนไทยคนนั้นล่ะมาซื้อมาผ่อนมาจ่ายค่าดาวน์ค่าผ่อนในอนาคตตลอด30ปีหรือกว่า50ปีที่ทำในสัญญาณผ่อนกับแบงค์ในค่าผ่อนน้อยๆใครผ่อนมากๆเดือนละ4-5หมื่นอาจหมด3-4ปีก็หมดหนี้บ้านหนี้รถหนี้ที่ดินที่ซื้อผ่อนกับแบงค์,ทั้งที่จริงๆรัฐฐะที่ดีหากทำถูกตรง ประชาชนจะไม่เสียตังอะไรใดๆโดยรัฐฐะจ่ายตรงหักผ่านกองทุนที่รัฐฐะดูแลบัญชีกองทุนแทนบุคคลนั้นๆทันที,ไม่อุ๊บอิ๊บกินเองร่วมกับเอกชนเครือข่ายฝ่ายไม่ดีก็ว่า,
    ..สูติบัตรเรามีมูลค่าแต่ฝ่ายไม่ดีมาปล้นมาชิงเอาไปจากความไม่รู้ของคนทั้งโลก นำโดยผู้นำผู้ปกครองในประเทศนั้นๆสมคบคิดกับโจรเหล่านี้ด้วย.
    ..คนไทยร่ำรวยเลยถ้าจริงแบบนี้,บ่อน้ำมันบ่อทองคำจะเสมือนเพียงตัวหลอก จริงๆอาจคือสมบัติร่วมสร้างโลกพัฒนาโลกวิวัฒนาการโลกไปทางดีงานแบ่งปันช่วยเหลือกันและกันหรือซึ่งกันและกันได้สบาย,ผลิตเกินส่วนไหน สามารถเอาส่วนเกินนั้นส่งไปช่วยเหลือพื้นที่ตรงจุดของโลกส่วนอื่นๆที่ผู้คนชาวโลกเรายังขาดแคลนได้เช่นอาหารการกินต่างๆพืชผักผลไม้ ไม่ต้องทำลายทิังได้ เผลอส่งเสริมการแลกเปลี่ยนซื้อขายต่อกันและกันในราคามิตรภาพอีก.

    .
    รัฐบาลใหญ่
    เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย!


    โดย เมเดีย กรีเร่14 เมษายน 2568อัปเดต:19 พฤษภาคม 256849
    เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย!

    พร้อมที่จะเปิดเผยความจริงแล้วหรือยัง? ป่วยจากการโกหก? เข้าร่วมกับเรา ช่องโทรเลข ตอนนี้ ถึงเวลาสําหรับเรื่องจริง! ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน!

    หมายเหตุบรรณาธิการ: ข้อมูลที่แบ่งปันในเนื้อหานี้มีต้นกําเนิดมาจาก เรดดิต, วิกิพีเดีย และ X เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ขับเคลื่อนโดยชุมชนและสร้างขึ้นโดยผู้ใช้ จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ และความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้ ฉันเพียงแบ่งปันเนื้อหานี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและไม่อ้างสิทธิ์การประพันธ์หรือความรับผิดชอบต่อเนื้อหา

    สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงเอกสาร—มันเป็น พันธบัตรมูลค่าหลายล้าน ซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ! รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเจ้าของคุณตั้งแต่แรกเกิด ตื่น และเรียนรู้ว่าคุณถูกขาย ถูกเอารัดเอาเปรียบ และ ทาส! อ่านตอนนี้ก่อนที่พวกเขาจะฝังความจริง!


    สูติบัตรของคุณ: การหลอกลวงขั้นสูงสุด – วิธีที่คุณถูกซื้อและขายตั้งแต่แรกเกิด
    โซ่ตรวนที่มองไม่เห็นของทาสยุคใหม่- ตื่น! ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเข้าสู่โลกนี้ คุณตกเป็นทาส คุณไม่ยินยอม คุณไม่ได้รับทางเลือก คุณผูกพันกับระบบที่ทุจริตและร้ายกาจมากจนทําให้การดํารงอยู่ของคุณกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ นี่ไม่ใช่การคาดเดา นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการบันทึกไว้และปฏิเสธไม่ได้
    สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงบันทึก —it เป็นการประกาศความเป็นเจ้าของ คุณไม่ใช่บุคคลที่เป็นอิสระภายใต้กฎหมาย คุณเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน ทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นทรัพย์สินชิ้นหนึ่งในเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่ออกแบบมาเพื่อ ใช้ประโยชน์จากคุณ


    สูติบัตรของคุณ: การแสดงความเป็นเจ้าของขององค์กร
    เคยสงสัยไหมว่าทําไมคุณถึงต้องมีสูติบัตร? คิดดูสิ เมื่อเรือมาถึงท่าเรือ ก ใบรับรองรายการ ออกให้เพื่อจัดทําเอกสารสินค้า และเมื่อคุณเกิด คุณได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสินค้า มีการออกสูติบัตร—NOT เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความยินดี แต่เป็นสัญญาการเป็นเจ้าของ
    คุณเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ รัฐไม่เห็นคุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอํานาจอธิปไตย คุณเป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้สร้างความมั่งคั่งให้กับชนชั้นสูง เหล่านั้น หมายเลขซีเรียลสีแดง ในสูติบัตรของคุณ? เป็นหมายเลขตลาดหลักทรัพย์ เป็นตัวเลขที่เชื่อมโยงกับหลักทรัพย์ที่ซื้อขายบน ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก● การดํารงอยู่ของคุณสร้างรายได้แล้ว



    พันธบัตรสูติบัตร: มีมูลค่านับพันล้านและคุณเป็นทาส
    คุณรู้ไหมว่าสูติบัตรของคุณถูกสร้างเป็นพันธบัตรมูลค่าหลายพันล้าน?!
    หากคุณสงสัยว่าพันธบัตรสูติบัตรคืออะไรขอให้ชัดเจน: คุณคือมัน คุณได้รับคํามั่นสัญญาว่าจะเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศนี้—A หนี้ที่จะไม่มีวันจ่าย
    เมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศล้มละลายในปี พ.ศ.2476 ให้คํามั่นว่าจะเป็นคนอเมริกันทุกคน เป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ
    ประธานาธิบดีรูสเวลต์ โดยทาง คําสั่งผู้บริหาร 6073, 6102, 6111 และ 6260, ประกาศให้ประเทศล้มละลายและยึด ALL GOLD ความสามารถของประชาชนในการชําระหนี้ของตนเองถูกลบออกไปอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว [ดู: รายงานของวุฒิสภา 93-549, หน้า 187 และ 594 ภายใต้ “Trading With The Enemy Act.”]



    แต่รัฐบาลต้องจัดให้มี วิธีการใหม่ ของการชําระเงิน—สิ่งที่ไม่ต้องพึ่งพาทองคํา แต่พวกเขาสร้างระบบที่เรียกว่า การยกเว้น
    ได้รับการยกเว้นจากอะไร? ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายอะไรเลย!
    ในทางปฏิบัติ นั่นหมายความว่าชาวอเมริกันทุกคนต้องได้รับ บางสิ่งบางอย่าง เพื่อชําระเงินด้วย—AND ว่าบางสิ่งคือเครดิตของคุณ
    คุณค่าของคุณต่อสังคมคํานวณโดยใช้ตารางคณิตศาสตร์ประกันภัย เมื่อแรกเกิด, พันธบัตรที่เท่ากับค่าเฉลี่ย “นี้ ” ถูกสร้างขึ้นและยังคงถูกสร้างขึ้น
    ทําความเข้าใจสิ่งนี้: ปัจจุบันพันธบัตรสูติบัตรของคุณคาดว่าจะมีมูลค่าระหว่างหนึ่งถึงสองล้านดอลลาร์
    พันธบัตรเหล่านี้ค้ําประกันโดยสูติบัตรของคุณ และเปลี่ยนเป็น ตราสารเปลี่ยนมือได้● พวกเขาถูกสมมุติฐานและซื้อขาย ซ้ําแล้วซ้ําเล่า จนกว่ามูลค่าของพวกมันจะไม่จํากัด


    เครดิตทั้งหมดนั้นเป็นของคุณในทางเทคนิคและถูกต้อง
    ในความเป็นจริง, คุณควรจะสามารถเดินเข้าไปในร้านค้าใด ๆ, รับสิ่งที่คุณต้องการ และบอกให้พนักงานเรียกเก็บเงินเข้าบัญชียกเว้นของคุณ
    บัญชีการยกเว้นนั้นจะถูกระบุโดย หมายเลขเก้าหลัก—หมายเลขประกันสังคมของคุณโดยไม่มีขีดกลาง
    หมายเลขนั้นเป็นของคุณ EIN (หมายเลขประจําตัวการยกเว้น)
    นี่คือความจริงที่เก็บไว้จากคุณมาตลอดชีวิต


