• ตำรวจออสเตรเลียเปิดเผยความคืบหน้าเหตุ กราดยิงงานฉลองเทศกาลฮานุกกะห์ของชาวยิว ที่หาดบอนได เมืองซิดนีย์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2568 และถือเป็นเหตุกราดยิงรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีของประเทศ
    .
    ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2568 เวลา 21.55 น. ทางการออสเตรเลียระบุว่า คนร้ายเป็น พ่อ–ลูก โดยพบข้อมูลว่า ทั้งสองเพิ่งเดินทางไป ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และเชื่อว่าอาจได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดของ กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
    .
    เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย รวมถึงมือปืนผู้เป็นพ่อที่ถูกตำรวจวิสามัญ ขณะที่มือปืนผู้เป็นลูกได้รับบาดเจ็บสาหัสและอยู่ระหว่างการรักษา ทั้งนี้ตำรวจพบ อุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่องและสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับไอเอส ภายในรถของคนร้าย
    .
    นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโทนี แอลเบนีส ระบุว่า เหตุโจมตีครั้งนี้มีลักษณะเป็นการก่อการร้ายที่พุ่งเป้าไปยัง ชุมชนชาวยิว พร้อมประกาศทบทวนมาตรการควบคุมอาวุธปืน หลังพบว่ามือปืนผู้พ่อมีใบอนุญาตครอบครองปืนถูกต้องและมีอาวุธจดทะเบียนหลายกระบอก
    .
    ทางการยังอยู่ระหว่างขยายผลสอบสวนเส้นทางการเดินทาง ความเชื่อมโยงกับกลุ่มหัวรุนแรง และกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางความคิดของผู้ก่อเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยในอนาคต
    .
    อ่านต่อ >>> https://news1live.com/detail/9680000121193
    .
    #News1live #News1 #กราดยิงบอนได #Australia #ก่อการร้าย #กลุ่มรัฐอิสลาม #ความมั่นคงโลก
    ตำรวจออสเตรเลียเปิดเผยความคืบหน้าเหตุ กราดยิงงานฉลองเทศกาลฮานุกกะห์ของชาวยิว ที่หาดบอนได เมืองซิดนีย์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2568 และถือเป็นเหตุกราดยิงรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีของประเทศ . ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2568 เวลา 21.55 น. ทางการออสเตรเลียระบุว่า คนร้ายเป็น พ่อ–ลูก โดยพบข้อมูลว่า ทั้งสองเพิ่งเดินทางไป ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และเชื่อว่าอาจได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดของ กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) . เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย รวมถึงมือปืนผู้เป็นพ่อที่ถูกตำรวจวิสามัญ ขณะที่มือปืนผู้เป็นลูกได้รับบาดเจ็บสาหัสและอยู่ระหว่างการรักษา ทั้งนี้ตำรวจพบ อุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่องและสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับไอเอส ภายในรถของคนร้าย . นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโทนี แอลเบนีส ระบุว่า เหตุโจมตีครั้งนี้มีลักษณะเป็นการก่อการร้ายที่พุ่งเป้าไปยัง ชุมชนชาวยิว พร้อมประกาศทบทวนมาตรการควบคุมอาวุธปืน หลังพบว่ามือปืนผู้พ่อมีใบอนุญาตครอบครองปืนถูกต้องและมีอาวุธจดทะเบียนหลายกระบอก . ทางการยังอยู่ระหว่างขยายผลสอบสวนเส้นทางการเดินทาง ความเชื่อมโยงกับกลุ่มหัวรุนแรง และกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางความคิดของผู้ก่อเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยในอนาคต . อ่านต่อ >>> https://news1live.com/detail/9680000121193 . #News1live #News1 #กราดยิงบอนได #Australia #ก่อการร้าย #กลุ่มรัฐอิสลาม #ความมั่นคงโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯส่งฝูงบินเอฟ-16 ของกองทัพอากาศ บินว่อนเหนือน่านฟ้าตอนกลางของซีเรีย ในความเคลื่อนไหวสำแดงกำลัง ตามหลังมือปืนรายหนึ่งที่เชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ก่อเหตุซุ่มสังหารทหารสหรัฐฯ 2 นายและพลเมืองอเมริการายหนึ่ง เมื่อวันเสาร์(13ธ.ค.) ที่ผ่านมา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000120369

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สหรัฐฯส่งฝูงบินเอฟ-16 ของกองทัพอากาศ บินว่อนเหนือน่านฟ้าตอนกลางของซีเรีย ในความเคลื่อนไหวสำแดงกำลัง ตามหลังมือปืนรายหนึ่งที่เชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ก่อเหตุซุ่มสังหารทหารสหรัฐฯ 2 นายและพลเมืองอเมริการายหนึ่ง เมื่อวันเสาร์(13ธ.ค.) ที่ผ่านมา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000120369 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์เปิดเผยวิดีโอการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอสในโซมาเลียว่า พร้อมประกาศ "ผมจะตามหาจนเจอและกำจัดให้สิ้นซาก!"

    ทรัมป์ประกาศว่าการโจมตีทางอากาศของกองทัพสหรัฐฯ มีเป้าหมายไปที่ผู้วางแผนการโจมตีระดับสูงของกลุ่มไอเอสและผู้ก่อการร้ายคนอื่นๆ ในโซมาเลีย เขาย้ำถึงแนวทางไม่ยอมประนีประนอมของเขาต่อกลุ่มไอซิส

    การเคลื่อนไหวของทรัมป์ ตอกย้ำจุดยืนที่แข็งกร้าวและเด็ดขาดของเขาในการต่อสู้กับภัยคุกคามจากผู้ก่อการร้าย

