• มัลแวร์ BadBox แพร่กระจายโจมตีอุปกรณ์ Android กว่า 192,000 เครื่องทั่วโลก

    มัลแวร์ BadBox กำลังเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง โดยมีรายงานการแพร่กระจายไปยังอุปกรณ์ Android กว่า 192,000 เครื่องทั่วโลก แม้ว่าหน่วยงานความมั่นคงในเยอรมนีจะพยายามยับยั้งการแพร่ระบาดแล้ว แต่มัลแวร์นี้ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

    =ต้นกำเนิดและเป้าหมายของ BadBox=
    BadBox เริ่มต้นจากการโจมตีอุปกรณ์ที่ผลิตโดยแบรนด์ที่ไม่เป็นที่รู้จัก ก่อนจะขยายเป้าหมายไปยังอุปกรณ์ที่มีชื่อเสียง เช่น โทรทัศน์ Yandex และสมาร์ทโฟน Hisense
    เป้าหมายหลักของ BadBox คือผลประโยชน์ทางการเงิน โดยมัลแวร์นี้จะเปลี่ยนอุปกรณ์ให้เป็น พร็อกซี สำหรับการโจมตีหรือฉ้อโกงโฆษณา นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งมัลแวร์เพิ่มเติมในอุปกรณ์ Android เพื่อดำเนินกิจกรรมที่อันตรายยิ่งขึ้น

    =ความพยายามหยุดยั้งและสถานการณ์ปัจจุบัน=
    เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานความมั่นคงในเยอรมนีสามารถปิดการทำงานบางส่วนของเซิร์ฟเวอร์ควบคุมมัลแวร์นี้ได้ แต่การแพร่กระจายยังคงดำเนินต่อไป

    นักวิจัยจาก BitSight พบว่ามัลแวร์ BadBox ติดตั้งในโทรทัศน์และสมาร์ทโฟนกว่า 192,000 เครื่อง โดยอุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่ได้แก่
    - โทรทัศน์ Yandex 4K QLED Smart TV ซึ่งได้รับความนิยมในรัสเซีย
    - สมาร์ทโฟน Hisense T9631

    =การป้องกันมัลแวร์ BadBox=
    เพื่อป้องกันอุปกรณ์จากการติดมัลแวร์ ผู้ใช้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:
    - อัปเดตเฟิร์มแวร์ ของอุปกรณ์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ
    - แยกอุปกรณ์สมาร์ท ออกจากเครือข่ายที่สำคัญ
    - ตัดการเชื่อมต่อจากอินเทอร์เน็ต เมื่อไม่ใช้งาน
    - หากอุปกรณ์ไม่มีการอัปเดตความปลอดภัยหรือเฟิร์มแวร์ ผู้ใช้ควรพิจารณาตัดการเชื่อมต่อจากเครือข่ายหรือปิดเครื่อง

    =สัญญาณการติดมัลแวร์ BadBox=
    ผู้ใช้สามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้จากอาการดังต่อไปนี้:
    - อุปกรณ์ร้อนผิดปกติ
    - ประสิทธิภาพลดลงจากการใช้งานโปรเซสเซอร์ที่สูง
    - มีการใช้ bandwidth สูงผิดปกติ
    - การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าที่ไม่ได้ตั้งใจ
    การรับรู้และป้องกันภัยคุกคามเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อปกป้องอุปกรณ์และข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ.

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/badbox-malware-botnet-infects-192-000-android-devices-despite-disruption/
    มัลแวร์ BadBox แพร่กระจายโจมตีอุปกรณ์ Android กว่า 192,000 เครื่องทั่วโลก มัลแวร์ BadBox กำลังเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง โดยมีรายงานการแพร่กระจายไปยังอุปกรณ์ Android กว่า 192,000 เครื่องทั่วโลก แม้ว่าหน่วยงานความมั่นคงในเยอรมนีจะพยายามยับยั้งการแพร่ระบาดแล้ว แต่มัลแวร์นี้ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง =ต้นกำเนิดและเป้าหมายของ BadBox= BadBox เริ่มต้นจากการโจมตีอุปกรณ์ที่ผลิตโดยแบรนด์ที่ไม่เป็นที่รู้จัก ก่อนจะขยายเป้าหมายไปยังอุปกรณ์ที่มีชื่อเสียง เช่น โทรทัศน์ Yandex และสมาร์ทโฟน Hisense เป้าหมายหลักของ BadBox คือผลประโยชน์ทางการเงิน โดยมัลแวร์นี้จะเปลี่ยนอุปกรณ์ให้เป็น พร็อกซี สำหรับการโจมตีหรือฉ้อโกงโฆษณา นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งมัลแวร์เพิ่มเติมในอุปกรณ์ Android เพื่อดำเนินกิจกรรมที่อันตรายยิ่งขึ้น =ความพยายามหยุดยั้งและสถานการณ์ปัจจุบัน= เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานความมั่นคงในเยอรมนีสามารถปิดการทำงานบางส่วนของเซิร์ฟเวอร์ควบคุมมัลแวร์นี้ได้ แต่การแพร่กระจายยังคงดำเนินต่อไป นักวิจัยจาก BitSight พบว่ามัลแวร์ BadBox ติดตั้งในโทรทัศน์และสมาร์ทโฟนกว่า 192,000 เครื่อง โดยอุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่ได้แก่ - โทรทัศน์ Yandex 4K QLED Smart TV ซึ่งได้รับความนิยมในรัสเซีย - สมาร์ทโฟน Hisense T9631 =การป้องกันมัลแวร์ BadBox= เพื่อป้องกันอุปกรณ์จากการติดมัลแวร์ ผู้ใช้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้: - อัปเดตเฟิร์มแวร์ ของอุปกรณ์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ - แยกอุปกรณ์สมาร์ท ออกจากเครือข่ายที่สำคัญ - ตัดการเชื่อมต่อจากอินเทอร์เน็ต เมื่อไม่ใช้งาน - หากอุปกรณ์ไม่มีการอัปเดตความปลอดภัยหรือเฟิร์มแวร์ ผู้ใช้ควรพิจารณาตัดการเชื่อมต่อจากเครือข่ายหรือปิดเครื่อง =สัญญาณการติดมัลแวร์ BadBox= ผู้ใช้สามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้จากอาการดังต่อไปนี้: - อุปกรณ์ร้อนผิดปกติ - ประสิทธิภาพลดลงจากการใช้งานโปรเซสเซอร์ที่สูง - มีการใช้ bandwidth สูงผิดปกติ - การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าที่ไม่ได้ตั้งใจ การรับรู้และป้องกันภัยคุกคามเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อปกป้องอุปกรณ์และข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ. https://www.bleepingcomputer.com/news/security/badbox-malware-botnet-infects-192-000-android-devices-despite-disruption/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    BadBox malware botnet infects 192,000 Android devices despite disruption
    The BadBox Android malware botnet has grown to over 192,000 infected devices worldwide despite a recent sinkhole operation that attempted to disrupt the operation in Germany.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.97 : “ไต้หวัน” ทำยังไง? เปลี่ยน “เกษตรกรรม” สู่ “อุตสาหกรรมไฮเทค”
    .
    ทุกวันนี้ ไต้หวันได้เปลี่ยนเศรษฐกิจไปสู่อุตสาหกรรมไฮเทค โดยเฉพาะการผลิตไมโครชิป หรือ เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์แทบทุกชนิด ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงเครื่องบิน
    .
    ปัจจุบัน ไต้หวันผลิตชิปมากกว่าครึ่งนึงของทั้งหมดในโลกที่เราใช้กัน บริษัทผลิตชิปรายใหญ่ที่สุด คือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company หรือ TSMC ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าสูงที่สุดอันดับ 9 ของโลก จนถูกขนานนามว่าเป็น “ผู้คุ้มครองเกาะไต้หวัน” เพราะว่าถ้าหากไต้หวันเผชิญกับสงคราม จนส่งผลกระทบกับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ อุตสาหกรรมทั่วทั้งโลกก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย
    .
    พอดแคส บูรพาไม่แพ้ วันนี้ เราจะพาไปชมตัวอย่างจากไต้หวัน ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างอุตสาหกรรมไฮเทค เพื่อมองว่าประเทศไทยจะต้องทำอย่างไรถึงจะเปลี่ยนรูปแบบเศรษฐกิจได้เช่นเดียวกัน ?
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=329LVL2D6T4
    บูรพาไม่แพ้ Ep.97 : “ไต้หวัน” ทำยังไง? เปลี่ยน “เกษตรกรรม” สู่ “อุตสาหกรรมไฮเทค” . ทุกวันนี้ ไต้หวันได้เปลี่ยนเศรษฐกิจไปสู่อุตสาหกรรมไฮเทค โดยเฉพาะการผลิตไมโครชิป หรือ เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์แทบทุกชนิด ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงเครื่องบิน . ปัจจุบัน ไต้หวันผลิตชิปมากกว่าครึ่งนึงของทั้งหมดในโลกที่เราใช้กัน บริษัทผลิตชิปรายใหญ่ที่สุด คือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company หรือ TSMC ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าสูงที่สุดอันดับ 9 ของโลก จนถูกขนานนามว่าเป็น “ผู้คุ้มครองเกาะไต้หวัน” เพราะว่าถ้าหากไต้หวันเผชิญกับสงคราม จนส่งผลกระทบกับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ อุตสาหกรรมทั่วทั้งโลกก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย . พอดแคส บูรพาไม่แพ้ วันนี้ เราจะพาไปชมตัวอย่างจากไต้หวัน ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างอุตสาหกรรมไฮเทค เพื่อมองว่าประเทศไทยจะต้องทำอย่างไรถึงจะเปลี่ยนรูปแบบเศรษฐกิจได้เช่นเดียวกัน ? . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=329LVL2D6T4
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 455 มุมมอง 0 รีวิว
  • แวะไปเรื่องวงการมือถือหน่อยนึงครับ สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Huawei คือรุ่น Mate 70 ที่จะวางขายวันที่ 4 ธันวาคมนี้ จะใช้ชิปเซ็ตรุ่นใหม่ Kirin 9020 แบบ 12 คอร์ และมี Hyperthreading ที่ประกอบไปด้วย
    2 คอร์ ที่ความเร็ว 2.50 Ghz
    6 คอร์ ที่ความเร็ว 2.15 Ghz
    4 คอร์ ที่ความเร็ว 1.60 Ghz
    มี GPU รุ่นใหม่ Maleoon 920 ที่สามารถทำงานได้ถึง 840MHz มาพร้อมกับ OS ของตัวเอง HarmonyOS เวอร์ชั่น 4.3

    ทุกฝ่ายคาดว่า ชิป Kirin 9020 จะใช้เทคโนโลยีการผลิตของ SMIC เอง ซึ่งเก่ากว่าเทคโนโลยีล่าสุดของ TSMC ซึ่งอาจทำให้ Kirin 9020 มีประสิทธิภาพที่ช้ากว่าคู่แข่งและใช้พลังงานมากกว่า

    https://wccf.tech/1fkng
    แวะไปเรื่องวงการมือถือหน่อยนึงครับ สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Huawei คือรุ่น Mate 70 ที่จะวางขายวันที่ 4 ธันวาคมนี้ จะใช้ชิปเซ็ตรุ่นใหม่ Kirin 9020 แบบ 12 คอร์ และมี Hyperthreading ที่ประกอบไปด้วย 2 คอร์ ที่ความเร็ว 2.50 Ghz 6 คอร์ ที่ความเร็ว 2.15 Ghz 4 คอร์ ที่ความเร็ว 1.60 Ghz มี GPU รุ่นใหม่ Maleoon 920 ที่สามารถทำงานได้ถึง 840MHz มาพร้อมกับ OS ของตัวเอง HarmonyOS เวอร์ชั่น 4.3 ทุกฝ่ายคาดว่า ชิป Kirin 9020 จะใช้เทคโนโลยีการผลิตของ SMIC เอง ซึ่งเก่ากว่าเทคโนโลยีล่าสุดของ TSMC ซึ่งอาจทำให้ Kirin 9020 มีประสิทธิภาพที่ช้ากว่าคู่แข่งและใช้พลังงานมากกว่า https://wccf.tech/1fkng
    WCCF.TECH
    Huawei’s Newest Mate 70 Series Are Equipped With The Company’s Latest Kirin 9020 Chipset With A 12-Core Hyperthreaded CPU Configuration, Upgraded GPU & More
    The Kirin 9020 is Huawei’s latest silicon incorporated in the Mate 70 family, and here are all the specifications you wanted to know about it
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • 20 ปีก่อน Intel พลาดที่ปฏิเสธ Apple ที่จะพัฒนา CPU มือถือให้ iPhone
    ปัจจุบันมีข่าว AMD จะเข้าสู่วงการมือถือ โดยมีแผนที่จะเปิดตัว SoC ที่มีลักษณะคล้าย APU ชื่อ "Ryzen AI" สำหรับสมาร์ทโฟน
    AMD เดยร่วมกับ Samsung ผลิต Exynos 2200 ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 2 ของ AMD ครับ

    https://wccf.tech/1fj8n
    20 ปีก่อน Intel พลาดที่ปฏิเสธ Apple ที่จะพัฒนา CPU มือถือให้ iPhone ปัจจุบันมีข่าว AMD จะเข้าสู่วงการมือถือ โดยมีแผนที่จะเปิดตัว SoC ที่มีลักษณะคล้าย APU ชื่อ "Ryzen AI" สำหรับสมาร์ทโฟน AMD เดยร่วมกับ Samsung ผลิต Exynos 2200 ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 2 ของ AMD ครับ https://wccf.tech/1fj8n
    WCCF.TECH
    AMD Rumored To Enter The "Smartphone Markets", Likely Introducing APU-Like "Ryzen AI' SoCs
    AMD is rumored to enter the "smartphone markets" and is already in talks with integrators to have its "Ryzen AI" mobile SoCs in smartphones.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • แอปเปิ้ลสู้กลับ ลงทุนโรงงานในอินโดฯ

    หลังกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ไม่อนุญาตให้บริษัทแอปเปิ้ล (Apple Inc.) ของสหรัฐอเมริกา จำหน่ายโทรศัพท์มือถือไอโฟน 16 (iPhone 16) ในประเทศ หลังไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนดการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ (Local Content) ให้ได้ 40% ตามใบรับรองผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศ หรือ TKDN ซึ่งพบว่าแอปเปิ้ลเลือกก่อตั้งสถาบัน Apple Academies ที่เมืองทังเกอรัง เมืองซิโดอาร์โจ และเมืองบาตัม แต่เม็ดเงินลงทุนเพียงแค่ 1.48 ล้านล้านรูเปียห์ ต่ำกว่ายอดการลงทุนทั้งหมดที่กำหนดไว้ 1.71 ล้านล้านรูเปียห์ ทำให้อินโดนีเซียขาดดุลทางการค้ากับแอปเปิ้ล คิดเป็นเงินไทยเกือบ 500 ล้านบาท

    ล่าสุด สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า แอปเปิ้ลเตรียมเสนอการลงทุนในอินโดนีเซีย ด้วยการลงทุนเกือบ 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าลงทุนโรงงานแห่งหนึ่งในเมืองบันดุง จังหวัดชวาตะวันตก ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงจาการ์ตา ร่วมกับซัพพลายเออร์รายหนึ่ง เพื่อเปิดทางให้สามารถจำหน่ายไอโฟน 16 ในประเทศได้ โดยจะผลิตสินค้า เช่น อุปกรณ์เสริมและชิ้นส่วนประกอบของอุปกรณ์แอปเปิ้ล โดยแอปเปิ้ลได้ยื่นข้อเสนอต่อกระทรวงอุตสาหกรรมของอินโดนีเซียแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อเสนอ แต่ทั้งแอปเปิ้ลและกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ปฎิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าว

    ก่อนหน้านี้ กระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย สั่งห้ามจำหน่ายสมาร์ทโฟน กูเกิล พิกเซล (Google Pixel) ที่ผลิตโดย กูเกิล บริษัทลูกของอัลฟาเบต (Alphabet) ด้วยเหตุผลเดียวกับแอปเปิ้ล คือ ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดการลงทุนในประเทศ โฆษกกระทรวงฯ ยืนยันว่า รัฐบาลผลักดันระเบียบนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่นักลงทุนทุกคนในอินโดนีเซีย ผลิตภัณฑ์ของกูเกิลไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ จึงไม่สามารถจำหน่ายในอินโดนีเซียได้ แต่ผู้บริโภคสามารถซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวจากต่างประเทศได้ หากชำระภาษีอย่างถูกต้อง ซึ่งในปี 2567 มีสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวนำเข้ามาแล้ว 22,000 เครื่อง

    อินโดนีเซียเป็นตลาดที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่ประมาณ 350 ล้านเครื่อง มากกว่าจำนวนประชากรราว 270 ล้านคน ที่ผ่านมารัฐบาลปราโบโว สุเบียนโต กดดันให้บริษัทต่างชาติเร่งรัดการผลิตในประเทศ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง ท่ามกลางความกังวลว่าอาจมีการเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว ต้องดูว่ารัฐบาลอินโดนีเซียจะมีท่าทีอย่างไรกับเรื่องนี้

    #Newskit #iPhone16 #Indonesia
    แอปเปิ้ลสู้กลับ ลงทุนโรงงานในอินโดฯ หลังกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ไม่อนุญาตให้บริษัทแอปเปิ้ล (Apple Inc.) ของสหรัฐอเมริกา จำหน่ายโทรศัพท์มือถือไอโฟน 16 (iPhone 16) ในประเทศ หลังไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนดการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ (Local Content) ให้ได้ 40% ตามใบรับรองผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศ หรือ TKDN ซึ่งพบว่าแอปเปิ้ลเลือกก่อตั้งสถาบัน Apple Academies ที่เมืองทังเกอรัง เมืองซิโดอาร์โจ และเมืองบาตัม แต่เม็ดเงินลงทุนเพียงแค่ 1.48 ล้านล้านรูเปียห์ ต่ำกว่ายอดการลงทุนทั้งหมดที่กำหนดไว้ 1.71 ล้านล้านรูเปียห์ ทำให้อินโดนีเซียขาดดุลทางการค้ากับแอปเปิ้ล คิดเป็นเงินไทยเกือบ 500 ล้านบาท ล่าสุด สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า แอปเปิ้ลเตรียมเสนอการลงทุนในอินโดนีเซีย ด้วยการลงทุนเกือบ 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าลงทุนโรงงานแห่งหนึ่งในเมืองบันดุง จังหวัดชวาตะวันตก ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงจาการ์ตา ร่วมกับซัพพลายเออร์รายหนึ่ง เพื่อเปิดทางให้สามารถจำหน่ายไอโฟน 16 ในประเทศได้ โดยจะผลิตสินค้า เช่น อุปกรณ์เสริมและชิ้นส่วนประกอบของอุปกรณ์แอปเปิ้ล โดยแอปเปิ้ลได้ยื่นข้อเสนอต่อกระทรวงอุตสาหกรรมของอินโดนีเซียแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อเสนอ แต่ทั้งแอปเปิ้ลและกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ปฎิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าว ก่อนหน้านี้ กระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย สั่งห้ามจำหน่ายสมาร์ทโฟน กูเกิล พิกเซล (Google Pixel) ที่ผลิตโดย กูเกิล บริษัทลูกของอัลฟาเบต (Alphabet) ด้วยเหตุผลเดียวกับแอปเปิ้ล คือ ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดการลงทุนในประเทศ โฆษกกระทรวงฯ ยืนยันว่า รัฐบาลผลักดันระเบียบนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่นักลงทุนทุกคนในอินโดนีเซีย ผลิตภัณฑ์ของกูเกิลไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ จึงไม่สามารถจำหน่ายในอินโดนีเซียได้ แต่ผู้บริโภคสามารถซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวจากต่างประเทศได้ หากชำระภาษีอย่างถูกต้อง ซึ่งในปี 2567 มีสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวนำเข้ามาแล้ว 22,000 เครื่อง อินโดนีเซียเป็นตลาดที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่ประมาณ 350 ล้านเครื่อง มากกว่าจำนวนประชากรราว 270 ล้านคน ที่ผ่านมารัฐบาลปราโบโว สุเบียนโต กดดันให้บริษัทต่างชาติเร่งรัดการผลิตในประเทศ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง ท่ามกลางความกังวลว่าอาจมีการเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว ต้องดูว่ารัฐบาลอินโดนีเซียจะมีท่าทีอย่างไรกับเรื่องนี้ #Newskit #iPhone16 #Indonesia
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 669 มุมมอง 0 รีวิว
  • เตรียมเลิกใช้แบรนด์ Galaxy กับสมาร์ทโฟนเรือธง (06/11/67) #news1 #Samsung #เลิกใช้แบรนด์Galaxy #สมาร์ทโฟน
    เตรียมเลิกใช้แบรนด์ Galaxy กับสมาร์ทโฟนเรือธง (06/11/67) #news1 #Samsung #เลิกใช้แบรนด์Galaxy #สมาร์ทโฟน
    Like
    12
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1512 มุมมอง 745 0 รีวิว
  • อินโดฯ:ไม่มีการลงทุน ก็ไม่ต้องมี iPhone16

    ชัดเจนแล้วว่าทางการอินโดนีเซียไม่ให้บริษัทแอปเปิ้ล (Apple Inc.) ของสหรัฐอเมริกา จำหน่ายโทรศัพท์มือถือไอโฟน 16 (iPhone 16) ในประเทศ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 ต.ค.) หลังบริษัทท้องถิ่น พีที แอปเปิ้ล อินโดนีเซีย (PT Apple Indonesia) ไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนดการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ (Local Content) ให้ได้ 40% แต่ผลิตภัณฑ์รุ่นเก่าของแอปเปิ้ลยังคงจำหน่ายในอินโดนีเซียได้

    ทั้งนี้ มีโทรศัพท์มือถือไอโฟน 16 นำเข้ามาในประเทศอินโดนีเซียแล้ว 9,000 เครื่อง ผ่านการซื้อจากต่างประเทศของผู้โดยสาร และลูกเรือบนเครื่องบิน หรือการส่งพัสดุระหว่างประเทศ แต่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานส่วนบุคคล (Personal Use) เท่านั้น ไม่สามารถซื้อขายแก่ผู้อื่นได้ และตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ทางการอินโดนีเซียได้กำหนดให้โทรศัพท์มือถือทุกรุ่นที่ซื้อจากต่างประเทศต้องลงทะเบียนกับรัฐบาล และเสียภาษีในอัตราที่สูง

    กรณีนี้กลายเป็นอุปสรรคที่ทำให้แอปเปิ้ล ไม่สามารถเจาะตลาดสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ แก่ประเทศอินโดนีเซีย ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่ประมาณ 350 ล้านเครื่อง มากกว่าจำนวนประชากรราว 270 ล้านคน ทั้งที่แอปเปิ้ลเปิดตัวผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2567 เป็นต้นมา ซึ่งในภูมิภาคอาเซียนวางจำหน่ายแล้วที่ สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม บรูไน ฟิลิปปินส์

    ตามข้อบังคับของกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ปี 2017 กำหนดให้ผู้ประกอบการจะต้องขอใบรับรองผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศ เรียกว่า TKDN (Tingkat Komponen Domestik Negeri) หนึ่งในนั้นคือการกำหนด Local Content ในรูปแบบการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ การผลิตและการจ้างแรงงานในประเทศ การพัฒนาแอปพลิเคชัน หรือนวัตกรรมในประเทศ ที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเลือกใช้โครงการพัฒนานวัตกรรม ก่อตั้งสถาบัน Apple Academies ที่เมืองทังเกอรัง เมืองซิโดอาร์โจ และเมืองบาตัม

    ปัญหาก็คือ เม็ดเงินลงทุนของแอปเปิ้ลในอินโดนีเซียอยู่ที่ 1.48 ล้านล้านรูเปียห์ ต่ำกว่ายอดการลงทุนทั้งหมดที่กำหนดไว้ 1.71 ล้านล้านรูเปียห์ ทำให้อินโดนีเซียขาดดุลทางการค้าคิดเป็นเงินไทยเกือบ 500 ล้านบาท แม้มองผิวเผินดูเหมือนว่าเป็นการกีดกันทางการค้า จำกัดเสรีภาพในการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ แต่อีกมุมหนึ่ง ถือเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ไม่ให้เกิดการขาดดุลทางการค้า ซึ่งที่ผ่านมา ซัมซุงและเสียวมี่ เลือกที่จะตั้งโรงงานในอินโดนีเซียเช่นกัน