    CERTIFICATE = ความเป็นเจ้าของ: การหลอกลวงทางกฎหมาย
    ก ใบรับรอง คือเอกสารกรรมสิทธิ์ ก ใบรับรองหุ้น หมายถึงความเป็นเจ้าของหุ้นในบริษัท ก ใบรับรองที่ดิน หมายถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
    และคุณ สูติบัตร แสดงถึงความเป็นเจ้าของของคุณ
    รัฐบาลไม่ได้มองว่าพลเมืองเป็นบุคคลที่มีสิทธิโดยธรรมชาติ พวกเขามองว่าคุณเป็น ASSET— สิ่งที่ต้องเสียภาษี ติดตาม และควบคุม สูติบัตรทุกใบแสดงถึง เครื่องมือทางการเงิน ใช้ค้ําประกันหนี้ นี่คือรากฐานของเรือนจําเศรษฐกิจที่กดขี่คุณ


    ความไว้วางใจสูติบัตร: อธิบายความเป็นทาสทางเศรษฐกิจ
    อดีตประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ยอมรับความจริงด้วยคําพูดของเขาเอง:
    “เร็วๆ นี้ ชาวอเมริกันทุกคนจะต้องลงทะเบียนทรัพย์สินทางชีวภาพของตนในระบบระดับชาติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อติดตามผู้คน และจะดําเนินการภายใต้ระบบคํามั่นสัญญาแบบโบราณ ด้วยวิธีการดังกล่าว เราสามารถบังคับให้ผู้คนส่งวาระการประชุมของเรา ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยของเราในฐานะการคืนเงินสําหรับสกุลเงินกระดาษ FIAT ของเรา ชาวอเมริกันทุกคนจะถูกบังคับให้ลงทะเบียน หรือประสบ...”
    นี่คือเกม คุณเป็น ให้คํามั่นไว้แต่กําเนิด เพื่อเติมพลังให้กับเครื่องจักรทางการเงินของรัฐบาล


    คําเตือนสุดท้าย: ตื่นหรือยังคงเป็นทาส
    นี่ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียว นี่มันเกี่ยวกับ ชีวิตของคุณ อิสรภาพของคุณ และอนาคตของคุณ● ระบบสูติบัตรคือ การหลอกลวงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์● มันได้เปลี่ยนทุกชีวิตให้กลายเป็น ทาสหนี้●
    คุณเกิดมาอย่างอิสระ แต่คุณเป็น ตีตราและจําหน่าย ก่อนที่คุณจะพูดได้
    ทางเลือกเป็นของคุณ คุณยังคงเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในระบบของพวกเขาหรือไม่? หรือคุณยึดอํานาจของคุณกลับคืนมาและทวงคืนอํานาจอธิปไตยของคุณ?
    ถึงเวลาที่จะต่อสู้กลับแล้ว!