    ทรัมป์ยังกล่าวโทษรัฐบาลไบเดนที่ไม่ยอมลงมือกำจัดกลุ่มไอซิส "กองทัพของเราเล็งเป้าหมายผู้วางแผนของกลุ่มรัฐอิสลามมานานหลายปี ไบเดนและพรรคพวกกลับไม่ทำอะไรให้สำเร็จ แต่ผมทำแล้ว"
    ทรัมป์เปิดเผยวิดีโอการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอสในโซมาเลียว่า พร้อมประกาศ "ผมจะตามหาจนเจอและกำจัดให้สิ้นซาก!" ทรัมป์ประกาศว่าการโจมตีทางอากาศของกองทัพสหรัฐฯ มีเป้าหมายไปที่ผู้วางแผนการโจมตีระดับสูงของกลุ่มไอเอสและผู้ก่อการร้ายคนอื่นๆ ในโซมาเลีย เขาย้ำถึงแนวทางไม่ยอมประนีประนอมของเขาต่อกลุ่มไอซิส การเคลื่อนไหวของทรัมป์ ตอกย้ำจุดยืนที่แข็งกร้าวและเด็ดขาดของเขาในการต่อสู้กับภัยคุกคามจากผู้ก่อการร้าย ทรัมป์ยังกล่าวโทษรัฐบาลไบเดนที่ไม่ยอมลงมือกำจัดกลุ่มไอซิส "กองทัพของเราเล็งเป้าหมายผู้วางแผนของกลุ่มรัฐอิสลามมานานหลายปี ไบเดนและพรรคพวกกลับไม่ทำอะไรให้สำเร็จ แต่ผมทำแล้ว"
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • พบ 'ชามซุด-ดิน จาบบาร์' ชาวเทกซัสวัย 42 ปี ที่ถูกกล่าวหาขับรถกระบะพุ่งชนผู้คนที่กำลังฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในนิวออร์ลีนส์ เคยรับใช้กองทัพสหรัฐฯ นานกว่า 13 ปี ในนั้นรวมถึงประจำการในอัฟกานิสถาน ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตของเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 15 ราย และบาดเจ็บหลายสิบคน
    .
    พวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจากรัฐบาลกลางและในระดับท้องถิ่นในนิวออร์ลีนส์ เชื่อว่า จาบบาร์ ไม่ได้ลงมือเพียงลำพังและกำลังตามล่าพวกผู้สมคบคิด ส่วนทางเอฟบีไอเผยว่า จาบบาร์ มีธงของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ผืนหนึ่งในรถกระบะและพวกเขามองเหตุโจมตีครั้งนี้ เป็นไปได้ว่าอาจเป็นการก่อการร้าย
    .
    ในขณะที่ยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอธิบายได้ว่าทำไม จาบบาร์ พลเมืองสหรัฐฯ ที่ว่ากันว่าเกิดและเติบโตในเทกซัส ถึงลงมือโจมตีในนิวออร์ลีนส์ ทั้งนี้ จาบบาร์ เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ หลังยิงปะทะกับตำรวจ
    .
    เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกองทัพเผยว่า จาบบาร์ เคยสังกัดกองทัพสหรัฐฯ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรมนุษย์และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2015 จากนั้นเขาก็เข้าร่วมในทหารกองหนุน ฐานะผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านไอที จนถึงปี 2020 มียศสิบโทในช่วงท้ายของการรับราชการทหาร
    .
    นอกจากนี้ จาบบาร์ ยังคงประจำการในอัฟกานิสถาน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2009 ถึงเดือนมกราคม 2010 จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่
    .
    ก่อนรับใช้กองทัพบก เคยสมัครเข้าร่วมกองทัพเรือในเดือนสิงหาคม 2004 ภายใต้โครงการ delayed entry program (โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อรับรองทหารเกณฑ์ใหม่เข้าสู่กองทัพ ก่อนส่งไปฝึกขั้นพื้นฐาน" แต่เขาถูกปลดออกในอีก 1 เดือนต่อมา จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กองทัพเรือรายหนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
    .
    ขณะเดียวกัน ในประวัตินิติบุคคล ยังพบว่า จาบบาร์ เกี่ยวข้องกับหลายธุรกิจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์
    .
    เอฟบีไอ เชื่อว่า จาบบาร์ เช่ารถกระบะฟอร์ด ที่เขาใช้ขับพุ่งชนฝูงชนในย่านเฟรนช์ ควอเตอร์ ของนิวออร์ลีนส์ ในช่วงเช้ามืดของวันพุธ (1 ม.ค.) จากนั้นก็เปิดฉากยิงใส่ตำรวจ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 35 รายและเสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน ก่อนที่ต่อมาเอฟบีไอ ได้มีการปรับเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 15 ราย
    .
    การพบธงของไอเอสในรถกระบะ กระตุ้นให้มีการสืบสวนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้าย นอกจากนี้ ทีมสืบสวนยังพบอาวุธและวัตถุต้องสงสัยที่เป็นไปได้ว่าจะเป็นวัตถุระเบิดในยานพาหนะคันดังกล่าว เช่นเดียวกับวัตถุต้องสงสัยอื่นๆ ที่อาจเป็นวัตถุระเบิดในย่านเฟรนช์ ควอเตอร์ ด้วย
    .
    "เราไม่เชื่อว่าจาบบาร์ อยู่เบื้องหลังเพียงคนเดียว เรากำลังไล่ล่าเชิงรุกในทุกเบาะแส ในนั้นรวมถึงพวกที่ทราบว่ามั่วสุมคลุกคลีกับเขา" อเลเทีย ดันแคน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเอฟบีไอระบุ
    .
    จากบันทึกของศาล พบว่า จาบบาร์ หย่าร้างในปี 2022 หลังจากแยกกันอยู่กับภรรยามา 5 ปี ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 1 คน
    .
    ดูเหมือนว่า เขาไม่มีประวัติก่ออาชญากรรมรุนแรงใดๆ ก่อนลงมือโจมตี โดย จาบาร์ เคยโดนเพียงแค่ข้อหาความผิดลหุโทษในปี 2022 ฐานขโมยทรัพย์สิน และเคยถูกจับในปี 2005 ฐานขับขี่โดยใบอนุญาตหมดอายุ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000236
    ..............
    Sondhi X
    พบ 'ชามซุด-ดิน จาบบาร์' ชาวเทกซัสวัย 42 ปี ที่ถูกกล่าวหาขับรถกระบะพุ่งชนผู้คนที่กำลังฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในนิวออร์ลีนส์ เคยรับใช้กองทัพสหรัฐฯ นานกว่า 13 ปี ในนั้นรวมถึงประจำการในอัฟกานิสถาน ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตของเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 15 ราย และบาดเจ็บหลายสิบคน . พวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจากรัฐบาลกลางและในระดับท้องถิ่นในนิวออร์ลีนส์ เชื่อว่า จาบบาร์ ไม่ได้ลงมือเพียงลำพังและกำลังตามล่าพวกผู้สมคบคิด ส่วนทางเอฟบีไอเผยว่า จาบบาร์ มีธงของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ผืนหนึ่งในรถกระบะและพวกเขามองเหตุโจมตีครั้งนี้ เป็นไปได้ว่าอาจเป็นการก่อการร้าย . ในขณะที่ยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอธิบายได้ว่าทำไม จาบบาร์ พลเมืองสหรัฐฯ ที่ว่ากันว่าเกิดและเติบโตในเทกซัส ถึงลงมือโจมตีในนิวออร์ลีนส์ ทั้งนี้ จาบบาร์ เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ หลังยิงปะทะกับตำรวจ . เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกองทัพเผยว่า จาบบาร์ เคยสังกัดกองทัพสหรัฐฯ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรมนุษย์และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2015 จากนั้นเขาก็เข้าร่วมในทหารกองหนุน ฐานะผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านไอที จนถึงปี 2020 มียศสิบโทในช่วงท้ายของการรับราชการทหาร . นอกจากนี้ จาบบาร์ ยังคงประจำการในอัฟกานิสถาน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2009 ถึงเดือนมกราคม 2010 จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ . ก่อนรับใช้กองทัพบก เคยสมัครเข้าร่วมกองทัพเรือในเดือนสิงหาคม 2004 ภายใต้โครงการ delayed entry program (โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อรับรองทหารเกณฑ์ใหม่เข้าสู่กองทัพ ก่อนส่งไปฝึกขั้นพื้นฐาน" แต่เขาถูกปลดออกในอีก 1 เดือนต่อมา จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กองทัพเรือรายหนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ . ขณะเดียวกัน ในประวัตินิติบุคคล ยังพบว่า จาบบาร์ เกี่ยวข้องกับหลายธุรกิจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ . เอฟบีไอ เชื่อว่า จาบบาร์ เช่ารถกระบะฟอร์ด ที่เขาใช้ขับพุ่งชนฝูงชนในย่านเฟรนช์ ควอเตอร์ ของนิวออร์ลีนส์ ในช่วงเช้ามืดของวันพุธ (1 ม.ค.) จากนั้นก็เปิดฉากยิงใส่ตำรวจ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 35 รายและเสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน ก่อนที่ต่อมาเอฟบีไอ ได้มีการปรับเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 15 ราย . การพบธงของไอเอสในรถกระบะ กระตุ้นให้มีการสืบสวนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้าย นอกจากนี้ ทีมสืบสวนยังพบอาวุธและวัตถุต้องสงสัยที่เป็นไปได้ว่าจะเป็นวัตถุระเบิดในยานพาหนะคันดังกล่าว เช่นเดียวกับวัตถุต้องสงสัยอื่นๆ ที่อาจเป็นวัตถุระเบิดในย่านเฟรนช์ ควอเตอร์ ด้วย . "เราไม่เชื่อว่าจาบบาร์ อยู่เบื้องหลังเพียงคนเดียว เรากำลังไล่ล่าเชิงรุกในทุกเบาะแส ในนั้นรวมถึงพวกที่ทราบว่ามั่วสุมคลุกคลีกับเขา" อเลเทีย ดันแคน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเอฟบีไอระบุ . จากบันทึกของศาล พบว่า จาบบาร์ หย่าร้างในปี 2022 หลังจากแยกกันอยู่กับภรรยามา 5 ปี ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 1 คน . ดูเหมือนว่า เขาไม่มีประวัติก่ออาชญากรรมรุนแรงใดๆ ก่อนลงมือโจมตี โดย จาบาร์ เคยโดนเพียงแค่ข้อหาความผิดลหุโทษในปี 2022 ฐานขโมยทรัพย์สิน และเคยถูกจับในปี 2005 ฐานขับขี่โดยใบอนุญาตหมดอายุ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000236 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2356 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชายชาวเทกซัสวัย 42 ปี ก่อเหตุขับรถกระบะพุ่งใส่ฝูงชนที่กำลังฉลองขึ้นปีใหม่ในย่านเฟรนช์ควอเตอร์ในนิวออร์ลีนส์ จากนั้นก็เปิดฉากยิงใส่ตำรวจ ปลิดชีพผู้คนไปอย่างน้อย 10 ราย และบาดเจ็บ 35 คน ในเหตุโจมตีตอนเช้ามืดที่ทางเอฟบีไอระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจเป็นการก่อการร้าย
    .
    คนขับรถซึ่งเอฟบีไอระบุมีชื่อว่า ชามซุด-ดิน จาบบาร์ พลเมืองสหรัฐฯ จากเทกซัส เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หลังยิงปะทะกับตำรวจ และอาจมีคนอื่นร่วมมือด้วย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่้
    .
    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอน 3.15 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเมืองไทย 16.15 น.) ณ แยกถนนคานาลตัดกับถนนเบอร์บอน จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ในย่านเฟรนช์ควอเตอร์ของเมืองนิวออร์ลีนส์ ซึ่งมีการแสดงดนตรี และบาร์ดึงดูดผู้คนจำนวนมาก
    .
    ธงของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ถูกพบในรถกระบะคันที่เกิดเหตุ กระตุ้นให้มีการสืบสวนความเป็นไปได้ที่จะเกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้าย จากถ้อยแถลงของเอฟบีไอ พร้อมระบุว่ารถกระบะคันนี้ดูเหมือนเป็นยานพาหนะที่เช่ามา
    .
    "เราไม่เชื่อว่าจาบบาร์ อยู่เบื้องหลังเพียงคนเดียว เรากำลังไล่ล่าเชิงรุกในทุกเบาะแส ในนั้นรวมถึงพวกที่รู้ว่ามั่วสุมคลุกคลีกับเขา" อเลเทีย ดันแคน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเอฟบีไอระบุ พร้อมเผยด้วยว่าทีมสืบสวนพบอาวุธและเป็นไปได้ว่าจะเป็นวัตถุระเบิดชิ้นหนึ่งในรถกระบะ นอกจากนี้ ยังพบวัตถุต้องสงสัยอื่นๆ เป็นไปได้ว่าจะเป็นวัตถุระเบิดในย่านเฟรช์ควอเตอร์ และระเบิด 2 ลูกถูกกำจัดแล้ว
    .
    ดันแคน ยืนยันยอดผู้เสียชีวิต 10 ราย หลังจากสมาชิกสภาคองเกรสรายหนึ่ง บอกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงกว่านี้
    .
    เจ้าหน้าที่เลื่อนการแข่งขัน "ชูการ์โบว์ล" ศึกอเมริกันฟุตบอล รอบชิงชนะเลิศในระดับมหาวิทยาลัย ที่มีกำหนดเล่นกันในนิวออร์ลีนส์ ในทุกๆ ปีของวันขึ้นปีใหม่ ออกไป 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ เมืองแห่งนี้ยังมีคิวรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันศึกอเมริกันฟุตบอลระดับอาชีพ NFL รอบชิงชนะเลิศ หรือซูเปอร์โบว์ล ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์
    .
    ผู้นำของเมืองรายหนึ่งเล่าว่า คนร้ายมาในชุดเครื่องแบบทหารเต็มขั้น ขณะที่ แอนน์ เคิร์คแพทริค ผู้บัญชาการตำรวจแถลงข่าวว่า "มันไม่ใช่แค่การก่อการร้าย แต่มันเป็นปีศาจ เขามุ่งหน้าแบบไม่ยอมถอยกลับในการสังหารหมู่และก่อความเสียหาย"
    .
    เคิร์คแพทริค บอกว่าหลังจากหักเลี้ยวรถไปชนรั้วกั้น คนร้ายควักปืนลั่นไกยิงออกมาจากตัวรถเข้าใส่พวกเจ้าหน้าที่ ทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 ราย อย่างไรก็ตาม อาการของทั้งคู่ทรงตัวแล้ว ขณะที่ตำรวจเผยว่ามีเจ้าหน้าที่ 400 ราย ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่เฟรนช์ ควอเตอร์ ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ
    .
    "มันเป็นสถานการณ์ที่อ่อนไหว และเราอยู่ระหว่างประสานงานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นและระดับรัฐบาลกลาง เพื่อรับประกันการสืบสวนอย่างครบถ้วนและละเอียด เพื่อนำตัวพวกที่อาจเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์นี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม" เจฟฟ์ แลนดรี ผู้ว่าการรัฐลุยเซียนากล่าวบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์
    .
    สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่าพวกผู้ได้รับบาดเจ็บถูกระจายส่งโรงพยาบาลอย่างน้อย 5 แห่ง ขณะที่ซีบีเอสนิวส์ รายงานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า พวกเขาได้ยินเสียงชนดังสนั่นจากถนนสายดังกล่าว และพบเห็นรถกระบะสีข่าวพุ่งชนแนวกั้นด้วยความเร็วสูง
    .
    ในการตอบสนองต่อเหตุขับรถโจมตีถนนคนเดินหลายต่อหลายเหตุการณ์ทั่วโลก ทางเมืองนิวออร์ลีนส์ อยู่ระหว่างดำเนินการรื้อถอนและติดตั้งใหม่แนวกั้นเหล็กที่เรียกว่าระบบเสากั้น (bollards) ที่ไว้กั้นการสัญจรของยานพาหนะในเขตคนเดินถนนบนถนนเบอร์บอน อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าโครงการดังกล่าวมีความคืบหน้าไปถึงไหนตอนที่เกิดเหตุโจมตีในวันพุธ (1 ม.ค.)
    .
    โครงการก่อสร้างนี้เริ่มในเดือนพฤศจิกายน 2024 และมีกำหนดเดินหน้าไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2025 อ้างอิงข้อมูลบนเว็บไซต์ของเมือง
    .
    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ต่อโทรศัพท์หานายกเทศมนตรีของเมือง แสดงจุดยืนว่ารัฐบาลกลางพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ขณะที่ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บอกว่ารัฐบาลของเขาจะช่วยนิวออร์ลันส์ สืบสวนและฟื้นตัว จากสิ่งที่เขาเรียกว่าการกระทำที่ชั่วช้า
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000231
