กองกำลังเคียฟควรโจมตีทหารเกาหลีเหนือ หากว่ากำลังพลเหล่านั้นข้ามชายแดนเข้าสู่ยูเครน จากคำแนะนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมของอเมริกาและเกาหลีใต้ ส่งเสียงเรียกร้องอีกครั้งให้เปียงยางถอนทหารออกไปจากรัสเซีย
.
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ(เพนตากอน) อ้างในสัปดาห์นี้ ว่าทหารจากเกาหลีเหนือราวๆ 10,000 นาย เดินทางถึงรัสเซียแล้ว ว่ากันว่าบางส่วนได้ถูกลำเลียงสำหรับความเป็นไปได้ที่จะเข้าประจำการเพื่อจัดการกับกองกำลังยูเครนในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย ดินแดนที่ทหารเคียฟบางส่วนยังคงปักหลักอยู่ หลังจากรุกรานเข้ามายังแคว้นแห่งนี้เมื่อเดือนสิงหาคม
.
เมื่อสื่อมวลชนสอบถามในวันอังคาร(29ต.ค.) ว่า เคียฟ ควร "โจมตีตอบโต้กลับ" ทหารเกาหลีเหนือหรือไม่ ไบเดน ตอบว่า "ใช่ ถ้าพวกเขาข้ามเข้าสู่ยูเครน" อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับจุดยืนของวอชิงตัน ในกรณีที่ทหารเกาหลีเหนือยังคงอยู่ภายในเขตแดนรัสเซีย ที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ
.
อย่างไรก็ตาม วาสซิลีย์ เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำสหประชาชาติ กล่าวกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่ามีทหารเกาหลีเหนือประจำการในแนวหน้าในสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยเรียกรายงานข่าวนี้ว่า "โกหกหน้าด้านๆ"
.
"ถ้อยแถลงที่ว่ามีทหารเกาหลีเหนือในแนวหน้าของเรา เป็นอะไรที่ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะพวกเขาโกหกหน้าด้านๆมาตลอด" เนเบนเซีย กล่าว พร้อมกล่าวหาวอชิงตันและลอนดอนบิดเบือนข้อมูล
.
มอสโกและเปียงยาง ได้ลงนามในสนธิสัญญาทวิภาคีฉบับหนึ่งเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา สำหรับความช่วยเหลือทางทหารร่วมกัน ในกรณีที่ถูกโจมตีจากฝ่ายที่ 3 ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่ามีทหารเกาหลีเหนืออยู่ในรัสเซีย โดยระหว่างให้สัมภาษณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว เขาเพียงแต่บอกว่า ทั้ง 2 ประเทศ จำเป็นต้องทำตามพันธสัญญาต่างๆที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงใหม่ระหว่างพวกเขา
.
ความเห็นของไบเดน มีขึ้นหนึ่งวันก่อนหน้าที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ส่งเสียงเรียกร้องอีกรอบในวันพุธ(30ต.ค.) ให้เกาหลีเหนือถอนทหารออกจากรัสเซีย หลังวอชิงตันเชื่อว่า มีกำลังพลเปียงยางราวๆ 10,000 นาย ถูกส่งเข้าประจำการ สำหรับความเป็นไปได้ที่จะใช้จัดการกับกองกำลังยูเครน
.
"ผมเรียกร้องพวกเขาให้ถอนทหารออกจากรัสเซีย" ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯกล่าวที่เพนตากอน ระหว่างแถลงข่าวเคียงข้าง คิม ยอง-ฮยุน รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ ที่เรียกร้องเกาหลีเหนือถอนกำลังออกไปในทันที
.
ออสติน ระบุว่าสหรัฐฯ "จะเดินหน้าทำงานร่วมกับบรรดาพันธมิตรและคู่หู ในการขัดขวางรัสเซียจากการใช้งานทหารเหล่านี้ในการสู้รบ" แต่เตือนว่าดูเหมือนมอสโกจะทำเช่นนั้น
.
ส่วนรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ กล่าวผ่านล่าม เชื่อว่าการประจำการทหารของเกาหลีเหนืออาจทำให้สถานการณ์ด้านความมั่นคงลุกลามบานปลายจนเป็นภัยคุกคุกคามต่อคาบสมุทรเกาหลี
.