    #Newskit #iPhone16 #Indonesia
    อินโดฯ:ไม่มีการลงทุน ก็ไม่ต้องมี iPhone16 ชัดเจนแล้วว่าทางการอินโดนีเซียไม่ให้บริษัทแอปเปิ้ล (Apple Inc.) ของสหรัฐอเมริกา จำหน่ายโทรศัพท์มือถือไอโฟน 16 (iPhone 16) ในประเทศ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 ต.ค.) หลังบริษัทท้องถิ่น พีที แอปเปิ้ล อินโดนีเซีย (PT Apple Indonesia) ไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนดการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ (Local Content) ให้ได้ 40% แต่ผลิตภัณฑ์รุ่นเก่าของแอปเปิ้ลยังคงจำหน่ายในอินโดนีเซียได้ ทั้งนี้ มีโทรศัพท์มือถือไอโฟน 16 นำเข้ามาในประเทศอินโดนีเซียแล้ว 9,000 เครื่อง ผ่านการซื้อจากต่างประเทศของผู้โดยสาร และลูกเรือบนเครื่องบิน หรือการส่งพัสดุระหว่างประเทศ แต่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานส่วนบุคคล (Personal Use) เท่านั้น ไม่สามารถซื้อขายแก่ผู้อื่นได้ และตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ทางการอินโดนีเซียได้กำหนดให้โทรศัพท์มือถือทุกรุ่นที่ซื้อจากต่างประเทศต้องลงทะเบียนกับรัฐบาล และเสียภาษีในอัตราที่สูง กรณีนี้กลายเป็นอุปสรรคที่ทำให้แอปเปิ้ล ไม่สามารถเจาะตลาดสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ แก่ประเทศอินโดนีเซีย ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่ประมาณ 350 ล้านเครื่อง มากกว่าจำนวนประชากรราว 270 ล้านคน ทั้งที่แอปเปิ้ลเปิดตัวผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2567 เป็นต้นมา ซึ่งในภูมิภาคอาเซียนวางจำหน่ายแล้วที่ สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม บรูไน ฟิลิปปินส์ ตามข้อบังคับของกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ปี 2017 กำหนดให้ผู้ประกอบการจะต้องขอใบรับรองผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศ เรียกว่า TKDN (Tingkat Komponen Domestik Negeri) หนึ่งในนั้นคือการกำหนด Local Content ในรูปแบบการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ การผลิตและการจ้างแรงงานในประเทศ การพัฒนาแอปพลิเคชัน หรือนวัตกรรมในประเทศ ที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเลือกใช้โครงการพัฒนานวัตกรรม ก่อตั้งสถาบัน Apple Academies ที่เมืองทังเกอรัง เมืองซิโดอาร์โจ และเมืองบาตัม ปัญหาก็คือ เม็ดเงินลงทุนของแอปเปิ้ลในอินโดนีเซียอยู่ที่ 1.48 ล้านล้านรูเปียห์ ต่ำกว่ายอดการลงทุนทั้งหมดที่กำหนดไว้ 1.71 ล้านล้านรูเปียห์ ทำให้อินโดนีเซียขาดดุลทางการค้าคิดเป็นเงินไทยเกือบ 500 ล้านบาท แม้มองผิวเผินดูเหมือนว่าเป็นการกีดกันทางการค้า จำกัดเสรีภาพในการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ แต่อีกมุมหนึ่ง ถือเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ไม่ให้เกิดการขาดดุลทางการค้า ซึ่งที่ผ่านมา ซัมซุงและเสียวมี่ เลือกที่จะตั้งโรงงานในอินโดนีเซียเช่นกัน #Newskit #iPhone16 #Indonesia
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 833 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไร้เทียมทาน! หัวเว่ยเปิดตัวระบบปฏิบัติการ "HarmonyOS NEXT" สลัดทิ้ง Android

    23 ตุลาคม 2567-หัวเว่ยได้ฤกษ์เผยกำหนดการเปิดตัวระบบปฏิบัติการ HarmonyOS NEXT อย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ การมาของ HarmonyOS NEXT ปิดฉากความเกี่ยวข้องกับ ระบบปฏิบัติการ Androidโดยปริยาย เพราะระบบปฏิบัติการใหม่จะไม่รองรับแอปตระกูล APK อีกต่อไป หัวเว่ยเคลมว่า HarmonyOS NEXT มีแอปพร้อมใช้งานกว่า 10,000 แอป และครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้งานได้ราว 99.99% แล้ว

    ในช่วงที่ผ่านมา หัวเว่ยก็พยายามโน้มน้าวนักพัฒนาในประเทศอย่างหนักให้หันมาทำแอปลง HarmonyOS NEXT เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับระบบปฏิบัติการของตน ปัจจุบัน HarmonyOS มีนักพัฒนาที่ลงทะเบียน 6.7 ล้านคน และอุปกรณ์ที่รองรับมากกว่า 1 พันล้านชิ้น

    อย่างไรก็ตาม บริษัทวิจัยตลาด Counterpoint พบว่า HarmonyOS ครองส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในจีน 17% ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 แซงหน้า iOS ที่ครองส่วนแบ่ง 16% และกลายเป็นระบบปฏิบัติการที่ใหญ่เป็นอันดับสองในจีน รองจาก Android ที่ยังครองส่วนแบ่งมากถึง 67%

    #Thaitimes
    ไร้เทียมทาน! หัวเว่ยเปิดตัวระบบปฏิบัติการ "HarmonyOS NEXT" สลัดทิ้ง Android 23 ตุลาคม 2567-หัวเว่ยได้ฤกษ์เผยกำหนดการเปิดตัวระบบปฏิบัติการ HarmonyOS NEXT อย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ การมาของ HarmonyOS NEXT ปิดฉากความเกี่ยวข้องกับ ระบบปฏิบัติการ Androidโดยปริยาย เพราะระบบปฏิบัติการใหม่จะไม่รองรับแอปตระกูล APK อีกต่อไป หัวเว่ยเคลมว่า HarmonyOS NEXT มีแอปพร้อมใช้งานกว่า 10,000 แอป และครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้งานได้ราว 99.99% แล้ว ในช่วงที่ผ่านมา หัวเว่ยก็พยายามโน้มน้าวนักพัฒนาในประเทศอย่างหนักให้หันมาทำแอปลง HarmonyOS NEXT เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับระบบปฏิบัติการของตน ปัจจุบัน HarmonyOS มีนักพัฒนาที่ลงทะเบียน 6.7 ล้านคน และอุปกรณ์ที่รองรับมากกว่า 1 พันล้านชิ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทวิจัยตลาด Counterpoint พบว่า HarmonyOS ครองส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในจีน 17% ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 แซงหน้า iOS ที่ครองส่วนแบ่ง 16% และกลายเป็นระบบปฏิบัติการที่ใหญ่เป็นอันดับสองในจีน รองจาก Android ที่ยังครองส่วนแบ่งมากถึง 67% #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 370 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทุกวันนี้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจโลก Printed Circuit Board (PCB) หรือแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ กลายเป็นหัวใจหลักที่ช่วยให้การพัฒนาเทคโนโลยีเกิดขึ้นได้ ตั้งแต่อุปกรณ์สมาร์ทโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์การแพทย์ ไปจนถึงระบบ AI และ Data Centers

    ล่าสุด ประเทศไทยได้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำที่มีศักยภาพสูงสุดในการผลิต PCB ของอาเซียน และกำลังมุ่งหน้าสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลก ด้วยการสนับสนุนจากบีโอไอ ที่มุ่งเน้นการดึงดูดการลงทุนและการสร้างรากฐานสำหรับอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง โดยตั้งเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศผู้ผลิต PCB ชั้นนำของโลกภายใน 5 ปีข้างหน้า

    🔶PCB คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ

    PCB (Printed Circuit Board) คือ ส่วนประกอบสำคัญในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น ชิปหรือเซนเซอร์ ที่พบได้ในอุปกรณ์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์การแพทย์ แผงวงจรเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญาณไฟฟ้าระหว่างชิ้นส่วนต่างๆ ทำให้ระบบทั้งหมดสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การทำงานของ PCB สามารถอธิบายได้เหมือนกับ "ทางเดิน" ที่เชื่อมต่อพลังงานไฟฟ้าให้ไหลไปยังส่วนต่างๆ ของวงจร ซึ่งลายวงจรไฟฟ้านี้จะถูกสลักลงบนแผ่นทองแดงที่ยึดอยู่บนวัสดุแข็ง เช่น ไฟเบอร์กลาส วัสดุนี้เป็นตัวรองรับแผงวงจรและทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ สามารถติดตั้งและทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพ และเป็นรากฐานที่ทำให้การพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีเป็นไปได้

    1. หัวใจของนวัตกรรมในทุกภาคส่วน : PCB มีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยี ตั้งแต่อุปกรณ์ส่วนบุคคลไปจนถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ อุปกรณ์การแพทย์ และการบิน การที่อุตสาหกรรม PCB เติบโต หมายถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สูงขึ้น

    2. ตอบโจทย์การออกแบบขนาดเล็กและประสิทธิภาพสูง : เทคโนโลยี PCB รุ่นใหม่ เช่น High-Density Interconnect (HDI) และ Flexible PCB ช่วยให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีขนาดเล็กลงและเบาขึ้น ขณะเดียวกันยังคงความสามารถในการประมวลผลและการใช้งานที่ซับซ้อน เช่น ในสมาร์ทโฟน รวมทั้งตอบโจทย์การใช้งานในอุปกรณ์สวมใส่และอุปกรณ์ทางการแพทย์

    3. ความยืดหยุ่นและความทนทานที่เพิ่มขึ้น : PCB แบบ Rigid-Flex เป็นอีกนวัตกรรมหนึ่งที่ผสมผสานความแข็งแรงและความยืดหยุ่นในแผ่นเดียวกัน ซึ่งเหมาะสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานและความสามารถในการรับแรงกระแทก เช่น อุตสาหกรรมการบินและยานยนต์

    🔶ทำไมประเทศไทยถึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของการลงทุนใน PCB

    ข้อมูลจากบีโอไอ สะท้อนว่าการลงทุนในอุตสาหกรรม PCB ของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างน่าสนใจ จากปี 2561 ถึงกลางปี 2567 มีการลงทุนรวมเกือบ 200,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในปี 2566 ที่มีการลงทุนสูงกว่า 100,000 ล้านบาท และในครึ่งปีแรกของปี 2567 การลงทุนเพิ่มอีก 39,732 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมและทิศทางของไทยที่กำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิต PCB ในระดับโลก

    1. การเติบโตอย่างรวดเร็วของการลงทุนจากต่างประเทศ : นักลงทุนจาก จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคอื่นๆ และการมองเห็นศักยภาพในความเสถียรทางเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย

    2. ข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ : ไทยมี แรงงานที่พร้อมพัฒนาทักษะ โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และ ห่วงโซ่อุปทานที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการผลิตชิ้นส่วน การเคลือบ การเจาะ การทดสอบทางไฟฟ้า รวมถึงการประกอบชิ้นส่วนขั้นสูง ทำให้สามารถรองรับการผลิตที่ต้องการความแม่นยำและเทคโนโลยีสูงได้อย่างเต็มที่

    3. การสนับสนุนจากบีโอไอ : ที่มีบทบาทสำคัญในการดึงดูดการลงทุนผ่านการมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งการยกเว้นภาษี การยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบ และการสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมทั้งยังเน้นการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะสูง ผ่านการจัดโครงการ Job matching และการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อรองรับอุตสาหกรรม PCB โดยเฉพาะ

    🔶การเติบโตสู่ระดับโลก : เป้าหมายของไทยใน 5 ปีข้างหน้า

    ประเทศไทยตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศผู้ผลิต PCB ชั้นนำของโลก ภายใน 5 ปีข้างหน้า การเป็นศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาคและการเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง

    ประเทศไทยกำลังมุ่งหน้าไปสู่การเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรม PCB ระดับโลกภายใน 5 ปี ด้วยการสนับสนุนจากบีโอไอ ที่เน้น 3 ด้านหลัก คือ การพัฒนาบุคลากร การเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) และ สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

    1. การพัฒนาบุคลากร : บีโอไอ ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและภาคเอกชนในการฝึกอบรมบุคลากรและจับคู่ธุรกิจ เพื่อสร้างแรงงานที่มีทักษะสูงสำหรับอุตสาหกรรม PCB

    2. การเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทาน : นอกจากการผลิต PCB แล้ว ไทยยังสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การเคลือบ การเจาะ การเชื่อมวงจร และการผลิตชิ้นส่วนที่สนับสนุนการเติบโตของห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศ ผ่านงานจับคู่ธุรกิจอย่าง Subcon Thailand และ Thailand Electronics Circuit Asia (THECA)

