กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เห็นชอบความเป็นไปได้ในการขายระบบป้องกันภัยทางอากาศและเรดาร์แก่ไต้หวัน อ้างอิงข้อมูลจากเพนตากอน ขณะที่การจัดซื้ออาวุธอเมริกาโดยไทเป จำเป็นต้องมีบุคลากรของสหรัฐฯ เดินทางไปประจำการในไต้หวัน เพื่อสนับสนุนทางเทคนิคและฝึกฝนทหารท้องถิ่น
.
แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะก่อความเดือดดาลแก่จีนเป็นอย่างยิ่ง โดยที่ผ่านมา ปักกิ่งซึ่งมองเกาะปกครองตนเองแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน มองความสัมพันธ์ในด้านนี้ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ เป็นการละเมิดอธิปไตยของพวกเขา
.
ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อไม่กี่วันก่อน วอชิงตันได้ทำการส่งมอบขีปนาวุธต่อต้านเรือ Harpoon Block II ล็อตแรกจำนวนหลายร้อยลูกให้แก่ไทเป ภายใต้ข้อตกลงหนึ่งที่ได้รับการอนุมัติในปี 2020
.
ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (25 ต.ค.) สำนักงานความร่วมมือความมั่นคงกลาโหม (DSCA: Defense Security Cooperation Agency) สังกัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่าพวกเขาได้รับความเห็นชอบสำหรับความเป็นไปได้ในการ "การขายอาวุธให้ต่างประเทศ" แก่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปในสหรัฐฯ ซึ่งคือระบบป้องกันขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศขั้นสูง NASAMS และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มูลค่าประมาณ 1,160 ล้านดอลลาร์
.
ในเอกสารระบุว่าไต้หวันขอซื้อระบบนี้ที่ผลิตโดยบริษัทเรย์เธียน 3 ชุด และขีปนาวุธที่ใช้กับระบบดังกล่าว 123 ลูก
.
ถ้อยแถลงเน้นว่าเพื่อทำตามข้อเสนอขายนี้ จำเป็นต้องมอบหมายหน้าที่แก่เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ 26 คน และตัวแทนจากบริษัทสัญญาจ้าง 34 ราย ให้เดินทางไปประจำการในไต้หวัน เป็นระยะเวลาหนึ่งซึ่งนานพอสมควร เพื่อให้การสนับสนุนทางเทคนิคและฝึกฝนแก่บุคลากรทางทหารท้องถิ่น
.
ทั้งนี้ ในข่าวประชาสัมพันธ์อีกฉบับที่เผยแพร่ในวันเดียวกัน ยังเผยด้วยว่าทางกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ไฟเขียวความเป็นไปได้ในการขายระบบเรดาร์ AN/TPS-77 และ AN/TPS-78 รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มูลค่าราว 828 ล้านดอลลาร์ แก่ไต้หวัน
.
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เพิ่งอนุมัติมอบความช่วยเหลือด้านการทหารเพิ่มเติมแก่ไต้หวันอีก 567 ล้านดอลลาร์
.
ระหว่างพบปะกับ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ในกรุงปักกิ่ง เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม ทาง หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน เรียกร้องวอชิงตันให้หยุดขายอาวุธแก่ไต้หวัน
.
ขณะเดียวกัน ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีน เตือนว่า ปักกิ่งไม่เคยผูกมัดตนเองในการตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังกับไต้หวัน และสถานการณ์ดังกล่าวอาจเป็นจริงขึ้นมาหากว่าเกาะปกครองตนเองแห่งนี้ประกาศเอกราช
.
คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากจีน ทำการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ใกล้เกาะไต้หวัน
.
กองทัพปลดแอกประชาชนจีน เปิดการซ้อมรบเป็นเวลา 1 วัน ที่ใช้ชื่อรหัสว่า “ดาบประสาน 2024 บี” (Joint Sword-2024B Exercise) ในพื้นที่รอบๆ และใกล้เกาะไต้หวันเมื่อวันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม โดยจุดที่มีการเน้นหนักแข็งขันคือการฝึกเพื่อป้องปรามไม่ให้สหรัฐฯ สามารถเข้ามาแทรกแซงในกรณีที่เกิดการสู้รบใดๆ ขึ้นในช่องแคบไต้หวัน
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000103353
..............