    ..
    ..ประเทศไทยเราเองก็อาจเดินตามอเมริกาเช่นกัน,สูติบัตรเราคือการค้ำประกันหนี้แก่ประเทศไทย ,คือคนไทยทุกๆคนมีค่าตัวตั้งแต่เกืดมาทันทีหรือมีมูลค่าทันที,เพราะคนไทยคือทรัพย์สินมิใช่สิ่งมีชีวิต,ทาสก็ว่า เทียบใบหุ้นใบหนึ่งหรือตราสารหนี้ระดับชาติโดยค้ำประกันหนี้จากคนไทย,เพราะคนไทยคือแหล่งค้ำประกันหนี้คือสูติบัตรเราอ้างสมมุติไปทำแทนตัวเป็นๆ,อเมริกาสูติบัตรเขามีมูลค่าเป็นล้านเหรียญและปั่นจนกว่าพันล้านเหรียญ,คนไทยก็คงเช่นกันปั่นกว่าพันล้านถึงหมื่นล้านบาทแน่ๆต่อสูติบัตร1คน,ยิ่งมีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ มีมูลน่าเชื่อได้,รัฐฐะทั่วโลกฝ่ายอีลิทชนชั้นสูงยึดปกครองหมด แน่นอนมันต้องวางหมากวางนโยบายปั่นตีตรามูลค่าสูติบัตรเป็นนโยบายหลักบังคับใช้ในทุกๆประเทศทั่วโลกที่มันปกครอง ไม่เว้นแม้แต่ไทยด้วย,ธนาคารมันอีลิทก็ต้นคิดก่อตั้งแม้ในไทยก็ด้วย,ตลาดหุ้นในไทยมันเองอีกที่ก่อการหัวคิดก่อตั้งในไทยให้ขี้ข้าสมุนรับใช้ในไทยเดินเนื้องานลงหน้างานดำเนินการเปิดให้ได้,พะสาสูติบัตรแน่นอนมันสร้างมูลลค่าแน่ๆและยิ่งฝ่ายดีถ้ามีและคิดอ่านทำอีก แสดงว่าฝ่ายไม่ดียิ่งเหี้ย หามุกโกงแดกฝ่ายดีที่ตั้งราคาหัวสูติบัตรคนบนโลกไว้,ฝ่ายไม่ดีอาสาทำงานให้ฝ่ายดีก็ว่า ,โดยขณะทำงานก็คตโกงสร้างมุกต่างๆวางหมากวางสนุ๊คต่างๆโกงตังชาวโลกก็ว่าในกองทุนกลางของโลกฝ่ายดีที่โอนตังให้ชาวโลกใช้หรือตั้งมูลค่าตังไว้แล้วว่าตลอดการเกิดถึงตาย คนแต่ละน่าจะใช้จ่ายตังดำรงชีพจนถึงตายคงประมาณนี้ ร้อยล้านพันล้านก็ว่าไป,พวกฝ่ายไม่ดีก็ล้างสมองมิให้เรารับรู้ผ่านผู้นำผู้ปกครองประเทศนั้นๆอย่าเปิดปากบอกคนพวกนี้นะก็ว่า,ก็เปิดธนาคาร ปล่อยกู้โดยเอาตังเราๆนั้นล่ะมาปล่อย กินสองทาง ทางตรงแดกจากกองทุนเช่นซื้อบ้านจ่าย10ล้าน กองทุนจ่ายทันที10ล้านโดยเราไม่รู้หรือหักผ่านกองทุนเราใครมันแต่ละคนที่ส่วนกลางกำหนดไว้แล้วอาทิคนละ1หมื่นล้านบาทในไทย หักอัตโนมัติซื้อบ้านที่ดินรถนั้นนี้โน้นตลอดชีพผ่านกองทุนใครมัน,แต่รัฐฐะที่ปกครองล้มเหลวผิดพลาดหมายแดก เสือกมิให้คนไทยรับรู้,หอบตังเหมารวมว่าเองอาจกว่าล้านล้านล้านบาท จากนั้นกระจายให้อีลิทกิจการขี้ข้าทาสซาตานเครือข่ายเต็มไทยไปทำ แบบแบงค์ก็ปล่อยกู้ กิน2ต่อ ต่อที่1กินจากทางตรงของกองทุนที่ว่า,ต่อที่2กินจากคนไทยคนนั้นล่ะมาซื้อมาผ่อนมาจ่ายค่าดาวน์ค่าผ่อนในอนาคตตลอด30ปีหรือกว่า50ปีที่ทำในสัญญาณผ่อนกับแบงค์ในค่าผ่อนน้อยๆใครผ่อนมากๆเดือนละ4-5หมื่นอาจหมด3-4ปีก็หมดหนี้บ้านหนี้รถหนี้ที่ดินที่ซื้อผ่อนกับแบงค์,ทั้งที่จริงๆรัฐฐะที่ดีหากทำถูกตรง ประชาชนจะไม่เสียตังอะไรใดๆโดยรัฐฐะจ่ายตรงหักผ่านกองทุนที่รัฐฐะดูแลบัญชีกองทุนแทนบุคคลนั้นๆทันที,ไม่อุ๊บอิ๊บกินเองร่วมกับเอกชนเครือข่ายฝ่ายไม่ดีก็ว่า, ..สูติบัตรเรามีมูลค่าแต่ฝ่ายไม่ดีมาปล้นมาชิงเอาไปจากความไม่รู้ของคนทั้งโลก นำโดยผู้นำผู้ปกครองในประเทศนั้นๆสมคบคิดกับโจรเหล่านี้ด้วย. ..คนไทยร่ำรวยเลยถ้าจริงแบบนี้,บ่อน้ำมันบ่อทองคำจะเสมือนเพียงตัวหลอก จริงๆอาจคือสมบัติร่วมสร้างโลกพัฒนาโลกวิวัฒนาการโลกไปทางดีงานแบ่งปันช่วยเหลือกันและกันหรือซึ่งกันและกันได้สบาย,ผลิตเกินส่วนไหน สามารถเอาส่วนเกินนั้นส่งไปช่วยเหลือพื้นที่ตรงจุดของโลกส่วนอื่นๆที่ผู้คนชาวโลกเรายังขาดแคลนได้เช่นอาหารการกินต่างๆพืชผักผลไม้ ไม่ต้องทำลายทิังได้ เผลอส่งเสริมการแลกเปลี่ยนซื้อขายต่อกันและกันในราคามิตรภาพอีก. . รัฐบาลใหญ่ เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย! โดย เมเดีย กรีเร่14 เมษายน 2568อัปเดต:19 พฤษภาคม 256849 เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย! พร้อมที่จะเปิดเผยความจริงแล้วหรือยัง? ป่วยจากการโกหก? เข้าร่วมกับเรา ช่องโทรเลข ตอนนี้ ถึงเวลาสําหรับเรื่องจริง! ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน! หมายเหตุบรรณาธิการ: ข้อมูลที่แบ่งปันในเนื้อหานี้มีต้นกําเนิดมาจาก เรดดิต, วิกิพีเดีย และ X เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ขับเคลื่อนโดยชุมชนและสร้างขึ้นโดยผู้ใช้ จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ และความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้ ฉันเพียงแบ่งปันเนื้อหานี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและไม่อ้างสิทธิ์การประพันธ์หรือความรับผิดชอบต่อเนื้อหา สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงเอกสาร—มันเป็น พันธบัตรมูลค่าหลายล้าน ซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ! รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเจ้าของคุณตั้งแต่แรกเกิด ตื่น และเรียนรู้ว่าคุณถูกขาย ถูกเอารัดเอาเปรียบ และ ทาส! อ่านตอนนี้ก่อนที่พวกเขาจะฝังความจริง! สูติบัตรของคุณ: การหลอกลวงขั้นสูงสุด – วิธีที่คุณถูกซื้อและขายตั้งแต่แรกเกิด โซ่ตรวนที่มองไม่เห็นของทาสยุคใหม่- ตื่น! ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเข้าสู่โลกนี้ คุณตกเป็นทาส คุณไม่ยินยอม คุณไม่ได้รับทางเลือก คุณผูกพันกับระบบที่ทุจริตและร้ายกาจมากจนทําให้การดํารงอยู่ของคุณกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ นี่ไม่ใช่การคาดเดา นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการบันทึกไว้และปฏิเสธไม่ได้ สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงบันทึก —it เป็นการประกาศความเป็นเจ้าของ คุณไม่ใช่บุคคลที่เป็นอิสระภายใต้กฎหมาย คุณเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน ทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นทรัพย์สินชิ้นหนึ่งในเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่ออกแบบมาเพื่อ ใช้ประโยชน์จากคุณ สูติบัตรของคุณ: การแสดงความเป็นเจ้าของขององค์กร เคยสงสัยไหมว่าทําไมคุณถึงต้องมีสูติบัตร? คิดดูสิ เมื่อเรือมาถึงท่าเรือ ก ใบรับรองรายการ ออกให้เพื่อจัดทําเอกสารสินค้า และเมื่อคุณเกิด คุณได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสินค้า มีการออกสูติบัตร—NOT เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความยินดี แต่เป็นสัญญาการเป็นเจ้าของ คุณเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ รัฐไม่เห็นคุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอํานาจอธิปไตย คุณเป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้สร้างความมั่งคั่งให้กับชนชั้นสูง เหล่านั้น หมายเลขซีเรียลสีแดง ในสูติบัตรของคุณ? เป็นหมายเลขตลาดหลักทรัพย์ เป็นตัวเลขที่เชื่อมโยงกับหลักทรัพย์ที่ซื้อขายบน ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก● การดํารงอยู่ของคุณสร้างรายได้แล้ว พันธบัตรสูติบัตร: มีมูลค่านับพันล้านและคุณเป็นทาส คุณรู้ไหมว่าสูติบัตรของคุณถูกสร้างเป็นพันธบัตรมูลค่าหลายพันล้าน?! หากคุณสงสัยว่าพันธบัตรสูติบัตรคืออะไรขอให้ชัดเจน: คุณคือมัน คุณได้รับคํามั่นสัญญาว่าจะเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศนี้—A หนี้ที่จะไม่มีวันจ่าย เมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศล้มละลายในปี พ.ศ.2476 ให้คํามั่นว่าจะเป็นคนอเมริกันทุกคน เป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ ประธานาธิบดีรูสเวลต์ โดยทาง คําสั่งผู้บริหาร 6073, 6102, 6111 และ 6260, ประกาศให้ประเทศล้มละลายและยึด ALL GOLD ความสามารถของประชาชนในการชําระหนี้ของตนเองถูกลบออกไปอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว [ดู: รายงานของวุฒิสภา 93-549, หน้า 187 และ 594 ภายใต้ “Trading With The Enemy Act.”] แต่รัฐบาลต้องจัดให้มี วิธีการใหม่ ของการชําระเงิน—สิ่งที่ไม่ต้องพึ่งพาทองคํา แต่พวกเขาสร้างระบบที่เรียกว่า การยกเว้น ได้รับการยกเว้นจากอะไร? ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายอะไรเลย! ในทางปฏิบัติ นั่นหมายความว่าชาวอเมริกันทุกคนต้องได้รับ บางสิ่งบางอย่าง เพื่อชําระเงินด้วย—AND ว่าบางสิ่งคือเครดิตของคุณ คุณค่าของคุณต่อสังคมคํานวณโดยใช้ตารางคณิตศาสตร์ประกันภัย เมื่อแรกเกิด, พันธบัตรที่เท่ากับค่าเฉลี่ย “นี้ ” ถูกสร้างขึ้นและยังคงถูกสร้างขึ้น ทําความเข้าใจสิ่งนี้: ปัจจุบันพันธบัตรสูติบัตรของคุณคาดว่าจะมีมูลค่าระหว่างหนึ่งถึงสองล้านดอลลาร์ พันธบัตรเหล่านี้ค้ําประกันโดยสูติบัตรของคุณ และเปลี่ยนเป็น ตราสารเปลี่ยนมือได้● พวกเขาถูกสมมุติฐานและซื้อขาย ซ้ําแล้วซ้ําเล่า จนกว่ามูลค่าของพวกมันจะไม่จํากัด เครดิตทั้งหมดนั้นเป็นของคุณในทางเทคนิคและถูกต้อง ในความเป็นจริง, คุณควรจะสามารถเดินเข้าไปในร้านค้าใด ๆ, รับสิ่งที่คุณต้องการ และบอกให้พนักงานเรียกเก็บเงินเข้าบัญชียกเว้นของคุณ บัญชีการยกเว้นนั้นจะถูกระบุโดย หมายเลขเก้าหลัก—หมายเลขประกันสังคมของคุณโดยไม่มีขีดกลาง หมายเลขนั้นเป็นของคุณ EIN (หมายเลขประจําตัวการยกเว้น) นี่คือความจริงที่เก็บไว้จากคุณมาตลอดชีวิต CERTIFICATE = ความเป็นเจ้าของ: การหลอกลวงทางกฎหมาย ก ใบรับรอง คือเอกสารกรรมสิทธิ์ ก ใบรับรองหุ้น หมายถึงความเป็นเจ้าของหุ้นในบริษัท ก ใบรับรองที่ดิน หมายถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และคุณ สูติบัตร แสดงถึงความเป็นเจ้าของของคุณ รัฐบาลไม่ได้มองว่าพลเมืองเป็นบุคคลที่มีสิทธิโดยธรรมชาติ พวกเขามองว่าคุณเป็น ASSET— สิ่งที่ต้องเสียภาษี ติดตาม และควบคุม สูติบัตรทุกใบแสดงถึง เครื่องมือทางการเงิน ใช้ค้ําประกันหนี้ นี่คือรากฐานของเรือนจําเศรษฐกิจที่กดขี่คุณ ความไว้วางใจสูติบัตร: อธิบายความเป็นทาสทางเศรษฐกิจ อดีตประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ยอมรับความจริงด้วยคําพูดของเขาเอง: “เร็วๆ นี้ ชาวอเมริกันทุกคนจะต้องลงทะเบียนทรัพย์สินทางชีวภาพของตนในระบบระดับชาติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อติดตามผู้คน และจะดําเนินการภายใต้ระบบคํามั่นสัญญาแบบโบราณ ด้วยวิธีการดังกล่าว เราสามารถบังคับให้ผู้คนส่งวาระการประชุมของเรา ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยของเราในฐานะการคืนเงินสําหรับสกุลเงินกระดาษ FIAT ของเรา ชาวอเมริกันทุกคนจะถูกบังคับให้ลงทะเบียน หรือประสบ...” นี่คือเกม คุณเป็น ให้คํามั่นไว้แต่กําเนิด เพื่อเติมพลังให้กับเครื่องจักรทางการเงินของรัฐบาล คําเตือนสุดท้าย: ตื่นหรือยังคงเป็นทาส นี่ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียว นี่มันเกี่ยวกับ ชีวิตของคุณ อิสรภาพของคุณ และอนาคตของคุณ● ระบบสูติบัตรคือ การหลอกลวงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์● มันได้เปลี่ยนทุกชีวิตให้กลายเป็น ทาสหนี้● คุณเกิดมาอย่างอิสระ แต่คุณเป็น ตีตราและจําหน่าย ก่อนที่คุณจะพูดได้ ทางเลือกเป็นของคุณ คุณยังคงเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในระบบของพวกเขาหรือไม่? หรือคุณยึดอํานาจของคุณกลับคืนมาและทวงคืนอํานาจอธิปไตยของคุณ? ถึงเวลาที่จะต่อสู้กลับแล้ว! ..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 585 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ประชาธิปไตย" มันก็แค่ข้ออ้าง!!!