    ..............
    Sondhi X
    ชายชาวเทกซัสวัย 42 ปี ก่อเหตุขับรถกระบะพุ่งใส่ฝูงชนที่กำลังฉลองขึ้นปีใหม่ในย่านเฟรนช์ควอเตอร์ในนิวออร์ลีนส์ จากนั้นก็เปิดฉากยิงใส่ตำรวจ ปลิดชีพผู้คนไปอย่างน้อย 10 ราย และบาดเจ็บ 35 คน ในเหตุโจมตีตอนเช้ามืดที่ทางเอฟบีไอระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจเป็นการก่อการร้าย . คนขับรถซึ่งเอฟบีไอระบุมีชื่อว่า ชามซุด-ดิน จาบบาร์ พลเมืองสหรัฐฯ จากเทกซัส เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หลังยิงปะทะกับตำรวจ และอาจมีคนอื่นร่วมมือด้วย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่้ . เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอน 3.15 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเมืองไทย 16.15 น.) ณ แยกถนนคานาลตัดกับถนนเบอร์บอน จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ในย่านเฟรนช์ควอเตอร์ของเมืองนิวออร์ลีนส์ ซึ่งมีการแสดงดนตรี และบาร์ดึงดูดผู้คนจำนวนมาก . ธงของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ถูกพบในรถกระบะคันที่เกิดเหตุ กระตุ้นให้มีการสืบสวนความเป็นไปได้ที่จะเกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้าย จากถ้อยแถลงของเอฟบีไอ พร้อมระบุว่ารถกระบะคันนี้ดูเหมือนเป็นยานพาหนะที่เช่ามา . "เราไม่เชื่อว่าจาบบาร์ อยู่เบื้องหลังเพียงคนเดียว เรากำลังไล่ล่าเชิงรุกในทุกเบาะแส ในนั้นรวมถึงพวกที่รู้ว่ามั่วสุมคลุกคลีกับเขา" อเลเทีย ดันแคน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเอฟบีไอระบุ พร้อมเผยด้วยว่าทีมสืบสวนพบอาวุธและเป็นไปได้ว่าจะเป็นวัตถุระเบิดชิ้นหนึ่งในรถกระบะ นอกจากนี้ ยังพบวัตถุต้องสงสัยอื่นๆ เป็นไปได้ว่าจะเป็นวัตถุระเบิดในย่านเฟรช์ควอเตอร์ และระเบิด 2 ลูกถูกกำจัดแล้ว . ดันแคน ยืนยันยอดผู้เสียชีวิต 10 ราย หลังจากสมาชิกสภาคองเกรสรายหนึ่ง บอกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงกว่านี้ . เจ้าหน้าที่เลื่อนการแข่งขัน "ชูการ์โบว์ล" ศึกอเมริกันฟุตบอล รอบชิงชนะเลิศในระดับมหาวิทยาลัย ที่มีกำหนดเล่นกันในนิวออร์ลีนส์ ในทุกๆ ปีของวันขึ้นปีใหม่ ออกไป 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ เมืองแห่งนี้ยังมีคิวรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันศึกอเมริกันฟุตบอลระดับอาชีพ NFL รอบชิงชนะเลิศ หรือซูเปอร์โบว์ล ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ . ผู้นำของเมืองรายหนึ่งเล่าว่า คนร้ายมาในชุดเครื่องแบบทหารเต็มขั้น ขณะที่ แอนน์ เคิร์คแพทริค ผู้บัญชาการตำรวจแถลงข่าวว่า "มันไม่ใช่แค่การก่อการร้าย แต่มันเป็นปีศาจ เขามุ่งหน้าแบบไม่ยอมถอยกลับในการสังหารหมู่และก่อความเสียหาย" . เคิร์คแพทริค บอกว่าหลังจากหักเลี้ยวรถไปชนรั้วกั้น คนร้ายควักปืนลั่นไกยิงออกมาจากตัวรถเข้าใส่พวกเจ้าหน้าที่ ทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 ราย อย่างไรก็ตาม อาการของทั้งคู่ทรงตัวแล้ว ขณะที่ตำรวจเผยว่ามีเจ้าหน้าที่ 400 ราย ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่เฟรนช์ ควอเตอร์ ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ . "มันเป็นสถานการณ์ที่อ่อนไหว และเราอยู่ระหว่างประสานงานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นและระดับรัฐบาลกลาง เพื่อรับประกันการสืบสวนอย่างครบถ้วนและละเอียด เพื่อนำตัวพวกที่อาจเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์นี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม" เจฟฟ์ แลนดรี ผู้ว่าการรัฐลุยเซียนากล่าวบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ . สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่าพวกผู้ได้รับบาดเจ็บถูกระจายส่งโรงพยาบาลอย่างน้อย 5 แห่ง ขณะที่ซีบีเอสนิวส์ รายงานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า พวกเขาได้ยินเสียงชนดังสนั่นจากถนนสายดังกล่าว และพบเห็นรถกระบะสีข่าวพุ่งชนแนวกั้นด้วยความเร็วสูง . ในการตอบสนองต่อเหตุขับรถโจมตีถนนคนเดินหลายต่อหลายเหตุการณ์ทั่วโลก ทางเมืองนิวออร์ลีนส์ อยู่ระหว่างดำเนินการรื้อถอนและติดตั้งใหม่แนวกั้นเหล็กที่เรียกว่าระบบเสากั้น (bollards) ที่ไว้กั้นการสัญจรของยานพาหนะในเขตคนเดินถนนบนถนนเบอร์บอน อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าโครงการดังกล่าวมีความคืบหน้าไปถึงไหนตอนที่เกิดเหตุโจมตีในวันพุธ (1 ม.ค.) . โครงการก่อสร้างนี้เริ่มในเดือนพฤศจิกายน 2024 และมีกำหนดเดินหน้าไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2025 อ้างอิงข้อมูลบนเว็บไซต์ของเมือง . ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ต่อโทรศัพท์หานายกเทศมนตรีของเมือง แสดงจุดยืนว่ารัฐบาลกลางพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ขณะที่ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บอกว่ารัฐบาลของเขาจะช่วยนิวออร์ลันส์ สืบสวนและฟื้นตัว จากสิ่งที่เขาเรียกว่าการกระทำที่ชั่วช้า . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000231 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1799 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาห์เมด อัล-ชารา ผู้นำโดยพฤตินัยของซีเรีย แย้มอาจใช้เวลาสูงสุด 4 ปึ แล้วถึงจัดการเลือกตั้ง จากความเห็นที่เผยแพร่ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ ถือเป็นครั้งแรกที่เขาพูดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของกรอบเวลาในการเลือกตั้ง นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ถูกโค่นอำนาจไปในช่วงต้นเดือน
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์อัล อาราบิยา สื่อมวลชนแห่งรัฐของซาอุดีอาระเบีย ทาง ชารา บอกว่าการร่างรัฐธรรมนูญใหม่อาจใช้เวลาสูงสุด 3 ปี นอกจากนี้ เขายังระบุด้วยว่าอาจต้องใช้เวลาราว 1 ปี ชาวซีเรียถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างสุดขั้ว
    .
    ความเห็นจากชารา ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม ที่โค่นล้มอัสซาด เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลใหม่ในดามัสกัส กำลังหาทางรับประกันกับบรรดาประเทศเพื่อนบ้านว่า พวกเขากำลังถอยห่างจากรากเหง้าหัวรุนแรงอิสลามิสต์
    .
    ยุทธการจู่โจมสายฟ้าแลบของทางกลุ่ม นำมาซึ่งจุดจบสงครามกลางเมือง แต่ขณะเดียวกันก็ทิ้งไว้ซึ่งคำถามต่างๆ มากมายเกี่ยวกับอนาคตของประเทศที่ประกอบด้วยผู้คนหลายชาติพันธุ์แห่งนี้ ดินแดนที่ต่างชาติ ในนั้นรวมถึงตุรกีและรัสเซียแย่งชิงผลประโยชน์กันอย่างเต็มที่
    .
    ในขณะที่มหาอำนาจตะวันตกแสดงความยินดีเป็นส่วนใหญ่ต่อการสิ้นสุดระบอบการปกครองของตระกูลอัสซาดในซีเรีย แต่มันยังคงไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทางกลุ่มจะกำหนดกฎหมายอิสลามิกอันเข้มงวดหรือไม่ หรือแสดงความยืดหยุ่น พร้อมกับมุ่งหน้าสู่ประชาธิปไตย
    .
    ชารา กล่าวว่า กลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม ที่มีชื่อเดิมว่า นุสรา ฟอนต์ จะถุกยุบ ณ ที่ประชุมระดับชาติแห่งหนึ่ง และพอถูกถามเกี่ยวกับการยุบกลุ่ม ชารา ระบุว่า "แน่นอน ประเทศแห่งนี้ไม่อาจบริหารโดยความคิดของกลุ่มและพวกติดอาวุธ"
    .
    ทางกลุ่มครั้งหนึ่งเคยมีความใกล้ชิดกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) และกลุ่มอัล-กออิดะห์ ทว่านับตั้งแต่นั้นได้ประกาศละทิ้งทั้ง 2 กลุ่ม และหาทางวางสถานะใหม่ของตนเอง ในฐานะขุมกำลังสายกลาง
    .
    พวกเขาประกาศซ้ำๆ ว่าจะปกป้องชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ ซึ่งหวั่นเกรงว่าพวกผู้ปกครองใหม่อาจหาทางจัดตั้งรัฐบาลอิสลามิสต์ และเตือนถึงความพยายามปลุกระดมความขัดแย้งระหว่างนิกาย
    .
    ชารา บอกว่าที่ประชุมระดับชาติ จะมีผู้เข้าร่วมอย่างกว้างวางในสังคมซีเรีย โดยที่จะมีการลงมติในประเด็นต่างๆ อย่างเช่นยุบสภาและฉีกรัฐธรรมนูญ
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์ ทาง ชารา ยืนยันด้วยว่า ซีเรียมีผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ร่วมกับรัสเซีย พันธมิตรใกล้ชิดของอัสซาดระหว่างสงครามกลางเมือง และมีฐานทัพทหารในประเทศแห่งนี้ เน้นย้ำจุดยืนจะผูกไมตรีกับมอสโก แบบเดียวกับที่รัฐบาลของเขาเคยส่งสัญญาณก่อนหน้านี้
    .
    เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ชารา ระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างซีเรียกับรัสเซีย ควรรับใช้ผลประโยชน์ร่วม ในขณะที่ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย บอกว่าสถานะของฐานทัพรัสเซียจะขึ้นอยู่กับการเจรจากับผู้นำคนใหม่ในดามัสกัส
    .
    "คำถามไม่ใช่แค่ว่าจะคงไว้ซึ่งฐานทัพหรือป้อมปราการของเราหรือไม่ แต่ยังรวมไปถึงสภาพแวดล้อมด้านปฏิบัติการ การบำรุงรักษาและข้อกำหนดของฐานทัพหรือป้อมปราการเหล่านั้น เช่นเดียวกับการสื่อสารกับพวกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น" ลาฟรอฟ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอาร์ไอเอ
    .
    แม้ส่งสัญญาณสานสัมพันธ์กับรัสเซีย แต่ทาง ชารา ยังแสดงความหวังว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานซีเรีย หลังจากพวกนักการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนกรุงดามัสกัส เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา เผยว่า วอชิงตันตัดสินใจยกเลิกเงินค่าหัว 10 ล้านดอลลาร์ ที่ตั้งไว้สำหรับผู้นำกลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม รายนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000124985
    ..................
    Sondhi X
    อาห์เมด อัล-ชารา ผู้นำโดยพฤตินัยของซีเรีย แย้มอาจใช้เวลาสูงสุด 4 ปึ แล้วถึงจัดการเลือกตั้ง จากความเห็นที่เผยแพร่ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ ถือเป็นครั้งแรกที่เขาพูดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของกรอบเวลาในการเลือกตั้ง นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ถูกโค่นอำนาจไปในช่วงต้นเดือน . ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์อัล อาราบิยา สื่อมวลชนแห่งรัฐของซาอุดีอาระเบีย ทาง ชารา บอกว่าการร่างรัฐธรรมนูญใหม่อาจใช้เวลาสูงสุด 3 ปี นอกจากนี้ เขายังระบุด้วยว่าอาจต้องใช้เวลาราว 1 ปี ชาวซีเรียถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างสุดขั้ว . ความเห็นจากชารา ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม ที่โค่นล้มอัสซาด เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลใหม่ในดามัสกัส กำลังหาทางรับประกันกับบรรดาประเทศเพื่อนบ้านว่า พวกเขากำลังถอยห่างจากรากเหง้าหัวรุนแรงอิสลามิสต์ . ยุทธการจู่โจมสายฟ้าแลบของทางกลุ่ม นำมาซึ่งจุดจบสงครามกลางเมือง แต่ขณะเดียวกันก็ทิ้งไว้ซึ่งคำถามต่างๆ มากมายเกี่ยวกับอนาคตของประเทศที่ประกอบด้วยผู้คนหลายชาติพันธุ์แห่งนี้ ดินแดนที่ต่างชาติ ในนั้นรวมถึงตุรกีและรัสเซียแย่งชิงผลประโยชน์กันอย่างเต็มที่ . ในขณะที่มหาอำนาจตะวันตกแสดงความยินดีเป็นส่วนใหญ่ต่อการสิ้นสุดระบอบการปกครองของตระกูลอัสซาดในซีเรีย แต่มันยังคงไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทางกลุ่มจะกำหนดกฎหมายอิสลามิกอันเข้มงวดหรือไม่ หรือแสดงความยืดหยุ่น พร้อมกับมุ่งหน้าสู่ประชาธิปไตย . ชารา กล่าวว่า กลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม ที่มีชื่อเดิมว่า นุสรา ฟอนต์ จะถุกยุบ ณ ที่ประชุมระดับชาติแห่งหนึ่ง และพอถูกถามเกี่ยวกับการยุบกลุ่ม ชารา ระบุว่า "แน่นอน ประเทศแห่งนี้ไม่อาจบริหารโดยความคิดของกลุ่มและพวกติดอาวุธ" . ทางกลุ่มครั้งหนึ่งเคยมีความใกล้ชิดกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) และกลุ่มอัล-กออิดะห์ ทว่านับตั้งแต่นั้นได้ประกาศละทิ้งทั้ง 2 กลุ่ม และหาทางวางสถานะใหม่ของตนเอง ในฐานะขุมกำลังสายกลาง . พวกเขาประกาศซ้ำๆ ว่าจะปกป้องชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ ซึ่งหวั่นเกรงว่าพวกผู้ปกครองใหม่อาจหาทางจัดตั้งรัฐบาลอิสลามิสต์ และเตือนถึงความพยายามปลุกระดมความขัดแย้งระหว่างนิกาย . ชารา บอกว่าที่ประชุมระดับชาติ จะมีผู้เข้าร่วมอย่างกว้างวางในสังคมซีเรีย โดยที่จะมีการลงมติในประเด็นต่างๆ อย่างเช่นยุบสภาและฉีกรัฐธรรมนูญ . ระหว่างให้สัมภาษณ์ ทาง ชารา ยืนยันด้วยว่า ซีเรียมีผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ร่วมกับรัสเซีย พันธมิตรใกล้ชิดของอัสซาดระหว่างสงครามกลางเมือง และมีฐานทัพทหารในประเทศแห่งนี้ เน้นย้ำจุดยืนจะผูกไมตรีกับมอสโก แบบเดียวกับที่รัฐบาลของเขาเคยส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ . เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ชารา ระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างซีเรียกับรัสเซีย ควรรับใช้ผลประโยชน์ร่วม ในขณะที่ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย บอกว่าสถานะของฐานทัพรัสเซียจะขึ้นอยู่กับการเจรจากับผู้นำคนใหม่ในดามัสกัส . "คำถามไม่ใช่แค่ว่าจะคงไว้ซึ่งฐานทัพหรือป้อมปราการของเราหรือไม่ แต่ยังรวมไปถึงสภาพแวดล้อมด้านปฏิบัติการ การบำรุงรักษาและข้อกำหนดของฐานทัพหรือป้อมปราการเหล่านั้น เช่นเดียวกับการสื่อสารกับพวกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น" ลาฟรอฟ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอาร์ไอเอ . แม้ส่งสัญญาณสานสัมพันธ์กับรัสเซีย แต่ทาง ชารา ยังแสดงความหวังว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานซีเรีย หลังจากพวกนักการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนกรุงดามัสกัส เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา เผยว่า วอชิงตันตัดสินใจยกเลิกเงินค่าหัว 10 ล้านดอลลาร์ ที่ตั้งไว้สำหรับผู้นำกลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม รายนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000124985 .................. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1794 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/
    เกิดเหตุก่อการร้ายในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี

    มีรายงานผู้ก่อการร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาสในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย รวมถึงเด็ก 1 ราย และบาดเจ็บทะลุ 100 รายไปแล้ว และถูกจับกุมได้หลังก่อเหตุ

    จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ก่อการร้ายรายนี้มีชื่อว่า Talib Al-Abdulmohsen วัย 50 ปี เป็นชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ลี้ภัยอยู่ในเยอรมนี อดีตเคยเป็นจิตแพทย์ เขาเป็นพวกสนับสนุนอิสราเอลและต่อต้านอิสลามอย่างรุนแรง โดยออกจากมุสลิมเพื่อมาเข้าร่วมเป็นพวกไซออนิสต์

    ทางการซาอุดีอาระเบียประกาศต้องการตัวเขาในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย การค้ามนุษย์จากข้อกล่าวหาลักลอบส่งเด็กสาวจากซาอุดีอาระเบียและประเทศในอ่าวเปอร์เซียไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป แต่ทางการเยอรมนีปฏิเสธที่จะส่งตัว Talib Al-Abdulmohsen กลับโดยให้เหตุผลว่านั่นเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างของซาอุดีอาระเบียที่ไม่มีหลักฐาน และอนุญาตให้เขาลี้ภัยทางการเมืองได้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2549 (2006)

    Abdulmohsen เป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลตัวยง และยังสนุบสนุนให้อิสราเอลข้ายึดครองและผนวกซีเรีย เลบานอน และปาเลสไตน์ เขาเรียกตัวเองว่าอดีตมุสลิมอีกด้วย

    เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว(พ.ศ.2559) ในครั้งนั้นกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ประกาศตัวว่าอยู่เบื้องหลังเหตุสะเทือนขวัญรถบรรทุกพุ่งชนคนในตลาดคริสต์มาส กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คนและได้รับบาดเจ็บ 48 คน ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม ได้รับการปล่อยตัวในภายหลัง เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ
    3/ เกิดเหตุก่อการร้ายในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี มีรายงานผู้ก่อการร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาสในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย รวมถึงเด็ก 1 ราย และบาดเจ็บทะลุ 100 รายไปแล้ว และถูกจับกุมได้หลังก่อเหตุ จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ก่อการร้ายรายนี้มีชื่อว่า Talib Al-Abdulmohsen วัย 50 ปี เป็นชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ลี้ภัยอยู่ในเยอรมนี อดีตเคยเป็นจิตแพทย์ เขาเป็นพวกสนับสนุนอิสราเอลและต่อต้านอิสลามอย่างรุนแรง โดยออกจากมุสลิมเพื่อมาเข้าร่วมเป็นพวกไซออนิสต์ ทางการซาอุดีอาระเบียประกาศต้องการตัวเขาในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย การค้ามนุษย์จากข้อกล่าวหาลักลอบส่งเด็กสาวจากซาอุดีอาระเบียและประเทศในอ่าวเปอร์เซียไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป แต่ทางการเยอรมนีปฏิเสธที่จะส่งตัว Talib Al-Abdulmohsen กลับโดยให้เหตุผลว่านั่นเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างของซาอุดีอาระเบียที่ไม่มีหลักฐาน และอนุญาตให้เขาลี้ภัยทางการเมืองได้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2549 (2006) Abdulmohsen เป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลตัวยง และยังสนุบสนุนให้อิสราเอลข้ายึดครองและผนวกซีเรีย เลบานอน และปาเลสไตน์ เขาเรียกตัวเองว่าอดีตมุสลิมอีกด้วย เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว(พ.ศ.2559) ในครั้งนั้นกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ประกาศตัวว่าอยู่เบื้องหลังเหตุสะเทือนขวัญรถบรรทุกพุ่งชนคนในตลาดคริสต์มาส กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คนและได้รับบาดเจ็บ 48 คน ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม ได้รับการปล่อยตัวในภายหลัง เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 703 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • 2/
    เกิดเหตุก่อการร้ายในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี

    มีรายงานผู้ก่อการร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาสในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย รวมถึงเด็ก 1 ราย และบาดเจ็บทะลุ 100 รายไปแล้ว และถูกจับกุมได้หลังก่อเหตุ

    จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ก่อการร้ายรายนี้มีชื่อว่า Talib Al-Abdulmohsen วัย 50 ปี เป็นชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ลี้ภัยอยู่ในเยอรมนี อดีตเคยเป็นจิตแพทย์ เขาเป็นพวกสนับสนุนอิสราเอลและต่อต้านอิสลามอย่างรุนแรง โดยออกจากมุสลิมเพื่อมาเข้าร่วมเป็นพวกไซออนิสต์

    ทางการซาอุดีอาระเบียประกาศต้องการตัวเขาในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย การค้ามนุษย์จากข้อกล่าวหาลักลอบส่งเด็กสาวจากซาอุดีอาระเบียและประเทศในอ่าวเปอร์เซียไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป แต่ทางการเยอรมนีปฏิเสธที่จะส่งตัว Talib Al-Abdulmohsen กลับโดยให้เหตุผลว่านั่นเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างของซาอุดีอาระเบียที่ไม่มีหลักฐาน และอนุญาตให้เขาลี้ภัยทางการเมืองได้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2549 (2006)

    Abdulmohsen เป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลตัวยง และยังสนุบสนุนให้อิสราเอลข้ายึดครองและผนวกซีเรีย เลบานอน และปาเลสไตน์ เขาเรียกตัวเองว่าอดีตมุสลิมอีกด้วย

    เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว(พ.ศ.2559) ในครั้งนั้นกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ประกาศตัวว่าอยู่เบื้องหลังเหตุสะเทือนขวัญรถบรรทุกพุ่งชนคนในตลาดคริสต์มาส กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คนและได้รับบาดเจ็บ 48 คน ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม ได้รับการปล่อยตัวในภายหลัง เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ
    2/ เกิดเหตุก่อการร้ายในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี มีรายงานผู้ก่อการร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาสในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย รวมถึงเด็ก 1 ราย และบาดเจ็บทะลุ 100 รายไปแล้ว และถูกจับกุมได้หลังก่อเหตุ จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ก่อการร้ายรายนี้มีชื่อว่า Talib Al-Abdulmohsen วัย 50 ปี เป็นชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ลี้ภัยอยู่ในเยอรมนี อดีตเคยเป็นจิตแพทย์ เขาเป็นพวกสนับสนุนอิสราเอลและต่อต้านอิสลามอย่างรุนแรง โดยออกจากมุสลิมเพื่อมาเข้าร่วมเป็นพวกไซออนิสต์ ทางการซาอุดีอาระเบียประกาศต้องการตัวเขาในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย การค้ามนุษย์จากข้อกล่าวหาลักลอบส่งเด็กสาวจากซาอุดีอาระเบียและประเทศในอ่าวเปอร์เซียไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป แต่ทางการเยอรมนีปฏิเสธที่จะส่งตัว Talib Al-Abdulmohsen กลับโดยให้เหตุผลว่านั่นเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างของซาอุดีอาระเบียที่ไม่มีหลักฐาน และอนุญาตให้เขาลี้ภัยทางการเมืองได้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2549 (2006) Abdulmohsen เป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลตัวยง และยังสนุบสนุนให้อิสราเอลข้ายึดครองและผนวกซีเรีย เลบานอน และปาเลสไตน์ เขาเรียกตัวเองว่าอดีตมุสลิมอีกด้วย เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว(พ.ศ.2559) ในครั้งนั้นกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ประกาศตัวว่าอยู่เบื้องหลังเหตุสะเทือนขวัญรถบรรทุกพุ่งชนคนในตลาดคริสต์มาส กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คนและได้รับบาดเจ็บ 48 คน ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม ได้รับการปล่อยตัวในภายหลัง เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 744 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • 1/
    เกิดเหตุก่อการร้ายในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี

    มีรายงานผู้ก่อการร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาสในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย รวมถึงเด็ก 1 ราย และบาดเจ็บทะลุ 100 รายไปแล้ว และถูกจับกุมได้หลังก่อเหตุ

    จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ก่อการร้ายรายนี้มีชื่อว่า Talib Al-Abdulmohsen วัย 50 ปี เป็นชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ลี้ภัยอยู่ในเยอรมนี อดีตเคยเป็นจิตแพทย์ เขาเป็นพวกสนับสนุนอิสราเอลและต่อต้านอิสลามอย่างรุนแรง โดยออกจากมุสลิมเพื่อมาเข้าร่วมเป็นพวกไซออนิสต์

    ทางการซาอุดีอาระเบียประกาศต้องการตัวเขาในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย การค้ามนุษย์จากข้อกล่าวหาลักลอบส่งเด็กสาวจากซาอุดีอาระเบียและประเทศในอ่าวเปอร์เซียไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป แต่ทางการเยอรมนีปฏิเสธที่จะส่งตัว Talib Al-Abdulmohsen กลับโดยให้เหตุผลว่านั่นเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างของซาอุดีอาระเบียที่ไม่มีหลักฐาน และอนุญาตให้เขาลี้ภัยทางการเมืองได้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2549 (2006)

    Abdulmohsen เป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลตัวยง และยังสนุบสนุนให้อิสราเอลข้ายึดครองและผนวกซีเรีย เลบานอน และปาเลสไตน์ เขาเรียกตัวเองว่าอดีตมุสลิมอีกด้วย

    เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว(พ.ศ.2559) ในครั้งนั้นกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ประกาศตัวว่าอยู่เบื้องหลังเหตุสะเทือนขวัญรถบรรทุกพุ่งชนคนในตลาดคริสต์มาส กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คนและได้รับบาดเจ็บ 48 คน ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม ได้รับการปล่อยตัวในภายหลัง เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ
    1/ เกิดเหตุก่อการร้ายในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี มีรายงานผู้ก่อการร้ายขับรถยนต์พุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่ตลาดคริสต์มาสในเมืองแม็กเดเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย รวมถึงเด็ก 1 ราย และบาดเจ็บทะลุ 100 รายไปแล้ว และถูกจับกุมได้หลังก่อเหตุ จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ก่อการร้ายรายนี้มีชื่อว่า Talib Al-Abdulmohsen วัย 50 ปี เป็นชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ลี้ภัยอยู่ในเยอรมนี อดีตเคยเป็นจิตแพทย์ เขาเป็นพวกสนับสนุนอิสราเอลและต่อต้านอิสลามอย่างรุนแรง โดยออกจากมุสลิมเพื่อมาเข้าร่วมเป็นพวกไซออนิสต์ ทางการซาอุดีอาระเบียประกาศต้องการตัวเขาในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย การค้ามนุษย์จากข้อกล่าวหาลักลอบส่งเด็กสาวจากซาอุดีอาระเบียและประเทศในอ่าวเปอร์เซียไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป แต่ทางการเยอรมนีปฏิเสธที่จะส่งตัว Talib Al-Abdulmohsen กลับโดยให้เหตุผลว่านั่นเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างของซาอุดีอาระเบียที่ไม่มีหลักฐาน และอนุญาตให้เขาลี้ภัยทางการเมืองได้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2549 (2006) Abdulmohsen เป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลตัวยง และยังสนุบสนุนให้อิสราเอลข้ายึดครองและผนวกซีเรีย เลบานอน และปาเลสไตน์ เขาเรียกตัวเองว่าอดีตมุสลิมอีกด้วย เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว(พ.ศ.2559) ในครั้งนั้นกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ประกาศตัวว่าอยู่เบื้องหลังเหตุสะเทือนขวัญรถบรรทุกพุ่งชนคนในตลาดคริสต์มาส กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คนและได้รับบาดเจ็บ 48 คน ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม ได้รับการปล่อยตัวในภายหลัง เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 522 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้แทนยูเอ็นเตือนความขัดแย้งในซีเรีย “ยังไม่จบ” แม้ระบอบอัสซาดล่มสลาย พร้อมเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการตั้งถิ่นฐานในที่ราบสูงโกลัน รวมทั้งยุติการโจมตีอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรียและสำทับว่า การยกเลิกมาตรการแซงก์ชันคือกุญแจสำคัญในการช่วยเหลือซีเรีย
    .
    เกียร์ เพเดอร์เซน ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประจำซีเรีย แถลงในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นเมื่อวันอังคาร (17 ธ.ค.) เกี่ยวกับกลุ่มนักรบที่ได้รับการสนับสนุนจากตุรกีและกลุ่มนักรบเคิร์ด โดยเตือนว่า มีการสู้รบกันอย่างหนักในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และขณะนี้มีการต่ออายุข้อตกลงออกไปอีก 5 วัน แต่เขายังกังวลเกี่ยวกับรายงานการสู้รบที่รุนแรงขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นหายนะ
    .
    หลังการแถลงของเพเดอร์เซนไม่นาน อเมริกาประกาศว่า ได้ผลักดันให้มีการขยายข้อตกลงหยุดยิงระหว่างนักรบที่สนับสนุนตุรกีกับนักรบเคิร์ดในซีเรียที่เมืองแมนบิจไปจนถึงสิ้นสัปดาห์นี้
    .
    เพเดอร์เซนตั้งข้อสังเกตว่า อิสราเอลโจมตีซีเรียกว่า 350 ระลอกภายหลังรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดล่ม ซึ่งทำให้พลเรือนเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น และบ่อนทำลายแนวโน้มการผ่องถ่ายอำนาจทางการเมืองอย่างราบรื่น
    .
    เขายังเรียกร้องให้อิสราเอลยุติกิจกรรมการตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ยึดครองในที่ราบสูงโกลันในซีเรียตามที่คณะรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศก่อนหน้านี้ซึ่งผิดกฎหมาย รวมทั้งขอให้ยุติการโจมตีอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรีย
    .
    เพเดอร์เซนเสริมว่า เขาได้พบผู้นำใหม่ของซีเรีย รวมทั้งเดินทางไปตรวจสอบคุกใต้ดินและสถานที่ทรมานและประหารชีวิตในเรือนจำเซดนายาภายใต้ระบอบอัสซาด
    .
    ผู้แทนพิเศษของยูเอ็นผู้นี้เรียกร้องการสนับสนุนอย่างกว้างขวางสำหรับซีเรีย และยุติมาตรการแซงก์ชันเพื่อเปิดทางสำหรับการฟื้นฟูบูรณะประเทศที่ย่อยยับจากสงคราม
    .
    ขณะเดียวกัน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นเรียกร้องให้มีการดำเนินการกระบวนการทางการเมืองที่รวมคนทุกกลุ่มและนำโดยชาวซีเรีย หลังจากกลุ่มกบฏโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด
    .
    ขณะนี้ ชาติตะวันตกหลายแห่งรีบรุดติดต่อกับกลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) ที่เป็นแกนนำเข้ายึดกรุงดามัสกัส แม้กลุ่มกบฏนี้มีรากเหง้ามาจากเครือข่ายอัล-กออิดะห์สาขาซีเรีย รวมทั้งยังถูกชาติตะวันตกส่วนใหญ่ขึ้นบัญชีเป็นกลุ่มก่อการร้ายก็ตาม
    .
    ทอม เฟลตเชอร์ ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนคนใหม่ของยูเอ็น แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงว่า การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในสนามรบในซีเรียไม่ได้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ความยากลำบากของประชาชนเกือบ 13 ล้านคนที่เผชิญความไม่มั่นคงด้านอาหารเฉียบพลัน นอกจากนั้นชาวซีเรียกว่า 1 ล้านคนยังต้องทิ้งถิ่นฐานในช่วงเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์
    .
    เฟลตเชอร์เสริมว่า ได้พบผู้ปกครองใหม่ของซีเรียที่แสดงความมุ่งมั่นในการขยายโครงการสนับสนุนด้านมนุษยธรรมที่สำคัญ อย่างไรก็ดี เขาเตือนว่า สถานการณ์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียมีความรุนแรงมากขึ้นซึ่งอาจส่งผลกระทบด้านมนุษยธรรม และจำเป็นต้องหาทางคลี่คลายสถานการณ์ดังกล่าว
    .
    ทางด้านลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตอเมริกาประจำยูเอ็น แสดงความยินดีกับการล่มสลายของระบอบอัสซาด แต่เตือนว่า ซีเรียอาจกลายเป็นที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายอย่างกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอซิส)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121639
    ..............
    Sondhi X
    ผู้แทนยูเอ็นเตือนความขัดแย้งในซีเรีย “ยังไม่จบ” แม้ระบอบอัสซาดล่มสลาย พร้อมเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการตั้งถิ่นฐานในที่ราบสูงโกลัน รวมทั้งยุติการโจมตีอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรียและสำทับว่า การยกเลิกมาตรการแซงก์ชันคือกุญแจสำคัญในการช่วยเหลือซีเรีย . เกียร์ เพเดอร์เซน ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประจำซีเรีย แถลงในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นเมื่อวันอังคาร (17 ธ.ค.) เกี่ยวกับกลุ่มนักรบที่ได้รับการสนับสนุนจากตุรกีและกลุ่มนักรบเคิร์ด โดยเตือนว่า มีการสู้รบกันอย่างหนักในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และขณะนี้มีการต่ออายุข้อตกลงออกไปอีก 5 วัน แต่เขายังกังวลเกี่ยวกับรายงานการสู้รบที่รุนแรงขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นหายนะ . หลังการแถลงของเพเดอร์เซนไม่นาน อเมริกาประกาศว่า ได้ผลักดันให้มีการขยายข้อตกลงหยุดยิงระหว่างนักรบที่สนับสนุนตุรกีกับนักรบเคิร์ดในซีเรียที่เมืองแมนบิจไปจนถึงสิ้นสัปดาห์นี้ . เพเดอร์เซนตั้งข้อสังเกตว่า อิสราเอลโจมตีซีเรียกว่า 350 ระลอกภายหลังรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดล่ม ซึ่งทำให้พลเรือนเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น และบ่อนทำลายแนวโน้มการผ่องถ่ายอำนาจทางการเมืองอย่างราบรื่น . เขายังเรียกร้องให้อิสราเอลยุติกิจกรรมการตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ยึดครองในที่ราบสูงโกลันในซีเรียตามที่คณะรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศก่อนหน้านี้ซึ่งผิดกฎหมาย รวมทั้งขอให้ยุติการโจมตีอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรีย . เพเดอร์เซนเสริมว่า เขาได้พบผู้นำใหม่ของซีเรีย รวมทั้งเดินทางไปตรวจสอบคุกใต้ดินและสถานที่ทรมานและประหารชีวิตในเรือนจำเซดนายาภายใต้ระบอบอัสซาด . ผู้แทนพิเศษของยูเอ็นผู้นี้เรียกร้องการสนับสนุนอย่างกว้างขวางสำหรับซีเรีย และยุติมาตรการแซงก์ชันเพื่อเปิดทางสำหรับการฟื้นฟูบูรณะประเทศที่ย่อยยับจากสงคราม . ขณะเดียวกัน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นเรียกร้องให้มีการดำเนินการกระบวนการทางการเมืองที่รวมคนทุกกลุ่มและนำโดยชาวซีเรีย หลังจากกลุ่มกบฏโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด . ขณะนี้ ชาติตะวันตกหลายแห่งรีบรุดติดต่อกับกลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) ที่เป็นแกนนำเข้ายึดกรุงดามัสกัส แม้กลุ่มกบฏนี้มีรากเหง้ามาจากเครือข่ายอัล-กออิดะห์สาขาซีเรีย รวมทั้งยังถูกชาติตะวันตกส่วนใหญ่ขึ้นบัญชีเป็นกลุ่มก่อการร้ายก็ตาม . ทอม เฟลตเชอร์ ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนคนใหม่ของยูเอ็น แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงว่า การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในสนามรบในซีเรียไม่ได้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ความยากลำบากของประชาชนเกือบ 13 ล้านคนที่เผชิญความไม่มั่นคงด้านอาหารเฉียบพลัน นอกจากนั้นชาวซีเรียกว่า 1 ล้านคนยังต้องทิ้งถิ่นฐานในช่วงเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ . เฟลตเชอร์เสริมว่า ได้พบผู้ปกครองใหม่ของซีเรียที่แสดงความมุ่งมั่นในการขยายโครงการสนับสนุนด้านมนุษยธรรมที่สำคัญ อย่างไรก็ดี เขาเตือนว่า สถานการณ์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียมีความรุนแรงมากขึ้นซึ่งอาจส่งผลกระทบด้านมนุษยธรรม และจำเป็นต้องหาทางคลี่คลายสถานการณ์ดังกล่าว . ทางด้านลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตอเมริกาประจำยูเอ็น แสดงความยินดีกับการล่มสลายของระบอบอัสซาด แต่เตือนว่า ซีเรียอาจกลายเป็นที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายอย่างกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอซิส) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121639 .............. Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1129 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มประเทศที่ส่งผู้เล่นเข้ามาในดินแดนซีเรียแห่งนี้ ภายใต้การปกครองใหม่ของกลุ่ม HTS (Hay'at Tahrir al-Sham)

