• กาสิโนพนมเปญ ใต้ทุนมาเลเซีย

    การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ มีประเด็นนักกีฬาทีมชาติกัมพูชาสวมเสื้อแจ็กเก็ตที่มีโลโก้กาสิโน "NAGAWORLD" อยู่บนหน้าอกด้านซ้ายใต้ธงชาติกัมพูชา แม้นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย จะให้ตรวจสอบว่าเข้าข่ายโฆษณาการพนันตามกฎหมายไทยหรือไม่ แต่นักกีฬาและเจ้าหน้าที่กัมพูชารวม 137 คน ถอนตัวออกจากการแข่งขันเสียก่อน สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในเรื่องนี้คือ นากาเวิลด์ เป็นกาสิโนหนึ่งเดียวในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่นายทุนเป็นชาวมาเลเซีย

    นากาเวิลด์ ก่อตั้งโดย นายเฉิน ลิบ เกียง (Chen Lip Keong) นักธุรกิจชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน เกิดในครอบครัวผู้อพยพจากจีนรุ่นที่ 2 เติบโตที่เหมืองแร่ดีบุกบนหุบเขาคินตา ทางตอนกลางของมาเลเซีย จบการศึกษาด้านการแพทย์จากมหาวิทยาลัยมาลายา เริ่มต้นเป็นแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป แต่กลับสนใจทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และผลิตชิ้นส่วนการบิน ต่อมาในปี 2533 นายเฉินไปกัมพูชาเพื่อสำรวจน้ำมันในอ่าวไทย แต่เมื่อรัฐบาลกัมพูชาเปิดประมูลใบอนุญาตกาสิโน เขากลับคว้าใบอนุญาตนั้นมาได้

    นายเฉินจัดตั้งกาสิโนเมื่อปี 2538 โดยใช้เรือเช่าตามแม่น้ำบาสัก (Bassac River) ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำโขง ใกล้กับพระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล (พระราชวังหลวง) ในกรุงพนมเปญ กระทั่งได้ซื้อที่ดินและก่อสร้างอาคารนากาเวิลด์ ย้ายมาอยู่ที่ตั้งปัจจุบันในปี 2546 จากนั้นในปี 2549 บริษัทนากาคอร์ปฯ (NagaCorp) ที่จัดตั้งขึ้นในหมู่เกาะเคย์แมนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และขยายอาคารหลังที่สองในปี 2560 โดยมีนากาซิตี้วอล์ก (Naga City Walk) เป็นทางเชื่อมใต้ดิน

    กาสิโนแห่งนี้ได้รับใบอนุญาตถึงปี 2608 โดยผูกขาดเพียงรายเดียวในรัศมี 200 กิโลเมตร ถึงปี 2588 ประกอบด้วยโรงแรม 1,658 ห้อง ภัตตาคารและไนต์คลับ 20 แห่ง สปา 2 แห่ง ศูนย์การค้าใต้ดิน ร้านค้าปลอดภาษีจาก China Duty Free Group สถานที่จัดประชุมสัมมนา (MICE) รองรับผู้เข้าร่วมประชุม 1,000 คน และโรงละคร NABA ความจุ 2,000 ที่นั่ง

    นายเฉินถูกจัดให้เป็นมหาเศรษฐีมาเลเซียอันดับ 7 จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์เมื่อเดือน พ.ค. 2566 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัญฯ เขาเคยมีโครงการก่อตั้งกาสิโนอีกแห่งในเมืองวลาดิโวสต็อก ประเทศรัสเซีย แต่กลับระงับการก่อสร้างอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน

    นายเฉินเสียชีวิตที่สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2566 เนื่องจากอาการเจ็บป่วย รวมอายุได้ 75 ปี ส่งมอบอำนาจให้แก่นายเฉิน ยี่ ฟอน (Chen Yiy Fon) ลูกชายเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มคนใหม่