Sondhi X
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เห็นชอบความเป็นไปได้ในการขายระบบป้องกันภัยทางอากาศและเรดาร์แก่ไต้หวัน อ้างอิงข้อมูลจากเพนตากอน ขณะที่การจัดซื้ออาวุธอเมริกาโดยไทเป จำเป็นต้องมีบุคลากรของสหรัฐฯ เดินทางไปประจำการในไต้หวัน เพื่อสนับสนุนทางเทคนิคและฝึกฝนทหารท้องถิ่น . แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะก่อความเดือดดาลแก่จีนเป็นอย่างยิ่ง โดยที่ผ่านมา ปักกิ่งซึ่งมองเกาะปกครองตนเองแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน มองความสัมพันธ์ในด้านนี้ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ เป็นการละเมิดอธิปไตยของพวกเขา . ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อไม่กี่วันก่อน วอชิงตันได้ทำการส่งมอบขีปนาวุธต่อต้านเรือ Harpoon Block II ล็อตแรกจำนวนหลายร้อยลูกให้แก่ไทเป ภายใต้ข้อตกลงหนึ่งที่ได้รับการอนุมัติในปี 2020 . ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (25 ต.ค.) สำนักงานความร่วมมือความมั่นคงกลาโหม (DSCA: Defense Security Cooperation Agency) สังกัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่าพวกเขาได้รับความเห็นชอบสำหรับความเป็นไปได้ในการ "การขายอาวุธให้ต่างประเทศ" แก่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปในสหรัฐฯ ซึ่งคือระบบป้องกันขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศขั้นสูง NASAMS และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มูลค่าประมาณ 1,160 ล้านดอลลาร์ . ในเอกสารระบุว่าไต้หวันขอซื้อระบบนี้ที่ผลิตโดยบริษัทเรย์เธียน 3 ชุด และขีปนาวุธที่ใช้กับระบบดังกล่าว 123 ลูก . ถ้อยแถลงเน้นว่าเพื่อทำตามข้อเสนอขายนี้ จำเป็นต้องมอบหมายหน้าที่แก่เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ 26 คน และตัวแทนจากบริษัทสัญญาจ้าง 34 ราย ให้เดินทางไปประจำการในไต้หวัน เป็นระยะเวลาหนึ่งซึ่งนานพอสมควร เพื่อให้การสนับสนุนทางเทคนิคและฝึกฝนแก่บุคลากรทางทหารท้องถิ่น . ทั้งนี้ ในข่าวประชาสัมพันธ์อีกฉบับที่เผยแพร่ในวันเดียวกัน ยังเผยด้วยว่าทางกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ไฟเขียวความเป็นไปได้ในการขายระบบเรดาร์ AN/TPS-77 และ AN/TPS-78 รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มูลค่าราว 828 ล้านดอลลาร์ แก่ไต้หวัน . ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เพิ่งอนุมัติมอบความช่วยเหลือด้านการทหารเพิ่มเติมแก่ไต้หวันอีก 567 ล้านดอลลาร์ . ระหว่างพบปะกับ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ในกรุงปักกิ่ง เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม ทาง หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน เรียกร้องวอชิงตันให้หยุดขายอาวุธแก่ไต้หวัน . ขณะเดียวกัน ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีน เตือนว่า ปักกิ่งไม่เคยผูกมัดตนเองในการตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังกับไต้หวัน และสถานการณ์ดังกล่าวอาจเป็นจริงขึ้นมาหากว่าเกาะปกครองตนเองแห่งนี้ประกาศเอกราช . คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากจีน ทำการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ใกล้เกาะไต้หวัน . กองทัพปลดแอกประชาชนจีน เปิดการซ้อมรบเป็นเวลา 1 วัน ที่ใช้ชื่อรหัสว่า “ดาบประสาน 2024 บี” (Joint Sword-2024B Exercise) ในพื้นที่รอบๆ และใกล้เกาะไต้หวันเมื่อวันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม โดยจุดที่มีการเน้นหนักแข็งขันคือการฝึกเพื่อป้องปรามไม่ให้สหรัฐฯ สามารถเข้ามาแทรกแซงในกรณีที่เกิดการสู้รบใดๆ ขึ้นในช่องแคบไต้หวัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000103353 .............. Sondhi X
Like
4
0 Comments 0 Shares 1310 Views 0 Reviews