    HTS (Hay'at Tahrir al-Sham)
    กลุ่ม HTS แยกตัวออกมาจากอัลกออิดะห์ในปี 2016 ต่อมาในปี 2018 HTS ถูกขึ้นบัญชีเป็นกลุ่มก่อการร้ายต่างประเทศโดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ

    กลุ่ม HTS เคลื่อนไหวอยู่รอบๆ เมืองอาเลปโปและฮามา ผู้บัญชาการของกลุ่ม HTS คือ "อาบู มูฮัมหมัด อัลโจลานี" ซึ่งถูกสหรัฐฯตั้งรางวัลนำจับ 10 ล้านเหรียญ ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มนุสราฟรอนต์(Nusra Front) หรือ กลุ่มอัลกออิดะห์ในซีเรียมาก่อน ต่อมาอัลโจลานีอ้างว่าตัวเขาเองที่ขอแยกตัวออกจากอัลกออิดะห์

    ผลลัพธ์หลังจากนี้:
    - หาก HTS ได้ปกครองซีเรียจริงๆ มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะบังคับใช้กฎหมายชารีอะห์อย่างเคร่งครัด ลองนึกภาพการบังคับใช้กฎหมายท่ามกลางความแตกต่างทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ว่าจะส่งผลร้ายแรงขนาดไหน ซึ่งก่อนหน้านั้นกลุ่ม HTS มีประวัติที่ไม่ดีนักในเรื่องการปฏิบัติต่อกลุ่มชาติพันธุ์และศาสนาส่วนน้อย ซึ่งไม่ต่างอะไรกับกลุ่มตาลีบันในอัฟกานิสถาน
    - คาดว่าจะมีผู้ลี้ภัย ชาวคริสต์ซีเรีย ชาวเคิร์ด และกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนน้อยอื่นๆ จะพยายามอพยพออกไป โดยส่วนใหญ่จะไปที่เลบานอน ยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา

    สำหรับตุรกี การล่มสลายของอัสซาดอาจหมายถึงสิ่งต่อไปนี้:
    - ตุรกีจะขยายอำนาจและอิทธิพลในซีเรียอย่างมากโดยผ่านตัวแทนในซีเรีย (SNA และ HTS) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออตโตมันตั้งแต่ปี 1516 จนถึงปี 1918
    - หากรัสเซียต้องถอนตัวออกจากซีเรีย "เออร์โดกันชนะ ปูตินแพ้"
    - ทำให้กองกำลังเคิร์ดในซีเรียอ่อนแอลง
    - เมื่อซีเรียสงบลงและถูกปกครองโดย HTS ประธานาธิบดีเออร์โดกันจะสามารถส่งผู้ลี้ภัยชาวซีเรียหลายล้านคนจากตุรกีกลับไปยังซีเรีย พรรค AKP ของเขาจะได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นทันที

    สำหรับรัสเซีย การล่มสลายของอัสซาดอาจหมายถึงสิ่งต่อไปนี้:
    - ไม่มีพันธมิตรในดามัสกัสอีกต่อไป สิ้นสุดอิทธิพลทางการเมืองในซีเรีย
    - ถูกตุรกีเอาชนะ
    - ไม่มีกำลังทหารในซีเรียอีกต่อไปหรือถ้ามี ก็จะเป็นจำนวนจำกัดมาก
    - ฐานทัพเรือทาร์ทัสซึ่งมีความสำคัญยิ่งยวดอาจล่มสลายลงได้ หลังจากก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1971 ในสมัยสหภาพโซเวียต ปูตินจะยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้มั้ย!?!

    สำหรับอิสราเอล การล่มสลายของอัสซาดอาจหมายถึงสิ่งต่อไปนี้:
    - อิหร่านจะไม่สามารถขนส่งอาวุธทางบกจากอิหร่านโดยผ่านอิรักและซีเรียไปยังกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนได้ เนื่องจากสนามบินเบรุตและท่าเรือในเลบานอนอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพเรือและกองทัพอากาศของอิสราเอลโดยพฤตินัย กลุ่มฮิซบอลเลาะห์จึงไม่สามารถติดอาวุธได้ นับเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของอิสราเอล
    - ในช่วงแรกของการปกครองซีเรีย: ซีเรียจะยังไม่มั่นคงและอ่อนแอเนื่องจากความขัดแย้งทางทหารและศาสนาภายในที่ไม่มีวันจบสิ้น นั่ทำให้อิสราเอลปลอดภัยจากภัยคุกคามภายนอก
    - แต่ในระยะยาว: เนื่องจากกลุ่มญิฮาดมักจะควบคุมไม่ได้ อิสราเอลต้องหวังพึ่งตุรกีให้สามารถมีอิทธิพลเหนือซีเรียได้ตลอดไป

    สำหรับอิหร่าน การล่มสลายของอัสซาดอาจหมายถึงสิ่งต่อไปนี้:
    - อิหร่านสูญเสียพันธมิตรหลักในภูมิภาค นับเป็นหายนะสำหรับเตหะรานอย่างสิ้นเชิง
    - อิหร่านไม่สามารถส่งกองกำลังฮิซบอลเลาะห์ที่เป็นตัวแทนในเลบานอนได้อีกต่อไป เนื่องจากเส้นทางจากอิหร่านไปเลบานอนถูกปิด
    - ตุรกีซึ่งเป็นคู่แข่งในภูมิภาค ได้โอกาสขยายอำนาจอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ผลประโยชน์ของอิหร่านในซีเรีย เลบานอน และแม้แต่ในอิรักอ่อนแอลง

    สำหรับสหรัฐฯ การล่มสลายของอัสซาดอาจหมายถึงสิ่งต่อไปนี้:
    - สหรัฐจะชนะ หากรัสเซียออกจากซีเรีย
    - จุดจบของอัสซาดซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของรัสเซีย ส่งผลดีต่อสหรัฐ
    - ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนถูกโดดเดี่ยว อ่อนแอลง สหรัฐคลายความกังวลใจจากสถานการณ์ของอิสราเอลลงไปได้ในระดับหนึ่ง อย่างน้อยก็อีกหลายปี
    - พูดอีกอย่างก็คือ สหรัฐกำลังมีความสุขเพราะศัตรูของเขาทั้งหมดต้องพ่ายแพ้อีกครั้ง (จนกว่าจะถึงวันที่ HTS ขาดการควบคุมและ/หรือ IS กลับมารวมกลุ่มกันอีกครั้ง)

    สำหรับเลบานอน การล่มสลายของอัสซาดอาจหมายถึงสิ่งต่อไปนี้:
    - กลายเป็นประเทศเล็กๆที่ถูกคั่นอยู่ระหว่างเพื่อนบ้านมหาอำนาจใหม่ในภูมิภาคคืออิสราเอลและซีเรีย
    - เนื่องจากฮิซบอลเลาะห์ไม่สามารถติดอาวุธใหม่ได้และอ่อนแอลง อาจนำไปสู่กลุ่มใหม่พยายามเข้ามามีบทบาทแทน ซึ่งจะสร้างความตึงเครียดทางศาสนาและความขัดแย้งทางการเมืองในเลบานอน
    - มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มญิฮาดจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งและก่อการร้ายภายในเลบานอนด้วยการสนับสนุนจาก HTS ในซีเรีย