    ในขณะที่สหรัฐประกาศบอกคนทั้งโลกว่า อิหร่านคือผู้สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายมากมายในตะวันออกกลาง และสั่งให้อิหร่านต้องหยุดการกระทำเหล่านั้น พร้อมทั้งคว่ำบาตรอิหร่านอย่างหนัก

    แต่ภาพที่ทั่วโลกเห็นในเวลานี้คือ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กำลังจับมือกับผู้ที่เคยเป็นถึงผู้นำกลุ่มก่อการร้าย HTS  (Hay'at Tahrir al-Sham) รวมทั้งเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มนุสราฟรอนต์(Nusra Front) หรือ กลุ่มอัลกออิดะห์ในซีเรียอีกด้วย ซึ่งใช้กองกำลังของเขาโค่นล้มอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประเทศซีเรีย และแต่งตั้งตนเองขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่ ฉีกรัฐธรรมนูญเดิมของซีเรีย และให้ร่างขึ้นใหม่เพื่อรองรับอำนาจของตนเอง อีกทั้งยังไม่มีกำหนดการเลือกตั้งที่ชัดเจนแต่อย่างใด

    นอกจากสหรัฐไม่คว่ำบาตรเพิ่มเติมแล้ว ยังประกาศยกเลิกการคว่ำบาตรทั้งหมด!! ท่ามกลางกระแสข่าวว่าสหรัฐเข้าครอบครองทรัพยากร และควบคุมซีเรียทั้งหมด
    "ประชาธิปไตย" มันก็แค่ข้ออ้าง!!! ในขณะที่สหรัฐประกาศบอกคนทั้งโลกว่า อิหร่านคือผู้สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายมากมายในตะวันออกกลาง และสั่งให้อิหร่านต้องหยุดการกระทำเหล่านั้น พร้อมทั้งคว่ำบาตรอิหร่านอย่างหนัก แต่ภาพที่ทั่วโลกเห็นในเวลานี้คือ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กำลังจับมือกับผู้ที่เคยเป็นถึงผู้นำกลุ่มก่อการร้าย HTS  (Hay'at Tahrir al-Sham) รวมทั้งเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มนุสราฟรอนต์(Nusra Front) หรือ กลุ่มอัลกออิดะห์ในซีเรียอีกด้วย ซึ่งใช้กองกำลังของเขาโค่นล้มอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประเทศซีเรีย และแต่งตั้งตนเองขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่ ฉีกรัฐธรรมนูญเดิมของซีเรีย และให้ร่างขึ้นใหม่เพื่อรองรับอำนาจของตนเอง อีกทั้งยังไม่มีกำหนดการเลือกตั้งที่ชัดเจนแต่อย่างใด นอกจากสหรัฐไม่คว่ำบาตรเพิ่มเติมแล้ว ยังประกาศยกเลิกการคว่ำบาตรทั้งหมด!! ท่ามกลางกระแสข่าวว่าสหรัฐเข้าครอบครองทรัพยากร และควบคุมซีเรียทั้งหมด
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 370 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางถึงกรุงโดฮา การ์ตา วันพุธ(14 พ.ค)หลังที่กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบียพบประธานาธิบดีซีเรียคนใหม่ อาห์เหม็ด อัล-ชารา (Ahmed al-Sharaa)อดีตกบฏซีเรียโค่นล้มอดีตผู้นำดามัสกัส บาชาร์ อัล-อัสสาด สำเร็จเมื่อธันวาคมปีที่แล้วก่อนหอบเงินพร้อมลูกเมียหนีเข้ารัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000045194

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางถึงกรุงโดฮา การ์ตา วันพุธ(14 พ.ค)หลังที่กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบียพบประธานาธิบดีซีเรียคนใหม่ อาห์เหม็ด อัล-ชารา (Ahmed al-Sharaa)อดีตกบฏซีเรียโค่นล้มอดีตผู้นำดามัสกัส บาชาร์ อัล-อัสสาด สำเร็จเมื่อธันวาคมปีที่แล้วก่อนหอบเงินพร้อมลูกเมียหนีเข้ารัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000045194 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1187 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพวิดีโอขณะทรัมป์พบกับ "อัล-ชารา" ผู้นำซีเรียที่แต่งตั้งตนเองขึ้นปกครองซีเรียหลังจากใช้กองกำลังโค่นล้มรัฐบาลอัสซาดที่มาจากการเลือกตั้ง
    ภาพวิดีโอขณะทรัมป์พบกับ "อัล-ชารา" ผู้นำซีเรียที่แต่งตั้งตนเองขึ้นปกครองซีเรียหลังจากใช้กองกำลังโค่นล้มรัฐบาลอัสซาดที่มาจากการเลือกตั้ง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • ทรัมป์กล่าวในงานการประชุมสุดยอดอ่าวเปอร์เซีย-สหรัฐ (Gulf-US Summit) โดยเรียกร้องให้ 'ทุกประเทศอาหรับ' สนับสนุนการคว่ำบาตรที่เขาใช้กับอิหร่าน

    การประชุมมีขึ้นในวันนี้ ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพียงหนึ่งวันหลังจากประกาศยกเลิกการคว่ำบาตรซีเรีย

    ทรัมป์กล่าวในงานการประชุมสุดยอดอ่าวเปอร์เซีย-สหรัฐ (Gulf-US Summit) โดยเรียกร้องให้ 'ทุกประเทศอาหรับ' สนับสนุนการคว่ำบาตรที่เขาใช้กับอิหร่าน การประชุมมีขึ้นในวันนี้ ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพียงหนึ่งวันหลังจากประกาศยกเลิกการคว่ำบาตรซีเรีย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพการพบกันครั้งแรกของประธานาธิบดีทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา กับอาหมัด อัลชารา ผู้นำที่แต่งตั้งตนเองหลังการใช้กำลังโค่นล้มรัฐบาลซีเรีย และเป็นอดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้าย HTS (Hay'at Tahrir al-Sham) รวมทั้งเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มนุสราฟรอนต์(Nusra Front) หรือ กลุ่มอัลกออิดะห์ในซีเรียอีกด้วย

    การพบกันเกิดขึ้นในวันนี้ที่ริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ก่อนการประชุมสุดยอดอ่าวเปอร์เซีย-สหรัฐฯ(Gulf_US_Summit) จะเริ่มต้นขึ้น

    สำหรับ "อาบู มูฮัมหมัด อัลโจลานี" อดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้าย HTS เคยถูกตั้งรางวัลนำจับสูงถึงลิบล้านดอลลาร์ จากสถานทูตสหรัฐในซีเรีย เมื่อปี 2017
    ภาพการพบกันครั้งแรกของประธานาธิบดีทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา กับอาหมัด อัลชารา ผู้นำที่แต่งตั้งตนเองหลังการใช้กำลังโค่นล้มรัฐบาลซีเรีย และเป็นอดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้าย HTS (Hay'at Tahrir al-Sham) รวมทั้งเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มนุสราฟรอนต์(Nusra Front) หรือ กลุ่มอัลกออิดะห์ในซีเรียอีกด้วย การพบกันเกิดขึ้นในวันนี้ที่ริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ก่อนการประชุมสุดยอดอ่าวเปอร์เซีย-สหรัฐฯ(Gulf_US_Summit) จะเริ่มต้นขึ้น สำหรับ "อาบู มูฮัมหมัด อัลโจลานี" อดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้าย HTS เคยถูกตั้งรางวัลนำจับสูงถึงลิบล้านดอลลาร์ จากสถานทูตสหรัฐในซีเรีย เมื่อปี 2017
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 313 มุมมอง 0 รีวิว
  • โซเชียลทำภาพล้อเลียนทรัมป์ในการเยือนซาอุฯครั้งนี้ "เขาไม่ได้มาให้ แต่มาเอา"

    นอกจากเม็ดเงินลงทุนที่ซาอุฯถมลงไปให้กับสหรัฐ เพื่อใช้ประโยชน์ในการต่อต้านอิทธิพลของอิหร่านแล้ว ทรัมป์ "อาจจะ" ได้ซีเรียทั้งประเทศเป็นของตนเองติดมือกลับไปอีกด้วย
    โซเชียลทำภาพล้อเลียนทรัมป์ในการเยือนซาอุฯครั้งนี้ "เขาไม่ได้มาให้ แต่มาเอา" นอกจากเม็ดเงินลงทุนที่ซาอุฯถมลงไปให้กับสหรัฐ เพื่อใช้ประโยชน์ในการต่อต้านอิทธิพลของอิหร่านแล้ว ทรัมป์ "อาจจะ" ได้ซีเรียทั้งประเทศเป็นของตนเองติดมือกลับไปอีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 6 0 รีวิว
  • เบื้องหลังการยกเลิกคว่ำบาตรซีเรียของทรัมป์ มีรายงานถึงเรื่องการเจรจาต่อรองให้สหรัฐสามารถแสวงหาผลประโยชน์บนดินแดนของซีเรียได้อย่างเต็มที่!!