    3. การใช้พลังงานสะอาด : การผลิต PCB ใช้พลังงานและน้ำจำนวนมาก จึงมีการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดผ่านโครงการ Utility Green Tariff (UGT) และการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การผลิตมีความยั่งยืนและไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    การใช้พลังงานสะอาด : การผลิต PCB ต้องการพลังงานและน้ำในปริมาณมาก ปัจจุบันกระทรวงพลังงานกำลังดำเนินโครงการ Utility Green Tariff (UGT) ซึ่งเป็นอัตราค่าไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสะอาดจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานสีเขียวในภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจว่ามีแหล่งพลังงานสะอาดเพียงพอ รวมถึงการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้กระบวนการผลิตยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    ✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨
    #บีโอไอส่งเสริมการลงทุนทั้งคนไทยและต่างชาติทุกขนาดการลงทุน
    📱 0 2553 8111
    📧 head@boi.go.th
    🌐 www.boi.go.th
    🔰ไม่มีค่าใช้จ่ายในการติดต่อ

    #PCB #SupplyChain #ThailandTechHub #PCBInnovation #TopPCBThailand
    ทุกวันนี้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจโลก Printed Circuit Board (PCB) หรือแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ กลายเป็นหัวใจหลักที่ช่วยให้การพัฒนาเทคโนโลยีเกิดขึ้นได้ ตั้งแต่อุปกรณ์สมาร์ทโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์การแพทย์ ไปจนถึงระบบ AI และ Data Centers ล่าสุด ประเทศไทยได้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำที่มีศักยภาพสูงสุดในการผลิต PCB ของอาเซียน และกำลังมุ่งหน้าสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลก ด้วยการสนับสนุนจากบีโอไอ ที่มุ่งเน้นการดึงดูดการลงทุนและการสร้างรากฐานสำหรับอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง โดยตั้งเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศผู้ผลิต PCB ชั้นนำของโลกภายใน 5 ปีข้างหน้า 🔶PCB คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ PCB (Printed Circuit Board) คือ ส่วนประกอบสำคัญในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น ชิปหรือเซนเซอร์ ที่พบได้ในอุปกรณ์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์การแพทย์ แผงวงจรเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญาณไฟฟ้าระหว่างชิ้นส่วนต่างๆ ทำให้ระบบทั้งหมดสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานของ PCB สามารถอธิบายได้เหมือนกับ "ทางเดิน" ที่เชื่อมต่อพลังงานไฟฟ้าให้ไหลไปยังส่วนต่างๆ ของวงจร ซึ่งลายวงจรไฟฟ้านี้จะถูกสลักลงบนแผ่นทองแดงที่ยึดอยู่บนวัสดุแข็ง เช่น ไฟเบอร์กลาส วัสดุนี้เป็นตัวรองรับแผงวงจรและทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ สามารถติดตั้งและทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพ และเป็นรากฐานที่ทำให้การพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีเป็นไปได้ 1. หัวใจของนวัตกรรมในทุกภาคส่วน : PCB มีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยี ตั้งแต่อุปกรณ์ส่วนบุคคลไปจนถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ อุปกรณ์การแพทย์ และการบิน การที่อุตสาหกรรม PCB เติบโต หมายถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สูงขึ้น 2. ตอบโจทย์การออกแบบขนาดเล็กและประสิทธิภาพสูง : เทคโนโลยี PCB รุ่นใหม่ เช่น High-Density Interconnect (HDI) และ Flexible PCB ช่วยให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีขนาดเล็กลงและเบาขึ้น ขณะเดียวกันยังคงความสามารถในการประมวลผลและการใช้งานที่ซับซ้อน เช่น ในสมาร์ทโฟน รวมทั้งตอบโจทย์การใช้งานในอุปกรณ์สวมใส่และอุปกรณ์ทางการแพทย์ 3. ความยืดหยุ่นและความทนทานที่เพิ่มขึ้น : PCB แบบ Rigid-Flex เป็นอีกนวัตกรรมหนึ่งที่ผสมผสานความแข็งแรงและความยืดหยุ่นในแผ่นเดียวกัน ซึ่งเหมาะสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานและความสามารถในการรับแรงกระแทก เช่น อุตสาหกรรมการบินและยานยนต์ 🔶ทำไมประเทศไทยถึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของการลงทุนใน PCB ข้อมูลจากบีโอไอ สะท้อนว่าการลงทุนในอุตสาหกรรม PCB ของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างน่าสนใจ จากปี 2561 ถึงกลางปี 2567 มีการลงทุนรวมเกือบ 200,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในปี 2566 ที่มีการลงทุนสูงกว่า 100,000 ล้านบาท และในครึ่งปีแรกของปี 2567 การลงทุนเพิ่มอีก 39,732 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมและทิศทางของไทยที่กำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิต PCB ในระดับโลก 1. การเติบโตอย่างรวดเร็วของการลงทุนจากต่างประเทศ : นักลงทุนจาก จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคอื่นๆ และการมองเห็นศักยภาพในความเสถียรทางเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย 2. ข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ : ไทยมี แรงงานที่พร้อมพัฒนาทักษะ โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และ ห่วงโซ่อุปทานที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการผลิตชิ้นส่วน การเคลือบ การเจาะ การทดสอบทางไฟฟ้า รวมถึงการประกอบชิ้นส่วนขั้นสูง ทำให้สามารถรองรับการผลิตที่ต้องการความแม่นยำและเทคโนโลยีสูงได้อย่างเต็มที่ 3. การสนับสนุนจากบีโอไอ : ที่มีบทบาทสำคัญในการดึงดูดการลงทุนผ่านการมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งการยกเว้นภาษี การยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบ และการสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมทั้งยังเน้นการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะสูง ผ่านการจัดโครงการ Job matching และการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อรองรับอุตสาหกรรม PCB โดยเฉพาะ 🔶การเติบโตสู่ระดับโลก : เป้าหมายของไทยใน 5 ปีข้างหน้า ประเทศไทยตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศผู้ผลิต PCB ชั้นนำของโลก ภายใน 5 ปีข้างหน้า การเป็นศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาคและการเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ประเทศไทยกำลังมุ่งหน้าไปสู่การเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรม PCB ระดับโลกภายใน 5 ปี ด้วยการสนับสนุนจากบีโอไอ ที่เน้น 3 ด้านหลัก คือ การพัฒนาบุคลากร การเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) และ สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน 1. การพัฒนาบุคลากร : บีโอไอ ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและภาคเอกชนในการฝึกอบรมบุคลากรและจับคู่ธุรกิจ เพื่อสร้างแรงงานที่มีทักษะสูงสำหรับอุตสาหกรรม PCB 2. การเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทาน : นอกจากการผลิต PCB แล้ว ไทยยังสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การเคลือบ การเจาะ การเชื่อมวงจร และการผลิตชิ้นส่วนที่สนับสนุนการเติบโตของห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศ ผ่านงานจับคู่ธุรกิจอย่าง Subcon Thailand และ Thailand Electronics Circuit Asia (THECA) 3. การใช้พลังงานสะอาด : การผลิต PCB ใช้พลังงานและน้ำจำนวนมาก จึงมีการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดผ่านโครงการ Utility Green Tariff (UGT) และการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การผลิตมีความยั่งยืนและไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานสะอาด : การผลิต PCB ต้องการพลังงานและน้ำในปริมาณมาก ปัจจุบันกระทรวงพลังงานกำลังดำเนินโครงการ Utility Green Tariff (UGT) ซึ่งเป็นอัตราค่าไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสะอาดจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานสีเขียวในภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจว่ามีแหล่งพลังงานสะอาดเพียงพอ รวมถึงการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้กระบวนการผลิตยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨ #บีโอไอส่งเสริมการลงทุนทั้งคนไทยและต่างชาติทุกขนาดการลงทุน 📱 0 2553 8111 📧 head@boi.go.th 🌐 www.boi.go.th 🔰ไม่มีค่าใช้จ่ายในการติดต่อ #PCB #SupplyChain #ThailandTechHub #PCBInnovation #TopPCBThailand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 379 มุมมอง 0 รีวิว
  • Xperia 1 VI เปิดขายสีแดงสด (15/10/67) #news1 #Xperia1VI #sony #สมาร์ทโฟน
    Xperia 1 VI เปิดขายสีแดงสด (15/10/67) #news1 #Xperia1VI #sony #สมาร์ทโฟน
    Like
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1064 มุมมอง 324 0 รีวิว
  • อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย


    อาณาจักรสุโขทัยเริ่มต้นประวัติศาสตร์โดยมีหลักฐานชัดเจนในสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์(พ่อขุนบางกลางหาว พ.ศ.1781 - 1822) ต่อมาอาณาจักรสุโขทัยเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในรัชสมัยของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช อำนาจของอาณาจักรสุโขทัยในช่วงรัชสมัยของพระองค์มีความมั่นคงจาก ทรงแผ่อาณาเขตออกไปโดยรอบ วัฒนธรรมไทยได้เจริญขึ้นทุกสาขา ดังปรากฎในศิลาจารึกหลักที่ 1 ซึ่งเจริญ ทั้งด้านประวัติศาสตร์ การสงคราม ภูมิศาสตร์ กฎหมาย ประเพณี การปกครอง การเศรษฐกิจ การสังคม ปรัชญา พระพุทธศาสนา การประดิษฐ์อักษรไทย ราชวงศ์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ (พระร่วง หรือ สุโขทัย) ได้ปกครองอาณาจักรสุโขทัยสืบต่อมาเป็นเวลา 200 ปี ก็ถูกรวมเข้ากับ อาณาจักรอยุธยา

    ผังเมืองสุโขทัยมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร กว้างประมาณ 1.6 กิโลเมตร มีประตูเมืองอยู่ตรงกลางกำแพงเมืองแต่ละด้าน ภายในยังเหลือร่องรอยพระราชวัง และวัดมากถึง 26 แห่ง วัดที่ใหญ่ที่สุดคือวัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้ ได้รับการบูรรปฏิสังขรณ์โดยกรมศิลปากร ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากองค์การยูเนสโก มีผู้เยี่ยมชมหลายแสนคนต่อปี นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้า นั่งรถราง หรือ ขี่จักรยาน เที่ยวชมได้อย่างสะดวกปลอดภัย

    ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2534 องค์การยูเนสโก ได้ประกาศให้อุทยานแห่งนี้เป็นแหล่งมรดกโลก ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และ อุทยานประวัติศาตร์ศรีสัชนาลัย ภายใต้ชื่อว่า “เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร” (Historic Town of Sukhothai and Associated Historic Towns) เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฎแสดงให้เห็นถึงผลงานทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นนับเป็น ตัวแทนของศิลปกรรมไทยยุคแรก และเป็นต้นกำเนิดของการสร้างประเทศไทย


    นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมได้ ๓ วิธี คือ เดินเท้า ปั่นจักรยาน และ การนั่งรถรางไฟฟ้า โดยทางอุทยานฯ มีรถจักรยานให้เช่าด้วย นอกจากนี้ หน้าโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแต่ละแห่งยังมีป้าย OR Code สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟน สามารถสแกนเข้าไปอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ มีให้เลือก ๔ ภาษา ได้แก่ ไทย จีน ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส

    เมืองสุโขทัย ก่อตั้งขึ้นราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๘ สันนิษฐานว่าสุโขทัยในยุคแรกได้รับอิทธิพลของศิลปะแบบขอมจากละโว้หรือลพบุรี ต่อมายกฐานะเป็นราชธานี โดยมีพ่อขุนบางกลางหาว หรือพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เป็นปฐมกษัตริย์ เป็นจุดเริ่มต้นอาณาจักรแห่งแรกของไทย ราวปี ๑๗๙๒ อาณาจักรสุโขทัยรุ่งเรืองถึงขีดสุดในสมัยพ่อขุนรามคำแหง กษัตริย์องค์ที่ ๓ บันทึกในศิลาจารึกบอกถึงเขตอาณาจักรอันกว้างขวาง ทิศเหนือจดเมืองแพร่ น่าน หลวงพระบาง ทิศใต้จดเมืองนครศรีธรรมราช ทิศตะวันออกจดเมืองเวียงจันทน์ และทิศตะวันตกจดเมืองหงสาวดี การปกครองเป็นระบบ พ่อปกครองลูก เอื้อสิทธิเสรีภาพให้ประชาชน