"นั่นเพราะว่า มีโอกาสสูงที่เปียงยางจะร้องขอการถ่ายโอนทางเทคโนโลยีจากรัสเซีย สำหรับช่วยเหลือโครงการอาวุธของพวกเขา ในนั้นรวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี ขีปนาวุธข้ามทวีปและดาวเทียมสอดแนม แลกกับการประจำการของกองกำลังของพวกเขา" รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ระบุ
.
อย่างรไก็ตาม คิม ยอง-ฮยุน ยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆต่อนโยบายหนึ่งที่มีมาอย่างยาวนานของโซล ที่ห้ามขายอาวุธไปยังเขตพื้นที่ที่กำลังมีความขัดแย้ง ในนั้นรวมถึงยูเครน จุดยืนที่พวกเขายังคงยึดมั่นแม้มีเสียงเรียกร้องจากวอชิงตันและเคียฟให้ทบทวนพิจารณาอีกรอบ
.
รัสเซียและเกาหลีเหนือ ยกระดับความเป็นพันมิตรทางการเมืองและการทหาร ท่ามกลางความขัดแย้งในยูเครน ในขณะที่ทั้ง 2 ชาติ ต่างถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติ โดยเปียงยางโดนลงโทษเกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ส่วนมอสโก สำหรับการทำสงครามกับยูเครน
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000104815
..............
Sondhi X
.
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ(เพนตากอน) อ้างในสัปดาห์นี้ ว่าทหารจากเกาหลีเหนือราวๆ 10,000 นาย เดินทางถึงรัสเซียแล้ว ว่ากันว่าบางส่วนได้ถูกลำเลียงสำหรับความเป็นไปได้ที่จะเข้าประจำการเพื่อจัดการกับกองกำลังยูเครนในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย ดินแดนที่ทหารเคียฟบางส่วนยังคงปักหลักอยู่ หลังจากรุกรานเข้ามายังแคว้นแห่งนี้เมื่อเดือนสิงหาคม
.
เมื่อสื่อมวลชนสอบถามในวันอังคาร(29ต.ค.) ว่า เคียฟ ควร "โจมตีตอบโต้กลับ" ทหารเกาหลีเหนือหรือไม่ ไบเดน ตอบว่า "ใช่ ถ้าพวกเขาข้ามเข้าสู่ยูเครน" อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับจุดยืนของวอชิงตัน ในกรณีที่ทหารเกาหลีเหนือยังคงอยู่ภายในเขตแดนรัสเซีย ที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ
.
อย่างไรก็ตาม วาสซิลีย์ เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำสหประชาชาติ กล่าวกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่ามีทหารเกาหลีเหนือประจำการในแนวหน้าในสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยเรียกรายงานข่าวนี้ว่า "โกหกหน้าด้านๆ"
.
"ถ้อยแถลงที่ว่ามีทหารเกาหลีเหนือในแนวหน้าของเรา เป็นอะไรที่ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะพวกเขาโกหกหน้าด้านๆมาตลอด" เนเบนเซีย กล่าว พร้อมกล่าวหาวอชิงตันและลอนดอนบิดเบือนข้อมูล
.
มอสโกและเปียงยาง ได้ลงนามในสนธิสัญญาทวิภาคีฉบับหนึ่งเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา สำหรับความช่วยเหลือทางทหารร่วมกัน ในกรณีที่ถูกโจมตีจากฝ่ายที่ 3 ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่ามีทหารเกาหลีเหนืออยู่ในรัสเซีย โดยระหว่างให้สัมภาษณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว เขาเพียงแต่บอกว่า ทั้ง 2 ประเทศ จำเป็นต้องทำตามพันธสัญญาต่างๆที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงใหม่ระหว่างพวกเขา
.