    สำหรับอิรัก การล่มสลายของอัสซาดอาจหมายถึงสิ่งต่อไปนี้:
    - ชัยชนะของ HTS ในซีเรียอาจเป็นแรงบันดาลใจให้กลุ่มที่คล้ายคลึงกันในอิรักเพื่อนบ้านลุกฮือกันอีกครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ซุนนี
    - การฟื้นคืนชีพของรัฐอิสลามในซีเรียตะวันออกอาจลามข้ามชายแดนไปยังอิรัก (ตะวันตก) ได้อย่างง่ายดาย การที่กลุ่มรัฐอิสลามกลับเข้าสู่อิรักเช่นนี้จะมาพร้อมกับการก่อการร้ายและสงครามกลางเมืองที่อาจเกิดขึ้นได้
    หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มประเทศที่ส่งผู้เล่นเข้ามาในดินแดนซีเรียแห่งนี้ ภายใต้การปกครองใหม่ของกลุ่ม HTS (Hay'at Tahrir al-Sham) HTS (Hay'at Tahrir al-Sham) กลุ่ม HTS แยกตัวออกมาจากอัลกออิดะห์ในปี 2016 ต่อมาในปี 2018 HTS ถูกขึ้นบัญชีเป็นกลุ่มก่อการร้ายต่างประเทศโดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กลุ่ม HTS เคลื่อนไหวอยู่รอบๆ เมืองอาเลปโปและฮามา ผู้บัญชาการของกลุ่ม HTS คือ "อาบู มูฮัมหมัด อัลโจลานี" ซึ่งถูกสหรัฐฯตั้งรางวัลนำจับ 10 ล้านเหรียญ ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มนุสราฟรอนต์(Nusra Front) หรือ กลุ่มอัลกออิดะห์ในซีเรียมาก่อน ต่อมาอัลโจลานีอ้างว่าตัวเขาเองที่ขอแยกตัวออกจากอัลกออิดะห์ ผลลัพธ์หลังจากนี้: - หาก HTS ได้ปกครองซีเรียจริงๆ มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะบังคับใช้กฎหมายชารีอะห์อย่างเคร่งครัด ลองนึกภาพการบังคับใช้กฎหมายท่ามกลางความแตกต่างทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ว่าจะส่งผลร้ายแรงขนาดไหน ซึ่งก่อนหน้านั้นกลุ่ม HTS มีประวัติที่ไม่ดีนักในเรื่องการปฏิบัติต่อกลุ่มชาติพันธุ์และศาสนาส่วนน้อย ซึ่งไม่ต่างอะไรกับกลุ่มตาลีบันในอัฟกานิสถาน - คาดว่าจะมีผู้ลี้ภัย ชาวคริสต์ซีเรีย ชาวเคิร์ด และกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนน้อยอื่นๆ จะพยายามอพยพออกไป โดยส่วนใหญ่จะไปที่เลบานอน ยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา สำหรับตุรกี การล่มสลายของอัสซาดอาจหมายถึงสิ่งต่อไปนี้: - ตุรกีจะขยายอำนาจและอิทธิพลในซีเรียอย่างมากโดยผ่านตัวแทนในซีเรีย (SNA และ HTS) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออตโตมันตั้งแต่ปี 1516 จนถึงปี 1918 - หากรัสเซียต้องถอนตัวออกจากซีเรีย "เออร์โดกันชนะ ปูตินแพ้" - ทำให้กองกำลังเคิร์ดในซีเรียอ่อนแอลง - เมื่อซีเรียสงบลงและถูกปกครองโดย HTS ประธานาธิบดีเออร์โดกันจะสามารถส่งผู้ลี้ภัยชาวซีเรียหลายล้านคนจากตุรกีกลับไปยังซีเรีย พรรค AKP ของเขาจะได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นทันที สำหรับรัสเซีย การล่มสลายของอัสซาดอาจหมายถึงสิ่งต่อไปนี้: - ไม่มีพันธมิตรในดามัสกัสอีกต่อไป สิ้นสุดอิทธิพลทางการเมืองในซีเรีย - ถูกตุรกีเอาชนะ - ไม่มีกำลังทหารในซีเรียอีกต่อไปหรือถ้ามี ก็จะเป็นจำนวนจำกัดมาก - ฐานทัพเรือทาร์ทัสซึ่งมีความสำคัญยิ่งยวดอาจล่มสลายลงได้ หลังจากก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1971 ในสมัยสหภาพโซเวียต ปูตินจะยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้มั้ย!?! สำหรับอิสราเอล การล่มสลายของอัสซาดอาจหมายถึงสิ่งต่อไปนี้: - อิหร่านจะไม่สามารถขนส่งอาวุธทางบกจากอิหร่านโดยผ่านอิรักและซีเรียไปยังกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนได้ เนื่องจากสนามบินเบรุตและท่าเรือในเลบานอนอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพเรือและกองทัพอากาศของอิสราเอลโดยพฤตินัย กลุ่มฮิซบอลเลาะห์จึงไม่สามารถติดอาวุธได้ นับเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของอิสราเอล - ในช่วงแรกของการปกครองซีเรีย: ซีเรียจะยังไม่มั่นคงและอ่อนแอเนื่องจากความขัดแย้งทางทหารและศาสนาภายในที่ไม่มีวันจบสิ้น นั่ทำให้อิสราเอลปลอดภัยจากภัยคุกคามภายนอก - แต่ในระยะยาว: เนื่องจากกลุ่มญิฮาดมักจะควบคุมไม่ได้ อิสราเอลต้องหวังพึ่งตุรกีให้สามารถมีอิทธิพลเหนือซีเรียได้ตลอดไป สำหรับอิหร่าน การล่มสลายของอัสซาดอาจหมายถึงสิ่งต่อไปนี้: - อิหร่านสูญเสียพันธมิตรหลักในภูมิภาค นับเป็นหายนะสำหรับเตหะรานอย่างสิ้นเชิง - อิหร่านไม่สามารถส่งกองกำลังฮิซบอลเลาะห์ที่เป็นตัวแทนในเลบานอนได้อีกต่อไป เนื่องจากเส้นทางจากอิหร่านไปเลบานอนถูกปิด - ตุรกีซึ่งเป็นคู่แข่งในภูมิภาค ได้โอกาสขยายอำนาจอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ผลประโยชน์ของอิหร่านในซีเรีย เลบานอน และแม้แต่ในอิรักอ่อนแอลง สำหรับสหรัฐฯ การล่มสลายของอัสซาดอาจหมายถึงสิ่งต่อไปนี้: - สหรัฐจะชนะ หากรัสเซียออกจากซีเรีย - จุดจบของอัสซาดซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของรัสเซีย ส่งผลดีต่อสหรัฐ - ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนถูกโดดเดี่ยว อ่อนแอลง สหรัฐคลายความกังวลใจจากสถานการณ์ของอิสราเอลลงไปได้ในระดับหนึ่ง อย่างน้อยก็อีกหลายปี - พูดอีกอย่างก็คือ สหรัฐกำลังมีความสุขเพราะศัตรูของเขาทั้งหมดต้องพ่ายแพ้อีกครั้ง (จนกว่าจะถึงวันที่ HTS ขาดการควบคุมและ/หรือ IS กลับมารวมกลุ่มกันอีกครั้ง) สำหรับเลบานอน การล่มสลายของอัสซาดอาจหมายถึงสิ่งต่อไปนี้: - กลายเป็นประเทศเล็กๆที่ถูกคั่นอยู่ระหว่างเพื่อนบ้านมหาอำนาจใหม่ในภูมิภาคคืออิสราเอลและซีเรีย - เนื่องจากฮิซบอลเลาะห์ไม่สามารถติดอาวุธใหม่ได้และอ่อนแอลง อาจนำไปสู่กลุ่มใหม่พยายามเข้ามามีบทบาทแทน ซึ่งจะสร้างความตึงเครียดทางศาสนาและความขัดแย้งทางการเมืองในเลบานอน - มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มญิฮาดจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งและก่อการร้ายภายในเลบานอนด้วยการสนับสนุนจาก HTS ในซีเรีย สำหรับอิรัก การล่มสลายของอัสซาดอาจหมายถึงสิ่งต่อไปนี้: - ชัยชนะของ HTS ในซีเรียอาจเป็นแรงบันดาลใจให้กลุ่มที่คล้ายคลึงกันในอิรักเพื่อนบ้านลุกฮือกันอีกครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ซุนนี - การฟื้นคืนชีพของรัฐอิสลามในซีเรียตะวันออกอาจลามข้ามชายแดนไปยังอิรัก (ตะวันตก) ได้อย่างง่ายดาย การที่กลุ่มรัฐอิสลามกลับเข้าสู่อิรักเช่นนี้จะมาพร้อมกับการก่อการร้ายและสงครามกลางเมืองที่อาจเกิดขึ้นได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 536 มุมมอง 0 รีวิว
  • การที่อิสราเอลเปิดการโจมตีพันธมิตรกลุ่มต่างๆ ของอิหร่านในอาณาบริเวณราว 5,000 ตารางกิโลเมตรของภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมทั้งการตัวท่าคุกคามอิหร่านโดยตรงในเวลานี้ เพิ่มความเป็นไปได้ที่อำนาจอิทธิพลซึ่งเตหะรานสั่งสมมาตลอด 2 ทศวรรษอาจสิ้นสุดลง รวมทั้งทำให้ดุลอำนาจในภูมิภาคนี้เปลี่ยนแปลง ทว่า ยากที่จะฟันธงได้ว่า จะเป็นไปในรูปแบบไหน

    บรรดาผู้คัดค้านและผู้สนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอล ซึ่งอยู่ในวอชิงตัน เทลอาวีฟ เยรูซาเลม และเมืองหลวงของประเทศต่างๆ ในโลกอาหรับ กำลังเสนอแนวคิดว่า อเมริกาควรทำอย่างไรต่อไป ขณะที่อิสราเอลเดินหน้าสะสมความสำเร็จเชิงยุทธวิธีต่อฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนและฮูตีในเยเมน เวลาเดียวกันก็ตามบดขยี้ฮามาสในกาซาแบบไม่มีพักมาตลอด 1 ปีเต็ม

    ริชาร์ด โกลด์เบิร์ก ที่ปรึกษาอาวุโสของมูลนิธิเพื่อการปกป้องประชาธิปไตยในกรุงวอชิงตัน ซึ่งเป็นพวกแนวคิดอนุรักษนิยม เรียกร้องอเมริกาให้การสนับสนุนที่จำเป็นทั้งหมดทแก่อิสราเอล เพื่อทำให้รัฐบาลอิหร่านลงถังขยะประวัติศาสตร์

    ขณะที่ โยเอล กูแซนสกี อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสสภาความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอล ไปไกลกว่านั้นอีก โดยแนะคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ร่วมโจมตีอิหร่านโดยตรง เพื่อให้เตหะรานเข้าใจชัดเจนว่า “อย่ามาป่วนอเมริกาและอิสราเอล”

    อย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยพากันย้ำบทเรียนเมื่อครั้งอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ส่งกองทัพอเมริกันรุกรานอิรักและโค่นล้มซัดดัม ฮุสเซน โดยไม่สนใจคำเตือนของอาหรับว่า ผู้นำเผด็จการของแบกแดดผู้นี้เป็นเครื่องมือคานอิทธิพลของอิหร่านที่จะขาดไปไม่ได้

    คนกลุ่มนี้ยังเตือนว่า การสะสมชัยชนะของรัฐยิวไปเรื่อยๆ โดยไม่พิจารณาถึงเรื่องความเสี่ยง, เป้าหมายสุดท้าย, หรือแผนการสำหรับอนาคต อาจนำซึ่งผลลัพธ์ไม่พึงประสงค์

    วาลิ นาสร์ อดีตที่ปรึกษาในคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา และเป็นหนึ่งในผู้จัดทำรายงานการสั่งสมอิทธิพลของอิหร่านในตะวันออกกลางนับแต่ที่อเมริกาบุกอิรัก ชี้ว่าสุดท้ายแล้วอิสราเอลอาจอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องปกป้องตัวเองตามลำพังในสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น

    นาสร์เสริมว่า อเมริกาและหุ้นส่วนในตะวันออกกลางได้แต่รอดูว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้ไม่ฟังเสียงทัดทานแม้แต่จากวอชิงตันที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดที่สุด จะบุกตะลุยทำสงครามไปไกลแค่ไหน

    บรรดาผู้สนับสนุนเหล่านี้วาดหวังว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลจะทำให้อิหร่านและกลุ่มติดอาวุธที่เป็นตัวแทนของเตหะรานที่โจมตีอเมริกา อิสราเอล และหุ้นส่วน รวมทั้งยังร่วมมือกับรัสเซียและศัตรูอื่นๆ ของตะวันตก อยู่ในสภาพที่อ่อนแอลง

    ทว่าฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยเตือนว่า ปฏิบัติการทางทหารโดยที่ไม่ได้คลี่คลายความคับข้องใจของชาวปาเลสไตน์ เสี่ยงนำไปสู่วงจรสงครามที่ไม่สิ้นสุด ปลุกเร้าการก่อความไม่สงบและกลุ่มหัวรุนแรง และรัฐบาลในตะวันออกกลางก็ต้องปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบมากขึ้นเพื่อควบคุมสถานการณ์

    นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงที่อิหร่านจะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เพื่อรับประกันความอยู่รอดของประเทศ จากที่มีข่าวว่า ก่อนที่อิสราเอลจะเปิดฉากโจมตีฮิซบอลเลาะห์นั้น ผู้นำอิหร่านที่กังวลกับปฏิบัติการของอิสราเอล ประกาศชัดเจนว่า สนใจฟื้นการเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร์และปรับปรุงความสัมพันธ์โดยรวมกับอเมริกา

    ทั้งนี้ภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา การโจมตีทางอากาศและการปฏิบัติการด้านข่าวกรองของอิสราเอล ได้นำไปสู่การสังหารผู้นำ นักรบ และทำลายคลังอาวุธของฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ทรงอิทธิพลที่สุดในตะวันออกกลาง รวมทั้งยังเป็นป้อมปราการที่คอยปกป้องการโจมตีดินแดนอิหร่านอีกด้วย

    ขณะเดียวกัน การโจมตีทางอากาศตลอดหนึ่งปีเต็มในฉนวนกาซา ได้สังหารเหล่าผู้นำของกลุ่มฮามาสจนเหลือผู้รอดชีวิตไม่กี่คนที่กบดานอยู่ในอุโมงค์ใต้ดิน กระนั้น ปรากฏว่ากองทัพอิสราเอลยังคงต้องวนกลับมาโจมตีกาซาหนักหน่วงอีกรอบในสัปดาห์นี้ และฮามาสยังสามารถสร้างความประหลาดใจด้วยการยิงจรวดใส่นครเทลอาวีฟเมื่อวันจันทร์ (7 ต.ค.) ระหว่างที่อิสราเอลรำลึกครบรอบ 1 ปีที่ถูกฮามาสบุกโจมตีและเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามในกาซา

    มีการคาดการณ์กันว่า หากอิสราเอลตอบโต้อิหร่านที่ยิงขีปนาวุธนับร้อยลูกใส่รัฐยิวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จะยิ่งเร่งรัดการเปลี่ยนดุลอำนาจในตะวันออกกลาง และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามเต็มรูปแบบในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่อเมริกาพยายามหลีกเลี่ยงมานานหลายทศวรรษ

    วอชิงตันออกตัวว่า อิสราเอลไม่ได้แจ้งก่อนที่จะโจมตีผู้นำฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน และในการให้สัมภาษณ์รายการ “60 มินิตส์” ของเครือข่ายซีบีเอสที่ออกอากาศเมื่อวันจันทร์ รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตในศึกชิงทำเนียบขาว ประกาศว่า อเมริกายังคงมุ่งมั่นให้ความช่วยเหลือทางทหารเพื่อให้อิสราเอลป้องกันตัวเอง ควบคู่กับการผลักดันให้ยุติความขัดแย้ง

    ย้อนกลับไปตอนที่อเมริการุกรานอิรักและโค่นล้มซัดดัม ผู้สนับสนุนอาจวาดหวังที่จะทำให้ประชาธิปไตยหยั่งรากในอิรัก แต่ผลกระทบไม่พึงประสงค์กลับใหญ่กว่านั้นมหาศาล ซึ่งรวมถึงการผงาดขึ้นมาของอักษะแห่งการต่อต้านของอิหร่านที่ขยายตัวทั้งในภูมิภาคและทั่วโลก อีกทั้งยังเกิดกลุ่มหัวรุนแรงใหม่ๆ ที่รวมถึงกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)

    ขณะนี้ผู้นำทั่วโลกยังมองไม่ออกว่า ดุลอำนาจระหว่างอิหร่าน อิสราเอล ตะวันออกกลาง รวมถึงอเมริกา จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรหลังกองทัพอิสราเอลยุติสงคราม

    นาสร์เห็นว่า อิหร่านและพันธมิตรอ่อนแอลง เช่นเดียวกับอิทธิพลของอเมริกาที่ปล่อยให้อิสราเอลจูงจมูก

    สำหรับ เมห์ราน คัมราวา ศาสตราจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านตะวันออกกลางของมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ในกาตาร์ มองว่า อิสราเอลอาจเป็นฝ่ายเจ็บ เช่น หากเปิดสงครามภาคพื้นดินในเลบานอนและตกอยู่ในสภาพติดหล่ม และเสริมว่า สงครามเย็นตลอด 4 ทศวรรษระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน เวลานี้ได้กลายมาเป็นสงครามร้อน ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางยุทธศาสตร์ในตะวันออกกลาง แต่จะเปลี่ยนไปแบบไหนอย่างไรเป็นเรื่องยากมากที่จะคาดเดาในขณะนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000096119
    ..............
    Sondhi X
    การที่อิสราเอลเปิดการโจมตีพันธมิตรกลุ่มต่างๆ ของอิหร่านในอาณาบริเวณราว 5,000 ตารางกิโลเมตรของภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมทั้งการตัวท่าคุกคามอิหร่านโดยตรงในเวลานี้ เพิ่มความเป็นไปได้ที่อำนาจอิทธิพลซึ่งเตหะรานสั่งสมมาตลอด 2 ทศวรรษอาจสิ้นสุดลง รวมทั้งทำให้ดุลอำนาจในภูมิภาคนี้เปลี่ยนแปลง ทว่า ยากที่จะฟันธงได้ว่า จะเป็นไปในรูปแบบไหน บรรดาผู้คัดค้านและผู้สนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอล ซึ่งอยู่ในวอชิงตัน เทลอาวีฟ เยรูซาเลม และเมืองหลวงของประเทศต่างๆ ในโลกอาหรับ กำลังเสนอแนวคิดว่า อเมริกาควรทำอย่างไรต่อไป ขณะที่อิสราเอลเดินหน้าสะสมความสำเร็จเชิงยุทธวิธีต่อฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนและฮูตีในเยเมน เวลาเดียวกันก็ตามบดขยี้ฮามาสในกาซาแบบไม่มีพักมาตลอด 1 ปีเต็ม ริชาร์ด โกลด์เบิร์ก ที่ปรึกษาอาวุโสของมูลนิธิเพื่อการปกป้องประชาธิปไตยในกรุงวอชิงตัน ซึ่งเป็นพวกแนวคิดอนุรักษนิยม เรียกร้องอเมริกาให้การสนับสนุนที่จำเป็นทั้งหมดทแก่อิสราเอล เพื่อทำให้รัฐบาลอิหร่านลงถังขยะประวัติศาสตร์ ขณะที่ โยเอล กูแซนสกี อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสสภาความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอล ไปไกลกว่านั้นอีก โดยแนะคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ร่วมโจมตีอิหร่านโดยตรง เพื่อให้เตหะรานเข้าใจชัดเจนว่า “อย่ามาป่วนอเมริกาและอิสราเอล” อย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยพากันย้ำบทเรียนเมื่อครั้งอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ส่งกองทัพอเมริกันรุกรานอิรักและโค่นล้มซัดดัม ฮุสเซน โดยไม่สนใจคำเตือนของอาหรับว่า ผู้นำเผด็จการของแบกแดดผู้นี้เป็นเครื่องมือคานอิทธิพลของอิหร่านที่จะขาดไปไม่ได้ คนกลุ่มนี้ยังเตือนว่า การสะสมชัยชนะของรัฐยิวไปเรื่อยๆ โดยไม่พิจารณาถึงเรื่องความเสี่ยง, เป้าหมายสุดท้าย, หรือแผนการสำหรับอนาคต อาจนำซึ่งผลลัพธ์ไม่พึงประสงค์ วาลิ นาสร์ อดีตที่ปรึกษาในคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา และเป็นหนึ่งในผู้จัดทำรายงานการสั่งสมอิทธิพลของอิหร่านในตะวันออกกลางนับแต่ที่อเมริกาบุกอิรัก ชี้ว่าสุดท้ายแล้วอิสราเอลอาจอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องปกป้องตัวเองตามลำพังในสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น นาสร์เสริมว่า อเมริกาและหุ้นส่วนในตะวันออกกลางได้แต่รอดูว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้ไม่ฟังเสียงทัดทานแม้แต่จากวอชิงตันที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดที่สุด จะบุกตะลุยทำสงครามไปไกลแค่ไหน บรรดาผู้สนับสนุนเหล่านี้วาดหวังว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลจะทำให้อิหร่านและกลุ่มติดอาวุธที่เป็นตัวแทนของเตหะรานที่โจมตีอเมริกา อิสราเอล และหุ้นส่วน รวมทั้งยังร่วมมือกับรัสเซียและศัตรูอื่นๆ ของตะวันตก อยู่ในสภาพที่อ่อนแอลง ทว่าฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยเตือนว่า ปฏิบัติการทางทหารโดยที่ไม่ได้คลี่คลายความคับข้องใจของชาวปาเลสไตน์ เสี่ยงนำไปสู่วงจรสงครามที่ไม่สิ้นสุด ปลุกเร้าการก่อความไม่สงบและกลุ่มหัวรุนแรง และรัฐบาลในตะวันออกกลางก็ต้องปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบมากขึ้นเพื่อควบคุมสถานการณ์ นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงที่อิหร่านจะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เพื่อรับประกันความอยู่รอดของประเทศ จากที่มีข่าวว่า ก่อนที่อิสราเอลจะเปิดฉากโจมตีฮิซบอลเลาะห์นั้น ผู้นำอิหร่านที่กังวลกับปฏิบัติการของอิสราเอล ประกาศชัดเจนว่า สนใจฟื้นการเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร์และปรับปรุงความสัมพันธ์โดยรวมกับอเมริกา ทั้งนี้ภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา การโจมตีทางอากาศและการปฏิบัติการด้านข่าวกรองของอิสราเอล ได้นำไปสู่การสังหารผู้นำ นักรบ และทำลายคลังอาวุธของฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ทรงอิทธิพลที่สุดในตะวันออกกลาง รวมทั้งยังเป็นป้อมปราการที่คอยปกป้องการโจมตีดินแดนอิหร่านอีกด้วย ขณะเดียวกัน การโจมตีทางอากาศตลอดหนึ่งปีเต็มในฉนวนกาซา ได้สังหารเหล่าผู้นำของกลุ่มฮามาสจนเหลือผู้รอดชีวิตไม่กี่คนที่กบดานอยู่ในอุโมงค์ใต้ดิน กระนั้น ปรากฏว่ากองทัพอิสราเอลยังคงต้องวนกลับมาโจมตีกาซาหนักหน่วงอีกรอบในสัปดาห์นี้ และฮามาสยังสามารถสร้างความประหลาดใจด้วยการยิงจรวดใส่นครเทลอาวีฟเมื่อวันจันทร์ (7 ต.ค.) ระหว่างที่อิสราเอลรำลึกครบรอบ 1 ปีที่ถูกฮามาสบุกโจมตีและเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามในกาซา มีการคาดการณ์กันว่า หากอิสราเอลตอบโต้อิหร่านที่ยิงขีปนาวุธนับร้อยลูกใส่รัฐยิวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จะยิ่งเร่งรัดการเปลี่ยนดุลอำนาจในตะวันออกกลาง และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามเต็มรูปแบบในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่อเมริกาพยายามหลีกเลี่ยงมานานหลายทศวรรษ วอชิงตันออกตัวว่า อิสราเอลไม่ได้แจ้งก่อนที่จะโจมตีผู้นำฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน และในการให้สัมภาษณ์รายการ “60 มินิตส์” ของเครือข่ายซีบีเอสที่ออกอากาศเมื่อวันจันทร์ รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตในศึกชิงทำเนียบขาว ประกาศว่า อเมริกายังคงมุ่งมั่นให้ความช่วยเหลือทางทหารเพื่อให้อิสราเอลป้องกันตัวเอง ควบคู่กับการผลักดันให้ยุติความขัดแย้ง ย้อนกลับไปตอนที่อเมริการุกรานอิรักและโค่นล้มซัดดัม ผู้สนับสนุนอาจวาดหวังที่จะทำให้ประชาธิปไตยหยั่งรากในอิรัก แต่ผลกระทบไม่พึงประสงค์กลับใหญ่กว่านั้นมหาศาล ซึ่งรวมถึงการผงาดขึ้นมาของอักษะแห่งการต่อต้านของอิหร่านที่ขยายตัวทั้งในภูมิภาคและทั่วโลก อีกทั้งยังเกิดกลุ่มหัวรุนแรงใหม่ๆ ที่รวมถึงกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ขณะนี้ผู้นำทั่วโลกยังมองไม่ออกว่า ดุลอำนาจระหว่างอิหร่าน อิสราเอล ตะวันออกกลาง รวมถึงอเมริกา จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรหลังกองทัพอิสราเอลยุติสงคราม นาสร์เห็นว่า อิหร่านและพันธมิตรอ่อนแอลง เช่นเดียวกับอิทธิพลของอเมริกาที่ปล่อยให้อิสราเอลจูงจมูก สำหรับ เมห์ราน คัมราวา ศาสตราจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านตะวันออกกลางของมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ในกาตาร์ มองว่า อิสราเอลอาจเป็นฝ่ายเจ็บ เช่น หากเปิดสงครามภาคพื้นดินในเลบานอนและตกอยู่ในสภาพติดหล่ม และเสริมว่า สงครามเย็นตลอด 4 ทศวรรษระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน เวลานี้ได้กลายมาเป็นสงครามร้อน ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางยุทธศาสตร์ในตะวันออกกลาง แต่จะเปลี่ยนไปแบบไหนอย่างไรเป็นเรื่องยากมากที่จะคาดเดาในขณะนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000096119 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1854 มุมมอง 0 รีวิว