    จุดเด่นของผังเมืองสุโขทัยคือระบบชลประทาน เป็นระบบที่กระจายน้ำเพื่อการทำเกษตรกรรม อุปโภค บริโภคให้ชาวเมืองได้อย่างทั่วถึง และยังสามารถช่วยระบายน้ำเอ่อล้นช่วงหน้าน้ำหลากได้ดีเช่นกัน ในช่วงการปกครองของพ่อขุนรามคำแหงชาวเมืองสุโขทัยมีความเป็นอยู่อย่างสงบร่มเย็น ด้วยพระองค์ทรงมีความเอาใจใส่ทำนุบำรุงศาสนาอย่างเต็มที่ สังเกตจากลักษณะพระพักตร์ของพระพุทธรูปที่สร้างขึ้น ส่วนใหญ่จะมีพระโอษฐ์ยิ้ม สะท้อนเอกลักษณ์ของยุคสมัย และจำนวนวัดวาที่ถูกสร้างขึ้นอย่างมากมาย เมื่อปี ๒๕๓๔ องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเป็นแหล่งมรดกโลกร่วมกับอีก ๒ แห่ง ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ภายใต้ชื่อว่า “เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร”
    อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อาณาจักรสุโขทัยเริ่มต้นประวัติศาสตร์โดยมีหลักฐานชัดเจนในสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์(พ่อขุนบางกลางหาว พ.ศ.1781 - 1822) ต่อมาอาณาจักรสุโขทัยเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในรัชสมัยของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช อำนาจของอาณาจักรสุโขทัยในช่วงรัชสมัยของพระองค์มีความมั่นคงจาก ทรงแผ่อาณาเขตออกไปโดยรอบ วัฒนธรรมไทยได้เจริญขึ้นทุกสาขา ดังปรากฎในศิลาจารึกหลักที่ 1 ซึ่งเจริญ ทั้งด้านประวัติศาสตร์ การสงคราม ภูมิศาสตร์ กฎหมาย ประเพณี การปกครอง การเศรษฐกิจ การสังคม ปรัชญา พระพุทธศาสนา การประดิษฐ์อักษรไทย ราชวงศ์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ (พระร่วง หรือ สุโขทัย) ได้ปกครองอาณาจักรสุโขทัยสืบต่อมาเป็นเวลา 200 ปี ก็ถูกรวมเข้ากับ อาณาจักรอยุธยา ผังเมืองสุโขทัยมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร กว้างประมาณ 1.6 กิโลเมตร มีประตูเมืองอยู่ตรงกลางกำแพงเมืองแต่ละด้าน ภายในยังเหลือร่องรอยพระราชวัง และวัดมากถึง 26 แห่ง วัดที่ใหญ่ที่สุดคือวัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้ ได้รับการบูรรปฏิสังขรณ์โดยกรมศิลปากร ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากองค์การยูเนสโก มีผู้เยี่ยมชมหลายแสนคนต่อปี นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้า นั่งรถราง หรือ ขี่จักรยาน เที่ยวชมได้อย่างสะดวกปลอดภัย ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2534 องค์การยูเนสโก ได้ประกาศให้อุทยานแห่งนี้เป็นแหล่งมรดกโลก ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และ อุทยานประวัติศาตร์ศรีสัชนาลัย ภายใต้ชื่อว่า “เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร” (Historic Town of Sukhothai and Associated Historic Towns) เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฎแสดงให้เห็นถึงผลงานทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นนับเป็น ตัวแทนของศิลปกรรมไทยยุคแรก และเป็นต้นกำเนิดของการสร้างประเทศไทย นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมได้ ๓ วิธี คือ เดินเท้า ปั่นจักรยาน และ การนั่งรถรางไฟฟ้า โดยทางอุทยานฯ มีรถจักรยานให้เช่าด้วย นอกจากนี้ หน้าโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแต่ละแห่งยังมีป้าย OR Code สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟน สามารถสแกนเข้าไปอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ มีให้เลือก ๔ ภาษา ได้แก่ ไทย จีน ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส เมืองสุโขทัย ก่อตั้งขึ้นราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๘ สันนิษฐานว่าสุโขทัยในยุคแรกได้รับอิทธิพลของศิลปะแบบขอมจากละโว้หรือลพบุรี ต่อมายกฐานะเป็นราชธานี โดยมีพ่อขุนบางกลางหาว หรือพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เป็นปฐมกษัตริย์ เป็นจุดเริ่มต้นอาณาจักรแห่งแรกของไทย ราวปี ๑๗๙๒ อาณาจักรสุโขทัยรุ่งเรืองถึงขีดสุดในสมัยพ่อขุนรามคำแหง กษัตริย์องค์ที่ ๓ บันทึกในศิลาจารึกบอกถึงเขตอาณาจักรอันกว้างขวาง ทิศเหนือจดเมืองแพร่ น่าน หลวงพระบาง ทิศใต้จดเมืองนครศรีธรรมราช ทิศตะวันออกจดเมืองเวียงจันทน์ และทิศตะวันตกจดเมืองหงสาวดี การปกครองเป็นระบบ พ่อปกครองลูก เอื้อสิทธิเสรีภาพให้ประชาชน จุดเด่นของผังเมืองสุโขทัยคือระบบชลประทาน เป็นระบบที่กระจายน้ำเพื่อการทำเกษตรกรรม อุปโภค บริโภคให้ชาวเมืองได้อย่างทั่วถึง และยังสามารถช่วยระบายน้ำเอ่อล้นช่วงหน้าน้ำหลากได้ดีเช่นกัน ในช่วงการปกครองของพ่อขุนรามคำแหงชาวเมืองสุโขทัยมีความเป็นอยู่อย่างสงบร่มเย็น ด้วยพระองค์ทรงมีความเอาใจใส่ทำนุบำรุงศาสนาอย่างเต็มที่ สังเกตจากลักษณะพระพักตร์ของพระพุทธรูปที่สร้างขึ้น ส่วนใหญ่จะมีพระโอษฐ์ยิ้ม สะท้อนเอกลักษณ์ของยุคสมัย และจำนวนวัดวาที่ถูกสร้างขึ้นอย่างมากมาย เมื่อปี ๒๕๓๔ องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเป็นแหล่งมรดกโลกร่วมกับอีก ๒ แห่ง ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ภายใต้ชื่อว่า “เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร”
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมาร์ทโฟนอย่าง iPhone, แผงโซลาร์เซลล์, แล็ปท็อป, และรถยนต์ ก็ระเบิดขึ้นในเลบานอนเช่นกัน

    นี่ไม่ใช่แค่การโจมตีเลบานอนเท่านั้น, แต่ยังรวมถึงตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระดับโลกอีกด้วย, ซึ่งไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
    .
    ⚡️JUST IN

    Smartphones such as IPhone, solar panels, laptops and cars have also exploded in Lebanon.

    This is not just an attack on Lebanon, but also on the global electronics market, which is no longer safe.
    .
    11:24 PM · Sep 18, 2024 · 240.2K Views
    https://x.com/IranObserver0/status/1836441167107396038
    สมาร์ทโฟนอย่าง iPhone, แผงโซลาร์เซลล์, แล็ปท็อป, และรถยนต์ ก็ระเบิดขึ้นในเลบานอนเช่นกัน นี่ไม่ใช่แค่การโจมตีเลบานอนเท่านั้น, แต่ยังรวมถึงตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระดับโลกอีกด้วย, ซึ่งไม่ปลอดภัยอีกต่อไป . ⚡️JUST IN Smartphones such as IPhone, solar panels, laptops and cars have also exploded in Lebanon. This is not just an attack on Lebanon, but also on the global electronics market, which is no longer safe. . 11:24 PM · Sep 18, 2024 · 240.2K Views https://x.com/IranObserver0/status/1836441167107396038
    Wow
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 301 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกมจบแล้วสำหรับสหรัฐอเมริกา!

    ตอนนี้จีนมีเครื่องพิมพ์หิน DUV ของตัวเอง; และมีการยื่นจดสิทธิบัตรสำหรับ EUV แล้ว

    ตอนนี้, มีเพียงบริษัทเดียวเท่านั้นที่สามารถผลิต EUV ได้ นั่นก็คือ — บริษัท ASML ของเนเธอร์แลนด์

    ในไม่ช้านี้, จีนจะผลิตชิปทุกตัวที่สหรัฐอเมริกาผลิตได้

    Nvidia, Apple, Qualcomm… ข้อได้เปรียบด้านชิปทั้งหมดของพวกเขาจะหายไป รวมถึงราคาหุ้นของพวกเขาด้วย!
    .
    น่าตกใจทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

    🤣นโยบายควบคุมจีนของอเมริกาล้มเหลวอย่างยับเยิน🤣

    ในปี ๒๐๑๙, ทรัมป์ป้องกันไม่ให้ ASML ขายเครื่อง EUV ให้กับจีน

    ตั้งแต่นั้นมา, บริษัทผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ของจีนทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
    .
    ตอนนี้, จีนจะทำกับชิปแบบเดียวกับที่ทำกับสมาร์ทโฟนและรถยนต์ไฟฟ้า

    📌เป็นสิ่งที่ดีสำหรับโลก, แต่เป็นข่าวร้ายสำหรับสหรัฐฯ📌
    .
    It’s game over for USA!

    China now has its own DUV lithography machines; and a patent has been filed for EUV.

    Right now, there’s only ONE company that can make EUV — Dutch firm ASML.

    Soon, China will make every chip that the US can.

    Nvidia, Apple, Qualcomm… all their chip advantages will vanish. Also with their share prices!
    .
    Economic and geopolitical shocker.

    America’s China containment policy failed miserably.

    In 2019, Trump prevented ASML from selling an EUV machine to China.

    Since then, all the Chinese semiconductor chip firms have been under US sanctions.
    .
    Now, China will do to chips what it did to smartphones and EV.

    It’s good for the world, but terrible news for the US.
    .
    Source: Chinese chip making shows progress with new EUV patent from domestic lithography champion

    The patent from Shanghai Micro Electronics Equipment is still under review, but producing EUV tools in China would break a monopoly held by ASML

    https://www.scmp.com/tech/big-tech/article/3278235/chinese-chip-making-shows-progress-new-euv-patent-domestic-lithography-champion
    .
    4:03 AM · Sep 17, 2024 · 380.3K Views
    https://x.com/Kanthan2030/status/1835786533921788137
    เกมจบแล้วสำหรับสหรัฐอเมริกา! ตอนนี้จีนมีเครื่องพิมพ์หิน DUV ของตัวเอง; และมีการยื่นจดสิทธิบัตรสำหรับ EUV แล้ว ตอนนี้, มีเพียงบริษัทเดียวเท่านั้นที่สามารถผลิต EUV ได้ นั่นก็คือ — บริษัท ASML ของเนเธอร์แลนด์ ในไม่ช้านี้, จีนจะผลิตชิปทุกตัวที่สหรัฐอเมริกาผลิตได้ Nvidia, Apple, Qualcomm… ข้อได้เปรียบด้านชิปทั้งหมดของพวกเขาจะหายไป รวมถึงราคาหุ้นของพวกเขาด้วย! . น่าตกใจทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ 🤣นโยบายควบคุมจีนของอเมริกาล้มเหลวอย่างยับเยิน🤣 ในปี ๒๐๑๙, ทรัมป์ป้องกันไม่ให้ ASML ขายเครื่อง EUV ให้กับจีน ตั้งแต่นั้นมา, บริษัทผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ของจีนทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ . ตอนนี้, จีนจะทำกับชิปแบบเดียวกับที่ทำกับสมาร์ทโฟนและรถยนต์ไฟฟ้า 📌เป็นสิ่งที่ดีสำหรับโลก, แต่เป็นข่าวร้ายสำหรับสหรัฐฯ📌 . It’s game over for USA! China now has its own DUV lithography machines; and a patent has been filed for EUV. Right now, there’s only ONE company that can make EUV — Dutch firm ASML. Soon, China will make every chip that the US can. Nvidia, Apple, Qualcomm… all their chip advantages will vanish. Also with their share prices! . Economic and geopolitical shocker. America’s China containment policy failed miserably. In 2019, Trump prevented ASML from selling an EUV machine to China. Since then, all the Chinese semiconductor chip firms have been under US sanctions. . Now, China will do to chips what it did to smartphones and EV. It’s good for the world, but terrible news for the US. . Source: Chinese chip making shows progress with new EUV patent from domestic lithography champion The patent from Shanghai Micro Electronics Equipment is still under review, but producing EUV tools in China would break a monopoly held by ASML https://www.scmp.com/tech/big-tech/article/3278235/chinese-chip-making-shows-progress-new-euv-patent-domestic-lithography-champion . 4:03 AM · Sep 17, 2024 · 380.3K Views https://x.com/Kanthan2030/status/1835786533921788137
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 622 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥 บริษัท Huawei กวาดยอดพรีออเดอร์
    สมาร์ทโฟนพับสามทบ (ทรงตัว Z)
    Mate XT กว่า 3 ล้านเครื่อง เมื่อวันจันทร์ เมื่อวาน
    ก่อนที่ Apple จะเปิดตัว iPhone 16
    ที่มา : cna