    มูอาซ มุสตาฟา ตัวแทนซีเรียผู้รับผิดชอบในการไกล่เกลี่ยข้อตกลงนี้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า อัลชาราได้อนุมัติให้คณะผู้แทนเสนอข้อตกลงครอบคลุมกับทรัมป์อย่างชัดเจน ซึ่งเขากล่าวว่าอัลชาราเชื่อว่าเขาเป็น “บุคคลผู้ส่งสารแห่งสันติภาพ” อัลชาราหวังว่าจะได้พบกับทรัมป์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เมื่อทั้งสองคนจะอยู่ที่ริยาด มุสตาฟากล่าวว่าข้อตกลงที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่สำหรับสหรัฐฯ

    มุสตาฟา ยังกล่าวอีกว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะรวมถึงการที่โจลานีตกลงที่จะอนุญาตให้สหรัฐฯ สอดส่องกองกำลังต่อต้านของชาวปาเลสไตน์และเลบานอนที่ต่อสู้กับอิสราเอล ซึ่งโจลานีได้จับกุมเจ้าหน้าที่ชาวปาเลสไตน์ไปแล้วเพื่อแสดงถึงความจริงใจ

    นอกจากนี้ ข้อตกลงดังกล่าว ยังระบุว่าจะมีการเชิญชวนบริษัทอเมริกันให้มาใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำมันและก๊าซของซีเรีย และภายใต้เครือข่ายการสื่อสาร AT&T สหรัฐจะเป็นผู้วางเครือข่ายระบบสื่อสารโทรคมนาคมให้กับซีเรีย นั่นเท่ากับว่าสหรัฐจะสามารถสอดส่องซีเรียได้ทั้งหมด

    ข้อตกลงนี้เป็นการปิดกั้นข้อเสนอของรัสเซียในการฟื้นฟู และข้อเสนอของจีนในด้านการโทรคมนาคมจาก Huwaei ซึ่งคาดว่าจะเสนอตัวเข้ามาไปโดยปริยาย


    สรุปเบื้องต้นที่เป็นเงื่อนไขในการยกเลิกคว่ำบาตรของสหรัฐ:

    👉สหรัฐฯ สามารถจะเข้าถึงแหล่งน้ำมันของซีเรียได้
    👉ซีเรียจะต้องไม่เป็นภัยต่ออิสราเอล โดยอ้างถึงข้อตกลงหยุดยิงปี 1974
    👉สหรัฐจะเป็นผู้วางเครือข่ายระบบสื่อสารโทรคมนาคมให้กับซีเรียอ นั่นเท่ากับว่าสหรัฐจะสามารถสอดส่องซีเรียได้ทั้งหมด
    👉สหรัฐสามารถโจมตีซีเรียเมื่อใดก็ได้ที่ต้องการ ไม่มีรายละเอียดในห้วข้อนี้ แต่คาดการณ์ว่ากองกำลังทหารของซีเรียจะถูกจำกัดอยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตราย และการที่ “กลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (IS)” ยังคงดำเนินการอยู่ หมายความว่าสหรัฐยังคงยึดครองและมีอำนาจโจมตีที่ใดก็ได้ในซีเรียต่อไป
    👉กลุ่มต่อต้านที่เป็นชาวปาเลสไตน์ทั้งหมดจะถูกขับออกจากซีเรีย
    👉อิหร่าน รัสเซีย และอิทธิพลของจีนจะถูกจำกัด หรือถึงขั้นขับออกจากซีเรีย


    https://www.dropsitenews.com/p/syria-sharaa-trump-united-states-delegation-








    เบื้องหลังการยกเลิกคว่ำบาตรซีเรียของทรัมป์ มีรายงานถึงเรื่องการเจรจาต่อรองให้สหรัฐสามารถแสวงหาผลประโยชน์บนดินแดนของซีเรียได้อย่างเต็มที่!! มูอาซ มุสตาฟา ตัวแทนซีเรียผู้รับผิดชอบในการไกล่เกลี่ยข้อตกลงนี้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า อัลชาราได้อนุมัติให้คณะผู้แทนเสนอข้อตกลงครอบคลุมกับทรัมป์อย่างชัดเจน ซึ่งเขากล่าวว่าอัลชาราเชื่อว่าเขาเป็น “บุคคลผู้ส่งสารแห่งสันติภาพ” อัลชาราหวังว่าจะได้พบกับทรัมป์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เมื่อทั้งสองคนจะอยู่ที่ริยาด มุสตาฟากล่าวว่าข้อตกลงที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่สำหรับสหรัฐฯ มุสตาฟา ยังกล่าวอีกว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะรวมถึงการที่โจลานีตกลงที่จะอนุญาตให้สหรัฐฯ สอดส่องกองกำลังต่อต้านของชาวปาเลสไตน์และเลบานอนที่ต่อสู้กับอิสราเอล ซึ่งโจลานีได้จับกุมเจ้าหน้าที่ชาวปาเลสไตน์ไปแล้วเพื่อแสดงถึงความจริงใจ นอกจากนี้ ข้อตกลงดังกล่าว ยังระบุว่าจะมีการเชิญชวนบริษัทอเมริกันให้มาใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำมันและก๊าซของซีเรีย และภายใต้เครือข่ายการสื่อสาร AT&T สหรัฐจะเป็นผู้วางเครือข่ายระบบสื่อสารโทรคมนาคมให้กับซีเรีย นั่นเท่ากับว่าสหรัฐจะสามารถสอดส่องซีเรียได้ทั้งหมด ข้อตกลงนี้เป็นการปิดกั้นข้อเสนอของรัสเซียในการฟื้นฟู และข้อเสนอของจีนในด้านการโทรคมนาคมจาก Huwaei ซึ่งคาดว่าจะเสนอตัวเข้ามาไปโดยปริยาย สรุปเบื้องต้นที่เป็นเงื่อนไขในการยกเลิกคว่ำบาตรของสหรัฐ: 👉สหรัฐฯ สามารถจะเข้าถึงแหล่งน้ำมันของซีเรียได้ 👉ซีเรียจะต้องไม่เป็นภัยต่ออิสราเอล โดยอ้างถึงข้อตกลงหยุดยิงปี 1974 👉สหรัฐจะเป็นผู้วางเครือข่ายระบบสื่อสารโทรคมนาคมให้กับซีเรียอ นั่นเท่ากับว่าสหรัฐจะสามารถสอดส่องซีเรียได้ทั้งหมด 👉สหรัฐสามารถโจมตีซีเรียเมื่อใดก็ได้ที่ต้องการ ไม่มีรายละเอียดในห้วข้อนี้ แต่คาดการณ์ว่ากองกำลังทหารของซีเรียจะถูกจำกัดอยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตราย และการที่ “กลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (IS)” ยังคงดำเนินการอยู่ หมายความว่าสหรัฐยังคงยึดครองและมีอำนาจโจมตีที่ใดก็ได้ในซีเรียต่อไป 👉กลุ่มต่อต้านที่เป็นชาวปาเลสไตน์ทั้งหมดจะถูกขับออกจากซีเรีย 👉อิหร่าน รัสเซีย และอิทธิพลของจีนจะถูกจำกัด หรือถึงขั้นขับออกจากซีเรีย https://www.dropsitenews.com/p/syria-sharaa-trump-united-states-delegation-
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 449 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาวซีเรียออกมารวมตัวกันบนท้องถนนเพื่อแสดงความดีใจ หลังจากทราบข่าวการประกาศยกเลิกการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา

    ขณะเดียวกัน สาธารณรัฐอาหรับซีเรียออกแถลงการณ์แสดงความยินดีกับการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์ที่จะยกเลิกการคว่ำบาตรซีเรียด้วยเช่นกัน
    ชาวซีเรียออกมารวมตัวกันบนท้องถนนเพื่อแสดงความดีใจ หลังจากทราบข่าวการประกาศยกเลิกการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกัน สาธารณรัฐอาหรับซีเรียออกแถลงการณ์แสดงความยินดีกับการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์ที่จะยกเลิกการคว่ำบาตรซีเรียด้วยเช่นกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ประกาศยุติการคว่ำบาตรซีเรียที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างเยือนซาอุดีอาระเบียวันแรก โดยกล่าวว่า นี่จะเป็นการสร้างโอกาสครั้งสำคัญหลังการล่มสลายของรัฐบบาลอัสซาดเมื่อปีที่แล้ว

    ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า การยกเลิกการคว่ำบาตรจะเป็นอีกหนึ่งชัยชนะที่สําคัญสําหรับรัฐบาลซีเรียชุดใหม่ที่นําโดยอัลโจลานี (อาหมัด อัลชาราห์) (อดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้าย HTS) ที่เข้ามาคุมอำอาจ หลังจากความพ่ายแพ้ของรัฐบาลประชาธิปไตยอัสซาดเมื่อเดือนธันวาคม

    นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า คณะผู้บริหารของซีเรียเตรียมเดินทางไปยังริยาดเพื่อพบกับทรัมป์เป็นครั้งแรกในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะเป็นการพบปะกันอย่างไม่เป็นทางการ
    ทรัมป์ประกาศยุติการคว่ำบาตรซีเรียที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างเยือนซาอุดีอาระเบียวันแรก โดยกล่าวว่า นี่จะเป็นการสร้างโอกาสครั้งสำคัญหลังการล่มสลายของรัฐบบาลอัสซาดเมื่อปีที่แล้ว ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า การยกเลิกการคว่ำบาตรจะเป็นอีกหนึ่งชัยชนะที่สําคัญสําหรับรัฐบาลซีเรียชุดใหม่ที่นําโดยอัลโจลานี (อาหมัด อัลชาราห์) (อดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้าย HTS) ที่เข้ามาคุมอำอาจ หลังจากความพ่ายแพ้ของรัฐบาลประชาธิปไตยอัสซาดเมื่อเดือนธันวาคม นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า คณะผู้บริหารของซีเรียเตรียมเดินทางไปยังริยาดเพื่อพบกับทรัมป์เป็นครั้งแรกในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะเป็นการพบปะกันอย่างไม่เป็นทางการ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยิวและปาเลสไตน์
    ==========
    .
    การศึกษาที่ตีพิมพ์โดย National Academy of Sciences พบว่า "กลุ่มยีนของชุมชนชาวยิวจากยุโรป แอฟริกาเหนือ และตะวันออกกลาง.. สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษ 'ตะวันออกกลาง' ร่วมกัน" และแนะนำว่า "ชุมชนชาวยิวส่วนใหญ่ยังคงแยกตัวจากชุมชนที่ไม่ใช่ชาวยิวในละแวกใกล้เคียงค่อนข้างมาก ทั้งในช่วงอพยพและหลังการอพยพของชาวยิว"
    .
    นักพันธุศาสตร์ Doron Behar และเพื่อนร่วมงาน (2010) ระบุว่า "ข้อมูลนี้สอดคล้องกับการกำหนดทางประวัติศาสตร์ว่า ชาวยิวสืบเชื้อสายมาจากชาวอิสราเอลโบราณ" ประมาณ 35% ถึง 43% ของชายชาวยิวอยู่ในสายเลือดของบิดาที่เรียกว่ากลุ่มยีน Hg "J" และกลุ่มยีนย่อย. กลุ่มยีนนี้พบโดยเฉพาะในตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ แอฟริกาตะวันออก คอเคซัส และยุโรปตอนใต้ราว 15% ถึง 30% อยู่ในกลุ่มยีน Hg "E1b1b" (หรือ E-M35)
    [ Hg = Haplogroup ]
    .
    การศึกษาโดยใช้ดีเอ็นเอโครโมโซม Y ของชาวยิวชาย โดยพยายามสืบหาสายเลือดของนักบวชชาวยิว (โคฮานิม) จากบิดา ผลการศึกษาเผยให้เห็นแฮพโลไทป์โครโมโซม Y บรรพบุรุษร่วมกันเมื่อประมาณ 2,650 ปีก่อน ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของการทำลายวิหารแรกของเยรูซาเล็มในปี 586 ก่อนคริสตกาล และการกระจายตัวของนักบวช การศึกษาดีเอ็นเอไมโตคอนเดรียของประชากรชาวยิวเป็นการศึกษาที่ค่อนข้างใหม่ เป็นที่ถกเถียง และมีความหลากหลายมากกว่า
    .
    ส่วนชาวปาเลสไตน์ บันทึกทางประวัติศาสตร์และการศึกษาด้านพันธุกรรมในเวลาต่อมาบ่งชี้ว่าชาวปาเลสไตน์สืบเชื้อสายมาจากเลแวนไทน์โบราณเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งย้อนกลับไปถึงชาวเลแวนไทน์ในยุคสำริด การศึกษาในปี 2015 โดย Verónica Fernandes และคนอื่นๆ สรุปว่าชาวปาเลสไตน์มี "ต้นกำเนิดเป็นชนพื้นเมืองเป็นหลัก"
    .
    การศึกษาในปี 2020 เกี่ยวกับซากศพมนุษย์จากกลุ่มคนคานาอันในยุคสำริดกลาง (2100–1550 ปีก่อนคริสตกาล) ชี้ให้เห็นถึงความต่อเนื่องทางพันธุกรรมในระดับที่สำคัญในกลุ่มคนที่พูดภาษาอาหรับในเลวานไทน์ (เช่น ชาวปาเลสไตน์ ชาวดรูซ ชาวเลบานอน ชาวจอร์แดน ชาวเบดูอิน และชาวซีเรีย) พบว่าชาวปาเลสไตน์และกลุ่มคนเลวานไทน์อื่นๆ มีบรรพบุรุษ 81–87% มาจากเลวานไทน์ในยุคสำริด ซึ่งเกี่ยวข้องกับชาวคานาอันและอิทธิพลของวัฒนธรรมคูรา–อารักเซสตั้งแต่ก่อน 2400 ปีก่อนคริสตกาล (4400 ปีก่อนปัจจุบัน) 8–12% มาจากแหล่งแอฟริกาตะวันออก และ 5–10% มาจากชาวยุโรปในยุคสำริด
    .
    การศึกษาดีเอ็นเอครั้งหนึ่งโดย Nebel พบว่ามีการทับซ้อนกันทางพันธุกรรมอย่างมากในหมู่ชาวอาหรับอิสราเอล ปาเลสไตน์และชาวยิว เนเบลเสนอว่า "บางส่วนหรือบางทีอาจเป็นส่วนใหญ่" ของชาวปาเลสไตน์ที่เป็นมุสลิม สืบเชื้อสายมาจาก "ชาวพื้นเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคริสเตียนและยิวที่เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามหลังจากอิสลามพิชิตในคริสตศตวรรษที่ 7"
    .
    ในการศึกษาทางพันธุกรรมของ STR ที่มีโครโมโซม Y ในประชากรสองกลุ่มจากอิสราเอลและพื้นที่ปกครองปาเลสไตน์ พบว่าชาวปาเลสไตน์ที่เป็นคริสเตียนและมุสลิมแสดงความแตกต่างทางพันธุกรรมเล็กน้อย คริสเตียนปาเลสไตน์ส่วนใหญ่ (31.82%) เป็นกลุ่มย่อยของ Hg"E1b1b" รองลงมาคือ Hg"G2a" (11.36%) และ Hg"J1" (9.09%) ชาวมุสลิมปาเลสไตน์ส่วนใหญ่มียีนเป็นกลุ่มย่อยของ Hg"J1" (37.82%) รองลงมาคือ Hg"E1b1b" (19.33%) และ Hg"T" (5.88%)
    .
    ในปี 2004 ทีมนักพันธุศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กับมหาวิทยาลัยฮิบรูแห่งเยรูซาเล็ม มหาวิทยาลัยทาร์ทู (เอสโตเนีย) ศูนย์การแพทย์บาร์ซิไล (อัชเคลอน อิสราเอล) และศูนย์การแพทย์อัสซาฟ ฮาโรเฟห์ (เซริฟิน อิสราเอล) ทำการศึกษาชุมชนชาติพันธุ์ซามาริตันสมัยใหม่ที่อาศัยอยู่ในอิสราเอลโดยเปรียบเทียบกับประชากรอิสราเอลสมัยใหม่เพื่อสำรวจประวัติศาสตร์ทางพันธุกรรมโบราณของกลุ่มคนเหล่านี้ ผลการค้นพบของพวกเขารายงานถึงวงศ์ตระกูลสี่วงศ์ในหมู่ชาวซามาริตัน ได้แก่ ตระกูล Tsdaka, Joshua-Marhiv, Danfi และครอบครัว Cohen ครอบครัวชาวซามาริตันทั้งหมดพบในกลุ่มยีน Hg"J1" และ Hg"J2" ยกเว้นครอบครัว Cohen ซึ่งพบในกลุ่มยีน Hg"E3b1a-M78" ข้อมูลนี้มีเนื้อหาก่อนกลุ่มย่อย "E3b1a" โดยอิงตามการวิจัยของ Cruciani et al. (2006)
    .
    Mekel-Bobrov et al. (2005) ศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบยีน ASPM พบว่าชาว"ดรูซ"อิสราเอลในภูมิภาคคาร์เมล มีอัตราการเกิดกลุ่มยีน ASPM Hg D ที่เพิ่งวิวัฒนาการใหม่สูงที่สุด โดยมีการเกิดขึ้นของอัลลีลที่มีอายุประมาณ 6,000 ปีถึง 52.2% แม้ว่าจะยังไม่ทราบแน่ชัดว่ารูปแบบยีนนี้ให้ข้อได้เปรียบในการคัดเลือกอย่างไร แต่เชื่อกันว่าอัลลีลกลุ่มยีน Hg D ได้รับการคัดเลือกในเชิงบวกในประชากร และมอบข้อได้เปรียบที่สำคัญบางประการที่ทำให้ความถี่ของอัลลีลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว.. ตามการทดสอบ DNA ชาวดรูซโดดเด่นในเรื่องความถี่สูง (35%) ของผู้ชายที่มีกลุ่มยีน Y-chromosomal "L" ซึ่งไม่ธรรมดาในตะวันออกกลาง กลุ่มยีนนี้มีต้นกำเนิดมาจากเอเชียใต้ในยุคก่อนประวัติศาสตร์และแพร่กระจายจากปากีสถานไปยังอิหร่านตอนใต้
    [ * อัลลีล (allele) คือรูปแบบหนึ่ง จากหลายๆ รูปแบบของยีนหนึ่ง บางครั้งอัลลีลที่แตกต่างกันอาจทำให้เกิดลักษณะที่แสดงออก เช่น สีตา สีผม ที่แตกต่างกันได้ บางครั้งอัลลีลที่แตกต่างกันอาจไม่ได้ทำให้มีลักษณะแสดงออกที่แตกต่างกันก็ได้ ]
    .
    มายาอคติที่ก่อให้เกิดขึ้นโดยพวกไซออนิสท์ที่ครอบงำชาวยิวในอิสราเอลทำให้พวกเขามืดบอด ทั้งที่ในทางวิทยาศาสตร์ ชาวยิวและชาวอาหรับมียีนร่วมกันมากกว่าใครในโลกนี้จะมี ผลจากอาชญากรรมอันรุนแรงที่อิสราเอลก่อ ทำให้เกิดความเกลียดชังชาวยิวพุ่งขึ้น ชาวยิวมากมายที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ในภูมิภาคอื่นที่ไม่ใช่อิสราเอล เริ่มเดือดร้อนและต่อต้าน พวกไซออนิสท์กลับนำคำคำหนึ่งมานิยามตราหน้าใครก็ตามที่เกลียดยิวว่า "Anti Semitism" ซึ่งยิ่งทำให้โลกทัศน์บิดเบี้ยวมากขึ้น จนในบัดนี้มีคนยิวในประเทศอื่นที่ทนไม่ได้กับบาปที่พวกเขาไม่ได้ก่อเริ่มออกมาต่อต้านกันมากขึ้นทุกทีและโต้แย้งว่าสิ่งที่พวกไซออนทำไม่ควรทำให้เกิด "Anti Semitism แต่เป็น Anti Zionism ต่างหาก"
    .
    คำว่า Anti Semitism ในที่นี้ หมายถึงอะไร? อิสราเอลตั้งใจจะให้หมายถึงการต่อต้านพวกที่พูดภาษา Semitic นั่นแหละ ปัญหาคือเซมิติคไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ภาษาฮิบรูของยิวเท่านั้น แต่พวกที่พูดภาษาสกุลเซมิติคยังหมายถึงภาษาอาราบิค อัมฮาริค ทิกรินยา อารามาอิค... ซึ่งพูดกันอยู่ในประชากรโลกมากกว่า 330 ล้านคน ทั้งยิวและปาเลสไตน์ต่างก็พูดภาษาในสกุลเซมิติคทั้งคู่ ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากดีเอ็นเอ ไม่เพียงพวกเขาก็เป็นพี่น้องกันแล้ว (Hg J / E) เมื่อพิจารณาจากทางภาษา พวกเขาก็เป็นพี่น้องกันอีก
    .
    คำว่า Semitic มาจากคำว่า Sem (Shem) ปรากฏในคัมภีร์ไบเบิ้ลบทปฐมกาล คือชื่อของบุตรชายคนหนึ่งของโนอาห์. พูดง่ายๆ พวกที่พูดภาษาสกุลเซมก็คือลูกหลานของโนอาห์นั่นแหละ
    คุณคิดว่ามันน่าเศร้าไหม ที่ลูกหลานโนอาห์เข่นฆ่ากันเอง
    หรือว่าที่จริงแล้วพวกอิสราเอลเป็นลูกหลานของคาอิน ไม่ใช่โนอาห์
    อีกครั้งที่ผมจะพูด
    ความแบ่งแยกคือความคิดของปีศาจ
    มันคือมูลเหตุของ Genocide ทั้งที่รวันดาและกาซ่าในตอนนี้
    .
    ยิวและปาเลสไตน์ ========== . การศึกษาที่ตีพิมพ์โดย National Academy of Sciences พบว่า "กลุ่มยีนของชุมชนชาวยิวจากยุโรป แอฟริกาเหนือ และตะวันออกกลาง.. สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษ 'ตะวันออกกลาง' ร่วมกัน" และแนะนำว่า "ชุมชนชาวยิวส่วนใหญ่ยังคงแยกตัวจากชุมชนที่ไม่ใช่ชาวยิวในละแวกใกล้เคียงค่อนข้างมาก ทั้งในช่วงอพยพและหลังการอพยพของชาวยิว" . นักพันธุศาสตร์ Doron Behar และเพื่อนร่วมงาน (2010) ระบุว่า "ข้อมูลนี้สอดคล้องกับการกำหนดทางประวัติศาสตร์ว่า ชาวยิวสืบเชื้อสายมาจากชาวอิสราเอลโบราณ" ประมาณ 35% ถึง 43% ของชายชาวยิวอยู่ในสายเลือดของบิดาที่เรียกว่ากลุ่มยีน Hg "J" และกลุ่มยีนย่อย. กลุ่มยีนนี้พบโดยเฉพาะในตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ แอฟริกาตะวันออก คอเคซัส และยุโรปตอนใต้ราว 15% ถึง 30% อยู่ในกลุ่มยีน Hg "E1b1b" (หรือ E-M35) [ Hg = Haplogroup ] . การศึกษาโดยใช้ดีเอ็นเอโครโมโซม Y ของชาวยิวชาย โดยพยายามสืบหาสายเลือดของนักบวชชาวยิว (โคฮานิม) จากบิดา ผลการศึกษาเผยให้เห็นแฮพโลไทป์โครโมโซม Y บรรพบุรุษร่วมกันเมื่อประมาณ 2,650 ปีก่อน ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของการทำลายวิหารแรกของเยรูซาเล็มในปี 586 ก่อนคริสตกาล และการกระจายตัวของนักบวช การศึกษาดีเอ็นเอไมโตคอนเดรียของประชากรชาวยิวเป็นการศึกษาที่ค่อนข้างใหม่ เป็นที่ถกเถียง และมีความหลากหลายมากกว่า . ส่วนชาวปาเลสไตน์ บันทึกทางประวัติศาสตร์และการศึกษาด้านพันธุกรรมในเวลาต่อมาบ่งชี้ว่าชาวปาเลสไตน์สืบเชื้อสายมาจากเลแวนไทน์โบราณเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งย้อนกลับไปถึงชาวเลแวนไทน์ในยุคสำริด การศึกษาในปี 2015 โดย Verónica Fernandes และคนอื่นๆ สรุปว่าชาวปาเลสไตน์มี "ต้นกำเนิดเป็นชนพื้นเมืองเป็นหลัก" . การศึกษาในปี 2020 เกี่ยวกับซากศพมนุษย์จากกลุ่มคนคานาอันในยุคสำริดกลาง (2100–1550 ปีก่อนคริสตกาล) ชี้ให้เห็นถึงความต่อเนื่องทางพันธุกรรมในระดับที่สำคัญในกลุ่มคนที่พูดภาษาอาหรับในเลวานไทน์ (เช่น ชาวปาเลสไตน์ ชาวดรูซ ชาวเลบานอน ชาวจอร์แดน ชาวเบดูอิน และชาวซีเรีย) พบว่าชาวปาเลสไตน์และกลุ่มคนเลวานไทน์อื่นๆ มีบรรพบุรุษ 81–87% มาจากเลวานไทน์ในยุคสำริด ซึ่งเกี่ยวข้องกับชาวคานาอันและอิทธิพลของวัฒนธรรมคูรา–อารักเซสตั้งแต่ก่อน 2400 ปีก่อนคริสตกาล (4400 ปีก่อนปัจจุบัน) 8–12% มาจากแหล่งแอฟริกาตะวันออก และ 5–10% มาจากชาวยุโรปในยุคสำริด . การศึกษาดีเอ็นเอครั้งหนึ่งโดย Nebel พบว่ามีการทับซ้อนกันทางพันธุกรรมอย่างมากในหมู่ชาวอาหรับอิสราเอล ปาเลสไตน์และชาวยิว เนเบลเสนอว่า "บางส่วนหรือบางทีอาจเป็นส่วนใหญ่" ของชาวปาเลสไตน์ที่เป็นมุสลิม สืบเชื้อสายมาจาก "ชาวพื้นเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคริสเตียนและยิวที่เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามหลังจากอิสลามพิชิตในคริสตศตวรรษที่ 7" . ในการศึกษาทางพันธุกรรมของ STR ที่มีโครโมโซม Y ในประชากรสองกลุ่มจากอิสราเอลและพื้นที่ปกครองปาเลสไตน์ พบว่าชาวปาเลสไตน์ที่เป็นคริสเตียนและมุสลิมแสดงความแตกต่างทางพันธุกรรมเล็กน้อย คริสเตียนปาเลสไตน์ส่วนใหญ่ (31.82%) เป็นกลุ่มย่อยของ Hg"E1b1b" รองลงมาคือ Hg"G2a" (11.36%) และ Hg"J1" (9.09%) ชาวมุสลิมปาเลสไตน์ส่วนใหญ่มียีนเป็นกลุ่มย่อยของ Hg"J1" (37.82%) รองลงมาคือ Hg"E1b1b" (19.33%) และ Hg"T" (5.88%) . ในปี 2004 ทีมนักพันธุศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กับมหาวิทยาลัยฮิบรูแห่งเยรูซาเล็ม มหาวิทยาลัยทาร์ทู (เอสโตเนีย) ศูนย์การแพทย์บาร์ซิไล (อัชเคลอน อิสราเอล) และศูนย์การแพทย์อัสซาฟ ฮาโรเฟห์ (เซริฟิน อิสราเอล) ทำการศึกษาชุมชนชาติพันธุ์ซามาริตันสมัยใหม่ที่อาศัยอยู่ในอิสราเอลโดยเปรียบเทียบกับประชากรอิสราเอลสมัยใหม่เพื่อสำรวจประวัติศาสตร์ทางพันธุกรรมโบราณของกลุ่มคนเหล่านี้ ผลการค้นพบของพวกเขารายงานถึงวงศ์ตระกูลสี่วงศ์ในหมู่ชาวซามาริตัน ได้แก่ ตระกูล Tsdaka, Joshua-Marhiv, Danfi และครอบครัว Cohen ครอบครัวชาวซามาริตันทั้งหมดพบในกลุ่มยีน Hg"J1" และ Hg"J2" ยกเว้นครอบครัว Cohen ซึ่งพบในกลุ่มยีน Hg"E3b1a-M78" ข้อมูลนี้มีเนื้อหาก่อนกลุ่มย่อย "E3b1a" โดยอิงตามการวิจัยของ Cruciani et al. (2006) . Mekel-Bobrov et al. (2005) ศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบยีน ASPM พบว่าชาว"ดรูซ"อิสราเอลในภูมิภาคคาร์เมล มีอัตราการเกิดกลุ่มยีน ASPM Hg D ที่เพิ่งวิวัฒนาการใหม่สูงที่สุด โดยมีการเกิดขึ้นของอัลลีลที่มีอายุประมาณ 6,000 ปีถึง 52.2% แม้ว่าจะยังไม่ทราบแน่ชัดว่ารูปแบบยีนนี้ให้ข้อได้เปรียบในการคัดเลือกอย่างไร แต่เชื่อกันว่าอัลลีลกลุ่มยีน Hg D ได้รับการคัดเลือกในเชิงบวกในประชากร และมอบข้อได้เปรียบที่สำคัญบางประการที่ทำให้ความถี่ของอัลลีลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว.. ตามการทดสอบ DNA ชาวดรูซโดดเด่นในเรื่องความถี่สูง (35%) ของผู้ชายที่มีกลุ่มยีน Y-chromosomal "L" ซึ่งไม่ธรรมดาในตะวันออกกลาง กลุ่มยีนนี้มีต้นกำเนิดมาจากเอเชียใต้ในยุคก่อนประวัติศาสตร์และแพร่กระจายจากปากีสถานไปยังอิหร่านตอนใต้ [ * อัลลีล (allele) คือรูปแบบหนึ่ง จากหลายๆ รูปแบบของยีนหนึ่ง บางครั้งอัลลีลที่แตกต่างกันอาจทำให้เกิดลักษณะที่แสดงออก เช่น สีตา สีผม ที่แตกต่างกันได้ บางครั้งอัลลีลที่แตกต่างกันอาจไม่ได้ทำให้มีลักษณะแสดงออกที่แตกต่างกันก็ได้ ] . มายาอคติที่ก่อให้เกิดขึ้นโดยพวกไซออนิสท์ที่ครอบงำชาวยิวในอิสราเอลทำให้พวกเขามืดบอด ทั้งที่ในทางวิทยาศาสตร์ ชาวยิวและชาวอาหรับมียีนร่วมกันมากกว่าใครในโลกนี้จะมี ผลจากอาชญากรรมอันรุนแรงที่อิสราเอลก่อ ทำให้เกิดความเกลียดชังชาวยิวพุ่งขึ้น ชาวยิวมากมายที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ในภูมิภาคอื่นที่ไม่ใช่อิสราเอล เริ่มเดือดร้อนและต่อต้าน พวกไซออนิสท์กลับนำคำคำหนึ่งมานิยามตราหน้าใครก็ตามที่เกลียดยิวว่า "Anti Semitism" ซึ่งยิ่งทำให้โลกทัศน์บิดเบี้ยวมากขึ้น จนในบัดนี้มีคนยิวในประเทศอื่นที่ทนไม่ได้กับบาปที่พวกเขาไม่ได้ก่อเริ่มออกมาต่อต้านกันมากขึ้นทุกทีและโต้แย้งว่าสิ่งที่พวกไซออนทำไม่ควรทำให้เกิด "Anti Semitism แต่เป็น Anti Zionism ต่างหาก" . คำว่า Anti Semitism ในที่นี้ หมายถึงอะไร? อิสราเอลตั้งใจจะให้หมายถึงการต่อต้านพวกที่พูดภาษา Semitic นั่นแหละ ปัญหาคือเซมิติคไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ภาษาฮิบรูของยิวเท่านั้น แต่พวกที่พูดภาษาสกุลเซมิติคยังหมายถึงภาษาอาราบิค อัมฮาริค ทิกรินยา อารามาอิค... ซึ่งพูดกันอยู่ในประชากรโลกมากกว่า 330 ล้านคน ทั้งยิวและปาเลสไตน์ต่างก็พูดภาษาในสกุลเซมิติคทั้งคู่ ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากดีเอ็นเอ ไม่เพียงพวกเขาก็เป็นพี่น้องกันแล้ว (Hg J / E) เมื่อพิจารณาจากทางภาษา พวกเขาก็เป็นพี่น้องกันอีก . คำว่า Semitic มาจากคำว่า Sem (Shem) ปรากฏในคัมภีร์ไบเบิ้ลบทปฐมกาล คือชื่อของบุตรชายคนหนึ่งของโนอาห์. พูดง่ายๆ พวกที่พูดภาษาสกุลเซมก็คือลูกหลานของโนอาห์นั่นแหละ คุณคิดว่ามันน่าเศร้าไหม ที่ลูกหลานโนอาห์เข่นฆ่ากันเอง หรือว่าที่จริงแล้วพวกอิสราเอลเป็นลูกหลานของคาอิน ไม่ใช่โนอาห์ อีกครั้งที่ผมจะพูด ความแบ่งแยกคือความคิดของปีศาจ มันคือมูลเหตุของ Genocide ทั้งที่รวันดาและกาซ่าในตอนนี้ .
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 543 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดหนังสือ กกต.เรียก สว.ไปรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมชี้แจงปมฮั้วเลือกตั้ง ให้ "อลงกต" แจง 19 พ.ค. เจ้าตัวยันพร้อมไปรับทราบข้อหา ด้าน “โชคชัย” จ่อขอเลื่อน