    #Newskit
    กาสิโนพนมเปญ ใต้ทุนมาเลเซีย การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ มีประเด็นนักกีฬาทีมชาติกัมพูชาสวมเสื้อแจ็กเก็ตที่มีโลโก้กาสิโน "NAGAWORLD" อยู่บนหน้าอกด้านซ้ายใต้ธงชาติกัมพูชา แม้นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย จะให้ตรวจสอบว่าเข้าข่ายโฆษณาการพนันตามกฎหมายไทยหรือไม่ แต่นักกีฬาและเจ้าหน้าที่กัมพูชารวม 137 คน ถอนตัวออกจากการแข่งขันเสียก่อน สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในเรื่องนี้คือ นากาเวิลด์ เป็นกาสิโนหนึ่งเดียวในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่นายทุนเป็นชาวมาเลเซีย นากาเวิลด์ ก่อตั้งโดย นายเฉิน ลิบ เกียง (Chen Lip Keong) นักธุรกิจชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน เกิดในครอบครัวผู้อพยพจากจีนรุ่นที่ 2 เติบโตที่เหมืองแร่ดีบุกบนหุบเขาคินตา ทางตอนกลางของมาเลเซีย จบการศึกษาด้านการแพทย์จากมหาวิทยาลัยมาลายา เริ่มต้นเป็นแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป แต่กลับสนใจทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และผลิตชิ้นส่วนการบิน ต่อมาในปี 2533 นายเฉินไปกัมพูชาเพื่อสำรวจน้ำมันในอ่าวไทย แต่เมื่อรัฐบาลกัมพูชาเปิดประมูลใบอนุญาตกาสิโน เขากลับคว้าใบอนุญาตนั้นมาได้ นายเฉินจัดตั้งกาสิโนเมื่อปี 2538 โดยใช้เรือเช่าตามแม่น้ำบาสัก (Bassac River) ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำโขง ใกล้กับพระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล (พระราชวังหลวง) ในกรุงพนมเปญ กระทั่งได้ซื้อที่ดินและก่อสร้างอาคารนากาเวิลด์ ย้ายมาอยู่ที่ตั้งปัจจุบันในปี 2546 จากนั้นในปี 2549 บริษัทนากาคอร์ปฯ (NagaCorp) ที่จัดตั้งขึ้นในหมู่เกาะเคย์แมนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และขยายอาคารหลังที่สองในปี 2560 โดยมีนากาซิตี้วอล์ก (Naga City Walk) เป็นทางเชื่อมใต้ดิน กาสิโนแห่งนี้ได้รับใบอนุญาตถึงปี 2608 โดยผูกขาดเพียงรายเดียวในรัศมี 200 กิโลเมตร ถึงปี 2588 ประกอบด้วยโรงแรม 1,658 ห้อง ภัตตาคารและไนต์คลับ 20 แห่ง สปา 2 แห่ง ศูนย์การค้าใต้ดิน ร้านค้าปลอดภาษีจาก China Duty Free Group สถานที่จัดประชุมสัมมนา (MICE) รองรับผู้เข้าร่วมประชุม 1,000 คน และโรงละคร NABA ความจุ 2,000 ที่นั่ง นายเฉินถูกจัดให้เป็นมหาเศรษฐีมาเลเซียอันดับ 7 จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์เมื่อเดือน พ.ค. 2566 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัญฯ เขาเคยมีโครงการก่อตั้งกาสิโนอีกแห่งในเมืองวลาดิโวสต็อก ประเทศรัสเซีย แต่กลับระงับการก่อสร้างอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน นายเฉินเสียชีวิตที่สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2566 เนื่องจากอาการเจ็บป่วย รวมอายุได้ 75 ปี ส่งมอบอำนาจให้แก่นายเฉิน ยี่ ฟอน (Chen Yiy Fon) ลูกชายเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มคนใหม่ #Newskit
    Like
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 481 มุมมอง 0 รีวิว
  • พนมเปญปั้นวอล์กกิ้งสตรีท รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

    กรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา เปิดโครงการถนนคนเดินแห่งใหม่ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2568 ตามแนวท่าเรือสีโสวัตถิ์ ริมแม่น้ำโตนเลสาป ครอบคลุมตั้งแต่อาคารไปรษณีย์กัมพูชา ถึงพระบรมราชวัง โดยปิดถนนห้ามยานพาหนะทุกชนิดเข้า ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 18.00-23.00 น. สัญจรได้เฉพาะคนเดินเท่านั้น พร้อมจัดให้มีห้องน้ำและจัดถนนให้เป็นระเบียบ รวมทั้งจัดให้มีการแสดงทางวัฒนธรรม เช่น ดนตรีพื้นเมืองเขมร พื้นที่วาดภาพ และการแสดงละครสัตว์

    ในระยะแรก ถนนคนเดินใหม่ของกรุงพนมเปญ แบ่งออกเป็น 3 โซน รวมพื้นที่ 57 เฮกตาร์ ได้แก่ โซนแรก พื้นที่ 3.3 เฮกตาร์ ใกล้กับอาคารไปรษณีย์กัมพูชา เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ โซนที่สอง พื้นที่ 20 เฮกตาร์ เป็นพื้นที่ธุรกิจกลางคืน มีร้านอาหาร บาร์ โรงแรม ร้านค้าต่างๆ และโซนสุดท้าย พื้นที่ 34 เฮกตาร์ เป็นโซนใหญ่ที่สุด ประกอบไปด้วยตลาดเสื้อผ้า และพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจตามธรรมชาติพร้อมสวนสาธารณะ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กัมพูชา พระบรมราชวัง และทุ่งพระเมรุ

    นายควง เซร็ง ผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ เปิดเผยกับ Khmer Times สื่อในกัมพูชาว่า กรุงพนมเปญได้วางแผนทำโครงการถนนคนเดินตั้งแต่ปี 2562 แต่เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องระงับไป ภายหลังรัฐบาลได้มีคำสั่งให้ฝ่ายบริหารของเทศบาลฯ ส่งเสริมการดำเนินงาน ทำให้กลับมาทำโครงการอีกครั้ง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติให้มาเยือนกรุงพนมเปญมากขึ้น

    ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวของกัมพูชา ระบุว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา กัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.7 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 3,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 121,248 ล้านบาท โดยพบว่าคนไทยมาเที่ยวมากถึง 32% รองลงมาคือเวียดนาม 20% จีน 12.7% ลาว 5% สหรัฐอเมริกา 3.2% เกาหลีใต้ 2.9% อินโดนีเซีย 2.5% ฝรั่งเศส 2% สหราชอาณาจักร 1.7% และญี่ปุ่น 1.7% ส่วนมากเดินทางผ่านชายแดนกับทางน้ำ 4 ล้านคน และผ่านท่าอากาศยาน 2 ล้านคน

    นายฮวด ฮะ รมว.ท่องเที่ยวกัมพูชา เปิดเผยกับ Cam Ness สื่อในกัมพูชาว่า ได้ขอให้ประเทศบัลแกเรีย โรมาเนีย กรีซ ไซปรัส เบลเยียม ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก บรูไน และฟิลิปปินส์ สนับสนุนกัมพูชาเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำ แม้คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมอาจลดลง แต่เหตุชาวจีนถูกลักพาตัวที่ประเทศไทย เป็นปัจจัยที่อาจดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนให้มาเยือนกัมพูชามากขึ้น คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีน 1.1 ล้านคนในปี 2568 จากปี 2567 มีจำนวน 840,000 คน เพิ่มขึ้น 55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

    #Newskit
    พนมเปญปั้นวอล์กกิ้งสตรีท รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ กรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา เปิดโครงการถนนคนเดินแห่งใหม่ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2568 ตามแนวท่าเรือสีโสวัตถิ์ ริมแม่น้ำโตนเลสาป ครอบคลุมตั้งแต่อาคารไปรษณีย์กัมพูชา ถึงพระบรมราชวัง โดยปิดถนนห้ามยานพาหนะทุกชนิดเข้า ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 18.00-23.00 น. สัญจรได้เฉพาะคนเดินเท่านั้น พร้อมจัดให้มีห้องน้ำและจัดถนนให้เป็นระเบียบ รวมทั้งจัดให้มีการแสดงทางวัฒนธรรม เช่น ดนตรีพื้นเมืองเขมร พื้นที่วาดภาพ และการแสดงละครสัตว์ ในระยะแรก ถนนคนเดินใหม่ของกรุงพนมเปญ แบ่งออกเป็น 3 โซน รวมพื้นที่ 57 เฮกตาร์ ได้แก่ โซนแรก พื้นที่ 3.3 เฮกตาร์ ใกล้กับอาคารไปรษณีย์กัมพูชา เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ โซนที่สอง พื้นที่ 20 เฮกตาร์ เป็นพื้นที่ธุรกิจกลางคืน มีร้านอาหาร บาร์ โรงแรม ร้านค้าต่างๆ และโซนสุดท้าย พื้นที่ 34 เฮกตาร์ เป็นโซนใหญ่ที่สุด ประกอบไปด้วยตลาดเสื้อผ้า และพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจตามธรรมชาติพร้อมสวนสาธารณะ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กัมพูชา พระบรมราชวัง และทุ่งพระเมรุ นายควง เซร็ง ผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ เปิดเผยกับ Khmer Times สื่อในกัมพูชาว่า กรุงพนมเปญได้วางแผนทำโครงการถนนคนเดินตั้งแต่ปี 2562 แต่เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องระงับไป ภายหลังรัฐบาลได้มีคำสั่งให้ฝ่ายบริหารของเทศบาลฯ ส่งเสริมการดำเนินงาน ทำให้กลับมาทำโครงการอีกครั้ง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติให้มาเยือนกรุงพนมเปญมากขึ้น ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวของกัมพูชา ระบุว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา กัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.7 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 3,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 121,248 ล้านบาท โดยพบว่าคนไทยมาเที่ยวมากถึง 32% รองลงมาคือเวียดนาม 20% จีน 12.7% ลาว 5% สหรัฐอเมริกา 3.2% เกาหลีใต้ 2.9% อินโดนีเซีย 2.5% ฝรั่งเศส 2% สหราชอาณาจักร 1.7% และญี่ปุ่น 1.7% ส่วนมากเดินทางผ่านชายแดนกับทางน้ำ 4 ล้านคน และผ่านท่าอากาศยาน 2 ล้านคน นายฮวด ฮะ รมว.ท่องเที่ยวกัมพูชา เปิดเผยกับ Cam Ness สื่อในกัมพูชาว่า ได้ขอให้ประเทศบัลแกเรีย โรมาเนีย กรีซ ไซปรัส เบลเยียม ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก บรูไน และฟิลิปปินส์ สนับสนุนกัมพูชาเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำ แม้คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมอาจลดลง แต่เหตุชาวจีนถูกลักพาตัวที่ประเทศไทย เป็นปัจจัยที่อาจดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนให้มาเยือนกัมพูชามากขึ้น คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีน 1.1 ล้านคนในปี 2568 จากปี 2567 มีจำนวน 840,000 คน เพิ่มขึ้น 55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1131 มุมมอง 0 รีวิว