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #Huawei #thaitimes
    🔥🔥 บริษัท Huawei กวาดยอดพรีออเดอร์ สมาร์ทโฟนพับสามทบ (ทรงตัว Z) Mate XT กว่า 3 ล้านเครื่อง เมื่อวันจันทร์ เมื่อวาน ก่อนที่ Apple จะเปิดตัว iPhone 16 ที่มา : cna #หุ้นติดดอย #การลงทุน #Huawei #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 670 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถัดมาภายหลังวันเดียวจากที่แอปเปิลเปิดตัว iPhone16 ที่สหรัฐอเมริกา ... วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ประเทศจีน หัวเว่ยก็เปิดตัว Huawei Mate XT Ultimate Design สมาร์ทโฟนแบบพับ 3 ทบ ที่เคลมว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอใหญ่ที่สุดในโลก คือ 10.2 นิ้ว
    .
    ชมคลิป Live >> https://www.youtube.com/watch?v=bXfSvkF6LGk
    ถัดมาภายหลังวันเดียวจากที่แอปเปิลเปิดตัว iPhone16 ที่สหรัฐอเมริกา ... วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ประเทศจีน หัวเว่ยก็เปิดตัว Huawei Mate XT Ultimate Design สมาร์ทโฟนแบบพับ 3 ทบ ที่เคลมว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอใหญ่ที่สุดในโลก คือ 10.2 นิ้ว . ชมคลิป Live >> https://www.youtube.com/watch?v=bXfSvkF6LGk
    Like
    Yay
    Wow
    10
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 779 มุมมอง 0 รีวิว
  • จองแล้ว 2 ล้านเครื่อง! Huawei Mate XT สมาร์ทโฟนพับ 3 เสียงตอบรับทะลุเป้า ในเวลาไม่ถึง 24ชม.
    .
    พรุ่งนี้ (10 ก.ย.) หัวเว่ยจะทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนแบบพับสามทบรุ่นแรกของบริษัท ซึ่งก็คือ Mate XT ULTIMATE DESIGN หลังจากเมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา หัวเว่ยเพิ่งเปิดตัววีดิโอทีเซอร์ที่นำแสดงโดย หลิว เต๋อหัว นักแสดงและนักร้องชาวฮ่องกงชื่อดัง ทั้งยังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์สำหรับแบรนด์ Ultimate Design ของหัวเว่ย
    .
    จากข้อมูลบนเว็บไซต์ V Mall ของหัวเว่ย ที่เปิดให้จองซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ Mate XT จะมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีแดงเลือดหมู นอกจากนี้ยังมีให้เลือก 2 ความจุคือ 512GB (RAM 16GB) และ 1TB (RAM 16GB) อย่างไรก็ตาม หัวเว่ยยังไม่ได้เปิดเผยราคาขายปลีกอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าอาจมีราคาสูงถึง 14,900 หยวน (ประมาณ 71,000 บาท) โดยเปิดให้จองซื้อได้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา (โดยเปิดให้จองเป็นเวลา 12 วันถึง วันที่ 19 กันยายน 2567)
    .
    ทั้งนี้ จากรายงานของสื่อจีนพบว่า ยอดจองซื้อโทรศัพท์รุ่น HUAWEI Mate XT ULTIMATE DESIGN ในเว็บไซต์ V Mall นั้นพุ่งทะลุ 1.3 ล้านเครื่องภายในระยะเวลาเพียง 7 ชั่วโมง และทะลุ 2 ล้านเครื่อง ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง
    .
    ขณะที่จากการตรวจสอบล่าสุดเวลา 09.30น. ในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 9 ก.ย. พบว่า ยอดจอง HUAWEI Mate XT ULTIMATE DESIGN นั้นอยู่ที่ 2.68 ล้านเครื่องแล้ว
    จองแล้ว 2 ล้านเครื่อง! Huawei Mate XT สมาร์ทโฟนพับ 3 เสียงตอบรับทะลุเป้า ในเวลาไม่ถึง 24ชม. . พรุ่งนี้ (10 ก.ย.) หัวเว่ยจะทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนแบบพับสามทบรุ่นแรกของบริษัท ซึ่งก็คือ Mate XT ULTIMATE DESIGN หลังจากเมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา หัวเว่ยเพิ่งเปิดตัววีดิโอทีเซอร์ที่นำแสดงโดย หลิว เต๋อหัว นักแสดงและนักร้องชาวฮ่องกงชื่อดัง ทั้งยังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์สำหรับแบรนด์ Ultimate Design ของหัวเว่ย . จากข้อมูลบนเว็บไซต์ V Mall ของหัวเว่ย ที่เปิดให้จองซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ Mate XT จะมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีแดงเลือดหมู นอกจากนี้ยังมีให้เลือก 2 ความจุคือ 512GB (RAM 16GB) และ 1TB (RAM 16GB) อย่างไรก็ตาม หัวเว่ยยังไม่ได้เปิดเผยราคาขายปลีกอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าอาจมีราคาสูงถึง 14,900 หยวน (ประมาณ 71,000 บาท) โดยเปิดให้จองซื้อได้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา (โดยเปิดให้จองเป็นเวลา 12 วันถึง วันที่ 19 กันยายน 2567) . ทั้งนี้ จากรายงานของสื่อจีนพบว่า ยอดจองซื้อโทรศัพท์รุ่น HUAWEI Mate XT ULTIMATE DESIGN ในเว็บไซต์ V Mall นั้นพุ่งทะลุ 1.3 ล้านเครื่องภายในระยะเวลาเพียง 7 ชั่วโมง และทะลุ 2 ล้านเครื่อง ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง . ขณะที่จากการตรวจสอบล่าสุดเวลา 09.30น. ในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 9 ก.ย. พบว่า ยอดจอง HUAWEI Mate XT ULTIMATE DESIGN นั้นอยู่ที่ 2.68 ล้านเครื่องแล้ว
    Like
    Love
    Wow
    7
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 655 มุมมอง 0 รีวิว
  • Huawei รุกแล้ว! ปล่อยทีเซอร์ "สมาร์ทโฟนพับ 3 ทบ" ใช้ "หลิว เต๋อหัว" เป็นพรีเซนเตอร์
    .
    วันนี้ (5 ก.ย.) บัญชีเวยป๋อ หัวเว่ยจงตวน (华为终端) ของบริษัทหัวเว่ย บริษัทไอทีชั้นนำของจีนได้เผยแพร่คลิปวีดิโอประชาสัมพันธ์ สมาร์ทโฟนเรือธงตัวใหม่ของบริษัทคือ Huawei Mate XT | Ultimate design ความยาว 39 วินาที โดยใช้พรีเซนเตอร์เป็นดาราฮ่องกงชื่อก้องอย่าง หลิว เต๋อหัว หรือ แอนดี้ เลา
    .
    ทั้งนี้ ดีไซน์ฝาหลังของ Huawei Mate XT | Ultimate design นั้นแสดงให้เห็นโมดูลกล้องแบบ 8 เหลี่ยม โดยเมื่อตอนกางออกจะเห็นได้ชัดว่าเป็นการกางออกแบบ 3 ทบ (Tri-fold) โดยถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรก ๆ ที่มีดีไซน์แบบ 3 ทบ
    .
    สำหรับ HUAWEI Mate XT | ULTIMATE DESIGN นั้นมีกำหนดการเปิดตัวในประเทศจีนวันที่ 10 กันยายน 2567 ในเวลา 14:30น. ตามเวลาในประเทศจีน (13:30น. ตามเวลาในไทย) หลังจากแอปเปิลจัดงานเปิดตัวสินค้าใหม่ที่เชื่อกันว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่คือ iPhone 16
    .
    华为终端 HUAWEI Mate XT | ULTIMATE DESIGN >> https://weibo.com/1839167003/5075168815483932#repost
    Huawei รุกแล้ว! ปล่อยทีเซอร์ "สมาร์ทโฟนพับ 3 ทบ" ใช้ "หลิว เต๋อหัว" เป็นพรีเซนเตอร์ . วันนี้ (5 ก.ย.) บัญชีเวยป๋อ หัวเว่ยจงตวน (华为终端) ของบริษัทหัวเว่ย บริษัทไอทีชั้นนำของจีนได้เผยแพร่คลิปวีดิโอประชาสัมพันธ์ สมาร์ทโฟนเรือธงตัวใหม่ของบริษัทคือ Huawei Mate XT | Ultimate design ความยาว 39 วินาที โดยใช้พรีเซนเตอร์เป็นดาราฮ่องกงชื่อก้องอย่าง หลิว เต๋อหัว หรือ แอนดี้ เลา . ทั้งนี้ ดีไซน์ฝาหลังของ Huawei Mate XT | Ultimate design นั้นแสดงให้เห็นโมดูลกล้องแบบ 8 เหลี่ยม โดยเมื่อตอนกางออกจะเห็นได้ชัดว่าเป็นการกางออกแบบ 3 ทบ (Tri-fold) โดยถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรก ๆ ที่มีดีไซน์แบบ 3 ทบ . สำหรับ HUAWEI Mate XT | ULTIMATE DESIGN นั้นมีกำหนดการเปิดตัวในประเทศจีนวันที่ 10 กันยายน 2567 ในเวลา 14:30น. ตามเวลาในประเทศจีน (13:30น. ตามเวลาในไทย) หลังจากแอปเปิลจัดงานเปิดตัวสินค้าใหม่ที่เชื่อกันว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่คือ iPhone 16 . 华为终端 HUAWEI Mate XT | ULTIMATE DESIGN >> https://weibo.com/1839167003/5075168815483932#repost
    Like
    Love
    Wow
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 732 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำหรับวันนี้นายTechTipsจะมานำเสนอภัยอีกรูปแบบหนึ่งที่มาเงียบๆซึ่งเป็นผลมาจากการใช้คอมพิวเตอร์ครับ

    โรคฮิตยุคติดจอ ใช้สายตา- จ้องคอมพิวเตอร์นานๆ เสี่ยงโรค CVS
    CVS หรือ คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม
    อาการคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม จะมีวิธีการสังเกตและลักษณะดังต่อไปนี้
    ตาแห้ง แสบและเคืองตา
    ปวดเมื่อยตา เหนื่อยตา ไม่ค่อยอยากลืมตา
    ตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด
    โฟกัสได้ช้าลง
    เวลากระพริบตาอาจมีน้ำตาไหลออกมา
    ปวดบริเวณกระบอกตา
    ปวดศีรษะ หลัง ไหล่ หรือปวดต้นคอ เป็นอาการที่เรียกว่า Office Syndrome
    ตาสู้แสงไม่ได้

    ศ.พญ.งามจิตต์ เกษตรสุวรรณ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ หัวหน้าหน่วยกระจกตาและการแก้ไขสายตา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า โรคCVS (Computer Vision Syndrome) หรือ คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม คือ กลุ่มอาการทางตาที่เกิดจากการใช้สายตากับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย มีปัญหาทางตา คอ บ่า ไหล่

    โดยเฉพาะคนวัยทำงานที่มีการใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟนมากจนเกินไป โดยอาการคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม มักเกิดกับผู้ที่ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวต่อเนื่องนานเกินกว่า 2 ชั่วโมงติดต่อกัน

    นอกจากอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น ปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจส่งผลให้เกิดอาการนี้ ได้แก่

    ขณะจดจ่อกับการอ่านหนังสือหรือจ้องจอคอมพิวเตอร์จะมีการกระพริบตาน้อยลง ทำให้เกิดอาการตาแห้งง่ายขึ้น
    แสงสว่างภายในห้องไม่เหมาะสม
    มีแสงสะท้อนจากจอคอมพิวเตอร์
    การที่ตัวอักษรบนจอคอมพิวเตอร์ไม่เรียบคมชัดเท่าตัวพิมพ์บนหน้าหนังสือ หรือมีความไม่นิ่งของสัญญาณในจอคอมพิวเตอร์ ทำให้ต้องพยายามโฟกัสมากขึ้นจึงก่อให้เกิดอาการตาเมื่อยล้าได้ง่ายขึ้น
    ระยะห่างจากหน้าจอ
    ระดับสายตาในการมองจอคอมพิวเตอร์
    ท่าทางในการในการนั่งทำงานที่ไม่เหมาะสม

    เอาละครับถ้าใครมีอาการดังที่อ่านมานี้ต้องปรับตัวนะครับ ด้วยการเพิ่มเเสงให้เพียงพอ จัดท่านั่ง เเละหยุดพักในการจ้องจอบ้าง อาจจะเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆสองชม เป้นต้น นอกจากพักสายตาเเล้วยังได้พักผ่อนร่างกายส่วนอื่นๆ ให้หายเหนื่อยล้าจากการทำงานได้อีกด้วยครับ