    วันนี้(9พ.ค.)นายอลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กลุ่ม 20 กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้หมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีฮั้วเลือก สว. เพราะบ้านที่ตนอยู่ปัจจุบันกับที่อยู่ตามทะเบียนบ้านเป็นคนละหลังกัน ส่วนจะไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกหรือไม่นั้น ต้องดูว่า เป็นหมายที่ออกภายใต้หมวกของใคร ถ้าเป็นหมวกของกกต.ก็พร้อมไปชี้แจง แต่ถ้าเป็นหมวกของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ก็ไม่ไป เพราะเขาไม่มีอำนาจเหนือเรา ทุกอย่างให้ว่าไปตามหมวก ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายเรียกดังกล่าวออกโดยมติของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ของ กกต. ที่มี กกต. ดีเอสไอ และปปง.ร่วมเป็นคณะกรรมการ นายอลงกตตอบว่า ถ้าเป็นหมายของกกต. ก็ถือเป็นหน้าที่ที่ต้องไปพบ เมื่อถามว่า มีความกังวลหรือไม่ นายอลงกตตอบว่า สว.มีทั้งคนรัก และคนชัง อย่าไปซีเรียส ส่วนสว.คนอื่น รวมถึงประธานและรองประธานวุฒิสภา ได้หมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ยังไม่ได้คุยกัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/politics/detail/9680000043476