ความเห็นของไบเดน มีขึ้นหนึ่งวันก่อนหน้าที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ส่งเสียงเรียกร้องอีกรอบในวันพุธ(30ต.ค.) ให้เกาหลีเหนือถอนทหารออกจากรัสเซีย หลังวอชิงตันเชื่อว่า มีกำลังพลเปียงยางราวๆ 10,000 นาย ถูกส่งเข้าประจำการ สำหรับความเป็นไปได้ที่จะใช้จัดการกับกองกำลังยูเครน
.
"ผมเรียกร้องพวกเขาให้ถอนทหารออกจากรัสเซีย" ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯกล่าวที่เพนตากอน ระหว่างแถลงข่าวเคียงข้าง คิม ยอง-ฮยุน รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ ที่เรียกร้องเกาหลีเหนือถอนกำลังออกไปในทันที
.
ออสติน ระบุว่าสหรัฐฯ "จะเดินหน้าทำงานร่วมกับบรรดาพันธมิตรและคู่หู ในการขัดขวางรัสเซียจากการใช้งานทหารเหล่านี้ในการสู้รบ" แต่เตือนว่าดูเหมือนมอสโกจะทำเช่นนั้น
.
ส่วนรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ กล่าวผ่านล่าม เชื่อว่าการประจำการทหารของเกาหลีเหนืออาจทำให้สถานการณ์ด้านความมั่นคงลุกลามบานปลายจนเป็นภัยคุกคุกคามต่อคาบสมุทรเกาหลี
.
"นั่นเพราะว่า มีโอกาสสูงที่เปียงยางจะร้องขอการถ่ายโอนทางเทคโนโลยีจากรัสเซีย สำหรับช่วยเหลือโครงการอาวุธของพวกเขา ในนั้นรวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี ขีปนาวุธข้ามทวีปและดาวเทียมสอดแนม แลกกับการประจำการของกองกำลังของพวกเขา" รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ระบุ
.
อย่างรไก็ตาม คิม ยอง-ฮยุน ยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆต่อนโยบายหนึ่งที่มีมาอย่างยาวนานของโซล ที่ห้ามขายอาวุธไปยังเขตพื้นที่ที่กำลังมีความขัดแย้ง ในนั้นรวมถึงยูเครน จุดยืนที่พวกเขายังคงยึดมั่นแม้มีเสียงเรียกร้องจากวอชิงตันและเคียฟให้ทบทวนพิจารณาอีกรอบ
.
รัสเซียและเกาหลีเหนือ ยกระดับความเป็นพันมิตรทางการเมืองและการทหาร ท่ามกลางความขัดแย้งในยูเครน ในขณะที่ทั้ง 2 ชาติ ต่างถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติ โดยเปียงยางโดนลงโทษเกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ส่วนมอสโก สำหรับการทำสงครามกับยูเครน
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000104815
..............
Sondhi X
กองกำลังเคียฟควรโจมตีทหารเกาหลีเหนือ หากว่ากำลังพลเหล่านั้นข้ามชายแดนเข้าสู่ยูเครน จากคำแนะนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมของอเมริกาและเกาหลีใต้ ส่งเสียงเรียกร้องอีกครั้งให้เปียงยางถอนทหารออกไปจากรัสเซีย
.
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ(เพนตากอน) อ้างในสัปดาห์นี้ ว่าทหารจากเกาหลีเหนือราวๆ 10,000 นาย เดินทางถึงรัสเซียแล้ว ว่ากันว่าบางส่วนได้ถูกลำเลียงสำหรับความเป็นไปได้ที่จะเข้าประจำการเพื่อจัดการกับกองกำลังยูเครนในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย ดินแดนที่ทหารเคียฟบางส่วนยังคงปักหลักอยู่ หลังจากรุกรานเข้ามายังแคว้นแห่งนี้เมื่อเดือนสิงหาคม
.
เมื่อสื่อมวลชนสอบถามในวันอังคาร(29ต.ค.) ว่า เคียฟ ควร "โจมตีตอบโต้กลับ" ทหารเกาหลีเหนือหรือไม่ ไบเดน ตอบว่า "ใช่ ถ้าพวกเขาข้ามเข้าสู่ยูเครน" อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับจุดยืนของวอชิงตัน ในกรณีที่ทหารเกาหลีเหนือยังคงอยู่ภายในเขตแดนรัสเซีย ที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ
.
อย่างไรก็ตาม วาสซิลีย์ เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำสหประชาชาติ กล่าวกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่ามีทหารเกาหลีเหนือประจำการในแนวหน้าในสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยเรียกรายงานข่าวนี้ว่า "โกหกหน้าด้านๆ"
.
"ถ้อยแถลงที่ว่ามีทหารเกาหลีเหนือในแนวหน้าของเรา เป็นอะไรที่ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะพวกเขาโกหกหน้าด้านๆมาตลอด" เนเบนเซีย กล่าว พร้อมกล่าวหาวอชิงตันและลอนดอนบิดเบือนข้อมูล
.
มอสโกและเปียงยาง ได้ลงนามในสนธิสัญญาทวิภาคีฉบับหนึ่งเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา สำหรับความช่วยเหลือทางทหารร่วมกัน ในกรณีที่ถูกโจมตีจากฝ่ายที่ 3 ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่ามีทหารเกาหลีเหนืออยู่ในรัสเซีย โดยระหว่างให้สัมภาษณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว เขาเพียงแต่บอกว่า ทั้ง 2 ประเทศ จำเป็นต้องทำตามพันธสัญญาต่างๆที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงใหม่ระหว่างพวกเขา
.
ความเห็นของไบเดน มีขึ้นหนึ่งวันก่อนหน้าที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ส่งเสียงเรียกร้องอีกรอบในวันพุธ(30ต.ค.) ให้เกาหลีเหนือถอนทหารออกจากรัสเซีย หลังวอชิงตันเชื่อว่า มีกำลังพลเปียงยางราวๆ 10,000 นาย ถูกส่งเข้าประจำการ สำหรับความเป็นไปได้ที่จะใช้จัดการกับกองกำลังยูเครน
.
"ผมเรียกร้องพวกเขาให้ถอนทหารออกจากรัสเซีย" ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯกล่าวที่เพนตากอน ระหว่างแถลงข่าวเคียงข้าง คิม ยอง-ฮยุน รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ ที่เรียกร้องเกาหลีเหนือถอนกำลังออกไปในทันที
.
ออสติน ระบุว่าสหรัฐฯ "จะเดินหน้าทำงานร่วมกับบรรดาพันธมิตรและคู่หู ในการขัดขวางรัสเซียจากการใช้งานทหารเหล่านี้ในการสู้รบ" แต่เตือนว่าดูเหมือนมอสโกจะทำเช่นนั้น
.
ส่วนรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ กล่าวผ่านล่าม เชื่อว่าการประจำการทหารของเกาหลีเหนืออาจทำให้สถานการณ์ด้านความมั่นคงลุกลามบานปลายจนเป็นภัยคุกคุกคามต่อคาบสมุทรเกาหลี
.
"นั่นเพราะว่า มีโอกาสสูงที่เปียงยางจะร้องขอการถ่ายโอนทางเทคโนโลยีจากรัสเซีย สำหรับช่วยเหลือโครงการอาวุธของพวกเขา ในนั้นรวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี ขีปนาวุธข้ามทวีปและดาวเทียมสอดแนม แลกกับการประจำการของกองกำลังของพวกเขา" รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ระบุ
.
อย่างรไก็ตาม คิม ยอง-ฮยุน ยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆต่อนโยบายหนึ่งที่มีมาอย่างยาวนานของโซล ที่ห้ามขายอาวุธไปยังเขตพื้นที่ที่กำลังมีความขัดแย้ง ในนั้นรวมถึงยูเครน จุดยืนที่พวกเขายังคงยึดมั่นแม้มีเสียงเรียกร้องจากวอชิงตันและเคียฟให้ทบทวนพิจารณาอีกรอบ
.
รัสเซียและเกาหลีเหนือ ยกระดับความเป็นพันมิตรทางการเมืองและการทหาร ท่ามกลางความขัดแย้งในยูเครน ในขณะที่ทั้ง 2 ชาติ ต่างถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติ โดยเปียงยางโดนลงโทษเกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ส่วนมอสโก สำหรับการทำสงครามกับยูเครน
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000104815
..............
Sondhi X