    อย่าลืมนะครับการป้องกันที่ดีที่สุดคืออย่าให้เราป่วยเเล้วค่อยรักษานะครับเริ่มต้นป้องกันไม่ให้ป่วยดีกว่า
    ด้วยความหวังดีจาก นายTechTips ครับ
    #TechTips
    สำหรับวันนี้นายTechTipsจะมานำเสนอภัยอีกรูปแบบหนึ่งที่มาเงียบๆซึ่งเป็นผลมาจากการใช้คอมพิวเตอร์ครับ โรคฮิตยุคติดจอ ใช้สายตา- จ้องคอมพิวเตอร์นานๆ เสี่ยงโรค CVS CVS หรือ คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม อาการคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม จะมีวิธีการสังเกตและลักษณะดังต่อไปนี้ ตาแห้ง แสบและเคืองตา ปวดเมื่อยตา เหนื่อยตา ไม่ค่อยอยากลืมตา ตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด โฟกัสได้ช้าลง เวลากระพริบตาอาจมีน้ำตาไหลออกมา ปวดบริเวณกระบอกตา ปวดศีรษะ หลัง ไหล่ หรือปวดต้นคอ เป็นอาการที่เรียกว่า Office Syndrome ตาสู้แสงไม่ได้ ศ.พญ.งามจิตต์ เกษตรสุวรรณ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ หัวหน้าหน่วยกระจกตาและการแก้ไขสายตา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า โรคCVS (Computer Vision Syndrome) หรือ คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม คือ กลุ่มอาการทางตาที่เกิดจากการใช้สายตากับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย มีปัญหาทางตา คอ บ่า ไหล่ โดยเฉพาะคนวัยทำงานที่มีการใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟนมากจนเกินไป โดยอาการคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม มักเกิดกับผู้ที่ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวต่อเนื่องนานเกินกว่า 2 ชั่วโมงติดต่อกัน นอกจากอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น ปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจส่งผลให้เกิดอาการนี้ ได้แก่ ขณะจดจ่อกับการอ่านหนังสือหรือจ้องจอคอมพิวเตอร์จะมีการกระพริบตาน้อยลง ทำให้เกิดอาการตาแห้งง่ายขึ้น แสงสว่างภายในห้องไม่เหมาะสม มีแสงสะท้อนจากจอคอมพิวเตอร์ การที่ตัวอักษรบนจอคอมพิวเตอร์ไม่เรียบคมชัดเท่าตัวพิมพ์บนหน้าหนังสือ หรือมีความไม่นิ่งของสัญญาณในจอคอมพิวเตอร์ ทำให้ต้องพยายามโฟกัสมากขึ้นจึงก่อให้เกิดอาการตาเมื่อยล้าได้ง่ายขึ้น ระยะห่างจากหน้าจอ ระดับสายตาในการมองจอคอมพิวเตอร์ ท่าทางในการในการนั่งทำงานที่ไม่เหมาะสม เอาละครับถ้าใครมีอาการดังที่อ่านมานี้ต้องปรับตัวนะครับ ด้วยการเพิ่มเเสงให้เพียงพอ จัดท่านั่ง เเละหยุดพักในการจ้องจอบ้าง อาจจะเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆสองชม เป้นต้น นอกจากพักสายตาเเล้วยังได้พักผ่อนร่างกายส่วนอื่นๆ ให้หายเหนื่อยล้าจากการทำงานได้อีกด้วยครับ อย่าลืมนะครับการป้องกันที่ดีที่สุดคืออย่าให้เราป่วยเเล้วค่อยรักษานะครับเริ่มต้นป้องกันไม่ให้ป่วยดีกว่า ด้วยความหวังดีจาก นายTechTips ครับ #TechTips
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 560 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวัสดีครับวันนี้มาพบกับนายTechTips กันอีกเเล้ว จะมีเรื่องสนุกๆอะไรมาเล่าให้ฟังลองอ่านกันดูได้เลยครับ
    บ่อยครั้งที่ความเชื่อต่างๆ มักมาจากคำแนะนำต่างๆ ที่ “คนอื่นบอกต่อกันมา” ตัวอย่างเช่น คอมพิวเตอร์ MacBook จะไม่มีวันติดไวรัส หรือแม้กระทั่งเสียบสายชาร์ตทิ้งไว้ทำให้แบตเตอรี่พัง ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเช่นนั้นหรือไม่ มาดูกัน

    1. เชื่อกันว่า “Mac ไม่มีวันติดไวรัส” แต่กูรูเทคโนโลยีต่างประเทศได้เผยว่า ในปัจจุบันแม้แต่คอมจากบริษัท Apple อย่างเจ้า Mac ทั้งหลายก็สามารถติดไวรัสและอาจปะทะเข้ากับมัลแวร์ได้เช่นกัน ซึ่งครั้งหนึ่ง Mac เคยโฆษณาว่า “คอมของเราต้านไวรัสได้” แต่ในปี 2012 พวกเขาได้ถอดคำโฆษณานั้นออกจากระบบ หลังจากที่ถูกโทรจันบุกอย่างหนัก

    2. เสียบสายชาร์จมือถือทิ้งไว้ทำให้แบตเตอรี่เสื่อม
    กลายเป็นความเชื่อที่ระบาดไปทั่วโลกว่า การเสียบสายชาร์จทิ้งไว้จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อม แต่กูรูเทคโนโลยีเผยว่า นี่เป็นความเชื่อที่ยังไม่มีหลักฐานใดรองรับอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้แบตเตอรี่ในปัจจุบันยังเป็นแบบ “Lithium-ion” ที่มีศักยภาพในการหยุดชาร์ตอัตโนมัติเมื่อเต็มแล้ว

    3. ยิ่งพิกเซลมาก กล้องนั้นยิ่งเทพ
    จริงอยู่ว่าจำนวนพิกเซลมีผลต่อคุณภาพของภาพ แต่ผู้เชี่ยวชาญตั้งคำถามได้อย่างน่าสนใจว่า “คุณคิดว่ากล้องที่มีความละเอียด 8 Megapixel กับ 12 Megapixel ต่างกันมากไหม” และเขาได้เฉลยคำตอบว่าคุณภาพของภาพแทบไม่ต่างกัน อย่างที่หลายคนคาดคิด เพราะแท้จริงแล้วคุณภาพของภาพวัดกันที่ “แสง” และตัว “เซนเซอร์” จับภาพมากกว่า ฉะนั้นหากกล้องไหนที่สามารถรับแสงได้มาก และมีเซ็นเซอร์ที่มีคุณภาพชั้นดี ก็จะย่อมทำให้เราได้ภาพที่ดีกว่า

    4. อย่าชาร์จแบตเตอรี่เด็ดขาด จนกว่ามันใกล้จะหมด
    เป็นอีกความเชื่อที่กระจายทั่วโลก ซึ่งหลายๆคนมักบอกกันว่า “รอให้แบตเตอรี่ใกล้หมดก่อน แล้วค่อยชาร์จ ไม่งั้นมันจะเสื่อม” แต่ที่จริงช่วงจังหวะที่ชาร์ตไม่เคยทำให้คุณภาพของแบตเตอรี่เสื่อมแม้แต่น้อย แต่สาเหตุหลักที่เสื่อมก็เพราะแบตเตอรี่มีวงรอบอายุของมัน และการชาร์จเมื่อแบตเตอรี่หมดหรือใกล้หมด คือการทำให้แบตเตอรี่ใช้วงรอบอายุของมันให้หมดไปเร็วยิ่งขึ้น

    5. การเลือก Display Resolution สูงๆ บนสมาร์ทโฟนจะทำให้ภาพคมชัด
    ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า Display Resolution สูงไม่ได้หมายถึงคุณภาพระดับพระเจ้าเสมอไป และนั่นก็เป็นสาเหตุว่าทำไมทาง Apple จึงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาให้มือถือแต่ละรุ่นมีความโดดเด่นในเรื่องแสง (Brightness) มากกว่า Display Resolution ที่ไม่ได้ทำให้คุณภาพแตกต่างจากเดิมเท่าใดนัก

    6. ที่ชาร์ตของ iPad ไม่ควรเอามาใช้กับ iPhone
    ยังเป็นข้อสงสัยที่หลายคนรู้สึกคลุมเคลือว่ามีผลหรือไม่ เพราะแม้ทาง Apple เองก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ตัวชาร์จขนาด 12 วัตต์ของ iPad สามารถใช้ชาร์จได้ทั้ง iPhone และ iPad แต่ทางบริษัท AEi Systems ได้ออกมาเผยว่าการใช้ที่ชาร์จร่วมกันเช่นนั้นจะอาจมีผลกระทบกับ iPhone เช่นกัน หากทำบ่อยและมันอาจใช้เวลายาวนานนับปี ถึงจะเห็นว่าแบตเตอรี่ได้เสื่อมไปแล้ว

    7. อย่าชัทดาวน์คอมพิวเตอร์ทุกวัน
    การชัทดาวน์เครื่องนั้นถือเป็นสิ่งที่ดีต่อคอมพิวเตอร์มาก และดียิ่งกว่าโหมด “Sleep” เสียอีก เพราะการชัทดาวน์จะทำให้เครื่องกินไฟน้อยกว่าเดิม และยังช่วยรักษาสภาพอะไหล่ฮาร์ดแวร์ให้มีอายุยาวนานขึ้นด้วย

    เป็นไงครับไหนใครเคยเชื่ออะไรตามหัวข้อนี้บ้าง ก็อ่านไว้เป็นความรู้สนุกๆกันนะครับ
    ถ้าใครมีคำถามอะไรส่งมาได้เลยนะครับ นายTechTipsจะไปหาคำตอบมาให้เเน่นอนครับ
    #TechTips

    สวัสดีครับวันนี้มาพบกับนายTechTips กันอีกเเล้ว จะมีเรื่องสนุกๆอะไรมาเล่าให้ฟังลองอ่านกันดูได้เลยครับ บ่อยครั้งที่ความเชื่อต่างๆ มักมาจากคำแนะนำต่างๆ ที่ “คนอื่นบอกต่อกันมา” ตัวอย่างเช่น คอมพิวเตอร์ MacBook จะไม่มีวันติดไวรัส หรือแม้กระทั่งเสียบสายชาร์ตทิ้งไว้ทำให้แบตเตอรี่พัง ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเช่นนั้นหรือไม่ มาดูกัน 1. เชื่อกันว่า “Mac ไม่มีวันติดไวรัส” แต่กูรูเทคโนโลยีต่างประเทศได้เผยว่า ในปัจจุบันแม้แต่คอมจากบริษัท Apple อย่างเจ้า Mac ทั้งหลายก็สามารถติดไวรัสและอาจปะทะเข้ากับมัลแวร์ได้เช่นกัน ซึ่งครั้งหนึ่ง Mac เคยโฆษณาว่า “คอมของเราต้านไวรัสได้” แต่ในปี 2012 พวกเขาได้ถอดคำโฆษณานั้นออกจากระบบ หลังจากที่ถูกโทรจันบุกอย่างหนัก 2. เสียบสายชาร์จมือถือทิ้งไว้ทำให้แบตเตอรี่เสื่อม กลายเป็นความเชื่อที่ระบาดไปทั่วโลกว่า การเสียบสายชาร์จทิ้งไว้จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อม แต่กูรูเทคโนโลยีเผยว่า นี่เป็นความเชื่อที่ยังไม่มีหลักฐานใดรองรับอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้แบตเตอรี่ในปัจจุบันยังเป็นแบบ “Lithium-ion” ที่มีศักยภาพในการหยุดชาร์ตอัตโนมัติเมื่อเต็มแล้ว 3. ยิ่งพิกเซลมาก กล้องนั้นยิ่งเทพ จริงอยู่ว่าจำนวนพิกเซลมีผลต่อคุณภาพของภาพ แต่ผู้เชี่ยวชาญตั้งคำถามได้อย่างน่าสนใจว่า “คุณคิดว่ากล้องที่มีความละเอียด 8 Megapixel กับ 12 Megapixel ต่างกันมากไหม” และเขาได้เฉลยคำตอบว่าคุณภาพของภาพแทบไม่ต่างกัน อย่างที่หลายคนคาดคิด เพราะแท้จริงแล้วคุณภาพของภาพวัดกันที่ “แสง” และตัว “เซนเซอร์” จับภาพมากกว่า ฉะนั้นหากกล้องไหนที่สามารถรับแสงได้มาก และมีเซ็นเซอร์ที่มีคุณภาพชั้นดี ก็จะย่อมทำให้เราได้ภาพที่ดีกว่า 4. อย่าชาร์จแบตเตอรี่เด็ดขาด จนกว่ามันใกล้จะหมด เป็นอีกความเชื่อที่กระจายทั่วโลก ซึ่งหลายๆคนมักบอกกันว่า “รอให้แบตเตอรี่ใกล้หมดก่อน แล้วค่อยชาร์จ ไม่งั้นมันจะเสื่อม” แต่ที่จริงช่วงจังหวะที่ชาร์ตไม่เคยทำให้คุณภาพของแบตเตอรี่เสื่อมแม้แต่น้อย แต่สาเหตุหลักที่เสื่อมก็เพราะแบตเตอรี่มีวงรอบอายุของมัน และการชาร์จเมื่อแบตเตอรี่หมดหรือใกล้หมด คือการทำให้แบตเตอรี่ใช้วงรอบอายุของมันให้หมดไปเร็วยิ่งขึ้น 5. การเลือก Display Resolution สูงๆ บนสมาร์ทโฟนจะทำให้ภาพคมชัด ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า Display Resolution สูงไม่ได้หมายถึงคุณภาพระดับพระเจ้าเสมอไป และนั่นก็เป็นสาเหตุว่าทำไมทาง Apple จึงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาให้มือถือแต่ละรุ่นมีความโดดเด่นในเรื่องแสง (Brightness) มากกว่า Display Resolution ที่ไม่ได้ทำให้คุณภาพแตกต่างจากเดิมเท่าใดนัก 6. ที่ชาร์ตของ iPad ไม่ควรเอามาใช้กับ iPhone ยังเป็นข้อสงสัยที่หลายคนรู้สึกคลุมเคลือว่ามีผลหรือไม่ เพราะแม้ทาง Apple เองก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ตัวชาร์จขนาด 12 วัตต์ของ iPad สามารถใช้ชาร์จได้ทั้ง iPhone และ iPad แต่ทางบริษัท AEi Systems ได้ออกมาเผยว่าการใช้ที่ชาร์จร่วมกันเช่นนั้นจะอาจมีผลกระทบกับ iPhone เช่นกัน หากทำบ่อยและมันอาจใช้เวลายาวนานนับปี ถึงจะเห็นว่าแบตเตอรี่ได้เสื่อมไปแล้ว 7. อย่าชัทดาวน์คอมพิวเตอร์ทุกวัน การชัทดาวน์เครื่องนั้นถือเป็นสิ่งที่ดีต่อคอมพิวเตอร์มาก และดียิ่งกว่าโหมด “Sleep” เสียอีก เพราะการชัทดาวน์จะทำให้เครื่องกินไฟน้อยกว่าเดิม และยังช่วยรักษาสภาพอะไหล่ฮาร์ดแวร์ให้มีอายุยาวนานขึ้นด้วย เป็นไงครับไหนใครเคยเชื่ออะไรตามหัวข้อนี้บ้าง ก็อ่านไว้เป็นความรู้สนุกๆกันนะครับ ถ้าใครมีคำถามอะไรส่งมาได้เลยนะครับ นายTechTipsจะไปหาคำตอบมาให้เเน่นอนครับ #TechTips
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 496 มุมมอง 0 รีวิว
  • คดีดังที่มาเลเซีย ฆ่าสาวทิ้งสวนปาล์ม

    ที่ประเทศมาเลเซีย มีคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญอยู่คดีหนึ่งที่เป็นข่าวดังตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือการเสียชีวิตของ นางสาวนูร์ ฟาราห์ การ์ตินี อับดุลลาห์ อายุ 25 ปี ซึ่งพบศพภายในสวนปาล์มน้ำมัน ที่บ้านกัมปุง ศรี เกเลดัง เมืองฮูลู สลังงอร์ รัฐสลังงอร์ เมื่อเวลาประมาณ 6 โมงเย็นวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา

    ก่อนหน้านี้ตำรวจรับแจ้งจากพนักงานของบริษัทให้เช่ารถในเมืองตันจุงมาลิม รัฐเปรัก ว่า นูร์ ฟาราห์ การ์ตินี หายตัวไปเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 หลังจากที่เธอส่งรถเช่าให้กับลูกค้า กระทั่งผ่านมา 5 วัน จึงได้พบศพของเธอดังกล่าว

    นูร์ ฟาราห์ การ์ตินี เป็นลูกสาวคนสุดท้องจากพี่น้องทั้งหมด 7 คน บ้านเกิดของเธออยู่ที่เมืองมิริ รัฐซาราวัก บนเกาะบอร์เนียว สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยศึกษาศาสตร์สุลต่านไอดริส (UPSI) เมืองตันจุงมาลิม รัฐเปรัก สาขาการศึกษา (มัลติมีเดีย) เมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ต้องการกลับบ้านเกิด ต้องการอยู่ทำงานเพื่อช่วยเหลือครอบครัว

    วันต่อมา ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ทราบชื่อภายหลังคือ สิบตำรวจเอก มูฮัมหมัด อาลิฟ มอนจานี อายุ 26 ปี อาชีพรับราชการตำรวจ ยศสิบเอก ประจำสถานีตำรวจสลิมริเวอร์ ในรัฐเปรัก ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของ นูร์ ฟาราห์ การ์ตินี และถูกควบคุมตัวเป็นเวลา 7 วันเพื่อสอบสวนตามกฎหมายมาเลเซีย ก่อนที่จะขยายต่อไปอีก 7 วัน ถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2567

    การค้นหาหลักฐานเพื่อคลี่คลายคดีดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากพบสมาร์ทโฟนลงท่อระบายน้ำในสวนปาล์มน้ำมัน ต่อมาพบกระเป๋าถือของนูร์ ฟาราห์ การ์ตินี ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 นาที การตรวจค้นและสอบสวนคนงานไร่มันสำปะหลัง ที่ผู้ต้องสงสัยทำไร่มันนอกเวลางาน รวมทั้งตรวจสอบรถยนต์โตโยต้า วีออส สีแดง และตรวจวิเคราะห์ซิมการ์ดของผู้ต้องสงสัย

    นอกจากนี้ หน่วยสืบสวนนิติเวช ยังค้นหาสิ่งของบนแม่น้ำสลิม ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดที่ผู้ต้องสงสัยทิ้งสิ่งของจากสะพานเหล็กลงไปในแม่น้ำ ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก พบกุญแจรถยนต์ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร และพบกระเป๋าสตางค์ห่างออกไปอีกเล็กน้อย นอกจากนี้ยังพบข้าวของเครื่องใช้ อุปกรณ์ละหมาด กระเป๋าถือ และสายชาร์จโทรศัพท์อีกด้วย

    ดาตุ๊ก ฮุสเซน โอมาร์ ข่าน หัวหน้าตำรวจรัฐสลังงอร์ เชื่อว่าแรงจูงใจในการฆาตกรรมเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทเรื่องความสัมพันธ์ โดยหลักฐานเพียงพอที่จะตั้งข้อกล่าวหาผู้ต้องสงสัย อาศัยหลักฐานที่พบในหลายสถานที่ทั้งภายในรัฐสลังงอร์ และรัฐเปรัก

    26 กรกฎาคม 2567 ตำรวจควบคุมตัว สิบตำรวจเอก มูฮัมหมัด อาลิฟ มอนจานี ไปที่ศาลแขวงกัวลากูบูบารู ที่เมืองฮูลู สลังงอร์ รัฐสลังงอร์ โดยตั้งข้อหาฆาตกรรม ซึ่งหากตัดสินว่ามีความผิด โทษสูงสุดประหารชีวิต ซึ่งศาลนัดอีกครั้งในวันที่ 30 สิงหาคม 2567

    สำหรับร่างของ นูร์ ฟาราห์ การ์ตินี ถูกฝังไว้เมื่อเวลา 17.02 น. ของวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ที่สุสานกัมปง นยีอูร์ มานิส เมืองเปกัน รัฐปะหัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาพี่ชาย หลังเสร็จสิ้นการชันสูตรที่โรงพยาบาลสุไหงบูเลาะห์ รัฐสลังงอร์ ซึ่งใช้เวลานานประมาณ 2-3 วัน

    #Newskit #อาชญากรรม #มาเลเซีย
    คดีดังที่มาเลเซีย ฆ่าสาวทิ้งสวนปาล์ม ที่ประเทศมาเลเซีย มีคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญอยู่คดีหนึ่งที่เป็นข่าวดังตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือการเสียชีวิตของ นางสาวนูร์ ฟาราห์ การ์ตินี อับดุลลาห์ อายุ 25 ปี ซึ่งพบศพภายในสวนปาล์มน้ำมัน ที่บ้านกัมปุง ศรี เกเลดัง เมืองฮูลู สลังงอร์ รัฐสลังงอร์ เมื่อเวลาประมาณ 6 โมงเย็นวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ตำรวจรับแจ้งจากพนักงานของบริษัทให้เช่ารถในเมืองตันจุงมาลิม รัฐเปรัก ว่า นูร์ ฟาราห์ การ์ตินี หายตัวไปเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 หลังจากที่เธอส่งรถเช่าให้กับลูกค้า กระทั่งผ่านมา 5 วัน จึงได้พบศพของเธอดังกล่าว นูร์ ฟาราห์ การ์ตินี เป็นลูกสาวคนสุดท้องจากพี่น้องทั้งหมด 7 คน บ้านเกิดของเธออยู่ที่เมืองมิริ รัฐซาราวัก บนเกาะบอร์เนียว สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยศึกษาศาสตร์สุลต่านไอดริส (UPSI) เมืองตันจุงมาลิม รัฐเปรัก สาขาการศึกษา (มัลติมีเดีย) เมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ต้องการกลับบ้านเกิด ต้องการอยู่ทำงานเพื่อช่วยเหลือครอบครัว วันต่อมา ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ทราบชื่อภายหลังคือ สิบตำรวจเอก มูฮัมหมัด อาลิฟ มอนจานี อายุ 26 ปี อาชีพรับราชการตำรวจ ยศสิบเอก ประจำสถานีตำรวจสลิมริเวอร์ ในรัฐเปรัก ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของ นูร์ ฟาราห์ การ์ตินี และถูกควบคุมตัวเป็นเวลา 7 วันเพื่อสอบสวนตามกฎหมายมาเลเซีย ก่อนที่จะขยายต่อไปอีก 7 วัน ถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 การค้นหาหลักฐานเพื่อคลี่คลายคดีดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากพบสมาร์ทโฟนลงท่อระบายน้ำในสวนปาล์มน้ำมัน ต่อมาพบกระเป๋าถือของนูร์ ฟาราห์ การ์ตินี ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 นาที การตรวจค้นและสอบสวนคนงานไร่มันสำปะหลัง ที่ผู้ต้องสงสัยทำไร่มันนอกเวลางาน รวมทั้งตรวจสอบรถยนต์โตโยต้า วีออส สีแดง และตรวจวิเคราะห์ซิมการ์ดของผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ หน่วยสืบสวนนิติเวช ยังค้นหาสิ่งของบนแม่น้ำสลิม ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดที่ผู้ต้องสงสัยทิ้งสิ่งของจากสะพานเหล็กลงไปในแม่น้ำ ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก พบกุญแจรถยนต์ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร และพบกระเป๋าสตางค์ห่างออกไปอีกเล็กน้อย นอกจากนี้ยังพบข้าวของเครื่องใช้ อุปกรณ์ละหมาด กระเป๋าถือ และสายชาร์จโทรศัพท์อีกด้วย ดาตุ๊ก ฮุสเซน โอมาร์ ข่าน หัวหน้าตำรวจรัฐสลังงอร์ เชื่อว่าแรงจูงใจในการฆาตกรรมเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทเรื่องความสัมพันธ์ โดยหลักฐานเพียงพอที่จะตั้งข้อกล่าวหาผู้ต้องสงสัย อาศัยหลักฐานที่พบในหลายสถานที่ทั้งภายในรัฐสลังงอร์ และรัฐเปรัก 26 กรกฎาคม 2567 ตำรวจควบคุมตัว สิบตำรวจเอก มูฮัมหมัด อาลิฟ มอนจานี ไปที่ศาลแขวงกัวลากูบูบารู ที่เมืองฮูลู สลังงอร์ รัฐสลังงอร์ โดยตั้งข้อหาฆาตกรรม ซึ่งหากตัดสินว่ามีความผิด โทษสูงสุดประหารชีวิต ซึ่งศาลนัดอีกครั้งในวันที่ 30 สิงหาคม 2567 สำหรับร่างของ นูร์ ฟาราห์ การ์ตินี ถูกฝังไว้เมื่อเวลา 17.02 น. ของวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ที่สุสานกัมปง นยีอูร์ มานิส เมืองเปกัน รัฐปะหัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาพี่ชาย หลังเสร็จสิ้นการชันสูตรที่โรงพยาบาลสุไหงบูเลาะห์ รัฐสลังงอร์ ซึ่งใช้เวลานานประมาณ 2-3 วัน #Newskit #อาชญากรรม #มาเลเซีย
    Sad
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 791 มุมมอง 0 รีวิว