    #MGROnline #กกต.
    เปิดหนังสือ กกต.เรียก สว.ไปรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมชี้แจงปมฮั้วเลือกตั้ง ให้ "อลงกต" แจง 19 พ.ค. เจ้าตัวยันพร้อมไปรับทราบข้อหา ด้าน “โชคชัย” จ่อขอเลื่อน • วันนี้(9พ.ค.)นายอลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กลุ่ม 20 กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้หมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีฮั้วเลือก สว. เพราะบ้านที่ตนอยู่ปัจจุบันกับที่อยู่ตามทะเบียนบ้านเป็นคนละหลังกัน ส่วนจะไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกหรือไม่นั้น ต้องดูว่า เป็นหมายที่ออกภายใต้หมวกของใคร ถ้าเป็นหมวกของกกต.ก็พร้อมไปชี้แจง แต่ถ้าเป็นหมวกของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ก็ไม่ไป เพราะเขาไม่มีอำนาจเหนือเรา ทุกอย่างให้ว่าไปตามหมวก ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายเรียกดังกล่าวออกโดยมติของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ของ กกต. ที่มี กกต. ดีเอสไอ และปปง.ร่วมเป็นคณะกรรมการ นายอลงกตตอบว่า ถ้าเป็นหมายของกกต. ก็ถือเป็นหน้าที่ที่ต้องไปพบ เมื่อถามว่า มีความกังวลหรือไม่ นายอลงกตตอบว่า สว.มีทั้งคนรัก และคนชัง อย่าไปซีเรียส ส่วนสว.คนอื่น รวมถึงประธานและรองประธานวุฒิสภา ได้หมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ยังไม่ได้คุยกัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/politics/detail/9680000043476 • #MGROnline #กกต.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีมาครง แห่งฝรั่งเศส ยืนให้การต้อนรับ อัล-โจลานี อดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้าย HTS ที่มีรางวัลนำจับสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ และขณะนี้แต่งตั้งตนเองเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของซีเรีย หลังจากโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีอัสซาดที่มาจากการเลือกตั้ง
    ประธานาธิบดีมาครง แห่งฝรั่งเศส ยืนให้การต้อนรับ อัล-โจลานี อดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้าย HTS ที่มีรางวัลนำจับสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ และขณะนี้แต่งตั้งตนเองเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของซีเรีย หลังจากโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีอัสซาดที่มาจากการเลือกตั้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts