• 1 พ.ค.ต่างชาติต้องกรอก บัตรขาเข้าดิจิทัล TDAC

    หลังจากมาตรการยกเว้นการยื่นแบบ ตม.6 บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นการชั่วคราวที่ด่านทางบกและทางน้ำ รวม 16 ด่าน จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เม.ย.ที่จะถึงนี้ ชาวต่างชาติที่จะเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จะต้องกรอกแบบฟอร์มบัตรขาเข้าดิจิทัล (Thailand Digital Arrival Card) หรือ TDAC ทางออนไลน์ภายใน 3 วัน (รวมวันเดินทางมาถึง) ก่อนเข้าประเทศ แล้วนำอีเมลที่ได้รับพร้อมเอกสารการเดินทาง เช่น หนังสือเดินทาง ไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อยืนยันตัวตนก่อนเข้าประเทศ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2568 เป็นต้นไป

    แบบฟอร์ม TDAC กรอกได้ที่เว็บไซต์ https://tdac.immigration.go.th เท่านั้น โปรดระวังเว็บไซต์ปลอมหรือลอกเลียนแบบจากมิจฉาชีพ

    สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ให้เหตุผลว่า เพื่อปรับปรุงกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทยให้ทันสมัย และสอดคล้องกับกระแสโลกด้านเทคโนโลยีการเดินทางอัจฉริยะ โดยแบบฟอร์ม TDAC ทำหน้าที่บันทึกข้อมูลการเข้าประเทศของชาวต่างชาติ และให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่เจ้าหน้าที่ ตม. ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทดแทนบัตรขาเข้าแบบกระดาษ ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการตรวจคนเข้าเมืองเร็วขึ้น ใช้เอกสารน้อยลง และความปลอดภัยตามแนวชายแดนที่ดีขึ้น

    สำหรับวิธีการกรอกแบบฟอร์ม TDAC จะต้องกรอกล่วงหน้า 3 วันก่อนเดินทาง ให้กรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ ประกอบด้วย ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อและนามสกุล สัญชาติ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ อีเมล และข้อมูลหนังสือเดินทาง กับข้อมูลการเดินทาง ได้แก่ รหัสเที่ยวบิน (กรณีเดินทางด้วยเครื่องบิน) วัตถุประสงค์การเดินทาง ข้อมูลที่พำนักในประเทศไทย (เช่น ที่อยู่โรงแรม ที่อยู่บ้านพักอาศัย) และข้อมูลด้านสุขภาพสำหรับบางประเทศ หลังจากกรอกแบบฟอร์มออนไลน์แล้วเสร็จ จะได้รับอีเมลตอบรับ ให้นำไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ ตม. พร้อมเอกสารการเดินทาง เมื่อมาถึงประเทศไทยเพื่อยืนยันตัวตน

    ผู้ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องกรอกแบบฟอร์ม TDAC ได้แก่ ชาวต่างชาติที่เดินทางผ่านหรือเปลี่ยนเครื่องบินในประเทศไทย โดยไม่ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง (Transfer / Transit) และชาวต่างชาติที่เข้าประเทศไทยโดยหนังสือผ่านแดน (Border Pass) อย่างไรก็ตาม บัตรขาเข้าดิจิทัลของประเทศไทยไม่ใช่วีซ่า หากนักท่องเที่ยวจากประเทศใด ไม่ได้รับการยกเว้นการขอวีซ่าเข้าประเทศไทย ให้ดำเนินการขอวีซ่า ตามที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยกำหนดไว้

    อนึ่ง กระบวนการดังกล่าวคล้ายกับบัตรขาเข้าดิจิทัลบางประเทศ เช่น SG Arrival Card (SGAC) ประเทศสิงคโปร์ Malaysia Digital Arrival Card (MDAC) ประเทศมาเลเซีย

    #Newskit
    1 พ.ค.ต่างชาติต้องกรอก บัตรขาเข้าดิจิทัล TDAC หลังจากมาตรการยกเว้นการยื่นแบบ ตม.6 บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นการชั่วคราวที่ด่านทางบกและทางน้ำ รวม 16 ด่าน จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เม.ย.ที่จะถึงนี้ ชาวต่างชาติที่จะเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จะต้องกรอกแบบฟอร์มบัตรขาเข้าดิจิทัล (Thailand Digital Arrival Card) หรือ TDAC ทางออนไลน์ภายใน 3 วัน (รวมวันเดินทางมาถึง) ก่อนเข้าประเทศ แล้วนำอีเมลที่ได้รับพร้อมเอกสารการเดินทาง เช่น หนังสือเดินทาง ไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อยืนยันตัวตนก่อนเข้าประเทศ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2568 เป็นต้นไป แบบฟอร์ม TDAC กรอกได้ที่เว็บไซต์ https://tdac.immigration.go.th เท่านั้น โปรดระวังเว็บไซต์ปลอมหรือลอกเลียนแบบจากมิจฉาชีพ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ให้เหตุผลว่า เพื่อปรับปรุงกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทยให้ทันสมัย และสอดคล้องกับกระแสโลกด้านเทคโนโลยีการเดินทางอัจฉริยะ โดยแบบฟอร์ม TDAC ทำหน้าที่บันทึกข้อมูลการเข้าประเทศของชาวต่างชาติ และให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่เจ้าหน้าที่ ตม. ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทดแทนบัตรขาเข้าแบบกระดาษ ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการตรวจคนเข้าเมืองเร็วขึ้น ใช้เอกสารน้อยลง และความปลอดภัยตามแนวชายแดนที่ดีขึ้น สำหรับวิธีการกรอกแบบฟอร์ม TDAC จะต้องกรอกล่วงหน้า 3 วันก่อนเดินทาง ให้กรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ ประกอบด้วย ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อและนามสกุล สัญชาติ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ อีเมล และข้อมูลหนังสือเดินทาง กับข้อมูลการเดินทาง ได้แก่ รหัสเที่ยวบิน (กรณีเดินทางด้วยเครื่องบิน) วัตถุประสงค์การเดินทาง ข้อมูลที่พำนักในประเทศไทย (เช่น ที่อยู่โรงแรม ที่อยู่บ้านพักอาศัย) และข้อมูลด้านสุขภาพสำหรับบางประเทศ หลังจากกรอกแบบฟอร์มออนไลน์แล้วเสร็จ จะได้รับอีเมลตอบรับ ให้นำไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ ตม. พร้อมเอกสารการเดินทาง เมื่อมาถึงประเทศไทยเพื่อยืนยันตัวตน ผู้ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องกรอกแบบฟอร์ม TDAC ได้แก่ ชาวต่างชาติที่เดินทางผ่านหรือเปลี่ยนเครื่องบินในประเทศไทย โดยไม่ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง (Transfer / Transit) และชาวต่างชาติที่เข้าประเทศไทยโดยหนังสือผ่านแดน (Border Pass) อย่างไรก็ตาม บัตรขาเข้าดิจิทัลของประเทศไทยไม่ใช่วีซ่า หากนักท่องเที่ยวจากประเทศใด ไม่ได้รับการยกเว้นการขอวีซ่าเข้าประเทศไทย ให้ดำเนินการขอวีซ่า ตามที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยกำหนดไว้ อนึ่ง กระบวนการดังกล่าวคล้ายกับบัตรขาเข้าดิจิทัลบางประเทศ เช่น SG Arrival Card (SGAC) ประเทศสิงคโปร์ Malaysia Digital Arrival Card (MDAC) ประเทศมาเลเซีย #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกสั่งการข้ามหัว กสทช.!! หากเกิดภัยพิบัติให้ใช้การส่งข้อความทันทีหลังได้รับข้อมูลจากกรมอุตุมายัง ปภ. แล้วให้ ปภ. สั่งตรงไปที่เครือข่ายมือถือทุกค่าย และส่งไปที่ประชาชนโดยไม่ต้องผ่าน กสทช.
    นายกสั่งการข้ามหัว กสทช.!! หากเกิดภัยพิบัติให้ใช้การส่งข้อความทันทีหลังได้รับข้อมูลจากกรมอุตุมายัง ปภ. แล้วให้ ปภ. สั่งตรงไปที่เครือข่ายมือถือทุกค่าย และส่งไปที่ประชาชนโดยไม่ต้องผ่าน กสทช.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พิชัย”สั่งการคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่มี “ร.ต.จักรา” ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด หลังมีข้อสงสัยเป็นนอมินี เผยผลตรวจสอบ สำนักงานปิด ไม่มีเจ้าหน้าที่ ติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้ ทั้งเบอร์พื้นฐาน เบอร์มือถือ เตรียมลุยตรวจสอบบริษัทอื่นอีก 13 บริษัท ที่มีที่ตั้งที่เดียวกัน และมีกรรมการและผู้ถือหุ้นคนเดียวกันต่อไป

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030709
    “พิชัย”สั่งการคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่มี “ร.ต.จักรา” ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด หลังมีข้อสงสัยเป็นนอมินี เผยผลตรวจสอบ สำนักงานปิด ไม่มีเจ้าหน้าที่ ติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้ ทั้งเบอร์พื้นฐาน เบอร์มือถือ เตรียมลุยตรวจสอบบริษัทอื่นอีก 13 บริษัท ที่มีที่ตั้งที่เดียวกัน และมีกรรมการและผู้ถือหุ้นคนเดียวกันต่อไป อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030709
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ ลั่นวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนระบบแจ้งเตือนภัย จากกรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือไม่ต้องผ่าน กสทช. ก่อนรอ cell boardcast เต็มระบบ ก.ค.นี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030664
    นายกฯ ลั่นวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนระบบแจ้งเตือนภัย จากกรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือไม่ต้องผ่าน กสทช. ก่อนรอ cell boardcast เต็มระบบ ก.ค.นี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030664
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลการศึกษาใหม่ที่เผยว่า การลดเวลาใช้สมาร์ทโฟนลงเหลือไม่เกิน สองชั่วโมงต่อวัน สามารถส่งผลดีต่อสุขภาพจิตอย่างมีนัยสำคัญ โดยการวิจัยนี้จัดทำโดยทีมงานมหาวิทยาลัย Krems ในเยอรมนี พบว่าในเวลาเพียง สามสัปดาห์ ผู้เข้าร่วมที่จำกัดการใช้สมาร์ทโฟนแสดงอาการซึมเศร้าลดลงถึง 27% ความเครียดลดลง 16% คุณภาพการนอนหลับเพิ่มขึ้น 18% และสุขภาพจิตโดยรวมเพิ่มขึ้น 14% อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่มักกลับมาใช้เวลาบนโทรศัพท์มากขึ้นหลังการทดลอง เนื่องจากความท้าทายในการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานในระยะยาว

    ความสำคัญของการกำหนดเวลาใช้งาน:
    - การติดตามและจำกัดเวลาใช้สมาร์ทโฟนสามารถทำได้ง่ายผ่านฟังก์ชัน Screen Time บนอุปกรณ์ iOS หรือ Digital Wellbeing บน Android ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจพฤติกรรมการใช้งานได้ชัดเจนขึ้น.

    ต้นทุนของการใช้สมาร์ทโฟนมากเกินไป:
    - การใช้มือถือโดยเฉลี่ย 3.5 ชั่วโมงต่อวันตลอดชีวิตนั้นเทียบเท่ากับการเสียเวลาไปถึง 10 ปี ซึ่งสามารถนำไปใช้ทำสิ่งอื่นที่มีคุณค่าได้.

    ข้อเสียจากพฤติกรรมติดโทรศัพท์:
    - สมาร์ทโฟนและแอปต่าง ๆ ถูกออกแบบมาเพื่อดึงดูดความสนใจ ซึ่งทำให้การลดเวลาใช้งานเป็นเรื่องยาก เพราะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนนิสัยและความเคยชินที่ต้องใช้ความพยายามสูง.

    เคล็ดลับลดเวลาใช้สมาร์ทโฟน:
    - ตั้งค่าจำกัดเวลาการใช้งาน, หมั่นตรวจสอบพฤติกรรม และตั้งคำถามกับตัวเองว่าใช้โทรศัพท์เพื่ออะไร หากใช้เพื่อฆ่าเวลา ควรหากิจกรรมอื่นที่เติมเต็มชีวิตได้มากกว่า.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/29/cutting-time-spent-on-your-smartphone-can-improve-your-mental-health
    ผลการศึกษาใหม่ที่เผยว่า การลดเวลาใช้สมาร์ทโฟนลงเหลือไม่เกิน สองชั่วโมงต่อวัน สามารถส่งผลดีต่อสุขภาพจิตอย่างมีนัยสำคัญ โดยการวิจัยนี้จัดทำโดยทีมงานมหาวิทยาลัย Krems ในเยอรมนี พบว่าในเวลาเพียง สามสัปดาห์ ผู้เข้าร่วมที่จำกัดการใช้สมาร์ทโฟนแสดงอาการซึมเศร้าลดลงถึง 27% ความเครียดลดลง 16% คุณภาพการนอนหลับเพิ่มขึ้น 18% และสุขภาพจิตโดยรวมเพิ่มขึ้น 14% อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่มักกลับมาใช้เวลาบนโทรศัพท์มากขึ้นหลังการทดลอง เนื่องจากความท้าทายในการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานในระยะยาว ความสำคัญของการกำหนดเวลาใช้งาน: - การติดตามและจำกัดเวลาใช้สมาร์ทโฟนสามารถทำได้ง่ายผ่านฟังก์ชัน Screen Time บนอุปกรณ์ iOS หรือ Digital Wellbeing บน Android ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจพฤติกรรมการใช้งานได้ชัดเจนขึ้น. ต้นทุนของการใช้สมาร์ทโฟนมากเกินไป: - การใช้มือถือโดยเฉลี่ย 3.5 ชั่วโมงต่อวันตลอดชีวิตนั้นเทียบเท่ากับการเสียเวลาไปถึง 10 ปี ซึ่งสามารถนำไปใช้ทำสิ่งอื่นที่มีคุณค่าได้. ข้อเสียจากพฤติกรรมติดโทรศัพท์: - สมาร์ทโฟนและแอปต่าง ๆ ถูกออกแบบมาเพื่อดึงดูดความสนใจ ซึ่งทำให้การลดเวลาใช้งานเป็นเรื่องยาก เพราะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนนิสัยและความเคยชินที่ต้องใช้ความพยายามสูง. เคล็ดลับลดเวลาใช้สมาร์ทโฟน: - ตั้งค่าจำกัดเวลาการใช้งาน, หมั่นตรวจสอบพฤติกรรม และตั้งคำถามกับตัวเองว่าใช้โทรศัพท์เพื่ออะไร หากใช้เพื่อฆ่าเวลา ควรหากิจกรรมอื่นที่เติมเต็มชีวิตได้มากกว่า. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/29/cutting-time-spent-on-your-smartphone-can-improve-your-mental-health
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Cutting time spent on your smartphone can improve your mental health
    Spending less than two hours on our smartphones could noticeably improve our well-being, according to the latest science.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚨 แผ่นดินไหวเขย่าไทย รัฐไร้แผนฉุกเฉินรับมือ ถือโอกาสรีดเงิน เมินน้ำใจเพื่อนร่วมชาติ ขาดระบบขนส่งสาธารณะ รถเมล์ไม่เพียงพอ รอรถไฟฟ้า ประชาชนเดินเท้า ประชาชนรอความช่วยเหลือกลางถนน 🚷

    ✍️ เหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 95 ปี เผยให้เห็นการขาดแผนฉุกเฉินของรัฐ ขนส่งสาธารณะล่มทั่วกรุงเทพฯ ประชาชนไร้ทางเลือก ต้องเดินเท้ากลับบ้าน ฝ่าวิกฤตกลางเมืองหลวง

    🧭 เมื่อภัยธรรมชาติกระชากหน้ากาก "ระบบที่ไร้หัวใจ" บ่ายวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกติจูด จุดศูนย์กลางอยู่ในเมียนมา แต่แรงสั่นสะเทือนไม่ได้หยุดที่พรมแดน 🇲🇲 มันพัดผ่านเข้ามาในไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และภาคเหนืออย่างรุนแรง อาคารสูงโยกเยก 🚨 ผู้คนแตกตื่น วิ่งอพยพลงจากตึก

    แต่อะไรคือสิ่งที่น่าตกใจที่สุด? ไม่ใช่แค่แรงสั่นสะเทือน แต่คือ "ความไร้การเตรียมพร้อม" ของรัฐ และ "การล่มสลาย" ของระบบขนส่งสาธารณะ 🚆🛑

    📌 แผ่นดินไหวคือภัยธรรมชาติ แต่การไร้แผนคือภัยจากรัฐ ไม่มีแผนการ ไม่มีการแจ้งเตือน ไม่มีทางเลือกในการเดินทาง
    คนจำนวนมากออกจากตึก กลับบ้านไม่ได้
    🚇 รถไฟฟ้าหยุด
    🚌 รถเมล์ไม่พอ
    🚕 แท็กซี่แพง 💸
    ประชาชน “เดินเท้า” เป็นกิโลๆ เพื่อหาความปลอดภัย

    “หยุดให้บริการโดยไม่มีแผน คือการทิ้งประชาชนไว้กลางสนามรบ” 🪖

    “นี่ไม่ใช่แค่ระบบขนส่งที่ล่ม แต่คือภาพสะท้อนของการบริหารจัดการ ที่ไม่มีหัวใจ” ❤️‍🩹

    📉 ระบบขนส่งที่ “หยุดก่อนจำเป็น” ทำให้แย่ยิ่งกว่าเดิม 🚆 รถไฟฟ้าหยุดเดินโดยไม่มีกรอบเวลา รถไฟฟ้าทุกสายหยุดเดินรถมากกว่า 10 ชั่วโมง แต่ไม่มีแผนสำรอง ไม่มีการแจ้งเวลาชัดเจน ประชาชน “ไร้ทิศทาง” ผู้คนอพยพล่าช้า ช่วยเหลือทำไม่ได้

    นี่คือการแสดงให้เห็นว่า ระบบขนส่งในประเทศไทย ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อวิกฤต

    🚌 รถเมล์ไม่พอวิ่ง-ไม่พอคน ถึงรัฐบอกจะส่งรถเมล์เพิ่ม แต่ความเป็นจริงคือ... รถติดทำให้รถเข้าไม่ถึง จำนวนเที่ยวไม่พอ ไม่มีการบริหารจัดการแบบคล่องตัว

    🚖 ค่าโดยสารแพงเกินจริง
    🚦 วินมอเตอร์ไซค์
    🚘 แกร็บ
    🛻 แท็กซี่

    ต่างอัพราคาค่าโดยสารสูงกว่าปกติ 2-3 เท่า เพราะ "ดีมานด์พุ่ง" แต่ "ซัพพลายหาย"

    🏃‍♂️ เดินเท้าคือทางเลือกสุดท้าย ของคนไม่มีทางเลือก ในวันที่ขนส่งล่มทั้งเมือง คนหลายหมื่นต้องเดินเท้ากลับบ้าน ระยะทาง 5-10 กิโลเมตร 🚶‍♀️

    ภาพที่เห็น
    - ผู้สูงอายุเดินจับมือกับหลานเล็ก
    - คนทำงานเดินกลับบ้านกลางดึก
    - เด็กนักเรียนที่ตกค้าง ต้องขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า

    นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการเดินทาง แต่มันคือการเอาชีวิตรอด ในเมืองหลวงที่ไร้แผน

    ❗ ประเทศไทย "ยังไม่มี" แผนขนส่งฉุกเฉินที่ตอบโจทย์ แม้จะมีกฎหมาย พ.ร.บ. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 แต่สิ่งที่หายไปคือ

    ✅ ความเร็วในการตอบสนอง
    ✅ ความเข้าใจพฤติกรรมผู้คน
    ✅ ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน

    ภัยพิบัติแผ่นดินไหว ไม่มีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้า รัฐต้องมี "แผนไว้ก่อน" ไม่ใช่ "แผนหลังเกิดเหตุ"

    📊 ถอดบทเรียนจากต่างประเทศ ญี่ปุ่นทำอย่างไร? ญี่ปุ่น 🇯🇵 เผชิญแผ่นดินไหวบ่อย แต่ยังเดินรถไฟฟ้าได้
    เพราะอะไร?

    ✅ ญี่ปุ่นมีระบบเหล่านี้
    - เดินรถไฟด้วยความเร็วต่ำ เมื่อเกิดแผ่นดินไหว
    - แจ้งเตือนล่วงหน้าผ่านแอป-SMS ภายในไม่กี่วินาที
    - วางแผนเส้นทางขนส่งสำรอง
    - ซักซ้อมแผนอพยพทุกปี
    - มีจุดรวมตัวปลอดภัยพร้อมน้ำ อาหาร แพทย์

    ในขณะที่ไทย... ยังใช้เวลามากกว่า 30 นาที ในการแจ้งเตือนจากกรมอุตุ และกว่า 5 ชั่วโมงกว่าข้อความ SMS จะส่งถึงมือถือประชาชน 😓📵

    🧭 แนวทางที่ไทยควรทำ และยังไม่ได้ทำ
    - สร้างระบบแจ้งเตือนภัยแบบ Real-time ไม่ใช่ให้คนไปรู้ข่าวจาก Facebook ก่อน

    - เตรียมเส้นทางขนส่งสำรอง พร้อมแผนขนย้ายมวลชน ไม่ใช่หยุดรถไฟฟ้าแล้วไม่บอกอะไรเลย

    - กำหนดเกณฑ์การปิดระบบขนส่งให้ชัดเจน และสมเหตุสมผล หยุดเดินรถได้ แต่ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่จะกลับมา

    - ใช้เทคโนโลยีจัดการจราจรแบบ AI ให้รถฉุกเฉิน-รถช่วยเหลือเดินทางได้ง่ายขึ้น

    - สื่อสารแบบรวมศูนย์ ไม่ใช่หลายหน่วยงานพูดคนละทาง

    💬 เสียงประชาชน เหนื่อย ใจหาย และรู้สึกโดดเดี่ยว
    “ตอนแผ่นดินไหว ตึกสั่น เราวิ่งลงมา แต่พอถึงพื้นดิน กลับไม่มีทางกลับบ้าน”

    “แท็กซี่ไม่รับ รถเมล์ก็ไม่มี ต้องเดินจากอโศกไปบางนา”

    “ถ้ารัฐมีแผนที่ดีกว่านี้ เราคงไม่ต้องเสี่ยงชีวิตแบบนี้”

    🔚 อย่าปล่อยให้ภัยธรรมชาติ กลายเป็นภัยมนุษย์ แผ่นดินไหวครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ความรุนแรงทางธรรมชาติ แต่มันเปิดโปง “ความไร้ระบบ” ของรัฐในการรับมือวิกฤต

    ขนส่งล่ม = ความล้มเหลวของระบบราชการ

    ความเงียบของรัฐ = การทอดทิ้งประชาชน

    🎯 อย่ารอให้เกิดเหตุการณ์ครั้งหน้า เราต้องเตรียมพร้อมให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่เพื่อ “ความสะดวก” แต่เพื่อ “ความอยู่รอด” ของคนไทยทุกคน 🛑🇹🇭

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 291636 มี.ค. 2568

    📱 #แผ่นดินไหวเขย่าไทย #รัฐไร้แผน #ขนส่งล่ม #ไม่มีทางกลับบ้าน #รถไฟฟ้าหยุด #ภัยพิบัติ2025 #ต้องเดินเท้า #บริหารล้มเหลว #ข่าวปลอมภัยพิบัติ #ภัยธรรมชาติหรือมนุษย์
    🚨 แผ่นดินไหวเขย่าไทย รัฐไร้แผนฉุกเฉินรับมือ ถือโอกาสรีดเงิน เมินน้ำใจเพื่อนร่วมชาติ ขาดระบบขนส่งสาธารณะ รถเมล์ไม่เพียงพอ รอรถไฟฟ้า ประชาชนเดินเท้า ประชาชนรอความช่วยเหลือกลางถนน 🚷 ✍️ เหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 95 ปี เผยให้เห็นการขาดแผนฉุกเฉินของรัฐ ขนส่งสาธารณะล่มทั่วกรุงเทพฯ ประชาชนไร้ทางเลือก ต้องเดินเท้ากลับบ้าน ฝ่าวิกฤตกลางเมืองหลวง 🧭 เมื่อภัยธรรมชาติกระชากหน้ากาก "ระบบที่ไร้หัวใจ" บ่ายวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกติจูด จุดศูนย์กลางอยู่ในเมียนมา แต่แรงสั่นสะเทือนไม่ได้หยุดที่พรมแดน 🇲🇲 มันพัดผ่านเข้ามาในไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และภาคเหนืออย่างรุนแรง อาคารสูงโยกเยก 🚨 ผู้คนแตกตื่น วิ่งอพยพลงจากตึก แต่อะไรคือสิ่งที่น่าตกใจที่สุด? ไม่ใช่แค่แรงสั่นสะเทือน แต่คือ "ความไร้การเตรียมพร้อม" ของรัฐ และ "การล่มสลาย" ของระบบขนส่งสาธารณะ 🚆🛑 📌 แผ่นดินไหวคือภัยธรรมชาติ แต่การไร้แผนคือภัยจากรัฐ ไม่มีแผนการ ไม่มีการแจ้งเตือน ไม่มีทางเลือกในการเดินทาง คนจำนวนมากออกจากตึก กลับบ้านไม่ได้ 🚇 รถไฟฟ้าหยุด 🚌 รถเมล์ไม่พอ 🚕 แท็กซี่แพง 💸 ประชาชน “เดินเท้า” เป็นกิโลๆ เพื่อหาความปลอดภัย “หยุดให้บริการโดยไม่มีแผน คือการทิ้งประชาชนไว้กลางสนามรบ” 🪖 “นี่ไม่ใช่แค่ระบบขนส่งที่ล่ม แต่คือภาพสะท้อนของการบริหารจัดการ ที่ไม่มีหัวใจ” ❤️‍🩹 📉 ระบบขนส่งที่ “หยุดก่อนจำเป็น” ทำให้แย่ยิ่งกว่าเดิม 🚆 รถไฟฟ้าหยุดเดินโดยไม่มีกรอบเวลา รถไฟฟ้าทุกสายหยุดเดินรถมากกว่า 10 ชั่วโมง แต่ไม่มีแผนสำรอง ไม่มีการแจ้งเวลาชัดเจน ประชาชน “ไร้ทิศทาง” ผู้คนอพยพล่าช้า ช่วยเหลือทำไม่ได้ นี่คือการแสดงให้เห็นว่า ระบบขนส่งในประเทศไทย ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อวิกฤต 🚌 รถเมล์ไม่พอวิ่ง-ไม่พอคน ถึงรัฐบอกจะส่งรถเมล์เพิ่ม แต่ความเป็นจริงคือ... รถติดทำให้รถเข้าไม่ถึง จำนวนเที่ยวไม่พอ ไม่มีการบริหารจัดการแบบคล่องตัว 🚖 ค่าโดยสารแพงเกินจริง 🚦 วินมอเตอร์ไซค์ 🚘 แกร็บ 🛻 แท็กซี่ ต่างอัพราคาค่าโดยสารสูงกว่าปกติ 2-3 เท่า เพราะ "ดีมานด์พุ่ง" แต่ "ซัพพลายหาย" 🏃‍♂️ เดินเท้าคือทางเลือกสุดท้าย ของคนไม่มีทางเลือก ในวันที่ขนส่งล่มทั้งเมือง คนหลายหมื่นต้องเดินเท้ากลับบ้าน ระยะทาง 5-10 กิโลเมตร 🚶‍♀️ ภาพที่เห็น - ผู้สูงอายุเดินจับมือกับหลานเล็ก - คนทำงานเดินกลับบ้านกลางดึก - เด็กนักเรียนที่ตกค้าง ต้องขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการเดินทาง แต่มันคือการเอาชีวิตรอด ในเมืองหลวงที่ไร้แผน ❗ ประเทศไทย "ยังไม่มี" แผนขนส่งฉุกเฉินที่ตอบโจทย์ แม้จะมีกฎหมาย พ.ร.บ. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 แต่สิ่งที่หายไปคือ ✅ ความเร็วในการตอบสนอง ✅ ความเข้าใจพฤติกรรมผู้คน ✅ ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ภัยพิบัติแผ่นดินไหว ไม่มีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้า รัฐต้องมี "แผนไว้ก่อน" ไม่ใช่ "แผนหลังเกิดเหตุ" 📊 ถอดบทเรียนจากต่างประเทศ ญี่ปุ่นทำอย่างไร? ญี่ปุ่น 🇯🇵 เผชิญแผ่นดินไหวบ่อย แต่ยังเดินรถไฟฟ้าได้ เพราะอะไร? ✅ ญี่ปุ่นมีระบบเหล่านี้ - เดินรถไฟด้วยความเร็วต่ำ เมื่อเกิดแผ่นดินไหว - แจ้งเตือนล่วงหน้าผ่านแอป-SMS ภายในไม่กี่วินาที - วางแผนเส้นทางขนส่งสำรอง - ซักซ้อมแผนอพยพทุกปี - มีจุดรวมตัวปลอดภัยพร้อมน้ำ อาหาร แพทย์ ในขณะที่ไทย... ยังใช้เวลามากกว่า 30 นาที ในการแจ้งเตือนจากกรมอุตุ และกว่า 5 ชั่วโมงกว่าข้อความ SMS จะส่งถึงมือถือประชาชน 😓📵 🧭 แนวทางที่ไทยควรทำ และยังไม่ได้ทำ - สร้างระบบแจ้งเตือนภัยแบบ Real-time ไม่ใช่ให้คนไปรู้ข่าวจาก Facebook ก่อน - เตรียมเส้นทางขนส่งสำรอง พร้อมแผนขนย้ายมวลชน ไม่ใช่หยุดรถไฟฟ้าแล้วไม่บอกอะไรเลย - กำหนดเกณฑ์การปิดระบบขนส่งให้ชัดเจน และสมเหตุสมผล หยุดเดินรถได้ แต่ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่จะกลับมา - ใช้เทคโนโลยีจัดการจราจรแบบ AI ให้รถฉุกเฉิน-รถช่วยเหลือเดินทางได้ง่ายขึ้น - สื่อสารแบบรวมศูนย์ ไม่ใช่หลายหน่วยงานพูดคนละทาง 💬 เสียงประชาชน เหนื่อย ใจหาย และรู้สึกโดดเดี่ยว “ตอนแผ่นดินไหว ตึกสั่น เราวิ่งลงมา แต่พอถึงพื้นดิน กลับไม่มีทางกลับบ้าน” “แท็กซี่ไม่รับ รถเมล์ก็ไม่มี ต้องเดินจากอโศกไปบางนา” “ถ้ารัฐมีแผนที่ดีกว่านี้ เราคงไม่ต้องเสี่ยงชีวิตแบบนี้” 🔚 อย่าปล่อยให้ภัยธรรมชาติ กลายเป็นภัยมนุษย์ แผ่นดินไหวครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ความรุนแรงทางธรรมชาติ แต่มันเปิดโปง “ความไร้ระบบ” ของรัฐในการรับมือวิกฤต ขนส่งล่ม = ความล้มเหลวของระบบราชการ ความเงียบของรัฐ = การทอดทิ้งประชาชน 🎯 อย่ารอให้เกิดเหตุการณ์ครั้งหน้า เราต้องเตรียมพร้อมให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่เพื่อ “ความสะดวก” แต่เพื่อ “ความอยู่รอด” ของคนไทยทุกคน 🛑🇹🇭 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 291636 มี.ค. 2568 📱 #แผ่นดินไหวเขย่าไทย #รัฐไร้แผน #ขนส่งล่ม #ไม่มีทางกลับบ้าน #รถไฟฟ้าหยุด #ภัยพิบัติ2025 #ต้องเดินเท้า #บริหารล้มเหลว #ข่าวปลอมภัยพิบัติ #ภัยธรรมชาติหรือมนุษย์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวที่ดีที่สุดในโลกปัจจุบันคือ **ระบบ Earthquake Early Warning (EEW)** ของญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า **"ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้า (緊急地震速報, Kinkyū Jishin Sokuhō)"** ซึ่งดำเนินการโดย **Japan Meteorological Agency (JMA)**

    ### 🔍 **เหตุผลที่ญี่ปุ่นมีระบบที่ดีที่สุด**:
    1. **ความเร็วในการตรวจจับ**:
    - ญี่ปุ่นใช้เครือข่ายเซ็นเซอร์วัดแผ่นดินไหว (Seismometers) จำนวนมากทั่วประเทศ ที่สามารถตรวจจับคลื่นแผ่นดินไหว (คลื่น P) ได้ทันทีและส่งสัญญาณเตือนภายในเวลา **ไม่กี่วินาที** ก่อนที่คลื่นทำลายล้าง (คลื่น S) จะมาถึง
    - ในบางกรณี สามารถแจ้งเตือนได้ **5-30 วินาที** ก่อนเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรง

    2. **การบูรณาการกับระบบสาธารณะ**:
    - การแจ้งเตือนถูกส่งไปยัง **โทรศัพท์มือถือทุกเครื่อง** ในพื้นที่เสี่ยงผ่านระบบ **J-Alert**
    - ระบบกระจายเสียงผ่าน **ทีวี วิทยุ และลำโพงฉุกเฉิน**
    - บางเมืองยังเชื่อมกับระบบขนส่ง เช่น **รถไฟชินคันเซน** ที่หยุดทำงานอัตโนมัติเมื่อได้รับสัญญาณเตือน

    3. **ความแม่นยำสูง**:
    - ญี่ปุ่นลงทุนในเทคโนโลยี AI และระบบประมวลผลแบบเรียลไทม์ เพื่อลด **ผลบวกปลอม (False Alarms)** และปรับปรุงความแม่นยำ

    4. **ประสบการณ์กับแผ่นดินไหว**:
    - ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อย จึงมีการพัฒนาระบบมาอย่างต่อเนื่อง เช่น หลังเหตุการณ์ **แผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน (1995)** และ **โทโฮกุ (2011)**

    ### 🌍 **ระบบอื่นๆ ที่น่าสนใจ**:
    - **สหรัฐอเมริกา (ShakeAlert)** – ใช้ในแคลิฟอร์เนีย ออริกอน และวอชิงตัน
    - **เม็กซิโก (SASMEX)** – แจ้งเตือนในเม็กซิโกซิตี้
    - **ไต้หวัน** – มีระบบที่คล้ายญี่ปุ่น แต่ครอบคลุมพื้นที่เล็กกว่า
    - **จีนและอินโดนีเซีย** – กำลังพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ### ⚠️ **ข้อจำกัดของระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว**:
    - **เวลาเตือนสั้นมาก** (มักไม่เกิน 1 นาที)
    - **ไม่สามารถทำนายแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้า** แต่แจ้งเตือนเมื่อตรวจพบคลื่นแรกเท่านั้น
    - **ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดศูนย์กลาง** (ถ้าอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ อาจได้รับแจ้งเตือนช้าหรือไม่ทัน)

    ### 🚨 **สรุป**:
    ญี่ปุ่นเป็นผู้นำด้านระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน แต่ละประเทศก็พยายามปรับปรุงระบบของตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดความสูญเสียจากภัยพิบัตินี้
    ระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวที่ดีที่สุดในโลกปัจจุบันคือ **ระบบ Earthquake Early Warning (EEW)** ของญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า **"ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้า (緊急地震速報, Kinkyū Jishin Sokuhō)"** ซึ่งดำเนินการโดย **Japan Meteorological Agency (JMA)** ### 🔍 **เหตุผลที่ญี่ปุ่นมีระบบที่ดีที่สุด**: 1. **ความเร็วในการตรวจจับ**: - ญี่ปุ่นใช้เครือข่ายเซ็นเซอร์วัดแผ่นดินไหว (Seismometers) จำนวนมากทั่วประเทศ ที่สามารถตรวจจับคลื่นแผ่นดินไหว (คลื่น P) ได้ทันทีและส่งสัญญาณเตือนภายในเวลา **ไม่กี่วินาที** ก่อนที่คลื่นทำลายล้าง (คลื่น S) จะมาถึง - ในบางกรณี สามารถแจ้งเตือนได้ **5-30 วินาที** ก่อนเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรง 2. **การบูรณาการกับระบบสาธารณะ**: - การแจ้งเตือนถูกส่งไปยัง **โทรศัพท์มือถือทุกเครื่อง** ในพื้นที่เสี่ยงผ่านระบบ **J-Alert** - ระบบกระจายเสียงผ่าน **ทีวี วิทยุ และลำโพงฉุกเฉิน** - บางเมืองยังเชื่อมกับระบบขนส่ง เช่น **รถไฟชินคันเซน** ที่หยุดทำงานอัตโนมัติเมื่อได้รับสัญญาณเตือน 3. **ความแม่นยำสูง**: - ญี่ปุ่นลงทุนในเทคโนโลยี AI และระบบประมวลผลแบบเรียลไทม์ เพื่อลด **ผลบวกปลอม (False Alarms)** และปรับปรุงความแม่นยำ 4. **ประสบการณ์กับแผ่นดินไหว**: - ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อย จึงมีการพัฒนาระบบมาอย่างต่อเนื่อง เช่น หลังเหตุการณ์ **แผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน (1995)** และ **โทโฮกุ (2011)** ### 🌍 **ระบบอื่นๆ ที่น่าสนใจ**: - **สหรัฐอเมริกา (ShakeAlert)** – ใช้ในแคลิฟอร์เนีย ออริกอน และวอชิงตัน - **เม็กซิโก (SASMEX)** – แจ้งเตือนในเม็กซิโกซิตี้ - **ไต้หวัน** – มีระบบที่คล้ายญี่ปุ่น แต่ครอบคลุมพื้นที่เล็กกว่า - **จีนและอินโดนีเซีย** – กำลังพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ### ⚠️ **ข้อจำกัดของระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว**: - **เวลาเตือนสั้นมาก** (มักไม่เกิน 1 นาที) - **ไม่สามารถทำนายแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้า** แต่แจ้งเตือนเมื่อตรวจพบคลื่นแรกเท่านั้น - **ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดศูนย์กลาง** (ถ้าอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ อาจได้รับแจ้งเตือนช้าหรือไม่ทัน) ### 🚨 **สรุป**: ญี่ปุ่นเป็นผู้นำด้านระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน แต่ละประเทศก็พยายามปรับปรุงระบบของตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดความสูญเสียจากภัยพิบัตินี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • EU กำลังพิจารณามาตรการที่อาจกระทบต่อบริการ VPN โดยต้องการให้เก็บข้อมูลเพื่อตรวจสอบ แต่แนวคิดนี้ถูกมองว่าอาจทำลายความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้และสร้างปัญหาความปลอดภัยด้านข้อมูล ผู้เชี่ยวชาญเน้นว่าสิทธิพลเมืองและความปลอดภัยของระบบยังเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

    จุดยืนของ EU:
    - HLG ถูกตั้งขึ้นเพื่อวางแผนยุทธศาสตร์ “การเข้าถึงข้อมูลเพื่อการบังคับใช้กฎหมาย” โดยมีเป้าหมายในการทำให้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ใช้งานในชีวิตประจำวันสามารถถูกตรวจสอบได้ตลอดเวลา ทั้งสมาร์ทโฟน, IoT และรถยนต์

    ผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัว:
    - ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากมีการบังคับใช้กฎหมายเพื่อเข้าถึงข้อมูล ผู้ใช้อาจต้องพก “สปายแวร์ของรัฐ” ในมือถือ ขณะที่การบังคับให้ VPN เก็บข้อมูลเมทาดาต้า เช่น ตำแหน่ง หรือเวลาใช้งาน จะทำลายหลักการไม่เก็บข้อมูล (no-log policy) ของบริการที่เน้นความเป็นส่วนตัว

    สมดุลความปลอดภัยและสิทธิพลเมือง:
    - รายงานยังยอมรับว่าการเข้ารหัสเป็นสิ่งสำคัญต่อความปลอดภัย เช่น การป้องกันการโจรกรรมข้อมูล และการสอดแนมจากภาครัฐ แต่การเปิดช่องทางการเข้าถึงโดยกฎหมายอาจนำไปสู่การสูญเสียความปลอดภัยทางข้อมูลได้

    ข้อกังวลจากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี:
    - ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า “การเข้ารหัสทำงานได้สมบูรณ์หรือถูกทำลายทั้งหมด” ไม่สามารถสร้าง “ทางเข้าลับ” (backdoor) ที่ยังคงความปลอดภัยได้ ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาทางเทคนิคในข้อเสนอของกฎหมาย

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/vpn-services-may-soon-become-a-new-target-of-eu-lawmakers-after-being-deemed-a-key-challenge
    EU กำลังพิจารณามาตรการที่อาจกระทบต่อบริการ VPN โดยต้องการให้เก็บข้อมูลเพื่อตรวจสอบ แต่แนวคิดนี้ถูกมองว่าอาจทำลายความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้และสร้างปัญหาความปลอดภัยด้านข้อมูล ผู้เชี่ยวชาญเน้นว่าสิทธิพลเมืองและความปลอดภัยของระบบยังเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม จุดยืนของ EU: - HLG ถูกตั้งขึ้นเพื่อวางแผนยุทธศาสตร์ “การเข้าถึงข้อมูลเพื่อการบังคับใช้กฎหมาย” โดยมีเป้าหมายในการทำให้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ใช้งานในชีวิตประจำวันสามารถถูกตรวจสอบได้ตลอดเวลา ทั้งสมาร์ทโฟน, IoT และรถยนต์ ผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัว: - ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากมีการบังคับใช้กฎหมายเพื่อเข้าถึงข้อมูล ผู้ใช้อาจต้องพก “สปายแวร์ของรัฐ” ในมือถือ ขณะที่การบังคับให้ VPN เก็บข้อมูลเมทาดาต้า เช่น ตำแหน่ง หรือเวลาใช้งาน จะทำลายหลักการไม่เก็บข้อมูล (no-log policy) ของบริการที่เน้นความเป็นส่วนตัว สมดุลความปลอดภัยและสิทธิพลเมือง: - รายงานยังยอมรับว่าการเข้ารหัสเป็นสิ่งสำคัญต่อความปลอดภัย เช่น การป้องกันการโจรกรรมข้อมูล และการสอดแนมจากภาครัฐ แต่การเปิดช่องทางการเข้าถึงโดยกฎหมายอาจนำไปสู่การสูญเสียความปลอดภัยทางข้อมูลได้ ข้อกังวลจากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี: - ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า “การเข้ารหัสทำงานได้สมบูรณ์หรือถูกทำลายทั้งหมด” ไม่สามารถสร้าง “ทางเข้าลับ” (backdoor) ที่ยังคงความปลอดภัยได้ ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาทางเทคนิคในข้อเสนอของกฎหมาย https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/vpn-services-may-soon-become-a-new-target-of-eu-lawmakers-after-being-deemed-a-key-challenge
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • #บันทึกไว้ในความทรงจำในชีวิต

    ผ่านมากับเหตุการณ์ต่างๆ มาค่อนชีวิต สึนามิในประเทศไทย น้ำท่วมกรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัด รวม 65 จังหวัด และอีกเหตุการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัว #แผ่นดินไหว รุนแรงสุดมั้ย ไม่แน่ใจ แต่อยู่ชั้นหนึ่งของบ้าน รับรู้ความสั่นสะเทือนมากพอควร และเป็นหลายนาที หลายช่วงด้วย .. ย้อนกลับไปแต่เช้า

    วันนี้ มีเหตุออกไปทำธุระ แต่ก็ลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน ซึ่งปกติพอรู้ตัวจะต้องไม่สบายใจ กังวลกลับบ้านมาเอาโทรศัพท์ ครั้งนี้เฉยมาก ซื้อของเสร็จ จะไปทำธุรกรรมในธนาคาร คนก็มาใช้บริการเยอะ เลยกลับบ้านแบบแวะแค่ซื้อมื้อกลางวัน ทั้งที่ปกติคนเยอะ วันนี้น้อยมาก

    พอถึงบ้าน ก็รู้สึกเหมือนจะหน้ามืด ก็คิดว่าเพราะยังไม่ได้ทานข้าวแน่เลย พอทานมื้อกลางวันเสร็จ กำลังเก็บของเข้าตู้เย็น .. อ้าว อาการคล้ายหัวหมุน ตั้งสติสักพัก ตู้เย็นมันโครงเครง ผ้าม่านหมุน

    ไม่ใช่อาการป่วยแหละ #แผ่นดินไหว ชัวร์ ตะโกนบอกคนในบ้าน .. หาที่จับ มองโดยรอบ ทุกอย่างปกติ เดินมานั่งพัก แล้วไลน์ถามในกลุ่มหมู่บ้าน ถึงมั่นใจว่ารู้สึกเดียวกัน

    คราวนี้ ถึงออกมานอกบ้านคุยกับพี่ข้างบ้าน แล้วเดินเข้าไปถามน้าสาว จะโทรศัพท์หาญาติ น้องๆ เน็ตกับเครือข่ายก็ใช้ไม่ได้ .. แอบเครียดเหมือนกันนะ

    พอผ่านไปสัก 10-15 นาที ใช้เน็ตมือถือได้ เช็คข่าวโดยรอบ ตกใจนะ ความเสียหายมากจริงๆ .. ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด แต่ก็ผ่านมาได้

    เชื่อว่า #แต้มบุญยังมี ไม่ต้องไปเจออะไรที่ระทึกกว่านี้
    #บันทึกไว้ในความทรงจำในชีวิต ผ่านมากับเหตุการณ์ต่างๆ มาค่อนชีวิต สึนามิในประเทศไทย น้ำท่วมกรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัด รวม 65 จังหวัด และอีกเหตุการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัว #แผ่นดินไหว รุนแรงสุดมั้ย ไม่แน่ใจ แต่อยู่ชั้นหนึ่งของบ้าน รับรู้ความสั่นสะเทือนมากพอควร และเป็นหลายนาที หลายช่วงด้วย .. ย้อนกลับไปแต่เช้า วันนี้ มีเหตุออกไปทำธุระ แต่ก็ลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน ซึ่งปกติพอรู้ตัวจะต้องไม่สบายใจ กังวลกลับบ้านมาเอาโทรศัพท์ ครั้งนี้เฉยมาก ซื้อของเสร็จ จะไปทำธุรกรรมในธนาคาร คนก็มาใช้บริการเยอะ เลยกลับบ้านแบบแวะแค่ซื้อมื้อกลางวัน ทั้งที่ปกติคนเยอะ วันนี้น้อยมาก พอถึงบ้าน ก็รู้สึกเหมือนจะหน้ามืด ก็คิดว่าเพราะยังไม่ได้ทานข้าวแน่เลย พอทานมื้อกลางวันเสร็จ กำลังเก็บของเข้าตู้เย็น .. อ้าว อาการคล้ายหัวหมุน ตั้งสติสักพัก ตู้เย็นมันโครงเครง ผ้าม่านหมุน ไม่ใช่อาการป่วยแหละ #แผ่นดินไหว ชัวร์ ตะโกนบอกคนในบ้าน .. หาที่จับ มองโดยรอบ ทุกอย่างปกติ เดินมานั่งพัก แล้วไลน์ถามในกลุ่มหมู่บ้าน ถึงมั่นใจว่ารู้สึกเดียวกัน คราวนี้ ถึงออกมานอกบ้านคุยกับพี่ข้างบ้าน แล้วเดินเข้าไปถามน้าสาว จะโทรศัพท์หาญาติ น้องๆ เน็ตกับเครือข่ายก็ใช้ไม่ได้ .. แอบเครียดเหมือนกันนะ พอผ่านไปสัก 10-15 นาที ใช้เน็ตมือถือได้ เช็คข่าวโดยรอบ ตกใจนะ ความเสียหายมากจริงๆ .. ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด แต่ก็ผ่านมาได้ เชื่อว่า #แต้มบุญยังมี ไม่ต้องไปเจออะไรที่ระทึกกว่านี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระบบสแกนจ่ายไม่ดี ระวังจะเสียลูกค้า

    ในช่วงนี้บรรดาผู้ใช้งานแอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือ (Mobile Banking) กำลังวิตกกังวลเรื่องอี-สลิปปลอม ที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) ซึ่งมีคนออกมาเตือนว่า สามารถปลอมได้ค่อนข้างแนบเนียน ไม่ต้องใช้โปรแกรมตัดต่อภาพอย่าง Photoshop อีกต่อไป แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีเห็นว่า สลิปที่สร้างโดยเอไอไม่แนบเนียน ลายเส้นมักไม่คม แนะนำว่าให้ผู้ค้าตรวจสอบโดยการนำ QR Code บนอี-สลิปไปสแกนผ่านแอปฯ ธนาคาร

    ขณะที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แนะนำแก่ลูกค้าว่า หลังรับโอนเงินควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสลิปโอนเงินนั้นของแท้ หรือของปลอม ด้วยการสแกน QR Code บนสลิป แต่จะมีอายุจำกัด ตั้งเเต่ 7 วัน ถึง 60 วัน แต่หากสลิปโอนเงินนั้นไม่มี QR Code ให้เข้าไปเช็กยอดเงินในโมบายแบงกิ้ง เพื่อตรวจสอบธุรกรรมที่แท้จริงได้

    ปัจจุบันการชำระเงินด้วยการสแกนจ่าย ยังคงใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ยังคงเกิดปัญหาระหว่างลูกค้ากับร้านค้าเป็นระยะ เช่น แอปฯ ธนาคารล่ม หรือไม่แจ้งเตือนเงินเข้าในบางเวลา เมื่อสัปดาห์ก่อนที่จังหวัดแห่งหนึ่งติดกับกรุงเทพมหานคร เจ้าของร้านกาแฟแห่งหนึ่งโพสต์ภาพและข้อความลงในกลุ่มเฟซบุ๊กข่าวสารของจังหวัดดังกล่าว เรียกร้องให้ลูกค้ารายหนึ่งจ่ายเงินค่ากาแฟ 160 บาท อ้างว่าลูกค้าสแกนจ่ายแล้วเงินไม่เข้า มีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดพร้อมใบหน้าลูกค้าเสมือนประจาน ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างแชร์และประณามลูกค้าจำนวนมาก เพื่อกดดันให้กลับมาจ่ายเงินตามที่เจ้าของร้านกล่าวหา

    ปรากฎว่าในเวลาต่อมาคดีพลิก เพราะเจ้าของร้านโพสต์ข้อความขอโทษลูกค้าที่ถูกพาดพิง หลังพบว่ามีเงินเข้าแต่ระบบไม่ได้แจ้ง และยอมรับว่าทางร้านดูสลิปโอนเงินไม่ชัดเจน ไม่มีเจตนาที่จะประจานลูกค้าแต่อย่างใด ผลก็คือทัวร์ที่เคยลงลูกค้ากลับมาลงที่เจ้าของร้านแทน เรียกร้องให้ชดเชยเยียวยา บางคนแนะให้ลูกค้าแจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะเป็นผู้เสียหาย บางคนกล่าวว่าจะไม่อุดหนุนร้านนี้อีก เพราะไม่รู้ว่าวันไหนตัวเองจะโดนเช่นนั้น เมื่อดูสลิปที่เจ้าของร้านกาแฟโพสต์ ปรากฎว่าปลายทางเป็นแอปฯ รับเงินของลูกค้าจากค่ายอี-วอลเล็ต ซึ่งไม่ใช่ธนาคาร

    ปัจจุบันโมบายแบงกิ้งแต่ละธนาคารมักแจ้งเตือนเงินเข้าล่าช้าในบางเวลา ขณะที่บางธนาคารมีแอปฯ สำหรับให้ร้านค้ารับเงินจากลูกค้าโดยเฉพาะ และยังแจ้งเตือนเงินเข้าทั้งแบบข้อความแจ้งเตือน และเสียงแจ้งเตือนเงินเข้าที่ระบุจำนวนเงินชัดเจน อีกด้านหนึ่ง มีบางร้านค้าขอความร่วมมือให้พนักงานถ่ายภาพอี-สลิปจากลูกค้าเพื่อใช้ตรวจสอบภายหลังกรณีเงินไม่เข้าบัญชีและอื่นๆ ต่อไป

    #Newskit
    ระบบสแกนจ่ายไม่ดี ระวังจะเสียลูกค้า ในช่วงนี้บรรดาผู้ใช้งานแอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือ (Mobile Banking) กำลังวิตกกังวลเรื่องอี-สลิปปลอม ที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) ซึ่งมีคนออกมาเตือนว่า สามารถปลอมได้ค่อนข้างแนบเนียน ไม่ต้องใช้โปรแกรมตัดต่อภาพอย่าง Photoshop อีกต่อไป แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีเห็นว่า สลิปที่สร้างโดยเอไอไม่แนบเนียน ลายเส้นมักไม่คม แนะนำว่าให้ผู้ค้าตรวจสอบโดยการนำ QR Code บนอี-สลิปไปสแกนผ่านแอปฯ ธนาคาร ขณะที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แนะนำแก่ลูกค้าว่า หลังรับโอนเงินควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสลิปโอนเงินนั้นของแท้ หรือของปลอม ด้วยการสแกน QR Code บนสลิป แต่จะมีอายุจำกัด ตั้งเเต่ 7 วัน ถึง 60 วัน แต่หากสลิปโอนเงินนั้นไม่มี QR Code ให้เข้าไปเช็กยอดเงินในโมบายแบงกิ้ง เพื่อตรวจสอบธุรกรรมที่แท้จริงได้ ปัจจุบันการชำระเงินด้วยการสแกนจ่าย ยังคงใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ยังคงเกิดปัญหาระหว่างลูกค้ากับร้านค้าเป็นระยะ เช่น แอปฯ ธนาคารล่ม หรือไม่แจ้งเตือนเงินเข้าในบางเวลา เมื่อสัปดาห์ก่อนที่จังหวัดแห่งหนึ่งติดกับกรุงเทพมหานคร เจ้าของร้านกาแฟแห่งหนึ่งโพสต์ภาพและข้อความลงในกลุ่มเฟซบุ๊กข่าวสารของจังหวัดดังกล่าว เรียกร้องให้ลูกค้ารายหนึ่งจ่ายเงินค่ากาแฟ 160 บาท อ้างว่าลูกค้าสแกนจ่ายแล้วเงินไม่เข้า มีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดพร้อมใบหน้าลูกค้าเสมือนประจาน ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างแชร์และประณามลูกค้าจำนวนมาก เพื่อกดดันให้กลับมาจ่ายเงินตามที่เจ้าของร้านกล่าวหา ปรากฎว่าในเวลาต่อมาคดีพลิก เพราะเจ้าของร้านโพสต์ข้อความขอโทษลูกค้าที่ถูกพาดพิง หลังพบว่ามีเงินเข้าแต่ระบบไม่ได้แจ้ง และยอมรับว่าทางร้านดูสลิปโอนเงินไม่ชัดเจน ไม่มีเจตนาที่จะประจานลูกค้าแต่อย่างใด ผลก็คือทัวร์ที่เคยลงลูกค้ากลับมาลงที่เจ้าของร้านแทน เรียกร้องให้ชดเชยเยียวยา บางคนแนะให้ลูกค้าแจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะเป็นผู้เสียหาย บางคนกล่าวว่าจะไม่อุดหนุนร้านนี้อีก เพราะไม่รู้ว่าวันไหนตัวเองจะโดนเช่นนั้น เมื่อดูสลิปที่เจ้าของร้านกาแฟโพสต์ ปรากฎว่าปลายทางเป็นแอปฯ รับเงินของลูกค้าจากค่ายอี-วอลเล็ต ซึ่งไม่ใช่ธนาคาร ปัจจุบันโมบายแบงกิ้งแต่ละธนาคารมักแจ้งเตือนเงินเข้าล่าช้าในบางเวลา ขณะที่บางธนาคารมีแอปฯ สำหรับให้ร้านค้ารับเงินจากลูกค้าโดยเฉพาะ และยังแจ้งเตือนเงินเข้าทั้งแบบข้อความแจ้งเตือน และเสียงแจ้งเตือนเงินเข้าที่ระบุจำนวนเงินชัดเจน อีกด้านหนึ่ง มีบางร้านค้าขอความร่วมมือให้พนักงานถ่ายภาพอี-สลิปจากลูกค้าเพื่อใช้ตรวจสอบภายหลังกรณีเงินไม่เข้าบัญชีและอื่นๆ ต่อไป #Newskit
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • การโกงการเงินแบบใหม่ใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นจากการหลอกลวงทางออนไลน์ โดยมิจฉาชีพในจีนใช้แอป Z-NFC ส่งธุรกรรมจากมือถือในจีนไปยังร้านค้าในสหรัฐฯ ผ่านระบบ Tap-to-Pay ทำให้สามารถซื้อบัตรของขวัญได้อย่างรวดเร็วแม้ไม่ได้อยู่ในประเทศ เหตุการณ์นี้เน้นให้เห็นถึงความจำเป็นในการป้องกันภัยฟิชชิงและเพิ่มความปลอดภัยของระบบกระเป๋าเงินดิจิทัล

    เทคนิคที่ใช้ในการหลอกลวง:
    - ฟิชชิงมีรูปแบบที่หลากหลาย เช่น การส่งข้อความปลอมจากบริการไปรษณีย์หรือระบบเก็บค่าผ่านทาง ข้อมูลบัตรเครดิตที่หลอกลวงเหล่านี้ถูกเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินดิจิทัลผ่านรหัส OTP ที่เหยื่อได้รับและส่งให้มิจฉาชีพ.

    เทคโนโลยีที่สนับสนุนการโกง:
    - แอป Z-NFC ที่ใช้งานในกระบวนการโกงสามารถถ่ายโอนธุรกรรมผ่าน NFC จากอุปกรณ์ที่อยู่ในจีนไปยังเครื่องอ่านในสหรัฐฯ มิจฉาชีพจึงสามารถชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินปลอมได้โดยไม่ต้องอยู่ในสถานที่จริง.

    บทบาทของแพลตฟอร์ม Telegram:
    - กลุ่มมิจฉาชีพขายโทรศัพท์ที่มีการตั้งค่ากระเป๋าเงินหลอกใน Telegram โดยมีมูลค่าการขายต่ออุปกรณ์ที่สูง พร้อมการสนับสนุนทางเทคนิคตลอด 24 ชั่วโมง.

    ผลกระทบในวงกว้าง:
    - บัตรของขวัญมูลค่ากว่า $23,000 ถูกซื้อผ่านข้อมูลบัตรที่ขโมยมา และการโกงนี้เป็นการขยายตัวของอาชญากรรมไซเบอร์ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง.

    https://krebsonsecurity.com/2025/03/arrests-in-tap-to-pay-scheme-powered-by-phishing/
    การโกงการเงินแบบใหม่ใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นจากการหลอกลวงทางออนไลน์ โดยมิจฉาชีพในจีนใช้แอป Z-NFC ส่งธุรกรรมจากมือถือในจีนไปยังร้านค้าในสหรัฐฯ ผ่านระบบ Tap-to-Pay ทำให้สามารถซื้อบัตรของขวัญได้อย่างรวดเร็วแม้ไม่ได้อยู่ในประเทศ เหตุการณ์นี้เน้นให้เห็นถึงความจำเป็นในการป้องกันภัยฟิชชิงและเพิ่มความปลอดภัยของระบบกระเป๋าเงินดิจิทัล เทคนิคที่ใช้ในการหลอกลวง: - ฟิชชิงมีรูปแบบที่หลากหลาย เช่น การส่งข้อความปลอมจากบริการไปรษณีย์หรือระบบเก็บค่าผ่านทาง ข้อมูลบัตรเครดิตที่หลอกลวงเหล่านี้ถูกเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินดิจิทัลผ่านรหัส OTP ที่เหยื่อได้รับและส่งให้มิจฉาชีพ. เทคโนโลยีที่สนับสนุนการโกง: - แอป Z-NFC ที่ใช้งานในกระบวนการโกงสามารถถ่ายโอนธุรกรรมผ่าน NFC จากอุปกรณ์ที่อยู่ในจีนไปยังเครื่องอ่านในสหรัฐฯ มิจฉาชีพจึงสามารถชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินปลอมได้โดยไม่ต้องอยู่ในสถานที่จริง. บทบาทของแพลตฟอร์ม Telegram: - กลุ่มมิจฉาชีพขายโทรศัพท์ที่มีการตั้งค่ากระเป๋าเงินหลอกใน Telegram โดยมีมูลค่าการขายต่ออุปกรณ์ที่สูง พร้อมการสนับสนุนทางเทคนิคตลอด 24 ชั่วโมง. ผลกระทบในวงกว้าง: - บัตรของขวัญมูลค่ากว่า $23,000 ถูกซื้อผ่านข้อมูลบัตรที่ขโมยมา และการโกงนี้เป็นการขยายตัวของอาชญากรรมไซเบอร์ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง. https://krebsonsecurity.com/2025/03/arrests-in-tap-to-pay-scheme-powered-by-phishing/
    KREBSONSECURITY.COM
    Arrests in Tap-to-Pay Scheme Powered by Phishing
    Authorities in at least two U.S. states last week independently announced arrests of Chinese nationals accused of perpetrating a novel form of tap-to-pay fraud using mobile devices. Details released by authorities so far indicate the mobile wallets being used by…
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • Opera ได้แนะนำฟีเจอร์ใหม่ในเบราว์เซอร์ Opera One ที่ใช้ AI ชื่อ "AI Tab Commands" เพื่อจัดการแท็บต่าง ๆ ของผู้ใช้งาน ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่ง Aria ผู้ช่วย AI ให้ปิด จัดกลุ่ม หรือจัดระเบียบแท็บต่าง ๆ ได้ด้วยคำสั่งภาษาธรรมชาติ เช่น การสั่งให้ "ปิดแท็บ Wikipedia ทั้งหมด" หรือ "จัดกลุ่มแท็บ TechRadar" การอัปเดตครั้งนี้ทำให้ Aria ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ช่วยที่สามารถดำเนินงานเชิงปฏิบัติได้ แทนที่จะเป็นแค่การตอบคำถามเชิงข้อมูล

    การพัฒนาผู้ช่วย AI Aria:
    - Aria กำลังถูกปรับปรุงให้เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์เบราว์เซอร์ เช่น การเพิ่มโหมด "Writing Mode" สำหรับการเขียนอีเมลโดยไม่ต้องออกจากเบราว์เซอร์.

    ความสะดวกในการใช้งาน:
    - ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ฟีเจอร์นี้ผ่านคำสั่ง Ctrl + / บน Windows หรือ Cmd + / บน Mac และเลือกจัดการแท็บผ่านคำสั่งที่ง่ายต่อการเข้าใจ.

    ความใส่ใจในความเป็นส่วนตัว:
    - แม้ฟีเจอร์นี้จะมีการส่งคำสั่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Opera แต่ข้อมูลอื่น ๆ เช่น รายการแท็บที่เปิดจะถูกเก็บไว้ในเครื่องเท่านั้น.

    ผลกระทบต่อตลาดเบราว์เซอร์:
    - Opera กำลังผลักดันการพัฒนาฟีเจอร์ AI อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งาน เช่น การสร้างภาพด้วย AI และการเพิ่มผู้ช่วยในแอปบนมือถือ ซึ่งอาจช่วยดึงดูดผู้ใช้งานใหม่เข้าสู่แพลตฟอร์ม.

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/operas-new-ai-feature-brings-order-to-your-browser-tab-chaos
    Opera ได้แนะนำฟีเจอร์ใหม่ในเบราว์เซอร์ Opera One ที่ใช้ AI ชื่อ "AI Tab Commands" เพื่อจัดการแท็บต่าง ๆ ของผู้ใช้งาน ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่ง Aria ผู้ช่วย AI ให้ปิด จัดกลุ่ม หรือจัดระเบียบแท็บต่าง ๆ ได้ด้วยคำสั่งภาษาธรรมชาติ เช่น การสั่งให้ "ปิดแท็บ Wikipedia ทั้งหมด" หรือ "จัดกลุ่มแท็บ TechRadar" การอัปเดตครั้งนี้ทำให้ Aria ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ช่วยที่สามารถดำเนินงานเชิงปฏิบัติได้ แทนที่จะเป็นแค่การตอบคำถามเชิงข้อมูล การพัฒนาผู้ช่วย AI Aria: - Aria กำลังถูกปรับปรุงให้เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์เบราว์เซอร์ เช่น การเพิ่มโหมด "Writing Mode" สำหรับการเขียนอีเมลโดยไม่ต้องออกจากเบราว์เซอร์. ความสะดวกในการใช้งาน: - ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ฟีเจอร์นี้ผ่านคำสั่ง Ctrl + / บน Windows หรือ Cmd + / บน Mac และเลือกจัดการแท็บผ่านคำสั่งที่ง่ายต่อการเข้าใจ. ความใส่ใจในความเป็นส่วนตัว: - แม้ฟีเจอร์นี้จะมีการส่งคำสั่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Opera แต่ข้อมูลอื่น ๆ เช่น รายการแท็บที่เปิดจะถูกเก็บไว้ในเครื่องเท่านั้น. ผลกระทบต่อตลาดเบราว์เซอร์: - Opera กำลังผลักดันการพัฒนาฟีเจอร์ AI อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งาน เช่น การสร้างภาพด้วย AI และการเพิ่มผู้ช่วยในแอปบนมือถือ ซึ่งอาจช่วยดึงดูดผู้ใช้งานใหม่เข้าสู่แพลตฟอร์ม. https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/operas-new-ai-feature-brings-order-to-your-browser-tab-chaos
    WWW.TECHRADAR.COM
    Opera's new AI feature brings order to your browser tab chaos
    The AI Tab Commands can find and sort every tab you've forgotten why you opened but know is something you plan to get back to someday
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • Arm เปิดตัว Accuracy Super Resolution ที่ช่วยเพิ่มเฟรมเรตของเกมบนสมาร์ทโฟนและลดการใช้พลังงาน เทคโนโลยีนี้สร้างจาก AMD FSR 2 และมุ่งเน้นการใช้งานในอุปกรณ์พลังงานต่ำ นักพัฒนาสามารถปรับแต่งโค้ดได้แบบโอเพ่นซอร์ส อีกทั้งยังมีการเตรียมปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน นี่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับตลาดเกมมือถือ

    การพัฒนาแบบเปิดเผยข้อมูล:
    - ASR เปิดตัวเป็นโค้ดโอเพ่นซอร์สภายใต้ MIT License ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและปรับแต่งได้อย่างอิสระ.
    - มีแผนปล่อยปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine ภายในสิ้นปี เพื่อให้การใช้งานง่ายขึ้นสำหรับเกมบนแพลตฟอร์มเหล่านี้.

    เปรียบเทียบกับคู่แข่ง:
    - ใช้วิธีการ temporal upscaling ที่ผสมผสานข้อมูลหลายเฟรม ช่วยสร้างภาพคุณภาพสูงกว่าระบบ spatial upscaling ของ Qualcomm Game Super Resolution (GSR).
    - ASR จับคู่กับชิปเซ็ตอย่าง MediaTek Dimensity 9300 ซึ่งช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับผู้เล่นเกม.

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมมือถือ:
    - การเดโมใน GDC 2025 แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพถึง 30% ในการรันเกมผ่าน Unreal Engine 5 โดยไม่ลดคุณภาพกราฟิก.

    ความกว้างขวางในการใช้งาน:
    - ASR สามารถใช้งานได้ในหลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น MediaTek Dimensity, Qualcomm Snapdragon, Samsung Exynos และแม้แต่ในแล็ปท็อปที่ใช้ Snapdragon X ซีรีส์.

    https://www.techpowerup.com/334562/arm-releases-open-source-asr-upscaler-based-on-amd-fsr-2-technology
    Arm เปิดตัว Accuracy Super Resolution ที่ช่วยเพิ่มเฟรมเรตของเกมบนสมาร์ทโฟนและลดการใช้พลังงาน เทคโนโลยีนี้สร้างจาก AMD FSR 2 และมุ่งเน้นการใช้งานในอุปกรณ์พลังงานต่ำ นักพัฒนาสามารถปรับแต่งโค้ดได้แบบโอเพ่นซอร์ส อีกทั้งยังมีการเตรียมปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน นี่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับตลาดเกมมือถือ การพัฒนาแบบเปิดเผยข้อมูล: - ASR เปิดตัวเป็นโค้ดโอเพ่นซอร์สภายใต้ MIT License ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและปรับแต่งได้อย่างอิสระ. - มีแผนปล่อยปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine ภายในสิ้นปี เพื่อให้การใช้งานง่ายขึ้นสำหรับเกมบนแพลตฟอร์มเหล่านี้. เปรียบเทียบกับคู่แข่ง: - ใช้วิธีการ temporal upscaling ที่ผสมผสานข้อมูลหลายเฟรม ช่วยสร้างภาพคุณภาพสูงกว่าระบบ spatial upscaling ของ Qualcomm Game Super Resolution (GSR). - ASR จับคู่กับชิปเซ็ตอย่าง MediaTek Dimensity 9300 ซึ่งช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับผู้เล่นเกม. ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมมือถือ: - การเดโมใน GDC 2025 แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพถึง 30% ในการรันเกมผ่าน Unreal Engine 5 โดยไม่ลดคุณภาพกราฟิก. ความกว้างขวางในการใช้งาน: - ASR สามารถใช้งานได้ในหลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น MediaTek Dimensity, Qualcomm Snapdragon, Samsung Exynos และแม้แต่ในแล็ปท็อปที่ใช้ Snapdragon X ซีรีส์. https://www.techpowerup.com/334562/arm-releases-open-source-asr-upscaler-based-on-amd-fsr-2-technology
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Arm Releases Open-Source ASR Upscaler Based on AMD FSR 2 Technology
    Arm has officially unveiled its Accuracy Super Resolution (ASR) upscaling technology at Game Developer Conference 2025, delivering an open-source upscaling solution for mobile and low-power devices. Built upon AMD's FidelityFX Super Resolution 2 (FSR 2) framework, ASR promises up to 53% higher frame...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • คิงส์ไม่ได้ปกป้องไอ้แม้ว แต่อยากถามไอ้โรมมันว่า เพื่อนร่วมอุดมการณ์สามกีบของมึง ที่ชื่อ ทนายอานนท์ นำพา จำคุก 18 ปี 19 เดือน แต่แม่มโพสเฟซบุ๊คทุกวัน บางวันหลายโพส มึงตอบสังคมด้วยว่า ใครเอามือถือไปให้มันโพส
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #อานนท์นำพา
    #โรม
    คิงส์ไม่ได้ปกป้องไอ้แม้ว แต่อยากถามไอ้โรมมันว่า เพื่อนร่วมอุดมการณ์สามกีบของมึง ที่ชื่อ ทนายอานนท์ นำพา จำคุก 18 ปี 19 เดือน แต่แม่มโพสเฟซบุ๊คทุกวัน บางวันหลายโพส มึงตอบสังคมด้วยว่า ใครเอามือถือไปให้มันโพส #คิงส์โพธิ์แดง #อานนท์นำพา #โรม
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 4
    .
    งานไม่เคยทำร้ายหรือฆ่าใคร ยิ่งทำงานหลากหลายลักษณะที่ท้าทายความสามารถ รวมทั้งยิ่งทำงานหนัก ที่ก่อให้เกิดประโยชน์เพียงใด ก็ยิ่งทำให้บุคคลนั้นมีประสบการณ์และมีศักยภาพที่สูงขึ้นเพียงนั้น ปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญอย่างหนึ่งนอกเหนือจากการมีความรู้ความสามารถในงานเป็นอย่างดี พร้อมทั้งใส่ใจหาความรู้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องแล้ว ก็คือ การมีเป้าหมายในชีวิต มีความบากบั่นมานะ พยายามให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ชัดเจนอย่างเด็ดเดี่ยวและมีคุณธรรม ซึ่งการมีวินัยบังคับตนเองเป็นเงื่อนไขสำคัญยิ่งในการเดินทางสู่ความสำเร็จ
    .
    ชีวิตการทำงานของมนุษย์นั้นไม่ยาวนานนัก สูงสุดไม่เกิน 30ปีเศษ ก็ถึงวัยเกษียณ หากตลอดอายุการทำงานนั้นมิได้มีการวางแผนด้านรายได้และการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ และรัดกุมแล้ว เงินทองที่หามาได้ก็จะหมดไปอย่างไม่มีความหมายนัก กล่าวคือ มีความสุขสบายในช่วงวัยทำงาน แต่เมื่อพ้นช่วงเวลานี้ไปแล้ว ก็ขาดรายได้ที่จะทำให้สามารถรักษาระดับความสุขและสะดวกสบายไว้ดังเดิมได้ ลักษณะเช่นนี้เรียกได้ว่า มีความสุขเพียงครึ่งเดียวของช่วงเวลา นั่นคือ สุขในวัยทำงานและทุกข์ในวัยพ้นทำงาน คำถามสำคัญก็คือ ทำอย่างไรบุคคลหนึ่งที่ทำงานมาตลอดชีวิต จะมีความสุขอันเกิดจากความมั่นคงทางการเงินไปตลอด มีมาตราฐานการครองชีพในระดับที่น่าพอใจอย่างคงที่ แม้จะพ้นจากวัยทำงานแล้วก็ตาม
    .
    การบรรลุคุณภาพชีวิตที่น่าพึงปรารถนาดังกล่าว เจ้าของรายได้ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเองในเบื้องแรก ไม่อาจหวังพึ่งภาครัฐ หรือนายจ้าง เพราะไม่อาจวางใจได้ว่าตนเองจะได้รับความมั่นคงในชีวิตสมดังใจหวังได้ เจ้าของรายได้จะต้องเป็นที่พึ่งของตนเองด้วยการวางแผน การหารายได้ การใช้จ่าย และการออม เพราะการออมจะนำไปสู่การลงทุน และการเกิดของรายได้ทั้งในวัยทำงานและวันพ้นทำงานโดยไม่ต้องออกแรงทำงาน
    .
    เงินออม เป็นฐานสำคัญของการเป็นมิตรของเงิน และเงินออมของบุคคลจะเกิดขึ้นได้ ก็เพราะมีสิ่งที่เรียกว่า ความมัธยัสถ์ ซึ่งหมายถึง การใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง ไม่สุรุ่ยสุร่าย ไม่ใช้จ่ายอย่างโง่เขลาเบาปัญญา ในสิ่งที่ไม่ควรจ่าย เช่น เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือบ่อยๆ ตามแฟชั่น ทั้งๆที่ไม่จำเป็น
    .
    เงินออมของบุคคลใดๆ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อรายจ่ายต่ำกว่ารายได้ และรายจ่ายจะต่ำกว่ารายได้ก็ต่อเมื่อมีความมัธยัสถ์เป็นอุปนิสัย การมัธยัสถ์มิใช่การเอาเปรียบหรือเห็นแก่ตัว หากเป็นแบบแผนหนึ่งของการดำรงชีวิตซึ่งใครก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ การที่บางคนชอบใช้เงินสิ้นเปลืองสุรุ่ยสุร่าย ซื้อของต่างๆโดยมิได้คำนึงถึงประโยชน์ของการใช้สอย ก็เป็นแบบแผนหนึ่งของการดำรงชีพ คนมัธยัสถ์ที่ใจกว้างรู้จักการให้อย่างมีความหมาย อาจมีจำนวนมากกว่าคนสุรุ่ยสุร่ายที่ใจแคบและไม่รู้จักการให้ก็เป็นได้
    .
    พฤติกรรมโดยรวมของบุคคลที่จะทำให้เงินเป็นมิตร ก็คือ “กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ” หรือดังคำโบราณที่ว่า “จงมีเกินใช้ แต่อย่าใช้เกินมี” กล่าวคือ ไม่ว่าจะสามารถอยู่กินในระดับที่คนมีรายได้ขนาดเดียวกันอยู่กินได้อย่างไร ก็จงอยู่กินต่ำกว่าระดับนั้นเสมอ พฤติกรรมเช่นนี้จะทำให้มีเงินออม และมีโอกาสให้ “เงินทำงานรับใช้”
    .
    สำหรับความเป็นศัตรูของเงินนั้น หมายถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่เจ้าของเงิน อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้จ่าย ปรากฏการณ์ดังกล่าวมีข้อสังเกตหลายประการดังต่อไปนี้
    .
    ประการแรก : คือความปรารถนาที่จะบริโภคอย่างทันด่วนของผู้บริโภคโดยทั่วไป เป็นพฤติกรรมที่ทำให้ยินดีกู้ยืมจ่ายดอกเบี้ยในอัตราสูง เพียงเพื่อให้ได้สิ่งของที่ต้องใจ
    ประการที่สอง : การกู้ยืมเกิดขึ้นเพราะ ไม่มีเงินสดเพียงพอที่จะจับจ่าย ณ เวลานั้น จึงต้องกู้ยืม ซึ่งก็คือการนำรายได้ในอนาคตของตนมาใช้โดยต้องจ่ายต้นทุนสูง ต้นเหตุของการกู้ยืมส่วนใหญ่ก็มาจากรายจ่ายสูงกว่ารายได้ และเมือนั้นเงินก็กลายเป็นศัตรูตัวร้าย เพราะดอกเบี้ยจะทำงานตลอดเวลา และคอยทิ่มแทงเจ้าของไม่ว่าในยามหลับหรือตื่น
    .
    ต้นทุนของการกู้ยืมนั้นสูง ตัวอย่างเช่น กู้เงิน 100,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยทบต้นร้อยละ 9 ต่อปี ถ้ากู้เงินโดยไม่ชำระอย่างใดทั้งสิ้น ภายในเวลา 8 ปี ยอดเงินต้นและดอกเบี้ยรวมกัน จะเพิ่มอีกประมาณหนึ่งเท่าตัวเป็น 200,000 บาท และหากยังไม่ชำระอีก ในเวลา 8 ปีต่อมา ยอดเงินนี้ก็จะสูงขึ้นอีกเป็น 400,000 บาท หรือประมาณ 4 เท่าตัว ของเงินต้นในเวลา 16 ปี
    รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 4 . งานไม่เคยทำร้ายหรือฆ่าใคร ยิ่งทำงานหลากหลายลักษณะที่ท้าทายความสามารถ รวมทั้งยิ่งทำงานหนัก ที่ก่อให้เกิดประโยชน์เพียงใด ก็ยิ่งทำให้บุคคลนั้นมีประสบการณ์และมีศักยภาพที่สูงขึ้นเพียงนั้น ปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญอย่างหนึ่งนอกเหนือจากการมีความรู้ความสามารถในงานเป็นอย่างดี พร้อมทั้งใส่ใจหาความรู้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องแล้ว ก็คือ การมีเป้าหมายในชีวิต มีความบากบั่นมานะ พยายามให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ชัดเจนอย่างเด็ดเดี่ยวและมีคุณธรรม ซึ่งการมีวินัยบังคับตนเองเป็นเงื่อนไขสำคัญยิ่งในการเดินทางสู่ความสำเร็จ . ชีวิตการทำงานของมนุษย์นั้นไม่ยาวนานนัก สูงสุดไม่เกิน 30ปีเศษ ก็ถึงวัยเกษียณ หากตลอดอายุการทำงานนั้นมิได้มีการวางแผนด้านรายได้และการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ และรัดกุมแล้ว เงินทองที่หามาได้ก็จะหมดไปอย่างไม่มีความหมายนัก กล่าวคือ มีความสุขสบายในช่วงวัยทำงาน แต่เมื่อพ้นช่วงเวลานี้ไปแล้ว ก็ขาดรายได้ที่จะทำให้สามารถรักษาระดับความสุขและสะดวกสบายไว้ดังเดิมได้ ลักษณะเช่นนี้เรียกได้ว่า มีความสุขเพียงครึ่งเดียวของช่วงเวลา นั่นคือ สุขในวัยทำงานและทุกข์ในวัยพ้นทำงาน คำถามสำคัญก็คือ ทำอย่างไรบุคคลหนึ่งที่ทำงานมาตลอดชีวิต จะมีความสุขอันเกิดจากความมั่นคงทางการเงินไปตลอด มีมาตราฐานการครองชีพในระดับที่น่าพอใจอย่างคงที่ แม้จะพ้นจากวัยทำงานแล้วก็ตาม . การบรรลุคุณภาพชีวิตที่น่าพึงปรารถนาดังกล่าว เจ้าของรายได้ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเองในเบื้องแรก ไม่อาจหวังพึ่งภาครัฐ หรือนายจ้าง เพราะไม่อาจวางใจได้ว่าตนเองจะได้รับความมั่นคงในชีวิตสมดังใจหวังได้ เจ้าของรายได้จะต้องเป็นที่พึ่งของตนเองด้วยการวางแผน การหารายได้ การใช้จ่าย และการออม เพราะการออมจะนำไปสู่การลงทุน และการเกิดของรายได้ทั้งในวัยทำงานและวันพ้นทำงานโดยไม่ต้องออกแรงทำงาน . เงินออม เป็นฐานสำคัญของการเป็นมิตรของเงิน และเงินออมของบุคคลจะเกิดขึ้นได้ ก็เพราะมีสิ่งที่เรียกว่า ความมัธยัสถ์ ซึ่งหมายถึง การใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง ไม่สุรุ่ยสุร่าย ไม่ใช้จ่ายอย่างโง่เขลาเบาปัญญา ในสิ่งที่ไม่ควรจ่าย เช่น เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือบ่อยๆ ตามแฟชั่น ทั้งๆที่ไม่จำเป็น . เงินออมของบุคคลใดๆ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อรายจ่ายต่ำกว่ารายได้ และรายจ่ายจะต่ำกว่ารายได้ก็ต่อเมื่อมีความมัธยัสถ์เป็นอุปนิสัย การมัธยัสถ์มิใช่การเอาเปรียบหรือเห็นแก่ตัว หากเป็นแบบแผนหนึ่งของการดำรงชีวิตซึ่งใครก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ การที่บางคนชอบใช้เงินสิ้นเปลืองสุรุ่ยสุร่าย ซื้อของต่างๆโดยมิได้คำนึงถึงประโยชน์ของการใช้สอย ก็เป็นแบบแผนหนึ่งของการดำรงชีพ คนมัธยัสถ์ที่ใจกว้างรู้จักการให้อย่างมีความหมาย อาจมีจำนวนมากกว่าคนสุรุ่ยสุร่ายที่ใจแคบและไม่รู้จักการให้ก็เป็นได้ . พฤติกรรมโดยรวมของบุคคลที่จะทำให้เงินเป็นมิตร ก็คือ “กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ” หรือดังคำโบราณที่ว่า “จงมีเกินใช้ แต่อย่าใช้เกินมี” กล่าวคือ ไม่ว่าจะสามารถอยู่กินในระดับที่คนมีรายได้ขนาดเดียวกันอยู่กินได้อย่างไร ก็จงอยู่กินต่ำกว่าระดับนั้นเสมอ พฤติกรรมเช่นนี้จะทำให้มีเงินออม และมีโอกาสให้ “เงินทำงานรับใช้” . สำหรับความเป็นศัตรูของเงินนั้น หมายถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่เจ้าของเงิน อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้จ่าย ปรากฏการณ์ดังกล่าวมีข้อสังเกตหลายประการดังต่อไปนี้ . ประการแรก : คือความปรารถนาที่จะบริโภคอย่างทันด่วนของผู้บริโภคโดยทั่วไป เป็นพฤติกรรมที่ทำให้ยินดีกู้ยืมจ่ายดอกเบี้ยในอัตราสูง เพียงเพื่อให้ได้สิ่งของที่ต้องใจ ประการที่สอง : การกู้ยืมเกิดขึ้นเพราะ ไม่มีเงินสดเพียงพอที่จะจับจ่าย ณ เวลานั้น จึงต้องกู้ยืม ซึ่งก็คือการนำรายได้ในอนาคตของตนมาใช้โดยต้องจ่ายต้นทุนสูง ต้นเหตุของการกู้ยืมส่วนใหญ่ก็มาจากรายจ่ายสูงกว่ารายได้ และเมือนั้นเงินก็กลายเป็นศัตรูตัวร้าย เพราะดอกเบี้ยจะทำงานตลอดเวลา และคอยทิ่มแทงเจ้าของไม่ว่าในยามหลับหรือตื่น . ต้นทุนของการกู้ยืมนั้นสูง ตัวอย่างเช่น กู้เงิน 100,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยทบต้นร้อยละ 9 ต่อปี ถ้ากู้เงินโดยไม่ชำระอย่างใดทั้งสิ้น ภายในเวลา 8 ปี ยอดเงินต้นและดอกเบี้ยรวมกัน จะเพิ่มอีกประมาณหนึ่งเท่าตัวเป็น 200,000 บาท และหากยังไม่ชำระอีก ในเวลา 8 ปีต่อมา ยอดเงินนี้ก็จะสูงขึ้นอีกเป็น 400,000 บาท หรือประมาณ 4 เท่าตัว ของเงินต้นในเวลา 16 ปี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google กำลังเดินหน้าปฏิวัติโลกเกม Android ด้วยการทำให้ Vulkan เป็น API กราฟิกหลัก ซึ่งหมายความว่าเราจะได้เห็นเกมที่มีภาพสมจริงยิ่งขึ้น เช่น Ray Tracing และประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในทุกอุปกรณ์ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือใหม่ ๆ อย่าง GPU Profiler และการอัปเดต ADPF เพื่อให้การเล่นเกมลื่นและยาวนานขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น Google ยังเริ่มนำเกม PC มาปรับให้เล่นบนมือถือ เช่น TABS และ DREDGE

    ความได้เปรียบของ Vulkan:
    - Vulkan ช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถใช้งาน GPU ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการจัดการกราฟิกในระดับต่ำโดยตรง ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วและลดเวลาแฝงของเกม.
    - เกมที่ใช้ Vulkan เช่น Diablo Immortal สามารถแสดงเอฟเฟกต์สมจริงทั้งไฟระเบิดและน้ำแข็งได้อย่างลื่นไหล ในขณะที่เกมเล็ก เช่น Pokémon TCG Pocket ก็ได้รับการปรับประสิทธิภาพให้เหมาะกับทุกอุปกรณ์.

    การปรับปรุง API อื่น ๆ:
    - Android จะใช้ตัวแปลงชื่อว่า ANGLE ที่ช่วยแปลงคำสั่ง OpenGL ให้ทำงานผ่าน Vulkan ได้ โดยนักพัฒนาควรเริ่มทดสอบเกมของตนบน ANGLE เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง.

    เครื่องมือใหม่สำหรับนักพัฒนา:
    - Google ร่วมมือกับศูนย์วิจัย Samsung Austin เพื่อพัฒนา GPU Profiler Toolchain ซึ่งจะเปิดตัวในปลายปี เพื่อช่วยนักพัฒนาวิเคราะห์และปรับแต่งการใช้งาน GPU, หน่วยความจำ และงาน AI/ML อย่างมีประสิทธิภาพ.

    การพัฒนากรอบการทำงาน (ADPF):
    - Android ได้อัปเดต Dynamic Performance Framework (ADPF) ที่ช่วยให้เกมปรับประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ตามสถานะความร้อนของอุปกรณ์ เช่น เกม MMORPG Lineage W สามารถทำงานลื่นไหลบนอุปกรณ์เป้าหมายได้ยาวนานยิ่งขึ้น.

    ขยายสู่เกม PC:
    - Google เริ่มโปรแกรมนำเกม PC มาลงมือถือ เช่น DREDGE และ TABS Mobile พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้พัฒนาเข้าร่วมโครงการสำหรับการเปลี่ยนผ่านนี้.

    https://www.techpowerup.com/334356/google-making-vulkan-the-official-graphics-api-on-android
    Google กำลังเดินหน้าปฏิวัติโลกเกม Android ด้วยการทำให้ Vulkan เป็น API กราฟิกหลัก ซึ่งหมายความว่าเราจะได้เห็นเกมที่มีภาพสมจริงยิ่งขึ้น เช่น Ray Tracing และประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในทุกอุปกรณ์ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือใหม่ ๆ อย่าง GPU Profiler และการอัปเดต ADPF เพื่อให้การเล่นเกมลื่นและยาวนานขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น Google ยังเริ่มนำเกม PC มาปรับให้เล่นบนมือถือ เช่น TABS และ DREDGE ความได้เปรียบของ Vulkan: - Vulkan ช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถใช้งาน GPU ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการจัดการกราฟิกในระดับต่ำโดยตรง ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วและลดเวลาแฝงของเกม. - เกมที่ใช้ Vulkan เช่น Diablo Immortal สามารถแสดงเอฟเฟกต์สมจริงทั้งไฟระเบิดและน้ำแข็งได้อย่างลื่นไหล ในขณะที่เกมเล็ก เช่น Pokémon TCG Pocket ก็ได้รับการปรับประสิทธิภาพให้เหมาะกับทุกอุปกรณ์. การปรับปรุง API อื่น ๆ: - Android จะใช้ตัวแปลงชื่อว่า ANGLE ที่ช่วยแปลงคำสั่ง OpenGL ให้ทำงานผ่าน Vulkan ได้ โดยนักพัฒนาควรเริ่มทดสอบเกมของตนบน ANGLE เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง. เครื่องมือใหม่สำหรับนักพัฒนา: - Google ร่วมมือกับศูนย์วิจัย Samsung Austin เพื่อพัฒนา GPU Profiler Toolchain ซึ่งจะเปิดตัวในปลายปี เพื่อช่วยนักพัฒนาวิเคราะห์และปรับแต่งการใช้งาน GPU, หน่วยความจำ และงาน AI/ML อย่างมีประสิทธิภาพ. การพัฒนากรอบการทำงาน (ADPF): - Android ได้อัปเดต Dynamic Performance Framework (ADPF) ที่ช่วยให้เกมปรับประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ตามสถานะความร้อนของอุปกรณ์ เช่น เกม MMORPG Lineage W สามารถทำงานลื่นไหลบนอุปกรณ์เป้าหมายได้ยาวนานยิ่งขึ้น. ขยายสู่เกม PC: - Google เริ่มโปรแกรมนำเกม PC มาลงมือถือ เช่น DREDGE และ TABS Mobile พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้พัฒนาเข้าร่วมโครงการสำหรับการเปลี่ยนผ่านนี้. https://www.techpowerup.com/334356/google-making-vulkan-the-official-graphics-api-on-android
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Google Making Vulkan the Official Graphics API on Android
    We're stepping up our multiplatform gaming offering with exciting news dropping at this year's Game Developers Conference (GDC). We're bringing users more games, more ways to play your games across devices, and improved gameplay. You can read all about the updates for users from The Keyword. At GDC,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft Edge ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่บน Android ที่ให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งส่วนเสริม (Extensions) ได้โดยตรง กลายเป็นเบราว์เซอร์แรกที่ทำสิ่งนี้ได้ก่อน Google Chrome ฟีเจอร์นี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน เช่น บล็อกโฆษณาและดาวน์โหลดวิดีโอ แม้ว่าจะยังอยู่ในสถานะ Beta แต่ Edge ก็กำลังพยายามสร้างความแตกต่างในตลาด โดยตั้งเป้าเป็นเบราว์เซอร์ที่รองรับ AI มากขึ้น และทำให้การใช้งานเบราว์เซอร์บนมือถือมีประสิทธิภาพสูงสุด

    https://www.techspot.com/news/107178-microsoft-edge-browser-starts-offering-extensions-android-before.html
    Microsoft Edge ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่บน Android ที่ให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งส่วนเสริม (Extensions) ได้โดยตรง กลายเป็นเบราว์เซอร์แรกที่ทำสิ่งนี้ได้ก่อน Google Chrome ฟีเจอร์นี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน เช่น บล็อกโฆษณาและดาวน์โหลดวิดีโอ แม้ว่าจะยังอยู่ในสถานะ Beta แต่ Edge ก็กำลังพยายามสร้างความแตกต่างในตลาด โดยตั้งเป้าเป็นเบราว์เซอร์ที่รองรับ AI มากขึ้น และทำให้การใช้งานเบราว์เซอร์บนมือถือมีประสิทธิภาพสูงสุด https://www.techspot.com/news/107178-microsoft-edge-browser-starts-offering-extensions-android-before.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft Edge browser starts offering extensions on Android before Chrome
    Despite being built on the same layout engine derived from the Chromium project, Edge is making a determined effort to differentiate itself from Chrome. Microsoft's browser is...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • บางครั้งก็เป็นนะ .. ยิ่งมือถือระบุชื่อปลายสายได้ .. ก็ประมาณนี้เลย

    สมัยก่อน เป็นแค่สายโทรศัพท์เข้า โดยนิสัย ก็จะใช้เสียงสอง พอปลายสายเป็นเพื่อน มันจำเสียงไม่ได้ .. โห เสียงแบบเออเลย

    พอเฉย เพื่อนบอกขอคนนั้นกลับมาเถอะ ได้มั้ย 🤣🤣
    บางครั้งก็เป็นนะ .. ยิ่งมือถือระบุชื่อปลายสายได้ .. ก็ประมาณนี้เลย สมัยก่อน เป็นแค่สายโทรศัพท์เข้า โดยนิสัย ก็จะใช้เสียงสอง พอปลายสายเป็นเพื่อน มันจำเสียงไม่ได้ .. โห เสียงแบบเออเลย พอเฉย เพื่อนบอกขอคนนั้นกลับมาเถอะ ได้มั้ย 🤣🤣
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📌 ความจริงของชีวิต : เรามีอะไรอยู่จริงหรือไม่?

    (วิเคราะห์จากหลักพุทธศาสนา และการเจริญสติ)


    ---

    🔍 1️⃣ ตั้งแต่เกิดมา เรามีอะไรอยู่จริงหรือไม่?

    🌱 ความรู้สึกว่า "เราได้อะไร" หรือ "เรามีอะไร"

    เป็นเพียง "กระบวนการของจิต"

    ไม่ใช่ของที่แท้จริง ไม่ใช่สิ่งที่เป็นของเราเสมอไป


    📌 ตั้งแต่เกิดมา จิตของเราถูกฝึกให้ยึดมั่นถือมั่น
    ✅ เด็กแรกเกิด = หิวนม → ได้กิน → รู้สึกมีความสุข
    ✅ โตขึ้น = ได้ของเล่น → เล่นจนเบื่อ → เปลี่ยนของเล่นใหม่
    ✅ เป็นวัยรุ่น = มีมือถือ → พอเก่าแล้วต้องซื้อใหม่
    ✅ เป็นผู้ใหญ่ = มีแฟน → เปลี่ยนแฟน → แต่งงาน → เลิกกัน
    ✅ มีงาน มีธุรกิจ → สูญเสีย → เริ่มใหม่

    💡 ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ

    ความรู้สึกว่า "มี" → เป็นเพียงภาพลวงของจิต

    ความจริงคือ "ไม่มีอะไรอยู่กับเราตลอดไป"



    ---

    🔍 2️⃣ ทำไมเราถึงคิดว่า "ตัวเรา" มีอยู่จริง?

    📌 พระพุทธเจ้าสอนว่า "เราไม่มีตัวตนที่แท้จริง"
    สิ่งที่เราเรียกว่า "ตัวเรา" เกิดจาก
    ✅ กาย (ร่างกาย) → มีความเสื่อมไปเรื่อยๆ
    ✅ เวทนา (ความรู้สึก) → มีสุข ทุกข์ และเฉยๆ ไม่คงที่
    ✅ สัญญา (ความจำได้หมายรู้) → ลืมแล้วลืมอีก
    ✅ สังขาร (การปรุงแต่งทางจิต) → คิดเปลี่ยนไปตลอด
    ✅ วิญญาณ (ความรับรู้) → รับรู้แล้วก็เปลี่ยนแปลงเสมอ

    💡 สรุป : "ตัวตนของเรา" = เป็นเพียงการปรุงแต่งชั่วคราว

    ไม่มีอะไรในชีวิตที่ "ของเรา" จริงๆ

    แม้แต่ร่างกาย ยังต้องคืนให้ธรรมชาติ



    ---

    🔍 3️⃣ เราจะเข้าใจ "ความว่าง" ของชีวิตได้อย่างไร?

    📌 "ความไม่มีตัวตน" (อนัตตา) ไม่ใช่แค่แนวคิด
    แต่คือ ความจริงที่เห็นได้จากการเจริญสติ

    📌 วิธีฝึกให้เห็นความว่างจริงๆ
    ✅ หายใจเข้า-ออก แล้วสังเกต → ลมหายใจไม่เที่ยง
    ✅ พิจารณาร่างกาย → เคยเด็ก เคยหนุ่มสาว แล้วก็เปลี่ยนไป
    ✅ พิจารณาอารมณ์ → เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวหาย ไม่แน่นอน
    ✅ พิจารณาความคิด → คิดเรื่องหนึ่งแค่แป๊บเดียว เดี๋ยวก็เปลี่ยน

    💡 สุดท้ายจะเห็นว่า

    ทุกอย่างที่เราเคยยึดมั่น → ล้วนเปลี่ยนแปลงหมด

    ไม่มีอะไรที่ "ของเรา" ตลอดไป



    ---

    🔍 4️⃣ เมื่อเข้าใจ "ความไม่มีอะไรเป็นของเรา" แล้วควรทำอย่างไร?

    🌿 "ชีวิตเป็นเพียงการยืมใช้ชั่วคราว"
    📌 ดังนั้น เราควร…
    ✅ ใช้ชีวิตให้มีประโยชน์กับตัวเองและผู้อื่น
    ✅ ไม่ยึดติดกับสิ่งใดเกินไป
    ✅ ฝึกให้จิตใจเป็นอิสระจากความทุกข์

    📌 สิ่งที่ควรฝึกในชีวิตประจำวัน
    ✅ เจริญสติ : อยู่กับปัจจุบัน ไม่จมกับอดีต ไม่หลงอนาคต
    ✅ ฝึกปล่อยวาง : อะไรที่ไม่ใช่ของเรา ก็คืนให้ธรรมชาติ
    ✅ ทำบุญ ทำทาน : ให้สิ่งดีๆ ออกไป ไม่ใช่เพื่อยึดถือ แต่เพื่อช่วยผู้อื่น

    💡 "เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร?"
    ไม่ใช่เพื่อสะสมสิ่งของ
    ไม่ใช่เพื่อยึดติดกับความสัมพันธ์
    แต่เพื่อ เรียนรู้ และปล่อยวาง


    ---

    ✅ สรุป : ความจริงของชีวิตที่เราต้องเข้าใจ

    📌 1. ไม่มีอะไรเป็นของเราจริงๆ ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงเสมอ
    📌 2. "ตัวเรา" เป็นเพียงการปรุงแต่งของจิต
    📌 3. ความว่าง ไม่ใช่ความสูญเปล่า แต่เป็นอิสระจากการยึดติด
    📌 4. ใช้ชีวิตให้มีคุณค่า แต่ไม่ต้องยึดติดกับสิ่งใด

    🌿 "สุดท้ายแล้ว แม้แต่ร่างกายเราก็ต้องคืนให้โลก"
    🌿 "อยู่กับปัจจุบัน ทำสิ่งดี แล้วปล่อยวาง"

    💙 นี่คือหนทางสู่ความสุขที่แท้จริง 💙

    📌 ความจริงของชีวิต : เรามีอะไรอยู่จริงหรือไม่? (วิเคราะห์จากหลักพุทธศาสนา และการเจริญสติ) --- 🔍 1️⃣ ตั้งแต่เกิดมา เรามีอะไรอยู่จริงหรือไม่? 🌱 ความรู้สึกว่า "เราได้อะไร" หรือ "เรามีอะไร" เป็นเพียง "กระบวนการของจิต" ไม่ใช่ของที่แท้จริง ไม่ใช่สิ่งที่เป็นของเราเสมอไป 📌 ตั้งแต่เกิดมา จิตของเราถูกฝึกให้ยึดมั่นถือมั่น ✅ เด็กแรกเกิด = หิวนม → ได้กิน → รู้สึกมีความสุข ✅ โตขึ้น = ได้ของเล่น → เล่นจนเบื่อ → เปลี่ยนของเล่นใหม่ ✅ เป็นวัยรุ่น = มีมือถือ → พอเก่าแล้วต้องซื้อใหม่ ✅ เป็นผู้ใหญ่ = มีแฟน → เปลี่ยนแฟน → แต่งงาน → เลิกกัน ✅ มีงาน มีธุรกิจ → สูญเสีย → เริ่มใหม่ 💡 ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ความรู้สึกว่า "มี" → เป็นเพียงภาพลวงของจิต ความจริงคือ "ไม่มีอะไรอยู่กับเราตลอดไป" --- 🔍 2️⃣ ทำไมเราถึงคิดว่า "ตัวเรา" มีอยู่จริง? 📌 พระพุทธเจ้าสอนว่า "เราไม่มีตัวตนที่แท้จริง" สิ่งที่เราเรียกว่า "ตัวเรา" เกิดจาก ✅ กาย (ร่างกาย) → มีความเสื่อมไปเรื่อยๆ ✅ เวทนา (ความรู้สึก) → มีสุข ทุกข์ และเฉยๆ ไม่คงที่ ✅ สัญญา (ความจำได้หมายรู้) → ลืมแล้วลืมอีก ✅ สังขาร (การปรุงแต่งทางจิต) → คิดเปลี่ยนไปตลอด ✅ วิญญาณ (ความรับรู้) → รับรู้แล้วก็เปลี่ยนแปลงเสมอ 💡 สรุป : "ตัวตนของเรา" = เป็นเพียงการปรุงแต่งชั่วคราว ไม่มีอะไรในชีวิตที่ "ของเรา" จริงๆ แม้แต่ร่างกาย ยังต้องคืนให้ธรรมชาติ --- 🔍 3️⃣ เราจะเข้าใจ "ความว่าง" ของชีวิตได้อย่างไร? 📌 "ความไม่มีตัวตน" (อนัตตา) ไม่ใช่แค่แนวคิด แต่คือ ความจริงที่เห็นได้จากการเจริญสติ 📌 วิธีฝึกให้เห็นความว่างจริงๆ ✅ หายใจเข้า-ออก แล้วสังเกต → ลมหายใจไม่เที่ยง ✅ พิจารณาร่างกาย → เคยเด็ก เคยหนุ่มสาว แล้วก็เปลี่ยนไป ✅ พิจารณาอารมณ์ → เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวหาย ไม่แน่นอน ✅ พิจารณาความคิด → คิดเรื่องหนึ่งแค่แป๊บเดียว เดี๋ยวก็เปลี่ยน 💡 สุดท้ายจะเห็นว่า ทุกอย่างที่เราเคยยึดมั่น → ล้วนเปลี่ยนแปลงหมด ไม่มีอะไรที่ "ของเรา" ตลอดไป --- 🔍 4️⃣ เมื่อเข้าใจ "ความไม่มีอะไรเป็นของเรา" แล้วควรทำอย่างไร? 🌿 "ชีวิตเป็นเพียงการยืมใช้ชั่วคราว" 📌 ดังนั้น เราควร… ✅ ใช้ชีวิตให้มีประโยชน์กับตัวเองและผู้อื่น ✅ ไม่ยึดติดกับสิ่งใดเกินไป ✅ ฝึกให้จิตใจเป็นอิสระจากความทุกข์ 📌 สิ่งที่ควรฝึกในชีวิตประจำวัน ✅ เจริญสติ : อยู่กับปัจจุบัน ไม่จมกับอดีต ไม่หลงอนาคต ✅ ฝึกปล่อยวาง : อะไรที่ไม่ใช่ของเรา ก็คืนให้ธรรมชาติ ✅ ทำบุญ ทำทาน : ให้สิ่งดีๆ ออกไป ไม่ใช่เพื่อยึดถือ แต่เพื่อช่วยผู้อื่น 💡 "เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร?" ไม่ใช่เพื่อสะสมสิ่งของ ไม่ใช่เพื่อยึดติดกับความสัมพันธ์ แต่เพื่อ เรียนรู้ และปล่อยวาง --- ✅ สรุป : ความจริงของชีวิตที่เราต้องเข้าใจ 📌 1. ไม่มีอะไรเป็นของเราจริงๆ ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงเสมอ 📌 2. "ตัวเรา" เป็นเพียงการปรุงแต่งของจิต 📌 3. ความว่าง ไม่ใช่ความสูญเปล่า แต่เป็นอิสระจากการยึดติด 📌 4. ใช้ชีวิตให้มีคุณค่า แต่ไม่ต้องยึดติดกับสิ่งใด 🌿 "สุดท้ายแล้ว แม้แต่ร่างกายเราก็ต้องคืนให้โลก" 🌿 "อยู่กับปัจจุบัน ทำสิ่งดี แล้วปล่อยวาง" 💙 นี่คือหนทางสู่ความสุขที่แท้จริง 💙
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 542 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เอาเงินไปแจกผมว่าปัญญาอ่อน"

    เรียกเสียงวิจารณ์ในสังคม ถึงมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 3 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย คราวนี้เป็นคิวของผู้ที่มีอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน โดยอ้างว่ามีความพร้อมรู้ทางเทคโนโลยี ที่ประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อวันที่ 10 มี.ค. เห็นชอบหลักการดังกล่าว ซึ่งครั้งนี้แจกเงินผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล วอลเล็ต บนแอปพลิเคชันทางรัฐ คาดว่าจะดำเนินการในช่วงปลายไตรมาส 2 ควบไตรมาส 3 ของปี 2568

    ส่วนกลุ่มอายุ 21-59 ปี ที่ยังไม่ได้รับเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลได้กันเงินไว้ 150,000 ล้านบาท มีกระสุนไว้เพียงพอ มีไว้เยอะ รัฐบาลใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่า ยืนยันว่าการเลือกแจกกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่ตื่นรู้ทางเทคโนโลยีสูง มีความสามารถในการใช้จ่ายในแบบนี้ ด้วยจำนวนเงินช่วงเวลาที่เหมาะสม

    อย่างไรก็ตาม การแจกเงินหมื่นเฟสนี้กลายเป็นที่สับสนแก่สังคม เพราะทีแรกแถลงข่าวว่า สามารถจ่ายค่าเทอมได้ แต่วันต่อมา กลับกล่าวว่าไม่ได้ เพราะค่าเทอม ค่าโทรศัพท์มือถือ และค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ถือว่าเป็นค่าบริการ ไม่รวมอยู่ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังก็อ้างว่าสื่อถามเร็วไปหน่อย ประจัญหน้าไปหน่อย คราวหน้าส่งคำถามมาก่อน อย่างไรก็ตาม ยังคงสามารถนำเงินไปใช้ซื้อสินค้าประเภทอื่นได้อยู่แล้ว

    ไม่นับรวมเสียงวิจารณ์จากสังคม โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานที่รอรัฐบาลแจกเงินแล้วยังไม่ได้ และผลพิสูจน์โครงการแจกเงิน 2 เฟสที่ผ่านมา ได้แก่ กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ 14.5 ล้านคน และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 3.02 ล้านคน รวม 17.5 ล้านคน แม้จะเป็นการโอนเงินสดเข้าบัญชีธนาคาร ผ่านระบบพร้อมเพย์เลขที่บัตรประชาชนก็ตาม ก็ไม่ได้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง ธนาคารโลก (World Bank) ยังระบุว่ากระตุ้น GDP ได้เพียง 0.3% แต่มีต้นทุนทางการคลังสูงถึง 145,000 ล้านบาท หรือ 0.8% ของ GDP

    ขณะที่ชาวเน็ตยังคงแชร์ดิจิทัลฟุตปรินต์ แล้ววิจารณ์อย่างสนุกสนาน หนึ่งในนั้นเป็นคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร กล่าวในรายการ CARE Talk เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2565 ระบุว่า "เติมเศรษฐกิจให้แข็งแรง ทำอะไรกระตุ้นเศรษฐกิจ เอาเงินไปแจกผมว่าปัญญาอ่อน ถ้ามีปัญญาเขาไม่แจก เขาใช้เงินไปสร้างเศรษฐกิจ ให้เศรษฐกิจแข็งแรง ทำเรื่องง่าย หรือยังขายวัคซีนไม่จบ" ซึ่งเป็นการแซะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น แต่กลายเป็นว่าพอพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และลูกสาวเป็นนายกรัฐมนตรี กลับทำเสียเอง

    #Newskit
    "เอาเงินไปแจกผมว่าปัญญาอ่อน" เรียกเสียงวิจารณ์ในสังคม ถึงมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 3 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย คราวนี้เป็นคิวของผู้ที่มีอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน โดยอ้างว่ามีความพร้อมรู้ทางเทคโนโลยี ที่ประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อวันที่ 10 มี.ค. เห็นชอบหลักการดังกล่าว ซึ่งครั้งนี้แจกเงินผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล วอลเล็ต บนแอปพลิเคชันทางรัฐ คาดว่าจะดำเนินการในช่วงปลายไตรมาส 2 ควบไตรมาส 3 ของปี 2568 ส่วนกลุ่มอายุ 21-59 ปี ที่ยังไม่ได้รับเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลได้กันเงินไว้ 150,000 ล้านบาท มีกระสุนไว้เพียงพอ มีไว้เยอะ รัฐบาลใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่า ยืนยันว่าการเลือกแจกกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่ตื่นรู้ทางเทคโนโลยีสูง มีความสามารถในการใช้จ่ายในแบบนี้ ด้วยจำนวนเงินช่วงเวลาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม การแจกเงินหมื่นเฟสนี้กลายเป็นที่สับสนแก่สังคม เพราะทีแรกแถลงข่าวว่า สามารถจ่ายค่าเทอมได้ แต่วันต่อมา กลับกล่าวว่าไม่ได้ เพราะค่าเทอม ค่าโทรศัพท์มือถือ และค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ถือว่าเป็นค่าบริการ ไม่รวมอยู่ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังก็อ้างว่าสื่อถามเร็วไปหน่อย ประจัญหน้าไปหน่อย คราวหน้าส่งคำถามมาก่อน อย่างไรก็ตาม ยังคงสามารถนำเงินไปใช้ซื้อสินค้าประเภทอื่นได้อยู่แล้ว ไม่นับรวมเสียงวิจารณ์จากสังคม โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานที่รอรัฐบาลแจกเงินแล้วยังไม่ได้ และผลพิสูจน์โครงการแจกเงิน 2 เฟสที่ผ่านมา ได้แก่ กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ 14.5 ล้านคน และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 3.02 ล้านคน รวม 17.5 ล้านคน แม้จะเป็นการโอนเงินสดเข้าบัญชีธนาคาร ผ่านระบบพร้อมเพย์เลขที่บัตรประชาชนก็ตาม ก็ไม่ได้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง ธนาคารโลก (World Bank) ยังระบุว่ากระตุ้น GDP ได้เพียง 0.3% แต่มีต้นทุนทางการคลังสูงถึง 145,000 ล้านบาท หรือ 0.8% ของ GDP ขณะที่ชาวเน็ตยังคงแชร์ดิจิทัลฟุตปรินต์ แล้ววิจารณ์อย่างสนุกสนาน หนึ่งในนั้นเป็นคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร กล่าวในรายการ CARE Talk เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2565 ระบุว่า "เติมเศรษฐกิจให้แข็งแรง ทำอะไรกระตุ้นเศรษฐกิจ เอาเงินไปแจกผมว่าปัญญาอ่อน ถ้ามีปัญญาเขาไม่แจก เขาใช้เงินไปสร้างเศรษฐกิจ ให้เศรษฐกิจแข็งแรง ทำเรื่องง่าย หรือยังขายวัคซีนไม่จบ" ซึ่งเป็นการแซะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น แต่กลายเป็นว่าพอพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และลูกสาวเป็นนายกรัฐมนตรี กลับทำเสียเอง #Newskit
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 574 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากประเด็นดราม่าของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฯ คนปัจจุบัน ออกมาแฉวีรกรรมของ "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกฯ คนก่อน ถึงการทุจริตภายในองค์กรหลากหลายเรื่อง ล่าสุดเว็บไซต์ Sanook Money ได้ตรวจสอบข้อมูลที่รวบรวมรายชื่อบริษัทของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง จากฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ปรากฎว่า "บิ๊กอ๊อด" มีชื่อเป็นกรรมการบริษัท 4 แห่ง ถือหุ้น 11 รายการ มูลค่าทั้งหมด 730,542,041 บาท ดังนี้ 1.บริษัท กู๊ด เบทเทอร์ เบสท์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2564 พบรายชื่อนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท และถือหุ้นจำนวน 2,507,000 หุ้น (99.88%) มูลค่าหุ้น 250,669,251 บาท ดำเนินธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเอง ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 251,000,0002.บริษัท พระแสงกรีน พาวเวอร์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2555 พบรายชื่อนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 77,000,000 บาท 3.บริษัท เมดิคอล แอนด์ ฟู๊ด แลบ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2535 พบรายชื่อนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจจำหน่ายและให้บริการเกี่ยวกับอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 390,500,000 บาท4.บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ รีโวลูชั่น จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2558 พบรายชื่อนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจกิจกรรมด้านวิศวกรรมและการให้คำปรึกษาที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 100,000,000 บาท ขณะเดียวกันยังมีการเปิดเผยว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยังมีการถือหุ้นบริษัทอีกหลายแห่งด้วยกัน ดังนี้ - บริษัท ออลล์ เอ็นเนอร์ยี่ แอนด์ ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจกิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้ง พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 266,375,434 หุ้น (5.18%) มูลค่าหุ้น 136,042,664 บาท- บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 31,043,914 หุ้น (5.99%) มูลค่าหุ้น 86,749,286 บาท- บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด ดำเนินธุรกิจการให้เช่า การขาย การซื้อและการดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 10,187,600 หุ้น (50.94%) มูลค่าหุ้น 76,891,474 บาท- บริษัท โกลด์ ชอร์ส จำกัด ดำเนินธุรกิจประกอบกิจการค้าน้ำดื่ม น้ำแร่ น้ำดิบ และเครื่องบริโภคอื่น พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 610,000 หุ้น (8.09%) มูลค่าหุ้น 49,748,675 บาท- บริษัท อาร์เอสเอ็กซ์วายแซด จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจจำหน่ายเคมีภัณฑ์ พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 15,000,000 หุ้น (4.53%) มูลค่าหุ้น 46,067,090 บาท- บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจการออกแบบและติดตั้งระบบสื่อสารโทรคมนาคมและจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 14,290,500 หุ้น (1.42%) มูลค่าหุ้น 44,244,603 บาท- บริษัท พีแอนด์วี คอร์ปอเรชั่น ซิสเต็ม จำกัด ดำเนินธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 365,000 หุ้น (11.06%) มูลค่าหุ้น 36,437,810 บาท- ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส.พุ่มพันธุ์ม่วง ดำเนินธุรกิจกิจกรรมการบริการอื่นๆเพื่อสนับสนุนธุรกิจซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ ในที่อื่น พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 500,000 หุ้น (50.00%) มูลค่าหุ้น 1,845,670 บาท- บริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจขายและบริการโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์โทรศัพท์ พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 85,448,200 หุ้น (0.58%) มูลค่าหุ้น 1,153,637 บาท- บริษัท เขาใหญ่ กรีน จำกัด ดำเนินธุรกิจประกอบกิจการทำการเกษตร พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 7,000 หุ้น (70.00%) มูลค่าหุ้น 691,881 บาทขอบคุณข้อมูลจาก : เว็บไซต์ Sanook
    จากประเด็นดราม่าของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฯ คนปัจจุบัน ออกมาแฉวีรกรรมของ "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกฯ คนก่อน ถึงการทุจริตภายในองค์กรหลากหลายเรื่อง ล่าสุดเว็บไซต์ Sanook Money ได้ตรวจสอบข้อมูลที่รวบรวมรายชื่อบริษัทของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง จากฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ปรากฎว่า "บิ๊กอ๊อด" มีชื่อเป็นกรรมการบริษัท 4 แห่ง ถือหุ้น 11 รายการ มูลค่าทั้งหมด 730,542,041 บาท ดังนี้ 1.บริษัท กู๊ด เบทเทอร์ เบสท์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2564 พบรายชื่อนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท และถือหุ้นจำนวน 2,507,000 หุ้น (99.88%) มูลค่าหุ้น 250,669,251 บาท ดำเนินธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเอง ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 251,000,0002.บริษัท พระแสงกรีน พาวเวอร์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2555 พบรายชื่อนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 77,000,000 บาท 3.บริษัท เมดิคอล แอนด์ ฟู๊ด แลบ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2535 พบรายชื่อนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจจำหน่ายและให้บริการเกี่ยวกับอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 390,500,000 บาท4.บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ รีโวลูชั่น จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2558 พบรายชื่อนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจกิจกรรมด้านวิศวกรรมและการให้คำปรึกษาที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 100,000,000 บาท ขณะเดียวกันยังมีการเปิดเผยว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยังมีการถือหุ้นบริษัทอีกหลายแห่งด้วยกัน ดังนี้ - บริษัท ออลล์ เอ็นเนอร์ยี่ แอนด์ ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจกิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้ง พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 266,375,434 หุ้น (5.18%) มูลค่าหุ้น 136,042,664 บาท- บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 31,043,914 หุ้น (5.99%) มูลค่าหุ้น 86,749,286 บาท- บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด ดำเนินธุรกิจการให้เช่า การขาย การซื้อและการดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 10,187,600 หุ้น (50.94%) มูลค่าหุ้น 76,891,474 บาท- บริษัท โกลด์ ชอร์ส จำกัด ดำเนินธุรกิจประกอบกิจการค้าน้ำดื่ม น้ำแร่ น้ำดิบ และเครื่องบริโภคอื่น พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 610,000 หุ้น (8.09%) มูลค่าหุ้น 49,748,675 บาท- บริษัท อาร์เอสเอ็กซ์วายแซด จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจจำหน่ายเคมีภัณฑ์ พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 15,000,000 หุ้น (4.53%) มูลค่าหุ้น 46,067,090 บาท- บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจการออกแบบและติดตั้งระบบสื่อสารโทรคมนาคมและจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 14,290,500 หุ้น (1.42%) มูลค่าหุ้น 44,244,603 บาท- บริษัท พีแอนด์วี คอร์ปอเรชั่น ซิสเต็ม จำกัด ดำเนินธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 365,000 หุ้น (11.06%) มูลค่าหุ้น 36,437,810 บาท- ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส.พุ่มพันธุ์ม่วง ดำเนินธุรกิจกิจกรรมการบริการอื่นๆเพื่อสนับสนุนธุรกิจซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ ในที่อื่น พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 500,000 หุ้น (50.00%) มูลค่าหุ้น 1,845,670 บาท- บริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจขายและบริการโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์โทรศัพท์ พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 85,448,200 หุ้น (0.58%) มูลค่าหุ้น 1,153,637 บาท- บริษัท เขาใหญ่ กรีน จำกัด ดำเนินธุรกิจประกอบกิจการทำการเกษตร พบนายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นจำนวน 7,000 หุ้น (70.00%) มูลค่าหุ้น 691,881 บาทขอบคุณข้อมูลจาก : เว็บไซต์ Sanook
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 528 มุมมอง 0 รีวิว
  • 21 ปี "11-M" วินาศกรรมระเบิดรถไฟมาดริด กวาดชีวิต 200 ศพ บาดเจ็บกว่า 1,800 ราย 🚆💣 ไขปริศนาเบื้องหลัง โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญ ที่เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์สเปน ไปตลอดกาล

    📝 เสียงระเบิดที่เปลี่ยนสเปนไปตลอดกาล วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2547 ในช่วงช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เช้าตรู่เหมือนทุกวัน รถไฟโดยสารสาย Cercanías ของกรุงมาดริด ประเทศสเปน กำลังวิ่งเข้าเทียบชานชาลา ที่สถานีอาโตชา (Atocha) อย่างปกติ ก่อนที่เสียงระเบิดลูกแรกจะดังขึ้น และตามด้วยระเบิดอีก 12 ลูก ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ทำให้ขบวนรถไฟ 4 ขบวน ที่บรรทุกผู้โดยสารไปทำงานในช่วงเร่งด่วน กลายเป็นซากเศษเหล็กในพริบตา 💥

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น หรือที่ชาวสเปนเรียกกันว่า "11-M" (Once de Marzo) ถือเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมก่อการร้าย ครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรป มีผู้เสียชีวิตถึง 200 ศพ และผู้บาดเจ็บอีกกว่า 1,800 ราย มันไม่เพียงแต่ทำลายชีวิตผู้คน แต่ยังสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาล และเปลี่ยนผลการเลือกตั้งในสเปน โดยสิ้นเชิง 🗳️

    📚 เหตุการณ์ที่โลกไม่อาจลืม เหตุระเบิดรถไฟที่กรุงมาดริด หรือ 11-M เป็นปฏิบัติการก่อการร้าย ที่ประสานงานกันอย่างซับซ้อน โดยมือระเบิดใช้อุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่อง (IED) วางไว้ในกระเป๋าเป้ และนำขึ้นรถไฟ ที่มุ่งหน้าเข้าสู่สถานีหลักของกรุงมาดริด

    ✨ กลุ่มผู้ต้องสงสัย คือกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง ที่ต่อต้านการมีส่วนร่วมของสเปนใ นสงครามอิรัก เหตุการณ์นี้นับเป็นการโจมตีพลเรือน ครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่เหตุการณ์ ระเบิดเครื่องบิน Pan Am เที่ยวบิน 103 เมื่อปี 2531 และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมือง และความมั่นคงของประเทศสเปน ในเวลานั้น 📍

    🔎 ไทม์ไลน์วินาศกรรม 11-M นาทีชีวิตในกรุงมาดริด
    07.01 - 07.14 น. รถไฟทั้งสี่ขบวนออกจาก Alcalá de Henares มุ่งหน้าสู่สถานี Atocha

    07.37 - 07.40 น. ระเบิดลูกแรกระเบิดขึ้นที่ ขบวน 21431 บริเวณ ฃสถานี Atocha ตามด้วยอีกสองลูกในเวลาไม่ถึง 4 วินาที 🚆💥
    ขบวน 21435 ระเบิด 2 ลูก ที่สถานี El Pozo
    ขบวน 21713 ระเบิดที่สถานีSanta Eugenia
    ขบวน 17305 เกิดระเบิด 4 จุด บริเวณ Calle Téllez ใกล้สถานี Atocha

    08.00 น. เป็นต้นไป หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินและทีม TEDAX หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าพื้นที่

    08.30 น. ตั้งโรงพยาบาลสนามที่สนามกีฬา Daoiz y Velarde

    09.00 น. ตำรวจยืนยันมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ศพ สุดท้าย ผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 200 ราย และรายสุดท้ายเสียชีวิตในปี 2557 หลังจากโคม่า 10 ปี

    🚨 จุดระเบิด 13 จุด ของแต่ละสถานี
    📍 สถานี Atocha ขบวน 21431 เกิดระเบิด 3 ลูก อีก 1 ลูก ถูกทีม TEDAX จุดระเบิดควบคุมในเวลาต่อมา

    📍 สถานี El Pozo ขบวน 21435 ระเบิด 2 ลูก ในตู้ที่ 4 และ 5 พบระเบิดอีก 1 ลูกในตู้รถที่ 3 ถูกควบคุมระเบิดโดย TEDAX

    📍 สถานี Santa Eugenia ขบวน 21713 ระเบิดลูกเดียวที่ตู้ที่ 4

    📍 Calle Téllez ใกล้สถานี Atocha ขบวน 17305 ระเบิด 4 ลูกที่ตู้ 1, 4, 5 และ 6

    🕵️‍♂️ ผู้ต้องสงสัย เบื้องหลังการโจมตี หลักฐานที่ค้นพบในรถตู้ Renault Kangoo ซึ่งจอดอยู่หน้าสถานี Alcalá de Henares ได้แก่ ตัวจุดชนวน เทปเสียงอัดบทกวีจากคัมภีร์อัลกุรอาน และโทรศัพท์มือถือที่ใช้จุดระเบิด

    ตำรวจสเปนจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 5 คน ในวันเดียวกัน เป็นชาวโมร็อกโก 3 คน และปากีสถาน 2 คน โดยเฉพาะ "จามาล ซูกัม" (Jamal Zougam) ชาวโมร็อกโก ที่ถูกดำเนินคดีในที่สุด

    การโจมตีครั้งนี้เชื่อว่า เป็นการตอบโต้สเปนที่เข้าร่วมสงครามอิรัก กับสหรัฐอเมริกาในปี 2546

    ❗ ข้อถกเถียงและการเมืองที่ลุกเป็นไฟ เหตุการณ์ 11-M เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเพียง 3 วัน พรรค Partido Popular (PP) ภายใต้การนำของ "โฆเซ มาเรีย อัซนาร์" พยายามโยงความผิดให้กลุ่ม ETA โดนพรรคฝ่ายค้าน PSOE กล่าวหาว่ารัฐบาลบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันการเสียคะแนนเสียง

    ผลการเลือกตั้งพลิกล็อก พรรค PSOE ภายใต้การนำของ "โฆเซ หลุยส์ โรดริเกซ" ซาปาเตโร ได้รับชัยชนะ และขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสเปน

    ⚖️ ผลการสอบสวนและคำพิพากษา หลังจากการสืบสวน 21 เดือน มีผู้ถูกตัดสินว่ามีส่วนร่วมในการโจมตีทั้งหมด 21 คน ไม่มีหลักฐานชัดเจน ที่เชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์ วัตถุระเบิดที่ใช้คือ Goma-2 ECO ผลิตในสเปน

    🌍 ผลกระทบที่สะท้อนถึงโลกใบนี้ เหตุการณ์ 11-M ถูกเปรียบเทียบกับการโจมตี 11 กันยายน 2001 (9/11) ที่สหรัฐฯ ทั้งในแง่ของขนาดของการวางแผน ผลกระทบต่อการเมืองภายในประเทศ การลุกฮือของประชาชนเรียกร้อง “ความจริง” จากรัฐบาล และยังกระตุ้นให้เกิด มาตรการความปลอดภัย ในระบบขนส่งมวลชนทั่วโลก 🚆🛑

    🧠 บทเรียนจากโศกนาฏกรรม 11-M ความโปร่งใสของรัฐบาล เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียความไว้วางใจ การเฝ้าระวังระบบขนส่งสาธารณะ ต้องได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การเมืองและการก่อการร้าย เป็นเรื่องที่แยกจากกันไม่ได้ ในยุคโลกาภิวัตน์

    📌 เหตุการณ์ก่อการร้าย ที่สะท้อนภาพโศกนาฏกรรมปี 2547
    🎒 เหตุการณ์เบสลัน (Beslan Siege) วันที่ 1-3 กันยายน พ.ศ. 2547 กลุ่มแบ่งแยกดินแดนเชชเนีย จับตัวประกันที่โรงเรียน มีผู้เสียชีวิตกว่า 330 ศพ ครึ่งหนึ่งเป็นเด็กนักเรียน เป็นอีกตัวอย่างของความโหดร้าย จากการก่อการร้ายที่โลกไม่มีวันลืม 💔

    ✅ ความทรงจำยังคงอยู่ 21 ปีหลังเหตุการณ์ 11-M สเปนและโลกยังคงรำลึกถึงเหยื่อผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตในวันนั้น และบทเรียนที่ได้รับ ยังคงชัดเจนอยู่ทุกวินาที การเปลี่ยนแปลงในนโยบายความมั่นคง การเลือกตั้ง และบทบาททางการเมืองที่พลิกผัน เป็นสิ่งที่ทำให้ 11 มีนาคม ไม่ใช่เพียงวันแห่งความเศร้า แต่ยังเป็นวันที่ทำให้มนุษยชาติหยุดคิด และตั้งคำถามกับความรุนแรง ที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ 🌍🙏

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 110922 มี.ค. 2568

    🔖 📌 #11M #MadridBombings #ก่อการร้าย #ประวัติศาสตร์สเปน #PSOE #PP #สงครามอิรัก #ก่อการร้ายยุโรป #มาดริด #TerrorismHistory 🚆💣
    21 ปี "11-M" วินาศกรรมระเบิดรถไฟมาดริด กวาดชีวิต 200 ศพ บาดเจ็บกว่า 1,800 ราย 🚆💣 ไขปริศนาเบื้องหลัง โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญ ที่เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์สเปน ไปตลอดกาล 📝 เสียงระเบิดที่เปลี่ยนสเปนไปตลอดกาล วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2547 ในช่วงช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เช้าตรู่เหมือนทุกวัน รถไฟโดยสารสาย Cercanías ของกรุงมาดริด ประเทศสเปน กำลังวิ่งเข้าเทียบชานชาลา ที่สถานีอาโตชา (Atocha) อย่างปกติ ก่อนที่เสียงระเบิดลูกแรกจะดังขึ้น และตามด้วยระเบิดอีก 12 ลูก ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ทำให้ขบวนรถไฟ 4 ขบวน ที่บรรทุกผู้โดยสารไปทำงานในช่วงเร่งด่วน กลายเป็นซากเศษเหล็กในพริบตา 💥 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น หรือที่ชาวสเปนเรียกกันว่า "11-M" (Once de Marzo) ถือเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมก่อการร้าย ครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรป มีผู้เสียชีวิตถึง 200 ศพ และผู้บาดเจ็บอีกกว่า 1,800 ราย มันไม่เพียงแต่ทำลายชีวิตผู้คน แต่ยังสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาล และเปลี่ยนผลการเลือกตั้งในสเปน โดยสิ้นเชิง 🗳️ 📚 เหตุการณ์ที่โลกไม่อาจลืม เหตุระเบิดรถไฟที่กรุงมาดริด หรือ 11-M เป็นปฏิบัติการก่อการร้าย ที่ประสานงานกันอย่างซับซ้อน โดยมือระเบิดใช้อุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่อง (IED) วางไว้ในกระเป๋าเป้ และนำขึ้นรถไฟ ที่มุ่งหน้าเข้าสู่สถานีหลักของกรุงมาดริด ✨ กลุ่มผู้ต้องสงสัย คือกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง ที่ต่อต้านการมีส่วนร่วมของสเปนใ นสงครามอิรัก เหตุการณ์นี้นับเป็นการโจมตีพลเรือน ครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่เหตุการณ์ ระเบิดเครื่องบิน Pan Am เที่ยวบิน 103 เมื่อปี 2531 และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมือง และความมั่นคงของประเทศสเปน ในเวลานั้น 📍 🔎 ไทม์ไลน์วินาศกรรม 11-M นาทีชีวิตในกรุงมาดริด 07.01 - 07.14 น. รถไฟทั้งสี่ขบวนออกจาก Alcalá de Henares มุ่งหน้าสู่สถานี Atocha 07.37 - 07.40 น. ระเบิดลูกแรกระเบิดขึ้นที่ ขบวน 21431 บริเวณ ฃสถานี Atocha ตามด้วยอีกสองลูกในเวลาไม่ถึง 4 วินาที 🚆💥 ขบวน 21435 ระเบิด 2 ลูก ที่สถานี El Pozo ขบวน 21713 ระเบิดที่สถานีSanta Eugenia ขบวน 17305 เกิดระเบิด 4 จุด บริเวณ Calle Téllez ใกล้สถานี Atocha 08.00 น. เป็นต้นไป หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินและทีม TEDAX หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าพื้นที่ 08.30 น. ตั้งโรงพยาบาลสนามที่สนามกีฬา Daoiz y Velarde 09.00 น. ตำรวจยืนยันมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ศพ สุดท้าย ผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 200 ราย และรายสุดท้ายเสียชีวิตในปี 2557 หลังจากโคม่า 10 ปี 🚨 จุดระเบิด 13 จุด ของแต่ละสถานี 📍 สถานี Atocha ขบวน 21431 เกิดระเบิด 3 ลูก อีก 1 ลูก ถูกทีม TEDAX จุดระเบิดควบคุมในเวลาต่อมา 📍 สถานี El Pozo ขบวน 21435 ระเบิด 2 ลูก ในตู้ที่ 4 และ 5 พบระเบิดอีก 1 ลูกในตู้รถที่ 3 ถูกควบคุมระเบิดโดย TEDAX 📍 สถานี Santa Eugenia ขบวน 21713 ระเบิดลูกเดียวที่ตู้ที่ 4 📍 Calle Téllez ใกล้สถานี Atocha ขบวน 17305 ระเบิด 4 ลูกที่ตู้ 1, 4, 5 และ 6 🕵️‍♂️ ผู้ต้องสงสัย เบื้องหลังการโจมตี หลักฐานที่ค้นพบในรถตู้ Renault Kangoo ซึ่งจอดอยู่หน้าสถานี Alcalá de Henares ได้แก่ ตัวจุดชนวน เทปเสียงอัดบทกวีจากคัมภีร์อัลกุรอาน และโทรศัพท์มือถือที่ใช้จุดระเบิด ตำรวจสเปนจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 5 คน ในวันเดียวกัน เป็นชาวโมร็อกโก 3 คน และปากีสถาน 2 คน โดยเฉพาะ "จามาล ซูกัม" (Jamal Zougam) ชาวโมร็อกโก ที่ถูกดำเนินคดีในที่สุด การโจมตีครั้งนี้เชื่อว่า เป็นการตอบโต้สเปนที่เข้าร่วมสงครามอิรัก กับสหรัฐอเมริกาในปี 2546 ❗ ข้อถกเถียงและการเมืองที่ลุกเป็นไฟ เหตุการณ์ 11-M เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเพียง 3 วัน พรรค Partido Popular (PP) ภายใต้การนำของ "โฆเซ มาเรีย อัซนาร์" พยายามโยงความผิดให้กลุ่ม ETA โดนพรรคฝ่ายค้าน PSOE กล่าวหาว่ารัฐบาลบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันการเสียคะแนนเสียง ผลการเลือกตั้งพลิกล็อก พรรค PSOE ภายใต้การนำของ "โฆเซ หลุยส์ โรดริเกซ" ซาปาเตโร ได้รับชัยชนะ และขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสเปน ⚖️ ผลการสอบสวนและคำพิพากษา หลังจากการสืบสวน 21 เดือน มีผู้ถูกตัดสินว่ามีส่วนร่วมในการโจมตีทั้งหมด 21 คน ไม่มีหลักฐานชัดเจน ที่เชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์ วัตถุระเบิดที่ใช้คือ Goma-2 ECO ผลิตในสเปน 🌍 ผลกระทบที่สะท้อนถึงโลกใบนี้ เหตุการณ์ 11-M ถูกเปรียบเทียบกับการโจมตี 11 กันยายน 2001 (9/11) ที่สหรัฐฯ ทั้งในแง่ของขนาดของการวางแผน ผลกระทบต่อการเมืองภายในประเทศ การลุกฮือของประชาชนเรียกร้อง “ความจริง” จากรัฐบาล และยังกระตุ้นให้เกิด มาตรการความปลอดภัย ในระบบขนส่งมวลชนทั่วโลก 🚆🛑 🧠 บทเรียนจากโศกนาฏกรรม 11-M ความโปร่งใสของรัฐบาล เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียความไว้วางใจ การเฝ้าระวังระบบขนส่งสาธารณะ ต้องได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การเมืองและการก่อการร้าย เป็นเรื่องที่แยกจากกันไม่ได้ ในยุคโลกาภิวัตน์ 📌 เหตุการณ์ก่อการร้าย ที่สะท้อนภาพโศกนาฏกรรมปี 2547 🎒 เหตุการณ์เบสลัน (Beslan Siege) วันที่ 1-3 กันยายน พ.ศ. 2547 กลุ่มแบ่งแยกดินแดนเชชเนีย จับตัวประกันที่โรงเรียน มีผู้เสียชีวิตกว่า 330 ศพ ครึ่งหนึ่งเป็นเด็กนักเรียน เป็นอีกตัวอย่างของความโหดร้าย จากการก่อการร้ายที่โลกไม่มีวันลืม 💔 ✅ ความทรงจำยังคงอยู่ 21 ปีหลังเหตุการณ์ 11-M สเปนและโลกยังคงรำลึกถึงเหยื่อผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตในวันนั้น และบทเรียนที่ได้รับ ยังคงชัดเจนอยู่ทุกวินาที การเปลี่ยนแปลงในนโยบายความมั่นคง การเลือกตั้ง และบทบาททางการเมืองที่พลิกผัน เป็นสิ่งที่ทำให้ 11 มีนาคม ไม่ใช่เพียงวันแห่งความเศร้า แต่ยังเป็นวันที่ทำให้มนุษยชาติหยุดคิด และตั้งคำถามกับความรุนแรง ที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ 🌍🙏 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 110922 มี.ค. 2568 🔖 📌 #11M #MadridBombings #ก่อการร้าย #ประวัติศาสตร์สเปน #PSOE #PP #สงครามอิรัก #ก่อการร้ายยุโรป #มาดริด #TerrorismHistory 🚆💣
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 705 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากที่ทำหน้าที่เป็นแอปที่ช่วยให้คนทั่วโลกติดต่อกันได้สะดวกมานานถึงสองทศวรรษ Skype กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายในปีนี้ โดย Microsoft เจ้าของปัจจุบันได้ประกาศว่าจะยุติการให้บริการ Skype อย่างถาวรในวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 พร้อมกับแนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์ม Microsoft Teams แทน

    การเปลี่ยนไปใช้ Microsoft Teams แทน
    - การใช้งาน Teams ด้วยบัญชี Skype: ผู้ใช้งานสามารถล็อกอิน Teams ด้วยบัญชี Skype เดิม โดยข้อมูลแชท รายชื่อ และกลุ่มสนทนาจะถูกย้ายมาอัตโนมัติ
    - การโทรระหว่าง Skype และ Teams: ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทั้งสองแพลตฟอร์มสามารถสื่อสารระหว่างกันได้
    - การโทรไปยังโทรศัพท์พื้นฐานและมือถือ: Teams จะมีแป้นพิมพ์หมายเลขชั่วคราวสำหรับผู้ใช้ Skype ที่ยังมีเครดิตคงเหลือ แต่ฟีเจอร์นี้จะค่อยๆ ยุติลงตามการหมดอายุของการสมัครสมาชิก Skype

    ทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่อยากย้าย
    - สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการย้ายไปใช้ Teams Microsoft มีคำแนะนำให้ผู้ใช้สำรองข้อมูลแชท รายชื่อ และสื่อใน Skype ก่อนวันที่ยุติบริการ โดยสามารถดาวน์โหลดข้อมูลเหล่านี้ผ่าน Go.skype.com/export และลบบัญชี Skype ได้ที่หน้าจัดการบัญชีของ Microsoft

    Skype เริ่มต้นในปี 2003 โดยสองนักธุรกิจชาวสวีเดนและเดนมาร์ก นำเสนอแนวคิดใหม่ในการโทรฟรีผ่านอินเทอร์เน็ตที่ลดค่าใช้จ่ายสูงจากการโทรต่างประเทศ Microsoft เข้าซื้อกิจการนี้ในปี 2011 ด้วยมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ Skype สูญเสียความนิยมเมื่อ Microsoft เปิดตัว Teams ในปี 2017 ซึ่งกลายมาเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารหลักในตลาดองค์กรและแข่งขันกับ Zoom และ WhatsApp โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19

    การปิดตัวของ Skype สะท้อนถึงการปรับตัวของเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไป Microsoft กำลังมุ่งเน้นไปยัง Teams ที่ได้รับความนิยมในตลาดองค์กรด้วยฟีเจอร์ที่ครอบคลุมและทันสมัยกว่า แต่ Skype จะยังคงเป็นตำนานในฐานะผู้ปฏิวัติการสื่อสารในยุคแรกเริ่ม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/09/the-last-days-of-skype-time-to-switch-to-teams---or-say-goodbye
    หลังจากที่ทำหน้าที่เป็นแอปที่ช่วยให้คนทั่วโลกติดต่อกันได้สะดวกมานานถึงสองทศวรรษ Skype กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายในปีนี้ โดย Microsoft เจ้าของปัจจุบันได้ประกาศว่าจะยุติการให้บริการ Skype อย่างถาวรในวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 พร้อมกับแนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์ม Microsoft Teams แทน การเปลี่ยนไปใช้ Microsoft Teams แทน - การใช้งาน Teams ด้วยบัญชี Skype: ผู้ใช้งานสามารถล็อกอิน Teams ด้วยบัญชี Skype เดิม โดยข้อมูลแชท รายชื่อ และกลุ่มสนทนาจะถูกย้ายมาอัตโนมัติ - การโทรระหว่าง Skype และ Teams: ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทั้งสองแพลตฟอร์มสามารถสื่อสารระหว่างกันได้ - การโทรไปยังโทรศัพท์พื้นฐานและมือถือ: Teams จะมีแป้นพิมพ์หมายเลขชั่วคราวสำหรับผู้ใช้ Skype ที่ยังมีเครดิตคงเหลือ แต่ฟีเจอร์นี้จะค่อยๆ ยุติลงตามการหมดอายุของการสมัครสมาชิก Skype ทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่อยากย้าย - สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการย้ายไปใช้ Teams Microsoft มีคำแนะนำให้ผู้ใช้สำรองข้อมูลแชท รายชื่อ และสื่อใน Skype ก่อนวันที่ยุติบริการ โดยสามารถดาวน์โหลดข้อมูลเหล่านี้ผ่าน Go.skype.com/export และลบบัญชี Skype ได้ที่หน้าจัดการบัญชีของ Microsoft Skype เริ่มต้นในปี 2003 โดยสองนักธุรกิจชาวสวีเดนและเดนมาร์ก นำเสนอแนวคิดใหม่ในการโทรฟรีผ่านอินเทอร์เน็ตที่ลดค่าใช้จ่ายสูงจากการโทรต่างประเทศ Microsoft เข้าซื้อกิจการนี้ในปี 2011 ด้วยมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ Skype สูญเสียความนิยมเมื่อ Microsoft เปิดตัว Teams ในปี 2017 ซึ่งกลายมาเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารหลักในตลาดองค์กรและแข่งขันกับ Zoom และ WhatsApp โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 การปิดตัวของ Skype สะท้อนถึงการปรับตัวของเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไป Microsoft กำลังมุ่งเน้นไปยัง Teams ที่ได้รับความนิยมในตลาดองค์กรด้วยฟีเจอร์ที่ครอบคลุมและทันสมัยกว่า แต่ Skype จะยังคงเป็นตำนานในฐานะผู้ปฏิวัติการสื่อสารในยุคแรกเริ่ม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/09/the-last-days-of-skype-time-to-switch-to-teams---or-say-goodbye
    WWW.THESTAR.COM.MY
    The last days of Skype: Time to switch to Teams – or say goodbye
    As the sun slowly sets Skype, some two decades after it started a revolution in online communication, owner Microsoft is pointing the way to its remaining loyal users: Teams.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้ายมาจะสิบปีแหละ ได้ยินเสียงเครื่องบินมาตลอด มีปีนี้แหละ ได้เก็บภาพเครื่องบินผ่านหน้าบ้าน โดยไม่ต้องขึ้นชั้นสองหรือชั้นสิบเหมือนตอนวันเด็ก

    ก่อนจะบันทึกภาพ ฝูงบิน บินผ่านไปได้สัก สี่รอบ จึงเตรียมมือถือรอบันทึก .. ดีใจสุดๆ 🥰🥰

    #88ปีกองทัพอากาศ
    #AirShow รอบที่ 1
    ย้ายมาจะสิบปีแหละ ได้ยินเสียงเครื่องบินมาตลอด มีปีนี้แหละ ได้เก็บภาพเครื่องบินผ่านหน้าบ้าน โดยไม่ต้องขึ้นชั้นสองหรือชั้นสิบเหมือนตอนวันเด็ก ก่อนจะบันทึกภาพ ฝูงบิน บินผ่านไปได้สัก สี่รอบ จึงเตรียมมือถือรอบันทึก .. ดีใจสุดๆ 🥰🥰 #88ปีกองทัพอากาศ #AirShow รอบที่ 1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 378 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • "ปอ" โชว์มือถือคุยผู้กำกับให้บอก "แตงโม" ตกเรือ : [THE MESSAGE]
    นายฉันท์ชนะ ยิ้มสาย หรือ ฮิปโป เพื่อนสนิทและผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม นิดา ให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้โทรศัพท์หาแตงโมวันที่ 24 ก.พ. 2565 วันเกิดเหตุเวลา 20.27 น. และได้คุยกับแตงโมสั้นๆ 24 วินาที โดยถามแตงโมว่าพรุ่งนี้ไปออกรายการคนเดียวได้หรือไม่ แตงโมตอบกลับว่า“แป่ปนึงเดี๋ยวโทรกลับ” น้ำเสียงแตงโมเป็นปกติมีเพียงเสียงลมที่พัดเข้าโทรศัพท์ เมื่อทราบข่าวก็ไปที่เกิดเหตุ เจอกระติก ปอ แซน ซึ่งปอโชว์โทรศัพท์ให้ดูว่าคุยกับผู้กำกับแล้วให้บอกทุกคนว่าแตงโมตกท้ายเรือ ขับเรือแปดน็อต และต้องบอกว่านี่คือความจริงว่า แตงโมไปฉี่ท้ายเรือ ซึ่งตอนนั้นก็รู้สึกงงว่าทำไมต้องเตี๊ยมกัน ไม่เชื่อแตงโมไปฉี่ท้ายเรือ มั่นใจไม่ใช่เป็นการประมาทร่วมแน่ ส่วนโทรศัพท์มือถือของแตงโม มี 3 เครื่อง ใช้ส่วนตัว 1 เครื่อง เพิ่งซื้อปลายปี 2564 ส่วนโทรศัพท์เก่าให้เบิร์ดใช้ ต่อมาเบิร์ดทำหายหลังแตงโมเสียชีวิตไม่กี่เดือน อีกเครื่องเป็นของพ่อซึ่งไม่ได้ใช้งาน
    "ปอ" โชว์มือถือคุยผู้กำกับให้บอก "แตงโม" ตกเรือ : [THE MESSAGE] นายฉันท์ชนะ ยิ้มสาย หรือ ฮิปโป เพื่อนสนิทและผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม นิดา ให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้โทรศัพท์หาแตงโมวันที่ 24 ก.พ. 2565 วันเกิดเหตุเวลา 20.27 น. และได้คุยกับแตงโมสั้นๆ 24 วินาที โดยถามแตงโมว่าพรุ่งนี้ไปออกรายการคนเดียวได้หรือไม่ แตงโมตอบกลับว่า“แป่ปนึงเดี๋ยวโทรกลับ” น้ำเสียงแตงโมเป็นปกติมีเพียงเสียงลมที่พัดเข้าโทรศัพท์ เมื่อทราบข่าวก็ไปที่เกิดเหตุ เจอกระติก ปอ แซน ซึ่งปอโชว์โทรศัพท์ให้ดูว่าคุยกับผู้กำกับแล้วให้บอกทุกคนว่าแตงโมตกท้ายเรือ ขับเรือแปดน็อต และต้องบอกว่านี่คือความจริงว่า แตงโมไปฉี่ท้ายเรือ ซึ่งตอนนั้นก็รู้สึกงงว่าทำไมต้องเตี๊ยมกัน ไม่เชื่อแตงโมไปฉี่ท้ายเรือ มั่นใจไม่ใช่เป็นการประมาทร่วมแน่ ส่วนโทรศัพท์มือถือของแตงโม มี 3 เครื่อง ใช้ส่วนตัว 1 เครื่อง เพิ่งซื้อปลายปี 2564 ส่วนโทรศัพท์เก่าให้เบิร์ดใช้ ต่อมาเบิร์ดทำหายหลังแตงโมเสียชีวิตไม่กี่เดือน อีกเครื่องเป็นของพ่อซึ่งไม่ได้ใช้งาน
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1171 มุมมอง 33 0 รีวิว
Pages Boosts